กำหนดกำรสอน รำยวิชำ วิทยำกำรคำนวณ รหัสวชิ ำ ว22104 ภำคเรียนท่ี 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2563 ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 2 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พืน้ ฐำน พุทธศักรำช 2551 จัดทำโดย วำ่ ที่ ร.ต.ธรรมจักร วรี ะพันธ์ ตำแหน่ง ครู โรงเรยี นรตั นบุรี อำเภอรตั นบุรี จงั หวดั สุรินทร์ สังกดั สำนกั งำนเขตพน้ื ทกี่ ำรศกึ ษำมธั ยมศึกษำ เขต 33 สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร
คำอธิบำยรำยวิชำ ศึกษาหลกั การของแนวคิดเชิงคานวณ การแยกส่วนประกอบและการย่อยปัญหา การหารูปแบบการคิดเชิงนามธรรม ตัวอยา่ งและประโยชนข์ องแนวคิดเชิงคานวณเพื่อแก้ปัญหาในชวี ิตประจาวนั ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการออกแบบขั้นตอนวิธีสาหรับแก้ปัญหา การแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การระบุ ข้อมูลเข้า ข้อมูลออก และเงื่อนไขของปัญหา การออกแบบขั้นตอนวิธี การทาซ้า การจัดเรียงและค้นหาข้อมูล ตัวอย่างการ ออกแบบขั้นตอนวิธีเพ่ือแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ การศึกษาตัวอย่างโครงงานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ การกาหนดปัญหา ศกึ ษา วางแผน ดาเนินงาน สรปุ ผล และเผยแพร่ ในการพฒั นาโครงงานที่มีการบูรณาการร่วมกบั วิชาอ่นื และเชือ่ มโยงกับชีวิตจรงิ มีคณุ ธรรมและจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี ตระหนกั ถึงผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีกับสังคม มมี ารยาท ระเบียบ และข้อบังคับในการเลอื กใช้เทคโนโลยีอยา่ งสร้างสรรค์ตอ่ ชีวิต สังคม ส่งิ แวดล้อม และมีการจดั การเทคโนโลยีด้วยการลดการใช้ ทรพั ยากรหรือเลือกใชเ้ ทคโนโลยีที่ไมม่ ผี ลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวช้ีวดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ข้ันตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทัน และมีจรยิ ธรรม มาตรฐานตัวช้วี ัด ตัวชี้วัดที่ 1 ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการพัฒนา โครงงานที่มีการบูรณาการกับวิชาอ่ืนอย่า ง สรา้ งสรรค์ และเชื่อมโยงกบั ชีวติ จริง ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธิบายหลักการของแนวคิดเชงิ คานวณ 2. ใชห้ ลกั การของแนวคดิ เชิงคานวณในการแก้ปญั หา ได้แก่ การแยกส่วนประกอบและการยอ่ ยปัญหา การ หารูปแบบ การคดิ เชิงนามธรรม และขนั้ ตอนวิธี 3. อธบิ ายความหมายของการแก้ปญั หาดว้ ยคอมพวิ เตอร์ 4. ระบุขอ้ มลู เข้า ขอ้ มูลออก และเงอื่ นไขของปญั หา 5. ออกแบบขั้นตอนวิธใี นการแกป้ ัญหา โดยใชร้ ูปแบบต่าง ๆเช่นการกาหนดเง่อื นไขและการทาซา้ 6. ประยกุ ตใ์ ช้ขั้นตอนวธิ กี ารจดั เรียงและค้นหาขอ้ มลู ในการแก้ปญั หา 7. ระบปุ ัญหาในชวี ิตประจาวันท่สี ามารถแกไ้ ขได้ด้วยแนวคิดเชิงคานวณ 8. เลือกปญั หาท่เี หมาะสมตอ่ การนามาพัฒนาเป็นโครงงาน 9. กาหนดจุดประสงค์และขอบเขตของโครงงาน 10. วางแผนพัฒนาและจัดทาข้อเสนอโครงงาน
กำหนดกำรสอน วิชำ ว22104 วิทยำกำรคำนวณ2 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 เวลำเรียน 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภำคเรยี นที่ 1 สัปดำหท์ ่ี ว/ด/ป หน่วย แผน เร่ือง/สำระสำคัญ มำตรฐำน/ตวั ช้ีวัด/ผลกำรเรยี นรู้ เวลำ (ชม.) 1-2 1 1 รู้จกั อัลกอริทมึ มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ขอ้ ที่ 1 2 3-4 1 2 รจู้ กั อัลกอริทมึ มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ขอ้ ท่ี 1 2 2 5-6 1 3 การแยกส่วนประกอบ มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อท่ี 2 2 2 7-8 1 4 การหารปู แบบ มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ขอ้ ท่ี 2,3 2 2 9-10 1 5 การคิดเชงิ นามธรรม มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อท่ี 3,4 2 2 11-12 2 6 การแก้ปัญหา มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อท่ี 6,7 2 13-14 2 7 การแกป้ ัญหาดว้ ยคอมพิวเตอร์ มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ขอ้ ท่ี 5,6,7 2 2 15-16 2 8 การแกป้ ัญหาดว้ ยคอมพิวเตอร์ มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ขอ้ ที่ 5,6,7 2 2 17-18 2 9 การเขยี นขั้นตอนวิธที าซ้า มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อท่ี 5,6 2 2 19-20 2 10 การจดั เรียงข้อมลู มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ขอ้ ที่ 5 2 2 สอบปลายภาค 40 21-22 2 11 การคน้ หาขอ้ มูล มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อที่ 6 23-24 3 12 การกาหนดปญั หา มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อที่ 5,6,7 25-26 3 13 การกาหนดขอบเขตของปญั หา มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ขอ้ ที่ 8,9 27-28 3 14 การวางแผนโครงการ มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อท่ี 8,9 29-30 4 15 โครงงานของเรา มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อท่ี 10 31-32 4 16 พฒั นาโครงงาน มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อท่ี 11 33-34 4 17 การายงานโครงงาน มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ข้อที่ 11 35-36 4 18 Show Time มฐ. ว4.2 ม.4/1 / ขอ้ ที่ 12 สอบปลายภาค รวม
หนว่ ยกำรเรียนรู้ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ภำระงำนและสดั ส่วนคะแนนปริมำณ รหสั วชิ ำ ว22104 ช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ 2 ปีกำรศกึ ษำ 2563 ภำคเรียนที่ 1 ลำดบั ชือ่ หน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร เวลำ คะแนน ภำระงำน/ชิ้นงำน/กจิ กรรม ท่ี เรยี นรู้/ตัวช้วี ดั 1 แนวคิดเชงิ คานวณ มฐ. ว4.2 ม.4 10 15 ใบงาน 2 การแกป้ ญั หา มฐ. ว4.2 ม.4 14 15 ใบงาน 3 โครงงานเบอ้ื งตน้ มฐ. ว4.2 ม.4 6 15 โครงงาน 4 โครงงาน มฐ. ว4.2 ม.4 10 15 รวมหนว่ ยการเรียนรู้ 40 60 คะแนนประเมินผลกลางภาค 20 คะแนนประเมนิ ผลปลายภาค 20 รวมคะแนนประเมนิ ผล 100
โครงสรำ้ งรำยวิชำ รหสั วิชำ ว22104 รำยวชิ ำวทิ ยำกำรคำนวน2 ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 2 จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี จำนวนเวลำ 40 ชว่ั โมง ภำคเรียนท่ี 1 ลำดับ หนว่ ยกำร มฐ. กำร สำระสำคญั ช่วั โมง คะแนน ท่ี เรียนรู้ เรยี นรู้ 1 แนวคิดเชิง มฐ. ว4.2 รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มูล และใช้ความรดู้ ้าน 10 25 คานวณ ม.4 วิทยาการคอมพิวเตอร์ สือ่ ดจิ ทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปญั หาหรือเพมิ่ มูลค่าให้กับ บริการหรือผลิตภัณฑ์ทใ่ี ช้ในชีวิตจริงอย่างสรา้ งสรรค์ 2 การ มฐ. ว4.2 รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมูล และใช้ความรู้ด้าน 14 25 แกป้ ญั หา ม.4 วทิ ยาการคอมพิวเตอร์ สอื่ ดจิ ทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปัญหาหรือเพมิ่ มลู คา่ ให้กับ บริการหรือผลิตภณั ฑ์ทใ่ี ชใ้ นชวี ติ จรงิ อย่างสร้างสรรค์ 3 โครงงาน มฐ. ว4.2 รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู และใช้ความรดู้ ้าน 6 25 เบอื้ งตน้ ม.4 วิทยาการคอมพวิ เตอร์ ส่ือดจิ ิทัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแก้ปัญหาหรอื เพิม่ มูลค่าใหก้ ับ บริการหรอื ผลิตภัณฑ์ทีใ่ ชใ้ นชีวิตจรงิ อย่างสร้างสรรค์ 4 โครงงาน มฐ. ว4.2 รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และใชค้ วามรดู้ ้าน 10 25 ม.4 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ ส่อื ดิจทิ ัล เทคโนโลยี สารสนเทศในการแกป้ ญั หาหรือเพ่ิมมูลค่าใหก้ บั บรกิ ารหรอื ผลติ ภัณฑ์ทใี่ ชใ้ นชีวิตจรงิ อย่างสรา้ งสรรค์ รวมตลอดภำคเรียน 40 100
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 1 รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22104 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 รายวชิ าพื้นฐาน ชือ่ หน่วยท่ี 1 แนวคิดเชงิ คานวณ ช่อื แผน แนวคดิ เชงิ คำนวณ สอนโดย วา่ ที่ ร.ต.ธรรมจักร วรี ะพนั ธ์ เวลาเรียน 4 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 สอนวันท่ี.....เดือน.......................พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................. .......................................................................... 1. มำตรฐำนกำรเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด/ผลกำรเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวติ จริงอยา่ งเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่าทัน และมีจริยธรรม 2. สำระสำคญั 2.1 การแก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ เชงิ คานวณ 2.2 ตัวอย่างปัญหา เชน่ การวาดรปู เชิงเรขาคณติ การเขา้ แถวตามลาดับความสูงให้เร็วท่ีสุด จัดเรยี งเสอ้ื ให้หาได้ง่ายที่สุด 3. ผลกำรเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ผลการเรียนรู้ นกั เรียนสามารถออกแบบอัลกอรทิ มึ ที่ใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปัญหาหรือการทางานท่ี พบในชีวติ จรงิ ได้ มาตรฐานตัวชี้วัด ตวั ชีว้ ดั ที่ 1 ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณในการพฒั นา โครงงานท่มี ีการบรู ณาการกบั วชิ า อื่นอย่างสร้างสรรค์ และเช่ือมโยงกบั ชวี ติ จรงิ 4. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 3.1 อธิบายการแก้ปญั หาโดยใช้กระบวนการคดิ เชงิ คานวณ ซ่ึงประกอบไปดว้ ยการแบง่ ปัญหาใหญเ่ ปน็ ปัญหาย่อย การพจิ ารณารูปแบบ การคิดเชิงนามธรรมและการออกแบบอลั กอริทมึ (K) 3.2 ออกแบบอัลกอรทิ ึมเพือ่ การแกป้ ัญหาโดยใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณ (P) 3. เห็นคุณค่าของการเรียนวชิ าเทคโนโลยี และการตระหนกั ในคุณคา่ ของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยที ี่ใช้ในชวี ิตประจาวัน (A) 5. สมรรถนะท่ีสำคัญ 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
6. สำระกำรเรยี นรู้ แนวคิดเชงิ คานวณ (computational thinking) เปน็ กระบวนการวิเคราะห์ปญั หา เพอ่ื ใหไ้ ด้แนว ทางการหาคาตอบอย่างเป็นขัน้ ตอนทสี่ ามารถนาไปปฏบิ ัติไดโ้ ดยบุคคลหรือคอมพิวเตอรอ์ ยา่ งถูกต้องและ แมน่ ยา ซ่ึงเรียกว่า อลั กอริทมึ ทักษะการใช้แนวคิดเชงิ คานวณจงึ สาคญั ต่อการแก้ปญั หา ช่วยใหส้ ามารถ สอื่ สารแนวคดิ กับผู้อนื่ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ รวมถงึ ชว่ ยพฒั นาพนื้ ฐานในการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ด้วย แนวคิดเชงิ คานวณมีองค์ประกอบที่สาคญั 4 สว่ น ไดแ้ ก่ การแบง่ ปญั หาใหญเ่ ป็นปัญหาย่อย(decomposition) การพิจารณารปู แบบ (pattern recognition) การคิดเชิงนามธรรม (abstraction) และการออกแบบ อัลกอริทึม (algorithm) 7. ควำมสมั พันธ์กับกลุม่ สำระกำรเรียนรู้อ่นื ๆ / บรู ณำกำร 1. กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี 2. กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ 3. การใช้ DLIT 4. บรู ณาการ แผนเศรษฐกิจพอเพยี ง ตามรอยพ่อหลวงรชั กาลที่ 9 8. กิจกรรมกำรเรียนรู้ กิจกรรมกำรเรียนรู้ 8.1 การจัดเตรียม 8.1.1 ใบกิจกรรมท่ี 3.1- 3.2 ตามจานวนกลุ่ม 8.1.2 บตั รช่วยกนั คิดคาถามยอ่ ย ตามจานวนกลมุ่ และกระดาษกราฟ ตามจานวนกลุ่ม 8.1.3 หนังสอื 5 เลม่ หรือสงิ่ ของอื่นทม่ี ีควำมสูงแตกตำ่ งกนั 1 ชุด 8.1.4 แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรมสี ่วนร่วมในชน้ั เรยี น 8.1.5--แบบประเมนิ กำรทำงำนกลุ่ม 8.2 ขัน้ ตอนกำรดำเนนิ กำร ชวั่ โมงที่ 1-2 8.2.1 ผสู้ อนยกตวั อยำ่ งปัญหำในชีวิตประจำวัน แล้วให้ผ้เู รียนต้ังคำถำมย่อยเพ่ือนำไปสวู่ ิธีกำรหำ คำตอบลงในบตั รช่วยกันคดิ คำถำมยอ่ ย ตัวอยำ่ งคำถำมเชน่ ถำ้ ผู้เรยี นต้องกำรเดินทำงจำกบ้ำน ไปสถำนท่ีทไ่ี มร่ จู้ กั นกั เรยี นจะเดินทำงอย่ำงไร แนวคำตอบ ❍ ตอ้ งกำรไปสถำนทีใ่ ด ❍ เดนิ ทำงโดยวิธีกำรใด ❍ เสน้ ทำงเป็นอยำ่ งไร
❍ สถำนท่ีทอี่ ยรู่ ะหวำ่ งทำงมอี ะไรบำ้ ง ❍ สถำนทีน่ น้ั มลี กั ษณะอยำ่ งไร หลกั จำกนัน้ ให้ผูเ้ รยี นแต่ละกลมุ่ ตอบคำถำมท่ีได้ต้ังไว้ ❍ ตอ้ งกำรไปสถำนทใี่ ด คำตอบ หอสมุดประจำจงั หวัด ❍ เดนิ ทำงโดยวธิ ีกำรใด คำตอบ ปั่นจักรยำน ❍ เสน้ ทำงเป็นอยำ่ งไร คำตอบ ป่ันจกั รยำนไปทำงตลำด เมอ่ื ผ่ำนตลำดใหเ้ ล้ยี วขวำที่แยกไฟแดงแรก แล้วตรงไป 500 เมตร เล้ียวซำ้ ย จำกนั้นตรงไปอกี 200 เมตร ❍ สถำนทีท่ ่ีอย่รู ะหว่ำงทำงมอี ะไรบ้ำง คำตอบ มตี ลำด ร้ำนขนม วัด ❍ สถำนท่นี ้นั มลี ักษณะอย่ำงไร คำตอบ เป็นตกึ 2 ช้นั มหี ลังคำทรงไทย 8.2.2 ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนแบ่งเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน ชว่ ยวเิ ครำะห์สถำนกำรณป์ ัญหำแลว้ ตั้งคำถำมย่อย เพ่อื นำไปส่วู ิธใี นกำรหำคำตอบ โดยอำจใหผ้ ้เู รียนเปน็ ผู้กำหนดสถำนกำรณห์ รอื ผูส้ อนเตรยี มไว้ ให้ผ้เู รยี นเป็นผู้เลอื กสถำนกำรณ์ทีส่ นใจ แล้วใหผ้ เู้ รียนนำเสนอผลกำรวเิ ครำะหส์ ถำนกำรณ์ ลงในบัตรชว่ ยกนั คดิ คำถำมย่อย 8.2.3 ผู้สอนแนะนำวำ่ วิธีกำรกำรแก้ปญั หำที่มปี ระสทิ ธิภำพสำมำรถทำได้โดยใช้แนวคิดเชิงคำนวณ ซงึ่ นกั เรยี นจะได้ศึกษำตอ่ ไป 8.2.4 ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นแตล่ ะกลุ่มศกึ ษำเนือ้ หำ หวั ขอ้ 1.1 เรื่อง กำรแบง่ ปัญหำใหญเ่ ปน็ ปญั หำยอ่ ย 1.2 เรือ่ ง กำรพิจำรณำรปู แบบ 1.3 เร่ืองกำรคดิ เชิงนำมธรรม และ 1.4 เร่ืองกำรออกแบบอลั กอริทึม จำกหนงั สือเรยี น หลังกำรน้นั ใหผ้ ู้เรียนทำใบกิจกรรมที่ 3.1 เรือ่ ง วำดแปลนอำคำร 8.2.5 ใหผ้ ู้เรยี นแต่ละกลุม่ เขยี นขัน้ ตอนหลักในขอ้ 2.4 ใหม่ใหเ้ ปน็ ศูนยก์ ำรคำ้ ของกลุม่ โดยให้ใชข้ นั้ ตอน ยอ่ ยเดิม หลงั จำกนนั้ ส่งขน้ั ตอนหลักและข้ันตอนย่อยให้เพอื่ นกลุม่ อ่นื วำดลงในกระดำษกรำฟ เมื่อ วำดเสร็จแลว้ ให้นำกลบั กลุม่ เดิมเพ่อื ดำเนนิ กำรตรวจสอบควำมถูกต้อง 8.2.6 ผสู้ อนสุ่มกลุ่มผู้เรยี นให้นำเสนอคำตอบในแตล่ ะข้อ และผลจำกกำรตรวจสอบควำมถกู ต้อง ชวั่ โมงที่ 3-4 8.2.7 ผสู้ อนยกตวั อย่ำงปัญหำกำรจัดเรยี งหนงั สือตำมลำดับควำมสูง โดยให้ผ้เู รียนลองคิดวิธกี ำรจัดเรียง หนงั สอื หลงั จำกนั้นสุม่ ผ้เู รยี นออกมำ 2 คน โดยให้คนท่ี 1 บอกวิธจี ดั เรียงหนงั สือให้คนที่ 2 ปฏบิ ตั ิตำม โดยคนที่ 2 จะจำลองตัวเองเป็นหนุ่ ยนตซ์ ง่ึ จะปฏิบตั ติ ำมคำสัง่ และไม่สำมำรถคิดเองได้ แล้วใหผ้ เู้ รียนในหอ้ งรว่ มกันอภปิ รำยวำ่ วิธกี ำรเรยี งหนงั สือของเพ่ือนคนที่ 1 เป็นอยำ่ งไรบ้ำง
เชน่ คำสงั่ ชัดเจนหรอื ไม่ สำมำรถนำไปปฏิบัติตำมได้หรือไม่ มีคำสัง่ ใดที่ซำ้ กันหรือไม่ 8.2.8 ผสู้ อนแบง่ กลมุ่ ผู้เรยี นเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 4-5 คน 8.2.9 ผู้เรยี นศึกษำตัวอย่ำงที่ 1.6 แลว้ รว่ มกนั อภิปรำยวำ่ แตกตำ่ งจำกวธิ กี ำรทนี่ ักเรยี นคิดกอ่ นหนำ้ น้ี หรือไม่ อยำ่ งไร หลังจำกนั้นใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกันระดมสมองต่อวำ่ หำกนกั เรยี นจะสอนน้อง จดั เรยี งหนงั สือท่ีมวี ิธีกำรทีแ่ ตกต่ำงจำกตวั อยำ่ ง จะออกแบบอลั กอริทึมอย่ำงไร และเขยี นคำตอบ ลงในใบกจิ กรรมท่ี 3.2 เร่อื ง สอนนอ้ งจัดหนงั สือ แลว้ ใหผ้ เู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ เตรยี มแสดงบทบำท สมมติตำมอัลกอรึทมึ สอนน้องจดั หนงั สือ 8.2.10 ผ้สู อนสมุ่ ทุกกลมุ่ นำเสนอบทบำทสมมติ 8.2.11 ผเู้ รียนและผูส้ อนรว่ มกนั อภปิ รำยถงึ ขอ้ ดีและข้อเสยี ในกำรเรียงหนังสอื ของแต่ละกลมุ่ ใบกจิ กรรม คำถำมย่อย 1. สถานการณ์ คอื ………………………………………………………………………………………………….................. 2. คาถามยอ่ ยเพื่อจะนาไปสู่วิธกี ารหาคาตอบมีดังน้ี 3. ตอบคาถามย่อยในขอ้ 2 ไดด้ งั นี้ ………………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… ………………………………………………………………… ……………………………………………………………… ……………………………………………………………… …………………………………….
ใบกจิ กรรมที่ 3.1 วำดแบบแปลนอำคำร สมำชิกในกลุ่มท่ี …………………….. 2. ชอ่ื -สกลุ …….………………………..…….……….. เลขท่ี ............ 1. ชอ่ื -สกลุ …………….…………………………….….….. เลขท่ี ............ 4. ชอ่ื -สกุล ………………………..….…..…….….….. เลขที่ ........... 3. ชอ่ื -สกุล ……………………………………….….….….. เลขท่ี ............ 1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศกึ ษำเนอื้ หำ หวั ขอ้ 1.1 เรื่อง กำรแบง่ ปญั หำใหญ่เปน็ ปญั หำย่อย 1.2 เร่ือง กำรพจิ ำรณำรปู แบบ 1.3 เรอ่ื ง กำรคิดเชิงนำมธรรม และ 1.4 เรื่อง กำรออกแบบอลั กอริทมึ จำกหนังสือเรียน 2. นักเรยี นพิจำรณำภำพจำลองของโครงกำรศูนย์กำรคำ้ IPST โดยใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณเพื่อนำไปเขียน แบบแปลนโครงกำรอย่ำงงำ่ ยดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยมเี ง่อื นไขใหใ้ ช้รปู เรขำคณติ ทีอ่ อกแบบคร้ัง เดยี วแล้วใช้ได้ท้งั โครงกำร โดยตำรำงแต่ละชอ่ งมขี นำด 10 หน่วย 2.1 แบ่งปญั หาใหญ่เป็นปญั หาย่อย ปัญหายอ่ ยท่ี 1 ………………………………………………………………………………………………………………...…… ปัญหายอ่ ยท่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………...….. ปญั หาย่อยท่ี 3 ………………………………………………………………………………………………………………...…… ปญั หายอ่ ยที่ 4 ………………………………………………………………………………………………………………...…… ปญั หายอ่ ยที่ 5 ………………………………………………………………………………………………………………...…… ปัญหายอ่ ยที่ 6 ………………………………………………………………………………………………………………...…… 2.2 การพจิ ารณารูปแบบ ปัญหายอ่ ยท่ี 1 ………………………………………………………………………………………………………………...…… คาตอบ ……………………………………………………………………………………………………………………………...…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………....…… ปัญหาย่อยท่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………...……
คาตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………...………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………....…… ปัญหายอ่ ยที่ 3 ………………………………………………………………………………………………………………...…… คาตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………...………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………....…… ปญั หายอ่ ยที่ 4 ………………………………………………………………………………………………………………...…… คาตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………...………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………....…… ปญั หาย่อยท่ี 5 ………………………………………………………………………………………………………………...…… คาตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………...………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………....…… ปญั หายอ่ ยท่ี 6 ………………………………………………………………………………………………………………...…… คาตอบ ………………………………………………………………………………………………………………………...………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………....…… รูปแบบโครงสรำ้ งอำคำรในโครงกำร มจี ุดร่วมกันดังน้ี ตวั อำคำร ……………………………………………………………………………………………………………………....……… หลังคำ (มี / ไม่ม)ี …………………………………………………………………………………………………………............ จุดมมุ ลำ่ งซำ้ ย เปน็ จุดเร่ิมต้นในกำรวำงตัวอำคำร 2.3 กำรคิดเชิงนำมธรรม ❍ ช่ืออำคำร ………………………………………………………………………………………………………………………… ตวั อำคำร ………………………………………………………………………………………………………………...... หลงั คำ …………………………………………………………………………………………………………………….... จดุ มมุ ลำ่ งซ้ำย …………………………………………………………………………………………………………..... ❍ ชอื่ อำคำร ………………………………………………………………………………………………………………………… ตวั อำคำร ………………………………………………………………………………………………………………...... หลังคำ …………………………………………………………………………………………………………………….... จดุ มุมลำ่ งซ้ำย …………………………………………………………………………………………………………..... ❍ ชือ่ อำคำร ………………………………………………………………………………………………………………………… ตัวอำคำร ………………………………………………………………………………………………………………...... หลงั คำ …………………………………………………………………………………………………………………….... จุดมมุ ล่ำงซ้ำย …………………………………………………………………………………………………………..... ❍ ช่อื อำคำร …………………………………………………………………………………………………………………………
ตัวอำคำร ………………………………………………………………………………………………………………...... หลังคำ …………………………………………………………………………………………………………………….... จุดมุมล่ำงซ้ำย …………………………………………………………………………………………………………..... 2.4 เขียนอัลกอรทิ ึมวำดแบบแปลนอำคำรดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนหลกั ……………………………………………………………………………………………………………………....… …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... ขั้นตอนยอ่ ยที่ 1 ……………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... ขั้นตอนย่อยที่ 2 ……………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... ขัน้ ตอนย่อยท่ี 3 ……………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....………......... …………………………………………………………………………………………………………………………....……….........
ใบกจิ กรรมท่ี 3.2 สอนนอ้ งจัดหนงั สือ สมำชกิ ในกล่มุ ที่ …………………….. 1. ชอ่ื -สกลุ ………………………………….….. เลขท่ี ............ 2. ช่อื -สกุล ………………………….….. เลขที่ ........... 3. ชื่อ-สกุล ………………………………….….. เลขที่ ............ 4. ชอื่ -สกุล ………………………….….. เลขที่ ........... 1. ศึกษำตัวอยำ่ งที่ 1.6 จำกหนังสือเรยี น 2. รว่ มกนั คิดและออกแบบวิธีกำรสอนนอ้ งจัดหนังสือแบบอนื่ ๆ โดยมวี ธิ ีกำรดังนี้ 2.1 รูปแบบกำรจดั เรียง (เช่น เรยี งควำมสูงจำกน้อยไปมำก มำกไปน้อย เรียงตำมสี เรียงตำมควำมหนำ ของหนังสอื เรียงตำมช่ือหนงั สือ) คอื …………………………………………………………………………………………… 2.2 อลั กอริทึมในกำรจดั เรยี ง …………………………………………………………………………………………….................……………………………………… …………………………………………………………………………………....……….........…………………………………………… ……………………………………………………………………………....……….........………………………………………………… ………………………………………………………………………....……….........……………………………………………………… …………………………………………………………………....……….........…………………………………………………………… ……………………………………………………………....……….........………………………………………………………………… ………………………………………………………....……….........……………………………………………………………………… …………………………………………………....……….........…………………………………………………………………………… ……………………………………………....……….........………………………………………………………………………………… ………………………………………....……….........……………………………………………………………………………………… …………………………………....……….........…………………………………………………………………………………………… 9. สื่อ/แหล่งกำรเรียนรู้ ประเภทสื่อ รำยกำร จำนวน สภำพกำรใชส้ ่ือ 1. วัสดุ 2. เทคนิค สื่อสิ่งพมิ พ์ เช่น หนงั สอื 1 1 3. แหล่งเรยี นรู้ บทควำม และเอกสำร 1 บุคคล เช่น ผู้ปกครอง ครู นักวิชำกำร เจ้ำหนำ้ ท่ีหอ้ ง คอมพวิ เตอร์ ผูเ้ ช่ยี วชำญ ด้ำนเทคโนโลยี สำรสนเทศ เว็บไซต์
10. กำรวัดและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ วธิ กี ำรวัดผล เคร่ืองมือ เกณฑ์กำรผำ่ น 1. ดำ้ นควำมรู้ -การสงั เกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่าน -การทดสอบปฏบิ ัติ -แบบประเมนิ ผลงาน เกณฑใ์ นระดบั ดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่าน เกณฑใ์ นระดับพอใช้ 2. ด้ำนทักษะ -การสังเกต -แบบสงั เกต 1-5 คะแนน ผา่ น กระบวนกำร -การทดสอบปฏบิ ตั ิ -แบบประเมินผลงาน เกณฑใ์ นระดบั ปรบั ปรุง -การตรวจผลงาน 8-10 คะแนน ผ่าน เกณฑใ์ นระดบั ดี 3. ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั -การสังเกต -แบบสงั เกต 6-7 คะแนน ผ่าน -แบบประเมินผลงาน เกณฑใ์ นระดบั พอใช้ พงึ ประสงค์ -การตรวจผลงาน 1-5 คะแนน ผา่ น เกณฑใ์ นระดับปรบั ปรุง ระดับ 3 หมายถงึ ผ่าน เกณฑใ์ นระดับดี ระดบั 2 หมายถงึ ผ่าน เกณฑใ์ นระดบั พอใช้ ระดบั 1 หมายถึง ผา่ น เกณฑใ์ นระดับปรับปรุง 11.กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 อลั กอริทมึ ในการจดั อาจใชว้ ิธีเรยี งแบบเร็ว เรยี งแบบฟอง หรอื อนื่ ๆ 11.2 ผสู้ อนควรใหน้ กั เรยี นทาาปญั หาชวนคิด ในหนังสือเรยี นควบคไู่ ปด้วย 11.3 ตวั อย่างลงิ ก์คลปิ วดิ โี อสาาหรับใบกิจกรรมที่ 3.2 มีดงั นี้ https://www.youtube.com/watch?v=WaNLJf8xzC4 12.ขอ้ เสนอแนะและควำมคดิ เหน็ หัวหนำ้ สถำนศึกษำ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ........................................... (นายยรรยง วงคค์ าจันทร์) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรยี นรตั นบุรี
13 บนั ทึกผลหลงั สอน 1. ดา้ นความรู้ ..........................................................…....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. ด้านทักษะ/สมรรถนะผเู้ รียน......................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค.์ .………............................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. ปญั หาและอปุ สรรค....................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข...................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงชอื่ ................................................ (ว่าท่ี ร.ต.ธรรมจักร วรี ะพนั ธ.์ ) ครู/ผู้สอน ......../ .........../ ..............
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ระดับคุณภาพท่ีใชใ้ นการประเมิน ระดบั 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมิน/ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรงุ
เกณฑก์ ำรประเมินคณุ ลกั ษณ์อนั พงึ ประสงค์ ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) เข้าเรียน สง่ สรปุ ความรู้ทไ่ี ด้ท้าย ชม. ระดบั คุณภาพที่ใช้ในการประเมนิ ระดับ 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดับปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดบั คุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ นระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั ปรับปรุง
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุ รำยกำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ กลุ่มที่ เลขที่ ควำม ่รวม ืมอ รวม 1 23 1 ผลงำน ตรงเวลำ (10) (ปรับปรงุ ) (พอใช้) (ด)ี ควำมสวยงำม 0-5 6-7 8-10 ควำมสะอำด 2 3
แบบบนั ทกึ คะแนนระหว่ำงเรยี น แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง .................. หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1 วชิ า.การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22104 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ช่วั โมง นักเรยี น คะแนน ผลคะแนนระหวา่ งเรยี น รวม การทดสอบ เลขที่ ทดสอบกอ่ น จดุ ประสงค์ที่ จุดประสงค์ท่ี ก่อนเรียน 1 เรียน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
แบบบันทึกคะแนนระหว่ำงเรียน (ต่อ) แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 วิชา วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22104 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชว่ั โมง นกั เรยี น คะแนนทดสอบ ผลคะแนนระหวา่ งเรยี น รวม คะแนนทดสอบ เลขที่ ก่อนเรียน จดุ ประสงค์ที่ จดุ ประสงค์ที่ หลงั เรียน 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เฉล่ยี S.D. รอ้ ยละ ลงชื่อ ............................................(ผบู้ นั ทกึ ) (................................) .............../............../พ. ศ. .....................
แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู ี่ 2 รายวชิ า วทิ ยาการคานวณ รหสั วชิ า ว22104 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 รายวิชาพ้นื ฐาน ช่ือหนว่ ยที่ 1 แนวคดิ เชิงคานวณ ชอ่ื แผนประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ สอนโดย วา่ ท่ี ร.ต.ธรรมจักร วรี ะพันธ์ เวลาเรียน 4 ชวั่ โมง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 สอนวนั ท่ี.....เดอื น.......................พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................. .......................................................................... 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั /ผลกำรเรยี นรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมจี ริยธรรม 2. สำระสำคญั 2.1 การแก้ปัญหาโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณ 2.2 ตวั อยา่ งปัญหา เช่น การวาดรปู เชิงเรขาคณิต การเข้าแถวตามลาดับความสูงให้เร็วท่ีสุด จดั เรยี งเสือ้ ให้หาไดง้ า่ ยทสี่ ุด 3. ผลกำรเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด ผลการเรียนรู้ นักเรียนสามารถออกแบบอลั กอรทิ ึมท่ีใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการแก้ปญั หาหรอื การทางานท่ี พบในชวี ิตจรงิ ได้ มาตรฐานตวั ชีว้ ดั ตัวชว้ี ัดที่ 1 ประยกุ ต์ใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการพฒั นา โครงงานท่มี ีการบรู ณาการกับวชิ า อ่ืนอย่างสร้างสรรค์ และเช่อื มโยงกับชวี ติ จริง 4. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 3.1 อธิบายการแก้ปัญหาโดยใชก้ ระบวนการคิดเชงิ คานวณ ซึ่งประกอบไปด้วยการแบ่งปัญหาใหญเ่ ปน็ ปญั หาย่อย การพจิ ารณารูปแบบ การคดิ เชิงนามธรรมและการออกแบบอลั กอริทมึ (K) 3.2 ออกแบบอลั กอรทิ ึมเพือ่ การแก้ปญั หาโดยใช้แนวคดิ เชิงคานวณ (P) 3. เห็นคณุ คา่ ของการเรยี นวชิ าเทคโนโลยี และการตระหนกั ในคณุ ค่าของความรทู้ างวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีที่ใช้ในชวี ิตประจาวัน (A) 5. สมรรถนะทีส่ ำคัญ 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
6. สำระกำรเรียนรู้ การนาแนวคิดเชงิ คานวณ (computational thinking) ไปใช้ในการแก้ปญั หาจะทาให้สามารถ แก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ แนวคดิ เชงิ คานวณมอี งค์ประกอบทสี่ าคญั 4 ส่วน ไดแ้ ก่ การแบ่งปัญหาใหญ่ เป็นปัญหาย่อย (decomposition) การพจิ ารณารูปแบบ (pattern recognition) การคิดเชงิ นามธรรม (abstraction) การออกแบบ อัลกอริทมึ (algorithm) 7. ควำมสมั พนั ธ์กับกลมุ่ สำระกำรเรียนรอู้ ื่นๆ / บูรณำกำร 1. กลุม่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพ 2. กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ 3. การใช้ DLIT 4. บูรณาการ แผนเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพ่อหลวงรชั กาลท่ี 9 8. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 8.1 กำรจดั เตรยี ม 8.1.1 ใบกจิ กรรมท่ี 4.1- 4.3 ตำมจำนวนกลุ่ม 8.1.2 กระดำษ A4 สำหรับพบั กระดำษในใบกิจกรรมท่ี 4.2 กล่มุ ละ 10 ใบ 8.1.3 แบบทดสอบ เรอ่ื ง แนวคดิ เชิงคำนวณ ตำมจำนวนผูเ้ รยี น 8.1.4 แบบสังเกตพฤติกรรมกำรมีส่วนร่วมในชัน้ เรยี น แบบประเมนิ กำรทำงำนกลุ่ม 8.1.5 แบบประเมนิ กำรออกแบบอัลกอรทิ มึ 8.2 ข้ันตอนกำรดำเนนิ กำร ช่วั โมงที่ 1-2 8.2.1 ผู้สอนทบทวนองคป์ ระกอบของแนวคิดเชิงคำนวณ แล้วถำมผู้เรยี นวำ่ ปัญหำหรอื กำรทำงำน ในชีวิตประจำวนั มีอะไรบำ้ งทีส่ ำมำรถนำแนวคิดเชงิ คำนวณมำใช้แลว้ ทำให้กำรแก้ปัญหำ มีประสิทธภิ ำพมำกขนึ้ 8.2.2 ผู้เรียนศึกษำตัวอยำ่ งท่ี 1.7 จำกหนงั สอื เรยี น แล้วผู้สอนทดสอบโดยกำรส่งั ให้ผ้เู รียนเตน้ ตำม คำส่งั เชน่ มำรช์ ขวำ มำรช์ ซ้ำย ขยับซ้ำยขวำ ขยับขวำซำ้ ย มำรช์ ขวำ 2 รอบ มำรช์ ซำ้ ย 2 รอบ มำรช์ ซำ้ ยและมำรช์ ขวำ 2 รอบ 8.2.3 ผเู้ รียนเลือกเพลงทช่ี อบ หลงั จำกน้นั ศึกษำทำ่ เต้นจำกมวิ สคิ วดิ ีโอ แล้วทำใบกิจกรรมท่ี 4.1 เรื่อง สอนเพือ่ นเต้น 8.2.4 ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นแต่ละกลุม่ แลกเปลี่ยนอัลกอริทึมทำ่ เตน้ จำกใบกิจกรรมท่ี 4.1 แลว้ ให้แต่ละกล่มุ ออกมำเตน้ ตำมอลั กอริทึมท่ีได้รบั จำกเพ่ือนกลุ่มอ่ืน อำจให้ออกมำทลี ะ 2-5 กล่มุ พร้อมกนั โดยให้กลุม่ เจำ้ ของอัลกอรทิ ึมสังเกตและตรวจสอบวำ่ เพอ่ื นเตน้ ได้ตำมทอี่ อกแบบหรอื ไม่ ถ้ำไมไ่ ด้
ใหป้ รับแกอ้ ลั กอริทึมจนกว่ำเพือ่ นจะสำมำรถปฏบิ ตั ิตำมได้ถูกต้อง ผู้สอนอำจเปิดเพลงเพื่อเปน็ กำรใหจ้ ังหวะผู้เรยี นระหว่ำงกำรเต้น 8.2.5 ผู้เรยี นและผ้สู อนร่วมกนั สรปุ สง่ิ ท่ไี ดจ้ ำกกำรทำกจิ กรรม 8.2.6 ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะกลุ่มจับสลำกเพ่อื ศกึ ษำคลปิ วิดีโอพบั กระดำษทีผ่ ้สู อนกำหนด หรือให้ ผเู้ รยี นค้นหำและเลอื กเอง แล้วให้ผเู้ รยี นเขียนอลั กอรทิ มึ ลงในใบกิจกรรมท่ี 4.2 เรือ่ ง บอกเพอ่ื น อย่ำงไรใหท้ ำได้ หลงั จำกนั้นใหแ้ ตล่ ะกลุ่มจับคู่เพอ่ื บอกให้เพือ่ นอีกกลมุ่ ปฏบิ ัตติ ำม หำกเพื่อน อกี กลุม่ ไม่สำมำรถปฏิบตั ิตำมได้ ใหแ้ กไ้ ขอัลกอริทมึ จนกว่ำจะทำงำนไดส้ ำเรจ็ 8.2.7 ผ้เู รียนและผสู้ อนร่วมกันสรุปสิ่งทไ่ี ดจ้ ำกกำรทำกิจกรรมชว่ั โมงท่ี 3-4 8.2.8 ผู้สอนถำมผู้เรียนวำ่ มวี ิธีกำรเลือกเส้ือผำ้ ในกำรแต่งตวั อยำ่ งไร แลว้ มปี ญั หำหรอื ไม่ และทรำบ หรือไม่ วำ่ แตล่ ะวันจะแต่งตัวอย่ำงไร 8.2.9 ผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบกิจกรรมท่ี 4.3 แต่งตัว โดยตวั อยำ่ งขอ้ มลู ในตำรำงเปน็ ดังน้ี 8.2.10 ผ้สู อนส่มุ ผู้เรยี นออกมำนำเสนอวิธีกำรจำกใบกจิ กรรมท่ี 4.3 หนำ้ ช้นั เรียน 8.2.11 ผ้เู รียนและผู้สอนรว่ มกันสรุปสงิ่ ทไี่ ด้จำกกำรทำกจิ กรรม 8.2.12 ผู้เรียนศึกษำตวั อยำ่ งท่ี 1.8 บ่อเล้ยี งปลำวำเลนไทน์ แลว้ รวมกนั สรปุ โดยผูส้ อนยกตวั อย่ำง ควำมยำวด้ำนและควำมลึกของบอ่ รูปหัวใจ แลว้ ให้ผู้เรยี นหำคำตอบ 8.2.13 ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ทำกิจกรรมทำ้ ยบท และเลอื กทำแบบฝึกหัดทำ้ ยบท 8.2.14 ผูเ้ รยี นและผ้สู อนร่วมกันสรปุ แนวคดิ เชงิ คำนวณ 8.2.15 ผูส้ อนใหผ้ เู้ รียนทำแบบทดสอบ
ใบกิจกรรมท่ี 4.1 สอนเพอ่ื นเตน้ สมำชกิ ในกลมุ่ ที่ …………………….. 2. ชอ่ื -สกุล …….……….…….……….. เลขที่ ............ 1. ช่อื -สกุล …….………….…….….….. เลขที่ ............ 4. ช่อื -สกุล …….….……….…….….….. เลขที่ ........... 3. ชอื่ -สกุล …………………..….….….. เลขที่ ............ 1. ศึกษำตัวอยำ่ งที่ 1.7 เต้นตำมจงั หวะ จำกหนังสือเรียน 2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มเลอื กเพลงทกี่ ลมุ่ ตอ้ งกำร แล้วศกึ ษำคลปิ วดี ิโอท่ีมีทำ่ เต้นประกอบเพลงท่กี ลุ่มเลอื ก คือ …………………………………………………………………………………………..……………………………… 3. เลอื กท่ำเตน้ ออกมำจำกคลิปวิดโี อ อย่ำงนอ้ ย 3 ทำ่ แลว้ ตัง้ ช่ือ ท่ำเต้นที่ 1 ช่อื …………………………………………………………………………..………………………………...... วธิ ีเตน้ …………………………………………………………………………………………………………….................. …………………………………………………………………………………………..………………………………............ …………………………………………………………………………………………..………………………………............ ทำ่ เต้นท่ี 2 ชื่อ …………………………………………………………………………..………………………………...... วิธีเตน้ …………………………………………………………………………………………………………….................. …………………………………………………………………………………………..………………………………............ …………………………………………………………………………………………..………………………………............ ท่ำเต้นที่ 3 ชือ่ …………………………………………………………………………..………………………………...... วิธีเตน้ …………………………………………………………………………………………………………….................. …………………………………………………………………………………………..………………………………............ …………………………………………………………………………………………..………………………………........... ทำ่ เต้นที่ 4 ชอ่ื …………………………………………………………………………………………..………………………………...... วธิ ีเตน้ …………………………………………………………………………………………………………….................. …………………………………………………………………………………………..………………………………............ …………………………………………………………………………………………..………………………………............ 4. ออกแบบอัลกอริทึมใหเ้ พอ่ื นเต้นตำม โดยใช้ทำ่ เตน้ ทกุ ทำ่ จำกขอ้ 3 มำประกอบกนั ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ...................................................................................................................................................................
ใบกิจกรรมท่ี 4.2 บอกอย่ำงไรใหเ้ พอื่ นทำได้ สมำชกิ ในกลุ่มท่ี …………………….. 1. ช่อื -สกุล ………………….…….….….. เลขท่ี ............ 2. ช่อื -สกุล ………….…...…….……….. เลขที่ ............ 3. ชื่อ-สกลุ …………………….….….….. เลขที่ ............ 4. ชอ่ื -สกุล …….……….…..…….….….. เลขท่ี 1. ศ.ึก...ษ..ำ..ค...ลปิ วดี โิ อทผ่ี สู้ อนกำหนด 2. คลิปวีดโิ อทีก่ ลมุ่ นกั เรียนไดร้ ับมอบหมำยคือ…………………………………………………………………………… 3. เขียนอลั กอริทึมกำรทำงำนไดด้ งั น้ี ……………………………………………………………………………………….. …………………..........………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………….........……………………………………………………………………….. ………………………………………………………….........………………………………………………………………………..... ………………………………………………………….........………………………………………………………………………..... …………………..........…………………………………………………………………………………………………………………
ใบกจิ กรรมท่ี 4.3 แต่งตวั สมำชิกในกล่มุ ที่ …………………….. 1. ชอ่ื -สกุล ……………….....…….….….. เลขที่ ............ 2. ชื่อ-สกุล …….…...……..….……….. เลขที่ ............ คำช้แี 3จ. งชอ่ืให-สน้ กกั ลุ เร…ียน…ป…ฏ…บิ …ัต…ติ ำ…ม…แ..…ลว้.…อ.ภ…ิป..รำเลยขภทำย่ี .ใ..น..ก...ล..ุ่ม.. พรอ้ 4ม.ทชง้ั ื่อเข-สยี กนลุคำ…ต…อบ.…ล…งใ..น…ช..่อ…ง…ว่ำ.…ง.….. เลขที่ ........... 1. ให้นักเรยี นยกตัวอยำ่ งเคร่อื งแต่งกำย เชน่ เสอ้ื กำงเกง/กระโปรง หมวก รองเทำ้ หรอื อนื่ ๆ ท่ีนกั เรยี นมี หรือสมมติ โดยเขียนประเภทเครื่องแตง่ กำยทห่ี ัวตำรำง แล้วเขียนรำยละเอยี ดลงในคอลมั น์ประเภทของหัว ตำรำง 2. เขยี นอัลกอรทิ มึ ในกำรเลอื กเครือ่ งแต่งกำยเพอื่ ไปเทย่ี วกับเพือ่ น ใหเ้ ข้ำกบั สภำพอำกำศท่อี ำจมอี ำกำศ ร้อนหนำว หรือฝนตก ไดด้ ังน้ี ……………………………………………………………….........………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………….........………………………………………………………………………..... ………………..........……………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………….........……………………………………………………………………….. ……………………………………………………………….........………………………………………………………………………....
แบบทดสอบ แนวคิดเชิงคำนวณ 1. ชอ่ื -สกุล …………………………..………………………….…….….….. เลขท่ี ............. ห้อง............ ใหน้ กั เรยี นออกแบบวิธแี กป้ ัญหำสถำนกำรณต์ อ่ ไปนีโ้ ดยใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณ สถำนกำรณ์ สมมติว่ำนักเรียนเปน็ เจ้ำของกจิ กำรตู้เตมิ เงนิ หยอดเหรียญ กำลังประสบปัญหำกำรนับเหรยี ญจำนวนมำก กอ่ นนำไปฝำกกับธนำคำร เหรียญท่ไี ดม้ ำคละกันมีมูลค่ำต้ังแต่ 1 บำท 2 บำท 5 บำท และ 10 บำท ให้ใช้ แนวคดิ เชงิ คำนวณในกำรหำยอดรวมเงินท้ังหมด การแบง่ ปัญหาเป็นปัญหายอ่ ย ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................. ................................. ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... การพจิ ารณารูปแบบ ..................................................................................................................................... .............................. .................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ......................................................................................................................................................... .......... กำรคดิ เชงิ นำมธรรม ...................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................. ...................................... กำรออกแบบอลั กอรทิ ึม ............................................................................................................................. ...................................... .............................................................................................................................................................. ..... ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ......................................
9. สื่อ/แหลง่ กำรเรียนรู้ 10. กำรวัดและประเมินผล จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ วิธีกำรวัดผล เครื่องมือ เกณฑ์กำรผ่ำน 1. ดำ้ นควำมรู้ -การสังเกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่าน -การทดสอบปฏบิ ตั ิ -แบบประเมินผลงาน เกณฑใ์ นระดับดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่าน -แบบสังเกต เกณฑใ์ นระดบั พอใช้ 2. ดำ้ นทักษะ -การสงั เกต -แบบประเมินผลงาน 1-5 คะแนน ผ่าน กระบวนกำร -การทดสอบปฏิบัติ เกณฑใ์ นระดับปรับปรุง -การตรวจผลงาน -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่าน -แบบประเมนิ ผลงาน เกณฑ์ในระดบั ดี 3. ดำ้ นคุณลักษณะอัน -การสงั เกต 6-7 คะแนน ผา่ น เกณฑใ์ นระดบั พอใช้ พงึ ประสงค์ -การตรวจผลงาน 1-5 คะแนน ผ่าน เกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง ระดับ 3 หมายถึง ผา่ น เกณฑ์ในระดบั ดี ระดับ 2 หมายถงึ ผ่าน เกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผ่าน เกณฑใ์ นระดับปรบั ปรุง
11.กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 ระหวา่ งการนาเสนอท่าเต้นตามอัลกอริทึมในใบกิจกรรมท่ี 4.1 ผ้สู อนอาจเพมิ่ คาสั่งให้ผเู้ รียนทาซ้า ท่าเตน้ นั้นไปเรอื่ ย ๆ หรือจนกว่าเพลงจะจบ 11.2 ตัวอยา่ งลงิ กค์ ลิปวดิ ีโอสาหรบั ใบกจิ กรรมที่ 4.2 มดี ังน้ี https://www.youtube.com/watch?v=5enA_C3e_Rg&t=434s สาหรับพบั กระดาษเปน็ รปู เพชร https://www.youtube.com/watch?v=5enA_C3e_Rg&t=434s สาหรับพบั กระดาษเป็นรูปกล่องหัวใจ https://www.youtube.com/watch?v=hTTwbYi_GzQ สาหรับพบั กระดาษเป็นรูปกางกาง https://www.youtube.com/watch?v=UspcEmV0W-w สาหรับพับกระดาษเป็นรูปเสื้อ 12.ขอ้ เสนอแนะและควำมคดิ เห็นหวั หนำ้ สถำนศกึ ษำ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ........................................... (นายยรรยง วงคค์ าจันทร์) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรียนรตั นบุรี
13 บนั ทึกผลหลงั สอน 1. ดา้ นความรู้ ..........................................................…....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. ด้านทักษะ/สมรรถนะผเู้ รียน......................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค.์ .………............................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. ปญั หาและอปุ สรรค....................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข...................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงชอื่ ................................................ (ว่าท่ี ร.ต.ธรรมจักร วรี ะพนั ธ.์ ) ครู/ผู้สอน ......../ .........../ ..............
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ระดับคุณภาพท่ีใชใ้ นการประเมิน ระดบั 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมิน/ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรงุ
เกณฑก์ ำรประเมินคณุ ลกั ษณ์อนั พงึ ประสงค์ ประเดน็ กำรประเมนิ ระดบั คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) เข้าเรียน สง่ สรปุ ความรู้ทไ่ี ด้ท้าย ชม. ระดบั คุณภาพที่ใช้ในการประเมนิ ระดับ 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดับปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดบั คุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ นระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั ปรับปรุง
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกำรทำงำนกล่มุ รำยกำรประเมนิ ระดบั คุณภำพ กลุ่มที่ เลขที่ ควำม ่รวม ืมอ รวม 1 23 1 ผลงำน ตรงเวลำ (10) (ปรับปรงุ ) (พอใช้) (ด)ี ควำมสวยงำม 0-5 6-7 8-10 ควำมสะอำด 2 3
แบบบนั ทกึ คะแนนระหว่ำงเรยี น แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง .................. หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1 วชิ า.การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22104 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 4 ช่วั โมง นักเรยี น คะแนน ผลคะแนนระหว่างเรยี น รวม การทดสอบ เลขที่ ทดสอบกอ่ น จดุ ประสงค์ที่ จุดประสงค์ท่ี ก่อนเรียน 1 เรียน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
แบบบันทึกคะแนนระหว่ำงเรียน (ต่อ) แผนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 วิชา วทิ ยาการคานวณ รหัสวชิ า ว22104 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชว่ั โมง นกั เรยี น คะแนนทดสอบ ผลคะแนนระหวา่ งเรยี น รวม คะแนนทดสอบ เลขที่ ก่อนเรียน จดุ ประสงค์ที่ จดุ ประสงค์ที่ หลงั เรียน 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 เฉล่ยี S.D. รอ้ ยละ ลงชื่อ ............................................(ผบู้ นั ทกึ ) (................................) .............../............../พ. ศ. .....................
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 3 รายวิชา วทิ ยาการคานวณ รหสั วชิ า ว22104 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 รายวิชาพ้นื ฐาน ชอื่ หนว่ ยท่ี 1 แนวคดิ เชงิ คานวณ ชอ่ื แผนประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชิงคำนวณ สอนโดย วา่ ที่ ร.ต.ธรรมจกั ร วรี ะพันธ์ เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 สอนวันท่ี.....เดอื น.......................พ.ศ. 2563 ............................................................................................................................. .......................................................................... 1. มำตรฐำนกำรเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั /ผลกำรเรียนรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ จริงอยา่ งเป็นขั้นตอน และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ รู้เท่าทนั และมจี ริยธรรม 2. สำระสำคัญ 2.1 การแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนจะช่วยใหแ้ กป้ ัญหาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.2 ซอฟต์แวรท์ ใ่ี ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, python, java, c 3. ผลกำรเรยี นรู้/ตัวชี้วดั ผลการเรียนรู้ ออกแบบและเขยี นโปรแกรมทใี่ ชต้ รรกะและฟังกช์ นั ในการแก้ปญั หา มาตรฐานตัวช้วี ดั ตัวช้ีวดั ที่ 1 ประยุกต์ใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการพฒั นา โครงงานที่มีการบรู ณาการกบั วชิ า อื่นอยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชื่อมโยงกับชีวิตจรงิ 4. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1 เขยี นโปรแกรมทมี่ ีการใช้ตัวแปร ตวั ดาเนินการ คาสงั่ if-else และ for ในการแกป้ ัญหาได้ (K) 2 นักเรยี นเขียนโปรแกรมที่มกี ำรรบั ขอ้ มูลจำกผูใ้ ช้และมีกำรแสดงผลลัพธจ์ ำกกำรแก้ปัญหำ (P) 3. เหน็ คุณค่าของการเรยี นวชิ าเทคโนโลยี และการตระหนักในคณุ ค่าของความรูท้ างวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจาวนั (A) 5. สมรรถนะทสี่ ำคัญ 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา
6. สำระกำรเรียนรู้ การแกป้ ัญหาจากการทางานหรอื ในชีวิตประจาวันของแต่ละบคุ คลมีขนั้ ตอนและใช้เวลาทีแ่ ตกต่างกัน เพ่อื ชว่ ยใหก้ ารแกป้ ญั หามีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติตามขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา 4 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่ การ วิเคราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา การวางแผนการแก้ปัญหา การดาเนนิ การแก้ปญั หา และการ ตรวจสอบและประเมนิ ผล กระบวนการแกป้ ัญหาเป็นสว่ นสาคัญในการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพ่อื แก้ปญั หาจากการทางานหรอื ชีวิตประจาวัน การพฒั นาโปรแกรมโดยใชภ้ าษาไพทอน สามารถนาไปสร้าง โปรแกรมทมี่ กี ารรับค่าขอ้ มูล ประมวลผลข้อมลู แสดงผลขอ้ มูล รวมถงึ การใช้ตวั ดาเนินการ หรือคาสัง่ ท่ีใช้ สาหรับการทางานทมี่ ที างเลอื กและวนซ้า เพ่อื ใชใ้ นการแก้ปญั หาอยา่ งงา่ ยได้ โดยนาความร้เู รอ่ื งชนดิ ข้อมลู คา่ คงที่ และตวั แปร มาเปน็ ส่วนประกอบในการวเิ คราะห์ประเภทของข้อมลู เข้า ข้อมูลออก เพอื่ นามา ประมวลผลได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 7. ควำมสมั พนั ธ์กบั กลุ่มสำระกำรเรยี นร้อู ื่นๆ / บูรณำกำร 1. กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี 2. กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ 3. การใช้ DLIT 4. บูรณาการ แผนเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพอ่ หลวงรชั กาลที่ 9 8. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 8.1 กำรจัดเตรยี ม 8.1.1 ใบกิจกรรมท่ี 5.1 ตำมจำนวนผเู้ รยี น - 5.2ตำมจำนวนกลุ่ม 8.1.2 ติดต้งั โปรแกรม PyCharm Edu ในเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ (ดำวนโ์ หลดจำก https:// www.jetbrains.com/pycharm-edu/download/) หรอื ตดิ ตงั้ ไอดอี ีสำหรับเขยี นโปรแกรมไพทอนตัว อื่น เช่น Winpython,Python3.7 8.1.3 แบบประเมนิ กำรแกป้ ัญหำและเขียนโปรแกรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรมสี ่วนร่วมในช้นั เรยี น 8.2 ขั้นตอนกำรดำเนินกำร 8.2.1 ผ้สู อนทบทวนเครอื่ งมือเขียนโปรแกรมภำษำไพทอนทั้งโหมดอิมมเิ ดยี ทและโหมดสคริปต์ พร้อมแสดงตัวอยำ่ งกำรใชง้ ำนในแตล่ ะโหมดอยำ่ งละ 1 ตัวอย่ำง 8.2.2 ผู้สอนตง้ั คำถำมเพอื่ เป็นประเด็นให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปรำย เชน่ ❍ นักเรยี นมวี ิธกี ำรรนั โปรแกรมอยำ่ งไร ❍ ทรำบไดอ้ ยำ่ งไรว่ำมีขอ้ ผิดพลำดในกำรเขียนโปรแกรม ❍ เมอ่ื ใดท่ีนกั เรียนตอ้ งใชง้ ำนตัวแปร และใชอ้ ย่ำงไร ❍ คำสั่ง if-else ใชง้ ำนอย่ำงไร
❍ ใช้ไพทอนวำดรูปได้อยำ่ งไร 8.2.3 ใหผ้ เู้ รยี นแต่ละคนทำใบกจิ กรรมที่ 5.1 เร่อื ง ยังจำไดไ้ หม จำได้หรือเปลำ่ แลว้ ส่มุ ถำมผเู้ รยี น นำเสนอคำตอบ 8.2.4 ผู้สอนและผู้เรยี นทบทวนข้นั ตอนกำรแกป้ ญั หำ 4 ขน้ั ตอน ได้แก่ กำรวิเครำะห์และกำหนด รำยละเอียดของปญั หำ กำรวำงแผนกำรแก้ปัญหำ กำรดำเนนิ กำรแกป้ ญั หำ และกำรตรวจสอบ และประเมินผล แล้วแบ่งกลุ่มผู้เรยี น กลุม่ ละ 4 คน ใหผ้ ู้เรียนแตล่ ะกล่มุ ทำใบกิจกรรมที่ 5.2 เรอ่ื ง จำได้แค่ไหน 8.2.5 ผสู้ อนใหผ้ ้เู รยี นแตล่ ะกลมุ่ ผลัดกนั ตรวจ โดยข้อ 1 ให้ผูเ้ รียนคดิ ชดุ ข้อมลู ทดสอบเพื่อตรวจสอบ โปรแกรมกลมุ่ ของเพื่อนวำ่ ถกู ต้องหรอื ไม่ สำหรับข้อ 2 และ 3 ใหใ้ ช้ชุดขอ้ มูลทดสอบในวธิ กี ำร ตรวจสอบข้อมลู ท่ีผ้เู รียนเตรียมไว้ 8.2.6 ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกนั สรุปส่ิงท่ีได้จำกกำรทำกิจกรรม
ใบกจิ กรรมท่ี 5.1 ยังจาไดไ้ หม จาไดห้ รอื เปล่า 1. ชอื่ -สกุล …………………………..………………………….…….….….. เลขท่ี ............. ห้อง............ 1. พจิ ำรณำโปรแกรมต่อไปน้ีแล้วบอกจำนวนคำสง่ั รบั ข้อมูลเข้ำและคำสั่งส่งขอ้ มูลออกวำ่ มอี ย่ำงละกค่ี ำสัง่ ขอ้ โปรแกรม จำนวนคำสัง่ รบั จำนวนคำสั่งรบั ขอ้ มูลเข้ำ ข้อมูลออก 1.1 a = int(input('a = ')) b = int(input('b = ')) print('a+b = ',b+a) 1.2 height = int(input('height = ')) weight = int(input('weight = ')) height = (height/100)**2 bmi = weight/height print('height M = ',height) print('bmi = ',bmi) 1.3 number1 = 2 number2 = 3 number3 = int(input('input3 = ')) print('sum = ',number1+number2+number3) 1.4 x = int(input()) y = int(input()) if x>y : print(x) else : print(y) 1.5 set_a = 3 set_b = 6
for i in range(4): ผลลพั ธ์ set_a = set_a+1 print(set_a) 2. เขยี นผลลพั ธ์ท่ไี ด้จากโปรแกรมต่อไปน้ี ขอ้ โปรแกรม 2.1 a=1 b=2 if a>b : print(a) else : print(b) 2.2 a=2 b=7 if a==b : print('เทา่ กนั ') else : print('ไม่เทา่ กัน') 2.3 i=5 j = 10 for a in range(i): j = j+2; print(j) 2.4 i=3 j = 15 for a in range(i):
j = j+4; print(j 2.5 w = 0 x=1 y=2 z=3 if x>y : print(z) else : print(w) ใบงำนที่ 5.2 จำไดแ้ คไ่ หน สมำชกิ ในกลมุ่ ที่ …………………….. 2. ชอ่ื -สกุล …….………………………..…….……….. เลขท่ี ............ 1. ชอ่ื -สกุล …………….…………………………….….….. เลขท่ี ............ 4. ชอ่ื -สกลุ ………………………..….…..…….….….. เลขท่ี ........... 3. ชอ่ื -สกุล ……………………………………….….….….. เลขที่ ............ 1. ให้นกั เรียนเขียนโปรแกรมตอ่ ไปน้ี โปรแกรม ปญั หา 1.1 รับค่านา้ หนกั และส่วนสงู เป็นจานวนเตม็ 1.2 หาคา่ เสน้ รอบวง และพื้นท่ีของวงกลม โดยรับค่ารศั มี 1.3 คานวณหาพ้นื ท่ขี องสเี่ หลย่ี ม โดยรบั ความกว้าง และความยาว ถ้าความกวา้ งและความยาว เท่ากนั ใหแ้ สดงขอ้ ความวา่ sqare ตามหลังการแสดงคา่ พนื้ ท่ี 1.4 หาคา่ เฉลย่ี นา้ หนักโดยรบั ขอ้ มูลท่ีผูใ้ ชก้ าหนด 2. พ้นื ทีก่ ระดาษห่อของขวญั นกั เรยี นมีของขวญั เปน็ รูปทรงกระบอก และตอ้ งการห่อของขวัญให้สวยงาม จะตัดกระดาษอยา่ งไร จงึ จะมีพนื้ ท่ที ส่ี ามารถหอ่ ของขวัญได้ โดยเผื่อกระดาษเพมิ่ จากพน้ื ท่ีผวิ ของของขวญั ใหส้ ามารถห่อทรงกระบอก ไดใ้ ห้นกั เรียนออกแบบและเขียนโปรแกรมเพ่ือคานวณพื้นที่ผิวทรงกระบอก ตามขัน้ ตอนการแกป้ ัญหา 2.1 การวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปัญหา 1) ขอ้ มูลเขา้ คือ .................................................................................................................................... 2) ขอ้ มลู ออก คือ ................................................................................................................................... 3) วธิ ีการตรวจสอบความถกู ต้อง (อยา่ งน้อย 2 ชุดทดสอบ)
…………………………………………………………………………………………………………………………………....... …………………………………………………………………………………………………………………………………....... 2.2 การวางแผนการแก้ปญั หา (รหสั ลาลองหรือผังงาน) 2.3 เขียนโปรแกรมตามที่ออกแบบไว้ พร้อมทั้งตรวจสอบและประเมินผล 3. รปู แบบการเดนิ ทาง ให้นักเรยี นออกแบบและเขยี นโปรแกรมเพ่อื คานวณหาวิธีการเดนิ ทางตามเง่อื นไขต่อไปนี้ ❍ ระยะทาง น้อยกว่า 1 กโิ ลเมตร เดนิ ทางโดย รถจักรยาน ❍ ระยะทาง 1 กิโลเมตรขึ้นไป เดินทางโดย รถโดยสาร 3.1 การวเิ คราะห์และกาหนดรายละเอียดของปญั หา 1) ข้อมูลเขา้ คือ .................................................................................................................................... 2) ขอ้ มลู ออก คือ ................................................................................................................................... 3) วิธกี ารตรวจสอบความถกู ตอ้ ง (อยา่ งนอ้ ย 2 ชดุ ทดสอบ) …………………………………………………………………………………………………………………………………....... …………………………………………………………………………………………………………………………………....... …………………………………………………………………………………………………………………………………....... …………………………………………………………………………………………………………………………………....... 3.2 การวางแผนการแก้ปญั หา (รหัสลาลองหรือผังงาน) 3.3 เขยี นโปรแกรมตามท่ีออกแบบไว้ พรอ้ มทั้งตรวจสอบและประเมนิ ผล .....…………………………………………………………………………………………………………………………………....... ……......……………………………………………………………………………………………………………………………....... …………......………………………………………………………………………………………………………………………....... ………………......…………………………………………………………………………………………………………………....... .....………………………………………………………………………………………………………………………………….......
……......……………………………………………………………………………………………………………………………....... 4. บ่อเลี้ยงปลาวาเลนไทน์ 4.1 ศึกษาอัลกอรทิ มึ ตวั อย่างที่ 1.8 บอ่ เล้ยี งปลาวาเลนไทน์ บทที่ 1 จากหนงั สือเรยี น 4. 2 เขยี นโปรแกรมบ่อเล้ยี งปลาวาเลนไทน์ 9. สอ่ื /แหล่งกำรเรยี นรู้ ❍ เวบ็ ไซต์เขียนโปรแกรมไพทอนออนไลน์ https://repl.it/languages/python3 หรือ https://repl.it/site/languages/python_turtle ซ่งึ สำมำรถเขยี นโปรแกรมกับเต่ำไพทอนได้ ❍ เว็บไซต์ไพทอน https://www.python.org/ ❍ หนังสือเรยี นรำยวิชำเพิ่มเติม เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสอื่ สำร ภำษำไพทอน สถำบันสง่ เสรมิ กำร สอนวทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี 10. กำรวัดและประเมินผล จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ วธิ ีกำรวัดผล เครือ่ งมอื เกณฑก์ ำรผ่ำน 1. ดำ้ นควำมรู้ -การสงั เกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น -การทดสอบปฏิบตั ิ -แบบประเมนิ ผลงาน ระดบั ดี -การตรวจผลงาน 6-7 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดับพอใช้ 1-5 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดบั ปรบั ปรุง 2. ด้ำนทกั ษะ -การสงั เกต -แบบสังเกต 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ใน กระบวนกำร -การทดสอบปฏิบตั ิ -การตรวจผลงาน -แบบประเมนิ ผลงาน ระดับดี 6-7 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ น ระดบั พอใช้
1-5 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ใน ระดับปรบั ปรงุ 3. ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอัน -การสังเกต -แบบสงั เกต ระดบั 3 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ใน พึงประสงค์ -การตรวจผลงาน -แบบประเมินผลงาน ระดับดี ระดับ 2 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ใน ระดับพอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ใน ระดบั ปรบั ปรงุ 11.กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 สาหรับขั้นตอนการวเิ คราะหแ์ ละกาหนดรายละเอยี ดของปญั หา ผู้สอนควรกระตนุ้ ใหผ้ เู้ รียนคิดวิธีการ ตรวจสอบความถกู ต้องใหค้ รอบคลุมทุกกรณี ซง่ึ อาจจะมากกวา่ 2 ชุดทดสอบตามท่ีใบกจิ กรรมกาหนด และพยายามให้ผูเ้ รียนเขียนโปรแกรมครอบคลุมกรณเี หลา่ น้ัน หากมกี รณีใดที่โปรแกรมไมร่ องรับใหเ้ ขยี น ส่วนดกั จับกรณีดงั กลา่ วไว้ 11.2 สาหรบั การประเมินผล ผู้สอนอาจให้ผเู้ รียนผลัดกนั ทดสอบโปรแกรม โดยทดสอบจากข้อมูลเข้าหลายชุด ทีค่ รอบคลุมกรณีท่ีเป็นไปได้ทั้งหมด 11.3 สาหรบั โรงเรียนทีใ่ ชร้ ะบบปฏบิ ัตกิ าร Windows XP น้ันจะรองรับ Pythonไดส้ ูงทสี่ ดุ คือ ไพทอนเวอรช์ ัน 3.4.4 ใหด้ าเนินการตดิ ตงั้ PyCharm Edu 3.5 สาหรับเขยี นโปรแกรม โดยวิธีการตดิ ต้ังจะอย่ใู นโฟลเดอร์ Act5 12.ขอ้ เสนอแนะและควำมคดิ เห็นหวั หนำ้ สถำนศกึ ษำ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ........................................... (นายยรรยง วงค์คาจนั ทร)์ ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นรัตนบรุ ี
13 บนั ทกึ ผลหลงั สอน 1. ดา้ นความรู้ ..........................................................…....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 2. ดา้ นทกั ษะ/สมรรถนะผ้เู รยี น......................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค.์ .………............................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 4. ปัญหาและอุปสรรค....................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... 5. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข...................................................................................... .......................................................................................................................................................... ลงช่ือ ................................................ (ว่าท่ี ร.ต.ธรรมจกั ร วรี ะพันธ.์ ) ครู/ผู้สอน ......../ .........../ ..............
แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เลขที่ รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 ระดับคุณภาพท่ีใชใ้ นการประเมิน ระดบั 3 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดบั 2 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ ระดับ 1 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรุง เกณฑ์การประเมิน/ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดับดี 8-10 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผ่านเกณฑ์ในระดบั ปรบั ปรงุ
เกณฑ์กำรประเมนิ คณุ ลกั ษณอ์ ันพงึ ประสงค์ ประเดน็ กำรประเมิน ระดับคะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) เข้าเรยี น สง่ สรุปความรู้ท่ีได้ท้าย ชม. ระดับคุณภาพท่ีใช้ในการประเมิน ระดบั 3 หมายถึง ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี ระดับ 2 หมายถึง ผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ ระดบั 1 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ในระดับปรบั ปรุง เกณฑก์ ารประเมนิ /ระดับคุณภาพ 10-12 คะแนน ผ่านเกณฑใ์ นระดับดี 8-10 คะแนน ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ 1-7 คะแนน ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม รำยกำรประเมิน ระดับคุณภำพ กลุ่มท่ี เลขที่ ควำม ่รวม ืมอ รวม 1 23 1 ผลงำน ตรงเวลำ (10) (ปรับปรุง) (พอใช)้ (ดี) ควำมสวยงำม 0-5 6-7 8-10 ควำมสะอำด 2 3
แบบบนั ทึกคะแนนระหวำ่ งเรียน แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอ่ื ง .................. หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 1 วชิ า.การงานอาชีพและเทคโนโลยี รหสั วิชา ว22104 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เวลา 4 ชั่วโมง นักเรยี น คะแนน ผลคะแนนระหว่างเรยี น รวม การทดสอบ เลขท่ี ทดสอบกอ่ น จุดประสงค์ที่ จุดประสงค์ท่ี กอ่ นเรียน 1 เรียน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 แบบบันทกึ คะแนนระหวำ่ งเรียน (ตอ่ ) แผนการจัดการเรียนรู้ เรือ่ ง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 วิชา วทิ ยาการคานวณ รหัสวิชา ว22104 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เวลา 4 ชวั่ โมง นกั เรยี น คะแนนทดสอบ ผลคะแนนระหว่างเรียน รวม คะแนนทดสอบ เลขที่ ก่อนเรยี น จุดประสงคท์ ่ี จุดประสงคท์ ่ี หลังเรยี น 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131