Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

Published by wansuraina, 2022-08-13 14:05:59

Description: หลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

Search

Read the Text Version

151 หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นตนั หยงลโุ ละ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำ ส ๑๔๒๐๕ อลั -อคั ลำส รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธบิ าย ปฏิบัตติ นให้เป็นคนตรงตอ่ เวลา มคี วามอดทน ความเมตตากรณุ า ความ กตัญญูกตเวที และมีมารยาทในการนอน ยอมรับและช่ืนชมผู้อ่ืนที่ปฏิบัติตนตรงต่อเวลา มีความ อดทน ความเมตตากรุณา ความกตญั ญูกตเวที และมมี ารยาทในการนอน โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพื่อให้เข้าใจการปฏิบัติตนตาม จริยธรรมอิสลาม ในการพฒั นาตน บาเบ็ญประโยชน์ตอ่ ครอบครัว สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม เห็นคุณค่า ยึดมั่น และปฏิบัติตามจริยธรรมอิสลาม รักการอ่านอัล – กุรฺอาน รักการละหมาด รัก ความสะอาด มีมารยาทแบบอิสลาม มีความรับผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพ่ือการอยู่ร่วมกันในสังคม อย่างสันติสขุ อล 1 ป.4/1 รวมท้งั หมด 1 ตวั ชี้วัด

152 หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านตนั หยงลโุ ละ (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำ ส ๑๕๒๐๕ อลั -อคั ลำส รำยวชิ ำเพ่ิมเติม กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๕ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธิบาย ยอมรับ ช่ืนชมและเห็นคุณค่าของการปฏิบัติตนในเร่ืองความซ่ือสัตย์ ความรับผดิ ชอบ ความใฝ่รู้ และมารยาทในการขับขี่ยานพาหนะ โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพื่อให้เข้าใจการปฏิบัติตนตาม จริยธรรมอิสลาม ในการพัฒนาตน บาเบญ็ ประโยชนต์ อ่ ครอบครัว สงั คม และสงิ่ แวดล้อม เห็นคุณค่า ยึดมั่น และปฏิบัติตามจริยธรรมอิสลาม รักการอ่านอัล – กุรฺอาน รักการละหมาด รัก ความสะอาด มีมารยาทแบบอิสลาม มีความรับผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพ่ือการอยู่ร่วมกันในสังคม อยา่ งสนั ตสิ ขุ อล 1 ป.5/1 รวมทั้งหมด 1 ตัวช้วี ดั

153 หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลโุ ละ (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำ ส ๑๖๒๐๕ อัล-อัคลำส รำยวชิ ำเพมิ่ เติม กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษำปีที่ ๖ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธิบาย ผลของการทาความดีความช่ัว และความยุติธรรม ปฏิบัติตนและชื่นชม ผู้อื่นในการกระทาความดี ความบริสุทธ์ิใจ ความเอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่ และความยุติธรรม อธิบาย ความหมาย โทษภยั และการรจู้ กั หลีกเลย่ี งส่งิ เสพตดิ โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพื่อให้เข้าใจการปฏิบัติตนตาม จรยิ ธรรมอสิ ลาม ในการพฒั นาตน บาเบ็ญประโยชนต์ ่อครอบครวั สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม เห็นคุณค่า ยึดม่ัน และปฏิบัติตามจริยธรรมอิสลาม รักการอ่านอัล – กุรฺอาน รักการละหมาด รัก ความสะอาด มีมารยาทแบบอิสลาม มีความรับผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพ่ือการอยู่ร่วมกันในสังคม อย่างสันติสขุ อล 1 ป.6/1 รวมทงั้ หมด 1 ตวั ช้ีวัด

154 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านตนั หยงลโุ ละ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธบิ ำยรำยวิชำ ส ๑๑๒๐๖ อัล-ฟกิ ฮฺ รำยวชิ ำเพม่ิ เติม กลมุ่ สำระกำรเรียนร้สู งั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๑ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธิบายบอกหลักการอิสลาม5 ประการ บอกความหมาย ความสาคญั วธิ กี าร ชาระลา้ งนะญสิ และสงิ่ ทีท่ าให้เสยี วฎุ ุอฺ บอกเวลาและอิรยิ าบถของการละหมาดฟัรฎุ เหน็ คุณคา่ และ ปฏิบัติตนตามคาแนะนาในการชาระล้างนะญิส และการทาวฎุ อุ ฺ โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพ่ือให้เข้าใจปฏิบัติตามกฎ หลักการ บทบัญญัติอิสลามเกี่ยวกับ อิบาดาต มุอามาลาต มุนากาฮาต และญินาญาต และนาไปใช้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติศาสนกิจเห็นคุณค่า ยึดม่ันในหลักปฏิบัติศาสนบัญญัติ รักการอ่านอัล – กุรฺ อาน รักการละหมาด รกั ความสะอาด มมี ารยาทแบบอสิ ลาม มีความรับผดิ ชอบ และนาไปปฏิบัติเพ่ือ การอยู่รว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งสนั ตสิ ุข อฟ 1 ป.1/1-3 รวมทัง้ หมด 3 ตัวชีว้ ัด

155 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นตันหยงลุโละ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ส ๑๒๒๐๖ อลั -ฟกิ ฮฺ รำยวิชำเพิม่ เตมิ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๒ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธิบาย บอกความหมาย ความสาคัญ หลักการอิสลาม การอะซาน การอิกอมะฮฺ การถือศีลอด การเข้าสุหนัต และอิริยาบถของการละหมาดฟัรฎุ บอกประเภทและวิธีการชาระล้าง นะญิส เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามคาแนะนาในการชาระล้างนะญิส การทาวุฎุอฺและอิริยาบถของ การละหมาดฟรั ฎุ โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพ่ือให้เข้าใจปฏิบัติตามกฎ หลักการ บทบัญญัติอิสลามเก่ียวกับ อิบาดาต มุอามาลาต มุนากาฮาต และญินาญาต และนาไปใช้ เป็นแนวทางในการปฏบิ ัตศิ าสนกจิ เห็นคุณค่า ยึดมั่นในหลักปฏิบัติศาสนบัญญัติ รักการอ่านอัล – กุรฺอาน รักการละหมาด รักความ สะอาด มีมารยาทแบบอิสลาม มีความรับผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพ่ือการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่าง สนั ตสิ ขุ อฟ 1 ป.2/1-3 รวมทงั้ หมด 3 ตัวชีว้ ัด

156 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตันหยงลโุ ละ (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ส ๑๓๒๐๖ อัล-ฟกิ ฮฺ รำยวชิ ำเพ่มิ เตมิ กลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ ังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ ๓ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธิบาย ความหมาย ความสาคัญของหลักการอิสลาม การอิสตินญาอฺ การอะ ซาน การอิกอมะฮฺ การละหมาดฟัรฎุและการถือศีลอด เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามคาแนะนาใน การอะซาน การอกิ อมะฮฺ การละหมาดฟัรฎุ การถอื ศีลอด และการอิสตนิ ญาอฺ โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพื่อให้เข้าใจปฏิบัติตามกฎ หลักการ บทบัญญัติอิสลามเก่ียวกับ อิบาดาต มุอามาลาต มุนากาฮาต และญินาญาต และนาไปใช้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติศาสนกิจเห็นคุณค่า ยึดมั่นในหลักปฏิบัติศาสนบัญญัติ รักการอ่านอัล – กุรฺ อาน รักการละหมาด รักความสะอาด มีมารยาทแบบอสิ ลาม มีความรบั ผิดชอบ และนาไปปฏบิ ัติเพื่อ การอยู่ร่วมกันในสังคมอยา่ งสันติสขุ อฟ 1 ป.3/1-2 รวมทง้ั หมด 2 ตวั ชี้วดั

157 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตันหยงลโุ ละ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำ ส ๑๔๒๐๖ อัล-ฟกิ ฮฺ รำยวิชำเพ่มิ เติม กลุม่ สำระกำรเรียนรสู้ งั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี ๔ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธิบาย ความหมาย ความสาคัญ และประเภทของหุกุมชรั อยี ฺ อธิบายความหมาย ความสาคญั และ บทบัญญัตขิ องวิธีการทาวุฎุอฺ การตะยมั มุม การละหมาดญะมาอะฮฺ ละหมาดญัมอฺ- ก็อศรฺ ละหมาดญุมอะฮฺ และการละหมาดสนุ ตั รอวาติบ และตะฮยฺ าตุลมสั ญดิ อธิบายสิ่งทีเ่ ปน็ วาญิบ สุนัต หะรอม มักรุฮฺ และประโยชน์ของการละหมาด เห็นคุณค่าและปฏิบัติการละหมาดญะมาอะฮฺ ละหมาดญมั อฺ-ก็อศรฺ และละหมาดญุมอะฮฺ และการละหมาดสนุ ัต รอวาติบและตะฮฺยาตุลมัสญดิ โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพื่อให้เข้าใจปฏิบัติตามกฎ หลักการ บทบัญญัติอิสลามเก่ียวกับ อิบาดาต มุอามาลาต มุนากาฮาต และญินาญาต และนาไปใช้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติศาสนกิจเห็นคุณค่า ยึดมั่นในหลักปฏิบัติศาสนบัญญัติ รักการอ่านอัล – กุรฺ อาน รกั การละหมาด รกั ความสะอาด มมี ารยาทแบบอิสลาม มีความรบั ผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพ่ือ การอยูร่ ว่ มกันในสงั คมอยา่ งสันตสิ ขุ อฟ 1 ป.4/1-4 รวมทั้งหมด 4 ตวั ช้ีวัด

158 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตันหยงลุโละ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำ ส ๑๕๒๐๖ อลั -ฟกิ ฮฺ รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ กลุ่มสำระกำรเรียนรูส้ งั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ ๕ เวลำ ๔๐ ช่ัวโมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธิบาย ความหมาย ความสาคัญ บทบัญญัติของการปกปิดเอาเราะฮฺ การ ละหมาดสุนัตตะรอวีหฺ วิเตรฺ ดุฮารฺและตะฮยุด ลัยลาตุลก็อดรฺ ซะกาตฟิฏรฺ วันอีดิลฟิฏรฺและการ ละหมาดสุนัต อธิบายส่ิงที่เป็นวาญิบ สุนัต หะรอม มักรุฮฺและประโยชนข์ องการถือศีลอด อธิบาย วิธีการอาบน้าวาญิบและสุนัต เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนในเรื่องการปกปิดเอาเราะฮฺ การถือศีลอด การละหมาดสุนัตตะรอวีหฺและวิเตรฺ ดุฮารฺและตะฮยุด ลัยลาตุลก็อดรฺ ซะกาฮฺฟิฏรฺ วันอีดิลฟิฏรฺ การละหมาดสนุ ตั การอาบน้าวาญิบและสนุ ตั โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพ่ือให้เข้าใจปฏิบัติตามกฎ หลักการ บทบัญญัติอิสลามเก่ียวกับ อิบาดาต มุอามาลาต มุนากาฮาต และญินาญาต และนาไปใช้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติศาสนกิจเห็นคุณค่า ยึดมั่นในหลักปฏิบัติศาสนบัญญัติ รักการอ่านอัล – กุรฺ อาน รักการละหมาด รักความสะอาด มมี ารยาทแบบอิสลาม มคี วามรบั ผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพื่อ การอยูร่ ่วมกนั ในสังคมอย่างสนั ตสิ ขุ อฟ 1 ป.5/1-4 รวมท้ังหมด 4 ตัวชว้ี ัด

159 หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตันหยงลโุ ละ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ส ๑๖๒๐๖ อลั -ฟกิ ฮฺ รำยวิชำเพิ่มเตมิ กลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษำปีท่ี ๖ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและ อธิบาย ความหมาย ความสาคัญ บทบัญญัติของการละหมาดสุนัต ซะกาฮฺ อะกี เกาะฮฺ อาหารและเคร่ืองด่ืมท่ีหะลาลและหะรอม การประกอบพิธีหัจญ์ วันอีดิลอัฎหาและการ ละหมาด กุรฺบาน การจัดการญะนาซะฮฺและการละหมาดญะนาซะฮฺ พร้อมอ้างอิงหลักฐานจากอัล- กุรฺอานและอัล-หะดีษที่เก่ียวข้องจาแนกประเภทอาหารและเครื่องดื่มท่ี หะลาลและหะรอม เห็น คุณค่าและปฏิบัติตนในเรื่องการละหมาดสุนัต ซะกาฮฺ อะกีเกาะฮฺ การประกอบพิธีหัจญ์ วันอีดิลอัฎ หาและ การละหมาดสุนตั กรุ ฺบาน การจดั การญะนาซะฮฺ และการละหมาดญะนาซะฮฺ โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา อรรถาธิบาย และปฏิบัติ เพื่อให้เข้าใจปฏิบัติตามกฎ หลักการ บทบัญญัติอิสลามเกี่ยวกับ อิบาดาต มุอามาลาต มุนากาฮาต และญินาญาต และนาไปใช้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติศาสนกิจเห็นคุณค่า ยึดม่ันในหลักปฏิบัติศาสนบัญญัติ รักการอ่านอัล – กุรฺ อาน รกั การละหมาด รกั ความสะอาด มีมารยาทแบบอสิ ลาม มีความรบั ผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพ่ือ การอยรู่ ว่ มกันในสงั คมอยา่ งสันตสิ ุข อฟ 1 ป.6/1-3 รวมทัง้ หมด 3 ตวั ชี้วัด

160 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตันหยงลุโละ (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวิชำ ส ๑๑๒๐๗ อัล-หำดิษ รำยวิชำเพม่ิ เตมิ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๑ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและอธิบายบอกคาจากัดความของอัล-หะดีษ อ่าน บอกความหมาย ท่องจา และ ปฏิบัติตนตามคาสอนของอัล-หะดีษเกี่ยวกับอีมาน อิสลาม อิหฺสาน การกล่าวและการตอบรบั สลาม ความสะอาด และการกนิ การดืม่ โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา และอรรถาธิบาย เพ่ือให้สามารถบอกความหมาย อา่ น และ นาหลักคาสอนไปปฏิบตั ิในการดาเนนิ ชวี ติ เหน็ คุณค่า ยึดม่นั ในอัล-หะดษี รักการอ่านอลั – กุรฺอาน รักการละหมาด รกั ความสะอาด มมี ารยาท แบบอิสลาม มีความรบั ผิดชอบ และนาไปปฏบิ ตั ิเพ่อื การอย่รู ่วมกันในสงั คมอย่างสันตสิ ขุ อห 1 ป.1/1-4 รวมท้ังหมด 4 ตวั ชีว้ ดั

161 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลโุ ละ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำ ส ๑๒๒๐๗ อัล-หำดิษ รำยวิชำเพ่มิ เติม กลมุ่ สำระกำรเรียนร้สู ังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษำปที ี่ ๒ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและอธิบายบอกคาจากัดความของอัล-หะดีษ อ่าน บอกความหมาย ท่องจา และ ปฏบิ ตั ติ นตามคาสอนของอลั -หะดีษเกย่ี วกบั อีมาน อสิ ลาม อหิ ฺสาน การศกึ ษา ความพงึ พอใจของพ่อ แม่ และการแตง่ กาย โดยใช้กระบวนการอ่าน ทอ่ งจา และอรรถาธิบาย เพ่อื ให้สามารถบอกความหมาย อา่ น และ นาหลกั คาสอนไปปฏิบตั ใิ นการดาเนนิ ชวี ติ เห็นคุณคา่ ยดึ มน่ั ในอัล-หะดีษ รกั การอ่านอัล – กุรอฺ าน รกั การละหมาด รักความสะอาด มีมารยาท แบบอิสลาม มีความรับผิดชอบ และนาไปปฏบิ ตั เิ พอ่ื การอย่รู ่วมกันในสงั คมอย่างสนั ติสขุ อห 1 ป.2/1-4 รวมท้งั หมด 4 ตวั ชวี้ ดั

162 หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตนั หยงลุโละ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธบิ ำยรำยวิชำ ส ๑๓๒๐๗ อัล-หำดษิ รำยวิชำเพิม่ เตมิ กลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ งั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ช้ันประถมศึกษำปที ี่ ๓ เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศกึ ษาและอธิบายบอกคาจากัดความของอลั -หะดีษ บอกความแตกต่างระหว่างอัล-หะดีษ เกย่ี วกบั อัล-กุรอฺ าน อ่าน บอกความหมาย ท่องจา และปฏิบัติตนตามคาสอนของอลั -หะดษี เก่ยี วกับอี มาน อสิ ลาม อหิ ฺสาน หะดีษญิบรลี ลูกท่ีดี มารยาทท่ดี ี และการรบั ประทานอาหาร โดยใชก้ ระบวนการอา่ น ทอ่ งจา และอรรถาธบิ าย เพือ่ ใหส้ ามารถบอกความหมาย อา่ น และ นาหลักคาสอนไปปฏิบตั ิในการดาเนนิ ชีวิต เห็นคุณค่า ยดึ ม่นั ในอลั -หะดีษ รักการอา่ นอัล – กุรอฺ าน รักการละหมาด รกั ความสะอาด มมี ารยาท แบบอสิ ลาม มคี วามรบั ผิดชอบ และนาไปปฏิบตั ิเพ่ือการอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอย่างสนั ตสิ ุข อห 1 ป.3/1-4 รวมทงั้ หมด 4 ตัวชวี้ ัด

163 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลุโละ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวิชำ ส ๑๔๒๐๗ อลั -หำดิษ รำยวิชำเพิม่ เตมิ กลมุ่ สำระกำรเรียนร้สู งั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ ๔ เวลำ ๔๐ ช่วั โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและอธิบาย การอ่านและท่องจา บอกและสรุปความหมายความสาคัญ และปฏิบัตติ น ตามคาสอนของอลั -หะดษี เก่ียวกับอีมาน อิสลาม อิหฺสาน ความชื่อสตั ย์ ความอดทน อะมานะฮฺ โดยใช้กระบวนการอา่ น ทอ่ งจา และอรรถาธบิ าย เพื่อให้สามารถบอกความหมาย อา่ น และ นาหลักคาสอนไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิตเห็นคุณค่า ยึดมั่นในอัล-หะดีษ รักการอ่านอัล – กุรฺอาน รักการละหมาด รักความสะอาด มีมารยาทแบบอิสลาม มีความรับผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพ่ือการ อยู่รว่ มกันในสงั คมอย่างสันตสิ ขุ อห 1 ป.4/1-4 รวมทั้งหมด 4 ตัวช้วี ัด

164 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตนั หยงลุโละ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำ ส ๑๕๒๐๗ อัล-หำดษิ รำยวิชำเพม่ิ เติม กลุม่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๕ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและอธิบาย การอ่านและท่องจา บอกและสรุปความหมายความสาคัญ และปฏิบัตติ น ตามคาสอนของอัล-หะดีษเกี่ยวกับอีมาน อิสลาม อิหฺสาน การให้อภัย โอบอ้อมอารี ความเสียสละ ใจบญุ โดยใช้กระบวนการอา่ น ท่องจา และอรรถาธบิ าย เพ่ือให้สามารถบอกความหมาย อ่าน และ นาหลกั คาสอนไปปฏบิ ตั ิในการดาเนนิ ชวี ิต เห็นคณุ ค่า ยดึ ม่ันในอลั -หะดีษ รกั การอ่านอัล – กุรอฺ าน รกั การละหมาด รักความสะอาด มีมารยาท แบบอิสลาม มคี วามรบั ผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพอ่ื การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอย่างสันตสิ ขุ อห 1 ป.5/1-4 รวมท้งั หมด 4 ตวั ชว้ี ัด

165 หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลโุ ละ (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ คำอธิบำยรำยวชิ ำ ส ๑๖๒๐๗ อลั -หำดิษ รำยวชิ ำเพิม่ เติม กล่มุ สำระกำรเรยี นรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ช้ันประถมศึกษำปที ่ี ๖ เวลำ ๔๐ ชว่ั โมง …………………………………………………………………………………………………….…………………. ศึกษาและอธิบาย อ่านและท่องจา บอกคาศัพท์และสรุปความหมายความสาคัญอัล-หะดีษ และปฏิบัติตนตามหลักคาสอนจากอัล-หะดีษ เก่ียวกับอีมาน อิสลาม อิหฺสาน เพ่ือนบ้าน การ บริจาคทาน การพึ่งตนเอง นาอลั -หะดษี ทจ่ี าไดไ้ ปใชอ้ ้างองิ ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม โดยใช้กระบวนการอ่าน ท่องจา และอรรถาธบิ าย เพื่อใหส้ ามารถบอกความหมาย อา่ น และ นาหลักคาสอนไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิตเห็นคุณค่า ยึดม่ันในอัล-หะดีษ รักการอ่านอัล – กุรฺอาน รักการละหมาด รักความสะอาด มีมารยาทแบบอิสลาม มีความรับผิดชอบ และนาไปปฏิบัติเพื่อการ อยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมอย่างสันตสิ ขุ อห 1 ป.6/1-4 รวมทงั้ หมด 4 ตัวช้วี ัด

166 หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตันหยงลโุ ละ (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ บทท่ี ๔ กจิ กรรมพฒั นำผ้เู รียน ตำมหลักสูตรสถำนศกึ ษำโรงเรียนบำ้ นตนั หยงลโุ ละ ควำมหมำยและควำมสำคัญของกจิ กรรมพฒั นำผู้เรยี น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมสาคัญท่ีหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ พุทธศักราช ๒๕๕๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กาหนดให้ จัดทาข้ึนให้ผู้เรียนทุกคน ทุกระดับช้ัน เพ่ือส่งเสริมพัฒนาความสามารถของตนเองตามความถนัด ความสนใจ ให้เต็มศักยภาพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม สร้างเยาวชนของชาติให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลกู ฝงั และสรา้ งจิตสานกึ ของการทาประโยชนเ์ พื่อสังคมและสามารถบรหิ ารการจดั การตนเอง กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถของตนเอง ตามศักยภาพ เพิ่มเติมจากกิจกรรมการเรยี นรู้ตามกล่มุ สาระการเรยี นรู้ท้ัง ๘ กลุ่ม การเข้าร่วม และ ปฏิบัติกิจกรรมที่เหมาะสมร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุขกับกิจกรรมท่ีเลือกด้วยตนเองตามความถนัด ความสนใจอย่างแท้จริงจะเสริมสร้างและพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้านสร้าง ความเป็นมนษุ ย์ทสี่ มบรู ณ์ ปลกู ฝงั และสรา้ งจิตสานกึ ของการทาประโยชน์เพอื่ สงั คม จุดมงุ่ หมำยของกจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี น การจัดทากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ มี จดุ ประสงคส์ าคัญ คอื ๑. เพื่อช่วยเพิม่ พูนประสบการณ์ของผูเ้ รยี น ได้ฝึกฝนทกั ษะ ไดเ้ รยี นรู้ โดยการปฏิบัตจิ รงิ อนั เปน็ การสอดคลอ้ งกบั แนวการจัดการเรยี นร้ทู ี่ยึดผู้เรียนเป็นสาคญั ๒. เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะดีเด่นของความเป็นประชาธิปไตย ฝึกการเป็นผู้นา ผู้ตาม ฝึก การทางานรว่ มกัน ฝึกการแสดงความคิดเหน็ ฝกึ ความรบั ผิดชอบ ๓. เพ่ือก่อให้เกิดความสามัคคี รักหมู่คณะ เกิดความเข้าใจซ่ึงกันและกัน เพราะการปฏิบัติ กิจกรรมต้องทางานเป็นกลุ่ม ต้องร่วมกันคิด ร่วมกันทา ได้พบความสุข ความทุกข์ร่วมกัน เกิดความ ประทบั ใจซง่ึ กันและกนั ๔. ส่งเสริมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่ เพราะการทากิจกรรมร่วมกันต้อง ร่วมกันศึกษาคน้ คว้า ค้นหาวธิ กี ารที่ดกี ว่า ทาให้ความคดิ แตกฉาน พบเทคนคิ วิธีการท่แี ปลก ๆ ใหม่ ๆ ในการพัฒนาผลงาน ๕. เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนมีทางเลือก มีโอกาสแสดงออกตามแนวคิด ความสนใจของตนเอง มี โอกาสในการเลอื กตามความต้องการ ความถนัด ชว่ ยพัฒนาศกั ยภาพของผู้เรยี นเป็นรายบุคคล ๖. เพ่ือฝึกผู้เรียนให้เป็นสมาชิกท่ีดีของสังคม ชุมชน และประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและ อนาคต เพราะกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีลักษณะเป็นสังคมเล็กท่ีจาลองจากสังคมใหญ่ มีกฎระเบียบ

167 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นตันหยงลุโละ (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ กติกา มีความรับผิดชอบท้ังในสิทธิหน้าที่ซึ่งเป็นการปลูกฝังลักษณะนิสัยและคุณลักษณะอันพึง ประสงคข์ องการอยูร่ ว่ มกนั ในสังคมปกติ ๗. เพ่อื ชว่ ยใหผ้ สู้ อนร้จู กั ผู้เรียนแตล่ ะคนดีขึ้น เพราะผลงานในการทากิจกรรมของผ้เู รียน จะช่วยให้ผสู้ อนเข้าใจผเู้ รยี นและประเมินคณุ คา่ คุณภาพของนักเรยี นได้ดี และถูกต้องมากขน้ึ รู้จักและ เข้าใจความสนใจของผู้เรียน ความถนัดของผู้เรียน ช่วยให้ผู้สอนทราบข้อมูลพ้ืนฐานของผู้เรียนท่ี ถูกตอ้ ง และสามารถสง่ เสรมิ สนบั สนุน หรอื แก้ไขข้อบกพรอ่ งของผู้เรยี นได้ถูกแนวทาง ๘. เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุงหลักสูตรและการเรียนการสอนของสถานศึกษา เพราะ พฤติกรรมการแสดงออกของผู้เรียนในการปฏิบัติกิจกรรม เป็นผลที่บ่งช้ีถึงความสาเร็จของหลักสูตร และการเรียนการสอนของสถานศึกษาว่าบรรลุผลตามจุดมุ่งหมายหรือไม่ มากน้อยเพียงใด หลักสูตร ควรจะตอ้ งมกี ารปรับปรุงหรือพฒั นาในส่วนใด หลกั กำรจดั กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน ๑. มกี ารกาหนดวตั ถปุ ระสงค์ และแนวปฏบิ ัติท่ชี ดั เจนเป็นรปู ธรรม ๒. จดั ให้เหมาะสมกบั วยั วุฒิภาวะ ความสนใจ ความถนดั และความสามารถของผเู้ รยี น ๓. บรู ณาการกับชวี ิตจรงิ ให้ผู้เรยี นได้ตระหนกั ถึงความสาคัญของการเรยี นรตู้ ลอดชวี ิต ๔. ใช้กระบวนการกลุม่ ในการจัดประสบการณเ์ รยี นรู้ ฝึกใหค้ ิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ จนิ ตนาการ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์ และสมั พันธก์ ับชีวิตในแต่ละชว่ งวยั อยา่ งต่อเนื่อง ๕. จานวนสมาชิกเหมาะสมกบั ลกั ษณะของกิจกรรม ๖. มกี ารกาหนดเวลาในการจดั กจิ กรรมให้เหมาะสมตามโครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษา ๗. ผู้เรียนเป็นผู้ดาเนินการ มีครูเป็นท่ีปรึกษา ถือเป็นหน้าท่ีและงานประจา โดยคานึงถึง ความปลอดภัย ๘. ยึดหลักการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ชุมชน องค์กร ทั้งภาครัฐ และเอกชน มสี ่วนรว่ มในการจดั กจิ กรรม ๙. มีการประเมินผลการปฏิบัติกิจกรรม ด้วยวิธีที่หลากหลาย และสอดคล้องกับกิจกรรม อย่างเปน็ ระบบและต่อเน่ือง โดยให้ถือว่าเปน็ เกณฑป์ ระเมินผลการผา่ นช่วงชั้นเรยี น

168 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลโุ ละ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ โครงสรำ้ งเวลำกำรจดั กจิ กรรม ระดับประถมศึกษำ กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน ระดับประถมศึกษา ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ๑. กิจกรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๒. ลูกเสือ – เนตร ๔๐**๕ ๔๐**๕ ๔๐**๕ ๔๐**๕ ๔๐**๕ ๔๐**๕ นารี ๓. กจิ กรรมชมรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔. กิจกรรมเพื่อสงั คม และสาธารณประโยชน์ **๕ **๕ **๕ **๕ **๕ **๕ เวลาเรยี นรวม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ **๕ หมายถึง นาเวลาเรียนมาจากกิจกรรมดังกล่าวมาจัดกิจกรรมเพื่อสังคม และสาธารณประโยชน์ จานวน ๕ ชม. กำรดำเนนิ กำรกจิ กรรมพัฒนำผู้เรยี นโรงเรียนบำ้ นตนั หยงลุโละ โรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนโดยมุ่งให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จาก ประสบการณ์ตรง ได้ฝึกปฏิบัติจริงและค้นพบความถนัดของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความรู้ เพ่ิมเติมตามความสนใจจากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย บาเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม มีทักษะในการ ดาเนินงาน ส่งเสริมให้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ สังคม ศีลธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจ ตนเอง สามารถวางแผนชวี ติ และอาชีพไดอ้ ย่างเหมาะสม กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รียนโรงเรยี นบ้ำนตันหยงลโุ ละ ๑. กิจกรรมแนะแนว โรงเรียนบ้านตันหยงลุโละได้จัดกิจกรรมแนะแนวเพ่ือช่วยเหลือและ พฒั นาผ้เู รียน ดงั นี้ ๑. จัดกจิ กรรมเพื่อให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผู้เรียนมากข้ึน โดยใช้กระบวนการทาง จิตวิทยา การจัดบริการสนเทศ โดยจัดให้มีเอกสารเพื่อใช้สารวจข้อมูลเก่ียวกับตัวผู้เรียน ด้วยการ สังเกต การสัมภาษณ์ การใช้แบบสอบถาม การเขียนประวัติ การพบผู้ปกครองก่อนและระหวา่ งเรียน การเยี่ยมบ้านนักเรียน การให้ความช่วยเหลือผู้เรียนในเร่ืองสุขภาพจิต เศรษฐกิจ การจัดทาระเบียน สะสม สมุดรายงานประจาตัวนักเรยี น และบตั รสุขภาพ ๒. จัดกิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ โดยทาแบบทดสอบเพื่อรู้จักและเข้าใจ ตนเอง มที กั ษะในการตัดสินใจ การปรบั ตวั และการวางแผนเพือ่ เลือกศกึ ษาตอ่ เลือกอาชพี ๓. จัดบริการให้คาปรึกษาแก่ผู้เรียนเป็นรายบุคคล และรายกลุ่ม ในด้านการศึกษา อาชีพ และส่วนตัว โดยมีผู้ให้คาปรึกษาที่มีคุณวุฒิ และมีความเชี่ยวชาญในเร่ืองการให้คาปรึกษา ตลอดจนมีหอ้ งใหค้ าปรึกษาท่เี หมาะสม

169 หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลโุ ละ (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ แกผ่ ู้เรยี น ๓.๑ ช่วยเหลือผู้เรียนที่ประสบปัญหาด้านการเงิน โดยการให้ทุนการศึกษา ๓.๒ ติดตามเกบ็ ข้อมลู ของนกั เรยี นทีส่ าเรจ็ การศกึ ษา ๒. กิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี ผู้เรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ ผู้เรียน และ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ - ๓ ทุกคน ได้ฝึกอบรมวิชาลูกเสือ – เนตรนารี เพื่อส่งเสริมหลักการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ส่งเสริมความสามัคคี มีวินัย และ บาเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยดาเนินการจัดกิจกรรมตามข้อกาหนดของคณะกรรมการลูกเสือ แห่งชาติ กิจกรรมลูกเสอื – เนตรนารี ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ – ๓ เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรปุ ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ปดิ ประชุมกอง โดยให้ ผู้เรียนศึกษาและฝึกปฏบิ ัตใิ นเรื่อง ๑. เตรียมลูกเสือสารอง นิยายเรื่องเมาคลี ประวัติการเร่ิมกิจการลูกเสือสารอง การทา ความเคารพเป็นหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทาความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว เบอ้ื งตน้ คาปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จนข์ องลกู เสือสารอง ๒. ลูกเสือสารองดาวดวงที่ ๑ ๒ และ ๓ ความสามารถเชิงทักษะ การสารวจ การค้นหา ธรรมชาติ ความปลอดภัย บริการ ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือ กิจกรรมกลางแจ้ง การบันเทิง การผูกเง่อื น คาปฏิญาณ และกฎของลกู เสอื สารอง โดยใช้กระบวนการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการคิดริเริม สรา้ งสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และ ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ กฎ และคติ พจนข์ องลูกเสือสารอง มนี สิ ัยในการสังเกต จดจา เชอื่ ฟงั และพ่งึ ตนเอง ซื่อสตั ย์ สุจรติ มรี ะเบยี บวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน บาเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ รู้จักทาการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และ ศีลธรรม ท้ังน้ีโดยไม่เก่ียวข้องกับลัทธิการเมืองใด ๆ สนใจและอนุรักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ หมายเหตุ - เมือ่ ผู้เรยี นผา่ นการทดสอบในข้อ ๑ แล้ว จะได้รบั เครอื่ งหมายลกู เสือสารอง - เม่ือผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมและผ่านการสอบแล้ว จะได้รับเคร่ืองหมายดาวดวงที่ ๑ ๒ และ ๓ ตามลาดับ - สาหรับวิชาพิเศษ ให้ใช้ข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติว่าด้วยการปกครองหลักสูตร และวิชา พิเศษลูกเสอื สารอง (ฉบบั ที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๒๒

170 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตนั หยงลุโละ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ กิจกรรมลูกเสอื – เนตรนารี ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ - ๖ เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการของลกู เสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรปุ ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ปิดประชุมกอง โดยให้ ผเู้ รียนศึกษาและฝึกปฏบิ ตั ใิ นเรอ่ื ง ๑. ลกู เสือตรี ความรู้เกีย่ วกับขบวนการลกู เสือ คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ กจิ กรรม กลางแจ้ง ระเบยี บแถว ๒. ลกู เสอื โท การรจู้ ักดูแลตนเอง การชว่ ยเหลือผอู้ ื่น การเดนิ ทางไปยังสถานทต่ี า่ ง ๆ ทกั ษะในทางวิชาลูกเสือ งานอดิเรกและเรอ่ื งทน่ี ่าสนใจ คาปฏิญาณ และกฎของลูกเสอื ระเบยี บแถว ๓. ลูกเสอื เอก การพึ่งตนเอง การบรกิ าร การผจญภยั วชิ าการของลูกเสอื ระเบยี บแถว โดยใช้กระบวนการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบตั ิทางลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ ได้อยา่ งเหมาะสม เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลกู เสือ สามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ กฎ และคติ พจนข์ องลกู เสือสามญั มีนสิ ัยในการสังเกต จดจา เช่อื ฟัง และพ่งึ ตนเอง ซอ่ื สัตย์ สุจริต มรี ะเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บาเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ รู้จักทาการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และ ศีลธรรม ทั้งน้ีโดยไม่เก่ียวข้องกับลัทธิการเมืองใด ๆ สนใจและอนุรักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ หมายเหตุ - เมื่อผเู้ รยี นได้ปฏบิ ัติกิจกรรม และผ่านการทดสอบแลว้ จะไดร้ ับเคร่ืองหมายลูกเสือตรี ลกู เสือโท และลกู เสอื เอก ตามลาดับ - สาหรับวิชาพิเศษ ให้ใช้ข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติว่าด้วยการปกครองหลักสูตร และวชิ าพเิ ศษลกู เสอื สามญั (ฉบับท่ี ๑๓) พ.ศ. ๒๕๒๕ ผลกำรเรยี นร้กู จิ กรรมลกู เสอื - เนตรนำรี ๑. รู้ เขา้ ใจ และสามารถปฏิบัติตนตามคาปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จนข์ อง ลกู เสอื - เนตรนารี ๒. เข้าใจความเป็นมาและวิวัฒนาการของลกู เสือ - เนตรนารี ๓. ปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีความกล้าหาญ อดทน เช่ือมั่นในตนเอง มี ระเบียบวนิ ยั มีความสามคั คี เห็นอกเห็นใจผอู้ ื่น มีความเสียสละ บาเพญ็ ตนเพอ่ื สาธารณประโยชน์ ๔. มีทักษะการสังเกต จดจา การใช้มือ เคร่ืองมือ การแก้ไขปัญหา และทักษะในการ ทางานร่วมกนั ๕. พัฒนาตนเองอยเู่ สมอ สรา้ งสรรค์งานฝมี ือ สนใจ และพัฒนาเรอื่ งของธรรมชาติ

171 หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นตนั หยงลุโละ (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ ๓. กิจกรรมชมรม ผู้เรียนสามารถเลือกเข้าเป็นสมาชิกชมรม วางแผนการดาเนินกิจกรรม ร่วมกัน โดยมีชมรมท่ีหลากหลาย เหมาะสมกับเพศ วัย และความสนใจของผู้เรียน ประกอบด้วย กิจกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมประชาธิปไตย ส่งเสริมการ เรียนรู้ และค่ายวิชาการ การศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติ การบรรยายพิเศษ ดังตัวอย่างพอสังเขป ตอ่ ไปนี้ ๓.๑ กิจกรรมพัฒนาวุฒิภาวะทางอารมณ์ ศีลธรรมและจริยธรรม จัดสอนจริยธรรม ในห้องเรียน จัดให้มีการปฏิบัติกิจกรรมเน่ืองในวันสาคัญทั้งทางชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยผู้เรียนมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทง้ั ในด้านวัฒนธรรม ประเพณี กีฬา และศลิ ปะ ๓.๒ กิจกรรมพฒั นาทกั ษะชีวติ จดั กิจกรรมแข่งขนั กีฬาสีทุกช่วงช้นั โดยผู้เรยี นได้ฝึก ทักษะการทางาน และการแกป้ ัญหาทกุ ขัน้ ตอน ๓.๓ กิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการทางาน จัดกิจกรรมวันวิชาการโดยผู้เรียนมีโอกาส ลงมือปฏบิ ัติจริง และฝึกทกั ษะการจัดการ ๓.๔ กิจกรรมเพ่อื อนรุ ักษส์ ง่ิ แวดล้อมและวฒั นธรรม โดยจดั กจิ กรรมสืบสาน วัฒนธรรมไทย เช่น ประเพณไี หวค้ รู ประเพณลี อยกระทง ๓.๕ กิจกรรมส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย จัดให้มีการเลือก คณะกรรมการนักเรียน โดยให้นากระบวนการประชาธิปไตยไปใช้ในการร่วมวางแผนดาเนินงาน พฒั นาโรงเรียน ๓.๖ กิจกรรมคนดีของสังคม จัดให้มีการบรรยายให้ความรู้ เพื่อป้องกันปัญหา โรคติดต่อรา้ ยแรง ปญั หายาเสพตดิ ปัญหาวยั รนุ่ ให้ความรเู้ พ่อื ปลูกฝงั ให้เปน็ สุภาพบรุ ษุ สภุ าพสตรี ๓.๗ กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้ โดยจัดแหล่งเรียนรู้ ไดแ้ ก่ หอ้ งสมดุ ห้องปฏบิ ตั กิ ารทางภาษา ห้องปฏบิ ัติการวทิ ยาศาสตร์ ห้องเทคโนโลยสี ารสนเทศ ๓.๘ กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอนามัย ให้บริการห้องพยาบาล มีบริการให้ความรู้แก่ ผู้เรยี น เพอ่ื ปอ้ งกันโรคระบาดอย่างทันเหตุการณ์ ๔. กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ทา ประโยชน์ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่ือแสดงถึงความ รับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทาประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสงั คม กจิ กรรมสาคัญไดแ้ ก่ กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ กจิ กรรมสรา้ งสรรคส์ ังคม กจิ กรรมดารงรักษา สืบสาน ศาสนา ศลิ ปะและวฒั นาธรรม กจิ กรรมพฒั นานวัตกรรมและเทคโนโลยเี พ่ือสงั คม เวลาเรียนสาหรับกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพ่ือสังคมและ สาธารณประโยชนจ์ ดั สรรเวลาให้ผ้เู รียนดงั น้ี - ระดบั ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ รวม ๖ ปี จานวน ๓๐ ช่วั โมง (เฉล่ียปีละ ๕ ชวั่ โมง) การ จัดกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ในระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ นาไปสอดแทรกใน กจิ กรรมสง่ เสริมจรยิ ธรรม และในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นสอดแทรกในกิจกรรมชมรม ทง้ั นีก้ ารทา กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ให้ผู้เรียนรายงานแสดงการเขา้ ร่วมกิจกรรมลงในสมุดบันทึก และมีผ้รู บั รองผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมทกุ ครั้งท้งั กจิ กรรมในสถานศึกษาและกจิ กรรมนอกสถานศกึ ษา

172 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตันหยงลุโละ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ กำรพิจำรณำมอบหมำยผจู้ ดั กิจกรรมพัฒนำผเู้ รียน คณะครูทุกคนเป็นท่ีปรึกษากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามที่สถานศึกษามอบหมายโดยมี บทบาท ดงั นี้ ๑. ปฐมนิเทศผ้เู ข้าเรียนใหเ้ ข้าใจเป้าหมาย วิธกี ารจดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ๒. เลอื กตั้งคณะกรรมการการดาเนินกิจกรรม ๓. ส่งเสรมิ การจัดทาแผนงาน / โครงการ โดยให้ผู้เรียนรว่ มแสดงความคดิ เหน็ ใน การจัดทาแผนงานโครงการ และปฏทิ นิ ปฏบิ ัตงิ าน ๔. ประสานงาน และอานวยความสะดวกในด้านทรพั ยากรตามความเหมาะสม ๕. ให้คาปรึกษา ดูแล ตดิ ตามการจดั กจิ กรรมของผเู้ รยี นให้เปน็ ไปตามแผนงานด้วย ความเรยี บร้อย และปลอดภัย ๖. ประเมินผลการเขา้ ร่วมและปฏิบัตกิ ิจกรรมของผเู้ รียน ๗. สรุปและรายงานผลการจัดกิจกรรมตอ่ หวั หน้ากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ขนั้ ตอนกำรดำเนนิ กำรของกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ๑. ประชุมผู้ทเ่ี กย่ี วข้อง เพ่อื กาหนดนโยบาย ๒. แตง่ ตงั้ คณะทางาน ๓. สารวจความสนใจของผเู้ รียนและความพร้อมของสถานศึกษา ๔. กาหนดกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ๕. วางแผนรว่ มกันระหวา่ งผทู้ ่เี ก่ยี วขอ้ ง จดั ทาแผนงานโครงการและปฏิทินปฏิบตั งิ าน ๖. ปฏบิ ัตงิ านตามแผนที่กาหนด ๗. นเิ ทศ ติดตาม และประเมนิ ผล ๘. สรุป รายงานผล

173 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ บทที่ ๕ กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียน ตำมหลกั สูตรสถำนศึกษำโรงเรียนบำ้ นตนั หยงลุโละ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕60) ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จัดทาข้ึนภายใต้กรอบของหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ บริบทของสภาพชุมชนและสังคม ภมู ิปญั ญา ท้องถ่นิ ของสถานศกึ ษา เพอ่ื ใชจ้ ัดในการศกึ ษาของสถานศกึ ษาเพื่อพัฒนาให้ผูเ้ รียนเป็นสมาชกิ ท่ีดีของ ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม ประเทศชาติ และพลโลก จากความมลู เหตุดงั กล่าว การวดั และประเมินผล การเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕60) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จึงต้องปฏิบัติตามข้อกาหนดการ ประเมินผลตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลัก ซ่ึงการ ดาเนินการในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของหลักสูตรสถานศึกษาได้กาหนดแนวทางในการ ดาเนนิ การดงั ต่อไปนี้ กำรวัดและประเมินผลกำรเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนต้องอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือ การประเมินเพ่ือพัฒนาผู้เรยี นและเพ่ือตัดสินผลการเรียน ในการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้ของผู้เรียน ให้ประสบผลสาเร็จน้ัน ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวช้ีวัดเพ่ือให้บรรลุตาม มาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนซึ่งเป็น เป้าหมายหลักในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับ สถานศึกษา ระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา และระดับชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็น กระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผลการประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสาเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ตลอดจนข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อการ ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนเกดิ การพฒั นาและเรียนรูอ้ ย่างเตม็ ตามศักยภาพ ๑. กำรประเมินระดับช้ันเรียน เป็นการวัดและประเมินผลท่ีอยู่ในกระบวนการจัดการ เรียนรู้ ผู้สอนดาเนินการเป็นปกติและสม่าเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมิน อย่างหลากหลาย เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมิน ช้ินงาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิด โอกาสให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพ่ือนประเมินเพื่อน ผู้ปกครองร่วมประเมิน ในกรณีที่ไม่ผ่านตัวชี้วัด ใหม้ กี ารสอนซอ่ มเสริม การประเมนิ ระดับชั้นเรยี นเป็นการตรวจสอบวา่ ผู้เรยี นมีพัฒนาการความกา้ วหน้าใน การเรียนรู้ อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีส่ิงที่ จะตอ้ งไดร้ ับการพฒั นาปรับปรงุ และส่งเสริมในด้านใด นอกจากนี้ยงั เปน็ ขอ้ มูลใหผ้ สู้ อนใช้ปรับปรุงการ เรียนการสอนของตนดว้ ย ทัง้ น้โี ดยสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ัด

174 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลุโละ (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ ๒. กำรประเมินระดับสถำนศึกษำ เป็นการประเมินท่ีสถานศึกษาดาเนินการเพื่อตัดสินผล การเรยี นของผเู้ รียนเปน็ รายป/ี รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน คณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากน้ีเพ่ือให้ได้ข้อมูลเก่ียวกับการจัดการศึกษา ของ สถานศึกษา ว่าส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมท้ังสามารถนาผลการเรียนของผู้เรียนในสถานศึกษาเปรียบเทียบกับเกณฑ์ระดับชาติ ผลการ ประเมินระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของ สถานศึกษาตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษา ต่อ คณะกรรมการสถานศึกษา สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พนื้ ฐาน ผูป้ กครองและชุมชน ๓. กำรประเมินระดับเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขต พ้นื ท่กี ารศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน เพอื่ ใช้เป็นข้อมูล พ้ืนฐานในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นท่ีการศึกษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถ ดาเนินการโดยประเมินคุณภาพผลสัมฤทธิ์ของผ้เู รียนด้วยขอ้ สอบมาตรฐานท่ีจัดทาและดาเนินการโดย เขตพนื้ ที่การศึกษา หรอื ด้วยความร่วมมือกบั หน่วยงานต้นสงั กัด ในการดาเนินการจดั สอบ นอกจากนี้ ยังได้จากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจากการประเมินระดับสถานศึกษาในเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษา ๔. กำรประเมินระดับชำติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการ เรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนท่ีเรียนในช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ ๓ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ เข้ารับการประเมนิ ผลจากการประเมนิ ใช้เป็นข้อมูลใน การเทียบเคียงคุณภาพการศึกษาในระดับต่าง ๆ เพื่อนาไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัด การศกึ ษา ตลอดจนเป็นข้อมูลสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจในระดบั นโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบ ทบทวนพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาท่ีจะต้องจัดระบบดูแล ช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพ้ืนฐาน ความ แตกต่างระหว่างบุคคลท่ีจาแนกตามสภาพปัญหาและความต้องการ ได้แก่ กลุ่มผู้เรียนท่ัวไป กลุ่ม ผู้เรียนท่ีมีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียนท่ีมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่า กลุ่มผู้เรียนท่ีมีปัญหาด้าน วินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนท่ีปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่ม พิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการ ดาเนนิ การช่วยเหลอื ผู้เรียนได้ทนั ทว่ งที ปดิ โอกาสใหผ้ ูเ้ รยี นไดร้ บั การพฒั นาและประสบความสาเร็จใน การเรียน สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทาระเบียบว่าด้วยการวัดและ ประเมินผลการเรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลั กเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เป็น ข้อกาหนดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพ่ือให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบัติ รว่ มกนั

175 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลโุ ละ (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ เกณฑก์ ำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียน ๑. กำรตัดสนิ กำรให้ระดบั และกำรรำยงำนผลกำรเรยี น ๑.๑ กำรตัดสินผลกำรเรียน ในการตัดสินผลการเรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนน้ัน ผู้สอนต้องคานึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละ คนเป็นหลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ืองในแต่ละภาคเรียน รวมทัง้ สอนซอ่ มเสริมผู้เรยี นให้พัฒนาจนเต็มตามศักยภาพ ระดบั ประถมศกึ ษำ (๑) ผู้เรียนตอ้ งมีเวลาเรยี นไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทง้ั หมด (๒) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา กาหนด (๓) ผู้เรยี นตอ้ งได้รบั การตดั สนิ ผลการเรียนทกุ รายวชิ า (๔) ผเู้ รยี นต้องได้รบั การประเมนิ และมผี ลการประเมนิ ผา่ นตามเกณฑท์ ่ี สถานศึกษากาหนด ในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรม พัฒนาผเู้ รียน การพิจารณาเล่ือนช้ัน ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณา เห็นว่าสามารถพัฒนาและสอนซ่อมเสริมได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษาท่ีจะผ่อนผันให้เล่ือนช้ัน ได้ แต่หากผู้เรยี นไมผ่ ่านรายวิชาจานวนมาก และมแี นวโน้มวา่ จะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่ สูงขนึ้ สถานศึกษาอาจต้งั คณะกรรมการพิจารณาใหเ้ รียนซ้าชนั้ ได้ ทง้ั นใ้ี ห้คานงึ ถึงวฒุ ภิ าวะและความรู้ ความสามารถของผู้เรยี นเป็นสาคัญ ๑.๒ กำรใหร้ ะดับผลกำรเรียน ระดับประถมศึกษำ ในการตัดสินเพื่อให้ระดับผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษา สามารถให้ระดับผลการเรียนหรือระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียน เป็นระบบตัวเลขโดยให้ใช้ ตัวเลขแสดงระดบั ผลการเรียนเปน็ ๘ ระดบั ดังน้ี ระดบั ผลกำรเรยี น ควำมหมำย ช่วงคะแนนเป็นรอ้ ยละ ๔ ดเี ย่ียม ๘๐ - ๑๐๐ ๓.๕ ดีมาก ๗๕ - ๗๙ ๓ ดี ๗๐ - ๗๔ ๒.๕ ค่อนขา้ งดี ๖๕ - ๖๙ ๒ ปานกลาง ๖๐ - ๖๔ ๑.๕ พอใช้ ๕๕ - ๕๙ ๑ ผา่ นเกณฑ์ขน้ั ต่า ๕๐ - ๕๔ ๐ ตา่ กวา่ เกณฑ์ ๐ - ๔๙

176 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตนั หยงลุโละ (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์น้ัน ใหร้ ะดบั ผลการประเมนิ เปน็ ดเี ย่ียม ดี และผา่ น การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การ ปฏิบตั กิ จิ กรรมและผลงานของผ้เู รียน ตามเกณฑ์ทสี่ ถานศึกษากาหนด และให้ผลการเข้าร่วมกิจกรรม เปน็ ผ่าน และไม่ผ่าน ๑.๓ การรายงานผลการเรยี น การรายงานผลการเรียนเป็นการส่ือสารให้ผู้ปกครองและผู้เรียนทราบความก้าวหน้าใน การเรียนรู้ของผู้เรียน ซ่ึงสถานศึกษาต้องสรุปผลการประเมินและจัดทาเอกสารรายงานให้ผู้ปกครอง ทราบภาคเรียนละ ๑ ครัง้ การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเป็นระดับคุณภาพการปฏิบัติของผู้เรียนที่ สะทอ้ นมาตรฐานการเรยี นรู้กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๒. เกณฑ์กำรจบกำรศกึ ษำ หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กาหนดเกณฑ์กลางสาหรับการจบการศึกษา ระดับ ประถมศกึ ษา ๒.๑ เกณฑ์กำรจบระดบั ประถมศกึ ษำ (๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน และรายวิชา/กิจกรรมเพ่ิมเติมตามโครงสร้างเวลา เรยี นทีห่ ลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐานกาหนด (๒) ผู้เรยี นต้องมผี ลการประเมนิ รายวิชาพน้ื ฐาน ผ่านทุกรายวิชา (๓) ผเู้ รียนมีผลการประเมินการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี นในระดบั “ผา่ น” ข้ึนไป (๔) ผู้เรยี นมีผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคใ์ นระดับ “ผา่ น” ขนึ้ ไป (๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและได้รับการตัดสินผลการเรียน “ผ่าน” ทุกกจิ กรรม เอกสำรหลกั ฐำนกำรศกึ ษำ เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสาคัญที่บันทึกผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศที่ เกยี่ วขอ้ งกับพฒั นาการของผเู้ รียนในดา้ นต่าง ๆ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ดังน้ี ๑. เอกสำรหลักฐำนกำรศกึ ษำท่ีกระทรวงศึกษำธิกำรกำหนด ๑.๑ ระเบียนแสดงผลกำรเรยี น เปน็ เอกสารแสดงผลการเรยี นและรบั รองผลการเรียน ของผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึก ข้อมูลและออกเอกสารน้ีให้ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เม่ือผู้เรียนจบการศึกษาระดับประถมศึกษา(ชั้น ประถมศึกษาปีท่ี ๖) หรือเมอื่ ลาออกจากสถานศกึ ษาในทุกกรณี ๑.๒ ประกำศนียบัตร เป็นเอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเพ่ือรับรองศักดิ์และสิทธ์ิของผู้ จบการศึกษา ที่สถานศึกษาให้ไว้แก่ผู้จบการศึกษาภาคบังคับ และผู้จบการศึกษาขั้นพ้ืนฐานตาม หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ๑.๓ แบบรำยงำนผู้สำเร็จกำรศึกษำ เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลักสูตรโดยบันทึก รายชอื่ และขอ้ มูลของผู้จบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา (ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖)

177 หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านตนั หยงลุโละ (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลาง ๒๕๕๑ ๒. เอกสำรหลกั ฐำนกำรศึกษำท่ีสถำนศกึ ษำกำหนด เป็นเอกสารที่สถานศึกษาจัดทาข้ึนเพ่ือบันทกึ พัฒนาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสาคัญ เกี่ยวกับผู้เรียน เช่น แบบรายงานประจาตัวนักเรยี น แบบบนั ทึกผลการเรยี นประจารายวิชา ระเบียน สะสม ใบรบั รองผลการเรียน และ เอกสารอนื่ ๆ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการนาเอกสารไปใช้ ๒.๑ แบบบันทึกผลกำรเรียนประจำรำยวิชำ เป็นเอกสารท่ีจัดทาข้ึน เพื่อให้ ครูผู้สอนใช้บันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน สาหรับการพิจารณาตัดสินผลการเรียนแต่ละรายวิชาเป็นราย หอ้ งเรียน เอกสารบันทึกผลการเรยี นประจารายวชิ า นาไปใชป้ ระโยชน์ ดังน้ี - ใช้บันทึกพัฒนาการ ผลการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ การอ่าน คิด วเิ คราะหแ์ ละเขียน และผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นของผ้เู รยี นแตล่ ะรายวิชา - ใช้เป็นหลักฐานสาหรับตรวจสอบ รายงาน และรับรองข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการ และผลการเรียนรูข้ องผู้เรียน ๒.๒ แบบรำยงำนประจำตัวนักเรียน เป็นเอกสารท่ีจัดทาข้ึนเพื่อบันทึกข้อมูลผล การเรียนรายวิชา และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนแต่ละคน ตามเกณฑ์การตัดสินการผ่าน ระดับช้ันของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน รวมทั้งข้อมูลด้านอ่ืน ๆ ของผู้เรียนที่บ้านและ สถานศกึ ษา โดยจัดทาเป็นเอกสารรายบคุ คล เพื่อใช้สาหรบั สอ่ื สารใหผ้ ปู้ กครองของผ้เู รยี นแตล่ ะคนได้ รับทราบผลการเรียนและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง แบบรายงานประจาตัว นักเรียน นาไปใช้ประโยชน์ ดงั น้ี - รายงานผลการเรียน ความประพฤติ และพัฒนาการของผู้เรียนให้ผู้ปกครอง ได้รับทราบ - ใช้เปน็ เอกสารส่ือสาร ประสานงาน เพ่ือความร่วมมือในการพัฒนาและปรับปรุง แกไ้ ขผู้เรียน - เป็นเอกสารหลักฐานสาหรับตรวจสอบ ยืนยัน และรับรองผลการเรียนและ พัฒนาการตา่ งๆ ของผู้เรียน ๒.๓ ระเบยี นสะสม เปน็ เอกสารทีจ่ ดั ทาข้ึนเพ่อื บันทึกขอ้ มลู เกยี่ วกับพฒั นาการของ ผู้เรียนในด้านต่าง ๆ เป็นรายบุคคล โดยจะบันทึกข้อมูลของผู้เรียนอย่างต่อเน่ือง ตลอดช่วง ระยะเวลาการศึกษาตามหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ พุทธศักราช ๒๕๕๓ ตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ ดงั นี้ - ใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการแนะแนวทางการศกึ ษาและการประกอบอาชีพของผเู้ รยี น - ใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาปรับปรุงบุคลิกภาพ ผลการเรียนและการปรับตัวของ ผู้เรยี น - ใช้ติดต่อสื่อสาร รายงานพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนระหว่างสถานศึกษากับ ผูป้ กครอง - ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานสาหรับการตรวจสอบ รบั รอง และยนื ยนั คณุ สมบัติของผเู้ รยี น ๒.๔ ใบรับรองผลกำรเรียน เป็นเอกสารที่จัดทาข้ึน เพ่ือใช้เป็นเอกสารสาหรับ รับรองความเป็นนักเรียนหรือผลการเรียนของผู้เรียนเป็นการช่ัวคราวตามที่ผู้เรียนร้องขอ ทั้งกรณีท่ี ผูเ้ รียนกาลงั ศึกษาอย่ใู นสถานศกึ ษาและเม่ือจบการศึกษาไปแล้วนาไปใช้ประโยชน์ ดังนี้

178 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นตันหยงลโุ ละ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ - รบั รองความเปน็ นกั เรียนของสถานศึกษาท่เี รียนหรือเคยเรยี น - รบั รองและแสดงความรู้ วุฒกิ ารศกึ ษาของผเู้ รยี น - ใช้เป็นหลักฐานแสดงคุณสมบัติของผู้เรียนในการสมัครเข้าศึกษาต่อ สมัครเข้า ทางาน หรือเมื่อมีกรณีอ่ืนใดท่ีผู้เรียนแสดงคุณสมบัติเกี่ยวกับวุฒิความรู้ หรือสถานการณ์เป็นผู้เรียน ของตน - เป็นหลักฐานสาหรับการตรวจสอบ รับรอง ยืนยันการใช้สิทธิ์ความเป็นผู้เรียน หรอื การไดร้ ับการรบั รองจากสถานศึกษา กำรเทยี บโอนผลกำรเรยี น สถานศึกษาสามารถเทียบโอนผลการเรียนของผู้เรียนในกรณีต่าง ๆ ได้แก่ การย้าย สถานศึกษา การเปล่ียนรูปแบบการศึกษา การย้ายหลักสูตร การออกกลางคัน และขอกลับเข้ารับ การศกึ ษาต่อ การศึกษาจากต่างประเทศและขอเข้าศกึ ษาต่อในประเทศ นอกจากนี้ ยังสามารถเทียบ โอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เช่น สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชีพ การจัดการศกึ ษาโดยครอบครัว การเทียบโอนผลการเรียนควรดาเนินการในชว่ งก่อนเปดิ ภาคเรยี นแรก หรือตน้ ภาคเรียนแรก ที่สถานศึกษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ท้ังน้ี ผู้เรียนที่ได้รับการเทียบโอนผลการเรียนต้องศึกษา ต่อเนื่องในสถานศึกษาที่รับเทียบโอนอย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละพิจารณา ดาเนินการ ดงั นี้ ๑. พิจารณาจากหลักฐานการศึกษา ซ่ึงจะให้ข้อมูลแสดงความรู้ ความสามารถของ นกั เรยี นในด้านต่าง ๆ ๒. พิจารณาจากความรู้ ประสบการณ์ตรงจากการปฏบิ ัติจรงิ การทดสอบ การสมั ภาษณ์ ๓. พิจารณาจากความสามารถ และการปฏบิ ัติจรงิ ๔. ในกรณีมีเหตุผลจาเป็นระหว่างเรียน นักเรียนสามารถแจ้งความจานงขอไปศึกษาบาง รายวิชาในสถานศึกษา/สถานประกอบการอื่น แล้วนามาเทียบโอนได้ โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวชิ าการของโรงเรยี นบา้ นตนั หยงลโุ ละ ๕. การเทียบโอนผลการเรียนให้คณะกรรมการการเทียบโอนโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ จานวน ๕ คน เปน็ ผดู้ าเนินการ ๖. การเทยี บโอนให้ดาเนนิ การดงั น้ี ๖.๑ กรณีผ้ขู อเทียบโอนมผี ลการเรยี นมาจากหลกั สตู รอ่นื ให้นารายวิชาหรือ หนว่ ยกิตที่มตี วั ชี้วัด/มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวัง/จุดประสงค์/เนื้อหาที่สอดคล้องกัน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๐ มาเทียบโอนผลการเรียนและพิจารณาให้ระดับผลการเรียนให้สอดคล้องกับ หลกั สตู รท่รี บั เทียบโอน ๖.๒ กรณีการเทียบโอนความรู้ ทักษะและประสบการณ์ ให้พิจารณาจากเอกสาร หลกั ฐาน โดยใหม้ ีการประเมินด้วยเคร่อื งมือทห่ี ลากหลาย และให้ระดับผลให้สอดคล้องกับหลกั สูตรท่ี รับเทียบโอน ๖.๓ กรณกี ารเทียบโอนท่นี ักเรียนเข้าโครงการแลกเปล่ยี นต่างประเทศ ใหด้ าเนนิ การ ตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการเรื่องหลักการและแนวปฏบิ ัตกิ ารเทียบช้ันการศึกษาสาหรบั นักเรียน ท่ีเขา้ รว่ มโครงการแลกเปลีย่ น

179 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตนั หยงลุโละ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ ท้งั นี้ วิธีการเทยี บโอนผลการเรียนให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการและ แนวปฏบิ ัติที่เกี่ยวข้อง

180 หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตันหยงลโุ ละ (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลาง ๒๕๕๑ ภำคผนวก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook