Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชากระบวนการจัดทำบัญชี รหัสวิชา 20201-2008

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชากระบวนการจัดทำบัญชี รหัสวิชา 20201-2008

Published by krutip.2550, 2021-10-28 08:56:47

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชากระบวนการจัดทำบัญชี

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ มุง่ เนน้ ฐานสมรรถนะอาชพี และบูรณาการ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รหัสวิชา 20201-2008 วิชา กระบวนการจดั ทาบญั ชี จานวน 3 หน่วยกิต 5 ช่ัวโมง/สัปดาห์ หลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี พุทธศักราช 2562 จัดทาโดย นางศิรนิ ทรท์ ิพย์ ทองบรุ าณ ครู วิทยาลยั การอาชีพสอยดาว อาชวี ศึกษาจงั หวัดจันทบรุ ี สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 ทไ่ี ดป้ ระกาศใชต้ งั้ แต่เดอื นสงิ หาคม 2542 เป็นตน้ มา ไดเ้ น้นใหค้ ร-ู อาจารยแ์ ละผเู้ กย่ี วขอ้ งทงั้ หลายจดั การเรยี นการสอนโดยเน้นผเู้ รยี นสาคญั ทส่ี ดุ ซง่ึ กจิ กรรมการเรยี นการสอนทจ่ี ดั ควรมี ลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี 1. ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากการปฏบิ ตั จิ รงิ 2. ผเู้ รยี นมโี อกาสเลอื กเรยี นรใู้ นสง่ิ ทต่ี นถนดั และสนใจ 3. ผเู้ รยี นไดม้ โี อกาสแสวงหาความรแู้ ละสรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตวั เอง 4. ผเู้ รยี นไดม้ โี อกาสทจ่ี ะนาความรไู้ ปปฏบิ ตั ใิ ชจ้ รงิ ในชวี ติ ประจาวนั 5. ผเู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องตนเอง แ ผ น ก า รจั ด ก า รเรีย น รู้น้ี ไ ด้ ต ระ ห นั ก ถึ ง ภ า รกิ จ ข อ งค รู อ า จ า รย์ ใน ก า รจัด กิ จ ก รรม ก า รเรีย น รู้ ให้สอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ ด้วยการบูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และ คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ไวใ้ นรายวชิ า และในการคดิ กจิ กรรมท่จี ะส่งเสรมิ การเรียนรขู้ องนักเรยี นตามพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษา แห่งชาตใิ หเ้ ป็นรูปธรรมจงึ ไดจ้ ดั ทาสงิ่ อานวยความสะดวกให้แก่ครูอาจารย์เป็ น คู่มือครูเพื่อประกอบหนงั สือเรียนวิชา กระบวนการจดั ทาบญั ชี รหสั 20201-2008 (1-4-3) ซง่ึ ประกอบดว้ ย ซง่ึ ประกอบดว้ ย  จดุ ประสงคร์ ายวชิ า และสมรรถนะรายวชิ า  คาอธบิ ายรายวชิ า  ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร  กาหนดการสอนทบ่ี รู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  แผนการจดั การเรยี นรทู้ บ่ี รู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หวงั ว่าคมู่ อื ครเู ล่มน้คี งเป็นประโยชน์แกค่ ร-ู อาจารยไ์ ดใ้ ชเ้ ป็นแนวทางในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หบ้ รรลตุ าม วตั ถุประสงคต์ ่อไป ผจู้ ดั ทา

สำรบญั  วธิ กี ารใชแ้ บบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  โครงการสอนทบ่ี รู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  แผนการจดั การเรยี นรทู้ บ่ี รู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 10 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 11 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 13 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 14 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 15 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 16 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 17 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 18 ภาคผนวก ตวั อยา่ งแบบประเมนิ ดว้ ยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ตวั อยา่ งแบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล ก ตวั อยา่ งแบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ข ตวั อยา่ งแบบประเมนิ การนาเสนอผลงานรายบุคคล ค ตวั อยา่ งแบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ง ตวั อยา่ งแบบรวมคะแนนการประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม จ และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ฉ ตวั อยา่ งแบบสรปุ ผลการประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตวั อยา่ งบนั ทกึ หลงั การสอน ช ตวั อยา่ งบนั ทกึ หลงั การสอน ฌ ญ



1 รหสั 20201-2008 (1-4-3) วิชา กระบวนการจดั ทาบญั ชี ช้นั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ หมวดวิชาทกั ษะวิชาชีพ พฤติกรรม พทุ ธิพิสยั (40%) ช่ือหน่วย ความ ้รู ความเ ้ขาใจ การนาไปใ ้ช การ ิวเคราะห์ การสังเคราะห์ การประเ ิมน ่คา ิจต ิพสัย (30%) ทักษะ ิพสัย (30%) รวม ลาดับความสาคัญ จานวนชั ่วโมง 1.พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 11 1 - -- 1 1 5 5 2.รปู แบบของธุรกจิ 11 1 - -- 1 1 5 5 3.การจดทะเบยี นพาณชิ ยแ์ ละการจดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 11 1 1 -- 2 2 8 5 4.การจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ ส่วน 11 1 1 -- 2 2 8 5 5.การจดทะเบยี นบรษิ ทั จากดั และการจดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 11 1 1 -- 2 2 8 5 1 6.การจดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการดาเนนิ งานธรุ กจิ 11 1 1 11 2 2 10 0 1 7.การวเิ คราะหร์ ายการคา้ จากเอกสาร 1 1 2 2 1 1 2 2 12 0 1 8.กระบวนการจดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชี 11 2 2 11 2 2 12 0 9.การจดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ 11 2 1 -- 2 2 9 5 10. การยน่ื งบการเงนิ ตามกฎหมายต่อกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ 11 2 1 11 2 2 11 1 0 11.การกรอกแบบแสดงรายการภาษปี ระเภทต่างๆ ประมวลรษั ฎากร 1 1 2 2 1 1 2 2 12 1 0 สอบกลางภาค 5 5 สอบปลายภาค 9 0 รวม 1 1 16 12 5 5 20 20 100 1 1 ลาดบั ความสาคญั 44 2 3 55 1 1 หมายเหตุ การสอบปลายภาคเรยี นสาหรบั รายวชิ าน้อี าจจะมหี รอื ไมก่ ไ็ ดข้ น้ึ อยกู่ บั อาจารยผ์ สู้ อน

2 รหสั 20201-2008 วิชา กระบวนการจดั ทาบญั ชี ชวั่ โมง 3 หน่วยกิต (5 ชวั ่ โมง) เวลาเรยี นตอ่ ภาค 90 ชวั ่ โมง รายวิชาตามหลกั สูตร สมรรถนะรายวิชา จดุ ประสงคร์ ายวิชา เพอ่ื ให้ สมรรถนะรายวิชา 1.เขา้ ใจกฎหมายเกย่ี วกบั การทาบญั ชแี ละกระบวนการ 1.แ ส ด ง ค ว า ม รู้ เก่ี ย ว กั บ ก ระ บ ว น ก า ปฏบิ ตั งิ านบญั ชขี องธรุ กจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ ปฏิบตั ิงานบญั ชีตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชี และธุรกิจอุตสาหกรรมในรูปแบบของกิจการเจ้าของ และนาเสนอ คนเดยี ว หา้ งหนุ้ สว่ น และบรษิ ทั จากดั งบการเงินในการปฏิบตั ิงานทางวชิ าชีพบญั ชี 2.มที กั ษะการปฏิบตั ิงานบญั ชีตามขนั้ ตอนการจดั ทา บัญชีและนาเสนองบการเงินในการปฏิบัติงานทาง 2.บัน ทึก บัญ ชี จ า ก เอ ก ส า รกา รเงิ น ส า ห รั บ วชิ าชพี บญั ชี ธุรกิจบริการ ธรุ กิจซอื ้ ขายสนิ ค้า และธรุ กิจ 3.มกี จิ นิสยั มรี ะเบยี บ ละเอยี ดรอบคอบ ซ่อื สตั ย์ มวี นิ ยั อตุ สาหกรรมตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชีที่ ระบใุ นกฎหมายทางการบญั ชีทีเ่ กี่ยวข้อง ตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อวชิ าชพี บญั ชี 3.จดั ทางบการเงินและรายงานท่เี ก่ียวข้อง คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2542 กระบวนการจัดทาบัญชีตามวงจรบัญชี ของธุรกิจบริการ ธุรกิจซ้ือขายสินค้า และธุรกิจ อุตสาหกรรม การจดทะเบียนธุรกิจและการจัดการ เอกสารท่ีเก่ียวข้อง การวิเคราะห์รายการค้าจาก รวม 90 เอกสาร จดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้

3 จดุ ประสงคร์ ายวิชา เพอ่ื ให้ 1.เขา้ ใจกฎหมายเกย่ี วกบั การทาบญั ชแี ละกระบวนการปฏบิ ตั งิ านบญั ชขี องธุรกจิ บรกิ าร ธรุ กจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อตุ สาหกรรมในรปู แบบของกจิ การเจา้ ของคนเดยี ว หา้ งหนุ้ สว่ น และบรษิ ทั จากดั 2.มที กั ษะการปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ในการปฏบิ ตั งิ าน ทางวชิ าชพี บญั ชี 3.มกี จิ นสิ ยั มรี ะเบยี บ ละเอยี ดรอบคอบ ซอ่ื สตั ย์ มวี นิ ยั ตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อวชิ าชพี บญั ชี สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรู้เก่ียวกบั กระบวนกาปฏิบตั ิงานบัญชีตามขนั้ ตอนการจัดทาบญั ชีและนาเสนองบการเงินในการ ปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อุตสาหกรรมตามขนั้ ตอนการ จดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

ประมวลการเรียนรายวิชา (Course Outline) 4 โครงการจดั การเรียนรู้ จานวน ช่ือวิชา กระบวนการจดั ทาบญั ชี รหสั 20201-2008 คาบ ท-ป-น 1-4-3 จานวนคาบ 5 คาบ/ สปั ดาห์ ระดบั ชนั้ ปวช. 5 5 สปั ดาห์ หน่ว ทฤษฏี ปฏบิ ตั ิ 5 ท่ี ยท่ี 5 กรณศี กึ ษา 5 1 1 พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 กรณีศกึ ษา 10 กรณศี กึ ษา 2 2 รปู แบบของธรุ กจิ กรณศี กึ ษา 10 กรณศี กึ ษา 5 3 3 การจดทะเบยี นพาณิชยแ์ ละการจดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กรณีศกึ ษา 10 กรณศี กึ ษา 5 4 4 การจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ สว่ น กรณศี กึ ษา 10 กรณีศกึ ษา 5 5 การจดทะเบยี นบรษิ ทั จากดั และการจดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 10 กรณศี กึ ษา 5 6 6 การจดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการดาเนินงานธุรกจิ กรณศี กึ ษา 90 กรณศี กึ ษา 7 6 การจดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการดาเนินงานธุรกจิ กรณีศกึ ษา กรณีศกึ ษา 8 7 การวเิ คราะหร์ ายการคา้ จากเอกสาร กรณีศกึ ษา กรณศี กึ ษา 9 7 การวเิ คราะหร์ ายการคา้ จากเอกสาร 10 - วดั ผลและประเมนิ ผลกลางภาคเรยี น 11 8 กระบวนการจดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชี 12 8 กระบวนการจดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชี 13 9 การจดั ทางบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ 14 10 การย่นื งบการเงนิ ตามกฎหมายต่อกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ 15 10 การยน่ื งบการเงนิ ตามกฎหมายต่อกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ 16 11 การกรอกแบบแสดงรายการภาษปี ระเภทตา่ งๆ ประมวลรษั ฎากร 17 11 การกรอกแบบแสดงรายการภาษปี ระเภทตา่ งๆ ประมวลรษั ฎากร 18 - วดั ผลและประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น รวม

5 กาหนดการสอนท่ีบรู ณาการคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ วิชา รหสั 20201-2008 วิชากระบวนการจดั ทาบญั ชี (Accounting Process) (1-4-3) สปั ดา หน่วย ชวั่ โมง ชื่อหน่วย/สาระสาคญั ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั คณุ ธรรม จริยธรรม ห์ ท่ี ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ 1 1 1-5 พระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ. 2543 1.บอกหลกั การของพระราชบญั ญตั กิ าร 1.หลกั การของพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี บญั ชี พ.ศ.2543 ได้ พ.ศ.2543 2.อธบิ ายสาระสาคญั พระราชบญั ญตั กิ าร 2.สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญตั ิ บญั ชี พ.ศ.2543 ได้ การบญั ชี พ.ศ.2543 2 2 6-10 รปู แบบของธรุ กิจ 1.อธบิ ายความหมายและประเภทของ 1.ความหมายและประเภทของธรุ กจิ ธรุ กจิ ได้ 2.กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว 2.อธบิ ายกจิ การเจา้ ของคนเดยี วได้ 3.หา้ งหนุ้ ส่วน 3.อธบิ ายหา้ งหนุ้ ส่วนได้ 4.บรษิ ทั จากดั 4.อธบิ ายบรษิ ทั จากดั ได้ 3 3 11-15 การจดทะเบยี นพาณิชยแ์ ละการจดั การ 1.บอกหน้าทข่ี องผจู้ ดทะเบยี นพาณชิ ยไ์ ด้ ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ เอกสารท่ีเก่ียวข้อง 2.บอกกจิ การทต่ี อ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย์ ความมวี นิ ยั 1.ผมู้ หี น้าทจ่ี ดทะเบยี นพาณชิ ย์ ได้ ความรบั ผดิ ชอบ 2.ผปู้ ระกอบการทต่ี อ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 3.บอกกจิ การทไ่ี ดร้ บั การยกเวน้ ไมต่ อ้ ง ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 3.พาณชิ ยกจิ ทไ่ี ดร้ บั การยกเวน้ ไมต่ อ้ งจด จดทะเบยี นพาณชิ ยไ์ ด้ ความสนใจใฝร่ ู้ ทะเบยี นพาณชิ ย์ 4.บอกสถานทจ่ี ดทะเบยี นและกาหนด ความรกั สามคั คี 4.สถานทจ่ี ดทะเบยี นและกาหนด ระยะเวลาการจดทะเบยี นพาณชิ ยไ์ ด้ ความกตญั ญกู ตเวที ระยะเวลาการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 5.บอกบทกาหนดโทษและคา่ ธรรมเนยี ม 5.บทกาหนดโทษและค่าธรรมเนียม การจดทะเบยี นพาณชิ ยไ์ ด้ การจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 6.อธบิ ายการจดทะเบยี นผปู้ ระกอบการ 6.การจดทะเบยี นผปู้ ระกอบการพาณชิ ย์ พาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ด้ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 4 4 16-20 การจดทะเบียนห้างห้นุ ส่วน 1.จดทะเบยี นจดั ตงั้ หา้ งหนุ้ สว่ นสามญั 1.การจดทะเบยี นจดั ตงั้ หา้ งหนุ้ ส่วนสามญั นิตบิ คุ คลและหา้ งหนุ้ สว่ นจากดั ได้ นิตบิ ุคคลและหา้ งหนุ้ ส่วนจากดั 2.จดทะเบยี นเลกิ หา้ งหนุ้ สว่ นได้ 2.การเลกิ หา้ งหนุ้ ส่วน 3.ชาระบญั ชแี ละจดทะเบยี นเสรจ็ การ 3.การชาระบญั ชแี ละการจดทะเบยี นเสรจ็ ชาระบญั ชขี องหา้ งหนุ้ สว่ นได้ การชาระบญั ชขี องหา้ งหนุ้ สว่ น

6 5 5 21-25 การจดทะเบียนบริษทั จากดั และการ 1.อธบิ ายและจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั ได้ จดั การเอกสารท่ีเก่ียวข้อง 2.อธบิ ายและจดทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ 1.การจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั การชาระบญั ชบี รษิ ทั จากดั ได้ 2.การจดทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ การชาระ 3.อธบิ ายและจดทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั บญั ชบี รษิ ทั จากดั มหาชนจากดั ได้ 3.การจดทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั มหาชน จากดั (ต่อ) สปั ดา หน่วย ชวั่ โมง ช่ือหน่วย/สาระสาคญั ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั คณุ ธรรม จริยธรรม ห์ ที่ คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ 6 6 26-30 การจดั การเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ งใน 1.อธบิ ายและวเิ คราะหเ์ อกสารการ การดาเนินงานธรุ กิจ ดาเนินงานของธุรกจิ ได้ 1.เอกสารในการดาเนินงานของธุรกจิ 2.อธบิ ายและวเิ คราะหเ์ อกสาร 2.เอกสารประกอบการบนั ทกึ บญั ชี ประกอบการบนั ทกึ บญั ชไี ด้ 7 6 31-35 3.ประเภทของเอกสารทใ่ี ชใ้ นการ 3.อธบิ ายและแยกประเภทของเอกสารท่ี บนั ทกึ บญั ชี ใชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชไี ด้ 4.การจดั เกบ็ เอกสารประกอบการ 4.อธบิ ายและจดั เกบ็ เอกสาร บนั ทกึ บญั ชี ประกอบการบนั ทกึ บญั ชไี ด้ 8 7 36-40 การวิเคราะหร์ ายการค้าจากเอกสาร 1.อธบิ ายและวเิ คราะหเ์ อกสารทใ่ี ชใ้ น 1.เอกสารทใ่ี ชใ้ นการบนั ทกึ บญั ชี การบนั ทกึ บญั ชไี ด้ 9 7 41-45 2.การนาเอกสารมาบนั ทกึ บญั ชขี องกจิ การ 2.วเิ คราะหแ์ ละนาเอกสารมาบนั ทกึ ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ บญั ชขี องกจิ การได้ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ 10 - 46-50 สอบกลางภาคเรียน ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ 11 8 51-55 กระบวนการจดั ทาบญั ชีตามวงจรบญั ชี 1.จดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชขี องธุรกจิ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที 1.การจดั ทาบญั ชขี องธุรกจิ บรกิ าร บรกิ ารได้ 2.การจดั ทาบญั ชขี องธรุ กจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ 2.จดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชขี องธรุ กจิ 12 8 56-60 3.การจดั ทาบญั ชขี องธรุ กจิ อุตสาหกรรม ซ้อื ขายสนิ คา้ ได้ 3.จดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชขี องธรุ กจิ อุตสาหกรรมได้ 13 9 61-65 การจดั ทางบการเงินตามประกาศ 1.อธบิ ายการนาเสนองบการเงนิ มาตรฐาน กรมพฒั นาธรุ กิจการคา้ การบญั ชไี ด้ 1.การนาเสนองบการเงนิ มาตรฐานการบญั ชี 2.อธบิ ายการกาหนดรายการยอ่ ทต่ี อ้ งมี 2.กาหนดรายการย่อท่ตี ้องมใี นงบการเงนิ ใน ตามประกาศกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ งบการเงนิ ตามประกาศกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ ได้

7 14 10 66-70 การยนื่ งบการเงินตามกฎหมายต่อ 1.บอกหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารยน่ื งบ กรมพฒั นาธรุ กิจการค้า การเงนิ 1.หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารยน่ื งบการเงนิ ได้ 2.การตรวจสอบเอกสารการนาสง่ งบการเงนิ 2.อธบิ ายการตรวจสอบเอกสารการนาสง่ งบการเงนิ ได้ (ต่อ) สปั ดา หน่วย ชวั่ โมง ช่ือหน่วย/สาระสาคญั ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั คณุ ธรรม จริยธรรม ห์ ท่ี ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ 15 10 71-75 การยืน่ งบการเงินตามกฎหมายต่อ 3.กรอกเอกสารหลกั ฐานทใ่ี ชใ้ นการนาส่ง กรมพฒั นาธรุ กิจการคา้ (ต่อ) งบการเงนิ ได้ 3.การกรอกเอกสารหลกั ฐานทใ่ี ชใ้ น การนาส่งงบการเงนิ 16 11 76-80 การกรอกแบบแสดงรายการภาษี 1.อธบิ ายและนาส่งเอกสารประกอบการ 17 11 81-85 ประเภทต่างๆ ประมวลรษั ฎากร ยน่ื แบบแสดงรายการภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ได้ ความมวี นิ ยั 1.การนาสง่ เอกสารประกอบการยน่ื แบบ 2.อธบิ ายและกรอกแบบแสดงรายการ ความรบั ผดิ ชอบ แสดงรายการภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล ภาษี ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 2.การกรอกแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ได้ เงนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลเมอ่ื สน้ิ รอบระยะเวลา ความสนใจใฝร่ ู้ นิตบิ ุคคลเมอ่ื สน้ิ รอบระยะเวลาบญั ชี บญั ชี ความรกั สามคั คี 3.การกรอกแบบแสดงรายการภาษเี งนิ ได้ ได้ ความกตญั ญกู ตเวที นติ บิ คุ คลครง่ึ ปี 3.อธบิ ายและกรอกแบบแสดงรายการ ภาษี เงนิ ไดน้ ิตบิ ุคคลครง่ึ ปีได้ 18 - 86-90 ทบทวน/สอบปลายภาคเรียน หมายเหตุ กาหนดการสอนตามแนวทาง STEM และบรู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงคน์ ้ี จดั ทาขน้ึ เพ่อื เป็นแนวทางใหก้ บั ครผู สู้ อนในการจดั การเรยี นการสอนเทา่ นนั้ สามารถ เปลย่ี นแปลงไดข้ น้ึ อย่กู บั ผสู้ อน และสถานศกึ ษาทจ่ี ะนาไปประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นสาคญั ผเู้ ขียนแผนจดั การเรียนรู้

8 การวดั ผลและประเมินผล การวดั ผล 20% 20% 1. สอบกลางภาค 10% 2. สอบปลายภาค 10% 3. บรู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 20% 4. การเขา้ ชนั้ เรยี น 20% 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี น 6. ใบงาน/แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หมายเหตุ ผเู้ รยี นต้องเขา้ เรยี นไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทงั้ หมด แต่การแบ่งคะแนนการวดั ผลน้ี สามารถเปลย่ี นแปลงไดข้ น้ึ อย่กู บั ครเู ป็นสาคญั และเน่อื งจากเป็นวชิ าทเ่ี น้นการนาทกั ษะความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั โดยทวั่ ไป การวดั ผลสามารถจดั เขา้ ไปในเร่อื งคุณธรรม จรยิ ธรรมได้ เพ่อื ให้เหน็ เป็นรูปธรรมท่ี ชดั เจน จงึ จะขอแยกเร่อื งการวดั ผลด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ในรูปเคร่อื งมือวดั ผลเป็นแบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา โดยทงั้ ครแู ละผเู้ รยี น จะประเมนิ คุณลกั ษณะจากพฤตกิ รรมบง่ ชท้ี ก่ี าหนดไว้ และต้องทาควบค่กู บั กระบวนการทา กจิ กรรมการเรยี นการสอน ซง่ึ อาจอย่ใู นรปู ของกลุม่ ผเู้ รยี นหรอื เป็นรายบุคคล โดยผเู้ รยี นอาจสบั เปลย่ี นกนั เป็นผู้ ประเมนิ ร่วมกบั ครู เพ่อื ความเท่ยี งตรงของการประเมนิ ดงั นัน้ แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ งั้ ของครู และผู้เรยี นจงึ เป็นชุดเดยี วกนั และเพ่อื ดูพฒั นาการของผู้เรยี น จะใชแ้ บบ ประเมนิ ชดุ น้เี ป็นเคร่อื งมอื ประเมนิ การประเมินผล 80-100 ไดเ้ กรด 4 75-79 ไดเ้ กรด 3.5 กาหนดค่าระดบั คะแนน ตามเกณฑด์ งั น้ี 70-74 ไดเ้ กรด 3 คะแนนรอ้ ยละ 65-69 ไดเ้ กรด 2.5 คะแนนรอ้ ยละ 60-64 ไดเ้ กรด 2 คะแนนรอ้ ยละ 55-59 ไดเ้ กรด 1.5 คะแนนรอ้ ยละ 50-54 ไดเ้ กรด 1 คะแนนรอ้ ยละ 0-49 ไดเ้ กรด 0 คะแนนรอ้ ยละ คะแนนรอ้ ยละ คะแนนรอ้ ยละ หนงั สือประกอบการเรียน เพญ็ ศรเี ลศิ เกยี รตวิ ทิ ยา. วิชากระบวนการบญั ชี.กรุงเทพฯ: เอมพนั ธ,์ 2562.

9 บทนาในการจดั ทาแผนการสอน แผนการสอนเล่มน้ีได้จัดทาข้ึนตามแนวทางของ STEM เพ่ือใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนในวิชาน้ี ซง่ึ รปู แบบ STEM ทเ่ี หน็ ไดช้ ดั เจนจากการจดั กาเรยี นสอนไดแ้ ก่ 1.การฝึกจดทะเบยี นพาณิชยต์ ามขนั้ ตอนต่างๆ โดยผ่านกจิ กรรมกรณศี กึ ษา 2.การฝึกจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ ตามขนั้ ตอนต่างๆ โดยผ่านกจิ กรรมกรณีศกึ ษา 3.การฝึกจดทะเบยี นบรษิ ทั ตามขนั้ ตอนต่างๆ โดยผา่ นกจิ กรรมกรณีศกึ ษา 4.การออกแบบฟอรม์ เอกสารต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการดาเนินงานธุรกจิ โดยผ่านกจิ กรรมกรณศี กึ ษา 5.การวเิ คราะหร์ ายการคา้ จากเอกสารในการดาเนนิ ธรุ กจิ ในรปู แบบต่าง ๆ โดยผ่านกจิ กรรมกรณศี กึ ษา 6.การจดั ทาบญั ชขี องกจิ การตามกระบวนการจดั ทาบญั ชตี ามวงจรบญั ชี โดยผ่านกจิ กรรมกรณีศกึ ษา 7.การจดั ทางบการเงนิ ตามกฎหมายบญั ชี โดยผ่านกจิ กรรมกรณีศกึ ษา 8.การยน่ื งบการเงนิ ตามกฎหมายต่อกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ โดยผ่านกจิ กรรมกรณศี กึ ษา 9.การกรอกแบบแสดงรายการภาษปี ระเภทต่างๆ ประมวลรษั ฎากร โดยผ่านกจิ กรรมกรณศี กึ ษา STEM เป็นแนวทางการจัดการเรียนการสอนท่ีมีการบูรณาการทางวิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วศิ วกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณติ ศาสตร์ (Mathematics) เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นนาความรดู้ งั กลา่ ว มาใชใ้ นการแกป้ ญั หา และสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมใหม่ในชวี ติ ประจาวนั โดยมกี ารบรู ณาการเกย่ี วกบั วชิ าดงั ต่อไปน้ี  วิทยาศาสตร์ (Science) เป็นวชิ าทศ่ี กึ ษาปรากฏการณ์ธรรมชาตติ ่างๆ โดยอาศยั กระบวนการสบื เสาะทาง วทิ ยาศาสตร์ (Scientific Inquiry)  เทคโนโลยี (Technology) เป็นวชิ าทศ่ี กึ ษากระบวนการทางานทม่ี กี ารประยุกตศ์ าสตรอ์ น่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งมาใช้ ในการแกป้ ญั หา ปรบั ปรุงแกไ้ ขหรอื พฒั นาสง่ิ ต่างๆ เพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการ หรอื ความจาเป็นของมนุษย์  วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) เป็นวชิ าทศ่ี กึ ษาเกย่ี วกบั การสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมหรอื สรา้ งสงิ่ ต่างๆ เพ่อื มาอานวยความสะดวกของมนุษย์ โดยอาศยั ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และกระบวนการทาง เทคโนโลยี มาประยุกตใ์ ชส้ รา้ งสรรคช์ น้ิ งานนนั้ ๆ  คณิ ตศาสตร์ (Mathematics) เป็นวชิ าท่ีศึกษาเก่ยี วกบั การคานวณ หรือวิชาท่ีเก่ยี วกบั การคานวณเป็น พน้ื ฐานสาคญั ในการศกึ ษาและต่อยอดทางวศิ วกรรมศาสตร์ สรุปได้ว่า STEM จึงเป็นแนวทางการจัดการศึกษาท่ีบูรณาการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และ คณิตศาสตร์ โดยเน้นการนาความรูไ้ ปใชแ้ กป้ ญั หาในชวี ติ จรงิ รวมทงั้ การพฒั นากระบวนการหรือผลผลติ ใหม่ท่ี เป็นประโยชน์ต่อการดาเนนิ ชวี ติ และการทางาน เม่อื ผเู้ รยี นเหน็ ความสาคญั ของความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และเทคโนโลยใี นการดาเนินชวี ติ และสนใจ การเรยี นรู้วิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีความหมายมากข้ึน ผู้เรียนก็จะมปี ระสบการณ์ท่ี สามารถนาไปใชใ้ นประกอบอาชพี และ ปฏบิ ตั งิ านทนั ทใี นระหว่างเรยี นหรอื สาเรจ็ การศกึ ษา หรอื ผูเ้ รยี นทม่ี คี วาม พรอ้ มท่ีจะศึกษาต่อในสายอุดมศึกษาหรอื อาชีวศึกษาในสาขาท่ีมีความสนใจ เพ่ือมุ่งไปสู่อาชีพท่ีเป็นความ ตอ้ งการทงั้ ของตนเองและของประเทศต่อไป การจดั การเรยี นการสอนในวชิ ากระบวนการบญั ชจี ะเน้นการปฏบิ ตั ิ โดยมกี ารวเิ คราะหร์ ายกาคา้ ต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ และจดั ทาเอกสารประกอบรายการคา้ นนั้ ๆ แลว้ นาไปบนั ทกึ บญั ชี ในเรอ่ื งทเ่ี กย่ี วขอ้ งตามลกั ษณะของงานต่อไป ซง่ึ เป็นกระบวนการเรยี นรทู้ ช่ี ่วยพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ที กั ษะทจ่ี ะใชช้ วี ติ ในปจั จบุ นั สามารถนาขนั้ ตอนต่างๆ ทางกระบวนการบญั ชไี ปใชด้ า้ นการจดั การเรยี นการสอน สง่ เสรมิ การเรยี นรู้

10 ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ พัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสทิ ธิภาพ โดยการเรียนรู้ท่ีจะแก้ไขปญั หา มี วจิ ารณญาณ และสามารถนาเสนอผลงานทเ่ี ป็นความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการทางานไดอ้ ยา่ งเหมาะสมต่อไป

11 แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบรู ณำกำรท่ี 1 หน่วยท่ี 1 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) สอนครงั้ ท่ี 1 (1-5) ช่ือหน่วย/เร่ือง พระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ. 2543 จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. แนวคิด พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 ไดล้ งประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเม่อื วนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2543 ซง่ึ มผี ลบงั คบั ใชต้ งั้ แต่วนั ท่ี 10 สงิ หาคม 2543 เป็นตน้ ไป เพอ่ื เป็นการปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั นิ ้ี สานกั กากบั ดแู ล ธุรกจิ กรมพฒั นาธุรกจิ การค้า กระทรวงพาณิชย์ จงึ ไดน้ าขอ้ มูลเกย่ี วกับพระราชบญั ญัติการบญั ชดี งั กล่าวมา เผยแพร่ เพ่ือให้ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ทาบญั ชี ผู้สอบบญั ชีและผู้สนใจทวั่ ไปได้ศึกษาทาความเข้าใจเพ่ือ นาไป ประกอบการปฏบิ ตั งิ านใหถ้ ูกตอ้ งต่อไป ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั 1.บอกหลกั การของพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 ได้ 2.อธบิ ายสาระสาคญั พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 ได้ 3.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 3.2 ความมวี นิ ยั 3.9 ความรกั สามคั คี 3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.10 ความกตญั ญกู ตเวที 3.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 3.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 3.6 การประหยดั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนอ งบการเงนิ ในการปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธรุ กจิ อตุ สาหกรรมตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

12 สาระการเรยี นรู้ 1.หลกั การของพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 2.สรุปสาระสาคญั พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1.ครพู จิ ารณาถงึ พน้ื ฐานความรู้ ประสบการณ์เดมิ ความสามารถของผเู้ รยี น โดยใชว้ ธิ พี ดู คยุ ซกั ถาม ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั ธรุ กจิ วา่ มลี กั ษณะเป็นอยา่ งไรบา้ ง 2.ครแู จง้ เน้อื หารายวชิ าและหลกั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลของวชิ าน้ีใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจกฎหมายเกย่ี วกบั การทา บญั ชแี ละกระบวนการปฏบิ ตั งิ านบญั ชขี องธุรกจิ บรกิ าร ธรุ กจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อุตสาหกรรมในรปู แบบของ กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว หา้ งหนุ้ สว่ น และบรษิ ทั จากดั มที กั ษะการปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละ นาเสนองบการเงนิ ในการปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี มกี จิ นิสยั มรี ะเบยี บ ละเอยี ดรอบคอบ ซ่อื สตั ย์ มวี นิ ยั ตรง ต่อเวลา และมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อวชิ าชพี บญั ชี 3.ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ใชใ้ นการเตรยี มเน้อื หาและวธิ กี ารสอน ขนั้ สอน 4.ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนแบบบรรยาย ซง่ึ เป็นการสอนทเ่ี น้นเน้อื หาสาระทน่ี าเสนอโดยครผู สู้ อน ผบู้ รรยายจะเสนอปญั หาวธิ กี ารต่างๆในการแกป้ ญั หา และสรปุ ดว้ ยว่าวธิ กี ารใดเป็นวธิ กี ารแกป้ ญั หาทด่ี ที ส่ี ดุ ตาม หลกั การ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นไดร้ บั ความรหู้ ลายๆแนวคดิ กอ่ นทจ่ี ะสรปุ เป็นขอ้ คดิ หรอื ทางเลอื กทเ่ี หมาะสมเกย่ี วกบั พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 ในเรอ่ื ง หลกั การของพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 สรปุ สาระสาคญั พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543

13 5.ครูและผู้เรยี นใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใช้โสตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เป็นวิธสี อนท่ีนาอุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ได้แก่ Power Point เพ่อื ประกอบการอธบิ ายหลกั การของพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 โดยพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 มบี ทบญั ญตั หิ ลายมาตราทม่ี อบอานาจใหร้ ฐั มนตรหี รอื อธบิ ดกี รม พฒั นาธุรกจิ การค้า ไปออกกฎกระทรวงหรอื ประกาศกาหนดหลกั เกณฑ์ปฏบิ ตั ิเร่อื งต่าง ๆ ในทางปฏบิ ตั ิการ กาหนดหลักเกณฑ์ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการบญั ชี กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการหารือร่วมกันกับ หน่วยงานท่ีเก่ยี วข้องและสถาบนั วชิ าชีพบญั ชี โดยแต่งตัง้ คณะทางานข้นึ พจิ ารณาดาเนินการประกอบด้วย เจา้ หน้าทก่ี รมพฒั นาธุรกจิ การคา้ ผูแ้ ทนจากสถาบนั วชิ าชพี และหน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ ง ตลอดจนผูท้ รงคุณวุฒิ ทางดา้ นบญั ชจี ากสถาบนั การศกึ ษา เป็นต้น จงึ เป็นหลกั ประกนั ไดว้ ่าขอ้ กาหนดต่าง ๆ จะเป็นไปโดยรอบคอบ และสอดคลอ้ งกบั วธิ ปี ฏบิ ตั ขิ องวชิ าชพี และเป็นไปตามพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 6.ครูและผู้เรียนใช้เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบใช้คาถาม (Questioning Method) หลังจากสรุป สาระสาคญั พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 โดยครจู ะเป็นผถู้ าม และผเู้ รยี นจะตอบ 7.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั ต่อไปน้ี  ผเู้ รยี นศกึ ษากจิ การทเ่ี ป็นนิตบิ ุคคลมา 1 แห่ง แลว้ ศกึ ษาว่าไดป้ ฏบิ ตั งิ านดา้ นบญั ชสี อดคลอ้ ง กบั พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชใี นเร่อื งต่อไปน้อี ย่างไรบา้ ง 1.หน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบของผมู้ หี น้าทจ่ี ดั ทาบญั ชี 2.คุณสมบตั ขิ องผทู้ าบญั ชี 3.จานวนผมู้ หี น้าทจ่ี ดั ทาบญั ชี 4.หน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบของผทู้ าบญั ชี 5.เอกสารทต่ี อ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชี  สรุปเป็นขอ้ ความรดู้ งั กลา่ วขา้ งตน้ พรอ้ มทงั้ นาเสนอ  ผสู้ อนประเมนิ ผล และพจิ ารณาตามความเหมาะสม 8.ผเู้ รยี นตอบคาถามระหวา่ งการบรรรยายเร่อื งพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 เพ่อื ช่วยใหผ้ เู้ รยี นมี ความสนใจไดด้ ยี งิ่ ขน้ึ 9.ครผู สู้ อนและผเู้ รยี น ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เร่อื งพระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 ซง่ึ เป็นสว่ นหน่ึง ของกระบวนการเรยี นรู้ การศกึ ษา การฝึกตน เพ่อื ให้เกดิ การปฏบิ ตั ิพฒั นาความรู้ ความคดิ และการปฏิบตั ิท่ี ถกู ตอ้ ง กอ่ ใหเ้ กดิ ความเจรญิ ในดา้ นอาชพี หรอื เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม 10.เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 11.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพอ่ื ฝึกทกั ษะการเรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ จากบทเรยี น ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 12.ผสู้ อนสมุ่ ผเู้ รยี นตอบคาถาม เพอ่ื วดั และประเมนิ ผลว่าผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงคท์ ก่ี าหนด ไวห้ รอื ไม่ หรอื มากน้อยเพยี งไรเพ่อื ใหส้ ามารถประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ต่อไป 13.ผเู้ รยี นและผสู้ อนสรปุ พระราชบญั ญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ. 2543 14.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และนาผลงานสง่ ครผู สู้ อน สือ่ และแหล่งการเรียนรู้

14 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กจิ กรรม, กรณศี กึ ษา 3. กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. อนิ เทอรเ์ น็ต 5. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.ใบความรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50%

15 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2.บนั ทกึ การรบั -จ่าย 3.กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 4.มอบหมายใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษารปู แบบธุรกจิ แต่ละประเภท เพอ่ื เสรมิ สรา้ งทกั ษะและประสบการณ์

16 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมิน พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ ่นื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถูกตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ  ไม่นาผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หม่ๆ 6.ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสงิ่ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนที่ได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพิ่มเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ ม่ได้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา แบบประเมินค่านิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ ม่ได้

17 รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมการณ์ใน  สง่ิ ทด่ี งี ามเพอ่ื สว่ นรวม 3.กตญั ญตู อ่ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณีไทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี ่อผอู้ ่นื เผอ่ื แผแ่ ละ  แบง่ ปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ถี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่อื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เม่อื มคี วามพรอ้ มโดยมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ ่อ  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและตอ่ ชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรุง 0-19 คะแนน = ปรบั ปรงุ หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแห่งชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

18 ............................................................................................................................................... ... .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

19 แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบรู ณำกำรท่ี 2 หน่วยท่ี 2 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) สอนครง้ั ที่ 2 (6-10) ช่ือหน่วย/เร่ือง รปู แบบของธรุ กิจ จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. แนวคิด การประกอบธุรกจิ สามารถดาเนินการได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กบั ผู้ประกอบการว่าจะเลือกรูปแบบใด จงึ จะเหมาะสมกบั ตนเองมากที่สุด โดยคานึงถึงผลประโยชน์ที่กิจการจะได้รบั ตามประเภทของธุรกิจนัน้ ได้แก่ กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว หา้ งหนุ้ สว่ น และบรษิ ทั จากดั อย่างไรก็ตาม รฐั บาลได้เสนอแนวทางให้ผู้ประกอบการน้อมนาเอาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการประกอบธุรกจิ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความสมดลุ ความมนั่ คงและการพฒั นาทย่ี งั่ ยนื ต่อไป ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั 1.อธบิ ายความหมายและประเภทของธรุ กจิ ได้ 2.อธบิ ายกจิ การเจา้ ของคนเดยี วได้ 3.อธบิ ายหา้ งหนุ้ สว่ นได้ 4.อธบิ ายบรษิ ทั จากดั ได้ 5.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 5.2 ความมวี นิ ยั 5.9 ความรกั สามคั คี 5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.10 ความกตญั ญกู ตเวที 5.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 5.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 5.6 การประหยดั 5.7 ความสนใจใฝร่ ู้ สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนอ งบการเงนิ ในการปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อุตสาหกรรมตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สาระการเรียนรู้ 1.ความหมายและประเภทของธรุ กจิ

20 2.กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว 3.หา้ งหนุ้ สว่ น 4.บรษิ ทั จากดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.ครูพิจารณาถงึ พ้ืนฐานความรู้ ประสบการณ์เดมิ ความสามารถของผู้เรยี น โดยใชว้ ธิ พี ูดคุย ซกั ถาม ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั ธรุ กจิ ว่ามลี กั ษณะเป็นอยา่ งไรบา้ ง 2.ครแู จง้ เน้อื หารายวชิ าและหลกั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลของวชิ าน้ี 3.ผู้เรียนทาแบบทดสอบเพ่ือเตรยี มเน้ือหาและวิธีการสอนเร่อื งรูปแบบธุรกิจในปจั จุบันโดยใช้เวลา ประมาณ 10 นาที แลว้ เกบ็ คะแนนไวป้ ระเมนิ ผล ขนั้ สอน 4.ครูและผู้เรยี นใช้เทคนิคการสอนแบบบรรยาย ซ่ึงเป็นการสอนท่ีเน้นเน้ือหาสาระท่ีนาเสนอโดย ครผู สู้ อน ผบู้ รรยายจะเสนอปญั หาวธิ กี ารต่างๆในการแกป้ ญั หา และสรปุ ดว้ ยว่าวธิ กี ารใดเป็นวธิ กี ารแกป้ ญั หาทด่ี ี ทส่ี ุดตามหลกั การ เพ่อื ให้ผู้เรยี นไดร้ บั ความรู้หลายๆแนวคดิ ก่อนท่จี ะสรุปเป็นขอ้ คดิ หรอื ทางเลอื กท่เี หมาะสม เกย่ี วกบั รปู แบบธุรกจิ ดงั ต่อไปน้ี 4.1 ความหมายและประเภทของธุรกจิ 4.2.กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว 4.3 หา้ งหนุ้ สว่ น 4.4.บรษิ ทั จากดั 5.ครแู ละผเู้ รยี นใช้ Power Point เป็นสอ่ื ในการเรยี นการสอน โดยเตรยี มสอ่ื ใหพ้ รอ้ มอย่ใู นสภาพใชก้ ารได้ ดี เพอ่ื จะช่วยใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจบทเรยี นไดด้ ยี ง่ิ ขน้ึ 6.ผเู้ รยี นเขยี นโครงสรา้ งรปู แบบการดาเนนิ ธุรกจิ กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว (Single Proprietorship) หา้ งหนุ้ สว่ น (Partnership) และบรษิ ทั จากดั (Limited Company) 6.ผเู้ รยี นอา่ นกรณีศกึ ษาโรงแรมทวิ ตะวนั แลว้ ตอบคาถามดงั น้ี 6.1 มกี ารดาเนนิ ธรุ กจิ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา่ งไรบา้ ง

21 6.2 มกี ารนามาประยกุ ตใ์ ชแ้ ละเชอ่ื มโยงภายในชมุ ชนอยา่ งไรบา้ ง 6.3 การดาเนนิ ธุรกจิ อย่างไร จงึ จะนาไปสู่ “การท่องเทย่ี วอย่างยงั่ ยนื ” ดงั ไดก้ ล่าวไวข้ า้ งตน้ 6.4 อ่นื ๆ 7.ผู้เรยี นตอบคาถามระหว่างการบรรรยายเร่อื งความหมายและประเภทของธุรกจิ เพ่อื ช่วยใหผ้ ู้เรยี นมี ความสนใจไดด้ ยี งิ่ ขน้ึ 8.ผเู้ รยี นบอกลกั ษณะของกจิ การเจา้ ของคนเดยี ว หา้ งหนุ้ สว่ น และบรษิ ทั จากดั รวมทงั้ การประกอบธุรกจิ แบบพอเพยี ง โดยครใู หผ้ เู้ รยี นตอบคาถามระหว่างการบรรยาย จะช่วยใหผ้ เู้ รยี นต่นื ตวั และสนใจไดด้ ขี น้ึ 9.ครูผูส้ อนและผเู้ รยี น ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เร่อื งรูปแบบของธุรกจิ แต่ละประเภท ซ่งึ เป็นส่วนหน่ึงของ กระบวนการเรยี นรู้ การศกึ ษา การฝึกตน เพ่อื ใหเ้ กดิ การปฏบิ ตั พิ ฒั นาความรู้ ความคดิ และการปฏบิ ตั ทิ ถ่ี ูกต้อง กอ่ ใหเ้ กดิ ความเจรญิ ในดา้ นอาชพี หรอื เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม 10.เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ 11.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพ่อื ฝึกทกั ษะการเรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ จากบทเรยี น ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 12.ผสู้ อนสมุ่ ผเู้ รยี นตอบคาถาม เพ่อื วดั และประเมนิ ผลวา่ ผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงคท์ ก่ี าหนด ไวห้ รอื ไม่ หรอื มากน้อยเพยี งไรเพอ่ื ใหส้ ามารถประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ต่อไป 13.ผเู้ รยี นและผสู้ อนสรปุ รปู แบบธรุ กจิ แต่ละประเภท โดยทากจิ กรรมผา่ นกรณศี กึ ษาในลกั ษณะต่างๆ 14.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และนาผลงานสง่ ครผู สู้ อน สือ่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กจิ กรรม, กรณศี กึ ษา 3. กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณชิ ย์ หรอื http://www.dbd.go.th 4. อนิ เทอรเ์ นต็ 5. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ 4.ใบความรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจกจิ กรรม

22 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ ่าน 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1.ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2.บนั ทกึ การรบั -จ่าย 3.กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 4.มอบหมายใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษารปู แบบธุรกจิ แต่ละประเภท เพอ่ื เสรมิ สรา้ งทกั ษะและประสบการณ์

23 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หม่ๆ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

24 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรุง, 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมการณ์ใน  สงิ่ ทด่ี งี ามเพอ่ื สว่ นรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผอ่ื แผแ่ ละ  แบ่งปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ถี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ มอ่ื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เม่อื มคี วามพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ ่อ  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ต่อ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรุง 0-19 คะแนน = ปรบั ปรงุ หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นิยม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน

25 .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบูรณำกำรที่ 3 26 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) หน่วยท่ี 3 สอนครงั้ ที่ 3 (11-15) ช่ือหน่วย/ช่ือเร่ือง การจดทะเบียนพาณิชยแ์ ละการจดั การเอกสาร จำนวน 5 ช.ม. ท่ีเกี่ยวขอ้ ง แนวคิด การดาเนินธุรกจิ ทเ่ี ขา้ ขา่ ยเป็นกจิ การตามพระราชบญั ญตั ทิ ะเบยี นพาณิชย์ พ.ศ. 2499 กาหนด ตอ้ งย่นื ขอจดทะเบยี นพาณิชยภ์ ายใน 30 วนั นบั แต่วนั ทไ่ี ดเ้ รมิ่ ประกอบกจิ การ ผมู้ หี น้าทจ่ี ดทะเบยี นพาณชิ ย์ คอื บุคคล ธรรมดาคนเดยี วหรอื หลายคน (หา้ งหุน้ สว่ นสามญั ) หรอื นิตบิ ุคคล รวมทงั้ นิตบิ ุคคลทต่ี งั้ ขน้ึ ตามกฎหมายต่างประเทศ ทม่ี าตงั้ สานกั งานสาขาในประเทศไทย ซง่ึ ประกอบกจิ การอนั เป็นพาณชิ ยกจิ ตามทก่ี ระทรวงพาณิชยก์ าหนด ผลการเรียนรูท้ ีค่ าดหวงั 1.บอกหน้าทข่ี องผจู้ ดทะเบยี นพาณชิ ยไ์ ด้ 2.บอกกจิ การทต่ี อ้ งจดทะเบยี นพาณิชยไ์ ด้ 3.บอกกจิ การทไ่ี ดร้ บั การยกเวน้ ไม่ตอ้ งจดทะเบยี นพาณิชยไ์ ด้ 4.บอกสถานทจ่ี ดทะเบยี นและกาหนดระยะเวลาการจดทะเบยี นพาณิชยไ์ ด้ 5.บอกบทกาหนดโทษและคา่ ธรรมเนียมการจดทะเบยี นพาณิชยไ์ ด้ 6.อธบิ ายการจดทะเบยี นผปู้ ระกอบการพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ด้ 7.มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 7.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 7.2 ความมวี นิ ยั 7.3 ความรบั ผดิ ชอบ 7.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 7.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 7.6 การประหยดั 7.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 7.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 7.9 ความรกั สามคั คี 7.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนอ

27 งบการเงนิ ในการปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ บรกิ าร ธุรกจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อุตสาหกรรมตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบุในกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สาระการเรียนรู้ 1.ผมู้ หี น้าทจ่ี ดทะเบยี นพาณชิ ย์ 2.ผปู้ ระกอบการทต่ี อ้ งจดทะเบยี นพาณิชย3์ .พาณิชยกจิ ทไ่ี ดร้ บั การยกเวน้ ไมต่ อ้ งจดทะเบยี นพาณิชย์ 4.สถานทจ่ี ดทะเบยี นและกาหนดระยะเวลาการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 5.บทกาหนดโทษและคา่ ธรรมเนยี มการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 6.การจดทะเบยี นผปู้ ระกอบการพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1.ครซู กั ถามพดู คยุ กบั ผเู้ รยี น เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มก่อนเรยี นในเร่อื งการจดทะเบยี นพาณิชยแ์ ละการ จดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 2.ทบทวนการบรรยายในครงั้ ก่อนเพอ่ื เช่อื มโยงกบั เรอ่ื งใหม่ 3.ครวู ธิ ใี ชค้ าถามกระตุน้ ผเู้ รยี น และคาแนะนารปู แบบการเรยี นการสอนแบบร่วมแรงรว่ มใจ 4.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยใชเ้ วลาประมาณ 10 นาที แลว้ สลบั กนั ตรวจ ขนั้ สอน

28 5.ครแู ละผเู้ รยนี ใชเ้ ทคนิควธิ สี อนแบบใชโ้ สตทศั นวสั ดุ (Audio-Visual Material of Instruction Method) เป็นวิธสี อนท่ีนาอุปกรณ์โสตทศั น์วสั ดุมาช่วยพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอน โสตทศั น์วสั ดุดงั กล่าว ได้แก่ Power Point เพอ่ื ประกอบการอธบิ ายเน้อื หา เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความรคู้ วามรคู้ วามเขา้ ใจในเน้อื หาทเ่ี รยี น โดย -บอกโครงเร่อื ง เครอื ขา่ ยของเน้อื หา และแจง้ จุดประสงคข์ องบทเรยี นของเร่อื งดงั ต่อไปน้ี -ผมู้ หี น้าทจ่ี ดทะเบยี นพาณิชย์ -ผปู้ ระกอบการทต่ี อ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย์ -พาณชิ ยกจิ ทไ่ี ดร้ บั การยกเวน้ ไมต่ อ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย์ -ประเภทการจดทะเบยี น -สถานทจ่ี ดทะเบยี นและกาหนดระยะเวลาการจดทะเบยี นพาณิชย์ -บทกาหนดโทษ และคา่ ธรรมเนียมการจดทะเบยี นพาณิชย์ -การจดทะเบยี นผปู้ ระกอบการพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 6.ครอู ธบิ ายเน้อื หาอยา่ งชดั เจนตามลาดบั เน้อื หาอย่างต่อเน่อื งกนั .ในระหว่างสอนกจ็ ะสงั เกตปฏกิ ริ ยิ าของ ผเู้ รยี นตลอดเวลาเพ่อื การยา้ หรอื หยดุ ทบทวนใหม่ 7.ครใู ชถ้ ามคาถามในบางตอนของเน้อื หาเพอ่ื กระตุ้นความสนใจของผเู้ รยี น พรอ้ มทงั้ ยกตวั อยา่ งประกอบ เพอ่ื เพม่ิ ความแจ่มแจง้ ในบทเรยี น 8.ผเู้ รยี นจบั ค่คู ุยกนั เพอ่ื แลกเปลย่ี นความรจู้ ากการศกึ ษาในความรแู้ ละเอกสาร ตาราเรยี น 9.ผเู้ รยี นวางแผนการนาหลกั ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ ชใ้ นการคานวณ ซง่ึ ในเน้อื หาของสปั ดาห์ น้สี ามารถสรปุ ไดด้ งั น้ี (1) สรา้ งภูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เองได้ เช่น ใชค้ วามรอบคอบในการคานวณไมใ่ หผ้ ดิ พลาด (2) มเี หตุผลในการวเิ คราะหเ์ อกสารเพอ่ื ใชใ้ นการจดทะเบยี นธรุ กจิ (3) มคี วามเพยี งพอ ในการนาเงนิ มาลงทุนในกจิ การ (4) มเี ง่อื นไขดา้ นคุณธรรม ไดแ้ ก่ การคานวณใหถ้ ูกตอ้ ง (5) มเี ง่อื นไขวชิ าการ ไดแ้ ก่ การคานวณตามกรมพฒั นาธรกจิ การคา้ ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 10.สรุปโดยใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถาม และฝึกทกั ษะปฏบิ ตั กิ รณศี กึ ษา 1.ผมู้ หี น้าทจ่ี ดทะเบยี นพาณิชย์ 2.ผปู้ ระกอบการทต่ี อ้ งจดทะเบยี นพาณชิ ย3์ .พาณิชยกจิ ทไ่ี ดร้ บั การยกเวน้ ไมต่ อ้ งจดทะเบยี น พาณิชย์ 4.สถานทจ่ี ดทะเบยี นและกาหนดระยะเวลาการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 5.บทกาหนดโทษและค่่าธรรมเนยี มการจดทะเบยี นพาณชิ ย์ 6.การจดทะเบยี นผปู้ ระกอบการพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ 11.ผเู้ รยี นโหลดเอกสารการไดจ้ าก http://www.dbd.go.th เพ่อื ฝึกทกั ษะการจดทะเบยี นพาณชิ ยโ์ ดย ผ่านกจิ กรรมกรณศี กึ ษาต่างๆ ทค่ี รกู าหนดให้ 12.เรยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณิชย์ หรอื http://www.dbd.go.th

29 3. กจิ กรรม 4. อนิ เทอรเ์ นต็ 5. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 6. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 7. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 8. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ กณฑผ์ ่าน 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ า่ น 50%

30 8 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทาใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จ่าย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 4. ฝึกทกั ษะการจดทะเบยี นพาณิชย์ ดาวโหลดเอกสารจา http://www.dbd.go.th ผ่านกจิ กรรม กรณีศกึ ษาทค่ี รกู าหนดให้

31 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าทา่ ทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสงิ่ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หม่ๆ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ กู ตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ขอ้ คิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรุง 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา แบบประเมินค่านิยม 12 ประการ

32 คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็น จรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ดุ มการณ์ใน  สง่ิ ทด่ี งี ามเพอ่ื ส่วนรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเล่าเรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณไี ทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละ  แบ่งปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ถี กู ตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่อื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เมอ่ื มคี วามพรอ้ มโดยมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ ่อ  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและต่อชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรงุ 0-19 คะแนน = ปรบั ปรุง หมายเหตุ อา้ งองิ ค่านิยม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

33 .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบรู ณำกำรที่ 4 34 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) หน่วยที่ 4 ช่ือหน่วย/ชื่อเร่ือง การจดทะเบียนห้างห้นุ สว่ น สอนครงั้ ท่ี 4 (16-20) จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. แนวคิด เม่อื มบี ุคคลตงั้ แต่สองคนขน้ึ ไป ตกลงทจ่ี ะร่วมลงทุนประกอบกจิ การเป็นหา้ งหุน้ ส่วนนิตบิ ุคคลประเภท ใดประเภทหน่ึงแล้ว ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จดั การ ซ่งึ ไดร้ บั การแต่งตงั้ จากผู้เป็นหุน้ ส่วนทุกคนจะต้องเป็นผู้มีหน้าท่ี ดาเนนิ การขอจดทะเบยี นจดั ตงั้ หา้ งหุน้ สว่ นนนั้ ต่อพนกั งานเจา้ หน้าท่ี ณ สานกั งานทะเบยี นหนุ้ ส่วนบรษิ ทั ทห่ี า้ งนนั้ มสี านักงานแห่งใหญ่ตงั้ อยู่ กรณีทเ่ี ป็นหา้ งหุน้ ส่วนจากดั กฎหมายกาหนดใหผ้ ู้เป็นหุ้นส่วนผู้จดั การ ซ่งึ หุน้ สว่ น ผจู้ ดั การจะเป็นไดเ้ ฉพาะแต่ผเู้ ป็นหุน้ สว่ นจาพวกไมจ่ ากดั ความรบั ผดิ เท่านนั้ ในกรณที ห่ี า้ งหนุ้ สว่ นจดทะเบยี นไดต้ กลงทจ่ี ะแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ รายการใดๆ ทไ่ี ดจ้ ดทะเบยี นไวเ้ ป็นอยา่ งอ่นื หรอื ประสงคจ์ ะเลกิ กจิ การ กต็ ้องไปดาเนินการขอจดทะเบยี นแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ รายการนนั้ ๆ หรอื จดทะเบยี นเลกิ และ เสรจ็ การชาระบญั ชี ณ สานกั งานทะเบยี นหนุ้ สว่ นบรษิ ทั ทห่ี า้ งนนั้ มสี านกั งานแห่งใหญ่ตงั้ อยู่ ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวงั 1.จดทะเบยี นจดั ตงั้ หา้ งหนุ้ สว่ นสามญั นติ บิ คุ คลและหา้ งหนุ้ สว่ นจากดั ได้ 2.จดทะเบยี นเลกิ หา้ งหนุ้ สว่ นได้ 3.ชาระบญั ชแี ละจดทะเบยี นเสรจ็ การชาระบญั ชขี องหา้ งหนุ้ สว่ นได้ 4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนอ งบการเงนิ ในการปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี

35 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธุรกจิ บรกิ าร ธรุ กจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อตุ สาหกรรมตามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบใุ นกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สาระการเรยี นรู้ 1.การจดทะเบยี นจดั ตงั้ หา้ งหนุ้ สว่ นสามญั นติ บิ คุ คลและหา้ งหนุ้ สว่ นจากดั 2.การเลกิ หา้ งหนุ้ สว่ น 3.การชาระบญั ชแี ละการจดทะเบยี นเสรจ็ การชาระบญั ชขี องหา้ งหนุ้ สว่ น กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน 1.ครซู กั ถามพดู คยุ กบั ผเู้ รยี น เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มก่อนเรยี นในเรอ่ื งการจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ สว่ นและการ จดั การเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 2.ทบทวนการบรรยายในครงั้ ก่อนเร่อื งการจดทะเบยี นพาณิชย์ เพ่อื เชอ่ื มโยงกบั เรอ่ื งการจดทะเบยี นหา้ ง หนุ้ สว่ น 3.ครวู ธิ ใี ชค้ าถามกระตุน้ ผเู้ รยี น และคาแนะนารปู แบบการเรยี นการสอนแบบรว่ มแรงรว่ มใจ 4.ผเู้ รยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยใชเ้ วลาประมาณ 10 นาที แลว้ สลบั กนั ตรวจ ขนั้ สอน 5.ครูอธิบายเน้ือหา เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความรู้ความเข้าใจในเน้ือหาท่ีเรยี น โดยบอกโครงเร่อื ง เครอื ขา่ ยของเน้อื หา และแจง้ จดุ ประสงคข์ องบทเรยี นของเรอ่ื งการจดทะเบยี น จดั ตงั้ หา้ งหุน้ สว่ นสามญั นิตบิ ุคคลและหา้ งหุน้ ส่วนจากดั การเลกิ ห้างหุน้ สว่ น การชาระบญั ชแี ละการจดทะเบยี น เสรจ็ การชาระบญั ชขี องหา้ งหนุ้ สว่ น

36 6.ครูอธบิ ายเน้อื หาอย่างชดั เจนตามลาดบั เน้ือหาอย่างต่อเน่ืองกนั .ในระหว่างสอนกจ็ ะสงั เกตปฏกิ ริ ยิ า ของผเู้ รยี นตลอดเวลาเพอ่ื การย้าหรอื หยดุ ทบทวนใหม่ 7.ครใู ชถ้ ามคาถามในบางตอนของเน้อื หาเพ่อื กระตุน้ ความสนใจของผเู้ รยี น พรอ้ มทงั้ ยกตวั อยา่ งประกอบ เพอ่ื เพมิ่ ความแจ่มแจง้ ในบทเรยี น 8.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั ต่อไปน้ี 8.1 เขยี นแผนภมู ิ หรอื โครงสรา้ งการจดทะเบยี นแปรสภาพหา้ งหนุ้ สว่ นเป็นบรษิ ทั จากดั 8..2 กรอกรายละเอยี ดใบเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งสามารถ Download ไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ www.dbd.go.th 8.3 กาหนดโจทยก์ รณศี กึ ษาประกอบในการกรอกเอกสารเอง 8.4 นาสง่ ครู ผสู้ อน เพอ่ื ประเมนิ ผล 9.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั ต่อไปน้ี 9.1 เขยี นแผนภูมิ หรอื โครงสร้างการชาระบญั ชแี ละการจดทะเบยี นเสรจ็ การชาระบญั ชขี อง หา้ งหนุ้ สว่ นจากดั 9..2 กรอกรายละเอยี ดใบเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งสามารถ Download ไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ www.dbd.go.th 9.3 กาหนดโจทยก์ รณีศกึ ษาประกอบในการกรอกเอกสารเอง 9.4 นาสง่ ครู ผสู้ อน เพ่อื ประเมนิ ผล 10.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั น้ี 1. จดั ทารายงาน 1 เลม่ โดยแบง่ เป็นกลุ่มผเู้ รยี นตามสภาพผเู้ รยี น 2. ศกึ ษาการจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ สว่ นแต่ละประเภท 3. เลอื กกจิ การหา้ งหนุ้ สว่ นทส่ี นใจหรอื จาลองสถานการณ์จรงิ มา 1 กจิ การ 4. ดาเนนิ การจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ สว่ นตามกรณี ดงั ต่อไปน้ี (1) จดั ตงั้ หา้ งหนุ้ สว่ น (2) จดทะเบยี นแกไ้ ขเปลย่ี นแปลงหา้ งหนุ้ สว่ นจากดั 2.1 แกไ้ ขเปลย่ี นแปลงวตั ถุประสงคแ์ ละสานกั งาน 2.2 แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั ผเู้ ป็นหุน้ สว่ น (หนุ้ สว่ นเขา้ ใหม่/ออก/เพมิ่ -ลดทนุ /เปลย่ี นจาพวก) 2.3 แกไ้ ขเปลย่ี นแปลงช่อื และดวงตราสาคญั (3) แปรสภาพหา้ งหนุ้ สว่ นเป็นบรษิ ทั จากดั (4) เลกิ หา้ งหนุ้ สว่ น (5) แกไ้ ขเปลย่ี นแปลงตวั ผชู้ าระบญั ชี (6) เสรจ็ การชาระบญั ชี 5. สามารถขอและซอ้ื คาขอจดทะเบยี นและเอกสารประกอบการจดทะเบยี นต่างๆ ได้ท่ีหน่วยงาน ของกรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ ทกุ แหง่ หรอื ดาวน์โหลดไดจ้ าก http://www.dbd.go.th 6. รวบรวมผลงานสง่ ครเู ป็นรายงานกลุ่มละ 1 เล่ม เพ่อื ประเมนิ ผล 11.ผเู้ รยี นวางแผนการนาหลกั ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ ชใ้ นการคานวณ ซง่ึ ในเน้อื หาของสปั ดาหน์ ้ี สามารถสรุปไดด้ งั น้ี (1) สรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั เองได้ เช่น ใชค้ วามรอบคอบในการคานวณไมใ่ หผ้ ดิ พลาด (2) มเี หตุผลในการวเิ คราะหเ์ อกสารเพ่อื ใชใ้ นการจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ สว่ น (3) มคี วามเพยี งพอ ในการนาเงนิ มาลงทุนในกจิ การหา้ งหนุ้ สว่ น

37 (4) มเี งอ่ื นไขดา้ นคณุ ธรรม ไดแ้ ก่ การคานวณใหถ้ ูกตอ้ ง (5) มเี ง่อื นไขวชิ าการ ไดแ้ ก่ การคานวณตามกรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ ขนั้ สรปุ และการประยุกต์ 12.สรปุ โดยใหผ้ เู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั กิ ารจดทะเบยี นจดั ตงั้ หา้ งหนุ้ สว่ นสามญั นิตบิ ุคคลและหา้ งหนุ้ สว่ นจากดั การเลกิ หา้ งหนุ้ สว่ น การชาระบญั ชแี ละการจดทะเบยี นเสรจ็ การชาระบญั ชขี องหา้ งหนุ้ สว่ น โดยดาวน์โหลดเอกสาร จาก http://www.dbd.go.th ผ่านกจิ กรรมกรณศี กึ ษาต่างๆ ทค่ี รกู าหนดให้ 13.เรยี นทากจิ กรรม และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นวชิ ากระบวนการจดั ทาบญั ชี (20201-2008) ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. กรมพฒั นาธรุ กจิ การคา้ กระทรวงพาณิชย์ หรอื http://www.dbd.go.th 3. กจิ กรรม 4. อนิ เทอรเ์ นต็ 5. Power Point หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ผลงานของผเู้ รยี น 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ตรวจกจิ กรรม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4. ตรวจแบบประเมนิ ผลการฝึกปฏบิ ตั ิ 5. ประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 6 ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ 7 สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 8 การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรม 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้

38 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรู้ 8. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรม เกณฑผ์ ่าน คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลแบบฝึกปฏบิ ตั ิ เกณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ ่าน 50% 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาความรผู้ า่ น 50% 8 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. ทากจิ กรรมและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. บนั ทกึ การรบั -จา่ ย 3. กจิ กรรมเสนอแนะผเู้ รยี นเป็นสาคญั และสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 4. ฝึกปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการจดทะเบยี นหา้ งหนุ้ สว่ นในกรณีต่างๆ

39 แบบประเมินกิจกรรมส่งเสริมคณุ ธรรมนาความรู้ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจริง โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 5 = ดมี าก, 4 = ด,ี 3 = พอใช,้ 2 = ควรปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ ม่ได้ รายการประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 54 3 21 1.การมมี นุษยสมั พนั ธ์  แสดงกรยิ าท่าทางสภุ าพต่อผอู้ น่ื  รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 2.ความมวี นิ ยั  ตรงต่อเวลาในการทางาน  ประพฤตติ นถกู ตอ้ งตามศลี ธรรมอนั ดงี าม 3.ความรบั ผดิ ชอบ  ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายเสรจ็ ตามกาหนด  ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ 4.ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ  ไมน่ าผลงานผอู้ น่ื มาแอบอา้ งเป็นของตนเอง  พดู ในสง่ิ ทเ่ี ป็นความจรงิ 5.ความสนใจใฝร่ ู้  ศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง  แสวงหาประสบการณ์และความรใู้ หมๆ่ 6.ความเช่อื มนั่ ในตนเอง  กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อย่างมเี หตุผล  กลา้ ทกั ทว้ งในสง่ิ ทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง รวมคะแนนท่ีได.้ .....................................คะแนน ข้อคิดเหน็ เพ่ิมเติม 1.กระบวนการคดิ ทใ่ี ช้ คอื ……….…………………………………….………………………… 2.สง่ิ ทค่ี วรปรบั ปรุง คอื ……….…………………………………….…………………………… ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 15-19 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ 25-27 คะแนน = ดี 0-14 คะแนน = ใชไ้ มไ่ ด้ 20-24 คะแนน = พอใช้ หมายเหตุ อา้ งองิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน มาตรฐานการอาชวี ศกึ ษา คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา

40 แบบประเมินคา่ นิยม 12 ประการ คาชี้แจง ใหป้ ระเมนิ รายการแต่ละขอ้ แลว้ เขยี นเคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คุณภาพตามความเป็นจรงิ โดยกาหนดน้าหนกั คะแนน ดงั น้ี 4 = ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = ปรบั ปรงุ , 1 = ใชไ้ มไ่ ด้ รายการค่านิ ยม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ 4321 1.มคี วามรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์  2.ซ่อื สตั ย์ เสยี สละ อดทน มอี ุดมการณ์ใน  สงิ่ ทด่ี งี ามเพ่อื สว่ นรวม 3.กตญั ญตู ่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครบู าอาจารย์  4.ใฝห่ าความรู้ หมนั ่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทางตรงและ  ทางออ้ ม 5.รกั ษาวฒั นธรรมไทย ประเพณีไทย  อนั งดงาม 6.มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ หวงั ดตี อ่ ผอู้ ่นื เผ่อื แผแ่ ละ  แบ่งปนั 7.เขา้ ใจ เรยี นรู้ การเป็นประชาธปิ ไตยอนั มี  พระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ ท่ถี ูกตอ้ ง 8.มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ ้อยรจู้ กั เคารพ  ผใู้ หญ่ 9.มสี ตริ ตู้ วั รคู้ ดิ รทู้ า รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช ดารสั ของ  พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั 10.รจู้ กั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ  พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระ เจา้ อยหู่ วั รจู้ กั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่อื ยามจาเป็น มไี วพ้ อกนิ พอใช้ ถา้ เหลอื กแ็ จกจา่ ย จาหน่าย และขยายกจิ การ เม่อื มคี วามพรอ้ มโดยมภี ูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี 11.มคี วามเขม้ แขง็ ทงั้ รา่ งกายและจติ ใจ ไมย่ อมแพต้ ่อ  อานาจฝา่ ยต่าหรอื กเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา 12.คานึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมและตอ่ ชาติ  มากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง รวมคะแนนทไ่ี ด.้ .....................................คะแนน ผปู้ ระเมนิ .....…………….......................... เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ 28-30 คะแนน = ดมี าก 25-27 คะแนน = ดี 20-24 คะแนน = ปรบั ปรุง 0-19 คะแนน = ปรบั ปรงุ หมายเหตุ อา้ งองิ คา่ นยิ ม 12 ประการ: คณะรกั ษาความสงบแหง่ ชาต:ิ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ออกแบบโดย; เพญ็ ศรี เลิศเกียรติวิทยา บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั การสอน ..................................................................................................................................................

41 .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

แผนกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบบูรณำกำรท่ี 5 42 รหสั วิชา 20201-2008 กระบวนการจดั ทาบญั ชี (1-4-3) หน่วยท่ี 5 สอนครง้ั ที่ 5 (21-25) ช่ือหน่วย/เร่ือง การจดทะเบียนบริษทั จากดั และการจดั การเอกสาร จำนวนชวั่ โมง 5 ช.ม. ที่เก่ียวขอ้ ง แนวคิด การประกอบธรุ กจิ ทม่ี บี คุ คล 3 คนขน้ึ ไปมาลงทุนและเป็นเจา้ ของกจิ การเรยี กวา่ “ผถู้ อื หุน้ ” ผถู้ อื หุน้ จะรบั ผดิ ในหน้ีต่างๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการประกอบธุรกจิ ไม่เกนิ จานวนเงนิ ท่ผี ถู้ ือหุน้ แต่ละคนตกลงจะร่วมลงทุน บรษิ ทั จากดั จะตอ้ งจดทะเบยี นเป็นนติ บิ ุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส่วนการประกอบธุรกจิ ทม่ี ีบุคคล 15 คนขน้ึ ไปมาลงทุนและเป็นเจา้ ของกจิ การเรยี กว่า “ผถู้ อื หุน้ ” ผถู้ อื หุน้ จะรบั ผิดในหน้ีต่างๆ ท่เี กดิ ขน้ึ จากการประกอบธุรกจิ ไม่เกนิ จานวนเงนิ ของผูถ้ ือหุ้นแต่ละคน ตกลงจะร่วม ลงทุนคล้ายกบั บรษิ ัทจากดั จะแตกต่างกนั ก็คือบรษิ ัทมหาชนจากดั สามารถนาหุ้นออกเสนอขายต่อประชาชน โดยทวั่ ไปได้ และมกี ฎขอ้ บงั คบั ต้องปฏบิ ตั เิ คร่งครดั กว่าบรษิ ทั จากดั บรษิ ทั มหาชนจากดั จะต้องจดทะเบยี นเป็นนิติ บคุ คลตามพระราชบญั ญตั บิ รษิ ทั มหาชนจากดั พ.ศ. 2535 ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั 1.อธบิ ายและจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั ได้ 2.อธบิ ายและจดทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ การชาระบญั ชบี รษิ ทั จากดั ได้ 3.อธบิ ายและจดทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั มหาชนจากดั ได้ 4.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะรายวิชา 1.แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กระบวนกาปฏบิ ตั งิ านบญั ชตี ามขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชแี ละนาเสนองบการเงนิ ใน การปฏบิ ตั งิ านทางวชิ าชพี บญั ชี

43 2.บนั ทกึ บญั ชจี ากเอกสารการเงนิ สาหรบั ธรุ กจิ บรกิ าร ธรุ กจิ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และธุรกจิ อุตสาหกรรมตาม ขนั้ ตอนการจดั ทาบญั ชที ร่ี ะบุในกฎหมายทางการบญั ชที เ่ี กย่ี วขอ้ ง 3.จดั ทางบการเงนิ และรายงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง สาระการเรยี นรู้ 1.การจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั 2.การจดทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ การชาระบญั ชบี รษิ ทั จากดั 3.การจดทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั มหาชนจากดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1.ครสู นทนากบั ผเู้ รยี นถงึ รปู แบบของบรษิ ทั จากดั และแสดงรปู ภาพการจดทะเบยี นบรษิ ทั จากดั ให้ ผเู้ รยี นดู เพ่อื ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ และง่ายต่อความเขา้ ใจยง่ิ ขน้ึ การจดทะเบยี นบรษิ ทั จากดั (Company’s Registration) ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ มาตรา 1096 ใหด้ าเนนิ การจดั ตงั้ บรษิ ทั 2 ขนั้ ตอน คอื

44 2.ครูและผู้เรยี นทบทวนการจดทะเบียนจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั โดยแสดงรูปภาพขนั้ ตอนต่างๆ ใหผ้ ู้เรยี น จดั ทาและตอบคาถามได้ เพอ่ื จะเช่อื มโยงไปสกู่ ารจดทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ การชาระบญั ชบี รษิ ทั จากดั และการจด ทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั มหาชนจากดั 3.ครแู สดงตวั อย่างเอกสารในการจดทะเบยี นของบรษิ ทั ในลกั ษณะต่างๆ ขนั้ สอน 4.ครจู ดั การเรยี นรแู้ บบอภปิ ราย มุง่ ใหผ้ เู้ รยี นมโี อกาสสนทนาแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ หรอื ระดมความคดิ ในเร่อื งการจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั เพ่อื หาคาตอบ แนวทางหรอื แกป้ ญั หาร่วมกนั การจดั การเรยี นรู้แบบน้ีมุ่งเน้นให้ ผเู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการเรยี นรู้ คอื รว่ มคดิ รว่ มวางแผน ร่วมตดั สนิ ใจ ร่วมปฏิบตั งิ านและช่นื ชมผลงานรว่ มกนั 5.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั ภายในวนั เดยี ว ดงั รปู ภาพประกอบ

45 6.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั ต่อไปน้ี 6.1 กาหนดโจทยพ์ เิ ศษเป็นกรณีศกึ ษา ประกอบการจดทะเบยี นบรษิ ทั จากดั 6.2. ดาวน์โหลดแบบพิมพ์จดทะเบียนหรือเอกสารต่างๆ จากกร มพัฒ นาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th 6.3 กรอกขอ้ มลู ในแบบพมิ พห์ รอื เอกสารต่างๆ เพ่อื จดทะเบยี นหนงั สอื บรคิ ณหส์ นธิ 6.4 กรอกขอ้ มลู ในแบบพมิ พห์ รอื เอกสารต่างๆ เพ่อื จดทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั ภายในวนั เดยี ว 6.5 นาสง่ ครผู สู้ อนเพ่อื ประเมนิ ผล 7.ครแู นะนาผเู้ รยี นใหบ้ นั ทกึ รายรบั -รายจ่าย โดยกลา่ วถงึ เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การแกไ้ ขปญั หาความ ยากจนภาคปฏบิ ตั ิ เป็นการลงมอื ปฏบิ ตั ิเพ่อื นาพาตวั เองสเู่ ศรษฐกจิ พอเพียง ซ่งึ กค็ อื การอยู่อย่างพ่งึ ตนเองใน ระดบั ครวั เรอื น จะตอ้ งมคี วามพรอ้ มทจ่ี ะอย่อู ย่างพง่ึ ตนเองดว้ ยการ ลดรายจา่ ย เพมิ่ รายได้ เพ่อื ใหเ้ กดิ การออม การพง่ึ ตนเองจะต้องอาศยั การจดบนั ทกึ หรอื เรยี กว่า “จดเป็น พ่งึ ตนเองได้” การจดบนั ทกึ นัน้ เรม่ิ ตงั้ แต่การทา บญั ชีรายรบั -รายจ่ายของครวั เรอื น ไดม้ าเท่าไรจดไว้ จ่ายไปเท่าไรกจ็ ดไว้ ในแต่ละวนั กน็ าสมุดบญั ชรี ายรบั - รายจ่าย ท่จี ดไวม้ าเปิดดูว่า วนั น้ีได้เงนิ มาเท่าไร และจ่ายค่าอะไรบา้ ง มคี ่าอะไรบา้ งทไ่ี ม่มคี วามจาเป็นต้องจ่าย คดิ ทบทวนใหร้ อบคอบ แลว้ กต็ ดั รายการทจ่ี า่ ยไปโดยไมจ่ าเป็นทง้ิ ไป เชน่ ค่าเหลา้ คา่ บหุ ร่ี เป็นตน้ 8.ผเู้ รยี นทากจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ใิ นการจดทะเบยี นจดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั 9.ครแู ละผเู้ รยี นสาธติ การจดทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ การชาระบญั ชบี รษิ ทั จากดั โดยใชส้ อ่ื Power Point ประกอบ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจและกรอกเอกสารในการจดทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ การชาระบญั ชบี รษิ ทั ได้ 10.ครูและผู้เรยี นจดั การเรยี นรู้แบบสถานการณ์จาลอง (Simulation) โดยกาหนดกรณีศกึ ษาเป็นบรษิ ัท จากดั และบรษิ ทั มหาชนจากดั ขน้ึ มาอยา่ งละ 1 แหง่ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั กิ ารจดทะเบยี นการจดั ตงั้ บรษิ ทั การจด ทะเบยี นเลกิ และเสรจ็ การชาระบญั ชบี รษิ ทั จากดั และดาวน์โหลดเอกสารการจดทะเบยี นท่ี http://www.dbd.go.th

46 11.การจดั การเรยี นการสอนแบบสถานการณ์จาลองน้ี ถอื เป็นกระบวนการเรยี นรทู้ ผ่ี สู้ อนใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ไปอยู่ในสถานการณ์ท่ีสร้างขน้ึ มา ซ่ึงสถานการณ์นัน้ จะมีลกั ษณะคล้ายคลงึ กบั สภาพความจริงมากท่ีสุดทงั้ สภาพแวดลอ้ มและปฏสิ มั พนั ธโ์ ดยมกี ารกาหนดบทบาท ขอ้ มูลและกตกิ าไวเ้ พ่อื ใหผ้ เู้ รยี นไดฝ้ ึกการคดิ แกป้ ญั หา และตัดสินใจจากสภาพการณ์ท่ีเขากาลังเผชิญอยู่ ซ่ึงผู้เรียนจะต้องใช้ข้อมูลทัง้ หมดท่ีได้รับประกอบกับ วจิ ารณญาณของตนเองใหป้ ฏบิ ตั หิ น้าทต่ี ามสถานการณ์นนั้ ใหด้ ที ส่ี ดุ ซง่ึ การเรยี นรแู้ บบสรา้ งสถานการณ์จาลองน้ี จะช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การถ่ายโยงการเรยี นไดด้ แี ละสามารถนาไปใชแ้ กป้ ญั หาในชวี ติ จรงิ ได้ 12.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 12.1 ครกู าหนดกรณศี กึ ษให้ แลว้ นาขอ้ มลู มาจดทะเบยี นเลกิ บรษิ ทั จากดั และเสรจ็ การชาระบญั ชี 1.2.2 ดาวน์โห ลดแบ บ พิมพ์จดท ะเบีย น ห รือเอกสารต่างๆ จากกรม พัฒ นาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th 12.3 กรอกขอ้ มลู ในแบบพมิ พห์ รอื เอกสารต่างๆ เพ่อื จดทะเบยี นเลกิ บรษิ ทั จากดั และเสรจ็ การชาระบญั ชี 12.4 นาสง่ ครผู สู้ อนเพอ่ื ประเมนิ ผล 12.5 ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั ต่อไปน้ี 12.5.1 จดั ทารายงาน 1 เล่ม 12.5.2 แบ่งผเู้ รยี นเป็นกลุ่ม แลว้ จบั สลากหวั ขอ้ ทารายงานตามความเหมาะสม ดงั ต่อไปน้ี 12.5.3 จดทะเบยี นหนงั สอื บรคิ ณหส์ นธิ 12.5.4 จดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั 12.5.5 จดั ตงั้ บรษิ ทั จากดั ภายในวนั เดยี ว 12.5.6 เลกิ บรษิ ทั จากดั 12.1.5 เสรจ็ การชาระบญั ชี 1) ขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการจดทะเบยี นประเภทต่างๆ 2) เอกสารหลกั ฐานทต่ี อ้ งใชใ้ นการจดทะเบยี นประเภทต่างๆ 3) ค่าธรรมเนยี ม และสถานทจ่ี ดทะเบยี น 12.7 กรอกรายละเอยี ดเอกสารทต่ี อ้ งใชใ้ นการจดทะเบยี นประเภทต่างๆ ใหค้ รบถว้ นสมบรู ณ์ 12.8 แบบพมิ พจ์ ดทะเบยี นสามารถขอและซอ้ื ได้จากหน่วยงานของกรมพฒั นาธุรกิจการค้าหรอื ดาวน์โหลดจาก www.dbd.go.th 13.ผเู้ รยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั ต่อไปน้ี 1) จดั ทารายงาน 1 เล่ม 2) แบง่ ผเู้ รยี นเป็นกลมุ่ แลว้ จบั สลากหวั ขอ้ ทารายงานตามความเหมาะสม ดงั ต่อไปน้ี -การจดทะเบยี นเกย่ี วกบั บริษทั มหาชนจากดั -การตงั้ บรษิ ทั มหาชนจากดั -เอกสารหลกั ฐานทต่ี อ้ งใชใ้ นการจดทะเบยี น -คา่ ธรรมเนียม -สถานทจ่ี ดทะเบยี น 3) กรอกรายละเอยี ดเอกสารท่ีต้องใช้ในการจดทะเบียนประเภทต่างๆ ใหค้ รบถว้ นสมบรู ณ์ 4) แบบพมิ พ์จดทะเบยี นสามารถขอและซื้อได้จากหน่วยงานของกรมพฒั นาธุรกจิ การค้าหรอื ดาวน์โหลดจาก www.dbd.go.th