Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ฮูเซน บินอะลี วีรชนแห่งอิสลาม

ฮูเซน บินอะลี วีรชนแห่งอิสลาม

Published by thaiislamlib.com, 2022-06-02 05:12:48

Description: ผลงานแปลของชาวพุทธท่านหนึ่งที่หลงใหลในท่านอิมามฮูเซน(อ)

Search

Read the Text Version

คํานําผจู ัดพิมพ หนงั สือเลม นีเ้ ดิมชื่อ” “ ซ่งึ แปลโดย เทวกิ ารานี พมิ พเมื่อประมาณสามสิบปท่ี แลว แตท ไี่ ดเห็นหนงั สือเลม นเี้ ปน ครัง้ แรกกเ็ มอ่ื ราวสิบกวาปม าน้เี อง และเมือ่ ไดอานการถอดความ เปนภาษาไทยของทานผูแปลทําใหร สู กึ ซาบซ้งึ ในความรกั และความตงั้ ใจจรงิ ของทา นทีม่ ตี อ อมิ าม ฮเู ซน และบรรดาวรี ะบุรษุ แหง ทงุ กัรบะลาอ ถงึ แมผ แู ปลจะยังไมเ ปน มุสลิมในขณะนนั้ กต็ าม(ตาม สํานวนทีแปล) จากการทผี่ ูแปลไดอทุ ศิ ความดใี หกบั อิมามฮเู ซนและวีระบุรษุ แหง ทงุ กรั บะลาอ จงึ ถอื เปน แรงดลใจประการหนึ่งทที่ าํ ใหส าํ นกั พมิ พเ ลอื กหนงั สอื เลม นี้ขึน้ มาจดั พมิ พอ ีกเปน ครั้งที่ 2 เพ่อื ทาํ ให ผแู ปลไดร ับความดนี ีส้ ืบตอไปอีกจากการทจ่ี ะมีผอู า นซง่ึ เปนผมู ีอปุ การะคุณตอทางสถาบันสงเสรมิ การศึกษาและวิจัยเกยี่ วกบั อสิ ลาม จากท่วั ประเทศ ในการจดั พมิ พค ร้งั ที่ 2 สาํ นกั พิมพไ ดตัง้ ชอื่ หนงั สอื นใ้ี หมวา “ฮเู ซน อบิ นิ อะลี วรี ะชนแหง อิสลาม” เพ่ือใหต รงกับเน้อื หาของหนังสอื โดยจะจดั พมิ พค ูกบั หนงั สือ “ซยั นบั บินติ อะลี วีระสตรี แหง อสิ ลาม” อีกเลม หนงึ่ และตัง้ ใจวา จะออกใหทนั กบั งานมหกรรมหนงั สือนานาชาติ ซงึ่ จะจดั เปน คร้ังแรก ณ ศนู ยประชุมแหง ชาติสิรกิ ติ ต ระหวา งวันท่ี มนี าคม ถึง เมษายน ศกน้ี เน่ืองจากผแู ปลใชนามปากกาดงั กลา ว สาํ นกั พมิ พไ มอาจสืบไปไดวา ทา นเปน ใคร จงึ ไม อาจขออนญุ าตทา นหรือทายาทของทา น เพ่อื การจัดพิมพใ นคร้ังนี้และในขณะเดียวกนั สาํ นกั พิมพ ไดป รับปรงุ สาํ นวนภาษาเทา ท่ีจําเปน และเรยี กช่อื บรรดานามและสรรพนามทง้ั ภาษาอาหรบั และ ภาษาไทยใหตรงตามแบบฉบบั ของมุสลมิ ตลอดท้ังเลม ดังนน้ั หนงั สือเลม นจี้ งึ เปน เครื่องพิสจู นใหเ ห็นอกี คราหนงึ่ วา อิมามฮูเซน อบิ นิ อะลี ผูเปน บตุ รของทานหญิงฟาตมิ ะฮ( อ.) ผูเปน หลานของทา นศาสดามฮุ มั มัด(ศ็อลฯ) เปน หัวหนา แหง วีระ ชนผกู ลา ทพี่ ลอี ทุ ศิ ชีวิตของตนเอง ของครอบครวั และตลอดจนมิตรสหายทร่ี ักของทา น เพอ่ื มวล มนษุ ยชาติอยา งแทจ รงิ โดยไมคํานึงถงึ ความแตกตางในทางเชอื้ ชาตเิ ผา พนั ธุ สีผวิ ภาษา และ ศาสนา ใหธ าํ รงมั่นอยกู บั สจั ธรรมความจรงิ ของพระเจา ชวั่ นริ นั ดรสมยั ขอความจําเรญิ จงมีแดทกุ ผทู ่ยี นื หยดั ตอ สูเพ่อื สจั ธรรมความจรงิ ตลอดไป ดวยมติ รไมตรีและความปรารถนาดี สํานกั พิมพ 14 พบั บลิเคชนั่ 24 / 01 / 46 กรุงเทพมหานคร

คาํ นาํ ชีวประวัติของอิมามฮูเซน เปนชีวประวัติของบุคคลท่ีสําคัญทานหนึ่ง อิมามฮูเซนถือวา อุดมคติ ศีลธรรมและความสุขใจ มีคายิ่งกวาทรัพยสินเงินทองและความอุดมสมบูรณอื่นๆ ทานเปนผูวางคาของ ความสจุ ริตใจ เหนือความสุขกายและสมบัตโิ ลกยี  เพราะทา นเช่ือวา ความสุจริตใจยอมนํามาซึ่งความสุข ใจมากกวาทรพั ยส มบตั ิใดๆ อมิ ามฮูเซนใชชวี ิตของทานเองเปนตัวอยาง เพื่อพิสูจนใหเห็นวา มนุษยธรรม เปนส่ิงจําเปนสําหรับโลก ถาปราศจากมนุษยธรรม การมีชีวิตในโลกนี้ก็ยอมปราศจากคุณคาใดๆ โดย ส้นิ เชิง อิมามฮูเซนเปน ผูท ี่กลา หาญที่จะทาํ ถกู ทําชอบ ถงึ แมวาในการกระทําเชนน้ัน จะตองนําเอาชีวิต ของตนเอง บุตร ภรรยา ญาติพ่ีนองและเพ่ือนฝูง เปนเดิมพัน อิมามฮูเซนเปนผูท่ีขลาดกลัวที่จะกระทํา ความผิด ถึงแมการกระทําความผิดจะชวยใหตัวเอง บุตรภรรยา ญาติพ่ีนองและเพื่อนฝูง รอดจากความ ตายและความยากลําบากตางๆ ก็ตาม ชีวประวัติของบุคคลเชนอิมามฮูเซนน้ี จะไมเปนท่ีสนใจของทาน ผอู า นบา งหรอื ไร ? หนังสือเลมนี้ขาพเจาแปลมาจากตนฉบับภาษาอังกฤษของ อัลฮัจย มุลวี มิรซา กุลาม อับบาส อะลี ซาฮิบ ตามความสามารถของขาพเจา ความผิดพลาดซ่ึงอาจจะเกิดไดเน่ืองจากการแปล หรือความ รเู ทาไมถ ึงการณใดๆ ขาพเจาขอนอ มรับไว หากความดีใดมีอยูในหนังสือเลมนี้ ขาพเจาขอมอบใหแกทาน ผูเปนวีรบรุ ุษแหงทงุ กัรบะลาอ เทวกิ ารานี

สารบัญ บทที่ 1 อารเบยี กอ นศาสนาอิสลาม บทท่ี 2 มุฮมั มัด คณุ ตาของอมิ ามฮูเซน บทท่ี 3 ทานฮเู ซน ขณะเยาว บทที่ 4 คอลีฟะฮห รอื ผบู ญั ชาการอาณาจกั รอิสลามคนแรก บทท่ี 5 ทา นอะลใี นฐานะคอลฟี ะฮ หรือหัวหนา สหอาณาจกั รของมสุ ลิม บทท่ี 6 ทา นฮาซันทายาทของทา นอะลี บทที่ 7 ยะซีด บุตรของ มุอาวยิ ะฮ บทที่ 8 ยะซดี เปนผนู ําอาณาจกั รอสิ ลาม บทที่ 9 อมิ ามฮเู ซน ณ นครมักกะฮ บทท่ี 10 อมิ ามฮเู ซน ออกจากนครมกั กะฮ บทที่ 11 อิมามฮเู ซน ณ กรั บะลาอ บทที่ 12 วันอาชูรอหรือวันท่ี 10 มุฮัรรอม บทที่ 13 ชะตากรรมของครอบครวั อิมามฮูเซน บทที่ 14 บทสง ทาย

บทท่1ี อารเบียกอ นศาสนาอิสลาม กอนที่เราจะเร่ิมชีวประวัติของบุคคลผูทรงคุณธรรม และผูซ่ึงยอมเสียสละเพื่อปกปองศาสนา ดว ยสายเลอื ดของตนเองน้ัน เราควรตระหนักไวด วยวา ศาสนาอิสลามหาไดถูกทําลายลงดวยนํ้ามือของผู ที่อยูนอกศาสนาไม แตถูกทําลายดวยน้ํามือของผูท่ีเรียกตัวเองวามุสลิม หรือนัยหน่ึงผูนับถือศาสนา อิสลามนั่นเอง จึงขอใหเรายอนกลับไปดูประวัติของอารเบียกอนศาสนาอิสลาม เพื่อใหผูอานไดซาบซึ้ง ถึงประวัติของอิมามฮูเซนไดอยางแจมชัด พรอมท้ังประวัติการณอันนาเศราสลดท่ีผานไป ต้ังแตอิสมาอีล บุตรคนแรกของอิบรอฮีม ไดลงหลักปกฐานอยูในทะเลทรายแหงฮิญาซ ตระกูลอิสมาอีลครองชีพอยูดวย ความยากลําบาก เน่ืองจากขาดแคลนท้ังนํ้าและที่ดินอันสมบูรณ มีแตอินทผาลัมและนมอูฐเปนอาหาร สาํ คญั และการเลย้ี งปศุสัตวเปน อาชีพหลกั อากาศท่แี หงและเปน ประโยชนต อ สุขภาพ รวมทัง้ การดิ้นรนเพือ่ หาอาหารอยา งหนัก ทาํ ใหค นใน ตระกูลอิสมาอีลมีสุขภาพดีและมีความอดทนอยางย่ิงยวด และในขณะเดียวกันก็ทําใหเปนคนท่ีมีความ เฉียบขาด ไมทอถอยตออุปสรรคใดๆ ท่ีจะผานเขามาในชีวิต ผูคนในตระกูลน้ีไมรูหนังสือ เพราะชีวิตสวน ใหญ จะตองใชเพ่ือการดิ้นรนในการครองชีพ บุคคลเหลานี้เกือบจะไมดีอะไรไปกวาคนปาคนดอยท่ี ทองเที่ยวไปตามท่ีตางๆ พรอมดวยบุตรภรรยาเพ่ือจะหาที่ๆ มีความอุดมสมบูรณใหแกปศุสัตวของตน ยกเวนคนในตระกลู อสิ มาอลี บางคนเทา นนั้ ขณะน้ันประชาชนสวนใหญในอารเบีย มีความเสื่อมทางดานศีลธรรมลงอยางย่ิงยวด การเมา สุราอาละวาดฆากันตาย ดูจะเปนเหตุการณธรรมดาสามัญในสมัยนั้น การแตงงานกับภรรยาของพอ ตัวเอง และการฝงบุตรสาวของตนทั้งเปน เปนการกระทําท่ีไมมีใครเห็นเปนผิด และดูเปนเหตุการณ ธรรมดาทั่วไป มีการยกพวกทําสงครามตอกันและกันนานเปนแรมกึ่งศตวรรษดวยสาเหตุเล็กๆ นอยๆ เพียงอีกฝายหนง่ึ พลาดพลั้งขวางสิ่งของไปถูกท่ตี าอูฐของอีกฝายหนงึ่ เทานัน้ ไขมุกงามยอมบังเกิดอยูในทองมหาสมุทรท่ีลํ้าลึกสุดคณนา เพชรนํ้าหนึ่งท่ีสงแสงเปนประกาย แวววาวยอมซอนตัวเองอยูในเหมืองถานหินอันดําสนิท และกุหลาบอันสงกล่ินหอมขจรขจาย ยอมชูดอก อยูทามกลางหนามหนาฉันใด ผูทรงคุณธรรมอันยอดเย่ียมก็ยอมจะบังเกิดข้ึนในหมูคนพาลสุดขั้วไดฉัน นั้น กอนที่ทานศาสดาแหงอิสลามจะบังเกิดขึ้น เพ่ือแสดงสาสน ศีลธรรมจรรยาแกชาวโลก ตามพระ บัญชาแหงพระผูเปนเจาในสากลโลกนั้น ในอารเบียมีตระกูลที่สําคัญอยูสองตระกูล ซึ่งเปนที่รูจักกันดีใน หมูชนชาวอาหรับ คอื ตระกลู ฮาชิม กบั ตระกลู อุมยั ยะฮ ซง่ึ ทง้ั สองตระกูลไดแ ตกออกมาจากเผา กุเรช อับดุลมานาฟ แหงเผากุเรช มีบุตรแฝดหลังติดกัน นายแพทยจึงถูกเชิญมาใหแยกเด็กท้ังสอง ออก นายแพทยไดแยกแผนหนังที่ยึดหลังเด็กทั้งสองดวยวิธีการทางศัลยกรรม ตอมาบิดาไดใหชื่อเด็กคน หน่ึงวา ฮาชิม และอีกคนหนึ่งวา อับดุชชัมส นักบวชซึ่งยืนอยู ณ ที่นั้น ทํานายวา “โดยเหตุที่ของมีคมได

ผา นตวั เดก็ ทั้งสอง การสรู บชว่ั นิรันดรอยางหลีกเลย่ี งไมได ยอมจะอุบัติข้ึนระหวางบุตรหลานของพี่นองคู นี้” คําทํานายนี้ปรากฏวาเปนความจริง ถาหากวาไดพลิกประวัติศาสตรชาติอาหรับจะเปนกอนหรือหลัง ศาสนาอิสลามก็ดี บนเวทีตางๆ ของประวัติศาสตร ยอมจารึกประวัติของตระกูลฮาชิม ซ่ึงเปนบุตรหลาน ของฮาชิมทางหนึ่ง และอีกทางหนึ่งคือ ตระกูลอุมัยยะฮลูกหลานของอับดุชชัมส ตางฝายก็หมายเขมน เขนฆา และพรอมที่จะทําสงครามกัน เพื่อที่จะทําลายลางอีกฝายหนึ่งใหหมดสิ้นไป ประวัติศาสตรที่ กลาวถึงนี้รูสึกจะเปนความจริง หากมองดูกันอยางผิวเผิน แตหากมองใหลึกซ้ึงและถองแทโดยการศึกษา ประวัตชิ วี ติ ของบุคคลแตละคนในตระกลู ฮาชมิ และอมุ ัยยะฮแ ลว เราก็จะพบความจริงวาบุคคลในตระกูล ฮาชิมน้ันคือสัญลักษณ แหงคุณธรรมอันสูงสง และบุคคลแตละคนในตระกูลอุมัยยะฮก็คือ ผูแทนแหง ความช่ัวรายอยางอุกฤษฎนานาชนิด โดยสรุป บุคลิกลักษณะของตระกูลทั้งสองน้ี มีความอดทน และ เขมแข็งอยางยอดเยี่ยม เยี่ยงบรรพชนของตน ผิดกันก็แตบุคคลในตระกูลฮาชิมใชความอดทนของตน เพ่ือรักษาความบริสุทธ์ิใจและความดี สวนตระกูลอุมัยยะฮกลับเปนตัวแทน แหงความชั่วชาเลวทราม นานาประการ คนในตระกูลฮาชิมถึงแมจะไมร่ํารวยก็ตาม แตเปนตระกูลท่ีมีจิตใจเมตตา เผื่อแผโอบออมอารี จึงไดร ับความเคารพนับถอื เปน อยางดจี ากชนชาวอาหรับ สักขีพยานถึงการท่ีบุคคลในตระกูลลูกหลานฮา ชิม ไดรับความคารวะอยางสูงจากชนชาวอาหรับก็คือ ไดรับการมอบหมายใหเปนผูดูแลสถานที่ ศักดิ์สิทธิ์ อัล กะอบะฮ เปนระยะเวลาชั่วคนแลวช่ัวคนเลา การดูแลปูชนียสถานที่ศักด์ิสิทธิ์น้ีจะไดรับ มอบหมาย กแ็ ตบ ตุ รหลานของอิสมาอีลท่ีเปนเลือดบริสุทธิ์จริงๆ เทาน้ัน คนในตระกูลอุมัยยะฮน้ันร่ํารวย และสิ่งทีค่ นพวกน้สี นใจ กค็ ือการส่ังสมทรัพยสมบตั ิใหทวคี ณู ข้ึน โดยไมต อ งคาํ นงึ ถงึ วา จะไดรับทรัพยสิน นั้นมาดวยวธิ ีการอยางไร และกน็ าํ ทรพั ยนน้ั มาบํารงุ บําเรอความสขุ สว นตวั แตถา ยเดยี ว ทรัพยสินเงินทอง สรางความหยิ่งผยองใหเจาของไดฉันใด การเรียนรูธรรมก็ยอมสรางความบริสุทธิ์ ใหแกเจาของไดฉันนั้น ถึงแมจะยากจน แตฐานะอันมีเกียรติของพวกตระกูลฮาชิม ซึ่งเกิดจากความรอบรูและความบริสุทธ์ิของ ตน พรอมท้ังการไดรับความไววางใจใหเปนผูดูแลอัล กะอบะฮ เปนมูลเหตุท่ีมากพอจะกอใหเกิดความ อิจฉาริษยา และความกระเห้ียนกระหือรืออยางไมรูหาย ท่ีจะทําลายความยิ่งใหญ ท้ังในหมูสาธารณชน ในทางการเมืองและศาสนาของตระกูลอุมัยยะฮ ซ่ึงเปนฝายตรงกันขาม เพลงแหงการอิจฉาริษยาไดคุ กรุนอยูในทรวง ไดแลบใหเห็นเปลวของมัน เม่ืออับดุลมุตฏอลิบ บุรุษผูหน่ึงในตระกูลฮาชิม ไดพบบอนํ้า ซัมซัม อันศักดิ์สิทธิ์ ซ่ึงไดถูกลืมและหายสาบสูญไปนานนมแลว น่ีเองเปนเหตุท่ีทําใหเกียรติของอับดุล มตุ ฏอลิบ เพม่ิ ขน้ึ เปนทวีคุณในสายตาของชาวอาหรบั และเปน อยเู ชน นัน้ ตลอดชีวิตของทาน พวกตระกูล อุมัยยะฮไมสามารถท่ีจะทนดูคุณความดีอันเร่ืองโรจน ของชาวฮาชิมไดอีกตอไป จึงไดพยายามโดยใช อิทธิพลทางทรัพยสินท่ีตนมีอยู เพื่อท่ีจะทําลายพวกตระกูลฮาชิมลงใหจงได ไมวาดวยทางหนึ่งทางใด ความผิดอยางเดียวของพวกตระกูลฮาชิมก็คือความดี ถาหากเราจะถือความดีเอาเปนความผิด ความ ประพฤติของคนในตระกูลฮาชิม ไดรับความนิยมมากขึ้น ในเม่ือพวกตระกูลอุมัยยะฮ พยายามแตงเร่ือง กลาวรายพวกเขาตางๆ นานา เม่ือมีใครนําเอาเรื่องเท็จเหลานี้มาเลาใหคนในตระกูลฮาชิมฟง พวกเขา

กลับกลาววา “ถาคํากลาวรายขาพเจานั้นเปนความจริง ก็ขอใหพระเจายกโทษใหขาพเจาดวยเถิด แตถา คาํ กลาวรายน้นั เปน เร่อื งเสกสรรปนขึน้ ก็ขอใหพระเจา ยกโทษใหกบั ผลู อบประทุษรายนน้ั ดว ยเถดิ ” เม่ืออับรอฮะฮ เจาชายแหงอบิสสิเนีย ยาตราทัพใหญ มาจากเยเมน ซึ่งกอรปดวยทัพชางอัน เกรียงไกร มาดวยความต้ังใจท่ีจะเหยียบย่ําสถานท่ีศักดิ์สิทธ์ิ อัล กะอบะฮ ใหราบคาบ อับดุลมุตฏอลิบก็ ไดแตยืนอยูท่ีประตูอัล กะอบะฮ พลางรองออกไปดวยเสียงอันดังวา “ขอใหพระเจาทรงปกปกรักษาและ ปองกันสถานท่ีศักดิ์สิทธ์ิของพระองคเองเถิด เพราะผูรับใชของพระองคนั้น ออนแอเกินกวาท่ีจะใชกําลัง เขา ตา นแลว ขอใหส ถานทศี่ ักด์สิ ิทธ์นิ ี้ จงพนจากการเหยยี บย่าํ ของศัตรูเถิด” ทันใดน้ันก็ปรากฏฝูงนกพรอมดวยกอนหินที่คาบอยูในจงอยปากและกรงเล็บ โบยบินอยูเหนือ กองทัพขาศึก และปลอยกอนหินเหลานั้นลงมา ทําใหกองทัพดังกลาวตองแตกพายไป ท้ิงศพทหารไวใน สนามรบอยางเกลื่อนกลาด เหตุการณเหลาน้ียอมกอใหเกิดเพลิงแคนข้ึน ในหัวอกของพวกตระกูลอุมัย ยะฮ ผูพ ากเพียรที่จะทําลายอาํ นาจของพวกตระกูลฮาชิม ประวัตเิ กา ๆ ของชาวอาหรับจํานวนมากมาย ไดบันทึกไวเกี่ยวกับความลมเหลวของพวกตระกูล อุมัยยะฮ ท่จี ะบรรลวุ ัตถปุ ระสงคของตน สําหรับผูสังเกตการณอยางผิวเผิน ก็อาจจะมองเห็นวา เปนการตอสูระหวางชาวอาหรับสองเผา ที่ยังปาเถื่อน และเต็มไปดวยความเห็นแกตัว แตถาจะมองลึกลงไปใหซ้ึงถึงขอเท็จจริง ท้ังไดวิจารณและ ศึกษาในดานปรัชญาของเหตุการณท่ีเกิดข้ึนแลว ก็จะตองยอมรับวา หาใชการตอสูอันยาวนานระหวาง คนสองกลุมเทาน้ันไม หากวาเปนการตอสูระหวางความดีกับความช่ัว ระหวางวุฒิปญญากับความโฉด เขลา ระหวางการุณยธรรมกับความเห้ยี มโหด และระหวา งคนใจบุญกับคนใจบาปโดยแท บทที่ 2 มุฮัมมัด คุณตาของฮูเซน ในปเดียวกันกับที่อับรอฮะฮ เจาชายแหงอบิสสิเนีย ไดกรีทาทัพมา เพ่ือหวังทําลายอัล กะอบะฮ ใหราบคาบลงเปนหนากลอง แตตองพายแพแกอํานาจของพระเจา ไดมีเด็กชายในตระกูลฮาชิมคนหน่ึง ถือกาํ เนิดขึ้นในเมืองมักกะฮ ซึ่งในกาลตอ มาไดพ ิสจู นตัวเองใหเห็นวา เปนศาสดาทานเดียวกับที่มูซา (โม เซส)ไดมีสัญญาแสดงไว ในคัมภรี แ หง ยคุ ของทาน “ขาจะสงศาสดาที่มีเชื้อสายจากตระกลู ของเจาเพ่อื จะมาสงั่ สอนพวกเจา ตามทข่ี า บญั ชา” ปรากฏวามีศาสดาหลายทานในอิสราเอล สืบเน่ืองกันมา ซึ่งมีศาสดาอีซา (เยซู) เปนทาน สุดทาย แตยังหามศี าสดาทา นใดในตระกลู อสิ มาอลี ไม “ศาสดาผูซึ่งจะนํามาซึ่งความสุข” ตามคําทํานาย ของศาสดาอีซา “ศาสดาทานน้ัน” ตามคําสอนของศาสดายะฮยาหรือจอหน เดอะ แบติสท (John the Baptist) “จะไดประทานกฎทางศาสนาสําหรับปฏิบัติเย่ียงโมเซส (มูซา)” “ และจะเกิดมาในโลกจากเช้ือ สายท่ีเปนตระกูลผูพ่ีของอิสราเอล คือ ตระกูลอิสมาอีล เพ่ือจะชําระลางโลกใหพนจากความช่ัว และ

กลับมาสูความดีและความเท่ียงธรรม เพื่อที่จะสอนใหมนุษยรูจักถึงเอกภาพของพระผูเปนเจา และเพ่ือ จะใหพน จากการตอ งไปนับถือสง่ิ เหลวไหลอน่ื ๆ มฮุ มั มัด บตุ รของวิษณเุ วสจากภรรยาโสมติ ตามคําทํานายของมหาเวทะ ที่ใหไวตอภริยาปรวาติ ตามคมั ภีรของศาสนาฮนิ ดู วิษณใุ นภาษาสันสกฤต แปลวาพระเจา และคําวาวิเวสม ก็แปลวาผูรับใชพระ เจา ซึ่งมีความหมายตรงกับคําวาอับดุลลอฮ ในภาษาอาหรับ ซึ่งเปนช่ือบิดาของมุฮัมมัด คําวา โสมติใน ภาษาสันสกฤตแปลวา “หญิงที่ไววางใจได” ซึ่งมีความหมายตรงกับคําวา อามีนะฮ ในภาษาอาหรับ ซ่ึง เปน ชอ่ื มารดาของมฮุ ัมมัด ไดมีเหตุการณหลายอยางบังเกิดขึ้น ในการแสดงวันเกิดของมุฮัมมัด นักบุญทานสุดทายที่ ย่ิงใหญ ซ่ึงพระเจาทรงโปรดประทานมาส่ังสอนมวลมนุษย เพื่อช้ีแนวทางอันถูกตองของพระองค พระราชวังนุชชีรวานแหงเปอรเซียตองสั่นสะเทือนถึงรากฐาน เพราะพลังแหงแผนดินไหว และไฟซ่ึงจุด โชติชว งอยูเปน เวลากวาพนั ป ไดดับลงทันทีเพ่ือเปนการคารวะแดผ ูย่งิ ใหญ ไฟนี้จดุ ไว ณ แทน บชู าโซโรอสั เตรียน มุฮัมมัดไดบังเกิดขึ้นมาเพื่อเปนการแสดงธรรมะแหงความเปนนํ้าหนึ่งใจเดียวกัน รูปปนตางๆ ใน สถานท่ศี ักด์ิสทิ ธิ์อลั กะอบ ะฮ ลม ลงระเนระนาด ในเมื่อผทู จ่ี ะทาํ ลายมันถอื กําเนดิ ขึน้ มาในโลกแลว ทารกทนี่ าสงสารนี้ เริม่ ตน ชีวิตของตนอยางนาเวทนา ชะตากรรมของทารกนอยไมไดอนุญาตให พบหนาอับดุลลอฮผูเปนบิดา เพราะอับดุลลอฮถึงอนิจกรรมกอนเขาถือกําเนิดเพียงไมกี่เดือน ทารกนอย จึงถูกปลอยใหอยูในอารักขาของปูอับดุลมุตฏอลิบ ผูซ่ึงไดเล้ียงดูทารกนอยอยางมิไดเห็นแกเหน็ดเหนื่อย ประหนึ่งวาทารกน้ีเปนเลือดในอกของตนเอง อายุของมุฮัมมัดยังไมทันพนเจ็ดขวบดี ก็ตองประสพกับ เคราะหกรรมอกี ครง้ั หนึง่ ท้ังนี้เพราะคุณปูผูมีใจอารีไดถูกพรากจากเขาไป ในวาระสุดทายของคุณปู ทาน ไดจัดการมอบหลานของทานใหอยูในอารักขาของอบูฏอลิบ ซ่ึงเปนบุตรของทาน ผูเปนพี่ชายของอับ ดุลลอฮบิดาของมุฮัมมัด รวมทั้งการดูแลสถานท่ีศักดิ์สิทธ์ิอัล กะอบะฮ ก็ไดตกมาอยูในความรับผิดชอบ ของอบฏู อลบิ เชน กัน อบฏู อลบิ ไดกระทําทุกสง่ิ ทกุ อยางเพ่อื เลย้ี งดใู หห ลานมีความสุข แมจะนอนกใ็ หนอนใกลๆ แมจ ะ รับประทานอาหารก็รับประทานรวมกัน ทานรักมุฮัมมัดมากกวาบุตรของทานเอง ขอเท็จจริงยอมเผยแผ ตัวของมนั เอง คอื เมอ่ื ชาวกุเรช คดิ ท่ีจะฆามุฮัมมดั ขณะเม่ือทานยังอยูในวัยรุน โดยเหตุที่ทานปฏิเสธที่จะ กราบไหวรูปปนตางๆนั้น อบูฏอลิบไดใหบุตรชายของตนเอง เปล่ียนท่ีนอนกับมุฮัมมัดในยามคํ่าคืน โดย กลา เสยี สละเอาชวี ิตบุตรของตนเขาแทนทีช่ วี ิตมุฮมั มัด ภายใตก ารปกปกรักษาเยี่ยงญาติอันสนิทของลุงผู การุณย มุฮัมมัดจึงเติบใหญขึ้นพรอมดวยคุณธรรมอันสูงสง และไดเปนเพื่อนรวมทางที่ดียิ่งของทานลุง ในการเดินทางไกลเพื่อธุรกิจการคา ตา งๆ ฐานะอันไมสูม่ันคงของอบูฏอลิบ ทําใหทานตองขอความชวยเหลือคอดิยะฮ สุภาพสตรีในเผา กุเรช ซึ่งมั่งคั่งที่สุดในอารเบีย ทรัพยสมบัติอันมหาศาลของเธอทําใหเธอไดรับฉายาวาราชินี เพ่ือใหงาน แกมุฮัมมัดในฐานะผูแทนขายสินคาแกเธอในแดนไกล สุภาพสตรีผูสูงศักดิ์น้ี เปนผูอยูในเผาพันธุ และ ตระกูลเดียวกับอบูฏอลิบ อันคุณงามความดีของเธอยอมถูกจารึกอยูในหัวใจ และเปนกําลังใจใหชาว

กุเรช ซึง่ กาํ ลังตกตํ่าอยใู นขณะนัน้ ชาวนครมักกะฮย อ มซาบซ้ึงถึงความสูงศักดิ์ของมุฮัมมัด และไมมีผูใด เลย ท่ีไมรบั รองในความหนกั แนน ความเปนผูซ ื่อสัตยต ลอดจนความฉลาดของทา น คอดิยะฮไดร บี รบั คาํ ขอนี้ทันที และในไมชามุฮัมมัดก็ออกเดินทางนําสินคาออกสูตลาด และขาย ออกไปอยางสะดวกคลองคลาย พรอมท้งั ซ้ือสนิ คาใหมๆ อยางอื่น ซึ่งเหมาะสมกับตลาดของนครมักกะฮ มาแทน คอดียะฮรูสึกซาบซึ้งในความฉลาดและซ่ือสัตยของชายหนุม และเมื่อไดมองดูลักษณะใบหนา ของชายหนุมผูน้ีแลว ชางตรงกับลักษณะของศาสดาทานสุดทายตามคําทํานายของพระเจาแลว นางจึง นําตนเองเขาสูพิธีวิวาหมงคลกับทาน ไดรวมชีวิตดวยความสัตยซื่อสุจริต ท้ังยอมเช่ือฟงและชวยเหลือ ทา นทุกวิถีทาง ความสํานกึ ในบุญคุณของมุฮัมมัด ก็ไมยิ่งหยอนไปกวาความดีที่คอดียะฮมีตอตน นับถือ เธอและไมเคยกอความเจ็บชํ้าน้ําใจให โดยการมีภรรยาอีกคนหน่ึงในช่ัวชีวิตของเธอ นักเขียนบางคนได ตาํ หนิตเิ ตยี นทา นศาสดาอยา งไมเปนธรรม โดยกลา วหาวาทา นมักมากในกามคุณ ผูมีสติสมบูรณยอมจะ ใครครวญและเห็นไดวา ผูมีชีวิตหนุมกับสตรีที่มีวัยแกกวาตนถึง 15 ป ท้ังๆ ท่ีมีโอกาสท่ีจะมีภรรยาไดอีก อยางมากมายนน้ั จะเปนผมู ักมากในกามคณุ ไดอ ยา งไร แตทวาการมีภรรยาหลายคนในบ้ันปลายชีวิตของมุฮัมมัด ยอมมีพ้ืนฐานสืบเน่ืองมาจากความ ผันผวนทางดานการเมืองและทางศาสนา ตระกูลตางๆ หลายตระกุลท่ีแข็งขอกับทานไดยอมออนขอลง โดยการยอมรับเอาหญิงในตระกูลน้ันมาเปนภรรยา เราจะไดพบวาศัตรูท่ีรายย่ิง ไดกลับมายืนเคียงขาง ตอสเู พอื่ ทา น เมอื่ ทานไดยอมสมรสกบั หญงิ เหลาน้ี การทําสงครามเพ่ือปองกันตัวของทาน เปนเหตุใหมีผู ตองเสียชีวิตจํานวนมาก และพวกแมหมายผัวตายก็มักจะหาที่พ่ึงไมได มุฮัมมัดไดแสดงน้ําใจอัน กวา งขวาง โดยยอมรับเอาหญิงเหลานี้เขามาอยูในครอบครัวของทาน และเกลี้ยกลอมสาวกของทานให เจริญรอยตามทาน การกระทําดังกลาวแลว สามารถชวยเหลือเด็กกําพราและหญิงหมายไดเปนจํานวน มาก มุฮัมมดั และคอดยิ ะฮไ ดครองชีวติ กันอยูอยา งมคี วามสขุ จนมบี ุตรชายสองคนและบุตรหญิงสี่คน ทั้งบตุ รชายและบุตรหญงิ ของทานตางก็มอี ายสุ ัน้ ดว ยกันท้ังนั้น เวนฟาติมะฮบุตรหญิงคนสุดทองคนเดียว ซง่ึ เปน บคุ คลสําคัญในประวัตศิ าสตรดังจะกลาวตอจากนี้ไป ทานศาสดามุฮัมมัดไดรับการเปดเผยหลายประการจากเทวทูตกาเบรียล (ญิบรีล) เทวทูตองคน้ี ซึ่งคร้งั หนง่ึ เคยเปดเผยถงึ คําสัง่ ของพระเปน เจา ใหทานศาสดาประกาศศาสนา เร่ืองเหลานี้ทานศาสดาได เปดเผยใหคอดิยะฮภรรยาของทานและอะลีญาติของทาน ผูเปนบุตรของอบูฏอลิบ ทราบอยางลับๆ ขณะนั้น อะลีเปนเด็กอายุสิบเอ็ดขวบ แตมีความเที่ยงธรรมและสติปญญาเย่ียงผูใหญ อะลีไดตามทาน ศาสดาไปทุกหนทุกแหงท่ีทานไป เพ่ือการนมาซและการขอพรตออัลลอฮ ณ ท่ีระโหฐานตางๆ ภรรยาของ ทานและอะลีญาติของทานไดยอมรับนับถือคําสอนของทานศาสดาโดยมิรอชา สาบานที่จะรวมงานกับ ทาน และจะอยูรับใชทานดวยความสุจริตใจ และจะอยูเปนกําลังใจชวยเหลือ และรวมมือกับทาน ในเม่ือ ทานถูกชนชาติเดียวกับนเองตอตาน ทานทั้งสองไดเรียนรูถึงหลักและพิธีกรรมตางๆ จากสาสนทูตของ พระเจา อยางเงยี บๆ หลกั และพธิ ีกรรมตา งๆ นเ้ี อง ซง่ึ ตอมาภายหลงั ไดเปน สญั ลกั ษณข องศาสนาอิสลาม

ในรอบอายุขัยที่ 40 ของทานศาสดาน่ีเอง ท่ีไดเปดหนาใหมใหกับประวัติศาสตรโลก โดยการ เปดเผยคําสอนอยางเปดเผยในระยะแรกกับญาติพี่นองที่ใกลชิดและกับบุคคลท่ัวโลกในท่ีสุด ญิบรีลได แถลงใหท า นศาสดาทราบถงึ พระบัญญตั ขิ องพระเจา “ดงั น้นั จงอยา วงิ วอนพระเจา อืน่ ใด คูเคยี งกับอลั ลอฮ มิฉะนัน้ เจาจะเปน ผหู น่งึ ในหมูผ ูถกู ทําโทษ จงตักเตอื นวงศาคณาญาตขิ องเจา ทใี่ กลชดิ และจงลดปกของเจา (ออ นโยน) แกผูศรัทธาที่ปฏบิ ัตติ ามเจา หากพวกเขาฝา ฝน เจา ก็จงกลาวเถดิ แทจรงิ ฉนั ขอปลีกตวั ใหพน จากสง่ิ ที่พวกทา นปฏบิ ตั กิ นั อยู และจงมอบหมายตอ พระผูท รงเดชานภุ าพ ผทู รงเมตตาเสมอ ผทู รงเห็นเจาในขณะที่เจายนื อยู และการเคลือ่ นไหวของเจาในหมูผ ซู หุ ยูด (กราบ) แทจริงพระองคคอื ผทู รงไดยิน ผูทรงรอบรเู สมอ” (อัล กุรอานบทที่ 26 โองการที่ 213-220) เพ่ือการปฏิบัติตามพระบัญชาของพระผูเปนเจา ทานศาสดาจึงเชื้อเชิญญาติเชื้อสายของปูของ ทาน มารวมรับประทานอาหาร และหลังจากเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารแลว ทานศาสดาไดแสดง สนุ ทรพจนดงั ตอ ไปน้ี “ยังไมมีชาวอาหรับผูใดเลย ที่จะนําของขวัญอันมีคาย่ิง มาสูทานดังขาพเจา ความสุขสําหรับ โลกน้ีและโลกหนาที่จะมาถึง พระผูเปนเจาไดทรงบัญชาใหขาพเจา เช้ือเชิญประชาชนใหหันหนาไปสู พระองค ผูใดจะมารว มมือ มาเปน ญาตแิ ละเปน ผูแ ทนของขา พเจา บา ง” ท่ปี ระชมุ ตกอยใู นความเงียบ แตอะลซี ง่ึ มีอายนุ อ ยทสี่ ุดในสถานท่ีน้ัน ไดสนองคําอยางนอบนอม วา “ทานศาสนทูตของอัลลอฮ กระผมเองที่จะรวมมือกับทาน จะเปนนองชายและเปนผูแทนของ ทาน” ทานศาสดาสวมกอดอะลี พลางกลาววา “ขอใหพวกทานท้ังหลายเปนพยาน เขาผูนี้คือนองชาย ของขา พเจา และเปน ผแู ทนของขาพเจา จงตัง้ ใจฟงและเชือ่ ฟง คําสงั่ ของเขา” แลวทานศาสดาก็วิงวอนตอพระเจาดังนี้ “โอ พระผูทรงย่ิงใหญ ขอใหพระองคไดชวยเพิ่มกําลัง ใหกับขาพระองคด ว ยเถิด ดวยการรวมกําลังกับนองของขาพระองค ประดุจดังท่ีพระองคไดเคยเพิ่มกําลัง ใหกับมูซา (โมเซส) ดวยการรวมมอื กับฮารนู (อารอน)” เปนเวลาถึงสามป ท่ีทานศาสดามุฮัมมัดพยายามสั่งสอนศาสนา อยางซอนเรนใหแกพวกกุเรช แตไมมีผูใดที่จะยอมสาบานตนรวมกับทาน ตรงกันขามพวกน้ีกลับพยายามที่จะฆาทาน แตไมกลาท่ีจะ กระทําตอหนาอบูฏอลิบ เพราะพวกเหลาน้ี นับถือวาเปนผูนําของตนในดานศาสนาและการเมือง อีกครั้ง

หนึ่งที่ญิบรีลมาปรากฏตัว และแจงแกทานศาสดามุฮัมมัดถึงคําบัญชาใหเผยแผศาสนาแกบุคคลท่ัวไป ท้ังหมด ซ่ึงต้ังถิ่นฐานอยูในอารเบีย ไมวาจะเปนเหลาพวกกุเรชหรือไมก็ตาม ศาสดามุฮัมมัดซึ่งพรอมอยู เสมอที่จะปฏบิ ัตติ ามคําบญั ชาของพระองคผ ทู รงย่ิงใหญ ไดยืนขน้ึ บนแทนหินอิสมาอีล ซ่ึงประดิษฐานอยู ในมัสยิด และแถลงออกมาอยางเปด เผยวา “โอ เหลากุเรชและเหลาชนอื่นๆ ท่ีอาศัยอยูในแผนดินของเราน้ี ขาพเจาขอเชิญทานรับ เอาอลั ลอฮเปนพระเจาของพวกทานเพียงพระองคเดียว และขาพเจาเปนศาสดาของพระองค ขาพเจาขอ บัญชาใหพวกทานละเวนการนับถือพระเจาเทียมตางๆ ถาทานเชื่อฟงขาพเจา ในไมชาพวกทานก็จะได เปน นายปกครองเหนืออาหรบั และเปอรเ ชยี ” ชาวอาหรับตางมีความโกรธแคนในคํากลาวน้ี ซ่ึงตามความเห็นของพวกเขาถือวาไมถูกตอง และเปนการดูหม่ิน และตางก็ตําหนิทานศาสดาวา ถาหากไมเปนบาก็คงทะล่ึงสิ้นดี แตพวกน้ีก็ทําราย ทานไมไดเพราะทานอบูฏอลิบคอยคุมครองอยู พวกเขาจึงตางคบคิดกันเขาหาอบูฏอลิบ และฟองรอง กลาวหาถึงการลวงละเมิดของหลานของทาน และตางขอใหทานปลอบโยนมุฮัมมัดไมใหเขามาเกี่ยวของ ในการท่ีพวกเขาจะนับถือรูปปนตางๆ พรอมท้ังติดสินบนอบูฏอลิบวาจะยกทรัพยสินเงินทอง และหญิงที่ งามทีส่ ุดในอารเบียให เมื่ออบฏู อลบิ นาํ ขา วนี้มาเลาใหม ฮุ มั มัดฟง มฮุ ัมมดั ก็ตอบอยางแนน แฟนวา “กระผมไดนําศาสนาท่ีแทจริงของบรรดาศาสดาของพระเจามาสูชาวอาหรับ ถึงพวกเหลาน้ี สามารถนําดวงอาทิตยมาใหผมไวในมือขางขวา และดวงจันทรมาไวในมือขางซาย ผมก็จะไมทอถอยใน การปฏิบัติตามคําสั่งของพระเจาผูทรงยิ่งใหญ คุณลุงครับผมจะทําใหพวกเขาไดปกครองทั้งอารเบียและ เปอรเซีย เปนแตเพียงใหเขาท้ังหลายรับรองและกลาวพรอมกันวา “ไมมีพระเจาอื่นใดนอกจากอัลลอฮ และมุฮัมมัดเปนศาสนทูตของพระองค” และกระผมกลายืนยันดวยวา เราจะมีความสุขช่ัวนิรันดรตลอด ถึงโลกหนา” เหลาพวกกุเรชรูสึกผิดหวังในการปฏิเสธอยางไมไวเยื่อใยของมุฮัมมัด จึงไดเลิกคบคากับทาน ทานศาสดามุฮัมมัดตองอาศัยอยูในความคุมครองของทานลุงตอไป แตขวบปที่นาเศราสําหรับทาน ศาสดามุฮัมมัดไดผานเขามาอีกครั้ง ทานไดพยายามรักษาความสัมพันธอันดีท่ีมีตอผูมีอุปการคุณทั้ง สอง คือคุณลุงอบูฏอลิบและคอดิยะฮ ภรรยาสุดท่ีรักของทาน จนกระท่ังบุคคลทั้งสองไดถึงแกกรรม ระหวางที่คนท้ังสองยังมีชีวิตอยูไดเปนท้ังผูคุมครองและผูชวยเหลือที่ดีที่สุดของทานตอพวกศัตรู เหลา พวกกุเรชเม่ือเห็นมุฮัมมัดเหลือเพียงตัวคนเดียว ขาดผูชวยเหลือ ตางก็กล่ันแกลงทานตางๆ นานา ท้ังขู เข็ญจะเอาชวี ติ ทาน ถาทานไมย อมเปลี่ยนวิธีการ จะเปนการยืดยาวโดยใชเหตุ หากจะเลาถึงวิธีการตางๆ ที่ใชกล่ันแกลงทานศาสดามุฮัมมัด ศาสนทูตของพระเจา เหตุท่ีทานเพียงแตเชิญชวนพวกอาหรับที่อาศัยอยูในเมืองมักกะฮใหรูจักพระเจาท่ี แทจริง คงจะเปนการเพียงพอ ท่ีจะกลาววาทานศาสดายอมรูสึกถึงความเบ่ือหนาย ตอปฏิบัติการอันราย กาจจากเพ่อื นรว มชาติของทาน ทา นจึงตองลี้ภัยเพอ่ื เอาชวี ติ รอดจากมักกะฮส มู ะดีนะฮ ในคืนหน่ึงมีพวกมิจฉาชีพ นําโดยอบูซุฟยาน พวกตระกูลอุมัยยะฮคบคิดกันท่ีจะฆามุฮัมมัด ในขณะที่ทานนอนหลับ ญิบรีลไดแจงใหทานศาสดามุฮัมมัดทราบถึงแผนการอันช่ัวรายน้ี ทานศาสดาจึง

สั่งใหทานอะลีบุตรของทานอบูฏอลิบ นอนแทนท่ีของทาน ซึ่งทานอะลีก็ยอมปฏิบัติตาม โดยมิไดหวง กังวลตอชีวิตของตัวเองแมแตนอย และทานศาสดามุฮัมมัด ก็ไดอพยพสูมะดีนะฮอยางซอนเรน หากจะ กลาวถึงความยากลาํ บากตางๆ และความทุกขทรมาน ท่ีทานศาสดาประสพในการเดินทางแลว ก็จะเปน การเบ่ยี งเบนออกนอกลนู อกทางจนเกินไป จากจดุ ประสงคของหนงั สอื เลม น้ี แตอ ยางไรก็ตามยงั มีความจาํ เปนท่ีจะตองกลา วถงึ บทบาทของทา นอะลี บดิ าผูกลาหาญของเรา ท่ีกลาเอาชีวิตเขาเสี่ยงภัย ซึ่งหนาท่ีของทานในระยะเขาดายเขาเข็มครั้งน้ี อยางย่ิงใหญและใชความ ทรหดอดทนอยางมากมาย ทานอะลีไดสมัครใจเสี่ยงชีวิตเพ่ือชวยเหลือทานศาสดา ตองเปนผูแทนของ ทานศาสดามฮุ ัมมดั อยใู นมักกะฮเพือ่ รกั ษาเกียรติของทาน ในการชาํ ระหน้สี นิ และคนื ส่ิงของตางๆ ทอี่ ยใู น ความคุมครองของทานศาสดา ใหกับเจาของ ประการสุดทายก็คือทานอะลีจะตองนําครอบครัวของทาน ศาสดาผา นเหลา ศัตรู และเดินดว ยเทา ถึงมะดนี ะฮ โดยใหสตรีเหลา น้ันขอ่ี ูฐ ในคืนท่ีกําหนดคืนหนึ่ง พวกเหลารายไดเล็ดลอดเขาไปในบานของทานศาสดามุฮัมมัด ดวย ความหมายม่ันอยูในใจวา คงทํางานน้ีสําเร็จ แตเม่ือใครคนหนึ่งดึงเอาผาหมออก พวกเหลารายท้ังหลาย กต็ อ งประสพกับความประหลาดใจและผิดหวงั เปน อยา งยง่ิ ในเม่ือไดพบทานอะลีนอนอยูในที่นอน “มุฮัม มดั อยไู หน?” ใครคนหนึง่ ในจํานวนน้นั ตะคอกถามดว ยความหัวเสีย “ฉันไมไดถูกจางใหมาสะกดรอยทาน นี่นา” ทานอะลีตอบดวยความฉะฉานทําใหพวกเหลารายตองกลับไปดวยความอาย และโกรธแคนเปน อยา งยิง่ ในบรรดาเหตุการณท้ังหลายท่ีกลาวแลวขางตนนั้นยังมีเร่ืองท่ีนาตรึงใจ อันควรกลาวถึงอีกเรื่อง หน่ึงคือ เมื่อทานอะลีเดินทางไปพบทานศาสดาท่ีเมืองมะดีนะฮน้ัน ทานมีสภาพอันนาสงสารยิ่งนัก เทา ของทานกลัดบวมบอบช้ําเปรอะไปดวยเลือด หนาตาและเครื่องนุงหมเต็มไปดวยฝุนละออง ขณะท่ีทาน กําลังชวยเหลือครอบครัวของทานศาสดาลงจากอูฐ ซ่ึงมีฟาติมะฮ บุตรสาวอายุ 8 ขวบของทานศาสดา รวมอยูดวยนั้น ทานศาสดารูสึกต้ืนตันใจในสภาพของทานอะลี จึงตรงเขาไปสวมกอดและจูบทานอะลี ดวยความรักฉันญาติสนิท ความยากลําบากตางๆ ของทานอะลีที่ตองเผชิญนั้นมีอยูมากมายสุดท่ีจะ พรรณนา และทา นก็ไดรบั การยกยองและขอบคณุ ในความสําเรจ็ ทที่ านไดมาดว ยความยากยิ่ง ศักราชของอิสลามจึงเร่ิมนับกันต้ังแตบัดน้ี หลังจากคริสตศักราช 622 ป ในเดือนกันยายน ท่ี ทานศาสดามุอัมมัดถึงมะดีนะฮ และในทันทีหลังจากท่ีตั้งหลักแหลง ณ ที่นั้น ทานคิดเห็นวาหนาท่ี เบื้องตนของทานก็คือ จะตองสรางสถานที่สักการะ ซึ่งทานสามารถท่ีจะใหคําสั่งสอนถึงหลักธรรมใหมน้ี แกคนทวั่ ไปท่ลี อมรอบทานอยู เพ่ือใหไดมาซึ่งความจริงและความรู ฉะน้ันมัสยิดจึงไดถูกสรางข้ึนเพื่อการ น้ี ตรงขามมัสยิดก็สรางท่ีอยูอาศัยเล็กๆ ประตูหนาตางของมัสยิดเผยบานออกสูตลาด ยกเวนบานที่อยู ของทา นศาสดาและทา นอะลีทห่ี นั บานประตเู ขาสูมสั ยิด ในราวปฮิจเราะฮศักราชที่สอง เมื่อฟาติมะฮบุตรสาวของทานศาสดามุฮัมมัดมีอายุราว 9 ป เธอ ก็ไดแตงงานกับทานอะลีตามคําบัญชาของพระเจา การแตงงานกระทํากันอยางธรรมดาที่สุด ตาม ประวัติฟาติมะฮถูกสงตัวไปบานสามีดวยเส้ือผาชุดใหมเพียงชุดเดียว ซึ่งไดตระเตรียมไวเพื่อการน้ี พรอม ดวยเส้ือผา ชุดเกา สว นทรัพยส ินอื่นๆ หินบดแปงหนึ่งชุด หมอดินสองใบ รองเทาใหมหน่ึงคู ผาหมหนึ่งผืน

ผานวมสองสามผืน หนังแพะผืนหน่ึง สําหรับใชกับชุดหินบดแปง ทรัพยสินของบุตรสาวคอดิยะฮราชินี แหงอารเบีย ไดแจกจายใหแกคนยากจนเข็ญใจ และใชไปเพ่ือประโยชนของศาสนาอิสลาม เธอถูกนําลง จากบานของบดิ าสบู านของสามี พรอ มดว ยเคร่ืองแตงกายใหม และสินสมรสทีป่ ราศจากคา เม่อื มีขอทานเดนิ ผานมาและรองวา “โอบ ุตรสาวของทานศาสดาผูใจบุญ งานสมรสของเธอไดรับ การฉลองแลว แตภรรยาของขาพเจายังไรเสื้อผาเครื่องนุงหม” ฟาติมะฮผูประกอบดวยคุณงามความดี มี ใจสงสารตอการรองขอความปรานีจากเธอ จึงบัญชาใหเหลาสตรีท่ีมาเปนเพื่อนเธอก้ันมานลอมรอบตัว เธอ แลว นง่ั ลงถอดเสือ้ ตัวใหมออก เอาตัวเกา สวมแทนและบรจิ าคเส้อื ตวั ใหมใหแ กข อทานไป ในวันรุงข้ึนเม่ือบิดามาเย่ียมบุตรสาวของตนที่บานลูกเขย และปรากฏวาเธอสวมเส้ือชุดเกา จึง ถามเธอวาเสื้อตัวใหมไปไหนเสีย “ฉันจําไดจะพอ” ฟาฎิมะฮตอบ “ท่ีมัสยิด เมื่อมีคนยากจนคนแคน มา เลาถึงความลําบากของตน ที่ไมสามารถซ้ือเส้ือผาเครื่องนุงหมมาใชได คุณพอเอาเสื่อในมัสยิดพันกาย และเอาเส้ือของคุณพอใหไป ลูกของคุณพอก็ตองเดินตามรอยเทาของคุณพอ โดยยกเสื้อตัวใหมใหเปน ทานแกภ รรยาของผยู ากไร” บดั นี้ขอยอ นกลับมากลาวถึงเรอื่ งราวของเราตอไป ทานศาสดามิไดถูกปลอยใหไดรับความสุขใจ หลังจากทานไดอพยพ ศัตรูของทานนําโดยอบูซุฟยาน ไดพยายามหลายคร้ัง ท่ีจะโจมตีและฆาทาน ตลอดจนทุกคนที่ยอมรับนับถือศาสนาตามคําสอนของทาน ศึกบะดัรและอุฮุดเปนศึกนองเลือดท่ีทาน ศาสดาตอสูกับพวกกุเรช หากจะเปนวาเปนสงครามเพื่อการแกแคน กับการตอสูเพื่อปองกันศาสนา อิสลาม และอิสลามมิกชนจากการถูกเหยียบย่ําทําลายอยางดุเดือด แตก็ไดสรางความหว่ันเกรงใหกับคู ตอสูของทานศาสดา ซ่ึงบัดนี้ ทานก็ม่ันใจในอํานาจของทานที่เพ่ิมพูนขึ้น ท้ังไมสามารถท่ีจะคิดถึงทาน อยางดูหมิ่นดูแคลนตอไปได ฮัมซะฮทหารท่ีเกงกลาและสัมพันธกันในทางเปนอาของมุฮัมมัด ตองสิ้นชีพ ลงในสนามรบครั้งสงครามอุฮุด เพ่ือปองกันทานศาสดา ผูซ่ึงรอดชีวิตมาไดอยางหวุดหวิด ดวยความ เกง กลา สามารถของขนุ ศกึ อะลี ศึกสนามเพลาะ ที่มีชื่อเชนน้ี เพราะทานศาสดาไดขุดสนามเพลาะเพื่อปองกันสหายของทาน จากการโจมตีของขาศึก ซึ่งมีจํานวนมากกวา การตอสูในปฮิจเราะฮที่หาไดกอความเสียหายอยางหนัก ใหกับพวกนอกศาสนาชาวฮิญาซ พวกกุเรชแหงนครมักกะฮกับพวกยิวไดรวมตัวเขาดวยกัน เพื่อความ ต้ังใจที่จะปราบทานศาสดามุฮัมมัดท่ีมะดีนะฮ แตก็ตองลาถอยไป พรอมดวยความผิดหวัง ภายใต สถานการณอันเครงเครียดนี้ พวกกุเรชถูกบดขยี้อยางหนัก พวกยิวถูกถอนรากถอนโคนและไดถูกขับไล ออกไป ดูเหมือนจะไมมีอะไรมากีดขวางการขยายตัวของฝายมุสลิมได ความสําเร็จในคร้ังน้ีความสําคัญ อยูที่อัมร อิบนิ อับดุวุด ขุนศึกฝายตรงขาม ซ่ึงมีช่ือเสียงยิ่งยงในอารเบีย ถูกสังหารลงดวยนํ้ามือของ ทา นอะลี ไดมีการรบอยางประปรายอีกหลายคร้ังตอจากศึกสนามเพลาะ ซึ่งชวยสรางความมั่นคงใหฝาย มสุ ลมิ มากยง่ิ ขึ้น และทาํ ใหเ กียรติภมู ิของฝา ยตรงขามตองวิบัตลิ ง ตอจากน้ันความสนใจของมุฮัมมัดก็พุงเขาสูพวกยิวแหงคอยบัร ผูซ่ึงมีความภาคภูมิผยองใน ความมั่นคงของปอมปราการท่ีลอมรอบอยู และคอยยุแหยพวกอาหรับทะเลทราย ดวยความมุงรายตอ

ทานและเหลาศาสนิกชนของทาน คอยบัรอยูทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ในระยะทางเกินเทาถึง 4 วัน มี ภูมิประเทศอันสมบูรณและสวยงาม ท้ังมีปราการต้ังอยูเปนระยะ เพ่ือระวังรักษาปองกัน การโจมตีของ เหลาโจรปลนสะดม กองทัพท่ีกลาแข็งของทานศาสดามุฮัมมัด เดินหนาเขารุกรบ ไดชัยชนะอยางงดงาม พรอมยึดปราการแหงแลวแหงเลา จนในที่สุดก็เขาลอมปราการ ซึ่งเปนท่ีรูจักกันในนามวา คามุส ตั้ง ตระหงานอยูบนยอดเนิน ลอมรอบดวยคูคลองอันเปนท่ียอมรับกันแลววา เปนปอมปราการที่ไมมีใคร สามารถตีใหแตกได การปดลอมคงดําเนินอยูถึง 39 วัน กองทัพไดเขาจูโจมเปนระลอก แตทานศาสดา ตองไดรับความผิดหวังเปนอยางยิ่ง ท่ีกองทัพตองถอยหนีอยางเสียกระบวน แมแตอบูบักรและอุมัรตาง ผลดั กันยกทัพเขาตี แตค งพบกับชะตากรรมเดยี วกัน ความพายแพคร้ังแลวครั้งเลาไดพิสูจนถึงความสําคัญของทานอะลี ในวิกฤติการณน้ัน เพราะ เหตวุ าชยั ชนะทแ่ี ลวๆ มา ตา งข้นึ อยกู บั ความสามารถในเชิงสงครามของทานอะลีเทาน้ัน ขณะนี้ทานอะลี นอนปวยดวยโรคตาอยใู นคา ยดว ยหัวใจทีล่ ุกรอนเปนเพลิง ในทุกคราที่กองทัพมุสลิมตองลาถอย ในตอน เย็นของวันหนึ่งทานศาสดาของพระเจา จึงแถลงออกมาวา “ฉันจะใหอาญาสิทธ์ิแกผูท่ีมีความรักในพระ เจา และศาสดาของพระองค และผูท่ีพระองคก็ทรงรักตอบตอเขาเชนกัน เขาเปนผูไมรูจักการปราชัย แต จะเปนผูน ําชยั ชนะมาจากการโจมตีปอ มปราการอนั แข็งแกรง ในคร้งั น้”ี ณ วันที่สี่สิบ ทุกคนตางจองมองไปยังทานศาสดาอยางมีความหวัง ในเมื่อคํากลาวของทานได ทาํ ลายความเงยี บสงดั ขึ้น ตอ หนาฝงู ชนท่ีหอ มลอมรอบตวั ทานอยู “อะลีนอ งชายของฉันอยทู ไ่ี หน?” “เขานอนปว ยดว ยโรคตา” ซัลมานสหายชาวเปอรเซียตอบ “และไมสามารถทีจ่ ะออกรบได” “นาํ เขาเขา มาเด๋ียวน้ี” เปนคําสง่ั ออกจากวาจาของทา นศาสดาของพระเจา ท่กี ลาวตอ ซัลมาน ซัลมานจึงนําตัวทานอะลีเขามาพบ ทานศาสดาไดแสดงความมหัศจรรยใหปรากฏ ดวยการ รกั ษาตาของทา นอะลีใหห ายได ดว ยนา้ํ ลายของทานเอง และมอบอาญาสทิ ธ์ิในการนําทัพใหกับทานอะลี ดวยความสามารถของทานอะลี จึงสามารถขามคูน้ําเขาไปและสังหารมัรฮับ นักรบยิวท่ีมีรูปรางสูงใหญ ประดุจยักษ พรอมกับนองชายของเขา พรอมกับพังประตูปราการคอยบัรบุกเขาไปได กองทัพมุสลิมจึง เขาสเู มือง และยึดชยั ภมู ิอันม่นั คงแหง น้ีสําเร็จ ในปฮิจเราะฮที่แปด ทานศาสดามุฮัมมัดสามารถปกครองมาตุนครแหงเมืองนอยใหญทั้งหลาย ไดสําเร็จ พรรคพวกของชาวคอซรอจ ซ่ึงคร้ังหน่ึงเคยถูกเหยียบยํ่าและถูกขมเหงจากพวกกุเรช ไดเขามา ขอความชวยเหลือจากทานศาสดา มุฮัมมัดจึงเตรียมการอยางลับๆ เพื่อเขาพิชิตมักกะฮ และโดยท่ีชาว มักกะฮไ มเคยคาดฝน ไวกอนนเ้ี อง ทา นจึงไดยกพลท่ีมีจํานวนมากกวาขาศึกเขาไป อบูซุฟยานผูนําฝายอุ มัยยะฮ ผเู ปน คูปรบั และเปนศัตรูท่ีรา ยยิ่งของทา นศาสดามาเปนเวลานาน ไดว ิ่งเขามาหาทา นศาสดาดวย อาการตัวส่ันงันงก เพราะความหวาดกลัวและความอับอายพรอมท้ังยอมรับนับถือศาสนาใหม แตทวา การยอมรับนับถือศาสนาใหมในครั้งน้ี เปนการยอมนับถืออยางหนาไหวหลังหลอก เปนการกระทําเพื่อ เอาชวี ิตรอดเทาน้ัน ดวยความมีใจกวางและปรานีทานศาสดาประกาศที่จะไมเอาชีวิตชาวเมืองผูใดท่ีอยู ในชายคาบานดวยความสงบ บุคคลท่ีพํานักอยูในอัล กะอบะฮ จะไมถูกรบกวน หากเขาไมพบอาวุธติด ตัวเขา ไปดว ย

ทานศาสดามุฮัมมัดเดินทัพเขาสูนครมักกะฮอยางสงาผาเผย และดวยความเงียบสงบอยางย่ิง ทานเขาสูวิหารกะอบะฮ อันศักด์ิสิทธ์ิ และเริ่มตนทําลายรูปปนตางๆ มีรูปปนสองรูปท่ีมีชื่อวา ฮูบัล และ อุซซา ซ่ึงเปนที่เช่ือถือของชาวเมือง วามีอํานาจและมีความศักดิ์สิทธิ์ย่ิง สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชะตา กรรมของมนุษย ประดิษฐานอยูบนสวนที่สูงของกะอบะฮ มุฮัมมัดซึ่งเปนผูมีรูปรางสันทัด ไมสามารถที่ จะเอือ้ มมอื ไปทาํ ลายถึง ทา นศาสดาจงึ สง่ั ใหท า นอะลี ปนข้ึนเยียบทห่ี ัวไหลของทานเพ่อื จัดการทําลายรูป ปนคสู ุดทายของนครมกั กะฮใ หหมดสนิ้ ไป ทานศาสดาไดสงกองทัพอันเกรียงไกรของทานไปสูจุดตางๆ เพื่อยึดครองสวนตางๆ เหลานั้นไว ถาหากมิไดย ดึ เอาไวก็จะทําใหการเผยแผลาชาลง ผลที่ไดรับจากการกระทําเชนน้ี ก็คือทําใหภายในเวลา เพียง 2 ป อาหรับท้ังชาติก็ตกอยูภายใตการปกครองของทาน พรอมท่ีจะถวายชีวิตตามคําบัญชา และ พรอมที่จะเผชิญหนา กับชนชาตใิ ดทีม่ คี วามเกงกลาและเขมแข็ง ถาหากแมนชาตินั้นจะยังคงขัดขวางการ เผยแผศาสนาของศาสนทูตแหงพระเจา ทานศาสดาไดสงสาสนไปยังผูปกครองของประเทศตางๆ เช้ือ เชิญใหเขาเหลาน้ันเขารับนับถือพระผูเปนเจาที่แทจริง รวมกับทาน และเลิกนับถือพระเจาจอมปลอม ทง้ั หลายสนิ้ เหลาชนนอกศาสนา ที่เขามาอยูในความคุมครองของศาสนาอิสลาม มิไดประพฤติตนใหอยู ภายใตเง่ือนไขท่ีทานศาสดากําหนด และเมื่อถึงฤดูกาลของการทําฮัจญ ก็มักจะประพฤติตนในทาง ทําลายสัญญาที่ใหไวกับทานศาสดา ทานศาสดารูสึกรําคาญตอขาวน้ี จึงมอบใหอบูบักรเดินทางไปอาน คําประกาศแจงใหชนเหลานั้นทราบวา บัดน้ีทานศาสดาและชาวมุสลิมมิไดอยูในฐานะท่ีจะใหความ คุมครองเหลาชนนอกศาสนา เพราะเหตุวาพวกเขาไดละเมิดสัญญา ฉะน้ันภายหลังจากฤดูการทําฮัจญ แลว ดาบของอสิ ลามก็จะถูกชักออกจากฝก เพื่อปราบปรามพวกละเมิดฝาฝนชาวกุเรช ขณะท่ีอบูบักรพร อมผูแสวงบุญจํานวน 300 คนกําลังเดินทางสูนครมักกะฮ ทานศาสดามุฮัมมัดก็ไดรับบัญชาจากพระเจา ใหส ง ตวั ทา นอะลี ไปอานคําประกาศเปด สถานที่ศกั ดิส์ ิทธิอ์ ัล กะอบ ะฮ แทนอบูบกั ร ทานศาสนทูตของพระเจามิไดแสดงความยอหยอน ทอถอยในการวางกฎเกณฑตางๆ เพื่อยก ฐานะและวัฒนธรรมของมนุษยชาติใหดีขึ้น ท้ังทางดานปญญา ความคิด และธรรมจรรยา เสมือนเปน กษัตริยผูปกครอง นับเปนตัวอยางอันสูงสงในการผดุงฐานะของชนชั้นตางๆ มีการปกครองดวยความรัก และไมตรี เสมือนการปกครองเยี่ยงบิดาที่มีตอบุตร ในดานของผูเปนบิดา ทานไดวางกฎผูกมัดบิดาและ บุตรธิดาไว ดวยการใหฝายบิดาเพ่ิมพูนความดี มีความมานะพยายามในการเลี้ยงบุตรธิดา สําหรับสามี ทานก็ไดวางกฎเกณฑ แหงการเปนสามีภรรยาที่ดี ในฐานะเปนสวนหนึ่งของสังคม ทานสอนใหรูจักการ ปฏบิ ัติและวางตัวใหถ กู ตองสมบูรณ และยังยํา้ ถงึ หลักการการอยูร วมกนั ของมนษุ ยชน คําสอนขั้นสุดยอดก็คือ การสอนใหรูจักกับพระผูเปนเจาแหงสากลโลก ประการสุดทายใหละทิ้ง สิ่งท่ีไมใชตัวตน และใหรูจักตัวตนท่ีแทจริงคือองคพระผูเปนเจา ส่ิงเหลานี้คือเคร่ืองพิสูจนถึงความยอด เย่ียม ในฐานะมนุษยผูหนึ่งของทาน ซึ่งสมควรแกการเปนผูแทนขององคพระผูเปนเจา ทานศาสดาได สรางความสําเร็จใหแกกลไกของศาสนาอิสลาม และศาสนาอิสลามก็กําลังดําเนินไปในทางที่ควร ขณะนั้นทานไดรับโอกาสจากพระผูเปนเจา ใหเลือกเอาวาจะเปนศาสดาและปกครองบนพ้ืนพิภพตอไป

หรือจะกลับคืนสูองคพระผูเปนเจา ทานศาสดาเลือกท่ีจะกลับไปสูองคพระผูเปนเจา ทานจึงเตรียม ประกอบศาสนกจิ ในเรอ่ื งฮจั ญเ ปน ครงั้ สุดทายทีน่ ครมกั กะฮ ทานประกาศอยา งเปด เผย ถึงความมุงหมาย ของทาน ณ ท่ตี า งๆ ท่ัวดินแดนอารเบียใหเหลาบรรดามุสลิมไปปรากฏตัวที่สถานท่ีศักด์ิสิทธิ์อัล กะอบะฮ ตามวันเดือนท่ีกําหนดโดยพรอมเพรียงกัน สําหรับตัวทานเองยังมิไดประกอบพิธีฮัจญเลยแมแตคร้ังเดียว ในวันอานประกาศที่นครมักกะฮ เพื่อยกเลิกการนับถือรูปปนตางๆ ซ่ึงเปนพระเจาเท็จเทียมน้ัน ทานได ใหอบูบักรและภายหลังเปล่ียนใหทานอะลี ไปประกาศแทน ทานศาสดาไดรอโอกาสอันสําคัญเพื่อแสดง ตน คร้ังนี้ไดมีประชาชนจํานวนมากจากทุกภาคของดินแดนอาหรับมาชุมนุมกันเพ่ือกระทําพิธีฮัจญ ท่ี นครมักกะฮ ฉะนั้นทานศาสดาจึงเห็นเปนโอกาสเหมาะท่ีจะเชิญชวนผูคนใหมาชุมนุมตามกําหนดของ พระเจา ทานศาสดาข่ีอูฐซ่ึงมีนามวา “กอสวะฮ” และทุกๆ แหงท่ีทานพบหมูชนมุสลิมทานก็จะผานเขาไป พลางประกาศวา “บางทีปนี้จะเปนปสุดทายของชีวิตฉันๆ อาจไมไดกระทําพิธีฮัจญในปตอไป ฉันขอฝากฝงใหกับ พวกทา นสองประการ ๆ ท่ีหนึ่งคอื คัมภีรอ ัล กรุ อาน ซ่งึ เปนสายสัมพนั ธเ ช่อื มโยงระหวางมนุษยกับพระเจา ประการท่ีสองบุคคลในครอบครัวของฉัน ผูที่จะอธิบายความหมายในคัมภีรนั้น สองสิ่งนี้จะแยกจากกัน ไมไ ดช่วั นิรันดร ถาพวกทานมั่นอยกู บั ตัวแทนทั้งสองของฉันแลว พวกทานจะไมหลงออกไปจากทางเดินท่ี ถูกตอ ง” ในอกี โอกาสหน่งึ ทานศาสดายนื จบั ท่ีประตกู ะอบะฮ พรอ มกบั ประกาศตอผูท่ีผานประตูศักด์ิสิทธิ์ ไปดงั วา “บุคคลในครอบครวั ของฉนั น้ันเปรียบเสมอื นเรือ่ ของนฮู  (โนอา) ผูที่ขึ้นไปในเรือนั้นยอมปลอดภัย สําหรับผทู ไ่ี มยอมข้นึ เรอื ยอมจมนํา้ ตาย” เม่ือพิธีฮัจญสิ้นสุดลง มุฮัมมัดพรอมดวยสาวกของทานตางก็มุงกลับบาน และ 8 วันหลังจาก เสร็จพิธี เมื่อเขาทั้งหลายออกเดินทางมาถึงสถานที่แหงหน่ึงช่ือ “กุม” ซ่ึงเปนทางแยก ที่ ณ ที่น้ีเองบรรดา มุสลิมตางจะกลาวคําอําลา และแยกยายกันไปสูบานเมืองของตนตามทิศทางตางๆ ทานไดจัดการจัด แทนยืนใหสูงข้ึน ทานและทานอะลีขึ้นไปยืนบนแทนน้ัน ทานศาสดาไดกลาวย้ําตอท่ีชุมนุมชนถึงสิ่งตางๆ ท่ที านไดปฏบิ ตั เิ พอ่ื ผลประโยชนตอพวกเขา ดงั ตอไปนี้ “จากเหลาชนท่ี ชอบทะเลาะววิ าทกนั ขา พเจาไดชว ยยกฐานะของทานท้ังหลาย ใหเปนชาติทเ่ี จริญมิใชหรือ และ จากผนู ับถือพระเจา เท็จเทียมตางๆ ขา พเจาไดชวยใหพวกทานรูจักนับถือพระผูเปนเจาท่ีแทจริงมิใชหรือ? ขา พเจา นมี้ ใิ ชผูน ําที่สามารถนําทานไปในทางทด่ี ที ี่ถูกทค่ี วรย่ิงกวาตวั ทานเองหรอื ? “ถูกของทาน” เปนคําตอบท่ีดังขึ้นพรอมกัน “ทานไดเปนศาสดาท่ีดีย่ิงของพวกเรา และทาน เทา นน้ั ท่เี ปน ผูนําทด่ี ียง่ิ กวา พวกเรา” ถึงสามคร้ังที่ทานศาสดาไดกลาวเชนน้ีกับประชาชนที่ชุมนุมอยู และทานก็ไดรับคําตอบเชนวา นนั้ เปน อันหนงึ่ อันเดียวกนั พรอมเพรยี งกนั ถึงสามครัง้ ทานศาสดาจงึ จับมือทานอะลขี นึ้ พลางกลา ววา “อะลีเปนผูแทนของพวกทานแทนตัวฉัน” แลวทานศาสดาก็ยกมือขึ้นวิงวอน “โออัลลอฮ ขา พระองคไดนําบทบัญญัติของพระองคมาสู ผูเปนขาทาสของพระองคจงเปนมิตรกับผูท่ีเปนมิตรกับอะลี และเปนศัตรูตอผูที่เปนศัตรูของอะลี ขอพระองคจงชวยเหลือผูท่ีชวยเหลืออะลี และจงทําลายผูท่ีคิดจะ ทําลายอะลดี ว ยเถิด”

มีการเชือ่ ถือกันมาวา ทานศาสดาถึงแกอนิจกรรมโดยมิไดแตงตั้งผูใดเปนผูแทนของตัวทาน การ เช่ือเชนนี้เปนการเชื่อถือท่ีผิด ไมตรงตอขอเท็จจริงและเปนการลงโทษทานศาสดาอยางหนัก ในการ ปฏิบัติหนาที่ โดยท่ีปลอยปละละเลยศาสนจักรอันย่ิงใหญไป โดยปราศจากการแตงต้ังผูหนึ่งผูใดเปน ผูรับผิดชอบดูแลแทน ยอมเปนสาเหตุกอใหเกิดความตึงเครียด และการแตกความสามัคคีในหมูศาสนิก ชน อันเปนที่รักย่ิงของทานศาสดา การสําคัญผิดโดยปราศจากรากฐานยอมปลาสนาการไปตาม ขอเท็จจริง ท่ีบรรยายมาแลว ซึ่งไดรับการบันทึกไวจากผูเขียนประวัติศาสตรทางศาสนาอิสลาม ทั้งฝาย ซุนนแี ละฝา ยชอี ะฮ วา ทา นศาสดาไดแ ตงตัง้ ผแู ทนของทานในทางศาสนจักรกอนการวายชนม การทําผิดยอมเปนธรรมดาของมนุษยเรา และมนุษยเราก็มักจะทําอะไรผิดๆ ถูกๆ จึงไมอาจ เลือกศาสดาของพวกเขาข้ึนมาไดดวยตัวเอง พระผูเปนเจาเทาน้ันท่ีจะทรงเลือกศาสดาของพระองค เพื่อใหมาแนะแนวทางที่ถูกตองใหกับชาวโลก และเชนเดียวกันทานศาสดาก็ยอมแตงต้ังผูแทนของทาน ตามพระบัญชาของพระเจา ทานศาสดามุฮัมมัดก็ไมไดรับการยกเวนจากกฎเกณฑน้ี และทานเองก็ได พยายามทุกวิถีทางท่ีจะสถาปนาอํานาจการปกครองของอะลีใหเหนือเหลาสาวก ถึงแมจะไดรับการ ตอตานและวิพากษวิจารณจากเหลาชนท่ียอมรับนับถืออิสลาม เพราะความกลัวคมดาบของทานอะลี หรือเพ่ือความโลภอํานาจหรือทรัพยสินเงินทอง และตางก็รอเวลาส้ินชีพของทานศาสดา เพื่อพวกเขาจะ ไดก อการรายสําเร็จ เมือ่ ทา นศาสดากลับมาถึงนครมะดนี ะฮไ ดห นง่ึ เดือน ทา นกเ็ ร่มิ รูสึกถงึ พิษสงของยาพิษท่ีหญิงยิว คนหนึ่งเปนผูลอบวางยาทานท่ีคอยบัร ซึ่งคอยๆ เขาไปทําพิษตอรางกายของทาน ทานรูสึกวาวาระ สุดทายของทานเริ่มเขามาใกลแลว ทานไดสังเกตเห็นความเกลียดชังท่ีสาวกกลุมหนึ่งมีตอทานอะลี และ เพ่ือใหพ วกนี้อยหู า งไกลจากอะลีพอสมควร ทานจึงส่ังใหจัดต้ังกองทหารไปยังโรม ภายใตการบัญชาของ อุซามะฮ บุตรของเซด บุตรของฮาริษะฮ แตสาวกจํานวนมากกลับมีทาทีฝาฝน ทานศาสดาจึงกลาว ประณามสาวกท่ียงั ออยอ่งิ อยู และกลาวขอการสาปแชงจากพระเจาแกทุกคนทีฝ่ าฝนคําสง่ั ของทาน อาอิชะฮและฮับเซาะฮ ภรรยาสองคนของทานศาสดา ผูซึ่งมีความเกลียดชังบุตรเขยของคอดิ ยะฮมานานแลว ตางก็ชวยกันจัดแจงหาทางเรียกบิดาของตน คือ อบูบักรและอุมัรกลับ หญิงท้ังคูตางก็ หาทางใหบิดาของตน ไดเปนผูนําสืบเน่ืองจากทานศาสดา ครั้งหน่ึงทานศาสดาไดทราบวา อบูบักรกําลัง จะนํานมาซรวม ในมัสยิดตามความเห็นชอบของอาอิชะฮ ทานศาสดาจึงเรียกอะลี และฟซลบุตรของอับ บาสเขามา แลวทานก็ใหทั้งสองพยุงทานออกไปที่มัสยิด ถึงแมจะออนเพลียและไมสามารถท่ีจะเดินได ทานศาสดาก็พยายามลากขาเขาไปในมัสยิด และขอใหนําทานไปยังสถานที่ ซึ่งอบูบักรกําลังทําการ นมาซ ทานศาสดาไมสามารถลุกข้ึนยืนได ทานจึงนั่งทําพิธีนมาซ อบูบักรและมุสลิมคนอ่ืนๆ ตางนมาซ ตาม ทานศาสดามีความประสงคที่จะกระทําเชนนั้น แตไมมีกําลังพอท่ีจะกระทําได และเสียงของทานก็ ถูกกลนื ไปกบั เสียงคนหมูมาก ทา นศาสดากลับมาบานดว ยอาการไขสูง และตอจากน้ันทานก็ไมสามารที่ จะมาปรากฏตวั ในท่สี าธารณะไดอ กี ตอไป ทานใชชีวิตในวาระสุดทายนี้ดวยความสงบ ทานคอยแนะนําตักเตือนทานอะลี ฟาติมะฮ ใหมี ความอดทนตอความยากลําบากท่ีจะเผชิญกับโลกตอไป และใหสละตนตามพระประสงคของพระผู

อภิบาลแหงสากลโลก ถาหากเกิดวิกฤติการณใดข้ึนก็ขอใหอดทน เพราะจะไดรับรางวัลตอบแทนอัน ยิ่งใหญในโลกหนา ทานถามถึงฟาติมะฮ ฮาซันและฮูเซน บุตรีและหลานของทาน โดยกลาววา “กุหลาบ ในสวนของฉันอยูที่ไหน?” และเม่ือหลานของทานเขามาใกล ทานก็จูบพลางรองไห และกลาวถึงชะตา กรรมของหลานท้ังสอง ในเดือนซอฟร ปฮิจเราะฮท่ีสิบเอ็ด ดวงวิญญาณอันเปยมไปดวยการุณยธรรม ซึ่งไดกําเนิดเกิด มาในโลกก็ไดพบจุดจบอวสาน ในวงลอมของญาติ โดยมีฟาติมะฮนั่งรองไหอยูใกลๆ ดวยความเศรา ระทมเพราะการสูญเสียบิดา ซ่ึงไมสามารถที่จะเอากลับคืนมาได ฉะนั้นโลกจึงไดสูญเสียบุคคลท่ีมี ความสําคัญย่ิงทางประวัติศาสตร ผูเปนทั้งศาสดา นักปราชญและนักกฎหมาย ผูกอใหเกิดศาสนาและ อาณาจักร ผูยกฐานะเหลาสาวก ในระยะเวลาสิบป ใหสูงสงเทียบเทาหรือย่ิงกวาประชาชาติอ่ืนๆ ซึ่งไม สามารถกระทําไดแมใ ชเวลานับศตวรรษกต็ าม ทานอะลีพรอมดวยสมาชิกในครอบครัวของทาน จึงชวยกันจัดทําพิธีฝงศพของทานศาสดา แต เหลา พวกอุมัยยะฮก็ไดรีบเดินทางไปยังสะกีฟะฮ บนีสะอีดะฮ สถานท่ีหน่ึงซึ่งตั้งอยูหางจากนครมะดีนะฮ ราว 7 ไมล เพ่ือคบคิดกันวางแผนอยางลับๆ ตกลงกันใหแจมชัดวา ผูใดสมควรจะเปนผูแทนตอจากทาน ศาสดา ตามความประสงคของพระเจา เม่ือพวกน้ันกลับมา ตางก็พบวาศพของทานศาสดา ถูกฝงไวท่ี บา นของทานในนครมะดนี ะฮเปน ท่เี รยี บรอ ยแลว บทท่ี 3 ทานฮูเซน ขณะเยาว รายละเอียดตางๆ ที่กลา วมาสองบท คงเปนการเพียงพอ ท่ีจะทําใหทานผูอาน สามารถเขาใจได วา ทานอะลีและฟาติมะฮเปนใคร ทานอะลี ซึ่งเปนบุตรของอบูฏอลิบ เปนผูหนึ่งที่เคยปกปองพิทักษทาน ศาสดามฮุ มั มดั และเปนเสมือนปราการอันม่นั คง สาํ หรับพกั อาศัยในเวลาตกทุกขไดยาก เปนคนแรกที่รีบ เขาชวยเหลือทานศาสดา ในวันที่ทานศาสดาเร่ิมประกาศศาสนา และไดรับนับถือใหเปนนองชาย เปน ตัวแทนของทาน ความเหมาะสมของทานอะลีในทุกวิถีทาง ยอมกอใหเกิดความรูสึกอันเปนมงคลยิ่ง สําหรบั ผูศกึ ษาประวัติชาวอาหรบั ในสนามรบ ทา นแสดงถงึ ความสามารถในการทาํ สงคราม ทานสามารถ เคลื่อนไหวไปในท่ีตางๆ ไดอยางรวดเร็วย่ิง และสามารถชนะศัตรูของอิสลามได ท้ังกลาที่จะประจัญหนา สังหารอัมรและมัรฮับ ซึ่งยอมรับนับถือกันวาเปนยอดของยุค ยิ่งกวาน้ันทานอะลียังเช่ียวชาญในการ ประพันธส ภุ าษติ ทง้ั รอ ยกรองและรอ ยแกว แสดงใหเ ห็นถึงอัจฉริยภาพของศาสดาดาวูด (เดวิด) สุไลมาน (โซโลมอน) และศาสดาอซี า (เยซ)ู รวมกนั คร้ังหนึ่งทานอะลี ถึงแมจะไดรับความทรมานเปนอยางย่ิง เพราะมีลูกศรปกอยูท่ีเทาของทาน ก็ ยังนมาซดวยจิตใจอันแนวแน แมทานศาสดาจะไดสั่งใหนายแพทยดึงเอาลูกศรออก ทานก็ยังไมรูสึกตัว หลังจากนมาซเสร็จ ทานอะลีก็รูสึกแปลกใจที่เลือดสดๆ เปอนผาปูนมาซ แตก็ไดทราบภายหลังวา ทาน ศาสดาไดถือโอกาส ขณะที่ทานอยูในภวังคนมาซ ในเวลากลางคํ่ากลางคืนดึกด่ืน ก็จะไดพบทานอะลี

เดินอยูตามตรอกซอกซอยของมะดีนะฮ เที่ยวแจกขนมปงและผลอินทผลัมแกพวกแมหมายและลูก กําพรา พรอมกับกลา วคาํ ปลอบโยนตา งๆ นานา บุคคลเชนทานอะลี รวมกับฟาติมะฮ ผูเปนสัญลักษณของกุลสตรี ยอมถือเสมือนเปนเพชรน้ํา เอก บุตรคนแรกของทานอะลีและฟาติมะฮถือกําเนิดเมื่อวันที่ 15 เดือนรอมาฎอน ปฮิจเราะฮที่สาม กอน เดือนรอมาฎอน ทา นศาสดาไดออกไปนอกเมอื ง เพือ่ ปฏิบตั หิ นาที่บางอยา งทางศาสนาของทาน โดยทาน ส่ังไวกับบุตรสาววา ตองไมใหนมเด็กจนกวาทานจะกลับมา แตเนื่องจากทานศาสดากลับชาเกินไป หลงั จากที่เธอคลอด เธอจงึ จาํ เปนตอ งใหน มแกบ ุตร ภายหลงั ทท่ี า นศาสดากลบั มาและทราบเร่ือง ทานได กําชับอีกคร้ังวา ตองไมใหนมเด็กคนที่สองที่จะเกิดมาอีก ในขณะท่ีทานไมอยูบานใหรอจนกวาทานจะ กลับมา ในวันท่ี 3 ชะอบาน ปฮิจเราะฮที่ส่ี ฟาติมะฮก็ใหกําเนิดบุตรชายอีกคน ขณะท่ีบิดาของเธอ เดินทางอยูตางถิ่น สามวันไดผานไปโดยไมมีว่ีแววของทานศาสดา เด็กก็กําลังไมรอดดวยความหิว แต ทันใดนั้นทานศาสดาก็ปรากฏตัวขึ้นดวยใบหนายิ้มแยม แจมใส ทานอุมหลานไวบนตัก และใหเด็กนอน ดูดล้ินของทา น เดก็ นน้ั ดูดล้นิ ของทา นดวยความกระหาย ทานศาสดามุฮัมมัดต้ังช่ือหลานคนแรกของทานวาฮาซัน คนที่สองวาฮูเซน ตามอยางบุตรชาย ของทา นศาสดาฮารณู (อารอน) ที่มีชือวา ชาบรั และชบุ บรี ซ่งึ ตามความหมายของภาษาฮิบรูนั้นตรงกับคํา วาฮาซนั และฮเู ซนในภาษาอาหรบั มีประวัติบุคคลเพียงสองสามคนเทานั้น ตามประวัติศาสตรศาสนา ท่ีคลอดภายในกําหนดหก เดือนและสามารถมีชีวิตอยูรอด บุคคลเหลานี้คือจอหน เดอะแบบติสต (ยะฮยา) อีซา (เยซู) และฮูเซน และถาศึกษาถึงชีวิตของบุคคลท้ังสามนี้ ก็จะพบถึงความเปนคนใจบุญการุญสุนทานคลายคลึงกันทั้ง สามทาน ขณะทเ่ี ด็กทารกไดรบั การเล้ยี งดจู ากมารดา ภรรยาของทานศาสดาไดย นื ยนั วา บางครั้ง จะไดยิน เสียงของฟาตมิ ะฮก ลอ มบุตรมีความวา “หนูมีหนาตาเหมือนบิดาของแม ไมเ หมือนอะลีซงึ่ เปน บดิ าของหนเู อง” ทานศาสดามฮุ มั มดั มีความรักฮาซันและฮูเซนอยางสุดซ้ึง คร้ังหนึ่งเม่ือทานน่ังอยูในมัสยิด ฮูเซน วิ่งเขามานั่งตักทานและคลําเคราของทานเลา ทานแสดงความพึงพอใจการกระทําของเด็กนอยพรอมกับ สวมกอดและจูบรับขวัญ ปากก็พร่ําขอพรตอพระเจาดังนี้ “ขาพเจารักเด็กนอยผูนี้มาก และขาพเจาขอให พระองคร กั เขาดวย” ในอีกกาละหนึ่งขณะเมื่อทานศาสดามุฮัมมัดกําลังนมาซ ฮาซันและฮูเซนว่ิงเขามาหา บางครั้ง เด็กทั้งสองก็วิ่งไปรอบๆ ทาน เม่ือทานยืนและเมื่อทานกมซุหยูด (กราบ) เด็กทั้งสองก็จะปนหลังและ เกาะคอของทาน หลังจากทานเสร็จการนมาซ ชายผูหน่ึงที่อยูใกลๆ ไดตําหนิการกระทําของเด็ก แตทาน ศาสดามุฮัมมัดกลับส่ันหนาหามพรอมกับกลาววา “ผูใดท่ีไมคารวะผูใหญและไมรักเด็ก เขาผูนั้นไมใช พวกของเรา”

วันหนึ่งขณะเม่ือทานศาสดากําลังพูดคุยอยูกับเหลาสาวก ทานกลาววา “ฉันไมมีท่ีวางในหัวใจ เหลืออยูสําหรับฮาซันและฮูเซน สาวกจึงถามวา “โอทานศาสดาของพระเจา คํากลาวน้ีจะเปนจริงได อยา งไร ในเมือ่ เราไดเ ห็นดวยตาของเราเองวา บางครั้งทานก็จูบรับขวัญหลานของทาน บางคร้ังทานก็อุม เอาขึ้นบา เม่ือหลานของทานขึ้นหลังในขณะท่ีทานกมการบตอพระเจา ในเวลานมาซ ทานก็ไมกลายก ศีรษะขน้ึ ” “ฉนั รักหลานของฉัน” ทา นศาสดาตอบ “ไมใ ชเ พราะเด็กพวกน้ีเปน หลานของฉัน แตเ พราะเหตุวา เด็กพวกน้ีเปน ท่รี กั ของพระเจา ” คราวหนง่ึ ฮาซันและฮูเซนเกิดปวย ทานอะลีและฟาติมะฮตางบน (นะซัร) วา ถาบุตรของตนหาย ปวยจะถือศีลอดใหสามวัน หลังจากบุตรท้ังสองคนหายเปนปกติ ทานอะลีและฟาติมะฮตางก็เร่ิมถือศีล อด ฮาซนั และฮเู ซนตา งก็รวมถอื ศีลอดดวย วนั ท่ีหน่งึ ผา นไปหลังจากนมาซมักริบ (ยามค่ํา) เสร็จแลว ตาง ก็เตรียมละศีลอดดวยขนมปงคนละกอน แตทันใดนั้น ก็ไดยินเสียงที่ประตู “ขาพเจาเปนมุสลิมจนๆ ไมได รับประทานอะไรมาทั้งวัน และเมื่อไปขอบานอ่ืนก็ไมได ขาพเจาจึงมาขอบานท่ีผูมาขอทานไมเคยกลับไป ดวยความผิดหวัง” ทานอะลีจึงนําขนมปงของตนออกมาใหทานไป และบุคคลอื่นๆ ในครอบครัวก็ปฏิบัติ ตาม เหตุการณเชนนี้เกิดข้ึนตอไปอีกสองวันติดๆ กัน โดยวันที่สองใหทานกับเด็กกําพราและวันท่ีสามให ทานกับเชลยศึก ในวันตอ มาทา นศาสดามุฮัมมัดไดม าเยยี่ มครอบครัวบุตรสาวของทาน พรอมกับนําขาวดีมาแจง วา พระผูเปนเจา ทรงมีความยินดีอยางย่ิง ในการเสียสละความสุขสวนตัว เพื่อผูอื่นของบุคคลใน ครอบครัวของทานอะลี พระองคท านจงึ ไดประทานพจนารถไว ดังตอ ไปนี้ “สูเจาเปนผูปฏิบัติตามสัญญา และดวยความรักในพระผูเปนเจา ไดเลี้ยงดูผูอัตคัด ขัดสน ผู กําพราและผถู กู จองจํา” เหตุการณท่ีกลาวน้ีและเหตุการณอ่ืนๆ อีกหลายคร้ัง แสดงถึงความใจบุญโอบออมอารี และ น้ําใจซึ่งพรอมแลวท่ีจะเสียสละตนเอง เพื่อประโยชนของมนุษยชาติ ของสมาชิกในครอบครัวของทาน ศาสดามฮุ ัมมัด ในปฮ ิจเราะฮทเี่ กา ไดมีบาดหลวงชาวครสิ ตจ าํ นวนหนึ่งเดินทางมาที่นครมะดีนะฮ เพื่อสอบถาม ดูวาศาสนาท่ีทานศาสดามุฮัมมัดส่ังสอนน้ัน จะศักด์ิสิทธ์ิ จริงหรือเท็จเพียงใด ภายหลังจากที่สังสรรคกับ ทานศาสดาเพียงเล็กนอย ตางก็นัดพบกันท่ีจัตุรัสแหงหน่ึงในนครมะดีนะฮ พรอมกับนําญาติและบุตร หลานของตนมาดวย ทั้งสองฝายตางจะตองสวดออนวอนตอพระผูเปนเจาใหลงโทษฝายเท็จ วันรุงขึ้น ปรากฏวาทานศาสดามุฮัมมัดไดมาตามนัด พรอมดวยฟาติมะฮ ฮาซัน ฮูเซนและทานอะลี หัวหนา บาดหลวงคริสเตียนสอบถามดูวา ใครบางท่ีมากับทานศาสดา และเม่ือทราบวาผูที่มากับทานนั้น ลวน เปนญาติสนิทของทานท้ังส้ิน พวกบาดหลวงคริสเตียนตางรูสึกแปลกใจ และหัวหนาบาดหลวงไดแจงตอ บรรดาบาดหลวงท่ีมาวา พวกเราอยามาทวนสาบานกับมุฮัมมัดเลย ถาเขาเปนคนไมจริง เขาคงไมพา บุตรหลานของเขามาทวนสาบานกับเราดอก พวกคริสเตียนตางก็ขออภัย และขอถอนคําทาตอทาน ศาสดามฮุ ัมมัด พรอมกับกลบั ไปบานเกดิ เมอื งนอนของตนดวยความพึงพอใจ

ประวัติศาสตรมิไดแสดงใหปรากฏวา ทานฮูเซนไดรับการศึกษาจากสถานศึกษาแหงใด แต ความจริงมีอยูวา ทานศาสดาและวงศวานผูสืบศาสนา ตอจากทานศาสดาอีก 12 ทานน้ัน มิไดรับ การศึกษาจากสถานศึกษาใด เพราะเหตุวาในสมัยน้ันไมมีสถานศึกษาเชนทุกวันนี้ ในภาคนั้นของโลก หรือวาจะมีครูมาสอนที่บานก็ไมปรากฏ แตความรูและความสามารถตางๆ ท่ีไดรับจากขอเขียนของ บุคคลเหลานี้ ยอมกอใหเกิดความฉงนสนเทหอยางยิ่งแกชาวโลก และเราก็จําตองรับคําบอกกลาวของ บคุ คลเหลา นี้วา ความรูต า งๆ ทท่ี า นไดร ับน้นั ไดม าจากอลั ลอฮ พระผูเปน เจา ผูท รงสพั พัญูรสู ิ้น เปนความเชื่อโดยทั่วๆ ไปวาทานฮาซันและทานฮูเซนเปนผูไดรับการฝก การใชอาวุธ และใน การทหารจากทานอะลีผูเปนบิดา ซึ่งเปนที่รับรูกันท้ังในหมูมิตรและศัตรู ถึงความสามารถอันเปนเยี่ยม ของทาน แตเ ราก็ไมมีขอพสิ จู นอนั ใดในประวัติศาสตรเกี่ยวกับเรอ่ื งน้ี ไดมขี อกลาวถงึ ในประวัติของทานฮู เซนวาทานสันทัดในการขี่มา แตในเยาววัย คร้ังนั้นทานฮูเซนกําลังจะข้ึนข่ีมาแตทานอับดุลลอฮ บุตรของ อับบาส ผูมีศักด์ิเปนลูกพี่ลูกนองของทานศาสดา ไดยืนถือบังเหียนเพ่ือชวยใหทานฮูเซนข้ึนข่ีมา ชายคน หนึ่งท่ีผานไปเห็นเขาจึงทวงวา ทานอับดุลลอฮทําไมทานถึงไดกระทําตัวของทานใหตํ่าตอยตอหนา ธารกํานลั โดยไปถือบังเหียนใหเ ดก็ เลา ” ทา นอบั ดุลลอฮจงึ ตอบโตไปโดยสภุ าพวา “ถึงแมเขาจะมีอายุนอยกวาขาพเจา แตฮูเซนก็อยูในฐานะสูงกวาขาพเจา เพราะฮูเซนผูนี้ สืบสายโลหิตจากทานศาสดา” มีความจริงอยูอยางหน่ึง ท่ีเราอยากใหทานผูอาน ไดทราบถึงความสัมพันธอันเรนลับ ระหวาง ศาสนาอิสลามกับทานฮูเซน กลาวคือกอนทานฮูเซนปฏิสนธิ การเผยแผศาสนาของทานศาสดา ไดรับ ความสําเร็จนอยเต็มที และทานก็ตองไดรับความพายแพ ทั้งในสนามรบและการเผยแผศาสนาอิสลาม แตการปฏสิ นธขิ องทานฮเู ซนไดก ลบั หนามือเปน หลังมอื เหตกุ ารณด งั กลาวสิ้น ศกึ สนามเพลาะ อันเปนชัย ชนะข้ันตนของทานศาสดาและเปนศึกที่กําหนดชะตากรรมของชาวอาหรับท้ังผองนั้น ไดสัมฤทธิ์ผลเม่ือ ทา นฮูเซนมีอายหุ นงึ่ ป และครั้นเมอื่ ทานฮเู ซนเติบใหญอสิ ลามกเ็ ฟองฟไู ปทัว่ แวนแควนอารเบีย เมื่อทานฮู เซนมอี ายเุ จด็ ขวบอาหรับทัง้ ผองกอ็ ยูแทบเทา ทา นศาสดา ตามเหตุการณที่กลาวมาแลวขางตน ก็พอสรุปได โดยไมตองเกรงการวิพากษวิจารณใดๆ วา นานเทานาน ท่ีทานศาสดายังมีชีวิตอยู ทานฮูเซนยอมไดรับความยกยองนับถือท้ังในบานและนอกบาน ผูปกครองของทานฮูเซนรักและยกยองทาน เพราะความดีงามของทาน ความกตัญูรูปฏิบัติของพระผู เปนเจา แมแตในขณะเยาววัย และความมีประพิมประพายคลายทานศาสดา ทานศาสดาจึงทรงรักและ ใหเกียรติทานฮูเซน เพราะทานเปนท่ีรักขององคพระผูเปนเจา เม่ือทานศาสดามุฮัมมัดมีอํานาจใหญย่ิง ในขณะนน้ั ทา นไดแสดงความเอาใจใสตอหนาบุคคลทั้งหลาย จึงเปนธรรมดาที่คนทั้งหลายทั่วแวนแควน อาหรบั จะตอ งแสดงความเคารพนบนอบตอทานฮูเซนเชนกัน บางก็ดวยความจริงใจ บางก็แสดงเพื่อเอา ใจทานศาสดา บทที่ 4

คอลฟี ะฮหรือผบู ัญชาการอาณาจักรอิสลามคนแรก ณ สะกีฟะฮ บนีสะอีดะฮ ซึ่งพวกอุมัยยะฮรวมกลุมกันเพ่ือต้ังผูแทนของพวกเขาน้ัน ประวตั ิศาสตรอ สิ ลาม บนั ทึกไววา เปนสถานที่สาํ หรบั พวกผกู อ การรา ยคบคิดกันกอการราย มาเปนเวลา ดึกดาํ บรรพแ ลว ทา นศาสดาซง่ึ สนิ้ ชพี ไปหยกๆ กลมุ พวกกอการก็ทยอยกนั ปลกี ตวั ออกจากมะดีนะฮไ ปยงั สะกีฟะฮ บนีสะอีดะฮ ดวยความมุงหมายอันใดทานผูอานก็คงจะทราบดี พวกเหลานี้มิไดรอแมแตฝงศพ ทานศาสดา ตา งเรงกันตั้งคอลีฟะฮข้ึน โดยเกรงวาอํานาจความเปนใหญในแผนดินจะตกไปอยูในมือของ ทานอะลี พวกเหลาน้ีฉวยโอกาสขณะท่ีทานอะลีมัวแตทําพิธีฝงศพทานศาสดา ตางจึงรวมมือกันทําธุระ ของตนใหเสร็จลลุ วงไป ขณะทานอะลีไมอ ยู ไดม ีการถกเถยี งกนั อยา งรอนแรง ระหวางบุคคลท่ีชุมุนมอยูท่ี สะกีฟะฮ พวกมุฮาญิรีน (ผูอพยพ)ของมักกะฮ และพวกอันซอร (ผูชวยเหลือ) ในมะดีนะฮ ก็ถกเถียงกัน ตางก็ตองการคอลีฟะฮท่ีเปนพวกของตน เถียงกันไปเถียงกันมา จนถึงข้ันประอาวุธกัน แตอุมัรเขาแกไข สถานการณได โดยยอมยกยองใหอบูบักรบิดาของอาอิชะฮเปนคอลีฟะฮ และขอรองแกมบังคับใหผูอื่น ยอมตาม อบูบักร อุมัรและพรรคพวกตางก็แหกันไปตามถนนของมะดีนะฮ คอยเกล้ียกลอมบุคคลอ่ืนให สาบานเขาเปนพวก และประกาศความเปนคอลีฟะฮของตัว เม่ือตางมาถึงบัยตุลมาล ซึ่งเปนที่เก็บ ทรัพยสินสวนรวมของมุสลิม ก็เขายึดเอาไวในการปกครองของตน และตางก็มาที่มัสยิดประกาศความ เปนคอลฟี ะฮตอ หนา บคุ คลทร่ี วมกลมุ รอคอยอยูท ี่นั่น ขณะเมื่อการประชุมที่สะกีฟะฮ ดําเนินไปอยางเครงเครียด ทานอะลีผูประดุจบุตรของทาน ศาสดามฮุ มั มดั เอง กก็ ระทําพธิ ฝี งศพของทาน โดยไมสนใจเหตุการณตางๆ ท่ดี ําเนินอยูภายนอก การแตงตงั้ ประกาศผูแทน และประกาศตงั้ คอลีฟะฮ ของศาสนจักรอิสลามคนใหม ไดกระทําข้ึน โดยที่ครอบครัวของทานศาสดาไมเคยรับรู ท้ังท่ีทานศาสดาเคยกลาวไววา ครอบครัวของทาน เปรียบเสมือนเรือของศาสดานุฮ (โนอา) ทานศาสดาใชความพยายามอยางยิ่งยวดท่ีจะนํากฎตางๆ ของ ศาสดามซู า (โมเซส) ที่หนักไปในทางวัตถุ และกฎตางๆ ของศาสดาอีซา (เยซู) ที่หนักไปทางบริหารจิตใจ ของบุคคลใหดีขึ้นมาประสานกัน และนําหลักการใหมที่อยูระหวางหลักการของมูซาและอีซา ใหมีความ พอดีระหวา งวัตถุและจิตใจ ทา นศาสดามฮุ มั มัด ไดพ ยายามประสานระหวา งทางโลกและทางธรรม ใหอยู รว มกันไดโดยไมแตกแยกกนั ฉะนั้น ทานศาสดามุฮัมมัดยอมเปนหัวหนาท้ังทางศาสนจักรและอาณาจักร แตยังไมทันท่ี วิญญาณจะออกจากรางของทานศาสดา ก็มีมารท่ีคบคิดกันเพ่ือที่จะทําลายความสําเร็จท่ีทานสรางมา ดว ยความยากลําบาก อํานาจท่ีตกอยูในมอื ของผูที่มีความบริสุทธ์ิใจ และความเทย่ี งธรรมไมส ามารถทีจ่ ะ พิสูจนไดตามมาตรฐานของอัล กุรอาน หรือตามมาตรฐานที่ทานศาสดาเคยแสดงไว ฉะน้ันกฎและ ขอบังคับตางๆ ท่ีตั้งขึ้นตามมาตรฐานของคัมภีรอัล กุรอาน และความนิยมในสมัยของทานศาสดา จึงถูก ทอดทิ้งใหอยูในความมืดมนอนธกาล ในเมื่อคนในครอบครัวของทานศาสดาไดเผชิญกับการละทิ้ง ทางเดินอันถูกตองโดยเจตนา ทานจึงตีตัวออกหาง ทานอะลีผูเปนหัวหนาของเหลาชาวตระกูลฮาชิม ซ่ึง

ตามความชอบธรรมยอมจะตองเปนผูดูแลสถานท่ีศักด์ิสิทธ์ิ อัล กะอบะฮแทนบิดา จะตองเปนคอลีฟะฮ จะตองเปน ผแู ทนของเหลาชนมสุ ลิมแทนทานศาสดามุฮัมมัด จึงยอมเก็บตัวอยูในบาน ปลอยโลกนี้ใหกับ ผูทตี่ องการจะครองโลก ถึงแมในสถานการณเชนน้ี ทานอะลีก็มิไดปลอยเวลาใหลวงเลยไปโดยเปลาประโยชน ยังคง เคารพภักดีตอพระผูเปนเจาอยูตลอดเวลา ทานไดถูกบังคับใหแสดงสัตยาบันตออบูบักร ผูเปนคอลีฟะฮ แตทานอะลีไดแยงตอหนาอบูบักร ถึงความชอบธรรมและขอเท็จจริงวา ผูใดควรจะเปนคอลีฟะฮ อบุบักร จําตองยอมรับขอเท็จจริงตามท่ีทานอะลีแยง พรอมทั้งกลาวคําขออภัยและแสดงความเสียใจ ที่ตนมารับ เปนคอลีฟะฮ โดยไมมีสิทธิอันชอบธรรม แตดวยคํายุแหยของอุมัร อบูบักรจึงไมยอมคืนท่ีดินตําบลฟะดัก ซึ่งเปนทรัพยสินสวนตัวท่ีทานศาสดามอบใหทายาทของทาน ทรัพยสินน้ีทานศาสดายกใหฟาติมะฮ ตาม คาํ สั่งของพระผูเ ปน เจา ซงึ่ ทรงตรัสวา “โอศาสดา จงยกทรัพยสนิ ของทา นใหแ กผ ูเปน เจา ของสทิ ธ”ิ เหตุการณท่ีกลาวขางตนนี้ ยอมเปนเคราะหกรรมท่ีทานฮาซันและทานฮูเซนตองไดรับ ทรัพยสิน ซึ่งเปนสมบัติของมารดาตัว อันเปนทรัพยสินท่ีใชยังชีพ ไดถูกย้ือแยงไปอยางโหดราย แตในท่ีสุดความ ฉลาดเยี่ยงโลกียวิสัยก็มีชัย และโลกก็หันหลังใหธาราแหงธรรม เพื่อเห็นแกเล็กแกนอย ความดีงามของ คนในครอบครัวทานศาสดาจึงถูกทอดทิ้ง เพราะไมมีความดึงดูดและความพึงใจเย่ียงทรัพยสินเงินทอง ฉะน้ันพรานผูลาเหยื่อใหเขามาแสวงหาธรรม ก็ขาดเหย่ืออันจะดึงดูดฝูงสัตวเขาสูธรรมะ การรูจักพระเจา ที่แทจ ริงก็มัวหมองลง นอกจากบคุ คลท่ีมใี จเปน ธรรมอยา งแทจ ริงเทา น้นั ท่สี ามารถจะเขา ใจไดว า อะไรผดิ อะไรถกู และสามารถเดินไปตามหลักการอันถกู ตองแทจริง ที่ทานศาสดากาํ หนดไวไ ด ทานอะลี ในคํากลาว ซึ่งมีผูใหช่ือวาคุตบะฮชักชะกียะฮ ไดแสดงความรูสึกของทานอยางนาฟง ดงั น้ี “ฉันรูถึงสิทธิอันชอบธรรมของฉัน ซ่ึงฉันไดรับจากพระผูเปนเจาโดยทานศาสดา ไดถูกฉุด กระชากเอาไป โดยผูที่ไมมีสิทธิอันชอบธรรมใดๆ ดวงตาของฉันเต็มไปดวยน้ําตา เสมือนฝุนละออง ที่ ปลิวเขาไปในนั้น ฉันไดคิดคํานึงอยูวาควรจะอดทนตอเหตุรายน้ี หรือควรจะชักดาบตอสู ถาฉันปฏิบัติ ตามความคิดเหน็ ของฉันในประการแรก ชาวโลกกจ็ ะคดิ วาฉันกลวั ตอ อาํ นาจของคอลีฟะฮ ถาฉันทําตาม ความคิดเหน็ ของฉนั ในประการหลัง ศาสนาอิสลามท่ยี งั ไมมนั่ คงน้ันกจ็ ะถกู ทําลายลง เพราะประชาชนคิด วาอะลีเปน คนมกั ใหญใฝส ูง ทา นอะลจี ึงกระทาํ ตามคําบัญชาของทานศาสดากอนท่ที า นจะสิน้ ใจ คอื ยอม ถวายไปตามความประสงคของพระผูเปนเจา เสมือนนกซ่ึงไดรับการฝกมาดีแลวในฝูงนกปา ฉันตองยอม ตัวรว มฝงู กับมนั ไป ฉันตามมันไป แตกใ็ ชความพยายามท่จี ะนํามนั ไปในทางทถ่ี ูกตองเม่ือโอกาสอํานวย” เจาอบูซุฟยานท่ีฉลาดแกมโกง ศัตรูท่ีรายย่ิงของทานศาสดา ผูซึ่งยอมเขารับนับถือศาสนา อิสลาม เพราะกลัวตาย บัดน้ีจึงไดกลับเขามาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะทําลายงานของทานศาสดาที่สรางไว ลับหลังทานอะลีมันก็แสดงความคิดเห็นวา อํานาจท่ีควรจะครองตอไปหลังทานศาสดานั้นควรเปนของ คนอ่ืน มิใชพวกในตระกูลทานศาสดา บัดน้ีมันไดเขามาหาทานอะลี โดยเจรจายุยง ใหทานอะลีกอการ ปฏิวตั ยิ ดึ อํานาจจากอบบู กั ร ดังนี้

“มันไมใชเปนส่ิงนาอัปยศอดสูดอกหรือ ท่ีบุตรหลานของพวกอบูกุฮาฟะฮ จะมามีอํานาจบน แผนดิน และเราซึ่งเปนบุตรหลานของชาวฮาชิมและอุมัยยะฮจะตองตกอยูภายใตอํานาจและการเช่ือฟง เขา ฉนั จะทําใหท องทุงเต็มไปดว ยทหาร พรอมทจ่ี ะขยศ้ี ตั รู เพยี งแตทานจะหนั หนามาคิดกบั ฉนั เทา นัน้ ” เปนธรรมดาที่ทานอะลีจะไมเห็นดวยกับการท่ีจะกอสงครามภายใน ทําลายสันติสุขภายในหมู ชนอิสลาม ทานจึงตอบไปวา “กอนท่ีทานจะเขารับนับถือศาสนาอิสลาม ทานมีนิสัยชอบยุแหยใหพวก อาหรับดวยกันทะเลาะวิวาทกัน เด๋ียวน้ีทานเขารับนับถือศาสนาอิสลามแลว ก็ยังไมท้ิงนิสัยเดิมของทาน อกี หรือ?” เม่ืออบูซุฟยานเห็นวาจะเกล้ียกลอมทานอะลีใหเขาเปนพวกไมได จึงตัดสินใจไปรวมกลุมอยูกับ ฝายตรงขาม และภายหลังจึงไดหาทางใหบุตรของตนช่ือวา ยะซีด เปนผูบัญชาการทหารอิสลาม พวกอุ มัยยะฮอ ่นื ๆ ตา งก็ไดพบกับลูท างท่ีจะทําใหความเชื่อม่ัน และวัตถุประสงคของอิสลามเสื่อม ซึ่งความจริง พวกน้ีไมตองการท่ีจะปฏิบัติตามหลักการของอิสลาม เพราะเปนศาสนาท่ีสรางขึ้น โดยพวกตระกูล ลูกหลานของฮาชิม และการปฏิบัติตามหลักการศาสนายอมยังความลําบาก ในการที่จะกระทําการช่ัว รายตา งๆ แตพ วกนี้ก็มิไดอยูในฐานะที่จะสลัดหลักการของศาสนาอิสลามออกไปไดอยางเปดเผย พวกนี้ จึงคบคิดกันทําลายศาสนาอิสลามแบบใตดิน คือโดยเปดเผยก็แสดงตนวาเปนมุสลิม แตก็คอยยุแหย ทาํ ลายรากฐานและหลกั การของศาสนาอิสลามอยา งลับๆ พวกนถี้ อื โอกาสทีท่ า นอะลไี มยอมของแวะ ใน เหตุการณบานเมือง จึงเขาหาคอลีฟะฮคนใหม จนไดรับการยกยองและไดรับตําแหนงหนาที่ท่ีสําคัญ ใน กิจการบานเมอื งจากคอลฟี ะฮค นใหม เม่ือฝายศัตรูของทานศาสดา กําลังแผวถางหนทางไปสูความย่ิงใหญ ท้ังทางการเมืองและทาง เศรษฐกิจ ครอบครวั ของทา นศาสดาก็ตอ งไดร บั ความทุกขทรมานจากพวกเหลาน้ีตางๆ นานามากข้ึน ฟา ติมะฮมารดาของทานฮาซัน ทานฮูเซน ผูเปนบุตรสาวของทานศาสดาไดรับความสลดใจอยางย่ิง ในการ ปฏิบัติอยางผิดทํานองคลองธรรมของเหลามิจฉาชีพ ซ่ึงอางตนเองเปนสาวกของทานศาสดา และเมื่อ ความเศราสลดใจทว มทนหวั ใจเธอ เธอก็ระบายออกมาเปน บทกลอนภาษาอาหรับ ซง่ึ มีความหมายดงั นี้ ความทุกขยากทฉ่ี ันไดรบั นัน้ แมกลางวันแดดจา อันสดใส กจ็ ะกลบั เปลยี่ นผันทันทใี ด กลับกลายไปสรู าตรีทม่ี ดื มน เสมอื นการโมแปงอยเู ปน นจิ มือยอมปลิดแตกซาํ้ ชา้ํ กมล หากตักน้ําจากบอ หลายหลายหน ยอ มเกดิ ผลใหห ลงั โกงและโคง งอ หลังจากทานศาสดาส้ินชีพเพียงหกเดือน ฟาติมะฮก็ติดตามทานไปยังปรโลก ตามคําทํานาย ของทานศาสดากอนตาย เน่ืองจากถูกกระแทกจากประตูบานของเธอเอง ท่ีมีผูถีบเขามาโดนเขาที่ครรภ

จนไหปลาราหัก เธอจากโลกน้ีไปในวัยเพียง 18 ป เทาน้ัน ยังความหวาเหว อางวาง และเศราสรอย ใหก ับทานอะลี ฮาซัน ฮเู ซน ซัยนับและอมุ มุกลุ ซมู เปน ท่ียิง่ ในขณะฟาติมะฮบุตรสาวของทานศาสดายังมีชีวิตอยู มุสลิมทั่วไปก็ยังแสดงความเกรงใจ ทานอะลี แตเม่ือฟาติมะฮส้ินชีพลงแลว ก็มีคนบางกลุม พรอมที่จะประณามทานอะลีอยางเปดเผย แต ความสามารถและบคุ ลิกภาพของทาน ทําใหบคุ คลเหลา นน้ั ไมกลาประณามทานตอหนา มีผูท่ีตางคิดจะ ทําลายทานอะลี แตมารยาทอันงดงาม ความประพฤติและจิตใจที่ดี รวมท้ังความกลาหาญท่ีทาน แสดงออก ไดทําใหผูคนที่จะเขามาทํารายทาน เลิกความคิดและกลับมีความนิยมในตัวทาน แมแตคอ ลีฟะฮก็ยังตองเขาหาทานอะลี เพื่อใหชวยคลี่คลายปญหาอันซับซอนทางการเมืองและศาสนา ในเมื่อ ปญ ญาความคิดของสามัญชนธรรมดา ไมสามารถท่จี ะขบคดิ และใหการอรรถาธิบายได เมื่อคณะทูตจาก ประเทศตา งๆ เขา พบ คอลีฟะฮกเ็ ปด โอกาสใหซักถาม แตเ มือ่ มปี ญ หาถามถึงเร่ืองศาสนา คอลีฟะฮเองก็ ตองยอมรับวาไมมีความรูเพียงพอ และนําไปหาทานอะลีผูซึ่งมีความสามารถ ในการใหคําอรรถาธิบาย เมื่อมสุ ลมิ บางคนกําหนดใหค อลฟี ะฮอรรถาธิบายโองการอัล กรุ อานบางตอน คอลีฟะฮก็จะบอกปดไปให ทานอะลี เพราะตวั เองไมม ีความสามารถ เกี่ยวกับกิจการของรัฐ อบูบักรมักตองปรึกษาทานอะลี ซ่ึงแทนท่ีจะรูสึกนอยเนื้อตํ่าใจที่ตนเอง ตอ งถกู ชว งชิงสิทธิอันชอบธรรม แตกลับพรอมเสมอท่ีจะใหคําปรึกษา อันถูกตองและมีคา โดยมีความมุง หมาย ทจี่ ะพิทักษร กั ษาประสิทธิภาพแหง หลกั การศาสนาอสิ ลาม ระยะเวลาการปกครองของอบบู ักรนั้นสนั้ เพราะมอี ายุมากและออ นแออยูแลว หลังจากปกครอง อยูได 2 ป 6 เดือน อบูบักรก็ถึงกาลกิริยา อุมัรสามารถโนมนาวปลุกปนใหอบูบักรทําพินัยกรรมยกใหตัว เปนคอลีฟะฮแทนหลังจากอบูบักร และอบูบักรนี่เองท้ังๆ ที่รูวาสิทธิอันชอบธรรมของการเปนคอลีฟะฮ ไมใชข องตวั เองและอุมัร แตเปน ของทานอะลี ก็ยงั ดนั ทุรังเขยี นพินยั กรรมยกยองใหอ ุมัรเปน คอลีฟะฮแทน วิธีเลือกคอลีฟะฮเปล่ียนแปลงอยูเสมอ ตามกาลเวลา โดยมีความมุงหมายโดยเพียงใหวงศวาน ของทานศาสดา พน จากการมามีอํานาจการปกครองบา นเมือง อบูบักรไดรับเลือกก็มิใชดวยหลักการแหง การเลือกตั้ง ดวยเสียงขางมากหรือดวยการการแตงต้ังที่สมควรแตประการใด อบูบักรมิไดเปนผูมีความ ใกลชิดประการใดตอทานศาสดา ท้ังมิไดเคยถูกระบุเปนผูแทน หรือคอลีฟะฮจากทานศาสดา ในการ เลอื กตัง้ นั้นก็มิไดมกี ารแจงใหบุคคลทั่วไปทราบลวงหนา โดยเฉพาะอยางย่ิงแกเหลาตระกูลของฮาชิม ซ่ึง เปนสมาชิกในครอบครัวของทานศาสดา แมแตท่ีสะกีฟะฮ บนีสะอีดะฮ ก็มิไดมีการลงคะแนนเสียง หรือมิใชคนสวนใหญท่ีอยู ณ ท่ีน้ันลง ความเห็นเปน เอกฉันทก ห็ าไม แตอ มุ รั ไดใ ชเลหก ระเท ชวยแตง ต้งั อบูบกั รเปน คอลีฟะฮ อาจจะดวยสาเหตุ นก้ี ระมังทีอ่ บูบกั ร จึงเห็นสมควรแตง ตง้ั อมุ ัร เปนคอลีฟะฮตอจากตน ในขณะท่ีอุมัรเปนคอลีฟะฮปกครองอยูนั้น ประวัติศาสตรมิไดบันทึกเรื่องราวของทานฮูเซนมาก นัก แตการท่ีทานอะลีตองเก็บตัวอยูในบาน และการรอบรูทางหนังสือของทาน ซึ่งไดบันทึกเร่ืองราวตางๆ ไวใหแ กโ ลกมากมายนั้น เปนเหตุผลเพียงพอท่ีจะใหเราไดเล็งเห็นวา ระหวางน้ันทานฮาซันและทานฮูเซน

ก็คงจะไดรับการสั่งสอน ในศิลปะวิทยาการตางๆ จากทานบิดา อะลีคงจะไดสั่งสอนและอธิบาย ความหมายตา งๆ ในตวั บทของคัมภรี อ ลั กรุ อาน ทง้ั ปฏบิ ัติอยางดีใหเ ปนตวั อยา งแกบ ุตร ถึงแมความเปนอยูของทานฮูเซนจะถูกละเลย มิไดรับการเอาใจใสจากรัฐ แตประวัติศาสตรก็ได บันทึกเหตุการณสําคัญบางอยางเก่ียวกับตัวทานเชนกัน วันหนึ่งอุมัรกําลังเทศนาอยูในมัสยิดของมะดี นะฮ ทานฮูเซนก็บังเอิญเดินมายังมัสยิดในขณะน้ันดวย ทานจึงเดินไปน่ังท่ีอุมัรน่ัง ณ แทนเทศนาของ ทานศาสดา พรอมกับกลาวกับอุมัรตอหนาคนท้ังปวงวา “โอ อุมัรเอย ขอใหทานจงไปใหพนจากแทน เทศนาของพอฉนั และไปยังทขี่ องพอ ทา น” อุมัรกลาวตอบวา บิดาของทาน ไมเคยบอกใหฉันทราบเลยวา เปนผูสอนใหทานพูดจากับคอ ลีฟะฮอยางน้ี“ ทานฮูเซนยืนยันวา ไมมีผูใดสอนทานใหพูดเชนน้ี แตเปนคําพูดที่เกิดจากความรูและ ความคิดท่ีถูกตองของทานเอง คอลีฟะฮจึงเชิญฮูเซนไปพบท่ีบาน คร้ันฮูเซนไปพบที่บานก็กลับถูกอับ ดุลลอฮ บุตรของคอลีฟะฮ ปฏิเสธไมใหเขาพบ โดยกลาววามุอาวิยะฮ บุตรของอบูซุฟยาน กําลังเจรจา กันดวยเร่ืองลับ เหตุการณที่กลาวถึงน้ี ยอมแสดงใหเห็นถึงความกลาหาญของหนุมฮูเซน วาถึงแมจะอยู ในฐานะตา่ํ ตอยสักปานใดกต็ าม แตก ม็ ไิ ดแ สดงความหวาดเกรงแมแตน อ ย ในการที่จะวิจารณกันตอหนา ถึงความชอบธรรม ในการเปนคอลีฟะฮเลยแมแตนอย พวกอุมัยยะฮ ไดเขาหาคอลีฟะฮ เพ่ือเจรจาความ เมืองตางๆ แตค อยปดบงั เนือ้ ความมิใหพวกตระกลู ฮาชิมรู การปกครองในสมัยอุมัรเปนที่ทราบกันดี ถึงความสําเร็จในการขยายอาณาจักรไปสูเปอรเซีย และไอยคุปต พวกอาหรับซ่ึงมีจิตใจเปนนักรบอยูแลว และเคยใชจิตใจในการเปนนักรบน้ี ในการ ปลนสะดม และรบราฆาฟนกันเองนั้น บัดนี้สามารถรวบรวมกันไดเปนอันหน่ึงอันเดียวโดยทานศาสดา เพื่อประโยชนในการปองกันตนเองและศาสนา และเพื่อที่จะตอตานบรรดาผูที่ขมเหงมุสลิม แตหลังจาก ทา นศาสดาสน้ิ ชีพลงจุดประสงคใ นการตอสเู พือ่ ปองกันตนเองนีก้ ็เปลี่ยนแปลงไป กองทัพของอสิ ลามหรือ มสุ ลิมไดถกู สง ออกไปทว่ั ทกุ สารทศิ เพอื่ ประโยชนข องการขยายอาณาจกั รเทานั้น วัตถุประสงคของทานศาสดาในการเผยแผศาสนา ก็เพื่อท่ีจะรวบรวมบรรดาผูที่ยังดําเนินชีวิต ผิดๆ นอกลูนอกทางใหเขามาสูทางเดินของพระเจา แตเนื่องจากฝายคัดคานไมเห็นดวยไดใชกําลังเขา ตอตาน ทานจึงจําตองต้ังกองทัพเพื่อตอสูในระยะตอมา ศัตรูของทานศาสดานั้นมิใชคนธรรมดาสามัญ ท่ีมีพรรคพวกไมก่ีคน แตเปนหัวหนาและผูปกครองประเทศ ซึ่งตางก็มีกองทัพอันแข็งแกรงของตน เปน เหตุใหทานศาสดาจําเปนตองฝกฝนบุคคล ตั้งเปนกองทัพใหมีกําลังความสามารถท่ีจะตอสูได ดวยเหตุ ฉะน้ีจึงไดเกิดเปนอาณาจักรขึ้นโดยปริยาย เพื่อจะผดุงศาสนาอิสลามและมุสลิม ใหมีกําลังอํานาจ พอท่ีจะไมต องถกู บีบบงั คบั จากฝายตรงขาม ซ่งึ มีท้ังกษัตริยแ ละผูป กครองแวนแควน ตา งๆ ภายหลังมรณะกรรมของทา นศาสดา เหตกุ ารณก็เปล่ียนแปลงไป ผลได จึงกลายเปนเหตุใหกอง กําลังของมุสลิม ท่ีถึงแมมิไดถูกโจมตีจากผูใด ก็รุกล้ําไกลออกไปจากเปอรเซียและไอยคุปต เพื่อแสวงหา อาณาจักรและดินแดนใหมๆ เพราะเหตุนี้ ทานอะลี ซ่ึงถึงแมจะมีความกลาหาญและความสามารถ ในทางทหาร จนเปนที่รับรูกันจนกระท่ังบัดน้ี ท้ังในหมูมิตรและศัตรู ผูซึ่งในสมัยนั้น ทานศาสดาสามารถ

กําเอาความมีชยั ในการศกึ ทีย่ ากยง่ิ ในยุคท่อี สิ ลามยงั ออ นเยาว ยังขอถอนตัวออกใหพน จากสงครามทกี่ อ ข้นึ ในสมัยหลงั น้ี ซงึ่ กระทําในนามของอิสลาม ทานไมยอมรวมในงานสงคราม ซึ่งทานเห็นวามิไดทําเพ่ือวัตถุประสงคของศาสนาอยางแทจริง และทานเห็นวาการคุกคามและการรุกรานผูอื่น เปนการกระทําที่ขาดความบริสุทธ์ิใจ และผิดตอ หลักธรรมของศาสนา ถึงแมสมัยทานศาสดา ในเมื่อทานจะสูรบกับขาศึกตัวตอตัว ทานก็ไมยอมที่จะลง มือโจมตีศัตรูกอน คร้ังศึกสนามเพลาะ ในเม่ือเจายักษ อัมร บุตรของอับดุวัด ไดขอใหทานอะลีเริ่มการ ตอสูกอน แตทานก็ปฏิเสธ โดยกลาววาผูรุกรานเปนผูกดข่ี ฉะน้ัน พระเจาก็จะใหผูกดขี่เปนผูแพ ฉันไม ตองการใหตัวฉนั มบี ัญชอี ยใู นจาํ พวกผูรกุ ราน ฉะนั้นทานจะตอ งลงมือกอ น แลว ฉนั จะตอสูเ พอ่ื ปอ งกันตวั ในบรรดากองทัพที่อุมัรสงออกไปทําสงคราม กองทัพที่ยกออกไปตอสูกับยัซดิการด จักรพรรดิ เปอรเซีย เปนท่ีรูจักในนามนุชวิรวานผูทรงธรรม เปนกรณีหนึ่งท่ีควรแกการใครครวญ กองทัพของมุสลิม ถูกสงออกไปในปฮิจเราะฮท่ีย่ีสิบสาม เพ่ือรวมเอาเปอรเซียมารวมอาณาจักร กลับมาดวยความสําเร็จ พรอมดวยทรัพยสินเงินทองจํานวนมาก และเชลยชาวเปอรเซียจํานวนหน่ึง ในหมูเชลยมีหญิงสาวผูหน่ึง นามวา ชาหซ ะนาน เปนท่ีรจู ักกันในนามชัรบะนู ผูเปนราชธิดาของยิซดิการด เจาชีวิตโซโรอัสเตรียนองค สดุ ทายของเปอรเซีย เธอถูกนํามา ณ ทองพระโรงตอหนาอุมัร พรอมดวยเชลยคนอ่ืนๆ เจาหญิงผูทรงศักดิ์ศรี ซึ่งเติบ ใหญขึ้นมาภายในพระราชวัง แหงจักรพรรดิผูมีวัฒนธรรมสูงท่ีสุดในสมัยน้ัน รูสึกอับอายขายหนาและ หมดอาลัยท่ีจะยืนประจัญหนากับคอลีฟะฮชาวอาหรับ และบุคคลสําคัญอื่นๆ ของประเทศ ซึ่งในความ คิดเห็นของเธอเห็นวา เปนประเทศท่ีขาดวัฒนธรรมและปา เถื่อนทสี่ ดุ เธอเร่มิ แชงเหลา ราชบริพารและราช บัลลังกข องเธอเปนภาษาเปอรเซยี ท่ีไมส ังหารเธอเสียกอน ทจ่ี ะปลอยใหเ ธอมาตกระกาํ ลําบากประดุจขุม นรก คอลีฟะฮผ ไู มสามารถเขาใจภาษาเปอรเ ซยี หาวาเธอดา วาตน ก็เกดิ โทสะส่งั ใหนําเธอไปขายเปนทาสี ในตลาดสาธารณะ แตทานอะลีซ่ึงอยู ณ ที่น้ันคัดคานคําสั่งของคอลีฟะฮ พรอมท้ังแปลคํากลาวของเจา หญิงใหฟง และออกความเห็นดวยเสียงอันหนักแนนวา เธอควรจะไดรับอนุญาตใหเลือกสามี เพราะจะ เอาเจา หญิงไปขายอยา งเชลยธรรมดาสามัญน้นั ไมได เมื่อคอลีฟะฮเห็นวาทานอะลีคัดคานไมเห็นดวย จึงโอนออนผอนตาม โดยยินยอมใหเธอเลือก สามีจากบุคคลทั้งหลายที่อยู ณ ที่น้ัน ทานอะลีคอยเปนลามใหเจาหญิงทราบถึงคําส่ังของคอลีฟะฮ ชรั บะนูมองดบู คุ คลตา งๆ ท่ีอยู ณ ท่ีนั้นอยางพินิจพิเคราะห เธอมองดูแลวเห็นวามีบุคคลเดียวเทาน้ัน ท่ีมี ลักษณะดีงามพึงใจเธอ เธอจึงไปเบื้องหลังบุคคลผูน้ัน แลวเอามือวางไวบนบา เพ่ือแสดงวาเธอเลือกเขา เปนสามีเธอ และบุคคลท่ีเธอเลือกผูนั้นคือทานฮูเซน ทานอะลีเปนผูทําพิธีแตงงานระหวางเจาหญิงกับ ทานฮูเซน พรอมกับกลาววา “จงนําเธอไปบาน จงใหความเชื่อถือ และจงใหเกียรติเธอ เพราะพระผูเปน เจากําหนดใหเ ธอเกิดมา เพ่ือใหกาํ เนดิ บุตรหลานผูท ีจ่ ะมาเปนผนู าํ แกโ ลกในกาลตอ ไป” ในสมัยอุมัร ตามบันทึกของดามัสกัส ไดเกิดขาวยากหมากแพงขึ้นคราวหน่ึง เนื่องจากฝนฟาไม ตกตองตามฤดูกาล คอลีฟะฮ ไดเชิญลุงของทานศาสดา โดยขอรองใหชวยจัดการใหครอบครัวของทาน ศาสดาวิงวอนตอพระผูเปนเจา ใหฝนตกตองตามฤดูกาล และใหหายขาวยากหมากแพง โดยคําขอของ

ทานอับบาส ทานอะลี ฮาซัน ฮูเซน อับบาส พรอมดวยสมาชิกในตระกูลฮาชิม ซ่ึงตามไปขางหลัง เมื่อ มาถึงสถานท่ีแหงหน่ึง ทานอับบาสไดกลาวตอคอลีฟะฮวา “ขอใหพวกที่ไมใชมาจากเหลาตระกูลฮาชิม อยาไดมารวมการวิงวอนนี้ดวย” ตอจากนั้นลุงของทานศาสดาก็กลาวคําวิงวอนตอพระเจาดังนี้ โอ องค พระผูเปนเจา ในนามของญาติแหงทานศาสดา ขาพระองคขอใหพระองคทรงประทานฝนลงมาเถิด” คํา วิงวอนน้ียังไมทันจบ ก็เกิดลมพายุ ทองฟามืดมัว และเกิดฝนตกลงมา ทุกคนที่อยู ณ ที่น้ันไดเปนสักขี พยาน กลบั บานกนั ดว ยเสอ้ื เปยกปอน อุมัรเปนคอลีฟะฮอยูไดสิบป ก็ถูกฟโรซหรืออีกชื่อหนึ่งวาอบูลุลุแทงเอาถึงตาย แตกอนตายอุมัร ไดแตงต้ังบุคคลข้ึนหกคน ใหตางคนตางเลือกคอลีฟะฮในระหวางพวกของตนท้ังหก บุคคลท่ีอุมัรแตงตั้ง ขน้ึ มดี ังนี้คือ อับดลุ เราะฮมาน บุตรของอุฟ สะอัด บตุ รของอบีวักกอส ตอลฮะฮ ซเุ บร อุสมานและอะลี แต ถาคะแนนเลอื กเทา กันกใ็ หอ บั ดุลเราะฮม าน บินอุฟ เปน ผูช ขี้ าด ถา ไดใ ชวจิ ารณญาณพจิ ารณาดเู รื่องน้ใี ห ถองแท ก็จะมองเห็นไดอยางแจงชัดวา วิธีการเลือกคอลีฟะฮแบบน้ี จุดหมายที่แทจริงก็อยูท่ีความ ประสงคทจ่ี ะใหอ ุสมานเปนคอลฟี ะฮเ ทานั้น ดงั เหตุผลตอ ไปนี้ อับดุลเราะฮมานน้ัน เปนบุตรเขยของอุสมานและสะอัด บุตรของอบีวักกอส ก็เปนญาติของอับ ดุลเราะฮมาน ฝายตอลฮะฮและซุเบรก็มีความจงเกลียดจงชังทานอะลีอยูแลว ดังจะไดทราบภายหลังวา บคุ คลทงั้ สองน้ี ไดร ว มมือกบั อาอชิ ะฮภรรยาหมายของทานศาสดา ทาํ สงครามกับทานอะลี กฎขอสุดทายที่อุมัรวางไวในการเลือกคอลีฟะฮกอนตายนั้นรายแรง และสอเจตนารายตอ ทา นอะลอี ยางย่งิ ระหวา งบุคคลทงั้ หกน้ัน ถาเสียงฝายขางนอยไมเห็นดวยและคัดคานเสียงขางมาก ก็ให นําบุคคลท่ีวานั้นไปตัดศีรษะเสีย กฎที่ตั้งข้ึนโดยเจตนามุงรายเชนที่วาน้ี ทําใหทานอะลีจําตองยอม เห็นชอบกบั ความเหน็ หมมู าก กอนท่ีจะยุติการกลาวถึงความสัมพันธในสมัยการปกครองของอุมัร ระหวางอุมัรกับบุคคลใน ครอบครัวของทานศาสดา จะขอกลาวถึงความเปนมาของพวกตระกูลอุมัยยะฮในสมัยนั้น กลาวคือ อํานาจของพวกอุมัยยะฮถูกทําลายลงอยางมากในสมัยของทานศาสดา เหตุเพราะวาอํานาจของพวกอุ มัยยะฮเปนอุปสรรคตอการเผยแผศาสนาอิสลาม แตพวกอุมัยยะฮก็ไดพยายามดึงเอาอํานาจตางๆ กลับคืนมาในสมัยของคอลีฟะฮคนท่ีหน่ึงและสอง โดยเฉพาะอยางย่ิงในสมัยของอุมัร พวกนี้ตางสบ โอกาสอันดียิ่ง ในการเพิ่มพูนอํานาจของตัว หนาท่ีสําคัญๆ ในรัฐไดตกมาอยูในมือของคนพวกน้ี ยะซีด บุตรของอบูซุฟยาน ผูซึ่งเคยเปนแมทัพเขาตอสูกับทานศาสดาในศึกบะดัรและอุฮุด ไดรับการแตงตั้งให เปนแมทัพของกองทัพมุสลิมในคร้ังแรก และตอมาไดรับการยกยองเขาครองตําแหนงเจาเมืองซีเรีย เมื่อ ยะซีดตาย มุอาวิยะฮนองชายของเขาจึงไดเปนเจาเมืองแทน โดยเหตุฉะนี้ซีเรียจึงตกเปนฐานที่มั่นในการ กอการรา ยของพวกอมุ ยั ยะฮ ประการสุดทายที่สําคัญยิ่งก็คือ การแตงตั้งอุสมาน สมาชิกคนหนึ่งของคณะหกคนขึ้นเปนคอ ลีฟะฮ สงผลใหพวกอุมัยยะฮมีอํานาจถึงสุดยอด อน่ึงพวกอาหรับก็มีบุคลิกภาพ ที่มักจะเปนอริตอกรอบ แหง ศีลธรรมและศรทั ธาทางศาสนา เปนพวกท่ีมีสันดานชอบปลนทรัพยสินเงินทอง และชอบประพฤติผิด

ศีลธรรมตางๆ โดยเหตุฉะน้ีเม่ือมาไดเปนผูปกครอง จึงมิใครนําพาตอหลักการศาสนาและศีลธรรม ซ่ึงก็ จะตองกลับไปมีภาวะการณอยางเชนเดมิ ในเวลาอนั รวดเร็ว หลงั จากอุมัรตาย สี่คนในจาํ นวนหกคนยกเวน อสุ มานและอะลี ไดปรึกษาหารือกันวา ใครจะเปน ผูสามารถในตําแหนงคอลีฟะฮ แตความจริงพวกนี้คบคิดกันวา จะหาอุบายอะไรใหเหมาะสมในการกีด กันทานอะลีออกไปใหพนจากตาํ แหนงคอลฟี ะฮ และตา งกค็ บคดิ กันออกอุบายและเขาหาทานอะลี พลาง กลาวกับทานวา พวกเขามีความยินดีท่ีจะเลือกทานเปนคอลีฟะฮ ถาทานยินดีรับรองคําขอของพวกเขา สามประการคือจะตองเปนคอลีฟะฮปกครองตามหลักการของอัล กุรอาน แบบฉบับของทานศาสดาและ ตามหลกั การของคอลีฟะฮคนทีห่ นึง่ กับคนทส่ี อง ทา นอะลไี ดตอบรบั ที่จะปฏิบัติตามขอตกลงสองประการ แรก แตปฏิเสธคําขอประการสุดทาย บุคคลท้ังสี่จึงเขาพบอุสมาน และยืนยันที่จะเลือกเขาเปนคอลีฟะฮ ถายอมตามขอเสนอสามประการ อุสมานยอมรับตามขอเสนอท้ังสามประการจึงไดรับเลือกใหเปนคอ ลฟี ะฮ เมื่อพวกอุมัยยะฮ รูกันทั่วไปวาคนในตระกูลของตนไดรับตําแหนงสูงสุด ตางว่ิงกันเขาตอม มัร วานญาติคนหน่ึงของอุสมาน ซึ่งเคยถูกทานศาสดา เนรเทศออกจากเมืองมะดีนะฮ โดยเหตุที่เจตนาแพร ความลับของรัฐ ท้ังคอลีฟะฮคนท่ีหน่ึงและคนที่สองตางก็สั่งเนรเทศบุคคลผูนี้ ไมใหเขาใกลเมืองหลวงใน ระยะสบิ ไมล เน่ืองจากเปน ผมู ีนิสัยอันธพาล บัดน้ีคอลีฟะฮอุสมานไดเรียกกลับมา พรอมดวยมอบกุญแจ คลังหลวงให พรอมท้ังดวงตราของคอลีฟะฮ และส่ิงของสําคัญอื่นๆ ส่ิงเหลาน้ี ความจริงแลวควรอยูใน การครอบครองของคอลฟี ะฮ แตกลบั ถูกหยบิ ย่นื ใหกบั บุคคลผนู ี้ เมื่อคอลีฟะฮเห็นวาอํานาจของตนม่ันคงแลว ก็เริ่มใหอภิสิทธ์ิแกบุคคลที่เปนพวกพองของตัว เจาเมืองตางๆ ท่ีไมใชคนในตระกูลอุมัยยะฮ ถูกเรียกตัวกลับหมดแลวเอาคนในตระกูลอุมัยยะฮตั้งข้ึน แทน พวกเจาเมืองใหมท ่ีตะกละตะกลาม กเ็ รม่ิ บีบคน้ั เอาทรพั ยสนิ จากประชาชนใหม ากที่สุดเทา ที่จะมาก ได เมื่อมีผูกลาวโทษ คอลีฟะฮก็เอาหูทวนลมเสีย จนหูลูติดหนังศีรษะ เริ่มมีการสรางปราสาทราชวัง สําหรับตน และดําเนินชีวิตอยางสุขสบาย เม่ือไมมีตําแหนงวางใหแกพวกอุมัยยะฮ ก็หาทางตบรางวัล งามๆใหกับพวกเขา คร้ังหน่ึงอบูซุฟยานสรรเสริญคอลีฟะฮ และใหคําแนะนําเหลาพวกอุมัยยะฮใหใช กําลังปกครองอาหรับ และแวนแควนอื่นๆ ใหอยูในมือ เพ่ือแบงกันกินระหวางพวกตน เพราะเหตุท่ีเชื่อวา นรกสวรรคนั้นไมมีจริงดอก ท้ังบัญชีบุญบาปและวันแหงการตัดสินความดีความช่ัวท่ีตนไดกระทํามา ก็ ไมมี คอลีฟะฮแทนที่จะเอาโทษกับคํากลาวสามหาวเชนน้ัน กลับใหรางวัลถึงสองแสนเหรียญทองจาก คลงั หลวง พวกอุมัยยะฮอ่ืนๆ ตางก็เอาอยางคอลีฟะฮ ตางก็สรางปราสาทพระราชวังและใชชีวิตกันอยาง สํารวยโอโถง องคกรตางๆ ของรัฐก็เริ่มอลเวง และมีเสียงเรียกรองใหมีการปรับปรุง พลเมืองของ อาณาจักรนอยใหญตางก็สงเสียงรอง ขอความเปนธรรมจากคอลีฟะฮ เพราะไดรับการกดข่ีรีดนาทาเรน จากบรรดาเจาเมือง แตแทนที่ผูแทนตางๆ ที่ประชาชนสงไป จะไดรับความเปนธรรมจากคอลีฟะฮ กลับ ตอ งถูกลงโทษอยา งหนกั

การรวบรวมคัมภีรอัล กุรอานสําเร็จลงไดในสมัยคอลีฟะฮอุสมาน พรอมกับมีการแจกจายพระ คัมภรี  อลั กุรอานไปทว่ั อาณาจกั รอสิ ลาม พรอ มกับคาํ ส่งั ใหเผาเลมเกาๆ ใหห มดสิน้ เหตุฉะนี้การปกครองในสมัยคอลีฟะฮอุสมาน เปนเวลา 10 ป 11 เดือน จึงเปนการปกครองท่ี เต็มไปดวยความยุงเหยิง ประชาชนเกิดความเบื่อหนายตอวิธีการปกครองที่กดขี่ของพวกอุมัยยะฮ ทําให ประชาชนลุกฮือขึ้นเพ่ือกอการปฏิวัติ ความสงบสุขไดถูกทําลายลง เมื่อเหลาผูแทนของประชาชนจาก อยี ปิ ต กูฟะฮ และบศั เราะฮ ตางมุงตรงไปทีน่ ครมะดีนะฮ เขาสูมัสยิด กลาวโจมตีคอลีฟะฮและเจาเมืองที่ คอลีฟะฮแตงตั้งไป ทานอะลีจึงเขาหามและแสดงเหตุผลวา วิธีการที่กระทําไปน้ัน ไมใชวิธีการที่ฉลาด และสุภาพ ทานแนะนําใหพวกน้ันเขาหาคอลีฟะฮ และแจงใหคอลีฟะฮทราบถึงความทุกขยากของตน พวกกอจลาจลจึงเขาลอมวัง และเปดการเจรจากับคอลีฟะฮ แตการเจรจานั้นก็มิไดทําความพอใจให เหลาพวกกอการจลาจล ตอเมื่อพวกกอการจลาจลกระทําการบุกรุกเขาไปในวัง อุสมานจึงขอใหเรียก ทานอะลีเขามาไกลเกล่ีย เพื่อตกลงกันโดยสันติ พรอมกันน้ัน คอลีฟะฮก็ใหคนถือหนังสือไปขอความ ชวยเหลือมุอาวิยะฮ มุอาวิยะฮบายเบ่ียงคําสั่งของคอลีฟะฮอยางฉลาดแกมโกง โดยตอบไปวาขอใหคอ ลฟี ะฮห นีจากมะดนี ะฮมาอยซู ีเรยี เสยี เพราะผคู นทซี่ ีเรียนซ้ี อื่ สตั ยดกี วา ท่มี ะดนี ะฮ ทานอะลีเดินทางมายังที่เกิดเหตุและสามารถชวยเหลือไกลเกลี่ยใหเรื่องสงบลงไดอยางฉลาด กลาวคือ คอลีฟะฮจะตองเรียกเจาเมืองท่ีกดข่ีราษฎรกลับ และแตงต้ังคนที่ดีกวาไปแทน มุฮัมมัด บุตร ของอบูบักรไดรับเลือกใหเปนเจาเมืองอียิปตแทนอับดุลลอฮ บุตรของสะอัด ขอตกลงเหลาน้ีคอลีฟะฮได ลงนามและสาบานตอพระเจา และมีทานอะลีเปนพยาน ไดมีคําสั่งไปยังอับดุลลอฮ บุตรของสะอัด ให มอบหมายตําแหนงเจาเมืองใหมุฮัมมัด บุตรของอบูบักร พวกผูแทนของอียิปตมีความพึงพอใจใน ขอตกลงนี้ และตางพากันกลับบานเมือง พรอมดวยเจาเมืองคนใหม ขณะเดินทาง ก็ไปพบกับทาสชาว เอธิโอเปยของอุสมาน ขี่อูฐของคอลีฟะฮผานไปโดยเร็ว พวกนั้นสงสัยวาจะมีการเลนลูกไมจึงมีการกักตัว ไว และคนดู ก็พบจดหมายมีตราของอุสมาน จดหมายน้ันเปนลายมือเดียวกันกับที่คอลีฟะฮส่ังใหเขียน คําส่ังแตงตั้งมุฮัมมัด บุตรของอบูบักร ใหเปนเจาเมืองอียิปต คําในจดหมายน้ันเหมือนกับคําในคําส่ัง แตงตั้ง มีขอผิดแผกอยูก็ตรงคําวา “ใหรับรองมุฮัมมัดและพวกของเขา” เปน “ใหตัดศีรษะมุฮัมมัดและ พวกของเขา” คําในภาษาอาหรับ “อุกบุลฮู” ซ่ึงมีความหมายวาใหการรับรองน้ัน กลับเขียนเปน “อุกตุลู” ซึ่งหมายความวาใหตัดศีรษะ ดังนั้นชาวอียิปตตางก็มีความโกรธแคนในการกระทําอันสับปลับน้ี ตางจึง รีบกลับไปมะดีนะฮ ณ ที่ซึ่งผูแทนของแวนแควนตางๆ ยังรีรออยูเต็ม พวกประชาชนตางโกรธแคนวิ่งไป ลอมวงั ของคอลฟี ะฮ เมือ่ คอลฟี ะฮถ ามถงึ สาเหตทุ ที่ ําใหพวกเขาโกรธแคน เขาเหลา น้ันกแ็ สดงจดหมายให ดู และถามวาดวงตราท่ีประทับลงบนจดหมายนั้น เปนดวงตราของคอลีฟะฮใชหรือไม พวกน้ันยังถามอีก วา ทาสที่ถือจดหมายไปน้ันเปนทาสของใคร และอูฐท่ีทาสขี่นั้นเปนอูฐของใคร คอลีฟะฮยอมรับวาดวง ตราและอูฐน้ันเปนของตน ทั้งลายมือในจดหมายนั้นก็มีความประพิมประพายคลายลายมือเสมียนของ ตน แตหนาดานปฏิเสธไมยอมรับรูจดหมายฉบับนั้น พวกกอจลาจล ตางย่ืนคําขาดใหปฏิบัติประการใด ประการหนึ่ง ในสองประการ คือใหถอนตัวออกจากการเปนคอลีฟะฮ หรือมิฉะนั้นก็ใหมอบตัวมัรวาน ใหก บั พวกเขา เพราะเหตุวาดเู หมือนมรั วานผนู ี้ จะเปนตน เหตแุ หง ความยงุ ยากทง้ั หลาย

คอลีฟะฮปฏิเสธคําขาดท้ังสองประการ จึงเปนเหตุใหหมูชนเกิดโทสะจริต จึงตางพยายามบุกรุก เขาวัง เปนเวลาสามวันที่คอลีฟะฮและพรรคพวกท่ีอยูในน้ัน ตางตองไดรับความลําบากยากยิ่ง เพราะ ประชาชนปด ลอ มและขวางทางเขามิใหผ ใู ดนํานา้ํ เขา ไปในวงั ได คอลฟี ะฮจงึ แยมหนาออกมานอกระเบยี ง วัง และถามถึงทานอะลี วาอยู ณ ท่ีน้ันหรือเปลา พวกสหายของทานอะลีที่อยูขางนอก ตางรองวา ทานอะลี มิไดอยู ณ ท่ีนั้น คอลีฟะฮจึงขอใหพวกเหลาน้ันไปแจงใหทานอะลีทราบวา คอลีฟะฮไมมีนํ้าจะ ด่ืมมาเปนเวลาสามวันแลว เมื่อทราบเชนน้ันทานอะลีจึงใหสมาชิกตระกูลฮาชิมนําน้ําไปให โดยมีทาน ฮาซันและฮูเซนรวมไปดวย พวกกอการจลาจลที่ลอมวังอยูตางไมกลาหามปราม หรือทักทวงพวกตระกูล ฮาชิม ที่นํานาํ้ ไปใหพ วกอุมัยยะฮทีก่ ําลังอบั จนอยูน นั้ ภายหลังจากน้ี มีการตอสูกันอยางดุเดือดเพ่ือท่ีจะหักดานเขาไปในวังของคอลีฟะฮ พรอมท้ัง รองกลาวโทษคอลีฟะฮในการปฏิบัติสิ่งตางๆ ที่ไมสมควร ตออัมมารและอบูซาร สาวกของทานศาสดา และในการทาํ โทษผูแทนแควน ตา งๆ ท่ีไมมีความผิด และการเผาทําลายคัมภีรท้ิงเสียเปนจํานวนมาก ท้ัง การใหอภิสิทธ์ิแกพวกพองของตน และการใชกลอุบายหลอกลวง ในเรื่องของมุฮัมมัด บุตรของอบูบักร เพ่ือนชาวอยี ปิ ตข องเขา พวกกอ การจลาจลปนกําแพงวังบุกเขาไป ในหองท่ีคอลีฟะฮกําลังอานกุรอานอยู มีมานผืนหนึ่งก้ันอยู ณ ท่ีน้ัน ทันใดน้ันดาบอันคมกริบก็ฟนลงไปบนศีรษะของคอลีฟะฮ ในขณะที่นาอิ ละฮภรรยาของคอลีฟะฮพยายามที่จะย่ืนมือเขาไปชวยสามีของเธอจากภายในมาน นิ้วมือของภรรยาคอ ลีฟะฮและศีรษะของทานจงึ ถกู ฟนขาดกระเด็นไปพรอมๆ กนั เปนการสุดวิสัยของหนังสือเลมนี้ ท่ีจะกลาวถึงเรื่องเหลานี้ โดยละเอียด แตจะขอกลาวแตเพียง วามัรวานผูยุแหยอยูหลังฉากและนุอมาน บินบะชีร ตางหลบหนีไปได โดยนําเอาเสื้อท่ีเปอนเลือดของคอ ลีฟะฮและนิ้วมือภรรยาของทานไปดวย และตางก็เอาน้ิวมือและเส้ือไปเที่ยวโฆษณาชวนเช่ือโดยเท็จ ตอ ประชาชนท่ีขาดการศึกษาตามชนบทตางๆ ของอารเบีย โดยกลาวหาวาทานอะลีเปนตนเหตุของการ ฆาตกรรมในครงั้ น้ี ศพของคอลีฟะฮถูกทอดท้ิงอยูที่จัตุรัส ทามกลางฝูงชน ซึ่งพากันเหยียดหยามและดูถูกตางๆ นานา ทานอะลีจึงขอรองใหจัดการฝงเสีย ในท่ีสุดก็ถูกนําไปฝงในปาชาของพวกยิว เพราะสถานที่ฝงศพ ของมุสลิมไมยอมใหนําเขาไปฝง ตอมาภายหลังจึงมีการขยายบาเกียะอสถาน อันเปนท่ีฝงศพของมุสลิม ในมะดนี ะฮ ไปเชอ่ื มกับปา ชายิวดงั กลา ว การปกครองอันยาวนานของคอลีฟะฮวงศอุมัยยะฮคนแรกสิ้นสุดลงเพียงเทาน้ี ซ่ึงทําใหโลก มุสลิมเต็มไปดวยเหตุรายและความสับสนอลหมาน นักเขียนชาวยุโรปมักจะใหความเห็นวา เขาเปน ผูปกครองที่ออนแอและอายุมากเกินกวาท่ีจะปกครองอาณาจักรอันกวางใหญไพศาลเชนน้ันได ตาม ความเห็นของนักเขียนเหลานั้นเห็นวา เขาไมมีความสามารถแมแตจะเทศนาเมื่ออยูบนแทนเทศนา แต เขาไดรับความยกยองวาเปนสุภาพบุรุษท่ีกอรปไปดวยความเมตตา และใจกุศล ชอบใชเวลาขอพร ออน วอนภาวนา ความด้อื ดึงแบบพวกอมุ ยั ยะฮในวาระสุดทา ยของเขา ทําใหเขาไมยอมสงมอบตัวมัรวานหรือ สละตาํ แหนง คอลีฟะฮข องเขา เปนการพิสูจนใ หเ ห็นสันดานอันแทจริงของเขา ท่ีเปนสันดานของพวกอุมัย ยะฮ และการมีใจกุศลชอบใหท าน กเ็ ปน การใหแ ตเฉพาะพวกของตนเองเทาน้ัน

โดยเหตุน้ีโลกมุสลิมก็เร่ิมรูสึกสํานึก แมจะสายเกินไปและดวยราคาอันสูงลิ่ว ในผลของการยาย อํานาจออกไปจากศูนยท่ีถูกตอง การเดินออกจากทางท่ีถูกตองน้ันถึงแมจะมองกันไมเห็น แตก็มักจะนํา บุคคลในคณะน้ันเขารกเขาพง ท่ีเต็มไปดวยหนามหนา การท่ีจะทําใหพนจากสถานการณดังกลาวน้ี ก็ เกือบจะเปน ไปไมไ ด หรอื หากเปนไปไดก ็ออกจะยากอยา งเหลอื แสน บทที่ 5 ทานอะลีในฐานะคอลีฟะฮ หรือผปู กครองแหงรฐั อิสลาม บัดน้ีรัฐอิสลามไดวางจากผูนํา การจลาจลวุนวาย ความปราศจากระเบียบและตัวบทกฎหมาย ตางๆ ไดนําความยุงเหยิงออกไปทั่วทุกหนทุกแหง ความสัมพันธระหวางเจาเมืองและพลเมืองในแวน แควนตางๆ ของอารเบีย ฝายปกครองก็พยายามขูดเลือดพลเมืองใหไดมากที่สุดท่ีจะมากได ฝายที่ถูก ปกครองกพ็ ยายามทําลายอํานาจของฝายปกครองท่ีกดขี่ การกินสินบาทคาดสินบน มีอยูทั่วไปทุกแขนง สาขาของรัฐ สมัยหน่ึงบัลลังกของคอลีฟะฮ ไดรับการยกยองประดุจบรรจถรรณท่ีบุดวยกุหลาบ แตมา บัดนี้บัลลังกท่ีเดียวกันนี้ไมมีผูใดอยากจะเส่ียงเอาตัวเขาไปรับ ไดมีการปรึกษารองเรียนกันขอใหพวกมุ ฮาญิรีน (ผูอพยพ) มาเปนหัวหนาของรัฐบาล ประชาชนคงพรอมกันที่จะยกยองอันศอร (ผูชวยเหลือชาว มะดีนะฮ) เปนหัวหนา แตขอใหเขายินดีรับหนาท่ีนี้เทานั้น แตไมมีคําตอบรับคําเชิญน้ี ในท่ีสุดทานอะลี จึงถูกขอรองใหรับตําแหนงหัวหนาผูปกครองมุสลิม แตทานอะลี ปฏิเสธและตอบวา “… จงมอบความ เปนหวั หนาใหแกผทู ่ตี อ งการ และฉันกจ็ ะชวยเหลอื เขา ถาเขามคี วามตองการความชวยเหลือของฉัน” แตตอลฮะฮและซุเบร ไดคบคิดกันวางแผนที่ทําใหทานอะลีจําตองรับตําแหนงคอลีฟะฮ โดยท่ี ทานไมมีทางปฏิเสธได “ถาทานไมยอมรับตําแหนงคอลีฟะฮ ณ บัดน้ี” ทั้งสองคนกลาวข้ึน “เราจะฟอง พระผูเปนเจาและทานศาสดาในวันส้ินโลกวา เรามาขอรองทานใหนําเราไปสูหนทางที่ถูกตอง แตทานได ปลอยเราไวในความมืดและความโฉดเขลา” ทานอะลีซึ่งเขาใจจุดประสงคของพวกน้ันดีไดตอบวา “บัดน้ีเสมือนอูฐที่กระหายนํ้า ทานไดเขา มาสูนํ้าพุท่ีใสสะอาด และตองการดื่มมันถึงแมวาจะตองใชกําลัง แตขอใหพวกทานเขาใจดวยวา พวก ทานจะไมสามารถอดทน ตอการปกครองที่รวดเร็วและเด็ดขาดของฉัน ซ่ึงจะกระทําตามคําบัญชาของ พระเจา เพราะเหตุวาสมองของพวกทานไดเสื่อมทรามลง ดวยความใครในสมบัติแหงโลกมนุษย ถาทาน ตองการเดนิ ตามแนวทางทีพ่ ระเจา กาํ หนด โดยใหฉนั เปน ผูน ํา กข็ อใหพวกทานไปจากบานของฉัน และจง ไปรวมกันอยูที่มัสยดิ ซงึ่ เปนบา นของพระผเู ปนเจา ณ ทน่ี นั้ ฉันจะรับคาํ ม่นั สาบานจากพวกทาน” มัสยิดมะดีนะฮ เต็มไปดวยผูคนทั้งแกเละหนุม ตางก็ชะเงอคอยการปรากฎตัวของทานอะลี เหลาสุภาพสตรีจากหมูบา นตางๆ หลง่ั ไหลมากนั ท่ีมสั ยดิ เพอ่ื ดูบรรดาผชู ายกลา วคาํ สาบานใหแกบุตรเขย ของทานศาสดา ทันใดนนั้ ทานอะลีก็เขามาในมสั ยิดและเขา ไปยืนอยูท่ีแทนเทศนา บรรดามุสลิมและผูแทนแควน ตางๆ กท็ ยอยกันเขาไปหา และยกมอื ขึน้ สาบานตนใหแ กผแู ทนอันชอบธรรมของทา นศาสดา

ทานอะลีไดแ สดงสนุ ทรพจนส นั้ ๆ มคี วามวา “มวลการสรรเสริญและการขอบคณุ จงมีแดองคพระ ผูเปน เจา ในการที่พระองคท รงมอบสิทธิอันชอบธรรมใหแกผูเปนเจาของ” ทานยังแจงแกหมูชนที่อยู ณ ท่ี นั้นอยางหนักแนนตอไปวา ทานจะดําเนินการปกครองตามระบอบของทานศาสดา และในระหวางอิสลา มิกชน จะไมม กี ารแบง ช้นั วรรณะ ระหวางผิวดําหรือผิวขาว หรือระหวา งชนอาหรับ เปอรเซียและนิโกร ถา หากวาจะมีมุสลิมบางทานท่ีเคยรวมงานกับทานศาสดาในการสงคราม เคยกระทําการกุศลหรือคุณงาม ความดีตางๆ ทานอะลีก็ขอใหคนเหลานั้น จงมั่นใจวา จะตองไดรับการตอบแทนความดีดังกลาว จาก พระผูเปน เจา ในวันท่ีพระองคทรงวินิจฉัยความดี และความชั่วของมวลมนุษย แตทวาในท่ีน้ีและในโลกนี้ ทานจะปฏิบัติตอมุสลิมทุกคนอยางเทาเทียมกันหมด โดยไมคํานึงถึงชาติ ช้ันวรรณะและตลอดจน ความสมั พันธก ันในดานสวนตวั ” ฝูงชนตางแหวกทางใหเมื่อทานอะลีเขาไปควบคุมคลังของรัฐ และเม่ือไดตรวจพบวามีเงิน สว นเกนิ อยสู ามแสนเหรยี ญทอง สาํ หรบั เฉลย่ี แบง ใหป ระชาชนมะดนี ะฮ ทานจงึ เชิญประชาชนมารบั สว น แบงของพวกเขา ทานแบงเงินใหประชาชนเหลานั้นดวยตัวทานเอง สําหรับตัวทาน ฮาซันและฮูเซน ก็รับ เพียงคนละสามเหรียญเทาๆ กัน แมแตทาสที่ไดรับการปลดปลอยใหเปนอิสระในวันน้ัน ก็ไดรับสวนแบง เชนกัน เม่ือการปฏิบตั กิ ารสิ้นสดุ ลง ก็มเี สยี งกระซิบกระซาบในวงการท่ัวไป ตางก็ตําหนิทานอะลี ในการ ปฏบิ ัติตอทุกคนเทาเทียมกันหมด แมแ ตค นทเ่ี คยเปน ทาสมากอ น บางคนกว็ าเปนการดูถูกกันชัดๆ ในการ ที่ปฏิบัติตอเขา โดยไมคํานึงถึงฐานะสวนตัวและกิจการงาน ท่ีเขากระทําใหแกประเทศชาติ และศาสนา อิสลาม ตอลฮะฮและซุเบร ซึ่งเปนบุคคลแรกที่สาบานตัวเพ่ือสนับสนุนทานอะลี ก็กลับเปนบุคคลแรก เชนกันท่ีกลาวตําหนิทานอะลี เน่ืองจากเห็นวา วิธีการปกครองทานอะลี เปนการปกครองที่เขมงวด กวดขัน ไมม ีการเหน็ แกห นา กนั เลย เย็นวันหนึ่งตอลฮะฮและซุเบร ไดมาหาทานอะลี ในขณะที่ทานกําลังตรวจสอบบัญชีของคลัง หลวงอยู เม่ือการเจรจาเร่ิมตน ทานอะลีก็ดับไฟเสีย และส่ังใหกัมบาร ทาสของทานนําตะเกียงมาจาก บาน ตอลฮะฮและซุเบร ไมพอใจ จึงถามถึงสาเหตุในการกระทําของทานเชนน้ัน เพราะเขาทั้งสองเห็นวา เปนการดูถูกกันชัดๆ ทานอะลีจึงชี้แจงวา ทานไมสามารถท่ีจะใชตะเกียงที่เปนสมบัติของประชาชน คือ ของสาธารณะ ในขณะที่จะมีการเจรจาเร่ืองสวนตัวได เขาทั้งสองจึงกลับบานดวยความไมพอใจเปน อยา งมาก ในความคดิ ของทา นอะลี เกี่ยวกับสาธารณสมบัติ มิตรสหายของอะลีไดแจงใหทานทราบถึงความไมพอใจในตัวทาน จากวงการทั่วไปในนครมะดี นะฮ อันสืบเน่ืองมาจากวิธีการอันเขมงวดของทาน ซ่ึงทานอะลีก็เคยกลาวไวแลว กอนที่ทานจะเขารับ ตําแหนง คอลีฟะฮ วนั หน่งึ ชาวมะดีนะฮ พวกหน่ึง ไดเ ขา พบทา นคอลฟี ะฮ และวาลดิ บตุ รของอุกบะฮ ได ลกุ ข้ึนกลาววา “โอ ทา นผเู ปน บดิ าของฮาซนั พวกเราทงั้ หมดไดรับความเสยี หายอยางใหญหลวงจากนาํ้ มือของ ทาน บิดาของฉันถูกทานฆาตายในสงครามบะดัร อุสมานพ่ีชายของฉันถูกลอมและถูกฆาตายในวังเม่ือ วันกอน แตทานไมเคยคิดที่จะชวยเหลือเขาใหพนจากน้ํามือของศัตรู อาสบิดาขอซิยาด ผูมีฉายาวา

กระทิงเปลี่ยวแหงกุเรช เน่ืองดวยพละกําลังและรางกายอันใหญโตของเขา ก็ถูกทานสังหารในศึกบะดัร เมื่อฮะกัมและมัรวานบุตรชายของเขาไดรับอนุญาติใหกลับมาต้ังถิ่นฐานอยูไดในนครมะดีนะฮ ทานก็ กลา วตาํ หนิการกระทําของคอลฟี ะฮ แลว กลบั กลาวเปดเผยความช่ัวของเขาทั้งสองตอหนาธารกํานัลและ คอลีฟะฮ ฉะน้ันคําสาบานท่ีเราใหไวกับทานน้ันจึงจําเปนตองมีขอแม ถาทานยอมใหเราเสวยสุขจาก ทรัพยสินท่ีเราไดมาในสมัยอุสมานและยอมใหแกแคนตอผูท่ีฆาคอลีฟะฮ เราก็จะเปนพวกของทานอยาง ไมต อ งสงสยั มฉิ ะนัน้ เราจะขอจากไปซเี รยี เพือ่ ใชชีวติ อยอู ยางสงบกบั มอุ าวิยะฮ” “ความเสียหายท่ีไดรับจากน้ํามือของฉัน” ทานอะลีตอบ “เปนความเสียหายที่พระผูเปนเจาทรง สงลงมาใหทาน เพราะวาการทําศึกรวมกับศาสดาแหงพระผูเปนเจา ยอมเปนการกระทําท่ีอยูภายใต คําสั่งของพระองคทาน สําหรับทรัพยสินที่ทานหามาไดน้ัน ฉันไมไดถูกแตงตั้งมาเพ่ือใหใชทรัพยสินของ กลาง ซึง่ เปรยี บเสมือนทรัพยสินของพระเจา ในทางที่ผิด ประการสุดทายท่ีทานจะมาบังคับใหฉันแกแคน แทนอุสมานนั้น ขอแจงใหทราบวาถาฉันจะทําเชนนั้นละก็ ฉันคงกระทําการแกแคนใหแตวันนั้นแลว ถา ฉันคิดวาเปนหนาท่ีของฉัน ฉันคงไมปลอยปละละเลยมาจนกระทั่งถึงบัดน้ี ถาพวกทานมีความกลัวฉัน ฉันขอรับรองวา ฉันไมเคยมีความรูสึกเปนปฏิปกษตอพวกทานในเร่ืองสวนตัวใดๆ เลย และถาทานมี ความประสงคจ ะออกจากมะดีนะฮ ฉันกไ็ มบงั คับทานทจี่ ะกระทาํ เชน นน้ั ” จากนั้นทา นอะลีกห็ ันไปจัดการกับบรรดาเจา เมืองตางๆ ที่ชวั่ รา ย และเนื่องมาจากการปกครองที่ กดข่ีของพวกเหลาน้ัน สถานะที่ขาดระเบียบใกลจลาจลจึงเกิดข้ึน ทานไดจัดการไลพวกนี้ออกจาก ตําแหนง และแตงต้ังใหบุคคลท่ีดี ท่ีรูจักบุญบาป และที่เกรงกลัวพระเจาดวยสุจริตใจขึ้นแทน ตอลฮะฮ และซุเบร ผูที่เคยแสดงความไมพอใจในคราวท่ีทานอะลีแบงทรัพยสินใหประชาชนอยางเสมอภาค ท้ังยัง เคยแสดงความโกรธทานในคราวท่ีไมยอมใชตะเกียงท่ีเปนสมบัติของสาธารณะ บัดน้ีกลับหวนมาหา ทานอะลี ขอรองใหทานแตงตั้งเขาท้ังสองใหเปนเจาเมืองกูฟะฮและบัศเราะฮ ในสมัยตอไป ทานอะลีซ่ึง ทราบดีถึงความทะเยอทะยานของบุคคลพวกนี้ จึงไดตอบบายเบ่ียงไปอยางฉลาดวา “ฉันตองการบุคคล ท่ฉี ลาดหลักแหลมอยางทานทงั้ สองไวใกลชดิ เปน ทีป่ รึกษา” เม่ือบุคคลท้ังสองเห็นวาทานอะลีไดใชเหตุผลยับยั้งเขาท้ังสองไมใหมีโอกาส มีสวนในการ ปกครองอาณาจักร ตางก็จําตองไปเขาเปนพวกกับฝายตรงขามดวยความสิ้นหวัง เพ่ือท่ีจะสราง ความหวังใหมและขจัดขวากหนาม ซ่ึงบุคคลท้ังสองคิดวาเปนอุปสรรคคอยกีดขวางก้ันทางของเขาอยู ทัง้ สองจึงเดินทางไปหาอาอิชะฮท่ีนครมักกะฮ พวกเจาเมืองตางๆ ที่ถูกไลออกตางก็ซองสุมผูคน รวบรวม ทรัพยสินเขารวมมือกับตอลฮะฮและซุเบร และดวยผลของการปลอบประโลม การติดสินบนใหคํามั่น สัญญาตางๆ อาอิชะฮแสดงความเสียใจที่บุตรเขยของนางมามีอํานาจและกลาววา “ใหฉันเปนฟาตกลง มาทับแผนดนิ ยังจะดีเสยี กวาเหน็ พอ ของฮาซันเปนคอลีฟะฮ” โดยเหตุนี้เอง นางจึงเขารวมกลุม ในแผนการกอกวนรวมกับตอลฮะฮ ซุเบร และบรรดาเจาเมือง ที่ถกู ถอดถอน เพอ่ื ลม ลา งความนยิ มท่ีประชาคมมุสลิมมีตอทานอะลี ความจริงมีอยูวา เม่ือพวกอุมัยยะฮ ตางเห็นวาการปกครองของทานอะลี จะนาํ ความเสือ่ มเสยี มาถึงพวกเขา เชนในสมัยทานศาสดา จึงตางก็ รว มมอื กนั เปนคร้ังสุดทาย เพอ่ื ที่จะทาํ ลายลางอํานาจของตระกลู ฮาชิม ซงึ่ กาํ ลงั จะรงุ เรืองขึน้

ทานอะลีรูดถี ึงการมีชีวติ อยอู ยางโออา ของมอุ าวยิ ะฮ เจา เมืองแควนซีเรีย ณ เมืองดามัสกัส และ การนาํ ทรัพยส ินของประชาชนเอามาใช เพ่ือประโยชนส วนตวั ขณะทที่ านอะลกี ําลังเขียนคาํ สง่ั ถอดถอนมุ อาวิยะฮ ก็พอดีมีสหายของทานจํานวนหน่ึงเขามา ตางก็มีความคิดเห็นวาการกระทําของทานอะลีเปน การรีบดวนเกินไป ซ่ึงจะทําใหขาดความนิยม จึงขอรองใหทานระงับไวกอน รอจนกวาอํานาจของทานจะ สมบูรณพอ ท่ีจะตอตานเหลาศัตรูที่เพิ่มจํานวนขึ้นทุกวัน บรรดาสหายของทานอะลียังแจงใหทานทราบ ถึงทรัพยสินอันมหาศาลของมุอาวิยะฮ และกําลังอันเกรียงไกรซึ่งอยูในบังคับบัญชาของเขา อํานาจและ ความย่ิงใหญสวนตัวทั้งหมดน้ีไดมาจากทรัพยสินของปวงประชาชน โดยท่ีมิไดรับอนุญาตจากรัฐบาล สวนกลาง หลังจากไดใครครวญดูแลวสักครู ทานอะลีก็กลาวตอบวา อํานาจที่ทานเกรงกลัวอยางแทจริง น้ันก็คืออาํ นาจของพระผูเ ปน เจา และทา นไมเ คยมคี วามเกรงกลัวอํานาจอน่ื ใดเลย ทานไดใหอรรถาธิบาย สถานการณส วนตัวอันนาใครค รวญคํานงึ ของทา นดังนี้ “ถาหากมุอาวิยะฮก ระทําความผดิ ข้นึ ในบัดน้ี ฉันจะตอ งเปนผูรบั ผิดชอบตอ พระผูเปนเจา เพราะ ฉันเปนคอลีฟะฮและมุอาวิยะฮเปนแตเพียงเจาเมือง ภายใตการบังคับบัญชาของฉัน ถาฉันถอดถอนเขา ออกเสียเดย๋ี วนี้ เพราะทราบดถี ึงการกระทําของเขา ฉันก็ไมตองรับผิดชอบการกระทําความผิดของเขาตอ พระผูเปนเจา ไมวาเขาจะยอมหรือไมยอมกระทําตามคําส่ังของฉัน ฉันไมตองการเปนผูรับผิดชอบในการ กระทําความผดิ ของเขา และส่ิงเดียวท่ฉี นั ประสงคใ นโลกนก้ี ็คือ ความตองการท่ีจะกระทําการอันเปนที่พึง พอพระทยั ของพระผูเปน เจา ไมว า จะเกดิ เร่อื งดรี ายประการใด หรอื ทําใหใครไมพอใจอยางไร” เม่ือพูดจบแลวทานอะลีก็เขียนคําส่ัง สงออกไปใหถอดถอนมุอาวิยะฮ พนจากการเปนเจาเมือง แตคําตอบที่ทานอะลี ไดรับก็คือ กระดาษเปลา ใสซองผนึกดวยตราของมุอาวิยะฮ และจาหนาซองถึง ทา นอะลี ทานอะลีพอจะทายออกวามีการเลนลูกไมบางประการ และภายหลังจึงไดทราบวา มุอาวิยะฮมี จดหมายถึงตอลฮะฮและซุเบร รับรองที่จะชวยเหลือบุคคลทั้งสองในการตอสูกับทานอะลี ทั้งยินดีที่จะ รบั รองผใู ดผูห นึ่งในสองคนข้นึ เปนคอลีฟะฮ ตอลฮะฮ ซุเบรและบรรดาเจาเมืองที่ถูกถอดถอน ตางก็มารวมกลุมกันท่ีนครมักกะฮ ปรึกษาหารือกันวาจะเอาที่ไหนเปนศูนยกลาง ดําเนินภารกิจของพวกเขา ครั้งแรกคิดที่จะไปกอกวนจุด การจลาจลที่นครมะดีนะฮตรงตนตอเลย เพ่ือที่จะถอนรากเหงาอํานาจของทานอะลี แตภายหลังเกิดมี ความขัดแยงและตางมีความเห็นวา ควรจะดําเนินงานขั้นแรกที่ซีเรีย เพ่ือจะไดขอความชวยเหลือและ รวมมอื จากมุอาวยิ ะฮต ามสญั ญา ความคิดนใี้ นทส่ี ดุ ก็เหลว สุดทายตางก็ตกลงกันวาจะไปท่ีบัศเราะฮ ซึ่ง ณ ที่นั้นตอลฮะฮมีผลประโยชนอยูมากมาย ตามท่ีรูกันมีทหารจํานวนมากข่ีมาและอูฐ ซ่ึงเกล้ียกลอมมา ดวยอิทธิพลของอาอิชะฮติดตามไปบัศเราะฮดวย ระหวางทางจํานวนทหารไดเพิ่มข้ึนเปนหลายพันคน ดว ยการโฆษณาชวนเช่ือวา จะใชกาํ ลังเพือ่ แกแ คนใหอสุ มาน เม่ือบคุ คลเหลานั้นเดินทางไปถงึ ตาํ บลหน่งึ ชื่อวา เฮาอบั มีลาํ ธารช่อื เดียวกันไหลรนิ อยู ทันใดนัน้ ปรากฏวา มีสนุ ขั ฝงู หนึ่งออกมาเหาใสอ าอิชะฮ ซ่งึ นง่ั อยูบนหลังอูฐ นางเริ่มรสู กึ ถงึ อนั ตราย และพลันระลึก ถึงคําของทานศาสดา ซึ่งเคยเตือนนางไววา “ วันหน่ึง ในบรรดาภรรยาของฉันคนหนึ่ง จะทําตัวเปนศัตรู กับอะลี ขณะท่เี ขาเปน ฝา ยขางถูก เธอจะพา ยแพล งอยา งนาสมเพช และขณะท่เี ธอเดินทางเพื่องานอันช่ัว

รายของเธอนี้ เธอจะถูกสุนัขฝูงหน่ึงเหา ในท่ีซ่ึงมีชื่อวา เฮาอับ โอ อาอิชะฮ ฉันเกรงวาคําทํานายนี้จะ ปรากฏเปนจริงแกเ ธอ” ดวยความแปลกใจนางจงึ ถามถึงช่ือของสถานท่ีนัน้ และเมือ่ ทราบชื่อวา เฮาอบั นางก็ปฏิเสธที่จะ รวมทางไปกับตอลฮะฮและซุเบร เพ่ือการรณรงคตอสูกับทานอะลี แตดวยการติดสินบน พวกเขาจึง สามารถทําใหประชาชนในแถบนั้นสาบานวา ท่ีนั้นมิไดช่ือ เฮาอับ นักประวัติศาสตรบางทานกลาววา น่ี เปน ครัง้ แรกทีป่ ระชาชนสาบานเท็จ ภายหลังการสน้ิ ชพี ของทานศาสดา อยางไรก็ดี พวกกอการรายไดไปถึงบัศเราะฮ และภายหลังจากมีการตอสูกันเล็กนอย พวกเหลา รายก็จับอุสมาน บุตรของฮุนัยฟ ผูเปนเจาเมืองได จากน้ันก็จัดการเฆ่ียน ถอนหนวดและคิ้ว แลวนําไปขัง ทานอะลีรูเร่ืองน้ี จึงอุทธรณตอมุสลิมชาวมะดีนะฮ ขอใหรวมมือกันตอสูกับพวกกบฏ ซ่ึงเคยสาบานตัวที่ จะยอมเชอ่ื ฟง และอยใู นการปกครองของทา น แตค าํ อุทธรณน ีไ้ มไ ดผลมากนกั เพราะมีคนเพียง 900 คน เทา น้นั ทสี่ มคั รรวมมือกับทาน ดว ยความปรารถนาทจ่ี ะตัดตนไฟแตหวั ลม และหยดุ ยั้งการเดินทัพของขาศึกมายังนครมะดีนะฮ ทานอะลีจึงรวบรวมผูคนจํานวนนอยน้ีเดินทัพตรงไปบัศเราะฮ มีผูคนรวมทัพกับทานอีกท่ีกูฟะฮ ทานได สง หมายไปยังตอลฮะฮและซุเบร หา มกอการใดๆ ที่เปนการผิดสัญญาท่ีใหไวแกทาน และเปนการทําลาย ความสงบสุขและกฎหมายของบานเมือง ทั้งยังมีหมายไปยังอาอิชะฮ หามประพฤติผิดขอบังคับของทาน ศาสดา ในการท่ีไปอยูรวมกับบุรุษในสนามรบ แตการตักเตือนหรือหามปรามของทานดวยประการใดก็ ตาม ก็ไมสามารถเปลี่ยนแปลงความตั้งใจของพวกกอการรายได ในที่สุดทานอะลีก็ตองตัดสินใจมา เผชญิ หนา กบั เหลา ศัตรู ทซี่ ะวียะฮ ซึ่ง ณ ท่นี ้ันทานไดยํ้าถึงคําส่ังของทานอีก โดยการเรียกตอลฮะฮและซุ เบรมาพบ เมื่อบุคคลท้ังสองมาปรากฏตัวทานกลาววา “การกระทําของทานทั้งสอง ชางขาดความเปน ธรรมเสยี เหลือเกนิ ทานไดป กปกรักษาเหลา สตรีของทาน ไวที่บานในรั้วรอบขอบชิด ตรงกันขามทานกลับ นําแมห มายภรรยาของทา นศาสดาออกมารับคมหอกคมดาบ” แตคําพูดท่ีมีเหตุผลของทานก็หาไดรับผลตอบประการใดไม บุคคลทั้งสองไมไดมีความรูสึก รับผิดชอบขน้ึ มาเลย อาอชิ ะฮซง่ึ นั่งอยูบ นหลังอฐู อะลัชกัร ไดออกคําสั่งเสียงแหลมใหบุกเขาโจมตีทานอะ ลีและกองกําลงั ของทาน ดวยเหตุนี้ศึกครัง้ นี้จึงมีชื่อวา “สงครามอูฐ” พวกกอการรายตางก็รุกเขาจูโจมทัพ ทานอะลี แตทานอะลีก็ยังไมไดสั่งใหฝายทานดําเนินการศึก ทานมักจะมองขึ้นสูเบื้องบนคลายกับวาจะ รอคําสั่งจากพระผูมีอํานาจ ทันใดน้ันสีหนาของทานก็กลับเต็มไปดวยเลือดฝาด ซ่ึงเปนการพิสูจนวา ความยากลําบากของทานสิ้นสุดลงแลว ดวยการไดรับการปลดเปล้ืองจากพระผูเปนเจา ทันทีทานจึงส่ัง ใหตอสูกับขาศึก การตอสูของทั้งสองฝายดําเนินไปอยางดุเดือด เพราะตางฝายก็ลวนเปนอัศวินของโลก อาหรบั ผลของการตอ สูนนั้ ไมม ีอะไรทจี่ ะตองสงสยั ในเม่อื ทานอะลีอยใู นสนามรบ ตอลฮะฮและซุเบรถูก ฆาตาย อาอิชะฮถูกจับเปนเชลย ทานอะลีปฏิบัติตอนางอยางอะลุมอลวย โดยสงนางกลับไปนครมะดี นะฮ ภายใตการคมุ ครองของผหู ญิงท่ีแตงตัวเปนชาย โดยมีมุฮัมมัด บุตรของอบูบักร นองชายตางมารดา ของนาง ซ่ึงตอสูในศึกครั้งน้ีดวย โดยอยูฝายทานอะลี ควบคุมไปดวย เม่ืออาอิชะฮมาถึงมะดีนะฮนางก็

ตําหนิอะลีวาสงเธอมากับผูชาย แตแลวนองชายของนางก็ทําใหนางเงียบเสียงลงได ดวยการบอกความ จรงิ อยางไรกต็ ามสงครามคร้ังนมี้ มี ุสลิมถกู สังหารไปท้งั สองฝายถึง 20,000 คน มุอาวิยะฮทราบดีถึงผลกรรมของพรรคพวกตน แตก็ไมทอถอย กลับเตรียมการอยางหนักเพื่อจะ เขา บุกตะลยุ ดินแดนทที่ านอะลปี กครองอยู เม่อื การปฏบิ ตั ิการโดยมีเส้ือเปอนเลือดของอุสมานและนิ้วมือ ของนาอิละฮภรรยาของอุสมานเปนสักขีพยาน ไดโฆษณาปลุกปนประชาชนอยางไดผล พวกซีเรียก็ กลับมาเขาขางมุอาวยิ ะฮ ทานอะลีรูถึงเหตุการณตางๆที่เกิดข้ึน และเพื่อสังเกตการณเคล่ือนไหวของศัตรูและสกัดเพื่อ ไมใหเ ขายํา่ ยีดนิ แดนของทาน ทานจึงเปลี่ยนเมืองหลวงไปอยูที่กูฟะฮ นอกจากนี้ยังเปนการรักษานครมะ ดีนะฮ ซ่ึงเปนท่ฝี งรางของทานศาสดาใหพ นจากความหายนะในกรณที ีเ่ กดิ สงครามขึน้ มุอาวิยะฮไดเคล่ือนทัพที่แข็งแกรงตรงมายังกูฟะฮ แตทานอะลีสกัดไวท่ีซิฟฟน ซ่ึงอยูระหวาง ซีเรียกับอิรัก นักประวัติศาสตรบันทึกไววามีการรบยอยๆ ถึง 90 คร้ัง ในเวลา 110 วัน ณ ที่แหงน้ี ฝาย ซีเรียสูญเสียทหารไปกวา 45,000 คน แตความเสียหายท่ีทานอะลีไดรับน้ันราวถึงครึ่งหน่ึงของขาศึก ใน การประจญั บานกัน อัมมาร บุตรของยาซรี สาวกคนสําคัญของทานศาสดา บาดเจ็บและเสียชีวิตลง ทาน ผูนี้เปนที่ทราบกันท่ัวไปวาเปนผูมีกุศลจิต ผูซ่ึงไดผานฤดูรอนของอารเบียมาถึง 70กวาฤดู และเคย รวมมอื กบั ทา นศาสดา ทําสงครามตอสูกบั ขา ศึกศตั รูถึงสามครง้ั ทานอะลีรูสึกเศราสลดใจ ในการสูญเสียบุคคลผูมีใจกุศลเชนนี้ จึงยืนข้ึนระหวางกองทัพทั้งสอง และกลาวข้ึนวา “มุอาวิยะฮ ทําไมเจาจึงกอเหตุนองเลือด ระหวางมุสลิมดวยกัน ขาขอเชิญใหเจาออกมา ขางนอกเพ่ือตอสูกันตัวตอตัว ใครดีก็อยู ใครรายก็ตายไป” อัมรท่ีปรึกษาและผูรับใชมุอาวิยะฮ สนับสนุน นายของเขาวา “มันจะเปนธรรมไดอยางไร ในเม่ือยังไมมีใครท่ีตอสูกับอะลี แลวเอาชนะเขาได การท่ีทาน สนบั สนุนฉนั กค็ งหวงั ท่จี ะแบงอาณาจกั รของฉนั ไป เมือ่ ฉันถูกอะลฆี าในการสกู ันตัวตอตัว” เม่ือไมมีคําตอบทานอะลีพรอมดวยทหารหน่ึงหม่ืนสองพันนายที่คัดแลว ก็ไดเขาโจมตีกองทัพ ของมอุ าวยิ ะฮ เปนเหตุใหกองทพั ขาศกึ แตกกระเจงิ ไปทกุ กอง ในการทําศึกคร้งั หนึง่ ทซี่ ฟิ ฟน ทีต่ อ สกู นั ในคนื ท่ีเรียกวา ลยั ละตลุ ฮะรรี (ค่ําคนื แหง ความหฤโหด) นักประวัติศาสตรเกือบทุกคนไดกลาวอยางเปนเอกฉันทวา ทานอะลีไดเคลื่อนไหวไปมาประดุจสิงหที่ กระหายเหย่ือ นัยนต าของทานฉายแสงประดุจประกายเพลิง สรางความเสียหายอยางหนกั ใหก บั กองทัพ มอุ าวยิ ะฮ มเี สียงกลา วถึงความยิ่งใหญของพระผเู ปน เจา ออกจากปากของอะลีไมต่ํากวาหารอยคร้ัง และ ทุกครง้ั กห็ มายถงึ ชีวติ ของศตั รูทถ่ี กู ปลิดลงคนหนึ่ง ในอีกวาระหน่ึงมุอาวิยะฮไดใชเลหกระเท จนสามารถปดทางน้ํา มิใหกองทัพของทานอะลีมีน้ํา กินน้าํ ใชได ทา นอะลีไดสงคนไปสองสามคน บอกกับมุอาวยิ ะฮใหเ ปดเสนทางเพ่ือนํานํ้ามากินมาใช แต มุอาวิยะฮไมยินยอมโดยกลาววา “แมแตน้ําหยดเดียวก็จะไมยอมใหอะลีและพลพรรคไดด่ืม จะตองให พวกน้ีมันอดน้ําตาย” ดวยเหตุน้ีทานอะลีจึงออกคําสั่งใหโจมตีกองทัพมุอาวิยะฮ พรอมทั้งสกัดออกไปให พนฝงแมน้ํายูเฟรติส ในไมชาทัพของมุอาวิยะฮก็แตกออกไปอยางไมเปนกระบวน และกองทัพของ ทา นอะลสี ามารถเขา ควบคุมฝง แมน ํา้ ไวไ ด

วันหน่ึงผานไปโดยกองทัพมุอาวิยะฮไมสามารถหาน้ําใชได ดังนั้นวันตอมามุอาวิยะฮจึงสงคน พรอมดวยภาชนะบรรจุน้ํา มาขออนุญาตทานอะลี บรรจุนํ้าไปใหกองทหารของตน ดวยเหตุนี้อัมรจึง คัดคา นมอุ าวยิ ะฮวา “ทานเคยไมยอมใหพ วกของอะลีดมื่ น้าํ ทานคิดหรือวา อะลีจะยอมใหน้ําแกทานตาม คําขอ” มุอาวิยะฮกลับตอบวา “อะลีไมใชคนเหมือนกับฉัน และคงไมกระทําอยางท่ีฉันกระทํา” เม่ือคน เหลาน้ันมาขอนํ้า ทานอะลีก็ยอมใหบรรจุนํ้าไปไดตามความพอใจ พรอมกับกลาววา “ฉันไมสามารถ ประพฤติเหมือนกับคนใจโฉดประพฤติ” ในที่สุดวันหน่ึงก็มาถึงเม่ือกองทัพของทานอะลี นําโดยมาลิก อัชตาร ไดรุกเขาพิฆาตจนมุอาวิ ยะฮตองสูญเสียกําลังอยางหนักทหารในกองทัพท่ีพายตางแตกหนีกระจาย คลายตองพายุพัด ขณะท่ีมุ อาวิยะฮนั่งอยูกับอัมร บุตรของอาศ ที่ปรึกษาของเขา มาลิกไดลอบรุดเขาไปจนถึงตัว หมายจะตัดเชือก กระโจมคลุมตัว และจับเปนใหได ในฐานะจวนตัวเชนน้ันมุอาวิยะฮไดออกอุบายใชอัมร เพ่ือคลาย สถานการณท ร่ี า ยใหเ บาลง อัมรจ งึ หนอี อกมาทางดานหลัง ออกคําสั่งใหทหารของตัวเอาคัมภีรกุรอานผูก ปลายหอกชูขึ้น แลวโหรองไปทางกองทัพของทานอะลี พรอมกับกลาววา “ขอใหกุรอานตัดสินความของ เราเถดิ ผูใดจะเปนผดู ูแลแควน มุสลิมเลา ในเมือ่ ชาวมุสลิมซเี รยี ถกู ทําลาย” เลหกระเทของอัมรชิ้นน้ีกอใหเกิดผลทันตาเห็น กองทัพของทานอะลีปฏิเสธท่ีจะทําการตอสู ใน ท่ีสดุ ทานอะลกี บ็ อกกับพวกนน้ั วา “ฉนั รูจกั มุอาวยิ ะฮแ ละอัมรมาแตเด็กแลว พวกนี้ไมมีความผูกพันอันใด เลยกับคัมภีรกุรอาน หรือศาสนา การกระทําเหลาน้ีเปนเพียงเลหกลท่ีกักขฬะ เพื่อจะหยุดยั้งชัยชนะของ เรา และเพ่ือหาเวลาเสริมสรางกําลังข้ึนใหม” แตคําเตือนของทานอะลีไรผล คนของทานไดตกหลุมอุบาย ของอัมร ตางพากันขัดขืนด้ือดึงและขูเข็ญวา ถาทานอะลีไมปฏิบัติตาม พวกเขาจะไมสนับสนุนทาน แต กลับจะทําการตอ สกู บั ทาน และบงั คบั ใหเรียกมาลกิ อัชตารกลับมา ซ่ึงในครั้งแรกมาลิกไมยอมกลับ แตก็ จําใจตองกระทํา ดวยความไมพอใจเปนอยางยิ่ง ในการถูกเรียกตัวกลับในเวลาที่ไมสมควร ชัยชนะที่ กําลังจะไดมาดวยความยากย่ิง ไดถูกยื้อแยงไปจากมือ มาลิกรูสึกสลดใจย่ิงนักที่ทหารของตนกลับเปน ปฏิปกษกับทานอะลี ในท่ีสุด ตางก็มาตกลงหยาศึกโดยการตั้งอนุญาโตตุลาการ เปนฝายมุอาวิยะฮหนึ่งคน และขาง ทานอะลีหนึ่งคน มุอาวิยะฮเลือกอัมร ที่เต็มไปดวยเลหเพทุบาย เปนผูแทนฝายซีเรีย เมื่อทานอะลีไดรับ การขอรอ งจากทหารของทานทีร่ เู ทาไมถงึ การณใหต ัง้ ผแู ทน ทา นปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นและกลาว วา “ทาํ ไมพวกทานจะตองมาปรกึ ษากับฉนั ในเมอื่ ฉนั ไมม เี สรีภาพ” พวกทหารเหลานั้นเห็นวาควรต้ังอบูมู ซา อัชอารี เปนตัวแทน แตทานอะลีเห็นวาเขาเปนผูขาดสติปญญาและไหวพริบ ทานเห็นวาควรจะเปน อับดุลลอฮ บุตรอับบาส หรือมาลิก อัชตาร แตพวกนั้นกลับไมเห็นดวยกับการเลือกของทาน ทั้งยังดื้อดึง ไปเลือกอบูมูซา อัชอารี เปนผูแทนฝายตนจนได กองทัพท้ังสองฝายตางพักรบ มุอาวิยะฮยินดีใน ความสําเรจ็ อนั คดโกงของอัมร และทานอะลกี ร็ สู ึกเศราใจในความโงเ ขลาของคนของทานเอง อยางไรก็ตามในที่สุดผูแทนของท้ังสองฝายไดมาพบกัน ฝายอัมรดวยความฉลาดแกมโกง ก็ ดงึ อบูมูซา อชั อารี เขา มาอยกู บั ฝายตน ดว ยการพินอบพิเทาแสดงตนวาเสแสรงแสดงความรักและเคารพ ในศาสนาอิสลาม จากนั้นอัมรไดแสดงความคิดเห็นวา ควรจะถอดถอนท้ังอะลีและมุอาวิยะฮออกจาก

อาํ นาจทง้ั สองคน โดยเลือกเฟน เอาบุคคลทส่ี ามเปนคอลีฟะฮแ ทน ท้งั นเ้ี พราะเหตผุ ลวาทั้งอะลีและมุอาวิ ยะฮเปนตนเหตุใหเกิดการนองเลือด ระหวางมุสลิม อบูมูซาผูอับปญญาตามเลหเหลี่ยมไมทัน ก็เลยเออ อวยเหน็ พองตามไปดว ย และยอมใหคําสญั ญาวา จะประกาศใหเ ปนไปตามแผนการณน ้ัน ในวันท่ีกําหนด ทั้งสองฝายตางก็ชุมนุมกันฟงคําตัดสินของอนุญาโตตุลาการ อบูมูซาขอใหคูคิด ของเขาแถลงคําตัดสิน แตอัมรไดหลีกเล่ียงอยางฉลาดแกมโกง โดยกลาววา “มันไมเปนการสมควร สําหรับฉันท่ีจะกลาวคําประกาศกอนทานผูมีอาวุโส และเคยเปนสาวกของทานศาสดามากอน อบูมูซา รูสึกตัวพองขึ้นดวยคํายกยอปอปน จึงยืนขึ้นบนฐานที่จัดไวระหวางคูความพรอมกับประกาศวา… “โดย เหตุที่ทั้งอะลีและมุอาวิยะฮมีความผิดท่ีทําใหมุสลิมตองนองเลือด ฉันจึงขอถอดท้ังสองคนออกจา ตําแหนง เหมือนกับท่ีฉันกําลังถอดแหวนออกจากน้ิวมือในขณะน้ี” พรอมกับคําประกาศนี้ เขาก็ถอด แหวนไปพรอมๆ กนั ดว ย แลวเม่ือถึงคราวท่ีอัมรยืนขึ้น เขากลับประกาศวา “อบูมูซา เปนคนของอะลี และเขาไดถอดอะลี ออกแลว แตสําหรับฉันตรงกันขาม ฉันขอแตงตั้งมุอาวิยะฮ เหมือนกับท่ีฉันสวมแหวนลงไปในนิ้วมือของ ฉัน” แลวเขาก็สวมแหวนลงไปในมือ ขณะกลาวคําประกาศ ฝายอบูมูซาผูโงเขลาไดเอ็ดตะโรมาจาก ขางลางวา อัมรหลอกลวงเขา และวาอัมร เปรียบเสมือนสุนัขที่แบกหนังสือไว โดยผิดคําสัญญาที่วาจะ ประกาศถอดถอนทงั้ สองคน แตท วา มันสายเสียแลว ฝา ยอัมรก็ตอบโตใหบางวา อบูมูซาเปรียบเสมือนลา โงท ีแ่ บกตําราไวเ ต็มหลัง แตอ า นไมอ อก จากนน้ั ทงั้ สองกล็ งไมลงมือเตะตอยกนั เปน พลั วนั ฝา ยพวกทีร่ ักนบั ถือทา นอะลีอยา งแทจ รงิ ไมสามารถยอมรบั คาํ ตดั สิน ซึ่งเปนคําตัดสินฝายเดียว เชนน้ันได ฉะนั้นการตอสูจึงกลับดําเนินข้ึนอีกอยางรุนแรง พวกที่แยกจากทานอะลีออกไปอีกพวกหนึ่ง เรียกวา “พวก คอวาริจ” ซึ่งมีจํานวนกวาหม่ืนคน ไดแยกทัพออกไปรวมกลุมตางหาก ไมยอมเขากับท้ัง สองฝาย แตกลับตองการจะเผด็จศึกอันยาวนานระหวางทานอะลี และมุอาวิยะฮ โดยการฆาท้ังสองคน รวมท้ังอัมรดวย พวกน้ีไปรวมกลุมอยู ณ ที่หนึ่ง เรียกวา “นะฮรอวาน” ครั้งแรกทานอะลีไมเอาใจใสกับ พวกนี้ แตพวกน้ีกับเพ่ิมจํานวนมากขึ้นและทําตัวเปนปฏิปกษตอทาน พวกน้ีบรรยายความรูสึกอันเศรา สลดของตน และถาปรากฏวาใครไมคลอยตามและรวมมือ ก็จะหาวาเปนคนไมบริสุทธิ์และฆาเสีย ทานอะลีคิดเห็นวาขั้นแรกตองจัดการกวาดลางพวกนี้กอน ดวยกําลังเพียงเล็กนอย ทานไดเขาบุกโจมตี พวกนี้ ตามคําบอกกลาวของทานเพียงไมก่ีวัน และกวาดลางพวกนี้ลงอยางส้ินเชิง ยกเวนเพียงเกาคนที่ หนีเล็ดลอดไปไดคนละทิศละทาง พวก คอวาริจ ท่ีมีอยูตามชายแดนอิหรานและเตอรกิสถานในปจจุบัน คอื ลูกหลานของคนพวกน้ี ผลของการทําสงครามกับทานอะลีทําใหมุอาวิยะฮรูซึ้งดี ถึงความไรผลในการประจัญหนากับ กองทัพของทาน จึงคิดคนวิธีใหมเพื่อความสําเร็จ และไดสงกองกําลังตางๆ ไปตามจังหวัดท่ีอยูในความ ปกครองของทา นอะลี และไดรับความสาํ เรจ็ เปน บางสวน ในขณะเดียวกันมีพวก คอวาริจ สามคน คบคิดกันวางแผนฆามุอาวิยะฮ อัมร บุตรของอาสและ ทานอะลี ในวันทกี่ ําหนดพรอมกัน คนหนึ่งไปดามัสกสั เพอื่ ฆามุอาวิยะฮ คนหน่งึ ไปอยี ิปตเ พ่อื ฆาอัมร และ อีกคนหนงึ่ คืออบั ดลุ เราะฮม าน บุตรของมุลญิมไปกฟู ะฮเพ่ือฆาทานอะลี เพื่อความสําเร็จของแผนการณ

ที่ช่ัวรายของพวกเขา วันที่กําหนดคือวันศุกรท่ี 19 เดือนรอมาฎอน ปฮิจเราะฮท่ีส่ีสิบ การปฏิบัติการตาม แผนการณของสองคนแรกลมเหลว แตอับดุลเราะฮมาน ผูรับภารกิจอันนาบัดสีท่ีจะสังหารทานอะลี ได เขาหาทา นโดยแสรง ทาํ เปน เพอ่ื นทีม่ ีความจงรกั ภักดี ความจริงทานอะลีเคยเปดเผยถึงความประสงคของ เขามากอน และอับดุลเราะฮมานไดขอรองใหสังหารเขาเสีย กอนท่ีเขาจะประกอบความช่ัวเชนนั้นลงไป แตทานอะลีแยงวา การลงโทษใดๆ จะกระทํากอนความผิดเกิดข้ึนไมได และทานอะลีมักมอบของขวัญ ตา งๆ ใหเ ขา และทกุ ครัง้ ทา นอะลมี ักจะราํ พงึ บทกลอนตอไปนี้ “ฉันมีความปรารถนาท่ีจะใหเขามีชีวิต แตเขาปรารถนาที่จะฆาฉัน โอ อะลี หลุมศพของเจาจะ ไดรับการขดุ โดยเพือ่ นชาวโมราดีของเจา ” อบั ดลุ เราะฮมานผูน้เี ปนชาวโมราดี แหง แควนเยเมน เขาไดตกหลุมรักสาวสวยชาว คอวาริจ ข่ือ คุตามะฮ ซึ่งญาติของสาวผูนี้ถูกทานอะลีฆาในสงคราม ถาผูใดฝากรักและขอแตงงานกับนาง นางจะขอ เหรียญเงิน 3,000 เหรียญเปนคาสินสอด ทาสหญิงที่รองรําทําเพลงไดดี และสุดทายศีรษะของทานอะลี ดว ยความใครในตัณหา อบั ดลุ เราะฮม านยอมสญั ญาทจี่ ะปฏิบัตใิ หความประสงคของนางลุลวงไป กอนวันกําหนดตอนกลางคืน อับดุลเราะฮมานไดไปที่มัสยิด เมืองกูฟะฮ ดวยดาบอาบยาพิษ ภายใตเ สื้อคลุม คูตามะฮ ไดสงคนมาสองคนเพื่อชวยอับดุลเราะฮมาน เพื่อวาถาการฟนครั้งแรกไมไดผล กจ็ ะชวยกนั ซ้าํ จนประสบความสําเรจ็ เม่ือทานอะลีถือศีลอดเดือนรอมาฎอนได 18 วัน ในเย็นวันนั้น อุมมุกุลซูม บุตรสาวของทานได นําขนมปง นม และเกลือมาให ทานอะลีปฏิเสธนม รับเอาแตขนมปงและเกลือ ทานใชเวลาตลอดคืน นมาซและวิงวอนขอพร บางครั้งรูสึกวาทานมีอาการหงุดหงิด และมีน้ําตาคลอ ทานมักจะออกไปท่ีลาน บานบอยๆ สงสายตาขึ้นไปบนทองฟาและพึมพําออกมาวา “คําบัญชาแหงความศักดิ์สิทธ์ิไดมาถึงแลว” บุตรสาวของทานสอบถามถึงอาการหงุดหงิดและการรํ่าไหของทาน ทานกลาววา “ลูกเอย พอเคยชินกับ พวกอัศวินและผูปกครองทั้งหลาย แตความกลัวมิไดเคยเขาครองหัวใจพอไดเลย แตคืนน้ี ความย่ิงใหญ ของพระผูอภิบาลแหงสากลโลก ซึ่งพอกําลังจะตองกลับคืนไปสูนั้น ไดกอใหเกิดความหวาดหวั่นขึ้นใน กมลของพอ ” กอนปจจุบันสมัยจะใกลรุงเล็กนอย ทานอะลีไดแตงกายเพ่ือจะออกจากบาน บรรดาเปดและ หานที่ทานเล้ียงไวในบาน ตางก็สงเสียงรองอ้ืออึง เจาตัวหน่ึงถึงกับยึดและดึงชายผาของทานไว แต ทานอะลีปรารภออกมาวา “พวกเจาจะมาหามฉันไมใหไปสูพระผูอภิบาลน้ันไมได” ทานไดหันไปยัง บตุ รสาวของทานและเตอื นใหเธอเอาใจใสบรรดาสัตวเ ลี้ยงภายในบาน คอยใหนา้ํ ใหอาหารอยาไดละเลย เมื่อทานกําลังจะผานประตูไปเจาขอสับประตูก็เกี่ยวตัวทานไวแนน แตทานก็แกะออกและกลาวคําบาง อยางเชน ทกี่ ลา วกับพวกเปด และหาน ทานอะลีไปถงึ มัสยดิ และเหน็ อบั ดุลเราะฮมานนอนคว่ําหนาอยู ทานจึงปลุกเขาขึ้นมาและกลาว วา “วิธีการนอนแบบน้ีเปนท่ีตองหาม บรรดาศาสดาน้ันนอนหงาย เพื่อรับพรจากพระผูเปนเจา บรรดาผู ศรัทธานอนหันไปทางขวา และพวกหมอนอนหันไปทางซาย แตการนอนคํ่าเปนการนอนของมารราย” แลวทานสะกิดตอไปอีกวา “อับดุลเราะฮมานเอย จงเตรียมตัวใหพรอมเวลาของเจามาถึงแลว” จากน้ัน

ทานอะลีก็เดินไปยังหอคอย และประกาศคําเรียกรองปลุกใหสัปบุรุษของทานมนมาซอยางที่เคยปฏิบัติ มา ในไมชาท้ังมัสยิดก็เต็มไปดวยมุสลิม ทานอะลีเปนผูนําในการนมาซ ขณะที่ทานกมลงกราบ อับดุล เราะฮมาน ซึ่งยืนอยูดานหลังทาน ก็เขามาทางดานหลัง แลวควงดาบอาบยาพิษฟนลงไปดวยกําลังแรง บนศีรษะของทา น รอยฟนทะลศุ รี ษะเขา ไปถึงมันสมอง ทา นอะลไี มสามารถยกศรี ษะข้นึ เพอ่ื กราบเปน คร้งั ท่ีสองได ทานฮาซันจึงเขามาแทนบิดาและดําเนินพิธีนมาซจนจบ โลหิตไหลออกจากศีรษะทานอะลีไม หยดุ หยอน ทา นรวบรวมธลุ ี ณ ทนี่ ้นั ใสบ าดแผล พลางปากกท็ อ งบน บทคมั ภรี กรุ อานดงั นี้ “ดวยละอองธุลีน้ีเราสรางเจาขึ้นมา และเราก็ใหเจากลับไปสูการเปนละอองธุลีดังเดิม และจาก ละอองธลุ ีนี้ เราก็จะใหเ จากลับมามชี ีวติ อกี ครั้ง” เจาคนรายซ่ึงหนีไปบานญาติของมันคนหนึ่ง ไดถูกญาติคนนั้นจับตัวไว เมื่อเห็นรอยคราบเลือด บนดาบและเส้ือผาและในที่สุดญาติของมันก็รูวา เกิดอะไรขึ้น ดวยความโกรธแคนจากญาติของมัน พรอ มดว ยเพือ่ นฝูง จึงพากันมดั มือผูกเทาเจาผูรายใจอํามหิต ชาวกูฟะฮไดชวยกันลากตัวมายังมัสยิด ซึ่ง ทานอะลีนอนจมกองเลือดอยู ผูคนตางถมนํ้าลายรด ทุบตีมัน แตอับดุลเราะฮมานก็รูแจงแกใจดีถึงน้ําใจ อันอารีของทานอะลี มันจึงรองวิงวอนตอทานวา “ทานจะชวยฉันไดไหมทานอะลี ใหรอดพนจากการถูก ลงโทษของชาวเมอื งกูฟะฮ” “เจา คดิ ไดใ นเวลาอันสมควร อับดุลเราะฮมาน” ทานอะลีตอบแลวจึงเรียกฮาซัน “ลูกเอย จงชวย แกเชือกที่มัดมือมัดเทาอับดุลเราะฮมานออกเสีย ปฏิบัติกับเขาอยางนุมนวลใหอาหารและเครื่องดื่มเขา รับประทานแทนพอ ขออยาใหบรรดามุสลิมเฆี่ยนตี ดุดาเขา ถาพอไมตาย กฎหมายอิสลามยอมให อํานาจแกพอท่ีจะแกแคนทดแทนหรือใหอภัยแกเขา แตถาบาดแผลน้ีสาหัสถึงฆาต เรื่องน้ีก็ตองอยูใน ความวินิจฉัยของเจา แตขอใหจําไว จงอยาทําการลุอํานาจกฎขอบังคับ ขอใหฟนเขาเพียงคร้ังเดียว เหมือนกับท่ีเขาฟน พอ ” แลวทา นอะลีกส็ งั่ ใหบ ุตรของทา นนาํ ทา นกลบั บาน ณ ทบี่ า น สหายของทา นตา งพากนั มาเย่ยี ม เม่อื เหน็ วามากนั เปนจํานวนมาก ทานจงึ กลาวข้นึ วา “เม่ือวานนี้ ฉันเปนสหายของทาน แตวันน้ีฉันขอรับใชทานดวยการเปนอุทาหรณแกทาน ใหทานไดเรียนรู วา บคุ คลอยางฉันกต็ อ งลมหมอนนอนเสอื่ และในวันพรุง นีก้ อ็ าจจะตองจากทา นไปอยางไมมวี นั กลับ” เมื่อสหายของทานพากันกลับไปแลว ทานไดกลาวคําส่ังเสียเปนคร้ังสุดทายกอนส้ินชีพ ตอทาน ฮาซันและฮูเซนบุตรของทานวา “จงมีความมั่นคงในคุณธรรมและมอบหมายตัวของเจาตอพระประสงค ของพระเจา จงตั้งอยูในสัจธรรมอยูเสมอ จงมีเมตตาตอเด็กกําพรา ชวยเหลือคนยากจน เข็ญใจ และ พยายามอยูในโลกนี้ในวิถีทางท่ีทําใหโลกน้ีดีข้ึน จงหยุดทรราชยจากการกดข่ีของเขา อยาถอนตัวออก จากการชวยเหลอื ภารกิจของพระเจา โดยอางอุปสรรคใดๆ ทัง้ ส้ิน” สําหรับศพของทานน้ัน ทานแนะนําวา “ดาบของพอไดพิฆาตอัศวินของอารเบียนับหมื่นคน พอ เกรงวาบุตรหลานของพวกน้ีจะทํารายศพพอภายหลังจากท่ีฝงแลว ฉะนั้น ขอใหเจาจัดการฝงศพของพอ ในที่เรนลับตามเนนิ เขา หางไกลกับทีอ่ ยูของหมูชน” จากนั้นทานหันมาส่ังกับมุฮัมมัด อัลฮานาฟยะฮ และบุตรทุกคนวาใหเชื่อฟงทานฮาซันผูเปน พ่ีชายใหญ และในขณะนั้นเองทานอะลี เหลือบไปเห็นอับบาส บุตรชายคนหน่ึงของทาน ซ่ึงมีอายุ 12 ป

ในขณะนั้น ยืนรองไหอยูเงียบๆ ทานจึงเรียกเขามาและจับมืออับบาสไปไวในมือของทานฮูเซน พรอมกับ ส่ังวา “ฮูเซน พอขอมอบนองชายคนนี้ไวกับเจา แทนตัวพอ เขาจะเปนผูเสียสละและทอดกายสละชีวิต อยา งยิ่งใหญเพอ่ื ปกปองเจา และคนทเ่ี จารกั ในวันขา งหนา ” “อับบาส ลูกพอ พอรูดีในความรักที่เจามีตอฮูเซนพ่ีชายของเจา เมื่อวันน้ันมาถึง จงปฏิบัติ ภารกิจใหย่ิงใหญในการปกปองฮูเซนและลูกหลานของเขา” ทานอะลีหันมาส่ังกับอับบาสเปนประโยค สุดทาย ขณะท่ีทา นอะลีส้ินชวี ติ ทานฮาซันมีอายุ 37 ป และทา นฮูเซนมอี ายุ 36 ป รงุ ข้นึ วนั ท่ี 21 เดอื นรอมาฎอน ฮจิ เราะฮศักราช 40 (28 มกราคม ค.ศ.661) วิญญาณของผูสูงสง แหงยุคไดผานออกจากราง บุคลิกภาพการพูดและการปฏิบัติของทานจนถึงวาระสุดทายไดเปนบทเรียน อันสูงสงในทางธรรมจรรยา ในความกลาหาญ พรอมท้ังความเมตตากรุณา ความไมเห็นแกตัว ท่ีทาน ปฏบิ ตั ิตอบุตรหลาน ครอบครัวและบุคคลท่ัวไปในโลก เมื่อศพของทานถูกแบกไปตามถนน มีพวกแมหมายและเด็กพากันมารํ่าไหอยางนาเวทนา และ รําพงึ ราํ พนั กนั เปน เสยี งเดยี ววา ผูท ี่อปุ การะพวกเขาดว ยอาหาร เส้ือผาและความจําเปนอื่นๆ อีกมากมาย นานัปการ ไดจากพวกเขาไปอยา งไมม ีวนั กลบั เสียแลว แตท า นฮาซันและฮูเซน ไดแ บกศพของทา นผานฝงู ชน โดยรวดเร็ว ณ ท่ีนะญัฟ ซ่ึงหางจากกูฟะฮประมาณ 7 ไมล ศพของทานอะลีถูกฝง ณ ที่น้ัน ท่ีฝงศพน้ี คงเปนความลับอยูเปนเวลานาน แตหลังจากท่ีพวกอุมัยยะฮสูญสิ้นอํานาจลง ความลับนี้ก็ถูกเปดเผย ออกโดยทายาทของทานอะลีตอผปู กครองตระกูลอับบาสยิ ะฮ คอวาริจ อีกสองคนที่ไปจัดการมุอาวิยะฮกับอัมร บุตรของอาศ ปรากฏวาลมเหลว บัค บุตรของ อับดุลลอฮ ถูกจับไดที่มัสยิดใหญของกรุงดามัสกัสหลังจากฟนมุอาวิยะฮบาดเจ็บเพียงเล็กนอย มุอาวิ ยะฮส่ังใหตัดเทาทั้งสองขางและดึงลิ้นของเขามาเฉือนออก แลวส่ังใหนําไปทรมานจนบัคตาย สวนอัมร บุตรของอาศ ซ่ึงขณะนน้ั เปน ผปู กครองอยี ิปต รอดจากการถูกสังหาร เพระในเชาวันดังกลาวอัมรไมสบาย จึงใหผูชวยของตนออกมาทําหนาท่ีแทน ซ่ึงก็เปนผูท่ีรับเคราะหแทนอัมร เพราะฆาตกรไมเคยเห็นอัมรมา กอน จึงคิดวาผูชวยของเขาเปนตัวอัมรเอง และหลังจากน้ันฆาตกรก็ถูกจัดการนําไปสังหารอยางทารุณ เชน เดียวกัน บทท6่ี ทานฮาซันทายาทของทานอะลี ทา นฮาซันข้ึนเปน คอลีฟะฮแ ทนทานอะลี ผูเปนบิดา แตก ็เปนอยูไดไมนาน เพราะมุอาวิยะฮไดใช นโยบายการติดสินบน พวกอาหรับท่ีสนับสนุนทานฮาซัน ซ่ึงเปนพวกท่ีมีความละโมบโลภได หาความ ซ่ือสัตยอันใดมิได ใหเขาพวกดวยและตั้งตัวเปนใหญ ขอเท็จจริงน้ียอมเปนสักขีพยานวา คําสั่งสอนของ ทานศาสดาไดเปล่ียนแปลงพวกอาหรับ แตเพียงผิวเผินเทาน้ัน ภายในซึ่งแข็งกระดางประดุจหินชาติของ

พวกชนเผาชาวทะเลทรายนี้ ยังคงหยาบคายอยูเชนเดิม ยกเวนเพียงสวนนอยเทานั้น ท่ียังไมละทิ้งบุคคล ในครอบครัวของทา นศาสดา แมแ ตในขณะที่มคี วามลําบากมากทส่ี ุด วัตถุประสงคหรือความมุงหมายไมวาจะเปนของทานศาสดาหรือบรรดาอิมาม ซ่ึงปฏิบัติไปตาม พระบัญชาของพระผูเปนเจาน้ัน ยอมเหมือนกันทุกกาลสมัย บางคร้ังทานเหลานั้นก็ซอนตัวเอง ปลอยให พลโลกคิดคํานึงเอาเอง ถึงความผิดของตน ในการที่ไมปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระผูเปนเจา บางคร้ัง ทานก็ทําโทษพลโลกในการกระทําผิดของพวกเขา และบางครั้งก็สละชีพเปนพลีกรรม ถาพลีกรรมนั้นจะ ชวยปฏิวัติจิตใจ ความคิดและศีลธรรมของชาวโลกใหดีข้ึน ชีวิตในบ้ันปลายของทานอะลีไดสําเร็จโทษ พวกหนา ไหวห ลังหลอก ในศาสนาอิสลามเปนจํานวนมาก และถา ทา นฮาซันยงั คงดาํ เนินวิธีการนองเลือด อยางนั้นตอไปอีก ใครเลาจะอยูฟงคําสั่งสอนของทานอิมามคนตอไป เปนเรื่องธรรมดาท่ีจะตองมีความ สงบหลังจากเกิดพายุใหญ สถานการณในขณะนั้นและความต้ังใจของทานฮาซัน ท่ีจะเก็บตัวอยางสงบ และปลอยใหชาวโลกคิดคนกันเอาเองอีกคร้ังหนึ่ง ถึงวิธีไฝฝนหาความสงบสุข ยอมเปนการกระทําที่ คลอยตามพระประสงคของพระผูเปนเจาดวยเหตุน้ีทานฮาซันจึงทําสัญญาสงบศึกกับมุอาวิยะฮ ตาม ขอตกลงดงั ตอไปนี้ ขอท่ี 1 มุอาวิยะฮ จะตองปกครองอาณาจักรอิสลาม ตามหลักการของพระผูเปนเจา ตามที่ทาน ศาสดาไดวางหลกั ไว ขอท่ี 2 มอุ าวิยะฮจะตอ งไมแตงต้ังผใู ดข้ึนแทนตนอกี ตอ ไป ขอที่ 3 ประชาชนชาวซีเรีย อิรัก และฮิญาซ จะตองไดรับความสงบและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยสนิ ขอท่ี 4 ชาวชอี ะฮและบรรดามติ รสหายของทา นอะลีจะไมถ กู ทาํ รายในทุกวิถีทาง ขอที่ 5 มุอาวิยะฮจะไมเขามายุงเกี่ยวในทุกประการกับทานฮาซัน ฮูเซน และญาติคนอ่ืนๆของ ทา นศาสดาและทานอะลี ขอที่ 6 จะตองสงเงินจํานวนหาหมื่นเหรียญจากคลังกลางทุกๆ ป มาใหทานฮาซันเพื่อชวยใน การครองชพี ของบคุ คลในครอบครัวของทานศาสดา มุอาวิยะฮ รีบลงนามขอตกลงน้ีทันที และต้ังตัวเปนกษัตริยปกครองอาณาจักรอิสลาม โดยเหตุ นี้ บุตรของศัตรูตัวสําคัญ ถึงสองคนของทานศาสดา เชน อบูซุฟยาน ซึ่งมีจุดมุงหมายอันย่ิงใหญในชีวิต คอื การทําลายพวกลกู หลานฮาชิม และตวั ทา นศาสดาโดยเฉพาะ รวมทั้งภรรยาใจยักษของเขาคือ ฮินด ผู ซึ่งควักตับของฮัมซะฮ อาของทานศาสดา ซึ่งนอนตายอยูในคราวสงครามอุฮุดออกมาเคี้ยวเลน ประวัติศาสตรจําตองบันทึกโชคชะตาของมนุษยยอดอัปลักษณ ซึ่งกลายมาเปนผูปกครองในอาณาจักร ของทา นศาสดาแหงตระกูลฮาชิม อีกคร้ังหนึ่งท่ีความย่ิงใหญของตระกูลอุมัยยะฮ ไดพุงข้ึนถึงจุดสุดยอด สําหรับผูสังเกตการณท่ัวไป ก็จะเห็นวาฝายธรรมะไดแพเสียแลว และอธรรมเปนฝายกําความมีชัย แต ความจรงิ หาไดเ ปน เชน นั้นไม ความมโหฬารยิ่งใหญท่ีฝายอธรรมไดสรางขึ้นมาน้ัน สรางขึ้นมาเพ่ือการถูก ทําลายเปนผุยผง และฝายธรรมะตางหากท่ีจะตองเปนฝายมีชัยในข้ันสุดทาย ฉะนั้น ขอตกลงท่ีทาน ฮาซนั ท่ีทา นไดกระทําไป ยอมกระทําไปดว ยความรสู ึกผิดชอบทสี่ งู ยากทบ่ี ุคคลธรรมดาจะเลง็ เห็น

ในบรรดาผูที่ยุใหรําตําใหร่ัวบางคน ไดไปหาทานฮูเซน พลางยุแหยวา “ทานเห็นไหมในการที่ พี่ชายของทานไดนําความเสื่อมเสียมา ใหแกตระกูลของทาน โดยไปเจรจาสันติกับบุตรของนางฮินด” ทานฮูเซนจึงไดกลาวตอบโตใหพวกยุแหยสงบน่ิงเสียดังนี้ “พ่ีชายของฉันไดทําไปตามคําสั่งของศาสดา ของทา น และฉนั ก็จะตองปฏบิ ตั ิตามคาํ สัง่ ของพชี่ ายฉนั ทกุ ประการ” คํามั่นท่ีมุอาวิยะฮไดใหไววาจะปฏิบัติตามขอตกลงน้ัน เปนไปแตในนาม เมื่อเห็นวาฐานะของ ตนปลอดภัยและม่ันคง กเ็ รมิ่ กดข่แี ละฆาฟน พวกพอ งของทา นอะลี บรรดาอิมามตามมัสยิดไดรับคําสั่งให สาปแชง และกลาวคําหยาบตางๆ ตอทานอะลี ทุก ๆ วันกอนเร่ิมการนมาซ แตดวยความเกรงกลัวคํา ครหาวา คํากลาวตางๆ ในเรื่องมุอาวิยะฮจะเกินความจริง จึงขอยกคํากลาวของทานอะมีร อะลี ใน หนังสือ “จิตวิญญาณอิสลาม” ซึ่งเปนคํากลาวที่เปนกลางที่ไมเขาขางวา “มุอาวิยะฮเปนคน ฉลาดแกม โกง ปราศจากธรรมะและโหดราย” สวนคํากลาวของออสบอนดท กี่ ลาวถงึ คอลฟี ะฮคนแรกในตระกูลอุมัยยะฮ (หมายถึงมุอาวิยะฮ) คอื ไมเคยยนยอ ตอการประกอบกรรมชวั่ ใดๆ เพ่อื ประโยชนแ ละความมั่นคงของตนเอง การฆาตกรรมเปน วิธธี รรมดาสามัญของเขา ในการเอาชนะคตู อ สูท สี่ าํ คัญๆ มาลกิ อัชตารขุนศึกท่ีสําคัญของทานอะลี ก็ถูก ทําลายโดยวิธีฆาตกรรมเชนกัน ทานฮาซันหลานของทานศาสดาก็ถูกวางยาพิษ เพ่ือแผวถางหนทางให ยะซีด มุอาวิยะฮไมเคยยนระยอตอการผิดคํามั่นสัญญาท่ีใหไวกับทานฮูเซน ซ่ึงเปนบุตรของทานอะลีที่ เหลืออยู ถงึ กระนั้นมนษุ ยใ จคดผูไมเ คยมคี วามเชอ่ื เถอื ในเร่อื งพระเจาเลย กก็ ลับเปนผปู กครองอาณาจักร อิสลาม และอํานาจนี้ยังตกไปถึงผูสืบเช้ือสายของเขาเปนเวลาถึง 121 ป เหตุการณที่พลิกกลับไปชนิด หนามอื เปนหลงั มอื ไดเกิดขึ้นเพราะเหตุผลตอไปน้ี ขอที่หนึ่ง บรรดามุสลิมท่ีแทจริง เห็นวาพวกเขาจะปฏิบัติและอยูในกรอบที่ทานศาสดาไดดียิ่ง หากพวกเขาดึงตัวเองออกมาเสีย จากเหตุการณอันวุนวายของโลก อีกขอหน่ึงคือ พวกอาหรับซึ่งเปนนัก ปลนสะดม พวกเขามิไดเจริญและยิ่งใหญขึ้นมาอยางแทจริง แมวาจะพิชิตทั้งเอเชีย แอฟริกาเหนือและ สเปน ความย่งิ ใหญไดถ กู โยนใหพวกเขาเสมือนลิงไดแกว และภายใตความยิ่งใหญน้ีสันดานอันช่ัวราย มี ความอิจฉาริษยา ชิงดีชิงเดน ก็ยังคงฝงแนนอยูในกมลของชนเหลาทะเลทรายพวกน้ี การตอสูของพวก เขากระทาํ เพอื่ ความยงิ่ ใหญข องอาหรับมากกวา เพอื่ ความรงุ เรอื งของศาสนาอสิ ลาม ถงึ แมว าทานฮาซนั จะไดป ลีกตวั ออกไปอยอู ยา งสนั โดษ ปฏบิ ัติตนในทางศาสนา พวกอุมัยยะฮก็ ยังคงตดิ ตามทานมิไดละเวน มอี ยูหลายครัง้ ทพ่ี วกอุมยั ยะฮคดิ ท่จี ะพิฆาตทา นผบู ริสุทธน์ิ อี้ ยา งลับๆ มุอาวิ ยะฮไ ดจางผูช ํานาญการวางยาพษิ ใหลอบทําลายมาลิก อัชตารและบุคคลอ่ืนที่เห็นวาเปนศัตรู ขวางทาง ตน เพราะบุคคลเหลาน้ี ไมยอมสนับสนุนรัฐบาลท่ีเต็มไปดวยบุคคลที่คดโกงและหลอกลวง หลายครั้งที่มุ อาวิยะฮพยายามฆาทานฮาซัน แตทําไมสําเร็จ และในข้ันสุดทายเขาจึงคบคิดกันกับภรรยาคนหน่ึงของ ทานฮาซันอยางลับๆ ใหวางยาพิษทานฮาซัน โดยติดสินบนวา ถาสําเร็จจะใหแตงงานกับยะซีด บุตรของ ตน และใหร างวัลอ่นื ๆ อกี มากมาย ภายหลังมรณะกรรมของทานอะลี ไดผานไป 10 ป ในเย็นวันหนึ่งหญิงช่ัวผูน้ีก็ประสพผลสําเร็จ ในการผสมยาพิษรายแรงลงไปในเหยือกน้ําของทานฮาซัน และในคืนนั้นเอง เม่ือหลานของทานศาสดา

รินน้ํามาด่ืมเขาไปเพียงเล็กนอย ก็รูสึกรอนรุมภายใน เสมือนหนึ่งวามีใครมาตัดไสพุงของทานออกเปน ช้ินๆ กอ นจะส้นิ ใจทานไดเ รยี กทา นฮูเซนผูนอ งเขามาสั่งเสียวา ขอใหนําศพของทานไปฝงไว เคียงขางศพ ของทานศาสดา แตถามีผูตอตานคัดคานก็ใหนําไปฝงไว ณ สุสานบาเกียะอ ขางทานยาของทาน ทาน ฮาซันไดหลีกเล่ียงวิธีการนองเลือดจนถึงวาระสุดทายของชีวิต เมื่อทานฮูเซนนําศพพี่ชายไปฝงไวรวมกับ ทานศาสดา พวกอมุ ยั ยะฮตา งกข็ ี่มา และขวา งหอกมายังศพของทา นฮาซัน ทานฮูเซนจึงจําตองนําศพของ พ่ีชายไปฝงไวรวมกับทานยาของทานในสุสานบาเกียะอ ทานฮาซันเสียชีวิตในวันที่ 28 ซอฟร ฮิจเราะฮ ศักราช 50 (20 มนี าคม ค.ศ.670) เมื่อขาวการตายของทานฮาซันทราบไปถึงดามัสกัส มุอาวิยะฮถึงกับรองออกมาดวยความยินดี วา “พระเจาผทู รงย่งิ ใหญ” ภรรยาคนหนงึ่ ของเขาชอ่ื ฟก ธา มคี วามแปลกใจจึงถามวา “ดีใจดวยเร่อื งอนั ใดหรอื ” “ฮาซันนะซิ” มอุ าวิยะฮก ลาว “ไดตายเสยี แลว” “แปลก” ภรรยาของเขากลาว “ทานมีความยินดีกับการฆาตกรรมหลานของทานศาสดา แลว ทา นยงั มีหนาเรยี กตวั เองวามุสลมิ อกี หรอื ?” “เรื่องนี้ไมเก่ียวกับศาสดา” มุอาวิยะฮตอบดวยความเสียหนา “คูปรับของฉันไมมีตัวตนแลว ฉะนัน้ ฉนั ตองแสดงความยนิ ด”ี มุอาวิยะฮสงรางวัลไปใหภรรยาของทานฮาซันตามสัญญา ในการปฏิบัติงานช้ินโบวดํา ซ่ึงหญิง ผูเปนภรรยาพึงปฏิบัติตอสามี แตไมยอมใหยะซีด บุตรของตนแตงงานดวย โดยกลาววา “ชีวิตของยะซีด ยอมมีคาสําหรับฉัน ฉันจะยอมใหบุตรของฉันแตงงานกับหญิงที่ฆาสามีผูบริสุทธิ์ของตน เยี่ยงฮาซันได อยางไร?” ซมี อน โอคเลย ซง่ึ เคยเปน ศาสตราจารยภาษาอาหรับในมหาวทิ ยาลัยเคมบริดจ และเปนผูท่ีรูจัก ประวตั ิของชนชาติอาหรบั พอสมควร ไดกลาวสรปุ ชีวติ ของทานฮาซนั ดงั น้ี “ตามที่ขา พเจา ไดท ราบจากหลักฐานตางๆ ในขอตกลงของฮาซันกับมุอาวิยะฮ ยังมีขอปลีกยอย อยูขอหน่ึงวา มุอาวิยะฮจะไมแตงต้ังใครเปนคอลีฟะฮตอจากตน ในขณะท่ีทานฮาซันยังมีชีวิตอยู แตให กระทําอยางท่ีอุมัรไดกระทําไป คือใหมีการคัดเลือกบุคคลจํานวนหนึ่ง เขามาใหทานฮาซันเลือกเปนคอ ลีฟะฮ เมื่อมุอาวิยะฮมีความมุงหมายท่ีจะใหยะซีดบุตรของตนเปนคอลีฟะฮ จึงตองขจัดทานฮาซันไป เสยี ” ซีมอน โอคเลย ยังไดกลาวเกี่ยวกับเร่ืองของทานฮาซันดังนี้ “ทานฮาซันสิ้นชีวิตเม่ืออายุ 47 ป ในเดือนซอฟร ในปฮิจเราะฮที่หาสิบ กอนท่ีจะส้ินชีพทานขอใหฝงศพของทานไวเคียงขางทานศาสดา ผู เปนคุณตาของทา น และเพือ่ ไมใหม ีเหตุยงุ ยาก ทานเห็นวาควรขออนุญาตอาอิชะฮ ซึ่งนางก็ยอมอนุญาต ให ทานผูอานคงไมทราบวา เม่ือทานฮาซันสิ้นชีพลงน้ัน สะอีดเปนเจาเมืองมะดีนะฮอยูพรอมกับมัรวาน บตุ รของฮะกัม และบุคคลอื่นๆ ในตระกลู อมุ ยั ยะฮเกือบทง้ั ส้ิน ซึง่ ตางกพ็ ากนั คดั คา น กอ ใหเกิดความราว ฉานอยางสูงสุดระหวางตระกูลทั้งสอง ในท่ีสุดอาอิชะฮเองกลับเปนผูกลาววา นางไมยอมใหฝงฮาซัน ไว

กับศพของทานศาสดาสามีของนาง ดวยเหตนุ ีศ้ พของทานฮาซันจึงถูกนําไปฝงยังสุสานบาเกีะอ เมื่อมุอา วยิ ะฮทราบวาฮาซนั สน้ิ ชพี ก็กม ลงกราบพระผเู ปนเจา” คํากลาวอางขางตนนี้ เปนขอบันทึกของซีมอน โอคเลย ที่ไดมาจากฝายซุนนี ทางฝายชีอะฮ กลาววา พวกอุมัยยะฮ รวมทั้ง มัรวาน บุตรของฮะกัมและสะอัด บุตรของอาศ เจาเมืองมะดีนะฮใน ขณะน้ัน ยิงธนูใสศพของทาน ซึ่งมีอาอิชะฮรวมอยูดวย นางข่ีลอสีเทาพลางรองวาน่ีเปนบานของนาง จะ เอาหลานของคอดียะฮมาฝงเคียงขางไมได อับดุลลอฮ บุตรของอับบาส รูสึกฉงนในการกระทําของอาอิ ชะฮ ทานจึงประพนั ธบ ทกลอนมคี วามวา “ครงั้ หนึง่ นางข่ีมาบนหลังอฐู ครงั้ น้ผี ุดขนึ้ ขี่หลังลอ ถานางมีชวี ิตอยูตอไปหนอ นางคงขค่ี อข้ึนหลังชา งมา สวนแบง ของนางมีเพยี งนอ ยนดิ กระจดิ หน่งึ ในเกา ของแปดสว นนา แตความประสงคข องนางนัน้ หนา ดเู หมอื นวา ตองการเพียงผูเดยี ว” กอเซ็ม บุตรของมุฮัมมัดบุตรของอบูบักร หลานชายของนางไดเขามาแลวบอกกับนางวา “โอ ทานปา เรายังเช็ดเลือดท่ีศีรษะของเราจากสงคราอูฐยังไมเสร็จเลย วันน้ี ทานปาตองการใหผูคนเรียกมัน วาสงครามลอสีเทาอีกหรือ?” นางจึงยอมกลับไป ชาวตระกูลฮาชิมจึงนําศพของทานฮาซันไปฝงไวเคียง ขางฟาติมะฮ บตุ รของอะสดั มารดาของทานอะลี ผูเปนคณุ ยา ของทา นเอง ในสุสานบาเกยี ะอ เม่ือทานฮาซันสิ้นชีวิตลง มุอาวิยะฮคิดวาบัดน้ี เขาเปนอิสระจะปฏิบัติตามใจชอบอยางใดก็ได จึงใหพวกของตนขึ้นเปนเจาเมือง เขาครอบครองแควนตางๆ ทั้งหมด พรอมกับมีคําสั่งวา ถาพบผูใด สรรเสริญทานอะลี หรือกลาวถึงวจนะของทานศาสดาท่ีกลาวยกยองทาน เขาจะตองถูกแขวนคอหรือฟน เปนทอนๆ มัยซัม ตัมมารผูไมยอมกลาวสาปแชงทานอะลี ตองถูกทรมานจนตองตายอยางนาอนาถ ถึงแมจะถูกตัดขาออกก็ยังไมยอมหยุดกลาวสรรเสริญทานอะลี ตอมาจึงถูกตัดลิ้นและแขวนรางไวบน ตนไม ฮาญัร บุตรของอะดีกันดี ก็ถูกสังหารดวยสาเหตุเดียวกัน มุฮัมมัด บุตรของอบูบักรผูมีความ ใกลชิดกับทานอะลี และบุตรของทาน ก็ถูกอัมร บุตรของอาศ กุนซือของมุอาวิยะฮ ฆาตายที่อียิปต แลว เอาศพยดั ใสท องลา เยบ็ สานไวดงั เดิม จากนนั้ จึงนาํ ลาพรอมศพในทองไปโยนใสกองไฟ ดวยเหตุน้ีระยะเวลาการครองอํานาจของมุอาวิยะฮเปนเวลา 20 ป จึงเปนระยะเวลาของการ ปกครองที่เต็มไปดวยความทารุณโหดรา ย สาํ หรับผเู ปนมสุ ลมิ ท่แี ทจ ริง ในเมอื งบัศราะฮเพียงเมืองเดยี ว มี ผูถูกสังหารอยางโหดเหี้ยมไมตํ่ากวา 8,000 คน เพราะเหตุวาบุคคลเหลาน้ันยังคงยกยองนับถือทานอะลี และบุคคลในครอบครัวของทานศาสดา บุคคลที่ออนแอและทุพพลภาพ จํานวนมากถูกตัดเงินชวยเหลือ จากคลงั หลวง

(จากหนงั สอื กติ าบลุ อิมามะฮว ะซยิ าซะฮ และกติ าบุลอฮิ าดาส) มุฮัมมัด บุตรของยูซุฟ อัลกานดี นักประวัติศาสตรซุนนีสายชาฟอี ไดเขียนถึงความโหดราย ทารุณและความชว่ั ชาเลวทรามตางๆ ที่มุอาวิยะฮไ ดประกอบกรรมไวเปนจํานวนมาก พวกชีอะฮจึงจําตองปลีกตน ออกจากบานเมือง และหลบเลี่ยงไปอยูตามปาเขา แตบางพวกก็ หนีไปใหพนจากอาณาจักรอิสลาม และเขาไปหลบภัยอยูในเปอรเซีย จีน และแอฟริกา บุคคลใน ครอบครัวของทานศาสดาไดแนะนําผูท่ียังเคารพรักพวกทาน ใหซอนความศรัทธาไวภายใน เพื่อความ ปลอดภัยของตนเอง ทรัพยสินและตัวทานศาสดา การซอนความศรัทธาไวในใจน้ีเรียกวา ตะกียะฮ และ การ ตะกียะฮ น้ีเองท่ีทําใหชีอะฮกลับรุงเรืองข้ึนอีก ถาพวกเขาไมไดรับคําแนะนําใหซอนความศรัทธาไว กอน จากบุคคลในครอบครัวของทานศาสดาแลว ทานศาสดาของพวกเขาก็คงจะสาบสูญไปจากโลกนี้ อยางแนนอน ทุกคร้ังท่ีทานฮูเซนบุตรชายคนสุดทองของทานอะลี ไดทราบวาบุคคลท่ีเคารพรักทาน ถูกฆาฟน ลางผลาญ อยางปราศจากมนุษยธรรม จิตใจและความรูสึกของทานจะเต็มไปดวยความเศราระทมและ ขมขื่น ถึงกับทําใหทานตองรํ่าไหออกมาเปนบางคราว เม่ือฮาญัร บุตรของอะดี ถูกมุอาวิยะฮส่ังฆาอยาง ทารุณ ทานฮูเซนมีความสลดและคับแคนเปนอยางย่ิง ถึงกับตองมีจดหมายไปถึงศัตรูของครอบครัวทาน ศาสดา ใหร ะลกึ ถงึ ขอ ตกลงที่กระทําไวก ับทา น จดหมายทที่ านฮูเซนเขยี นมีใจความดังนี้ “โอ มอุ าวยิ ะฮ ทานไมใ ชห รือท่ีเปนคนฆา ฮาญรั บุตรของอะดี ทา นไมใ ชห รอื ทีเ่ ปนผูส งั หารบคุ คล ท่ีดี มีศีลธรรมลมตายประดุจยุง แพะและฝูงแกะ ฆาบุคคลท่ีกลาหาญ ซ่ึงไมเคยเกรงกลัวในการวิจารณ การกระทําท่ีชั่วและโหดรายตางๆ และไมเคยยนยอตอการใสความอยางสับปลับของพวกทรชน ทานได ฆาฟนบุคคลท่ีบริสุทธิ์เปนจํานวนมาก ซึ่งเปนบุคคลที่ทานสัญญาวา จะปกปกรักษาและคุมครองให ปลอดภยั ขอจงระวัง มอุ าวิยะฮเ อย ทานไดท ําลายวาจาสตั ยข องทา น ลงดวยคมดาบของตวั เอง” มุอาวิยะฮใชเงินของประชาชนอยางไมอั้น เพ่ือยกยองตัวเองและพรรคพวกของตัวท่ีต้ังตนเปน ศัตรูตอญาติของทานศาสดา พวกเหลาน้ีก็คือ อบูซุฟยาน อัมร บุตรของอาส มัรวานและฮะกัมพอของมัร วาน ศาสนาอิสลามไดรับการตําหนิติฉินจากบุคคลภายนอก ในความประพฤติท่ีทุจริต ผิดทํานองคลอง ธรรม ก็เพราะเหลาทรชนพวกน้ีเปน ตน เหตุ อัลลามาอ ชิบ อบิ นิ เญาชี นกั ประวตั ิศาสตรผูม ีช่อื เสยี งฝายซุนนี ไดเขียนไววาศัตรูของทานอะลี พยายามที่จะคนหาความผิดและจับผิดทานอะลี แตเมื่อความพยายามของพวกเขาไรผล จึงพยายามยก ยองศัตรูของทาน เพ่ือท่ีจะลบลางความดีของทานอะลี ใหดูเล็กนอยลงในสายตาของมุสลิม มุอาวิยะฮ น้ันมคี วามฉลาดแกมโกงพอท่ีจะยังเคารพชอื่ ของทานศาสดา เพราะเขาไดค ดิ เหน็ แลว วา ความสําเรจ็ ของ เขาขึน้ อยกู ับการนับถอื ศาสนาอิสลาม เพราะเขารูวา ถา หากขืนแสดงการนับถืออะไรเปนอยางอื่น ตัวของ เขานั่นเองจะเปนผูวิบัติไป ถึงกระน้ันก็ดียังพยายามจนประสพผลสําเร็จเปนบางสวน ในการละเวนไม ปฏิบัติตามหลักการของศาสนาอิสลามท่ีสําคัญๆ ในอนาคต ถาคนผูนี้สามารถมีชีวิตยืนยงอยู จน สามารถกระทําส่ิงดังกลาวใหสําเร็จลงได แตถาชีวิตหาไมแลว มุอาวิยะฮก็จะตองตั้งผูสืบแทนชนิดที่มี ความเห็นและจุดหมายอนั เดยี วกบั ตน

ตอไปน้ีเปนคํากลาวของนักประวัติศาสตรฝายซุนนี ซึ่งแสดงใหเห็นอยางซาบซึ้ง เพียงพอถึง ความประพฤติของมุอาวยิ ะฮ อบูยะอลา ไดบันทึกคํากลาวของอบูฮุรอยเราะฮ ไวดังนี้ … “วันหนึ่งขณะท่ีขาพเจารวมทางไป กับทานศาสดาน้ัน ทา นบงั เอญิ ไดย นิ เสยี งดนตรี จึงขอใหขาพเจาไปดูวาใครเปนผูรองเพลง ขาพเจาจึงข้ึน ไปดูบนดาดฟา พบมุอาวิยะฮและอัมร บุตรของอาศ กําลังรองเพลงกันอยู ขาพเจาจึงกลับมาบอกทาน ศาสดาถึงส่ิงทเ่ี ห็นมา ทานศาสดาจงึ กลา ววา “โอพระผเู ปน เจา ขอไดโ ปรดสงคนทั้งสองนี้ลงนรกเถิด” มุสนัด อิมามอะฮมัด อบิ นฮิ ัมบลั เลม ท่ี 5 ไดบันทึกขอความของอุบัยดุลลอฮ บุตรของบุรอยดะฮ ไวดังน้ี “… บิดาของฉันและตัวฉัน ไดไปหามุอาวิยะฮ เราไดนั่งลงบนพรม เม่ือจัดอาหารแลว เราตางก็ รับประทานอาหารกัน จากนั้นมีการจัดเคร่ืองด่ืมเขามา มุอาวิยะฮด่ืมเขาไปหนึ่งแกว แลวก็สงมาใหบิดา ฉันแกวหนึ่ง บิดาของฉันปฏิเสธโดยกลาววา “ตั้งแตทานศาสดาสั่งหามการด่ืมสุรา ฉันไมเคยด่ืมอีกเลย” มุอาวยิ ะฮกลา วแยงวา “ฉนั เปนหนมุ กุเรชท่งี ามที่สุด ถงึ แมฟนของฉนั จะแขง็ แรงทนทาน ฉันก็ไมเห็นวาจะ มอี ะไรใหค วามสขุ สาํ ราญ เทา กบั สุราและสงั คมท่ีสนุกสนาน…” ทานญะลาลุดดีน ซุยูตี นักวิชาการมีชื่ออีกคนหน่ึงกลาวไววา “มุอาวิยะฮเปนคนแรกที่ริการด่ืม สุราและชักชวนผูอ่ืนกระทําตาม เขาขึ้นนั่งบนแทนเทศนาของทานศาสดา และใหยะซีดบุตรของตน สาบานตนท่ีจะขึ้นเปนคอลีฟะฮตอไป แตอาอิชะฮซึ่งบังเอิญเขามาคัดคานวา “หยุดกอนมุอาวิยะฮ หยุด กอนคอลีฟะฮ สองคนแรกนั้น เขาคิดท่จี ะตัง้ ผูทีจ่ ะมาแทนเขาหรือเปลา ?” “เปลา” มอุ าวิยะฮต อบ “ถาเชนน้นั ที่ทานทําอยนู ้ี เปน แบบฉบบั ของใครกนั เลา?” อาอชิ ะฮแ ยง มอุ าวิยะฮรสู กึ ละอายจงึ ลงจากแทนเทศนา แตเขาก็หาทางแกแคนอาอิชะฮได โดยขุดหลุมพราง ไวอยา งลบั ๆ และหลอกใหน างตกลงไปในหลมุ นน้ั จนตาย ขอ เขยี นเกี่ยวกับการตายของอาอชิ ะฮ แตกตางกับขอกลา วขางตนเล็กนอ ย ดังนี้ “ไดเปนท่ีทราบกันโดยท่ัวไปวา อาอิชะฮถูกฆาตกรรมดวยน้ํามือของมุอาวิยะฮ ตามบันทึก ตอ ไปนี้ เพราะเหตุวาอาอิชะฮไมยอมท่ีจะรับรองและสนับสนุนยะซีด เปนคอลีฟะฮแทนมุอาวิยะฮ ในเม่ือ มุอาวิยะฮหาชีวิตไมแลว มุอาวิยะฮมีความโกรธจึงคิดฝงนางทั้งเปน โดยเชิญนางมากินเลี้ยงในสถานที่ท่ี จัดเตรียมไวเพื่อการน้ี เมื่อเธอทานอาหารเสร็จและหลับลงบนเกาอี้ เกาอ้ีก็คอยๆเลื่อนตํ่าลงไปในหลุม แลวมีการกออิฐถอื ปูน ปด ปากหลุมนั้นเสีย บทท่ี 7 ยะซดี บตุ รของมอุ าวยิ ะฮ ครั้งหนึ่งมุอาวิยะฮ เกิดปฏิพัทธ หญิงงามชาวเบดูอิน ช่ือวา ไมซูนะฮ เปนบุตรสาวของนัจดัลลี กาลเบีย เปนผูมีถิ่นฐานอยูในแควนนัจด จึงไดตกลงปลงใจสมรสกับเธอ มุอาวิยะฮสรางวังอันสวยงาม ใหนางอยู และต้ังช่ือวา “วังเขียวขจี” หญิงผูน้ีเปนคนยากจน มุอาวิยะฮจึงคิดเห็นวา วังอันใหญโต รโหฐาน พรอมดวยความสุขสบายนานาประการนี้ จะทําความพึงพอใจใหนางเปนอยางมาก แตตรงกัน

ขามนางไมพอใจในการสมรสครั้งน้ี ฉะน้ันการท่ีมุอาวิยะฮไดนางมาอยูในวังนั้น ก็มีแตความขุนของ หมองใจ เปนเคร่ืองตอบแทน จนในที่สุดมุอาวิยะฮตองตัดสินใจเลิกการไปมาหาสูกับเธอ อัลลา มาฮฏอบารไี ดบนั ทึกขอเท็จจริงนี้ไวในหนงั สอื ของทานชอื่ “ชีวติ สตั วโ ลก” ไวดงั นี้ “หลังจากการสมรส ระหวางมุอาวิยะฮกับไมซูนะฮ บุตรสาวของนัจดัล ลีกาลเบีย นางจึงถูกนํา ตวั จากนจั ดไปยงั ซีเรยี นางเปนผูม คี วามงามเปนเสนห มุอาวิยะฮหลงรักนางมาก แตตรงกันขามนางกลับ ไมชอบมุอาวยิ ะฮเอาเสยี เลย เธอแตงเรื่องเปรียบเปรยมุอาวิยะฮเปนอูฐท่ีมีรูจมูกเปนรูลึก คราวหนึ่งเม่ือมุ อาวิยะฮเขา ไปในวงั เขยี วขจี ขณะที่นางกาํ ลังรองเพลงเปรียบเปรยบทนี้ มุอาวิยะฮมีความรูสึกไมพอใจใน ความคิดเห็นของนาง ท่ีมีตอตนและไดหยานางถึงสามครั้ง ซึ่งตามกฎหมายอิสลามไมสามารถที่จะมา สมรสกันตอไปไดอีก แตความงามเปนเสนหของนาง ทําใหมุอาวิยะฮหลงไหลนางอีก ท้ังสองจึงอยูรวม ฉันทส ามีภรรยากนั อกี คร้ัง และในครัง้ นี้เองท่ีนางไดตัง้ ครรภบุตรชาย และในเวลาเดียวกันความเกลียดชัง ท่ไี มซูนะฮมตี อ มุอาวิยะฮไดท าํ ใหท ั้งสองแยกจากกนั โดยถาวร และนางไดกลับไปสูบานเกิดเมืองนอนของ นางที่นัจด และ ณ ท่ีนี้เองท่ียะซีดไดถือกําเนิดเกิดขึ้นมาในโลก ซ่ึงตรงกับสมัยการเปนคอลีฟะฮของอุ สมาน ตามบทบัญญัติอิสลาม ผูชายจะแตงงานกับผูหญิงคนท่ีถูกหยาถึงสามครั้งแลวไมได จนกวา หญิงผูน ัน้ จะไปแตง งานกบั ชายอนื่ และหยากบั ผูช ายคนน้ันมา โดยเหตุน้ีการอยูก นิ ของมุอาวิยะฮกับไมซู นะฮ ในบั้นปลาย จึงนับวาไมถูกตองตามหลักการศาสนาอิสลาม ฉะนั้นยะซีด จึงถูกนับเปนลูกท่ีถือ กาํ เนดิ มาอยางไมถูกตอ งตามครรลองคลองธรรม อบุลฟด า นกั ประวตั ศิ าสตรท่ีมีชอื่ เสียงอีกผูหนึ่ง ไดบรรยายขอเท็จจริงแตกตางกันเล็กนอย ทาน ผูน ้ีกลาววา เหตทุ ี่ทาํ ใหม อุ าวิยะฮแ ละไมซูนะฮหยากันน้ัน เพราะไมซูนะฮรองเพลงขณะท่ีมุอาวิยะฮกําลัง เขา มาในวงั มีความวาดังนี้ “ ถาฉันไดสมรสกับบุตรชายของลุงที่ยากจน เขาจะมีเสนหนาพิศวาส มากกวาอายวัวกินหญา ตัวน”ี้ เม่อื มุอาวิยะฮไ ดยินคํารอ งเชนนั้น จึงออกปากไลนาง “ไปอยูก บั พวกของแกเถอะ ถาแกรังเกียจที่ จะเปน คูครองของฉัน” (คาํ แปลจากหนงั สือประวตั ิศาสตรของอบุลฟดา พิมพท ่ีเดลฮี หนา 267) และจากหนงั สอื “ซับดาตุล ฟก ราฟ ตารีค อลั ฮิจเราะฮ” ประพนั ธโดยอบูซี มนั ซรู ี ไดบรรยายคํา รองของไมซนู ะฮ ดังนี้ “ผาท่ีมีเน้ือหยาบของฉัน ยงั ใหความสขุ แกฉัน ดเี สียกวาอาภรณพรรณอันลํา้ คา เหลา น้ี กระทอ มนอยทมี่ ดื ทบึ ของฉนั ยังดีเสยี กวา ปราสาทราชวงั อนั สูงสงน้ี เสยี งลมที่พดั ผานทองทะเลทราย ยังเพราะเสนาะโสต กวา เสยี งดนตรที ี่บรรเลงอยูนี้ สุนัขที่แสนจะจงรกั ภักดี เพยี งตวั เดยี ว ยอ มมคี ากวา แมวข้ีเซานับพัน สตั วเ ล้อื ยคลานและกระตา ยปา เปน อาหารทด่ี เี ยย่ี ม กวา เศษขนมปงน้ี

ฉันปรารถนาที่จะไดสมรสกับลุงฉัน ซ่ึงเปนผูกลาหาญและมีกําเนิดดีย่ิง กวาท่ีจะมาสมรสกับ มนษุ ยท ่ีเหม็นสาปและมีกาํ เนิดชว่ั ” เม่ือมุอาวิยะฮไดฟงบทเพลงของไมซูนะฮ ซ่ึงเต็มไปดวยคําเหน็บแนม และเยาะเยย ก็มีความ โกรธและหยา นาง ตอไปน้ีเปน บนั ทกึ ของนาซกี ธู ซาวารกิ ซงึ่ ออกจะแปลกอยบู าง เขากลา ววา ไมซูนะฮมี สมั พันธฉันชสู าวกบั ทาสของบิดาท่ชี ่ือ ซัฟฟค เมื่อนํานางมาที่ดามัสกัส มุอาวิยะฮจีงไดรูวานางไมบริสุทธ์ิ จึงไดสงนางกลับไปบานของนาง ณ ที่บานน่ีเอง ที่นางใหกําเนิดเด็กชาย ซึ่งมุอาวิยะฮ ไดรับเอาเปนบุตร ของตนและใหช่อื วา ยะซีด” (นาซกี ธู ซาวารีก เลม 4 หนา 155) ขอเท็จจริงตางๆ เหลาน้ีไดให ความกระจางแกเรา ไดรูถึงธาตุแทของกําเนิดของยะซีด ผูเปน เหลา ตระกูลอมุ ัยยะฮ อันกําเนิดเกิดมาอยา งไมถ กู ทาํ นองคลองธรรม จากมารดาชาวเบดูอิน ซึ่งก็ไมแนวา จะบริสุทธ์ิจรงิ หรอื ไม ทั้งเปนพวกเหลาชาวทะเลทราย กับมีหัวใจโหดรายเชิงกระดาง เปนพวกท่ีมีชื่อเสียง ในทางปลนสะดมและฆาตกรรม ยะซีดเปนสัญลักษณอันเต็มบริบูรณ ของอารเบีย ในดานความหฤโหด กอนกําเนิดศาสนาอิสลาม ยะซีดเองเพิ่งมาเมืองหลวงของบิดาตนเอง และก็ไดรับความสําเริงสําราญทุก ประการตามอํานาจฝายตํ่าของตน อยางไมมีอะไรบกพรอง ของโปรดของยะซีดก็คือสุราและนารี ซึ่ง ทรัพยศฤงคารและอํานาจของบดิ าที่ปกครองอาณาจกั รอันไพศาล และรักบุตรแบบบาคลั่ง จะสามารถมา ปรนเปรอได การยกยอปอปนของเหลาเพอ่ื นกนิ ท้งั หลาย ทําใหยะซีดเปยมลนไปดวยความหยิ่งยะโส เม่ือ เหลา พวกล้นิ ตวดั ใบหเู หลา นี้ กลา วยกยองชมโฉมสตรีใด ยะซีดก็จะใชอํานาจอิทธิพลของบิดานําเอานาง มาเคียงขา งใหจ งได เกี่ยวกบั เรื่องทก่ี ลา วมาน้ี เราอยากจะยกตัวอยางมาใหทานผูอานสักเรื่องหน่ึง คือ ในสมัยท่ีมุอา วิยะฮมีอํานาจปกครองอยูนั้น อับดุลลอฮ บุตรของสะลาม เปนขาหลวงปกครองอิรัก ภรรยาของเขาชื่อ ซัยนับ บุตรของอีซัค มีช่ือเล่ืองลือในความงดงามอันหยดยอยของนาง ความงามของนางที่มีอยูแลว ยัง ถูกขยายและตอเติมมาใหยะซีดฟง ทําใหยะซีดอยากไดนางมาเปนภรรยาเปนกําลัง ยะซีดพยายามทุก วถิ ีทางเพื่อจะใหไดน างมา แตก ต็ อ งควาน้ําเหลว ยะซีดจึงจําตองหาที่พ่ึงที่แนนอน และไดผลอยางแทจริง เขาจึงขอใหบิดาชวยใหตัวเขาเองไดซัยนับมา ถาบิดาไมยอมชวยเหลือ เขาก็จะฆาตัวตายดวยการอด อาหาร แรกๆ มุอาวิยะฮรูสึกหวาดๆ ท่ีจะกระทําตามคําขอของบุตร แตเมื่อเห็นวายะซีดด้ือดึงไมยินยอม มุอาวิยะฮจึงจําตองสัญญาที่จะเอาตัวซัยนับมาใหได ดวยเหตุน้ีอับดุลลอฮ บุตรของสะลาม ในฐานะท่ี เปนขาหลวงอยูภายใตการปกครองของมุอาวิยะฮ จึงถูกเรียกตัวมาพบ ณ ราชวัง โดยแจงวา มีความ ประสงคจะปรกึ ษาขอราชการงานเมืองท่สี ําคัญ เม่ืออับดุลลอฮ มาถึงมุอาวิยะฮก็แสรงทําการตอนรับอยางดีเปนพิเศษ ทานคอลีฟะฮยืนข้ึนเพ่ือ แสดงการคารวะ เมื่ออับดุลลอฮเดินทางมาถึงราชวัง และจัดท่ีอันมีเกียรติ ใหน่ังขางบัลลังกคอลีฟะฮ ท้ัง ยงั จดั ตกึ อนั สวยงามขา งวังเขียวขจีใหเปนท่ีพัก และสงคนมาถามวาไดรับความสุขสบาย ในความเปนอยู ประการใด เมื่อวางแผนท่ีจะตะลอมอับดุลลอฮ ในเบื้องแรกเปนผลดีเรียบรอย จึงไดจัดสงขุนนางผูใหญไป แจงแกอับดุลลอฮวา ทานคอลีฟะฮ มีความนิยมชมชอบและซาบซ้ึงในความประพฤติของอับดุลลอฮ ยิ่ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook