คู่มอื ครรู ายวิชาพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | การหาร ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เลม่ 2 หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร ์ ป.2 หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 6 | การหาร บทท่ี 6 | การหาร เติมตัวเลขแสดงจาำ นวน ตรวจสอบความเข้าใจ 6 × 4 = 24 เติมตวั เลขแสดงจาำ นวน 2 24 ÷ 6 = 4 4 × 7 = 28 24 ÷ 4 = 6 1 8 × 3 = 24 28 ÷ 4 = 7 ผลคูณของสองจาำ นวนใด เมือ่ หารด้วยจาำ นวนใดจำานวนหน่ึง 28 ÷ 7 = 4 ในสองจาำ นวนน้นั จะไดผ้ ลหารเทา่ กบั จาำ นวนท่เี หลอื 24 ÷ 8 = 3 24 ÷ 3 = 8 4 1 7 × 5 = 35 3 5 × 8 = 40 35 ÷ 7 = 5 40 ÷ 5 = 8 35 ÷ 5 = 7 6 × 9 = 54 40 ÷ 8 = 5 54 ÷ 6 = 9 54 ÷ 9 = 6 2 2 × 9 = 18 18 ÷ 2 = 9 18 ÷ 9 = 2 3 8 × 6 = 48 4 3 × 7 = 21 สง่ิ ท่ีได้เรียนรู้ 21 ÷ 7 = 3 48 ÷ 8 = 6 จำานวนสองจำานวนคูณกัน ผลคณู ท่ไี ด้หารดว้ ยจำานวนใดจำานวนหนึง่ 48 ÷ 6 = 8 21 ÷ 3 = 7 ในสองจำานวนน้นั ผลหารคือจำานวนอีกจาำ นวนหน่งึ | 19สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบฝึกหดั 6.4 20 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุม่ ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ พิจารณาตัวอย่างในหนงั สือเรยี นหนา้ 19 แลว้ ให้สังเกตวา่ ผลคณู ของสองจำ�นวนใด เม่ือหารดว้ ยจ�ำ นวนใดจำ�นวนหน่งึ ในสองจำ�นวนน้นั ผลหารคือจ�ำ นวนอีกจำ�นวนหน่งึ เชน่ 6 × 4 = 24 ดังนนั้ 24 ÷ 6 จะได้ผลหารเทา่ กบั 4 และ 24 ÷ 4 จะได้ผลหารเทา่ กับ 6 ครูอาจยกตวั อย่างเพม่ิ เตมิ 1 – 2 ตัวอยา่ ง จากน้ันใหแ้ ต่ละกลุม่ ช่วยกนั ท�ำ กิจกรรมขอ้ 1 ถึง 4 ตามหนังสือเรียนหนา้ 19 เมอื่ แต่ละกลุ่มท�ำ เสรจ็ แลว้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง การตรวจสอบความเขา้ ใจ 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยใหน้ กั เรยี นเตมิ ตวั เลขแสดงจ�ำ นวน ขอ้ 1 ถงึ 4 ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 20 จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ ถ้าพบว่ามีนักเรยี นทีเ่ ตมิ ตวั เลขแสดงจ�ำ นวนไม่ถูกตอ้ ง ครูควรใหน้ กั เรยี นฝึกเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ การคูณและประโยคสญั ลกั ษณ์การหารทแี่ สดงความสัมพนั ธข์ องการคูณและการหารเป็นรายบุคคล สิง่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ จ�ำ นวนสองจำ�นวนคูณกัน ผลคณู ท่ไี ดห้ ารดว้ ยจ�ำ นวนใดจำ�นวนหน่ึงในสองจ�ำ นวนนน้ั ผลหารคือ จ�ำ นวนอีกจำ�นวนหน่ึง จากนน้ั ใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝึกหัด 6.4 หนา้ 9 - 10 14 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | การหาร คูม่ อื ครูรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาป�ที ่ 2 เลม่ 2 6.5 การหาผลหารโดยใช้ความสัมพันธ์ของ หนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 การคูณและการหาร บทที่ 6 | การหาร จดุ ประสงค์ 6.5 การหาผลหารโดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ ของการคณู และการหาร หาผลหารโดยใช้ความสัมพันธข์ องการคณู และการหาร พฒั นาความรู้ จากรูปเขยี นแสดงความสัมพันธ์ ของการคณู และการหารได้อย่างไร ส่อื การเรยี นรู้ 3 × 6 = 18 18 ÷ 3 = 6 18 ÷ 6 = 3 − บตั รภาพแสดงจาำ นวนส่งิ ต่าง ๆ วางเปน็ กลมุ่ สามารถหาผลหาร โดยใช้ความสัมพนั ธ์ของการคูณและการหาร กล่มุ ละเท่า ๆ กัน 16 ÷ 2 = ใช้ความสัมพนั ธข์ องการคูณและการหาร − ตารางสูตรคูณแม่ 2 ถึงแม่ 9 เขียนประโยคสญั ลักษณ์การคูณได้อยา่ งไร สูตรคูณแม ่ 2 แนวการจดั การเรียนรู้ 2 × 1 = 2 16 ÷ 2 = การพฒั นาความรู้ 2 × 2 = 4 2 × 3 = 6 2 × = 16 2 × 4 = 8 2 × 5 = 10 หาผลหาร 16 หารดว้ ย 2 วา่ เทา่ กบั จาำ นวนใด 2 × 6 = 12 โดยหาว่า 2 คูณกบั จาำ นวนใดเท่ากับ 16 2 × 7 = 14 2 × 8 = 16 2 × 8 = 16 2 × 9 = 18 ดงั นัน้ 16 ÷ 2 = 8 1. ครทู บทวนความสมั พนั ธข์ องการคณู และการหาร | 21สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยนาำ บัตรภาพแสดงจำานวนส่ิงตา่ ง ๆ วางเป็นกลมุ่ กลุ่มละเท่า ๆ กัน มาใหน้ ักเรียนเขยี นแสดงความสมั พันธ์ หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 ของการคณู และการหาร เช่น บทที่ 6 | การหาร 3 × 6 = 18 30 ÷ 5 = หาผลหารโดยใชค้ วามสัมพนั ธข์ องการคูณและการหาร 18 ÷ 3 = 6 5 คณู กบั จาำ นวนใด เท่ากบั 30 สูตรคูณแม ่ 5 5 × 1 = 5 5 × = 30 5 × 2 = 10 5 × 6 = 30 5 × 3 = 15 ดังน้ัน 30 ÷ 5 = 6 5 × 4 = 20 5 × 5 = 25 5 × 6 = 30 5 × 7 = 35 5 × 8 = 40 5 × 9 = 45 หาผลหารทาำ ไดโ้ ดยหาจาำ นวนทีน่ ำามาคณู กับตวั หาร แลว้ ไดผ้ ลคูณเทา่ กบั ตัวตั้ง 18 ÷ 6 = 3 1 27 ÷ 9 = จากประโยคสัญลกั ษณก์ ารคูณ 3 × 6 = 18 ทาำ ใหเ้ ราทราบไดว้ ่า 18 ÷ 3 = 6 และ 18 ÷ 6 = 3 9 คูณกับจำานวนใด เท่ากับ 27 ดังน้นั ถ้าต้องการหาผลหารของจาำ นวนสองจาำ นวนใด ๆ สามารถหาได้จากประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณ 9 × 3 = 27 จากน้ันครูให้นักเรยี นพจิ ารณาโจทยก์ ารหาร ดังนนั้ 27 ÷ 9 = 3 2 48 ÷ 6 = 6 คณู กับจาำ นวนใด เทา่ กับ 48 6 × 8 = 48 ดงั น้นั 48 ÷ 6 = 8 22 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 16 ÷ 2 = แลว้ ถามนักเรยี นวา่ จะหาผลหาร ไดอ้ ยา่ งไร (หาไดจ้ ากประโยคสัญลกั ษณก์ ารคูณ 2 คณู จำานวนใด แล้วไดผ้ ลคูณเทา่ กบั 16) ซง่ึ ใช้ ความสมั พันธข์ องการคูณและการหารเขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์การคณู จะได ้ 2 × = 16 ครอู าจให้นกั เรยี นทอ่ งสตู รคูณแม่ 2 หรือใชต้ ารางสตู รคณู แม ่ 2 จะไดว้ า่ 2 คณู 8 เท่ากบั 16 ครูสรุปว่า ดงั นัน้ 16 ÷ 2 = 8 และสรปุ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจอกี ครั้งหน่ึงวา่ การหาผลหารของ 16 หารดว้ ย 2 สามารถใชค้ วามสัมพนั ธ์ของการคูณและการหารหาผลหารได ้ โดยหาว่า 2 คูณจาำ นวนใด เท่ากบั 16 ในทีนี้ 2 คูณ 8 เท่ากบั 16 ดงั น้ัน 16 ÷ 2 = 8 ตามหนงั สอื เรียนหน้า 21 ครยู กตวั อย่างเพิ่มเตมิ ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 22 | 15สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | การหาร ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 เล่ม 2 หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนงั สือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 6 | การหาร บทท่ี 6 | การหาร หาผลหารโดยใช้ความสมั พันธ์ของการคณู และการหาร ตรวจสอบความเข้าใจ 2 4 ÷ 4 = หาผลหารโดยใชค้ วามสมั พันธ์ของการคูณและการหาร 24 ÷ 4 = 6 4 × 6 = 24 1 14 ÷ 2 = 7 2 24 ÷ 3 = 8 3 32 ÷ 4 = 8 4 25 ÷ 5 = 5 1 40 ÷ 8 = 5 2 27 ÷ 3 = 9 5 9 ÷ 9 = 1 6 7 ÷ 1 = 7 3 7 ÷ 7 = 1 4 36 ÷ 6 = 6 5 4 5 ÷ 9 = 5 6 5 ÷ 5 = 1 7 5 ÷ 1 = 5 8 1 8 ÷ 1 = 18 ส่ิงที่ไดเ้ รยี นรู้ สังเกต จาำ นวนใดหารดว้ ย 1 จะไดผ้ ลหารเท่ากับจาำ นวนนน้ั การหาผลหารโดยใช้ความสมั พนั ธ์ของการคูณและการหาร จำานวนเดียวกันหารกนั ไดผ้ ลหารเทา่ กบั 1 ตอ้ งหาจาำ นวนทีน่ าำ มาคูณกบั ตัวหารแลว้ ได้ผลคูณเทา่ กบั ตวั ต้งั | 23สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบฝึกหัด 6.5 24 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม ให้แต่ละกลุม่ พจิ ารณาตัวอย่างการหาผลหารโดยใชค้ วามสมั พันธ์ ของการคณู และการหารตามหนงั สือเรยี นหน้า 23 และหาผลหารขอ้ 1 ถึง 8 เม่อื แตล่ ะกลุ่ม ท�ำ เสร็จแลว้ ครูและนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง สำ�หรบั โจทยก์ ารหารข้อ 7 และ 8 ครูให้นกั เรียนสังเกตวา่ จ�ำ นวนใดหารดว้ ย 1 จะได้ผลหารเท่ากบั จำ�นวนนัน้ และส�ำ หรับโจทย์ การหาร ข้อ 3 และ 6 ครูใหน้ กั เรียนสงั เกตวา่ จำ�นวนเดียวกันหารกันจะไดผ้ ลหารเท่ากบั 1 การตรวจสอบความเขา้ ใจ 3. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยหาผลหาร โดยใชค้ วามสมั พันธ์ของการคณู และ การหารขอ้ 1 ถึง 6 ตามหนงั สือเรียนหน้า 24 จากน้นั ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และสรุปสิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ ถ้าพบวา่ มีนกั เรียนท่ีหาผลหารไมถ่ กู ตอ้ ง ครูควรใหน้ กั เรยี นฝกึ หาผลหาร เปน็ รายบุคคล สิ่งที่ได้เรยี นรู้ การหารผลหารโดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ของการคูณและการหาร ต้องหาจำ�นวนทนี่ �ำ มาคูณกบั ตัวหาร แลว้ ได้ผลคณู เท่ากับตวั ตัง้ จากนัน้ ให้นักเรยี นท�ำ แบบฝกึ หัด 6.5 หนา้ 11 - 13 16 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 6 | การหาร ค่มู ือครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 6.6 การหารลงตัวและการหารไมล่ งตวั หนังสือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 จุดประสงค์ บทที่ 6 | การหาร จากสถานการณ์การหารทกี่ �ำ หนด สามารถเขยี นเป็น 6.6 การหารลงตัวและการหารไมล่ งตวั ประโยคสญั ลักษณ์การหารทเ่ี ปน็ การหารลงตวั หรือเขียนในรปู การหารทเ่ี ปน็ การหารไมล่ งตวั พฒั นาความรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ กจิ กรรม จดั ได้กกี่ อง อุปกรณ์ 1. ตัวนบั 2. แบบบันทึกกิจกรรม วธิ จี ัดกจิ กรรม ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ แจกตวั นบั กลมุ่ ละ 20 อนั ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ปฏบิ ตั ติ าม การจัดตัวนับเป็นกองในแบบบนั ทึกกิจกรรมทลี ะข้อ เติมจำานวนกองที่จดั ได้ และจำานวนตัวนับท่ีเหลอื จากการจัดเป็นกอง ตวั อยา่ งแบบบันทึกกิจกรรม −− ตวั นับ ขอ้ ท่ี จาำ นวนตัวนบั ทงั้ หมด จาำ นวนตวั นบั จำานวนกอง จาำ นวนตวั นบั ทเี่ หลอื จาก ทีน่ ำามาจัดเปน็ กอง ในแตล่ ะกอง ที่จดั ได้ ตวั นบั ทง้ั หมดทน่ี าำ มาจดั เปน็ กอง แนวการจดั การเรยี นรู้ การพัฒนาความรู้ 18 2 -4 ................. ............................. 2 14 ................. ............................. 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ ท�ำ กจิ กรรม “จดั ไดก้ ก่ี อง” 29 4 -3 ................. ............................. ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 25 แตล่ ะกลมุ่ บนั ทกึ ผลการท�ำ กจิ กรรม 4 23 ................. ............................. ในแตล่ ะขอ้ ลงในแบบบนั ทกึ กจิ กรรม เมอ่ื นกั เรยี นท�ำ กจิ กรรม 3 12 3 -5 ................. ............................. 3 45 ................. ............................. 4 14 5 15 6 19 | 25สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสรจ็ แล้ว ครูทบทวนความหมายการหารวา่ มีตัวนับ 8 อนั หนงั สอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 จัดเปน็ กอง กองละ 4 อนั ได้ 2 กอง เขยี นเป็น บทท่ี 6 | การหาร ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหารได้ 8 ÷ 4 = 2 ครใู ห้นกั เรยี น จัดตวั นับ 9 อนั เปน็ กล่มุ กลุม่ ละ 4 อัน ไดก้ ีก่ ลุ่ม เหลอื ตวั นบั กอี่ นั สังเกตว่า การจดั ตวั นับเป็นกอง กองละเท่า ๆ กัน ข้อ 1 3 จดั ได ้ 2 กลุ่ม และเหลือตัวนบั 1 อัน และ 5 จัดเปน็ กองแลว้ ตวั นบั หมดพอดี ส�ำ หรบั ขอ้ 2 4 การจัดตัวนับ 9 อัน เป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 อนั และ 6 จดั เปน็ กองแลว้ มตี วั นบั เหลอื ครแู นะน�ำ วา่ การหาร จดั ได้ 2 กลุ่ม และมีตวั นับเหลอื 1 อัน ในข้อ 1 3 และ 5 เปน็ การหารลงตัว และการหารใน สามารถเขียนในรปู การหาร 9 ÷ 4 ได้ 2 เศษ 1 การหารทม่ี เี ศษ เปน็ การหารไม่ลงตัว เศษเป็นจาำ นวนท่ีเหลือจากการหาร สังเกต เศษน้อยกวา่ ตัวหาร ข้อ 2 4 และ 6 เป็นการหารไมล่ งตัว จดั ตวั นบั 8 อัน เปน็ กลมุ่ กล่มุ ละ 4 อัน ได้กี่กลมุ่ เหลอื ตวั นบั กี่อัน 2. ครูยกตัวอยา่ งการจัดตัวนบั 9 อัน เป็นกลมุ่ จัดได้ 2 กลุม่ หมดพอด ี ไมเ่ หลอื ตวั นบั กลมุ่ ละ 4 อนั ไดก้ ก่ี ลุ่ม เหลือตวั นับกอ่ี ัน ตามหนังสือเรยี น หนา้ 26 โดยใหน้ กั เรยี น จดั ตวั นบั ตามทค่ี รบู อก แลว้ จะเหน็ วา่ การจัดตัวนบั 8 อัน เป็นกลมุ่ กลุม่ ละ 4 อัน จดั ได้ 2 กลมุ่ จดั ตัวนับได้ 2 กลมุ่ และเหลือตัวนับ 1 อัน ครูแนะนำ�วา่ และตวั นบั หมดพอดี สามารถเขยี นประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหาร จากสถานการณน์ ้ี เขยี นในรปู การหารได้ 9 ÷ 4 ได้ 2 เศษ 1 8 ÷ 4 = 2 การหารทไ่ี ม่มเี ศษหรอื เศษเป็น 0 เปน็ การหารลงตวั 26 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การหารทีม่ ีเศษ เปน็ การหารไมล่ งตัว และเศษท่ีได้จากการหารจะนอ้ ยกวา่ ตวั หาร จากนนั้ ครยู กตวั อยา่ งการจัดตวั นบั 8 อัน เปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 อนั ไดก้ ก่ี ลมุ่ เหลอื ตวั นบั กอ่ี นั โดยใหน้ กั เรยี น จดั ตวั นบั ตามทค่ี รบู อก แลว้ จะเหน็ วา่ จดั ตวั นบั ได้ 2 กลมุ่ พอดี ไม่เหลือตัวนบั ครูแนะน�ำ วา่ จาก สถานการณน์ ี้ เขยี นประโยคสัญลักษณ์การหารได้ 8 ÷ 4 = 2 การหารทไ่ี มม่ เี ศษหรอื เศษเปน็ 0 เปน็ การหารลงตวั ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตวา่ ถา้ เปน็ การหารลงตวั จะใชค้ �ำ วา่ ประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหาร และถา้ เปน็ การหารไมล่ งตวั จะใชค้ �ำ วา่ เขยี นในรปู การหาร ครอู าจใชผ้ ลการท�ำ กจิ กรรม “จดั ได้กีก่ อง” ตามหนังสือเรียนหนา้ 25 ให้นักเรยี นเขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์การหาร หรอื เขียนในรูปการหารจาก สถานการณก์ ารหาร ข้อ 1 ถงึ 6 และให้นกั เรียนบอกวา่ ตวั ตั้ง ตัวหาร ผลหาร และเศษของแต่ละข้อ คอื จำ�นวนใด | 17สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | การหาร ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 เล่ม 2 หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทที่ 6 | การหาร บทท่ี 6 | การหาร ตรวจสอบความเข้าใจ จดั ตวั นบั 9 อนั เปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3 อนั ได ้ 3 กลมุ่ ตวั นบั หมดพอดี ประโยคสญั ลักษณก์ ารหาร 9 ÷ 3 = 3 เป็นการหารลงตวั เขียนประโยคสัญลกั ษณก์ ารหาร หรอื เขยี นในรปู การหาร และหาคำาตอบ 1 จดั ตัวนบั 15 อัน เปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ 3 อัน ไดก้ ก่ี ลุ่ม เหลือตัวนบั กอ่ี ัน ประโยคสัญลกั ษณก์ ารหาร 15 ÷ 3 = 5 ได้ 5 กลุ่ม ไมเ่ หลอื ตวั นับ ตวั นับ 11 อนั จดั เป็น 2 กลุม่ กลุ่มละเท่า ๆ กนั 2 จัดตัวนับ 17 อัน เป็น 4 กล่มุ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั ได้กลุ่มละกอ่ี นั จะไดก้ ลมุ่ ละ 5 อนั เหลือตวั นบั 1 อัน เหลอื ตัวนบั ก่อี นั เขียนในรปู การหาร 17 ÷ 4 ได้ 4 เศษ 1 เขยี นในรูปการหาร 11 ÷ 2 ได ้ 5 เศษ 1 เปน็ การหารไม่ลงตัว ได้ 4 กลุ่ม เหลือตัวนับ 1 อนั จดั ตัวนับ แล้วเขยี นประโยคสัญลกั ษณ์การหาร หรอื เขียนในรูปการหาร และหาคาำ ตอบ 1 จัดตัวนบั 12 อนั เป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 3 อัน ไดก้ ่กี ลุม่ และเหลือตัวนับกี่อนั ประโยคสญั ลักษณ์การหาร 12 ÷ 3 = 4 ได้ 4 กลุ่ม ไม่เหลือตวั นบั ส่ิงที่ได้เรียนรู้ 2 จัดตวั นับ 15 อัน เปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 4 อนั ไดก้ ีก่ ลุม่ และเหลือตวั นับกีอ่ นั เขยี นในรปู การหาร 15 ÷ 4 ได้ 3 เศษ 3 การหารท่ีมีเศษ เปน็ การหารไม่ลงตวั และเศษน้อยกวา่ ตวั หาร ได้ 3 กลมุ่ เหลือตัวนบั 3 อนั การหารที่ไม่มีเศษ หรือเศษเป็น 0 เป็นการหารลงตวั 3 จัดตัวนับ 17 อนั เปน็ 3 กลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน ไดก้ ลุ่มละกอ่ี ัน และเหลอื ตวั นบั กี่อนั เขยี นในรปู การหาร 17 ÷ 3 ได้ 5 เศษ 2 ได้ 5 กลุ่ม เหลอื ตัวนบั 2 อัน 4 จัดตวั นบั 20 อนั เปน็ 2 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กัน ไดก้ ลุม่ ละกอ่ี ัน ประโยคสัญลักษณ์การหาร 20 ÷ 2 = 10 และเหลอื ตวั นบั ก่ีอนั ได้ 10 กลุ่ม ไม่เหลือตวั นับ แบบฝกึ หดั 6.6 | 27สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 28 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. ส�ำ หรับตวั อย่างในหนังสอื เรยี นหนา้ 27 เป็นการนำ�เสนอการหารลงตวั และการหาร ไมล่ งตัวท่ีตอ้ งการใหน้ ักเรียนทบทวนความหมายการหาร 2 ลกั ษณะ คอื กำ�หนดจ�ำ นวนสมาชิกใน แตล่ ะกลมุ่ ใหห้ าจ�ำ นวนกลมุ่ และก�ำ หนดจ�ำ นวนกลมุ่ ใหห้ าจ�ำ นวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ ครแู บง่ นกั เรยี น เปน็ กลมุ่ และพจิ ารณาตัวอยา่ ง จากน้ันใหน้ กั เรียนท�ำ กิจกรรมข้อ 1 ถงึ 4 ใหเ้ ขยี นประโยคสัญลักษณ์ การหาร หรือเขียนในรูปการหาร และหาค�ำ ตอบโดยใช้ตัวนบั เสรจ็ แลว้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกัน ตรวจสอบความถกู ต้อง การตรวจสอบความเข้าใจ 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น โดยให้นักเรยี นเขยี นประโยคสญั ลักษณก์ ารหาร หรือเขียนในรปู การหาร และหาค�ำ ตอบขอ้ 1 และ 2 ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 28 จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรปุ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นร ู้ สิ่งท่ไี ด้เรยี นรู้ •• การหารทีม่ เี ศษเปน็ การหารไมล่ งตัว และเศษน้อยกว่าตัวหาร การหารท่ีไม่มีเศษหรือเศษเปน็ 0 เปน็ การหารลงตัว จากน้นั ใหน้ กั เรียน ทำ�แบบฝกึ หัด 6.6 หนา้ 14 - 15 18 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 6 | การหาร คู่มือครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 2 6.7 การหาผลหารและเศษ หนงั สือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร ์ ป.2 จุดประสงค์ บทที่ 6 | การหาร หาผลหารและเศษ 6.7 การหาผลหารและเศษ พฒั นาความรู้ สื่อการเรียนรู้ จัดนมเปรย้ี ว 6 ขวด ใสถ่ ุง ถุงละ 2 ขวด −− จดั ได้กีถ่ ุง แนวการจดั การเรียนรู้ ประโยคสัญลกั ษณ ์ 6 ÷ 2 = การพัฒนาความรู้ ใช้ความสมั พนั ธ์ของการคณู และการหาร 2 × = 6 1. ครทู บทวนการหาผลหารทีเ่ ป็นการหารลงตัว เนอ่ื งจาก 2 × 3 = 6 ดงั นั้น 6 ÷ 2 = 3 โดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ของการคณู และการหารตามตวั อยา่ ง 6 ÷ 2 = 3 เศษเท่ากับ 0 ดังนั้น จัดนมเปรี้ยวได ้ 3 ถุงพอดี ในหนงั สอื เรยี นหนา้ 29 จดั นมเปร้ยี ว 6 ขวด ใส่ถุง ถุงละ หาผลหารและเศษ 20 ÷ 5 = 2 ขวด จดั ได้ก่ถี งุ สามารถเขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ ์ ใชค้ วามสมั พันธข์ องการคณู และการหาร การหาร 6 ÷ 2 = จากน้ันให้นักเรยี นชว่ ยกันหา 5 × = 20 เนื่องจาก 5 × 4 = 20 ดงั นั้น 20 ÷ 5 = 4 และเศษเทา่ กับ 0 | 29สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผลหารโดยใชค้ วามสมั พนั ธ์ของการคูณและการหาร หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร ์ ป.2 ว่า 2 คณู จ�ำ นวนใดได้ผลคณู เท่ากับ 6 ซึ่งจะไดว้ ่า บทที่ 6 | การหาร 2 × 3 = 6 ดงั นั้น 6 ÷ 2 = 3 ครูแนะน�ำ 6 ÷ 2 = 3 จัดนมเปร้ยี ว 11 ขวด ใส่ถงุ ถงุ ละ 4 ขวด เป็นการหารลงตัวหรอื มเี ศษเทา่ กบั 0 ดังน้นั จัดนมเปร้ียว จัดได้ก่ีถุง และเหลอื ก่ขี วด ได้ 3 ถงุ พอด ี ครูยกตัวอยา่ งการหาผลหารและเศษของ ประโยคสญั ลักษณ ์ 11 ÷ 4 = 4 × 2 = 8 20 ÷ 5 = โดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องการคณู และการหาร ใช้ความสมั พนั ธข์ องการคูณและการหาร 4 × 3 = 12 ท�ำ นองเดยี วกันกบั ตวั อย่างข้างตน้ ซึง่ จะได้ 20 ÷ 5 = 4 4 × = 11 จดั ถงุ ละ 4 ขวด ได ้ 2 ถุง จัดไป 8 ขวด เหลอื 11 − 8 = 3 ขวด ดังนัน้ 11 ÷ 4 ได ้ 2 เศษ 3 จดั ได้ 2 ถงุ เหลือนมเปรย้ี ว 3 ขวด และเศษเท่ากับ 0 หาผลหารและเศษ 3 × 2 = 6 2. ครูยกตัวอย่างสถานการณ์การหารทเ่ี ป็น 7 ÷ 3 = 3 × 3 = 9 การหารไม่ลงตวั ตามตวั อย่างในหนงั สือเรียนหนา้ 30 ใชค้ วามสมั พันธ์ของการคูณและการหาร 3 × = 7 เน่อื งจาก 3 × 2 = 6 และ 7 − 6 = 1 ดงั น้ัน 7 ÷ 3 ได้ 2 เศษ 1 เช่น จดั นมเปรย้ี ว 11 ขวด ใส่ถงุ ถงุ ละ 4 ขวด 7 ÷ 3 ได ้ 2 เศษ 1 จะจดั นมเปรี้ยวได้กถี่ ุง และเหลอื นมเปร้ยี วกข่ี วด สังเกต ตัวหารคูณผลหาร แล้วบวกกับเศษเทา่ กบั ตวั ต้งั ครถู ามนกั เรยี นวา่ 3 × 2 = 6 และ 6 + 1 = 7 30 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี −− จากสถานการณ์เขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์การหารไดอ้ ย่างไร (11 ÷ 4 = ) −− ใชค้ วามสัมพันธ์ของการคณู และการหารหาผลหารและเศษไดอ้ ย่างไร (4 × = 11) −− 4 คณู จำ�นวนใด ไดผ้ ลคูณเท่ากบั 11 (ไมม่ จี ำ�นวนนบั ใดคณู 4 แลว้ ได้ 11) ครูแนะน�ำ วา่ เน่อื งจาก 4 × 2 = 8 และ 4 × 3 = 12 เกิน 11 จงึ เลอื ก 4 × 2 = 8 ดังนนั้ จัดนมเปรยี้ วใสถ่ ุง ถงุ ละ 4 ขวด ได้ 2 ถุง จดั ไปแลว้ 8 ขวด จะเหลือนมเปรี้ยว 11 – 8 = 3 ขวด ดงั น้ัน 11 ÷ 4 ได้ 2 เศษ 3 ครยู กตวั อยา่ ง 7 ÷ 3 = โดยใชค้ วามสมั พนั ธข์ องการคณู และการหาร จะไดว้ า่ 3 × = 7 เน่ืองจาก 3 × 2 = 6 และ 3 × 3 = 9 เกิน 7 จึงเลือก 3 × 2 = 6 และ 7 – 6 = 1 | 19สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | การหาร ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 2 ดงั น้ัน 7 ÷ 3 ได้ 2 เศษ 1 ครูเน้นยำ�้ ว่า ในการหาผลหารและเศษนัน้ ตัวหารคูณผลหาร แล้วบวกกับเศษจะเทา่ กบั ตวั ตัง้ เชน่ (3 × 2) + 1 = 7 หนังสือเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 6 | การหาร บทที่ 6 | การหาร หาผลหารและเศษ ตรวจสอบความเขา้ ใจ หาผลหารและเศษ 23 ÷ 5 = 5 × 4 = 20 ใช้ความสัมพันธ์ของการคูณและการหาร 5 × 5 = 25 5 × = 23 เนือ่ งจาก 5 × 4 = 20 และ 23 − 20 = 3 1 10 ÷ 8 = 2 19 ÷ 5 = ดังนัน้ 23 ÷ 5 ได ้ 4 เศษ 3 ได้ 1 เศษ 2 ได้ 3 เศษ 4 18 ÷ 6 = 18 ÷ 6 = 3 เป็นการหารลงตวั ใชค้ วามสัมพันธข์ องการคูณและการหาร ไมม่ ีเศษ หรอื เศษเทา่ กับ 0 6 × = 18 เนื่องจาก 6 × 3 = 18 3 35 ÷ 7 = 4 40 ÷ 9 = ดังนนั้ 18 ÷ 6 = 3 ได้ 5 เศษ 0 ได้ 4 เศษ 4 หาผลหารและเศษ 2 28 ÷ 7 = สิ่งทีไ่ ด้เรยี นรู้ 1 1 5 ÷ 9 = ได้ 4 เศษ 0 การหาผลหารที่ใชค้ วามสมั พนั ธ์ของการคูณและการหารทำาได้โดย หาจาำ นวนทน่ี ำามาคูณกับตัวหารแล้วผลคูณเท่ากับตัวต้ัง ได้ 1 เศษ 6 4 18 ÷ 2 = หรือใกล้เคียงกบั ตัวตัง้ มากท่สี ุดแตน่ ้อยกวา่ ตวั ตัง้ 3 23 ÷ 8 = ได้ 9 เศษ 0 แบบฝกึ หัด 6.7 ได้ 2 เศษ 7 6 31 ÷ 4 = 5 2 4 ÷ 3 = ได้ 7 เศษ 3 ได้ 8 เศษ 0 | 31สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 32 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. ครแู บ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาการหาผลหารและเศษเพ่ิมเตมิ จากหนงั สอื เรยี นหนา้ 31 และหาผลหารและเศษขอ้ 1 ถงึ 6 เสรจ็ แลว้ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง แลว้ สมุ่ ตวั แทนกลมุ่ ออกมาน�ำ เสนอการหาผลหารและเศษในแตล่ ะขอ้ พรอ้ มทง้ั อธบิ ายวธิ คี ดิ การตรวจสอบความเขา้ ใจ 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยใหน้ ักเรยี นหาผลหารและเศษข้อ 1 ถึง 4 ตามหนังสือเรียนหนา้ 32 จากน้ันครูและนกั เรยี น ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สิ่งทไ่ี ด้เรยี นรู้ ถ้าพบว่ามนี ักเรียนหาผลหารและเศษไม่ถูกต้อง ครูควรใหน้ ักเรียนฝึกการหาผลหาร และเศษโดยใชต้ ัวนบั เปน็ รายบุคคล สิ่งท่ีได้เรยี นรู้ การหาผลหารทใี่ ช้ความสมั พนั ธ์ของการคูณและการหารทำ�ได้โดย หาจ�ำ นวนท่นี �ำ มาคณู กบั ตวั หาร แลว้ ผลคณู เทา่ กบั ตวั ตั้ง หรือใกลเ้ คียงกบั ตัวต้ังมากทสี่ ดุ แตน่ อ้ ยกว่าตัวตัง้ จากน้ันให้นักเรยี นทำ�แบบฝกึ หดั 6.7 หน้า 16 - 18 20 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 6 | การหาร ค่มู ือครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เลม่ 2 6.8 การพฒั นาความรสู้ กึ เชงิ จ�ำ นวนเกย่ี วกบั การหาร หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 จุดประสงค์ บทที่ 6 | การหาร เปรยี บเทยี บผลหารเมอ่ื ตัวตงั้ เป็นจำ�นวนเดียวกนั หรอื 6.8 การพฒั นาความรสู้ กึ เชงิ จาำ นวนเกย่ี วกบั การหาร พัฒนาความรู้ ตัวหารเปน็ จ�ำ นวนเดยี วกนั กิจกรรม ผลหารมากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ (1) อุปกรณ์ บตั รโจทยก์ ารหารจาำ นวน 5 บัตร ท่ีตัวต้งั ในบัตรทุกบัตร เปน็ จำานวนเดียวกนั เชน่ 12 ÷ 1 12 ÷ 2 12 ÷ 3 สอื่ การเรยี นรู้ 12 ÷ 4 12 ÷ 6 −− บัตรโจทย์การหาร วิธจี ดั กจิ กรรม แนวการจดั การเรยี นรู้ 1. ครูแบง่ กลมุ่ นักเรยี น แล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ แขง่ กนั หาผลหาร โดยครสู มุ่ หยิบ การพฒั นาความรู้ บตั รโจทยก์ ารหารขน้ึ มาทลี ะบตั ร กลมุ่ ใดตอบกอ่ นและถกู ตอ้ งไดค้ ะแนน บตั รละ 1 คะแนน กล่มุ ใดไดค้ ะแนนมากทส่ี ดุ เปน็ ผชู้ นะ 1. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ ทำ�กิจกรรม “ผลหาร มากกว่าหรือนอ้ ยกวา่ (1)” ในการหาผลหารของโจทย ์ 2. ครูตดิ บัตรโจทย์การหารและเฉลยผลหารบนกระดาน โดยเรยี งลาำ ดับ จากตัวหารนอ้ ยไปตัวหารมาก ให้นักเรยี นสังเกตผลหาร และช่วยกัน สรปุ สิ่งทสี่ งั เกตได้ 3. ครตู ิดบัตรโจทยก์ ารหารและเฉลยผลหารบนกระดาน โดยเรียงลาำ ดบั จากตัวหารมากไปตัวหารน้อย ให้นักเรียนสงั เกตผลหาร และช่วยกัน สรุปสง่ิ ทส่ี งั เกตได้ การหารจาำ นวนสองจำานวนทต่ี วั ตัง้ เป็นจำานวนเดยี วกนั ถ้าตัวหารนอ้ ยกว่า ผลหารจะมากกว่า ถา้ ตวั หารมากกว่า ผลหารจะนอ้ ยกวา่ | 33สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การหารแตล่ ะบตั ร ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 33 นกั เรยี น อาจใชค้ วามสัมพนั ธ์ของการคูณและการหารในการ หนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 หาผลหาร เมื่อไดผ้ ลหารแลว้ ครูเขียนโจทยก์ ารหาร บทท่ี 6 | การหาร และผลหารบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนสังเกต ตวั ตง้ั ตวั หาร และผลหาร จะไดว้ ่า ตวั ตง้ั เป็นจ�ำ นวนเดยี วกนั กิจกรรม ผลหารมากกว่า หรอื น้อยกว่า (2) เมอ่ื น�ำ บตั รโจทย์ 2 บตั รมาเปรยี บเทยี บผลหารกนั อปุ กรณ์ บตั รโจทยก์ ารหารจาำ นวน 6 บตั ร ทีต่ วั หารในบตั รทกุ บตั ร จะได้ว่า ถา้ ตวั หารน้อยกว่า ผลหารจะมากกวา่ ถ้าตวั หาร เป็นจาำ นวนเดียวกัน เช่น มากกว่า ผลหารจะน้อยกวา่ หลังการทำ�กิจกรรมนักเรยี น ควรสรปุ ได้ว่า การหารจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่ตี วั ตง้ั เป็น 6÷3 9÷3 12 ÷ 3 จ�ำ นวนเดียวกัน ถ้าตวั หารน้อยกว่า ผลหารจะมากกว่า 15 ÷ 3 18 ÷ 3 21 ÷ 3 วธิ ีจัดกิจกรรม 1. ครแู บง่ กลุ่มนกั เรียน แลว้ ให้แต่ละกลุ่มแขง่ กันหาผลหาร โดยครู สมุ่ หยบิ บัตรโจทย์การหารขึน้ มาทีละบัตร กล่มุ ใดตอบก่อนและถกู ตอ้ ง ไดค้ ะแนนบัตรละ 1 คะแนน กลมุ่ ใดได้คะแนนมากทส่ี ดุ เปน็ ผู้ชนะ 2. ครูติดบัตรโจทยก์ ารหารและเฉลยผลหารบนกระดาน โดยเรยี งลำาดับ จากตวั ตง้ั น้อยไปตวั ต้ังมาก ใหน้ ักเรียนสังเกตผลหาร และช่วยกนั สรุป ส่งิ ที่สงั เกตได้ 3. ครูติดบตั รโจทยก์ ารหารและเฉลยผลหารบนกระดาน โดยเรยี งลำาดับ จากตัวต้งั มากไปตัวตงั้ นอ้ ย ให้นกั เรยี นสงั เกตผลหาร และชว่ ยกนั สรุป ส่งิ ที่สังเกตได้ ถ้าตัวหารมากกวา่ ผลหารจะน้อยกว่า การหารจาำ นวนสองจาำ นวนทต่ี วั หารเปน็ จาำ นวนเดยี วกนั 2. ครแู บง่ นกั เรียนเป็นกลุ่มทำ�กิจกรรม “ผลหาร ถ้าตัวตั้งมากกวา่ ผลหารจะมากกวา่ ถ้าตัวตั้งนอ้ ยกวา่ ผลหารจะน้อยกวา่ มากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ (2)” ในการหาผลหารของโจทยก์ ารหาร 34 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แตล่ ะบัตร ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 34 นักเรยี นอาจใช ้ ความสัมพันธ์ของการคณู และการหารในการหาผลหาร เม่อื ได้ผลหารแล้ว ครเู ขียนโจทย์การหาร และผลหารบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนสงั เกต ตัวตงั้ ตัวหาร และผลหาร จะได้ว่า ตัวหารเปน็ จำ�นวนเดยี วกัน เมือ่ น�ำ บตั รโจทย์ 2 บัตรมาเปรียบเทียบผลหารกัน จะได้วา่ ถา้ ตัวตง้ั มากกวา่ ผลหารจะมากกว่า ถา้ ตัวต้ังนอ้ ยกว่า ผลหารจะนอ้ ยกว่า หลงั การท�ำ กจิ กรรมนกั เรียน ควรสรุปไดว้ า่ การหารจ�ำ นวนสองจ�ำ นวนท่ตี วั หารเปน็ จ�ำ นวนเดยี วกนั ถา้ ตวั ตั้งมากกวา่ ผลหารจะมากกว่า ถา้ ตวั ตั้งนอ้ ยกวา่ ผลหารจะน้อยกวา่ | 21สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครรู ายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | การหาร ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 3. ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กล่มุ และให้แต่ละกลุม่ บทที่ 6 | การหาร พิจารณาตัวอย่างตามหนงั สือเรียนหนา้ 35 ทง้ั 2 ตัวอย่าง ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายรว่ มกัน เชน่ 25 ÷ 5 ผลหาร เติมเครอื่ งหมาย > หรือ < ใน มากกว่า หรือน้อยกว่า 45 ÷ 5 เพราะเหตุใด ซงึ่ นักเรยี น ควรตอบได้ว่าผลหารของ 25 ÷ 5 นอ้ ยกว่า 45 ÷ 5 25 ÷ 5 45 ÷ 5 เพราะตวั หารเปน็ จ�ำ นวนเดยี วกนั คอื 5 แตต่ วั ตง้ั 25 นอ้ ยกวา่ 45 ส�ำ หรับตวั อยา่ งที่ 2 อภปิ รายในทำ�นอง ตัวหารเปน็ 5 เท่ากัน แตต่ ัวตัง้ 25 นอ้ ยกวา่ 45 เดียวกนั จากนัน้ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ หาค�ำ ตอบของ จะได ้ 25 ÷ 5 มีผลหารน้อยกว่า 45 ÷ 5 ข้อ 1 ถึง 6 โดยไม่ต้องคดิ คำ�นวณ เสร็จแลว้ ครูสุ่ม แตล่ ะกลุม่ เฉลยคำ�ตอบแต่ละขอ้ พร้อมอธบิ ายเหตุผล ดงั นน้ั 25 ÷ 5 < 45 ÷ 5 ประกอบค�ำ ตอบ สำ�หรับกิจกรรม ร่วมกันทำ�ในกรอบท้าย หนา้ 35 สามารถเติมตัวเลขแสดงจ�ำ นวนในแตล่ ะข้อ 48 ÷ 6 48 ÷ 8 ไดห้ ลากหลาย ครใู ห้เลือกคำ�ตอบเพยี งคำ�ตอบเดยี ว พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบ เช่น 48 ÷ 6 > 40 ÷ 6 ตัวตงั้ เป็น 48 เท่ากนั แตต่ วั หาร 6 น้อยกว่า 8 นกั เรียนอาจให้เหตผุ ลว่า ทเี่ ติม 40 เน่ืองจากตัวหารเปน็ จะได ้ 48 ÷ 6 มผี ลหารมากกว่า 48 ÷ 8 6 เทา่ กนั ดงั นน้ั จงึ ควรเตมิ จ�ำ นวนใดกไ็ ดท้ น่ี อ้ ยกวา่ 48 ดังน้นั 48 ÷ 6 > 48 ÷ 8 การตรวจสอบความเข้าใจ 1 6 ÷ 3 < 6 ÷ 2 > 2 12 ÷ 2 4 ÷ 2 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน > 3 20 ÷ 5 0 ÷ 5 < 4 56 ÷ 8 56 ÷ 7 โดยใหน้ ักเรียนเตมิ เครอ่ื งหมาย > หรอื < ใน > 5 36 ÷ 6 30 ÷ 6 > 6 18 ÷ 6 18 ÷ 9 ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 36 จากน้ันครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรุปส่งิ ทไี่ ด้เรยี นรู้ ถา้ พบว่า เตมิ ตัวเลขแสดงจาำ นวน * คำ�ตอบอาจแตกต่างน้ี มนี กั เรียนเติมเครอ่ื งหมาย > หรือ < ไมถ่ กู ต้อง ครูควรใหน้ ักเรียนฝกึ การใชค้ วามรูส้ ึกเชงิ จำ�นวนเกย่ี วกบั 421 48 ÷ 6 > ÷ 6 7 2 35 ÷ 5 > 35 ÷ การหารเปน็ รายบุคคล หาคาำ ตอบได ้ โดยไมต่ อ้ งคิดคาำ นวณ | 35สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทที่ 6 | การหาร ตรวจสอบความเข้าใจ เตมิ เครือ่ งหมาย > หรือ < ใน 1 7 ÷ 1 > 7 ÷ 7 < 2 63 ÷ 9 63 ÷ 8 > 3 72 ÷ 5 27 ÷ 5 < 4 24 ÷ 4 28 ÷ 4 ส่ิงท่ีได้เรียนรู้ การหารจำานวนสองจาำ นวนที่ตวั ตั้งเปน็ จาำ นวนเดียวกัน ถ้าตวั หารนอ้ ยกว่า ผลหารจะมากกว่า ถ้าตวั หารมากกวา่ ผลหารจะน้อยกวา่ การหารจำานวนสองจำานวนทีต่ วั หารเป็นจำานวนเดียวกนั แบบฝกึ หัด 6.8 ถ้าตัวตงั้ มากกวา่ ผลหารจะมากกว่า ถ้าตวั ตั้งนอ้ ยกว่า ผลหารจะน้อยกว่า 36 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ • การหารจ�ำ นวนสองจำ�นวนท่ีตวั ตัง้ เป็นจ�ำ นวนเดยี วกัน ถา้ ตวั หารนอ้ ยกวา่ ผลหารจะมากกวา่ ถา้ ตัวหารมากกวา่ ผลหารจะน้อยกว่า • การหารจำ�นวนสองจำ�นวนท่ตี วั หารเป็นจำ�นวนเดียวกัน ถา้ ตวั ตัง้ มากกว่าผลหารจะมากกว่า ถา้ ตัวต้ังนอ้ ยกวา่ ผลหารจะน้อยกวา่ จากนัน้ ใหน้ ักเรียนท�ำ แบบฝกึ หัด 6.8 หนา้ 19 – 20 22 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | การหาร คู่มอื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เล่ม 2 6.9 การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์การหาร จดุ ประสงค์ หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์การหาร หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทที่ 6 | การหาร 6.9 การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่า ในประโยคสญั ลกั ษณ์การหาร สอ่ื การเรยี นรู้ พฒั นาความรู้ −− 6 ÷ 2 = หาคำาตอบไดอ้ ย่างไร แนวการจัดการเรียนรู้ ใชค้ วามสัมพนั ธข์ องการคูณและการหาร การพฒั นาความรู้ 2 × = 6 เน่อื งจาก 2 × 3 = 6 1. ครทู บทวนการหาผลหารโดยใชค้ วามสมั พันธ์ ดงั น้นั 6 ÷ 2 = 3 ของการคณู และการหาร ตามหนงั สือเรยี น หน้า 37 6 ÷ 2 = จากความสมั พนั ธ์ของการคณู และ 8 ÷ = 4 หาคำาตอบไดอ้ ย่างไร การหาร จะไดว้ ่า 2 คณู จำ�นวนใดได้ผลคูณเทา่ กบั 6 ค�ำ ตอบคอื 3 จากน้นั ครยู กตัวอยา่ งการหาคา่ ใชค้ วามสมั พันธ์ของการคณู และการหาร ใช้สตู รคณู แม ่ 4 × 4 = 8 เนือ่ งจาก 4 × 2 = 8 ดงั นนั้ 8 ÷ 2 = 4 หาตวั หาร 2 18 ÷ 3 = 6 34 27 ÷ = 9 41 12 ÷ = 3 53 25 ÷ = 5 | 37สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของตวั ไม่ทราบค่าทต่ี ัวไม่ทราบค่าเป็นตวั หาร เช่น 8 ÷ = 4 จากความสมั พนั ธ์ของการคูณและการหาร หนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทที่ 6 | การหาร จะได้วา่ 4 คูณจ�ำ นวนใดได้ผลคูณเทา่ กบั 8 คำ�ตอบคือ 2 ÷ 2 = 5 หาคำาตอบไดอ้ ยา่ งไร ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกันหาคำ�ตอบในกรอบท้ายหนา้ 37 ใชค้ วามสัมพันธข์ องการคูณและการหาร ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 2 × 5 = เน่ืองจาก 2 × 5 = 10 ดังนนั้ 10 ÷ 2 = 5 ครูอาจยกตัวอยา่ งเพ่มิ เตมิ เพ่ือใหน้ ักเรียนเขา้ ใจมากขึ้น ÷ 9 = 7 หาคาำ ตอบได้อยา่ งไร 2. การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณ์ ใช้ความสมั พันธ์ของการคณู และการหาร การหารทม่ี ีตวั ไม่ทราบคา่ เป็นตัวตัง้ เชน่ ÷ 2 = 5 9 × 7 = จากความสัมพันธ์ของการคูณและการหาร จะได้วา่ เนอื่ งจาก 9 × 7 = 63 ดังน้ัน 63 ÷ 9 = 7 2 คณู 5 เทา่ กับจำ�นวนใด ค�ำ ตอบคอื 10 ครูให้นักเรียน หาตวั ตง้ั 2 27 ÷ 3 = 9 ชว่ ยกันหาคำ�ตอบในกรอบท้ายหน้า 38 ครแู ละนกั เรยี น 4 32 ÷ 8 = 4 ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งครอู าจยกตัวอยา่ งเพิ่มเตมิ 1 40 ÷ 5 = 8 6 18 ÷ 9 = 2 เพือ่ ให้นักเรียนเข้าใจมากขึน้ 3 42 ÷ 7 = 6 5 40 ÷ 8 = 5 38 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 23สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 6 | การหาร ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 3. ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลุม่ ศึกษา หาตวั ต้ัง หนังสือเรียนรายวิชาพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 การหาค่าของตวั ไม่ทราบค่าท่ีเป็นตัวตง้ั และตัวไมท่ ราบคา่ ÷ 9 = 8 บทที่ 6 | การหาร ท่เี ป็นตวั หารตามหนังสือเรียนหนา้ 39 แล้วใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม ฝึกหาคา่ ของตวั ไม่ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณก์ ารหาร 72 ÷ 9 = 8 9 คูณ 8 เทา่ กบั เทา่ ไร 9 × 8 = 72 ซ่งึ ในที่นี้เป็นการหารลงตวั อาจท�ำ ได้โดยอาศยั ความ 1 42 ÷ 6 = 7 2 16 ÷ 8 = 2 สัมพันธข์ องการคณู และการหาร ดังน้ี 3 27 ÷ 9 = 3 4 45 ÷ 5 = 9 5 54 ÷ 6 = 9 6 4 ÷ 4 = 1 −− ถา้ ตอ้ งการหาตวั ตัง้ ท�ำ ไดโ้ ดย นำ�ผลหาร หาตัวหาร คูณกบั ตวั หาร 10 ÷ = 2 2 คูณกับจาำ นวนใด เท่ากบั 10 −− ถ้าต้องการหาตัวหาร ทำ�ไดโ้ ดย หาจำ�นวน 2 × 5 = 10 10 ÷ 5 = 2 ทมี่ าคณู กับผลหารแล้วได้ผลคณู เท่ากบั ตวั ต้ัง ซ่ึงจำ�นวนน้ัน 71 35 ÷ = 5 2 20 ÷ 5 = 4 จะเปน็ ตัวหาร 63 54 ÷ = 9 44 28 ÷ = 7 65 42 ÷ = 7 86 64 ÷ = 8 จากนนั้ ครสู ่มุ ตัวแทนกลุ่มออกมาน�ำ เสนอคำ�ตอบ | 39สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมกบั แสดงวธิ ีคิดหาคำ�ตอบ ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทท่ี 6 | การหาร การตรวจสอบความเข้าใจ ตรวจสอบความเข้าใจ หาตัวตัง้ หรอื ตัวหาร 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น 1 28 ÷ 7 = 4 2 64 ÷ 8 = 8 โดยใหน้ กั เรยี นหาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ท่เี ปน็ ตัวต้งั หรอื ตัวหารจากประโยคสญั ลักษณ์การหารตามหนังสือเรยี น 3 45 ÷ 9 = 5 4 48 ÷ 8 = 6 หน้า 40 โดยใชค้ วามสมั พันธ์การคณู และการหาร ดังนี้ −− ถ้าตอ้ งการหาตวั ตั้ง ทำ�ไดโ้ ดย นำ�ผลหาร คณู ตวั หาร −− ถา้ ต้องการหาตวั หาร ทำ�ไดโ้ ดยหาจ�ำ นวน สง่ิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ ท่ีมาคณู กบั ผลหารแลว้ ไดเ้ ทา่ กบั ตวั ตง้ั จากนนั้ ครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องและ การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหาร อาจทาำ ได้โดยใช้ความสมั พนั ธข์ องการคูณและการหาร แบบฝึกหดั 6.9 40 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สรปุ สิง่ ทไี่ ดเ้ รียนรู ้ ถ้าพบวา่ มนี ักเรยี นทห่ี าคา่ ของ ตัวไมท่ ราบค่าไม่ถกู ต้อง ครูควรใหน้ ักเรียนฝกึ การหาค่าของตัวไม่ทราบคา่ เปน็ รายบคุ คล สงิ่ ท่ีได้เรยี นรู้ การหาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์การหาร อาจทำ�ได้โดยใช้ความสัมพนั ธข์ องการคูณ และการหาร จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นท�ำ แบบฝึกหดั 6.9 หนา้ 21 - 23 24 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 6 | การหาร คมู่ อื ครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 6.10 โจทยป์ ัญหาการหาร (1) หนงั สือเรียนรายวิชาพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร ์ ป.2 จุดประสงค์ บทที่ 6 | การหาร เขยี นประโยคสญั ลักษณก์ ารหารและแสดงวิธีหาค�ำ ตอบ 6.10 โจทยป์ ญั หาการหาร (1) พัฒนาความรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ แม่มีขนมตาล 24 ชิน้ จดั ใส่กลอ่ ง กลอ่ งละ 3 ชนิ้ −− ตัวนบั แมจ่ ะจดั ขนมตาลไดก้ ี่กล่อง โจทยถ์ าม แมจ่ ะจดั ขนมตาลไดก้ กี่ ลอ่ ง โจทยบ์ อก แมม่ ีขนมตาล 24 ช้นิ จัดใสก่ ลอ่ ง กล่องละ 3 ช้นิ หาคาำ ตอบไดอ้ ย่างไร ขนมตาล 24 ชิน้ จัดใส่กล่อง กล่องละ 3 ชิ้น หาจำานวนกล่องได้จาก 24 หารดว้ ย 3 แนวการจัดการเรียนรู้ ประโยคสัญลกั ษณ ์ 24 ÷ 3 = การพัฒนาความรู้ 24 ÷ 3 = 8 ตอบ แม่จะจดั ขนมตาลได ้ ๘ กล่อง 1. ครูให้นักเรียนอา่ นโจทยป์ ญั หาตามหนงั สือเรยี น ตรวจคาำ ตอบ หนา้ 41 แล้วครูใช้ค�ำ ถามให้นกั เรียนได้วิเคราะหโ์ จทย์ เช่น 8 กลอ่ ง กล่องละ 3 ชิน้ ได้ 8 × 3 = 24 ชน้ิ โจทย์ถามอะไร โจทยบ์ อกอะไร นกั เรียนควรตอบได้วา่ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ และหาคาำ ตอบ แมค่ ้ามีลกู ชิน้ 45 ลูก เสียบไม้ ไม้ละ 5 ลกู แมค่ ้าเสียบลูกชิ้นได้ท้ังหมดก่ีไม้ ประโยคสัญลกั ษณ์ 45 ÷ 5 = ตอบ แมค่ ้าเสยี บลกู ชน้ิ ไดท้ ้งั หมด ๙ ไม้ | 41สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โจทย์ถาม แม่จะจดั ขนมตาลได้ก่กี ลอ่ ง โจทย์บอก แม่มขี นมตาล 24 ชน้ิ จัดใส่กล่อง หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร ์ ป.2 กลอ่ งละ 3 ชนิ้ บทท่ี 6 | การหาร ครูถามต่อไปวา่ จะหาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร ซ่ึงนกั เรียน ครตู อ้ งการแบง่ ขนมชน้ั 28 ชน้ิ ใหข้ นุ ตน้ กลา้ แกว้ ตา และใบบวั คนละเทา่ ๆ กนั อาจจะยงั หาคำ�ตอบไม่ได้ ครูอาจใชต้ ัวนบั แทนขนมตาล จะได้ขนมชน้ั คนละกช่ี ้ิน 24 ชนิ้ จากนัน้ ใหจ้ ดั เป็นกอง กองละ 3 ช้นิ เพอื่ ให้นักเรยี น โจทยถ์ าม จะได้ขนมช้นั คนละกี่ชน้ิ โจทย์บอก ครตู อ้ งการแบง่ ขนมชัน้ 28 ชิน้ ให้ขุน ตน้ กล้า แก้วตา และใบบวั คนละเทา่ ๆ กัน ครูแบง่ ขนมชน้ั ใหเ้ ด็กกค่ี น 4 คน สงั เกตวา่ สามารถใช้การหารในการหาค�ำ ตอบได้ จากนนั้ ครู แตล่ ะคนจะไดข้ นมช้นั คนละกี่ช้ิน หาไดอ้ ย่างไร ให้นกั เรยี นเขียนประโยคสัญลักษณ์ และชว่ ยกนั หาคำ�ตอบ ซง่ึ จะไดค้ �ำ ตอบตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 41 ครคู วรใหน้ กั เรยี น ขนมช้ัน 28 ชนิ้ แบ่งให ้ 4 คน คนละเทา่ ๆ กัน ตรวจค�ำ ตอบโดยการคณู เพอ่ื ตรวจสอบวา่ ค�ำ ตอบทไ่ี ดถ้ กู ตอ้ ง หาจาำ นวนขนมช้นั ทแ่ี ต่ละคนไดร้ ับจาก หรอื ไม่ ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นโจทยใ์ นกรอบทา้ ยหน้า 41 28 หารดว้ ย 4 แล้วให้ชว่ ยกันวิเคราะหโ์ จทยแ์ ละเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ พรอ้ มทั้งหาคำ�ตอบ ครแู ละนกั เรียนช่วยกัน ประโยคสัญลกั ษณ์ 28 ÷ 4 = 28 ÷ 4 = 7 ตอบ จะได้ขนมช้ันคนละ ๗ ช้ิน ตรวจคาำ ตอบ 4 คน ไดร้ ับขนมชัน้ คนละ 7 ชนิ้ เปน็ ขนมชั้นทัง้ หมด 4 × 7 = 28 ชนิ้ เขียนประโยคสัญลักษณ์ และหาคำาตอบ ครูมไี ก่ทอด 40 ช้ิน ตอ้ งการจดั ใส่กลอ่ ง กล่องละเทา่ ๆ กนั 5 กล่อง ครตู ้องจัดไกท่ อดกลอ่ งละก่ชี น้ิ ประโยคสญั ลักษณ์ 40 ÷ 5 ตอบ ครูตอ้ งจดั ไกท่ อดกล่องละ ๘ ช้นิ 42 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตรวจสอบความถูกต้อง 2. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นโจทยป์ ญั หาตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 42 แลว้ ครใู ชค้ �ำ ถามใหน้ กั เรยี นได้ วเิ คราะหโ์ จทย์ เชน่ โจทยถ์ ามอะไร โจทยบ์ อกอะไร จะหาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตวา่ ในขอ้ นไ้ี มป่ รากฏจ�ำ นวนทเ่ี ปน็ ตวั หาร แตต่ อ้ งวเิ คราะหจ์ ากโจทยว์ า่ แบง่ ใหก้ บั เดก็ 4 คน คนละเทา่ ๆ กนั จงึ จะเขยี นประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหารเพอ่ื หาค�ำ ตอบได้ ครอู าจใชต้ วั นบั แทนขนมชน้ั 28 ชน้ิ จากนน้ั ใหแ้ บง่ ตามเงอ่ื นไขทก่ี �ำ หนด เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสงั เกตวา่ สามารถใชก้ ารหารในการหาค�ำ ตอบได้ เมอ่ื ไดค้ �ำ ตอบแลว้ ครคู วรใหน้ กั เรยี นตรวจค�ำ ตอบ ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ และหาค�ำ ตอบในกรอบ ทา้ ยหนา้ 42 พรอ้ มทง้ั ตรวจค�ำ ตอบทไ่ี ด้ จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง | 25สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 6 | การหาร ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 2 3. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นโจทยต์ ามหนงั สอื เรยี นหนา้ 43 หนังสือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 แล้วครูใชค้ �ำ ถามใหน้ กั เรยี นไดว้ เิ คราะหโ์ จทย์ ซึง่ โจทยน์ ้ี บทท่ี 6 | การหาร สามารถหาค�ำ ตอบได้โดยการคณู หรอื การหารก็ได้ นักเรยี น อาจเขยี นประโยคสัญลักษณไ์ ด้เปน็ 5 × = 35 หรือ แก้วตาซื้อขนมปงั ชนดิ เดียวกนั และราคาเท่ากันจำานวน 5 ช้นิ จ่ายเงนิ 35 บาท 35 ÷ 5 = ซ่งึ ทงั้ สองประโยคสัญลกั ษณ์น้ไี ด้ค�ำ ตอบ ขนมปังราคาชิน้ ละกี่บาท เท่ากัน ครคู วรให้นกั เรยี นไดแ้ สดงความคดิ เหน็ ในการ วเิ คราะห์โจทยว์ า่ ท�ำ ไมจงึ เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์ได้ โจทย์ถาม ขนมปงั ราคาชน้ิ ละกี่บาท เช่นนี้ หากนักเรียนสามารถใหเ้ หตผุ ลที่ถูกตอ้ ง ครูควรให้ โจทยบ์ อก แกว้ ตาซื้อขนมปังชนิดเดียวกนั และราคาเทา่ กันจำานวน 5 ช้ิน นักเรียนนำ�เสนอความคดิ ให้เพื่อนในห้องฟงั ทง้ั นี้ไม่วา่ จา่ ยเงิน 35 บาท นักเรยี นจะเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ได้แบบใด ครูควรให้ นักเรียนได้ตรวจคำ�ตอบเพ่ือตรวจสอบว่าคำ�ตอบทไ่ี ด ้ จะหาว่าขนมปังราคาชิ้นละกบ่ี าท ได้อย่างไร ถกู ตอ้ งหรอื ไม ่ จากนั้นครูให้นกั เรียนชว่ ยกันวิเคราะห์โจทย์ ท่อี ยใู่ นกรอบท้ายหน้า 43 แลว้ ใหช้ ว่ ยกนั เขยี น ขนมปัง 5 ชิน้ ชิน้ ละกี่บาท ประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำ�ตอบ หากมีนักเรยี นคนใด จ่ายเงินทั้งหมด 35 บาท ท่มี คี วามคิดตา่ งจากคนอนื่ ใหน้ �ำ เสนอพร้อมทง้ั แสดงวธิ หี า ค�ำ ตอบใหเ้ พอื่ นฟงั ใช้การคณู ประโยคสญั ลกั ษณ ์ 5 × = 35 5 × 7 = 35 ดังน้นั ขนมปังราคาชิ้นละ 7 บาท จ่ายเงิน 35 บาท ไดข้ นมปงั 5 ชน้ิ หาราคาขนมปังแตล่ ะชน้ิ ได้จาก 35 หารด้วย 5 ใชก้ ารหาร ประโยคสัญลักษณ ์ 35 ÷ 5 = 35 ÷ 5 = 7 ดงั นนั้ ขนมปงั ราคาช้นิ ละ 7 บาท เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ และหาคำาตอบ นักเรยี น 6 คน จ่ายเงินคนละเท่า ๆ กนั เพื่อซือ้ น้าำ หวานราคา 30 บาท นักเรียนต้องจ่ายเงนิ คนละก่บี าท ประโยคสัญลกั ษณ์ 30 ÷ 6 = ตอบ นักเรียนต้องจ่ายเงินคนละ ๕ บาท | 43สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 6 | การหาร ตรวจสอบความเขา้ ใจ เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ และหาคาำ ตอบ 1 ใบบวั มขี นมใสไ่ ส ้ 36 ห่อ จดั ทำาเปน็ มดั 4 มัด มดั ละเทา่ ๆ กัน ใบบวั จะไดข้ นมใสไ่ สม้ ดั ละก่ีห่อ การตรวจสอบความเขา้ ใจ 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยใหน้ กั เรยี น 2 ครมู ีดินสอ 15 แทง่ ต้องการแบ่งให้ แก้วตา ขุน และต้นกล้า เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์และหาค�ำ ตอบตามหนังสือเรยี น คนละเท่า ๆ กนั จะได้ดนิ สอคนละก่แี ท่ง หน้า 44 ซง่ึ โจทย์ปญั หาในข้อ 2 นักเรียนต้องวิเคราะห์ โจทย์เพือ่ หาตวั หารก่อน จึงจะเขียนประโยคสัญลักษณ์ สง่ิ ท่ีไดเ้ รียนรู้ การหารได ้ จากน้ันครแู ละนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบ การแกโ้ จทยป์ ญั หาทาำ ไดโ้ ดยอา่ นทาำ ความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา ความถูกต้องและสรปุ สงิ่ ทไ่ี ด้เรียนรู้ ถ้าพบวา่ มนี กั เรียน หาคาำ ตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำาตอบ ทเ่ี ขียนประโยคสัญลกั ษณ์และหาค�ำ ตอบไมถ่ กู ตอ้ ง ครคู วรใหน้ กั เรยี นฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ แบบฝกึ หดั 6.10 และหาค�ำ ตอบเปน็ รายบคุ คล 44 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สง่ิ ท่ีได้เรยี นรู้ เฉลย 1. ประโยคสญั ลักษณ์ 36 ÷ 4 = ตอบ ใบบวั จะไดข้ นมใสไ่ สม้ ดั ละ ๙ หอ่ 2. ประโยคสัญลักษณ์ 15 ÷ 3 = ตอบ จะได้ดนิ สอคนละ ๕ แท่ง การแกโ้ จทยป์ ญั หาท�ำ ไดโ้ ดยอา่ นท�ำ ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หาคำ�ตอบ และตรวจสอบ ความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ จากนัน้ ให้นกั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 6.10 หน้า 24 - 26 26 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | การหาร ค่มู อื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 6.11 โจทยป์ ัญหาการหาร (2) หนังสือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 จุดประสงค์ บทที่ 6 | การหาร เขยี นประโยคสัญลักษณ์และแสดงวธิ หี าคำ�ตอบ 6.11 โจทยป์ ญั หาการหาร (2) พฒั นาความรู้ สื่อการเรียนรู้ แม่มขี นมกลว้ ย 32 ชิ้น จัดใสถ่ งุ ถงุ ละ 5 ชน้ิ แมจ่ ดั ขนมกลว้ ยไดก้ ถ่ี ุง −− ตัวนบั และเหลอื ขนมกล้วยก่ีช้นิ โจทยถ์ าม แม่จดั ขนมกล้วยได้ก่ีถุง และเหลือขนมกล้วยก่ชี ิน้ โจทย์บอก แมม่ ขี นมกล้วย 32 ชิ้น จัดใสถ่ ุง ถุงละ 5 ช้ิน หาคำาตอบได้อย่างไร ขนม 32 ชิ้น จดั ใส่ถงุ ถงุ ละ 5 ช้ิน หาจำานวนถงุ ท่ีจัดได้จาก 32 หารดว้ ย 5 แนวการจดั การเรียนรู้ ประโยคสัญลักษณ์ 32 ÷ 5 = การพฒั นาความรู้ 32 ÷ 5 ได้ 6 เศษ 2 ตอบ แม่จดั ขนมกลว้ ยได้ ๖ ถุง 1. ครใู ห้นักเรยี นอา่ นโจทย์ตามหนังสอื เรียน เหลอื ขนมกลว้ ย ๒ ชิ้น หนา้ 45 แล้วครูใชค้ �ำ ถามใหน้ กั เรยี นได้วเิ คราะห์โจทย์ ตรวจคาำ ตอบ 6 ถุง ถงุ ละ 5 ชนิ้ ได ้ 6 × 5 = 30 ช้ิน รวมกบั ท่เี หลอื 2 ชนิ้ เป็น 32 ชนิ้ เชน่ โจทยถ์ ามอะไร นกั เรียนตอ้ งตอบค�ำ ถามก่ีคำ�ถาม เขียนประโยคสัญลักษณ์ และหาคำาตอบ แม่มฝี รัง่ 50 ผล จัดใสถ่ ุง ถุงละ 9 ผล จะตอ้ งใช้ถุงกใี่ บ และเหลือฝร่งั กี่ผล ประโยคสัญลกั ษณ์ 50 ÷ 9 = ตอบ จะต้องใช้ถุง ๕ ใบ และเหลอื ฝรง่ั ๕ ผล | 45สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2 ค�ำ ถาม) คำ�ถามอะไรบา้ ง (แมจ่ ดั ขนมกล้วยได้กถี่ ุง และ เหลือขนมกล้วยกี่ชิ้น) จะหาค�ำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร นกั เรยี นอาจ หนังสอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 จะยังคดิ วิธหี าค�ำ ตอบไม่ได้ ครูอาจใชต้ วั นับแทนขนมตาล บทที่ 6 | การหาร 32 ช้นิ จากน้ันใหจ้ ดั เปน็ กอง กองละ 5 ชนิ้ เพอื่ ให้นักเรยี น สงั เกตว่าสามารถใช้การหารในการหาคำ�ตอบ แตเ่ ปน็ แมม่ ีไขไ่ ก ่ 40 ฟอง จัดใส่ตะกร้า 6 ใบ ใบละเท่า ๆ กัน ตะกร้าแต่ละใบ การหารไม่ลงตัว เมื่อได้คำ�ตอบแล้ว ครูควรให้นักเรียนตรวจ มไี ขไ่ กก่ ฟ่ี อง และเหลอื ไขไ่ ก่กี่ฟอง ค�ำ ตอบโดยนำ�คำ�ตอบที่ได้ คูณกับตวั หารแล้วนำ�ไปบวกกับ โจทย์ถาม ตะกร้าแตล่ ะใบมีไขไ่ ก่ก่ฟี อง และเหลือไข่ไกก่ ฟ่ี อง โจทยบ์ อก แม่มไี ข่ไก่ 40 ฟอง จัดใส่ตะกรา้ 6 ใบ ใบละเท่า ๆ กัน หาคาำ ตอบไดอ้ ยา่ งไร ไข่ไก่ 40 ฟอง ใสต่ ะกรา้ 6 ใบ ใบละเทา่ ๆ กนั หาจำานวนไข่ไก่ในตะกร้าแต่ละใบไดจ้ าก 40 หารด้วย 6 เศษไดผ้ ลลัพธ์เทา่ กบั ตัวต้ัง จากนนั้ ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ประโยคสัญลกั ษณ์ 40 ÷ 6 = วเิ คราะห์โจทย์ เขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาค�ำ ตอบ 40 ÷ 6 ได ้ 6 เศษ 4 ในกรอบทา้ ยหน้า 45 เมอื่ ไดค้ �ำ ตอบแลว้ ครูควรให้นกั เรยี น ตอบ ตะกรา้ แตล่ ะใบมีไขไ่ ก่ ๖ ฟอง และเหลือไขไก่ ๔ ฟอง ตรวจคาำ ตอบ ตะกรา้ 6 ใบ มไี ขไ่ ก่ใบละ 6 ฟอง ได้ 6 × 6 = 36 ฟอง รวมกบั ท่ีเหลอื 4 ฟอง เป็น 40 ฟอง ตรวจสอบคำ�ตอบ จากน้ันครแู ละนกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบ เขียนประโยคสัญลักษณ ์และหาคำาตอบ ความถกู ต้อง พอ่ มสี ้ม 25 ผล ต้องการแบ่งให้ต้อม ต่าย และตุ๊ก คนละเทา่ ๆ กนั 2. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นโจทยต์ ามหนงั สอื เรยี นหนา้ 46 ต้อม ต่าย และต๊กุ ได้สม้ คนละกผ่ี ล และพอ่ เหลือสม้ กผ่ี ล แล้วครูใชค้ �ำ ถามให้นักเรียนไดว้ เิ คราะหโ์ จทย์ เช่น ประโยคสญั ลักษณ์ 25 ÷ 3 = 46 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตอบ ต้อม ต่าย และตกุ๊ ได้สม้ คนละ ๘ ผล และพ่อเหลือส้ม ๑ ผล โจทย์ถามอะไร นกั เรียนต้องตอบค�ำ ถามกีค่ ำ�ถาม (2 คำ�ถาม) คำ�ถามอะไรบา้ ง (ตะกร้าแต่ละใบมี ไข่ไก่กี่ฟอง และเหลือไข่ไกก่ ฟ่ี อง) โจทยบ์ อกอะไร จะหาคำ�ตอบได้อยา่ งไร นกั เรยี นอาจจะยังหา คำ�ตอบไมไ่ ด้ ครอู าจใชต้ ัวนบั แทนไข่ 40 ฟอง หรอื วาดภาพประกอบ จากนนั้ ใหแ้ บง่ ตามเงอื่ นไข ทก่ี ำ�หนด เพือ่ ให้นักเรียนสงั เกตว่า สามารถใช้การหารในการหาค�ำ ตอบได้ แตเ่ ปน็ การหารไม่ลงตัว เมือ่ ได้คำ�ตอบแลว้ ครูควรให้นกั เรยี นตรวจคำ�ตอบ จากนัน้ ครใู ห้นักเรยี นช่วยกนั วเิ คราะห์โจทย ์ เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาค�ำ ตอบในกรอบทา้ ยหนา้ 46 เมอ่ื ได้คำ�ตอบแลว้ ครูควรใหน้ กั เรยี น ตรวจสอบค�ำ ตอบ จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง | 27สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวชิ าพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | การหาร ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 เลม่ 2 3. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นโจทยต์ ามหนงั สอื เรยี นหนา้ 47 หนงั สือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 แล้วครูใช้ค�ำ ถามใหน้ กั เรียนได้วเิ คราะห์โจทยว์ ่า บทที่ 6 | การหาร โจทย์ถามอะไร โจทยบ์ อกอะไร นกั เรยี นควรตอบไดว้ า่ ปา้ มีขนมถ้วย 20 ถว้ ย จัดใสจ่ าน จานละเทา่ ๆ กัน ได ้ 6 จาน โจทย์ถาม ปา้ จัดขนมถว้ ยจานละกีถ่ ว้ ย และเหลือขนมถ้วยอีก 2 ถ้วย ปา้ จัดขนมถ้วยจานละกี่ถว้ ย โจทย์บอก ปา้ มีขนมถว้ ย 20 ถ้วย จดั ใส่จาน จานละเท่า ๆ กนั ได้ 6 จาน และเหลอื ขนมถ้วยอกี 2 ถ้วย โจทย์ถาม ปา้ จัดขนมถ้วยจานละกี่ถว้ ย ครูถามนกั เรยี นว่า ตอ้ งวเิ คราะหส์ ิ่งทีโ่ จทยบ์ อก โจทยบ์ อก ป้ามขี นมถว้ ย 20 ถว้ ย จัดใส่จาน จานละเท่า ๆ กัน ได ้ 6 จาน อย่างไร (เมื่อจดั ขนมถว้ ยใส่จานแลว้ ยงั เหลือขนมถว้ ยอีก และเหลอื ขนมถ้วยอกี 2 ถ้วย 2 ถว้ ย) ครูถามต่อไปว่า ถา้ จดั ขนมถ้วยแล้วยังเหลืออีก แสดงวา่ จัดไดพ้ อดหี รือไม่ นกั เรียนตอบวา่ จัดไดไ้ ม่พอด ี ป้าจัดขนมถ้วยจานละกี่ถว้ ย หาได้อย่างไร ครถู ามตอ่ ไปวา่ ถ้าจัดแล้วไมพ่ อดแี สดงว่าขนมถว้ ยทเี่ หลอื ตอ้ งเป็นเศษใชห่ รือไม่ (ใช)่ ดงั น้ัน ในการหาคำ�ตอบตอ้ งน�ำ ขนมถ�วยที่จะจัดใสจ� าน เหลือ 2 ถว� ย เศษมาลบออกจากขนมถ้วยทีม่ อี ย ู่ จึงไดว้ ่า 20 – 2 = 18 แลว้ จึงน�ำ 18 ไปหารด้วย 6 ได้ผลหารคือ 3 เป็นคำ�ตอบ ขนมถ้วย 20 ถ้วย จดั ใสจ่ านแล้วเหลอื 2 ถว้ ย ถา้ นกั เรยี นยงั ไมเ่ ข้าใจ ครอู าจใชต้ วั นบั หรอื วาดรปู แทน ดังนัน้ ขนมถว้ ยท่จี ะจัดใส่จาน 20 − 2 = 18 ถว้ ย ขนมถ้วย 20 ถ้วย แล้วจัดเปน็ กอง 6 กอง กองละเท่า ๆ กัน ไดก้ องละ 3 ถว้ ย และเหลอื ตวั นบั 2 ตวั ดงั นน้ั ค�ำ ตอบคอื 3 ขนมถ้วย 18 ถว้ ย จดั ใส่จาน 6 จาน จานละเท่า ๆ กัน ครูควรใหน้ ักเรยี นตรวจคำ�ตอบ หาจาำ นวนขนมถ้วยในแตล่ ะจานไดจ้ าก 18 หารดว้ ย 6 18 ÷ 6 = 3 ตอบ ปา้ จัดขนมถ้วยจานละ ๓ ถว้ ย ตรวจคำาตอบ ขนมถว้ ย 6 จาน จานละ 3 ถว้ ย มีขนมถ้วย 6 × 3 = 18 ถว้ ย รวมกับทีเ่ หลือ 2 ถว้ ย ดงั นนั้ มขี นมถว้ ยท้ังหมด 18 + 2 = 20 ถ้วย หาคาำ ตอบ ปา้ มแี ตงกวา 27 ผล จดั ใสถ่ งุ ถงุ ละ 4 ผล เหลอื แตงกวา 3 ผล ปา้ จัดแตงกวาได้กี่ถงุ ตอบ ปา้ จัดแตงกวาได้ ๖ ถงุ | 47สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทที่ 6 | การหาร ตรวจสอบความเขา้ ใจ เขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ และหาคำาตอบ 1 แกว้ ตามดี อกบวั 38 ดอก จัดเป็นกำา กำาละ 5 ดอก จะไดท้ ั้งหมดกกี่ าำ และเหลอื ดอกบวั กด่ี อก การตรวจสอบความเขา้ ใจ 2 เดก็ 6 คน ต้องการแบ่งการ์ด 50 ใบ ใหไ้ ดค้ นละเท่า ๆ กัน แตล่ ะคน จะไดก้ าร์ดคนละกี่ใบ และเหลือการด์ กีใ่ บ 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยให้เขียน ประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาค�ำ ตอบ ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 48 ซึง่ ในขอ้ 2 นักเรียนต้องวิเคราะหโ์ จทยเ์ พ่อื หา ตัวต้งั และ สิง่ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ ตวั หารกอ่ น จงึ จะเขยี นประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหารได้ การแกโ้ จทยป์ ญั หาอาจทาำ ไดโ้ ดยอา่ นทาำ ความเขา้ ใจปญั หา วางแผนแกป้ ญั หา หาคาำ ตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำาตอบ จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและ แบบฝึกหดั 6.11 สรปุ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รยี นร ู้ ถา้ พบวา่ มนี กั เรยี นทเ่ี ขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์ และหาค�ำ ตอบไมถ่ กู ตอ้ ง ครคู วรใหน้ กั เรยี นฝกึ วเิ คราะหโ์ จทย์ 48 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาค�ำ ตอบเปน็ รายบคุ คล เฉลย 1. ประโยคสัญลกั ษณ์ 38 ÷ 5 = สิง่ ท่ไี ด้เรียนรู้ 38 ÷ 5 ได้ 7 เศษ 3 ตอบ จะได้ทัง้ หมด ๗ กำ� การแกโ้ จทย์ปัญหาทำ�ได้โดยอ่านทำ�ความเขา้ ใจปญั หา และเหลอื ดอกบัว ๓ ดอก 2. ประโยคสญั ลกั ษณ์ 50 ÷ 6 = 50 ÷ 6 ได้ 8 เศษ 2 ตอบ จะได้การด์ คนละ ๘ ใบ และเหลือการด์ ๒ ใบ วางแผนแกป้ ัญหา หาคำ�ตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของค�ำ ตอบ จากน้ันใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝึกหัด 6.11 หน้า 27 - 29 28 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | การหาร คู่มือครูรายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 เล่ม 2 6.12 การสร้างโจทย์ปญั หาการหารจากภาพ หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน | คณิตศาสตร ์ ป.2 จดุ ประสงค์ บทที่ 6 | การหาร สร้างโจทยป์ ัญหาการหารจากภาพและ 6.12 การสร้างโจทย์ปัญหาการหารจากภาพ เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ พฒั นาความรู้ มีดอกบวั 21 ดอก จะจดั กำละ 3 ดอก สือ่ การเรยี นรู้ แมม่ ดี อกบัว 21 ดอก จะจัดเปน็ กำา กำาละ 3 ดอก −− บัตรภาพ การสรา้ งโจทยป์ ญั หาตอ้ งมีทัง้ ส่วนท่โี จทย์บอก และ สว่ นทีโ่ จทย์ถาม จากภาพสร้างโจทยป์ ญั หาการหารไดอ้ ย่างไร แนวการจัดการเรียนรู้ แม่มดี อกบวั 21 ดอก จะจัดเปน็ กาำ กำาละ 3 ดอก จะจดั ได้กก่ี ำา การพัฒนาความรู้ โจทยป์ ัญหา แมม่ ดี อกบัว 21 ดอก จะจัดเป็นกำา กำาละ 3 ดอก จะจดั ได้ก่กี ำา 1. ในการสอนการสรา้ งโจทย์ปัญหาจากภาพ โจทย์ถาม จะจดั ไดก้ ีก่ าำ โจทยบ์ อก แมม่ ดี อกบัว 21 ดอก จะจดั เปน็ กาำ กาำ ละ 3 ดอก ครูควรให้นักเรียนสงั เกตภาพแล้วบอกส่งิ ท่ีเหน็ จากภาพ ประโยคสญั ลักษณ์ 21 ÷ 3 = โจทยป์ ญั หาทสี่ รา้ งมคี ำาตอบเปน็ เทา่ ไร | 49สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อน�ำ มาสร้างโจทย์ปัญหาในส่วนที่โจทย์บอก จากนนั้ จงึ ให้เขียนส่วนท่ีโจทย์ถาม เม่อื ได้โจทย์ปญั หาท่ีสมบรู ณ ์ หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 ครูควรใหน้ กั เรียนอา่ นโจทยแ์ ละพจิ ารณาความเป็นไปได้ บทท่ี 6 | การหาร มโี ดนทั 28 ชิ้น ของโจทย์ จากนนั้ ให้นกั เรยี นบอกสว่ นท่ีโจทยถ์ ามและ โจทย์บอกอกี ครงั้ แลว้ จึงเขียนประโยคสญั ลักษณ์ ครอู าจ พวกเราม ี 7 คน ใหน้ กั เรียนหาคำ�ตอบและตรวจสอบค�ำ ตอบร่วมกัน เช่น จากภาพ สรา้ งโจทยป์ ญั หาการหาร และเขยี นประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร จากภาพตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 49 ครถู ามนกั เรียนว่า เด็ก 7 คน ต้องการแบง่ โดนทั 28 ชน้ิ ให้ทกุ คน จากภาพนกั เรียนเห็นอะไรบา้ ง (แมข่ องขนุ กำ�ลังจะจัด คนละเทา่ ๆ กัน เด็กแตล่ ะคนจะไดโ้ ดนทั คนละกี่ช้ิน ดอกบวั 21 ดอก จัดเปน็ กำ� กำ�ละ 3 ดอก) ครูถาม ประโยคสัญลกั ษณ์ 28 ÷ 7 = มลี กู ชน้ิ 48 ลูก เสยี บลกู ช้ินขายไม้ละ 5 ลกู นักเรยี นตอ่ ไปว่า จะสรา้ งโจทย์ปัญหาการหารในสว่ นที่ โจทยถ์ ามอยา่ งไร (แมจ่ ะจดั ดอกบวั ได้กก่ี �ำ ) ครถู ามว่า จากภาพ สร้างโจทย์ปญั หาการหาร เขียนเปน็ โจทยป์ ัญหาท่ีสมบรู ณ์ได้อย่างไร (แมม่ ดี อกบัว และเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ไดอ้ ย่างไร 21 ดอก จัดเปน็ ก�ำ กำ�ละ 3 ดอก จะจดั ไดก้ ่ีก�ำ ) ครูถาม แม่ค้ามลี กู ชน้ิ 48 ลกู เสยี บลูกชน้ิ ขายไมล้ ะ 5 ลกู แม่คา้ จะได้ลูกชน้ิ กี่ไม ้ ประโยคสญั ลกั ษณ์ 48 ÷ 5 = 50 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตอ่ ไปว่า มนี กั เรยี นคนใดทคี่ ดิ ตา่ งจากนห้ี รือไม่ ถ้าไม่มี ครูถามวา่ จากโจทย์ปญั หาทส่ี ร้างนักเรยี นจะรู้ไดอ้ ยา่ งไรว่า สรา้ งโจทยป์ ัญหาการหารไดถ้ กู ตอ้ ง ครแู นะน�ำ ว่า โจทยป์ ัญหาท่ีสร้างควรมคี วามเป็นไปได้และสามารถหาคำ�ตอบได ้ ส่วนท่ีโจทย์ถามและ ส่วนทโี่ จทยบ์ อกคอื อะไร ถา้ สามารถตรวจสอบไดต้ ามนแ้ี สดงวา่ โจทย์ปัญหาการหารท่ีสรา้ งม ี ความถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ เมอ่ื สรา้ งโจทยป์ ญั หาแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณพ์ รอ้ มทง้ั หาค�ำ ตอบ 2. ครูให้นักเรยี นดูภาพตามหนังสือเรยี นหน้า 50 แล้วจดั กจิ กรรมการสอนท�ำ นองเดยี วกบั การสอนหน้า 49 | 29สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | การหาร ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่ม 2 หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนังสอื เรยี นรายวิชาพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทที่ 6 | การหาร บทที่ 6 | การหาร ตรวจสอบความเข้าใจ จากภาพ สร้างโจทย์ปญั หาการหารและเขยี นประโยคสัญลักษณ์ 1 จดั ใส่กล่อง กลอ่ งละ 4 ฟอง จากภาพ สรา้ งโจทยป์ ญั หาการหารและเขียนประโยคสญั ลักษณ์ 1 ไขไ� ก� 34 ฟอง มีนักเรยี นทงั้ หมด 30 คน จัดเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 6 คน 1. ขนุ มไี ข่ไก่ 34 ฟอง จดั ใส่กลอ่ ง กลอ่ งละ 4 ฟอง มีเงนิ 35 บาท ขนุ จะจัดได้ก่กี ล่อง และเหลือไขไ่ ก่กี่ฟอง 2 จดั มังคุดใสจ่ าน จานละ 4 ผล ประโยคสญั ลักษณ์ 34 ÷ 4 = 2 มังคุด 28 ผล ฟองละ 5 บาท 2. ต้นกลา้ มเี งนิ 35 บาท ซื้อไข่ไกฟ่ องละ 5 บาท ส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ ต้นกลา้ จะได้ไขไ่ กก่ ่ีฟอง ประโยคสญั ลักษณ์ 35 ÷ 5 = การสรา้ งโจทยป์ ญั หาตอ้ งมีทัง้ ส่วนทโี่ จทยบ์ อกและ สว่ นทโ่ี จทยถ์ าม นอกจากนโ้ี จทยป์ ญั หาทส่ี รา้ งตอ้ งมคี วามเปน็ ไปได้ โจทย์ปญั หาท่สี ร้างมคี ำาตอบเป็นเท่าไร แบบฝึกหดั 6.12 | 51สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 52 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม ให้นกั เรียน เฉลย 1. มีนกั เรยี นทงั้ หมด 30 คน จัดเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ 6 คน จะไดน้ ักเรยี นกก่ี ลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั สรา้ งโจทยป์ ญั หาการหารจากภาพ ประโยคสญั ลกั ษณ์ 30 ÷ 6 = 2. ใบบัวมีมังคุด 28 ผล จัดมังคุดใสจ่ าน จานละ 4 ผล ใบบัวจะจดั มงั คดุ ไดก้ ่จี าน ประโยคสญั ลกั ษณ์ 28 ÷ 4 = และเขยี นประโยคสัญลักษณ์ ตามหนงั สือเรียนหนา้ 51 แล้วให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมาน�ำ เสนอ โจทยป์ ญั หาทส่ี รา้ งขน้ึ สว่ นทโ่ี จทยบ์ อก สว่ นทโ่ี จทยถ์ าม เขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาค�ำ ตอบ พร้อมท้ังตรวจสอบค�ำ ตอบ ครแู ละนักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความเปน็ ไปได้ของโจทยป์ ญั หาทีส่ ร้าง การตรวจสอบความเข้าใจ 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยใหส้ ร้างโจทยป์ ัญหาการหารและเขียนประโยค สัญลกั ษณ์จากภาพที่กำ�หนด ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 52 ครูควรพจิ ารณาความเป็นไปไดข้ องโจทย์ ทน่ี ักเรียนสรา้ งวา่ มีความเปน็ ไปไดห้ รอื ไม่ จากนนั้ ครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง และสรุปสิ่งท่ไี ด้เรยี นร ู้ ถา้ พบวา่ มนี ักเรียนท่สี ร้างโจทย์ปญั หาการหารและเขยี นประโยคสญั ลักษณ์ จากภาพไมถ่ กู ต้อง ครคู วรใหน้ ักเรยี นฝึกสรา้ งโจทย์ปญั หาและเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์จากภาพ ทงี่ ่าย ๆ ไมซ่ บั ซ้อนเปน็ รายบุคคล ส่งิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ การสรา้ งโจทยป์ ญั หาตอ้ งมที ้ังส่วนทโี่ จทย์บอกและสว่ นท่โี จทยถ์ าม นอกจากน้โี จทย์ปัญหาทีส่ รา้ งตอ้ ง มีความเป็นไปได้ จากน้นั ให้นกั เรียนทำ�แบบฝกึ หัด 6.12 หนา้ 30 - 32 30 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | การหาร คมู่ ือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เล่ม 2 6.13 การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการหารจากประโยคสญั ลกั ษณ์ จดุ ประสงค์ สร้างโจทย์ปญั หาการหารจากประโยคสัญลกั ษณ์ หนังสอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทที่ 6 | การหาร สอ่ื การเรยี นรู้ 6.13 การสร้างโจทยป์ ญั หาการหาร −− จากประโยคสญั ลกั ษณ์ พฒั นาความรู้ แนวการจดั การเรยี นรู้ ลูกละ 4 บาท การพฒั นาความรู้ ช่วยกันสร้างโจทยป์ ัญหาจากประโยคสญั ลกั ษณ์ 20 ÷ 4 = 1. ครกู �ำ หนดประโยคสญั ลกั ษณก์ ารหาร พร้อมท้งั บอกสว่ นทีโ่ จทย์ถามและสว่ นท่ีโจทยบ์ อก เพื่อใหน้ กั เรยี นสรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสญั ลักษณ์ ทกี่ ำ�หนด ครูอาจให้นักเรยี นดูภาพแล้วบอกสงิ่ ทีเ่ หน็ แมค่ า้ จัดลูกชบุ 20 ลูก ใส่กล่อง กลอ่ งละ 4 ลูก จากภาพ เพอื่ น�ำ มาสร้างโจทย์ปัญหาการหาร เมื่อนกั เรียน แมค่ า้ ตอ้ งใชก้ ล่องก่ใี บ สร้างโจทยป์ ัญหาแล้ว ครคู วรให้นกั เรยี นอ่านโจทย์และ พจิ ารณาความเป็นไปได้ของโจทย์ อาจใหน้ ักเรียนบอก โจทยถ์ าม แมค่ ้าต้องใช้กลอ่ งก่ใี บ สว่ นทโ่ี จทย์ถามและโจทย์บอกอีกคร้งั ซ่งึ ในการสรา้ งโจทย์ โจทย์บอก แม่คา้ จัดลกู ชุบ 20 ลกู ใสก่ ล่อง กล่องละ 4 ลูก มเี งนิ 20 บาท ซอ้ื ลูกชุบลกู ละ 4 บาท ได้ลูกชบุ กล่ี กู โจทย์ถาม ได้ลูกชุบก่ีลูก โจทย์บอก มเี งิน 20 บาท ซอื้ ลูกชุบลกู ละ 4 บาท | 53สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปัญหาการหารจากประโยคสัญลักษณ์ ครูควรให้นกั เรยี น หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 สรา้ งโจทย์ปัญหาการหารโดยไมต่ อ้ งใชภ้ าพก่อน บทท่ี 6 | การหาร ถา้ นกั เรยี นสามารถสร้างโจทยป์ ัญหาไดก้ ไ็ มจ่ ำ�เป็น ตอ้ งใชภ้ าพ แต่ถา้ มนี กั เรยี นทีไ่ ม่สามารถสร้างโจทย์ปญั หา สร้างโจทย์ปญั หาจากประโยคสัญลักษณ ์ 48 ÷ 6 = การหารจากประโยคสญั ลกั ษณ์ได้ ครอู าจใช้ภาพใน แมเ่ กบ็ ไขเ่ ปด็ มา 48 ฟอง แบง่ ใสก่ ลอ่ ง กลอ่ งละ 6 ฟอง แมต่ ้องใช้กล่องกใ่ี บจึงจะใสไ่ ขเ่ ป็ดได้หมด พอ่ คา้ มขี า้ วโพด 48 ฝัก จัดเป็นมดั 6 มดั มดั ละเทา่ ๆ กนั พอ่ คา้ จะได้ข้าวโพดมดั ละก่ีฝัก หนังสือเรียนหนา้ 53 เพอ่ื ใหน้ กั เรียนมขี อ้ มลู ที่จะน�ำ มาใช้ สร้างโจทย์ปญั หาจากประโยคสญั ลักษณ์ 61 ÷ 7 = ในการสร้างโจทยป์ ญั หา 61 ÷ 7 เป็นการหารไม่ลงตัว 2. ครูกำ�หนดประโยคสญั ลกั ษณ์การหาร ดินสอ 61 แท่ง จดั ใสก่ ล่อง 7 กลอ่ ง กลอ่ งละเท่า ๆ กนั แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันสรา้ งโจทยป์ ญั หาการหารจาก จะไดก้ ลอ่ งละกแ่ี ทง่ และเหลอื ดินสอกี่แท่ง ประโยคสัญลักษณ์ เมื่อสรา้ งโจทยป์ ญั หาแลว้ ให้นกั เรยี น บอกสว่ นท่โี จทยถ์ าม และส่วนทโี่ จทย์บอก พรอ้ มท้งั บอกวา่ เชือกยาว 61 เมตร ต้องการตัดเชือกยาวเส้นละ 7 เมตร โจทยป์ ัญหาทสี่ ร้างมีความเปน็ ไปได้หรือไม่ และช่วยกันหา จะตัดเชอื กได้ก่เี สน้ และเหลือเชอื กยาวก่ีเมตร โจทยป์ ัญหาทส่ี รา้ งควรมีความเปน็ ไปได้ ช่วยกนั หาคำาตอบของโจทย์ปญั หาท่ีนกั เรียนสรา้ ง 54 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ค�ำ ตอบจากโจทย์ปญั หาทน่ี กั เรยี นสรา้ ง จากน้นั ให้นกั เรยี น สร้างโจทยป์ ัญหาการหารด้วยตนเอง ครใู หน้ ักเรยี น อ่านโจทย์และพจิ ารณาความเปน็ ไปไดข้ องโจทย์ และให้นกั เรยี นบอกสว่ นที่โจทยถ์ ามและสว่ นที่ โจทย์บอกอกี ครัง้ ครูยกตวั อย่างการสรา้ งโจทย์ปญั หา การหารจากประโยคสัญลกั ษณท์ ่ีเปน็ การหารไมล่ งตัว ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 54 โดยกอ่ นจะให้ นกั เรยี นสร้างโจทยป์ ัญหาน้นั ครูควรถามนกั เรียนกอ่ นวา่ จากประโยคสญั ลกั ษณ์นี้เป็นการหารลงตวั หรือไมล่ งตวั ถา้ เป็นการหารลงตวั การตง้ั ค�ำ ถามในส่วนทโี่ จทยถ์ ามจะมีคำ�ถามเดยี ว แต่ถ้าเปน็ การหารไมล่ งตวั การตง้ั ค�ำ ถามในสว่ นทโ่ี จทยถ์ ามจะมี 2 ค�ำ ถาม ตามตวั อยา่ งในหนงั สอื เรยี นหนา้ 54 | 31สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | การหาร ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 หนงั สือเรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทท่ี 6 | การหาร บทท่ี 6 | การหาร สรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสัญลักษณ์ ตรวจสอบความเขา้ ใจ 54 ÷ 9 = สรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสัญลักษณ์ แกว้ ตามลี ูกปัด 54 เม็ด ร้อยสร้อยขอ้ มือ 1 42 ÷ 7 = เสน้ ละ 9 เม็ด จะร้อยลกู ปดั ได้กี่เสน้ ออมสนิ เกบ็ เงนิ วนั ละ 7 บาท ไดเ้ งินท้งั หมด 42 บาท ครมู ดี นิ สอ 54 แทง่ แบง่ ใหต้ ้นกลา้ และเพ่ือนอีก 8 คน ออมสนิ ใช้เวลาเก็บเงินกีว่ ัน คนละเท่า ๆ กัน ตน้ กล้าและเพ่อื นจะได้ดนิ สอคนละกี่แทง่ 2 31 ÷ 5 = 72 ÷ 8 = 31 ÷ 5 เป็นการหารไมล่ งตวั ใบบัวเก็บมะนาวได้ 72 ผล แบ่งใสถ่ ุง ถุงละ 8 ผล ขุนมหี นังสอื 31 เลม่ จัดเข้าช้นั วางหนงั สอื ช้ันละ 5 เลม่ จะได้มะนาวก่ถี งุ ไดก้ ่ีช้นั และเหลือหนังสอื กเ่ี ลม่ เชือกเสน้ หน่ึงยาว 72 เซนติเมตร ต้องการตัด เชอื กยาวเสน้ ละ 8 เซนตเิ มตร จะตัดเชือกไดก้ เ่ี ส้น หมายเหตุ : ค�ำ ตอบมหี ลากหลาย ขึน้ อยู่กับดุลยพนิ ิจของครู โจทย์ปัญหาท่สี ร้างควรมคี วามเปน็ ไปได้ สงิ่ ท่ีได้เรียนรู้ ช่วยกนั หาคำาตอบของโจทยป์ ัญหาทน่ี ักเรยี นสรา้ ง การสรา้ งโจทยป์ ญั หาตอ้ งมที ง้ั สว่ นทโ่ี จทยบ์ อกและสว่ นทโ่ี จทยถ์ าม หมายเหตุ : ค�ำ ตอบมหี ลากหลาย ขึ้นอยู่กบั ดลุ ยพินจิ ของครู นอกจากนโ้ี จทยป์ ญั หาทส่ี รา้ งตอ้ งมคี วามเปน็ ไปได้ | 55สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แบบฝกึ หดั 6.13 56 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุม่ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกันสรา้ งโจทยป์ ัญหาการหาร จากประโยคสญั ลักษณ์ท่กี �ำ หนดให้ ตามหนงั สือเรียนหนา้ 55 แลว้ ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมา น�ำ เสนอโจทยป์ ญั หาที่สรา้ งข้นึ สว่ นทโ่ี จทย์บอก สว่ นทโ่ี จทย์ถามและหาคำ�ตอบ พร้อมทงั้ ตรวจสอบ ค�ำ ตอบ ครแู ละนักเรยี นช่วยกันตรวจสอบความเปน็ ไปได้ของโจทย์ปญั หาทสี่ ร้าง การตรวจสอบความเขา้ ใจ 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยใหส้ ร้างโจทยป์ ญั หาการหารจากประโยคสัญลักษณ์ ที่กำ�หนด ตามหนงั สือเรยี นหน้า 56 ครูควรพิจารณาความเปน็ ไปได้ของโจทย์ท่ีนักเรยี นสร้าง วา่ มีความเป็นไปได้หรอื ไม่ และในข้อ 2 เป็นการหารไมล่ งตวั ครคู วรตรวจสอบโจทย์ปัญหาท่ีสรา้ ง วา่ มสี ่วนท่ีโจทยถ์ ามครบถว้ นหรอื ไม่ จากน้ันครแู ละนกั เรยี น รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและ สรุปสิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้ ถ้าพบว่ามนี กั เรียนทีส่ รา้ งโจทยป์ ัญหาการหารจากประโยคสัญลักษณไ์ ม่ถูกตอ้ ง ครูควรให้นกั เรียนฝึกสรา้ งโจทยป์ ญั หาจากประโยคสัญลกั ษณ์ โดยอาจใชภ้ าพประกอบเป็นรายบคุ คล สิ่งที่ไดเ้ รยี นรู้ การสร้างโจทยป์ ญั หาต้องมที ัง้ สว่ นทีโ่ จทย์บอกและส่วนท่ีโจทยถ์ าม นอกจากนีโ้ จทยป์ ัญหาท่ีสรา้ ง ตอ้ งมีความเป็นไปได้ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นทำ�แบบฝึกหดั 6.13 หนา้ 33 – 34 32 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 6 | การหาร ค่มู อื ครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 2 ร่วมคิดรว่ มท�ำ หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทท่ี 6 | การหาร กิจกรรม แบง่ แบบไหนไดพ้ อดบี ้าง ร่วมคิดรว่ มทำา อุปกรณ์ 1 ชดุ ประกอบด้วย 1. ตัวนบั 50 อัน กิจกรรม แบ่งแบบไหนไดพ้ อดบี า้ ง 2. ถงุ พลาสติก 10 ถงุ อปุ กรณ์ 1 ชุดประกอบดว้ ย 3. ใบกิจกรรม 1. ตัวนบั 50 อัน 2. ถงุ พลาสติก 10 ถงุ 3. ใบกิจกรรม วธิ ีจัดกจิ กรรม 1. ครูแบง่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ แลว้ แจกอปุ กรณ์กลมุ่ ละ 1 ชดุ 2. ให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ใช้ตวั นบั และถุงพลาสติกชว่ ยในการแก้ปัญหา สถานการณ์ตา่ ง ๆ ในใบกจิ กรรม แล้วนาำ เสนอคาำ ตอบ เตรยี มสถานที่ ตัวอยา่ งใบกจิ กรรม จดั โตะ๊ เป็นกลุม่ หรอื ใหน้ กั เรยี นนงั่ ในบรเิ วณท่มี ี สถานการณ์ท่ี 1 แม่คา้ มขี นมตาลในถาด 28 ชิ้น แมค่ ้าสามารถแบง่ ใสถ่ งุ พ้ืนที่สำ�หรับวางตัวนบั ถงุ ละเท่า ๆ กัน โดยไมเ่ หลือเศษ แบบใดไดบ้ า้ ง วิธจี ดั กิจกรรม สถานการณท์ ่ี 2 แมค่ ้ามขี นมกล้วยในถาด 36 ชน้ิ แมค่ ้าสามารถแบง่ ใสถ่ ุง 1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ แล้วแจก ถุงละเท่า ๆ กัน โดยใหเ้ หลือเศษไว้ 1 ช้นิ แบบใดไดบ้ า้ ง สถานการณ์ท่ี 3 แมค่ ้ามนี ้ำาตาล 47 ถุง แต่ละวันต้องใช้นาำ้ ตาลทำาขนม 5 ถุง แม่คา้ มีนำา้ ตาลพอสาำ หรบั ทาำ ขนมกี่วนั สถานการณท์ ่ี 4 คุณครูตอ้ งการไสก้ รอก 50 อนั แมค่ า้ ขายถงุ ละ 8 อนั คณุ ครตู อ้ งซอ้ื อยา่ งนอ้ ยกถ่ี งุ จงึ จะไดไ้ สก้ รอกตามจาำ นวนทต่ี อ้ งการ อปุ กรณก์ ลุ่มละ 1 ชดุ 2. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ใช้ตวั นบั และ ถงุ พลาสตกิ ช่วยในการแกป้ ญั หาสถานการณ ์ | 57สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตา่ ง ๆ ในใบกิจกรรม แล้วน�ำ เสนอค�ำ ตอบพรอ้ ม อธบิ ายเหตุผล เฉลย ตัวอย่างค�ำ ตอบ สถานการณ์ท่ี 1 ถงุ ละ 1 ชิน้ 28 ถงุ หลังจากจัดกจิ กรรมในแตล่ ะสถานการณ์ ถุงละ 28 ชนิ้ 1 ถุง เสร็จแลว้ ครคู วรใหน้ กั เรยี นได้อภิปรายร่วมกัน ถุงละ 2 ชิน้ 14 ถงุ เชน่ ในสถานการณท์ ่ี 1 เราต้องการหาวา่ มี ถงุ ละ 14 ช้ิน 2 ถุง จ�ำ นวนใดบ้างทหี่ าร 28 ลงตวั ซ่งึ มีหลายจ�ำ นวน ถุงละ 4 ชน้ิ 7 ถุง อาจใชต้ วั นบั ชว่ ยในการหาค�ำ ตอบ เมื่อไดค้ ำ�ตอบ ถงุ ละ 7 ชน้ิ 4 ถงุ แลว้ จะสงั เกตได้ว่า อาจใช้ความสมั พนั ธ์ของ สถานการณท์ ่ี 2 ถุงละ 1 ช้นิ 35 ถุง ถุงละ 35 ชิ้น 1 ถุง ถุงละ 5 ชนิ้ 7 ถงุ ถงุ ละ 7 ชน้ิ 5 ถงุ สถานการณท์ ี่ 3 9 วัน สถานการณท์ ่ี 4 7 ถงุ การคูณและการหารช่วยในการหาค�ำ ตอบได้ เช่น ถ้าต้องการหาว่า มีจำ�นวนใดบ้างที่หาร 28 ลงตวั คอื การหาว่า จ�ำ นวนใดบา้ งทค่ี ณู กันแล้วได้ 28 ได้แก่ 1 × 28 2 × 14 4 × 7 หรอื ในสถานการณ์ท่ี 2 นกั เรียนอาจแกป้ ญั หาน�ำ ตวั นับมา 36 อนั แล้วหยบิ ออกไป 1 อัน จะเหลือตวั นับ 35 อนั แลว้ จงึ นำ�ไปแบ่งตามเง่ือนไขที่ก�ำ หนด ซง่ึ สามารถ แบง่ ไดห้ ลากหลาย อาจใชว้ ธิ เี ดยี วกบั การแกป้ ญั หาในสถานการณท์ ่ี 1 ส�ำ หรบั สถานการณท์ ่ี 3 และ 4 เป็นสถานการณท์ ่ใี ห้นกั เรียนไดอ้ ภิปรายถึงค�ำ ตอบทีไ่ ด้ เช่น สถานการณท์ ่ี 3 แม่คา้ กจ็ ะมใี ชเ้ พียงพอ แค่ 9 วัน แตไ่ ม่พอส�ำ หรับวันที่ 10 หรอื สถานการณ์ที่ 4 ถ้าซ้อื 6 ถงุ กจ็ ะได้ไส้กรอกไม่เพียงพอ ดงั นน้ั จึงต้องซือ้ 7 ถงุ เปน็ ตน้ | 33สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู อื ครรู ายวิชาพ้ืนฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 6 | การหาร ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 เลม่ 2 ตัวอย่างแบบทดสอบท้ายบท ตวั อย่างแบบทดสอบนี้ใชใ้ นการประเมินผลระหวา่ งเรยี นเพอ่ื พฒั นานักเรียน หากมีนักเรียน คนใดทไ่ี มส่ ามารถท�ำ แบบทดสอบนไ้ี ด้ ครคู วรใหน้ กั เรยี นคนนน้ั ฝกึ ทกั ษะมากขน้ึ โดยอาจใชแ้ บบฝกึ เสรมิ ในหนังสือเสรมิ เพิม่ ปัญญาของสสวท.หรอื แบบฝกึ อ่ืนตามที่เห็นสมควร กอ่ นสอบครอู าจทบทวน ความรูใ้ ห้กับนกั เรยี นกอ่ น 20 - 30 นาที ซ่งึ แบบทดสอบทา้ ยบทน้ีมีจ�ำ นวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 15 คะแนน ใช้เวลาในการท�ำ แบบทดสอบ 20 นาที และวเิ คราะหเ์ ปน็ รายจดุ ประสงค์ได้ดังนี้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขอ้ ท่ี 1. หาผลหารและเศษในประโยคสญั ลกั ษณแ์ สดงการหารท่ีตัวตั้งไม่เกนิ ตอนที่ 1 ข้อ 1-3 2 หลัก ตัวหาร 1 หลัก โดยทผ่ี ลหารมี 1 หลกั ตอนท่ี 2 ข้อ 1-2 2. หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารทีต่ ัวตั้งไมเ่ กิน ตอนท่ี 1 ขอ้ 4-6 2 หลัก ตัวหาร 1 หลกั โดยที่ผลหารมี 1 หลกั 3. แสดงวธิ หี าค�ำ ตอบของโจทยป์ ัญหาการหาร ตอนท่ี 1 ขอ้ 7-9 ตอนท่ี 2 ข้อ 3 4. สร้างโจทย์ปญั หาการหาร ตอนที่ 1 ขอ้ 10 ตอนที่ 2 ข้อ 4-5 ตัวอย่างแบบทดสอบท้ายบทที่ 6 ตอนท่ี 1 เขยี น ทับคำ�ตอบทถี่ ูกต้อง 1. ผลหารของ 63 ÷ 9 เทา่ กับผลหารของขอ้ ใด ก. 21 ÷ 7 ข. 18 ÷ 9 ค. 35 ÷ 5 2. ผลหารข้อใดมากท่สี ดุ ก. 9 ÷ 9 ข. 9 ÷ 1 ค. 9 ÷ 3 3. เศษของการหารขอ้ ใดมีคา่ น้อยท่ีสุด ก. 17 ÷ 6 ข. 50 ÷ 8 ค. 39 ÷ 4 34 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 6 | การหาร คู่มือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เลม่ 2 4. 42 ÷ = 6 ก. 6 ข. 7 ค. 8 5. ÷ 4 = 6 ก. 2 ข. 10 ค. 24 6. ÷ 3 = 2 มีคำ�ตอบตรงกบั ขอ้ ใด ก. 12 ÷ = 2 ข. ÷ 3 = 3 ค. 6 ÷ 3 = 7. แมม่ ไี ก่ทอด 20 ชิน้ แบ่งให้ ขุน ใบบวั ต้นกลา้ และแกว้ ตา คนละเท่า ๆ กนั จะได้คนละกีช่ นิ้ ก. 10 ชน้ิ ข. 5 ชน้ิ ค. 4 ชนิ้ 8. ยายมขี า้ วต้มมดั 22 มัด แบ่งใส่ถุง ถุงละ 3 มดั จะได้ท้งั หมดกี่ถุง ก. 7 ถุง ข. 8 ถงุ ค. 9 ถุง 9. ต้นกล้ามีลูกแกว้ 25 ลกู แบ่งให้เพือ่ น 3 คน คนละเทา่ ๆ กนั เพื่อนจะได้ลกู แก้วคนละกีล่ ูก และตน้ กล้าเหลือลกู แกว้ กี่ลกู ก. เพ่อื นจะไดล้ กู แก้วคนละ 7 ลกู และเหลอื ลกู แกว้ 4 ลกู ข. เพ่ือนจะไดล้ กู แกว้ คนละ 8 ลูก และเหลือลกู แก้ว 1 ลูก ค. เพอ่ื นจะไดล้ ูกแก้วคนละ 9 ลกู และเหลอื ลูกแกว้ 2 ลูก 10. จากประโยคสญั ลกั ษณ์ 15 ÷ 3 = สรา้ งโจทย์ปญั หาไดต้ รงกบั ข้อใด ก. ลุงมีไก่ 15 ตัว แบง่ ใหเ้ ข้มกับก้องไป 3 ตวั ลงุ เหลือไก่กต่ี วั ข. ลงุ มีไก่ 15 ตัว แบง่ ใหห้ ลาน 3 คน คนละเทา่ ๆ กัน หลานจะได้ไกค่ นละก่ีตวั ค. ลุงมไี ก่ 15 ตัว แบ่งใหห้ ลาน 3 คน หลานจะไดไ้ ก่ก่ตี วั | 35สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 6 | การหาร ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 2 เลม่ 2 ตอนที่ 2 เขยี นค�ำ ตอบลงในช่องว่าง 1. 48 ÷ 6 = ตอบ ……………………………………………. 2. 60 ÷ 9 = ตอบ ……………………………………………. 3. คุณยายมีมะนาว 50 ผล แบ่งใส่ถงุ 8 ถุง ถงุ ละเทา่ ๆ กนั จะไดถ้ งุ ละกี่ผล และเหลือมะนาวกีผ่ ล ประโยคสญั ลักษณ ์ ……………………………………………………………………………………………………… ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จากภาพสร้างโจทย์การปญั หาการหาร และเขียนประโยคสญั ลักษณ์ โจทยป์ ัญหาการหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ประโยคสญั ลักษณ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จากประโยคสัญลกั ษณ์ 21 ÷ 3 = สร้างโจทย์ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… 36 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 6 | การหาร คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 เลม่ 2 จุดประสงค์ เฉลยแบบทดสอบท้ายบทที่ 6 5. ค. 6. ก. 7. ข. 8. ก. 9. ข. 10. ข. ตอนที่ 1 1. ค. 2. ข. 3. ข. 4. ข. ตอนที่ 2 1. ๘ 2. ๖ เศษ ๖ 3. ประโยคสัญลกั ษณ์ 50 ÷ 8 = ตอบ จะไดม้ ะนาวถุงละ ๖ ผล และเหลอื มะนาว ๒ ผล 4. (ตัวอย่างโจทยป์ ญั หา) ครมู คี ัพเคก้ 32 ช้นิ แจกคพั เคก้ ทัง้ หมดให้นกั เรยี น 7 คน คนละเท่า ๆ กัน จะได้คนละกชี่ ิน้ และเหลอื คัพเค้กกี่ชิน้ ประโยคสัญลักษณ์ 32 ÷ 7 = 5. (ตวั อยา่ งโจทย์ปัญหา) แมค่ ้ามีแอปเปิล 21 ผล จดั ใสจ่ าน จานละ 3 ผล จะจัดได้กีจ่ าน | 37สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ อื ครูรายวิชาพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | เวลา ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 บทท่ี 7 เวลา จุดประสงค์การเรยี นรู้และสาระสำ�คญั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระส�ำ คญั นกั เรียนสามารถ 1. อา่ นปฏิทิน • ปฏทิ นิ เปน็ เครือ่ งมอื ทีบ่ อก วนั เดอื น ปี (หวั ขอ้ 7.1 – 7.3) โดย 1 ปี มี 12 เดือน 2. บอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที (ชว่ ง 5 นาท)ี • เดอื นที่ลงทา้ ยด้วย คม มี 31 วนั เดอื นท่ี (หวั ขอ้ 7.4 – 7.7) ลงท้ายด้วย ยน มี 30 วัน เดอื นกุมภาพันธม์ ี 28 วัน หรือ 29 วนั • การเขียนแสดงวนั เดือน ปี อาจเขียนชอ่ื เดอื น โดยใชค้ ำ�ย่อหรอื ใชล้ ำ�ดบั ทข่ี องเดอื น และ อาจเขยี นแสดงวันท่ ี ปีพทุ ธศักราชหรอื ครสิ ต์ศกั ราชเป็นตัวเลขสองหลกั • พ.ศ. เปน็ คำ�ย่อของพทุ ธศักราช และ ค.ศ. เปน็ ค�ำ ย่อของคริสต์ศักราช • นาฬกิ าเปน็ เคร่ืองมอื บอกเวลาอาจบอกโดยใช้ เขม็ หรือตวั เลข • การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า เมือ่ เข็มยาวบน หนา้ ปัดนาฬกิ าชี้ทตี่ วั เลข 12 และเข็มสน้ั ชี้ ท่ตี วั เลขใดจะบอกเวลาเปน็ นาฬิกาตามทีเ่ ขม็ สนั้ ชี้ • เวลากลางวนั เรม่ิ ตง้ั แต่ 6 นาฬกิ า ถึงก่อน 18 นาฬกิ า • เวลากลางคนื เริม่ ตั้งแต่ 18 นาฬกิ า ถึงก่อน 6 นาฬิกา • 1 วัน เท่ากบั 24 ช่ัวโมง และ 1 ช่วั โมง เท่ากับ 60 นาที 38 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา ค่มู ือครูรายวิชาพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เลม่ 2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระสำ�คญั นักเรียนสามารถ • การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที 3. แกโ้ จทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลาที่มีหนว่ ยเดีย่ ว และเปน็ หนว่ ยเดยี วกนั ให้พจิ ารณาที่ต�ำ แหนง่ เข็มสนั้ จะบอกเวลาเป็น (หวั ขอ้ 7.8) นาฬิกาและเข็มยาวจะบอกเวลาเป็นนาที • การบอกระยะเวลาอาจบอกเปน็ ชั่วโมงหรอื เป็นนาที โดยนบั จากเวลาเริ่มต้น จนถงึ เวลา ส้นิ สุด • นาฬกิ าแบบใช้ตวั เลขใช้เครอ่ื งหมาย : ค่นั ระหวา่ งตวั เลขทีแ่ สดงเวลาเปน็ นาฬกิ ากบั ตัวเลขทีแ่ สดงเวลาเปน็ นาที โดยตัวเลข หนา้ เครอื่ งหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาฬกิ า ตัวเลขหลังเคร่ืองหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาท ี • การแก้โจทย์ปัญหาทำ�ได้โดยอา่ นท�ำ ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา และหาคำ�ตอบ | 39สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | เวลา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 2 การวเิ คราะหเ์ นื้อหากับทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ หวั ขอ้ เนอื้ หา เวลา ทกั ษะและกระบวนการ (ชว่ั โมง) ทางคณิตศาสตร์ 12345 เตรยี มความพรอ้ ม 1 7.1 การอา่ นปฏิทนิ (1) 7.2 การอา่ นปฏทิ ิน (2) 1 7.3 การเขียนแสดง วนั เดือน ปี 7.4 การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา 1 7.5 การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที 7.6 การบอกระยะเวลาเป็นช่วั โมงและนาที 1 7.7 การบอกเวลาด้วยนาฬิกาแบบใช้ตวั เลข 2 2 2 1 7.8 โจทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั เวลา 2 รว่ มคดิ ร่วมทำ� 1 1 การแกป้ ญั หา 2 การสอื่ สารและการส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ 3 การเชือ่ มโยง 4 การใหเ้ หตุผล 5 การคดิ สรา้ งสรรค์ ค�ำ ส�ำ คัญ ปฏิทิน พุทธศกั ราช คริสต์ศกั ราช นาฬกิ า นาฬกิ าแบบใช้ตวั เลข เข็มสั้น เข็มยาว การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า การบอกเวลาเปน็ นาท ี การบอกระยะเวลา ชั่วโมง หน่วยเดีย่ ว วนั ผลิต วนั หมดอายุ ความรู้หรอื ทกั ษะพน้ื ฐานของนกั เรยี น 1. การบวก การลบ การคูณ การหารจำ�นวนนบั 2. วัน เดอื น ปี สัปดาห์ 3. วันน้ี วนั พร่งุ น ี้ เมือ่ วานน้ ี วนั แรก วันสดุ ทา้ ย วนั สำ�คัญ วันหยดุ 4. ลำ�ดบั ที่ 5. กลางวัน กลางคนื 40 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา คมู่ ือครรู ายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เลม่ 2 สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน หน้า 58 - 93 2. แบบฝกึ หดั หน้า 39 - 63 3. แบบบนั ทกึ กจิ กรรม ใบกิจกรรม บตั รภาพต่าง ๆ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทใ่ี ช้ประกอบกิจกรรม ดังน้ี •• ปฏิทนิ สินค้าตา่ ง ๆ ทร่ี ะบวุ นั ผลิตและวันหมดอายุ เชน่ นมกล่อง นมขวด ขนมปงั แซนดว์ ชิ ขนมต่าง ๆ อาหารสำ�เร็จรูปต่าง ๆ แชมพู ยาต่าง ๆ ใบปลวิ สินค้า ใบโฆษณา ฉลากสินค้า ท่ีระบวุ ันผลิตและวนั หมดอายุ • นาฬิกาจริงหรือนาฬิกาจ�ำ ลองชนดิ มีเฟือง • บตั รแสดงเวลา • นาฬิกาแบบใชต้ ัวเลขชนดิ ตา่ ง ๆ • บตั รภาพนาฬิกาแสดงเวลา • บตั รค�ำ ส่ัง • บัตรโจทยป์ ญั หา •• ใบกิจกรรม แบบบันทกึ กจิ กรรม 4. สือ่ เพม่ิ เติม หนา้ 60 62 79 และ 93 (Download ไดจ้ าก QR code หนา้ 58) 5. สื่อวดี ิทัศน์ (QR code) •• 1 วนั มี 24 ชั่วโมง หนา้ 73 ช่วง 5 นาที หนา้ 77 เวลาทีใ่ ชจ้ ัดการเรยี นรู้ 15 ชั่วโมง | 41สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครรู ายวชิ าพืน้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | เวลา ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 เลม่ 2 การจัดการเรียนรู้ การเตรียมความพรอ้ ม 11 12 111 12 1 2 10 10 2 9 93 3 บ ทที่ 7 เวลา 8 84 4 7 6 75 6 5 เรียนจบบทนแี้ ล้ว นกั เรยี นสามารถ อ่�นปฏทิ นิ บอกเวล�เปน็ น�ฬกิ �และน�ที (ช่วง 5 น�ท)ี แก้โจทยป์ ญั ห�เกยี่ วกบั เวล�ท่ีมีหนว่ ยเดย่ี วและ สอื่ เพมิ่ เตมิ เป็นหนว่ ยเดยี วกัน ขณะนเ้ี ป็นเวล�กี่น�ฬิก� ก่นี �ที ใกล้เค�รพธงช�ตแิ ล้ว 1. ใชข้ อ้ มลู ในหนังสอื เรยี นหน้าเปดิ เพ่ือกระตุ้นความสนใจของผ้เู รยี น โดยใชค้ ำ�ถามเชน่ −− สถานทใี่ นภาพคอื สถานทใ่ี ด −− ในภาพนักเรยี นกำ�ลงั ทำ�กิจกรรมอะไร −− นกั เรยี นเขา้ แถวเคารพธงชาติเวลาใด −− บ้านของนกั เรยี นมีนาฬิกาหรือไม่ −− ทำ�ไมทกุ บา้ นตอ้ งมีนาฬิกา และรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับชนิด ประเภทของนาฬิกา รวมท้ังความจ�ำ เปน็ และประโยชน ์ ของนาฬกิ า เพ่อื นำ�เขา้ สู่บทเรยี น 42 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา คู่มือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เลม่ 2 2. ใชห้ นงั สอื หน้า 60 เพอื่ เตรียมความพร้อม โดยจัด กิจกรรม “วันเกดิ ของฉนั ” เพือ่ ตรวจสอบความรพู้ นื้ ฐาน หนงั สือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 ของนักเรยี นและใช้คำ�ถาม เช่น บทท่ี 7 | เวลา −− 1 สัปดาหม์ ีก่วี ัน ไดแ้ ก่วันอะไรบ้าง เตรยี มความพรอ้ ม −− 1 ปีมีกเ่ี ดอื น เดือนอะไรบา้ ง −− นกั เรยี นเกิดเดือนอะไร กจิ กรรม วันเกดิ ของฉนั −− วันเกดิ ของนักเรียนปนี ต้ี รงกบั วนั อะไร เป็นตน้ อุปกรณ์ แบบบนั ทกึ กิจกรรม จากนน้ั แบง่ นกั เรยี นเปน็ กลุม่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน วธิ จี ดั กิจกรรม แจกแบบบนั ทกึ กจิ กรรมกลุ่มละ 1 ใบ เพ่อื ใหน้ กั เรียน 1. ครใู ห้นกั เรียนตอบคำ�ถ�มว่� 1 สัปด�ห์มกี ว่ี นั วันอะไรบ้�ง และ สำ�รวจวนั เกิดของเพือ่ นในกล่มุ และน�ำ เสนอหน้าช้ันเรียน 1 ปมี กี ่เี ดือน เดือนอะไรบ�้ ง ทั้งนีค้ รูอาจเปลี่ยนค�ำ ถามในแบบบนั ทกึ กิจกรรมไดต้ าม 2. ครแู บ่งกลุ่มนักเรยี น และแจกแบบบนั ทึกกจิ กรรมกลุ่มละ 1 ใบ ความเหมาะสม จ�กนนั้ ใหน้ ักเรยี นส�ำ รวจวันเกิดของเพ่ือนในกลุ่ม บันทกึ ลงใน แบบบนั ทึกกจิ กรรมและนำ�เสนอหน้�ชนั้ เรียน ตวั อย่างแบบบนั ทกึ กิจกรรม ชอ่ื -สกุล วนั เกดิ วัน วันที่ ชอื่ เดือน 1. 2. 3. 4. 5. ตอบคำาถามต่อไปน้ี 1. มใี ครบ้�งที่เกดิ วันจนั ทร์ ..................................................................................................................... 2. มใี ครบ้�งที่เกิดเดือนเดยี วกนั .............................................................................................................. วนั คล้�ยวันเกิดของนกั เรยี นปีนตี้ รงกับวนั อะไร 60 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 7.1 การอ่านปฏทิ นิ (1) หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 จดุ ประสงค์ บทที่ 7 | เวลา บอกเดือนใน 1 ปี 7.1 การอา่ นปฏิทนิ (1) กาำ เนดิ ปฏทิ นิ ในประเทศไทย ก�รพิมพ์ปฏิทนิ มีขนึ้ เปน็ คร้งั แรกในประเทศไทย พฒั นาความรู้ เมื่อวันท่ี 14 มกร�คม พ.ศ.2385 ปล�ยสมัย รัชก�ลที่ 3 ซ่ึงใช้ต�มแบบ “จันทรคติ” ต่อม� ในสมัยรชั ก�ลท่ี 5 ได้มกี �รปรบั ปฏิทินเป็นแบบ “สุรยิ คต”ิ ถือเป็นต้นแบบปฏิทินไทยในปจั จบุ นั สื่อการเรยี นรู้ มกราคม 2562 −− ปฏทิ ิน อาทติ ย� จนั ทร� องั คาร พุธ พฤหสั บดี ศุกร� เสาร� แนวการจดั การเรียนรู้ 6 7 วนั ขึ้นปใ� หม� 2 3 4 5 การพัฒนาความรู้ 13 14 9 1 10 11 วันเดก็ แหง� ชาติ 1. ใชป้ ฏิทนิ จริงหรือภาพปฏทิ นิ ตามหนงั สือเรียน 8 วนั ครู หน้า 61 เพอื่ ใหน้ กั เรียนสงั เกต สว่ นประกอบตา่ ง ๆ 17 18 12 ในปฏทิ ิน พรอ้ มท้งั ตงั้ คำ�ถามเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น 15 16 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 ปฏิทนิ แสดงวนั ท ่ี ชอื่ วนั ชือ่ เดือน ปีพุทธศกั ร�ช ปฏทิ ินบ�งอนั อ�จแสดงปีครสิ ต์ศักร�ชด้วย ปฏทิ นิ นี้เปน็ ปฏทิ นิ เดอื นมกร�คม พุทธศักร�ช 2562 หรือครสิ ต์ศักร�ช 2019 เดือนมกร�คม เรม่ิ ตัง้ แตว่ ันท่ ี 1 ถงึ วนั ท ่ี 31 รวมมีทัง้ หมด 31 วัน | 61สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี −− ปฏิทนิ นเี้ ป็นปี พ.ศ. และ ค.ศ. อะไร −− เดอื นทีก่ ำ�หนดใหเ้ ปน็ เดือนอะไร และมีกีว่ ัน −− วันแรกและวันสดุ ทา้ ยของเดอื นตรงกบั วันอะไร ครอู าจใหค้ วามรเู้ ก่ยี วกบั พ.ศ. และ ค.ศ. เพ่ิมเติม | 43สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวชิ าพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | เวลา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เล่ม 2 หนังสือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 7 | เวลา บทที่ 7 | เวลา กจิ กรรม ส�ำ รวจปฏทิ นิ ช่ือเดือนใน 1 ปี อุปกรณ ์ 1. ปฏทิ ิน 2. แบบบันทึกกจิ กรรม ลำาดับที่ ชือ่ เดือน อกั ษรย่อ จำานวนวนั 1 มกร�คม ม.ค. 31 วธิ ีจดั กิจกรรม 2 กมุ ภ�พันธ์ ก.พ. 3 มนี �คม มี.ค. 28 หรือ 29 1. ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลมุ่ แจกปฏิทนิ กล่มุ ละ 1 อัน และใหน้ กั เรยี น 4 เมษ�ยน เม.ย. 31 ตอบค�ำ ถ�ม ดงั นี้ 5 พฤษภ�คม พ.ค. 30 6 มิถุน�ยน ม.ิ ย. 31 ปฏทิ ินที่ได้รบั แจกเป็นปีพุทธศกั ร�ชอะไร และปคี ริสตศ์ กั ร�ชอะไร 7 กรกฎ�คม ก.ค. 30 ใน 1 ปี มีท้งั หมดกีเ่ ดือน และมเี ดือนอะไรบ�้ ง 8 สงิ ห�คม ส.ค. 31 แตล่ ะปเี ริ่มดว้ ยเดอื นอะไร 9 กันย�ยน ก.ย. 31 10 ตลุ �คม ต.ค. 30 2. ครูแจกแบบบันทึกกิจกรรม ให้นักเรยี นร่วมกันส�ำ รวจปฏทิ นิ ว�่ 11 พฤศจิก�ยน พ.ย. 31 แตล่ ะเดือนมกี ว่ี นั บันทกึ ลงในแบบบนั ทกึ กิจกรรม และนำ�เสนอ 12 ธันว�คม ธ.ค. 30 หน�้ ช้ันเรียน 31 ตัวอย่างแบบบันทึกกจิ กรรม ลำาดับที่ ชื่อเดือน จำานวนวนั ลาำ ดบั ท่ี ชอื่ เดือน จาำ นวนวนั 1 มกร�คม 7 กรกฎ�คม เดือนท่ี 10 ตรงกบั เดือนอะไร 2 กุมภ�พนั ธ์ 8 สงิ ห�คม เดือนตุล�คม 3 9 กันย�ยน 4 มนี �คม 10 ตุล�คม 5 เมษ�ยน 11 พฤศจิก�ยน 6 พฤษภ�คม 12 ธนั ว�คม มถิ ุน�ยน ตอบคำาถาม 1. เดือนทม่ี ี 30 วนั ได้แก่เดือนอะไรบ�้ ง มกี เ่ี ดือน 1 เดอื น ม ี 30 วนั หรอื 31 วนั ยกเวน้ เดอื นกมุ ภ�พนั ธม์ ี 28 วนั หรอื 29 วนั ......4....เ.ด...อื ...น....ไ..ด..แ้...ก...่ .เ.ม...ษ...า...ย..น.....ม..ิถ...นุ...า..ย...น....ก...นั ...ย...า..ย..น.....แ..ล...ะ...พ...ฤ...ศ..จ...ิก...า..ย..น............................... เดือนทีล่ งท�้ ยด้วย คม มี 31 วนั เดอื นทล่ี งท้�ยดว้ ย ยน มี 30 วนั 2. เดอื นทีม่ ี 31 วัน ได้แก่เดือนอะไรบ�้ ง มกี ีเ่ ดือน ......7....เ.ด...ือ...น....ไ..ด..้แ...ก...่ .ม...ก...ร..า..ค...ม....ม...นี ...า..ค...ม....พ...ฤ...ษ...ภ...า..ค...ม....ก...ร..ก...ฎ...า..ค...ม....ส..ิง...ห..า...ค..ม.....ต..ลุ...า..ค...ม....แ...ล..ะธันวาคม 3. เดือนอะไรท่ีมีจำ�นวนวันนอ้ ยกว�่ 30 วัน และเดือนนัน้ มกี ว่ี ัน จากคำาใบ้ เดก็ ชายเป็นเอกเกิดเดอื นอะไร ......เ.ด...ือ..น...ก...มุ...ภ...า..พ...นั...ธ...์ .ม...ี .2...8....ว...ัน....ห...ร..อื....2...9....ว...ัน.................................................................... จ�กก�รตอบคำ�ถ�ม นักเรยี นได้ข้อสงั เกตอะไรบ้�ง ค�ำ ใบท้ ่ี 1 เกิดเดอื นท่ีลงท้�ยดว้ ย คม คำ�ใบท้ ่ี 2 หลังเดอื นเกดิ เป็นเดือนที่ลงท�้ ยด้วย ยน เดือนกุมภ�พนั ธ์จะม ี 29 วัน ทกุ ๆ 4 ป ี เรยี กปีนัน้ ว่� ปีอธกิ สุรทิน ค�ำ ใบท้ ี ่ 3 ก่อนหน�้ เดือนเกิดเปน็ เดอื นลงท้�ยดว้ ย คม 62 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดอื นสงิ หาคม | 63สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. แบง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม ใช้ปฏิทนิ ปี พ.ศ. ต่างกัน แจกนกั เรียนกลมุ่ ละ 1 อัน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส�ำ รวจและตอบค�ำ ถามตามแบบบนั ทกึ กจิ กรรม หนา้ 62 และน�ำ เสนอหนา้ ชน้ั เรยี น และรว่ มกนั สรปุ วา่ −− 1 ปี มี 12 เดอื น −− 1 เดอื นมี 30 หรือ 31 วัน ยกเวน้ เดือนกมุ ภาพันธม์ ี 28 หรอื 29 วนั −− เดอื นทีม่ ี 30 วนั ไดแ้ กเ่ ดอื น เมษายน มถิ นุ ายน กันยายน พฤศจกิ ายน (ให้สังเกตวา่ ทุกเดอื นจะลงทา้ ยดว้ ยคำ�วา่ ยน) −− เดือนทม่ี ี 31 วัน ได้แกเ่ ดอื น มกราคม มีนาคม พฤษภาคม กรกฎาคม สงิ หาคม ตลุ าคม ธันวาคม (ใหส้ ังเกตว่า ทกุ เดอื นจะลงทา้ ยดว้ ยค�ำ วา่ คม) จากนนั้ ให้นักเรยี นช่วยกนั ตอบค�ำ ถามท้าย หน้า 62 3. ใชต้ ารางทีแ่ สดงล�ำ ดับทขี่ องเดอื น ช่อื เดือน อกั ษรย่อ และจ�ำ นวนวัน ในหนังสอื เรยี นหนา้ 63 เพื่อให้นักเรยี นสังเกตอกั ษรยอ่ ของแต่ละเดอื น ครอู าจใชส้ ือ่ ใบปลวิ หรอื ภาพโฆษณาสินค้า ตา่ ง ๆ ทม่ี อี ักษรย่อของเดอื น เพ่อื แสดงใหน้ กั เรียนเห็นว่ามีการเขียนชือ่ เดือนเปน็ อกั ษรยอ่ ใน ชวี ติ ประจ�ำ วนั และเนน้ ย�ำ้ ใหน้ กั เรยี นสงั เกตล�ำ ดบั ทข่ี องแตล่ ะเดอื น แลว้ รว่ มกนั สรปุ วา่ อกั ษรยอ่ ตวั หนา้ มาจากพยญั ชนะตวั แรกของเดอื น (ถ้าซ�้ำ กันให้ใส่สระ) อกั ษรย่อตวั หลงั มาจากคำ�วา่ ยนและคม ท่อี ยู่ ท้ายชอื่ เดอื นแตล่ ะเดอื น (เดือนทลี่ งท้ายด้วย ยน ใช้ ย เดอื นทล่ี งทา้ ยด้วย คม ใช้ ค ) แล้วให้นักเรียน ท�ำ กิจกรรมหาเดือนเกิดของเดก็ ชายเป็นเอกตามหนังสอื เรยี นท้ายหนา้ 63 และรว่ มกันตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง 44 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 7 | เวลา คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เลม่ 2 การตรวจสอบความเข้าใจ หนังสอื เรียนร�ยวิช�พื้นฐ�น | คณติ ศ�สตร์ ป.2 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น บทท ่ี 7 | เวลา โดยใหน้ กั เรียนตอบค�ำ ถามเก่ียวกบั ปฏทิ ินตามหนังสอื เรียน หน้า 64 เพื่อให้นกั เรยี นไดเ้ น้นยำ้�ความเข้าใจเกี่ยวกับ ตรวจสอบความเขา้ ใจ การอา่ นปฏทิ นิ และเดอื นตา่ ง ๆ ใน 1 ปี จากนัน้ ตอบคาำ ถาม ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปสิง่ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ 1 เดือนแรกของปีคอื เดือนอะไร และเดือนสุดท�้ ยของปีคอื เดือนอะไรเแดลือะนเดมอื กนราธคนั มวาคม 2 เดือนมีน�คม เป็นเดือนท่เี ท่�ไร มีกี่วัน เดือนที่ 3 มี 31 วัน 3 เดือนกันย�ยน เปน็ เดือนท่ีเท่�ไร มีกวี่ ัน เดอื นที่ 9 มี 30 วนั 4 เดือนท่ี 8 คือเดอื นอะไร มกี ีว่ ัน เดอื นสงิ หาคม มี 31 วัน 5 เดือนอะไรท่ีมจี �ำ นวนวันน้อยกว่� 30 วนั เดอื นกุมภาพันธ์ 6 เดอื นกนั ย�ยนอยรู่ ะหว่�งเดือนอะไรกบั เดอื นอะไร เด อื นสงิ หาคมกับเดือนตุลาคม สงิ่ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ สิง่ ทไี่ ด้เรยี นรู้ แบบฝกึ หัด 7.1 ปฏิทินเปน็ เครอื่ งมอื ทบี่ อก วัน เดอื น ป ี ปฏทิ ินเปน็ เคร่อื งมอื บอก วนั เดือน ปี 1 ปี มี 12 เดือน 1 ป ี ม ี 12 เดอื น 1 เดอื น มี 30 วนั หรือ 31 วนั ยกเวน้ เดอื นกมุ ภาพันธ์มี 1 เดือน ม ี 30 วนั หรือ 31 วนั 28 วัน หรอื 29 วัน เดอื นทล่ี งทา้ ยดว้ ย คม มี 31 วนั ยกเวน้ เดอื นกุมภ�พนั ธม์ ี 28 วนั หรือ 29 วัน เดอื นทลี่ งทา้ ยดว้ ย ยน มี 30 วนั เดือนท่ลี งท้�ยด้วย คม มี 31 วัน จากน้ันใหน้ ักเรียนทำ�แบบฝึกหัด 7.1 หนา้ 39 – 41 เดือนทีล่ งท้�ยด้วย ยน มี 30 วนั 64 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 7.2 การอา่ นปฏิทนิ (2) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 จุดประสงค์ บทที่ 7 | เวลา บอกวัน วนั ที่ เดอื น ปี และวนั สำ�คญั จากปฏิทิน 7.2 การอ่านปฏทิ ิน (2) พัฒนาความรู้ สอ่ื การเรียนรู้ เมษายน 2562 −− ปฏทิ ิน ช่วยกนั อ่�นปฏิทนิ อาทติ ย� จันทร� องั คาร พธุ พฤหัสบดี ศกุ ร� เสาร� แนวการจดั การเรยี นรู้ 7 1 2 345 วนั จักรี การพัฒนาความรู้ 9 10 11 12 วนั สงกรานต� วันหยุดชดเชย 17 18 19 6 วนั หยุดชดเชย 14 8วนั จักรี วนั สงกรานต� 16วนั สงกรานต� วนั สงกรานต� 13 15 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 ปฏทิ ินนีเ้ ปน็ ปฏิทินเดือน เมษ�ยน พุทธศกั ร�ช 2562 เดือนเมษ�ยน ม ี 30 วนั 1. ใชป้ ฏิทนิ 1 เดือน ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 65 ให้ เดือนน้มี ีวันสาำ คญั คือวันจกั ร ี ตรงกับวนั เส�ร์ที ่ 6 เมษ�ยน และวันสงกร�นต์ตรงกบั วันท่ี 13 ถงึ 15 เมษ�ยน นกั เรยี นบอกส่ิงทส่ี ังเกตได้จากปฏิทิน โดยครูอาจตั้งค�ำ ถาม วนั เสาร์ท่ีสองของเดอื นตรงกับวนั ท ี่ 13 เมษ�ยน ดังน้ี ถ�้ วนั นเ้ี ปน็ วันท ี่ 18 ตรงกบั วันพฤหสั บด ี เมอ่ื วานนี้เปน็ วนั ท ่ี 17 −− ปฏทิ ินนี้เป็นเดอื นอะไร ปีอะไร ตรงกับวนั พุธ และพรุง่ น้ีเปน็ วนั ท่ี 19 ตรงกับวนั ศุกร์ −− มีจำ�นวนก่ีวัน ถ�้ วันนเี้ ป็นวันที ่ 23 อีก 5 วนั จะเป็นวันท ่ี 28 เมษ�ยน | 65สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี −− มวี นั ส�ำ คัญอะไรบา้ ง และตรงกับวันอะไร วันที่ เทา่ ไร −− เสาร์ทสี่ องของเดอื นตรงกบั วนั ทีเ่ ทา่ ไร −− ถา้ วันน้ีเป็นวันที่ 18 เมอื่ วานนีแ้ ละวนั พรงุ่ นีเ้ ป็นวนั ทเ่ี ทา่ ไร จากน้นั ใชป้ ฏิทนิ เดือนอื่น ๆ ตงั้ ค�ำ ถามในลกั ษณะเดียวกัน | 45สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครรู ายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | เวลา ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 2 หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 7 | เวลา บทท่ี 7 | เวลา มกราคม 2562 กุมภาพนั ธ� 2562 มีนาคม 2562 กิจกรรม วนั ส�ำ คัญ อาทติ ย� จันทร� องั คาร พธุ พฤหสั บดี ศกุ ร� เสาร� อาทิตย� จนั ทร� อังคาร พธุ พฤหสั บดี ศุกร� เสาร� อาทิตย� จนั ทร� องั คาร พุธ พฤหสั บดี ศุกร� เสาร� วนั ขึน้ ปใ� หม� 6 7 2 3 4 5 1 2 1 2 อปุ กรณ ์ ปฏิทนิ ปีปจั จบุ ัน 13 14 1 9 8 10 11 วนั เด็กแห�งชาติ 34 5 6 7 8 9 3456789 วิธจี ัดกิจกรรม วันครู 10 11 12 13 14 15 16 15 17 18 12 10 11 12 13 14 15 16 16 19 วันมาฆบชู า 20 21 22 23 24 25 26 17 18 19 20 21 22 23 ครูแบ่งกลุ่มนกั เรียน แจกปฏิทินกล่มุ ละ 1 อนั ใหแ้ ต่ละกลมุ่ สำ�รวจปฏทิ ิน 17 18 19 20 21 22 23 และตอบค�ำ ถ�มตอ่ ไปนี้ 27 28 29 30 31 24 25 26 27 28 24 25 26 27 28 29 30 31 อ่านปฏิทินแลว้ ตอบคำาถาม 1. ปฏทิ ินที่ไดร้ บั แจกเป็นปพี ุทธศกั ร�ชอะไร 2. เดือนกรกฎ�คมมวี นั ส�ำ คญั อะไรบ�้ ง ตรงกับวนั อะไร วนั ทเ่ี ท่�ไร 1 ปฏทิ นิ นี้เปน็ ปฏิทนิ ของเดือนอะไรบ�้ ง เแดลือะนเดมอื กนรามคนี มาคเดมอื นกมุ ภาพนั ธ์ 3. วนั ส�ำ คัญต่อไปนี้ ตรงกับวนั อะไร วนั ทีเ่ ท�่ ไร และเดอื นอะไร 2 วนั ท ่ี 1 มกร�คมตรงกับวนั อะไร และวันท ี่ 31 มกร�คมตรงกบั วันอะไร 3 ถ้�ววันนั ทน่ีีเ้ 1ปน็ มวกันรทาี่ ค3ม1 ตมรกงรก�คบั มว ันพอรังุ่งนค้ีคารือวแันลทะ่ีเวทนั ่�ไทรี่ 3ต1รงมกับกวรนัาคอะมไรต รงกบั วนั พฤหสั บดี วนั พืชมงคล วนั รัฐธรรมนญู และเดอื นอะไร พรุ่งน้ีคือ วนั ที่ 1 ตรงกับวนั ศุกร์ และเดอื นกุมภาพนั ธ์ วนั ปยิ มห�ร�ช วันแรงง�นแหง่ ช�ติ วันแรกของเดือนกุมภ�พนั ธจ์ ะตอ่ จ�กวนั สดุ ท�้ ยของเดอื นมกร�คม กรกฎาคม กรกฎาคม 4 ถ�้ วนั นีเ้ ปน็ วนั ท ี่ 1 มีน�คม เม่อื ว�นนี้คอื วันทีเ่ ท�่ ไร ตรงกบั วนั อะไร 123456 123456 และเดอื นอะไร เม่อื วานนคี้ อื วนั ท่ี 28 ตรงกบั วันพฤหัสบดี และเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ 7 8 9 10 11 10 7 8 9 10 11 10 ตอบคาำ ถาม 12 13 14 15 16 17 12 13 14 15 16 17 1 วนั ท ี่ 1 เมษ�ยน 2562 ตรงกับวันอะไร วันจนั ทร์ 18 19 20 21 22 23 18 19 20 21 22 23 2 ถ้�วันนีเ้ ปน็ วันท ี่ 27 กุมภ�พนั ธ์ 2562 อกี 6 วันจะเป็นวันท่เี ท�่ ไร 24 30 25 31 26 27 28 29 24 30 25 31 26 27 28 29 ตรงกบั วันอะไร และเดอื นอะไร วันที่ 5 ตรงกบั วันองั คาร และเดอื นมีนาคม 3 วนั สิน้ ปขี องปพี ุทธศกั ร�ช 2561 ตรงกบั วนั ที่เท�่ ไร เดอื นอะไร | 67สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และตรงกบั วนั อะไร วนั ท่ี 31 เดือนธันวาคม และตรงกบั วนั จันทร์ 66 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. ใช้ปฏิทนิ ปเี ดียวกนั ทตี่ อ่ เน่ืองกัน 3 เดอื น ตามหนงั สอื เรียนหน้า 66 แลว้ ตง้ั คำ�ถามเพื่อ กระต้นุ ใหน้ ักเรียนสังเกตความต่อเนื่องของวันสุดท้ายในเดือนปจั จบุ ันกับวันแรกของเดอื นถัดไป ใช้ค�ำ ถามเกี่ยวกับ วันนี้ เมอื่ วาน และพร่งุ นี้ แล้วจงึ อภปิ รายสรุปรว่ มกันว่า วนั แรกของเดือนปจั จบุ นั จะตอ่ จากวนั สดุ ท้ายของเดือนกอ่ นหน้า และวันสุดทา้ ยของเดือนปัจจุบนั จะมาก่อนวนั แรกของ เดือนถดั ไป จากนน้ั ร่วมกนั ตอบคำ�ถามท้ายหน้า 66 3. ใชป้ ฏทิ นิ ปีปัจจุบัน จัดกจิ กรรม “วันส�ำ คญั ” ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 67 โดยครแู บง่ นกั เรยี น เป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน หรอื ตามความเหมาะสม แลว้ แจกปฏิทนิ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ช่วยกันส�ำ รวจ และ ตอบค�ำ ถามเกีย่ วกบั วันส�ำ คญั ตา่ ง ๆ ที่ปรากฏในปฏิทินของแต่ละเดือน และให้นักเรียนสังเกตสขี อง วนั ทขี่ องวันส�ำ คญั และวันหยดุ ซึ่งสว่ นใหญจ่ ะใช้อกั ษรสแี ดง หรือสอี ื่น ๆ ท่ีแตกต่างจากสีของวนั ท่ี ของวนั ปกติ โดยครูอาจใชค้ �ำ ถาม เช่น วนั พชื มงคลตรงกบั วนั อะไร วนั ทีเ่ ท่าไร เดอื นอะไร หนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 วนั รฐั ธรรมนญู ตรงกบั วนั อะไร วนั ทเ่ี ทา่ ไร เดอื นอะไร บทที่ 7 | เวลา วันแรงงาน ตรงกับวันอะไร วันท่ีเทา่ ไร เดือนอะไร ตรวจสอบความเข้าใจ การตรวจสอบความเขา้ ใจ ตุลาคม 2562 พฤศจิกายน 2562 ธนั วาคม 2562 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี น โดยใชป้ ฏทิ นิ ทต่ี อ่ เนอ่ื งกนั 3 เดือน ตามหนงั สือเรยี นหน้า 68 อาทิตย� จันทร� องั คาร พธุ พฤหสั บดี ศุกร� เสาร� อาทติ ย� จนั ทร� อังคาร พธุ พฤหสั บดี ศกุ ร� เสาร� อาทติ ย� จนั ทร� อังคาร พุธ พฤหสั บดี ศกุ ร� เสาร� ใหน้ ักเรียนตอบคำ�ถามเก่ียวกบั วัน วันที่ และ วันสำ�คญั 123 4 5 1 2 วันพอ� แห�งชาติ 12 19 12 3 45 6 7 26 วันรฐั ธรรมนูญ 6 7 8 9 10 11 3456789 13สววันรครลคา� ตยรว.นั 9 14 10 11 12 13 14 15 16 8 9 10 11 12 13 14 21 วนั ออกพรรษา 15 16 17 18 15 16 17 18 19 20 21 วันป�ยมหาราช 20 17 18 19 20 21 22 23 22 23 24 25 26 27 28 22 23 24 25 24 25 26 27 28 29 30 29 30 31วนั ส้ินป� 27 28 29 30 31 อา่ นปฏทิ ินแลว้ ตอบคาำ ถาม 1 วนั ท่ี 20 พฤศจกิ �ยน ตรงกบั วนั อะไรวันพธุ วันที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2 ถ้�วันน้ีเปน็ วันที ่ 28 ตุล�คม อกี 4 วนั จะเปน็ วันที่เท่�ไร เดือนอะไร 3 วันศกุ ร์ทส่ี ี่ของเดอื นธันว�คมตรงกับวนั ทีเ่ ท่�ไร วนั ท่ี 27 4 วันท่ ี 1 มกร�คม 2563 ตรงกับวันอะไร วนั พธุ 5 วนั เส�ร์แรกของเดือนมกร�คม 2563 ตรงกับวันท่ีเท่�ไร วนั ที่ 4 ในเดอื นทก่ี ำ�หนดให้ เพ่ือใหน้ ักเรียนไดเ้ น้นย้�ำ ความเข้าใจ เกีย่ วกับการอา่ นปฏทิ นิ เดอื น และวันต่าง ๆ จากน้ัน ส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สง่ิ ท่ีไดเ้ รียนรู้ ปฏทิ ินเป็นเคร่อื งมือทีบ่ อก วนั เดอื น ป ี และอ�จแสดง วนั สำ�คญั ต�่ ง ๆ แบบฝกึ หดั 7.2 68 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 46 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 7 | เวลา คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 สง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ ปฏิทินเป็นเครอ่ื งมือทบ่ี อก วัน เดือน ปี และอาจแสดงวันสำ�คัญต่าง ๆ จากน้นั ให้นักเรยี นท�ำ แบบฝึกหัด 7.2 หนา้ 42 – 44 7.3 การเขียนแสดง วนั เดือน ปี หนงั สอื เรยี นร�ยวิช�พนื้ ฐ�น | คณติ ศ�สตร์ ป.2 จุดประสงค์ บทที่ 7 | เวลา อ่านวนั เดือน ปี ที่กำ�หนดให้ 7.3 การเขยี นแสดงวนั เดือน ปี พฒั นาความรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ ในชวี ติ ประจำ�วนั เร�จะพบเหน็ ก�รเขียนแสดงวันเดอื นปไี ด้หล�ยแบบ อ�จเขียนชอื่ เดอื นโดยใชค้ ำ�ยอ่ หรือใชล้ ำ�ดบั ทขี่ องเดือน และเขียนแสดงวันท ่ี −− ภาพสินค้าที่ระบวุ ันผลิตและวันหมดอายุ เดอื น และปีเปน็ ตวั เลขสองหลัก เช่น วันท่ ี 1 พฤศจิก�ยน พทุ ธศักร�ช 2562 อ�จเขียนเปน็ 1 พ.ย. 62 หรอื 01/11/62 หรือ 01 11 62 5 ม.ิ ย. 62 หม�ยถึง วันท่ ี 5 มิถนุ �ยน พทุ ธศกั ร�ช 2562 แนวการจัดการเรียนรู้ ผลติ 06/11/61 หม�ยถึง ผลติ วนั ท่ ี 6 พฤศจิก�ยน พุทธศกั ร�ช 2561 การพฒั นาความรู้ หมดอ�ย ุ 13/11/61 หม�ยถงึ หมดอ�ยวุ นั ท ่ี 13 พฤศจกิ �ยน พทุ ธศกั ร�ช 2561 1. ครูนำ�ภาพสินคา้ หรอื ใบโฆษณาที่มกี ารเขยี น ควรบรโิ ภคก่อน 14 08 19 หม�ยถงึ แสดงวนั เดอื น ปี เช่น ภาพสินคา้ ทีร่ ะบุวันผลติ และวัน ควรบริโภคก่อน วนั ท่ ี 14 สงิ ห�คม คริสตศ์ กั ร�ช 2019 หมดอายุ เพือ่ ใหน้ กั เรียนเห็นการเขียนแสดงวนั เดือน ปี แบบต่าง ๆ ซ่งึ อาจเขียนชื่อเดอื นโดยใช้อกั ษรยอ่ หรือ พุทธศักร�ช อ�จใช้คำ�ยอ่ พ.ศ. และ คริสต์ศักร�ช อ�จใชค้ �ำ ยอ่ ค.ศ. | 69สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ล�ำ ดับท่ีของเดือน และเขียนแสดงวนั ที่ เดอื น ปี หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 เป็นตวั เลข 2 หลกั เชน่ วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2562 บทท่ี 7 | เวลา สามารถเขียนแสดงเปน็ 02/01/62 หรือ 02 01 62 ครูยกตวั อย่างอ่ืนเพ่ิมเติมหรือครูอาจบอกวนั ท่ี เดอื น ปี กิจกรรม ชีวิตปลอดภัยถ�้ ใส่ใจวันเดอื นปี แล้วใหน้ ักเรยี นออกมาเขยี นแสดงวนั เดือน ปี บนกระดาน อปุ กรณ์ สินค้�ต่�ง ๆ ทีร่ ะบุวนั ผลิตและวันหมดอ�ย ุ เช่น นมกลอ่ ง นมขวด ขนมปงั แซนด์วิช ขนมต่�ง ๆ อ�ห�รสำ�เร็จรูปต�่ ง ๆ แชมพู ย�ต่�ง ๆ 2. ครจู ัดกจิ กรรม “ชวี ติ ปลอดภัย ถา้ ใสใ่ จ วัน เดอื น วิธีจดั กจิ กรรม 1. ครแู บง่ กลมุ่ นกั เรยี น แลว้ แจกสินค�้ ต�่ ง ๆ กลมุ่ ละ 3 − 4 ชน้ิ 2. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มอ�่ นป�้ ยแสดงวนั ผลติ วันหมดอ�ยุ ของส่งิ ของต�่ ง ๆ และนำ�เสนอ ตัวอย่างภาพสินค้า ทีร่ ะบุวันผลติ และวันหมดอายุ ปี” ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 70 โดยครูและนักเรยี นช่วยกนั จัดหาสนิ ค้าตา่ ง ๆ ทพ่ี บในชีวติ จริง ทีร่ ะบวุ นั ผลิตและวนั หมดอาย ุ แลว้ จัดนกั เรียนเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม จากนน้ั แจกสนิ คา้ ใหน้ กั เรยี นกลมุ่ ละ 3 – 4 ชน้ิ ใหน้ กั เรยี น แตล่ ะกลุ่มอ่านป้ายแสดงวนั ผลิต และวันหมดอาย ุ - ตัวอย่�งค�ำ ที่แสดงถงึ วันผลิต เชน่ ผลิต วนั ทีผ่ ลติ MFG MFD ของสนิ คา้ น้นั ๆ และนำ�เสนอ แลว้ จึงร่วมกันอภปิ รายถงึ - ตัวอย�่ งค�ำ ทแี่ สดงถึงวันหมดอ�ย ุ เชน่ หมดอ�ย ุ สิน้ อ�ย ุ EXP EXD การเขียน วนั เดอื น ปี แบบตา่ ง ๆ จากนั้นครนู ำ�เสนอ - ตัวอย�่ งค�ำ ทแ่ี สดงถึงวันที่ควรบรโิ ภคก่อน เช่น ควรบรโิ ภคกอ่ น BB BBF 70 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เกรด็ ความรเู้ กี่ยวกบั อักษรย่อภาษาองั กฤษทปี่ รากฏอยบู่ น ฉลากสนิ ค้าที่นกั เรยี นสามารถพบได้ท่ัวไป เชน่ MFG MFD หมายถึงวนั ผลติ EXP EXD หมายถงึ วนั หมดอาย ุ | 47สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครูรายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | เวลา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เลม่ 2 หนังสอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หนงั สือเรยี นร�ยวิช�พืน้ ฐ�น | คณิตศ�สตร ์ ป.2 บทท่ี 7 | เวลา บทท ี่ 7 | เวลา จบั คู่ป้ายท่ีแสดงวนั เดือน ปีท่ีตรงกัน ตรวจสอบความเข้าใจ 1ก ตอบคำาถามต่อไปน้ี 2ข 1 คุณพ่อเขยี นว�่ 27/02/61 ไปเท่ียวทะเล คุณพ่อไปเทย่ี วทะเลวันท่ีเท�่ ไร 3ค เดอื นอะไร พ.ศ.อะไร 4 ง เปด� ใชง� าน วนั ที่ 27 เดอื นกมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2561 วันที่ 14 กรกฎาคม 2562 2 ข้�วผัดแฮมผลติ วนั ทเ่ี ท�่ ไร เดอื นอะไร ค.ศ.อะไร และควรบริโภคก่อน 5 วันท่ีเท่�ไร เดือนอะไร ค.ศ.อะไร จ พธิ เี ปด� 4 ก.ย. 62 ผลติ วันที่ 25 เดอื นตลุ าคม ค.ศ. 2018 ควรบริโภคก่อนวันที่ 25 เดือนตุลาคม ค.ศ. 2019 6 3 นมถ่วั เหลอื งขวดนี้ควรบรโิ ภคให้หมด ฉ ป�ดกิจการ กอ่ นวนั ที่เท�่ ไร เดอื นอะไร ค.ศ. อะไร 1 พฤษภาคม 2562 ควรบรโิ ภคให้หมดกอ่ นวนั ที่ 23 เดอื นพฤศจกิ ายน ค.ศ. 2018 ส่ิงท่ีได้เรยี นรู้ ก�รเขยี นแสดงวัน เดือน ป ี มีหล�ยแบบ อ�จเขียนชอ่ื เดอื น โดยใชค้ ำ�ย่อหรอื ใช้ลำ�ดบั ทข่ี องเดือน อ�จเขียนแสดงวนั ท่ี และปีพทุ ธศักร�ชหรือคริสตศ์ กั ร�ชเปน็ ตัวเลขสองหลัก ข้อ 6 คูก่ บั ขอ้ ก พ.ศ. เป็นคำ�ย่อของพุทธศกั ร�ช และ ค.ศ. เป็นคำ�ยอ่ 5 ของคริสตศ์ กั ร�ช แบบฝึกหดั 7.3 เฉลย ขอ้ 1 คู่กบั ขอ้ ง ขอ้ 3 คกู่ ับขอ้ ข ขอ้ 5 คู่กับข้อ ฉ ขอ้ 2 คู่กับขอ้ ค ข้อ 4 คู่กับข้อ จ 72 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 71สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. ให้นักเรยี นช่วยกนั จับคู่ วัน เดอื น ปี ท่ีตรงกันและเขียนแสดงวัน เดอื น ปี ในแบบที ่ แตกต่างกัน ตามหนงั สือเรยี นหน้า 71 แล้วรว่ มกันสรปุ ความรูท้ ไ่ี ด้วา่ การเขียนแสดงวนั เดอื น ปี สามารถเขียนไดห้ ลายแบบ ซ่ึงไม่วา่ จะเขยี นแบบใด จะสามารถอ่านวนั เดือน ปี ไดต้ รงกัน พรอ้ มทั้ง ให้นกั เรยี นออกมาเขยี น วัน เดือน ป ี บนกระดาน คนละ 1 แบบ เชน่ วนั ท่ี 4 กนั ยายน พ.ศ. 2562 สามารถเขียนได้เป็น 4 ก.ย. 62 04/09/62 เปน็ ตน้ การตรวจสอบความเข้าใจ 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยให้นักเรยี นเขียนหรอื อ่าน วัน เดอื น ปี แบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการอา่ น ฉลากสนิ คา้ เน่อื งจากเป็นเรือ่ งใกล้ตวั ที่นักเรียนสามารถพบได้ในชีวิตจริง ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 72 จากน้ันครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปสงิ่ ท่ีได้เรยี นร้ ู ส่งิ ท่ีไดเ้ รียนรู้ • การเขยี นแสดงวัน เดือน ปี มีหลายแบบ อาจเขียนชือ่ เดอื นโดยใชค้ �ำ ยอ่ หรือใชล้ ำ�ดับทขี่ องเดอื น อาจเขยี นแสดงวันทแ่ี ละปีพทุ ธศักราชหรอื คริสต์ศกั ราชเป็นตัวเลขสองหลกั • พ.ศ. เปน็ คำ�ย่อของพุทธศักราช และ ค.ศ. เป็นค�ำ ย่อของครสิ ตศ์ กั ราช จากนนั้ ให้นักเรียนทำ�แบบฝกึ หดั 7.3 หน้า 45 – 46 48 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา คู่มอื ครรู ายวชิ าพื้นฐานคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เล่ม 2 7.4 การบอกเวลาเป็นนาฬกิ า หนังสือเรียนร�ยวิช�พืน้ ฐ�น | คณติ ศ�สตร์ ป.2 จุดประสงค์ บทท่ี 7 | เวลา บอกเวลาเปน็ นาฬกิ า 7.4 การบอกเวลาเปน็ นาฬิกา สื่อการเรยี นรู้ พฒั นาความรู้ 11 12 1 ดเู วล�จ�กน�ฬิก� 10 2 93 84 765 ขณะนเ้ี ปน็ เวล� 9 น�ฬกิ � เร�รูว้ �่ เป็นเวล� 9 น�ฬกิ � ได้อย่�งไร น�ฬิก�เป็นเครอ่ื งมือท่ีใชบ้ อกเวล� เร�อ่�นเวล�ได้จ�กหน้�ปดั น�ฬกิ � −− นาฬิกาจรงิ หรือนาฬกิ าจำ�ลอง หน้�ปดั น�ฬิก�ประกอบดว้ ยอะไรบ้�ง แนวการจัดการเรียนรู้ เข็มยาว บนหน้�ปดั น�ฬิก� การพฒั นาความรู้ เขม็ ส้นั 11 12 1 มีเข็มชี้บอกเวล� เรียกว่� เขม็ สัน้ และ เขม็ ยาว 1. ครูกบั นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกับเวลาใน การท�ำ กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำ�วนั ของนักเรยี น เชน่ 10 2 มีช่องใหญ่เท�่ ๆ กัน 12 ช่อง หนง่ึ ช่องใหญแ่ บง่ เป็นช่องเลก็ ตนื่ นอนเวลา 6 นาฬกิ า เคารพธงชาตเิ วลา 8 นาฬิกา เท�่ ๆ กนั 5 ชอ่ ง 9 765 43 8 มตี วั เลข 12 ตวั ไดแ้ ก่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 1 วนั มี 24 ช่วั โมง เรม่ิ ชวั่ โมงท่ ี 1 เรยี กว่� 1 น�ฬิก� จนถึงช่ัวโมงท ี่ 24 เรียกว�่ 24 น�ฬกิ � 1 วัน ม ี 24 ช่วั โมง เทยี่ งคืน เท่ียงวนั เท่ียงคืน 11 12 1 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 10 2 93 93 93 84 84 84 765 765 765 กลางคืน กลางวัน กลางคนื 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 1 ชั่วโมง 1 วัน | 73สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รับประทานอาหารกลางวนั เวลา 12 นาฬิกา แล้วครูถาม นกั เรียนว่า เราจะรไู้ ดอ้ ย่างไรว่าเราต่ืนนอนเวลา 6 นาฬกิ า หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 หรือเราเคารพธงชาติเวลา 8 นาฬกิ า และเรารบั ประทาน บทที่ 7 | เวลา อาหารกลางวนั เวลา 12 นาฬิกา (ดูเวลาจากนาฬกิ า) จากนนั้ ครูแนะน�ำ นาฬกิ าและส่วนประกอบตา่ ง ๆ การบอกเวลาชว่ งเวลากลางวัน ของนาฬกิ าวา่ นาฬกิ าเปน็ เครอ่ื งมือใช้บอกเวลา หนา้ ปดั นาฬกิ าประกอบด้วยเขม็ สั้น เขม็ ยาว และตัวเลข ตัง้ แต่ 6 น�ฬกิ � ถงึ กอ่ น 18 น�ฬกิ �เปน็ เวล�กล�งวนั 1 – 12 เปน็ ตวั เลขบอกเวลา ครูหมนุ เขม็ นาฬกิ า เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ ว่า ใน 1 วนั นาฬิกาจะหมุน 2 รอบ 11 12 1 11 12 1 11 12 1 รอบละ 12 ช่วั โมง เป็นกลางวนั และกลางคืน ดงั น้ัน 1 วัน 10 2 10 2 10 2 เทา่ กับ 12 + 12 = 24 ช่ัวโมง 93 93 93 84 84 84 2. ครูใช้นาฬกิ าจริงหรือนาฬกิ าจำ�ลองชนิดมเี ฟอื ง หมุนเขม็ นาฬกิ า เพ่อื แสดงเวลากลางวัน เร่ิมต้งั แต่ 6 765 765 765 6 น�ฬิก� 7 น�ฬกิ � 8 น�ฬกิ � 11 12 1 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 10 2 93 93 93 84 84 84 765 765 765 9 น�ฬิก� 10 น�ฬิก� 11 น�ฬิก� 11 12 1 11 12 1 12 + 1 11 12 1 12 + 2 10 2 10 2 10 2 93 93 93 84 84 84 765 765 765 12 น�ฬิก� 13 น�ฬกิ � 14 น�ฬกิ � สงั เกต เขม็ ย�วชีท้ ีต่ วั เลข 12 เสมอ บอกเวลาเป็นนาฬิกา 1 11 12 1 12 + 3 2 11 12 1 3 11 12 1 10 2 10 2 10 2 93 93 93 84 84 84 765 765 765 15 นาฬิกา 16 นาฬกิ า12 + 4 17 นาฬกิ า12 + 5 74 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นาฬกิ า 7 นาฬิกา … จนถงึ เวลาก่อน 18 นาฬิกา (12 ชั่วโมง) ครูแนะนำ�การอา่ นเวลาเป็นนาฬกิ าจากหนา้ ปัดนาฬกิ าโดยเร่ิมอา่ นจาก 6 นาฬกิ า 7 นาฬกิ า … จนถึง12 นาฬกิ า หลงั จาก 12 นาฬิกา เขม็ ส้ันจะชท้ี ่ีตวั เลข 1 แต่ใหอ้ า่ นเวลาเปน็ 13 นาฬกิ า เมื่อหมนุ เข็มไปทีต่ ัวเลข 2 ให้อ่านเวลาเปน็ 14 นาฬิกา อ่านเช่นนไ้ี ปเร่อื ย ๆ จนถงึ เวลาก่อน 18 นาฬิกา ซง่ึ เขม็ ส้ันจะช้ที ีต่ ัวเลข 6 แลว้ ใหน้ ักเรียนสงั เกตตำ�แหนง่ ของเขม็ ส้นั และ เขม็ ยาววา่ ชท้ี ตี่ ัวเลขใด และสรปุ ว่า นาฬกิ าเปน็ เครื่องมือบอกเวลา เมื่อเขม็ ยาวบนหน้าปดั นาฬกิ าช้ีที่ ตัวเลข 12 จะบอกเวลาเปน็ นาฬกิ า โดยดูจากตวั เลขทเ่ี ข็มสัน้ ช้ี และเวลาตั้งแต่ 6 นาฬิกา ถึงกอ่ น 18 นาฬกิ า เป็นเวลากลางวนั จากน้ันใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั บอกเวลาจากหน้าปดั นาฬิกาท้ายหน้า 74 | 49สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 7 | เวลา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 หนังสือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 3. ครูใช้นาฬิกา แสดงช่วงเวลากลางคนื พร้อมกบั บทที่ 7 | เวลา แนะน�ำ การอา่ นบอกเวลา โดยเร่มิ ตง้ั แต่ 18 นาฬกิ า ซึ่ง เข็มส้ันจะช้ีทตี่ ัวเลข 6 แล้วหมุนเข็มแสดงเวลา 19 นาฬกิ า การบอกเวลาช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเขม็ สั้นจะชท้ี ีต่ ัวเลข 7 หมุนเขม็ แสดงเวลาไปเรือ่ ย ๆ ตั้งแต ่ 18 น�ฬกิ � ถงึ กอ่ น 6 น�ฬกิ �เปน็ เวล�กล�งคนื จนถงึ 24 นาฬกิ า หรอื 0 นาฬกิ า เขม็ ส้ันและเขม็ ยาวจะช้ี ท่ตี วั เลข 12 ครอู ธบิ ายว่า เวลา 24 นาฬิกาหรือ 0 นาฬิกา 11 12 1 12 + 7 11 12 1 12 + 8 11 12 1 เปน็ เวลาสนิ้ สุดของวนั เมือ่ เขม็ ยาวเคลื่อนทเ่ี ลยตัวเลข 12 10 2 10 2 10 2 จะเป็นการเรม่ิ ตน้ นบั วนั ใหม่ ครหู มนุ เข็มนาฬิกาต่อไป 93 93 93 เพอ่ื แสดงเวลา 1 นาฬกิ า 2 นาฬกิ า … 5 นาฬกิ า ใหน้ กั เรยี น 84 84 84 อ่านเวลาต่าง ๆ ทค่ี รหู มุน และใหส้ งั เกตต�ำ แหนง่ ของ เขม็ ยาววา่ จะชท้ี เ่ี ลข 12 เสมอ และสรปุ วา่ ตง้ั แต่ 18 นาฬกิ า 765 765 765 ถงึ ก่อน 6 นาฬกิ า เป็นเวลากลางคนื 12 + 6 18 น�ฬิก� 19 น�ฬกิ � 20 น�ฬิก� 11 12 1 11 12 1 12 + 11 11 12 1 10 2 10 2 10 2 93 12 + 10 93 93 84 84 84 12 + 9 765 765 765 21 น�ฬกิ � 22 น�ฬิก� 23 น�ฬิก� 12 + 12 11 12 1 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 93 93 10 2 84 84 93 84 765 765 765 1 น�ฬกิ � 2 น�ฬิก� 24 น�ฬกิ � สงั เกต เข็มย�วช้ที ต่ี ัวเลข 12 เสมอ หรอื 0 น�ฬิก� บอกเวลาเป็นนาฬกิ า 1 11 12 1 2 11 12 1 3 11 12 1 10 2 10 2 10 2 93 93 93 84 84 84 765 765 765 3 นาฬิกา 4 นาฬกิ า 5 นาฬกิ า | 75สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การตรวจสอบความเขา้ ใจ หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทท่ี 7 | เวลา 4. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น โดยใหน้ กั เรยี น ตรวจสอบความเข้าใจ บอกเวลา จากภาพนาฬิกาทีก่ ำ�หนด ทัง้ ช่วงเวลากลางวัน บอกเวลาเปน็ นาฬกิ า กลางคนื กลางวัน และชว่ งเวลากลางคืน ตามหนงั สอื เรยี นหนา้ 76 จากนนั้ 11 12 11 12 1 2 11 12 11 12 1 2 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุป 10 10 2 10 10 2 สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นร ู้ 1 9 93 3 49 9 3 3 8 84 4 8 84 4 7 6 57 6 5 7 6 57 6 5 7 นาฬกิ า 22 นาฬิกา 11 12 11 12 1 11 12 11 12 1 2 10 10 2 2 5 10 10 2 2 9 93 3 9 93 3 8 84 4 8 84 4 7 6 57 6 5 7 6 57 6 5 10 นาฬิกา 2 นาฬกิ า 11 12 11 12 1 11 12 11 12 1 3 10 10 2 2 6 10 10 2 2 9 93 3 9 93 3 8 84 4 8 84 4 7 6 57 6 5 7 6 57 6 5 16 นาฬกิ า 4 นาฬกิ า สงิ่ ทไี่ ด้เรยี นรู้ ส่ิงที่ได้เรียนรู้ •• 1 วนั มี 24 ชั่วโมง 1 วัน มี 24 ชว่ั โมง นาฬิกาเปน็ เครื่องมอื บอกเวลา เมือ่ เขม็ ยาวบนหน้าปัด น�ฬิก�เปน็ เคร่ืองมอื บอกเวล� เมือ่ เขม็ ย�วบนหน�้ ปัดน�ฬกิ � ชท้ี ต่ี วั เลข 12 จะบอกเวล�เปน็ น�ฬกิ � โดยดจู �กตวั เลขทเ่ี ขม็ สน้ั ช้ี เวล�กล�งวันเร่ิมตั้งแต ่ 6 น�ฬิก� หลังจ�ก 12 น�ฬกิ � จะเปน็ เวล� 13 น�ฬกิ � 14 น�ฬกิ � 15 น�ฬกิ � 16 น�ฬกิ � 17 น�ฬกิ � จนถงึ กอ่ น 18 น�ฬกิ � นาฬกิ าชท้ี ี่ตวั เลข 12 จะบอกเวลาเป็นนาฬกิ า โดยดจู าก เวล�กล�งคนื เริ่มตงั้ แต ่ 18 น�ฬิก� หลงั จ�ก 24 น�ฬกิ � จะเป็นเวล� 1 น�ฬิก� 2 น�ฬิก� 3 น�ฬิก� 4 น�ฬกิ � ตวั เลขท่ีเข็มสนั้ ชี้ 5 น�ฬกิ � จนถงึ กอ่ น 6 น�ฬกิ � แบบฝึกหัด 7.4 76 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี • เวลากลางวันเริ่มตงั้ แต่ 6 นาฬกิ า หลังจาก 12 นาฬิกา จะเปน็ เวลา 13 นาฬกิ า 14 นาฬิกา 15 นาฬิกา 16 นาฬิกา 17 นาฬกิ า จนถึงก่อน 18 นาฬิกา • เวลากลางคนื เริ่มต้ังแต่ 18 นาฬิกา หลังจาก 24 นาฬกิ า จะเป็นเวลา 1 นาฬกิ า 2 นาฬิกา 3 นาฬิกา 4 นาฬกิ า 5 นาฬิกา จนถึงกอ่ น 6 นาฬิกา จากนัน้ ให้นักเรียนท�ำ แบบฝกึ หดั 7.4 หน้า 47 – 49 50 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา คูม่ ือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เลม่ 2 7.5 การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที (ชว่ ง 5 นาท)ี หนังสอื เรียนร�ยวชิ �พ้ืนฐ�น | คณติ ศ�สตร์ ป.2 จุดประสงค์ บทท่ ี 7 | เวลา บอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที (ช่วง 5 นาที) 7.5 การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาท ี (ชว่ ง 5 นาท)ี พัฒนาความรู้ 11 12 1 10 2 93 84 765 ส่ือการเรียนรู้ 5 5 55 60 5 11 12 1 11 12 1 −− นาฬิกาจรงิ หรอื นาฬิกาจ�ำ ลองและบัตรแสดงเวลา 11 12 1 10 2 10 2 10 50 11 12 1 10 10 2 93 แนวการจดั การเรยี นรู้ 93 84 9 3 15 10 2 การพัฒนาความรู้ 84 765 84 45 9 3 15 1. ครทู บทวนการบอกเวลาเป็นนาฬิกาโดย 765 8 น�ฬิก� 5 น�ที การถาม-ตอบ เชน่ หมนุ เขม็ สัน้ ไปที่ตัวเลข 3 เขม็ ยาวไปท่ี 765 20 40 84 ตัวเลข 12 แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกเวลาว่าเป็นเวลาอะไร 8 น�ฬิก� 765 20 ช่วง 5 น�ที 30 25 35 30 25 8 น�ฬกิ � 30 น�ที 9 น�ฬกิ � เข็มย�วเคล่ือนท่ีจ�กตัวเลข 12 ไปทต่ี วั เลข 1 2 3 ... 12 ช่วงละ 5 น�ท ี ใชเ้ วล� 5 10 15 … 60 น�ท ี ต�มลำ�ดบั ในขณะทเ่ี ขม็ ย�วเคลือ่ นทีค่ รบ 1 รอบใชเ้ วล� 60 น�ที เขม็ สนั้ เคลอ่ื นทีจ่ �กตวั เลข 8 ไปตวั เลข 9 ใชเ้ วล� 1 ชวั่ โมง ดังนนั้ 60 นาท ี เท่ากับ 1 ช่ัวโมง 11 12 1 เวล� 8 น�ฬกิ � 20 น�ที 10 2 11 12 1 93 10 2 84 93 84 765 765 เวล� 8 น�ฬกิ � 55 น�ที เวล� 8 น�ฬิก� 55 น�ที เขม็ ส้นั อยูเ่ กือบถงึ ตวั เลข 9 | 77สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยบอกทัง้ ชว่ งเวลากลางวนั และกลางคนื แลว้ ใชค้ ำ�ถาม ถามน�ำ เข้าสู่บทเรียนว่า ถา้ เข็มยาวไม่ไดช้ ท้ี ีต่ ัวเลข 12 จะ หนงั สอื เรยี นร�ยวชิ �พนื้ ฐ�น | คณิตศ�สตร์ ป.2 อา่ นเวลาได้อย่างไร จากน้นั ครหู มนุ เข็มแสดงเวลา บทท ี่ 7 | เวลา 8 นาฬกิ า ซ่งึ เขม็ สั้นจะช้ที ่ีตวั เลข 8 และเขม็ ยาวชท้ี ตี่ วั เลข 12 แลว้ ครหู มนุ เขม็ ยาวช้ีไปท่ีตวั เลข 1 ครูแนะนำ� ช่วยกันบอกเวล� 5 เวล� 20 น�ฬกิ � 5 น�ที การอา่ นเวลา 8 นาฬิกา 5 นาที แล้วครหู มุนเข็มยาวชท้ี ่ี 11 12 1 เวล� 22 น�ฬกิ � 40 น�ที ตวั เลข 2 ครูแนะน�ำ การอ่านเวลา 8 นาฬกิ า 10 นาท ี 10 2 แลว้ ครูหมุนเขม็ ยาวช้ที ่ีตัวเลข 3 ครูแนะนำ�การอ่านเวลา 8 นาฬิกา 15 นาที แล้วครหู มุนเข็มยาวชท้ี ี่ตัวเลข 4 93 ครแู นะน�ำ การอา่ นเวลา 8 นาฬกิ า 20 นาที ... ครูแนะน�ำ การอา่ นชว่ ง 5 นาที เชน่ นไ้ี ปเรอ่ื ย ๆ จนถงึ 8 นาฬกิ า 55 นาที 84 แลว้ หมุนเข็มยาวชีท้ ี่ตวั เลข 12 เข็มส้นั เคลื่อนทีไ่ ปท ี่ 765 ตัวเลข 9 พอดี ครูแนะนำ�วา่ เข็มยาวช้ีทตี่ ัวเลข 12 เป็น 5 11 12 1 10 10 2 9 3 15 84 40 7 6 5 20 35 30 25 บอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที กลางวัน กลางคืน 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 19 49 3 3 84 84 765 765 เวลา 7 นาฬกิ า 10 นาที เวลา 19 นาฬิกา 10 นาที 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 29 59 3 3 84 84 765 765 เวลา 10 นาฬิกา 20 นาที เวลา 1 นาฬกิ า 30 นาที 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 39 69 3 3 84 84 765 765 เวลา 13 นาฬกิ า 50 นาทีเวลา 4 นาฬกิ า 40 นาที สงั เกตต�ำ แหนง่ ของเข็มสั้นในเวล�ต่�ง ๆ 78 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเคลอ่ื นทไ่ี ป 60 นาที ครถู ามนกั เรยี นวา่ อา่ นเปน็ เวลาใด (9 นาฬิกา) ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ว่า ในขณะทีเ่ ข็มยาวเคลือ่ นท่ีครบ 1 รอบ ใชเ้ วลา 60 นาที เข็มสน้ั เคล่ือนที่จากตวั เลข 8 ไปตัวเลข 9 ใชเ้ วลา 1 ชวั่ โมง ดงั นั้น 60 นาที เทา่ กบั 1 ชั่วโมง จากน้ันครูหมนุ เขม็ อีก 1 รอบ โดยหมนุ เข็มเพ่อื แสดงเวลาตอ่ จาก 9 นาฬิกา ถงึ 10 นาฬกิ า ใหน้ กั เรยี นอ่านเวลาต่าง ๆ ที่เข็มเคล่อื นท่ไี ปทุก ๆ 5 นาที จนครบ 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมง | 51สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวิชาพ้ืนฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 7 | เวลา ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ 2 หนงั สือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 2. ครใู ห้นักเรียนอา่ นเวลาเปน็ นาฬกิ า บทที่ 7 | เวลา และนาที จากเวลาท่คี รกู �ำ หนด โดยให้บอกเวลา เปน็ กลางวนั และกลางคนื และใหน้ ักเรียนร่วม กจิ กรรม สนุกกบั น�ฬิก� กนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง และให้นักเรยี น อุปกรณ ์ 1. น�ฬิก�จรงิ หรอื น�ฬิก�จำ�ลองชนิดมีเฟือง สังเกตตำ�แหนง่ ของเขม็ สั้นและเข็มยาว ณ เวลา 2. บัตรแสดงเวล� ตา่ ง ๆ เชน่ เวลา 8 นาฬิกา 30 นาที เขม็ ส้ันช้ี วธิ จี ัดกิจกรรม ระหวา่ งตัวเลข 8 กับ ตัวเลข 9 เขม็ ยาวชท้ี ี่ 1. ครใู หน้ ักเรียนออกม�หมุนเขม็ น�ฬิก�แสดงเวล�ต�มบตั รแสดงเวล� ตวั เลข 6 เวลา 8 นาฬิกา 55 นาที เข็มส้ันชี้ ทีส่ ุม่ หยิบได้ เกอื บถึงตวั เลข 9 เขม็ ยาวช้ีทต่ี วั เลข 11 เปน็ ตน้ 2. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบคว�มถกู ตอ้ ง 3. ครจู ดั กจิ กรรม “สนุกกบั นาฬิกา” ตัวอยา่ งบตั รแสดงเวลา โดยใชส้ อ่ื นาฬกิ าจรงิ หรอื นาฬกิ าจ�ำ ลองชนดิ มเี ฟอื ง ครูท�ำ บตั รแสดงเวลา ดังตวั อย่างในหนงั สือเรียน 8 นา�ิกา 30 นาที 23 นา�ิกา 25 นาที 15 นา�กิ า 5 นาที หน้า 79 ใหน้ ักเรยี นออกมาจบั บัตรแสดงเวลา แล้วหมนุ เขม็ นาฬกิ าตามเวลาท่ีนกั เรยี นหยบิ ได้ 10 นา�ิกา 0 นา�ิกา 45 นาที 2 นา�ิกา 15 นาที ตามบตั ร ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ของต�ำ แหนง่ เข็มสน้ั และเขม็ ยาว 11 12 1 10 2 การตรวจสอบความเขา้ ใจ 93 84 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน โดยให้นักเรียนจบั ค่เู วลาให้ตรงกบั เวลาบนหนา้ 765 ปดั นาฬิกาทก่ี ำ�หนดเปน็ รายบคุ คลตามหนังสือ เรียนหนา้ 80 จากน้นั ครแู ละนักเรยี นรว่ มกัน 4 นา�กิ า 55 นาที ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ สิง่ ที่ได้เรยี นรู้ | 79สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 •• 60 นาที เท่ากับ 1 ชั่วโมง บทท่ี 7 | เวลา การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาทีให้ พิจารณาทตี่ �ำ แหน่งเขม็ ส้นั และเขม็ ยาว ตรวจสอบความเข้าใจ จากนน้ั ใหน้ ักเรยี นท�ำ แบบฝึกหัด 7.5 หนา้ 50 - 52 เลอื ก ก หรอื ข ใหต้ รงกบั เวลาบนหน้าปดั นาฬิกา 1 11 12 1 ก ข 10 2 9 น�ฬกิ � 12 น�ฬิก� 93 ก8 4 ก ข 765 5 น�ฬกิ � 15 น�ที 5 น�ฬิก� 3 น�ที 2 11 12 1 ก ข 10 2 1 น�ฬกิ � 55 น�ที 0 น�ฬิก� 55 น�ที 93 ก8 4 ก ข 765 10 น�ฬกิ � 30 น�ที 10 น�ฬิก� 35 น�ที 3 11 12 1 ก ข 10 2 20 น�ฬกิ � 50 น�ที 9 น�ฬกิ � 50 น�ที 93 84 ช 765 4 11 12 1 10 2 93 84 ข 765 5 11 12 1 10 2 93 84 ก 765 ส่ิงที่ได้เรียนรู้ 11 12 1 10 2 60 น�ที เท�่ กับ 1 ชัว่ โมง 93 84 765 ก�รบอกเวล�เปน็ น�ฬิก�และน�ที ใหพ้ จิ �รณ�ทีต่ ำ�แหน่ง เข็มสัน้ และเข็มย�ว แบบฝึกหดั 7.5 80 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 52 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา ค่มู อื ครรู ายวชิ าพื้นฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท ่ี 2 เล่ม 2 7.6 การบอกระยะเวลาเปน็ ช่วั โมง เป็นนาที จุดประสงค์ บอกระยะเวลาเปน็ ชั่วโมง เป็นนาที เมือ่ กำาหนดเวลาเร่มิ ต้นและเวลาสิน้ สุดกจิ กรรม สือ่ การเรยี นรู้ − นาฬกิ าจรงิ หรือนาฬิกาจาำ ลอง − บตั รภาพนาฬิกาที่แรเงาแสดงระยะเวลา หนงั สอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 7 | เวลา แนวการจัดการเรียนรู้ 7.6 การบอกระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมง เป็นนาที การพัฒนาความรู้ พัฒนาความรู้ 1. ครตู ิดบัตรภาพตามหนงั สอื เรียน พ่อล้างรถ แมท่ าำ งานบ้าน หนา้ 81 ที่แสดงระยะเวลาที่พอ่ ใช้ลา้ งรถ โดยใช้ การถาม-ตอบ ดงั นี้ 11 12 1 11 12 1 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 10 2 10 2 − พอ่ เรมิ่ ล้างรถเวลาใด (8 นาฬกิ า) 93 93 93 93 − พอ่ ลา้ งรถเสรจ็ เวลาใด (10 นาฬิกา) 84 84 84 84 765 765 765 765 เร่มิ เสรจ็ เรมิ่ เสร็จ เขม็ สน้ั เคลอ่ื นไป 2 ชอ่ งใหญ่ เขม็ สน้ั เคลอ่ื นไป 3 ชอ่ งใหญ่ ดงั นน้ั ระยะเวลาทพ่ี อ่ ใชล้ า้ งรถ คอื 2 ชว่ั โมง ดงั นน้ั ระยะเวลาทแ่ี มใ่ ชท้ าำ งานบา้ น คอื 3 ชว่ั โมง หรอื พอ่ ลา้ งรถใชเ้ วลา 2 ชว่ั โมง หรอื แมท่ าำ งานบา้ นใชเ้ วลา 3 ชว่ั โมง พอ่ ลา้ งรถใชเ้ วลาน้อยกวา่ แมท่ าำ งานบา้ น จากนน้ั ครถู ามวา่ พอ่ ใชเ้ วลาลา้ งรถกช่ี ว่ั โมง บอกระยะเวลาท่ีใชใ้ นการทำากจิ กรรม รู้ได้อย่างไร นกั เรียนอาจจะยงั ตอบไมไ่ ด้ ครคู วรแนะนำาวิธกี ารหาระยะเวลาเปน็ ชว่ั โมง 1 เรยี นคณติ ศาสตร์ 11 12 1 11 12 1 โดยนบั จาก เวลาเรม่ิ ตน้ คอื 8 นาฬกิ า ไปจนถงึ 10 2 10 2 เวลาสน้ิ สดุ คือ 10 นาฬิกา นบั ได ้ 2 ชัว่ โมง 1 ชัว่ โมง 93 93 84 84 765 765 เริม่ เรยี น เลิกเรียน 2 ซอ้ มกีฬา 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 2 ช่วั โมง 93 93 84 84 765 765 เริ่มซอ้ ม เลกิ ซ้อม กิจกรรมใดใชเ้ วลามากกวา่ ซอ้ มกีฬา ดงั น้ัน พอ่ ใชเ้ วลาล้างรถ 2 ชั่วโมง จากน้นั | 81สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครตู ดิ บตั รภาพแมท่ าำ งานบา้ นแลว้ ใชก้ ารถาม-ตอบ ในทาำ นองเดียวกัน แล้วครถู ามวา่ พ่อใชเ้ วลา ลา้ งรถมากกว่าหรือนอ้ ยกวา่ ท่ีแม่ใชเ้ วลาทำางานบ้าน (พอ่ ใชเ้ วลาลา้ งรถนอ้ ยกวา่ แมใ่ ชเ้ วลาทาำ งานบา้ น) แลว้ เปรยี บเทยี บใหน้ กั เรยี นเหน็ วา่ ระยะเวลาทพ่ี อ่ ลา้ งรถ 2 ชว่ั โมง น้อยกวา่ ระยะเวลาที่แมท่ ำางานบ้าน 3 ชว่ั โมง อย ู่ 1 ช่วั โมง โดยการเปรียบเทียบส่วนที่แรเงาแสดงระยะเวลาในบตั รภาพทตี่ า่ งกนั อย ู่ 1 ชอ่ ง ชอ่ งละ 1 ชวั่ โมง จากนน้ั ใหน้ ักเรียนช่วยกนั บอกระยะเวลาทเี่ รียนคณติ ศาสตรต์ ง้ั แต ่ 9 นาฬกิ า ถงึ 10 นาฬกิ า และระยะเวลาในการซ้อมกฬี าตง้ั แต ่ 14 นาฬิกา ถึง 16 นาฬกิ า แล้วให้ นักเรียนเปรียบเทยี บวา่ กิจกรรมใดใชเ้ วลามากกวา่ กนั แลว้ ร่วมกันสรปุ วา่ การบอกระยะเวลา เปน็ ชว่ั โมง ใหส้ งั เกตการเคลอ่ื นทข่ี องเขม็ สน้ั วา่ เคลอ่ื นทไ่ี ปกช่ี อ่ ง | 53สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครูรายวชิ าพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ บทท่ี 7 | เวลา ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ ี 2 เลม่ 2 2. ครตู ดิ บตั รภาพตามหนงั สอื เรียนหน้า 82 ท่ีแสดง หนังสือเรยี นร�ยวชิ �พ้นื ฐ�น | คณติ ศ�สตร์ ป.2 บทที ่ 7 | เวลา ระยะเวลาที่นิดลา้ งจาน โดยใช้การถาม-ตอบ ดังน้ี นดิ ล้�งจ�น หน่อยล�้ งหอ้ งนำ�้ − นดิ เรม่ิ ล้างจานเวลาใด (17 นาฬิกา) − นดิ ลา้ งจานเสรจ็ เวลาใด (17 นาฬิกา 15 นาที) 11 12 1 5 10 11 12 1 11 12 1 10 2 11 12 1 15 10 2 10 2 จากนัน้ ครูถามวา่ นิดใชเ้ วลาลา้ งจานก่นี าท ี รู้ได้อยา่ งไร 93 10 2 93 84 93 84 9 35 765 84 765 84 765 765 เรม่ิ 10 เรม่ิ เสร็จ 20 15 เข็มย�วเคล่ือนทจ่ี �กตัวเลข 12 ไปท่ีตัวเลข 3 เสร็จ ใช้เวล� 15 น�ที ดงั นนั้ ระยะเวล�ทีน่ ดิ ใช้ล�้ งจ�น 15 น�ที เข็มย�วเคล่ือนท่จี �กตัวเลข 2 ไปท่ตี วั เลข 6 หรือ นิดล้�งจ�นใชเ้ วล� 15 น�ที ใช้เวล� 20 น�ที ดงั นน้ั ระยะเวล�ทห่ี นอ่ ยล�้ งห้องน�ำ้ 20 น�ที หรือ หน่อยล้�งหอ้ งนำ้�ใชเ้ วล� 20 น�ที นักเรยี นอาจจะยงั ตอบไมไ่ ด ้ ครคู วรแนะนาำ วธิ กี ารหาระยะ หนอ่ ยล้�งห้องน�ำ้ ใช้เวล�ม�กกว�่ นดิ ล้�งจ�น เวลาเปน็ นาท ี โดยนบั จากเวลาเรม่ิ ตน้ คอื 17 นาฬกิ า 0 นาที บอกระยะเวลาทีใ่ ช้ในการทำากจิ กรรม จนถงึ เวลาสิน้ สดุ คือ 17 นาฬิกา 15 นาท ี นบั ได ้ 15 นาท ี ดงั นน้ั นิดใช้เวลาล้างจาน 15 นาท ี จากนน้ั ครูตดิ บัตรภาพ 11 12 1 5 10 หนอ่ ยล้างหอ้ งน้ำา แล้วใช้การถาม-ตอบในทำานองเดยี วกัน 10 2 11 12 1 แล้วถามว่า หน่อยใช้เวลาล้างห้องนำา้ มากกว่าหรอื นอ้ ย 1 อ�บนำ�้ 93 10 2 84 93 10 นาที 84 765 765 เรมิ่ เสร็จ 2 รบั ประท�นอ�ห�ร 11 12 1 11 12 1 5 10 2 10 2 10 25 นาที 93 93 84 84 15 765 765 เรม่ิ 25 20 เสร็จ อาบน้าำกจิ กรรมใดใชเ้ วล�น้อยกว�่ กวา่ นดิ ใชเ้ วลาล้างจาน (หน่อยใช้เวลาลา้ งหอ้ งน้ำามากกว่า 82 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นดิ ใชเ้ วลาลา้ งจาน) แล้วเปรยี บเทียบใหน้ ักเรยี นเหน็ ว่า ระยะเวลาที่นดิ ใช้เวลาล้างห้องน้ำา 20 นาท ี มากกว่าระยะเวลาทีน่ ดิ ล้างจาน 15 นาที อยู่ 5 นาท ี โดยการเปรยี บเทียบสว่ นทแี่ รเงาแสดงระยะเวลาในบัตรภาพทตี่ า่ งกันอย ู่ 1 ชอ่ ง ชอ่ งละ 5 นาที จากนน้ั ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกระยะเวลาทอ่ี าบน้ำาตัง้ แต ่ 6 นาฬกิ า ถงึ 6 นาฬกิ า 10 นาที และ ระยะเวลาในการรบั ประทานอาหาร ต้งั แต่ 7 นาฬิกา 5 นาท ี ถงึ 7 นาฬิกา 30 นาที แล้วใหน้ กั เรยี น เปรยี บเทยี บวา่ กิจกรรมใดใช้เวลามากกวา่ กัน แล้วรว่ มกันสรุปวา่ การบอกระยะเวลาเป็นนาท ี ให้ สงั เกตการเคล่ือนท่ขี องเขม็ ยาววา่ เคลื่อนทไี่ ปกชี่ ่อง 3. ครูติดบัตรภาพตามหนงั สอื เรียนหนา้ 83 แลว้ ใช้ หนงั สอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 การถาม-ตอบ โดยใชน้ าฬิกาเป็นส่ือให้นกั เรียนเหน็ เวลาเรมิ่ บทที่ 7 | เวลา ทำาการบ้านคือ 19 นาฬิกา แล้วหมุนเขม็ ให้นาฬกิ าเดินไป 1 ชวั่ โมง เพื่อแสดงเวลาที่ต้นกลา้ ทาำ การบ้านเสรจ็ คอื ตน้ กล้าเรม่ิ ทำาการบา้ นเวลา 19 นาฬกิ า ใช้เวลา 20 นาฬกิ า แลว้ ครูถามว่าตน้ กล้าทำาการบา้ นเสรจ็ เวลาใด ทาำ การบา้ น 1 ชว่ั โมง ต้นกล้าทาำ การบ้านเสร็จเวลาใด 11 12 1 เวลาผา่ นไป 1 ชัว่ โมง 11 12 1 10 2 10 2 93 93 84 84 765 765 เรม่ิ ทำาการบา้ น ทำาการบ้านเสร็จ ทาำ การบ้านเสร็จเวลา 20 นาฬิกา (20 นาฬกิ า) จากน้ันครูติดบัตรภาพแก้วตาเร่มิ ปน�ั จกั รยาน แก้วตาเร่มิ ปั่นจักรยานเวลา 17 นาฬิกา 10 นาที เวลา 17 นาฬิกา 10 นาที และเวลาผา่ นไป 25 นาท ี ใชเ้ วลาปน่ั จกั รยาน 25 นาที แก้วตาป่ันจักรยานเสรจ็ เวลาใด ครหู มุนเข็มนาฬิกาใหน้ ักเรียนเห็น การเคลือ่ นที่ของ เขม็ ยาวจากเวลา 17 นาฬิกา 10 นาที โดยใช้เวลา 11 12 1 11 12 1 25 นาที หรอื 5 ชอ่ ง ไปสน้ิ สดุ กิจกรรมทเ่ี วลา 17 นาฬกิ า 10 2 10 2 35 นาที ครูถามนกั เรยี นว่าแก้วตาป�ันจกั รยานเสรจ็ เวลาใด 93 (17นาฬิกา 35 นาที) จากนัน้ ใหน้ ักเรียนร่วมกันอา่ นโจทย์ 84 9 35 และตอบคาำ ถามเกย่ี วกบั ระยะเวลาทา้ ยหนงั สอื เรยี นหนา้ 83 765 เวลาผา่ นไป 25 นาที 84 765 เรมิ่ ป่นั จักรยาน 10 25 20 15 ปนั่ จกั รยานเสร็จ ป่นั จกั รยานเสร็จเวลา 17 นาฬิกา 35 นาที ตอบคำ�ถ�ม 1 11 12 1 ครอบครัวขุนเดินทางไปบ้านยายตา่ งจงั หวัด 10 2 ใชเ้ วลา 4 ชั่วโมง จะถงึ บ้านยายเวลาใด 93 84 765 เร่มิ เดินทาง ขุนเดินทางถงึ บ้านยายเวลา 11 นาฬกิ า หรือ 23 นาฬกิ า 2 11 12 1 แม่ของใบบัวตง้ั เวลาอบน่องไก่ 30 นาที 10 2 แม่จะอบนอ่ งไก่เสร็จเวลาใด 93 84 765 เรมิ่ อบน่องไก่ แม่จะอบน่องไกเ่ สร็จเวลา 8 นาฬิกา 25 นาที หรอื 20 นาฬกิ า 25 นาท ี | 83สถ�บันส่งเสริมก�รสอนวิทย�ศ�สตร์และเทคโนโลยี ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง และสรุปบทเรยี น 54 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา คมู่ ือครรู ายวิชาพ้นื ฐานคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เล่ม 2 การตรวจสอบความเข้าใจ หนงั สอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยกำ�หนด บทที่ 7 | เวลา เวลาเรมิ่ กิจกรรมและเวลาสนิ้ สุดกจิ กรรมให้ 2 กจิ กรรม ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 84 ใหน้ กั เรียนหาระยะเวลา ตรวจสอบความเข้าใจ ในการท�ำ กิจกรรมเป็นชั่วโมง เป็นนาที และกำ�หนดเวลา 1 บอกระยะเวลาในการทาำ กจิ กรรมต่อไปน้ี เริม่ กิจกรรมและระยะเวลาในการท�ำ กจิ กรรมเปน็ ชว่ั โมง เปน็ นาที ให ้ 2 กจิ กรรม ใหน้ กั เรยี นหาเวลาสิน้ สดุ กจิ กรรม กจิ กรรม เวลาเรม่ิ ทาำ กิจกรรม เวลาสิ้นสดุ กจิ กรรม เปน็ รายบุคคล จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบ ความถกู ต้องและ สรุปสิ่งทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ 7 ชวั่ โมง 11 12 1 11 12 1 เรียน 10 2 10 2 สง่ิ ทไ่ี ด้เรียนรู้ 93 93 เวลา 30 นาที 84 84 การบอกระยะเวลาอาจบอกเป็นชว่ั โมงหรอื เป็นนาท ี โดยนบั จากเวลาเริ่มตน้ จนถึงเวลาสิ้นสุด รับประท�นอ�ห�รกล�งวนั 765 765 11 12 1 จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 7.6 หนา้ 53 – 55 11 12 1 10 2 10 2 93 7.7 การบอกเวลาด้วยนาฬิกาแบบใช้ตวั เลข 93 84 จุดประสงค์ 84 765 บอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาทจี ากนาฬิกาแบบใชต้ ัวเลข 765 ระยะเวลา 2 บอกเวลาส้นิ สุดกิจกรรมตอ่ ไปนี้ 3 ชวั่ โมง กิจกรรม เวลาเริม่ ทำากจิ กรรม 35 น�ที 13 นาฬิกา 11 12 1 เทีย่ วสวนสนุก 10 2 93 ว�่ ยน้ำ� 84 10 นาฬกิ า 5 นาที 765 11 12 1 10 2 93 84 765 ส่ิงทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ แบบฝึกหดั 7.6 ก�รบอกระยะเวล�อ�จบอกเป็นชั่วโมงหรอื เป็นน�ที โดยนบั จ�กเวล�เริ่มต้นจนถงึ เวล�ส้ินสุด 84 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสือเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทที่ 7 | เวลา 7.7 การบอกเวลาด้วยนาฬิกาแบบใชต้ วั เลข พัฒนาความรู้ ตัวอย่างนาฬกิ าแบบใชต้ ัวเลข ส่อื การเรียนรู้ ตัวเลข หน้าเคร่ืองหมาย : แสดงเวล�เป็น นาฬกิ า ตวั เลข หลงั เครือ่ งหมาย : แสดงเวล�เป็น นาที −− นาฬกิ าแบบใช้ตวั เลขชนดิ ตา่ ง ๆ น�ฬกิ �เรอื นน้ีบอกเวล� 12 นาฬกิ า 30 นาที −− บัตรแสดงเวลา บอกเวล�จ�กน�ฬิก� 0 น�ฬกิ � 30 น�ที แนวการจัดการเรยี นรู้ 14 น�ฬิก� 5 น�ที การพัฒนาความรู้ | 85สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. ครูใช้นาฬิกาแบบใชต้ ัวเลขหรือบัตรภาพนาฬิกา แบบใชต้ ัวเลขหลาย ๆ แบบ มาแนะน�ำ ให้นักเรยี นไดร้ ู้จัก พรอ้ มท้ังแนะนำ�การบอกเวลาว่า ตวั เลข หน้าเคร่อื งหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาฬกิ า และตัวเลขหลงั เครอื่ งหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาที จากน้ันครอู าจใช้บัตรแสดงเวลา แล้วให้นักเรยี นบอกเวลาว่าเปน็ เวลาก่ีนาฬิกากน่ี าที ครูและนักเรยี น รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง | 55สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครรู ายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 7 | เวลา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เล่ม 2 หนงั สอื เรียนร�ยวิช�พื้นฐ�น | คณติ ศ�สตร์ ป.2 จบั คูน่ าฬกิ าทแี่ สดงเวลาเดยี วกัน หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท ่ี 7 | เวลา 1ก บทที่ 7 | เวลา บอกเวล�จ�กน�ฬกิ � 11 12 1 10 2 3 น�ฬกิ � 5 น�ที 93 10 น�ฬกิ � 20 น�ที 84 18 น�ฬกิ � 35 น�ที 765 21 น�ฬิก� 11 12 1 10 2 2 ข 93 84 765 11 12 1 10 2 3 ค 93 84 765 บอกเวลาจากนาฬกิ า 4 11 12 1 123 10 2 เฉลย 23 นาฬิกา 10 นาที 2 นาฬกิ า 45 นาที 13 นาฬิกา 20 นาที ขอ้ 2 คกู่ บั ขอ้ ก ง 93 ข้อ 3 ค่กู ับข้อ ง 456 ข้อ 4 คู่กับข้อ ค 84 765 0 นาฬกิ า 55 นาที 3 นาฬิกา 25 นาที86 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 5 นาฬิกา 30 นาที ขอ้ 1 คูก่ ับขอ้ ข | 87สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. ครตู ดิ ภาพนาฬกิ าแล้วใหน้ ักเรยี นบอกเวลาจากภาพนาฬกิ า อาจยกตัวอยา่ งเพมิ่ เตมิ เพือ่ ให้นักเรยี นฝกึ การบอกเวลามากขึ้น โดยครูเน้นยำ�้ ให้สงั เกตวา่ ตัวเลขที่บอกเวลาเป็นนาฬิกา จะมหี ลกั เดียวหรอื สองหลกั กไ็ ด้ แต่ตัวเลขที่บอกเวลาเปน็ นาทีตอ้ งมสี องหลกั เสมอ ถ้าไมถ่ ึง 10 นาที จะตอ้ งเติมเลข 0 ไว้ขา้ งหนา้ เชน่ 3 : 05 อา่ นวา่ 3 นาฬิกา 5 นาท ี 21 : 00 อ่านว่า 21 นาฬกิ า จากนั้นครูใหน้ กั เรยี นบอกเวลาจากภาพนาฬกิ าแบบใชต้ วั เลขท้ายหนงั สอื เรียนหน้า 86 และ ร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง 3. ครใู หน้ กั เรียนจบั คนู่ าฬกิ าท่ีแสดงเวลาเดียวกัน แล้วรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง การตรวจสอบความเข้าใจ หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 เฉลย บทท่ี 7 | เวลา ขอ้ 1 คูก่ บั ขอ้ ค 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียน โดยให้ ขอ้ 2 คู่กบั ข้อ ข นักเรยี นจับคนู่ าฬิกาแบบใช้ตัวเลขกบั เวลาท่ตี รงกัน ตรวจสอบความเขา้ ใจ ขอ้ 3 คกู่ ับขอ้ ก เปน็ รายบคุ คลตามหนังสือเรยี นหน้า 88 จากน้ัน จบั คู่นาฬกิ ากบั เวลา ข้อ 4 คกู่ บั ข้อ จ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรุป ข้อ 5 คู่กับข้อ ง สิ่งที่ได้เรียนรู้ 1ก 5 น�ฬกิ � 50 น�ที สง่ิ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ 2 ข 10 น�ฬิก� 5 น�ที • นาฬิกาแบบใช้ตัวเลขใชเ้ ครือ่ งหมาย : คั่นระหวา่ งตัวเลข ทแ่ี สดงเวลาเป็นนาฬิกากบั ตวั เลขทแ่ี สดงเวลาเปน็ นาที 3 ค 14 น�ฬกิ � 30 น�ที 4 ง 0 น�ฬิก� 25 น�ที • ตัวเลขหน้าเครื่องหมาย : แสดงเวลาเปน็ นาฬกิ า ตวั เลข หลงั เครอื่ งหมาย : แสดงเวลาเป็นนาท ี 5 จ 23 น�ฬิก� 15 น�ที จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 7.7 หนา้ 56 – 58 ส่งิ ท่ีได้เรยี นรู้ น�ฬิก�แบบใช้ตวั เลขใช้เครื่องหม�ย : คน่ั ระหว่�งตัวเลขทแ่ี สดงเวล� เป็นน�ฬิก�กับตวั เลขที่แสดงเวล�เป็นน�ที ตวั เลขหน�้ เครือ่ งหม�ย : แสดงเวล�เป็นน�ฬิก� ตัวเลขหลังเครอ่ื งหม�ย : แสดงเวล�เป็นน�ที แบบฝกึ หัด 7.7 88 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 56 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา คูม่ ือครรู ายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เล่ม 2 7.8 โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั เวลา จดุ ประสงค์ แก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับเวลาทม่ี หี น่วยเดี่ยวและเป็นหน่วยเดยี วกนั สอื่ การเรียนรู้ หนังสือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทท่ี 7 | เวลา −− แถบโจทยป์ ัญหา และนาฬกิ าจรงิ หรอื นาฬิกาจ�ำ ลอง 7.8 โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั เวลา แนวการจัดการเรยี นรู้ การพฒั นาความรู้ พัฒนาความรู้ 1. ครตู ดิ แถบโจทยป์ ญั หาหรอื เขียนโจทย์ปัญหาบน ตน้ กล�้ อ�ย ุ 8 ป ี ต้นอ้ออ�ยุ 12 ปี ท้ังสองคนอ�ยรุ วมกันกป่ี ี 8 + 12 = 20 กระดาน ดงั น้ี ตน้ กลา้ อายุ 8 ปี ตน้ ออ้ อายุ 12 ปี ทง้ั สองคน อายุรวมกนั ก่ปี ี แลว้ ครถู ามนกั เรยี นว่า โจทยถ์ ามอะไร โจทย์ถาม ทั้งสองคนอ�ยุรวมกนั กีป่ ี โจทยบ์ อกอะไร ค�ำ ตอบตอ้ งมากกวา่ หรือน้อยกว่า 12 โจทย์บอก ต้นกล้�อ�ยุ 8 ปี จะหาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร ครอู าจใช้ bar model ประกอบ ต้นอ้ออ�ย ุ 12 ปี การอธบิ ายเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ ตอ้ งน�ำ อายขุ องทง้ั สองคน ตอบ ท้งั สองคนอ�ยุรวมกนั ๒๐ ปี มารวมกนั จากนน้ั ครูติดแถบโจทยป์ ญั หาหรือเขยี นโจทย์ ปญั หาอกี 1 ข้อ แล้วถามคำ�ถามในทำ�นองเดยี วกบั ข้อแรก นทตี ้องท�ำ ง�น 10 เดือน เข�ท�ำ ง�นไปแลว้ 7 เดอื น เข�ตอ้ งทำ�ง�นตอ่ ไป เพอื่ ใหน้ ักเรียนฝกึ การวเิ คราะหโ์ จทย ์ และให้นักเรียน อีกกเ่ี ดือนจงึ จะครบ 10 เดือน ร่วมกันท�ำ โจทยป์ ญั หาอีก 2 ขอ้ ในกรอบทา้ ยหนา้ 89 และใหท้ กุ คนร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง โจทย์ถาม เข�ตอ้ งท�ำ ง�นต่ออกี กเ่ี ดอื น 10 − 7 = 3 2. ครตู ิดแถบโจทย์ปัญหาหรอื เขียนโจทย์ปญั หาบน โจทยบ์ อก นทตี อ้ งทำ�ง�น 10 เดือน กระดานตามหนังสือเรียนหน้า 90 แล้วใหน้ กั เรียนรว่ มกนั เข�ท�ำ ง�นไปแลว้ 7 เดือน วิเคราะห์โจทย์วา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร และจะหาคำ�ตอบได้อย่างไร โดยมคี รูช่วยใหค้ ำ�แนะน�ำ ตอบ เข�ตอ้ งทำ�ง�นต่อไปอีก ๓ เดือน ซง่ึ โจทยใ์ นหนังสือเรยี นหน้านจ้ี ะมีลกั ษณะทยี่ ากขน้ึ ครอู าจใช้นาฬิกาจำ�ลองชว่ ยในการอธบิ ายหรืออาจใช ้ หาคาำ ตอบ bar model ประกอบค�ำ อธิบาย ดังตวั อย่างในหนงั สอื เรยี น จากนั้นใหน้ ักเรยี นจับคกู่ ันวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หาเพอ่ื หา 1 ลกู แมวอ�ย ุ 5 เดือน ลูกสนุ ขั อ�ยมุ �กกว�่ ลกู แมว 3 เดอื น คำ�ตอบในหนังสอื เรียนทา้ ยหน้า 90 แล้วให้นักเรยี นทุกคน ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ลกู สนุ ัขอ�ยุกีเ่ ดอื น 8 เดือน 2 ฟ้�ตอ้ งทำ�ง�นเป็นเวล� 25 วัน ฟ้�ท�ำ ง�นไปแล้ว 21 วัน ฟ้�ต้องท�ำ ง�นต่ออกี กีว่ ันจึงจะครบ 25 วัน 4 วัน | 89สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน | คณิตศาสตร์ ป.2 บทที่ 7 | เวลา นิดใชเ้ วล�อ�่ นหนังสอื 2 ชัว่ โมง แนนใช้เวล�อ่�นหนังสือม�กกว�่ นิด 1 ช่ัวโมง แนนใชเ้ วล�อ่�นหนงั สอื ก่ีช่ัวโมง โจทยถ์ าม แนนใชเ้ วล�อ่�นหนงั สือกช่ี ่วั โมง โจทยบ์ อก นดิ ใชเ้ วล�อ่�นหนงั สือ 2 ชั่วโมง แนนใช้เวล�อ่�นหนังสือ ม�กกว�่ นิด 1 ชว่ั โมง นิด 2 ช่ัวโมง เวลาทีแ่ นนใช�มากกว�านิด แนน 2 ชั่วโมง 1 ช่ัวโมง ตอบ แนนใช้เวล�ในก�รอ�่ นหนงั สอื ๓ ช่วั โมง แก้วต�ใช้เวล�ว�ดภ�พ 35 น�ที น�รใี ช้เวล�ว�ดภ�พ 28 น�ที น�รใี ช้เวล� ว�ดภ�พนอ้ ยกว่�แกว้ ต�กี่น�ที โจทยถ์ าม น�รีใช้เวล�ว�ดภ�พนอ้ ยกว่�แกว้ ต�กนี่ �ที โจทย์บอก แกว้ ต�ใช้เวล�ว�ดภ�พ 35 น�ท ี น�รใี ช้เวล�ว�ดภ�พ 28 น�ท ี ตอบ น�รใี ชเ้ วล�ว�ดภ�พนอ้ ยกว่�แก้วต� ๗ น�ที 35 − 28 = 7 หาคาำ ตอบ 1 ตน้ กล�้ ปน่ั จกั รย�น 25 น�ที และว่ิงอกี 20 น�ที ตน้ กล้�ใช้เวล� ปั่นจักรย�นและวิง่ รวมกนั กนี่ �ที 45 นาที 2 พอ่ ขบั รถไปบ้�นย�ยใช้เวล� 3 ชัว่ โมง และขบั รถไปทะเลใชเ้ วล� 2 ชว่ั โมง พอ่ ขบั รถไปบ�้ นย�ยใช้เวล�น�นกว�่ ขับรถไปทะเลกี่ช่วั โมง 90 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 ชั่วโมง | 57สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครูรายวิชาพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ บทท่ี 7 | เวลา ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 เลม่ 2 หนังสือเรียนร�ยวชิ �พื้นฐ�น | คณติ ศ�สตร ์ ป.2 3. ครูตดิ แถบโจทยป์ ัญหา แลว้ ให ้ บทท ่ี 7 | เวลา นกั เรียนวิเคราะหว์ า่ โจทย์บอกอะไร โจทยถ์ าม อะไร และจะหาคำ�ตอบไดอ้ ยา่ งไร ครูอาจใชส้ อื่ ครอบครัวของโดง่ ออกจ�กบ�้ นเวล� 6 น�ฬกิ � ไปถงึ สวนสตั ว์เวล� 9 น�ฬกิ � นาฬิกาจ�ำ ลองหรือนาฬิกาจรงิ หมนุ เวลา โดง่ ใชเ้ วล�ในก�รเดินท�งกี่ชวั่ โมง ประกอบการอธบิ ายให้นักเรยี นเหน็ ภาพชัดเจน เกีย่ วกบั เวลาที่ผา่ นไปเปน็ ช่ัวโมง เปน็ นาที และ โจทย์ถาม โดง่ ใช้เวล�ในก�รเดินท�งกชี่ วั่ โมง ใหส้ ังเกตการเคลือ่ นทขี่ องเขม็ นาฬิกาว่า ถา้ โจทย์ ถามเกย่ี วกบั ระยะเวลาเป็นชวั่ โมงการเคลื่อนที่ โจทย์บอก ครอบครัวของโดง่ ออกจ�กบ�้ นเวล� ของเข็มสน้ั จะเคล่อื นทไ่ี ปก่ีช่อง เชน่ ตาม 6 น�ฬิก� ไปถึงสวนสัตวเ์ วล� 9 น�ฬกิ � ตวั อย่างแรกในหนังสือเรยี นหนา้ 91 เข็มสนั้ เคลอื่ นที่ไป 3 ช่อง ดงั นัน้ เวลาผา่ นไป 3 ช่วั โมง 11 12 1 11 12 1 ถ้าโจทย์ถามเกยี่ วกับระยะเวลาเป็นนาท ี 10 2 10 2 การเคลอ่ื นที่ของเขม็ ยาวจะเคลื่อนท่ไี ปกชี่ อ่ ง 93 93 เช่น ตามตัวอย่างต่อมา เข็มสั้นเคล่อื นทไี่ ป 84 84 6 ชอ่ ง ชอ่ งละ 5 นาทดี งั นน้ั เวลาผา่ นไป 30 นาที จากนน้ั ครใู ห้ นกั เรยี นชว่ ยกัน 765 765 วิเคราะห์โจทยแ์ ละหาคำ�ตอบของโจทยป์ ญั หา ในกรอบท้ายหน้า 91 ตอบ โดง่ ใช้เวล�ในก�รเดนิ ท�ง ๓ ช่วั โมง การตรวจสอบความเขา้ ใจ ธ�ร�ออกเดินท�งจ�กบ้�นเวล� 7 น�ฬกิ � ใชเ้ วล�ในก�รเดนิ ท�งไปโรงเรยี น 30 น�ท ี ธ�ร�ไปถงึ โรงเรยี นเวล�ใด 4. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยใหน้ ักเรียนอา่ นโจทย์ปญั หาเก่ยี วกับเวลา โจทยถ์ าม ธ�ร�ไปถงึ โรงเรยี นเวล�ใด วิเคราะห์โจทย์ปัญหา และหาค�ำ ตอบ เป็นรายบุคคล ครแู ละนกั เรยี นช่วยกัน โจทย์บอก ธ�ร�ออกเดินท�งจ�กบ�้ นเวล� 7 น�ฬกิ � ใชเ้ วล�ในก�รเดนิ ท�ง ตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปสงิ่ ที่ได้เรยี นรู้ 30 น�ท ี 11 12 1 5 ส่งิ ที่ได้เรยี นรู้ 10 2 11 12 1 93 10 2 10 การแก้โจทย์ปัญหาท�ำ ได้โดยอ่านทำ�ความเข้าใจ 84 93 15 ปัญหา วางแผนแก้ปญั หา และหาค�ำ ตอบ 765 84 20 จากนัน้ ให้นกั เรียนท�ำ แบบฝึกหัด 7.8 765 หนา้ 59 – 61 30 25 ตอบ ธ�ร�ไปถึงโรงเรยี นเวล� ๗ น�ฬกิ � ๓๐ น�ที หาคาำ ตอบ 1 ออ้ เริ่มท�ำ ก�รบ้�นเวล� 17 น�ฬกิ � เสร็จเวล� 17 น�ฬกิ � 45 น�ที อ้อใชเ้ วล�ท�ำ ก�รบ�้ นน�นเท่�ไร 45 นาที 11 นาฬกิ า 2 อ้ัมใช้เวล�ท�ำ ง�น 2 ชวั่ โมง ถ้�เริ่มทำ�เวล� 9 น�ฬิก� จะเสรจ็ เวล�ใด | 91สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนังสอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 7 | เวลา ตรวจสอบความเข้าใจ หาคาำ ตอบ 1 ดำ�รงคอ์ �ย ุ 12 ปี แดงสิรอิ �ยมุ �กกว�่ ด�ำ รงค ์ 5 ป ี แดงสิริอ�ยกุ ี่ปี 17 ปี 11 12 1 10 2 93 84 765 2 โดง่ ออกจ�กบ้�นเวล� 8 น�ฬกิ � 20 น�ท ี ไปถงึ สวนสนุกเวล� 9 น�ฬิก� 10 น�ที โด่งใช้เวล�เดินท�งไปสวนสนุกก่นี �ที 50 นาที สิ่งท่ีได้เรียนรู้ ก�รแกโ้ จทย์ปญั ห� ทำ�ไดโ้ ดยอ่�นท�ำ คว�มเข�้ ใจปญั ห� ว�งแผนแก้ปญั ห� และห�คำ�ตอบ แบบฝกึ หดั 7.8 92 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 58 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทที่ 7 | เวลา คู่มือครูรายวิชาพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เลม่ 2 รว่ มคิดร่วมท�ำ หนังสือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน | คณติ ศาสตร์ ป.2 บทท่ี 7 | เวลา กจิ กรรม เวลาฮาเฮ รว่ มคิดรว่ มทาำ อุปกรณ์ กจิ กรรม เวล�ฮ�เฮ −− อปุ กรณใ์ นแตล่ ะดา่ น ไดแ้ ก่ ดา่ นท่ี 1 : ปฏทิ นิ อปุ กรณ ์ 1. อุปกรณ์ในแตล่ ะด่�น ไดแ้ ก่ ดา่ นท่ี 2 : บตั รภาพนาฬกิ าแสดงเวลา ด�่ นท่ี 1 : ปฏิทินปีปจั จุบัน ด�่ นท ี่ 2 : บตั รภ�พน�ฬกิ �แสดงเวล� ดา่ นท่ี 3 : บตั รค�ำ สง่ั ด�่ นที่ 3 : บัตรค�ำ สง่ั ด�่ นท ่ี 4 : บัตรโจทย์ปญั ห� 2. แบบบนั ทึกกิจกรรม วิธีจดั กิจกรรม 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกล่มุ แจกแบบบนั ทกึ กิจกรรมกลุ่มละ 1 ใบ 2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกันห�ค�ำ ตอบในด�่ นต�่ ง ๆ และบนั ทึกคำ�ตอบ ลงในแบบบันทกึ กิจกรรมจนครบทุกด�่ น กลมุ่ ใดใช้เวล�นอ้ ยท่ีสุดและ ตอบถกู ต้องม�กท่สี ุดเป็นผูช้ นะ ดา่ นท่ี 4 : บตั รโจทยป์ ญั หา ตัวอยา่ งกิจกรรมดา่ นต่าง ๆ ตวั อย่างแบบบนั ทึกกจิ กรรม −− แบบบนั ทกึ กจิ กรรม สม�ชิก 1………...… 2…………… 3……………. ดา่ นที่ 1 : ปฏทิ ินหรรษา เตรยี มสถานท่ี จัดหอ้ งเรยี นใหโ้ ลง่ สะดวกตอ่ การท�ำ กจิ กรรม ใช้ปฏทิ ินปปี ัจจบุ นั ตอบคำ�ถ�มตอ่ ไปน้ี จัดด่านทง้ั 4 ดา่ น ไวท้ ี่ 4 มุมของห้อง หรือตาม ความเหมาะสม โดยแตล่ ะดา่ นจัดเตรยี มอปุ กรณ์ 1. วนั ที่ 10 กมุ ภ�พนั ธ์ ตรงกบั วนั อะไร 1. ตอบ ..................... ดงั นี้ 2. ตอบ ..................... ดา่ นท่ี 1 : วางปฏทิ นิ ปเี ดยี วกนั 1 – 2 อนั 2. วนั ท ่ี 27 พฤศจกิ �ยน ตรงกบั วนั ศกุ รใ์ ชห่ รอื ไม่ ด่านท ี่ 1 3. ตอบ ..................... ปฏทิ นิ หรรษา 3. วนั เดก็ แห่งช�ติตรงกบั วนั ทีเ่ ท�่ ไร เดอื นอะไร ดา่ นท่ี 2 : นาฬกิ าของเรา เขยี นบอกเวล�ตอ่ ไปน้ี 11 12 1 11 12 1 11 12 1 11 12 1 10 2 10 2 10 2 10 2 93 93 93 84 84 84 93 กล�งวนั 1..6....น...า..ฬ...กิ ..า....5. นาที กล�งคืน 2..0....น...า..ฬ..ิก...า...2..5 นาที 765 765 กล�งวัน 765 กล�งค8ืน7 6 4 ดา่ นที ่ 2 5 นาฬกิ าของเรา ด่านท ่ี 3 : เรียงลำาดับระยะเวลา ดเร่าียนงทลี ่าำ 3ด บั ระยะเวลา1 5 น..า..ท...ี .3..0....นา..ท...ี . . 2...ช..่ัว..โมง 4 ช่ัวโมง เรยี งลำ�ดับระยะเวล�จ�กนอ้ ยไปม�ก 30 นาที 15 นาที 4 ชัว่ โมง 2 ชั่วโมง ด่านท ่ี 4 : โจทยป์ ัญหารา่ เริง ดา่ นท ่ี 4 1. ตอบ ..1...5....น..า..ท...ี ..... ห�คำ�ตอบ โจทย์ปญั หาร่าเรงิ 2. ตอบ ..1...3....ป..ี.......... 1. นทั ใชเ้ วล�อ�บน�ำ้ 30 น�ท ี นนุ่ ใชเ้ วล�อ�บน�ำ้ 45 น�ท ี นนุ่ ใชเ้ วล�อ�บน�ำ้ น�นกว�่ นทั กน่ี �ที 2. ตั้มอ�ย ุ 9 ปี ตน้ อ�ยุม�กกว่�ต้ัม 4 ปี ต้นอ�ยกุ ปี่ ี | 93สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใหน้ ักเรยี นตอบค�ำ ถามจากปฏทิ นิ ด่านที่ 2 : วางบตั รภาพนาฬกิ าแสดงเวลาจ�ำ นวน 2 บัตร ซงึ่ ควรมที ั้งกลางวันและกลางคนื ให้นกั เรียนเขยี นบอกเวลาจากบตั รภาพ ด่านที่ 3 : วางบตั รแสดงระยะเวลาเป็นช่ัวโมง เป็นนาที (เวลาตา่ งกนั ) จำ�นวน 4 บตั ร ใหน้ กั เรยี นเขียนเรียงเวลาจากระยะเวลาทนี่ ้อยท่สี ดุ ไปหาระยะเวลาที่มากทีส่ ดุ ดา่ นที่ 4 : วางบัตรโจทย์ปัญหา จ�ำ นวน 2 บัตร ให้นกั เรยี นหาค�ำ ตอบของโจทย์ปญั หา วิธีจดั กิจกรรม ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กลมุ่ แจกแบบบนั ทกึ กจิ กรรมกลมุ่ ละ 1 ใบ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกัน หาคำ�ตอบในด่านต่าง ๆ และบนั ทกึ คำ�ตอบลงในแบบบันทกึ จนครบทกุ ดา่ น กล่มุ ใดใช้เวลาน้อยทีส่ ดุ และตอบถกู ต้องมากท่ีสดุ เปน็ ผชู้ นะ จากน้นั ให้นักเรยี นทำ�แบบฝกึ ทา้ ทายหน้า 62 - 63 | 59สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครรู ายวชิ าพนื้ ฐานคณติ ศาสตร์ บทที่ 7 | เวลา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เล่ม 2 ตวั อยา่ งแบบทดสอบท้ายบท ตวั อยา่ งแบบทดสอบนใ้ี ชใ้ นการประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นเพอ่ื พฒั นานกั เรยี น หากมนี กั เรยี นคนใด ทไี่ มส่ ามารถทำ�แบบทดสอบนไ้ี ด้ ครูควรใหน้ ักเรยี นคนนั้นฝกึ ทักษะมากขึน้ โดยอาจใช้แบบฝกึ เสริม ในหนงั สอื เสริมเพมิ่ ปญั ญาของสสวท. หรือแบบฝึกอ่ืนตามที่เหน็ สมควร ก่อนสอบครอู าจทบทวน ความรูใ้ หก้ ับนกั เรยี นกอ่ น 20 - 30 นาที ซ่ึงแบบทดสอบทา้ ยบทน้มี จี �ำ นวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ใช้เวลาในการทำ�แบบทดสอบ 20 นาที และวิเคราะหเ์ ป็นรายจุดประสงค์ได้ดงั น้ี จุดประสงค์การเรียนรู้ ขอ้ ที่ 1. อ่านปฏทิ นิ 1 2 3 4 2. บอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที (ช่วง 5 นาท)ี 5 6 7 8 3. แกโ้ จทย์ปัญหาเกยี่ วกับเวลาที่มีหน่วยเดีย่ วและเป็นหนว่ ยเดยี วกัน 9 10 ตัวอยา่ งแบบทดสอบท้ายบทที่ 7 อา่ นปฏทิ นิ แล้วเติมค�ำ ตอบ 1. เดอื นกมุ ภาพนั ธม์ …ี ……………….วนั 2. วันเสาร์แรกของเดอื นมีนาคมตรงกบั วนั ที…่ ………………….. 3. วนั ขึน้ ปใี หม่พ.ศ. 2564 ตรงกบั วัน…………………วนั ท่ี …………เดอื น………………………พ.ศ……………. 4. วันท่ี 4 มกราคม พ.ศ. 2564 ตรงกบั วนั …………………….. 60 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 7 | เวลา คู่มอื ครูรายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 เล่ม 2 บอกเวลาจากนาฬกิ า กลางคืน กลางวัน 6. 11 12 1 5. 11 12 1 10 2 10 2 93 93 84 84 765 765 กลางคืน กลางวนั 8. 7. 11001111 1122 11 22 11 12 1 99 33 10 2 88 77 66 55 44 93 84 765 เติมคำ�ตอบ 11 12 1 9. นอ้ ยใชเ้ วล910าท�ำ การบา้ 23น 50 นาท ี นำ้�ใชเ้ วลาทำ�การบา้ น 45 นาที น้อยใชเ้ วลาท�ำ การบ้าน นานกวา่ น8ำ้�ก่ีนาที 4 ตอบ ……....7.....6.....5......................................................................………………………………….. 10. ตน้ ข้าวเร่ิมเรียนเตน้ ร�ำ เวลา 9 นาฬกิ า และเรียนเสร็จเวลา 11 นาฬกิ า ต้นข้าวใชเ้ วลา เรียนเต้นร�ำ นานกี่ชว่ั โมง ตอบ ……………………………………….. 11 12 1 10 2 93 84 765 | 61สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครูรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ บทที่ 7 | เวลา ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 2 เล่ม 2 เฉลยแบบทดสอบทา้ ยบทท่ี 7 1. 29 2. 7 3. วันศกุ ร์ วนั ท่ี 1 เดือน มกราคม พ.ศ. 2564 4. วนั จนั ทร์ 5. 17 นาฬกิ า 10 นาที 6. 20 นาฬกิ า 7. 14 นาฬกิ า 30 นาที 8. 5 นาฬกิ า 40 นาที 9. 5 นาที 10. 2 ชวั่ โมง 62 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บทท่ี 8 | การวัดปริมาตร ค่มู อื ครรู ายวชิ าพน้ื ฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2 เล่ม 2 บทท่ี 8 การวัดปรมิ าตร จดุ ประสงค์การเรียนรูแ้ ละสาระสำ�คัญ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระสำ�คญั นกั เรยี นสามารถ • การวัดปริมาตรของของเหลวหรือของแหง้ ท�ำ ได้โดยการตวงของเหลวหรอื ของแหง้ 1. วดั และบอกปริมาตรและความจเุ ปน็ ลิตร ด้วยภาชนะต่าง ๆ เช่น แกว้ ถ้วย ขวด (หัวข้อ 8.1 - 8.4 8.6 - 8.7) กระป๋อง การตวงของเหลวหรือของแห้ง ตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งตวงใหเ้ หมาะสมและตวงใหถ้ กู วธิ ี สำ�หรบั การตวงของเหลวตอ้ งเทของเหลว ให้เต็มภาชนะนั้น ส่วนการตวงของแหง้ ตอ้ งใส่ ของแหง้ ให้พนู ภาชนะแล้วใชไ้ มป้ าดของแหง้ ใหเ้ รยี บเสมอขอบภาชนะ • การวัดปริมาตรของของเหลวหรือของแหง้ ดว้ ยการตวงอาจบอกปรมิ าตรเปน็ ชอ้ นชา ช้อนโตะ๊ ถ้วยตวง หรือลติ ร อาจท�ำ ได้โดย การตวงของเหลวหรือของแห้งด้วยชอ้ นชา ชอ้ นโตะ๊ ถ้วยตวง ลติ ร หรอื เครอ่ื งตวงน�ำ้ มัน เชอื้ เพลงิ • การคาดคะเนปรมิ าตรของสง่ิ ตา่ ง ๆ เป็น การบอกปริมาตรโดยไม่ใชเ้ คร่ืองตวง อาจคาดคะเนโดยเทยี บกับ 1 ลิตร • การหาความจขุ องภาชนะอาจทำ�ไดโ้ ดยเตมิ น�้ำ ให้เตม็ ภาชนะ แลว้ ตวงนำ�้ ทอี่ ยูใ่ นภาชนะ น้ัน ปรมิ าตรของนำ้�ท่ีตวงไดจ้ ะเทา่ กับความจุ ของภาชนะนั้น | 63สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347