Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา การประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี รหัส 20201-2106

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา การประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี รหัส 20201-2106

Published by krutip.2550, 2021-10-29 07:43:36

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชา การประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ มงุ่ เนน้ ฐานสมรรถนะอาชีพและบูรณาการ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รหสั วิชา 20201-2106 วชิ า การประยกุ ตโ์ ปรแกรมตารางงาน เพื่องานบญั ชี จานวน 3 หน่วยกิต 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์ หลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชพี พทุ ธศักราช 2562 จัดทาโดย นางศิรนิ ทรท์ ิพย์ ทองบรุ าณ ครู คศ.1 วิทยาลัยการอาชพี สอยดาว อาชีวศึกษาจงั หวัดจันทบรุ ี สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ

คานา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ท่ีไดป้ ระกาศใช้ต้งั แตเ่ ดือนสงิ หาคม 2542 เป็นต้นมา ได้เน้นให้ครู-อาจารย์และผเู้ กี่ยวขอ้ งทง้ั หลายจดั การเรียนการสอนโดยเน้นผเู้ รยี นสาคัญท่ีสดุ ซงึ่ กิจกรรมการ เรียนการสอนทีจ่ ดั ควรมีลกั ษณะสาคญั ดังนี้ 1. ผู้เรียนไดเ้ รียนรูจ้ ากการปฏิบัติจริง 2. ผู้เรียนมีโอกาสเลอื กเรยี นรูใ้ นสง่ิ ทต่ี นถนดั และสนใจ 3. ผู้เรยี นไดม้ โี อกาสแสวงหาความรแู้ ละสร้างองค์ความรดู้ ว้ ยตัวเอง 4. ผู้เรียนไดม้ ีโอกาสทจี่ ะนาความรู้ไปปฏบิ ัติใชจ้ รงิ ในชีวิตประจาวนั 5. ผูเ้ รียนมีส่วนรว่ มในการประเมินผลการเรียนรขู้ องตนเอง ผู้จัดทา ได้ตระหนักถึงภารกิจของครูอาจารย์ ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ด้วยการบูรณาการคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ไว้ในรายวิชา และในการคิดกิจกรรมท่ีจะส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนตามพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติให้เป็นรูปธรรมจึงได้จัดทาส่ิงอานวยความสะดวกให้แก่ครูอาจารย์เป็น คู่มือครูเพ่ือประกอบหนังสือ เรียนวิชาการประยุกตโ์ ปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบัญชี (Application of Spread Sheet Program for Accounting) รหัสวชิ า 20201-2106 (1-4-3) ซึง่ ประกอบด้วย ซึ่งประกอบดว้ ย  จดุ ประสงคร์ ายวชิ า และสมรรถนะรายวิชา  คาอธิบายรายวชิ า  ตารางวิเคราะหห์ ลักสตู ร  กาหนดการสอนท่ีบรู ณาการคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์  แผนการจดั การเรียนรู้ที่บรู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ หวงั วา่ คมู่ ือครูเล่มนคี้ งเป็นประโยชน์แก่ครู-อาจารย์ได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ให้ บรรลุตามวัตถปุ ระสงคต์ อ่ ไป ผจู้ ัดทา

สารบญั วธิ ีการใชแ้ บบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ โครงการสอนที่บูรณาการคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ แผนการจัดการเรยี นรทู้ บ่ี รู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 12 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 13 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 15 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 16 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 17 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 18 ภาคผนวก ก ตวั อย่างแบบประเมินดว้ ยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ข ตัวอยา่ งแบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล ค ตวั อย่างแบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่ ง ตวั อยา่ งแบบประเมินการนาเสนอผลงานรายบคุ คล จ ตวั อย่างแบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ฉ ตัวอยา่ งแบบรวมคะแนนการประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ช ตัวอยา่ งแบบสรปุ ผลการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ฌ ตัวอย่างบนั ทกึ หลงั การสอน ญ ตวั อย่างบันทกึ หลังการสอน

1 รหัสวิชา 20201-2106 วิชา การประยกุ ตโ์ ปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบัญชี หนว่ ยกติ (ชั่วโมง) 1-4-3 เวลาเรียนต่อภาค 90 ชว่ั โมง รายวชิ าตามหลักสูตร จดุ ประสงคร์ ายวชิ า เพ่ือให้ สมรรถนะรายวิชา ชว่ั โมง 1.เข้าใจหลกั การใชโ้ ปรแกรมตารางงาน 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลักการใชโ้ ปรแกรม เพ่อื งานบัญชี ตารางงานเพ่ืองานบญั ชี 2.มีทกั ษะในการใช้โปรแกรมตารางงาน เพือ่ งานบญั ชี 2.บันทกึ บัญชโี ดยใช้โปรแกรมตารางงานเพ่อื 3.มีกจิ นสิ ยั มรี ะเบียบ ละเอียดรอบคอบ งานบัญชี ซอื่ สัตย์ มวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อ วิชาชีพบัญชี 3.จัดทางบการเงินและนาเสนอขอ้ มลู โดยใช้ โปรแกรมตารางงาน คาอธิบายรายวชิ า รวม 90 ศึกษาและปฏิบัตเิ กย่ี วกบั การเรม่ิ ต้นใช้ โปรแกรมตารางงาน ส่วนประกอบของโปรแกรม ตารางงาน การป้อนและจดั รูปแบบข้อมลู การ สร้างสตู รและการใช้ฟังกช์ ันในการคานวณเพ่ือ สร้างสมดุ บันทึก รายการขน้ั ต้น การผ่านรายการ ไปบัญชแี ยกประเภท การปรบั แกข้ อ้ มูล การ จดั การฐานข้อมลู ในตารางงาน การจดั ทารายงาน ทางการเงิน การออกรายงานและนาเสนอขอ้ มลู ใน รูปแบบขอ้ ความและแผนภมู ิ

2 รหสั 20201-2006 วิชา การประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบญั ชี หนว่ ยกติ 1-4-3 หมวดวิชาทักษะวชิ าชพี / กลุม่ ทกั ษะวชิ าชีพเฉพาะ พฤติกรรม พุทธิพสิ ยั (40%) ชื่อหน่วย ความ ู้ร ความเข้าใจ การนาไปใช้ การ ิวเคราะห์ การสังเคราะ ์ห การประเมินค่า ิจตพิ ัสย 30 %) ทักษะพิ ัสย 30%) รวม ลาดับความสาคัญ จานวนคาบ 1.การเรม่ิ ต้นใชง้ านโปรแกรมตารางงาน 1 111 - 3 3 10 5 3 3 10 5 2.การป้อนข้อมูลและการปรับแก้ขอ้ มูล 1 111 - 3 3 10 5 4 4 15 3.การจดั รูปแบบขอ้ มลู 1 111 - 4 4 13 15 4 4 12 4.การใช้สตู รและการใช้ฟงั ก์ชั่นในการคานวณเพ่ือสรา้ ง 1 132 - 3 3 10 10 สมดุ บันทกึ รายการขัน้ ต้น 3 3 10 10 3 3 10 10 5.การบนั ทกึ รายการในสมุดรายวันขัน้ ตน้ 1 121 - 30 30 100 10 6.การผา่ นรายการไปบัญชแี ยกประเภท 1 111 - 10 7.การจัดการฐานขอ้ มูลบัญชีในตารางงาน 1 111 - 5 5 8.การจดั ทารายงานทางการเงนิ การออกรายงานนาเสนอ 1 1 1 1 - 90 ขอ้ มลู ในรปู แบบข้อความและแผนภูมิ 9.การวเิ คราะห์ข้อมูลในรูปแบบข้อความและแผนภูมิ 1 111 - สอบกลางภาค สอบปลายภาค รวม 9 9 12 10 ลาดบั ความสาคญั

3

4 ประมวลการเรียนรายวิชา (Course Outline) โครงการจัดการเรียนรู้ ชอื่ วิชา การประยกุ ต์โปรแกรมตารางงานเพือ่ งานบญั ชี (Application of Spread Sheet Program for Accounting) รหสั 20201-2006 ท-ป-น 1-4-3 จานวนคาบ 5 คาบ/ สัปดาห์ ระดับชัน้ ปวช. สปั ดาห์ หน่วยท่ี ทฤษฏี ปฏบิ ัติ จานวน ท่ี คาบ 5 1 1 การเรมิ่ ต้นใช้งานโปรแกรมตารางงาน กรณศี กึ ษา 5 5 2 2 การป้อนขอ้ มูลและการปรบั แก้ขอ้ มูล กรณีศกึ ษา 15 3 3 การจัดรูปแบบขอ้ มูล กรณีศกึ ษา 10 4 4 การใช้สตู รและการใช้ฟังกช์ ่ันในการคานวณเพอื่ สรา้ งสมุดบันทึกรายการขั้นต้น กรณศี ึกษา 5 5 5 4 การใช้สตู รและการใช้ฟังกช์ ั่นในการคานวณเพอื่ สรา้ งสมุดบันทึกรายการขน้ั ต้น กรณีศกึ ษา 5 10 6 4 การใช้สตู รและการใช้ฟังกช์ ั่นในการคานวณเพอื่ สรา้ งสมุดบันทึกรายการขน้ั ต้น กรณศี กึ ษา 10 7 5 การบันทกึ รายการในสมดุ รายวันขนั้ ต้น กรณีศกึ ษา 10 8 5 การบนั ทึกรายการในสมดุ รายวันขน้ั ต้น กรณีศกึ ษา 5 90 9 6 การผ่านรายการไปบญั ชแี ยกประเภท กรณีศกึ ษา 10 - วัดผลและประเมินผลกลางภาคเรยี น 11 6 การผ่านรายการไปบญั ชแี ยกประเภท กรณีศกึ ษา 12 7 การจัดการฐานข้อมลู บญั ชใี นตารางงาน กรณศี ึกษา 13 7 การจดั การฐานข้อมูลบญั ชใี นตารางงาน กรณศี กึ ษา 14 8 การจดั ทารายงานทางการเงนิ การออกรายงานนาเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบข้อความและแผนภมู ิ กรณศี ึกษา 15 8 การจดั ทารายงานทางการเงินการออกรายงานนาเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบข้อความและแผนภมู ิ กรณีศกึ ษา 16 9 การวิเคราะห์ขอ้ มลู ในรปู แบบข้อความและแผนภมู ิ กรณีศกึ ษา 17 9 การวิเคราะห์ขอ้ มลู ในรูปแบบข้อความและแผนภมู ิ กรณีศึกษา 18 - วัดผลและประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น รวม

5 กาหนดการสอนทบ่ี ูรณาการคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รหสั 20201-2006 (1-4-3) วิชา การประยุกตโ์ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบญั ชี (Application of Spread Sheet Program for Accounting) สัปดาห์ หนว่ ย ชว่ั โมง ชอ่ื หน่วย/สาระสาคัญ ผลการเรียนร้ทู คี่ าดหวัง คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม ท่ี และคณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์ 11 1-5 การเร่ิมต้นใชง้ านโปรแกรมตารางงาน 1.ส่วนประกอบของ Microsoft Office Excel ความมมี นษุ ยสมั พนั ธ์ 22 2010 1.อธิบายสว่ นประกอบของ Microsoft ความมวี นิ ยั 2.การเปิด-ปิดโปรแกรม Microsoft Office Office Excel 2010 ได้ ความรบั ผิดชอบ Excel 2010 2.เปดิ -ปิดโปรแกรม Microsoft Office ความเช่อื มั่นในตนเอง Excel 2010 ได้ ความสนใจใฝร่ ู้ 6-10 การป้อนขอ้ มูลและการปรบั แกข้ ้อมลู 1.อธิบายประเภทและชนิดของข้อมูลได้2. ความรกั สามัคคี 1.ประเภทและชนดิ ของข้อมลู ปอ้ นข้อมูลลงในเซลลไ์ ด้ ความกตญั ญกู ตเวที 2.การปอ้ นขอ้ มูลลงในเซลล์ 3.แก้ไขข้อมลู ภายในเซลล์ (Edit) ได้ 3.การแกไ้ ขขอ้ มลู ภายในเซลล์ (Edit) 4.เลอื กเซลล์ (Cell Selection) ได้ 4.การเลือกเซลล์ (Cell Selection) 5.คดั ลอกขอ้ มลู และเคลอ่ื นยา้ ยข้อมลู ใน 5.การคัดลอกข้อมูลและการเคลอ่ื นยา้ ย เซลล์ (Copy andCut) ได้ ขอ้ มลู ในเซลล์ (Copy and Cut) 6.ลบขอ้ มลู ในเซลล์ (Delete) ได้ 6.การลบข้อมลู ในเซลล์ (Delete) 7.แทรก/ลบแถวและคอลัมน์ (Insert and 7.การแทรก/ลบแถวและคอลมั น์ (Insert Delete) ได้ and Delete) 8.ปรบั ขนาดของแถวและคอลัมนไ์ ด้ 8.การปรบั ขนาดของแถวและคอลัมน์ 9.จดั การกับแผน่ งานได้ 9.การจัดการกบั แผน่ งาน

6 3 3 11-15 การจัดรูปแบบขอ้ มลู 1.จัดรูปแบบข้อมูลได้ 1.วิธีการจดั รูปแบบขอ้ มูล 2.กาหนดรูปแบบตวั อักษร (Font) ได้ 2.การกาหนดรปู แบบตัวอักษร (Font) 3.กาหนดรปู แบบตวั เลข (Number) ได้4. 3.การกาหนดรูปแบบตัวเลข (Number) กาหนดรูปแบบวันทแ่ี ละเวลา 4.การกาหนดรปู แบบวันทแ่ี ละเวลา (Date/Time) ได้ (Date/Time) 5.จดั วางข้อความ (Alignment) ได้ 5.การจัดวางขอ้ ความ (Alignment) 6.กาหนดเสน้ ขอบ (Border) ได้ 6.การกาหนดเส้นขอบ (Border) 7.กาหนดสแี ละลวดลาย (Patterns) ได้ 7.การกาหนดสแี ละลวดลาย (Patterns) 8.จัดรูปแบบดว้ ย AutoFormat ได้ 8.การจัดรูปแบบด้วย AutoFormat 9.คดั ลอกรปู แบบด้วยคาส่งั Format 9.การคัดลอกรูปแบบด้วยคาสงั่ Format Painter ได้ Painter (ต่อ) สปั ดาห์ หนว่ ย ช่วั โมง ชอื่ หนว่ ย/สาระสาคญั ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ที่ และคณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ 44 16-20 การใชส้ ตู รและการใชฟ้ ังกช์ นั่ ในการคานวณเพือ่ ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ สรา้ งสมดุ บนั ทึกรายการขน้ั ตน้ ความมวี นิ ยั ความรับผิดชอบ 1.ประเภทของสตู ร 1.บอกประเภทของสตู รได้ ความเชื่อมน่ั ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ 2.วิธกี ารปอ้ นค่าสูตร 2.ปอ้ นคา่ สูตรได้ ความรกั สามัคคี ความกตญั ญกู ตเวที 3.การคานวณโดยใชส้ ูตร 3.คานวณโดยใช้สูตรได้ 54 21-25 4.ประเภทของฟงั ก์ชันและฟังก์ชันท่ใี ชง้ าน 4.บอกประเภทของฟังกช์ ันได้ 64 75 5.การอ้างองิ เซลล์ 5.อา้ งองิ เซลล์ได้ 85 26-30 6.การคานวณโดยใชฟ้ ังกช์ ัน 6.คานวณโดยใชฟ้ งั กช์ นั ได้ 7.การแจ้งข้อผิดพลาดในการใชง้ านของโปรแกรม 7.บอกขอ้ ผิดพลาดในการใชง้ านของ โปรแกรมได้ 31-35 การบนั ทกึ รายการในสมดุ รายวันข้นั ตน้ 1.สร้างเอกสารประกอบการบนั ทึกบัญชี 1.การสร้างเอกสารประกอบการบันทกึ บัญชี ได้ 2.การสร้างผงั บญั ชี 2.สรา้ งผงั บัญชีได้ 3.การใช้โปรแกรม MS Excel 2010 กบั การ 3.ใช้โปรแกรม MS Excel 2010 กบั การ บันทกึ บญั ชใี นสมุดรายวันทัว่ ไป บนั ทกึ บัญชใี นสมุดรายวนั ทัว่ ไปได้ 36-40 การบันทกึ รายการในสมดุ รายวันขน้ั ตน้ 4.ประยุกตใ์ ชค้ าสั่งร่วมกันในการบันทกึ 4.การประยกุ ต์ใช้คาสงั่ รว่ มกันในการบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไปได้5.ใช้ รายการในสมดุ รายวันทวั่ ไป โปรแกรม MS Excel 2010 กับการบนั ทึก 5.การใชโ้ ปรแกรม MS Excel 2010 กบั การบันทกึ บัญชีในสมุดรายวันเฉพาะได้ บญั ชใี นสมุดรายวันเฉพาะ

7 9 6 41-45 การผา่ นรายการไปบญั ชแี ยกประเภท 1.บอกความหมายของบญั ชแี ยก 1.ความหมายของบัญชแี ยกประเภท ประเภทได้ 2.การใชโ้ ปรแกรม MS Excel ในการผา่ นรายการ 2.ใชโ้ ปรแกรม MS Excel ในการผ่าน จากสมดุ รายวันทว่ั ไปไปบญั ชีแยกประเภท รายการจากสมุดรายวันทว่ั ไปไปบญั ชี แยกประเภทได้ 10 - 46-50 ทบทวน/ สอบกลางภาคเรยี น 11 6 51-55 การผ่านรายการไปบญั ชแี ยกประเภท 3.ใช้โปรแกรม MS Excel ในการผ่าน 3.การใชโ้ ปรแกรม MS Excel ในการผ่านรายการ รายการจากสมุดรายวนั เฉพาะไปบญั ชี จากสมดุ รายวนั เฉพาะไปบัญชีแยกประเภท แยกประเภทได้ (ตอ่ ) สัปดาห์ หน่วย ชวั่ โมง ชอื่ หน่วย/สาระสาคัญ ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม ที่ และคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ 12 7 56-60 การจัดการฐานข้อมูลบญั ชีในตารางงาน 1.บอกความหมายและส่วนประกอบของ ความมีมนษุ ยสัมพันธ์ 1.ความหมายและสว่ นประกอบของฐานข้อมลู ฐานขอ้ มูลได้ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ 2.การสร้างและจัดการฐานขอ้ มลู ด้วย 2.สร้างและจัดการฐานข้อมูลด้วย ความเช่ือม่นั ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ MS Excel 2010 MS Excel 2010 ได้ ความรักสามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที 13 7 61-65 การจดั การฐานข้อมูลบญั ชใี นตารางงาน 3.สร้างฐานข้อมลู ทมี่ คี วามเช่อื มโยงกนั 3.การสร้างฐานข้อมูลที่มคี วามเชือ่ มโยงกัน ได้ 4.การสร้างฐานขอ้ มูลเพอ่ื ใช้ในงานบัญชี 4.สรา้ งฐานข้อมลู เพื่อใช้ในงานบญั ชไี ด้ 14 8 66-70 การจดั ทารายงานทางการเงนิ การออกรายงาน นาเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบขอ้ ความและแผนภูมิ 1.จดั ทางบการเงินได้ 1.การจดั ทางบการเงนิ 2.สรา้ งกระดาษทาการได้ 2.การสร้างกระดาษทาการ 3.สรา้ งงบกาไรขาดทนุ ได้ 15 8 71-75 3.การสร้างงบกาไรขาดทุน 4.สรา้ งงบแสดงฐานะการเงนิ ได้ 4.การสร้างงบแสดงฐานะการเงิน 5.ออกรายงานได้ 5.การออกรายงาน 16 9 76-80 การวิเคราะหข์ อ้ มูลในรูปแบบข้อความและ 1.ใช้เครอ่ื งมือในการจัดการตาราง แผนภูมิ สรปุ ผลข้อมลู ได้ 1.เครอ่ื งมือในการจดั การตารางสรุปผลข้อมูล 2.บอกส่วนประกอบหนา้ ตา่ งของตาราง 2.สว่ นประกอบหนา้ ต่างของตารางสรุปผลขอ้ มลู 3. สรปุ ผลข้อมูลได้ การสร้างตารางสรปุ ผลขอ้ มลู 3.สรา้ งตารางสรปุ ผลข้อมูลได้ 4.การสรา้ งงบทดลองดว้ ยตารางสรปุ ผลข้อมลู

8 17 9 81-85 5.การสร้างงบการเงินด้วยตารางสรุปผลข้อมูล 6. 4.สรา้ งงบทดลองด้วยตารางสรปุ ผล การสร้างงบกาไรขาดทนุ ด้วยตารางสรปุ ผลขอ้ มลู ข้อมูลได้ 7.การสร้างงบแสดงฐานะการเงินดว้ ยตาราง 5.สรา้ งงบการเงนิ ด้วยตารางสรปุ ผล สรปุ ผลขอ้ มูล ขอ้ มลู ได้ 8.การสรา้ งแผนภมู ิดว้ ยตารางสรุปผลขอ้ มลู 6.สร้างงบกาไรขาดทุนดว้ ยตาราง สรปุ ผลข้อมลู ได 7.สร้างงบแสดงฐานะการเงนิ ดว้ ยตาราง สรุปผลขอ้ มลู ได้ 8.สร้างแผนภมู ดิ ว้ ยตารางสรปุ ผลขอ้ มลู ได้ 18 - 86-90 ทบทวน/ สอบปลายภาคเรยี น หมายเหตุ : กาหนดการสอนท่ีบูรณาการคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์นี้ จัดทาข้นึ เพ่ือ เป็นแนวทางให้กับครูเทา่ นั้น สามารถเปล่ียนแปลงได้ขึ้นอยู่กบั ครแู ละสถานศึกษาเป็นสาคญั ผู้เขียนแผนการจดั การเรียนรู้ การวัดผลและประเมนิ ผล การวัดผล 1. สอบกลางภาค 20% 2. สอบปลายภาค 20% 3. บรู ณาการคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 10% 4. การเขา้ ช้ันเรยี น 10% 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนในห้องเรียน 20% 6. ใบงาน/แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 20% หมายเหตุ ผเู้ รยี นต้องเขา้ เรียนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทัง้ หมด แตก่ ารแบ่งคะแนนการวดั ผลน้สี ามารถ เปลี่ยนแปลงได้ข้ึนอยู่กับครูเป็นสาคัญ และเนอ่ื งจากเป็นวชิ าที่เน้นการนาทักษะความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน โดยทั่วไป การวัดผลสามารถจดั เข้าไปในเรอื่ งคณุ ธรรม จริยธรรมได้ เพ่ือให้เห็นเปน็ รปู ธรรมทช่ี ัดเจน จึงจะขอแยกเรอ่ื ง การวัดผลดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ในรูปเคร่ืองมือวัดผลเปน็ แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยทั้งครูและผู้เรียน จะประเมิน คณุ ลักษณะจากพฤติกรรมบ่งชี้ท่ีกาหนดไว้ และต้องทาควบคู่กับกระบวนการทากจิ กรรมการเรียนการสอน ซ่ึงอาจอยู่ ในรปู ของกลุ่มผู้เรียนหรือเป็นรายบุคคล โดยผ้เู รียนอาจสับเปล่ียนกนั เป็นผู้ประเมินร่วมกับครู เพ่ือความเท่ียงตรงของ การประเมิน ดังน้ัน แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ท้ังของครู และผู้เรียนจึง เปน็ ชดุ เดยี วกัน และเพ่อื ดพู ฒั นาการของผเู้ รยี น จะใชแ้ บบประเมนิ ชดุ นเ้ี ป็นเครือ่ งมอื ประเมิน การประเมนิ ผล

9 กาหนดค่าระดับคะแนน ตามเกณฑ์ดงั น้ี คะแนนร้อยละ 80-100 ไดเ้ กรด 4 ได้เกรด 3.5 คะแนนรอ้ ยละ 75-79 ไดเ้ กรด 3 ไดเ้ กรด 2.5 คะแนนรอ้ ยละ 70-74 ไดเ้ กรด 2 ได้เกรด 1.5 คะแนนร้อยละ 65-69 ได้เกรด 1 ไดเ้ กรด 0 คะแนนรอ้ ยละ 60-64 คะแนนรอ้ ยละ 55-59 คะแนนรอ้ ยละ 50-54 คะแนนร้อยละ 0-49 หนังสือประกอบการเรียน มนัสชยั กีรตผิ จญ. วิชาการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบญั ชี (Application of Spread Sheet Program for Accounting). กรงุ เทพฯ: เอมพนั ธ์, 2562.

10 แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบูรณาการที่ 1 หนว่ ยท่ี 1 รหสั วชิ า 20201-2006 (1-4-3) การประยุกตโ์ ปรแกรม สอนคร้ังที่ 1 (1-5) จานวน 5 ช.ม. ตารางงานเพือ่ งานบญั ชี ชือ่ หนว่ ย/เรื่อง ปฐมนิเทศ/ การเร่มิ ตน้ ใช้งานโปรแกรมตารางงาน แนวคดิ การศกึ ษาวิชาการใช้คอมพิวเตอรใ์ นงานบญั ชี เป็นวิชาทฝี่ กึ ให้ผู้เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั หลักการ วิธกี าร และขน้ั ตอนการจัดทาบญั ชใี นธุรกจิ ทว่ั ไป มที ักษะปฏิบตั งิ านตามหลกั การบญั ชที ร่ี ับรองท่วั ไป รวมทง้ั มกี จิ นิสยั ความมรี ะเบียบ ละเอียดรอบคอบ มวี ินัยตรงต่อเวลา และมเี จตคติทด่ี ีต่อวชิ าชพี บัญชี สามารถนาไปประยุกต์ใชเ้ พอื่ เปน็ เครือ่ งมือทสี่ าคัญในการแก้ปญั หาในชวี ติ ประจาวันได้ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 เปน็ โปรแกรมสาหรบั งานทเี่ ก่ียวกบั การคานวณตัวเลขโดยลักษณะ การคานวณนนั้ เป็นไปในรูปแบบตารางการคานวณทเ่ี ป็นชอ่ งๆ ซึง่ เรยี กวา่ “เซลล”์ (Cell) มคี วามสามารถในการ ประมวลขอ้ มลู ได้หลากหลายรูปแบบ ตวั เลข ตวั อักษร สตู รการคานวณ วนั ทแ่ี ละเวลา วิธีการป้อนและแกไ้ ขขอ้ มลู มี ความยดื หยุ่น จากคณุ สมบตั ิเซลลท์ ่ีเป็นอิสระจากกัน จึงทาใหจ้ ัดการกับเซลลต์ า่ งๆได้งา่ ย มแี ผ่นงาน (Worksheet) ที่ เปรียบเสมือนหนา้ กระดาษคานวณ สาหรับแบ่งงานออกจากกนั และสามารถเชื่อมโยงการทางานกนั ได้ รวมทัง้ การสร้าง ตารางในรูปแบบต่างๆ การสร้างแผนภูมิ แผนผัง การวิเคราะห์ข้อมลู ตลอดจนพฒั นาและนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เป็น ระบบงาน ทีม่ ขี ีดความสามารถสงู มีการวิเคราะหข์ อ้ มลู และพัฒนาระบบฐานขอ้ มลู ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ปฐมนิเทศ 1.บอกจดุ ประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคาอธิบายรายวิชาตามหลักสตู รได้ 2.บอกแนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรไู้ ด้ 3.ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการเรยี นร่วมกับผูอ้ ืน่ ได้ การเริ่มตน้ ใช้งานโปรแกรมตารางงาน 1.อธิบายส่วนประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 ได้ 2.เปิด-ปดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 ได้ 3.มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศึกษา สานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ครูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรื่อง 3.1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ 3.2 ความมวี นิ ัย 3.3 ความรับผิดชอบ 3.4 ความซื่อสัตย์สจุ รติ

11 3.5 ความเช่อื มั่นในตนเอง 3.6 การประหยดั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.8 การละเวน้ ส่งิ เสพติดและการพนนั 3.9 ความรกั สามคั คี 3.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี 2.บนั ทกึ บัญชโี ดยใช้โปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบัญชี 3.จดั ทางบการเงนิ และนาเสนอขอ้ มูลโดยใช้โปรแกรมตารางงาน สาระการเรยี นรู้ ปฐมนเิ ทศ 1.จดุ ประสงค์รายวชิ ารายวิชา สมรรถนะรายวิชาและคาอธบิ ายรายวิชาตามหลกั สูตร 2.แนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเริ่มตน้ ใชง้ านโปรแกรมตารางงาน 1.สว่ นประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 2.การเปิด-ปดิ โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าส่บู ทเรียน 1.ครบู อกจุดประสงคใ์ นการศกึ ษา เพื่อใหผ้ ู้เรียนทุกคนเข้าใจหลกั การใช้โปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบัญชี มที กั ษะในการใช้โปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบญั ชี มีกจิ นิสยั มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สัตย์ มีวนิ ยั ตรง ตอ่ เวลา และมเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อวชิ าชพี บญั ชี 2.ครูแจ้งเกณฑก์ ารประเมนิ ผลการเรยี นวิชาน้ี 3.ผู้เรียนสรา้ งความคุน้ เคยในการใช้เครื่องคอมพวิ เตอรใ์ นหอ้ งปฏิบตั ิการ และสรา้ งบรรยากาศใน การเรยี นให้สนกุ สนาน เพือ่ ใหค้ ุ้นเคยและรจู้ กั กัน 4.ครสู นทนากบั ผเู้ รียนเก่ียวกับเครือ่ งมือหรืออุปกรณ์ตา่ ง ๆ ท่ีเปน็ ส่วนประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ ผเู้ รียนไดร้ ู้จักดียง่ิ ขนึ้ และใช้ได้อย่างเหมาะสมในการเรยี นการสอน 5.ครูสนทนากบั ผเู้ รยี นวา่ ในปัจจบุ นั การใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการจัดทาบญั ชีวา่ มีประโยชน์เช่นเดยี วกนั กับ

12 การนามาประยุกตใ์ ช้งานด้านอ่ืนๆ และชว่ ยลดข้อผดิ พลาดในการทางาน การทาบัญชีด้วยมอื มักจะมีข้อผิดพลาดได้ง่าย และข้อผดิ พลาดมหี ลายลกั ษณะไม่แนน่ อน เช่น การบันทกึ บญั ชี 2 ดา้ นไม่เทา่ กนั การผา่ นรายการไปบญั ชีแยกประเภท ไม่ตรงกับสมุดรายการข้ันต้น เป็นต้น การตรวจสอบข้อผิดพลาดก็ทาได้ยากและใช้เวลานาน การใช้คอมพิวเตอร์และ โปรแกรมสาเร็จรูปทางบัญชีที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลดข้อผิดพลาดเพราะกระบวนการทางานของโปรแกรมจะมี โครงสรา้ งและรูปแบบทที่ าใหต้ รวจพบข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น 6.ผ้เู รยี นยกตวั อย่างธรุ กจิ หรือบรษิ ทั ทน่ี ยิ มนาโปรแกรมตารางงานมาประยุกต์ในการบนั ทึกบัญชใี น กจิ การ 7.ผเู้ รียนทาแบบประเมนิ ผลก่อนเรยี น 10 นาที ข้ันสอน 8.ครแู ละผเู้ รยี นช่วยกนั สรุปจุดประสงคใ์ นการเรยี นว่าเม่ือจบวิชาน้ี ผเู้ รยี นสามารถทาอะไรได้บา้ งจาก การเรยี นวิชาชพี น้ี และแนะนาใหผ้ เู้ รยี นไดบ้ ันทึกเอาไว้ตรวจสอบตนเองในอนาคต 9.ผู้เรียนรบั ฟังคาชแี้ จงจุดประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวิชา คาอธิบายรายวิชา และการวดั ประเมนิ ผล ซักถามข้อปัญหา รวมทัง้ แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับการเรยี นวิชานี้ 10.ครูและผู้เรยี นบอกสว่ นประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 โดยครูใชค้ อมพิวเตอร์ใช้สือ่ Power Point เปน็ สือ่ ประกอบในการเรยี นการสอน โดยการใช้งานโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 เบือ้ งต้น ต้องมสี ว่ นประกอบหน้าจอ ดงั นี้ 11.ครแู ละผู้เรยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เพ่อื อธบิ ายเรือ่ ง

13 สว่ นประกอบของแผ่นงาน (Worksheet) โดยเปดิ หนา้ จอคอมพิวเตอร์ ดงั นี้ 12.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) เพ่ือฝึกปฏิบัติเรื่องการเปิด-ปิด โปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 เปิดเรยี กเปิดจากระบบปฏิบตั กิ าร Windows 7 มวี ธิ ีการเปิดไดห้ ลายวิธี ดงั นี้ วิธีท่ี 1 คลิกปุ่ม Start เลือก All Programs เลือก Microsoft Office เลือก Microsoft Office Excel 2010 จากนัน้ คลกิ มาสห์ รอื กดปุ่ม Enter วิธีท่ี 2 คลกิ เลือกที่ Shortcut Icon บนหนา้ จอ Desktop โดยดับเบิลคลิกทีร่ ูป การเรียกเปิดจากระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows 8 13.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคแบบ Demonstration Method การจัดการเรียนรู้แบบสาธิต และให้ผู้เรียนฝึก ทกั ษะปฏิบต้ ิตามดงั ตอ่ ไปน้

14 การบันทึกขอ้ มูลในโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 การปิดใชโ้ ปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 การใช้งานรบิ บอน (Ribbon) การสร้างสมดุ งานใหม่ (New) การบนั ทึกสมดุ งาน (Save) การปิดสมุดงาน (Close) การเปิดสมุดงาน (Open) การออกจากโปรแกรม (Exit) 14.ผู้เรียนบอกส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Exce l2010 ตามหมายเลขท่ีกาหนดไว้เรียกว่าอะไร พรอ้ มอธบิ ายความหมาย 15.ผู้เรยี นบอกคาสงั่ คีย์ลัดของโปรแกรม Microsoft Excel 2010 16.ผ้เู รียฝึกทักษะทากิจกรรมท่ีไดร้ ับมอบหมาย ใบงาน และแบบประเมนิ ผล ข้ันสรุปและการประยกุ ต์ 17.ผูเ้ รยี นบอกส่วนประกอบของ Microsoft Office Excel 2010 และฝึกทักษระการเปิด-ปิดโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 18.ผู้เรยี นวางแผนการนาบญั ชไี ปประยุกต์ใชก้ บั งานในธุรกจิ และชวี ติ ประจาวนั ท่จี าเปน็ โดยท่ัวไป 19.ผู้เรยี นวเิ คราะหข์ นั้ ตอนการบนั ทกึ บญั ชดี ว้ ยคอมพิวเตอร์ และเปิดโอกาสใหซ้ กั ถาม 20.ผูเ้ รียนทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี น วิชาการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี ของสานักพิมพเ์ อมพันธ์ 2.กิจกรรรมการเรียนการสอน 3.ส่ือ Power Point 4.เคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ละโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 หลักฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.การเช็คชือ่ เข้าเรยี นในวชิ า 3.การบันทกึ ขอ้ มลู บญั ชใี นโปรแกรมตารางงาน การวดั ผลและการประเมนิ ผล

15 วธิ วี ดั ผล 1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 3. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 4. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 5. ตรวจแบบฝกึ ปฏิบัติ 6. การสังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เครอื่ งมอื วัดผล 1. แบบประเมินผลการเรียนรู้ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 3. แบบประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยคร)ู 4. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ (โดยผเู้ รียน) 5. แบบฝึกปฏิบัติ 6. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครแู ละผู้เรียนร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. เกณฑผ์ า่ นแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้คือ 50% 2. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรงุ 3. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขึ้นไป) 4. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 5. แบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อยกู่ ับการประเมิน ตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ ให้ผเู้ รียนศึกษาโปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบัญชเี พมิ่ เตมิ เพ่ือเตรยี มความพร้อมในการเรยี น

16 บนั ทึกหลังการสอน ข้อสรุปหลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาทพ่ี บ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ญั หา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

17 แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการท่ี 2 หนว่ ยท่ี 2 สอนครงั้ ท่ี 2 (6-10) รหัสวชิ า 20201-2006 (1-4-3) การประยุกต์โปรแกรม จานวน 5 ช.ม. ตารางงานเพ่อื งานบัญชี ชือ่ หน่วย/เรอื่ ง การป้อนข้อมูลและการปรบั แก้ขอ้ มูล แนวคิด รูปแบบขอ้ มูลในโปรแกรม Microsoft office Excel 2010 แยกเปน็ หลายชนิดทสี่ ามารถป้อนลงในเซลล์ ซึ่งมี ความยดื หยุน่ ในการจดั การขอ้ มลู เนอื่ งจากแต่ละเซลลจ์ ะมคี วามเปน็ อิสระจากกัน การท่ีจะป้อนลงในเซลล์ มีหลาย ประเภท ผูใ้ ช้สามารถกาหนดใหส้ อดคลอ้ งกับลักษณะของข้อมลู และงานทีจ่ ะจัดทาขอ้ มลู ที่ป้อนลงในเซลลส์ ามารถทจี่ ะ แก้ไข คดั ลอกหรือย้ายไปยงั เซลลอ์ น่ื ๆ ได้ และในการทางาน โดยเฉพาะการนาไปประยกุ ต์ใช้ในงานดา้ นต่างๆ เช่น งาน ด้านบัญชี ผูใ้ ชส้ ามารถป้อนขอ้ มูลลงในแผ่นงานได้หลายแผน่ งานในสมดุ งานหนงึ่ ๆ ผลการเรียนร้ทู คี่ าดหวงั 1.อธบิ ายประเภทและชนดิ ของข้อมูลได้ 2.ป้อนขอ้ มูลลงในเซลลไ์ ด้ 3.แกไ้ ขขอ้ มลู ภายในเซลล์ (Edit) ได้ 4.เลอื กเซลล์ (Cell Selection) ได้ 5.คัดลอกข้อมูลและเคลอ่ื นยา้ ยข้อมลู ในเซลล์ (Copy and Cut) ได้ 6.ลบข้อมลู ในเซลล์ (Delete) ได้ 7.แทรก/ลบแถวและคอลมั น์ (Insert and Delete) ได้ 8.ปรบั ขนาดของแถวและคอลมั นไ์ ด้ 9.จดั การกบั แผน่ งานได้ 10.มีการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผสู้ าเร็จการศึกษา สานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทคี่ รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง 10.1 ความมมี นุษยสัมพันธ์ 10.2 ความมีวนิ ยั 10.3 ความรบั ผิดชอบ 10.4 ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ 10.5 ความเชอ่ื มั่นในตนเอง 10.6 การประหยัด 10.7 ความสนใจใฝร่ ู้

18 10.8 การละเว้นส่ิงเสพติดและการพนนั 10.9 ความรกั สามคั คี 10.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลักการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบัญชี 2.บนั ทึกบญั ชีโดยใช้โปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบญั ชี 3.จดั ทางบการเงินและนาเสนอขอ้ มลู โดยใช้โปรแกรมตารางงาน สาระการเรียนรู้ Cut) 1.ประเภทและชนิดของข้อมลู 2.การปอ้ นขอ้ มูลลงในเซลล์ 3.การแกไ้ ขข้อมลู ภายในเซลล์ (Edit) 4.การเลอื กเซลล์ (Cell Selection) 5.การคัดลอกขอ้ มลู และการเคล่อื นยา้ ยขอ้ มลู ในเซลล์ (Copy and 6.การลบข้อมลู ในเซลล์ (Delete) 7.การแทรก/ลบแถวและคอลัมน์ (Insert and Delete) 8.การปรบั ขนาดของแถวและคอลมั น์ 9.การจัดการกบั แผน่ งาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.ครูและผู้เรียนสนทนาเร่ืองการเร่ิมต้นใช้งานโปรแกรมตารางงาน ซ่ึงจะมีลักษณะการติดต้ังโปรแกรมและ วธิ ีการเริ่มตน้ ใชโ้ ปรแกรม 2.ครูอภิปรายถงึ ขอ้ มลู ทใี่ ชใ้ นแผน่ งาน (Worksheet) มี 2 ประเภท ได้แกค่ า่ คงที่ (Constant) และสตู รใน การคาานวณ (Formula) 3.ครูและผู้เรียนยกตัวอย่างการนาโปรแกรมตารางงานที่นามาใช้ ซึ่งในปัจจุบันได้พัฒนามาหลายเวอร์ช่ันซึ่ง สามารถใชไ้ ด้กับระบบปฏิบัตกิ าร windows 7, Windows 8 และ Windows 8.1 ขน้ั สอน 4.ครูและผเู้ รียนใช้เทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวัสดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method)

19 เปน็ วิธสี อนทนี่ าอุปกรณโ์ สตทศั นว์ สั ดุมาช่วยพฒั นาคณุ ภาพการเรียนการสอน โสตทัศนว์ สั ดุดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ Power Point เพื่ออธิบายประเภทและชนดิ ของข้อมลู ซ่งึ แบ่งออกได้เปน็ 2 ประเภท 4.1.ค่าคงท่ี (Constant) เปน็ ขอ้ มลู ท่ไี มเ่ ปลย่ี นแปลง ประกอบด้วยขอ้ มูลทีเ่ ปน็ ตัวเลข ตัวอกั ษร เวลา วันที่ข้อมลู ทางตรรกศาสตร์ หรือขอ้ ความท่แี สดงความผิดพลาดตา่ งๆ ทเ่ี กิดขนึ้ 4.2.สตู รในการคาานวณ (Formula) 5.ครูและผเู้ รียนใช้เทคนิคแบบ Demonstration Method การจัดการเรยี นรู้แบบสาธติ และบอกชนิดของ ข้อมูล เพอื่ ให้ผูเ้ รยี นไดม้ สี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เห็นรว่ มกัน โดยขอ้ มูลแบ่งออกเปน็ 5 ชนดิ คอื 5.1. ขอ้ มลู ตวั อักษร (Text) 5.2. ขอ้ มลู ตวั เลข (Number) 5.3. ขอ้ มลู ท่ีเป็นสตู ร (Formula) 5.4. ขอ้ มลู ชนิดวนั ที่ (Date) 5.5. ขอ้ มลู ชนิดเวลา (Time) 6.ครแู ละผู้เรียนใชเ้ ทคนิคแบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรูแ้ บบสาธติ และฝกึ ทกั ษะการป้อน ข้อมูลลงในเซลล์ เชน่ เล่ือน Cell Pointer ไปยงั ตาาแหนง่ เซลลท์ ต่ี อ้ งการพิมพข์ ้อมลู โดยขอ้ มลู จะปรากฏในแถบ สตู ร คาานวณ (Formula Bar) ดงั นี้ 7.ครูและผเู้ รียนใชเ้ ทคนิคแบบ Demonstration Method การจัดการเรยี นรู้แบบสาธติ และฝกึ ทักษะ ดังนี้ การป้อนข้อมูลในช่วง การป้อนข้อมูลท่ีมีค่าซา้ กนั ในชว่ งเดยี วกัน การป้อนข้อมูลหลายบรรทดั ในเซลล์เดยี วกัน การป้อนข้อมูลแบบเติมเองอตั โนมัติ รูปแบบการทางานของ AutoFill 8.ครูและผเู้ รียนใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจัดการเรยี นรู้แบบสาธติ และฝึกทกั ษะการ แก้ไขขอ้ มูลภายในเซลล์ (Edit) เมอ่ื มกี ารปอ้ นข้อมูลแลว้ พบว่าเกิดขอ้ ผิดพลาดข้นึ สามารถปรับเปล่ียนหรือแก้ไข ข้อมูลน้ันได้ โดยทาาได้หลายรปู แบบด้วยกัน เช่น คลกิ เลือกเซลล์ท่ีจะแกไ้ ขและพิมพข์ อ้ มลู ใหม่ทับข้อมลู เดมิ คลิกเลอื กเซลล์ท่ีจะแกไ้ ขแล้วกดปุ่มฟงั กช์ นั คีย์ F2 จะปรากฏเคอรเ์ ซอรอ์ ยูท่ ้ายข้อมลู ในเซลล์ ใช้ลกู ศรเลอ่ื น หรอื ใชเ้ มาส์ {ทเี่ ปน็ รูป I-beam (ไอบมี )} คลกิ ตรงตาาแหนง่ ที่จะแก้ไข

20 9.ครแู ละผู้เรียนใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรู้แบบสาธิต และฝึกทกั ษะ การเลอื กเซลล์ (Cell Selection) และใชเ้ ทคนิคการจดั การเรียนรูแ้ บบใช้คาถาม (Questioning Method) และใช้ Projector เป็นสอ่ื การสอนในการฉายให้ผู้เรยี นปฏบิ ัติตาม เชน่ เมอ่ื ต้องการเลอื กเพยี งบางส่วน ให้ลาก เมาส์ให้คลมุ ขอ้ มลู หรอื เซลลท์ ีต่ ้องการ 10. ครูและผเู้ รยี นใชเ้ ทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรู้แบบสาธติ และฝกึ ทกั ษะการคดั ลอกขอ้ มลู และการเคลื่อนย้ายข้อมลู ในเซลล์ (Copy and Cut) และใชเ้ ทคนคิ การจัดการเรยี นรู้ แบบใชค้ าถาม (Questioning Method) และใช้ Projector เปน็ สอ่ื การสอนในการฉายให้ผู้เรยี นปฏิบตั ิตาม เชน่ การคัดลอกข้อมลู ช่วยให้การทางานไดร้ วดเรว็ มากขน้ึ ซ่งึ ไม่จาเปน็ ตอ้ งปอ้ นขอ้ มลู ทเี่ หมอื นกนั ซา้ ๆ กนั การ คดั ลอกข้อมลู ทาไดโ้ ดย วิธีท่ี ①

21 วิธที ี่ ② 11.ครูและผูเ้ รยี นใชเ้ ทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรแู้ บบสาธิต และฝกึ ทกั ษะการ เคลื่อนแทรกข้อมลู (Cut) และใช้ Projector เปน็ ส่อื การสอนในการฉายใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ตั ติ าม เช่น การเคลื่อนแทรกโดย การใชค้ าส่ัง

22 12.ครูและผูเ้ รยี นใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรูแ้ บบสาธิต และฝกึ ทกั ษะการลบ ขอ้ มลู ในเซลล์ (Delete) และใช้ Projector เป็นสือ่ การสอนในการฉายใหผ้ เู้ รียนปฏิบตั ิตาม เช่น

23 13.ครแู ละผ้เู รยี นใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรู้แบบสาธิต และฝึกทกั ษะการ แทรก/ลบแถวและคอลัมน์ (Insert and Delete) และใช้ Projector เป็นสอ่ื การสอนในการฉายใหผ้ เู้ รียนปฏบิ ตั ิตาม เช่น การแทรกแถว (Insert Row) สามารปฏบิ ตั ไิ ดด้ ังนี้

24 14.ครแู ละผู้เรยี นใชเ้ ทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นร้แู บบสาธติ และฝึกทกั ษะการ ปรับขนาดของแถวและคอลมั น์และใช้ Projector เป็นสอ่ื การสอนในการฉายให้ผเู้ รียนปฏิบัตติ าม เชน่ การปรับความ สูงของแถว 15.ครแู ละผเู้ รยี นใช้เทคนคิ แบบ Demonstration Method การจดั การเรยี นรแู้ บบสาธิต และฝึกทักษะการ จัดการกบั แผ่นงานและใช้ Projector เป็นสือ่ การสอนในการฉายใหผ้ ู้เรยี นปฏบิ ตั ติ าม เช่น การเลอื ก Worksheet (แผ่นงาน)

25 16.ผู้เรยี นปฏบิ ัตติ ามคาาส่งั ตอ่ ไปนี้ และบนั ทกึ ผลท่ีได้ลงในช่องที่กาาหนดให้ 17.ผเู้ รยี นฝกึ ทกั ษะดังนี้ 1.เลือกช่วงข้อมลู โดยใชป้ ุ่ม Ctrl กบั การคลิกเมาสใ์ หไ้ ดพ้ น้ื ทด่ี งั ท่ีกาาหนดให้ 2.กาหนดความกว้างของคอลมั น์ และความสงู ของแถวใหเ้ หมาะสม เติมสใี ห้กับเซลลท์ ี่เลอื ก 3. Sheet ที่ 2 ใหผ้ ู้เรยี นสร้างเปน็ ช่ือของนกั เรยี น 4.บนั ทกึ ชอ่ื ไฟล์หอ้ ง_เลขที่_EX2-5 18.ให้ผู้เรียนพิมพต์ ารางข้อมูลของตนเอง กาหนดใหม้ หี ัวข้อดงั นี้ 1.ลาดบั 2.ชอื่ นามสกลุ 3.ชอ่ื เลน่ 4.วัน เดือน ปี เกดิ พมิ พข์ อ้ มลู ของเพ่ือนในห้อง ตั้งช่อื Sheet เป็น Friend เปล่ียนสีแท็บตาม สีวันเกิดของผู้เรียน จัดรูปแบบเซลล์ด้วยตัวอักษร (Font) รูปแบบ วันท่ี (Date) จัดตาแหน่งของข้อมูล (Alignment) ใส่เส้นให้กับตารางและกาาหนดสีของเส้นเพ่ือเน้นข้อมูลและความสวยงาม (Border) เติมสี ให้กับเซลล์ (Fill) บันทึกไฟล์ชื่อ Friend

26 19.ผู้เรยี นสร้างปฏิทนิ ปีถดั จากปจั จุบนั 25xx บนั ทึกไฟลช์ ื่อ Calendar ขน้ั สรุปและการประยกุ ต์ 20.สรุปโดยให้ผเู้ รียนฝึกทกั ษะปฏบิ ตั ิตามสาระการเรยี นรูท้ ี่กาหนดไวใ้ นแผนการสอนน้ีเกย่ี วกบั การปอ้ นขอ้ มูลและการปรบั แก้ขอ้ มลู และซกั ถามหากไมส่ ามารถปฏบิ ตั ิไดต้ ามที่ครูผสู้ อนไดส้ าธิตหรอื แนะนาไว้ 21.ผูเ้ รยี นทาแบบประเมินผลการเรยี นรู้ และฝกึ ปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยเนน้ การนาไปปฏบิ ตั ไิ ดจ้ ริง เพื่อประยกุ ต์ใช้ ในธุรกจิ สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วชิ าการประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบัญชี ของสานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ 2.กิจกรรรมการเรียนการสอน 3.สือ่ Power Point และเคร่ืองฉาย Projector 4.เครือ่ งคอมพิวเตอร์และโปรแกรมตารางงาน หลกั ฐาน 1.บันทึกการสอน 2.การเช็คชอ่ื เข้าเรียน 3.การบันทึกขอ้ มูลบัญชีในโปรแกรมตารางงาน การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. ตรวจแบบประเมินผลการเรียนรู้ 2. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 3. ประเมินกจิ กรรม 4. ประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ 5. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 6. ตรวจแบบฝึกปฏิบัติ 7. การสังเกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เคร่อื งมอื วัดผล 1. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 3. แบบประเมนิ 4. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่

27 5. แบบฝึกปฏิบัติ 6. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. เกณฑผ์ า่ นแบบประเมินผลการเรยี นรู้คือ 50% 2. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ต้องไม่มีช่องปรบั ปรุง 3. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขึ้นไป) 4. แบบประเมิน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบฝกึ ปฏบิ ัติ เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 6. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการประเมิน ตามสภาพจริง กิจกรรมเสนอแนะ ผเู้ รยี นฝกึ ตดิ ตัง้ โปรแกรมตารางงาน และประยุกต์ใชใ้ นงานบญั ชี

28 บนั ทึกหลังการสอน ข้อสรปุ หลังการสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

29 แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการที่ 3 หนว่ ยที่ 3 สอนครั้งท่ี 3 (11-15) รหัสวิชา 20201-2006 (1-4-3) การประยุกต์โปรแกรม จานวน 5 ช.ม. ตารางงานเพอื่ งานบญั ชี ชอ่ื หน่วย/เรือ่ ง การจดั รปู แบบข้อมลู แนวคิด การทางานบนแผน่งาน (Worksheet) สามารถกาหนดรปแู บบของขอ้ มลู เพอื่ ใหก้ ารทางานเป็นไปตาม วตั ถปุ ระสงค์ของงาน สามารถตกแต่งขอ้ มลู และแผน่ งานใหส้ วยงาม การนาเสนอข้อมลู จะมคี วามชัดเจน นา่ สนใจ และ เป็นประโยชน์สาหรับผูใ้ ชข้ ้อมูล โดยการจดั รูปแบบข้อมลู เช่น การกาหนดเส้นขอ การกาหนดสี ผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวงั 1.จัดรปู แบบข้อมลู ได้ 2.กาหนดรปู แบบตัวอกั ษร (Font) ได้ 3.กาหนดรปู แบบตัวเลข (Number) ได4้ .กาหนดรูปแบบวันที่และเวลา (Date/Time) ได้ 5.จัดวางขอ้ ความ (Alignment) ได้ 6.กาหนดเส้นขอบ (Border) ได้ 7.กาหนดสแี ละลวดลาย (Patterns) ได้ 8.จดั รูปแบบด้วย AutoFormat ได้ 9.คดั ลอกรปู แบบดว้ ยคาสงั่ Format Painter ได้ 10.มีการพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผสู้ าเร็จการศึกษา สานกั งาน คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่คี รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรือ่ ง 10.1 ความมีมนุษยสัมพันธ์ 10.2 ความมีวินัย 10.3 ความรับผิดชอบ 10.4 ความซอ่ื สัตย์สุจริต 10.5 ความเชื่อม่นั ในตนเอง 10.6 การประหยดั 10.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 10.8 การละเว้นสง่ิ เสพตดิ และการพนนั 10.9 ความรักสามคั คี 10.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กี่ยวกบั หลักการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี 2.บนั ทึกบญั ชโี ดยใช้โปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบัญชี 3.จดั ทางบการเงินและนาเสนอขอ้ มลู โดยใช้โปรแกรมตารางงาน

30 สาระการเรยี นรู้ 1.วธิ ีการจดั รูปแบบข้อมลู 2.การกาหนดรปู แบบตัวอักษร (Font) 3.การกาหนดรูปแบบตวั เลข (Number) 4.การกาหนดรปู แบบวนั ที่และเวลา (Date/Time) 5.การจดั วางข้อความ (Alignment) 6.การกาหนดเส้นขอบ (Border) 7.การกาหนดสแี ละลวดลาย (Patterns) 8.การจดั รปู แบบด้วย AutoFormat 9.การคดั ลอกรปู แบบด้วยคาส่ัง Format Painter กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1.ครสู นทนากับผู้เรยี นวา่ กอ่ นที่จะเข้าส่โู ปรแกรมตารางงานและทาการป้อนข้อมลู บญั ชตี า่ งๆ สง่ิ ทต่ี อ้ งทา อันดับแรกคอื การสรา้ งข้อมลู บญั ชเี พอื่ สาหรบั เกบ็ ขอ้ มูลนัน้ ๆ 2.ครูผสู้ อนแนะนาการใช้โปรแกรมตารางานเพื่องานบญั ชี จะมีวิธกี ารกาหนดคา่ เรม่ิ ตน้ ของระบบโดยแบ่ง หมวดเปน็ เมนทู ่เี กย่ี วขอ้ งหรือสมั พันธ์กบั ข้อมลู ที่ต้องปอ้ น 3.ผูเ้ รยี นสอบถามการใช้โปรแกรมตารางานเพ่อื ประยุกต์ใชใ้ นงานบญั ชี ขัน้ สอน 4.ครูใชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบใชโ้ สตทัศนวสั ดุ (Audio-Visual Meterial of Instruction Method) เปน็ วิธสี อนท่ี นาอปุ กรณ์โสตทัศน์วสั ดมุ าช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั นว์ ัสดุ ได้แกส่ อื่ Projector เพอ่ื แสดงให้ผูเ้ รียน ไดเ้ รียนรู้วิธกี ารจดั รปู แบบข้อมลู ซึ่งทาได้ 3 วิธี คือการจัดรปู แบบขอ้ มลู โดยการเรียกใช้แทบ็ Home (หน้าแรก) การ จัดรปู แบบขอ้ มลู โดยการคลิกขวา และการจัดรูปแบบข้อมูลโดยการใช้ปุ่มคาส่งั Format (รูปแบบ) ในกลุม่ ของ Cells (เซลล)์ เชน่ การจดั รปู แบบข้อมลู โดยการเรยี กใช้แทบ็ Home (หน้าแรก) 5.ครแู ละผู้เรยี นใชเ้ ทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซึ่งเป็นการจัดการเรยี นร้แู บบสาธติ และให้ ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ัติตาม โดยใช้ส่ือ Projector ประกอบการเรยี นการสอนเรื่องการกาหนดรูปแบบตวั อกั ษร (Font)

31 การกาหนดรปู แบบตวั อักษรดว้ ยการใช้แท็บ Home (หนา้ แรก) 6.ครูและผู้เรยี นใชเ้ ทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซ่ึงเป็นการจัดการเรียนรแู้ บบสาธติ และให้ ผเู้ รยี นฝกึ ปฏิบัติตาม โดยใชส้ ือ่ Projector ประกอบการเรียนเรื่องการกาหนดรูปแบบตัวเลข (Number) เชน่ 7.ครแู ละผูเ้ รียนใชเ้ ทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซ่งึ เป็นการจดั การเรียนรู้แบบสาธติ และให้ ผเู้ รยี นฝึกปฏิบัติตาม โดยใชส้ ือ่ Projector ประกอบการเรยี นเรื่องการกาหนดรูปแบบวนั ทแ่ี ละเวลา (Date/Time) เช่น

32 8.ครูและผเู้ รยี นใช้เทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method ซ่ึงเป็นการจดั การเรยี นรแู้ บบสาธติ และให้ ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ัติตาม โดยใชส้ ่อื Projector ประกอบการเรยี นเรื่องการจัดวางขอ้ ความ (Alignment) 9.ครแู ละผู้เรียนใชเ้ ทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซง่ึ เปน็ การจดั การเรยี นรู้แบบสาธติ และให้ ผูเ้ รยี นฝึกปฏบิ ัตติ าม โดยใชส้ อ่ื Projector ประกอบการเรียนเรอื่ งการกาหนดเส้นขอบ (Border)

33 10.ครูและผูเ้ รยี นใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบ Demonstration Method ซ่งึ เปน็ การจัดการเรียนรู้แบบสาธติ และ ใหผ้ ู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ัตติ าม โดยใช้สื่อ Projector ประกอบการเรียนเรอ่ื งการกาหนดสีและลวดลาย (Patterns) เชน่

34 11.ครแู ละผูเ้ รยี นใชเ้ ทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซ่ึงเป็นการจัดการเรยี นรู้แบบสาธิตและ ให้ผเู้ รียนฝกึ ปฏบิ ตั ติ าม โดยใช้ส่ือ Projector ประกอบการเรียนเรือ่ งการจดั รูปแบบด้วย AutoFormat เชน่

35 12.ครแู ละผ้เู รยี นใชเ้ ทคนิคการสอนแบบ Demonstration Method ซง่ึ เป็นการจัดการเรยี นรูแ้ บบสาธติ และ ใหผ้ เู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั ติ าม โดยใชส้ อ่ื Projector ประกอบการเรียนเรอ่ื งการคัดลอกรปู แบบด้วยคาสง่ั Format Painter เช่น

36 13.ผู้เรียนฝึกทกั ษะในแบบฝึกปฏบิ ตั ิ และใบงาน 14.ผเู้ รียนฝึกกิจกรรมทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 15.ผ้เู รียนทาแบบประเมนิ ผลหลงั เรยี น ขั้นสรุปและการประยกุ ต์ 16.ผู้เรยี นสรปุ โดยการฝกึ ทกั ษะการจัดรปู แบบข้อมูลในรูปแบบตา่ งๆ ตามทีก่ าหนดให้ 17.ทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิเพ่อื ฝึกทกั ษะใหเ้ กดิ ความชานาญ และนาไปใช้ในการทางานได้ สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรียน วิชาการประยกุ ตโ์ ปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี ของสานักพมิ พ์เอมพนั ธ์ 2.กิจกรรรมการเรยี นการสอน 3.สื่อ Power Point และ Projector 4.เคร่ืองคอมพวิ เตอร์และโปรแกรมตารางงาน

37 หลักฐาน 1.บันทกึ การสอน 2.การเชค็ ชื่อเขา้ เรยี น 3.การบนั ทกึ ขอ้ มลู บัญชีในโปรแกรมตารางงาน การวัดผลและการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล 3. ประเมินกิจกรรม 4. ประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ 5. สังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 6. ตรวจแบบฝกึ ปฏิบัติ 7. การสังเกตและประเมินพฤตกิ รรมด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เครอ่ื งมอื วัดผล 1. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 3. แบบประเมิน 4. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 5. แบบฝึกปฏิบัติ 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นแบบประเมินผลการเรียนรู้คอื 50% 2. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรับปรุง 3. เกณฑ์ผา่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ข้ึนไป) 4. แบบประเมิน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ เกณฑ์ผา่ น คอื 50% 6. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการประเมิน ตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ ให้ผู้เรยี นฝึกทกั ษะการจัดรูปแบบข้อมลู ในรูปแบบตา่ งๆ อย่างสมา่ เสมอ

38 บนั ทึกหลังการสอน ขอ้ สรุปหลังการสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปญั หาทีพ่ บ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

39 .................................................................................................................................................. แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 4 หนว่ ยที่ 4 สอนครงั้ ท่ี 4 (16-20) รหัสวิชา 20201-2006 (1-4-3) การประยกุ ตโ์ ปรแกรม จานวน 5 ช.ม. ตารางงานเพื่องานบัญชี ชอื่ หน่วย/เรือ่ ง การใชส้ ูตรและการใช้ฟังก์ช่ันในการคานวณเพอ่ื สร้างสมุด บนั ทึกรายการขัน้ ต้น แนวคิด การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรม Microsoft Excel 2010 สามารถใช้ได้กบั งานหลายประเภท การศกึ ษาการใชส้ ูตร และฟังกช์ ันใหม้ ีความเข้าใจต้งั แตข่ ั้นพนื้ ฐานจึงมีความจาเป็นการสรา้ งงานดว้ ยเคร่อื งมือ คาส่ัง สตู รและฟังกช์ ันจะชว่ ย ใหเ้ กดิ ทกั ษะจนสามารถพัฒนาไปประยุกตใ์ ชก้ ับงานตา่ งๆ ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพและมปี ระโยชน์ ผลการเรียนรูท้ ี่คาดหวงั 1.บอกประเภทของสตู รได้ 2.ป้อนคา่ สตู รได้ 3.คานวณโดยใช้สูตรได้ 4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผสู้ าเร็จการศึกษา สานกั งาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ครสู ามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง 4.1 ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ 4.2 ความมีวนิ ยั 4.3 ความรับผดิ ชอบ 4.4 ความซือ่ สตั ย์สุจริต 4.5 ความเชื่อมน่ั ในตนเอง 4.6 การประหยัด 4.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 4.8 การละเวน้ สิ่งเสพตดิ และการพนัน 4.9 ความรกั สามัคคี 4.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลักการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี

40 2.บันทกึ บัญชโี ดยใช้โปรแกรมตารางงานเพือ่ งานบญั ชี 3.จดั ทางบการเงนิ และนาเสนอขอ้ มูลโดยใช้โปรแกรมตารางงาน สาระการเรียนรู้ 1.ประเภทของสตู ร 2.วธิ ีการปอ้ นคา่ สตู ร 3.การคานวณโดยใช้สตู ร กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1.ครูและผเู้ รยี นสนทนาเรื่องโปรแกรมตารางงานเกย่ี วกบั การใชส้ ตู รและฟงั กช์ ันของโปรแกรม จะตอ้ งมี ความเขา้ ใจพืน้ ฐานของการใชง้ านสูตรและฟงั ก์ชนั โดยโปรแกรมจัดหมวดหมเู่ พอื่ ใหม้ คี วามเข้าใจและใช้งานได้ง่าย 2.ผเู้ รียนทาแบบประเมนิ ผลกอ่ นเรียน 3.เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นซักถามการบันทึกขอ้ มลู ขนั้ สอน 3.ครใู ชเ้ ทคนคิ วธิ สี อนแบบบรรยาย (Lecture Method) ด้วยการเลา่ อธบิ ายแสดงสาธติ ใหผ้ เู้ รียนเป็นผฟู้ งั และเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รยี นซักถามปญั หาไดใ้ นตอนทา้ ยของการบรรยายเรือ่ งประเภทของสูตร ซึ่งโปรแกรม Excel แบง่ ชนิดของสตู รออกเปน็ 4 ประเภท คือ 3.1 สตู รในการคานวณทางคณติ ศาสตร์ (Arithmetic Formula) 3.2. สตู รในการเปรียบเทียบ (Comparision Formula) 3.3 เครือ่ งหมายในการเช่ือมข้อความสองขอ้ ความหรอื มากกว่านั้น (Text Formula) 3.4 สูตรในการอ้างองิ (Text Formula) 4.ครูและผเู้ รียนใช้เทคนิคการสอนแบบสาธติ (Demonstration Method) และใหผ้ ู้เรยี นฝึกปฏบิ ัตติ าม โดย ใช้สอื่ ฉายบน Projector เกีย่ วกับวธิ กี ารปอ้ นคา่ สตู ร โดยการคาานวณค่าตวั เลขโดยวิธีการสรา้ งสตู รทาไดโ้ ดยการเลือก เซลลท์ ี่ต้องการให้ผลลพั ธ์ปรากฏ ในเซลล์นน้ั แล้วป้อนเคร่ืองหมายเทา่ กบั (=) แลวต้ ามด้วยตัวเลขท่ีใชใ้ นการคานวณ หรือตาแหนง่ ของเซลล์ทเี่ กบ็ คา่ ของข้อมูลทีเ่ ปน็ ตัวเลขที่ใช้ในการคาานวณ และเครื่องหมายทางคณติ ศาสตร์ เช่น

41 5.ครูและผเู้ รียนใช้เทคนิคการสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) และใหผ้ ้เู รยี นฝึกปฏิบตั ติ าม โดยใชส้ อ่ื ฉายบน Projector เพ่ือฝึกทกั ษะให้ผู้เรียนมคี วามชานาญในเร่อื งการคานวณโดยใชส้ ตู ร การคาานวณใน Microsoft Excel 2010 มีข้ันตอนดงั นี้ 5.1 พมิ พเ์ ครื่องหมาย = 5.2 อา้ งอิงเซลล์ 5.3 พิมพ์เครื่องหมายในการคาานวณ 6.ผู้เรียนป้อนขอ้ มลู ตามกิจกรรมทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 7.ผู้เรียนฝกึ ทักษะปฏิบตั ติ ามกรณศี กึ ษา 8.ผูเ้ รียนทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และกจิ กรรมการเรยี น ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 9.ผู้เรียนบอกประเภทของสูตรในโปรแกรมตารางงาน 10.ผ้เู รยี นสรุปโดยฝกึ ทกั ษะใช้วิธีการปอ้ นค่าสตู ร และการคานวณโดยใช้สูตร เพ่ือการบนั ทกึ บญั ชโี ดย การปอ้ นขอ้ มลู ลงในโปรแกรม และบันทึกไปตามขั้นตอนของโปรแกรมและทาต่อเน่ืองตอ่ ไปเรือ่ ย ๆ 11.ทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมินตนเอง รวมทั้งกจิ กรรมการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ เพ่อื ให้เกิดทักษะการเรยี นรู้และนาไปใชไ้ ด้อยา่ งถูกตอ้ ง สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนงั สือเรยี น วิชาการประยกุ ต์โปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบญั ชี ของสานกั พมิ พเ์ อมพันธ์ 2.กิจกรรรมการเรียนการสอน

42 3.สื่อ Power Point และ ส่อื Projector 4.เครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมตารางงาน หลักฐาน 1.บันทึกการสอน 2.การเชค็ ชื่อเขา้ เรียนในวิชา 3.การบันทึกขอ้ มูลในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชีกบั คอมพิวเตอร์ ของสานกั พิมพเ์ อมพนั ธ์ 2.กจิ กรรรมการเรยี นการสอน 3.มาตรฐานการบญั ชี 4.เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์และโปรแกรมบัญชี หลักฐาน 1.บนั ทึกการสอน 2.การเชค็ ช่อื เขา้ เรยี นในวิชา 3.การบนั ทกึ ข้อมลู ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ กจิ กรรมเสนอแนะ แนะนาให้ผู้เรยี นฝกึ ทกั ษะและศกึ ษาและปฏบิ ตั ติ ามวิธกี ารปอ้ นคา่ สตู ร และการคานวณโดยใชส้ ตู รอยา่ ง สมา่ เสมอ และนาไปใชใ้ นการทางาน หรือในชีวติ ประจาวนั ท่ีเกย่ี วข้องต่อไป

43 บนั ทึกหลังการสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปญั หาทพี่ บ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปญั หา .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

44 .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แผนการจัดการเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ 5 หนว่ ยที่ 4 สอนคร้งั ที่ 5 (21-25) รหสั วชิ า 20201-2006 (1-4-3) การประยุกตโ์ ปรแกรม จานวน 5 ช.ม. ตารางงานเพอ่ื งานบญั ชี ชื่อหนว่ ย/เร่ือง การใชส้ ูตรและการใชฟ้ ังก์ชัน่ ในการคานวณเพ่ือสรา้ งสมุด บันทกึ รายการขน้ั ต้น แนวคดิ การประยกุ ต์ใช้โปรแกรม Microsoft Excel 2010 สามารถใช้ได้กบั งานหลายประเภท การศึกษาการใชส้ ตู ร และฟงั ก์ชนั ใหม้ ีความเข้าใจตง้ั แตข่ ้ันพ้นื ฐานจึงมีความจาเป็นการสรา้ งงานดว้ ยเครอื่ งมอื คาสงั่ สตู รและฟงั ก์ชันจะชว่ ย ใหเ้ กดิ ทกั ษะจนสามารถพฒั นาไปประยุกต์ใชก้ บั งานตา่ งๆ ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพและมปี ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง 4.บอกประเภทของฟังก์ชันได้ 5.อา้ งอิงเซลล์ได้ 6.มีการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผูส้ าเร็จการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง 6.1 ความมีมนษุ ยสัมพนั ธ์ 6.2 ความมีวนิ ัย 6.3 ความรับผิดชอบ 6.4 ความซือ่ สัตย์สจุ รติ 6.5 ความเชื่อม่ันในตนเอง 6.6 การประหยัด 6.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 6.8 การละเว้นสิ่งเสพตดิ และการพนัน

45 6.9 ความรกั สามคั คี 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ ก่ียวกบั หลักการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบัญชี 2.บันทกึ บัญชีโดยใช้โปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี 3.จัดทางบการเงินและนาเสนอขอ้ มลู โดยใช้โปรแกรมตารางงาน สาระการเรยี นรู้ 4.ประเภทของฟังก์ชันและฟังกช์ นั ท่ใี ชง้ าน 5.การอ้างอิงเซลล์ กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.ครูและผเู้ รยี นสนทนากนั เร่ืองการใช้ฟงั กช์ นั ในการคานวณทใี่ ช้งานซึ่งแบ่งประเภทได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน เช่น ฟงั ก์ชนั ทางคณิตศาสตร์ ฟงั ก์ชนั ท่ีเก่ยี วกับวนั ท่ี ฟงั กช์ ันทเี่ ก่ยี วกบั เวลา เป็นตน้ 2.ผ้เู รยี นยกตวั อย่างของงานแต่ละฟงั กช์ ัน ขนั้ สอน 3.ครูและผเู้ รยี นใช้เทคนิคการสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) และใช้เทคนิคการสอนแบบใช้ คาถาม (Questioning Method) และใช้สือ่ คอมพวิ เตอร์ฉายผ่าน Projector ประกอบเก่ียวกับประเภทของฟงั ก์ชนั และฟังก์ชันที่ใช้งาน 4.ครูและผูเ้ รียนใชเ้ ทคนิคการสอนแบบสาธิต (Demonstration Method) และใช้สื่อคอมพวิ เตอรฉ์ ายผา่ น Projector ประกอบเกยี่ วกับประเภทของฟงั กช์ ัน เช่น  SUM (การหาผลรวมของข้อมลู )

46  SUMIF (การหาผลรวมแบบมเี งือ่ นไข) 5.ครแู ละผู้เรยี นใช้เทคนิคการสอนแบบสาธติ (Demonstration Method) และใชส้ ื่อคอมพวิ เตอร์ฉายผ่าน Projector ประกอบในการอ้างองิ เซลล์ โดยในการคาานวณในโปรแกรม Microsoft Office Excel 2010 จะตอ้ งมีการ คดั ลอกสตู รหรอื ฟงั กช์ ัน โดยการอา้ งองิ เซลล์ซ่งึ จะมีวธิ ีการอ้างองิ เซลล์ 2 แบบ คือการอ้างองิ แบบสมั พทั ธ์ (Relative reference) และการอา้ งอิงแบบสมั บรู ณ์ (Absolute reference) การอา้ งองิ แบบสัมพัทธ์ (Relative reference) 6.ผู้เรียนทาแบบฝกึ ปฏบิ ัติ 7.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมท่ีไดร้ บั มอบหมาย 8.ผู้เรยี นทาแบบประเมินผลการเรยี น ข้ันสรุปและการประยุกต์ 9.ผู้เรยี นสรปุ โดยให้ฝึกปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง โดยแสดงฟังกช์ ันและฟงั กช์ ันท่ใี ช้งานแตล่ ะประเภท และการ อา้ งอิงเซลล์

47 10.ผู้เรียนทาแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ และกจิ กรรมทีก่ าหนดไว้ พร้อมทาแบบประเมินผลการเรียนรู้ ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1.หนังสอื เรยี น วิชาการประยกุ ต์โปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบญั ชี ของสานักพิมพเ์ อมพันธ์ 2.กจิ กรรรมการเรยี นการสอน 3.สอ่ื Power Point และ Projector 4.เคร่ืองคอมพิวเตอร์และโปรแกรมตารางงาน หลกั ฐาน 1.บันทกึ การสอน 2.การเช็คชอ่ื เข้าเรียนในวชิ า 3.การบันทึกขอ้ มูลในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การวดั ผลและการประเมนิ ผล วิธวี ดั ผล 1. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 3. ประเมินกิจกรรม 4. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 5. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 6. ตรวจแบบฝึกปฏิบัติ 7. การสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เครื่องมอื วัดผล 1. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ 2. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 3. แบบประเมนิ 4. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 5. แบบฝึกปฏิบัติ 6. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เกณฑ์การประเมนิ ผล 1. เกณฑผ์ ่านแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้คือ 50% 2. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง 3. เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่ คือ ปานกลาง (50 % ขึน้ ไป)