Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ(ชั้นเรียนวิชาชีพ) ปีงบประมาณ 2562

หลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ(ชั้นเรียนวิชาชีพ) ปีงบประมาณ 2562

Published by Suvalai S, 2020-05-08 03:18:46

Description: หลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ(ชั้นเรียนวิชาชีพ) ปีงบประมาณ 2562

Search

Read the Text Version

93 1) การนวด 2) อบซาวนา่ สมุนไพร 3) สมนุ ไพรบาบัด 3. ประเภทของการนวดสปา 1) การนวดนา้ มันหอมระเหย 2) การนวดแบบไทย 3) การนวดบาบดั 3. การบริหารจดั การอาชีพ จานวน 2 ช่ัวโมง 3.1 การผลติ 3.2 การควบคุมคณุ ภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชพี การทาสปาสมุนไพรเพื่อสขุ ภาพ จานวน 2 ชวั่ โมง 4.1 ความสาคัญของโครงการอาชพี การทาสปาสมุนไพรเพ่ือสุขภาพ 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชพี การทาสปาสมุนไพรเพ่ือสขุ ภาพ 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ การทาสปาสมุนไพรเพ่อื สุขภาพ 4.4 การเขยี นโครงการอาชพี การทาสปาสมุนไพรเพ่ือสุขภาพ 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชพี การทาสปาสมนุ ไพร เพ่อื สุขภาพ วิธกี ารจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ 1.1 วทิ ยากรให้ความรูถ้ ึงความสาคัญและความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพ การทา สปาสมุนไพรเพื่อสขุ ภาพ 1.2 แหล่งเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การทาสปาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ 1.3 ศกึ ษาข้อมลู จากแหล่งเรียนรู้ ภูมปิ ัญญา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานทจี่ ดั จาหนา่ ย 1.4 สรุปความรทู้ ไี่ ด้จากการศกึ ษาดูงานจากแหลง่ เรยี นรู้ ภมู ปิ ัญญา 2. ทักษะอาชพี 2.1 วิทยากรบรรยายข้นั ตอนการทาสปาสมนุ ไพรเพื่อสขุ ภาพ 2.2 วิทยากรทาการสาธติ วธิ ีการทาสปาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ 2.3 วทิ ยากรรว่ มกับผูเ้ รียนในการการออกแบบผลติ ภณั ฑ์การทาสปาสมุนไพรเพ่ือสขุ ภาพ 2.4 การฝึกปฏิบตั ิสร้างสรรค์ช้นิ งานแบบต่าง ๆ 2.5 การแลกเปล่ยี นเรียนรรู้ ะหวา่ งผู้เรยี นดว้ ยกนั 2.6 ศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรียนรใู้ นชุมชนและชอ่ งทางออนไลน์ เวบ็ ไซดต์ ่าง ๆ

94 3. การบริหารจดั การอาชพี 3.1 การผลิต 3.1.1 สารวจแหลง่ ทุน 3.1.2 สารวจแหล่งวสั ดุ วัตถดุ บิ ในทอ้ งถิ่น 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คุณภาพของชน้ิ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แขง็ แรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศกึ ษาข้อมูลการตลาด วเิ คราะหค์ วามต้องการของตลาด - ศนู ย์ OTOP - ศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน - แหลง่ ท่องเท่ียว 3.3.2 การโฆษณาประชาสมั พันธ์ เช่น - เว็บไซด์อาเภอ จงั หวดั - แผ่นพับโฆษณา 3.3.3 การทาบญั ชี - การคิดราคาตน้ ทนุ กาไร - บญั ชรี ายรับ-รายจ่าย ส่อื การเรียนรู้ 1. ใบความรู้/ใบงาน 2. ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ /วทิ ยากร 3. ตัวอยา่ งชนิ้ งาน 4. วสั ดุ อุปกรณ์ ท่ีใช้ในการฝกึ ปฏบิ ตั ิ 5. แหล่งเรยี นรู้ ท่ศี ึกษาดูงาน การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมินความร้ภู าคทฤษฎีระหว่างเรยี นและจบหลักสูตร 2. การประเมินผลระหวา่ งเรยี นจากการปฏบิ ัติงานท่ีมีคุณภาพเพยี งพอ สามารถสรา้ งรายได้ ให้กบั ตนเองความสาเรจ็ ของการปฏบิ ัตแิ ละจบหลกั สูตร การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรียนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. ผ่านการประเมินผลท้งั ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบตั ิไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. ผ้เู รยี นสามารถเขียนโครงการอาชีพของตนเองได้ อยา่ งน้อย 1 โครงการ

95 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานแสดงผลการเรียน 2. วฒุ ิบัตร ออกโดยสถานศึกษาในสังกัดสานกั งาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวุฒบิ ัตรที่สถานศึกษาออกให้กับผู้เรียนทีจ่ บหลักสูตร การเทียบโอน ผเู้ รยี นทีจ่ บหลกั สตู รนส้ี ามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลอื กที่สถานศึกษาไดจ้ ดั ทา ข้ึนได้

96 หลักสตู รโหราศาสตร์ (ไพ่ยปิ ซ)ี จานวน 35 ช่ัวโมง กลุ่มอาชีพพาณชิ ยกรรมและบรกิ าร ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มีความรู้ความสามารถและมีทักษะในการประกอบอาชีพอิสระ เป็นการแก้ปัญหา การว่างงานและส่งเสริมความเข้มแขง็ ให้แกเ่ ศรษฐกิจชุมชน สานักงาน กศน. จงึ ไดก้ าหนดหลักการใน การจัดแผนพัฒนาการศึกษาอาชีพ ไว้วา่ หลักสูตรตอ้ งมีความยดื หยุ่น การจัดกระบวนการเรยี นรู้เน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ การวัดและการประเมินผลต้องเป็นไปตาม หลักสตู รกาหนดไว้ กศน. อาเภอสามพราน ได้ตระหนักถึงความสาคัญของการประกอบอาชีพ การพ่ึงพาตนเอง อันเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ของประชาชน และในฐานะที่เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนด้าน การจัดการศึกษาให้กับประชาชน จึงได้ร่วมกับ ครู กศน.ตาบล ดาเนินการจัดทาและพฒั นาหลักสูตร ต่าง ๆ ข้ึนเพ่ือใช้ในการจัดการศึกษาอาชีพได้อย่างหลากหลายและตรงกับความต้องการของ ประชาชน กศน.อาเภอสามพราน ร่วมกับภูมิปัญญา ครู กศน.ตาบล จัดทาหลักสูตร โหราศาสตร์(ไพ่ ยิปซี) จานวน 35 ชั่วโมงขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนนาไปใช้เป็นข่องทางในการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ ตนเองและครอบครวั ได้ หลกั การของหลักสตู ร 1. เปน็ หลักสูตรอาชีพทีส่ ่งเสรมิ และอนุรักษ์ความรู้ของถูมปิ ัญญาท้องถน่ิ 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือการมงี านทาของประชาชน จดุ ประสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกจรรยาบรรณทีด่ ี ประวตั คิ วามเป็นมาของไพย่ ปิ ซี 2. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนร้ขู ั้นตอนการใชไ้ พ่ การเก็บรักษาไพไ่ ดอ้ ย่างถูกต้อง 3. เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกลกั ษณะและความหมายของไพ่ยปิ ซี 4. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นเขา้ ใจและรู้เทคนคิ การวางไพ่และการพยากรแบบตา่ ง ๆ 5. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถวิเคราะหแ์ ละพยากรณ์ได้ กลุ่มเปา้ หมาย ประชากรวัยแรงงาน

97 ระยะเวลาเรยี น 35 ชว่ั โมง รวม 10 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 25 ช่วั โมง ภาคปฏิบตั ิ โครงสรา้ งหลักสตู ร จานวน 5 ชว่ั โมง 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ จานวน 25 ช่วั โมง 1.1 ทศั นคติและจิตสานกึ ความปลอดภัยในการประกอบอาชีพ 2. ทกั ษะในการประกอบอาชีพ จานวน 5 ช่วั โมง 2.1 จรรยาบรรณท่ดี ี ประวัติความเปน็ มาของไพ่ยปิ ซี 2.2 ขน้ั ตอนการใชไ้ พ่ การเก็บรักษา 2.3 ลกั ษณะและความหมายของไพย่ ิปซีแตล่ ะใบ 2.4 เทคนคิ การวางไพแ่ ละการพยากรณ์ - แบบ Celtic Cross - แบบตอบคาถามเฉพาะเร่ือง - แบบปิรามิด 2.5 การวิเคราะห์ และพยากรณ์ 3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชีพ 3.1 การบริหารจดั การด้านต้นทุน 3.2 การบริหารจดั การดา้ นการตลาด วิธกี ารจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ 1.1. วทิ ยากรบรรยาย เรื่องจรรยาบรรณที่ดี ประวัตคิ วามเปน็ มาของไพย่ ปิ ซี 1.2. ศึกษาข้อมลู จากเอกสาร / สื่อ / เทคโนโลยี การใช้ไฟ่ยิปซี 1.3. ผู้เรียนและวิทยากรร่วมกนั แลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเก่ียวกบั การพยากรณ์ด้วยไพ่ ยปิ ซี 2. ทักษะในการประกอบอาชพี 2.1 วทิ ยากรบรรยาย ขนั้ ตอนการใช้ไพ่ การเก็บรักษาไพ่ไดอ้ ย่างถูกต้อง 2.2 วิทยากรสาธติ ข้นั ตอนการใช้ไพ่ การเก็บรักษาไพ่ไดอ้ ย่างถูกต้อง 2.3 ผเู้ รียนฝกึ ปฏิบัติข้ันตอนการใชไ้ พ่ การเก็บรักษาไพไ่ ด้อยา่ งถูกต้อง 2.4 วทิ ยากรบรรยายและสาธติ เทคนิคการวางไพ่และการพยากรแบบต่างๆ 2.5 วิทยากรบรรยายและสาธติ การวเิ คราะห์และพยากรณ์ได้ 2.6 วิทยากรประเมินผลใชไ้ พย่ ิปซพี ยากรณ์ได้

98 3. การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพ 3.1 วิทยากรและผเู้ รยี นรว่ มกันวางมาตรฐานเก่ียวกับการประกอบอาชีพ 3.2 วิทยากรให้ความรูด้ ้านการหาลกู ค้า การจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. การบรรยายพรอ้ มการสาธติ 2. การฝึกปฏบิ ตั ิ 3. การประเมนิ ผล สอ่ื การเรียนรู้ 1. ใบความรู้ 2. วิทยากร/ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน 3. ตัวอย่างผลงาน 4. แหลง่ เรียนรู/้ ห้องสมดุ /เอกสารทางวิชาการ การวดั และประเมินผล 1. การประเมินความรภู้ าคทฤษฎีและปฏิบัติระหวา่ งการเรยี น 2. การประเมินผลหลังเรียน เพื่อจบหลักสตู ร การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรยี น ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 2. มีผลงานท่ีมีคณุ ภาพ เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. หลักฐานการประเมนิ ผล 2. วุฒิบตั รออกโดยสถานศึกษา 3. ทะเบียนคมุ วุฒบิ ัตร การเทียบโอน ผู้เรยี นทีจ่ บหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทยี บโอนผลการเรยี นรกู้ ับหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการประกอบอาชีพรายวชิ าเลือกที่สถานศึกษาได้ จดั ทาข้นึ ในระดบั ระดบั หน่ึง

99 หลกั สูตรโหราศาสตรไ์ ทยขั้นพ้ืนฐาน จานวน 35 ชว่ั โมง กลมุ่ อาชพี พาณิชยกรรมและบรกิ าร ความเปน็ มา สืบเน่ืองจากกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ท่ีจะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาค หลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน เพื่อแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะยกระดับการจัดการศึกษา เพื่อเพ่ิมศักยภาพ และขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสรา้ งรายไดท้ ่ีมน่ั คง มัง่ ค่งั มุ่ง พัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่า เทียมกัน ประชาชนมีรายได้ มีงานทาอย่างยั่งยืน และมีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับ ภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ดังนั้น การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันจะต้องมุ่งพัฒนา ประชากรของประเทศให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เน้นการบูรณา การให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ที่สร้าง ความมั่นคงให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ตลอดจนสามารถแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริม ความเข้มแข็งให้แกเ่ ศรษฐกจิ ชมุ ชน จากนโยบายและจุดเน้นในการดาเนินงานประจาปีงบประมาณ 2555 ของกระทรวง ศึกษาธิการ และสานักงาน กศน. ที่มุ้งเน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิด สร้างสรรค์ และด้านอานวยการและอาชีพเฉพาะทาง ซึ่งเป็นการศึกษาต่อเนื่องเพื่อการพัฒนา ย่ังยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง การเลอื กประกอบอาชีพในภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจบุ ัน จาเปน็ ต้องมีข้อมูลพื้นฐานในหลักสูตร ใน หลาย ๆ ด้าน ท้ังด้านการผลิต และความต้องการของตลาดแรงงานในสาขาอาชีพต่าง ๆ กลุ่ม อาชีพ สาขาพาณิชยกรรม เป็นทางเลือกหนึ่งในการเลือกประกอบอาชีพ สานักงาน กศน.ได้ดาเนินการ คัดเลอื กหลักสูตร การประกอบอาชีพด้านพาณิชยกรรม มานาเสนอไว้เป็นตัวอย่างให้ผู้เรียนได้เลือก เรียนตามความสนใจ ฝึกปฏิบัติและนาไปประกอบอาชีพสร้างรายได้อย่างทั่วถึงมีความมั่นใจในการ นาความรู้ และทักษะไปประกอบอาชพี การกาหนดเน้ือหาและช่ัวโมงในการเรียนหลักสูตรจะประกอบไปด้วยจานวนช่วั โมงของเน้ือหา ความรู้และการปฏิบัติเมื่อผู้เรียนเรียนจบหลักสูตรแล้วสามารถนาความรู้และทักษะไปประกอบ อาชีพสร้างรายได้ รวมท้ังสามารถนาจานวนชั่วโมงท่ีไดเ้ รียนไปเทียบโอน เป็นผลการเรียนในรายวิชา เลือกของสาระการประกอบอาชีพตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 จากสภาวะแวดล้อมสังคม เศรษฐกิจในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทาให้ประชาชนส่วน ใหญ่ต้องประสบปัญหาในการดาเนินชีวิต เกิดความไม่ม่ันใจในความมั่นคงของหน้าท่ีการงาน การเงิน ความรัก การดารงชีวิตว่าจะเป็นอย่างไร ซ่ึงเป็นสิ่งท่ีไม่สามารถคาดการณ์ได้ในอนาคต ทาให้คนใน สังคมส่วนใหญ่ เข้ามาพ่ึงพาการดูหมอ หรือการพยากรณ์โหราศาสตร์ เพ่ือให้รู้ถึงแนวโน้มอนาคตชีวิต

100 ของตนเอง บางคน ก็ใช้การพยากรณ์โหราศาสตร์ในการตัดสนิ แก้ไขปัญหาชีวิตท่เี กิดขึ้น เพราะคนสว่ น ใหญ่มีความเช่ือในเรื่องโหราศาสตร์ คาทานาย มาต้ังแต่สมัยโบราณ จะสังเกตได้จากการประกอบพิธี มงคลต่าง ๆ ต้องมีการกาหนดฤกษ์ยาม เป็นต้น จากเหตุผลดังกล่าว ทาให้คนสนใจในวิชาโหราศาสตร์ มากยง่ิ ข้ึน และนาวิชาโหราศาสตร์ มาใช้เป็นช่องทางในการประกอบอาชพี หลักการของหลักสตู ร 1. เปน็ หลกั สูตรทเี่ น้นการจดั การศึกษาอาชีพเพ่ือการมงี านทา ทเ่ี นน้ การบูรณาการเน้ือหา สาระภาคทฤษฎคี วบคู่ไปกบั การฝกึ ปฏิบัติจริง ผู้เรยี นสามารถนาความร้แู ละทักษะไปประกอบอาชีพ ได้จรงิ อย่างมีคุณภาพและมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 2. เป็นหลกั สูตรท่ีเนน้ การดาเนนิ งานรว่ มกับเครือขา่ ย สถานประกอบการ เพอ่ื ประโยชน์ใน การประกอบอาชีพและการศึกษาดูงาน 3. เป็นหลกั สูตรท่ผี ูเ้ รยี นสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทยี บโอนเขา้ สูห่ ลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในรายวชิ าเลอื กของสาระการประกอบอาชีพ 4. เป็นหลักสูตรที่เนน้ การใช้ศักยภาพ 5 ดา้ นในการประกอบอาชพี ได้แก่ ศักยภาพดา้ น ทรพั ยากร ภมู ิอากาศ ภูมปิ ระเทศและทาเลท่ตี ้ัง ศลิ ปวฒั นธรรมประเพณแี ละวถิ ชี ีวิต และด้าน ทรพั ยากรมนษุ ย์ จดุ ม่งุ หมาย เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมคี ุณลักษณะดงั นี้ 1. มีความรู้และทกั ษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ท่มี ัน่ คง มงั่ คง่ั 2. ตดั สินใจประกอบอาชพี ใหส้ อดคล้องกบั ศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และ สงิ่ แวดล้อมอย่างมีคุณธรรมจรยิ ธรรม 3. มเี จตคติที่ดีในการประกอบอาชพี 4. มคี วามรคู้ วามเข้าใจและฝึกทักษะการบรหิ ารจัดการในอาชพี ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ 5. มีโครงการประกอบอาชีพเพ่ือใช้เป็นแนวทางในการพฒั นาอาชพี ของตนเอง กล่มุ เป้าหมาย มี 2 กลมุ่ เป้าหมาย คอื 1. ผู้ทไ่ี มม่ ีอาชีพ 2. ผทู้ ่ีมีอาชพี และต้องการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา จานวน 35 ชั่วโมง ภาคทฤษฎี 10 ช่ัวโมง ภาคปฏบิ ัติ 25 ชั่วโมง

101 โครงสร้างหลกั สูตร เรอื่ งท่ี 1 ชอ่ งทางการประกอบอาชพี โหราศาสตร์ไทยข้ันพ้ืนฐาน จานวน 1 ชวั่ โมง 1. ความสาคญั ในการเลือกประกอบอาชีพ 2. ความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพธุรกจิ โหราศาสตร์ไทยขั้นพ้นื ฐาน 3. ทิศทางการพฒั นาการประกอบอาชีพไทยขน้ั พื้นฐาน เร่ืองท่ี 2 ทักษะการประกอบอาชีพโหราศาสตร์ไทยขนั้ พนื้ ฐาน จานวน 2 ชว่ั โมง 1. ประวตั คิ วามเปน็ มาของโหราศาสตรไ์ ทยขนั้ พ้ืนฐาน 2. ความหมายของโหราศาสตร์ไทยขน้ั พน้ื ฐาน 3. การนาโหราศาสตรเ์ ขา้ มาในประเทศไทย 4. ความแตกต่างระหว่างโหรกับหมอดู 5. การเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี นโหราศาสตร์ไทยขน้ั พนื้ ฐาน - จรรยาบรรณของนกั พยากรณ์ - บคุ ลกิ ภาพ มารยาท ประเพณีวัฒนธรรมทีเ่ ก่ยี วข้อง - การบชู าครู และการไหว้ครู 6. ขอ้ แนะนาเบอ้ื งตน้ ในการเรียนวชิ าโหราศาสตร์ไทยขั้นพื้นฐาน 7. การศกึ ษาวิชาโหราศาสตร์ไทยขั้นพนื้ ฐาน - ความหมายของคาที่เก่ยี วข้องกบั โหราศาสตร์ไทยขนั้ พ้ืนฐาน - ลักษณะ เคร่ืองหมาย รูปแสดงราศจี ักรดาวเคราะห์ - ดวงดาวทมี่ อี ิทธิพล ธาตุของดาว ทิศประจาราศี - การเกิดสรุ ิยุปราคา จันทรุปราคา - กาเนดิ ลกั ษณะ ความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์ 8. หลักการเขยี นดวงชะตา หรือการผกู ดวง จานวน 10 ชัว่ โมง 9. การฝกึ ปฏิบตั ิหลกั การอ่านดวงชะตา จานวน 20 ชว่ั โมง เรือ่ งท่ี 3 การบริหารจดั การในการประกอบอาชพี โหราศาสตรไ์ ทยขน้ั พ้นื ฐาน จานวน 1 ชวั่ โมง 1. การเลอื กทาเลที่ตงั้ ร้าน 2. การจัดและตกแตง่ หน้าร้าน 3. การคิดราคาตน้ ทุนและการวิเคราะห์จุดคมุ้ ทุน 4. การขาย/การบริการ 5. การส่งเสริมการขาย /การบรกิ าร 6. การทาบญั ชีร้านคา้ อย่างง่าย 7. รูปแบบการประกอบอาชีพโหราศาสตร์ไทยขัน้ พ้ืนฐาน เร่อื งที่ 4 โครงการประกอบอาชพี โหราศาสตรโ์ หรศาสตร์ไทยข้นั พื้นฐาน จานวน 1 ชั่วโมง 1. ความรเู้ บ้ืองต้นเก่ยี วกับโครงการประกอบอาชีพ การวางแผน แผนธรุ กจิ 2. การเขยี นโครงการ และประเมนิ ความสอดคลอ้ งของโครงการ

102 วิธกี ารจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพโหราศาสตร์ไทยข้นั พนื้ ฐาน 1.1 วิทยากรอธิบายความสาคัญในการประกอบอาชพี โหราศาสตร์ไทย ขน้ั พ้ืนฐาน 1.2 วิทยากรอธิบายความเป็นไปได้ในการประกอบอาชพี โหราศาสตรไ์ ทยขน้ั พื้นฐาน 1.3 วทิ ยากรและผเู้ รยี นรว่ มการวเิ คราะหว์ เิ คราะหท์ ิศทางในการพฒั นาการประกอบ อาชพี โหราศาสตร์ไทยขัน้ พน้ื ฐาน 2. ทักษะการประกอบอาชีพโหราศาสตรไ์ ทยขนั้ พน้ื ฐาน 2.1 ครแู ละผ้เู รยี นร่วมกนั พิจารณาข้อมูลจากเอกสารสื่อขา่ วสาร VCD และนาข้อมลู มา พจิ ารณาเพอ่ื วเิ คราะห์ภาพลักษณ์ของนักพยากรณ์ในปัจจุบัน และร่วมกนั กาหนดภาพลักษณ์นัก พยากรณโ์ หราศาสตรท์ ่ผี ู้เรยี นต้องการ 2.2 ศกึ ษาขอ้ มูลท่ีสง่ เสริมภาพลักษณ์นกั พยากรณ์ ทด่ี ี 2.3 การตัดสนิ ใจท่ีจะเขา้ สกู่ ารฝกึ ทักษะอาชพี 2.4 บทบทวนภาพลักษณข์ องนักพยากรณ์ท่ดี ีทผี่ ู้เรยี นไดร้ ว่ มกนั สรุปไว้ 2.5 แนะแนวทางการศึกษาเพือ่ ปรับบุคลกิ ภาพไปสู่การเป็นนักพยากรณ์ที่มีบคุ ลิกทด่ี ี - การใหค้ วามรู้ บุคลิกภาพ มารยาท - จรรยาบรรณ การใช้คาในการพยากรณผ์ ูส้ อนเน้นยาใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความตระหนัก ในขอ้ ห้ามของโหราศาสตร์ 2.6 ยกตัวอยา่ งนักพยากรณโ์ หราศาสตร์ท่ีประสบความสาเร็จและความล้มเหลว - กระบวนความรู้ทางจติ วิทยาในการพยากรณ์เพ่ือสรา้ งเสริมและให้แรงใจ - นาตวั อย่างข้อกฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ งกับนักพยากรณ์ - แนวทางการยดึ อาชพี นกั พยากรณใ์ นหลากรูปแบบ 2.7 ผู้เรยี นฝึกวเิ คราะห์ดวงดาวตา่ งๆ 2.8 ผู้เรียนฝึกเขียนดวงชะตาหรอื การผูกดวง 2.9 ผู้เรียนฝึกปฏิบัตกิ ารอ่านดวงชะตา 3. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพโหราศาสตรไ์ ทยข้ันพืน้ ฐาน 3.1 วทิ ยากรอธิบายความแตกต่างการเลอื กทาเลทต่ี ัง้ ร้าน การจัด ตกแต่งหนา้ ร้าน การ คดิ ราคาตน้ ทุน การวเิ คราะห์จดุ ค้มุ ทนุ การตลาดความแตกต่างระหว่างการขายและการให้บริการ 3.2 ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ัตกิ าหนดรูปแบบในการประกอบอาชพี โหราศาสตร์ไทยขนั้ พน้ื ฐาน 4. โครงการประกอบอาชพี โหราศาสตร์ไทยข้ันพื้นฐาน 4.1 ใหผ้ ู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ เรือ่ งความสาคัญของโครงการอาชีพ ประโยชนข์ องโครงการอาชีพ และองคป์ ระกอบของโครงการอาชีพ 4.2 ผเู้ รยี นและวทิ ยากรร่วมสนทนาแลกเปล่ยี น ข้อมลู ความคดิ เห็น 4.3 ผเู้ รียนสรุปความรู้

103 สือ่ การเรียนรู้ 1. เอกสาร / ใบความรู้ 2. แหลง่ เรยี นรใู้ นชุมชน / วิทยากร / ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น 3. Website การวัดและประเมินผล 1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลักสตู ร 2. การประเมนิ ผลระหวา่ งเรียนจากการปฏบิ ตั งิ านท่ีมีคุณภาพเพียงพอ สามารถสร้างรายได้ให้กบั ตนเอง ความสาเร็จของการปฏิบตั ิและจบหลกั สตู ร การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรียนและฝกึ ปฏบิ ตั ิตามหลักสูตรไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ผ่านตลอดหลกั สตู ร ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 3. มีผลงานผ่านการประเมินทดสอบที่มีคุณภาพตามหลักเกณฑ์การพยากรณ์โหราศาสตรอ์ ังคะ วิชาธาตุ กบั กลุม่ ลูกค้าจริงอย่างน้อย 20 คน เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. หลักฐานการประเมินผล 2. วุฒบิ ัตรออกโดยสถานศึกษา 3. ทะเบยี นคุมวฒุ บิ ตั ร การเทยี บโอน ผเู้ รยี นท่จี บหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นร้กู ับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 สาระการประกอบอาชีพรายวชิ าเลอื กทีส่ ถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึนในระดบั ระดบั หน่ึง

104 หลักสูตรอาหารว่าง จานวน 35 ช่ัวโมง กลุ่มอาชีพพาณิชยกรรมและบรกิ าร ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่จะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รเู้ ขา รู้เรา เท่าทัน เพ่ือแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะยกระดบั การจัดการศกึ ษา เพ่ือเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ ท่ีมั่นคง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพ่ือพัฒนา อาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้ม่ันคง มั่งค่ัง และมี งานทาอย่างย่ังยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซึ่งจะ เป็นการจดั การศกึ ษาตลอดชีวติ ในรูปแบบใหม่ทสี่ รา้ งความม่นั คงใหแ้ กป่ ระชาชนและประเทศชาติ ดังน้ันสถานศึกษาจึงได้เห็นความสาคัญในเรอื่ งการนาวัตถดุ ิบในชมุ ชนมาแปรรูปอาหาร ขนม ไทยประเภทต่าง ๆ เพ่ือบริโภคในครัวเรอื น และจาหน่ายในชุมชนและเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ สร้าง รายได้ต่อไป จึงสนับสนุนและส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายให้มีความรู้เร่ืองการแปรรูปอาหารประเภท ต่าง ๆ จากวัตถุดิบท่ีมีในชุมชน โดยการพัฒนาหลักสูตร ให้ผู้เรียนได้มีความรู้เรื่องการปรุงอาหาร การแปรรูปอาหาร ขนมไทย เพ่ือเพ่ิมมูลคา่ ให้กับสินค้าและเพ่ิมความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ การผลติ สนิ ค้า หลกั การของหลักสูตร หลักสูตรการประกอบอาชีพ อาหารวา่ ง มีหลกั การ ดงั น้ี 1. เปน็ หลักสตู รอาชีพที่สง่ เสริม และอนุรักษ์ความรู้ของภมู ิปัญญาท้องถิน่ 2. เปน็ หลักสตู รอาชีพที่เนน้ การนาวัสดุธรรมชาติท่ีมมี ากและเหลือใชใ้ นท้องถ่นิ มาสรา้ ง มลู ค่าเพ่ิมเพื่อใหป้ ระชาชนเกิดรายได้ 3. เป็นหลักสตู รการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาของประชาชน 4. เปน็ หลักสตู รการศกึ ษาอาชีพท่ีสามารถเทียบโอนผลการเรียนเขา้ สหู่ ลกั สตู รการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพรายวิชาเลือกได้ จดุ มุ่งหมาย หลกั สูตรการประกอบอาชีพ อาหารว่าง มีจดุ หมาย ดงั น้ี 1. เพือ่ ให้ผูเ้ รียนมีความรูแ้ ละทกั ษะในการทาอาหารว่าง 2. เพ่ือให้ผ้เู รยี นสามารถนาความรู้ทไ่ี ด้ไปสรา้ งรายได้

105 กลมุ่ เปา้ หมาย เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มผู้สนใจมีความรู้และทักษะเรื่องการนาสมุนไพรและวัตถุดิบทาง ธรรมชาติมาสร้างผลิตภัณฑ์อาหาร ขนมไทยท่ีสร้างสรรค์และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถ นาความรู้และวิธีการไปปฏิบัติใช้ในครอบครัวตนเอง สามารถเผยแพร่ให้แก่ผู้อ่ืน และนาไปประกอบ อาชพี เพ่ือการมีงานทาได้ ระยะเวลา จานวน 35 ช่ัวโมง 1. ภาคทฤษฎี 5 ช่วั โมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 30 ช่ัวโมง โครงสรา้ งหลกั สูตร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ จานวน 2 ชั่วโมง 1.1 ความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ 1.2 ความสาคัญในการทาอาหารวา่ ง 1.3 แหล่งเรียนรเู้ กีย่ วกบั การทาอาหารวา่ ง 1.4 แหลง่ จาหน่ายผลิตภณั ฑ์อาหารวา่ ง 2. ทกั ษะอาชีพ 30 ชัว่ โมง 2.1 ขั้นตอนในการทาอาหารว่าง 2.1.1 วสั ดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคดั เลอื กส่วนต่าง ๆ ของวตั ถุดบิ 2.1.3 การหาวตั ถดุ บิ 2.1.4 การทาอาหารวา่ ง 2.1.5 การฝึกปฏบิ ตั กิ ารทาอาหารวา่ ง - สาคใู สห้ มู - หมูสโหล่ง - หระหร่ีพับ - ข้าวยาตา่ งๆ - ฯลฯ 3. การบรหิ ารจัดการอาชพี จานวน 1 ชวั่ โมง 3.1 การผลิต 3.2 การควบคุมคณุ ภาพ 3.3 การตลาด

106 4. โครงการประกอบอาชพี อาหารว่าง จานวน 2 ชั่วโมง 4.1 ความสาคญั ของโครงการอาชพี อาหารว่าง 4.2 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ อาหารวา่ ง 4.3 การเขยี นโครงการอาชีพ อาหารวา่ ง 4.4 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชพี อาหารวา่ ง วธิ กี ารจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ 2.5 วทิ ยากรให้ความรู้ถึงความสาคญั และความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ อาหาร วา่ ง 2.6 แหลง่ เรียนรูเ้ ก่ยี วกับอาหารว่าง 2.7 ศึกษาขอ้ มูลจากแหล่งเรยี นรู้ ภมู ปิ ญั ญา สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานทจี่ ัดจาหน่าย 2.8 สรปุ ความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรยี นรู้ ภูมปิ ัญญา 2. ทกั ษะอาชพี 2.1 วิทยากรบรรยายขนั้ ตอนการทาอาหารว่าง 2.2 วิทยากรทาการสาธิตวิธีการทาอาหารว่าง 2.3 วทิ ยากรร่วมกบั ผเู้ รียนในการการออกแบบผลิตภัณฑ์อาหารวา่ ง 2.4 การฝกึ ปฏบิ ัติสร้างสรรค์ช้ินงานแบบต่าง ๆ 2.5 การแลกเปล่ียนเรยี นรรู้ ะหวา่ งผเู้ รยี นด้วยกัน 2.6 ศึกษาดงู านจากแหล่งเรียนรู้ในชุมชนและชอ่ งทางออนไลน์ เว็บไซดต์ า่ งๆ 3. การบริหารจัดการอาชพี 3.1 การผลติ 3.1.1 สารวจแหล่งทนุ 3.1.2 สารวจแหล่งวัสดุ วัตถดุ ิบในท้องถ่ิน 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพของช้นิ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แขง็ แรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศกึ ษาข้อมลู การตลาด วิเคราะห์ความต้องการของตลาด - ศนู ย์ OTOP - ศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชน - แหลง่ ท่องเทย่ี ว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ เช่น - เวบ็ ไซด์อาเภอ จงั หวดั - แผน่ พบั โฆษณา

107 3.3.3 การทาบญั ชี - การคดิ ราคาต้นทนุ กาไร - บัญชรี ายรับ-รายจ่าย ส่ือการเรียนรู้ 1. ใบความรู้/ใบงาน 2. ภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ /วิทยากร 3. ตวั อยา่ งชน้ิ งาน 4. วสั ดุ อปุ กรณ์ ทใ่ี ชใ้ นการฝกึ ปฏิบัติ 5. แหลง่ เรยี นรู้ ทีศ่ ึกษาดูงาน การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมินความรภู้ าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลกั สูตร 2. การประเมินผลระหวา่ งเรียนจากการปฏบิ ัตงิ านทีม่ คี ุณภาพเพยี งพอ สามารถสร้างรายได้ ใหก้ ับตนเองความสาเร็จของการปฏบิ ัติและจบหลกั สตู ร การจบหลกั สูตร 1. มเี วลาเรยี นไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80 2. ผา่ นการประเมินผลทง้ั ภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ตั ไิ ม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 3. ผู้เรียนสามารถเขียนโครงการอาชีพของตนเองได้ อย่างนอ้ ย 1 โครงการ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลักฐานแสดงผลการเรยี น 2. วุฒบิ ัตร ออกโดยสถานศึกษาในสังกัดสานักงาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวฒุ ิบัตรที่สถานศึกษาออกให้กับผเู้ รียนทจ่ี บหลกั สูตร การเทียบโอน ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลือกที่สถานศึกษาได้จัดทา ข้นึ

108 หลักสูตรการทาผลิตภณั ฑจ์ ากเชอื ก จานวน 35 ช่ัวโมง กลมุ่ อาชพี ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ สานักงาน กศน. จึงได้กาหนดหลักการในการจัดทา แผนพัฒนาการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานไว้ว่า ต้องเป็นการดาเนินงานท่ีมีความยืดหยุ่นด้านหลักสูตร การจดั กระบวนการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผล รวมท้ังเน้นการบรู ณาการใหส้ อดคล้องกับศักยภาพ ด้านต่าง ๆ กศน.อาเภอสามพราน ในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานสนับสนุนด้านการจัดการศึกษาให้กับ กลุ่มเปา้ หมาย คือ ผู้ไม่มีอาชพี หรือผู้มีอาชีพ และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มีความม่ันคง จึงได้ จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการทาผลิตภัณฑ์จากเชือก ขึ้น เพ่ือเป็นช่องทางหนึ่งในการพัฒนา อาชีพ และสามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยเน้นให้ กล่มุ เป้าหมายประชาชนในพ้นื ท่ีตาบลคลองจนิ ดา หลกั การของหลักสตู ร 1. เปน็ หลักสูตรอาชีพท่ีสง่ เสรมิ และอนุรักษ์ความร้ขู องภูมิปญั ญาทอ้ งถิ่น 2. เปน็ หลกั สูตรอาชพี ท่เี น้นการนาวัสดุธรรมชาตมิ าสรา้ งมูลค่าเพ่ิมเพอื่ ใหป้ ระชาชนเกดิ รายได้ 3. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาอาชพี เพ่ือการมงี านทาของประชาชน จดุ ม่งุ หมาย 1. เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมีความร้แู ละมที ักษะในการทาผลติ ภัณฑ์จากเชือก 2. เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นสามารถออกแบบและสร้างผลิตภณั ฑ์ท่ีมาจากเชอื ก 3. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นสามารถนาความรทู้ ่ไี ด้ไปใชป้ ระกอบอาชีพและสรา้ งรายได้ท่ยี ง่ั ยนื กลมุ่ เป้าหมาย กล่มุ เปา้ หมาย คือประชาชนประชาชนทั่วไป 1. ผูท้ ไี่ ม่มีอาชีพ 2. ผมู้ อี าชพี และต้องการทาอาชพี เสรมิ

109 ระยะเวลา จานวน 35 ชวั่ โมง 1. ภาคทฤษฎี 10 ชว่ั โมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 25 ชวั่ โมง โครงสรา้ งหลักสูตร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ จานวน 4 ชว่ั โมง 1.1 ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ จานวน 2 ชวั่ โมง 1.2 ความสาคัญในการทาผลติ ภัณฑจ์ ากเชือก จานวน 2 ชัว่ โมง 2. ทักษะอาชพี จานวน 27 ช่ัวโมง 2.1 ขัน้ ตอนในการทาผลติ ภัณฑจ์ ากเชือก 2.1.1 วสั ดุ อปุ กรณ์ 2.1.2 การหาวตั ถุดบิ 2.2 การทาผลติ ภณั ฑ์จากเชอื ก 2.3 การฝกึ ปฏิบัติการออกแบบและสรา้ งสรรคผ์ ลติ ภณั ฑจ์ ากเชอื ก เป็น กระเป๋า/ทใ่ี สข่ องใช้ 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ จานวน 4 ชว่ั โมง 3.1 การผลติ จานวน 1 ชั่วโมง 3.2 การควบคุมคณุ ภาพ จานวน 1 ช่วั โมง 3.3 การตลาด จานวน 2 ชวั่ โมง การจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี 1.1 วิทยากรใหค้ วามรู้ถึงความสาคญั และความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพทา ผลติ ภณั ฑ์จากเชอื ก 1.2 ศกึ ษาข้อมลู จากแหล่งเรยี นรู้ ภมู ิปญั ญา สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสาร 1.3 สรุปความรูท้ ่ไี ดจ้ ากการศกึ ษาจากแหล่งเรียนรู้ ภมู ปิ ญั ญา 2. ทกั ษะอาชีพ 2.1 การบรรยาย 2.2 การสาธติ 2.3 การออกแบบ 2.4 การฝกึ ปฏบิ ตั ิสร้างสรรค์ชน้ิ งานแบบต่างๆ 2.5 การแลกเปล่ยี นเรียนรรู้ ะหวา่ งผู้เรยี นด้วยกัน 3. การบรหิ ารจดั การอาชีพ 3.1 การผลติ - สารวจแหลง่ ทนุ และสารวจแหลง่ วตั ถุดบิ ในท้องถนิ่

110 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ - กาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพของชิ้นงาน ความสวยงาม ความทนทาน แขง็ แรง 3.3 การตลาด - ศึกษาข้อมลู การตลาด วเิ คราะหค์ วามต้องการของตลาด - การทาบญั ชี - การคิดราคาตน้ ทนุ กาไร - บัญชีรายรบั -รายจา่ ย สื่อการเรยี นรู้ 1. ใบความรู/้ ใบงาน 2. ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ /วิทยากร 3. ตวั อยา่ งชิ้นงาน 4. วสั ดุ อปุ กรณ์ ทใ่ี ช้ในการฝกึ ปฏบิ ตั ิ 5. แหลง่ เรยี นรู้/สื่อ ICT การวัดและประเมินผล 1. การประเมินความร้ภู าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรียน 2. การประเมินผลงานการปฏิบตั ิระหว่างเรยี นความสาเรจ็ ของการปฏิบัติ การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี นไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. ผ่านการประเมินผลทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ตั ิไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. มผี ลงานที่มคี ุณภาพ ตรงตามหลักการของหลักสตู ร เอกสารหลักฐานการศึกษา 1. หลักฐานการประเมนิ 2. ทะเบยี นวฒุ บิ ตั ร 3. วฒุ ิบัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศึกษา การเทียบโอน ผู้เรยี นท่ีจบหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลกั สูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้ึน

111 หลกั สตู รการทาดอกไม้จากกระดาษทชิ ชู จานวน 35 ชว่ั โมง กลุ่มอาชพี ความคดิ สร้างสรรค์ ความสาคัญ การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศใหม้ ีความรู้ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและ สง่ เสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซงึ่ กระทรวงศึกษาธิการไดก้ าหนดยุทธศาสตร์ ทีจ่ ะพัฒนา ศักยภาพของพื้นที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักโลก “รู้เขา รู้เรา เท่า ทัน เพื่อแข็งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจที่จะยกระดับการจัดการศึกษาเพื่อเพ่ิม ศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง โดยเน้นการบูรณาการ ให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รักการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมี งานทาอย่างมีคุณภาพทั่วถึง และเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้มั่นคง และมีงานทาอย่างยั่งยืน มี ความสามารถเชิงการแข่งขันท้ังในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษา ตลอดชวี ติ ในรปู แบบใหมท่ ่ีสร้างความมัน่ คงให้แกป่ ระชาชนและประเทศชาติ ในสภาพปัจจุบันมนุษย์เราได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ เช่น ด้าน เศรษฐกิจ การเมือง สังคม และส่ิงแวดล้อมเป็นอย่างมาก เมื่อจานวนประชากรเพิ่มข้ึน แต่ ทรัพยากรธรรมชาติ ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว และไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงจาเป็นอย่างยิ่ง ท่ี มนุษย์จะต้องสร้างขึ้นหรือทดแทนโดยวิธีการต่าง ๆ เพื่อการอยู่รอด ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอสามพราน จงึ ได้นานโยบาย ยุทธศาสตร์และความจาเป็น ดังกล่าวสู่การ ปฏิบัติ เพื่อการพัฒนาหลักสูตรอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมาย และประชาชนมีรายได้ และมีอาชีพเสริม การทาดอกไมจ้ ากกระดาษทชิ ชูเส้นพลาสติกเปน็ ภาชนะใช้สอย มสี ีสนั สวยงาม คงทน มคี วามนา่ สนใจ เหมาะสาหรับนาไปใช้สอยและเป็นของฝาก ผู้ท่ีสนใจควรศึกษาหาความรู้และฝึกปฏิบัติจนเกิดความ ชานาญ สามารถนาไปประกอบอาชพี ใหก้ ับตนเองได้ หลักการของหลักสูตร 1. เปน็ หลักสูตรการประกอบอาชีพที่ทาให้เกิดความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 2. เป็นหลักสูตรการประกอบอาชพี ท่ีส่งเสริมการมีงานทาของประชาชน 3. เปน็ หลกั สตู รทย่ี ืดหยุน่ ทงั้ เนอื้ หา ระยะเวลาเรียน และการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 4. เป็นหลักสูตรการอาชีพที่สามารถเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรสถานศึกษาของศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ในหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพรายวิชาเลือกที่สถานศึกษาจดั ทาขึ้นได้

112 จดุ มุง่ หมาย เพ่ือให้ผ้เู รียนมคี วามรู้ความสามารถ และคณุ ลักษณะดงั น้ี 1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจด้านการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทิชชู อปุ กรณ์ การเลอื กใช้กระเชา้ และดอกไมจ้ ากกระดาษทิชชู 2. มคี วามร้คู วามสามารถ การทาดอกไมจ้ ากกระดาษทิชชเู ปน็ ภาชนะตา่ งๆ 3. มีความรู้ความสามารถสรา้ งรายไดท้ ี่มนั่ คง 4. นาไปใช้ในชีวติ ประจาวัน และมีอาชพี เสริม ท่ีทาให้เกดิ รายได้ กลุ่มเปา้ หมาย มี 2 กลุม่ เป้าหมาย คือ 1. ผไู้ ม่มอี าชพี 2. ผทู้ ่มี อี าชพี หลกั และต้องการมอี าชีพเสริม ระยะเวลาการเรยี นร้ขู องหลักสูตร จานวน 35 ชั่วโมง 1. ภาคทฤษฏี 7 ชั่วโมง 2. ภาคปฏิบตั ิ 28 ช่ัวโมง โครงสรา้ งหลกั สตู ร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี การทาดอกไม้จากกระดาษทชิ ชู 1.1 ความสาคญั ในการประกอบอาชีพการทาดอกไม้จากกระดาษทิชชทู ฤษฎี 1 ช่วั โมง 1.2 ความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชีพการทาดอกไม้จากกระดาษทชิ ชทู ฤษฎี 1 ชัว่ โมง 1.2.1 การลงทนุ 1.2.2 การตลาด 1.2.3 กระบวนการผลติ 1.2.4 ความร้คู วามสามารถ 1.3 การตัดสินใจเลอื กประกอบอาชีพการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทิชชูทฤษฎี 1 ชวั่ โมง 1.3.1 ความพร้อม 1.3.2 ความตอ้ งการของตลาด 1.3.3 ความรูท้ ักษะและเทคนคิ ตา่ งๆ 1.3.4 สถานที่ 1.3.5 แรงงาน 1.3.6 เงินทุน

113 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทชิ ชู 2.1 ความร้พู ้นื ฐานด้านการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทิชชทู ฤษฎี 1 ชว่ั โมง 2.1.1 อุปกรณ์การทาดอกไม้จากกระดาษทิชชู 2.1.2 ความรเู้ ก่ยี วกับการทาดอกไม้จากกระดาษทิชชู 2.1.3 การจดั การควบคุมคุณภาพการทาดอกไม้จากกระดาษทชิ ชู 3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชีพ 3.1 การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพการทาดอกไม้จากกระดาษทชิ ชู ทฤษฎี 2 ช่วั โมง 3.1.1 การใช้ความคดิ สรา้ งสรรค์ในการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ 3.1.2 การลดต้นทุนการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทชิ ชู 4. การจดั การตลาดในการประกอบอาชีพการทาดอกไม้จากกระดาษทชิ ชู ทฤษฎี 1 ชวั่ โมง ปฏบิ ัติ 1 ชัว่ โมง 4.1 การประชาสมั พนั ธ์ 4.2 การสง่ เสริมการขาย 4.3 การกระจายสนิ ค้าไปสผู่ ู้บรโิ ภค วธิ ีการจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. ขั้นตอนการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทชิ ชูทฤษฎี 5 ชว่ั โมง ปฏิบัติ 28 ชั่วโมง 1.1 วทิ ยากรใหค้ วามรู้พ้ืนฐานเกีย่ วกบั การใช้ความคิดสร้างสรรคใ์ นการออกแบบและ การลดต้นทุนในการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทชิ ชู 1.2 วิทยากรและผเู้ รยี นสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน 2. ทักษะการประกอบอาชีพการทาดอกไม้จากกระดาษทิชชู 2.1 วทิ ยากรใหค้ วามรู้เบ้ืองต้นเกย่ี วกบั การทาดอกไม้จากกระดาษทิชชู 2.1.1 อุปกรณ์การทาดอกไม้จากกระดาษทิชชู 2.1.2 การคดั เลือกกระเช้าและดอกไม้ไม้กระดาษทชิ ชู 2.1.3 ความรเู้ กยี่ วกับการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทชิ ชู 2.2 วทิ ยากรใหค้ วามรขู้ ัน้ ตอนการทาดอกไมจ้ ากกระดาษทิชชู - การทาดอกไม้จากกระดาษทิชชูพวงมาลยั - การทาดอกไมจ้ ากกระดาษทิชชูดอกไม้ 3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพ 3.1 วทิ ยากรให้ความรเู้ รื่องการบริหารจัดการในการประกอบอาชีพ 3.1.1 วิทยากรฝึกใหผ้ ูเ้ รยี นไดใ้ ชค้ วามคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ 3.1.2 วทิ ยากรอธิบายวิธีการลดตน้ ทนุ การทาดอกไม้จากกระดาษทิชชู 3.2 วิทยากรใหค้ วามรเู้ ร่ืองการบริหารจดั การการตลาด 3.2.1 วทิ ยากรให้ความรู้การประชาสัมพนั ธส์ นิ คา้ ให้เขา้ การตลาด 3.2.2 วิทยาการใหค้ วามรเู้ ร่ืองการส่งเสริมการขาย

114 3.2.3 วิทยากรให้ความรู้เรื่องกระบวนการจัดการตลาด 3.3 วิทยากรให้ความรกู้ ารทาบัญชีรายรับ/รายจ่าย สอ่ื การเรยี นรู้ 1. วทิ ยากร 2. ตัวอย่างชิน้ งาน 3. วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ทางทฤษฎี รอ้ ยละ 10 2. การประเมนิ เวลาเรยี น ร้อยละ 10 3. การประเมนิ ตามสภาพจรงิ จากชิน้ งานหรือกิจกรรมที่ปฏบิ ัติไดแ้ ก่ - ความสวยงาม รอ้ ยละ 40 - ความคิดสร้างสรรค์ รอ้ ยละ 30 - ความสนใจ ความรบั ผิดชอบในเวลาเรยี น รอ้ ยละ 10 4. เครื่องมือวัดและประเมนิ ผล - แบบประเมินผลก่อน/หลังเรียน - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี น - แบบประเมนิ ชน้ิ งานท่ีมีคณุ ภาพเพยี งท่จี ะจาหนา่ ยได้ การจบหลกั สตู ร 1. มีเวลาเรยี นไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. ผ่านการประเมินผลทง้ั ภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ตั ไิ ม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. ผู้เรยี นสามารถเขยี นโครงการอาชีพของตนเองได้ อย่างนอ้ ย 1 โครงการ เอกสารหลักฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานแสดงผลการเรียน 2. วฒุ ิบตั ร ออกโดยสถานศึกษาในสังกดั สานักงาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวฒุ ิบตั รทีส่ ถานศึกษาออกใหก้ ับผู้เรยี นทจ่ี บหลกั สูตร การเทยี บโอน ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรก ารศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี เลือกที่สถานศึกษาได้จดั ทา ข้นึ ได้

115 หลกั สูตรการรอ้ ยมาลัย จานวน 35 ชั่วโมง กลุ่มอาชีพความคิดสร้างสรรค์ ความเปน็ มา การจัดการอาชีพในปจั จุบันมคี วามสาคัญมาก เพราะการจดั การศึกษาอาชีพเปน็ เรือ่ งเก่ียวกับ การพัฒนาประชากรของประเทศ ให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะ ในการประกอบอาชีพ ของ บุคคล และกลุ่มบุคคล เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน จากนโยบายและจุดเน้นในการดาเนินงานประจาปีงบประมาณ 2555 ของกระทรวงศึกษาธิการ และ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มุ่งเน้นการจัดการศึกษาอาชีพ เพ่ือการมีงานทาใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้าน พาณิชยกรรม ด้านความคิดสร้างสรรค์ และด้านอานวยการและอาชีพเฉพาะทาง ซึ่งเป็นการจัด การศึกษาอาชีพท่ีมุ่งพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ความสามารถ และทักษะในการ ประกอบอาชีพ เน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษา ตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความม่ันคงให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ตลอดจนสามารถ แก้ปญั หาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งใหแ้ ก่เศรษฐกิจชุมชน การรอ้ ยมาลัย เอกลักษณ์อยา่ งหน่ึงที่แสดงถึงวัฒนธรรมไทยและความเป็นไทย ท่ีทั้งสวยงาม ประณีตบรรจง และส่ือถึงความหมายในทางที่ดี ซึ่งในปัจจุบันคนรุ่นใหม่ก็หันมาสนใจการร้อยมาลัย มากขึ้นเพราะนอกจากจะได้ช่วยสืบสานวัฒนธรรมของรุ่นคุณปู่คุณย่าแล้ว ยังเป็นการฝึกสมาธิและ จิตใจ พวงมาลัยดอกไม้สดจึงเป็นงานฝีมือท่ีได้รับความนิยมอย่างมากที่ใช้ในวันสาคัญต่าง ๆ ทาง ศาสนา หรอื ของบุคคล และองคก์ รตา่ ง ๆ สานักงาน กศน.ได้จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการร้อยมาลัย เพ่ือเป็นช่องทางหนึ่งใน การนาความรู้ท่ีได้ไปสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว และเป็นการใช้เวลาวา่ งให้เกิด ประโยชน์ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมาย คอื ผไู้ ม่มีอาชพี หรือผมู้ อี าชพี และต้องการพัฒนาอาชีพของตนให้มี ความมัน่ คง ในพ้นื ท่ีตาบลบางช้าง หลักการของหลักสตู ร 1. เป็นหลักสูตรทเ่ี น้นการจัดการศึกษาอาชพี เพ่ือการมีงานทา ผู้เรียนสามารถนาความรแู้ ละ ทกั ษะไปประกอบอาชพี ได้จรงิ อย่างมีคุณภาพและมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม 2. เป็นหลกั สตู รอาชีพที่ส่งเสริม อนุรักษ์ศิลปวฒั นธรรมไทย เพ่ือให้สอดคล้องกับวิถชี ีวติ ไทย และอนรุ ักษ์ความรขู้ องภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น 3. เปน็ หลกั สูตรทเ่ี นน้ การดาเนินงานร่วมกับเครือขา่ ย สถานประกอบการ เพ่อื ประโยชน์ใน การประกอบอาชพี 4. เป็นหลักสูตรท่ีผู้เรียนสามารถนาผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอก ระบบระดบั การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในรายวิชาเลอื กของสาระการประกอบอาชีพ

116 5. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติในเขตพื้นท่ีให้บริการ ศกั ยภาพของพื้นท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิ ประเทศและทาเลที่ตั้ง ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชวี ิต ศักยภาพของทรัพยากร มนษุ ยใ์ นเขตพนื้ ท่ี จดุ มงุ่ หมาย 1. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ และทักษะเกี่ยวกบั การร้อยมาลยั ได้ 2. เพื่อให้ผู้เรียนนาความรู้เกี่ยวกับการร้อยมาลัยไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเอง และครอบครวั ไดอ้ ยา่ งมคี ุณธรรมและมั่นคง กลมุ่ เปา้ หมาย กลุม่ เป้าหมาย คอื ประชาชนทัว่ ไป 1. ผู้ที่ไมม่ อี าชีพ 2. ผ้ทู ี่มอี าชีพและต้องการพฒั นาอาชพี ระยะเวลา 35 ชั่วโมง จานวน 5 ชวั่ โมง ภาคทฤษฎี 30 ช่วั โมง ภาคปฏิบตั ิ โครงสรา้ งหลักสตู ร จานวน 2 ชว่ั โมง 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการร้อยมาลัย 1.1 ความสาคัญในการประกอบอาชพี การร้อยมาลัย จานวน 30 ชั่วโมง 1.2 ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพการร้อยมาลยั จานวน 2 ช่ัวโมง 1.3 แหลง่ เรยี นรกู้ ารประกอบอาชพี การรอ้ ยมาลัย 1.4 การตดั สินใจเลือกประกอบอาชีพการร้อยมาลยั 2. ทักษะในการประกอบอาชพี การร้อยมาลยั 2.1 การเตรียมวสั ดุอปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการร้อยมาลัย 2.2 การร้อยมาลยั รูปแบบต่าง ๆ 3. การบริหารจัดการในการประกอบอาชพี การรอ้ ยมาลยั 3.1 การคดิ ราคาต้นทนุ และการวิเคราะหจ์ ุดคมุ้ ทุน 3.2 การขาย 3.3 การสง่ เสรมิ การขาย 3.4 การทาบญั ชีรา้ นคา้ อย่างง่าย

117 4. โครงการประกอบอาชพี การรอ้ ยมาลัย จานวน 1 ช่ัวโมง 4.1 ความสาคญั ของโครงการอาชพี 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชีพ 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ 4.4 การเขยี นโครงการอาชีพ 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชพี วิธกี ารจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชพี การรอ้ ยมาลยั 1.1 วิทยากรบรรยายความสาคัญ ความเป็นไปได้ และการตัดสินใจเลือกใน การประกอบอาชพี การร้อยมาลัย 1.2 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถานประกอบการ สถานท่ีจัดจาหน่าย 2. ทกั ษะการประกอบอาชพี การร้อยมาลยั 2.1 วิทยากรบรรยายขน้ั ตอนการรอ้ ยมาลัย 2.2 วิทยากรทาการสาธติ วิธกี ารรอ้ ยมาลัย 2.3 วิทยากรรว่ มกบั ผูเ้ รยี นในการการออกแบบพวงมาลยั ในรูปแบบต่าง ๆ 2.4 ผ้เู รยี นฝกึ ปฏิบตั ิสรา้ งสรรคก์ ารร้อยมาลัยในรูปแบบต่าง ๆ 2.5 ผู้เรยี นแลกเปล่ยี นความรซู้ งึ่ กันและกนั 2.6 ผู้เรียนศึกษาดงู านจากแหล่งเรยี นรู้ในชมุ ชนและเวบ็ ไซต์ออนไลนต์ า่ ง ๆ 3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชพี การรอ้ ยมาลัย 3.1 วิทยากรบรรยายเกี่ยวการกาหนดราคา และศึกษาข้อมูลการตลาดเพ่ือจาหน่าย สินคา้ วิเคราะหข์ ้อมลู ความต้องการของตลาด 3.2 การโฆษณาประชาสัมพันธท์ างเวบ็ ไซตอ์ อนไลนต์ ่าง ๆ หรือแผ่นพบั โฆษณา 3.3 การคดิ ราคาต้นทนุ และกาไร การทาบัญชรี ายรบั -รายจ่าย ส่อื การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นรู้ / ใบงาน / ใบความรู้ 2. แหล่งเรยี นรใู้ นชุมชน / วทิ ยากร / ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน 3. ตวั อยา่ งช้ินงาน การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎีระหว่างเรียน 2. การประเมนิ ผลงานการปฏิบตั ิระหว่างเรียนความสาเร็จของการปฏิบตั ิ

118 การจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรยี น ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60 3. มีผลงานท่มี ีคุณภาพ ตรงตามหลักการของหลกั สูตร เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. หลกั ฐานการประเมินผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ัตร 3. วฒุ ิบัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน ผูเ้ รียนทจี่ บหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรูก้ ับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้ จัดทาขน้ึ

119 หลักสูตรการสานเสน้ พลาสติก จานวน 35 ชั่วโมง กลมุ่ อาชพี ความคิดสรา้ งสรรค์ ความเป็นมา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นหน่วยงานภาครัฐท่ีมี หน้าท่ีที่จัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนท่ีพลาดโอกาสทาง การศึกษา ได้มองเห็นความสาคัญและช่องทางในการขยายอาชีพการทาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ให้กับ ประชาชนที่ต้องการมีรายได้ ประกอบกับทางกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดนโยบายการจัด การศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาให้สถานศึกษาได้จัดการเรียนการสอ นให้กับประชาชนเพ่ือเป็นแนว ทางเลือกอีกทางหน่ึงสาหรับประชาชนให้สามารถนาไปปฏิบัติได้จริงและนาไปเป็นอาชีพเสริมเพิ่ม รายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนได้ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยจึงมีแนวคิดจัดกระบวนการ พัฒนาหลักสูตรการการสานเส้นพลาสติกให้เป็นองค์ความรู้ แนวทางท่เี ปน็ กลางในการจัดการศึกษาตามนโยบาย เพ่ือตอบสนองนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงาน กศน. ได้ปรับเปล่ียนกานจัด การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ โดยจัดให้มีศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน กศน. เป็นฐานการจัดกรรมให้แก่ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่บรกิ าร สานักงาน กศน. จังหวัด จัดทาเวทีประชาคมในระดับจังหวัด เพือ่ กาหนดกรอบอาชพี ของจังหวดั จากนน้ั สถานศึกษาจึงจดั ทาเวทีประชาคมในระดับอาเภอ โดยการ วิเคราะห์ศักยภาพของตนเองและพื้น ที่นาข้อมูลความต้องการด้านอาชีพของทุกตาบลและภูปัญญา ท้องถนิ่ มาพจิ ารณาร่วมกับรอบอาชพี ของจังหวดั เพื่อกาหนดเป็นกรอบอาชพี ของอาเภอ การพัฒนาหลักสูตรต้องสอดคล้องกับกลุ่มอาชีพใหม่ คือ หลักสูตรกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ ความคิดสร้างสรรค์ และอาชีพเฉพาะทาง โดยการพัฒนา เน้ือหาสาระที่มีองค์ความรู้ครบวงจร ประกอบด้วย โครงสร้างของหลักสูตร 4 ตอน คือ ช่องทาง การประกอบอาชีพ ทักษะการประกอบอาชีพ การบริหารจัดการและการจัดทาโครงการประกอบ อาชีพ เพื่อใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ทักษะและมคี วามมนั่ ใจในการประกอบอาชีพ หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลกั สตู รทม่ี ีความยดื หยุ่นในการจดั กระบวนการเรียนรู้ และการวดั ผลและ ประเมินผล 2. ส่งเสริมดา้ นการศึกษาอาชพี เพื่อการมีงานทา 3. สง่ เสริมการพัฒนาดา้ น หลักสูตรอาชีพความคิดสร้างสรรค์ วชิ าการสานเสน้ พลาสติก จุดหมาย 1. เพื่อให้ผเู้ รยี นมที ักษะอาชีพทสี่ ามารถสรา้ งรายได้ที่มัน่ คง 2. ผเู้ รยี นได้นาความร้มู าพัฒนาและช่วยเสรมิ อาชีพเดิมให้มคี วามก้าวหนา้ มนั่ คงย่งิ ขนึ้ 3. เพ่ือให้ผเู้ รียนมีความรู้ ทกั ษะและประสบการณ์เกย่ี วกบั การทาลูกประคบสู่อาชีพได้

120 4. เพอื่ ให้ผู้เรียนมีความรู้และทกั ษะในการประกอบอาชีพ 5. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจในการวางแผนการดาเนินงาน และบริการจัดการ อาชพี ไดอ้ ยา่ งมคี ุณภาพ 6. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คมส่วนรวม กลุม่ เป้าหมาย 1. กลุม่ เปา้ หมายคือประชาชนกลุ่มเปา้ หมายนอกระบบโรงเรียน 2. ผูท้ ไี่ ม่มีอาชีพ 3. ผูท้ ม่ี ีอาชีพและต้องการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา จานวน 35 ชวั่ โมง 1. ภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 30 ชวั่ โมง โครงสร้างหลักสตู ร จานวน 3 ช่วั โมง 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี จานวน 30 ชวั่ โมง 2.1 ความเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชพี 2.2 ความสาคัญการสานเสน้ พลาสตกิ 2.3 แหล่งเรยี นรเู้ กีย่ วกบั การสานเส้นพลาสตกิ 2.4 แหล่งจาหน่ายผลิตภณั ฑ์การสานเส้นพลาสติก 2. ทักษะอาชพี 2.1 ข้นั ตอนในการสานเสน้ พลาสติก 2.1.1 วัสดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคัดเลือกสว่ นตา่ ง ๆ ของวัตถุดิบ 2.1.3 การหาวัตถดุ บิ 2.1.4 การสานเสน้ พลาสติก 2.1.5 การฝึกปฏบิ ัตกิ ารสานเสน้ พลาสติก ชนิดตา่ ง ๆ เช่น - ทใ่ี ส่แกว้ นา้ เยตจิ ากเส้นพลาสตกิ - กระเปา๋ ใสส่ ตางคจ์ ากเสน้ พลาสติก - กระบุงใสเ่ งินจากเสน้ พลาสติก - กระเป๋าถือทรงสเี หล่ยี มจากเส้นพลาสติก - ตะกรา้ ใส่ของทรงสเี หล่ียมจากเสน้ พลาสติก

121 3. การบริหารจดั การอาชีพ จานวน 1 ช่วั โมง 3.1 การผลิต 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชพี การสานเส้นพลาสตกิ จานวน 1 ชั่วโมง 4.1 ความสาคญั ของโครงการอาชีพ การสานเส้นพลาสติก 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชพี การสานเสน้ พลาสติก 4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชีพ การสานเส้นพลาสติก 4.4 การเขียนโครงการอาชีพ การสานเสน้ พลาสตกิ 4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชีพ การสานเสน้ พลาสติก วธิ ีการจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ 1.1 วิทยากรให้ความรู้ถึงความสาคญั และความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชพี การสาน เสน้ พลาสติก 1.2 แหลง่ เรียนรเู้ กยี่ วกบั การสานเส้นพลาสตกิ 1.3 ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา ส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานที่จัดจาหนา่ ย 1.4 สรุปความรูท้ ีไ่ ดจ้ ากการศึกษาดงู านจากแหล่งเรียนรู้ ภูมปิ ัญญา 2. ทักษะอาชีพ 2.1 วิทยากรบรรยายขั้นตอนการสานเส้นพลาสตกิ 2.2 วิทยากรทาการสาธิตวิธีการสานเสน้ พลาสตกิ 2.3 วิทยากรรว่ มกับผู้เรียนในการการออกแบบผลติ ภัณฑ์การสานเส้นพลาสติก 2.4 การฝึกปฏิบัตสิ ร้างสรรค์ชน้ิ งานแบบตา่ ง ๆ 2.5 การแลกเปล่ียนเรียนร้รู ะหวา่ งผู้เรียนดว้ ยกัน 2.6 ศึกษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ในชุมชนและช่องทางออนไลน์ เวบ็ ไซดต์ ่างๆ 3. การบริหารจดั การอาชีพ 3.1 การผลิต 3.1.1 สารวจแหลง่ ทุน 3.1.2 สารวจแหล่งวสั ดุ วตั ถดุ บิ ในทอ้ งถิน่ 3.2 การควบคุมคณุ ภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพของชนิ้ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แข็งแรง

122 3.3 การตลาด 3.3.1 ศกึ ษาข้อมลู การตลาด วิเคราะหค์ วามต้องการของตลาด - ศูนย์ OTOP - ศูนย์ฝึกอาชีพชมุ ชน - แหล่งทอ่ งเท่ยี ว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ เช่น - เวบ็ ไซด์อาเภอ จงั หวดั - แผน่ พบั โฆษณา 3.3.3 การทาบัญชี - การคดิ ราคาต้นทนุ กาไร - บญั ชีรายรับ-รายจ่าย สอื่ การเรยี นรู้ 1. ใบความร/ู้ ใบงาน 2. ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น/วทิ ยากร 3. ตัวอย่างชนิ้ งาน 4. วัสดุ อุปกรณ์ ท่ีใชใ้ นการฝึกปฏิบัติ 5. แหลง่ เรียนรู้ ทศี่ ึกษาดูงาน การวัดและประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฏีระหว่างเรยี นและจบหลกั สตู ร 2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้าง รายไดแ้ ละจบหลักสตู ร การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรยี น ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มีผลงานท่ีมีคณุ ภาพ เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. หลักฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ัตร 3. วุฒิบัตรการศึกษา ออกโดยสถานศกึ ษา

123 การเทียบโอน ผู้เรยี นทจ่ี บหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นร้กู ับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับ การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน

124 หลักสตู รงานใบตอง จานวน 35 ชั่วโมง กล่มุ อาชีพความคดิ การสรา้ งสรรค์ ความเป็นมา ในสมัยโบราณ ใบตองมีบทบาทมากในชีวิตประจาวัน เช่น การนาใบตองมาห่ออาหารห่อ ขนม ช่วยให้อาหารขนมมีกล่ินหอมน่ารับประทาน ใช้ห่อผัก ห่อดอกไม้ช่วยให้สดทนนาน ตลอดจน นามาประดิษฐ์เป็นช้ินงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้มีรูปร่าง รูปทรงสวยงามประณีตย่ิงข้ึน เพื่อเป็น ภาชนะบรรจุส่ิงของ เช่น กระทง ถาด กระเช้า สาหรับบรรจุหรือจัดวางอาหาร ขนม ผลไม้ ดอกไม้ นาไปให้บคุ คลซึ่งเปน็ ท่ีเคารพนบั ถอื ในวนั ปใี หม่ วนั ขน้ึ บ้านใหม่ วันสาคญั ต่าง ๆ เปน็ ต้น ปัจจุบันการจัดงานมงคลต่าง ๆ เช่น ข้ึนบ้านใหม่ บวช แต่งงาน งานต้อนรับ งานตกแต่ง สถานท่ี ฯลฯ และงานประเพณีต่าง ๆ เช่น ลอยกระทง แห่เทียนพรรษา การไหว้ครู งานใบตองยังมี ส่วนเก่ยี วข้องกบั พิธีกรรมต่าง ๆ เหล่านนั้ และทาให้เกิดอาชีพรบั ประดิษฐ์งานใบตองในรูปแบบต่าง ๆ เปน็ อาชีพทารายได้ใหก้ บั ผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันท่ี 16 สิงหาคม 2554 ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานดาเนินงาน ตามพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จานวน 6 ประเด็น โดยประเด็นที่ 3 เป็นเร่ืองเก่ียวกับการทานุบารุงศิลปวัฒนธรรมไทยและการส่งเสริมงานศิลปาชีพ สานักงาน กศน. จึง ได้น้อมนาพระราชเสาวนีย์ มาดาเนินการจัดทาหลักสูตรงานใบตองขึ้น ซึ่งเป็นหลักสูตรท่ีบูรณาการ ต้นทุนทางด้านวัฒนธรรมการจัดดอกไม้แบบไทยและขนบประเพณีของไทย เพื่อให้ประชาชนที่สนใจ ได้นาความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพ อีกทั้งส่งเสริมให้มีเจตคติที่ดีต่องานศิลปวัฒนธรรมท้องถ่ิน และของชาติเห็นแนวทางในการอนุรักษ์ส่งเสริมสนับสนุนและสืบทอด รวมทั้งส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ในการคิดค้นพัฒนาลักษณะรูปแบบของงานใบตองให้เข้ากับยุคสมัย และตอบสนองความ ต้องการของลกู ค้าแต่ยังคงความสวยงามแบบไทยไว้ อีกทั้งเน้นให้ผู้เรียนได้มีความรู้เรอ่ื งการประกอบ อาชีพและการจดั การอาชีพอย่างมคี ุณธรรมจรยิ ธรรม จดุ มุ่งหมาย 1. เพื่อใหผ้ ้เู รียนมีความรู้ ความเข้าใจและมีทกั ษะในการทางานใบตองรูปแบบต่างๆ 2. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนสามารถสร้างอาชีพและรายได้ให้กบั ตนเองและครอบครัว กลุ่มเปา้ หมาย ประชาชนท่ัวไป ระยะเวลา จานวน 35 ชัว่ โมง ภาคทฤษฎี 10 ชว่ั โมง ภาคปฏบิ ัติ 25 ชวั่ โมง

125 โครงสรา้ งหลกั สตู ร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี การทางานใบตอง 1.1. สารวจและวิเคราะห์ตนเองและชุมชน ทรัพยากร ส่ิงแวดล้อม อาชีพ และความ ต้องการของตลาด (ผ้บู ริโภค) 1.2. ความรเู้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกบั ชอ่ งทางประกอบอาชีพการทางานใบตอง 1.3. ลกั ษณะทวั่ ไปของการประกอบอาชีพการทางานใบตอง 1.4. ประโยชน์ และความเปน็ ไปได้หรอื โอกาสในการประกอบอาชีพการทางานใบตอง 2. ทักษะการประกอบอาชีพการทางานใบตอง 2.1. เครอ่ื งมือเครื่องใช้ในการทางานใบตอง 2.2. การเตรยี มและหลักการเลือกซือ้ วัตถดุ ิบต่าง ๆ ท่เี หมาะสมกับการทางานใบตอง 2.3. การทางานใบตองลวดลายต่าง ๆ 2.4. ตัวอยา่ งการทางานใบตองรปู แบบตา่ ง ๆ วธิ ีการจดั กระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้การจัดกระบวนการเรียนการสอน หลักสูตรกลุ่มอาชีพ เร่ือง ทางานใบตอง ประสบ ความสาเร็จตามจุดมุ่งหมายท่ีกาหนดไว้ข้างต้น จึงกาหนดแนวการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไว้ ดังนี้ 1. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ให้ยดื หยนุ่ ตามสภาพและความเหมาะสมของทอ้ งถนิ่ 2. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ยดึ ผูเ้ รยี นเป็นสาคญั ใหส้ อดคล้องกับความสนใจ ความถนดั และใหโ้ อกาสเท่าเทียมกนั ในการพฒั นาตนเองตามความสามารถของผูเ้ รียน และเน้นให้ผู้เรยี นได้ แลกเปล่ียนความคิดเห็นซง่ึ กันและกันและนาหลักทฤษฎีไปใชใ้ นทางปฏิบตั ิจรงิ ให้มากท่ีสุด 3. กิจกรรมสารวจและวเิ คราะห์ตนเองและชมุ ชน ทรัพยากรสิ่งแวดลอ้ ม อาชีพ และความ ตอ้ งการของตลาด(ผบู้ รโิ ภค) ด้วยกระบวนการคิดเปน็ โดยใช้ขอ้ มลู 3 ด้านไดแ้ ก่ ข้อมูลด้านตนเอง ข้อมลู ดา้ นวิชาการ และข้อมลู ดา้ นสังคม ส่ิงแวดลอ้ ม 4. ฝกึ ทกั ษะอาชีพการทางานใบตอง 4.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง จากส่ือต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ ผู้รู้ ภูมิปัญญาชาวบา้ น 4.2 เรยี นรู้ด้วยการแลกเปลีย่ นเรียนรดู้ ้วยกระบวนการกลุม่ 4.3 วทิ ยากร/ผู้สอน เปน็ ผถู้ ่ายทอดความรู้ 4.4 การลงมอื ฝึกปฏบิ ัติ 5. ฝกึ ปฏิบตั กิ ารทางานใบตอง ในศูนย์การเรยี น ส่ือการเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรยี นวิชาอาชีพการทางานใบตอง ประกอบดว้ ยเนือ้ หา 2 เรื่อง 2. ใบความร/ู้ ใบงาน/วารสารเกย่ี วกับการทางานใบตองตา่ งๆ 3. อปุ กรณใ์ นการทางานใบตอง 4. แหล่งเรยี นรู้ในชมุ ชน

126 การวัดและประเมินผล วธิ ีการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ประกอบด้วย 1. การสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ / การรบั รู้ /การฝึกปฏิบตั ิ/ การมีส่วนร่วม 2. การทดสอบ 3. การสงั เกตการเรียนรูจ้ ากการปฏิบัติ การจบหลักสตู ร 1. มีเวลาเรียน ไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มีผลงานทีม่ คี ณุ ภาพ ตรงตามหลักการของหลักสตู ร เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ตั ร 3. วุฒบิ ัตรการศึกษา ออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน ผเู้ รียนทจี่ บหลักสตู รนีส้ ามารถนาไปเทยี บโอนผลการเรยี นรกู้ ับหลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวชิ าเลอื กท่ีสถานศึกษาได้ จดั ทาข้ึน

รายละเอ เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ช่องการประกอบ 1.1 อธบิ ายความสาคัญของการ 1. ความสาค อาชีพการทางานใบตอง ประกอบอาชีพการทางานใบตอง การทางานใบ 1.2 อธบิ าย ความเป็นไปได้ในการ 2.ความเป็นไ ประกอบอาชีพการทางานใบตอง อาชพี การทา ไดแ้ ก่ ความต้องการของตลาด - ความต้อง การใช้แรงงาน การจดั หาวสั ดุ - การใช้แร อปุ กรณ์ การเลอื กทาเลท่ีต้ัง - การจดั หา - การเลือก 1.3 แหล่งเรียนร/ู้ ภูมปิ ญั ญา 3. แหลง่ เรยี ทอ้ งถิ่น 1.4 ทิศทางการประกอบอาชีพ 4. ทิศทางก

127 อยี ดหลกั สูตร งานใบตอง การจัด ชั่วโมง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ เน้ือหา กระบวนการ 10 - เรียนรู้ คัญของการประกอบอาชีพ 1. ศึกษาเอกสาร บตอง ส่อื บุคคล เพ่อื นา ไปไดใ้ นการประกอบ ขอ้ มูลมาวเิ คราะห์ างานใบตอง ใชใ้ นการประกอบ งการของตลาด อาชพี รงงาน าวัสดุ อปุ กรณ์ กทาเลที่ตง้ั ยนรู้/ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ การประกอบอาชีพ

เรอื่ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน 2. ทักษะการประกอบ 2.1 เตรยี มการประกอบอาชีพ 2.1 เตรยี มการ อาชีพการทางาน ทางานใบตอง -การคัดเลือกวัส ใบตอง - สถานท/่ี พ้ืนที่ ช้นิ งานรูปแบบ - การคัดเลือกวัสดุ - ความรู้ท่เี กี่ยวกับการประกอบ 2.2 ขั้นตอนกา อาชพี ใบตองรปู แบบต 2.2 การทางานใบตอง เชน่ การพบั กลีบ กร กระทง บายศรีรปู แบบต่าง ๆ ยกยอ่ บายศรีห การพับกลีบ บายศรี 2.3 การดแู ลรกั 2.3 การดแู ลรักษา

128 น้ือหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชั่วโมง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ รทางานใบตอง 2.1 ให้ศกึ ษาเอกสารเกย่ี วกบั การ - 25 สดุในการประดิษฐ์ ทางานใบตองรูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ บตา่ ง ๆ การพับกลบี ,กระทงลอย,บายศรี ยกยอ่ ,บายศรีหวั นาค,ยอดบายศรี ารประดิษฐง์ าน 2.2 ให้ลงมือปฏบิ ตั ิการทางาน ตา่ ง ๆ เช่น ใบตองรูปแบบต่าง ๆ เช่น การพับ ระทงลอย บายศรี กลบี ,กระทงลอย,บายศรยี กย่อ, หวั นาค ยอด บายศรหี วั นาค,ยอดบายศรี กษา

129 หลกั สตู รผลติ ภัณฑจ์ ากเส้นพลาสตกิ จานวน 35 ชั่วโมง กลุ่มอาชีพความคิดสร้างสรรค์ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้ มีความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่จะ พัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน เพื่อแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจที่จะยกระดับการจัดการศึกษา เพ่ือเพ่ิมศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ ท่ีมั่นคง โดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่าง ๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพ่ือพัฒนา อาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้ม่ันคง มั่งค่ัง และมี งานทาอย่างยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันท้ังในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซึ่งจะ เป็นการจัดการศกึ ษาตลอดชวี ติ ในรปู แบบใหมท่ ี่สรา้ งความมน่ั คงให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ นอกจากน้ีส่ิงประดิษฐ์ท่ีเกิดข้ึนมาจากความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งมีลักษณะที่สวยงาม และ จาหนา่ ยได้ นบั เป็นช่องทางหน่ึงในการประกอบอาชพี หลักการของหลักสตู ร หลักสูตรการประกอบอาชีพ ผลิตภัณฑจ์ ากเสน้ พลาสติก มีหลักการ ดังน้ี 1. เปน็ หลกั สตู รอาชีพที่สง่ เสริม และอนรุ ักษ์ความรขู้ องภมู ิปัญญาท้องถ่นิ 2. เป็นหลักสูตรอาชพี ที่เน้นการนาวสั ดธุ รรมชาติทม่ี ีมากและเหลอื ใช้ในท้องถ่ินมาสร้าง มูลค่าเพ่ิมเพ่ือใหป้ ระชาชนเกิดรายได้ 3. เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาอาชพี เพ่ือการมีงานทาของประชาชน 4. เปน็ หลักสูตรการศึกษาอาชพี ทสี่ ามารถเทียบโอนผลการเรียนเขา้ สู่หลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพรายวชิ าเลือกได้ จดุ มุ่งหมาย หลกั สตู รการประกอบอาชพี ผลิตภัณฑจ์ ากเสน้ พลาสติก มีจดุ หมาย ดงั นี้ 1. เพอ่ื ให้ผู้เรียนมีความรู้และทกั ษะในการผลติ ภัณฑ์จากเสน้ พลาสติก 2. เพอื่ ให้ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ทไ่ี ด้ไปสรา้ งรายได้ กลมุ่ เปา้ หมาย เพ่ือให้ประชาชนกลุ่มผู้สนใจมีความรู้และทักษะเรื่องศิลปะประดิษฐ์มาสร้างผลิ ตภัณฑ์ท่ี สร้างสรรค์และสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน สามารถนาความรู้และวิธีการไปปฏิบัติใช้ในครอบครัว ตนเอง สามารถเผยแพรใ่ หแ้ ก่ผอู้ ืน่ และนาไปประกอบอาชพี เพ่ือการมงี านทาได้

130 ระยะเวลา จานวน 35 ชว่ั โมง 1. ภาคทฤษฎี 2 ชั่วโมง 2. ภาคปฏิบตั ิ 33 ช่วั โมง โครงสร้างหลักสูตร 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี จานวน 1 ช่ัวโมง 2.5 ความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชีพ จานวน 15 นาที 2.6 ความสาคัญในการผลิตภณั ฑ์จากเส้นพลาสติก จานวน 15 นาที 2.7 แหล่งเรยี นรูเ้ กีย่ วกับการผลติ ภัณฑ์จากเส้นพลาสตกิ จานวน 15 นาที 2.8 แหลง่ จาหน่ายผลติ ภณั ฑจ์ ากการผลติ ภัณฑจ์ ากเสน้ พลาสติก จานวน 15 นาที 2. ทกั ษะอาชพี จานวน 33 ชว่ั โมง 2.1 ขน้ั ตอนในการผลิตภณั ฑ์จากเสน้ พลาสติก จานวน 33 ชว่ั โมง 2.1.1 วัสดุ อุปกรณ์ 2.1.2 การคัดเลอื กส่วนต่าง ๆ ของลักษณะสี ขนาด ลักษณะแต่ละแบบ 2.1.3 การหาวัสดุ 2.1.4 การทาผลติ ภณั ฑจ์ ากเส้นพลาสตกิ 2.1.5 การฝกึ ปฏิบตั กิ ารออกแบบและสร้างสรรคผ์ ลติ ภัณฑ์จากการผลิตภัณฑ์จาก เส้นพลาสตกิ - ตะกร้า - แกว้ - กล่อง - ฯลฯ 3. การบริหารจัดการอาชีพ จานวน 30 นาที 3.1 การผลิต 3.2 การควบคมุ คณุ ภาพ 3.3 การตลาด 4. โครงการประกอบอาชพี ผลิตภัณฑ์จากเสน้ พลาสตกิ จานวน 30 นาที 4.1 ความสาคญั ของโครงการอาชพี ผลิตภณั ฑจ์ ากเส้นพลาสตกิ 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชีพ ผลติ ภัณฑ์จากเสน้ พลาสตกิ 4.3 องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ผลติ ภณั ฑ์จากเส้นพลาสตกิ 4.4 การเขียนโครงการอาชีพ ผลิตภณั ฑจ์ ากเส้นพลาสตกิ 4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชพี ผลิตภัณฑจ์ ากเสน้ พลาสติก

131 วิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ 1.1 วทิ ยากรใหค้ วามรู้ถึงความสาคญั และความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชพี ผลิตภณั ฑจ์ ากเสน้ พลาสติก 1.2 แหลง่ เรียนรู้เก่ยี วกับผลติ ภัณฑ์จากเส้นพลาสตกิ 1.3 ศึกษาขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรู้ ภมู ิปัญญา สื่ออิเล็กทรอนกิ ส์ เอกสาร สถาน ประกอบการ สถานทจ่ี ดั จาหนา่ ย 1.4 สรุปความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ ภูมิปญั ญา 2. ทกั ษะอาชีพ 2.1 วทิ ยากรบรรยายขนั้ ตอนการผลติ ภัณฑจ์ ากเสน้ พลาสติก 2.2 วทิ ยากรทาการสาธิตวธิ กี ารผลิตภัณฑ์จากเสน้ พลาสติก 2.3 วทิ ยากรร่วมกบั ผ้เู รยี นในการการออกแบบการผลิตภณั ฑ์จากเสน้ พลาสติก 2.4 การฝกึ ปฏบิ ตั สิ ร้างสรรค์ชน้ิ งานแบบตา่ ง ๆ 2.5 การแลกเปล่ยี นเรียนรูร้ ะหวา่ งผู้เรยี นดว้ ยกัน 2.6 ศกึ ษาดูงานจากแหล่งเรียนรใู้ นชมุ ชนและช่องทางออนไลน์ เวบ็ ไซดต์ า่ ง ๆ 3. การบรหิ ารจัดการอาชีพ 3.1 การผลติ 3.1.1 สารวจแหลง่ ทุน 3.1.2 สารวจแหล่งวสั ดุ วตั ถุดิบในทอ้ งถน่ิ 3.2 การควบคุมคุณภาพ 3.2.1 กาหนดมาตรฐาน คณุ ภาพของช้นิ งาน ความสวยงาม ความทนทาน แขง็ แรง 3.3 การตลาด 3.3.1 ศึกษาข้อมลู การตลาด วิเคราะหค์ วามต้องการของตลาด - ศูนย์ OTOP - ศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน - แหลง่ ทอ่ งเท่ียว 3.3.2 การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์ เช่น - เว็บไซดอ์ าเภอ จงั หวัด - แผน่ พับโฆษณา 3.3.3 การทาบัญชี - การคดิ ราคาตน้ ทุนกาไร - บญั ชรี ายรบั -รายจ่าย

132 สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความร้/ู ใบงาน 2. ภูมิปญั ญาท้องถ่ิน/วิทยากร 3. ตวั อยา่ งชิน้ งาน 4. วัสดุ อุปกรณ์ ทใ่ี ชใ้ นการฝึกปฏบิ ัติ 5. แหลง่ เรียนรู้ ทีศ่ กึ ษาดูงาน การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมินความรภู้ าคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลักสูตร 2. การประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นจากการปฏิบัตงิ านที่มีคุณภาพเพียงพอ สามารถสร้างรายได้ ใหก้ ับตนเองความสาเร็จของการปฏบิ ตั แิ ละจบหลักสตู ร การจบหลกั สตู ร 1. มเี วลาเรียนไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. ผา่ นการประเมินผลทัง้ ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบตั ไิ มน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 3. ผู้เรียนสามารถเขียนโครงการอาชีพของตนเองได้ อย่างนอ้ ย 1 โครงการ เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. หลักฐานแสดงผลการเรยี น 2. วฒุ บิ ตั ร ออกโดยสถานศึกษาในสังกดั สานกั งาน กศน. 3. ทะเบียนคุมวุฒิบัตรทส่ี ถานศึกษาออกให้กบั ผ้เู รยี นทจี่ บหลักสตู ร การเทียบโอน ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรียนรู้หลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี เลือกที่สถานศึกษาได้จดั ทา ขน้ึ ได้

133 หลกั สูตรการทาพรมเช็ดเท้าแฟนซี จานวน 70 ช่ัวโมง กลุม่ อาชีพความคดิ สรา้ งสรรค์ ความเปน็ มา กระทรวงศึกษาธิการได้กาหนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ท่ีจะพัฒนา 5 ศักยภาพของพื้นที่ ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลกตลอดจน กาหนดภารกิจท่ีจะยกระดับที่จัดการศึกษาเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้ประชาชนได้มี อาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ที่ม่ันคงโดยให้พัฒนาบุคคลไทยให้ได้รับการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพแ ละ การมีงานทา อยา่ งมคี ณุ ภาพ อยา่ งท่ัวถึง ประชาชนมงี านทาและมรี ายได้อย่างมั่นคง ประชาชนในตาบลตลาดจินดามีต้องการ ความสนใจในการนาวัสดุเหลือใช้มาสร้างรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะในพื้นที่มีเศษวัสดุเหลือใช้จากเศษผ้าชาวบ้านจะทิ้งเปล่าประโยชน์ จึงมี ความคิดที่จะนาเศษผ้ามาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์การทาพรมเช็ดเท้าแฟนซี และเป็นผลิตภัณฑ์ท่ีนิยม เน่ืองจากเป็นส่ิงประดิษฐ์ที่สวยงาม มีหลากแบบรูปแบบให้เลือกสรรมีความคงทน และราคาไม่แพง ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ วิธีการพรมเช็ดเท้าแฟนซแี ละเป็นการต่อยอดชองผู้เรียนในการทาพรมเช็ด เทา้ อยู่แล้วเพ่อื เป็นการพฒั นากล่มุ อยา่ งตอ่ เนื่องเป็นการพัฒนาตนเองในการทาพรมเช็ดเท้าแฟนซเี พื่อ สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวและเป็นอาชีพเพ่ือการมรงานทา นอกจากน้ีเป็นการอนุรักษ์ส่งเสริม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้ถ่ายทอดความรู้ให้ผู้ท่ีสนใจสามารถนาไปประกอบอาชีพได้ เพื่อสร้างรายได้ ใหก้ บั ครอบครวั หลกั การของหลักสตู ร 1. เป็นหลกั สตู รอาชีพท่ีส่งเสรมิ และอนุรักษ์ความรขู้ องภมู ิปญั ญาท้องถิ่น 2. เป็นหลกั สตู รอาชพี ทเ่ี น้นการนาวัสดุเหลือใชท้ มี่ ีมากและเหลอื ใช้ในท้องถ่ินมาสรา้ ง มูลค่าเพิ่มเพ่ือใหป้ ระชาชนเกิดรายได้ 3. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาของประชาชน 4. เปน็ หลกั สตู รการศกึ ษาอาชีพท่สี ามารถเทยี บโอนผลการเรยี นเขา้ ส่หู ลักสูตรการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพรายวิชาเลอื กได้ จุดมงุ หมาย 1. มีความร้เู บอื้ งตน้ ในการทาพรมเช็ดเทา้ แฟนซี 2. เพ่อื สง่ เสรมิ การมรี ายได้เพ่มิ ในการประกอบเป็นอาชพี เสรมิ 3. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนสามารถออกแบบ ตกแตง่ สามารถสร้างรายได้จากกจิ กรรมท่สี อดคลอ้ ง ความต้องการของกลุ่มเปา้ หมาย 4. มคี ุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มที่ดงี าม ในการประกอบอาชพี และการดาเนนิ ชวี ิต

134 กลุ่มเป้าหมาย กลมุ่ เป้าหมาย คือ ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายนอกระบบโรงเรยี น 1. ผูท้ ีไ่ ม่มีอาชีพ 2. ผทู้ ่มี อี าชีพและความตอ้ งการพัฒนาอาชีพ ระยะเวลาเรยี น จานวน 70 ชวั่ โมง 1. ภาคทฤษฎี 10 ช่ัวโมง 2. ภาคปฏบิ ัติ 60 ช่วั โมง โครงสร้างหลกั สูตร จานวน 5 ช่วั โมง 1. ช่องทางการประกอบอาชพี จานวน 60 ชว่ั โมง 1.1 ความสาคัญในการประกอบอาชีพ 2. ทกั ษะในการประกอบอาชีพ จานวน 5 ชว่ั โมง 1.1 การเตรียมวัสดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ในการทาพรมเชด็ เท้าแฟนซี 1.2 การทาพรมเชด็ เท้าแฟนซี 1.3 บรรจุภัณฑ์พรมเช็ดเท้าแฟนซี 3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชีพ 3.1 การบริหารจัดการการผลิต 3.2 การควบคมุ ผลติ ภัณฑ์ 3.3 การบรกิ ารจดั การตลาด การจดั กระบวนการเรยี นรู้ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพการพรมเชด็ เทา้ แฟนซี 1. วิทยากรบรรยายให้ความรเู้ รือ่ งความสาคญั ในการประกอบอาชพี การทาพรมเชด็ เทา้ แฟนซี 2. ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ ภูมปิ ญั ญาในการทาพรมเชด็ เท้าแฟนซี 3. ผูเ้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลีย่ นข้อมูลความคิดเหน็ 2. ทกั ษะการประกอบอาชีพพรมเชด็ เท้าแฟนซี 1. ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนื้อหาจากใบความรู้การทาพรมเชด็ เท้าแฟนซี เรื่องประโยชน์ของ พรมเชด็ เทา้ ทา 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมลู ความคิดเหน็ 3. ให้ผู้เรียนศกึ ษาเนื้อหาจากใบความรเู้ รื่องการทาการทาพรมเช็ดเท้าแฟนซีและการ ออกแบบลายพรมเช็ดเท้าต่าง ๆ 4. วิทยากรบรรยายเรื่องออกแบบลายตา่ ง ๆ ของพรมเชด็ เท้าแฟนซีและการเตรียมเศษ ผา้ ท่ีใช้ในแตล่ ะแบบในการทาพรมเช็ดเทา้ แฟนซีลวดลาย

135 5. วทิ ยากรสาธิตการทาพรมเชด็ เท้าแฟนซีพร้อมฝกึ ปฏิบัติให้กับผเู้ รียนในการทาพรม เชด็ เท้าแฟนซลี วดลายที่ผ้เู รยี นต้องการทา 6. วทิ ยากรประเมนิ ผลการทาพรมเช็ดเท้าแฟนซีของผ้เู รยี น 3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพ 1. วิทยากรและผเู้ รยี นรว่ มกาหนดคุณภาพและมาตรฐานของชิน้ งานดา้ นความสวยงาม 2. วทิ ยากรใหค้ วามรเู้ ก่ียวกับการตลาด 3. วิทยากรบรรยายให้ความรเู้ รื่องการทาบญั ชี การวัดและประเมนิ ผล 1. การสังเกต 2. การสงั เกตพฤติกรรมมสี ว่ นรว่ ม 3. การประเมนิ ผลการปฏิบัติไดจ้ รงิ การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรยี น ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลักสูตร ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 60 3. มีผลงานทีม่ ีคุณภาพ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา 1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ ิบตั ร 3. วุฒบิ ัตรการศึกษา ออกโดยสถานศึกษา การเทยี บโอน ผูเ้ รียนทจี่ บหลักสูตรนี้สามารถนาไปเทียบโอนผลการเรยี นรกู้ ับหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกที่สถานศึกษาได้ จัดทาข้ึน

เรอ่ื ง รายละเอยี ดหลักสตู จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ช่องทาง การประกอบอาชีพ 1. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนบอก 1. ความสาคญั ใน การทาพรมเชด็ เท้า ความสาคัญในการประกอบ 2. แหลง่ จาหนา่ ย แฟนซี อาชีพ 2. เพื่อใหผ้ เู้ รียนรจู้ ักและศึกษา จากแหล่งเรยี นรแู้ หลง่ จาหน่าย ผลิตภณั ฑพ์ รมเช็ดเท้าแฟนซี 2. ทักษะ เพ่ือให้ผเู้ รียนสามารถเลือกซ้ือ 1. การเตรยี มวัส การประกอบอาชีพ การทาพรมเชด็ เทา้ แฟนซีและ 1.1 วสั ดุอุปก การทาพรมเช็ดเท้า วสั ดอุ ุปกรณ์ไดอ้ ย่างมคี ุณภาพ แฟนซี พรมเชด็ เท้าแฟน 1.2 งบประม 1.3 สถานทจี่

136 ตรการทาพรมเชด็ เท้าแฟนซี เนอื้ หา กิจกรรม จานวนช่ัวโมง นการประกอบอาชีพ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ ยผลติ ภณั ฑ์ 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้เร่อื ง 1- สดุอุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นการทาขนมไทย กรณ์ทใ่ี ชใ้ นการทา ความสาคัญในการประกอบอาชพี การ นซี มาณในการจัดซ้อื วัสดอุ ุปกรณ์ ทาพรมเช็ดเท้าแฟนซี จาหน่ายวัสดอุ ปุ กรณ์ 2. ศกึ ษาจากแหลง่ เรียนรู้ ภูมิปญั ญาใน การทาพรมเชด็ เท้าแฟนซี 3. ผเู้ รียนและวทิ ยากรรว่ มสนทนา แลกเปลี่ยนข้อมลู ความคิดเห็น 4. ผเู้ รียนสรปุ ความรู้ 1. ให้ผู้เรียนศกึ ษาเน้ือหาจากใบความรู้ 1 3 การทาพรมเชด็ เทา้ แฟนซี เร่ือง ประโยชนข์ องพรมเช็ดเท้า 2. วิทยากรอธบิ ายและสาธิตเก่ียวกบั วิธีการทา 3. ผูเ้ รยี นและวิทยากรรว่ มสนทนา แลกเปลีย่ นข้อมูลความคดิ เห็น

เร่ือง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - การทาพรมเชด็ เทา้ 1. เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี นเรียนรูก้ ารทาพรม 2. วิธีการการท แฟนซี เช็ดเท้าเบอื้ งตน้ และสามารถ เลขขาคณิต เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ในการทาได้ 3. วธิ ีการทาพ อย่างถูกต้อง สตั ว์ต่าง ๆ ได 2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนอธิบายวธิ กี ารทา ลวดลายตา่ ง ๆ พรมเชด็ เท้าแฟนซีได้ แฟนซี 3. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสามารถออกแบบ ลายต่าง ๆ ของพรมเช็ดเทา้ แฟนซี ได้ 4. เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียนอธบิ ายการตลาด ของการทาพรมเชด็ เท้าแฟนซีใน ชุมชนได้

137 เนอ้ื หา กิจกรรม จานวนช่วั โมง ทฤษฎี ปฏิบตั ิ ทาพรมเช็ดเทา้ ลายรปู ทรง 1. ใหผ้ เู้ รียนศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ - 57 เรอ่ื งการทาการทาพรมเช็ดเท้าแฟนซี พรมเช็ดเท้าแฟนซีลายรูป 2. วิทยากรอธบิ ายและสาธิตเกยี่ วกบั การทา ดแ้ ละการออกแบบ พรมเช็ดเทา้ แฟนซลี วดลายตา่ ง ๆ ๆ ของการทาพรมเช็ดเท้า 3. วิทยากรประเมนิ ผลการทาพรมเชด็ เท้า แฟนซขี องผู้เรยี น

เรือ่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - การบรรจภุ ณั ฑ์พรมเชด็ 1. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นบอกความหมาย 3. บรรจ เท้าแฟนซี ของบรรจภุ ัณฑ์ได้ 3.1 2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนบอกวสั ดุท่ีใช้บรรจุ ภณั ฑ์ ภณั ฑ์ 3.2 3. เพ่อื ให้ผู้เรียนสามารถบรรจุพรม เชด็ เทา้ แ เช็ดเทา้ แฟนซีได้ 3.3 ก แฟนซี 3. การบริหารจดั การในการ 1. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนสามารถจัดและตก การจดั ประกอบอาชีพ แต่งหนา้ รา้ นผลติ ภัณฑ์พรมเช็ดเทา้ แฟนซีได้