Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาอังกฤษ ม.ต้น

ภาษาอังกฤษ ม.ต้น

Published by กศน.ตำบลบางใหญ่, 2020-06-25 04:34:55

Description: ภาษาอังกฤษ ม.ต้น

Search

Read the Text Version

1

2 เอกสารสรุปเน้อื หาที่ตอ งรู รายวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ ประจาํ วัน ( English in Daily Life ) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน รหัส พต21001 หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาํ นกั งานสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั สํานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ หา มจาํ หนา ย หนังสอื เรยี นนี้จดั พมิ พดวยเงนิ งบประมาณแผน ดินเพ่ือการศกึ ษาตลอดชีวติ สาํ หรับประชาชน ลิขสทิ ธิ์เปนของสาํ นักงาน กศน.สํานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร

3

สารบัญ 4 คํานํา หนา คําแนะนําการใชเอกสารสรปุ เน้อื หาทต่ี องรู บทที่ 1 การใชภาษาในการส่อื สารความหมายในชีวติ ประจาํ วัน 1 (Language in Daily Life) 1 เรอ่ื งท่ี 1 การทักทายและการกลา วลา (Greeting and Leave Taking) 3 เรื่องที่ 2 การแนะนําตนเองและผูอื่น (Introducing Yourself and Others) 3 เรอ่ื งที่ 3 การใหแ ละการสอบถามขอมลู สวนตวั (Sharing Personal Data) 5 เรอ่ื งท่ี 4 การใชภ าษากาย (Body Language) 8 เร่อื งที่ 5 การพดู โทรศพั ท (Telephone Conversation) 10 กจิ กรรมทา ยบท 13 บทที่ 2 คุณรูสึกอยางไร (How do you feel?) 18 กิจกรรมทา ยบท 20 บทที่ 3 การแสดงความรูสึกตา งๆ (Expression of feeling) 20 เร่อื งท่ี 1 พอใจ/ไมพ อใจ (That’s great/That’s bad) 20 เรอ่ื งที่ 2 สนใจ/ไมส นใจ (Interested/Disinterested) 21 เรื่องที่ 3 ใหก าํ ลงั ใจ/เห็นใจ/ปลอบใจ (Don’t worry./Relax) 23 เรือ่ งท่ี 4 ดใี จ/เสยี ใจ (Happened/Sorry) 25 บทท่ี 4 การพดู แสดงความคดิ รปู แบบตา งๆ (Expression of opinion) 25 เร่อื งท่ี 1 การแสดงความคิดเห็น (Agreement/Disagreement) 26 เรือ่ งที่ 2 การแสดงความตองการและตอบรับ (Need/Want ) 27 เร่อื งที่ 3 การแสดงความชวยเหลือและบริการผอู น่ื รวมท้งั ตอบรับ 28 เร่ืองที่ 4 การกลาวขอบคุณและตอบรับ (Thank you) 28 เร่อื งที่ 5 การพดู ขออนญุ าตและตอบรบั (May I come in ?) 29 เรอ่ื งที่ 6 การพูดขอโทษและตอบรบั (Sorry / Don’t worry) 30 เรื่องที่ 7 การพูดแทรกอยางสุภาพ (Excuse me) 31 กจิ กรรมทา ยบท

สารบญั (ตอ) 5 บทท่ี 5 รปู แบบประโยคในภาษาองั กฤษ (Types of English Sentence) หนา เร่อื งที่ 1 ประโยคบอกเลา 33 เร่ืองท่ี 2 ประโยคคําถาม 33 เรื่องที่ 3 ประโยคปฏเิ สธ 33 เร่ืองที่ 4 ประโยคคาํ สงั่ 34 เรื่องท่ี 5 ประโยคอทุ าน 34 กิจกรรมทายบท 34 35 บทท่ี 6 ประโยคความรวม (Compound Sentence) 37 เรือ่ งที่ 1 สว นประกอบของ Compound Sentence 37 เรือ่ งท่ี 2 ประโยค 2 ประโยคมารวมกันดวยคําเช่อื มที่เหมาะสม 37 เร่อื งท่ี 3 การเชอื่ มประโยคใหเปน Compound Sentence 37 กจิ กรรมทายบท 38 39 บทที่ 7 อดตี กาล ( Past Tense) 39 เรอ่ื งที่ 1 Past Simple Tense 39 เร่ืองที่ 2 Past Continuous Tense 40 กจิ กรรมทายบท 41 บทท่ี 8 ภาษาองั กฤษสําหรบั อาชีพพนักงานขับรถรับจาง 41 เรื่องที่ 1 การพูดภาษาองั กฤษตามมารยาทสังคม 41 และเหมาะสมกับสถานการณ 42 เรือ่ งที่ 2 การพดู แสดงความรสู กึ และแสดงความคดิ เหน็ 42 เรื่องที่ 3 การพดู แสดงความชว ยเหลอื 42 เรอ่ื งท่ี 4 การขออนญุ าต 43 เร่ืองที่ 5 การพดู แทรกอยางสุภาพ กิจกรรมทา ยบท

สารบัญ (ตอ ) 6 บทท่ี 9 ภาษาอังกฤษสําหรับพนักงานบรกิ ารในสถานทต่ี า ง ๆ หนา เรื่องท่ี 1 การกลา วตอนรับลกู คาของพนักงานบริการประเภทตาง ๆ เรือ่ งท่ี 2 ประโยคการใหบรกิ ารความชว ยเหลือและบรกิ าร 44 กิจกรรมทายบท 44 46 เฉลยกิจกรรมทายบท 49 บรรณานกุ รม 50 คณะผูจดั ทํา 56 57

7 คําแนะนําการใชเ อกสารสรปุ เนอื้ หาที่ตองรู หนงั สือเรยี นสรุปเนอื้ หา รายวชิ าแบบเรยี น กศน. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เปนหนังสือสรุปเน้ือหาที่จัดทําขึ้น เพื่อใหผูเรียนท่ีเปนนักศึกษา กศน. สามารถทาํ ความเขาใจ และเรียนรใู นสาระสาํ คญั ของเนื้อหารายวชิ าสาํ คญั ๆ ไดส ะดวก และ สามารถเขา ถงึ แกนของเนอื้ หาไดดีขน้ึ ในการศกึ ษาหนังสือสรปุ เน้อื หารายวชิ า ผเู รยี นควรปฏิบตั ิดังน้ี 1. ศึกษาโครงสรางรายวิชาจากหนังสือใหเขาใจในหัวขอและสาระสําคัญ ผลการเรียนรู ทค่ี าดหวงั และขอบขา ยเน้ือหาของรายวชิ านัน้ ๆ เขา ใจกอน 2. ศึกษารายละเอียดเนอ้ื หาของหนงั สอื สรุปเนื้อหาหนังสอื เรียนเลม น้ี โดยศึกษาแตละบท อยางละเอยี ด ทาํ แบบฝก หัดหรือกิจกรรมตามทีก่ ําหนด และทําความเขาใจในเนื้อหาใหมใหเขาใจ กอนทจ่ี ะศกึ ษาเร่ืองตอ ๆ ไป 3. หากตองการศึกษา รายละเอียดเน้ือหาเพิ่มเติมจากหนังสือสรุปเนื้อหาหนังสือเรียนน้ี ใหผูเ รียนศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสอื เรยี น หรือครูผสู อนของทา น

1 บทท่ี 1 การใชภาษาในการสอื่ สารความหมายในชวี ิตประจาํ วนั (Language in Daily Life) เรื่องท่ี 1 การทกั ทายและการกลาวลา 1.การทักทาย ( Greeting ) และการกลาวลา ( Leave Taking ) เปนการสนทนาท่ใี ชใน ชวี ติ ประจําวันซึ่งแตกตางกันไปตามกาละเทศะ คือ เวลาและสถานภาพของผูพ ดู ดังตัวอยางใน บทสนทนาตอ ไปนี้ หากเปนผสู นทิ สนมคนุ เคยกันจะทักทาย โดยใชค ําวา Hello หรือ Hi สว นผูที่ไมคนุ เคยหรือ สถานภาพตางกนั มักใชค ําทกั ทายตามเวลา เชน -Good morning สวสั ดีตอนเชา เวลา 06.00 ถึง 12.00 น. -Good afternoon เวลา 13.00 น. ถึงกอ นพระอาทติ ยตก -Good evening เวลาหลงั 17.00 น. ข้ึนไป หลงั จากกลาวคาํ ทักทายแลวมกั จะถามทุกขส ขุ ”คณุ สบายดีไหมหรือเปนอยา งไรบาง” โดยใช สาํ นวนท่วี า -How are you ? -How are you today ? -How are you doing ? -How have you been ? สว น สาํ นวนท่ีใชต อบรับ มกั นิยมใชด ังน้ี -Fine, thank you. And how are you ? สบายดี ขอบคณุ แลว คณุ ละ -Nice to see you. หรอื Nice to see you too. ดีใจทไี่ ดพ บคุณ หรือ -Glad to see you. หรือ Glad to see you too. ดีใจทไ่ี ดพ บคุณเชนเดียวกนั บทสนทนา 1.การทกั ทายสาํ หรบั ผทู ค่ี นุ เคยกัน Sri : Hello , Nid , How are you ? Nid : I’m fine thank you , And you ? Sri : Fine , thank .

2 2. การทักทายสาํ หรบั ผทู ่ีไมค นุ เคยหรอื ตางสภาพกนั Miss Kanda : Good morning . Miss Smith. Miss Smith : Good morning . Nice to see you. Miss Kanda : Nice to see you too. กจิ กรรม ฝก สนทนาโตต อบตามบทสนทนาท่ียกใหเปน ตวั อยา งขา งตน 2.การกลาวลา ( Leave taking ) เม่ือลาจากกันมักใชคําวา ลากอน โดยใชคําวา Goodbye หรือ Bye นอกจากนั้นกม็ สี าํ นวนกลา วลาซึ่งใชตามสถานการณตางๆ เชน - See you. แลวเจอกันใหม - See you later. แลวพบกันใหม - See you soon. แลว พบกนั ในไมชา นี้ - Good Day. กลา วลาตอนกลางวนั - Good night กลา วลาตอนกลางคนื - See you tomorrow. แลวพบกนั วันพรงุ นี้ - See you next year. ไวพบกันปหนา การลาในกรณที ี่ระบเุ วลา - See you Sunday. แลวพบกนั วันอาทติ ย - I’d better be on my way. จาํ เปน จะตอ งไปแลว กรณีขอลากลับกอ น - I’ll be back. เดย๋ี วฉนั จะกลับมา เพราะมีธรุ ะสําคญั บทสนทนา Pat : Hi, Peter Peter : Hi, Pat. How are you today ? Pat : Very well , we have meeting on Sunday. Peter : Yes. See you on Sunday. pat : Goodbye. See you soon. Peter : Bye. กิจกรรม ฝกสนทนาโตตอบตามบทสนทนาท่ียกใหเปนตัวอยา งขางตน

3 เรื่องที่ 2 การแนะนาํ ตนเองและผูอนื่ (Introducing Yourself and Others) 1. การแนะนาํ ตนเอง Bob : Hello. My name is Bob. John : Hello. My name is John. How do you do ? Bob : How do you do ? 2. การแนะนําผอู นื่ Suda : Suphit. This is Anne my friend from England. Suphit : How do you do ? Nice to meet you. Anne : How do you do ? Nice to meet you too. กิจกรรม ฝกสนทนาโตตอบตามบทสนทนาที่ยกใหเ ปนตวั อยา งขา งตน เรอื่ งท่ี 3 การสอบถามขอ มลู สว นตัว บทสนทนาที่ 1 Suphit : Suda when were you born ? คณุ เกดิ เมอื่ ไหร Suda : I was born in june , 1990. And you? ฉนั เกดิ เดอื นมิถุนายน ป 1990 แลวเธอละ Suphit : I was born in oct 16 , 1989. ฉนั เกดิ วันที่ 16 ตลุ าคม ป 1989 How tall are you ? And how much do you weigh ? คณุ สูงและมีนาํ้ หนักเทา ไหร Suda : I’m 156 centimeters tall and weigh about 60 Kilograms. ฉันสูง 156 เซนติเมตร และหนกั 60 กิโลกรัม บทสนทนาท่ี 2 Peter : What is your nationality ? คุณมสี ญั ชาติอะไร Anne : I’m American. ฉันสัญชาตอิ เมริกนั Peter : What do you do ? คณุ ทํางานอะไร Anne : I’m a doctor. ฉนั เปนหมอ Peter : How many persons are there in your family ? ในครอบครวั คณุ มีก่ีคน Anne : There are 5 persons in my family. ในครอบครัวของผมมี 5 คน

4 Peter : Do you have any telephone numbers or e-mail address ? คุณมีเบอรโทรศพั ทห รืออีเมลหรอื ไม Anne : Yes , I do. My telephone number 02-2634224 and my mobile number is 082- 2281958 and my e-mail address……………… ( e-mail address ของแตละ บคุ คล ) คะ หมายเลขโทรศพั ทของฉันคือ 02-2634224 และโทรศัพทม อื ถือ คือ หมายเลข 082- 2281958 และ อีเมล........................ กิจกรรม ใหฝ กสนทนาโตต อบตามในบทสนทนาที่ 1-2

5 เรอื่ งที่ 4 การใชภาษากาย ( Body Language ) 1)ภาษาทาทางที่ใชใ นโอกาสตา งๆ What time is it? I don't know (เวลาเทา ไหรแลว) (ผมไมทราบ) Wish me luck! (ขอใหฉนั โชคดี) Walk arm - in - arm in public. Show anger. (ควงแขนกัน) (แสดงอาการโกรธ)

6 Show affection in public. Indicate that you don't understand something. (แสดงความรักในท่สี าธารณะ) (แสดงอาการวา ไมเขาใจ) Victory go up (สัญลกั ษณของชยั ชนะ) (เดนิ ขึ้นไป)

Come here 7 ( กวักมือ ) Bye – bye ( โบกมือ ) This way please. ( ผายมือ ) 2)ทา ทางการปฏบิ ัติตามวฒั นธรรมเจา ของภาษา Hand Shaking Good – bye hug / kiss ( การจบั มอื กนั ) ( การลาดว ยการกอด /จบู ) กิจกรรม ฝก ทําทา ทางภาษากายดงั กลาวขางตน

8 (3) คําศพั ท สํานวน ประโยคและทา ทางทใ่ี ชในการส่ือสารในโอกาสตางๆ เชน 1.คําศพั ท สาํ นวน ประโยคที่ใชส อื่ สารในโอกาสตา งๆ บทสนทนาท่ี 1 Suda : Merry Christmas and many happy returns. ( สุขสันตว ันครสิ ตมาส ) Peter : Merry Christmas and happy new year. ( สขุ สนั ตว ันครสิ ตม าสและสขุ สนั ตว นั ปใ หมนี้ ) Suda : Thanks. Peter : Thank you very much. บทสนทนาที่ 2 John : Happy Valentine’s day. สุขสนั ตว ันวาเลนไทน Anne : Thanks. The same to you . ขอบคุณ คุณก็เชน เดียวกนั นอกจากนยี้ ังมีการใชสาํ นวนในโอกาสอน่ื ๆ เชน - Happy birthday. สขุ สนั ตว ันเกดิ - Congratulation on your graduation. ขอแสดงความยนิ ดีท่ไี ดเปนบณั ฑติ - Congratulation for your new baby. ขอแสดงความยินดีทีม่ ีลูกคนใหม กจิ กรรม ฝก สนทนาโตต อบตามบทสนทนาท่1ี และ2 ตลอดจนฝก ออกเสียงสํานวนทีใ่ ชใ น โอกาสตา งๆ เร่ืองที่ 5 การพดู โทรศพั ท ( Telephone Conversation ) 1. การรบั โทรศพั ทอ ยา งงา ยๆ Peter : Hello. Is Mrs. Brown home ? สวัสดคี รบั มิสซิสบราวนอ ยทู บ่ี า นหรอื เปลา Pranee : Hello. Who’s calling ? สวัสดคี ะ ใครกาํ ลังพูดคะ Peter : I’m Peter . ผมปเ ตอรครบั Mrs. Brown : Wait a minute , please. กรณุ ารอสักครูคะ 2. การรบั ฝากขอ ความทางโทรศพั ท Mrs. Brown : Hello. May I speak to Mrs. Brook. สวัสดคี ะ ดิฉันขอพดู กบั มิสซสิ บรคุ คะ

9 Suda : Sorry, she’s out. Would you like to leave her a message ? เสยี ใจคะ เธอไมอ ยู กรุณาฝากขอความไวใ หเธอไดไหมคะ Mrs. Brown : My name is Mrs. Brown . Please tell her to call me to 02-2225648. ฉนั ชื่อมิสซสิ บราวน กรณุ าบอกเธอวา ใหโ ทรหาดิฉนั หมายเลข 02-2225648 Suda : Alright , I’ll tell her. คะ ฉนั จะบอกเธอ Mrs. Brown : Thanks a lot. Goodbye. ขอบคุณมาก ลากอ น Suda : You’re welcome. Goodbye. ไมเปนไรคะ ลากอน กิจกรรม ฝกสนทนาโตต อบตามบทสนทนาท1่ี และ 2

10 กจิ กรรมทา ยบทท่ี 1 กจิ กรรมท่ี 1. เร่อื งการทักทาย ( Greeting) (10 คะแนน) ครูใหผ เู รยี นเร่ิมทาํ แบบฝกหัดบทสนทนา โดยการอานและเขียน เตมิ คําหรือประโยค ลงในชองวา ง หลงั จากน้นั ใหผเู รียนแสดงบทบาทสมมติโดยการจับคสู นมนาตามสถานการณจริง เรือ่ งท่ี 1 เรอ่ื งการทักทาย ( Greeting) (1 คะแนน) 1.1 การทักทายสาํ หรับผคู ุน เคยกัน Alex: Hello, Susan. How are you? Susan: _____________________. And you? Alex:______________________. 1.2 การทกั ทายสาํ หรับผทู ไี่ มค นุ เคยกนั หรอื ตา งสถานภาพกัน Mr. David: Good morning. Miss Judy. Miss Judy: _________________. ___________________. Mr. David: Nice to see you. Miss Judy: _________________. เรอ่ื งที่ 2 การแนะนําตนเองและผูอน่ื (Introducing Yourself and others) (1 คะแนน) 2.1 การแนะนําตนเอง John: Hello. My name is John. Bob: ____________________. How do you do? John: ___________________. 2.2 การแนะนําผูอน่ื Malee: Suda. This is Nida my friend from Phuket. Suda: How do you do? Nice to meet you. Nida: __________________________________________

11 เรื่องท่ี 3 การสอบถามขอมลู สว นตัว (5 คะแนน) ใหผูเรียนเขียนขอความสอบถามเพ่ือนเก่ียวกับขอมูลสวนตัวท่ีกําหนดใหมาเปนภา อังกฤษ 3.1 คณุ เกิดเมอ่ื ใด _________________________________________________________ 3.2 คุณเกดิ ทไี่ หน _________________________________________________________ 3.3 คณุ มีสัญชาติอะไร _________________________________________________________ 3.4 คณุ ทาํ งานอะไร _________________________________________________________ 3.5 ในครอบครวั คุณมีก่คี น _________________________________________________________ เมอ่ื เขยี นเสรจ็ แลว ใหนําไปสอบถามเพ่อื นเปน ประโยคภาษาอังกฤษและบนั ทกึ คาํ ตอบ ของเพอ่ื นดวย เร่ืองที่ 4 การใชภาษาองั กฤษ ( Body language) ใหผูเรียนศึกษารูปภาพเก่ียวกับภาษาอังกฤษ (Body language) และนําไปใชในการ สอบถามเพ่ือนวาแตละภาพ สัญลกั ษณน้ีหมายถงึ อะไร

12 เรือ่ งที่ 5 การพดู โทรศัพท ( Telephone Conversation) (3 คะแนน) 1. การพดู โทรศพั ท จะมีสํานวนและประโยคทใ่ี ชเ ปน การเฉพาะ ใหผเู รียนศึกษา คําศพั ท สํานวนและประโยคในหนังสือสรปุ เน้ือหา แลวฝก เขยี นประโยคและจับคูสนทนากับเพื่อน ตามสถานการณตา ง ๆ ใหผ เู รียนเขียนสํานวนและประโยคภาษาไทยตอ ไปน้ีเปนภาษาองั กฤษ 1.1 สวัสดคี ะ ผม/ดฉิ นั ขอพูดกบั คณุ สุดาคะ ___________________________________________________________ ______________________________________________________________ 1.2 คุณสุดาไมอ ยูคะ เธอออกไปขา งนอก ___________________________________________________________ ______________________________________________________________ 1.3 ขอประทานโทษคะ ผม/ดฉิ นั อยากทราบวาใครจะคยุ ดว ยครบั /คะ ___________________________________________________________ ______________________________________________________________

13 บทท่ี 2 คณุ รูส กึ อยา งไร (How do you feel?) 1. ความรูส ึกทีแ่ สดงความพอใจและไมพ อใจ ตวั อยา งเชน  I like beef. ฉันชอบเนือ้  I don’t like beef. ฉนั ชอบเนื้อ  I’m dislike beef. ฉันชอบเนอ้ื  I’m so pleased to hear that. ฉันดีใจมากที่ทราบเรื่องน้ี  I’m so pleased to hear that. ฉันผิดหวงั ท่ีเหน็ เชน น้ัน  I love it. ฉันชอบมนั  I enjoy swimming. ฉนั ชอบวายน้ํา นอกจากนยี้ ังมีสํานวนท่ีแสดงอารมณค วามรสู ึกพอใจไมพอใจ เชน  That’s great. (ยอดเย่ียมจรงิ )  That’s bad. (แยจรงิ ๆ)  How wonderful? (วิเศษมาก)  How awful! (แยม าก) กิจกรรม ฝก เขยี นและออกเสยี งแสดงความรสู ึกทแี่ สดงความพอใจและไมพ อใจในตวั อยาง ทีย่ กมาขางบนน้ี 2. ความรูสกึ ทแ่ี สดงถึงความสนใจและไมสนใจ ฉนั สนใจในการรองเพลง ตวั อยา งเชน ฉนั ไมสนใจในการเตนราํ  I’m interested in singing a song. ฉันไมสนใจในเรื่อง.........  I’m disinterested in dancing. ฉันไมมีความคิดเห็น/ฉนั ไมรเู รอ่ื งเลย  I don’t care (about/that)………… .  I have no idea.

14 บทสนทนาที่ 1 Picha : Let’s go to exercise at the sport club. เราไปออกกําลังกายทส่ี ปอรต คลบั กับเถอะ Suda : I’m disinterested in exercising. I’m interested in staying at home. ฉนั ไมสนใจในการออกกาํ ลงั กาย ฉันสนใจที่จะอยูบา น Picha : O.K. Bye. ครับ ลากอน Suda : Bye. See you. ลากอ น แลว พบกนั คะ บทสนทนาที่ 2 Suphit : I will buy a new dress. Which color it better? ฉนั จะซอ้ื ชดุ ใหม สีไหนดี Udom : I have no idea. Suda should advise you. ผมไมร เู ร่อื งเลย สุดาควรจะแนะนําคุณได Suphit : That’s a good idea. Thank you. เปนความคิดทดี่ ี ขอบคณุ คะ Udom : You’re welcome. ไมเปนไรครบั กจิ กรรม ฝก สนทนาโตต อบในบทสนทนาท่ี 1-2 3. การใหก าํ ลังใจ / เหน็ ใจ / ปลอบใจ มคี าํ ศัพท สํานวน และประโยคที่แสดงถึงความรูสกึ ดงั นี้ Don’t worry. ไมต องกงั วล Cheer up! สๆู Take it easy. ใจเยน็ ๆ ไว Well done. ทําไดดมี าก You did a good job. ทาํ ไดด มี าก Relax ทาํ ใหส บาย You will be fine. เด๋ยี วก็ดีเอง

15 ตัวอยางในบทสนทนาตอ ไปนี้ บทสนทนาท่ี 1 Anne : I lost my mobile phone. ฉันทาํ โทรศพั ทเ สีย Suda : Don’t worry. You should buy the new one or repair it. ไมตองกงั วล เธอควรซอื้ ใหมห รือเอาไปซอม Anne : Thank you. And have you done your homework yet? ขอบคุณและคุณทําการบา นแลว หรอื ยงั Oh! I forgot it. โอ ฉันลืมทํา Suda : Take it easy. I can help you. Let’s start right now. ใจเยน็ ๆ ไว ฉันชว ยเธอได เรามาทําการบา นกันเด๋ยี วนเี้ ถอะ You will be fine. เดยี๋ วก็ดเี อง Anne : Thanks a lot. ขอบคณุ มาก Suda : O.K. จะ บทสนทนาที่ 2 Suphit : Somsri is the champion. สมศรีเปน ผชู นะเลศิ Suda : She did a good job. She is the winner. เธอทําไดดมี าก เธอคือผชู นะ Suphit : Congratulations to our champion. ยินดีดวยกับผูชนะเลศิ ของเรา กจิ กรรม ฝกสนทนาโตต อบในบทสนทนาท่ี 1-2

16 4. ดีใจและเสยี ใจ มีคาํ ศัพท สํานวน และประโยคท่ีแสดงถงึ ความรูสึก ดงั นี้  Congratulations! ยินดีดว ย  How wonderful! วเิ ศษมาก  Marvelous ! วิเศษจริงๆ  That’s great. ยอดมาก  I’m glad that…… ฉันดีใจที่........  I’m so please….. ฉนั ดีใจมากที่........  I’m glad to hear….. ฉนั ดใี จมากที่ไดทราบวา..............  I’m so sorry. ฉันรสู ึกเสียใจมาก  It’s my sympathy to hear that………… ฉนั รูสึกเหน็ ที่ไดท ราบวา ............  please pass my sympathy to……….. ฝากแสดงความเสยี ใจกบั ........... ตัวอยา งในบทสนทนา ตอ ไปน้ี บทสนทนาท่ี 1 Nid : Congratulations on your success. ขอแสดงความยนิ ดีกบั ความสาํ เรจ็ ของคณุ Wit : I’m so pleased to hear that. ผมดีใจมากท่ีทราบขา ว Nai : Thank you. ขอบคณุ คะ บทสนทนาท่ี 2 Malee : I’m so sorry for being late. ฉันรสู ึกเสียใจทมี่ าชา Suda : Don’t worry. You are still in time. ไมตอ งกงั วล คุณยงั มาทันเวลา Malee : It’s my sympathy to hear that your father passed away. ฉนั รสู ึกเหน็ ใจที่ทราบวา คณุ พอของเธอเสีย I deeply regret. ฉันรสู ึกเสยี ใจมาก

17 Suda : Thank you. ขอบคณุ จะ กจิ กรรม ฝกสนทนาโตต อบในบทสนทนาที่ 1-2

18 กจิ กรรมทา ยบทที่ 2 การแสดงความรูสกึ ตาง ๆ (Expression of feeling ) กิจกรรมที่ 2-3 เรอ่ื งการทกั ทาย (10 คะแนน) ใหผ ูเ รียนศึกษาคาํ ศพั ท สํานวนและประโยคท่ีแสดงความพอใจและไมพอใจ ความสนใจ/ ความไมสนใจ การใหกําลังใจ/ เห็นใจ/ ปลอบใจ และนํามาใชในสถานการณที่กําหนด ใหด ังตอไปน้ี โดยการเขยี นและออกเสยี งแสดงความรสู กึ ประกอบดว ย (ขอ ละ 1 คะแนน) 1. สุดาไมช อบสุนัข เธอตองพูดวา อยา งไร ______________________________________________________________ 2. มาลยั บอกสดุ าวา เธอสอบไดท่ี 1 สุดาควรจะพูดวา อยา งไร ______________________________________________________________ 3. วิชัยขอความคิดเห็นจากวิโรจนในเร่ืองการซอมแซมโทรศัพทมือถือดวยตนเอง แตว โิ รจนไ มม คี วามรูใ นเรื่องดังกลา ว วโิ รจนควรพดู วาอยา งไร ______________________________________________________________ 4. นันทาเปนผชู นะเลิศ จากการประกวดรองเพลง พรสุดาซึ่งเปนเพ่ือนรักควรจะกลาว แสดงความยนิ ดกี ับนนั ทาวาอยางไร ______________________________________________________________ 5. ชาตรมี าเขาเรยี นสาย เขาควรจะบอกคณุ ครูและเพ่อื น ๆ วาอยางไร ______________________________________________________________ 6. มานะสอบปลายภาคไมผ า น ทานควรกลาวคาํ ปลอบใจเขาวา อยางไร ______________________________________________________________ 7. คุณแมเพื่อนปวยและเสียชีวิตท่ีโรงพยาบาล ทานควรกลาวคําแสดงความเสียใจวา อยางไร ______________________________________________________________ 8. ฉนั สนใจในการเลน แบตมินตัน้ ______________________________________________________________

19 9. ฉันไมส นใจในการเตน แอโรบคิ ______________________________________________________________ 10. สุดาบอกมาลีวาตุกตาผาตัวน้ีฉันทํามันดวยตัวเองนะ มาลีควรจะกลาววาอยางไรกับ สดุ า ______________________________________________________________

20 บทท่ี 3 การแสดงความรสู ึกตางๆ (Expression of feeling) เรื่องที่ 1 พอใจ/ไมพ อใจ (That’s great/That’s bad) ในการสนทนาโดยทั่วไป เม่ือมีการคุยสอบถามเรื่องตางๆ แลว การแสดงความชอบ ความไมชอบ หรือความพึงพอใจ ความไมพึงพอใจ เปนเร่ืองธรรมดาและสามารถเห็นได โดยทัว่ ไป คาํ ศพั ททใ่ี ชแ สดงอากัปกริยาดังกลาวขางตน จะประกอบดว ยคาํ ตอ ไปนี้ That’s great. ยอดเยี่ยมจรงิ ๆ That is bad. แยจรงิ How wonderful. วิเศษมาก I am so pleased to hear that. ฉันดีใจที่ไดท ราบเรอ่ื งน้ี I am afraid I don’t like it. ฉนั คดิ วาฉันไมชอบ I love it./I like it/I enjoy it ฉนั ชอบมัน I am disappointed to see that. ฉนั ผดิ หวังที่เหน็ เชน นนั้ นอกจากนี้ยังมีสํานวนท่แี สดงอารมณค วามรสู ึกพอใจไมพอใจ เชน That’s great. (ยอดเย่ยี มจริง) That’s bad. (แยจรงิ ๆ) How wonderful? (วิเศษมาก) How awful! (แยม าก) เรือ่ งที่ 2 สนใจ/ไมส นใจ (Interested/Disinterested) โดยทวั่ ไป บคุ คลมกั มคี วามสนใจและไมสนใจแตกตา งกันไป คําศัพทท่ีใชบอกความสนใจ คือ คําวา Interested สวนคําศัพทที่ใชบอกความไมสนใจ คือ Disinterested อาจจะใช สํานวนอ่ืนๆ ไดอีก เชน I’m interested in…/Disinterested in… ฉนั สนใจใน……/ไมสนใจใน……….. I don’t care (about that) ฉันไมใสใจในเรือ่ ง…………………... I have no ideas. ฉนั ไมม ีความคิด/ฉันไมรูเร่ืองเลย etc.

21 บทสนทนาที่ 1 Picha : Let’s go to exercise at the sport club. เราไปออกกาํ ลงั กายท่ีสปอรตคลับกนั เถอะ Suda : I’m disinterested in exercising. I’m interested in staying at home. ฉันไมสนใจในการออกกําลงั กาย ฉันสนใจทีจ่ ะอยบู าน Picha : O.K. Bye. ครบั ลากอน Suda : Bye. See you. ลากอน แลวพบกนั คะ บทสนทนาที่ 2 : I will buy a new dress. Which color it better? Suphit ฉนั จะซ้ือชดุ ใหม สีไหนดี ? Udom : I have no idea. Suda should advise you. ผมไมร เู รอ่ื งเลย สุดาควรจะแนะนาํ คณุ ได Suphit : That’s a good idea. Thank you. Udom เปนความคิดที่ดี ขอบคุณคะ : You’re welcome. ไมเ ปนไรครับ เรอื่ งท่ี 3 ใหกาํ ลังใจ/เหน็ ใจ/ปลอบใจ (Don’t worry./Relax./Take it easy.) การแสดงการใหกําลังใจ เห็นใจ และปลอบใจ ในเหตุการณ สถานการณตางๆ ทเ่ี กดิ ข้นึ ในชีวิตประจาํ วันเปนส่ิงสาํ คญั และจําเปนในการใชชีวิตประจําวันของมนุษย ในสังคมท่ี จะตองปฏบิ ตั ติ อ กัน ผพู ดู จงึ ตองมคี วามจําเปนตอ งใชคําพูดในการแสดงออกตอผูอื่นท่ีตองการให กําลงั ใจ ในการตอสูใ นการใชชีวิตตอ ไป สํานวนที่มักนิยมใชในการแสดงการใหกําลังใจ เห็นใจ และปลอบใจ ในโอกาสตางๆ ไดแก Don’t worry. ไมตองกังวล Cheer up. สู ๆ/ไชโย Take it easy. ใจเยน็ ๆ ไว Relax. ทําใจใหสบาย You will be fine. เธอตองไมเ ปนไรเดี๋ยวกด็ ีเอง

22 Well done. ทําไดดีมาก You did a good job. ทาํ งานไดด มี าก etc. บทสนทนาท่ี 1 Anne : I lost my mobile phone. ฉันทาํ โทรศพั ทเ สยี Suda : Don’t worry. You should buy the new one or repair it. ไมต อ งกังวล เธอควรซ้อื ใหมหรือเอาไปซอ ม Anne : Thank you. And have you done your homework yet? ขอบคณุ และคุณทาํ การบา นแลวหรือยัง Oh! I forgot it. โอ ฉันลมื ทํา Suda : Take it easy. I can help you. Let’s start right now. ใจเยน็ ๆ ไว ฉันชวยเธอได เรามาทําการบานกนั เดยี๋ วนเี้ ถอะ You will be fine. เด๋ยี วก็ดเี อง Anne : Thanks a lot. ขอบคณุ มาก Suda : O.K. จะ บทสนทนาท่ี 2 : Somsri is the champion. Suphit สมศรีเปนผูชนะเลิศ Suda : She did a good job. She is the winner. เธอทาํ ไดดมี าก เธอคือผชู นะ Suphit : Congratulations to our champion. ยนิ ดดี วยกับผูชนะเลิศของเรา

23 เรอ่ื งที่ 4 ดใี จ/เสียใจ (Happened/Sorry) การแสดงความดีใจกับเพ่ือน ผูใหญในโอกาสท่ีบุคคลน้ันๆ ไดรับความเจริญกาวหนาใน หนา ท่ีอาชีพการงาน ตลอดจนการไดเลื่อนตําแหนง เปนมารยาททางสังคมที่ผูมีน้ําใจพึงปฏิบัติ ตอ กนั สวนการแสดงความเสยี ใจตอเรอ่ื งหรือเหตุการณทสี่ ญู เสียของบุคคล ผูพูดจึงตองใชคําพูด และสํานวนที่แสดงความเห็นอกเห็นใจตอผูสูญเสียที่อยูในอารมณเศราใหผอนคลายและเกิด กาํ ลงั ใจในการตอสแู ละดํารงชวี ติ ตอไป สํานวนทมี่ ักนยิ มใชในการแสดงการดีใจ/เสียใจ ในโอกาสตา งๆ มีดังน้ี I’m glad that you can come. ฉันดีใจทค่ี ณุ มาได I’m so pleased to see you. ฉันดใี จมากท่ีไดพบคณุ I’m glad to hear from you. ฉันดใี จทไ่ี ดท ราบขาวจากคุณ I’m so sorry to hear that.……… ฉันเสยี ใจที่ไดทราบขา วนนั้ ………… I’m so sorry for being late. ฉนั เสียใจที่มาชา I’m terribly sorry for………… ฉันเสยี ใจในสงิ่ ท่ีรา ยแรงตอ ……………….. It’s my sympathy to hear that... ฉันขอแสดงความเห็นใจท…ี่ ……………………… I’m deeply regret about. …………. ฉันเสยี ใจสลดใจเปนอยา งมาก………….......... Please pass my sympathy to……… โปรดสงตอความเหน็ ใจของฉัน……………..... etc. บทสนทนาท่ี 1 Nid : Congratulations on your success. ขอแสดงความยินดีกบั ความสําเร็จของคณุ Wit : I’m so pleased to hear that. ผมดีใจมากท่ที ราบขาว Nai : Thank you. ขอบคุณคะ

บทสนทนาท่ี 2 24 Malee Suda : I’m so sorry for being late. Malee ฉันรสู ึกเสยี ใจทม่ี าชา Suda : Don’t worry. You are still in time. ไมตองกงั วล คณุ ยังมาทนั เวลา : It’s my sympathy to hear that your father passed away. ฉนั รูสึกเห็นใจท่ที ราบวา คุณพอของเธอเสยี I deeply regret. ฉันรสู กึ เสยี ใจมาก : Thank you. ขอบคุณจะ

25 บทท่ี 4 การพูดแสดงความคดิ รปู แบบตางๆ (Expression of opinion, ideas/wishes/offering helps, etc.) ภาษาเพอ่ื แสดงความคดิ เหน็ ความตอ งการ เรอื่ งที่ 1 การแสดงความคดิ เหน็ (เหน็ ดวย/ไมเ หน็ ดวย ยอมรบั /ไมยอมรับ) Agreement/Disagreement Agreement เปนรูปแบบของการสนทนาท่ีมีความเห็นพองดวย เม่ือฝายหนึ่งแสดง ความเห็น อาจอยูในรูปประโยคบอกเลาธรรมดา และคูสนทนา ก็แสดงความเห็นดวย และ สํานวนที่ใชใ นการแสดงความเห็นดวย อาจเลอื กใชต ามโอกาสอันสมควร ไดแ ก Yes, I think so. ใช ฉันกค็ ิดอยางนั้น Yes, I agree with you. ใช ฉันเห็นดวย Yes, you are right. ใช คุณพดู ถกู Yes, I think you are right. ใช คิดวาคณุ พดู ถกู Yes, that’s my opinion too. ใช ความเห็นฉันก็เปนเชนน้ันแหละ etc. Disagreement คือ คาํ พูดทใ่ี ชในการสนทนาอกี ลักษณะหนึ่ง เปนคําพูดที่มีความหมาย ในทํานอง ขัดแยง หรือไมเห็นดวยกับความเห็นของคูสนทนา ซึ่งจะตองมีศิลปะในการพูด เพื่อไมใหเปนการขัดแยง และจะทําใหการสนทนาเปนไปอยางราบรื่น และคําพูดท่ีใชในการ แสดงความไมเ หน็ ดวย อาจเลือกใชในโอกาสอนั สมควร ไดแ ก No, I don’t think so. ไม ฉนั ไมคิดอยา งน้ัน Well, I really don’t think so. เอ ฉันไมไดคิดเชน น้ันจริงๆ No, I don’t agree with you. ไมละ ฉนั ไมเ ห็นดว ยกบั คณุ No, I don’t think you are right. ไม ฉันไมคิดวา คุณถกู นะ I can’t say I agree with you. ฉนั ไมสามารถจะพูดไดว า เห็นดวยกับคุณ etc.

บทสนทนาท่ี 1 26 A: B: The weather in Bangkok is hotter than Singapore. A: I think so./I don’t think so./I agree with you. B: Living in Bangkok is not so pleasant. Don’t you think that ? Yes, but living in rural areas is less convenient. etc. เรอ่ื งที่ 2 การแสดงความตอ งการและตอบรบั (Need/Want Yes/Please do/sure) เมื่อตองการใหผูอื่นทําบางส่ิงบางอยางให อาจเปนการรบกวนผูอ่ืน รูปประโยคที่ใชจึง แสดงความสภุ าพอยางยงิ่ อาจใชป ระโยคบอกเลาธรรมดา หรือ ประโยคคาํ ถามมีถอยคําสํานวน ทีใ่ ชในโอกาสตา งๆ ดงั นี้ I’d like some more coffee. ฉนั ชอบด่ืมกาแฟ I want to go to……… ฉนั ตอ งการจะไป…………………………… I wish you should go with me. ฉันอยากใหค ณุ พาฉนั ไป I need……………………… ฉนั ตอ งการ…………………………………. การตอบรบั อาจใชสํานวนสัน้ ๆ ตอ ไปนตี้ ามความเหมาะสม Yes…/please do./sure. ใช/ขอความกรุณา/แนนอน Thank you, I’d love to. ขอบคุณทใี่ หความรักกบั ฉนั Thank you, I’d happy to go. ฉันขอบคุณทท่ี ําใหฉ นั มคี วามสขุ With pleasure. ดว ยความยนิ ดี Thank you so much. ขอบคุณมาก Very kind of you. ดว ยความเมตตาจากคณุ บทสนทนา : What would you like to drink ? 1. A : I’d like some more coffee. B : Where do you go ? 2. A : I want to go to school. B

27 เร่ืองท่ี 3 การแสดงความชวยเหลือและบริการผอู ืน่ รวมท้งั ตอบรบั (Can I help you?/Yes, of course) การใชชีวิตประจําวันของคนเราตองเกี่ยวของกับการจับจายใชสอยไมวาจะเปนอาหาร เคร่อื งดม่ื เสื้อผา และของใช ตลอดจนยารักษาโรค การแสดงความชวยเหลือและบริการผูอื่น จาํ แนกออกตามสถานการณต างๆ มกั นิยมใชส ํานวนท่ีใชถ าม เมื่อใหบ ริการ ดังน้ี What can I do for you? ฉันจะชวยอะไรคณุ ไดบ า ง Can I help you. ฉนั จะชวยคณุ ไดไ หม May I help you. Need some help? คณุ ตอ งการความชวยเหลอื รึเปลา Do you need some help? If you need anything, please tell me. ถา คุณตอ งการอะไรโปรดบอกนะครบั /คะ If you need anything, please let me know. Certainly. แนน อน Yes, of course. ใช ไมเ ปนไร I’m afraid……………….. ฉันเกรงวา …………………………….. Sorry, but……………….. เสยี ใจ แต… ………………………….. บทสนทนา At the Embassy Receptionist : Sawasdee Ka, anything for you, Madame? Suda : I'm so glad, you can speak Thai. Receptionist : Oh! I can speak and understand Thai just a little bit. Suda : I've lost my passport yesterday and I went to the police station to inform the matter. This is the police record. Receptionist : Please wait for a few minutes. I will ask Mr. John at the consular Section to help you. Suda : Thank you for your help. Receptionist : It's my pleasure.

28 เรือ่ งที่ 4 การกลาวขอบคณุ และตอบรับ (Thank you./You’re welcome) การกลาวขอบใจ เปนความจําเปนในโอกาสที่บุคคลอ่ืนทําคุณประโยชนหรือไดเอื้อเฟอ ชวยเหลอื โดยการแสดงออกทางวาจา โดยการขอบใจและซาบซง้ึ ดงั สํานวนตอ ไปน้ี Thank you for your help. ขอบคุณท่ีใหความชว ยเหลอื Thank you very much for your kindness. ขอบคณุ ทีค่ ณุ ใหความเมตตา Thank you for your invitation ขอบคุณสําหรับการเชื้อเชญิ etc. การกลา วตอบรบั เม่อื อีกฝายกลา วขอบคุณ เชน Don’t mention it You’re welcome. ไมเปนไร You’re quite welcome. Not at all. ทกุ คํามีความหมายวา “ไมเ ปน ไร” หามใช never mind เด็ดขาด เรื่องท่ี 5 การพดู ขออนญุ าตและตอบรบั (May I come in ?/Yes you can) การพดู เพ่ือขออนญุ าต เปน มารยาทที่พึงกระทํา เม่ือตองการทําอะไร และสํานวนท่ีมัก ใชกันทวั่ ไปมดี งั น้ี May I interrupt you for a moment ? ขออนุญาต ฉันขอขัดจังหวะคุณสักครูได ไหม May I come in ? ขออนุญาตเขา ขา งในไดไหม Can I borrow your pen? ฉันขอยืมปากกาคุณไดไหม (It’s) my pleasure. ฉันยินดี Don’t mention it. ไมเ ปน ไร Yes, you can. ใช คุณมคี วามสามารถ etc.

29 สาํ นวนทมี่ กั ใชใ นการกลาวตอบรบั มีดงั น้ี Yes, of course. ได แนน อน Certainly. แนนอน Sure. ไดเ ลย Go ahead. ตามสบาย etc. บทสนทนา A : Can I borrow your pen? B : Yes, of course. เร่อื งท่ี 6 การพดู ขอโทษและตอบรับ (Sorry / Don’t worry) การกลา วคําขอโทษ เปนการแสดงความเสียใจ และการขออภัย เปนมารยาทอันดีย่ิงท่ี ตองแสดงออกเปนประจํา เมื่อกระทําผิดไป แมจะเปนเรื่องเล็กนอยก็ตาม โดยใชประโยค ขอ ความ ดงั น้ี I’m very sorry to be late. ขอโทษดว ยนะท่ีมาชา I lost your box, I’m so sorry. ฉนั ทํากลองหายไป ฉนั ขอโทษดวยนะ I’m terribly sorry for…………… ฉันเสียใจกบั เรื่องทเี่ กดิ ขึ้นกับ……………… Sorry, it’s my fault. ฉันขอโทษ มนั เปนความผดิ ของฉันเอง Please forgive me for being late. กรณุ าอภัยใหฉ นั ดวยทม่ี าชา อีกฝา ยอาจกลาวตอบเพอ่ื เปน เชิงใหอภัย มีสาํ นวนดังนี้ Forget it. ลมื มนั ไปเถอะ Don’t worry. ไมต องหว ง It doesn’t matter. ไมเปนอะไร Of course. ไมเ ปน ไร Certainly. That’s all right. ไมเปนอะไรหรอก That’s quite all right. etc.

30 บทสนทนา I’m very sorry to be late. A: That’s all right. B: เรื่องท่ี 7 การพูดแทรกอยา งสุภาพ (Excuse me) การพดู แทรกอยา งสุภาพ เปนส่งิ ทจี่ ําเปนมาก เพราะส่ิงเหลานีจ้ ะบงบอกถงึ วฒั นธรรมท่ีดี งามทท่ี ุกคนควรกระทําใหเกิดเปน นิสยั และสํานวนทีม่ ักใชใ นการพดู แทรกอยางสุภาพมีดงั น้ี Excuse me, sir. Could you speak louder? ขอโทษครบั /คะ คณุ ผูช ายกรณุ าพูดเสยี งดงั หนอยไดไ หม Excuse me, madam. Could you show me that book? ขอโทษครบั /คะ คณุ ผูห ญิงกรุณาโชว หนังสอื ของคุณใหฉนั ดไู ดไ หม Excuse me, how far is it to the airport? ขอโทษครบั /คะ จากตรงนี้ถงึ สนามบนิ ไกลแคไ หน etc. บทสนทนา Suda : Excuse me. Is this seat unoccupied? Chaba : Yes, it is. Suda : Thank you. Chaba : You're welcome. What's your name? Suda : My name is Suda. Chaba : Nice to meet you. I'm Chada. It doesn’t matter. ไมเปนอะไร Of course. ไมเปนไร Certainly. ไมเ ปน อะไรหรอก That’s all right. That’s quite all right. etc.

31 กจิ กรรมทา ยบทที่ 4 การพูดแสดงความคดิ เหน็ ในรปู แบบตาง ๆ (Expression of opinion, idea/ wishes/ offering helps, etc.) (10 คะแนน) กิจกรรมท่ี 4. (10 คะแนน) ใหผ เู รียนศึกษาประโยคทใี่ ชใ นการแสดงความคิดเหน็ ในรูปแบบตาง ๆ แลว ฝกออก เสียงและเขยี น แลวนําไปใชใ นสถานการณจ ริง โดยใหเ ขียนคาํ ตอบในชอ งวางตามทก่ี ําหนด (ขอ ละ 1 คะแนน) 1. A: I think the weather in Bangkok is very hot. What do you think about it? B: ___________________________________________ (กรณีเหน็ ดวย) ___________________________________________ (กรณีไมเ หน็ ดว ย) 2. A: __________________________________________ (เสนอความชวยเหลือ) B: Yes, I’m looking for a shirt. 3. A: __________________________________________ (การพูดอนุญาตเขาชั้นเรยี น) B: O.K. 4. A: __________________________________________ (การพูดของยืมสง่ิ ของ) B: It’s my pleasure. 5. Suda steps on Somchai’s foot. What would she say? ___________________________________________________________

32 Match the response a-e to the apologies No. 1-5 (จบั คคู ําตอบจาก a-e ใหเ หมาะสมกบั คาํ กลา วขออภัย ตามขอ 1-5) a. What a pity! How did you hurt it? b. That’s O.K. I’ll tell you what we’re going to do and you can stay at home. c. Don’t worry! It isn’t expensive. d. That’s O.K. Everybody are already here. e. Don’t worry! Take some aspirin and stay in bad. _________1) I’m afraid I can’t come to the class because I’m not feeling well. _________2) I’m sorry the train was late. _________3) I’m really sorry. I’ve broken the plate. _________4) I’m afraid I can’t come to work today. I’ve get a temperature. _________5) I’m sorry, I can’t play football today. I’ve hurt my leg.

