๓สนทนาธรรม เล่ม
๓ จ า ก ค อ ลั ม น์ ส น ท น า ธ ร ร ม กั บ อ า จ า ร ย์ ว ศิ น ในเวบ็ ไซต์เรอื นธรรม (www.ruendham.com)
ชมรมกลั ยาณธรรม หนงั สือดีล�ำดบั ท่ ี ๑๗๐ ๓ พิมพค์ ร้งั ท่ี ๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๕ จำ� นวนพิมพ์ ๗,๐๐๐ เล่ม จดั พิมพ์โดย ชมรมกัลยาณธรรม ๑๐๐ ถนนประโคนชัย ตำ� บลปากน้ำ� ปกและรูปเล่ม อ�ำเภอเมือง จังหวัดสมทุ รปราการ ๑๐๒๗๐ ภาพวาดประกอบปก โทรศพั ท์ ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ และ ๐-๒๗๐๒-๙๖๒๔ คนข้างหลงั ตัดคำ� คณุ เคอ ซิว่ เซยี ง (และพ่ีสาวผู้เปน็ แรงหนนุ ) พสิ จู น์อักษร อะตอ้ ม ศริ ะ, วรรณี เพลต Canna Graphic โทรศพั ท์ ๐๘-๖๓๑๔-๓๖๕๑ พิมพ์ บรษิ ทั ขมุ ทองอุตสาหกรรมและการพมิ พ์ จ�ำกดั โทรศัพท์ ๐-๒๘๘๕-๗๘๗๑-๓ สัพพทานงั ธัมมทานัง ชินาติ การใหธ้ รรมะเป็นทาน ย่อมชนะการให้ท้งั ปวง www.kanlayanatam.com Dhammaintrend รว่ มเผยแพรเ่ ป็ นธรรมทาน
สนทนาธรรมกับ 3 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำอนโุ มทนา ชมรมกลั ยาณธรรมโดยทนั ตแพทยห์ ญงิ อจั ฉรา กลนิ่ สวุ รรณ ์ ผเู้ ปน็ ประธานชมรม ขออนญุ าตพมิ พห์ นงั สอื สนทนาธรรมกบั อ.วศนิ อนิ ทสระ เล่ม ๓ ข้าพเจา้ จงึ อนุญาตด้วยความยินดยี ่งิ ลกั ษณะการถามปญั หามหี ลายแบบ ในคมั ภรี ท์ างพระพทุ ธศาสนา ท่านให้ไว้ ๕ อย่างคอื ๑. อทิฏฐโชตนา ปุจฉา ถามเพ่อื ใหร้ ูเ้ ห็นสิ่งทต่ี นยังไมร่ ูไ้ มเ่ ห็น ๒. ทิฏฐสงั สันทนา ปจุ ฉา ถามเพอ่ื เทียบเคียงความคดิ เหน็ ๓. วิมตเิ ฉทนา ปุจฉา ถามเพอื่ ตัดความสงสัย ๔. อนมุ ต ิ ปจุ ฉา ถามเพอ่ื ใหผ้ ฟู้ งั คลอ้ ยตามแลว้ อธบิ ายตอ่ ไป เชน่ ถามวา่ “รปู เทย่ี งหรอื ไมเ่ ทยี่ ง” เมอื่ เขาตอบวา่ “ไมเ่ ทย่ี ง” กอ็ ธบิ ายตอ่ ไป ว่าเมื่อไม่เท่ียงก็เป็นทุกข์และเป็นอนัตตา ไม่ควรยึดว่าเป็นเราเป็น ของเรา ๕. กเถตุกัมยตา ปุจฉา ถามเพื่อจะตอบเอง เช่น ท่ีพระพุทธเจ้า ตรัสว่า “ภิกษุท้ังหลาย สติปัฏฐานมี ๔ ๔ น้ันเป็นไฉน แล้วตรัสตอบ เองและทรงอธบิ ายรายละเอียดตอ่ ไป
4 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถาม-ค�ำตอบในหนังสือเล่มนี้มีลักษณะเช่นน้ีบ้าง มีอย่างอื่น บ้าง ตามสมควรแก่ค�ำถามและค�ำตอบ หวังว่าท่านผู้อ่านคงได้รับ ประโยชนพ์ อสมควร เหมือนกับทไ่ี ดร้ บั มาแลว้ ในเลม่ ๑ และ เล่ม ๒ ข้าพเจ้าขออนุโมทนาต่อกุศลเจตนาของชมรมกัลยาณธรรม และ ทนั ตแพทยห์ ญงิ อจั ฉรา กลน่ิ สวุ รรณ ์ ซง่ึ ไดข้ วนขวายพยายามใหห้ นงั สอื ท�ำนองน้ีออกมาเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่าน ขอให้ชมรมฯ จงต้ังมั่น เจรญิ รงุ่ เรอื งและขอใหป้ ระธานชมรมเจรญิ ดว้ ยอาย ุ วรรณะ สขุ ะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ตลอดกาลทุกเม่ือ พร้อมกันน้ี ขออนุโมทนา ต่อความเพียรพยายามด้วยความตั้งใจอันดีของคุณยุวดี อ๊ึงศรีวงษ์ ทไ่ี ดช้ ว่ ยอา่ นคำ� ถามและพมิ พค์ ำ� ตอบลงในอนิ เตอรเ์ นต็ ทกุ เลม่ ตลอดมา ด้วยความปรารถนาดอี ย่างยิ่ง ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕
สนทนาธรรมกับ 5 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ของชมรมคกำ� ัลนยำ� าณธรรม ชมรมกลั ยาณธรรมไดจ้ ดั พมิ พค์ �ำถามคำ� ตอบในคอลมั น ์ “สนทนา ธรรมกับ อ.วศิน อินทสระ” จากเว็บไซต์เรือนธรรม ต่อเนื่องมาเป็น เล่มท่ี ๓ แล้ว ด้วยความศรัทธายินดีท่ีได้สร้างสรรค์ส่ิงท่ีมีประโยชน์ ต่อจิตใจสาธุชน หลายท่านได้รับค�ำตอบและก�ำลังใจจากเมตตาของ ท่านอาจารย์ แม้จะไม่ได้เป็นผู้ถามปัญหาเข้ามาเองและแม้จะไม่เคย เปดิ อ่านในเวบ็ ไซตด์ งั กลา่ ว แตก่ ารจดั พมิ พเ์ ปน็ รูปเลม่ จ�ำนวนมากเพอื่ แจกเปน็ ธรรมทานกช็ ว่ ยใหส้ าระแหง่ ธรรมทถี่ กู ตรงซงึ่ ทา่ นอาจารยว์ ศนิ เมตตาตอบใหท้ กุ คำ� ถาม สามารถเขา้ ถงึ เพอ่ื นผรู้ ว่ มทกุ ขไ์ ดอ้ กี กวา้ งขวาง เปน็ งานทชี่ มรมกลั ยาณธรรมภมู ใิ จและอนโุ มทนาอยา่ งยง่ิ โดยทมี งานได้ ดึงค�ำถามค�ำตอบจากข้อแรกสุดมาจนเกือบถึงข้อล่าสุดท่ีท่านอาจารย์ ยงั ตอบปญั หาอยทู่ กุ สปั ดาหใ์ นปจั จบุ นั นี้ ซง่ึ เมอื่ เราจดั พมิ พถ์ งึ เลม่ ที่ ๔ ก็คงต้องทิ้งช่วงรอค�ำถามใหม่ๆ ที่จะรวบรวมได้จ�ำนวนมากพอท่ีจะจัด พมิ พ์ในเล่มที่ ๕ ตอ่ ไป ทราบว่า ท่านอาจารย์เองก็มีความประสงค์มาแต่แรก ว่าน่าจะมี การจดั พมิ พเ์ ปน็ หนงั สอื เพอ่ื ใหแ้ สงแหง่ ปญั ญาทที่ า่ นสละเวลา เรยี่ วแรง ตอบค�ำถามอย่างกระจ่างแจ้งและเมตตาจะได้เกิดประโยชน์มากข้ึน และสงิ่ ทท่ี า่ นหวงั ไวก้ ไ็ ดม้ าสำ� เรจ็ ดงั่ ใจปรารถนาเมอ่ื ชมรมกลั ยาณธรรม รบั อาสาเขา้ มาชว่ ยกนั ทำ� ฝนั ของทา่ นใหเ้ ปน็ ความจรงิ กอรปกบั ในระยะ
หลังน้ี ท่านอาจารย์สุขภาพไม่ใคร่ดีนักด้วยหลายโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า อยู่ คณะศิษย์จึงหวังให้งานเผยแผ่ธรรมสืบทอดเจตนารมณ์ของท่าน อาจารย์เหล่านี้ ได้เป็นพลังอานิสงส์ที่จะกลับมาอภิบาลคุ้มครองให้ ท่านอาจารยไ์ ด้อยูส่ ขุ สบายกายใจในบ้นั ปลายชวี ติ ปราศจากทุกขโ์ ศก โรคภัย ได้อยู่อย่างสงบสันติเพ่ือมนสิการธรรมและเจริญในมรรค ผล นพิ พานตามธรรมปณธิ านทีท่ า่ นตง้ั จิตอธษิ ฐานไว้ ทา่ นอาจารยเ์ คยสอนวา่ “การใหค้ วามชว่ ยเหลอื รว่ มมอื สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ในการกระท�ำสงิ่ ดงี าม กเ็ ทา่ กบั การกระท�ำเอง” พวกเราคณะ ศิษย์ อันมีชมรมกัลยาณธรรมเป็นต้น จึงต่างช่วยกันสืบสานสายธาร ธรรมอันบริสุทธ์ิท่ีท่านอาจารย์ได้เสียสละทุกอย่าง เพ่ือประกาศธรรม ท่ีถูกตรงตามรอยพระศาสดามาตลอดชีวิต โดยหวังให้อานิสงส์แห่ง ธรรมทานนจี้ ะเปน็ แสงสวา่ งสอ่ งจติ ใจผรู้ ว่ มทกุ ข ์ และเปน็ อดุ มมงคลดล อานสิ งสท์ งั้ ปวง นอ้ มกลบั มาเปน็ เครอ่ื งบชู าอาจรยิ คณุ แดท่ า่ นอาจารย์ ใหท้ า่ นไดม้ กี ำ� ลงั กายกำ� ลงั ใจ รกั ษาตนอยเู่ พอ่ื เปน็ โคมธรรมทส่ี วา่ งไสว ตอ่ ไปตราบนานแสนนาน ทพญ.อจั ฉรา กล่นิ สุวรรณ์ ประธานชมรมกลั ยาณธรรม
สเ ปนิ ดทห้นอ งา
8 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามที ่ ๒๑๘ ๑. โพชฌงค์ ๗ และสติปัฏฐาน ๔ อยู่ตรงส่วนไหนของปฏิจจ- สมุปบาทคะ ๒. กรรมไม่ด�ำไม่ขาว การกระท�ำโดยปราศจากเจตนา หมายความวา่ อะไรคะ จะขดั กนั กบั ทเี่ คยไดย้ นิ วา่ เจตนาเกดิ กบั จติ ทกุ ดวงหรอื ไมค่ ะ ๓. ทา่ นอาจารยเ์ คยกลา่ ววา่ ควรระลกึ ถงึ พระสตู รทต่ี น ชอบไว้เสมอๆ ในฐานะท่ีเป็นปูชนียบุคคลผู้เป็นเลิศในการเผยแผ่ธรรม และมีศีลาจารวัตรอันงดงามน่าเคารพยิ่งผู้หน่ึงในประเทศไทย ๓.๑) ท่านอาจารย์ระลึกถึงพระสูตรหรือข้อธรรมใดบ่อยๆ คะ (เพ่ือเป็นแบบ อย่างให้ลูกศิษย์และผู้ที่เคารพในพระธรรมและศรัทธาในปฏิปทาของ ท่านอาจารย์ได้ดำ� เนินรอยตามบ้าง) ๓.๒) ท่านอาจารย์คิดว่า หนังสือ ทางพระพทุ ธศาสนาทีด่ ีทีส่ ุด (นอกจากพระไตรปิฎก) สัก ๕ เล่มท่ชี าว พุทธควรจะต้องอ่านคืออะไรคะ ท้ังที่เป็นผลงานของท่านอาจารย์และ ครบู าอาจารย์ทา่ นอนื่ กราบขอบพระคณุ ด้วยความเคารพอย่างสงู ย่ิง ตอบ ๑. ปฏิจจสมุปบาทนั้นมี ๒ สาย คือ สายเกิด (สมุทยวาร) และ สายดบั (นโิ รธวาร) สายเกดิ คอื การเกดิ ขนึ้ ของกเิ ลส มอี วชิ ชาเปน็ ตน้ ไป ถึงเกดิ ทกุ ข์ สายดับหมายถึงดบั กิเลส มีอวิชชาเปน็ ตน้ ไปจนถึงดับทุกข์ สตปิ ฏั ฐาน ๔ และโพชฌงค์ ๗ เป็นไปเพอ่ื ดับกเิ ลสและดบั ทกุ ข ์ ถา้ จะ จดั เขา้ ในปฏจิ จสมปุ บาทกจ็ ดั เขา้ ในนโิ รธวารคอื สายดบั ปฏจิ จสมปุ บาท สายเกดิ เป็นสงั สารวัฏ สว่ นสายดบั เป็นนิพพาน ๒. กรรมไม่ด�ำไม่ขาว หมายถึง กรรมในองค์อริยมรรคซ่ึงเป็นไป เพื่อความสิ้นกรรม กรรมด�ำมีวิบากกรรมคือกรรมช่ัว มีผลเป็นทุกข์ กรรมขาวมีวิบากขาวคือกรรมดี มีผลเป็นสุข กรรมท้ังด�ำท้ังขาวมีผล
สนทนาธรรมกบั 9 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ทั้งด�ำทั้งขาวคือกรรมดีปนช่ัวหรือว่าดีบ้างช่ัวบ้าง ให้ผลเป็นสุขบ้าง เปน็ ทกุ ขบ์ า้ ง กรรมไม่ด�ำไม่ขาวตามพระไตรปิฎกอังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ทา่ นเลง็ ไปทเ่ี จตนาในการกระท�ำนน้ั เพอ่ื จะละทง้ั กรรมด�ำและกรรมขาว เป็นไปเพ่ือความสิ้นกรรม ตัวอย่างที่เห็นง่ายเช่นกรรมของพระอรหันต์ ผลู้ ะไดแ้ ลว้ ทง้ั ดแี ละชว่ั กรรมของทา่ นเปน็ กรรมไมด่ ำ� ไมข่ าว สำ� หรบั ผทู้ ี่ ด�ำเนินอยู่ในองค์อริยมรรคด้วยเจตนาท่ีจะละทั้งกรรมด�ำและกรรมขาว เพอื่ ไมต่ อ้ งเวยี นวา่ ยตายเกดิ อกี ตอ่ ไปกน็ า่ จะจดั เขา้ ในกรรมไมด่ ำ� ไมข่ าว ดงั กล่าวแล้ว ๓.๑ มีหลายพระสูตร เช่น ธัมมจักกัปปวัตนสูตร, อนัตตลักขณ- สูตร, อาทติ ตปริยายสูตร, ธัมมนิยามสูตร และรฐั ปาลสตู ร (ธมั มุทเทส ๔) เป็นต้น ๓.๒ ขอแนะน�ำหนังสือของท่านพุทธทาส ๒ เร่ือง คือ ตามรอย พระอรหันต์ และ วิธีเข้าถึงพุทธธรรม ของท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณา ภรณ ์ (ป.อ.ปยตุ โฺ ต) ๑ เรอ่ื ง คอื พทุ ธธรรม จะเปน็ ฉบบั พมิ พค์ รงั้ แรกกไ็ ด้ ซ่ึงย่อและกะทัดรัดไม่มากเกินไป หรือถ้าชอบรายละเอียดก็อ่าน พุทธ- ธรรมฉบบั ปรบั ปรงุ และขยายความ ซงึ่ หนาถงึ ๑,๑๔๕ หนา้ ของหนงั สอื ขนาด ๘ หน้ายกพิเศษ สำ� หรบั หนงั สอื ของผมเองนน้ั ทมี่ ผี นู้ ยิ มอา่ นกนั มากกน็ า่ จะเปน็ เรอ่ื ง พระอานนท์พุทธอนุชา ซ่ึงระยะหลังๆ นี้ได้แยก “ความตาย” มาพิมพ์ ตา่ งหากในชอ่ื ใหมว่ า่ พระพทุ ธโอวาทกอ่ นปรนิ พิ พาน อกี เรอื่ งหนงึ่ ทจ่ี ะ ขอแนะนำ� คอื เรอ่ื ง หลกั คำ� สอนสำ� คญั ในพระพทุ ธศาสนา (พทุ ธปรชั ญา เถรวาท) ซงึ่ ผ้อู า่ นจะได้ความรทู้ ่ีเป็นหลกั ส�ำคญั ของพระพุทธศาสนา ขอบคุณที่ให้ก�ำลังใจมาอยา่ งมาก
10 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท ่ี ๒๑๙ เรียนถามท่านอาจารย์ว่า การฟอกสบู่หอม การหนุนหมอนนุ่ม การนงั่ เกา้ อ้ีฟองนำ้� นมุ่ ถอื ว่าผดิ ศลี แปดไหมครับ ตอบ สบนู่ นั้ ควรเลอื กสบทู่ ไี่ มห่ อมเพราะทา่ นหา้ มลบู ไลร้ า่ งกายดว้ ยของ หอม ส�ำหรับหมอนหนุนและหมอนหนุนเท้าไม่เป็นไร ใช้ได้ ไม่ควรมี หมอนขา้ ง นง่ั เก้าอ้ีได้ทกุ ชนิด คำ� ถามที่ ๒๒๐ การเรียนธรรมก็ว่ายากอยู่มากแล้วแต่การน�ำธรรมมาใช้ในชีวิต ประจ�ำวันให้ถูกเวลา ถูกท่ี ถูกสถานการณ์ โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรม ให้สมควรแก่ธรรมนั้นนับว่า ย่ิงยากเข้าไปอีก เวลาเรียนก็รู้ว่าสิ่งน้ันคือ กิเลส สิ่งนี้คอื อุปกเิ ลสสิ่งเศร้าหมองเปรียบดังธลุ ี อยา่ งนั้นอย่างนี้ ฯลฯ แตเ่ วลาเผชญิ หนา้ กบั อารมณต์ า่ งๆ อนั เปน็ ขา้ ศกึ เปน็ กเิ ลสเขา้ จรงิ กลบั ท�ำตัวเป็นหนุมานคลุกฝุ่นไปเสียน่ี ไม่ทราบว่าจะท�ำอย่างไรให้ถูกต้อง เหมาะสมคะ ตอบ อยู่ที่การฝึก ต้องค่อยๆ ฝึกท�ำไปทีละน้อย เหมือนเด็กหัดเดิน ลม้ ลกุ คลกุ คลานไปกอ่ น ถา้ ไมย่ อมแพเ้ สยี กอ่ นกจ็ ะเดนิ ไดแ้ ขง็ แรงและ วิ่งได้ด้วย เร่ืองการปฏิบัติธรรมก็เช่นเดียวกัน ค่อยๆ ฝึกไปด้วยใจเย็น ในท่สี ดุ ก็จะท�ำได ้ ตอ่ สกู้ บั กิเลสไดแ้ ละชนะมนั ดว้ ย
สนทนาธรรมกับ 11 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามที่ ๒๒๑ ศิษย์ทุกคนท่ีได้มีโอกาสใกล้ชิดท่านอาจารย์วศิน จะทราบดีว่า ท่านเปรียบได้กับโอเอซิสอันกว้างใหญ่ร่มรื่นร่มเย็นเพียงใด น้�ำคือข้อ ธรรมคำ� สอนของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ทท่ี า่ นสง่ั สมบม่ เพาะแลกลนั่ กรอง มาอย่างดีเย่ียมแล้ว น�ำมาถ่ายทอดสู่เหล่าศิษย์ให้ได้รับฟังด้วยความ อม่ิ เอมใจเพลดิ เพลนิ ในธรรมหาทสี่ ดุ มไิ ด ้ ไมม่ ใี ครคดิ อยากกา้ วออกจาก โอเอซิสใหญ่นี้เลย แต่ด้วยความจ�ำเป็นของแต่ละชีวิตที่มีหนทางเดินที่ แตกตา่ งกนั ไป บางคนจำ� ตอ้ งเดนิ ทอ่ งทะเลทรายแหง้ ผาก ฝา่ เปลวแดด ร้อนระอุต่อไปอย่างไม่รู้จุดส้ินสุด มีเพียงสวรรค์ที่เคยประสบอยู่ในใจ เปน็ ทรี่ ะลกึ ถงึ อยเู่ สมอมริ ลู้ มื (ขอนอ้ มรำ� ลกึ ในพระคณุ ของทา่ นอาจารย์ ผเู้ สยี สละซ่ึงทุกสง่ิ ทกุ อยา่ ง) ตอบ ขอบใจมากๆ ท่ียกย่องและให้ก�ำลังใจ ให้การร่วมมือช่วยรักษา โอเอซิสไว้ (แหล่งน�้ำในทะเลทราย) มีคติอยู่ข้อหน่ึงว่า การร่วมมือ เทา่ กบั ทำ� เอง คณุ ไดย้ กยอ่ งและใหเ้ กยี รตเิ ชน่ นเี้ ทา่ กบั รว่ มมอื นบั วา่ ไดท้ ำ� สิ่งที่เป็นมงคลสูงสุดอย่างหน่ึง ขออนุโมทนาและขออวยพรให้ประสบ แตส่ งิ่ ทน่ี �ำสริ ิมงคลมาใหต้ ลอดกาลทกุ เมื่อ
12 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามที่ ๒๒๒ ขออนุญาตเรยี นถามครับ เกย่ี วกับเรือ่ งกรรม กรรมทเ่ี กดิ จากการ ท�ำแท้งมันส่งผลต่อเราอย่างไรบ้างครับ และเราควรปฏิบัติอย่างไร เมอื่ เราไดก้ ระทำ� กรรมนนั้ ไปแลว้ เพอ่ื เปน็ การอโหสกิ รรม หรอื มที างแกไ้ ข อะไรบา้ งไหมครับ ตอบ ตั้งใจให้ม่ันคงว่าต่อไปจะไม่ท�ำอีก ถ้าเป็นไปได้ลองหาเด็กที่พ่อ แม่ตายหรือท่ีพ่อแม่ทิ้งมาเล้ียงดูเป็นลูกของตน คิดว่าชดเชยได้ ท�ำให้ คุณมคี วามสุขใจข้นึ เป็นการไถบ่ าปไปดว้ ย ขอเอาใจชว่ ยใหค้ ณุ ทำ� ได้ คำ� ถามท่ ี ๒๒๓ กราบเรียนถามเกย่ี วกับเร่อื งพระมหากัสสปค่ะ ได้อ่านพบประวัติ ของท่านแล้วแต่อยากทราบเก่ียวกับบั้นปลายชีวิตของท่านหลังจากได้ ทำ� การรวบรวมสงั คายนาพระไตรปฎิ กแลว้ จะคน้ ไดจ้ ากพระสตู รไหนคะ ตอบ มีพระสูตรในสังยุตตนิกายเรียกว่ากัสสปสังยุต รวบรวมเร่ืองของ พระมหากสั สปไวม้ ากพอสมควร ลองหาอา่ นด ู ถา้ เปน็ พระไตรปฎิ กแปล ฉบับของมหามกุฏราชวิทยาลัย เขาจะเขียนหน้าปกว่า สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เลม่ ๒ หมายถงึ เล่ม ๒ ของสงั ยตุ ตนกิ าย
สนทนาธรรมกับ 13 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามท ่ี ๒๒๔ เรียนถามท่านอาจารย์ว่า ของสงฆ์เป็นของส่วนกลางใช่ไหมครับ แล้วสังฆทานจัดเป็นของสงฆ์หรอื ไมค่ รับ ตอบ “ของสงฆเ์ ปน็ ของสว่ นกลาง” ใชแ่ ลว้ โดยทว่ั ไปกเ็ ปน็ สมบตั ขิ องวดั ใดวดั หนงึ่ เชน่ เสนาสนะในวดั เปน็ ตน้ ไมใ่ ชข่ องพระรปู ใดรปู หนงึ่ สว่ น ของทม่ี คี นนำ� ไปถวายเปน็ สงั ฆทานนนั้ ถวายใหแ้ กภ่ กิ ษรุ ปู นน้ั ๆ ซง่ึ ทา่ น จะถือเป็นสมบัติส่วนตัวก็ได้ จะถวายให้เป็นของวัดก็ได้ เมื่อถวายให้ เปน็ ของวัดแล้วกเ็ ปน็ ของสงฆ์ คำ� ถามที่ ๒๒๕ ในหนงั สอื อธบิ าย มลิ นิ ทปญั หา ของทา่ นอาจารย์ มกี ลา่ วถงึ พระ นาคเสนแสดง “โลกุตรธรรมประกอบด้วยสุญญตานุปัสสนา” ให้มหา อบุ าสกิ าทา่ นหนงึ่ ซงึ่ ขอใหพ้ ระนาคเสนแสดงธรรมทส่ี ขุ มุ ลมุ่ ลกึ ใหแ้ กต่ น ด้วยว่าตนเป็นคนแก่แล้ว ๑. สุญญตานุปัสสนาคืออะไรคะ ปุถุชนผู้ ยังไม่บรรลุโลกุตรธรรมจะเจริญได้หรือไม่ ในสติปัฏฐาน ๔ มิได้มีอนุ- ปสั สนาขอ้ น ้ี ถา้ เชน่ นน้ั สญุ ญตานปุ สั สนากไ็ มจ่ ดั เขา้ เปน็ “ทางสายเอก” สู่ความพ้นทุกข์ใช่ไหมคะ ๒. ขอท่านอาจารย์โปรดยกตัวอย่างหมวด “ธรรมท่ีสุขุมลุ่มลึก” อ่ืนๆ ให้ได้รับทราบสัก ๓-๔ หมวดด้วยนะคะ กราบขอบพระคณุ ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งค่ะ
14 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ตอบ ๑. สญุ ญตานปุ สั สนา คอื การพจิ ารณาเหน็ ความวา่ ง คอื วา่ งจาก สัตว์ บุคคล ตัวตน ปุถุชนผู้ไม่บรรลุธรรมก็เจริญได้และควรเจริญเพ่ือ บรรลธุ รรม พระพทุ ธเจา้ เคยตรสั ตอบปญั หาของพระโมฆราชวา่ เธอจงมี สติทุกเม่ือ พิจารณาดูโลกโดยความเป็นสุญญตา ถอนอัตตานุทิฐิเสีย (ความเห็นว่าเป็นตัวตน) พึงข้ามพ้นมัจจุราชเสียได้ มัจจุราชย่อมมอง ไม่เห็นบุคคลผู้พิจารณาโลกอยู่อย่างน ี้ สุญญตานุปัสสนาถ้าจะให้รวม ลงในสติปัฏฐาน ๔ ในกายานุปัสสนาก็อยู่ท่ีธาตุปัพพะ ว่าด้วยธาตุ ๔ ในธมั มานปุ สั สนากอ็ ยทู่ ก่ี ารพจิ ารณาขนั ธ ์ ๕ โดยความเปน็ ของไมเ่ ทยี่ ง เปน็ ทกุ ข ์ และเปน็ อนตั ตา ๒. ค�ำถามนี้ ให้ผู้ถามดทู โี่ พธปิ กั ขิยธรรม ๓๗ ซึง่ ทา่ นแสดงไวใ้ น ฐานะเปน็ ธรรมซง่ึ เปน็ ไปเพอ่ื การตรสั รหู้ รอื เพอื่ ปญั ญา ทเี่ รยี กวา่ “โพธ”ิ คือ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ และ มรรคมีองค์ ๘ ค�ำถามท ี่ ๒๒๖ เรียนถาม การเจริญอิทธิบาท ๔ เหตุใดจึงมีผลท�ำให้เป็นผู้มีอายุ ยืนยาวคะ ตอบ ไม่ใช่อิทธิบาทธรรมดา ที่กล่าวถึงในพุทธประวัติว่า พระพุทธเจ้า ตรัสกับพระอานนท์ว่า ผู้ที่อบรมอิทธิบาทมาดีแล้วเช่นพระองค์น้ี ถ้า ประสงค์จะมีอายุต่อไปก็จะอยู่ได้ถึง ๑ กัป (หมายถึงกัปอายุคนใน
สนทนาธรรมกบั 15 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ขณะน้ัน คือ ๑๒๐ ปี) อิทธิบาทท่ีกล่าวถึงในที่นี้ หมายถึงอิทธิบาทท่ี ประกอบด้วยเจโตสมาธิ กล่าวคือ ประกอบด้วยฌานระดับต่างๆ ท่าน อยู่ได้ด้วยก�ำลังฌานซึ่งเป็นอ�ำนาจพิเศษอย่างหน่ึงของผู้ได้ฌานและ ได้อภิญญา คำ� ถามท่ ี ๒๒๗ ๑. การแผ่เมตตาในสรรพสัตว์หรือในตัวบุคคลก็ดี แตกต่างจาก การอวยพรหรอื ใหพ้ รตรงไหนคะ ๒. ในเวลาเชา้ เมอื่ รสู้ กึ ตวั ตน่ื ลมื ตาขน้ึ มาทุกคร้ังเราก็ร�ำลึกนึกถึงบิดา มารดา ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ตลอด จนญาติทงั้ หลาย บตุ รหลาน รวมถงึ ตัวเราเอง ขอให้มคี วามสุขมคี วาม เจรญิ ทำ� แบบนที้ กุ คำ่� เชา้ (ไมร่ วมถงึ การแผเ่ มตตาแกส่ รรพสตั วท์ ว่ั ไป) ไม่ทราบว่าควร ไม่ควร หรือน่าจะมีอะไรที่ดีกว่าน้ีอีก ขอความกรุณา ท่านอาจารย์สอนให้ดว้ ยค่ะ ตอบ ๑. การแผเ่ มตตาไปยงั สรรพสตั วท์ �ำใหจ้ ติ ของเราออ่ นโยน ทำ� รา้ ย ใครไม่ได้ เป็นการให้พรแก่สรรพสัตว์ด้วยการปฏิบัติ คือ งดเว้นจาก การเบียดเบยี น ๒. ทที่ ำ� อยนู่ น้ั ดแี ลว้ ขอเพม่ิ เตมิ นดิ หนอ่ ย คอื ใหต้ ง้ั ใจวา่ จะเวน้ ความชั่วทั้งปวง จะท�ำความดีให้พรั่งพร้อม และจะท�ำใจให้ผ่องแผ้ว ตลอดวันน้ี
16 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามท่ ี ๒๒๘ เรียนถามเก่ียวกับเรื่องค�ำท�ำนาย หมอดูฟันธง โหรดูดวง ดูดาว ดูฤกษ์ ฯลฯ ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์มีความคิดเห็นอย่างไรเก่ียวกับ เรื่องท�ำนองนี้ ตอบ มีความเห็นว่าไม่แน่เสมอไป คงจะผิดบ้างถูกบ้าง ไม่ดูดีกว่า สบายใจกว่า จะสุขจะทุกข์จะเจริญจะเสื่อมอย่างไรก็สุดแล้วแต่ กรรมท่ีเราท�ำและที่สังคมท�ำให้แก่กัน คติทางพระพุทธศาสนามีอยู่ว่า “ประโยชนย์ อ่ มลว่ งเลยคนเขลาผมู้ วั ถอื ฤกษย์ ามอย ู่ ความสำ� เรจ็ ประโยชน์ นนั่ แหละเป็นฤกษ์ดีอยใู่ นตวั ดวงดาวในท้องฟา้ จกั ทำ� อะไรได”้ (นขตั ตชาดก) ทา่ นเลา่ เรอื่ งประกอบไวว้ า่ ชายคนหนง่ึ ไปขอหญงิ สาวทบี่ า้ นหนงึ่ ตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่าจะไปรับวันน้ันวันน้ี พอถึงวันเข้าจริงไม่ได้ไป เพราะนักบวชนอกพุทธศาสนาคนหน่ึงทักว่าฤกษ์ไม่ดี พอถึงวันท่ีเขา บอกว่าฤกษ์ดีก็พากันไปรับเจ้าสาว แต่ทางญาติของเจ้าสาวได้ยกให้ ชายอ่ืนผซู้ ่งึ ไมไ่ ดถ้ อื ฤกษย์ ามไปแล้ว
สนทนาธรรมกับ 17 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท ี่ ๒๒๙ ๑. อยากทราบว่ามีหัวข้อธรรมใดที่ท่านอาจารย์สงสัยหรือยังไม่ ทราบอีกบ้างหรือไม ่ ๒. ยังมีส่ิงใดท่ีท่านอยากทำ� แต่ยังไม่ได้ทำ� อยู่อีก หรอื ไม่ ตอบ ๑. ค�ำถามนี้ขอตอบโดยยกเอาค�ำของนายคริสต์มัส ฮัมฟรีย์ใน หนงั สือเรื่อง พระพุทธศาสนา (Buddhism) หนา้ ๑๕ ว่า พระพทุ ธเจ้า พระองคเ์ ดยี วเทา่ นนั้ ทรี่ พู้ ระพทุ ธศาสนาอยา่ งแจม่ แจง้ (Only the Bud- dha fully understood Buddhism.) ขอขอบคุณท่ีถามมาเป็นเชิง ยกย่องให้เกยี รติ ๒. เคยคิดว่า ถ้ามีสถานที่ส�ำหรับบรรยายธรรมที่เหมาะสม สะดวก สงบ สกั แหง่ หนง่ึ โดยไมต่ อ้ งไปอาศยั สถานทข่ี องผอู้ นื่ กจ็ ะด ี แต่ มาถงึ บดั นอี้ ายมุ ากแลว้ (๗๘) ยงั ไมม่ สี ถานทดี่ งั กลา่ วนน้ั คดิ วา่ คงมไี ม่ ได้แล้วในชาติน้ี ไม่คิดดีกว่าเพราะอายุก็มากแล้ว โรคภัยไข้เจ็บก็มาก ด้วย ร่างกายทรุดโทรมไม่แข็งแรง รับภาระหนักๆ ไม่ไหว จึงปลงใจว่า เป็นเท่าท่ีจะเป็นได้ มีเท่าที่จะมีได้ คือสันโดษตามที่ได้และตามก�ำลัง ท�ำให้มคี วามสุขตามอัตภาพ
18 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามท่ ี ๒๓๐ อาจารยว์ ศนิ ทเี่ คารพ ในสงั คมปจั จบุ นั น ้ี ภาพลกั ษณข์ องพระภกิ ษุ สงฆท์ ปี่ รากฏ มแี นวโนม้ ไปในทางเสอ่ื มเสยี สว่ นมาก สว่ นทด่ี มี กั ไมค่ อ่ ย เป็นข่าว อันมีผลให้ประชาชนที่ไม่ศรัทธาก็ย่ิงไม่เกิดศรัทธา ท่ีมีศรัทธา ก็ลดน้อยลงและท้อแท้เบ่ือหน่าย ในฐานะที่อาจารย์อยู่ในแวดวง พระพทุ ธศาสนาไดถ้ วายความรแู้ ดพ่ ระนกั ศกึ ษามามาก อาจารยค์ ดิ วา่ ๑. สถาบนั พระสงฆไ์ ทยยงั คงเขม้ แขง็ มนั่ คงหรอื ไม่ ๒. พระสงฆท์ กุ วนั น้ีมีความรเู้ ข้าใจในพระธรรมของพระพทุ ธองค์อย่างไม่บิดเบอื นไขว้เขว อยหู่ รอื เปลา่ คะ ๓. พระรนุ่ ใหมๆ่ นจี้ ะสามารถดำ� รงพระสทั ธรรมใหค้ ง อย ู่ ไมส่ ญู สลายไปตามกาลเวลาหรอื ไม่ (ขอขอบพระคณุ อาจารยท์ เี่ ปน็ ก�ำลังอันส�ำคัญที่จะท�ำให้พระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด�ำรง ยั่งยืนงอกงาม น�ำความร่มเย็นมาสสู่ งั คมและมวลมนุษย)์ ตอบ ๑. สถาบันพระสงฆ์ในปัจจุบันยังต้องปรับปรุงอีกมาก พระสงฆ์ ตอ้ งรสู้ กึ ตวั ในเรอ่ื งนแ้ี ละตอ้ งปรบั ปรงุ กนั เองจงึ จะสำ� เรจ็ ได ้ ฆราวาสจะ ทว้ งตงิ มงุ่ มน่ั ทจี่ ะปรบั ปรงุ สกั เทา่ ไรกค็ งจะไมส่ ำ� เรจ็ ถา้ พระสงฆไ์ มร่ สู้ กึ ตวั ว่าสถาบนั สงฆ์งอ่ นแง่นคลอนแคลนไมม่ ั่นคง ๒. พระสงฆบ์ างสว่ นกเ็ ขา้ ใจพระพทุ ธศาสนาไดด้ ี บางสว่ นกเ็ ขา้ ใจ พอสมควร บางส่วนเข้าใจเล็กน้อย ท่ีดูเหมือนจะบิดเบือนค�ำสอนของ พระพุทธเจ้าก็เพราะความเข้าใจผิดคิดว่ารู้ แต่ความจริงไม่รู้หรือรู้ผิด จึงถือเอาผิดและสอนผิด พุทธศาสนิกท่ีเป็นฆราวาสควรจะศึกษาพระ ธรรมโดยตรงใหม้ ากขนึ้ จะไดร้ วู้ า่ อะไรทพ่ี ระสอนผดิ อะไรทพ่ี ระสอนถกู ๓. บางสว่ นทำ� ไดบ้ า้ ง เฉพาะทศี่ กึ ษาเลา่ เรยี นจรงิ และปฏบิ ตั ชิ อบ
สนทนาธรรมกบั 19 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท่ี ๒๓๑ วิธีพิจารณาให้เห็นอุปทานขันธ์ท้ังห้า เพื่อความละคลายมีวิธี อยา่ งไรคะ ตอบ ให้พิจารณาบ่อยๆ ว่า ขันธ์ ๕ ไม่เท่ียง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ ควรยึดมั่นถือมั่น ยึดถือเข้าก็ท�ำให้เกิดทุกข์นานาประการ ปล่อยวาง เสียบ้างก็จะเบาสบายขึ้น เปรียบเหมือนหินเป็นของหนัก แต่ถ้าเราไม่ แบกไวก้ ไ็ มห่ นกั หรอื ถา้ แบกไวก้ ว็ างเสยี บา้ งเปน็ ครง้ั คราวจะไดเ้ บาบา้ ง หนักบ้าง มีพระพุทธพจน์อยู่ตอนหนึง่ วา่ “ขนั ธ ์ ๕ เปน็ ภาระหนกั แตบ่ คุ คลกย็ งั แบกภาระไป การแบกภาระ เป็นทุกข์ในโลก การปลงภาระเสียได้เป็นสุข เมื่อปลงภาระอันหนักได้ แล้ว ไม่ยึดถือภาระอย่างอื่นไว้ก็จะถอนตัณหาพร้อมท้ังมูลราก (คือ อวชิ ชา) เสยี ได ้ เปน็ ผหู้ มดอยาก ดบั เยน็ (ปรนิ พิ พาน)” (ภารสตุ ตคาถา) จะเลา่ เรอ่ื งใหฟ้ งั สกั เรอ่ื งหนงึ่ ลงิ ปา่ ตวั หนงึ่ เหน็ เนอ้ื มะพรา้ วอยใู่ น ลูกมะพร้าวจึงล้วงมือเข้าไปเพ่ือจะได้เนื้อมะพร้าว แต่เม่ือมันก�ำเนื้อ มะพร้าวไว้ในมือมันก็ดึงมือไม่ออก ลูกมะพร้าวน้ันมีโซ่ติดอยู่ ปลาย ขา้ งหนง่ึ พนั ไวก้ บั ตน้ ไมเ้ ปน็ วธิ จี บั ลงิ ถา้ ลงิ แบมอื ออกกจ็ ะหลดุ ได ้ แตม่ นั เสียดายเนอ้ื มะพรา้ วจงึ ก�ำมือไวแ้ นน่ ดงึ ออกไม่ได้ ติดอยูก่ ับโซน่ ัน่ เอง มีเรื่องมากมายในโลกซ่ึงถ้าเรายึดไว้ไม่ปล่อยวางก็จะไม่หลุดไม่ เปน็ อิสระเหมอื นลิงตวั นน้ั
20 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท ี่ ๒๓๒ ดีใจและมีความสุขมากๆ ที่ได้อ่านกระทู้และดูค�ำตอบจากท่าน อาจารย์ หลายท่านถามได้น่าสนใจมาก แต่ส�ำหรับค�ำตอบแล้วท่าน อาจารย์ตอบได้เป็นที่หน่ึงไม่มีสอง แจ่มแจ้งชัดเจนมากๆ (ด้วยความ เคารพอย่างสูง) ตอบ ขอบใจมากๆ ท่ีให้ก�ำลังใจมา การตอบปัญหาซึ่งหลากหลายนั้น เป็นของยาก แต่ก็พยายามทำ� เท่าท่ีจะทำ� ได้ คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์ ไมเ่ พยี งแกผ่ ถู้ ามคนเดยี ว แตจ่ ะเปน็ ประโยชนแ์ กค่ นทว่ั ไปทไ่ี ดอ้ า่ นดว้ ย ขอบคณุ อกี ครัง้ ค�ำถามท่ี ๒๓๓ กระทู้ถามตอบนี้ไม่ทราบว่าจะพิมพ์เป็นเล่มจ�ำหน่ายหรือไม่ มี ค�ำถามน่าสนใจมากมาย เป็นประโยชน์ส�ำหรับการเรียนรู้ อ่านเพลิน ดมี ากด้วยค่ะ ตอบ พิมพ์เป็นเล่มแน่นอนครับ ก�ำลังเตรียมการอยู่ ขอบคุณท่ีชอบ คำ� ถาม-ค�ำตอบในเว็บน้ี
สนทนาธรรมกับ 21 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท ่ี ๒๓๔ ขอความกรณุ าทา่ นอาจารยช์ ว่ ยแปลเปน็ ไทยใหด้ ว้ ยคะ่ “ปะโตเม ตงั ปะระวชิ นิ ัง สขุ ะโตจุต ิ จติ ตะเมตะ นพิ พานงั สขุ ะโตจตุ ”ิ ตอบ คาถาแบบนแ้ี ปลไมไ่ ดค้ รบั เพราะไมเ่ ปน็ ภาษาทถ่ี กู ตอ้ ง อยา่ ไดท้ อ่ ง เลย เอาสมองและเวลาไปทอ่ งจำ� พระพทุ ธพจนท์ ด่ี ๆี จะไดป้ ระโยชนก์ วา่ คำ� ถามท่ ี ๒๓๕ ทา่ นอาจารยม์ คี วามคดิ เหน็ เชน่ ไรกบั คนเบย่ี งเบนทางเพศแตอ่ ยาก บวช ท่านคิดเหน็ วา่ มีหนทางแกไ้ ขอย่างไรใหบ้ วั ไม่ช�้ำน้�ำไมข่ นุ่ คะ ตอบ ตามพระพุทธบัญญัติ คนเบี่ยงเบนทางเพศท่านห้ามบวช ท่าน เรียกในภาษาวินัยว่า “บวชไม่ข้ึน” บวชแล้วก็ไม่ชื่อว่าบวช ด้วยเหตุน้ี ไม่บวชดีกว่า ประพฤติธรรมในเพศฆราวาสก็ได้ ไม่สร้างความยุ่งยาก แต่ประการใด
22 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามที่ ๒๓๖ สัตบุรุษปรากฏในที่ไกลเหมือนภูเขาหิมวันต์ ส่วนอสัตบุรุษไม่ ปรากฏแมใ้ นทใี่ กลเ้ หมอื นลกู ศรซง่ึ เขายงิ ไปในราตร ี จากกระทขู้ อ้ ๑๕๒ หมายถึงอะไรคะ ตอบ หมายความว่า คนดีปรากฎในท่ีไกล คือ ช่ือเสียงเกียรติคุณของ ทา่ นระบอื ไปไดไ้ กล คนรจู้ กั กนั ทงั้ โลกกม็ ี เชน่ ทา่ นมหาตมะ คานธ ี แหง่ อินเดีย เป็นต้น ส่วนคนไม่ดีเหมือนลูกศรท่ีเขายิงไปในที่มืดและตกลง ไปในหลุมโคลนไม่มีคนเห็น อธิบายเพิ่มเติมเพียงเท่าน้ีหวังว่าผู้ถามคง พอเข้าใจ ค�ำถามท ่ี ๒๓๗ อาจารย์วศินที่นับถือ อยากเรียนถามอาจารย์ว่า อินทรีย์ ๕ และ พละ ๕ ประกอบดว้ ย ศรทั ธา วริ ยิ ะ สต ิ สมาธ ิ และปญั ญา เหมอื นกนั ใช่ไหมครับ วัตถุประสงค์หรือประโยชน์ใดของธรรม ๒ หมวดน้ีท่ี ตา่ งกนั ตอบ หัวข้อธรรมเหมือนกัน เม่ือแยกกันอยู่ ท่านเรียกอินทรีย์ แปลว่า เป็นใหญ่ในหน้าที่ของตน เช่น ศรัทธาเป็นใหญ่ในความเช่ืออย่างมี เหตุผล ก�ำจัดความไม่เชื่อออกเสียได้ เป็นต้น เม่ือทั้งห้ามารวมกัน ก�ำจัดกิเลสหรือความช่ัว ท่านเรียกว่า พละ เปรียบเหมือนน้ิวมือท้ังห้า
สนทนาธรรมกับ 23 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ของเรา เมื่อแยกกันอยู่เราก็เรียกช่ือไปต่างๆ เช่น น้ิวหัวแม่มือ นิ้วชี้ เปน็ ตน้ เมอ่ื กำ� รวมกนั เราเรยี กวา่ “กำ� ปน้ั ” มกี ำ� ลงั ในการชกหรอื ในการ ดึงสิ่งใดส่ิงหน่ึง เช่น ดึงเชือก เป็นต้น อีกตัวอย่างหน่ึง เช่น หิน ทราย ปนู ซเี มนต ์ และนำ้� เมอ่ื แยกกนั อยเู่ รากเ็ รยี กชอื่ ตา่ งกนั ไป แตเ่ มอื่ นำ� มา รวมกนั ใชน้ ำ้� เปน็ ตวั เชอ่ื ม คลกุ ใหเ้ ขา้ กนั ดแี ลว้ เราเรยี กวา่ “คอนกรตี ” มี ลักษณะมนั่ คง ทำ� เป็นเสาทานน�้ำหนักได้ ค�ำถามท ่ี ๒๓๘ ขอเรยี นถามวา่ ท�ำไมคนบางคนจึงท�ำใหเ้ ราหงดุ หงิดเวลาอยใู่ กล้ พยายามแผเ่ มตตาแลว้ กย็ งั ไมห่ าย เราควรหลกี เลยี่ งการพบปะ หรอื คดิ เสียวา่ เปน็ บททดสอบสต ิ ขอบพระคุณค่ะ ตอบ ถา้ เลย่ี งไดเ้ ลย่ี งเสยี ดกี วา่ ถา้ เลยี่ งไมไ่ ดก้ ต็ อ้ งท�ำใจ คอื สอนตวั เอง บอกกับตัวเองว่าเป็นโชคดีของเราหนอท่ีไม่เป็นคนเช่นเขาซึ่งมีข้อน่า รังเกียจมากมายท่ที �ำใหเ้ ราหงดุ หงดิ อยู่ หงุดหงิดก็คือรำ� คาญนั่นเอง ท่านว่าให้เอาชนะความรำ� คาญด้วย ความกรุณา คือคิดว่าเป็นความสุขของเขาที่เขาได้ทำ� เช่นน้ัน สมมติว่า มเี ดก็ ๆ มาเลน่ หนา้ บา้ น สง่ เสยี งดงั เราตอ้ งการความสงบเรากร็ �ำคาญ แต่พอนึกได้ว่าเป็นความสุขของเขาท่ีได้ท�ำเช่นนั้นเราก็มีความกรุณา เอาชนะความรำ� คาญได ้ เปน็ การชว่ ยตวั เราเองไปดว้ ยทำ� ใหเ้ ราสบายใจ ขึ้น
24 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามท่ี ๒๓๙ กราบเรียนอาจารย์วศินที่เคารพ ขอโอกาสสอบถามวิธีท�ำใจให้ ยอมรับวิบากท่ีเกิดขึ้นในชีวิตการท�ำงาน รู้สึกว่ามันซ�้ำซาก เนิ่นนาน หรอื เปน็ ส่ิงทสี่ มควรและสาสมกบั ดฉิ ันแลว้ คะ กราบขอบพระคุณคะ่ ตอบ ไม่มีใครหรอกครับที่ท�ำงานไม่ซ้�ำซาก ข้ึนช่ือว่างานประจ�ำ งาน อาชีพแล้ว ต้องซ�้ำซากท้ังน้ัน เราต้องคิดถึงประโยชน์ว่ามันซ้�ำซากก็ จริงแตม่ ันมปี ระโยชน์ คลา้ ยๆ เรากินอาหาร มันก็ซ�ำ้ ซากอยตู่ ลอดชีวิต แตเ่ รากก็ นิ ดว้ ยความพอใจบา้ งฝนื ใจบา้ ง (เปน็ บางมอื้ ) ตอ้ งปลอ่ ยใหห้ วิ แล้วจึงค่อยกินจะอร่อยทุกม้ือ สุภาษิตท่านจึงว่า “ความหิวเป็นชูรส ท่ีดีที่สุด (Hunger is the best sauce.)” ไม่หิวอย่ากิน อย่ากิน เพราะอยาก คนท่ีเบื่องานนั้นลองหยุดงานอยู่เฉยๆ สักระยะหน่ึงก็จะ เบอ่ื อกี ทำ� งานดกี วา่ ถงึ จะซำ้� ซากแตก่ ม็ ผี ลงานเหลอื อย ู่ ทำ� ชวี ติ ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ดว้ ย คำ� ถามท่ ี ๒๔๐ วิปัสสนากรรมฐาน สามารถลดวิบากกรรมและสามารถน�ำไปสู่ การเป็นโสดาบนั ในชาติภพเดยี วได้หรือเปลา่ ครบั ตอบ ไดค้ รับ
สนทนาธรรมกับ 25 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท่ี ๒๔๑ ความรู้สึกรับผิดชอบในหน้าที่ แท้จริงเกิดขึ้นเพราะเหตุใด หมาย ถึงรู้จักคิดเองหรือจากการอบรมส่ังสอน หรือการดูตัวอย่าง ฯลฯ อย่าง ไหนคอื ถูกคะ ตอบ ถูกทุกอย่าง บางอย่างเราต้องคิดเอง เพราะว่าเรารู้สิ่งท่ีเกี่ยวข้อง กับเรา คือเง่ือนไขในตัวเรายิ่งกว่าคนอ่ืน แต่เราต้องมีโยนิโสมนสิการ ใหม้ าก โยนโิ สมนสกิ ารคอื ความคดิ เปน็ ระบบ คดิ เปน็ มหี ลกั ในการคดิ และมีวธิ คี ดิ การได้รับอบรมสั่งสอนในสิ่งที่ดีก็เป็นส่ิงส�ำคัญ มีคนเป็นจ�ำนวน ไมน่ อ้ ย ทด่ี ไี ดเ้ พราะไดร้ บั การอบรมสงั่ สอนทด่ี ี ตอ้ งหมน่ั ศกึ ษาเลา่ เรยี น หม่นั อ่านหนงั สือที่ด ี เพราะนัน่ คือค�ำสอนท้ังน้ัน การไดเ้ หน็ ตวั อยา่ งทด่ี กี เ็ ปน็ สง่ิ สำ� คญั สำ� คญั ยงิ่ กวา่ คำ� สอนเสยี อกี ทำ� ใหไ้ ดเ้ หน็ ภาพชดั วา่ การทำ� ดนี นั้ เปน็ อยา่ งไร นกั ปราชญก์ รกี ทา่ นหนง่ึ ช่ือ โซกราตีสกล่าวไว้ว่า “ศีลธรรมสอนไม่ยากถ้ามีตัวอย่างที่ดี แต่ท่ี ศีลธรรมเป็นเรื่องสอนยากก็เพราะขาดตัวอย่างท่ีดี” โดยนัยนี้จะเห็นว่า ตัวอย่างที่ได้เห็นย่อมเด่นชัดกว่าค�ำสอนอย่างเดียว โบราณท่านว่า “ภาพหนงึ่ ภาพอธบิ ายความได้มากกวา่ คำ� พดู จำ� นวนมาก”
26 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท่ ี ๒๔๒ ๑. เม่ือคนเราเกิดมา ก็มีอวิชชาติดตัวมาตั้งแต่เกิดเลยใช่ไหมคะ ถ้าเช่นนั้นการเกิดคือเหตุของอวิชชาใช่หรือไม่คะ ถ้าไม่ใช่อะไรคือเหตุ ของอวิชชาคะ ๒. ความคิดปรุงแต่ง (สังขาร) เกิดจากอะไร จะท�ำให้ ไม่เกิดได้อย่างไร จะท�ำให้ดับได้อย่างไรคะ ๓. ขอท่านอาจารย์โปรด อธบิ ายความแตกตา่ งและเกยี่ วเนอื่ งกนั ระหวา่ งสตกิ บั สมั ปชญั ญะ อะไร ตอ้ งเกดิ กอ่ น ถา้ ขาดสต ิ สมั ปชญั ญะจะมไี ดห้ รอื ไม ่ ถา้ ขาดสมั ปชญั ญะ จะมีสัมมาสติได้หรือไม่ ๔. การที่มีความเห็นใจในความทุกข์และ ปญั หาของผอู้ น่ื อยา่ งมาก (เชน่ คำ� ถามท ่ี ๒๓๙) บางทรี สู้ กึ เหมอื นเขา้ ไป อยู่ในใจของเขา รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของเขา ท้ังท่ีไม่เคยเป็นเช่น เขา ถือว่าเป็นการขาดอุเบกขาไหมคะ ท�ำอย่างไรจึงจะวางอุเบกขาได้ เรว็ มนั่ คง และสมำ�่ เสมอคะ กราบขอบพระคณุ ทา่ นอาจารยด์ ว้ ยความ เคารพอย่างสูงย่งิ ตอบ ๑. คนเราเกดิ มามอี วชิ ชาตดิ มาดว้ ย ถา้ ไมม่ อี วชิ ชากไ็ มต่ อ้ งเกดิ อกี เกิดมาแล้วบางคนก็เพ่ิมอวิชชาให้มากข้ึน บางคนก็ลดอวิชชาให้น้อย ลง ตามพระสตู ร อวชิ ชามเี หตใุ หเ้ กดิ เหมอื นกนั คอื อาสวะ ตามภาษติ ของ พระสารบี ตุ รทว่ี า่ “อวชิ ชาเกดิ เพราะอาสวะเกดิ ” (อาสวสมทุ ยา อวชิ ชฺ า สมุทโย) โดยนัยนี้จะเห็นว่า อวิชชาไม่ได้เป็นมูลการณ์ (The first cause) คอื ไมไ่ ดเ้ ปน็ ตวั ตน้ ทไ่ี มม่ เี หตุ ถามตอ่ ไปวา่ ถา้ อยา่ งนน้ั อาสวะ เกิดจากอะไร ต้องไล่ไปที่อายตนะภายในภายนอกกระทบกัน เกิด ผสั สะ-เวทนา-ตณั หา-อปุ าทาน ยอ้ นกลบั ไปอวชิ ชากไ็ ด ้ ตอ่ มาทภี่ พชาติ ก็ได้
สนทนาธรรมกับ 27 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ๒. ตามหลกั ปฏจิ จสมปุ บาท เพราะมอี วชิ ชาเปน็ ปจั จยั สงั ขารจงึ มี สงั ขารในทน่ี กี้ ค็ อื การคดิ ปรงุ แตง่ ถา้ จะไมใ่ หค้ ดิ ปรงุ แตง่ ตอ้ งทำ� จติ ใหถ้ งึ วสิ งั ขาร กลา่ วคอื นิพพาน สิ้นตณั หา ส้นิ อุปาทาน สน้ิ ภพ ๓. สติคือความระลึกได้ถึงส่ิงที่เคยท�ำและค�ำที่เคยพูด สติคือ ความระวัง ในความหมายน้ีเท่ากับความไม่ประมาท สติเป็นธรรม ก้ันกระแสกิเลสเหมือนท�ำนบก้ันน�้ำไม่ให้ไหลไปในทางที่ไม่ต้องการ สมั ปชญั ญะคอื ปญั ญาทสี่ ตนิ ำ� มาใชใ้ นเหตกุ ารณน์ นั้ ๆ โดยนยั น ้ี สตแิ ละ สมั ปชญั ญะจงึ เปน็ ธรรมทอี่ าศยั กนั ทำ� ใหม้ อี ปุ การะมากตอ่ กจิ กรรมตา่ งๆ ในสติปัฏฐานสูตรกล่าวถึงสัมปชัญญปัพพะ คือ หัวข้อท่ีว่าด้วย สัมปชัญญะ ว่าให้รู้ตัวในขณะที่ท�ำกิจต่างๆ เช่น ในการกิน การดื่ม เป็นต้น มสี ตคิ ุมอยดู่ ว้ ยแล้ว ๔. ถา้ ชว่ ยไมไ่ ดเ้ รากต็ อ้ งวางเฉยไมถ่ อื เปน็ ขาดอเุ บกขา ในกรณนี ้ี เราไม่รู้ว่า เขาเป็นใครและไม่รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไรจึงต้องวางอุเบกขา ธรรมข้อนี้จึงจ�ำเป็นต้องมีและจ�ำต้องปฏิบัติ มิฉะน้ันแล้วสังคมจะ วุ่นวายกว่านอี้ ีกมาก คำ� ถามท ่ี ๒๔๓ อยากเรยี นถามอาจารยว์ า่ คนทศ่ี ลี ขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ ไมบ่ รสิ ทุ ธ ์ิ ไมข่ าด คะ่ จะดำ� รงตนเปน็ พระโสดาบนั ไดไ้ หมคะ ถา้ เปน็ จะมวี บิ ากกรรมอะไร หรอื มีผลอะไรไหมคะ ขอบพระคณุ ค่ะ ตอบ พระโสดาบนั ย่อมไมม่ ีเจตนาทีจ่ ะท�ำใหศ้ ีลขาดหรือศลี เศร้าหมอง
28 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท ่ี ๒๔๔ ผมมักจะโกรธแม่ของผมเป็นประจ�ำ ไม่รู้ว่าท�ำไม บางทีก็ว่าแม่ เจบ็ ๆ บางทกี น็ ึกโกรธแมท่ ง้ั ท่ีแมไ่ มไ่ ด้ทำ� อะไรไห้ คอื ใจผมอคตไิ ปกอ่ น แต่ท่ีจริงแล้วผมรักแม่มากขนาดให้ตายแทนก็ได้ แต่เรื่องโกรธแม่นี่ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรจริงๆ ในใจก็คิดว่าเรานี่บาปหนา แค่คิดไม่ดี กับแม่ก็ผิดแล้ว อยากให้อาจารย์ชี้ทางธรรมว่าทำ� อย่างไรผมจึงจะเลิก เอาแตโ่ กรธแม่ ตอบ คุณต้องเจริญเมตตามากๆ ทุกวันทุกคืน โดยเฉพาะส่งกระแส เมตตาไปให้แม่ เม่ือเมตตามากขึ้นก็จะถอนปฏิฆานุสัย คือความหงุด- หงิดในใจให้นอ้ ยลง ความโกรธกจ็ ะน้อยลง ค�ำถามที ่ ๒๔๕ สติปัฏฐาน ๔ เปน็ วปิ ัสสนา หรอื อนปุ สั สนา ตอบ เปน็ ทง้ั สองอย่างครับ ตอนพิจารณาอยู่เป็นอนุปสั สนา ท่านจึงใช้ คำ� วา่ กายานปุ สั สนา ธมั มานปุ สั สนา (ธรรม+อนปุ สั สนา) เมอ่ื เหน็ แจง้ แล้วเปน็ วิปัสสนา
สนทนาธรรมกบั 29 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามท่ี ๒๔๖ กราบสวสั ดอี าจารยว์ ศนิ คะ่ ขอเรยี นถามวา่ ความคดิ ทเี่ ราจบั ไดว้ า่ เราคิดแต่เหมือนคิดแบบลอยๆ ไม่เป็นเร่ืองราว ไม่ต่อเน่ือง เหมือน ความฝัน เคยเป็นตอนนั่งสมาธิค่ะ ไม่เข้าใจและไม่ได้หาค�ำตอบ แต่ ตอนนรี้ สู้ กึ ไดว้ า่ คดิ ในขณะทก่ี ำ� ลงั เดนิ อย ู่ อาการแบบนคี้ อื จติ เราฟงุ้ ซา่ น หรือเปล่าคะ และก็สงสัยเกี่ยวกับเร่ืองของจิตใต้ส�ำนึกด้วยค่ะ อยาก ศึกษาเก่ียวกับเร่ืองของภวังคจิต จิตใต้ส�ำนึก จะศึกษาเพิ่มเติมได้จาก หนังสอื หรือทีไ่ หนบ้างคะ ขอบคณุ ค่ะ ตอบ จติ ทรี่ บั อารมณป์ จั จบุ นั เรยี กวา่ “จติ สำ� นกึ ” เมอื่ อารมณน์ น้ั ผา่ นพน้ ไปแลว้ กจ็ ะไปสะสมกนั อยใู่ นจติ ใตส้ ำ� นกึ เรยี กวา่ “จติ ใตส้ ำ� นกึ ” กลา่ ว อีกอย่างหนึ่งว่า เป็นส่วนลึกของจิตเสมือนส่วนลึกของน�้ำ จิตใต้ส�ำนึก หรือ “จิตไร้ส�ำนึก” เป็นสิ่งสร้างอุปนิสัยของคน เร่ืองนี้มีความสลับ ซับซ้อนมากภวังคจิตก็เช่นเดียวกัน เป็นจิตท่ีสะสมกรรมดีและกรรมช่ัว ทบี่ คุ คลทำ� แลว้ ลองหาหนงั สอื ประเภทจติ วทิ ยามาอา่ นดกู ไ็ ด ้ กค็ งจะมี ข้อความท่ีเก่ียวกับจิตใต้สำ� นึกอยู่บ้างตามสมควร ที่ผมเขียนไว้บ้างก็มี เช่นในหนังสือเรื่อง หลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด ตอนที่ว่าด้วย สงั สารวฏั ลองดตู งั้ แตห่ นา้ ๑๐๑ เปน็ ตน้ ไป (ฉบบั พมิ พ์ พ.ศ. ๒๕๔๖) สำ� นักพมิ พธ์ รรมดา
30 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท่ี ๒๔๗ ในศลี ๕ การโกหกถอื วา่ ผดิ ศลี แลว้ ถา้ เราหยอกลอ้ กบั เพอื่ นถอื วา่ ผิดศีลไหมครบั ตอบ ไมผ่ ดิ ศีลขอ้ มุสาวาท นอกจากในคำ� หยอกลอ้ นั้นมีค�ำเทจ็ อยดู่ ว้ ย คำ� ถามที ่ ๒๔๘ ต้องการปฏิบัติกรรมฐาน มีสถานท่ีฝึกอบรมเชิงปฏิบัติท่ีไหนบ้าง ผมอยู่จังหวัดตรัง ขอพ้ืนที่จังหวัดตรังหรือจังหวัดใกล้เคียง ขอบคุณ ครบั ตอบ ต้องขออภัยผู้ถามอย่างมาก ผมไม่รู้จริงๆ ว่าที่จังหวัดตรังและ จังหวัดใกล้เคียงมีส�ำนักสอนกรรมฐานที่ไหนบ้าง คุณลองถามวัดใกล้ บ้านคุณน่าจะพอทราบได ้ ขอบคุณทถ่ี ามมา
สนทนาธรรมกับ 31 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามที ่ ๒๔๙ ท่านอาจารย์คะ มีความทุกข์ชนิดหนึ่งท่ีเกิดกับคนหลายๆ คนแต่ ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรเพราะมันเป็นกรรมเก่า คือความทุกข์ท่ีเกิดจาก บดิ าบา้ ง มารดาบา้ ง ลกู ๆ หลายคนเจบ็ ปวดตอ่ พฤตกิ รรมบางอยา่ งของ พอ่ แมต่ วั เอง ทนไดบ้ า้ ง ทนไมไ่ ดบ้ า้ ง ดฉิ นั เฝา้ แตค่ ดิ เสมอวา่ คนทม่ี ที กุ ข์ ลักษณะนี้ควรทำ� บุญเช่นไรจึงจะได้เกิดกับพ่อแม่ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นสัมมาทิฐิ ท่ีกล่าวมาท้ังหมดมิได้ลบหลู่คุณบิดามารดาแต่อย่างใด ในเมอ่ื มนั เปน็ กรรมในชาตินี้ก็ตอ้ งรบั อยแู่ ลว้ แตเ่ รียนถามเผอ่ื ชาตติ ่อๆ ไปนะ่ คะ่ โดยความเคารพและระลกึ ในพระคุณบิดามารดาด้วยใจจริง ตอบ ท�ำหน้าท่ีของเราให้ดีท่ีสุด นอกน้ันปล่อยให้เป็นเร่ืองของกฎแห่ง กรรม จ�ำไวใ้ นใจเสมอวา่ จะไม่กลวั ผลแหง่ กรรมทที่ �ำแลว้ ท�ำใจให้ยอม รับสิ่งที่เลวที่สุดซึ่งเกิดข้ึนในชีวิตของเรา ในขณะเดียวกันต้องพิจารณา หาทางและพยายามทีจ่ ะใหพ้ ้นไปจากการครอบง�ำของสงิ่ นั้น คำ� ถามที ่ ๒๕๐ ได้ไปอ่านหนังสือเร่ือง ประวัติพระสาวก เล่ม ๑ จากห้องสมุด มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั นครศรธี รรมราช ชอบหนงั สอื เรอ่ื งน้ี มาก ได้สอบถามเจ้าหน้าท่ีว่ามีเล่ม ๒ จนจบไหม ทางเจ้าหน้าที่ตอบ ว่า ในช่วงที่หนังสือเล่ม ๒ ออกทางห้องสมุดไม่มีงบประมาณจะซื้อ จงึ ไมไ่ ดจ้ ดั ซอื้ อยากจะสอบถามวา่ หนงั สอื เรอื่ งดงั กลา่ วมที ง้ั หมดกเี่ ลม่ และถา้ ตอ้ งการจะซอื้ หนงั สอื ดงั กลา่ วทงั้ หมดจนจบเพอื่ บรจิ าคหอ้ งสมดุ และผ้สู นใจอ่าน สามารถหาซือ้ ไดท้ ี่ไหน
32 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ตอบ หนังสือชุดน้ีท่ีผมเขียนมี ๒ เล่ม คือ เล่ม ๑ กับเล่ม ๒ กรมวิชา- การ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร จดั พมิ พส์ ำ� หรบั นกั เรยี นมธั ยมศกึ ษา หมดไป นานแล้ว ไมม่ ีจ�ำหนา่ ย ค�ำถามท ี่ ๒๕๑ ผมขอเรียนถามเร่ืองพระอริยสงฆ์นะครับ คือผมเข้าใจว่า การจะ เป็นพระอรหันต์เราจะต้องบวชเป็นพระเท่าน้ันจึงจะบรรลุธรรมข้ันสุดนี้ ได ้ ถา้ เปน็ เชน่ นแ้ี ลว้ คนทเ่ี กดิ เปน็ ผหู้ ญงิ ในชาตภิ พนกี้ ไ็ มส่ ามารถบรรลุ พระอรหันต์ได้ใช่ไหมครับ เพราะผู้หญิงไม่สามารถบวชได้ในปัจจุบัน (ไมน่ ับถึงในสมยั พทุ ธกาลทมี่ พี ระภิกษณุ )ี ตอบ การบรรลุเป็นพระอรหันต์นั้นเป็นได้ทั้งพระและฆราวาส ไม่ต้อง บวชกบ็ รรลไุ ด ้ ผหู้ ญงิ กบ็ รรลไุ ด ้ แตม่ เี งอ่ื นไขวา่ ถา้ บรรลเุ ปน็ พระอรหนั ต์ ตอนเปน็ ฆราวาสจะต้องบวชหรอื นิพพานในวันนน้ั ค�ำถามท ่ี ๒๕๒ การเจริญเมตตาหรือส่งกระแสเมตตาท�ำอย่างไรหรือคะ จะไป แนะนำ� คนท่ีชอบโมโห ข้หี งุดหงดิ คะ ขอบคุณคะ่
สนทนาธรรมกบั 33 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ตอบ ทำ� จติ ให้มเี มตตาตอ่ ผู้อ่นื เหมือนกับทม่ี ีเมตตาต่อตัวเอง เรารักสุข เกลยี ดทกุ ขฉ์ ันใด คนอนื่ สัตว์อืน่ ก็ฉันนน้ั เทา่ นแี้ หละ ค�ำถามท่ี ๒๕๓ อาจารย์วศินที่เคารพ เมื่อปฏิบัติแล้วเกิดข้อสงสัยดังนี้ว่า จะเป็น ไปได้ไหมท่ีจะเห็นจิตผู้รู้ท้ังที่ยังลืมตาอยู่ ไม่ได้หลับตาภาวนา แต่ได้ เกิดขึ้นขณะต้ังใจอ่านหนังสือธรรมะและใคร่ครวญข้อธรรมอยู่ ส่ิงท่ี เหน็ นอกจากจติ ผรู้ ู้ ยงั เหน็ สภาวะธรรมอนั ไมม่ รี ปู รา่ ง ไมส่ ามารถหาค�ำ บรรยายได ้ รแู้ ตม่ อี ะไรเกดิ ดบั ๆ รวดเรว็ ยงิ่ กวา่ ฟา้ แลบอยนู่ อกจติ ผรู้ นู้ น้ั ขณะทเี่ กดิ สภาวะแบบนย้ี งั ลมื ตาอย ู่ แตร่ สู้ กึ วา่ อายตนะอนื่ ๆ ดบั ไปหมด ยกเว้นใจอย่างเดียว หลังจากน้ันกลับมาพิจารณาดู ใจบอกว่ากระแส ปฏิจจสมุปบาทสายสมุทยวารได้ปรากฏขึ้น แต่ยังไม่เห็นสายนิโรธวาร และเมอ่ื ระลกึ ถงึ สภาวะทเ่ี กดิ ดบั ๆ มากมายมหาศาลนนั้ ใจมคี วามรสู้ กึ เหมอื นอดั แนน่ ไปดว้ ยความทกุ ขจ์ นจะรบั ไมไ่ หว จนไมอ่ ยากจะพจิ ารณา สภาวะเหลา่ นน้ั อกี เลย อาจารยโ์ ปรดชแ้ี นะดว้ ยจกั ขอบพระคณุ ยงิ่ ตอบ แปลกดีครบั
34 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท ี่ ๒๕๔ ทา่ นอาจารยส์ บายดไี หมคะ รกั เคารพและเปน็ หว่ งทา่ นมากคะ่ มี อะไรใหพ้ วกศษิ ย์รับใชบ้ ้างหรือเปลา่ คะ โดยความเคารพอย่างสูง ตอบ สบายพอสมควรครับ แปลว่าสบายไม่ดี คือพอประคับประคอง ไปได ้ พอทนได ้ ปัญจขนั ธ์มที กุ ขอ์ ยใู่ นตวั แล้วยงั ถกู โรครา้ ยหลายอยา่ ง รมุ ลอ้ มเขา้ มาโจมตอี กี ทำ� ใหเ้ หน็ ทกุ ขป์ ระจ�ำวนั อยทู่ กุ วนั ขอบคณุ มาก ครบั ท่เี ป็นหว่ ง คำ� ถามท่ี ๒๕๕ ขอเรยี นถามวา่ คนทท่ี ำ� งานเขาบอกวา่ เขามพี ระอาจารย ์ เขาไปทำ� บญุ ทวี่ ดั เขาชอบทำ� บญุ แตเ่ ปน็ เพยี งคำ� พดู ทบ่ี อกคนไปทว่ั ชอบพดู วา่ คนอ่ืนโดยไม่ดูตัวเอง เขาคิดแต่ว่าถ้าคนอ่ืนท�ำเขาก็แย่มาก เขาถือว่า ตวั เองเปน็ คนด ี ทงั้ ๆ ทอ่ี ยใู่ กลพ้ ระแตเ่ ขายงั มโี ลภ โกรธ หลง ปากกพ็ ดู ว่าพอเพียง แต่ข้ีฟ้อง คนที่ปากร้ายก็กลัวเขา ไม่กล้าที่จะท�ำส่ิงท่ีถูก ใหเ้ ปน็ สงิ่ ทถี่ กู คดิ แตจ่ ะรงั แกคนทไ่ี มพ่ ดู ไมจ่ า ทำ� งานกใ็ ชแ้ ตค่ นทนี่ าย ไม่ชอบ คนที่นายชอบไม่กล้าใช้ กลัวเขาไปฟ้องนาย ปากหวาน ชอบ พูดชมนายว่าเสียงหวาน ชอบเสนอหน้า งานเอาหน้าน้ันชอบ ลับหลัง นายไมท่ ำ� แตพ่ อนายอยทู่ ำ� งานในหนา้ ทขี่ องเพอื่ น ใหน้ ายเหน็ วา่ ตวั เอง มีนำ้� ใจ พอลับหลังไม่ทำ� พอนายถามก็ฟ้อง น่ากลัวมาก อยากถามว่า คนประเภทน ี้ ขนาดเขา้ วดั ขนาดนแ้ี ลว้ ธรรมะ คณุ ธรรมไมม่ ี คนเขา้ วดั เขาสร้างภาพดูเป็นคนดีแต่จิตใจคนละเร่ือง คนแบบน้ีเยอะ เป็น
สนทนาธรรมกบั 35 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ประเภทหลง พอตวั เองเขา้ วดั กน็ กึ วา่ คนทไี่ มเ่ ขา้ วดั เปน็ คนไมด่ ี แตค่ นที่ ไม่ได้ไปวัดบ่อย หรือไม่รู้ค�ำสวดบาลี ไม่ใช่คนไม่ดี คนท่ีเข้าวัดบางคน คดิ ไดแ้ คน่ น้ั จรงิ ๆ คะ่ เราจะมวี ธิ แี กอ้ ยา่ งไร ใหค้ นทเ่ี ขา้ วดั เพอ่ื สรา้ งภาพ ของตวั เอง เมอื่ อยนู่ อกวัดก็เปน็ คนจิตใจดดี ้วย ตอบ ขนาดเข้าวัดแล้วยังเป็นไปได้ถึงเพียงน ี้ ถ้าไม่ได้เข้าวัดเลยเขาจะ เปน็ ไปไดส้ ักเพียงไหน คนเรามีกเิ ลสต่างกันจึงท�ำใหจ้ ิตต่างกัน จิตต่าง กันท�ำให้สร้างกรรมต่างกัน กรรมต่างกันท�ำให้บุคคลท้ังหลายต่างกัน สมดังพระพุทธพจน์ท่ีว่า “กรรมย่อมจ�ำแนกสัตว์ทั้งหลายให้เลวบ้างให้ ประณีตบ้าง” คุณควรจะสลดใจต่อความเป็นไปของสัตว์โลกที่ต่างกัน เพราะกรรมจ�ำแนกใหเ้ ปน็ ไป เพราะจติ น�ำไป กเิ ลสน�ำไป มนษุ ยเ์ รามวั ตอ่ สกู้ นั เองไมค่ ดิ จะตอ่ สกู้ บั กเิ ลสในตน จงึ ทำ� ใหโ้ ลกมนษุ ยด์ น้ิ รนเรา่ รอ้ น ไม่รจู้ ักจบสิน้ นา่ สงั เวชจริงๆ ค�ำถามที่ ๒๕๖ “ธรรมายตนะ” หมายถึงอะไร เปน็ อายตนะภายในหรือภายนอก ตอบ หมายถึงอายตนะคือธัมมารมณ์ เป็นอายตนะภายนอก คู่กับ “มนายตนะ” อายตนะคือใจ เป็นอายตนะภายใน
36 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามที่ ๒๕๗ พระพทุ ธเจา้ ทรงสรรเสรญิ บคุ คลทม่ี ลี กั ษณะหรอื คณุ สมบตั แิ บบใด มากทส่ี ุด และทรงสรรเสรญิ หมวดธรรมขอ้ ใดมากท่สี ุดคะ ตอบ จะระบลุ งไปกย็ ากเพราะวา่ พระพทุ ธเจา้ จะทรงยกยอ่ งคนด ี คนทม่ี ี ความสามารถตา่ งๆ กนั ไป เขาดดี า้ นไหนมคี วามสามารถดา้ นไหนกท็ รง ยกย่องให้ปรากฏ เช่น พระสารีบตุ รทรงยกย่องว่าเลศิ ทางปัญญา พระ มหาโมคคัลลานะเลิศทางมีฤทธิ์ พระมหากัสสปเลิศทางธุดงค์ พระ อานนท์เลิศหลายอย่าง เช่น เป็นพหูสูตร เป็นต้น ทรงยอมรับความ แตกต่างแห่งคุณสมบัติและความสามารถซึ่งตรงกับความเป็นจริงใน สังคมมนษุ ย์ เรื่องหมวดธรรมที่ทรงสรรเสริญก็ท�ำนองเดียวกันกับบุคคล คือ มี หลายหมวดด้วยกัน เช่น สติปัฏฐาน ๔ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ มรรคมี องค์ ๘ เป็นต้น ความไม่ประมาทก็ทรงยกย่องมาก ฯลฯ ธรรมเหล่าน้ี มคี วามเกยี่ วเนอ่ื งถงึ กนั เมอ่ื ปฏบิ ตั อิ ยา่ งหนงึ่ ไดด้ แี ลว้ กท็ ำ� ใหไ้ ดอ้ กี อยา่ ง หนง่ึ ไปด้วย
สนทนาธรรมกับ 37 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามที่ ๒๕๘ อะไรเป็นเหตุเกดิ ของโยนโิ สมนสิการและสมั มาทฐิ ิ ตอบ เหตเุ กดิ ของสมั มาทฐิ กิ ค็ อื ปรโตโฆสะและโยนโิ สมนสิการ ปรโต- โฆสะคือสิ่งแวดล้อมดี โยนิโสมนสิการคือการท�ำไว้ในใจโดยแยบคาย หรอื ความคดิ ทเี่ ปน็ ระบบ สว่ นเหตเุ กดิ ของโยนโิ สมนสกิ ารนน้ั นา่ จะเปน็ การหมั่นสดับตรับฟัง การรู้จักเทียบเคียง ผมใช้ค�ำว่า “น่าจะเป็น” เพราะยงั ไมพ่ บหลกั ฐานทางพระบาลหี รอื อรรถกถา คณุ ถามมากด็ แี ลว้ จะได้ค้นหาต่อไป ค�ำถามท่ ี ๒๕๙ ในฐานะทที่ า่ นอาจารย์เป็นบคุ คลตัวอยา่ งและทพี่ ง่ึ ทางจติ ใจของ ลูกศิษย์จ�ำนวนมาก บุคคลตัวอย่างที่ท่านอาจารย์ยกย่องและชื่นชม และเหน็ ว่ามีอตั ชีวประวตั ิควรแก่การศึกษา (นอกเหนอื จากพระสัมมา- สัมพุทธเจ้า) ท้ังที่เป็นคนไทยและต่างประเทศ ในปัจจุบันและใน ประวัติศาสตร์ คือท่านใดบ้างคะ (ขอความกรุณายกตัวอย่างสัก ๓-๔ ท่านไดไ้ หมคะ) ตอบ ทเี่ ปน็ พระสงฆม์ จี �ำนวนมากดว้ ยกนั ขอยกตวั อยา่ งมาสกั ๕ ทา่ น คอื ๑. พระพทุ ธโฆสาจารย ์ ชาวอนิ เดยี มาทำ� งานอยทู่ ลี่ งั กา มผี ลงาน
38 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ภาษาบาลีสืบเนื่องมาจนบัดนี้เป็นจ�ำนวนมากที่พระสงฆ์ไทยได้ศึกษา เล่าเรยี นอยู่ ๒. สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส ไดม้ ผี ล งานทางพระพุทธศาสนาเป็นอันมากในภาษาไทย ซ่ึงพระสงฆไ์ ดอ้ าศัย ศกึ ษาเลา่ เรยี นอย่ ู มาจนถงึ ปัจจุบัน ๓. ทา่ นอาจารยพ์ ทุ ธทาสภกิ ข ุ ไดร้ จนาหนงั สอื ธรรมไวเ้ ปน็ อนั มาก เปน็ ประโยชนแ์ กส่ ังคมไทยมายาวนาน ๔. ท่านเจ้าคุณพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) มีผลงานเช่น เดยี วกบั ท่านอาจารย์พทุ ธทาส ๕. ท่านอาจารย์ปัญญานันทภิกขุ (พระพรหมมังคลาจารย์) ได้ ท�ำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้คนเป็นสัมมาทิฐิเป็นอันมากมา ยาวนานตลอดชวี ติ ของทา่ น ยังมีท่านอ่ืนๆ อีกมาก ท่ียังไม่ได้เอ่ยช่ือถึง แต่ก็มีผลงานและ ปฏปิ ทานา่ เลอ่ื มใสอยเู่ ปน็ อนั มาก สว่ นบคุ คลส�ำคญั ในทางโลก เหน็ วา่ ทา่ นมหาตมะ คานธ ี แหง่ อนิ เดยี เปน็ บคุ คลทนี่ า่ ยกยอ่ งมาก เปน็ อจั ฉรยิ ะ ทห่ี าได้ยากในโลก ขอตอบเพียงเทา่ นกี้ ่อน ขอบคุณมาก ค�ำถามท ี่ ๒๖๐ ทา่ นอาจารยเ์ หน็ วา่ ลกั ษณะหรอื คณุ สมบตั ขิ อง “คร”ู ในอดุ มคติ และ “ศิษย์” ในอุดมคติควรจะเป็นอย่างไรคะ ท่านอาจารย์จะกรุณา ตอบให้ละเอียดสักเล็กน้อยจะได้ไหมคะ ดิฉันเชื่อว่าการได้พบ “ครู” และ “ศิษย์” ในอดุ มคตเิ ป็นสง่ิ ทีง่ ดงามอยา่ งย่ิงของชวี ิต
สนทนาธรรมกับ 39 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ตอบ คุณสมบัติของครูที่ดี ท่านกล่าวไว้หลายประการ ในท่ีน้ีขอยกมา กลา่ วเพยี งเลก็ น้อย ๗ ประการ ทีท่ า่ นกล่าวไว้ในคมั ภรี ์ คือ ๑. ปโิ ย เปน็ คนนา่ รกั นา่ เขา้ ใกล ้ ประกอบดว้ ยธรรมทท่ี ำ� ใหน้ า่ รกั เชน่ สาราณียธรรม ๖ พรหมวหิ าร ๔ เป็นต้น ๒. คร ุ เปน็ คนน่าเคารพ วางตวั ดี สมแก่ความเปน็ ครู ๓. ภาวนีโย อบรมตนใหเ้ ปน็ คนก้าวหน้าอยู่เสมอ ปรากฏเปน็ คน นา่ ยกยอ่ ง ๔. วตตฺ า ขยนั อบรมสง่ั สอนศิษย ์ ๕. วจนฺ กฺขโม อดทนตอ่ ค�ำขดั แย้งตกั เตอื นของผ้อู ่นื ได้ ๖. คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา ท�ำถ้อยค�ำให้ลึกซ้ึงได้ หรือขยายความ ใหล้ กึ กไ็ ด ้ ใหต้ ื้นกไ็ ด้ ๗. โน จฏฺฐาเน นิโยชเย ไม่แนะน�ำในทางเส่ือม หรือในสิ่งท่ีเป็น ไปไมไ่ ด้ ฯลฯ สำ� หรับคณุ สมบตั ิของศษิ ย์นนั้ กม็ มี ากมาย เชน่ เคารพเชื่อฟงั ไม่ อวดดี อ่อนน้อมถอ่ มตน ขยันหมัน่ เพียร วา่ งา่ ยสอนงา่ ย อดทน ฯลฯ คำ� ถามท ี่ ๒๖๑ เม่ือวันพระท่ีผ่านมาได้มีโอกาสไปอ่านหนังสือท่ีหอสมุดแห่งชาติ สาขานครศรธี รรมราช และไดเ้ จอหนงั สอื เรอ่ื ง ประวตั พิ ระสาวก เลม่ ๒ จะขออนญุ าตถา่ ยเอกสารหนงั สอื เรอื่ งดงั กลา่ วไดห้ รอื ไม่ เพราะอาจารย์ บอกวา่ ไม่มจี �ำหน่ายแลว้
40 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ตอบ ไดค้ รบั ค�ำถามที่ ๒๖๒ ในวนั พระถา้ ตอ้ งการจะรกั ษาศลี อโุ บสถ แตไ่ ดท้ านอาหารเชา้ กอ่ น รบั ศีล ไม่ทราบว่าวันนน้ั จะสามารถถือศีลอุโบสถได้หรือไม่ ตอบ ได้ครับ คำ� ถามท่ี ๒๖๓ วิปัสสนูปกิเลสมีวิธีระวังป้องกันอย่างไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่านี้ เป็นวปิ ัสสนูปกิเลส ตอบ รโู้ ดยวธิ เี รยี นร ู้ เราเรยี นรมู้ ากอ่ นแลว้ วา่ วปิ สั สนปู กเิ ลสคอื อะไรบา้ ง ถา้ ทำ� วปิ สั สนาถกู ตอ้ ง วปิ สั สนปู กเิ ลสตอ้ งเกดิ ปอ้ งกนั ไมไ่ ด ้ เหมอื นเรา เดินทางถูกต้องและทางนั้นมีสวนดอกไม้เราก็ต้องได้เห็นสวนดอกไม้ ถ้าเราต้องการไปให้ถึงจุดหมายปลายทางก็เดินเลยไปเสียอย่าไปหลง อย่ทู นี่ ัน่
สนทนาธรรมกับ 41 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามที ่ ๒๖๔ อเุ บกขาอนั เกดิ แตฌ่ าน ๔ เปน็ อเุ บกขาบรสิ ทุ ธไิ์ มใ่ ชเ่ ปน็ วปิ สั สนปู - กเิ ลสใช่ไหมครับ ตอบ ไมใ่ ชว่ ปิ สั สนปู กเิ ลส เพราะเดนิ คนละทางกนั ทางสายฌานท ี่ ๔ น้ี เป็นสายสมถภาวนา ท่านกล่าวไว้ว่า เข้าจตุตถฌานซ่ึงมีสติอันบริสุทธิ์ เพราะอเุ บกขา เพราะละสขุ และทุกข ์ โสมนัสและโทมนัสไดแ้ ล้ว ค�ำถามท่ ี ๒๖๕ กราบสวสั ดคี ะ่ ทา่ นอาจารยท์ เ่ี คารพรกั วนั นหี้ นมู คี ำ� ถามมาเรยี น ถามท่าน ๒ ข้อค่ะ ๑. ขอทราบขอบเขตของค�ำว่า สักกายทิฐิค่ะและ การละสักกายทิฐิมีความหมายโดยละเอียดอย่างไรคะ ๒. ได้ยินว่า มีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งกล่าวว่า การที่พระดูฟุตบอลทางทีวีไม่ผิด หนูไม่ เห็นด้วยเลย ขอทราบทัศนะของท่านเก่ียวกับเร่ืองน้ีสักเล็กน้อยค่ะ ขอ อำ� นาจคณุ พระรตั นตรยั จงคมุ้ ครองใหท้ า่ นมสี ขุ ภาพกายและสขุ ภาพใจ ท่ดี ียิง่ ๆ ขึน้ ไปคะ่ ตอบ ๑. ในต�ำราท่านกล่าวถึงสักกายทิฐิ ๒๐ โดยเอาขันธ์ ๕ เป็นตัว ตงั้ ยกตวั อยา่ งเรอ่ื งรปู ขนั ธ ์ เหน็ รปู วา่ เปน็ ตน เหน็ ตนวา่ เปน็ รปู เหน็ รปู มี ในตน เหน็ ตนมใี นรปู เกยี่ วกบั เวทนา สญั ญา สงั ขาร และวญิ ญาณ ก็ อย่างนเ้ี หมอื นกนั ๔x๕ = ๒๐ ท่านเรยี กวา่ สกั กายทฐิ ิ ๒๐
42 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ วิธีละสักกายทิฐิก็คือ พิจารณาบ่อยๆ ให้เห็นว่า รูปไม่ใช่ตน เป็นต้น มันเป็นเพียงกระบวนการธรรมชาติอย่างหน่ึงเกิดข้ึนตามเหตุ ปจั จัย ต้ังอยแู่ ละดบั ไปตามเหตปุ ัจจัย ๒. ผมเห็นด้วยกับคุณและไม่เห็นด้วยกับพระรูปนั้นที่ว่าพระดู ฟุตบอลไม่ผิด ดูมวยก็เช่นเดียวกัน ส่วนดูหนัง ดูละคร ฟังเพลง ถ้าไม่ เก่ยี วกับธรรมะ ผิดท้ังนนั้ พระไม่ควรดูอยา่ งย่งิ คำ� ถามท ี่ ๒๖๖ เรยี นถามอาจารยค์ ะ่ วา่ พระโสดาบนั มคี วามคดิ เหมอื นๆ กนั หรอื ไม่ ในด้านการด�ำรงไว้ซ่ึงศีลห้าได้อย่างบริบูรณ์ มีด�ำริอย่างไรในคุณ และโทษ มจี ติ เช่นไรในการดำ� รงอย่ใู นศีล เพราะธรรมดาตามความคิด ของขา้ พเจา้ บคุ คลผทู้ ำ� ดอี ย ู่ ดำ� รอิ ยวู่ า่ จะอยใู่ นศลี แตก่ ม็ เี หตอุ นั ทำ� ให้ เขาตอ้ งผดิ ไปจากศลี ดว้ ยสงิ่ ทย่ี วั่ ยวนบา้ ง ดว้ ยสตทิ ไี่ มบ่ รบิ รู ณบ์ า้ ง ทำ� อย่างไรจึงจะเห็นโทษและคุณของศีลเพื่อให้ปฏิบัติตนอยู่ในศีล เช่น มี ผลการวจิ ยั ทข่ี า้ พเจา้ ไดอ้ า่ นจากนติ ยสารเลม่ หนง่ึ มคี นทเ่ี ลกิ บหุ รไ่ี ดม้ าก ทีเดียว มาจากการที่เขาอ่านหนังสือเล่มหน่ึงที่บอกถึงคุณและโทษของ บหุ รโ่ี ดยมไิ ดห้ า้ มใหส้ บู แตอ่ ยา่ งใด ทำ� ใหผ้ อู้ า่ นไดค้ ดิ พจิ ารณาเองอยา่ ง มโี ยนโิ สมนสกิ ารไดท้ ราบถงึ คณุ และโทษของบหุ รโ่ี ดยคดิ แลว้ เขา้ ใจแลว้ จรงิ ๆ คนเหลา่ นนั้ จงึ เลกิ ไดม้ าก เทยี บกบั บางคนเลกิ เองโดยเคยี้ วหมาก ฝรั่งบ้าง โดยกรรมวิธีอ่ืนๆ บ้างแต่เขาก็ยังอดใจไม่ได้ ข้าพเจ้าคิดว่า น่าสนใจทีเดียว ท่ีความรู้ความเข้าใจในคุณและโทษอย่างแท้จริง โดย คดิ ใหด้ แี ละถถี่ ว้ นดว้ ยตนเองแลว้ จะท�ำใหบ้ คุ คลเลอื กท�ำในสงิ่ ทถี่ กู ตอ้ ง ด้วยความเคารพและรกั อาจารย์อย่างยง่ิ ขอบคุณทตี่ อบคำ� ถามคะ่
สนทนาธรรมกับ 43 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ตอบ ขอขอบคณุ ดว้ ยเหมอื นกนั ทบ่ี อกวา่ รกั และเคารพอาจารยอ์ ยา่ งยงิ่ เรอื่ งศลี ๕ นนั้ ผทู้ จ่ี ะเลกิ ละ การลว่ งละเมดิ ศลี ๕ กต็ อ้ งหมน่ั พจิ ารณา บอ่ ยๆ ใหเ้ หน็ โทษในการลว่ งละเมดิ ศลี ๕ และเหน็ คณุ ของการมศี ลี ๕ รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ลองสมมติดูว่า ถ้าเขาท�ำกับเราเช่นน้ัน เรา พอใจหรอื ไม ่ เชน่ เขาฆา่ เรา ลกั ทรพั ยข์ องเรา เปน็ ตน้ เรายอ่ มไมพ่ อใจ คนอ่นื กเ็ ช่นเดียวกนั พระพุทธเจ้าจงึ ตรัสว่า “มองดูไปทั่วทิศแล้ว ไม่เห็นใครที่ไหนอ่ืนอันจะเป็นที่รักยิ่งกว่า ตน คนอ่ืนเป็นอันมากก็เช่นเดียวกัน เพราะฉะน้ันผู้รักตนจึงไม่ควร เบยี ดเบยี นผู้อนื่ ” และตรสั ไวอ้ กี วา่ ผปู้ รารถนาสขุ เพอื่ ตนดว้ ยการกอ่ ทกุ ขใ์ หแ้ กผ่ อู้ น่ื ย่อมเป็นผู้ระคนไปดว้ ยเวร ไมพ่ ้นจากเวร ฯลฯ เม่ือพิจารณาเห็นโทษของการเบียดเบียนบ่อยๆ เห็นคุณของการ ไม่เบียดเบียน มีเมตตากรุณาต่อกัน เสียสละให้แก่กัน ไม่เห็นแก่ตัว ย่อมจะรักษาศีลได้โดยไม่ล�ำบาก กลายเป็นผู้มีศีลเหมือนต้นไม้ใหญ่ ทพ่ี ง่ึ ตวั เองไดแ้ ละยงั จะเปน็ ทพ่ี งึ่ ของคน และสตั วท์ งั้ หลายไดด้ ว้ ย สมดงั ค�ำท่ีท่านกล่าวว่า “ศีลเป็นท่ีพ่ึงเบื้องต้น เป็นมารดาแห่งกัลยาณธรรม ทง้ั หลาย” เบอื้ งตน้ คนรกั ษาศลี แตเ่ มอื่ นานๆ ไป ศลี จะมายอ้ นกลบั มารกั ษาตน พระโสดาบันท่านมีภูมิธรรมเสมอกัน ย่อมจะมีความคิดเป็นแบบ เดียวกัน ท่านจึงสามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์อยู่ได ้ ท่านเปรียบเหมือน เดก็ นอ้ ยทกี่ ลงิ้ เกลอื กกระเสอื กกระสนไปดว้ ยมอื และเทา้ เมอื่ มอื หรอื เทา้ ไปถกู ไฟเขา้ กห็ ดเสยี โดยพลนั พระโสดาบนั กท็ ำ� นองนน้ั เมอ่ื รวู้ า่ อะไรผดิ อะไรเป็นบาป ท่านกห็ ดมอื เสียจากการกระท�ำอยา่ งน้ัน
44 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามที่ ๒๖๗ ไม่ทราบว่าเป็นค�ำถามธรรมะหรือไม่ แต่สงสัยค่ะว่า เราเป็นคน ขเ้ี กรงใจ ไมช่ อบรบกวนคนอน่ื ไมช่ อบรว่ มวงนนิ ทา ทำ� ไมกลบั ไมเ่ ปน็ ที่ ชนื่ ชอบ ตรงกนั ขา้ มคนทช่ี อบนนิ ทาวา่ รา้ ยคนอน่ื กลบั เปน็ ทชี่ นื่ ชอบคะ ทำ� ไมทำ� ดไี มเ่ หน็ จะไดด้ เี ลยละ่ คะ เคยคดิ อยากทำ� ตวั เปน็ คนขน้ี นิ ทาบา้ ง จะได้ร่วมวงกับคนอ่ืนได้ แต่ก็ท�ำไม่ลงค่ะ จะต้องปรับตัวอย่างไรดีคะ ถึงจะเข้ากับเพ่ือนรว่ มงานกล่มุ นไ้ี ด้ ตอบ ถ้าเพ่ือนร่วมงานกลุ่มน้ีเป็นอย่างน้ัน คือเป็นอย่างท่ีคุณว่ามา ก็ อย่าเข้าไปเลยครับ อันตราย คุณหากลุ่มใหม่ที่เป็นคล้ายๆ คุณดีกว่า ถา้ หาไมไ่ ดก้ อ็ ยไู่ ปคนเดยี ว พระพทุ ธเจา้ ตรสั วา่ “ความเปน็ สหายไมม่ ใี น คนพาล” หมายความว่าไม่ควรเป็นสหายกับคนพาล และตรัสไว้อีกว่า “คนท้ังหลายย่อมเข้ากันได้ตามอัธยาศัย” คือต้องมีอัธยาศัย นิสัย เหมือนกันจึงจะเข้ากันได้สนิท ถ้าไม่ได้สหายท่ีดีเป็นท่ีพอใจ ก็อยู่คน เดยี วดกี วา่ ไมต่ อ้ งทำ� บาปและไมเ่ ปน็ อนั ตราย ผมขอยนื ยนั วา่ ทำ� ดยี อ่ ม ได้ดี ขอให้เราท�ำดีให้ถูกคน ให้ถูกกาลเทศะ ถ้าไม่ถูกคน ไม่ถูกกาล- เทศะ อาจจะให้โทษได ้ เช่น เร่ืองชาวนากับงูเห่า หรือเราเอาเส้ือหนาว มาใส่หนา้ ร้อนจะร้อนยิ่งขึน้ ไปโทษเส้ือไม่ได ้ ต้องโทษตัวเราเอง
สนทนาธรรมกบั 45 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ คำ� ถามท ี่ ๒๖๘ อริยสจั ๔ ประกอบด้วยส่ิงใดบ้าง ตอบ อรยิ สจั ๔ ประกอบดว้ ย ๑. ทกุ ข ์ ๒. เหตใุ หเ้ กดิ ทกุ ข ์ ๓. ความ ดบั ทุกข์ ๔. ข้อปฏบิ ตั ิให้ถงึ ความดับทกุ ข์ ค�ำถามท ่ี ๒๖๙ ปัญจวคั คีย์ประกอบด้วยผใู้ ดบา้ ง ตอบ ปัญจวัคคีย์ ๕ คือ ๑. พระโกณฑัญญะ ๒. พระภัททิยะ ๓. พระวปั ปะ ๔. พระมหานามะ ๕. พระอัสสชิ คำ� ถามท ่ี ๒๗๐ เม่ือพระพุทธเจ้าประสูติได้กล่าวอาสภิวาจา พรหมโวหารภาษิต วา่ อยา่ งไร ตอบ ตรัสว่า “เราเป็นเลิศในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐในโลก เป็นพ่ีใหญ่ ในโลก”
46 สนทนาธรรมกบั อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ค�ำถามท ่ี ๒๗๑ การท่ีเราไม่สบายบ่อยๆ เกิดจากกรรมในชาติก่อน มีวิธีแก้ไข อย่างไรคะ่ ตอบ อาจจะเป็นกรรมในชาติก่อนบ้างก็ได้ อาจจะเป็นกรรมใหม่ใน ชาติน้ีบ้างก็ได้ คือการท่ีเราปฏิบัติตนไม่ถูกต้องท�ำให้เกิดโรคขึ้น ต้อง พิจารณาดูดๆี ด้วยใจเปน็ ธรรม อย่าโยนไปให้กรรมเก่าเสียหมด ขอให้ พยายามแก้ไขไปตามหลักสุขภาพอนามัยที่ดี ถ้าเป็นเพราะกรรมเก่า ก็ท�ำใจให้ยินดรี บั ผลของกรรมท่ีเราทำ� แลว้ กจ็ ะทำ� ให้สบายใจข้นึ ค�ำถามที่ ๒๗๒ ไมเ่ ขา้ ใจมาตง้ั แตเ่ ดก็ วา่ ทำ� ไมการทพี่ ระพทุ ธเจา้ ยกลกู ใหก้ บั ชชู ก จงึ ไดบ้ ญุ ไดบ้ ารมคี ะ่ เนอ่ื งจากเหน็ วา่ หากยกชวี ติ ตวั เองใหค้ นอน่ื นนั่ สิ ถึงจะไดบ้ ญุ เพราะตัวของเราเอง แตน่ ีเ่ ป็นชีวติ ของคนอ่ืน ถงึ จะเป็นลูก ของเรากต็ าม ใหค้ นหนง่ึ ไดส้ มหวงั แตล่ กู ตวั เองตอ้ งล�ำบาก ขอไดโ้ ปรด ให้ความกระจ่างดว้ ยค่ะ จกั ขอบพระคุณอย่างสูงคะ่ ตอบ ที่จริงพระเวสสันดรน้ัน ท่านต้ังพระทัยไว้แต่ต้นแล้วว่า ใครมาขอ ส่ิงใดก็จะให้ส่ิงนั้น แม้ชีวิตท่านเองก็ให้ได้ ท่านพร้อมท่ีจะให้ แต่ไม่มี ใครมาขอชีวิตท่าน มีชูชกมาขอชาลี กัณหา ไปเป็นคนรับใช้ท่านก็ให้ ไป แต่ชูชกก็หาเอาไปได้ไม่ เพราะหลงทางเข้าไปในเมืองสีพี พระเจ้า
สนทนาธรรมกบั 47 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ กรงุ สญั ชยั ผเู้ ปน็ พระเจา้ ปจู่ งึ ไดไ้ ถต่ วั เอาไว ้ และรบั สงั่ ใหบ้ รกิ ารชชู กดว้ ย อาหารอันมากมาย จนชูชกถึงตายด้วยการบริโภคในวันนั้น เป็นอันว่า ชาลี กัณหาได้มาอยู่กับพระเจ้าปู่อย่างสุขสบาย ฝ่ายพระนางมัทรีน้ัน มผี มู้ าขอตอ่ พระเวสสนั ดรเหมอื นกนั พระเวสสนั ดรไดพ้ ระราชทานแลว้ แตเ่ ขาฝากไวก้ บั พระเวสสนั ดรเพอ่ื จะไดอ้ ยบู่ �ำรงุ ใครมาขออกี กใ็ หไ้ มไ่ ด้ เพราะเปน็ ของท่เี ขาฝากไว้ เรื่องพระเวสสันดรน้ี เรามักคิดกันอย่างสามัญ แต่พระเวสสันดร เปน็ พระโพธสิ ตั ว ์ บำ� เพญ็ บารมเี พอื่ พระโพธญิ าณ ไมใ่ ชส่ ามญั ถา้ ทา่ น คดิ อยา่ งเรา ทา่ นกต็ อ้ งเปน็ อยา่ งเรา จะเปน็ พระพทุ ธเจา้ อยา่ งทที่ า่ นเปน็ แลว้ ไมไ่ ด ้ ทา่ นตอ้ งมคี วามเสยี สละทย่ี งิ่ ใหญ่ ยากทค่ี นธรรมดาจะท�ำได้ คุณลองคิดดูเถิด ต้ังแต่สมัยประวัติศาสตร์มาจนถึงทุกวันน้ี มี กษัตรยิ อ์ งค์ใดบ้างท่สี ละราชสมบัติไปเปน็ อยู่อย่างพระพทุ ธเจ้าและท�ำ อยา่ งพระพทุ ธเจา้ เพยี งเทา่ นเ้ี รากจ็ ะมองเหน็ พระพทุ ธคณุ เปน็ อศั จรรย์ เพียงไร ท่านจึงไดร้ บั การยกย่องบชู าไปทว่ั โลก คำ� ถามที ่ ๒๗๓ เมื่อวันก่อนมีเพื่อนมาถามว่า การอ่านวิสุทธิมรรคได้ความรู้ เหมือนๆ กับการอ่านพระไตรปิฎกรึเปล่า หนูอ่านวิสุทธิมรรค (ภาษา ไทย) ไปได้ยังไม่ถึงคร่ึงเล่ม พระไตรปิฎกก็เปิดอ่านเรื่องท่ีสนใจ เช่น พระสูตรบ้าง ธรรมบทบ้าง แต่เคยอ่านสาระส�ำคัญแห่งวิสุทธิมรรคที่ ท่านอาจารย์ได้เขียนไว้ ได้ตอบเพ่ือนไปว่า ไม่เหมือนกันนะ พระไตร ปิฎกเป็นค�ำสอนของพระพุทธเจ้า แต่วิสุทธิมรรค ผู้แต่งเป็นพระอรรถ- กถาจารย์รุ่นหลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว เน้ือหาเท่าท่ีรู้นิดๆ
48 สนทนาธรรมกับ อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ หนอ่ ยๆ กค็ อื วสิ ทุ ธมิ รรค มเี นอื้ หาเกยี่ วกบั เรอ่ื งศลี สมาธ ิ ปญั ญา โดย ละเอยี ด สว่ นพระไตรปฎิ กกวา้ งขวางกวา่ ลกึ ซง้ึ กวา่ สว่ นทห่ี นตู อ้ งการ ทราบเพ่ิมเติมก็คือ คัมภีร์วิมุตติมรรคกับวิสุทธิมรรค เหมือนหรือแตก ตา่ งกนั อยา่ งไรคะ หนขู อความเมตตาจากทา่ นอาจารยช์ ว่ ยกรณุ าแนะนำ� คำ� ตอบเกยี่ วกับเรอื่ งนี้ด้วยคะ่ ขอบพระคุณมากคะ่ ตอบ ความเขา้ ใจของคณุ เกยี่ วกบั เรอ่ื งวสิ ทุ ธมิ รรคและพระไตรปฎิ กนน้ั ถูกต้องแล้ว ขอแถมนิดหน่ึงว่า วิสุทธิมรรคฉบับเดิมแท้ซึ่งพระพุทธ- โฆสาจารยร์ จนาขน้ึ เมอื่ พ.ศ. ๑๐๐๐ ประมาณนน้ั ไดด้ งึ เอาขอ้ ความใน พระไตรปิฎกเป็นอันมากมาเสริมการรจนา จึงเป็นคัมภีร์ซึ่งมีช่ือเสียง มาก เปน็ ทรี่ จู้ กั กนั ทว่ั โลก สำ� หรบั วสิ ทุ ธมิ รรคฉบบั สาระสำ� คญั นนั้ ผมได้ ยอ่ มากๆ และได้ท�ำสำ� นวนให้ง่ายข้นึ สำ� หรบั คนทวั่ ไปอา่ นได้ วิสุทธิมรรคกับวิมุตติมรรคน้ันเหมือนกันตรงท่ีอธิบายเร่ืองศีล สมาธิ ปัญญา ต่างกันท่ีสำ� นวนโวหารเพราะผู้แต่งคนละองค ์ เท่าที่ผม อ่านแล้วเห็นวา่ วสิ ุทธิมรรคแตง่ ได้ดกี วา่ คำ� ถามที ่ ๒๗๔ วันนี้วันพระ หนูต้ังใจอ่านมหาปรินิพพานสูตร ในทีฆนิกาย มหาวรรค ที่ท่านอาจารย์สรุปไว้ในพระไตรปิฎกส�ำหรับเยาวชน (ฉบับ ถา่ ยเอกสาร) รสู้ กึ ซาบซง้ึ ในพระกรณุ าธคิ ณุ ของพระพทุ ธเจา้ มากถงึ กบั นำ�้ ตาไหล ทา่ นอาจารยเ์ ขยี นไดไ้ พเราะกนิ ใจมากดว้ ย ทำ� อยา่ งไรจงึ จะ ให้ผู้ท่ีสนใจได้อ่านบ้าง ท่านเคยบอกว่าหนังสือชุดนี้ ขณะน้ีไม่มี จำ� หนา่ ยแล้ว
สนทนาธรรมกบั 49 อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เ ล่ ม ๓ ตอบ มสี ำ� นกั พมิ พบ์ างแหง่ กำ� ลงั เตรยี มจะพมิ พห์ นงั สอื ชดุ นอ้ี ย ู่ แตค่ งจะ ต้องรอนานนิดหน่ึง เพราะหนังสือก�ำลังเข้าคิวอยู่หลายเรื่อง ผมฉุกคิด ขึ้นมา เมื่อได้รับค�ำถามของคุณตอนน้ีเองว่า ถ้าจะแยกมาจัดพิมพ์ เฉพาะมหาปรินิพพานสูตรเป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ก็น่าจะท�ำได้เร็วและ ง่ายต่อการเผยแผ่ให้แพร่หลายออกไปสมกับที่คุณอ่านแล้วซาบซ้ึงจน น�้ำตาไหล ขอบคุณที่ชมผู้เขียนว่าเรียบเรียงได้ด ี ทั้งน้ีน่าจะเป็นเพราะ ผเู้ ขียนก็ซาบซึ้งในพระพุทธคณุ ในมหาปรนิ ิพพานสตู รน้ีดว้ ย คำ� ถามที่ ๒๗๕ ถา้ ตอ้ งการท�ำบญุ ใหผ้ ทู้ ลี่ ว่ งลบั ไปแลว้ มเี สอ้ื ผา้ ใสต่ อ้ งท�ำบญุ ดว้ ย อะไรคะ ตอบ ทำ� บญุ ดว้ ยสบง จวี ร ถวายพระ หรอื ทำ� ดว้ ยเสอื้ ผา้ ธรรมดาใหเ้ ดก็ ก�ำพร้ายากจนหรือให้คนขอทานก็ได้ แล้วตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ท่ี ล่วงลับไปแล้ว
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234