(75) ซเี ราะห อิบนุ ฮชิ าม เลม 1 หนา 419-421 (76) อลั กนุ ยา วลั อนั กอบ มฮุ ดั ดัสกมุ มี เลม 2 หนา 365 (77) อัลกุนยา วลั อันกอบ มฮุ ัดดัสกุมมี เลม 2 หนา 365 ,บิฮาร เลม 1 หนา 224 ฮาดีษท่ี 17 (78) ฆอซาลีนอเมะ ,ตารีค บตุ รของคอลกาน เลม 5 หนา 351,352 (79) อบูซรั โดย อบั ดุลฮามีด ูดาตุสสะฮาร (80) บฮิ ารนุ อันวาร เลม 11 หนา 17,27 (81) บิฮารนุ อนั วาร เลม 7 บาบที่ 103 หนา 597 100
เกล็ดชีวิตกัลยาณชน เลม 2 คาํ นําผูเ ขยี น ในเดือนมุรดอด ป 1339 (สุริยคติ) เกร็ดชีวิตกัลยาณชน เลมแรกไดจัดพิมพและวางจําหนายไปแลว ขาพเจา ต้งั ความหวังไววาจะเรงตนฉบับเลมท่ีสองใหเสร็จเร็วกวาน้ี และพิมพออกวางตลาด แตเนื่องจากมีภารกิจ ตางๆ มากมายเขา มาจนทําใหขาพเจาไมม ีโอกาสมากนัก แตในระหวางชวงเวลาดังกลาว หนังสือเลมแรกถูกก็ไดรับการจัดพิมพซํ้า ท้ังๆ ที่เลมสองก็ยังไมเสร็จ มาถึงขณะนี้ตองขอสํานึกตอพระมหาธิคุณของเอกองคอัลลอฮ (ซบ.) ที่ทรงอนุเคราะหแกขาพเจา ใหจัดทํา ตน ฉบับเลมท่สี องจนเสรจ็ สมบรู ณในทสี่ ดุ ซงึ่ อยใู นมือทานผูอานทุกทา นในขณะน้ี เลมแรกของหนังสือนี้ถือเปนท่ีพึงพอใจของผูอานผูทรงเกียรติทุกทานอยางมาก และไดรับคําชื่นชมยินดี จากประชาชนทุกๆ ชนช้ันอยางลนเหลือโดยมิไดคาดคิดมากอน ผลการตอบรับของพี่นองประชาชนอยาง มากมาย ทําใหเ ลม แรกถกู ตพี มิ พซ ํา้ ในเดอื นเดย ป 1342 จาํ นวน 5,000 เลม และเลมที่สองก็เชนกัน พิมพคร้ังแรก มจี าํ นวนถงึ 10,000 เลม ในเดือนชะอบานที่ผานมา มีโทรศัพทจากสถานีวิทยุของอิหรานมาหาขาพเจา และแจงวา ที่ประชุม คณะกรรมการของทางสถานีวิทยุมีมติใหมีการออกอากาศเรื่องเลาตางๆ ของหนังสือเลมน้ี ในเดือนรอมฎอนอัน ทรงเกียรติดวย และเปนรายการที่มีชื่อวา ‘ดอสตอนเนรอสตอน’ ซ่ึงจะออกอากาศในเดือนรอมฎอนทั้งเดือน และ จนถึงขณะน้ีรายการดังกลาว ก็ยังคงออกอากาศอยูภายใตช่ือรายการเดิม ในวันสําคัญทางศาสนา ซ่ึงเปนที่ ยอมรับของผตู ิดตามรบั ฟงรายการวทิ ยุเปน อยางดี ถือเปนโอกาสอันเหมาะสมย่ิงที่จะกลาว ณ ท่ีน้ีวา ประชาชนของเราน้ัน ประสงคและใครที่จะอาน หนังสือที่เกี่ยวกับศาสนามาก หนังสือท่ีเกี่ยวกับศาสนา ถาหากเปนหนังสือท่ีดีและทรงคุณคาแลว ก็จะมีผูซื้อ มากกวาหนังสือประเภทอ่ืนมาก และนี่คือหนาที่อันยากยิ่งสําหรับผูนําและนักคิดนักเขียนที่เปนนักการศาสนา เพราะเรารูแลววาประชาชนพรอมที่จะรับฟงและอานในเร่ืองราวตางๆ ของศาสนา ดังนั้น บรรดาผูรูและนักคิด นักเขียนที่เปนนักการศาสนาจะตอ งพยายามนําผลงานตางๆ ท่ที รงคุณคาออกสูสงั คมใหจงได เลมแรกของหนังสือเลมนี้มีท้ังหมด 75 เร่ือง และในเลมนี้มีทั้งหมด 50 เรื่อง ซึ่งสวนมาก แตละเร่ืองใน เลม น้ีจะยาวกวาแตละเร่อื งของเลม แรก และขา พเจา ตั้งใจเอาไววาเลม ทส่ี องนจ้ี ะตอ งไมห นามากกวาเลมแรก เลม นีจ้ ึงตอ งจบลง ณ เรอ่ื งลําดบั ท่ี 50 101
สวนลําดับเรื่องของเลมนี้ก็จะเปนลําดับตอจากเลมแรก ซ่ึงในเลมแรกจบที่ลําดับท่ี 75 เลมน้ี จึงเร่ิมจาก ลําดับที่ 76 จนไปจบลงในลําดับเร่ืองที่ 125 และถาหากขาพเจาไดรับเตาฟกอีกในเลมตอๆ ไป ก็จะตอจากลําดับ ขางตน นี้ เรื่องเลาตางๆ ในเลมนี้ก็เหมือนกับในเลมแรก สวนมากแลวจะอางมาจากหนังสือบันทึกวจนะตางๆ แต มิใชจะจํากัดอยูเฉพาะหนังสือบันทึกวจนะเพียงอยางเดียว ทวาไดอางมาจากหนังสือประวัติศาสตรดวยเชนกัน และที่เหมือนกับเลมแรกอีกเชนกันคือ ผูเขียนมิไดเพ่ิมเติมส่ิงใดเขาไปในตัวบทของเรื่องแตประการใด แตมีการ เสรมิ บางประโยคเขาไปเพอื่ เพิ่มอรรถรสของเรื่องใหน า อา นมากยิ่งข้นึ เทา น้นั เอง แหลง อา งองิ ของเร่อื งเลาจะมกี ารกลาวไวแลว วา อางองิ มาจากหนงั สือเลม ใด ซึ่งบางเรื่องอาจจะมีแหลง อางอิงจากหลายๆ ที่ แตทั้งนี้ทั้งน้ันก็ถูกอางอิงมาจากหนังสือเหลานั้นทั้งสิ้น สวนหนังสือที่อางอิงมา ก็บอก รายละเอียดของเลม หนา และสํานักพมิ พเ อาไวอยางครบครัน เราขอประสงคจากอัลลอฮ (ซบ.) ไดโปรดทําใหความคิด ความต้ังใจ ล้ิน และปลายปากกาของเราน้ัน ไปสูความดีงามดวยเถิด และดวยความปรานีและความเมตตาของพระองค ขอทรงโปรดรักษาปกปองพวกเรา จากการหันเหไปในหนทางท่ีผิดพลาดดวยเถิด และขอทรงโปรดประทานเตาฟกใหเรากาวไปในหนทางแหงความ พงึ พอพระทยั ของพระองค และอยูในหนทางแหง การรับใชส ่งิ ถูกสรา งของพระองคดวยเถดิ . เตหะราน 13 เดอื นออบอน 1343 (สรุ ิยคติ) 29 ญะมาดุษษานี 1384 (ฮิจเราะฮศ ักราช) มรุ ตะฎอ มเุ ฏาะฮฮ ะรี 102
76 บุตรของฮาตัม ในชว งสมัยกอ นการกาํ เนิดของอิสลามและการจัดตง้ั รัฐบาลอิสลามน้นั ประเพณีการ ปกครองโดยมหี วั หนา เผา (ซ่ึงมีอาํ นาจสูงสดุ เหมือนกษตั ริย) ในหมูช าวอาหรับยงั แพรหลายไปทวั่ ประชาชนชาวอาหรับตางก็เคยชินกบั การปฏบิ ตั ติ ามคาํ ส่งั ตางๆ ของหวั หนา ของพวกเขา และ บางครั้งถงึ กบั มกี ารจายสว ยแกหัวหนา เผาอีกดวย และหวั หนาเผา คนหน่ึงในหมชู นชาวอาหรบั สมยั นนั้ ทถี่ อื วา เปนหวั หนา เผา ทมี่ จี ิตใจกรณุ าปรานี และเอ้ือเฟอเผือ่ แผ มนี ามวา ‘ฮาตมั ฏออีย’ ซ่ึงเปนหวั หนา เผา ‘ฏัย’ และหลังการจากฮาตัมเสียชวี ิต ‘อดุ ัย’ บตุ รชายของเขากข็ นึ้ รบั ตาํ แหนง หัวหนา เผา ซง่ึ ในท่สี ดุ ประชาชนในเผาตา งก็ยอมรับและปฏิบตั ิตามคาํ ส่งั ของเขากนั ถวนหนา อุดยั จะเรียกเกบ็ สว ยและภาษจี ากทกุ คนในเผา จาํ นวน 1 ใน 4 ของรายได และในชวงของการ ดาํ รงตําแหนงของอดุ ยั นน้ั เอง คอื ชวงเวลาท่ีทา นศาสดา มาปรากฎ พรอ มกับการแพรห ลายของ อสิ ลาม เผา ฏยั ทีอ่ ุดยั เปน หวั หนา เผาอยนู ้ันเปน พวกบชู ารูปปน แตต ัวอุดยั เองกลบั นับถอื ศาสนา คริสต ซ่ึงเขามไิ ดเ ปด เผยแกผูใดเลย ประชาชนชาวอาหรบั ตางนอมรบั ศาสนาอสิ ลาม และเปน มุสลมิ กนั จาํ นวนมาก พวกเขาจงึ เร่มิ รูจกั และคน พบคําสัง่ สอนตา งๆ ท่ีนาํ ไปสูค วามมเี สรภี าพแหง อสิ ลาม ทาํ ใหร อดพนจากการ ปฏบิ ัตติ ามคาํ สั่งตางๆ ของหัวหนา เผา ที่พวกเขาตา งอดทนกลาํ้ กลนื มานานอยา งหลีกเล่ยี งไมได ดว ยเหตนุ ีเ้ อง อุดัย บนิ ฮาตมั จงึ เห็นวาอสิ ลามคอื ภัยอันตรายอนั ใหญหลวงสําหรับเขา เชน เดียวกบั บรรดาหวั หนา เผา อนื่ ๆ ท่มี คี วามคิดเชน เดียวกนั และตั้งตวั เปน ศัตรูกบั ทานศาสดา แตเมือ่ เวลาลว งเลยไป สงิ่ ทพี่ วกเขากระทาํ กม็ ิไดเกิดผลแตอ ยา งใด ประชาชนตา งมงุ สูอสิ ลามมาก ยิ่งขน้ึ วนั แลว วนั เลา จนกระท่งั แนวทางของอสิ ลามและมุสลมิ เจริญรงุ เรืองถึงจดุ สงู สุด อดุ ัยจงึ รตู วั วา สักวันหน่งึ อิสลามจะตอ งมาหาเขา และยดึ อาํ นาจการปกครองของเขาอยา งแนนอน เขาจงึ สั่ง ใหคนสนทิ คนหนงึ่ ของเขา ตระเตรียมอูฐที่แข็งแร็งไวจ าํ นวนหนึ่ง พรอ มกบั คนเดนิ เทาอกี จํานวน หนงึ่ เตรียมพรอ มอยตู ลอดเวลาใกลๆ กบั ทพ่ี กั ของเขา และกาํ ชับไววา ถาหากกองกาํ ลงั ทหาร อสิ ลามใกลเ ขา มา ตองสง ขา วใหรับรดู วย วนั หนง่ึ คนรับใชผ นู น้ั ไดเขามาหาอดุ ยั และกลา ววา “ถา หากทา นจะตัดสินใจประการใดก็ จงตัดสนิ ใจเถดิ เพราะกองกาํ ลังทหารอิสลามใกลเขา มาทกุ ทีแลว” อุดัยจึงออกคาํ ส่งั ใหเ ตรยี มอฐู ใหพ รอ ม และเรยี กบุคคลในครอบครัวของตนข้นึ หลงั อฐู พรอ มกบั นําสมั ภาระตางๆ มากมาย ท่สี ามารถตงั้ บนหลงั อูฐไดไ ปดว ย และหนไี ปสเู มอื งซเี รยี (ซ่งึ เปนเมอื งทปี่ ระชาชนนบั ถือศาสนาเดียวกบั เขา) ทนั ที แตเนื่องจากความรีบรอนและความโกลาหล จงึ ทาํ ใหเขาลมื นอ งสาวท่ีชอื่ ‘ซะฟานะฮ’ ไว นางจงึ ตกคา งอยทู น่ี ั้น กองกําลังทหารของอิสลามไดเ ขายึดเมอื งที่ปราศจากอุดัย และนําเชลยศึกซงึ่ หนึ่งในนั้นก็คือซะฟานะฮ นอ งสาวของอุดยั รวมอยดู วย เพ่ือนําไปยังนครมะดีนะฮ และขา วการหนขี องอดุ ัยกถ็ ูกแจงแกทานศาสดา 103
นอกมัสยิดมะดีนะฮม ีสถานท่ีหนง่ึ มีกาํ แพงสี่ดานทไี่ มส ูงนักลอมรอบอยู ถูกใชเปนท่พี าํ นกั ของบรรดา เชลยศึก ในวันหนึ่งทานศาสดา เดินผา นหนา สถานทแี่ หง นน้ั เพ่ือเขา ไปยงั มสั ยิด ซะฟานะฮซ ง่ึ นับวาเปนหญงิ งามคนหนึ่ง ท่ีมีความรูพอควรไดล กุ ขึน้ และกลาววา “บิดาของฉนั ไดจากฉนั ไปแลว ผทู อ่ี ุปถมั ภฉันก็หนีหายไป จง มคี วามกรณุ า (ชว ยเหลือ) ตอฉัน เพ่ือทพี่ ระผูเปนเจา จะไดมีกรุณา (ชว ยเหลอื ) ตอทา น” ทานศาสดาจงึ ถามนางวา “ผอู ุปถัมภข องเจา คอื ใคร?” นางตอบวา “อดุ ัย อิบนิ ฮาตัม” ทานศาสดา จงึ กลา ววา “ออ ! เขาคอื ผูท ห่ี นีจากพระผเู ปน เจาและศาสนทูตของพระองคไ ป นน่ั เอง” เมื่อกลา วจบทา นกจ็ ากไปทนั ที อกี วนั หนงึ่ ตอมา ทานกผ็ า นมายังสถานทีแ่ หงน้นั อีก ซะฟานะฮจ ึงลกุ ข้นึ และกลา วสง่ิ ท่กี ลาวไปแลวใน วันกอนอีกครงั้ หนง่ึ เชน เดียวกนั ทา นศาสดาก็ตอบนาง ในสง่ิ ที่ทา นตอบไปเม่อื วันกอน ดังนน้ั การรอ งขอของนาง จงึ ไมม ผี ล เชนกนั ในวนั ที่สาม ทา นไดเดนิ ผา นมาอีกครงั้ แตซะฟานะฮไ มคอ ยจะมคี วามหวงั สกั เทา ไรนกั ถา เธอจะรอ งขอความชว ยเหลอื อกี สักครั้ง นางจึงตัดสนิ ใจจะไมปริปากพูดสิง่ ใดอกี ใน วันนี้ แตช ายหนมุ ผหู น่ึง ซง่ึ ยนื อยขู างหลงั ทา นศาสดา ไดส งสญั ญาณใหนางลกุ ขน้ึ รองขอความ ชว ยเหลอื อีกครั้งหนง่ึ ซะฟานะฮจ งึ ลกุ ขึน้ และรอ งขอความชว ยเหลืออกี ครง้ั หนงึ่ วา “บดิ าของฉนั ได จากฉนั ไปแลว ผอู ุปถัมภฉนั กห็ นหี ายจากไป โปรดชวยเหลอื ฉนั ดวยเถดิ แลวพระผเู ปน เจาจะทรง ชว ยเหลือทา น” ทานศาสดากลา ววา “กไ็ ด แตฉันกาํ ลงั มองหาบุคคลหนงึ่ ที่ไวว างใจได เพ่อื ใหเ จาตดิ ตาม เขากลบั ไปสูเ ผาของพวกพอ งของเจา ถา หากเจา รูขา ววามบี ุคคลเชน นั้น กจ็ งสง ขา วแกฉนั ดว ยก็ แลวกนั ” ซะฟานะฮจงึ สอบถามจากคนรอบขาง ถงึ ชายหนุมท่ียนื อยขู างหลังทานศาสดา วา เปน ใคร จงึ สง สัญญาณใหเธอลกุ ขนึ้ รองขอความชว ยเหลือจากทา นศาสดาอีกครั้งหนึง่ พวกเขากลาววา “เขาคอื อะลี บนิ อบีฏอลิบ (อ.)” ผา นไปไมก ีว่ ัน ซะฟานะฮก ็สงขา วใหท า นศาสดาทราบวา มีคนกลมุ หนงึ่ ทีเ่ ชอื่ ถือไดจากเผา ของเธอ เดินทางมานครมะดนี ะฮ ขอใหส ง ตวั เธอไปกับบคุ คลกลมุ นี้เถดิ ทา นจึงมอบเส้อื ตัวใหมใ หเ ธอหน่งึ ตัว เงินอกี จํานวนหนึง่ และมา หน่งึ ตัว สงนางไปกับคนกลุมนั้นเพ่อื ไปยงั เมืองซเี รีย ท่ีพี่ชายของนางอาศยั อยู เม่อื ซะฟานะฮพ บหนาอุดัย จงึ ตอ วาตา งๆ นานา และกลาววา “ทานพาภรรยาและลูกๆ ของทานไป แตท านกลบั ลมื ฉนั ซงึ่ เปน เพยี งส่งิ เดียวท่ีพอ ของทานฝากไวก ับทา น” อุดยั ขออภยั ตอนางอยา งมากมาย และเนอ่ื งจากซะฟานะฮซึ่งเปน หญิงทีม่ ีการศกึ ษา อุดยั จงึ ขอ คําปรกึ ษาจากนางในเร่ืองของเขาวา “ในฐานะทีเ่ จาเหน็ มุฮัมมัดอยางใกลชดิ เจาคิดวาฉนั ควรจะกระทาํ อยางไร จะใหฉ นั ไปหาเขาและรว มเปนสาวกกบั เขาดหี รือไม? หรอื วา เลิกสนใจเขาและปลอ ยวางเฉยไปเชน น้”ี ซะฟานะฮ กลา ววา “ในความคดิ ของฉัน ฉนั คิดวา ถาหากทานเปน พวกเดยี วกับเขาจะเปนส่ิงที่ ดียงิ่ เพราะถาหากเขาเปน ศาสนทูตของพระเจาจรงิ ทานกจ็ ะมีเกียรติยศและความผาสุก เชนเดยี วกนั ถาหากเขามิไดเ ปน ศาสนทูตของพระเจาจรงิ แตเพราะตอ งการเปน ผูนาํ เพยี งอยางเดียวกม็ ไิ ดท าํ ให 104
เกยี รตยิ ศและศักด์ศิ รที ่ที านมีในหมปู ระชาชนชาวเยเมนถดถอยลง ซงึ่ เมืองเยเมนก็มิไดหางไกลมากนัก จากท่ีน่นั ไปเสียทเี ดยี ว” อุดยั ยอมรับทัศนะของซะฟานะฮ จึงตดั สนิ ใจเดินทางสนู ครมะดีนะฮเ พอ่ื คนหาความจริงในตัวทาน ศาสดา วาทา นคอื ศาสนทูตของพระเจา จรงิ หรอื ไม เพือ่ เขาจะไดดาํ เนินตามและเปน ประชาชาตผิ ูหนึ่งของทาน หรอื แทจ รงิ แลว ทานคือชายผูหน่งึ ทตี่ องการลาภยศตําแหนง (ในโลกน้ี) และตองการเปน ผนู ําเทานั้น กจ็ ะได พูดคุยปรึกษาเพ่ือหาผลประโยชนในเรอื่ งดังกลา วดวยกนั ขณะท่ที านศาสดากําลงั นง่ั อยใู นมสั ยิดมะดีนะฮ อุดัยไดเขาไปหาและกลา วทักทาย ทาน จงึ ถามวา “ทา นคอื ใคร?” เขาตอบวา “ฉันคอื อดุ ัย บุตรของฮาตมั ฏออีย” ทา นศาสดาจงึ ใหเกียรติเขาและพาไปทีบ่ า น ในระหวางทางทอี่ ดุ ัยและทา นศาสดากําลังเดินไป หญงิ ชรา นางหนง่ึ ไดเ ขา มาหาทา น และพูดคยุ ซกั ถามปญ หาตางๆ อยเู ปนเวลานาน ซง่ึ ทาน ศาสดาก็ยนื ตอบคําถามหญิง ชราผูนนั้ อยางออนนอ ม และไมมที ที าวา จะเบอ่ื หนายเลย อุดัยกลา วกับตวั เองวา น่คี ือสญั ลักษณหนง่ึ ของชายผูนี้ วา เขาคอื ศาสนทตู ของพระเจา ผูทีล่ มุ หลงในโลกนจ้ี ะไมม จี รยิ ธรรมเชนน้ี พวกเขาจะไมยอมยนื คยุ กบั หญิงชรา กลางทางดว ยความเต็มใจ และออนนอมเชน นเ้ี ปนอันขาด และเม่อื อดุ ยั เขา ไปในบา นของทา นศาสดา เขาแลเห็นขาวของเครอื่ งใชภายในบา นของทา น ที่มีอยอู ยา ง เรยี บงา ย เขาเหลอื บไปเห็นฟูกผืนหนึง่ ซึ่งเปนท่ีแนน อนวา ทา นจะตองใชเปนที่นั่งสวนตัวของทา น แตทานไดย นื่ ให อุดยั เพื่อรองนัง่ อดุ ัยพยายามปฏเิ สธตางๆ นานา และขอใหทาน นง่ั บนฟูกนนั้ แตทานก็ไมย อม อดุ ัยจึงจาํ ตอ งนํา ฟูกมาปูน่งั สว นทานศาสดาเองน่งั บนพืน้ อดุ ยั จึงกลาวกบั ตวั เองวา นค่ี ือสญั ลกั ษณป ระการที่สองจากมารยาท ของชายผูน ้ี ทแ่ี สดงใหเห็นวา เขาคอื ศาสนทูตคของพระเจา มใิ ชลักษณะของผูท่ีตอ งการลาภยศอยางแนนอน ทา น หนั มาทาอุดยั และกลาววา “ศาสนาทที่ านนับถอื มใิ ชศ าสนาครสิ ตดอกหรือ?” อดุ ยั “ใชครับ!” ทานศาสดา “แลว ดว ยขออนุญาตขอ ใดหรอื ท่ีทานเรยี กเก็บทรพั ยสิน 1 ใน 4 จากรายไดจากประชาชน” เม่ือไดยินเชนน้ัน อดุ ยั ถึงกบั องึ้ ในบัดดล เน่อื งจากศาสนาทีเ่ ขานับถืออยูน นั้ ไมม ีผใู ดลวงรูมากอ นเลย แมก ระทั่งญาติใกลชิดท่ีสดุ ของเขา ดังนั้น น่ีคอื สัญลักษณป ระการทสี่ ามทบ่ี งบอกวาชายผนู ี้คอื ศาสนทตู ของพระ เจา ดังน้ัน ทานศาสดาจงึ กลา วแกอุดยั วา “ถา ทานมองไปยังบรรดามุสลิมในทุกวันนี้ ในความยากจนและ ความออนแอทางทรัพยสินของพวกเขา ทานจะเหน็ วา บรรดามุสลิมยากจนย่งิ นัก แตกตางกบั บรรดาประชาชาติ อน่ื ๆ อีกประการหนึ่งทานจะเหน็ วา ทกุ วนั นี้เหลา ศตั รไู ดห อ มลอ มพวกเขาเอาไว พวกเขาไมม คี วามปลอดภัยใดๆ แมก ระทง่ั ชวี ติ และทรัพยสิน ทานจะเหน็ วา การปกครองและอํานาจยังตกอยใู นมือของผอู ื่น ขอสาบานตอ พระผู เปนเจา อีกไมน านความมัง่ ค่ังอยางมหาศาลน้ี จะมาอยใู นมือของบรรดามสุ ลิม ความยากจนจะไมมหี ลงเหลืออยู เลยในหมพู วกเขา ขอสาบานตอพระผูเปนเจา เหลา ศตั รูของพวกเขาจะมลายไปส้ิน ความสงบเรียบรอ ยจะเกิดขึ้น จนแมก ระทัง่ ผหู ญิงคนหน่งึ จะเดนิ ทางเพียงคนเดียวจากอริ ักสฮู ิญาซ โดยจะไมมีภยั อันตรายอันใดเกดิ ข้ึนแกนาง เลย ขอสาบานตอพระผูเปน เจา ในเวลาอนั ใกลนร้ี าชวงั สีขาวแหง บาบโิ ลนจะตกอยูในการครอบครองของมสุ ลิม” ในทีส่ ุด อุดัยกน็ อมรับศาสนาอิสลามดว ยความบรสิ ทุ ธิ์ใจ และยึดมั่นอยูกับอิสลามจนกระท่ังจากโลกน้ี ไป หลายปท ่ีเขามีชวี ติ อยูหลังจากการจากไปของทา นศาสดา เขายังคงจดจําและไมเคยลมื เลือนวจนะและคํา ทาํ นายตางๆ ของทา นศาสดา ตอสภาพของมสุ ลิมในอนาคตท่ีจะเกดิ ข้ึน เมอ่ื คร้ังที่ไดพบกับทา นในวันแรก เขา กลาววา 105
“ขอสาบานตอ พระผูเปนเจา ยังมทิ ันทฉ่ี ันจะจากโลกนี้ไป ฉันก็เหน็ ดวยตาตนเองวาราชวงั ขาวแหงบาบิ โลนกถ็ ูกยดึ ครองโดยมสุ ลิม ความสงบปลอดภยั ไดเกิดขึน้ จนกระทง่ั ผูห ญิงคนหน่ึงสามารถเดินทางจากอิรกั สู ฮิญาซเพยี งคนเดียวไดอยางปลอดภยั ขอสาบานตอพระผูเ ปน เจา ฉันมน่ั ใจวา วนั หนึ่งความยากจนและความ ออ นแอ จะไมหลงเหลืออยูในหมูมุสลมิ อยางแนนอน” (1) 77 ทดสอบสติปญญา จนกระทงั่ นาทสี ดุ ทาย กย็ งั ไมมีศิษยคนใดสามารถตอบคาํ ถามของอาจารยผสู งู ศักดถิ์ าม คําถามหนง่ึ แกศานุศิษยอ ยา งถกู ตองได ทกุ คนตอบคาํ ถาม แตไมม ีคาํ ตอบใดทสี่ มบูรณและ ถูกตอ งตามความตอ งการของอาจารยแ มแ ตค าํ ตอบเดยี ว คําถามหนง่ึ ซึง่ ทา นศาสดา ไดถามตอ บรรดาสาวกของทา นก็คือ ในบรรดาสง่ิ ยดึ เหนย่ี วตางๆ ของความศรัทธา (อีหมา น) ส่ิงใดแข็งแกรง ทส่ี ดุ สาวกคนหน่งึ ตอบวา “การนมาซ” ทา นศาสดา “ไมใ ช” สาวกอกี คน “การจายทานภาคบังคบั (ซะกาต)” ทา นศาสดา “ไมใช” สาวกอกี คน “การถอื ศีลอด” ทานศาสดา “ไมใ ช” สาวกอกี คน “การแสวงบญุ ณ นครมกั กะฮ (ฮัจญและอมุ เราะฮ) ” ทานศาสดา “ไมใช” สาวกอกี คน “การตอ สูในหนทางของศาสนา (ญฮิ าด)” ทานศาสดา “ไมใช” สุดทายแลวกย็ ังไมม ีคาํ ตอบใดท่ถี กู ยอมรับจากทา นศาสดา แมแ ตคําตอบเดยี ว ทา น ศาสดา จงึ กลา ววา “การกระทําตา งๆ ทพี่ วกทานกลา วมาท้งั หมด ถือวา เลอเลิศและสูงสงยงิ่ นกั แตคําตอบที่ฉนั ตองการนนั้ มใิ ชสงิ่ เหลานนั้ แมแตอยา งเดยี ว สง่ิ ที่แข็งแกรง ท่สี ดุ ในบรรดาสิง่ ยึด เหนยี่ วของความศรัทธากค็ อื การมคี วามรกั เพอ่ื อัลลอฮ (ซบ.) และการเปนศตั รูเพอื่ อัลลอฮ (ซบ.) เพียงเทา นนั้ ” (2) 78 ูวัยบิร และ ซลุ ฟา (1) ซเี ราะฮ อบิ นิ ฮชี าม เลม 2, วิกอเยะอ ปท ่ี 10 แหงฮิจเราะฮ หนา 578-580. (2) กาฟย เลม 2 บาบ อัล ฮบุ บฟุ ลลาฮี วัลมุฆฏบ้ลิ ลาฮี หนา 25, วะซาอลี เลม 2 หนา 497 พิมพ ฮามีร บาฮาดิร. 106
“จะสวยงามสกั เพียงใด ถา เจา ไดแ ตง งานและมีครอบครัวเปน ฝง เปนฝา การใชช วี ติ อยาง โดดเดย่ี วจะไดส ้นิ สดุ ลง ความตอ งการมภี รรยาของเจากจ็ ะสมประสงค และเชน เดยี วกนั นางกจ็ ะ มีสว นชว ยเหลอื เจา ทัง้ ในเรอื่ งของโลกนีแ้ ละโลกหนา ” “โอ ใครกันเลา ! ที่จะยกลกู สาวของเขาใหฉ นั ทรพั ยส นิ เงนิ ทองก็ไมม ี รปู รางหนา ตากไ็ ม สวยงาม เกยี รตศิ กั ดแิ์ ละญาตพิ ่ีนองกห็ ามไี ม? จะมผี ูหญงิ คนใด จะยอมมาเปน ภรรยาของชายคน หนง่ึ ซงึ่ ฐานะยากจน เตยี้ มอ็ กต็อก ผิวดํา และมีหนา ตานา เกลยี ดนา ชงั เชน ฉนั ” “ูวยั บิรเอย ! อัลลอฮ (ซบ.) ทรงเปลี่ยนแปลงคณุ คาแหง บคุ คลหลายคน ดวยสอ่ื แหง อสิ ลาม ผูคนมากหลายท่เี ปนผทู มี่ ีเกยี รติยศสูงศกั ดใิ์ นชว งสมัยแหง ความโงเขลา และอิสลามไดท ํา ใหพ วกเขาตกตาํ่ และไรเกยี รติในที่สดุ เชน เดยี วกัน มผี คู นมากมายท่ีต่าํ ตอ ยและไรค าทีส่ ุดในยคุ สมัยแหง ความโงเ ขลา และอิสลามไดทําใหพวกเขาเปนผูท ่ีมีเกยี รติและเลอเลิศทีส่ ดุ อลั ลอฮ (ซบ.) ทรงทาํ ลายลา งความหยงิ่ ยโสตางๆ ในสมยั แหง ความโงเ ขลาและความทรนงตนในเรอ่ื งของความ สงู สง ของวงศต ระกลู ดว ยส่อื แหง อสิ ลาม ณ เวลานม้ี นษุ ยทกุ คนไมว าผวิ ขาวหรอื ผิวดํา เปน เผา กุเรชหรือไมใ ชก ุเรช เปน อาหรับหรอื ไมใชอาหรับ ลว นอยใู นระดับเดียวกันทัง้ สนิ้ ไมม ใี ครเหนือกวา ใครนอกจากความยําเกรง (ตกั วา) ทเ่ี ขามเี ทา นนั้ ในหมูมวลมสุ ลมิ บคุ คลทีฉ่ นั เห็นวา เขามีเกยี รติ กวา เจา ในทศั นะของฉนั ก็คอื ผูท ีม่ ีความยาํ เกรง และอะมล้ั ท่ีดกี วาเจา เทา นนั้ ชวงเวลานเ้ี จาจงไป ปฏิบตั ใิ นสิง่ ทฉี่ ันสงั่ เถดิ ” ขา งตน เปน บทสนทนาระหวา งทา นศาสดากบั วู ัยบิร ซงึ่ มีขึน้ ในวนั หนง่ึ เมือ่ ทานศาสดา เดนิ ทางไปพบสมาชิกแหงผไู รบา น (อศั ฮาบศุ ุฟฟะฮ ซ่ึงเปนผทู ่อี พยพมาจากมักกะฮและมที ี่พกั อาศยั อยูบ รเิ วณชายคาของมสั ยิดของทา นศาสดา) ูวัยบิรเปนชาวยะมามะฮ และเมอื่ เขาไดยินเสยี งเรียกรอ งเชิญชวนของอิสลาม และการ ปรากฏของศาสนทูตแหง พระผูเปนเจา ดงั กอ งกงั วานขน้ึ ในเมืองของเขา ถงึ แมวา เขาจะยากไร ทง้ั ยังมีผวิ ดาํ และเตยี้ ม็อกตอ็ กอีก แตดว ยมจี ิตใจทเี่ รียกรอ งหาสจั ธรรมอยา งแรงกลา หลังจากที่ไดย นิ เสียงเชิญชวนแหงอิสลาม เขาจงึ มงุ หนา สนู ครมะดนี ะฮในทนั ใด เพอื่ คน หาและรบั ฟง เรอ่ื งราวอยาง ใกลช ดิ หลงั จากนั้นไมน านเขากเ็ ขารับนบั ถอื ศาสนาอิสลาม และเปน ผหู นง่ึ ทอ่ี ยูแ ถวของบรรดา มสุ ลมิ แตเนอ่ื งจากความยากจน ขาดแคลนทง้ั เงนิ ทอง ทอี่ ยอู าศยั และคนรูจัก เขาจึงอาศัยอยใู น มสั ยดิ ตามคาํ ส่งั ของทา นศาสดา เปน การชวั่ คราว ในความเปนจรงิ ยังมผี ทู ่ีรบั นบั ถือศาสนาอสิ ลามคนอน่ื ๆ อกี ทอี่ ยใู นสภาพเดียวกนั กบั ุวยั บิร คือมฐี านะทีย่ ากจน ก็อาศยั อยูในมัสยดิ ตามคาํ สง่ั ของทา นศาสดา จนกระทงั่ ไดม โี องงการอัล กรุ อานประทานลงมาแกท า นศาสดา วา มสั ยิดมใิ ชเ ปน สถานทีอ่ ยอู าศัย จงึ จาํ เปน ตองเคล่ือนยย พวกเขาไปสถานท่ีอ่ืน 107
ทานศาสดาจงึ จดั สถานทห่ี นงึ่ นอกมสั ยดิ มหี ลงั คากันฝนและแดดได และใหผ ูไรท ่อี ยู เหลาน้ันยายไปอาศัยในทีแ่ หง น้ัน ซงึ่ ถกู เรียกวา ‘ศฟุ ฟะฮ’ และผทู ีอ่ าศยั อยใู นนนั้ ถกู ขนานนามวา ‘อัศฮาบุศฟุ ฟะฮ’ (ชาวศฟุ ฟะฮ) พวกเขามีฐานะยากจน ไรญาตแิ ละคนรจู กั อกี ดว ย โดยทท่ี าน ศาสดา และบรรดาสาวกของทา น จะหมน่ั ไปเยย่ี มเยยี น และใหความชวยเหลอื อยเู ปน ประจาํ วันหนงึ่ เมื่อทานศาสดามาเยยี่ มเยือนบคุ คลเหลานั้น ขณะนัน้ ทานหนั ไปเหน็ ุวยั บริ ทา น จงึ มีความคดิ วา นา จะกระทาํ การหนง่ึ เพื่อให ุวัยบิรหลุดพนจากสภาพเชน นี้ และใหเ ขามี ครอบครวั แตวุ ัยบริ ไมเคยคดิ ฝนวา วนั หนง่ึ เขาจะมภี รรยา มีบา นและมีชีวติ ท่ีสงบสขุ เนื่องจากเขา รสู ถานภาพของตนเองดี ดังนั้นเมอื่ ทา นศาสดาเสนอเรอื่ งการแตงงานแกเขา เขาจงึ ตอบทาน ศาสดาไปดว ยความประหลาดใจวา “เปนไปไดห รอื ทีจ่ ะมีสตรีนางใดยอมใชชวี ติ รวมกบั ฉนั ” แต ทวา ทา นศาสดาไดแ จงความผิดพลาดของเขาใหเ ขาทราบ และอธิบายถงึ สภาพของสงั คมซงึ่ เปลย่ี นไปเนอื่ งจากมรรคผลท่ผี ลิออกมาจากอสิ ลามใหเ ขาเขาใจ และหลังจากท่ีทาํ ใหเขามีความหวงั และมนั่ ใจแลว ทา นสั่งใหเ ขาไปยงั บา นของ ซิยาด บนิ ละบดี อันซอรี และสขู อ ‘ซุลฟา’บตุ ตีของเขา แกตวั เจา เอง ซยิ าด บนิ ละบดี คอื ผูม่งั คงั่ และมเี กียรติในนครมะดนี ะฮ โดยเฉพาะบคุ คลทอ่ี ยใู นตระกูล ของเขา ตา งยกยอ งเขาเปน พิเศษ และเมือ่ วุ ัยบริ เขา ไปในบานของซยิ าด บคุ คลกลุมหน่ึงซึง่ รวม ไปดวยญาตแิ ละผูทอ่ี ยูในตระกลู เดยี วกับซยิ าดกําลงั รวมตัวกันอยูทนี่ ัน้ เมอ่ื ุวัยบิรนง่ั ลง และหยุดช่ัวขณะหนง่ึ จากนั้นจงึ เงยหนาขนึ้ และกลา วแกซ ิยาดวา “ขาพเจา มสี าสนจากทา นศาสดามายังทา น จะใหฉนั บอกแกทา นอยา งเปดเผยหรอื บอกในท่ลี บั (มิ ใหใครไดยิน)” ซิยาด “สาสนของทานคือความภาคภมู ใิ จยิง่ สําหรับฉนั จงกลาวมาเลยในทน่ี ี้ (เปด เผย)” ุวัยบริ “ ทา นศาสดาสงฉนั มาเพ่อื สูขอบตุ รีของทานสาํ หรบั ตวั ขาพเจา เอง” ซยิ าด “ ทานศาสดาใหคาํ แนะนํานแี้ กต ัวของเจา เองหรอื ?” ุวยั บริ “ขา พเจามไิ ดกลาวสิ่งใดออกมาจากตวั เองเลย ทกุ คนรจู กั ขา พเจาดี ขาพเจา มใิ ช ผูท ีพ่ ดู ปดมดเทจ็ ” ซิยาด “แปลกมาก! ตามขนบธรรมของเราแลว เราจะไมยกลูกสาวของเราใหแตงงานกบั คนนอกตระกลู เปน อันขาด ยกเวน คนในตระกูลทีม่ ฐี านะเทา เทยี มกนั เจา ไปกอ น ฉนั จะไปหาทา น ศาสดาเอง และจะปรกึ ษากบั ทา นศาสดาในเร่ืองนี้เอง” ุวัยบริ จงึ ลกุ ขึน้ ออกไป และในระหวางทางทเ่ี ดนิ กลบั เขาพรา่ํ รําพนั ตลอดเวลาวา “ขอ สาบานตออลั ลอฮ ส่งิ ท่ีอลั กุรอานสอนและความเปน ศาสนทตู ของทา นศาสดา นัน้ ในทส่ี ดุ แลว แตกตางจากสงิ่ ทซี่ ยิ าดพดู ” 108
ใครก็ตามทีเ่ ดนิ ทางมาใกลเขา ทุกคนก็จะไดย นิ ในสง่ิ ที่ วุ ัยบิรกลาวรําพงึ ราํ พนั มาตลอด ทาง ซลุ ฟาเปน หญงิ สาวทีไ่ ดช ่อื วา มีความสวยงามมาก และเธอก็ไดยินคาํ พูดของุวยั บริ เมอื่ สกั ครูนี้ เธอจงึ เขามาหาบดิ าเพอื่ สอบถามเร่ืองราวท่ีเกดิ ขนึ้ ซุลฟา “พอ ! ชายผูทเี่ พง่ิ ออกจากบา นของเราไป เขาไดบ นพึมพําอะไรหรอื เขาหมายความ วา อยา งไร?” ซิยาด “ชายผนู น้ั เขามาสขู อเจา และอา งวา ทา นศาสดาสงเขามา” ซุลฟา “ถาหากทา นศาสดาสงเขามาจริงๆ การปฏิเสธของพอ ก็เทา กบั ขดั ขืนคาํ สง่ั ของทา น นะซ!ิ ” ซยิ าด “ในทัศนะของเจา เจา คดิ วา พอควรจะทาํ อยา งไรด?ี ” ซลุ ฟา “ในความเหน็ ของลกู คดิ วา พอนา จะเรียกเขากลบั มา กอ นทีเ่ ขาจะไปพบกบั ทาน ศาสดา จากนัน้ พอ กไ็ ปหาทา นศาสดา และสอบถามความจริงวา เรื่องราวมีความเปน มาอยางไร กนั แน” ซิยาดจงึ รีบไปตามวุ ัยบิรกลบั มาทนั ที จากนัน้ จงึ รีบรุดไปหาทา นศาสดาทนั ที และเม่ือ พบกับทา น เขาจงึ กลา ววา “โอ ทา นศาสดา ! วุ ยั บิรไปท่บี า นของเราและแจง ขาวหนงึ่ ซงึ่ มาจาก ทา นแกเ รา ขา พเจา ตองการที่จะบอกแกท า นวา ขนบธรรมเนียมประเพณขี องเราทีป่ ฏบิ ัติกันอยทู กุ วันนีค้ อื เราจะยกบตุ รสาวของเราใหแตง งานกบั คนในตระกลู ของเราหรอื บคุ คลท่ีมฐี านะเทา เทยี ม กนั ซง่ึ ท้งั หมดกเ็ ปนผูช ว ยเหลอื ทาน (อนั ศอร) เทานนั้ ” ทา นศาสดากลาววา “ซิยาดเอย ! ุวยั บิรคือผศู รัทธา ความเทา เทยี มกนั ในเรอ่ื งของ เกยี รติยศหรอื ฐานะทท่ี านคดิ นนั้ ไดหมดสน้ิ ไปแลว ในขณะนี้ชายผศู รทั ธานั้นมเี กยี รติเทา เทยี มกบั สตรีที่ศรัทธาเทานั้น” ซิยาดจงึ กลบั มาบา นและตรงเขาไปหาซุลฟาทนั ที และเลา เหตุการณท ั้งหมดใหเธอฟง ซุล ฟาจงึ กลา ววา “ในทัศนะของลูกแลว ไมควรทจ่ี ะขัดคาํ แนะนาํ ของทา นศาสดา เรอื่ งนีเ้ ก่ียวกบั ลกู ถึงุวยั บิรจะมหี รอื ไมมอี ะไรก็ตาม ลูกกจ็ ะตอ งพงึ พอใจเขา เพราะทา นศาสดาพงึ พอใจตอ ส่งิ นี้ ลกู ขอปฏิบัติในสง่ิ น”ี้ ซยิ าดจงึ จัดพธิ สี มรส ระหวา งซุลฟากับวุ ัยบริ ทนั ที สนิ สอดถูกกาํ หนดขนึ้ จากทรพั ยสินุ วัยบิร และเขาไดต ระเตรียมขา วของทด่ี แี กเ จา สาวของเขา ผูคนตา งถามุวยั บิรวา “ทานได ตระเตรียมเรือนหอเอาไวแลว หรอื เพอื่ ที่จะพาเจาสาวไปทเ่ี รอื นหอแหง นนั้ ” ุวยั บริ ตอบวา “ฉันไมเ คยคดิ เคยฝน วา วนั หนง่ึ ฉนั จะไดแตงงานและใชชีวติ ครอบครัว ทานศาสดามาหาฉันและบอกแกฉ นั อยา งนนั้ อยา งนี้ และสง ฉนั ไปยังบานของซิยาด” 109
ซิยาดจัดเตรียมบานหลงั หนงึ่ พรอมกบั ขา วของเคร่ืองใชอ ยางครบครัน จากทรพั ยส ินของ เขาเอง นอกเหนือจากนัน้ ยงั เตรียมเสื้อตัวใหมอ ีกสองตัวสําหรับบตุ รเขย และพาเจา สาวทแี่ ตงองค ทรงเครื่องอยา งสะสวยหอมหวนไปยงั เรือนหอ พอตกกลางคนื ุวยั บิรยงั ไมรวู าบา นทถี่ กู ตระเตรียมเอาไวส าํ หรับเขาน้ันอยทู ่ไี หน จงึ มี คนนาํ เขาไปยงั เรือนหอหลงั น้นั ทนั ทที ่เี หน็ เรอื นหอซงึ่ เพรยี บพรอ มไปดว ยส่ิงของตา งๆ มากมาย และเจา สาวทแี่ สนสวยย่งิ ทาํ ใหเขาตกอยใู นภวงั คแหง ความคดิ เขาใครครวญกับตนเองวา “ฉนั ซึ่ง เปน ชายผผู ยู ากไรแ ละแปลกหนา คนหนง่ึ ขณะทเ่ี ขา มาในเมอื งน้ฉี นั ไมมีอะไรตดิ ตวั มาเลยแมแ ต อยางเดยี ว ทง้ั ทรพั ยส ินเงนิ ทอง รูปรางหนาตา เกยี รตยิ ศศกั ด์ศิ รี อลั ลอฮ (ซบ.) องคเดยี วทีท่ รง มอบความโปรดปรานทง้ั หมดนีแ้ กฉนั ดวยส่ือแหงอสิ ลาม ซง่ึ สรางความตะลงึ งนั แกเหลา ประชาชนเปน อยางมาก พวกเขากไ็ มเคยคิดมากอ นวาจะเปนไปได ดังนนั้ ฉนั จะตองขอบคณุ พระองคใ หม ากทส่ี ดุ ” เขาตกอยใู นสภาพของผทู ีพ่ งึ พอใจและความปต ิยนิ ดี ขอบคุณแดเ อกองคพ ระผูทรงบริสุทธ์ิย่ิง ที่ใหเขา สมหวงั เขาจึงตรงไปยังมมุ หนงึ่ ของหอ งและมงุ ม่นั กับการเคารพภักดตี อ พระองค และอานคัมภีรอ ัล กุรอาน จนกระทั่งเขารูสึกตัวอีกคร้งั เมอื่ ไดยนิ เสยี งประกาศเชิญชวนใหนมาซยามรงุ อรณุ เขาจึงตัง้ เจตนาถอื ศลี อดเพ่อื เปน การขอบคุณองคอ ภบิ าลตอไปอีก เมื่อบรรดาสตรไี ดมาหาซุลฟา และทราบวา ซุลฟามไิ ดถ ูกแตะตอ งและยังบรสิ ุทธอิ์ ยู ก็ เขา ใจไดทันทวี า เมอื่ คืนวุ ยั บริ มิไดเ ขาใกลและรว มหลับนอนกบั ซุลฟาเลย พวกนางจงึ ปกปด เรอ่ื ง ดงั กลา วไวม ิใหซ ิยาดรบั รู สองวันสองคนื ผานไปก็ยังเหมอื นเดมิ วุ ยั บิรยังถอื ศีลอดในชว งกลางวันและมุงมนั่ ตอ การเคารพภกั ดี อา นคมั ภรี อ ัล กุรอานในยามคาํ่ คืนตลอดท้ังคนื ทางญาติฝายเจาสาวจึงเริ่มสงสัยในตวั ของวุ ัยบิรวา เขาคงหมด สภาพในเรอื่ งนแี้ ลวกระมงั จงึ ไมเ หน็ วาเขาจะรวมหลับนอนกับภรรยาเลย จงึ นาํ เร่ืองนเี้ ขาปรกึ ษากับซยิ าดอยาง หลกี เลย่ี งไมได ซิยาดจึงนาํ เร่ืองน้ไี ปบอกทา นศาสดา ทา นจงึ เรยี กวุ ยั บริ ไปหาและกลาวกับเขาวา “เจา ไมม คี วามตองการตอผูหญงิ เลยหรืออยางไร?” ุวยั บริ “ความตองการในเรือ่ งนี้ของขา พเจา นน้ั มากเสยี เหลือเกนิ ” ทานศาสดา “แลว ดว ยเหตุใด เจา จงึ ยงั ไมร วมหลับนอนกับภรรยาของเจา ?” วุ ยั บิร “โอ ! ทานศาสดา เมอื่ ขา พเจา เขาไปในบา นหลงั น้นั และยนื อยูทา มกลางความ โปรดปรานของพระองค ทาํ ใหขา พเจารําลึกถึงพระองคท กุ คร้ังวา พระองคท รงเผ่อื แผยง่ิ นกั ที่ ประทานสง่ิ เหลานีแ้ กบา วผยู ากไรของพระองค ความรูสกึ ทจ่ี ะขอบคณุ พระองคไ ดบังเกิดขึน้ กบั ขาพเจา ทนั ใด ขา พเจา จงึ คิดวา กอ นอนื่ ใดขาพเจาจะตอ งขอบคุณพระองคใหม าก ดวยการเคารพ ภกั ดีพระองค ตงั้ แตค ืนนี้เปน ตนไป ขา พเจา จะเขา หาภรรยาอยางแนน อน” 110
ทานศาสดาจึงนําความทง้ั หมดไปบอกแกซ ิยาด วุ ัยบิรและซุลฟาแตง งานกันและอยรู วมกนั อยางมี ความสุข จนกระท่งั สงครามในหนทางของศาสนาครงั้ หน่ึงเกิดขึ้น ุวยั บิรไดเ ขารวมในการสงครามคร้ังนัน้ ดวย ความปติยินดี ซ่ึงเปนคุณลกั ษณะเฉพาะของผูศรัทธา และไดสละชวี ิตภายใตร มธงแหง อสิ ลามในทีส่ ดุ หลังจากการสละชีพของวุ ยั บริ ไมม ีผหู ญงิ คนใดท่มี คี นมาสูขอกนั อยา งมากมายเยี่ยงซลุ ฟา และไมมผี หู ญิงคนใดอีกเลยทพ่ี วกเขาพรอ มและยินดีจะจา ย (เพอ่ื ทจี่ ะใหไ ดน างมาเปน ภรรยา) เฉกเชน ซลุ ฟา. (3) 79 ขอ เตือนใจขอหนึ่ง ชายผหู นงึ่ มคี วามประสงคใหท า นศาสดา กลา วสงิ่ หนง่ึ เพอ่ื เปน ขอ เตือนใจสําหรบั เขา หลายตอหลายคร้ัง ทา นศาสดา จึงกลา วกบั เขาวา “ถาหากฉนั บอกทา นแลว ทา นจะถือปฏบิ ตั ิ หรือไม? ” ชายผนู ั้น “ขอรบั โอ ทา นศาสดา ” ทานศาสดา “ถาหากฉนั บอกแกท า นแลว ทานจะยึดถือปฏบิ ตั ิตามหรอื ไม?” ชายผนู น้ั “ขอรับ โอ ทา นศาสดา ” ทานศาสดา “ถา หากฉนั บอกแกท า นแลว ทานจะยึดถอื ปฏบิ ตั ติ ามหรอื ไม?” ชายผนู ้นั “ขอรบั โอ ทา นศาสดา ” เม่ือทา นศาสดาไดยนิ คําสัญญาท่ีจะยดึ ถอื ปฏบิ ตั ติ ามจากปากของเขาถึงสามครง้ั และยงั กําชับและกลา วถงึ ความสาํ คัญตอ สิง่ ที่ทา นจะกลา วแกเ ขา ทา นศาสดาจึงกลา ววา “คราใดก็ตามทที่ า นประสงคจ ะกระทาํ กิจการงานใด สงิ่ แรกจงคิดใครครวญและตรึกตรอง ถึงผลขา งเคียงและผลลพั ธข องกิจการงานนน้ั ถาหากทา นเหน็ วาผลลพั ธถ ูกตองกจ็ งปฏบิ ตั กิ จิ การ งานนนั้ เถิด และถาหากวา ผลลพั ธของกจิ การงานนนั้ จะออกมาคือความหลงผดิ ไมถ กู ตอง กจ็ ง ลมเลกิ การตัดสินใจเสยี ”.(4) 80 การตดั สนิ ใจอยา งฉบั พลัน คอลฟี ะฮฮารนู อรั รอชดี มคี วามรูส กึ แปลกใจมาก เมอื่ ทราบขาววา ศอฟวาน เจาของกอง คาราวานขายฝูงอฐู ในกองคาราวานของเขาเสยี แลว คอลฟี ะฮจ งึ จําตอ งคิดหาทางอน่ื สาํ หรับการ ขนถายสาํ ภาระและกระโจมตางๆ ในการเดนิ ทางไปประกอบพธิ ีฮจั ญ เขาใชค วามคดิ อยา งหนกั วา การตดั สนิ ใจขายฝงู อูฐทงั้ กองคาราวานอยา งฉบั พลันของศอฟวาน หลงั จากเซ็นสญั ญาตกลงทจ่ี ะ (3) กาฟย เลม 5 หนา 34. (4) วะซาอลี เลม 2 หนา 457. 111
เปน ผูร ับเหมาขนสัมภาระตา งๆ ของคอลฟี ะฮใ นการเดนิ ทางไปแสวงบุญทีม่ กั กะฮน นั้ ไมใ ชเ ร่ือง ธรรมดาแนน อน อาจจะเปน ไปไดวา การตดั สนิ ใจขายฝงู อฐู ในครั้งนี้ ตอ งมีสวนเกยี่ วขอ งกบั สญั ญา ท่ตี กลงกันไวแ น เขาจึงเรยี กศอฟวานมาหาและกลา ววา “ฉนั ไดยินมาวา เจาขายคาราวานอฐู ของ เจาไปแลว ” ศอฟวาน “ใชแ ลว ! โอผ ูนาํ แหง ศรทั ธาชน” ฮารูน อรั รอชดี “ทาํ ไมละ!?” ศอฟวาน “อายุของฉนั ก็มากแลว เรย่ี วแรงกไ็ มคอยจะมี พวกเดก็ ๆ กไ็ มมคี วามสามารถ พอ ฉันจึงเหน็ วานา จะขายไปเสยี ดกี วา ” ฮารนู อัรรอชดี “บอกความจริงมาเถดิ วาเจา ขายทําไม?” ศอฟวาน “กอ็ ยางท่ฉี นั กลา วไปแลว นัน่ แหละครับ” ฮารนู อรั รอชดี “แตฉ ันรวู าเพราะเหตุใดเจา จึงขายมนั ไป สาเหตุทแ่ี ทจ รงิ ทเี่ จาขายกอง คาราวานอฐู ไปกค็ ือ เมอ่ื มูซา บุตรญะอฟร รูข าววา เจา เซ็นสญั ญารบั ขนสมั ภาระตา งๆ กบั ฉนั เขา จงึ หา มเจา ไมใ หทาํ งานนน้ั และสัง่ ใหเจา ขายกองคาราวานอูฐเสยี ” ฮารูนเขาใจถกู ตอ ง ถงึ แมว า ศอฟวานจะเปน ผูใกลชิดคนหน่งึ ของระบอบคอลีฟะฮและเคย มผี ลงานทด่ี ีมากอ นในแวดวงผูปกครอง โดยเฉพาะตวั ของคอลฟี ะฮเอง แตเขากเ็ ปนผูท่ีปฏิบัตติ าม วงศว านของทา นศาสดา (อะฮล ลุ บัยต) อยา งบรสิ ทุ ธ์ิใจคนหนง่ึ หลงั จากทีศ่ อฟวานทาํ สญั ญารบั ขนสัมภาระในการเดนิ ทางไปประกอบพธิ ฮี ัจญก ับฮารนู วนั หนึ่งเขาไดพบกบั อิมามมซู า บุตรญะอ ฟร ทานอมิ ามจึงกลาวกบั เขาวา “ศอฟวาน เจา น่ีดูดที กุ อยาง ยกเวน อยางเดยี ว” ศอฟวาน “อยา งเดยี วนนั้ คอื อะไรหรอื ? โอ บตุ รแหง ทานศาสดา ” ทานอิมาม “สิง่ นนั้ ก็คือ การท่ีเจาใหชายผนู ้ี (ฮารนู ) เชาอฐู ของเจา ” ศอฟวาน “โอ บตุ รแหง ทานศาสดา ฉนั มิไดใหเชาเพื่อการเดนิ ทางท่ีเปน ฮะรอม (ตอ งหา ม) แตอยางใด ฮารนู จะไปทําฮจั ญ ฉันใหเ ขาเชาเพื่อการเดนิ ทางไปทาํ ฮัจญ และฉันกม็ ิไดรวมไปกับเขา ฉันสงผูอ่ืนติดตามไปกับ กองคาราวานนั้น” ทานอมิ าม “ศอฟวาน! ฉันจะถามเจา สกั ขอ หน่งึ ” ศอฟวาน “เชญิ ครับ! โอ บตุ รแหงทา นศาสดา” ทานอมิ าม “เจาไดใหอ ูฐเขาเชา ซึง่ ในท่สี ดุ เจากจ็ ะไดรบั คา เชานัน้ เขากจ็ ะนําอูฐไป และ เจากจ็ ะเปน เจา หนท้ี เ่ี ขาจะตอ งมาจา ยคา เชาอูฐใชหรือไม?” ศอฟวาน “กใ็ ช! โอ บตุ รแหง ทา นศาสดา ” อมิ าม “แลวในชว งเวลานนั้ เจาชอบหรือไมท่อี ยา งนอ ยฮารนู กต็ อ งมีชวี ิตอยู จนกระทง่ั เขา มาจา ยคา เชา ใหเจาเสยี กอ น?” ศอฟวาน “ใชแลว ! โอ บุตรแหง ทา นศาสดา ” 112
ทานอมิ าม “บุคคลใดก็ตามท่เี ขาชอบและพอใจทจี่ ะใหผูกดข่ีขม เหง มชี ีวติ อยูรอดไมวาจะดว ยเหตุผลใด กต็ าม เขาก็คอื สวนหนง่ึ ของผกู ดขีเ่ หลานัน้ และแนน อนยิง่ ถา หากใครกต็ ามทเ่ี ปน สว นหน่งึ ของพวกกดข่ีขมเหง เขาจะตองลงสูไฟนรก” หลงั จากเหตุการณน้ีเอง ศอฟวานจงึ ตดั สินใจขายกองคาราวานอฐู ของเขาไป หลายตอ หายครง้ั ดวยกนั ท่เี ขาคิดคอื ถึงแม เขาจะหวน่ั วิตกวา มนั จะนาํ อนั ตรายมาสชู วี ติ เขากต็ าม.(5) 81 เงนิ ทเี่ ต็มไปดว ยความเปนสริ ิมงคล อมิ ามอะลีไดร บั คําสง่ั จากทานศาสดา ใหไ ปตลาดเพ่ือซ้อื เสื้อหนง่ึ ตวั ใหท าน อิมามอะลี จึง ไปตลาดและไดซ อื้ เส้อื หน่ึงตัวราคา 12 ดริ ฮัม และนาํ มาใหทานศาสดา ทานศาสดา “เจา ซอื้ มาในราคาเทาไร?” อมิ ามอะลี “ราคา 12 ดิรฮัมครับ” ทานศาสดา “ฉันไมคอยชอบสักเทาไรนัก ฉันตองการตัวที่มีราคาต่ํากวานี้อีกสักหนอย ไม รวู า ผูข ายจะยนิ ยอมหรอื ไม?” อิมามอะลี “ไมทราบเหมอื นกันครบั ” ทา นศาสดา “จงไปดซู วิ า เขาจะยินยอมไหม?” อิมามอะลจี งึ หยบิ เสือ้ ตวั น้ันข้นึ มา และกลบั ไปทตี่ ลาดทันที และกลาวกับพอคาขายเส้ือวา “ทานศาสดา ตอ งการเส้อื ทมี่ ีราคาถกู กวา น้ี ทานจะยนิ ยอมรับเสอื้ ของทา นคนื และคืนเงนิ แกเ ราไดห รือไม?” คนขายเสอ้ื ยินยอมและคืนเงินใหอ มิ ามอะลี และทานอมิ ามไดนาํ มาคืนใหท านศาสดา จากนั้นทานท้ังสอง ไดเดินไปตลาดดวยกัน และในระหวางทางทานศาสดาเหลือบไปเห็น ทาสหญิงคนหนึ่งกาํ ลงั รองไหอยู ทานจงึ เขา ไปใกลและถามทาสหญงิ ผนู น้ั วา “เจารอ งไหท ําไมกนั ” ทาสหญิงผนู ั้นตอบวา “นายของฉันใหเ งนิ มา 4 ดริ ฮมั และใหฉ ันมาซื้อของในตลาด แตไม รูวาเงนิ ไดตกหลนหายไปตอนไหน ฉนั จงึ ไมกลา จะกลับบาน” ทานศาสดาไดยื่นเงิน 4 ดิรฮัม จากจํานวน 12 ดิรฮัมที่ทานมี ใหแกทาสหญิงผูน้ันไป และกลาววา “เจา จงไปจับจายซ้ือของเถิดและกลับไปบานเสีย” เสร็จแลวทานจึงมุงหนาไปยังตลาดตอ และไดซื้อเสื้อตัวหน่ึงใน ราคา 4 ดริ ฮมั และสวมใสทันที ในขณะที่กลับจากตลาดทานศาสดาพบกับชายผูขาดแคลนเส้ือผาคนหน่ึง ทานจึงถอดเส้ือตัวน้ันออก และบริจาคใหช ายผูนัน้ ไป จากนนั้ จงึ กลับไปยงั ตลาดอีกครั้งและซ้อื เส้ือในราคา 4 ดิรฮัมอีกหน่ึงตัว แลวสวมใสอีก ครัง้ และกลับเดินทางกลับบาน ในระหวางทางก ทานพบทาสหญิงคนเดิมนั่งอยู และมีอาการกระวนกระวายใจอยางย่ิง ทานศาสดา จงึ ถามวา “ทําไมยงั ไมกลับบานอีก” (5) ซะฟนะตุล บิฮาร เลม 2 บาบ ซลุ ม. 113
ทาสหญิงคนน้นั “โอ ทานศาสดา มันสายมากแลว ฉันตองถูกทําโทษอยางแนนอน เพราะ ฉนั กลบั ไปสายมาก” ทา นศาสดา “ไป เด๋ียวเราจะไปดว ย ช้ีทางไปยังบานของเจาแกฉันสิ ฉันจะไปพูดไกลเกล่ีย ใหเ พื่อท่เี จาจะไดไ มต องถกู ลงโทษ” ทานศาสดา เดินไปกับทาสหญิงผูน้ัน เมื่อไปถึงประตูบานทาสหญิงจึงกลาวข้ึนวา “หลังนี้ แหละ” ทานศาสดาจึงกลาวอาํ นวยพรดว ยเสียงอนั ดังหนาประตูบานวา “อัสสลามมุอาลัยกุม (ขอ ความสันติสขุ จงมีแดทาน) โอเ จา ของบา น” ไมมีเสียงตอบรับจากขางในแตอยางใด ทานจึงกลาวสลามอีกคร้ังหนึ่ง แตก็ยังไมมีเสียง ตอบออกมาอีก ทานจึงกลาวสลามเปนคร้ังที่สาม คราวน้ีมีเสียงตอบออกมาวา “อัสสะลามุอะลัย กุม ยาทานศาสดาวาเราะฮมาตุลลอฮิวาบารอกาตุฮ” (ขอความสันติสุขจงมีแดทาน โอทานศาสน ทตู พรอ มดวยความเมตตาและความมีสริ มิ งคลจากอลั ลอฮ) ทานศาสดา “ทาํ ไมจึงตอบรับสลามชานกั หรอื วาทา นไมไ ดยนิ เสยี งฉัน?” เจา ของบาน “โอ ทานศาสดา เรารสู กึ ซาบซง้ึ ทไี่ ดยนิ สลามของทานหลายๆ ครั้ง สลามของทานคือความ มีสิริมงคลและความสงบรม เย็นสาํ หรบั บานของเรา” ทา นศาสดา “ทาสหญงิ ของทา นคนน้ีกลบั มาสาย ฉนั มาท่ีนีเ่ พอ่ื ขอรองทานวา อยางลงโทษ นางเลย” เจาของบาน “โอ ทานศาสดา ดวยความมีเกียรติท่ีทานไดมาถึงที่น่ี นางจะถูกปลดปลอยใหเปนอิสระ ตั้งแตเ วลาน้”ี ทานศาสดากลาววา “ขอขอบคุณตอพระองค ชางเปนเงิน 12 ดิรฮัมที่มีสิริมงคลยิ่งนัก ท่ีทําใหผูขาด แคลนเสื้อผา สองคนมเี สื้อผา ใส และทําใหทาสผหู นึ่งไดรับอิสระภาพ”.(6) 82 อาหารมีราคาแพง นับวันราคาขาวสาลแี ละแปง ในนครมะดีนะฮมรี าคาสงู ขน้ึ เร่อื ยๆ ประชาชนท่วั ไปตา งตกอยูในความหวั่น วติ กและกังวลใจ ผูท ่ีไมไดตระเตรียมเสบียงอาหารในปน้ีเอาไวเลย ตางก็พยายามเสาะหาตระเตรียมเอาไว และผู ที่มีการตระเตรียมก็พยายามเก็บตุนเอาไว สวนผูท่ียากจนขัดสตางก็ตองออกไปหาซ้ือเสบียงอาหารของตนจาก ตลาดทกุ วนั ทานอิมามญะอฟร อัซ อัซ ซอดิก ถามมุอตับผูดูแลการจับจายซ้ือของประจําบานวา “เรามีขาวสาลี หรือไมส ําหรบั ปน ี้” มุอตับ “โอ บุตรแหงทานศาสดาเราตุนขาวสาลีเอาไว เพียงพอสําหรับที่จะใชไดอีกหลายเดือนทีเดียว ครับ” (6) บิฮารุล อัลวาร เลม 6 บาบ มะการิมลุ อัคลาก วะซีรฮิ ี วะซุนนะตี. 114
ทา นอมิ าม “จงนําออกไปยงั ตลาดและขายแกป ระชาชนเถดิ ” มุอตับ “โอ บุตรแหงทานศาสดา ขาวสาลีกําลังขาดแคลนในนครมะดีนะฮ ถาหากเรานําออกไปขายเรา ก็จะไมส ามารถหาซือ้ มาไดอีกแลว ” ทานอมิ าม “กเ็ พราะเหตนุ เ้ี อง ฉันจึงบอกวาใหน าํ ออกไปขายแกประชาชนเสีย” มุอต ับปฏิบตั ิตามคาํ สงั่ ของทานอมิ าม เขาขายขาวสาลจี นหมดและกลับมารายงานแกทานอิมาม ทาน จึงสั่งเขาวา “ตั้งแตวันนี้เปนตนไป ใหซ้ือขาวสาลีมาทําอาหารจากตลาดวันตอวัน อาหารในบานเราจะตองไม แตกตางกับอาหารของประชาชนคนอื่นๆ ที่ใชกินกันอยูในทุกวันน้ี อาหารในบานของเราจะตองทําจากขาวสาลี ครึ่งหน่ึงและจากขาวบาเลยคร่ึงหน่ึง มวลการสรรเสริญเปนของอัลลอฮ ฉันสามารถที่จะบริหารบานของฉันเอง ดวยอาหารที่ทําจากขาวสาลีที่ดีที่สุดไดจนถึงส้ินป แตฉันจะไมทําเชนน้ันเด็ดขาด เพ่ือที่ฉันจะไดปฏิบัติตาม เงือ่ นไขของความสมดลุ ในการใชชีวติ ณ เบอื้ งพระพักตรข องอัลลอฮเทานั้น”.(7) 83 หองนํา้ สว นตวั แนวทางแหงเผดจ็ การของบรรดาคอลีฟะฮวงศอมุ ัยยะฮ และหลังจากพวกเขาคอื บรรดาคอลีฟะฮวงศอับ บาสิยะฮนั้น มีผลตอเน่ืองกับประชาชนเปนอยางยิ่ง ประชาชนเริ่มท่ีจะลืมเลือนแนวทางการใชชีวิตและวิถีทาง ปฏิบัติตามแบบฉบับแหงอิสลามทีละเล็กทีละนอย แบบฉบับและการปฏิบัติที่เรียบงายฉันพ่ีนองของทานศาสดา อะลี มุรตะฏอ และบรรดาสาวกผูทรงเกียรติของทานศาสดากําลังถูกลบเลือนไปจากความทรงจําของพวกเขา จากการท่ีมวลประชาชนไดรับเอาแบบอยางและแนวทางของบรรดาคอลีฟะฮผูเผด็จการมาอยางมากมาย จน ความเกลียดชงั ทพี่ วกเขามีตอแนวทางของบรรดาคอลฟี ะฮเ มื่อกอ น เริม่ จะจางหายไปทีละเลก็ ทลี ะนอย วันหน่ึงทานอิมามญะอฟร อัซ ซอดิก ตองการท่ีจะไปอาบนํ้า เปนธรรมดาตามธรรมเนียมของเจาของ หองน้ํา ท่ีเมื่อมีผูหลักผูใหญหรือผูที่ควรใหเกียรติมา ก็จะตองมีการตอนรับเปนพิเศษ ซึ่งเปนส่ิงที่ปฏิบัติกันอยาง แพรหลายในขณะน้ัน เขาจึงกลาวกับทานอิมามวา “อนุญาตใหฉันสั่งหามมิใหผูใดเขามาขางในอีกนะครับทานอิ มาม?” ทานอิมาม “ไมจ าํ เปน หรอก” ชายผูน ั้น “ทาํ ไมละ ?” ทา นอมิ าม “ผูศรัทธาท่เี ครงครัดจะไมย ึดตดิ กับเรื่องแบบนน้ั หรอก”.(8) 84 ความขาดแคลนนาํ้ ประมาณ 15 ปที่ มุอาวิยะฮ บุตรอบีซุฟยาน ปกครองเมืองชาม พรอมทั้งเตรียมการและฉกฉวยโอกาส ทุกเม่ือ เพื่อที่จะสถาปนาตนเองข้ึนเปนผูปกครองโดยปราศจากการคัดคานใดๆ และขออางที่ดีที่สุด ท่ีจะนํามา เพ่อื สรางความสบั สนแกร ัฐบาลกลาง และทาํ ใหตนเองข้ึนมาเปนผูปกครองก็คือ การที่อุศมาน (คอลีฟะฮท่ี 3 ) ถูก สังหารเสียชีวิต ถึงแมวาในชวงที่อุศมานมีชีวิตอยู เขาเองก็ไมคอยใหความรวมมือและชวยเหลืออุศมานเทาไรนัก (7) บิฮารุล อันวาร เลม 11 หนา 121, พมิ พกมั พอนี. (8) บิฮารลุ อันวาร เลม 11 หนา 117. 115
มุอาวิยะฮท าํ เปน เอาหไู ปนาเอาตาไปไรตอการขอความชวยเหลือของอุศมาน และเขาก็คอยวันที่อุศมานจะถูกฆา เพอื่ นําเอาการเสียชีวิตของอุศมานมาเปนขออางตอวาระซอนเรนของตนเอง เม่ืออุศมานถูกสังหารเสียชีวิต มุอาวิ ยะฮจ ึงเร่มิ ฉกฉวยโอกาสน้นั อยางฉับพลันทันที อีกดานหน่ึงหลังจากการเสียชีวิตของอุศมาน ประชาชนท้ังหลายตางมุงไปหาทานอิมาม อะลี และให สัตยาบันตอทาน ถึงแมวาทานอิมามจะปฏิเสธท่ีจะเขารับตําแหนงคอลีฟะฮแหงประชาชาติอิสลาม แตหลังจากที่ ทานเห็นวาประชาชนจํานวนมากใหการยอมรับทานเชนน้ัน ทานอิมามอะลีจึงประกาศเขารับตําแหนงคอลีฟะฮ แหง ประชาชาตอิ ิสลามในนครมะดีนะฮ (ศูนยก ลางแหงการปกครองของคอลฟี ะฮในชวงนั้น) เมืองตางๆ ทั้งหมดที่ อยูภายใตการปกครองของอาณาจักรอิสลามในเวลานั้น ตางก็ยอมรับและปฏิบัติตามทาน ยกเวนเมืองชามและ ซีเรียเทานั้นซ่ึงอยูภายใตการปกครองของมุอาวิยะฮ ที่ไมยอมสวามิภักดิ์ตอทานอิมามอะลี มุอาวิยะฮยังดื้อรั้นท่ี จะไมยอมปฏบิ ัตติ ามรัฐบาลของอมิ ามอะลี โดยมขี ออางวา รัฐบาลของอิมามอะลใี หทพ่ี กั พิงแกผูท่ีสังหารอุศมาน เขาจึงใชขออางดังกลาวเพื่อเตรียมพรอมในการประกาศใหเมืองชามและซีเรียเปนเอกราช พรอมทั้งเตรียมกอง กําลงั ทหารจาํ นวนมากเอาไว หลังจากที่ทานอิมามอะลี เสร็จสิ้นจากสงครามอูฐ ทานจึงเริ่มเจรจากับมุอาวิยะฮโดยการสงจดหมาย ไปหามุอาวิยะฮหลายฉบับดวยกัน แตจดหมายของทานอิมามอะลี มิไดมีผลอันใดเลยตอหัวใจท่ีมืดบอดของมุอา วิยะฮ การกรฑี าทัพจํานวนมหาศาลของท้งั สองฝา ยจึงเรมิ่ ขน้ึ อะบลุ อะฮว รั ซลั มยี พรอมกองกาํ ลังจํานวนหน่งึ ของมอุ าวยิ ะฮถ กู สง ไปลวงหนา และมาลิก อัซตัร พรอม กองกําลังจํานวนหน่ึงของทานอิมามอะลี ก็ถูกสงไปลวงหนาเชนเดียวกัน ท้ังสองฝาย มาประจัญหนากันใกลกับ แมน้ํายูเฟติส โดยท่ีทานอิมามอะลีสั่งหามมมาลิก อัชตัร ไมใหทําสงครามกอน แตฝายอะบุลอะฮวัรมิไดเปน เชนนั้น เขาเริ่มโจมตีทันทีดวยความเคียดแคนชิงชังอยางรุนแรง ซ่ึงไดรับการตอบโตจากมาลิก อัชตัรในระดับ เดียวกัน จนทหารของอะบุลอะฮวัรตองถอยรนออกไป เมื่อเปนเชนนั้นอะบุลอะฮวัรจึงหาทางกําจัดฝายตรงขาม ดวยวิธอี ื่น เขารีบรุดไปยังชายฝงแมนํ้ายูเฟรติสที่ทุกคนสามารถตักนํ้าขึ้นมาเพื่อใชสอยไดจากจุดนั้น และปดลอม เอาไว พรอมกับสั่งใหพลหอกและพลธนูรักษาการณบริเวณน้ันเอาไวใหมั่น เพื่อปดทางมิใหมาลิก อัชตัรและพล ทหารของเขามาเอานาํ้ ได ตอมาไมนานนัก มุอาวิยะฮและกองกําลังทหารจํานวนมหาศาลก็เดินทางมาถึง และเม่ือทราบขาว จากอะบุลอะฮวรั วา เขาไดย ึดชายฝงแมน้ําเอาไวแลว กส็ รา งความพงึ พอใจเขาย่ิงนัก มุอาวิยะฮจึงเพิ่มกําลังทหาร อกี จํานวนหนึง่ เขา กบั กองทหารของอะบลุ อะฮวรั เพือ่ ความมัน่ ใจยิง่ ขึ้น บรรดาสาวกของทานอิมามอะลี จึงตองอยูในสภาพของผูที่ขาดแคลนนํ้า ในขณะท่ีกองทหารของมุอาวิ ยะฮตางลิงโลดดีใจในสภาพการณที่ไดเปรียบของพวกเขา มุอาวิยะฮถึงกับกลาวออกมาดวยความยะโสโอหังวา “น่คี อื ชยั ชนะขน้ั แรก” จะมแี ตเ พยี งอัมร บตุ รของอาศ ผูช ว ยเหลือและทป่ี รกึ ษาของมุอาวยิ ะฮเทา นั้น ที่ไมเห็นดวยตอการยึดฝง แมน าํ้ เอาไว สวนทางดานอิมามอะลี ก็ไดรับทราบขาวทันทีเม่ือเดินทางมาถึง ทานจึงรางสาสนฉบับหน่ึงข้ึน และ สงไปใหม อุ าวยิ ะฮ โดยสง ไปกบั สาวกผใู กลช ิดคนหนง่ึ นามวา ‘ซะอซะอะฮ’ ในสาสน ฉบบั นัน้ มใี จความดงั น้ี “พวกเราพรอมที่จะมาท่ีนี้ แตประสงคของเราท่ีมามิใชการทําสงคราม และพวกเราไมตองการท่ีจะให เกิดการรบราฆาฟนกันข้ึนในหมูพี่นองมุสลิมดวยกัน เรามีความหวังวาการพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะระหวางกัน สามารถที่จะคล่ีคลายปญหาตางๆ ได แตทวาส่ิงท่ีฉันประจักษในขณะนี้ ทานและพรรคพวกของทาน ไดเร่ิมชัก 116
ดาบออกจากฟก (กอสงคราม) กอนสิ่งอ่ืนใด นอกจากน้ัยังยึดฝงแมนํ้าเอาไวเพ่ือกีดกันทหารของฉันจากการใช สอยนํ้าในแมนํ้าดวยเชนกัน จงสั่งหามพวกเขาจากการกระทําเชนน้ันเสีย และหันหนาเขาหากัน พูดคุยกัน เพื่อ หาขอยุติ แตถึงกระน้ันก็ตาม ถาทานยังดื้อดึงเพ่ือท่ีจะทําสงครามเพียงสถานเดียวละก็ ฉันก็ไมมีความหวาดกลัว ใดๆ เลย” สาสนฉบับดังกลาวไปถึงมือมุอาวิยะฮ เมื่อเขาไดอานแลวจึงเร่ิมหารือกับที่ปรึกษาหลายตอหลายคน ของเขาในเรื่องดังกลาว ในที่สุดสวนมากลงความเห็นวา ขณะท่ีโอกาสทองกําลังอยูในมือของเรา เราตองใช โอกาสน้ีใหเปนประโยชนจงอยาไปสนใจสาสนฉบับน้ีเลย จะมีก็แตอัมร บุตรของอาศเทานั้น ที่ไมเห็นดวยตอการ กระทาํ ดังกลา ว เขากลา ววา “ทานคดิ ผิดแลว อะลีและสาวกของเขามิไดเดินทางมาท่ีน่ีเพื่อการทําสงคราม การรบราฆาฟน ดวยเหตุ น้ีเองพวกเขาจึงยังคงนิ่งเฉย (ไมกอสงคราม) และยังสงสาสนมาเพื่อเจรจาและใหทานเลิกลมการทําสงครามเสีย ทานอยาคิดวาการที่ทานไมสนใจใยดีตอสาสนของอะลี และการปลอยใหพวกเขาอยูอยางขาดแคลนน้ําเชนนั้น แลว พวกเขาจะยอมถอยทัพและยอมแพในที่สุด และเม่ือถึงเวลานั้นคมดาบของพวกเขาจะถูกชักออกจากฝก และพวกเขาจะไมห ยุดการตอ สูจนกวาจะมชี ยั ชนะเหนือทา นและขบั ไลท า นออกจากฝง แมน ํ้ายเู ฟรติสได” แตความเห็นสวนมากในท่ีประชุมคือ ตองการใหฝายตรงขามขาดแคลนน้ํา เพื่อสรางความโกลาหล อลหมา นและพา ยแพใ นทีส่ ดุ และมอุ าวยิ ะฮเ องกเ็ ห็นดว ยกบั มตขิ า งตน การหารือในทปี่ ระชุมจงึ ไดข อยุติ ซะอซ ะอะฮไ ดกลับเขาไปหามุอาวิยะฮ เพื่อรับฟงคําตอบ และส่ิงที่มุอา วยิ ะฮตอบเพื่อบอกปฏเิ สธในทางออ มคือ “ฉันขอตอบภายหลงั ก็แลวกนั ” พรอมทัง้ ออกคําส่ังใหเพิ่มกําลังพลรักษา ฝง แมนํา้ ขึ้นอกี เพื่อขัดขวางกีดกนั การเขา ออกของทหารหาญของทานอิมามอะลี ทานอิมามอะลี รูสึกเศราใจในทันที (ซ่ึงความหวังท่ีจะใหฝายตรงขามยอมรับฟงเหตุผลนั้น คงไมมี ความหวังอีก พวกเขาจะไมยอมแกไขปญหาโดยการเจรจาแบบสันติอยางเด็ดขาด) เมื่อรับทราบทาทีของมุอาวิ ยะฮ หนทางเดียวก็คือการตอสูกันดวยคมดาบอยางหลีกเลี่ยงไมได ทานอิมามอะลี ไดมายืนหนาหมูพลทหาร และกลา วสนุ ทรพจนส ้ันๆ แตเปน สุนทรพจนในการปลุกเราทดี่ เี ยีย่ ม ดงั มีใจความดงั นี้ “พวกเขาไดเปดฉากแหงการกดข่ีขึ้น และพวกเขาเปดประตูแหงสงครามออกมา พวกเขาตอนรับพวก ทานท้ังหลายดวยวิถีทางแหงความทารุณ พวกเขาเปรียบเสมือนผูหิวโหยท่ีตองการอาหาร พวกเขากระหาย สงครามและการหล่ังเลือด พวกเขาไดปดกั้นฝงแมนํ้าจากพวกทาน ในขณะน้ีพวกทานมีทางเลือกเพียงแคสอง ทางเทาน้ัน ไมมีหนทางที่สามอีกแลว นั่นคือ การที่พวกทานจะนิ่งเฉย (ไมเคล่ือนไหวตอสู) อยางไรศักด์ิศรี นั่น หมายถึงพวกทานก็จะตกอยูในความหิวกระหายอยางแนนอน หรือการท่ีพวกทานจะทําใหคมดาบของพวกทาน ดื่มดํ่าไปดวยเลือดอันสกปรกของพวกเขา (ลุกข้ึนตอสู) เพื่อที่พวกทานจะไดอ่ิมเอมจากนํ้า (ท่ีพวกเขาปดกั้นไว) การมีชีวิตอยูนั้นหมายถึงการมีชัยชนะ มีศักดิ์ศรี ถึงแมจะไดมาดวยราคาแหงความตายก็ตาม และความตายนั้น หมายถึงความพายแพ และไรซ่ึงศักดิ์ศรีถึงแมจะมีชีวิตอยูก็ตาม เสมือนหนึ่งมุอาวิยะฮ ท่ีรวบรวมผูท่ีหลงผิดและ เคราะหร า ยเขา กบั เขา และใชประโยชนบนความโงเขลาเบาปญญาของพวกเขา จนกระท่ังวาพวกเขากําลังนําคอ ของตนไปสคู มดาบ (ความตาย) ในทส่ี ดุ ” (1) สนุ ทรพจนแหงการปลุกเรา น้ี นํามาซ่ึงความกลาหาญแกรงกลาในหมูนักรบของทานอิมาม อะลีไดอยาง นาประหลาดใจ พวกเขาเตรียมพรอมในการโจมตีฝายตรงขามอยางฮึกเหิม และเร่ิมโจมตีฝายตรงขามทันที และ สามารถผลกั ดนั ฝายตรงขามออกไปหางจากฝง แมนํา้ ไดพอสมควร และเขา ยดึ ครองฝง แมน าํ้ ไดในทสี่ ดุ (1) นะฮ ุล บะลาเฆาะฮ คฏุ บะฮที่ 51. 117
ในขณะนนั้ เอง อัมร บุตรของอาศ (ซ่ึงบอกมุอาวิยะฮไปกอนหนานี้แลววา อะลีและผูชวยเหลือเขาจะบุก เขายึดฝงแมน้ําอยางแนนอน) ไดกลาวแกมุอาวิยะฮวา “เมื่อเปนเชนน้ีแลว หากอะลีและทหารของเขาจะทํา เหมือนกับที่ทานทํากับเขาและทหารของเขา (คือปดกั้นฝงแมน้ํา) แลวทานจะวาประการใดเลา! หรือวาทานมี ความสามารถที่จะยึดฝง แมน า้ํ กลับคืนมาได” มอุ าวยิ ะฮ กลา ววา “ในความคดิ ของทา น คดิ วาอะลีจะมีทา ทอี ยา งไรกบั เราในขณะน้?ี ” อัมร บุตรของอาศตอบวา “ในความคิดของฉัน อะลีจะไมป ฏบิ ัตติ อเราเหมือนกับท่เี ราปฏิบัติตอเขาอยาง แนน อน อะลจี ะไมป ลอ ยใหเ ราอยใู นสภาพของผขู าดแคลนนาํ้ อยางเด็ดขาด เขามไิ ดม าเพ่ือวัตถปุ ระสงคเชนน้นั ” ทางดานทานอิมามอะลีและทหารของทาน หลังจากขับไลทหารของมุอาวิยะฮออกจากฝงแมนํ้าสําเร็จ บรรดาทหารตางก็ขออนุญาตจากทานอิมามอะลี เพ่ือการปดก้ันฝงแมน้ําทันทีเพ่ือมิใหบรรดาทหารของมุอาวิ ยะฮเ ขา มาใชส อยน้ําได ทานอิมามอะลี กลาววา “จงอยาปดก้ันพวกเขา ฉันจะไมกระทําเย่ียงนั้นเด็ดขาด นั่นเปนวิถีทางของผู โงเขลาเบาปญญา แตฉันจะใชโอกาสนี้เพื่อเร่ิมการเจรจาอยางสันติกับพวกเขาโดยอยูบนพื้นฐานของคัมภีรแหง พระผูเปนเจา และถาหากพวกเขายอมตกลงตามขอเสนอแนะของฉัน ก็จะเปนการดีย่ิง และถาหากวาพวกเขา ปฏิเสธ ฉันก็จะสูรบกับพวกเขา แตเปนการสูรบแบบชายชาตรี มิใชการสูรบแบบการปดก้ันฝงน้ําจากฝงตรงขาม ฉนั จะไมก ระทําเชน นัน้ เด็ดขาด และฉันจะไมป ลอ ยใหผ ใู ดตอ งอยใู นสภาพของผูท่หี วิ กระหายอยางแนน อน” ในวันนน้ั เองกอนเวลาค่ํา ทหารทง้ั สองฝา ย (อมิ ามอะลีและมุอาวิยะฮ) ตางก็มายังฝงแมนํ้าเพ่ือตักนํ้าไป ใชด ่มื กนิ และไมม ผี ูใดปด กนั้ หรอื ขดั ขวางการมาเอานาํ้ ของบรรดาทหารของมอุ าวิยะฮเลยแมแตคนเดยี ว.(2) 85 การรําพงึ ราํ พันถึงความยากเขญ็ ในการดํารงชีวิต มุฟฎฎ็อล บินกอยซ กําลังตกอยูในภาวะท่ีลําบากยากเข็ญย่ิง ในการดํารงชีวิตของเขาในขณะน้ี ความ ยากจนขัดสน หน้ีสินและคาใชจายตางๆ นานา สรางความทุกขใจเขาเปนอยางย่ิง วันหนึ่งเขาจึงมาหาทานอิ มามญะอฟ ร อัซ ซอดิก และรําพงึ รําพันถึงความยากลําบากของเขาตางๆ นานาอยางละเอียดแกทานอิมามญะอ ฟร อัซ ซอดิก “ฉันมีหนี้สินอยูจํานวนเทานั้น ฉันไมรูวาจะปลดหน้ีดังกลาวไดอยางไร ฉันมีคาใชจายน้ันแตฉันยังไมมี รายไดท่ีจะนําเงินไปเปนคาใชจายตรงน้ันเลย ฉันหมดหนทางและรูสึกสับสนงุนงงเปนอยางย่ิง ไมวาจะหันไปหา ประตบู านใด มันจะถกู ปดสําหรบั ฉันท้ังสน้ิ ” และชวงสุดทายของการรําพัน เขาไดขอใหทานอิมามญะอฟร อัซ ซอดิก ขอดุอาอใหแกเขาดวย และ ชว ยขอใหอ ลั ลอฮ (ซบ.) ทรงปลดบวงพันธะตางๆ จากกจิ การงานของเขาดว ยเชน กัน ทานอิมามญะอฟร อัซ ซอดิก ไดกลาวแกหญิงรับใชนางหนึ่งซ่ึงอยูในท่ีน้ันวา “เจาจงไปหยิบถุงเงินท่ี มนั ซูรทไี่ ดส งมาใหเรา เอามาใหเ ราหนอ ยซ!ิ ” (2) ซะเราะฮ นะฮลุ บะลาเฆาะฮ ของ อบิ นิ อบลิ ฮะดีด คุฏบะฮที่ 51, พิมพเบรุต หนา 419-428. 118
หญิงรับใชจึงรีบไปหยิบถุงเงินมาอยางรวดเร็ว และยื่นใหทานอิมามญะอฟร อัซ ซอดิก ทานอิมามจึง กลาวแก มุฟฎฎ็อล บินกอยซ วา “ในถุงใบน้ีมีเงินอยู 400 ดีนาร และเปนสวนหนึ่งในการชวยเหลือตอการดําเนิน ชวี ิตของทา น” มุฟฎฎ็อล จึงกลาววา “เปาหมายในการมาหาทานในวันน้ีของฉันมิใชเพื่อส่ิงน้ีเลย เปาหมายของฉัน เพยี งแคมาขอใหทานวงิ วอนตออัลลอฮใ หฉ นั เทา นน้ั เทานนั้ ” อิมามญะอฟร อัซ ซอดิก “ไมเปนไร การวิงวอนตออัลลอฮฉันก็จะขอใหดวย แตฉันมีสิ่งหนึ่งท่ีจะบอก ทานคือ จงอยานําความยากจนขัดสน ความยากลําบากตางๆ ของตนเองไปรําพึงรําพันใหผูใดรับฟงเปนอันขาด เพราะผลสะทอนประการแรกของการกระทําเชนนั้นก็คือ ทานจะถูกตราหนาวาเปนผูท่ีลมเหลว และมีความพาย แพตอการดําเนินชีวิต ทานจะตํ่าตอยไรคาในหมูผูคน ความมีเกียรติและการใหเกียรติจากผูอื่นท่ีมีตอทานก็จะ สูญสิน้ ไปทันที”. (1) 86 คําติเตียนของอาจารย ในคาํ่ คนื หนง่ึ ขณะท่ซี ยั ยดิ ญะวาด ออมลู ี ผเู ชยี่ วชาญในดา นนิตศิ าสตรอิสลามทม่ี ีชื่อเสยี ง (ผปู ระพันธห นงั สอื มฟิ ตาฮุล กริ อมะฮ) กําลงั รับประทานอาหารคาํ่ อยนู น้ั กม็ เี สยี งเคาะประตบู า น จากใครบางคนดงั ข้นึ และเม่อื ทา นรวู า ผทู ่ีกาํ ลงั เคาะประตอู ยนู น้ั คือผทู ค่ี อยปรนนบิ ตั ิรบั ใช อาจารยของทา นเอง ทานจงึ รีบกลุ กี ุจอไปเปด ประตู ชายผนู ั้นกลาวแกท านวา “ทา นอาจารยใ หฉ ันมาเรียกทานไปพบเดยี๋ วน้ี อาหารคาํ่ ถูกตระเตรียมอยูขา งหนาทาน อาจารยแลว แตท านไมย อมแตะเลยจนกวา ทานจะไปหา” ทานซยั ยิด ญะวาด จึงไมร อชา รบี เดนิ ทางไปยงั บา นของ ซยั ยิดมะฮด ี บะฮร ลิ อุลมู ซ่งึ เปน อาจารยของทา นทนั ที โดยที่รบั ประทานอาหารคํา่ ยงั ไมท นั เสรจ็ เมือ่ ทา นไปถึงพรบิ ตาแรกที่ อาจารยเ ห็น ทานกลา วกบั ซัยยิดญะวาดดวยความโมโหสุดขดี อยางทไี่ มเคยปรากฏมากอนวา “ซยั ยิดญะวาด! ทา นไมม คี วามเกรงกลวั ตอพระเจา เลยหรอื ? ทา นไมมคี วามละอายตอ เบ้ืองพระพักตรข องพระองคเ ลยหรืออยา งไร?” (1) บฮิ ารุล อนั วาร เลม 11 หนา 114. 119
หลงั จากไดย นิ คาํ ตอ วา ขา งตนของอาจารย ทาํ ใหซ ัยยดิ ญะวาดตกอยูใ นหว งแหง ความงงงนั อยางที่สดุ วา เกดิ อะไรข้ึน เพราะจนถงึ ขณะน้ที า นกย็ งั ไมเ คยถกู ติเตียนตอวา อยางรุนแรงถงึ ขนาดนจ้ี าก อาจารยข องทา น ทานพยายามครนุ คิดไครค รวญเพอ่ื คน หาสาเหตุแตกไ็ รผล ทา นจงึ ตดั สนิ ใจถาม อาจารยว า “ไดโ ปรดเถดิ ทานอาจารย! จงบอกขาพเจา เถิดวา ขาพเจาผนู ้ที าํ ผิดอนั ใดลงไป” ทา นอาจารย “เจด็ วันเจด็ คนื แลว ท่เี พื่อนบา นของเจาพรอมกบั ครอบครัวของเขาไมม แี ปง และ ขา วสารเพ่อื ปรุงอาหาร และในชว งเจด็ วันเจด็ คนื ท่ผี า นมาจะมกี แ็ ตเ พยี งอินทผลัมราคาถกู ทเี่ ขาไปเชื่อ เอามากอนจากรานขายของชาํ ทีท่ างเขา บานของเจา เอง และวนั น้ีเขากอ็ อกไปทร่ี า นนน้ั อกี ครั้งหน่งึ เพ่ือจะเชอื่ อินทผลมั ราคาถูกนน้ั อีก แตก อ นทเี่ ขาจะเอย ปากกลา วส่ิงใด พอคาก็กลา วดกั คอเขากอ นวา ทานเช่ือของไปเยอะแลว หลังจากไดยนิ เชน นนั้ เขาจงึ ละอายที่จะขอเชือ่ อินทผลมั อีก เขาจึงตองหัน หลงั กลับบานดวยมือเปลา และในคนื น้เี ขาและครอบครัวไมม ีอาหารที่จะรับประทาน” ซัยยดิ ญะวาด “ขอสาบานตอพระองค ขา พเจาไมทราบเลย วา มีเหตุการณเ ชน นีเ้ กดิ ขนึ้ กบั เขา และถา หากขา พเจา ทราบขาพเจา จะไมป ลอยใหเขาและครอบครวั ตองอยใู นสภาพเชนนีเ้ ปน อันขาด” อาจารย “คาํ ตอ วาติเตียนของฉันท่ีมีแกเ จา มสี าเหตมุ าจากเร่อื งนี้เอง ทวี่ า ทาํ ไมเจาถึงไมรู ขาวคราวความเปนอยขู องเพื่อนบา นบา งเลยหรือ เจด็ วนั เจด็ คนื ทเี่ ขาตองกินอนิ ทผลมั ราคาถกู ๆ เปน อาหารโดยทเ่ี จา ไมร ูเ รื่องเลย มันเปน ไปไดอ ยา งไร? และถาหากวา เจา รดู วี า เขาไมม อี าหารเลย และไมไดหยบิ ยน่ื ความชว ยเหลือใดๆ แกเ ขาสักนดิ เดียว เจามิใชม สุ ลมิ อยา งแนน อน! เจา คอื พวกยิว” ซยั ยดิ ญะวาด “ไดโ ปรดบอกขาพเจา เถดิ วา จะใหขา พเจา ทําอยา งไร?” อาจารย “ผรู ับใชข องฉันจะนาํ ถาดอาหารน้ไี ปยงั บา นของชายผนู นั้ เจา จงตามเขาไป เมอ่ื ถงึ หนา บา น เขาจะกลบั ออกมา เจาจงเคาะประตบู านชายผนู นั้ และขอเขาไปรวมรบั ประทาน อาหารคา่ํ กบั เขา และจงนาํ เงนิ จาํ นวนนไี้ ปดวย แลวจงแอบเอาไวใ ตพ รมหรอื เส่อื บนบานของเขา และเจาจงขอโทษเขาท่เี จา ละเลยหนาท่ีของการเปน เพอื่ นบา นท่ีดตี อ เขา เสรจ็ แลววางถาดไวท น่ี นั่ และจงกลับมาหาฉัน ฉนั จะนงั่ คอยเจาอยทู ่นี ีแ่ ละจะไมร บั ประทานอะไร จนกวา เจา จะกลับมา และ นาํ ขา วของชายผูศรทั ธาคนน้นั มาบอกแกฉ ัน” ชายผรู ับใชจ ึงยกถาดอาหารใบใหญทเ่ี ต็มไปดวยอาหารอันหลากหลาย ออกไปยงั บา นของชายผนู ้นั พรอ มกบั ซยั ยิดญะวาดทันที เมื่อถึงหนาบาน ชายผูรบั ใชจ งึ กลับออกมาเหลอื แตซ ยั ยดิ ญะวาดทค่ี อยอยู ทา น ซยั ยดิ เคาะประตเู รยี ก เพอื่ ขออนุญาตเขาไปในบา น เมื่อเขาไปขางในกไ็ ดร ับการตอ นรบั จากเจา ของบา นเปน อยาง ดี หลงั จากท่ซี ัยยดิ ญะวาดขอโทษตางๆ นานาแลว จงึ เชื้อเชิญเขาใหร ับประทานอาหารรว มกบั ทาน อาหารคําแรก ทีช่ ายผนู ัน้ ไดลิม้ รส เขาก็รูไ ดท ันทีวา อาหารถาดน้ี มิใชเ ปนอาหารทถ่ี ูกปรุงในบานของซยั ยิดญะวาด เพราะ ซัยยดิ ญะวาดเปนชาวอาหรบั แตรสชาดของอาหารมใิ ชร สชาดอาหารของชาวอาหรับแตอยางใด ชายผนู ัน้ จึงละ มอื จากการรับประทานอาหารทนั ที และกลา ววา “นีม่ ิใชอาหารที่ถูกปรงุ ขึน้ โดยชาวอาหรับ ดงั นั้น จึงมิใชอาหาร ที่มาจากบานของทา น ฉนั จะไมแตะตอ งอาหารนเี้ ด็ดขาด จนกวาทานจะบอกวา อาหารถาดน้ีมาจากผใู ด” เขาคาดคะเนไดอ ยางถกู ตองทีเดียว เพราะอาหารทงั้ หมดถกู ปรุงข้ึนในบา นของทา น ซยั ยดิ บะฮริลอุลูม ซ่งึ ทานซัยยิดเองเปน ชาวอหิ รา นมาแตก ําเนิด เปน ชาวเมืองบรู เู ญอรด ดังน้ัน อาหารจงึ มใิ ชอ าหารของชาวอาหรับ ถึงแมวา ซัยยดิ ญะวาดจะขอรอ งใหเ ขารับประทานอาหาร ดงั กลา ว โดยไมต องไปสนใจวา ใครจะเปนคนปรงุ หรอื มาจากไหน เขากย็ งั ไมย อมรับประทาน 120
เชนเดมิ และยงั กลา ววา “ฉนั จะไมแ ตะตอ งอาหารนเี้ ด็ดขาด จนกวา ทา นจะบอกวา อาหารถาดนม้ี า จากไหน?” ซัยยดิ ญะวาดจึงตองเลา เร่อื งราวทุกอยา งใหเ ขาฟง อยา งไมมีทางเลือกจนจบ เมื่อเขาไดร บั ฟง แลว เขาจึงเร่ิมรบั ประทานอาหารแตกย็ ังสงสยั ไมห าย เขากลา ววา “ฉันไมเ คยบอกกลาว ความลับนี้ของฉนั แกผใู ดเลย แมกระทงั่ เพ่ือนบา นท่ีใกลชิดของฉนั ฉันไมทราบวา ทา นซยั ยดิ มะฮ รลิ อุลมู ทราบมาจากไหน?” (1) ความลบั แหง พระองค ซงึ่ อารฟิ กย็ ังมิเคยเอย แกผใู ด แลว พวกขายเมรยั ไดย นิ ฟง มาจากไหน ฉันฉงนนกั . 87 การละศีลอด อนสั บุตรมาลิก คอื ผหู น่ึงทค่ี อยรบั ใชท านศาสดามฮุ มั มดั อยใู นบา นของทานหลายป ดว ยกนั จวบจนวาระสุดทา ยของทา นศาสดา สิ่งน้คี ือความภาคภมู ิใจสาํ หรบั เขาทเี ดียว เขาจงึ รจู กั และเขาใจถึงมารยาทและความเปน อยขู องทา นอยางถอ งแทม ากกวาผอู น่ื มาก เขาไดเหน็ ไดรู ใน การกนิ การด่มื และเครอ่ื งใชไมส อยในการใชชีวิตท่เี รียบงา ยของทานศาสดามฮุ ัมมัดทกุ ประการ ในชว งแหง การถอื ศลี อด อาหารทที่ า นรับประทานในเวลาของการละศลี อดหรือ รบั ประทานเพอื่ ถอื ศลี อด (ซะฮัร) กไ็ มม อี ะไรมากมาย นอกจากนมหรือนํ้าหวานและขนมปง กับนาํ้ ซปุ จาํ นวนหนง่ึ บางครง้ั การเตรยี มอาหารจะแยกทง้ั ในชว งละศลี อดและชวงเวลาซะฮรั แตบอยครั้ง ทา นจะรวมทงั้ สองเวลาอาหารเขา ดว ยกนั เปน ครั้งเดยี วเพ่อื ถอื ศลี อด ในเยน็ วนั หนึ่ง ซ่ึงธรรมดาแลว อนสั บุตรมาลกิ จะคอยเตรยี มนมจาํ นวนหนงึ่ และอาหาร อ่นื อีกเลก็ นอยเพือ่ ใหท า นศาสดาละศลี อด แตทวาวนั นนั้ เม่อื ถงึ เวลาละศีลอดแลว แตทานศาสดา กย็ ังไมม า ฟา ยิง่ มดื สนทิ แตทา นศาสดากย็ งั ไมก ลบั มา อนัสจงึ มน่ั ใจวา ทานศาสดา คงจะตอบ รับคําเชิญเพื่อละศีลอดของสาวกบางคนและไดล ะศีลอดทน่ี น่ั แลวอยา งแนนอน ดวยเหตนุ ีเ้ อง อนัสจงึ รับประทานอาหารนน้ั ทนั ที ตอ มาไมนานนักทา นศาสดาไดก ลับเขามาท่บี า น อนสั จงึ ถามผทู ต่ี ดิ ตามทานศาสดาวา “ทานศาสดา ไดล ะศีลอดทไ่ี หนหรือคนื น?ี้ ” ชายผนู ั้นตอบวา “ทา นศาสดา (ศ็อลฯ) ยังมิไดละศลี อดเลย พอดมี ธี รุ ะจาํ เปน บางประการ จงึ ทาํ ใหก ลับมาบานลาชา ไป” เม่ือไดยนิ เชน นัน้ อนสั รสู กึ ละอายยง่ิ นกั ตอ สิง่ ทเี่ ขากระทาํ ลงไป (รับประทานอาหารของ ทานศาสดา ขณะนน้ั อนัสมอี ายุราว 10 กวาป) เนอ่ื งจากวา เวลานน้ั ดกึ มากแลว การทีจ่ ะออกไปหา (1) อลั กนุ า วัล อลั กอบ มุฮัดดัษกมุ มี เลม 2 หนา 62. 121
ซือ้ อาหารเพื่อเตรียมใหม คงเปนไปไมได เขาจงึ เฝา คอยฟงวา เมือ่ ใดทา นศาสดาจะเรียกใหน าํ อาหารไปให และเมอื่ นนั้ เขากจ็ ะขออภยั ตอ ทา นในการกระทาํ ของเขา แตใ นอีกดา นหนง่ึ ทา น ศาสดาพอจะเขาใจวา เกิดอะไรข้นึ ทา นจงึ มิไดเอยปากขออาหารจากอนสั แตอยา งใด และเขา นอน ทั้งๆ ท่ียงั มิไดร ับประทานอะไรเลย อนัสกลา ววา “จนกระทงั่ ลมหายใจสดุ ทา ย ทา นศาสดากไ็ มเ คย ปริปากพูดเร่ืองดังกลา วเลย และมิไดต าํ หนิสิง่ ใดตอฉนั เลย” (1) 88 ลกู จางรานขายผา เดก็ หนมุ ผหู นงึ่ เปนลกู จา งขายผาในรา นขายผาแหงหนงึ่ เขาไมม ีโอกาสลว งรเู ลยวา ขางหนา เขานนั้ หลมุ พรางกบั ดักไดถกู สรางขน้ึ แลว สาํ หรับเขา เขาไมร ูเลยวาสตรผี สู วยงามนางน้ี ไปๆ มาๆ ในรา นขายผา อยเู ปน ประจาํ และแกลง เสแสรงทาํ เปนซอื้ ผา นัน่ คือผทู ีก่ าํ ลงั มีความรัก และหลงใหบเขาอยูอยางรอนรมุ ในวนั หน่งึ สตรนี างนน้ั กม็ าทร่ี า นขายผาและสงั่ ใหค นขายตัดผา จาํ นวนมากให เมอ่ื เสรจ็ แลว นางกข็ อโทษขอโพย เนอ่ื งจากนางคงไมส ามารถทีจ่ ะยกผา ทง้ั หมดนีก้ ลับไปคนเดียวได อีกทงั้ เงนิ กม็ ีไมพ อสาํ หรบั คาผา ทง้ั หมดดว ย นางจงึ กลา ววา “ใหเ ด็กหนมุ ผนู ช้ี ว ยนาํ ผาไปสงใหฉนั ทบ่ี า น และรับเงนิ คาผา ท่ีเหลือดว ยเลย” นางไดวางแผนการทัง้ หมดไวเ รียบรอ ยแลวกอนหนานี้ ในบา นของนางไมม บี คุ คลภายนอกอยูเลย นอกจากทาสรบั ใชไมก คี่ นท่ถี อื วาเปน คนภายใน ดงั น้นั มุฮัมมดั บุตรซีรนี ซึ่งเพง่ิ จะแตกเน้ือหนมุ มาหมาดๆ หนา ตาดแี ละทาทางดี ไดย กกองผา ขึ้นแบกบนบาและเดนิ ตามผูหญิงคนนั้นมาที่บา นของนาง และเมือ่ ถึงบา น นางไดเ ชอื้ เชิญมุฮมั มัดเขไ ปในหองหนง่ึ ทีส่ วยงามย่ิงนัก และใหนั่งคอยกอ น เขานัง่ คอยอยแู ละคิดในใจวา อยากจะใหน างรีบมารบั ของของนาง และจายคา ผา ที่เหลอื แกเ ขาโดยเรว็ ดวยเถดิ แตทวาเวลาไดลวงเลยไปมาก แลว นางก็ยงั มิไดอ อกมาเสียที หลงั จากน้ันอีกไมนานนกั มา นของหอ งท่ีเขานัง่ อยไู ดถูกปด ลง และผหู ญิงคนนน้ั ก็ กา วเขามาในหอ งดงั กลา วในสภาพท่ีเลอโฉมท่ีสุด โดยการแตง องคท รงเคร่อื งอยางมากมายแกต ัวของนางเอง เม่ือ เห็นเชน นัน้ จงึ ทําใหมฮุ มั มัดเขา ใจทนั ทีวา ถกู วางกับดักเขาใหแลว เขาพยายามใชค วามคิดอยา งหนกั วาจะทํา อยา งไรดี จะแนะนาํ ตักเตอื นหรือออนวอนใหน างปลอ ยเขาไป แตใ นทัศนะของเขาคดิ วา การกระทําเชนนัน้ ก็ เทากับการเอากอนอิฐโยนลงในทะเลซงึ่ ไมบังเกิดผลใดๆ แน เชนเดียวกันนางก็ไดร ําพึงราํ พันสารภาพรักตอ มุฮัม มัดยา งมากมาย นางกลาววา “ฉันมิไดซ้ือสินคาของทาน แตฉ ันมาซื้อทา นตา งหาก” มฮุ ัมมัดมิไดละความพยายาม โดยไดต ักเตอื นนางถึงบาปตา งๆ และความเกรงกลัวในวนั กยิ ามะฮ ทั้งยงั ขอรอ งและออนวอนใหนางปลอยเขาไป แตส่งิ ตางๆ เหลา น้กี ็จะไมมผี ลใดๆ ตอ นาง นางกลา ววา “ไมมที างเลือก ใดสาํ หรับทา น ทางเดียวคอื ทานจะตอ งทาํ ใหฉันสมหวงั ในความรกั เทานนั้ ” (1) กะฮล ลุ บศั ร มุฮดั ดัษกมุ มี หนา 67. 122
เมือ่ นางเหน็ ถงึ การยนื กรานปฏเิ สธของมฮุ ัมมดั บุตรซีรีนตอคําขอของนาง นางจึงตดั สนิ ใจยืน่ คําขาดแก มุฮมั มดั โดยคาํ ขูท่วี า “ถาหากทา นไมใหเ กยี รติและความสาํ คัญตอความรกั ของฉัน และไมยอมกระทําใหฉ ัน สมหวงั ในความรักแลวละ ฉนั จะรอ งตะโกนขนึ้ ทนั ทีและจะกลาววา หนมุ ผนู ีจ้ ะขม ขืนฉนั ลองคิดดซู วิ า อะไรจะเกดิ ขึ้นกบั ทา น” เม่อื มุฮัมมัดไดย ินเชน นน้ั เขารูสึกขนลุกไปท้ังตวั สาํ นกึ ในดานความศรัทธาทีเ่ ขามี เตือน เขาวา “ทา นจะตอ งปกปอ งตนเองจากการกระทาํ บาป!” แตอกี ดานหนงึ่ ถา หากนางตะโกนออกไป เชน นน้ั นนั่ หมายถงึ เกยี รติยศ ศักดศิ์ รี ทกุ สิง่ ทกุ อยา ง แมก ระทง่ั ชีวติ กจ็ ะจบส้ินลงอยา งแนน อน จงึ ไมม ีทางเลอื กใดอีกนอกจากตอ งสมยอมในส่งิ ท่นี างตอ งการเทานนั้ แตค วามคดิ หนง่ึ ไดวง่ิ ผานเขา มาในสมองของเขาเสมือนสายฟา แลบ จงึ ทาํ ใหเ ขาคดิ ไดวา ยงั มีอีกทางเลอื กหนงึ่ สาํ หรบั เขา น่ันกค็ อื “ฉันจะตอ งกระทาํ สงิ่ หนึง่ เพอ่ื เปล่ียนความรักของนางท่ี มีตอฉนั ใหเปน ความเกลียดชัง และนางกจ็ ะเลิกยุงกบั ฉนั อยา งแนน อน ดังน้ัน ถาหากวา ฉนั ตอ งการทจี่ ะปกปอ งความศรัทธาของฉันจากความโสมม ก็จาํ เปน จะตอ งอดทนตอ ความโสมมอน่ื ใหไ ด” เม่ือคิดเชน นน้ั เขาจงึ ขอตัวเขา หองนาํ้ เพ่ือปลดทุกข และกลบั ออกมาอกี ครั้งในสภาพท่เี น้อื ตัวเปรอะเปอ นไปดวยความสกปรกตางๆ (ในหอ งนาํ้ ) เม่ือนางเห็นเขาในสภาพเชน นน้ั นางรบี หัน หลังกลบั และไลเ ขาออกจากบา นในทันท.ี (1) 89 สถานภาพของดวงดาว อับดลุ มาลิก บตุ รอะอ ุน นองชายของซรุ อเราะฮ บุตรอะอุน) เปน นกั รายงานวจนะของ ทา นศาสดาคนหนงึ่ และเปนผทู มี่ คี วามเชื่อเรอ่ื งหลกั ทางโหราศาสตร และลกั ษณะของดวงดาว เปน อยา งยง่ิ เขาเขยี นหนังสืออยา งมากมายในวชิ าดาราศาสตร และบอยครัง้ ทีจ่ ะยอนกลบั ไป ศกึ ษาคนควา ในเรื่องของดวงดาว เพือ่ ทจ่ี ะนํามาเปน บรรทัดฐานในการตัดสินใจในทุกๆ กิจการ งานของเขา ในข้นั ตอนแรกเขาจะหนั ไปหาหนังสอื วชิ าโหราศาสตรแ ละการคํานวนตา งๆ ถงึ ตาํ แหนง ของดวงดาววา จะมผี ลออกมาอยา งไร แลวเขาก็จะปฏิบตั ิส่งิ นั้นตามการคาํ นวนทีไ่ ดรับ นานวนั สิง่ ดงั กลา วจงึ กลายเปน กจิ วัตรประจาํ ตวั ของเขาไปในท่สี ดุ นบั วันความสงสยั และ ความกงั วลในเร่ืองตางๆ กม็ มี ากขนึ้ ทกุ วนั จนถงึ กบั วา ไมว า เขาจะกระทําสง่ิ ใดกต็ าม เขาจะตอ ง คาํ นวนจากดวงดาวดูเสียกอ นวา จะกระทาํ ไดห รอื ไม เขาจงึ มีความรสู กึ วาสง่ิ นีไ้ ดท าํ ใหก ารใชชวี ิตที่ แทจ ริงของเขาพกิ ารไปเสียแลว เพราะไมว า จะกระทาํ สงิ่ ใดกเ็ กดิ ความสงสยั กงั วลไปหมด และหา กวาสถานการณเชนนย้ี ังคงดาํ เนนิ ตอ ไปเรอ่ื ยๆ หมายถึงการทย่ี งั คงตดิ ยึดอยูก ับความเชือ่ ความงม งายตอ ดวงดาวเพือ่ ใหร ูวาวนั นด้ี ี วนั น้ันไมดี เวลาน้มี ีโชค เวลาน้ันมเี คราะห หรอื เรอ่ื งราวเกยี่ วขอ ง (1) อัล กนุ ีย วะ อลั กอบ เลม 1 หนา 313. 123
กนั นี้ ระบบในการใชช ีวติ ของเขาก็จะตอ งถูกทาํ ลายไปในท่ีสุด และเขากร็ ูดีกนั วา เขาไมม สี ามารถ พอที่จะตัดขาดหรอื เพิกเฉยตอสง่ิ ดังกลาวได เขารสู ึกอิจฉาทุกครัง้ ท่เี หน็ สภาพของประชาชน ทีม่ ิไดใ หความสนใจตอเรือ่ งน้ี (ดวงดาว) และออกไปทาํ งานของตน โดยการพงึ พิงยงั อลั ลอฮ (ซบ.) เพียงองคเดียวเทา นนั้ ซง่ึ พวกเขา เหลา นัน้ ไมเ คยคดิ ถงึ เร่ืองนเ้ี ลยสกั นิด เขาไดนาํ เรอ่ื งนีไ้ ปปรึกษากบั ทานอิมามญะอฟร อซั ซอดกิ โดยกลา ววา “ฉันนนั้ หลง งมงายอยคู วามรใู นวชิ านี้เสยี แลว ฉนั ไมส ามารถจะกระดิกแขนขาของฉันเพอ่ื ใหห ลุดพนจากมนั ได เลย” ทานอมิ ามจึงถามเขาดว ยความประหลาดใจวา “เจา มคี วามเชื่อตอสง่ิ เหลา น้นั และตองปฏบิ ตั ิตามใช ไหม?” เขาตอบทานอมิ ามวา “ใชครบั ! โอบ ุตรแหงทา นศาสดา” ทานอมิ าม “ฉนั ขอสง่ั ใหเจา นําหนงั สอื ตา งๆ ทงั้ หมดท่ีเจา มมี าเผาท้ังเสีย” คําสงั่ ของทานอมิ ามญะอฟ ร อซั ซอดิก ไดก ลายเปน แรงบันดาลใจแกเ ขา เขาจงึ รบี ไปนาํ หนงั สือเหลา นนั้ มาเผาทันที เขาจงึ หลดุ พนจากความงมงายดงั กลา วในท่ีสดุ (1) 90 โหร ทานผปู กครองแหงศรทั ธาชน คอื ทานอะลี และบรรดาทหารหาญของทานตา งพรอมกันขน้ึ หลงั มา เพื่อมงุ หนา สูนะฮระวาน ทันใดนนั้ เอง บคุ คลหนงึ่ ในหมสู าวกของทา นไดเขา มาหาทาน ผปู กครองแหง ศรัทธาชน พรอมกับนําชายผหู นง่ึ มาดว ย เขากลา ววา “โอ ทา นผูปกครองแหง ศรทั ธาชน ชายผูน้ีคือโหร เขามสี งิ่ หนงึ่ ทีจ่ ะบอกกลา วแกทาน” โหร “โอ ทานผปู กครองแหง ศรัทธาชน จงอยาเคลอื่ นทพั ในชว่ั โมงน้ีเลย คอยอกี สกั พักให เวลาลว งเลยไปอีกอยา งนอ ยสักสองถงึ สามชวั่ โมง แลว คอ ยเคลอื่ นทพั จะดีกวา” ทานผูป กครองแหงศรทั ธาชน “ทาํ ไมละ!” ทานผปู กครองแหง ศรทั ธาชน “เนอ่ื งจากสถานภาพของดวงดาวบง บอกวา บคุ คลใดก็ ตามทอี่ อกเดินทางในชวงเวลานี้ เขาจะพบกับความพา ยแพจ ากฝายศัตรอู ยางแนน อน และความ หายนะอนั มากมายจะประสบกบั เขาและผชู ว ยเหลือเขาในท่สี ดุ และถา หากวา ทา นเคลอ่ื นทัพ ออกไปในชวงเวลาทฉี่ ันบอก ทานจะไดรับชัยชนะและบรรลสุ ูเ ปาหมายอยางแนแ ท” ทา นผปู กครองแหงศรัทธาชน “มาของฉันตวั นก้ี าํ ลังตัง้ ทอง ทานสามารถบอกไดหรือไมว าลกู ของมนั ท่ี อยูในครรภตวั ผูหรือตวั เมีย?” โหร “ถา หากวา ฉันไดใ ชเวลาในการคาํ นวณสกั นิดกจ็ ะตอบได” (1) วะซาอิล เลม 2 หนา 181. 124
ทา นผปู กครองแหง ศรทั ธาชน “ทา นโกหก! ทา นไมส ามารถทจ่ี ะบอกไดด อก อลั กรุ อาน กลา วไวว า ไมมีผใู ดที่จะสามารถลว งรูถงึ ความลบั ไดน อกจากพระเจา องคเดยี วเทา นัน้ พระองค ทรงรูวา พระองคไดสรา งส่งิ ใดในครรภน ้ัน มุฮมั มัดศาสนทตู ของพระองค กย็ งั ไมเคยกลา วอา งในสิ่ง ท่ีทา นกําลงั กลาวอางอยเู ลยแมแ ตครั้งเดยี ว ทา นอา งวา ทา นรทู กุ สิง่ ทกุ อยา งวา จะมเี หตุการณอ ะไร เกิดข้นึ บา งในอนาคต และยังรูอ ีกวา ชว งเวลาใดดชี ว งเวลาใดไมด ใี ชหรือไม? หากเปน เชน นน้ั แลว ไซร ถาหากบุคคลหนง่ึ เขามคี วามเชอ่ื ศรทั ธาตอ ทา นดวยความรูอนั สมบรู ณแ บบ และลว งรู เหตกุ ารณลว งหนา ทงั้ หมด เขาผูนัน้ กค็ งจะไมมีความตองการตอ พระผูเ ปนเจา อีกแลว ” แลวทานผูป กครองแหง ศรัทธาชน ก็กลาวกบั ประชาชนวา “ขออยา เปน เชน นนั้ เลย! ท่พี วก ทา นจะเปน ผทู ่หี ลงงมงายตอ เรื่องเหลา น้ี ทั้งหมดลว นเปนเพยี งการคาดเดา นักทาํ นายเหตุการณ ลวงหนา นน้ั อยใู นระดบั เดยี วกบั ผทู ใ่ี ชเ วทมนตคาถา และผูทใ่ี ชเวทมนตคาถานน้ั อยูในระดบั เดียวกับผปู ฏิเสธ และผปู ฏิเสธนน้ั อยูในไฟนรก” เมอื่ กลาวจบทา นผูป กครองแหง ศรทั ธาชนไดม องขนึ้ ไปบนทอ งฟา และกลาวบทขอพรบท หนงึ่ ซึง่ เก่ยี วกบั การพงึ่ พาอลั ลอฮ (ซบ.) เพยี งองคเดียว เสรจ็ แลวจงึ หนั ไปหาโหรผนู น้ั และกลาววา “เราจะไมป ฏิบัติตามในสง่ิ ท่ที า นบอกแตอ ยา งใด และเราจะออกเดนิ ทางเดยี๋ วน!ี้ ” ทา นผปู กครองแหง ศรทั ธาชน อะลี บุตรอบฏี อลิบ ไดอ อกคาํ สัง่ ใหเคล่อื นทพั ทนั ทีเพอ่ื มุงสู การประจญั บานกบั เหลา ศตั รู และทา นก็ไดรับชยั ชนะในการสงครามเพอ่ื ศาสนาในคร้งั นน้ั ในทส่ี ุด (1) 91 การแกไ ขปญ หา ศอฟวานไดเขา พบทา นอมิ ามญะอฟร อซั ซอดกิ และน่ังลงขางๆ ทา นอมิ าม ทนั ใดน้ันเอง มีชายผหู นง่ึ เปน ชาวมักกะฮไ ดเขา มานง่ั รว มในทชี่ มุ นมุ และเลา ถงึ ปญ หาหนง่ึ ท่ีเกดิ ขึ้นกบั เขา ใน ท่สี ดุ จงึ ทาํ ใหเขา ใจไดวา เขามคี า ใชจา ยจํานวนหนึ่ง และเขาไมสามารถทจี่ ะจายได ทานอมิ าม จงึ สง่ั ศอฟวานวา “จงเรง รีบในการชว ยเหลือพนี่ องผศู รทั ธาดว ยกนั เถดิ ” ศอฟวานรีบลุกออกไป และในเวลาไมนานนกั หลังจากเสร็จสน้ิ ภารกจิ เขาก็กลบั มาหาทา นอมิ าม ทา นอิ มามจงึ ถามเขาวา “เปนอยางไรบาง” ศอฟวาน “ดว ยความชวยเหลอื ของพระองค เรียบรอยแลว ครับ” (1) นะฮ ุล บะลาเฆาะฮ คุฏบะฮที่ 77, วะซาอลิ เลม 2 หนา 181. 125
ทานอมิ าม “พงึ รไู วเถดิ วา! การกระทําในสิ่งน้ี (ชวยเหลอื ผอู ่ืน) ถึงแมวา มนั อาจจะเปนเรอ่ื งเลก็ นอยใน สายตาของทุกคนจากการชว ยเหลือผอู ื่นในเวลาอนั นอ ยนดิ กต็ าม สง่ิ นั้นเปนสิง่ ท่รี ักย่ิง และประเสริฐย่ิงกวา การ เวียนรอบกะอบะฮเจด็ รอบเสียอีก” และทานอมิ ามยังกลา วตออกี วา ชายผูห นึ่งมปี ญ หาและตองการคนชวยเหลอื เขาจึงมาหาอิมามฮาซนั มุจญต ะบา และขอความชว ยเหลือจากทาน ทา น อมิ ามจึงรีบสวมรองเทาและออกไปกบั เขาทนั ที ในระหวา งทาง ทง้ั สองเดนิ ผา นอิมามฮูเซน ซง่ึ กาํ ลงั มุงมั่นอยูก ับการนมาซวงิ วอน อมิ ามฮาซนั จึงถามชายผูน ั้นวา “เหตใุ ดทาน จึงไมไปขอความชว ยเหลอื จากฮูเซน หรือวาทา นลมื นึกถึงเขา” เขาตอบวา “ตอนแรกฉนั ก็จะไปหาทา นเหมอื นกันเพ่ือขอความชว ยเหลือ แตฉนั ไดย นิ มาวาทา นกําลงั พํานกั เพอ่ื การนมสั การอยใู นมัสยดิ ฉันจงึ ไมไ ดไ ปหาทา น” ทา นอมิ าม กลา ววา “แตถาหากเตาฟก ในการชว ยเหลอื ทานถูกมอบแกเขา (อิมามฮูเซน) มนั คอื สิ่งที่ ดกี วาการพกั ในมัสยดิ ถึงหนึ่งเดือนเสยี อกี สําหรับเขา”. (1) 92 ใครคือผทู เ่ี ครงดรัดมากกวา กนั ชายผหู นง่ึ จากสาวกของทานอิมามญะอฟ ร อซั ซอดิก ซงึ่ ตามธรรมดาแลว มักจะเขารว มในการเรียน การสอนอยูเปนประจาํ กับทา นอิมาม และจะเขา รวมในการชุมนุมตา งๆ ของผูอื่นและไปมาหาสูก ันเสมอในหมู เพอื่ นฝงู แตช วงหลงั ๆ น้ีไมม ีวีแ่ ววของเขาเลย วันหน่งึ ทา นอมิ ามญะอฟร อัซ ซอดิก ไดถามสาวกคนหน่งึ และเพ่อื นฝงู ของชายผูน ้นั วา “ถามจรงิ ๆ เถดิ วา เขาหายไปไหนแลว ระยะหลงั น้หี ลายวันแล วฉันไมเ หน็ เขาเลย” พวกเขากลา ววา “โอ บุตรแหงทานศาสดา ในชว งระยะหลังน้ีฐานะของเขาไมค อ ยจะดีนัก มีความ เปนอยทู ่ียากจนมาก” ทา นอมิ าม “แลวเขาทาํ งานอะไรกัน” พวกเขาตอบวา “เปลา เลย! เขาน่งั อยูแตในบานและมงุ มนั่ อยกู ับการเคารพภักดีตออลั ลอฮ ตลอดเวลา เพยี งอยางเดียว” ทานอิมาม “แลวปจจัยยงั ชพี ประจาํ วันของเขา ไดม าจากทไี่ หน” พวกเขาตอบวา “เพื่อนคนหน่ึงของเขาเองรบั อาสาจดั หาสิง่ ตางๆ ในการดํารงชีวิตใหแกเขา” ทา นอมิ าม “ขอสาบานตออัลลอฮ (ซบ.) เพ่อื นของเขาผนู ั้น คอื ผูทเี่ ครงครัดมากกวา เขาถึงหนง่ึ ขั้น ทเี ดยี ว”. (1) 93 อเลก็ ซานเดอร และ ดโิ อเจน (1) กาฟย เลม 2 บาบ อัซซะอยี ฟ ฮาญะต้ิลมุอมิน หนา 198. (1) วะซาอิล เลม 2 หนา 529. 126
เมือ่ อเล็กซานเดอรก ษตั รยิ แ หง มาซโิ ดเนยี ไดถูกแตงตั้งใหเ ปนผูบังคับบญั ชาการสูงสุดของกองทัพกรีซ ในการระดมพลไปยงั อหิ รา น ผูคนทุกชนชนั้ ตางหลงั่ ไหลมายังเขา เพอื่ แสดงความยินดี แตท วา ดโิ อเจน นกั ปราชญผูลือชอ่ื แหงกรซี ซึ่งอาศัยอยูในเมอื งโครนิ ทไมคอ ยจะรูส กึ ยนิ ดยี นิ รา ยอะไรนัก ตอการไดรบั ตําแหนง ของอเล็กซานเดอร และอเล็กซานเดอรตอ งเปน ฝายมาหาเขาในทีส่ ุด ดโิ อเจน ซง่ึ เปน นกั ปราชญค นหนึ่งแหงแนวทางโซเบรียตี้ ซ่งึ ไมผูกพยาบาทมาดราย ไมขอความ ชวยเหลอื จากผใู ด เปนตวั ของตัวเอง ปราศจากความโลภ ใชชวี ิตทางสายกลาง ขณะนน้ั ขณะน้นั ดโิ อเจนกาํ ลงั เอน กายอยทู า มกลางแสงแดดในวันทีฟ่ า ใส และเมอ่ื รสู ึกวา มีผคู นกลุมหนึง่ กาํ ลงั มงุ หนามาหาเขา เขาจึงลกุ ขึน้ และอ เลก็ ซานเดอรก ับผตู ิดตามก็มาถึงพอดี เขามองไปท่อี เลก็ ซานเดอรทม่ี าหาเขาในลักษณะของผยู ่ิงใหญ มผี ตู ิดตาม อยางมากมาย แตส ายตาที่เขามองอเลก็ ซานเดอรกม็ ไิ ดแตกตางไปจากมนุษยค นอืน่ และคดิ วาก็แคมนุษยธ รรดา คนหนึ่งเทาน้นั ท่ีกําลังมาหาเขา เพื่อตองการทจี่ ะปกปกรกั ษาสโลแกนกลุมของเขาเอาไว อเล็กซานเดอรไ ดกลาวทักทายเขาและกลา ววา “ถาหากทานตองการแนะนําส่ิงใดกบ็ อกฉันได” ดิโอเจน กลา ววา “ฉันคงไมข ออะไรมากนกั หรอก คือฉันกาํ ลังยืนอาบแดดอยูแ ตท วา ทา นกาํ ลงั ยนื บัง แสงแดดทีส่ อ งแสงมายงั ฉันในขณะน้ี ไดโ ปรดหลบไปทางโนน สักนิดแคน้กี ็พอ” คําพดู ดังกลาวของดิโอเจนในทัศนะของผตู ดิ ตามอเลก็ ซานเดอรน ั้น คือคาํ พดู ของผทู ีม่ ีสติไม สมประกอบ พวกเขากลา วเปน เสยี งเดียวกนั วา โอกาสดขี นาดน้ีแลวยังไมใ ชใหเ ปน ประโยชนอ กี ชายผนู ้ีสงสัยสติ คงไมด ีแนๆ เนอื่ งจากอเลก็ ซานเดอรเ ปน ถึงกษัตรยิ ผทู ี่สามารถจะบนั ดาลอะไรกไ็ ดแ ตทวา ตัวอเล็กซานเดอรเ อง มองดิโอเจนอยางชายผหู น่งึ ที่มจี ิตวญิ ญาณอนั สูงสงย่งิ นกั หลังจากทเ่ี ขาเดินทางกลับ อเลก็ ซานเดอรไ ดหนั ไปหาผตู ดิ ตามของเขา ซ่งึ เปนนักปรัชญาท้งั สิน้ และ กลา วเชงิ ตลกขบขนั วา “อันท่จี ริงแลว ถาฉนั ไมใชอเลก็ ซานเดอรฉ ันใครทีจ่ ะเปน ดโิ อเจนมากกวา ”. (1) 94 กษตั ริยและนักปรชั ญา ในการเดินทางไปยงั แควนคุรอซานของกษตั ริยนาศริ ุดดีน ไมว า เมอื งใดก็ตามทเ่ี ขาเดนิ ทางผาน ประชาชนทกุ ชนชัน้ จะออกมาตอ นรับอยางคบั ค่ังทกุ เมือง และเมื่อเขาตองการจะออกไปจากเมืองนั้นๆ ประชาชน เหลาน้ันกจ็ ะมาสงและราํ่ ลาเขา จนกระทั่งเขาเดินทางมาถงึ เมืองซบั ซะวอรกี ็เชน เดียวกนั ประชาชนทกุ ชนช้นั ในเมืองน้ีตางกอ็ อกมา ตอ นรับเขากันอยา งหนาแนน เหมือนเชนเมอื งอื่นๆ จะมีกแ็ ตเ พียงบคุ คลเดียวเทานนั้ ทไี่ มไดอ อกมาตอ นรับเขาแต อยา งใด ซ่งึ เปนนกั ปรชั ญาทล่ี อื ชื่อและเปน นกั รหัสยะที่มชี ่อื เสียงคือทา น ฮัจญี มุลลา ฮาดี ซับซะวอรี และเปน บุคคลเดียวท่ีเขาตงั้ ใจเอาไววา ในการเดินทางมาครุ อซานคร้ังน้ี จะตองมาพบกับบคุ คลผนู ้อี ยางใกลชดิ ใหจงได บุคคลผนู เ้ี ปนชายคนหนงึ่ ทม่ี ีชื่อเสียงอยางรวดเร็วในหมูประชาชนชาวอหิ รา นทงั้ หมด บรรดานกั ศกึ ษาวิชาการ ศาสนาจากทว่ั ทุกมมุ ของประเทศ ตางหลงั่ ไหลมาหาเขาทนี่ ่ี จนกระทั่งเขาไดจดั ต้ังสถาบันการศกึ ษาศาสนาที่ ใหญโ ตมากในเมอื งซบั ซะวอรี (1) ตารคี อลิ ม แปลโดย อะหหมัด ออรอม หนา 525. 127
กษัตรยิ รูสกึ เหน็ดเหนอ่ื ยอยางย่ิงตอการตอ นรบั ขบั สขู องบรรดาประชาชน การเยย่ี มชมท่ีนั่นทีน่ ี้ การให เกียรติกัน คาํ เยินยอทไี่ ดร ับ เขาจึงตัดสินใจที่จะไปเย่ยี มนกั ปราชญผูน ้ัน ผคู นตางกลาวกับกษัตริยวา “ทา นนกั ปราชญน นั้ ไมร จู ักกษัตริยหรือบรรดามนตรีหรอก” แตกษัตริยก ลาววา “แตก ษัตริยร ูจกั นกั ปราชญ” คําพูดดังกลา วถูกถายทอดไปถึงนกั ปราชญท านน้นั เวลาในการเขา พบจงึ ถกู กาํ หนดขนึ้ ในวนั หนงึ่ ชว ง บายออ นๆ กษตั รยิ เ ดินทางไปยงั บา นของทานนักปราชญพรอ มกับคนรบั ใชคนหนง่ึ บา นของปราชญผูน้นั เปน บา น ซ่ึงไมใหญโ ตหรหู รา เครอื่ งใชไ มสอยภายในกเ็ รียบงา ย กษัตริยจึงเรม่ิ พูดเกรน่ิ ขึ้นวา “ในทกุ ๆ ความโปรดปรานจะมีคําขอบคุณควบคูกันไป คาํ ขอบคุณแหง วิชาการความรกู ค็ อื การส่ังสอน และทางนํา คําขอบคณุ แหงทรัพยส ินเงนิ ทองก็คือการหยิบยืน่ และการชว ยเหลอื คาํ ขอบคุณแหงกษตั ริยก็ เชน เดยี วกัน คอื การตอบสนองความประสงคของผอู น่ื ดงั น้ัน ฉันประสงคท ี่จะใหท านขอสง่ิ หนึง่ ส่งิ ใดจากฉนั บาง เพือ่ ทฉี่ นั จะไดรับเตาฟก ตอการนํามาซึง่ สิ่งทที่ า นพึงประสงค” ทา นนักปราชญ “ฉนั มิไดขาดแคลนสงิ่ ใดและไมตอ งการอะไรเลย” กษัตรยิ “ฉันไดย ินมาวา ทา นมไี รก ารเกษตรอยแู ปลงหนงึ่ ทานจะอนญุ าตหรอื ไม ถาฉันจะออกคําสั่งให ยกเลิกการเก็บภาษจี ากไรแ ปลงน้นั ของทา น” ทานนกั ปราชญ “สํานกั งานทเ่ี ก็บภาษีรายไดของรฐั นั้นมกี ฎเกณฑต ายตัววา ในแตละเมอื งจะมีภาษีที่ จะตอ งเกบ็ เทา ไร และกฎเกณฑดังกลา วจะตองสบั สนแนจากการเปลีย่ นแปลงในการเก็บภาษใี นบางจดุ ถา หาก วาในเมืองน้รี ฐั บาลไมเก็บภาษีจากฉัน แนน อนภาษีจํานวนดังกลาวของฉันทไี่ ดร ับการยกเวน จะไปถกู เกบ็ จาก ผอู ่ืนมากขึ้นเพ่ือมาทดแทน เพ่อื ท่ีจํานวนภาษีทง้ั หมดทีเ่ มืองซับซะวอรจี ะตองจายไดต ามกําหนด ทานคงจะไมพึง พอใจแนถา หากวา การลดหยอ นภาษีหรอื ยกเวน ภาษแี กฉันจะเปนเหตใุ หบ รรดาเดก็ เด็กกาํ พรา และหญงิ หมา ย ตอ งลําบากยิง่ ข้ึน ในขณะเดียวกัน รฐั บาลก็มีหนาท่ีที่จะตอ งปกปอ งชวี ิตและทรัพยส นิ ของประชาชน ทางรฐั ก็ จะตองมีคาใชจ ายในสวนดังกลาว ดังนั้น เราพรอมและพึงพอใจที่จะจา ยภาษสี วนนีข้ องเรา” กษตั ริย “ฉนั ตองการท่ีจะรบั ประทานอาหารรว มกบั ทานในวันน้ี และขอใหเ ปน อาหารประจําวนั ของทา น ดวย ฉันพรอ มแลว ไดโ ปรดส่ังใหยกอาหารของทา นมาเถิด” ทานนักปราชญสงเสียงตะโกนออกไปทนั ทโี ดยมิไดล กุ จากทนี่ ั่งวา “จงนาํ อาหารของฉนั มา” อาหารถกู นาํ มาทนั ที ภาชนะใสอาหารหน่ึงท่ีถูกทําขนึ้ จากไม และมขี นมปงไมก ี่ช้ินอยใู นน้ัน มีชอ น นมเปรี้ยวหนึง่ ที่ และ เกลืออีกจํานวนหนึง่ ถกู วางลงตรงหนา คนท้งั สอง ทา นนักปราชญ จึงกลาวแกก ษัตริยวา “เชญิ รับประทานเถิด มันคือขนมปง ที่อนมุ ัติ ซงึ่ มาจากมือและ แรงงานของฉันเอง ทัง้ ปลกู ทง้ั เก็บเกย่ี ว ทั้งแปรรูปมาเปน ขนมปง” กษตั รยิ จ ึงรบั ประทานอาหารไปคาํ หนึง่ แตเขากร็ ูตัวเองดวี า เขาไมเ คยชนิ กบั อาหารเชนนี้ และใน ความคิดของเขาแลว อาหารเชนน้ไี มน า จะรับประทานไดด ว ยซํ้าไป เขาจงึ ขออนญุ าตนาํ ขนมปง จาํ นวนหน่งึ เกบ็ ใส หอผา เพ่ือเปนสิรมิ งคลตดิ ตวั ไปดวย หลงั จากน้ันไมน านกษตั ริยไดจ ากบานของทา นนกั ปราชญ ซ่ึงอยใู นโลกแหง ความแตกตา ง มาดว ยความมนึ งงและฉงนใจยง่ิ . (1) 95 เอกภาพแหงพระเจา ของมุฟฎฎอล (1) รยั ฮานะตลุ อะดับ เลม 2 หนา 157, 158 หัวขอ ซบั ซะวอรี. 128
ภายหลงั จากท่ี มุฟฎ ฎอล บุตรอุมัร ุอฟย นมาซซฮุ รแิ ละอศั รเิ สรจ็ แลว เขาไดนั่งอยใู นท่ีหนึง่ ซ่งึ อยู ระหวางแทน เทศนาและสถานที่ฝงรา งของทา นศาสดามุฮัมมัด และกําลงั จมลงอยูในความคิดใครครวญใน บางอยา ง และสิ่งทเ่ี ขากาํ ลงั คิดใครครวญอยนู ้นั กค็ อื ความภูมฐิ านและเกียรติยศของทานศาสดานัน่ เอง เขาย่งิ คิดใครครวญมากเทา ไร ก็ทําใหเ ขายิง่ พบกับความนาทง่ึ มากเทาน้ันเก่ยี วกับทานศาสดา เขา กลาวกบั ตัวเองวา “การยกยอ งใหเกยี รติตอตําแหนงอันสูงสงของบคุ คลผูนี้ท่ไี มมผี ใู ดเสมอเหมือนอกี แลวนั้น อันท่ี จรงิ แลว ตาํ แหนงและความประเสริฐของทานมีมากมายกวา นน้ั เสียอกี ถาหากจะพูดกนั แลวความมเี กียรติ ความ ภูมฐิ านและความประเสรฐิ ของทานศาสดาที่ประชาชาตนิ ้รี จู กั และเขาใจ และความรจู ักนเี้ องถา หากนาํ ไปเทียบ กบั สิ่งตา งๆ อีกมากมาย (ความประเสริฐ) ของทานศาสดาที่พวกเขายงั ไมรูจัก ก็เทา กับวา เขายังไมเ คยรูน ักทา น ศาสดาเลย” ในขณะทมี่ ฟุ ฎ ฎอลกาํ ลังจมด่งิ ลงสคู วามคิดเชนน้เี อง พรรคพวกของอิบนิ อบเี อาญาอ (ซงึ่ เปน พวกวัตถุ นยิ ม) และเพ่ือนของเขาอีกคนหน่งึ ไดเ ขามาและนัง่ ลงใกลๆ เขา นง่ั พูดคยุ รว มกนั ในชว งสมัยนั้นคือชว งสมยั แหงการเริ่มปกครองของราชวงศอ บั บาสิยะฮ เปน ชวงสมัยแหงการ เปลย่ี นแปลงทางวฒั นธรรมตางๆ ของอสิ ลาม ในชว งสมัยดงั กลาว มุสลิมเองยังไดจัดต้ังสาขาวิชาการในบาง แขนงขนึ้ ดวย และเชนเดยี วกันหนังสือทางวชิ าการหลายเลม ในสาขาตา งๆ รวมทง้ั สาขาปรัชญา ไดถูกแปลเรียบ เรียงขึ้นเปนภาษาอาหรบั ในสมัยน้ันจากภาษากรีก ฟารซี และอนิ เดยี และอกี หลายเลมดวยกันท่ียังอยใู นขน้ั ตอน ของการแปล ไดเกดิ สาํ นักคิดในหลักความเช่ือและกลุมปรชั ญาตา งๆ ขึน้ อยางมากมาย เรยี กไดวา ยุคนัน้ คอื ยุค ของการถกและโตต อบกันทางดานวชิ าการมากที่สดุ ราชวงศอบั บาสิยะฮยกยอ งเสรีภาพในทางความคดิ อยา งมาก ตราบใดท่ยี งั ไมกาวลํา้ ในเรื่องการเมือง การปกครอง ถงึ ขนาดผรู ูที่ไมใ ชมุสลิมและเปนลัทธวิ ตั ถุนิยม (ปฏเิ สธพระผูเปนเจาและถูกขนาดนามวา ‘ซะนาดิ เกาะฮ’ ในชวงนนั้ ) กย็ ังสามารถทีจ่ ะเปด เผยและเผยแพรค วามคิดของตนไดอยางเสรี จนถงึ กับวาบุคคลพวกนไ้ี ด ถอื วิสาสะมารวมกลุมกันใกลกับวหิ ารอลั กะอบ ะฮ ในมัสยิดฮะรอม และขา งมัสยิดมะดีนะฮบ ริเวณสถานท่ฝี ง ราง ของทา นศาสดา บา งในโอกาส และการพูดคุยกันอบิ นิ อบีเอาญาอ เปนบคุ คลหนึ่งจากกลุมดงั กลาว ในวันนั้นเขาและสหายของเขาไดเขา มาในมสั ยิดของทา นศาสดาในเวลาท่หี างกันเพียงเล็กนอยและเรม่ิ นง่ั แลกเปลี่ยนทัศนะกัน และมนั กใ็ กลพ อทีม่ ฟุ ฎ ฎอลจะไดย ินเสียงของพวกเขาทัง้ สอง และบงั เอิญประโยคแรกท่ี ไดยนิ มาถึงหูของมฟุ ฎฎอลจากปากของอบิ นิ อบเี อาญาอ ก็คือเรอื่ งเดยี วกันกับเรอ่ื งท่มี ฟุ ฎฎอลคดิ ใครครวญอยู กอนหนา นีน้ ่ันเอง กค็ อื เร่ืองของทานศาสดา เขาไดกลาวแกส หายของเขาวา “เรือ่ งราวของชายผนู ้ี (มฮุ มั มัด) นา ทึ่งมาก เขาไปไดไ กลมาจนไมเคยมใี ครทําไดเ ชนน้ีมากอนเลย” สหายของเขาตอบวา “เขามีพรสวรรค เขาอางวา เขามีความสมั พนั ธกับพระเจา และไดกระทาํ สิ่งตางๆ หลายอยา ง ท่ีเหลอื เชือ่ ออกมา จนทําใหท กุ คนฉงนและยกยองเขา ไมว า จะเปน ความฉลาดหลักแหลม จรรยา มารยาทท่ีดงี าม คําพดู ที่มโี วหารอันไพเราะ และเปน นกั ปราศรัยท่ีดีเย่ยี ม สิง่ ตา งๆ เหลาน้ียากท่ีจะหาใครมา เทยี บเทา ได ผคู นมากมายเหลานนั้ จึงยอมรบั ฟงเขาในที่สดุ และหลังจากนน้ั ไมนานนักบุคคลในหลายชนช้นั ตาง ก็เขา เปนพรรคพวกของเขาทีละคนทลี ะคนพรอ มทั้งยอมรบั เขา เหตกุ ารณเ ลยเถิดไปจนถึงกับนามของเขา จะอยคู ู กับพระนามของพระเจา พระเจาทเ่ี ขายอมรับวา เขาไดรบั การแตงตัง้ มาจากพระเจาองค ในขณะนเ้ี องทน่ี ามของ เขาจะถูกกลาวไปทกุ แหงหน เมืองและหมูบา นตางๆ ท่ีการเผยแผของเขาเขา ไปถงึ และแมก ระท่ังในทอ งทะเล ทะเลทรายและหบุ เขา ตา งกม็ ีการเอยนามของเขาออกมาใหไดยนิ อยเู ปน นจิ สินทั้งกลางคนื และกลางวนั หาเวลา ในชว งแหง การเชิญชวนสูการนมาซ จากประโยคท่ีวา ‘อัชฮะดุอันนามฮุ ัมมะดัรรอซลู ุลลอฮ’ และในอิกอมะฮ 129
ของการนมาซนายของเขากจ็ ะถกู กลาวขน้ึ อีกคร้ังหนง่ึ เปน เชน น้ีอยูน ิรันดรกาล และจะไมถูกลมื เลอ่ื นไปอยา ง เดด็ ขาด” อิบนิ อบีเอาญาอ กลาวขน้ึ วา “พอเถอะ! เลกิ พูดถงึ ชายผูนีไ้ ดแ ลว เพราะวา ฉันกย็ งั หาคาํ ตอบท่ี เหมาะสมไมไ ดเ ลยสาํ หรับเขา (วาเขาเปน ใคร) แตจะเปนการดีกวา ทีเ่ รานาจะมาคยุ กันในเรอื่ งของพระเจา และ การมอี ยขู องโลกนี้ ซึง่ มฮุ ัมมัดถือวาส่งิ ดังกลาวขางตน คอื รากฐานแหง ศาสนาของเขา” อิบนิ อบีเอาญาอ จงึ เรมิ่ สนทนาทนั ทตี อ ทศั นะความคดิ ของกลุมวตั ถุนิยม ท่ีมีความเชอ่ื วา โลกและสรรพ สิง่ ทมี่ ีอยูมไิ ดมกี ารคิดคํานวณหรือถูกสรางขน้ึ มาแตประการใด แตมนั เกดิ ขึน้ เองตามธรรมชาติ ซ่ึงมีมาแตด ัง้ เดิม และจะมีตอไปในอนาคตเชน นไ้ี ปเรอ่ื ยๆ และเมอื่ การสนทนาของเขามาถึงตรงน้ี มฟุ ฎฎอลไมสามารถที่จะอดทนรับฟงตอไปไดอกี ความโมโห เดอื ดพลา นขึ้นมาทนั ที เหมือนกับลูกฟตุ บอลที่อัดแนน ดว ยลมระเบดิ ขน้ึ เขาตะโกนออกไปวา “โอพวกศตั รูของ พระเจา พวกเจายงั จะปฏิเสธพระองคอีกหรอื ในขณะที่พระองคไดท รงสรรคสรางพวกเจา มาในรูปรางท่ีงดงาม ท่สี ุด พวกเจาไมตองคดิ ถงึ สิ่งอืน่ หรอก ใกลๆ ตวั นี่แหละ เจา ลองหนั มองดตู วั เองสกั นิด การใชชวี ิตของพวกเจา องคป ระกอบตางๆ ของรางกายของพวกเจา จงใครครวญซิ! ในส่งิ เหลานี้ แลว เจา กจ็ ะเหน็ วาเจาคือสงิ่ ท่ถี กู สราง ข้ึนมา มไิ ดเกดิ ข้ึนมาเองตามธรรมชาตดิ อก” อิบนิ อบเี อาญาอ ซ่ึงไมเ คยรูจกั มุฟฎ ฎอลมากอ นเลย จึงถามขึ้นวา “เจา เปนใครกัน! และอยใู นสํานกั คิด ใด? ถา หากเปนกุลมของมุตะกัลลิมนี (เทววิทยาอิสลาม) ก็จงมาถกกันในเรื่องของหลักศรัทธาและเทววทิ ยา อิสลามดีกวา และถาหากวา ทานมีหลักฐานทแ่ี ข็งแรงกวา เราก็จะยอมรับตามทาน และเชน กนั ถาหากมใิ ชกลุม ของสํานักเทววิทยาอสิ ลาม ส่ิงทท่ี า นพูดเม่อื ครูนก้ี ็มิใชค าํ พูดของทา นอยางแนนอน หรือวา ทา นเปนสหาย ของญะอฟร บุตรมุฮมั มัด (อิมามท่ี 6) แตเขามิเคยพูดจากบั พวกเราเชนนเี้ ลย เขาเคยไดยินในบางคร้ังถงึ คําพูด ของพวกเราทล่ี กึ ซงึ้ และหนกั กวาคําพูดทที่ านไดย ินเมื่อสักครูเสียอีก แตเ ราก็ไมเคยกิรยิ าวาจาอันหยาบคายและ แข็งกระดางจากเขาเลย เขาจะไมโ กรธแคนและใหรายผูอืน่ เขาจะน่งิ ฟงคําพูดของพวกเราจนจบดวยความเต็มใจ และสนใจดวยความอดทนย่ิง เขาจะไมพ ูดส่งิ ใดจนกวาเราจะกลาวสงิ่ ท่อี ยใู นใจของเราออกมาจนหมดสิน้ และมี ทีทาสนใจในคําพูดของเรา จนเราคิดวาเขายอมรับความคิดของพวกเราเสียแลว แตพอเราพดู จบ เขากเ็ ร่มิ ตอบ แกพวกเราดวยความเมตตาออ นนอ มท่ีสดุ ดวยประโยคสั้นๆ ที่เต็มไปดว ยความหมายพอที่จะปดก้นั ทางและตดั กาํ ลงั ในการหลบหลีกของพวกเรา และถา หากเจา คอื หนง่ึ จากสหายของเขา กจ็ งพดู คุยกับพวกเราเชนเขาซิ!” มฟุ ฎ ฎอลรูสกึ แคน ใจย่งิ นัก เขารบี ลกุ ออกจากมัสยดิ ทนั ที เขากลา วกับตนเองวา “แปลกจรงิ ! นีโ่ ลก อิสลามถูกเหยียดหยามถึงขนาดนเ้ี ชยี วหรอื ถึงกับวา บรรดาลัทธิวตั ถุนิยมสามารถทจ่ี ะเขา มานง่ั พดู คยุ เรอื่ งราว เก่ยี วกับการปฏเิ สธพระผูเปน เจาในมสั ยิดของทา นศาสดา แลว หรอื ” เขาจึงมุง ตรงไปยงั บานของทา นอิมามญะอ ฟร อัซ ซอดิก ทนั ที ทานอิมามกลา วกบั เขาวา “มุฟฎฎอล เกิดอะไรขน้ึ หรือจึงโมโหมาเชยี ว?” มุฟฎฎอล “โอบ ตุ รแหง ศาสดา เม่ือสกั ครูที่ผานมาฉนั อยใู นมัสยิดของทานศาสดา แตม ีพวกลัทธิวัตถุ นิยมสองคนมานัง่ ใกลๆ ฉัน ฉนั ไดย ินคําพูดการปฏเิ สธพระเจา และศาสดาของพระองคของพวกเขา ฉันจงึ แคน ใจย่งิ นัก พวกเขาพดู อยางนั้นอยางนี้ และฉันกไ็ ดตอบโตพ วกเขาไปเชนนี้” ทานอมิ าม “อยาเสียใจไปเลย! ตงั้ แตพรุงน้เี ปนตน ไปเจา มาหาฉันสิ ฉนั จะสอนบทเรยี นวชิ าวา ดว ย เอกภาพของพระเจาทีส่ ูงสงใหแ กเจา ซ่ึงจะครอบคลมุ ไปทุกเรอ่ื งราวแหงวทิ ยปญญาของพระเจา ในการสรางสรร พส่ิงทง้ั มวลบนโลกน้ี ท้งั ที่มีชีวติ และไมม ีชีวิต สัตวท ่ีบินไดแ ละสัตวท ่บี ินไมได ของที่รบั ประทานไดห รือของทไี่ ม 130
สามารถรับประทานได ตน พืช ตน หญา และอื่นๆ ที่มี ฉันจะสอนแกเ จา ซงึ่ มนั จะเปน การเพยี งพออยา งแนนอน สาํ หรับเจา และผูท่ขี วนขวายอน่ื และพวกวัตถุนิยมกจ็ ะทึง่ ในสงิ่ นีอ้ ยา งแนนอน พรุง นจี้ งมาเถิด ฉนั จะคอย” มฟุ ฎ ฎอลไดล าทานอมิ ามออกมาดวยความดใี จ เขากลาวกับตัวเองวา “ไมนกึ เลยวา ความโมโหอัน รุนแรงของเราในวันน้จี ะทาํ ใหเราไดพบกับสงิ่ ที่ดีเย่ยี มเชน นี้” คืนน้นั ท้ังคนื เขาไมไดห ลับเลยสักนิด เขาเฝาคอย อยา งเดยี ววาจะเชาเม่ือไหรเทา นั้นเอง เพ่อื ทจ่ี ะไดไ ปหาทานอิมามเรว็ ๆ ในความคดิ ของเขาแลว คาํ่ คนื นีช้ า ง ยาวนานเสยี เหลือเกิน เมือ่ ถงึ เวลารุงเชาเขารีบมงุ หนา มาหาทา นอิมามในทนั ที และขออนุญาตเขาไปขา งในและนั่งลง แต ทานอิมามไดเดินไปยงั อีกหองหนึง่ ซึง่ เปนหองท่ีมีไวรับรองแขกพเิ ศษเพยี งเทานั้น มุฟฎ ฎอลก็เดินตามทา นอมิ าม ไปทันที ทานอมิ ามน้นั เปน ผทู ี่รจู ักมฟุ ฎฎอลเปน อยา งดี ทานจงึ ถามมุฟฎฎอลวา “ถา จะใหฉนั เดากค็ ือ เมือ่ คนเจา ไมไ ดน อนใชไหม? และคอยอยูอยางกระวนกระวายใหเชา เร็วๆ เพ่อื ท่จี ะมาท่ีน”่ี มฟุ ฎฎอล “ใชค รบั ! ทา นพดู ถูกทัง้ หมด” ทา นอิมาม “มฟุ ฎ ฎอลเอย ! อัลลอฮ (ซบ.) มอี ยูกอนทกุ สรรพสงิ่ ท้ังมวล ส่ิงแรกสุดทีม่ ีอยแู ละสง่ิ ทา ยสดุ ของสง่ิ ที่มีอยูค อื พระองค” มุฟฎฎอล “โอบ ุตรแหง ศาสดา ทา นจะอนญุ าตหรอื ไมถาฉันจะบันทึกทัง้ หมดในส่ิงทที่ า นกลาวไวบน แผน กระดาษ” ทา นอิมาม “จะเปนไร เขยี นซิ” นบั เปน เวลาสี่สิบวันติดตอกันท่ีมุฟฎฎอลมาหาทา นอิมาม และเร่มิ เรยี นตัง้ แตเ ชาจนกระท่ังบาย ทา นอิ มามสอบบทเรียนวิชาเอกภาพของพระเจา จนสมบูรณ มฟุ ฎฎอลไดบ นั ทึกไวท ั้งหมด และถือวา เปนบทบันทึกที่ สมบรู ณย ิ่ง และหนังสอื ทมี่ ีช่ือวา ‘เตาฮดี มฟุ ฎฎอล’ ทม่ี ขี ายอยใู นทอ งตลาดขณะน้ถี ือไดว า เปนหนงั สือทไ่ี ด อรรถาธิบายถึงวิทยปญ ญา แหงการสรางสรรพส่ิงทั้งมวลของอัลลอฮ (ซบ.) อยางสมบรู ณแ บบที่สุด ซึ่งเปน มรรค ผลของบทเรียนส่ีบทขางตนนัน้ เอง. (1) 96 การแขง ขันวงิ่ อฐู บรรดามสุ ลิมสว นมากมคี วามสนใจในการแขงขนั ว่ิงมา แขง ขนั วง่ิ อฐู และแขงขันยิงธนู หรืออืน่ ๆ ในประเภทเดียวกันนเี้ ปน อยางมาก เพราะอสิ ลามถือวา การเรียนรูและเสรมิ สรางความ ชํานาญตอสิ่งดังกลาว (การขมี่ า การข่อี ูฐ การยงิ ธน)ู นัน้ จําเปนอยางย่ิงสาํ หรับทหารทกุ คน และ (1) บฮิ ารุล อนั วาร กติ าบบตุ เตาฮีด เลม 3 หนา 57. 131
เปนแบบฉบบั ประการหนง่ึ ในอิสลาม แมแ ตท านศาสดาเอง ซึ่งเปนผนู ําสงู สดุ ในมวลหมมู สุ ลิม ก็ เคยเขารวมแขง ขันดวยตวั ทา นเองมาแลวเชน กนั และสิง่ น้ี (การแขงขัน) ถือเปน สงิ่ ทด่ี ีทส่ี ุดในการเชิญชวนบรรดามุสลมิ โดยเฉพาะชายหนมุ ใหไดเ รยี นรูทกั ษะตา งๆ ในการเปน ทหาร จนกระทั่งแบบอยางดงั กลาวไดมกี ารปฏิบตั กิ นั อยา ง แพรหลายในทส่ี ุด และบรรดาผูนาํ ตา งๆ ในอสิ ลาม ก็ไดเชิญชวนมวลมสุ ลิมใหป ฏบิ ตั ิในแบบอยา ง นม้ี าชา นานแลว จึงทาํ ใหจ ิตวิญญาณแหง ความกลาหาญชาญชัยนีถ้ กู รักษาไวใ นสังคมมุสลมิ ตลอดไป บางครงั้ ทานศาสดา จะข่อี ฐู หรือข่มี า และทานจะเขาแขงขนั กบั ผรู ว มแขง ขนั คนอนื่ ๆ ดว ย ตวั เอง ทา นศาสดามอี ูฐอยหู นงึ่ ตวั ซ่ึงรจู กั ในนามของ ‘อฐู เรว็ ’ เพราะทุกครั้งที่ลงแขง ขันมนั จะมชี ยั เหนอื อฐู ตวั อืน่ ๆ ทกุ คร้งั จงึ ทาํ ใหบคุ คลบางกลุมท่ีมีจติ ใจงายๆ ซื่อๆ มคี วามเช่ือวา สาเหตทุ อ่ี ูฐของ ทา นศาสดาไดร ับชัยชนะในทกุ สนามของการแขงขันก็เพราะมันเปนอฐู ของศาสดา นัน่ เอง พวกเขา จงึ เชื่อวา ในโลกนค้ี งไมม อี ฐู ตัวใดสามารถจะมาเปน คแู ขง กับอฐู ของทา นศาสดาไดอีกแลว จนกระท่งั วันหนึ่งมชี ายอาหรบั ที่อาศยั อยใู นทอ งทะเลทราย เดนิ ทางมายงั นครมะดีนะฮ พรอมกบั อูฐของเขา และกลา วทา ที่จะแขง ขันวงิ่ อฐู กับทา นศาสดา บรรดาสาวกและคนอื่นๆ ตา งก็ ออกไปนอกเมอื งอยา งมากมาย เพ่อื ชมการแขง ขันวงิ่ อฐู ของทา นศาสดา ดว ยความครกึ ครื้น เนอ่ื งจากพวกเขาทราบวาทา นศาสดาจะเปนคนข่ีอฐู ดวยตวั ของทา นเองดว ย ทา นศาสดาและชายอาหรบั ผนู นั้ เริ่มออกจากจุดสตารท และมงุ สเู สน ชัย ซง่ึ มีผชู มคอยดูอยู วา อฐู ของใครจะมาถงึ กอ น ในหมบู รรดาผชู มตางก็คอยอยางใจจดใจจอ แตท วา เหตกุ ารณมไิ ด เปนไปตามทพ่ี วกเขาคาดหวงั ไว อฐู ของชายอาหรบั นนั้ วิง่ ท่งิ หา งอฐู ของทา นศาสดา และเขา เสน ชยั ในทสี่ ุด จงึ สรางความผดิ หวังอยา งใหญห ลวงแกบ คุ คลกลุมหนึง่ ทีม่ ีความเชื่อในความศกั ดิส์ ทิ ธ์ิ ของอูฐของทา นศาสดายิ่งนกั พวกเขารสู กึ ผดิ หวงั และเสยี ใจเปนอยา งมาก ทา นศาสดาจึงกลา วแก พวกเขาเหลา น้นั วา “พวกเจาจะผิดหวงั และเสียใจไปทําไมกนั อูฐตัวน้ีของฉันมชี ยั ชนะเหนืออูฐอื่นๆ ทุกตวั มนั หยิ่งทะนงตวั ของมนั เองและคดิ วา คงจะไมมีอูฐตวั ใดท่ีจะเอาชนะมันไดอกี แลว แตกฎแหง พระผูเปน เจา คือ ในทุกๆ กลุมชนจะ มอี กี กลุมชนหน่ึง และหลังจากทุกๆ การขึน้ สทู ่ีสงู จะมกี ารลงสูที่ต่ํา และสาํ หรับทุกๆ การหย่งิ ทะนงจะมกี ารพา ย แพอ ยูเสมอไป” ดว ยคําพูดขา งตน ของทานศาสดา ไดอ รรถาธบิ ายวทิ ยปญ ญาอนั สงู สง แกพ วกเขา และ สรา งความกระจางตอ ความคดิ ท่ีผิดๆ ของพวกเขาในทีส่ ดุ . (1) (1) วะซาอีล เลม 2 หนา 472. 132
97 ชายครสิ เตียนที่กระหายนา้ํ ทานอมิ ามญะอฟร อซั ซอดกิ กําลงั เดินทางสเู มอื งมกั กะฮและนครมะดนี ะฮ พรอ มกบั การ ติดตามของ มะซอดิฟ คนรับใชทรี่ ูจักกนั ดีของทา นอิมาม ในระหวา งทางนนั้ เอง สายตาของทงั้ สองคนกพ็ ลันเหน็ ชายผหู น่งึ ที่อิงกายของเขากับ ตน ไมอ ยู ซ่งึ มใิ ชเปนอาการของคนธรรมดา ทา นอมิ ามจงึ กลา วแกม ะซอดิฟวา “เรามงุ ไปหาเขากนั เถิด บางทีเขาคงจะหวิ กระหายนา้ํ กเ็ ปน ได จนเปน ลมเสยี แลว” เมอ่ื เขา ไปใกล ทา นอิมาม จงึ ถามชายผูนน้ั วา “ทา นกระหายนา้ํ หรือไม? ” ชายผนู ั้นตอบวา “ใชแ ลว !” ทานอมิ ามจึงสงั่ ใหม ะซอดิฟลงไปและนาํ นาํ้ ไปใหเขาด่มื แตจากรปู รา งหนา ตาและการ แตง กายของชายผนู นั้ ทําใหท ราบไดทนั ทวี า เขามใิ ชม สุ ลมิ แนน อน แตเปน ครสิ เตยี น หลงั จากทีท่ า นอิมามและมะซอดฟิ จากมาไกลพอสมควร มะซอดฟิ จึงถามปญหาหนง่ึ ตอ ทา นอิมาม กค็ อื “การบรจิ าคทาน (ซอดาเกาะฮ) แกช าวครสิ ตเ ปน ส่ิงทอี่ นุญาตหรือไม?” ทานอิมามกลา ววา “ในชว งทจ่ี ําเปน เชน เมื่อสกั ครนู ี้ ถอื วาเปน การอนญุ าต”. (2) 98 แขกของทา นอิมามอะลี ชายผหู นงึ่ พรอ มกบั ลูกชายของเขามาเปน แขกของทา นอิมามอะลี ทานอิมามจึงใหก าร ตอ นรบั บุคคลทงั้ สองอยา งสมเกียรติ และเช้อื เชญิ ใหนง่ั ลงและทา นเองก็น่ังลงตอหนา พวกเขา เม่ือ ถึงเวลารบั ประทานอาหาร สาํ รับอาหารถกู ยกมาวาง และทงั้ หมดกเ็ รมิ่ รว มรบั ประทานอาหาร ดวยกนั หลงั จากทร่ี บั ประทานอาหารเสรจ็ ส้นิ แลว กนั บรั คนรับใชผ หู นง่ึ ของทา นอมิ ามอะลี ไดนํา ผา ขนหนู ภาชนะใสน ํ้าและเหยอื กน้ําเขา มาเพอื่ ลางมือหลงั จกาการรบั ประทานอาหารเสร็จแลว ทานอมิ ามอะลรี บั สิง่ ตา งๆ ขา งตนมาจากมือของกนั บัร และขยับไปขางหนาเพ่อื ทจ่ี ะรินนา้ํ ใหแ ขก ของทานเพอื่ ทาํ ความสะอาดมือทง้ั สอง แขกของทา นเมอ่ื เห็นเชน นั้นกผ็ ละถอยหลงั ในทนั ใด และ กลาววา “ไมม ที างอยา งแนน อนทีฉ่ นั จะยกมอื ของฉนั ใหท านรินน้ําใหเพอ่ื ทาํ ความสะอาด!” ทานอมิ ามอะลีกลาววา “พ่ีนองของทา นก็เหมอื นกับศรี ษะของทาน จะไมแยกออกจาก ทา นแนน อน เขาประสงคท ี่จะรับใชทาน และอลั ลอฮ (ซบ.) กจ็ ะทรงมอบรางวัลแกเขาแทนการรับ ใชน นั้ แลวเหตใุ ดทา นจงึ หกั หามกิจการท่ีมีผลบุญของเขาละ” (2) วะซาอลี เลม 2 หนา 50. 133
แขกผนู ้นั กย็ งั ยืนกรานปฏเิ สธเชนเดมิ จนในท่สี ุดทานอมิ ามอะลีไดสาบานแกเขาวา “ขอ สาบานวา ฉันเพียงประสงคท ่ีจะไดรับเกียรติตอ การรบั ใชพ ี่นอ งผูศรทั ธาเพยี งแคนน้ั ทานจงอยาได ปฏเิ สธการปฏบิ ัตขิ องฉนั เลย” ในทสี่ ดุ แขกผนู ้นั กย็ นิ ยอม ทจ่ี ะใหท านอิมามอะลีรนิ นา้ํ เขาเพอ่ื ชําระลางมือดว ยความ ละอายใจเปน อยา งยงิ่ ทา นอมิ ามอะลีกลาววา “ไดโปรดเถดิ ! จงชาํ ระลางมอื ทง้ั สองของทา นให สะอาดที่สุด อยา ไดเ กรงอกเกรงใจแตอยา งใด จงลา งตามสบาย เสมือนดังวากนั บรั เปน คนรินนา้ํ ลา งมือเพอ่ื ทาํ ความสะอาดมอื ท้งั สองใหแกทา นเถิด” เม่ือทานรินนาํ้ ใหแ ขกลา งมอื จนสะอาดแลว ทานจงึ หนั ไปทางบุตรชายผูสงู สงของทา นคอื มุฮมั มัด บนิ อัลฮะนะฟย ะฮ วา “เจาจงรินนํ้าเพ่ือชาํ ระลา งมือใหแกบ ตุ รชายของเขาเถิด ฉนั ไดริน นํ้าใหแกบิดาของเขาเพราะฉันเปนบดิ าของเจา ดงั นนั้ เจา จงรนิ นาํ้ แกบุตรชายของเขา ถา หากวา บิดาของเด็กชายผูนม้ี ิไดอยู ณ ท่นี ้ี และเขาเปนแขกของเราแตเ พียงผเู ดยี ว ฉันกจ็ ะเปนผรู ินนา้ํ เสยี เอง แตทวา อลั ลอฮ (ซบ.) ทรงรักและพอพระทยั ที่จะทาํ ใหมคี วามแตกตา งซงึ่ กนั และกันในสถานที่ ซึง่ บดิ าและบตุ รชายอยดู ว ยกันทงั้ สองคน” มฮุ มั มัด จึงลกุ ขึ้นปฏิบัตทิ นั ทีตามคาํ สง่ั ของบดิ า หลงั จากทีท่ า นอิมามฮะซนั อสั กะรี ไดเ ลาเร่ืองนจ้ี บลง ทา นไดกลา วขน้ึ วา “ชอี ะฮทแ่ี ทจริง จาํ เปนตอ งปฏิบตั ิเยย่ี งน”้ี . (1) 99 บรรดาผูเปนโรคเร้ือน หลายตอ หลายคนในนครมะดนี ะฮท ่ปี ว ยเปนโรคเรอื้ น ดงั นน้ั บคุ คลเหลา นนั้ จึงเปน ท่ี รังเกยี จในหมผู ูคนทวั่ ไปเปน ย่งิ นกั ทกุ คนตา งก็ตตี ัวออกหาง ความนาสงั เวชจงึ มีแกพ วกเขา เหลา น้ัน ทงั้ ยังตองทนทุกขท รมานจากการเปนโรคเรอื้ นทางดา นรา งกาย ซํ้ายงั ตองมาทนทุกข ทรมานทางจติ ใจอีก เน่อื งจากเปน ท่รี ังเกียจเดียดฉนั ฑของผคู นทว่ั ไป เมือ่ พวกเขาเหน็ วา ผคู นทั่วไปตา งมีความรงั เกยี จ พวกเขาจึงรวมตวั กนั อยแู ตใ นหมพู วกเขา ไมย งุ เกยี่ วกบั ผใู ด วันหนง่ึ ในขณะที่พวกเขากําลงั นงั่ รวมวงรบั ประทานอาหารกนั อยนู ้ัน ทานอมิ ามอะลี บตุ รฮเู ซน ซัยนลุ อาบดิ นี ไดผ า นมาทางนั้นพอดี พวกเขาจงึ เชือ้ เชญิ ทานอมิ ามใหร ว มรับประทาน อาหารกับพวกเขา แตทา นอิมามไดขอตวั และกลา ววา “ฉนั ถือศีลอด ถา หากวา ฉนั มไิ ดถือศลี อด ฉันกจ็ ะรว มรับประทานอาหารกบั พวกทา นแนนอน ถาเชนนน้ั ฉนั ขอเชิญพวกทา นมาเปน แขกของ ฉันท่บี า นเสยี เลย” กลาวจบทา นอิมาม จงึ จากไป (1) บฮิ ารลุ อนั วาร เลม 9 พมิ พตับรีซ หนา 598. 134
เมอื่ วนั นดั มาถงึ ทา นอมิ ามไดสงั่ ใหป รุงอาหารทแ่ี สนอรอ ยเตรยี มเอาไว บรรดาแขกก็เร่ิม ทยอยเขา มา สาํ รับอาหารถูกจดั ขน้ึ อยา งสมเกียรติ ทงั้ หมดจงึ เริม่ รบั ประทานอาหาร และ เชน เดยี วกนั ทา นอิมามก็ไดน ั่งรว มวงรับประทานอาหารรวมกบั พวกเขาดวย. (1) 100 บตุ รของซยิ าบะฮ อับดุรเราะฮมาน บตุ รซยิ าบะฮ กฟู ย ชายหนมุ ผหู นึง่ ซง่ึ สญู เสียบดิ าของเขาไปไมน านมาน้ี เอง นับเปน สงิ่ ทข่ี ื่นขมสําหรบั เขาเปน ยง่ิ นัก เนื่องจากฐานะครอบครวั ของเขากย็ ากจนอยแู ลว ยัง จะมาสูญเสยี ผูเปน หวั หนา ของครอบครัวไปอีก วนั หนงึ่ ขณะทเี่ ขาน่ังอยูในบา น มเี สยี งเคาะประตดู งั ข้ึน เมือ่ เขาไปเปดประตกู ็พบวา เปน เพอ่ื นของบิดาของเขาเอง ชายผนู นั้ ไดก ลา วแสดงความเสยี ใจตอเขา พรอมทงั้ ปลอบประโลมเขา จากน้ันจงึ ถามอับดรุ เราะฮม านวา “บิดาของเจาไดทงิ้ ทรพั ยสนิ ไวบ า งหรือเปลา ?” อับดุรเราะฮม าน ตอบวา “เปลาเลยครับ” ชายผนู ั้นกลา ววา “นเี่ งนิ จาํ นวน 1,000 ดริ ฮมั เจา จงรับไป แตจ งพยายามทาํ ใหเ งนิ จํานวน นีเ้ ปนเงนิ ทนุ และนํากําไรจากเงนิ กอนนีม้ าใชจา ย” อับดุรเราะฮมานรูส ึกปลาบปล้ืมใจและดีใจยง่ิ นกั เขานาํ ถุงเงนิ จาํ นวนนนั้ ไปหามารดาและ เลาเร่ืองราวใหฟง จนจบ จากคาํ แนะนาํ ที่ชายผนู น้ั (เพ่ือนของบดิ า) ใหไว ทาํ ใหเ ขาคิดถึงการคา ขาย ในวนั เดยี วกนั นน่ั เองเขากม็ ิไดรอชา เขาไดนาํ เงินไปซื้อสินคา และเปดรานคา ขนึ้ และมุง มั่นอยู กบั การคา ขายเรือ่ ยมา ตอ มาไมนานกจิ การคา ขายรดุ หนาไปไดด ว ยดี เขาคดิ คํานวณดูเขาจึงเหน็ วาดว ยเงนิ ทนุ กอ นนน้ั เขาจึงสามารถใชช วี ติ อยูอ ยางไมลาํ บากอกี ตอไป แถมยังมกี าํ ไรเปนเงนิ เพิม่ ขนึ้ มาอีกมาก เขาจึงคดิ ทจ่ี ะไปประกอบพธิ ฮี ัจญ เขาจงึ ไปปรกึ ษากบั มารดา มารดาไดก ลาวแกเขาวา “อยา งแรก เจาตองไปหาเพ่อื นของบดิ าของเจา เสยี กอ นและคนื เงินทนุ ท่เี ตม็ ไปดวยสริ มิ งคล ทท่ี าํ ใหความ เปน อยูของเราดีขึน้ แลวคอยไปมกั กะฮ” อบั ดรุ เราะฮมานจงึ ไดไ ปหาชายผนู ้ัน และนาํ ถุงเงนิ จํานวน 1,000 ดิรฮมั ไปดว ย และได วางลงตอหนาเขา และกลา ววา “จงรบั เงนิ ของทา นคืนเถดิ ” ชายผนู ้ันจงึ คดิ ไปวา จํานวนเงินทีเ่ ขาใหไปนน้ั คงจะนอ ยเกนิ ไป อับดุรเราะฮม านจงึ นําเงิน จํานวนดงั กลา วอยางครบถว นมาคนื แกเ ขาในชว งเวลาไมน านนกั เขาจงึ กลา วขึน้ วา “ถาหากวาเงนิ จํานวนนี้มนั นอ ยเกินไปสาํ หรับเจา ฉนั ยนิ ดจี ะใหม ากกวา นน้ี ะ!” (1) วะซาอลี เลม 2 หนา 457. 135
อบั ดรุ เราะฮมาน กลา ววา “เปลาเลย! มันมากไปเสียดว ยซํา้ มนั เปน เงนิ ทเ่ี ตม็ ไปดว ยสริ ิ มงคลยงิ่ นกั แตทฉี่ นั นาํ มาคืนแกทา นเนอื่ งจากวาฉนั มเี งนิ ทนุ สาํ หรับตัวเองแลว ในขณะน้ี ฉนั จงึ ไม มีความจาํ เปน ตอ เงนิ จาํ นวนน้อี ีกตอไป ฉนั มาเพือ่ ทีจ่ ะขอขอบคุณในการชว ยเหลือของทา นที่ทา น หยิบยนื่ ใหฉนั พรอ มทงั้ คืนเงินจาํ นวนนแ้ี กท าน โดยเฉพาะฉนั นัน้ ตอ งการทจ่ี ะเดนิ ทางไปประกอบ พิธฮี ัจญท ่ีนครมกั กะฮ ฉนั จงึ ประสงคท ่จี ะใหเงนิ จาํ นวนน้ขี องทา นกลบั คืนมาเปน ของทา นดงั เดมิ ” เม่ืออับดุรเราะฮมานกลาวจบ เขาจึงขอลากลบั บานและมงุ สูนครมกั กะฮใ นเวลาตอ มา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจตา งๆ ในการประกอบพธิ ีฮัจญ เขาไดไปยงั นครมะดนี ะฮและตดิ ตาม กลมุ ชนกลุมหนึ่งเพอ่ื เขา พบทา นอิมามญะอฟ ร อซั ซอดกิ ในบา นของทา นอิมามเนอื งแนน ไปดวย ผคู นจํานวนมาก อบั ดรุ เราะฮมานซง่ึ เปน ชายหนมุ รนุ กระทง เขารูต ัวเองดจี งึ เขาไปนัง่ ในแถว หลังสุด และเม่อื การชมุ นมุ ใกลจ ะเสร็จผูคนเรม่ิ นอ ยลง ทานอมิ ามไดชี้มายงั เขาและเรยี กเขาไป ใกลๆ และถามวา “เจา มีธรุ ะอะไรหรือ?” อับดุรเราะฮม าน “ฉนั คืออับดุรเราะฮมาน บตุ รของซิยาบะฮ กฟู ย บะญลั ล”ี ทานอมิ าม “บิดาของเจา สบายดีหรอื ?” อับดุรเราะฮมาน “บิดาของฉนั ไดกลบั สูค วามเมตตาของอลั ลอฮแลว ” ทา นอมิ าม “โออลั ลอฮ โออ ลั ลอฮ! ขอพระองคท รงเมตตาเขาดว ยเถดิ และเขาไดทง้ิ มรดก อนั ใดไวใ หแกเ จาบางหรือไม? ” อบั ดรุ เราะฮม าน “เปลาเลยครบั ” ทา นอมิ าม “แลวเจา มาประกอบพิธีฮจั ญด วยส่ิงใดกัน?” อับดรุ เราะฮมาน “เร่ืองมนั เปน เชน น้คี รบั หลงั จากการจากไปของบดิ า พวกเรามีความ เปนอยอู ยา งยากลําบากมาก ปญหาตางๆ รุมเรา มาทพี่ วกเรา จนกระทงั่ วนั หนงึ่ เพอื่ นของบิดาของ ฉันไดใ หหยบิ ย่ืนเงินจาํ นวน 1,000 ดิรฮมั แกฉ ัน พรอ มทงั้ การแสดงความเสยี ใจตอ การจากไปของ บดิ าของฉัน ฉนั จึงนาํ เงนิ จาํ นวนน้นั ไปลงทุนในกจิ การรานคา และฉนั มาประกอบพิธฮี จั ญใ นครง้ั น้ี ก็เพราะผลกําไรจากเงนิ ทนุ จาํ นวนนนั้ นนั่ เอง…” เมอ่ื อบั ดุรเราะฮมานเลา เรื่องราวมาถงึ ตรงนี้ ทา นอิมามไดเ อยถามขนึ้ กอ นท่อี ับดรุ เราะฮ มานจะเลา ตอวา “แลว เจา ทาํ อยางไรกบั เงนิ 1,000 ดริ ฮมั ของเพ่อื นของบดิ าของเจา ละ?” อับดรุ เราะฮม าน “ฉนั ไดนําไปคืนกลับแกเ ขาแลว กอ นการมาประกอบพธิ ฮี จั ญ ตาม คําแนะนําของมารดาของฉนั ” ทา นอมิ าม “ดมี าก! ถา เชน นัน้ ตอนนี้เจา ตอ งการคาํ ตกั เตอื นหนึง่ จากฉนั หรอื ไม? ” อับดรุ เราะฮมาน “ดว ยความยินดยี ง่ิ ครบั ” 136
ทา นอมิ าม “มันเปน สงิ่ จาํ เปนยง่ิ สาํ หรบั เจา ท่ีจะตองเปน ผูทีซ่ ื่อสัตยสจุ รติ มนษุ ยท เี่ ขาเปน ผูท ีซ่ ือ่ สตั ยส จุ ริต เขาจะมสี วนรว มในทรพั ยส นิ ของหมปู ระชาชน”. (1) 101 แขกของผพู พิ ากษา มีชายคนหนงึ่ ไปเปน แขกธรรมดาคนหนึง่ ของทานอิมามอะลี เปนเวลาหลายวนั แตแทจ ริง แลว เขามใิ ชแขกธรรมดาเสยี ทเี ดยี ว เขามเี รือ่ งทีเ่ ก็บไวใ นใจโดยมิไดเปด เผยออกมาตัง้ แตแ รก เรอื่ ง กค็ อื ชายผนู ้มี ปี ญ หาทะเลาะกับบุคคลหนง่ึ และคอยใหอ ีกฝายมาหาทา นอิมามอะลี และขอให ทานอิมามตัดสนิ ชขี้ าด ทา นอมิ ามกลาววา “ถา เชน นน้ั ในขณะนท้ี า นอยใู นฐานะผมู ารอ งทกุ ขใ น เรอื่ งปญหาใชห รอื ไม?” ชายผนู ัน้ ตอบวา “ใชค รบั ” ทานอมิ ามอะลีจึงกลา ววา “ถา เปน เชน นนั้ ฉันก็ตอ งขออภัยดว ยทตี่ ง้ั แตว ันนีเ้ ปน ตนไปฉนั ไมส ามารถทีจ่ ะตอ นรบั ทา นในนามของแขกไดอีกตอ ไป เนือ่ งจากทานศาสดาเคยกลา วเอาไวว า ใครกต็ าม ที่ปญหาการทะเลาะววิ าทถกู นาํ ไปรองเรียนตอผพู พิ ากษา ผพู พิ ากษาไมมีสทิ ธทิ ี่จะ ตอนรับขับสูฝายหนง่ึ ฝา ยใดเพยี งลําพงั นอกเสียจากทงั้ สองฝายจะมาดว ยกนั ทง้ั คูเพยี งเทา นน้ั ”.(1) 101 คําพูดของชาวตลาด ในชวงสมัยทท่ี านอิมามอะลี บตุ รมูซา อรั รฎิ อถกู เชอื้ เชญิ จากมะอม นู (คอลฟี ะฮในสมยั นั้น) ใหไปยงั เมอื งคุรอซาน และทา นอิมามก็ยอมรบั การเปนมกฎุ ราชกุมาร ดวยเหตจุ าํ เปน แกม บังคบั ในที่สดุ (1) ซะฟนะตุน บิฮาร เลม 2 หมวด อะบะดะ. (1) วะซาอีล เลม 3 หนา 395. 137
เซด นองชายอีกคนหน่งึ ของทานอิมามกอ็ ยใู นเมืองคุรอซานดวยเชน กนั เซดซ่งึ ถือวา ตนเองกม็ ีเชือ้ สายมาจากครอบครวั ของทา นอมิ ามเชน กนั และตง้ั ตนกอรฐั ประหารขึ้นในนครมะดี นะฮ ซง่ึ สรางความโกรธแคนไมพอใจแกมะอมนู เปน ยงิ่ นกั แตทวา เขาจาํ เปน ท่ีจะตอ งรกั ษา เกยี รติยศของทา นอมิ ามรฎิ อเอาไวด วย เขาจงึ ตอ งวางตัวทางการเมอื งใหเหมาะสมยิ่งขนึ้ ดว ยเหตุ นีเ้ องเขาจึงไมค ิดทจี่ ะสังหารหรือส่งั จับกมุ นอ งชายของทา นอมิ ามแตอ ยา งใด วนั หนงึ่ ในการประชมุ ทวั่ ไป ซึ่งมผี เู ขา ประชมุ รว มเปน จาํ นวนมาก และทา นอมิ ามกาํ ลงั ปราศรัยแกบ ุคคลเหลานน้ั ขณะเดยี วกนั เซดซงึ่ อยูอกี ดานพรอ มสมคั รพรรคพวกจาํ นวนหนงึ่ ไดรอง ตะโกนเสยี งดงั ข้ึนเพอื่ เรียกรอ งความสนใจ ดวยการกลา วถงึ ความประเสรฐิ ของลกู หลานแหง ทา น ศาสดามุฮัมมดั วาสงู สง กวา ผอู นื่ และมีความแตกตางจากบคุ คลธรรมดาทว่ั ไป เขาไดก ลา ววา เชือ้ สายของพวกเราเปน อยา งนน้ั เช้ือสายของพวกเราเปน อยางน้ี เมอ่ื อมิ ามไดย นิ คาํ พดู ของเซดและ ไดหันไปมองเซดในทนั ใด และกลา วขน้ึ ดว ยเสยี งอนั ดงั วา “โอเ ซด” ทกุ คนในทช่ี มุ นุนตา งหนั ไป ทางอมิ ามทงั้ หมด ทานอิมาม จึงกลาววา “โอเซดเอย! เจาไปเชื่อคําพดู ของพวกชาวตลาดในเมืองกูฟะฮไดอยา งไร? สาํ หรบั สงิ่ ท่ีเจา ไดยินมาวา อัลลอฮ จะปกปอ งลูกหลานของฟาฏิมะฮ ซะฮรอ จากไฟนรก นนั้ หมายถงึ ลกู ๆ ของ ฟาฏิมะฮ ซะฮรอ คอื ฮะซนั และฮูเซน กบั บุตรสาวอีกสองคนเทา นนั้ ถา หากมันเปน อยา งท่ีเจา พดู จรงิ ๆ ทวี่ าลกู หลานของฟาฏมิ ะฮ ซะฮร อ แตกตางจากบุคคลธรรมดาทั่วไป ก็เทา กับวา พวกทา น คือผูทีไ่ ดร ับความผาสกุ อยา งแนแ ทโดยปราศจากขอคลางแคลงใดๆ ดังนน้ั เจา กค็ งจะมีความ ประเสรฐิ กวา อมิ ามมูซา บนิ ญะอฟ ร บิดาของเจานะซิ! เพราะเนอ่ื งจากบดิ าของเจา คือผทู เ่ี ฝา ปฏบิ ตั ิตามคําสงั่ ขององคอภบิ าลอยางเครง ครดั เปน ผูท อี่ ยูกบั การนมาซในยามค่าํ คนื ถือศีลอดใน ตอนกลางวนั แตเจา ละ! คอื ผูท ่ีขัดขืนคาํ ส่ังของพระองค เจาคอื ผทู ่ีกระทาํ บาป ดังน้นั ถา หากมัน เปน จริงอยางทเี่ จาพูด กห็ มายความวา บดิ าของเจา และเจาและผทู ีร่ อดพนและคอื ผูท่ไี ดรับความ ผาสกุ อนั ไพบลู ยทัง้ สองคน เชน เดยี วกนั ก็แสดงวาเจา มคี วามประเสริฐกวา บิดาของเจา เจามชี ยั ชนะเหนือบดิ าของเจานะซ!ิ เพราะบิดาของเจาตอ งอยูก ับการปฏิบตั ิการงานท่ดี กี อ น จึงจะไดร ับ ความผาสกุ นน้ั ในทางตรงกนั ขาม เจา มติ องปฏิบัตกิ ารงานอนั ใดเลย ไมต อ งอตุ สาหะพยายาม ใดๆ เจากไ็ ดร ับสิ่งนน้ั เหมอื นกบั บิดาของเจาดวย” ทานอิมามอะลี ซัยนลุ อาบดิ ีนไดก ลาวเอาไววา “การกระทําความดขี องพวกเรา ซึ่งเปน วงศว านของทา นศาสดานน้ั มีรางวลั มากถงึ สองเทา และการปฏบิ ัติในสิง่ ท่ีไมดขี องพวกเราก็จะมี การลงโทษเพม่ิ เปน สองเทา ดวยเชน กัน เหมือนกบั ทคี่ มั ภรี อ ลั กุรอานไดสาธยายเอาไวใ นเรื่องราว ของบรรดาภรรยาของทา นศาสนดามุฮัมมดั เอาไว เพราะวาเมื่อบคุ คลหนง่ึ จากครอบครัวของเรา ปฏิบัติการงานทีด่ อี ยา งหนงึ่ ซง่ึ ในสภาพท่ีแทจริงแลว เขาไดป ฏบิ ตั กิ ารงานทดี่ ถี ึงสองอยา งดว ยกนั การงานแรกกค็ อื การงานที่ดี เหมือนกบั ทบ่ี คุ คลอ่ืนปฏิบัติ และการงานอีกอยางหนึ่งที่มาพรอ มกบั การปฏบิ ตั แิ รกกค็ อื เขาไดรกั ษาไวซ ง่ึ ศกั ดศ์ิ รีและเกยี รตยิ ศของทา นศาสดามฮุ มั มดั น่ันเอง และ 138
เชน เดยี วกนั ถาเมอ่ื บคุ คลหนง่ึ จากครอบครวั ของเรากระทําสงิ่ ท่ไี มด ี ก็เทา กบั เขากระทาํ บาปถึง สองอยางพรอมกนั นั้นกค็ ือการกระทาํ บาปที่เหมอื นกับคนทว่ั ไปกระทาํ และบาปทส่ี องท่ีมาพรอม กับบาปแรกนนั่ ก็คอื เขาไดลบหลูแ ละหยาบเกยี รตขิ องทา นศาสดามุฮมั มดั นนั่ เอง” เมอ่ื ถึงตรงนท้ี า นอิมามรฎิ อ ไดห นั หนา ไปทางฮาซนั บตุ ร มซู า วชั ชา แบกดาดีย ซงึ่ เปน ชาวอิรกั และเขา รวมการชมุ นุมในครง้ั นดี้ วย ทา นอมิ ามไดถามเขาวา “ประชาชนชาวอริ ักอาน โองการกรุ อาน โองการนนี้ อ้ี ยา งไร?” ‘แทจ ริงเขามไิ ดเ ปนคนหนงึ่ ในครอบครวั ของเจา แทจ ริง การกระทําของเขานัน้ ไมด ี’ (ซูเราะฮฮ ดู อายะฮท่ี 46) เขาตอบวา “โดยสว นมากกจ็ ะอา นวา (หมายความวา บตุ รชายคนนขี้ องเจา (นูฮ) เปนผูทก่ี ระทาํ บาป) แตทวา บางคนทเี่ ขาไมเ ชือ่ วา อลั ลอฮ จะมคี วาม โกรธกริว้ กบั บตุ รของศาสดา แนน อนพวกเขาก็จะอานวา (หมายความวา เขา คือบุตรของมนษุ ยท ี่ชว่ั ราย เขามใิ ชบุตรของเจา (ศาสดานฮู ) ) และพวกเขากลา วกันวา บุตรคนนม้ี ิ ไดม าจากเชอ้ื สายของศาสดานูฮ แตอ ยา งใด อลั ลลอฮ ไดก ลา วแกเ ขา (ศาสดานฮู ) วา “โอน ฮู เอย! เขามไิ ดม าจากเชื้อสายของเจา ถา หากวา เขาคอื เลือดเน้อื เชือ้ สายของเจาแลว ไซร ขาจะทาํ ใหเขาเปน ผทู รี่ อดพน ” ทานอิมามรฎิ อ กลาววา “หาเปนเชน นนั้ ไม! เขาคือบุตรของนูฮและมาจาก เลอื ดเน้ือเชอื้ ไขของศาสดานฮู แตเ พราะเขาคือผูทีป่ ฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทไ่ี มด แี ละขัดขืนคาํ ส่งั ของอัลลอฮ ความสมั พนั ธท างดา นจติ วญิ ญาณระหวา งเขากบั ศาสดานูฮจงึ ถกู ตดั ขาดทนั ที พระองคไดทรงตรัส แกทา นศาสดานูฮ วา “บตุ รของเจา คนน้ีคอื คนไมด ีและปฏิบัตใิ นสง่ิ ทชี่ ั่วชา ดวยเหตนุ เ้ี อง เขาจงึ ไมมที อี่ ยูใ นแถวของบรรดาผทู ่ปี ฏบิ ตั สิ ่ิงดงี าม (ซอลฮิ นี )” เรอ่ื งครอบครวั ของเราก็ เหมือนกบั เหตกุ ารณน ีเ้ ชน กนั เปา หมายทแ่ี ทจ รงิ ก็คอื ความสมั พนั ธทางจิตวิญญาณของพวกเรา คอื การปฏิบัตกิ ารงานทีด่ ีงามและอยูภายใตการบังคบั บญั ชาของอลั ลอฮเ พยี งเทา นน้ั บคุ คลใดก็ ตามทปี่ ฏบิ ตั ติ ามคําสงั่ ขององคอ ภบิ าลอยา งเครงครัด เขาคือวงศว านของพวกเรา ถึงแมว า เขาจะ ไมม เี ช้อื สายของใดๆ จากเราเลยกต็ าม และบคุ คลใดท่ีปฏบิ ตั ิในสิง่ ทีช่ ่วั ชา เขามใิ ชวงศวานของ พวกเรา ถงึ แมวาเขาจะมาจากลกู หลานท่ีแทจริงของฟาฏมิ ะฮ ซะฮร อกต็ าม เหมอื นดังเชน ตัวทาน เอง (ฮาซัน บนิ มซู า วชั ชา) ซ่ึงมิดไดมีเชอ้ื สายใดๆ จากเราเลย แตถา หากวา ทา นคือผทู ป่ี ฏิบัตกิ าร งานท่ีดงี ามและเปนผทู ีเ่ ช่อื ฟง ปฏบิ ตั ติ ามพระองคอยางเครงครัดแลว ทา นนน้ั มาจากพวกเรา” .(1) 103 ชายชราและเดก็ ๆ (1) บฮิ ารุล อันวาร เลม 10 หนา 65. 139
ชายชราผหู นงึ่ กําลังอาบนาํ้ เพอื่ ปฏิบตั ินมาซอยู แตเขายังไมร ถู งึ วธิ กี ารอาบนา้ํ ทถี่ กู ตอง และในขณะนน้ั เองทา นอมิ ามฮาซนั และอมิ ามาฮเู ซน ซง่ึ ยงั อยใู นวัยเดก็ เขาทงั้ สองเหน็ การ อาบนา้ํ ของชายชราต้ังแตแรกจนจบ และเขาทงั้ สองกร็ วู า การส่ังสอนและแนะนําการปฏบิ ัตทิ ่ี ถูกตอ งในเร่ืองราวของศาสนาแกผไู มร ถู ือเปน สงิ่ จําเปน ดงั น้นั พวกเขาจะตอ งสอนวธิ ีการอาบนาํ้ ที่ ถกู ตอ งแกช ายชราผนู ้ีใหจ งได แตถ า หากเขาทง้ั สองบอกแกช ายชราตรงๆ วา เขาทาํ ไมถูกตอ ง อาจจะทาํ ใหเขารูสึกไมพอใจอยางแนน อน เน่ืองจากพวกเขาทงั้ สองยงั เปนเดก็ อยู และจะเปน ความทรงจาํ ทข่ี มขน่ื ในเร่อื งของการทํานา้ํ นมาซสาํ หรบั เขาตลอดไปก็ได และเขาคงจะไมย อมรบั ฟง การแนะนําตักเตอื นนนั้ เปน แน ท้ังอาจดอ้ื ร้นั ทีจ่ ะไมปฏิบัตติ ามดว ย เด็กท้งั สองเรม่ิ คดิ วา จะแนะนาํ ชายผนู ีโ้ ดยทางออมเชน ไรดี เขาทง้ั สองจงึ คิดวางแผน เชนน้คี อื ทง้ั สองจะถกเถียงกันวา ใครทาํ นา้ํ นมาซไดส มบรู ณก วากนั อีกคนกลา ววา “นาํ้ นมาซของ ฉนั นน้ั สมบูรณกวา ของทา น” และอีกฝา ยหนึง่ กลา ววา “นาํ้ นมาซของฉนั นน้ั สมบูรณกวา ของทาน” โดยใหช ายชราผนู นั้ ไดย นิ ทงั้ สองจงึ ตกลงกนั วา จะเขา มาหาชายชราผนู ้ี และขอใหเ ขาตดั สินวา ของ ใครสมบรู ณก วา กนั เขาทงั้ สองจงึ เร่มิ ทาํ น้าํ นมาซ อยางสมบรู ณแ บบท่สี ดุ ตอ หนา ชายชราผนู นั้ ชายชราผนู นั้ เมอื่ เหน็ เดก็ ทงั้ สองทาํ นา้ํ นมาซจึงเขา ใจถงึ วธิ ีการทํานา้ํ นมาซทถี่ ูกตอ งในขณะนน้ั เอง และรูถึงเปาหมายทีแ่ ทจรงิ อนั หลกั แหลมของเด็กทงั้ สองในทนั ใด และซาบซง้ึ ตอความรักทบ่ี ริสทุ ธิ์ และความเฉลยี วฉลาดของเดก็ ท้งั สองเปน ยิง่ นกั เขาจงึ กลา วขน้ึ วา “นาํ้ นทาซของเจา ทงั้ สองคนน้นั ถูกตอ งและสมบูรณแบบทสี่ ุด ฉันเองเสียอีกทีล่ ว งเขา สวู ัย ชราแลวกย็ งั ไมร วู ธิ กี ารทําวฎุ อ ท ถ่ี กู ตอ งเลย แตด ว ยความรักทเ่ี จาทงั้ สองมีตอ ประชาชาติของตา ของเจา ขอบคณุ เจา ทงั้ สองสง่ั สอนฉนั ” .(1) 104 สาสน ของซะอ เหตกุ ารณท เี่ ตม็ ไปดว ยความโกลาหลและเศรา สลดในสงครามอุฮูดไดจ บลง บรรดาทหาร หาญมสุ ลมิ ไดเรมิ่ การโจมตอี ยา งหนกั หนว งอยา งชายชาตรี จนทาํ ใหบ รรดาผูตั้งภาคแี หง กเุ รช ตอง หนก้ี นั ไปคนละทศิ คนละทาง แตเน่อื งจากความหลงลืมและขดั ขืนคําสั่งของทหารจํานวนหนงึ่ ในชวงเวลาอนั สัน้ ฝายตรงขามไดบ ุกเขา โจมตีตลบหลัง เหตกุ ารณก ลับพลกิ ความคาดหมายจน ทาํ ใหท หารของมสุ ลมิ เสยี ชีวติ เปนจาํ นวนมาก ถา หากวา ในชว งเวลานนั้ ไมมีการยนื หยัดตอสู อยา งแข็งขนั ของทา นศาสดาและทหารอกี จํานวนหน่ึง ฝายมสุ ลมิ กจ็ ะตองพา ยแพใ นสงครามอยาง (1) บฮิ ารลุ อันวาร เลม 10 หนา 89. 140
สิน้ เชิง แตในท่ีสุดบรรดาทหารมสุ ลมิ กไ็ ดรว มกนั ตอสอู ีกครั้ง จนสามารถตา นทานเอาไวไ ดอ ยา ง หวดุ หวดิ สง่ิ หน่ึงทเี่ ปน สาเหตุสาํ คญั ทส่ี ดุ ทท่ี าํ ใหก าํ ลังใจของเหลา ทหารมสุ ลิมหมดลง นนั่ กค็ ือการ สรา งกระแสขา วลอื วา ทา นศาสดาถูกฆา ตายเสยี แลว กระแสขาวลือนีไ้ ดสรางความออ นแออยาง มากในหมทู หารมุสลมิ ในทางตรงกนั ขาม ไดสรางความเหมิ เกริมแกฝายศตั รูเปนยง่ิ นกั แตต อมา ภายหลงั พวกกเุ รชไดร ับทราบขาววา เปนแคเพียงขาวลือหรอื เรอ่ื งโกหกเทานน้ั ทา นศาสดายงั มี ชีวติ อยู พวกเขาจึงดีใจในชยั ชนะของพวกเขาเพยี งเลก็ นอ ยและกลบั สูนครมกั กะฮ บรรดาทหารหาญมสุ ลมิ บางกลมุ กถ็ กู สังหาร บางกลมุ ก็ไดร ับบาดเจ็บและนอนรอ งครวญ ครางอยา งเจบ็ ปวด หลายตอหลายคนทหี่ วาดกลวั จนตองหนีกระเจดิ กระเจงิ จะมกี เ็ พยี งเล็กนอ ยท่ี ยงั คงอยเู คยี งขา งทา นศาสดา บรรดาผูที่เสียชวี ติ ไปแลวหรือไดรับบาดเจบ็ นอนกองอยูกบั พื้นดนิ และผทู ีห่ นกี ระเจิดกระเจงิ ไป พวกเขาไมส ามารถลว งรไู ดว าสงครามจบลงเชน ไร และทา นศาสดา ยงั มชี วี ติ อยหู รอื ไม? ในชว งขณะทคี่ วามโกลาหลอลหมานเกิดขนึ้ ในสมรภมู ริ บ ชายผูหน่ึงซงึ่ เปน ทหารมสุ ลิม กําลงั ว่งิ หนผี านมาทาง ซะอ บิน รอบอี ซ่งึ ไดรบั บาดเจบ็ อยา งแสนสาหัส ชายผนู น้ั กลา วแกซ ะอวา “ฉันไดยินมาวา ทา นศาสดาถกู สังหารแลว ” ซะอ กลา ววา “แตพ ระผเู ปน เจาของมุฮัมมดั ยงั อยู และพระองคจะไมม ีวนั ตาย ทาํ ไมทา น จึงชักชา อยูล ะ ทา นจะไมร กั ษาศาสนาของทา นหรือ หนา ทีข่ องเรามิใชป กปองตัวของมุฮัมมัดท่เี มอ่ื ทา นถกู สงั หารทกุ อยา งจะไดจบสิน้ ลง เรากําลงั อยใู นระหวา งการรักษาศาสนาของเราและสิ่งท่จี ะ ยงั คงอยนู ริ นั กาล” อีกดา นหนง่ึ ทา นศาสดา กาํ ลงั นึกถงึ บรรดาสาวกของทา นทีละคนวา ใครยังมีชวี ิตอยูบาง ใครเสยี ชวี ิตไปบาง ใครท่ไี ดรับบาดเจบ็ ผบู าดเจบ็ คนใดบา งที่ยังพอมีทางเยยี วยารักษาได และที่ ไมม ีทางรักษาได ทานกลา วข้นึ วา “มีใครบา งที่จะเปน ผอู าสาไปสบื หาขาวของซะอ บนิ รอบีอ ใหแ กฉ นั ” มีชาวอนั ศอรคนหนงึ่ กลาววา “ขาพเจา ขออาสาครับ” ชายผนู น้ั วิ่งตรงไปยงั สนามรบ และไดพบซะอนอนอยูบ นพนื้ ดนิ ปะปนอยกู ับรางไร วิญญาณของทหารทเี่ สยี ชวี ติ ลงในสงคราม ในสภาพทล่ี มหายใจรวยรินจวนสน้ิ ใจ ชายผนู ้ันกลาว กบั ซะอวา “ศาสดา สัง่ ใหฉนั มาสืบหาขา วคราวของทาน วาทานยงั มชี วี ติ อยูห รือไม? ” ซะอกลา ววา “จงนาํ สลามของฉันไปยงั ศาสดา และจงบอกทา นวาซะอไดเสยี ชวี ิตแลว เพราะหลังจากน้ีเพียงไมกอ่ี ดึ ใจฉนั คงจะจากโลกนไ้ี ป และจงบอกแกท า นศาสดาวา ซะอไดกลา ว วา : ขออลั ลอฮท รงประทานรางวัลอนั ดงี ามแกท านทคี่ ูควรกบั การเปน ศาสดาเถดิ ” แลว เขายังกลา วตอ อกี วา “จงนาํ สาสนนไี้ ปประกาศแกผ ูชว ยเหลอื ทีอ่ ยูเคยี งขา งกบั ทา น ศาสดาเถิดวา ซะอไดก ลาววา : ทา นจะไมมีขอ อางใดๆ เลยตอ หนาพระพักตรข องพระองค ถาหาก 141
วาทานปลอ ยใหอันตรายเกดิ ขึ้นกับทา นศาสดา ในขณะทวี่ ญิ ญาณของทา นยังอยูใ นรา งกายของ ทา นเอง” ยังไมท นั ทีช่ ายผนู ้ันจะจากไปไกลมากนกั ดวงวิญญาณของซะอก อ็ อกจากรา งของเขา ในทนั ท.ี (1) 105 ดุอาอทถ่ี ูกตอบรับ “โออ ัลลอฮ! ขอพระองคอยา ไดทรงนาํ ขา พระองคกลับคนื สญู าตพิ นี่ องของขา พระองคเลย” นี่คือคําพดู สดุ ทายที่ ฮนิ ด ภรรยาของ อมั ร บนิ ญามฮุ ไดยนิ จากปากของสามี หลังจากที่ สามีของนางพรอมดวยอาวธุ ออกเดนิ ทางเพอ่ื เขา รว มในการศกึ สงครามอฮุ ดุ และครง้ั น้ีถอื เปน ครงั้ แรกท่ีอัมรเขา รว มทาํ ศกึ สงคราม ในสมรภมู ริ วมกบั มุสลมิ คนอื่นๆ ซงึ่ เขายงั ไมเ คยเขา รว มสงคราม ใดมากอนเลยสักครั้งเดียว เนอ่ื งจากขาของเขาพกิ ารเปน งอ ยมาก และในบทบญั ญตั ขิ องคมั ภรี อัล กุรอานไดกลาวไวว า ไมเปนการลาํ บากอันใดแกคนตาบอด และไมเปนการลําบากใจอันใดแกค นพกิ าร และไมเ ปน การลาํ บากใจอันใดแกค นทเี่ จบ็ ปว ย (ซูเราะฮอัล ฟตฮ อายะฮท ี่ 17) หมายถงึ การญฮิ าดสําหรบั คนตาบอด คนพิการและผทู ่เี จ็บปว ยไมเปนสง่ิ จาํ เปน สําหรบั พวกเขา แตถ งึ แมวา ตัวของอมั รเองไมเ คยไดเขา รว มในการตอสูในหนทางแหง พระผเู ปน เจา เลย แมแ ตค รัง้ เดียวกต็ าม แตเขาก็ไดส งบตุ รชายชาตรีถงึ ส่ีคนใหเ ขารว มในศกึ สงครามเคียงขา งทา น ศาสดาทกุ คร้ัง ซงึ่ ไมเ คยมใี ครคาดคิดไดวา ถงึ แมเ ขาจะถกู ยกเวนจากการสงคราม แตเ ขายงั สามารถสง บตุ รชายของเขาไปเปน ทหารไดเ ชนนี้ เมือ่ บรรดาญาตพิ ่นี อ งของอมั รรขู าวการตดั สนิ ใจทจ่ี ะไปทาํ ญฮิ าดของอมั ร ตา งกพ็ ากนั มา หา มปรามเขาในทนั ที พวกเขากลา วอมั รวา “อยา งแรกทา นไดร ับการยกเวน ในกฎขอ บญั ญัติแหง อิสลาม อยา งท่ีสองทา นไดส งบตุ รชายชาตรีของทา นถงึ สคี่ นออกไปรว มกบั ทา นศาสดาแลว จึงไม จาํ เปน เลยท่ที า นจะไปรว มรบดว ย” อมั รกลา ววา “ดวยเหตนุ แี้ หละเพราะบรรดาบตุ รชายของฉัน เขามคี วามหวงั และโอกาสที่ จะไดพบกบั ความผาสกุ อนั ไพบลู ยน ิรนั ดรก าล ฉนั ก็มคี วามหวงั นนั้ เชน นน้ั เหมอื นกบั พวกเขา แปลกจริง! พวกเขาไดไ ปกนั และกาํ ลังมุงสูเ ปา หมายสูงสดุ แหงการสละชีวติ เพอ่ื ศาสนา แตฉ ัน จะตองนงั่ อยูกบั พวกทา นในบานนหี้ รือ เปนไปไมไ ด” บรรดาญาตพิ นี่ องของอมั รจงึ ตอ งปลอยตามใจเขา แตต ลอดเวลา หลายตอหลายคนตา งก็ พูดเพ่ือใหเ ขาลม เลกิ การตัดสินใจเสีย อัมรจงึ ออกไปอาศัยพง่ึ พงิ ทา นศาสดา เพ่อื หลีกหนจี ากพวก (1) ชะเราะฮ อบิ นิ อบฮี ะดดี เลม 3 พิมพเ บรุต หนา 574, ซีเราะฮ อบิ นฮิ ิชาม เลม 2 หนา 94. 142
เขาเหลา นน้ั เขากลาวกบั ทา นศาสดาวา “โอศ าสดา ญาติพ่นี อ งของฉนั ตอ งการกกั ขังฉันไวแตใน บาน และไมย อมใหฉ นั ไดเ ขา รวมในการตอ สู ขอสาบานตออัลลอฮ ฉนั มคี วามหวงั วา ฉนั จะไดเขา สวรรคข องพระองคด วยเทา ทง่ี อยพกิ ารของขา น่แี หละ” ทานศาสดากลาววา “โออ ัมร เจาไดร ับการยกเวน ในกฎขอ บญั ญัติแหง อิสลามจากการ ตอ สู การตอสสู าํ หรบั เจา ไมไดเปน ส่ิงทจ่ี าํ เปน ” อมั รกลา วอกี วา “โอ ทา นศาสดา ฉันรูวามนั ไมจําเปน สําหรับฉัน แตฉ นั ก็ยงั ประสงค เชนนนั้ อย”ู ทา นศาสดา ไดก ลา วแกผูท อี่ ยูใ นทนี่ น้ั วา “พวกทา นจงอยาหา มเขา (อัมร) เลย ปลอยให เขาไป เขาหวงั การเปน ชะฮดี (เสียชวี ิตในหนทางของพระผูเปน เจา ) บางทีอลั ลอฮ อาจจะประทาน แกเ ขาก็เปน ได” ฉากหนงึ่ จากฉากตา งๆ ทง่ี ดงามที่สดุ ในสงครามอุฮุด คอื ฉากการตอสขู องอัมรที่มขี างอ ย พิการ เขาฟาดฟนคมดาบลงบนหวั ใจอนั มดื มนของฝา ยศตั รูอยางกลาหาญ พลางรอ งตะโกนวา “ฉันหวังทจี่ ะไดสวรรค” บุตรชายคนหนงึ่ ของเขาก็คอยฟาดฟนศัตรูอยขู างหลงั เขาเชน กนั พวกเขา ตอสอู ยา งดเุ ดอื ด จนในทีส่ ุดท้ังสองคนก็ไดพ ลีชีวติ ลงในสนามรบนั้นในเวลาตอมา หลังจากสงครามส้นิ สุดลง บรรดาสตรีในนครมะดนี ะฮต า งออกมาจากเมืองเพื่อไปดู เหตุการณในสนามรบ โดยเฉพาะขา วอนั เศราสลดท่ีพวกเขาไดย นิ ในนครมะดนี ะฮก อนหนา น้ี อาอิ ชะฮภ รรยาของทา นศาสดา คอื หน่ึงในบรรดาสตรเี หลา น้นั เมื่อออกมาจากนครมะดนี ะฮไดไ มไ กล นกั นางมองเห็นนางฮนิ ดภ รรยาของอัมร กําลงั จงู อูฐตัวหนงึ่ ซงึ่ มีรา งอนั ไรวิญญาณของผชู ายอยู บนหลงั มงุ สูนครมะดีนะฮ อาอิชะฮจงึ ถามนางวา “เปนอยา งไรบางละ ?” ฮินด “มวลการสรรเสรญิ เปนสทิ ธขิ องอัลลอฮ! ทานศาสดาปลอดภยั ดี ฉนั ไมรูสึกเศรา ใจ แตอยางใดเมอื่ รวู าทา นศาสดาปลอดภัยและขา วดีอกี ขา วหนึง่ ก็คือ และอัลลอฮทรงทําใหผปู ฏเิ สธ ถอยทพั กลบั ไปดวยความเคยี ดแคน ของพวกเขาเอง” (ซูเราะฮอ ัล อะฮซ าบ อายะฮท่ี 25) อาอิชะฮ “แลวรา งไรว ญิ ญาณเหลา นค้ี อื ผูใดกัน?” ฮนิ ด “นคี่ ือรา งอันไรวญิ ญาณของพชี่ ายของฉัน บุตรชายของฉนั และสามขี องฉนั ” อาอชิ ะฮ “ทานกาํ ลงั จะพาไปทีไ่ หน?” ฮินด “ฉันจะพาไปฝง ในนครมะดนี ะฮ” เมอื่ ฮินดก ลา วจบกจ็ บั เชือกดงึ จมกู อฐู ไปทางนครมะดนี ะฮ แตอ ฐู ไดเดินตามหลังของฮินด อยา งเชือ่ งชา และลม ตวั ลงนอนในที่สดุ อาอิชะฮ “ส่งิ ทีอ่ ยบู นหลงั ของมันคงจะหนกั มากสาํ หรบั มนั มนั คงไปไมไ หว” ฮนิ ด “ไมใชเ ชน นน้ั แน! อูฐของเราตัวนมี้ นั แขง็ แรงมาก มนั สามารถบรรทกุ สัมภาระท่มี ี นา้ํ หนกั สําหรบั อูฐสองตวั ไดอยา งสบาย นา จะมีสาเหตุอนื่ ที่ไมชอบมาพากลเปน แน” 143
นางจงึ เร่ิมจงู อฐู อีกครัง้ แตเ มอื่ นางจงู อฐู ไปสูท ศิ ทางของเมืองมะดีนะฮ อูฐตัวนก้ี น็ ง่ั ลงกับ พื้นอีกสองคร้งั สองครา แตเม่ือนางจงู มันไปยงั ทิศทางของอฮุ ุด นางเหน็ วา มนั รีบเดนิ อยา งรวดเร็ว นางจงึ คิดวา มนั ตองมอี ะไรอยางแนน อน ทาํ ไมอูฐตัวนจ้ี ึงไมยอมท่จี ะไปยงั นครมะดีนะฮ แตเมื่อหนั หนา สูอ ุฮดุ มนั กลบั เรง รบี ออกเดินอยา งแขง็ ขนั นางจงึ กลา วกบั ตวั เองวา “บางทอี าจมคี วามลี้ลบั บางประการอยางแนน อน” นางจงึ ตัดสนิ ใจจงู อฐู มงุ สูอฮุ ดุ ทันทเี พ่ือไปพบกบั ทา นศาสดา เม่อื ไปถงึ นางจึงกลา วกบั ทา นศาสดาวา “โอทานศาสดา มีเหตุการณท ่แี ปลกประหลาดบางประการเกดิ ขึ้น คอื ฉนั ไดน ํารา ง อนั ไรวิญญาณของคนเหลา น้ีขนึ้ บนหลงั อูฐตวั นี้ และมงุ สนู ครมะดนี ะฮเ พ่อื นาํ รางของพวกเขาไปฝง ทีน่ น่ั แตเมอ่ื ฉันจงู อฐู ตวั นีไ้ ปยังทศิ ทางของเมอื งมะดนี ะฮ มนั ไมยอมไปแตโ ดยดี ขณะเดยี วกนั เมอื่ ฉันลองจงู มนั มายงั ทศิ ทางของอฮุ ดุ มันกลบั เดินมาอยา งรวดเรว็ ทาํ ไมหรอื ?” ทานศาสดา “สามขี องเจา เขาไดก ลา วสง่ิ ใดไวหรือไม กอ นการมารว มสงครามในอฮุ ดุ ” ฮินด “โอ ทานศาสดา หลงั จากสามขี องฉันเร่มิ ออกเดนิ ทาง ฉนั ไดยนิ คาํ พดู หนงึ่ จากปาก ของเขาคือ : โออ ัลลอฮ ขอพระองคอยา ไดทรงนาํ ขา พระองคก ลับคืนสญู าติพ่ีนองของขา พระองค เลย” ทา นศาสดา “ดว ยเหตนุ เี้ อง คําวิงวอนที่กลาวออกมาดว ยความบรสิ ทุ ธิใ์ จของชายผนู ไ้ี ด ถกู ตอบรบั จากอัลลอฮแ ลว พระองคไมตองการใหร างไรว ิญญาณของเขากลบั ไป แนแ ทในหมพู วก ทานชาวอันศอรจะมบี คุ คลหนงึ่ ซึง่ ถา หากเขาประสงคสง่ิ หนง่ึ สงิ่ ใดจากพระองคแ ละสาบานแก พระองค พระองคจะทรงตอบรบั คําวิงวอนของบคุ คลเหลานน้ั และสามีของเจา อมั รคือหนง่ึ จาก บุคคลเหลานน้ั นน่ั เอง” ทานศาสดา จงึ มคี วามเหน็ วา ตองจัดการฝงรางของบคุ คลท้ังสามในอุฮดุ แลว ทา นกห็ นั ไปหานางฮนิ ดแ ละกลาววา “บุคคลท้ังสามนี้เขาจะไดอยรู วมกนั ในโลกหนา อยางแนน อน” นางจงึ กลา ววา “โอท านศาสดา หากอัลลอฮท รงประสงค ใหฉ นั ไดไ ปอยรู วมกบั พวกเขา ดว ยเถิด” .(1) 106 ผไู ดรบั ความคมุ ครองซ่ึงถกู ยกเลิก บรรดามุสลมิ ที่เส่ียงตอ การถกู ทาํ ทารณุ กรรม และกลั่นแกลงจากชาวกุเรชตองอพยพจาก นครมักกะฮส ูเอธิโอเปยมากอ นหนานี้ ตา งรอคอยขาวดจี ากมกั กะฮแ ละชาวมกั กะฮอ ยูเ ปนเนอื งนจิ ถึงแมวา พวกเขาและบรรดาผูท ี่อยูในสายธารเดยี วกนั และผูยดึ ถือความยตุ ธิ รรมของพระผเู ปน เจา จะมจี ํานวนเพยี งนอยนิด เมอื่ เทียบกบั จาํ นวนอันมหาศาลของบรรดาผูท่ีอยฝู ายตรงขาม หมายถึง ผทู ี่ปฏิเสธพระผูเ ปนเจา โดยการกราบไหวบูชาเจว็ด และเปนผทู ่ีกาํ ลงั ปกครองเมอื งอยูในขณะนี้ (1) ชะเราะฮ อบิ นิ อบลิ ฮะดดี เลม 3 พิมพเบรุต หนา 566. 144
แตพวกเขา ก็ยงั มีความมนั่ ใจวา ในทกุ ๆ วนั ท่จี าํ นวนผอู ยใู นสายธารเดียวกับพวกเขาจะย่ิงเพมิ่ มากขึน้ ฝา ยตรงขามกจ็ ะตอ งมีจํานวนลดนอยลงทกุ วนั เชน กนั กระท่งั วาพวกเขาไมเ คยสิ้นหวงั และ ยงั มคี วามหวงั ตอไปอกี วา ในไมช า น้ชี าวกเุ รชทงั้ หมด จะสามารถกระชากมานแหงความหลงลืม ออกจนได และมงุ สูแนวทางที่ถกู ตองเทยี่ งแทอ ยา งแนน อน ซงึ่ จะเหมอื นกบั ทพี่ วกเขาเคยละทง้ิ และออกหางจากการบชู ารปู ปน เจวด็ เขาสศู าสนาอิสลามและเปน มุสลมิ มากอนหนา นี้ จากเหตกุ ารณท ี่มีขาวลือหนงึ่ เกดิ ขนึ้ แพรสะพัดไปทวั่ ในเอธิโอเปย ทพี่ วกเขาอพยพไปอยู น่ันคือ มีกระแสขาววา ชาวกเุ รชทง้ั หมดไดเ ปลี่ยนหลกั ารศรทั ธาของพวกเขาแลว ทงั้ หมดไดม งุ สู อสิ ลามแลวทง้ั สิ้น ถงึ แมว า กระแสขาวดังกลาวยงั มไิ ดรบั การยนื ยนั จากแหลง ขาวทเ่ี ชื่อถอื ไดว า เปน เท็จหรอื จรงิ เพยี งใด แตค วามเช่อื ความหวังอยา งมากมายทพี่ วกเขามคี อื อิสลามจะตองไดรับชัย ชนะและแพรห ลายอยางแนน อนในไมช า ก็เร็ว ความมนั่ ใจตรงน้เี องจงึ ทําใหบ คุ คลกลุม หนง่ึ ในหมู พวกเขา เตรียมพรอ มทจ่ี ะเดนิ ทางกลบั สนู ครมักกะฮทนั ที โดยไมรอฟง การยนื ยนั ขอเทจ็ จรงิ อยา ง เปนทางการแตอ ยางใด หนงึ่ ในบรรดาบุคคลเหลานนั้ คือสาวกของทานศาสดามฮุ มั มัด ซงึ่ มนี ามวา ‘อศุ มาน บุตร มัซอนู ’ ซงึ่ เปน ผูทที่ านศาสดามุฮัมมดั รักใคร และเปน ท่เี คารพนบั ถือในหมมู สุ ลิมอยางมากคนหน่ึง และเมอื่ อศุ มาน บตุ ร มัซอนู เดนิ ทางเขา มาใกลน ครมกั กะฮ จงึ รใู นทนั ทวี า สิง่ ท่เี ขาไดยนิ มาเปน เพียงขาวลือ ในทางกลบั กนั ชาวกุเรชยงิ่ ทาํ ทารุณกรรมมุสลมิ ขน้ึ มากกวา เดิมอีก หนทางทจ่ี ะเดนิ ตอ ไปกต็ นั เสียแลว จะหนั หลังกลับก็เปนเรื่องทีย่ ากยง่ิ เน่อื งจากเสน ทางสเู อธโิ อเปย นนั้ มไิ ดใกลๆ เลยท่ีจะหนั หลังกลบั ไปได แตถ าเดนิ ทางไปยังมกั กะฮต อ กเ็ ทากบั เดนิ ทางไปสคู วามหายนะ การ ทารณุ กรรมตา งๆ จะตองเกดิ ขน้ึ สาํ หรบั เขาเปนแน ในทสี่ ดุ เขาก็คดิ แผนการหนง่ึ ขน้ึ มาได การใชข นบธรรมเนียมประเพณีของชาวอาหรับให เปนประโยชน นั่นคือ การเขา ไปขอ ‘ญิวาร’ (ความคุมครอง) กบั บุคคลหนง่ึ ซง่ึ เปนผมู อี ิทธิพลบารมี ในหมชู าวกเุ รช ขนบธรรมเนยี มหนง่ึ ที่มอี ยูอยางแพรหลายในหมชู าวอาหรบั ก็คอื ถาหากบคุ คลหนงึ่ ขอ ‘ญิ วาร’ กับอกี บคุ คลหน่งึ หมายถงึ การเขาไปขอความชวยเหลอื ใหช ว ยคุม ครองแกเ ขาในทกุ ๆ สง่ิ แมก ระทงั่ ชีวิต และโดยสว นมากแลว ผทู ถ่ี กู ขอสว นมากก็จะตอบรบั เพราะการปฏิเสธการใหค วาม คมุ ครองแกบ คุ คลหน่ึงท่เี ขามาขอความคมุ ครอง ถงึ แมผ ูน้นั จะเปน ศตั รูกต็ าม ถอื วาเปน ส่ิงทท่ี าํ ให ขายหนาผูอ นื่ และอัปยศที่สดุ หรอื แมแ ตห ลังรับปากทจ่ี ะใหก ารคุมครองแลว แตมิไดใ หความ คมุ ครองก็ตาม อุศมานเดนิ ทางเขาสนู ครมกั กะฮในชว งเท่ียงคนื และตรงมายงั บา นของ วะลดี บุตร มฆุ ี เราะฮ มัคซมู ี (ซ่ึงเปน ผทู ี่มีบารมกี วา วขวางและรา่ํ รวยคนหนงึ่ ในหมูชาวกเุ รช) และขอความ คมุ ครองจากวะลีด ซ่งึ ตอบรบั คาํ ขอนั้น 145
วนั ตอมาในการประชมุ ของผูมีอทิ ธพิ ลชาวกุเรชในมัสยิดอลั ฮะรอม วะลดี ซง่ึ เขา รว มใน การประชุมนนั้ ดว ย ไดน ําอศุ มานไปกบั เขา เพอื่ ทีจ่ ะประกาศใหค วามคุมครองแกอุศมานในที่ ประชุม เพื่อจะไดร ับรูกนั ท่ัวทกุ คนวา “อศุ มานอยูในความคมุ ครองของฉนั จากนาทนี เ้ี ปนตน ไป ถา หากผูใ ดรบกวนหรือมีปญหากบั เขาก็เทากบั มีปญหากับฉัน” พวกกเุ รชตา งก็ใหเ กยี รติตอ การ คมุ ครองของ วะลดี บตุ ร มฆุ ีเราะฮ มาโดยตลอด พวกเขาจงึ ไมก ลา รบกวนอศุ มานอกี เลย และนบั จากนน้ั อศุ มานกไ็ ดร บั ความคมุ ครอง เขาสามารถไปไหนมาไหนไดอยา งอิสระเสรเี สมอเหมอื นชาว กุเรช คนอน่ื ๆ เขาสามารถเขา รว มในที่ประชมุ หรอื งานเลยี้ งตา งๆ ของชาวกเุ รชไดอยา งไมมีปญหา แตในขณะเดียวกนั พวกกเุ รชก็ยังคงไมลดละการทารุณกรรมชาวมุสลมิ ลงเลย และนบั วนั ย่ิงจะทวคี วามรนุ แรงมากยง่ิ ข้นึ สง่ิ นค้ี อื สิ่งที่ลําบากใจยงิ่ สาํ หรับอศุ มาน ซ่งึ เขาไมสามารถทนมองดู ความทนทุกขท รมานของผูรว มสายธารได เมอ่ื หนั มามองดูความสะดวกสบายของตนเอง วนั หน่ึง เขาน่งั คดิ ใครค รวญวาส่ิงทเ่ี ขากําลงั ทาํ อยู มใิ ชเปน การกระทําของชายชาตรีเลย เขากาํ ลงั อยูใน ความคุม ครองของผปู ฏิเสธคนหนง่ึ อยา งสุขสบาย แตบ รรดาพีน่ องผรู วมสายธารทมี่ หี ลกั ศรัทธา เดียวกนั กาํ ลงั ตกอยใู นการทารณุ กรรมอยางแสนสาหสั เมื่อเขาคิดไดเชน นน้ั เขาจงึ เขาไปหาวะลดี และกลา ววา “ฉันขอขอบคุณทานมากทไ่ี ดใ หความคมุ ครองแกฉ ัน แตท วาตง้ั แตวนั น้เี ปน ตน ไปฉัน ขอออกจากการใหค วามคุมครองของทา น และจะไปสมทบกบั ผทู อ่ี ยใู นสายธารเดยี วกับฉัน อะไรก็ ตามท่ีเกิดขึน้ กับพวกเขาก็ขอใหสิ่งเหลา นนั้ ไดป ระสบแกฉ นั เถดิ ” วะลดี “หลานชายทีร่ กั เอย ! บางทเี จาอาจจะอยูไดอยางไมค อยสบายใจนกั หรอื เปน เพราะวา การคมุ ครองทีฉ่ นั มีใหแกเ จา ไมส ามารถทจ่ี ะคมุ ครองเจาไดแน” อศุ มาน “เปลาเลย! ฉนั มิไดไ มพ อใจในเรอื่ งดังกลา วแตอ ยางใด เพยี งแตนับจากนี้เปนตน ไป ฉันตอ งการที่จะใชช วี ิตอยูในความคุม ครองของพระผเู ปน เจา เพยี งองคเ ดียวเทา นนั้ ” วะลดี “ถาหากเจา ตัดสินใจเชนนน้ั ฉันก็ตองปฏิบตั เิ หมอื นกับวนั แรกท่ีฉันพาเจา ไปยงั มสั ยิดอลั ฮะรอม เพอื่ ประกาศใหค วามคมุ ครองแกเจา ในท่ปี ระชมุ ของชาวกเุ รช นน่ั ก็คือ เจาตอง ไปยงั มสั ยิดอลั ฮะรอมอกี คร้งั เพือ่ กลา วยกเลกิ หรอื ออกจากการใหค วามคมุ ครองของฉนั ในท่ี ประชมุ ของชาวกเุ รชดวยเชน กัน” อศุ มาน “ได ! ไมมีปญหาอะไร” อุศมานและวะลดี เดนิ ทางมายงั มสั ยดิ อลั ฮะรอมพรอ มกนั เมอื่ ถงึ เวลาประชมุ ของชาว กเุ รช วะลดี ไดลกุ ขน้ึ และกลา วประกาศวา “ทุกทา นฟง ทางน้ี อุศมานตอ งการทจ่ี ะประกาศเพอ่ื ออก จากการใหความคุมครองของฉนั ตอเขา” อุศมานกลา ววา “ใชแ ลว ! ฉนั มาเพ่อื จะกลาวสง่ิ น้ี และอยากจะกลา วเพมิ่ อกี วา ในชวง ระยะเวลาหนงึ่ ทฉ่ี นั อยูในความคุมครองของวะลดี เขาไดใ หความคมุ ครอง ดแู ลฉนั อยา งดีเยย่ี ม และฉนั มเิ คยเลยที่จะไมพ อใจตอการปฏบิ ัตขิ องเขาแมสกั ครั้งเดียว สาเหตทุ ีฉ่ นั ขอออกจากการให 146
ความคุม ครองของเขามีเพยี งสิง่ เดยี วก็คือ ฉันไมชอบทีจ่ ะอยูในความคมุ ครองของใครนอกจากพระ ผูเ ปนเจา องคเ ดยี วเทา นนั้ ” ดว ยเหตนุ ี้เองการอยใู นความคมุ ครองของวะลดี สาํ หรบั อศุ มานก็ส้ินสุดลง การใหความคมุ ครองของวะ ลีดแกเ ขาไดถกู ยกเลิกตงั้ แตน าทนี น้ั ทนั ที แตตวั ของอศุ มานเองเปรียบเสมือนเขาไดช ีวิตใหมข้ึนมาอกี ครัง้ และอยู ในทีป่ ระชุมเหมือนกับวนั อ่นื ๆ กอนหนา น้ี และเหตุการณใ นวันนน้ั ก็เกิดขึน้ เมือ่ ละบดี บุตร รอบีอะฮ นักกลา วโคลงกลอนผูมี ช่อื เสียงโดง ดงั ไดเดนิ ทางมายังนครมกั กะฮเ พื่อประสงคจ ะกลาวบทกลอนท่ีลอื ชื่อบทหนงึ่ (เปน บท กลอนซงึ่ เปน ผลงานของชาวอาหรบั สมัยงมงายแตน าํ มาแตง ใหม) ของเขาใหชาวกุเรชฟง ในที่ ชุมนมุ และโคลงแรกของบทกลอนคอื “นอกจากพระผเู ปน เจา แลว สรรพส่งิ ทง้ั มวลคือส่งิ โมฆะ (บาฏลิ ) ผูท่ีมสี ทิ ธสิ งู สุดโดยไมม ขี อแมใดๆ (ฮกั มฏุ ลัก) คอื ซาตอนั บรสิ ทุ ธ์หิ นง่ึ เดียว (พระผเู ปนเจา) เทา นน้ั ” ทานศาสดา กลาวไวเกีย่ วกบั บทกลอนขางตนวา “มันคือบทกลอนท่ีถูกตองท่ีสุดซึง่ พวกอาหรับประพันธ เอาไว” ละบีดเดินทางมายงั ท่ปี ระชมุ ของชาวกุเรชเพอ่ื กลา วบทกลอนดังกลา ว ทุกคนในทป่ี ระชุม ตา งพรอ มหนา กัน เพือ่ คอยรอฟง ผลงานช้นิ เอกของละบดี อยางใจจดใจจอ ละบดี ไดเริม่ กลา วบท กลอนของเขาดว ยความยโสโอหังเปน ที่สุด และเม่ือเขากลาววา “ “ อุศมาน บตุ ร มซั อนู ซง่ึ นง่ั อยใู นทปี่ ระชมุ ดวยมิไดปลอ ยโอกาสใหละบีดไดก ลา วโคลงบททสี่ อง ของเขาดว ยการเนน ยา้ํ ถึงความเปน จริงของโคลงกลอนบทนน้ั วา “เยย่ี มมาก! ทา นพดู ถกู น่คี อื สจั ธรรมอนั แทจรงิ สรรพสิง่ ทง้ั มวลนอกเหนอื จากพระผเู ปน เจา คอื สง่ิ โมฆะ (บาฏลิ )” ละบดี เรม่ิ กลา วโคลงบทที่สอง “ทุกๆ ความโปรดปรานจําเปน จะตอ งสูญสลาย” อศุ มานไดตะโกนขน้ึ ดวยเสียงอันดังทันทวี า “แตท วาโคลงบททส่ี องนี้เจา โกหก ทุกๆ ความโปรดปรานไมจ าํ เปนจะตองสูญสลาย เฉพาะความโปรดปรานในโลกน้เี ทา น้ันท่ีจะสูญสลาย แตความโปรดปรานในโลกหนาน้ันจะคงอยูน ริ ันดร” ทุกสายตาตางจบั จอ งไปยงั อศุ มาน และคดิ วาชายผนู ช้ี า งโอหงั เสยี จรงิ ๆ ไมมผี ใู ดคาดคดิ มากอนเลยวาในทปี่ ระชมุ ของผหู ลักผูใหญแ หง ชาวกเุ รชทม่ี แี ขกผูมีเกยี รติย่ิงเชน ละบดี บุตร รอ บอี ะฮ ซ่งึ เดนิ ทางมาจากสถานท่อี ันแสนไกล เพื่อกลา วบทกลอน ซ่งึ เปนผลงานชน้ิ เอกของเขาแก ชาวกเุ รช ตองถูกสบประมาทจากชายผูห นึ่งอยา ง อศุ มาน บตุ ร มัซอนู ซงึ่ เมอื่ ไมก น่ี าทมี าน้ียงั อยใู น ความคมุ ครองของผูอ ่นื และตอนนีอ้ ยา วา แตท่ซี ุกหวั นอนเลย ชีวิตก็ไมร วู า จะเอารอดหรือไม อีกทง้ั ผูที่อยูในสายธารเดียวกันกบั เขายังถูกทรมานตา งๆ นานา เขายังจะทาํ เปน อวดดโี อหังกลา วถึงหลกั ศรัทธาของตนอกี ทกุ คนในทปี่ ระชมุ ตางกลา วแกละบดี วา “ทา นจงกลา วโคลงบทนน้ั ซา้ํ อีกคร้งั เถิด” ละบีดจึงกลา วอกี คร้ังวา “สรรพส่ิงทงั้ มวลนอกเหนอื จากพระผูเปน เจา คอื ส่ิงโมฆะ” อศุ มานรีบกลา วเสริมทันควนั วา “ใชแลว ถกู ตอ ง!” 147
และเมอื่ ละบีดกลาวตอวา “ทกุ ๆ ความโปรดปรานจาํ เปนตอ งสญู สลาย” อศุ มานรีบตอบทันที่วา “โกหก! มิใชเ ชน นน้ั ความโปรดปรานในโลกหนา จะคงอยูน ิรนั ดร” ในครง้ั นี้ตวั ละบดี เองรสู กึ เคยี ดแคน กวา ใครอ่นื เขาจงึ ตะโกนขนึ้ วา “โอ ประชาชนชาว กุเรช! ขอสาบานตอ พระเจา ท่ีประชุมของพวกทา นไมเ คยมีเหตกุ ารณเชนนมี้ ากอ นเลย ในหมูพวก ทา นมเิ คยมีใครที่จะโอหังเทาชายผนู ม้ี ากอ นเลย มนั เกดิ อะไรขน้ึ ! บคุ คลเยย่ี งชายผูน้จี ึงมาอยใู น หมพู วกทา นได? ” ชายผูหนึง่ ในท่ีประชุมไดก ลา วแกล ะบดี เพ่อื ปลอบใจ และใครจ ะใหละบีดไดกลาวบทกลอนตอไปวา “ทานอยา เสียใจตอคาํ พดู ของชายผูน ้ีเลย เขาเปนชายผูโงเ ขลาเบาปญ ญา มใิ ชจะมีแตเขาคนเดียวหรอก ยงั มอี ีก เปนกลุม ที่จะหาพบไดใ นเมอื งนี้ พวกเขามคี วามเชอื่ เหมือนกัน พวกเขาไดอ อกไปจากศาสนาของเราแลว และไป นบั ถือศาสนาอื่นท่ไี มใ ชศาสนาของเรา” อุศมานตอบแกช ายผนู นั้ ดว ยเสียงอนั ดังเชนกนั ชายผนู น้ั หมดความอดทนอกี ตอ ไป จงึ ลกุ ข้ึนจากทนี่ ั่งและตรงร่เี ขา ไปหาอศุ มานและตบหนา เขาอยา งแรงหน่ึงครั้ง จนทาํ ใหต าขางหนงึ่ ของ อุศมานเขียวชา้ํ ทนั ที ชายอกี คนหนง่ึ ที่อยใู นท่ปี ระชมุ กลา วแกอ ุศมานวา “อุศมาน! เจา มองขา ม ความสาํ คญั ของการไดอ ยูในความคมุ ครองของคนดีๆ คนหนงึ่ เพราะถา หากเจา ยงั อยใู นความ คมุ ครองของวะลีด บุตร มฆุ เี ราะฮอ ยู ตาขา งหนงึ่ ของเจา คงไมเ ปน เชน นแี้ น” อุศมานกลา ววา “ความคุม ครองของพระผูเปน เจา แนน อนกวาและมีเกียรติกวา การอยู ภายใตการคมุ ครองของผูอ น่ื ท่นี อกเหนือจากพระองค พงึ รูไ วเ ถดิ วา! ดวงตาอกี ขางหน่งึ ของฉนั นน้ั ยงั มแี ววแหง ความหวงั อนั สงู สดุ ท่ีจะกา วไปสคู วามภาคภมู ิใจใหสําเรจ็ จงได ซึ่งดวงตาขา งนข้ี องฉนั มันไดบ รรลุสเู ปาหมายของมนั แลว” ตรงนีเ้ อง วะลดี บตุ ร มฆุ ีเราะฮ กา วเทาออกมาขา งหนา และกลา ววา “อุศมาน! ฉันพรอม ที่จะเริม่ ใหความคมุ ครองของฉันใหมได” อศุ มาน “แตทวา ฉนั ตัดสินใจแลว วา ฉันจะไมย อมรับการใหค วามคมุ ครองจากผูใ ด นอกเหนือจากจากการคุมครองจากพระผูเ ปน เจา องคเ ดยี วเทาน้ัน” .(1) 107 คาํ ขวัญแรก เสยี งเลา ลือจากนครมกั กะฮ ท่ีแวว มาถงึ หูผคู นแหงเผา บนี ฆอฟฟาร ในบางครั้งบางคราว ทาํ ใหอ บซู ารเกิดความอยากรูอยากเหน็ ขน้ึ มาทนั ทีโดยธรรมชาติ เขาใครท ่ีจะรูอ ยา งมากวา เกดิ อะไรขนึ้ กันแนใ นนครมกั กะฮ แตข อมลู แบบขาดๆ หายๆ ทเ่ี ขาไดร บั ฟง จากบคุ คลตา งๆ ไมส ามารถ ทาํ ใหเขารูถงึ ขอเท็จจรงิ ไดอ ยา งถอ งแท แตขอ มลู ท่ีพอจะเชือ่ ถอื ไดสําหรบั เขาก็คือ มีคําพูดหนงึ่ ถกู (1) อุซดุ ลุ ฆอบะฮ เลม 3 หนา 385-386, ซีเราะฮ อบิ นิฮิชาม เลม 1 หนา 364-370. 148
ประกาศขนึ้ ในนครมักกะฮ และประชาชนชาวมักกะฮตา งพยายามทกุ วถิ ีทางเพ่ือคัดคานสงิ่ นั้น และคําพดู นน้ั คอื อะไรกนั เพราะเหตุใดชาวมักกะฮจ ึงตองคดั คา นดว ย นอ งชายของเขากาํ ลงั จะเดนิ ทางไปนครมักกะฮพ อดี อบซู ารจึงกลา วแกเ ขาวา “หลายคน กลา ววา มบี คุ คลหน่งึ ปรากฏข้นึ ในนครมักกะฮและนาํ เอาคาํ พดู ทีแ่ ปลกใหมม า และยังอา งอีกวา คําพดู ดงั กลา วมาจากพระผเู ปน เจา ทปี่ ระทานใหเขา ดังนนั้ เจา กําลงั จะเดนิ ทางไปทีน่ นั่ เจา จงไป สบื ขาวทีแ่ นน อนมาใหฉนั ดว ย” หลายวันผา นไปท่ีอบซู ารรอคอยการกลับมาของนอ งชาย และเมื่อนองชายของเขากลับมาถงึ เขาจงึ ถามวา “วาอยา งไรบาง ! ขาวทฉ่ี ันใหเ จา ชวยไปสืบไดค วามอยา งไร” นองชายของเขาตอบวา “เทาทฉ่ี ันสบื มาไดนั้น เขาก็คอื ชายคนหนงึ่ ซงึ่ เชญิ ชวนประชาชนไปสูก ารมี จริยธรรมท่ีดงี าม และนําคําพูดหนง่ึ มาปา วประกาศซ่ึงมใิ ชเปน เพยี งคาํ ขวญั แน” อบซู ารกลาววา “ทีฉ่ นั ขอใหเ จาชว ยสืบขา วใหน นั้ หมายถงึ มากกวาน้ี ขอ มูลเทา นยี้ งั ไม เพียงพอ เอาเถอะ! ฉนั จะเดนิ ทางไปหาขอมลู ดวยตนเอง” อบูซารไดเ ตรยี มอาหารแหง จํานวนหนง่ึ ลงกระเปา สัมภาระ และเริม่ ออกเดนิ ทางมงุ หนา สู นครมกั กะฮทนั ที เขาใหค าํ มนั่ สญั ญากบั ตวั เองอยา งจริงจงั วา ไมวา อะไรจะเกดิ ขึน้ กต็ ามเขา จะตอ งพบปะพดู คุยกบั ชายคนดังกลา ว ทน่ี าํ คําพูดหนงึ่ ที่แปลกใหม ใหจงได และจะรับฟง คาํ พูด เหลา นั้นจากปากของเขาเอง แตเขายงั ไมร ูจ กั หนา ตาของชายผนู นั้ เลย ท้งั ยังไมม ีความกลาหาญ พอทจ่ี ะถามจากประชาชนในนครมักกะฮอ ีกดว ย แลว จะทําเชนไรกนั เลา สถานการณใ นมักกะฮชา งนากลวั ยงิ่ นกั อบซู ารมิไดเ อย ปากถามจากผใู ดสกั คน แตก ็คอย เงย่ี หูฟง คําพูดของประชาชนในเมืองมักกะฮอ ยูเปน เนืองนจิ เพราะบางทีอาจทาํ ใหเ ขารูถึงเบาะแส ที่อยขู องชายผนู ั้นบา งกไ็ ด ศนู ยก ลางของการกระจายขา วสารตางๆ ในชวงนน้ั กค็ ือ มัสยดิ อลั ฮะรอม อบซู ารจึงตรง ไปยงั มัสยดิ อัลฮะรอมและพาํ นักอยทู น่ี น่ั ทงั้ วนั ทั้งคนื แตก็ยังไมไ ดรเู บาะแสอะไรเลย หลังจากที่ ความมืดไดแพรขยายไปท่วั สกั พกั หนง่ึ เขาจึงคิดท่จี ะพกั ผอ นสกั นดิ แตผา นไปไมก ีอ่ ดึ ใจ กม็ ชี าย หนมุ ผหู นง่ึ เดนิ ผานมาทางอบซู าร และมองมายงั เขาจากหวั จรดเทาอยา งพนิ จิ พิเคราะหและผา น เลยไป การมองของชายหนมุ ผนู ้ันในความคดิ ของอบซู ารแลว มนั เปน สิ่งที่มีความหมายอยา งมาก สําหรับเขา เขากลาวกับตัวเองวา บางทชี ายหนุม ผนู ้ีอาจจะเปน ผทู เ่ี ขาสมควรจะสอบถาม และแจง สง่ิ ท่ีซอนอยูใ นหวั ใจของเขาได อบูซารจึงลกุ ขึน้ เดินตามหลงั ชายหนมุ ผนู นั้ ไป แตกย็ งั ไมมีความ กลาพอทจ่ี ะเอย ปากกับชายหนมุ ผนู นั้ อยูด ี จึงกลบั มาท่เี ดิมอีกครง้ั หนงึ่ วนั ตอมาอบูซารไดไ ปอยใู นมสั ยดิ อัลฮะรอมอกี ดวยความอยากรอู ยากเหน็ แตกย็ งั ไมไ ด รับสง่ิ ที่เขาตองการแตอ ยางใด เม่อื ความมดื มาเยือนเขาจึงเอนกายลงนอนพกั ผอนอกี และในค่ํา คืนน้ชี ายหนมุ ผูนนั้ กเ็ ขา มาอกี ครงั้ หน่ึง เขาตรงมาหาอบูซารและกลา วอยา งสภุ าพวา “ยงั ไมถงึ เวลา อกี หรือทท่ี า นจะกลบั ไปยังบา นของทานเอง และพกั ผอนยามคํ่าคืนอยทู นี่ ่นั ?” 149
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200