33 บทที่ 5 รูปแบบประโยคในภาษาองั กฤษ (Types of English Sentence) เรอื่ งที่ 1 ประโยคบอกเลา (Affirmative or Statement or Dedication Sentence) คอื ประโยคทใี่ ชใ นการสื่อสารเร่อื งราว ขา วสาร ขอคิดเห็นตาง ๆ ในชีวิตประจําวัน ประกอบดวย ประธาน (Subject) และกริยา (Verb) ซ่ึงอาจจะมีกรรม (Object) หรือสวนขยาย (Complement) ดว ยก็ได ประธาน + กริยา + กรรม (Subject) (Verb) (Object) ตัวอยาง He is your teacher. เขาคือครูของเธอ He likes you. เขาชอบเธอ ในประโยคบอกเลา การกระจายกริยาตอ งเปน ไปตามประธาน (Subject) และกาล (Tense) ท่ีบอกเลาเรอื่ งนั้น เรือ่ งท่ี 2 ประโยคคาํ ถาม (Question sentence) เปนประโยคท่ใี ชถ ามเพอื่ ตอ งการคําตอบจาก ผทู เี่ ราสนทนาดวย และข้นึ ตนดว ยคําที่เปนคําถาม ไดแก what (อะไร), when (เม่ือไหร), where (ท่ีไหน), who (ใคร), whom (ถึง, แกใคร), whose (ของใคร), which (อันไหน/ส่ิงไหน), why (ทําไม), how (อยางไร) ในการตั้งคําถามดวยคําเหลาน้ี สวนใหญจะตองตามดวยกริยาชวย ยกเวน who ตามดวยกริยาแท และ whose ตามดวยคํานาม สวน which ตามดวยคํานามที่เปนกรรมหรือ กรยิ าชวย เชน What is your name? คุณช่ืออะไร Where do you teach? คุณสอนทไี่ หน When did he leave school ? เคา จบเม่อื ไหร How do you like it? คณุ ชอบหรือไม

34 เร่ืองที่ 3 ประโยคปฏิเสธ (Negative Sentence) คือประโยคบอกเลาที่มีคําหรือวลีท่ีมี ความหมายในเชิงปฏิเสธอยูในประโยค ซึ่งจะเปนคํากริยาวิเศษณ (Adverb) เชน not, never, hardly, scarcely, rarely เปนตน หรือคําสรรพนามแสดงการปฏิเสธ เชน no one, nobody, none, no, nothing เปน ตน เชน This is not the right form. ไมใ ชรูปแบบท่ถี กู ตอง He doesn’t like Bobby. เขาดไู มเหมือนกบั บอ บบี้ I don’t want to go with him. ฉนั ไมต องการไปกับเขา เรือ่ งท่ี 4 ประโยคคําสงั่ (Imperative or Order sentence) เปน ประโยคที่บอกใหทาํ หรอื ขอรอ งใหท ําตามที่ผนู ้ันบอก ซง่ึ ผูที่รับคาํ สัง่ คือผทู ี่คนส่ังพูดดว ย ซงึ่ คนท่ีจะสั่งจะเปน บุรุษ ที่ 1 คอื ผูพูด (I หรือ we) สว นคนที่ถูกสั่งจะเปนบรุ ษุ ท่ี 2 (You) เมือ่ เปนประโยคคาํ สัง่ จะตัด ประธาน (You) ออก ประโยคคาํ ส่งั ตอ งขน้ึ ตนดว ยคํากริยาชองท่ี 1 เสมอ ซ่งึ อาจจะเปนรปู บอกเลาหรือ ปฏิเสธกไ็ ด เชน Don't walk on the lawn! หามเดนิ ในสนาม Enter your personal code. ใสร หัสสว นตวั ของทา น Sit down here! นง่ั ตรงนี้ Follow me! ตามฉันมา เร่อื งที่ 5 ประโยคอทุ าน (Exclamatory sentence) คือประโยคที่ใชแสดงความรสู กึ และ อารมณ เชน เสยี ใจ ดใี จ เปน ตน ใชไ ดท ั้งประโยคเต็มรปู และลดรปู เชน Oh! My god โอ พระเจา ชว ย How marvelous เหลือเชื่อจรงิ ๆ What a wonderful party ชา งเปนงานที่มหัศจรรยอ ะไรเชน น้ี

35 กจิ กรรมทา ยบทที่ 5 รปู แบบประโยคในภาษาอังกฤษ (Type of English Sentence) กจิ กรรมท่ี 5. (10 คะแนน) What type of sentences are these. (ใหบ อกประเภทของประโยคที่ใหม าวา แตละประโยคเปน ประโยคอะไร) (ขอ ละ 1 คะแนน) 1. I like to play football. ______________________________________________________________ 2. Are you hungry? ______________________________________________________________ 3. Suda doesn’t like to live alone. ______________________________________________________________ 4. No entry ______________________________________________________________ 5. How beautiful. ______________________________________________________________ Change these sentences into question (Q) and negative (N) sentences. (ใหเปลีย่ นประโยคทก่ี ําหนดใหเปน ประโยคคาํ ถามและปฏเิ สธ) (ขอละ 1 คะแนน) 1. He will go to France tomorrow. ________________________________________________________ (Q) ________________________________________________________ (N) 2. Suda works hard everyday. ________________________________________________________ (Q) ________________________________________________________ (N)

36 3. They can speak English. ________________________________________________________ (Q) ________________________________________________________ (N) 4. Malee went to Pattaya yesterday. ________________________________________________________ (Q) ________________________________________________________ (N) 5. She is singing a song. ________________________________________________________ (Q) ________________________________________________________ (N)

37 บทท่ี 6 ประโยคความรวม (Compound Sentence) เรือ่ งท่ี 1 สวนประกอบของ Compound Sentence ประโยคความรวม คอื ประโยคทป่ี ระกอบดวยประโยคอยางนอย 2 ประโยค และมี คาํ เชอ่ื ม (Conjunction) ซ่ึงมหี นาที่เช่ือมประโยคเขาดวยกนั นอกจากนท้ี ั้ง 2 ประโยคสามารถ แยกกันได โดยแตละประโยคตา งมีความหมายสมบูรณ เร่ืองที่ 2 ประโยค 2 ประโยคมารวมกันดว ยคําเชอ่ื มท่ีเหมาะสม คอื and, but, or เชน Suda can speak English and French สดุ าพูดภาษาอังกฤษและภาษาฝรัง่ เศสได Malee does not study French but she can speak it. มาลีไมไดเรียนภาษาฝร่ังเศสแตพ ดู ภาษาฝรง่ั เศสได You can have fried rice or boiled rice คณุ สามารถเลือกทานขา วผัดหรือขาวตม ก็ได เรือ่ งท่ี 3 การเชือ่ มประโยคใหเปน Compound Sentence โดยใชเ ครอ่ื งหมาย/คาํ เชอ่ื ม 1. , (comma) + คาํ สนั ธาน เชน They tried their best, yet they didn’t succeed. 2. ; (Semicolon) ใชใ นกรณีทม่ี ีเคร่ืองหมายอื่น ๆ อยูดวย เชน I also bought her a new car; I have not yet, nowhere, given it to her. 3. Correlative Conjunction ไดแก คําตอไปนี้ Both……….and……….. ท้ัง...............และ........... Either………or……….. ไมอยางใดกอ็ ีกอยางหนึง่ Neither………nor……... ไมทัง้ สองอยาง เชน Both boys and girls learn English.

38 กิจกรรมทายบทท่ี 6 ประโยคความรวม (Compound Sentence) กจิ กรรมที่ 6. (5 คะแนน) Look all the following sentences given and then identified which one is the compound sentence. Write “C” in the blank in front of the sentence. (ใหดปู ระโยคท่ีใหม าและใหบอกวา ประโยคใดเปนประโยคความรวม เขียนอักษร “C” ลงในชองวา ง หนาประโยค) _________1) I like to swim. _________2) Malee can speak English and French. _________3) You don’t walk on the lawn. _________4) How much sugar do you want? _________5) That building is old but strong. _________6) This lady is neither rich nor clever. _________7) Both boys and girls learn Japanese. _________8) What would you like, coffee or tea? _________9) The bird sings. _________10) It rained heavily in Bangkok.

39 บทท่ี 7 อดตี กาล ( Past Tense) เร่อื งที่ 1 Past Simple Tense Past Simple Tense คอื ประโยคทีแ่ สดงเหตกุ ารณทเี่ กดิ ข้ึนและสนิ้ สดุ แลว ในอดตี Subject + V2 + Object + (adv. Of place) + (adv. Of time) 1.1 เหตุการณท่เี กิดข้นึ ในอดีตและจบลงไปแลว กอ นพดู ประโยคนั้น เชน He spoke เขาเปนคนพดู She came here yesterday เธอมาทน่ี ่ีเมอื่ วานน้ี 1.2 แสดงการกระทําท่ีกระทําเปนประจาํ ในอดีต โดยมคี าํ ท่ีแสดงความบอ ย ความเปน ประจาํ อยดู วย เชน He always got up late when he was young เม่ือตอนเด็ก ๆ เขามา สายบอ ย เรอ่ื งท่ี 2 Past Continuous Tense Past Continuous Tense หรืออีกอยางหนง่ึ เรียกวา Past Progressive Tense เปน Tense ท่ใี ชแสดงเหตุการณท่กี ําลงั เกดิ ขึน้ ณ ชว งเวลาหนง่ึ ในอดีตหรอื มเี หตกุ ารณ 2 เหตุการณก ําลงั เกดิ ขนึ้ พรอ มกัน ณ ชว งเวลาหนึง่ ในอดตี โครงสรางประโยค Past Continuous Tense Subject + V.to be + V.ing เชน We were playing in the garden. เรากําลงั เลน อยใู นสวน He was singing a song. เขากําลังรองเพลง

40 กจิ กรรมทายบทท่ี 7 อดตี กาล (Past Sentence) กิจกรรมท่ี 7. (5 คะแนน) Change the following sentences into Past Simple Tense. (เปล่ยี นประโยคตอ ไปน้ี ใหเ ปน ประโยคอดตี กาล) 1. Malee comes here this morning. _________________________________________________________________ 2. Mike always gets up at six o’clock. _________________________________________________________________ 3. Suda and Malee are going to England tonight. _________________________________________________________________ 4. My teacher gives me a book. _________________________________________________________________ 5. He often comes late to school. _________________________________________________________________

41 บทที่ 8 ภาษาองั กฤษสําหรบั อาชพี พนกั งานขบั รถรบั จา ง เรอ่ื งที่ 1 การพดู ภาษาองั กฤษตามมารยาทสังคม และเหมาะสมกับสถานการณ เม่ือมผี ูโดยสารมาเรียกใชบริการจากพนักงานขับรถรับจา งน้นั ส่งิ แรกทคี่ วรทาํ คอื ทกั ทาย โดยทักทายตามเวลา คือ Good morning. สวัสดคี รับ เมอ่ื พบผโู ดยสารตอนเชา Good afternoon. สวัสดคี รบั เม่อื พบผูโดยสารตอนบา ย Good evening. สวัสดีครับ เมอ่ื พบผโู ดยสารตอนคาํ่ หรอื อาจถามดวยขอ ความสนั้ ๆ ท่สี ุภาพและเขา ใจไดว า Where to, sir? ไปทีไ่ หนครบั คุณผชู าย Where to, madam? ไปทไ่ี หนครบั คณุ ผูหญิง Where to, miss? ไปทไ่ี หนครบั คุณผูหญิง ชาวตา งชาตจิ ะตอบไดหลากหลาย อาจพูดเฉพาะชอ่ื สถานที่ ดงั นี้ Suvarnabhumi airport สนามบินสวุ รรณภูมิ Khao Sarn road ถนนขา วสาร The weekend market ตลาดนัดสดุ สปั ดาห หรือตลาดนัดจตจุ กั ร Chatuchak market ตลาดนดั สวนจตจุ กั ร เรื่องท่ี 2 การพดู แสดงความรูสกึ และแสดงความคิดเห็น ขณะขบั รถบริการผโู ดยสาร ยอ มมีเวลาพดู คยุ กนั พอสมควร โดยเฉพาะพูดแสดงความรสู ึก และแสดงความคิดเห็น อยา งเชนตวั อยา งตอไปน้ี The traffic is bad. รถตดิ The traffic is too bad. รถติดจังเลย The traffic is very bad. การจราจรตดิ ขัดมาก It takes thirty minutes to the airport. ใชเ วลา 30 นาทีไปสนามบนิ

42 It takes about twenty minutes to get there.ใชเ วลาประมาณ 20 นาทีที่จะไปทีน่ ่ัน เรอื่ งที่ 3 การพดู แสดงความชว ยเหลือ หนาทข่ี องพนกั งานขับรถรบั จา งไมเพียงแตขับรถเทา นั้น แตจ าํ เปน ตอ งชวยเหลือผโู ดยสาร การชวยเหลือเริ่มดว ยการพดู แสดงความชวยเหลือ เชน Let me help you. ใหผมชว ยคุณครบั I can take you to the nearest toilet at the gas station. ผมสามารถพาคณุ ไปหองนาํ้ ที่ใกลที่สุดที่ปมนาํ้ มนั ครับ เรือ่ งที่ 4 การขออนญุ าต ทุกครง้ั ที่มขี อขัดของประการใดกต็ าม พนกั งานขับรถรับจา งจําเปน ตองขออนุญาต ผโู ดยสารกอนดําเนนิ การเร่ืองท่ีเกดิ ขึ้น เพื่อความสบายใจและมีความเขา ใจทต่ี รงกนั เชน Can I take an expressway, sir? ใหผมใชท างดว นไดม ั๊ยครบั Can I stop at a gas station to check the tires? ใหผ มจอดที่ปม นาํ้ มันเพ่ือตรวจสอบยางนะครับ เรื่องที่ 5 การพดู แทรกอยางสุภาพ ถา ผโู ดยสารกาํ ลังพดู อยู หรือพูดยังไมจบ พนกั งานขับรถรับจา งตอ งไมพ ดู แทรก แตเมอื่ ใด ทต่ี องการพูด ควรเอยดวยความสภุ าพวา Excuse me. ขอโทษนะครบั จากนนั้ จงึ เอย ถงึ เรื่องทต่ี อ งการจะพูด หรืออาจเร่มิ ดวยการเรยี กผโู ดยสารทีอ่ ยูบ นรถ คอื sir. ทานครับ (เปนการเรยี กผูโดยสารทีเ่ ปนผชู าย) madam คณุ ผูห ญิงครบั (ใชเรยี กผโู ดยสารท่ีเปนหญงิ สงู วัย) ma’am คณุ ผูหญิงครบั (เรยี กผูโดยสารที่เปนหญิงสงู วยั ) miss คุณผูห ญิงครบั (เรยี กผูโ ดยสารทีเ่ ปน หญิงสาว)

43 จากนน้ั พนกั งานขบั รถรับจางจึงพดู เร่ืองราวที่ตอ งการจะบอกหรือจะพดู คยุ กับผโู ดยสารตางชาติ หากพนกั งานขับรถรบั จางเขา ใจมารยาททางสงั คมและสามารถใชภ าษาองั กฤษไดเ หมาะสมกบั สถานการณอยา งนแ้ี ลว ทา นจะเปนพนักงานขับรถรับจา งท่ีมคี วามสามารถอยางยง่ิ กจิ กรรมทายบทท่ี 8 กจิ กรรมท่ี 8. (5 คะแนน) ใหเ ขียนประโยคตอ ไปน้เี ปนภาษาองั กฤษ 1. คุณจะไปทไี่ หนครับ/ คะ _________________________________________________________________ 2. ฉันตองการไปทีส่ นามบินสุวรรณภูมิ _________________________________________________________________ 3. ตรวจเชค็ สง่ิ ของของคุณกอนลงจากรถ _________________________________________________________________ 4. อยาลืมสัมภาระของคณุ นะครบั _________________________________________________________________ 5. การจราจรติดขัดมาก _________________________________________________________________


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook