Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชากระบวนการจัดทำบัญชี รหัสวิชา 20201-2008

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชากระบวนการจัดทำบัญชี รหัสวิชา 20201-2008

Published by krutip.2550, 2021-10-28 08:56:47

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชากระบวนการจัดทำบัญชี

Search

Read the Text Version

47 5) จดั สง่ รายงานเพอ่ื ประเมนิ ผล หมายเหตุ การกรอกขอ้ ความในแบบพิมพ์คาขอจดทะเบยี นและเอกสารทีใ่ ช้ในการจดทะเบียนให้ พมิ พ์ดว้ ยเครอื่ งพมิ พด์ ดี หรอื เครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ทา่ นนั้ 14.ครปู ลกู ฝงั ใหผ้ เู้ รยี นประพฤตติ นตามระเบยี บกฎเกณฑข์ องสงั คม มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อหน้าทข่ี อง ตนเอง และการอย่รู ว่ มกนั ของทุกคนยอ่ มมคี วามสมั พนั ธก์ นั ซง่ึ ตอ้ งนากฎระเบยี บและหลกั คณุ ธรรมตามศาสนาท่ี ตนนับถือมาปรบั ใช้ เพ่อื ความเป็นระเบยี บเรยี บร้อยในการอยู่ร่วมกนั ทาให้สงั คมมคี วามสุข ดงั นัน้ ผู้เรยี นต้อง ร่วมกนั ทาประโยชน์เพอ่ื สงั คมสว่ นรวม เช่น การเปิด-ปิดไฟ ภายในหอ้ งเรยี น หอ้ งน้า เป็นตน้ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 15.ครสู รุปเน้ือหาทงั้ หมดโดยอภปิ รายสนั้ ๆ และใหผ้ เู้ รยี นแสดงการกรอกเอกสารเพ่อื จดทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั ตามปกติ และจดทะเบยี นจดั ตงั้ ในวนั เดยี ว เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ และเขา้ ใจในการนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ต่อไปได้ 16.ผเู้ รยี นสรปุ การจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั การจดทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ การชาระบญั ชบี รษิ ทั จากดั และการจด ทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั มหาชนจากดั โดยการฝึกปฏบิ ตั ผิ า่ นกจิ กรรมกรณศี กึ ษา 17.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เพอ่ื ฝึกทกั ษะความรแู้ ละความเขา้ ในการหลกั เกณฑแ์ ละขนั้ ตอน ในการจดทะเบียนการจดั ตงั้ บรษิ ัทจากดั การจดทะเบียนเลกิ และเสรจ็ การชาระบญั ชบี รษิ ัทจากดั และการจด ทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั มหาชนจากดั เพอ่ื นาไปประยุกตใ์ ชต้ ่อไป 18.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 19.ผเู้ รยี นทากจิ กรรม 20.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกปฏบิ ตั ิ และกจิ กรรมทก่ี าหนดไว้ รวมทงั้ แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 3. กจิ กรรม 4. อนิ เทอรเ์ นต็ 5. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

48 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ ่าน คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ ่าน 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จ่าย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 4. ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะการจดทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั โดยดาวน์โหลดเอกสารการจดทะเบยี น บรษิ ทั จากดั จาก http://www.dbd.go.th

49 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ ่นื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หม่ๆ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

50 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ใน  สง่ิ ทด่ี งี ามเพอ่ื ส่วนรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละ  แบง่ ปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ถี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ มอ่ื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เมอ่ื มคี วามพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรุง หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

51 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบรู ณำกำรที่ 6 52 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) หน่วยท่ี 6 สอนครง้ั ท่ี 6 (26-30) ช่ือหน่วย/เร่ือง การจดั การเอกสารท่ีเก่ียวข้อง จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. ในการดาเนินงานธรุ กิจ แนวคิด ตามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 มาตรา 8 บญั ญตั ใิ หผ้ มู้ หี น้าทจ่ี ดั ทาบญั ชขี องกจิ การทจ่ี ดั ตงั้ ขน้ึ ตามกฎหมายไทย ต้องจดั ทาบญั ชใี ห้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรฐานการบญั ชี พระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 และประกาศกรมทะเบยี นการค้าเร่อื ง กาหนดชนิดของบญั ชที ่ตี ้องจดั ทา ขอ้ ความและรายการทต่ี ้องมใี น บญั ชี ระยะเวลาทต่ี อ้ งลงรายการในบญั ชแี ละเอกสารทต่ี อ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชี พ.ศ.2544 ไดก้ าหนดประเภท ของเอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบการลงบญั ชี โดยทวั่ ไปเอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบการลงบญั ชนี นั้ สามารถเป็นรายจา่ ยไดใ้ นทางภาษอี ากร ไดแ้ ก่ ใบกากบั ภาษี หรอื ใบเสรจ็ รบั เงนิ ทม่ี รี ายการสมบรู ณ์ ซง่ึ ผรู้ บั เงนิ ค่าสนิ คา้ หรอื บรกิ ารมหี น้าทต่ี อ้ งออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ใหแ้ ก่ ผจู้ ่ายเงนิ ค่าสนิ คา้ หรอื บรกิ ารในแต่ละคราว และผจู้ ่ายเงนิ ค่าสนิ คา้ หรอื บรกิ ารสามารถรอ้ งขอใหผ้ รู้ บั เงนิ ค่า สนิ คา้ หรอื บรกิ ารออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ไดด้ ว้ ยเช่นกนั ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั 1.อธบิ ายและวเิ คราะหเ์ อกสารการดาเนินงานของธุรกจิ ได้ 2.อธบิ ายและวเิ คราะหเ์ อกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชไี ด้ 3.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.2 ความมวี นิ ยั 3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 3.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 3.6 การประหยดั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 3.9 ความรกั สามคั คี 3.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี

53 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อตุ สาหกรรมตาม ขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สาระการเรียนรู้ 1.เอกสารในการดาเนนิ งานของธุรกจิ 2.เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.ครซู กั ถามพดู คยุ กบั ผเู้ รยี นเรอ่ื งเอกสารในการดาเนินงานของธรุ กจิ ซง่ึ เป็นหนงั สอื หรอื ตราสารทป่ี รากฏ ความหมายเกย่ี วขอ้ งกบั การประกอบธรุ กจิ และใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการดาเนินกจิ กรรมทางการคา้ เพ่อื เตรยี ม ความพรอ้ มก่อนเรยี น 2.ครเู น้นว่าการประกอบธรุ กจิ จะเป็นตอ้ งจดั ทาเอกสารทางการคา้ เพ่อื เป็นหลกั ฐานในการบนั ทกึ บญั ชี หรอื ใชอ้ า้ งองิ และตรวจสอบ การจดั ทาเอกสารอะไรบา้ งนนั้ กข็ น้ึ อยกู่ บั แต่ละธุรกจิ สว่ นใหญ่เอกสาร 3.ครแู ละผเู้ รยี นทบทวนการใชเ้ อกสารต่างๆ เป็นหลกั ฐานในการจดทะเบยี นธุรกจิ หา้ งหวุ้ น บรษิ ทั จากดั และบรษิ ทั มหาชนจากดั เพอ่ื เชอ่ื มโยงกบั เร่อื งใหม่ ขนั้ สอน 4.ครแู ละผเู้ รยี นอธบิ ายรายละเอยี ดทค่ี วรมใี นเอกสารในการดาเนินงานของธุรกจิ ประเภทต่างๆ เอกสารทใ่ี ชเ้ ป็นหลกั ฐานสาคญั ในการตดิ ต่อธุรกจิ แบง่ ออกได้ 3 ประเภท 4.1 เอกสารภายนอก หมายถงึ เอกสารทบ่ี ุคคลภายนอกเป็นผจู้ ดั ทาเพ่อื สง่ ใหก้ จิ การ เช่นจดหมาย ใบ โฆษณา ใบสงั่ ซอ้ื สนิ คา้ ใบกากบั สนิ คา้ ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบสง่ ของ/ใบกากบั สนิ คา้ ใบแจง้ ยอดเงนิ ฝากธนาคาร

54 4.2 เอกสารภายใน หมายถงึ เอกสารทห่ี น่วยงานจดั ทาขน้ึ แลว้ สง่ ออกไปยงั ภายนอกเพอ่ื ตดิ ต่อธรุ กจิ เช่น จดหมาย ใบแจง้ หน้ี ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบสง่ ของ/ใบกากบั สนิ คา้ ฯลฯ โดยจะเรยี งลาดบั วนั ทข่ี องการเกดิ รายการ ซง่ึ หนงั สอื ทส่ี ง่ ไปภายนอกนนั้ ตอ้ งเกบ็ สาเนาไวเ้ พอ่ื เป็นหลกั ฐานอกี หน่งึ ชุด 4.3 เอกสารตดิ ต่อภายในกจิ การ หมายถงึ เอกสารทจ่ี ดั ทาขน้ึ ใชภ้ ายในกจิ การ เพ่อื ใชใ้ นกจิ การเอง หรอื แต่ ละแผนกจดั ทาขน้ึ เพอ่ื ใหก้ ารทางานนนั้ มคี วามคล่องตวั มากขน้ึ หรอื อาจจะเป็นเอกสารทต่ี อ้ งการจะแจง้ ให้ พนกั งานทราบกไ็ ด้ เชน่ บนั ทกึ ขอ้ ความ คาสงั่ ประกาศ สญั ญา ใบยมื เงนิ ใบสาคญั จา่ ย รายงานต่าง ๆ ของ กจิ การ ฯลฯ

55 5.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะโดยการออกแบบฟอรม์ เอกสารทใ่ี ชเ้ ป็นหลกั ฐานในการดาเนินธรุ กจิ เช่น ใบสง่ ของ ใบกากบั สนิ คา้ ใบกากบั ภาษี ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบสาคญั จา่ ย ใบสาคญั รบั เป็นตน้ 6.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรม โดยพจิ ารณาและจดั ทาเอกสารในแต่ละขอ้ ดงั ต่อไปน้ี 6.1 ในกรณีท่ภี ตั ตาคารเทยี นหลง ตงั้ อย่ใู นย่านสุขมุ วทิ ไดไ้ ปซอ้ื วตั ถุดบิ ทต่ี ลาดไทเพ่อื นามาปรุงอาหาร จาหน่ายให้ลูกค้า แต่ผู้รบั เงินไม่ได้ออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ให้แก่ภัตตาคาร ถ้านาหลกั เกณฑ์รายจ่ายทางภาษี เอกสารหลกั ฐานทค่ี วรมี (เฉพาะกรณ)ี ควรจดั ทารายการซอ้ื แต่ละคราว ควรมขี อ้ ความใดบา้ ง 6.2 นางสาวปลายขา้ วไดด้ าเนินกจิ การโดยเป็นผคู้ ้าสนิ คา้ เกษตร เช่น การซ้อื สนิ คา้ จาก เกษตรกร เม่อื ซ้อื ขา้ วเปลอื ก และพชื ไร่จากเกษตรกรไดจ้ ่ายเงนิ ใหเ้ กษตรกรเรยี บร้อยแล้ว แต่เกษตรกรซ่งึ เป็นผู้รบั เงนิ ไม่ออก หลกั ฐานการรบั เงนิ ใหแ้ กน่ างสาวปลายขา้ ว ดงั นนั้ เธอควรจะใชห้ ลกั เกณฑร์ ายจ่ายทางภาษโี ดยเอกสารหลกั ฐาน ทค่ี วรมี (เฉพาะกรณี) ควรจะจดั ทารายการซอ้ื ในแต่ละคราวโดยมขี อ้ ความระบุขอ้ ความอยา่ งไรบา้ ง 6.3 นายเทศบาลเป็นพนกั งานของบรษิ ทั เอกชนแห่งหน่งึ ไดเ้ ดนิ ทางโดยรถแทก็ ซจ่ี ากราชเทวี ไปทก่ี รม พฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณิชยด์ ว้ ยราคา 320 บาท (ไม่มเี อกสารการจ่ายเงนิ ) และไดจ้ า้ งมอเตอรไ์ ซดห์ น้า ปากซอยไปสง่ เอกสารใหล้ กู คา้ จานวน 250 บาท ซง่ึ ค่าใชจ้ า่ ยเหล่าน้ีผรู้ บั เงนิ ไม่สามารถออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ได้ ดงั นนั้ กจิ การควรจดั ทาเอกสารใดบา้ งเพอ่ื เป็นหลกั ฐานในการจ่ายเงนิ ครงั้ น้ี 7.ครูอธบิ ายรายละเอยี ดของเอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี โดยใชส้ ่อื Power Point ประกอบ เพ่อื ส่อื ความหมายใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจไดง้ า่ ยยงิ่ ขน้ึ ไดแ้ ก่ 7.1 เอกสารประกอบการลงบญั ชตี ามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 7.2 เอกสารประกอบการลงบญั ชตี ามประมวลรษั ฎากร 8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะฝึกปฏบิ ตั เิ พ่อื จดั ทาเอกสารในแต่ละกรณีดงั ต่อไปน้ี 8.1 บรษิ ทั ทอ่ งเทย่ี วไทย จากดั ไดจ้ ่ายเงนิ เพ่อื ซอ้ื ของทร่ี ะลกึ ใหแ้ ก่นกั ท่องเทย่ี ว และจา่ ยเงนิ ใหแ้ ก่ มคั คุเทศกท์ อ้ งถน่ิ ทอ่ี านวยความสะดวกแก่นกั ทอ่ งเทย่ี วในทวั รข์ องตนเอง ผรู้ บั เงนิ (รา้ นขายของทร่ี ะลกึ และ มคั คุเทศกท์ อ้ งถน่ิ ) ไดใ้ หห้ ลกั ฐานเพยี งใบสง่ ของหรอื ใบเสรจ็ รบั เงนิ ทม่ี รี ายการไมส่ มบรู ณ์ (เชน่ ไมร่ ะบชุ ่อื กจิ การ ทร่ี บั เงนิ ) ดงั นนั้ พนกั งานของบรษิ ทั ท่องเทย่ี วไทย จากดั ควรจะทาอย่างไรจงึ จะทาใหเ้ อกสารสมบรู ณ์ตาม หลกั การบญั ชี และตามหลกั กฎหมายภาษอี ากร 8.2 เจา้ ของกจิ การใหใ้ ชส้ ถานทท่ี อ่ี ย่อู าศยั เป็นสถานประกอบการของกจิ การหรอื ใหใ้ ชท้ รพั ยส์ นิ โดยไม่คดิ คา่ ตอบแทน และผรู้ บั เงนิ ไมอ่ อกหลกั ฐานการรบั เงนิ และไม่ยอมใหห้ กั ภาษี ณ ทจ่ี า่ ย ดงั นนั้ ควรจะทาอย่างไรจงึ จะไดเ้ อกสารหลกั ฐานทางกฎหมายทส่ี มบรู ณ์ 8.3 ในกรณที บ่ี รษิ ทั เอกชนแหง่ หน่งึ ไดเ้ ชา่ อาคารพาณชิ ยเ์ พ่อื เป็นสถานประกอบการ และเมอ่ื จ่ายเงนิ ค่า เช่าใหผ้ รู้ บั เงนิ แต่ผรู้ บั เงนิ ไมย่ อมใหห้ กั ภาษี ณ ทจ่ี า่ ย ผปู้ ระกอบการควรจะดาเนนิ การอย่างไร เพอ่ื ใหไ้ ดเ้ อกสาร หลกั ฐานทถ่ี กู ตอ้ งมาอา้ งองิ ได้ 9.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะ โดยจดั ทาในเสนอราคาของบรษิ ทั ควิ ตนั จากดั ดงั ต่อไปน้ี 9.1 ตงั้ อยู่เลขท่ี 156/2 ถนนอสิ รภาพ แขวงพรานนก เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 โทร 0- 24120990-6, Fax: 0-2966-4057 9.2 กาหนดรายการดงั น้ี 9.2.1 เลม่ ท่ี เลขทข่ี องเอกสาร 9.2.2 เลขประจาตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากร

56 9.2.3 วนั เดอื น ปี 9.2.4 ช่อื ทอ่ี ยขู่ องลกู คา้ และอน่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 9.2.5 รายการคา้ มดี งั น้ี ท่ี รายการ จานวน หน่วยละ จานวนเงนิ 1 ลกู ปืนปลายเกยี ร์ 621 1 อนั 120.00 120.00 2 ผา้ ปดั ศร H 10 โหล 100.00 1,000.00 3 ยางแทน่ เคร่อื ง 3 L 2 อนั 880.00 1,760.00 4 ซอ่ มบารุงตวั ถงั 1 2,000.00 2,000.00 รายการดงั กล่าวยงั ไม่รวมภาษมี ลู ค่าเพมิ่ และมสี ว่ นลดทงั้ หมด 200 บาท 9.3 เพมิ่ เตมิ รายการอ่นื ๆ ในใบเสนอราคาใหส้ มบรู ณ์ 10.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะโดยการออกแบบฟอรม์ เอกสารต่าง ๆ เพอ่ื ใชด้ าเนนิ ธรุ กจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ โดยกรอก ขอ้ ความใหถ้ ูกตอ้ งสมบรู ณ์ตามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี 2543 และประมวลกฎหมายภาษอี ากรดงั ต่อไปน้ี 10.1 ใบสงั่ ซอ้ื (Order) 10.2 ใบสง่ ของ (Delivery Order) หรอื ใบกากบั สนิ คา้ (Invoice) 10.3 ใบกากบั ภาษี (Tax Invoice) 10.4 ใบเพมิ่ หน้ี (Debit Note) 10.5 ใบลดหน้ี (Credit Note) 10.6 ใบเสรจ็ รบั เงนิ (Receipt) 11.ผเู้ รยี นวเิ คราะหก์ รณศี กึ ษาของบรษิ ทั มะนาว จากดั ดงั ้ี บรษิ ทั มะนาว จากดั ดาเนินธุรกจิ ผลติ สนิ คา้ อุตสาหกรรมมาหลายปี จงึ มเี อกสารจานวนมาก ซงึ่ ยากต่อ การเก็บรกั ษาเนือ่ งจากใช้พ้ืนทีม่ าก จึงได้ประชุมหารือคณะกรรมการของบริษัท ผู้ถือหุ้น รวมทงั้ ผู้ทีม่ ีส่วน เกยี่ วขอ้ งกบั การทาบญั ชขี องบรษิ ัททุกคน ในการประชุมครงั้ น้ีได้นาเรอื่ งการกาหนดระยะเวลาการเกบ็ เอกสาร บญั ชตี ามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 ซงึ่ ถอื เป็นเรอื่ งทางกฎหมายทบี่ รษิ ทั ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามอย่างเครง่ ครดั ดงั นนั้ ผเู้ ขา้ ร่วมประชุมต่างกส็ งสยั ในขอ้ ปฏบิ ตั วิ ่าเมอื่ เกบ็ เอกสารทางบญั ชไี วเ้ ป็นระยะเวลา 5 ปีแลว้ หลงั จากนนั้ จะสามารถทาลายเอกสารดงั กล่าวไดห้ รอื ไม่ และการเกบ็ รกั ษาเอกสารภาษีมลู คา่ เพมิ่ จะตอ้ งเกบ็ ไวเ้ ป็นระยะเวลา เดยี วกนั หรอื ไมอ่ ย่างไร ดงั นนั้ คณะกรรมการของบรษิ ทั หรอื ผรู้ บั ผดิ ชอบเรอื่ งน้จี ะอธบิ ายใหผ้ ถู้ อื หนุ้ และผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ในบรษิ ทั ใหเ้ ขา้ ใจไดอ้ ย่างไรบา้ ง 12.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะโดยการพจิ ารณารปู ภาพใบสง่ สนิ คา้ /ใบกากบั สนิ คา้ แลว้ ตอบคาถาม  เอกสารดงั กลา่ วเป็นเอกสารทางบญั ชตี ามกฎหมายในลกั ษณะใด  ใครเป็นผอู้ อกเอกสารชนิดน้ี (ระบชุ ่อื ) และควรเกบ็ สาเนาเอกสารไวอ้ ยา่ งน้อยกป่ี ่ี  รปู แบบของเอกสารน้ี มขี อ้ ความอะไรบา้ ง จงใสห่ มายเลขกากบั (…) ใหค้ รบถว้ น

57 15 ส.ค. 2559 13.ครปู ลกู ฝงั ใหผ้ เู้ รยี นประพฤตติ นตามระเบยี บกฎเกณฑข์ องสงั คม มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อหน้าทข่ี อง ตนเอง และการอย่รู ว่ มกนั ของทกุ คนยอ่ มมคี วามสมั พนั ธก์ นั ซง่ึ ตอ้ งนากฎระเบยี บและหลกั คณุ ธรรมตามศาสนาท่ี ตนนบั ถอื มาปรบั ใช้ เพอ่ื ความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยในการอยรู่ ่วมกนั ทาใหส้ งั คมมคี วามสขุ ดงั นนั้ ผเู้ รยี นตอ้ ง ร่วมกนั ทาประโยชน์เพ่อื สงั คมสว่ นรวม เชน่ การเปิด-ปิดไฟ ภายในหอ้ งเรยี น หอ้ งน้า เป็นตน้ 14.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมโดยผา่ นกรณศี กึ ษา และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 15.ผเู้ รยี นสรปุ โดยฝึกทกั ษะในการจดั ทาเอกสารในการดาเนินธรุ กจิ และแบบฟอรม์ ต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 16.ผเู้ รยี นทาแบบฝึกทกั ษะ เพอ่ื ฝึกทกั ษะความรแู้ ละความเขา้ ในการหลกั เกณฑแ์ ละขนั้ ตอนในการ จดั ทาเอกสารในการดาเนนิ ธุรกจิ และนาไปบนั ทกึ บญั ชเี พอ่ื นาไปประยกุ ตใ์ ชต้ ่อไป ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กจิ กรรม, กรณีศกึ ษา 3. กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 5. Poewer Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น

58 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จา่ ย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 4. ควรศกึ ษาหาความรจู้ ากกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th และกรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th

59 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมิน พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าทา่ ทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไม่นาผลงานผอู้ ่นื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสงิ่ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หม่ๆ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี ม่ถูกตอ้ ง รวมคะแนนที่ได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรงุ คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

60 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจริง โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ใน  สงิ่ ทด่ี งี ามเพอ่ื ส่วนรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละ  แบ่งปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ถี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ มอ่ื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เมอ่ื มคี วามพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ต่อ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรุง หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

61 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบรู ณำกำรท่ี 7 62 รหสั วิชา 20201-2008 บญั ชกี ระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) หน่วยท่ี 6 สอนครง้ั ท่ี 7 (31-35) ช่ือหน่วย/เร่ือง การจดั การเอกสารที่เก่ียวข้องในการดาเนิ นงาน จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. ธรุ กิจ แนวคิด ตามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 มาตรา 8 บญั ญตั ใิ หผ้ มู้ หี น้าทจ่ี ดั ทาบญั ชขี องกจิ การทจ่ี ดั ตงั้ ขน้ึ ตามกฎหมายไทย ต้องจดั ทาบญั ชใี ห้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรฐานการบญั ชี พระราชบญั ญัติการบญั ชี พ.ศ. 2543 และประกาศกรมทะเบยี นการคา้ เร่อื ง กาหนดชนิดของบญั ชที ต่ี ้องจดั ทา ขอ้ ความและรายการท่ตี ้องมใี น บญั ชี ระยะเวลาทต่ี อ้ งลงรายการในบญั ชแี ละเอกสารทต่ี อ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชี พ.ศ.2544 ไดก้ าหนดประเภท ของเอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบการลงบญั ชี โดยทวั่ ไปเอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบการลงบญั ชนี นั้ สามารถเป็นรายจา่ ยไดใ้ นทางภาษอี ากร ไดแ้ ก่ ใบกากบั ภาษี หรอื ใบเสรจ็ รบั เงนิ ทม่ี รี ายการสมบรู ณ์ ซง่ึ ผรู้ บั เงนิ ค่าสนิ คา้ หรอื บรกิ ารมหี น้าทต่ี อ้ งออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ใหแ้ ก่ ผจู้ า่ ยเงนิ คา่ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารในแต่ละคราว และผจู้ า่ ยเงนิ ค่าสนิ คา้ หรอื บรกิ ารสามารถรอ้ งขอใหผ้ รู้ บั เงนิ คา่ สนิ คา้ หรอื บรกิ ารออกหลกั ฐานการรบั เงนิ ไดด้ ว้ ยเชน่ กนั ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั 3.อธบิ ายและแยกประเภทของเอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชไี ด้ 4.อธบิ ายและจดั เกบ็ เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชไี ด้ 5.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.2 ความมวี นิ ยั 5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 5.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 5.6 การประหยดั 5.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 5.9 ความรกั สามคั คี 5.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี

63 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อุตสาหกรรมตาม ขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สาระการเรียนรู้ 3.ประเภทของเอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี 4.การจดั เกบ็ เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1.ครแู ละผเู้ รยี นพดู คุยกนั เร่อื งเอกสารทางบญั ชี (Accounting documents) ซง่ึ เป็นเอกสารทใ่ี ชเ้ ป็น หลกั ฐานประกอบการบนั ทกึ บญั ชี อาจจะไดร้ บั จากบคุ คลภายนอก เชน่ ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบสงั่ ซอ้ื ใบกากบั ภาษี 2.ครตู งั้ คาถามใหผ้ เู้ รยี นตอบและสมุ่ ผเู้ รยี นออกมาอภปิ รายการวเิ คราะหร์ ายการเพ่อื ใหส้ ามารถนาไปใช้ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ขนั้ สอน 3.ครอู ธบิ าย.ประเภทของเอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี โดยใช้ Power Point เพอ่ื สอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจ ยงิ่ ขน้ึ ซง่ึ เอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชมี ี 2 ประเภท คอื 3.1 แบบฟอรม์ ทก่ี อ่ ใหเ้ กดิ รายการ ไดแ้ ก่ ใบขอซอ้ื (Purchase Requisition) และใบแจง้ การรบั พนกั งาน (Payroll Notification) ใบเบกิ วตั ถุดบิ (Material Requisition) หรอื ใบเบกิ สนิ คา้ (Product Requisition) 3.2 แบบฟอรม์ ทใ่ี ชบ้ นั ทกึ เหตุการณ์ ไดแ้ ก่ ใบกากบั สนิ คา้ ทข่ี าย (Sales Invoice) ใบกากบั สนิ คา้ ทซ่ี อ้ื มา (Purchase Invoice) รายงานการรบั สนิ คา้ (Receiving Reports) บตั รลงเวลา (Time clock–cards) 4.ครอู ธบิ ายการจดั เกบ็ เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี โดยเอกสารทบ่ี นั ทกึ บญั ชแี ลว้ ตอ้ งจดั เกบ็ เขา้ แฟ้ม โดยแยกหมวดหมแู่ ละกาหนดรหสั และเลขทข่ี องเอกสาร เพ่อื สะดวกในการคน้ หาและเกบ็ ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน ตรวจสอบภายหลงั มหี ลกั การจดั เกบ็ ดงั น้ี 4.1 เอกสารเกย่ี วกบั ภาษมี ลู ค่าเพมิ่ ไดแ้ ก่ ใบกากบั ภาษี ใบเพมิ่ หน้ี ใบลดหน้ี 4.2 เอกสารทไ่ี มเ่ กย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ เชน่ การรบั ชาระหน้ี ใบเสรจ็ รบั เงนิ คา่ ใชจ้ า่ ยของผปู้ ระกอบการท่ี ไม่อยใู่ นขา่ ยทต่ี อ้ งเสยี ภาษมี ลู คา่ เพมิ่ การรบั และจ่ายชาระเงนิ โดยใชใ้ บสาคญั รบั และใบสาคญั จา่ ยเป็นหลกั ฐาน ควรแยกเอกสารการรบั เงนิ กบั เอกสารการจา่ ยเงนิ ไวค้ นละแฟ้ม 5.ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ว่าเอกสารจะตอ้ งจดั เกบ็ ตามลาดบั โดยแยกออกเป็นเอกสารในแต่ละเดอื น ถา้ มี เอกสารจานวนไมม่ ากกใ็ หเ้ กบ็ ไวใ้ นแฟ้มเดยี วกนั โดยทาใบสรปุ ปะหน้าแฟ้มเอกสารใหช้ ดั เจน 5.1 เอกสารทย่ี งั ไม่ไดบ้ นั ทกึ บญั ชี ควรเกบ็ รกั ษาดงั น้ี (1) จดั ทาทเ่ี กบ็ เอกสารทย่ี งั ไม่ไดใ้ ช้ โดยเฉพาะ (2) การนาเอกสารออกมาใชต้ อ้ งไดร้ บั อนุมตั จิ ากผรู้ บั ผดิ ชอบ (3) เอกสารทบ่ี รรจใุ นกล่องควรมเี คร่อื งหมายกากบั เพอ่ื สะดวกในการคน้ หา

64 (4) การเบกิ เอกสารทกุ ครงั้ ตอ้ งมใี บเบกิ และบนั ทกึ ในทะเบยี นคุม (5) มกี ารตรวจนบั เอกสารเป็นครงั้ คราว 5.2 เอกสารทบ่ี นั ทกึ บญั ชแี ลว้ ควรเกบ็ รกั ษาไว้ ดงั น้ี (1) ตอ้ งเกบ็ ไวใ้ นสถานทท่ี างานหรอื ทท่ี าการผลติ (2) ตอ้ งเกบ็ รกั ษาไวเ้ ป็นเวลาไมน่ ้อยกว่า 5 ปี กรณจี าเป็นตอ้ งขออนุญาตจากอธบิ ดี โดยความเหน็ ชอบของรฐั มนตรี ขยายระยะเวลาจดั เกบ็ ไดแ้ ตต่ อ้ งไม่เกนิ 7 ปี (3) ถา้ เอกสารสญู หายหรอื เสยี หายตอ้ งแจง้ ต่อ สารวตั รบญั ชภี ายใน 15 วนั 6.ผเู้ รยี นแสดงทางเดนิ การจดั เกบ็ เอกสารทบ่ี นั ทกึ บญั ชแี ลว้ เอกสารทเ่ี กย่ี วกบั ภาษมี ลู คา่ เพมิ่ ไดแ้ ก่ ใบกากบั ภาษี ใบเพม่ิ หน้ี ใบลดหน้ี ใหแ้ ยกเป็นแฟ้ม คอื แฟ้มเอกสารภาษซี อ้ื และแฟ้มเอกสารภาษขี าย โดย เรยี งลาดบั กอ่ นหลงั เป็นรายเดอื น หากกจิ การมเี อกสารไมม่ ากอาจรวมทกุ เดอื นในแฟ้มเดยี วกนั ได้ โดยใช้ กระดาษสคี นั่ และจดั ทาดชั นีแต่ละเดอื นใหช้ ดั เจนเพ่อื ความสะดวกรวดเรว็ ในการคน้ หา ซง่ึ สามารถแสดงการ จดั เกบ็ เอกสารเขา้ แฟ้มไดด้ งั น้ี 6.1 เอกสารการขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เชอ่ื แฟ้มภาษขี าย ใบกากบั สนิ คา้ / แฟ้มเอกสาร ใบกากบั ภาษี สนิ คา้ คงเหลอื แฟ้มภาษซี ้อื 6.2 เอกสารการซอ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ เช่อื 6.3 เอกสารการขายสนิ คา้ เป็นเงนิ สด ใบกากบั สนิ คา้ / แฟ้มเอกสาร 6.4 เอกสารการซอ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ สด ใบกากบั ภาษี สแนิ ฟค้มา้ ภคงาเษหขี ลาอื ย ใบเสรจ็ รบั เงนิ / แฟ้มเอกสาร ใบกากบั ภาษี สนิ คา้ คงเหลอื แฟ้มภาษซี ้อื 6.5 เอกสารการรบั เงนิ ใบเสรจ็ รบั เงนิ / แฟ้มเอกสาร ใบกากบั ภาษี สนิ คา้ คงเหลอื ใบสาคญั รบั หรอื แฟ้มเอกสาร ใบเสรจ็ รบั เงนิ การรบั เงนิ 6.6 เอกสารการจา่ ยเงนิ ใบสาคญั จ่าย แฟ้มเอกสาร 7.ครใู ชว้ ธิ ตี งั้ คาถามใหผ้ เู้ รยี นตอบ หรอื ใบเสรจ็ รบั เงนิ การจ่ายเงนิ 8.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมโดยผา่ นกรณศี กึ ษา ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 9.สรปุ สมดุ รายวนั ทวั่ ไปโดยวธิ สี มุ่ ใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั ประเภทของเอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี และสาธติ เสน้ ทางการเดนิ เอกสารในการจดั เกบ็ เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี 10.ทาประเมนิ ผลการเรยี นรโู้ ดยสลบั กนั ตรวจ ครเู ฉลยใส่ Power Point หน้าชนั้ เรยี น 11.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมโดยผ่านกรณีศกึ ษา

65 12.ครเู น้นการจะเรยี นรปู้ รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ผเู้ รยี นตอ้ งมคี วามรพู้ น้ื ฐานเกย่ี วขอ้ งกบั การบรหิ าร จดั การทรพั ยากรทม่ี อี ยอู่ ย่างจากดั เพอ่ื ใหม้ นุษยด์ ารงชวี ติ ในระดบั บคุ คล ครอบครวั ชมุ ชน ประเทศ ไปจนถงึ ระดบั โลกอย่างมคี ณุ ภาพ และประสทิ ธภิ าพเพอ่ื สนองความตอ้ งการของสงั คมทกุ ระดบั ใหส้ ามารถดารงชวี ติ อย่ไู ด้ อย่างพอเพยี งและมคี วามสขุ บนพน้ื ฐานของทางสายกลางและความไมป่ ระมาท โดยคานึงถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล และการสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ตลอดจนใชค้ วามรู้ และคุณธรรม เป็นพน้ื ฐานในการดารงชวี ติ ใหอ้ ยู่ ไดอ้ ย่างมนั่ คงและยงั่ ยนื ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กจิ กรรม, กรณศี กึ ษา 3. กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 5. มาตรฐานการบญั ชี 6. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

66 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ ่าน คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรผู้ ่าน 50% 8 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จ่าย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 4. ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะบนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ทวั่ ไปเพมิ่ เตมิ 5. ศกึ ษาความรเู้ พมิ่ เตมิ จากกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ กระทรวงพาณิชย์ หรอื http://www.dbd.go.th 6. ศกึ ษาความรเู้ พม่ิ เตมิ จากกรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 7. ศกึ ษามาตรฐานการบญั ชเี พม่ิ เตมิ

67 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไม่นาผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หมๆ่ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

68 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ใน  สง่ิ ทด่ี งี ามเพอ่ื ส่วนรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละ  แบง่ ปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ถี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ มอ่ื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกิน พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เมอ่ื มคี วามพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรุง หมายเหตุ อา้ งองิ ค่านยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

69 บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบรู ณำกำรที่ 8 70 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) หน่วยที่ 7 ช่ือหน่วย/เร่ือง การวิเคราะหร์ ายการคา้ จากเอกสาร สอนครงั้ ท่ี 8 (36-40) จานวนชวั่ โมง 5 ช.ม. แนวคิด การวเิ คราะหร์ ายการค้านนั้ เป็นขนั้ แรกของการจดั ทาบญั ชซี ง่ึ สาคญั มาก โดยการวเิ คราะห์รายการคา้ จาก เอกสาร (Analysis of transactions from the document) ซง่ึ เป็นหลกั ฐานต่างๆ ทางบญั ชกี ่อนแลว้ จงึ จะนาไปบนั ทกึ รายการในสมุดบญั ชตี ่าง ๆ ได้ โดยต้องปฏบิ ตั ใิ หเ้ ป็นไปตามหลกั กฎหมายบญั ชแี ละกฎหมายภาษอี ากรอย่างถูกตอ้ ง ซง่ึ แต่ละกจิ การจะมวี งจรการปฏบิ ตั งิ านทางบญั ชที แ่ี ตกต่างกนั ไปตามลกั ษณะ ประเภทของกจิ การ หากวเิ คราะห์ รายการคา้ ผดิ กจ็ ะทาใหข้ นั้ ตอนต่อไปผดิ ไปดว้ ย หากมคี วามผดิ พลาดเกดิ ขน้ึ แลว้ กจ็ ะทาใหผ้ ใู้ ช้ขอ้ มูลทางการ บญั ชนี นั้ ตดั สนิ ใจผดิ พลาดดว้ ย ดงั นนั้ ถงึ แมว้ า่ การวเิ คราะหร์ ายการคา้ จะเป็นเพยี งขัน้ เรม่ิ ตน้ ของการทาบญั ชี แต่ กค็ วรใหค้ วามสนใจและทาความเขา้ ใจใหถ้ ูกตอ้ ง โดยกอ่ นทจ่ี ะวเิ คราะหร์ ายการคา้ จะต้องมคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั รายการคา้ ให้มากทส่ี ุด อย่างไรกต็ ามกจิ การต้องคานึงถงึ ความถูกต้องเพ่อื ประโยชน์ต่อกจิ การของตนเองและ สงั คมสว่ นรวมต่อไป ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั 1.อธบิ ายและวเิ คราะหเ์ อกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชไี ด้ 2.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 2.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2.2 ความมวี นิ ยั 2.3 ความรบั ผดิ ชอบ 2.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 2.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 2.6 การประหยดั 2.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 2.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 2.9 ความรกั สามคั คี 2.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อตุ สาหกรรมตาม ขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบุในกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

71 สาระการเรียนรู้ 1.เอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น 1.ครพู ดู คยุ กบั ผเู้ รยี นเรอ่ื งเอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชกี ค็ อื รายการคา้ ทเ่ี กดิ จากการซอ้ื ขายสนิ คา้ ในแต่ละ วนั โดยกจิ การจะนารายการคา้ นนั้ มาวเิ คราะหก์ อ่ นทจ่ี ะนาไปบนั ทกึ บญั ชี 2.ครแู ละผเู้ รยี นทบทวนเรอ่ื การวเิ คราะหร์ ายการคา้ (Business transaction analysis) คอื การวเิ คราะห์ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ ธุรกจิ ในแต่ละวนั วา่ จะมผี ลกระทบต่อสนิ ทรพั ย์ หน้สี นิ สว่ นของเจา้ ของ รายไดแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ยอยา่ งไร และผลกระทบต่อการเปลย่ี นแปลงนนั้ จะแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ฐานะการเงนิ และผลการ ดาเนนิ งานของกจิ การได้ 3.ครแู นะนารปู แบบการเรยี นการสอนแบบอภปิ ราย (Discussion Method) ในสปั ดาหน์ ้ี ขนั้ สอน 4.ครใู ชเ้ ทคนคิ การจดั การเรยี นรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) เพอ่ื มงุ่ ใหผ้ เู้ รยี นมโี อกาสสนทนา แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ หรอื ระดมความคดิ ในเรอ่ื งเอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพอ่ื หา คาตอบ แนวทางหรอื แกป้ ญั หารว่ มกนั เน้นใหผ้ เู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ คอื รว่ มคดิ รว่ มวางแผน รว่ ม ตดั สนิ ใจ รว่ มปฏบิ ตั งิ านและชน่ื ชมผลงานรว่ มกนั 5.ครแู สดงเอกสารทน่ี ามาใชป้ ระกอบในการบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกบั การซอ้ื ขายสนิ คา้ โดยใช้ Power Point เป็นสอ่ื เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจไดย้ ง่ิ ขน้ึ 6.ครแู ละผเู้ รยี นชว่ ยกนั สาธติ โดยวเิ คราะหจ์ ากเอกสารเพอ่ื นาไปบนั ทกึ บญั ชี ซ่งสามารถแบ่งไดด้ งั น้ี

72 6.1 เอกสารทเ่ี กย่ี วกบั การขายสนิ คา้ ซง่ึ ออกโดยผปู้ ระกอบการ เช่น ใบสง่ ของ ใบกากบั สนิ คา้ หรอื บลิ เกบ็ เงนิ บลิ ขายสด ใบรบั คนื สนิ คา้ ใบรบั คาสงั่ ซอ้ื ใบลดหน้ี รายงานขาย เป็นตน้ 1.1 การขายสนิ คา้ เป็นเงนิ สด ก.บนั ทกึ ในสมุดรายวนั รบั เงนิ เชน่ ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบเสรจ็ รบั เงนิ /ใบกากบั ภาษโี ดยเรยี งเลขท่ี ใบเสรจ็ รบั เงนิ หรอื กาหนดเลขทข่ี น้ึ มาใหมเ่ พ่อื สะดวกในการตรวจสอบ ข.สมดุ รายวนั รบั คนื สนิ คา้ เช่น ใบรบั คนื สนิ คา้ และใบลดหน้ี เอกสารทใ่ี ชบ้ นั ทกึ การขายสนิ คา้ เป็นเงนิ สด ในกรณนี ้ถี อื วา่ ใบเสรจ็ รบั เงนิ เป็นใบกากบั ภาษดี ว้ ย เน่อื งจากมกี ารขายสนิ คา้ และสง่ มอบสนิ คา้ แลว้ และใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการยน่ื ชาระภาษี การบนั ทกึ รายการดงั น้ี เดบติ เงนิ สด XX เครดติ ขายสนิ คา้ XX ภาษขี าย XX 1.2 การขายสนิ ค้าเป็นเงินเช่ือ จะบันทึกบญั ชีในสมุดรายวันขาย เช่น ใบกากบั สนิ ค้า ใบส่งของ/ ใบกากบั ภาษี โดยเรยี งเลขทต่ี ามใบกากบั สนิ คา้ ทอ่ี อก เอกสารท่ใี ชบ้ นั ทกึ รายการขายสนิ ค้าเป็นเงนิ เช่อื กรณีทเี่ อกสารไม่ได้ออกเป็นชุด เมอื่ มกี ารขาย สนิ คา้ (ขอ้ สงั เกต ความรบั ผดิ ในภาษีจะเกดิ ขน้ึ เม่อื มกี ารขายหรอื ส่งมอบสนิ ค้า ไม่ว่าจะมกี ารชาระเงนิ โดยทนั ที หรอื ไม่กต็ าม ดงั นัน้ ใบส่งของหรอื ใบกากบั สนิ ค้าจะต้องแสดงเป็นใบกากบั ภาษีด้วย เพ่อื เป็นหลกั ฐานในการย่นื ชาระภาษใี นเดอื นทม่ี กี ารขายหรอื สง่ มอบสนิ คา้ ) การบนั ทกึ รายการดงั น้ี เดบติ ลกู หน้กี ารคา้ XX เครดติ ขายสนิ คา้ XX ภาษขี าย XX ขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เช่อื เอกสารทใ่ี ชบ้ นั ทกึ รายการขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เช่อื กรณที เ่ี อกสารไมไ่ ดอ้ อกเป็นชุด เม่อื มกี ารรบั ชาระเงนิ (ขอ้ สงั เกต ใบเสรจ็ รบั เงนิ จะไมม่ ขี อ้ ความแสดงเป็นใบกากบั ภาษอี กี เน่อื งจากใบกากบั ภาษแี สดงอย่ใู นเอกสารใบ สง่ ของหรอื ใบกากบั สนิ คา้ เม่อื มกี ารขายหรอื สง่ มอบสนิ คา้ แลว้ ในกรณีน้ใี บเสรจ็ รบั เงนิ ใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการเรยี ก เกบ็ เงนิ และบนั ทกึ บญั ชเี ท่านนั้ ไมไ่ ดใ้ ชเ้ ป็นหลกั ฐานในการชาระภาษ)ี การบนั ทกึ รายการดงั น้ี เดบติ เงนิ สด XX เครดติ ลกู หน้กี ารคา้ XX ไดร้ บั ชาระหน้ี 6.2 เอกสารทบ่ี นั ทกึ รายการเกย่ี วกบั การซอ้ื สนิ คา้ ซง่ึ ไดร้ บั จากบุคคลภายนอก 2.1 ซอ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ สด ก.บนั ทกึ ในสมดุ รายวนั จ่ายเงนิ เช่น ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบกากบั ภาษี ทอ่ี อกโดยบคุ คลภายนอกซง่ึ จะตอ้ ง นาเลขทเ่ี อกสารมากาหนดขน้ึ มาใหมเ่ ช่นเดยี วกนั ข.สมดุ รายวนั สง่ คนื เชน่ ใบสง่ คนื สนิ คา้ และใบเพมิ่ หน้ี การบนั ทกึ บญั ชเี ป็นดงั น้ี XX เดบติ ซอ้ื สนิ คา้ ภาษซี อ้ื XX เครดติ เงนิ สด XX ซอ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ สด

73 2.2ซอ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ เช่อื บนั ทกึ ในสมุดรายวนั ซอ้ื เช่น ใบกากบั สนิ คา้ ใบสง่ ของ ใบกากบั ภาษี ใบ รบั คนื สนิ คา้ ใบสง่ คนื สนิ คา้ เป็นตน้ ซง่ึ จะเรยี งลาดบั เลขทข่ี น้ึ มาใหม่โดยเขยี นทมี่ ุมขวามอื ของเอกสาร การใหเ้ ลข รหสั ขน้ึ อย่กู บั ผบู้ นั ทกึ บญั ชวี ่าจะกาหนดอย่างไร ทงั้ น้ีจะต้องส่อื ความหมายถงึ เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งไดเ้ ป็นอย่างดี เน่อื งจากเลขทจ่ี ากเอกสารเป็นการออกเอกสารจากหลายบริษทั เลขทเ่ี อกสารจะไมต่ รงกนั ทาใหไ้ ม่สะดวกในการ คน้ หาและตรวจสอบเอกสาร การบนั ทกึ บญั ชเี ป็นดงั น้ี เดบติ ซอ้ื สนิ คา้ XX ภาษซี อ้ื XX เครดติ เจา้ หน้ีการคา้ XX ซอ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ เชอ่ื 6.3 เอกสารอ่นื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการบนั ทกึ บญั ชี ก.บนั ทกึ ในสมุดรายวนั รบั เงนิ เช่น ใบสาคญั รบั ใบรบั รองภาษีเงนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี ่ายทก่ี จิ การออก ใหบ้ ุคคลอ่นื เชน่ เม่อื รบั ชาระคา่ ซ่อมแซมสนิ คา้ (เป็นรายไดค้ า่ ซ่อมแซม) การบนั ทกึ บญั ชเี ป็นดงั น้ี เดบติ เงนิ สด XX เครดติ รายไดค้ ่าซ่อมแซม XX ภาษขี าย XX กรณีทม่ี ภี าษเี งนิ ไดห้ กั รบั ณชาทรจ่ีะ่าคย่าซเอ่มม่อื แกซจิ มการมเี งนิ ไดจ้ ากการใหบ้ รกิ าร ซง่ึ ผจู้ ่ายเงนิ มหี น้าทห่ี กั ภาษี ณ ท่จี ่ายตามกฎหมายและจะออกหนังสอื รบั รองการหกั ภาษี ณ ทจ่ี ่าย ซ่งึ เปรยี บเสมอื นกบั กจิ การถูกหกั ภาษีไว้ ล่วงหน้า จะตอ้ งนาภาษนี ้ไี ปหกั ยอดภาษเี งนิ ไดใ้ นตอนสน้ิ ปี ภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี ่ายจะมยี อดอย่ดู า้ นเดบติ ถอื เป็น สนิ ทรพั ย์ การบนั ทกึ บญั ชเี ป็นดงั น้ี เดบติ เงนิ สด XX ภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี า่ ย XX เครดติ รายไดค้ า่ ซอ่ มแซม ภาษขี าย XX XX รบั ชาระค่าซ่อมแซม และถูกหกั ภาษเี งนิ ได้ ณ ทจ่ี า่ ย ข.บนั ทกึ ในสมดุ รายวนั จา่ ยเงนิ เชน่ ใบสาคญั จา่ ย เอกสารใบเสรจ็ คา่ ใชจ้ า่ ยตา่ งๆ เช่น ใบเสรจ็ ค่า น้า คา่ ไฟฟ้า ใบรบั รองการหกั ภาษที ผ่ี อู้ น่ื ออกให้ กจิ การขนสง่ สนิ คา้ จะไดร้ บั การยกเวน้ ไม่ตอ้ งเสยี ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ แต่ตอ้ งเสยี ภาษหี กั ณ ทจ่ี ่าย ในอตั รารอ้ ยละ 1 ของจานวนเงนิ ทเ่ี กนิ กว่า 1,000 บาท โดยผู้ทจ่ี ่ายเงนิ มหี น้าท่หี กั ตามกฎหมาย และต้องออก ใบรบั รองภาษหี กั ณ ทจ่ี ่ายใหก้ บั บรษิ ทั ทใ่ี หบ้ รกิ ารขนสง่ กจิ การมหี น้าทห่ี กั ภาษี ณ ท่จี ่าย และนาส่งสรรพากรภายใน 7 วนั นับแต่วนั สน้ิ เดือน ดงั นัน้ กจิ การมี ภาระทจ่ี ะตอ้ งนาสง่ ภาษี บญั ชภี าษหี กั ณ ทจ่ี า่ ยจงึ มยี อดทางดา้ นเครดติ การบนั ทึกบญั ชีเป็นดงั นี้ เดบติ ค่าขนสง่ เขา้ XX เครดติ เงนิ สด XX ภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี ่าย (1,800X1%) XX จา่ ยคา่ ขนสง่ เขา้ และหกั ภาษเี งนิ ได้ ณ ทจ่ี า่ ย

74 ค.บนั ทกึ ในสมุดรายวนั ทวั่ ไป เชน่ ใบแจง้ หน้ี ใบรบั คนื และสว่ นลด ใบสง่ คนื และเพมิ่ หน้ี (กรณีท่ี กจิ การมรี ายการประเภทน้ีไมม่ ากนกั และไมไ่ ดเ้ ปิดสมดุ รายวนั เฉพาะ) ตวั อย่างใบแจ้งหน้ีค่าบรกิ ารท่มี ภี าษีมูลค่าเพมิ่ กรณีการใหบ้ รกิ ารจะเกดิ เม่อื มกี ารชาระเงนิ สด เทา่ นนั้ เมอ่ื ไดร้ บั ใบแจง้ หน้ีจงึ ยงั ไม่ถอื ว่าต้องชาระภาษภี ายในเดอื นทไ่ี ดร้ บั ใบแจง้ หน้ี ความรบั ผดิ ชอบจะเกดิ ขน้ึ เม่อื มกี ารชาระเงนิ เม่อื ไดร้ บั ใบแจง้ หน้จี ะบนั ทกึ เป็นภาษที ย่ี งั ไมถ่ งึ กาหนดชาระ การบนั ทึกบญั ชีเป็นดงั นี้ เดบติ คา่ รกั ษาความสะอาด XX ภาษซี อ้ื (ยงั ไม่ครบกาหนดชาระ) XX เครดติ เจา้ หน้ีการคา้ XX ไดร้ บั ใบแจง้ หน้คี ่ารกั ษาความสะอาด 7.ผเู้ รยี นศกึ ษาขอ้ มลู โดยผ่านกรณีศกึ ษาทค่ี รกู าหนดให้ เพ่อื จดั ทากรณีดงั ต่อไปน้ี 7.1 บนั ทึกรายการในสมุดรายวนั ซอ้ื สมุดรายวนั ขาย สมุดรายวนั รบั เงนิ สมุดรายวนั จ่ายเงนิ และสมุด รายวนั ทวั่ ไป 7.2 ผา่ นรายการไปบญั ชแี ยกประเภททวั่ ไป บญั ชแี ยกประเภทลกู หน้ีและเจา้ หน้ีรายตวั 73 จดั ทารายละเอยี ดลกู หน้รี ายตวั และเจา้ หน้ีรายตวั 7.4 จดั ทารายงานภาษซี อ้ื และรายงานภาษขี าย 7.5 จดั ทาบญั ชคี ุมสนิ คา้ และทารายละเอยี ดสนิ คา้ คงเหลอื ต่อไปน้ีเป็นเอกสารเกย่ี วกบั การซอ้ื ขายสนิ คา้ ของบรษิ ทั กรุงเทพภณั ฑ์ จากดั เฉพาะเดอื นตุลาคม 2559 บรษิ ทั มวี ธิ กี ารบนั ทกึ บญั ชแี ละจดั เรยี งเอกสารเขา้ แฟ้มดงั น้ี 1.เอกสารเก่ยี วกบั การขายสดและขายเช่อื เม่อื บนั ทกึ บญั ชแี ลว้ ให้ลงลายมอื ช่อื ผบู้ นั ทกึ บญั ชลี งใน เอกสารใหน้ าเอกสารนนั้ จดั เขา้ แฟ้มภาษขี ายโดยเรยี งลาดบั ตามวนั ทข่ี องเอกสาร และใหก้ าหนดรหสั ของเอกสาร ขน้ึ ใหมเ่ รมิ่ ตน้ ดว้ ยรหสั ภข.10/01 2.เอกสารเก่ยี วกบั การซ้อื สดและซ้อื เช่อื เม่อื บนั ทึกบญั ชแี ลว้ ให้ลงลายมือช่อื ผู้บนั ทกึ บญั ชลี งใน เอกสาร ใหน้ าเอกสารนนั้ จดั เขา้ แฟ้มภาษีซอ้ื โดยเรยี งลาดบั ตามวนั ทข่ี องเอกสาร และใหก้ าหนดรหสั ของเอกสาร ขน้ึ ใหม่เรมิ่ ตน้ ดว้ ยรหสั ภซ.10/01 3.เอกสารอ่นื ๆ ถ้ามนี อกจากเอกสารการซอ้ื ขายสนิ คา้ ซง่ึ มจี านวนไม่มาก เม่อื บนั ทกึ บญั ชแี ลว้ ให้ ลงลายมือช่อื ผู้บนั ทึกบญั ชีลงในเอกสาร ให้นาเอกสารนัน้ จดั เกบ็ เขา้ แฟ้มโดยเรยี งลาดบั ตามวนั ท่ขี องเอกสาร กาหนดรหสั เอกสารขน้ึ ใหมเ่ รม่ิ ตน้ ดว้ ย บท.10/01 4.ใหท้ าสาเนาเอกสารเกย่ี วกบั การซอ้ื ขายสนิ คา้ นาไปบนั ทกึ ในบญั ชสี นิ คา้ คงเหลอื รายตวั เม่อื บนั ทกึ บญั ชีแล้วให้ลงลายมอื ช่อื ผู้บนั ทึกลงในเอกสาร ให้นาเอกสารนัน้ จดั เก็บเขา้ แฟ้มโดยเรยี งลาดบั ตามวนั ท่ขี อง เอกสาร กาหนดรหสั เอกสารข้นึ ใหม่ ถ้าเป็นการซ้อื สนิ ค้าให้ใช้รหัสเริ่มต้นด้วย ร.10/01 ขายสนิ ค้าให้ใช้รหัส เรม่ิ ตน้ ดว้ ย จ.10/01 5.การตรี าคาสนิ คา้ คงเหลอื ใหใ้ ชว้ ธิ ี FIFO (First in–First out) 8.ครเู น้นความรเู้ ร่อื งความพอเพยี งของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จะตอ้ งประกอบดว้ ยคุณลกั ษณะ 3 ประการ คอื ความพอประมาณ ความมเี หตุผล และการมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั โดยความหมายของความพอประมาณนนั้

75 หมายถงึ ความพอดี ทไ่ี ม่น้อยเกนิ ไปและไมม่ ากเกนิ ไป โดยไมเ่ บยี ดเบยี นตนเองและผอู้ น่ื เช่น การผลติ และการ บรโิ ภคทอ่ี ยใู่ นระดบั พอประมาณ 9.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในกรณศี กึ ษา ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 10.ผเู้ รยี นวเิ คราะหร์ ายการ และบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกบั เอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี 11.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 12.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมโดยผ่านกจิ กรรม สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กจิ กรรม, กรณีศกึ ษา 3. กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 5. มาตรฐานการบญั ชี 6. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ แบบฝึกปฏบิ ตั ิ

76 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน คอื 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรผู้ ่าน 50% 8 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จา่ ย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 4. ศกึ ษาความรเู้ พม่ิ เตมิ จากกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 5. ศกึ ษาความรเู้ พม่ิ เตมิ จากกรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 6. ศกึ ษามาตรฐานการบญั ชเี พม่ิ เตมิ

77 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ ่นื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หม่ๆ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

78 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ใน  สง่ิ ทด่ี งี ามเพอ่ื ส่วนรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละ  แบง่ ปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ถี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ มอ่ื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เมอ่ื มคี วามพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรุง หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

79 บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบูรณำกำรที่ 9 80 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) หน่วยที่ 7 ช่ือหน่วย/เร่ือง การวิเคราะหร์ ายการค้าจากเอกสาร สอนครงั้ ที่ 9 (41-45) จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. แนวคิด การวเิ คราะหร์ ายการค้านนั้ เป็นขนั้ แรกของการจดั ทาบญั ชซี ่งึ สาคญั มาก โดยการวเิ คราะห์รายการคา้ จาก เอกสาร (Analysis of transactions from the document) ซง่ึ เป็นหลกั ฐานต่างๆ ทางบญั ชกี ่อนแลว้ จงึ จะนาไปบนั ทกึ รายการในสมุดบญั ชตี ่าง ๆ ได้ โดยต้องปฏบิ ตั ใิ หเ้ ป็นไปตามหลกั กฎหมายบญั ชแี ละกฎหมายภาษอี ากรอยา่ งถูกตอ้ ง ซง่ึ แต่ละกจิ การจะมวี งจรการปฏบิ ตั งิ านทางบญั ชที แ่ี ตกต่างกนั ไปตามลกั ษณะ ประเภทของกจิ การ หากวเิ คราะห์ รายการคา้ ผดิ กจ็ ะทาใหข้ นั้ ตอนต่อไปผดิ ไปดว้ ย หากมคี วามผดิ พลาดเกดิ ขน้ึ แลว้ กจ็ ะทาให้ผใู้ ชข้ อ้ มลู ทางการ บญั ชนี นั้ ตดั สนิ ใจผดิ พลาดดว้ ย ดงั นนั้ ถงึ แมว้ า่ การวเิ คราะหร์ ายการคา้ จะเป็นเพยี งขัน้ เรม่ิ ตน้ ของการทาบญั ชี แต่ กค็ วรใหค้ วามสนใจและทาความเขา้ ใจใหถ้ ูกตอ้ ง โดยก่อนทจ่ี ะวเิ คราะหร์ ายการคา้ จะตอ้ งมคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั รายการค้าให้มากทส่ี ุด อย่างไรกต็ ามกจิ การต้องคานึงถึงความถูกต้องเพ่อื ประโยชน์ต่อกจิ การของตนเองและ สงั คมสว่ นรวมต่อไป ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั 2.วเิ คราะหแ์ ละนาเอกสารมาบนั ทกึ บญั ชขี องกจิ การได้ 3.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.2 ความมวี นิ ยั 3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 3.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 3.6 การประหยดั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 3.9 ความรกั สามคั คี 3.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธรุ กจิ อุตสาหกรรมตาม ขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

81 สาระการเรยี นรู้ 2.การนาเอกสารมาบนั ทกึ บญั ชขี องกจิ การ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1.ครสู นทนากบั ผเู้ รยี นว่าการนาเอกสารมาบนั ทกึ บญั ชี โดยทวั่ ไปจะทาการแยกเอกสารแต่ละชนดิ เพอ่ื ความสะดวกในการบนั ทกึ บญั ชี เน่อื งจากในทางปฏบิ ตั บิ รษิ ทั มกั จะแบง่ แยกหน้าท่กี ารทางานของพนกั งานบญั ชี ออกเป็นหลายฝา่ ย เชน่ พนกั งานบนั ทกึ บญั ชซี อ้ื และบญั ชเี จา้ หน้ี พนกั งานบนั ทกึ บญั ชขี ายและบญั ชลี กู หน้ี พนกั งานบนั ทกึ บญั ชสี นิ คา้ คงเหลอื เป็นตน้ ดงั นนั้ จงึ สามารถแยกเอกสารใหพ้ นกั งานแต่ละฝา่ ยทาการบนั ทกึ บญั ชแี ละเกบ็ รกั ษาเอกสาร ซง่ึ จะทางานไดร้ วดเรว็ ขน้ึ เอกสารฉบบั ใดมคี วามจาเป็นตอ้ งใชม้ ากกวา่ 1 แผ่น ใหท้ า สาเนาเพ่อื สง่ ใหก้ บั ผทู้ ต่ี อ้ งการใชเ้ อกสารนนั้ ๆ เชน่ ใบกากบั สนิ คา้ /ใบกากบั ภาษี ใชส้ าหรบั บนั ทกึ รายการขาย สนิ คา้ และบนั ทกึ บญั ชลี กู หน้ี ใชใ้ นการจดั ทารายงานภาษขี าย และยงั ใชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชสี นิ คา้ คงเหลอื 2.ผเู้ รยี นยกตวั อยา่ งเอกสารทส่ี ามารถนาไปบนั ทกึ บญั ชไี ไดแ้ ก่ การนาเอกสารมาบนั ทึกบญั ชีอาจจะใช้การบนั ทกึ จากเอกสารโดยตรงหรอื บนั ทกึ จากใบสาคญั ท่ีใช้ ปะหน้าเอกสารกไ็ ด้ ดงั รปู ทแ่ี สดงต่อไปน้ี การบนั ทกึ จากเอกสารโดยตรง ใบเสรจ็ รบั เงนิ สมดุ เงนิ สดรบั การบนั ทกึ บญั ชโี ดยใชใ้ บสาคญั ประกอบการบนั ทึกบญั ชปี ะหน้าเอกสารแลว้ นาไปบนั ทกึ ในสมุดรายวนั ขนั้ ตน้ เชน่ ใบสาคญั รบั ใบสาคญั จ่าย ใบเสรจ็ รบั เงนิ สมุดเงนิ สดรบั ใบสาคญั รบั เดบติ เครดติ ขนั้ สอน 3.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การนาเอกสารมาบนั ทกึ บญั ชขี องกจิ การ โดยใช้ Power Point เป็นสอ่ื ในการสอ่ื ความหมาย เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจยงิ่ ขน้ึ 4.ผเู้ รยี นออกแบบฟอรม์ ของเอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบการบนั ทกึ บญั ชี ไดแ้ ก่ 4.1 เอกสารเก่ียวกบั การขายสินค้า แบ่งเป็นขายสนิ ค้าเงินเช่ือ เช่น ใบกากบั สินค้า ใบส่งของ/ ใบกากบั ภาษี ใบรบั คนื สนิ คา้ และใบลดหน้ี ฯลฯ และขายเป็นเงนิ สด เช่น ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบกากบั ภาษใี บรบั คนื สนิ คา้ ใบลดหน้ี ฯลฯ 4.2 เอกสารเกย่ี วกบั การซอ้ื สนิ คา้ แบ่งเป็นซอ้ื เงนิ เช่อื เช่น ใบกากบั สนิ คา้ ใบส่งของ/ ใบกากบั ภาษี ใบ สง่ คนื สนิ คา้ ใบเพม่ิ หน้ี ฯลฯ และซอ้ื เงนิ สด เช่น ใบเสรจ็ รบั เงนิ ใบกากบั ภาษี ใบสง่ คนื สนิ คา้ ใบเพม่ิ หน้ี ฯลฯ

82 4.3 เอกสารอ่นื ๆ ทน่ี าไปบนั ทกึ ในสมดุ รายวนั รบั เงนิ เช่น ใบสาคญั รบั ใบรบั รองภาษี เงนิ ไดห้ กั ณ ท่ี จ่ายทอ่ี อกให้ บุคคลอ่นื และเอกสารท่บี นั ทกึ ในสมุดรายวนั จ่ายเงนิ เช่น ใบสาคญั จ่าย ใบเสรจ็ ค่าใชจ้ ่าย ต่างๆ ใบรบั รองภาษี เงนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี า่ ย ทไ่ี ดร้ บั จากภายนอก รวมทงั้ บนั ทกึ ในสมุดรายวนั ทวั่ ไป เชน่ ใบแจง้ หน้ี ใบรบั คนื และสว่ นลด ใบสง่ คนื และเพมิ่ หน้ี เป็นตน้ 5.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั งิ านบญั ชี โดยผา่ นกรณีศกึ ษา เพ่อื จดั ทา สมุดรายวนั ขนั้ ต้นที่ต้องจดั ทา ไดแ้ ก่ สมุดบญั ชีแยกประเภทที่ต้องจดั ทา ไดแ้ ก่ 1. สมุดรายวนั ซอ้ื 1. แยกประเภททวั่ ไป 2. สมดุ รายวนั ขาย 2. แยกประเภทยอ่ ยลกู หน้ี 3. สมดุ รายวนั รบั เงนิ 3. แยกประเภทย่อยเจา้ หน้ี 4. สมดุ รายวนั จ่ายเงนิ 4. แยกประเภทย่อยสนิ คา้ 5. สมุดรายวนั ทวั่ ไป  รายงานท่ีจะต้องจดั ทาส่งสรรพากร  อตั ราภาษมี ลู คา่ เพม่ิ และภาษี หกั ณ ทจ่ี ่าย ไดแ้ ก่ การซอ้ื ขายสนิ คา้ และการใหบ้ รกิ าร 1. รายงานภาษซี อ้ื ซอ่ มแซมของกจิ การอตั รารอ้ ยละ 7 2. รายงานภาษขี าย  ภาษหี กั ณ ทจ่ี า่ ยของบรษิ ทั ทถ่ี กู หกั จาก 3. ภ.พ.30 การใหบ้ รกิ ารซ่อมแซมเฉพาะจานวนเงนิ ท่ี 4. ภ.ง.ด.1 เกนิ กวา่ 5. ภ.ง.ด.53 1,000 บาท หกั ในอตั รารอ้ ยละ 3  ภาษีหัก ณ ท่ีจ่าย หักจากการรบั บริการ แ ล ะรับ จ้ า ง ท า ข อ ง จ า ก บุ ค ค ล ภ า ย น อ ก เฉพาะส่วนท่จี านวนเงนิ ท่เี กนิ กว่า 1,000 บาท หกั ในอตั รารอ้ ยละ 3 6.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั งิ านบญั ชี โดยใหฝ้ ึกปฏบิ ตั ดิ งั ต่อไปน้ี 6.1.จดั ทาเอกสารประกอบรายการคา้ ตามรายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เดอื นตุลาคม 2559 6.2.บนั ทกึ รายการในสมดุ รายวนั ทวั่ ไป 6.3.ผา่ นรายการไปยงั บญั ชแี ยกประเภททวั่ ไปทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 6.4.ผ่านรายการไปยงั บญั ชแี ยกประเภทลกู หน้แี ละเจา้ หน้ีรายตวั 6.5.จดั ทาบญั ชคี มุ สนิ คา้ 6.6 จดั ทารายงานภาษซี อ้ื และรายงานภาษขี าย 6.7.เกบ็ เอกสารทบ่ี นั ทกึ แลว้ เรยี งเขา้ แฟ้ม 6.8.กรอกแบบเพ่อื เตรยี มยน่ื ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ 6.9.กรอกแบบเพอ่ื เตรยี มยน่ื ภาษหี กั ณ ทจ่ี า่ ย 6.10.เมอ่ื บนั ทกึ บญั ชเี รยี บรอ้ ยแลว้ ใหเ้ รยี งเอกสารและกาหนดรหสั ใหม่ดงั น้ี  เอกสารเกย่ี วกบั ภาษซี อ้ื กาหนดรหสั เรม่ิ ตน้ ดว้ ย ภซ.06/01  เอกสารเกย่ี วกบั ภาษขี าย กาหนดรหสั เรม่ิ ตน้ ดว้ ย ภข.06/01  เอกสารการบนั ทกึ บญั ชสี นิ คา้ คงเหลอื ใหก้ าหนดรหสั เรม่ิ ตน้ ดว้ ย บส.06/01  เอกสารอน่ื ๆ ทไ่ี มเ่ กย่ี วกบั รายการขา้ งตน้ ใหก้ าหนดรหสั เรม่ิ ตน้ ดว้ ย บท.06/01

83 7.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะเพ่อื ปฏบิ ตั งิ านบญั ชี โดยใหบ้ นั ทกึ รายละเอยี ดเกย่ี วกบั สนิ คา้ ในใบสงั่ ซอ้ื สนิ คา้ ของบรษิ ทั แห่งหน่งึ ตามแบบฟอรม์ ทถ่ี กู ตอ้ ง ดงั ต่อไปน้ี บรษิ ทั หน่ึง จากดั ได้สงั่ ซอ้ื สนิ ค้าจากบรษิ ัทสอง จากดั เม่อื วนั ท่ี 2 ตุลาคม 2559 สนิ ค้าท่สี งั่ ซ้อื มี 2 รายการไดแ้ ก่ 1. PR7514-A009 จาวน 1 ชน้ิ ชน้ิ ละ 12,500 บาท 2. LA0441-1354 จานวน 1 ชน้ิ ชน้ิ ละ 9,500 บาท 8.ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะเพอ่ื ปฏบิ ตั งิ านบญั ชี โดยใหจ้ ดั ทาบลิ เงนิ สด/ใบกากบั ภาษขี องบรษิ ทั ชาญอสิ ระ จากดั ซง่ึ ปรากฏขอ้ มลู การขายสนิ คา้ ดงั ต่อไปน้ี 8.1 Fuse Time Gme-10 จานวน 20 ชน้ิ ชน้ิ ละ 9 บาท 8.2 Suck Round 8 Pin จานวน 3 ชน้ิ ชน้ิ ละ 6 บาท 8.3 Led แดง 10 mm. จานวน 15 ชน้ิ ชน้ิ ละ 3 บาท 8.4 Jack TV.75 (5C) จานวน 2 ชน้ิ ชน้ิ ละ 7 บาท ราคาสนิ คา้ ดงั กล่าวยงั ไมร่ วมภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ซง่ึ วนั ท่ี 12 ธนั วาคม เป็นวนั ทบ่ี รษิ ทั ไดข้ ายสนิ คา้ ไป 9.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั งิ านบญั ชี โดยใหจ้ ดั ทาใบสง่ ของ (Invoice) ของบรษิ ทั ภกั ดี จากดั ตามแบบฟอรม์ ท่ี ถูกตอ้ ง ซง่ึ ไดส้ ง่ สนิ คา้ ไปทบ่ี รษิ ทั โชคชยั เมดคิ อล จากดั ในวนั ท่ี 28 ตุลาคม 2560 เป็นรายการ Creatinine for Biochemist 500 Gry จานวน 6 กล่อง กล่องละ 10,500 บาท เงอ่ื นไขการชาระเงนิ ภายใน 60 วนั ซง่ึ ครบกาหนด วนั ท่ี 26 ธนั วาคม 2559 รายการขา้ งตน้ ยงั ไม่รวมภาษมี ลู คา่ เพมิ่ 10.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั งิ านบญั ชี โดยใหจ้ ดั ทาใบรบั คนื /ใบลดหน้/ี ใบกากบั ภาษขี องบรษิ ทั ราชาวดี จากดั ตาม แบบฟอรม์ ทถ่ี กู ตอ้ ง โดยโรงพยาบาลวภิ ารามไดส้ ง่ สนิ คา้ คนื บรษิ ทั ราชาวดี จากดั จานวน 1 รายการ ไดแ้ ก่ VIAL CLOXGEN 1 GM.INJ เม่อื วนั ท่ี 24 ตุลาคม 2559 เน่อื งจากสง่ มาเกนิ ทส่ี งั่ ไปจานวน 1 ขวด ขวดละ 200 บาท (รวม ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ แลว้ ) 11.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั งิ านบญั ชี โดยใหท้ าใบเบกิ สนิ คา้ ของบรษิ ทั เทยี นสง จากดั ไดท้ าการผลติ สนิ คา้ รายการหน่งึ ช่อื NEMIC LAMBDA จานวน 3 ชน้ิ ชน้ิ ละ 2,313 บาท จากแผนกคลงั สนิ คา้ ของบรษิ ทั เพอ่ื นาไป ผลติ สนิ คา้ เมอ่ื วนั ท่ี 12 พฤศจกิ ายน 2559 และแผนกคลงั สนิ คา้ ไดจ้ ดั ส่งใหเ้ รยี บรอ้ ยแลว้ (ไม่รวมภาษมี ลู คา่ เพมิ่ ) 12.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมโดยผ่านกจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 13.ครสู มุ่ ผเู้ รยี นออกมาอภปิ รายหน้าชนั้ เรยี น และสรปุ เน้อื หาร่วมกบั ผเู้ รยี น ผเู้ รยี นทาแบบฝึกปฏบิ ตั ิ และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 14.ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ โดยฝึกปฏบิ ตั งิ านบญั ชโี ดยผ่านกรณศี กึ ษา สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กจิ กรรม, กรณศี กึ ษา 3. กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 5. มาตรฐานการบญั ชี 6. Power Point

84 หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ ่าน คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ ่าน 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จ่าย

85 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 4. หาความรเู้ พมิ่ เตมิ จากกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 5. หาความรเู้ พมิ่ เตมิ จากกรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 6. หาความรเู้ พม่ิ เตมิ จากมาตรฐานการบญั ชี

86 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าทา่ ทางสภุ าพต่อผอู้ ่นื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไม่นาผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หมๆ่ 6.ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสงิ่ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ขอ้ คิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สงิ่ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

87 แบบประเมินค่านิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมการณ์ใน  สงิ่ ทด่ี งี ามเพอ่ื ส่วนรวม 3.กตญั ญตู อ่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี ่อผอู้ ่นื เผอ่ื แผแ่ ละ  แบ่งปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ทถ่ี กู ตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่อื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เม่อื มคี วามพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ อ่  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ต่อ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและตอ่ ชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรงุ หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

88 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

89 แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบูรณำกำรท่ี 10 หน่วยท่ี- รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) สอนครงั้ ท่ี 10 (46-50) จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. ชื่อหน่วย/เรื่อง ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน แนวคิด สอบกลางภาคเรียน ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั 1.ผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นรเู้ น้อื หาสาระ และนาความคดิ รวบยอดไปประยกุ ตใ์ ชต้ ่อไป 2.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 2.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2.2 ความมวี นิ ยั 2.3 ความรบั ผดิ ชอบ 2.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 2.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 2.6 การประหยดั 2.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 2.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 2.9 ความรกั สามคั คี 2.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ บรกิ าร ธรุ กจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อุตสาหกรรมตาม ขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สาระการเรยี นรู้ ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน

90 บนั ทึกหลงั การสอบ ข้อสรปุ หลงั การสอบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

91 แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบูรณำกำรท่ี 11 หน่วยท่ี 8 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) สอนครง้ั ท่ี11 (51-55) จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. ช่ือหน่วย/ช่ือเร่ือง กระบวนการจดั ทาบญั ชีตามวงจรบญั ชี แนวคิด การแบง่ ประเภทธุรกจิ โดยพจิ ารณาจากผลผลติ ทไ่ี ดจ้ ากการประกอบการคา้ ไดแ้ ก่ (1) ธุรกจิ บรกิ าร จะมี ลกั ษณะเป็นการใหบ้ รกิ ารแก่ลกู คา้ ใหเ้ กดิ ความพงึ พอใจ และจะจา่ ยคา่ ตอบแทนนนั้ กลบั มาเป็นรายได้ เชน่ โรงแรม โรงภาพยนตร์ รา้ นตดั ผม เป็นตน้ (2) ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ โดยซอ้ื สนิ คา้ จากผผู้ ลติ หรอื ผขู้ าย แลว้ ขาย ออกไป เช่น หา้ งสรรพสนิ คา้ 7-Eleven เป็นตน้ (3) ธรุ กจิ อุตสาหกรรม เป็นธุรกจิ ทซ่ี อ้ื วตั ถุดบิ หรอื ชน้ิ สว่ นต่างๆ แลว้ นามาผลติ ต่อเพ่อื เป็นสนิ คา้ ใหม่แลว้ นาออกขาย เชน่ บรษิ ทั ผลติ อาหารกระป๋ อง โรงงานทอผา้ โรงงาน อุตสาหกรรมต่างๆ เป็นตน้ ซง่ึ จะมวี ธิ บี นั ทกึ บญั ชแี ตกต่างกนั ไปตามประเภทธรุ กจิ นนั้ ๆ แต่ยงั คงยดึ หลกั การ บนั ทกึ บญั ชที ร่ี บั รองทวั่ ไป รวมทงั้ แม่บทการบญั ชี และมาตรฐานการบญั ชที ใ่ี ชอ้ ยใู่ นปจั จุบนั เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งและ ปฏบิ ตั ไิ ปในแนวทางเดยี วกนั ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวงั 1.จดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชขี องธรุ กจิ บรกิ ารได้ 2.จดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชขี องธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ ได้ 3.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.2 ความมวี นิ ยั 3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 3.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 3.6 การประหยดั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 3.9 ความรกั สามคั คี 3.10 ความกตญั ญกู ตเวที

92 สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธรุ กจิ อตุ สาหกรรมตาม ขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สาระการเรยี นรู้ 1.การจดั ทาบญั ชขี องธุรกจิ บรกิ าร 2.การจดั ทาบญั ชขี องธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1.ครสู นทนาพดู คยุ กบั ผเู้ รยี นวา่ ธุรกจิ บรกิ ารเป็นธุรกจิ ทใ่ี หบ้ รกิ ารลกู คา้ โดยจะไดร้ บั ผลตอบแทนในรปู ของ รายไดค้ า่ บรกิ าร เช่น ธรุ กจิ การท่องเทย่ี ว ธุรกจิ ซอ่ มรถยนต์ ธุรกจิ เสรมิ ความงาม ธุรกจิ โรงแรมและทพ่ี กั อาศยั เป็นตน้ ซง่ึ ในชว่ งระยะเวลาหน่งึ ธุรกจิ ตอ้ งแสดงผลการดาเนินงานและฐานะการเงนิ ของกจิ การ เชน่ 3 เดอื น 6 เดอื น หรอื 12 เดอื น จะเรยี กว่า “รอบระยะเวลาบญั ช”ี และเม่อื มรี ายการคา้ เกดิ ขน้ึ จากการดาเนินธุรกจิ ในรอบระยะเวลา บญั ชนี นั้ ๆ เชน่ ไดร้ บั รายไดค้ า่ บรกิ าร และการจ่ายค่าใชจ้ ่าย ฯลฯ กจิ การจะตอ้ งจดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชี 2.ครทู บทวนเร่อื งวงจรบญั ชี (Accounting Cycle) หมายถงึ ขนั้ ตอนการจดั ทางานบญั ชตี ่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน รอบระยะเวลาบญั ชี ซง่ึ วงจรบญั ชขี องธุรกจิ บรกิ าร มตี ามขนั้ ตอนดงั ต่อไปน้ี

93 ขนั้ สอน 3.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การจดั ทาบญั ชขี องธุรกจิ บรกิ าร โดยใชก้ รณศี กึ ษาประกอบเพ่อื ฝึกปฏบิ ตั งิ านบญั ชี ดงั น้ี 1. บนั ทกึ สมดุ รายวนั ทวั่ ไป 5. รายการปิดบญั ชี 2. ผ่านรายการไปบญั ชแี ยกประเภททวั่ ไป 6. งบทดลองหลงั ปิดบญั ชี 3. งบทดลอง 7. งบการเงนิ (งบกาไรขาดทนุ และงบแสดงฐานะการเงนิ ) 4. รายการปรบั ปรุงบญั ชใี นวนั สน้ิ งวด 4.ครอู ธบิ ายการจดั ทาบญั ชขี องธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ สาหรบั วงจรบญั ชสี าหรบั กจิ การซอ้ื ขายสนิ คา้ (The Accounting Processing Cycle for a Merchandising Enterprise) มลี กั ษณะคลา้ ยกบั ธรุ กจิ บรกิ าร จะแตกต่าง ตรงทม่ี สี นิ คา้ คงเหลอื เขา้ มาเกย่ี วขอ้ งจงึ ทาใหม้ รี ายละเอยี ดทางบญั ชเี พม่ิ มากขน้ึ 5.ครแู ละผเู้ รยี นแสดงทางเดนิ วงจรบญั ชกี จ็ ะมลี าดบั ขนั้ ตอนตงั้ แต่การวเิ คราะหร์ ายการคา้ การจดบนั ทกึ รายการคา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ลงในสมดุ บญั ชตี ่างๆ จนถงึ การตรวจสอบความถกู ตอ้ งในการจดบนั ทกึ บญั ชี การปิดบญั ชี ตลอดจนการจดั ทารายงานเกย่ี วกบั ผลการดาเนินงานและฐานะการเงนิ ของกจิ การ ซง่ึ สรุปไดด้ งั น้ี 6.ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั งิ านบญั ชี โดยผา่ นกรณศี กึ ษาเพ่อื จดั ทางานบญั ชดี งั ต่อไปน้ี 6.1 บนั ทกึ รายการในสมุดรายวนั ขนั้ ตน้ 1.1 สมดุ รายวนั ทวั่ ไป 1.4 สมุดรายวนั รบั เงนิ 1.2 สมุดรายวนั ซอ้ื 1.5 สมุดรายวนั จ่ายเงนิ 1.3 สมุดรายวนั ขาย 6.2 ผา่ นรายการไปบญั ชแี ยกประเภททวั่ ไป 6.3 ผา่ นรายการไปบญั ชแี ยกประเภทลกู หน้ีและเจา้ หน้ีรายตวั 6.4 จดั ทางบทดลอง 6.5 ปรบั ปรุงรายการวนั สน้ิ งวดบญั ชี 6.6 รายการปิดบญั ชี 6.7 งบทดลองหลงั ปิดบญั ชี 6.8 จดั ทางบการเงนิ (งบกาไรขาดทนุ และงบแสดงฐานะการเงนิ )

94 7.ครเู น้นการนาหลกั ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั ทากระดาษทางานซง่ึ ในเน้อื หา ของสปั ดาหน์ ้สี ามารถสรปุ ไดด้ งั น้ี (1) สรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เองได้ เช่น ใชค้ วามรอบคอบในการบนั ทกึ บญั ชไี มใ่ หผ้ ดิ พลาด (2) มเี หตุผลในการวเิ คราะหร์ ายการคา้ แต่ละรายการ เพ่อื บนั ทกึ บญั ชี (3) มคี วามเพยี งพอ ในการซอ้ื ขายสนิ คา้ เพ่อื บรโิ ภคหรอื จาหน่าย (4) มเี ง่อื นไขดา้ นคุณธรรม ไดแ้ ก่ บนั ทกึ บญั ชใี หถ้ ูกตอ้ ง (5) มเี ง่อื นไขดา้ นวชิ าการ ไดแ้ ก่ บนั ทกึ บญั ชตี ามหลกั การบญั ชที ย่ี อมรบั ทวั่ ไป และมคี วามรู้ เร่อื งมาตรฐานการบญั ชี (6) นารายการบญั ชไี ปบนั ทกึ ในเคร่อื งคอมพวิ เตอรห์ รอื โปรแกรมสาเรจ็ รปู บญั ชไี ด้ 8.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมโดยผ่านกรณศี กึ ษา ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 17.สรปุ งบทดลอง จดั ทาขน้ึ เพ่อื พสิ จู น์ความถูกตอ้ งของการบนั ทกึ บญั ชใี นสมุดรายวนั ทวั่ ไป และผา่ นรายการ 18.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบประเมนิ ผลหลงั เรยี น สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กจิ กรรม, กรณศี กึ ษา 3. กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. กรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 5. มาตรฐานการบญั ชี 6. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล

95 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ ่าน คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ ่าน 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ ่าน 50% 8 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จ่าย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 4. หาความรเู้ พมิ่ เตมิ จากกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณิชย์ หรอื http://www.dbd.go.th 5. หาความรเู้ พม่ิ เตมิ จากกรมสรรพากร กระทรวงการคลงั http://www.rd.go.th 6. ศกึ ษามาตรฐานการบญั ชเี พมิ่ เตมิ

96 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าทา่ ทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไม่นาผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หมๆ่ 6.ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสงิ่ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ขอ้ คิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สงิ่ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา