Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Jariyahdhama

Jariyahdhama

Published by ชมรมกัลยาณธรรม, 2021-03-18 07:25:55

Description: Jariyahdhama

Search

Read the Text Version

ดร. สนอง วรอไุ ร

อาจารย์ ดร. สนอง วรอไุ ร ชมรมกัลยาณธรรม หนังสือดีลำ� ดบั ที ่ ๒๒๑ พมิ พ์ครั้งท่ี ๑ มถิ ุนายน ๒๕๕๖ จำ� นวนพมิ พ์ ๓,๐๐๐ เล่ม จดั พิมพ์โดย ชมรมกลั ยาณธรรม ๑๐๐ ถนนประโคนชัย ต�ำบลปากนำ้�  อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สมทุ รปราการ ๑๐๒๗๐ โทรศพั ท ์ ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ และ ๐-๒๗๐๒-๙๖๒๔ ออกแบบปก คนขา้ งหลงั รปู เลม่ วชั รพล วงษอ์ นสุ าสน์ พสิ จู นอ์ กั ษร ทมี งานกลั ยาณธรรม เพลต Canna Graphic  โทรศพั ท์ ๐๘-๖๓๑๔-๓๖๕๑ พมิ พ์ บริษทั ขุมทองอตุ สาหกรรมและการพิมพ์ จำ� กดั   โทรศัพท ์ ๐-๒๘๘๕-๗๘๗๑-๓ สัพพทานงั  ธมั มทานงั  ชินาติ การให้ธรรมะเปน็ ทาน ย่อมชนะการใหท้ ัง้ ปวง www.kanlayanatam.com

คำ�ปรารภ หนงั สอื เรอ่ื ง “จรยิ ธรรมสำ� หรบั ผบู้ รหิ ารและธรรมาภบิ าล”  ไดเ้ รยี บเรยี งออกมาจากการบรรยายธรรม และเขยี นเพม่ิ เตมิ ในสว่ นทเี่ ปน็ รายละเอยี ด รวมถงึ จดั เรยี งลำ� ดบั หวั ขอ้ และพมิ พ์ เป็นรูปเล่มออกเผยแพร่สู่มวลชน  โดยเฉพาะผู้บริหารสังคม หนว่ ยงาน หรอื องคก์ ร หากไดน้ ำ� เอาธรรมะมาคมุ้ ครองใจไดแ้ ลว้ ความสงบสุขและความเจริญก้าวหน้าของสังคม  ย่อมเป็นที่ คาดหวังได้ ด้วยอานิสงส์ของการให้ธรรมะเป็นทาน  ข้าพเจ้าอุทิศ บุญกุศลท่ีเกิดจากการกระท�ำในคร้ังนี้  จงบันดาลให้ผู้ร่วม กระบวนกรรมทม่ี สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งกบั การเผยแพรธ่ รรมน ี้ ประสบ แตค่ วามสขุ ความเจรญิ  และความพน้ ทกุ ข ์ ทกุ ทา่ นทกุ คนเทอญ ดร.สนอง วรอไุ ร ๒๘ ตลุ าคม ๒๕๕๕

คำ�นำ� ของชมรม กลั ยาณธรรม “ก่อนที่จะบริหารคนอ่ืน  ต้องบริหารตนเองให้ได้ก่อน”  ถอ้ ยคำ� อมตะแหง่ ธรรมทท่ี า่ นอาจารยก์ ลา่ วไวใ้ นหนงั สอื เลม่ น้ี  สะกิดโดนใจมาก  เพราะหากท่านได้น้อมน�ำไปปฏิบัติ  ย่อม ประสบความสขุ ความเจรญิ ทง้ั ทางโลกและทางธรรมแนน่ อน  โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่  ผนู้ ำ� และผบู้ รหิ าร จำ� เปน็ ตอ้ งมี “จรยิ ธรรม  ของผู้บริหารและธรรมาภิบาล”  เป็นหลักใจ  เพ่ือการท�ำงาน อย่างมีประสิทธิภาพ  ทั้งการงานภายใน  คือ  กายใจตนเอง และการงานภายนอก  คือการบริหารองค์กร  บริวารและ  ผูเ้ กี่ยวข้องทัง้ หลาย

ชมรมกัลยาณธรรมขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย ์ ดร.สนอง  วรอุไร  ท่ีเมตตามอบแผนท่ีเดินทางที่ถูกธรรม  อย่างแจ่มชัด ให้เป็นคู่มือชีวิตท่ีประสบความส�ำเร็จแบบ  ไร้ทุกข์โทษ  ทั้งส่วนตัว  การงานและสังคม  ทั้งประโยชน ์ ทางโลกและประโยชน์ทางธรรม  ทั้งประโยชน์ในโลกนี้และ  ประโยชน์ในโลกหน้า  และในระดับท่ีเป็นอิสระจากความทุกข์  โดยสนิ้ เชิง หากเข้าถึงธรรมตามลำ� ดบั ไป หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับประโยชน์แห่งธรรม  สมตาม  เจตนารมณ์ท่ีเมตตา  และเสียสละของท่านอาจารย์  ด้วย  ประสบการณ์จริงของผู้พิสูจน์สัจธรรมจนรู้แจ้งเห็นจริง  ขอ  นอ้ มถวายอานสิ งสแ์ หง่ ธรรมทาน เปน็ เครอ่ื งบชู าอาจรยิ คณุ   แดท่ า่ นอาจารยด์ ้วยความเคารพและส�ำนกึ ในเมตตาของท่าน  เป็นอย่างสงู  ขอพระสจั ธรรมจงรุ่งเรืองในใจทกุ ท่านเทอญ กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญอย่างยิ่ง ทพญ.อัจฉรา กลน่ิ สุวรรณ์ ประธานชมรมกัลยาณธรรม

สารบญั ปัญญาทางโลก..................................................... ๑๕ บรหิ ารตนเองก่อน.................................................๑๙ จริยธรรมส�ำหรับผ้บู ริหาร..................................... ๒๓ มรี ่างกายสมบูรณแ์ ข็งแรง...............................๒๕ มอี ากาศหายใจทีส่ ะอาด...................................๓๐ ขยันออกกำ� ลังกาย.........................................๓๐ มีอารมณผ์ อ่ งใส............................................๓๑ เคล็ดลับอายุยนื ....................................................๓๕ มีสติสัมปชญั ญะครองใจ..................................๓๗ ยึดม่ันพรหมวหิ าร..........................................๔๑ เวน้ อคต.ิ ......................................................๔๒ มชี วี ิตเปน็ ผใู้ ห้...............................................๔๒

ดวงตาเห็นธรรม................................................... ๔๕ บริหารลูกนอ้ ง......................................................๕๓ อทิ ธบิ าท ๔..................................................๕๕ ผลงานเข้าตา................................................๕๘ มจี รยิ ธรรมก�ำกบั ชวี ติ .....................................๖๐ รู้จกั บริหารเวลา.............................................๖๕ เวลาที่มคี ณุ คา่ ...............................................๖๖ ธรรมะคมุ้ ใจ (ธรรมาภบิ าล)................................... ๗๓ คมุ้ ใจด้วยศีล.................................................๗๘ คุม้ ใจด้วยธรรม..............................................๗๙ คุ้มใจด้วยสามัคคีธรรม....................................๘๑ คุ้มใจดว้ ยความกตัญญกู ตเวท.ี ..........................๘๑ คุ้มใจด้วยอทิ ธบิ าท ๔.....................................๘๒ คมุ้ ใจดว้ ยฆราวาสธรรม...................................๘๒ ชวี ิตท่เี ลือกได้...................................................... ๘๗ ผู้รูจ้ ริงไม่ก้าวลว่ ง..................................................๙๕ สติค้มุ ครองชวี ิต....................................................๙๙ ค�ำถาม-คำ� ตอบ..................................................๑๐๓ บรรณานุกรม..................................................... ๑๐๙



เกร่นิ นาํ วันน้ีผู้เขียนจะมาพูดให้ท่านฟังถึงส่ิงต่างๆ  ท่ีมีคุณค่า อยา่ งมากตอ่ ชวี ติ และงานทเี่ ราทำ�  ตวั ผเู้ ขยี นน ี้ เดมิ เปน็ อาจารย์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม ่ เปน็ นกั วทิ ยาศาสตร ์ เคารพในเหตผุ ล คือความจริง  ได้ถูกส่งไปศึกษาต่อท่ีต่างประเทศ  เพื่อให้มี ความรู้ส�ำหรับน�ำมาถ่ายทอดแก่เยาวชน  ปรากฏว่าเรียนจบ จนสูงสุดทางด้านวิทยาศาสตร์แล้ว  เลยไม่เช่ือพระพุทธเจ้า   ไม่เช่ือเรื่องตายแล้วเกิดใหม่  เนื่องจากพิสูจน์ไม่ได้  ไม่เชื่อว่า ผีข้างถนนมีจริง  เทวดามีจริง  ไม่เช่ือเพราะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ในท่ีสุดเม่ือปี  พ.ศ.  ๒๕๑๘  จึงได้ไปพิสูจน์ด้วยการบวชเป็น

10 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล พระสงฆ์และปฏิบัติธรรมเต็มท่ี  ๓๐  วัน  เท่าน้ันแหละครับ พฤติกรรมเปลย่ี นจากหน้ามอื เป็นหลังมอื ต้ังแต่วันน้ันจนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ  ๔๐  ปีล่วงแล้ว บรรยายธรรมมานบั ไมถ่ ว้ น แมต้ อนนเ้ี กษยี ณราชการมา ๑๔ ปแี ลว้ กย็ งั ไมห่ ยดุ บรรยาย ทงั้ นเ้ี พราะสงิ่ ตา่ งๆ ทไี่ ดพ้ ฒั นาและเขา้ ถงึ ลว้ นเปน็ เรอ่ื งเกยี่ วกบั ตวั เราทง้ั สนิ้  และไดต้ ระหนกั วา่  ทเ่ี รยี น วทิ ยาศาสตรม์ านน้ั  เปน็ ความหลงจรงิ ๆ และไดร้ วู้ า่  คนเรากำ� ลงั   ด�ำเนินชีวิตที่ผิดพลาด  ในชีวิตนี้ก็ยังเล็กน้อย  พอจะแก้ไขได้ แตใ่ นชวี ติ หนา้  ทจี่ ะตอ้ งไปเกดิ ใหมน่ สี่  ิ นำ� พาชวี ติ ลงไปเกดิ ตำ�่ กวา่ มนษุ ยเ์ ปน็ จำ� นวนมากมายจรงิ ๆ เหน็ แลว้ นา่ สงสาร จะไป บอกเขาก็ไม่ได้  เพราะเขาไม่ศรัทธา  ไม่เช่ือ  คนที่ไม่รู้จริงและ ไมส่ นใจเรือ่ งน้ ี ล้วนแตน่ �ำพาชีวติ หนา้ ลงไปเกิดตำ�่ กวา่ มนษุ ย์ เกือบท้ังหมดจะเป็นอย่างนั้น  ยิ่งคนท่ีไปเรียนสูงๆ  มาจาก เมอื งนอก ยงิ่ เปน็ กล่มุ ท่ีมคี วามหลงมาก ผเู้ ขยี นเองกเ็ คยเปน็ อยา่ งนน้ั  เหน็ ความหลงของตวั เอง แล้วถึงกับน�้ำตาไหล  ว่าน่ีขนาดเราจบปริญญาเอกทางด้าน วิทยาศาสตร์  ท�ำไมเราถึงโง่อย่างนี้  แต่พอพัฒนาความรู้ขั้น สงู สดุ  (ภาวนามยปญั ญา) ขน้ึ มาได ้ กบ็ อกตวั เองวา่ ไมเ่ อาแลว้ ออกจากปา่  แลว้ ไปชปี้ า่ ใหค้ นอน่ื เหน็  เขากเ็ ปลย่ี นกนั ได ้ เดยี๋ ว น้ีมีคนศรัทธาเป็นหม่ืนเป็นแสน ยุคน้ีมีวิทยุ มีเว็บไซต์ มี

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 11 เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ช่วย  ท�ำให้เผยแผ่ความเป็นจริง แทไ้ ด้ทัว่ ประเทศและทัว่ โลก โดยไมต่ ้องเดนิ ทางไกลเหมือนใน คร้ังพุทธกาล  เพ่ือนรุ่นเดียวกันกับผู้เขียนคิดว่า  ผู้เขียนนี่โง่ ที่อายุเกินวัยเกษียณราชการไปแล้ว  ยังไม่พักผ่อน  ไม่เที่ยว หาความสุขเหมือนคนท่ัวไป  เขาก็พูดถูกในระดับของเขา เพราะเขามีปัญญาสองตัว  คือ  ปัญญาที่เกิดจากการฟังการ อ่าน (สุตมยปัญญา) กับ ปัญญาที่เกิดจากการพิจารณา   (จนิ ตามยปญั ญา) ทใี่ ชเ้ รยี นจนจบปรญิ ญาเอกนนั่ แหละ แต่ ผเู้ ขยี นไดเ้ ขา้ ถงึ ปญั ญาตวั ทส่ี ามคอื ภาวนามยปญั ญา ทำ� ให้ เห็นว่า ตราบใดท่ีลมยังเข้ายังออกจากร่างกาย เรายังใช้ เครื่องมือตัวนี้ (ร่างกาย) ประกอบกรรมได้ ใช้ท�ำงานได้ ตอนนจี้ งึ ทำ� งานเตม็ ท ี่ ปญั ญาสงู สดุ ทำ� ใหเ้ รามองไปอกี แบบ มองออกไปไกลถงึ ภพภมู ขิ า้ งหนา้  พฤตกิ รรมของเราจงึ เปลย่ี น และอยากจะเลา่ ให้ทา่ นผู้ฟังไดท้ ราบ ในตา่ งประเทศมงี านวจิ ยั ของ ดร. ดาเนยี ล โกลด์ แมน บอกวา่  คนทปี่ ระสบความสำ� เรจ็ ในชวี ติ  ใชป้ ญั ญาไอควิ (IQ) เพยี งรอ้ ยละ ๒๐ ปัญญาไอคิวกค็ อื ปญั ญาทเ่ี ราพฒั นากันมา ในทางโลกจนจบปรญิ ญาเอก ปญั ญาประเภทนไี้ ดจ้ ากการฟงั การอ่าน  การคิด  พิจารณา วิเคราะห์  วิจัย  อุตส่าห์เรียน แทบเปน็ แทบตาย ปรากฏวา่ ใชแ้ คร่ อ้ ยละ ๒๐ แตท่ ใี่ ชม้ ากถงึ ร้อยละ  ๘๐  คือ  คุณธรรม  นี่คือคนที่ประสบความส�ำเร็จใน

12 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล ชีวิต ผู้เขียนบอกว่า ใช่เลย ถูกต้องที่สุด  ถ้าเราไม่พัฒนา คณุ ธรรม ใชค้ วามเกง่ เพยี งอยา่ งเดยี ว จะไปไมร่ อด ชวี ติ จะ ลม้ เหลว ตอ้ งใชค้ วามเกง่ หรอื ปญั ญาทางโลกรอ้ ยละ ๒๐ และ ใชค้ ณุ ธรรมความดอี กี รอ้ ยละ ๘๐ ความดเี กดิ จากการประพฤติ จริยธรรมท่เี ก่ียวข้องนเี่ อง จึงจะประสบความสำ� เร็จในชีวติ ผเู้ ขยี นเองไดพ้ ฒั นาปญั ญาทางโลกจนสงู สดุ  และพฒั นา คุณธรรมให้สูงสุด  ชีวิตก็ประสบความส�ำเร็จ  และในฐานะท่ี เปน็ ชาวพทุ ธ ผเู้ ขยี นไดพ้ ฒั นา “ดวง” ใหด้ อี กี ดว้ ย คนดวงดี ยอ่ มไมว่ บิ ตั  ิ ไมต่ กงาน เรอ่ื งไมด่ ไี มเ่ กดิ ขน้ึ กบั คนดวงด ี ผเู้ ขยี น จงึ มปี ญั ญาไอควิ สงู  มคี ณุ ธรรมสงู  และขณะเดยี วกนั  มดี วงดี อกี ดว้ ย ดว้ ยเหตนุ ผี้ เู้ ขยี นจงึ ตอ้ งทำ� งานตง้ั แตป่  ี พ.ศ. ๒๕๐๓ จนถึงบดั น ี้ ๕๐ กว่าปีแล้วกย็ ังท�ำงานไมจ่ บ และจะจบเมื่อไร ยงั ไมร่  ู้ ขนึ้ อยกู่ บั เครอื่ งมอื คอื รา่ งกายน ี้ ถา้ ยงั ใชง้ านได ้ มนั ก็ ไปตอ่ อกี  ทำ� มา ๕๐ ปเี ศษ ไมเ่ คยตกงาน ทง้ั ๆ ทไ่ี มเ่ คยไปวงิ่ หางานทไ่ี หนเลย งานเขา้ ตลอด เปน็ แบบนเี้ รอ่ื ยมาจนทกุ วนั น้ี ถ้าท่านอยากจะท�ำงานอย่างไม่รู้จบ  ผู้เขียนจะบอกว่าต้อง พฒั นาตัวเองอยา่ งไร

ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาสูงสดุ ทำ�ใหเ้ รามองชวี ิตชัดเจน และมองถึงภพภูมิข้างหน้า พฤติกรรมของเราจะเปล่ียนเป็นดี



ปัญญาทางโลก ปญั ญาทม่ี นษุ ยส์ ามารถเขา้ ถงึ ได ้ ตวั แรกไดจ้ ากการฟงั การอา่ น ปญั ญาตวั ทส่ี องไดจ้ ากการคดิ พจิ ารณา วเิ คราะห์ วจิ ยั  สองตวั นเ้ี ขาเรยี ก ปญั ญาทางโลก สว่ นปญั ญาตวั ทสี่ าม เกดิ จากการพฒั นาจติ  จนเกดิ ปญั ญาเหน็ แจง้  คอื เหน็ ถกู ตรง ตามความเป็นจริงแท้  วันนี้จริง  อีกหมื่นปีแสนปีก็ยังจริง ผิดกับปัญญาทางโลกท่ีวันนี้จริง  วันข้างหน้าอาจไม่จริงแล้ว อยา่ งเชน่  ความรทู้ เ่ี ปน็ จรงิ ในทางโลกทผ่ี เู้ ขยี นไปเรยี นมาจาก ตา่ งประเทศ ผลงานตา่ งๆ ทตี่ พี มิ พไ์ วใ้ นวารสารทง้ั ในประเทศ และต่างประเทศ  เดี๋ยวนี้เอามาใช้ไม่ได้แล้ว  เพราะกาลเวลา

16 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล เปลย่ี นไป เหตแุ ละผลทเ่ี คยสมั พนั ธก์ นั  บดั นไี้ มส่ มั พนั ธก์ นั แลว้ ไมเ่ ป็นจรงิ อีกตอ่ ไป จึงเอามาใช้ไมไ่ ด้ อยา่ งไรกด็  ี การนำ� ปญั ญาทางโลก (สตุ มยปญั ญา และ จินตามยปัญญา)  ไปท�ำงานให้กับสังคมและบ้านเมืองเป็น เร่ืองดี  ใช้แก้ปัญหา  ใช้สร้างส่ิงต่างๆ  เพื่อช่วยแก้ปัญหา น่นั เป็นสงิ่ ดี เชน่  การท่เี ขานำ� ความรทู้ างโลกมาแก้ปญั หานำ�้ ทว่ มกรงุ เทพฯ ไดส้ ำ� เรจ็  กท็ ำ� ใหผ้ า่ นวกิ ฤตมาได ้ ไมเ่ ชน่ นนั้ นำ้� คงท่วมทรัพยส์ ินเสียหายไปหมดแล้ว ปัญญาทางโลกไม่ใช่สิ่งท่ีเป็นจริงอย่างยั่งยืน  แต่คน สว่ นใหญก่ ลบั นยิ มพฒั นาปญั ญาประเภทน ี้ ซงึ่ ผเู้ ขยี นเหน็ วา่ เปน็ การพฒั นาทห่ี ลงทาง ยงิ่ ถา้ เอาปญั ญาทางโลกมาสอ่ งนำ� ชีวิต ก็จะเกดิ ความวบิ ตั อิ ย่างทีเ่ ราเหน็ ๆ กนั ผเู้ ขยี นไปบรรยายในเรอื นจำ� ตา่ งๆ มาหลายแหง่  นกั โทษ เหล่านั้นใช้ปัญญาทางโลกส่องน�ำทางให้กับชีวิต  เขาจึงต้อง นำ� ตวั เองเขา้ คกุ เขา้ ตะรางไป ในเรอื นจำ� ใหญแ่ หง่ หนงึ่  คนดงั ๆ อยู่ที่นั่นก็มี  รัฐมนตรีก็มี  หมอดังๆ  ก็มี  เห็นแล้วน่าสงสาร ทุกเรือนจ�ำท่ีผู้เขียนไปเผยแผ่ธรรม  แน่นไปด้วยนักโทษคดี คา้ ยาเสพตดิ  นา่ สงสารมาก เพราะเขาไมม่ คี ณุ ธรรมคมุ้ รกั ษาใจ ด้วยเหตุนีป้ ัญญาทางโลกก็ดสี �ำหรบั ใชแ้ กป้ ญั หาทางโลก แต่

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 17 ถ้าใช้น�ำชีวิตแล้ว  ยังมีโอกาสน�ำชีวิตไปสู่ความวิบัติได้  ส่วน ปญั ญาทางธรรมเหมาะทจี่ ะใชท้ ง้ั แกป้ ญั หาทางโลก และเหมาะ ที่จะส่องน�ำชีวิตไปสู่ความเจริญถึงจุดสูงสุด  อุปสรรคและ ปัญหาจะไมม่  ี มีแตค่ วามสขุ  ปัญญาทั้งสองทางนี้ (ทางโลก และทางธรรม) มนษุ ย์เราสามารถพัฒนาใหเ้ ข้าถงึ ได้



บรหิ ารตนเองกอ่ น ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การบรหิ ารบคุ คลในองคก์ ร หมายถงึ วา่ ตอ้ งมหี นา้ ทบ่ี รหิ ารคนอนื่  ถา้ เราเปน็ พอ่ แม ่ เราตอ้ งบรหิ ารลกู ถา้ เราเปน็ หวั หนา้  เปน็ ผนู้ ำ� ในองคก์ ร เรากต็ อ้ งบรหิ ารลกู นอ้ ง แตก่ อ่ นทจ่ี ะไปบรหิ ารคนอน่ื  เราตอ้ งบรหิ ารตวั เองใหไ้ ดก้ อ่ น อยา่ งตวั ของผเู้ ขยี น เดนิ ทางไปทว่ั ประเทศ งานไมร่ จู้ บ กเ็ พราะ ได้บริหารตัวเอง จนมพี ฤตกิ รรม คดิ  พดู  ทำ�  เปล่ยี นไปเป็น ดีทั้งหมด  แล้วในที่สุด  ความศรัทธาในคุณธรรมหรือความดี กเ็ กดิ ขน้ึ  พอเราบรหิ ารตนเองไดแ้ ลว้  คนอนื่ กเ็ กดิ ความศรทั ธา เข้ามาหา  มาพูดคุย  เขาก็น้อมน�ำเอาค�ำชี้แนะไปปฏิบัติตาม  ไปบริหารตัวเองได้

20 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล เมื่อสองวันก่อน  มีคนโทรศัพท์มาจากประเทศฝร่ังเศส เขาได้อ่านหนังสือและฟังธรรมบรรยายจากเว็บไซต์  และเขา ไดน้ ำ� ไปใชบ้ รหิ ารตนเองตามนนั้  ปรากฏวา่ พฤตกิ รรมเปลยี่ นไป มีคนท่ีได้ประโยชน์จากส่ิงที่ผู้เขียนบอกเล่า  อยากจะมากราบ ผเู้ ขยี น ผเู้ ขยี นบอกเขาไปวา่ ใหก้ ราบพระพทุ ธเจา้ ดกี วา่ เพราะ สงิ่ ตา่ งๆ ทดี่ งี ามของเรา ลว้ นไดม้ าจากการเอาคำ� สอนของ พระพุทธเจ้า  มาพัฒนาตนเองให้ถูกตรงตามท่ีพระองค์ทรง ชแ้ี นะ สรปุ แลว้  เราอยใู่ นสงั คม ในครอบครวั  เราตอ้ งบรหิ าร ตัวเองให้ดีได้  ก่อนที่จะไปบริหารคนอื่น  ถ้าเราเป็นพ่อเป็น แม่ เราตอ้ งบรหิ ารตนเองกอ่ นจะไปบรหิ ารลกู  มนั สำ� คญั ตรงน ้ี ถา้ ตวั เองยงั เละเทะ ไปสอนคนอนื่  ใหป้ ระพฤตดิ  ี เขายอ่ มไมเ่ ชอ่ื ผเู้ ขยี นจะยกเรอื่ งจรงิ ใหฟ้ งั  ครอบครวั หนงึ่  พอ่ ดม่ื เหลา้ ลกู ชาย เป็นหนุ่มนักศึกษา ดื่มเหล้าตามพ่อ พ่อบอกว่า “ลูก ลูกยัง ด่ืมเหล้าไม่ได้”  ลูกถามว่า  “ท�ำไมพ่อด่ืมได้  แต่ผมดื่มไม่ได้” พ่อตอบว่า  “ลูกยังเป็นเด็ก  แต่พ่อเป็นผู้ใหญ่แล้ว”  ค�ำพูด อยา่ งน ี้ ลกู จะเชอ่ื ไหมครบั  ลกู ยอ่ มไมเ่ ชอ่ื  การทพ่ี อ่ พดู อยา่ ง หนงึ่ แลว้ ทำ� อกี อยา่ งหนง่ึ  ไมท่ ำ� ตวั อยา่ งทดี่ ใี หล้ กู ด ู ยอ่ มไม่ ทำ� ใหล้ กู เกดิ ศรทั ธาได ้ แตผ่ เู้ ขยี นน ี่ ทำ� อยา่ งไร กพ็ ดู อยา่ งนน้ั ทำ� ไดจ้ รงิ แลว้ จงึ มาพดู  ไปบรรยายทไ่ี หนจงึ มคี นศรทั ธามารมุ ลอ้ มกันมาก

ถา้ เราไมพ่ ฒั นาคณุ ธรรรม ใช้ความเกง่ อย่างเดียว จะไปไม่รอด ชวี ติ เราจะลม้ เหลว



จรยิ ธรรม ส�ำหรบั ผู้บริหาร ทนี ม้ี าเขา้ เรอื่ ง “จรยิ ธรรมสำ� หรบั ผบู้ รหิ ารและธรรมาภบิ าล” คำ� วา่  “บรหิ าร” หมายถงึ  ปกครอง ดำ� เนนิ การ จดั การ ฐานะ ของทา่ นคอื เปน็ ผปู้ กครองหนว่ ยงาน ดำ� เนนิ การใหง้ านลลุ ว่ ง ไปด้วยด ี หรือปกครองผูใ้ ตบ้ งั คับบญั ชาก็สุดแท้แต ่ น่คี ือการ บริหาร  ส่วน  “จริยธรรม”  หมายถึง  ธรรมท่ีควรประพฤติ ประพฤตแิ ลว้ ด ี เปน็ คณุ ธรรม สำ� หรบั  “ศลี ธรรม”ม ี ๒ สว่ น คอื  ศลี  และ ธรรม ตอ้ ง ขอถามวา่  ศลี  ๕ ขอ้  ทา่ นมคี รบหรอื ไม ่ ถา้ ใครมศี ลี  ๕ ไมค่ รบ ชวี ติ นยี้ อ่ มมอี ปุ สรรคและมปี ญั หาใหต้ อ้ งแกไ้ ข ซำ�้ รา้ ยตายแลว้ จะไม่ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์  จะต้องลงไปเกิดต�่ำกว่ามนุษย์

24 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล น่ีเปน็ เรือ่ งจริงท่ีเป็นเหตุเป็นผล ไม่มกี ารบงั เอิญ ศีล ๕ เป็น คุณธรรมที่น�ำเกิดเป็นมนุษย์  คนที่ไม่มีศีลอยู่ครบจึงต้องลง ไปเกิดต่�ำกว่ามนุษย์แน่นอน  บางคนไม่สนใจ  ไม่คิดว่าศีลนี้ ส�ำคัญ  แม้ผู้เขียนจะบอกอยู่อย่างนี้  ตาเน้ือตาหนังเรามอง เหน็ มนษุ ยม์ อี ย ู่ เหน็ สตั วเ์ ดรจั ฉานมอี ย ู่ แตเ่ รามองไมเ่ หน็ เปรต อสรุ กาย สตั วน์ รก เทวดา พรหม ถามวา่ มไี หม นกั วทิ ยาศาสตร์ ไม่เช่ือว่ามี  แต่ผู้เขียนขอยืนยันว่ามี  เพราะผู้เขียนเองเดิมก็ ไม่เช่ือ  จึงได้ไปพิสูจน์  ไม่ดูด้วยตาเนื้อแต่พัฒนาตาทิพย์ขึ้น มาด ู จึงเห็นรูปนามทีเ่ ป็นทพิ ย์ได้ ทกุ คนสามารถฝกึ จติ ใหเ้ กดิ ตาทพิ ยไ์ ด ้ เงอ่ื นไขนนั้ ไมย่ าก เพียงแค่ปฏิบัติสมถกรรมฐาน  จนกระทั่งจิตต้ังมั่นเป็นสมาธิ แน่วแน่  (ฌาน)  เม่ือน�ำจิตออกจากฌานแล้ว  จะเกิดความรู้ สงู สดุ  ๕ อยา่ ง ทว่ี ทิ ยาศาสตรเ์ ขา้ ไมถ่ งึ  คอื  อภญิ ญา ๕ ไดแ้ ก่ ๑) แ สดงฤทธไ์ิ ด ้ เดนิ บนผวิ นำ้� ได ้ เหาะลอยตวั บนอากาศ ได้ ด�ำดินได ้ (อิทธิวิธิ) ๒) ม ีหูทิพย์ คือได้ยินเทวดาหรือสัตว์เดรัจฉานคุยกัน แม้จะอยู่ในป่าในท่ีห่างไกลเกินประสาทหูจะได้ยิน (ทพิ พโสต) ๓) เจโตปริยญาณ  เป็นปัญญาท่ีล่วงรู้ความคิดของผู้ อน่ื  หรอื รสู้ งิ่ ทเี่ ขาไปกระทำ� มาโดยไมม่ ใี ครบอกกลา่ ว

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 25 ๔) ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ  เห็นภพภูมิในอดีตของ ตัวเองและคนอื่น  ก่อนมาเกิดชาตินี้  เคยเกิดเป็น อะไรมาก่อน ตัวผูเ้ ขียนเองได้เหน็ ชวี ติ ตวั เองในชาติ กอ่ นๆ ถึงกับนำ้� ตาหยดในความโงเ่ ขลาของตนเอง ๕) ตาทิพย์  เห็นผี  (สัมภเวสี)  เห็นเทวดาได้  เห็นรูป นามท่ีเปน็ ทพิ ยไ์ ด้ (ทพิ พจกั ขุ) เหล่าน้ีมีจริงทั้งนั้น  ตัวผู้เขียนเรียนจบสูงสุดทางโลก คอื ระดบั ปรญิ ญาเอกทางวทิ ยาศาสตร ์ ตานมี้ องเหน็ ไดแ้ คม่ นษุ ย ์ กับสัตว์เดรัจฉาน  แต่เมื่อได้ไปฝึกภาวนาที่วัดมหาธาตุฯ ทา่ พระจันทร์ เพยี ง ๗ วนั เท่านั้น กส็ ามารถเหน็ ดว้ ยตาทิพย์ ได้เห็นเทวดา เห็นผีข้างถนน เห็นเจ้าท่ีประจ�ำศาลพระภูมิ  เหล่าน้ีมีอยู่จริงทั้งส้ิน  แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเน้ือ  ตาหนัง ต้องใชต้ าทิพย์หรอื ทิพพจักข ุ ทุกทา่ นในที่นีส้ ามารถ พัฒนาจิตจนเข้าฌานได้  ถ้าท่านท�ำได้แล้ว  ท่านจะเช่ือโดย  ไม่สงสัยเลย  ตาทิพย์มองเห็นได้ชัดกว่าตาเน้ือตาหนังด้วย  ซ�้ำไป ก. มรี ่างกายสมบูรณแ์ ขง็ แรง การบรหิ ารตนเอง เรม่ิ ตงั้ แต ่ ขอ้ หนงึ่  บรหิ ารใหร้ า่ งกาย สมบรู ณแ์ ขง็ แรง เพราะรา่ งกายเปน็ เครอ่ื งมอื ใหจ้ ติ ใชง้ าน ถา้

26 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล เราเจบ็ ไขไ้ ด้ป่วยอยู่บ่อยๆ สามวนั ด ี สว่ี ันไข้ ยอ่ มท�ำงานได้ไม่ เตม็ ท ี่ เราจงึ ตอ้ งมรี า่ งกายทส่ี มบรู ณแ์ ขง็ แรง การจะมรี า่ งกาย สมบรู ณแ์ ขง็ แรงได ้ กต็ อ้ งรบั ประทานอาหารด ี ไขมนั  นำ�้ ตาล ของรสเคม็  ลว้ นไมด่ ตี อ่ สขุ ภาพ ทำ� ใหอ้ ายสุ น้ั  ควรกนิ อาหาร ที่ย่อยง่าย  โดยเฉพาะเม่ือตอนท่ีมีอายุมากข้ึน  เทียบอาหาร ไทยกบั อาหารฝรงั่  เชน่  อาหารทเี่ รยี กวา่ เบอรเ์ กอร ์ จะพบวา่ อาหารฝร่ังอุดมด้วยโปรตีน  ไขมัน  และแป้ง  มีผักน้อย  กิน แลว้ ทำ� ให้ตัวใหญ่ อ้วนเทอะทะ เม่ือครั้งท่ีผู้เขียนไปร่วมบุกเบิกมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมอื่ ป ี พ.ศ. ๒๕๐๙ คนเชยี งใหมม่ รี ปู รา่ งด ี แตเ่ ดยี๋ วน ี้ ผดิ รปู ผิดร่างไปหมดแล้ว  ตัวอ้วนตัน  เม่ือสามปีท่ีแล้ว  ได้มีโอกาส ไปหลวงพระบาง ประเทศสาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว เห็นคนท่ีนั่นแล้ว  นึกถึงคนเชียงใหม่เมื่อห้าสิบปีก่อน  เขามี รปู รา่ งดมี าก และมนี สิ ยั ใจคอเหมอื นกบั เปน็ ญาตพิ นี่ อ้ ง สว่ น เชียงใหม่เด๋ียวน้ีเปล่ียนไปหมดแล้ว  คนมีนิสัยขี้ระแวงสงสัย ไม่เอ้ืออาทรเหมือนก่อน  เห็นเป็นคนแปลกหน้าไปหมด  ผิด กันลิบลับกับคนที่หลวงพระบาง  ที่น่ันทุกคนเหมือนญาติกัน มีความอบอุ่น สนิทสนมกนั  ทง้ั ท่ีไมเ่ คยรู้จกั กนั มากอ่ น ย้อนกลับไปพูดถึงเรื่องอาหาร  ฝร่ังบริโภคอาหารท่ีมี ไขมนั  โปรตนี  และแปง้ มาก มผี กั นอ้ ย คนสงู วยั กนิ มากๆ ทำ� ให้

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 27 มีอายุสั้น  แต่อาหารไทยน้ันตรงข้าม  มีไขมันและโปรตีนน้อย แตม่ แี ปง้ กบั ผกั ผลไมม้ าก ดว้ ยเหตนุ  ี้ รา้ นอาหารไทยทคี่ นไทย ไปเปิดในต่างประเทศ  จึงได้รับความนิยม  เพราะคนอายุมาก กินอาหารไทยจะดี  แต่ถ้ากินแบบอาหารฝรั่ง  จะมีร่างกายที่ ไม่แข็งแรงและจะตายเรว็ อาหารทด่ี  ี อยา่ งเชน่  นำ�้ นมถว่ั เหลอื งทค่ี นจนี ชอบดมื่ กนั   หากด่มื เปน็ ประจ�ำแล้ว จะทำ� ใหเ้ ส้นเลือดมีความยืดหยุ่น คน อายุมากมีเส้นเลือดแข็งตัว  ไม่หยุ่นตัว  หัวใจปั๊มเลือดไปไม่ สะดวก จงึ เกดิ อาการความดนั โลหติ สงู  ทำ� ใหต้ ายเรว็  ถา้ ความ ดนั สงู จนเสน้ เลอื ดแตกในสมอง กจ็ ะโชครา้ ยมาก นเี่ ปน็ เพราะ รบั ประทานอาหารทไ่ี มด่  ี อาหารทดี่  ี เชน่  นำ�้ มนั ถวั่ เหลอื ง นม ถั่วเหลือง  เต้าหู้  เมล็ดทานตะวัน  น�้ำมันงา  น้�ำมันมะกอก (อนั หลงั นดี้ แี ตม่ รี าคาแพง เหมาะสำ� หรบั ผสู้ งู อาย ุ เพราะไมม่ ี ไขมนั อมิ่ ตวั ) นำ�้ มนั ดอกคำ� ฝอย นำ้� มนั รำ� ขา้ ว นำ้� มนั ปลา มไี ขมนั   ทด่ี  ี แตไ่ มม่ คี ลอเลสเตอรอลไปอดุ ตนั เสน้ เลอื ด หากรจู้ กั เลอื ก บรโิ ภคอาหารใหเ้ หมาะกบั วยั  รา่ งกายกจ็ ะสมบรู ณแ์ ขง็ แรงได้ เมอื่ แกต่ วั ลง ควรลดเนอ้ื หม ู เบคอน ไสก้ รอก แฮม ให้ นอ้ ยลง กนิ ปลาใหม้ ากขนึ้  เครอื่ งในสตั วไ์ มค่ วรกนิ  เพราะเปน็ แหล่งรวมเชื้อโรค  เลี่ยงอาหารทอดน้�ำมันเพื่อหลีกเล่ียงสาร กอ่ มะเรง็  เปลย่ี นเปน็ ปง้ิ  ตม้  นงึ่ แทนจะดกี วา่  ยง่ิ เปน็ อาหาร

28 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล ทอดทเี่ ราซอ้ื มาจากนอกบา้ น ยงิ่ ตอ้ งระวงั  เพราะพอ่ คา้ แมค่ า้ บางคนเขาใช้น้�ำมันที่ทอดซ้�ำหลายๆ  ครั้ง  หลายๆ  วัน  ท�ำให้ มสี ารกอ่ มะเร็ง และเดีย๋ วน้ีมีเหตุการณท์ ี่ห้างใหญๆ่  บางหา้ ง ทอดอาหารขาย  เสร็จแล้ว  น�ำน้�ำมันท่ีใช้แล้วไปขายให้พวก พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดอีกต่อหนึ่ง  คนกินจึงเส่ียงต่อการเป็น มะเรง็ มาก เราควรกินเมล็ดธัญพืช  ดื่มนมขาดมันเนย  ลดน้�ำตาล ถ้าไม่ระมัดระวังการบริโภคอาหารจะตายเร็ว  ไขมันก็ควรลด ผู้ใหญ่ไม่ควรดื่มนมที่ใช้ส�ำหรับเล้ียงเด็กเพราะมีไขมันสูงมาก ผใู้ หญด่ ม่ื แลว้  ไขมนั จะอดุ ตนั เสน้ เลอื ด เมอ่ื มอี ายมุ ากขน้ึ ตอ้ ง พิถีพิถันเร่ืองการกิน  ไขมันจากพืชกินได้  ไขมันจากสัตว์ไม่ ควรกนิ  สง่ิ ทคี่ วรกนิ ใหม้ ากคอื ผกั  ผลไม ้ หอม กระเทยี ม และ ข้าวไม่ขัดขาวหรือข้าวกล้อง  ข้าวขัดขาวเหลือแต่กาก  ไม่มีร�ำ มีแต่คาร์โบไฮเดรต  กินมากไม่ดี  เพราะเปลี่ยนเป็นน้�ำตาล ขา้ วกลอ้ งงอกเปน็ ของดมี าก แตค่ อ่ นขา้ งแพง ขนมหวานควร ลดหรืองดบริโภค  ถั่วคั่ว  ถั่วทอด  เกลือ  ผงชูรส  ควรงดให้ หมด ไมบ่ ริโภคไดจ้ ะมีผลดีต่อร่างกาย มะเขอื เทศ มสี ารไลโคพีน (Lycopene) และสารแอนตี้ อ๊อกซิแดนท์  กินตลอดชีวิตท�ำให้ไม่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ซ่ึงเป็นมะเร็งอันดับหนึ่งของผู้ชาย  นอกจากน้ัน  มะเขือเทศ

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 29 ยังมีวิตามินเอ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) และกลูตาเมต (Glutamate) อีกดว้ ย นายจอหน์  เอริ ธ์ มาน ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นโภชนาการ พบวา่   การกนิ ถว่ั เหลอื งสามารถชว่ ยลดคลอเลสเตอรอล ซง่ึ เปน็ ไขมนั ที่ท�ำให้เส้นเลือดอุดตัน  เป็นเหตุให้มีอาการความดันโลหิตสูง ทำ� ใหอ้ ายสุ นั้  และเสย่ี งตอ่ การเกดิ โรคตา่ งๆ ตามมา เสย่ี งตอ่ การเป็นโรคหวั ใจ เพราะฉะนัน้  ควรกินถั่วเหลืองให้มาก เพือ่ ลดคลอเลสเตอรอลอุดตันเสน้ เลอื ด คณะวจิ ยั รว่ ม ๓ มหาวทิ ยาลยั  คอื  มหาวทิ ยาลยั เกษตร  ศาสตรข์ องเรา และมหาวทิ ยาลยั อกี สองแหง่ ในประเทศญป่ี นุ่ วจิ ยั แลว้ พบวา่  ขา่  ตะไคร ้ ใบมะกรดู  ทอี่ ยใู่ นตม้ ยำ� กงุ้  มสี รรพคณุ   ชว่ ยตา้ นมะเรง็ ในระบบยอ่ ยอาหาร มากกวา่ อาหารชนดิ อน่ื ถงึ ๑๐๐  เท่า  เราสามารถน�ำตะไคร้มาทุบๆ  ใส่หม้อต้ม  ใส่ข่า ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป  ต้ม  ด่ืมเป็นน�้ำสมุนไพร  จะดีมาก นอกจากนี้  นักวิจัยชาวเยอรมันยังพบว่า  เม็ดเลือดขาวของ คนท่ีกินอาหารมังสวิรัติ  กินผักเป็นประจ�ำ  สามารถท�ำลาย เซลลม์ ะเรง็ ไดด้ กี วา่ เมด็ เลอื ดขาวของคนกนิ เนอื้ สตั วถ์ งึ สองเทา่ เหล่าน้ีคืออาหารดี  งานวิจัยของสถาบันต่างๆ  มีประโยชน์ที่ เราควรศกึ ษา เราตอ้ งพถิ พี ถิ นั ในการรบั ประทานอาหาร เพอ่ื ถนอมรา่ งกายให้คงอย่ใู นสภาพดพี ร้อมท่ีจะให้จติ ใชท้ �ำงานได้

30 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล ข. มอี ากาศหายใจท่สี ะอาด สง่ิ ตอ่ ไปทตี่ อ้ งระมดั ระวงั ใหด้  ี คอื  อากาศ ในกรงุ เทพฯ มสี ารพษิ มาก เมอื่ เดอื นทแี่ ลว้  ผเู้ ขยี นไดม้ โี อกาสไปทวี่ งั นำ�้ เขยี ว มีโอโซนมาก  ผู้คนท่ีนั่นหน้าแดงแก้มแดงโดยไม่ต้องทาหน้า แม้แต่ผู้ชาย  ยังมีใบหน้าออกสีแดงเร่ือๆ  อากาศดีมาก  ผู้คน ท่นี ่ันแขง็ แรง เพราะไดห้ ายใจเอาออกซเิ จนเขา้ สูป่ อดมาก ได้ สดู โอโซนเข้าไปในรา่ งกายมาก ค. ขยันออกก�ำลงั กาย นอกจากอาหารและอากาศดแี ลว้  ยงั ตอ้ งออกกำ� ลงั กาย ซงึ่ เหมาะสำ� หรบั ผสู้ งู อาย ุ เชน่ ตวั ของผเู้ ขยี นเอง ผใู้ ดมปี ญั หา ข้อเข่าไม่ดี  ก็ใช้วิธีเดิน  เดินไปเดินมาประมาณคร่ึงชั่วโมง พยายามทำ� ใหไ้ ดส้ ปั ดาหห์ นง่ึ อยา่ งนอ้ ยกห็ า้ วนั  นาย Rodney Swayne แหง่ มหาวทิ ยาลยั วสิ คอนซนิ  ทำ� การทดลองโดยเอา หนูถีบจักรใส่กรง  กรงหนึ่งไม่มีจักรให้ถีบ  อีกกรงหนึ่งให้ถีบ จักรนาน  ๓  วัน  เสร็จแล้วจับหนูมาฆ่า  ผ่าดูเส้นเลือดฝอย ในสมอง พบวา่ มเี สน้ เลอื ดฝอยแตกกงิ่ กา้ นสาขามาก สว่ นหนู อกี กรงทไี่ มไ่ ดถ้ บี จกั ร พบวา่ เสน้ เลอื ดฝอยในสมองฝอ่ เหมอื น ต้นไม้ท่ีแคระแกร็น  เขาจึงแนะน�ำว่า  การออกก�ำลังกายเป็น ส่ิงส�ำคัญ  จะถีบจักรยานก็ได้  หรือเดินก็ได้  ฝรั่งเขาศึกษาคน

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 31 แปดพันกว่าคน  ศึกษาต่อเน่ือง  ๓  ปี  พบว่าการเดิน  การท�ำ สวน การข่ีจักรยานอยูเ่ สมอ ท�ำให้การตกเลอื ดในล�ำไส้ลดลง คร่งึ หนงึ่ ง. มอี ารมณผ์ อ่ งใส การบรโิ ภคอาหารด ี การสดู อากาศบรสิ ทุ ธ ์ิ และการออก ก�ำลังกาย  ล้วนหยุดไม่ได้ทั้งน้ัน  นอกจากนี้  อารมณ์ก็ต้อง ดีด้วย  และต้องพักผ่อน  (เอกเขนก)  บ้าง  ถ้าใครนอนหลับ แล้ว ตื่นขึ้นมาสดชื่น กระปร้ีกระเปร่า ท�ำงานได้ แสดงว่า ร่างกายของเขาได้พักผ่อนเพียงพอแล้ว  และยิ่งถ้าเราฝึกจิต ให้เป็นสมาธิ  ใน  ๒๔  ช่ัวโมง  นอนเพียง  ๔  ชั่วโมงก็เพียง พอแลว้ เพราะเมอ่ื จติ ตง้ั มนั่ เปน็ สมาธ ิ การฟน้ื ตวั ของรา่ งกาย จะท�ำได้เรว็ ทำ� ให้รา่ งกายแข็งแรง ตอนทผ่ี เู้ ขยี นไปศกึ ษาตอ่ ทปี่ ระเทศองั กฤษนาน ๔ ป ี เรยี น  หนักมาก  ได้ฝึกท�ำสมาธิโดยไม่รู้วิธี  คือท�ำจิตว่างโดยไม่คิด อะไรเลย  ซึ่งมีผลท�ำให้ท�ำงานได้มาก  นอนเพียง  ๔  ช่ัวโมงก็ เพียงพอ ทเ่ี หลอื อกี  ๒๐ ชว่ั โมง เรยี นหรอื ท�ำงานตลอดเป็น เวลา ๔ ป ี และเมอื่ ครงั้ ทไี่ ปฝกึ จติ ทวี่ ดั มหาธาตฯุ  กน็ อนเพยี ง  ๔  ชั่วโมงต่อวัน  นั่ง  เดินจงกรม  ปฏิบัติวันละ  ๒๐  ชั่วโมง  ก็ เพยี งพอตอ่ การพกั ผอ่ น แตพ่ ระปา่ ทา่ นนอนเพยี งวนั ละชวั่ โมง

32 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล เดียว บางทกี แ็ คค่ ร่ึงช่ัวโมงด้วยซ้ำ� ไป เพราะฉะน้ัน การนอน การพกั ผอ่ นถา้ นอนดว้ ยจติ สงบจากอารมณจ์ ะดที ส่ี ดุ  พลงั งาน จะฟื้นตัวเร็ว  ส�ำหรับคุณผู้หญิงบางคนสามารถวัดได้ง่ายๆ คือ ถ้ารอบเดือนมาไม่ตรงเวลา แสดงว่าอารมณ์ไม่ดี แต่ถ้า อารมณ์ดี  รอบเดือนจะมาเป็นปกติตรงเวลา  เพราะจิตกับ ร่างกายมีความสัมพันธ์กัน  คนท่ีมีสมาธิและมีอารมณ์ดีจะมี อตั ราการหายใจและอตั ราการเตน้ ของหวั ใจตำ�่  (หวั ใจเตน้ ชา้ ) แรงดันเลือดเป็นปกติ  การใช้ออกซิเจนลดลง  สารแลคเตท (Lactate) ในเลือดซึ่งท�ำให้เกล็ดเลือดไม่จับตัวก็ลดลงเป็น อัตโนมัติ คนมักเครียด  หัวใจท�ำงานหนัก  ตายเร็ว  คนไม่เครียด มีอารมณ์  สงบ  หัวใจเต้นปกติ  อายุยืน  ผู้ท่ีมีจิตเป็นสมาธิ จะมีสารเอน็ ดอรฟ์ ิน (Endorphin) เพิ่มขึ้น ท�ำใหม้ ีความสุข มีสารอะซิทิลโคลีน (Acetylcholine) เพิ่มขึ้นส่งผลให้มีการ ทำ� งานของประสาทไวขน้ึ  มสี ารโดปามนี (Dopamine) เพม่ิ ขนึ้ ท�ำให้ความจ�ำดีข้ึน มีสารเซโรโทนิน (Serotonin) เพ่ิมข้ึน ท�ำให้นอนหลบั ดีขึน้  มีสารเมลาโทนนิ (Melatonin) เพมิ่ ขึ้น ทำ� ใหแ้ กช่ า้ ลง ทกุ คนคงเคยเหน็ คนแกม่ าแลว้  หนงั เหยี่ วๆ ไม่ น่ามอง  ผู้เขียนได้เคยพบท่านผู้หนึ่งที่อยู่ในป่าภูพาน  อายุ ประมาณ  ๒๕๐  ปี  ท่านเกิดตอนสร้างกรุงเทพฯ  ผิวหนัง เห่ียวยน่ มากๆ

กอ่ นท่ีเราจะไปบริหารคนอ่นื เราตอ้ งบรหิ ารตวั เองให้ไดก้ อ่ น



เคลด็ ลบั อายยุ ืน ผู้เขียนจึงอยากจะย้�ำว่า  ผู้ใดประสงค์จะมีอายุยืนยาว ต้องบริหารตัวเอง  ให้มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง  มีอาหารดี บรโิ ภค มอี ากาศดหี ายใจ มกี ารออกกำ� ลงั กาย มกี ารพกั ผอ่ นดี ถา่ ยอจุ จาระสมำ�่ เสมอ และมอี ารมณด์  ี เรอ่ื งอารมณด์  ี ผเู้ ขยี น เคยพบชายคนหน่งึ  อายุประมาณ ๙๓ ป ี เปน็ ชาวบา้ น ไมใ่ ช่ ชาวเมือง  ปีนอยู่บนต้นมะขาม  เก็บฝักมะขามมาต้มกิน  เม่ือ ทา่ นลงมา ผเู้ ขยี นกเ็ ดนิ เขา้ ไปหาแลว้ ยกมอื ไหวพ้ รอ้ มกบั ถามวา่ อะไรเปน็ เหตทุ ำ� ใหม้ อี ายยุ นื และแขง็ แรง จากคำ� ตอบของทา่ น ผเู้ ขียนจับได ้ ๓ ประเดน็  คอื

36 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล ๑) เคล่ือนไหวท�ำอะไรด้วยตนเอง  ไม่ใช้คนอ่ืนให้ท�ำ แทน หมายถึงออกก�ำลังกายสม�ำ่ เสมอ ๒) ก นิ อาหารรอบบา้ น เกบ็ มาปบุ๊  ตม้ แกงกนิ ทนั ท ี ไม่ กินอาหารแบบชาวเมือง  บางทีแช่ตู้เย็นไว้นาน สามเดือน  หกเดือน  วิตามินหมดไปแล้ว  แต่คุณปู่ ทา่ นกนิ อาหารสดใหม ่ คนกรงุ กนิ แตซ่ ากอาหาร ขา้ ว ขาวมีแต่สารคาร์โบไฮเดรต  พวกวิตามินและเกลือ แร่ถูกขัดสีออกไปพร้อมกับร�ำข้าว ๓) มีอารมณ์ดี  ข้อน้ีส�ำคัญที่สุด  ท่านบอกว่า  ท่านไม่ เอาเรอื่ งของครอบครวั  เรอ่ื งของคนอน่ื มาทบั ถมใจ ตนเอง มใี จเปน็ อสิ ระ นสี่ ดุ ยอด ไมเ่ อาเรอ่ื งของคน อื่นมาใส่ตัว  เรื่องของคนอ่ืนทิ้งไปให้หมด  แต่มีคน บางคน เอาเงนิ ไปเช่าเปิดชอ่ งโทรทศั นด์ ูและฟงั คน เขาด่ากัน  น่ีเป็นการกระท�ำท่ีไม่ฉลาดเลย  ท�ำลาย ตัวเองด้วยการเอาบาปเข้าตัวตลอด  เครียดตลอด กต็ ายเร็วเทา่ นัน้ เอง อีกครั้งหน่ึง  ผู้เขียนพบและพูดคุยกับคุณพี่ผู้หญิงอาย ุ ๙๐ ป ี กจ็ บั จดุ เคลด็ ลบั ได ้ ๓ ขอ้ เหมอื นกนั  กนิ อาหารสดใหม่ รอบบา้ น ออกกำ� ลงั กายดว้ ยการทำ� อะไรๆ ดว้ ยตวั เอง ลดการ

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 37 ช้ีน้ิวสั่ง  และมีอารมณ์ดี  ส�ำคัญที่สุด  คือไม่เอาเร่ืองของคน อื่นมาเป็นเร่ืองของตัวเอง  แต่บางคนเจอรถคันหน้าขับช้าก็ หงุดหงิด ด่าเขา รถขับจ่อหลังก็หงุดหงิด ด่าเขาอีก นี่มัน เร่ืองคนอื่นท้ังน้ัน  ท�ำไมไม่ปล่อยวาง  รถจะติด  น้�ำจะท่วม  มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ  ก็เราอยู่ในสภาวะแวดล้อมอย่างน้ี เรากต็ อ้ งพบเจอบา้ งเปน็ ธรรมดา ขอใหร้ กั ษาอารมณใ์ หด้ เี ถดิ แลว้ อายจุ ะยนื เหล่านี้คือด้านที่เกี่ยวกับร่างกาย  ต้องบริหารร่างกาย ให้ดี ให้สมบูรณแ์ ข็งแรง ก. มสี ตสิ มั ปชญั ญะครองใจ คำ� วา่  “สต”ิ  หมายถงึ  ระลกึ ได ้ นกึ ได ้ ไมล่ มื  “สมั ปชญั ญะ” คือตัวปัญญา  รู้ว่าดีแล้วท�ำ  รู้ว่าไม่ดีแล้วไม่ท�ำ  ตรงกันข้าม คนสมยั นน้ี อ้ ยมากทใ่ี ชส้ ตสิ มั ปชญั ญะ มกั จะใชอ้ ารมณเ์ ปน็ หลกั ใชอ้ ารมณน์ ำ� ทางใหก้ บั ชวี ติ  เหน็ จง้ิ จกสองหางกค็ ดิ วา่ มนั เลข อะไร ไปกราบไปไหวก้ นั มาก วนั กอ่ นไปบรรยายทป่ี ราจนี บรุ  ี เหน็   แผ่นป้ายโฆษณาวดั แห่งหน่ึง วดั นี้มีการสรา้ งสตั ว์ (รปู นาม) ประหลาดตั้งไว้  คนก็เข้าไปกราบไหว้บูชา  พระพุทธเจ้าโคดม ไมไ่ ดส้ อนอยา่ งนน้ั  ทา่ นสอนใหเ้ ราเคารพนบั ถอื ธรรมและวนิ ยั ไมเ่ อาสงิ่ อน่ื ใดมาเปน็ ทพ่ี งึ่ เคารพบชู า ทำ� ไมเราจงึ ไมเ่ อาธรรม

38 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล และวนิ ยั มาไวใ้ นใจเรา นจ้ี งึ จะสดุ ยอด แตค่ นจำ� นวนหนงึ่  มกั ใชอ้ ารมณน์ ำ� ทางใหก้ บั ชวี ติ  ไมใ่ ชส้ ตสิ มั ปชญั ญะนำ� ทางใหก้ บั ชีวิต ผู้เขียนต้องขออภัย  วันนี้พูดเร่ืองจริง  ถ้าท�ำให้ใครไม่ สบายใจ ยกโทษใหด้ ว้ ย บางคน เอ...วนั ทสี่ บิ หกน ่ี หวยจะออก  เลขอะไร  ไปซื้อลอตเตอร่ีแล้ว  นี่จิตเป็นทาสของอบายมุข ยงุ่ เกยี่ วกบั การพนนั  ชวี ติ กว็ บิ ตั  ิ เงนิ เดอื นออกมาตอนสน้ิ เดอื น เพ่ือนชวนไปก๊งเหล้า  ท�ำให้มีศีลไม่ครบ  ตายแล้วจะไปไหน กไ็ ปเกิดใหม่ตำ่� กวา่ มนุษย์เท่านั้น ส่งิ ตา่ งๆ เหลา่ น้ ี ตอ้ งใช้สต ิ สมั ปชญั ญะสอ่ งนำ� ทางใหก้ บั ชวี ติ  รวู้ า่ ดแี ลว้ คดิ  พดู  ทำ�  รวู้ า่ ไม่ดีแล้วไมค่ ิด ไม่พูด ไมท่ ำ�  แลว้ บุญเทา่ นนั้ จึงจะสั่งสมอย่ใู น ดวงจติ ค�ำวา่  “ด”ี  คืออะไร ดี คอื  มีพฤตกิ รรมตอ้ ง ๑) ไม่ผิดกฎหมาย ๒) ไมผ่ ิดศลี ๓) ไม่ผดิ ธรรม

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 39 การคิด  พูด  ท�ำ  โดยไม่ผิดกฎหมาย  ไม่ผิดศีล  ไม่ผิด ธรรม  น่ีคือ  ดี  เร่ืองไม่ผิดกฎหมายนี่  พอจะเห็นได้ง่าย  ส่วน เรื่องไม่ผิดศีลน่ีลึกข้ึน  อาชีพบางอย่าง  ปัญญาทางโลกบอก ว่าไม่ผิดกฎหมาย  ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว  เช่น  เลี้ยงส่ิงมีชีวิตขาย  ไม่ผิดกฎหมายนะ  แต่ผิดศีล  จะเล่าเรื่องจริงให้ฟัง  มีเศรษฐี คนหนง่ึ  เลยี้ งกงุ้ กลุ าดำ� สง่ อเมรกิ า ปหี นง่ึ ๆ ไดเ้ งนิ เปน็ สบิ ลา้ น ตอนหลงั ลม้ ละลาย เดย๋ี วนตี้ อ้ งมารบั จา้ งขบั รถ นค่ี อื ผลของ การทำ� อาชีพทไี่ ม่ผิดกฎหมายแต่ผดิ ศลี  ตอนแรกกไ็ ดเ้ งินมาก ไมผ่ ดิ กฎหมายดว้ ย กค็ ดิ วา่ มนั ด ี เขามาเลา่ ใหผ้ เู้ ขยี นฟงั  ผเู้ ขยี นก็ สงสาร เพราะเขาไมใ่ ช้สตสิ มั ปชัญญะสอ่ งน�ำทางให้กับชีวิต  อกี รายหนงึ่ เรยี นจบมาจากมหาวทิ ยาลยั ชอื่ ดงั มาก เขา จบแล้วมีบริษัทจ้างไปสร้างโรงฆ่าไก่  พอสร้างส�ำเร็จก็ได้เงิน มาก้อนหน่ึง  บริษัทเห็นว่าท่านผู้น้ีสร้างโรงฆ่าไก่ได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ จงึ จา้ งตอ่ ใหส้ รา้ งโรงฆา่ หม ู เขาไดส้ รา้ งอกี  ได้ เงนิ มาอกี กอ้ นหนงึ่  รวมเปน็ สองกอ้ น จงึ เอาเงนิ ทไ่ี ดไ้ ปลงทนุ ทำ� ธรุ กจิ ของตวั เอง ปรากฏวา่ เจง๊  ลม้ ละลาย นา่ สงสาร เพราะ เขามองไมอ่ อก คดิ ไดเ้ พยี งแตว่ า่ ไมผ่ ดิ กฎหมาย กน็ กึ วา่ ด ี แต่ ท่จี รงิ มนั ผิดศลี จึงมผี ลทำ� ใหถ้ กู ฟอ้ งล้มละลาย ค�ำว่า  “ดี”  ต้องไม่ผิดกฎหมาย  ไม่ผิดศีล  ไม่ผิดธรรม หลายทา่ นคงคดิ วา่  แลว้ มนั จะมอี าชพี อะไรเหลอื ใหเ้ ราทำ�  ทา่ น

40 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล ลองไปคดิ ด ู ขณะนคี้ นไทยมเี กอื บหกสบิ หา้ ลา้ นคนแลว้  เกอื บ หกสิบหา้ ลา้ นคนนี่ เวลาตายต้องเอาบรรจุในโลงศพเกอื บทงั้ น้ัน  ท�ำไมไม่คิดท�ำธุรกิจโลงศพล่ะ  จัดการศพ  แต่เราท�ำไม่ เหมอื นคนโบราณ ทำ� ธรุ กจิ งานศพแบบใหม ่ รา้ นเปดิ คหู าเดยี ว มีพนักงานคนเดยี วคือตัวเอง โลงศพมีก่ีแบบกถ็ า่ ยรปู ใสไ่ ว้ใน แคตตาล๊อก  ไม่ต้องต้ังโชว์ของจริง  แต่บอกราคาก�ำกับไว้ รายชื่อวัดจัดเรียงไว้พร้อมหมายเลขโทรศัพท์  ช่ือพระสงฆ์ท่ี สวดศพ  รายช่ือสัปเหร่อ  ร้านท�ำดอกไม้งานศพ  ใส่ไว้พร้อม ทกุ อยา่ งรวมอยใู่ นคหู าเดยี ว พอคนเขา้ มาจอดรถ กเ็ ลอื กเอา ตามกำ� ลงั เงนิ ทมี่  ี เปน็ one-stop service พอเขาสงั่ เสรจ็  เรา ก็จัดการติดต่อทุกอย่างทางโทรศัพท์  จัดอาหารจากร้านนี้ไป เสริ ฟ์ ทน่ี น่ั ทน่ี  ่ี วนั นน้ั วนั น ี้ จดั ดอกไมใ้ หไ้ ปแตง่ ทน่ี นั่ ทนี่  ี่ เรยี บรอ้ ย ทกุ อยา่ ง อยา่ งนท้ี ำ� ไมคนไมค่ ดิ  ไมผ่ ดิ ทง้ั กฎหมาย ไมผ่ ดิ ทง้ั ศลี ไมผ่ ดิ ทงั้ ธรรม เดย๋ี วนก้ี ม็ คี นทำ� แนวนแ้ี ลว้ เหมอื นกนั  แตไ่ มใ่ ช่ โลงศพ แต่เปน็ ดา้ นคอมพวิ เตอร ์ เปดิ บรษิ ทั ข้นึ มา พนักงาน มสี องคนคอื สามแี ละภรรยา ปหี นง่ึ ๆ ทำ� เงนิ ไดห้ ลายลา้ นบาท พอมีลูกค้าส่ังของเข้ามา  ก็โทรศัพท์ส่ังรถจักรยานยนต์ให้ไป เอาชิ้นส่วนมาส่งที่บ้าน  พอประกอบแล้วเสร็จ  ก็เรียกรถ จักรยานยนต์มา ให้น�ำคอมพวิ เตอรท์ ่ีประกอบแล้วไปส่งถึงที่ งานประเภทนี้ ไมผ่ ดิ กฎหมาย ไมผ่ ิดศลี  และไมผ่ ิดธรรม

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 41 วันก่อนไปพบคนขายพวงมาลัยอยู่ท่ีส่ีแยก  แต่งสูทผูก เน็คไท  ทุกอย่างต้องทันสมัย  คนจึงเรียกใช้บริการ  เม่ือสอง วันก่อนไปต่อทะเบียนรถยนต์  (ป้ายวงกลม)  สมัยก่อนต้อง รอขา้ มวนั  หรอื ไปเชา้  กวา่ จะไดร้ บั ปา้ ยวงกลมกเ็ ปน็ ตอนบา่ ย แต่สมัยน้ีสองนาทีเท่าน้ันเอง  ไปย่ืนเร่ืองปั๊บ  จ่ายเงินปุ๊บ  ได้ ปา้ ยวงกลมออกมาแลว้  เพราะฉะนนั้  ผเู้ ขยี นจงึ เหน็ วา่ เราตอ้ ง คดิ กนั ใหมใ่ หเ้ ขา้ กบั ยคุ สมยั  แตท่ งั้ นต้ี อ้ งเปน็ ธรุ กจิ ไมผ่ ดิ กฎหมาย ไม่ผิดศลี และไมผ่ ดิ ธรรม ข. ยดึ ม่ันพรหมวหิ าร มพี รหมวหิ าร ๔ ไดแ้ ก ่ เมตตา กรณุ า มทุ ติ า อเุ บกขา เป็นคุณธรรมส�ำคัญส�ำหรับคนท่ีเป็นหัวหน้าคน  โดยเฉพาะ เมตตา ซง่ึ หมายถงึ อารมณท์ ส่ี งบเยน็  ไมม่ โี ทสะ ไมม่ คี วามโกรธ ผู้เขียนมีคนศรัทธามาก  เพราะเจริญพรหมวิหารอยู่ทุกขณะ ตน่ื  แมเ้ คยถกู คนพดู ดา่ ในทส่ี าธารณะ กว็ างตวั สงบเฉย ทง้ั นี้ เป็นเพราะรู้ว่าคนเรามีหลากหลาย  มีอะไรไม่สบอารมณ์  เขา ก็ด่าเอา  แต่จิตของเราไม่กระเพ่ือม  เพราะเรารู้ว่าเป็นเร่ือง ธรรมดา นเี่ พราะเราบรหิ ารตวั เองได ้ ผเู้ ขยี นคดิ วา่  “เอาเถอะ เดย๋ี วกต็ ายจากกนั แลว้ ” ทำ� ใหใ้ จเยน็  อกี อยา่ ง เปน็ เรอื่ งธรรมดา ของคน  เวลาไม่สบอารมณ์  มักมีพูดค�ำไม่น่าฟังออกไป  เรา เองก็เคยเป็นเช่นนั้นมาก่อน  จะเป็นผู้ใหญ่ได้  มันต้องใจเย็น

42 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล และเมอ่ื เยน็ ไดแ้ ลว้  คนจะศรทั ธา การจะรกั ษาใจไมใ่ หก้ ระเพอื่ ม จะต้องฝกึ จิตให้มพี รหมวหิ ารค้มุ ครองทกุ ขณะต่นื ค. เว้นอคติ ต้องเว้นอคติ  ชอบ  ชัง  หลง  กลัว  เหล่าน้ีคนท่ีเป็น ผู้ใหญ่ต้องเว้นให้ได้  ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วเว้นไม่ได้  คนจะต�ำหนิ นินทา  ถ้าเว้นได้  ก็ถือเป็นยอดคน  ตัวผู้เขียน  มีคนมาขอให้ เป็นประธานท่ีปรึกษา  คือ  ไม่ด�ำเนินการเองเพราะแก่แล้ว ทำ� ใหเ้ ราตอ้ งเวน้ อคต ิ ชอบ ชงั  หลง กลวั  การตดั สนิ ใจเพราะ อารมณ์  ชอบคนนั้น  กลัวคนน้ี  อย่างน้ีไม่ได้  เป็นผู้ใหญ่ต้อง เวน้ อคตใิ หไ้ ด ้ ถา้ เปน็ ผใู้ หญไ่ มเ่ วน้ อคต ิ กไ็ ปไมร่ อด สงั คมยอ่ ม ไม่มีความสงบเกดิ ข้นึ ง. มชี วี ิตเปน็ ผู้ให้ ตอ้ งทำ� ตวั เปน็ ผใู้ ห ้ ไมใ่ ชผ่ เู้ อา คนทมี่ องชวี ติ ไดไ้ มย่ าวไกล มกี ารประพฤติคอรร์ ัปช่นั กนั มาก ทำ� งานแต่ละคร้ัง คิดวา่ ตน จะได้ส่วนแบ่งเท่าไร  อย่างน้ีชีวิตย่อมไปไม่รอดจากการตาย แลว้ ตอ้ งไปเกดิ เปน็ เปรต ดงั นน้ั  ผบู้ รหิ ารหรอื ผใู้ หญต่ อ้ งทำ� ตวั เปน็ ผใู้ ห ้ ผใู้ หญท่ ที่ ำ� ตวั เปน็ ผเู้ อา จะถกู ตำ� หนจิ ากคนในสงั คม

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 43 หลกั ธรรมทง้ั  ๕ ขอ้ น ้ี ควรจะนำ� มาใชบ้ รหิ ารตนเองให้ ไดก้ อ่ น แล้วจงึ จะไปบรหิ ารคนอน่ื  สรปุ ใหฟ้ ังอกี ครั้ง คือ ๑) รักษาร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง  (มีการบริโภค อาหารดี  มีอากาศดีหายใจ  มีการออกก�ำลังกายด ี มอี ารมณด์ ี) ๒) ใช้สติสัมปชัญญะน�ำทางในการท�ำงานและด�ำเนิน ชีวิต ๓) มพี รหมวหิ ารคมุ้ ครองใจแลว้ ยอ่ มทำ� ใหอ้ ารมณส์ งบ เยน็ ๔) เวน้ อคตหิ รอื ความลำ� เอยี ง เพอ่ื ไมใ่ หถ้ กู ครหานนิ ทา ๕) ท�ำตัวเป็นผู้ให้  แล้วจะท�ำให้สังคมมีความสมบูรณ์ บรบิ รู ณ์ คุณธรรม  ๕  ข้อนี้  ถ้าน�ำมาไว้ในใจเราได้  จะเป็นการ พัฒนาตนเองให้มีคนศรัทธา ผู้ใหญ่ท่ีลูกน้องศรัทธาย่อม ท�ำงานได้ง่าย



ดวงตาเหน็ ธรรม ตัวอย่างในคร้ังพุทธกาล  อุปติสสะ  คือพระสารีบุตร สมยั ทเ่ี ปน็ พราหมณห์ นมุ่  กอ่ นมาบวชเปน็ พระสงฆอ์ ยใู่ นพทุ ธ ศาสนา ไดพ้ บพระอรหนั ตอ์ สั สชกิ ำ� ลงั เดนิ บณิ ฑบาต มอี ริ ยิ าบถ สงบเสงี่ยม  งดงามน่าเลื่อมใสมาก  จึงเกิดเป็นความศรัทธา เลื่อมใส  เดินตามตอนท่านบิณฑบาต  จนกระท่ัง  พระอัสสชิ บรโิ ภคอาหารและลา้ งเชด็ ถบู าตรจนแลว้ เสรจ็  จงึ ไดข้ อใหพ้ ระ อสั สชิสง่ั สอนตนบ้าง

46 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล พระอสั สช ิ : อาตมาเปน็ พระบวชใหมย่ งั ไมร่ อู้ ะไรมากนกั แตศ่ าสดาของอาตมาคอื พระพทุ ธโคดม มปี กตติ รสั วา่  “สรรพสง่ิ เกิดข้ึน  ย่อมมีเหตุท่ีท�ำให้เกิด  พระศาสดาตรัสเหตุแห่งธรรม นัน้  และตรัสถงึ ความดับไวด้ ว้ ย พระศาสดามปี กติตรสั ดงั น”้ี อปุ ตสิ สะ น่งั ฟงั คำ� กล่าวของพระอสั สชิดว้ ยความสงบ แล้วใช้ปัญญาพิจารณาส่ิงที่ได้ยินได้ฟังโดยแยบคาย  (โยนิโส มนสกิ าร) ฉบั พลนั กร็ เู้ หน็ เขา้ ใจดว้ ยจติ อยา่ งถอ่ งแทว้ า่  สรรพสง่ิ เกดิ ข้นึ ตอ้ งมีเหตทุ ี่ท�ำให้เกดิ  เมื่อเหตุดับ สรรพสง่ิ ยอ่ มดบั ไป ดว้ ย จงึ เกดิ ดวงตาเหน็ ธรรม เปน็ พระโสดาบนั บคุ คล ในขณะ ทยี่ งั อยใู่ นเพศฆราวาส จงึ ไดน้ ำ� ความเรอ่ื งนไี้ ปบอกเลา่ ใหเ้ พอื่ น โกลิตะฟัง  เมื่อพูดจบแล้ว  จิตของโกลิตะได้บรรลุโสดาบัน อรยิ บคุ คลตามไปดว้ ย ทง้ั สองจงึ พากนั ไปบวช เปน็ พระสารบี ตุ ร และ พระมหาโมคคลั ลานะ อยใู่ นพทุ ธศาสนา ปฏบิ ตั ธิ รรมอยู่ ได้ไม่นานก็บรรลุอรหัตตผล  และได้เป็นคู่อัครสาวกช่วยเผย แพรธ่ รรมของพระพทุ ธโคดมจนสิ้นอายุขยั อกี คนหนงึ่ คอื พาหยิ ะ เมอ่ื รวู้ ่าพระพทุ ธเจา้ มาตรสั รอู้ ยู่ ในโลกแล้ว  ก็ดีใจมาก  เกิดปีติเต็มท่ี  ออกเดินทางหลายคืน หลายวัน  จนไปถึงวัดเชตวัน  เมืองสาวัตถี  เมื่อไปถึงก็ถาม ภิกษุในวัดว่า  พระพุทธเจ้าอยู่ท่ีใด  ได้รับค�ำตอบว่า  เสด็จไป บณิ ฑบาตอยใู่ นเมอื งสาวตั ถ ี พาหยิ ะกต็ ามไปทนั ท ี เหน็ พระพทุ ธ

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 47 โคดมกำ� ลังทรงด�ำเนินอยู่ กไ็ ด้กล่าวข้ึนวา่ พาหยิ ะ : ตถาคต ทรงโปรดสอนธรรม ใหก้ บั ขา้ พเจา้ ดว้ ย พระพทุ ธโคดม : พาหยิ ะขณะนเี้ ปน็ เวลาบณิ ฑบาต ไมใ่ ช ่ เวลาสัง่ สอนธรรม หลงั จากทพี่ ระองคต์ รสั เสรจ็ แลว้  กท็ รงพระราชดำ� เนนิ บิณฑบาตต่อไป  เม่ือพาหิยะทูลขอให้ทรงสอนธรรมเป็นครั้ง ทสี่ อง พระพทุ ธโคดมทรงนง่ิ  มไิ ดต้ รสั สง่ิ ใดออกจากพระโอษฐ์ ปตี ทิ ม่ี อี ยเู่ ตม็ ในดวงจติ ของพาหยิ ะคอ่ ยๆ ลดลง พาหยิ ะคดิ วา่ ตนเองคงหมดหวงั ทจ่ี ะไดฟ้ งั ธรรมจากพระโอษฐแ์ ลว้  แตก่ ย็ งั แขง็ ใจถามเป็นครง้ั ท่ีสามว่า พาหยิ ะ : ขอใหพ้ ระองคท์ รงสอนธรรมใหก้ บั ขา้ พเจา้ ดว้ ย ในทส่ี ดุ พระพทุ ธโคดมไดพ้ จิ ารณาเหน็ วา่  ปตี ทิ อี่ ยใู่ นดวง จิตของพาหิยะได้ลดลงแล้ว  พอจะมีที่ว่างรินเติมธรรมเข้าไป บรรจุอยูใ่ นดวงจติ ของพาหยิ ะได ้ จงึ มพี ระเมตตาท่จี ะสงั่ สอน ธรรมใหก้ ับพาหิยะไดแ้ ลว้  จึงตรสั ว่า

48 จ ร ิ ย ธ ร ร ม สํ า ห ร ั บ ผ ู้ บ ร ิ ห า ร แ ล ะ ธ ร ร ม า ภ ิ บ า ล พระพุทธโคดม  :  พาหิยะ  เม่ือเห็นสักแต่ว่าเห็น  เมื่อ ไดย้ ินสักแต่วา่ ได้ยิน เม่ือทราบสกั แตว่ า่ ทราบ เม่อื รู้สึกสกั แต่ ว่ารสู้ ึก พาหิยะผู้ปฏิบัติธรรมจนมีจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิมานาน ตงั้ แตป่ ลายพทุ ธกาลของพระกสั สปพทุ ธเจา้  แตย่ งั ไมส่ ามารถ พัฒนาจิตไปสู่ความพ้นทุกข์ได้  เมื่อมาได้ยินได้ฟังธรรมจาก พระโอษฐข์ องพระพทุ ธโคดม จงึ ไดใ้ ชจ้ ติ ทน่ี ง่ิ เปน็ สมาธ ิ พจิ ารณา ธรรมโดยแยบคาย  (โยนิโสมนสิการ)  แล้วท�ำให้จิตปริวรรต เขา้ สอู่ รหตั ตผล เปน็ พระอรหนั ตไ์ ดใ้ นขณะทย่ี งั ครองเพศเปน็ ฆราวาส ยังมีอยู่อีกคนหน่ึง  คือ  เด็กหญิงวิสาขา  มีดวงตาเห็น ธรรมเปน็ พระโสดาบนั ตง้ั แตม่ อี ายไุ ดเ้ จด็ ขวบ เมอ่ื ชวี ติ เจรญิ วยั เป็นสาว  จึงได้แต่งงานกับลูกชายของมิคารเศรษฐีแห่งเมือง สาวัตถี ไดอ้ ยู่กนิ กนั กับสามีจนมบี ตุ ร-ธิดาได้มากถงึ  ๒๐ คน นางไดส้ รา้ งมคิ ารมาตปุ ราสาทประจำ� วดั บพุ พาราม และไดน้ ำ� ถวายแด่พระพุทธเจ้าโคดมและพระสงฆ์สาวก  นางได้รับการ ยกยอ่ งจากพระพทุ ธโคดมวา่  เปน็ ผมู้ คี วามยอดเยยี่ ม (เอตทคั คะ) ในบรรดาทายิกาทั้งปวง

ด ร . ส น อ ง  ว ร อ ุ ไ ร 49 นอกจากน้ี  ณ  ที่ริมฝั่งแม่น�้ำยมุนา  อันเป็นท่ีต้ังของ กรุงโกสัมพี  แคว้นวังสะ  ท่ีเมืองนั้นมีเศรษฐีอยู่  ๓  คน  คือ โฆสกเศรษฐ ี ปาวารกิ เศรษฐ ี และกกุ กฎุ เศรษฐ ี ไดม้ โี อกาสฟงั ธรรมจากพระโอษฐ ์ แลว้ บงั เกดิ ดวงตาเหน็ ธรรมเปน็ พระโสดาบนั   เศรษฐที งั้ สามมคี วามศรทั ธาเลอื่ มใส ในธรรมวนิ ยั ของพระพทุ ธ ศาสนามาก  จึงได้สร้างวัดถวายพระพุทธเจ้าไว้คนละวัด  คือ วัดโฆสติ าราม วัดปาวารกิ าราม และ วัดกุกกุฏาราม ผู้มีสภาวธรรมในดวงจิตเป็นพระโสดาบัน  ได้สร้างวัด ถวายพระพทุ ธเจา้ ไวห้ ลายราย เชน่  พระเจา้ พมิ พสิ ารโสดาบนั ได้สร้างวัดเวฬุวันถวายไว้ที่กรุงราชคฤห์  แคว้นมคธ  อนาถ บิณฑิกโสดาบัน  ได้สร้างวัดเชตวัน  ถวายไว้ที่เมืองสาวัตถี แควน้ โกศล แตผ่ ทู้ บ่ี รรลอุ รยิ ธรรมขนั้ ทสี่ งู กวา่  คอื  ขน้ั สกทาคามผิ ล ขนั้ อนาคามผิ ล และขน้ั อรหตั ตผล ไมป่ รากฏวา่ มใี ครสรา้ งวดั ถวาย  ท้ังน้ีเป็นเพราะจิตไม่ตกเป็นทาสของกามแล้ว  ยกเว้น พระสกทาคามยี งั มจี ติ เปน็ ทาสของกามอยา่ งออ่ น จงึ คดิ ทจ่ี ะ เปน็ อสิ ระจากกาม ยง่ิ มสี ภาวธรรมในดวงจติ เปน็ ระดบั อนาคามี เชน่  ปปิ ผลมิ าณพ ซงึ่ ตอ่ มาไดบ้ วชเป็นพระมหากสั สปะ และ ไดเ้ ปน็ ประธานปฐมสงั คายนาพทุ ธศาสนา หลงั จากทพ่ี ระพทุ ธเจา้ เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว  ก็มิได้สร้างวัด  ท้ังที่ตัวเองเคย เป็นเศรษฐี  มีสมบัติมหาศาล  ได้ยกสมบัติท้ังหมดให้ภัททา กาปิลานี  (ภรรยา)  และภรรยาก็ได้ยกสมบัติทั้งหมดให้กับ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook