เมือ่ กลาวจบก็พาอบซู ารไปยังบา นของเขาทนั ที ในคืนนนั้ อบซู ารจึงเปน แขกของชายหนมุ ผูนน้ั ในที่สดุ แตเ ขาก็ยังมิไดป ริปากพดู สง่ิ ใดกบั ชายหนุมผูน้นั เลย ชายหนมุ น้นั กม็ ิไดถ ามส่ิงใด จาก อบูซารเชนกนั เชา วันรุงข้นึ อบูซารไดขอลากลบั ทนั ทแี ละมุงหนา สูมสั ยดิ อัลฮะรอมอีกครั้ง เชาจรดคา่ํ อบูซารกย็ ังไม สามารถรถู ึงเบาะแสใดๆ เลย จากคาํ พดู ของประชาชนทัว่ ไป และเมื่อไดเวลาพลบค่ําไดส ักพกั ชาย หนมุ ผูนน้ั ก็มาที่มัสยดิ อัลฮะรอมอกี และนําอบูซารไปยงั บา นของเขาอกี คร้งั หนงึ่ แตค ราวนีช้ ายหนมุ ผู น้ันไดถามอบซู ารขนึ้ วา “ทา นจะบอกฉนั ไดห รอื ไมวา ทานมายงั เมอื งนดี้ ว ยธุระอนั ใด” อบูซาร “ถา หากทา นรับปากวาจะชว ยฉัน ฉนั ก็จะบอกทาน” ชายหนุม “ฉนั สัญญาวา จะชว ยทา นใหถ ึงที่สดุ ” อบูซาร “ความจรงิ มีอยวู า ในชวงระยะหลงั ๆ นี้ มกี ระแสขาวหน่งึ แพรห ลายขน้ึ ในเผา ของ ฉนั วา มีชายผูหนง่ึ ไดปรากฏกายขน้ึ ในนครมกั กะฮ และนาํ คาํ พดู ทแ่ี ปลกใหมม าประกาศ และยัง อางอกี วามนั ถกู ประทานมาจากพระผูเปน เจา แกเขา ฉนั จงึ เดนิ ทางมาทน่ี ีเ่ พ่อื พบเขา และคน หา ความจริงจากการกระทําของเขา แตอนั ดบั แรกเลยทา นมีความคิดเชน ไรตอตวั ของชายผนู น้ั ? และ เร่อื งทสี่ อง ทา นสามารถชแี้ นะแกฉ นั ไดห รือไมในการทจี่ ะไปพบกับเขา?” ชายหนมุ “ทา นจงมั่นใจเถดิ วา เขาผนู นั้ คือสัจธรรม และทกุ สง่ิ ทเี่ ขากลาวออกมานนั้ มา จากพระผเู ปนเจา พรงุ น้ีเชาฉนั จะนาํ ทา นไปพบกบั เขา แตดง่ั ท่ีทา นรดู ีอยวู า ถา หากประชาชน ชาวเมืองรวู า ฉนั กําลงั พาทา นไปพบชายผนู ้นั ชวี ิตของเราทั้งสองก็จะตกอยูในอนั ตรายทนั ที เอา อยา งนี้ พรุงนเี้ ชา ฉนั จะออกเดนิ ไปขา งนอกและทา นออกตามฉันมาหา งๆ และคอยสังเกตใหด ีวา ฉันเดินไปที่ใด ฉันจะคอยระวงั เหตกุ ารณระหวา งทางเอง ถา หากฉนั รสู กึ วา จะมอี ันตรายฉนั กจ็ ะ หยุดและกมลงเสมือนบคุ คลหนงึ่ กาํ ลังเทสิ่งของลงบนพนื้ ถา หากทา นเห็นฉันทาํ เชน นนั้ ก็เปน เคร่ืองหมายบอกถงึ อนั ตราย ขอใหท า นรบี แยกออกหา งทนั ที แตถ าหากฉนั ยงั คงเดนิ ตอ ไปเรื่อยๆ ทา นกจ็ งเดินตามฉันไปทกุ ท”่ี วันรุงขน้ึ ชายหนุม ผูนนั้ ซงึ่ จะเปนใครไปไมไดน อกจากทา น อะลี บุตรอบีฏอลิบ กอ็ อกจาก บานทนั ที โดยมอี บูซารออกเดนิ ตามมาหางๆ ตามแผน ถือวา เปน ความโชคดที ี่ไมม อี ุปสรรคใดๆ เกิดขึน้ เลย ทา นอิมามอะลจี งึ พาอบซู ารไปพบทา นศาสดามุฮัมมัดในทสี่ ุด อบซู ารเฝาพนิ จิ พิจารณาบคุ คลิกลักษณะของทา นศาสดา อยา งละเอียดถถ่ี วน พรอมทงั้ รบั ฟงโองการอลั กรุ อานหลายโองการดว ยกนั ทที่ านอา นใหฟง ยงั ไมทันทีก่ ารพบปะกันครั้งทสี่ อง จะมีข้ึน อบซู ารกน็ อมรับศาสนาอสิ ลามดวยความจรงิ ใจและมงุ ม่ันในทส่ี ุด และไดใ หส ญั ญากบั ทา นศาสดาวา เขาจะยนื หยัดตอสูและประกาศคําพูดที่เปนสจั ธรรม ถงึ แมว า จะอยใู นสภาพทข่ี ม ขน่ื สักเพยี งใดก็ตาม จนลมหายใจสดุ ทายของเขา ทานศาสดากลาวกับอบซู ารวา “จงกลบั ไปยงั เผา ของเจา และเชญิ ชวนพวกเขาเขาสู ศาสนาอสิ ลาม และคอยฟง คําสัง่ ข้ันตอนตอไปจากฉัน” อบูซารกลาววา “ครบั กระผม แตท วาขอสาบานตอ พระผูเปนเจา กอ นท่ฉี นั จะออกไปจาก เมอื งน้ี ฉนั จะเขา ไปในหมปู ระชาชนเพอื่ ประกาศคําขวญั แหงอสิ ลามดว ยเสยี อนั ดังเสยี กอ น ไมว า จะเกดิ อะไรขึน้ กต็ าม” 150
อบซู ารไดอาํ ลาจากทานศาสดามา และไปยงั ศูนยก ลางของนครมักกะฮน ่ันคือมัสยิด อลั ฮะรอม และรอง ตะโกนกองทา มกลางชาวกุเรชวา “ “ ประชาชนชาวมักกะฮเ มอื่ ไดย ินเสียงประกาศกอ งดงั กลา ว ตางกถ็ าโถมเขา ใสอ บซู าร ในทนั ที ทง้ั ทพ่ี วกเขาไมเ คยรูจักอบซู ารมากอนเลย ซงึ่ ถาหาก อบั บาส อบิ นิ อับดลุ มฏุ ฏอลิบ ไมไ ด เอาตัวเขา ไปขวางชาวมักกะฮไ ดทนั แนน อนอบซู ารกค็ งจะเหลือแตช อื่ เทา นน้ั อบั บาสกลา วแกช าวมกั กกะฮวา “ชายผนู ี้มาจากเผา ของบนี ฆอฟฟาร และเสน ทางการทาํ ธรุ กจิ ของชาวกเุ รชจากมกั กะฮสเู มืองชาม และจากเมืองชามสมู ักกะฮต อ งเดนิ ทางผา นแผน ดนิ ของ เผาของชายผนู ้ี พวกทา นคดิ ดสู วิ า ถา หากพวกทา นฆา ชายผนู ้ี พวกทานกจ็ ะเดนิ ทางผานแผนดนิ ของพวกเขาไดอ ยางปลอดภัยกระนนั้ หรอื ” อบซู ารจงึ รอดพนจากการรุมทํารายของชาวมักกะฮอ ยางหวดุ หวดิ แตหวั ใจของเขาก็ยงั รอนรมุ อยู เขาจงึ กลาวกบั ตนเองวา “ฉันจะกระทําเชนนอ้ี ีกครั้ง ฉันจะทาํ ใหป ระชาชนพวกน้ีไดร บั ฟง ในสิ่งทพี่ วกเขาไมพงึ ประสงค เพือ่ ใหพ วกเขาเคยชินในที่สุด” วนั ตอ มาอบูซารมาทนี่ อี่ ีกคร้ังหน่ึง และตะโกนคาํ ขวัญเมอ่ื วานอกี ชาวมกั กะฮจึง กรูเขา มาหาเขาอีกครั้งเชน กัน และอบูซารก็ไดร ับการปลอ ยตัวอีก โดยการชว ยเหลอื ของอับบาสอกี เชนเคย อบูซารเดินทางกลบั สูมาตุภมู ิของตนเองตามคําสง่ั ของทา นศาสดา และไดเชญิ ชวนประชาชนในเผาของ ตนเองเขา สูอสิ ลาม เมื่อทานศาสดาอพยพจากมกั กะฮสูมะดีนะฮ อบซู ารก็มาสมทบกับทา นศาสดาเชน กัน และอาศัยอยใู น เมอื งมะดนี ะฮจนอายเุ ขาสวู ยั ชรา และไดร กั ษาคําพดู ที่ตรงไปตรงมาโดยไมอ อมคอมของเขาจนลมหายใจสดุ ทาย ดวยเหตนุ ้เี องเมื่ออุศมานขนึ้ เปนคอลฟี ะฮ เขาจงึ ถกู ใหเ ดินทางไปยังเมืองชาม และหลังจากนัน้ ไดถูกเนรเทศไปยงั สถานที่หนึง่ ซง่ึ มีนามวา ‘รอบซะฮ’ ซง่ึ อยูน อกเมืองมะดนี ะฮ และสนิ้ ลมหายใจ ณ สถานท่แี หง น้ัน ทานศาสดาเคยกลาว วจนะบทหนึง่ เกี่ยวกับอบูซารวา “ขอพระองคท รงเมตตาตออบูซารดวยเถดิ เขาใช ชีวติ อยางโดดเดี่ยวและส้ินลมหายใจอยา งโดดเด่ียว และจะฟน คืนมาอยา งโดดเดี่ยว” .(1) 108 ราชสาํ นกั ของรุสตั้ม รุสตมั้ ฟารัคซาด มาถงึ เมอื งกอดซิ ยี ะฮพ รอ มกับกําลังทหารจํานวนมากมายมหาศาลเพ่ือบดขยี้มุสลิม เน่อื งจากเมอ่ื ครั้งกอ นกองทพั มุสลิมไดย ดั เยียดความพายแพอ นั ใหญห ลวงแกชาวอหิ รานมาแลว ฝา ยมุสลมิ ก็ เดินทางมายังเมืองกอดซิ ยี ะฮ และหยุดทัพอยูใกลๆ เมืองนั้นเชนกัน โดยการนําทัพของ ซะอ บุตรอบอี บวี กั กอส ซะอสง กองกาํ ลังจํานวนหน่ึงโดยมีผูน ําทพั ชือ่ ‘ซฮุ เ ราะฮ บุตรอับดุลลอฮ’ ไปลาดตระเวนดูความเคลอ่ื นไหวของ ฝายตรงขา ม หลงั จากทร่ี ุสตมั้ อยใู นเมืองนห้ี น่ึงคนื ผานไป รงุ ข้ึนเขาข้ึนมาและควบออกไปเพอ่ื ตดิ ตามดูความ เคลือ่ นไหวของฝายมสุ ลิม เขามาหยดุ อยูท เี่ ชิงเขาแหงหนง่ึ ใกลๆ กับทกี่ องทัพของมสุ ลิมตัง้ ทัพอยู เขาเฝา มอง สถานการณความเคลอื่ นในกองทพั ของมุสลิมอยางพนิ จิ พิเคราะห และเหน็ วาไมม อี ะไรทีจ่ ะสรางความวิตกแกเขา (1) อซุ ดุ ลุ ฆอบะฮ เลม 1 หนา 301 และเลม 5 หนา 186, อัล ฆอดีร หนา 314 พมิ พเบรตุ , เลบานอน. 151
ไดเ ลย เพราะไมวา จะเปน กาํ ลงั ทหารและอาวธุ ยทุ ธโธปกรณท่ีมีก็ไมไดมากมายอะไรนัก แตข ณะเดยี วกนั เขากลบั มีความสงั หรณใ จวา การทาํ สงครามกบั บคุ คลกลุม นจ้ี ะตอ งจบลงในทางที่ไมดีแน ในคนื นนั้ เองรสุ ตัม้ ไดส ง สาสนฉบับหนึ่งไปยงั ซุฮเราะฮ บตุ รอบั ดุลลอฮ ใหม าพบเขาและเสนอการทํา สนธสิ ญั ญาสงบศกึ สงคราม แตตอ งเปนไปตามเง่ือนไขน้คี ือ เขาจะจายทรพั ยสินใหจํานวนหนง่ึ และขอใหมสุ ลิม ท้ังหมดกลบั ไปเสีย รสุ ตม้ั กลา วแกซุฮเราะฮด วยความโอหงั อันเปน คุณลักษณะเดน เฉพาะของเขาวา “พวกทานเคยเปน เพ่อื นบา นของเรามากอ น เราปฏิบตั ิกบั ทา นดวยดี เคยชว ยเหลอื พวกทา นมาตลอด และในบางคร้งั อนั ตรายใดๆ ท่มี ายงั พวกทาน เรากค็ อื ผูที่คอยปกปอ งพวกทานจากภยั อนั ตรายเหลา นนั้ พวกทา นจาํ มไิ ดเ ลยหรอื ” เม่ือรสุ ต้ัมพดู มาถงึ ตรงน้ี ซฮุ เราะฮจึงกลาวขนึ้ มาทันทีวา “ทุกสิง่ ทกุ อยางท่ีทา นพูดในเรือ่ งเกากอนนน้ั ถกู ตอ งท้งั สิน้ แตท านก็ตองยอมรับความจรงิ ดวยที่วา วันนี้มใิ ชเมือ่ วาน เรามใิ ชประชาชาติที่ตองการโลกนี้และ โลกียวัตถุอีกตอ ไป เปาหมายตา งๆ ในโลกนเ้ี ราไดส ลัดท้งิ ไปแลว และเรามีเปาหมายเพียงเฉพาะโลกหนาเทานัน้ ใช เราอาจเปนด่ังทที่ านกลา วมาเมื่อกอ น แตน บั ตัง้ แตว นั ที่พระผูเปน เจา ทรงแตงตงั้ ศาสดาของพระองคม าใน หมูพวกเรา และเเชิญชวนพวกเราสคู วามเปนเอกะของพระองค เราไดนอมรับศาสนาของทาน พระองคท รงววิ รณ แกศาสนทูตของพระองควา ถาหากบรรดาผทู ป่ี ฏิบตั ิตามเจา ไดยืนหยัดปฏิบตั ิตามทกุ สิ่งทุกอยางท่ีมวี ิวรณม ายัง เจาแลวไซร พระผเู ปน เจา จะทรงทาํ ใหพวกเขาเหลา น้นั มชี ัยชนะเหนือทุกๆ ประชาชาติ บุคคลใดก็ตามทเี่ ขา มา สศู าสนานี้ เขาจะเปนทรี่ ักยง่ิ และบคุ คลใดก็ตามทเี่ ขาตอ ตานเขาจะตองตกตา่ํ ในทสี่ ดุ ” รุสต้มั “ไหนทา นลองอธบิ ายเก่ยี วกับศาสนาของทา นบางประการซ”ิ ซุฮเ ราะฮ “รากฐานแหงศาสนาของเราวางอยบู นสองส่ิงดว ยกนั สิง่ แรกคือการใหคาํ สัตยปฏิญาณตนวา ไมม พี ระเจาอนื่ ใดนอกจากพระผูเปน เจา และอยางที่สองคอื การใหคาํ สตั ยปฏิญาณวา มุฮัมมดั คือศาสนทูตของ พระองค และทุกสง่ิ ทุกอยา งทเี่ ขากลาวน้ันมาจากพระองค” รุสตั้ม “สงิ่ นี้ไมมีปญ หา ดมี าก! แลวมีอะไรอกี ?” ซุฮเ ราะฮ “ปลดปลอ ยบา วของพระผเู ปน เจา ใหรอดพนจากการเปนทาสของมนุษย เพราะเขากเ็ ปนบาว คนหนง่ึ เหมอื นกัน” รสุ ตัม้ “ส่งิ นี้กด็ ี ยังมสี งิ่ ใดอีก?” ซุฮเราะฮ “มวลประชาชาติบนโลกนม้ี าจากบิดามารดาคนเดียวกัน ทกุ คนคือบุตรของอาดมั และฮาวา ดังนนั้ ทกุ คนจงึ เปนพน่ี องกนั ” รสุ ตัม้ “สิง่ น้ีก็ดี! ถา หากเรายอมรบั ในสงิ่ ท่ที านกลาวมาทกุ อยาง ทา นจะยนิ ดีกลับไปหรอื ไม” ซฮุ เราะฮ “ใชแ ลว! ขอสาบานตอพระผเู ปนเจา เราจะไมลวงล้าํ ไปในดนิ แดนของทา นเลยนอกจากเพ่ือ การคาขายหรอื กจิ การงานอื่นๆ ทจี่ าํ เปน เชน การทําธรุ กจิ เรามิไดมีเจตนาอนื่ ใดนอกจากท่กี ลาวมาแลวทง้ั หมด” รุสตม้ั “ทานพูดถกู ! แตทวายังมีอกี ปญหาหนึง่ คือ นบั ตง้ั แตส มยั ของทานอรั ดชรี ในหมพู วกเรามี ขนบธรรมเนยี มหนึง่ ซ่ึงเปน ทแ่ี พรห ลายจนถงึ ปจ จบุ นั ซงึ่ อาจจะไมส อดคลองกับศาสนาของพวกทา น เปน ธรรม เนยี มประเพณที ี่มีมาตงั้ แตส มยั โนน น่ันคอื บุคคลชนชนั้ ตํา่ อาทิเชน ชาวไร ชาวนาและผูใชแรงงานท่วั ไป พวกเขา ไมม สี ิทธทิ์ ีจ่ ะเปลยี่ นแปลงอาชพี และไปประกอบอาชพี อ่นื ไดเลย ดังนนั้ ถาหากวาพวกเขามีสิทธ์ิในการ เปล่ยี นแปลงอาชีพหรือชนชน้ั ของตนเองหรอื บุตรหลานได และพวกเขาขึน้ มาอยูใ นระดับเดียวกับผูมีอนั จะกินทม่ี ี เกยี รตใิ นหมปู ระชาชน พวกเขากอ็ าจจะลําพองตนได และจะมีการปะทะกันเกิดข้ึนอยางแนนอนกบั บุคคลชน ชน้ั สูงในสังคม ดงั น้ัน จะเปนการดกี วา ท่ลี ูกชาวนา ชาวไรจ ะตองรวู า เขานน้ั คือชาวไร ชาวนาจะเปนอยางอน่ื ไป มิได บตุ รของชา งตีเหล็กกต็ องเปนชา งตเี หล็ก จะเปล่ยี นไปทําอาชีพอ่นื ไมไ ด” 152
ซุฮเ ราะฮ “แตท วาสําหรบั ประชาชนของพวกเรา (การปฏบิ ัติตอผูอื่น) น้ันเลอเลศิ กวา ทกุ ๆ ประชาชาติ เราไมสามารถท่ีจะเปน เหมอื นพวกทา นได ที่พวกทานอา งวา ในประชาชนมีชนชั้นตางๆ เรามคี วามเช่อื วาเรามี หนาที่ปฏบิ ัตติ ามคาํ สงั่ ของพระองคในเรอ่ื งของบคุ คลชัน้ ต่ําเทานนั้ อยา งเชน ที่ฉันกลา วไปแลวกอนหนานี้วา มนุษยท กุ คนถูกสรางมาจากพอ แมคนเดยี วกัน ทกุ คนเปน พ่นี องกนั และเทาเทียมกัน เรามคี วามเช่อื วา เราจะตอง ปฏบิ ตั ิหนาท่ีของเราในเรอ่ื งของผอู นื่ ใหดที ส่ี ุด และถาหากวา เราไดป ฏิบัติตามหนา ทข่ี องเราแลว การเพิกเฉยของ พวกเขาก็มไิ ดส รางความสญู เสียอันใดแกเ ราเลยแมแ ตนอ ย ในขณะเดยี วกัน เรากจ็ ะเปนผทู ่รี อดพน จาก ภาระหนา ที่ของเรา” ซฮู เราะฮ บุตร อับดลุ ลอฮ ไดก ลาวส่งิ ขา งตน และจากไป ฝา ยรุสตมั้ ก็เรียกผอู าวโุ สหลายคนมาประชมุ กนั และเลาถึงคําพดู ตา งๆ ของชายมุสลมิ (ซฮู เ ราะฮ) ผูนีใ้ หพ วกเขาฟง แตทุกคนในทน่ี ้ันตา งก็ไมสนใจใยดแี ต อยา งใดตอคําพูดของซูฮเ ราะฮท ี่รสุ ต้มั สาธยายใหฟ ง รุสตม้ั จงึ สงขาวไปยงั ซะอ อิบนิ อบีวกั กอส วา ใหซะอสง ตวั แทนอยางเปนทางการจํานวนหน่ึงสาํ หรับภารกิจนี้ แตทวา รอเบียะอ บตุ ร อามิร ซึง่ อยใู นทีน่ ้ันไมเห็นดว ย เขา กลาววา “ชาวอิหรา นมีนสิ ัยท่เี ฉพาะอยางหนึ่งคือ ถา หากมีคณะหน่งึ ๆ ซ่ึงเปน ตวั แทนอยางเปนทางการถูกสงไป หาพวกเขา พวกเขาจะรสู กึ สําคัญในตวั เองทันท่ี ตา งคดิ กนั วา เน่อื งจากพวกเขา (มสุ ลิม) ไดใหค วามสําคัญแก พวกเขามาก จนถึงกบั ตองสงตวั แทนมาเปน คณะเลยทเี ดียว ฉันคดิ วา สงตวั แทนไปเพียงคนเดยี วก็เพียงพอแลว” และในเวลาตอ มา รอเบียะอ ก็ไดร บั หนาที่เปน ตัวแทนในการเจรจา บัดนั้นเอง รุสตั้มกร็ วู า ซะอ บุตร อบวี กั กอส ไดสง ตัวแทนมาหาเขาแลว ซ่งึ รุสตัม้ และผูอาวุโสของเขา ตางปรึกษาหารือถึงแผนการในการตอนรับตวั แทนของฝา ยมุสลิมเอาไวเ รียบรอ ยแลว และตามแผนการก็คอื ในที่ ประชุมทุกคนลงความเหน็ วา พวกเขาไมควรใสใ จตอคาํ พดู ของฝายมุสลิม เพ่อื ใหเขาเขาใจวาพวกเขาไมแ ยแสกับ พวกเขาเทา ไรนกั และจะไดร ูว าพวกเขานน้ั ตํา่ ตอยเกนิ ไปสาํ หรับคาํ พูดเหลา นั้น รุสต้มั สั่งใหน าํ บัลลงั กทองคําออกมาตัง้ และเขาไดข ึ้นไปน่งั บนนน้ั เพ่ือสรางความอลังการแกช าวอหิ ราน (ตนเอง) พรมท่งี ดงามยง่ิ ไดถ ูกปูลงบนพน้ื หมอนอิงด้ินทองถกู วางลง และรอเบียะอตวั แทนของฝายมสุ ลมิ ซ่งึ ขม่ี า เขามาในสภาพที่มดี าบอยูใ นฝกอนั เกา คร่ําครึเลมหน่ึง (ฝก ดาบในสมยั น้นั สามารถบง บอกถงึ ฐานะของเจา ของ ได) และหอกอกี หนง่ึ เลมที่ผกู เอาไวดว ยเชือกหนัง เม่ือเขาไดเห็นทกุ อยางทอ่ี ยตู รงหนา ก็เขา ใจไดท ันทวี า สถานท่ีท่ี ถกู ตกแตง อยางเลศหรนู ้ีก็เพื่อความหรูหราของแขกท่ีมาเยอื นนนั่ เอง แตใ นทางตรงกนั ขา ม เพือ่ เปนการบง บอกให พวกเขาไดรับรูวา มุสลมิ มิไดใ หความสําคญั ตอ ความหรูหราเชนนเ้ี ลยสกั นดิ เดียว เพราะมนั เปนเพียงวัตถุ ดังนัน้ เมื่อเขาเขา ไปใกลกับท่รี ุสต้ัมนั่งอยู เขาไมรอชา รีบควบมาเขาไปในราชสํานักของรุสตมั้ ดวยมาของเขาทนั ที บรรดาทหารท่ีเฝาอยูดา นหนา ตางกลา ววา “ลงมาขา งลางเดีย๋ วน้!ี ” เขาไมฟ งเสยี งใครและขม่ี า จนไปถงึ บลั ลังกท่ีรสุ ตม้ั น่ังอยแู ละลงจากหลงั มาทนั ที เขาหยบิ หอกออกมาและแทงไปทหี่ มอนองิ ใบหนึง่ จนเปนรูโหว และ นาํ บังเหียนของมาลงมาผูกไว โดยเฉพาะอยา งยง่ิ เขาหยิบผา ปานผืนหนง่ึ ซึ่งเปนอานมา มาคลุมบนตวั ของเขาเอง เปน ผาคลุมตวั ทุกคนตา งกลา วกบั เขาวา “จงเก็บอาวุธทุกชน้ิ ของเจา กอนเขาไปพบรสุ ตม้ั ” เขากลาววา “ฉันไมเ กบ็ เพราะพวกทานประสงคตัวแทนจากฝายเรา และฉนั ก็มาในฐานะตัวแทน ถา พวกทานไมพ อใจ ฉันก็ยนิ ดกี ลับ” รุสตั้ม กลาววา “ปลอ ยเขาเถิด! เขาจะเขา มาหาเราเชน ไรกต็ ามใจเขาเถิด” รอเบียะอ บตุ ร อามริ ไดเ ขา ไปดวยใจท่มี ัน่ คงเด็ดเดีย่ วดวยการกาวเทาทลี่ ะนอยๆ และถอื หอกเขาไป เพอ่ื เปนไมเทา และถอื โอกาสทมิ่ แทงพรมอนั มคี า เหลานนั้ ไปดว ยจนถงึ บลั ลังกทร่ี ุสตมั้ น่งั อยู และเม่ือเขาตอ งการ จะนั่งเขาไดข ยบั พรมออกไป และน่งั ลงบนพน้ื ท่ีปราศจากพรมทันที ตา งกลา วกันวา “เหตุใดทานจงึ ไมน งั่ บนพรม เลา ?” 153
เขาตอบวา “เราไมคอยชอบน่งั บนพรมที่หรหู ราเชนนี้” ลามขอรุสตั้มถามวา “ทา นมาท่ีนีเ่ พ่ืออะไร” รอเบยี ะอ “พระผเู ปนเจา ทรงสง เรามา พระองคสงเรามาเพ่อื ปลดปลอ ยใหบ า วของพระองคร อดพนจาก ปญ หาและความเคราะหรา ยตา งๆ และปลดปลอยประชาชาตทิ ่ีตกอยูภ ายใตก ารกดขี่ขมเหงของศาสนาตางๆ และนําทางพวกเขาเขาสรู ม เงาแหงความยตุ ธิ รรมของอสิ ลาม เรามานําเสนอศาสนาของพระองคซ ง่ึ เปน ศาสนาที่ เทย่ี งแทแกช นชาตอิ ่นื ๆ ถาหากวา พวกเขายอมรับ เขากจ็ ะใชชวี ิตอยูภายใตร ม เงาแหงศาสนานอ้ี ยา งมีเกยี รติและ ผาสุกยงิ่ ซ่ึงเราก็จะละมือจากเขา (จากสงคราม) และถาหากเขาไมยอมรับ เรากจ็ ะทาํ สงครามกบั เขา เมอ่ื ถงึ เวลาน้ันถา หากเราเสียชวี ิตในสงครามเราก็จะไดเ ขาสวรรค หรอื ไมก็จะมชี ัยเหนือพวกศตั รใู นท่ีสุด” รุสต้ัม “ไดเลย! เราเขา ใจคาํ พูดของทาน ถาเชน นั้นทานพอจะมีเวลาใหเ ราบา งหรือไม? เพื่อท่ีเราจะได คิดใครค รวญและตัดสินใจอยางเดด็ ขาดออกมา” รอเบยี ะอ “ทําไมจะไมได ทานตอ งการเวลากี่วันละ ! หนึ่งวนั หรือสองวัน?” รสุ ตั้ม “แควันสองวันคงไมพอหรอก เพราะเราตอ งทาํ จดหมายถึงผูหลกั ผูใหญ และพวกเขาตอ งประชุม ปรึกษาหารือกันเพือ่ การตดั สินใจ” รอเบียะอซ ึง่ เขาใจต้ังแตแรกแลววา เจตนาของการขอเวลากเ็ พ่ือที่จะยืดเวลาใหน านไปอีก เขาจงึ กลาว วา “สง่ิ หน่ึงที่ศาสดามุฮมั มดั ของเราวางแบบฉบับเอาไว และผนู ําของเราก็ปฏิบัติกนั เรือ่ ยมานั่นก็คอื ใน สถานการณเ ชน นีเ้ ราจะใหเ วลานอยกวาสามวนั มิไดเลย ฉนั จะใหเวลาแกทานเพียงสามวนั เทา น้ัน เพ่อื ใหท า น เลือกหน่งึ จากสามหนทางคอื หนึง่ ยอมรบั ศาสนาอสิ ลาม ในกรณีน้ีเรามสุ ลิมจะกลบั ไปในทางทีเ่ รามาทันที แผนดินของพวกทาน ความโปรดปรานทกุ ส่ิงทุกอยา งในแผน ดนิ ของพวกทานกย็ งั เปนของพวกทาน เรามไิ ดมี ความโลภตอทรัพยส นิ เงนิ ทองและแผน ดนิ ของพวกทานเลย สองยอมจา ยเงนิ ภาษีท่ีบรรดามสุ ลิมเกบ็ จากผทู ไ่ี มใช มุสลิมซ่ึงอาศยั อยูใ นประเทศมุสลมิ และสามเตรียมทาํ สงคราม” รสุ ตม้ั “ดูเหมอื นทา นจะเปนแมทัพผูมีอาํ นาจสูงสุดใชไ หม ถึงไดออกคาํ ส่งั แกเ ราเชนน้ี?” รอเบยี ะอ “เปลาเลย! ฉนั เปน บคุ คลธรรมคนหนึ่งเทานัน้ แตท วามุสลิมทง้ั มวลเปรยี บเสมือนเรอื นรา งอัน เดียวกนั ทกุ คนเหมือนกนั หมด ถาหากวาคนทตี่ ่ําตอ ยทสี่ ุดไดใ หความคุมครองแกผ ูหนึ่งผูใ ด ก็เสมอื นหนึง่ วา ทกุ ๆ คน ไดใหความคุมครองเชน กนั (1) พวกเขาจะยอมรับและใหเ กียรตติ อคําม่ันสัญญาของทุกๆ คนในหมมู สุ ลิม ดว ยกนั ” (1) รอเบยี ะอ กลาวประโยคน้อี อกมาโดยรวมแลว อา งอิงมาจากวจนะสองบทของทา นศาสดา ดงั นี้ ก. บรรดาผูศรัทธา ในดานของความรกั ความรสู ึก ความสัมพันธทีพ่ วกเขามีนน้ั เสมือนเรือนรางอนั เดยี วกัน เชน เมอ่ื สวนหน่ึงสวนใดของรางกายเจบ็ อวัยวะสวนอ่นื ๆ ของรางกายก็จะพลอยเจ็บไปดว ยเน่อื งจากพิษไขและ อดหลับอดนอน ซะอด กี ็ไดก ลา วบทกลอนเก่ียวกับเรือ่ งขางตน เอาไววา … และในธรรมเทศนาบทหน่งึ ที่อุมรั ไดกลา วเอาไวใ นชว งทเ่ี ขาสง กองกําลงั ทหารไปยังอหิ รานครง้ั นั้น ซงึ่ ความหมายโดยรวมแลวไดบ งชี้ยงั วจนะขา งตน เชนกนั วา “พระผูเปนเจา ไดท รงรวมบรรดามสุ ลิมเขา อยูในแกน แหงอลั อสิ ลาม ทรงทําใหหัวใจของพวกเขามีความรกั ซง่ึ กันและกนั ทรงทําใหพวกเขาเปนพีน่ องกนั ในระหวา ง บรรดามุสลมิ พวกเขาเปรียบเสมือนเรือนรางอันเดยี วกัน เมื่อมีส่ิงใดกระทบกับอวัยวะสวนหน่ึงก็เทา กับกระทบกับ อวัยวะทุกสว น สมควรอยางย่ิงทบี่ รรดามุสลิมท้ังปวงจะตองบริหารกจิ การงานของพวกเขาดว ยการปรกึ ษาหารือ 154
ภายหลงั จากจบการเจรจา รุสต้ัมจงึ ตกอยใู นภาวะทีล่ าํ บากใจยิ่ง เขาจึงปรึกษาหารอื กนั ในบรรดาผู อาวโุ สและแมท ัพของเขาเก่ียวกับพวกมุสลมิ รสุ ตมั้ กลา วกับพวกเขาวา “ทา นจะวา อยา งไรตอ เร่อื งน้ี ถามจรงิ ๆ เถดิ วา ทา นเคยไดยนิ สุนทรพจนที่สูงสง หนกั แนน และเขาใจงายกวาสุนทรพจนของชายผนู ีม้ ากอนหรอื ไม แลว ทานมคี วามคิดเหน็ อยางไร” พวกเขากลาววา “ไมม ีทางแนท ่ีพวกเราจะยอมรับศาสนาของสนุ ขั ตวั น้!ี ทา นไมเ ห็นเสื้อผาการแตงกาย ทเี่ กา ๆ ทเี่ ขาสวมอยูเลยหรือ” รุสตม้ั “ทานจะไปยงุ กับเสื้อผา ท่ีเขาสวมใสอ ยูท าํ ไม จงดูที่ความคิดและคาํ พูดของเขาสิ จงใครครวญใน การปฏบิ ตั แิ ละแนวทางของเขาเถิด” แตคาํ พูดของรสุ ตม้ั ก็เปลา ประโยชน พวกเขายังคงด้อื รน้ั ดว ยความยโสโอหังในตนเองจนไมสนใจตอสัจ ธรรมที่เทย่ี งแทน้นั แตอยางใด รุสตั้มจงึ เห็นวาไมมีใครสักคนเดียวทม่ี ีความคิดเหน็ เชนเดียวกบั เขา หลังจากน้นั การเจรจากับฝายมุสลมิ กเ็ ร่ิมขน้ึ อกี คร้ังหนึ่ง และมีการปรกึ ษาหารอื กันในหมูพวกเขาอกี รอบหนึง่ ซึ่งก็ยงั หาขอยุตไิ มไ ด ทั้งสองฝา ยจึงรวมกาํ ลงั พลทหารเพื่อทําสงคราม และในที่สดุ กไ็ ดรบั ความพา ยแพ อยา งนา อดสู ซ่ึงไมเคยมกี ลุมชนใดเคยพา ยแพเชนนม้ี ากอนเลย ตวั รุสตั้มเองเสียชีวิตลงในสงครามครง้ั นี้ ใน หนทางแหงความด้ือรนั้ ของผูอ่ืน. (2) 109 ผูลุกหนีจากเตยี งนอน ทา นศาสดาไดแ ตงงานกับอาอชิ ะฮ เมอ่ื ทา นมีอายไุ ด 55 ป เปน ภรรยาคนแรกของทา นคือทานหญงิ คอดิ ยะฮ ซง่ึ เคยแตง งานมาแลว สองครั้งกอนหนา น้ี และทา นยังมอี ายมุ ากกวาทา นศาสดาถึง 15 ป ดังน้นั ขณะที่ แตงงานทา นศาสดามีอายุเพียง 25 ป แตทา นหญงิ คอดิยะฮม อี ายุ 40 ป และทา นหญิงคอดยิ ะฮใชชวี ติ ในฐานะ ภรรยาของทานศาสดา ในบานของทานเปนเวลา 25 ป มีบตุ รดวยกันหลายคน และทานจากโลกนีไ้ ปเมอ่ื อายุ 65 ป จากนน้ั ทา นศาสดาไดแ ตงงานกบั หญิงหมา ยนางหนึ่ง ซง่ึ มีนามวา ‘เซาดะฮ’ และหลงั จากนั้นจึงแตงงานกบั อาอิ ชะฮซง่ึ เปน สาวพรหมจารี ทไี่ มเคยมชี ายใดแตะเนื้อตอ งตัวนางมากอนเลย หลังการแตงงานกับอาอชิ ะฮแลว ตอ มาทา นศาสดากไ็ ดแตงงานอีกหลายครั้ง แตท วา ไมม หี ญิงนางใดที่ ทา นแตงงานดว ยทีเ่ ปน หญิงสาวพรหมจารี ทุกคนตา งก็เคยมสี ามีมาแลวทัง้ ส้ิน และสว นมากจะมีอายมุ ากทกุ คน บางคนกม็ ีลูกๆ แลว อาอิชะฮมกั คยุ กับบรรดาภรรยาของทานศาสดาวา “ฉันคอื ผหู ญิงคนเดยี วทีไ่ มเ คยหลับนอนกบั ชายใด มากอน นอกจากทานศาสดาคนเดยี วเทา นั้น” นางรูส กึ ภาคภูมิใจในความสวยงามทั้งสรีระและหนาตาของนางย่งิ นกั ดวยเหตุผลสองประการขางตน นี่เอง ทาํ ใหน างทะนงตน ซงึ่ ทําใหท า นศาสดา ไมพ อใจมาก หรอื รบั ฟงความคิดเหน็ จากผทู ีแ่ สดงทัศนะ (ผูท่สี ามารถใหท ัศนะได) (หรือสมควรอยางย่ิงท่ีบรรดามุสลิมจะ บริหารงานของพวกเขาดวยการปรึกษาหารอื ซ่ึงกันและกนั ) : กาม้ิล อิบนิ อะซีร เลม 2 หนา 310. ข. โลหิตของบรรดามสุ ลมิ น้นั เสมอเหมือนซ่งึ กนั และกัน คาํ สญั ญาของพวกเขาในหมผู ทู ี่ต่าํ ตอ ยท่สี ุดถือเปน ส่ิงจําเปน ตองยอมรบั และใหเ กียรติ พวกเขาเปรียบเสมือนมืออันเดียวกันเมอื่ ยตู อหนาเหลาศัตรู. (2) กามลิ อบิ นิ อะซีร เลม 2 หนา 319-321, วกิ อเยยี ะอ ป ฮ.ศ. ท่ี 14. 155
นางคาดหวังวา ทา นศาสดา คงจะไมสนใจผูอน่ื นอกจากนาง ซงึ่ โดยธรรมชาตแิ ลว ผูช ายอยางเชนทา น ศาสดาท่มี ภี รรยาทง้ั สาวและสวยสด คงจะไมใหตวั เองตองทนกลา้ํ กลนื อยกู บั บรรดาหญงิ ท่ีมีอายุมากและไรความ สวยงามแนนอน แตส าํ หรับทา นศาสดา ทา นจะปฏิบัติและรักษาสทิ ธิของภรรยาของทา นทกุ คนอยางเทา เทียมกัน เพ่ือยังความยุติธรรมอันสมบูรณแ บบนน่ั เอง แตท วา การแตงงานหลายครง้ั ของทา นศาสดา ในชวงระยะเวลา 10 ปส ดุ ทายแหง ชวี ิตของทานนั้น อยู บนพ้ืนฐานของผลประโยชนทางสังคมและการเมืองของอสิ ลามในสมยั ของทา นเทา น้นั มิใชเรอื่ งอ่ืน นบั จากเวลา ดงั กลาวจนกระทั่งทานส้ินชีวิต ราว 10 ป ทา นแตงงานกับภรรยาหลายคน ซง่ึ เปนสตรที ีข่ าดผคู ุมครอง สามขี อง พวกนางเสยี ชีวิตในสมรภมู ิ และเหตผุ ลอนื่ ๆ เรอื่ งหนง่ึ ทบี่ างครัง้ สรา งความเบ่ือหนา ยใหอ าอชิ ะฮเ ปนยิ่งนักคอื ทา นศาสดาไมเคยนอนอยูบนเตียง ตลอดท้ังคืน แตทา นใชเ วลาหน่งึ ในสามหรือบางครั้งครงึ่ คนื หรือมากกวา เพือ่ การเคารพภกั ดพี ระผูเ ปน เจา อาน คมั ภีรอ ัล กรุ อานและขออภัยโทษตอพระองค (1) ในค่ําคืนหนึ่งเปนเวรของอาอิชะฮท ท่ี า นศาสดาจะมานอนคา งดว ย และในชว งท่ีทานศาสดาจะเขา นอน ทา นไดนํารองเทาและเสื้อคลุมมาตงั้ ไวป ลายเตียงและเขานอน หลงั จากผา นไปพักหน่งึ ซึ่งทานคดิ วาอาอิชะฮค ง จะหลบั แลว ทา นจึงลุกข้ึนจากเตยี งและสวมรองเทา กับเสือ้ คลุมอยา งชาๆ และเปด ประตูออกไปขา งนอกเงียบๆ แตท วาอาอชิ ะฮยงั ไมหลับ และการออกไปของทา นศาสดาอยางเงียบๆ เปน ส่ิงทีน่ าแปลกใจยงิ่ สาํ หรับนาง เพราะ เน่อื งจากวาในคืนกอนๆ ทานศาสดา จะลกุ จากเตยี งและมงุ ม่ันตอ การเคารพภักดีพระผูเ ปน เจาอยูในมมุ หนง่ึ ของ หอ งเพียงเทานัน้ ไมเ คยปรากฏมากอนเลย ที่เม่อื เปนเวลาของนางแลว ทา นศาสดาจะลุกจากเตียงนอนออกไป นอกหองเชนน้ี นางจึงกลาวกับตนเองวา : ฉันตองรใู หไดวา ทานศาสดากําลังจะไปไหน หรอื วาทา นจะไปหา ภรรยาคนอื่นทบ่ี านหน่งึ บานใด เปนไปไดห รอื ทีท่ า นจะไปหาภรรยาอ่นื ในเวรของฉัน นางยงั กลา วกบั ตนเองอีกวา : ภรรยาคนอนื่ ๆ ของทา นศาสดากไ็ มมใี ครอยใู นวัยสาวและสวยสด หรือ บา นของทา นกไ็ มไ ดเ ตม็ ไปดวยสาวๆ ท่ีมีความสวยงาม แตร อบกายทา นมีเพียงหญงิ แกท ีเ่ ปนหมา ย อยางไรก็ตาม ฉันจะตองสืบวา ทา นไปไหน ในเวลาทีย่ ังไมด ึกนัก ในขณะที่ฉนั ยังไมห ลับ อาอชิ ะฮรีบลกุ ขึ้นสวมเสื้อผาทันควนั และออกสะกดรอยตามทานศาสดาไปทนั ที นางเหน็ ทานศาสดา มุง ตรงไปยงั สุสานบาเกียะอในนครมะดีนะฮ ซงึ่ ถูกทําเปน สุสานโดยคําส่งั ของทา นศาสดา ทานหยุดยนื อยใู กลๆ กับสถานทแ่ี หง นน้ั อาอิชะฮจึงสะกดรอยตามไปอยางชา ๆ และหยุดซอนตัวอยูในมมุ หนงึ่ นางเห็นทานศาสดายก มอื ขึ้นสฟู ากฟาสามครงั้ เสรจ็ แลว ทานไดเ ดนิ เลี่ยงไปอีกทางหน่ึง อาอิชะฮจึงรีบออกตามไปทันที ทานศาสดา รบี เรงฝเทาเรว็ ขึน้ อาอชิ ะฮจ ึงเรง ฝเทาตามเชนกัน ทานศาสดาเริ่มวงิ่ กึง่ เดนิ อาอิชะฮจ ึงตอ งวิ่งตามบาง และเห็น วาทานศาสดากําลงั มงุ สูเสน ทางกลับบา น อาอชิ ะฮจึงตอ งวิง่ ดวยความเร็วสูงสุดเพือ่ ใหถงึ บานกอนทา นใหไ ด และรบี กระโจนขนึ้ บนเตียงนอนทันที และเม่ือทา นศาสดาเขามาในหองนอน ทา นไดยินเสยี งหายใจถี่ของอาอชิ ะฮ ทา นจึงกลา วขึ้นวา “ทาํ ไม เจา จึงหายใจถ่เี หมอื นกบั มา เพิ่งหยดุ จากการควบมาอยา งนน้ั ” อาอชิ ะฮ “ไมม ีอะไรหรอกทา นศาสดา” (1) แทจ รงิ พระเจาของเจาทรงรูดียิง่ วา เจายนื นมาซเกอื บสองในสามของกลางคนื และ (บางคร้งั ) ครงึ่ หนงึ่ ของมนั และ (บางคร้ัง) หนง่ึ ในสามของมนั พรอ มกับจาํ นวนหนึ่งของบรรดาผทู อ่ี ยูรว มกับเจา และพระผเู ปน เจา ผทู รงกําหนดเวลากลางคนื และกลางวัน (อัล มุซซัมมลิ อายะฮท่ี 20). 156
ทา นศาสดา “บอกมาเถิด ถาไมเชน นัน้ แลวพระผเู ปนเจา จะทรงบอกกับฉันเอง” อาอิชะฮ “บิดามารดาของฉนั ขอพลแี ดท าน เมอ่ื ตอนท่ีทานลกุ จากเตยี งนอนฉนั ยงั ไมไดห ลับเลย ฉัน เพยี งแคอ ยากรูวาทา นจะไปไหนในยามวิกาลเชนน้ี ฉันจงึ สะกดรอยตามทานไปและคอยเฝา ดูทานอยหู า งๆ ตลอดเวลา” ทานศาสดา “ถา เชน นั้นเงาดาํ ๆ ท่ฉี ันเห็นในระหวา งทฉ่ี ันกลับมาบา นกเ็ ปนเจาใชไหม?” อาอิชะฮ “ใชแลว โอทา นศาสดา” ทา นศาสดาจึงเอามือไปลูบทห่ี ลงั ของอาอชิ ะฮเบาๆ พลางกลาววา “สาํ หรบั เจาแลวยังจะมีความคดิ เชน นีอ้ กี หรอื วา พระองคแ ละศาสดาของพระองคจะลิดรอนสทิ ธิของเจาและนาํ เอาสิทธิอนั ชอบธรรมของเจาไปให บุคคลอน่ื ” อาอชิ ะฮ “โอทา นศาสดา ทกุ สิ่งทุกอยางท่ีทุกๆ คนปกปดทา น พระผเู ปนเจาทรงรูทรงเหน็ และจะทรง เปด เผยแกทานทงั้ สิ้น” ทานศาสดา “ใชแลว การออกไปยงั สุสานบาเกียะอข องฉันในคืนนี้ ก็เพราะเทวทตู ญบิ รออีลไดมาหา และรอ งเรียกฉัน ซ่งึ เสียงรอ งเรียกนัน้ ถกู ปกปด จากเจา และฉันไดตอบญิบรออีล และคาํ ตอบของฉันก็ถูกปกปด จากเจา และฉันคิดวา เจา คงจะหลับไปแลว จึงไมอยากท่จี ะปลุกเจา และฉันคิดวาการรับฟงวิวรณน้ัน ฉันจะตอง รับฟงเพยี งคนเดียว และอกี อยา งหนงึ่ ฉนั กลวั วา เจา จะตระหนกตกใจ ฉันจึงแอบออกไปขา งนอกเงยี บๆ ญบิ รออี ลบอกแกฉ นั วา ใหไปยังสุสานบาเกยี ะอและใหขออภัยโทษบาปแกผูท ีถ่ ูกฝงอยใู นสุสานบาเกียะอ” อาอชิ ะฮ “โอศาสดา ถาหากฉันประสงคที่จะขออภยั โทษใหผทู ี่ลวงลบั ไปแลว ฉันจะตองกลา วเชนไร” ทา นศาสดา “จงกลาววา “ขอความสนั ติจงมแี ดมุสลิมและบรรดาผูศ รทั ธา ซงึ่ อาศัยอยใู นสถานท่ีอัน นริ นั ดร ขอใหพ ระผเู ปนเจา ทรงเมตตาพวกทา น เราจะไดรว มอยูกบั ทาน ดว ยพระประสงคข องพระผเู ปนเจา” (1) 110 นโยบายการปฏิบัตงิ าน หลงั จากท่ีอศุ มานถูกฆาตกรรมและรากฐานแหงแหง การสนับสนุนสูหนทางแหงการปฏวิ ตั ิ คงไมมบี ุคคล ใดเหมาะสมท่ีจะขน้ึ มาดาํ รงตําแหนงคอลฟี ะฮ (ผปู กครอง) ของประชาชาติอสิ ลาม นอกจากทานอิมามอะลี ประชาชนตา งทยอยกันมาใหสตั ยาบันตอทา น ในวันท่สี องของการใหสตั ยาบนั ทา นอิมามอะลไี ดข ้นึ บนแทนกลาวสุนทรพจน หลงั จากการกลาว สรรเสริญแดพ ระผูเปนเจาและทานศาสดาแลว ทานเรม่ิ การปราศรยั ทนั ทวี า “โอม นษุ ยเอย ! หลงั จากทท่ี า นศาสดาจากโลกนี้ไป ประชาชนตางเลอื กอบบู กั รขึ้นเปนคอลฟี ะฮ หลังจากน้นั อบูบักรไดแ ตง ตัง้ อุมรั เปนคอลีฟะฮต อ จากเขา และอุมัรไดจ ัดต้ังคณะบุคคลขน้ึ มาหน่ึงคณะ และ ปลอยใหค ณะบุคคลดังกลาวเปนผูชขี้ าดวาใครจะเปน คอลีฟะฮคนตอ ไป คณะบุคคลดงั กลา วไดช ี้ขาดใหอุศมาน เปน คอลีฟะฮค นตอ มา และอศุ มานกไ็ ดปฏิบัติหนาท่อี ยใู นตาํ แหนง จนเกดิ การเรียกรอ งของพวกทานท้ังหลาย จน (1) มุซนดั อะฮหมดั ฮัมบัล เลม 6 หนา 221. 157
ในท่สี ดุ เขาตอ งถกู ปดลอ มอยูในบานของตนเองและถกู ฆาตกรรมในทสี่ ดุ อยางไรกต็ ามพวกทา นไดเ รียกรอ งและ ใหสัตยาบนั ตอฉันดวยความประสงคของพวกทา นเอง ฉนั เปนชายคนหน่ึงในหมูพวกทา นซง่ึ เสมอเหมอื นกบั พวก ทา น ทุกส่งิ ทุกอยางที่เปน สทิ ธขิ องพวกทา นก็เปนสิทธขิ องฉันเชนกนั และทกุ หนาทีท่ พ่ี วกทา นมี ก็มสี าํ หรบั ฉัน เชน กัน พระผูเปนเจา ไดทรงเปดประตูบานนีแ้ ลวในหมพู วกทานและมวลมุสลมิ ทั้งปวง และการกลาวรายตา งๆ จะถาโถมเขามาเสมือนเงามืดสลวั ๆ ในยามคํา่ คืนท่ีมดื มิด บคุ คลท่สี ามารถจะแบกรับภาระหนาทผ่ี ูนาํ น้ันตอ งมี ความรู ความสามารถ ความอดทนอดกล้ันและวิสัยทศั นท่ีกวางไกล แนวทางของฉันก็คอื การนาํ พวกทา นกลบั สู แนวทางของทา นศาสดา ฉนั จะทาํ ทุกสงิ่ ทกุ อยางทฉ่ี นั สญั ญาไว ซึ่งมขี อ แมขอ เดยี ว นนั่ คือพวกทา นตองยืนหยัด ตอสูเชนกัน กระน้นั ก็ตาม เรากต็ องประสงคค วามชวยเหลือจากพระองคเ ชน กนั พงึ รูไวเถดิ วา สาํ หรบั ทานศาสดา แลว ฉันเคยเปน อยา งไรในชว งการมีชีวติ ของทา น หลังการจากไปของทา นฉนั ก็ยังเปน เชนนน้ั พวกทานทั้งหลายจงปฏิบตั ิตามอยา งเครง ครัดในทกุ สิง่ ที่ฉนั พดู และออกคาํ ส่งั จงอยา ปฏเิ สธ และ ปลอยปละละเลยในสง่ิ ท่พี วกทา นเหน็ วาฉันกาํ ลังทํา แลว พวกทานไมสามารถยอมรับไดอยา งเด็ดขาด ฉนั จะไม ปฏิบตั แิ ละตัดสินสง่ิ ใดๆ ที่จะเปนผลใหฉนั ถูกลงโทษจากพระผูเ ปน เจา ได พระองคผ ทู รงรอบรูย ่งิ พระองคท รงเห็น พวกเราท้งั หมดและทรงรูในทุกสิง่ ที่เราปฏิบตั ิ ความจรงิ แลวฉันมิไดตอ งการท่ีจะขึน้ ดํารงตําแหนง คอลีฟะฮนักหรอก เพราะฉันไดย ินทานศาสดากลา ว เอาไวว า : บคุ คลใดกต็ ามที่ขึน้ เปนผูน าํ ของประชาชาตหิ ลังจากฉัน ในวนั แหง การฟน คนื ชีพ เขาจะถูกกักตวั ไวบ น สะพาน (ซิรอต) และบรรดาเทวทูตจะนาํ บัญชกี ารงานของเขามาเปดออกตอหนา เขา และถาหากเขาปฏบิ ตั หิ นา ท่ี ของตนอยางยุติธรรม เขากจ็ ะรอดพนเน่อื งจากความยตุ ิธรรมนัน้ และถาหากเขาคอื ผทู ีก่ ดข่ีและอยตุ ธิ รรม สะพานกจ็ ะส่นั ไหวในทนั ทีและเขากจ็ ะตกลงสนู รกอเวจใี นที่สุด ในเมื่อพวกทานเลอื กฉันอยางเอกฉันท ฉันจึงตองรับไว” ทา นอิมามอะลี ไดหันไปทางดานซายและขวาของเทนกลาวสุนทรพจน และกลาวตอวา “โอมนษุ ยเอย ! ฉันจะประกาศดังตอไปนี้วา บรรดาผทู ่ฉี กฉวยทรัพยส ินไปจากกระเปา ของประชาชนและ จากกองคลังกลางสูกระเปาของพวกเขาเอง ครอบครองทรพั ยสนิ และดินแดน ทําแมนํา้ ใหไ หลผานเขา ไป ขน้ึ ข่มี า ท่ีสวยงามยิง่ จัดซ้อื หาทาสีรับใชท ่สี วยงาม และจมปลกั อยูกับความหวานช่นื แหง โลกยี ะ ถาหากวา พรงุ น้ีฉนั ออกมาตรวจสอบพวกเขาและยึดทกุ สงิ่ ทุกอยางทพี่ วกเขาไดมาอยา งไมถ ูกตองคนื และจะเหลือไวแกพวกเขาซ่งึ สทิ ธทิ ่เี ขาพงึ ไดร ับเทานน้ั พวกเขาจะตอ งไมมาหาฉัน แะลกลา ววา อะลี บตุ ร อบีฏอลบิ หลอกลวง ตบตาพวกเรา ฉนั จะกลา วในวันน้ีใหรบั รูกนั อยางถวนหนา เลยวา ฉันจะยกเลิกการมีสิทธิพิเศษออกไป แมก ระท่ัง บรรดาผทู ่ีเคยอยรู ว มกบั ทา นศาสดา และเคยมีประวัตกิ ารรับใชอสิ ลามมากอ นกต็ าม บุคคลใดกต็ ามทเี่ ขาเคยอยู เคียงขางกับทา นศาสดา หรือเคยไดร บั โอกาสในการรับใชอิสลามมากอน รางวัลของเขานัน้ อยูก บั พระผเู ปน เจา วรี กรรมเกา กอนที่เขาเคยมมี ไิ ดเปน สิ่งบงชวี้ า เราจะตอ งยกใหเขาน้ันเหนอื กวาผูอน่ื ในหมูพวกเขา บคุ คลใดก็ ตามท่ีในวันน้ีเขาตอบรับเสยี งแหงสจั ธรรมและเขาสศู าสนาของเราและหันสทู ิศ (กิบละฮ) ของเรา เราจะยกยอง เขาและถอื วา เขามสี ิทธพิ เิ ศษเสมอเหมือนกบั บรรดามสุ ลิมทกุ คน พวกทานทกุ คนคือบาวของพระผูเ ปน เจา ทรัพยส นิ ตา งๆ คือทรัพยสนิ ของพระองค และจาํ เปน จะตองจัดสรรใหเ ทาเทยี มกันในหมพู วกทา นทกุ คน ไมมี บคุ คลใดที่จะพิเศษกวาบคุ คลอืน่ ในเรือ่ งดงั กลา ว พรุง นท้ี กุ คนจงมาพรอ มเพรียงกัน ทรพั ยสนิ ในคลังกลางทม่ี อี ยู จะตองไดรับการจัดสรรแบงกนั ” วนั รุงข้ึนประชาชนตางก็มาชมุ นุมกัน เมอื่ ทา นอิมามอะลี มาถึงกไ็ ดจ ัดสรรทรพั ยส นิ ของคลังกลางอยา ง เทาเทียมกันแกทกุ คน โดยไดร บั คนละสามดีนาร 158
ชายผหู นงึ่ กลาววา “โออะลี! ทานใหฉันสามดนี าร และทา นไดใ หทาสรบั ใชค นน้ีที่เพ่ิงมาเปน ทาสของฉนั เมอ่ื วานนส้ี ามดีนารเชนกนั ” ทานอิมามอะลี กลา ววา “ก็ใช เทาทเ่ี จาเหน็ น่นั แหละ” บุคคลหนงึ่ ที่เคยชนิ กับสทิ ธิพเิ ศษมานมนานอยางเชน ฏอลฮะฮ ซุเบร อบั ดุลลอฮ บุตรอมุ ัร สะอีด บุตร อาศ และมรั วาร บตุ รฮะกัม ทั้งหมดปฏเิ สธท่ีจะรับสวนแบงของพวกเขาในวันน้นั และออกมานอกมสั ยิดทันที วนั ตอ มาเม่ือมกี ารชมุ นมุ กนั ในมัสยิด บุคคลกลุมน้ีกม็ ารว มดวย แตจ ะแยกออกไปนง่ั เปน กลุมอยูในมุม หนึง่ และน่ังคยุ ซุบซบิ ปรกึ ษากนั อยู ตอ มาไมน านนกั วะลีด บตุ รอกุ บะฮ ก็ถูกเลอื กเปน ตัวแทนเพ่ือสงมาหาทานอิ มามอะลี เขากลา ววา “โอ อบุลฮาซัน ประการแรกทา นกน็ า จะรูต ัวดวี าในหมูพวกเราทน่ี ่ังอยูในท่ีนี้ ไมม ีใครสักคนที่พอใจในตวั ทา นสักเทา ไรนักตออดีตของทานในสงครามตางๆ ระหวางมสุ ลิมกับพวกปา เถ่ือน สวนมากคนในครอบครัวของ พวกเราคนหนึ่งหรือสองคนเคยถกู สงั หารดว ยนํ้ามือของทา นในสมยั นน้ั อยา งเชน บดิ าของฉนั ถูกทานสังหารใน สงครามบะดัร แตเอาเถอะ เรอ่ื งนนั้ เราจะยอมรับกรณีน้ไี ด ถา ทา นยอมรบั เงอ่ื นไขสองขอ ทเ่ี ราจะขอ และเราจะให สตั ยาบนั ตอ ทา น ประการแรก เราขอใหทานกลับคําพดู ของทา นเมื่อวานนเี้ สียกอ น เร่ืองทผี่ า นมาแลวทานไมตอ งนํา กลับมาร้อื ฟน จะไดไ หม มนั ผานไปแลว มนั เคยเปนเชน ไรกใ็ หเปน เชน นน้ั ตอไป ใครก็ตามท่มี วี ธิ ีการ ในการไดม า ซึ่งทรัพยส ินเงนิ ทองในสมยั คอลีฟะฮคนกอ นอยางไร ก็ปลอ ยใหเปน ไปตามน้นั ไมต อ งนาํ ตัวทานเองเขาไปรับรวู า มันไดมาอยา งไร สอดสอ งดูแลตัวทานเองอยาใหเ กดิ ความฉอฉลในการปกครองของทา นก็พอ ประการท่ีสอง ทานจะตอ งนาํ ตวั ผสู ังหารอุศมานมาใหเรา เพอื่ ทเี่ ราจะไดตัดสินลงโทษเขา และ ย่ิงกวาน้นั ถา หากเราจะไมม คี วามปลอดภัยจากแลว เราคงไมมหี นทางใดอีก นอกจากจะตอ งละท้งิ ทานไป และ มุงสเู มอื งชามเพ่ือใหสตั ยาบนั กับมอุ าวยิ ะฮ” ทานอิมามอะลีกลาววา “สําหรบั ประการแรกเกี่ยวกับเลือดที่ไดหลง่ั ลงในสงครามระหวา งมุสลิมกับพวก ปาเถ่อื นน้ัน สงครามในวนั นัน้ มิใชเปน สงครามของตัวบุคคล แตเ ปนสงครามระหวางสจั ธรรมและอธรรม ถาหาก ทานตอ งการเรียกรองสิ่งใดกจ็ งไปเรยี กรองเอากับอธรรมเถิดวา ใหท วงสทิ ธิน้ันคืนจากสัจธรรมใหแ กทาน ไมใช เรยี กรอ งจากฉนั และประการทส่ี องสทิ ธิซ่งึ ในเวลาทผ่ี านมามนั ถูกเหยยี บทับเอาไวในเวลาที่ผานมา ฉนั มหี นา ทท่ี ่ี จะตอ งนาํ สิทธทิ ่ีถกู เหยียบเอาไวน ั้นกลบั คืนมาสเู จา ของทแี่ ทจริงของมนั ฉันไมมีสิทธ์ิทจี่ ะเพิกเฉยทาํ เปน ไมรไู มชี้ ได และเกยี่ วกบั การสงั หารอุศมาน ถาหากฉนั สามารถท่จี ะตดั สินลงโทษผูกระทําผิดได ฉนั กจ็ ะจัดการไปตั้งแต เมื่อวานแลว ฉันไมป ลอยใหถ งึ วันนี้ดอก” หลงั จากที่วะลีดไดยินคาํ ตอบจากทา นอิมามอะลี จงึ รีบเขา ไปสมทบกับเพ่ือนฝงู และเลา เร่อื งทงั้ หมดให พวกเขาฟง พวกเขารูก อ นหนา น้ีแลววา การเมืองของทานอมิ ามอะลีนัน้ จะไมม ีวนั เปลย่ี นแปลงไดง ายๆ ดอก ต้งั แตนั้นเปนตนมาพวกเขากเ็ ริ่มสมคบกันและกอความวนุ วาย ผสู นบั สุนทานอะลไี ดเ ขา มาหา และกลา วกบั ทา นวา “ในไมช า นี้บุคคลกลุม นจ้ี ะนาํ เร่อื งการฆาตกรรม อุศมานขึ้นมาเปนขออาง เพ่ือกอ หวอดสรางความวุน วายอยางแนน อน แตว า เร่อื งการฆาตกรรมอุศมานก็เปน เพยี งแคข ออา งเทานั้น สาเหตหุ ลกั จริงๆ ของพวกเขากค็ ือ ความเสมอภาคกนั ที่ทา นนาํ มาปฏบิ ตั ใิ นหมูพ วกเขา กับอิหรา นและชนชาตอิ น่ื ๆ อกี จํานวนหนงึ่ ทเี่ พง่ิ เขา รบั อิสลาม ดังนัน้ ถาหากวาทา นยงั คงไวซึ่งสิทธพิ ิเศษของพวก เขาเอาไวเ หมอื นเดิม และทบทวนการตดั สนิ ใจของทา นอกี ครง้ั หนึ่ง ความวุนวายกค็ งจะจบลง” เม่ือมคี าํ ทกั ทว งอยา งมากมายเกดิ ข้ึนในหมูผ ูใ กลชิดของทานอมิ ามอะลี ท่ีวา ทําไมตอ งยืนหยัดนักกบั ความเสมอภาคน้ี ดว ยเหตุน้เี อง ในวันหนงึ่ ทา นอมิ ามอะลจี งึ ไปยังมัสยดิ โดยการสะพายดาบไปดวยหนง่ึ เลมและ 159
ผา อกี สองผืน ผืนหนง่ึ ผูกไวท่ีเอว อกี ผืนหน่ึงพาดบาเอาไว และขน้ึ ไปยืนบนแทน กลาวสนุ ทรพจน และไดโ คง ศรี ษะ พรอมกับกลาวแกป ระชาชนวา “ขอขอบคณุ แดพ ระผูเปนเจา ซึ่งพระองคค ือผูท่ีเราสกั การะ ความโปรดปรานตางๆ ทง้ั ท่เี รามองเห็นและ มองไมเ ห็นของพระองคน นั้ มีสําหรบั พวกเราทุกคน ทุกๆ ความโปรดปรานของพระองค เปน สงิ่ ท่ีดงี ามและ ประเสริฐยง่ิ นัก โดยบางคร้ังเราอาจจะไมมสี ิทธ์ิหรอื คคู วรกับสิง่ เหลาน้ัน เพอ่ื ทพ่ี ระองคจ ะไดทรงทดสอบพวกเรา วา พวกเราจะขอบคุณพระองคห รอื จะปฏเิ สธพระองค ประชาชาติทเี่ ลอเลศิ ที่สุด ณ พระผูเปน เจา คือบคุ คลที่ เชื่อฟง พระองคอยา งดที สี่ ดุ และปฏบิ ัติตามแบบอยา งของทานศาสดาไดดที ี่สดุ และรักษาไวซึ่งคัมภีรอ ลั กุรอาน อยางดที ่ีสุด เราไมไดย กยอ งใหเกยี รติผใู ดเหนือกวาผูใด นอกจากระดบั แหงการเชื่อฟง และปฏิบตั ิตามพระผูเปน เจา และศาสดาของพระองค ของเขาเทาน้ัน นี่คือคัมภรี แหงพระผูเปนเจาทีม่ อี ยูใ นหมพู วกเราและพวกทา น และ นั่นคอื แบบอยางอันชัดแจง แหง ทา นศาสดาของพวกทานทีพ่ วกทานรแู ละเห็น” และทา นอมิ ามอะลี ไดอา นอัล กุรอานโองการนข้ี ึน้ มา “โอมนุษยชาติทั้งหลาย! แทจรงิ เราไดสรางพวกเจา จากเพศชายและเพศหญิง และเราไดให พวกเจา แยกเปน เผาและตระกูล เพือ่ จะไดร จู ักกนั แทจรงิ ผูท่ีมีเกียรติยง่ิ ในหมพู วกเจา ณ พระผูเปนเจา น้นั คือผทู ่ีมีความยําเกรงยิง่ ในหมูพวกเจา แทจ ริงพระผูเปนเจา นนั้ เปนผูทรงรอบรอู ยางละเอียดถี่ถว น” (อัล ฮุจญร อต อายะฮที่ 13) หลังจากคาํ ปราศรยั ขางตนจบลง บรรดามิตรสหายและบรรดาศัตรูตางเขา ใจในทนั ทีวา การตัดสนิ ใน ของทา นอมิ ามอะลนี น้ั ไมมีวันเปล่ยี นแปลงได ทุกคนตางก็รบั รูถึงหนาท่ีของตนเองดี บคุ คลทปี่ ระสงคตอความ ซือ่ สัตยภ ักดี เขาก็จะอยอู ยา งซ่อื สัตยภ ักดี แตบุคคลทีไ่ มส ามารถยอมรับวถิ ที างการปฏบิ ตั ิดังกลาวได กเ็ หมือนกับ อับดลุ ลอฮ บุตร อมุ ัร ทป่ี ลีกตัวออกหางจากทุกคนไปใชช ีวิตอยคู นเดียว หรือจะเปนแบบฏอลฮะฮ ซุเบรและมัร วาน ทชี่ ักดาบข้ึนกอ สงครามและเสยี ชวี ิตในท่ีสุด.(1) 111 หลับหรือตนื่ ฮับบะฮ อรั นยี แ ละเนาฟ บะคอลี กาํ ลังนอนหลบั อยูในลานกวา งหนา บา นพกั ของคอลฟี ะฮ ในเมืองกฟู ะฮ หลังเท่ยี งคนื พวกเขาทง้ั สองเหน็ ทานอิมามอะลี เดินออกมาจากบา นพักสลู านหนา บา นอยา งชา ๆ ในสภาพทไ่ี มป กตนิ กั ความกลวั ระสาํ่ ระสายไดครอบงาํ ทา นจนทา นไมสามารถที่จะ บังคบั ตัวเองได ทา นไดเ อามือไปเกาะไวก บั กําแพงตัวงอลงและเดินไปขางหนา อยา งชาๆ ดว ยการ เกาะกาํ แพงเพอื่ พยงุ ตวั เอาไว และไดราํ พันอายะฮก รุอานโองการตา งๆ ในโองการสดุ ทายของซู เราะฮอ าลิอมิ รอนกับตนเอง (1) ชะเราะฮ อิบนิ อบลิ ฮะดดี พิมพเ บรตุ เลม 2 หนา 271-273, ชะเราะฮ คฏุ บะฮที่ 9. 160
“แทจ ริงในการสรา งบรรดาชน้ั ฟา และแผน ดิน และการท่กี ลางวันและกลางคืน ตามหลังกนั น้ัน แนน อนมีสญั ญาณอนั หลากหลายสําหรบั ผูท ม่ี ปี ญ ญา” (ซเู ราะฮอ าลอิ ิมรอน อา ยะฮท ี่190) “บรรดาผูท่รี าํ ลึกถงึ อัลลอฮทัง้ ในสภาพยนื และนง่ั และในสภาพทนี่ อนตะแคง พวกเขาพินิจพิจารณาในการสรางสรรบรรดาชัน้ ฟา และแผนดิน (โดยกลาววา) โอพระ เจา ของขาพระองค พระองคม ไิ ดท รงสรา งสง่ิ นมี้ าโดยไรส าระ มาหบริสทุ ธย์ิ ่งิ แดพระองค โปรดทรงคุมครองเหลา ขา พระองคใ หพ น จากการลงโทษของไฟนรกดวยเถิด” (ซูเราะฮอาลิอิ มรอน อายะฮท ่ี 191) “โอพระเจาของเหลา ขาพระองค แทจ ริงผใู ดทพ่ี ระองคทรงใหเขาเขา สูไ ฟนรก แนน อนพระองคก็ยังความอปั ยศแกเ ขาแลว และสาํ หรบั บรรดาผอู ธรรมน้ันยอมไมมี ผชู ว ยเหลอื ใดๆ” (ซูเราะฮอาลอิ ิมรอน อายะฮท่ี 192) “โอพ ระเจาของเหลา ขา พระองค แทจริงเหลา ขา พระองคไดย ินผูประกาศเชิญชวนผหู นง่ึ กาํ ลัง ประกาศเชญิ ชวนใหมกี ารศรทั ธาวา ทานทั้งหลายจงศรทั ธาตอ พระเจาของพวกเจาเถดิ และเหลาขา พระองคกม็ คี วามศรทั ธา โอพ ระเจาของเหลา ขา พระองค โปรดทรงอภัยแกเ หลา ขาพระองคดวยเถิดซึ่ง บรรดาโทษของเหลาขาพระองค และโปรดลบลา งใหพนจากเหลาขา พระองคซง่ึ บรรดาความผิดของ เหลา ขาพระองค และทรงโปรดใหเหลาขา พระองคส้นิ ชีวติ โดยอยูรว มกบั บรรดาผทู ีเ่ ปนคนดีดว ยเถดิ ” (ซเู ราะฮอ าลอิ ิมรอน อายะฮที่ 193) “โอพระผเู ปน เจา ของเหลา ขาพระองค ไดโ ปรดประทานแกเ หลาขา พระองคในสิ่งทพี่ ระองคได ทรงสญั ญาไวแ กเ หลาขาพระองค โดยผา นบรรดารอซูลของพระองค และโปรดอยา ไดทรงความอัปยศ แกเ หลาขา พระองคในวนั ปรโลกเลย แทจ ริงพระองคน้นั ไมท รงผิดสญั ญา” (ซเู ราะฮอ าลอิ ิมรอน อายะฮที่ 194) และเมอ่ื ทานอิมามอะลี ไดก ลาวโองการตา งๆ ขางตนจบ ทานไดเงยหนาขึ้นและเริม่ กลา วโองการตางๆ เหลานั้น (ในสภาพท่ไี มเ ปน ตัวของตวั เองเหมอื นกับจะเปน ลมลม พบั ) อกี ครงั้ ทั้งฮับบะฮและเนาฟ เฝา มองดูสถานการณอ ันแปลกประหลาดนั้น (อาการของอมิ ามอะลี) อยอู ยางเงยี บๆ ในทีน่ อนของพวกเขา ฮบั บะฮไ ดจองมองดดู ว ยความฉงนสนเทห แตท วาเนาฟไ ม สามารถทจี่ ะกลั้นนา้ํ ตาของเขาไวไ ดอ ีกตอ ไป เขาจงึ เร่มิ รองไหออกมาจนกระทง่ั อมิ ามอะลี ไดเ ดิน เขามาใกลก ับท่นี อนของฮับบะฮ และกลา วข้ึนวา “ทานหลบั หรอื ต่นื ละ ?” ฮับบะฮก ลา วตอบวา “ฉนั ต่ืนอยู โออ มรี ลุ มุอม นิ นี ขนาดทา นยงั มคี วามเกรงกลัว ตออัลลอฮ (ซบ.) เยย่ี งน!้ี แลวนบั ประสาอะไรกบั ผนู อยอยา งพวกเราละ ” ทานอิมามอะลี ไดก มหนา มองพน้ื และรอ งไหออกมาและกลาวขึ้นวา “โอ ฮับบะฮ! ในวนั หนง่ึ พวกเราทกุ คนจะถูกนาํ ไปรวมกนั ณ เบอ้ื งพระพกั ตรของพระองค ไมมีการปฏิบตั ิใดๆ ของ พวกเราทจ่ี ะถกู ซอ นเรน จากพระองคไดเลย พระองคอ ยูใ กลก ับฉนั และทา นยง่ิ กวา เสนเลือดฝอยใน ลําคอเสียอีก ไมมสี ่ิงใดท่ีจะสามารถปดกน้ั ระหวางเรากบั พระองคได” ในขณะน้นั เองอิมามอะลี ไดหนั ไปทางเนาฟแ ละกลา ววา “ทานหลับอยหู รอื เปลา?” เนาฟต อบวา “เปลาครับ! โออมรี ุลมอุ ม ินนี ฉันรอ งไหอ ยสู กั พกั แลวครบั ” 161
ทา นอิมามอะลี กลาวแกเ นาฟวา “เนาฟเ อย! ถาหากวา ในวนั นเี้ จา รอ งไหอ ยา งมากมาย เน่อื งจากความเกรงกลวั พระองค ดวงตาของเจา ท้งั สองจะสวา งจาในวนั พรงุ น้ี เนาฟเ อย ! นาํ้ ตาทกุ ๆ หยดท่ีหลง่ั ออกมาเน่อื งจากความเกรงกลวั พระองค จะเปน ทะเล หนงึ่ ทจี่ ะดับไฟนรก เนาฟเอย ! บุคคลหนึง่ ซ่ึงเขามคี วามรกั ตออัลลอฮ (ซบ.) และมีความรกั ตอ ทุกๆ ส่งิ เพอื่ พระองค เขาจะไมท ําใหส งิ่ ใดอยูเหนือความรักทม่ี ีตอ อลั ลอฮ (ซบ.) และบุคคลซึ่งมคี วามจงเกลยี ด จงชัง (เปนศัตรู) เพือ่ อลั ลอฮ (ซบ.) แนน อน ความจงเกลยี ดจงชงั อันนี้จะนาํ มาซึ่งความดีงามแก เขาในท่ีสุด คราใดกต็ ามทที่ า นไดบ รรลสุ ขู ้ันนนั้ แลว ทา นก็จะไดพ บกบั ศรทั ธา (อีมาน) อนั สมบรู ณ แบบ (สงู สุด) แลว ” หลงั จากนั้นทา นอมิ ามอะลี กไ็ ดก ลา วคาํ ตักเตอื นอีกเลก็ นอ ยแกฮบั บะฮแ ละเนาฟ และ ประโยคสุดทายทที่ านอิมามอะลี ไดก ลา วก็คอื “จงเกรงกลัวอลั ลอฮเ ถดิ ! ฉนั ไดบ อกกลา วแกพวก ทา นแลว ” และทา นอิมามอะลี ก็จากคนทง้ั สองไปและกลับเขาสสู ภาพเดิมอกี ครงั้ และมงุ มน่ั อยูก ับ การรํา่ รองเรียกหาตอ อัลลอฮ (ซบ.) ทา นกลา ววา “โอพ ระองค! มนั คงจะเปน สิ่งดยี ง่ิ ถา ขา พระองคไดร ูว าชวงทข่ี าพระองคน ัน้ หลงลมื พระองค พระองคจะทรงเพกิ เฉยตอ ขา พระองค หรือจะยังทรงดแู ลขา พระองค และมันคงจะเปน สงิ่ ดียิง่ ถาขา พระองคไ ดร ูว าในชว งการนอนอนั ยาวนานนีข้ องขา พระองค และในชวงของการขอบคุณ ตอพระองคใ นชวงเวลาอนั สนั้ น้ีของขา พระองค ขา พระองคจ ะมสี ภาพเชน ไร ณ พระองค” ฮับบะฮและเนาฟ กลา ววา “ขอสาบานตอ อัลลอฮ (ซบ.) ทานอมิ ามอะลี ไดเ ดนิ ทางไป เดินทางมา และอยใู นอาการเชน นน้ั ตลอดท้ังคนื จนกระทัง่ เชา ” .(1) 112 สนิ สอดเลือด สงครามซฟิ ฟน กําลงั จะจบอยแู ลวเชียว ถา หากไมมกี ลลวง เลห เ หลี่ยมและแผนการของ อมั ร อิบนิอาศ และดว ยเลห เหลย่ี มกลลวงน้เี องไดทาํ ใหส งครามยุตลิ งทนั ควนั และปกปองกองทัพ ซีเรยี (ชาม) จากความพา ยแพอันนา อปั ยศไดอยา งหวุดหวิด หลงั จากท่เี ขา (อัมร อบิ นอิ าศ) เริ่มรถู ึงชะตากรรมของตัวเอง (จะพายแพสงคราม) เขาจึง ออกคาํ สง่ั แกท หารของเขาทนั ทีวา ใหน าํ อลั กุรอานมาผูกตดิ ไวท ปี่ ลายหอกเพอ่ื เปน สัญญาณบง บอกถงึ ความตองการของพวกเขาวา เราพรอ มและยนิ ดีท่ีจะใหคมั ภีรอลั กรุ อานมาเปน เครอื่ ง ตดั สนิ (ขอ ขัดแยง ) ระหวา งเรากับพวกทาน (1) บิฮารลุ อนั วาร เลม 9 พิมพตับรีซ หนา 589, อนั กนุ วี ลั อัลกอบ บท อัล บุกอลี. 162
ทุกคนท่เี ขาใจและบรรดาสหายผใู กลช ิดของทา นอมิ ามอะลี ตางรูดวี าน่ีเปน เพยี งเลห เหล่ยี มกลลวงเทา นัน้ แตเปา หมายกค็ อื การยตุ ิสงครามเพ่ือใหรอดพน จากความพา ยแพใ นสงคราม เทา นนั้ เนือ่ งจากหลายตอหลายครงั้ ดว ยกันกอนทเ่ี รอ่ื งจะบานปลายมาถงึ จดุ น้ี ทา นอิมามอะลี ได เสนอสิง่ น้ี (นาํ อัล กรุ อานมาเปนส่ิงชี้ขาด) แตพ วกเขาไมย อมรับเอง แตพอมาตอนนท้ี าํ เปน ยกอัล กุ รอนขน้ึ มาเพอื่ เปน สงิ่ ช้ีขาด แตประชาชนกลมุ หน่ึงทไี่ มม ีความเขา ใจอยางลกึ ซ้ึง (โดยดูแบบผิวเผิน) พวกเขาเหลานไ้ี ม มีความเคารพในกฎกติกาของสงคราม นัน่ คอื การไมคอยฟงคาํ สงั่ อนั เด็ดขาดจากผบู ัญชาการ กองทพั สงู สุด โดยการยตุ กิ ารสรู บเสยี เฉยๆ ทนั ที เทา นนั้ ยงั ไมพ อพวกเขาทง้ั หมดตา งมุงมาหาอิ มามอะลี และขอรองแกมบังคับใหท า นอิมามอะลอี อกคาํ ส่ังยตุ ิการสรู บ (ถอยทพั ) ทง้ั หมดทนั ที เพราะพวกเขาเชอ่ื วา ในเวลานี้ถาหากผใู ดยังดอื้ ดงึ ท่จี ะสรู บตอไปกเ็ ทากบั ผนู น้ั กาํ ลงั สูร บอยูกับ คัมภีรอ ัล กุรอาน ทา นอิมามอะลี กลาววา “พวกทานอยา หลงกลอนั น้ีของพวกมนั น่ีคอื กลลวงซงึ่ ไมม อี ะไรเลยนอกจากเปน เลห เหลย่ี มเพทบุ ายทจี่ ะย้อื แยงชยั ชนะไปจากพวกเรา และทําใหพวกเขารอดพนจากความปราชัย เทาน้นั คําสง่ั ของอลั กรุ อานกค็ อื ใหเ ราทาํ สงครามตอไปอยาไดหยุด เพราะพวกเขาไมมวี นั ที่จะ ปฏบิ ตั ติ ามคาํ ส่งั ของคัมภรี อ ลั กรุ อานไดเลย เพราะความขดั แยง ระหวา งเรากบั พวกเขาท่ีเปน ประเด็นหลกั กค็ อื การปฏบิ ัตติ ามคาํ สั่งของอลั กรุ อานน่นั เอง มนั ใกลจะถึงแลว ทพี่ วกเราจะไดร บั ชยั ชนะและขุดรากถอนโคนพวกเขาเสยี สงิ่ นน้ั คือกลลวงของพวกเขา” พวกเขาไดก ลา วแกท านอะลวี า “และทพ่ี วกเขาประกาศออกมาอยา งชัดเจนวา พวกเขา พรอ มทจี่ ะนาํ อัล กุรอานมาพพิ ากษาขอ ขดั แยง ระหวา งพวกเขาและพวกเขาละ ! ถาเปน เชน นนั้ การ สรู บกับพวกเขากถ็ ือเปน ส่งิ ทไ่ี มอ นุญาตเนอื่ งจากถา เราสรู บกับพวกเขาก็เทา กับพวกเรากาํ ลงั สรู บ กบั อลั กรุ อาน ดังน้ัน ถา หากทานไมอ อกคําสง่ั ประกาศการสงบศกึ เดย๋ี วน้ี เรากจ็ ะหนั่ ทา นเปน ชน้ิ ๆ เด๋ียวนเี้ ชน กัน” ทา นอิมามอะลี ยังรีรอแตก ร็ ดู วี า คงไมม ผี ลในการเผชญิ หนา กับการแขง็ ขอ ของบรรดาผู ทรยศเหลา นี้ ถา หากทา นยงั คงยนื กรานตอ ความคิดของทา นอยู เรื่องกค็ งจะเลวรา ยยง่ิ ขนึ้ แนน อน และในทสี่ ดุ กจ็ ะจบลงดว ยความพา ยแพแ ละเปน การหยบิ ย่ืนชยั ชนะใหแกศัตรนู ่ันเอง ทา นจงึ ตอง จาํ ใจออกคาํ สง่ั หยุดการตอสชู ั่วคราว และสัง่ ถอนกาํ ลงั กองทหารแนวหนาทันที อมั ร บินอาศ และมุอาวยี ะฮเ ห็นดงั นน้ั จงึ รูดีวาแผนการของพวกเขาไดผ ลแลว จึงเกดิ ความ ดใี จอยางลน หลามทีเดยี วเพราะแผนการเขา ตรงเปา เผงและไดผ ลเกินคาด ความขัดแยง กนั เองได เกิดขึ้นในหมสู หายของทา นอมิ ามอะลี ซง่ึ พวกเขาไมพ รอมทจ่ี ะทาํ ศกึ สงครามตอ ไป แตไ มใ ชแ ตม ุ อาวียะฮห รอื อมั ร บินอาศ หรือนกั การเมอื งคนใด (ถงึ แมเขาจะมวี สิ ยั ทัศนห รือมกี ารวิเคราะหท ี่ เจาะลกึ ) ก็จะคาดเดาไดเลยวาเรื่องเลก็ ๆ น้ีเองท่ไี ดสรา งลทั ธหิ นงึ่ และไดใ หก าํ เนดิ ความคิดหน่ึง ขึ้นมา โดยเฉพาะในกรอบแหง อัล อสิ ลาม ซงึ่ เปน ลทั ธทิ อี่ ันตรายทีถ่ อื กาํ เนดิ ขน้ึ มาในอิสลามจาก 163
เหตุการณใ นวนั นน้ั (การผูกกุรอานไวท ป่ี ลายหอกของทหารซเี รยี ) ซง่ึ พวกเขาเหลานน้ั กไ็ ดสราง ปญหาอยา งมากมายแกมอุ าวยี ะฮใ นเวลาตอมา และกบั คอลฟี ะฮหลายตอหลายคนหลงั จากมอุ าวี ยะฮ แนวทางความคิดนไี้ ดบังเกดิ ขนึ้ และใหกาํ เนดิ ลัทธิในอสิ ลาม บรรดาทหารทข่ี ดั ขืนคําสั่ง ของทานอมิ ามอะลี ในวนั นั้นถูกใหช ื่อวา ‘คอวาริจญ’ ประวตั ศิ าสตรในวนั นนั้ เหลาบรรดาผูที่เอาแตใ จตนเองและขัดขืนคําสั่งไดย ตุ ิการตอ สูใน สงคราม และมอบใหเ ปน การตัดสินช้ขี าดของอนญุ าโตตุลาการโดยเปน ท่ีตกลงกนั วา ทง้ั สองฝา ย จําเปน จะตอ งแตงตงั้ ตัวแทนขึ้นมา และตวั แทนทไ่ี ดรบั แตงตงั้ ท้ังสองจะทาํ การตดั สนิ ภายใต พน้ื ฐานแหงคมั ภีรอ ัล กุรอานเทา นนั้ ตวั แทนจากฝา ยมอุ าวียะฮค ือ อมั ร บนิ อาศ สว นทางดานของ ทา นอิมามอะลี นั้นทานเองประสงคท ี่จะให อับดุลลอฮ บนิ อบั บาส รับหนา ทนี่ ้ี เพราะอับดลุ ลอฮ อบิ นิ อบั บาส คือคปู รับเกา ของ อัมร บนิ อาศ แตพวกคอวาริจญไ มยนิ ยอมและไดอางวา คนท่ีจะไป เปน การการตดั สินความจําเปน จะตองเปน คนทเ่ี ปน คนกลาง แตอ บั ดลุ ลอฮ อิบนิ อับบาสนนั้ เปน ญาติสนทิ คนหนงึ่ ของทาน (อิมามอะล)ี พวกเขาจึงคัดคา นและไดเสนอชายคนหนง่ึ ทซ่ี ือ่ เบอ่ื และไม เหมาะสมอยา งยง่ิ (คอื อบูมูซา) ข้นึ มา การตดั สนิ ช้ีขาดของอนุญาโตตลุ าการในคร้งั นนั้ (ระหวา งตัวแทนท้ังสองฝาย) กล็ ม อยา ง ไมเปน ทา อีกครั้งดว ยเลห เ พทุบายของอัมร บนิ อาศ การตัดสินช้ีขาดโดยอนญุ าโตตลุ าการไดยดื เย้อื จนกลายเปน เรือ่ งตลกขบขนั และแนวทาง การแกไขปญ หาที่แทจ ริงก็ถกู ลบเล่ือนไป และผลลัพธข องกจิ การงานดงั กลาวก็มิไดย ังผลประโยชน อันใดแกสังคมมุสลมิ สักนดิ เดยี ว แตผลประโยชนอนั มาหาศาลนน้ั ตกอยูก ับมุอาวยี ะฮแ ละอัมร บนิ อาศ ตอเร่อื งดงั กลาว คือพวกเขาสามารถยุติสงคราม (ท่เี ขากาํ ลงั จะพายแพอ ยูรอมรอ) ได และได สรางความแตกแยกขน้ึ ในหมสู หายของทา นอมิ ามอะลี และอีกประการหนึ่งมันเปนโอกาสอันดี งามสาํ หรบั เขาในการสะสมพลังอํานาจใหแ ขง็ แกรงขึ้นไดอ กี คร้ัง สว นทางดา นของพวกคอวารจิ ญก เ็ พ่งิ พบกบั สัจธรรมทีแ่ ทจรงิ วา ทกุ สงิ่ ทกุ อยางทถ่ี ูก กระทําขนึ้ ตั้งแตแ รก (การนําอัล กรุ อานไปผกู ไวท่ีปลายหอกและการเสนอใหเอาอัล กรุ อานมาเปน เครอ่ื งตดั สินชข้ี าด) จนถงึ ขณะนค้ี อื กลลวงทง้ั ส้ิน พวกเขาเพิ่งเขา ใจวา พวกเขานั้นผดิ พลาดไปแลว แตทวาพวกเขาไดสารภาพความผิดของพวกเขาในรปู แบบนี้คือ มนษุ ยไมม อี ํานาจในการปกครอง อาํ นาจในการตดั สนิ เปน สทิ ธิเฉพาะแดพ ระผูเปนเจา และผูตดั สนิ ชข้ี าดคอื คัมภรี อ ัล กุรอานของ พระองค พวกเขาตอ งการทีจ่ ะทดแทน (แกตัว) ความผดิ ที่เขามี แตทวา พวกเขากลับถลาํ ลกึ ลงไปสู แนวทางท่ผี ดิ พลาดมหนั ตแ ละอนั ตรายย่งิ ข้นึ ไป ความผิดประการแรกคอื ความผิดทางดานการปกครองการเมอื ง แตถ งึ แมวา ความผดิ แรก ซ่งึ เกย่ี วกับการเมอื งการปกครองจะมมี ากมายเพียงใดกต็ าม แตก็ยังสามารถทจ่ี ะแกต วั ไดใ น 164
ภายหลงั เพราะมนั เปน ความผิดท่อี ยใู นชว งเวลาและสถานทที่ ่จี าํ กดั แตท วาความผดิ ประการท่ี สองน้ีซมิ นั เปน ความผิดทย่ี ากจะหาทางแกตวั ใหมได เพราะมนั เปน ความผดิ ในทางแนวความคดิ และนาํ มาซง่ึ ปรัชญาท่ผี ดิ ๆ ทเ่ี กิดขึน้ ในสงั คมแหง อัล อสิ ลาม ซ่งึ มนั เปนตวั สรางความสนั่ คลอน ใหกับรากฐานของอลั อสิ ลาม และคาํ ขวญั ของพวกเขาท่ีอยบู นพ้ืนฐานของแนวความคดิ ท่ีผดิ พลาดนนั้ ก็คอื ‘ลาฮกุ มะ อลิ ลาลลิ ลาฮ’ หมายถงึ ‘นอกจากพระผเู ปน เจาแลว ไมมผี ูใดมอี าํ นาจในการปกครองมนษุ ยไ ด’ ทานอมิ ามอะลี กลา ววา “คําขวญั นถ้ี กู ตอ ง แตพวกเขาเขา ใจผดิ นํามาใชไมถ กู ท่ีเทา นน้ั เอง ฮกุ ม หมายถงึ กฎหมายซงึ่ พระองคเ ปน ผูรา งขน้ึ มา ดงั นนั้ เปน สิทธขิ องพระผเู ปนเจา เพยี งผู เดียว และเปน สทิ ธิของบุคคลผซู ่งึ พระองคทรงอนญุ าตในอาํ นาจการปกครองใหแกเ ขาเทา นนั้ แต ทวา ในความหมายของพวกคอวารจิ ญจากประโยคขางตน คอื อาํ นาจการปกครองเปน สทิ ธิของ พระองค (โดยปราศจากความจาํ เปน ตอผบู ริหารกฎหมายทเี่ ปน มนุษย) แตอ ยางไรกต็ าม จาก ลกั ษณะทวี่ านใ้ี นสังคมหนงึ่ ของมนษุ ยกม็ คี วามจาํ เปน ตอผูบริหารในสงั คมน้นั ๆ เชน กนั ” (1) ตอ มา ไมนานพวกเขากห็ มดหนทางท่ีจะไป และหลายคนเริม่ ทจี่ ะเปลี่ยนแนวความคิดของตนเองใหม พวกคอวารจิ ญมคี วามเช่ือวาการยอมรับการตดั สินช้ขี าด (ของอนญุ าโตตลุ าการ) ที่ นอกเหนอื จากพระผเู ปน เจานั้นคอื การกระทําบาป และพวกเขาเคยกระทาํ บาปนมี้ ากอ นพวกเขาจงึ ตอ งสํานกึ ผิดตอบาปนนั้ และเมื่ออิมามอะลเี องกเ็ คยยอมรับในการตัดสนิ ชขี้ าดโดย อนญุ าโตตลุ าการ พวกเขาจึงขอใหทา นอิมามอะลี สํานึกผดิ เชน เดยี วกบั พวกเขา ทา นอมิ ามอะลี กลาววา “การยกเลกิ วางมือจากสงครามและกลบั ไปหาการตัดสนิ ชีข้ าดโดยอนญุ าโตตลุ าการน้นั เปน สง่ิ ทไ่ี มถ กู ตอ ง และผทู ส่ี นับสนนุ อยา งแข็งขันตอความไมถกู ตองนน้ั กค็ ือพวกทา นเองไมใ ชฉนั ! โดยที่การตดั สนิ ของอนญุ าโตตลุ าการทงั้ หมดคอื สิ่งที่ไมถ กู ตอ งและไมอ นุญาต ฉนั จงึ ไมเ หน็ ดว ย” แตพ วกคอวารจิ ญก ็ยังคงดงึ ดนั อยูกบั แนวความคดิ นน้ั ของตนเอง และไดปฏเิ สธคดั คา น ตอทา นอมิ ามอะลี โดยกลา วหาวา ทา นอิมามอะลี ยอมรบั และถือวาการตดั สินชี้ขาดของ อนุญาโตตุลาการเปน สง่ิ ท่อี นุญาต นานวนั เขาพวกเขาไดทําใหล ทั ธแิ นวความคิดนีแ้ ตกกิ่งกา นสาขาขึน้ มากมายจนกลายเปน นิกายหนง่ึ ในศาสนาอสิ ลามจนได โดยมีการเผยแพรและใหทศั นะตา งๆ ออกมาเหมือนกบั นกิ าย อน่ื ๆ ในศาสนาอสิ ลามเลยทีเดียว ลกั ษณะท่ีเหน็ ไดอ ยา งชดั เจนของพวกเขาก็คอื ความโหดเหย้ี ม ของพวกเขาและการยึดเอาแตเ ปลือกนอกของศาสนาโดยมิไดเ ขาใจถึงดา นใน (เปาหมายทแ่ี ทจริง) ของศาสนาเลยสกั นดิ และในเรอื่ งของการตกั เตอื นกนั ใหท าํ ความดี (อมั ริบลิ มะอรูฟ) ซง่ึ จะไมมี ขอ อางใดๆ เลย และจาํ เปนทีจ่ ะตองตอสแู บบไรซ ึง่ ความขลาดกลัวใดๆ (1) นะฮลุ บะลาเฆาะฮ คุฏบะฮท่ี 40. 165
สาํ หรับการยนื หยัดในแนวทางและความคดิ ของพวกเขาเพยี งอยา งเดยี วนนั้ ทา นอมิ ามอะ ลี ก็มไิ ดย งุ เกย่ี วอะไรกับพวกเขาเลย แมกระท่งั การปฏเิ สธตอ ตวั ทา นจากพวกคอวาริจญ ทา นกไ็ ม เคยใหค วามสาํ คัญแตอ ยางใด และไมเคยตดั สทิ ธขิ องพวกเขาจากเงนิ กองทนุ บยั ตุลมาน และยงั ได เปดโอกาสในการพูดคยุ โตเถียงกันเกย่ี วกบั แนวความคดิ และหลักความเชือ่ อยา งลกู ผูชายและให เสรีภาพแกพ วกเขาดวย แตทวาเม่อื เวลานน้ั มาถงึ ซง่ึ เปนเวลาแหง การสง เสรมิ กนั ทาํ ความดแี ละ ยบั ย้งั การทาํ ความชว่ั ซงึ่ พวกเขาไดประกาศตัวเปนกบฏอยางสมบรู ณแบบ ทานอมิ ามอะลี จึง ออกคําสง่ั ใหทาํ ลายลา งพวกเขาทนั ที สงครามระหวา งพวกคอวารจิ ญก บั ทา นอมิ ามอะลี ไดเกดิ ขึ้นในนะฮระวาน และทา นอิ มามอะลี ไดโจมตีและทําลายลา งพวกเขาอยางราบคาบเปนหนา กอง การทาํ สงครามกับพวกคอวาริจญเ ปน สง่ิ ทข่ี มข่นื ยง่ิ นกั เนอื่ งจากสวนมากของพวกเขาคอื ประชาชนผูศ รทั ธา การแสดงความรกั และความเกลยี ดชงั ของพวกเขาน้นั ออกมาจากใจจริง มี คําพดู ที่ตรงไปตรงมา เปน ชาวอบิ าดะฮ (อยกู บั การภักดตี อ พระผเู ปน เจาตลอดเวลา) รอ งรอยแหง การกราบกรานยังคงมใี หเหน็ อยบู นหนาผากของพวกเขา พวกเขาอยกู ับการอา นคมั ภีรอัล กรุ อาน และมุง มนั่ อยกู ับการอบิ าดะฮในยามคาํ่ คนื โดยมไิ ดหลบั ไดน อน แตท วาเปน หมชู นทโ่ี งเ ขลาเบา ปญญายงิ่ นกั พวกเขาไดรจู ักอสิ ลามและเผยแผอสิ ลามในลกั ษณะของความเหน็ แกต วั และไรจติ วิญญาณ นอ ยคนนักทจ่ี ะพาตวั เองและบุคคลอื่นๆ ออกไปเพอื่ เขน ฆา และนองเลอื ดกลมุ ชนเชน นน้ั ได (ลักษณะของพวกคอวารจิ ญ) ถา มิใชอมิ ามอะลี แลว ไซร คงจะไมม ีผใู ดเปน ทหารของเขาและ พรอ มทจี่ ะชักดาบขนึ้ มาฆาฟน บคุ คลเหลา นนั้ ไดลงคอเปน แน ทานอมิ ามอะลี ถือวา การทาํ สงคราม ของทา นกบั พวกคอวารจิ ญค ือหนงึ่ จากความภาคภมู ิใจตา งๆ ของทา นเอง ทา นไดก ลา ววา “ฉันคนนี้แหละ! ทไ่ี ดนําเอาดวงตาของฟต นะฮออกจากกะโหลกศีรษะ (เปรยี บการฟต นะฮ เปนเรอื นราง) นอกจากฉันคนน้ีแลว ไมม ีใครสักคนที่จะกลาหาญพอทจ่ี ะกระทาํ สิ่งน้ีได” (1) และกเ็ ปน เชน นั้นจรงิ ๆ ดงั ทที่ านกลา ว เพราะจะมกี ็เฉพาะแตท านอิมามอะลี เทานนั้ ท่ีมไิ ด ใหความสาํ คญั ตอความสวยงามภายนอกและความสงู สงของพวกเขาแตอยางใด และทา นถอื วา พวกเขาทง้ั หลาย (คอวารจิ ญ) เปน หมูช นทม่ี คี วามยาํ เกรงและมีการภักดอี ยางมากตอพระองคใน ภายนอก ซง่ึ ถอื เปน ศัตรตู วั ฉกาจของศาสนาเลยทีเดยี ว ทา นอิมามอะลี รูด วี าถา หากแนวความคดิ นีไ้ ดห ยง่ั รากลงในโลกแหงอสิ ลาม (ซึ่งโดยธรรมชาตขิ องมนษุ ยนนั้ จะมีสมัครพรรคพวกเพิม่ มาก ข้นึ ) โลกแหง อสิ ลามกจ็ ะพบกับความแข็งกระดางและไรซ ึ่งจิตวญิ ญาณอยางแนน อน ดงั นัน้ การ ทําสงครามกบั พวกคอวารจิ ญจงึ มิใชเปน เพยี งการทาํ สงครามกบั คนแคพันคนเทา นนั้ แตเปน การ ทําสงครามกบั แนวความคดิ ทีแ่ ขง็ กรา วและการวนิ ิจฉยั แบบโงๆ และเปนการตอ สกู บั แนวความคดิ (1) นะฮ ุล บะลาเฆาะฮ คุฏบะฮที่ 91. 166
ที่บิดเบอื นในสงั คมแหง อลั อิสลามทเี ดียว จะมีใครบางที่จะมคี วามสามารถเทียบเทา กับทา นอิ มามอะลี ทจี่ ะสามารถทาํ สงครามไดใ นสมรภมู ิเชน น!ี้ ? สงครามแหง นะฮร ะวานจบลงดว ยความพายแพอนั ยับเยนิ ของฝา ยคอวารจิ ญ ซงึ่ พวกเขา ไมสามารถทจี่ ะทําใหพวกเขาเอง (ลทั ธขิ องพวกเขา) ไดไ ปสูจุดหนึ่งในโลกแหงอสิ ลามตามที่พวก เขามงุ หวงั ไวไ ด การทําสงครามของทา นอมิ ามอะลี กบั พวกเขาคือบทอา งองิ ทด่ี ที สี่ ุดสําหรับผนู าํ หลงั จากทา นวา การญิฮาดกับคนกลมุ นเี้ ปนสง่ิ จาํ เปน และถูกตองย่ิงนกั แตทวา พวกคอวาริจญที่ ยังคงเหลืออยนู ้ัน พวกมนั กย็ งั ไมละมอื ของพวกมนั แตอยางใด ชายสามคนจากพวกคอวารจิ ญไ ดรวมตวั กนั ในนครมักกะฮ และไดร ว มกนั วเิ คราะหถงึ สถานภาพของโลกอิสลามตามความคิดของตนเอง และผลลพั ธท ่ีพวกเขาทง้ั สามสรุปออกมากค็ ือ ความยงุ เหยงิ และปญหาตา งๆ ทมี่ ีอยูใ นโลกอสิ ลามขณะนน้ั มีสาเหตมุ าจากบคุ คลเพียงสามคนคือ ทา นอิมามอะลี , มอุ าวียะฮ และอัมร บนิ อาศ ทานอิมามอะลี ก็คือผทู ี่พวกเขาเคยอยูภายใตการบงั คบั บญั ชามากอ น (เปนทหาร) สวนมุ อาวียะฮ และอมั ร บนิ อาศ กค็ ือผูท ่ีไดส รางเลห เพทบุ ายทางการเมอื งในกองทพั ของพวกเขา (ใน สงครามซฟิ ฟน ) ซึ่งเปนปฐมเหตขุ องลทั ธทิ ี่อันตรายยิ่งน้ี (คอวารจิ ญ) ข้ึนมานน่ั เอง ในผสู มทบทง้ั สามคนนี้ คอื อบั ดลุ ลอฮ อิบนิ มุลญมิ , บะรอกะ อิบนิ อับดุลลอฮ และอมั ร อิบนิบกั ร ตะมมี ีย พวกเขาทงั้ สามไดทาํ สญั ญาและสาบานรว มกนั ในสถานอัล กะอบะฮว า พวกเขา จะสังหารบคุ คลทง้ั สาม (อมิ ามอะล,ี มอุ าวยี ะฮ, อมั ร บินอาศ) ทเ่ี ปน ตนเหตขุ องปญ หาตางๆ ใน โลกอสิ ลาม (ตามความคิดของพวกเขา) พรอ มกนั ในคนื เดยี ว น่ันคือคา่ํ คืนที่ 19 ของเดอื นรอมฎอน อนั ทรงเกยี รติ (หรือ 17 ของเดือนรอมฎอนอันทรงเกยี รติ) และตกลงกนั วา อบั ดุรเราะฮมานจะเปน ผูร บั หนา ทีใ่ นการลอบสงั หารทา นอมิ ามอะลี และบะรอกะ บินอบั ดลุ ลอฮ จะเปนผรู ับหนา ที่ลอบ สงั หารมอุ าวียะฮและอมั ร บนิ อาศ และตา งคนตา งกแ็ ยกยายกันไปยังเปา หมายของตนเพือ่ ปฏบิ ตั ิ หนา ทข่ี องตนเอง อบั ดรุ เราะฮมานมงุ หนา สเู มอื งกูฟะฮซ ่ึงเปน ท่ีอยอู าศัยของทา นอมิ ามอะลี ในชว งการ ดํารงตาํ แหนงคอลีฟะฮ บะรอกะมงุ หนา ไปยังซเี รยี (ชาม) ซึ่งเปน ศนู ยกลางในการปกครองของมอุ า วยี ะฮ และอมั ร บนิ บกั รมงุ หนา สอู ยี ปิ ตซงึ่ อมั ร บินอาศเปน เจา เมอื งอยใู นขณะนนั้ แผนการของคนทง้ั สองคน คอื อัมร อบิ นบิ ักร และบะรอกะ บนิ อับดุลลอฮ ทจี่ ะลอบสงั หาร อมั ร บินอาศและมุอาวยี ะฮ ปรากฏวา ลม เหลวทง้ั สองคน คอื บะรอกะผซู งึ่ รับหนา ทเี่ ปน ผูสงั หารมุ อาวยี ะฮใ นคํา่ คนื แหง คาํ ม่ันสญั ญา (ที่พวกเขาตกลงกัน) มาถงึ เขาสามารถใชด าบฟนไปบนศรี ษะ ของมุอาวยี ะฮจ ากทางดา นหลงั ได แตม ุอาวียะฮกไ็ ดร บั การรักษาเยียวยาจากแพทยจ นหายในทส่ี ุด อัมร บนิ บกั รซง่ึ รบั หนาทเี่ ปนผลู อบสังหารอมั ร บินอาศ โดยสวนตวั แลว เขาไมรูจ ักหนาของอมั ร บนิ อาศ ผทู ่ีเขาจะตองสงั หารแตอ ยา งใด ดวยเหตบุ งั เอญิ เชนกนั ในคํ่าคนื นน้ั (คนื แหง คาํ มนั่ สัญญา) อัมร บนิ อาศปวยและไมไ ดม านมาซในมสั ยดิ แตเ ขาไดส งตัวแทนคนหนง่ึ ซงึ่ มนี ามวา ‘คอริญะฮ 167
บิน ฮะซาฟะฮ’ มานาํ นมาซแทน อมั ร บนิ บักรจงึ เขา ใจผดิ คิดวาเขาคอื อัมร บนิ อาศ จึงลงมอื สงั หาร เขาทนั ท่แี ตมารภู ายหลงั วา เปน การสงั หารผิดตวั จะมบี คุ คลเดยี วเทา นั้นคอื อบั ดรุ เราะฮม าน อิบนิ มลุ ญิม มรุ อดีย ทปี่ ระสบความสาํ เรจ็ ในการปฏิบตั หิ นาที่ นนั่ คือการสงั หารทา นอมิ ามอะลี ใน เมอื งกฟู ะฮ อับดุรเราะฮม านไดเ ขาสเู มืองกฟู ะฮโ ดยที่เขามิไดบอกกลาวแกผ ใู ดเลยถงึ จุดประสงคใน การมาของเขา และในใจของเขาระแวงคลางแคลงตอ การตดั สินใจของตนเองคร้ังแลว ครง้ั เลา เขา เคยคดิ ทจี่ ะลม เลิกความตัง้ ใจของตนเองคร้งั แลวครั้งเลา เชน กัน เน่ืองจากบุคคลเยี่ยงทา นอมิ ามอะ ลี น้ัน ตอใหผ ทู ่ชี วั่ ชา สามาลยแ ละใจหนิ สกั เพียงใดกต็ าม ก็ไมใ ชเ รอื่ งงา ยเลยสาํ หรบั เขาทจี่ ะลงมอื สงั หารทานอมิ ามอะลี แตทวา ความบงั เอญิ ตา งๆ ทีเ่ กิดข้นึ ในซเี รยี และอียปิ ตน น้ั จะชว ยใหม อุ าวี ยะฮและอมั ร บนิ อาศ รอดชวี ติ มาได และความบงั เอญิ เหลา นั้นก็ไดเ กดิ ขน้ึ อกี ในอริ กั แตเ ปนความ บงั เอิญอีกแบบหนง่ึ น่ันคอื ความบงั เอญิ ทท่ี าํ ใหอ บั ดรุ เราะฮม าน อิบนิ มลุ ญมิ ตัดสนิ ใจอยา ง เดด็ ขาดที่จะสงั หารทานอิมามอะลี ซงึ่ ถา หากวา ความบังเอญิ นมี้ ิไดเกิดข้นึ ตัวของอับดรุ เราะฮ มานเองกไ็ ดลม เลกิ ความต้ังใจท่อี ันตรายยง่ิ ของเขาไปแลว ทงั้ หมด นน่ั คอื เขาหลงใหลในความ งดงามของหญงิ นางหนงึ่ ในวนั หนง่ึ อบั ดรุ เราะฮมานไดไ ปพบกบั บคุ คลหนึง่ ท่อี ยูในอุดมการณเ ดียวกนั กบั เขา และ เขาไดร จู ักกบั หญิงสาวผหู นงึ่ ทม่ี ชี อื่ วา ‘กตุ ตอม’ (กตุ ตอมเปน เด็กสาวคนหนง่ึ ทเ่ี ปน คอวารจิ ญแ ละ บิดาของเขาถกู ฆา ตายในสงครามนะฮระวาน) กตุ ตอมเปนหญงิ สาวทส่ี วยงามชวนเสนหห ายงิ่ นัก อบั ดุรเราะฮมานถงึ กับหลงรกั นางตั้งแตแรกเหน็ และหลงลืมทกุ สง่ิ ทกุ อยา งแมก ระทง่ั คํามนั่ สญั ญา แหงมกั กะฮ (การสงั หารทานอมิ ามอะล)ี เขาตัดสนิ ใจทจี่ ะใชชีวติ ทเ่ี หลอื อยูข องเขากบั กุตตอบใหม ี ความสขุ ท่ีสุด เขาจงึ เอยปากขอนางแตง งาน กตุ ตอบกต็ อบรบั คาํ ของของเขาเชน กัน แตท วา เมื่อ นางไดเรยี กรองสนิ สอดทองหมน้ั ของนางกับอับดรุ เราะฮมานตา งๆ นานา และมสี ิ่งหนึง่ ทน่ี างเอย ปากขอจนทาํ ใหอบั ดรุ เราะฮม านตอ งหวั เสยี นางกลา วเชน นี้วา “สนิ สอดทองหมั้นของฉันมดี งั น้คี อื เงนิ สามพนั ดิรฮมั ทาสรบั ใชช าย หนง่ึ คน ทาสรบั ใชหญิงหนง่ึ คน และเลือดของอะลี บิน อบฏี อลบิ ” (1) อับดรุ เราะฮม าน กลา ววา “ไมวาจะเปน เงินทองทาสรบั ใชท ง้ั ชายและหญงิ เธอจะเอามาก เทา ไรฉันก็จะหามาให แตการสังหารทา นอะลี ไมใชเ รื่องงาย หรอื วา เราท้งั สองจะไมใ ชชวี ติ รวมกนั หรือ? เพราะวา ถา หากฉนั ลงมือสังหารทา นอะลี ไปแลว คิดหรอื วาฉนั จะเอาชวี ติ รอดกลบั มาได อยา งสมบรู ณ?” (1) เร่อื งดงั กลาวน้ี ซงึ่ หญงิ นางหนงึ่ ตองการเลือดของบุคคลหนึ่งเพือ่ เปน สินสอดทองหมัน้ และเลือดนน้ั คอื เลือด ของอมิ ามอะลี ซ่ึงเปน สิ่งทแี่ ปลกประหลาดย่งิ นัก จึงมีบทกลอนออกมาเกี่ยวกับเร่อื งนจ้ี ากนักแตงกลอน และ กลอนบทหน่งึ มใี จความวา ….. 168
กุตตอบ กลา ววา “สนิ สอดของฉันกค็ อื อยางท่กี ลา วนัน้ แหละ! การทีจ่ ะสงั หารอะลใี น สนามรบนั้นไมม ีทางแน แตในชวงการทาํ อิบาดะฮ (เขา เฝา อัลลอฮ) นัน้ มที างเปน ไปไดส ูง และถา หากเจาเอาชวี ติ รอดกลบั มาได เราทงั้ สองก็จะไดใชช ีวติ อยดู ว ยกนั ตลอดไปอยางมคี วามสุข แตถ า หากเจา ถูกฆา รางวัลอนั สงู สง ณ อัลลอฮ (ซบ.) ทเี่ จา จะไดรบั นน้ั ลาํ้ คา ยงิ่ และเดย๋ี วฉันจะสงคน ของฉันอกี คนหนง่ึ ไปรวมกับเจาเพอ่ื ทเ่ี จา จะไดไมต อ งเดียวดาย” อับดุรเราะฮมานซงึ่ หลงรกั และคลั่งใคลในกุตตอบอยางชนิดท่ไี มล มื หลู มื ตา และความรกั อนั น้เี องทไ่ี ดช กั จงู เขาใหเ ขาสูเ ปา หมายเดิมท่ีเขาเคยตัง้ ใจไวอ ีกครั้งหนง่ึ (การสงั หารอิมามอะล)ี ซ่ึง ความเคยี ดแคน พยาบาทตางๆ อันเกา กอ นไดถ กู จดุ ปะทขุ ึน้ จนถงึ กับวา เขาสามารถทีจ่ ะเผย ความลับอนั สดุ ยอดของเขาออกมา เขาไดกลา วแกก ตุ ตอบวา “อนั ที่จรงิ แลว ฉนั จะบอกใหกไ็ ดว า ฉันนน้ั คือผทู หี่ ลบหนจี ากเมอื งน้ี แตท ่ีมาอกี ในคร้ังนก้ี ็เพอื่ สังหารอะลีเพยี งเทา นน้ั เอง” เม่อื ไดยนิ เชน นั้น กุตตอบรสู กึ ยนิ ดเี ปน ยง่ิ นกั และนางไดส งชายอีกคนทชี่ อ่ื ‘วรั ดาน’ เพอื่ เขา รวมกบั อบั ดุรเราะฮมานในการเตรยี มพรอ มที่จะสงั หารทา นอมิ ามอะลี ตัวของอับดุรเราะฮมาน เองกเ็ ชน กนั ในวนั หนงึ่ เขาไดเ ขาพบกับ ชะบบี บนิ บะญะเราะฮ ซงึ่ เปนพวกเดียวกับเขาและเปน ผู ที่เขาไวใ จมากทสี่ ดุ เขาไดกลาวแกช ะบบี วา “ทานพรอมหรอื ไมท ี่จะรวมมอื กบั ฉนั เพ่ือปฏบิ ัติภารกจิ หนง่ึ ซ่งึ จะมเี กยี รติย่งิ ทง้ั ในโลกนแ้ี ละโลกหนา ?” ชะบีบ “ภารกิจอนั ใดหรือ?” อบั ดรุ เราะฮมาน “สังหาร อะลี บิน อบฏี อลิบ!” ชะบบี “ขออลั ลอฮ (ซบ.) ทรงประทานความตายแกเ จา! เจาไดพ ูดอะไรออกมารูหรอื ไม? สังหารอะลหี รอื ! ชายผนู ้มี ีความดงี ามอนั มากมายในศาสนาอสิ ลาม” อับดรุ เราะฮมาน “ใชแลว! หรอื วา เขามไิ ดเปน ผปู ฏิเสธในทศั นะของเจา ในเมือ่ เขาคอื ผูที่ ยอมรับการตดั สนิ ของอนุญาโตตลุ าการแลว ถึงแมว า เขาจะเคยมคี วามดงี ามในอิสลามมากอนก็ ตามเถอะ! และอีกอยางหนง่ึ เขาคือผทู ไ่ี ดสังหารพน่ี อ งผศู รทั ธาและมคี วามยาํ เกรงของพวกเราใน สมรภิมนะฮระวาน เราสามารถท่จี ะตดั สนิ ดว ยการประหารชวี ิตของเขาไดตามกฎขอบัญญตั ”ิ ชะบบี “แลวเจา จะเขา ถึงตัวอะลีไดอ ยางไร?” (สงั หารอะลีในชว งใด) อบั ดุรเราะฮม าน “งา ยมาก! เราจะไปคอยดกั ซมุ อยูในมัสยดิ กฟู ะฮ และเมื่ออะลมี านมาซ ซบุ ฮิ์เรากจ็ ะลงมอื สงั หารเขาทนั ทีดว ยดาบทเ่ี ราซอ นเอาไวใ นเสือ้ คลมุ กายของเรา” อบั ดรุ เราะฮมานพยายามยกแมน า้ํ ทงั้ หา มาเกลยี้ กลอมชะบบี จนกระท่ังชะบีบยอมตกลง ใหค วามรว มมอื กบั เขาในภารกจิ ครัง้ นจี้ นได และไดพาชะบบี ไปหากุตตอบที่มัสยดิ กูฟะฮซง่ึ กาํ ลัง สวมชุดนมาซและนง่ั อยูในมมุ หนง่ึ ของมัสยิด เขาไดแนะนําชะบีบใหน างรจู กั กตุ ตอบ กลา ววา “ดีมาก! วรั ดานกจ็ ะรว มมอื กบั ทา นอกี คน คราใดก็ตามทพี่ วกทาน ตัดสินใจไดแ ลววาจะลงมือเมอื่ ใด กจ็ งมาหาฉนั กอ น” 169
อับดุรเราะฮม านไดอ ดทนรอคอยวนั ที่ 19 (หรอื 17) ของเดอื นรอมฎอนอันทรงเกียรตซิ งึ่ เขา เคยใหสญั ญาไวกบั พวกอกี สองคนในนครมักกะฮ และวนั นน้ั ก็มาถงึ เขาพาชะบีบไปหากุตตอบ กตุ ตอบไดน ําผาทที่ าํ จากไหมผกู ไวท ห่ี นา อกของเขา วัรดานกเ็ ขามาหากตุ ตอบเชน กนั และทงั้ สามกไ็ ด รวมตวั กนั ทหี่ นาประตูซงึ่ ทา นอิมามอะลี เดนิ เขาออก ณ ประตนู น้ั เปน ประจาํ และพวกเขาไดเขา แฝงตัวอยูในกลมุ ผูท ่ีกาํ ลังมงุ ม่ันอยกู บั การอบิ าดะฮใ นคาํ่ คืนนนั้ เนื่องจากเปน คาํ่ คนื ทม่ี สุ ลิมไม หลบั นอนเพือ่ การอบิ าดะฮ (คํ่าท่ี 19 เดือนรอมฎอน) พวกเขาทงั้ สามคนตางก็ทาํ การนมาซ ดอุ าอว งิ วอนอยา งมากมาย เพราะพายทุ ่กี อ ตัวอยู ในหวั ใจของพวกเขาซงึ่ พวกเขาจะตองไมกระทําตวั ใหเปน ท่สี งสัยของผูอ่นื พวกเขาจงึ มงุ มนั่ ทาํ อิ บาดะฮอยา งมากมาย ท้งั ยนื ทง้ั น่งั ทั้งกราบกรานจนไมม ีทที า วา จะเหนด็ เหน่อื ยแตอ ยางใด จนทาํ ใหผ อู ื่นรูสึกประหลาดใจย่งิ นกั ทางดานของทา นอมิ ามอะลี นน้ั ทา นมีโปรแกรมพเิ ศษเฉพาะสาํ หรบั ตัวทานเองในเดอื น รอมฎอนอันทรงเกยี รตนิ ี้ ในทกุ คนื ทา นจะวนเวียนไปละศลี อดตามบานของบุตรสาวและบตุ รชาย ของทา น และไมมีสักคนื เลยทีท่ า นจะรบั ประทานอาหารมากกวาสามคํา บรรดาลูกๆ ของทานตาง กข็ อรอ งใหทา นทา นมากกวา น้สี กั หนอย ทานจงึ กลาววา “ฉันรกั ท่ีจะเขาพบกบั อลั ลอฮ (ซบ.) ใน สภาพทท่ี อ งของฉันหิวโหยมากกวา ” และยงั กลา วเพ่มิ เตมิ อีกวา “สัญลกั ษณหนึง่ ทีท่ า นรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ไดเ คยบอกกับฉนั เอาไว มนั ใกลเ ขา มาเตม็ ทีแลวทเี่ คราของฉนั จะเปรอะเปอ นไปดว ยเลอื ดจากศีรษะของฉันเอง” และในคํา่ คนื นั้นทานอมิ ามอะลี กไ็ ดไ ปเปนแขกของบตุ รสาวคือทา นหญงิ อมุ มุลกุลซมู อาการกะสบั กะสายและการรอคอยของทานอิมามอะลี ไดปรากฏออกมาอยา งเหน็ ไดช ดั ซ่งึ ตา ง จากคํา่ คนื อืน่ ๆ และเมือ่ ทกุ คนตางแยกยา ยกนั เขานอน ทานกต็ รงไปยังสถานทีอ่ บิ าดะฮของทาน และมุง มน่ั อยกู บั การวงิ วอนขอดอุ าอท นั ที เมื่อเวลานมาซซบุ ฮใิ์ กลเ ขา มา อมิ ามฮะซนั ไดเขา มาหาบิดาของทาน ทานอิมามอะลี ได กลาวแกบ ุตรชายของทานวา “โอลูกรกั ของฉัน! พอมไิ ดห ลบั นอนเลยเมือ่ คืนนี้ และไดปลกุ ทุกคน ในบา นขน้ึ มาเน่ืองจากคืนนคี้ อื คืนวนั ศกุ รแ ละตรงกบั คํา่ คืนบัดร (กอ็ ดร) แตในชวงขณะหนึง่ ท่ีพอ นง่ั อยพู อไดเ ผลอหลบั ไป ทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดมาเขาฝน พอ พอจึงไดถ ามทานวา : โอร อซู ลุลลอฮ (ศ็อลฯ) ฉนั รสู กึ ทุกขท รมานเสยี เหลือเกนิ จากประชาชาตขิ องทาน” ทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดกลาวแกพ อวา “จงสาปแชง พวกเขาเถดิ !” พอ เลยสาปแชงพวก เขา และการสาปแชงของพอ มีดงั น้ี “โออ ลั ลอฮ! ไดโ ปรดทรงพาฉนั ไปจากหมชู นเหลานีโ้ ดยเรว็ ไว และไดโปรดทาํ ใหข าพระองคฟ นขน้ึ มากับหมูชนที่ดกี วา พวกเขาเหลา นี้เถิด และขอพระองคทรงสง มายงั พวกเขาซึง่ ผทู ีเ่ หมาะสมกบั พวกเขาเถิด บุคคลท่เี ลวทรามกวา ฉนั สาํ หรบั พวกเขาเหลา นน้ั ” ในชวงเวลานน้ั เอง ผูอ ะซาน (มอุ ัซซิน) ของมสั ยิดไดเขามาและบอกวาเวลานมาซซุบฮิใ์ กล เขามาแลว ทา นอมิ ามอะลี จงึ มงุ หนา สมู สั ยิดทันที หนา บานของทา นอิมามอะลี มเี ปดอยูจํานวน 170
หนง่ึ ซ่ึงเด็กๆ ไดน ํามาเลยี้ งไว เมอ่ื ทา นอมิ ามอะลี กาวเทาออกมาจากบาน เปด ทงั้ ฝูงตางสง เสียง รองแซงแซกนั ไปหมด หลายคนไดเขาไปไลและหา มปรามพวกมนั ทา นอมิ ามอะลี จึงกลาววา “ปลอ ยพวกมนั เถดิ ! พวกมนั กาํ ลงั สง เสียงรองแหง ความโศกเศราออกมา” สวนทางดา นของอับดุรเราะฮม านและสหายอกี สองคนของเขา ตา งรอคอยการมาของ ทานอมิ ามอะลี อยางใจจดใจจอ ไมม ใี ครรเู รื่องเกยี่ วกบั ภารกจิ ครง้ั นข้ี องพวกเขาเลยนอกจากกุต ตอบและอชั อัษ บนิ เกซ (ชายผูห นง่ึ ที่เลวทรามมากซงึ่ เขาไมเคยยอมรับแนวทางอนั ยตุ ธิ รรมของ ทานอิมามอะลี เลย และมกี ารติดตอ กนั อยางลับๆ กับมุอาวยี ะฮ) มเี หตกุ ารณเ ลก็ ๆ เกิดขน้ึ ซง่ึ เกือบจะทาํ ใหแ ผนการทั้งหมดเสยี หาย แตกม็ ีเหตุบังเอิญอันหนึง่ เกิดขน้ึ และสามารถยบั ยง้ั การ ลม เหลวของแผนการเอาไวไ ด กค็ อื อชั อษั ไดไปหาอับดรุ เราะฮม านอยา งรวดเร็วและไดกลา วแกเขา วา “ใกลจะสวา งเต็มทแี่ ลว รีบๆ ลงมอื เรว็ ๆ ซิ! เพราะถา หากวา สวา งข้นึ มาเมือ่ ไร เจาจะอดสูและ อบั อาย” ฮิจญ บนิ อดั ดีย ซง่ึ เปนสหายผูใกลช ดิ คนหนง่ึ ของทา นอิมามอะลี ไดแ อบเหน็ การสง สญั ญาณของอัชอษั แกอับดรุ เราะฮมาน ทําใหเ ขาคาดคะเนเอาวาพวกมนั จะตองมแี ผนการรา ย อะไรสักอยางแน ฮจิ ญไดผ กู มาของเขาไวห นา มัสยิดซง่ึ ดเู หมือนวาเขานา จะเพิ่งกลบั มาจากการไป ทาํ ภารกจิ มา และเขาตรงมายงั มสั ยดิ ทนั ทีเพือ่ นาํ ขา วคราวและรายงานภารกจิ ทเ่ี ขาไดไปปฏิบัติมา แกทา นอิมามอะลี หลังจากท่ฮี ิจญไดย ินคําพดู ของอชั อษั เมื่อสกั ครู ก็ไดเขาไปดดุ าเขาและรบี ออกจากมัสยิด โดยฉบั พลนั เพ่อื มงุ หนาไปหาทานอมิ ามอะลี เพื่อยับยง้ั อนั ตรายทจี่ ะเกิดขนึ้ แกท านอิมามอะลี แต ทวา ความบังเอญิ ก็คอื เมอื่ ฮิจญไปถงึ บานของทา นอิมามอะลี กป็ รากฏวา ทานอิมามอะลไี ดอ อกไป ยงั มัสยิดเสยี แลว โดยไปอีกทางหนง่ึ หลายตอ หลายคร้ังดวยกนั ที่บรรดาลกู ๆ และสหายผใู กลชิดหลายคนไดขอรอ งทานอมิ าม เพือ่ ใหพ วกเขาจัดหาคนคุม กนั แกท านแตทา นก็ไมอนุญาต ตง้ั แตไหนแตไ รมาทา นก็ไปไหนมาไหน คนเดยี วตลอดเวลา และคาํ ขอรองน้ีกถ็ กู กลาวแกท านอมิ ามอะลี อีกครัง้ หนึ่งในคนื นน้ั แตทา นอิ มามกย็ ังคงยนื กรานเชน เดมิ ทา นอมิ ามอะลี ไดเขามาในมสั ยิดและกลา วดวยเสยี งอนั ดงั วา “โอม นุษยเ อย นมาซ นมาซ!” ในขณะนนั้ เองประกายแสงของคมดาบสองเลม ไดส องประกายขน้ึ ในชว งเวลาไลเ ลยี่ กัน และมีเสียงตะโกนขึ้นวา “การปกครองสําหรบั พระผูเ ปน เจา โออะล!ี มใิ ชสําหรับเจา ” ดังกอ งไปทั่ว ดาบเลม แรกกระหนาํ่ ลงทนั ทีโดยชะบบี แตพลาดไปโดนกําแพงมสั ยดิ ดาบเลม ทีส่ องถกู ฟน ลงไป ทนั ควนั บนศรี ษะของทา นอมิ ามอะลี โดยอับดรุ เราะฮม าน สว นทางดานฮจิ ญเขารีบว่งิ กลับมายัง มัสยิดทนั ทีเมอ่ื ทราบวา อมิ ามอะลีไดม ามสั ยิดแลว แตท วา เขามาถงึ มสั ยดิ สายไปเสียแลว เขาได 171
ยนิ เสียงตะโกนของประชาชนออกมาจากมสั ยิดวา “อมีรุลมุอมินนี ชะฮดี แลว ! อมีรุลมุอมินีน ชะฮดี แลว!” ประโยคหน่งึ จากหลายๆ ประโยคที่เปลง ออกมาจากปากของทา นอมิ ามอะลี โดยทนั ที หลงั จากถกู ลอบฟน จากดาบของอบั ดรุ เราะฮม าน หนงึ่ ในนน้ั กค็ ือ “ขอสาบานตอพระผูอ ภบิ าลแหง กะอบ ะฮ ฉันประสบความสําเรจ็ แลว !” และอกี ประโยคหนงึ่ คอื “จงจับชายผนู ั้นเอาไวอยา ใหหนไี ป ได” อบั ดรุ เราะฮม าน, ชะบีบ และวัรดาน ตา งรบี หนีทนั ทหี ลงั เสร็จส้ินภารกจิ สําหรับวนั ดาน เขามไิ ดออกตวั มากมายนกั ในภารกจิ นจ้ี ึงไมมีใครจบั เขาได สวนชะบบี เขาไดหลบหนอี อกไปแตถกู จับไดโ ดยนํ้ามอื ของสหายคนหนงึ่ ของทา นอิมามอะลี เขาไดจ ับดาบของชะบบี ขน้ึ มาและนงั่ ลงบน อกของชะบบี เพือ่ ท่จี ะฆา ชะบบี เสยี แตบรรดาฝงู ชนจาํ นวนมากตา งกาํ ลังมุงหนา มายงั เขา เขาจึง เกรงวา ฝงู ชนจะไมรจู ักเขาและพลอยฆา เขาไปดว ย เขาจงึ ลุกขนึ้ จากอกของชะบีบกอ น แตช ะบบี ได ฉวยโอกาสวงิ่ หนที นั ทแี ละกลบั ไปยังบานของเขา ในบา นของชะบีบเองมีลกู ชายของอาของเขาอยู และเมื่อเขารูว า ชะบีบมีสว นรวมในการลอบสังหารทา นอิมามอะลี เขาจึงรบี วง่ิ ไปหยบิ ดาบและตรง มายงั บานของชะบีบและฆาชะบีบในท่ีสดุ สว นอบั ดรุ เราะฮมาน ประชาชนไดรว มกนั จบั ตัวเขาไวไ ดและมัดมือเขาเอาไวแ ละพาไปยงั มสั ยดิ ประชาชนทกุ คนรูสึกมีความโกรธแคน เดอื ดดาลเปน อยางมาก และพรอมทกุ เม่อื ทจี่ ะกัดอับ ดุรเราะฮมานดวยฟน ของพวกเขาใหออกเปน ชนิ้ ๆ ทานอมิ ามอะลี กลา ววา “จงนาํ ตัวอับดุรเราะฮม านมาหาฉนั ซ!ิ ” เม่อื อับดลุ เราะฮม านถกู นําตัวมา ทา นอมิ ามอะลี ไดกลาวแกเ ขาวา “ฉนั มเิ คยกระทาํ ความดีแกเ จา เลยหรือ?” อบั ดรุ เราะฮมาน “เคย” ทา นอมิ ามอะลี “แลว ทําไมเจาจึงทํากับฉนั เชน น?ี้ ” อับดรุ เราะฮมาน “อยา งไรกต็ าม ฉนั ไดช บุ ดาบเลม นขี้ องฉันดว ยยาพิษทรี่ า ยแรงถงึ 40 เชา ติดตอกนั และประสงคจากอลั ลอฮ(ซบ.)ใหสิง่ ถูกสรางทีเ่ ลวท่ีสดุ ของพระองคถูกฆา ดวยดาบเลม น”ี้ ทา นอิมามอะลี “ดอุ าอข องเจา ไดถ กู ตอบรับแลวจากพระองค เพราะในอกี ไมชา นี้ เจา กจ็ ะ ถูกฆา ดว ยดาบเลม นแ้ี หละ!” แลว ทา นอิมามอะลี ก็ไดห ันไปหาลกู ๆ หลานๆ และมติ รสหายทุกๆ คนทห่ี อมลอ มทา นอยู และกลา ววา “โอล ูกหลานแหงอบั ดลุ มฏุ ฏอลบิ ! ขออยา ใหเปน เชน นน้ั เลย ทีป่ ระชาชนจะหยบิ ยก เร่อื งการถกู สังหารของฉนั ข้นึ มาเปน ขอ อา ง เพอื่ ตงั้ ขอ หารว มกนั ฆา หรอื ขอ หาอน่ื ๆ แกผหู นง่ึ ผูใด และกอการนองเลือดข้นึ ” แลว ทานอมิ าม ไดหนั ไปทางบุตรชายของทา นคอื อิมามฮะซนั และกลาววา “โอลูกรกั ของ พอ! ถาหากพอ มีชีวิตรอด พอ รดู ีวา พอควรทําอยา งไรกับชายผนู ้ี (อบิ นมิ ุลญมิ ) และถาหากพอ ไม รอด เจาจงอยาฟน เขาเกินหนง่ึ ครัง้ เด็ดขาด เพราะเขาฟน พอ แคห นง่ึ ครง้ั เทา นนั้ ไมใชว า เจาจะทํา 172
ทารณุ กรรมเขาดว ยการตัดหู ตัดลิ้น และตดั จมูกของเขาออกเปน ช้นิ ๆ เนอ่ื งจากทา นรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) ไดก ลา วเอาไวว า : จงหางไกลจากการทาํ มุซละฮ (การตดั หู ตดั ลิน้ ตดั จมกู หรอื อนื่ ๆ) แมก ระทงั่ กบั สุนัขท่ดี รุ า ย” ทา นอิมามฮะซัน ไดสง่ั ใหคนไปเรยี กแพทยทีเ่ ชยี่ วชาญคนหนึ่งซง่ึ มนี ามวา ‘อะซรี บินอมุ ัร’ มา เขาไดตรวจดูบาดแผลของทา นอมิ ามอะลี สกั พักหนึ่งและไดก ลาววา “ดาบถกู อาบยาพษิ ชนดิ รนุ แรงมาก ยาพษิ ไดแ ลน เขา สสู มองแลว คงไมม ที างรักษาไดอ ีก” นับตงั้ แตทา นอิมามอะลี ถกู ลอบฟน จนถงึ วาระสุดทา ยแหง ลมหายใจของทาน นบั เวลาได ไมน อ ยกวา 48 ชั่วโมงเหน็ จะได ถงึ กระนนั้ กต็ าม ทานอมิ ามอะลี กย็ งั ไมป ลอ ยโอกาสนน้ั ใหผาน เลยไปอยางไรคา ทา นไมย อมที่จะหยดุ น่ิงตอ การใหโ อวาทตกั เตือนแกป ระชาชาติเลย ทา นไดก ลาว คําสั่งเสยี เอาไวถึง 20 ขอ ดวยกัน ซึ่งถูกบนั ทึกเอาไวดังนี้ “ดวยพระนามของอลั ลอฮ ผูทรงกรณุ าปรานีเสมอ สิง่ นีค้ อื คําสัง่ เสยี ของบตุ รชายขอ งอบูฏอลบิ วา อะล!ี ขอใหค ําปฏญิ าณตนยอมรับความเปน เอกะของอัลลอฮ (ซบ.) และปฏิญาณ ตนวา มุฮัมมดั คอื บาวและศาสนทูตของพระองค พระองคไ ดส งเขามาเพอ่ื ทาํ ใหศาสนาของพระองค น้นั อยเู หนือศาสนาอน่ื ๆ ทัง้ ปวง แทจ ริงแลว การนมาซ การอิบาดะฮ การใชชวี ติ (การมชี วี ติ ) และ การตายของฉนั นนั้ มาจากพระองคแ ละเพอื่ พระองคเทานน้ั ไมม ีผูใ ดเสมอเหมอื นพระองค พระองค ไดท รงส่ังใหฉนั ปฏิบตั ิส่ิงเหลา นนั้ และฉนั คือผูท ย่ี อมสิโรราบตอพระองค โอฮะซนั ลกู รักของพอ ! เจาและลูกๆ หลานๆ ของฉนั ทกุ คน และอะฮล ุลบยั ตข องฉันทุกๆ คน น่คี อื ขอ เขยี นของฉนั ทมี่ มี ายงั เขา ฉนั ขอตกั เตือนสัง่ เสยี ในสงิ่ ตา งๆ ดงั ตอ ไปนี้ 1.จงอยา งหลงลืมตอความยําเกรง (ตกั วา) ยังอลั ลอฮ (ซบ.) อยา งเดด็ ขาด จงเพยี ร พยายามใหม ากทีส่ ุดเพอ่ื ใหต ัวเองอยูในศาสนาของพระองคจนลมหายใจสุดทา ย 2.จงยดึ มน่ั อยกู ับสายเชอื กของอัลลอฮ (ซบ.) ทงั้ หมดทกุ ๆ คน จงเปนหน่งึ เดียวกนั บน พนื้ ฐานแหง ศรทั ธา (อมี าน) และการรูจกั พระผูเ ปน เจา จงออกหางจากความแตกแยกเพราะทา น รอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดกลาวไวว า : การแกไขปรบั ปรุงใหดียงิ่ ขน้ึ ในหมูประชาชนนัน้ ประเสรฐิ กวา การนมาซและการถือศลี อดอยางสมํ่าเสมอเสยี อกี และส่งิ ๆ หน่งึ ทจ่ี ะลบลา งศาสนาไดน น้ั กค็ ือ ความโสมมและความขดั แยง 3.จงอยา หลงลมื ญาตพิ นี่ องของตน จงไปมาหาสแู ละทําความดซี ง่ึ กนั และกนั เนอื่ งจาก การทาํ ความดแี ละการชวยเหลอื ตอญาตพิ นี่ อ งนน้ั จะทาํ ใหก ารสอบสวนของมนษุ ยน ัน้ งายดายขน้ึ ณ อัลลอฮ (ซบ.) 4.จงเกรงกลัวอัลลอฮใหมากๆ เถดิ ! เกี่ยวกับบรรดาเดก็ กําพรา ขออยา ใหเปน เชน นั้นเลย ท่ีวา บรรดาเดก็ กําพราตองอยูอยางหวิ โหยและไรซ ่ึงทีพ่ งึ พา 173
5.จงเกรงกลัวใหมากๆ เถดิ ! เก่ยี วกบั เพ่ือนบานทง้ั หลาย ทานรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ไดส ่ัง เสยี อยางมากมายแกเ พ่ือนบานทงั้ หลาย จนพวกเราคดิ วา ทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ประสงคท จ่ี ะ ใหพ วกเขาเหลา นน้ั (เพื่อนบา นท้งั หลาย) มีสวนรวมในกองมรดกดวย 6.จงเกรงกลวั อลั ลอฮใ หม ากๆ เถดิ ! เก่ียวกับคัมภีรอ ัล กุรอาน ขออยา ใหเ ปน เชน นั้นเลย ทว่ี า บคุ คลอนื่ เขาไดลํา้ หนา พวกทา นในการปฏิบัตติ ามคมั ภีรอัล กรุ อาน 7.จงเกรงกลัวอัลลอฮใหม ากๆ เถิด! เกีย่ วกบั การนมาซ นมาซนน้ั คือรากฐานของศาสนา ของพวกทา น 8.จงเกรงกลวั อลั ลอฮใหม ากๆ เถิด! เกยี่ วกบั วหิ ารอลั กะอบะฮบ า นของอลั ลอฮ (ซบ.) ขอ อยา ใหเปน เชน นน้ั เลยทีว่ า พิธีฮัจญจ ะตองถูกยกเลิกไป ซึ่งถา หากพธิ ฮี จั ญถูกปลอ ยวาง (ไมมกี าร ปฏิบัติ) พวกทา นกจ็ ะไมม โี อกาสอกี แลว และผูอ ่ืนกจ็ ะมาทําลายพวกทาน (พวกทา นก็จะไมม ี ศาสนาอกี ตอไป) 9.จงยาํ เกรงอลั ลอฮใ หมากๆ เถิด! เกยี่ วกับการญฮิ าดในหนทางของพระองค จงอยา มัธยสั ถท งั้ ทรพั ยส ินเงนิ ทองและชีวติ ในหนทางนอี้ ยา งเด็ดขาด 10.จงเกรงกลวั อัลลอฮใหมากๆ เถดิ ! เกยี่ วกบั ซะกาต เพราะซะกาตจะสามารถดับไฟแหง ความพิโรธของอลั ลอฮ (ซบ.) ลงได 11.จงยําเกรงอลั ลอฮใ หม ากๆ เถดิ ! เกยี่ วกับลกู หลานของศาสนทตู ของพระองค ขออยา ใหเ ปน เชน น้ันเลยทว่ี า พวกเขาจะตกอยูภายใตก ารกดขท่ี ารณุ 12.จงยําเกรงอัลลอฮใหม ากๆ เถิด! เกีย่ วกบั ซอฮาบะฮแ ละผชู วยเหลือของรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ทา นรอซูลุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดส ัง่ เสยี เก่ียวกบั พวกเขาเหลา นนั้ เอาไวแลว 13.จงยําเกรงอลั ลอฮใ หม ากๆ เถิด! เกี่ยวกับผยู ากไรข ดั สน จงทาํ ใหพ วกเขามสี ว นรว มใน การใชช วี ิตกบั พวกทา น 14.จงยาํ เกรงอัลลอฮใ หมากๆ เถิด! เกี่ยวกบั บรรดาทาสผูรบั ใช ซ่งึ คําสงั่ เสยี สดุ ทา ยของ ทานรอซลู ุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) น้นั เกย่ี วกับพวกเขานนั่ เอง 15.กจิ การงานใดๆ ทพี่ ระองคท รงพงึ พอพระทยั ทา นกจ็ งเพยี รพยายามปฏบิ ัติใหมาก และ อยาไปสนใจตอ คาํ พูดใดๆ ของประชาชน 16.จงปฏิบตั ิตอ ประชาชนอยา งดีทส่ี ดุ เหมอื นกบั ทีอ่ ลั กรุ อานไดบ ญั ญัติไว 17.จงอยา ละทิง้ การชกั ชวนกันทาํ ความดแี ละการหา มปราบการทาํ ความชวั่ (อมั ริ บิลมะอ รูฟ วะนะฮี อะนิลมงุ กรั ) ผลลัพธข องการละท้งิ สงิ่ นัน้ กค็ ือ ผูทชี่ วั่ รา ยและเลวทรามจะอยูเหนือพวก ทา นและกดขขี่ มเหงพวกทา น เมือ่ ถึงเวลานน้ั ไมวา ผทู ดี่ ใี นหมพู วกทา นจะวงิ วอนดุอาอส กั เพยี งใด ดุอาอข องพวกเขากจ็ ะไมถ กู ตอบรับจากอัลลอฮ (ซบ.) 174
18.จําเปนอยา งยง่ิ สําหรบั พวกทา นที่จะตองเพิม่ ความสมั พันธไมตรฉี ันทเ พ่อื นพอ งในหมู พวกทานเอง จงทาํ ความดีซงึ่ กนั และกนั จงออกหา งจากการแยกตัวออกไปอยอู ยางเดียวดาย การ ตัดความสมั พนั ธและแตกแยกซึง่ กนั และกนั 19.จงรว มมอื กนั ชว ยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั ในกจิ การงานท่ีดงี ามตา งๆ จงออกหา งจากการ รวมมอื ในกจิ การงานทเี่ ปนบาปตางๆ และส่งิ ตางๆ ทเ่ี ปน เหตใุ หพบกบั ความมืดมนและการเปน ศัตรู 20.จงเกรงกลวั ตอพระผเู ปน เจา เพราะการลงโทษของพระองคน นั้ รนุ แรงย่ิงนกั ขออลั ลอฮ (ซบ.) ทรงรักษาพวกเจา เอาไวภ ายใตร มเงา (ปก ) แหงการคา้ํ จุนของพระองค ดว ยเถดิ และขอพระองคทรงประทานเตาฟกแกประชาชาติของทา นรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ใหคงไว ซ่ึงการใหเกยี รตแิ กพวกเจาและแกทา นรอซลู ลุ ลอฮข องพวกเขา ฉันขอพึงพงิ พวกทานยงั อัลลอฮ (ซบ.) สลามและการสรรเสรญิ แหงสจั ธรรมจงมีแดพวกทาน” หลงั จากจบการส่งั เสียขางตน นอกจากคาํ กลา วทว่ี า “ลาอิลาฮะอลิ ลลั ลอฮ” (ไมม ีพระเจา อืน่ ใดนอกจากอัลลอฮ) ก็ไมมีคาํ กลา วใดออกมาจากปากของทา นอมิ ามอะลี อกี เลย จนกระทั่ง วญิ ญาณผละออกไปจากรา งของทา น (1) 113 บรรดาบตุ รชายของเจาเปนอยา งไร? หลงั จากทท่ี า นอิมามอะลี ไดรบั ชะฮีด (เสียชีวิตในหนทางของพระผเู ปนเจา ) มอุ าวียะฮ บิน อบีซฟุ ยาน กไ็ ดข น้ึ ดาํ รงตาํ แหนง คอลฟี ะฮแหง มวลมุสลิมอยา งเต็มรปู แบบ การปะทะกนั ระหวา งเขาและสหายของทานอมิ ามอะลี กเ็ กดิ ข้นึ อยา งหลกี เล่ยี งไมได มอุ าวยี ะฮพ ยายามทกุ วถิ ที างเพือ่ ที่จะใหพ วกเขาเหลานนั้ (บรรดาสหายของอมิ ามอะล)ี สารภาพกบั เขาออกมาวา การ ปฏบิ ตั ติ นอยูใ นแนวทางของทา นอมิ ามอะลี น้ัน พวกเขาไมไดรับคุณประโยชนอนั ใดเลยนอกจาก ความวา งเปลา และพวกเขาพายแพอยา งหมดรูปในหนทางนี้ มอุ าวยี ะฮพ ยายามอยา งมากทจี่ ะ ไดร ับฟงคําสารภาพขางตน จากผหู นงึ่ ผูใดในบรรดาสหายของทา นอิมามอะลี แตทวา ความหวงั อนั น้ขี องมอุ าวยี ะฮย ังไมม ที ีทา วา จะเปน ไปไดสกั คร้ังเดียว บรรดาสหายผปู ฏบิ ัติตามแนวทางของทา นอิมามอะลี พวกเขายืนหยดั อยกู ับความ ยง่ิ ใหญและเกยี รตยิ ศของทา นอมิ ามอะลีมากยง่ิ ขึน้ หลงั จากการจากไปของทา นอิมามอะลี พวก เขากลบั มีความเสียสละมากยิ่งกวาในชวงท่ีทา นอมิ ามอะลี ยงั มชี วี ติ อยูเ สียอกี พวกเขายอม เสยี สละทงั้ ชวี ติ และทรพั ยส นิ เพอ่ื แสดงถงึ ความรักและการรกั ษาไวซ งึ่ แนวทางของทา นอมิ ามอะลี (1) มะกอตลิ ุฏ ฏอลบิ ียีน หนา 28-44, กามลิ อิบนิอะซรี เลม 3 หนา 194-197, มุรูุซซะฮับ มซั อูดี เลม 2 หนา 40-44, อุซดู ุล ฆอบะฮ เลม 4, บฮิ ารลุ อันวาร เลม 9 พิมพต ับรซี . 175
ซ่ึงบางคร้ังถงึ กับทาํ ใหแ ผนการของมอุ าวยี ะฮตอ งพังราบคาบ เพียงอยางเดยี วไมพ อซํ้ายงั ทําใหต วั มอุ าวียะฮแ ละผูใกลชิดของเขารสู ึกซาบซง้ึ และตกอยูภายใตหลกั ความเชื่อของผทู ่ีปฏิบตั ติ ามทา นอิ มามอะลี เชน กัน อุดยั บตุ รของฮาตมั หนงึ่ จากผปู ฏิบัตติ ามทา นอมิ ามอะลี ท่มี ีความบริสุทธิใ์ จมคี วาม เสียสละและมโี ลกทัศนทกี่ วา งไกลของทานอมิ ามอะลี อดุ ัยเคยเปนหวั หนาเผา ทย่ี ง่ิ ใหญเ ชนเผา ฏยั มากอน เขามีบตุ รชายหลายคนดว ยกนั เขาและบตุ รชายของเขาและผูค นในเผา ของเขาคอื ทหาร หาญของทานอมิ ามอะลี บุตรชายสามคนของเขาซง่ึ มชี อื่ ตามลําดบั ดังน้ี ฎอรฟะฮ, ฎอรีฟและฏ อริฟ ไดรบั ชะฮีดในสงครามซิฟฟน เคียงขางทา นอมิ ามอะลี ทั้งสน้ิ เวลาผา นไปหลายปหลังจากเหตกุ ารณสงครามซฟิ ฟน ทา นอิมามอะลี ก็ไดร ับชะฮีดและ จนกระทงั่ มอุ าวยี ะฮข นึ้ ครองตําแหนง คอลฟี ะฮแหง ประชาชาติอิสลาม ดวยความบงั เอิญท่ใี นวัน หนง่ึ อุดัยไดพบกบั มอุ าวียะฮ มุอาวยี ะฮจงึ ใครท จ่ี ะไดยินคาํ สารภาพยืนยันถงึ ความหลงผิดทเ่ี คยเปน ผปู ฏิบตั ิตามและ อยใู นแนวทางของทา นอมิ ามอะลี เขาไดก ลา วถึงเหตกุ ารณในอดีตอนั เปนสง่ิ ที่ขมข่ืนยิง่ สาํ หรบั อดั ดยี โดยกลา วแกอ ุดัย บนิ ฮาตัม วา “ไหนละ! บตุ รชายทัง้ สามของทา น ฎอรฟะฮ, ฎอรฟี และ ฏอริฟ มนั เกิดอะไรข้ึนกับพวกเขา?” อดุ ยั “พวกเขาไดร บั ชะฮีดในสงครามซฟิ ฟน เคยี งขางทา นอมิ ามอะลี เสยี แลว ” มอุ าวียะฮ “อะลีไมยุตธิ รรมตอ ทา นเลย” อุดยั “อยางไรละ !?” มอุ าวยี ะฮ “เพราะเขาไดส ง บตุ รชายทงั้ สามของทานไปออกรบในแนวหนา และถกู ฆา ใน ที่สุด แตเขาไมไ ดส งบุตรของเขาออกไปรบแนวหนา เลยใหอยแู ตแ นวหลงั ” อดุ ัย “ฉันเองกเ็ ชนกนั ! ไมยตุ ิธรรมตอทานอมิ ามอะลี เลย” มุอาวียะฮ “อะไรนะ !?” อดุ ยั “เพราะทา นอิมามอะลี ถูกฆา ไปแลว แตฉันยงั มชี วี ติ อยอู ีก ความจรงิ แลว ฉันตอ ง เสยี สละชีวติ ของฉนั ในชว งทที่ า นยงั มชี วี ติ อยู มใิ ชฉนั ยงั มชี วี ิตอยแู ตทา นไดจ ากไปเสียแลว” เมอื่ มอุ าวียะฮไ ดยินเชน นนั้ เขาจึงรไู ดท นั ทวี า แผนการของเขาคงไมเ ปนผลแน และโดย สวนตวั แลว เขาเองก็ประสงคท่ีจะไดร บั ฟง ถงึ คุณลกั ษณะของทา นอมิ ามอะลี จากปากของผทู ไี่ ด อยใู กลชิดกบั ทา นอิมามอะลตี ลอดเวลาทงั้ กลางวนั และกลางคนื สกั ครง้ั เขาจึงเอย ปากขอรอ งให อุดัยเลา ถงึ คณุ ลกั ษณะของทา นอมิ ามอะลี ทุกสงิ่ ทเ่ี ขาไดเ ห็นมาอยา งใกลช ดิ ใหเขารับฟง อุดยั ไดข ้นึ กลา ววา “ฉนั ตองขออภัยดว ยทไี่ มอาจจะเลา ใหท า นรับฟงได” มุอาวยี ะฮ “ทา นตองเลาใหฉ ันฟง เด๋ยี วน!้ี ” อุดัย “ขอสาบานตออลั ลอฮ (ซบ.) ทา นอมิ ามอะลี คือผทู ีม่ โี ลกทศั นทย่ี าวไกล เปน ผูทมี่ ี พลังอาํ นาจ ทา นจะกลา วดว ยความยตุ ธิ รรมและจะตดั สินดวยความเดด็ ขาด วิชาการและวทิ ย 176
ปญญาจะพวยพุงออกมาจากรอบๆ กายของทา น ทา นจะมคี วามรงั เกยี จตอสง่ิ ตา งๆ แหง ดนุ ยา ทานคอื ผูทมี่ คี วามคนุ เคยกบั ยามคาํ่ คนื และความโดดเดี่ยวในยามค่ําคนื ทา นคอื ผูท ี่รํา่ ไหอ ยา ง มากมาย ทานคอื ผูท ใ่ี ชความคดิ ตลอดเวลาในชว งท่ที า นมเี วลาวา ง ทานจะใครค รวญถึงสงิ่ ตางๆ ที่ ผานพนไปที่เกย่ี วกับตวั เอง ทา นพงึ พอใจในการใชช วี ติ แบบผูย ากไรแ ละสวมเสอื้ ผา ทสี่ ้นั ๆ (บง บอก ถึงความเรยี บงาย) ทา นจะใชชวี ิตอยูทา มกลางพวกเราเปรยี บเสมือนหนงึ่ จากพวกเรา (แตทานเปน ถงึ คอลฟี ะฮแหง ประชาชาตอิ สิ ลาม) ถา หากเราประสงคส งิ่ ใดจากทา น ทา นจะตอบรบั เราในทนั ที และถา หากเราไปเขาหาทา นตอ หนาทาน ทา นจะนาํ เราไปนั่งใกลๆ กบั ทา นและจะไมออกหา งจาก เราเลย ดว ยความสงู สงของทานจึงทําใหท า นดูนา เกรงขาม จนเม่อื เราเขา พบทา นพวกเราไมกลา ที่ จะกลาวส่ิงใดไดเ ลย และเราไมเคยกลา ทจี่ ะพดู จาหยอกลอกับทา นเลยเนือ่ งจากความนาเกรงขาม นั้นของทา น ในยามทท่ี านยิ้ม ฟน สีขาวท่ีสวยงามดง่ั ไขม กุ ไดถกู เผยออกมา ทานใหเกียรตแิ กผ ู ศรัทธาที่มีความยําเกรงอยา งมาก และไดแ สดงความเมตตาปรานีแกผ ยู ากไรขดั สนเปนพเิ ศษ ไม เคยมพี ลงั อาํ นาจใดสรา งความเกรงกลวั แกท า นได ไมเ คยมผี ูอ อ นแอคนใดสนิ้ หวงั จากทา น ขอ สาบานตออลั ลอฮ (ซบ.) ฉนั ไดเ หน็ ดว ยตาของฉันเองมาแลวในคนื หน่งึ ซง่ึ ทา นยืนอยใู นเมยี๊ ะอรอบ (สถานทที่ ําอบิ าดะฮ) ทา มกลางความมืดในยามค่าํ คืนนาํ้ ตาของทา นหลง่ั ไหลลงบนแกม และเครา ของทา นอยา งมากมาย เสมอื นผทู ่ีถกู งูฉก (ทรุ นทุรายปานจะขาดใจ) และเสมอื นผทู พี่ บกบั ความ โศกเศรา อาดูรยงิ่ นกั เสมอื นหนง่ึ วา ฉันกําลังไดย นิ เสยี งของทานอยใู นขณะน้ี ทานไดกลา วแกดนุ ยาวา : โอดุนยาเอย ! เจา ไดเ ขามารบกวนฉนั และหันหนา เขา หาฉัน ไป เสยี เถิดไปหลอกหลอนคนอน่ื เถดิ (หรอื เจาจะไมม โี อกาสทาํ เชนนน้ั อยา งเด็ดขาด) ฉันไดห ยา ขาด จากเจา สามคร้ังแลว เพ่ือจะไมมีการหวนกลับอกี ตอ ไป ความดงี ามของเจา นน้ั ไมม เี ลย และ ความสาํ คญั ของเจา นัน้ เพียงนอยนิด โอย …จากเสบียงอนั นอยนดิ จากการเดินทางที่ยาวไกลและ เพอ่ื นรว มทางทนี่ อ ยคน” เมื่ออุดยั ลา วถงึ ตรงน้ี นํา้ ตาของมอุ าวียะฮไดห ล่ังไหลออกมาอยา งไมร ูตวั เขาไดย กชาย ของแขนเสอ้ื ข้นึ มาเช็ดนา้ํ ตาจนแหง และกลาววา “ขออัลลอฮ (ซบ.) จงเมตตาเขา อะบลุ ฮะซนั เขา เปนเชน นน้ั จรงิ อยางทท่ี า นกลาวมา แลว ทา นละ ! บอกมาซวิ า สถานภาพของทา นในขณะท่ตี อ งเหนิ หางจากเขานนั้ เปน เชนไร?” อดุ ยั “เสมอื นกบั สภาพของมารดาคนหน่ึงทีผ่ ูเปน สดุ ท่รี กุ ของนางตอ งถูกตัดศีรษะในออม กอดของนางเอง” มุอาวยี ะฮ “เจา จะไมล มื เขาเลยหรอื ?” อดุ ัย “หรือวา วนั เวลาทผี่ า นเลยไปจะทาํ ใหฉ ันนนั้ ลมื อะลไี ดหรือ?”. (1) (1) อัล กนุ ีย วลั อัลกอบ เลม 2 หนา 105, กลา วจากหนังสอื อัล มะฮาซิล วัล มะซาวีย ของ อิบรอฮีม บิน มุฮัม มดั บิฮกั กี, ผรู ูแหง ศตวรรษที่ 3 ของฮจิ เราะฮ. 177
114 คําแนะนําจากอาจารย หลังจากท่ีมอุ าวียะฮ บตุ รของอบูซฟุ ยานไดขึน้ ครองราช (เปน ผนู าํ ประชาชาตอิ ิสลาม) ใน ปฮ ิจเราะฮท ่ี 41 เขาไดต ัดสินใจที่จะเผยแพรแ ละใชค าํ ขวัญขน้ึ มาเปน เครื่องมอื เพ่ือตอ ตา นและ ทําลายทา นอมิ ามอะลี โดยทําใหท านอิมามอะลถี กู รูจักในนามของชายผหู น่งึ ทน่ี าเกลียดนา ชัง ที่สุดในโลกแหง อิสลาม สอ่ื ตางๆ ไดถ กู นาํ ออกมาใชใ นหนทางขางตน ดา นหนงึ่ เขาไดใชด าบและ หอกเปน เครือ่ งมอื ในการยบั ยงั้ การเผยแผเกีย่ วกบั ความสงู สง ตางๆ ของทา นอมิ ามอะลี เขาไมเ ปด โอกาสใหแ กผใู ดเลยที่จะเปด ปากเพ่ือบอกเลา ถงึ ความประเสริฐหรือเร่ืองราวใดๆ เกี่ยวกบั ทา นอิ มามอะลี และอกี ดา นหนึ่ง เขาไดทมุ เงนิ ทองอยา งมหาศาลเพือ่ จา งผูค นบางสว น ผทู ลี่ ุมหลงในดุน ยาใหก ุฮะดษี เท็จแกทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ท่ที า นไดก ลา วไวเ กี่ยวกับอมิ ามอะลี ข้นึ มา แตทวา แผนการทง้ั หมดขางตน กย็ งั ไมเ พยี งพอสาํ หรบั มอุ าวียะฮ เขากลา ววา “ฉันจาํ เปน จะตอ งอะไรสักอยางเพอ่ื ท่ีจะทาํ ใหบรรดาเด็กๆ ทีเ่ ตบิ โตขึ้นมาพรอมกบั การชงิ ชังตอ อะลี และทาํ ใหพ วกทแ่ี กเฒาจะตองจากโลกนี้ไปพรอ มๆ กบั การตอ ตา นอะล”ี และในทสี่ ุดเขาก็ตัดสนิ ใจวา เขาจะตอ งทาํ ใหก ารสาปแชงอะลนี ั้นเกดิ ขึ้นในทวั่ ทกุ มมุ ของ อาณาจกั รแหง อิสลามในรปู ของคําขวญั แหงศาสนา เขาไดอ อกคาํ ส่ังไปยงั ทกุ ๆ ทท่ี ีม่ กี ารทาํ นมาซมุ อะฮว า ใหท าํ การสาปแชง อะลีในคฏุ บะฮของนมาซวนั ศกุ รทกุ ครัง้ และการปฏบิ ัติ ดังกลาวจงึ แพรห ลายไปทั่วทกุ มมุ เมืองทนั ที และมีเรอ่ื ยมาจนกระทั่งหลงั จากมุอาวยี ะฮค อลีฟะฮ คนอนื่ ๆ ของอมุ าวยี ท ่ตี อ งการจะยับยัง้ ลกู หลานของอมิ ามอะลี (บรรดาอะลาวียนี ) ใหถ งึ ทส่ี ดุ และ เพื่อขดุ รากถอนโคนความหวงั ท่จี ะเปน คอลีฟะฮแ หง ประชาชาติออกจากหวั ใจของพวกเขาชวั่ นิรนั กาล พวกเขาจงึ ดาํ เนินรอยตามความคดิ ของมุอาวยี ะฮต อ ไป บรรดาชนรนุ หลังที่เพง่ิ ถือกาํ เนิดมา เขาจึงมีความคนุ เคยกบั คาํ ขวัญแหง การสาปแชง อะลเี ร่อื ยมาหลายตอ หลายรนุ ทีเดียว และพวก เขาตา งกส็ าปแชงอะลีโดยอตั โนมตั ิ การกระทาํ ดังกลา ว (สาปแชงอะล)ี ถกู ฝง รากลกึ อยใู นสมองของปญ ญาชนผเู บาปญ ญา เรื่อยมาจนกระถึงกบั วา ในวันหนงึ่ ไดม ีชายคนหนงึ่ เขามาหา ฮจั ญาจ (ผูป กครองหวั เมอื งหนงึ่ ) เพอ่ื เรียกรองความเปนธรรมแกต นเอง เขากลา ววา “ญาตพิ ่ีนองของฉนั เขาไดห นหี า งจากฉนั และให นามฉนั วา อะลี (หมายถงึ เขานา รงั เกยี จย่ิงนกั ) ฉนั ไดม าหาทา นเพ่ือขอความชว ยเหลอื จากทา น และขอใหทานเปล่ียนชื่อของฉนั เสยี ใหมดวย” ฮัจญาจไดเ ปล่ยี นชอ่ื เขาและกลาวแกเ ขาวา “ดว ยความดีงามอนั น้ี (รูสึกรงั เกียจทเี่ ขามชี ่อื วา อะล)ี ของเจา ท่ีมาขอความชวยเหลือ เจาคือผูทถี่ กู รบั เลอื กแลว ฉนั จะแตง ตั้งใหเ จา มตี าํ แหนง และเจา ไปทาํ หนา ทีใ่ นตําแหนง นน้ั เถดิ ” 178
การเผยแพรไดถ กู ปฏิบตั ิเรื่อยไป แตท วา ใครจะไปรูไดวาเรอ่ื งเลก็ ๆ เรื่องหนึง่ จะสามารถ ทาํ ลายทกุ ส่งิ ทกุ อยา งจากการเผยแพรอนั ยาวนานกวา ครึ่งศตวรรษลงได และความเปน จรงิ ท้งั หมด ที่ถูกปกปดไดถกู เปดออกมาในทสี่ ดุ อุมรั บิน อบั ดุลอาซซี ซง่ึ ตวั เขาเองก็อยูใ นวงศข องบนอี ุมัยยะฮค นหนงึ่ ในชวงเวลาอัน เยาวว ยั ของเขา วนั หน่ึงเขาไดเ ลน อยกู ับเด็กคนอนื่ ๆ และนับเปน เรื่องธรรมดาท่คี าํ พูดของเดก็ ๆ ในขณะท่เี ลน รวมกนั นนั้ คอื คําสาปแชง อะลี บิน อบีฏอลบิ ในชว งทกี่ ารเลน อยา งสนกุ สนานได ดาํ เนนิ ไปอยางตอ เนื่องเมื่อถึงเวลาทีจ่ ะตอ งตอ วากนั เลก็ ๆ นอย ๆ กจ็ ะนาํ เอาคาํ สาปแชง อะลมี า กลา วซง่ึ กนั และกัน อุมรั บิน อับดุลอะซีซ กค็ อื หนง่ึ จากบรรดาเดก็ ๆ เหลา นน้ั ดว ยความบงั เอญิ ในชว งเวลา นั้นเองอาจารยของเขาซง่ึ เปน ชายคนหนง่ึ ผูหนง่ึ ทม่ี ีความยําเกรงและเครง ครดั ในศาสนาและมี วิสยั ทศั นม ากคนหนึง่ ไดเ ดินผานมาทางนน้ั พอดี เขาไดยนิ ลกู ศิษยผ ูเ ปน ท่รี กั ยง่ิ ของเขากําลงั ดา สาปแชง อมิ ามอะลี แตเ ขาก็มิไดก ลา ววาสิง่ ใดตอ ลกู ศิษยข องเขา เขาไดเดินผานเลยไปยงั มัสยดิ เม่ือเวลาเรียนใกลเ ขามา อมุ รั ไดไปยังมัสยิดเพือ่ เขา เรยี น แตทวา สายตาของอาจารยได จองมองมายงั เขา อาจารยข องเขารบี ลกุ ข้ึนเร่มิ กระทาํ นมาซทนั ที และกระทาํ อยนู านมากจนอมุ รั เองรูสกึ ไดว าอาจารยของเขาทํานมาซนานขนาดนต้ี อ งมสี ่งิ ใดผิดปกตแิ นนอน อุมัรจงึ คิดใครค รวญ ไปตางๆ นานา เขาเฝาอดทนรอคอยจนกระทง่ั อาจารยของเขาเสรจ็ สนิ้ จากการนมาซ หลังจากนมาซเสรจ็ อาจารยไ ดช าํ เลืองมองลกู ศษิ ยดว ยสายตาท่ไี มคอ ยจะพอใจนกั อมุ รั กลา ววา “จะเปน ไปไดห รือไมท ีอ่ าจารยจะชว ยอธบิ ายถงึ สาเหตใุ นการคุนเคอื งของ ทา น?” อาจารย “โอบ ตุ รของฉนั เอย! วนั น้เี จา ไดส าปแชง อิมามอะลี ใชไหม?” อุมัร “ใชแ ลว!” อาจารย “มนั เปนสงิ่ ทีก่ ระจา งแกเ จา ต้งั แตเ มื่อไรวา อลั ลอฮ (ซบ.) ไดทรงโกรธกร้วิ ชาว บัดร (ผทู เี่ ขารว มสงครามบดั ร) เสียแลว ทง้ั ๆ ท่ีพระองคท รงพึงพอพระทยั ตอพวกเขา (ชาวบดั ร) เปน ยง่ิ นกั และมนั เปน ทีก่ ระจางแกเ จา เมื่อใดวา พวกเขาคอื ผทู ่ีจะตอ งถูกสาปแชง ?” อุมัร “แลว อะลคี อื ชาวบดั รด ว ยหรืออาจารย? ” อาจารย “ชาวบดั รแ ละความภาคภมู ิใจตางๆ แหง บัดรนั้น นอกจากอะลีแลว จะมาจากผูใด อีกหรอื ?” อมุ ัร “ขาพเจา ขอสญั ญาวา ขาพเจา จะไมท าํ เชน นั้น (สาปแชง ) อกี ตอไป” อาจารย “สาบานซ!ิ ” อุมรั “ฉันขอสาบาน” 179
เดก็ ชายผนู ี้ (อมุ รั ) ไดท าํ ตามคําสาบานของเขาจริงๆ คาํ พดู ทเี่ ปน กนั เองและวิทยปญญา ของอาจารยของเขาไดผ ดุ ขน้ึ ในหวั สมองของเขาอยตู ลอดเวลา และตง้ั แตว ันนัน้ เปน ตน มาเขาไม เคยกลา วคาํ ดา สาปแชง อะลอี กี เลย แตท วา เขาก็ไดเหน็ วา เสียงกลา วดาสาปแชง อะลอี อกมาเปน เสียงเดยี วกนั ใหเ ขาไดย นิ ไดฟ ง จากทุกมมุ เมือง ไมว า จะเปนตรอกซอกซอย ตลาด มสั ยิด แมก ระทง่ั บนมมิ บรั จนกระทัง่ หลายปผ า นไป และในวนั หนึ่งไดม ีเหตุการณห นงึ่ เกิดขึน้ มนั ไดสรางความฉงน แกเขาจนทําใหเขาตอ งเปลย่ี นความคดิ ของเขาทง้ั หมดทันที บดิ าของเขาคอื ผปู กครองนครมะดนี ะฮ ตามปกตแิ ลว แบบฉบบั ทีป่ ฏบิ ัตติ กทอดกนั มาคอื ผูป กครองจะตอ งนาํ นมาซประจําวนั ศกุ รด วย และบดิ าของเขาก็จะมหี นา ทก่ี ลา วคาํ เทศนา (คุฏบะฮ) กอนการนมาซวนั ศุกรดวย และตามธรรมเนยี มประเพณที พ่ี วกอมุ าวยี รเิ ร่มิ สรา งเอาไวน ั้น ก็คอื การจบคุฏบะฮดว ยการสาปแชง ทานอิมามอะลี ในวนั หน่ึงอมุ รั เร่มิ สังเกตเห็นวา ในชว งของ การคุฏบะฮนน้ั บดิ าของเขาจะคฏุ บะฮดว ยโวหารท่สี มบูรณแบบยง่ิ เขาไดปราศรัยดว ยเสียงดงั ฟง ชัด แตพอถึงชวงท่ีตอ งสาปแชงอะลีแลว จะสังเกตเหน็ ไดว า บดิ าของเขาจะพดู แบบติดๆ ขดั ๆ อยางไรบอกไมถ ูก สงิ่ นี้ไดส รางความแปลกประหลาดใจใหแกอุมรั เปน ยงิ่ นกั เขาคดิ อยใู นใจวา ภายในหว งลกึ แหงจติ ใจของบดิ าของเขานา จะมอี ะไรแอบแฝงอยูเ ปนแน ซงึ เขาไมสามารถทจี่ ะ กลา วออกมาได ซึ่งสง่ิ เหลา นน้ั ไดมีผลอยา งเหน็ ไดช ัดตอ การปราศรัยของเขาอยา งหลีกเล่ยี งไมได จนทาํ ใหเขาพดู ตดิ ๆ ขดั ๆ ทันที ในวนั หน่ึงเขาจงึ หยบิ ยกเรอ่ื งดงั กลา วขา งตนมาคุยกบั บดิ าของเขา อมุ รั “โอคุณพอ ท่รี ัก! ลกู ไมทราบวา ทาํ ไมเวลาท่ีทา นกลา วคาํ ปราศรัยในชวงคฏุ บะฮต า งๆ ของทานในเรอื่ งหน่ึงเร่ืองใดก็ตาม ทานจะอรรถาธบิ ายไดอยา งชัดเจนและมคี าํ พูดทด่ี เี ยย่ี ม แตท วา เม่ือถงึ เวลาทท่ี า นตองกลา วสาปแชง ชายผหู นงึ่ เหมือนกับวา ความสามารถตา งๆ ของทานทีม่ ีถกู เปล่ยี นไป และล้นิ ของทานถกู มัดเอาไว” บิดา “โอลูกรกั ! เจา เหน็ อาการเชน นัน้ ของพอหรือ?” อุมรั “ใชครับคณุ พอ ! อาการดังกลาวนนั้ เหน็ ไดชัดเจนในชวงของการปราศรยั ของทาน” บิดา “โอลกู รักของพอ ! พอสามารถบอกเจา ไดแตเ พยี งวา ถา หากประชาชนเหลา นท้ี น่ี ง่ั อยู หนา มมิ บรั ในมัสยดิ ไดรบั รูในส่ิงทบ่ี ิดาของเจารูถ งึ ความสูงสง ของชายผนู ้ี (อะลี) พวกเขาจะหนหี าง จากพวกเราไปและจะมุง ไปยังลกู หลานของชายผนู ี้ (อะล)ี ทนั ท”ี หลังจากที่อมุ ัรนกึ ถงึ คําพูดของอาจารยข องเขาในชว งทเ่ี ขายงั เยาวว ยั อยซู ึ่งเขายังจดจําได บวกกบั ไดร บั ฟงคําสารภาพออกมาจากปากของบดิ าของตน จิตวญิ ญาณของเขาส่ันสะทานเปน ยิ่ง นัก จนเขาไดใ หคาํ มน่ั สญั ญากับพระองคว า ถา หากวนั ใดท่อี าํ นาจอยูในมอื ของเขา เขาจะขจดั ธรรมเนยี มอนั เลวทราม (ที่มอุ าวยี ะฮไ ดสรางไว) ออกไปทนั ที ในปฮ ิจเราะฮท ี่ 99 ซ่ึงหลังจากท่มี อุ าวยี ะฮไดสรางธรรมเนียมอนั ชวั่ ชานข้ี ้ึนมาและไดถกู ปฏิบตั มิ าเปนเวลายาวนานถงึ 60 ป ในชว งนีเ้ อง สุลยั มาน อิบนิ อบั ดลุ มาลิก ไดข น้ึ ดาํ รงตาํ แหนง 180
คอลฟี ะฮแหง ประชาชาตอิ สิ ลาม เขาเร่มิ ลมปว ยและรตู ัวเองดวี า คงถงึ เวลาแลว สาํ หรับเขา และ ตามคําสงั่ เสยี (วะซยี ะฮ) ของบดิ าของเขาคืออบั ดลุ มาลิก เขาจงึ จาํ เปน ตองแตงตง้ั ตําแหนง มงกฎุ ราชกุมารใหกบั นองชายของเขา คอื ยะซดี บิน อบั ดุลมาลิก แตทวา สลุ ัยมานไดแ ตง ตงั้ อมุ รั บนิ อบั ดลุ อะซีซ ข้ึนเปน คอลีฟะฮห ลงั จากเขาทนั ทเี น่ืองดว ยเหมาะสมทกุ ประการ และเม่อื สุลัยมาน เสียชวี ิตลงคาํ สั่งเสียของไดถ กู เปดอา นข้นึ ในมสั ยดิ หลังเสรจ็ สนิ้ การอานคาํ ส่ังเสียประชาชนตา ง ตกใจและประหลาดใจยงิ่ นกั อุมรั บิน อับดลุ อะซีซ ซงึ่ นง่ั อยแู ถวหลงั สดุ ในมัสยิดเมอ่ื ไดย ินวา ตาํ แหนง คอลฟี ะฮถ กู มอบ ใหแกเ ขา เขาจึงกลา ววา “อินนาลลิ ลาฮิ วาอินลาอลิ ัยฮิรอญีอนู ” (แทจริงแลวเรานน้ั มาจาก พระองค และเราจะหวนกลบั คนื สูพ ระองค) จากนัน้ ผคู นบางสวนไดเขา ไปหาเขาและประคองแขนทง้ั สองของเขา (ใหเกยี รต)ิ และนํา เขาไปยงั มมิ บรั และบรรดาประชาชนตา งก็มาใหสัตยาบนั แกเขาดวยความเต็มใจทกุ คน หนงึ่ จากภารกจิ ตา งๆ ในขัน้ แรกที่ อมุ ัร บิน อับดลุ อะซซี ไดปฏบิ ตั นิ น่ั กค็ อื การหามดา สาปแชงอมิ ามอะลี และออกคาํ ส่งั ใหอ า นอายะฮก รุ อาน …. (ซเู ราะฮน ะฮลิ อายะฮท ี่ 40) แทนการ ดาสาปแชง ทา นอมิ ามอะลี บรรดานกั กวีและนักปราศรยั หลายคนตางชนื่ ชมยินดีตอ การปฏิบัติสิ่งนข้ี องอมุ รั เปน อยาง ยิง่ และราํ ลกึ ถึงนามของเขาตลอดมา. (1) 115 สทิ ธขิ องพ่นี องมสุ ลมิ อบั ดุลอะอลา บตุ รของ อะอยัน จะออกเดนิ ทางจากเมืองกฟู ะฮสนู ครมะดนี ะฮ บรรดา สหายและผทู อ่ี ยใู นแนวทางของทา นอมิ ามญะอฟร ซอดิก ทอ่ี ยใู นเมอื งกฟู ะฮเหน็ วา เปน โอกาสอนั ดียิ่ง พวกเขาไดเขยี นถงึ ปญ หาตางๆ ทจ่ี ําเปนอยา งมากมาย และสง ใหก ับอับดุลอะอลาเพือ่ ทีจ่ ะได เอาไปสง ใหก บั ทา นอิมาม และนําคําตอบกลบั มาใหพ วกเขาพรอ มๆ กับไดข อรองเขาวา มปี ญหา อยูป ญหาหนงึ่ ท่ีเขาจะตองถามทา นอมิ าม ตอหนา และนําคําตอบมาดว ย และเปน เรือ่ งท่เี กย่ี วกบั สิทธิซงึ่ มุสลิมคนหนงึ่ พงึ จะไดร ับจากมสุ ลมิ อีกคนหนง่ึ อบั ดลุ อะอลาไดเขา สูนครมะดีนะฮและเขา พบทา นอมิ ามญะอฟร ซอดิก ทันที เขาไดม อบ ขอ ความปญหาตา งๆ ทนี่ ํามาจากพน่ี องทกุ คนในกฟู ะฮแ กท านอิมาม และไดถามปญหาเกย่ี วกบั สทิ ธิดว ยตัวเอง แตม นั ไมเ ปน ไปตามทเี่ ขาคาดหวงั ไว ทา นอมิ าม ตอบใหท กุ ปญ หา แตทวา ปญ หา เกยี่ วกบั สิทธิของมุสลมิ คนหนึ่งเหนือมสุ ลมิ อีกคนหนงึ่ นนั้ ทานอิมาม มิไดตอบเขาแตอ ยา งได อบั (1) ชะเราะฮ อบิ นิ อบลิ ฮะดดี พมิ พเบรตุ เลม 1 หนา 464, กามิล อิบนิอะซีร เลม 4 หนา 154. 181
ดุลอะอลาจงึ มไิ ดพดู อะไรและกลับออกไปในวนั นน้ั แตในวันตอ มาทานอิมาม กย็ งั มิไดพดู ถงึ เร่อื ง ดังกลา วอกี เชน เคย อับดลุ อะอล าจงึ เตรยี มตวั จะกลับไปยงั เมอื งกฟู ะฮ เขาจงึ เขา พบทานอิมาม อกี ครั้งเพอ่ื อาํ ลา เขาคิดเอาไววา จะถามทานอิมามอกี คร้งั เขาไดกลา ววา “โอบุตรแหง รอซูลลุ อฮ! คาํ ถามของ ฉนั ยังไมไดร บั คําตอบเลยครบั ” ทานอิมาม “ฉันตัง้ ใจทีจ่ ะไมต อบเอง!” อบั ดุลอะอลา “ทาํ ไมหรือครบั ?” ทา นอมิ าม “เน่อื งจากฉนั เกรงวา ถา หากฉันกลาวความจรงิ ออกไปและไมป ฏิบัติตามนนั้ ทา นอาจจะออกจากศาสนาได” มาถงึ ตรงนท้ี านอิมาม ไดก ลาวตอ ไปวา “อาทิเชน ภารกิจทห่ี นกั ทส่ี ดุ ณ อัลลอฮ (ซบ.) ที่ เก่ียวของกบั พนี่ องมุสลมิ ทง้ั หลายมีอยดู ว ยกันสามประการคือ 1.การรักษาไวซ ง่ึ ความยตุ ิธรรมและสมดลุ ระหวา งตนเองกบั ผูอน่ื จงปฏิบตั ิกับพน่ี อ งมสุ ลิม ของตนใหเทา กบั ทต่ี นเองประสงคและตอ งการใหเขาปฏบิ ตั ิกบั ตน 2.จงอยา มัธยสั ถใ นทรพั ยส นิ ของตนแกพ น่ี องมุสลมิ และจงปฏิบัตกิ ับพวกเขาดว ยความ เสมอภาคกัน 3.การราํ ลึกถงึ พระผเู ปนเจาในทกุ สถานภาพ แตค วามหมายของการราํ ลกึ นน้ั มใิ ช ความหมายวา เพียงการกลา ว ซบุ ฮานลั ลอฮ อลั ฮมั ดลุ ิลลาฮ อยตู ลอดเวลาเทานน้ั แต ความหมายของฉนั คอื การราํ ลึกตอ พระผเู ปน เจา ทีม่ อี ยใู นหวั ใจของเขานน้ั สามารถทจ่ี ะหยดุ ยง้ั เขา จากการกระทาํ ความผดิ บาปไดตางหากเลา!” .(1) 116 สิทธขิ องมารดา ซะกะรยี า บตุ รของ อิบรอฮีม บดิ า มารดาและญาติพน่ี อ งของเขาท้งั หมดเปน ชาวนัศรอนี และเชนเดียวกันเขากอ็ ยใู นศาสนาเดยี วกบั พวกขาในชว งหน่งึ เขารูสกึ ไดว า หวั ใจของเขามแี นวโนม ไปยงั ศาสนาอสิ ลาม จติ ใตสํานึกของเขาไดเรยี กรองเขาไปยงั ศาสนาอสิ ลาม และในที่สดุ เขาก็ได นอ มรับศาสนาอสิ ลามในเวลาตอ มา ซง่ึ ขัดตอ ความประสงคของบิดา มารดาและญาติพีน่ อ งของ เขาทต่ี องการใหเ ขาอยใู นศาสนาเดิมตอ ไป (1) อศุ ูลลุ กาฟย เลม 2 หนา 170. 182
การประกอบพิธฮี ัจญใ นนครมักกะฮก าํ ลังจะเรมิ่ ข้ึน ชายหนุม อยา งซะกะรยี าจึงออก เดนิ ทางจากเมอื งกฟู ะฮท ันที และในนครมะดนี ะฮเ ขาไดพ บกบั ทา นอิมามญะอฟ ร ซอดกิ (อ.) เขา ไดเ ลาเร่ืองราวการเปน มสุ ลมิ ของเขาใหท า นอิมามรับฟง ทา นอมิ าม (อ.) ไดถ ามเขาวา “อะไรคือ เหตจุ งู ใจสาํ หรบั เจาในศาสนาอิสลาม?” เขาไดตอบแกท านอมิ าม (อ.) วา “ฉนั บอกไดแ ตเพยี งวา ตามพระดาํ รสั ของอัลลอฮ (ซบ.) ในคัมภรี อ ลั กุรอานท่พี ระองคไ ดทรงตรสั แกศ าสนทตู ของพระองควา : โอศ าสนทูตเอย ! เจาไม เคยรมู ากอ นเลยวา อะไรคอื คมั ภีรแ ละอะไรคอื การศรัทธา แตว าเราไดท ําใหอ ลั กรุ อาน เปน แสงสวา งเพอ่ื ชน้ี าํ ทางโดยนัยนน้ั แกผทู เ่ี ราประสงคจากปวงบาวของเรา (ซูเราะฮอัช ชูรอ อายะฮท ี่ 52) มนั เก่ียวเน่อื งกบั ฉันแนน อน” ทา นอมิ าม (อ.) จงึ กลา ววา “ฉนั ขอยืนยันวาใชแ นน อน! พระองคไ ดท รงช้ีนําแกเ จาแลว” ทานอิ มาม (อ.) จึงกลาวข้ึนทันที 3 ครั้งวา “โอพระองค ขอพระองคทรงนําทางแกเ ขาดวยเถิด!” แลวทานอิมาม (อ.) ก็ยังกลา วอกี วา “ลกู ชายตัวนอ ยของฉัน! เจามีอะไรกต็ ามก็จงถามฉัน มาเถดิ ” ซะกะรยี า ไดกลา ววา “บดิ า มารดาและญาตพิ น่ี องของฉนั เปน ชาวนศั รอนที ั้งหมด มารดา ของฉนั ตาบอด ฉนั นนั้ อยรู ว มกบั พวกเขา รับประทานอาหารรว มกนั กบั พวกเขา สงิ่ ทฉี่ นั จะตอง ปฏิบตั สิ าํ หรบั สิ่งนค้ี อื อะไร?” ทา นอมิ าม (อ.) “พวกเขารบั ประทานเนือ้ สกุ รหรอื ไม?” ซะกะรียา “โอบ ุตรแหง รอซูลลุ ลอฮ! ไมเลย พวกเขาไมแ ตะตองเนอื้ สุกรเลย” อิมาม (อ.) “การใชชีวิตของเจา อยรู วมกบั พวกเขานน้ั ไมเ ปนสิ่งตองหา มแตอยา งใด” แลวทานอิมาม (อ.) ก็กลาวตอ วา “จงเฝา ปรนนิบัติมารดาของเขาใหด ที ี่สุด จงทาํ ดกี บั นางใหม ากใน ขณะท่นี างยังมชี ีวติ อยู และเมอื่ เขาสน้ิ ลมหายใจลง จงอยามอบศพของนางใหกบั ผใู ด เจา จงจัดการพิธีศพของ นางดว ยตวั ของเจาเอง จงอยาบอกกลาวกับผูใดวา เจา พบกบั ฉนั ในทน่ี ้ี ฉันก็จะเดินทางไปยังนครมักกะฮ เหมือนกัน อินชาอลั ลอฮ (หากพระเจา ทรงประสงค) เราจะไดพ บกันอีกคร้ังในทุงมีนา” ซะกะรยี าไดพ บกับทา นอิมาม (อ.) อีกคร้ัง ณ ทุง มนี า เขาเห็นผคู นจาํ นวนมากมายราย ลอมทา นอิมามอยู ทกุ คนเปรียบเสมอื นเดก็ ๆ ที่ไดห อมลอ มอาจารยของพวกเขาอยูแ ละถามปญ หา กนั ตลอดเวลาโดยไมม กี ารเวน ชวงเลยสกั นดิ พวกเขาไดถ ามทานอิมาม (อ.) ทลี่ ะคนๆ และรบั ฟง คําตอบจากทา นอิมาม (อ.) การประกอบพธิ ีฮัจญไ ดเ สร็จส้ินลง และซะกะรียาก็ไดกลับสเู มืองกฟู ะฮพ รอมกบั คําส่ังเสยี ของทานอมิ าม (อ.) ทเี่ ขาจาํ ไดอยางขนึ้ ใจ เขาไดร บั ใชปรนนบิ ัตมิ ารดาของเขาอยา งดีทีส่ ดุ ซงึ่ เขา ไมไ ดปลอยใหเวลาไดผานไปเลยสําหรบั การแสดงความเมตตาปรานีและความรักตอมารดาทต่ี า บอดของเขา เขาไดปอ นอาหารแกม ารดาของเขาดว ยมือของเขาเองแมก ระท่งั การหาเหาบนศีรษะ ของมารดา หรือคนหาแมลงตางๆ ทเี่ ปน อันตรายทอี่ ยตู ามผาและเสื้อผาของมารดา สงิ่ ตา งๆ เหลานไี้ ดส รา งความแปลกใจแกมารกาของเขาเปน ยง่ิ นกั 183
วันหนงึ่ เขาไดถ ามบตุ รชายของเขาวา “โอลูกรัก! เม่อื กอ นทีเ่ จา เคยอยรู ว มในศาสนา เดียวกนั กบั เรามากอ น เจา ไมเคยแสดงความเมตตาปรานอี ยา งมากมายเชน นเ้ี ลย แลวมันเกดิ อะไรข้นึ เลา ! เจาถงึ ไดแสดงความเมตตาปรานีและปรนนบิ ตั ิแมอยา งมากมายในตอนน้ี ทง้ั ๆ ทเี่ รา ก็อยคู นละศาสนากนั ?” ซะกะรยี า “โอแ มจ า ! ชายผหู นง่ึ จากลกู หลานของทา นศาสดาของเราไดก าํ ชบั สงิ่ นกี้ ับฉนั ” มารดา “ชายผนู ้ันเปน ศาสดาดวยเชน กนั ใชไ หม?” ซะกะรียา “เปลา ! ทานไมใ ชศ าสดา ทา นคอื บตุ รแหง ศาสดา” มารดา “โอลกู รกั ! แมคดิ วา เขากน็ า จะเปน ศาสดาเชนกันนะ เนอื่ งจากการกําชบั และคาํ ส่ัง เสยี เหลา นมี้ ันจะไมม ีมาจากผูใด นอกจากผูท่ีเปนศาสดาเทา นน้ั ” ซะกะรียา “ไมใ ชครับแม! แมมนั่ ใจไดเ ลยวาเขามใิ ชศ าสดาแตเ ขาคอื บตุ รของศาสดา เพราะหลังจากศาสดาของเราแลว จะไมมศี าสดามายังโลกนีอ้ กี เลย” มารดา “โอลูกรัก! ศาสนาของลกู ชา งเปนศาสนาทีด่ เี หลือเกนิ ดียิ่งกวาศาสนาอน่ื ทกุ ๆ ศาสนา จงอธบิ ายถงึ ศาสนาของลูกใหแมฟ งหนอ ย” ซะกะรยี าไดส อนการกลา วชะฮาดะตัยน (คําปฏิญาณตนในการเปนมสุ ลิม) แกม ารดาของ เขา มารดาของเขาจงึ เปนมสุ ลมิ ในทสี่ ุด และซะกะรยี าไดส อนวธิ ีทาํ นมาซใหแ กม ารดาทต่ี าบดิ ของ เขา มารดาของเขาไดร บั เตาฟกในการปฏิบตั นิ มาซมัฆรบิ และอชี าออีกคร้งั และชวงดกึ ในคนื น้ันเองมารดาของเขาเกดิ ลม ปวยลงอยา งกระทนั หนั และตองนอนรักษาตัว นางไดเ รยี กบุตรชาย ของนางและกลา ววา “โอล กู รกั ! ไดโ ปรดสอนในสงิ่ ทลี่ กู ไดส อนแมอ ีกคร้งั เถิด” ซะกะรียาจงึ เร่มิ สอนชะฮาดะตยั นและบอกกลาวเก่ียวกบั อุศูล (รากฐาน) ของอิสลาม คือการมีความเช่อื ในทานศาสดา (ศอ็ ลฯ) และบรรดามะลาอกิ ะฮและคัมภรี แ หงฟากฟา และวันแหงการฟนคนื ชีพแกมารดาของเขา อกี คร้งั มารดาของเขาไดกลาวคําสารภาพและยอมรบั ออกมาจากปากของนางอีกครง้ั และก็จากโลกนี้ไปในทสี่ ุด วนั รุงขน้ึ บรรดามุสลิมตา งมารวมตัวกนั เพอ่ื จัดการพิธีศพของนางทบ่ี านของนางเอง และผูที่นมาซใหแ ก นางและนาํ รางของนางลงสูหลุมฝง ศพจะเปน ใครไปเสยี มิได นอกจากลูกชายผูเปน ทรี่ กั ของนางเองนั้นคือซะกะรี ยานนั่ เอง. (1) 117 เบือ้ งหนาผูร ู ชายผูหนึ่งจากชาวอนั ศอรไดม าหาทา นรอซลู ุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) และไดถามทานรอซูลลุ ลอฮวา “โอร อซู ลลุ ลอฮ! ถาหากมีศพของบคุ คลหนงึ่ อยใู นหมขู องพวกเรา และจําเปน ท่ีจะตอ งจัดการพธิ ศี พและจดั การฝง ใหเสร็จ สนิ้ และมีมัจญล สิ ทใี่ หค วามรูท างวชิ าการ (มกี ารเรยี นการสอน) ไดเร่ิมข้ึนซงึ่ เราตองเขา ไปรวมในมัจญล สิ นนั้ ดวย เพื่อที่จะไดรับวชิ าการความรูน ั้นๆ ทง้ั สองนเ้ี กดิ ข้ึนในเวลาเดยี วกัน และเรากค็ งมีเวลาไมท นั ท่จี ะเขา รวมในพธิ ีการ (1) อศุ ูล กาฟย เลม 2 หนา 160, 161. 184
ทง้ั สอง หรือถาจะกลา วกค็ อื ถา หากเราเขา รวมในทีห่ น่ึง เราก็จะพลาดการเขา รวมในอีกที่หนง่ึ ซึ่งถาเปนทา น ทานประสงคท ่ีจะเขารวมในพธิ กี ารใดจากสองพิธกี ารนี้ เพือ่ ท่ีฉนั จะไดเขารว มในพิธกี านน้ั ?” ทานรอซลู ุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) กลา ววา “ถา หากวามผี ูหนงึ่ ไดจ ัดการพิธีศพแลวกจ็ งเขารวมในการเรียนการ สอนเรอื่ งของวิชาการเถิด เนอื่ งจากการเขารวมในการเรียนการสอนเรือ่ งของวิชาการน้นั ดีกวา การเขารว มในพธิ ี ศพถงึ หน่งึ พนั ครั้ง และดีกวาการไปเยี่ยมผปู วยถึงหนึง่ พันครง้ั , การอิบาดะฮหนง่ึ พนั คืน, การถอื ศีลอดหน่ึงพนั วัน, และการบรจิ าคทานหน่งึ พันคร้งั เสียอีก ส่ิงตา งๆ ที่กลา วมาอยทู ่ีไหน? การเขา รว มในวงสนทนาของผูรอู ยูที่ไหน? หรอื วาเจาไมร วู าดว ยสื่อของความรูนเี่ องทจ่ี ะนาํ มาซึ่งการอิบาดะฮต อ อัลลอฮ (ซบ.) ความดตี า งๆ ในโลกนแี้ ละ โลกหนา จะมาพรอมกบั ความรู ซึ่งจะเสมือนกับความช่ัวรา ยในโลกน้แี ละโลกหนาทีจ่ ะมาพรอ มกับความโงเ ขลา”. (2) 118 ฮิชาม กับ ฏอวูซ ยะมานี ฮิชาม บนิ อับดุลมาลิก คอลีฟะฮแ หงราชวงศอุมาวีย ไดเ ดนิ ทางเขาสนู ครมักกะฮเพอ่ื ต้ังใจทจ่ี ะประกอบ พิธฮี จั ญใ นชวงสมัยของการดํารงตําแหนงคอลีฟะฮของเขา เขาไดสงั่ ใหไปพาใครก็ไดมาสักคนหน่งึ ทอี่ ยูในสมยั ของทานรอซลู ุลลอฮ (ศ็อลฯ) และไดเคยพูดคุยกับทา นรอซูลลุ ลอฮมาหาเขา เพอ่ื ทเ่ี ขาจะไดซักถามเก่ียวกบั สิ่ง ตางๆ ในชวงสมัยนั้น หลายคนไดตอบกับเขาวา “ในขณะนี้ไมม ซี อฮาบะฮคนใดมีชีวิตอยเู ลย พวกเขาไดจ ากโลกนี้ ไปหมดแลว ” ฮิชาม จงึ กลาววา “ถา เชน น้นั ก็จงไปพาตาบอิ นี (ผูท ่ีไมไดพบเห็นหรือพูดคุยกับทานรอซลู ลุ ลอฮ แตพ วก เขาไดรับรคู าํ พูดตา งๆ จากอัซฮาบของทา นรอซลู ุลลอฮ) สกั คนหนง่ึ มาหาฉนั เพ่ือท่ฉี นั จะไดซ กั ถามอะไรไดบา ง?” ดงั น้นั ฏอวซู ยะมานี จึงถูกเชิญตวั มาทันที เมื่อฏอวูซไดก า วเขามาขางใน เขาไดถอดรองเทาของเขาบนพรมตอหนา ฮิชามทันที และเมอื่ เขาไดก ลา ว สลามแกฮิชาม เขาไดส ลามผิดแผกไปจากคนอนื่ ๆ โดยสิน้ เชงิ จากทค่ี นอืน่ จะกลาวสลามแกฮ ิชามวา “อสั สะลา มอุ ะลยั กา ยาอมีรุลมุอมินนี ” เขากลบั กลา วสลามวา “อสั สะลามุอะลัยกา” เขาไมไ ดก ลาวคาํ วา “อมีรลุ มอุ ม ินีน” ตอ เตมิ เขาไปเลย และน่ังลงตอหนาฮชิ ามอยา งหนา ตาเฉยโดยไมคอยใหมีการเชือ้ เชญิ ใหนัง่ ใดๆ จากฮชิ าม ซึง่ โดยปกตแิ ลวผูท ่ีเขา พบคอลีฟะฮจะตอ งยนื ใหเ กียรตคิ อลฟี ะฮกอ นจนกวาคอลีฟะฮจ ะเชอ้ื เชิญใหน่ังถงึ จะนง่ั ได แต ทีย่ ิง่ ไปกวา นั้นอีก ในการพูดคุยถามไถท ุกขสุข ฏอวูซไดถามฮิชามหว นๆ วา “ฮิชาม! ทานสบายดีหรอื ?” กริ ยิ าทาทางท้งั หมดของฏอวซู ไดสรางความเดือดดาลแกฮชิ ามเปนยงิ่ นกั ฮิชามไดมองหนา ฏอวูซและก ลาววา “น่ีเจากําลงั ทําอะไรตอหนา ฉนั !?” ฏอวูซ “แลว ฉันทาํ อะไรลงไปละ !?” ฮชิ าม “เจาทําอะไรเจา ไมรูจริงๆ หรอื !? ทาํ ไมเจาถอดรองเทา ของเจา ตอหนา ฉัน? ทาํ ไมเจาไมขนาดนาม ของฉนั วา ‘โอ อมรี ุลมุอมินีน’ ? ทําไมเจา นงั่ ลงโดยที่ฉนั ยงั ไมอ นุญาต? และทําไมเจาถงึ ลบหลูเกียรติของฉันโดย การถามทุกขสุขจากฉันเชน น้ัน?” (2) บฮิ ารุล อันวาร พิมพใ หม เลม 1 หนา 204. 185
ฏอวูซ “เหตผุ ลที่วา ทําไมฉันจึงถอดรองเทา ของฉันตอหนาทาน ก็เน่ืองจากวาในวนั ๆ หนง่ึ ฉันไดถอดมัน ออกมาตอ หนา เบ้อื งพระพักตรของอลั ลอฮ (ซบ.) ถงึ วันละ 5 คร้งั ดว ยกัน และฉนั กไ็ มเห็นวาพระองคจ ะทรงพโิ รธ ฉนั เลยสกั นิด และเหตุผลท่ีวา ทําไมฉันจึงมิไดเรียกทานในนามของ ‘อมรี ุลมุอมินนี ’ กเ็ น่อื งจากวาทานมิใชห วั หนา ของ บรรดาศรัทธาชนสกั หนอย บรรดาศรทั ธาชนจํานวนมากท่พี วกเขาไมพอใจจากการเปนผูปกครองและระบอบการ ปกครองของทา น และเหตุผลที่วาฉนั ไดเรียกชื่อของทานออกมาโดยตรง (ซ่ึงทานถือวา มันเปน การดหู ม่นิ เหยียด หยาม) ก็เนอ่ื งจากอลั ลอฮ (ซบ.) เองกย็ ังขานชื่อศาสดาของพระองคด ว ยนามของศาสดาเหลา นั้นในคมั ภีรอลั กุ รอาน เชน โอดาวดู , โอย ะฮยา, โออซี า และฉันกเ็ หน็ วาส่ิงนัน้ มิไดถอื วา เปน การดูหม่นิ เหยยี ดหยามแกบรรดาอัมบิ ยาอแ ตประการใดเลย และในทางกลบั กนั อลั ลอฮ (ซบ.) ทรงเอยนามของ อบูละฮบั ดวยฉายา (มใิ ชชื่อ) เสีย ดวยซาํ้ และท่ีทานกลาววา ทาํ ไมฉันจงึ นง่ั ลงโดยทยี่ ังไมไ ดร ับอนุญาตจากทา นกอน ก็เนือ่ งจากฉันไดยนิ คําพูด หนง่ึ จากทานอมีรุลมอุ มินนี อะลี บนิ อบฏี อลิบ (อ.) ที่ทานไดกลาววา : ถาหากทานประสงคท ี่จะเห็นชายผูหน่งึ จากชาวนรก กจ็ งมองดเู ถิดวาผใู ดที่เขานั่งอยูแ ละบรรดาประชาชนยืนอยูรอบๆ กายเขา” เมื่อฏอวซู กลาวมาถงึ ตรงน้ี ฮชิ ามไดก ลาววา “โอฏ อวซู ! จงกลา วตักเตอื นฉันเถิด” ฏอวซู กลา ววา “ฉนั ไดยินทานอมีรุลมอุ มนิ ีน อะลี บิน อบีฏอลิบ (อ.) กลาววา : ในขุมนรกจะมีงูและ แมลงตา งๆ ท่ใี หญโตมาก งแู ละแมลงตา งๆ เหลานัน้ จะมีภารกจิ ในการฉกตอยผูนําท้งั หลายทีเ่ ขามิไดใ หค วาม ยุตธิ รรมแกประชนของตนเอง” เมื่อฏอวซู กลาวจบเขารบี ลกุ ข้ึนและออกไปจากท่นี ั่นอยา งรวดเร็ว. (1) 119 ปลดเกษียณ ชายชราผหู นงึ่ เปนชาวนศั รอนี เขาตอ งตรากตราํ ทาํ งานหนกั ตลอดชีวิตของเขา แตทวาเขาไมม ที รัพยส ิน หลงเหลืออยูเ ลยในขณะนแี้ ละมหิ นําซา้ํ ตายงั มาบอดเสยี อีก ทั้งยังชราภาพอีกทงั้ ไมมีอะไรเลย ทั้งหมดถกู รวมอยู ในตัวเขา จงึ ไมมหี นทางใดนอกจากการเปน ขอทาน เขาไดย ืนอยขู า งๆ ซอยและขอทานกบั ประชาชน ประชาชน ตา งไมม ีนา้ํ ในการหยิบย่นื บริจาคทานแกเ ขา จะมีกแ็ ตเ พยี งเลก็ นอ ยเทานัน้ และเขาก็ประทงั ชีวติ ตนเองดวย หนทางน้เี รือ่ ยมา จนกระทงั่ วันหนึ่งทานอมีรลุ มอุ มินนี อะลี บิน อบีฏอลบิ (อ.) ไดเดินผา นมาทางนนั้ พอดีและทานอมิ ามก็ ไดเ ห็นชายผูนอี้ ยูในสภาพของผูขอทาน ทา นอมิ าม (อ.) ไดไ ตถามถงึ สภาพของชายชราผนู ้ีทันทีวา ดว ยเหตุใดชาย ผนู ้ีจงึ มีสภาพเชนนใ้ี นทกุ วันนี้ หรือวาเขาไมม ลี ูกหลานเลยหรือที่จะคอยเลย้ี งดเู ขา? ไมมหี นทางอืน่ ใดอีกแลว หรือ ทช่ี ายผนู ้ีจะไมตองมาเปน ขอทานและใชอยางมเี กียรติในชวงบนั้ ปลายของชีวติ ? บุคคลทรี่ ูจักชายราผนู เ้ี ปน อยา งดไี ดม าหาทานอมีรลุ มุอมินีน อะลี (อ.) และไดย ืนยนั กับทา นอมิ ามวา ชายผนู เ้ี ปน ชาวนศั รอนี เขาคอื ผูที่เคยทํางานอยางแข็งขันเม่อื ยังหนุมและมีดวงตาดอี ยู แตท วา ตอนน้เี ขาไมไ ด ทํางานแลว เพราะแกชราและตาบอด ทรัพยสินสมบัตหิ รอื กไ็ มม ี เขาจึงตอ งกลายเปน ขอทาน ทานอมิ ามอะลี (อ.) กลาววา (1) ซะฟน ะตุล บิฮาร บาบ ฎซ . 186
“นา แปลกใจยิ่งนัก! ชายผนู ใี้ นอดีตคือในชว งเวลาหนง่ึ เขายงั มคี วามสามารถอยแู ละเขาไดท าํ งานรบั ใช มากอน ดวยเหตนุ ี้จงึ เปน หนา ท่ีของรฐั บาลและสังคมทจ่ี ะตอ งชวยเหลอื เกื้อกูลเขาถา หากเขายงั มีชวี ิตอยู พวกเขา จงไปนําเงนิ ของบัยตุลมานมาจายใหแกเขาอยา งสมา่ํ เสมอ” .(2) 120 แมกระทั่งคนขายทาส เร่อื งราวความรักของชายผูห นง่ึ ซึง่ มอี าชพี เปน พอคา ขายนา้ํ มันซัยตนู ที่มตี อทานรอซลู ุลลอฮ (ศ็อลฯ) ซ่ึง ทุกๆ คนไมวาใครก็ตามตางกร็ ูและเขา ใจวาเขานัน้ มคี วามรักอันจริงใจยิ่งนักตอ ทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) และถา หากวนั ใดเขามิไดเ หน็ หนา ทานรอซูลุลอฮ (ศ็อลฯ) เขาก็จะอยแู บบไมม คี วามสขุ ไมว า เขาจะปฏบิ ัตภิ ารกิจใดก็ตาม แตเ ขากม็ ักจะตองใหเสน ทางของเขาผานไปมสั ยิดหรอื บานของทานรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) หรอื ทห่ี น่ึงทีใ่ ดก็ตามที่ ทา นรอซลู ลุ ลอฮอยู ณ ท่ีนนั่ เพือ่ ทเ่ี ขาจะไดเห็นหนา ทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศ็อล) ในวันนัน้ เพือ่ เปนกาํ ลังใจแกตนเอง ในการทํางานของเขา เสร็จแลวเขากจ็ ะมงุ ไปทาํ งานของตนเอง บางคร้งั ประชาชนจาํ นวนมากไดหอมลอ มทา นรอซลู ลุ อฮ (ศ็อลฯ) อยู และเขาก็ตองคอยชะเงอมองมา จากทางดา นหลัง เขาไดช ะเงอ ใหส ูงที่สดุ เพ่อื ท่จี ะไดเ ห็นหนา ทานรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) สักนดิ ก็ยงั ดี ในวันหน่ึงทา นรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ไดเหน็ เขายนื อยูข า งหลงั กลุมชน เขาพยายามชะเงอ มองมายังทาน ทา น (ศ็อลฯ) จึงแกลง ทาํ เปนยืดตัวขึ้นเพอ่ื ใหเ ขาเห็นไดง า ยๆ และเมอ่ื ชายผูนนั้ เหน็ ทานแลวก็จึงออกไปทาํ ภารกิจ ประจาํ วันของเขาทนั ที แตท วา ยังไมน านเทา ไรเขากไ็ ดหวนกลับมาอีกคร้งั และเมื่อทา นรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) มองเหน็ เขาเปน ครงั้ ที่สองในวนั นี้ ทา น (ศอ็ ลฯ) จึงกวักมือเรียกเขาเขามาใกลๆ เขาไดเ ขา มาใกลท า นรอซลู ุลลอฮ และนัง่ ลง ทานรอซลู ุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) กลา ววา “วนั น้เี จาดูแปลกไปจากวันอืน่ ๆ เพราะวนั อื่นๆ เจาจะมาเพียงคร้ังเดยี วและออกไปทาํ งานของเจา แต วนั น้เี จาออกไปแลว แตกลบั มาอีกทําไมหรอื ?” ชายผูนน้ั ตอบวา “โอรอซลู ุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) ความจรงิ กค็ ือ วันนี้ฉนั รูสกึ วา ความเมตตาอนั มากมายของ ทานนั้นมันตรงึ อยูในหวั ใจของฉันเปนยิง่ นกั จนฉันไมสามารถท่ีจะทํางานใดได ฉนั จงึ ตองกลบั มาอกี ครั้งครบั ” ทา นรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) ไดว งิ วอนดอุ าอใ หแ กเขา และหลังจากทีเ่ ขากลับบา นไปตง้ั แตวันนั้นก็ยงั ไมม ี ใครพบเขาอีกเลย เวลาผา นไปหลายวันทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ไมเ หน็ แมแ ตเงาของชายผนู ัน้ แตอยา งใด ทาน รอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) จึงไดถ ามไถจากบรรดาซอฮาบะฮของทานถงึ ชายผนู ั้น ทุกคนตางตอบเปน เสียงเดียวกันวา “เราไมเ หน็ เขามานานแลว!” ทา นรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) จงึ ลกุ ข้ึนออกไปเพอ่ื สบื เสาะหาขาวชายผูน้ันวาเกิดอะไรขน้ึ กับเขาหรือไม ทา น (ศ็อลฯ) พรอ มกบั ซอฮาบะฮจาํ นวนหนึ่งไดเดนิ ออกไปยงั ‘เซากุตเซต’ (ตลาดทีพ่ อคา ท้งั หลายจะขายนํ้ามนั กนั ) และเมื่อทานรอซูลลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ไดเ ดินทางไปถึงรานคา ของชายผนู ัน้ ท่ีอยใู นตลาดแหงน้ัน ทา นไดเหน็ วา มันปด อยู ทานจงึ ไดถามขาวคราวของเขาจากรา นคาขางๆ กไ็ ดรับคาํ ตอบวา “โอร อซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) เขาเสยี ชวี ิตแลว !” พวกเขายงั กลาวอกี วา “โอรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) เขาเปน ชายที่ดแี ละรกั ษาสัจจะยิ่งคนหนึ่ง แตเ ขามี ขอเสียอยูอยางหนึ่ง” รอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) “ขอ เสียอะไรกนั หรือ?” (2) วะซาอลี เลม 2 หนา 425. 187
พวกเขาเหลา น้ัน “เขาไมย อมออกหา งจากการกระทําบางอยางที่นาเกลยี ด เชนการจองมองผูหญิง” รอซลู ลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) “ขอพระองคทรงอภัยแกเขา และขอใหอยใู นความเมตตาของพระองคด วยเถดิ เขา มีความรักตอฉนั อยางเหลือลน ซ่ึงถาหากเขาเปนถึงคนขายทาส อลั ลอฮ (ซบ.) ก็จะยงั ทรงอภัยโทษใหแ กเ ขา แนนอน!” .(1) 121 คนขายแตงกวา ในศตวรรษทสี่ องของฮจิ เราะฮศักราช ปญหาการหยา รางสามครงั้ (ฏอลาค) กับผูหญิงใน สถานที่เดยี วและรอบเดียวถกู ยกมาถกเถียงกนั ในหมเู จา ของทศั นะทงั้ หลาย สว นมากของบรรดาอุ ละมาอแ ละนกั นติ ิศาสตรในชวงสมยั ตา งมีความเชือ่ วา การหยา รางสามคร้ังในหนเดียวโดยไมได ทิง้ ชว งในการหวนคนื มาอยดู วยกนั (รูอู ) ระหวา งพวกเขาท้ังสองถอื วาเปน สงิ่ ทถ่ี ูกตอง แตทวา อุ ละมาอแ ละนกั นติ ศิ าสตรทางฝายชอี ะฮท ด่ี าํ เนนิ รอยตามบรรดาอมิ าม (อ.) ผสู ูงสง ตา งลง ความเหน็ วาการหยา รา งสามครง้ั เชน นัน้ ไมมีผลใดๆ และเปน โมฆะ นกั นิติศาสตรทางฝายชอี ะฮก ลา ววา การหยา รา งสามครั้งกับหญงิ ทถ่ี ูกตอ งนน้ั ตอ งอยูใ น รปู ของการหยา รา งสามรอบ หมายถงึ ฝา ยชายไดห ยารา งกับภรรยาเสรจ็ แลว แตไดหวนกลบั คนื มา อยูด วยกนั อกี และไดหยา รา งอีกคร้ังและหวนกลบั คนื มาอยดู วยกนั อกี และไดหยา รา งอกี ครงั้ เปน คร้งั ท่ีสาม ในตรงน้ีเองท่ฝี า ยชายไมสามารถหวนกลบั มาคนื มาหาฝา ยหญิงไดอีกในชวงของอดิ ดะฮ (ชว งเวลาทผ่ี ูห ญงิ ไมส ามารถแตง งานใหมไ ดจ นกวา จะพน ชว งเวลาดังกลาวคอื ประมาณ 3 เดือน กบั 10 วัน) หรือถงึ แมว าฝา ยหญงิ จะหมดอิดดะฮแ ลว ก็ตาม ฝา ยชายก็ยงั ไมม สี ิทธท์ิ จ่ี ะหวน กลบั มาคนื ดีกบั ฝายหญงิ ไดอ กี เลย เวน เสยี แตว าจะตอ งมีชายคนหนง่ึ มาแตงงานและรว มหลบั นอน กบั ฝา ยหญิงกอ น (มฮุ ลั ลลิ ) หมายถงึ หญงิ ผนู นั้ จาํ เปน จะตองแตง งานกับชายอกี คนหน่ึงและรวม หลบั นอนกนั กอ นและมกี ารหยารา งเกดิ ขน้ึ หรือในระหวา งเขาทง้ั สองนน้ั ฝา ยชายไดเสยี ชวี ิตลง สามีคนเดิมจงึ จะมสี ทิ ธิห์ วนกลบั มาหาฝา ยหญงิ ไดอีกครง้ั มชี ายผหู นง่ึ ในเมืองกูฟะฮ เขาไดหยา รา งภรรยาเขาสามคร้งั ในหนเดยี ว แตต อมาเขาคิดได วาเขาผดิ ไปแลวเนอื่ งจากวา เขานนั้ มคี วามรกั ตอภรรยาของเขามาก แตดวยความไมพ อใจเพยี งชวั่ วูบเทา นน้ั ทเี่ ปน ตนเหตุของการหยา รา งของเขากบั ภรรยาในท่สี ุด ภรรยาก็เชน เดยี วกนั นางมีความ (1) เราเซะ กาฟย หนา 77. 188
รกั ตอสามีของนางมาก ดว ยเหตนุ ท้ี ั้งสองจงึ หาหนทางเพือ่ ทจ่ี ะกลบั มาเปน สามีภรรยากันเหมอื น แตเ กา กอน เขาท้ังสองไดนําปญหานไี้ ปถามจากอลุ ะมาอของฝายชอี ะฮ อุละมาอฝา ยชีอะฮต า งตอบ เปน เสียงเดยี วกันวา เนือ่ งจากเปน การหยา รา งสามครง้ั ในหนเดยี วกนั จึงไมม ีผลใดๆและถอื วา เปน โมฆะ (การฏอลาคนน้ั เปนบาฏิล) และดวยเหตนุ ้ีเองเขาทงั้ สองจงึ ยงั คงเปนสามภี รรยาทีถ่ กู ตอ งทง้ั ทางกฎหมายและบทบญั ญติ (ชัรอีย) อยูใ นขณะน้ี แตทวา อีกดา นหนง่ึ ประชาชนสวนมากทีเ่ ขา ปฏบิ ตั ติ ามอลุ ะมาอแ ละนักนิตศิ าสตรคนอื่นๆ ตางกลาวกนั วา การหยารา งนน้ั เปน สง่ิ ที่ถกู ตอ งและ เขาทัง้ สองตองหลีกเลีย่ งการใชช ีวติ อยูร วมกนั โดยส้ินเชงิ นบั เปนปญ หาหนงึ่ ทแ่ี ปลกประหลาดยง่ิ นกั มันเปน เรอ่ื งของสิ่งทีอ่ นุญาต (ฮะลาล) และไม อนญุ าต (ฮะรอม) ในเรอ่ื งของการหลบั นอนระหวา งชายกบั หญิง ทงั้ สามแี ละภรรยาทงั้ สองพรอม ใจทจี่ ะใชช วี ิตรวมกนั เหมอื นดังเดมิ แตทวา พวกเขากย็ งั ไมส บายใจอยดู ี และไมแ นใ จวา การหยา รางของเขาท้งั สองนน้ั เปน ส่ิงทถ่ี ูกตองหรือเปลา ถาหากถูกตอง การอยรู ว มกนั ระหวา งเขาทงั้ สองก็ คงจะฮะรอม (ไมอนญุ าต) และตง้ั แตนเี้ ปน ตน ไปเดก็ ๆ ของพวกเขาก็จะถอื กําเนดิ มาอยา งไม ถูกตอ งตามกฎขอบัญญตั ิ ฝายสามีจงึ ตดั สินใจแลววา จะถอื เอาคาํ ชข้ี าด (ฟต วา) ของอลุ ะมาอฝ า ยชีอะฮม ายดึ ถือ ปฏบิ ตั ิ และถือวาการหยา รา งทไ่ี ดกระทาํ ขึน้ นน้ั เปน สงิ่ โมฆะและเหมอื นกบั วา ยงั ไมไ ดม กี ารหยา รา ง เกิดข้นึ เลย แตภ รรยาของเขาก็ไดกลา ววา “ฉนั จะยังคงไมสบายใจอยูดี นอกเสียจากวา ทา นจะได ไปถามและรบั เอาคาํ ตอบจากปญ หาของเราน้ีจากทา นอมิ ามญะอฟ ร ซอดิก (อ.) เสยี กอ น” ในชวงสมยั นนั้ ทา นอมิ ามญะอฟร ซอดกิ (อ.) อาศยั อยใู นเมอื งเกา แกแ หงหนง่ึ มนี ามวา ‘ฮิ เราะฮ’ ใกลๆ กับเมืองกฟู ะฮ ชว งหนึ่งทค่ี อลีฟะฮซะฟาฮแ หง อบั บาซยี ไดสง ตวั ทา นอิมามญะอฟ ร ซอดิก (อ.) จากนครมะดนี ะฮไ ปยังสถานทน่ี ้นั และอยใู นความดูแลของพวกเขาตลอดเวลา และไมม ี ใครสามารถทจ่ี ะไปมาหาสหู รือพบปะทา นอิมาม (อ.) ไดเลย แมกระทัง่ การพูดคุย ชายผนู ั้นไดพ ยายามทุกวถิ ที างทจ่ี ะเขา พบทา นอมิ ามญะอฟร ซอดกิ (อ.) ใหได แตกย็ งั ไม เปน ผล ในวนั หนงึ่ เขายนื อยไู มห างจากสถานทีพ่ กั ของทา นอิมาม (อ.) เทา ไรนัก และกําลงั ระดม ความคดิ เพื่อที่จะหาทางเขา ไปยงั บา นของทา นอมิ าม (อ.) อยูนน่ั เอง พลนั สายตาของเขาก็เหลือบ ไปเห็นชายชาวบา นธรรมดาคนหนึ่งเขา ซงึ่ เปน ชาวบา นที่อาศัยอยูแถวๆ นนั้ ซงึ่ มตี ะกราที่เตม็ ไป ดว ยแตงกวาอยูบนศรี ษะของเขา เขาไดต ะโกนไปเรือ่ ยๆ วา “แตงกวา แตงกวาครับ แตงกวาครับ!” เมอ่ื เขาเหน็ ชายชาวบา นผูนนั้ ความคิดหนง่ึ กผ็ ุดขนึ้ มาในสองของเขาในทนั ที เขามุงตรงไป ยังชายผนู นั้ และถามขน้ึ วา “แตงกวาทัง้ หมดน้รี าคาเทา ไร?” ชายชาวบานผนู ้นั กลา ววา “หนง่ึ ดิร ฮมั ” เขาจึงยนื เงนิ ใหแ ละกลาววา “เอาไปเลยน่หี นง่ึ ดริ ฮัม”และเขาไดข อรองชายชาวบานผนู นั้ วา “ฉนั จะขอเส้อื ผา ของเจามาสวมใสไมกนี่ าทจี ะไดไ หม?” และสญั ญาวาจะคืนใหโ ดยเร็ว 189
ชายชาวบานผูน้นั ตกลง เขาจงึ นําเสือ้ ผา ของชายชาวบา นผูนน้ั มาสวมใสแ ละกม ลงมองดูตัวเอง จนจรดเทา ซงึ่ เขาเหมอื นกบั ชายชาวบา นผูนนั้ อยางไมม ผี ดิ เพี้ยนเลยสกั นดิ เขาไดหยิบตะกราแตงกวา ขึ้นวางบนศีรษะและตะโกนออกไปดว ยเสยี งอันดงั วา “แตงกวาครบั แตงกวาครบั !” แตทวาปลายทาง ของเขามุงสูบ า นของทานอิมาม (อ.) และเม่ือมาเขามาถึงหนาบานของอมิ าม (อ.) มชี ายรบั ใชค นหน่ึงออกมาจากบา นของทานอิ มาม (อ.) และกลาววา “โอพ อ คาขายแตงกวา มานี่หนอย!” เขาจึงรบี มุง หนาไปยงั บา นทานอมิ ามทันที โดยทีผ่ ูคอยควบคุมไมม กี ารสงสยั คลางแคลงในตวั เขาแตอยางใด ทานอิมาม (อ.) ไดก ลา วกบั เขาวา “เยีย่ มมาก! เจา วางแผนไดด ีมาก จงกลาวมาเลยเจามี อะไรจะถามฉันหรือ?” ชายผนู ้นั “โอบุตรแหง รอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ฉันไดหยา รา งภรรยาของฉนั สามครัง้ ในหนเดียว และฉันได ถามปญหานี้จากผูรู (อลุ ะมาอ) ของฝา ยชีอะฮ พวกเขาตา งตอบปญหาเปนเสยี งเดียวกนั วา การหยา รา งเชนน้ัน ถือวา เปน โมฆะ (เปนการหยา รางทีไ่ มถ กู ตอง) แตท วาภรรยาของฉันกย็ งั ไมสบายใจอยดู ีและยังยอมรบั ไมได จนกวา ฉนั จะไดมาถามปญหานี้จากตวั ทา นเอง ดวยเหตนุ ้ีฉนั จึงตองปลอมตัวเพ่ือเขา มาพบกับทานและถามทาน ดวยของฉนั เอง และรบั ฟงคําตอบจากทา น” ทานอมิ าม (อ.) “ทา นจงกลบั ไปเถิด! และจงมน่ั ใจเถิดวาการหยา รางในครั้งน้นั ถอื เปนส่ิง โมฆะ ทา นและภรรยาของทา นยงั เปน สามภี รรยาอยางถกู ตองตามกฎหมายและนิตบิ ัญญัตอิ ย”ู .(1) 122 คาํ ยนื ยนั ของ อุมมี อะลาอ บรรดามสุ ลมิ ในนครมะดนี ะฮโ ดยรวมแลวแบงออกเปน สองกลุม ใหญๆ กลุมแรกคอื กลมุ ท่ี มีรกรากอาศัยอยูใ นมะดนี ะฮมากอนและอกี ลมุ คือกลุมท่ีมาจากนครมกั กะฮ คอื พวกเขาอพยพมา พรอ มกบั การอพยพของทา นรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) มายังมะดนี ะฮ และกลมุ นถ้ี กู เรยี กวา ‘มุฮาญิรนี ’ (ผูอพยพ) อกี กลุมหน่งึ มีรกรากอยูในมะดนี ะฮมากอ นถกู เรียกวา ‘อันศอร’ (ผชู ว ยเหลอื ) เนื่องจากบรรดามฮุ าญิรนี คอื ผูท เี่ ขาไดล ะท้ิงมาตุภมู ิ บา นเรอื น ทรพั ยส นิ เงินทอง บางคนถงึ กบั ตองหนี จากลูกเมียของตนเอง (เพราะหากไมห นีอาจถกู ฆา ดวยมือของพวกเขาเนอื่ งจากการเปนมุสลิม) เนอ่ื งจากความ รกั อนั ลน เหลือตออสิ ลาม พวกเขาจึงมายังมะดีนะฮแ บบตัวเปลา ดว ยเหตนุ ี้เองชาวอันศอรจงึ ตอ งแสดงออกถงึ ความเปนชายชาตรอี อกมาดว ยการรบั รองใหท ่ีพักพิงแกพนี่ องรวมสายธารเดียวกนั ของตนในบานของพวกเขาเอง แตไ มใชใ นฐานะเจาของบา นกบั แขกผมู าเยือนแตทวาเปนเสมือนอันหนึง่ อนั เดยี วกัน (พี่นองกนั ) พวกเขา (ชาวอนั ศอร) ถอื วาชาวมุฮาญิรีนมีสว นรว มในทรพั ยสินและการใชชีวิตของพวกตนทีเดียว และบางครงั้ บางคราวชาวอัน ศอรจะใหสิทธแิ กชาวมฮุ าญิรีนกอนตวั ของพวกเขาเอง ถึงแมว าพวกเขาจะยังมีความตองการอยมู ากก็ตาม (ซู เราะฮฮชั ร อายะฮท ี่ 9) อุศมาน บิน มซั อนู เปน ผหู น่งึ จากชาวมุฮาญริ ีนซง่ึ อพยพมาจากนครมักกะฮแ ละไดอาศัยอยใู นบานหลัง หนึ่งของชาวอนั ศอร ตอมาไมน านอุศมานไดล มปว ยลงในบา นหลงั นัน้ บุคคลในบานหลังนน้ั โดยเฉพาะอมุ มิอะ ลาอ เปน หนึ่งจากบรรดาสตรีที่มีศรทั ธาของชาวอนั ศอร และเปน บุคคลที่อยูใ นคนกลมุ แรกๆ ที่ไดใหส ตั ยาบันตอ (1) บฮิ ารุล อนั วาร เลม 11, พมิ พ กมั พานี หนา 154. 190
ทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) อมุ มอิ ะลาอ ไดค อยปรนนิบตั ิรกั ษาอศุ มานตัง้ แตต น จนกระท่ังอาการของอศุ มานหนักลง ทุกวนั จนเขาเสียชีวติ ดวยการลม ปว ยดังกลา วในทีส่ ุด บคุ คลในบานหลงั น้นั ตา งรับรแู ละเหน็ ถงึ อะมลั้ ตา งๆ ของอุศมาน บินมซั อนู มานาน ตางยอมรับถึง ศรทั ธาท่ีเขามีอยา งสมบรู ณแ ละถือวา เขาน่ีแหละคอื มุสลิมท่เี ท่ียงแทแ นน อน และพวกเขากร็ ดู วี าความรกั ของชาย ผนู ้ี (อศุ มาน) ที่เขามีตอตวั ของทา นรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) นั้นมากมายเพยี งใด ดังน้นั สาํ หรับมนษุ ยปุถชุ นธรรมดาๆ คนหนง่ึ แลวหลักฐานอนั สําคญั สองประการขางตนคงจะพอยืนยันไดส ําหรบั เขาวาอุศมานคือชาวสวรรคอ ยาง แนน อน ในขณะทที่ กุ คนกาํ ลงั สาละวนอยูกับการตระเตรียมส่งิ ตา งๆ ในการจัดทาํ พธิ ศี พ ทานรอซลู ลุ ลอฮ (ศอ็ ล ฯ) ไดเดนิ เขามา ขณะเดียวกนั อมุ มอิ ะลาอก ็ไดห นั หนา ไปทางรา งทีไ่ รวิญญาณของอุศมานและกลาววา “ความ เมตตาปรานจี ากพระผูเปนเจาจงมีแดท านเถิด โออ ศุ มาน! ฉนั เองสามารถท่จี ะยืนยนั (เปนพยาน) ไดเลยวา พระองคไ ดท รงนาํ เจา ใหอ ยูในความเมตตาของพระองคแลวอยางแนน อน” เม่ือคาํ พดู น้ขี องอมุ มอิ ะลาอส ิ้นสดุ ลง ทานรอซูลุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) จึงกลาววา “เจาไดรบั รูม าจากไหน วาอัลลอฮ (ซบ.) ไดทรงนําอศุ มานไปอยูในความเมตตาของพระองคแ ลว ?” อมุ มอิ ะลาอ “โอร อซลู ลุ ลอฮ! ฉันก็พูดไปตามที่ฉันเห็น ถา หากไมใชเ ชน น้ันแลวจะใหฉ นั ทาํ ฉนั ใด?” ทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) “อุศมานเขาไดไปยงั อีกโลกหนึ่งซึ่งในโลกดงั กลา วมา นบังตาท้ังหมดจะถูก กระชากออกจากดวงตาของเขา แตทวา ตวั ฉนั ก็มคี วามหวงั ทจี่ ะใหเขานัน้ พบกับความดีงามและความผาสุก แต ทวาฉนั กจ็ ะตองบอกกับเจา เชนกันวา ฉนั เปนถงึ ศาสนทูต (ผสู ่อื สาสน) ฉันจะไมยืนยันความแนนอนใดๆ แกตัว ฉันเองและแกผ ูอนื่ เชนนน้ั เด็ดขาด” ต้ังแตน นั้ เปน ตน มา อุมมอิ ะลาอก็ไมเ คยใหค ํายืนยันแกบ คุ คลใดเชน น้นั อีกเลย สําหรบั ทุกๆ คนที่ได เสยี ชวี ติ ลงถาหากใครไดถามนาง นางกจ็ ะตอบวา “พระเจาองคเ ดียวเทานั้นที่รวู าเขาจะอยใู นสถานภาพเชนใด?” หลังจากทอี่ ุศมานเสียชีวิตไปไดสักระยะหน่งึ อมุ มิอะลาอไดฝ น เหน็ อุศมานอยใู นสภาพของผทู เี่ ปน เจาของแมน า้ํ ที่มีนํา้ ไหลรนิ ตลอดเวลา นางไดนําความฝนไปเลาใหท านรอซลู ุลลอฮฟง ทา นรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดกลาววา “แมน า้ํ สายนั้นคอื อะมั้ลของเขาซงึ่ จะไหลรนิ อยตู ลอดเวลา”.(1) 123 เสียงอะซาน (เชญิ ชวนสูก ารนมาซ) ตอนเทย่ี งคนื ในชว งสมยั คิลาฟต (การดาํ รงตําแหนงผูนํา) ของราชวงศอุมาวยี ชนชาตเิ ดียวที่มีอํานาจเบ็ดเสร็จในการ ปกครองอาณาจักรแหงอิสลามท้ังหมดคือชนชาติอาหรบั แตทวาในชวงสมยั คลิ าฟตของราชวงศอ ับบาซยี ชนชาติ อิหรา นเร่ิมเขา มามีบทบาทและกุมอํานาจการปกครองทัง้ หมดในทีส่ ดุ บรรดาคอลีฟะฮข องราชวงศอบั บาซียพ วกเขาเปนชาวอาหรับ แตท วาพวกเขาไมคอ ยจะชน่ื ชอบชาว อาหรับสกั เทา ไรนกั การเมืองของพวกเขาคือตองการท่ีจะขจัดพวกอาหรบั ออกไปและนําเอาชาวอหิ รานเขา มา (1) ซอเฮ๊ยี ะฮบ ุคอรี เลม 9 หนา 48, อุซุดลุ ฆอบะฮ เลม 5 หนา 604. 191
แทนที่ แมก ระท่ังการยบั ย้ังการแพรหลายของภาษาอาหรับในบางเมืองของอหิ รานอีกดวย นโยบายทางการเมือง นไ้ี ดด ําเนินเรอ่ื ยมาจนกระทั่งถงึ สมยั การดํารงตําแหนงคอลฟี ะฮของมะอม นู (2) (2) ความนาเศรา ใจประการหนึง่ ท่ีบรรดานกั ปกครองแหง ราชวงศอ มุ ัยยะฮและราชวงศอบั บาซียะฮ รวมถงึ ผูป กครองของประเทศมสุ ลมิ ตา งๆ ไดนาํ มาสําหรับโลกอสิ ลามก็คือ การจุดประกายไฟแหง ชาตนิ ิยมขน้ึ มา ซ่ึง พวกเราก็รูกันดวี าอสิ ลามไดต อสูกับการมีอคตเิ หลา นมี้ าแลว และไดรบั ชัยชนะดวยเชน กัน อิสลามไดท ําใหชาชาติ ตา งๆ เผา พนั ธุ สีผิวทแี่ ตกตา งกันของอาหรบั , อหิ รา น, เติรก , โรม, ฮนิ ด และชนชาติอ่นื ๆ เขามาอยูภ ายใตรมธง ของหลักความเช่อื อันเดยี วกันไดอ ยางนามหัศจรรยยงิ่ อิสลามไดท ําใหความหวงั อนั สูงสดุ และประเสรฐิ ท่ีสุดของ มนษุ ยชาติ (ความเทาเทียมกัน) เปน จรงิ ข้นึ มาไดด ว ยบทบญั ญัติทีว่ า “โอมนษุ ยชาติท้ังหลาย! แทจ ริงเราไดส รา งพวกเจามาจากเพศชายและเพศหญงิ และเราไดใ ห พวกเจา แยกออกเปนเผา และตระกูลเพือ่ จะไดร จู ักกัน แทจ ริงผทู ี่มเี กยี รติยงิ่ ในหมพู วกเจา ณ อัลลอฮ นน้ั คอื ผทู ีม่ ีความยาํ เกรงยิง่ ในหมพู วกเจา” (อัล ฮญุ ริ อต : 13) แตทวา นักปกครองของราชวงศอับบาซียะฮแ ละอมุ ัยยะฮหรอื ผปู กครองคนอื่นๆ ท่ีลุมหลงในดุนยา ซึ่ง อํานาจการปกครองอยูในกาํ มือของเขา ไดริเรมิ่ จดุ ประกายไฟแหงชาตินิยมใหแพรหลายไปท่วั และจดุ หน่งึ ท่ี นาสนใจยิง่ นกั ก็คอื โดยสว นตัวแลว นกั ปกครองท้ังหลายหรอื ผูท่ีมีผลประโยชนในเรือ่ งน้ีกลับมองวา มันเปนเร่ืองท่ี นา สงั เวชย่งิ นัก พวกเขาไมม อี คติและความคิดเชนนนั้ แมแตน อ ย และมหิ นําซ้ํายังหวั เราะเยาะอยูในใจตอพวก สมองตื้นทตี่ กหลุมพรางของพวกเขาดวย ในประวตั ิศาสตรอสิ ลาม เรือ่ งราวสองเร่อื งราวทม่ี ืดมดิ และสวางไสว นาเกลียดและสวยงาม ไดอบุ ตั ิ ขึน้ มาพรอมๆ กนั สงิ่ แรกคอื ความมีอคติอันมืดมนแหงชาตินยิ มทถ่ี ูกจุดประกายขึน้ โดยนาํ้ มือของผมู อี ํานาจ ปกครองและบรรดาผูท ต่ี กอยใู ตอาณัติของพวกเขาเหลาน้ัน และส่ิงที่สอ ความรูส ึกของความเปน พ่ีนอ งกันในระหวา งชนชาติ เผา พนั ธุ สีผวิ วัฒนธรรม ภาษาท่แี ตกตา งกนั ใน สภาพแวดลอมของสถาบันแหงวชิ าการ วัฒนธรรม และสถานศึกษาศาสนาตา งๆ และยังรวมถึงสถานทีอ่ ัน ศักดิส์ ิทธิ์ในศาสนา เชน มัสยดิ สถานท่ขี องการทําอบิ าดะฮ สถานทีฝ่ ง ศพของบรรดาอมั บยิ าอ บรรดาอมิ ามผู บริสุทธิ์ (อ.) และแมก ระทัง่ สถานทสี่ าธารณะทปี่ ระชาชนใชอาศัยรวมกัน แผนการเพอ่ื หลอกลวงทัง้ หมดที่บรรดาผูมีอาํ นาจปกครองไดส รา งขึ้นมาเพ่อื สรางความแตกแยกนั้นได ถูกทาํ ลายลงอยางราบคาบดวยจติ วิญญาณอันบรสิ ทุ ธิ์และสูงสงของอัล อสิ ลาม ผวิ ดาํ ผิวขาว อาหรับ อิหรา น เติรก ฮินดหรืออื่นๆ ไดอ ยรู ว มกันในสถาบันแหงวิชาการและในแถวตางๆ ของการปฏบิ ตั นิ มาซ การรวมพลทหาร เพ่ือการตอ สหู รือในสงั คมโดยปราศจากความแตกตางใดๆ และใชชีวติ อยูรว มกันฉนั ทพี่นองกนั ในชวงสองสามศตวรรษหลังนี้ นกั ลาเมืองขนึ้ แหง ตะวนั ตกไดว างแผนการอันใหญหลวงและทมุ งบประมาณมหาศาลเพอ่ื สนับสนนุ นโยบายการจุดประกายไฟแหง ชาตนิ ยิ มในโลกอาหรบั (ประเทศมสุ ลมิ ตา งๆ) แตก็เปน ทน่ี า เสียใจอยไู มนอยท่ีพวกมันประสบความสําเรจ็ ในงานน้ีพอสมควร พวกมันไดส รางภาพหลอนนี้ (ความคดิ ชาตนิ ิยม) ขึ้นมาในหมูม ุสลิม และปลอ ยใหพ วกมุสลิมหมกมนุ อยแู ตเ รื่องดังกลาวเพอ่ื ที่พวกมันจะได ฉกฉวยโอกาสในชว งนัน้ ตกั ตวงผลประโยชนท ีพ่ วกมนั ตองการอยา งสบายใจเฉิบ หนงั สือหลายเลมดวยกนั ทีถ่ ูก เขยี นขึน้ สาํ หรับเรอ่ื งน้ี ทงั้ จากบุคคลที่เปนพวกของมนั และผทู ่ีทรยศตออิสลาม (มสุ ลมิ ) ซึ่งตอ มาภายหลงั ตาํ แหนงนัน้ ตาํ แหนง นกี้ ถ็ กู หยิบยื่นใหแ กเขา จึงถอื เปนสงิ่ จําเปนสําหรบมุสลิมทุกคนในปจจุบันนี้ทจ่ี ะตอ งเปด ตา ของตัวเองและพยายามทาํ ใหต ัวเองมสี วนรวมในการทําลายลา งกาํ แพงของความแตกแยกท่ถี ูกสรา งข้ึนโดยนัก ปกครองทเ่ี กา และใหมซ่งึ ไมห วังดีในทุกรูปแบบ และจะไมท าํ ใหค วามคดิ เชน นบ้ี ังเกิดขนึ้ อีกอยา งเด็ดขาด พงึ รูไว 192
ภายหลงั จากการเสียชวี ิตของมะอม นู นองชายของเขา มุอต ะซมิ ไดข ึ้นนัง่ แทน เปน คอลีฟะฮข องประชา ชาตอสิ ลามทันที มะอมูนและมุอตะซมิ มาจากคนละแมกัน แมของมะอม นู เปนชาวอหิ รา นและแมข องมุอต ะซมิ เปนชาวเตริ ก ดวยเหตุนี้เองชาวอิหรา นสวนมากจงึ ไมเห็นดวย (เน่ืองจากตําแหนงสาํ คัญๆ อยูใ นมือของพวกเขา) ตอ การข้ึนมาดํารงตาํ แหนงของคอลีฟะฮมอุ ตะซมิ แตชาวอิหรา นปรารถนาท่จี ะใหอ บั บาส บตุ รชายของมะอม นู ขึน้ ดํารงตาํ แหนงคอลฟี ะฮมากกวา มุอต ะซิมก็รเู ร่ืองนีเ้ ปน อยา งดีและก็รสู กึ กลวั อยเู หมอื นกันวา หลานชายของเขา อับบาส บนิ มะอมนู จะลุกขึน้ มาโคน ลม เขาโดยการสนบั สนุนของชาวอิหราน และเม่ือถงึ เวลานน้ั เขากค็ งจบส้นิ กัน ดวยเหตนุ ้ีเองเขาจงึ คดิ เร่มิ วางแผนการท่จี ะขจัดอับบาสและยึดอํานาจของชาวอหิ รานท่ีฝกใฝใ นอับบาส เสยี กอ นโดยจบั อบั บาสขงั คุก และในทีส่ ดุ อับบาสก็ไดจ ากโลกน้ีไปภายในคุกแหง น้นั และเพือ่ เปนการบั่นทอน อํานาจของชาวอิหราน แผนการทเ่ี ขาไดวางไวก ค็ อื การสบั เปล่ียนตําแหนง โดยการนาํ เอาบคุ คลอน่ื ขึ้นมานั่งแทนท่ี ชาวอหิ รานทันที โดยเขาไดสง บุคคลกลมุ หนึ่งจากชาวเตอรก ามานิสถานและมาวะรออลุ นะฮ (ประเทศตางๆที่อยู ใกลๆ กับเตอรก ามานสิ ถาน) ซึ่งมีเชอ้ื ชาตเิ ดียวกับมารดาของเขา ไปยงั เมืองแบกแดดและศูนยก ลางการปกครอง ของสมยั น้ันและมอบอาํ นาจอยางเบ็ดเสรจ็ และอํานาจตา งๆ ของพวกเขากม็ มี ากขึน้ จนสามารถมีเครอื ขาย ครอบคลุมชาวอิหรา นและอาหรับไดท ้ังหมด มอุ ต ะซมิ มีความไววางใจและเช่อื ม่นั ตอ ชาวเติรก เปนอยา งมาก จนเขาไดม อบตาํ แหนงอาํ นาจทาง การเมอื งแกพวกเขาวันแลววันเลาอํานาจตา งๆ จึงตกอยูใ นมือของพวกเขาจนหมดสน้ิ ดว ยเหตุน้เี องพวกเขาจึงมี อาํ นาจทางการเมืองอยางเบด็ เสร็จภายในเวลาอันสน้ั ชาวเติรกทั้งหมดเปนมุสลมิ และพวกเขากเ็ คยเรียนรภู าษา อาหรบั มาดว ย พวกเขาเปนผทู ร่ี ักษาไวซ ่งึ อัล อิสลาม แตทวา นบั ตงั้ แตก ารเรมิ่ ตนเขามาของพวกเขายงั ศนู ยก ลาง แหง อารยธรรมอิสลามจนถึงชว งทีพ่ วกเขาเขากมุ อํานาจการปกครองเปนชว งเวลาที่ไมน านนัก พวกเขาจึงยงั ไม รจู ักและเขา ใจถึงวัฒนธรรมและมารยาทตางๆ รวมถึงอารยธรรมแหงอิสลามมากมายนกั และพวกเขากไ็ มเ คย พานพบกับมารยาททางวัฒนธรรมของอสิ ลามเลย ซึง่ ผิดกับชาชาวอิหรานซง่ึ พวกเขามอี ารยธรรมอนั เกา แกม า กอ น และยงั เรียนรวู ฒั นธรรม มารยาทและจรยิ ธรรมของอิสลามดวย และมกี ิริยามารยาททา ทางแบบอิสลามเปน อยางดี และยงั ถือวาตัวเองคือผูท่เี คยรบั ใชอิสลามมากอ นใครดวย ในชว งสมัยหนึ่งทช่ี าวอิหรา นข้นึ มามีอาํ นาจใน การปกครองบรรดามุสลมิ สวนมากรูสกึ พึงพอใจพวกเขา แตท วาชนชาวเติรก ในชวงระยะเวลาอนั สั้นทพ่ี วกเขา ขึ้นมามอี าํ นาจก็เพราะไมพอใจและดวยโกรธแคนเทา น้ันเอง และพวกเขามกี ริยาท่ดี รุ า ยชอบขม ขู บรรดาทหารของชาวเติรกเมอื่ พวกเขาไดข้นึ ขี่บนหลงั มา พวกเขาจะควบมนั ไปตามซอกซอยและถนนใน เมืองแบกแดดโดยไมสนใจตอสิ่งใดเลยวา จะมีผูคนอยูบ นถนนในซอยหรือไม หลายตอหลายคร้ังดวยกันจึงเกดิ เหตุการณท่ีนา สลดใจ บางคร้ังเด็กๆ ผูหญงิ หรอื ผูค นท่อี ยูในวัยชราจึงตอ งสงั เวยใหกบั ฝเทาของมา ไปหลายคน ทีเดยี ว ประชาชนจงึ รวมตวั กนั มาหามุอต ะซมิ เพ่ือขอรองใหย า ยเมืองหลวงจากแบกแดดไปอยทู อี่ น่ื เสีย และ พวกเขายังกาํ ชับพรอ มกับขอรอ งวาถาหากเขาไมย ายไปทอี่ นื่ เราก็จะทาํ สงครามกับเจา แน มอุ ตะซิมจงึ กลา ววา “พวกมนั จะเอากําลังพลที่ไหนมาทําสงครามกับฉัน? ฉันมีกาํ ลังพลที่พรอมรบตลอดเวลาถงึ แปดหมน่ื คน” พวกเขาตอบกลับมาวา “ดว ยอาวุธแหง คา่ํ คืน หมายถงึ เราจะทาํ สงครามกับทานโดยการสาปแชงใน ชว งเวลาแหง ค่าํ คนื ” เถดิ วา ! ไมใ ชเพราะชนชาติ เชือ้ ชาติ ทจ่ี ะทําใหเ ลอเลิศและประเสรฐิ ได และมใิ ชเ พราะชาชาตแิ ละเชอ้ื ชาติท่ีจะทาํ ใหต ่าํ ตอ ยได. 193
หลงั จากทีม่ อุ ตะซิมไดฟงเชนนนั้ เขาจึงยอมตกลงตามคําขอรอ งของประชาชนโดยการยายเมืองหลวงไป จากแบกแดดสูซะมัรรออในที่สุด หลงั จากมอุ ตะซิมแลว ก็มาถึงยคุ ของ วาซิก, มตุ ะวกั กลิ , มุนตะซิร และคอลีฟะฮอ่ืนๆ อีกหลายคน เชนเดยี วกนั ชาวเติรก ก็ยงั คงกุมอาํ นาจเบด็ เสร็จเชนเดมิ และคอลีฟะฮก็ยงั เปนผูท่พี วกเขาสามารถช้ีนิ้วสง่ั ได บางสวนของคอลีฟะฮแ หง ราชวงศอบั บาซียเ คยประสงคท จ่ี ะบนั่ ทอนอํานาจของพวกเขาลงแตก ็ไมเปน ผลสําเรจ็ สักครง้ั จนกระทัง่ คนหนึ่งจากบรรดาคอลฟี ะฮข องราชวงศอ ับบาซียผมู ีนามวา อัล มุอตะฎิด ทีเ่ ขาไดล งมือบน่ั ทอนอํานาจของพวกเติรกไปไดส วนหนง่ึ ในสมัยของมุอตะฎดิ มีพอ คาชราคนหน่ึงเปนเจาหนอี้ ยจู าํ นวนไมนอ ยกับนายพนั คนหน่งึ แหงกองทพั ทหาร เขาไมรูเหมือนกนั วาจะเก็บหน้ขี องตนไดด วยวิธใี ด เขาจงึ ตัดสินใจที่จะเขา พบคอลีฟะฮเ พ่ือขอความ ชวยเหลือ แตท วาเขากไ็ มสามารถท่จี ะเขาพบคอลฟี ะฮไ ดสักทเี นื่องจากถูกกีดกนั จากผทู ่ีคอยเฝาอยหู นาประตูทกุ ครง้ั พอคาชราผนู ้จี งึ หมดหนทางและหมดหวงั ไมร ูวาจะมหี นทางใดอีก จนกระท่งั มชี ายผหู นึง่ ไดแ นะนําเขา ใหไปหาชางเยบ็ ผาคนหน่ึงในตลาดนดั วันองั คาร และบอกวาชา งเยบ็ ผาผูน้ันสามารถชว ยทา นไดแน พอ คา ผนู ้นั จึงมุงหนา ไปหาชางเยบ็ ผา ทันที และตอมาชา งเย็บผาผูน ้ันก็ไดส ั่งใหน ายพันผนู ้นั จายหนี้สนิ แกพ อคาคนน้ี และ นายพนั ผนู นั้ ก็คืนเงนิ แกพ อคา ผูน้นั โดยไมม ีกริ ิยาโตตอบใดๆ เลย (อยา งไมร อชา ) เหตุการณดังกลาวไดส รางความแปลกประหลาดใจแกพ อ คา ชราคนนน้ั เปน อยา งย่ิง เขาไดซ กั ถามจาก ชา งเยบ็ ผา ผนู นั้ เชงิ ขอรอ งวา “มันเปน ไปไดอยางไร! พวกเขาเหลานน้ั จะไมฟ งเสียงผใู ดเลยแตกลบั ยอมปฏบิ ตั ิ ตามคาํ ส่ังของทานอยางไมร อชา ?” ชา งเย็บผา ไดต อบวา : มนั มคี วามเปนมาซง่ึ ฉันจะเลา ใหทานฟง ในวนั หนึ่งขณะทฉี่ ันเดินผานถนนสาย หน่ึง และในชว งเวลาดงั กลาวมีหญิงนางหน่งึ หนาตาสวยงามกําลังเดนิ ผานถนนเสนน้นั ดวยเชนกัน ดว ยความ บังเอิญขณะนัน้ มีผูพันคนหน่งึ จากชาวเตริ กซงึ่ อยูในสภาพของผูมึนเมาไดอ อกมาจากบา นของเขาและยืนอยูหนา บานเพื่อมองดปู ระชาชนที่เดนิ ผานไปมา พลันสายตาของเขาก็เหลอื บไปเห็นหญิงผูเ ลอโฉมนางน้ัน เขาไดเขา ไป สวมกอดหญิงผูนนั้ ดวยความบา คลง่ั ทามกลางสายตาของประชาชน และฉดุ กระชากหญิงผูน น้ั เขาไปในบานทันที เสยี งรองขอความชวยเหลือจากหญิงผนู ้ันดังขึน้ “โอป ระชาชนทั้งหลาย ชว ยเหลอื ฉนั ดวย! ฉนั ไมเ คยทําเชน นี้ ฉัน มีศกั ดศิ์ รพี อ สามีของฉันเขาไดสาบานเอาไววาถา หากฉนั ไมไ ดก ลับบานเพียงคืนเดียว เขาจะหยาขาดจากฉนั ” แตท วา ไมม ผี ใู ดกลาท่จี ะมาขัดขวางนายพนั ผูน นั้ ไดแ มสักคนเดยี ว ฉนั ไดเ ขาไปขางหนา นายพันผูน ้ันและพูดขอรองใหเขาปลอยหญิงผูน้ันดว ยคําพูดท่ีออนโยน แตเ ขาไดใ ช ตะบองท่ีอยใู นมือของเขาตลี งบนศรี ษะของฉนั อยา งแรงจนศีรษะของฉนั แตก และลากตวั หญงิ ผูน ัน้ เขาไปในบา น ทนั ที ฉนั จงึ ไปรวบรวมคนมาไดจํานวนหน่งึ และพากันไปยงั หนา บานของนายพันคนน้นั และขอรองใหเ ขาปลอย หญิงผูนนั้ ออกมา ทนั ใดน้นั เขาพรอมกับสมนุ ของเขากลุม หน่ึงก็กรอู อกมาจากขางในบา นและรุมทาํ รายพวกเรา จนบาดเจบ็ กันทุกคน พวกเราทุกคนจึงตองหนีหัวซกุ หัวซนุ ฉนั จึงกลับมาบานของฉัน แตฉ นั ก็ยงั คงอดเปน หว งหญงิ ผนู ้ันไมไ ด ฉนั น่งั คดิ อยูคนเดียววา ถาหากหญงิ ผนู ้นั ตอ งอยกู ับนายพันผูน ้ันจนเชา ความเส่ือมเสียก็จะติดตวั เขาไปจนตลอด ชว งการใชชีวิตของเขา และคงจะไมม ีโอกาสท่ีจะไดก ลบั ไปยังบานของตนไดเปน แน ฉนั ไดน งั่ ครุนคิดอยจู นถึง เที่ยงคืน พลนั สมองของฉนั ก็ไดคดิ แผนการหนึ่งข้นึ มาได ฉันไดก ลาวกบั ตัวเองวา “ชายผนู ้เี ขามีอาการมนึ เมา ใน คํา่ คืนนเี้ ขาคงไมรวู าอยูในชวงเวลาใดแน และถาหากวาเขาไดยนิ เสยี งอะซานในขณะน้ีเขาก็คงคดิ วาเชา แลว และ 194
คงจะปลอ ยตัวหญงิ ผนู ั้นเปน อสิ ระอยางแนน อน” และในทส่ี ดุ หญิงผูนั้นก็สามารถทจี่ ะกลบั บา นของนางไดท ัน กอ นทีจ่ ะพนคืนนนั้ ไป ฉันจงึ มุง หนาไปยังมสั ยิดอยา งเรงรบี ฉันไดไปยืนบนยอดหอคอยสูงบนมัสยดิ และกลา วอะซานดวยเสียง อันดงั พรอ มกบั คอยระแวดระวงั ตามทอ งถนนและตรอกซอกซอยไปดวย เพื่อดวู า หญงิ ผนู ัน้ ไดรบั อสิ รภาพหรือยัง พลันฉนั ไดเหน็ ทหารจํานวนหนึ่งทง้ั พลมา และพลเดินเทา ตางกรูออกมาตามถนนและตางตะโกนกันวา “ใครกนั ท่ี ออกมาอะซานในยามวิกาลเชน น้?ี ” ฉันจงึ รูสกึ กลวั มากก็เลยรบี เขาไปรายงานตวั ทันทีและกลาวกับพวกเขาวา “ฉนั เองท่เี ปนคนอะซานเมอื่ สกั ครนู ้ี” พวกเขาจงึ กลา ววา “มานเ่ี ดยี๋ วน้ี! คอลฟี ะฮรับสงั่ เรียกตัวเจา ไปพบ” ฉันไดไป และเหน็ คอลฟี ะฮน่งั คอยฉนั อยู ทา นไดก ลา วถามฉันวา “ทําไมเจาจึงมาอะซานในชวงเวลาน้เี ลา?” ฉันจึงไดเ ลา ความจรงิ ตั้งแตต น จนจบใหคอลฟี ะฮรับทราบ คอลีฟะฮจ ึงออกคําส่ังทันทใี หนาํ ตัวนายพนั และหญงิ ผูนน้ั มาหา พวกเขาจงึ ถูกนําตัวมา หลังจากทีไ่ ดส บื สวนอยูพกั หนึ่งคอลฟี ะฮไ ดอ อกคาํ สงั่ ใหป ระหารชีวิต นายพนั ทหารผูนนั้ ทนั ที และยงั ไดส งตัวหญิงผนู ้ันจนถึงบานตอ หนาสามีของนางดวย และยังกาํ ชบั วาไมใหส ามี ของนางลงโทษประการใดแกนางโดยเดด็ ขาด และจงปกปองนางใหดีท่ีสดุ วย เน่ืองจากเปน ทกี่ ระจางชัดตอหนา คอลีฟะฮแ ลววานางไมม ีความผิดใดๆ ทง้ั สิน้ ขณะน้ันเองมอุ ต ะฎดิ ไดสัง่ แกฉ ันวา “คราใดกต็ ามท่ีเจาไดพบเห็นการกดขข่ี ม เหงเชน นกี้ ็จงปฏบิ ัตภิ ารกิจ อนั สุดยอดเชนนี้ไดเลยฉนั จะจัดการดวยตวั เอง” ขา วน้ีไดแ พรกระจายไปในหมูป ระชาชน ตัง้ แตวันนั้นเปน ตนมา พวกมนั จงึ เกรงกลัวฉันกันทกุ คน และนเี่ องคอื เหตุผลที่วา ทําไมเมื่อฉนั สั่งใหเขาคืนหนส้ี นิ แกทา นแลว เขาไดปฏิบตั ิ ตามโดยไมร อชา . (1) 124 ฟอ งรอ งสามี ทานอิมามอะลี (อ.) จะคอยเปนผูรบั ฟง ปญ หาและการฟอ งรอ งตางๆ ของประชาชนดวยตัวของทา นเอง เสมอในชวงทท่ี านดํารงตําแหนงคอลฟี ะฮ (ผนู าํ ) และทานจะไมป ลอยใหเ ปนหนาท่ขี องผอู ่ืนเลย โดยปกตแิ ลว ในชว งหนา รอ นประชาชนตา งก็จะพักผอนอยใู นบานกันเม่อื เวลาบา ยยา งเขา มา แตทา นอมิ ามอะลี (อ.) ไดอ อกมา จากดารุลอามาเราะฮ (สถานท่ีท่ีผนู าํ อาศัยอยู) และนงั่ อยูใตรมเงาของกําแพงแหงหน่ึง ซึ่งบางทีอาจจะมีใครบาง คนมีเรอื่ งเดือดเนือ้ รอ นใจหรอื ตองการฟองรอ งเก่ยี วกับผใู ดเขากจ็ ะสามารถฟอ งรองกับทานอมิ ามไดโ ดยตรง และ บางคร้งั ทา นจะเดินไปตามถนนตรอกซอกซอยเพื่อทจี่ ะสอดสอ งดูแลสถานการณตา งๆ โดยรวมอยางใกลชิด ในวันหนงึ่ ทม่ี ีอากาศรอนมาก ทานรูส ึกเหนื่อลาและเหงือ่ ไหลออกอยา งมาทานจึงมุงหนากลบั สูสถานที่ ทําการของทา น เมือ่ ใกลถ งึ ทา นไดเห็นสตรผี หู น่ึงยนื อยูหนาประตู และเมื่อสตรผี นู ้ันเหน็ ทานอมิ ามอะลี (อ.) นาง จึงรบี วงิ่ เขา มาหาและกลาววา “ฉนั มเี ร่อื งหนง่ึ ที่จะฟอ งรอ งตอทาน สามขี องฉนั เขาไดก ดขข่ี ม เหงฉนั เขาไดไ ลฉัน ออกจากบา นพรอมกับขูทีจ่ ะทํารายฉนั ดวย และถาหากฉนั กลบั ไปบานเขาจะทํารายฉนั แนๆ ดงั น้ันฉันจึงตองมา ฟองรอ งจากทานขณะนี้” อมิ ามอะลี (อ.) “โอบ า วแหง อลั ลอฮเอย! ขณะน้ีอากาศกําลงั รอ นมาก จงคอยสักพกั เถดิ ใหอากาศเยน็ ลงสกั หนอยนา จะดีกวา ฉนั จะไปกับเจา อยางแนนอนโดยประสงคของพระองค และจัดการเรือ่ งของเจาให” (1) ซฮุ รุล อิสลาม เลม 1 หนา 32, 33. 195
สตรนี างน้ัน “ไมไ ดเลย! เพราะถาหากฉันออกมานอกบานนานจะยงิ่ ทาํ ใหส ามีของฉนั โมโหหนักเขา ไป อีก และเขากต็ องรงั แกฉนั มากยิ่งขึ้นแน” ทา นอมิ ามอะลี (อ.) ไดก ม หนา ลงมองพนื้ และเงยหนาข้นึ มาอกี คร้งั ในขณะทป่ี ากของทา นพมึ พาํ ออกมา วา “ไม! สาบานตอ อัลลอฮ (ซบ.) วา การจดั การและการแกไ ขปญหาของผทู ีถ่ กู ดกขจ่ี ะไมม ีการลาชาเปนอนั ขาด การนําสิทธขิ องผูท ถ่ี กู กดขจี่ ากผูกดขีจ่ ะตองมีข้นึ อยางแนน อน และจะตอ งนาํ ความกลัวท่ีผกู ดขี่สรางไวแ กผ ูถกู กด ข่ีออกจากหัวใจของผถู กู กดข่ีใหจงได เพอื่ ทีเ่ ขาจะไดส ามารถยืนหยดั อยูเ บ้อื งหนา ผูกดข่โี ดยปราศจากความกลัว ใดๆ และเรยี กรองสทิ ธิของเขากลบั คืนมา” (1) ทา นอิมามอะลี (อ.) “ไหนบอกมาซิวา บา นของเธออยูท ไ่ี หน?” สตรีผูน้ัน “ทน่ี ั่นคะ” ทานอิมามอะลี (อ.) “ไปเราไปดวยกัน!” ทา นอมิ ามอะลี (อ.) จึงออกเดินทางมุง หนา สบู านของสตรีผูนนั้ พรอมกบั นางทนั ที เมอ่ื ไปถงึ หนาบาน ทานอิมามอะลี (อ.) ไดต ะโกนดว ยเสยี งอนั ดงั วา “โอเ จา ของบา น! อัสสะลามอุ ะลัยกุม” มชี ายผหู นงึ่ ออกมาทนั ที ซ่งึ เปน สามีของสตรีผูนน้ั นั่นเอง กอนหนา น้ีชายหนมุ ผนู นั้ ไมเ คยรูจ กั ทา นอมิ ามอะลี(อ.)มากอ นเลย เขามองดชู าย ผสู ูงอายซุ ึ่งมอี ายุประมาณหกสิบปเ หน็ จะไดซ ึง่ มาพรอมกบั ภรรยาของเขา เขาจึงเขา ใจทนั ทวี่ า ภรรยาของเขาได นาํ ชายผูนม้ี าเพื่อปรบั ความเขาใจและเคลียปญหากบั เขาอยางแนน อน แตเขาก็ไมปริปากพดู อะไรออกมา ทานอิ มามอะลี (อ.) จึงกลาววา “สตรีนางนคี้ อื ภรรยาของทาน เขาไดมาฟอ งรอ งฉนั เกย่ี วกับทาน นางกลา ววา ทา นไดก ด ขข่ี ม เหงนางและขบั ไลไสสง นางออกจากบา นพรอมท้ังขอู าฆาตจะทาํ รายรา งกาย ฉันจึงมาหาทานเพอื่ ที่จะบอก วา จงเกรงกลวั อัลลอฮ (ซบ.) เถิด และจงปฏิบัติกบั นางดว ยดี จงเมตตาปรานีแกน างเถิด!” ชายหนมุ ผูนั้นตอบวา “แลวมันกงการอะไรของทานทีฉ่ ันจะตองทําดีหรือทําไมดีตอภรรยาของฉนั เอง ใช! ฉนั ขูจะทาํ รายเขาดว ย และขณะทีน่ างไปหาทา นและพาทา นมาเพอื่ ชว ยพูดแทนนาง ฉันจะเผานางทั้งเปนใหดู” ทา นอมิ ามอะลี (อ.) รสู กึ ไมพอใจย่งิ นกั ตอความกราวราวของชายหนมุ ผูน ้ที เี่ ขาไดแสดงออกมา ทานจึง เออื้ มมอื ไปจบั ดาบและดงึ ออกจากฝกทันทแี ละกลา วออกมาวา “ฉนั ไดตักเตือนเจา! และฉันไดชกั ชวนใหท าํ ความ ดีและหา มปรามความชั่วรา ย แตเจา กลับตอบฉันเชนนีห้ รือ? และยังมหี นา มากลา วอยา งไมคดิ อกี วา จะเผาหญงิ ผู น้ีทง้ั เปน เจา คิดหรือวา ดุนยานจี้ ะมีสิ่งนเี้ กิดข้นึ ไดงายๆ?” คาํ ตะโกนของทา นอิมามอะลี (อ.) เสียงดงั จนทาํ ใหป ระชาชนแถวนัน้ ตางมารมุ ลอมดู ทกุ คนที่เขามา ตางยนื อยางใหเ กยี รติย่งิ ตอ หนาทา นอิมามอะลี (อ.) และกลาววนั วา “ขอความสันตสิ ุขจงมีแดท าน โออมรี ลุ มุอ มนี นี ” ชายหนุม ผูโ อหงั เพิ่งรูตวั วาเขากําลังอยูต อ หนา ผูใด เขาจงึ ถอ มตนลงและขอรองวา “โออมีรุลมุอมินนี ! โปรดอภัยใหแกฉ นั ดวย ฉนั ขอสารภาพผดิ ทกุ อยาง ฉันขอสญั ญาวา ตง้ั แตน ี้เปนตนไปฉนั จะปฏิบัติและเชอ่ื ฟง คําพูดของภรรยาของฉันอยา งแนนอน ไมว าเขาจะกลาวสิ่งใดฉันจะยอมรับฟง” (1) ตัวบทจรงิ ๆ คือ … ประโยคน้ีทานอิมามอะลี (อ.) ไดอางจากคําพดู ของทานรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ทา นอิมามอะลี (อ.) และซอฮาบะฮอ ีกหลายทา นไดร ายงานวา ทานรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดก ลา วเสมอวา “ไมมปี ระชาชาติใดเลยท่คี ูควรแกการใหเกียรตนิ อกเสยี จากวา เขาจะนําเอาสทิ ธิของผูออนแอจากผูท่ีแขง็ แรง (ผูมี อาํ นาจ) ใหไดเสียกอ น โดยพวกเขาเหลา น้นั สามารถทจ่ี ะเรียกรองสทิ ธขิ องพวกเขาไดโ ดยไมมคี วามเกรงกลัวสิ่ง ใดๆ (สามารถที่จะพูดโดยไมเ กรงกลัว)” (จาก กาฟย อมั ริบิลมะอร ูฟ วะนะฮอี ะนลิ มุงกัร, นะฮุล บะลาเฆาะฮ คําสง่ั ของมาลิกอซั ตรั ) 196
ทานอิมามอะลี (อ.) ไดหนั หนา ไปทางสตรนี างนั้นและกลาววา “เจา เขาไปอยูในบา นของเจา ไดแ ลว แต เจา ก็จงระวังตัวเองดวยซึง่ อยา งไดกระทาํ กริยาที่เปน เหตุใหเขาตอ งปฏบิ ัตเิ ชน นเ้ี ชนเดยี วกนั ” .(1) 125 ภารกจิ ตางๆ ภายในบา น หลังจากท่ีทา นอิมามอะลี บนิ อบีฏอลบิ (อ.) และทา นหญงิ ฟาฏมิ ะฮ ซะฮร อ (อ.) ไดสมรสและใชชีวติ คู รวมกนั แลว ทานทง้ั สองไดย กหนาทใี่ นการแบงภารกิจตางๆ ในบา นใหอ ยูในดุจพนิ จิ ของทา นรอซลู ุลลอฮ (ศ็อลฯ) ทา นทงั้ สองไดก ลาวแกท านรอซูลุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) วา “โอรอซลู ุลลอฮ! (ศอ็ ลฯ) เราตองการใหท านเปน ผูแบง ภารกจิ การงานในบานของเราทัง้ สอง” ทา นรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) จึงแบง ภารกิจตา งๆ ภายนอกบา นใหเ ปนหนา ทขี่ องอมิ ามอะลี (อ.) และให ภารกิจตางๆ ภายในบานเปน หนาทีข่ องทานหญิงซะฮรอ มัรฎยี ะฮ(อ.) ทงั้ ทานอิมามอะลี (อ.) และทานหญิงฟาฏิ มะฮ (อ.) ตางพึงพอใจย่งิ นักท่ีทานรอซลู ลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดเ ขามามีสวนเกี่ยวขอ งในการใชชวี ติ คขู องทานท้ังสอง และไดยอมรบั และจดั การแบงภารกจิ ตา งๆ ใหแ กท า นทงั้ สองดวยความเมตตาปรานีและดว ยความรกั อนั สุดซ้ึง โดยเฉพาะทานหญงิ ฟาฏิมะฮ (อ.) ดีใจอยางออกนอกหนาทที่ านรอซลู ุลลอฮ (ศ็อลฯ) ไดยกเวน ทา นจากภารกจิ ตา งๆ ภายนอกบานโดยทานไดกลา ววา “ฉันดีใจมากทท่ี า นรอซูลลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ไดย กเวน ฉันจากภารกิจการงาน ตางๆ ท่ีจะตองออกไปพบปะกับผูชาย” ต้งั แตวันน้นั เปน ตน มากจิ การตา งๆ เชน การนําน้ํามายงั บา น การตระเตรยี มอาหาร เช้อื เพลิง การ จบั จายตลาด คือหนาทขี่ องอมิ ามอะลี (อ.) และกิจการงานตา งๆ เชน การโมแ ปงจากขาวสาลแี ละขาวฟางกบั เคร่อื งโมด วยมอื การปรงุ ขนมปง ทาํ อาหาร ซักเส้ือผา และทาํ ความสะอาดบาน ตกอยกู ับทานหญิงฟาฏมิ ะฮ ซะฮ รอ (อ.) และในขณะเดียวกัน ถาหากทา นอมิ ามอะลี (อ.) มีเวลาวางทานกจ็ ะลงมือชว ยทานหญิงฟาฏิมะฮ ซะฮ รอ (อ.) ในกิจการงานภายในบา นอยูเปนประจํา วนั หน่ึงทา นรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) ไดม าหาบุคคลทั้งสองทบี่ า นและ ทา นไดเหน็ ทั้งสองกําลังทาํ งานกันอยู ทา น (ศ็อลฯ) จึงถามขนึ้ วา “ระหวา งเจาทง้ั สองใครเหน่ือยกวากัน เพอ่ื ท่ีฉัน จะไดชว ยผนู ั้น?” ทา นอมิ ามอะลี (อ.) รบี ตอบทันทีวา “โอร อซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) ซะฮรอ (อ.) เหน่ือยกวา” ทานรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) จงึ ใหท านหญงิ ฟาฏิมะฮพกั ผอนและทานกไ็ ดทํางานแทนทา นหญิงฟาฏมิ ะฮ (อ.) ทันที และเชน เดียวกันเม่ือใดก็ตามที่ทานอิมามอะลี (อ.) มีภารกจิ มากมายหรือตอ งเดินทางรอนแรมไปไกล หรือมกี ารญฮิ าด (สงครามเพ่อื อัลลอฮ) เกดิ ข้นึ ทานกจ็ ะออกไปปฏิบตั ภิ ารกิจนอกบานแทนทานอิมามอะลี (อ.) วธิ ีการเชนนี้ถูกปฏิบัติเรอ่ื ยมา ทานอิมามอะลี (อ.) และทานหญงิ ฟาฏมิ ะฮ (อ.) จะปฏบิ ตั ิหนาที่ของตนดว ยตัวของทา นเอง และทานทั้ง สองเหน็ วาไมม ีความจําเปนทจ่ี ะตอ งมีคนรบั ใชแตอยา งใด จนกระท่ังท้งั สองมบี ุตรคนหน่ึงซง่ึ เปนเด็กนอยทีเ่ ปน (1) บฮิ ารลุ อันวาร เลม 9 หนา 598 พมิ พเ บรตุ . 197
สดุ ท่รี กั ที่ไดถอื กําเนดิ มาในบา นหลังเล็กๆ หลงั หนึง่ แตท วามนั เปนแสงสวางและเต็มไปดว ยความบริสทุ ธผิ์ ุดผอง สาํ หรับทา นท้ังสอง เปน ธรรมดาอยเู องในชวงเวลานัน้ เองภารกิจตา งๆ ภายในบานจึงมีมากขึน้ กวา เดิม และทาน หญงิ ฟาฏิมะฮ ซะฮรอ (อ.) จึงตอ งเหนอื่ ยเพม่ิ ข้นึ อกี วนั หน่ึงทา นอมิ ามอะลี (อ.) รสู ึกสงสารทานหญงิ ฟาฏิมะฮ ซะฮรอ (อ.) ภรรยาของทานเปนอยา งยิง่ ซ่งึ ทา นไดมองเห็นเสือ้ ผาของทา นหญิงฟาฏมิ ะฮเ ปรอะเปอ นไปดว ยฝุนและเขมา ควันอนั เนอ่ื งมาจากการทาํ ความ สะอาดภายในบา นและภารกจิ ตางๆ ในครวั มหิ นําซํา้ การที่ทา นหญิงฟาฏมิ ะฮ (อ.) ไดโมแ ปงเพ่อื ปรงุ เปนขนมปง ดว ยมอื ของทานจนมือของทา นแตก และรองรอยของสายเชอื กท่ีประทบั อยบู นบาของทานในยามท่ที านตองแบก น้าํ จากขา งนอกเขา มาในบานดวยระยะทางที่แสนไกล ทานจึงเสนอแกภรรยาสุดทีร่ ักของทานวา จงไปหาทา นรอซู ลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) และขอคนรับใชจากทานสกั คนเพอ่ื ท่ีจะไดม าชว ยแบงเบาภาระของเธอไดบ าง ทา นหญิงฟาฏมิ ะฮ ซะฮรอ (อ.) รบั ฟง ขอเสนอของทา นอมิ ามอะลี (อ.) ทา นจงึ ออกมงุ หนาไปยังบานของ ทา นรอซูลุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) แตด วยความบงั เอญิ ในวันน้ันทบ่ี านของทา นรอซลู ุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) มผี คู นมาหาทานหลาย คนและกาํ ลังนงุ พดู คุยกนั อยู ทา นหญงิ ฟาฏมิ ะฮ ซะอฮร อ (อ.) จงึ รสู ึกละอายแกใจทีจ่ ะบอกถึงความตองการของ ตนกับทานรอซูลุลลอฮ(ศ็อลฯ) ตอ หนาผูคนมากมาย ทา นจงึ กลับบานทนั ที แตท านรอซูลลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) รวู า ทาน หญิงฟาฏมิ ะฮ ซะฮรอ (อ.) มาหาทา น และทา นกเ็ ขา ในทนั ทวี า บตุ รสาวของทา นมาหาคงจะมธี รุ ะอนั ใดอยาง แนนอน แตเธอเหน็ วามใิ ชเ วลาอันเหมาะสมท่จี ะกลา วธุระจึงไดห วนกลับบา นไป วนั รงุ ขนึ้ ทานรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) จึงไปยงั บา นของทานหญิงฟาฏิมะฮ (อ.) ดวยความบงั เอิญทา นอิ มามอะลี (อ.) และทานหญิงฟาฏมิ ะฮ (อ.) กาํ ลังพกั ผอ นอยู และมีผาหม ผนื ใหญปกคลมุ บุคคลท้ังสองอยใู น ขณะน้ัน ทา นรอซลู ุลลอฮ (ศ็อลฯ) ไดต ะโกนดวยเสยี งอนั ดังจากขา งนอกบา นวา “อสั สะลามุอะลัยกมุ ฯ” ทา นอมิ ามอะลี (อ.) และทา นหญงิ ฟาฏมิ ะฮ (อ.) รสู ึกละอายจึงมิไดต อบรบั สลามออกไป ทานรอซู ลุลลอฮ (ศ็อลฯ) จึงกลา วเปน ครั้งท่ีสองวา “อสั สะลามอุ ะลยั กมุ ฯ” ทา นท้งั สองก็ยังคงไมต อบรับสลาม ทานรอซู ลุลลอฮ (ศ็อลฯ) จงึ กลาวอีกเปน ครงั้ ท่สี ามวา “อสั สะลามอุ ะลัยกุมฯ” เปนธรรมดาแลวเมอ่ื ทานรอซูลุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดไ ปยังบา นของผูหนึง่ ผูใดทา นจะกลาวใหสลามดวย เสยี งอนั ดังจากหนาประตูบา นทุกครง้ั ถาหากมเี สียงตอบรบั สลามดงั ออกมาทา นก็จะขออนุญาตเขา ไปขา งใน แต ถาหากไมมีเสียงตอบดังออกมาทานก็จะกลา วสลามซ้ํากนั สามครั้ง และถาหากยังไมมเี สียงตอบออกมาอีกทา นก็ จะกลับทนั ที ดงั นน้ั ทานอมิ ามอะลี (อ.) เห็นวาถา หากไมต อบรบั สลามของทานรอซูลุลลอฮ (ศ็อลฯ) ในคร้ังท่ีสาม ทานรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) ก็คงจะกลบั แนน อน และนัน้ หมายความวา ทานกต็ องเสียโอกาสอนั ดงี ามจากความสงู สง ของการมาเยอื นของทานรอซูลลุ ลอฮ (ศอ็ ลฯ) ทา น (อ.) จงึ ตะโกนตอบแกทา นรอซูลุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) ดว ยเสียงอัน ดังทนั ทีว่ า “วะอะลัยกัสสะลาม ยารอซูลุลลอฮ เชิญขา งในครับ” ทานรอซูลุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดเ ขา ไปขางในทนั ทีและเขา ไปนงั่ ใกลๆ กับบุคคลทงั้ สอง และไดกลา วแกทา น หญงิ ฟาฏิมะฮ ซะฮรอ (อ.) วา “เม่ือวานเจา ไปหาฉนั และกลับบา นมา ฉนั คิดวาเจาคงมีธุระแนน อน ไหนลองวามา ซิ!” ทา นอิมามอะลี (อ.) กลาววา “โอรอซลู ุลลอฮ! โปรดอนญุ าตใหฉ ันเปน คนพูดเองเถิดวา ฟาฏมิ ะฮไดไป หาทานดวยธรุ ะประการใด ฉันไดส งฟาฏิมะฮ (อ.) ไปหาทา นกเ็ นอ่ื งจากฉันไดเ ห็นวาในขณะนี้ภารกจิ ตา งๆ ภายในบานนนั้ มีมากข้ึนกวาเดิม ซึ่งฟาฏมิ ะฮตองตรากตรําทาํ งานมากขนึ้ ฉนั จึงรสู กึ สงสารเธออยางจบั ใจ ฉนั เห็น ดวยตาของฉันเองวา เสื้อผา ของเธอนัน้ เปรอะเปอ นไปดวยฝุน และเขมาควนั เนอื่ งจากการทาํ ความสะอาดบานและ 198
การหุงหาอาหารในครวั มือของเธอตอ งแตกเน่อื งจากการท่ีเธอตองนง่ั โมแ ปง ดวยมอื ของนางเอง รอ งรอยของการ หาบนํ้ามาใชท ่ีบานมีใหเ ห็นอยบู นบาของเธอ ฉนั เลยบอกแกเธอวาใหไปหาทา นเพ่ือท่ที านจะไดมคี าํ ส่ังแกเรา เพื่อใหมคี นรับใชสกั คนหนึ่งตัง้ แตน้ีเปนตนไป ซ่ึงจะไดช ว ยแบง เบาภาระของซะฮร อ (อ.) ไดบาง” ทานรอซูลลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) เองไมต องการทจ่ี ะใหการใชชวี ติ ของทานและสุดที่รักของทานมสี ภาพการใช ชีวติ ทเี่ หนือกวา ผูยากไรในหมูประชาชาติ (ทีพ่ วกเขามีปจจัยยังชีพอันนอ ยนิด) ของทา นเอง เน่ืองจากนครมะดี นะฮใ นชวงสมัยน้นั ประชาชนอยูกันแบบผยู ากไรขาดแคลนท้งั สนิ้ โดยเฉพาะชาวมุฮาญิรีนจํานวนหน่ึงที่มกี ารใช ชีวิตที่ยากลําบากอยางย่ิง และอีกดานหนงึ่ เทาที่ทานรอซลู ลุ ลอฮ (ศ็อลฯ) รเู กย่ี วกับจิตวิญญาณของบตุ รีของทาน คนนีค้ ือซะฮร อ (อ.) นน้ั มคี วามรักตอ การอบิ าดะฮและมะอนาวยี ะฮย งิ่ นัก และการราํ ลกึ ถงึ อลั ลอฮ (ซบ.) นั้นได สรางความดใี จและสดใสแกเธอเปนอยา งนิ่ง ดวยเหตนุ เ้ี องทา นจึงกลาววา “จะเอาหรือไมถาฉันจะสอนสิ่งหน่ึงแก เจาทง้ั สอง ซ่งึ มันเปน ส่ิงประเสริฐกวา สงิ่ เหลานี้ท้ังหมด?” ทานหญงิ ฟาฏมิ ะฮ (อ.) และทานอมิ ามอะลี (อ.) ตอบวา “เชญิ ครับ! โอร อซลู ลุ ลอฮ” ทา นรอซลู ุลลอฮ (ศอ็ ลฯ) กลา ววา “ทุกครั้งท่ีเจา ทัง้ สองจะเขา นอน อยาลืมที่จะกลาว ‘ซุบฮานัลลอฮ’ 33 ครงั้ และ ‘อลั ฮัมดุลิลลาฮ’ อีก 33 ครงั้ และ ‘อลั ลอฮุอักบัร’ อกี 34 คร้งั ซ่ึงประโยชนทีจ่ ะบงั เกิดกบั จิต วิญญาณของเจา เนือ่ งจากการปฏิบัติอะมลั้ น้ี ดีกวาและมากกวา ประโยชนท่เี จา จะไดรบั จากผรู ับใชใ นการใชชีวิต ของเจา เสยี อกี ” ซง่ึ ในขณะน้นั เองทา นหญิงฟาฏิมะฮ ซะฮรอ (อ.) ยังมิไดลกุ ออกมาจากผา หมเลย ทา นไดลุกขน้ึ มาดวย ความดีใจและกลาวสามคร้งั ติดตอ กนั วา “ส่ิงใดกต็ ามท่อี ลั ลอฮ (ซบ.) และศาสนทูตของพระองคทรงพงึ พอใจ ฉัน กพ็ ึงพอใจเชนกัน” .(1) (1) บฮิ ารุล อนั วาร เลม 10 หนา 24, 25. 199
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200