คูม่ ือ อาหารบำ� บัด โรคไตเสือ่ ม รบั ประทานเนือ้ แดง รับประทาน อาหาร รับประทานไขว่ ันละ 1 ฟอง รบั ประทานถ่วั เปลือกแข็งต่าง ๆ ที่มนี ำ้� ตาลต่�ำ รับประทานปลา วันละประมาณ 1 กำ� มือ อยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 2 ครง้ั หรือเนื้อไกไ่ ม่ติดมนั รบั ประทานไขมนั ไมอ่ ่ิมตัว -นำ้� มนั มะกอก -นำ้� มันร�ำข้าว -น�้ำมนั เมลด็ ชา รับประทานผัก 8-10 ส่วนต่อวนั ดม่ื นำ้� บริสุทธทิ์ ่อี ณุ หภูมิปกติ (ประมาณอยา่ งนอ้ ย 5 ก�ำมือ หลังต่ืนนอน 2 แกว้ อาหารคลนี เพื่อสขุ ภาพ การปรุงอาหาร การเลอื กอาหารกอ่ นนาํ มาปรงุ มคี วามสาํ คญั ตอ่ สขุ ภาพชว่ ยปอ้ งกนั โรคและชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ แต่วิธีการประกอบอาหารท่ีมี ความสําคัญเชน่ กัน การทาํ อาหารโดยใช้อุณหภูมสิ งู เชน่ การป้ิง ยา่ ง ทอด กอ่ ใหเ้ กิดสารพิษในอาหารท่ีจะกระตนุ้ การอกั เสบและเพมิ่ อนุมูล อิสระในร่างกาย ทําให้เพ่ิมความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทงั้ โรคเร้อื รังอน่ื ๆ การใชอ้ ุณหภูมิสูงในการทาํ อาหารทาํ ให้นำ้� ตาล 100 กองการแพทยท์ างเลือก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คูม่ ือ อาหารบำ� บดั โรคไตเส่อื ม ทาํ ปฏิกริ ยิ ากบั โปรตีน เกิดสาร AGEs (มีการศึกษาพบว่าระดบั AGEs จะสูงขนึ้ ถึง 9 เทา่ ในไกอ่ บ และ 5 เทา่ ในไก่ยา่ ง เม่อื เทยี บกบั ไก่ตม้ สว่ นเฟรนชฟ์ รายสท์ อดมี AGEs เปน็ 90 เทา่ ของมนั ฝรงั่ ตม้ ) ขน้ึ ปรมิ าณ AGEs จะสูงข้ึนในอาหารท่ีปรุงโดยการใช้อุณหภูมิสูง ๆ และลดลง เมอื่ มกี ารใชค้ วามรอ้ นจากไอนำ�้ ในการทาํ อาหาร เชน่ การตม้ นงึ่ ดงั นน้ั การมีสุขภาพดีและการป้องกันโรคไม่ได้ข้ึนกับชนิดอาหารที่เลือก รบั ประทานเทา่ นนั้ แตข่ น้ึ กบั วธิ กี ารเลอื กทาํ อาหารดว้ ย เชน่ ใชเ้ นอ้ื ตดิ มนั และนำ�้ มนั ในการประกอบอาหารใหน้ อ้ ยลงเทา่ ทจี่ ะทาํ ได้ พยายามอยา่ ทอดอาหาร ให้ใช้วธิ ีการผดั อย่างเร็ว โดยใชน้ ำ�้ แทนนำ�้ มัน การใชอ้ าหารทเ่ี รยี บงา่ ยและเปน็ อาหารทใ่ี กลเ้ คยี งกบั สภาพของ เดิมตามธรรมชาติที่สุด จําเป็นต้องรับประทานอาหารพืชหลากหลาย ชนดิ การเก็บผักจากสวน รับประทานดบิ หรือผา่ นการปรงุ แตง่ แตน่ ้อย ด้วยการใช้น้�ำมัน น�้ำตาลและเกลือไม่มาก หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่าน กระบวนการขัดสีจนบริสุทธ์ิ เช่น ข้าวขาว ขนมปังทําจากแป้งสาลี น�้ำตาลทรายขาว และน�้ำหวานต่าง ๆ อาหารจําพวกเน้ือสัตว์จะไม่มี เส้นใยอาหาร ประกอบด้วยปริมาณโปรตีน ไขมันและคอเลสเตอรอล มากเกินไป ถ้าหากจํากดั การ รบั ประทานอาหารจาํ พวกเน้ือสัตวอ์ ยา่ ง เชน่ เน้อื ไก่ เน้ือปลา เนอ้ื หมู เน้ือววั กุง้ หอย ปู เนยแข็ง และไอศกรีม จะเป็นสง่ิ ทีด่ ตี อ่ สุขภาพ หากเลิกดื่มและใชน้ มและผลติ ภัณฑ์ของนมได้ กย็ ิง่ ดี หากเลอื กรบั ประทานแตอ่ าหารท่ีดีตอ่ สุขภาพเป็นประจํา จะลด โอกาสเสี่ยงทจี่ ะป่วยได้หลายโรค รวมทั้งยงั จะชว่ ยร่างกายให้กลบั มาสู่ สภาพปกตไิ ดร้ วดเรว็ และมสี ขุ ภาพทด่ี ยี ง่ิ ขน้ึ อกี ทงั้ ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยใน การซ้ืออาหาร กองการแพทย์ทางเลอื ก 101 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
ค่มู อื อาหารบ�ำบัด โรคไตเสอื่ ม คุณลักษณะท่ีกล่าวมาข้างต้น อาจกล่าวได้ว่าเป็นลักษณะของ อาหารป้องกันโรค ทีเ่ ป็นการปอ้ งกนั การเส่ือมสภาพของอวัยวะต่าง ๆ ในรา่ งกายจากการรบั ประทานและดมื่ ทไี่ มถ่ กู สขุ ลกั ษณะ เพอื่ ไมใ่ หโ้ รค ด�ำเนินไปมากกว่าเดิม เป็นการควบคุมอาหารให้เข้มงวด การบริโภค อาหารทดี่ ี ถกู สดั สว่ นจะชว่ ยใหร้ า่ งกายจดั การของเสยี ออกจากรา่ งกาย ทําให้เลือดไหลเวียนได้ดีย่ิงขึ้น ร่างกายสามารถรักษาตัวเองได้ ซงึ่ สามารถนำ� ไปปรบั ใชใ้ นการดแู ลสขุ ภาพ เพอ่ื ชะลอไตเสอื่ มไดผ้ ลเชน่ กนั อาหารแมคโครไบโอติกส์ (Macrobiotics)64-68 Macrobiotics มาจากรากศพั ทก์ รกี โบราณ Macro แปลวา่ ใหญ่ และ Bio แปลวา่ ชวี ติ หมายความถงึ วถิ กี ารดำ� เนนิ ชวี ติ ทใี่ หค้ วามเคารพ ตอ่ กฎระเบยี บทางฟสิ กิ ส์ ชวี ะ อารมณ์ ความคดิ นเิ วศน์ และจติ วญิ ญาณ ในชวี ติ ประจำ� วนั ตระหนกั วา่ ทกุ สงิ่ ลว้ นมลี ำ� ดบั ขนั้ /ระเบยี บตามธรรมชาติ ต้องกินและด�ำเนินชีวิตตามล�ำดับขั้น/ระเบียบน้ัน น�ำไปสู่ความสุข สขุ ภาพดี ชวี ิตท่ีเรยี บง่ายและเป็นอิสระ (Freedom) ดงั นนั้ อาหารมใิ ช่ แต่จะให้ส่ิงที่หล่อเลี้ยงบ�ำรุงร่างกายเท่าน้ัน หากยังสร้างสุขภาพและ ความผาสุขด้วย แมคโครไบโอติกส์มีแนวความคิดพ้ืนฐานมาจากพุทธศาสนา นกิ ายเซน ซงึ่ มลี กั ษณะเปน็ แบบ “ธรรมชาตนิ ยิ ม” โดยกลา่ ววา่ จกั รวาล เปน็ กรอบใหญท่ ส่ี ดุ ภายในจกั รวาลประกอบดว้ ยสว่ นประกอบใหญ่ 2 สว่ น ที่เรียกว่า หยินและหยาง การด�ำเนินไปของทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล สำ� หรบั มนษุ ยแ์ ลว้ การไดเ้ ขา้ รว่ มเปน็ หนง่ึ เดยี วกบั จกั รวาลจะทำ� ใหเ้ รามี คุณภาพชวี ติ ทด่ี ีข้ึน 102 กองการแพทยท์ างเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ ือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเสื่อม แมคโครไบโอติกส์ ไม่ใช่ยาหรือวิธีการรับประทานอาหาร โดยจำ� กดั ชนดิ ของอาหารทรี่ บั ประทานและไมใ่ ชค่ นรบั ประทานอาหาร แบบแปลก ๆ หรอื การจ�ำกัดสง่ิ ท่จี ะรับประทานเพ่ือรักษาโรคภยั ไขเ้ จ็บ ตามทส่ี ่วนใหญ่รู้จักเบือ้ งต้น แต่การรบั ประทานอาหารของแม็คโครไบ โอติกส์จะเป็นการรับประทานอาหารให้สอดคล้องกับสภาวะของ หยินและหยางในธรรมชาติที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาและสถานที่ แมคโครไบโอตกิ ส์ ตอ้ งการใหร้ า่ งกายไดร้ บั สารอาหารอยา่ งเตม็ ทเี่ หมอื น กับโภชนาการสมัยใหม่ แต่จะแตกต่างกันในแหล่งที่มาของอาหาร การได้รับสารอาหารอย่างถูกต้องตามสภาวะทางร่างกายของแต่ ละบุคคลจะท�ำให้ร่างกายท�ำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพ่ิม ความสามารถในการรักษาตัวเองขน้ึ ได้ กองการแพทยท์ างเลอื ก 103 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ อื อาหารบำ� บัด โรคไตเสอ่ื ม หลกั การรบั ประทานอาหารแบบแมคโครไบโอตกิ ส์ คอื เปน็ อาหาร ทป่ี ลูกในท้องถนิ่ และควรกินตามฤดูกาล โดยอาหารควรมสี ารโซเดยี ม (Na) และโปแตสซียม (K) เปน็ ส่วนประกอบ อาจหมายถึงมีคณุ สมบตั ิ หยนิ -หยางของอาหาร เนน้ ธญั พชื เปน็ อาหารหลกั เปน็ อาหารทค่ี รบสว่ น คงรูปเดิม ไม่ผ่านการขัดสี ปราศจากการปรุงแต่งได้จากธรรมชาติ เพอื่ เปน็ อาหารทดี่ ตี อ่ สขุ ภาพและสรา้ งความสขุ ใหก้ บั ผบู้ รโิ ภค มชิ โิ อะ คชู ิ ได้แนะนาํ อาหารแมคโครไบโอติกสม์ าตรฐาน คือ อย่างน้อยรอ้ ยละ 50 ของปรมิ าณอาหารทกุ มอื้ ควรจะประกอบดว้ ยธญั พชื ชนดิ ครบรปู ทำ� ใหส้ กุ ดว้ ยวธิ กี ารปรงุ ในแบบตา่ ง ๆ ธญั พชื ครบรปู ไดแ้ ก่ ขา้ วกลอ้ ง ขา้ วสาลชี นดิ โฮลวีท (อาจอยู่ในรูปของขนมปัง สปาเก็ตต้ี บะหม่ี) ข้าวบาร์เลย์ ขา้ วฟ่าง ขา้ วโอต๊ ขา้ วโพด บ๊ัควีท โดยมรี ายละเอยี ด ดงั นี้ 1. ประมาณรอ้ ยละ 5 ของอาหารประจำ� วนั ทบี่ รโิ ภคโดยปรมิ าณ ควรจะประกอบด้วย ซปุ ปรุงรสมโิ สะ หรอื ทามาริ รสชาตไิ ม่ควรจะเค็ม เกนิ ไป ซปุ ควรประกอบไปดว้ ยผกั สาหรา่ ยทะเล ถว่ั และธญั พชื ชนดิ ตา่ ง ๆ และควรจะเปลยี่ นส่วนประกอบและเครอ่ื งปรงุ บ่อย ๆ 2. ประมาณ ร้อยละ 20-30 ของอาหารแตล่ ะม้อื ควรประกอบ ไปดว้ ยผกั ชนดิ ตา่ ง ๆ ควรเปน็ ผกั ทป่ี ลกู ในทอ้ งถนิ่ และมตี ามฤดกู าล หรอื ปลูกตามฤดูกาล หรือหาเก็บไดต้ ามธรรมชาติ 2 ใน 3 ควรปรุงใหส้ กุ ดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ กัน ทง้ั ผัด น่ึง ตม้ และ ปิ้ง สว่ นอีก 1 ใน 3 น้ัน จะกินดิบ ๆ หรอื ผกั สลดั ชนิดท่ตี ้มให้สุก ๆ ดบิ ๆ ก็ได้ 104 กองการแพทย์ทางเลอื ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คู่มอื อาหารบำ� บัด โรคไตเสือ่ ม 3. ระหว่าง รอ้ ยละ 10-15 ของอาหารท่ีกินทุกวนั ควรประกอบ ไปดว้ ย ถัว่ และสาหร่าย ทะเลสกุ ได้แก่ ถ่ัวแดงเลก็ ท่ีเรียกวา่ ถั่วอาซกู ิ ถัว่ ลกู ไกห่ รือถวั่ ชิคพี ถั่วขาว ถั่วเลนทลิ ถ่ัวด�ำ ส่วนถั่วชนดิ อืน่ ๆ ใหก้ ิน เปน็ ครงั้ คราวเทา่ นน้ั สาหรา่ ยทะเล เชน่ ฮจิ กิ คอมบุ วากาเมะ โนริ สามารถ นำ� มาทำ� ให้สกุ ดว้ ยวธิ กี ารต่าง ๆ กนั ได้ ควรปรุงรสด้วยซอี ิว้ ทามาริ หรือ เกลือทะเลในปริมาณแตพ่ อสมควร 4. เครอ่ื งดมื่ ควรจะประกอบดว้ ยนำ�้ ชาจากกา้ นใบชาอบ (ชาบนั ชา) ชามู (ชาสมนุ ไพร) ชาดอกแดนดเิ ลย่ี น ชาทท่ี ำ� จากธญั พชื ชาดงั้ เดมิ ชนดิ ทผี่ ลติ จากธรรมชาติ ไมม่ กี ารปรงุ แตง่ หรอื ไมม่ กี ารเตมิ กลน่ิ และไมม่ ผี ล ในเชงิ กระต้นุ ประสาท ซ่ึงวิถีการกินแบบแมคโครไบโอติกส์มาตรฐานที่กล่าวข้างต้น อาจจะเสริมดว้ ยอาหารดังต่อไปน้ีเป็นครั้งคราว เช่น 1) เน้อื ปลาสีขาว ปรมิ าณเล็กน้อย สปั ดาหล์ ะ 1-2 ครัง้ ควรจะ ปรงุ ใหแ้ ตกตา่ งกนั ไปแตล่ ะสปั ดาห์ และปรมิ าณของปลาควรจะนอ้ ยกวา่ ร้อยละ 15 ของอาหารท้งั หมดในม้อื นั้นเสมอ 2) ของหวานทำ� จากผลไมป้ รงุ สกุ รบั ประทานไดส้ ปั ดาหล์ ะ2-3ครง้ั ต้องเป็นผลไม้ที่ปลูกในท้องถิ่นและตามฤดูกาล เวลาอยู่ในเขตอากาศ อบอนุ่ ควรจะเลย่ี งผลไมเ้ มอื งรอ้ น หรอื กง่ิ เมอื งรอ้ น สำ� หรบั นำ้� ผลไมน้ น้ั ไม่แนะน�ำแตอ่ าจจะดื่มไดเ้ ป็นครงั้ คราวเวลาอากาศรอ้ นจัด 3) เมลด็ พชื อบหรอื ถัว่ นทั อบ ปรุงด้วยเกลอื หรือซีอิว้ ทามาริ กองการแพทยท์ างเลือก 105 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คูม่ อื อาหารบำ� บัด โรคไตเส่ือม อาหารที่ควรหลกี เล่ยี ง (1) อาหารทผ่ี า่ นการดดั แปลงหรอื ฟอกขาว (2) อาหารที่เปน็ กรดหรอื ด่างสงู เชน่ ผลไมร้ สหวานจัด ฝาดจดั เปรี้ยวจัด และพชื ตระกูลมันฝรงั่ พริก มะเขือทกุ ชนดิ (3) อาหารทีข่ นสง่ มาจากทไ่ี กล ๆ และนอกฤดูกาล เพราะอาจ มีสารเคมี และฮอร์โมนเรง่ การเจรญิ เติบโตตกคา้ ง เชน่ อาหารกระปอ๋ ง หรือแช่แข็ง เน้ือสีแดงผิดปกติ เนื้อปิ้งย่างไหม้เกรียม ไขมันสัตว์ ขนมกรุบกรอบ แฮม ไส้กรอก เบคอน และนมและผลิตภัณฑ์จากนม เชน่ เนย โยเกิร์ต เนยเทยี ม หรอื ครมี เทียม น�้ำอัดลม กาแฟ น้ำ� หวานสี ตา่ ง ๆ และ เครอ่ื งดืม่ ชูกำ� ลงั ตา่ ง ๆ การเลอื กวตั ถดุ บิ และเครอ่ื งปรุง ตอ้ งเปน็ วตั ถดุ บิ จากธรรมชาตหิ รอื ปลกู หรอื เลย้ี งโดยวธิ ธี รรมชาติ ไมใ่ ชส้ ารเคมี หรอื ทเ่ี รยี กวา่ เกษตรอนิ ทรยี ์ (Organic food) ผกั พน้ื บา้ น ปลอดสารพิษ มใี นท้องถิ่น ออกตามฤดกู าล หลากหลาย ไมซ่ ำ้� ซาก เช่น ขา้ วกลอ้ ง ถัว่ เมลด็ แห้งท่ีไมผ่ า่ นการขดั สี เนอื้ สตั ว์ เชน่ กุง้ หอย ปู ปลา จากแหล่งน้ำ� ธรรมชาติ เกลอื ทะเลธรรมชาติ ไมฟ่ อกสี ส่วนเคร่ืองปรุงควรใช้ และเครื่องปรุงที่ได้จากการหมักโดย วิธธี รรมชาติ เชน่ กะปเิ จ ปลาร้า นำ้� ปลา หรือมโิ สะ ซอี ิ๊วขาวหมักด้วย วิธธี รรมชาติ ปราศจากวตั ถุกันเสีย ไม่ใสน่ �้ำตาลทรายขาว ไม่ใส่ผงชูรส ไม่ใส่สารแต่งรสและกล่ิน ไม่เผ็ด หรือ บ๊วยดอง เป็นต้น ใช้น้�ำมัน 106 กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ ือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเส่อื ม จากพืชหลากหลายชนิด และควรสกดั เยน็ (รับประทานน้�ำมันแต่น้อย ไมเ่ กนิ วันละ 2 ชอ้ นโต๊ะ ส�ำหรับผู้ทีม่ ีสขุ ภาพด)ี ทส่ี ำ� คัญคอื ตอ้ งมีงาสด และ งาคว่ั รวมทงั้ สาหรา่ ยทะเล ซง่ึ ควรใชเ้ ปน็ ประจำ� (ใกลเ้ คยี งกบั มงั สวริ ตั )ิ อาจเสริมโปรตีนจากเนื้อสัตว์สีขาว เช่น ปลา และอาหารทะเล เพียงสัปดาห์ละ 1-2 คร้ัง ควรจะปรุงให้แตกต่างกันไปแต่ละสัปดาห์ และปรมิ าณของปลาควรจะนอ้ ยกวา่ 15 เปอรเ์ ซนต์ ของอาหารทงั้ หมด ในมื้อนั้นเสมอ ไม่รับประทานไข่และนมมากเกิน ไม่ด่ืมชา กาแฟ น�้ำอัดลม เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ โดยเคร่ืองด่ืมควรจะประกอบด้วย น้�ำชาจากกา้ นใบชาอบ ชาสมนุ ไพร หรือ ชาท่ีทำ� จากธญั พืช ซง่ึ เปน็ ชา ดงั้ เดิมท่ผี ลติ จากธรรมชาติ ไม่มีการปรงุ แต่ง หรือไมม่ กี ารเตมิ กลิน่ และ ไมม่ ผี ลในเชงิ กระตนุ้ ประสาทสว่ นของหวานควรเปน็ ผลไมท้ ป่ี ลกู ในทอ้ ง ถ่ินและตามฤดูกาล หรือขนมท่ีท�ำจากผลไม้ปรุงสุก รับประทานได้ สัปดาหล์ ะ 2-3 ครัง้ การเตรยี มอาหาร ค�ำนึงถึงหลักโภชนาการเป็นส�ำคัญ เมนูหลากหลายไม่ซ้�ำซาก อุปกรณ์ครัวต้องปลอดภัยจากสารเคมี และใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ดิน ไม้ หนิ หรอื สเตนเลส ไม่ใช้วัสดุสังเคราะห์ เชน่ พลาสติก อลมู เิ นยี ม และเมลามีน ในการบรรจุอาหาร กองการแพทย์ทางเลือก 107 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คูม่ อื อาหารบ�ำบดั โรคไตเสอ่ื ม การปรุงหรอื การหุงตม้ ทถ่ี ูกตอ้ งและเรยี บงา่ ย เพอื่ คงไวซ้ ง่ึ คณุ คา่ ของอาหาร โดยใชเ้ ชอื้ เพลงิ จากธรรมชาติ เชน่ เตาถา่ นหรอื เตาแก๊ส หลีกเลี่ยงการใชไ้ มโครเวฟและหม้อไฟฟา้ หรือใช้ พลังงานไฟฟ้าให้น้อยท่ีสุด ปรุงรสแต่น้อย รสชาติอ่อน ๆ หวานจาก ธรรมชาติ กลมกลอ่ ม ไมจ่ ดั จา้ น ควรปรงุ รบั ประทานกนั เองในครอบครวั และผปู้ รุงควรมีความสงบ ทงิ้ ความกงั วลไว้เบื้องหลัง จดจ่ออยู่กบั การ หงุ ตม้ อาหารด้วยความรกั ทง้ั เพ่อื ตนเองและคนทเ่ี รารัก การรับประทานอาหารแมคโครไบโอติกส์ ควรอยู่ในอิริยาบถท่ีผ่อนคลาย สถานที่มีการถ่ายเทอากาศดี รบั ประทานอาหารตรงเวลา มสี ดั สว่ นทเี่ หมาะสม โดยเนน้ การรบั ประทาน ผักมากกวา่ ขา้ วและเนื้อสตั วค์ วรเคย้ี วให้ละเอยี ด และหลีกเล่ียงอาหาร ทรี่ ้อนจัด เยน็ จดั อาหารแมคโครไบโอตกิ สช์ ะลอไตเส่ือม การน�ำอาหารแมคโครไบโอติกส์มาบริโภคเพื่อชะลอไตเส่ือม มหี ลกั การดังน้ี สว่ นท ่ี 1 ร้อยละ 50 เป็นธัญพืชที่ไม่ขัดสี รากและหัวของพืช (ควรประกอบดว้ ยธญั พชื ชนดิ ครบรปู ปรงุ สกุ ดว้ ยวธิ กี ารปรงุ ในแบบตา่ ง ๆ ธัญพืชครบรูป ได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวสาลีชนิดโฮลวีท หรือ ขนมปัง สปาเกต็ ตี้ บะหม่ี ขา้ วบารเ์ ลย์ ข้าวฟ่าง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด เป็นต้น 108 กองการแพทย์ทางเลอื ก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คูม่ อื อาหารบ�ำบดั โรคไตเส่ือม สว่ นท่ี 2 เป็นผักพื้นบา้ นปลอดสารพิษ รอ้ ยละ 20-30 โดยใช้ ผักสดและผักดิบอย่างละครึ่ง หรือสองในสามควรปรุงสุกด้วยวิธีการ ต่าง ๆ เช่น นึ่ง ต้ม ปิ้ง หากต้องการผัด ให้ใช้น้�ำมันพืชแต่น้อย ส่วนทเ่ี หลืออาจรับประทานดิบ หรือเป็นผกั สลดั ส่วนที ่ 3 ประกอบด้วยธัญพืชต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์จากถ่ัว ร้อยละ 10-15 ซึ่งควรรับประทานเป็นคร้ังคราวเท่าน้ัน และสาหร่าย ทะเล โดยน�ำมาปรงุ สกุ ดว้ ยวธิ กี ารต่าง ๆ ควรใช้เกลอื ทะเลในปริมาณ แตพ่ อสมควร สว่ นท ี่ 4 อาหารอน่ื ๆ รอ้ ยละ 10 เชน่ ซปุ มโิ ซะ แกงจดื แกงเลยี ง ทม่ี สี ว่ นประกอบไปดว้ ยผกั สาหรา่ ยทะเล ถวั่ และธญั พชื ชนดิ ตา่ ง ๆ และ ควรจะเปลยี่ นสว่ นประกอบและเครอ่ื งปรงุ บอ่ ย ๆ รสชาตไิ มค่ วรจะเคม็ เกนิ ไป สว่ นผลไมส้ ีเขียว และไมห่ วาน เมลด็ พืช เชน่ ฟกั ทอง ทานตะวนั สดั สว่ นเหลา่ นเี้ ปน็ เพยี งแนวกวา้ ง ๆ สาํ หรบั เปน็ หลกั ในการปฏบิ ตั ิ ตอ้ งนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ ขา้ กบั สภาวะโดยรวมของตนเองดงั ทก่ี ลา่ วไวแ้ ลว้ ไม่ใช่จํากัดอยู่แค่สูตรมาตรฐานเท่าน้ันเพ่ือไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพ จากการขาดสารอาหารบางชนดิ ได้ อาหารแมคโครไบโอตกิ สไ์ มใ่ ชอ่ าหาร ที่มีรสชาติจืดชืดน่าเบื่อ แต่หากเป็นอาหารที่มีความสมดุลในสัดส่วน มคี วามหลากหลายในสว่ นผสม มรี สกลมกลอ่ มจากเครอื่ งปรงุ ตามธรรมชาติ และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังท่ีจะถ่ายทอดไปเป็นพลังกายท่ีแข็งแกร่งและ พลังใจทีเ่ ขม้ แขง็ ให้เราใชใ้ นการดาํ รงชวี ิตทีม่ คี ุณภาพต่อไป กองการแพทย์ทางเลือก 109 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเสอ่ื ม คำ� แนะนาํ วิถีการรับประทานแบบแมคโครไบโอติกส์ ต้องเค้ียวอาหารให้ ละเอยี ด 30-50 ครง้ั กอ่ นกลืน เป็นอยา่ งนอ้ ย ด่มื น้ำ� ในปริมาณเลก็ น้อย เม่ือกระหาย ไม่ควรด่ืมน้�ำเย็น รับประทานเม่ือหิว และรับประทาน เพยี ง 2 มอ้ื ต่อวนั เวน้ ระยะการรับประทานอาหารไม่นอ้ ยกวา่ 3 ช่วั โมง กอ่ นเข้านอน ไม่รบั ประทานอาหารหลงั ตืน่ นอนใหม่ จาํ กดั อาหารจาก สัตว์ ไข่ นม และน้�ำตาล ขณะรับประทานอาหารต้องมีอารมณ์สงบ ไม่กังวลและนกึ ถึงทีม่ าของอาหาร เช่น ดนิ แสงแดด อาหาร นำ้� ชาวนา เป็นต้น กินผักที่ปลูกในท้องถ่ิน สร้างความรู้สึกท่ีดีต่อกัน พักผ่อนให้ เพียงพอ อยู่ในที่ ๆ มีอากาศถ่ายเท และแสงแดดส่องถึง ใช้เสื้อผ้า เครื่องสําอางที่ทํามาจากธรรมชาติ และปฏิบตั ิตัวตามปกติในการดํารง ชีวติ ประจาํ วัน หมนั่ ออกกาํ ลังกายอยา่ งสม่�ำเสมอ 110 กองการแพทยท์ างเลอื ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มือ อาหารบำ� บดั โรคไตเสื่อม อาหารชีวจติ 55-57,65,66,69 ชวี จติ คอื เปน็ วถิ กี ารดาํ รงชวี ติ และการรบั ประทานอาหารทเี่ นน้ ความเปน็ ธรรมชาติ ทั้งร่างกายและจติ ใจ มพี ืน้ ฐานมาจากวิถีชีวิตแบบ แมคโครไบโอตกิ ส์ ซง่ึ มกี ารดดั แปลงใหส้ อดคลอ้ งกบั ความเปน็ อยแู่ บบไทย ๆ ทัง้ ด้านความเป็นอยู่ ดา้ นอาหารพ้ืนบา้ น การขับสารพษิ การออกกำ� ลัง การนวด สมาธิ และการฝกึ จติ เพราะชวี จติ คอื รา่ งกายและจติ ใจ ซง่ึ จะ ตอ้ งมีความสุขสมบูรณ์ควบคู่กันไป โดยยึดเอาวิธีปฏิบัติและความคิด ในแนวธรรมชาตเิ ปน็ หลกั อาหารชวี จติ เปน็ การรบั ประทานพชื ผกั ธญั พชื ไมข่ ดั สี ผกั ผลไมส้ ดตามฤดกู าลไมผ่ า่ นการปรงุ แตง่ พชื หวั ไมป่ อกเปลอื ก ด่มื น้�ำสะอาดและชาสมนุ ไพรหรือน�ำ้ ผลไม้ งดเน้อื สัตวท์ กุ ชนดิ ยกเวน้ ปลาและอาหารทะเล รบั ประทานได้เปน็ คร้ังคราว งดนำ�้ ตาลฟอกขาว กะทิ นม และไข่ การดํารงชีวิตอยู่ในท่ีอากาศบริสุทธิ์ไม่แออัด มีชีวิต เรียบง่าย ออกกําลังกายสม�่ำเสมอ ฝึกสมาธิเป็นประจํา โดยภาพรวม แล้วการปฏิบัติตามแนวชีวจิตจะมุ่งเน้นความมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ และเขา้ ใกล้ธรรมชาติมากท่ีสดุ หลักของการรับประทานอาหารชีวจิต คือ เน้นรับประทาน อาหารชนั้ เดยี ว หมายถงึ อาหารทคี่ งสภาพตามธรรมชาตเิ ดมิ ไวม้ ากทสี่ ดุ ไมต่ อ้ งผ่านการปรงุ แต่งมากมาย และคงรสชาติเดมิ ของอาหาร เพราะ ไมใ่ ชร่ บั ประทานใหอ้ รอ่ ย แตเ่ นน้ การรบั ประทานดเี พอื่ ตา้ นโรค เปน็ การ นำ� ความร้ทู างโภชนาการขั้นสูงมาพจิ ารณาอาหารตา่ ง ๆ แลว้ เลือกสรร เฉพาะอาหารท่ีให้คุณค่าแก่ร่างกาย และจิตใจมากท่ีสุด ท่ีส�ำคัญคือ กองการแพทย์ทางเลอื ก 111 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื อาหารบำ� บดั โรคไตเส่อื ม เป็นอาหารท่กี อ่ ใหเ้ กิดสารพษิ ตกค้างในรา่ งกายน้อยท่สี ดุ เพอ่ื ความสุข สมบรู ณท์ ง้ั กายและใจ การรบั ประทานอาหาร ชวี จติ ไมม่ กี ารขดั แยง้ กบั ขอ้ ปฏบิ ตั กิ ารรบั ประทานอาหารเพอื่ สขุ ภาพทด่ี ขี องคนไทย สดั สว่ นของ อาหารในกลมุ่ ต่าง ๆ ทม่ี ีการแนะนาํ ไว้ รวมถึงการงดอาหารบางอยา่ ง ถา้ มกี ารนาํ ไปปฏบิ ตั จิ รงิ โดยเฉพาะผปู้ ว่ ยถอื วา่ เปน็ สงิ่ ทด่ี ี และสามารถ ชะลอความเสอ่ื มของรา่ งกายได้ มขี อ้ ยกเวน้ เพยี งขอ้ เดยี วคอื การงดนม (ดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนยอาจท�ำได้) นอกจากนี้ ในเมนู อาหารชวี จติ ยงั มกี ารใช้ โยเกริ ต์ ซง่ึ เปน็ ผลติ ภณั ฑน์ มได้ และการรบั ประทาน ปลาที่กินได้ท้ังก้าง เช่น ปลาเล็กปลาน้อย ปลาซาดีน ผักใบเขียวเข้ม เตา้ หู้ (ทใี่ ชเ้ กลอื แคลเซยี มในการตกตะกอนโปรตนี ) ในปรมิ าณทเ่ี พยี งพอ จึงทำ� ใหร้ า่ งกายไมข่ าดแคลเซยี ม หลกั การรบั ประทานอาหารชวี จติ ชว่ ยเสรมิ สรา้ งสขุ ภาพรา่ งกาย ใหแ้ ขง็ แรง มีดังน้ี 1. อาหารประเภทแปง้ ซง่ึ ไมข่ ดั ขาว รอ้ ยละ 50 หรอื ครงึ่ หนง่ึ ของแต่ละม้ือ เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวโพด (ได้ท้ังเมล็ดหรือ ทั้งฝัก) แป้งขนมปัง (ขนมปังโฮลวีต) และเป็นแป้งกลุ่มคอมเพล็กซ์ คาร์โบไฮเดรต (คือเป็นแป้งหลายชั้นซึ่งมีโปรตีนปนอยู่ด้วย) ควรเพ่ิม แป้งจากพชื เช่น มันเทศ มันฝร่ัง เผือก หรอื ฟักทองเสริมดว้ ย 2. ผกั หนงึ่ ในสี่ หรอื รอ้ ยละ 25 ของปรมิ าณอาหารทรี่ บั ประทาน ในแต่ละม้อื ใชท้ ้ังผักดบิ และผักปรุงสกุ อยา่ งละครงึ่ ถา้ ปลกู เอง (ปลอด สารเคม)ี แตถ่ า้ ตอ้ งซอื้ จากตลาดตอ้ งเลอื กผกั ปลอดสารพษิ ลา้ งผา่ นนำ�้ และแช่น้�ำด่างทับทิมหรือน้�ำส้มสายชูเจือจางประมาณ 1-2 ชั่วโมง ชว่ ยล้างสารพษิ ได้ 112 กองการแพทยท์ างเลอื ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มือ อาหารบ�ำบัด โรคไตเสื่อม 3. ถ่วั ต่าง ๆ อยู่ในประเภทโปรตนี ร้อยละ 15 ของแต่ละมื้อ เช่น ถ่ัวเขียว ถ่ัวแดง ถัว่ เหลือง และผลิตภณั ฑจ์ ากถว่ั เช่น เตา้ หู้ โปรตีน เกษตร นอกจากนี้จะใชโ้ ปรตนี จากสตั วเ์ ป็นครง้ั คราว คือ ไข่ ปลา และ อาหารทะเล สัปดาห์ละ 1-2 มอ้ื 4. อาหารอ่นื ๆ ร้อยละ 10 ของแต่ละม้ือ เป็นอาหารประเภท แกง เช่น แกงจืด แกงเลียง ประเภทซุป เชน่ ซปุ มโิ ซะ (มโิ ซะ = เต้าเจีย้ ว ญีป่ นุ่ ชนดิ หนึ่ง) หรือ ประเภทของขบเคีย้ ว เช่น งาสดและงาค่ัว (ใชป้ รุง อาหารต่าง ๆ ได้ทุกอย่าง) ถ่ัวคั่ว เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม เมล็ด ทานตะวัน ผลไม้สด ต้องเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น ฝร่ัง สับปะรด มะละกอ มะมว่ งดิบ หรือพทุ รา อาหารชวี จิตชะลอไตเสอื่ ม การนำ� อาหารชวี จติ มาบรโิ ภคเพอื่ ชะลอไตเสอ่ื ม มหี ลกั การดงั นี้ 1. ลดการรบั ประทานหวานจดั กนิ เพอื่ รกั ษาระดบั นำ้� ตาลในเลอื ด ใหอ้ ยใู่ นระดบั ท่ปี ลอดภยั ควรจำ� กดั น้�ำตาล ไมใ่ ห้เกินวันละ 6 ชอ้ นชา และระวงั นำ�้ ตาลจากผลไมร้ สหวานจดั และนำ้� ผลไม้ นอกจากนใ้ี ยอาหาร ในผกั ทำ� หนา้ ทเี่ ปน็ เกราะปอ้ งกนั การดดู ซมึ นำ้� ตาล จงึ ชว่ ยชะลอการเพม่ิ ขนึ้ ของระดับน�้ำตาลในเลือด จึงควรรับประทานผักสุกมื้อละ 1-2 ทัพพี โดยเลือกผักท่ีมีแร่ธาตุโพแทสเซียมต่�ำถึงปานกลาง โดยเฉพาะผู้ป่วย ที่ร่างกายขับโพแทสเซียมออกได้น้อย ผักเหล่านั้น เช่น ผักกาดขาว เหด็ หหู นู บวบ กวางตงุ้ กะหลำ่� ปลี ตำ� ลงึ หอมหวั ใหญ่ พรกิ หวาน ฟกั เขยี ว กะเพรา โหระพา ใบแมงลัก เปน็ ต้น กองการแพทยท์ างเลือก 113 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื อาหารบำ� บดั โรคไตเสื่อม 2. ลดการรับประทานมันจัด แนะน�ำให้กินน้�ำมันไม่เกินวันละ 6 ชอ้ นชาเนน้ ใหเ้ ลือกอาหารท่ีปรุงดว้ ยวธิ ตี ้ม ตุน๋ น่งึ ยา่ ง ยำ� และเลือก เน้ือสัตว์ไขมันต�่ำ เช่น เน้ือปลา หลีกเล่ียงเนื้อสัตว์ติดมัน เคร่ืองใน เนื้อสตั วแ์ ปรรปู เชน่ ไส้กรอก หมูยอ แหนม กนุ เชียง 3. ลดการรบั ประทานเคม็ จดั มเี ปา้ หมายทแี่ ทจ้ รงิ คอื รบั ประทาน เพ่อื จำ� กัดปรมิ าณโซเดยี มไม่ให้เกนิ วนั ละ 2,000 มลิ ลิกรัม ซ่ึงปกตเิ รา จะได้รับโซเดียมจากอาหารประจ�ำวันท่ีไม่เติมเคร่ืองปรุงใด ๆ วันละ ประมาณ 800 มิลลิกรมั อย่แู ลว้ ส่วนอกี 1,200 มิลลกิ รมั เป็นโซเดยี ม ในเคร่ืองปรุง (รับประทานไม่ให้เกินโควตา ต้องรับประทานจืด คือใช้ นำ�้ ปลาหรอื ซอี วิ้ ขาววนั ละไมเ่ กนิ 3 ชอ้ นชา) ทำ� ไดโ้ ดยการงดพฤตกิ รรม การรับประทานไปปรุงไป หรือ ปรุงก่อนชิม และลดการใช้เคร่ืองปรุง ทุกชนิดลงจากเดิม ที่ส�ำคัญคือ หลีกเล่ียงอาหารแปรรูปทุกชนิด เช่น อาหารกระป๋อง บะหม่กี ่งึ ส�ำเร็จรูป ผัก ผลไม้ดอง หรอื เนอื้ สตั วแ์ ปรรปู เชน่ หมหู ยอง หมแู ผ่น หมูยอ กนุ เชียง ไสก้ รอก แหนม ไขเ่ ค็ม ปลาเค็ม ปลาแดดเดยี ว ถา้ หากยงั ไมส่ ามารถรบั ประทานอาหารรสจดื ตามทก่ี ลา่ วได้ ใหเ้ รมิ่ ต้นอาจใชว้ ธิ ลี ดเครือ่ งปรุงลง ร้อยละ 25 กอ่ น เมอื่ เร่มิ คุ้นชนิ กับ รสชาติ จงึ ปรบั ลดลงอกี คอ่ ย ๆ ตงั้ เปา้ หมายในการรบั ประทานโซเดยี ม หรอื ลดเครอื่ งปรงุ ใหไ้ ดต้ ามเกณฑท์ แี่ นะนำ� สดุ ทา้ ยกส็ ามารถรบั ประทาน จืดได้ 114 กองการแพทย์ทางเลอื ก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ ือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเสอ่ื ม 4. ลดการบรโิ ภคเนอื้ สตั ว์ หรอื ลดโปรตนี เพอ่ื ลดภาระการทำ� งาน ของไตจากการกรองของเสยี หลงั รบั ประทานโปรตนี เพราะการรบั ประทาน โปรตนี มาก ไตยง่ิ เสอ่ื มเรว็ แตห่ ากรบั ประทานนอ้ ยไปจนรา่ งกายไมพอใช้ ร่างกายก็จะมีกลไกสลายโปรตีนจากกล้ามเน้ือมาใช้แทน สุดท้ายไต จงึ จำ� ตอ้ งกรองของเสยี ปรมิ าณมากอยดู่ ี ดงั นน้ั แนะนำ� ใหก้ นิ เนอื้ สตั ว์ เชน่ เนอื้ ปลา 6-8 ชอ้ นแกงตอ่ วนั หลกี เลยี่ งนม โยเกริ ต์ ชสี รวมถงึ ถว่ั ตา่ ง ๆ และลดการรับประทานข้าว แปง้ ในบางม้ือ โดยเปล่ียนมารับประทาน วุ้นเส้น ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ ซึ่งนอกจากมีโปรตีนต่�ำ ยังมีดัชนีน�้ำตาลต�่ำ ช่วยควบคมุ ระดบั น้ำ� ตาลในเลือดได้ดว้ ย อาหารพนื้ บ้าน55,56,70-73 เป็นอาหารตามภมู ิปัญญาไทยท่มี ีมาแต่ดั้งเดมิ ซ่ึงมหี ลากหลาย ในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ การรบั ประทานอาหารตามฤดกู าลและทมี่ อี ยใู่ นทอ้ งถนิ่ พชื ผกั ผลไมต้ ามฤดกู าลจะทำ� ใหร้ า่ งกายมคี วามสมดลุ กบั สภาพแวดลอ้ ม กองการแพทยท์ างเลอื ก 115 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ ือ อาหารบ�ำบัด โรคไตเส่ือม ที่เปล่ียนแปลงได้ดี อาหารพ้ืนบ้าน เป็นอาหารที่ประชาชนคนไทย รบั ประทานอยใู่ นชวี ติ ประจาํ วนั และรบั ประทานในโอกาสตา่ ง ๆ โดยอาศยั เครอื่ งปรงุ วสั ดทุ นี่ าํ มาประกอบอาหารจากแหลง่ ตา่ ง ๆ ทง้ั จากธรรมชาติ ทา่ มกลางนเิ วศทแ่ี วดลอ้ มอยู่และจากการผลติ ขน้ึ มาเอง เชน่ การเพาะปลกู การเลยี้ งสตั ว์ หรือจากการซือ้ ขายแลกเปล่ียน โดยมีกรรมวธิ ใี นการทํา เป็นเอกลักษณ์ รวมท้ังรสชาตทิ ่เี ป็นเฉพาะถิ่นแตกต่างกนั ไป ซ่งึ อาหาร พ้ืนบ้านไทยมีคุณลักษณะเด่น คือ รับประทานได้ท้ังในชีวิตประจําวัน และในโอกาสพเิ ศษ ใชว้ ตั ถดุ บิ และเครอื่ งปรงุ รสในทอ้ งถน่ิ มวี ธิ กี ารปรงุ ตง้ั แตเ่ รยี บงา่ ยไปจนถงึ ขน้ั ตอนทซี่ บั ซอ้ น วธิ กี ารปรงุ ทสี่ ามารถคงรสชาติ แบบธรรมชาตไิ ด้ มเี ทคนิคการทาํ ให้อาหารสกุ และการถนอมอาหารท่ี หลากหลายรปู แบบ และสอดคลอ้ งกบั ฤดกู าล ดงั นนั้ อาหารพน้ื บา้ นจงึ เหมาะทีจ่ ะเปน็ อาหารเพื่อสุขภาพ ตามหลักทวี่ า่ อาหารแตล่ ะม้อื ควร ประกอบดว้ ยผกั ผลไม้ ธญั พชื ถัว่ งา เหด็ หรือผลติ ภัณฑ์จากผักเสมอ พืชผักในแต่ละท้องถิ่นมักเหมาะต่อคนในท้องที่น้ัน ๆ มีความ หลากหลาย ให้รูป สี กลิ่น รส เลือกใช้ได้มาก ไม่เกิดการสะสมของ สารบางชนดิ และไดส้ ารสําคัญต่าง ๆ แตกต่างกันไป นอกน้ันเปน็ ผัก พน้ื บา้ นภาคตา่ ง ๆ จะมผี กั พน้ื บา้ นตา่ งกนั หลายชนดิ อาจซำ�้ กนั แตบ่ างชนดิ อาจต่างกนั เชน่ ภาคใต้มี สะตอ ภาคเหนือมี สะแล ผักหลายชนดิ ใน แตล่ ะภาคกม็ กี ารนาํ มาใชต้ า่ งกนั ผกั บางชนดิ นยิ มรบั ประทานในภาคหนง่ึ แตอ่ ีกภาคหนงึ่ อาจถอื ผักน้ันเปน็ วัชพชื กไ็ ด้ 116 กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คู่มอื อาหารบ�ำบัด โรคไตเส่อื ม ผกั พน้ื บา้ น หมายถงึ พชื ผกั ทมี่ อี ยใู่ นทอ้ งถน่ิ มกี ารนาํ มาใชเ้ ปน็ อาหาร, ยา มาชา้ นาน เปน็ สว่ นหนงึ่ ของชวี ติ คนไทย พวกทไี่ ดจ้ ากไมย้ นื ตน้ อาจขน้ึ เองหรอื ปลกู แคค่ รง้ั เดยี ว แลว้ เกบ็ มาใชไ้ ดต้ ลอดไป พวกทไ่ี ดจ้ าก ไม้ล้มลุกมักขึ้นเองหรือขยายพันธุ์ได้ง่าย ผักพื้นบ้านส่วนมากมี สารอาหารคอ่ นขา้ งสงู นอกจากนผี้ กั พน้ื บา้ นยงั มขี อ้ ดอี กี หลายดา้ น เชน่ 1. ไม่ต้องเสยี เวลาเพาะปลูก ดแู ลรกั ษามาก เปน็ ส่วนหนงึ่ ของ กจิ วตั รประจําวัน และยังชว่ ยดา้ นจิตใจใหค้ ลายเครยี ด จากการสัมผสั กบั ธรรมชาติ 2. ปลอดสารเคมีท่ีเร่งการเจริญเติบโต กําจัดส่ิงรบกวนต่าง ๆ รา่ งกายไม่ตอ้ งรบั สารพษิ เข้าไปสะสมประจาํ วัน 3. อยู่ใกล้บ้าน เก็บแล้วรับประทานได้เลย คุณค่าของอาหาร คงอยู่ในปริมาณสูง 4. บางชนดิ มเี ฉพาะฤดกู าล ซง่ึ เหมาะตอ่ สภาพของรา่ งกายขณะนน้ั เช่น ดอกแค จะออกช่วงฤดูหนาวต่อฤดูร้อน ช่วยบรรเทาอาการไข้ จากการเปลย่ี นฤดูได้ดี อาหารตามฤดกู าล โดยปกตแิ ลว้ ธรรมชาตไิ มไ่ ดส้ รา้ งใหผ้ กั ทกุ ชนดิ โตไดด้ ตี ลอดปี การทเี่ หน็ ผกั นอกฤดกู าลบางชนดิ ในซเู ปอรม์ ารเ์ กต็ หรอื ท้องตลาดตลอดปี อาจไม่ปลอดภัยเนื่องจากอาจใช้สารเคมีปนเปื้อน เพื่อให้ดูสดใหม่ก่อนถึงมือผู้บริโภคน่ันเอง ตรงกันข้ามผักท่ีออกตาม ฤดูกาล ธรรมชาติสร้างให้มันโตในช่วงเวลาท่ีมีศัตรูธรรมชาติน้อย แข็งแรงทนทาน และมีสารอาหารท่ีเป็นประโยชน์ โดยจะสังเกตและ จดจำ� ไดง้ า่ ย ๆ จากลกั ษณะและนสิ ยั ทเี่ ปน็ จดุ รว่ มของผกั แตล่ ะฤดู ไดแ้ ก่ กองการแพทย์ทางเลอื ก 117 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คูม่ อื อาหารบำ� บดั โรคไตเสือ่ ม 1. ผักฤดูหนาว มักจะเป็นผักท่ีชอบหนาว และเป็นผักตระกูล รับประทานใบท้ังหลาย เช่น ผักสลัด ผักกาด 2. ผักฤดรู ้อน มกั จะเป็นผักที่ทนแล้งหรอื ชอบน�ำ้ น้อย เชน่ มนั บที รทู ใบเหลยี ง มะระ 3. ผักฤดูฝน มักจะเป็นผักน�้ำมากหรืออยู่ในน้�ำอยู่แล้ว เช่น ผกั บงุ้ สายบวั ปลัง เปน็ ตน้ ประโยชนจ์ ากอาหารพนื้ บา้ นและอาหารตามฤดกู าล คอื มคี วาม คุ้มค่า อาหารตามฤดูกาลท�ำจากพืชท่ีผ่านการเพาะปลูกในฤดูกาล ที่เหมาะสม ท�ำให้พืชเหล่าน้ันเจริญงอกงาม ใช้เวลาปลูกน้อยกว่า จึงทำ� ให้อาหารมีราคาถูกกวา่ อาหารตามฤดูกาลมีรสชาติดีกวา่ อาหาร นอกฤดกู าลมาก เนอื่ งจากพชื ทป่ี ลกู ตามฤดกู าลจะสามารถเจรญิ เตบิ โต เต็มท่ีตามธรรมชาติได้ก่อนท่ีจะถูกเก็บไปท�ำอาหาร จึงท�ำให้มีรถชาติ อรอ่ ย มปี ระโยชนต์ อ่ สขุ ภาพ ผลการวจิ ยั พบวา่ พชื บางชนดิ มสี ารอาหาร เพ่ิมขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อปลูกตามฤดูกาล นอกจากน้ีผักผลไม้ตามฤดูกาล ยังไม่ต้องผ่านการขนส่งเป็นเวลานาน ๆ จึงไม่เสียสารอาหารท่ีจ�ำเป็น และเป็นมติ รตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม 118 กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มือ อาหารบำ� บดั โรคไตเสือ่ ม การบริโภคอาหารที่สอดคล้องกับสภาพอากาศตามฤดูกาล สามารถแบง่ ออกได้ ดงั นี้ • ฤดูร้อน อากาศร้อนช้ืน อบอ้าว ท�ำให้ภายในร่างกายร้อน รขู มุ ขนเปดิ กวา้ ง เหงอื่ ออกงา่ ย เปน็ รอ้ นใน ฝอี กั เสบ เปน็ ตน้ ควรบรโิ ภค อาหารฤทธิ์เย็น เพื่อลดความร้อนและบ�ำรุงน�้ำในร่างกาย โดยเฉพาะ ควรรบั ประทานผกั และผลไมท้ มี่ นี ำ�้ ในตวั ดม่ื นำ้� ตม้ สมนุ ไพรรสเยน็ แทน นำ้� ชา เช่น นำ้� รากบัว น�้ำเก๊กฮวย นำ�้ จบั เลยี้ ง สว่ นอาหาร ได้แก่ มะระ ผักใบบาง เช่น ผกั บงุ้ ตำ� ลึง อาหารทะเล ปลานึ่ง หากวันไหนอากาศ ร้อนจนเหง่อื ออกมากเปน็ พเิ ศษ ใหร้ บั ประทานผลไมเ้ น้อื ฉ่�ำทีม่ นี ้ำ� มาก เช่น สับปะรดหรือแตงโม • ฤดฝู น อากาศชน้ื แฉะ ซง่ึ เมอ่ื สงิ่ แวดลอ้ มมคี วามชนื้ มากทำ� ให้ สารเหลวภายในรา่ งกายขน้ จึงส่งผลใหเ้ กดิ ตุ่มตา่ ง ๆ ขน้ึ ตามรา่ งกาย เชน่ ตุ่มใส ตุ่มเชอ้ื รา หรอื เป็นรอ้ นใน รวมถงึ มีอาการครนั่ เนื้อครน่ั ตวั เป็นหวัดเย็น อาจท�ำให้มีอาการ ไอ จาม ควรบริโภคอาหารฤทธิ์ร้อน รับประทานของอุน่ ๆ หรืออาหารทม่ี ีรสเผด็ รอ้ น เช่น ปูผดั พริกไทยดำ� เนอ้ื ปลาผดั พรกิ ปลาจะละเมด็ นงึ่ ขงิ นำ้� ตม้ เกา๋ ก้ี หรอื นำ้� ชะเอมตม้ นำ�้ ผง้ึ เพ่อื ระบายความช้นื ออกจากร่างกาย กองการแพทย์ทางเลือก 119 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คู่มอื อาหารบำ� บัด โรคไตเสอ่ื ม • ฤดูหนาว อากาศหนาวและแห้งเย็น ส่งผลให้ร่างกายมี ความเย็น ผิวแห้งคัน ปากและคอแหง้ มักเปน็ ไขห้ วัดและทอ้ งเสยี ง่าย ควรบรโิ ภคอาหารฤทธริ์ อ้ น อาหารทช่ี ว่ ยใหร้ า่ งกายอบอนุ่ ขน้ึ (คลา้ ยอาหาร ในฤดฝู น) ประเภทตนุ๋ และทอด เชน่ เตา้ หพู้ ะโล้ เตา้ หทู้ อด ปลาสกี นุ ทอด ปลาใบขนุนทอด ดื่มน้�ำแป้งรากบัว ซ่ึงท�ำจากรากบัวบดเป็นผงแป้ง ด่ืมแล้วรู้สึกอุ่น ด่ืมสลับกับน้�ำเต้าหู้ เต้าฮวยน�้ำขิง หรือบัวลอยน้�ำขิง เพราะชว่ ยให้ร่างกายอบอ่นุ ขน้ึ อาหารพื้นบ้านชะลอไตเสอื่ ม ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาล เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จงั หวัดปราจนี บุรี กลา่ ววา่ “ภมู ิปัญญาพืน้ บา้ น ของไทยเชื่อว่า ไต คือ พลังงานของชีวิต หากไตท�ำงานไม่ดี ไม่เพียง แต่ส่งผลกระทบการท�ำงานของร่างกายในภาพรวม หากแต่ยังส่งผล ต่ออารมณ์ ความรู้สึกของผู้ป่วยด้วย ซ่ึงสอดคล้องกับการแพทย์ แผนปจั จบุ นั ทพ่ี บวา่ ไตเปน็ อวยั วะทมี่ กี ารสรา้ งฮอรโ์ มนทม่ี ผี ลตอ่ อารมณ์ ของคนด้วยทั้งน้ี มีสมุนไพรหลายชนิดที่หมอพ้ืนบ้านระบุว่าใช้บ�ำรุงไต 120 กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คู่มอื อาหารบ�ำบัด โรคไตเสอื่ ม ซง่ึ ในมติ ขิ องคำ� วา่ บำ� รงุ ในทางการแพทยพ์ นื้ บา้ นนนั้ มหี ลายความหมาย ทั้งการก�ำจัดของเสีย การเพ่ิมการไหลเวียนเลือด การปกป้องสารพิษ ดงั นน้ั การจะนำ� องคค์ วามรดู้ า้ นสมนุ ไพรของบรรพบรุ ษุ มาใชไ้ ด้ เราตอ้ ง เข้าใจท่ีมาขององค์ความรู้อย่างลกึ ซ้ึง” องค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพไตอย่างง่ายนั้นมี 5 กลยุทธ์ ประกอบดว้ ย 1) การเพม่ิ การไหลเวียนของเลือดไปเลย้ี งไต 2) การลด สารพิษเข้าสู่ไต 3) การปกป้องไตจากอนุมูลอิสระ 4) การเพิ่มการ ขับถ่ายของเสีย และ 5) การบ�ำรุงและฟื้นฟูไต สมุนไพรท่ีมีสรรพคุณ ทางยาในต�ำราการแพทย์แผนไทย ในการบ�ำรุงไต ในท่ีน้ีจะขอยก ตวั อยา่ งเฉพาะสมนุ ไพรที่พบกนั บ่อย ๆ ดงั น้ี กล้วยป่า เป็นไม้ล้มลุก มักข้ึน เปน็ กลมุ่ ทกุ สว่ นมยี าง มเี หงา้ แตกหนอ่ ได้ ลำ� ตน้ เทยี มขนาดใหญ่ประกอบดว้ ยกาบใบ ทอี่ ดั กนั แนน่ ใบเดยี่ ว รปู ขอบขนาน ดอก (หัวปลี) ออกเป็นช่อห้อยลงคล้ายงวง บานจากส่วนโคนลงมาหาปลายช่อปลี ผลกลมโค้งงอ มีเนื้อน้อยสีขาว เมล็ดจํานวนมากสดี าํ ผนงั หนาและแข็ง กล้วยป่า มีสารในกลุ่มโพลฟีนอล ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ไต จากภาวะอนุมูลอิสระมากเกินไป และให้ข้อมูลว่า “พบข้อมูลจาก ประชาชนว่ามีแม่เฒ่าวัย 70 กว่าปี มีภาวะล้างไตอยู่ น�ำใบกล้วยป่า มาต้มกิน ซ่ึงเมื่อไปตรวจหาสารในกล้วยป่าพบว่ามีสารโพลีฟีนอลท่ี ตา้ นอนุมูลอสิ ระ และมีการติดตามค่าไตก็พบว่าดีขนึ้ จรงิ ๆ” กองการแพทยท์ างเลือก 121 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ อื อาหารบ�ำบดั โรคไตเสอ่ื ม เจด็ กำ� ลงั ชา้ งสาร เปน็ พชื ลม้ ลกุ อายุหลายปี สงู ได้ถงึ 1 เมตร ลำ� ตน้ มสี นั ตามยาวคลา้ ยเหลยี่ ม มใี บเดยี่ วเรยี งสลบั แบบคู่ตรงขา้ ม ดอกเปน็ กระจุกบริเวณ ยอด สชี มพหู รอื มว่ ง มีสรรพคุณบ�ำรงุ ไต ผา่ นกลไกตา้ นอนมุ ลู อสิ ระและลดการอกั เสบ ชว่ ยบำ� รงุ รา่ งกาย บำ� รงุ กำ� ลงั แก้ปวดเมอ่ื ย คลายเสน้ บำ� รงุ เลือดลมให้ไหลเวยี นดี ขบั ปสั สาวะ ผกั ขมหนิ จดั เปน็ ไมล้ ม้ ลกุ ลำ� ตน้ มีลักษณะทอดเล้ือยขนานไปตามพื้นดิน ชยู อดขน้ึ ลำ� ตน้ แตกกง่ิ กา้ นมาก ผวิ เรยี บ หรอื มขี นบรเิ วณปลายกงิ่ ลกั ษณะตน้ กลม เปน็ สเี ขยี วปนแดง ยอดออ่ นมขี นเปน็ วชั พชื ที่พบขึน้ ทวั่ ไปในเขตร้อน มฤี ทธ์ิขบั ปสั สาวะ ลดการอักเสบ หญ้าหนวดแมว เป็นพืชล้มลุก ขนาดเล็กท่ีมีล�ำต้นสูงประมาณ 30-60 เซนตเิ มตร ใบมลี กั ษณะเรยี ว มขี น ขอบใบ เปน็ รอยหยักคล้ายฟันเลือ่ ย มีดอกสขี าว หรือสีม่วงเป็นช่อ ตรงกลางดอกมีเกสร สขี าวยาวโผลอ่ อกมา กลบี ดอกลกั ษณะคลา้ ยหนวดแมว และด้วยสาร ประกอบทางเคมตี า่ ง ๆ ของหญา้ หนวดแมวมฤี ทธขิ์ บั ปสั สาวะ ขบั กรดยรู คิ และขับนิ่วขนาดเล็ก ๆ ได้ โดยหญ้าหนวดแมวมีเกลือโพแทสเซียม 122 กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ ือ อาหารบ�ำบัด โรคไตเส่อื ม ช่วยในการขับปัสสาวะและขยายหลอดไตให้กว้าง ช่วยขับกรดยูริค เนื่องจากหญ้าหนวดแมวท�ำให้ปัสสาวะเป็นด่าง ผู้ท่ีรับประทานหญ้า หนวดแมวจะมีการขับกรดยูริคออกมาทางปัสสาวะเพ่ิมข้ึนและท�ำให้ ปสั สาวะเปน็ ดา่ ง ท�ำให้กรดยรู คิ ตกตะกอนนอ้ ยลง ตน้ เกลด็ ปลา เปน็ พรรณไมเ้ ลอื้ ย ปกคลุมดิน แตกกิ่งก้านสาขา ล�ำต้นมี ความยาวประมาณ 15-90 เซนติเมตร ตามล�ำต้นมีขนนุ่มสั้น ข้อท่ีแตะดินจะ งอกรากออกมาเพ่ือยึดเกาะดินเอาไว้ มีสรรพคณุ ขับนวิ่ ในไต ลดการอกั เสบ กระเจ๊ียบแดง เป็นพืชใบเด่ียว ใบมหี ลายลกั ษณะ ลกั ษณะคลา้ ยรปู ฝา่ มอื 3 แฉก หรอื 5 แฉก ใบเวา้ ลกึ หรอื เรียบ หรอื ใบเปน็ รปู รแี หลม หรอื รปู เรยี วแหลม ขอบใบมจี กั เปน็ ฟนั เลอื่ ย ใบมคี วามกวา้ ง และความยาวใกลเ้ คยี งกนั ประมาณ 8-15 เซนตเิ มตร และกา้ นใบมคี วามยาว ประมาณ 5 เซนตเิ มตร กระเจย๊ี บมสี ารแอนโทไซยานนิ (Anthocyanin) และสารโพลีฟนี อล ซ่ึงไดแ้ ก่ Protocatechuic Acid ท่ีมฤี ทธ์ติ อ่ ตา้ น อนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยชะลอความแก่ และช่วยให้ เส้นเลือดอ่อนน่ิม และ มีฤทธิ์ต้านแบคทเี รีย ท�ำให้ปัสสาวะมคี วามเป็น กรดช่วยฆ่าเชื้อในทางเดินปสั สาวะ กองการแพทย์ทางเลอื ก 123 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื อาหารบ�ำบดั โรคไตเสือ่ ม นอกจากตวั อยา่ งของสมนุ ไพรทกี่ ลา่ วขา้ งตน้ แลว้ ยงั มสี มนุ ไพรไทย อกี หลายชนดิ ท่ีมสี รรพคุณช่วยชะลอความเสื่อมของไต เชน่ กระเทียม กระวาน กระหลำ่� ปลี ใบเตย ใบบวั บก เปน็ ตน้ การรบั ประทานสมนุ ไพร สำ� หรบั โรคไตแลว้ แนะนำ� ใหร้ บั ประทานเปน็ อาหารตามหลกั ภมู ปิ ญั ญา ของไทยที่ว่า “อาหารเป็นยา” แต่อย่างไรก็ตามผู้ท่ีป่วยเป็นโรคไต ในระยะแรกสงิ่ สำ� คญั จะตอ้ งไดร้ บั การดแู ลจากแพทยแ์ ผนปจั จบุ นั ควบคู่ ไปดว้ ยเสมอ อาหารแดชไดเอท (DASH Diet)64-66,74 อาหาร DASH มาจากคําวา่ “Dieatary Approaches to Stop Hypertension” เปน็ ลกั ษณะอาหารทม่ี เี กลอื ตำ�่ ซงึ่ ใหผ้ ลดตี อ่ การรกั ษา ความดันโลหิตสูง และยังป้องกันความดันโลหิตสูง ซ่ึงอาหารและ สารอาหารท่มี ีผลต่อระดบั ความดนั โลหิต เชน่ แคลเซียม โพแทสเซยี ม เปน็ ตน้ นยิ มใชเ้ ปน็ อาหารบำ� บดั เพอ่ื ชะลอไตเสอื่ ม ในผปู้ ว่ ยโรคไตเสอ่ื ม และผปู้ ว่ ยทมี่ โี รคความดนั โลหติ สงู รว่ ม มหี ลกั ของการรบั ประทานแบบ แดชไดเอท ไดแ้ ก่ 1. ลดอาหารรสจัดและมโี ซเดยี มสูง กนิ ไมเ่ กนิ 1,500 มิลลกิ รมั ต่อวนั โดยลดหรอื เลย่ี งเคร่ืองปรุงรสตา่ ง ๆ เช่น เกลือไมเ่ กิน 1 ชอ้ นชา ตอ่ วัน หรือน�้ำปลาไมเ่ กิน 3-4 ชอ้ นชาตอ่ วัน หรอื ซีอวิ้ ขาวไมเ่ กิน 5-6 ช้อนชาตอ่ วนั อาหารแปรรปู เชน่ กุนเชียง หมูยอ แฮม ไสก้ รอก ไส้อวั่ ปลาเค็ม แหนม อาหารกระป๋องอาหารหมักดอง อาหารที่มีผงฟู เช่น เคก้ บราวน่ี ขนมปังไส้ตา่ ง ๆ 124 กองการแพทยท์ างเลอื ก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ อื อาหารบำ� บัด โรคไตเสอื่ ม 2. ลดการรับประทานไขมันอ่ิมตัวไขมันทรานส์ โดยเลือกใช้ น�ำ้ มนั พืชในการปรุงประกอบ เล่ียงการบริโภคไขมนั จากสตั ว์ หนังสัตว์ เนยเทียม (มาการีน) อาหารจานด่วนต่างๆ เช่น พิชซ่า เบอร์เกอร์ มันฝรง่ั ทอดนำ้� มนั ทว่ ม กนิ อาหารทม่ี ีคอเลสเตอรอลตำ�่ 3. เพ่ิมอาหารท่ีมีใยอาหารสูงมากข้ึน โดยเน้นผักผลไม้สด ขา้ วไมข่ ัดสี ธญั พืช ถว่ั และเมลด็ ถว่ั เปลอื กแข็ง 4. รบั ประทานนมไขมนั ตำ�่ (นมพรอ่ งมนั เนย) นมไรไ้ ขมนั (นมขาด มันเนย) และผลิตภณั ฑน์ มเปน็ ประจำ� 5. หลีกเล่ียงเนื้อแดง น�้ำตาล เครื่องด่ืมรสหวาน เคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ ควรเล่ียงผัก ผลไม้กระป๋องหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ และจ�ำกดั ปริมาณแคลอรี่ ไม่เกิน 2,000 แคลอรีต่ ่อวนั ซึ่งการศึกษาของสมาคมโรคหัวใจและหลอดเลือดของประเทศ อเมรกิ าไดม้ กี ารทดลองTheApproachesDieateryStopHypertention พบว่า หากผู้ป่วยความดันโลหิตสูง รับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) ปริมาณต�่ำ อาหารไขมันต�่ำ และผักผลไม้มาก เน้นอาหารพวกธัญพืช ปลา นมไขมันต่�ำ ถ่ัวโดยหลีกเล่ียง เนื้อแดง น้�ำตาล เครื่องดื่มท่ีมีรสหวาน จะทําให้ระดับความดันโลหิตลดลง การนาํ เอา แดชไดเอท มาใชก้ ารรับประทานอาหารประจําวนั ใชห้ ลกั การวิเคราะห์พลังงานที่น�ำเข้าไปและออกมาใช้ในการค�ำนวณ โดยข้ึน อยกู่ บั สภาพรา่ งกายของแตล่ ะบคุ คล โดยมขี อ้ ควรคาํ นงึ ถงึ คอื (1) ชนดิ ของอาหารไม่ใช่อาหารลดน้�ำหนัก แต่ให้พิจาณาพลังงานจากอาหาร กองการแพทยท์ างเลือก 125 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คูม่ ือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเส่อื ม ให้เหมาะสม เช่น รา่ งกายต้องการพลงั งานนอ้ ย ใหเ้ พิ่มอาหารประเภท ผักหรือผลไม้แทนอาหารพวกเน้ือสัตว์หรือน�้ำมัน ด่ืมนมไขมันต่�ำแทน นมปกติ และ (2) การรบั ประทานเกลอื ในอาหารแดชไดเอท จากผลการ ศึกษาพบว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงท่ีรับประทานอาหารตามแผน แดชไดเอจะช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ ดังน้ัน เป็นวิธีการชะลอ ความเสอื่ มของไตไดด้ ที ส่ี ดุ อกี วธิ หี นง่ึ ดงั นน้ั จงึ ไมค่ วรทจ่ี ะรบั ประทาน อาหารท่ีมีรสเค็ม ควรรับประทานเกลือไม่เกินวันละ 1,500 มิลลิกรัม ซึง่ ในอาหารทกุ ชนิดมีเกลอื ผสมอยแู่ ล้วทัง้ สิ้น อาหารแบบแดชไดเอทเนน้ การรบั ประทานผกั และผลไม้แตส่ ำ� หรบั ผทู้ ร่ี บั ประทานผกั และผลไมน้ อ้ ยเมอื่ เรม่ิ ตน้ อาหารแดชไดเอท จะมปี ญั หา เรอ่ื งทอ้ งอดื หรอื อาจจะทำ� ใหเ้ กดิ ทอ้ งรว่ ง ดงั นน้ั ควรคอ่ ย ๆ ปรบั ปรมิ าณ การรับประทาน โดยเร่ิมรับประทานผักวันละม้อื และค่อย ๆ เพิ่มผกั จนครบทกุ มอ้ื , รบั ประทานเนอื้ สตั ว์ วนั ละ 2 มอื้ และรบั ประทานอาหารเจ สปั ดาหล์ ะ 2 มอ้ื แนะนำ� ใหร้ บั ประทานผลไมเ้ ปน็ อาหารวา่ งแทนอาหาร ทใ่ี หพ้ ลงั งานสงู หากไมร่ บั ประทานผลไม้ แนะนำ� ใหท้ า่ นเรม่ิ ดม่ื นำ�้ ผลไม้ หลังอาหารเช้า และรับประทานผลไม้ทุกม้ือหลังอาหารดื่มนมพร่อง มันเนยหลังอาหาร วันละ 2-3 ครั้ง และควรอ่านสลากอาหารทุกคร้ัง โดยการลดเกลือและไขมันอิ่มตัว สิ่งส�ำคัญคือการควบคุมอาหารด้วย ตนเองได้ครบ 1 วัน จะท�ำให้รู้ว่าจะลดหรือเพิ่มอาหารประเภทไหน ทงั้ การรบั ประทานอาหารแตล่ ะมอื้ หรอื มอื้ พเิ ศษ (ซง่ึ ตอ้ งพบเปน็ ประจำ� ) ไม่ควรกังวลมากเกนิ ไป 126 กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ ือ อาหารบำ� บัด โรคไตเสอ่ื ม องคก์ รดา้ นสขุ ภาพชนั้ นำ� ของโลกใหก้ ารรบั รองวา่ แดชไดเอทวา่ เปน็ อาหารทใ่ี สใ่ จสขุ ภาพ ไดร้ บั การแนะนำ� โดยมลู นธิ ิ National Kidney Foundation สมาคม National Heart, Lung and Blood Institute สมาคม American Heart Association เนื่องจากเป็นอาหารท่ี สอดคล้องกบั แนวทางของ Dietary Guidelines for Americans และ USDA My Pyramid. การศกึ ษาวจิ ยั แสดงใหเ้ หน็ วา่ อาหารแดช ชว่ ยลด ความดันโลหิต ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและ มะเร็ง และลดความเส่ียงของการเกิดนิ่วในไต แดชไดเอทอุดมไปด้วย ผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์นมไขมันต�่ำ ธัญพืช ปลา สัตว์ปีก ถั่ว เมล็ดพืช ลดเกลอื และโซเดียม ลดน้ำ� ตาลและขนมหวาน ไขมนั และเน้อื แดง อาหารแดชไดเอทได้รับการยอมรับในการรักษาโรคความดัน โลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไต อาหารแดชไดเอทสามารถชะลอการ ลุกลามของโรคหัวใจและโรคไตได้ หากคุณป่วยโรคไตเร้ือรังอยู่แล้ว คุณควรปรึกษากับแพทย์และนักก�ำหนดอาหารก่อนเริ่มกินเน่ืองจาก คณุ อาจมขี อ้ จำ� กดั เปน็ พเิ ศษบางประการ สำ� หรบั ผทู้ ไี่ ดร้ บั การลา้ งไตไมค่ วร ใชอ้ าหารแดช เนอ่ื งจากผู้ทไี่ ดร้ บั การลา้ งไตมีความตอ้ งการอาหารเปน็ พเิ ศษทค่ี วรปรึกษากบั นกั โภชนาการ อาหารแดชไดเอท ชะลอไตเส่ือม การน�ำอาหารแดชไดเอท มาบริโภคเพื่อชะลอไตเส่ือม มีหลัก การดังน้ี กองการแพทย์ทางเลอื ก 127 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข
ค่มู ือ อาหารบ�ำบัด โรคไตเส่ือม 1. ผัก ควรรับประทานวันละ 4-5 ส่วน เช่น ผักสด 2 ทัพพี ผักตม้ สกุ 1 ทพั พี 2. ผลไม้ ควรรบั ประทานวนั ละ 4-5 สว่ น เชน่ ผลไมท้ กุ ชนิด ผลไมอ้ บแหง้ หรอื ผลไม้ 1 สว่ นเทา่ กบั ผลไม้ 1 ผลเลก็ ผลไมแ้ หง้ 4 ชอ้ นโตะ๊ 3. ธัญพืช ข้าวไม่ขัดสี ควรรับประทานวันละ 6-8 ส่วน เช่น เมด็ มะมว่ งหิมพานต์ เมลด็ ทานตะวัน ขา้ วกลอ้ ง งาด�ำ หรือขา้ วธัญพืช 1 สว่ นเท่ากับ ข้าวสวย 1 ทพั พี ธญั พชื สกุ 1 ทัพพี ขนมปัง 1 แผน่ 4. นมไขมันต�่ำ ควรรับประทานวันละ 2-3 ส่วน เชน่ นมพร่อง มนั เนย นมไมม่ ไี ขมนั หรอื นมไขมนั ตำ�่ 1 สว่ นเทา่ กบั นมไขมนั ตำ่� 1 กลอ่ ง โยเกิร์ตไขมันตำ่� 1 ถว้ ย 5. เนอ้ื สตั วต์ ่างๆ ควรรับประทานวนั ละ 3-6 สว่ น เชน่ เนอื้ ปลา เนอื้ สตั วใ์ หญไ่ มต่ ดิ มนั หรอื เนอื้ สตั วต์ า่ ง ๆ 1 สว่ นเทา่ กบั เนอ้ื สตั วไ์ มต่ ดิ มนั ไม่มหี นังแบบสุก 2 ช้อน ไขไ่ ก่ 1 ฟอง ไขข่ าว 2 ฟอง 6. ถ่ัวต่าง ๆ ควรรับประทานวันละ 1 ส่วน เช่น ถ่ัวลิสง ถ่ัวอลั มอนด์ ถั่วเหลอื ง หรอื ถ่ัว 1 สว่ นเท่ากับ ถั่วเปลอื กแขง็ 5 ชอ้ นโต๊ะ เมล็ดธัญพืช 2 ช้อนโต๊ะ ถ่วั เมลด็ แห้งตา่ ง ๆ สกุ 8 ช้อนโต๊ะ 7. ของหวาน ควรรับประทานสัปดาห์ละ 5 คร้ังหรือน้อยกว่า หรือของหวาน 1 ส่วน เท่ากับนำ�้ ตาล 1 ช้อนโต๊ะ แยม 1 ชอ้ นโตะ๊ ทัง้ น้ี ไมค่ วรเน้นรับประทานของหวานมากเกินไป 128 กองการแพทยท์ างเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คูม่ ือ อาหารบ�ำบัด โรคไตเสือ่ ม คำ� แนะน�ำ การเนน้ และเพมิ่ ปรมิ าณเนอื้ ปลาจะชว่ ยเพม่ิ กรดไขมนั โอเมกา้ 3 ท่ีช่วยบ�ำรุงหัวใจ และต้องไม่ลืมจ�ำกัดปริมาณอาหาร ออกก�ำลังกาย สมำ�่ เสมอ ควบคมุ นำ้� หนกั ใหอ้ ยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน และตรวจเชค็ สขุ ภาพ ปลี ะครงั้ เพอ่ื จะไดม้ รี ะดบั ความดนั โลหติ ทเ่ี หมาะสมและมหี วั ใจทแี่ ขง็ แรง การรับประทานอาหารเพ่ือชะลอไตเส่ือมนั้น ท่ีส�ำคัญคือให้ ตระหนกั และพยายามคอ่ ย ๆ ปรบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคเพอื่ ใหเ้ หมาะสม กับตนเอง ซึ่งหลักการอาหารบ�ำบัดโรคไตเสื่อมในแต่ละประเภทที่ กล่าวมาข้างต้น มีท้ังข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่โดยรวมของ หลักการบรโิ ภคเพื่อป้องกันโรคน้ัน คอื ควรรบั ประทานใหห้ ลากหลาย เชน่ ไมร่ บั ประทานอาหารทซ่ี ำ�้ ๆ และไมจ่ าํ เปน็ ตอ้ งรบั ประทานแตส่ ลดั ผกั หรือผักน้�ำพริกผักต้มเสมอไป ไม่ควรรับประทานส่ิงใดสิ่งหนึ่งมาก จนเกนิ ไป เชน่ นำ้� มนั มะกอก เพราะรบั ประทานมากไปกไ็ มด่ ี สว่ นวติ ามนิ และแร่ธาตุในสารอาหารก็มีความจําเป็นอย่างย่ิงในการดํารงชีวิต ซึ่งร่างกายสร้างเองไมไ่ ด้ แตก่ ารหาอาหารเสรมิ พวกวติ ามนิ สังเคราะห์ มารับประทานอาจเป็นอนั ตรายมากกว่า หรือมีความเสยี่ งทีจ่ ะเปน็ พิษ เปน็ มะเรง็ หรอื โรคหวั ใจ และกลายเปน็ สาเหตใุ หเ้ สยี ชวี ติ กอ่ นวยั อนั ควร ส�ำหรับผู้ป่วยโรคไต เพราะในชีวิตจริงร่างกายได้รับวิตามินธรรมชาติ จากผักและผลไม้มากพอเพียงพอ แต่ส�ำหรับผู้ท่ีต้องการรับประทาน วิตามนิ เสริม ควรปรกึ ษาแพทยก์ ่อนรับประทานเสมอ กองการแพทยท์ างเลอื ก 129 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คู่มอื อาหารบำ� บดั โรคไตเส่ือม ทม่ี า : กินอยา่ งไรใหไ้ ตแข็งแรง บทสรปุ อาหารทางเลือกส�ำหรับโรคไตเสื่อม จากหลักการและวิธีการ รบั ประทานดงั กลา่ วขา้ งตน้ ในการรบั ประทานอาหารแตล่ ะประเภทนนั้ มีความสอดคล้องกันท้ังในแง่ของการบริโภคและแนวคิด ซ่ึงสามารถ น�ำไปปรับใช้ได้ให้ตรงกับความต้องการของร่างกาย ซ่ึงจะเป็นปัจจัย สำ� คญั ในการชะลอหรอื การฟน้ื ฟใู หไ้ ตทำ� งานไดต้ ามปกตโิ ดยมแี นวทาง ดังน้ี 130 กองการแพทย์ทางเลอื ก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คูม่ อื อาหารบ�ำบัด โรคไตเสือ่ ม 1. โปรตนี 1.1 ผปู้ ว่ ยทเี่ ปน็ โรคไตเสอ่ื มระยะที่ 1-2 สามารถรบั ประทาน โปรตนี ได้ปกติ 1 กรัมต่อนำ�้ หนกั ตัว 1 กโิ ลกรมั ควรเน้นปลา เนอ้ื สัตว์ ไมต่ ิดมัน อกไก่ ควรเลีย่ งเนื้อสตั วแ์ ปรรปู ทม่ี กี ารปรงุ รส ซ่ึงสอดคลอ้ ง กบั หลักการรับประทาน เชน่ อาหารคลีนเพื่อสขุ ภาพ อาหารแมคโคร ไบโอตกิ ส์ และอาหารแดชไดเอท เปน็ ต้น 1.2 ผู้ป่วยโรคไตเสื่อม ระยะท่ี 3-4-5 (ไตวายเร้ือรัง) ต้องจ�ำกัดโปรตนี 0.6-0.8 กรัมตอ่ นำ้� หนกั ตวั 1 กโิ ลกรมั หรือถา้ จ�ำกัด มากกวา่ นนั้ ไดค้ อื 0.4 กรมั ตอ่ นำ้� หนกั ตวั 1 กโิ ลกรมั เนน้ การรบั ประทาน โปรตนี คณุ ภาพดี ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั หลกั การรบั ประทาน เชน่ อาหารมงั สวริ ตั ิ อาหารเจ เป็นตน้ 2. โซเดียม ไมค่ วรทานเกินวันละ 2,000 มลิ ลกิ รัมตอ่ วนั หรอื ประมาณ 1 ช้อนชา ควรเล่ียงการใช้เคร่ืองปรุงรสท่ีมีโซเดียมสูง เลี่ยงอาหารแปรรูปเพ่อื การเกบ็ ถนอมอาหาร ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั หลักการ รับประทานอาหารแดชไดเอท 3. โพแทสเซยี ม ในผปู้ ่วยโรคไตระยะที่ 4-5 ไม่ควรรบั ประทาน เกนิ 1,500 มลิ ลกิ รมั ตอ่ วนั ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั หลกั การรบั ประทานอาหาร แดชไดเอท 4. ฟอสฟอรัส ไม่ควรรับประทานเกิน 800 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ปว่ ยโรคไตเสอื่ มระยะ 3-4-5 ควรเลี่ยงการรบั ประทานนม ผลิตภัณฑ์ จากนมทุกชนิด และไข่แดง ถั่วเมล็ดแห้งทุกชนิด เต้าหู้ถ่ัวเหลือง ซง่ึ สอดคลอ้ งกับหลกั การรับประทานอาหารแดชไดเอท กองการแพทยท์ างเลือก 131 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ ือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเสอื่ ม 5. นำ�้ มกี ารจำ� กดั น�้ำในผู้ป่วยบวมนำ�้ หรือแพทยเ์ ป็นผู้กำ� หนด ประมาณ 1,000 ถึง 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ในรายที่ไตเส่ือมมาก อาจลดเหลือเพียง 500 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ รบั ประทานของอาหารคลนี เพื่อสุขภาพแบบจำ� กดั พลังงาน 6. พลงั งาน ค�ำนวณจากน้ำ� หนกั ตัว 1 กโิ ลกรัมตอ้ งการพลงั งาน 30 กิโลแคลลอร่ี ในกรณีท�ำงานปานกลาง ถ้าท�ำงานเบาน้�ำหนัก 1 กิโลกรัมต่อ 25 กิโลแคลลอร่ีแทน ควรได้รับพลังงานเพียงพอ ท้ังคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมนั โดยเฉพาะไขมนั ควรเปน็ ไขมันไมอ่ ่ิมตวั ในรายท่ีต้องระมัดระวังฟอสฟอรัสในเลือดสูงให้เล่ียงการรับประทาน ข้าวกล้อง ธัญพืชไมข่ ดั สี จะเห็นได้ว่าแนวทางการรับประทานอาหารน้ัน มีความส�ำคัญ ในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ดงั นนั้ การมอี าหารทางเลอื กทม่ี คี ณุ ภาพและหลากหลาย จงึ มปี ระโยชน์ อยา่ งมากต่อการน�ำไปใช้ โดยท้งั นี้จำ� เปน็ ตอ้ งศกึ ษาและท�ำความเขา้ ใจ ในอาหารแตล่ ะประเภท เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมและเกดิ ประโยชนส์ งู สดุ ในการ ดแู ลสขุ ภาพ แตใ่ นกรณีทเ่ี ปน็ โรคไตเร่มิ ต้นแลว้ การเข้ารบั การดแู ลจาก แพทย์ รบั ประทานยาสมำ�่ เสมอ พบแพทยต์ ามนดั และเลอื กรบั ประทาน อาหารทเี่ หมาะสม ยงั คงเปน็ แนวทางปฏบิ ตั ทิ ส่ี ำ� คญั ทจ่ี ะไมใ่ หเ้ กดิ ภาวะ ไตเสอื่ มได้ 132 กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื อาหารบ�ำบดั โรคไตเสื่อม บทที่ 4 อาหารเสรมิ ส�ำหรับบ�ำบัดโรคไตเสอื่ ม นางศิริชดา เปลง่ พานชิ นกั วิชาการสาธารณสขุ ช�ำนาญการ นางสาวพมิ พรรณ ลาภเจรญิ เภสัชกรปฏิบตั ิการ ผักชี ผักชีไทย (Coriander) หรือ ช่ือตามภูมิภาคต่าง ๆ ของ ประเทศไทย ผกั หอม (ภาคอสิ าน) ผกั หอมนอ้ ย (ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ) ผกั หอมป้อม (ภาคเหนอื ) ผกั หอมผอมยำ� แย้ (ภาคใต)้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ Coraindrum sativum L. ช่อื วงศ์ Apiaceae (Umbelliferae-Parsley family) เป็นผักพื้นบ้าน จ�ำพวกพืชไม้ล้มลุกฤดูเดียว ทุกส่วนมีกล่ินเฉพาะตัว ล�ำต้นเรียวยาว สูง 10-40 ซม. ใบประกอบแบบขนนกสามช้ัน ใบย่อยเป็นเส้นฝอย ดอกช่อแบบซ่ีร่มสองช้ัน ออกท่ีปลายยอดและซอกก่ิง ดอกย่อยสีขาว หรอื ขาวแกมชมพู ผลแหง้ รปู ไขแ่ กมทรงกลมสนี ำ�้ ตาลออ่ น แยกเปน็ 2 ฝา การศึกษาฤทธ์ทิ างชวี ภาพ พบวา่ ผักชี มฤี ทธิต์ า้ นอนุมลู อิสระ ทด่ี ี เนอ่ื งจากมสี ารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระเปน็ สว่ นประกอบ ไดแ้ ก่ catechin, quercetin, kampferol และ coriandrinสาร catechins คือสารกลุ่ม phenolic เป็นสารโภชนเภสัช (nutraceutical) ท่ีมีศักยภาพเป็น กองการแพทย์ทางเลอื ก 133 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ อื อาหารบ�ำบดั โรคไตเส่ือม ประโยชนก์ บั สขุ ภาพ มฤี ทธต์ิ า้ นอนมุ ลู อสิ ระ และเปน็ chelating agent มคี ณุ สมบตั ทิ ด่ี ใี นการเขา้ จบั และรวมตวั กบั ไออนของโลหะหนกั ซง่ึ สาร สำ� คญั ในผกั ชี มอี งคป์ ระกอบโครงสรา้ งทางเคมที ปี่ ระกอบดว้ ยกลมุ่ สาร ทม่ี ปี ระจลุ บ จงึ มปี ระสทิ ธภิ าพสงู ในการเขา้ จบั กบั โลหะหนกั ทม่ี ปี ระจบุ วก เชน่ ตะกวั่ (Pb++) สว่ น quercetin เปน็ สารพฤกษเคมี (phytonutrients) ท่ีมีฤทธ์ิทางชีวภาพ พบเฉพาะในพืช มีฤทธ์ิต่อต้านหรือป้องกันโรคได้ หลายประเภท เช่น มีฤทธิ์ในการป้องกนั การอักเสบ ป้องกันแบคทเี รยี และไวรัส ป้องกันอาการแพ้ ปกป้องหลอดเลือด ป้องกันมะเร็ง และ ชะลอความชรา การศกึ ษาทางเคมี พบสารประกอบหลกั ในผกั ชี ไดแ้ ก่ Volatile components, flavonoids และ socoumarins สารประกอบทพ่ี บ ในสว่ นของใบ คอื 2-decenoic acid, E-11-tetradecenoic acid และ capric acid มีรายงานวิจัยด้านฤทธ์ิทางชีวภาพของผักชีเพ่ือพัฒนา เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ พบวา่ ผกั ชมี ฤี ทธติ์ า้ นอนมุ ลู อสิ ระ ตา้ นเชอ้ื แบคทเี รยี และ เชื้อรา และมีคณุ สมบตั ิเป็น antidiabetic และ hepatoprotective ท่ีดี รายงานผลการใช้ใบผักชีสกัดด้วยเอธานอลทดสอบกับเซลล์มะเร็ง พบวา่ สารสกดั ใบผกั ชี มฤี ทธเิ์ ปน็ สารตา้ นอนมุ ลู อสิ ระ และตา้ นมะเรง็ ลำ� ไส้ สว่ นการทดสอบฤทธติ์ อ่ สารตะกวั่ มผี ลการวิจัย สารสกัดผักชสี ามารถ ปอ้ งกนั ภาวะตะกวั่ เปน็ พษิ ในหนทู ดลอง ซง่ึ ผลการทดลองมคี วามสมั พนั ธ์ กับฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของสารสกัด และโครงสร้างสารประกอบ ทางเคมที ีพ่ บในผกั ชี 134 กองการแพทย์ทางเลอื ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มือ อาหารบ�ำบัด โรคไตเสอื่ ม สารออกฤทธิ์ในส่วนของผักชที ่ีมีการศึกษา75 ใบและล�ำตน้ มสี ารส�ำคญั ท่ีมฤี ทธิ์ ดงั น้ี สารกลมุ่ ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) เชน่ quercetin, quercetin 3-glucuronide, isoquercitrin, quercetin-3-O-beta-glucuronide, rutin สารกลุม่ แลคโตน (lactones) เช่น coumarins, coriandrin (furoisocoumarin), coriandrones (isocoumarins), alantolactone, isoalantolactone สารกลมุ่ phenolic acids เชน่ tannic, gallic, caffeic, cinnamic, chlorogenic, ferulic, และ vanillic acids สารกลมุ่ แทนนนิ (tannins) สารกลุ่มคาโรทีนอยด์ (carotenoids) เช่น beta-carotene น�้ำมันหอมระเหย ประกอบดว้ ยสารกล่มุ monoterpenes และ ses- quiterpenes ไดแ้ ก่ 2E-decenal, decanal, 2E-decen-1-ol, และ n-decanol ผลและนำ้� มันหอมระเหย สารกลุ่มแอลกอฮอลิก (Alcohols) เช่น linalool สารกลมุ่ ไฮโดรคารบ์ อน (Hydrocarbons) เชน่ monoterpenes สารกลุ่มคโี ตน (Ketones) เชน่ camphor สารกลมุ่ เอสเตอร์ (Esters) เชน่ geranyl acetate, linalyl acetate สารกลุ่ม Fatty acids เชน่ petroselinic acid, linoleic acids สารกลมุ่ Polyunsaturated fatty acid เชน่ α-linolenic acid สารกลมุ่ Sterols เชน่ stigmasterol, β-sitosterol β-Carotene กองการแพทยท์ างเลือก 135 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คูม่ อื อาหารบ�ำบดั โรคไตเสื่อม รูปท่ี 1 โครงสร้างทางเคมีของสารสำ� คญั ท่ีพบในผกั ชีไทย ข้อควรระวงั 76 เมอ่ื กนิ พรอ้ มกบั ยาหรอื สมนุ ไพรทอ่ี อกฤทธล์ิ ดนำ้� ตาลในเลอื ด ผลผักชีและสารสกัดจากผลผักชีมีฤทธิ์ลดน�้ำตาลในเลือดได้ ดังน้ัน ควรระวงั เมอื่ กนิ พรอ้ มกบั ยาหรอื สมนุ ไพรทอี่ อกฤทธลิ์ ดนำ�้ ตาลในเลอื ด เชน่ glimepiride, glyburide, insulin, pioglitazone, rosiglitazone, กรงเลบ็ ปศี าจ (devil’s claw), ลกู ซดั (fenugreek), guar gum, โสมเกาหลี (Panax ginseng), โสมไซบเี รยี (Siberian ginseng) เป็นตน้ เนือ่ งจาก อาจจะเสรมิ ฤทธิ์กนั สง่ ผลใหเ้ กิดภาวะนำ�้ ตาลในเลอื ดต�่ำได้ 136 กองการแพทยท์ างเลอื ก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มอื อาหารบำ� บดั โรคไตเสอ่ื ม เมอื่ กนิ พรอ้ มกบั ยาหรอื สมนุ ไพรทอี่ อกฤทธลิ์ ดความดนั โลหติ ผลผักชีมีฤทธิ์ลดความดันโลหิตได้ ดังนั้นควรระวังเม่ือกินพร้อมกับยา หรอื สมุนไพรทอ่ี อกฤทธล์ิ ดความดันโลหิต เชน่ captopril, enalapril, losartan, valsartan, diltiazem, amlodipine, hydrochlorothiazide, furosemide, ฟ้าทะลายโจร (andrographis), casein peptides, ต้นเลบ็ แมว (cat’s claw), coenzyme Q-10, น�้ำมนั ปลา (fish oil), L-arginine, เกา๋ กี้ (lyceum), stinging nettleและ theanine เปน็ ตน้ เน่อื งจากอาจจะเสริมฤทธกิ์ ันส่งผลให้เกดิ ภาวะความดันโลหิตต�ำ่ ได้ เม่ือกินพร้อมกับสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารท่ีมีฤทธ์ิ กดประสาทสว่ นกลาง สารสกดั ผลผกั ชมี ฤี ทธก์ิ ดประสาทสว่ นกลาง ดงั นนั้ ควรระวังเม่ือกินพร้อมกับสมุนไพรหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารท่ีมีฤทธิ์ กดประสาทสว่ นกลาง เชน่ 5-Hydroxytryptophan (5-HTP), calamus, หญ้าแมว (catnip), hops, Jamaican หมาไม้ (dogwood), kava, St. John’s wort, skullcap, valerian และ yerba mansa เป็นตน้ เนอื่ งจากอาจจะเสรมิ ฤทธกิ์ ารกดประสาทสว่ นกลางได้อาการไมพ่ งึ ประสงค์ การใชท้ างผวิ หนงั อาจทำ� ใหแ้ พไ้ ดถ้ า้ ถกู แสง เนอ่ื งจากผลผกั ชมี สี ารกลมุ่ คมู าริน กองการแพทย์ทางเลอื ก 137 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
ค่มู ือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเส่อื ม การศกึ ษาทางพษิ วทิ ยาและความปลอดภยั 77 ผลการทดสอบพิษเฉียบพลันของสารสกัดของผลผักชีด้วย เอทานอล 50 เปอร์เซนต์ โดยให้หนูทดลองกินในขนาด 10 กรัมต่อ นำ้� หนักตวั 1 กิโลกรัม (คดิ เป็น 6,250 เทา่ เปรียบเทยี บกบั ขนาดรกั ษา ในคน) และให้โดยการฉีดเขา้ ใต้ผวิ หนงั หนู ในขนาด 10 กรัมตอ่ น้ำ� หนกั ตัว 1 กิโลกรัม ตรวจไม่พบอาการเป็นพษิ สรรพคณุ ของผกั ชใี นการศึกษาและแหลง่ ขา่ วต่าง ๆ 1. พบวา่ ผกั ชสี ามารถปอ้ งกนั การการสะสมของตะกว่ั ในหนขู าว เพื่อป้องกนั ไม่ใหน้ ำ� ไปสู่ผลเสียต่อไตของหนูขาวได7้ 8 2. มีรายงานท่ีพบว่าการกินซุปผักชีช่วยลดสารปรอทในผู้ที่มี สารอะมัลกมั ของฟนั ได7้ 9 3. สารสกดั จากผกั ชชี ว่ ยเพม่ิ การทำ� งานของไต ในเดก็ 3-7 ขวบ ทีม่ ีตะกว่ั ในเลอื ดได8้ 0 4. ดกั ลาส ชาวเวอร์ หวั หนา้ โครงการเพอื่ เทคโนโลยดี า้ นสารเคมี ท่วี ทิ ยาลยั ชมุ ชน Ivy Tech Community College (TECK) ในเมอื ง Lafayette รฐั Indiana สหรฐั เอมริกา ได้นำ� ทมี นกั ศกึ ษาจากย่านทลู า วัลเลย์ ทีอ่ ยูใ่ กล้กบั กรุงเมก็ ซโิ กซิต้ี เมอื งหลวงของเม็กซโิ ก เพื่อท�ำการ ค้นหาวัสดุธรรมชาติที่ราคาถูก มีอยู่อุดมสมบูรณ์ทั่วไปในพื้นท่ีและ สามารถกรองสารเคมีอันตรายจากโรงงานอุตสาหกรรมท่ีปนเปื้อน ในนำ�้ ใตด้ นิ ได้ ทมี งานทนี่ ำ� โดยคณุ ชาวเวอ่ รไ์ ดท้ ำ� การทดสอบพชื หลายพนั ธ์ุ 138 กองการแพทยท์ างเลือก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
ค่มู ือ อาหารบำ� บัด โรคไตเสอ่ื ม ที่พบท่ัวไปในเม็กซิโก โดยได้น�ำพืชเหล่านี้ไปตากแห้งและบดละเอียด คุณชาวเวอร์ หัวหน้าทมี วิจยั กล่าวกบั ผูส้ ่ือขา่ ววีโอเอวา่ หลงั จากทีมงาน น�ำพืชทดลองไปตากแห้งและบดละเอียดแล้ว ทีมงานได้น�ำผงพืช บดละเอยี ดผสมในของเหลวและเตมิ สารตะกว่ั ลงไปตามปรมิ าณทก่ี ำ� หนด โดยทีมงานใช้สารตะกั่วเป็นตัวทดลอง หลังจากนั้นได้เขย่าส่วนผสม ใหเ้ ข้ากนั วางทิ้งไวใ้ หต้ กตะกอน กอ่ นจะทำ� การวดั ดูระดบั สารตะกวั่ ใน ส่วนผสมว่ามีอยู่ปริมาณเท่าไหร่ คุณเชาเวอร์กล่าวว่าการทดสอบของ ทีมนักศึกษาพบว่าผักชีไทยมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการกรองสาร ตะกัว่ ออกจากนำ้� ทปี่ นเป้ือนสารโลหะหนัก คณุ เชาเวอร์กลา่ วว่าเช่ือว่า คุณสมบัติของพืชบางชนิดในการดูดซับทางชีวภาพน่าจะมาจากเซลล์ พเิ ศษในผนงั เซลลข์ องพชื ซงึ่ เลก็ มาจนมองดว้ ยตาเปลา่ ไมเ่ หน็ แมจ้ ะไม่ สามารถอธิบายได้ว่าผักชีจะดูดซับสารตะก่ัวได้อย่างไร คุณเชาเวอร์ แนะน�ำว่าผู้คนที่อาศัยในพื้นท่ีใกล้โรงงานอุตสาหกรรมหรือในเขตทูลา วัลเลย์ ใกล้กรุงนิวเม็กซิโกซิตี้ ควรใช้ผักชีไทยในการกรองน้�ำด่ืม คุณชาวเวอร์ หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าคนที่อาศัยในพ้ืนท่ีท่ีมีมลพิษ ในน้ำ� ใตด้ นิ สามารถเดด็ ผักชีทปี่ ลูกไวใ้ นสวนหลังบา้ นสกั ก�ำมอื ใหญ่ ๆ ไปตากให้แห้งบนก้อนหินกลางแดด แล้วน�ำไปกรองน้�ำดื่มหนึ่งเหยือก คณุ เชาเวอร์ หวั หน้าทีมวจิ ยั เชื่อวา่ วันหนง่ึ ในอนาคต ผกั ชไี ทยตากแหง้ จะสามารถน�ำไปแปรรูปเพื่อพร้อมใช้ คล้ายกับชาถุง หรือ อาจจะท�ำ เปน็ ใสก้ รองนำ�้ เพอ่ื ชว่ ยดดู กรองเอาสารโลหะหนกั ออกจากนำ้� ใตด้ นิ ได8้ 1 กองการแพทย์ทางเลอื ก 139 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ ือ อาหารบ�ำบัด โรคไตเสือ่ ม 5. รายงานถงึ นำ้� มนั หอมระเหยทสี่ ะกดั จากใบผกั ชี สามารถปอ้ งกนั การเจรญิ เตบิ โตของ เชอื้ C. albicans ได้ สว่ นในอนาคตมีการศึกษา ถงึ ความเปน็ พษิ ของนำ�้ มนั หอมระเหยในหอ้ งทดลอง ถา้ มคี วามปลอดภยั คาดว่าน่าจะน�ำมาใช้ในการรักษาโรคทางช่องปาก เช่น ผู้มีปัญหา ทางช่องปากจากการใส่ฟันปลอม82 6. ผกั ชีไทย มีสารแอนตอี้ อกซเิ ดนท์ทีส่ ามารถป้องกนั มะเร็งได้ โดยพบว่าพชื ชนดิ น้ที ำ� ให้ oxidative stress ลดลง ซ่ึงคาดว่าในอนาคต สามารถผลติ เปน็ ยาที่ช่วยรักษามะเร็งได8้ 3 7. ผักชีซึ่งมี protease (เอนไซม์ที่ท�ำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาการ ไฮโดรไลซ์โปรตีน (protein) ที่สามารถก�ำจัดโลหะหนักที่เด่น ๆ คือ ปรอทและสงั กะสีได8้ 4 8. ผลผักชีเมื่อน�ำมาสกัดในรูปของไซรับ มีประสิทธิผลในการ ลดอาการปวดและความถใี่ นไมเกรนได8้ 5 9. สารสกดั จากเมด็ ผกั ชที ำ� ใหห้ นทู ฉ่ี ดี ดว้ ยสาร Streptozotocin (สารที่ฉีดจ�ำเพาะต่อ beta-cells ของตับอ่อน ท�ำให้สัตว์ทดลอง ไมส่ ามารถผลติ อนิ ซลู นิ ไดอ้ กี เลย นน่ั คอื ทำ� ใหส้ ตั วท์ ดลองเปน็ เบาหวาน ชนดิ พงึ่ อนิ ซลู นิ ) กลบั มกี ารเพมิ่ ของเบตา้ เซลลใ์ นเซลลข์ องตบั ออ่ น และ ลดระดบั กลโู คสในหนทู ฉี่ ดี ดว้ ยสาร Streptozotocin อยา่ งมนี ยั สำ� คญั 86 10. สารละลายทส่ี กดั จากผกั ชี (aqueous extract of coriander) สามารถลดระดบั นำ�้ ตาลในหนทู ฉี่ ดี ดว้ ยสาร Streptozotocin (สารทฉี่ ดี แล้วท�ำให้หนูเป็นเบาหวาน) โดยสารสกัดจากผักชีนี้ท�ำให้มีการหล่ัง อนิ ซลู ินท่ีมีประสิทธิภาพในการท�ำงาน (insulin-like activity)87 140 กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ อื อาหารบำ� บดั โรคไตเสือ่ ม 11. สารสกดั นำ�้ มนั หอมระเหยจากผกั ชี สามารถยบั ยงั้ การเจรญิ เตบิ โตของเชอ้ื รา (Candida albicans) ทอ่ี ยใู่ นชอ่ งปากของผทู้ ม่ี ปี ญั หา เหงือกและฟนั 88 รูปท่ี 2 ลูกผกั ชี ผักชีในต�ำรับยาไทย89 ช่อื เครอ่ื งยา ผกั ชีลา ส่วนท่ีใช้ ผล ลกั ษณะภายนอกของเครอื่ งยา ผลแกแ่ หง้ รปู ทรงกลม (mericarps) สนี ำ้� ตาลออ่ น ประกอบดว้ ย cremocarp 2 อนั ผลแกแ่ ห้งแลว้ แตก แตล่ ะ cremocarp มขี นาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 มิลลิเมตร ผิวนอกสีเหลืองน้�ำตาลถึงสีน้�ำตาล มีสันประมาณ 10 อนั ผนงั เปน็ คลืน่ พบส่วนกลีบเลย้ี งและเกสรตวั เมีย หลงเหลอื อยู่ ผลมีกล่ินหอมเฉพาะ รสเผด็ กองการแพทย์ทางเลอื ก 141 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คูม่ ือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเส่อื ม ลักษณะทางกายภาพและคณุ สมบัติทางเคมีทีด่ ีของผักชลี า ปริมาณความชื้นไม่เกิน 13 เปอร์เซนต์ w/w (เภสัชต�ำรับอังกฤษ) ปรมิ าณสงิ่ แปลกปลอมไมเ่ กนิ 2 เปอรเ์ ซนต์ w/w ปรมิ าณเถา้ รวมไมเ่ กนิ 6 เปอรเ์ ซนต์ w/w ปรมิ าณเถา้ ทไ่ี มล่ ะลายในกรด ไมเ่ กนิ 1.5 เปอรเ์ ซนต์ w/w ปริมาณสารสกัดเอทานอล ไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซนต์ w/w สารสกดั นำ�้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 19 เปอรเ์ ซนต์ w/w ปรมิ าณนำ้� มนั หอมระเหย ไมน่ อ้ ยกว่า 0.3 เปอรเ์ ซนต์ v/w (เภสัชตำ� รบั อินเดีย) สรรพคุณของผกั ชีลาตามหลักการแพทยแ์ ผนไทย ตำ� รายาไทย ผลผักชลี ามรี สหวานฝาดรอ้ นหอม (สุขุม) แก้พิษ ตานซาง ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ บ�ำรุงธาตุ แก้สะอึก แก้กระหายน�้ำ แกค้ ลน่ื ไสอ้ าเจยี น เปน็ นำ้� กระสาย ยาแกอ้ าเจยี น แกต้ าเจบ็ แกล้ มวงิ เวยี น บ�ำรุงกระเพาะอาหาร ทำ� ใหเ้ จรญิ อาหาร แก้บดิ ถ่ายเปน็ เลือด คัว่ บด ผสมสรุ ากนิ แกร้ ดิ สดี วงทวารมเี ลอื ดออก ตม้ เอานำ้� อมบว้ นปาก แกป้ วดฟนั แก้เจ็บในปากคอ บญั ชยี าจากสมนุ ไพรทมี่ กี ารใชต้ ามองคค์ วามรดู้ ง้ั เดมิ ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ระบุการใช้ผลผักชีลา ในยารักษากลุ่ม อาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏในต�ำรับ “ยาธาตุบรรจบ” มสี ว่ นประกอบของผลผกั ชลี ารว่ มกบั สมนุ ไพรชนดิ อนื่ ๆในตำ� รบั มสี รรพคณุ บรรเทาอาการท้องอดื เฟ้อ และอาการอุจจาระธาตพุ กิ าร ท้องเสยี ท่ไี ม่ ตดิ เชอ้ื 142 กองการแพทย์ทางเลอื ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คูม่ อื อาหารบ�ำบดั โรคไตเสื่อม การศกึ ษาทางเภสัชวิทยา90 ฤทธิป์ อ้ งกันการเกดิ แผลในกระเพาะอาหาร ท�ำการทดลองโดยให้ผงเมล็ดผักชีลา น�ำมากระจายตัวในน�้ำ ในขนาด 250 และ 500 มลิ ลกิ รมั ตอ่ กโิ ลกรมั แกห่ นแู รท สายพนั ธว์ุ สิ ตาร์ โดยให้สารอาหารไปยังกระเพาะอาหารหนู เป็นเวลา 30 นาที ก่อนจะ ไดร้ บั สารทกี่ ระตนุ้ ให้เกดิ แผลในกระเพาะอาหาร ไดแ้ ก่ 25 เปอร์เซนต์ NaCl, 0.2M NaOH, 80 เปอร์เซนต์ ethanol และยาตา้ นการอกั เสบ indomethacin (30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม) ผลยับยั้งการเกิดแผล ในกระเพาะอาหาร พบว่าผงผักชีลา ขนาด 250 มลิ ลกิ รัมต่อกิโลกรมั ลดการเกดิ แผลในกระเพาะอาหารทเ่ี หนยี่ วนำ� ดว้ ย NaCl ได้ ผลผกั ชลี า ขนาด 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ทีเ่ หนยี่ วนำ� ดว้ ย NaCl และ ethanol ได้ ผลตอ่ การปกป้องเยอ่ื เมอื ก ที่กระเพาะอาหาร ท่ีเหน่ียวน�ำให้เยื่อเมือกในกระเพาะอาหารลดลง ดว้ ย 80 เปอรเ์ ซนต์ ethanol พบวา่ การใหผ้ งผกั ชลี าในขนาด 250 และ 500 มลิ ลกิ รมั ตอ่ กโิ ลกรมั แกห่ นแู รท กอ่ นใหเ้ อทานอล ทำ� ใหร้ ะดบั ของ เย่ือเมือกกลับมาสู่ภาวะปกติได้ แต่ผงผักชีลาไม่สามารถยับย้ังการเกิด แผลในกระเพาะอาหารท่เี หน่ียวนำ� ด้วย indomethacin ฤทธคิ์ ลายความวติ กกงั วล91 การศึกษาฤทธ์ิคลายกังวล ของสารสกัดน�้ำจากเมล็ดผักชีลา ในหนถู บี จกั รเพศผู้ เมอื่ อยใู่ นสภาพแวดลอ้ มทอ่ี นั ตราย โดยถา้ สารมฤี ทธ์ิ กองการแพทย์ทางเลือก 143 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
คู่มือ อาหารบำ� บดั โรคไตเสอื่ ม คลายกงั วล หนจู ะเขา้ ไปใน open arm หรอื ใชเ้ วลาใน open arm นานขนึ้ ภายในเวลา 5 นาที การทดสอบใชส้ ารสกดั ในขนาด 10, 25, 50, 100 มลิ ลกิ รมั ตอ่ กโิ ลกรมั โดยการฉดี เขา้ ชอ่ งทอ้ งของหนู พบวา่ ทข่ี นาด 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีฤทธ์ิในการคลายกังวล โดยท�ำให้หนูใช้เวลาอยู่ ใน open arm นานขน้ึ ดงั นน้ั สารสกดั นำ�้ จากเมลด็ ผกั ชลี า จงึ มศี กั ยภาพ ในการนำ� ไปพัฒนายาคลายความวิตกกังวล และอาจมฤี ทธิเ์ ปน็ ยานอน หลบั ไดด้ ้วย ฤทธท์ิ างชวี วิทยาของผักชี (biological activity)92 ทผ่ี า่ นมามกี ารใชผ้ กั ชสี ำ� หรบั ลดนำ้� ตาลในเลอื ดในการแพทยพ์ นื้ บา้ น ของหลายประเทศ เช่น ซาอุดิอาระเบีย และโมรอคโค เป็นต้น โดยมีการศึกษาที่พบว่าสารส�ำคัญในในผลผักชีลดน�้ำตาลในเลือดได้ อาทิ การศึกษาสารสกัดจากเม็ดผักชีท�ำให้หนูทดลองที่ฉีดด้วยสาร Streptozotocin (สารทฉ่ี ดี จ�ำเพาะต่อ beta-cells ของตับอ่อน ทำ� ให้ ไมส่ ามารถผลติ อนิ ซลู นิ ไดอ้ กี เลย นน่ั คอื ทำ� ใหส้ ตั วท์ ดลองเปน็ เบาหวาน ชนดิ พงึ่ อนิ ซลู นิ ) ผลการศกึ ษาพบวา่ หนทู ดลองทกี่ นิ สารสกดั ดว้ ยเอทา นอลจากผลผกั ชขี นาด 200 และ 250 มลิ ลิกรมั ต่อกโิ ลกรมั กลบั มกี าร เพิ่มของเบตา้ เซลลใ์ นเซลลข์ องตบั ออ่ น และระดบั กลโู คสลดลงอยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทางสถติ เิ มอื่ เปรยี บเทยี บกบั กลมุ่ ควบคมุ นอกจากนย้ี งั มกี ารศกึ ษา ใหส้ ารละลายทสี่ กดั จากผกั ชี (aqueous extract of coriander) ในหนู ทดลองพบวา่ สามารถลดระดบั นำ�้ ตาลในหนทู ฉี่ ดี ดว้ ยสารStreptozotocin เนื่องจากสารสกัดจากผักชีท�ำให้มีการหล่ังอินซูลินท่ีมีประสิทธิภาพ 144 กองการแพทย์ทางเลอื ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คู่มือ อาหารบำ� บัด โรคไตเสอ่ื ม (insulin-like activity) มกี ารศกึ ษาในหลอดทดลอง พบว่า ผักชสี ง่ ผล เพมิ่ การนำ� กลโู คสเขา้ สเู่ ซลล์ (glucose uptake), เรง่ ปฎกิ ริ ยิ า oxidation ของกลโู คส, มผี ลตอ่ การสรา้ งไกลโคเจน รวมถงึ มผี ลเพมิ่ การหลงั่ อนิ ซลู นิ อกี ด้วย ในปี ค.ศ. 1999 Chithra and Leelamma และคณะอธบิ าย กลไกการลดนำ้� ตาลของสารสำ� คญั ในผกั ชี ไวว้ า่ การไดร้ บั ผงของลกู ผกั ชี (seed powder) ส่งผลเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต เพม่ิ ปรมิ าณของไกลโคเจนภายในตบั และเพมิ่ การสงั เคราะห์ glycogen สง่ ผลลดกระบวนการ glycogenolysis และ gluconeogenesis ตลอด จนเรง่ การทำ� งานของเอนไซม์ glucose-6-phosphate dehydrogenase สง่ ผลใหร้ ะดบั นำ�้ ตาลในเลอื ดลดตำ�่ ลง นอกจากนม้ี กี ารศกึ ษาถงึ ผลการ ขับปัสสาวะของสารสกัดจากผลผักชีต่อการขับปัสสาวะในหนูทดลอง ที่ท�ำให้สลบ ผลการศึกษา พบว่าสารสกัดจากผลผักชีมีผลเพิ่มการ ขบั นำ้� ปสั สาวะ (urine output), เพ่ิมการขบั electrolytes และเพิม่ อตั ราการกรองทไ่ี ตด้วยกลไกเชน่ เดียวกับยาขับปัสสาวะ furosemide การศกึ ษาของ Jabeen และคณะในปี 2009 ศกึ ษาผลของสารสกดั จาก ลูกผักชี (aqueous-methanolic extract) พบว่ามีผลต่อภาวะ dyspepsia, abdominal colic,diarrhea, ความดันโลหิต และ ขับปัสสาวะในสัตว์ทดลอง โดยมีผลลดความดันโลหิตในหนูท่ีสลบ ผ่านสารท่ีส่งผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด และ endothelial- dependent (cholinergic) และ independent (Ca++ channel blockade) pathways) กองการแพทย์ทางเลอื ก 145 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ ือ อาหารบ�ำบดั โรคไตเสอ่ื ม แผนภาพ แสดงกลไกออกฤทธขิ์ องสาร linalool ในผกั ชี ทีม่ ีผลต่อการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมัน และลดความดนั โลหิตในรา่ งกาย กองการแพทยท์ างเลอื ก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ ทางเลือก ได้ท�ำการศึกษาประสิทธิผลและความปลอดภัยของผักชี บดแห้งชนิดแคปซูลต่อประสิทธิผลการท�ำงานของไตในผู้ป่วยไตเรื้อรัง ระยะ 3 : การทดลองแบบสุ่มและมกี ลมุ่ ควบคุม (Effectiveness and safety of Grinded Dry Capsule of Coraindrum sativum on kidney function of patients with chronic kidney disease stage 3: A Randomized Control Trial) ในปี พ.ศ.2562 การศึกษานี้ มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ศกึ ษาประสทิ ธผิ ลและความปลอดภยั ของผกั ชบี ดแหง้ ชนดิ แคปซลู ตอ่ ประสทิ ธผิ ลการทำ� งานของไตในผปู้ ว่ ยไตเรอ้ื รงั ระยะ 3 ของโรงพยาบาลเสาไห้เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสระบุรี ด�ำเนินการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมชนิดปกปิดสองทาง 146 กองการแพทย์ทางเลอื ก กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลือก กระทรวงสาธารณสุข
คูม่ อื อาหารบำ� บัด โรคไตเสอ่ื ม กลุ่มตวั อยา่ งจำ� นวน 100 คน แบง่ เปน็ กลมุ่ ทดลอง 50 คน กลมุ่ ควบคมุ 50 คน และ มกี ลมุ่ ตวั อยา่ งทผี่ า่ นเกณฑก์ ำ� หนดของงานวจิ ยั จำ� นวน 86 คน มีช่วงอายุเฉล่ียที่ 68 ปี โดยกลุ่มทดลองเป็นกลุ่มที่ใช้โมเดลการรักษา ดว้ ยวิธีการรกั ษาปฐมภมู ิและได้รบั ผักชบี ดแหง้ ชนิดแคปซลู ขนาด 400 มลิ ลกิ รมั จำ� นวน 2 แคปซลู ตอ่ วัน รบั ประทานวนั ละ 1 คร้ัง หลังอาหาร 15-30 นาที เปน็ ระยะเวลา 12 สปั ดาห์ ในกลุ่มควบคุมเปน็ กลมุ่ ทใ่ี ช้ โมเดลการรักษาด้วยวิธีปฐมภูมิและได้รับยาหลอกท่ีมีลักษณะปริมาณ และระยะเวลาเหมือนกับกลุ่มทดลอง วัดผลค่าชีวเคมีในเลือดที่ส�ำคัญ ได้แก่ คา่ การทำ� งานของไต กรดยูรกิ และประเมินความปลอดภยั จาก ค่าการท�ำงานของตับและอาการแสดงอ่ืน ๆ ภายนอก ผลการการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวธิ ี Generalized linear models พบว่า คา่ สารชวี เคมตี า่ ง ๆ ของผู้ปว่ ยโรคไตท่ใี ชโ้ มเดลการดแู ลผูป้ ว่ ย โรคไตดว้ ยรปู แบบการรกั ษาแบบปฐมภมู ิ (Usual care) และใหแ้ คปซลู ผักชีความคกู่ ัน โดยเปรยี บเทียบกบั กลมุ่ ที่รักษาดว้ ยระดบั ปฐมภมู แิ ละ ไดร้ บั ยาหลอกทคี่ ลา้ ยผกั ชี เพอ่ื ทดสอบความเหมาะสมของโมเดลในการ รกั ษาแบบผสมผสานโดยการใหผ้ กั ชแี คปซลู เสรมิ การรกั ษาแบบปฐมภมู ิ นั้นให้ค่าความเหมาะสมของโมเดลการรักษาแบบผสมผสานว่า มคี วามเหมาะสมทค่ี า่ Intercept (p-value=0.00) และพบความสมั พนั ธ์ ในกลุ่มของโมเดลการรักษาแบบผสมผสาน เม่ือติดตามผลการวิจัยใน ครั้งท่ี 1 ของ e-GFR ทีม่ คี า่ โปรตนี ในปสั สาวะลดลง (p-value=0.00) ในขณะทีผ่ ลการติดตามผลครง้ั ที่ 2 และ 3 กลบั มคี ่าโปรตนี ในปัสสาวะ กองการแพทยท์ างเลือก 147 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คู่มือ อาหารบำ� บัด โรคไตเสอื่ ม เพมิ่ ขน้ึ ซงึ่ อาจเกดิ จากกลมุ่ ตวั อยา่ งไมไ่ ดร้ บั ประทานผกั ชแี คปซลู อยา่ ง สม�่ำเสมอ (0.141, 0.177) และเมื่อพิจารณา ค่า Urine protein เรม่ิ ลดลงในการตดิ ตามผลต้ังแต่ ครง้ั ท่ี 2 เปน็ ตน้ ไป และถึงแมจ้ ะเกบ็ ข้อมูลในช่วงระยะพัก (washout period) ก็ยังคงค่าของโปรตีนใน ปัสสาวะท่ีดีอยู่ (p-value=0.001) ซ่ึงสอดคล้องกับค่าอัลบูมินใน ปสั สาวะขนาดเลก็ ตอ่ คา่ ครเี อตนิ นี (UACR) ในขณะทค่ี า่ การตรวจ AST (SGOT) และ ALT (SGPT) ซึง่ เป็นคา่ การท�ำงานของตับ เปน็ ตวั บง่ ชีว้ ่า กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับผักชีแคปซูลทั้งต่อเน่ืองและไม่ต่อเน่ือง ไม่มีผลต่อ คา่ ทแ่ี สดงถงึ การทำ� งานของตบั ทผ่ี ดิ ปกติ และเมอ่ื พจิ ารณาคา่ Uric acid พบวา่ ลดลงในการตดิ ตามผล ครงั้ ท่ี 2-3 ซง่ึ เปน็ แนวทางในการพจิ ารณา ถงึ ความไมต่ อ่ เนอื่ งของการรบั ประทานผกั ชแี คปซลู การใชร้ ปู แบบการ รกั ษาผปู้ ว่ ยโรคไตแบบผสมผสานทใ่ี หผ้ กั ชแี คปซลู รว่ ม พบวา่ คา่ ชวี เคมี มีแนวโน้มที่ดีข้ึน แต่เน่ืองจากระยะเวลาในการทดลองยังไม่นานพอ ประกอบกับในการทดลองควรจะมีแนวทางในการเก็บข้อมูลการ รับประทานผักชีแคปซูลอย่างต่อเน่ือง เม่ือกลุ่มตัวอย่างเข้ามารับการ ติดตามผลจากโครงการวิจัยเพื่อน�ำผลไปวิเคราะห์เปรียบเทียบกับค่า ชีวเคมีของผู้ป่วยโรคไตซึ่งจะท�ำให้ผลการทดลองแม่นย�ำข้ึน จึงควรมี การท�ำวจิ ัยอย่างตอ่ เนื่องตอ่ ไป 148 กองการแพทยท์ างเลอื ก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทยท์ างเลอื ก กระทรวงสาธารณสขุ
คมู่ ือ อาหารบำ� บดั โรคไตเสื่อม บทสรปุ : จากข้อมูลทางด้านวิชาการข้างต้น แสดงให้เห็นว่าผักชี มคี ณุ ประโยชนต์ อ่ สขุ ภาพทงั้ ทางดา้ นระบบทางเดนิ อาหาร มฤี ทธปิ์ กปอ้ ง ตับ ไต และสมอง อีกทงั้ ยังมผี ลลดน�้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือด และสภาวะไตเส่ือม แตก่ ารกนิ ในปริมาณมาก อาจกอ่ ให้ เกิดโทษได้ มีผลตอ่ การกลายพนั ธ์ุ เกิดมีพษิ ตอ่ ตบั และสมอง ผกั ชอี าจ จะก่อให้เกิดการแพ้ ผื่นแพ้ ผิวหนังไวต่อแสงแดด เยี่อบุจมูกและตา อกั เสบจากภูมิแพ้ และหอบหืดได้ ฉะนน้ั การกนิ ผักชี ควรกินในขนาด พอเหมาะ เพอ่ื ให้เกิดประโยชน์สงู สดุ กองการแพทย์ทางเลอื ก 149 กรมการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทย์ทางเลอื ก กระทรวงสาธารณสุข
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162