Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore aประมวลอาหาร

aประมวลอาหาร

Description: aประมวลอาหาร

Search

Read the Text Version

8. การจัดการเรยี นรู้แบบบรู ณาการด้านเกษตร โภชนาการ และสุขภาพ ระดับ 1 : มแี ผนการจดั การเรียนรู้ แบบบูรณาการด้านเกษตร อาหาร โภชนาการ และสขุ ภาพ ท้งั ในและนอกหอ้ งเรียนในทกุ ช่วงช้นั ระดบั 2 : มกี ารจดั การการเรยี นการสอนแบบบูรณาการด้านเกษตร โภชนาการ และสุขภาพ อยา่ งน้อย 40 ชวั่ โมงตอ่ ปี ระดับ 3 : มกี ารประเมินความรแู้ ละทกั ษะนกั เรยี นดา้ นเกษตร โภชนาการ และสุขภาพปลี ะ 2 ครัง้ ระดบั 4 : มสี อ่ื นวัตกรรม ชดุ ความรู้ และฐานการเรยี นรู้ของโรงเรยี นและ หรือชุมชนดา้ นเกษตร โภชนาการ และสุขภาพทีเ่ กดิ จากผลงาน ของครู นกั เรยี น ครอบครวั และชุมชน โรงเรียนเยำวเรศวิทยำ จงั หวดั สรุ ำษฎรธ์ ำนี 3.4 การนิเทศติดตามงานและประเมินผล จะมีการติดตามงานโดยใช้การประชุมครู ประจาเดือน ตัวอย่างของโรงเรียนรอตเสวก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการติดตามงานในท่ี ประชมุ ครปู ระจาเดือน มีการคุยกนั ถึงรายละเอยี ดของแตล่ ะกจิ กรรม 3.5 การเสริมสรา้ งศักยภาพของครแู ละบุคลากรของโรงเรียน ตัวอยา่ งของพ้ืนท่ีภาคใต้ ซ่ึงมีทีมพ่ีเล้ียงจากศูนย์อนามัยรับผิดชอบในการจัดการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนาความรู้และ ทกั ษะในการดาเนนิ งานให้กบั ครูและบุคลากรของโรงเรยี น (ภาคผนวก ค) 3.6 การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่าย โรงเรียนในสังกัด สช. มี วิธีการเสริมสร้างให้ผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดาเนินกิจกรรมของโรงเรียน ตลอดจนการสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับหน่วยงานเครือข่ายท่ีมีศักยภาพในการสนับสนุนการ ดาเนนิ งานของโรงเรยี น เชน่ โรงเรียนศึกษาสรรค์ จังหวัดสมุทรปราการ ใช้วิธีการประชุมชี้แจงให้ผู้ปกครองได้รับทราบ นโยบายของโรงเรียนว่าทางโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการเด็กไทยแก้มใส ประชาสัมพันธ์ขอให้ ผู้ปกครองช่วยดูแลเร่ืองการรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์และดูแลเรื่องภาวะโภชนาการในเด็ก หลีกเลย่ี งอาหารหวานและขนมจกุ จกิ นา้ อดั ลม ในรายทีเ่ ดก็ อว้ นดูแลให้เด็กไดม้ ีการออกกาลังกาย โรงเรียนรอตเสวกวิทยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประชุมผู้ปกครอง และมีสารจากทาง โรงเรียนแจ้งเร่ืองต่าง ๆ โรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลา ได้แต่งต้ังประธานศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เทศบาลเมืองเขารูปช้าง โรงพยาบาลสงขลา และสานักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เป็นคณะท่ี ปรึกษาโครงการเดก็ ไทยแกม้ ใส นอกจากนใ้ี นพนื้ ท่ีใกลเ้ คยี งกบั โรงเรียนหลายแห่งมแี หล่งเรียนรู้และวิทยากรท่ีเช่ียวชาญทั้งที่ เป็นทางการและเป็นปราชญ์ชาวบา้ นท่โี รงเรยี นสามารถพง่ึ พาขอความชว่ ยเหลือได้ 89 | หนา้

4. การเปลี่ยนแปลงที่เกดิ ข้ึน จากรายงานผลการประมวลองค์ความรู้ของคณะทางานท้ัง 4 พ้ืนที่พบว่า โรงเรียนใน สังกัด สช.ท้ัง 5 โรงมีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้นภายหลังจากการดาเนินงานตามรอยพระยุคลบาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารผ่านมา 1 ปี ทั้งจากคาบอกเล่าและจากการ สังเกตการณ์ของคณะทางาน ดงั นี้ 4.1 ภาพรวมของการเปล่ียนแปลง  พ้นื ท่ีทางการเกษตร ตัวอย่างของโรงเรียนรอตเสวกวิทยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งประธานชมรม ผสอ. บอกเล่าถงึ การเปล่ียนแปลงทเ่ี กิดขนึ้ ในโรงเรยี นวา่ ... รู้สกึ ช่ืนชมในแปลงพื้นท่ีเกษตร ถึงแม้จะมีพื้นที่จากัด เห็นการปรับปรุงของทาง โรงเรยี น ... โรงเรียนรอตเสวกวิทยำ จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยำ  หรือของโรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลา มีพ้ืนที่การเกษตรสาหรับนักเรยี นไดเ้ รียนรูแ้ ละ ลงมือปฏิบตั ิมากขึ้นจากการขยายความร่วมมือไปยังศูนย์การเรียนรู้ฯ และเกิดแนวคิด พฒั นาพ้นื ทีว่ ่างเปล่าของผู้บริหารใหเ้ ป็นแปลงเกษตรนอกโรงเรยี นตอ่ ไป  การพัฒนางานสหกรณ์โรงเรยี น โดยการวางแนวทางการจาหน่ายผลผลิตการเกษตรใน รูปแบบสหกรณ์ผลผลิตทางการเกษตร ท่ีนักเรียนมีส่วนร่วมวางแผนกาหนดต้นทุน ราคา และเงนิ ปนั ผล ดังตวั อยา่ งของโรงเรียนจลุ สมยั จังหวดั สงขลา โรงเรยี นได้พฒั นาและประยุกตน์ ามาใช้สร้างสหกรณผ์ ลผลติ ซึง่ เพิง่ เร่ิมต้นเมื่อมผี ลผลิตจาก การเกษตรโรงเรียนเม่ือเดือนมถิ ุนายน 2558 โดยได้ตัวแทนนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3- 5 จานวน 10 คน เปิดให้นักเรียนระดับชั้น ป.4-6 เป็นสมาชิก ลงหุ้นคนละ 2 บาท มีสมาชิก ทั้งส้ินจานวน 338 คน เงินหุ้นรวม 676 บาท ได้เป็นเงินทุนกองกลางของสหกรณ์ นักเรียน ร่วมกันเป็นคณะกรรมการสหกรณ์ผลผลิต ครูเป็นพ่ีเล้ียงและเสนอแนะแนวทาง เช่น ถ้ามีกาไร 100 บาท จะแบ่งปันผลให้สมาชิกอย่างไร เอาเข้าสหกรณ์เท่าไหร่ โดยในท่ีประชุมของนักเรียนได้ ร่วมกันกาหนดข้อสรุป คือ กาหนดให้รายได้ร้อยละ 70 เป็นกาไรปันผลให้นักเรียน ท่ีเหลือเป็น กาไรเข้าสหกรณ์ และกาหนดปนั ผลทุกสน้ิ ปกี ารศึกษา  โรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลา ครูผู้รับผิดชอบด้านการจัดการอาหารนาโปรแกรม Thai School Lunch ไปปรับใช้วางแผนจดั เมนูอาหารกลางวัน หนา้ | 90

 นวัตกรรม การพัฒนาหลกั สตู รหรือกระบวนการจัดการเรียนรู้ หรอื การบูรณาการ  ตัวอย่างของโรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลา พัฒนากระบวนการเรียนรู้โดยใช้ วิธีการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ โดยมอบหมายให้นักเรียนช้ันประถมศึกษาปลาย เป็นผู้รับผิดชอบการเพาะปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ ต้ังแต่การอนุบาลต้นกล้า ไป จนถงึ การเกบ็ เกี่ยว และการจาหนา่ ย  ตัวอยา่ งของโรงเรียนศึกษาสรรค์ จังหวัดสมทุ รปราการ เร่ิมมีการบรู ณาการเข้าไป ในการเรียนการสอนที่เหน็ ชัดเจน การบรู ณาการ 1) วิชาวิทยาศาสตร์ เป็นการใช้แปลงเกษตรและบ่อปลา ในการเรียนรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์ ได้แก่ การใช้ปุ๋ยคอกจากมูลสัตว์ การใช้ปูนขาวหว่านลงไปเพ่ือ กาจัดเช้ือแบคทีเรีย เช้ือราก่อนปลูกพืช การสังเกตวงจรชีวิตของพืชและแมลง การศึกษาระบบนิเวศวิทยาของบ่อปลา การทดสอบสภาพความเป็นกรดเป็นด่าง ของดิน พืชใบเลยี้ งเด่ียวเล้ียงคู่ การผสมพนั ธ์ุกบ เป็นต้น 2) วิชาการงานพ้ืนฐานอาชีพ ได้มีการนาผลผลิตที่ได้ เช่น ใบตอง กล้วย ใบเตย ใบจาก ลูกจาก มาประกอบอาหาร ทาขนม และจาหน่าย เป็นการสอนเด็ก เกี่ยวกับการทาธุรกิจจาลอง นอกจากน้ียังนาเอาใบจากมาทางานประดิษฐ์ เช่น ทาซมุ้ ทากระตอ๊ บใบจาก เป็นต้น 3) วิชาสุขศึกษา เรื่องอาหารหลัก 5 หมู่ การประเมินภาวะโภชนาการ การออก กาลงั กาย เปน็ ต้น 4) วชิ าภาษาอังกฤษ เรอ่ื งคาศัพทเ์ รอื่ งพชื ผกั สวนครัว สตั วต์ า่ งๆ 5) วิชาภาษาไทย เรื่องการแต่งเรียงความจากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในโรงเรียน การ เขยี นสะกดคาควบกลา้ ต่างๆ คาเปน็ คาตาย 6) วชิ าคณติ ศาสตร์ เร่อื งการบวก ลบ คณู หาร การบวกตน้ ทนุ กาไร 7) วชิ าสงั คมศึกษา เรอื่ งความสามัคคี การทางานเป็นทีม ความอดทน เปน็ ตน้ โรงเรยี นศกึ ษำสรรค์ จังหวัดสมุทรปรำกำร 4.2 การเปลีย่ นแปลงทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั นกั เรยี น โรงเรียนทุกโรงพยายามจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ ด้วยตนเอง จนเกดิ การเปล่ยี นแปลงข้ึนกบั ตวั นกั เรียนในหลาย ๆ ดา้ น ดงั น้ี  มีการเปล่ียนแปลงในพฤติกรรมการกิน จากเดิมท่ีไม่ชอบกินมาเป็นชอบกินผักมากขึ้น เม่ือนักเรียนได้ลงมือปลูกผักด้วยตนเอง โดยครูของโรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลาได้ สังเกตจากปริมาณผักที่เหลือในจานอาหารลดน้อยลง นอกจากนี้ที่โรงเรียนอรุโณทัย จังหวัดลาปาง เม่ือนักเรียนปลูกผักเองและยังได้ประกอบอาหารเองในวิชาการงาน อาชีพก็เริ่มหัดกินผัก (เน่ืองจากโรงเรียนไม่ได้รับงบประมาณโครงการอาหารกลางวัน 91 | หนา้

เหมือนโรงเรียนของภาครัฐ การปรงุ อาหารจงึ เปน็ ส่วนหน่งึ ของวชิ าการงานอาชพี )  นกั เรยี นได้รับการถา่ ยทอดความรูแ้ ละมปี ระสบการณ์ตรงด้านการเกษตร การเพาะปลูก พืชผัก การเล้ียงไก่ การเลี้ยงปลา เทคนิคการเพาะปลูกรูปแบบใหม่ ๆ ดังตัวอยา่ งของ โรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลา ท่ีจัดให้นักเรียนได้ไปศึกษาดูงานที่ศูนย์การเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพยี งบ้านเขารูปช้าง  นักเรียนสามารถติดตามเฝ้าระวังภาวะโภชนาการของตนเองได้ ดังเช่นท่ีโรงเรียนเยาว เรศวิทยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซ่ึงครูฝึกให้เด็กนักเรียนได้ทาการชั่งน้าหนัก และวัด สว่ นสูงด้วนตนเอง โดยนักเรียนระดับช้ันประถม 4-6 เป็นผู้ชั่งเอง แปลผล และบันทึก ด้วยตนเอง สาหรับนกั เรยี นชน้ั ประถม 1-3 จะมีคณุ ครคู อยดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ  นักเรียนโรงเรียนจุลสมัย จังหวัดสงขลาท่ีมีภาวะโภชนาการเกินบางส่วนน้าหนักลดลง หรอื สมส่วนมากขึน้ จากมาตรการการแก้ปัญหาดา้ นภาวะโภชนาการ  นักเรียนมีทัศนคติท่ีดีเก่ียวกับการเกษตร และเกิดแนวคิดในการดารงชีวิตของตนเองใน อนาคต ดังคาบอกเล่าของนักเรียนหลาย ๆ คน จากโรงเรียนอรุโณทัย จังหวัดลาปาง ดังน้ี ... อยากประกอบธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ มีการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ แล้ว จะนามาแปรรูปเป็นอาหารมาขายในร้าน โดยเก็บเก่ียวความรู้จากโครงการเด็กไทย แกม้ ใสใหม้ ากทสี่ ุด เพอื่ จะสามารถพ่ึงพาตัวเองได้ และแบง่ ปันให้กับผู้อ่ืน เพราะหาก เราอยู่ตัวคนเดียวก็ไม่สามารถทาอะไรได้ ต้องแบ่งปัน เพ่ือจะได้ประสานกันและ ชว่ ยเหลอื กัน ... ... เด็กแก้มใสในวันนี้ ผู้ใหญ่ท่ีดีในวันหน้า จะนาความรู้เรื่องปลูกผักที่คุณครูเคย สอน วิชาการงาน ได้ปลูกผักท่ีบ้าน หรือแบ่งปันความรู้ให้คนอ่ืนที่สนใจ หรือไป ประกอบอาชีพ เชน่ การเลี้ยงกบ หรือเล้ยี งปลา ได้ผลดกี ็นาไปขาย อยา่ งการปลูกผัก ต้องมตี น้ ทนุ และมคี วามอดทน ขยัน มีวินยั นาไปประยกุ ตใ์ นการทางานอะไรก็ประสบ ผลสาเร็จ และมีทักษะชีวิต มีความชานาญในการทางานต่าง ๆ มีความแข็งแรงใน การทางานและทางานหลาย ๆ อยา่ งเป็น ทาให้เรารู้จักคิดออกแบบว่าเราจะปลูกใน รปู แบบอย่างไร ปลกู อย่างไร ลงมอื ปฏบิ ตั ิ กลา้ ตัดสนิ ใจ กล้าทาดว้ ยตัวเอง ... ... อยากเป็นครู เพ่ือเผยแพร่ธรรมให้คนหลงผิด และไร้ศาสนา และจะสอนเหมือน คุณครูท่ีสอนพวกเรา ปลูกผัก เลี้ยงกบ เพาะเห็ด และแนะนาให้คนดาเนินชีวิตแบบ เศรษฐกิจพอเพยี ง ตามรอยพระยคุ ลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวของเรา ... โรงเรียนอรโุ ณทยั จังหวดั ลำปำง หนา้ | 92

4.3 การเปล่ียนแปลงทเ่ี กดิ ขนึ้ กับครู จากการเข้าร่วมอบรมหลักสูตรที่จัดโดยทีมพ่ีเล้ียงพร้อม ๆ กัน ทาใหค้ รูและบุคลากรอ่ืน ๆ ของโรงเรียนได้รับการพัฒนาไปพร้อมกัน เช่น ครู แมค่ รัว นักเรียน ทาให้สามารถทางานร่วมกัน ได้งา่ ยข้ึน ดังตัวอย่างของโรงเรียนจลุ สมัย จังหวดั สงขลา การที่ได้เข้าร่วมโครงการเด็กไทยแก้มใส ทาให้ผู้บริหารและคณะครูมองว่าเป็นโอกาสท่ีดีท่ี เป็นการกระตุ้นและจุดประกายให้ครูพยายามแสวงหาวิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ด้านอาหารและ โภชนาการให้ครบวงจร และเปลี่ยนจากการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนมาเป็นการจัดการเรียนรู้ \"นอกห้องเรียน\" ด้านการเกษตร ดังตัวอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกหอ้ งเรียนของโรงเรียน จุลสมัย จังหวดั สงขลา ทม่ี อบหมายงานโดยแบง่ ตามระดบั ช้ัน ดงั น้ี  ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1-3 ดูแลผักสวนครัว คือ ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ถั่วงอก  ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ดแู ลแหล่งเรียนรผู้ กั สวนครัว 4 จุดในโรงเรียน คอื ผกั สวนครวั ในกระบะ ผักสวนครัวรมิ รัว้ ผกั สวนครวั ในแปลงผกั ระเบียงหน้าหอ้ ง / ผักแขวน  ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5-6 ดูแลการปลูกผักสวนครวั ในกระถางเปน็ กลุ่ม ซง่ึ พบว่านกั เรยี นใหค้ วามสนใจและกระตอื รอื รน้ ที่จะเขา้ ร่วมกจิ กรรมดงั กลา่ วมาก 4.4 การเปล่ียนแปลงทเี่ กิดข้ึนกับผู้ปกครองและชุมชน ในพ้ืนที่ของโรงเรียนในสังกัด สช. น้ี จะมองเห็นภาพในด้านของการท่ีชุมชนเข้าไป ช่วยเหลือสนบั สนนุ กจิ กรรมของโรงเรยี นเป็นสว่ นใหญ่ แต่ยังไม่เหน็ ภาพของการพัฒนาเปลย่ี นแปลง ทีเ่ กดิ ขนึ้ ท่ีตัวของชมุ ชนเองจากการทีม่ ีโครงการเดก็ ไทยแก้มใสเข้าไป ตัวอย่างที่พบเช่นโรงเรียนเยาวเรศวิทยา จะมีปราชญ์ชุมชนคือ คุณลุงเปี๊ยก หรือนาย ศิริ แย้มอยู่ ที่ช่วยเป็นวิทยากรสอนท้ังนักเรียนและครู โดยใช้ท่ีบ้านของตนเองเป็นท่ีเรียนรู้ของ นกั เรยี นและครูด้วย ลงุ เป๊ียกให้ความคดิ เหน็ ในเรอื่ งน้ีว่า ... อยา่ งน้อยให้เด็กได้เรียนรู้ ปลูกผักเป็น กินผักเป็น รู้จักเสียม รู้จักพลั่ว อย่าง น้อย ๆ เด็กจะเรยี นจบหรือไม่จบ จะไดท้ างานใหญ่โตหรือไมก่ แ็ ล้วแต่ ... โรงเรียนเยำวเรศวิทยำ จงั หวดั สุรำษฎรธ์ ำนี กรณีของโรงเรียนรอตเสวกวิทยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ความร่วมมือที่โรงเรียน ได้รับจากผู้ปกครองและชุมชนคือ ผู้ปกครองและชุมชนบริจาคเมล็ดพันธุ์ผักบางส่วนให้โรงเรียน และเม่ือโรงเรียนมีผลผลิตทางการเกษตร บางส่วนจะถูกนามาขายให้กับผู้ปกครอง นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตรให้กับครูโดยผ่านทางตัวเด็กนักเรียน ดังคาบอก เล่าของครูนาธร สุวนติ ย์ ซึง่ เปน็ ครเู กษตรของโรงเรียนวา่ 93 | หนา้

... ครูเองก็ไม่มีความรู้ในเรื่องเกษตรมาก่อน บางอย่างครูก็ได้ความรู้มาจาก นักเรียนเนื่องจากท่ีบ้านผู้ปกครองของนักเรียนบางท่านเป็นเกษตรกรและปลูกพืชผัก เชน่ ปลกู ตะไคร้ ทาให้เดก็ สามารถนาความรมู้ าแลกเปล่ยี นกบั ครูได้ ... โรงเรยี นรอตเสวกวทิ ยำ จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยำ กรณีของโรงเรียนศึกษาสรรค์ จังหวัดสมุทรปราการทบี่ ริบทของผู้ปกครองและชุมชนจะ แตกต่างไป กล่าวคือ ผู้ปกครองจะทางานรับจ้างในโรงงานในเขตจังหวัดสมุทรปราการ จึงไม่มี เวลาทจี่ ะมารว่ มทากิจกรรมของโรงเรยี นได้ แต่เม่อื ทราบนโยบายของโรงเรียนว่าจะดาเนินงานตาม รอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ก็ให้ความร่วมมือโดยการ บริจาคพชื ผกั สวนครัวใหก้ บั ทางโรงเรียนมาใช้ในกิจกรรมการเกษตรของโรงเรียน หรือท่ีโรงเรียนอรุโณทัย จังหวัดลาปาง เม่ือโรงเรียนมีแผนพัฒนาเพื่อบูรณาการใน ด้านการเรียนการสอนโดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏบิ ัติ ท่านอธิการ มลู นธิ พิ หฤทยั อุปถมั ภ์ จงึ ไดใ้ ห้สถานทเ่ี พอ่ื สาธติ การทาปยุ๋ หมกั ชวี ภาพ นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองที่มี ความรู้ด้านการปลูกผัก มาช่วยสอนนักเรียน ช่วยแนะนาฤดูกาลในการปลูก การเลือกชนิดของผัก เป็นตน้ หนา้ | 94

โรงเรียนรอตเสวก จังหวัดพระนครศรอี ยุธยา 95 | หนา้

โรงเรยี นศึกษาสรรค์ จังหวดั สมทุ รปราการ หนา้ | 96

โรงเรียนอรุโณทยั จังหวดั ลาปาง 97 | หนา้

โรงเรยี นเยาวเรศวิทยา จังหวดั สุราษฎร์ธานี หนา้ | 98

โรงเรียนจุลสมยั จังหวดั สงขลา 99 | หนา้

หนา้ | 100

บทสังเคราะห์ บทสังเคราะห์บทนี้จะเป็นการสังเคราะห์องค์ความรู้ในภาพรวมของโรงเรียน 30 โรงของ กระทรวงศึกษาธิการภายใต้ 4 สังกัด ได้แก่ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ (อปท.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษา เอกชน (สช.) ที่อยู่ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ โรงเรยี นท้งั 30 โรงน้ไี ดร้ บั การคดั เลือกให้เข้าร่วม โครงการเดก็ ไทยแก้มใสปีท่ี 1 พ.ศ. 2557-2558 และได้รบั การสนบั สนุนใหด้ าเนินกิจกรรมมาแล้ว เป็นเวลาโดยประมาณ 1 ปี การประมวลองค์ความรใู้ นครัง้ น้ีจงึ ดาเนินการในระหว่างและหลังจากท่ี โรงเรยี นไดด้ าเนนิ งานไปแล้วประมาณ 1 ปี ซง่ึ พอจะทาให้มองเห็นภาพของการดาเนินงานตามรอย พระยุคลบาทของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในการจัดการอาหารและ โภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรดว้ ยโครงการเด็กไทยแกม้ ใส ตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี โค รง กา รเ ด็ก ไท ยแ ก้มใส จั ดทาข้ึนเพื่อ ส่ง เสริมและ สนั บสนุน ให้โร งเรียนขอ ง กระทรวงศึกษาธิการดาเนินงานตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรม ราชกมุ ารี ในด้านการจดั การอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอยา่ งครบวงจรด้วย 8 องค์ประกอบ ผลที่ได้คือนักเรียนได้รับการพัฒนาให้มีภาวะโภชนาการดีสุขภาพแข็งแรง นอกจากการน้อมนาเอา 8 องค์ประกอบของการจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรไปปรับใช้ให้ เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนแต่ละโรงแล้วนั้น ในการดาเนินงานตามรอยพระยุคลบาทควรต้อง คานึงถึงแนวพระราชดาริในการพัฒนา ซึ่งรวมถึงเป้าหมายของการพัฒนา หลักการพัฒนา และ วิธกี ารพัฒนาดว้ ย 1. เป้าหมายของการพัฒนา เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี คือ “คน” ซ่ีงในทีน่ ้ีคือ “เดก็ นักเรยี น” ดงั พระราชดารสั วา่ ... งานตา่ งๆ ที่ทาน้ัน ปรัชญาของงานอยูท่ ตี่ รงไหน เราต้องการใหท้ กุ คนมคี วามมั่นคง มีความเป็นสุข อยู่ดีกินดี มีโอกาสในชีวิตที่จะได้รับความรู้แล้วก็ฝึกฝนความสามารถ สามารถท่จี ะสรา้ งความกา้ วหน้าให้แก่ตวั เองได้ให้เท่าเทยี มกนั ทกุ คน ... พระราชดารัส 27 เมษายน 2543 (2) 101 | หนา้

แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีฉบับที่ 4 พ.ศ. 2550-2559 (3) ได้กล่าวถึงการทรงงานพัฒนาเด็กว่า ทรง มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา โดยใช้การศึกษาเป็นหลักในการทางาน พัฒนา เน้นการเสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนอย่างสมดุลกันทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ พุทธิ ศึกษา จริยศึกษา หัตถศึกษา และพลศึกษา เม่ือพิจารณาดูเป้าหมายและตัวช้ีวัดท่ีทรงใช้ในงาน พัฒนาแล้ว จะเห็นว่ามีความเหมือนและสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาท้ังในส่วนของ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และสานักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ดังแสดงในตารางที่ 5 ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในสังกัดใด จะมีบริบทของโรงเรียนแตกต่างกัน ขนาดพ้ืนที่ใหญ่เล็กไม่เท่ากัน โรงเรียนทุกโรงก็สามารถน้อมรับกิจกรรม/โครงการตามพระราชดาริ เข้าสู่งานประจาของโรงเรียนได้อย่างกลมกลืน ไม่มีอะไรท่ีจะขัดแย้งกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และ ภารกิจท่ีโรงเรียนดาเนินการอยู่ได้เลย เมื่อพิจารณาเฉพาะด้านของพลศึกษา การดาเนินงานตาม รอยพระยคุ ลบาทในการจดั การอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรด้วยองคป์ ระกอบ 8 องค์ประกอบ เป็นการมุ่งผลลัพธ์ด้านโภชนาการและสุขภาพอนามัยของเด็กนั่นเอง ซึ่งก็สอดคล้อง กับมาตรฐานการศึกษาข้ันพื้นฐานของสพฐ. ด้านผู้เรียน ท่ีกาหนดให้นักเรียนมีน้าหนัก ส่วนสูงตาม เกณฑ์ของกรมอนามัย และมีสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์ มาตรฐานท่ี 1 ผู้เรียนมีสุขภาวะท่ีดี และมสี ุนทรีภาพ และมาตรฐานโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร (SMART School) ตัวชี้วัดท่ี 6 นักเรียนมสี ุขภาพรา่ งกายแขง็ แรงสมบรู ณ์ และตัวช้ีวัดท่ี 7 นกั เรียนมีทกั ษะชวี ิต ที่สาคัญอีกประการหน่ึงคือ การดาเนินงานตามรอยพระยุคลบาทยังช่วยตอบโจทย์ของ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการเร่ือง “ลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้” ได้อีกด้วย โดยการจัด กระบวนการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ใหเ้ ดก็ นักเรียนไดล้ งมอื ปฏบิ ัติดว้ ยตนเองตามองค์ประกอบ 8 องค์ประกอบ ของการจดั การอาหารและโภชนาการในโรงเรยี นอยา่ งครบวงจร ผลจากการประมวลองคค์ วามรจู้ ากโรงเรยี นท้งั 30 โรงเรียนในทุกสังกัดยนื ยันว่า โรงเรียน สามารถที่จะนาโครงการเด็กไทยแก้มใสเข้าสู่โรงเรียนได้อย่างง่าย เพราะความสอดคล้องและเป็น การต่อยอดงานท่ีทาอยู่ให้เป็นระบบยิ่งขึ้น นอกจากน้ีโครงการเด็กไทยแก้มใสยังช่วยทาให้มองเห็น ภาพการพัฒนาเดก็ แบบองคร์ วมมากกว่าท่ีจะเป็นการพฒั นาแบบแยกส่วนดงั ท่ีเคยทามา หนา้ | 102

ตารางท่ี 5 เปรยี บเทียบเปา้ หมายของโครงการตามพระราชดาริกบั มาตรฐาน เปา้ หมายของโครงการตามพระราชดาริ1 มาตรฐานการศึกษ ด้านพลศึกษา มาตรฐานที่ 1 ผ้เู รียนมสี 1. เด็กปฐมวัยทกุ คนไดร้ ับการสง่ เสริมดา้ น ตวั บ่งชี้ที่ 1.1 มีสขุ นสิ ยั ใน โภชนาการและมีพฒั นาการตามวยั กาย สม่าเ 2. เดก็ ทกุ คนไดร้ ับอาหารกลางวนั ที่มคี ณุ คา่ ทาง ตัวบ่งชี้ท่ี 1.2 มนี า้ หนกั โภชนาการและถูกสขุ ลักษณะ และได้ดมื่ นม กายตามเก อย่างนอ้ ยวนั ละ 1 แก้ว ทุกวนั เรยี น ตัวบ่งชท้ี ี่ 1.3 ป้องกันตน 3. เดก็ ทุกคนมีนา้ หนกั และสว่ นสงู ตามเกณฑ์ มาตรฐานของเดก็ ไทย และมีสมรรถภาพทาง หลกี เลยี่ งต กายตามเกณฑ์ รุนแรง โร 4. ลดอัตราคอพอกในนกั เรยี นประถมศกึ ษาลงจน เพศ ไม่เปน็ ปญั หาสาธารณสขุ ตัวบง่ ชท้ี ี่ 1.4 เหน็ คุณค่า 5. ลดอตั ราป่วยดว้ ยโรคมาลาเรยี และโรค แสดงออกอ หนอนพยาธใิ นนกั เรยี นลงจนไมเ่ ป็นปญั หา ตวั บง่ ช้ที ี่ 1.5 มีมนษุ ยสมั สาธารณสขุ ตวั บ่งชีท้ ี่ 1.6 สร้างผลงา 6. เดก็ และเยาวชนทุกคนมพี ฤตกิ รรมในการเลอื ก ศิลปะ ดนต บรโิ ภคอาหารที่เหมาะสม นันทนากา 7. เด็กและเยาวชนทกุ คนมสี ขุ นิสยั ที่พึงประสงค์

นการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานของสพฐ. และมาตรฐานโรงเรยี นสังกัดกรงุ เทพมหานคร ษาข้นั พน้ื ฐานของสพฐ.2 มาตรฐานโรงเรียนสังกัด กรงุ เทพมหานคร3 (SMART School) สขุ ภาวะทด่ี แี ละมีสนุ ทรีภาพ ตวั ช้วี ัดท่ี 6 นกั เรียนมสี ขุ ภาพรา่ งกาย นการดูแลสุขภาพและออกกาลงั แขง็ แรงสมบรู ณ์ เสมอ หมายถึง นกั เรยี นมีนา้ หนกั ส่วนสงู ตาม สว่ นสูง และมีสมรรถภาพทาง เกณฑข์ องกรมอนามัย และมีสมรรถภาพ กณฑม์ าตรฐาน ทางกายตามเกณฑ์ นเองจากส่ิงเสพติดใหโ้ ทษและ ตนเองจากสภาวะทีเ่ สย่ี งตอ่ ความ ตัวชวี้ ดั ท่ี 7 นกั เรียนมที กั ษะชวี ิต รค ภัย อบุ ัติเหตแุ ละปญั หาทาง หมายถงึ นกั เรียนมีความร่าเรงิ แจม่ ใส มี มนุษยสมั พันธ์ ร่วมปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ าในตนเอง มีความม่นั ใจ กล้า กับเพื่อนอยา่ งมคี วามสขุ สามารถจัดการ อยา่ งเหมาะสม ปญั หาและความขัดแยง้ ตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ ง มพนั ธ์ทด่ี ีและให้เกียรตผิ ้อู น่ื เหมาะสม านจากเข้ารว่ มกิจกรรมดา้ น ตรี /นาฏศลิ ป์ กีฬา/ ารตามจนิ ตนาการ 103 | หนา้

เปา้ หมายของโครงการตามพระราชดาริ1 มาตรฐานการศึกษ ดา้ นจรยิ ศึกษา มาตรฐานที่ 2 ผู้เรยี นมีคุณ 1. มคี ณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงคต์ ามหลกั การและ และค่านยิ มท่พี ึงประสงค์ อุดมการณ์สหกรณ์4 ตวั บง่ ชท้ี ่ี 2.1 มคี ุณลกั ษณ 2. มีความร้แู ละตระหนักถงึ ความสาคญั ของการ ตวั บ่งชท้ี ี่ 2.2 เออ้ื อาทรผ อนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม พระคุณ และผลกระทบของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ตวั บ่งช้ที ่ี 2.3 ยอมรับควา สง่ิ แวดล้อมตอ่ การดารงชวี ิต ตัวบง่ ชี้ที่ 2.4 ตระหนัก ร 3. มลี กั ษณะนสิ ยั ในการอนรุ กั ษ์ สิง่ แวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มใหอ้ ยใู่ น สภาพท่ีดี และการใช้ทรพั ยากรอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ด้านหัตถศึกษา มาตรฐานท่ี 6 : ผู้เรยี นม 1. มคี วามรแู้ ละทักษะพืน้ ฐานทางการเกษตรย่ังยนื ทางาน สามารถทางานรว่ ในการผลติ อาหารเพื่อการบริโภค และทางดา้ น ต่ออาชีพสุจรติ อาชีพทจ่ี าเปน็ ในการดารงชวี ิต ตัวบง่ ชที้ ่ี 6.1 วางแผนกา 2. มีความรแู้ ละทกั ษะด้านอาชพี ทจี่ าเปน็ สาหรบั ตัวบง่ ชี้ท่ี 6.2 ทางานอยา่ ชวี ิตประจาวนั และภมู ใิ จใน 3. มีความรแู้ ละทกั ษะดา้ นหลกั การสหกรณ์ ตัวบง่ ชท้ี ี่ 6.3 ทางานร่วม ตัวบง่ ชี้ท่ี 6.4 มคี วามร้สู กึ ความรเู้ ก่ีย หนา้ | 104

ษาขนั้ พน้ื ฐานของสพฐ.2 มาตรฐานโรงเรียนสังกัด กรุงเทพมหานคร3 (SMART School) ณธรรม จรยิ ธรรม ตวั ชว้ี ัดท่ี 5 นกั เรียนเป็นเดก็ ดี หมายถึง นกั เรียนดารงชีวติ อย่างมีคณุ ค่า ณะท่พี ึงประสงคต์ ามหลกั สตู ร มีนา้ ใจไมตรี มจี ิตอาสา และมีการพฒั นา ผ้อู นื่ และกตญั ญูกตเวทีตอ่ ผู้มี คุณธรรมดา้ นต่าง ๆ อาทิ วินัย สติสมั ปชญั ญะ กตญั ญู เมตตา อดทน ามคดิ และวัฒนธรรมที่แตกตา่ ง ซือ่ สัตย์ ประหยัด ขยนั ไม่เหน็ แก่ตัว ฯลฯ รูค้ ณุ คา่ รว่ มอนรุ ักษแ์ ละพฒั นา มกี ารทางาน ทากจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ ม ทากิจกรรมสถานศึกษาเพอ่ื พัฒนาตนเอง บาเพ็ญประโยชน์ตอ่ สังคม เพื่อปลูกฝงั จติ อาสา มที กั ษะในการทางาน รักการ วมกับผอู้ ืน่ ไดแ้ ละมเี จตคตทิ ด่ี ี ารทางานและดาเนนิ การจนสาเรจ็ างมคี วามสขุ มงุ่ มั่นพัฒนางาน นผลงานของตนเอง มกบั ผ้อู ืน่ ได้ กท่ีดตี อ่ อาชีพสุจริตและหา ยวกับอาชพี ทต่ี นเองสนใจ

เป้าหมายของโครงการตามพระราชดาริ1 มาตรฐานการศึกษ ดา้ นพทุ ธศิ กึ ษา มาตรฐานท่ี 3 ผเู้ รยี นมีทกั 1. มีโอกาสเข้าถงึ และไดร้ ับบรกิ ารทางการศึกษา ดว้ ยตนเอง รักเรยี นรู้ และ ตวั บ่งช้ีที่ 3.1 มีนสิ ยั รักก ในรูปแบบที่เหมาะสมเพิม่ ข้นึ 2. มคี วามรแู้ ละทกั ษะทจ่ี าเปน็ ในวชิ าภาษาไทย ตนเองจาก ตา่ ง รอบต คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และภาษาองั กฤษ ตัวบ่งชท้ี ี่ 3.2 มที ักษะในก เพมิ่ ขน้ึ ต้ังคาถามเ ตวั บง่ ชีท้ ี่ 3.3 เรยี นร้รู ว่ ม คิดเหน็ เพอ่ื ตวั บง่ ชี้ที่ 3.4 ใชเ้ ทคโนโล ผลงาน มาตรฐานท่ี 4 ผเู้ รยี นมีค เปน็ ระบบ คิดสรา้ งสรรค มีสติสมเหตผุ ล ตวั บง่ ชท้ี ี่ 4.1 สรปุ ความ และสื่อสาร ความคดิ ข ตวั บง่ ชี้ที่ 4.2 นาเสนอวธิ วธิ กี ารของ

ษาขนั้ พืน้ ฐานของสพฐ.2 มาตรฐานโรงเรียนสงั กัด กรงุ เทพมหานคร3 (SMART School) กษะในการแสวงหาความรู้ ตวั ชว้ี ัดท่ี 1 นักเรียนมคี วามสามารถ ะพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเน่ือง ดา้ นการอ่าน การอ่านและแสวงหาความรดู้ ว้ ย หมายถึง นกั เรียนมีพัฒนาการในการอ่าน กหอ้ งสมดุ แหลง่ เรียนรแู้ ละสอ่ื ดีขึ้น ตวั การอ่าน ฟงั ดู พดู เขียนและ ตวั ชว้ี ัดที่ 2 นกั เรียนมีความสามารถ เพื่อค้นคว้าหาความรเู้ พิ่มเตมิ ด้านการคดิ และเขยี น มกนั เปน็ กลมุ่ แลกเปลี่ยนความ หมายถงึ นกั เรียนสามารถพิจารณา อการเรียนรรู้ ะหวา่ งกัน เรื่องราว วเิ คราะห์เหตุและผลที่เกิดขน้ึ จาก ลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอ เรื่องทอ่ี ่านและสามารถคดิ เป็นระบบ นาไปสกู่ ารสรา้ งองคค์ วามรแู้ ละเสนอความ คดิ เหน็ ต่าง ๆ ดว้ ยการเขยี นได้อยา่ ง ความสามารถในการคดิ อยา่ ง เหมาะสม ค์ ตัดสินใจ แก้ปญั หาได้อย่าง ตวั ชว้ี ดั ท่ี 3 นักเรียนคดิ เป็น ทาเปน็ มคิดจากเรอ่ื งทอี่ า่ น ฟังและดู และแก้ปญั หาได้ รโดยการพูดหรือเขียนตาม หมายถงึ นักเรียนสามารถบรู ณาการ ของตนเอง ความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรยี น ทักษะท่ีได้รับ ธคี ดิ วิธแี กป้ ญั หาดว้ ยภาษาหรอื การฝกึ ฝน และคุณลกั ษณะบางประการที่ งตนเอง ได้รบั การปลกู ฝังไปใช้ในการพิจารณา 105 | หนา้

เป้าหมายของโครงการตามพระราชดาริ1 มาตรฐานการศึกษ ตัวบ่งชีท้ ี่ 4.3 กาหนดเป้า ตวั บง่ ชี้ท่ี 4.4 แก้ปญั หาโ มคี วามคิด ความภาค มาตรฐานท่ี 5 ผู้เรียนมีค หลักสตู ร ตัวบง่ ช้ที ่ี 5.1 ผลสมั ฤทธ เปน็ ไปตาม ตวั บง่ ช้ีที่ 5.2 ผลการปร หลักสตู รเป ตัวบง่ ชีท้ ่ี 5.3 ผลการปร และเขยี นเ ตัวบ่งช้ีที่ 5.4 ผลการทด 1 เอกสารอา้ งอิงหมายเลข 2 http://obec.go.th/sites/obec.go.th/files/document/attachment/3604/34 3 www.bangkokeducation.in.th/cms/download/download/file/63.pdf 4 อุดมการณ์สหกรณ์ หมายถึง 1) ลกั ษณะนิสยั ของการพ่งึ ตนเอง 2 1.1) ขยนั อดทน มีวินยั รบั ผดิ ชอบ 1.2) ประหยดั ใช้ทรพั ยากรคุ้มคา่ 1.3) พฒั นาตน ใฝห่ าความรู้ 1.4) หลีกพน้ อบายมขุ ไมค่ บคนชั่ว หนา้ | 106

ษาข้ันพ้ืนฐานของสพฐ.2 มาตรฐานโรงเรียนสังกัด กรงุ เทพมหานคร3 (SMART School) าหมาย คาดการณ์ ตัดสนิ ใจ เรอื่ งราว แยกแยะข้อมลู ระบุข้อดี ขอ้ เสีย โดยมีเหตุผลประกอบ และเหตุผลที่เกดิ ข้ึนจากเหตกุ ารณใ์ น ดรเิ ริ่ม และสรา้ งผลงานดว้ ย ชีวิตประจาวันและสามารถคดิ เป็นระบบ คภูมใิ จ ไปสู่การสรา้ งองคค์ วามรหู้ รอื วธิ แี ก้ปัญหา ได้อย่างเหมาะสม ความรูแ้ ละทกั ษะทจี่ าเป็นตาม ตวั ชีว้ ัดท่ี 4 นักเรียนมผี ลสมั ฤทธิ์ ธ์ิทางการเรียนแตล่ ะกล่มุ สาระ ทางการเรยี นรู้ตามหลกั สูตร มเกณฑ์ หมายถงึ นักเรียนมผี ลสมั ฤทธทิ์ างการ ระเมนิ สมรรถนะสาคญั ตาม เรยี นระดับดีและมีพฒั นาการทางการ ป็นไปตามเกณฑ์ เรียนรทู้ กุ กล่มุ สาระ ระเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์ เปน็ ไปตามเกณฑ์ ดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์ 4246.pdf 2) ลักษณะนิสยั ของการชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั 2.1) ซ่ือสัตย์ สุจรติ ตรงเวลา 2.2) สามคั คี ทางานรว่ มกบั ผู้อนื่ ได้ 2.3) มเี มตตา เสียสละ 2.4) มเี หตผุ ล เคารพกติกา ยึดหลกั ประชาธปิ ไตย

2. หลักการพัฒนา พิจารณาจากหลักการพัฒนาของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามที่ได้กล่าวไว้ในบทแรกจะเห็นว่า โรงเรียนในโครงการเด็กไทยแก้มใสได้มีการน้อมนาเอา หลกั การทรงงานไปปฏบิ ัติ ดังรายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี 2.1 การใหน้ กั เรยี นไดล้ งมอื ปฏบิ ัตดิ ้วยตนเอง (learning by doing) โรงเรียนในโครงการเด็กไทยแก้มใสทั้ง 30 โรงได้นาองค์ประกอบที่ 1 ของการจัดการ อาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรคือ การเกษตรในโรงเรียนไปใช้ในการพัฒนา รูปแบบของการทากจิ กรรมโดยจัดกระบวนการท่ีม่งุ เน้นให้นักเรียนลงมอื ปฏิบัติด้วยตนเอง เช่นการ มอบหมายหน้าที่ให้นักเรียนรับผิดชอบ การบูรณาการแปลงเกษตรของโรงเรียนเข้ากับกลุ่มสาระ ต่าง ๆ การทาเป็นชมรมหรือชุมนุม การจัดเป็นหลักสูตรการงานอาชีพให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ ต้ังแต่เร่ิมต้นปลูก จนกระท่ังกิน ขาย และทาบัญชีรับจ่าย คิดต้นทุนกาไร กระบวนการเหล่าน้ีเป็น การเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สัมผัสกับการทางานเกษตร เช่นปลูกผัก รดน้า ดูแลพืชผักด้วยตนเอง มีประสบการณ์ตรงกับส่ิงเหล่าน้ี จนปรากฏผลเป็นที่ประจักษ์ชัดว่านักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงไป ในทางท่ีดีข้ึนจากมุมมองของครู ผู้บริหารโรงเรียน ชุมชน และตัวนักเรียนเอง เช่น ครูสังเกตเห็น ว่า นักเรียนกินผักมากข้ึน เกิดความรักในการเกษตร นักเรียนเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของ ตนเอง นักเรียนเล่าว่าได้นาความรู้ไปปลูกผักท่ีบ้าน อยากทาการเกษตรในอนาคต ในส่วนของครู เองก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางบวกเช่นกัน เช่น พยายามแสวงหารูปแบบการสอนท่ีหลากหลาย เปลยี่ นจากการสอนในห้องเรียน มาเป็นการสอนนอกหอ้ งเรยี น ซ่ึงผลปรากฏวา่ ทั้งนักเรียนและครู มีความสุขกับกระบวนการเรียนรู้นอกห้องเรียน ข้อมูลข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่ากระบวนที่ใช้ใน โรงเรียนเหลา่ นเ้ี ป็นแนวปฏิบัตทิ ี่สามารถเปน็ ตัวอยา่ งใหก้ ับโรงเรียนอ่ืน ๆ นาไปใช้ตอ่ ไปได้ อยา่ งไรก็ตามการจัดกระบวนการเรียนรู้โดยให้นักเรียนลงมอื ปฏบิ ัติเองที่ปรากฏในโรงเรียน ทงั้ 30 โรงนี้เป็นการใชก้ ับองคป์ ระกอบที่ 1 เทา่ น้นั ยังไม่เหน็ กระบวนการในลักษณะดังกล่าวเกิด ขน้ึ กบั องคป์ ระกอบอ่นื ๆ ของการจดั การอาหารและโภชนาการในโรงเรยี นอย่างครบวงจรอกี เลย 2.2 โรงเรยี นเปน็ ฐานของการพฒั นา ส่ิงท่ีทุกโรงเรียนมีเหมือนกันคือ ครู สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงงานพัฒนาโดยมีโรงเรียนเป็นฐาน เหตุผลหนึ่งก็คือโรงเรียนมีครูที่จะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และ เทคโนโลยีต่าง ๆ ใหแ้ ก่นักเรียนและชุมชน คาว่า “ครู” ตามพจนานุกรมฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายถึง ผู้สั่งสอนศิษย์ ผู้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ ในท่ีนี้หากจะค้นหาครูเป็นต้นแบบ คาตอบก็คือ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อศึกษาค้นคว้าและพิจารณาจากพระราชกรณียกิจของ พระองค์จะเห็นว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นท้ังผู้สั่งสอนศิษย์ และนักพัฒนาพร้อมกันไปด้วย คากล่าวนี้ปรากฏชัดเจนในพระราชดารัสพระราชทานในวโรกาสท่ี รัฐบาลสาธารณรัฐอินเดียทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลอินทิรา คานธี ด้านสันติภาพ การลด อาวุธและการพฒั นา ประจาปี พ.ศ. 2547 เมอื่ วันที่ 19 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2548 ณ กรงุ นวิ เดลี สาธารณรัฐอินเดยี ความว่า 107 | หนา้

... ในเวลานี้ข้าพเจ้ามุ่งพัฒนาการศึกษา การพัฒนาการศึกษาที่ทาอยู่นี้ไม่เพียงแต่ ส่งเสริมการเรียน การสอน และการสร้างอาคารสถานที่เรียนเท่านั้น แต่ว่าต้องทาไป พร้อม ๆ กันด้วยกับเรื่องสุขภาพ การพัฒนาการเกษตรเพื่อการบริโภคในครัวเรือน เพื่ออาหารปลอดภัย รวมทั้งสามารถขายผลผลิตส่วนหนึ่งเป็นรายได้ ข้าพเจ้าเห็นว่า เราควรจะมั่นใจว่างานพัฒนาที่เราทานั้นต้องเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาของ เราต้องมีความสมดุล หมายความว่าเราจะต้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติของเราให้คง อย่เู ปน็ ประโยชนช์ ่ัวลกู หลานด้วย ผู้ทางานพัฒนาควรพร้อมท่จี ะทางานร่วมกับผูอ้ น่ื ท้ังคนในท้องถิน่ และบุคคล กลุ่มอื่น ๆ เช่น องค์กรระหว่างประเทศ รัฐบาลประเทศต่าง ๆ บริษัทธุรกิจ และองค์กร อิสระต่าง ๆ และทส่ี าคัญย่งิ คอื การมขี อ้ มูลเพียงพอจึงจะทางานไดผ้ ล ... พระราชดารัส ในพิธีทูลเกล้าทูลกระหมอ่ มถวายรางวัลอินทริ า คานธี ดา้ นสนั ติภาพ การลดอาวธุ และการพฒั นา ประจาปี พ.ศ. 2547 19 พฤศจกิ ายน 2548 ณ กรุงนวิ เดลี สาธารณรฐั อินเดยี (แปลอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ) ดังนั้นเมื่อโรงเรียนในโครงการเด็กไทยแก้มใสดาเนินงานตามรอยพระยุคลบาท น่ัน หมายความวา่ ครูต้องปรบั บทบาทของตนเอง จาก ครูผสู้ อน เป็น ครนู ักพัฒนา ตามครตู ้นแบบ จากการประมวลองค์ความรู้ของโรงเรียนทั้ง 30 โรงนี้ พบว่า โรงเรียนท้ังหมดมี ประสบการณใ์ นการทากจิ กรรม/โครงการพัฒนาต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านสุขภาพอนามยั มาหลาย โครงการมาก ยกเว้นโรงเรียนในสังกัดคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 5 โรงที่มี ประสบการณ์น้อยกว่าโรงเรียนอื่น ๆ การท่ีโรงเรียนได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการอื่น ๆ มาก่อน เป็นการช่วยหลอ่ หลอมและปรับทศั นคตขิ องครู จากครูผสู้ อนเป็นครูนกั พัฒนา ครมู ีความเข้าใจและ ยอมรบั ในการทางานพัฒนาได้งา่ ยข้ึน ไมม่ องวา่ เป็นภาระทเี่ พมิ่ ขึน้ ดงั นั้นเมื่อนารูปแบบการจดั การ อาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรตามรอยพระยุคลบาทของสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีเข้าสู่โรงเรียน ครูจึงน้อมรับ นาไปพัฒนาต่อยอดและเป็น ระบบได้อย่างรวดเร็ว ต้นทุนสาคัญหรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดแข็งของโรงเรียนเหล่านี้อีกประการหนึ่งคือ โครงสรา้ งพืน้ ฐานที่จาเป็นในการดาเนนิ งานตามรอยพระยุคลบาทของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารใี นการจดั การอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอยา่ งครบวงจร โครงสร้างพ้ืนฐานที่จาเป็น เช่น พื้นท่ีทาการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาท้ังพื้นที่ และระบบน้าเพื่อการเกษตร โรงครัว-โรงอาหาร ห้องส้วม ที่ล้างมือ ห้องพยาบาลและอุปกรณ์ ทางการแพทย์ยาและเวชภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานซึ่งจะเอื้อต่อการพัฒนาสุขนิสัยของนักเรียน จึงไม่ หนา้ | 108

จาเป็นต้องใช้งบประมาณจานวนมากในการสนับสนุนการดาเนินงานโครงการเด็กไทยแก้มใส ทาให้ โรงเรียนส่วนใหญ่สามารถดาเนินงานโดยพุ่งสู่เป้าหมายได้รวดเร็วย่ิงขึ้น ซึ่งผู้บริหารโรงเรียน ท้ังหมดมีความเห็นพ้องกันว่า องค์ประกอบทั้ง 8 องค์ประกอบของการจัดการอาหารและ โภชนาการในโรงเรียนอยา่ งครบวงจร ตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยาม บรมราชกุมารนี ัน้ จะสามารถมาต่อยอดการทางานเดมิ ท่โี รงเรยี นมีอยู่แล้วให้เป็นระบบมากข้นึ และ ทสี่ าคัญทสี่ ดุ คือทาใหเ้ ห็นทิศทางและเปา้ หมายทชี่ ัดเจนของการทางานพฒั นานัน่ กค็ อื “เดก็ ” จากรายงานผลการประมวลองค์ความรู้โดยคณะทางานในแต่ละภาคค้นพบว่า มีหลาย โครงการในหลายโรงเรียนไมส่ ามารถดาเนนิ การต่อไปได้เม่อื สิ้นสุดโครงการนั้น ๆ แล้ว และเมือ่ รับ โครงการเด็กไทยแก้มใสเข้ามา ก็จะช่วยฟ้ืนฟูปรับปรุงงานเดิมให้ดีขึ้น ประสบการณ์เหล่าน้ีเป็น บทเรียนที่จะช่วยสะท้อนให้เห็นว่า การดาเนินโครงการเด็กไทยแก้มใสเพ่ือให้เกิดความย่ังยืนน้ัน จาเป็นต้องมีการสนับสนุนโรงเรียนไปในระยะเวลาหนึ่ง ไม่สามารถยุติได้ภายใน 1-2 ปี ดังเช่น ประสบการณ์ของโรงเรียนในโครงการตามพระราชดาริ ในการดาเนินกิจกรรมการเกษตรใน ระยะแรกต้องใช้ระยะเวลา 2-5 ปี จึงจะสามารถจัดการเพ่ือให้มีกิจกรรมการผลิตท่ีหลากหลายได้ (5) 2.3 การมีส่วนรว่ มของชมุ ชน หลักการสาคัญอีกประการท่ีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงยดึ ถือ ปฏิบัติมาตลอดคือ การมีส่วนร่วมของชุมชน ด้วยทรงเห็นว่าการท่ีเด็ก โรงเรียน และชุมชนได้มี โอกาสร่วมมือกันทากิจกรรมต่าง ๆ ท่ีพระราชทานใหแ้ ก่โรงเรียน จะทาให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้แก่กันและกัน เด็ก โรงเรียน และชุมชนพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน พึ่งตนเอง ได้ และนาไปสู่การพัฒนาท่ีย่ังยืน นอกจากนี้ยังเป็นวิธีท่ีใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ ความใกล้ชิด ไว้วางใจกันระหว่างโรงเรียนและชุมชน ส่งผลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาของนักเรียนและชุมชน ต่อไป ผลจากการประมวลองคค์ วามร้ขู องโรงเรยี นในโครงการเด็กไทยแก้มใสทั้ง 30 โรง พบการ มสี ่วนร่วมของชุมชนทง้ั เป็นบคุ คลและเป็นกลุ่ม แต่จะแตกตา่ งกันไปขนึ้ กบั เงอื่ นไขของแต่ละโรงเรียน ตัวอย่างเช่น โรงเรียนท่ีมีศิษย์เก่าและกรรมการสถานศึกษาท่ีเข้มแข็ง ศิษย์เก่าและกรรมการ สถานศึกษาจะทาหน้าทีใ่ นการเชอื่ มโยงโรงเรียนและชุมชนเขา้ ด้วยกัน โรงเรียนท่ีผู้บริหารโรงเรียน เป็นนักพัฒนาอยู่ในพื้นที่มานาน เข้าใจวิถีชีวิตของชุมชน ผู้บริหารโรงเรียนต้องนาครูช่วยกันสร้าง ความม่ันใจให้กับชุมชนก่อน จึงจะได้รับความร่วมมือจากชุมชน ในบางโรงเรียนที่ต้ังอยู่ในบริบท ของชุมชนท่ีมีลักษณะผสมผสานของผู้คนท่ีอพยพมาจากหลายท้องถิ่นเพื่อมาทางานรับจ้างใน โรงงาน จะสร้างการมีส่วนร่วมได้ยาก โรงเรียนในสังกัด สช. จะประสบปัญหาในเรื่องการมีส่วน ร่วมของผู้ปกครองและชุมชน เนื่องจากผู้ปกครองมีความคาดหวังให้โรงเรียนจัดการศึกษาท่ีมี คุณภาพใหแ้ กบ่ ุตรหลานของตนมากกวา่ การทางานพฒั นา เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับโรงเรียนในโครงการตามพระราชดาริของสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีแล้วจะพบว่า บริบทของโรงเรียนในโครงการตามพระราชดาริ น้ัน ผู้ปกครองและชุมชนจะมีการศึกษาและฐานะทางเศรษฐกิจที่ด้อยกว่า ดังนั้นรูปแบบของการมี 109 | หนา้

สว่ นรว่ มจากชมุ ชนจึงเป็นลักษณะของท้งั ผ้ใู ห้และผ้รู บั พึ่งพาชว่ ยเหลอื ซึง่ กันและกัน (6) ซึ่งต่างจาก บริบทของโรงเรียนในโครงการเด็กไทยแก้มใสท่ีศึกษาในครั้งน้ี ผู้ปกครองและชุมชนส่วนใหญ่จะมี การศึกษาและฐานะทางเศรษฐกจิ โดยรวมดีกวา่ ดังน้ันการมสี ว่ นรว่ มจากชมุ ชนจึงมลี ักษณะเป็นผู้ให้ มากกวา่ และโรงเรยี นมักจะอยู่ในสถานะเป็นผ้ตู ้ังรับ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีมีพระราชดารัสถึงความสัมพันธ์ ระหว่างโรงเรียนและชมุ ชนไวว้ า่ ... โดยที่ถือว่าโรงเรียนนี้เป็นศูนย์กลางของชุมชนแห่งหนึ่ง ถ้าเราสามารถทาให้คนรุ่น ใหม่ในสังคม คือนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียน และพวกผู้ปกครองที่จะมาดูมาช่วยมาเห็น มีความรู้ทางด้านเทคนิคทางการเกษตรอย่างใหม่ที่ทางราชการตั้งใจจะส่งเสริมแต่ก็ ส่งเสริมตั้งแต่ในวัยเด็กวัยเรียน เมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่เขาจะได้มีการได้รับการ ฝึกหดั ให้ทาตามแบบแผนอย่างใหม่ ซ่งึ จะมปี ระสิทธิภาพมากกว่าที่เคยทามา หรือว่า จะได้มีความคุ้นเคยในการติดต่อกับทางราชการ เมื่อมีข้อขัดข้องอะไรจะได้ ปรึกษาหารือกันได้อย่างง่ายขึ้น และผู้ปกครองคนในหมู่บ้านเอง เมื่อมีปัญหา ข้อขดั ขอ้ งอะไรกจ็ ะได้รู้ไดแ้ นว่ ่าจะมที ี่ทจ่ี ะมาหาได้ ไดแ้ ก่ทโ่ี รงเรียน ซึ่งครูจะได้เป็นส่วนท่ี จะชว่ ยเหลอื ได้มาก ... พระราชดารัส 17 พฤศจิกายน 2527 (2) อย่างไรก็ตามในการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนของโรงเรียนในโครงการเด็กไทย แกม้ ใส หากพิจารณามองในมุมกลับกนั กจ็ ะเป็นวิธีการทีจ่ ะเสรมิ สร้างใหเ้ กิดความร่วมมือได้บ้าง น่ัน คอื การใชอ้ งค์ประกอบ 8 องค์ประกอบของการจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนแบบครบ วงจร ตามรอยพระยุคลบาทเป็นตัวเชื่อมประสานโรงเรียนและชุมชนให้เข้าหากันใกล้ชิดกันมากข้ึน ซึ่งผลสุดท้ายจะนาไปสู่ความร่วมมือร่วมใจกันในการพัฒนาเด็กและพัฒนาชุมชนต่อไป ดังตัวอย่าง ของโรงเรียนในโครงการตามพระราชดาริท่ีเร่ิมต้นจากศูนย์ จึงต้องพยายามสร้างข้ึนมาโดยการใช้ ตวั กิจกรรมท่ีได้รบั พระราชทานมาเปน็ ตัวเช่อื ม (6) หรือทพี่ บในโครงการเด็กไทยแก้มใสในบางพื้นที่ เมื่อชุมชนทราบว่าโรงเรียนจะดาเนินงานตามรอยพระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี กพ็ รอ้ มใจกนั มาชว่ ยโรงเรียน 2.4 การประสานกบั ภาคเี ครอื ขา่ ย ในช่วงต้นของการดาเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ประกอบท่ี 1 การเกษตรในโรงเรียน และองค์ประกอบที่ 2 สหกรณ์นักเรียนต้องการการสนับสนุนท้ังทางด้านเทคนิคและงบประมาณ บ้าง ผลการประมวลองค์ความรู้ของโรงเรียน 30 โรงพบว่า โรงเรียนส่วนใหญ่ยังคงประสานกับ เครือข่ายเดิมที่เคยทางานร่วมกันมา เช่นทางด้านสาธารณสุข รวมท้ังปราชญ์ชาวบ้าน ยังขาดการ สนบั สนุนจากหนว่ ยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หนา้ | 110

ในการทางานพัฒนา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเห็นว่า การ รว่ มมอื กนั หลาย ๆ สาขาวิชาเปน็ ส่ิงจาเป็นสาหรับการพัฒนาเดก็ แบบองค์รวม ดงั พระราชดารัสวา่ ... ข้าพเจ้าพบว่า โครงการจะประสบความสาเร็จดีถ้ามีความร่วมมือร่วมแรงจากหลาย ฝ่าย รวมทั้งอาสาสมัครที่มีความตั้งใจช่วยงานด้วย เพราะการพัฒนาเป็นกระบวนการ ที่บูรณาการ ดังนั้นการพัฒนาจึงต้องอาศัยการทางานเป็นทีมเป็นหลัก เมื่อกล่าวถึง “บูรณาการ” ข้าพเจ้าหมายถึงการพัฒนาแบบองค์รวม คือ มีทั้งเรื่องสุขภาพ การฝึก อาชพี การเกษตร และอุตสาหกรรม เป็นตน้ ... พระราชดารัส 24 เมษายน 2551 (12) 3. วธิ กี ารพฒั นา การดาเนินงานพัฒนาตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราช กุมารนี ้ัน จะมหี น่วยงานหลักคอื สานักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราช กุมารี ที่รับผิดชอบในการนาพระราชดารัสมาสู่การปฏิบัติ วิธีการและขั้นตอนการทางาน จะใช้ วงจรการบริหารงานอยา่ งงา่ ย ๆ คือเร่ิมต้นจากการศึกษาข้อมลู ทั้งจากเอกสารและการไปหาข้อมลู ในพ้ืนที่ จัดทาแผนงาน/โครงการ ดาเนินงานตามแผนงาน/โครงการ และติดตามประเมินผลดู ความก้าวหน้าของการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องและสมา่ เสมอ โดยพัฒนาตัวชี้วัดและเคร่ืองมอื วัดท่ี เหมาะสม และจัดทาสรุปผลการดาเนินงานประจาปีและเผยแพร่ผลการประเมนิ ให้กับทุกภาคส่วนท่ี เก่ียวขอ้ ง เพ่ือนามาพัฒนาปรบั ปรุงงานตอ่ ไป อีกประการหนึง่ ที่สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุ ุดา ฯ สยามบรมราชกุมารที รงใหค้ วามสาคญั นัน่ คือ การพฒั นาศักยภาพของครู ทง้ั ในรปู ของการศกึ ษาเพือ่ เพม่ิ คณุ วฒุ ิ การฝึกอบรมระยะยาว การ ฝึกอบรมระยะส้ัน การศึกษาดูงาน การร่วมประชุมวิชาการ ทั้งน้ีเพราะครูเป็นผู้ขับเคล่ือนการ พฒั นาการเปล่ยี นแปลง ดงั พระราชดารัสตอ่ ไปน้ี ... เรามีการอบรมครหู รือมวี ทิ ยากรท่มี าใหแ้ นวความคิดต่างๆ แล้วตัวครูเหล่านี้จะเป็น แกนในการถา่ ยทอดต่อไป เพราะฉะนน้ั ถอื ว่าเปน็ บคุ คลท่สี าคัญ ... พระราชดารัส 18 กันยายน 2526 (2) ผลการประมวลองค์ความรู้โรงเรียนในโครงการเด็กไทยแก้มใสท้ัง 30 โรงพบว่า มีเพียง บางโรงเรียนเท่าน้ันที่มีวิธีการบริหารจัดการและขั้นตอนในการดาเนินงานตามแนวพระราชดาริ ขา้ งตน้ เมอ่ื ผ้บู รหิ ารโรงเรียนแจ้งนโยบายแลว้ จะมอบหมายงานให้ครูอาจเป็นบุคคลหรือในรูปของ คณะกรรมการดาเนินการจัดทาแผนงานและงบประมาณ แล้วจึงลงมือปฏิบัติ พร้อมท้ังผู้บริหาร โรงเรยี นมีการติดตามความกา้ วหนา้ ของการดาเนินงานท้ังอย่างเป็นทางการคือกาหนดเป็นวาระใน การประชุมครูประจาเดือน ซึ่งจะทาให้ครูรับทราบกันทุกคน และอย่างไม่เป็นทางการคือครู 111 | หนา้

ผู้รบั ผิดชอบสามารถเขา้ พบผู้บริหารและรายงานด้วยตนเองได้ จากข้อมูลที่ได้จากผู้บริหารโรงเรียน และครูหลายคนพบว่า การจัดทาแผนจะช่วยทาให้โรงเรียนมีการทางานที่เป็นระบบมากข้ึน ทาให้ เกดิ ความสามัคคแี ละความรว่ มมอื กันระหวา่ งบคุ ลากรในโรงเรียน แต่เน่ืองจากว่าขั้นตอนของการเข้าร่วมโครงการเด็กไทยแก้มใสนั้น จะเร่ิมต้นจากการช้ีแจง แนวพระราชดาริก่อน หลังจากนั้นจึงให้โรงเรียนท่ีสนใจเขียนเป็นโครงการสมัครเข้ามา เพื่อ พิจารณาให้การสนับสนุนงบประมาณในระยะเวลา 1 ปี ทาให้การประมวลองค์ความรู้ในคร้ังน้ียัง ขาดความชัดเจนในเรื่องการจัดทาแผนงาน/โครงการ รวมไปถงึ วธิ ีการบริหารจัดการและข้ันตอนใน การดาเนินงาน นอกจากน้ียังไมม่ หี น่วยงานหรือระบบรองรบั ในเร่อื งของการพฒั นาครแู ละบุคลากร ผู้ปฏบิ ตั งิ าน มที ่กี ลา่ วถึงในการประมวลองค์ความรู้ให้ครั้งน้ีคือ หลักสูตรการฝึกอบรมท่ีดาเนินการ โดยศูนย์อนามัยเพียงคร้ังเดียวเมื่อเริ่มต้นโครงการ และการฝึกอบรมการใช้โปรแกรม Thai School Lunch เท่านน้ั จากการสอบถามผู้เข้าร่วมประชุม “ตามรอยพระบาท พัฒนาอาหาร โภชนาการ และ สุขภาพเด็กในโรงเรียน” เมื่อวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2559 ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ กรุงเทพมหานคร ซ่ึงจัดโดยสมาคมโภชนาการแห่งประเทศในพระราชูปถัมภ์ ฯ พบประเด็นท่ี น่าสนใจ คือ ผู้เข้าร่วมประชุมซ่ึงเป็นผู้บริหารโรงเรียนที่สนใจในการดาเนินงานตามรอยพระยุคล- บาทของโครงการเด็กไทยแก้มใสร้อยละ 35.4 เห็นว่าการขาดบุคลากรเป็นข้อจากัดในการ ดาเนินงาน นอกจากนี้ร้อยละ 35.1 และ 33.8 เห็นว่าข้อจากัดในการดาเนินงานมาจากการรอ การสนับสนุนจากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง และการขาดทักษะ ตามลาดับ ส่วนเร่ืองงบประมาณ สนบั สนุนมเี พยี งร้อยละ 4.6 เท่าน้นั ทถี่ ือว่าเป็นข้อจากัดในการดาเนินงาน ตารางท่ี 6 จานวนและร้อยละของขอ้ จากดั ในการดาเนนิ การ 8 องคป์ ระกอบในโรงเรียน ข้อจากดั จานวน ร้อยละ อนั ดบั 1 ขาดบคุ ลากร 116 35.4 อันดับ 2 รอการสนบั สนนุ จากหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ ง 115 35.1 อันดบั 3 มปี ัญหาเรอ่ื งสถานที่ 113 34.5 อนั ดับ 4 ขาดทักษะ 111 33.8 อนั ดบั 5 ไมไ่ ด้รบั ความร่วมมอื จากชุมชน 35 10.7 อันดับ 6 ดา้ นงบประมาณสนับสนนุ 15 4.6 อนั ดับ 7 ด้านบรหิ าร 3 0.9 หนา้ | 112

ข้อเสนอแนะ จากภาพรวมของการดาเนินงานตามรอยพระยุคลบาทในโรงเรียนโครงการเด็กไทยแก้มใส จะพบทั้งสิ่งท่ีเอื้อต่อการพัฒนาและข้อจากัด จึงนามาสู่ข้อเสนอแนะเพ่ือการดาเนินงานโครงการ เดก็ ไทยแก้มใสตอ่ ไปในอนาคต ดังรายละเอยี ดพอสงั เขปต่อไปน้ี 1. ผนู้ าการเปลยี่ นแปลง ผลการประมวลองค์ความรู้ในทุกโรงเรียนพบว่า ผู้ท่ีนาโครงการเด็กไทยแก้มใสเข้าสู่ โรงเรียน คือ ผู้บริหารโรงเรียน การตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียนขึ้นอย่กู ับปัจจัย 3 ข้อ คือ 1) ความตระหนักถงึ ความสาคญั ของสุขภาพอนามัยของเดก็ ต่อการเรียนรู้ เห็นประโยชน์ท่ีจะเกิดข้ึนกับ ตัวเด็ก 2) ความสอดคล้องของโครงการเด็กไทยแก้มใสกับโครงการที่ทาอยู่ 3) ความรักและความ ศรัทธาในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี การที่ได้เห็นพระองค์ทรงห่วงใยเด็ก และประชาชน และอุทิศพระองค์ทางานมาอย่างต่อเน่ือง จึงทาให้ผู้บริหารโรงเรียนทุกคนมีความ มงุ่ มั่นที่จะทางานนี้ ดังนั้นผู้บริหารโรงเรียนจึงเป็นกุญแจสาคัญที่สุด ที่จะเป็นผู้จุดประกายและผู้นาการ เปลี่ยนแปลง การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ผู้บริหารโรงเรียนเพื่อนาไปถ่ายทอดให้เกิดความเข้าใจแนว พระราชดาริและการดาเนินงานตามรอยพระยุคลบาทในการจัดการอาหารและโภชนาการใ น โรงเรียนอย่างครบวงจรจงึ เปน็ หวั ใจสาคัญยิ่ง ผู้บริหารต้องมคี วามเขา้ ใจอย่างลกึ ซ้ึงและชดั เจนจงึ จะ ตัดสินใจได้ และช่วยโน้มน้าวให้คณะครู บุคลากร ชุมชนเห็นความสาคัญของการพัฒนาคุณภาพ ของนักเรียนและเกดิ ความร่วมแรงรว่ มใจกันทีจ่ ะทางานตามรอยพระยคุ ลบาทตอ่ ไป 2. การขบั เคล่ือนการดาเนินงาน เม่ือนาโครงการเด็กไทยแก้มใสเข้าสู่โรงเรียนแล้ว จุดเริ่มต้นของการขับเคล่ือนงาน คือ การประชุมชี้แจงโดยผู้บริหาร เพ่ือให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวได้มองเห็นภาพของการดาเนินงานตาม รอยพระยุคลบาทของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในการจัดการอาหารและ โภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรด้วยโครงการเด็กไทยแก้มใส รับทราบว่าจะมีอะไรเกิดข้ึนที่ โรงเรยี น และโรงเรียนกาลังจะเดินทางไปในทิศทางใด เป็นการสร้างวิสัยทัศน์และเป้าหมายร่วมกัน เกิดเป็นความร่วมแรงร่วมใจ ขับเคลื่อนงานไปในทิศทางเดียวกัน และท่ีสาคัญอีกประการหนึ่งคือ เพื่อใหผ้ ู้รว่ มงานปรับแนวคิด ทศั นคติ เหน็ ภาพของการพฒั นาเดก็ แบบองค์รวม และความเชื่อมโยง ของกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทาในโรงเรียนทั้งของเดิมและของใหม่ การขับเคล่ือนการดาเนินงาน สามารถแบ่งไดเ้ ปน็ 2 สว่ นดังนี้ 2.1 การขับเคลื่อนการดาเนินงานภายในโรงเรียน โดยการประชุมชี้แจงให้ครูและ บุคลากรของโรงเรียนซึ่งจะเป็นเสมือนฟันเฟืองท่ีจะช่วยกันขับเคลื่อนการ ดาเนินงานตามรอยพระ ยุคลบาทนี้ ผลการประมวลองค์ความรู้ค้นพบว่า การขับเคล่ือนจะมีพลังเมื่อผู้บริหารกาหนดเป็น นโยบายหรือเป็นวาระของโรงเรียน ทาให้ทุกส่วนของโรงเรียนขับเคลื่อนไปพร้อมกันและไปใน ทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตามพบว่า นโยบายนี้จะมีอยู่แค่ระดับโรงเรียนเท่าน้ัน เม่ือเปล่ียน 113 | หนา้

ผู้บริหารโรงเรียน นโยบายอาจเปล่ียนแปลงได้ ดังนั้นการทาให้นโยบายนี้เข้มแข็งและย่ังยืน จาเป็นต้องเป็นนโยบายในระดับต้นสังกัดในพื้นที่และส่วนกลางด้วย เพื่อให้เกิดพลังการขับเคลื่อน ดังท่ปี รากฏในโรงเรยี นโครงการตามพระราชดาริ (6) นอกจากนโยบายแล้ว การพัฒนาวิธีการบริหารจัดการก็เป็นประเด็นสาคัญที่จะทาให้การ ขบั เคล่ือนการดาเนินงานตามรอยพระยคุ ลบาทเป็นระบบ เพ่ือให้เกดิ ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ล 2.2 การขับเคลือ่ นการดาเนินงานภายนอกโรงเรียน คือการประชุมชี้แจงกลุ่มผู้ปกครอง ชุมชน ภาคเครือข่ายของโรงเรียน เพราะเด็กและโรงเรียนเป็นของชุมชน ไม่ว่าผู้บริหารโรงเรียน และครูจะโยกย้ายอย่างไร ก็จะไม่กระทบกระเทือนกับกิจกรรมการพัฒนาต่าง ๆ ท่ีดาเนินการอยู่ กลุ่มน้ีจะกลายเป็นพลังหลักในการขับเคล่ือนการดูแลรักษาให้กิจกรรมต่าง ๆ ดารงสภาพอยู่อย่าง ยั่งยืน 3. ชว่ งการเปลย่ี นแปลง ภาพทป่ี รากฏในโรงเรียนโครงการเด็กไทยแก้มใสในชว่ งปีที่ 1 ของการดาเนินงานจะเห็นว่า เป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนในเรื่องหลัก ๆ คือ 1) แนวคิดและวิธีการทางานจากการทางาน โครงการเด่ียว ๆ มีเป้าหมายเฉพาะด้านใดด้านหน่ึง จบตามปีท่ีของบประมาณสนับสนุน มาเป็น การพัฒนาแบบองค์รวมทม่ี ีเป้าหมายของการพฒั นาอยู่ทีต่ ัวเด็ก จึงเป็นการพฒั นาอย่างตอ่ เน่ือง 2) บทบาทของครูในฐานะผู้สอน ผู้ให้ความรู้ เปล่ียนไปเป็นครูนักพัฒนา ซึ่งต้องส่งเสริมใหเ้ ด็กพัฒนา ศักยภาพในด้านอ่ืน ๆ ด้วยนอกเหนือจากวิชาการ และ 3) กระบวนการเรียนรู้ที่ต้องเปลี่ยนจาก การสอนในห้องเรียนมาเป็นการให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง โดยใช้องค์ประกอบ 8 องค์ประกอบของการจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอย่างครบวงจรน้ันเป็นส่ือการเรียนรู้ สาหรับนกั เรยี น ใหน้ กั เรียนไดเ้ รยี นรอู้ ย่างครบวงจร จากการคณะทางานประมวลองค์ความรู้ทุกพ้ืนท่ีได้ลงไปเยยี่ มโรงเรียน 2 ครั้ง ทาให้พบว่า สิ่งท่ีผู้ปฏิบัติงานต้องการในช่วงของการเร่ิมต้นโครงการเด็กไทยแก้มใส ซึ่งเป็นช่วงของการ เปล่ยี นแปลงดังกล่าวข้างต้น คอื การเสริมพลังเปน็ ระยะ ด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ เช่น  การฝึกอบรมเพ่อื ใหเ้ ข้าใจแนวพระราชดารอิ ย่างลกึ ซงึ้  การนิเทศติดตามเป็นระยะ ๆ นอกจากจะเป็นการสร้างขวัญและกาลังใจในการ ปฏิบัติงาน ทาให้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวแล้ว ช่วงของการนิเทศยังสามารถสอดแทรกความรู้ ทางวิชาต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ หรือช่วยโรงเรียนแก้ไขปัญหาที่เกิดข้ึนในระหว่างการ ดาเนนิ งานได้ 4. การพฒั นาศกั ยภาพของครูและบุคลากร ควรมีหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของครู บุคลากรใน โรงเรียน ตลอดจนผู้ปกครองชุมชน ทั้งเรื่องท่ีเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบท้ัง 8 องค์ประกอบ การ บริหารจัดการโครงการ การทางานเป็นทีม การสร้างการมีส่วนร่วม และอ่ืน ๆ โดยวิธีการ หนา้ | 114

ฝึกอบรม การพัฒนาสือ่ การศกึ ษาดูงาน การประชุมแลกเปลย่ี นประสบการณ์ การประชุมวิชาการ ฯลฯ 5. การเสรมิ สรา้ งการมีสว่ นรว่ มของชมุ ชนและเครอื ข่ายอ่นื ๆ การมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นส่ิงท่ีจาเป็นอย่างย่ิง จึงควรกระตุ้นให้ทุกพื้นท่ีได้ตระหนักถึง ความสาคัญและหาวิธีการท่ีจะทาให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนมากข้ึน และควรเปน็ ในลกั ษณะของทั้งผู้ให้และผรู้ บั พ่งึ พากันและกนั ... งานพัฒนาเป็นงานที่ยากและใช้เวลานานกว่าจะทาได้สาเร็จ นักพัฒนาจึงต้อง อดทน มั่นคงในธรรม คุณงามความดี ทั้งยังต้องถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง เพื่อใหผ้ ้อู ื่นเชอื่ ถือไวว้ างใจ ... พระราชดารัส ในพิธที ูลเกล้าทลู กระหม่อมถวายรางวัลอินทิรา คานธี ดา้ นสันตภิ าพ การลดอาวธุ และการพัฒนา ประจาปี พ.ศ. 2547 19 พฤศจกิ ายน 2548 ณ กรุงนวิ เดลี สาธารณรัฐอนิ เดีย (แปลอย่างไมเ่ ป็นทางการ) 115 | หนา้

เอกสารอา้ งอิง 1. เทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี. สมเด็จพระ. พระราชนิพนธ์สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เก่ียวกับโรงเรียนตารวจตระเวนชายแดน. กรุงเทพฯ: อมรินทรพ์ ริน้ ติ้งแอนดพ์ บั ลชิ ชง่ิ , 2551. 2. โครงการสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี, สานักงาน. ประมวลพระราช ดารสั สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน ในถิน่ ทรุ กนั ดาร พทุ ธศักราช 2524 - 2553. กรุงเทพฯ: อมรินทรพ์ ร้ินติ้งแอนดพ์ ับลชิ ชงิ่ , 2554. 3. โครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี, สานักงาน. แผนพัฒนาเด็ก และเยาวชนในถนิ่ ทุรกนั ดารตามพระราชดาริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราช กุมารี ฉบับท่ี 4 พ.ศ. 2550 - 2559. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พร้ินติ้งแอนด์พับลิชช่ิง, 2552. 4. คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ. กรอบยทุ ธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย. กรงุ เทพฯ : สานกั งานเลขานุการคณะกรรมการอาหารและยาแห่งชาติ, 2554. 5. นันทพร วีรวัฒน์. รูปแบบการบริหารจัดการอาหารและโภชนาการในโรงเรียนอยา่ งครบ วงจร ตามรอยพระยุคลบาท สมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี: ด้าน การพัฒนาอาหาร โภชนาการและสุขภาพอนามัยในโรงเรียน. พิมพ์คร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์, 2556. 6. นันทพร วีรวัฒน์ และคณะ. การประมวลองค์ความรู้จากประสบการณก์ ารดาเนินงานตาม รอยพระยุคลบาทเพื่อพัฒนาด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพเด็กในโรงเรียนโครงการ ตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพ่ือนาไปสู่การ ขยายผลอยา่ งกวา้ งขวางและยงั่ ยนื . กรงุ เทพฯ : สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระ ราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี, 2558. 7. อาภาพร เผ่าวัฒนา และคณะ. รายงานการประมวลองค์ความรู้การดาเนินงานตามรอย พระยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในโรงเรียนโครงการ เด็กไทยแกม้ ใส กรณีศกึ ษา: ภาคกลาง, 2559. 8. นพวรรณ เปียซื่อ และคณะ. รายงานการประมวลองค์ความรู้การดาเนินงานตามรอยพระ ยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในโรงเรียนโครงการเด็กไทย แก้มใส กรณีศกึ ษา: กรงุ เทพมหานคร, 2559. หนา้ | 116

9. ปรัญรัชต์ ธนวิยุทธ์ภัคดี และคณะ. รายงานการประมวลองค์ความรู้การดาเนินงานตาม รอยพระยคุ ลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในโรงเรียนโครงการ เด็กไทยแก้มใส กรณีศึกษา: ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื , 2559. 10.นิพนธ์ รัตนาคม และคณะ. รายงานการประมวลองค์ความรู้การดาเนินงานตามรอยพระ ยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในโรงเรียนโครงการเด็กไทย แกม้ ใส กรณศี กึ ษา: ภาคใต้, 2559. 11.วิรัตน์ คาศรจี ันทร์ และคณะ. รายงานการประมวลองคค์ วามรู้การดาเนินงานตามรอยพระ ยุคลบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีในโรงเรียนโครงการเด็กไทย แก้มใส กรณศี กึ ษา: ภาคเหนือ, 2559. 12.โครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี, สานักงาน. เสริมสร้าง โภชนาการท่ีดี : พื้นฐานของการพัฒนา 30 ปี พระราชกรณียกิจการพัฒนา สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์พบั ลชิ ช่งิ , 2553. 117 | หนา้

หนา้ | 118

ภาคผนวก ก รว่ มประกาศเจตนารมณ์รวมพลงั เพอื่ เดก็ ไทยแก้มใส ถวายเจา้ ฟา้ นกั โภชนาการ เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2557 ท่ีโรงแรมเซนทรา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ สานักงาน โครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี กระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กรม ส่งเสริมการเกษตร สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ และสานักงานกองทุน สนับสนนุ การสร้างเสริมสขุ ภาพ (สสส.) รว่ มจดั พิธี “ประกาศเจตนารมณ์ รวมพลังเพ่ือเด็กไทยแก้ม ใส” โดยมีผูบ้ ริหารโรงเรียนระดบั ประถมศกึ ษาเขา้ รว่ มกวา่ 700 แห่ง 119 | หนา้

นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ ประธานโครงการเด็กไทยแก้มใส (Healthy Kids Healthy Food ถวายเจ้าฟ้านักโภชนาการ) กล่าวว่า ในวโรกาสท่ีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี จะมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ท้ัง 9 หน่วยงาน จึงร่วมกันดาเนินโครงการเด็กไทย แก้มใส เพ่อื ช่วยสง่ เสรมิ ใหเ้ ด็กไทยมภี าวะโภชนาการและสขุ ภาพตลอดจนคุณภาพชีวติ ทด่ี ีอย่างยั่งยืน มโี รงเรยี นระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ เข้าร่วมงานในครัง้ น้ี 726 แหง่ ท้ังน้ี มีแนวทางดาเนินงาน ดังน้ี 1. การเกษตรในโรงเรียน 2. สหกรณ์นักเรียน 3. การ จัดบริการอาหารของโรงเรียน 4. การติดตามภาวะโภชนาการ 5. การพัฒนาสุขนิสัยของนักเรียน 6. การพัฒนาอนามยั สิ่งแวดล้อมของโรงเรียนให้ถูกสุขลักษณะ 7. การจัดการบริการสุขภาพ 8. การจดั การเรียนรู้ : เกษตร โภชนาการและสขุ ภาพพอนามยั อย่างไรก็ตาม จากการดาเนินโครงการพบว่า ในพ้ืนท่ีเขตเมืองโดยเฉพาะกทม. พบว่า ภาวะอ้วนเป็นปัญหาใหญ่ มีสัดส่วนเด็กอ้วนมากกว่าร้อยละ 10 ยง่ิ ในโรงเรียนสังกัดเอกชน จะพบ ปัญหาที่รุนแรงมาก พบเด็กอ้วนในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 40 ถือเป็นความสาคัญที่ทุกฝ่ายต้อง รว่ มมอื กนั หากทกุ ฝ่าย ตระหนักถึงปญั หา เชอ่ื วา่ ภายใน 2 ปแี รกของการดาเนนิ โครงการเดก็ ไทย แก้มใส จะเริม่ เห็นแนวโนม้ สถานการณ์ทีด่ ีขึน้ อตั ราของเด็กอ้วนจะเริ่มลดลงได้ ซ่ึงการเปิดโครงการ เด็กไทยแก้มใส ถอื เป็นการสรา้ งเจตนารมณ์รว่ มกนั ให้เกิดความมุง่ มั่นเปลยี่ นแปลงคณุ ภาพเดก็ ไทย ด้าน สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ใน ฐานะดูแลโรงเรียนทั่วประเทศ ได้ให้ความสาคัญกับโครงการเด็กไทยแก้มใสเป็นลาดับแรก และได้ เตรียมพัฒนาแนวทางบูรณาการโครงการน้ีร่วมกับกองทุนอาหารกลางวันเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ต่อไป ขณะท่ีนพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การพัฒนาทักษะในด้าน การจัดการอาหารในโรงเรียน โภชนาการและสุขภาพอนามัย ถือเป็นจุดเร่ิมต้นของการพัฒนา ทักษะในการดารงชีวิตของเด็ก โดยใช้คู่มือที่ประมวลองค์ความรู้จากโครงการเกษตรเพ่ืออาหาร กลางวันตามแนวพระราชดาริ ในโครงการเด็กไทยแกมใสนี้ กรมอนามัย ร่วมพัฒนาคู่มือฝึกอบรม เคร่ืองมอื ติดตามผลสาหรับครแู ละผูบ้ รหิ ารโรงเรยี น รวมทง้ั จัดให้นักวชิ าการประจาศนู ย์อนามยั เขต 12 เขตทั่วประเทศ เป็นพ่ีเลี้ยง ทมี่ า : http://www.posttoday.com/social/health/325590 หนา้ | 120

ภาคผนวก ข รายชอ่ื โรงเรยี นโครงการเดก็ ไทยแกม้ ใสปที ี่ 1 (พ.ศ. 2557-2558) ชื่อโรงเรียน ภาค จงั หวดั สังกัดสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน เหนือ กาแพงเพชร (สพฐ.) เหนอื กาแพงเพชร 1 บ้านคลองเตย เหนอื กาแพงเพชร 2 บ้านโชคชัยพฒั นา เหนือ นครสวรรค์ 3 บา้ นไพรสวรรค์ เหนือ นครสวรรค์ 4 บ้านหนองไผ่ เหนอื นครสวรรค์ 5 บา้ นหนองไมแ้ ดง เหนอื นครสวรรค์ 6 พยหุ ะศึกษาคาร เหนอื นครสวรรค์ 7 วัดนากลาง เหนอื นครสวรรค์ 8 บ้านไร่ไทรทองพระยาลับแล เหนือ นครสวรรค์ 9 วัดปากคลองปลากด เหนือ 10 วดั หนองตางู เหนอื พิจิตร 11 วัดบา้ นบางลายใต้ เหนือ พิจติ ร 12 อนุบาลบางมูลนาก ราษฎร์อุทศิ เหนอื พจิ ติ ร 13 บา้ นแหลมรงั \"ราษฎรบ์ ารงุ \" เหนือ พิจิตร 14 วดั วังสาโรง เหนือ พจิ ิตร 15 อนุบาลวชิรบารมี (ต้นประด)ู่ เหนอื เพชรบูรณ์ 16 บา้ นห้วยระหงส์ เหนือ เพชรบรู ณ์ 17 ไทยรฐั วทิ ยา 25 (บ้านบงุ่ น้าเตา้ ) เหนอื เพชรบูรณ์ 18 บา้ นตะกดุ เปา้ เหนอื เพชรบรู ณ์ 19 บา้ นหว้ ยสะแก เหนอื ตาก 20 ไทยรฐั วทิ ยา 61 (บา้ นห้วยยะอุ) ตาก 21 บ้านวงั ประจบ 121 | หนา้

ชอื่ โรงเรียน ภาค จังหวดั 22 ญาณวศิ ษิ ฎ์ เหนือ ตาก 23 บ้านหนองบวั เหนอื ตาก 24 บา้ นหนองนกปีกกา เหนอื ตาก 25 แม่สอด เหนอื ตาก 26 บ้านแม่กลองนอ้ ย เหนือ ตาก 27 บ้านซับไมแ้ ดง เหนือ เพชรบรู ณ์ 28 บา้ นกองทลู (พิทักราษฎร์วิทยาคาร) เหนอื เพชรบรู ณ์ 29 บ้านเซอะทะ เหนอื ตาก 30 ชุมชนบา้ นทา่ สองยาง เหนอื ตาก 31 ทา่ นผูห้ ญิงพรสม กณุ ฑลจนิ ดา เหนือ ตาก 32 บา้ นแมส่ ละ เหนือ ตาก 33 บ้านปูแป้ เหนือ ตาก 34 รวมไทยพัฒนา 6 เหนือ ตาก 35 บา้ นแมอ่ อกฮู เหนือ ตาก 36 บ้านแม่ระเมงิ เหนอื ตาก 37 บ้านแมป่ ะ เหนอื ตาก 38 ชมุ ชนบ้านพบพระ เหนอื ตาก 39 บา้ นสะเดา เหนอื พิษณโุ ลก 40 มะตอ้ งประชาสรรค์ เหนอื พิษณุโลก 41 ไทยรัฐวทิ ยา 8 (บ้านมะขามสูง) เหนือ พษิ ณโุ ลก 42 บ้านเนินสุวรรณ เหนือ พษิ ณโุ ลก 43 บา้ นขนุ น้าคบั เหนอื พษิ ณุโลก 44 ทบั ยายเชยี งวทิ ยา เหนอื พิษณุโลก 45 สามัคควี ิทยา เหนือ สโุ ขทยั 46 บา้ นหว้ ยโป้ เหนือ สโุ ขทยั 47 บา้ นผาเวยี ง เหนือ สโุ ขทยั 48 อนบุ าลศรนี คร (ไทยธัญญานุกูล) เหนอื สโุ ขทยั 49 ไทยรัฐวิทยา 30 (ศรีสงั วร) เหนอื สโุ ขทัย 50 ท่าปลาอนุสรณ์ 1 เหนอื อุตรดติ ถ์ 51 อนบุ าลไทยรฐั วิทยา 5 (วัดตลิ่งต่า) เหนือ อตุ รดติ ถ์ 52 บา้ นในเมือง เหนือ อตุ รดิตถ์ หนา้ | 122

ชื่อโรงเรียน ภาค จังหวัด 53 บ้านป่าตุ้ม เหนอื เชยี งใหม่ 54 ไทยรัฐวิทยา 12 (บ้านเอก) เหนือ เชียงใหม่ 55 บา้ นหลวง เหนือ เชียงใหม่ 56 บ้านแม่ตูบ เหนือ เชยี งใหม่ 57 ชมุ ชนสหกรณ์นิคมวทิ ยา เหนือ เชียงใหม่ 58 บ้านสะลวงนอก เหนอื เชียงใหม่ 59 บา้ นเหมืองแร่ เหนอื เชียงใหม่ 60 บา้ นท่งุ แก เหนอื เชียงใหม่ 61 บ้านมว่ งชุม เหนือ เชยี งใหม่ 62 บา้ นหว้ ยมว่ ง เหนือ เชียงใหม่ 63 บ้านพยุ เหนอื เชียงใหม่ 64 เจา้ พ่อหลวงอปุ ถมั ภ์ 7 เหนอื เชียงใหม่ 65 บ้านจันทร์ เหนอื เชยี งใหม่ 66 บ้านกาดฮาว เหนอื เชยี งใหม่ 67 บา้ นดอนแกว้ เหนือ เชียงใหม่ 68 บา้ นแมน่ าจร เหนอื เชยี งใหม่ 69 บ้านห้วยเฮ่ยี น เหนอื เชยี งใหม่ 70 บา้ นสนั พระเนตร เหนือ เชียงใหม่ 71 บา้ นแมก่ รณ์ เหนือ เชยี งราย 72 บา้ นดู่ (สหราษฎรพ์ ัฒนาคาร) เหนอื เชียงราย 73 บา้ นทงุ่ ก่อ (ใจประชานุเคราะห์) เหนือ เชยี งราย 74 บา้ นเกย๋ี ง เหนือ เชยี งราย 75 บ้านหว้ ยขม เหนอื เชียงราย 76 บา้ นโป่งปูเฟือง เหนอื เชียงราย 77 บ้านทุ่งหลวง เหนือ เชยี งราย 78 บ้านเชยี งเคีย่ น (คณาราษฎรบ์ ารุง) เหนือ เชียงราย 79 บ้านหนองบวั แดง เหนือ เชยี งราย 80 บ้านสนั กอง เหนอื เชียงราย 81 เวียงเทิง (เทิงทานุประชา) เหนอื เชยี งราย 82 แมม่ อญวทิ ยา เหนอื เชียงราย 83 วดั เมธังกราวาส (เทฒรัฐราษฎรน์ ุกูล) เหนอื แพร่ 123 | หนา้

ช่อื โรงเรียน ภาค จงั หวดั 84 บ้านใน (อินทราษฎรบ์ ารงุ ) เหนือ แพร่ 85 บา้ นหว้ ยห้า เหนือ แม่ฮ่องสอน 86 ไทยรฐั วิทยา 99 (บ้านแมส่ ยุ ะ) เหนอื แม่ฮอ่ งสอน 87 บ้านอมพาย เหนือ แม่ฮ่องสอน 88 บ้านแม่เตย๋ี เหนือ แมฮ่ ่องสอน 89 บ้านแมป่ าง เหนือ แม่ฮ่องสอน 90 บ้านห้วยแฮว้ เหนอื น่าน 91 บา้ นร่มเกลา้ เหนือ นา่ น 92 ภูเค็งพัฒนา เหนือ นา่ น 93 บ้านเปา เหนือ นา่ น 94 บ้านหมากหวั วัง เหนอื ลาปาง 95 บ้านทา่ เวียง เหนือ ลาปาง 96 บ้านปา่ ตาล เหนือ ลาปาง 97 ผาปังวทิ ยา เหนอื ลาปาง 98 สนั โปง่ วทิ ยา เหนือ ลาปาง 99 ชุมชนบา้ นสา เหนือ ลาปาง 100 บา้ นแมต่ าลนอ้ ย ปางปง-ปางทราย เหนอื ลาปาง 101 อนบุ าลสบปราบ เหนอื ลาปาง 102 ทองทพิ ย์วทิ ยา เหนอื ลาปาง 103 วัดบ้านแลง เหนอื ลาปาง 104 ชมุ ชนบ้านแม่ฮาว เหนอื ลาปาง 105 บา้ นวังโป่ง เหนอื ลาปาง 106 ชมุ ชนบ้านฟ่อนวิทยา เหนือ ลาปาง 107 บ้านหลวงเหนอื เหนือ ลาปาง 108 บา้ นไหล่หิน เหนอื ลาปาง 109 บา้ นนากวาง เหนอื ลาปาง 110 บา้ นห้วยสิงห์ เหนอื แมฮ่ ่องสอน 111 วัดเนินเสมอ (พินิจวทิ ยา) เหนือ พจิ ิตร 112 บา้ นใหม่ เหนือ แม่ฮอ่ งสอน 113 อนุบาลวังเจ้า เหนอื ตาก 114 บา้ นเกาะอา้ ยด้วน เหนือ ตาก หนา้ | 124

ชอื่ โรงเรียน ภาค จังหวดั 115 บ้านวังกระดท่ี อง เหนือ พจิ ิตร 116 วัดตน้ ไคร้ เหนือ แพร่ 117 บ้านปลกั คล้า ใต้ สงขลา 118 ไทยรัฐวิทยา 53 (บา้ นคลองขนาน) ใต้ กระบ่ี 119 ราชประชานุเคราะห์ 1 ใต้ กระบี่ 120 บ้านคลองป้ิง ใต้ กระบ่ี 121 บา้ นทงุ่ วิทยพฒั น์ ใต้ กระบ่ี 122 ชมุ ชนบ้านศาลาด่าน ใต้ กระบี่ 123 บ้านบางหอย ใต้ กระบ่ี 124 บา้ นคลองพระยา ใต้ กระบี่ 125 บ้านทุง่ ปรอื ใต้ กระบี่ 126 บา้ นโคกกลาง ใต้ กระบี่ 127 บ้านคลองไคร ใต้ กระบี่ 128 บา้ นลาทับ ใต้ กระบ่ี 129 ชุมชนวัดขนั เงิน ใต้ ชมุ พร 130 บา้ นทา่ ขา้ ม ใต้ นครศรีธรรมราช 131 บ้านนาโพธิ์ ใต้ นครศรีธรรมราช 132 วดั สระไคร ใต้ นครศรีธรรมราช 133 วัดหนองแตน ใต้ นครศรีธรรมราช 134 ชมุ ชนบ้านบางจาก ใต้ นครศรีธรรมราช 135 วดั นาหมอบุญ ใต้ นครศรธี รรมราช 136 บ้านกุยเหนือ ใต้ นครศรธี รรมราช 137 บา้ นคลองเสาเหนือ ใต้ นครศรธี รรมราช 138 วัดสวา่ งอารมณ์ ใต้ นครศรีธรรมราช 139 วัดบางใหญ่ ใต้ นครศรีธรรมราช 140 บา้ นหนองหนอน ใต้ นครศรธี รรมราช 141 วดั แหลม ใต้ นครศรธี รรมราช 142 วัดควน ใต้ นครศรธี รรมราช 143 บา้ นอา่ วตะเคยี น ใต้ นครศรธี รรมราช 144 บ้านบางคร่งั ใต้ พังงา 145 ครุ ะบุรี ใต้ พงั งา 125 | หนา้

ช่ือโรงเรยี น ภาค จงั หวดั 146 วดั เหมืองประชาราม ใต้ พังงา 147 บ้านบางวัน ใต้ พังงา 148 บา้ นทา่ ปากแหวง่ ใต้ พังงา 149 บา้ นทุ่งรักชัยพฒน์ ใต้ พังงา 150 บา้ นพารา ใต้ ภเู กต็ 151 วัดสุวรรณครี วี งก์ ใต้ ภูเก็ต 152 บา้ นสาคู ใต้ ภูเกต็ 153 สทิ ธ์สิ นุ ทรบารุง ใต้ ภเู กต็ 154 บา้ นบางหิน ใต้ ระนอง 155 บา้ นบางรน้ิ ใต้ ระนอง 156 บา้ นนา ใต้ ระนอง 157 บา้ นเชี่ยวเหลยี ง ใต้ ระนอง 158 บ้านบางกลาง ใต้ ระนอง 159 บ้านหว้ ยเสียด ใต้ ระนอง 160 บ้านทองหลาง ใต้ ระนอง 161 ทบั ไชยาพัฒนา ใต้ ระนอง 162 ไทยรฐั วิทยา 97 (บา้ นบางบอน) ใต้ ระนอง 163 บา้ นมาบตาพตุ ใต้ ระยอง 164 บา้ นไสขาม ใต้ สุราษฎรธ์ านี 165 ไทยรัฐวิทยา 88 ใต้ สุราษฎร์ธานี 166 บ้านฉางหลาง ใต้ ตรัง 167 บ้านจจิ กิ ใต้ ตรัง 168 บ้านท่งุ ข้เี หลก็ ใต้ ตรัง 169 บ้านดหุ ุน ใต้ ตรัง 170 บา้ นพรจุ ดุ ใต้ ตรัง 171 บา้ นหลงั เขา ใต้ ตรัง 172 บา้ นหนองคลา้ ใต้ ตรัง 173 บ้านคลองเตง็ ใต้ ตรัง 174 หาดปากเมง ใต้ ตรัง 175 บา้ นกลง้ิ กลอง ใต้ ตรัง 176 บา้ นไรพ่ รุ ใต้ ตรัง หนา้ | 126

ชอ่ื โรงเรยี น ภาค จังหวัด 177 บ้านทุ่งคา่ ย ใต้ ตรัง 178 บ้านบอ่ หนิ ใต้ ตรัง 179 ทา่ ง้ิว (ต.ช.ด.อปุ ถัมภ์) ใต้ ตรัง 180 บา้ นหนองสองพนี่ ้อง ใต้ ตรัง 181 บา้ นศาลาอูมา ใต้ นราธวิ าส 182 บ้านโคกสุมุ ใต้ นราธวิ าส 183 บา้ นฝาง ใต้ ปตั ตานี 184 ไทยรัฐวิทยา 52 (ชุมชนบา้ นต้นไพ) ใต้ ปัตตานี 185 บ้านวังปริง ใต้ พทั ลุง 186 บ้านเกาะเสือ ใต้ พัทลุง 187 บ้านหนา้ วัง ใต้ พทั ลุง 188 บ้านควนพระสาครนิ ทร์ ใต้ พัทลุง 189 บ้านท่าลาด ใต้ พทั ลงุ 190 วดั ดอนศาลา ใต้ พัทลุง 191 วดั ท่าควาย ใต้ พทั ลุง 192 บา้ นบาโงย ใต้ ยะลา 193 บา้ นเกาะหมี ใต้ สงขลา 194 บา้ นหนิ ผดุ ใต้ สงขลา 195 สานักสงฆศ์ รวี ชิ ัย ใต้ สงขลา 196 วดั ปรางแกว้ ใต้ สงขลา 197 บ้านยางงาม ใต้ สงขลา 198 บ้านหนองมว่ ง ใต้ สงขลา 199 บ้านเกาะนา้ รอบ ใต้ สงขลา 200 วัดโพธ์ิกลาง ใต้ สงขลา 201 วรพฒั น์ ใต้ สงขลา 202 บา้ นหนองนายขยุ้ ใต้ สงขลา 203 บา้ นเพทา ใต้ สงขลา 204 บา้ นคลองหอยโข่ง ใต้ สงขลา 205 บา้ นวงั พา ใต้ สงขลา 206 บา้ นโปะหมอ (พรหมเทพราษฎร์บารงุ ) ใต้ สงขลา 207 ชุมชนบ้านใหม่ ใต้ นครศรธี รรมราช 127 | หนา้

ช่อื โรงเรียน ภาค จังหวดั 208 ราชประชานุเคราะห์ 3 ใต้ ชุมพร 209 บา้ นวงั ใหม่ (ประชาอุทิศ 2519) ใต้ ยะลา 210 วัดชนะสงคราม กลาง กทม 211 ชุมชนบงึ บา กลาง ปทุมธานี 212 วัดบา้ นพรา้ วใน กลาง ปทุมธานี 213 วดั กระโดงทอง (พบิ ูลประสิทธิ)์ กลาง พระนครศรอี ยุธยา 214 วดั ท่าตอเลศิ บญุ ยงคว์ ทิ ยา กลาง พระนครศรีอยธุ ยา 215 บ้านลาแดง กลาง พระนครศรีอยุธยา 216 ชุมชนวดั กาแพง กลาง พระนครศรีอยุธยา 217 บ้านเชยี งรากน้อย กลาง พระนครศรอี ยุธยา 218 บา้ นพลบั (วิสุทธวิ งั ราช) กลาง พระนครศรีอยธุ ยา 219 มาลาอีสงเคราะห์ กลาง พระนครศรีอยธุ ยา 220 จรูญก้ิมลกี้ ิจจาทรอนุสรณ์ กลาง พระนครศรอี ยธุ ยา 221 วดั นางชา (ประชารัฐรังสฤษฏ์) กลาง อา่ งทอง 222 ชุมชนวัดนา้ พุ (นา้ พุพทิ ยาคาร) กลาง อ่างทอง 223 วดั ง้ิวราย กลาง อา่ งทอง 224 วดั พิจารณ์โสภณ กลาง อ่างทอง 225 กระทุ่มราย (วบิ ูลยว์ ทิ ยาคม) กลาง อ่างทอง 226 วัดท่าชุมนมุ กลาง อา่ งทอง 227 วัดวงษ์ภาศน์ กลาง อา่ งทอง 228 บา้ นวงั ตาอนิ ทร์ กลาง ลพบรุ ี 229 วดั หนองกระเบียน กลาง ลพบรุ ี 230 บ้านโปง่ สวองครี ีวรรณ์ กลาง ลพบรุ ี 231 บา้ นโคกแสมสาร กลาง ลพบุรี 232 ไทยรัฐวทิ ยา 1 (บ้านหวั ชา้ ง) กลาง ลพบุรี 233 วดั โคกหม้อ กลาง ลพบุรี 234 ไทยรัฐวทิ ยา 68 (วดั เหวลาด) กลาง สระบุรี 235 ไทยรฐั วิทยา 56 (บ้านหนองกระทุ่ม) กลาง สิงห์บุรี 236 วัดสงั ฆราชาวาส กลาง สิงห์บรุ ี 237 วดั บางเกลอื (ประชารฐั บารงุ ) กลาง ฉะเชิงเทรา 238 วัดบนประจงอนุสรณ์ กลาง ฉะเชงิ เทรา หนา้ | 128

ชือ่ โรงเรยี น ภาค จังหวดั 239 วดั ทา่ เกวียน (สยั อทุ ศิ ) กลาง ฉะเชิงเทรา 240 วดั ไผด่ า (กัลยาพิรยิ ะประชาสรรค)์ กลาง ฉะเชงิ เทรา 241 ปากคลองบางขนาก กลาง ฉะเชิงเทรา 242 วดั บึงตาหอม กลาง ฉะเชิงเทรา 243 วัดประชาบารงุ กลาง ฉะเชิงเทรา 244 บางพะเนียง กลาง ฉะเชงิ เทรา 245 ตลาดเปรง็ (นอ้ ยใจบญุ อทุ ศิ ) กลาง ฉะเชงิ เทรา 246 วัดหนองตาบญุ กลาง สระบรุ ี 247 วดั ราษฎรส์ โมสร กลาง ชลบรุ ี 248 ชมุ ชนบ้านหนองปรือ กลาง ชลบุรี 249 บา้ นเนนิ ตะบก กลาง ตราด 250 ชุมชนวดั บางกระดาน (สวนราษฎร์บารงุ ) กลาง ตราด 251 วดั แหลมมะขาม (สาขาบา้ นแหลมทองหลาง) กลาง ตราด 252 บ้านแหลมไผ่ กลาง ปราจนี บุรี 253 วัดเนนิ สงู กลาง ปราจนี บุรี 254 วัดเขาสาเภาทอง กลาง ระยอง 255 บ้านบางจาก กลาง สมทุ รปรากร 256 สเุ หร่าบางกะสี กลาง สมุทรปราการ 257 วัดสวนสม้ (สขุ ประชานกุ ูล) กลาง สมทุ รปราการ 258 วัดแหลม กลาง สมทุ รปราการ 259 คลองสาโรง กลาง สมุทรปราการ 260 ปากคลองมอญ กลาง สมุทรปราการ 261 ชุมชนวัดราษฎรบ์ ารุง กลาง สมุทรปราการ 262 วัดคลองสวน (พรหมอทุ ิศวทิ ยาคาร) กลาง สมุทรปราการ 263 วัดแค กลาง สมทุ รปราการ 264 บา้ นคลองบางแกว้ (ภริ มย์ประชาราษฎร)์ กลาง สมุทรปราการ 265 อินทรมั พรรย์อนุสรณ์ กลาง สมุทรปราการ 266 ไทยรัฐวทิ ยา 83 (บ้านห้วยโจด) กลาง สระแก้ว 267 บา้ นแกว้ เพชรพลอย กลาง สระแก้ว 268 ชุมชนบา้ นใหมห่ นองไทร กลาง สระแกว้ 269 อนบุ าลบ้านจนั ทร์ กลาง สระแก้ว 129 | หนา้

ช่อื โรงเรยี น ภาค จังหวัด 270 บ้านคลองมะนาว กลาง สระแกว้ 271 บา้ นเจรญิ สขุ กลาง สระแก้ว 272 บ้านส่ีแยก กลาง สระแกว้ 273 บา้ นโคกเพรก็ กลาง สระแก้ว 274 บา้ นสระพระ กลาง เพชรบรุ ี 275 บ้านหนองบวั กลาง กาญจนบุรี 276 บา้ นหนองใหญ่ กลาง กาญจนบุรี 277 บา้ นหลงั เขา กลาง กาญจนบรุ ี 278 วัดลาเหย กลาง นครปฐม 279 วัดศรีมหาโพธ์ิ กลาง นครปฐม 280 บ้านหนองงเู หลอื ม กลาง นครปฐม 281 บา้ นดงเกตุ กลาง นครปฐม 282 วัดโคกเขมา กลาง นครปฐม 283 ไทยรฐั วิทยา 4 (ป.ปัญญาฐาปนกจิ อุปถมั ภ)์ กลาง นครปฐม 284 บา้ นทุง่ ยาว กลาง ประจวบครี ขี นั ธ์ 285 บา้ นเขาโปง่ กลาง ประจวบครี ขี นั ธ์ 286 บา้ นคอกชา้ ง กลาง ประจวบครี ขี นั ธ์ 287 บา้ นหว้ ยไทรงาม กลาง ประจวบคีรีขนั ธ์ 288 บ้านหนองจันทร์ กลาง ประจวบคีรขี นั ธ์ 289 อนุบาลจอมบงึ กลาง ราชบรุ ี 290 ไทยรัฐวิทยา 64 (บา้ นหนองเกตุ) กลาง ราชบรุ ี 291 ไทยรฐั วิทยา 70 (บา้ นบางแกว้ ) กลาง สมทุ รสงคราม 292 วัดคสู้ นามจนั ทร์ (สามคั ครี าษฏร์รังสรรค์) กลาง สมทุ รสงคราม 293 วดั ศรเี มอื ง กลาง สมุทรสาคร 294 วดั บางยาง ( บางยางพทิ ยาคาร ) กลาง สมทุ รสาคร 295 ไทยรฐั วทิ ยา9 (วัดใหมร่ าษฎรน์ ุกุล) กลาง สมทุ รสาคร 296 ชมุ ชนวดั มาตกิ าราม กลาง ชัยนาท 297 บ้านหนองแวง อสี าน ชยั ภูมิ 298 บ้านหนองไผล่ ้อม อสี าน ชยั ภมู ิ 299 บา้ นหนองขาม อสี าน ชัยภูมิ 300 บ้านหนองพพี ่วน อสี าน ชยั ภูมิ หนา้ | 130

ชอื่ โรงเรียน ภาค จงั หวัด 301 บา้ นคอนสาร อสี าน ชัยภมู ิ 302 บ้านหนองมว่ ง อีสาน ชัยภมู ิ 303 บา้ นโนนมว่ ง อีสาน ชัยภูมิ 304 บ้านหนองบวั อสี าน ชยั ภมู ิ 305 บ้านโนนหวั นา อสี าน ชัยภูมิ 306 บ้านตะลอมไผ่ อสี าน ชัยภมู ิ 307 บา้ นโคกลา่ ม อสี าน ชัยภูมิ 308 ชุมชนวดั รวง อสี าน นครราชสีมา 309 บ้านเขาจนั ทนห์ อม อสี าน นครราชสีมา 310 กนั เกราพทิ ยาคม อสี าน นครราชสีมา 311 บา้ นด่านทองหลาง อสี าน นครราชสีมา 312 บา้ นไพ อีสาน นครราชสีมา 313 บา้ นเกรียมโนนสาโรง อีสาน นครราชสีมา 314 วดั หนองบวั ศาลา อสี าน นครราชสีมา 315 บา้ นสะพาน อีสาน นครราชสมี า 316 โพธารามพทิ ยาคม อีสาน นครราชสีมา 317 ประโคนชัยวทิ ยา อีสาน บุรีรัมย์ 318 บา้ นหลกั เขต อสี าน บรุ ีรมั ย์ 319 บ้านดอนใหญ่ อสี าน บรุ รี มั ย์ 320 บา้ นโคกหวั ชา้ ง อีสาน บรุ ีรัมย์ 321 บา้ นหนองหวา้ ขนุ อดั วทิ ยา อีสาน บุรรี ัมย์ 322 บา้ นตะโกตาเนตร อีสาน บุรรี มั ย์ 323 บ้านฝงั งา อสี าน บุรีรัมย์ 324 บา้ นตลาดชัย อสี าน บุรรี ัมย์ 325 บา้ นพะไล อีสาน บรุ รี ัมย์ 326 บา้ นหนองหญ้าปลอ้ ง อีสาน บรุ ีรมั ย์ 327 บ้านหวั สะพาน อสี าน บรุ ีรัมย์ 328 วัดบ้านเมอื งดู่ อสี าน บุรรี มั ย์ 329 วดั บ้านเบานอ้ ย อีสาน บรุ ีรมั ย์ 330 วดั บ้านสาราญราษฎร์ อีสาน บุรีรมั ย์ 331 บ้านปา่ ไม้สหกรณ์ อีสาน บุรีรมั ย์ 131 | หนา้

ช่ือโรงเรยี น ภาค จงั หวดั 332 บา้ นหว้ ยสาราญ อสี าน บรุ ีรมั ย์ 333 บา้ นสาโรงโคกเพชร อสี าน บรุ ีรัมย์ 334 บา้ นหนองกกตะแบงสามคั คี อีสาน บรุ ีรมั ย์ 335 ไทยรัฐวิทยา 26 (บ้านหนองหนิ ) อสี าน บุรรี ัมย์ 336 บ้านข่อย อสี าน บรุ ีรัมย์ 337 บา้ นสาโรงโนนเค็ง อีสาน บรุ รี มั ย์ 338 บา้ นหนองโสน อสี าน บรุ ีรมั ย์ 339 บ้านกระสัง (หรนุ่ ราษฎร์รงั สรรค)์ อีสาน บุรรี ัมย์ 340 บ้านหัวฝาย อีสาน บรุ รี มั ย์ 341 วดั บ้านสวายสอ อสี าน บรุ รี มั ย์ 342 หมนื่ ศรีประชาสรรค์ อสี าน สรุ ินทร์ 343 บ้านหนองเหลก็ (กองทพั บกอุปถัมภ์) อสี าน สรุ นิ ทร์ 344 บา้ นสวาท อสี าน สุรินทร์ 345 บา้ นหนองเทพ อีสาน สุรินทร์ 346 บ้านโคกสมอง อีสาน สรุ ินทร์ 347 บา้ นจบก อสี าน สุรินทร์ 348 บา้ นโคกจาเรญิ อสี าน สุรินทร์ 349 บา้ นผอื (ประชาพัฒนา) อสี าน สุรนิ ทร์ 350 บ้านนาตงั กระแบก (กาญจนปู ถัมภ์) อีสาน สรุ ินทร์ 351 อนุบาลลาดวน(สรุ พนิ ทร์ าษฎรน์ ุสรรณ)์ อสี าน สรุ ินทร์ 352 บ้านหนองโจงโลง อีสาน สรุ ินทร์ 353 บ้านหนองแวง อีสาน สรุ ินทร์ 354 บา้ นหนองคนู อ้ ย อีสาน สรุ ินทร์ 355 ไตรคามสามคั คี อสี าน สุรนิ ทร์ 356 บ้านจอมพระ อสี าน สุรนิ ทร์ 357 บ้านท่าศิลา อีสาน สรุ ินทร์ 358 อนบุ าลจอมพระ อีสาน สรุ นิ ทร์ 359 บา้ นโสมน อีสาน สรุ นิ ทร์ 360 บ้านสน อีสาน สุรนิ ทร์ 361 บ้านน้าเขียว (น้าเขียววทิ ยาคม) อีสาน สรุ ินทร์ 362 บา้ นหนองยาง อสี าน สุรนิ ทร์ หนา้ | 132

ชอ่ื โรงเรยี น ภาค จังหวดั 363 บา้ นยางขามเฒ่า (สมประชานกุ ลู ) อสี าน สุรนิ ทร์ 364 บา้ นจรวย อีสาน สุรนิ ทร์ 365 บา้ นเมอื งแก อสี าน สุรนิ ทร์ 366 ห้วยซวกคกเลาใต้ อสี าน เลย 367 บ้านกดุ รู อีสาน ขอนแก่น 368 ไทยรฐั วทิ ยา 84 (บา้ นสาราญเพยี้ ฟาน) อสี าน ขอนแกน่ 369 โคกมว่ งศึกษา อสี าน ขอนแก่น 370 บ้านหนองสองห้อง อีสาน ขอนแกน่ 371 บา้ นโคกใหญห่ นองสองห้อง อีสาน ขอนแก่น 372 บา้ นนาดี อีสาน ขอนแก่น 373 บ้านโคกสีโคกเปีย้ อีสาน ขอนแก่น 374 บา้ นหนองโจดสวนมอน อีสาน มหาสารคาม 375 บ้านวังยาววทิ ยายน อสี าน มหาสารคาม 376 บา้ นหนองบว่ั วทิ ยา อสี าน รอ้ ยเอ็ด 377 บ้านหนองผือ อสี าน ร้อยเอด็ 378 ไทยรัฐวทิ ยา 36 (บ้านบะตากา) อีสาน รอ้ ยเอ็ด 379 บา้ นปา่ สุ่ม อสี าน รอ้ ยเอด็ 380 รฐั ประชาวิทยาคาร อสี าน รอ้ ยเอ็ด 381 บ้านปัก อีสาน หนองคาย 382 พระบาทนาหงส์ อีสาน หนองคาย 383 อนุบาลจมุ พลโพนพสิ ัย อีสาน หนองคาย 384 บ้านนิคมพฒั นา อีสาน อุดรธานี 385 บา้ นหนองไผห่ นองหนิ อสี าน อดุ รธานี 386 บ้านหนองบวั อสี าน อุดรธานี 387 บา้ นดอนเดื่อ อีสาน อุดรธานี 388 บ้านโนนสวา่ ง อีสาน อดุ รธานี 389 บา้ นหลวงหวั สวย อีสาน อดุ รธานี 390 ท่านาจานวทิ ยา อสี าน กาฬสนิ ธุ์ 391 ชุมชนแกง้ คาวิทยา อีสาน กาฬสินธ์ุ 392 ชุมชนโพนงามประสาทศิลป์ อีสาน กาฬสินธ์ุ 393 ปลาเค้าวิทยาคาร อีสาน กาฬสินธ์ุ 133 | หนา้

ช่อื โรงเรยี น ภาค จังหวัด 394 บ้านลาดวทิ ยาเสริม อสี าน กาฬสินธุ์ 395 กดุ ครองวทิ ยาคาร อสี าน กาฬสินธ์ุ 396 ถ้าปลาวิทยายน อีสาน กาฬสินธ์ุ 397 บา้ นห้วยทราย อสี าน นครพนม 398 บ้านดอนกกโพธิค์ ่ายเสรีวทิ ยา อีสาน นครพนม 399 บา้ นท่าหนามแก้วสวนกลว้ ย อสี าน นครพนม 400 ไทยรัฐวทิ ยา 63 (ชมุ ชนบ้านคาแดง) อีสาน ยโสธร 401 บ้านบะคอม อสี าน ยโสธร 402 บ้านยางเออื ด อสี าน ศรีษะเกษ 403 ชมุ ชนหนองสังข์ อีสาน ศรษี ะเกษ 404 หนองบวั เรน อีสาน ศรษี ะเกษ 405 บ้านเก้ิง อีสาน ศรษี ะเกษ 406 บ้านโคก อีสาน ศรษี ะเกษ 407 บ้านซาขเี้ หลก็ อสี าน ศรษี ะเกษ 408 อนบุ าลอุทุมพรพิสัย อีสาน ศรษี ะเกษ 409 อนบุ าลกันทรารมย์ อสี าน ศรีษะเกษ 410 บา้ นนา้ ขวบ-โนนดู่ ( กองทพั บกอปุ ถัมภ์ ) อสี าน ศรีษะเกษ 411 บา้ นหนองหมีหวั ดง (ประชาวทิ ยาคาร) อสี าน ศรษี ะเกษ 412 บา้ นกระมัลพฒั นา อีสาน ศรษี ะเกษ 413 บ้านหนองบวั ทอง อีสาน ศรษี ะเกษ 414 บ้านขนนุ อสี าน ศรีษะเกษ 415 บา้ นกราม อสี าน ศรีษะเกษ 416 บา้ นโคกเจรญิ อีสาน ศรษี ะเกษ 417 บา้ นพงสิม อีสาน ศรษี ะเกษ 418 บา้ นพยอม อีสาน ศรษี ะเกษ 419 บ้านหนองโงง้ อีสาน ศรีสะเกษ 420 บา้ นยางเครอื อสี าน ศรีสะเกษ 421 อนุบาลเบญจลักษ์ อสี าน ศรสี ะเกษ 422 บ้านเหงยี่ งกระจ๊ะ (คุรุราษฎรส์ ามคั ค)ี อีสาน ศรีสะเกษ 423 บา้ นคูสระ อสี าน ศรสี ะเกษ 424 บ้านหนองยาง อีสาน ศรสี ะเกษ หนา้ | 134


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook