หนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม รายวิชา สค33136 หลวงพ่อวดั ไร่ขิง มิ่งมงคล คนสามพราน ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอสามพราน สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวดั นครปฐม สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ
หนังสือเรียน สาระการพัฒนาสังคม หลักสูตรรายวชิ า สค33136 หลวงพ่อวดั ไร่ขิง มิ่งมงคล คนสามพราน ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั นครปฐม สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ
คำนยิ ม กกกกกกกหนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม รายวิชา สค33136 หลวงพ่อวัดไร่ขิง มิ่งมงคล คนสามพราน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอ สามพราน จังหวดั นครปฐม เปน็ สื่อการเรียนรูท้ ม่ี คี ณุ ค่าเปน็ อยา่ งยิง่ เพราะชว่ ยให้นักศกึ ษาท่ีลงทะเบียน เรียนหลักสูตรรายวิชา สค33136 หลวงพ่อวัดไร่ขิง มิ่งมงคล คนสามพราน ระดับมัธยมศึกษาตอน ปลาย เกิดการเรียนรู้ มีความรู้ ความเข้าใจในหัวเรื่อง หลวงพ่อวัดไร่ขิง วัดไร่ขิง พระอารามหลวง เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และหลักธรรมคาสอน บารมีของหลวงพ่อวัดไร่ขิงท่ีมีต่อชุมชน และประชาชน ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิง พระอารามหลวง และการเผยแพร่หลักธรรมคาสอน การถ่ายทอด ความเชอ่ื ความศรัทธา ความศักดส์ิ ทิ ธ์ิ และการสบื ทอดประเพณที ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั วัดไร่ขิง พระอารามหลวง สง่ ผลต่อความภาคภูมใิ จในชุมชนท้องถิ่นบ้านเกิดได้แลว้ ยงั ช่วยใหน้ ักศึกษาตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของ หลวงพ่อวัดไร่ขิง มิ่งมงคล คนสามพราน นอกจากนี้ นักศึกษาเกิดความตระหนักเห็นคุณค่าของ พระพุทธศาสนา และการเป็นศาสนิกชนด้วย กกกกกกกขอชื่นชมนายสมมาตร คงชื่นสิน ผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และคณะจัดทาหนังสือเรยี นฉบับนี้ ได้แก่ นางสุวลยั แจม่ จนั ทร์เกษม ขา้ ราชการครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ นางอรวรรณ มหายศนันท์ ข้าราชการครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ นางสาวอมรรัตน์ ธนธนานนท์ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน นายมานพ ปราชญอ์ ภญิ ญา ครศู ูนยก์ ารเรียนชุมชน และนางสาววราลี จริ วฒั น์ชยั นนั ท์ ครูศูนยก์ ารเรยี น ชุมชน สังกัดศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน สานักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัดนครปฐม ท่รี ่วมมอื กันจัดทาสื่อหนังสอื เรยี นฉบบั น้ีจนสาเร็จลลุ ว่ ง ให้ครูผู้สอนใช้เปน็ สื่อการเรยี นรู้ ช่วยให้นักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนหลกั สตู รรายวิชา สค33136 หลวงพ่อวัดไรข่ ิง มิ่งมงคล คนสามพราน เกิดการเรยี นรู้ บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ และ จุดมุ่งหมายของหลกั สตู รได้เป็นอยา่ งดี (นายปรเมศวร์ ศิริรัตน์) ผู้อานวยการสานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวดั นครปฐม
คำนำ กกกกกกกหนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม รายวิชา สค33136 หลวงพ่อวัดไร่ขงิ มิ่งมงคล คนสามพราน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม จัดทาข้ึนเพ่ือใช้เป็นส่ือการเรียนรู้ของนักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนหลกั สตู ร รายวิชา สค33136 หลวงพ่อวัดไร่ขิง มิ่งมงคล คนสามพราน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ส่งผลให้ นักศึกษาเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ และมีทักษะเกิดขึ้นตามมาด้วย หลังจากได้ฝึกปฏิบัติกจิ กรรมท้ายบท ของหนังสอื เรียนฉบับน้ี กกกกกกกหนังสือเรยี นฉบับน้ี ประกอบด้วย (1) คาแนะนาการใช้หนังสือเรียน (2) โครงสร้างรายวิชา (3) รายละเอยี ดของหนงั สือเรยี น มี 6 บท ได้แก่ บทที่ 1 หลวงพ่อวดั ไร่ขงิ บทท่ี 2 วดั ไร่ขิง พระอารามหลวง บทที่ 3 เจ้าอาวาสวัดไรข่ ิง และหลักธรรมคาสอน บทที่ 4 บารมีของหลวงพ่อวัดไร่ขิงท่ีมตี ่อชุมชนและ ประชาชน บทท่ี 5 ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวัดไรข่ ิงพระอารามหลวง และบทที่ 6 การเผยแพร่หลักธรรม คาสอน การถ่ายทอดความเช่ือ ความศรัทธา ความศักด์ิสิทธิ์ และการสืบทอดประเพณีที่เกีย่ วข้องกับ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง (4) บรรณานุกรม และ (5) ภาคผนวก กกกกกกกหนงั สอื เรียนฉบบั นี้ สาเร็จลงได้ดว้ ยดี เน่ืองจากไดร้ บั การสนับสนนุ จาก นายปรเมศวร์ ศิรริ ตั น์ ผู้ อ านวยก ารสานัก งาน ส่ง เสริมก ารศึ กษานอ กระ บบและ การศึ กษาตาม อัธยาศัย จังห วั ดนครปฐม พ.จ.ท. ปกาสิต ตราช่ืนต้อง รองผู้อานวยการสานักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศัยจังหวัดนครปฐม รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรี ศรีสังข์ นักวิชาการด้านการวิจัยและพัฒนาหลกั สตู ร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ นายสังคม โทปุรนิ ทร์ ผูอ้ านวยการสถานศกึ ษาเชีย่ วชาญ สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 ข้าราชการบานาญ พระเทพศาสนาภิบาล (แยม้ กติ ตฺ ินธฺ โร) เจ้าอาวาสวัดไรข่ งิ พระอารามหลวง รองเจ้าคณะจงั หวัดนครปฐม ตลอดจนคณะทางาน ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้แก่ นางสุวลัย แจ่มจันทร์เกษม ข้าราชการครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ นางอรวรรณ มหายศนนั ท์ ข้าราชการครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ นางสาวอมรรัตน์ ธนธนานนท์ ครูอาสาสมัครการศึกษานอก โรงเรียน นายมานพ ปราชญ์อภิญญา ครูศูนย์การเรียนชุมชน และนางสาววราลี จิรวัฒน์ชัยนันท์ ครศู ูนยก์ ารเรยี นชุมชน ทชี่ ว่ ยมุ่งม่ันจดั ทาเอกสารฉบับน้ีจนสมบูรณ์ ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ของนักศึกษาได้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน กราบขอบพระคุณพระเทพ ศาสนาภิบาล (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ขอขอบพระคุณ และขอขอบคณุ ทกุ ท่านมา ณ ที่น้ดี ้วย (นายสมมาตร คงชื่นสิน) ผูอ้ านวยการศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน
สารบญั หนา้ คำแนะนำกำรใชห้ นงั สอื เรียน……………………………………………………………..……………………………. 1 โครงสรำ้ งรำยวิชำ......................................................................................................................... 2 สรปุ สำระสำคญั ................................................................................................................... 2 ผลกำรเรยี นรทู้ คี่ ำดหวงั ........................................................................................................ 5 ขอบข่ำยเนื้อหำ………………………………………………………………………………………………………. 5 ส่ือประกอบกำรเรียนรู้......................................................................................................... 5 บทที่ 1 หลวงพ่อวดั ไร่ขงิ …………………………………………………………………………………………………. 7 สำระสำคัญ........................................................................................................................... 7 ผลกำรเรยี นรู้ท่คี ำดหวงั ........................................................................................................ 7 ขอบข่ำยเนอ้ื หำ.................................................................................................................... 8 สื่อประกอบกำรเรียนรู้..…………………………………………………………………………………………… 8 เรื่องที่ 1 ประวัติหลวงพอ่ วดั ไร่ขงิ ....................................................................................... 8 เรอื่ งที่ 2 ควำมสำคัญของหลวงพ่อวดั ไรข่ ิง………….……………………………………………………. 9 เรื่องท่ี 3 ตำนำนหลวงพอ่ วดั ไร่ขิง..............…………….…………………………………………………. 11 กจิ กรรมทำ้ ยบท.............………………………………………………………………………………………….. 13 บทที่ 2 วัดไรข่ ิง พระอำรำมหลวง…………………………………………………………………………………….. 16 สำระสำคญั ........................................................................................................................... 16 ผลกำรเรยี นรู้ทค่ี ำดหวัง........................................................................................................ 16 ขอบขำ่ ยเนอื้ หำ.................................................................................................................... 16 ส่อื ประกอบกำรเรียนรู้..…………………………………………………………………………………………… 17 เร่อื งท่ี 1 สถำนท่ตี ง้ั และแผนทีก่ ำรเดินทำงของวัดไร่ขงิ พระอำรำมหลวง......................... 17 เรือ่ งท่ี 2 ควำมเป็นมำของวดั ไรข่ ิง พระอำรำมหลวง..........…………………………………………. 19 เรอ่ื งที่ 3 ศลิ ปกรรมในวดั ไรข่ งิ พระอำรำมหลวง.......…………………………………………………. 19 กิจกรรมท้ำยบท.............………………………………………………………………………………………….. 55 บทที่ 3 เจำ้ อำวำสวัดไรข่ ิง และหลกั ธรรมคำสอน……………………………………………………………….. 58 สำระสำคญั ........................................................................................................................... 58 ผลกำรเรียนรูท้ ค่ี ำดหวงั ........................................................................................................ 58 ขอบข่ำยเน้อื หำ..................................................................................................................... 58 สือ่ ประกอบกำรเรยี นร้.ู .…………………………………………………………………………………………… 58 เร่ืองท่ี 1 ลำดับเจำ้ อำวำส วดั ไรข่ ิง พระอำรำมหลวง.......................................................... 59
สารบญั (ต่อ) หนา้ เร่ืองท่ี 2 หลักธรรมคำสอนของพระอบุ ำลคี ณุ ปู มำจำรย์ อดีตเจำ้ อำวำสวดั ไร่ขงิ 70 พระอำรำมหลวง..................................................…………………………………………. เรอื่ งท่ี 3 หลักธรรมคำสอนของพระเทพศำสนำภบิ ำล เจ้ำอำวำส วดั ไร่ขงิ พระอำรำมหลวง.................................................…………………………………………. 81 กจิ กรรมท้ำยบท........……………………………………………………………………………………………… 86 บทที่ 4 บำรมีของหลวงพอ่ วดั ไรข่ ิงที่มีต่อชุมชนและประชำชน................................................... 89 สำระสำคัญ.......................................................................................................................... 89 ผลกำรเรียนรู้ท่คี ำดหวงั ........................................................................................................ 89 ขอบขำ่ ยเน้ือหำ.................................................................................................................... 89 สอ่ื ประกอบกำรเรียนร.ู้ .…………………………………………………………………………………………… 90 เรอ่ื งที่ 1 ดำ้ นกำรศึกษำ..................................................................................................... 90 เรอ่ื งท่ี 2 ด้ำนกำรสำธำรณสขุ .............................................………………………………………… 102 เรอื่ งที่ 3 ดำ้ นกำรสงั คมสงเครำะห์.............................………………………………………………… 104 กิจกรรมทำ้ ยบท.............…………………………………………………………………………………………. 107 บทที่ 5 ประเพณีทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั วัดไร่ขงิ พระอำรำมหลวง……………………………………………….......... 110 สำระสำคัญ.......................................................................................................................... 110 ผลกำรเรียนรทู้ ่คี ำดหวัง....................................................................................................... 110 ขอบขำ่ ยเนอ้ื หำ.................................................................................................................... 110 สื่อประกอบกำรเรยี นรู้..………………………………………………………………………………………….. 110 เรื่องท่ี 1 ประเพณกี ำรแหห่ ลวงพ่อวัดไรข่ งิ ........................................................................ 111 เรอ่ื งท่ี 2 งำนนมัสกำรปดิ ทองหลวงพอ่ วัดไร่ขิง..................…………………………………………. 114 เรอื่ งที่ 3 ประเพณกี ำรเทศน์มหำชำต.ิ .......................…………………………………………………. 117 เร่อื งท่ี 4 งำนวันครบรอบชำตกำล และวันคลำ้ ยวันมรณภำพ พระอบุ ำลีคณุ ูปมำจำรย์ อดีตเจ้ำอำวำสวัดไรข่ งิ พระอำรำมหลวง.…..……………………………………………………. 125 กจิ กรรมท้ำยบท.............…………………………………………………………………………………………. 130 บทท่ี 6 กำรเผยแพร่หลักธรรมคำสอน กำรถ่ำยทอดควำมเชอื่ ควำมศรัทธำ ควำมศักดสิ์ ิทธ์ิ และกำรสบื ทอดประเพณที เี่ กี่ยวขอ้ งกบั วดั ไรข่ งิ พระอำรำมหลวง……………………………. 133 สำระสำคญั .......................................................................................................................... 133 ผลกำรเรียนร้ทู ่ีคำดหวัง....................................................................................................... 134 ขอบข่ำยเน้อื หำ.................................................................................................................... 134
สารบัญ(ตอ่ ) หน้า สอื่ ประกอบกำรเรยี นร.ู้ .……………………………………………………………………………………………. 134 เรอื่ งที่ 1 กำรเผยแพรห่ ลักธรรม คำสอน ของวดั ไร่ขิง พระอำรำมหลวง............................. 134 เรอื่ งที่ 2 กำรถ่ำยทอด ควำมเช่ือ ควำมศรทั ธำ ควำมศักด์ิสทิ ธิ์ทม่ี ีต่อ หลวงพ่อวดั ไร่ขิง..............................................………………..……………………………. 140 เรื่องท่ี 3 กำรสืบทอดประเพณที ี่เกย่ี วขอ้ งกบั วดั ไร่ขิง พระอำรำมหลวง ..........………………. 140 กจิ กรรมทำ้ ยบท.............…………………………………………………………………………………………... 141 บรรณำนกุ รม………………………………………………………………………………………………………………… 143 ภำคผนวก…………………………………………………………………………………………………………………….. 146 ก เฉลยกจิ กรรมทำ้ ยบท………………………………………………………………………………………….. 147 ข ประกำศแต่งต้ังทปี่ รึกษำจดั ทำหนงั สอื เรยี น ………………………………………………………….. 154 ค คำสั่งแต่งตง้ั คณะกรรมกำรจัดทำหนงั สือเรียน...……………………………………………………… 156 ง ประกำศใบอนญุ ำตใชห้ นังสอื เรยี น..………………………………………………………………………. 159
1 คำแนะนำกำรใช้หนังสือเรียน กกกกกกกหนังสือเรียนสาระการพัฒนาสังคม รายวิชา สค33136 หลวงพ่ดวัดไร่ขิง ม่ิงมงคล คนสามพราน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นส่ือเอกสารเพ่ือช่วยให้นักศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสามพราน จังหวดั นครปฐม เกิดการเรียนรู้ตามหลักสูตรรายวิชา สค33136 หลวงพ่อวัดไร่ขิง ม่ิงมงคล คนสามพราน ระดับ มธั ยมศึกษาตอนปลาย ของสถานศึกษา และผ้ทู ส่ี นใจเก่ยี วกบั หลวงพ่อวัดไร่ขิง มิ่งมงคล คนสามพราน ไดศ้ กึ ษาเรียนรู้ โดยเฉพาะนกั ศกึ ษาที่ลงทะเบียนเรยี นหลกั สูตรรายวิชาน้ี จานวน 3 หนว่ ยกิต จานวน 120 ชวั่ โมง ได้ใช้เปน็ สื่อการเรียนรู้ใหบ้ รรลมุ าตรฐานของหลักสูตร กกกกกกกในการศึกษาหนังสือเรียนเล่มนี้ ให้นักศึกษาปฏิบัติตามคาแนะนาต่อไปน้ี จึงจะทาให้ การเรยี นรหู้ นังสือเรียนมปี ระสทิ ธิภาพ และเกดิ ประสทิ ธผิ ล กกกกกกก1. ใหน้ ักศกึ ษาศกึ ษาโครงสร้างรายวิชา ประกอบดว้ ย สาระสาคญั ผลการเรยี นรทู้ ่คี าดหวัง ขอบข่ายเน้ือหา และสื่อประกอบการเรียนรรู้ ายวชิ านี้ ให้เข้าใจก่อนทจ่ี ะศึกษาเน้อื หาในแต่ละบทใน ลาดับต่อไป กกกกกกก2. ใหน้ ักศกึ ษาศึกษารายละเอยี ดของเนื้อหารายวชิ าในแต่ละบท มที งั้ หมด 6 บท ในแตล่ ะ บท ประกอบด้วย สาระสาคัญ ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวัง ขอบข่ายเนื้อหา สอื่ ประกอบการเรียนรู้ และ รายละเอยี ดเนือ้ หาของแต่ละเรื่องในบทน้นั ๆ ต่อจากนั้นใหท้ ากิจกรรมท้ายบท เพอื่ สรุปความรูท้ ่ีได้ ศึกษาเน้ือหา หลังจากน้ันสามารถตรวจสอบผลการตอบ หรอื ผลการทากิจกรรมท้ายบทไดจ้ ากเฉลย กจิ กรรมท้ายบท ถ้าในกรณีผลการตรวจสอบคาตอบไม่ถูกต้อง ใหน้ ักศึกษาทบทวนด้วยการกลับไป ศกึ ษาเน้ือหาในบทน้นั ๆ ใหม่อกี ครั้งหน่ึง หรอื จนกวา่ จะตอบได้ถกู ตอ้ ง นอกจากน้ีนกั ศึกษาสามารถ นาผลการตอบกิจกรรมท่ีได้ทาไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับครูผู้สอนรายวิชานี้ หรือเพ่ือนนักศึกษาที่ ลงทะเบียนเรียนรายวิชานี้ หรือเพ่ือนนักศึกษาคนอื่น ๆ ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในระดับ เดียวกนั ก็ได้ กกกกกกก3. หนังสือเรียนเลม่ นี้ ประกอบดว้ ย 6 บท กกกกกกก3. บทท่ี 1 หลวงพอ่ วดั ไร่ขิง กกกกกกก3. บทท่ี 2 วดั ไร่ขงิ พระอารามหลวง กกกกกกก3. บทท่ี 3 เจา้ อาวาสวดั ไรข่ งิ และหลกั ธรรมคาสอน กกกกกกก3. บทที่ 4 บารมขี องหลวงพ่อวดั ไรข่ ิง ที่มตี ่อชมุ ชนและประชาชน กกกกกกก3. บทท่ี 5 ประเพณที ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั วัดไรข่ งิ พระอารามหลวง กกกกกกก3. บทที่ 6 การเผยแพรห่ ลกั ธรรมคาสอน การถ่ายทอด ความเชื่อ ความศรทั ธา ความศกั ด์ิสิทธิ์ และการสืบทอดประเพณที ่เี กี่ยวขอ้ งกบั วัดไร่ขิง พระอารามหลวง
2 โครงสรา้ งรายวชิ าหลวงพ่อวดั ไร่ขิง ม่ิงมงคล คนสามพราน ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย สรุปสาระสาคัญ 1. บทที่ 1 หลวงพ่อวดั ไรข่ ิง 1.1 ประวัติหลวงพ่อวัดไร่ขิง จากหนังสือประวัติของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้กล่าว ไวว้ า่ สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (พุก) ไดอ้ ัญเชญิ มาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร โดยนา้ ล่องมาทางน้าดว้ ยการ ท้าแพไม้ไผ่หรือท่ีเรียกกันว่าแพลกู บวบรองรับองค์พระปฏมิ ากร เม่ือถึงหน้าวัดไรข่ ิง พระอารามหลวง จึงได้อัญเชิญขึนประดิษฐานไว้ภายในอุโบสถ ตรงกับวันพระขึน 15 ค่้า เดือน 5 ซ่ึงเป็นวันสงกรานต์ พอดี 1.2 ความส้าคัญของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ไม่ เพียงแต่ชาวไร่ขิงเท่านันท่ีมีความศรัทธา เลื่อมใส ผู้คนจากท่ัวสารทิศต่างมากราบไหวข้ อพรอธิษฐาน ขอให้ได้ดังส่ิงท่ีปรารถนา หรือที่เรียกว่าเป็นการบนบานศาลกล่าว เมื่อได้รับพรจากหลวงพ่อแล้ว สมปรารถนา ก็จะน้าสิง่ ของมาแกบ้ น ไดแ้ ก่ ประทัด ว่าว และพวงมาลยั 1.3 ต้านานหลวงพ่อวัดไร่ขิง (ต้านานที่ 1) อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัญเชิญขึนประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันพระขึน 15 ค่้า เดือน 5 ซึ่งเป็นวันสงกรานต์พอดี (ต้านานที่ 2) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ซึ่งเป็นชาวนครชัยศรี ปกครอง อยู่ท่ีวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กลับมาสร้างวัดที่บ้านเกิดของตนท่ีไร่ขิง เม่ือ สร้างพระอโุ บสถเสร็จแลว้ จึงได้อัญเชิญพระพทุ ธรูปสา้ คญั องค์หนงึ่ จากกรงุ เกา่ มาเพอื่ ประดิษฐานไว้ใน พระอุโบสถ และ (ต้านานที่ 3) มีพ่ีน้องชาวเมืองเหนือ 5 คน ได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา จนส้าเร็จเป็นพระอริยบุคคลชันโสดาบัน ได้พร้อมใจกันตังสัจอธิษฐานว่า จะขอบ้าเพ็ญบารมีช่วยให้ สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ ครันพระอริยบุคคลทัง 5 องค์ได้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าไปสถิตในพระพุทธรูปทัง 5 องค์ จึงได้พากันลอยนา้ ลงมาตามล้าแม่น้าทัง 5 สาย เม่ือชาวบ้านตามเมืองท่ีติดอยู่ริมแม่นา้ เห็น จึงได้อญั เชิญและประดษิ ฐานไว้ตามวดั ต่าง ๆ 2. บทท่ี 2 วัดไรข่ งิ พระอารามหลวง 2.1 สถานที่ตัง วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ตังอยู่เลขท่ี 51 หมู่ท่ี 2 ต้าบลไร่ขิง อ้าเภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม การเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครปฐม ถึงสวนสามพราน หลักกิโลเมตรท่ี 32 เดินทางต่อไป 800 เมตร ถึงสะพานโพธิ์แก้ว กลับรถใต้สะพาน เดินทางตรงไป 800 เมตร ถึงสามแยกแล้วเลียวซ้าย เดินทางตรงไปอีกประมาณ 2 กโิ ลเมตร ถึงวดั ไรข่ งิ พระอารามหลวง 2.2 ความเป็นมาของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง วัดไร่ขิงสร้างขึนโดยสมเด็จพระพุฒา จารย์ (พุก) เมื่อปี พ.ศ. 2394 เป็นท่ีประดิษฐานของหลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ท่ีเป็นที่ เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชันตรี ชนิดสามัญ ตังแตว่ ันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2533
3 2.3 ศิลปกรรมในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เป็นศิลปกรรมทางพระพุทธศาสนา เปน็ ศิลปกรรมทีส่ ร้าง ขึนตามวดั วาอารามต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ทางพทุ ธศาสนา มีดังนี พระสถูปเจดีย์ ต่าง ๆ พระพุทธปรางค์ พระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิ ซุ้ม ระเบียง และก้าแพงแก้ว เป็นต้น ศิลปกรรมทางพระพุทธศาสนา ถือได้ว่าเป็นศิลปกรรมท่ีจัดสร้างขึน เพื่อเป็นอนุสรณ์อันควร แกก่ ารสกั การบชู าของพทุ ธศาสนกิ ชนทงั หลาย 3. บทท่ี 3 เจา้ อาวาสวัดไรข่ งิ และหลกั ธรรมค้าสอน 3.1 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง จนถึงปัจจุบันมี 10 รูป ดังนี รูปท่ี 1 หลวงพ่อ จาด รูปที่ 2 หลวงพ่อคง รูปท่ี 3 หลวงพ่อรักษ์ รูปท่ี 4 หลวงพ่อมุ้ย รูปที่ 5 พระอธิการใช้ ปติฎโฐ รูปท่ี 6 พระครูมงคลวิลาส (เฉย กิตติสาโร) รูปท่ี 7 พระอาจารย์ชืน ปฏิกาโร รูปท่ี 8 พระครูถาวร วิทยาคม (เพ่ิม ทิฏโฐ) รูปที่ 9 พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ) และรูปที่ 10 พระเทพ ศาสนาภบิ าล (แยม้ กติ ฺตนิ ฺธโร) 3.2 หลักธรรมค้าสอนของ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ) อดีตเจ้า อาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ที่ส้าคัญมีดังนี (1) หลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับการด้าเนินชีวิต และ (2) หลักธรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการศกึ ษา 3.3 หลกั ธรรมคา้ สอนของพระเทพศาสนาภบิ าล เจา้ อาวาส วัดไรข่ งิ พระอารามหลวงที่ ส้าคัญคือ หลักธรรมท่ีเกี่ยวข้องกับการด้าเนินชีวิต ความสุขและความทุกข์ เป็นส่ิงที่จิตเราปรุงแต่ง ขึนมา ถ้าเรารับรู้ถึงสิ่งท่ีดีงาม สิ่งสวยงาม และความสุขที่รายรอบตัวเราเองอยู่ทุกขณะแล้ว เราจะไม่ ปลอ่ ยใหค้ วามรู้สึกท่เี ปน็ ทุกข์ มาครอบง้าจิตใจเราได้ 4. บทท่ี 4 บารมขี องหลวงพอ่ วัดไร่ขงิ ท่ีมีตอ่ ชมุ ชนและประชาชน 4.1 ด้านการศึกษา วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้สนับสนุนส่งเสริมด้านการศึกษากับ สถานศึกษาต่าง ๆ ตังแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และระดับอุดมศึกษา อาทิ โรงเรียนวัดไร่ขิง (สุนทรอุทิศ) โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 1 จังหวัด นครปฐม ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ้าเภอสามพราน ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อ้าเภอสามพราน วิทยาลัยการอาชีพนครปฐม ศูนย์การศึกษาวิทยาลัยทองสุข (วัดไร่ขิง) วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตลอดจน สถาบันพฒั นาครู คณาจารย์และบคุ ลากรทางการศึกษา ไดแ้ ก่ ด้านสถานทีต่ งั และอาคาร งบประมาณ ในการก่อสร้างอาคารสถานท่ี งบประมาณในการจัดซือวัสดุครุภัณฑ์ในการด้าเนินงาน และ งบประมาณในคา่ ใชจ้ า่ ยอ่นื ๆ 4.2 ด้านการสาธารณสุข กล่าวโดยสรุป วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้สนับสนุนส่งเสริม ด้านสาธารณสุข กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) และโรงพยาบาลสามพราน (วัดไร่ขิง) ด้านสถานทต่ี ังและอาคาร ตลอดจนงบประมาณในการจัดซอื วสั ดคุ รุภณั ฑ์ดา้ เนินงาน 4.3. ด้านการสงั คมสงเคราะห์ วดั ไร่ขงิ พระอารามหลวง ได้สนับสนนุ ส่งเสริมด้านสังคม สงเคราะห์ จัดตังมูลนิธิ 3 มูลนิธิ คือ มูลนิธิเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวโดยสรุป วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้สนับสนุนส่งเสริมด้านสังคมสงเคราะห์ จัดตังมูลนิธิ 3 มูลนิธิ คือ มูลนิธิเมตตา ประชารักษ์ (วดั ไร่ขิง) ให้การสงเคราะหด์ ้านสาธารณสขุ มูลนิธหิ ลวงพอ่ วดั ไร่ขิงให้การสงเคราะห์ด้าน
4 ทุนการศกึ ษา และดา้ นสาธารณประโยชน์ และมลู นิธพิ ระอุบาลีคณุ ปู มาจารย์ (ปัญญา อนิ ฺทปญโฺ ญ) ให้ การสงเคราะห์ด้านการเรียนการสอนพระปริยตั ธิ รรม การศึกษาและสาธารณประโยชน์ 5. บทท่ี 5 ประเพณที ี่เกี่ยวข้องกบั วัดไรข่ ิง พระอารามหลวง 5.1 ประเพณีการแห่หลวงพ่อวัดไรข่ งิ จะจัดใหม้ ีขึนในช่วงก่อนเริม่ งานนมัสการหลวงพ่อ วัดไรข่ งิ 1 วนั เพือ่ ย้อนร้าลกึ ถงึ ตา้ นานหลวงพอ่ วัดไรข่ ิง โดยจดั ใหม้ ีการแห่หลวงพ่อวดั ไรข่ ิงทางน้า 5.2 งานนมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง จัดขึนระหว่างวันขึน 11 ค่้า เดือน 4 ถึงวัน แรม 4 ค้่า เดือน 5 ของทุกปี รวม 9 วัน 9 คืน มีการนมัสการปิดทองรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิงทังกลางวัน และกลางคืน เพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้ได้บนหลวงพ่อไว้เข้านมัสการและแก้บน มีการออกร้านจ้าหน่าย สินคา้ และจดั แสดงมหรสพตลอดคืน 5.3 ประเพณีการเทศน์มหาชาติ ของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง จัดขึนก่อนวันออก พรรษาในช่วงเดือน 11 ข้างแรม (ตุลาคม) เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามทาง พระพทุ ธศาสนา 5.4 งานวันครบรอบชาตกาล และวันคล้ายวันมรณภาพ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปญั ญา อินทฺ ปญโฺ ญ) อดตี เจา้ อาวาส วดั ไร่ขงิ พระอารามหลวง จัดขึนทุกวนั ที่ 8 ตุลาคม และวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นประจ้าทุกปี มีวัตถุประสงค์เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีตลอดจนบารมีของท่านที่มีต่อ ประชาชน และวัดไร่ขงิ พระอารามหลวง 6. บทท่ี 6 การเผยแพร่หลักธรรมค้าสอน การถ่ายทอดความเชื่อ ความศรัทธา ความ ศักดสิ์ ิทธิ์ และการสืบทอดประเพณที ีเ่ กยี่ วข้องกับวัดไรข่ งิ พระอารามหลวง 6.1 การเผยแพร่หลักธรรมค้าสอนของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ด้วยส่ือรูปแบบต่าง ๆ หมายถึง การท้าให้ประชาชนในอ้าเภอสามพราน หรือบุคคลท่ีมากราบสักการะมาท่องเที่ยวเยี่ยมชม ไดเ้ ขา้ ใจในหลักธรรมของเจ้าอาวาสทังในอดีตและปัจจุบัน ไดน้ ้าไปใชใ้ นการด้าเนนิ ชีวิต โดยผู้เผยแพร่ ต้องยึดหลักการส่ือสาร ผ่านการส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อเอกสาร ในหัวเร่ืองที่ 6 นี เลือกใช้ แผ่นพับเป็นสื่อหลักในการเผยแพร่หลักธรรมค้าสอน การถ่ายทอดความเชื่อ ความศรัทธา ความศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ และการสืบทอดประเพณที ีเ่ กีย่ วข้องกับวดั ไร่ขงิ พระอารามหลวง 6.2 การถ่ายทอด ความเชื่อ ความศรัทธา ความศักดิ์สิทธ์ิ ท่ีมีต่อหลวงพ่อวัดไร่ขิง ด้วย ส่ือรูปแบบต่าง ๆ หมายถึง การท้าให้ประชาชนในอ้าเภอสามพราน หรือบุคคลท่ีมากราบสักการะมา ท่องเท่ียวเยี่ยมชมได้เข้าใจ และเกิดความศรัทธา เล่ือมใสต่อองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิง ผู้เผยแพร่ต้องยึด หลักการส่ือสาร ผา่ นการส่ือสารในรปู แบบตา่ ง ๆ โดยเฉพาะส่ือเอกสาร ในหวั เร่ืองท่ี 6 นีเลอื กใช้ แผ่น พับเป็นสื่อหลักในการเผยแพร่หลักธรรมค้าสอน การถ่ายทอดความเชื่อ ความศรัทธา ความศักดิ์สิทธ์ิ และการสืบทอดประเพณที เี่ กยี่ วข้องกับวดั ไร่ขงิ พระอารามหลวง 6.3 การสืบทอดประเพณีท่ีเก่ียวข้องกับวัดไร่ขิง พระอารามหลวงด้วยส่ือรูปแบบต่าง ๆ หมายถึง การท้าให้ประชาชนในอ้าเภอสามพราน หรือบุคคลที่มากราบสักการะมาท่องเที่ยวเย่ียมชม ได้เขา้ ใจในประเพณีตา่ ง ๆ ทมี่ ีในวดั ไร่ขิง พระอารามหลวง โดยผ้เู ผยแพร่ตอ้ งยึดหลกั การส่อื สาร ผา่ น การสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อเอกสาร ในหัวเรื่องท่ี 6 นีเลือกใช้ แผ่นพับเป็นส่ือหลักใน การเผยแพร่หลักธรรมค้าสอน การถ่ายทอดความเชื่อ ความศรัทธา ความศักดิ์สิทธิ์ และการสืบทอด ประเพณีที่เกีย่ วข้องกบั วดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง
5 ผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง 1. ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับหลวงพ่อวัดไร่ขิง วัดไร่ขิง พระอารามหลวง เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และหลกั ธรรมค้าสอน บารมขี องหลวงพ่อวัดไร่ขงิ ท่ีมีต่อชุมชนและประชาชน ประเพณีท่เี กย่ี วข้องกับ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง และการถ่ายทอดหลักธรรม ค้าสอน ความเช่ือ ความศรัทธา ความศกั ด์สิ ิทธิ์ และการสบื ทอดประเพณีท่ีเกี่ยวข้องกบั วัดไร่ขงิ พระอารามหลวงได้ 2. ผู้เรียนสามารถท่องค้าบูชาหลวงพ่อวัดไร่ขิง น้าหลักธรรม ค้าสอนของพระอุบาลี คุณูปมาจารย์ อดีตเจ้าอาวาส และพระเทพศาสนาภิบาล เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ไปใช้ ในชีวิตประจ้าวัน ปฏิบัติตนขณะเข้าร่วมประเพณีท่ีเกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้ตาม กาลเทศะ และถ่ายทอดหลักธรรมค้าสอน ความเช่ือ ความศรัทธา ความศักดิ์สิทธิ์ และการสืบทอด ประเพณที ่ีเกีย่ วข้องกับวัดไร่ขิง พระอารามหลวงด้วยส่อื รูปแบบต่าง ๆ ได้ 3. ผู้เรียนตระหนักถึงคุณค่า ความส้าคัญของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ศิลปกรรมในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ประโยชน์ของหลักธรรม ค้าสอนของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อดีตเจ้าอาวาส และ พระเทพศาสนาภิบาล เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ท่ีน้าไปใช้ในชีวิตประจ้าวัน รวมถึง ความส้าคัญของการถ่ายทอดหลักธรรม ค้าสอน ความเชื่อ ความศรัทธา ความศักด์ิสิทธิ์ และการสืบ ทอดประเพณที ี่เก่ียวข้องกับวดั ไร่ขิง พระอารามหลวงดว้ ยสอ่ื รูปแบบตา่ ง ๆ ขอบข่ายเนื้อหา บทท่ี 1 หลวงพอ่ วดั ไร่ขิง บทท่ี 2 วัดไร่ขิง พระอารามหลวง บทที่ 3 เจ้าอาวาสวดั ไรข่ ิง และหลักธรรมคา้ สอน บทที่ 4 บารมขี องหลวงพอ่ วัดไร่ขิง ที่มตี ่อชมุ ชนและประชาชน บทท่ี 5 ประเพณีทีเ่ ก่ียวข้องกับวดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง บทที่ 6 การเผยแพร่หลักธรรมคา้ สอน การถ่ายทอด ความเช่ือ ความศรัทธา ความศักดสิ์ ทิ ธ์ิ และการสืบทอดประเพณีทีเ่ ก่ียวข้องกับวัดไร่ขงิ พระอารามหลวง ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ 1. ประวัติหลวงพ่อวัดไร่ขิง ผู้แต่ง วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ้าเภอสามพราน จังหวัด นครปฐม ปีทพี่ มิ พ์ 2560 โรงพิมพ์ หจก.พี วาย พรนิ ตงิ จ้ากัด 2. งานเทศกาลนมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง ผู้แต่ง วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อ้าเภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม ปีทพี่ มิ พ์ 2559 โรงพิมพ์ หจก.สามลดา 3. พธิ บี า้ เพญ็ กศุ ลทักษิณากตเวทิตาทาน ครบ 94 ปี ชาตกาล ผแู้ ตง่ วัดไรข่ งิ พระอาราม หลวง อ้าเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ปีท่พี ิมพ์ 2559 โรงพมิ พ์ หจก.พี วาย พรนิ ตงิ จ้ากัด
6 4. หนังสอื เรยี นสาระความรู้พืนฐาน(วิชาเลอื ก) รายวิชา พท33012 สือ่ สารให้มี ประสทิ ธิภาพ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ผูแ้ ต่ง ประยนต์ ทรพั ย์เจรญิ ปที ี่พมิ พ์ 2557 บริษทั เอก พิมพไ์ ท จา้ กดั 5. องค์ความรู้เรอ่ื งการเทศน์มหาชาตเิ วชสันดรชาดก ผเู้ ขียน กรมการศาสนา กระทรวง วฒั นธรรม สบื ค้นจาก www.dra.go.th 6. การส่ือสาร (Communication) ผู้เขยี น ศูนยส์ อ่ื สารนานาชาติแหง่ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลยั สืบคน้ จาก http://www.chulapedia.chula.ac.th/index.php การส่อื สาร (Communication) 7. วดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง ท่ีอยู่ 51 หมู่ท่ี 2 ต้าบลไร่ขิง อ้าเภอสามพราน จงั หวัด นครปฐม หมายเลขโทรศัพท์ 0-3431-1384 และ 0-3432-3056
7 บทท่ี 1 หลวงพ่อวดั ไรข่ งิ สาระสาคญั กกกกกกก1. ประวัตหิ ลวงพอ่ วดั ไร่ขิง จากหนังสือประวัติของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ไดก้ ลา่ วไว้ว่า สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชญิ มาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร โดยนา้ ล่องมาทางน้าดว้ ยการท้าแพ ไม้ไผ่หรือที่เรียกกันว่าแพลูกบวบรองรับองค์พระปฏมิ ากร เม่ือถึงหน้าวัดไร่ขิง พระอารามหลวง จึงได้ อญั เชิญขนึ ประดิษฐานไวภ้ ายในอุโบสถ ตรงกับวันพระขนึ 15 ค้า่ เดอื น 5 ซ่ึงเป็นวันสงกรานต์พอดี 2. ความส้าคัญของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ไม่เพียงแต่ ชาวไร่ขิงเท่านันที่มีความศรัทธา เล่ือมใส ผู้คนจากท่ัวสารทิศต่างมากราบไหว้ขอพรอธิษฐานขอให้ได้ ดังสิ่งท่ีปรารถนา หรือท่ีเรียกว่าเปน็ การบนบานศาลกล่าว เม่ือได้รับพรจากหลวงพ่อแล้วสมปรารถนา กจ็ ะน้าสง่ิ ของมาแกบ้ น ไดแ้ ก่ ประทดั วา่ ว และพวงมาลยั 3. ตา้ นานหลวงพ่อวัดไร่ขิง (ตา้ นานท่ี 1 ) อญั เชญิ มาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร จงั หวัด พระนครศรีอยุธยา และอัญเชิญขึนประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันพระขึน 15 ค่้า เดือน 5 ซึ่ง เป็นวันสงกรานต์พอดี (ต้านานที่ 2) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ซึ่งเป็นชาวนครชัยศรี ปกครองอยู่ที่ วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กลับมาสร้างวัดที่บ้านเกิดของตนท่ี ไร่ขิง เมื่อ สรา้ งพระอุโบสถเสร็จแล้วจึงได้อัญเชญิ พระพทุ ธรูปสา้ คญั องค์หน่งึ จากกรุงเกา่ มาเพอื่ ประดิษฐานไว้ใน พระอุโบสถ และ (ต้านานที่ 3) มีพ่ีน้องชาวเมืองเหนือ 5 คน ได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา จนส้าเร็จเป็นพระอริยบุคคลชันโสดาบัน ได้พร้อมใจกันตังสัจอธิษฐานว่า จะขอบ้าเพ็ญบารมีช่วยให้ สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ ครันพระอริยบุคคลทัง 5 องค์ได้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าไปสถิตในพระพุทธรูปทัง 5 องค์ จึงได้พากันลอยน้าลงมาตามล้าแม่นา้ ทัง 5 สาย เมื่อชาวบ้านตามเมืองที่ติดอยู่ริมแม่นา้ เห็น จึงได้อัญเชิญและประดษิ ฐานไว้ตามวัดต่าง ๆ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั กกกกกกก1. บอกประวัติหลวงพอ่ วัดไร่ขงิ ได้ กกกกกกก2. อธิบายความเชื่อ ความศรัทธา ความศักดิส์ ทิ ธิ์ ของหลวงพ่อวัดไร่ขิงได้ กกกกกกก3. สามารถท่องคา้ บชู า หลวงพ่อวัดไรข่ งิ ได้ กกกกกกก4. ตระหนกั ถึงคุณค่าความส้าคัญของหลวงพ่อวัดไร่ขิง กกกกกกก5. บอกเลา่ ต้านานของหลวงพ่อวัดไร่ขงิ ได้
8 ขอบข่ายเนื้อหา เรอื่ งที่ 1 ประวตั หิ ลวงพ่อวัดไรข่ ิง เรอ่ื งท่ี 2 ความสา้ คัญของหลวงพ่อวดั ไร่ขิง 2.1 ความเชือ่ ความศรทั ธา ความศักด์ิสทิ ธ์ิ ของหลวงพ่อวดั ไร่ขิง 2.2 คา้ บูชาหลวงพอ่ วดั ไรข่ ิง เรอ่ื งท่ี 3 ตา้ นานหลวงพ่อวดั ไร่ขงิ สอื่ ประกอบการเรยี นรู้ กกกกกกก1. ประวตั ิหลวงพ่อวดั ไร่ขิง ผู้แตง่ วัดไร่ขงิ พระอารามหลวง อา้ เภอ สามพราน จงั หวัด นครปฐม ปีทพี่ ิมพ์ 2560 โรงพิมพ์ หจก.พี วาย พรนิ ติง จา้ กัด กกกกกกก2. งานเทศกาลนมัสการปดิ ทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง ผู้แตง่ วดั ไรข่ งิ พระอารามหลวง อา้ เภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม ปีทพี่ มิ พ์ 2559 โรงพมิ พ์ หจก.สามลดา กกกกกกก3. พิธีบ้าเพญ็ กุศลทกั ษิณากตเวทิตาทาน ครบ 94 ปี ชาตกาล ผแู้ ตง่ วัดไร่ขิง พระอาราม หลวง อ้าเภอสามพราน จงั หวัดนครปฐม ปที ี่พิมพ์ 2559 โรงพิมพ์ หจก.พี วาย พรินติง จ้ากดั กกกกกกก4. วดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง ท่ีอยู่ 51 หมู่ท่ี 2 ตา้ บลไร่ขงิ อา้ เภอสามพราน จงั หวัด นครปฐม หมายเลขโทรศัพท์ 0-3431-1384 และ 0-3432-3056 กกกกกก เรอื่ งท่ี 1 ประวตั หิ ลวงพ่อวัดไรข่ ิง เร่ืองที่ 1 ประวัติหลวงพ่อวัดไร่ขิง นับตังแต่เร่ิมสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อปี พ.ศ. 2325 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 องค์ปฐมราชวงศ์จักรี พระองค์ได้ อัญเชิญพระพุทธรูปส้าคัญจากหัวเมืองฝ่ายเหนือเข้ามาประดิษฐานไว้ท่ีกรุงเทพมหานคร เป็นจ้านวน มากเชน่ พระศาสดา พระชินสีห์ และพระศรศี ากยมุนี เป็นตน้ ซ่งึ การอัญเชญิ พระพุทธรูปส้าคญั ก็ยังมี ตอ่ มาจนถงึ สมัยพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ 6 ทีไ่ ดอ้ ัญเชญิ พระเศียร พระหัตถ์ และพระบาทของพระพุทธรูปส้าริดจากเมืองศรีสัชนาลัย มาบูรณะต่อเติมจนครบสมบูรณ์ มีลักษณะ เปน็ พระพุทธรปู ปางห้ามญาติ โปรดเกลา้ ฯ ให้ถวายพระนามพระพทุ ธรปู องค์นวี ่า “พระร่วงโรจนฤทธ์ิ ศรีอินทราทิตย์ธรรมโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร” และได้อัญเชิญขึนประดิษฐานไว้ท่ีซุ้ม พระวิหารทิศเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์ เม่ือเดือนมกราคม พ.ศ. 2457 จนกลายเป็นส่ิงศักด์ิสิทธิ์ คู่บ้านคเู่ มอื งนครปฐมสืบมา เร่ืองท่ี 1 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีพระพุทธรูปประจ้าเมืองที่ส้าคัญอยู่หลายองค์ เช่น พระมงคล บพิตร หลวงพ่อโต วัดพนญั เชงิ และพระพุทธรปู ทรงเคร่ืองภายในพระอโุ บสถวัดหน้าพระเมรุ เป็นต้น ด้วยเหตุนีจึงมีการอัญเชิญพระพุทธรูปท่ีส้าคัญจากกรุงเก่าบางองค์เข้ามาประดิษฐานไว้ที่ กรุงเทพมหานคร เช่นกัน ได้แก่ หุ่นแกนของพระอัษฐารสจากวัดศรีสรรเพชญ มาบรรจุไว้ภายในองค์ พระเจดยี ์สรรเพชญดาญาณ ณ วดั พระเชตพุ นวิมลมงั คลาราม กรงุ เทพมหานคร ส่วนองค์หลวงพ่อวัด ไร่ขิงก็เช่นเดียวกัน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา เม่ือเริ่มสร้างพระอุโบสถ เมื่อปีกุน พุทธศักราช 2394 ตรงกับต้นสมัยรัชกาลของ
9 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี และได้ประดิษฐานอยู่ภายใน พระอโุ บสถวัดไรข่ ิง พระอารามหลวง มานานถงึ ปัจจุบัน (พ.ศ. 2560) รวมนับได้ 167 ปี เรื่องที่ 1 หลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิวเศษ สูง 4 ศอก 16 นวิ เศษ ประดษิ ฐานอยบู่ นฐานชุกชี 5 ชัน เบอื งหน้ามีผา้ ทพิ ยป์ ูทอดลงมา องคห์ ลวงพ่อ วัดไร่ขิงประดิษฐานเป็นพุทธประธานอยู่ภายในพระอุโบสถ หันพระพักตร์ไปทางทิศอุดร (เหนือ) ซึ่ง หน้าวัดมีแม่น้านครชัยศรี หรือแม่น้าท่าจีนไหลผ่าน จากหนังสือประวัติของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร โดยน้าล่องมาทางนา้ ด้วยการท้าแพไม้ไผ่ หรือท่ีเรียกกันว่าแพลูกบวบ รองรับองค์พระปฎิมากร เมื่อถึงหน้าวัดไร่ขิง จึงได้ อัญเชิญขึนประดิษฐานไว้ภายในพระอุโบสถ ซ่ึงตรงกับวันพระขึน 15 ค่้า เดือน 5 และเป็นวัน สงกรานต์พอดี จึงมีประชาชนมาชุมนุมกันมาก ในขณะที่องค์หลวงพ่อขึนจากแพสู่ปะร้าพิธีนัน เกิด อัศจรรย์แสงแดดท่ีแผดจ้ากลับพลันหายไป ความร้อนระอุในวันสงกรานต์ก็บังเกิดมีเมฆด้ามืด ทะมึน ลมป่ันป่วน ฟ้าคะนองและบันดาลให้มีฝนโปรยลงมา ท้าให้เกิดความเย็นฉ้่า และเกิดความปิติ ยินดีกันทั่วหน้า ผู้ที่มาต่างก็พากันจิตอธิษฐานเป็นอันเดียวกันว่า “หลวงพ่อจักท้าให้เกิดความร่มเย็น เป็นสุข ดับความร้อนร้ายคลายความทุกข์ให้หมดไป ดุจสายฝนท่ีเมทนีดลให้ชุ่มฉ้่า เจริญงอกงามด้วย ธญั ญาหาร ฉะนัน” เรื่องที่ 1 กล่าวโดยสรุป องค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิว เศษ สงู 4 ศอก 16 นิวเศษ ประดษิ ฐานอยู่บนฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ชัน เบอื งหนา้ ผ้าทิพย์ ปูทอดลงมาองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายในอุโบสถ หันพระพักตร์ไปทาง ทศิ อุดร (ทศิ เหนือ) ซ่ึงหนา้ วดั มแี มน่ า้ นครชยั ศรหี รือแม่นา้ ท่าจีนไหลผา่ น จากหนงั สือประวตั ิของวัดไร่ ขิง พระอารามหลวง ได้กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร โดยน้าล่องมาทางน้าด้วยการท้าแพไม้ไผ่หรือที่เรียกกันว่าแพลูกบวบรองรับองค์พระปฏิมากร เมื่อถึง หน้าวัดไร่ขิง จึงได้อัญเชิญขึนประดิษฐานไว้ภายในอุโบสถ ตรงกับวันพระขึน 15 ค้่า เดือน 5 ซ่ึงเป็น วันสงกรานต์พอดี เร่ืองที่ 2 ความสาคญั ของหลวงพ่อวดั ไรข่ ิง 2.1 ความเชือ่ ความศรทั ธา ความศักดิส์ ิทธิ์ ของหลวงพ่อวัดไรข่ ิง หลวงพ่อวัดไร่ขิง เปน็ พระพทุ ธรปู ศักดส์ิ ทิ ธิข์ องชาวจงั หวดั นครปฐมมาเป็นระยะ เวลาอนั ยาวนาน มคี วามเชอื่ เร่อื งความศักด์สิ ิทธ์ิของหลวงพ่อวัดไร่ขิงดังนี ชาวไร่ขิงมีความเชื่อว่า “ถ้ายกลูกให้หลวงพ่อวัดไร่ขิงแล้ว จะท้าให้เป็นเด็กเลียง ง่าย มีสุขภาพแข็งแรง เติบโตเร็ว ว่านอนสอนง่าย เป็นเจ้าคนนายคน” อีกทังถ้าจะท้าพิธีกรรมใด ๆ แก่เด็กก็จ้าเป็นต้องบอกกล่าวแก่หลวงพ่อให้ทราบก่อน เพื่อเป็นการขออนุญาตในการทา้ พิธีนัน ๆ เช่น การบวช เปน็ ต้น นอกจากนี ชาวไร่ขิงยังมีความเชื่อว่า “หากบ้านใดมีการจัดงานบุญ เช่น งานบวช งานแต่งงาน เจ้าของงานจะต้องบอกกล่าวหลวงพ่อวัดไร่ขิง” ด้วยการเตรียมเคร่ืองเซ่นคาวหวาน ตัง โต๊ะกลางแจ้ง วางหมอนอิง 1 ใบ สีใดก็ได้ ยกเว้นสีด้าไว้บนโต๊ะพร้อมกางร่มไว้ที่โต๊ะ จากนันเจ้าของ งานจะจุดธูป กล่าวบอกแก่หลวงพ่อวัดไร่ขิง พิธีกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นความเชื่อที่ว่า ชาวไร่ขิง
10 ทุกคนถือว่าตนเองเป็นลูกของหลวงพ่อวัดไร่ขิง หากจะท้าการงานมงคลใดจะต้องบอกกล่าวเพ่ือ ความเป็นสิรมิ งคลแกง่ าน ความศักด์ิสิทธ์ิของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ไม่เพียงแต่ชาวไร่ขิงเท่านันที่มีความศรัทธา เล่ือมใส ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างมากราบไหว้ขอพรอธิษฐานขอให้ได้ดังสิ่งที่ปรารถนา หรือที่เรียกว่า เป็นการบนบานศาลกล่าว เม่ือได้รับพรจากหลวงพ่อแล้วสมปรารถนา ก็จะน้าสิ่งของมาแก้บน ได้แก่ ประทัด ดว้ ยความเชื่อว่าจะให้มชี ่ือเสยี งดังกึกก้อง ละครยก ละครรา้ เพื่อให้หลวงพอ่ ดสู นกุ สนาน ว่าว เพือ่ ให้ชวี ิตมีความสูงส่ง และพวงมาลัย ท่สี า้ คญั มคี วามเช่ือว่าเรื่องท่ีห้ามบนบานศาลกลา่ ว ก็คอื เร่อื ง ให้ไม่ถูกเกณฑ์ทหารกับเรื่องขอบุตร เพราะหลวงพ่อท่านชอบให้คนเป็นทหาร เพ่ือจะได้ปกป้องรักษา บ้านเมือง และคนที่เป็นทหารก็เป็นเสมือนลูกหลานของท่าน ดังนันใครท่ีมาขอไม่ให้ถูกเกณฑ์ทหาร เปน็ ต้องถกู เกณฑ์ทุกราย สา้ หรบั คนท่มี าขอบุตร กม็ กั จะได้บุตรทม่ี ีอาการไม่ครบ 32 เนอ่ื งจากว่าท่าน ได้ส่งลกู หลานซงึ่ เป็นทหารที่บาดเจ็บลม้ ตายมาใหน้ นั่ เอง เร่อื งนเี ปน็ เพียงเรือ่ งเล่าสบื ตอ่ มาเท่านนั กล่าวโดยสรุป ความเชื่อเร่ืองความศักดิ์สิทธ์ิของหลวงพ่อวัดไร่ขงิ ดังนี (1) ถ้ายกลูก ให้หลวงพ่อวัดไร่ขิงแล้ว จะท้าให้เป็นเด็กเลียงง่าย มีสุขภาพแข็งแรง เติบโตเร็ว ว่านอนสอนง่าย เป็น เจ้าคน นายคน (2) หากบ้านใดมีการจัดงานบุญ เช่น งานบวช งานแต่งงาน เจ้าของงานจะต้องบอก กล่าวหลวงพ่อวัดไร่ขิง (3) การอธิษฐานขอให้ได้ดังสิ่งที่ปรารถนา หรือท่ีเรียกว่าเป็นการบนบานศาล กล่าว เมอ่ื ได้รบั พรจากหลวงพ่อแล้วสมปรารถนา ก็จะน้าส่ิงของมาแก้บน (4) หลวงพ่อท่านชอบให้คน เป็นทหาร เพื่อจะได้ปกป้องรักษาบ้านเมือง และคนท่ีเป็นทหารก็เป็นเสมือนลกู หลานของท่าน ดังนัน ใครที่มาขอไม่ให้ถูกเกณฑ์ทหารเป็นต้องถูกเกณฑ์ทุกราย 2.2 ค้าบชู าหลวงพ่อวัดไร่ขงิ (เริม่ ตัง “นะโมฯ….ก่อน 3 จบ) “กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสาวา มะเหสักขายะ เทวะตายะ อะภิปาถิตัง อิทธปิ าฏิหาริกงั มังคะละจินตารามะ พุทธะปาฏมิ ากะรัง ปชู ามหิ งั ยาวะชีวัญจะ สกุ มั มิโก สขุ ะปตั ถิตายะ (สาธุ) กล่าวโดยสรุป ความศักด์ิสิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ไม่เพียงแต่ชาวไร่ขิงเท่านันทีม่ ี ความศรัทธา เลื่อมใส ผ้คู นจากทัว่ สารทศิ ต่างมากราบไหว้ขอพรอธิษฐานขอให้ไดด้ ังสิ่งทีป่ รารถนาโด โดยก่อนการขอพรอธิษฐาน ผู้ท่มี ากราบไหว้จะมีการกลา่ วค้าบชู าดังตวั อย่างขา้ งต้น
11 เร่อื งที่ 3 ตานานหลวงพอ่ วดั ไร่ขิง หลวงพ่อวัดไร่ขิง มีประวัติจากค้าบอกเล่าหรือที่เรียกว่า “มุขปาฐะ” สืบต่อกันมาหลาย ตา้ นาน กล่าวคือ ตานานท่ี 1 ครังเมื่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ชาวเมืองนครชัยศรี ได้มาตรวจเยี่ยมวัด ในเขตอ้าเภอสามพราน ได้เข้าไปในพระอุโบสถวัดไร่ขิง พระอารามหลวง หลังจากกราบพระประธาน แล้วมีความเห็นว่า พระประธานมีขนาดเลก็ เกินไป จึงบอกให้ท่านเจา้ อาวาสพร้อมชาวบา้ นไปอัญเชิญ มาจากวัดศาลาปูนวรวหิ าร จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา โดยวางลงบนแพไม้ไผ่ และน้าลอ่ งมาตามล้าน้า และอัญเชิญขนึ ประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกบั วันพระขนึ 15 คา่้ เดือน 5 ซงึ่ เป็นวนั สงกรานตพ์ อดี ตานานท่ี 2 วัดไร่ขิง พระอารามหลวง สร้างขึนเมื่อปีกุน พุทธศักราช 2394 ตรงกับปี สุดท้ายในรัชกาลที่ 3 ต้นปีในรัชกาลที่ 4 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ซึ่งเป็นชาวนครชัยศรี ในขณะ นันดา้ รงสมณศักดิ์พระราชาคณะที่ “พระธรรมราชานวุ ตั ร” ปกครองอยู่ที่วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวดั พระนครศรีอยุธยา ได้กลับมาสร้างวัดท่ีบ้านเกิดของตนที่ไร่ขิง เม่ือสร้างพระอุโบสถ วจึงได้อัญเชิญ พระพุทธรปู ส้าคญั องค์หนง่ึ จากกรุงเกา่ มาเพื่อประดิษฐานไวใ้ นพระอุโบสถ แตก่ ารสร้างยังไม่แล้วเสร็จ สมบูรณ์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้ถึงแก่มรณภาพก่อน งานที่คงเหลืออยู่ พระธรรม ราชานุ วัตร (อาจ จนฺทโชโต) หลานชายของท่านจึงด้าเนินงานต่อจนเรียบร้อย และบูรณะดูแลมาโดยตลอด จนถงึ แกม่ รณภาพ ตานานท่ี 3 เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับมีพระพุทธรูปลอยน้ามา 5 องค์ก็มี 3 องค์ กม็ ี โดยเฉพาะในเรื่องที่เล่าวา่ มี 5 องค์นันตรงกับค้าว่า “ปัญจภาคี ปาฎหิ ารยิ ก์ สินธุ์โน” ซ่ึงได้เล่าเป็น นิทานว่า ในกาลครังหนึ่งมีพี่น้องชาวเมืองเหนือ 5 คน ได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา จน สา้ เรจ็ เปน็ พระอริยบุคคลชันโสดาบันมีฤทธิ์อา้ นาจทางจิตมาก ได้พร้อมใจกันตงั สัจอธิษฐานว่า เกดิ มา ชาตินีจะขอบ้าเพ็ญบารมีช่วยให้สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ แม้จะตายไปแล้วก็จะขอสร้างบารมีช่วยสัตว์โลก ให้ได้พ้นทุกข์ต่อไปจนกว่าจะถึงพระนิพพาน ครันพระอริยบุคคลทัง 5 องค์ได้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าไป สถิตในพระพุทธรูปทัง 5 องค์ จะมีความปรารถนาที่จะช่วยคนทางเมืองใต้ท่ีอยู่ริมแม่น้าให้ได้พ้นทุกข์ จึงได้พากนั ลอยน้าลงมาตามล้าแมน่ า้ ทัง 5 สาย เมือ่ ชาวบา้ นตามเมืองท่ีอย่รู ิมแมน่ ้าเหน็ จึงได้อัญเชิญ และประดิษฐานไวค้ วามวดั ต่าง ๆ มีดงั นี พระพุทธรูปองค์ท่ี 1 ลอยไปตามแม่น้านครชัยศรี (ท่าจีน) ขึนสถิตที่วัดไร่ขิง เมือง นครชัยศรี ขนานนามว่า “หลวงพ่อวดั ไรข่ งิ ” พระพุทธรูปองค์ท่ี 2 ลอยไปตามแม่น้าเจ้าพระยา ขึนสถิตที่วัดบางพลี ขนานนามว่า “หลวงพ่อโตวัดบางพลี” พระพุทธรูปองค์ที่ 3 ลอยไปตามแม่น้าเพชรบุรี ขึนสถิตที่วัดเขาตะเครา เมืองเพชรบุรี ขนานนามว่า “หลวงพ่อวัดเขาตะเครา” พระพุทธรูปองค์ที่ 4 ลอยไปตามแม่น้าบางปะกง ขึนสถิตท่ีวัดหงส์ เมืองแปดริว จังหวัด ฉะเชงิ เทรา ขนานนามว่า “หลวงพ่อโสธร” พระพุทธรูปองค์ที่ 5 ลอยไปตามแม่น้าแม่กลอง ขึนสถิตท่ีวัดบ้านแหลม เมืองแม่กลอง ขนานนามว่า “หลวงพอ่ วัดบ้านแหลม”
12 หลวงพอ่ วดั ไร่ขิงก่อนปฏิสังขรณ์ องคห์ ลวงพ่อวดั ไร่ขงิ ในปจั จบุ ัน
13 กกกกกกกกกล่าวโดยสรุป (ต้านานที่ 1) อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา โดยวางลงบนแพไม้ไผ่ และน้าล่องมาตามล้าน้า และอัญเชิญขึนประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันพระขึน 15 ค่้า เดือน 5 ซึ่งเป็นวันสงกรานต์พอดี (ต้านานที่ 2) สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ซ่ึงเป็นชาวนครชัยศรี ปกครองอยู่ท่ีวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กลับมา สร้างวัดที่บ้านเกิดของตนท่ีไร่ขิง เม่ือสร้างพระอุโบสถ จึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปส้าคัญองค์หน่ึงจาก กรุงเก่ามาเพื่อประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ และ (ต้านานท่ี 3) มีพ่ีน้องชาวเมืองเหนือ 5 คน ได้บวช เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา จนสา้ เร็จเป็นพระอริยบุคคลชันโสดาบันมีฤทธิ์อา้ นาจทางจิตมาก ได้ พร้อมใจกันตังสัจอธิษฐานวา่ เกิดมาชาตินีจะขอบ้าเพ็ญบารมีช่วยให้สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ แม้จะตายไป แล้วก็จะขอสร้างบารมีช่วยสัตว์โลก ครันพระอริยบุคคลทัง 5 องค์ได้ดับขันธ์ไปแล้ว ก็เข้าไปสถิตใน พระพุทธรปู ทัง 5 องค์ จงึ ไดพ้ ากนั ลอยนา้ ลงมาตามลา้ แม่น้าทงั 5 สาย เม่อื ชาวบ้านตามเมืองที่ติดอยู่ ริมแม่น้าเหน็ จึงไดอ้ ัญเชิญและประดษิ ฐานไวค้ วามวดั ตา่ ง ๆ กจิ กรรมทา้ ยบท กกกกกกก1. กิจกรรมท่ี 1 กกกกกกก ค้าชีแจง : โปรดเลือกตวั อักษรหน้าข้อทน่ี กั ศึกษาคิดว่าข้อนนั เปน็ ต้าตอบท่ีถกู ต้องท่สี ดุ เพยี งข้อเดียว แลว้ เขยี นค้าตอบลงในกระดาษของนักศึกษา กกกกกกก ข้อ 1. ประชาชนไดอ้ ญั เชิญหลวงพ่อวดั ไร่ขิงจากแมน่ ้านครชยั ศรี (ท่าจีน) ขนึ มา ประดษิ ฐานไวใ้ น พระอุโบสถ ตรงกับวนั ใด ขอ้ 1. ก. วันวิสาขบชู า ข้อ 1. ข. วันสงกรานต์ ขอ้ 1. ค. วนั ออกพรรษา ขอ้ 1. ง. วนั อาสาฬหบชู า กกกกกกก ข้อ 2. ก่อนจะกลา่ วค้าบูชาหลวงพ่อวัดไร่ขงิ ตอ้ งกลา่ วบทสวดใดกอ่ น ก. บทสวดมนต์ไตรสรณคมน์ ข. บทสวดมนต์บูชาพระรัตนตรยั ค. บทสวดมนตก์ ราบพระรตั นตรัย ง. บทสวดมนต์นมสั การพระรัตนตรยั กกกกกกก ขอ้ 3. องคห์ ลวงพอ่ วัดไร่ขงิ ซ่งึ ประดิษฐานเป็นพุทธประธานอยู่ภายในพระอโุ บสถ หัน พระพักตร์ไปทางทิศใด ก. อุดร ข. บรู พา ค. พายัพ ง. ทกั ษิณ
14 กกกกกกก ขอ้ 4. ชาวไร่ขิงมีความเช่ือว่า ถ้ายกลูกให้หลวงพ่อวัดไร่ขิงแล้ว จะท้าให้เด็กเป็น อย่างไร กกกกกกก 4. ก. ไม่ทา้ ผดิ ศลี กกกกกกก 4. ข. มีหนา้ ท่ีการงานทดี่ ี กกกกกกก 4. ค. เลียงง่าย มีสุขภาพแข็งแรง กกกกกกก 4. ง. โตขนึ จะเปน็ คนท่ีมฐี านะไม่ลา้ บาก กกกกกกก ข้อ 5. สมเด็จพระพฒุ าจารย์ (พกุ ) เป็นชาวเมืองใดโดยก้าเนิด กกกกกกก 4. ก. อ้าเภอบางเลน กกกกกกก 4. ข. อ้าเภอนครชยั ศรี กกกกกกก 4. ค. อ้าเภอสามพราน กกกกกกก 4. ง. อา้ เภอเมอื งนครปฐม กกกกกกก ขอ้ 6. วดั ไร่ขิง พระอารามหลวง สรา้ งในปีนกั ษัตรอะไร กกกกกกก 4. ก. ปกี ุน กกกกกกก 4. ข. ปขี าล กกกกกกก 4. ค. ปเี ถาะ กกกกกกก 4. ง. ปมี ะโรง กกกกกกก2. กจิ กรรมที่ 2 กกกกกกก2. ค้าชแี จง : โปรดจับคขู่ ้อมลู ที่อยูห่ ลงั ตวั อักษร ทตี่ รงกับข้อเลขนนั ๆ หรือมคี วามสมั พนั ธ์ ตรงกับตัวเลขข้อนัน ๆ ใหถ้ กู ต้องแล้วน้าตวั อักษรหนา้ ข้อมูลมาใส่ทห่ี น้าตวั เลขข้อนนั ๆ กกกกกกก2. ............1. หลวงพ่อวดั ไร่ขงิ ก. แม่นา้ นครชัยศรี กกกกกกก2. ............2. หลวงพ่อโตวดั บางพลี ข. แมน่ า้ เพชรบรุ ี กกกกกกก2. ............3. หลวงพ่อวดั เขาตะเครา ค. แมน่ ้าแม่กลอง กกกกกกก2. ............4. หลวงพอ่ โสธร ง. แมน่ า้ บางปะกง กกกกกกก2. ............5. หลวงพอ่ วัดบ้านแหลม จ. แม่น้าเจ้าพระยา กกกกกกก3. กิจกรรมท่ี 3 กกกกกกก3. ค้าชแี จง : โปรดท้าเคร่ืองหมายถูก() หรอื เครือ่ งหมายผิด () ลงหน้าข้อตัวเลขที่ นกั ศึกษาอ่านข้อมูลแลว้ คิดวา่ ถูก ให้ท้าเคร่อื งหมายถูก() ถา้ คิดว่าข้อมูลท่ีอ่านผดิ ให้ทา้ เคร่อื งหมาย ผดิ () กกกกกกก3. ...............1. สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อญั เชิญมาจากวดั ศาลาปูนวรวิหาร กกกกกกก3. ...............2. ประชาชนได้อญั เชิญหลวงพ่อวัดไรข่ ิงขึนจากแม่น้า ตรงกับวันพระขนึ 15 ค้่า กกกกกกก3. ...............2. เดือน 5 กกกกกกก3. ...............3. องค์หลวงพ่อวดั ไรข่ งิ เปน็ พระพทุ ธรูปปางสมาธิ กกกกกกก3. ...............4. ชาวไร่ขิงมีความเช่ือว่า ถ้ายกลูกให้หลวงพ่อวัดไร่ขิงแล้ว จะเป็นลูก กกกกกกก3. ...............2. ท่ีว่านอนสอนงา่ ย กกกกกกก3. ...............5. ตามตา้ นานที่ 3 ประวตั ิหลวงพ่อวดั ไร่ขงิ กล่าววา่ มพี ระพุทธรูปลอยน้ามา กกกกกกก3. ...............2. 5 องค์ หลวงพ่อวัดไร่ขิง เปน็ องค์ท่ี 1
15 กกกกกกก4. กจิ กรรมท่ี 4 กกกกกกก4. ค้าชีแจง : โปรดเติมข้อความสนั ๆ ลงในช่องว่างของแตล่ ะข้อให้สมบรู ณถ์ ูกตอ้ ง กกกกกกก4. 1. หลวงพอ่ วัดไร่ขงิ เปน็ พระพุทธรูปปางใด………………………………………………………….. กกกกกกก4. 2. จงเขียนคา้ บชู าหลวงพอ่ วดั ไร่ขิง………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… กกกกกกก4. 3. จงเขยี นบอกเล่าต้านานของหลวงพ่อวัดไรข่ ิงมา 1 ตา้ นาน........................................ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………
16 บทที่ 2 วดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง สาระสาคัญ กกกกกกก1. สถานที่ตั้ง วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ต้ังอยู่เลขที่ 51 หมู่ท่ี 2 ตาบลไร่ขิง อาเภอ สามพราน จังหวัดนครปฐม การเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครปฐม ถึงสวนสามพราน หลักกิโลเมตรท่ี 32 เดินทางต่อไป 800 เมตร ถึงสะพานโพธิ์แกว้ กลับรถใต้สะพาน เดินทางตรงไป 800 เมตร ถึงสามแยกแล้วเลี้ยวซ้าย เดินทางตรงไปอีกประมาณ 2 กโิ ลเมตร ถงึ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง กกกกกกก2. ความเป็นมาของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง วัดไร่ขิงสร้างข้ึนโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) เม่ือปี พ.ศ. 2394 เป็นท่ีประดิษฐานของหลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ท่ีเป็นท่ีเคารพ สักการะของประชาชนทั่วไป ต่อมาได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงช้ันตรี ชนิดสามัญ ต้ังแต่ วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 กกกกกกก3. ศิลปกรรมในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เป็นศิลปกรรมทางพระพุทธศาสนา เป็น ศิลปกรรมท่ีสร้างขึ้นตามวัดวาอารามต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ทางพุทธศาสนา มีดังนี้ พระสถูปเจดีย์ ต่าง ๆ พระพุทธปรางค์ พระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิ ซุ้ม ระเบียง และกาแพงแก้ว เป็นต้น ศิลปกรรมทางพระพุทธศาสนา ถือได้ว่าเป็นศิลปกรรมที่จัดสร้างขึ้น เพ่ือเป็นอนุสรณ์อันควร แกก่ ารสกั การบูชาของพทุ ธศาสนกิ ชนท้งั หลาย ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง กกกกกกก1. บอกสถานที่ต้งั และอธบิ ายการเดินทางไปวัดไร่ขิง พระอารามหลวงได้ กกกกกกก2. บอกความเป็นมาของวดั ไร่ขิง พระอารามหลวงได้ กกกกกกก3. บอกความหมาย ระบุประเภท และอธิบายความสาคญั ของศลิ ปกรรมทีส่ าคัญในวดั ไร่ขงิ พระอารามหลวงได้ กกกกกกก4. ตระหนกั ถึงคณุ ค่าความสาคัญของศลิ ปกรรมในวัดไร่ขิง พระอารามหลวง กกกกกกก ขอบขา่ ยเน้ือหา กกกกกกกเร่ืองที่ 1. สถานที่ตง้ั และแผนที่ การเดินทางของวดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง กกกกกกกเร่ืองที่ 2. ความเป็นมาของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง กกกกกกกเร่ืองท่ี 3. ศลิ ปกรรมในวัดไร่ขงิ พระอารามหลวง กกกกกกกเร่ืองที่ 3. 3.1 ความหมายของศลิ ปกรรม กกกกกกกเรื่องท่ี 3. 3.2 ความสาคญั ของศลิ ปกรรม กกกกกกกเรื่องท่ี 3. 3.3 ประเภทของศลิ ปกรรม กกกกกกกเร่ืองที่ 3. 3.4 ศิลปกรรมทีส่ าคัญในวัดไร่ขงิ พระอารามหลวง
17 สอื่ ประกอบการเรียนรู้ กกกกกกก1. ประวัติหลวงพ่อวัดไรข่ งิ ผู้แต่งวดั ไรข่ ิงพระอารามหลวงอาเภอสามพราน จงั หวัดนครปฐม ปีที่ พิมพ์ 2560 โรงพิมพ์ หจก.พี วาย พรน้ิ ต้ิง จากดั กกกกกกก2 งานเทศกาลนมสั การปิดทองหลวงพ่อวัดไรข่ ิง ผูแ้ ตง่ วดั ไร่ขงิ พระอารามหลวง อาเภอ สามพราน จงั หวดั นครปฐม ปีทพ่ี ิมพ์ 2559 โรงพมิ พ์ หจก.สามลดา กกกกกกก3. วดั ไร่ขงิ พระอารามหลวง ที่อยู่ 51 หม่ทู ่ี 2 ตาบลไรข่ งิ อาเภอสามพราน จงั หวัด นครปฐม หมายเลขโทรศัพท์ 0-3431-1384 , 0-3432-3056 เรอ่ื งที่ 1 สถานทตี่ งั้ และแผนท่ี การเดินทางของวัดไร่ขงิ พระอารามหลวง เรื่องที่ 1 วดั ไร่ขิง พระอารามหลวง แต่เดิมเปน็ วัดราษฎรเ์ ล็ก ๆ แหง่ หน่ึง ต้ังอยตู่ ิดรมิ แม่นา้ นครชัยศรี (ทา่ จนี ) สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ต่อมาได้ยกฐานะข้ึนเป็นพระอารามหลวงช้ันตรีชนิดสามญั เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 เรื่องท่ี 1 วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ปัจจุบันต้ังอยู่เลขที่ 51 หมู่ท่ี 2 ตาบลไร่ขิง อาเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม อาณาเขตของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง มีเนื้อที่ทั้งหมด 450 ไร่ โดยเป็นท่ีต้ังวัด 150 ไร่ และเปน็ ท่ีธรณสี งฆ์ 300 ไร่ แบง่ เป็นเขตพทุ ธาวาส เขตสังฆาวาส และทธ่ี รณสี งฆ์ ดังน้ี เรื่องที่ 1 ทศิ เหนอื จรดแมน่ ้านครชยั ศรี (ทา่ จีน) เรอ่ื งท่ี 1 ทิศใต้จรดแนวทางรถยนตผ์ ่านสนามกอลฟ์ สามพราน (โรสการ์เด้น) นครปฐม เรอ่ื งที่ 1 ทศิ ตะวนั ออกจรดตาบลวัดไร่ขงิ เร่อื งท่ี 1 ทิศตะวันตกจรดตาบลท่าตลาด เรื่องที่ 1 ทิศเหนือด้านหน้าวัดมีเข่ือนกั้นริมแม่น้าตลอดแนว ทิศใต้และทิศตะวันออกมีกาแพงล้อม เร่ืองที่ 1 การเดินทางไปยังวัดไร่ขิง พระอารามหลวง สามารถเดินทางไปได้ทั้งทางน้า และทางบก แตป่ ัจจบุ ันการเดินทางไปวัดโดยเรือไม่คอ่ ยนิยม เพราะการเดนิ ทางโดยรถยนต์สะดวกและรวดเร็วกว่า การเดินทางโดยทางรถยนต์ จากกรงุ เทพมหานคร สามารถใชเ้ ส้นทางได้หลายเสน้ ทาง ไดแ้ ก่ เรอ่ื งท่ี 1 เสน้ ทางท่ี 1 ถนนเพชรเกษม ประมาณกโิ ลเมตรที่ 32 มที างเข้าวัดไร่ขงิ พระอารามหลวง 2 เสน้ ทาง คือ เรื่องที่ 1 ทางเขา้ ท่ี 1 ทางเขา้ วดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร ถนนสายนี้ สามารถเดินทางไปพุทธมณฑลหรือไปออกสู่ถนนบรมราชชนนีได้ มีรถโดยสารปรบั อากาศ ขสมก. สาย 84 ใหบ้ ริการ เรื่องท่ี 1 ทางเข้าที่ 2 ทางเข้าสนามกอล์ฟสามพราน (โรสการ์เด้น) นครปฐมหน้าสวนสามพราน เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร (ทางเข้าด้านน้ีในช่วงงานเทศกาลนมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง กลางเดอื น 5 ซงึ่ เปน็ งานใหญ่ ใช้เป็นทางออก) และมรี ถโดยสารปรบั อากาศ ขสมก. สาย 84 สดุ สายท่ี ท่ารถวัดไร่ขิง พระอารามหลวง
18 เร่ืองที่ 1 เส้นทางที่ 2 จากถนนบรมราชชนนี สามารถเข้าได้หลายทาง ทั้งจากถนนพุทธมณฑล สาย 4 – สาย 5 – สาย 6 หรือสาย 7 และมีรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก. สาย 556 สุดสายท่ีท่ารถ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง และรถตู้โดยสรประจาทาง(ปรับอากาศ) จากห้างเซ็นทรัลป่ินเกล้า สายปนิ่ เกล้า –วัดไร่ขิง ให้บรกิ าร เรื่องที่ 1 ทางเรือ สามารถขน้ึ เรือจากวดั ท่าพดู หรือวัดดอนหวาย มาวัดไรข่ งิ พระอารามหลวงได้ เร่ืองที่ 1 รถยนต์ ใชเ้ ส้นทางสายถนนเพชรเกษม ผ่านสวนสามพราน กลับรถใต้สะพานโพธแ์ิ ก้วหรือ จากถนนบรมราชชนนี เข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 – สาย 5 – สาย 7 หรือสาย 8 แล้วเข้าถนนพุทธ มณฑลสาย 6 เดนิ ทางตอ่ ไปวดั ไรข่ งิ พระอารามหลวง กกกกกกก3 ก
19 เร่ืองที่ 1 กล่าวโดยสรุป วัดไร่ขิง พระอามหลวง ต้ังอยู่เลขท่ี 51 หมู่ท่ี 2 ตาบลไร่ขิง อาเภอสาม พราน จังหวดั นครปฐม การเดนิ ทางใชเ้ ส้นทางถนนเพชรเกษม จากกรงุ เทพมหานคร มงุ่ หนา้ ส่จู ังหวัด นครปฐม ถึงสวนสามพราน หลักกิโลเมตรที่ 32 เดินทางต่อไป800 เมตร ถึงสะพานโพธิ์แก้ว กลับรถ ใตส้ ะพาน เดนิ ทางตรงไป 800 เมตร ถงึ สามแยกแล้วเลีย้ วซ้าย เดนิ ทางตรงไปอีกประมาณ 2 กโิ ลเมตร ถงึ วดั ไร่ขิง พระอารามหลวง เร่ืองท่ี 2 ความเปน็ มาของวดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง เรื่องที่ 2 วดั ไร่ขงิ พระอารามหลวง เดิมชอื่ วดั มงคลจินดาราม สร้างขนึ้ เมือ่ ปี พ.ศ. 2394 ตรงกับ รชั สมัยของพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัวรชั กาลท่ี 4 แห่งราชวงศ์จักรี โดยมีสมเด็จพระ พุฒา จารย์ (พุก) เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร อาเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซ่ึง เป็นชาวเมืองนครชัยศรี เป็นผชู้ ักชวนพทุ ธศาสนิกชนในยา่ นชุมชนไร่ขิง ชว่ ยกันดาเนนิ การก่อสร้างวัด ขึ้น ในอดีตพื้นท่ีบริเวณนี้มีผู้เล่าสืบต่อกันมาว่า มีชาวจีนปลูกบ้านอาศัยอยู่กันเป็นจานวนมาก และ นิยมปลูกขิงกันอย่างแพร่หลาย จนเป็นท่ีมาของช่ือหมู่บ้าน หรือชุมชนในบริเวณนี้ว่า “ไร่ขิง” ต่อมา เม่ือมีการสร้างวดั ให้เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบา้ น จึงได้ช่ือตามช่ือของหมู่บ้านหรือชมุ ชนว่า “วัด ไร่ขิง” สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ได้อัญเชิญพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 น้ิวเศษ สูง 4 ศอก 16 น้ิวเศษ จากวัดศาลาปูนวรวิหาร อาเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา มาเป็นพระประธานในพระอุโบสถ โดยนาล่องแพไม้ไผ่มาตามลาน้าเจ้าพระยา และ แมน่ ้านครชยั ศรี ประชาชนชนทวั่ ไปมีความเชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปศักด์สิ ิทธิ์ ตอ่ มาได้ตัง้ ช่ือพระพุทธรูป องคน์ ้ีวา่ หลวงพ่อวดั ไรข่ งิ ตามชื่อของวัด เร่ืองที่ 2 สาหรับชื่อวัดน้ัน มีเร่ืองเล่าว่า พ้ืนที่วัดในอดีตมีชาวจีนปลูกบ้านอาศัยอยู่กันเป็นจานวน มาก และนิยมปลูกขิงกันอย่างแพร่หลาย จนเป็นท่ีมาของช่ือหมู่บ้าน หรือชุมชนในแถบนี้ว่า “ไร่ขิง” ต่อมา เมื่อมีชุมชนหนาแน่นมากย่ิงข้ึน จึงได้มีการสร้างวัดเพ่ือเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ดงั นัน้ วัดจึงไดช้ ่ือตามช่ือของหมู่บา้ น หรือชุมชนวา่ “วัดไรข่ งิ ” เรื่องท่ี 2 ในราวปี พ.ศ. 2446 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศ วิหาร กรงุ เทพฯ เสดจ็ ตรวจเยีย่ มวัดในเขตอาเภอสามพราน สมเด็จฯ ไดเ้ สด็จมาท่วี ดั ไร่ขิง และทรงต้ัง ชื่อวัดใหม่ว่า “วัดมงคลจินดาราม” ทั้งทรงใส่วงเล็บช่ือเดิมต่อท้าย จึงกลายเป็น “วัดมงคลจินดาราม (ไร่ขิง)” เมื่อเวลาผ่านพ้นมานาน และคงเป็นเพราะความกร่อนของภาษา จึงทาให้วงเล็บหายไป คงเหลือเพียงคาว่า “ไร่ขิง” ต่อท้ายคาว่า “มงคลจินดาราม” จึงเขียนว่า “วัดมงคลจินดาราม-ไร่ขิง” แต่ในทางราชการ ยังคงใชช้ ่อื เดิมเพียงวา่ “วัดไรข่ ิง” วัดไรข่ งิ พระอารามหลวง ได้รับพระกรณุ าโปรด เกลา้ โปรดกระหม่อมจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยกฐานะเปน็ พระอาราม หลวงชัน้ ตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 เรื่องที่ 2. กล่าวโดยสรปุ วดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง สรา้ งข้นึ โดยสมเดจ็ พระพทุ ฒาจารย์ (พุก) เมื่อปี พ.ศ. 2394 เป็นท่ีประดิษฐานของหลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปศักด์ิสิทธ์ิท่ีเป็นท่ีเคารพสักการะของ ประชาชนท่ัวไป วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ต้งั แตว่ ันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2533กก
20 เรอ่ื งท่ี 3 ศิลปกรรมในวัดไรข่ ิง พระอารามหลวง เรอื่ งท่ี 3 3.1 ความหมายของศิลปกรรม เร่อื งท่ี 3 3.1 สารานกุ รมไทยฉบับราชบณั ฑิตยสถานได้กาหนดคณุ สมบัติของส่งิ ทนี่ ับไดว้ ่าเป็น \"ศลิ ปกรรม\" ไว้ดงั นี้ เร่อื งที่ 3 3.1 3.1.1 ศลิ ปกรรม เป็นสิ่งทีม่ นุษยส์ รา้ งขน้ึ ไม่ใชส่ ่ิงทีม่ ีอยเู่ องตามธรรมชาติ เชน่ พระอาทิตย์ตกดินที่มีความสวยงามมากไม่นับเป็นศิลปกรรม แต่จิตรกรรมหรือภาพเขียนทิวทัศน์ พระอาทิตย์นับเปน็ ศลิ ปกรรม เรือ่ งท่ี 3 3.1 3.1.2 ศิลปกรรม เปน็ สิ่งท่ีมนุษยส์ รา้ งขึ้นให้มีความสวยงาม ส่งิ มนุษย์สรา้ งที่ไม่ สวยงาม เชน่ กองขยะ ปา้ ยโฆษณารกตา ไมน่ บั เปน็ ศิลปกรรม การสรา้ งสรรคโ์ ดยมนษุ ย์เพื่อความงาม หรือสนุ ทรียภาพที่ถือเป็นศิลปกรรมแบง่ ออกไดเ้ ป็น 2 ประเภทดังน้ี เรื่องท่ี 3 3.1 3.1.2 1) ศลิ ปกรรมประเภทวิจิตรศิลป์ (fine arts) หมายถึงศลิ ปกรรมที่มนุษย์ ทาขึ้น เพือ่ ความปตี ิชนื่ ชมในตัวช้ินงาน เช่น งานจิตรกรรม ประติมากรรม กวนี ิพนธ์ และงานดรุ ิยางคศลิ ป์ เร่ืองท่ี 3 3.1 3.1.2 2) ศิลปกรรมประเภทประโยชน์ศิลป์ (useful art หรอื applied art) หมายถึงศิลปกรรมท่ีมีประโยชน์ใช้สอยด้วย เช่น งานจักสานเครื่องปั้นดินเผา เคร่ืองแก้ว เครื่องเรือน และสิ่งใช้สอยต่างๆ ที่มีการบรรจงสร้างขึ้นโดยประณีต ทั้งท่ีสร้างด้วยมือ (ศิลปหัตถกรรม) และโดย เครอื่ งจกั ร (ศลิ ปหตั ถอุตสาหกรรม) เร่ืองที่ 3 3.1 3.1.3 ศิลปกรรม เปน็ งานประเภททัศนศิลป์ (visual art) เปน็ ความหมายทีใ่ ช้ กันมาในช่วงศตวรรษก่อน ซึ่งมักหมายเฉพาะงานประเภท จิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ส่วนศิลปะท่ีเป็นการแสดงจะจัดแยกไว้ต่างหาก เช่น การแสดงนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ ไม่นิยมรวมไว้ ในงานแสดงศิลปกรรม เรื่องที่ 3 3.1 3.1.4 ศิลปกรรม เป็นผลงานสร้างสรรคท์ างสุนทรยี ะเฉพาะที่มีคณุ ภาพดี เป็น การกาหนดความหมาย \"ศิลปกรรม\" ให้แคบและเฉพาะมากขึ้น มีการแยกงาน \"ศิลป์\" ท่ีไม่ถึงข้ัน ออกไปด้วยเกณฑ์ต่างๆ ที่ยังเปน็ ท่ถี กเถียงในหมู่ผูท้ รงคณุ วฒุ ิทางศลิ ปะ เรื่องที่ 3 3.1 3.1.4 พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ให้ความหมายของคาว่า “ศิลปกรรม”ไว้ดังน้ี “ศิลปกรรม” คือ สิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นศิลปะ เช่น งานประติมากรรม งานสถาปัตยกรรม จดั เปน็ ศลิ ปกรรม เร่ืองที่ 3 3.2 ความสาคญั ของศลิ ปกรรม เรอ่ื งที่ 3 3.2 ศิลปกรรม คือ สิ่งท่ีมนุษย์สร้างขึ้น เพ่ือแสดงออกถึงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ ความเชื่อ รสนิยม บุคลิก และภูมิหลังของผู้สร้างงาน มีทักษะ ความเพียร ความประณีต และ ภูมิปัญญา ศิลปกรรมเป็นสมบัติอันล้าค่าที่ทาให้มนุษยชาติมีความภาคภูมิใจในเกียรติ และศักดิ์ศรี มี บทบาทสาคัญในสังคมให้สังคมมีระเบียบแบบแผนมีความสงบสุข มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางวัตถุ และจิตใจเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ประเทศชาติมีความมั่นคงเจริญรุ่งเรืองยืนนาน โดยเฉพาะ โบราณสถาน โบราณวัตถุ และศลิ ปวัตถุ ซง่ึ มคี วามสาคัญ 7 ประการ ดงั น้ี
21 เรอ่ื งที่ 3 3.2 ประการท่ี 1 เปน็ เกยี รตขิ องชาตทิ เี่ ปน็ เจ้าของ เรอ่ื งท่ี 3 3.2 ประการที่ 2 เป็นมรดกของชาติ ตอ้ งช่วยกนั สงวนรกั ษาไว้ เร่ืองที่ 3 3.2 ประการท่ี 3 เป็นหลักฐานบอกให้ทราบถึงความเป็นอยู่คนโบราณ เป็นส่ือให้คน ปจั จบุ นั รู้จกั คนโบราณ เรื่องที่ 3 3.2 ประการท่ี 4 เปน็ หลักฐานช่วยสนบั สนนุ ความจริงในประวัตศิ าสตร์ใหเ้ ด่นชัด เรอ่ื งที่ 3 3.2 ประการท่ี 5 เป็นแบบอยา่ งของสถาปตั ยกรรม ศลิ ปกรรมและวัฒนธรรมของชาติ เรอ่ื งที่ 3 3.2 ประการที่ 6 เปน็ ประโยชนใ์ นการวจิ ัยศึกษาคน้ คว้าทางประวตั ิศาสตรแ์ ละ โบราณคดี เร่ืองที่ 3 3.2 ประการท่ี 7 ทาให้มีชอื่ เสยี งแก่ท้องถ่ินนน้ั และประเทศชาติเป็นทส่ี นใจและเป็นส่ือ ดงึ ดูดนกั ทอ่ งเทยี่ ว เรอ่ื งที่ 3 3.2 กล่าวโดยสรปุ ศิลปกรรม คือ สง่ิ ทีก่ ล่ันกรองมาจากอารมณแ์ ละความรสู้ ึกซึ้งในจิตใจ ของมนุษย์ เป็นผลสืบเนื่องมาจากความปรารถนามาต้ังแต่เกิด เพื่อท่ีจะปรับปรุงชีวิตและส่ิงแวดล้อม ให้มีความสวยสดงดงาม ส่ิงเหล่านี้เกิดจากการสร้างสรรค์หรือปรุงแต่งส่ิงที่ไม่สามารถหาได้จาก ธรรมชาติ ดังน้ันผลงานที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นจึงกลายเป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรม (Cultural heritage) ท่ีล้าค่าของมนุษย์สืบต่อกันมา โดยถือว่าเป็นผลงานท่ีมีความหมายในหน้าท่ีหรือ ประโยชนแ์ ละการสร้างสรรค์ ตามความต้องการอย่างเหมาะสมของสังคม (Social needs) ของแต่ละ ยุคแตล่ ะสมัย เรอ่ื งที่ 3 3.3 ประเภทของศลิ ปกรรม เรื่องที่ 3 3.1 ปัจจุบัน ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะไว้มากมายหลายประเภท ซึ่งเรา สามารถ แบ่ง ประเภทของศลิ ปะ ออกได้เปน็ 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามประเภทของความงาม คือ เรื่องที่ 3 3.1 3.3.1 วิจิตรศิลป์ (Fine Art) คือศิลปะที่อานวยประโยชน์ทางใจ ที่ มุ่งเน้นความ งดงาม และความพึงพอใจ มากกว่าประโยชน์ใช้สอย หรือส่ิงท่ีมนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพ่ือตอบสนอง ความตอ้ งการ ทางด้านจติ ใจ และอารมณ์ เป็นสาคัญ แบ่งออกเปน็ 6 แขนง คือ เรอ่ื งท่ี 3 3.1 3.3.1 1) จติ รกรรม (ภาพเขยี น) เร่อื งที่ 3 3.1 3.3.1 2) ประตมิ ากรม (ภาพปัน้ ) เรื่องที่ 3 3.1 3.3.1 3) สถาปตั ยกรรม (งานก่อสร้าง) เรอ่ื งท่ี 3 3.1 3.3.1 4) วรรณกรรม (บทประพนั ธ์) เรอ่ื งที่ 3 3.1 3.3.1 5) ดรุ ิยางศลิ ป์ หรือ ดนตรี (การขับร้อง การบรรเลง) เรอ่ื งที่ 3 3.1 3.3.1 6) นาฏศลิ ป์ (การร่ายรา,การละคร) เรอ่ื งที่ 3 3.1 3.3.2 ประยกุ ตศ์ ลิ ป์ (Applied Art) คือศิลปะที่อานวยประโยชน์ทางกายม่งุ เน้น ประโยชน์ทางการใช้สอยมากกว่าความงาม หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรคข์ ึ้น เพื่อตอบสนองความ ตอ้ งการทางร่างกาย แบง่ ออกเป็น 5 แขนง คือ
22 เรอ่ื งท่ี 3 3.1 3.3.1 1) พาณิชย์ศิลป์ (ศลิ ปะเพ่ือประโยชน์ทางการคา้ ) เรอ่ื งที่ 3 3.1 3.3.1 2) มณั ฑนศลิ ป์ (ศลิ ปะการตกแตง่ ) เร่ืองท่ี 3 3.1 3.3.1 3) อตุ สาหกรรมศลิ ป์ (ศลิ ปะออกแบบผลติ ภณั ฑ)์ เรือ่ งท่ี 3 3.1 3.3.1 4) หตั ถศิลป์ (ศลิ ปะทใ่ี ช้ฝีมือ) เรือ่ งท่ี 3 3.1 3.3.1 5) ประณีตหัตถศลิ ป์ (ศลิ ปะการช่างฝีมือชน้ั สงู ) เร่ืองที่ 3 3.1 กล่าวโดยสรุป จากความหมาย ความงาม และประเภทของศิลปะ เราสามารถสรุปได้ ว่า ศิลปะคือส่ิงที่มนุษย์สร้างสรรค์ข้ึน เพื่อความงามและความพอใจ ส่ิงใดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แมจ้ ะมคี วามงดงามกห็ าใช่ศลิ ปะไม่ ดังเชน่ พระอาทติ ย์กาลงั ลับขอบฟ้า ดอกไมห้ ลากสีสวยงาม ความงามและความพึงพอใจของศลิ ปะมี 2 ประเภท คือ เรื่องท่ี 3 ประเภทที่ 1 ความงามทางกาย เป็นศลิ ปะที่เกี่ยวขอ้ งกับวถิ ชี วี ิตของเรา เราสัมผสั และ เห็นคณุ คา่ ไดอ้ ย่างเป็นรูปธรรม เรอ่ื งท่ี 3 ประเภทที่ 2 ความงามทางใจ เปน็ ศลิ ปะทมี่ ีคุณค่าทางนามธรรม ทาให้เรามคี วามเป็น มนษุ ย์ท่ีสมบูรณ์ สามารถ ดาเนินวิถีชีวติ ได้อยา่ งมีความสุข เรื่องท่ี 3 3.4 ศลิ ปกรรมที่สาคัญในวัดไรข่ ิง พระอารามหลวง เรื่องที่ 3 3.4 3.4.1 พระอุโบสถ มีลักษณะเป็นอาคารรูปสี่เหล่ียมผืนผ้าขนาดกว้าง 4 วา 2 ศอก ยาว 12 วา สูง 8 วาเศษ พื้นพระอุโบสถยกสูง ด้านหน้าและด้านหลังมีมุขย่ืนออกมา ใต้หน้าบันเป็น พื้นที่ผนังว่างฉาบทึบรองรับด้วยเสารูปสี่เหล่ียมขนาดใหญ่ด้านละ 4 ต้น มีบันไดทางข้ึน–ลง อยู่ทาง ด้านข้างท้ัง 2 ฝ่ัง เคร่ืองบนทาหลังคาคลุม 2 ช้ันและลดระดับลงมา 3 ช้ัน มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสี จากประเทศจีนสีน้าเงิน สีเขียว และสีน้าตาลอมส้ม ส่วนชายคาสั้นไม่มีคันทวยรองรับที่ปลายเต้าแต่ อย่างใด เคร่ืองบนประดับตกแตง่ ด้วยช่อฟ้าใบระกา หางหงส์ หน้าบันด้านหน้า – หลัง ตกแต่งด้วยไม้ แกะสลักลงรักประดับกระจกสีลวดลายดอกพุดตาน พระอุโบสถหันหน้าสู่ทิศอุดร (เหนือ) มีแม่น้า นครชัยศรีหรือแม่น้าท่าจีนไหลผ่าน ซึ่งในสมัยน้ันจะมีการสญั จรทางน้าเป็นหลกั ส่วนผ้ทู ี่สัญจรทางบก จะตอ้ งเดนิ หรืออาศัยม้าเป็นพาหนะ จากลกั ษณะทีต่ ง้ั และองค์ประกอบตา่ ง ๆ ทางด้านสถาปตั ยกรรม ดังท่ีกล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นคตินิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 ส่วนด้านหน้าและด้านหลังพระอุโบสถ มี ประตทู างเข้า – ออก ดา้ นละ 2 ช่อง หนา้ ต่างมดี ้านละ 5 ช่อง เหนอื กรอบประตู และหน้าตา่ งตกแต่ง ด้วยลวดลายปูนปัน้ ลงรักปดิ ทองและประดับกระจกอยู่ในกรอบรูปมงกฎุ เป็น “ลวดลายไทย” ผสมรปู ดอกพดุ ตาน “ลวดลายจีน” และลายเครอื เถาอย่าง “ลายฝรงั่ ” ลวดลายผสมประเภทนีน้ ยิ มกันมากใน สมัยรัชกาลท่ี 3 หรือท่ีเรียกศิลปะแบบนี้ว่า “ซิโน โปรตุเกส” (SINO PROTUGUESE) และมีปรากฏ อยู่ตามวัดต่าง ๆ ท่ีอยู่ในช่วงรัชกาลที่ 3 ถึงรัชกาลท่ี 4 เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดบวร นิเวศวรวิหาร วดั เฉลิมพระเกยี รติ และวดั นางนอง เป็นตน้ เร่ืองท่ี 3 3.4 ด้านในแต่เดิมพื้นผนังปล่อยว่าง ส่วนประตูและหน้าต่างมีภาพลวดลายของเก่า เหลืออยู่อย่างละ 1 บาน ประตูเขียนรูป “เซ่ียวกาง” หรือเทพผู้ปกป้องและพิทักษ์รักษาบานหน้าตา่ ง ด้านในเขยี นรูปดอกไมฝ้ ีมอื ชา่ งจีน
เ รื่ อ ง ที่ 3 23 เรอื่ งที่ 3 3.4 3.4.1 พระอุโบสถ เรื่องที่ 3 3.4 3.4.2 ใบเสมารอบพระอุโบสถ หลงั จากการสร้างพระอุโบสถเสร็จสิ้นลงแล้ว ตอ่ ไป คือการผูกพัทธสีมาหรือฝังลูกนิมิต เพ่ือใช้เป็นขอบเขตพ้ืนที่รอบนอกของพระอุโบสถให้แน่นอน สามารถใช้ทาสังฆกรรมได้ถูกต้องตามหลักพระวินัย สาหรับลูกนิมิตโดยท่ัวไปนั้นทาจากก้อนหินโกลน ให้เป็นรูปกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ศอก โดยฝังเอาไว้ในหลุมรอบพระอุโบสถทั้งแปดทิศ เหนือพ้ืนดินขึ้นมาจะทาฐานปูนรองรับและปักใบเสมาไว้อีกช้ันหน่ึง เพื่อใช้เป็นเคร่ืองหมายท่ีบ่งบอก ว่าได้ทาการผูกพัทธสีมาเรยี บรอ้ ยแลว้ ใบเสมาของวัดไรข่ งิ พระอารามหลวง นป้ี ระดษิ ฐานอยบู่ นฐาน ก่ออิฐถือปูนมีรูปกลีบบัวจงกลรองรับ ด้านล่างทาเป็นฐานสิงห์ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ใบเสมา แกะสลักด้วยหินแกรนิตสีเขียวเข้มเนื้อแกร่งและค่อนข้างหยาบ เอวเสมาลักษณะคอดบางมีรูปนาค สามเศยี รปรากฏอยู่ท้ังสองข้าง ตรงกลางใบเสมาทาเป็นรปู ทับทรวงและสร้อยสังวาลย์ ยอดบนทาเป็น รูปพระเก้ียว ใบเสมาของวัดไร่ขิงนี้เหมือนกับใบเสมาท่ีวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ทุกประการ ใบเสมารอบพระอุโบสถ
24 ร่ืองท่ี 3 3.4 3.4.3 ภาพจติ รกรรมฝาผนัง พระอบุ าลีคณุ ูปมาจารย์ (ปญั ญา อินฺทปญโฺ ญ) อดตี เจ้า อาวาสวดั ไรข่ งิ พระอารามหลวง ไดม้ อบหมายให้ช่างเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังขึ้นใหมท่ ้ังหมดรวม 4 ด้าน ประกอบดว้ ยเรอ่ื งต่าง ๆ ไดแ้ ก่ “พทุ ธประวัติ” “ไตรลกั ษณ์ อนิจจัง ทกุ ขัง อนัตตา” “คาถาสนุ ทรีวาณ”ี “การ เผยแพร่พระพุทธศาสนาครั้งแรกในสุวรรณภูมิ”“ตานานพระปฐมเจดีย์เรื่องพระยากง - พระยา พาล”“สูญกัลป์”“พุทธคยา สถานที่ตรัสรขู้ องพระพุทธเจ้า”“ประวตั ิอาเภอสามพราน” “สาญจิ” นาคราช ช่อื เอรกปัตต์” “ความกตญั ญูกตเวทติ า” “พระพทุ ธเจ้าทรงผจญมาร และพญามารปรารถนาพุทธภูมิ” บานประตู และหนา้ ตา่ งดา้ นนอกตกแตง่ ด้วยงานประดบั มกุ ลวดลายไทยทั้งหมด บานประตผู ูกเถาลาย กา้ นขดยอดเปลวเคล้าภาพ มีรูปพระอินทร์ทรงชา้ งเอราวัณพระนารายณ์ทรงครุฑ และท้าวเวสสุวรรณ อยู่ตอนล่างสุด เร่ืองที่ 3 3.4 3.4.3 ลายชุดน้ีได้รับแบบแผนมาจากสมัยอยุธยาตอนปลายในรัชกาลสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวบรมโกศ และต่อลงมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งปรากฏอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพมหานคร ส่วนบานด้านในเขียนรูปเซี่ยวกาง ตามแบบของเดิมศิลปะจีน สาหรับ บานหน้าตา่ งด้านนอกตกแต่งเป็นลวดลายกระหนกเคลา้ ภาพบานด้านในเขียนรูปทวารบาลแบบศิลปะ ไทยบนพ้ืนสีแดง ฝ้าเพดานพระอุโบสถประดับตกแต่งด้วยลายดาวกลีบบัวจงกลบนพ้ืนสีแดงชาด อัน หมายถึง ภพหรือจักรวาลอันกว้างใหญ่ การตกแต่งทั้งหมดเร่ิมต้ังแต่ปี พ.ศ. 2531 เสร็จในปี พ.ศ. 2538 ภาพจิตรกรรมฝาผนงั ภายในพระอโุ บสถ
25 เร่ืองที่ 3 3.4 3.4.4. พระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ประดิษฐานอยู่บนแท่นระหว่างซุ้มประตู ทางเข้า–ออกด้านหน้าพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนป้ันลงรักปิดทองท้ังองค์ ประทับนั่งห้อย พระบาท พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่บนพระชานุ (เข่า) พระหัตถ์ซ้ายวางคว่าอยู่บนพระชานุ (เข่า) ด้านซ้ายมีช้างกาลังหมอบ ด้านขวามีลิงถือรวงผ้ึงอยู่ในมือ สาหรับคติความเชื่อของการสร้าง พระพุทธรูปปางน้ีเป็นพระบูชาประจาวันเกิดของผู้ท่ีเกิด ในวันพุธเวลากลางคืน ส่วนผู้ท่ีเกิดในวันพุธ เวลากลางวนั พระประจาวนั จะเป็น “ปางอุ้มบาตร” พระปางป่าเลไลยก์องค์นี้ สันนิษฐานว่าเป็นของเก่า ที่สร้างมาพร้อมกับวัด ต่อมาเมื่อเน้ือปูนเส่ือมลงมากจึงได้ทาการบูรณะคร้ังแรก พ.ศ.2538 และ จากนนั้ อีกหลายปผี ่านมาจึงไดบ้ ูรณะขน้ึ ใหมอ่ ีกครงั้ โดยนายสงดั ทิพยม์ ณฑา พระพทุ ธรปู ปางป่าเลไลยก์
26 เรอื่ งที่ 3 3.4 3.4.5 พระพุทธรปู ปางห้ามญาติ ประดษิ ฐานอย่บู นแทน่ ระหวา่ งซุม้ ประตูทางเขา้ – ออกดา้ นหลงั พระอุโบสถ เปน็ พระพทุ ธรปู ปูนป้นั ลงรักปิดทองเช่นกนั ประทับยนื ยกพระหตั ถท์ ั้งสอง เสมอพระอุระ พุทธศิลป์โดยรวมศิลปะสมัยอู่ทอง สันนิษฐานว่าเป็นพระเก่าแก่ที่สร้างมาพร้อมกับวัด สงิ่ ทนี่ า่ สนใจคือพระพุทธองค์ดังกล่าวในสว่ นทเี่ ป็นเม็ดพระศก (ผม) ทั้งหมดจะลงรักสดี าเอาไว้ และไม่ มกี ารปิดทองแต่อยา่ งใด ซึ่งในวดั มีพบเพียงองคเ์ ดียวเทา่ นัน้ และไดเ้ ห็นมานานมากกว่า 40 ปี พระพทุ ธรปู ปางหา้ มญาติ
27 เรอื่ งที่ 3 3.4 3.4.6 พระสังกัจจายน์ หรือ พระมหากจั จายนะ ประดิษฐานอยทู่ ี่ศาลาดา้ นหนา้ พระอโุ บสถ สร้างดว้ ยโลหะเนื้อสาริด พระสงั กัจจายน์มลี ักษณะเปน็ พระพุทธสาวกประทับนง่ั ขัดสมาธิ ราบร่างกายอวบอ้วนและสมบูรณ์ พระพักตร์ยิ้มแย้มดูอิ่มเอิบ ใบพระกรรณยาวจรดบ่า พระหัตถ์ท้ัง สองกุมไว้ที่พระนาภี (ท้อง) มีการครองผ้าเหมือนกับพระพุทธรูปโดยทั่วไป พระสังกัจจายน์นี้มีคติ ความเช่อื ในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์พูนสุขและรา่ รวย นยิ มสรา้ งกันมากต้ังแตร่ ชั กาลที่ 3 เป็นต้นมา ผูส้ งู อายใุ นท้องถ่ินได้เล่าให้ฟังวา่ นายเทยี นเต็ก กรรณสตู หลานพระยาสุนทรบุรีศรีพิชัยสงครามภักดี สุรยิ ะพาหะ (อ้ี กรรณสูต) ชาวตลาดใหม่ จงั หวดั นครปฐม ได้สร้างถวายวดั ในสมัยหลวงพ่อใช้ ปตฏิ โฐ เป็นเจ้าอาวาส ประมาณสมัยรัชกาลที่ 6 – 7 โดยสร้างศาลาไม้ขนาดเล็กคลุมกันแดดกันฝนไว้ ศาลา ตกแต่งด้วยไม้ฉลุลวดลาย “แบบขนมปังขิง” ซึ่งนิยมกันมากต้ังแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นต้นมา ส่วน ศาลาไม้สักขนาดใหญ่ที่เหน็ ในปัจจุบันนส้ี รา้ งข้ึนในสมัย พระอุบาลีคณุ ูปมาจารย์ (ปัญญา อนิ ฺทปญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวดั ไร่ขิง พระอารามหลวง พระสงั กัจจายน์ หรอื พระมหากจั จายนะ
28 เรื่องที่ 3 3.4 3.4.7 พระวิหารประจาทิศ เป็นอาคารทรงไทยรูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า ตั้งอยู่ตรงมุม กาแพงแก้วด้านในท้ัง 4 ด้านของพระอุโบสถ มีประตูทางเข้า–ออก 2 ช่อง ผนังด้านที่ติดกาแพงแก้ว ดา้ นแปร หรอื ด้านยาวมีช่องหน้าต่าง 3 ช่อง ส่วนผนังด้านสกัดหรือดา้ นสั้นท่ีตดิ กาแพงแก้วอีกฝั่งหนึ่ง เป็นผนังก่อทึบ พระวิหารท้ัง 4 หลังของเดิมมุงด้วยกระเบื้องดินเผา 3 หลัง และมุงด้วยกระเบ้ือง เคลือบสี 1 หลัง ตกแต่งด้วยช่อฟ้าใบระกา และหางหงส์ หน้าบันลวดลายปูนป้ันปิดทองประดับ กระจกสีรูปเทพนม ซุ้มประตูหน้าต่างตกแต่งด้วยลวดลายปูนป้ันปิดทองและประดับกระจกสีเช่นกัน วิหารท้ัง 4 ทิศนี้สร้างขึ้นในสมัยพระครูมงคลวิลาส (เฉย กิตติสาโร) วิหารด้านทิศตะวันตกสรา้ งเม่ือปี พ.ศ. 2491 วิหารด้านทิศเหนือ สร้าง พ.ศ. 2492 วิหารด้านตะวันออกสร้าง พ.ศ. 2493 และวิหาร ด้านทศิ ใตส้ รา้ ง พ.ศ. 2494 ตอ่ มาในปี พ.ศ.2530 พระอุบาลคี ุณูปมาจารย์ (ปญั ญา อนิ ฺทปญฺโญ) อดีต เจา้ อาวาสวดั ไร่ขิง พระอารามหลวง ได้บูรณะขนึ้ ใหมท่ ั้งหมด พระวิหารประจาทศิ
29 เร่ืองที่ 3 3.4 3.4.8 พระปรางค์ เป็นสิ่งก่อสร้างรูปส่ีเหล่ียมจัตุรัส ต้ังอยู่ติดกาแพงแก้วด้านทิศใต้ ของพระอุโบสถ ด้านลา่ งมฐี านเขียงรองรับ สูงขนึ้ มามซี ุ้มทิศเจาะไวเ้ พ่ือประดิษฐานพระพุทธรูปทงั้ 4 ด้าน ถัดขึ้นไปตอนบนองค์พระปรางค์ย่อไม้มุมสิบสองมีซุ้มทิศทั้ง 4 และเจาะช่องไว้ประดิษฐาน พระพุทธรูป ยอดปรางคม์ จี านวน 7 ชั้น ซง่ึ หมายถึง “เขาสัตตบรภิ ัณฑท์ ้ัง 7 ” อนั เปน็ พุทธปรชั ญา ที่ ปรากฏอยู่ในงานสถาปัตยกรรมไทย ยอดบนสุดปักด้วยฉัตรโดยมียอดนพศูลหรือวัชระรองรับอีก ชั้นหน่ึง พระปรางค์องค์นี้เป็นของเก่าแก่ พระครูนวการโสภณ (เติม จนทโสภโณ) อดีตรองเจ้าอาวาส วัดไรข่ ิงเปน็ ผ้ดู าเนินการบรู ณะ และภายในประดษิ ฐานพระบรมสารีรกิ ธาตุจากประเทศอินเดีย พระปรางค์
30 เรื่องท่ี 3 3.4 3.4.9 ศาลาการเปรียญ เป็นอาคารทรงไทย 2 หลังคู่สร้างด้วยไม้สัก ในสมัยหลวง พ่อใช้ ปติฎโฐ เป็นเจ้าอาวาสซึ่งท่านได้มีการย้ายกุฏิไม้ริมน้าท้ังหมดมาสร้างเรยี งแถวใหม่ยาวไปทาง มณฑป มีชาวตลาดใหม่ “ตระกูลกรรณสูต” ได้ช่วยกันย้ายศาลาการเปรียญของเดิมเข้ามาต้ังอยู่ใน ปัจจุบันเป็น 2 หลังคู่ ด้านล่างเป็นเสาปูนและปล่อยใต้ถุนให้โล่ง ด้านบนแต่เดิมหลังหนึ่งใช้ในงาน ทาบุญของวัดโดยทั่วไป ส่วนอีกหลังหน่ึงใช้เป็นสถานท่ีเรียนในระดับประถม และระดับมัธยมโดยมี ฝากัน้ รอบในแต่ละหลงั ต่อมาเมอื่ มกี ารสรา้ งโรงเรยี นข้นึ แล้วทางวัดจึงรื้อฝาออกปล่อยให้โลง่ ต่อมาได้ ปรับปรุงใหม่ทั้งหมดเป็นศาลาสาหรับจัดงานบาเพ็ญกุศลต่าง ๆ ปัจจุบันนี้ได้ทาการบูรณปฏิสังขรณ์ ใหม่ตกแต่งด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ในสมัยพระเทพศาสนาภิบาล เจ้าอาวาสปัจจุบัน และใช้เป็น พิพิธภณั ฑข์ องวัดไร่ขงิ ศาลาการเปรยี ญ
31 เร่ืองที่ 3 3.4 3.4.10 ศาลาจตุรมุข ตั้งอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถซ่ึงตรงกับทิศเหนือ 1 หลังและอยู่ ดา้ นหลังของพระอโุ บสถอกี 1 หลัง เปน็ ศาลาทรงไทยตวั อาคารปลอ่ ยพ้นื ที่โล่ง มีมขุ ทงั้ 4 ด้าน หลังคา มุงด้วยกระเบ้ืองเคลือบสี มีช่อฟ้าใบระกาและหางหงส์ หน้าบันท้ัง 4 ด้านตกแต่งด้วยงานปูนป้ันเร่ือง “พทุ ธประวตั ิ” เริ่มต้ังแต่ประสูติ จนถึงปรินิพพาน และการแบ่งพระบรมสารรี ิกธาตุ ชายคาเป็นปนู ป้นั รูปราหูอมจันทร์โดยจัดวางเป็นระยะในทุกด้าน ศาลาจตุรมุขท้ัง 2 หลังน้ีแต่เดิมในงานเทศกาล ประจาปีใช้เป็นท่ีให้บูชาเครื่องสักการะองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิง ต่อมาได้ใช้เป็นกองอานวยการในงานวัด แทน อาคารทั้ง 2 หลังน้สี รา้ งขึ้นในสมัยพระอบุ าลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญโฺ ญ) อดีตเจา้ อาวาส วัดไรข่ ิง พระอารามหลวง ศาลาจตรุ มขุ
32 เร่ืองท่ี 3 3.4 3.4.11 มณฑป ต้ังอยู่ด้านทิศตะวันตกของพระอุโบสถ สร้างอยู่กลางสระน้าเก่าแก่ ของวัด ริมสระนา้ แตเ่ ดมิ มศี าลาพักรอ้ นขนาดเล็กอยู่ 1 หลัง ต้ังอยรู่ ิมสระ“ร้านซื่อสัตยพ์ าณิชย์” สรา้ ง ถวายไว้เมอ่ื ปี พ.ศ.2503 ชายคาของศาลาเป็นแผน่ ไมส้ ักฉลลุ วดลายแบบขนมปังขิง ตอ่ มาเมอื่ ชารุดจึง ไดร้ อ้ื ออก มณฑปกลางสระน้าของวัดไร่ขิงนี้เป็นท่ีประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจาลอง สร้างขนึ้ เมื่อปี พ.ศ. 2511 โดย พระครูนวการโสภณ (เติม จนทโสภโณ) พร้อมด้วยคณะศิษย์ของท่าน มีกาแพงแก้ว ล้อมรอบท้ัง 4 ด้านและซุ้มประตูข้ึน - ลงท้ัง 4 ด้านเช่นกัน ซุ้มประตูทุกด้านมีปูนป้ันรูปยักษ์ยืนอยู่ ด้านละ 2 ตน โดยทาหน้าท่ีเป็นทวารบาลคอยพิทักษ์รักษาและดูแล ปัจจุบันมณฑปเปิดให้ประชาชน เขา้ นมัสการได้ทกุ วัน มณฑป
33 เรื่องที่ 3 3.4 3.4.12 หอระฆัง ตั้งอยใู่ กล้กับมณฑป เปน็ หอทรงไทยแบบจตุรมุข มีช่อฟ้าใบระกา และหางหงส์ตามแบบสถาปัตยกรรมไทย ส่วนยอดทาเป็นยอดมณฑปมีความสูง 3 ชั้นตามแบบ ของเดิม สร้างขึ้นในสมัยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงพระ อารามหลวง เพ่ือทดแทนของเก่าซึ่งสร้างด้วยไม้ หอระฆังหลังน้ีช้ันบนสุดมีระฆังขนาดใหญ่หล่อด้วย โลหะมีขอ้ ความ “วัดไร่ขงิ ” หอระฆัง
34 เรื่องที่ 3 3.4 3.4.13 กุฏิอดีตเจ้าอาวาส หรือกุฏิตึก ตั้งอยู่ติดริมแม่น้านครชัยศรีหรือแม่น้าท่าจีน สร้างในสมัยหลวงพ่อใช้ ปตฎิ โฐ อดีตเจ้าอาวาสวดั ไร่ขงิ รปู ที่ 5 เป็นตึกทรงไทยแบบประยุกต์ก่ออิฐถือ ปนู สองชนั้ ดา้ นหนา้ มีมขุ โถงยื่นออกมา หนา้ บันช้นั บนมีรูปครฑุ หลอ่ ดว้ ย ปูน อาคารหลงั นี้มลี วดลาย ตกแต่งท่ีซุ้มประตูหน้าต่างและลงสีไว้อย่างสวยงามทุกด้าน บางส่วนตกแต่งด้วยงานลวดลายปูนหล่อ ส่วนช่องระบายลมฉลุลวดลายลงบนแผ่นไม้สักศิลปะจีน รูปไก่ฟ้า และรูปกิเลนซ่ึงเป็นสัญลักษณ์ “ฮก ลก ซ่ิว” ใต้ชายคาชั้นล่างมีข้อความปูนปั้น ดังนี้ “พระพุทธศักราช 2472” และอีกด้านฝั่งตรง ข้าม มีข้อความ “พระปะดิสสะเกษร (ใช้) เป็นผู้สร้าง”ภายในประดิษฐานรูปหล่อจาลองของท่าน ด้านหน้ากุฏิในเขตกาแพงมีต้นสมอพิเภกขนาดใหญ่ อยู่ 1 ต้น ท่านเคยเล่าว่าต้นไม้น้ีมีเทวดารักษา และได้นาพาท่านเหาะลอยมาในอากาศตามฝัน และได้นาท่านลงท่ีต้นสมอพิเภกนี้ นอกจากนั้น ด้านหนา้ รมิ น้ายังมศี าลาทา่ นา้ สร้างดว้ ยปูนมีรปู พระยานาคสองตัวมีข้อความ “ปะดิสสะเกษร” กุฏิอดีตเจ้าอาวาส หรอื กุฏิตึก
35 เรื่องที่ 3 3.4 3.4.14 โรงเรยี นพระปริยัตธิ รรม (หลังเกา่ ) ต้งั อยู่ริมแมน่ ้าอยู่ใกล้กับกุฏติ ึก สรา้ งข้ึน ในสมัยพระครูมงคลวิลาส (เฉย กิตติสาโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง รูปท่ี 6 เป็นอาคารทรงไทย ก่ออิฐ ถือปูนสองช้ัน ด้านหน้ามีมุขโถงเช่นเดียวกับกุฏิตึกของหลวงพ่อใช้ ปติฏโฐ อาคารหลังน้ี เดิมใช้เป็นท่ี เรียนของพระสงฆ์ มุขด้านหน้ามีข้อความ ดังน้ี “โรงเรียนปริยัติธรรมกิตติสารสามัคคี พ.ศ. 2497” ชั้นบนมีรูปหล่อจาลองของท่านประดิษฐานอยู่บนฐานปนู ด้านล่างมีปูนปั้นรูปไก่สองตวั ซ่ึงหมายถึงปี ระกาอนั เป็นปีเกดิ ของท่าน ปจั จุบันกฏุ หิ ลังนเี้ ป็นของ พระราชวิสทุ ธาจารย์ ทป่ี รกึ ษา เจา้ คณะอาเภอ สามพราน ผูช้ ว่ ยเจา้ อาวาสวดั ไร่ขิง พระอารามหลวง โรงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรม (หลังเกา่ ) \\
36 เร่ืองท่ี 3 3.4 3.4.15 กุฏินวการโสภณ ต้ังอยู่ด้านทิศเหนือใกล้กับมณฑป สร้างข้ึนโดย พระครู นวการโสภณ (เติม จนทโสภโณ) อดีตรองเจ้าอาวาสวดั ไรข่ ิง เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์แบบสองชน้ั ก่ออิฐถือปูนท้ังหมด เดิมเป็นของพระครูนวการโสภณ (เติม จนทโสภโณ) ต่อมาในปี พ.ศ.2535 ได้ทา การบรู ณะขึน้ ใหมโ่ ดย พระครปู ลดั วีรวัฒน์ (สมบตั ิ สมปฺ ตเฺ ตสโก) ปัจจุบนั ใชเ้ ปน็ ท่พี ักของพระเทพศาสนา ภบิ าล เจ้าอาวาสวัดไรข่ งิ พระอารามหลวง กฏุ นิ วการโสภณ
37 เร่ืองท่ี 3 3.4 3.4.16 หมู่กุฏิทรงไทย ต้ังอยู่ด้านทิศตะวันตก ใกล้กับกุฏินวการโสภณ เป็นอาคาร ทรงไทยโบราณ ซึ่งเป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยภาคกลาง สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหมด ปัจจุบัน ใช้เป็นที่จาพรรษาของพระสงฆ์ และพระอาคันตุกะของวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อาคารหลังน้ีสร้าง ขน้ึ ในสมยั พระอุบาลคี ณุ ูปมาจารย์ (ปัญญา อนิ ฺทปญฺโญ) อดีตเจา้ อาวาสวัดไร่ขงิ พระอารามหลวง หมกู่ ุฏทิ รงไทย
38 เร่ืองท่ี 3 3.4 3.4.17 อาคารทพ่ี ักสงฆ์สามชั้น อาคารทีพ่ กั สงฆ์ 3 ช้ันหรือกฏุ ิตึก 3 ชัน้ ตงั้ อยดู่ ้าน ทศิ ตะวนั ตกของพระอุโบสถ เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ แบบสามชั้นก่ออิฐถือปนู ท้ังหมด ปจั จบุ นั ใช้ เป็นท่ีจาพรรษาของพระสงฆ์ภายในวัดไรข่ ิง พระอารามหลวง อดีตเป็นท่ีพักสาหรับพระภิกษุสามเณร ที่มาอบรมบาลีก่อนสอบ เพ่ือเตรียมตัวสอบบาลีในช้ันต่าง ๆ อาคารหลังนี้สร้างขึ้นในสมัยพระอุบาลี คณุ ูปมาจารย์ (ปัญญา อนิ ทฺ ปญโฺ ญ) อดตี เจ้าอาวาสวัดไรข่ ิง พระอารามหลวง อาคารทีพ่ ักสงฆ์
39 เร่ืองที่ 3 3.4 3.4.18 อาคารพิพิธภัณฑ์วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ต้ังอยู่ใกล้กับกุฏิเจ้าอาวาส เป็น อาคารทรงไทยสองชั้นแบบก่ออิฐถือปูนทั้งหมด เคร่ืองบนประดับตกแต่งด้วยช่อฟ้าใบระกาและหาง หงส์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนงั ตกแตง่ ไว้อยา่ งสวยงามทุกด้าน ส่ิงที่สาคัญอาคารหลังนใี้ ชเ้ ป็นที่จัด แสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุท่ีเก่าแก่ของวัด ซ่ึงได้รวบรวมเอาไว้ ทราบมาว่าต้ังแต่พระอุบาลีคุณูปมา จารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เม่ือมารับตาแหน่งคร้ังแรกในปี พ.ศ.2503 ท่านก็ได้ริเริ่มในเรื่องน้ีแล้ว และได้เก็บสะสมสิ่งของต่าง ๆ มาโดยตลอด อาคารพิพิธภัณฑ์ หลังน้ีปัจจุบันได้สร้างเช่ือมต่อกับศาลาการเปรียญสองหลังคู่ของวัด เพ่ือขยายพื้นที่ในการจัดแสดง ส่ิงของไดก้ วา้ งขวางมากย่ิงขน้ึ อาคารพิพธิ ภัณฑ์วดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง
40 เรอ่ื งท่ี 3 3.4 3.4.19 ศาลาท่าน้า ตงั้ อย่ทู างทิศเหนือของพระอุโบสถติดรมิ แมน่ า้ ศาลาท่าน้า ของวดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง มี 3 หลังสรา้ งในแนวขนานกับแม่นา้ นครชัยศรี (ท่าจีน) เรือ่ งที่ 3 3.4 3.4.19 ศาลาหลงั ที่ 1 สร้างอยูต่ รงกบั พระอุโบสถ ด้านบนมีข้อความ “พ่อบาง แม่จอน วันคา้ บรจิ าค 37,219 บาท ประชาชนบรจิ าค 3,781 บาท สร้าง พ.ศ. 2504 เรื่องท่ี 3 3.4 3.4.19 ศาลาหลงั ท่ี 2 สร้างอย่ทู างด้านทศิ ตะวันออก ด้านบนมีขอ้ ความ “แม่ต๊ี โตรกั ษา นายชอ้ ย แม่แตงไท ชิวคา้ พ่อมุ้ย จนี ประชา นายภักด์ิ แม่ฉง้อน โปราณานนท์ และ ประชาชนสรา้ ง พ.ศ. 2505” เรื่องท่ี 3 3.4 3.4.19 ศาลาหลงั ที่ 3 สรา้ งอยูท่ างด้านทศิ ตะวันตก ตั้งอยดู่ า้ นหนา้ พิพธิ ภัณฑ์ของ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ด้านบนมขี ้อความ “นายเบี้ยว นางกมิ ลน้ั ภตู วิ ณิชย์ พรอ้ มบุตรธิดา (ศาลา ภูตวิ ณชิ ย์ 2519)” ศาลาท่านา้
41 เรื่องที่ 3 3.4 3.4.20 สานักงานมลู นิธิเมตตาประชารกั ษ์ (วดั ไรข่ ิง) มลู นธิ ิหลวงพ่อวัดไรข่ งิ และ มูลนิธิพระอบุ าลคี ณุ ปู มาจารย์ (ปญั ญา อนิ ทฺ ปญโฺ ญ) ต้ังอย่ตู ิดกบั ศาลาจตรุ มุข ดา้ นหนา้ พระอุโบสถ เปน็ อาคารทรงไทยแบบตรีมุข มีป้านลมแบบบา้ นทรงไทยท่ัวไปทาดว้ ยปนู หน้าบันตกแต่งดว้ ยปนู ป้นั ปิดทองประดับกระจกเสาด้านหน้ารปู กลม ตัวอาคารก่ออิฐสลบั กระจก สร้างขนึ้ ประมาณ พ.ศ.2534 ในสมัยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปญั ญา อนิ ฺทปญฺโญ) อดีตเจา้ อาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง สานกั งานมลู นธิ สิ านักงานมูลนธิ ิเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) มลู นธิ ิหลวงพ่อวดั ไร่ขงิ และมูลนิธพิ ระอบุ าลีคณุ ปู มาจารย์ (ปัญญา อินทฺ ปญฺโญ)
42 เร่ืองท่ี 3 3.4 3.4.21 อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรม ต้ังอยู่ติดริมแม่น้าด้านทิศตะวันออกของ พระอุโบสถ สร้างขึ้นในสมัย พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ) เป็นอาคารทรงไทยก่ออิฐ ถือปูนสองช้ันขนาดใหญ่ หน้าบันตกแต่งด้วยปูนและลงสีไว้อย่างสวยงาม อาคารหลังน้ีอดีตใช้เป็นท่ี เรียน และอบรมบาลีก่อนสอบของพระภิกษุสามเณร ภาค 14 ปัจจุบันเป็นกุฏิของพระรัตนสุธี ผู้ช่วย เจ้าอาวาสวดั ไรข่ ิง พระอารามหลวง อาคารโรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม
43 เร่ืองที่ 3 3.4 3.4.22 อาคารศาลาไทยคม ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถ เชิงสะพาน มงคลรัฐประชานุกูล (วัดไร่ขิง) เป็นอาคารทรงไทยสามช้ันแบบตรีมุข หน้าบันตกแต่งด้วยปูนปั้น ลวดลายไทยปิดทอง ด้านหน้ามีป้าย “สานักงานปฏิบัติงานคณะสงฆ์ ภาค 14” เดิมเคยใช้เป็นศูนย์ การฝึกการเรียนภาษาอังกฤษ และเป็นที่ประชุมของคณะสงฆ์ ปัจจุบันเป็นท่ีทาการสานักงานขนส่ง มวลชนกรงุ เทพ ฯ เขตการเดนิ รถที่ 6 และสภาวัฒนธรรมอาเภอสามพราน อาคารศาลาไทยคม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168