Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อาหารเรื่องน่ารู้

อาหารเรื่องน่ารู้

Description: namtaal_sukhphaaphaelakaarcchadkaardaankaarbriophkhthiiehmaaasm (2)

Search

Read the Text Version

ในเลอื ดสงู และลดปญั หาฟนั ผุ โดยมขี อ้ แนะน�ำ ปรมิ าณนาํ้ ตาลทคี่ วรเตมิ ในอาหารเพ่ือปรุงแต่งรสไว้ไม่ควรเกิน 4 ช้อนชาสำ�หรับผู้ท่ีต้องการ พลังงาน 1,600 กโิ ลแคลอร,ี 6 ช้อนชาสำ�หรบั ผทู้ ่ีตอ้ งการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี และ 8 ช้อนชา สำ�หรับผู้ท่ีต้องการพลังงาน 2,400 กิโลแคลอรี นอกจากนข้ี อ้ ปฏิบัตกิ ารกนิ อาหารเพื่อสขุ ภาพทดี่ ี ของคนไทย (Food based daily guideline) ทเ่ี รยี กวา่ โภชนบญั ญตั ิ 9 ประการ ไดเ้ สนอแนะให้หลีกเลย่ี งหรอื จำ�กัดการบริโภคนํ้าตาล ไม่เกิน รอ้ ยละ 10 ของพลังงานทคี่ วรได้รับจากอาหารตอ่ วัน หรือไม่ควรเกิน วนั ละ 40-55 กรัม หรอื 3-4 ช้อนโตะ๊ โดยเฉพาะควรหลีกเลยี่ งขนม หวานและเคร่ืองด่ืมประเภทน้ําหวานและนํ้าอัดลม (คณะกรรมการจัด ทำ�ขอ้ ก�ำ หนดสารอาหารท่คี วรได้รบั ประจำ�วนั สำ�หรบั คนไทย, 2546.) จะเห็นได้ว่าข้อกำ�หนดและแนวทางต่างๆ ในด้านอาหารและ โภชนาการที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคนํ้าตาลหรืออาหารท่ีมีรสหวาน นนั้ ยงั ไมช่ ดั เจนและเปน็ แนวทางเดยี วกนั ในการนำ�ไปปฏบิ ตั เิ พอื่ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธผิ ลทด่ี ตี อ่ สขุ ภาพของประชาชนทกุ เพศทกุ วยั โดยเฉพาะกลมุ่ เสย่ี ง เชน่ เดก็ ทม่ี นี า้ํ หนกั เกนิ หรอื เปน็ โรคอว้ น ซง่ึ มโี อกาสเปน็ โรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอ้ื รงั ตา่ งๆตามมา จากรายงานขององคก์ ารอนามยั โลกในปี ค.ศ. 2003 (WHO, 2003, A) ชใี้ หเ้ หน็ วา่ อตั ราทเ่ี พม่ิ สงู ขน้ึ ของโรคอว้ นและโรคฟนั ผุ ในประเทศแอฟรกิ าใต้ มคี วามสมั พนั ธก์ บั การบรโิ ภคนา้ํ ตาลทเ่ี พมิ่ สงู ขนึ้ ทง้ั ในเขตเมอื งและชนบท ประกอบกบั ความนยิ มบรโิ ภคอาหารจานดว่ น (fast food) ขนมและเคร่ืองด่ืมท่มี ีน้ําตาลสงู เพม่ิ ขน้ึ ในทศิ ทางเดียวกับ อุบัติการณ์โรคเรื้อรังต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะ ประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าประชากรเป็นโรคอ้วนราว 1 ใน 3 จึงได้มีความพยายามในการลดอัตราป่วย โดยเฉพาะโรคอ้วน ด้วยกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ในการเลือกอาหาร การออกมาตรการ ขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ เพอ่ื ควบคมุ การบรโิ ภคนา้ํ ตาลใหอ้ ยใู่ นเกณฑท์ เ่ี หมาะสม นา้ํ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบริโภคทเ่ี หมาะสม 47

โรคอว้ นเปน็ ปญั หาส�ำ คญั ส�ำ หรบั ประเทศไทยเชน่ กนั เนอื่ งจากการ เปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมของเดก็ ไทยในการบรโิ ภคอาหารทไี่ มส่ มดลุ โดย เฉพาะขนมและเครื่องดื่มที่มีรสหวาน มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย นำ�ไปสู่ปัญหาภาวะโภชนาการเกินและโรคอ้วนท่ีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ือง จากการสำ�รวจภาวะโภชนาการในเด็กนักเรียนอนุบาลถึงประถมศึกษา ทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2544, 2545 และ 2546 พบเดก็ มภี าวะ โภชนาการเกินรอ้ ยละ 12.3, 12.8 และ 13.4 ตามลำ�ดบั และการ ส�ำ รวจในกรงุ เทพมหานครพบว่าเด็กอายุ 0-5 ปี มนี า้ํ หนักมากเกิน เกณฑ์เพ่ิมข้นึ จากรอ้ ยละ 7.4 (พ.ศ. 2545) เปน็ ร้อยละ 10.9 (พ.ศ. 2547) และเด็กประถมศึกษามนี ํา้ หนักมากเกนิ เกณฑร์ อ้ ยละ 9.2 และ ในปี พ.ศ. 2548 พบวา่ เดก็ วยั เรียนอ้วนรอ้ ยละ 12 ดังน้ันในปี พ.ศ. 2546 “เครือข่ายเดก็ ไทยไมก่ ินหวาน” ไดเ้ รม่ิ รณรงคล์ ดการบรโิ ภค นํ้าตาลโดยแนะนำ�ปริมาณน้ําตาลที่เหมาะสมต่อสุขภาพสำ�หรับ ประชากรโดยทว่ั ไปคอื “บรโิ ภคไม่ควรเกนิ วันละ 6 ช้อนชา หรอื 24 กรัม” (ประไพศรี ศิรจิ ักรวาล. 2549). นอกจากมีการจัดทำ�ข้อกำ�หนดและเกณฑ์ปริมาณนํ้าตาลท่ีควร บริโภคต่อวันแล้ว การส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลโภชนาการจาก ผลติ ภัณฑ์อาหารและเครือ่ งด่มื ท่วี างจำ�หนา่ ย (Nutrition facts) เปน็ แนวทางทสี่ �ำ คญั ทช่ี ว่ ยใหผ้ บู้ รโิ ภคสามารถเลอื กซอ้ื อาหารทมี่ สี ารอาหาร ทีเ่ หมาะสมต่อสุขภาพรา่ งกาย โดยเฉพาะทราบถงึ ปริมาณนํา้ ตาลจาก อาหารนน้ั ๆ เพอ่ื การบรโิ ภคนา้ํ ตาลอยา่ งเหมาะสมตามเกณฑ์ ในปี 2550 และ 2554 ส�ำ นกั งานอาหารและยา กระทรวงสาธารณสขุ (ประกาศฯ ฉบบั ท่ี 305 (พ.ศ.2550) และ พ.ศ.2554 เร่อื ง การแสดงฉลาก ของอาหารสาเร็จรูปที่พร้อมบริโภคทันที) ได้เร่ิมนำ�ฉลากโภชนาการ อยา่ งงา่ ย และฉลาก GDA (Guideline daily amount) แบบสีเดียว มาใช้กับผลติ ภัณฑอ์ าหาร 5 กลุ่ม เชน่ มนั ฝรงั่ ข้าวโพด ข้าวเกรียบ 48 นํ้าตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเี่ หมาะสม

ขนมขบเคยี้ วอบพอง ขนมปงั กรอบ/บิสกิต และ เวเฟอร์สอดไส้ ตาม นโยบายลดหวานมันเค็มเพ่ือคนไทยมีสุขภาพดี ซ่ึงแสดงปริมาณ พลังงาน ไขมนั น้ําตาลและโซเดยี มตอ่ ซองดา้ นหนา้ บรรจุภัณฑ์ และ ก�ำ กบั ดว้ ยคา่ รอ้ ยละของปรมิ าณทบ่ี รโิ ภคไดต้ อ่ วนั ส�ำ หรบั คา่ รอ้ ยละของ น้าํ ตาลที่แสดงบนฉลาก GDA คิดจากปริมาณสูงสุดท่บี รโิ ภคไดต้ ่อวนั เท่ากบั 65 กรัม จากพลังงาน 2,000 กิโลแคลอร่ี หรอื รอ้ ยละ 13 ของพลังงาน เนื่องจากคิดรวมนํ้าตาลที่มีในผลไม้ตามธรรมชาติและ นาํ้ ตาลแลคโตสในนม จงึ มคี า่ สงู กวา่ ขอ้ แนะนำ�ขององคก์ ารอนามยั โลก ภาพที่ 1 ฉลาก GDA ของไทย แหลง่ ที่มา: http://newsser.fda.moph.go.th/food/file/BenefitAdmin/ GDA4Sec2011/GDA4Sec2011_8.pd เกณฑ์กำ�หนดอีกเร่ืองที่มีความสำ�คัญเพื่อการป้องกันการติดรส หวานต้ังแต่วัยทารก คือ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (กระทรวง สาธารณสุข, ฉบับที่ 286) เรื่อง นมดัดแปลงส�ำ หรับทารกและนม ดัดแปลงสูตรต่อเน่ืองสำ�หรับทารกและเด็กเล็ก ซึ่งได้กำ�หนดให้นม ดัดแปลงสำ�หรับทารกและนมดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำ�หรับทารกและ นํ้าตาล สขุ ภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม 49

เด็กเลก็ อาหารทารกและอาหารสูตรตอ่ เน่อื งสำ�หรบั ทารกและเด็กเล็ก “ห้ามเติมนํ้าตาล นํ้าผ้ึง หรือวัตถุที่ให้ความหวานอ่ืนใด ยกเว้น น้ําตาลแลคโตสหรือคาร์โบไฮเดรตอ่ืนท่ีมิใช่นํ้าตาลท่ีมีความหวาน เทยี บเทา่ หรอื นอ้ ยกวา่ นาํ้ ตาลแลคโตส” และตอ้ งแสดงขอ้ ความ “ไมค่ วร เตมิ นา้ํ ตาล นาํ้ ผงึ้ หรอื วตั ถใุ หค้ วามหวานใดๆ อกี เพราะอาจท�ำ ใหท้ ารก และเดก็ เลก็ ฟันผุและเปน็ โรคอว้ นได”้ บนฉลากผลิตภัณฑ์ การจดั ทำ�ขอ้ กำ�หนดและเกณฑท์ เ่ี หมาะสมของนาํ้ ตาลทคี่ วรบรโิ ภค : ในระดบั นานาชาติ ในแต่ละประเทศได้กำ�หนดแนวทางในการบริโภคอาหารเพ่ือ สุขภาพทีด่ ี (Food Based Dietary Guidelines, FBDG, 2010) สำ�หรับประชาชนได้ถือปฏิบัติโดยแนะนำ�ให้บริโภคอาหารหลากหลาย ประเภทอยา่ งสมดลุ และแนะน�ำ ใหห้ ลกี เลยี่ งไขมนั และเกลอื เปน็ สว่ นใหญ่ สำ�หรับน้ําตาลจะแนะนำ�ให้บริโภคแต่พอสมควร เน่ืองจากวัฒนธรรม การบริโภคอาหารและปัญหาด้านโภชนาการของประชากรในแต่ละ ประเทศแตกตา่ งกนั การวางมาตรการ ออกขอ้ กำ�หนดและเกณฑต์ า่ งๆ เพอื่ ลดปญั หาการบรโิ ภคนา้ํ ตาลเกนิ ความตอ้ งการของรา่ งกายทนี่ �ำ ไปสู่ โรคเรอื้ รงั ต่างๆ จึงมแี นวทางแตกต่างกนั ไป ดงั น้ี  สหรฐั อเมรกิ า (Dietary Guidelines for Americans, 2010) แนะนำ�ให้จำ�กัดการบริโภคอาหารและเคร่ืองดื่มท่ีมีการเติม นํา้ ตาลหรอื บริโภคแตเ่ พียงเล็กนอ้ ย ขณะที่ Food Guide Pyramid แนะน�ำ ใหบ้ รโิ ภคนาํ้ ตาลไมเ่ กนิ วนั ละ 6 ชอ้ นชาตอ่ พลงั งาน 1,600 กิโลแคลอร่ี หรือ 12 ช้อนชาต่อพลงั งาน 2,200 กิโลแคลอร่หี รอื 18 ช้อนชาตอ่ พลงั งาน 2,800 กโิ ลแคลอร่ี  ออสเตรเลยี (Australian Dietary Guidelines) แนะนำ�ให้ บริโภคนํ้าตาล อาหารและเคร่ืองดื่มที่มีส่วนประกอบของ 50 นํ้าตาล สุขภาพ และการจดั การด้านการบริโภคท่ีเหมาะสม

น้ําตาลพอสมควร จำ�กัดอาหารที่มีน้ําตาลสูงและมีสาร อาหารนอ้ ย  สหราชอาณาจกั ร (United Kingdom) แนะน�ำ “หา้ มบรโิ ภค อาหารและเคร่อื งดม่ื ทม่ี รี สหวานมากเกนิ ไป”  เนเธอรแ์ ลนด์ ก�ำ หนดปรมิ าณคารโ์ บไฮเดรตรอ้ ยละ 50-60 รวมถงึ น้าํ ตาลร้อยละ 15-25 ของพลงั งานท่ีได้รับตอ่ วนั  อนิ เดยี (Dietary Guidelines for Indians) แนะน�ำ “ใชน้ าํ้ ตาล เท่าที่จ�ำ เปน็ ”  แอฟรกิ าใต้ (South African Guidelines for Healthy Eating) แนะนำ�ไม่ควรบริโภคนํ้าตาล (added sugars) เกิน รอ้ ยละ 6-10 ของพลังงานทรี่ า่ งกายไดร้ บั ในแต่ละวัน และ “บรโิ ภคอาหารและเครอ่ื งดมื่ ทม่ี นี า้ํ ตาลเทา่ ทจี่ ำ�เปน็ และไม่ ควรบริโภคระหวา่ งมอ้ื อาหาร” ในข้อแนะนำ�การบริโภคอาหารบางประเทศ ได้แก่ แคนาดา เกาหลี ญ่ีปุ่น จีน และฟิลิปปินส์ ไม่มีการกล่าวถึงหรือแนะนำ�การ บรโิ ภคอาหารหรอื เครอ่ื งดม่ื ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับนํา้ ตาลเลย การจัดทำ�ข้อกำ�หนดและเกณฑ์ที่เหมาะสมของนํ้าตาลในระดับ องคก์ รด้านสขุ ภาพ องค์การอนามยั โลก (WHO, 2010, B) ได้แนะนำ�ใหล้ ดการ บริโภคอาหารและเครื่องด่ืมท่ีมีน้ําตาลสูงเพ่ือสุขภาพฟันท่ีดีและภาวะ โภชนาการทสี่ มดลุ โดยจ�ำ กดั ปรมิ าณนา้ํ ตาลไมค่ วรเกนิ รอ้ ยละ 10 ของ พลงั งานท่ีร่างกายควรได้รับในแตล่ ะวนั หรอื นอ้ ยกวา่ 50 กรัม หรอื 12 ชอ้ นชา ส�ำ หรับพลงั งาน 2,000 กิโลแคลอร่ี โดยระบเุ ปน็ free sugars หรอื added sugars ซ่ึงหมายความถึง นา้ํ ตาลรูปแบบใดๆ และนํ้าเชื่อม (syrups) ท่ีใช้กับกระบวนการผลิตอาหาร และการ นํา้ ตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทีเ่ หมาะสม 51

เตรยี มอาหาร เช่น ขนมปัง เคก้ เครอื่ งดืม่ เจลลี่ ไอศกรมี รวมถึง นาํ้ ตาลทเี่ ตมิ ลงในชากาแฟ และนา้ํ ตาลทเี่ ตมิ แตง่ รสชาตอิ าหาร เปน็ ตน้ และข้อกำ�หนดนี้ได้รวมถึงนํ้าผ้ึง และนาํ้ ผลไม้ตา่ งๆไวด้ ว้ ย ตัวอยา่ งน้าํ ตาลทใี่ ชเ้ ตมิ ในกระบวนแปรรปู อาหาร ไดแ้ ก่ นา้ํ ตาลทราย นา้ํ ตาลสรี ำ� นา้ํ ตาลมะพรา้ ว นา้ํ ตาลดบิ นา้ํ เชอ่ื ม นาํ้ ผงึ้ นา้ํ ผลไมเ้ ขม้ ขน้ คอรน์ ไซรปั ไฮฟรคุ โทสคอรน์ ไซรปั เดก็ ซโทส ฟรคุ โทส กลโู คส คอรน์ สวที แทนเนอร์ อนิ เวอรส์ ซกู ้า แลคโทส มอลโทส มอลดไ์ ซรับ โมแลส ซโู ครส เปน็ ต้น ซงึ่ ปรมิ าณนาํ้ ตาลทแ่ี นะน�ำ ดงั กลา่ วไดถ้ กู น�ำ ไปใชแ้ นะน�ำ ใหก้ บั ประชากร ในหลายประเทศ สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (American Heart Association; AHA,2009) แนะนำ�ให้จ�ำ กัดปรมิ าณการบริโภคนํา้ ตาล จากอาหารและผลิตภัณฑ์ รวมถึงน้ําตาลท่ีเติมบนโต๊ะอาหารไว้อย่าง ละเอยี ดและชัดเจนเน่อื งจากการสำ�รวจในปี 2001 พบวา่ คนอเมริกนั ไดร้ บั พลงั งานจากนาํ้ ตาลทใี่ ชเ้ ตมิ ผลติ ภณั ฑอ์ าหารและเครอื่ งดม่ื สงู มาก ถงึ 132 กิโลแคลอรตี่ ่อคนตอ่ วัน และพบวา่ รอ้ ยละ 20 ของกลมุ่ ตวั อยา่ งทีส่ �ำ รวจไดบ้ ริโภคนํา้ ตาลมากถึง 316 กโิ ลแคลอรี่ (79 กรมั ) ตอ่ คนตอ่ วนั ซง่ึ พลงั งานจากนา้ํ ตาลสว่ นเกนิ จะเปลย่ี นเปน็ ไขมนั สะสมใน รา่ งกายและเปน็ ตน้ เหตขุ องโรคอว้ นทเี่ พม่ิ ขนึ้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งในประเทศน้ี AHA(2009) จึงได้กำ�หนดปริมาณนํ้าตาลท่ีควรบริโภคสำ�หรับคน อเมรกิ นั ดังนี้  ผชู้ ายไม่ควรบรโิ ภคเกิน 150 กโิ ลแคลอร่ี คดิ เป็น 36 กรัม หรอื 9 ชอ้ นชา ซงึ่ อาจแตกตา่ งกนั ไปขนึ้ อยกู่ บั ความตอ้ งการ ของพลงั งานของรา่ งกายแตล่ ะบคุ คล อายุ เพศ และกจิ กรรม ทางกาย  ผหู้ ญงิ ไมค่ วรบรโิ ภคนา้ํ ตาลเกนิ 100 กโิ ลแคลอรข่ี องพลงั งาน ที่ควรได้รบั ต่อวัน คิดเปน็ 24 กรัม หรือ 6 ชอ้ นชา 52 นํ้าตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคท่ีเหมาะสม

 เดก็ กอ่ นวยั เรยี นทตี่ อ้ งการพลงั งาน 1,200-1,400 กโิ ลแคลอร่ี ตอ่ วันไม่ควรบรโิ ภคนํา้ ตาลเกนิ 64 กิโลแคลอร่ี หรือ 4 ช้อนชา  เด็กเล็กช่วงอายุ 4-8 ปี ที่ต้องการพลังงาน 1,600 กิโลแคลอรต่ี อ่ วันไม่ควรบริโภคนํา้ ตาลเกิน 48 กิโลแคลอรี่ หรือ 3 ชอ้ นชา  วยั รุน่ ท่ีต้องการพลังงาน 1,800-2,000 กโิ ลแคลอรต่ี อ่ วัน ไม่ควรบรโิ ภคน้ําตาลเกนิ 5-8 ช้อนชา องคก์ ารเกษตรแหง่ สหรฐั อเมรกิ า (United States Department of Agriculture;USDA, 2005) แนะนำ�ให้จ�ำ กัดการบริโภคนํา้ ตาลไม่ ควรเกนิ 10 ชอ้ นชาต่อวัน (160 กโิ ลแคลอรี่) ตอ่ พลังงานทรี่ ่างกาย ไดร้ บั 2,000 กิโลแคลอรี่ หรอื จ�ำ กดั พลงั งานจากไขมันรวมกับนาํ้ ตาล ที่เตมิ ในอาหารไม่ควรเกินรอ้ ยละ 5 - 15 ของพลังงานทีร่ า่ งกายควร ได้รับต่อวัน และหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มีน้ําตาลใน ปริมาณสูง และควรจ�ำ กัดเครือ่ งด่มื ประเภทตา่ งๆ เชน่ นาํ้ อัดลม และ นา้ํ ผลไมผ้ สม เนือ่ งจากมนี า้ํ ตาลสูงประมาณ 30 - 60 กรมั ต่อหน่วย บรโิ ภค เมือ่ รับประทาน 1 ขวด/กระป๋อง อาจท�ำ ให้ร่างกายได้รับน้ํา ตาลเกนิ ปรมิ าณทแี่ นะน�ำ สง่ ผลใหร้ า่ งกายไดร้ บั พลงั งานจากอาหารโดย รวมตอ่ วนั มากเกนิ ไป ทั้งนี้ USDA( 2005) ได้ก�ำ หนดปรมิ าณน้าํ ตาล ที่ควรได้รบั ต่อวนั ตามความตอ้ งการพลังงานของแต่ละบุคคล ไว้ดงั นี้  พลงั งาน 1,600 กโิ ลแคลอรี่ จำ�กดั ปรมิ าณนา้ํ ตาลในอาหาร 24 กรมั (6 ช้อนชา)  พลงั งาน 2,000 กโิ ลแคลอรี่ จำ�กดั ปรมิ าณนาํ้ ตาลในอาหาร 40 กรมั (10 ช้อนชา)  พลงั งาน 2,400 กโิ ลแคลอรี่ จำ�กดั ปรมิ าณนา้ํ ตาลในอาหาร 56 กรมั (14 ช้อนชา) น้ําตาล สขุ ภาพ และการจัดการด้านการบริโภคท่เี หมาะสม 53

 พลงั งาน 2,800 กโิ ลแคลอรี่ จำ�กดั ปรมิ าณนา้ํ ตาลในอาหาร 72 กรัม (18 ชอ้ นชา) สำ�นักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Food and Drug Administration; USFDA) ยงั ไมม่ กี ารก�ำ หนดปรมิ าณ การบรโิ ภคนา้ํ ตาลอยา่ งชดั เจน เชน่ เดยี วกบั คา่ พลงั งานทค่ี วรไดร้ บั ตอ่ วนั หรือปริมาณโซเดยี ม คอเลสเตอรอล และไขมัน เพียงแตไ่ ดใ้ ห้ค�ำ นิยาม “sugar free” และ “no sugar added” ในการกลา่ วอ้างบนฉลาก โภชนาการเพ่ือให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลจากฉลากผลิตภัณฑ์อาหารได้ อย่างถกู ต้อง อย่างไรกต็ ามผ้เู ชี่ยวชาญดา้ นสขุ ภาพ ไดก้ ำ�ลงั พยายาม ผลกั ดนั การก�ำ หนดปรมิ าณการบรโิ ภคนาํ้ ตาลในเกณฑส์ งู สดุ ไมเ่ กนิ 10 ช้อนชา หรือ ปรมิ าณน้ําตาล 40 กรมั ซ่งึ น�ำ มาใช้เป็นฐานคิดรอ้ ยละ ของปรมิ าณนาํ้ ตาลทมี่ ใี นผลติ ภณั ฑบ์ นฉลากอาหาร (% Daily Values) Smart choice program มีหลักการเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภค ตระหนักถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นโดย สงั เกตไดง้ า่ ยจากฉลากสญั ลกั ษณข์ ดี ถกู ทแี่ สดงดา้ นหนา้ บรรจภุ ณั ฑ์ ซง่ึ ผลิตภัณฑ์อาหารหรือเคร่ืองดื่มท่ีจะได้รับตราสัญลักษณ์ต้องผ่านเกณฑ์ ที่ได้กำ�หนดไว้ดังแสดงในตาราง จะเห็นได้ว่าเกณฑ์ปริมาณนํ้าตาลที่ กำ�หนดไวน้ อ้ ยกว่าหรือเท่ากบั ร้อยละ 25 ของพลังงาน หรอื คดิ เป็น 500 กโิ ลแคลอรี่ เปน็ เกณฑท์ สี่ งู มากเกอื บ 5 เทา่ (Nutrition Qualifying Criteria, n.d.) หากนำ�ไปเทยี บกบั ขอ้ ก�ำ หนดของสมาคมโรคหวั ใจแห่ง สหรัฐอเมริกา จึงไม่น่าเป็นแนวทางที่ดีหรือเหมาะสมในการเลือกซ้ือ อาหารส�ำ หรบั ผบู้ รโิ ภคทต่ี อ้ งการควบคมุ การบรโิ ภคนาํ้ ตาลเพอ่ื สขุ ภาพ 54 นาํ้ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคท่ีเหมาะสม

ภาพที่ 2 สัญลักษณ์ Smart Choices แหลง่ ท่ีมา http://www.smartchoicesprogram.com/ เกณฑ์ปริมาณสารอาหาร (Nutrition Qualifying Criteria) ท่ี กำ�หนดสำ�หรบั Smart Choice Total Fat (ไขมันทงั้ หมด) น้อยกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 35 ของพลงั งาน Saturated Fat (ไขมันอิ่มตัว) น้อยกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 10 Trans Fats ของพลังงาน Cholesterol (คอเรสเตอรอล) ต้องเป็น 0 Added Sugars (นํ้าตาล) นอ้ ยกว่าหรือเทา่ กบั 60 มก. Sodium (โซเดยี ม) ต่อหนึ่งหนว่ ยบรโิ ภค น้อยกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 25 ของพลังงาน น้อยกวา่ หรือเท่ากบั 480 มก. ต่อหนงึ่ หน่วยบริโภค แหล่งที่มา http://www.smartchoicesprogram.com/professionals. html นา้ํ ตาล สุขภาพ และการจดั การดา้ นการบริโภคทีเ่ หมาะสม 55

ฉลาก GDA (Guideline Daily Amounts) ในปี ค.ศ.1998 รัฐบาลอังกฤษร่วมกับภาคเอกชน ได้ออกประกาศกำ�หนดการแสดง ปรมิ าณสารอาหารทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพดา้ นหนา้ บรรจภุ ณั ฑอ์ าหาร (front of pack) เพือ่ ใหผ้ บู้ รโิ ภคสังเกตได้งา่ ยและช่วยในการตัดสนิ ใจ เลอื กซอ้ื ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ เชน่ พลงั งาน ไขมนั อม่ิ ตวั นา้ํ ตาล และโซเดยี ม แสดงหนว่ ยนา้ํ หนกั สารอาหารนนั้ ตอ่ หนงึ่ หนว่ ยบรโิ ภค และรอ้ ยละของ ปรมิ าณทร่ี ่างกายตอ้ งการตอ่ วัน ซ่งึ รูปแบบของกรอบทแ่ี สดงขอ้ มลู นัน้ อาจจะเป็นแบบสีเดยี วหรือเปน็ สีไฟจารจรก็ได้ ไดแ้ ก่ สีเขยี ว สเี หลอื ง และสีแดง โดยแต่ละสีจะสื่อใหท้ ราบถงึ ระดับปรมิ าณสารอาหารทมี่ ีอยู่ ในผลิตภณั ฑ์ ตามเกณฑท์ ี่ก�ำ หนดไว้ ส�ำ หรับน้าํ ตาลมดี ังน้ี  นํ้าตาลน้อยกว่า 5 กรัมต่ออาหาร 100 กรัม ระบุว่า น้าํ ตาลนอ้ ยและแสดงแถบสเี ขียว  น้ําตาลปานกลาง 5-15 กรัมต่ออาหาร 100 กรัม ระบุว่า นา้ํ ตาลปานกลางและแสดงแถบสีเหลอื ง  น้าํ ตาลสงู มากกวา่ 15 กรมั ต่ออาหาร 100 กรมั ระบวุ ่า นํ้าตาลสงู และแสดงแถบสแี ดง ภาพที่ 3 รปู แบบสสี ญั ลกั ษณ์ ต า ม เ ก ณ ฑ์ ป ริ ม า ณ สารอาหารที่มีความ เสย่ี งตอ่ สุขภาพ 56 นํ้าตาล สุขภาพ และการจดั การด้านการบรโิ ภคท่ีเหมาะสม

สำ�หรับประเทศไทย ก็ได้มีการจัดทำ�ฉลาก GDA ด้วยเช่นกัน ฉลาก GDA คือ การแสดงสัญลักษณท์ างโภชนาการเพ่มิ เตมิ จากการ แสดงฉลากโภชนาการ โดยแสดงในรูปแบบเป็นค่าพลังงาน ไขมัน น้ําตาล และ โซเดียม เพ่ือให้ข้อมูลสารอาหารท่ีมีผลต่อภาวะน้ํา หนักเกินและโรคอ้วน เพ่ือให้ผู้บริโภคเข้าใจง่ายกว่าการแสดงฉลาก โภชนาการ โดยอาหารทีต่ ้องแสดงฉลาก GDA น้ี ได้แก่อาหารตาม ประกาศกระทรวงสาธารณะสุข ฉบับท่ี 305 (พ.ศ. 2550) คือ มันฝรั่งทอดหรืออบกรอบ ข้าวโพดค่ัวหรืออบกรอบ ข้าวเกรียบหรือ อาหารขบเค้ียวชนิดอบพอง (extruded snack) ขนมปังกรอบหรือ แครกเกอรห์ รือบิสกติ และ เวเฟอรส์ อดไส้ (สมาคมวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยีทางอาหารแหง่ ประเทศไทย. (ม.ป.ป.) สมาคมนักกำ�หนดอาหารแห่งสหราชอาณาจกั ร (The British Dietetic Association; BDA) ได้กำ�หนดน้ําตาลท่ีควรบริโภคต่อวัน ไม่เกิน 60 กรัม หรือรอ้ ยละ 10 ของพลงั งานท่รี ่างกายควรไดร้ ับ 2,000 กิโลแคลอร่ี โดยจะไม่รวมนา้ํ ตาลแลคโตส แตร่ วมถงึ นํา้ ตาลท่ี ไดจ้ าก นา้ํ ผง้ึ นา้ํ ผลไม้ อาหารแปรรูปและนํ้าตาลทเี่ ติมบนโตะ๊ อาหาร เช่นเดยี วกับข้อก�ำ หนดของ WHO โดยเนน้ ถงึ ประเภทนา้ํ ตาลทีม่ หี ลาก หลายชนิดซึ่งต้องคดิ รวมท้ังหมด ซงึ่ ดรู ายละเอียดชนิดและปรมิ าณนํ้า ตาลได้จากขอ้ มลู ส่วนผสมอาหารบนฉลากอาหาร และปรมิ าณนํ้าตาล ท้งั หมดจากขอ้ มูลโภชนาการ สถาบนั โภชนาการแหง่ ชาติ ประเทศอนิ เดยี (National Institute of Nutrition) และ Institutes of the Indian Council of Medical Research ได้ปรับปรุงข้อแนะนำ�การบริโภคอาหารประจำ�วันสำ�หรับ ประชากรในประเทศอนิ เดยี ในปี ค.ศ. 2011 โดยก�ำ หนดปรมิ าณนา้ํ ตาล ทคี่ วรไดร้ บั ตอ่ วนั ขน้ึ อยกู่ บั กจิ กรรมทางกายหรอื ความตอ้ งการพลงั งาน ท้ังเพศชายและเพศหญิงท่ีมีกิจกรรมทางกายน้อยและปานกลาง นา้ํ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบริโภคทเี่ หมาะสม 57

ควรบรโิ ภคนํา้ ตาลวันละ 4 และ 6 สว่ น ตามลำ�ดับ หากมีกิจกรรม ทางกายหนกั เพศชายควรบรโิ ภคนา้ํ ตาลวนั ละ 11 สว่ น และเพศหญงิ 9 สว่ น ในทารกอายุ 6-12 เดือน เดก็ เลก็ อายุ 1-3 ปี, 4-9 ปี และ 10-12 ปี ควรบรโิ ภควันละ 2, 3, 4 และ 5 ส่วน ตามล�ำ ดับ และ วัยรนุ่ เพศหญงิ อายุ 13-18 ปี ควรบรโิ ภควันละ 5 สว่ น และวยั รุ่น เพศชายอายุ 13-15 ปี ควรบริโภค 4 ส่วน และอายุ 16-18 ปี ควรบริโภค 6 ส่วน โดยกำ�หนดให้นา้ํ ตาล 1 สว่ น เท่ากับ 5 กรัม องคก์ ารมาตรฐานสินค้าอาหารของสหราชอาณาจักร (Food Standard Agency; FSA) ได้ตระหนกั ถึงปญั หาสุขภาพจงึ ต้องการให้ ผลิตภัณฑ์อาหารและเคร่อื งดื่มมปี ระโยชนต์ อ่ สขุ ภาพมากย่งิ ขึ้น โดยมี ข้อเสนอให้โรงงานอุตสาหกรรมอาหารลดปริมาณไขมันและนํ้าตาลใน ผลิตภณั ฑ์ ลดขนาดผลติ ภณั ฑใ์ ห้เลก็ ลง และเพ่ิมความหลากหลายให้ มากข้นึ โดยผลติ ภณั ฑเ์ คร่ืองดื่มทมี่ สี ่วนผสมน้ําตาลมากกว่า 8 กรัม ตอ่ 100 มลิ ลลิ ติ ร ตอ้ งลดปรมิ าณนา้ํ ตาลลงอยา่ งนอ้ ยรอ้ ยละ 4 ของ ปรมิ าณนํา้ ตาลท่มี ีอยูเ่ ดมิ ภายในปี 2012 และก�ำ หนดใหข้ นาดบรรจุ ของเครอื่ งดืม่ ต้องมปี รมิ าตรไมเ่ กิน 250 มิลลิลติ ร ภายในปี 2015 สมาคมนักกำ�หนดอาหารประเทศออสเตรเลีย (Dietetic Association of Australia; DAA) ได้กำ�หนดให้บริโภคนํ้าตาลแต่ พอประมาณ โดยไม่ระบุปริมาณไว้แต่อย่างใด เน่ืองจากมีแนวคิดว่า น้ําตาลไม่ได้เป็นต้นเหตุเพียงเร่ืองเดียวท่ีทำ�ให้เกิดโรคอ้วนหรือ โรคเรื้อรังต่างๆ ดังน้ันข้อแนะนำ�การบริโภคเพื่อสุขภาพท่ีดีสำ�หรับ คนออสเตรเลียนจึงเน้นการควบคุมปริมาณพลังงานท่ีได้รับต่อวัน เปน็ หลกั สง่ เสริมการบริโภคคาร์โบไฮเดรตเชงิ ซอ้ นทม่ี ีเส้นใยสงู และ อาหารทมี่ คี า่ glycemic index ตา่ํ รว่ มกบั การออกก�ำ ลงั กายเปน็ ประจ�ำ 58 นาํ้ ตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบริโภคทีเ่ หมาะสม

สรุป ข้อกำ�หนดและเกณฑ์ท่ีเหมาะสมของน้ําตาลในอาหารทั้ง ที่จัดทำ�ในประเทศไทยและระดับนานาชาตินั้น ส่วนใหญ่มีแนวทางที่ สอดคลอ้ งกนั ดังน้ันขอ้ แนะนำ�ทีส่ ามารถน�ำ ไปปฏิบัติได้โดยทั่วไป คือ การจ�ำ กดั ปรมิ าณนา้ํ ตาลไมค่ วรเกนิ รอ้ ยละ 10 ของพลงั งานทรี่ า่ งกาย ควรไดร้ ับในแตล่ ะวนั หรอื น้อยกว่า 50 กรมั หรือ 12 ชอ้ นชา ส�ำ หรบั พลงั งาน 2,000 กิโลแคลอรี โดยระบุเป็น free sugars หรือ added sugars ซ่งึ หมายความถึง น้าํ ตาลรูปแบบใดๆ และนํ้าเชือ่ ม (syrups) ทใ่ี ชก้ บั กระบวนการผลติ อาหาร และการเตรยี มอาหาร นา้ํ ตาล ท่ีเติมลงในชากาแฟนํ้าตาลท่ีเติมแต่งรสชาติอาหาร รวมถึงนํ้าผึ้งและ น้ําผลไม้ต่างๆ ซึ่งถ้าคิดเป็นนํ้าตาลท่ีผสมอยู่ในอาหารหรือผลิตภัณฑ์ แปรรปู ตา่ งๆ 6 ช้อนชา ปริมาณน้าํ ตาลท่เี ตมิ (table sugars) ใน อาหาร เช่นก๋วยเต๋ียว หรือเครื่องด่ืมชากาแฟ จึงไม่ควรเกินวันละ 6 ช้อนชา สำ�หรับผู้บริโภคท่ีมีน้ําหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนท่ีมีภาวะ เสย่ี งต่อโรคเร้ือรงั ตา่ งๆ โดยเฉพาะเดก็ การใช้ขอ้ กำ�หนดของสมาคม โรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาหรือข้อกำ�หนดของสถาบันโภชนาการ แหง่ ชาตปิ ระเทศอนิ เดยี ทม่ี กี ารกำ�หนดปรมิ าณนา้ํ ตาลทค่ี วรบรโิ ภคตอ่ วนั โดยแยกตามวยั ตา่ งๆ นา่ จะเปน็ แนวทางทด่ี สี �ำ หรบั ใชใ้ นการก�ำ หนด เกณฑป์ รมิ าณนํา้ ตาลทเี่ หมาะสมส�ำ หรับคนไทย บรรณานกุ รม การบริโภคนํา้ ตาล ทำ�ไมต้อง 6 ชอ้ นชา. (2010). สืบคน้ วนั ที่ 14 กรกฎาคม 2555 เข้าถงึ ไดจ้ าก http://www.meedee.net/ magazine/med/medical-life/5667 การแสดงสัญลักษณ์ทางโภชนาการโดยใช้ข้อมูลฉลากโภชนาการ ตามประกาศ กระทรวงสาธารณสุข. (ม.ป.ป.). สืบค้น นํา้ ตาล สขุ ภาพ และการจดั การดา้ นการบริโภคทเี่ หมาะสม 59

วนั ที่ 2 สงิ หาคม 2555 เขา้ ถึงได้จาก http://newsser. fda.moph.go.th/food/file/BenefitAdmin/GDA4Sec2011/ GDA4Sec2011_8.pdf กองโภชนาการ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ . ( 2549). รายงาน การสำ�รวจภาวะอาหารและโภชนาการของประเทศไทย คร้ังที่ 5 พ.ศ. 2546. สบื คน้ วนั ที.่ .. 21 กรกฎาคม เข้าถงึ ไดจ้ าก http://www.nutrtion.anamai.moph.go.th. คณะกรรมการจดั ท�ำ ขอ้ ก�ำ หนดสารอาหารทคี่ วรไดร้ บั ประจ�ำ วนั ส�ำ หรบั คนไทย (2546.). ปริมาณสารอาหารอ้างอิงท่ีควรได้รับ ประจำ�วันสำ�หรับคนไทย. กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ . ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ (ฉบบั ที่ 286) เรอ่ื ง นมดดั แปลงส�ำ หรบั ทารกและนมดัดแปลงสูตรต่อเน่ืองสำ�หรับทารกและเด็กเล็ก (ฉบับที่ 2) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบบั ท่ี 305 (พ.ศ.2550) และ พ.ศ. 2554 เรือ่ ง การแสดง ฉลากของอาหารสาเรจ็ รูปท่ีพรอ้ ม บริโภคทันที) ประไพศรี ศริ ิจกั รวาล. (2549). นา้ํ ตาล ท�ำ ไมต้อง 6 ชอ้ นชา. สำ�นกั โภชนาการ กรมอนามัย กระทรวง สาธารณสขุ เอกสาร เผยแพร่เครือขา่ ย “เดก็ ไทยไมก่ นิ หวาน” สืบค้นวันท่ี 24 กรกฎาคม 2555 เขา้ ถึงได้จาก http://nutrition.anamai. moph.go.th/temp/main/view.php?group=3&id=71 สมาคมวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยที างอาหารแหง่ ประเทศไทย. (ม.ป.ป.) Guideline Daily Amounts หรือ GDA. สืบคน้ วันที่ 7 สิงหาคม 2555 เข้าถึงได้จาก http://www.fostat.org/ pr-news/news-update/57-general-pr-news/118-guide- line-daily-amounts-gda- 60 น้าํ ตาล สุขภาพ และการจดั การด้านการบริโภคทเ่ี หมาะสม

American Heart Association. (2009). Dietary Sugars Intake and Cardiovascular Health: A Scientific Statement from the American Heart Association. Circulation 120:1011-1020. Food based Dietary Guidelines. (2010). Dietary Guidelines for Americans. Retrieved June 11, 2012 .from http:// www.fao.org/ag/humannutrition/nutritioneducation/ fbdg/en/ Nutrition Qualifying Criteria. ( n.d.). Retrieved June 25, 2012, from http://www.smartchoicesprogram.com/nutrition. html Unites States Department of Agriculture (USDA). ( 2005). What are “added sugars”?. Retrieved June 8, 2012, from http://www.mypyramid.gov World Health Organization. (2003 a). Diet, Nutrition and the Prevention of Chronic Diseases: Report of a Joint WHO/FAO expert consultation. WHO Technical Re- port Series No. 916. World Health Organization. (2003 b). Population intake goals for preventing diet related diseases. In Diet nutrition and the prevention of chronic diseases report of a joint WHO/FAO expert consultation. WHO Technical Report Series No 916. Signposting and traffic light labelling. Available source http:// www.food.gov.uk/ Whitney, E.N., and Rolfes, S.R. 2005. Understanding Nutrition. 10th edition Singapore: Thomson Learning. นํา้ ตาล สขุ ภาพ และการจัดการด้านการบรโิ ภคท่เี หมาะสม 61

62 นา้ํ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม

หลักฐานที่แสดงถึงผลการดำ�เนนิ การตาม นโยบายทางด้านโภชนาการในโรงเรยี น พญ. ชตุ มิ า ศริ ิกลุ ชยานนท*์ มาตรการที่เก่ียวข้องกับการปรับพฤติกรรมบริโภค มักเน้นไป ที่กลุ่มเด็ก และมาตรการในโรงเรียนจัดว่ามีการดำ�เนินการมากที่สุด การทบทวนต่อไปน้ีเพื่อค้นคว้าถึงหลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence based) ทแี่ สดงถงึ ผลการด�ำ เนนิ งานดา้ นโภชนาการของโครงการตา่ งๆ ในโรงเรยี น 1. การดำ�เนนิ การตามนโยบายทางด้านโภชนาการในโรงเรียน  การทบทวนงานวิจัยท่ัวโลกอย่างเป็นระบบ (Systematic review) ถึงผลกระทบของนโยบายของด้านอาหารและโภชนาการใน ระดบั โรงเรยี น จากงานวจิ ยั ทง้ั สนิ้ 18 การศกึ ษา ตงั้ แตเ่ รมิ่ ตน้ ถงึ ปี 2007 การศกึ ษาวจิ ยั ทงั้ หมดเปน็ การศกึ ษาวจิ ยั ของประเทศสหรฐั อเมรกิ าและ ยโุ รป ซงึ่ ท�ำ ในกลมุ่ เดก็ นกั เรยี นระดบั อนบุ าล (2-5 ป)ี , ระดบั ประถมศกึ ษา (6-10 ป)ี และระดบั มธั ยมศกึ ษา (11-18 ปี) โดยระบปุ ระเภทของ นโยบายทางด้านโภชนาการไว้ 3 ประเภท1 ดงั น้ี 1. แนวทาง/ค�ำ แนะน�ำ ดา้ นโภชนาการ มที ง้ั หมด 9 การศกึ ษา (มาตรฐานโภชนาการด้านการวางแผนเมนูอาหารและ เครือ่ งดืม่ ท่จี �ำ หนา่ ยในโรงเรียน) 2. กฎระเบยี บเกย่ี วกบั อาหารทสี่ ง่ ผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ มที งั้ หมด 2 การศกึ ษา (นโยบายโภชนาการทม่ี กี ารเขม้ งวด เพอ่ื จ�ำ กดั การเขา้ ถงึ อาหารทส่ี ง่ ผลเสียต่อสขุ ภาพ) *คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิ ล น้าํ ตาล สขุ ภาพ และการจัดการด้านการบรโิ ภคท่เี หมาะสม 63

3. โครงการ/โปรแกรมด้านราคา มีท้ังหมด 8 การศึกษา (ทั้งโปรแกรมก�ำ หนดราคาฟรี หรือการควบคุมการกำ�หนด ราคาของอาหารที่ขายให้กบั นักเรียน) ผลการการศึกษาองคป์ ระกอบโดยรวม พบวา่ 1. การจัดเมนูอาหาร การบริโภคอาหารที่เหมาะสมของ นักเรยี นโดยม่งุ เนน้ การลดปรมิ าณไขมนั ในอาหาร รวมทง้ั เพ่มิ การ บริโภคผกั และผลไม้  งานวจิ ยั 4 การศกึ ษา พบวา่ การได้รบั ไขมันท้งั หมดลดลง อย่างมีนยั ส�ำ คัญ (-2.0% ถงึ -10.9% ของพลังงาน) และ ลดไขมันอ่มิ ตัวลงได้ (-0.9% ถงึ -5.2% ของพลังงาน)  งานวิจยั 2 การศกึ ษา พบว่า การบริโภคผักและผลไม้เพม่ิ ข้นึ หลังจากมีการใหโ้ ปรแกรมแนะนำ� (เพมิ่ จาก 0.30 เปน็ 0.37 เสิรฟ์ /วนั )  การศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกัน พบว่า มีการบริโภค ขนมขบเค้ียวท่ีมีไขมันตํ่าและการจำ�หน่ายผักและผลไม้เพ่ิม ข้ึนอย่างมีนัยสำ�คัญ หลังจากมีการลดราคาของอาหารท่ีมี ไขมันต่าํ  มีเพียงการศึกษาวิจัย 2 การศึกษา ที่ศึกษาความพร้อม ของการควบคุมอาหารท่ีมีผลเสียต่อสุขภาพในโรงเรียน และรายงานข้อจำ�กัด ในการลดการจำ�หน่ายอาหารท่ีห้าม จำ�หน่ายในโรงเรยี น ได้แก่ เครอ่ื งด่มื รสหวานและมนั ฝรัง่ ทอด(1) 2. การศึกษายังไม่มีการประเมินผลกระทบจากการเพิ่มราคา อาหารที่มีผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ  การศกึ ษาของประเทศสหรฐั อเมรกิ นั พบวา่ มกี ารบรโิ ภค ขนมขบเคย้ี วทม่ี ไี ขมนั ตาํ่ และการจำ�หนา่ ยผกั และผลไมเ้ พมิ่ ขนึ้ อยา่ งมนี ยั ส�ำ คัญ หลงั จากมีการลดราคาของอาหารที่มไี ขมันต่ํา 64 น้าํ ตาล สุขภาพ และการจดั การด้านการบริโภคทีเ่ หมาะสม

 การทบทวนงานวจิ ยั อยา่ งเปน็ ระบบ (Systematic review) เก่ียวกับโปรแกรม/โครงการในระดับโรงเรียนตั้งแต่ปี 1990 ถึง 2007 พบว่า การส่งเสริมการบริโภคผกั และผลไม้ มกี ารศึกษาวจิ ยั ท้ังส้ิน 42 การศกึ ษา การศกึ ษาวิจยั จ�ำ นวน 29 การศกึ ษา ศึกษา ในเดก็ อายุ 6-12 ปี และการศึกษาวิจยั 13 การศึกษา ศกึ ษาใน วยั ร่นุ อายุ 13-18 ปี ส�ำ หรบั เด็กอายุ 6-12 ปี มหี ลกั ฐานชดั เจน วา่ การใหโ้ ภชนศกึ ษาอยา่ งเดยี วหรอื การจดั สงิ่ แวดลอ้ มใหผ้ ลตอ่ การปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมนอ้ ยมาก ทไ่ี ดผ้ ลดมี กั เปน็ โปรแกรมทใี่ ชก้ ารบรู ณาการ หลายๆองคป์ ระกอบ (multi-component intervention) นอกจากการ ใหค้ วามรู้ ไดแ้ ก่ การจดั สงิ่ แวดล้อมที่เอ้อื นโยบาย การมีส่วนร่วมของ ผ้ปู กครอง กจิ กรรมต่างๆ เปน็ ต้น ส่วนการศึกษาในวัยรุน่ โปรแกรมที่ ใชก้ ารบรู ณาการหลายๆองคป์ ระกอบไดผ้ ลดา้ นพฤตกิ รรมนอ้ ยกวา่ การ ให้ความรหู้ รอื โภชนศกึ ษา2  Cullen และคณะ ไดศ้ กึ ษาการประเมนิ การเปล่ียนแปลง ในการบริโภคอาหารกลางวันของนักเรียนก่อนและเมื่อมีการดำ�เนิน นโยบายทางด้านโภชนาการในรัฐเท็กซสั ประเทศสหรฐั อเมริกา และ ได้แสดงหลักฐานให้เห็นว่า การดำ�เนินนโยบายด้านโภชนาการ ช่วย เพ่ิมคุณภาพทางโภชนาการของอาหารกลางวันของนกั เรียน นโยบาย ดังกล่าวมีการจำ�กดั ปริมาณไขมนั จากอาหาร และนม จ�ำ กดั สว่ นของ อาหารวา่ งทมี่ ไี ขมนั และนาํ้ ตาลสงู ไมเ่ กนิ 200 กโิ ลแคลอรตี อ่ 1 สว่ นเสริ ฟ์ และจำ�กัดจ�ำ นวนคร้ัง ผลการศกึ ษา พบวา่ การดำ�เนินนโยบายมีความ สัมพันธ์กับการเพ่ิมข้ึนของการบริโภคอาหารกลางวันนักเรียน (ทั้ง พลังงาน, ผลไม,้ ผกั และนม) รวมทง้ั การบรโิ ภคเคร่อื งด่ืมทมี่ รี สหวาน ลดลงอยา่ งมนี ัยสำ�คญั (จาก 5.4 เหลือ1.5 ออนซ)์ เชน่ เดยี วกบั ลกู อม มันฝรั่งทอดและขนมหวานก็ลดลงอย่างมีนัยสำ�คัญ สรุปนโยบายด้าน โภชนาการของรัฐในโรงเรียนสามารถปรับปรุงคุณภาพทางโภชนาการ ของอาหารกลางวนั ใหด้ ขี ึน้ 3,4 น้ําตาล สขุ ภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคทเี่ หมาะสม 65

 ผลการวเิ คราะหล์ า่ สดุ ของขอ้ มลู จากการศกึ ษาของ Cullen และคณะ พบวา่ ผลกระทบของการดำ�เนนิ นโยบายทางดา้ นโภชนาการ ตอ่ พลังงานจากอาหารบริโภค ซง่ึ มคี วามสัมพนั ธก์ บั โรคอว้ นและภาวะ metabolic syndrome นกั เรียนบริโภคอาหารพลังงานสงู ลดลงอย่างมี นัยสำ�คัญ และไดร้ ับสารอาหารท่เี หมาะสมเพ่ิมขึ้นจากอาหารกลางวัน5  งานวจิ ยั เชงิ สาํ รวจในโรงเรยี น ในนกั เรยี นมากกวา่ 5,000 คนในระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ในเมอื งโนวาสโกเชยี (Nova Scotia) ประเทศแคนาดา6 พบว่า นักเรียนศึกษาในโรงเรียนท่ีมีนโยบายด้าน โภชนาการที่ครอบคลุมและปฏิบัติตามข้อแนะนำ�ของ CDC7 (การ ปรับปรงุ อาหารในโรงเรยี น การใหโ้ ภชนศึกษา และการสร้างกองทนุ สุขภาพ ฯลฯ) นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมการบริโภคที่ดกี วา่ เมอื่ เปรียบเทียบ กับโรงเรียนท่ีมีเพียงนโยบายด้านโภชนาการที่ครอบคลุมน้อยกว่าหรือ ไม่มนี โยบาย  การศึกษาในประเทศแคนาดาเปรียบเทียบการบริโภค อาหารของนกั เรยี นกอ่ นและหลงั ด�ำ เนนิ การนโยบายดา้ นโภชนาการของ โรงเรยี นระดบั ประถมศกึ ษา Prince Edward Island พบวา่ แนวโนม้ ใน การบรโิ ภคอาหารทมี่ ผี ลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ (เชน่ นา้ํ อดั ลม, ขนมหรอื ลกู อม) ของนกั เรยี นลดลง 2 เท่า และปฏิบัตติ ามข้อแนะนำ�ของ Canada’s Food Guide ในการบริโภคผัก ผลไม้ และนม การศึกษาครั้งนี้มี ขอ้ จ�ำ กดั โดยขนาดของกลมุ่ ตวั อยา่ งมขี นาดเลก็ เพยี ง 11 โรงเรยี น ซง่ึ ดำ�เนินงานเรมิ่ โครงการปี 2002 มีนกั เรียนจ�ำ นวน 971 คน และ ติดตามผลการดำ�เนนิ งานปี 2007 มีนกั เรยี นเหลอื จ�ำ นวน 555 คน และไม่มกี ลุ่มควบคมุ และเสนอแนะใหข้ ยายผลการศึกษาตลอดจนการ บูรณาการองค์ความรดู้ ้านโภชนาการเข้าในหลักสตู ร8  การสำ�รวจการดำ�เนินการตามข้อแนะนำ�ด้านโภชนาการ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในปี 2010 ของสถาบันการแพทย์ (Institute of Medicine; IOM) เพอ่ื บรบิ าลเดก็ และผูใ้ หญ่ด้านโภชนาการ และคำ�แนะนำ�เกย่ี วกับ 66 นํ้าตาล สุขภาพ และการจดั การด้านการบริโภคทเ่ี หมาะสม

อาหารและอาหารว่าง ทั้งขณะอยู่ในโรงเรียนและหลังเลิกเรียนในรัฐ Minnesota พบวา่ มขี อ้ จำ�กดั ในการเข้าถึงการติดฉลากผลิตภณั ฑแ์ ละ ข้อกำ�หนดในฉลากที่ไม่สอดคล้องกับคำ�แนะนำ� การจำ�กัดการเข้าถึง อาหารท่ีไม่ดีต่อสุขภาพเนื่องจากโรงเรียนต่างๆ มีการทำ�สัญญา การคา้ รว่ มกนั และการขนึ้ ราคาธญั พชื และลดราคาอาหารทม่ี โี ซเดยี มสงู ผวู้ จิ ยั ไดใ้ หข้ อ้ สรปุ วา่ ควรสรา้ งโอกาสในการพฒั นานโยบายของรฐั บาล และภาคอุตสาหกรรมร่วมกันเพื่อสนบั สนนุ โรงเรียนในความพยายามที่ จะสง่ เสริมการมีอาหารว่างที่ดตี ่อสขุ ภาพหลงั เลกิ เรียน หลายรฐั มีการ เสนอใหภ้ าคอตุ สาหกรรมตดิ ฉลากผลติ ภณั ฑท์ ร่ี ะบขุ อ้ มลู ตามขอ้ แนะน�ำ ของ IOM 2010 ตดิ ฉลากอาหารและขอ้ แนะน�ำ มาตรฐานทเ่ี ขา้ ใจงา่ ย9 2. การจ�ำ กดั ความเหมาะสมของเครอื่ งดม่ื รสหวานทมี่ นี า้ํ ตาล ในประถมศกึ ษาและการก�ำ หนดใหโ้ รงเรยี นลดการบรกิ ารเครอ่ื งดม่ื รสหวาน 1) การศึกษาในสหรัฐอเมริกาจาก โรงเรียนมธั ยม 64 แหง่ มีจ�ำ นวนนักเรียนมากกวา่ 9,000 คน ที่เขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ การ บริโภคเคร่ืองด่ืมท่ีมีรสหวานที่เติมนํ้าตาลมีความสัมพันธ์กับการมี เครื่องด่ืมรสหวานบริการในโรงเรียนมัธยม โดยประเมินจากจำ�นวน เครอื่ งจ�ำ หนา่ ยอตั โนมตั แิ ละสถานทจี่ �ำ หนา่ ยในโรงเรยี น และโรงเรยี นท่ี มนี โยบายทเ่ี ขม้ แขง็ การควบคมุ สถานทจี่ �ำ หนา่ ยเครอ่ื งดม่ื รสหวานทเี่ ตมิ นา้ํ ตาล จะเปน็ ตวั ท�ำ นายการบรโิ ภคเครอ่ื งดม่ื ทม่ี รี สหวานของนกั เรยี น การก�ำ หนดและปฏบิ ตั ติ ามนโยบายทเ่ี ออื้ ตอ่ สขุ ภาพ เปน็ ปจั จยั เสรมิ เชงิ บวกต่อการส่งเสรมิ สขุ ภาพและโภชนาการของวยั รุน่ 10 2) การศึกษาจาก 7 โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา Maine Public โดยศึกษาวิจัยแบบก่ึงทดลอง เพ่ือลดเคร่ืองด่ืมที่มีน้ําตาลใน โรงเรียน และเปรียบเทียบการรายงานการบริโภคเครื่องด่ืมรสหวาน น้ําตาล สขุ ภาพ และการจดั การด้านการบริโภคท่ีเหมาะสม 67

ทมี่ นี า้ํ ตาลและเครอ่ื งดมื่ ผสมโซดาทป่ี รงุ เอง ระหวา่ งโรงเรยี นกลมุ่ ทเี่ ขา้ ร่วมโครงการ 4 โรงเรียน (n = 235), และกลมุ่ ควบคุม 3 โรงเรยี น (n = 221) ผลการศกึ ษาพบว่า โรงเรียนที่เข้ารว่ มโครงการ บรโิ ภค เครื่องดื่มรสหวานท่ีมีน้ําตาลลดลงอย่างมีนัยสำ�คัญ เม่ือเทียบกับ โรงเรียนในกลุ่มเปรียบเทียบ เด็กผู้หญิงกลุ่มทดลองมีการบริโภค เคร่ืองด่ืมผสมโซดาลดลงร้อยละ 33 และกลุ่มควบคุมมีการบริโภค เครอื่ งดม่ื ผสมโซดาเพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ 29, เดก็ ผชู้ ายกลมุ่ ทดลองมกี ารดมื่ นม เพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ 13 และกลมุ่ ควบคมุ มกี ารดม่ื นมลดลงรอ้ ยละ 16 ทงั้ นผี้ วู้ จิ ยั ใหข้ อ้ เสนอแนะวา่ ในอนาคตควรใหค้ วามส�ำ คญั กบั การศกึ ษาเครอ่ื งดม่ื รสหวานทม่ี นี ้ําตาลสงู และการตรวจสอบแหลง่ ท่ีมาของเครอื่ งดมื่ 11 3) การศกึ ษาแบบ Cohort ระดบั ประเทศของสหรฐั อเมรกิ า12 ใชก้ ลมุ่ ตวั อยา่ งขนาดใหญเ่ ปน็ นกั เรยี นเกรด 5 จ�ำ นวนทง้ั หมด 10,719 คน โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคเคร่ืองดื่มที่มีรสหวานและ ระดบั ความเหมาะสมของการจดั การเครอ่ื งดมื่ ในโรงเรยี น (ไมม่ เี ครอื่ งดมื่ ทม่ี รี สหวานและเครอ่ื งดม่ื ทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพ เชน่ นาํ้ นา้ํ ผลไมแ้ ละนม) โดยมกี ารสอบถามเดก็ นกั เรยี นเกยี่ วกบั ความถข่ี องการบรโิ ภคเครอ่ื งดม่ื ทม่ี รี สหวานตอ่ วนั ยอ้ นหลงั 1 สปั ดาห์ และ สมั ภาษณผ์ บู้ รหิ ารโรงเรยี น เกย่ี วกบั อาหารและเครอ่ื งดม่ื ทท่ี ม่ี รี สหวานทมี่ ใี นโรงเรยี น ผลการศกึ ษา พบว่า โรงเรียนที่ไม่มีนโยบายด้านโภชนาการและอนุญาตให้จ�ำ หน่าย เครอ่ื งดมื่ รสหวาน รอ้ ยละ 24 ของเดก็ นกั เรยี นมกี ารบรโิ ภคเครอื่ งดม่ื รสหวาน เมอื่ เทยี บกบั รอ้ ยละ 8 ของเดก็ ในโรงเรยี นทไ่ี มม่ กี ารจ�ำ หนา่ ย เครื่องดืม่ ทม่ี ีรสหวาน ซง่ึ มกี ารศกึ ษาทคี่ ล้ายคลึงกนั 13 พบวา่ เด็กใน โรงเรียนที่มีการจำ�กัดเรื่องอาหารว่าง/ขนมว่าง มีการบริโภคผักและ ผลไม้มากกว่าเด็กในโรงเรียนที่ไม่มีการการจำ�กัดเรื่องอาหารว่าง/ ขนมว่าง 68 นํ้าตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม

3. การขน้ึ ราคาอาหารทสี่ ง่ ผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ เพอื่ เพมิ่ ยอดขาย ของอาหารและเครอ่ื งดมื่ เพื่อสุขภาพ 1) แนวความคิดเรื่องการจัดการกับราคาอาหารที่จำ�หน่าย ในโรงเรียนได้รับการแนะนำ�จากงานวิจัยของ French และคณะ ในปี 2001 ซงึ่ แสดงใหเ้ หน็ วา่ กลยทุ ธก์ ารลดราคา และเพม่ิ ผลติ ภณั ฑ์ อาหารไขมนั ตาํ่ จะเพม่ิ ยอดขายของอาหารไขมนั ตาํ่ และสรา้ งทางเลอื ก ด้านอาหารเพ่อื สขุ ภาพแก่นกั เรยี น14 2) การศึกษาใน Southern Mississippi การศึกษาแบบ ก่ึงทดลองในโรงเรยี นกล่มุ ตัวอย่างจำ�นวน 18 โรงเรยี นขนาดเล็กใน ชนบท นกั เรยี นสว่ นใหญเ่ ปน็ ชาวอฟั รกิ นั อเมรกิ นั และชมุ ชนดอ้ ยโอกาส ซึ่งมีการเปล่ียนการขายเคร่ืองดื่มจากเคร่ืองจำ�หน่ายอัตโนมัติ เป็น เครอ่ื งดม่ื ทดี่ กี บั สขุ ภาพมากขน้ึ ไดแ้ กน่ า้ํ ผลไม้ 100% นา้ํ เปลา่ และปรบั ลดราคาอาหารและเครอื่ งดม่ื เพอื่ สขุ ภาพ ลงรอ้ ยละ 10-25 ผลการศกึ ษา พบการเปล่ียนแปลงการบริโภคอาหารและเคร่ืองด่ืมท่ีมีนํ้าตาลลดลง เปน็ การสร้างทางเลอื กดา้ นอาหารเพ่อื สุขภาพแกน่ กั เรยี น15 4. นโยบายทางด้านโภชนาการในการงดจำ�หน่ายอาหารที่มี ผลเสยี ต่อสุขภาพในโรงเรยี น 1) การศกึ ษาในโรงเรยี นมธั ยม 3 โรงเรยี นในสหรฐั อเมรกิ า เพอ่ื สนบั สนนุ วา่ การงดจ�ำ หนา่ ยอาหารทม่ี ผี ลเสยี ตอ่ สขุ ภาพในโรงเรยี น ส่งผลให้นักเรียนได้รับอาหารท่ีมีผลเสียต่อสุขภาพลดลงและไม่พบ การบริโภคชดเชยท่ีบ้าน ผู้วิจัยให้ข้อเสนอแนะว่า นโยบายทางด้าน โภชนาการในการงดจำ�หน่ายอาหารท่ีมีผลเสียต่อสุขภาพในโรงเรียน เปน็ แนวทางในการสง่ เสริมโภชนาการในเด็ก16 2) การศึกษาแบบภาคตัดขวางระดับชาติของสหรัฐอเมริกา ในนักเรียนเกรด 1-12 โรงเรียนภาครัฐ 287 โรงเรียน พบว่า น้าํ ตาล สขุ ภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคที่เหมาะสม 69

เด็กนักเรียนมัธยมจะด่ืมเครื่องด่ืมรสหวานและได้รับพลังงานมากกว่า เด็กประถม และการไม่จำ�หน่ายขนม อาหารว่าง และเครื่องด่ืมที่มี นํ้าตาลในโรงเรียน ช่วยลดการด่ืมเคร่อื งด่มื รสหวานทีเ่ ติมนาํ้ ตาลและ ขนมขบเคีย้ วท่ีมีพลงั งานสูงแต่คุณค่าทางโภชนาการน้อย17 แนวทางการลดการบริโภคเครอ่ื งดม่ื รสหวานทมี่ ีนํา้ ตาล 1. American Heart Association ได้แนะนำ�กลยุทธ์การ บริโภคอาหารส�ำ หรับเด็กทมี่ ีอายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป ใหบ้ ริโภคอาหาร ผักและผลไม้ ธัญพชื อาหารไขมันตํ่า นมและผลติ ภัณฑ์นมท่ีไม่มีไขมัน ถ่ัว ปลาและเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เสนอแนวทางการบริโภคอาหารเพ่ือ สุขภาพของประชาชน โดยการบริโภคทเี่ น้นอาหารไขมันตํ่า หลีกเล่ยี ง อาหารไขมนั อมิ่ ตวั และไขมนั ทรานส์ หลกี เลย่ี งอาหารทมี่ ปี รมิ าณนาํ้ ตาล และเกลอื ในปรมิ าณสงู เชน่ เครอื่ งดมื่ รสหวานที่มีน้าํ ตาล หรือขนม กรุบกรอบท่ีมีโซเดียมสูง รวมทั้งควรมีการออกกำ�ลังกายท่ีเหมาะสม สำ�หรับการควบคุมนา้ํ หนักใหป้ กต1ิ 8 2. Centers for Disease Control and Prevention (CDC)19 คำ�แนะนำ�สำ�หรับกุมารแพทย์เพื่อแนะนำ�เด็กและวัยรุ่น เก่ียวกับการบริโภคเคร่ืองด่ืมให้พลังงานและเคร่ืองด่ืมสำ�หรับนักกีฬา ดังน้ี 1) เคร่ืองดื่มให้พลังงานและเครื่องด่ืมสำ�หรับนักกีฬา สารคาเฟอีนและสารกระตุ้นในเครื่องด่ืมให้พลังงาน จะออกฤทธ์ิกับ จติ ประสาท มีผลเสียต่อสุขภาพไมค่ วรใหเ้ ดก็ และวยั รุ่นบริโภค 2) แนะนำ�ว่า เด็กและวัยรุ่นควรหลีกเลี่ยงเคร่ืองด่ืมให้ พลงั งาน หากดมื่ มากจะทำ�ใหไ้ ดร้ บั พลังงานเกินและเพิ่มความเสย่ี งตอ่ การเกดิ โรคอว้ นหรอื มภี าวะนา้ํ หนกั เกนิ รวมทงั้ มปี ญั หาสขุ ภาพชอ่ งปาก และฟัน CDC ไดใ้ หข้ อ้ แนะนำ�ในการปอ้ งกนั โรคอว้ นสำ�หรบั ประชาชนใน ประเทศสหรฐั อเมรกิ า เกยี่ วกบั การลดการบรโิ ภคเครอื่ งดม่ื รสหวานทมี่ ี ส่วนประกอบของนาํ้ ตาล ดังนี้ 70 นาํ้ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม

1) ควรจัดบริการอาหารและเคร่ืองดื่มเพ่ือสุขภาพในสถานท่ี บริการสาธารณะ รายงานการศึกษาประสิทธิภาพของการบูรณาการ กิจกรรมต่างๆด้านโภชนาการในโรงเรียนเพ่ิมการบริโภคผักและผลไม้ และลดการบรโิ ภคไขมนั อ่ิมตวั และไขมันในเดก็ วัยเรียน20,21 2) การเขา้ ถงึ อาหารทดี่ ตี อ่ สขุ ภาพในสถานทบี่ รกิ ารสาธารณะ เชน่ การมีจ�ำ หนา่ ยในราคาถกู รายงานผลการวิจัยพบว่าการลดราคาของอาหารสุขภาพ ยอดขายเพ่ิมขึ้น22,23 และยอดขายผลไม้และแครอทในโรงอาหารของ โรงเรยี นสงู ขน้ึ หลังจากที่ราคาลดลง24 3) เพม่ิ พน้ื ทใ่ี นซเู ปอรม์ ารเ์ กต็ หรอื เพม่ิ จำ�นวนซเู ปอรม์ ารเ์ กต็ ในท่ีที่ยังไม่เพียงพอในการจำ�หน่ายอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รายงานผล การวิจัยพบว่าการเข้าถึงอาหารท่ีดีต่อสุขภาพมากขึ้นในซูเปอร์มาร์เก็ต มคี วามสมั พนั ธ์กับพฤติกรรมการบรโิ ภคที่ดเี พิ่มขนึ้ 25 4) สร้างแรงจูงใจให้ร้านค้าปลีกด้านอาหาร จำ�หน่าย อาหารและเครื่องด่ืมเพ่ือสุขภาพในพื้นท่ีชุมชน การศึกษาพบว่าการมี สถานที่จำ�หนา่ ยอาหารและเครื่องดม่ื เพ่ือสุขภาพเพิม่ ข้นึ สง่ ผลตอ่ การ เลอื กเครอ่ื งดมื่ ทด่ี ตี อ่ สขุ ภาพเพมิ่ ขนึ้ การบรโิ ภคผกั และผลไมเ้ พม่ิ ขน้ึ และ ภาวะโภชนาการเกินลดลง26 5) จ�ำ กดั ขนาด (Portion size) ของอาหารและเครอื่ งดม่ื ทมี่ ี ผลเสียต่อสุขภาพในสถานที่บริการสาธารณะ การศึกษาพบว่าการ ลดขนาดบรรจุภัณฑ์ของอาหารและเคร่ืองดื่มจะลดปริมาณพลังงานท่ี ไดร้ บั 27,28 6) จำ�กัดการโฆษณาของอาหารและเครื่องด่ืมที่มีผลเสียต่อ สขุ ภาพ รายงานผลการหา้ มโฆษณาอาหารจานดว่ นในเดก็ ทางรายการ โทรทศั นส์ ามารถลดอตั ราโรคอว้ นในเดก็ อายุ 3-11 ปไี ดร้ อ้ ยละ 18% และจำ�นวนของวยั รุ่นอายุ 12-18 ปไี ด้ร้อยละ 14%29 น้ําตาล สุขภาพ และการจัดการด้านการบริโภคท่ีเหมาะสม 71

7) สร้างความรู้ความตระหนักด้านโภชนาการและไม่ สนบั สนนุ เครอื่ งดม่ื รสหวานทม่ี นี ํ้าตาล รายงานการศกึ ษาระยะยาวพบ วา่ การสรา้ งความรคู้ วามตระหนกั ดา้ นโภชนาการท�ำ ใหก้ ารดมื่ เครอื่ งดม่ื รสหวานทม่ี ีนา้ํ ตาลลดลงอยา่ งต่อเน่ือง30 CDC ได้เสนอกลยุทธ์ลดการบริโภคเครื่องดื่มรสหวานที่มี นํ้าตาล โดยนำ�ประประยุกตใ์ ชก้ บั ชมุ ชน โรงเรียน สถานประกอบการ และหนว่ ยงานด้านการแพทย์ ประกอบดว้ ย 7 กลยุทธ3์ 1 คอื 1. จัดการให้เกิดการเข้าถึงการเคร่ืองดื่มท่ีเหมาะสมและ นํ้าดื่มที่สะอาด 2. จ�ำ กัดการเข้าถึงเครือ่ งด่ืมรสหวานทเ่ี ตมิ นา้ํ ตาล 3. ส่งเสริมการบริโภคและเข้าถึงเครื่องด่ืมทางเลือกเพื่อ สขุ ภาพ เช่น น้าํ นมพร่องมันเนย นมไขมันต่าํ หรอื นา้ํ ผลไม้ 100% เปน็ ตน้ 4. มีการควบคุมการตลาดเก่ียวกับเคร่ืองด่ืมรสหวานท่ีเติม น้ําตาล และลดการตลาดเคร่ืองดื่มรสหวานที่เติมนํ้าตาลที่จะส่ง ผลกระทบตอ่ เดก็ 5. มีการลดราคาเคร่ืองดื่มทางเลือกเพ่ือสุขภาพให้มากกว่า เคร่ืองดืม่ รสหวานทเี่ ตมิ นํา้ ตาล 6. มกี ารคดั กรองและใหค้ ำ�ปรกึ ษาเกยี่ วกบั การบรโิ ภคเครอ่ื ง ดื่มรสหวานที่มีส่วนประกอบของน้ําตาล โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของงาน ดา้ นการแพทย์ 7. เสรมิ ทกั ษะและความรแู้ กผ่ ใู้ หบ้ รกิ ารดา้ นการแพทยใ์ นการ ควบคุมด้านเครอื่ งดม่ื รสหวานท่ีมีสว่ นประกอบของน้ําตาล 3. American Academy of Pediatrics ได้เสนอคำ�แนะนำ�สำ�หรับกุมารแพทย์เกี่ยวกับการบริโภค เคร่ืองดื่มให้พลังงานและเครื่องด่ืมสำ�หรับนักกีฬา ในเด็กและวัยรุ่น32 ดังนี้ 72 นํา้ ตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเี่ หมาะสม

1. เคร่ืองดื่มให้พลังงานและเครื่องด่ืมสำ�หรับนักกีฬา สารคาเฟอีนและสารกระตุ้นในเคร่ืองดื่มให้พลังงาน ออกฤทธ์ิกับ จติ ประสาท มีผลเสียต่อสุขภาพไมค่ วรใหเ้ ดก็ และวยั รนุ่ บรโิ ภค 2. แนะนำ�ว่า เด็กและวัยรุ่นควรหลีกเล่ียงเครื่องด่ืมให้ พลังงาน หากดมื่ จะทำ�ให้ไดร้ บั พลังงานเกินและเพิม่ ความเส่ียงตอ่ การ เกิดโรคอ้วนหรือมีภาวะนํ้าหนักเกิน รวมทั้งมีปัญหาสุขภาพช่องปาก และฟัน 4. Institute of Medicine of the National Academies มีการวางแผนการปฏิบัติงานการป้องกันโรคอ้วนในเด็กใน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ด้านการบริโภคเพื่อสุขภาพในประเทศ สหรัฐอเมรกิ า ประเดน็ การแนะน�ำ ใหล้ ดการบรโิ ภคเครื่องด่ืมรสหวาน ท่ีเติมนํ้าตาล และเพิ่มจุดบริการน้ําดื่มฟรีและปลอดภัยในท่ีสาธารณะ เพอื่ สง่ เสรมิ การดม่ื นาํ้ แทนการบรโิ ภคเครอื่ งดมื่ รสหวานทเี่ ตมิ นา้ํ ตาล33 ขอ้ เสนอแนะจากการตดิ ตามความคบื หนา้ ในการแกไ้ ขปญั หา โรคอ้วนระดับชาต3ิ 4 ในประเด็นลดการบริโภคเคร่ืองด่ืมท่ีเติมนํ้าตาล จะอยู่ในส่วนของการผลิตอาหารเพ่ือสุขภาพที่เหมาะสมกับทุกสถานที่ มงุ่ เน้นการสรา้ งส่ิงแวดลอ้ มของอาหารและเคร่ืองด่ืมเพ่ือสุขภาพ โดย ให้รัฐบาลและผู้ที่เก่ียวข้องมีการปรับใช้นโยบายและดำ�เนินการปฏิบัติ เพ่ือลดการบริโภคของเครื่องดื่มรสหวานที่เติมนํ้าตาลในปริมาณที่มาก เกนิ ความจำ�เป็น 5. National Association of County and City Health Officials (NACCHO)35 มีการแถลงการณน์ โยบายที่ครอบคลมุ การป้องกนั โรคอ้วน โดย แนะนำ�แก่ชุมชนท้องถิ่นเก่ียวกับการลดการบริโภคเคร่ืองด่ืมรสหวาน ท่ีเติมน้ําตาล จัดสถานท่ีพักผ่อนหย่อนใจและเพ่ิมจุดบริการน้ําดื่มฟรี นา้ํ ตาล สขุ ภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคทีเ่ หมาะสม 73

ที่ปลอดภัยในท่ีสาธารณะ เพ่ือส่งเสริมให้บริโภคนํ้าแทนเครื่องดื่มที่มี รสหวานทีม่ เี ตมิ นา้ํ ตาล 6. USDA Dietary Guidelines for Americans 2010 ในปี 2010 องค์กร US Department of Agriculture (USDA) และองคก์ ร US Department of Health and Human Services (HHS) ไดร้ ว่ มมอื กันก่อตัง้ Dietary Guidelines Advisory Committee (DGAC) เป็นคณะกรรมการร่วมให้คำ�ปรึกษาและการ ปรับปรุงแก้ไขคำ�แนะนำ�เกี่ยวกับการบริโภคอาหาร ได้แนะนำ�การลด การบริโภคเคร่อื งดืม่ รสหวานทเ่ี ติมนํ้าตาล สรุป การศึกษาวิจัยเพ่ือประเมินผลโครงการเก่ียวกับด้านอาหารและ โภชนาการในโรงเรียน แสดงให้เห็นว่าหากมีการดำ�เนินการอย่าง จริงจัง ก็จะส่งผลต่อพฤติกรรมและสุขภาพของเด็ก อย่างไรก็ตาม การศกึ ษาวจิ ยั ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ผลในระยะยาวยงั มอี ยนู่ อ้ ย สว่ นใหญอ่ งคก์ ร ต่างๆมักออกเป็นคำ�แนะนำ�หรือแนวปฏิบัติให้แก่โรงเรียนเป็นหลัก ซง่ึ มที งั้ ดา้ นการควบคมุ เครอ่ื งดม่ื ทม่ี นี าํ้ ตาล การควบคมุ ดา้ นการตลาด มาตรการด้านราคา และการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่นักเรียนและ คนทเ่ี กี่ยวขอ้ ง เอกสารอา้ งองิ 1. Jaime PC, Lock K. Do school based food and nutri- tion policies improve diet and reduce obesity? Prev Med 2009; 48:45-53. 74 นํ้าตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเี่ หมาะสม

2. Van Cauwenberghe E, Maes L, Spittaels H, van Lenthe FJ, Brug J, Oppert JM, De Bourdeaudhuij I. Effective- ness of school-based interventions in Europe to promote healthy nutrition in children and adolescents: systematic review of published and ‘grey’ literature. Br J Nutr 2010; 103:781-97. 3. Cullen KW, Watson KB. The impact of the Texas Public School Nutrition Policy on student food selection and sales in Texas. Am J Public Health 2009; 99:706-712. 4. Cullen KW, Watson K, Zakeri I. Improvements in middle school student dietary intake after implementation of the Texas Public School Nutrition Policy. Am J Public Health 2008; 98: 111-117. 5. Mendoza JA, Watson K, Cullen KW. Change in dietary energy density after implementation of the Texas Public School Nutrition Policy. J Am Diet Assoc 2010; 110:434- 440. 6. Centers for Disease Control and Prevention. Guidelines for school health programs to promote life-long healthy eating. MMWR Recomm Rep 1996; 45(RR-9):141. 7. Veugelers PJ, Fitzgerald AL. Effectiveness of school programs in preventing childhood obesity. Am J Public Health 2005; 95:432-435. 8. Mullally M, Taylor J, Kuhle S, Bryanton J, Hernandez K, McKenna M, Gray B, Veugelers P. A Province-Wide School Nutrition Policy and Food Consumption in El- นํา้ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม 75

ementary School Children on Prince Edward Island. Can J Public Health 2010;101:41-43. 9. Nanney MS, Glatt C. Exploring implementation of the 2010 Institute of Medicine’s Child and Adult Food Care Program recommendations for after-school snacks. Public Health Nutr 2011; 4:1-7. 10. Johnson DB, Bruemmer B, Lund AE, Evens CC, Mar CM. Impact of school district sugar-sweetened beverage policies in student beverage exposure and consumption in middle schools. J Adol Health 2009; 45:S30-S37. 11. Whatley Blum JE, Davee AM, Beaudoin CM, Jenkins PL, Kaley LA, Wigand DA. Reduced availability of sugar- sweetened beverages and diet soda has a limited impact on beverage consumption patterns in Maine high school youth. J Nutr Educ Behav 2008; 40:341-347. 12. Jones SJ, Gonzalez W, Frongillo EA. Policies that restrict sweetened beverage availability may reduce consump- tion in elementary-school children. Public Health Nutr 2010;13:589-95. Epub 2009 Oct 28. 13. Gonzalez W, Jones S, Frongillo E. Restricting snacks in U.S. elementary schools is associated with higher frequency of fruit and vegetable consumption. J Nutr 2009; 139:142-144. 14. French SA, Jeffrey RW, Story M, Breitlow KK, Baxter JS Hannan P, Snyder MP. Pricing and promotion effects on low-fat vending snack purchases: the CHIPS study. Am J Public Health 2001; 91:112-117. 76 นาํ้ ตาล สุขภาพ และการจัดการด้านการบริโภคท่เี หมาะสม

15. Brown DM, Tammineni SK. Managing sales of beverages in schools to preserve profits and improve children’s nutrition intake in 15 Mississippi schools. J Am Diet Assoc 2009 ; 109: 2036-42. 16. Schwartz MB, Novak SA, Fiore SS. The impact of remov- ing snacks of low nutritional value from middle schools. Health Educ Behav 2009;36:999-1011. 17. Briefel RR, Crepinsek MK, Cabili C, Wilson A, Gleason PM. School food environments and practices affect di- etary behaviors of US public school children. J Am Diet Assoc. 2009;109;S91-S107. 18. Dietary Recommendations for Children and Adolescents: A Guide for Practitioners. Pediatrics 2006; 117:544-559. 19. Keener D, Goodman K, Lowry A, Zaro S, & Kettel KL. Morbidity and Mortality Weekly Report: Recommended Community Strategies and Measurements to Prevent Obes- ity in the United States. Atlanta, GA: U.S. Department of Health and Human Services, Centers for Disease Control and Prevention; 2009. 20. Brownson RC, Haire-Joshu D, Luke DA. Shaping the context of health: a review of environmental and policy approaches in the prevention of chronic diseases. Annu Rev Public Health 2006;27:341--70. 21. CDC. The guide to community preventive services: what works to promote health? New York, NY: Oxford Uni- versity Press; 2005. น้าํ ตาล สขุ ภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม 77

22. French SA, Story M, Jeffery RW. Environmental influ- ences on eating and physical activity. Annu Rev Public Health 2001;22:309--35. 23. Seymour JD, Yaroch AL, Serdula M, et al. Impact of nutrition environmental interventions on point-of-purchase behavior in adults: a review. Prev Med 2004;39(Suppl 2):S108--36. 24. French SA, Story M, Jeffery RW, et al. Pricing strategy to promote fruit and vegetable purchase in high school cafeterias. J Am Diet Assoc 1997;97:1008--10. 25. Larson NI, Story MT, Nelson MC. Neighborhood environ- ments: disparities in access to healthy foods in the U.S. Am J Prev Med 2008;36:74--81. 26. Zenk SN, Schulz AJ, Hollis-Neely T, et al. Fruit and vegetable intake in African Americans’ income and store characteristics. Am J Prev Med 2005;29:1--9. 27. Kral TV, Rolls BJ. Energy density and portion size: their independent and combined effects on energy intake. Physiol Behav 2004; 82:131--8. 28. Rolls BJ, Roe LS, Meengs JS. Reductions in portion size and energy density of foods are additive and lead to sustained decreases in energy intake. Am J Clin Nutr 2006; 83:11--7. 29. Ritenbaugh C, Teufel-Shone NI, Aickin MG, et al. A life- style intervention improves plasma insulin levels among Native American high school youth. Prev Med 2003; 36:309--19. 78 น้ําตาล สุขภาพ และการจดั การด้านการบริโภคทเี่ หมาะสม

30. Shin-Yi C, Inas R, Michael G. Fast-food restaurant ad- vertising on television and its influence on childhood obesity. J Law Econ 2008;51: 599 - 618. 31. Centers for Disease Control. The CDC Guide to Strate- gies for Reducing the Consumption of Sugar-Sweetened Beverages; March 2010. 32. Dietary Recommendations for Children and Adolescents: A Guide for Practitioners. Pediatrics 2006; 117:544-559. 33. Institute of Medicine of the National Academies. Local Government Actions to Prevent Childhood Obesity. Report Brief; 2009. 34. Institute of Medicine of the National Academies. Ac- celerating Progress in Obesity Prevention: Solving the Weight of the Nation (Recommendations). 2012. [cited July5,2012]; Available from: (http://www.iom.edu/~/ media/Files/Report%20Files/2012/APOP/APOP_insert.pdf) 35. National Association of County and City Health Officials. Position Statement: Nutrition, Physical Activity and Obes- ity. January 2010. [ cited July5,2012]; Available from: (http://www.naccho.org/advocacy/positions/upload/10-01- Obesity-Prevention-Policy-Statement.pdf) นา้ํ ตาล สุขภาพ และการจัดการด้านการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม 79

80 นา้ํ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม

แนวทางการควบคุมและจำ�กัดการ บรโิ ภคอาหารหวานและเครอ่ื งดม่ื ผสม นํ้าตาลโดยจำ�แนกตามแหล่งผลิต ดร.เนตรนภสิ วัฒนสุชาต*ิ ปจั จบุ ันคนไทยบรโิ ภคนํา้ ตาลมากขึน้ จากผลติ ภัณฑอ์ าหาร ขนม และเครอ่ื งดมื่ ตา่ งๆ ถงึ วนั ละ 99 กรมั หรอื 25 ชอ้ นชาตอ่ คน (ภาพที่ 1) สงู กวา่ ปรมิ าณทอ่ี งคก์ ารอนามยั โลก (WHO, World Health Organization, 2003) ได้กำ�หนดไว้ว่าไม่ควรบริโภคนํ้าตาลท่ีใช้เป็นส่วนผสม ปรุง หรือเติมลงในอาหาร (added sugars) เกนิ วนั ละ 50 กรัม หรอื 12 ชอ้ นชา ถา้ คดิ เปน็ นาํ้ ตาลทผ่ี สมอยใู่ นอาหารหรอื ผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู ตา่ งๆ 6 ชอ้ นชา ดงั นนั้ ปรมิ าณนา้ํ ตาลทเ่ี ตมิ (table sugars) ในอาหาร เชน่ กว๋ ยเตีย๋ ว หรอื เครือ่ งดื่มชากาแฟ จึงไม่ควรเกินวนั ละ 6 ชอ้ นชา ทั้งนี้ไม่รวมถึงนํ้าตาลในธรรมชาติจากผักและผลไม้ ซ่ึงพลังงานท่ีได้ รับจากการบริโภคน้ําตาลท่ีมากเกินไปจะมีผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก มีรายงานวิจัยหลายเรื่องได้แสดงถึงความสัมพันธ์การบริโภคน้ําตาล เกินความต้องการของร่างกายต่อการเกิดเป็นโรคอ้วน โดยเฉพาะ นา้ํ ตาลฟรกั โทสทสี่ ง่ ผลตอ่ การการสรา้ งและสะสมไขมนั (triglycerides) ในรา่ งกายได้มากกว่านา้ํ ตาลชนิดอน่ื ๆ ท�ำ ให้ไขมนั และคอเลสเตอรอล สงู ในเลอื ด และเกิดเปน็ โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ *สถาบนั ค้นควา้ และพัฒนาผลติ ภณั ฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 81 นํา้ ตาล สุขภาพ และการจดั การด้านการบรโิ ภคที่เหมาะสม

ปัญหาการบริโภคน้ําตาลที่ไม่สมดุลซึ่งเกินความต้องการของ ร่างกาย จนส่งผลต่อการเกิดภาวะโภชนาการเกิน (overnutrition) กลายเป็นโรคอ้วน เพิ่มความเส่ียงต่อโรคทางอายุรกรรมต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน หลอดเลือดอดุ ตนั ไขมนั และคอเลสเตอรอลในเลือดสงู โรคหวั ใจ รวมทัง้ โรคมะเรง็ เปน็ ตน้ ซง่ึ มอี ตั ราการตายเพ่มิ ขน้ึ ทกุ ปี ทั้งในเขตสังคมเมืองทุกชุมชนและเขตชนบท จึงเป็นเรื่องส�ำ คัญมากที่ ควรป้องกันหรือหยุดการบริโภคนํ้าตาลจากอาหารและเครื่องด่ืมต่างๆ ทใ่ี หพ้ ลงั งานสว่ นเกนิ กบั รา่ งกายนน้ั มสี าเหตสุ ว่ นหนง่ึ มาจากประชาชน ส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในการเลือกบริโภคอาหารท่ีมีคุณค่าทาง โภชนาการตอ่ สขุ ภาพรา่ งกาย ประกอบกบั การโฆษณาสง่ เสรมิ การขาย กันอย่างมาก จึงมีอิทธิพลอย่างสูงต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การบริโภคขนมและเคร่ืองดื่มผสมน้ําตาลของเด็กไทยที่มากเกินพอดี การตา้ นทานกระแสการแขง่ ขนั กนั ทางการตลาดของบรษิ ทั ผลติ อาหาร และเครื่องด่มื ต่างๆ ทพ่ี ยายามใช้กลยุทธท์ ุกวธิ ีการเพ่ือแย่งชงิ ลูกค้าให้ ซ้อื ผลิตภณั ฑท์ ่ีวางตลาดใหมน่ น้ั ทำ�ได้ยากมาก ตอ้ งอาศยั ความรว่ มมอื จากทุกภาคส่วนที่มีแนวคิดสอดคล้องกันในการวางมาตราควบคุมหรือ จำ�กัดการบริโภคน้ําตาลให้ลดลงอย่างได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพ่ือเด็ก ไทยมสี ขุ ภาพดี เจรญิ เตบิ โตเปน็ ผใู้ หญท่ ม่ี คี ณุ ภาพตอ่ ประเทศในอนาคต แนวทางการควบคุมและจำ�กัดการบริโภคอาหารหวานและเครื่อง ดม่ื ผสมน้ําตาล การควบคุมและจำ�กัดการบริโภคอาหารหวานและเครื่องดื่ม ผสมนํ้าตาล โดยมีนโยบายหรอื มาตรการทีช่ ่วยสนับสนนุ ให้ประชาชน สามารถลดการบริโภคนํ้าตาลลงได้น้ัน เป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติและควร ให้ความสำ�คัญกับอาหารและเคร่ืองด่ืมที่มีแหล่งการผลิตแตกต่างกัน ในแตล่ ะระดับ เช่น อาหารทั่วไป (Primary products) ผลติ ภัณฑ์ 82 นา้ํ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคท่ีเหมาะสม

ชมุ ชน (Community products) ผลติ ภณั ฑ์อุตสาหกรรม (Industrial products) เปน็ ตน้ เพอ่ื ใหไ้ ดป้ ระสทิ ธผิ ลจากมาตรการการควบคมุ ตาม บริบทของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน ตลอดจนการมีส่วนร่วมของ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีกลไกหรือระบบที่ชัดเจนในการดำ�เนินงานจะ สง่ ผลใหส้ ามารถดำ�เนนิ การแบบบูรณาการได้ อาหารทัว่ ไป (Primary products) กลุ่มน้ีครอบคลุมอาหารและเคร่ืองดื่มท่ีจำ�หน่ายทั่วไปท่ี ผูบ้ ริโภคมกั ซื้อรบั ประทานในชวี ติ ประจ�ำ วนั แบง่ เปน็ 2 ลักษณะ คือ 1. สว่ นผสมนา้ํ ตาลและสารใหค้ วามหวานแทนนา้ํ ตาลสำ�หรบั เป็นวัตถุดบิ ในอาหารและเครื่องดื่ม นา้ํ ตาลทใี่ ช้กบั อาหารมหี ลายชนิด ไดแ้ ก่ นาํ้ ตาลทรายหรอื นาํ้ ตาลซโู ครส (sucrose or table sugar) นาํ้ ตาลสรี ำ� นาํ้ ตาลมะพรา้ ว นาํ้ ตาลดบิ นา้ํ ตาลฟรกั โทส (fructose) ซงึ่ พบมากในผลไมร้ สหวานและ น้ําผึ้ง นาํ้ ตาลแลกโทส (lactose) ที่พบในนม รวมถึงนา้ํ เชือ่ มฟรักโทส คอรน์ ไซรปั ไฮฟรคุ โทสคอรน์ ไซรปั (นา้ํ ตาลสงั เคราะหจ์ ากแปง้ ขา้ วโพด หรือแป้งมันสำ�ปะหลัง) นอกจากนี้ยังมีน้ําตาลกลูโคสหรือเดกซ์โทรส (glucose or dextrose) คอรน์ สวที แทนเนอร์ อนิ เวอรส์ ซูก้า มอลโทส มอลดไ์ ซรบั และโมแลส เปน็ ตน้ นาํ้ ตาลเหลา่ นม้ี กั ใชใ้ นกระบวนการผลติ อาหารในเชงิ อตุ สาหกรรม การเตรยี มอาหารทวั่ ไปปรงุ จ�ำ หนา่ ย รวมถงึ นํา้ ตาลท่เี ติมลงในชา กาแฟ หรอื ใชเ้ ตมิ แต่งรสชาตอิ าหาร เปน็ ต้น สารให้ความหวานแทนน้ําตาล หมายถึงกลุ่มของสารท่ีมี รสหวานสามารถใชป้ รงุ อาหารแทนนาํ้ ตาลได้ จดั เปน็ สารเจอื ปนอาหาร (food additives) ในหมวดอาหารควบคุมเฉพาะตามพระราชบัญญัติ อาหารปี พ.ศ. 2522 แบ่งเป็นสองกลุ่ม คอื กลุ่มที่สงั เคราะห์ขนึ้ มา เช่น saccharin, aspartame, sucralose, neotame และ acesulfame นํ้าตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบริโภคท่เี หมาะสม 83

potassium กับกลุ่มท่ีเป็นสารธรรมชาติ เช่น หญ้าหวาน (stevia), sorbitol, xylitol และ erythritol เป็นต้น สารใหค้ วามหวานส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มท่ีสังเคราะห์จะมีความหวานสูงกว่าน้ําตาลเป็นร้อยเท่า ดงั นนั้ ปรมิ าณการใช้จึงน้อยมากจนไมใ่ ห้พลงั งานแก่รา่ งกาย 2. อ า ห า ร แ ล ะ เ ค ร่ื อ ง ดื่ ม ที่ เ ต รี ย ม เ อ ง แ ล ะ จำ � ห น่ า ย ต า ม ร้านฟาสต์ฟูด ร้านอาหารทัว่ ไป แผงลอย หาบเร่และจุดจ�ำ หน่าย ตา่ งๆ เน่ืองจากวิถีชีวิตคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ต้อง ทำ�งานแข่งกับเวลาจนไม่มีเวลาในการประกอบอาหารให้กับตนเอง และครอบครัว จึงจำ�เป็นต้องพ่ึงพาอาหารนอกบ้านมากขึ้นโดยเฉพาะ คนในเขตเมอื ง จากการส�ำ รวจพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของคนไทย พบวา่ มากกว่า รอ้ ยละ 30 จะซื้ออาหารนอกบา้ นรับประทานท้งั 3 ม้อื โดย เฉพาะกลุ่มทีท่ �ำ งานหรอื ใช้ชีวติ นอกบา้ นและอาศัยในเขตเทศบาล เชน่ ขา้ ราชการ นกั เรียน นิสิต-นกั ศึกษา พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ และลกู จ้าง ทว่ั ไป และ มากกวา่ รอ้ ยละ 70 จะซอ้ื อาหารมือ้ กลางวนั รบั ประทาน ส่วนชนิดอาหารที่รับประทานบ่อยในแต่ละวันประกอบด้วย ข้าวและ กับข้าว ร้อยละ 88 อาหารจานเดียว/อาหารตามส่งั รอ้ ยละ 45 และ ก๋วยเตย๋ี ว รอ้ ยละ 31 ของประชากรท้งั หมดทสี่ �ำ รวจ ส่วนพฤติกรรม การปรงุ รสชาตขิ องอาหารพบวา่ คนสว่ นใหญน่ ยิ มเตมิ เครอื่ งปรงุ รสเปน็ นิสยั มากถึงร้อยละ 88 84 น้ําตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคที่เหมาะสม

แนวทางการควบคมุ เพอ่ื ลดการบรโิ ภคนา้ํ ตาลจากอาหารและเครอื่ ง ดม่ื ท่จี ำ�หนา่ ยตามรา้ นฟาสตฟ์ ดู รา้ นอาหารทัว่ ไป แผงลอย หาบเร่ และจุดจำ�หนา่ ยตา่ งๆ โดยแบ่งตามระดับหน่วยงานท่ีมีศักยภาพในการออกมาตรการ ควบคุมดูแล สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และการจัดกิจกรรม รณรงค์การสรา้ งความรว่ มมอื ในเรื่องต่างๆ ดงั นี้ มาตรการระดบั โรงเรยี น 1. จัดกิจกรรมการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องอาหารและ โภชนาการทด่ี ตี อ่ สขุ ภาพระหวา่ งครู นกั เรยี นและผปู้ กครอง ผปู้ ระกอบ การร้านค้าอาหารภายในโรงเรยี นและรอบๆ โรงเรยี น 1.1 สอื่ สารขอ้ มลู เกย่ี วกบั การบรโิ ภคนา้ํ ตาลทม่ี ากเกนิ ความ ต้องการของร่างกายแล้วจะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต ทำ�ให้การเสยี คา่ ใช้จา่ ยจ�ำ นวนมากในการรักษาพยาบาล 1.2 แนะนำ�เมนูอาหารและเครื่องดื่มทางเลือกเพ่ือสุขภาพที่ ใชน้ ํ้าตาลน้อย 1.3 จดั เวทแี ขง่ การประกอบอาหารหรอื เครอื่ งดม่ื หวานนอ้ ย ระหว่าง ครู นกั เรียนและผู้ปกครอง 1.4 จดั ท�ำ หลกั สตู รการเรยี นการสอนทมี่ เี นอ้ื หาเกยี่ วขอ้ งกบั อาหารและโภชนาการ การอา่ นฉลาก ควรรแู้ ละเขา้ ใจขอ้ มลู โภชนาการ และ ฉลากแบบ front of pack หรอื GDA เปน็ ตน้ 2. ปรับปรุงสภาวะแวดล้อมในโรงเรียนให้เอื้อต่อการลด พฤติกรรมการบรโิ ภคนํา้ ตาล เชน่ 2.1 กำ�หนดรายการอาหารกลางวันที่ดีต่อสุขภาพไม่ใส่ น้าํ ตาล และอาหารว่างหวานนอ้ ย (หรือจัดเป็นผลไม้) บริการใหก้ บั นักเรียน นํ้าตาล สุขภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม 85

2.2 ให้ร้านค้าจำ�หน่ายอาหารและเคร่ืองด่ืมตามนโยบาย รณรงค์ลดบริโภคนํ้าตาลเพื่อสุขภาพท่ีดีของโรงเรียน และเน้นการ จ�ำ หน่ายผลไม้ตามฤดูกาลแทนอาหารว่างรสหวาน ประเภทตา่ งๆ 2.3 ห้ามจำ�หน่ายเครื่องด่ืมผสมน้ําตาลทุกชนิดในโรงเรียน หรอื จำ�กดั ปริมาณนํ้าตาลที่ใชไ้ ม่ควรเกนิ ร้อยละ 5 2.4 จดั หานา้ํ ดม่ื สะอาดบรกิ ารใหฟ้ รี ในจดุ ตา่ งๆ ทเ่ี หน็ ไดง้ า่ ย 2.5 ก�ำ หนดวนั ปลอดน้ําตาล หรอื free sugar day 1 วนั ตอ่ สปั ดาห์ 3. จัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เช่น มีการออกกำ�ลังกายท่ี เหมาะสมเปน็ ประจำ� มาตรการระดบั ชมุ ชน 1. ผู้นำ�ชุมชนจัดกิจกรรมการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องอาหาร และโภชนาการท่ีดีต่อสุขภาพแก่เจ้าของร้านอาหาร แผงลอย หาบเร่ และจดุ จ�ำ หนา่ ยต่างๆ ภายในชมุ ชน 1.1 สอ่ื สารขอ้ มลู เกย่ี วกบั การบรโิ ภคนา้ํ ตาลทม่ี ากเกนิ ความ ต้องการของร่างกายแล้วจะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ท่ีมีผลต่อคุณภาพชีวิต ทำ�ใหก้ ารเสียค่าใช้จา่ ยจำ�นวนมากในการรกั ษาพยาบาล 1.2 แนะนำ�เมนูอาหารและเคร่ืองดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพท่ี ใชน้ ้าํ ตาลนอ้ ย 2. สรา้ งเครอื ขา่ ยรา้ นคา้ จ�ำ หนา่ ยอาหารและเครอื่ งดม่ื นาํ้ ตาลนอ้ ย ทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพ ตามนโยบายรณรงคล์ ดบรโิ ภคนาํ้ ตาลเพอ่ื สขุ ภาพ ท่ีดีของชุมชน และจัดกิจกรรมมอบใบประกาศรับรองคุณภาพอาหาร ดา้ นโภชนาการ 3. บรกิ ารอาหารและเครอ่ื งดมื่ นา้ํ ตาลนอ้ ยทางเลอื กเพอื่ สขุ ภาพ ในเทศกาลงานบุญตา่ งๆ ของชุมชน 86 น้ําตาล สขุ ภาพ และการจดั การดา้ นการบริโภคทเ่ี หมาะสม

4. จัดหานํ้าดื่มสะอาดบริการให้ฟรี เช่นวัด สวนสาธารณะ สถานทรี่ าชการต่างๆ ภายในชมุ ชน 5. หา้ มจ�ำ หนา่ ยเครอ่ื งดมื่ ผสมนาํ้ ตาลทกุ ชนดิ ในสถานทรี่ าชการ หรือจ�ำ กัดปริมาณนํา้ ตาลทใี่ ช้ไม่ควรเกนิ รอ้ ยละ 5 6. จัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เช่นมีการออกกำ�ลังกายที่ เหมาะสมเป็นประจำ� ภายในชมุ ชน มาตรการภาครัฐ 1. สง่ เสรมิ ค่านิยมในการรับประทานอาหารและเครื่องด่ืมทไ่ี ม่ เตมิ นา้ํ ตาล เชน่ เครอ่ื งดม่ื ชากาแฟ กว๋ ยเตย๋ี ว และผลไมต้ ดั แตง่ เปน็ ตน้ 2. ก�ำ หนดตามรา้ นฟาสตฟ์ ดู แสดงขอ้ มลู โภชนาการของอาหาร และเครอื่ งดมื่ ทจ่ี �ำ หนา่ ย ณ จดุ ขายพรอ้ มมบี รกิ ารอาหารและเครอ่ื งดมื่ ทางเลือกเพอ่ื สขุ ภาพจำ�หนา่ ยอย่างน้อย 1 อย่าง 3. สง่ เสรมิ ใหม้ กี ารจดั อาหารวา่ งเพอ่ื สขุ ภาพ (Healthy snacks) ทกุ ครงั้ ทมี่ กี ารจดั ประชุม อบรม สมั มนา งานบุญ งานประเพณี และ กจิ กรรมชุมชน 4. สนับสนุนให้ปรับปรุงข้อกำ�หนดแนวทางในการบริโภค อาหารส�ำ หรับคนไทย โดยเพ่ิมเตมิ ข้อความว่า “ไม่ควรจดั เครื่องดม่ื หรือนมผสมนํา้ ตาลใดๆให้กบั เด็กเลก็ ทัง้ ทบ่ี า้ นและศนู ยเ์ ลี้ยงเด็ก” 5. สนบั สนนุ ผปู้ กครองทมี่ รี ายไดต้ า่ํ หรอื ฐานะยากจน สามารถ จัดหาอาหารและเครื่องด่ืมท่ีดีต่อสุขภาพหวานน้อยในราคาถูกให้กับ ลกู หลานในครอบครัวได้ 6. ส่งเสริม สนับสนุน สร้างค่านิยมการบริโภคอาหารท่ีมี วัตถดุ บิ ประเภทปลา พชื ผัก ผลไมไ้ ทย รวมถงึ สมนุ ไพรท้องถ่ินเปน็ องค์ประกอบหลัก และส่งเสริมค่านิยมในการรับประทานอาหารที่ใช้ กรรมวธิ ี อบ นงึ่ ตม้ ลวก และไม่เติมนาํ้ ตาล นํา้ ตาล สุขภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม 87

7. สนับสนุนกองทุนเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยเฉพาะทารกและ เดก็ เล็ก 8. สนับสนนุ นมแม่ จนครบ 12 เดอื น 9. จัดทำ�แนวทางการเลือกซื้ออาหารและเคร่ืองดื่มท่ีเหมาะสม ต่อสขุ ภาพสำ�หรบั เด็ก 10. กำ�หนดข้อบังคับในการควบคุมการขายอาหารหวานและ เครอ่ื งด่มื ผสมนา้ํ ตาลในสถานศึกษา แนวทางการควบคุมเพอื่ ลดการบรโิ ภคนํ้าตาลจากผลิตภัณฑช์ ุมชน ผลิตภัณฑ์ชุมชน หมายถึง ผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตในชุมชนท่ีเกิด การรวมกลมุ่ กนั ประกอบกจิ กรรมใดกจิ กรรมหนงึ่ ทง้ั ทจี่ ดทะเบยี นอยา่ ง เป็นทางการหรือที่ไม่มีการจดทะเบียนเป็นทางการ ซ่ึงรวมกลุ่มเอง โดยธรรมชาติ เช่น ผลิตภัณฑ์โครงการหน่ึงตำ�บล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ทผ่ี า่ นการคดั เลอื กจากจงั หวดั และ/หรอื หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนท่ีสำ�นักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมไดป้ ระกาศกำ�หนดไว้แล้ว ผลติ ภัณฑอ์ าหารและเครอ่ื งด่มื ที่ผลิตในระดับชุมชนส่วนใหญ่มักใช้กระบวนการผลิตและแปรรูป เช่น การต้มสกุ นึง่ ทอด อบ และใชว้ ธิ กี ารถนอมรกั ษาอาหารอย่างง่าย เชน่ การอบแหง้ ตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑช์ มุ ชนทมี่ สี ว่ นผสมนา้ํ ตาลในปรมิ าณ ที่ควรควบคุมและจำ�กัดการบริโภค ได้แก่ ขนมไทย ขนมขบเค้ียว เคร่ืองดืม่ น้ําผลไม้ พืชผักสมนุ ไพร ผลิตภณั ฑ์หมู/ปลาปรุงแต่ง และ ซอสจ้มิ ตา่ งๆ เป็นตน้ โดยแบ่งตามระดับหน่วยงานที่มีศักยภาพในการออกมาตรการ ควบคุมดูแล สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และการจัดกิจกรรม รณรงคก์ ารสรา้ งความร่วมมอื ในเร่ืองต่างๆ ดงั นี้ 88 นํ้าตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบริโภคทีเ่ หมาะสม

มาตรการระดบั ชุมชน 1. ผู้นำ�ชุมชนจัดกิจกรรมการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องอาหาร และโภชนาการทดี่ ีตอ่ สุขภาพแกผ่ ู้ผลิตผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน/กล่มุ แม่บา้ น 1.1 สอ่ื สารขอ้ มลู เกย่ี วกบั การบรโิ ภคนา้ํ ตาลทม่ี ากเกนิ ความ ต้องการของร่างกายแล้วจะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต ท�ำ ให้การเสยี ค่าใชจ้ ่ายจ�ำ นวนมากในการรกั ษาพยาบาล 1.2 จดั อบรมการพฒั นาผลติ ภณั ฑอ์ าหารและเครอื่ งดมื่ ทาง เลอื กเพอื่ สขุ ภาพทใี่ ชน้ า้ํ ตาลนอ้ ย เพมิ่ ชอ่ งทางโอกาสการตลาดสงู โดย เฉพาะการสรา้ งนวัตกรรมผลิตภณั ฑช์ ุมชนจากวัตถดุ ิบท้องถิน่ 2. สนับสนุนการพัฒนาและจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนในกลุ่ม อาหารและเครอื่ งดื่มทางเลือกเพือ่ สขุ ภาพทใี่ ช้นํา้ ตาลนอ้ ย 3. สนับสนนุ โรงเรยี น ศูนยเ์ ด็กเล็กในชุมชน บริการอาหารและ เครอื่ งดื่มท่ีใชน้ าํ้ ตาลนอ้ ย 4. สรา้ งกลมุ่ อาสาสมคั รในชมุ ชนจดั กจิ กรรมรณรงคก์ ารบรโิ ภค อาหารและเครอื่ งดม่ื ทด่ี ตี อ่ สขุ ภาพอยา่ งตอ่ เนอื่ ง และสรา้ งความรว่ มมอื กบั ทุกกลมุ่ คนและทุกภาคส่วนในท้องถิ่น 5. สรา้ งศูนยเ์ รียนรดู้ า้ นอาหารและโภชนาการประจำ�ชุมชน 6. จัดหางบประมาณตั้งเป็นกองทุนเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดย เฉพาะทารกและเด็กเลก็ มาตรการระดับภาครฐั 1. สำ�นักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ส่งเสริมและ พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนในด้านโภชนาการเพ่ือสุขภาพที่ดี ปรับสูตรผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ําตาลสูงให้มีส่วนผสม นํา้ ตาลลดลง 2. จัดทำ�เกณฑ์รับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่มีการปรับลดนํ้าตาล และเครอื่ งหมายตราสญั ลกั ษณแ์ สดงบนฉลากเพอื่ สง่ เสรมิ ดา้ นการตลาด ของผลิตภณั ฑใ์ ห้เป็นทีย่ อมรับอย่างแพรห่ ลาย นํ้าตาล สขุ ภาพ และการจดั การด้านการบรโิ ภคทเี่ หมาะสม 89

3. สนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยเน้น ผลิตภณั ฑ์อาหารและเครื่องด่มื นํ้าตาลน้อยท่ีมปี ระโยชนต์ ่อสุขภาพ 4. จัดประกวดผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีคุณภาพทางโภชนาการเพื่อ สุขภาพที่ดี 5. จดั อบรมการพฒั นาผลติ ภณั ฑท์ างเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพนาํ้ ตาลนอ้ ย อายุการเก็บ บรรจุภัณฑ์ การแสดงฉลาก และการขยายตลาดโดย หนว่ ยงานหรอื ภาครัฐ แนวทางการควบคุมเพ่ือลดการบริโภคน้ําตาลจากผลิตภัณฑ์ อตุ สาหกรรม ผลติ ภณั ฑอ์ าหารและเครอ่ื งดม่ื ทผี่ ลติ เชงิ อตุ สาหกรรมสว่ นใหญจ่ ะ มกี ลยทุ ธท์ างการตลาดเพอ่ื สง่ เสรมิ การจ�ำ หนา่ ยใหผ้ บู้ รโิ ภครจู้ กั ยอบรบั และซอ้ื สนิ คา้ นนั้ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ดงั นนั้ บรษิ ทั ตา่ งๆ จงึ มกี ารแขง่ ขนั กนั อยา่ งมากเพอื่ สรา้ งชอ่ งทางการตลาดดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ เชน่ การโฆษณา ดว้ ยดาราชนั้ น�ำ เปน็ พรเี ซน็ เตอรเ์ ชญิ ชวนใหซ้ อ้ื สนิ คา้ การลดแลกแจกแถม การชงิ โชค และการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การขายตา่ งๆ เปน็ ตน้ เพอ่ื หวงั ผลกำ�ไรจากการจำ�หนา่ ยผลติ ภณั ฑใ์ หไ้ ดส้ ูงสุด ในปัจจบุ นั การส่งเสรมิ การขายมักจะพุ่งเป้าไปท่ีกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเด็กและเยาวชน ซึ่งชักจูง ชวนเชอื่ ไดง้ า่ ย ผลติ ภณั ฑอ์ าหารและเครอ่ื งดมื่ ทม่ี นี า้ํ ตาลสงู ไดแ้ กข่ นม ขบเคีย้ ว ขนมเบเกอรี่ เครอื่ งดื่มต่างๆ ลูกอม เยลลี่ ชอคโกแลต และ ซอสจมิ้ ต่างๆ เป็นต้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตเคร่ืองด่ืมผสม นํ้าตาลมีการขยายตวั เพมิ่ ขึ้นอยา่ งตอ่ เน่อื ง ซึง่ มีทศิ ทางไปในทางเดียว กบั การเพม่ิ จ�ำ นวนเดก็ ทมี่ นี า้ํ หนกั ตวั เกนิ เกณฑจ์ นถงึ โรคอว้ นและโรคไม่ ติดตอ่ เร้ือรงั ทเี่ พ่ิมขนึ้ อยา่ งตอ่ เนื่องเชน่ กัน 90 นํา้ ตาล สุขภาพ และการจัดการดา้ นการบริโภคท่ีเหมาะสม

มาตรการภาคอุตสาหกรรม 1. จดั ท�ำ แผนสง่ เสรมิ การตลาด หาชอ่ งทางการจดั จ�ำ หนา่ ย และ สร้างแบรนด์อาหารสุขภาพของไทย 2. วิจัยการตลาดเพื่อนำ�ไปสู่การพัฒนา ปรับปรุงรูปแบบ ผลิตภัณฑ์อาหารและเคร่ืองด่ืมที่มีนํ้าตาลน้อยเพ่ือสุขภาพ และช่อง ทางการจำ�หน่าย 3. ประเมนิ สถานการณก์ ารตลาดในแตล่ ะผลติ ภณั ฑเ์ พอ่ื ปรบั ปรงุ และขยายการตลาด มาตรการระดับภาครัฐ 1. ให้ความรู้ความเข้าใจเร่ืองอาหารและโภชนาการที่ดีต่อ สุขภาพแก่ประชาชน 1.1 สอื่ สารขอ้ มลู เกย่ี วกบั การบรโิ ภคนา้ํ ตาลทมี่ ากเกนิ ความ ต้องการของร่างกายแล้วจะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต ท�ำ ให้การเสียค่าใช้จ่ายจ�ำ นวนมากในการรักษาพยาบาล 1.2 สร้างค่านิยมให้เข้าใจว่า นํ้าตาลท่ีเติมในอาหารต่างๆ เปน็ พลงั งานสว่ นเกนิ ทไี่ มจ่ ำ�เปน็ ตอ่ สขุ ภาพรา่ งกาย ทสี่ ำ�คญั คอื นาํ้ ตาล สว่ นเกนิ นเ้ี ปน็ โทษตอ่ รา่ ยกายได้ และและเครอ่ื งดมื่ ผสมนาํ้ ตาลทงั้ หลาย นี้เปน็ แหลง่ สำ�คัญของนํา้ ตาลส่วนเกนิ ท่ีควรหลกี เลย่ี ง 1.3 ส่งเสริมให้ผู้บริโภคทราบและเข้าใจข้อมูลโภชนาการ ท่ีแสดงบนฉลากภาชนะบรรจุ ท้ังแบบเต็มรูปแบบ และแบบ GDA (Guideline Daily Amount) 2. สนบั สนนุ ใหบ้ รษิ ทั ตา่ งๆพฒั นาผลติ ภณั ฑอ์ าหารและเครอื่ งดม่ื ทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพทใ่ี ชน้ าํ้ ตาลนอ้ ย และสง่ เสรมิ การตลาดใหป้ ระชาชน เขา้ ใจประโยชน์ทีด่ ตี อ่ สขุ ภาพ 3. ควบคุมการตลาดของผลิตภัณฑ์อาหารและเคร่ืองดื่มผสม น้ําตาลทีเ่ สย่ี งตอ่ สขุ ภาพ น้าํ ตาล สขุ ภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสม 91

3.1 กำ�หนดขนาดบรรจุ (container size) ผลิตภัณฑ์ อาหารและเครอื่ งดม่ื ผสมนาํ้ ตาลทเี่ หมาะสมเชน่ อาหารจานดว่ นขนาด มาตรฐาน เครอื่ งดมื่ ขนาด 8 ออนซ์ หรอื 225 มล. และ หา้ มจำ�หนา่ ย ขนาด supersize หรอื ขนาด 32 ออนซแ์ บบเติมฟรี (free refill) ณ จุดขาย ร้านอาหารจานด่วน สถานบนั เทงิ โรงภาพยนตร์ และ สนามกฬี า 3.2 กำ�หนดพลังงานต่อหน่วยบริโภคสำ�หรับขนมขบเค้ียว เชน่ 100 กโิ ลแคลอรี่ตอ่ ซอง เปน็ ตน้ 3.3 ควรมีการควบคุมการส่งข้อความส่งเสริมการจำ�หน่าย ทางโทรศพั ท์ โดยเฉพาะสนิ คา้ อาหารทมี่ โี ทษตอ่ สขุ ภาพเดก็ (messages to phones) โดยเฉพาะในกลมุ่ เด็ก 3.4 ก�ำ หนดจดุ วางจ�ำ หนา่ ยอาหารและเครอ่ื งดมื่ ผสมนาํ้ ตาล ท่ีเสีย่ งต่อสขุ ภาพ และห้ามการ ส่งเสรมิ การจ�ำ หน่าย ณ จุดขาย 3.5 อาหารชดุ ทเี่ สริ ฟ์ พรอ้ มเครอื่ งดมื่ ผสมนาํ้ ตาล ควรมกี าร ปรับปรุงให้ทดแทนดว้ ยนํา้ ผลไม้ 100% หรือนาํ้ เปลา่ ทส่ี ะอาด 3.6 สนับสนุน ผลักดันให้เกิดกิจกรรมการรณรงค์เพื่อ สร้างกระแสผลิต และการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารและเคร่ืองด่ืมเพ่ือ สุขภาพน้ําตาลนอ้ ยใหม้ ากขึ้นอยา่ งตอ่ เน่อื ง 4. สร้างระบบแรงจูงใจด้วยมาตรการทางภาษีและราคา ใหผ้ ปู้ ระกอบการผลติ ผลติ ภณั ฑอ์ าหาร และเครอื่ งดม่ื เพอื่ สขุ ภาพนาํ้ ตาล น้อยให้มจี �ำ หน่ายมากขึน้ 5. จดั ท�ำ นโยบายการควบคมุ หรอื งดการโฆษณาอาหารทไี่ มเ่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ สขุ ภาพและเครอ่ื งดมื่ ผสมนาํ้ ตาลตา่ งๆ ทม่ี งุ่ เปา้ ไปทกี่ ลมุ่ เดก็ และห้ามการใช้รูปภาพผักผลไม้หรืออาหารใดๆ รวมท้ังตัวการ์ตูน บนภาชนะบรรจุอาหารเพอื่ ส่ือใหเ้ ขา้ ใจผดิ ว่าดตี อ่ สขุ ภาพ 92 นํ้าตาล สขุ ภาพ และการจดั การด้านการบริโภคท่ีเหมาะสม

6. สง่ เสริมกลไกการพฒั นาทักษะชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ กับเยาวชนในทุกระดับการศึกษา เพ่ือสร้างความรู้ ทัศนคติด้านการ เลือกบริโภคอาหาร มีความรู้เท่าทันต่อกระแสสังคมหรือกลยุทธการ ตลาด เพอ่ื ให้มพี ฤติกรรมการบรโิ ภคท่เี หมาะสม 7. จัดทำ�นโยบายให้ร้านอาหารจานด่วน จัดนํ้าดื่มสะอาดท่ี ลกู คา้ เข้าถึงได้งา่ ยกว่าเครอื่ งดืม่ รสหวาน 8. จดั ท�ำ มาตรการการเกบ็ ภาษเี ครอ่ื งดม่ื ผสมนา้ํ ตาล (1 สตางค์ ตอ่ มลิ ลลิ ติ ร) และน�ำ เงนิ ภาษเี ขา้ กองทนุ สง่ เสรมิ สขุ ภาพและปอ้ งกนั เดก็ นํา้ หนกั เกินและโรคอว้ น 9. งดการขายหรือเสิร์ฟเคร่ืองดื่มผสมน้ําตาลในงานแสดง/ กจิ กรรมตา่ งๆ ทห่ี นว่ ยงานรฐั จดั ณ สถานทต่ี า่ งๆ โดยจดั นาํ้ ดมื่ สะอาด ใหด้ ื่มฟรี 10. ไม่รับการสนับสนุนสปอนเซอร์การโฆษณาจากบริษัท เคร่ืองด่ืมผสมนํ้าตาล ในงานแสดง/กิจกรรมต่างๆท่ีหน่วยงานรัฐจัด ณ สถานทตี่ า่ งๆ 11. สรา้ งความรว่ มมอื กบั สมาคมภตั ตาคาร หนว่ ยงานทเี่ กย่ี วขอ้ ง กับการจำ�หน่ายอาหารต่างๆ เช่น อาหารจานด่วน อาหารหาบเร่ รวมทงั้ รา้ นอาหารภายในโรงเรยี น เพอื่ ก�ำ หนดเมนอู าหารและเครอ่ื งดม่ื นาํ้ ตาลนอ้ ยทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพอยา่ งละชนดิ จำ�หนา่ ยใหก้ บั ประชาชน 12. รณรงคเ์ ชญิ ชวนการดมื่ นา้ํ เปลา่ เพอื่ สรา้ ง green environment ให้กับชุมชน โรงเรียน ซ่ึงเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดมลภาวะจากการ ก�ำ จดั ภาชนะบรรจตุ ่างๆ น้าํ ตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบริโภคทีเ่ หมาะสม 93

สรุป บทบาทของภาครัฐ ผู้ผลิตผู้ประกอบการ และหน่วยงานที่ เกยี่ วขอ้ งทกุ ภาคสว่ น ควรรว่ มมอื กนั การจดั การแกไ้ ขปญั หาการบรโิ ภค นาํ้ ตาลมากเกนิ ของผบู้ รโิ ภคในปจั จบุ นั แบบบรู ณาการ โดยการสง่ เสรมิ สนับสนนุ มาตรการต่างๆ รว่ มกันรณรงค์ สรา้ งความรู้ ความตระหนัก ส่งเสริมการมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารและเครื่องด่ืมหวานน้อย การใช้มาตรการด้านกฎหมายการออกระเบียบข้อบังคับควบคุมการ ตลาดเพื่อให้ผ้บู ริโภคเข้าถึงอาหารและเครื่องดืม่ ท่ีไม่มคี ุณประโยชนต์ อ่ สขุ ภาพไดย้ ากขึ้น พร้อมกบั การสง่ เสริมการจ�ำ หนา่ ยอาหารและเครอ่ื ง ดม่ื ทม่ี ปี ระโยชนต์ อ่ สขุ ภาพ (healthier choices) นนั้ นา่ จะเปน็ แนวทาง ที่จำ�เป็นซ่ึงจะช่วยให้คนไทยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อพฤติกรรมการ บริโภคอาหารเพอื่ สขุ ภาพมากขน้ึ ถงึ แม้ว่าจะมปี ัจจัยหลายประการทมี่ ี อิทธิพลต่อความชอบที่จะเลือกซื้ออาหารและเครื่องด่ืมที่มีรสหวานและ เป็นเร่ืองยากมากท่ีจะคงรักษาพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิตท่ีดี ตอ่ สขุ ภาพ เอกสารอา้ งองิ สำ�นกั งานสถติ แิ หง่ ชาต.ิ รายงานการสำ�รวจอนามัยสวัสดกิ ารและการ บริโภคอาหารของประชากร ปี พ.ศ. 2552. สำ�นักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุสาหกรรม (มอก.) กระทรวง อตุ สาหกรรม. การรบั รองมาตรฐานผลติ ภณั ฑช์ มุ ชน. สบื คน้ วนั ท่ี 19 กรกฎาคม 2555 เขา้ ถงึ ได้จาก http://www.tisi. go.th ศูนย์วิทยบริการ สำ�นักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวง สาธารณสขุ . สารใหค้ วามหวานแทนนาํ้ ตาล. สบื คน้ วนั ท่ี 26 กรกฎาคม 2555 เขา้ ถงึ ไดจ้ ากิ http://elib.fda.moph.go.th 94 นาํ้ ตาล สขุ ภาพ และการจัดการดา้ นการบรโิ ภคทเี่ หมาะสม

First 5 LA Public Policy Brief. Sugary drinks: A Big Problem for Little Kids. Available from https://www. First 5LA.org. กองโภชนาการ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ . รายงานการสำ�รวจ ภาวะอาหารและโภชนาการของประเทศไทย คร้งั ที่ 5 พ.ศ. 2546. Available from http://www.nutrtion.anamai.moph. go.th 2549. กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. ธงโภชนาการ. สบื คน้ วันที่ 18 กรกฎาคม 2555 เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http:// www.anamai.moph.go.th. คณะกรรมการจดั ท�ำ ขอ้ ก�ำ หนดสารอาหารทคี่ วรไดร้ บั ประจ�ำ วนั ส�ำ หรบั คนไทย.(2546) ปริมาณสารอาหาร อ้ า ง อิ ง ท่ี ค ว ร ไ ด้ รั บ ประจ�ำ วนั ส�ำ หรบั คนไทย. กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ . ประไพศรี ศริ จิ กั รวาล. นาํ้ ตาลทำ�ไมตอ้ ง 6 ชอ้ นชา ? เอกสารเผยแพร่ เครอื ขา่ ย “เดก็ ไทยไมก่ นิ หวาน” สบื คน้ วนั ที่ 20 กรกฎาคม 2555 เขา้ ถงึ ไดจ้ าก http://www.nutrtion.anamai.moph. go.th ปยิ ะดา ประเสริฐสม. (2550). นํ้าตาล ความหวานในขนม เครื่องดมื่ นมพรอ้ มดม่ื และนมผงส�ำ หรับเด็ก. กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ . เนตรนภสิ วฒั นสชุ าต.ิ (2551) ขนมรอบๆ ตวั เด็ก บรโิ ภคเท่าใดจึง พอดี. อาหาร. 38 (1) : 20-29. ส�ำ นกั งานคณะกรรมการออ้ ยและนาํ้ ตาลทราย (2552) รายงานปรมิ าณ การผลิตและการจำ�หน่ายนํ้าตาลทรายในประเทศไทย;. กระทรวงอตุ สาหกรรม. นาํ้ ตาล สุขภาพ และการจดั การดา้ นการบรโิ ภคทีเ่ หมาะสม 95

World Health Organization. (2003). Population intake goals for preventing diet related diseases. In Diet,nutrition and the prevention of chronic diseases : report of a joint WHO/FAO expert consultation. WHO Technical Report Series: 916. 28. Geneva, Switzerland. 96 น้าํ ตาล สขุ ภาพ และการจดั การด้านการบรโิ ภคท่เี หมาะสม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook