150 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
ทรี่ ะลึก จากหญิงสาว หลวงพ่อชา สุภทฺโท เป็นผู้ฉลาดในการสอนศิษย์ นอก จากการกระตุ้นให้เหล่าพระเณรมีความเพียรในการปฏิบัติและ เคร่งครัดในพระวินัยแล้ว ท่านยังใส่ใจในความเป็นไปของลูกศิษย์ และใหค้ �ำแนะนำ� ท่ี “โดนใจ” อย่เู สมอ ปัญหาหน่ึงท่ีมักเกิดแก่พระหนุ่มเณรน้อยก็คือ ความใคร่ ในกาม คราวหนงึ่ ทา่ นสงั เกตเหน็ พระหนมุ่ รปู หนง่ึ มอี าการรอ้ นผา้ เหลืองด้วยนึกถึงสีกา ท่านจึงทักข้ึนว่า “งูเห่าตายแล้วหรือยัง” พระรูปนั้นฟังแล้วก็หน้าแดง ท่านจึงพูดต่อว่า “ระวังนะ อย่าให้ งเู หา่ มนั ฉก วนั ไหนมนั แผแ่ มเ่ บยี้ มากๆ กใ็ หท้ �ำความเพยี รใหม้ าก” 151 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
อกี คราวหนงึ่ พระอาจารยพ์ รหมวังโสไดเ้ ลา่ ว่า ขณะทท่ี า่ น และเพื่อนพระนวกะก�ำลังน่ังรถอยู่กับหลวงพ่อ จู่ๆ ท่านก็หันมา มองพระหนุ่มชาวอเมริกันแล้วพูดว่า “ท่านก�ำลังคิดถึงแฟนที ่ อเมริกาใช่ไหม” พระหนุ่มรูปน้ันประหลาดใจว่าหลวงพ่อทราบได้ อยา่ งไร แล้วหลวงพ่อก็บอกว่า “ไม่ต้องห่วง เร่ืองน้ีจัดการได้ ให ้ ทา่ นเขียนจดหมายถงึ เธอ บอกใหเ้ ธอสง่ ของส่วนตัวบางอยา่ งมา ใหท้ า่ น เอาสง่ิ ทใ่ี กลช้ ดิ กบั ตวั เธอทสี่ ดุ ทา่ นจะไดเ้ อาออกมาชน่ื ชม ไดเ้ วลาคิดถึงเธอ” พระหนมุ่ ถามดว้ ยความประหลาดใจวา่ “พระเราท�ำไดห้ รอื ครับ” “ท�ำได้สิ” ทา่ นตอบ หลวงพอ่ ขยายความเพ่มิ เติมว่า “ท่านควรจะขอให้เธอส่งขี้ใส่ขวดมาให้ เม่ือไหร่ที่ท่าน คดิ ถึงเธอ จะไดห้ ยิบขวดข้ขี องเธอออกมาสดู ดม” 152 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
ได้ยินเพียงเท่านี้ ความรัญจวนหวนคะนึงถึงหญิงสาวก็ หายไปจากใจพระหนุ่มโดยพลนั หลวงพอ่ คำ� เขียน สวุ ณโฺ ณ วัดป่าสุคะโต อ. แกง้ ครอ้ จ. ชัยภมู ิ กำ� เนิด ๑๒ สิงหาคม ๒๔๗๙ สถานทีเ่ กดิ บ้านหนองเรือ ต. หนองเรือ อ. หนองเรอื จ. ขอนแกน่ อปุ สมบท พ.ศ. ๒๕๑๐ วัยเด็กหลวงพ่อค�ำเขียนช่วยบิดามารดาท�ำไร่ ท�ำนา ท่านบวชเป็น สามเณรเมื่ออายุได้ ๑๕ ปี บวชอยู่ได้ประมาณสองปีก็จ�ำต้องลาสิกขาออกไป ช่วยงานของครอบครัว ในช่วงเวลาน้ันได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาคาถาอาคมท�ำ นำ�้ มนต ์ ปดั รงั ควานไลผ่ ี และรกั ษาคนปว่ ย ในหมบู่ า้ นเรยี กทา่ นวา่ “หมอธรรม” ปลายป ี ๒๕๐๙ ทา่ นมโี อกาสไปศกึ ษาและปฏบิ ตั ธิ รรมกบั หลวงพอ่ เทยี น จติ ตฺ สโุ ภ ซงึ่ สอนไมใ่ หส้ งบแตเ่ พยี งอยา่ งเดยี ว แตใ่ หร้ สู้ กึ ตวั อยเู่ สมอ ก�ำหนดร้ ู ไปกับการสรา้ งจงั หวะและไมใ่ หเ้ ขา้ ไปอยกู่ บั ความสงบ ทา่ นเกดิ ความรสู้ กึ คา้ น อยู่ในใจแต่ก็ทดลองดู โดยในการปฏิบัติน้ัน เม่ือเร่ิมคิด ก็ให้กลับมาอยู่กับ การสรา้ งจงั หวะ หากเกดิ ความสงบ กใ็ หม้ คี วามรสู้ กึ ตวั ไมเ่ ขา้ ไปอยใู่ นความสงบ ท่านปฏิบัติแล้วเห็นผล รู้กาย รู้ใจ ชัดขึ้นมีสติสัมปชัญญะมากข้ึน ความทุกข์ ท่ีมีอยู่ลดลงไปมาก ท่านจึงม่ันใจในค�ำสอน และต่อมาได้ใช้วัดป่าสุคะโตเป็น สถาบนั เผยแผก่ ารปฏบิ ตั ธิ รรมแนวหลวงพอ่ เทยี นสบื เนอ่ื งมา (อา่ นเรอ่ื งหนา้ ๗๕) 153 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
154 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
อมฤตธรรม จากเทวดา คนทว่ั ไปแมก้ ระทง่ั ในหมผู่ ใู้ ฝธ่ รรม นอ้ ยคนจะเคยไดย้ นิ ชอ่ื พระอาจารยท์ องรตั น ์ กนตฺ สโี ล แตใ่ นหมนู่ กั กรรมฐานแลว้ ชอ่ื น้ ี มคี วามโดดเดน่ มากในฐานะครบู าอาจารยผ์ สู้ บื ทอดแนวทางปฏบิ ตั ิ จากหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโลและหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จนได้รับการ ยกย่องจากบูรพาจารย์ท้ังสององค์ว่าเป็นแม่ทัพนายกองพระ กรรมฐานฝา่ ยมหานกิ ายทม่ี กั นอ้ ย สนั โดษ และเพยี รในการปฏบิ ตั ิ เป็นอยา่ งยง่ิ ความโดดเด่นของพระอาจารย์ทองรัตน์อีกประการหนึ่ง คือนิสัยท่ีห้าวหาญและโผงผาง ไม่เฉพาะกับผู้อื่นเท่านั้น แม้กับ ตัวทา่ นเอง ท่านก็ไม่ลดราวาศอกให้ 155 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
เมอื่ ทา่ นบวชไดส้ องพรรษา ทา่ นมคี วามเพยี รในการปฏบิ ตั ิ แต่ไม่ประสบผล จึงมีความคิดอยากลาสิกขา แต่ท่านก็ไม่ยอม พยายามตอ่ สกู้ บั ตวั เอง ถงึ กบั ยน่ื คำ� ขาดกบั ตวั เองวา่ “มงึ อยากสกึ หลาย ให้มึงตายอยู่น่ี” และท่านก็ท�ำความเพียร เดินจงกรม น่ัง สมาธติ อ่ เนอื่ ง ๖-๗ วนั แตค่ วามคดิ อยากสกึ กย็ งั มอี ย ู่ ทา่ นจงึ ไม ่ ลงไปบณิ ฑบาตเปน็ เวลาหลายวนั จนโยมคดิ วา่ ตายแลว้ เมอื่ เดนิ ขนึ้ มาจงึ เหน็ ทา่ นเดนิ จงกรมอย ู่ โยมจงึ น�ำเอาอาหารมาถวายทา่ น แตท่ า่ นไมฉ่ นั ตอ่ เมอ่ื ญาตโิ ยมออ้ นวอน ทา่ นจงึ สนองศรทั ธา ชว่ งน้ ี เองที่ท่านได้ยินโยมพูดถึงหลวงปู่เสาร์กับหลวงปู่ม่ัน ว่าเป็นพระ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านจึงตัดสินใจเดินทางไปหาครูบาอาจารย์ ทั้งสอง เปน็ เหตุให้ยตุ ิความคิดเร่อื งสกึ หาลาเพศ อย่างไรก็ตามหลายปีต่อมา อุปสรรคก็บังเกิดแก่ท่านอีก คราวนี้กามราคะก�ำเริบอย่างแรง ท่านพยายามระงับเท่าไรก ็ ไมเ่ ปน็ ผล สดุ ทา้ ยกค็ วา้ ขวานเกา่ แลว้ เดนิ ตรงไปสบั ขอนไมผ้ ุ ทา่ น สบั แลว้ สับเลา่ อยา่ งเตม็ ก�ำลงั พรอ้ มทงั้ รอ้ งดา่ ไปดว้ ย เหมือนกบั จะตวาดกิเลสในใจตนว่า “โคตรพ่อ โคตรแม่มึง มึงสิไปสร้างโลก โลกาทางได ๋ มงึ ฮจู้ กั อยบู่ อ้ มนั ทกุ ข ์ โคตรพอ่ โคตรแมม่ งึ ” ทา่ นทำ� อย่อู ยา่ งน้นั จนหมดแรง ในที่สุดความก�ำหนดั กห็ ายไป 156 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
ท่านเป็นพระที่เอาใจใส่วัตรปฏิบัติของสหธรรมิก โดย เฉพาะพระผบู้ วชใหม ่ ไมน่ ง่ิ ดดู ายทจ่ี ะแนะนำ� สงั่ สอน แตท่ า่ นมวี ธิ ี สอนและท้วงติงท่ีไม่เหมือนใคร คราวหน่ึงพระใหม่สองรูปเถียง กันเรื่องพระธรรมวินัย ต่างไม่ยอมกัน พระรูปหน่ึงหยิบหนังสือ นวโกวาท มาเปดิ เพอ่ื ยนื ยนั วา่ ตนเปน็ ฝา่ ยถกู แมก้ ระนนั้ อกี ฝา่ ยก ็ ไมย่ อม การโตแ้ ยง้ บานปลายจนเปน็ การทะเลาะววิ าท และทำ� ทา่ ว่าอาจถงึ ขน้ั วางมวยกัน จู่ๆ พระอาจารย์ทองรัตน์ก็เดินตรงเข้ามายังกลุ่มพระใหม ่ พร้อมกับคว้าหนังสือนวโกวาท ท�ำท่าเหมือนเช็ดก้นแล้วโยนท้ิง ตอ่ หนา้ พระทง้ั สอง พรอ้ มกบั พดู วา่ “ฮขู กี้ หู น”่ี (ตดู ขา้ น)่ี แลว้ พดู ต่อว่า “อย่าเฮ็ดคือครูบาอาจารย์ได๋” (อย่าท�ำเหมือนอาจารย์ นะ) “มันบาป” พระทั้งสองตกตะลึงพักใหญ่สุดท้ายก็ได้คิดและ เลกิ ทะเลาะกัน แมว้ า่ ทา่ นจะมที ที า่ โผงผาง แตเ่ มอื่ ถงึ คราวถกู กระทบ ทา่ น ก็นิ่งสงบได้อยา่ งนา่ ทึง่ คราวหนงึ่ มีคนเขยี นบตั รสนเท่ห์ใสบ่ าตร ทา่ น เมอื่ ทา่ นกลบั ถงึ วดั กห็ ม่ จวี รพาดสงั ฆาฏอิ ยา่ งด ี แลว้ ยนื่ บตั ร สนเท่หใ์ หพ้ ระเณรอ่าน พรอ้ มกับพูดว่า “เอา้ ลกู อ่าน อมฤตธรรม 157 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
แน่น่ี เทวดาเขาใสบ่ าตรมา หาฟังยากตว๋ั ” ระหว่างท่ีพระเณรอ่าน ท่านก็พนมมือฟังไป ข้อความน้ัน มวี ่า “พระผีบ้า เป็นพระเป็นเจ้า ไม่ส�ำรวม ไม่มีศีล ไม่มีวินัย ประจบสอพลอขอของจากชาวบา้ น พระแบบนถ้ี งึ จะเหาะเหนิ เดนิ อากาศได้ ก็ไม่นับถือเป็นพระ ให้รีบออกจากวัดไป ถ้าไม่ไปจะเอา ลูกตะกั่วมาฝาก” พระเณรอา่ นจบทา่ นกพ็ นมมอื สาธุ แลว้ พดู ว่า “เอาเกบ็ ไวใ้ ตแ้ ทน่ พระบชู าเดอ้ โลกธรรมแปดมนั นเ่ี อง แต่ กอ่ นไดย้ นิ แตช่ อ่ื วา่ มลี าภ-เสอ่ื มลาภ มยี ศ-เสอื่ มยศ มสี รรเสรญิ - มีนินทา มีสุข-มีทุกข์ โอ้ยของดีตั๋วน่ี สาธุ...พ่อได้ฟังแล้วแก่น ธรรมเพ่ิงมาม่ือนี ่ (วนั น)้ี เอง เก็บไว้ เกบ็ ไว”้ ผู้มีปัญญานอกจากจะไม่หว่ันไหวเสียงต�ำหนิแล้ว ยังเห็น ประโยชนข์ องคำ� ตำ� หนดิ ว้ ย พระอาจารยท์ องรตั นเ์ ปน็ แบบอยา่ งของ 158 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
ผู้มีปัญญาท่ีมองเห็นธรรมแม้กระทั่งจากค�ำต่อว่าของญาติโยม มิใช่แค่ธรรมธรรมดาแต่เป็น “อมฤตธรรม” ของ “เทวดา” เลย ทีเดียว พระอาจารย์ทองรัตน ์ กนตฺ สโี ล วัดป่ามณรี ัตน์ อ. ส�ำโรง จ. อบุ ลราชธานี นามเดมิ ทองรัตน ์ นะคะจัด ก�ำเนิด พ.ศ. ๒๔๓๑ สถานทเ่ี กิด อ. ศรีสงคราม จ. นครพนม อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๕๙ ณ วดั บ้านสามผง อ. ศรีสงคราม จ. นครพนม มรณภาพ ๒๑ กนั ยายน ๒๔๙๙ สิริอายุ ๖๘ ปี ๔๒ พรรษา ทา่ นไดเ้ ขา้ พธิ อี ปุ สมบท เมอ่ื อายปุ ระมาณ ๒๖ ป ี ทวี่ ดั บา้ นสามผง ทา่ น สนใจและตงั้ ใจศกึ ษาพระธรรมวนิ ยั และพระปรยิ ตั ธิ รรมดว้ ยความมงุ่ มน่ั เอาใจใส ่ แตกฉานในการสวดปาติโมกข์ ต่อมาพระทองรัตน์ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ พระอาจารยม์ น่ั ภรู ทิ ตโฺ ต และพระอาจารยเ์ สาร ์ กนตฺ สโี ล ซง่ึ พ�ำนกั อยทู่ ว่ี ดั ปา่ สทุ ธาวาสและวดั ปา่ ในละแวกเขต อ. เมอื ง จ. สกลนคร พระอาจารยท์ องรตั น์ ได้ฝึกการเจริญภาวนา โดยหลวงปู่มั่นได้แนะนำ� ว่า “รู้ไม่รู้ไม่ส�ำคัญ ขอให้ท�ำ จิตใจให้รู้จักจิตว่าสงบหรือไม่สงบ” นอกจากน้ี ท่านได้ออกธุดงค์ไปตามหุบ หว้ ยภผู าปา่ ชา้ ตา่ งๆ ปฏบิ ตั ติ ามค�ำสง่ั สอนของพระบรู พาจารย ์ เชน่ หา้ มเทศน์ เด็ดขาด ให้ระวังส�ำรวม ให้อยู่ตามใต้โคนไม้ ท่านเคร่งครัดในข้อวัตรปฏิบัต ิ เป็นอย่างย่ิง ท่านเป็นผู้มักน้อยสันโดษ และปฏิบัติดีมาก พยายามพากเพียร ภาวนาอยูอ่ ยา่ งสม่�ำเสมอ เป็นพระที่ไมย่ ดึ ตดิ ในเสนาสนะ 159 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
160 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
สง่ิ ท่พี งึ เห็น ดว้ ยใจ “เขมานันทะ” หรือ โกวิท เอนกชัย นักเขียนและศิลปิน ผู้ใฝ่ธรรม เปน็ “ศษิ ย์สวนโมกข์” ทม่ี ีบทบาทสำ� คัญผู้หน่ึง เพราะ ในช่วงที่บวชปฏิบัติอยู่กับหลวงพ่อพุทธทาสนั้น ได้ฝากผลงานไว้ ทโี่ รงมหรสพทางวญิ ญาณหลายชน้ิ รปู ปน้ั พระอวโลกเิ ตศวรครง่ึ ตัวก็เป็นผลงานของท่าน อีกท้ังยังมีงานเขียนงานบรรยายทาง ธรรมมากมายหลายชิ้น ก่อนที่จะลาสิกขามาเป็นอุบาสกผู้มุ่งมั่น ในการปฏิบตั ิ 161 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
ในช่วงท่ีเป็นภิกษุอยู่น้ัน เขมานันทะได้เคยจาริกไปตาม ชนบทหลงั จากอยสู่ วนโมกขม์ าหลายป ี ทา่ นไดพ้ บ “พระบา้ นนอก” หลายรูปที่มีปฏิปทาน่าสนใจ แม้ว่าอากัปกิริยาภายนอกของท่าน เหล่าน้ันจะไม่งดงามในสายตาของคนเมืองหรือชาวพุทธท่ีเคร่ง วินัย แต่ท่านเหล่าน้ันมีคุณธรรมบางอย่างที่น่าประทับใจและน่า สรรเสริญ ประสบการณ์ดังกล่าวท�ำให้ทัศนคติของท่านต่อพระ เหลา่ นัน้ เปล่ียนแปลงไป คราวหน่ึงท่านจาริกไปท่ีชายแดนปาดังเบซาร์ ต้ังใจค้าง แรมที่วัดหน่ึงกลางทาง จึงไปขออนุญาตเจ้าอาวาสซ่ึงเป็นพระม ี อาย ุ พอกม้ ลงกราบ หลวงพอ่ กต็ ะคอกทนั ทวี า่ “มาท�ำไม อดอยาก จะตายอยู่แล้วท่ีน่”ี แต่พดู จบทา่ นกร็ ่เี ขา้ มาช่วยหว้ิ ย่าม ถือรม่ ให้ พอพาไปถึงกุฏิพัก ท่านก็สั่งโยมว่า พรุ่งนี้เอาปิ่นโตมาถวายท่าน ดว้ ยนะ รงุ่ เชา้ กพ็ าพระอาคนั ตกุ ะไปชมถำ�้ ดว้ ยกนั ทงั้ ๆ ทเ่ี พง่ิ รจู้ กั กนั ทา่ นพดู วา่ นานๆ มาท ี ไปดถู ำ้� กนั ทา่ นรสู้ กึ สนกุ กบั การพาเทยี่ ว ด้วย “น่ีคือพระชนบท คือพระท่ีหยาบ (แต่) มักเปิดเผยจริงใจ” เขมานันทะตัง้ ข้อสังเกต 162 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
ความทไ่ี ดม้ โี อกาสอยใู่ กลช้ ดิ กบั พระชนบทในฐานะพระดว้ ย กนั ทำ� ใหท้ า่ นหนั กลบั มามองพระบางรปู ทเี่ คยรงั เกยี จดว้ ยสายตา ทเี่ ปลย่ี นไป หนงึ่ ในนน้ั คอื “หลวงพ่อฉมิ ” แหง่ จังหวัดสงขลา ตอนทา่ นยงั เดก็ คนื หนง่ึ ราวสองทมุ่ หลวงพอ่ ฉมิ มาสงขลา ดว้ ยกจิ ธรุ ะบางอยา่ ง พอมาถงึ ทา่ นกแ็ วะไปทบ่ี า้ นของ ด.ช. โกวทิ แลว้ ตบประตบู า้ นเรยี กแมข่ อง ด.ช. โกวทิ วา่ “อนี อ้ ง พรงุ่ นแ้ี กงไก่ นะ เอาไปถวายกู” แล้วก็ไป ตอนนั้น ด.ช. โกวิท รู้สึกไม่ชอบใจ แตก่ ไ็ ม่ไดแ้ สดงออกแต่อยา่ งใด ตอ่ มาเมอ่ื บวชเปน็ เขมานนั ทภกิ ข ุ ทา่ นไดไ้ ปกราบหลวงพอ่ ฉมิ กลบั เหน็ อกี ภาพหนง่ึ ทา่ นเลา่ วา่ “ผมเหน็ ความนา่ รกั ความ เปดิ เผยความทไ่ี มม่ มี มุ ลบั เลยในชวี ติ ของแก แกนอนอย ู่ พอปา้ ผม ไปกราบ แกวา่ มงึ เอาอะไรมาใหก้ กู นิ วนั น ้ี นเ่ี ปน็ อะไรอกี มมุ หนงึ่ ที ่ เรานกึ ไมถ่ งึ เปน็ วฒั นธรรมเสมอื นกระดา้ งและหยาบ แตจ่ รงิ ๆ คอื เปดิ เผยจรงิ ใจกบั ทกุ คน ไมป่ กปดิ ซอ่ นเรน้ เลย ทนี่ อนฝากฏุ กิ ย็ งั ไมม่ ี นกึ เงยี่ นหมากขนึ้ มา แกจบั กระบอกยน (กระบอกต�ำหมาก) โยนมาบอกปา้ วา่ “ยน (ต�ำ) หมากใหก้ สู กั ค�ำส”ิ แกไมท่ ะนงตนอะไร เปน็ พระธรรมดาๆ ไมท่ ะเยอทะยานอะไร คณุ คา่ อนั ซอ่ นเรน้ อยา่ ง 163 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
น้ีรจู้ กั ยากตรงทีว่ ่าเรายงั ออ่ นหดั และเราจะหลงชงิ ชัง” ทา่ นพบวา่ พระเหลา่ น ี้ ชาวบา้ นจะเคารพมาก และให ้ “อภ ิ สิทธิธรรม” คือยกให้ท่านในบางเร่ืองไม่ว่ากล่าวไม่ถือสา เขมา นันทะพูดโยงไปถึงพระบ้านนอกอย่างหลวงพ่อฉิมว่า “พระสงฆ ์ เชน่ นด้ี หู ยาบคาย แตว่ า่ ดเู หมอื นไมม่ ใี ครถอื สาเลย... บางทพี ดู ค�ำ หยาบ แต่ไม่มีใครถือสา เพราะหยั่งรู้ว่าในค�ำพูดน้ีไม่มีอะไรเลย ไมเ่ บียดเบยี น ไม่เกลียด ไม่รกั ไมโ่ ลภอะไร” เขมานันทะยังเล่าถึงหลวงพ่ออีกรูปหนึ่ง คือ “หลวง พ่อแดง” ซึ่งชาวเกาะสมุยนับถือมาก เพราะเช่ือว่าท่านมีอิทธิ ปาฏหิ ารยิ ์ แตเ่ ขมานนั ทะกลบั มองวา่ ทา่ นเหมอื นพระเซน “ชวั่ ชวี ติ ของทา่ น ๘๐% ของหว้ งเวลา อยใู่ นนำ�้ แลน่ เรอื ใบไปรปู เดยี ว แต่ ก่อนทา่ นเป็นสมภารวัดมีช่อื เสียง มีลูกศิษยล์ ูกหาเยอะ ทา่ นเบ่อื ระอาตอ่ กจิ กรรมทางโลก ทา่ นเลยใชเ้ รอื ใบล�ำเดยี ว แลว้ ใชค้ วามร้ ู โบราณเกย่ี วกบั ทศิ ทางลม คราทา่ นออกทะเล คนมามงุ ดกู นั ทฝี่ ง่ั ต่างยกมือประณม เห็นท่านชักใบ ท่ีใบเขียนว่า พุทธะ ลูกศิษย ์ ลกู หามายืนออกันริมฝั่งเพื่อดูอาจารยแ์ ล่นเรือ” 164 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
เรื่องราวเหล่าน้ีเตือนใจได้ดีว่า อย่าตัดสินคนด้วยรูปแบบ และอากปั กริ ยิ า หากควรพจิ ารณาใหล้ กึ ถงึ คณุ สมบตั ภิ ายใน แม ้ รูปลักษณ์ภายนอกจะส�ำคัญ แต่ก็สามารถลวงตาเราได้ หากยึด ติดถือม่ันในสิ่งท่ีเห็นด้วยตา ก็อาจท�ำให้เราละเลยส่ิงท่ีพึงสัมผัส ด้วยใจ เขมานนั ทะ นาม โกวิท เอนกชยั กำ� เนิด ๒๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๔๘๑ สถานทีเ่ กิด อ. สทงิ พระ จ. สงขลา อปุ สมบท ณ สวนโมกขพลาราม เมือ่ ป ี พ.ศ. ๒๕๑๐ และลาสกิ ขา พ.ศ. ๒๕๒๕ หลังเรียนจบคณะมณั ฑนศิลป์ ม. ศิลปากร และทำ� งานได้ ๒ ปี ทา่ นได้ บวชและศึกษาธรรมกับท่านพุทธทาสภิกขุ โดยช่วยบุกเบิกสร้างโรงมหรสพ ทางวิญญาณในสวนโมกข์ฯ จน พ.ศ. ๒๕๑๔ ท่านเดินทางออกปฏิบัติธรรม และก่อต้ังส�ำนักสงฆ์ท่ี จ. สงขลา ระหว่างนี้ได้ศึกษาการทำ� ความรู้สึกตัวกับ หลวงพอ่ เทยี น จติ ตฺสุโภด้วย ตง้ั แตป่ ี ๒๕๑๓-ปจั จบุ นั เขมานนั ทะมผี ลงานเขยี นมากกวา่ ๖๐ เลม่ ทา่ น ไดร้ บั การยกยอ่ งใหเ้ ปน็ ศลิ ปนิ แหง่ ชาตสิ าขาวรรณศลิ ป ์ และไดเ้ ดนิ ทางบรรยาย ธรรมและน�ำปฏบิ ัตภิ าวนาทัง้ ในและตา่ งประเทศตลอดมา 165 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
166 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
วาระสุดทา้ ยของ ท่านพุทธทาสภกิ ขุ ปี ๒๕๓๔ ทา่ นพุทธทาสภิกขุ มอี าพาธหนกั ด้วยโรคหวั ใจ ตอนนน้ั ทา่ นอาย ุ ๘๕ ปแี ลว้ ลกู ศษิ ยม์ คี วามเปน็ หว่ งทา่ นมาก โรง พยาบาลศิริราชถึงกับส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจมารักษา ท่าน เม่ือนายแพทย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล ได้พบท่านเป็นครั้งแรก อย่างแรกท่ีแปลกใจก็คือ “สีหน้าและท่าทางของท่านอาจารย์นั้น ไมไ่ ดส้ ดั สว่ นกนั กบั อาการอาพาธทเ่ี ราตรวจพบ” คอื ถา้ เปน็ ผปู้ ว่ ย ธรรมดาและมีอายุมากขนาดน้ี จะต้องมีสีหน้าและท่าทางว่าเจ็บ ปว่ ยอยา่ งชดั เจนกวา่ น ี้ แตท่ า่ นอาจารยก์ ลบั ดสู งบ ไมม่ อี าการทกุ ข ์ ร้อน เวน้ แตน่ ้�ำเสยี งเท่าน้นั ท่ีอ่อนแรงและสีหน้าท่ีอดิ โรย “ผมยงั ไมเ่ คยเหน็ การแสดงออกของผปู้ ว่ ยแบบนม้ี ากอ่ น” 167 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
เนอื่ งจากอาการของทา่ นหนกั มาก แพทยจ์ งึ ขอใหท้ า่ นเดนิ ทางเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่ท่านปฏิเสธโดยให้เหตุผล ว่า “อาตมาอยากให้การอาพาธและการดูแลรักษานั้นเป็นไปแบบ ธรรมชาติ ธรรมดาๆ เหมือนกับการอาพาธของพระสงฆ์ท่ัวไปใน สมัยพทุ ธกาล” และ “ขอใช้แผ่นดนิ นีเ้ ป็นโรงพยาบาล” คณะแพทย์พยายามชี้แจงว่าอาการของท่านนั้นหนักจน สามารถท�ำให้ท่านมรณภาพได้ตลอดเวลาและอย่างทันทีทันใด หากท�ำการรกั ษาอย่ทู ่ีวัดซึง่ ขาดอปุ กรณ์ทางการแพทย์ แตท่ า่ นฟงั แลว้ กย็ ม้ิ ๆ หวั เราะ ห ึ ห ึ ไมว่ า่ อะไร แลว้ สกั ครกู่ ็ กลา่ วปฏเิ สธ คณะแพทยไ์ มล่ ะความพยายาม ตอ่ รองวา่ หากทา่ น เขา้ โรงพยาบาลไมว่ า่ จะเปน็ ทไ่ี หน จะไมม่ กี ารใชเ้ ทคโนโลยที เี่ กนิ เลย เชน่ การเจาะคอหรอื ใสส่ ายระโยงระยางตา่ งๆ แตท่ า่ นกย็ งั ปฏเิ สธ อยา่ งนม่ิ นวลเชน่ เคย ดว้ ยการหวั เราะห ึ ห ึ และพดู ค�ำวา่ “ขอรอ้ ง ขอร้อง ขอรอ้ ง” “การรกั ษาตวั เองโดยธรรมชาตเิ ปน็ สงิ่ ทเ่ี หมาะสม อาตมา ถือหลักนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ให้ธรรมชาติรักษา ให้ธรรมะรักษา 168 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
สว่ นคณุ หมอกช็ ว่ ยผดงุ ชวี ติ ใหม้ นั โมเมๆ ไปได ้ อยา่ ใหต้ ายเสยี กอ่ น ขอให้แผ่นดินน้ีเป็นโรงพยาบาล แล้วธรรมชาติก็จะรักษาการเจ็บ ป่วยต่างๆ ได้เอง ได้เท่าไรก็เอาเท่าน้ัน ไม่ควรจะมีอายุมากกว่า พระพทุ ธเจา้ ธรรมชาตจิ ะเปน็ ผรู้ กั ษา ทางการแพทยห์ ยกู ยาตา่ งๆ ชว่ ยเพยี งอยา่ เพง่ิ ตาย” ทา่ นยงั กลา่ วอกี วา่ “การเรยี นรชู้ วี ติ ใกลต้ าย ท�ำใหม้ ปี ญั ญา ท่ีสมบูรณ์ขึ้น เราจะศึกษาความเจ็บ ความตาย ความทุกข์ให้มัน ชัดเจน ไมส่ บายทุกท ี กฉ็ ลาดขึน้ ทุกทีเหมอื นกนั ” ในท่ีสุดคณะแพทย์ก็ยอมตามความต้องการของท่าน โดยให้การรักษาท่านที่สวนโมกข์ ในท่ีสุดท่านก็มีอาการดีขึ้นและ สามารถเผยแผ่ธรรมไดอ้ กี ต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากน้ันไม่ถึงสองปี วาระสุดท้ายของ ทา่ นกม็ าถงึ เชา้ วนั ท ่ี ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ทา่ นตน่ื ตามปกต ิ ประมาณ ๐๔.๐๐ น. จากนน้ั กล็ กุ ขน้ึ มานง่ั เตรยี มงานเทศนใ์ นวนั เลกิ อายทุ ี่ ๒๗ พฤษภาคม แตท่ ำ� ไปไดเ้ พยี ง ๑๐ นาท ี ทา่ นกล็ ม้ ตวั ลงนอน และพูดกับพระอุปัฏฐากคือพระสิงห์ทองว่า “ทอง วันน ้ี 169 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
เรารู้สึกไมส่ บาย” หลังจากน้ันก็ฉนั ยาหอมแลว้ ก็นอนตอ่ ประมาณ ๐๖.๐๐ น. ทา่ นบอกพระสงิ หท์ อง วา่ “วนั น ้ี เรา รสู้ กึ ไมค่ อ่ ยสบาย ไปตามทา่ นโพธ ์ิ (เจา้ อาวาสสวนโมกข)์ มาพบท ี เธอไม่ตอ้ งไป ให้คนอ่นื ไปตาม เพราะเราไม่สบาย” เม่ือท่านอาจารย์โพธิ์มาถึง ท่านพูดด้วยน�้ำเสียงปกติว่า “น่ากลัวอาการเดิม จะกลับมาเป็นอีกแล้ว ไปโทรศัพท์ ตาม ‘ยูร’ (นพ. ประยรู คงวิเชียรวัฒนะ) มาพบท”ี ตอนนั้นท่านรู้แล้วอะไรจะเกิดข้ึนกับท่าน จึงพูดกับพระ เลขานุการคือพระพรเทพว่า “เอากุญแจ (กุญแจตู้เอกสาร หนังสือ) ในกระเป๋านี้ไปด้วย เราไม่อยากจะตาย คากุญแจ” ตอนนั้นท่านพรเทพไม่คิดว่า ท่านจะเป็นอะไรมาก จึงช่วยกันนวด แล้วให้ท่านอาจารย์นอนพกั ประมาณ ๐๘.๐๐ น. ท่านก็พูดกับพระสิงห์ทองว่า “ทอง ทอง เราจะพดู ไมไ่ ดแ้ ลว้ ลน้ิ มนั แขง็ ไปหมดแลว้ ” ตอ่ จากนน้ั ทา่ น พูดไม่ชัด เม่ือพระอาจารย์โพธ์ิมาพบท่าน ท่านพยายามพูดกับ 170 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
อาจารย์โพธิ์ ประมาณ ๔-๕ ช่วง คล้ายจะส่ังเสียแต่ไม่มีใครฟัง ออก จบั ความไมไ่ ด ้ ไมร่ เู้ รอ่ื ง เนอื่ งจากเสน้ เลอื ดในสมองแตกท�ำให ้ สมองท่คี วบคมุ การพูดเสียไป เมอื่ พระแสดงปฏกิ ริ ยิ าวา่ รบั รไู้ มไ่ ด ้ ทา่ นกห็ ยดุ พดู จากนน้ั ทา่ นกส็ าธยายธรรม ซง่ึ พระองคอ์ นื่ กฟ็ งั ไมอ่ อก แตท่ า่ นอาจารย ์ โพธิ์ พอจับความในช่วงท่ีส้ันๆ ว่า ยตฺถ เนว ปฐวี น อาโป น เตโช น วาโย วา่ นคี้ อื “นพิ พานสตู ร” ทา่ นอาจารย ์ ทา่ นสาธยาย ทบทวนไปทบทวนมาหลายครง้ั หลังจากน้ันท่านก็ไม่รู้ตัว แพทย์จึงน�ำท่านไปรักษาที่ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และในท่ีสุดก็น�ำท่านไปที่โรงพยาบาล ศิริราช ทุกคนรู้ว่าการท�ำดังกล่าวเป็นการขัดความประสงค์ของ ทา่ น แตก่ จ็ ำ� ยอมตอ้ งทำ� เพอ่ื เชอื่ วา่ จะชว่ ยใหท้ า่ นหายได ้ แตห่ ลงั จากใชค้ วามพยายามเตม็ ทก่ี วา่ ๔๐ วนั กย็ อมรบั ความลม้ เหลว ใน ที่สุดจึงพาท่านกลับมายังสวนโมกข์เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ไม่ก่ี นาทีทท่ี ่านถึงสวนโมกข ์ ทา่ นกห็ มดลม 171 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
172 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
ทะไลลามะ พระธรรมดา กอ่ นมชี อ่ื เสยี งและเปน็ ทเ่ี คารพนบั ถอื ของคนทงั้ โลก ทะไล ลามะ ผา่ นการเคย่ี วกรำ� อยา่ งหนกั ทงั้ ในดา้ นปรยิ ตั แิ ละปฏบิ ตั ิ จนมี ความเขา้ ใจทล่ี กึ ซง้ึ เกยี่ วกบั พทุ ธศาสนา และรรู้ อบคมั ภรี ต์ า่ งๆ ของ นกิ ายทงั้ ส ี่ ขณะเดยี วกนั กม็ คี ณุ สมบตั ดิ า้ นในทหี่ ลายคนรสู้ กึ ไดเ้ มอื่ ได้อยใู่ กลช้ ิด แมจ้ ะไม่เคยรู้จกั ท่านมากอ่ น ว่ากันว่าเมื่อ ๒๕ ปีก่อนท่านไปเยือนประเทศเม็กซิโก เจ้า ภาพได้จัดหาคนมารักษาความปลอดภัยให้ท่าน เน่ืองจากมีทุน จำ� กดั จงึ จา้ งคนระดบั ลา่ งมาดแู ลทา่ น คนเหลา่ นพี้ นื้ เพเปน็ นกั เลง ชอบกินเหล้า พูดจาหยาบคาย เอะอะโวยวาย ไม่มีกิริยามารยาท 173 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
แต่หลังจากท่ีได้ดูแลท่านแค่สองวันก็รู้สึกซาบซึ้งประทับใจท่าน มาก ต่างชื่นชมว่าท่านเป็นคนท่ีน่ารักท่ีสุดในโลก และพาคนใน ครอบครวั มารบั พรจากทา่ น ทงั้ ๆ ทค่ี นเหลา่ นนี้ บั ถอื ครสิ ตศ์ าสนา แต่แม้จะได้รับค�ำยกย่องท้ังในฐานะผู้รู้ธรรมข้ันสูงและ ตวั แทนชาวพทุ ธทโี่ ดดเดน่ ทสี่ ดุ ในโลก ทา่ นกลบั มคี วามถอ่ มตวั มาก ท่านพดู เสมอว่าทา่ นเปน็ “พระธรรมดา” เคยมคี นถามว่า “การบรรลธุ รรมนน้ั เปน็ อยา่ งไร” ท่านตอบว่า “อาตมาก็ไม่รู้ ขอให้ไปถามอาจารย์ท่านน้ัน” แลว้ ท่านกเ็ อย่ ชื่อวิปัสสนาจารย์ท่อี าวุโสกวา่ ทา่ น เมอื่ มคี นถามทา่ นว่า “อะไรท�ำใหท้ า่ นมคี วามสุขทสี่ ุด” แทนท่ีท่านจะพูดถึงสภาวธรรมขั้นสูง ท่านตอบส้ันๆ ว่า “อาหารดีและหลบั สนิท” เคยมีคนถามท่านว่า “ท่านจ�ำได้ไหมว่าชาติก่อนท่านเป็น อะไร” 174 านธรรม ๒ ลํ า ธ า ร ริ ม ล
ทา่ นหวั เราะแลว้ ตอบวา่ “รไู้ หม อาตมายงั จ�ำแทบไมไ่ ดเ้ ลย วา่ อาทิตยก์ อ่ นอาตมาท�ำอะไรบ้าง” ท่านเป็นผู้ท่ีมีความเห็นอกเห็นใจผู้คนมาก หญิงผู้หนึ่ง เล่าว่าเธอเพิ่งสูญเสียพ่อไป สีหน้าเธอบ่งบอกถึงความเศร้า ท่าน ตอบวา่ “รไู้ หม อาตมาพจิ ารณาความตายวนั ละ ๕ ครง้ั แตห่ ากวา่ วันน้ันมาถึง อาตมาเกรงว่าอาตมาจะ...พล้ังพลาดไป” มีเร่ืองเล่าว่าเคยมีฝร่ังคนหนึ่งถามท่านว่า “กรุณาตอบ ส้นั ๆ ง่ายๆ วา่ ท�ำอยา่ งไรจงึ จะบรรลุธรรมไดเ้ รว็ ท่สี ดุ ” ทา่ นมองชายผหู้ นา้ พจิ ารณาใครค่ รวญเขาอยา่ งใกลช้ ดิ อย ู่ พกั หนึง่ แลว้ น้ำ� ตากค็ ลอเบา้ ทา่ น ท่านก�ำลังบอกเขาหรือเปล่าว่าคนเราต้องผ่านความทุกข ์ ยากแสนสาหัสสักเท่าใดกว่าจะบรรลุธรรมได้ หรือท่านอาจกำ� ลัง รสู้ กึ สงสารเขาอยกู่ ็ไดท้ ีต่ ้องผา่ นความทกุ ข์ยากมามากมายกวา่ จะ สนใจการพน้ ทุกข์ (อา่ นประวตั ิทา่ นหน้า ๒๓) 175 พ ร ะ ไ พ ศ า ล วิ ส า โ ล
ที ่ ม า ข อ ง เ ก ร ็ ด ช ี ว ิ ต ๑. ประวตั สิ มเดจ็ พระพฒุ าจารย ์ (โต) อนสุ รณง์ านพระราชทานเพลงิ ศพนายเสมอ สินธุนาคร ยงกจิ การพิมพ์ (๒๕๓๐) ๒. พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ไม่ระบุ โรงพมิ พ์และปที ีต่ พี ิมพ์ ๓. อุปลมณี อนุสรณพ์ ระโพธิญาณเถร (ชา สภุ ทโฺ ท) โรงพมิ พ์ครุ ุสภา (๒๕๓๖) ๔. ๑ ศตวรรษหลวงป่บู ุดดา ถาวโร โรงพิมพอ์ กั ษรพทิ ยา (๒๕๓๖) ๕. พระธรรมปฎิ ก (ป.อ. ปยตุ โฺ ต) รวบรวม หลวงพอ่ เพอื่ วดั เพอื่ บา้ น บรษิ ทั สห- ธรรมมกิ จำ� กัด (๒๕๔๒) ๖. นพ. วฒั นา สพุ รหมจกั ร หลวงพอ่ เทยี น ความมหศั จรรยใ์ นพระธรรมดา กองทนุ วฒุ ธิ รรม ไมร่ ะบปุ ที พี่ มิ พ์ ๗. ประสทิ ธ์ ิ คณุ ุรตั น์ แกว้ มณอี ีสาน มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ (๒๕๓๗) ๘. บูรพาจารย์ มลู นิธิพระอาจารยม์ ั่น ภูริทัตโต (๒๕๔๕) ๙. ส. ศวิ รกั ษ ์ พระดที ีน่ ่ารู้จกั สำ� นักพิมพ์ศกึ ษติ สยาม (๒๕๒๓) ๑๐. หลวงพ่อคำ� เขียน สวุ ณั โณ สนุกป่วย เลมอนฟารม์ (๒๕๕๓) ๑๑. เขมานนั ทะ ทางทรายใกล้ทะเลสาบ สำ� นักพมิ พ์ช่ืนใจ (๒๕๕๑) ๑๒. มณรี ตั น์ อญั มณแี ห่งไพรสณฑ์ ชมรมกัลยาณธรรม (๒๕๕๒) ๑๓. อนสุ รณพ์ ระราชทานเพลงิ ศพพระครสู ทุ ธธิ รรมรงั ษ ี (เจย๊ี ะ จนุ โท) หลวงปเู่ จยี๊ ะ จนุ โท พระผูเ้ ป็นดง่ั ผ้าขีร้ ้ิวหอ่ ทอง (ฉบบั สมบรู ณ์) ศิลป์สยามบรรจุภณั ฑ์และ การพมิ พ์ (๒๕๔๗) ๑๔. วรี ะวฒั น ์ ชลสวสั ด ิ์ รอยยมิ้ พระอรหนั ต ์ อารมณข์ นั พระอรยิ ะ สำ� นกั พมิ พก์ รนี - ปัญญาญาณ (๒๕๕๓) ๑๕. ๑๐๑ ป ี หลวงปดู่ ่ ู พรหมปัญโญ คิว ปรนิ้ ท ์ แมเนจเมน้ ท ์ (๒๕๔๘) ๑๖. พระราชพรหมยาน ประวตั หิ ลวงพอ่ ปาน (พระครวู หิ ารกจิ จานกุ าร) วดั บางนมโค (๒๕๑๘) ๑๗. Kamala Tiyavanich, Forest Recollections, Silkworm (2003)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177