Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 3หลักการแก้ไขปัญหาอนามัยชุมชน

บทที่ 3หลักการแก้ไขปัญหาอนามัยชุมชน

Published by dumrongsak3006, 2020-03-21 02:44:45

Description: บทที่ 3หลักการแก้ไขปัญหาอนามัยชุมชน

Search

Read the Text Version

บทท่ี 3หลักการแกไ้ ขปญั หาอนามยั ชมุ ชน

หัวข้อ  วตั ถุประสงคห์ ลักในการแก้ไขปัญหาอนามัยชุมชน  สถานการณ์ท่เี ปน็ ปัญหาดา้ นสุขภาพ  ลักษณะกระบวนการแกป้ ญั หาสาธารณสุข  การกระบวนการแก้ไขปญั หาอนามยั ชมุ ชน 1.การประเมินสภาวะอนามัยชุมชน (community health Assessment) 2.การวินจิ ฉยั อนามัยชุมชน (community health diagnosis) 3.การแกไ้ ขอนามยั ชมุ ชน(community health treatment) 4.การดาเนนิ งานไปตามแผนท่กี าหนด(Plan implementation) 5.การประเมินผลอนามัยชมุ ชน(community health evaluation) ทักษะทจ่ี าเปน็ ในการแกไ้ ขอนามยั ชุมชน(Skills needed to solve community health)

วตั ถปุ ระสงคห์ ลัก  อธิบายหลักการสาคัญในกระบวนการแก้ไขปัญหาอนามยั ชุมชน  อธบิ ายวิธีการรวบรวมข้อมูล การวเิ คราะห์ และการนาเสนอขอ้ มูลได้  ระบุปญั หาการจดั ลาดบั ความสาคัญของปญั หาตามสถานการณท์ ี่ กาหนดได้  เขยี นแผนงานโครงการเพือ่ แก้ปญั หาสาธารณสุขตามสถานการณ์ท่ี กาหนดได้  อธิบายสาระสาคญั ของการดาเนินงานแก้ไขปัญหาได้  อธบิ ายความแตกตา่ งของวิธกี ารประเมินผลแตล่ ะชนิดได้

สถานการณ์ท่ีเป็นปัญหาดา้ นสขุ ภาพ  (1.) การเพิ่มอัตราการเกิดของประชากร เนือ่ งจากประเทศไทยยังคงมอี ตั ราการเกิดของประชากร สงู คอื ประมาณร้อยละ 1.3 จนทาใหจ้ านวนประชากรเพมิ่ ขนึ้ กวา่ เดิมมาก ซงึ่ ปัจจุบันมีประมาณ 63 ล้านคน ทาใหห้ น่วยบริการดา้ นสุขภาพท้ังภาครฐั และเอกชน ไมส่ ามารถตอบสนองความต้องการ ด้านสขุ ภาพของประชาชนไดเ้ พียงพอและทวั่ ถึง  (2.) สภาพแวดล้อม เมอื่ ส่ิงแวดลอ้ มถกู ทาลายลง สภาพแวดลอ้ มบางอยา่ งจึงเสียไป เชน่ อากาศ เสยี เสียงดงั มขี ยะมลู ฝอยและสงิ ปฏิกลู มาก เป็นตน้ นอกจากนีส้ ง่ิ แวดล้อมตามธรรมชาตกิ ม็ กี าร แปรปรวนไป เช่นสภาพดนิ ฟา้ อากาศ ฤดกู าล ภยั ธรรมชาตติ า่ งๆ เปน็ ตน้ สภาพปัญหาเหลา่ น้ยี อ่ ม ทาใหเ้ กดิ การระบาดของโรคหรืออบุ ัติภยั ข้ึนได้  (3.) พฤติกรรมของประชาชน ปญั หาสขุ ภาพทง้ั สว่ นบคุ คลและสว่ นรวมมกั เกดิ จากสุขนสิ ยั และ สุขปฏบิ ัติที่ไมด่ ขี องประชาชน อาจเปน็ เพราะขาดความรคู้ วามเขา้ ใจในการปฏิบตั ติ นทีถ่ กู ต้องและ เหมาะสมด้านสขุ ภาพ ทัศนคตติ ่อการป้องกนั และรกั ษาโรคทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง มคี วามเช่ือผดิ ๆในเรือ่ ง สขุ ภาพ ดว้ ยเหตุเหลา่ นจี้ งึ ทาใหป้ ระชาชนไมค่ ่อยเหน็ ความสาคญั ในการปอ้ งกนั โรคและสง่ เสริม สุขภาพ ตลอดจนไม่ให้ความรว่ มมอื ทด่ี ีแกเ่ จา้ หนา้ ทสี่ าธารณสุข จงึ ส่งผลใหเ้ จ็บป่วยได้ง่าย

สถานการณท์ เ่ี ปน็ ปญั หาด้านสุขภาพ  (4.) ปญั หาความยากจนของประชาชน ในการเข้ารับการรกั ษาพยาบาลน้นั จะต้องเสียค่าใช้จ่าย ซ่งึ ถ้ามากจนเกนิ ไปคนยากจนกจ็ ะไม่สามารถไปใชบ้ รกิ ารได้ จึงต้องรกั ษากนั ไปตามยถากรรม  (5.)ประเทศขาดแคลนงบประมาณ ประเทศไทยมงี บประมาณด้านสาธารณสุขไม่มากนัก ประมาณ ร้อยละ 4 - 5 ของงบประมาณแผ่นดนิ จงึ ทาใหข้ าดแคลนยา เครื่องมือแพทย์ เวชภณั ฑ์ อุปกรณ์ทาง การแพทย์ ตลอดจนไม่สามารถสรา้ งสถานพยาบาลตา่ ง ให้เพียงพอกบั ความตอ้ งการของประชาชนได้  (6.) ขาดแคลนแพทย์และบคุ ลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าท่สี าธารณสุข โดยเฉพาะในชนบท พบวา่ ปจั จุบันมีอัตราสว่ นของแพทย์ตอ่ ประชากรประมาณ 1 ตอ่ 3,000 คน ทนั ตแพทย์ 1 ตอ่ 15,000 คน เภสชั กร 1 ต่อ 10,000 คน พยาบาลวิชาชพี 1 ตอ่ 900 คน พยาบาลเทคนิค 1 ตอ่ 2,000 คน ซ่งึ ถือว่ายังไมเ่ พียงพอ  (7.) การกระจายของแพทยแ์ ละบุคลากรทางการแพทยย์ งั ไม่ทั่วถงึ บคุ ลากรทางการแพทย์มกั จะอยู่ ตามโรงพยาบาลในตวั เมอื งมาก แตอ่ ย่ใู นชนบทน้อย จึงทาให้ประชาชนที่อยู่หา่ งไกลขาดแคลนการ บรกิ ารด้านสขุ ภาพจากบคุ ลากรทางการแพทย์ ถึงแมจ้ ะมีเจ้าหนา้ ท่ีสาธารณสขุ ประจาอยู่ตามสถานี อนามยั แตก่ ็ใหก้ ารบริการรักษาโรคภัยไข้เจ็บและอาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆเท่าน้ัน

ลกั ษณะกระบวนการแก้ปัญหาสาธารณสุข 1. เป็นกระบวนการใชค้ วามคิด มกี ารดาเนินการเป็นพลวัตร เป็น กระบวนการทเ่ี ปน็ สากล 2. เปน็ วธิ ีการแกป้ ญั หาตามหลักวิทยาศาสตร์ 3. เป็นแนวทางในการปฏบิ ัติการทต่ี อ้ งใช้ความรู้ ทกั ษะความสามารถ และการตัดสนิ ใจ 4. มีขั้นตอนการดาเนนิ งานท่ีมีระบบระเบียบ

ลกั ษณะกระบวนการแก้ปัญหาสาธารณสุข 5. แต่ละข้ันตอนมีการสอดคลอ้ งสมั พันธ์ซ่ึงกันและกนั 6. เน้นการบรกิ ารที่เฉพาะเจาะจง มเี ป้าหมายชัดเจน 7. เนน้ ผรู้ บั บริการเป็นศนู ย์กลางและใช้ศกั ยภาพของผู้รบั บริการ 8. เปน็ กระบวนการที่เน้นความสมั พันธร์ ะหว่างเจ้าหน้าท่ีและ ผรู้ ับบรกิ ารทกุ ระดับ 9. ใชก้ ับผ้รู บั บรกิ ารได้ทกุ กล่มุ และทุกวัย 10. สามารถใชไ้ ดใ้ นทุกสถานการณแ์ ละเป็นการวางแผนปฏบิ ัตกิ าร ลว่ งหน้า

กระบวนการแกป้ ัญหาในงานอนามยั ชมุ ชน I. การประเมนิ ภาวะอนามัยชมุ ชน (Community Health Assessment) II. การวนิ จิ ฉัยและการลาดบั ความสาคญั ของปญั หาอนามยั ชมุ ชน(Community Diagnosis & Priority setting) III. การแกไ้ ขอนามยั ชุมชน(community health treatment) IV. การการดาเนนิ การไปตามแผนทีก่ าหนด(Plan implementation) V. การประเมินผลอนามัยชมุ ชน(community health evaluation)

กระบวนการแก้ปัญหาในงานอนามยั ชุมชน

1.การประเมินภาวะอนามัยชุมชน (Community Health Assessment) Concept  กระบวนการค้นหาความตอ้ งการตามการรับรู้ของชมุ ชน Objective  ประเมินภาวะเส่ยี งภาวการณเ์ จบ็ ป่วยและปจั จัยท่ีมผี ลตอ่ ปญั หา จาแนกประชาชนกลมุ่ ปกติ กล่มุ เสยี่ ง กลุ่มเจบ็ ป่วยตามความจาเป็น ทราบทรัพยากร ความพรอ้ ม ความเขม้ แขง็ การมสี ว่ นร่วม จุดอ่อน จดุ แข็งของ ชุมชนเป็นพืน้ ฐานในการตดั สนิ ใจ เพ่อื วางแผนการดแู ลทัง้ 4 มติ ิ คาดการณใ์ ช้บริการคา่ ใชจ้ า่ ย ประเมนิ สถานการณจ์ ริงเพือ่ พฒั นาทักษะการทางานในชุมชนแหลง่ ฝกึ งาน

1.การประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชน (Community Health Assessment) Concept  กระบวนการคน้ หาความตอ้ งการตามการรับรู้ของชุมชน Objective  เพอ่ื ทราบขอ้ มลู ดา้ นสิ่งแวดลอ้ มที่เก่ียวขอ้ งกบั สุขภาพ เพอ่ื ทราบความเป็นอยพู่ ฤติกรรมเสี่ยงคา่ นิยม ความเชื่อปัญหาสุขภาพ เพื่อสร้างสมั พนั ธภาพและความคุน้ เคยกบั ประชาชนในชุมชน ช่วยกระตุน้ ความสนใจของประชาชน ทาใหท้ ราบปัจจยั เสริม ปัญหา อุปสรรคที่อาจเกิดข้ึนขณะทากิจกรรม ทา ใหส้ ามารถหาแนวทางป้ องกนั

1.1เครื่องมอื ทใี่ ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน 1. 1.1.1เครอื่ งมือทางระบาดวิทยา (Epidermiology) ปัจจยั กาหนดสขุ ภาพ อัตรา(Rate) เปรียบเทียบความถีข่ องการเจ็บป่วย อัตราสว่ น(Ratio)เปรียบเทียบค่าของตัวเลขจานวนหน่ึงกับอีกจานวนหน่งึ สดั ส่วน(Proportion)เปรยี บเทียบระหว่างตวั ตั้งซึง่ เปน็ สว่ นหนึ่งของตัวหาร Rate, Ratio, proportion ต่างกันอย่างไร ratio ตวั ต้งั จานวนคนป่ วย rate ตัวหาร จานวนคนไม่ป่ วย proportion ตวั ต้งั จานวนคน(ป่วย/ตาย/พกิ าร) ตวั หาร ผลรวมเวลาของแต่ละคนทเ่ี สีย่ ง ตวั ตงั้ จานวนคน(ป่วย/ตาย/พกิ าร) ตวั หาร จานวนคนทงั้ หมดที่เส่ยี งในช่วงเวลาเดยี วกัน

1.1เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน  สถิติและดชั นีทางวทิ ยาการระบาด  Incidence Rate Prevalence Rate morbidity Rate Mortality Rate



1.1เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน  ดชั นีอนามยั อ่ืนๆท่ีเก่ียวขอ้ งกบั สุขภาพ  Crude Birth Rate Vital Index or Birth Death Rate Natural Increase

1.1เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน 1.1.2เครื่องมือการวดั พฤติกรรมสุขภาพ(KAP Survey) แบบสอบถามความรู้ทางสุขภาพ แบบสารวจทศั นคติ แบบสารวจทางการปฏิบตั ิ

1.1.2เครื่องมือการวดั พฤติกรรมสุขภาพ(KAP Survey) แบบสอบถามข้อมลู สขุ ภาพนกั เรียน • แบบสอบถามความรู้ทางสุขภาพ ส่วนท่ี 1 ข้อมูลส่วนตวั ชือ่ – นามสกลุ ........................................................................................... เลขประจ าตวั นกั เรียน.................................................................... วนั – เดอื น – ปีเกดิ ....................................................... อาย.ุ .................. ศาสนา .......................................... หม่เู ลือด ............................ เลขประจ าตวั ประชาชน.................................................................. กรณฉี ุกเฉนิ ติดต่อ 1. นาย/นาง/นางสาว.........................................................เบอร์โทรศัพท์........................................ ความสัมพันธ์...................................... 2. นาย/นาง/นางสาว.........................................................เบอรโ์ ทรศัพท์........................................ ความสัมพนั ธ์...................................... สว่ นท2่ี ข้อมูลสุขภาพ 1. ปจั จุบนั มโี รคประจา ตวนัีห้ รอื ไม่ ( ) ไมม่ ี ( ) มี (ตอบไดม้ากกวีา 1 ขอ้ ) ( ) หอบหดื ( ) ไมเกรน ( ) โรคลมชกั ( ) เบาหวาน ( ) ความดันโลหติ สูง ( ) ธาลสั ซีเมีย ( ) โรคหวั ใจ ( ) ภมู ิแพ้เชน่ แพ้ฝุ่ นละอองอากาศละอองเกสร ฯลฯ ( ) อนื่ ๆ ระบุ.............................................................................................................................................................. โรคประจ าตวั ทเี่ ป็ น เคยไดร้ ับการรกั ษาจาก .................................................................................................................. 2. ปัจจุบนั ตอ้งกินยา เป็นประจา หรอื ไม่ ( ) ไม่กิน ( ) กนิ ระบุชื่อยา........................................................................................................................... 3. แพยา้ อะไรหรอื ไม่ ( ) ไม่แพ้ ( ) แพร้ ะบชุ ือ่ ยา........................................................................................................................... 4. แพอา้ หารหรือไม(่ เช่น อาหารทะเล นม เป็นตน้ ) ( ) ไม่แพ้ ( ) แพร้ ะบุ................................................................................................................................... 5. ตอง้ ระมดรั ะวงัดูแลเป็นพเิ ศษหรอื ไม่ ( ) ไม่ ( ) ต้องระมัดระวังในเรือ่ งระบุ.................................................................................................... สว่ นท3ี่ ข้อมูลสาหรบั ทาประกัน 1. นกเั รยี นมปี ระกนั สุขภาพหรือไม่ ( ) ไมม่ ี ( ) มีระบุบริษทั ประกนั .................................................................................................................................................... 2. นกัเรยี นมีประกนอั ุบีตเั หตุหรอื ไม่ ( ) ไม่มี ( ) มีระบุบริษทั ประกนั .................................................................................................................................................... 3. ใหร้ ะบผุ ู้รบั ผลประโยชน์ ในการทา ประกนัอบุ ีตเั หตุกลุม่ ส าหรบั นักเรยี นในโครงการฯ (สามารถระบสุ งู สุดได้ 4 คน) ผรู้ บั ผลประโยชน์ (นาย/นาง/นางสาว)……………………………................................... ความสัมพันธ.์ .............................................. ผรู้ ับผลประโยชน์ (นาย/นาง/นางสาว)……………………………................................... ความสมั พนั ธ.์ .............................................. ผรู้ ับผลประโยชน์ (นาย/นาง/นางสาว)……………………………................................... ความสัมพันธ.์ .............................................. ผูร้ บั ผลประโยชน์ (นาย/นาง/นางสาว)……………………………................................... ความสัมพนั ธ.์ .............................................. ลงชือ่ .................................................................ผู้ปกครองนักเรียน (…………………………………………..) วันท่ี ....................................................................

แบบสอบถามสภาวะสุขภาพของนกั เรียน สว่ นที่ 1 ข้อมลู ทัว่ ไปของนักเรียน คาช้แี จง ในแตล่ ะข้อคาถามให้นักเรียนเลือกคาทเ่ี ห็นวา่ ถูกตอ้ งท่สี ุดเพยี งคาตอบเดยี ว โดยทาเครื่องหมาย ทับตวั อักษรหน้าคาตอบที่นกั เรียนเลือก และ ขอทาใหจ้ นครบทกุ ข้อ 1. ขอ้ ใดจัดเป็นพฤตกิ รรมสุขภาพ ? (V12) ก. พดู คุยกบั เพอ่ื น ข. อ่านหนงั สอื การ์ตนู ค. อาบน้าชาระร่างกาย ง. เข้าชมการแข่งขนั กฬี า 2. ข้อใดเป็นความหมายของสขุ บัญญตั ิ ? (V13) ก. ข้อห้ามท่พี งึ ปฏิบตั ใิ นการรักษาสุขภาพ ข. ขอ้ ยกเวน้ ในการปฏบิ ัติเกย่ี วกับสขุ ภาพ ค. ขอ้ กาหนดท่คี วรปฏิบัติเกยี่ วกับสุขภาพทีด่ ี ง. ข้อกาหนดทพ่ี งึ ปฏบิ ัตอิ ยา่ งสมา่ เสมอเพ่อื ให้มสี ขุ ภาพดี สว่ นที่ 2 ความรูเ้ รอ่ื งพฤติกรรมสุขภาพตามสขุ บัญญตั ิ คาชแี้ จง ในแตล่ ะขอ้ คาถามใหน้ ักเรยี นเลอื กคาทเ่ี ห็นวา่ ถูกตอ้ งท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว โดยทาเครื่องหมาย ทบั ตวั อักษรหนา้ คาตอบท่ีนักเรยี นเลือก และ ขอทาให้จนครบทุกข้อ 1. ขอ้ ใดจัดเป็นพฤตกิ รรมสุขภาพ ? (V12) ก. พูดคยุ กบั เพือ่ น ข. อา่ นหนังสอื การ์ตูน ค. อาบนา้ ชาระร่างกาย ง. เขา้ ชมการแขง่ ขันกีฬา 2. ข้อใดเปน็ ความหมายของสขุ บญั ญตั ิ ? (V13) ก. ขอ้ หา้ มที่พึงปฏิบัติในการรกั ษาสุขภาพ ข. ขอ้ ยกเว้นในการปฏบิ ัตเิ กีย่ วกับสุขภาพ ค. ขอ้ กาหนดทคี่ วรปฏิบัติเก่ียวกบั สุขภาพท่ีดี ง. ขอ้ กาหนดท่พี ึงปฏบิ ัติอยา่ งสม่าเสมอเพ่ือใหม้ สี ขุ ภาพดี สว่ นที่ 3 พฤติกรรมสุขภาพพน้ื ฐานตามสขุ บญั ญตั แิ หง่ ชาติ คาชี้แจง ทาเคร่อื งหมาย ทับหมายเลข - หนา้ คาตอบที่ตรงกับการปฏิบตั ิของนักเรยี นมากท่สี ดุ 1. นักเรยี นอาบน้าและฟอกสบู่ บ่อยเพียงใด (V57) บางวนั 1 คร้งั ตอ่ วนั มากกว่า 1 ครงั้ ตอ่ วัน 2. นกั เรียนสระผม บอ่ ยเพยี งใด (V58) 1 คร้งั ต่อสปั ดาห์ 2 ครง้ั ตอ่ สัปดาห์ 3 คร้งั ต่อสัปดาห์ มากกวา่ 4 ครัง้ ต่อสัปดาห์

แบบสารวจทศั นคติ

แบบสารวจทางการปฏิบตั ิ

1.1เครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมินอนามัยชุมชน 3. เคร่อื งมอื การสารวจแบบเรง่ ดว่ น (Rapid Survey)มี 6 ขนั้ ตอน I. การดาเนนิ การก่อนการเกบ็ ข้อมลู II. การเตรยี มเครอ่ื งมอื การสารวจ III. การเตรียมทมี เก็บขอ้ มูล (ทมี สารวจ) IV. การฝึกอบรมทีมเกบ็ ข้อมลู V. การดาเนินการเกบ็ ข้อมลู (การสารวจ) VI. การดาเนนิ การหลังสารวจ

1.1เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน 4. เครอื่ งมือประเมนิ ชุมชนโดยใชค้ รอบครวั เปน็ ฐาน  แฟ้มสุขภาพครอบครัว (Family Folder/Family File)  แผนทีบ่ า้ น  ผงั เครือญาติ (Genogram)  การลงทะเบยี นครอบครวั  ชีวประวตั ิและข้อมูลทางเศรษฐกิจสังคม แบบสารวจความจาเปน็ พน้ื ฐาน จ.ป.ฐ. (Basic Minimum Needs)

แฟ้ มสุขภาพครอบครัว (Family Folder/Family File)

แผนที่บา้ น

ผงั เครือญาติ

การลงทะเบียนครอบครัว

เศรษฐกจิ ชุมชน ขอ้ มลู ทางเศรษฐกิจสังคม 1 แหล่งทมี่ าของรายได้ - ทาไร่ …………………………………………………..บาท / ปี - ทานา …………………………………………………..บาท / ปี - ทาสวน ………………………………………………....บาท / ปี - เล้ียงสัตว์ ………………………………………………..บาท / ปี - คา้ ขาย …………………………………………………..บาท / ปี - บริการ …………………………………………………..บาท / ปี - ลูกหลานสง่ ให้ …………………………………………..บาท / ปี - กาไรจากกลุ่มองค์กร …………………………………….บาท / ปี - อ่นื ๆ ……………………………………………………...บาท / ปี 2 รายจ่าย - หมวดการผลิต......................................................................บาท/ปี - หมวดอาหาร /ยารกั ษาโรค ………………………………..บาท / ปี - หมวดของใชส้ นิ้ เปลอื ง ........................................................บาท / ปี - หมวดการศึกษา.....................................................................บาท / ปี - หมวดงานสงั คม ....................................................................บาท / ปี - หมวดงานบันเทงิ ...................................................................บาท / ปี 3 หนีส้ นิ - ธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณ์ .........................................บาท / ปี - ธนาคารพาณชิ ย์..........................................................................บาท / ปี - สหกรณ์ ....................................................................................บาท / ปี - หนน้ี อกระบบนายทุน ...............................................................บาท / ปี - บรษิ ัทธรุ กจิ ดา้ นการเงิน ............................................................บาท / ปี - อน่ื ๆ ...........................................................................................บาท / ปี 4. สงั คม 1 องค์การทีม่ อี ยูใ่ นชมุ ชน ชื่อ .......................................................................................เรอื่ ง ........................................................ ช่ือ .......................................................................................เรือ่ ง ........................................................... ช่ือ ........................................................................................เร่ือง ....................................................... ตอนที่ 1 สมาชกิ ของครวั เรอื น ตอนท่ี 2 ลกั ษณะทีอ่ ยูอ่ าศยั ตอนท่ี 3 ค่าใช้จ่ายสนิ ค้าและบริการ ตอนท่ี 4 คา่ ใช้จา่ ยอาหาร เครอ่ื งด่ืม และยาสูบ ความคดิ เห็นและการใชพ้ ลงั งาน สรุปรายได้ (ในรอบ 12 เดอื นทีแ่ ลว้ ) สขุ ภาพจิตคนไทย

1.1เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน 5. เคร่ืองมือประเมนิ ชุมชนโดยใชแ้ นวคดิ การประเมนิ ชุมชนในฐานะผรู้ บั บริการ (Community as a Client)  Community as a place  Community as a people  Community as a Social System

1.1เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน 6. เคร่อื งมือการประเมนิ ชมุ ชนโดยวิธที างมานษุ ยวิทยา เป็นการพัฒนาโดย อ. โกมาตร จงึ เสถียรพงษ์ (2545) เครื่องมอื การศึกษาชุมชนทั้ง 7 ช้ิน ประกอบดว้ ย แผนทเ่ี ดินดนิ ช่วยให้ผูศ้ ึกษามองเหน็ ภาพชุมชน ผงั เครือญาติ ทาให้เข้าใจความสมั พนั ธเ์ ชิงเครอื ญาตอิ นั เปน็ รากฐานของชมุ ชน  โครงสร้างองคก์ รชมุ ชน เขา้ ใจโครงสรา้ งและองคก์ รทเี่ ปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ

1.1เครื่องมอื ทใี่ ช้ในการประเมนิ อนามยั ชุมชน  ระบบสขุ ภาพชมุ ชน วิธคี ดิ ทศั นคติความรสู้ กึ ของชุมชน กระบวนการรักษาโรค  ปฎิทินชุมชน วถิ ชี วี ิต กจิ กรรมทเี่ ก่ียวข้องกบั ชีวิตประจาวนั จุดเริ่มการสร้างสมั พนั ธภาพทีด่ ีกบั ชมุ ชน ประวตั ิศาสตร์ชุมชน ความเปน็ มาของชุมชนในด้าน เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรมและการเมือง ลดชอ่ งวา่ งในการติดตอ่  ประวตั ิชวี ิต รายละเอยี ดของชีวิต มติ คิ วาม เป็นมนุษย์ เข้าใจและมีความละเอยี ดอ่อนในการใหบ้ รกิ ารอนามัย

1.2แหล่งและประเภทของข้อมูล แหล่งของขอ้ มลู อนามยั ชุมชน Primary Dataข้อมลู ปฐมภมู ิ (Primary Data) เปน็ ข้อมลู ทผี่ ใู้ ชห้ รือ หนว่ ยงานท่ีใช้เป็นผ้ทู าการเกบ็ ข้อมลู ด้วยตนเอง ซ่งึ วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูลอาจใช้วธิ ีการสมั ภาษณ์ การทดลอง หรอื การสงั เกตการณ์ Secondary Data เปน็ ขอ้ มลู ท่ผี ้ใู ชไ้ ม่ไดเ้ กบ็ รวบรวมเอง แต่มี ผอู้ นื่ หรอื หนว่ ยงานอืน่ ๆ ทาการเกบ็ รวบรวมไว้แล้ว เช่น จากรายงาน ทพี่ ิมพแ์ ล้ว หรือยงั ไมไ่ ดพ้ ิมพ์ ของ หน่วยงานของรฐั บาล สมาคม บริษัท สานักงานวิจัย นกั วจิ ยั วารสาร หนงั สอื พมิ พ์ เป็นต้น การนาเอาขอ้ มลู เหล่านี้มาใช้เปน็ การประหยดั เวลาและคา่ ใช้จา่ ย ประเภทของข้อมลู  ข้อมูลเชงิ ปรมิ าณ (Quantitative Data)  ขอ้ มลู เชงิ คุณภาพ (Quanlitative Data)  ข้อมลู เชิงเวลา บันทึกชีบ้ อก เวลา ปี เดอื น  ข้อมูลเชงิ ภูมศิ าสตร์

1.3วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูลอนามยั ชุมชน วธิ ีการศึกษาเชิงคุณภาพ (Quanlitative Methods) Observation Indepth Inteviews Focus Group Windshield and Walking Tours วธิ ีการศึกษาเชิงปริมาณ (Quantitative Methods) การใชแ้ บบสอบถาม การใชแ้ บบสมั ภาษณ์

1.4ข้อมลู ท่ีสาคญั ท่ีต้องสารวจในการประเมินภาวะอนามัยชมุ ชน 1.ขอ้ มลู ทวั่ ไปและสภาพภูมิสาสตร์ของชุมชน  ท่ีต้งั อาณาเขต ถนน  สภาพพ้นื ท่ี แม่น้า ภูเขา  ส่ิงก่อสร้าง  ลกั ษณะการต้งั บา้ นเรือน

1.4ขอ้ มลู ท่สี าคัญทตี่ อ้ งสารวจในการประเมินภาวะอนามยั ชมุ ชน 2.ขอ้ มูลดา้ นประชากรศาสตร์  ลกั ษณะประชากรและโครงสร้างประชากร สถานภาพเช่นเพศ อายุ เช้ือชาติ สถานภาพสมรส  ความหนาแน่น การกระจาย การเพ่มิ  ขนบธรรมเนียม ประเพณี วฒั นธรรม

1.4ข1อ้.4มขลู้อทมีสู่ลาทค่ีเปัญ็ นทปี่ตรอ้ ะงโสยาชรนว์ใจนใกนากราปรรปะรเมะนิเมภนิ าภวะาวอะนอามนยัามชุมัยชชุมนชน 3.ขอ้ มลู ดา้ นเศรษฐกิจสงั คม อาชีพหลกั อาชีพเสริม การมีงานทา ผลผลิต  ลกั ษณะรายได-้ รายจ่าย บุคคล ครอบครัว  ระดบั การศึกษา การเมือง การปกครอง การติดต่อสื่อสารคมนาคม 4.ขอ้ มลู ดา้ นพฤติกรรม  พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ ความเช่ือ  พฤติกรรมเส่ียง พฤติกรรมเมื่อเจบ็ ป่ วย

1.4ข้อมูลทีเ่ ป็ นประโยชน์ในการประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชน 1.4ขอ้ มูลที่สาคัญทตี่ ้องสารวจในการประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชน 5.ขอ้ มูลเกี่ยวกบั สถิติชีพและอตั ราทางสาธารณสุข I. ขอ้ มลู อตั ราป่ วย อตั ราความชุกชุม II. ขอ้ มูลอตั ราตาย III. ขอ้ มลู อตั ราคนพกิ ารจากสาเหตุต่างๆ IV. ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ภูมิคุม้ กนั โรคแม่ & เดก็ V. ขอ้ มลู ปัจจยั เส่ียงต่อการเกิดโรค เหลา้ บุหร่ี ยาเสพติด

1.4ข้อมูลท่ีเป็ นประโยชน์ในการประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชน 1.4ขอ้ มลู ทสี่ าคัญทตี่ ้องสารวจในการประเมินภาวะอนามัยชุมชน 6.ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรมต่อสุขภาพ ความรอบรู้ดา้ นอนามยั ทว่ั ไป,อนามยั ส่วนบุคคล,โรคและการ ป้ องกนั ความเช่ือท่ีมีอิทธิพลต่อสุขภาพอนามยั การปฏิบตั ิตนขณะเจบ็ ป่ วย ความรอบรู้ดา้ นอนามยั เฉพาะเร่ือง วางแผนครอบครัว อนามยั ช่องปาก อาหารสุขภาพ

1.4ข้อมูลที่เป็ นประโยชน์ในการประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชน 1.4ขอ้ มูลทีส่ าคัญทตี่ อ้ งสารวจในการประเมินภาวะอนามัยชมุ ชน 7.ขอ้ มูลเกี่ยวกบั บริการทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุข สถานบริการภาครัฐและเอกชน การใชบ้ ริการสุขภาพของประชากร เจตคติของประชากรต่อสถานบริการของรัฐฯและเอกชน เจตคติของประชากรต่อบุคลากรของรัฐฯและเอกชน

1.4ข1้อ.4มขูล้อทม่สีูลาทคเี่ ปัญ็ นทปต่ี รอ้ ะงโสยาชรนว์ใจนใกนากราปรรปะรเมะนิเมภนิ าภวะาวอะนอามนยัามชุมยั ชุมนชน 8.ขอ้ มลู ดา้ นอนามยั ส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน สภาพบา้ นและสุขาภิบาลท่ีพกั อาศยั การระบายอากาศ แหล่งน้าดื่ม น้าใช้ คุณภาพ ความพอเพียง การเกบ็ การเตรียม การกาจดั น้าเสีย ความสะอาดหอ้ งน้าหอ้ งสว้ ม การกาจดั ขยะ การจดั การแมลงและสตั วน์ าโรค สตั วเ์ ล้ียงในบา้ น การสุขาภิบาลอาหาร

1.4ข้อมูลทีเ่ ป็ นประโยชน์ในการประเมนิ ภาวะอนามยั ชุมชน 1.4ข้อมูลทสี่ าคัญที่ต้องสารวจในการประเมินภาวะอนามัยชมุ ชน 9.ขอ้ มลู เก่ียวกบั บริการดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสุข  ระบบบริการสุขภาพ ความพอเพยี ง ครอบคลุม ความพงึ พอใจ การสามารถเลือกใชแ้ พทยท์ างเลือกภาครัฐฯและเอกชน

1.5การทาแผนท่ีชมุ ชน (Community Mapping) Tophography  แผนทีส่ งั เขป ประกอบดว้ ย 1. ชื่อของแผนที่ 2. ทิศทาง(Direction) 3. มาตราส่วน(Scale) = ระยะความยาวของเส้นบนแผนท่ี ระยะความยาวของพ้นื ภูมิประเทศ 4. ระยะทาง (Distance) 5. เครื่องหมายต่างๆ เส้น    สี    ตวั อกั ษรที่เขียนบนแผนที่

1.5การทาแผนที่ชุมชน (Community Mapping) Tophography  แผนท่ีสงั เขป 6. วนั เดือน ปี 7. ช่ือผทู้ าแผนท่ี 8. คาอธิบายเคร่ืองหมายในแผนท่ี

1.6วธิ ีการและข้อแนะนาในการทาแผนท่ี I. อาจนาแผนท่ีเก่ามาเป็นขอ้ มูลเบ้ืองตน้ II. สร้างความคุน้ เคยกบั ชาวบา้ นในชุมชนควบคู่กบั การเขียนแผนท่ี III. ไม่ควรพ่ึงรถยนต์ อาจใชจ้ กั รยานหรือจกั รยานยนต์ IV. ตอ้ งเดินสารวจใหท้ วั่ โดยเฉพาะบา้ นคนจน คนทุกขย์ าก ชุมชนชายขอบ โดดเดี่ยว V. มองกายภาพของพ้ืนที่ แต่ตีความทางสงั คมในการวเิ คราะห์ VI. ควรเดินสารวจร่วมกนั ท้งั ทีม VII. หมนั่ สงั เกตและพดู คุยกนั ในทีมวา่ พ้ืนท่ีบอกอะไรบา้ งที่เป็นการเรียนรู้

1.6วธิ ีการและข้อแนะนาในการทาแผนท่ี VIII. ขอ้ มลู บางอยา่ งไม่สามารถสงั เกตไดด้ ว้ ยตา ตอ้ งสอบถามเพ่ิมเติม IX. เมื่อใหช้ าวบา้ นนาทาง ขอ้ มลู อาจมีอคติจากผพู้ าเดิน X. พยายามเขียนขอ้ สงั เกต ความสมั พนั ธข์ องคนในชุมชน กิจกรรม ในชุมชน

1.7วธิ ีการนาเสนอขอ้ มูลทไี่ ดจ้ ากการเกบ็ รวบรวมข้อมลู 1. การนาเสนอข้อมลู ในรปู ของข้อความ (Text Presentation) 2. การนาเสนอในรูปกึ่งข้อความก่งึ ตาราง (Semi –Tabular Presentation) 3. การนาเสนอในรูปตาราง(Tabular Presentation) 4. การนาเสนอด้วยวธิ ีอนื่ ๆ  การนาเสนอดว้ ยกราฟเสน้ (Line Graphic)  การนาเสนอดว้ ยแผนภูมแิ ทง่ (Bar Chart)  การนาเสนอดว้ ยแผนภูมวิ งกลม (Pie Diagram)  การนาเสนอดว้ ยปริ ามดิ ประชากร  การนาเสนอดว้ ยแผน่ ภาพ(Pietogram)

1.8ความหมายและการใช้ประโยชน์ข้อมลู จากการประเมินอนามยั ชมุ ชน I. ขอ้ มลู ประชากร  ทราบจานวนประชากรท้งั หมดขนาดของกลุ่มคนต่างๆที่ รับผดิ ชอบ  แสดงขนาดของกลุ่มเส่ียงต่อการเกิดโรค แนวโนม้ ของโรค II. ขอ้ มลู ทางเศรษฐกิจสงั คม  ทราบลกั ษณะอาชีพของประชาชนท่ีเช่ือมโยงถึงภาวะเศรษฐกิจ แสดงถึงรายไดข้ องครอบครัวภาวะเส่ียงต่อการเกิดโรคจากการประกอบ อาชีพ อตั ราการวา่ งงาน ปัญหาที่จะเกิดจากการวา่ งงาน

1.8ความหมายและการใชป้ ระโยชนข์ ้อมลู จากการประเมินอนามัยชุมชน III. ขอ้ มูลดา้ นส่ิงแวดลอ้ มและบริการสุขภาพ  ช้ีใหเ้ ห็นสภาวะอนามยั สิ่งแวดลอ้ มที่มีผลต่อการเกิด โรคระบบทางเดินอาหารและโรคพยาธิ  ความครอบคลุมของบริการอนามยั แม่และเดก็ คุณภาพของการดูแลก่อนและหลงั คลอด การป้ องกนั ภาวะ เส่ียงและอนั ตรายท่ีอาจเกิดข้ึน  วดั คุณภาพชีวิตของประชากร แนวโนม้ ของภาวะ เจริญพนั ธ์ เศรษฐกิจของครอบครัว ประสิทธิภาพของงาน สร้างเสริมภูมิคุม้ กนั โรค

1.8ความหมายและการใชป้ ระโยชน์ขอ้ มูล จากการประเมินอนามยั ชมุ ชน IV. ข้อมลู สถติ ชิ ีพและภาวะสุขภาพ  เครอ่ื งชีว้ ัดสถานภาพอนามยั ของเดก็ วยั กอ่ นเรยี นของชมุ ชนท่ี เส่ียงตอ่ การเกิดโรคตา่ งๆ โรคเร้อื รงั จานวนผู้รบั บรกิ ารที่สถานี อนามัย การเส่ือมสมรรถภาพของประชาชน ทราบสถานภาพอนามัย ของประชากรกลมุ่ ตา่ งๆ โรคที่เป็นปญั หาและสาเหตกุ ารตายใน ชมุ ชน

2.การวินจิ ฉยั และการจัดลาดับความสาคัญของปัญหา (Community Diagnosis Priority setting) วตั ถุประสงคข์ องการวนิ ิจฉยั อนามยั ชุมชน เพ่อื ทราบถึงสภาวะสุขภาพของบุคคลในชุมชนตามปัจจยั ดา้ นบุคคล สถานที่และเวลา เพอื่ ทราบปัญหาสาธารณสุขและปัจจยั ท่ีทาใหเ้ กิดปัญหาน้นั ๆ ในชุมชน เพอ่ื จดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหาอนามยั ชุมชน เพือ่ นาผลท่ีไดจ้ ากการวินิจฉยั อนามยั ชุมชนไปใชเ้ ป็นแนวทางในการวางแผนงาน/ โครงการแกไ้ ขปัญหาสาธารณสุข การวินิจฉยั ปญั หาสขุ ภาพ / ระบุปญั หา (Identity Problem) ปัญหาอนามยั ชมุ ชน หมายถึง ภาวะอนามยั ของชุมชนท่ยี ังไม่เป็นไปตามความคาดหวังหรอื เปา้ หมายของผู้รบั ผดิ ชอบ การระบปุ ญั หาเป็นการกาหนดข้อความที่เปน็ ปญั หาทง้ั หมดท่มี ี สมการปัญหาสุขภาพ = (สขุ ภาพทคี่ วรจะเปน็ - สุขภาพที่เปน็ อยู่) x ความหว่ งใย โดยการนาขอ้ มลู ทีว่ เิ คราะหม์ าระบุปญั หา โดยใชห้ ลกั ดงั น้ี

2.การวินิจฉัยและการจัดลาดบั ความสาคญั ของปัญหา (ต่อ)(Community Diagnosis Priority setting) 1.ระบตุ วั ชนดิ ตัวแปร/เกณฑ์ /มาตรฐาน /กระบวนการกล่มุ ใช้ตัดสินใจ เลอื กประเด็นปญั หา 1. ใหห้ ลกั 5 D  Death  Disability  Disease Death Disability  Discomfort  Disatisfaction 2. เปรียบเทียบกับเกณฑห์ รือคา่ มาตรฐานตา่ งๆ  เกณฑ์ จปฐ. แผนฯ 12  เป้าหมายแผนพัฒนาสขุ ภาพ  เกณฑเ์ มืองไทยแขง็ แรง 3. กระบวนการกลุม่ โดยให้ชมุ ชน/ผ้นู า/ประชาชนมสี ่วนร่วมในการตดั สินใจดว้ ยตนเอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook