Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวัตกรรมจากวิจัย (การจับใจความสำคัญ) รวมไฟล์ทั้ง 5 เล่ม

นวัตกรรมจากวิจัย (การจับใจความสำคัญ) รวมไฟล์ทั้ง 5 เล่ม

Published by tado159357, 2021-09-22 16:18:08

Description: นวัตกรรมจากวิจัย (การจับใจความสำคัญ) รวมไฟล์ทั้ง 5 เล่ม

Search

Read the Text Version

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ๖. นิทานเร่ืองน้ีจดั เป็นนิทานประเภทใด ข. นิทานตลกขบขนั ก. นิทานปรัมปรา ง. นิทานเทพนิยาย ค. นิทานทอ้ งถิ่น ๗. ผเู้ ขียนมีจุดมุ่งหมายอยา่ งไรในการเขียน ข. เพื่อใหเ้ กิดความสนุกสนาน ก. เพอ่ื ใหข้ อ้ คิดแก่ผอู้ ่าน ง. เพอ่ื เตือนใหม้ ีความรอบคอย ค. เพื่อเสียดสี คนที่ชอบใชผ้ อู้ ่ืน อ่านนิทานต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ ๘ – ๑๐ ไก่ตวั ผูส้ องตวั อยูใ่ นเลา้ เดียวกนั ในเลา้ น้นั มีไก่ตวั เมียอยู่หลายตวั แต่วิสัยของไก่ตวั ผู้ พอ่ เลา้ ซ่ึงมกั ไมย่ อมจะกม้ หวั ใหแ้ ก่กนั มนั จึงมกั จะตีกนั อยูเ่ สมอ เพราะสาเหตุท่ีจะแยง่ เป็ นพอ่ เลา้ ครอบครองไก่ตวั เมียท้งั หมดแต่เพียงผูเ้ ดียว วนั หน่ึง ไกต้ วั ผูท้ ้งั คู่ก็เกิดปะทะกนั อยา่ งหนกั ถึงขนาดแพช้ นะ ไก่ตวั ที่แพต้ อ้ งหนีไป หลบ ๆ ซ่อน ๆ อยใู่ นมุมมืด ไม่กลา้ ออกมาตีอีก ส่วน ไก่ตวั ท่ีชนะน้นั ก็ลิงโลดใจวา่ ตนเองเป็ นผูช้ นะถึงกบั กระโดดข้ึนไปยืนเกาะอยูบ่ นเสาร้ัวเลา้ แลว้ ตีปี กส่งเสียงดงั ลน่ั บอกความเป็ นผูช้ นะ นกอินทรีตวั หน่ึงบินผ่านมาเห็นเขา้ ก็บินลงมา โฉบเอาไก่พอ่ เลา้ ตวั น้นั ดว้ ยกรงเล็บแหลมคมของมนั ข้ึนไปทนั ที แลว้ พาไปจากท่ีนน่ั ไก่ตวั ท่ี แพเ้ ลยไดเ้ ป็นพอ่ เลา้ แทน ๘. พฤติกรรมของไก่ท้งั สองตวั เปรียบไดก้ บั สานวนในขอ้ ใด ก. หวั เราะทีหลงั ดงั กวา่ ข. แพเ้ ป็นพระ ชนะเป็นมาร ค. เสือสองตวั อยถู่ ้าเดียวกนั ไม่ได้ ง. คนโง่ยอ่ มเป็นเหยอื่ ของคนฉลาด ๙. ไก่ตวั ที่ชนะเป็นเหยอ่ื ของนกอินทรีเพราะอะไร ก. ทะนงตน ข. หลงตวั เอง ค. ประมาท ง. เยอ่ หยง่ิ ๑๐. ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากเรื่องน้ีคืออะไร ข. ไมค่ วรยดื ติดกบั อานาจวาสนา ก. ไม่ควรรังแกผทู้ ี่ออ่ นแอกวา่ ง. ควรมีความสามคั คีในหมูค่ ณะ ค. ควรผกู มิตรดีกวา่ สร้างศตั รู ๗

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ใบควำมรู้ กำรอ่ำนจับใจควำมสำคญั จำกนิทำน ความหมายของนิทาน นิทาน หมายถึง เร่ืองเล่าท่ีเล่าสืบต่อกันมา มุ่งให้เห็นความบนั เทิงใจ แทรก แนวคิด คติสอนใจ จนเป็นมรดกทางวฒั นธรรมของคนไทยอยา่ งหน่ึง อาจเรียกวา่ นิทาน พ้ืนบา้ น นิทานพ้นื เมือง นิทานชาวบา้ น เป็นตน้ ทม่ี าของนิทาน ๑. มาจากความตอ้ งการใหเ้ กิดความสนุกสนาน บนั เทิง จึงผูกเรื่องข้ึน หรือนาเร่ืองไป ผสมผสานกบั เรื่องท่ีมีอยเู่ ดิม ๒. มาจากความตอ้ งการอบรมส่ังสอนในแง่ของพระพุทธศาสนา ให้ความรู้ ดา้ นคติ ธรรม เพ่ือใหก้ ารอบรม สั่งสอนใหค้ นประพฤติ ปฏิบตั ิ ในส่ิงท่ีดีงาม อยูใ่ นกฎระเบียบ ของสงั คม เช่น นิทานธรรมบท นิทานอีสป เป็นตน้ ๓. มาจาการยกตวั อยา่ งประกอบคาบรรยาย จึงมีการสมมุติ เร่ืองราวข้ึนมาเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจ ชดั เจนยง่ิ ข้ึน ประเภทของนิทาน ประเภทของนิทานแบ่งออกตามรูปแบบได้ ๑๑ ประเภท คือ ๘

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ๑. ประเภทเทพนิยายหรือปรัมปรา (Fairy tale) เป็ นเรื่องเก่ียวกบั เทวดา นางฟ้า เร่ืองมหศั จรรยเ์ หนือธรรมชาติ เป็ นความฝันและ จินตนาการของผูแ้ ต่ง เรียกหลายอยา่ งเช่น นิทานมหศั จรรย์ นิทาน บรรพบุรุษ เรื่องราว มกั เกี่ยวขอ้ งกบั ราชสานกั เจา้ หญิง เจา้ ชาย มีแม่มด มียกั ษ์ สัตวป์ ระหลาด ตวั ละครท่ีดี จะเป็นฝ่ ายชนะ เช่น เรื่องพระอภยั มณี คาวี สงั ขท์ อง พระสุธนมโนราห์ ฯลฯ ๒. ประเภทชีวติ จริง (Novella) เป็ นเร่ืองท่ีดาเนินอยู่ในโลกของความจริง มีการบ่งสถานท่ีและตวั ละครชดั เจน อาจมีปาฏิหาริยอ์ ิทธิฤทธ์ิแต่เป็ นไปในลักษณะที่เป็ นไปได้ โดยใช้สถานท่ี เวลา ตวั ละครที่มา จากความจริง เช่น ขุนชา้ งขุนแผน พระอภยั มณี (บางส่วนที่มาจากชีวิตจริง ของผแู้ ต่ง) พระลอ พระรถเมรี พระร่วง ไกรทอง เป็นตน้ ๓. ประเภทวรี บุรุษ (Hero tale) เป็นเรื่องท่ีมีหลายตอนขนาดยาว อาจคลา้ ยชีวิตจริงหรือจินตนาการ เป็ นเรื่องเล่า ท่ีกล่าวถึงวีรบุรุษที่ตอ้ งผจญภยั ท่ีมีลกั ษณะเหนือมนุษย์ เช่น เร่ือง เฮอร์คิวลิส เซซีอุ สและเพอร์ซีอุสของกรีก เป็นตน้ ๙

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ๔. ประเภทนิทานประจาถนิ่ (Sage) มกั เป็ นเร่ืองแปลกพิสดารซ่ึงเชื่อวา่ เคยเกิดข้ึนจริง ณ สถานที่ใดสถานที่หน่ึง บ่ง บอกสถานท่ีและตวั ละคร ชดั เจน อาจมาจากประวตั ิศาสตร์ อาจเป็ นไปไดท้ ้งั มนุษย์ สัตว์ เทวดา ผี เช่น เร่ือง พระยาพาน พระร่วง เจา้ แม่สร้อยดอกหมาก ตาม่องล่าย ทา้ วปา จิตกบั นางอรพมิ เป็นตน้ ๕. ประเภทเล่าอธิบายเหตุ (Explanatory tale) เป็นเรื่องอธิบายกาเนิด ความเป็ นมาของสิ่งท่ีเกิดข้ึนในธรรมชาติ กาเนิดของสัตว์ วา่ เหตุใดจึงมีรูปร่างลกั ษณะ ต่าง ๆ กาเนิดของพืช มนุษย์ ดวงดาวต่าง ๆ เป็ น ตน้ เช่น ทาไมจระเขจ้ ึงไมม่ ีลิ้น กาเนิด ดาวลูกไก่ กาเนิดจนั ทรคราส เป็นตน้ ๖. ประเภทเทพปกรณมั หรือเทวปกรณ์ (Myth) เป็ นเรื่องอธิบายถึงกาเนิดของจกั รวาล มนุษย์ สัตว์ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ลม ฝน กลางวนั กลางคืน ฟ้าร้อง ฟ้าผา่ แสดงถึงความเชื่อทางศาสนา มี เร่ืองของ เทพท่ีเรารู้จกั กนั ดี เช่น เมขลา รามสูร เป็นตน้ ๗. ประเภทสัตว์ (Animal tale) เป็นเรื่องท่ีมีสตั วเ์ ป็นตวั เอก โดยจะแสดงใหเ้ ห็นความฉลาดและความโง่เขลาของ สัตว์ โดยเจตนาจะมุ่งสอนจริยธรรมหรือคติธรรม ซ่ึงจดั เป็ นเรื่องประเภทให้คติสอนใจ เช่น นิทานอีสป และปัญจะตนั ตระ ๑๐

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ๘. ประเภทมุขตลก (Merry tale) เป็ นเร่ืองขนาดส้ันอาจเป็ นเรื่องเก่ียวกับมนุษย์ หรือสัตว์ จุดสาคญั ของเรื่องอยู่ที่ ความไม่น่าเป็ นไปได้ ซ่ึงเก่ียวขอ้ งกบั ความโง่ ความฉลาด การใชก้ ลลวง การแข่งขนั การ ปลอมแปลง ความเกียจคร้าน เร่ืองเพศ การโม้ คนหูหนวก นกั บวช พระกบั ชี ลูกเขยกบั แม่ ยาย ศรีธนญชยั กระตา่ ยกบั เต่า เป็นตน้ ๙. ประเภทศาสนา (Religious tale) เป็ นเร่ืองเก่ียวกบั ศาสนา เช่น เรื่องเล่าเกี่ยวกบั พระเยซู นักบุญ พระพุทธเจา้ พระ สาวก ซ่ึงไมม่ ีในพระไตรปิ ฎกอยหู่ ลายเร่ือง ซ่ึงทรรศนะของผเู้ ล่ามกั ถือวา่ เป็นเร่ืองจริง ๑๐. ประเภทเร่ืองผี เป็ นเรื่องเกย่ี วกบั ผตี ่าง ๆ ซ่ึงไมป่ รากฏชดั วา่ มาจากไหน เกิดอยา่ งไร เช่น ผีบา้ บอ้ งและผีปกกะโหลง้ ของไทย ภาคเหนือ หรือผที ่ีเป็นคนตายแลว้ มาหลอกดว้ ยรูปร่างวธิ ีการตา่ ง ๆ มีผกี อง กอย ฯลฯ ๑๑. ประเภทเข้าแบบ (Formular tale) เป็ นเร่ืองท่ีมีโครงเร่ืองสาคญั เล่าเพ่ือความสนุกสนานของผูเ้ ล่า และผูฟ้ ังอาจมีการ เล่นเกม แบง่ เป็นนิทานลูกโซ่ เช่นเร่ืองตากบั ยายปลูกถว่ั ปลูกงาให้หลานเฝ้า นิทาน หลอก ผฟู้ ัง นิทานไม่รู้จบ เช่นเก่ียวการนบั จะเล่าเรื่อยไปแต่เปล่ียนตวั เลข ๑๑

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน คุณค่าของนิทาน ๑. นิทานให้ความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ เป็นการผอ่ นคลายความเครียดและช่วยให้ เวลาผา่ นไปอยา่ งไม่น่าเบื่อหน่าย การเล่านิทานของไทย อาจจะเล่าสู่กนั ฟังในครอบครัว เช่น ป่ ูย่าตายายหรือพ่อแม่ เล่าให้ลูกหลานฟังยามว่างหรือก่อนนอน การเล่านิทานใน โอกาสต่าง ๆ ที่กล่าวมาน้ี ทาให้เกิดความเพลิดเพลินเป็ นการผ่อนคลายความเครียด ในขณะทางานหรือหลงั จากที่ได้ทางานหนักมาระยะหน่ึง ทาให้เวลาแห่งภาวะท่ีจาเจ หรืออึดอดั ใจล่วงไปโดยไม่รู้สึกตวั การเล่านิทานมุขตลกในขณะทางาน หรือในวง สนทนาเป็นการช่วยเพ่ิมบรรยากาศใหม้ ีรสชาติ และสนุกสนานครึกคร้ืนยงิ่ ข้ึน ๒. นิทานช่วยกระชับความสัมพันธ์ ในครอบครัวเด็กบางคนอาจมองผูใ้ หญ่ว่า เป็นบุคคลที่ข้ีบน่ ชอบดุด่า น่าเบ่ือหน่ายหรือน่าเกรงขาม แต่ถา้ ผูใ้ หญ่มีเวลาเล่านิทานให้ เด็กฟังบา้ ง นิทานท่ีสนุก ๆ ก็จะช่วยให้เด็กอยากอยูใ่ กลช้ ิด ลดความเกรงกลวั หรือเบื่อ หน่ายผูใ้ หญ่ลง ผูใ้ หญ่และเด็กก็จะมีความใกลช้ ิดสนิทสนมกนั เป็ นอย่างดี แมใ้ นกลุ่ม ผูใ้ หญ่ท่ีกระทากิจกรรมร่วมกนั การไดฟ้ ังนิทานนอกจากจะช่วยให้การทางานเป็ นไป อยา่ งสนุกสนานไม่เบ่ือหน่ายแลว้ การฟังนิทานดว้ ยกนั หวั เราะสนุกสนานร่วมกนั ก็มี ส่วนช่วยให้เกิดความสนิทสนมกนั การจดั กิจกรรมสาหรับกลุ่มสัมพนั ธ์ในปัจจุบนั ใน บางคร้ังจะมีการแทรกการเล่านิทานเขา้ ไปดว้ ย ๓. นิทานให้การศึกษาและเสริมสร้างจินตนาการ โดยเหตุที่นิทานมีตวั ละคร ซ่ึงมี ชีวิตจิตใจแบบมนุษยเ์ รา เด็กที่ไดฟ้ ังนิทานจึงเท่ากบั ไดม้ ีโอกาสเรียนรู้ลกั ษณะมนุษย์ การไดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั อุปสรรคต่าง ๆ ตลอดจนการเอาชนะอุปสรรคของตวั ละคร จะช่วย ใหไ้ ดเ้ รียนรู้เรื่องของชีวติ มากข้ึน สามารถจะอดทนและพยายามหาทางเอาชนะ เม่ือตอ้ ง เผชิญอุปสรรคในชีวติ จริง ๑๒

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ๔. นิทานให้ข้อคิดและคติเตือนใจ นิทานไมไ่ ดใ้ หแ้ ต่ความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่ผูฟ้ ัง เท่าน้นั มีนิทานเป็นจานวนมากโดยเฉพาะนิทานคติ จะให้ขอ้ คิดในแง่ใดแง่หน่ึง เป็ นการช่วย ปลูกฝังคุณธรรมต่าง ๆ ที่สังคมพึงประสงค์แก่ผูฟ้ ัง เช่น ให้ซ่ือสัตย์ ให้เช่ือฟังผูใ้ หญ่ ให้ พูดจาไพเราะอ่อนหวานใหข้ ยนั ขนั แขง็ ใหม้ ีความเอ้ือเฟ้ื อเผ่อื แผ่ เป็ นตน้ การสอนในนิทาน น้นั ผูเ้ ล่าจะแฝงขอ้ คิดไวใ้ นเรื่อง จึงทาให้คลา้ ยกบั วา่ ผูฟ้ ังไม่ไดถ้ ูกสอนโดยตรง นิทานไม่ใช่ ให้ขอ้ คิดแต่เฉพาะเด็กเท่าน้ัน นิทานหลายเร่ืองให้ขอ้ คิดแก่ผูใ้ หญ่ในด้านความประพฤติดี ประพฤติชอบ อยูใ่ นระเบียบอนั ดีงามของสังคม นิทานไดช้ ้ีให้เห็นลกั ษณะของบุคคลที่พึง ประสงค์และไม่พึงประสงค์ของสังคม นิทานจึงเปรียบเสมือนเคร่ืองมือปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมท่ีเป็นบรรทดั ฐานของสงั คม ๕. นิทานช่วยสะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมในอดีตในหลาย ๆ ด้าน เช่น ลกั ษณะของ สังคมวถิ ีชีวติ ของประชาชนในสงั คม ตลอดจนประเพณี ค่านิยมและความเช่ือ เป็ นตน้ ส่ิงต่าง ๆ เหล่าน้ีจะปรากฏอยูใ่ นนิทานเสมอ ถา้ ผูฟ้ ังหรือผูอ้ ่านนิทานไดร้ ู้จกั สังเกต วเิ คราะห์นิทาน ต่าง ๆ เหล่าน้นั ก็จะทาให้เกิดความเขา้ ใจสภาพวิถีชีวติ ของประชาชนในทอ้ งถ่ินต่าง ๆ อยา่ ง แทจ้ ริง นิทานเปรียบเสมือนกระจกเงาบานใหญท่ ่ีช่วยส่องให้เห็นตนเองวา่ เป็ นอยา่ งไร นิทาน จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอยา่ งหน่ึง ๑๓

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน หลกั การอ่านจบั ใจความสาคญั จากนิทาน การอา่ นจบั ใจความจากนิทานอาจใชห้ ลกั การอ่านจบั ใจความสาคญั เหมือนการอ่าน เรื่องยาว ๆ ทวั่ ไป คือ เน้นการสรุปสาระสาคญั ของเร่ืองในลกั ษณะการย่อความ ซ่ึงมี ข้นั ตอนการอ่าน ดงั น้ี ๑. ต้งั ใจอ่าน มีสมาธิในการอา่ น ๒. อ่านเร่ืองราวน้นั ๆ ต้งั แต่ตน้ จนจบ ๓. สรุปหรือจบั ใจความสาคญั วา่ เป็นเร่ืองอะไร มีใคร ทาอะไร กบั ใคร ท่ีไหน เม่ือไร ทาอยา่ งไร ๔. ทบทวนความบางตอน หรือสาระบางเรื่องท่ียงั ไม่เขา้ ใจ ไม่ชดั เจน ใหเ้ ขา้ ใจ ๕. สงั เกตดูวา่ ผลสุดทา้ ยของเรื่องน้นั ๆ อะไรเกิดข้ึนบา้ ง ๖. พิจารณาว่าเร่ืองมีสาระ หรือความสาคญั อยู่ที่ใด มีแง่คิด คติธรรม หรือคา สอนแก่อูอ้ า่ นอยา่ งไรบา้ ง ๗. สรุปความคิด ทาบนั ทึกช่วยจา ยอ่ ความ ตอบคาถาม หรือทากิจกรรมต่าง ๆ ตามวตั ถุประสงค์ ๑๔

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน แบบฝึ กทกั ษะที่ ๑ รู้จักนิทาน คาชี้แจง : ให้นกั เรียนจบั คู่ขอ้ ความ โดยนาตวั อกั ษรที่อยดู่ า้ นหลงั มาเขียนไวด้ า้ นหนา้ ของ ขอ้ ความท่ีสมั พนั ธ์กนั ๑ ………นิทาน ก. นิทานปรัมปรา ๒ ………ท่ีมาของนิทาน ข. นิทานทอ้ งถิ่น ๓ ………ประโยชนข์ องนิทาน ค. นิทานเทพนิยาย ๔ ………นิทานพ้นื บา้ น ง. นิทานเรื่องสัตว์ ๕ ………ซินเดอเรลลา จ. นิทานตลกขบขนั ๖ ………เมขลา รามสูร ฉ. นิทานคติธรรม ๗ ………นิทานอีสป ช. ทา้ วมหาสงกรานต์ ๘ ………เน้ือเรื่องมีเคา้ ความจริง ซ. เร่ืองเล่าในทอ้ งถ่ิน ๙ ………ความโง่ กลโกง ฌ. สโนวไวท์ ๑๐ ………สัตวพ์ ูดได้ ญ. ความสนุกสนาน ฎ. เร่ืองที่เล่าสืบตอ่ กนั มา ฐ. อบรมสง่ั สอนคติธรรม ๑๕

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๒ จดจาเรื่องราว คาชี้แจง : ให้นกั เรียนอ่านเน้ือเรื่องของนิทานท่ีกาหนดให้ จบั ใจความสาคญั ของเน้ือเร่ือง แลว้ ตอบคาถาม ขณะท่ีอ่านเรื่องเพื่อตอบคาถามน้นั หลกั สาคญั คือ ตอ้ งตอบคาถามวา่ เรื่อง เก่ียวกบั อะไร ใครทาอะไร ท่ีไหน อยา่ งไร ทาไม และเมื่อไร โดยที่แต่ละ เร่ืองที่อา่ นน้นั อาจต้งั คาถามดงั กล่าวแตกตา่ งกนั กระตา่ ยตวั หน่ึงหลงทะนงในฝีเทา้ ของตนวา่ สามารถว่ิงได้ รวดเร็วดุจสายลม ในป่ าที่อาศัยอยู่ไม่มีสัตว์ตัวใดสามารถ เ อ า ช น ะ มัน ไ ด้ว ัน ห น่ึ ง เ จ้า ก ร ะ ต่ า ย ไ ด้พ บ ว่ า มี เ จ้า เ ต่ า ค ล า น ตว้ มเต้ียมผา่ นหนา้ ไป กระต่ายไดก้ ล่าว วาจาเยอะเยย้ ด้วยความคึกคะนองว่า “มวั แต่คลานเชื่องช้าแบบน้ี เม่ือไหร่จะถึงจุดหมาย ปลายทางเล่าเพื่อน อยา่ งเจา้ น้ีขา้ ตอ่ ใหค้ ลานล่วงหนา้ ไปก่อนเลยคร่ึงวนั ขา้ กค็ งวงิ่ ตามทนั ” “ไม่ตอ้ งตอ่ ใหข้ า้ หรอก” เตา่ รู้สึกไม่พอใจ “กระต่ายแบบเจา้ ไมเ่ ห็นจะเก่งกาจตรงไหน ไม่เช่ือมาลองวง่ิ แขง่ กนั กไ็ ด”้ “วา่ ไงนะ” กระต่ายแทบไม่เช่ือหูตวั เอง “เจา้ นะหรอจะทา้ แขง่ กบั ขา้ ฮะ ฮะ ฮะ” กระต่ายยนื หวั เราะจนทอ้ งแขง็ ๑๖

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน เมื่อเริ่มการแข่งขนั กระต่ายวิ่งออกจาก จุดเริ่มตน้ ด้วยความเร็วสุดฝี เท้า คร้ังถึง กลางทางหนั ไปมองไม่เห็นแมแ้ ต่เงาของ เจา้ เต่า “ หลบั เอาแรงซกั งีบดีกวา่ ” กระต่ายทาท่าบิดข้ีเกียจ ไมน่ านนกั เจา้ กระต่ายก็เผลอหลบั ไป ฝ่ าย เจ้าเต่ายงั คงคลานอย่างไม่ย่อทอ้ จนใกล้จะเข้าเส้นชัย ฝ่ ายเจ้ากระต่ายสะดุ้งต่ืนมา เห็น รอยเทา้ เจา้ เต่าผา่ นไปจึงรีบวง่ิ อย่างเร็วเพ่ือจะตามไป แต่ก็สายไปเสียแลว้ เม่ือเจา้ กระต่ายได้ วง่ิ มาเกือบถึงเส้นชยั ก็ไดพ้ บวา่ เจา้ เต่าคลานเขา้ เส้นชยั ไปแลว้ คาถาม ๑. จากนิทานขา้ งตน้ สัตวท์ ้งั สองชนิดทาอะไรกนั ………………………………………………………………………………….……............ ๒. เจา้ หลงั ตุง หมายถึงใคร ………………………………………………………………………………………............. ๓. เพราะเหตุใดกระตา่ ยจึงไดเ้ ป็นผแู้ พ้ ……………………………………………………………………………............................. ๔. นิทานเร่ืองน้ีใหข้ อ้ คิดอะไร ………………………………………………………………………………………............ ๕. นิทานเรื่องน้ีเป็นนิทานประเภทใด ………………………………………………………………………………………............ แสงแดดยงั ไม่จา้ ทาใหน้ ้าระเหยออกไปในอากาศชา้ ตน้ ไม้ ๑๗

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน แบบฝึ กทกั ษะที่ ๓ บอกเล่าเหตุการณ์ คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือเร่ืองของนิทานท่ีกาหนดให้ แลว้ ตอบคาถาม หลักสาคัญในการแยกข้อเท็จจริงข้อมูล ก็คือ ให้ดูลาดับก่อน-หลังของ เหตุการณ์ และดูวา่ เหตุการณ์ใดสาคญั ที่สุด การลาดบั เหตุการณ์จะทาให้เรา สามรถแยกขอ้ เทจ็ จริงของขอ้ มูลไดด้ ีข้ึน แมวสวย มีตากบั ยายสองคนอยกู่ นั ตามลาพงั นานเขา้ ก็เกิดความเหงา วนั หน่ึงยายจึงบอกกบั ตาวา่ ให้ตาไปหาแมวมาเล้ียงแกเ้ หงาสักตวั หน่ึงเถิด ตารีบรับคาแลว้ ออกจากบา้ นเพ่ือไป หาแมวมาเล้ียง ตาแก่เดินมาไม่นานก็พบแมวฝูงใหญ่ ซ่ึงมองดูตวั ไหนก็มีแต่ตวั สวย ๆ น่ารักท้งั น้นั แกตดั สินใจไม่ไดว้ ่าจะเลือกตวั ไหนดี อุม้ ไปอุม้ มาจนกระทง่ั แมวเต็มออ้ ม แขน จนสุดทา้ ยแมวท้งั ฝงู ก็เดินตามแกจนหมด แมต้ าจะบอกวา่ อยา่ ไปเลยเล้ียงไม่ไหว แต่ แมวก็ไมย่ อมฟัง ตาพาฝงู แมวเดินมาจนถึงบา้ น ยายออกมาตอ้ นรับดว้ ยความยินดี แต่พอแกมองเห็น ฝงู แมวมหึมา ยายก็ผงะดว้ ยความตกใจ และถามตาวา่ เอาแมวมาทาอะไรมากมายอยา่ งน้ีจะ ไปมีอะไรใหม้ นั กินไดพ้ อ ตากต็ อบวา่ ไมไ้ ดเ้ อามา แต่มนั พากนั เดินตามาเอง และก็ตดั สิใจ ไม่ไดว้ า่ ตวั ไหนสวยที่สุด ๑๘

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ยายจึงบอกวา่ ถา้ อยา่ งน้นั เลือกตวั ท่ีสวยที่สุดสักตวั ก็แลว้ กนั ตาก็ร้องถามแมววา่ ตวั ไหนสวยที่สุด เจา้ แมวท้งั ฝูงก็ร้องลนั่ ว่า “ฉันสวยท่ีสุด” และตะโกนแข่งขนั กนั แลว้ ก็ เกิดการแยง่ ตาแหน่ง “แมวสวย” แมวท้งั ฝงู กระโดดเขา้ กดั กนั ชุลมุนเสียงดงั ปานแผน่ ดิน จะถล่ม ยายกบั ตากก็ ลบั เขา้ บา้ นเพราะความกลวั ไมช่ า้ เสียงแมวกดั กนั ค่อย ๆ เงียบลงสนิท ยายกบั ตาจึงเปิ ดประตูโพล่หนา้ ออกมาดู ก็ปรากฏว่าแมวตายไปหมด ยายกบั ตาออกมาจากบา้ นยืนราพึงดว้ ยความเศร้าสลดและ เสียดายแมว ขณะน้นั ก็ไดย้ นิ เสียงร้องเหมียว ๆอยูไ่ ม่ไกลตวั นกั แกก็ช่วยกนั มองหา และ มองเห็นลูกแมวสีดาตวั เล็ก ๆ เป็นลูกแมวแสนจะข้ีเหร่นง่ั แอบอยูท่ ี่พุ่มไม้ ยายจึงเดินไปอุม้ ข้ึนมา และถามวา่ ทาไมเจา้ ถึงไม่เป็ นอะไรกบั เขา ลูกแมวตอบวา่ “ ฉนั รู้สึกว่าฉนั ไม่สวย เพราะฉะน้นั ก็ไม่ร้องแข่งกบั ใคร ก็เลยไม่มีใครมากดั ฉนั ” ยายก็อุม้ ลูกแมวข้ีเหร่เขา้ บา้ น เล้ียงดูอยา่ งดี ไม่นานนักจากแมวท่ีแสนจะข้ีเหร่ก็เป็ นแมวที่แสนสวย และอยูก่ บั ตายาย อยา่ งมีความสุข คาถาม ๑. ใครเป็นตน้ เหตุที่ทาใหเ้ กิดเหตุการณ์ในเรื่องน้ี ………………………………………………………………………………………............ ๒. ทาไมตาจึงตดั สินใจไมไ่ ดว้ า่ จะเลือกแมวตวั ไหน ………………………………………………………………………………………............. ๓. สาเหตุที่ทาใหแ้ มวกดั กนั ตายเพราะอะไร ………………………………………………………………………………………............. ๔. ถา้ แมวดาตวั เล็กเป็นคน น่าจะมีนิสัยอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………............. ๕. ลูกแมวข้ีเหร่กลายเป็นลูกแมวแสนสวยไดอ้ ยา่ งไร ……………………………………………………………………………............................. ออกไปในอากาศชา้ ตน้ ไม้ ๑๙

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน แบบฝึ กทกั ษะที่ ๔ จับใจความสาคัญ คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนอา่ นนิทานเร่ืองคนเล้ียงลิง แลว้ ตอบคาถามจากนิทาน คนเลยี้ งลงิ ในรัฐซอ้ ง มีคนเล้ียงลิงคนหน่ึง แกเป็ นคนรักลิงมาก ไปไหนมาไหน จะมีลิง วงิ่ ตามเป็นพรวน วา่ กนั วา่ สามารถรู้ใจลิง และสื่อสารกนั รู้เรื่องเป็ นอยา่ งดี ต่อมาไมน่ าน ครอบครัวแกยากจนลงเนื่องจากมีเงินทองเท่าไร ก็นาเงินไปซ้ือ อาหารมาเล้ียงลิงจนหมด แกจึงตดั สินใจเรียกประชุมลิง เพ่ือปรึกษาหารือ ขอลดค่า เล้ียงดู เมื่อลิงมาพร้อมหนา้ กนั แกจึงเอ่ยข้ึนขรึม ๆ วา่ “สหายท้งั หลาย พวกท่านคงเห็น แล้วว่า ขณะน้ีขา้ ยากจนลง อยากขอลดจานวนอาหารเช้า-เย็นของพวกท่านลงสัก เลก็ นอ้ ย คือ ม้ือเชา้ ใหล้ ูกเกาลดั ตวั ละสามผล ม้ือเยน็ ตวั ละส่ีผล จะตกลงไหม ?” ไดย้ นิ ดงั น้นั บรรดาลิงท้งั หลายต่างก็ส่งเสียงเจี๊ยกจา๊ ก ๆ แสดงอาการไม่พอใจ “เอาล่ะ ๆ ” เขาโบกมือห้าม “ถา้ ไม่ตกลง ขา้ ขอเปล่ียนใหม่ เป็ นม้ือเชา้ ส่ี ม้ือเย็นสาม เอาไหม?” พวกมนั เตน้ หยอง ๆ แสดงความดีอกดีใจท่ีไดอ้ าหารเพ่ิม ๒๐

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ใคร……………………………………………………………………….……………… ทาอะไร………………………………………………………………………….……… เพราะเหตุใด……………………………………………………………………..……… ผลเป็ นอย่างไร…………………………………………………………………...……… สรุปใจความสาคัญ ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………… ๒๑

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๕ สรุปและนาไปใช้ คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนอา่ นเน้ือเร่ืองของนิทานท่ีกาหนดใหน้ ้ี จบั ใจความสาคญั ของเน้ือ เรื่องแลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี เศรษฐีเจ้าเลห์ เศรษฐีคนหน่ึงชอบใจลูกสาวชาวนายากไร้ เขาเชิญชาวนากบั ลูกสาวไปท่ีสวนใน คฤหาสน์ของเขา เป็ นสวนกรวดกวา้ งใหญ่ที่มีแต่กรวดสีดากบั สีขาว เศรษฐีบอกชาวนา ว่า “ท่านเป็ นหน้ีสินขา้ จานวนหน่ึง แต่หากท่านยกลูกสาวให้ขา้ ขา้ จะยกเลิกหน้ีสิน ท้งั หมดให้” ชาวนาไม่ตกลง เศรษฐีบอกวา่ “ถา้ เช่นน้นั เรามาพนนั กนั ดีไหม ขา้ จะหยิบ กรวดสองกอ้ นข้ึนมาจากสวนกรวดใส่ในถุงผา้ น้ี กอ้ นหน่ึงสีดา กอ้ นหน่ึงสีขาว ให้ลูก สาวของท่านหยบิ กอ้ นกรวดจากถุงน้ี หากนางหยบิ ไดก้ อ้ นสีขาว ขา้ จะยกหน้ีสินใหท้ ่าน และนางไมต่ อ้ งแตง่ งานกบั ขา้ แต่หากนางหยบิ ไดก้ อ้ นสีดา นางตอ้ งแต่งงานกบั ขา และ แน่นอน ขา้ จะยกหน้ีใหท้ ่านดว้ ย” ชาวนาตกลง เศรษฐีหยบิ กรวดสองกอ้ นใส่ถุงผา้ หญิง สาวเหลือบไปเห็นว่ากรวดท้งั สองกอ้ นน้นั เป็ นสีดา เธอจะทาอย่างไร หากเธอไม่เปิ ด โปงความจริงก็ตอ้ งแต่งงานกบั เศรษฐีข้ีโกง หากเธอเปิ ดโปงความจริงเศรษฐีย่อมเสีย หนา้ และยกเลิกเกมน้ี แต่บิดาของเธอกจ็ ะยงั คงเป็นหน้ีเศรษฐีต่อไปอีกนาน ๒๒

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน แบบฝึ กทกั ษะที่ ๕ สรุปและนาไปใช้ คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือเรื่องของนิทานท่ีกาหนดใหน้ ้ี จบั ใจความสาคญั ของเน้ือ เรื่องแลว้ ตอบคาถามต่อไปน้ี ลูกสาวชาวนาเอ้ือมมือลงไปในถุงผา้ หยบิ กรวดข้ึนมาหน่ึงกอ้ น พลนั เธอปล่อย กรวดในมือร่วงลงพ้นื กลืนหายไปในสีดาและขาวของสวนกรวด เธอมองหนา้ เศรษฐี เอ่ย วา่ “ขออภยั ที่ขา้ พล้งั เผลอปล่อยหินร่วงหล่น แต่ไม่เป็นไรในเม่ือทา่ นใส่กรวดสีขาวกบั สี ดาอยา่ งละหน่ึงกอ้ นลงไปในถุงน้ี ดงั น้นั เม่ือเราเปิ ดถุงออกดู สีกรวดกอ้ นที่เหลือกย็ อ่ มรู้ ทนั ทีวา่ กรวดที่ขา้ หยบิ ไปเมื่อครู่เป็ นสีอะไร” ท่ีกน้ ถุงเป็นกรวดสีดา “ ดงั น้นั กรวดกอ้ นท่ีขา้ ทาตกยอ่ มเป็นสีขาว ” ชาวนาพน้ สภาพลูกหน้ี และลูกสาว ไมต่ อ้ งแต่งงานกบั เศรษฐีข้ีโกงคนน้นั ๒๓

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน คาถาม ๑. เศรษฐีไดพ้ าชาวนาและลูกสาวไปที่แห่งใด ……………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………............ ๒. เศรษฐีไดต้ ้งั เง่ือนไขการพนนั กบั ชาวนาสองขอ้ คือ ……………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………............ ๓. ความจริงแลว้ ในถุงผา้ มีกอ้ นกรวดสีใดบา้ ง ……………………………………………………………………………............ ๔. เพราะเหตุใดลูกสาวชาวนา จึงไมเ่ ปิ ดโปงความจริงวา่ เศรษฐีน้นั เล่นไมซ่ ่ือ ……………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………............ ๕. สุดทา้ ยแลว้ ชาวนายงั คงเป็นหน้ีเศรษฐีและลูกสาวตอ้ งแต่งงานกบั เศรษฐี หรือไม่ เพราะเหตุใด ……………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………............ ๖. นิทานเร่ืองน้ีเป็นนิทานประเภทใด ……………………………………………………………………………............ ๗. นิทานเรื่องน้ีใหข้ อ้ คิดอะไร ……………………………………………………………………………............ ๒๔

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง การอ่านจับใจความจากนิทาน คาชี้แจง : แบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง การอ่านจบั ใจความสาคญั จากนิทาน จานวน ๑๐ ขอ้ เป็นขอ้ สอบแบบปรนยั ๔ ตวั เลือก คาส่ัง : ใหน้ กั เรียนเลือกขอ้ ท่ีถูกที่สุดเพยี งขอ้ เดียว และทาเคร่ืองหมาย ลงในกระดาษคาตอบ อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ ๑ – ๒ “ มีชายคนหน่ึงนงั่ รอท่ีสถานีกบั เพื่อน รถจะมาเวลาเท่ียง ชายคนน้นั ก็บอกให้เพื่อนไปดู เวลา เพ่ือนกไ็ ปดูแลว้ บอกวา่ ยงั ไมเ่ ที่ยง ชายคนน้นั กน็ ง่ั รอตอ่ ไปอีกจนตะวนั คลอ้ ยไปแลว้ เขาจึง ถามเพื่อนวา่ นาฬิกาอยไู่ หนเขา้ จะไปดูเอง เพ่ือนก็พาไปดู เขาก็ถามวา่ “ไหนล่ะ” เพื่อนก็ช้ีให้ดู เขาอุทานออกมาดว้ ยความตกใจวา่ “ น่ีมนั ตาชง่ั น่ีหวา่ ” ๑. นิทานเร่ืองน้ีจดั เป็นนิทานประเภทใด ข. นิทานตลกขบขนั ก. นิทานปรัมปรา ง. นิทานเทพนิยาย ค. นิทานทอ้ งถ่ิน ๒. ผเู้ ขียนมีจุดมุ่งหมายอยา่ งไรในการเขียน ข. เพอ่ื ใหเ้ กิดความสนุกสนาน ก. เพือ่ ใหข้ อ้ คิดแก่ผอู้ ่าน ง. เพ่ือเตือนใหม้ ีความรอบคอย ค. เพ่ือเสียดสี คนที่ชอบใชผ้ อู้ ่ืน ๒๕

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ ๓ – ๕ “ ชาวสาวมีลูกมากคนหน่ึง เม่ือเจบ็ ใกลจ้ ะตายใคร่จะสอนลูกใหร้ ู้จกั บารุงสวน คร้ันจะ สอนตรง ๆ ก็เกรงวา่ ลูกจะไม่ทาจึงคิดสอนในทางออ้ ม บอกกบั ลูกวา่ สมบตั ิของพ่อฝังไวใ้ น สวนใหเ้ จา้ ไปขดุ เอาเองเถิด แลว้ ชาวสวนกต็ ายไป พวกลูก ๆ อยากไดส้ มบตั ิของพ่อ จึงพากนั ไปขุดหาดูจนทว่ั สวนก็ไม่พบ พอสิ้นปี น้นั ตน้ ไมใ้ นสวนเม่ือไดร้ ับการพรวนดินก็งอกงาม ออกดอกผล ลูกชาวสวนไดเ้ กบ็ เอาไปขายไดเ้ งินมากกวา่ ปี ก่อน ๆ ” ๓. เร่ืองน้ีเป็นนิทานประเภทใด ข.นิทานเทพนิยาย ก. นิทานขบขนั ง. นิทานปรัมปรา ค. นิทานสุภาษิต ๔. ควรต้งั ชื่อเรื่องน้ีวา่ อยา่ งไร ข.ชาวสวนกบั ลูก ก. ชาวสวนเจา้ ปัญญา ง. สมบตั ิชาวสวน ค. ชาวสวนลูกมาก ๕. ขอ้ คิดที่ไดจ้ ากเรื่องน้ีคืออะไร ก. ควรสอนคนโลภโดยทางออ้ ม ข. ควรสนคนโง่โดยทางออ้ ม ค. ควรมีความเพียรจึงจะประสงความสาเร็จ ง. ควรมีความสามคั คีจึงจะประสงความสาเร็จ ๒๖

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ ๖ – ๗ “ ณ ชายป่ าแห่งหน่ึงมีสัตวอ์ าศยั อยูม่ ากมายหลายชนิด มีกวางตวั หน่ึงมนั จะช่ืนชม และภาคภูมิใจในเขาอนั สวยงามของมนั มาก มนั จะเที่ยวอวดใครต่อใครว่า มนั มีเขาที่ สวยงามกวา่ สัตวท์ ุกตวั ในป่ า และมนั จะเกลียดเทา้ ของมนั มาก เพราะมนั คิดวา่ เทา้ ของมนั น่าเกลียด ไม่สวยงาม จนอยู่มาวนั หน่ึงมีนายพรานออกล่าสัตว์ สัตวท์ ้งั หลายต่างว่ิงหนี อยา่ งไมค่ ิดชีวติ กวางตวั น้นั ก็วิ่งหนีเขา้ ไปในป่ า เขาของมนั ติดกนั เถาวลั ย์ ทาใหม้ นั หนีได้ ชา้ กวา่ สัตวอ์ ื่น ๆ มนั จึงคิดไดว้ า่ เขาที่สวยงามของมนั ทาใหเ้ กือบตาย แต่เทา้ ที่น่าเกลียดของ มนั ทาใหม้ นั รอดชีวติ มาได้ ” ๖. จากขอ้ ความน้ีขอ้ ใดหมายถึง “เถาวลั ย์” ก. ใบไม้ ข. รากไม้ ค. กิ่งไม้ ง. เครือไม้ ๗. จากขอ้ ความน้ีมีความหมายตรงกบั สานวนได้ ก. วานรไดแ้ กว้ ข. ผกั ชีโรยหนา้ ค. เส้นผมบงั ภูเขา ง. สวยแตร่ ูปจูบไม่หอม อ่านนิทานต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามข้อ ๘ – ๑๐ ไก่ตวั ผสู้ องตวั อยใู่ นเลา้ เดียวกนั ในเลา้ น้นั มีไก่ตวั เมียอยหู่ ลายตวั แตว่ ิสัยของไก่ตวั ผู้ พอ่ เลา้ ซ่ึงมกั ไม่ยอมจะกม้ หวั ใหแ้ ก่กนั มนั จึงมกั จะตีกนั อยเู่ สมอ เพราะสาเหตุที่จะแยง่ เป็ น พอ่ เลา้ ครอบครองไก่ตวั เมียท้งั หมดแตเ่ พยี งผเู้ ดียว วนั หน่ึง ไกต้ วั ผทู้ ้งั คูก่ ็เกิดปะทะกนั อยา่ ง หนกั ถึงขนาดแพช้ นะ ไก่ตวั ท่ีแพต้ อ้ งหนีไป หลบ ๆ ซ่อน ๆ อยูใ่ นมุมมืด ไม่กลา้ ออกมาตี อีก ส่วนไก่ตวั ที่ชนะน้นั ก็ลิงโลดใจว่าตนเองเป็ นผูช้ นะถึงกบั กระโดดข้ึนไปยืนเกาะอยู่ บนเสาร้ัวเล้า แล้วตีปี กส่งเสียงดงั ลน่ั บอกความเป็ นผูช้ นะ นกอินทรีตวั หน่ึงบินผ่านมา เห็นเขา้ ก็บินลงมาโฉบเอาไก่พ่อเลา้ ตวั น้นั ดว้ ยกรงเล็บแหลมคมของมนั ข้ึนไปทนั ที แลว้ พาไปจากที่นน่ั ไก่ตวั ท่ีแพเ้ ลยไดเ้ ป็นพอ่ เลา้ แทน ๒๗

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ๘. พฤติกรรมของไก่ท้งั สองตวั เปรียบไดก้ บั สานวนในขอ้ ใด ก. หวั เราะทีหลงั ดงั กวา่ ข. แพเ้ ป็นพระ ชนะเป็นมาร ค. เสือสองตวั อยถู่ ้าเดียวกนั ไมไ่ ด้ ง. คนโง่ยอ่ มเป็นเหยอื่ ของคนฉลาด ๙. ไก่ตวั ท่ีชนะเป็นเหยอื่ ของนกอินทรีเพราะอะไร ก. ทะนงตน ข. หลงตวั เอง ค. ประมาท ง. เยอ่ หยงิ่ ๑๐. ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากเร่ืองน้ีคืออะไร ข. ไมค่ วรยดื ติดกบั อานาจวาสนา ก. ไม่ควรรังแกผทู้ ี่ออ่ นแอกวา่ ง. ควรมีความสามคั คีในหมู่คณะ ค. ควรผกู มิตรดีกวา่ สร้างศตั รู ๒๘

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน บรรณำนุกรม กระทรวงศกึ ษาธิการ.(๒๕๕๑). หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว กองบรรณาธิการสานกั พิมพ์ เอม็ ไอเอส.(๒๕๕๕). ฝึ กทกั ษะการอ่านเพ่ือความเขา้ ใจ และการนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั . กรุงเทพฯ : สานกั พิมพ์ เอม็ ไอเอส. ทินรัตน์ จนั ทราภินนั ท.์ (๒๕๕๕). แบบฝึ กทกั ษะการอ่านจบั ใจความ ป.๖ กรุงเทพฯ : เดอะบุคส์ นฤภร รุจอเรซ.(๒๕๕๕). หนงั สือเรียนภาษาไทย รายวิชาภาษาไทยพ้ืนฐานภาษาไทย หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๖. กรุงเทพฯ : บริษทั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ(พ.ว.) จากดั . ไม่ปรากฏนามผแู้ ต่ง.(๒๕๔๗). นิทานอีสป เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : ทิพย์ วสิ ุทธ์ิ ลุงแซม (๒๕๕๓). นิทานอีสป เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : ตรีมเบอร์ส จากดั แววมยรุ า เหมือนนิล.(๒๕๕๓). การอ่านจบั ใจความ.พิมพ์ คร้ังที่ ๓. กรุงเทพฯ : สุวริ ิยา สาส์น. สุพรรณี วราทร.(๒๕๕๐). การอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ : ศูนยห์ นังสือ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . หอสมุดวชิรญาณ.(๒๕๕๐).บทเพลงกล่อมเดก็ .กรุงเทพ. ๒๙

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน ภาคผนวก ๓๐

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การอ่านจบั ใจความสาคญั จากนิทาน ข้อ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ก ข ค ง กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง การอา่ นจบั ใจความสาคญั จากนิทาน ข้อ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ก ข ค ง ๓๑

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน สรุปคะแนน เล่มที่ ๒ การอา่ นจบั ใจความสาคญั จากนิทาน ชื่อ- สกลุ ……………………………………..…… เลขท่ี …………..ช้ัน ……………. รายการ/คะแนนเต็มต่อกจิ กรรม คะแนนทไ่ี ด้ ผลการประเมนิ ผา่ น ไม่ผา่ น แบบทดสอบก่อนเรียน (๑๐ คะแนน) กิจกรรมที่ ๑ รู้จกั นิทาน (๑๐ คะแนน) กิจกรรมที่ ๒ จดจาเรื่องราว (๕ คะแนน) กิจกรรมที่ ๓ บอกเล่าเหตุการณ์ (๕ คะแนน) กิจกรรมที่ ๔ จบั ใจความสาคญั (๕คะแนน) กิจกรรมท่ี ๕ สรุปและนาไปใช้ (๗ คะแนน) แบบทดสอบหลงั เรียน (๑๐ คะแนน) รวม (๕๒ คะแนน) ร้อยละ *หมายเหตุ กาหนดการผา่ นกิจกรรมที่ร้อยละ ๖๐ ๓๒

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มท่ี ๒ การอ่านจับใจความสาคัญจากนิทาน เกณฑ์และระดับการประเมนิ ทกั ษะการอ่านจับใจความโดยภาพรวม เล่มท่ี ๒ การอ่านจบั ใจความสาคญั จากนิทาน คะแนน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป หมายถึง มีทกั ษะระดบั มากท่ีสุด คะแนน ร้อยละ ๗๐-๗๙ หมายถึง มีทกั ษะระดบั มาก คะแนน ร้อยละ ๖๐-๖๙ หมายถึง มีทกั ษะระดบั ปานกลาง คะแนน นอ้ ยกวา่ ร้อยละ ๖๐ หมายถึง มีทกั ษะระดบั นอ้ ย * กาหนดการผา่ นท่ีร้อยละ ๖๐ คะแนน หรือ ๓๑ คะแนนข้ึนไป ๓๓



๓ แบบฝึกทกั ษะภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ โดยใช้กระบวนการจัดการเรยี นรู้รูปแบบ SQ3R นางสาวเสาวนีย์ ต๊ะต๋า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จงั หวดั เชียงใหม่

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว คำชี้แจงเกย่ี วกบั แบบฝึ กทกั ษะ ๑. แบบฝึ กทกั ษะน้ีเป็นแบบฝึ กทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั และทกั ษะการคิด วเิ คราะห์ รายวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๑ เล่มที่ ๓ เร่ือง การอ่าน จบั ใจความสาคญั จากข่าว ใชส้ าหรับสอนนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๓ ๒. แบบฝึ กทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั และทกั ษะการคิดวเิ คราะหเ์ ล่มน้ี ประกอบดว้ ย - คาช้ีแจงเก่ียวกบั แบบฝึกทกั ษะ - คาแนะนาการใชแ้ บบฝึ กทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั และทกั ษะการ คิดวเิ คราะห์สาหรับครู - คาแนะนาการใชแ้ บบฝึ กทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั และทกั ษะการ คิดวเิ คราะห์สาหรับนกั เรียน - สาระการเรียนรู้ และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - แบบทดสอบก่อนเรียน - เน้ือหา - แบบฝึ กทกั ษะ, แนวคาตอบการจบั ใจความสาคญั และการคิดวิเคราะห์ ของแบบฝึกทกั ษะ - แบบทดสอบหลงั เรียน - แบบบนั ทึกคะแนน - บรรณานุกรม - เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน ๓. แบบฝึ กทกั ษะเล่มท่ี ๓ ใชเ้ วลาเรียน ๒ ชวั่ โมง ๑

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว คำแนะนำกำรใช้แบบฝึ กทกั ษะสำหรับครู ๑. แบบฝึ กทกั ษะชุดน้ีมีจานวนท้งั หมด ๕ เล่ม ๒. แบบฝึ กทกั ษะเล่มน้ีเป็ นแบบฝึ กทกั ษะ เรื่อง การอ่านจบั ใจความสาคญั จากข่าว ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ๓. ส่วนประกอบของแบบฝึ กทักษะ ซ่ึงประกอบด้วย สาระการเรียนรู้ และ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน เน้ือหา แบบฝึกทกั ษะ แนวคาตอบ การจบั ใจความสาคญั และการคิดวิเคราะห์ของแบบฝึ กทกั ษะ แบบทดสอบหลงั เรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน และแบบบนั ทกคะแนน ๔. ควรศกึ ษาคาแนะนาในการใชแ้ บบฝึ กทกั ษะตามวิธีการสอนแบบ SQ3R ก่อนใช้ ทุกเล่ม ๕. เตรี ยมอุปกรณ์การฝึ กล่วงหน้าก่อนสอนทุกคร้ัง เช่น แบบฝึ กทักทักษะ แบบทดสอบ ใหพ้ ร้อมเพ่อื สะดวกในการใช้ ๖. อธิบายใหน้ กั เรียนทราบถึงความสาคญั ของการฝึ กแต่ละคร้ังเพ่ือใหน้ กั เรียนเห็น ประโยชนท์ ่ีจะไดร้ ับจากการฝึกทกั ษะ ๒

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว คำแนะนำกำรใช้แบบฝึ กทกั ษะสำหรับนักเรียน ๑. แบบฝึ กทกั ษะชุดน้ีมีจานวนท้งั หมด ๕ เล่ม ๒. แบบฝึ กทกั ษะเล่มน้ีเป็ นแบบฝึ กทกั ษะ เรื่อง การอ่านจบั ใจความสาคญั จากข่าว ของนกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี ๓ ๓. ข้นั ตอนการใชแ้ บบฝึกทกั ษะ ๓.๑ ศึกษาทาความเขา้ ใจกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ของแบบฝึกทกั ษะ ๓.๒ ทาแบบทดสอบก่อนเรียน ๓.๓ ทาแบบฝึกทกั ษะอยา่ งรอบคอบและต้งั ใจ ๓.๔ ทาแบบทดสอบหลงั เรียน ๓.๕ ร่วมตรวจคาตอบกบั เฉลยในเล่ม ๓.๖ ร่วมตรวจคาตอบของแบบทดสอบก่อนเรียน และหลงั เรียนเม่ือเรียนใน แต่ละเรื่องเพ่อื วดั ความรู้ที่พฒั นาในเรื่องน้นั ๆ ๔. การเรียนด้วยแบบฝึ กทกั ษะการอ่านจบั ใจความสาคญั นอกเหนือจากการฝึ ก ทกั ษะการจบั ใจความสาคญั จากสื่อประเภทต่าง ๆ แลว้ ยงั เป็นการฝึ กใหน้ กั เรียน เป็นผมู้ ีลกั ษณะอนั พึงประสงคใ์ นเรื่องต่อไปน้ี คือ ๔.๑ ฝึ กความซื่อสัตยต์ ่อตนเองและผอู้ ่ืน ๔.๒ ฝึ กการทางานใหเ้ สร็จตามเวลา การส่งงานตามกาหนด ๔.๓ ความรับผดิ ชอบในการทางาน ๔.๔ ฝึ กความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการจดั เกบ็ เอกสาร แบบฝึ ก ๓

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว สำระกำรเรียนรู้ และจุดประสงค์กำรเรียนรู้ สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ ตดั สินใจแกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ และมีนิสัยรักการอา่ น ตวั ชีว้ ดั ๑. จบั ใจความสาคญั เร่ืองที่อา่ น ๒. ระบุเหตุผลและขอ้ เทจ็ จริงกบั ขอ้ คิดเห็นจากเรื่องที่อา่ น ๓. วเิ คราะห์คุณค่าที่ไดร้ ับจากการอา่ นงานเขียนอยา่ งหลากหลายเพื่อนาไปใช้ แกป้ ัญหาในชีวติ ๔. มีมารยาทในการอา่ น จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถอธิบายลกั ษณะของข่าวได้ ๒. นกั เรียนสามรถบอกคาสาคญั ของข่าวและบอกใจความสาคญั ของข่าวได้ ๓. นกั เรียนสามารถสรุปประเด็นสาคญั และตอบคาถามจากข่าวได้ ๔. นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์ และแสดงความคิดเห็นตอ่ ขา่ วได้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ความเขา้ ใจลกั ษณะของข่าว ๒. บอกคาสาคญั ของขา่ วได้ ๓. บอกใจความสาคญั ของขา่ วได้ ๔. สรุปประเด็นสาคญั ของขา่ วได้ ๕. ตอบคาถามจากข่าวได้ ๖. แสดงความคิดเห็นจากการอา่ นข่าวได้ ๔

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว แบบทดสอบก่อนเรียน เร่ือง การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว คาชี้แจง : แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การอ่านจบั ใจความสาคญั จากข่าว จานวน ๑๐ ขอ้ เป็นขอ้ สอบแบบปรนยั ๔ ตวั เลือก ใหน้ กั เรียนอ่านขา่ วดงั ตอ่ ไปน้ี แลว้ ตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง โดยใชห้ ลกั การวเิ คราะห์ข่าว อ่าน ข่าวต่อไปน้ีแลว้ อบคาถามขอ้ ๑ - ๕ ผูส้ ื่อข่าวรายงานว่า ช่วงฤดูร้อนน้ีเดินทางไปไหนมาไหน เรามกั จะเห็นดอกไมส้ ีสัน สดเบ่งบานสะพรั่งไปทว่ั สองฟากถนน มองแลว้ ก็รู้สึกสดชื่นสบายตาเสียจริง ๆ วนั น้ีเลยจะ พามาชมความสวยงามของถนนสายดอกไมใ้ นพ้ืนท่ีวดั หนองคู ต.ห้วยโป่ ง อ.โคกสาโรง จ.ลพบุรี ซ่ึงทางองค์การบริหารส่วนตาบลห้วยโป่ งได้ปลูกเอาไวเ้ มื่อ ๘ ปี ท่ีแลว้ จานวน ๑๒๐ ตน้ เป็ นระยะทางกว่า ๑.๕ กิโลเมตร ที่กาลงั บานเหลืองอร่ามสวยงาตามริมถนน ทางเขา้ วดั อยา่ งสวยงาม ถึงแมว้ า่ เม่ือสองวนั ท่ีผา่ นมา จะมีฝนตกลงมาอยา่ งหนกั ทาให้ดอก เหลืองปรีดียาธรร่วงหล่นลงไปบ้างแต่ความสวยงามก็ยงั ไม่ลดลง ยงั คงสวยงามรอรับ นกั ท่องเที่ยวท่ีจะเดินทางมาสัมผสั ความสวยงามของดอกไมบ้ นถนนสายดอกไมข้ องอาเภอ โคกสาโรงไดต้ ้งั แตช่ ่วงน้ี เน่ืองจากดอกกาลงั บานสะพร่ังสวยงามเป็นอยา่ งมาก ๕

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ๑. ใครคือผจู้ ดั กิจกรรมดงั กล่าวข้ึน ข. มหาวทิ ยาลยั ช่ือดงั แห่งหน่ึง ก. องคก์ ารบริหารส่วนตาบล ง. อาเภอ ค. เทศบาล ๒. กิจกรรมดงั กล่าวจดั ข้ึนเพือ่ อะไร ก. เพื่อละลายงบประมาณที่ไดม้ า ข. เพอ่ื เป็นสถานที่ทอ่ งเที่ยวในฤดูร้อน ค. เพ่อื ความสวยงาม ง. ถูกเฉพาะขอ้ ข. และ ค. ๓. สถานท่ีที่จดั กิจกรรมน้ีคือท่ีใด ข. ถนนสายดอกไมใ้ นพ้ืนท่ีวดั หนองคู จ.ลพบุรี ก. ถนนคนเดินริมกวา๊ นพะเยา ง. ถนนคนเดิน จ.เชียงใหม่ ค. ถนนขา้ วสุก จ.อ่างทอง ๔. องคก์ ารบริหารส่วนตาบลหว้ ยโป่ ง ใชร้ ะยะเวลาในการปลูกตน้ ไมแ้ ละดอกไมเ้ ท่าไรและ ปลูกจานวนก่ีตน้ ก. ใชเ้ วลาปลูก ๕ วนั จานวน ๒๐๐ ตน้ ข. ใชเ้ วลาปลูก ๗ เดือน จานวน ๒๐๐ ตน้ ค. ใชเ้ วลาปลูก ๘ ปี จานวน ๑๒๐ ตน้ ง. ใชเ้ วลาปลูก ๑๐ ปี จานวน ๑๐๐ ตน้ ๕. งานถนนดอกไมว้ ดั หนองคู ต.หว้ ยโป่ ง อ.โคกสาโรง จ.ลพบุรี จะจดั ข้ึนเม่ือไร ก. จดั ในวนั ที่ ๑๒ สิงหาของทุกปี ข. จดั งานน้ีเฉพาะฤดูร้อนเทา่ น้นั ค. จดั ข้ึนเม่ือวนั ท่ี ๑๔ กุมภาพนั ธ์ท่ีผา่ นมา ง. วนั ท่ี ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๗ ๖

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ใหน้ กั เรียนอา่ นขา่ วต่อไปน้ี แลว้ ตอบคาถามใหถ้ ูกตอ้ ง โดยใชห้ ลกั การวเิ คราะห์ข่าว อ่านขา่ ว ตอ่ ไปน้ีแลว้ ตอบคาถามขอ้ ๖-๑๐ เดก็ ไทยอนั ตรายแน่ โพลล์ชี้ไม่รู้เร่ืองเอดส์ ผสู้ ื่อขา่ วรายงานวา่ เมื่อเร็ว ๆ น้ี องคก์ ารยนู ิเซฟไดเ้ ปิ ดเผยรายงาน วจิ ยั เรื่อง “เสียง ของเดก็ และวยั รุ่นในภาคพ้ืนเอเชียตะวนั ออกแปซิฟิ ก” โดยคณะผวู้ จิ ยั ไดส้ อบถามความคิดเห็น เก่ียวกบั คุณภาพชีวิตดา้ นต่าง ๆ จากเด็กและวยั รุ่น อายุ ๙-๑๗ ปี ใน ๑๗ ประเทศ รวมท้งั ประเทศไทยดว้ ยจานวน ๑ หมื่นคน ซ่ึงในจานวนน้ี ร้อยละ ๖๐ ของเด็กท่ีมีอายุระหวา่ ง ๙-๑๓ ปี และร้อยละ ๒๕ ของเด็กอายุ ๑๔-๑๗ ปี หรือกลุ่มวนั รุ่นบอกว่า ไม่มีความรู้เกี่ยวกบั โรค เอดส์เลยหรืออยา่ งมากกเ็ คยไดย้ นิ เพียงช่ือเท่าน้นั ซ่ึงถา้ หากแยกเฉพาะกลุ่มเด็กในเมืองไทย จะ มีถึงร้อยละ ๒๓-๓๖ เลยทีเดียว โดยกลุ่มวยั รุ่นมีเพียงร้อยละ ๒๔ เท่าน้นั ท่ีรู้จกั ถุงยางอนามยั อยา่ งไรก็ตาม ร้อยละ ๖๘ ของกลุ่มวยั รุ่นน้ีรู้ดีวา่ โรงเอดส์เกิดจากการมีเพศสัมพนั ธ์ที่ไม่มีการ ป้องกนั น.ส.มะแฮร์ คาน ผอ.องค์การยูนิเซฟประจาภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกและแปซิฟิ ก กล่าวว่า ผลการสารวจคร้ังน้ีเป็ นการเตือนรัฐบาลและสังคมในภูมิภาคน้ีให้ตระหนักถึง ความสาคญั ในการศึกษาแก่เด็ก ๆ เพราะโรงเอดส์เป็ นโรคที่ไม่มีพรมแดน และถา้ ไม่อยากให้ ภูมิภาคน้ีมีปัญหาโรคเอดส์แพร่ระบาดอยา่ งหนกั เหมือนแอฟริกาก็ตอ้ งรีบลงมือแกไ้ ขปัญหา เร่งด่วน ๖. แนวความคิดท่ีผเู้ ขียนตอ้ งการนาเสนอ คืออะไร ก. ปัญหาโรงเอดส์ ข. โรคเอดส์ในภูมิภาคเอเชีย ค. การศึกษาเรื่องโรงเอดส์ในช้นั เรียน ง. โรคเอดส์เป็นโรคท่ีไม่มีพรมแดนเกิดข้ึนไดท้ ุกภูมิภาค ๗

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ๗. น.ส.มะแฮร์ คาน มีความคิดอยา่ งไรในข่าวน้ี ก. โรงเอดส์เป็นโรคท่ียากต่อการควบคุม ข. เด็กวยั รุ่นไม่รู้จกั การป้องกนั โรงเอดส์จากการมีเพศสมั พนั ธ์ ค. คุณภาพชีวติ ของวยั รุ่นในภาคพ้นื เอเชียตะวนั ออกและแปซิฟิ กเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ง. การใหก้ ารศึกษาเดก็ และวยั รุ่นจะเป็นการป้องกนั การแพร่ระบาดของโรงเอดส์ ๘. ขอ้ ใดอนุมานไมไ่ ดจ้ ากการอา่ นขา่ วขา้ งตน้ ก. ทวปี เอเชียมีผเู้ ป็นเอดส์มากท่ีสุดในโลก ข. วยั รุ่นไทยส่วนมากไม่มีความรู้เรื่องเอดส์ ค. การศึกษาทาใหก้ ารระบาดของโรงเอดส์ลดลง ง. วยั รุ่นไทยส่วนใหญร่ ู้วา่ โรงเอดส์เกิดจากการไม่ป้องกนั เมื่อมีเพศสัมพนั ธ์ ๙. เมื่อวยั รุ่นไดอ้ า่ นข่าวน้ี จะเกิดผลดีกบั ตนเองอยา่ งไร ก. รู้ขอ้ ปฏิบตั ิที่จะทาใหไ้ ม่เป็นเอดส์ ข. รู้ผลวจิ ยั เกี่ยวกบั เร่ืองโรคเอดส์ในเมืองไทย ค. ตระหนกั และตื่นตวั ท่ีจะไมท่ าใหต้ นเสี่ยงท่ีจะเป็นโรงเอดส์ ง. รู้ถึงความเป็นห่วงของผใู้ หญ่ที่มีต่อเด็กในเรื่องการป้องกนั โรงเอดส์ ๑๐. ปัญหาสาคญั ในขา่ วขา้ งตน้ คืออะไร ก. ปัญหาการควบคุมโรงเอดส์ ข. ปัญหาการละเลยเร่ืองโรงเอดส์ ค. ปัญหาการแพร่ระบาดของโรงเอดส์ ง. ปัญหาการใหก้ ารศึกษาเร่ืองโรคเอดส์ ๘

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มท่ี ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ใบควำมรู้ท่ี ๑ การอ่านเพื่อจบั ใจความขา่ ว ❖ ความหมายของข่าว ข่าว คือ การรายงานขอ้ เท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดข้ึน รวมถึงการรายงานความคิด ของบุคคลสาคญั โดนเรื่องราวที่นามารายงานน้นั จะเป็ นเร่ืองราวท่ีน่าสนใจ มีความสาคญั และมีผลกระทบตอ่ ผคู้ นจานวนมาก ❖ องค์ประกอบของข่าว โดยเหตุที่ในแต่ละวนั มีเหตุการณ์เกิดข้ึนมากมาย ผูน้ าข่าวจึงจาเป็ นตอ้ งพิจารณา คดั เลือกเฉพาะเหตุการณ์ที่มีองค์ประกอบของความเป็ นข่าวแล้วจึงรายงานให้ผูอ้ ่าน รับทราบ โดยองคป์ ระกอบท่ีสาคญั ของเหตุการณ์ท่ีจะเป็ นขา่ ว มีดงั น้ี ความสดใหม่ (Timeliness) หรือ ความรวดเร็ว (Immediacy) เหตุการณ์หรื อ เร่ืองราวน้ันๆ เพ่ิงจะเกิดข้ึนสดๆ ร้อนๆ หรือเพ่ิงจะคน้ พบ แล้วมีการรายงานเหตุการณ์ ดงั กล่าวอย่างรวดเร็วทนั ทีทนั ใด ข้อมูลยิ่งสดใหม่และรวดเร็วก็ยิ่งจะเป็ นท่ีสนใจของ ประชาชน ปุถุชนสนใจ (HumanInterest) เหตุการณ์ เรื่องราวท่ีเกิดข้ึนน้ัน ทาให้ผูร้ ับทราบ เกิดความสนใจอยา่ งมาก จนเกิดความสะเทือนอารมณ์ ไหวรู้สึกไปตามเหตุการณ์เร่ืองราว ท่ีเกิดข้ึน กระทงั่ เกิดความรู้สึกร่วมกบั บุคคลที่ประสบกบั เหตุการณ์น้นั ๆ ไปดว้ ย เรื่องราว ต่างๆ เหล่าน้ีจะมีคุณคา่ ของความเป็นข่าวสูง ๙

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ความใกล้ชิด (Proximity of Nearness) เป็ นความสัมพนั ธ์ระหวา่ งขอ้ มูลข่าวสาร กับผูท้ ี่รับรู้เรื่องราว ไม่ว่าจะเป็ นความสัมพนั ธ์ทางร่างกายหรือจิตใจ ผูค้ นมักสนใจ เร่ืองราวใกลต้ วั หรือมีผลกระทบต่อตนเอง ครอบครัว ญาติ หรือเพ่ือนฝงู อนั จะสามารถ ส่งผลกระทบตอ่ ตวั ของผรู้ ับรู้เรื่องราวได้ ความมีชื่อเสียง หรือความสาคัญ (Prominence) บุคคลที่เกี่ยวขอ้ งกบั เหตุการณ์ หรือเรื่องราวน้ันมีช่ือเสียง ไม่ว่าจะเป็ นช่ือเสียงในด้านตาแหน่งหน้าท่ีการงาน เช่น นายกรัฐมนตรี นกั ร้อง นกั แสดง หรือชื่อเสียงในดา้ นฐานะทางสังคม เช่น นางสาวไทย นกั กีฬาที่ไดร้ ับเหรียญทอง เป็ นตน้ หรือชื่อเสียงในดา้ นฐานะทางเศรษฐกิจของผทู้ ี่มีความ มง่ั คงั่ เป็ นพิเศษ องค์ประกอบน้ียงั รวมถึงความมีช่ือเสียงหรือความสาคญั ของสถานท่ี สาคญั ๆ เช่น สถานที่สาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ การเมือง ศาสนา ตลอดจนวตั ถุส่ิงของอนั ล้า ค่า และเป็นท่ีรู้จกั กนั โดยทวั่ ไป เป็นตน้ ผลกระทบกระเทือน (Consequence) เหตุการณ์เรื่องราวท่ีเกิดข้ึนน้นั มีผลกระทบต่อ ชีวติ ความเป็ นอยขู่ องบุคคลมากนอ้ ยเพียงใด ก่อให้เกิดความสูญเสีย ท้งั ร่างกาย ทรัพยส์ ิน ช่ือเสียง สถานภาพทางสังคม และความรู้สึกมากนอ้ ยเพียงใด เหตุการณ์ท่ีมีผลกระทบต่อ คนในวงกวา้ งยอ่ มไดร้ ับความสนใจสูง และคุณคา่ ของข่าวจะมีมากตามไปดว้ ย เช่น ขา่ วภยั พบิ ตั ิตา่ งๆ ข่าวการลดหยอ่ นภาษี การข้ึนค่าสาธารณูปโภค เป็นตน้ ๑๐

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ความขัดแย้ง (Conflict) เรื่องราวน้นั แสดงถึงความขดั แยง้ ในความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็ นในครอบครัวขนาดเล็ก หรือระหว่างประเทศ ท้งั ความขดั แยง้ ทาง ร่างกายและจิตใจหรือความคิด และก่อให้เกิดปัญหาอ่ืนๆ ตาม เช่น การหยา่ ร้าง หรือการ ชุมนุมประทว้ งจนถึงข้นั นองเลือด ความขดั แยง้ ทางกายส่วนใหญ่จะเป็ นท่ีสนใจมากกว่า เพราะเห็นไดช้ ดั แจง้ กวา่ ความมีเง่ือนงา (Suspense) เหตุการณ์น้ัน ๆ เกิดข้ึนแล้ว แต่ยงั ไม่ยุติ เพราะมี เบ้ืองหลังท่ีซับซ้อน หรือมีความจริงที่ยงั ไม่ถูกเปิ ดเผยอย่างแจ่มชัด เช่น คดีฆาตกรรม ปริศนา เป็นตน้ ๑๑

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ❖ โครงสร้างของข่าว โครงสร้างของขา่ ว หมายถึง ส่วนต่าง ๆ ท่ีนามาประกอบกนั เป็นขา่ ว แบง่ ออกเป็น ๔ ส่วน ไดแ้ ก่ ๑. พาดหัวข่าวหรือหัวเรื่อง (Headline) เป็ นส่วนที่ใชด้ ึงดูดความสนใจ และบอกให้รู้ วา่ ข่าวน้นั มีประเด็นสาคญั อะไรบา้ ง ซ่ึงจะตอ้ งเป็ นภาษาท่ีส้ันและกระชบั และเม่ือ อ่านแลว้ สามารถเขา้ ใจไดง้ ่าย ถา้ ผอู้ า่ นสนใจก็จะติดตามไปอา่ นรายละเอียดต่อไป ๒. ส่วนความนา (Lead) คือส่วนที่สาคญั ท่ีสุดของข่าว เพราะเม่ืออ่านส่วนคานาแลว้ ผูอ้ ่านจะทราบทนั ทีว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดข้นั บา้ ง เน้ือหาในส่วนน้ีจะตอ้ งตอบ คาถามท่ีคนอยากรู้ก่อน โดยใชห้ ลกั 5W+H คือ ใคร (Who) ทาอะไร (What) ท่ีไหน (Where) เม่ือไหร่ (When) ทาไม (Why) และอย่างไร (How) โดยอาจเลือกตอบ เฉพาะประเด็นท่ีมีความสาคญั ท่ีคาดวา่ ผอู้ ่านอยากรู้มากที่สุดก่อนกไ็ ด้ ๑๒

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ๓. ส่วนเชื่อม (Neck) คือ ส่วนที่เชื่อมโยงความสัมพนั ธ์ระหว่างความนาและเน้ือหา ขา่ ว โดยทว่ั ไปจะมีความยาวเป็นยอ่ หนา้ ส้นั ๆเพื่อใชข้ ยายความ หรือเพิ่มเติมขอ้ มูล จากส่ิงท่ีปรากฏในความนา เพอ่ื ไมใ่ หค้ วามนายาวเกินไป ๔. ส่วนเนื้อหา (Body) เป็ นส่วนท่ีเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์ท้งั หมด เพ่ือให้ผูอ้ ่าน เขา้ ใจเรื่องราวท้งั หมดตามลาดบั ความสาคญั ของเหตุการณ์ หรือลาดบั เวลา หรือ ลาดับเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน ส่วนเน้ือหาจึงเป็ นส่วนขยายส่วนความนา โดยขาย รายละเอียดและขอ้ มูลท่ียงั ไมไ่ ดร้ ะบุถึงในความนาเพม่ิ เติม โดยสรุปโครงสร้างของข่าวจะประกอบดว้ ยส่วน พาดหวั ข่าว ส่วนความนา ส่วน เชื่อม และส่วนเน้ือหา แต่ปัจจุบนั ข่าวที่พบเห็นโดยทว่ั ไปจะไม่มีส่วนเชื่อมเน่ืองจากส่วน ของเน้ือหาดงั กล่าวจะสามารถต่อส่วนของความนาได้โดยไม่ตอ้ งการคาอธิบายใดๆ เพิ่มเติม ๑๓

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ❖ ตวั อย่างโครงสร้างข่าว เมยี หลวงหึงแทงสามดี บั อนาถ ๑ เมียหลวงใชม้ ีดแทงสามีคาร้านอาหาร เมื่อวนั ที่ 2 ตุลาคม ๒ 2546 ท่ีผ่านมา เหตุเพราะเกิดความหึงหวงที่เห็นสามีพาภรรยา ๓ นอ้ ยไปทานอาหาร จึงเกิดเหตุการณ์ทะเลาะววิ าท ภรรยาสู้ไม่ไหว ชกั มีดแทงคาอกสามีตาย เหตุการณ์น้ีเปิ ดเผยข้ึนเมื่อเวลา 7.45 น. ของวนั ที่ 2 ตุลาคม 2546 ร.ต.ท.สมเกียรติ สกลุ ดี ร้อยเวร สภ.ต.วงั หลวง อ.หนองบวั จ. สงขลา ไดร้ ับแจง้ เหตุจากชาวบา้ นว่า เกิดเหตุฆาตกรรมข้ึนที่ ร้านอาหาร เลขที่ 1392 บา้ นโนนโคก หมู่ 7 ต.วงั หลวง เม่ือไดร้ ับ แจง้ จึงรีบไปท่ีเกิดเหตุ ไดพ้ บศพของผูต้ ายถูกแทงตรงลิ้นปี่ นอน จมกองเลือดอยบู่ นพ้ืน ทราบช่ือผตู้ ายภายหลงั ช่ือนายสมควร แดง เอียด อายุ 34 ปี มีอาชีพเป็ นพ่อคา้ ขายไส้กรอกย่าง ใกลก้ นั พบ หญิงสาวคนหน่ึงยนื ถือมีดร้องไหอ้ ยู่ ๑๔

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว จากการสอบสวนทราบว่า คนร้าย คือ นางมายา แดงเอียด ๔ อายุ 30 ปี เป็ นภรรยาผูต้ าย นางมายา ได้ให้การว่า เกิดความ ระแวงสงสัยในตัวผูต้ ายท่ี 3 เดือนหลงั มาน้ีผูต้ ายมีพฤติกรรม เปลี่ยนไป ปกติผูต้ ายจะเป็ นสามีที่ดี กลบั บา้ นตรงเวลา และไม่ เคยมีปัญหาเร่ืองเงินทอง แต่ระยะหลงั มาน้ีเวลาไปขายไส้กรอก ผูต้ ายจะสาอางมากข้ึน และกลบั บา้ นผิดเวลา ดว้ ยความสงสัยจึง สะกดรอยตาม พบว่าผูต้ ายไดพ้ าหญิงสาวมาทานอาหารท่ีร้าน ดงั กล่าว ทราบว่าเป็นภรรยาอีกคนของผูต้ ายชื่อ นางสาวปทุมพร เหมือนขวญั อายุ 26 ปี จึงเกิดความโมโหและหึงหวงไดเ้ ขา้ ไป ต่อวา่ ผตู้ าย และเกิดทะเลาะววิ าทตบตีกนั เมื่อนางมายาสู้ไม่ไดจ้ ึง ชกั มีดท่ีพกมาแทงสามีถึงแก่ความตาย ต่อมาเจา้ หนา้ ท่ีตารวจไดจ้ บั กุมนางมายาไวเ้ พ่ือดาเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป ๑๕

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ❖ การวเิ คราะห์โครงสร้างของข่าว แบ่งออกเป็น ๔ ส่วน คือ ๑. พาดหวั ข่าวหรือหวั เร่ือง (Headline) หมายเลข ๑ ๒. ส่วนความนา (Lead) หมายเลข ๒ ๓. ส่วนเช่ือม (Neck) หมายเลข ๓ ๔. ส่วนเน้ือหา (Body) หมายเลข ๔ ❖ การใช้ภาษาพาดหวั ข่าวหนังสือพมิ พ์ ๑. การใช้คาตัดส้ันหรือกร่อนคา ดว้ ยขอ้ จากดั ในเรื่องพ้ืนที่ คือความกวา้ งยาวของ คอลมั นข์ ่าว ทาใหก้ ารใชค้ าพาดหวั ข่าวหนงั สือพิมพต์ อ้ งตดั ใหส้ ้ันหรือยน่ ยอ่ ลงเพ่ือ กระชบั คาให้พิมพล์ งในเน้ือท่ีที่จากดั ได้ เช่น หนุน ใชแ้ ทน สนบั สนุน ยนั ใชแ้ ทน ยนื ยนั มะกนั ใชแ้ ทน สหรัฐอเมริกา เป็นตน้ ๒. การละประธานของประโยค การพาดหวั ข่าวนิยมเขียนประโยคท่ีข้ึนตน้ ดว้ ยคากริยา เพื่อบอกผู้อ่านว่าเกิดอะไรข้ึน ละประธานของประโยคในฐานะที่เข้าใจได้ โดยเฉพาะเมื่อความสาคญั ของเร่ืองท่ีเป็ นข่าวไม่ได้อยู่ท่ีประธานของประโยค เพื่อใหผ้ อู้ ่านอา่ นรายละเอียด ในความนาหรือเน้ือเร่ืองของขา่ วตอ่ ไป ๓. การละเว้นคาเชื่อม คาสันธาน หรือส่วนที่ขยายประโยค นอกจากการละประธาน ของประโยคแลว้ พาดหวั ข่าวมกั จะใชป้ ระโยคเดี่ยวมากกว่าประโยคซ้อน การใช้ ภาษาจึงหลีกเล่ียงคาเชื่อม และส่วนขยายประโยคที่ไม่จาเป็ น เช่น คาวา่ “อีกท้งั ” “ซ่ึง” “กบั ” “ต่อ” เป็ นต้น แต่ท้งั น้ีส่วนที่ละไวต้ อ้ งไม่ทาให้ประโยคเหล่าน้ีมี ความหมายผดิ เพ้ยี นไป ๑๖

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ๔. การใช้คาสแลง คาเฉพาะสมัย หรือคาที่สร้างภาพลักษณ์เกินจริง พาดหัวข่าวตอ้ ง ดึงดูดความสนใจคนอ่านร่วมสมยั ดงั น้นั ภาษาท่ีใชจ้ ึงเป็ นคาท่ีอยู่ในกระแสความ นิยม มีสีสันเกินจริง คาสแลง หรือภาษาเฉพาะสมยั ในรูปแบบต่าง ๆ ท่ีเป็ นภาษา สนทนา หรือคาแสดงภาพพจน์ รวมท้งั สร้างคาใหม่ ๆ ข้ึนมาใช้ เช่น วยั จ๊าบ ซ่ึง หมายถึงวยั รุ่น สาวอยากอ๋ึม ซ่ึงหมายถึงผหู้ ญิง ที่ตอ้ งการมีหนา้ อกใหญ่ข้ึน วืด หรือ ชวด ซ่ึงหมายถึงพลาดเป้าหมายหรือไมไ่ ดใ้ นส่ิงที่คาดหวงั ไว้ เป็นตน้ ๕. การใช้ฉายาหรือชื่อเล่นของบุคคล เป็ นส่วนหน่ึงของการสร้างสีสันให้พาดหัวข่าว เพ่ือดึงดูดความสนใจคนอ่าน ชื่อเล่นของบุคคลหรือฉายาท่ีต้งั ให้ใหม่น้นั มกั ส้ันกวา่ ชื่อจริง ทาให้พาดหัวข่าวกระชบั และส้ันลง สามารถพิมพล์ งในคอลมั น์ท่ีมีความ กวา้ งยาวจากดั ได้ แต่ท้งั น้ี มกั เป็ นชื่อเรียกหรือฉายาท่ีเป็ นท่ีรู้จกั กนั โดยทวั่ ไปเพื่อ ไมใ่ หผ้ อู้ า่ นสบั สน ๑๗

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ❖ ประเภทของข่าว ขา่ วท่ีอ่านในหนงั สือพิมพ์ หรือนิตยสาร แบ่งออกไดเ้ ป็น ๒ ประเภท ดงั น้ี ๑. ข่าวหนัก (Head News) หมายถึง ข่าวที่มีเน้ือเรื่องในเชิงสาระ และมีอิทธิพลต่อคน ส่วนใหญ่ในสงั คม เช่น ขา่ วการเมือง ขา่ วเศรษฐกิจ ขา่ วธุรกิจ ขา่ วการศึกษา เป็นตน้ ๒. ข่าวเบา (Soft News) หมายถึง ข่าวท่ีเกิดข้ึนในกลุ่มคนกลุ่มยอ่ ย ๆ ไม่มีอิทธิพลต่อ ส่วนใหญ่ในสังคมมากนัก เช่น ข่าวชาวบ้าน ข่าวสังคม บนั เทิง ข่าวกีฬา ข่าว อาชญากรรม เป็นตน้ ๑๘

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มท่ี ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ❖ หลกั การอ่านและพจิ ารณาข่าว การอา่ นข่าวควรพจิ ารณาตามองคป์ ระกอบ ดงั น้ี ๑. พิจารณาพาดหัวข่าว การพาดหวั ข่าวในหนงั สือพิมพ์ เป็ นการจดั ลาดบั ความสาคญั ของข่าวหากนกั เรียนสังเกตการณ์พาดหวั ข่าวในหนงั สือพิมพ์ จะพบว่าส่วนสาคญั ท่ีสุดของขา่ ว จะพาดหวั ดว้ ยตวั อกั ษรขนาดใหญ่ ดงั น้นั ในการอ่านและพิจารณาข่าว ควรอ่านพาดหวั ขา่ วใหญก่ ่อน แลว้ จึงอ่านพาดหวั ข่าวตอ่ มา ๒. พิจารณาความนา เม่ืออ่าน และพิจารณาพาดหวั ข่าว และทราบเร่ืองราวส้ันๆ ของ ข่าวน้นั แลว้ ข้นั ต่อมาคือการอ่าน และพิจารณาความนา ซ่ึงจะสรุปเรื่องราวของข่าว โดยขยายความ ๓. พจิ ารณาเนื้อข่าว เนื้อข่าว เป็ นส่วนที่ผูอ้ ่านจะอ่าน หรือไม่อ่านก็ได้ หากทราบเร่ือง ยอ่ ข่าวจากความนามาแลว้ เน้ือข่าวเป็นรายละเอียดเก่ียวกบั เหตุการณ์เป็นข่าว ๔. พจิ ารณาการใช้สานวนภาษา เมื่อนกั เรียนพิจารณาการใชส้ านวนภาษาในการเขียน ข่าว การอ่านอาจจะพบขอ้ บกพร่องหลายประการ ท้งั ในการเขียนสะกดคา การใช้ คาย่อ การใช้คาผิดระดบั ภาษา การใช้คาสแลง การวางส่วนขยายของประโยคไม่ ถูกตอ้ ง ท้งั น้ี เพราะการจดั ทาหนงั สือพิมพจ์ ะมีคา่ เฉพาะวนั น้ีเท่าน้นั พอถึงวนั พรุ่งน้ี ก็จะกลายเป็นขยะ เพราะฉะน้นั การอา่ นขา่ วจึงควรพิจารณาการใชภ้ าษาตามลกั ษณะ ของภาษาข่าว ไม่ยดึ ความถูกตอ้ งของหลกั การใชภ้ าษา ๑๙

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว แบบฝึ กทกั ษะท่ี ๑ ความรู้เรื่องข่าว คาชี้แจง : ทาเคร่ืองหมายกากบาท () ในช่องวา่ งที่ตรงกบั อกั ษร ก ข ค และ ง ลงใน กระดาษคาตอบ ในขอ้ ที่เห็นวา่ ถูกท่ีสุดเพยี งขอ้ เดียว ๑. องคป์ ระกอบใดของข่าว ท่ีสามารถทาใหเ้ ราอ่านข่าวแลว้ รู้เรื่อง ไดโ้ ดยตลอด ก. พาดหวั ขา่ ว ข. ความนา ค. เน้ือขา่ ว ง. ส่วนเช่ือม ๒. ข่าวในขอ้ ใดจดั เป็นขา่ วหนกั ก. ผลวจิ ยั พบวา่ วงการสีกากีมีส่งส่วยนายซ้ือตาแหน่งจริง ข. แขง้ แซมบา้ ซวย นอ้ งหมางบั ขา ศึกบอลลีกบราซิล ค. แมส่ อน “นฉตั ร” มิสไทยแลนดเ์ วริ ์ด อยา่ สร้างความเดือดร้อน ง. คนดงั แต่งองคป์ ระชนั โฉมแฟชนั โชว์ Macc jacobs ๓. ถา้ ผูอ้ ่านมีเวลาน้อย ควรอ่านข่าวในหัวขอ้ ใด จึงจะสามารถทราบเน้ือหา ของข่าวได้ ก. พาดหวั ขา่ ว ข. เน้ือข่าว ค. ส่วนเช่ือม ง. ความนา ๒๐

แบบฝึ กทักษะการอ่านจับใจความสาคัญและทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ เล่มที่ ๓ การอ่านจับใจความสาคัญจากข่าว ๔. เม่ือนกั เรียนอ่านข่าว ข่าวเดียวกนั จากหนงั สือพิมพห์ ลาย ๆ ฉบบั มกั พบวา่ ส่วนใดของขา่ วที่มีความแตกตา่ งกนั ก. พาดหวั ข่าว ข. เน้ือขา่ ว ค. ส่วนเช่ือม ง. ความนา ๕. สานวนภาษาในการเขียนข่าวท่ีมกั พบวา่ มีขอ้ ผดิ พลาด เกิดจาก สาเหตุขอ้ ใด ก. การขาดความรับผดิ ชอบในการใชภ้ าษา ข. การขาดความรู้ของนกั ข่าว ค. ขาดการตรวจทานตน้ ฉบบั ง. ความเร่งรีบในเร่ืองของเวลา ๖. ส่วนใดของข่าวท่ีเราไมจ่ าเป็นตอ้ งอา่ นก็สามารถรู้เรื่องของข่าว น้นั ไดโ้ ดยตลอด ก. พาดหวั ข่าว ข. ความนา ค. เน้ือข่าว ง. ส่วนเช่ือม ๗. การใชภ้ าษาของขา่ วในขอ้ ใด เป็นการเรียกร้องความสนใจของ ผอู้ ่านข่าว ก. การใชค้ าแสลง คาเฉพาะสมยั หรือคาที่สร้างภาพลกั ษณ์เกินจริง ข. การใชฉ้ ายาหรือช่ือเล่นของบุคคล ค. การตดั คาหรือกร่อนคา ง. การละประธานของประโยค ๒๑