Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เมื่อลูกสาวแม่เป็นมุสลิม

เมื่อลูกสาวแม่เป็นมุสลิม

Published by thaiislamlib.com, 2022-06-08 02:24:32

Description: เรื่องราวของสาวอเมริกันเมื่อเข้ารับอิสลาม

Search

Read the Text Version

ฉนั ตดั สินใจอยา่ งดีที่สดุ ในชีวติ ท่ีรับอสิ ลาม พวกเขาปฏิเสธทจ่ี ะรับรู้วา่ เราเองก็เช่ือในพระผ้เู ป็นเจ้า และดงั นนั้ เราจงึ เช่ือวา่ เราจะต้องลงนรก ฉนั เกลยี ดความดอื ้ ดงึ ของพวกเขาเสยี จริง แมไ่ มใ่ ห้เกียรตใิ นความคิดเหน็ ไมว่ า่ ในเร่ืองใดๆ ของสามีของฉนั เม่อื ฉนั พยายามพดู ถงึ ศาสนาคริสต์กบั แม่ เพื่อให้เรื่องตา่ งๆ เปิ ดเผยออกมา แมก่ ป็ ฏิเสธท่ีจะพดู ถงึ มนั ทา่ นจะไมส่ นใจจดุ ยืนของเราเสียด้วยซา้ สามขี องฉนั แขง็ กร้าวมากและมีความคาดหวงั สงู ในเวลาที่มีการพดู คยุ หรือถกเถียงกบั ผ้คู น แตเ่ ขามีความต้องการอยา่ งมากท่ีจะให้แมไ่ ด้มองเหน็ ในด้านของเรา เขาไมต่ ้องการยอมแพ้ แม้มนั จะรุนแรงไปจนถงึ การตะโกนใสก่ นั แตแ่ มเ่ ป็นคนท่ีไมต่ ้องการให้ใครมายืนขนึ ้ ตอ่ หน้าทา่ น ซง่ึ ไมใ่ ช่ฉนั สามีของฉนั ไมเ่ ข้าใจวา่ บางส่ิงที่ชดั เจนสาหรับเขา อาจจะไมใ่ ชส่ าหรับคนอนื่ ๆ  พวกเขาไมไ่ ด้ให้ความเห็นใดๆ ทงั้ สิน้ ตอ่ การทฉ่ี ันสมรสกบั มสุ ลมิ เมือ่ ตอนแรกท่ีฉนั สมรสนนั้ สมาชิกในครอบครัวบางคนของฉนั บางสว่ นปฏิเสธมนั โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณุ ตา ไมใ่ ชเ่ พราะเขาเป็นมสุ ลมิ แตเ่ พราะเขาไมใ่ ชอ่ เมริกนั ทา่ นไมต่ ้องการ ”คนตา่ งชาติท่ีสมควรประณาม” คนหนงึ่ ในครอบครัว ท่านไมพ่ ดู กบั ฉนั อย่หู ลายเดอื น แตภ่ รรยาของคณุ ตารู้เร่ืองนีเ้ข้า และบอกทา่ นวา่ เป็นเร่ืองท่ีไมถ่ กู ไมว่ า่ จะให้เร่ืองดาเนินไปและปลอ่ ยไว้อย่างนนั้ หรือคณุ ตาอาจจะเสียฉนั ไป ครัง้ หนง่ึ ญาตๆิ แนะนาวา่ สามีของฉนั ควรเข้ารีตเป็นคริสเตยี น ครอบครัวเราไมไ่ ด้สนิทกนั จนสามารถถกเกียงในเรื่อนีไ้ ด้ มนั เหมือนกบั เป็ นการพดู คยุ กนั แตภ่ ายนอก ครัง้ หนงึ่ น้องชายซงึ่ ออ่ นกวา่ ฉนั ห้าปี ถามสามขี องฉนั เกี่ยวกบั ความเชื่อของมสุ ลมิ แตพ่ อ่ ก็ให้เขารู้ทนั ทีวา่ ไมต่ ้องพดู คยุ กนั เรื่องนี ้ ดงั นนั้ จงึ เป็นทีร่ ู้กนั แตแ่ รกเลยวา่ เรื่องศาสนาไมใ่ ช่หวั ข้อของการพดู คยุ ฉนั บอกกบั สามวี า่ ฉนั ต้องการท่ีจะไมใ่ ห้มนั เป็นเชน่ นี ้แตก่ ็มกี ารกระทบกระทง่ั ทางความรู้สกึ มากเหลือเกิน  พ่อกบั แมต่ ้องยอมรับการเปลย่ี นแปลงของฉนั ฉนั จะไมก่ ลบั ไปเป็นคริสเตยี น หรือพวกอเมริกนั เพียงเพื่อพวกเขา พวกเขาไมเ่ ปิ ดใจกว้าง แตฉ่ นั ก็ทาดีที่สดุ แล้วในการรักษาและธารงการติดตอ่ สมั พนั ธ์ไว้ ในวิถีทางท่ีเราจะเลือกได้ ฉนั หวงั วา่ พอ่ กบั แม่ และผ้ทู ไ่ี มใ่ ชม่ สุ ลิมทงั้ มวล จะค้นพบอสิ ลาม ฉนั เองกย็ อมรับความจริงที่วา่ ปัจเจกบคุ คลจะต้องรับผิดชอบในการกระทาของตนเอง และจะต้องลิม้ รสกบั สิ่งท่ีทาลงไป ฉนั ไมพ่ ยายามที่จะผลกั ไสครอบครัวของฉนั หรือใครกต็ ามไปสสู่ ่ิงใดสิ่งหนึ่ง หากพวกเขาทาให้ฉนั ราคาญใจ ซง่ึ เกิดขนึ ้ บอ่ ยครัง้ ฉนั ได้แตว่ งิ วอนเกี่ยวกบั เรื่องนนั้ และพยายามไมใ่ ห้มนั มาบน่ั ทอนตวั ฉนั  ยงั คงมชี ่องว่างเบือ้ งหลงั เหลอื อยู่ ซงึ่ ทาให้ฉนั เศร้าใจ และขาดความรู้สกึ หรือการเข้าใกล้ชิดกบั แม่ น้องสาวและเพื่อนๆ

และการใกล้ชิดกบั คณุ ยาย ซงึ่ พยายามอย่างหนกั ท่ีจะเข้าใจและยอมรับฉนั และวิถีชีวติ ของฉนั แตย่ งั ไมป่ ระสบผลสาเร็จ  ฉนั ยงั ไมป่ ระสบความสาเร็จกบั พ่อแม่ เดือนพฤศจิกายนท่ีจะถงึ นี ้กเ็ กือบสามปี แล้ว ท่ีพวกเขาไมไ่ ด้พบฉนั และกไ็ มม่ อี ะไรจะทาเกี่ยวกบั เราด้วย พี่ชายของฉนั ทาเช่นเดยี วกนั ป้ ายงั พดู กบั ฉนั แตพ่ ดู ถงึ ความศรัทธาของฉนั คล้ายกบั วา่ เป็นของซาตาน ฉนั ไมต่ ้องกงั วลเก่ียวกบั เรื่องวนั หยดุ กบั ครอบครัว เพราะมากกวา่ สามปี แล้วท่ีฉนั ไมไ่ ด้ติดตอ่ สมั พนั ธ์อะไรกบั ครอบครัว  การตดั สนิ ใจท่จี ะรับอสิ ลาม นาผลกระทบที่ผสมปนเปกนั หลายประการ มาสคู่ รอบครัวของฉนั พอ่ กบั แมเ่ ลีย้ งของฉนั (แมฉ่ นั เสียชีวติ ) ปฏิเสธฉนั อย่างสิน้ เชิง เพราะเร่ืองนี ้เราไมพ่ ดู กนั มากกวา่ 5 ปี คณุ ป่ กู บั คณุ ยา่ ทาให้ฉนั รู้สกึ วา่ ทา่ นต้อนรับฉนั เสมอ แตท่ ่านไมพ่ ดู ถงึ ความจริงที่ท่านไมเ่ ห็นด้วยอย่างยิ่งตอ่ ส่งิ ที่ฉนั กระทา สตรีเหลา่ นีอ้ าจจะไมไ่ ด้รับการสนบั สนนุ จากครอบครัว ในสถานการณ์ใดๆ กต็ ามท่ีพวกเธอเลอื กให้กบั ตวั เอง แตแ่ น่นอนพวกเธอจะต้องเข้มแข็งท่ีจะทามนั โดยไมม่ กี ารสนบั สนนุ จากครอบครัวเดิม อาจจะมีความเคลื่อนไหวที่ดีในด้านความสมั พนั ธ์เม่อื เวลาผา่ นไป วกิ ฤตการณ์ของครอบครัว จิตใจที่เปลีย่ นไปและชยั ชนะของความต้องการ ล้วนเป็นแรงผลกั ดนั เลก็ ๆ น้อย สาหรับการฟื น้ ฟคู วามสมั พนั ธ์ การยอมรับไม่ใช่เรื่องของครอบครัว มีสตรีสองคนที่กลา่ ววา่ ไมม่ สี มาชิกของครอบครัวคนใดท่ีพดู ถงึ เร่ืองการเข้ารับอสิ ลามของเธอ พวกเขาล้วนแตร่ ู้สกึ วา่ ธุระไมใ่ ช่ และถ้าการตดั สินใจของลกู สาวถกู รบกวน มนั กเ็ ป็นปัญหาของครอบครัวไมใ่ ชป่ ัญหาของเธอ  ผลกระทบตอ่ สมาชิกในครอบครัวของฉนั นนั้ ไมป่ รากฏ ฉนั เป็นผ้ใู หญ่แล้ว และฉนั ก็เลือกสิ่งที่ฉนั ต้องการ เราปฏิบตั ติ อ่ ตวั เองในฐานะเป็นผ้ใู หญ่ และไมต่ ้องขออนญุ าตในการใช้ชีวติ ศาสนาไมใ่ ช่เรื่องภายนอกของชีวิตพ่อกบั แม่ และเราจะไมค่ ยุ กนั เรื่องศาสนายกเว้นแตถ่ กู ถาม เมื่อเราย้ายไปตา่ งประเทศ ฉนั หวงั วา่ พวกเขาจะเข้าใจ แต่ถ้าไม่ นน่ั กเ็ ป็นเรื่องที่พวกเขาจะต้องจดั การเอง  การเป็นมสุ ลิม กไ็ มม่ ผี ลกระทบตอ่ ความสมั พนั ธ์ของฉนั กบั ครอบครัวแตอ่ ยา่ งใดเชน่ กนั พวกเขารู้วา่ จะยอมรับหรือปฏิเสธศาสนาของฉนั ไม่วา่ ทางใดพวกเขากไ็ มไ่ ด้รับผลกระทบ สามีของฉนั (ยงั ไมไ่ ด้เป็นมสุ ลมิ ) ยอมรับการตดั สินใจของฉนั ในฐานะเป็นคนๆ หนง่ึ

ฉนั อาศยั อย่ทู างตะวนั ตก (ของสหรัฐอเมริกา) และญาติๆ ของฉนั อาศยั อย่ทู างตะวนั ออกและตะวนั ตกตอนกลาง ฉนั รู้สกึ ราวกบั วา่ พวกเขาจะไมม่ ีวนั เข้าใจอย่างทะลปุ รุโปร่ง แตเ่ ม่ือพวกเขาพบวา่ ฉนั เป็นมสุ ลมิ และไมม่ ใี ครมอี ิทธิพลเหนือตวั ฉนั ในการเลอื ก พวกเขาจงึ ยอมรับวา่ พระผ้เู ป็นเจ้าทรงนาทางผ้ทู ่ีพระองค์ทรงประสงค์ ไมม่ ีตวั อยา่ งท่ีตอบแบบสารวจ ซง่ึ แสดงวา่ สตรีเหลา่ นีเ้ข้ารับอสิ ลาม เพื่อทาให้พ่อแม่ ครอบครัวโกรธ หรือพยายามเอาคนื พวกเขาไมว่ า่ ในวถิ ีทางใด เกือบทงั้ หมดรู้วา่ ความสมั พนั ธ์จะเกิดความตงึ เครียด ด้วยการกระทาของพวกเธอ และพยายามหาทางเพื่อทาให้ขา่ วการเข้ารับอสิ ลามของพวกเธอน่มุ นวลลง แตส่ าหรับสตรีเหลา่ นี ้ ความศรัทธาที่ถกู ค้นพบใหมน่ มี ้ ีคา่ แม้ต้องสญู เสียครอบครัว ถ้านนั้ เป็นวถิ ีทางเดยี วที่เป็นไปได้ พวกเธอได้เลอื กทางเดินของตน และตงั้ ใจที่จะเดนิ เข้าไปข้างใน

5. การเดนิ ทางในเส้นทางในเส้นทางแห่งการเป็ นมุสลมิ การใช้ชีวิตและปฏิบตั ติ ามหลกั การอิสลาม ฉนั คิดวา่ การเผชิญหน้ากบั ความเจ็บปวดและความเสียใจ ของวนั สดุ สปั ดาห์แหง่ เทศกาลขอบคณุ พระเจ้าครัง้ นนั้ จะยงั ไมผ่ า่ นไป แตเ่ ราทงั้ หมดก็ตงั้ ใจท่ีจะปฏิบตั ใิ ห้มนั ลลุ ว่ งไป เม่อื โจดีมาเยี่ยมในครัง้ ตอ่ ไป เราใช้เวลาเยบ็ เสือ้ ผ้าด้วยกนั ซงึ่ เป็นกิจกรรมที่เราชอบกระทาร่วมกนั ตงั้ แตเ่ ธอยงั เดก็ อยู่ ในระหวา่ งเยบ็ ผ้า เราทงั้ สองกพ็ ดู คยุ กนั ไปด้วย ซง่ึ มสี ่งิ ตา่ งๆ มากมายท่ีฉนั ได้เรียนรู้ในสิ่งท่ีโจดเี ลอื ก แมค่ ะ หนเู อาม้วนเทปหลายตลบั มาให้แมฟ่ ัง แมจ่ ะได้เข้าใจมากขนึ ้ เกี่ยวกบั อิสลามทงั้ หมด จริงๆ นะแม่ มหี มากมายหลายประเดน็ ที่เหมอื นกบั ศาสนาคริสต์ หนรู ู้สกึ วา่ หนจู ะใช้ชีวติ อยา่ งท่ีแมเ่ คยเลยี ้ งดหู นไู ด้งา่ ยกวา่ ท่ีเคยเป็นมาในอดีต” ใช่ เธอพดู ถกู ทีเดียว เกี่ยวกบั สว่ นนนั้ นบั ตงั้ แตท่ างโบสถ์ของเราได้คาดไว้ว่า เป็นการยากสาหรับเยาวชนท่ีจะใช้ชีวติ ในสงั คม แตอ่ ิสลามจะเหมือนกบั ศาสนาคริสต์หรือ ! โอ นน่ั เป็นการยากท่ีฉนั จะพิสจู น์ อสิ ลามมคี วามสลบั ซบั ซ้อนทางการเมอื งและมแี นวคิดที่แปลก อยา่ งไรกต็ าม ฉนั เปิ ดกว้างท่ีจะศกึ ษา ฉนั มที างเลือกอ่นื หรือ ถ้าฉนั ต้องการความสมั พนั ธ์กบั ลกู สาวของฉนั ! ฉนั ใช้เวลาเกือบหนง่ึ ปี คร่ึง ที่จะยอมรับและสนบั สนนุ โจดี ในชีวติ ท่ีเธอเลอื ก ฉนั เหน็ เธอเคร่ง ครัดในศาสนาของเธออย่างมาก มีความต้องการอย่างย่ิงที่จะรับใช้พระผ้เู ป็นเจ้าและคนที่อยรู่ อบๆ เธอ เข้มแข็งจริงๆ ในการแตง่ กายท่ีแปลกและคลมุ ศรี ษะ เข้าเรียนในมหาวทิ ยาลยั และแนน่ อน เธอยงั เป็นโจดขี องเราซงึ่ รักเรา ผ้ซู งึ่ มีความรักที่จะพดู และอยกู่ บั ผ้คู น ผ้ตู อ่ ส้เู พื่อคงการศกึ ษาของเธอเอาไว้ ผ้ซู งึ่ ต้องการเป็นพยาบาลและทาได้ เพื่อนๆ ช่วยเหลือฉนั โดยการยอมรับของพวกเขา ฉนั พบวา่ เพียงได้นงั่ และร้องไห้หลงั จากอา่ นบทกวี บทความ หรือการได้อย่ใู นห้องเก่าของโจดเี ป็นการเยียวยารักษาจิตใจอยา่ งดี ฉนั มอบเธอให้อยใู่ นพระหตั ถ์ของพระผ้เู ป็นเจ้า ตามท่ีฉนั วงิ วอน และไมต่ ้องสงสยั เลยวา่ มีคาวิงวอนมากมายสาหรับฉนั ฉนั ยงั ต้องชว่ ยเหลอื สมาชิกคนอืน่ ของครอบครัว ซงึ่ รู้สกึ ปฏิเสธ แตก่ ารเยียวยารักษากเ็ กิดขนึ ้ เราเป็นครอบครัวท่ีเกลียดการขดั แย้ง เราต้องการได้รับความรักและถกู ยอมรับ เรายงั ต้องการเปิ ดตวั เองสโู่ ลกรอบๆ ตวั เราอกี ด้วย ดงั นนั้ เราจงึ เร่ิมเรียนรู้ถงึ สง่ิ ท่ีลกู สาวของเรายอมรับ คาวา่ “ญิฮาด” เป็นคาที่กลายมาเป็นความค้นุ เคยของผ้ทู ่ีไมใ่ ชม่ สุ ลิมจานวนมาก เพราะบอ่ ยครัง้ ท่ีสอื่ โยงใยการญิฮาดเข้ากบั การเคล่ือนไหวของผ้กู ่อการร้าย ดร. ญะมลี ะฮ์ โคโลโคโทรนิส ซงึ่ เป็นสตรีอเมริกนั โดยกาเนิดที่เข้ารับอสิ ลาม ได้อธิบายเก่ียวกบั มโนคตขิ องอิสลาม ซง่ึ มาจากภาษาอาหรับคานีไ้ ว้ในวทิ ยานิพนธ์ปริญญาเอกของเธอวา่ หมายถงึ การตอ่ ส้หู รือการดิน้ รน ในสมยั ทา่ นศาสดามฮุ มั มดั คานีไ้ ด้รับความหมายใหม่

ในขณะที่ศาสนาใหมท่ ่ียงั เยาว์อยนู่ ีก้ าลงั เริ่มเติบโต ในหนงั สอื ของเธอช่ือ “การตอ่ ส้ดู นิ ้ รนเพ่ืออิสลาม : มมุ มองทางประวตั ศิ าสตร์ (Islamic Jihad : An Historical Perspective) ดร. โคโลโคโทรนิส กลา่ ววา่ “ปัจจบุ นั คานีม้ ีความหมายวา่ “การตอ่ ส้ใู นหนทางของพระผ้เู ป็นเจ้า“ หลงั จากยคุ ของทา่ นศาสดามฮุ มั มดั นกั ประวตั ศิ าสตร์เริ่มแปลคาญิฮาดวา่ “สงครามศกั ดิ์สิทธ์ิ แตค่ าจากดั ความนีไ้ มค่ รอบคลมุ ความหมายทงั้ หมดของคา ญิฮาดสมควรท่ีจะได้รับการจากดั ความวา่ การตอ่ สู้ “ในหนทางของพระผ้เู ป็นเจ้า” คาจากดั ความนีจ้ งึ ดเู หมอื นจะครอบคลมุ ความหมายของคาๆ นี ้ ในลกั ษณะนีก้ ิจกรรมใดๆ ก็ตามที่เก่ียวข้องกบั การปฏิบตั ิของอิสลาม ก็อาจเป็นการตอ่ สู้ เชน่ การต่ืนขนึ ้ เพ่ือนมาซยามรุ่งอรุณ ถ้าผ้นู นั้ ไมใ่ ชค่ นท่ีตนื่ นอนเช้า ความหมายในทางลบของคาว่าญิฮาด ถกู พฒั นาโดยชาวตะวนั ตก ในฐานะเป็นกลมุ่ หวั รุนแรง (หมายถงึ คนกลมุ่ น้อย) ซง่ึ ถกู ใช้อยา่ งกว้างขวาง ในสมยั ท่านศาสดามฮุ มั มดั คาๆ นี ้ถกู ประยกุ ต์ใช้โดยเอกเทศ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในปี แรกๆ เพียงไมก่ ี่ปี ในฐานะผ้ทู ี่เป็นมสุ ลิม ที่ร่วมกบั ขบวนการเคลอื่ นไหวและตอ่ ส้เู พื่อปลดปล่อยจากคา่ นิยมและวิถีชีวิตเดิม ไมว่ า่ ครอบครัวหรือความยากลาบากอื่นๆ จะมากระทบพวกท่ีมาเชื่อถือศรัทธา ส่งิ ที่ปรากฏอยขู่ องตวั พวกเขา คือการญิฮาด ในฐานะที่พวกเขาตอ่ ส้ใู นหนทางของพระผ้เู ป็นเจ้า สตรีอเมริกนั ซง่ึ เข้ารับอิสลาม อย่ใู นการตอ่ ส้นู ีด้ ้วยตวั ของพวกเธอเองเลยทีเดียว ในฐานะที่พวกเธอปลดปลอ่ ยจากคา่ นิยมเดิม และมชี ีวิตอย่ดู ้วยความศรัทธาใหม่ อสิ ลามเป็นสงิ่ ท่ีพวกเราเกือบทงั้ หมดไมร่ ู้ ถงึ แม้วา่ เราอาจจะได้อา่ นหนงั สือเก่ียวกบั อสิ ลามหรือมสุ ลิม ศกึ ษาในชนั้ เรียนของโบสถ์ หรือได้เรียนมาตงั้ แตอ่ ย่ใู นโรงเรียน หวั ข้อตา่ งๆเก่ียวกบั อิสลามกม็ ไี มม่ าก หรือมีอย่กู บั เราจริงๆ อยา่ งไรกต็ ามในปัจจบุ นั มผี ้ทู ี่นา่ รักทงั้ เวลานงั่ และเวลาเดนิ (คอื สตรีสาว) ได้มาเป็นมสุ ลมิ บดั นีเ้ราต้องการค้นหาออกมาวา่ อะไรท่ีสาคญั สาหรับเธอ เพ่ือให้เข้าใจเส้นทางที่เธอกาลงั เดินทางอยู่ อสิ ลามเป็นชื่อของศาสนา เป็นคาภาษาอาหรับ ซง่ึ มคี วามหมายวา่ “การยอมจานนตอ่ พระผ้เู ป็นเจ้าผ้ทู รงอานาจสงู สดุ ” และเรียกร้องสกู่ ารเคารพพระผ้เู ป็นเจ้าองค์เดยี ว ความหมายตามภาษาคือ ความสนั ติ การมีชีวติ อย่อู ย่างสนั ตกิ บั พระผ้สู ร้าง ในตวั ของตวั เอง และกบั บคุ คลอ่นื ผ้นู บั ถือศาสนาอิสลามเรียกวา่ มสุ ลมิ พวกเขาไมช่ อบท่ีจะถกู เรียกวา่ เป็นพวกนบั ถือศาสนามฮุ มั มดั คนอสิ ลาม หรือชาวอิสลาม ผ้ทู ่ีนบั ถือศาสนาอิสลาม เราเรียกวา่ มสุ ลมิ มสุ ลมิ ศรัทธาวา่ มฮุ มั มดั ได้รับการคดั เลอื กจาพระผ้เู ป็นเจ้าให้เป็นศาสดา เพื่อรับสาส์นของพระองค์ผ่านทางเทวทตู ญิบรีล (กาเบรียล) ในคริสตสตวรรษท่ี 7 ท่ีนครมกั กะฮ์ ซงึ่ อย่ใู นคาบสมทุ รอาหรับ อนั เป็นที่ตงั้ ของประเทศซาอดุ ิอารเบียปัจจบุ นั คมั ภีร์อลั กรุ อาน เป็นคมั ภีร์แหง่ สาส์นของพระผ้เู ป็นเจ้า ท่ีประทานลงมาให้ศาสดามฮุ มั มดั ในชว่ งระยะเวลากวา่ 23 ปี มสุ ลมิ ศรัทธาวา่ คมั ภีร์อลั กรุ อาน ประกอบด้วยพระดารัสสดุ ท้ายของพระผ้เู ป็นเจ้าบนโลกนี ้

โดยสรุป ศาสนาคอื อิสลาม คนคอื มสุ ลมิ ศาสดาคือมฮุ มั มดั และคมั ภีร์ที่มหศั จรรย์ ซงึ่ พระผ้เู ป็นเจ้าประทานผา่ นทา่ นศาสดาคือ อลั กรุ อาน หวั ข้อแหง่ ความศรัทธา ความเชื่อขนั้ พืน้ ฐานสามประการ คอื ความศรัทธาเบือ้ งต้นของอิสลาม คอื เอกภาพของพระผ้เู ป็นเจ้า ความเป็นศาสดาและชีวติ หลงั ความตาย เอกภาพของพระผ้เู ป็นเจ้าคอื รากฐานแหง่ ความศรัทธาของมสุ ลิม อลั ลอฮ์ทรงเป็นพระผ้เู ป็นเจ้าองค์เดยี ว คาว่า “อลั ลอฮ์” ตามตวั อกั ษรแล้วหมายถงึ “พระเจ้า” ไมม่ ีความเป็นเพศชาย หรือเพศหญิง หรือรูปพหพู จน์ ดงั นนั้ “อลั ลอฮ์” จงึ ได้รับการเทิดขนึ ้ สคู่ วามสงู สง่ ท่ีสดุ อลั ลอฮ์ทรงเป็นผ้สู ร้างสรรพส่งิ ทงั้ มวล มสุ ลิมศรัทธาวา่ อลั ลอฮ์เป็นพระผ้เู ป็นเจ้าของทงั้ คริสเตยี น ยิว และมสุ ลมิ รวมทงั้ มนษุ ย์กลมุ่ อืน่ ๆด้วย การนาเอาสิ่งใดหรือผ้ใู ดเทียบเคยี งกบั อลั ลอฮ์ ถือเป็นการดหู ม่ินตอ่ พระองค์ เอกภาพของอลั ลอฮ์นีเ้รียกในภาษาอาหรับวา่ “เตาฮีด” และเป็นการสถาปนาความเอกะของพระองค์ อสิ ลามปฏิเสธความเช่ือเร่ืองตรีเอกานภุ าพ คือ พระบิดา พระบตุ รและพระจิต อสิ ลามไมใ่ ห้คณุ ลกั ษณะของพระผ้เู ป็นเจ้าให้พระเยซู แตพ่ วกเขาถือวา่ พระเยซูเป็นศาสดาและเป็นศาสนทตู ของพระผู้เป็นเจ้า ความศรัทธาประการท่ีสองคือ พระผ้เู ป็นเจ้าทรงประทานทางนาในการดาเนินชีวติ ผา่ นบรรดาศาสดา เชน่ อาดมั อิบรอฮีม (อบั ราฮมั ) อศิ ฮาก (ไอแซค) ยะอ์กบู (จาคอบ) มซู า (โมเซส) สไุ ลมาน (โซโลมอน) ดาวดู (เดวดิ ) ซง่ึ เป็นศาสดาบางทา่ นในคมั ภีร์เกา่ ยะฮ์ยา (จอห์น เดอะ แบบตสิ ท์) และอซี า (เยซ)ู ในพระคมั ภีร์ใหม่ และท่านศาสดามฮุ มั มดั ในฐานะเป็นศาสดาท่านสดุ ท้าย ผ้นู าสาส์นสดุ ท้ายของพระผ้เู ป็นเจ้ามายงั มนษุ ยชาติ เม่อื มสุ ลมิ กลา่ วหรือเขียนชื่อบรรดาศาสดา จะตอ่ ท้ายด้วย “ขอความสนั ติจงมีแดท่ า่ น” พวกเขาถือวา่ คริสเตียน ยิวและมสุ ลมิ เป็ น “ชาวคมั ภีร์ ซงึ่ มีความผกู พนั กนั ผ่านทางศาสดาทงั้ หลาย ศาสดามฮุ มั มดั ได้รับความนบั ถือ (ไมใ่ ชบ่ ชู าแบบพระเจ้า) วา่ เป็นศาสดาของพระผ้เู ป็นเจ้า เช่นเดยี วกบั พระเยซคู ริสต์ ถงึ แม้วา่ มสุ ลิมกบั คริสเตยี นจะไมย่ อมรับกนั เก่ียวกบั ความเป็ นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ก็ตาม แตพ่ วกเขามคี วามเห็นพ้องกนั ในหลายประเดน็ เกี่ยวกบั จริยธรรม ชีวติ หลงั การตาย และวนั พิพากษาตดั สนิ คมั ภีร์อลั กรุ อานสอนวา่ การผิดประเวณี การฆ่า การโกหก การลกั ขโมยและการคดโกง เป็นส่งิ ต้องห้าม ชีวติ หลงั การตายเป็นรากฐานของความศรัทธาข้อท่ีสามในอิสลาม ทงั้ ความเช่ือและการกระทามคี วามสาคญั ต่อชีวติ ในโลกนี ้ พวกเขาเชื่อในวนั พิพากษาตดั สนิ ซงึ่ เราจะต้องถกู สอบสวนตอ่ หน้าพระพกั ตร์ของพระผ้เู ป็นเจ้า เกี่ยวกบั การกระทาของเรา นบั วา่ สาคญั ที่วา่ ในแตล่ ะการกระทาจะต้องมีการครุ่นคิดพิจารณาวา่ การกระทานนั้ เป็นไปตามคาสง่ั ของของพระผ้เู ป็นเจ้าหรือไม่ !

หลกั การห้าข้อของอสิ ลาม มหี ลกั การสาคญั อยู่ 5 ข้อในอสิ ลาม ที่มสุ ลมิ จะต้องปฏิบตั ติ าม ข้อที่หนง่ึ คือ การปฏิญาณตนวา่ “ไมม่ ีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอลั ลอฮ์และมฮุ มั มดั เป็นศาสนทตู ของพระองค์” อกี 4 ประการคือ การนมาซประจาวนั 5 เวลา การถือศีลอดในเดอื นรอมาฎอน การจา่ ยทานภาคบงั คบั (และเงินคมุ ส์) แก่ผ้มู ีสิทธิรับ (ซงึ่ มกั สมั พนั ธ์กบั เดือนรอมาฎอน) และการประกอบพิธีฮจั ญ์ ณ นครมกั กะฮ์ ในการเข้ารับอสิ ลาม ผ้เู ข้ารับจะต้องกลา่ วคาปฏิญาณเป็นภาษาอาหรับ และจะต้องประพฤติปฏบิ ตั ิในวิถีทางการดาเนินชีวติ ทงั้ ที่เป็นข้อสง่ เสริมและข้อบงั คบั ท่ีเรียกวา่ “หนทางอนั เที่ยงตรง” ถงึ แม้วา่ การปฏิบตั ดิ งั กลา่ วดจู ะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แตผ่ ้ตู อบแบบสอบถามได้ชีอ้ อกมาวา่ “โดยรวมแล้ว สตรีมีโอกาสอย่างมากท่ีจะมีความเคร่งครัดเชน่ นีใ้ นการดาเนินชีวิตของเธอ ผ้ตู อบแบบสอบถามบางคน พบวา่ การถือศีลอดเป็นเรื่องที่งา่ ยดาย ในขณะที่คนอืน่ บอกวา่ ในชว่ งแรกมนั ยากลาบากมากทีเดียว สตรีหลายคนสามารถปฏิบตั ินมาซได้ตามเวลาทกุ วนั อย่างสมา่ เสมอ ในขณะท่ีคนอืน่ ต้องพยายามอย่างหนกั เพ่ือให้ได้ปฏิบตั ิเป็นประจา สาหรับบางคนการคลมุ ศรี ษะเป็นความน่ายินดี และไมม่ ีปัญหาใดๆ คนอื่นๆ ใช้เวลากวา่ ปี กวา่ จะถงึ จดุ ท่ีต้องคลมุ ศีรษะ ในเวลาที่ต้องการ สตรีเหลา่ นไี ้ ด้รับความช่วยเหลอื ในการหาวิธีการท่ีจะใช้ชีวติ อย่ใู นแบบอสิ ลาม จากแหลง่ ข้อมลู หลายแหลง่ สามขี องพวกเธอเป็นผ้สู นบั สนนุ ที่เข้มแขง็ พวกเขาสอนและชีน้ าภรรยาของตน ในการปฏิบตั ิตามหลกั การอสิ ลาม และในกระบวนการสร้างความศรัทธาของพวกเขา หนงั สอื วีดโี อ คาสเซทเทป อธิบายเทคนิควิธีการกระทาสิง่ ตา่ งๆ มจี านวนมากที่ได้รับความชว่ ยเหลอื จากสตรีมสุ ลิมคนอื่นๆ ไมว่ า่ จะเป็นสตรีอเมริกนั ที่เข้ารับอิสลาม หรือเป็นสตรีที่เกิดมาในศาสนาอสิ ลาม  ตงั้ แตส่ ามขี องฉนั แนะนาให้รู้จกั อิสลาม มนั กเ็ ป็นการงา่ ยสาหรับฉนั ที่จะเรียนรู้การดาเนินชีวติ แบบมสุ ลิม ด้วยการสงั เกตแบบอยา่ งการใช้ชีวิตประจาวนั ของเขาและเพื่อนๆ ของเขา สาหรับการปฏิบตั ศิ าสนกิจท่ีเป็นข้อเฉพาะ เขาพยายามสอนฉนั ให้นมาซ อธิบายวธิ ีการถือศลี อดและการอาบนา้ นมาซ อยา่ งไรกต็ ามระหวา่ งท่ีอยใู่ นโมรอคโค เป็นเพราะน้องสามขี องฉนั ท่ีตอ่ มาเราสนิทจนเหมอื นเป็นน้องสาว ซง่ึ เพิ่งเร่ิมคลมุ ศีรษะเม่อื ไมก่ ่ีเดือนมานี ้เป็นผ้ชู ว่ ยให้การนมาซของฉนั สมบรู ณ์ ทาให้ฉนั มนั่ ใจและกระตือรือร้นในการนมาซ 5 เวลาเป็นประจาทกุ วนั ครัง้ แรกท่ีฉนั ถือศลี อด ฉนั กลวั มากวา่ จะไมส่ ามารถอดทนได้เนื่องจากไมเ่ คยอดอาหารเป็นเวลานานเลย

สามขี องฉนั อธิบายให้เข้าใจถงึ ความสาคญั และประโยชน์ของการถือศีลอด และกลา่ ววา่ ถ้าฉนั ทนไมไ่ ด้จริงๆ ก็ยงั ไมเ่ ป็นไร เน่ืองจากพระผ้เู ป็นเจ้าจะไมว่ างภาระหนกั เกินกวา่ ที่เราจะทนได้ ความยืดหย่นุ ของเขาทาให้ฉนั สามารถผา่ นไปได้ นบั ตงั้ แตน่ นั้ มาฉนั มกั จะถือศีลอดเสมอ เมอื่ ฉนั ต้องการ การนมาซ 5 เวลาทกุ วนั คอ่ นค้างจะเป็นอปุ สรรคมาก เนื่องจากวิถีชีวติ ของคนอเมริกนั ไมเ่ ออื ้ ตอ่ พวกเขาท่ีจะปฏิบตั ศิ าสนากิจตามเวลาท่ีกาหนด แตถ่ งึ แม้ในบางครัง้ ฉนั ไมม่ ีเวลาพอ ก็ไมเ่ คยหยดุ ท่ีจะนมาซ แม้จาเป็นต้องขาดบ้างบางครัง้ ซงึ่ ถงึ จะไมม่ ากมายอะไร แตก่ ารนมาซคอื สง่ิ ที่ทาให้ฉนั ราลกึ ถงึ พระผ้เู ป็นเจ้าในหวั ใจของฉนั ตลอดเวลา ในแตล่ ะตวั อยา่ งของผ้ทู ่ีถกู สารวจ พวกเธอได้แสดงให้เห็นความโปรดปราน ความสงบ และความพงึ พอใจท่ีได้รับในชีวติ จากความเคร่งครัด ความต้องการที่จะเปลีย่ นแปลงชีวิตของพวกเธอ เพ่ือมงุ่ การกระทาและเจตนารมณ์ไปสพู่ ระผ้เู ป็นเจ้า หลกั การปฏิบตั ปิ ระการท่สี อง ในอสิ ลามคอื การนมาซ 5 เวลาทกุ วนั ซงึ่ มสุ ลมิ ทกุ คนจะต้องปฏิบตั ิ การนมาซนีม้ ีการอา่ นเป็นภาษาอาหรับ มกี ารเคลอ่ื นไหวอริ ิยาบทในท่าทางตา่ งๆ การนมาซจะกระทาได้ ต้องมีนา้ นมาซ หรือการชาระร่างกายของผ้ทู ี่จะนมาซ โดยการล้างหน้า ล้างแขนทงั้ สองข้างจนถงึ ข้อศอก เชด็ ศรี ษะและเท้า สตรีต้องสวมใสช่ ดุ ที่มิดชิดผ้นู มาซต้องยืนตรงหนั หน้าไปทางนครมกั กะฮ์ ซง่ึ เป็นสญั ลกั ษณ์ของเอกภาพของมสุ ลมิ มตี ารางเวลากาหนดวา่ เมื่อใดจงึ จะนมาซแตล่ ะเวลา นน่ั คอื เช้าตรู่กอ่ นดวงอาทิตย์ขนึ ้ หลงั เที่ยงวนั เลก็ น้อย ช่วงเยน็ หลงั ดวงอาทิตย์ตกดิน และช่วงกลางคืน การนมาซแตล่ ะครัง้ กินเวลาประมาณ 5 นาที สตรีได้รับการยกเว้นไมต่ ้องนมาซเมื่อมีประจาเดอื น มสุ ลิมมอี ิสระท่ีจะกระทานมาซในเวลาใด สถานที่ใด หรือการรวมเวลานมาซเข้าด้วยกนั สองเวลา มสุ ลมิ เกือบทงั้ หมดจะถอดรองเท้าไว้นอกบ้านและมสั ยิด เพ่ือให้ภายในบ้านและมสั ยิดสะอาดพร้อมที่จะทานมาซได้ตลอดเวลา  การนมาซวนั ละ 5 เวลา เป็นภาระท่ีหนกั มากสาหรับฉนั เมอ่ื สามีบอกฉนั หลงั จากเข้ารับอสิ ลามไมก่ ่ีนาทีวา่ ฉนั จะต้องนมาซ ฉนั รู้สกึ ลงั เลใจที่จะปฏบิ ตั ิ เพราะไมใ่ ช่การปฏิบตั ิท่ฉี นั ค้นุ เคยในศาสนาของฉนั แตเ่ ม่อื ฉนั เริ่ม ฉนั กลบั ไมอ่ ยากที่จะหยดุ  การเข้ารับอสิ ลามทาให้ฉนั มคี วามยดึ มนั่ มากขนึ ้ ผอ่ นคลายมากขนึ ้ มีความคมชดั มากขนึ ้ คณุ ไมอ่ าจที่จะเตลดิ ไปไหนไกล เมือ่ เวลานมาซครัง้ ตอ่ ไปได้ดงึ คณุ กลบั มา

มนั มผี ลกระทบในทางบวกอยา่ งแท้จริง ตอ่ การสมรสและชีวิตครอบครัว และชว่ ยเหลอื ฉนั ให้ดขี นึ ้ เป็นภรรยาและแมท่ ่ีใจเยน็ สว่ นท่ีมคี วามหมายสาหรับฉนั มากท่ีสดุ ในอิสลามคอื กระบวนการด้านจิตวิญญาณ ไมว่ า่ จะเป็นการนมาซ การอา่ นคมั ภีร์อลั กรุ อาน และกิจกรรมทางจิตวญิ ญาณอนื่ ๆ ซง่ึ ดาเนินไปในชีวิตของฉนั เพื่อการพฒั นาทางด้านจิตวญิ ญาณ การได้หยดุ สกั 1 –2 วนิ าทีและมอบหมายทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งให้พระผ้เู ป็นเจ้าคอื ความโปรดปรานอนั มากมาย  การนมาซตรงตามเวลา คอื ความยากลาบากอย่างย่ิง ซง่ึ ฉนั ยงั ไมอ่ าจทาได้  การเรียนรู้ขนั้ ตอนการทาความสะอาดร่างกาย และการนมาซเป็นส่งิ ท่ีง่าย สามีของฉนั เขียนคาอา่ นนมาซในกระดาษ และเขียนภาพร่างแสดงท่าทางการยืน การก้มและการกราบ ฉนั ทอ่ งคาอา่ นในนมาซได้เพียงภายในวนั เดยี ว แตใ่ ช้เวลาประมาณสปั ดาห์หนง่ึ เพ่ือฝึกฝนให้แน่ใจ วา่ ฉนั สามารถปฏิบตั ิตามทา่ ทางได้อย่างถกู ต้อง ฉนั รู้สกึ มคี วามสุขในการชาระล้างร่างกาย การสวมใสช่ ดุ นมาซ การนมาซ เพราะฉนั รู้สกึ วา่ ได้เข้าใกล้พระผ้สู ร้างของฉนั ฉนั ต้องการแสดงออกถงึ การอทุ ิศและความขอบคณุ ตอ่ ทกุ สิ่งที่พระองค์ประทานให้ การนมาซจะอา่ นเป็นภาษาอาหรับ และทกุ คนจาเป็นต้องเรียนภาษาอาหรับ เพื่อพวกเขาจะสามารถอา่ นคมั ภีร์อลั กรุ อานจากตวั บทภาษาอาหรับได้ เดก็ ๆ ในโรงเรียนอสิ ลามก็ต้องเรียนภาษาอาหรับ  ฉนั ยงั คงเรียนรู้ที่จะใช้ชีวติ แบบมสุ ลิม ฉนั ถามคาถามมากมายรวมทงั้ การอา่ นด้วย แมข่ องสามีสง่ หนงั สอื หลายเลม่ เกี่ยวกบั การนมาซมาให้ และฉนั ท่องจาภาษาอาหรับด้วยตวั เอง สวมผ้าคลมุ ผม (เรียน) กฎเกณฑ์ของการนมาซ สง่ิ ท่ีสะอาดและไมส่ ะอาด ฉนั พยายามอย่างหนกั ฉนั ดวู ีดโี อ จดบนั ทกึ อยา่ งละเอยี ด และเข้าร่วมในการอภิปรายถกเถียง  สว่ นที่สาคญั ท่ีสดุ คือการนมาซ ฉนั ไมถ่ นดั ในสาเนียงภาษาอาหรับ ฉนั เกรงวา่ การออกเสยี งของฉนั จะไมถ่ กู ต้อง ซง่ึ ทาให้การผลการนมาซของฉนั ไมถ่ กู ยอมรับ แตร่ ู้วา่ ตราบใดที่ฉนั พยายามและมคี วามตงั้ ใจท่ีดี พระผ้เู ป็นเจ้าจะทรงเข้าใจ การทานมาซเป็นภาษาอาหรับ และไมร่ ู้คมั ภีร์อลั กรุ อานและวจนะของท่านศาสดา เชน่ ตวั ฉนั นบั วา่ เป็นสว่ นที่ยากลาบากท่ีสดุ  ฉนั เรียนรู้ท่ีจะใช้ชีวติ แบบมสุ ลมิ จากการอา่ นและพิจารณาเป็ นสว่ นใหญ่ สามีเขียนคาอา่ นนมาซให้ฉนั เป็นภาษาอาหรับ ซงึ่ ฉนั ได้อา่ นหลงั จากท่ีเคยเรียนมาจากภาษาองั กฤษแล้ว ฉนั เพ่ิงจะเริ่มเรียนคมั ภีร์อลั กรุ อานเป็นภาษาอาหรับ จงึ ยงั ไมส่ ามารถอา่ นคาภาษาอาหรับท่ีเขียนแบบวจิ ิตรได้ ฉนั มคี วามมนั่ ใจในการเรียนภาษาอาหรับจนสามารถอา่ นและพดู ได้ ฉนั ถือวา่ ตวั เองยงั ศกึ ษาอสิ ลามในระดบั เร่ิมต้น

หลกั การข้อท่ีสามของอิสลามคอื การถือศีลอด (ศิยาม) และปฏิบตั ิในเดือนรอมาฎอน ซงึ่ เป็นชื่อเดือนที่ 9 ในปฏิทินทางจนั ทรคตขิ องมสุ ลมิ เดือนนเี ้ป็นเดอื นศกั ด์สิ ิทธ์ิในอสิ ลาม มีการปฏิบตั ิทงั้ ถือศีลอด การนมาซและการบริจาคทาน การถือศลี อดในเดอื นรอมาฎอน ถือเป็นการปฏิบตั ิภาคบงั คบั ในช่วงเวลานีม้ สุ ลิมจะรับประทานอาหารได้ จนถงึ กอ่ นแสงอรุณขนึ ้ และละเว้นการรับประทานอาหาร ดืม่ นา้ การมเี พศสมั พนั ธ์ จากรุ่งอรุณจนกระทงั่ ดวงอาทิตย์ตก ทกุ วนั ตลอดเดือนดงั กลา่ ว ผ้ทู ี่ได้รับการยกเว้นท่ีไมต่ ้องถือศีลอดคอื เดก็ คนชรา ผ้ปู ่ วย คนเดินทาง หญิงท่ีมีครรภ์ แมท่ ่ีให้นมลกู และสตรีท่ีมปี ระจาเดอื น ผ้ใู หญ่จะต้องชดใช้ศีลอดของตนทีข่ าดไปในเดือนอ่ืนหลงั จากเดือนรอมาฎอน เม่ือภาระตา่ งๆ หมดไป และมสุ ลิมมกั จะละศีลอดร่วมกนั ในสงั คมของพวกเขา  เดอื นรอมาฎอนแรกของฉนั เป็นสง่ิ ที่นา่ จดจา ซงึ่ เป็นเวลาเพียงหกเดือนหลงั จากฉนั กลา่ วปฏิญาณตน มนั งา่ ยมากกว่าที่ฉนั คดิ วา่ ควรจะเป็น อยา่ งไรกต็ ามก็ยงั คงเป็นการตอ่ สู้ ด้วยความสจั จริงฉนั ละศลี อดถงึ สามครัง้ ในตอนเช้า เม่อื เดอื นรอมาฎอนแรกของฉนั บางครัง้ มนั เป็นความรับผิดชอบทางศาสนาล้วนๆ และต้องมจี ิตใจท่ีเข้มเข็ง  การถือศลี อดปี ละครัง้ ตลอดเดอื น เป็นความยากลาบากในครัง้ แรก แตย่ ่ิงฉนั ได้เรียนรู้มากขนึ ้ เท่าใด เกี่ยวกบั สาเหตทุ ่ีต้องถือศลี อดและประโยชน์ที่ได้รับ ความง่ายดายก็ตามมา  การถือศีลอดในเดอื นรอมาฎอนเป็นการปฏิบตั ทิ ี่ยากลาบากที่สดุ ฉนั ต้องต่อสู้ ก่อนการถือศีลอดครัง้ แรก ฉนั กงั วลวา่ จะไมส่ ามารถทาได้ และฉนั จะต้องพ่ายแพ้ในการเผชิญหน้านี ้แนน่ อน ฉนั สามารถทาได้ เพราะการถือศีลอดจะง่ายเม่อื คณุ ทาเพ่ือพระผ้เู ป็นเจ้า เวลาผา่ นไปไมน่ านคอของฉนั ก็แห้งผาก และปวดหวั จนอยากจะกินยา แตฉ่ นั กห็ ลกี เลีย่ ง ฉนั คิดถงึ ท่านอมิ ามฮเู ซนและผ้ตู ดิ ตามทา่ น ซง่ึ สละชีพด้วยความหิวกระหายกลางท้องทะเลทรายแหง่ กรั บะลาอ์ ฉนั คิดถงึ คนจรจดั และยากจน คนท่ีถกู ขบั ไล่ ซง่ึ ไมร่ ู้วา่ เมอ่ื ใดท่ีจะมอี าหารมือ้ ตอ่ ไปกินหรือไม่ การถือศีลอดชว่ ยให้ฉนั เข้าใกล้ชิดพระผ้เู ป็นเจ้า มีจิตใจท่ีตน่ื อยเู่ สมอ มีความเมตตากรุณาตอ่ ผ้อู นื่ มคี วามสภุ าพอ่อนโยน เน่ืองจากเป็นช่วงเวลาแหง่ จิตวิญญาณดงั กลา่ ว ฉนั จงึ รอคอยเดือนรอมาฎอนของทกุ ปี ระหวา่ งชว่ ง 10 วนั สดุ ท้ายของเดือนรอมมาฎอนฉนั รู้สกึ เสียใจท่ีเดอื นรอมาฎอนกาลงั จะจากไป

 การม่ชี ีวิตแบบมสุ ลิมไมใ่ ช่เรื่องยาก เพราะฉนั ได้ปฏิบตั มิ าโดยไมร่ ู้ตวั เป็นเวลาหลายปี แล้ว สามขี องฉนั ชว่ ยได้มาก เพราะเขาเป็นมสุ ลมิ อย่แู ล้ว และเมอ่ื คณุ มผี ้รู ่วมปฏิบตั กิ ย็ ิ่งเป็นการง่ายขนึ ้ เวลาเดยี วท่ีฉนั รู้สกึ วา่ การปฏิบตั ศิ าสนกิจของฉนั ยากลาบากขนึ ้ คอื ชว่ งเวลาคริสต์มาส ซง่ึ ทกุ สิ่งทกุ อยา่ ง เป็นบรรยายการคริสต์มาสไปหมด และฉนั ต้องอธิบายกบั ผ้คู นถงึ เหตผุ ลทฉ่ี นั ไมฉ่ ลองคริสต์มาส อกี เวลาหนง่ึ คือในชว่ งเดอื นรอมาฎอน เมอ่ื มคี นถามฉนั วา่ ต้องการรับอะไรเป็นอาหารกลางวนั และฉนั บอกพวกเขาวา่ ฉนั ถือศีลอด ซงึ่ เป็นเร่ืองยากท่ีคนเหลา่ นนั้ จะเข้าใจ และฉนั รู้วา่ พวกเขาได้ตดั สินฉนั ไปแล้วเกี่ยวกับเรื่องดงั กลา่ ว แตฉ่ นั ก็จะไมแ่ ลกความศรัทธาของฉนั กบั แซนด์วิชในภตั าคารอาหารจานดว่ นนนั่ หรอก หลกั การข้อที่ 4 ของอสิ ลาม คือการจ่ายทาน ท่ีเรียกวา่ ซะกาต ซงึ่ กม็ กั จะจ่ายกนั ในเดอื นรอมาฎอนพร้อมๆกบั การถือศลี อดและการนมาซ หลกั การข้อที่ 5 ของอสิ ลามคอื การประกอบพิธีฮจั ญ์ การแสวงบญุ ณ นครมกั กะฮ์ สาหรับผ้ทู ่ีมีความสามารถทางด้านกาลงั ทรัพย์ โอกาสในการแสวงบญุ มปี ี ละหนง่ึ ครัง้ และเป็นการรวมตวั ครัง้ ย่ิงใหญ่ท่ีสดุ ของมสุ ลิมทวั่ โลกราว 2 – 3 ล้านคน จากทกุ ๆ ทวีปของโลก ที่เดนิ ทางมาเพ่ือร่วมภารกิจท่ีย่ิงใหญ่นี ้ วิถีชีวติ มสุ ลมิ ในสงั คมอเมริกนั อิสลามครอบคลมุ ทกุ แง่มมุ ของชีวิต รวมทงั้ จริยธรรมสว่ นตวั การเมอื ง การค้า อิสลามเป็นแนวทางการดาเนินชีวติ ท่ีสาคญั มากคือแนวความคิดเกี่ยวกบั ประชาชาตเิ ดยี วกนั เป็นการรวมตวั ทางสงั คมตามพระประสงค์ของพระผ้เู ป็นเจ้า ซงึ่ จะเกิดขนึ ้ ได้ก็โดยผ่านทางหลกั การของอิสลามเท่านนั้ มกี ารอธิบายมากมายหลายแห่งและมากมายหลายครัง้ เพื่ออรรถาธิบายวธิ ีการภาคปฏิบตั ิในรายละเอียดของรูปแบบการใช้ชีวิต สตรีเหลา่ นีเ้รียนรู้อย่างรวดเร็วถงึ สิ่งที่อิสลามต้องการให้พวกเธอปฏิบตั ิ และตดั สินใจวา่ จะทาสงิ่ ที่อิสลามหวงั ตอ่ ชีวติ ของพวกเธอให้สาเร็จได้อย่างไร การเปล่ียนแปลงอย่างสดุ ขวั้ ในเรื่องการแตง่ กาย เป็นส่ิงที่ลาบากยากเย็นที่สดุ ซงึ่ ครอบครัวและญาติพ่ีน้องจะยอมรับได้ เมือ่ ลกู สาวของตนมาเป็นมสุ ลิม ดเู หมือนจะเป็นคากลา่ วที่รุนแรงที่สดุ สาหรับเรา ซงึ่ พวกเธอได้รับในสงิ่ ที่พวกเธอเลอื ก สาหรับสตรีเองบางคน ได้เลอื กที่จะใสช่ ดุ ท่ีมิดชิด และปกปิ ดร่างกายของพวกเธอ พร้อมที่จะยอมรับและเอาตวั เองเข้าร่วมในการประพฤติปฏิบตั ิทนั ที โดยท่ีคนอน่ื ๆยงั รู้สกึ วา่ เป็นการยากท่ีจะกระทา

โองการจากคมั ภีร์อลั กรุ อาน ได้อธิบายเร่ืองการปกคลมุ ร่างกายดงั ตอ่ ไปนั้ “จงกลา่ วเถิด (มฮุ มั มดั ) แกบ่ รรดาชายผ้ศู รัทธา ให้พวกเขาลดสายตาลงต่า และให้รักษาทวารของพวกเขา นนั่ เป็นการบริสทุ ธ์ิยิ่งแกพ่ วกเขา แท้จริงอลั ลอฮ์ทรงรอบรู้ส่ิงที่พวกเขากระทา และจงกลา่ วเถิด (มฮุ มั มดั ) แกบ่ รรดาหญิงผ้ศู รัทธา ให้พวกเธอลดสายตาลงต่า และให้รักษาทวารของพวกเธอ และอย่าเปิ ดเผยเคร่ืองประดบั ของพวกเธอ เว้นแตส่ ่ิงที่พงึ เปิ ดเผยได้ และให้พวกเธอปิ ดด้วยผ้าคลมุ ศีรษะของเธอลงมาจนถงึ หน้าอก และอยา่ ให้พวกเธอเปิ ดเคร่ืองประดบั เว้นแตแ่ ก่สามีหรือบิดาของพวกเธอ หรือบิดาของสามขี องพวกเธอ หรือลกู ชายของพวกเธอ หรือลกู ชายของสามีของพวกเธอหรือพี่ชายน้องชายของพวกเธอ หรือลกู ของพี่ชายน้องชายของพวกเธอ หรือลกู ของพี่สาวน้องสาวของพวกเธอ หรือพวกสตรีของพวกเธอ หรือที่มอื ขวาของพวกเธอครอบครอง (ทาสและทาส)ี หรือคนใช้บรุ ุษท่ีไมม่ ีความรู้สกึ ทางเพศ หรือเดก็ ที่ยงั ไมร่ ู้เร่ืองเพศสงวนของสตรี และอยา่ ให้พวกเธอกระทืบเท้า เพื่อให้ผ้อู ืน่ รู้ในสิ่งท่ีพวกเธอสมควรปกปิ ด ในเครื่องประดบั ของพวกเธอ และพวกเจ้าทงั้ หลายจงขอลแุ ก่โทษตอ่ อลั ลอฮ์เถิด โอ้ บรรดาผ้ศู รัทธาเอย๋ เพื่อวา่ พวกเจ้าจะได้รับชยั ชนะ (บท อนั นรู โองการท่ี 30-31) ประเทศมสุ ลิมตา่ งๆ มีวฒั นธรรมเก่ียวกบั วิธีการคลมุ ศีรษะ ธรรมเนียมโดยพืน้ ฐานกค็ อื เสือ้ ผ้าท่ีหลวม (ไมม่ องเหน็ ทะลุ หรือสงั เกตเหน็ ทรวดทรวง) ซง่ึ ปกคลมุ ตลอดตวั ยกเว้นใบหน้าและฝ่ ามือ ในบางประเทศมีการใช้ผ้าคลมุ หน้าด้วย บางประเทศใช้ผ้าลายดอกสีฉดู ฉาด ประดบั ด้วยลกู ปัดและพหู่ ้อย สว่ นในประเทศอื่นๆ อาจใช้สโี ทนเรียบเชน่ ขาว ครีม นา้ ตาล เขียว นา้ เงิน ดา หรือลายพิมพ์สีออ่ นๆ ผ้ทู ่มี ีความรู้อาจสามารถบอกได้ว่า สตรีนนั้ มาจากประเทศใด ได้จากเสอื ้ ผ้าและการปกคลมุ ท่ีเธอสวมใส่ สตรีมสุ ลิมไมไ่ ด้คลมุ ศีรษะทงั้ หมด แตส่ ว่ นใหญ่ปฏิบตั ิและพยายามจะปฏิบตั ิ  การคลมุ ศรี ษะเป็นเรื่องง่าย แตผ่ ้คู นจะถามเสมอวา่ ฉันเป็นโรคภมู ิแพ้หรือเปลา่ ดเู หมือนพวกเขาจะพากนั เดาวา่ ฉนั ไมม่ ีผม จงึ คลมุ ศรี ษะท่ีล้านเลยี่ นเสยี ดงั นนั้ หลงั จากฉนั อธิบายถงึ เหตผุ ลทางด้านศาสนา และความสาคญั ของการคลมุ ศรี ษะ พวกเขาจะพดู วา่ “คณุ หมายถงึ วา่ ฉนั จะไมม่ โี อกาสเหน็ เส้นผมที่สลวยสวยงามของคณุ อกี เลยหรือ ” ฉนั รู้สกึ วา่ มนั เป็นสง่ิ ท่ีตวั ฉนั เองเลอื กเก่ียวกบั ข้อปฏิบตั ิทางศาสนาของฉนั ซง่ึ การที่พวกเธอจะไมพ่ อใจ รู้สกึ สญู เสียสทิ ธิบางอย่าง หรือพวกเธอจะไมย่ อมรับนนั้ พวกเธอหลงประเดน็ เสียแล้ว  ฉนั ได้ปรึกษาหารือกบั พอ่ แมแ่ ละสมาชิกในครอบครัว เก่ียวกบั การเป็นมสุ ลมิ ของฉนั ประเดน็ หลกั ของความตงึ เครียดอยทู่ ี่การแตง่ กายตามบทบญั ญตั อิ ิสลาม ฉนั คิดวา่ น่ีเป็นความกงั วลใจและความอดึ อดั ไมเ่ ปล่ียนแปลงของพวกเขา

ถ้าฉนั เป็นมสุ ลมิ แตไ่ มค่ ลมุ ศรี ษะ ฉนั คิดวา่ พวกเขาพร้อมจะยอมรับในทนั ทีมากกวา่ ความหวงั ของฉนั คือพวกเขาจะยอมรับอสิ ลามด้วยตวั พวกเขาเองไมใ่ ช่เพราะฉนั  การปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ของอิสลามไมใ่ ชเ่ ร่ือง ยากโดยที่ฉนั สามารถกระทาได้ในทนั ที การคลมุ ศีรษะเป็นส่งิ หนง่ึ ที่เป็นประโยชน์อย่างย่ิง ทงั้ ตวั ฉนั เองและผ้ทู ่ีอย่รู อบข้างฉนั ฉนั อาศยั อยใู่ นเมืองท่ีเลก็ มาก และฉนั มองดแู ปลกในเมอื งนนั้ และบางคนได้ถามฉนั เกี่ยวกบั สง่ิ นี ้ ในเมืองมหาวทิ ยาลยั ท่ีใหญ่กวา่ ของเรา ผ้คู นสว่ นใหญ่ได้รับการศกึ ษาเก่ียวกบั อสิ ลาม และแลเหน็ สตรีคลมุ ศรี ษะอยทู่ ว่ั ไปในเมือง ฉนั เร่ิมคลมุ ศรี ษะในฤดหู นาว ดงั นนั้ จงึ ไมย่ ากลาบากนกั จนกระทง่ั ถงึ ฤดรู ้อน ผ้คู นจานวนมากคลมุ ผ้าหรือใสห่ มวกในฤดหู นาว แตเ่ มอื่ ฤดูร้อนมาถงึ ฉนั ก็ยงั คลมุ ศรี ษะอยู่ ฉนั ยืนอยทู่ า่ มกลางฝงู ชน แตอ่ สิ ลามไมใ่ ช่การผสมปนเปหรือ “เข้าเมอื งตาหลวิ่ ต้องหลิ่วตาตาม” มนั เป็นสง่ิ ท่ีคณุ จะต้องยืนขนึ ้ เพื่อสิ่งที่คณุ เชื่อและรู้วา่ ถกู ต้อง แม้เมื่อคนอืน่ บอกวา่ ไมใ่ ช่ ไมว่ า่ ผ้นู นั้ จะเป็นมสุ ลมิ หรือไมใ่ ชม่ สุ ลมิ กต็ าม  มนั เป็นการงา่ ยสาหรับฉนั ที่จะปฏิบตั ิตามคาสอนของอสิ ลาม ฉนั ไมม่ ปี ัญหาในการยอมรับ และมีความสขุ กบั ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการนมาซ การถือศีลอด เลกิ ด่มื สรุ า การตอ่ ส้ทู ี่ยิ่งใหญ่สาหรับฉนั กลบั เป็นการคลมุ ศีรษะ ไมม่ ีใครรู้ส่ิงนจี ้ นกระทง่ั ฉนั ยอมรับและทาการคลมุ ศรี ษะด้วยเหตผุ ลของความมิดชิด  6 เดือนหลงั จากการปฏิญาณตนเข้ารับอสิ ลาม ฉนั พบกบั เดือนรอมาฎอนแรก ฉนั พิจารณาดเู ร่ืองการคลมุ ศรี ษะ แตก่ ็ยงั หวาดกลวั เกินกวา่ จะปฏิบตั ิ ฉนั เริ่มแตง่ กายอยา่ งมิดชิดขนึ ้ และปกตจิ ะคลมุ ผ้าทีไ่ หล่ เมือ่ ฉนั ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องสตรีมสุ ลิม เธอบอกฉันวา่ “สง่ิ ที่คณุ ต้องทาทงั้ หมดก็คือ เพียงแตเ่ ลือ่ นผ้าท่ีคลมุ ไหลไ่ ปไว้บนศีรษะ และคณุ ก็จะอย่ใู นชดุ แตง่ กายแบบอสิ ลามแล้ว” ตอนแรกฉนั ยงั รู้สกึ วา่ ยงั ไมพ่ ร้อมท่ีจะคลมุ ศรี ษะ เพราะรู้สกึ วา่ ยงั ไมพ่ ร้อมเพียงพอในความศรัทธาของฉนั ฉนั เข้าใจเหตผุ ลของการคลมุ ศรี ษะดี และยอมรับด้วย และชนื่ ชมผ้ทู ่ีคลมุ ศีรษะแล้ว พวกเธอมองดเู คร่งครัดและสงู สง่ แตฉ่ นั รู้วา่ ถ้าฉนั คลมุ ศรี ษะ ผ้คู นต้องถามคาถามมากมาย และฉนั รู้สกึ วา่ ยงั ไมพ่ ร้อมและแข็งแกร่งเพียงพอที่จะเผชิญหน้ากบั มนั ในที่สดุ ความเปลยี่ นแปลงเกี่ยวกบั เรื่องนีก้ ็มาถงึ ในเดือนรอมาฎอน เมอื่ วนั ท่ี 1 เดอื นรอมาฎอน ฉนั ตื่นขนึ ้ มาและไปเข้าชนั้ เรียนในชดุ คลมุ ศีรษะ ขอขอบคณุ ตอ่ พระผ้เู ป็นเจ้า ฉนั ไมเ่ คยถอดมนั ออกเลยนบั ตงั้ แตบ่ ดั นนั้ บางทีอาจจะเก่ียวกบั เดือนรอมาฎอนก็ได้ ท่ีช่วยให้ฉนั รู้สกึ แข็งแกร่งและภมู ใิ จท่ีเป็นมสุ ลิม ฉนั มีความรู้สกึ วา่ พร้อมจะตอบคาถามแก่ทกุ คน  การคลมุ ศีรษะเป็นสิ่งที่คอ่ ยๆ เปลยี่ นแปลง ฉนั ผละจากกางเกงยีนส์มาสกู่ ระโปรง และเสือ้ แขนยาวหรือเสือ้ สทู จากนนั้ ฉนั จงึ ตดั สนิ ใจท่ีจะคลมุ ศีรษะและเสือ้ ยาวหรือเสือ้ คลมุ

หลงั จากฉนั มลี กู คนแรก มนั เป็นสง่ิ ท่ียากลาบากมากที่จะรับมอื กบั สายตาและคาถามเกี่ยวกบั วธิ ีท่ีฉนั แตง่ กาย (เช่น การใสเ่ สอื ้ แขนยาวและแจ็กเกตในหน้าร้อน) ขณะที่ฉนั กาลงั ทางาน นน่ั คือเหตผุ ลที่ฉนั รอ กวา่ จะแตง่ ตวั มิดชิด เมอ่ื ฉนั แตง่ ตวั มดิ ชิด ฉนั รู้สกึ ไมค่ อ่ ยสะดวกสบาย และรู้สกึ แตกตา่ งจากทกุ คนอยา่ งมาก จนกระทงั่ อยากจะถอดมนั ออก เพ่ือพิสจู น์ให้ทกุ คน (แม้แตท่ ่ีฉนั ไมร่ ู้จกั ) เหน็ วา่ ฉนั ยงั เป็นคนเดมิ เหมือนกอ่ นหน้านี ้ แตฉ่ นั กย็ งั คงใสอ่ ยแู่ ละได้รับประโยชน์อย่างจริงจงั ทกุ วนั นีฉ้ นั รู้สกึ โมโหตอ่ ผ้คู นท่จี ้องมองฉนั หรือทาตลกใสฉ่ นั แตน่ น่ั กเ็ พียงแตท่ าให้ฉนั มคี วามรู้สกึ วา่ อยากจะสวมใสม่ ากขนึ ้ ฉนั คลมุ ศีรษะมาแล้ว 3 ปี เรื่องราวที่ผ่านออกมาทางนิตยสาร “Islamic Sisters International” (ฉบบั มกราคม ค.ศ.1994) คือหวั ข้อ “ฮิญาบ : ข้อกาหนดและการเลอื กปฏิบตั ิ” (Hijab : Definition and Discrimination) สตรีจานวนมากให้รายละเอยี ดการเลือกปฏิบตั ิ ซง่ึ เกิดขนึ ้ ในสถานที่ทางาน เมอ่ื ให้สมั ภาษณ์เข้าทางาน บางสว่ นมคี วามยากลาบากท่ีต้องเผชิญกบั การเยาะเย้ย และพยายามนกึ ถงึ ประสบการณ์ในสถานทส่ี าธารณะตา่ งๆ คนหนงึ่ กลา่ ววา่ เธอรู้สกึ วา่ ผ้าคลมุ ผมถกู ละเมดิ โดยสตรีที่ไมใ่ ช่มสุ ลิมมากกวา่ บรุ ุษที่ไมใ่ ช่มสุ ลมิ ในบทความนีส้ ตรีได้รับการกระต้นุ วา่ การคลมุ ศรี ษะเป็นเร่ืองจาเป็นมาก และในบางกรณีคาวา่ “ข้อบงั คบั ” ถกู นามาใช้ บรรณาธิการของนิตยสารฉบบั นี ้ ยงั กระต้นุ บรรดาพ่ีน้องสาวให้เข้าร่วมอยา่ งกระตือรือร้นเพื่อขจดั การเลอื กปฏิบตั ิ จากธุรกิจที่ไมเ่ ท่าเทียมกนั ที่กีดกนั ปฏิเสธหรือปิ ดบงั พี่น้องสาวบางคนท่ีคลมุ ศรี ษะ และปฏิบตั หิ น้าท่ีตามสทิ ธิที่พวกเธอได้รับการรับประกนั ขณะท่ีอยใู่ นสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา วนั ท่ีถกู กาหนดขนึ ้ และพ่ีน้องสาวเหลา่ นนั้ ได้รับการกระต้นุ ให้แตง่ กายด้วยเสือ้ ผ้าท่ีอนญุ าต ในสถานท่ที างานหรือกิจกรรมประจาของพวกเธอ ให้เขียนจดหมายหรือโทรศพั ท์หาวฒุ ิสมาชิกของพวกเธอ ให้เขียนจดหมายหรือโทรศพั ท์หาสานกั ขา่ วระดบั ชาติ และระดบั ท้องถ่ิน เพ่ือตอ่ ต้านการนาเสนอข้อมลู ที่ไมถ่ กู ต้องยตุ ธิ รรม และเพ่ือจดั เตรียมเส้นเสาหลกั แหง่ ความสนั ติ ในสถานท่ที ่ีเหมาะสม สตรีท่ีคลมุ ศีรษะ ไมไ่ ด้แสดงเฉพาะประสบการณ์ที่มคี วามหมายท่ีมนั มตี อ่ พวกเธอเท่านนั้ แตย่ งั มคี วามขดั ข้องใจที่บางครัง้ พวกเธอประสบอกี ด้วย สตรีจานวนมากที่เข้ารับอิสลามได้เลอื กการแตง่ กายอยา่ งมดิ ชิดในส่งิ แวดล้อมตะวนั ตกนี ้ เป็นผ้สู ถาปนาบ้านของมสุ ลิม และคานงึ ถงึ ขอบเขตของสิทธิที่ให้แก่พวกเธอในฐานะท่ีเป็นสตรี ตามหลกั ความเชื่อของอสิ ลามนนั้ เป็นจริงได้ในชีวิตของพวกเธอ เรื่องราวบางเร่ืองเกี่ยวกบั ขอบขา่ ยดงั กลา่ ว มีปรากฏตอ่ ไปนี ้

 สทิ ธิที่ดที ่สี ดุ ในอสิ ลามคอื การคลมุ ศีรษะ ฉนั มีสทิ ธิท่ีจะได้รับการมองวา่ เป็นสตรีท่ีมศี ีลธรรม ไมใ่ ช่เศษเนือ้ ท่ีถกู มองดอู ย่างดถู กู ผ้คู นมองดดู วงตาของฉนั เมื่อสนทนาด้วย ฉนั ได้รับการปฏิบตั ิเหมือนสตรีตามกฎเกณฑ์ทว่ั ๆ ไป มผี ้ทู ่ีกระโดดเข้าสโู่ อกาสของการประณามอย่เู สมอ ฉนั จะถกู กระต้นุ ให้ไปเป็นแรงงานมากกวา่ ถ้าไมใ่ ชเ่ พราะพวกผ้คู นเพียงเลก็ น้อยท่ีโง่เขลาตอ่ อิสลาม  เราอาศยั อยใู่ นประชาคมมสุ ลิมท่ีเข้มแขง็ และมีสายสมั พนั ธ์ท่ใี กล้ชิดกนั ฉนั จบการศกึ ษาเกียรตนิ ิยมในสาขาการพฒั นาเดก็ เม่อื ปี ที่แล้ว ฉนั มีงานให้ทาหลายอย่าง จากเลขานกุ ารจนถงึ ครูกอ่ นวยั เรียน โดยไมม่ ีปัญหาเกี่ยวกบั เรื่องการคลมุ ศีรษะของฉนั ฉนั มคี วามกระตือรือร้นที่จะช่วยชมุ ชนและยงั ทางานอาสาสมคั รจนถงึ ทกุ วนั นี ้  เนื่องจากการคลมุ ศรีษะ จงึ มอี คติอยมู่ ากในที่ทางาน ฉนั ไมอ่ าจรับผิดชอบในงานท่ี”พบปะกบั ผ้คู น” โดยสาธารณะได้อย่างเดด็ ขาด  อปุ สรรคประการเดยี วท่ีเกิดขนึ ้ กบั ฉนั ในการเป็นมสุ ลมิ ไมไ่ ด้มาจากมสุ ลิมด้วยกนั หร์ื อจากอสิ ลาม แตม่ าจากสงั คมที่ฉนั อาศยั อยู่ บางคนมกั รู้สกึ วา่ การท่ียงั คงต้องอธิบายเร่ืองการคลมุ ศรี ษะ ก็เหมือนกบั ปลาท่ียงั คงวา่ ยทวนกระแสนา้ ในอเมริกา ฉนั ถกู ปฏิเสธไมร่ ับเข้าทางานเน่ืองจากการคลมุ ศรีษะ หรือไมก่ ถ็ กู เลือกปฏิบตั ิอย่างเปิ ดเผย ถงึ อย่างนนั้ ก็ตาม ฉนั ยงั รู้สกึ ถงึ ความสาคญั ของการคลมุ ศีรษะ มนั เป็นการปลดปลอ่ ยในลกั ษณะที่สตรียคุ ใหมจ่ ะไมม่ วี นั รู้ ฉนั รู้สกึ ภมู ิใจทไ่ี ด้นาเสนออสิ ลาม ด้วยวถิ ีทางท่ีทรงพลงั ในฐานะที่เป็นมสุ ลิม ทกุ ครัง้ ที่ฉนั ออกไปสโู่ ลกภายนอก  มโนคติเกี่ยวกบั การเป็นสตรีของฉนั เกิดการเปลี่ยนแปลง ฉนั ไมแ่ สวงหาอสิ รภาพในการใสก่ างเกงรัดรูปและกระโปรงสนั้ อีกตอ่ ไปแล้ว แตอ่ ิสรภาพของฉนั ผ่านทางผ้าคลมุ ศีรษะและการแต่งกายท่ีมดิ ชิด ฉนั ไมเ่ ชื่อวา่ บรุ ุษกบั สตรีมีความเทา่ เทียมกนั อกี ตอ่ ไป แตม่ ีบทบาทของแตล่ ะเพศที่ถกู กาหนดไว้อย่างเหมาะสมแทน ในเวลาเดียวกนั เราทงั้ หมด (ทงั้ ชายและหญิง) มีความสมบรู ณ์ของเราเอง มคี วามสามารถพิเศษเป็นปัจเจก และต้องการโอกาสที่จะทาให้มนั ฉายแสงออกมา  ฉนั หวงั วา่ ผ้ทู ่ีไมใ่ ชม่ สุ ลิม มคี วามเข้าใจวา่ การคลมุ ศีรษะเป็นเพียงสว่ นเลก็ น้อยของการเป็นสตรีมสุ ลิม มนั เป็นการแยม่ ากท่ีคนสว่ นใหญ่ “ตดั สนิ หนงั สือ (หรือสตรี) ด้วยปก (หรือการคลมุ ผม)” หมายความวา่ พวกเขาคิดคานวณในเร่ืองอสิ ลามด้วยวธิ ีการแตง่ กาย

ในสงั คมซง่ึ อ้างวา่ มีแนวความคดิ ถงึ วธิ ีการปลดปลอ่ ยชีวิต “ที่เป็นอสิ ระมากกวา่ ” ให้สตรี ทศั นะท่ีเป็นจริงของบรุ ุษอเมริกนั ตอ่ สตรีคือ การกดขี่สตรีให้ตกตา่ ลงด้วยการสนบั สนนุ สง่ เสริมภาพลกั ษณ์ของพวกเธอให้เป็นเพียงสญั ลกั ษณ์ทางเพศ การคลมุ ศีรษะเป็นการปิ ดโอกาสความเป็นไปได้ของบรุ ุษท่ีจะชายตาด้วยความหยาดเยิม้ และเรียกร้องให้พวกเขามีทศั นะตอ่ สตรีวา่ เป็น “คน” ไมใ่ ช่ “วตั ถ”ุ มีสตรีเพียงคนเดยี วในการสารวจท่ีระบวุ า่ เธอสวมผ้าคลมุ หน้า ยกเว้นเพียงดวงตา ปัจจบุ นั เธออาศยั อยใู่ นประเทศมสุ ลิม แตเ่ ธอคลมุ หน้าตงั้ แตอ่ ย่ใู นสหรัฐอเมริกาแล้ว  ฉนั คลมุ ตงั้ แตศ่ รี ษะจนถึงตาตมุ่ สวมถงุ มอื ถงุ เท้าทงั้ หมด ฉนั คลมุ ผ้าใต้เสอื ้ คลมุ อีกชนั้ หนงึ่ และคลมุ หน้า ฉนั เผชิญกบั ปัญหามากมาย แตฉ่ นั ก็ยากท่ีจะเช่ือวา่ มนั ง่ายเหลอื เกิน ฉนั คลมุ หน้าอย่ใู นสหรัฐอเมริกาได้ 3 ปี คร่ึงแล้ว และไมม่ ีปัญหาอะไร คนจานวนมากเรียนรู้เกี่ยวกบั อิสลาม เพราะเขาสงสยั เกี่ยวกบั การคลมุ หน้า มนั คอ่ นข้างร้อน แตเ่ ม่อื อากาศร้อนเกินร้อยองศา ทกุ อยา่ งก็ร้อนเกินกวา่ จะสวมใส่ ฉนั ชอบเคร่ืองแตง่ กายนีอ้ ยา่ งมากมาย มากกวา่ ทกุ ส่งิ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงผ้ทู ี่เข้าใจเหตผุ ลในการคลมุ หน้าและการแตง่ กายจะมีท่าทีสนบั สนนุ และ ให้เกียรติ ฉนั ได้รับการปฏิบตั ิเป็นพิเศษทงั้ ที่นี่และทกุ ท่ีในสหรัฐ ฉนั ได้รับท่ีนง่ั พิเศษในเครื่องบิน ผ้คู นให้ฉนั อย่ดู ้านหน้าพวกเขาภายในแถว และบางครัง้ พอ่ ค้าก็ให้ของขวญั และบริการฟรีแก่ฉนั “ดะอ์วะฮ์” เป็นคาที่ใช้พ้องกบั ความหมายของคริสเตียนคอื “การเป็นพยาน” หรือ “การเผยแผ่” บอ่ ยครัง้ ที่การคลมุ ผมเป็นโอกาสของสตรีท่ีจะบอกเลา่ เรื่องราวของอสิ ลาม เพราะพวกเธอเหมาะสมที่จะถกู ตงั้ คาถามมากกวา่ บรุ ุษ ดงั ท่ีสตรีคนหนง่ึ เขียนมาวา่ “คณุ สามารถมองเห็น เรากาลงั มา เม่ือเราห่างไปตงั้ หลายไมล์ แต่ (ผ้สู งั เกตการณ์) ไมอ่ าจบอกได้อยา่ งแท้จริงวา่ บรุ ุษนนั้ เป็นมสุ ลมิ หรือไม”่  ฉนั ได้เรียนรู้และกาลงั เรียนรู้เพ่อื สกู่ ารปฏิบตั ิ ในสงิ่ ที่อนมุ ตั แิ ละสงิ่ ท่ีต้องห้าม มนั เป็นการยากท่ีจะคลมุ ศรี ษะ แตข่ ณะนีฉ้ นั ภมู ใิ จที่ได้เป็นมสุ ลิม และฉนั พยายามเผยแผ่ในเวลาท่ีเหมาะสม ณ เส้นทางทฉี่ นั ผา่ นไป ฉนั ไมส่ นใจอคตหิ รือไมก่ ็ใช้มนั เป็ นเหตผุ ลมากยิ่งขนึ ้ ในการนาความศรัทธาของฉนั ไปสกู่ ารป ฏิบตั ิ

นอกจากการแตง่ กาย ความประพฤติทางสงั คมท่ีได้รับการยอมรับ กเ็ ป็นการกระต้นุ ท่สี ะท้อนวฒั นธรรมอสิ ลาม ซงึ่ ปฏบิ ตั ิกนั ในประเพณีของประเทศมสุ ลิมตา่ งๆ และมอี ทิ ธิพลผา่ นทางครอบครัวและความนิยมชมชอบสว่ นตวั โดยทวั่ ไป นิสยั ใจคอท่ีสภุ าพเรียบร้อย ระหวา่ งบรุ ุษกบั สตรีเช่นเดียวกบั ในการแตง่ กาย บรุ ุษกบั สตรีควรมีความสภุ าพในการสนทนาระหวา่ งกนั มีความระมดั ระวงั ในการที่จะหลกี เล่ยี งการเกีย้ วพาราสีการพจู าสอ่ เสยี ดเป็นการสว่ นตวั บรุ ุษและสตรีที่ไมม่ ีความเก่ียวพนั กนั ตามโองการคมั ภีร์อลั กรุ อานที่ผ่านมา จะต้องหลกี เลี่ยงการอยดู่ ้วยกนั สองตอ่ สอง เมอ่ื พวกเธอมาเป็นมสุ ลิม สตรีจานวนมากต้องการที่จะอยบู่ ้านมากกวา่ ออกไปทางาน โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งเมอื่ พวกเธอมีลกู บางคนยงั ทางานอย่หู รือเรียนหนงั สือในมหาวิทยาลยั สตรีแตล่ ะคนมี “วจิ ารณญาณ” ในการแสดงตวั ในฐานะมสุ ลมิ ตามสถานการณ์ของแตล่ ะคน  ความเปลี่ยนแปลงหลกั ประการหนง่ึ คอื ฉนั ต้องมคี วามระมดั ระวงั ท่ีจะพดู กบั บรุ ุษ ฉนั ต้องกระทาอยา่ งผ้ทู ่ีบรรลนุ ติ ภิ าวะมากขนึ ้ ไมพ่ ดู เรื่องที่เป็นสว่ นตวั  ฉนั ไมอ่ าจแสดงความยินดีตอ่ เพื่อนบรุ ุษ อยา่ งท่ีเคยแสดงหรือแม้แตจ่ ะหยดุ เพื่อพูดคยุ กนั อย่างกระทนั หนั ได้ เพื่อนร่วมงานของสามีและเพื่อนๆ ของเขา มีขอบเขตที่แม้จะหยดุ รถพดู จาล้อเลน่ ขณะที่ฉนั รอเขาออกจากที่ทางาน  การปฏิบตั ศิ าสนกิจไมใ่ ช่เรื่องลาบาก แตท่ ศั นะคตขิ องตะวนั ตกบางอยา่ งเป็นเร่ืองท่ียากจะหยดุ และสามารถดงึ คณุ ออกไปจากหน้าที่ทางศาสนาได้ ตวั อย่างเช่น มสุ ลมิ ต้องไมห่ ยาบคาย แตต่ ้องสภุ าพและดสู ง่างามในความศรัทธาของตน ฉนั พบวา่ เป็นการยากท่ีจะบอกผ้คู น (ท่ีหยาบคาย) ให้รู้สกึ ละอาย รายการโทรทศั น์ของตะวนั ตกกเ็ ช่นกนั ท่ีขดั แย้งกบั คณุ คา่ ของอสิ ลาม นี่คือส่งิ ท่ียากลาบากที่สดุ สาหรับฉนั  ระหวา่ งเดือนรอมาฎอนแรกของฉนั เรารวมตวั กนั และผ้รู ู้เป็นผ้บู รรยาย การบรรยายนีม้ ีความบริสทุ ธิ์และมคี วามหมาย ซงึ่ มคี วามขดั แย้งอยา่ งสิน้ เชิงกบั ความน่าเกลียดที่ฉนั เหน็ เกิดขนึ ้ ในหมผู่ ้คู น และนี่คอื ความจริงที่ฉนั พบวา่ การปฏิบตั ิศาสนกิจของอสิ ลาม มนั กลายมาเป็นส่ิงท่ียากลาบากสาหรับผ้คู นท่ีจะปฏิบตั ิและฟืน้ ฟแู บบอยา่ งของทา่ นศาสดา มฮุ มั มดั อยา่ งแท้จริงได้อย่างไร หรือฉนั อาจจะต้องเชื่อเสียแล้ววา่ ศีลธรรมของคนอเมริกนั เสอื่ มสลายลงเสยี แล้ว เป็นไปได้ท่ีฉนั จะต้องขอบคณุ พ่อแมข่ องฉนั ที่เลยี ้ งดมู าอย่างสมบรู ณ์และเรียบงา่ ย ในขณะที่การฉ้อฉล ความอิจฉาริษยา ความโกรธ ความเกลยี ด ความไมอ่ ดทนและความน่าเกลยี ดอื่นๆ ของมนษุ ย์ปรากฏอยู่

 เม่ือฉนั เป็นมสุ ลมิ ฉนั มแี นวทางท่ีจะแสดงความศรัทธาที่ตวั เองมี ใช่แล้ว ความเปลีย่ นแปลงนีค้ อื ความคิด มนั เป็นการยากท่ีจะขออนญุ าตออกจากห้องเรียนหรือขณะทางานออกไปนมาซ เม่อื เครื่องแตง่ กายของฉนั เปลย่ี น (คลมุ ศรี ษะ) ฉนั สญู เสยี เพื่อนจานวนมาก ฉนั ยงั ต้องอธิบายตอ่ เพ่ือนบรุ ุษวา่ เป็นการไมเ่ หมาะสมที่ฉนั จะมองดพู วกเขา ฉนั ยงั ได้รับการตอ่ ต้านจากญาติพ่ีน้องจานวนมาก ซง่ึ บอกกบั ครอบครัวของฉนั วา่ ฉนั จะต้องถกู เผาในนรก ยิ่งฉนั เข้าไปใกล้ในศาสนาเทา่ ใด ฉนั ก็รู้สกึ วา่ เป็นผ้ทู ่ีสะอาดขนึ ้ เงียบสงบขนึ ้ ฉนั มคี วามเคร่งครัดมากขนึ ้ ฉนั มีความตงั้ ใจวา่ จะไมส่ มรสกอ่ นท่ีจะเป็นมสุ ลมิ ซง่ึ ฉนั จะเป็นภรรยาและในทีส่ ดุ ก็เป็นแม่ อสิ ลามได้วางกรอบท่ีอนญุ าตให้ฉนั นาเสนอความศรัทธาท่ีฉนั มีอยแู่ ล้ว เชน่ ความสงบเสงี่ยม ความออ่ นโยน ความรัก อสิ ลามยงั นาฉนั สคู่ วามสขุ ผ่านทางการสมรสและการถือกาเนิดของลกู สองคน ก่อนที่จะรับอสิ ลาม ฉนั ไมม่ คี วามต้องการที่จะมีครอบครัวของตนเอง ฉนั เกลยี ดแม้แตเ่ ดก็ ไมม่ ีปัญหาถงึ สง่ิ ที่ไมด่ ีงามที่ได้รับ มบี างสง่ิ บางอย่างท่ีฉนั ปลอ่ ยวางไปได้ ฉนั ไมเ่ คยรู้สกึ เปลา่ เปลย่ี ว หรืออ้างว้าง เพราะฉนั รู้วา่ พระผ้เู ป็นเจ้าทรงอย่ใู กล้ และรู้วา่ พระองค์ทรงทดสอบฉนั เพ่ือให้แข็งแกร่งขนึ ้ ความเป็ นพี่น้องกนั ของมสุ ลิม ทาให้ฉนั อบอนุ่ ในเวลาที่ยากลาบาก บทบาทของสตรีภายในบ้านมีความสาคญั อย่างที่สดุ ในอสิ ลาม และการเน้นยา้ ให้ดแู ลลกู ๆ และบ้านเรือน เป็นสิ่งท่ีสตรีมสุ ลมิ ต้องปฏิบตั อิ ยา่ งจริงจงั บ่อยครัง้ ที่เดก็ ๆ ได้รับการจดั การศกึ ษาที่บ้าน (Home School) โดยแม่ พอ่ แมข่ องสตรีบางคนที่เข้ารับอสิ ลาม มีความผิดหวงั ท่ีลกู สาวของตนเลอื กที่จะอย่บู ้าน พวกเขากงั วลว่านนั่ จะเป็นส่ิงบง่ ชีว้ า่ สตรีจะไมม่ ีโอกาสไปถงึ ความสมบรู ณ์สดุ ยอดของตนเองได้ ความห่วงใยนีจ้ ะมมี ากเป็นพิเศษ ถ้าพอ่ แมเ่ ป็นผ้อู อกคา่ ใช้จ่ายในการให้การศกึ ษากบั ลกู สาว หลงั จากสมรสกบั มสุ ลิม (หรือแม้แตเ่ ร่ิมค้นุ เคยกบั มสุ ลมิ ) สตรีจะเรียนรู้อย่างรวดเร็วที่จะไมบ่ ริการเนือ้ หมหู รืออาหารที่มสี ว่ นผสมของหมใู ห้มสุ ลมิ และบอ่ ยครัง้ เม่อื เข้ารับอสิ ลาม พวกเธอก็ตดั สนิ ใจที่จะกินเฉพาะเนือ้ และอาหารท่ี “ฮาลาล” เท่านนั้ คาวา่ “ฮาลาล” มคี วามหมายว่า “เชือดหรือผลติ ตามหลกั การอสิ ลาม” สง่ิ นีน้ บั วา่ เป็นการอทุ ิศตวั ให้กนั ของคสู่ มรสอย่างมากมาย เพราะเนือ้ สตั ว์ที่ฮาลาล ไมไ่ ด้มอี ยพู่ ร้อม ยกเว้นพวกเขาจะอาศยั อย่ใู นยา่ นท่ีมมี สุ ลมิ อยเู่ ป็นจานวนมาก และเนือ้ ดงั กลา่ วโดยปกติจะมีราคาแพงกวา่ เนือ้ ทวั่ ไป บรรดาสตรีจะเรียนรู้วิธีการปรุงอาหารหลายๆ ชนิด ท่ีสามชี อบจากวฒั นธรรมของพวกเขา

 การที่จะปฏิบตั ิตามคาสง่ั ในคมั ภีร์อลั กรุ อาน ท่ีให้กินเฉพาะเนือ้ สตั ว์ท่ีมสุ ลิมเชือดหรืออนญุ าตให้กินได้นนั้ เป็นเร่ืองงา่ ย ฉนั รู้วา่ ศาสนาคริสต์ห้ามกินเนอื ้ หมแู ละสตั ว์ท่ีมบี าดแผล แตค่ ริสเตียนไมป่ ฏิบตั ิตาม การกินเนือ้ สตั ว์ท่ีสามขี องฉนั เชือดตามหลกั การอิสลาม ทาให้ฉนั มีความภาคภมู ิใจวา่ ได้ปฏิบตั ิตามคาสง่ั ของพระผ้เู ป็นเจ้า และพระองค์จะทรงพอพระทยั ในตวั เรา เราแบ่งปันเนือ้ สตั ว์ของเรากบั พ่ีน้องมสุ ลิมครอบครัวอนื่ และเราดใี จที่มีสว่ นชว่ ยให้พวกเขาปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์ของพระองค์  จดุ ที่ทาให้เกิดความตงึ เครียด เมือ่ ฉนั ไปเย่ียมครอบครัวคือการท่ีเรากินแตเ่ ฉพาะเนือ้ สตั ว์ท่ีอนมุ ตั ิ ซงึ่ เชือดโดยมสุ ลิม เราปฏิเสธไมก่ ินอะไรเลย และนาอาหารของเราไปกินเอง ถงึ แม้วา่ เราจะพยายามอธิบายถงึ วธิ ีการเชือดตามหลกั การอิสลาม พวกเขากย็ งั รู้สกึ ไมส่ บายใจ ท่ีเรานาเอาอาหารไปเอง พวกเขาคิดวา่ น่ีเป็นการปฏิเสธอีกประการหนง่ึ เหมอื นกบั วา่ อาหารของพวกเขาไมด่ พี อสาหรับเราหรือไมส่ ะอาด อยา่ งไรก็ตาม เม่ือพวกเขามาเย่ียมเยียนบ้านของเรา พวกเขากินทกุ อยา่ งที่เราปรุง และเห็นวา่ พวกเขามคี วามสขุ มากขนึ ้ และลดความตงึ เครียดลง น่ีเป็นเพียงสงิ่ เลก็ น้อยของความเปล่ยี นแปลงของบรรดาสตรีซงึ่ เข้ารับอสิ ลาม ได้พฒั นาและเจริญเตบิ โตในเส้นทางแห่งความศรัทธาในฐานะมสุ ลิมของพวกเธอ พวกเธอดเู หมือนจะช่วยเหลือและสนบั สนนุ ซงึ่ กนั และกนั ผา่ นการเดนิ ทางท่ีตอ่ เนื่องนี ้ ถงึ แม้วา่ หลกั คาสอนขนั้ พืน้ ฐานของอสิ ลาม ของมสุ ลมิ ทกุ นิกายจะเหมอื นกนั หมด แตพ่ วกเขากม็ ีความแตกตา่ งกนั บ้าง ในการท่ีจะปฏิบตั ิภารกิจประจาวนั ความแตกตา่ งที่พวกเขาเลอื กจะปฏิบตั ติ ามและอรรถาธิบายคาสอนนี ้ จะมากหรือน้อยประการใดขนึ ้ อยกู่ บั แตล่ ะบคุ คลและแตล่ ะวฒั นธรรม  การอาศยั อยใู่ นอยี ิปต์และซาอดุ ิอารเบีย มอี ิทธิพลตอ่ ฉนั มากทีเดียว และมีผลตอ่ การที่ฉนั ได้รับรู้อยา่ งแท้จริงเก่ียวกบั ความหลากหลายแห่งการดารงอยขู่ องอิสล ามในท่ีตา่ งๆ แตส่ งิ่ ที่สาคญั ท่ีสดุ คือวถิ ีทางท่ีเราใช้ชีวติ สว่ นตวั ทางด้านศาสนา และแน่ใจวา่ เราเข้าใกล้ศาสนาด้วยความตงั้ ใจท่ีดี มสุ ลมิ รู้สกึ วา่ มีความจาเป็นต้องกระทา “ส่งิ ท่ีถกู ต้อง” ตราบเท่าท่ีพวกเขาคิดว่ามนั เป็ นส่งิ ที่ถกู ต้อง พวกเขาให้ภาพศาสนาอสิ ลาม วา่ เป็นระบบท่ีสลบั ซบั ซ้อน ซงึ่ มคี วามเก่ียวพนั กบั ทกุ มิติของชีวติ รวมทงั้ ชีวิตของปัจเจกบคุ คล

สงั คมและการปกครองด้วย บรรดาสตรีให้ความสนใจกบั แหลง่ ข้อมลู ในอนั ท่ีจะมคี วามเข้าใจระบบของความศรัทธาที่พวกเธ อเลือกท่ีจะเป็นตวั อย่างได้ดขี นึ ้ ดเู หมอื นวา่ บรรดาสตรีจะไมด่ าเนินตามอย่างหหู นวกตาบอด แตพ่ วกเธอใช้เวลาเรียนรู้และแสวงหาคาตอบ เพ่ือท่ีจะปฏิบตั ดิ ้วยความรู้ท่ีเพิ่มพนู ขนึ ้  ฉนั เรียนรู้ท่ีจะมีชีวติ แบบมสุ ลมิ ทงั้ จากหนงั สือและการช่วยเหลอื ของมสุ ลมิ คนอน่ื ๆ หนงั สอื ท่ีดีๆ ซง่ึ อธิบายส่งิ ที่บริโภคได้และห้ามบริโภค วธิ ีการแตง่ กาย สิ่งที่ไมค่ วรจะมีในบ้าน ฯลฯ มสุ ลิมใหมต่ ้องการข้อมลู รายละเอียดเหลา่ นีจ้ ากหนงั สือ และการแนะนาของมสุ ลมิ คนอน่ื ๆ เพราะบางครัง้ อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้สิง่ ตา่ งๆ จากคมั ภีร์อลั กรุ อานและวจนะของท่านศาสดามฮุ มั มดั ฉนั ศกึ ษาคมั ภีร์อลั กรุ อาน และวจนะของทา่ นศาสดามฮุ มั มดั ไมใ่ ชน่ ามาปฏิบตั อิ ย่างตาบอด ถ้ามคี นบอกบางส่ิงบางอย่างแกฉ่ นั หรือบางเวลาฉนั ต้องการรู้สง่ิ ใด ก็จะศกึ ษาจากหนงั สือ จากนนั้ จงึ ตดั สินใจ  เพ่ือนชาวซาอดุ อิ ารเบีย เป็นผ้หู นงึ่ ที่สอนให้ฉนั รู้ถงึ วธิ ีที่จะใช้ชีวติ แบบมสุ ลมิ เธอแสดงวธิ ีการนมาซ การชาระร่างกายกอ่ นนมาซให้ฉนั ดู ตลอดจนวธิ ีท่ีจะใช้ชีวิตทางสงั คมร่วมกบั มสุ ลมิ อ่นื ๆ เธอตอบคาถามที่ฉนั มีเก่ียวกบั อิสลามทกุ คาถาม ตงั้ แตเ่ ร่ืองชีวิตการสมรส เร่ืองลกู ๆ จนกระทง่ั ถงึ เรื่องวจนะของท่านศาสดามฮุ มั มดั และเรื่องศาสนบญั ญตั อิสลามด้านอืน่ ๆ ฉนั ได้รับคมั ภีร์อลั กรุ อานฉบบั ภาษาอาหรับ – องั กฤษ และหนงั สือเกี่ยวกบั อิสลามหลากหลายหวั ข้อ จากสถานเอกอคั รราชทตู ซาอดุ ิอารเบีย วิธีชีวิตอิสลาม เป็นแนวทางที่ฉนั สามารถยอมรับได้โดยงา่ ย เพราะชีวิตของฉนั ก่อนหน้านีไ้ มไ่ ด้หวือหวาเท่าใด ภาษาอาหรับดจู ะเป็นสิ่งที่ยากที่สดุ สาหรับฉนั การนมาซ การถือศลี อดและคลมุ ศรี ษะ ฯลฯ ล้วนเป็ นเรื่องง่ายสาหรับฉนั  ฉนั ไมจ่ าเป็นเลยจริงๆ ทจี่ ะต้องเรียนรู้ในการใช้ชีวิตแบบมสุ ลมิ เพราะวิถีชีวิตของฉนั แตเ่ ดิมเป็ นแบบมสุ ลิมอย่แู ล้ว ฉนั แตง่ กายอย่างมดิ ชิด และไมก่ ินหมู ไมด่ ืม่ สรุ า และพยายามทาสง่ิ ท่ีถกู ต้องตอ่ เพื่อนมนษุ ย์ ขอยืนยนั ด้วยความสตั ย์จริงวา่ ไมม่ ีใครชว่ ยเหลือฉนั ท่ีจะมีชีวติ แบบมสุ ลมิ ฉนั เรียนรู้ด้วยตวั เอง เพียงสง่ิ เดียวที่ฉนั เปลยี่ นแปลงคือวนั หยดุ และวนั ที่ฉนั ต้องนมสั การตอ่ พระผ้เู ป็นเจ้า น่ีเป็นสง่ิ ท่ีงา่ ยสาหรับฉนั เพราะเมือ่ ฉนั ยอมรับอิสลาม อิสลามก็เป็นวิถีชีวิตของฉนั ความจริง ฉนั ประทบั ใจในข้อเทจ็ จริงท่ีวา่ อิสลามทาให้การฝึ กฝนที่จะเป็นมสุ ลมิ เป็นส่ิงง่ายดาย  ฉนั เรียนรู้ที่จะเป็นมสุ ลิมจากมสุ ลมิ คนอ่นื ๆ ฉนั โชคดีท่ีได้พบสองสามภี รรยาท่ีมีความรู้อย่างดมี าก

ซง่ึ เป็นผ้สู อนทงั้ ฉนั และสามีในสง่ิ ที่มสุ ลมิ จาเป็นต้องรู้ ถงึ แม้วา่ หลายส่ิงหลายอยา่ งในอสิ ลามไมไ่ ด้สลบั ซบั ซ้อน แตก่ ารอาศยั อย่ใู นสงั คมท่ีไมใ่ ช่อิสลามทาให้พวกเขารู้สกึ เชน่ นนั้ ฉนั มีความคดิ เช่นเดียวกนั วา่ มนั ขนึ ้ อย่กู บั อาณาเขตของประเทศท่ีพวกเขาอาศยั อยู่ ในเมอื งใหญ่ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงทางแถบภาคเหนือ มปี ระชาคมมสุ ลมิ ขนาดใหญ่อยู่ สงิ่ นีท้ าให้สามารถหาบางสง่ิ บางอย่างเช่น เนือ้ สตั ว์ที่ฮาลาลได้ง่าย ผ้ทู ี่ไมใ่ ช่มสุ ลมิ กค็ ้นุ เคยกบั การแตง่ กายของมสุ ลมิ และการปฏิบตั ติ ามบทบญั ญตั อิ ิสลามอกี ด้วย เพราะฉะนนั้ พวกเขาดจู ะมีความใจกว้างและไมร่ ู้สกึ กลวั ตอ่ การปรากฏตวั ของเรา ฉนั พบวา่ การสมั พนั ธ์ใกล้ชิดกบั ครอบครัวมสุ ลมิ อืน่ ๆ ทาให้มีความงา่ ยดายขนึ ้ ในการเผชิญกบั ความยากลาบาก สิทธิของสตรีมุสลิม คาบสมทุ รอาหรับในคริสต์ศตวรรษที่ 7 อยใู่ นสภาพการณ์ท่ีการฆา่ ลกู สาวของตนเองเป็นเรื่องธรรมดา สตรีมีสิทธิเพียงเลก็ น้อย และบางครัง้ ถกู ปฏิบตั อิ ยา่ งผิดๆ คมั ภีร์อลั กรุ อานมอบสทิ ธิในการครอบครองทรัพย์สินให้กบั สตรี ได้รับมรดก ได้รับสินสอดและมีสิทธิจะเลอื กผ้ทู ี่จะมาสมรสกบั เธอ ให้ได้รับการสนบั สนนุ และปกป้ องจากสามขี องเธอ และสิทธิอนื่ ๆ อีกมากมาย ดอ็ กเตอร์ริฟฟัต ฮสั ซนั นกั เทววทิ ยามสุ ลมิ และเป็นสตรี แห่งมหาวิทยาลยั แหง่ รัฐหลยุ ส์วลิ ล์ กลา่ ววา่ “ฉนั จาได้ถงึ การถกู ประทษุ ร้ายทางความรู้สกึ ในครัง้ แรกทีฉ่ นั ได้แลเห็นความขดั แย้งกนั ที่ชดั เจนย่ิงระหวา่ งอดุ มคติของอิสลามกบั การปฏิบตั ขิ องมสุ ลิม ในเรื่องเกี่ยวกบั สตรี” เธอเชื่อวา่ สตรีในประเทศอื่นอีกจานวนมากที่ยงั ไมท่ ราบถงึ ความแตกตา่ ง สาหรับการไมค่ านงึ ถงึ บทบาทที่แสดงโดยภรรยาของท่านศาสดามฮุ มั มดั “คา่ นิยมของอสิ ลามยงั คงเป็นผ้นู าท่ีเดน่ ชดั … ในการปฏิเสธการเตบิ โตของความเป็นนกั วชิ าการในหมสู่ ตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมณฑลของแนวความคดิ ทางด้านศาสนา …” ดงั นนั้ ท่ีตามมาก็คือสตรีมสุ ลมิ ยงั ไมป่ ระจกั ษ์ถงึ การที่ “สิทธิมนษุ ยชนของพวกเธอถกู กระทาย่ายีโดยสงั คมท่ีครอบงาโดยบรุ ุษและมีบรุ ุษเป็นศูนย์กลาง” สตรีอเมริกนั โดยกาเนิดที่ยอมรับอิสลาม จงึ ถกู ท้าทายจากพวกผ้นู าของเฟมนิ ิสต์ (นกั สทิ ธิสตรี) ตามที่พวกเขาตีความสิทธิท่ีให้กบั สตรีตามคมั ภีร์อลั กรุ อาน สตรีอเมริกนั ที่ไมไ่ ด้รับการเปิ ดเผยเกี่ยวกบั วฒั นธรรมอิสลาม จงึ มโี อกาสเป็นพิเศษที่จะได้เหน็ สิทธิของสตรีท่ีได้รับการอธิบายและปฏิบตั ิตามแบบอิสลาม ในสถาบนั แบบอเมริกนั แนวความคดิ เหลา่ นีม้ ผี ล และเป็นทหี่ วงั วา่ จะเปลยี่ นแปลงคา่ นิยมท่ีไมถ่ กู ต้อง

ซง่ึ ได้พฒั นาอย่ใู นสงั คมมสุ ลมิ บรรดาสตรีได้เสนอแนะทงั้ ความขดั ข้องใจและความปี ติยินดีสาหรับคา่ นิยมดงั กลา่ วในสงั คมมสุ ลมิ  บางครัง้ ฉนั รู้สกึ วา่ สตรีมสุ ลมิ ไมไ่ ด้รับโอกาสท่ีจะพดู ออกมาเกี่ยวกบั ความเหน็ หรือทศั นะของพวกเธอ เกี่ยวกบั สิง่ ตา่ งๆ ในสงั คมมสุ ลมิ พวกเธอถกู จบั เอาไปไว้ข้างหลงั และถกู เอาไปซอ่ น ถ้าฉนั ไปฟังบรรยายในสถานที่ท่ีไมใ่ ชม่ สั ยิด ฉนั ชอบนง่ั ใกล้ข้างหน้า เพ่ือจะได้เหน็ และได้ยินผ้บู รรยาย ฉนั แตง่ กายตามหลกั การอิสลามแล้วทาไมฉนั จะต้องนง่ั ข้างหลงั เพียงเพราะบางคนคดิ วา่ บรุ ุษจะควบคมุ ตวั เองไมไ่ ด้ บรุ ุษกต็ ้องรับผิดชอบตอ่ การกระทาของพวกเขา สตรีไมอ่ าจถกู ซอ่ นอย่ตู ลอดเวลา เพ่ือห้ามบรุ ุษไมใ่ ห้คิดในสิ่งท่ไี มด่ ี เราควรจะแตง่ กายเพ่ือไมใ่ ห้ไปสง่ เสริมส่งิ นนั้ แตฉ่ นั กย็ งั คงจะไมใ่ ช้ชีวติ โดยขงั ต์ัวเองอย่ใู นกรง หรือ ในท่ีนงั่ แถวหลงั ของการบรรยายในมหาวทิ ยาลยั ฉนั สามารถมชี ีวิตด้วยความมเี กียรติและศกั ดิศ์ รี พร้อมทงั้ มชี ีวติ แบบมสุ ลิมได้ในเวลาเดยี วกนั  ในฐานะสตรีมสุ ลิม ฉนั ต้องการเห็นสตรีมีบทบาทความกระตือรือร้ นมากขนึ ้ ในสงั คม มกี ารพดู ออกมามากขนึ ้ แทนที่จะอยใู่ นเงามืดของความเงียบ ตามท่ีวฒั นธรรมตะวนั ตกมองสตรีมสุ ลิมอยา่ งนนั้ อสิ ลามให้สทิ ธิสตรีมสุ ลิมอยา่ งมากมาย เหตผุ ลหลกั ประการหนง่ึ ของการคลมุ ศีรษะคอื การเข้าสสู่ งั คม สตรีมสุ ลิมควรแสดงบทบาททก่ี ระตอื รือร้นในด้านบทบาทด้านการเป็นแบบอยา่ งให้เดก็ ๆแ ละเยาวชน การเคลื่อนไหวท่ีเริ่มประจกั ษ์ตอ่ สิทธิของสตรีมสุ ลมิ เป็นส่ิงท่นี า่ สนใจอย่างมากมาย และสทิ ธิเหลา่ นีไ้ ด้รับการเก็บรักษาไว้ โดยสตรีมสุ ลิมในสหรัฐและแคนาดา พวกเธอเชื่อวา่ พระผ้เู ป็นเจ้า ทรงทาให้สิทธิของสตรีอยใู่ นสถานท่ีที่ไมเ่ คยอย่มู าก่อนไมว่ า่ ในห้วงเวลาใดกต็ าม โดยผา่ นคมั ภีร์อลั กรุ อานเมือ่ 1400 กวา่ ปี ท่ีผ่านมา นน่ั คือมีความเสมอภาคกนั ในเร่ืองขอบขา่ ยทางจิตวญิ ญาณ วิชาการ การเมอื ง สงั คมและเศรษฐกิจ ในชีวิตมนษุ ย์ สทิ ธิบางประการสะท้อนออกมาตอ่ ไปนี ้ ในเร่ืองเกี่ยวกบั ความอดทน การปฏิบตั ิอย่างออ่ นโยน การศกึ ษาและอาชีพการงาน และถือวา่ มีความเทา่ เทียมกบั บรุ ุษตอ่ หน้าพระผ้เู ป็นเจ้า แตด่ ้วยบทบาท ซงึ่ บางครัง้ มีความแตกตา่ งกนั ในเร่ืองความรับผิดชอบ

 ฉนั มีสิทธิเหมอื นกบั สตรีอืน่ ๆ ฉนั มีเสรีภาพในการศกึ ษาและการประกอบอาชีพหากฉนั ต้องการ ฉนั คิดวา่ โดยความเป็นจริงสตรีมสุ ลมิ ได้รับการปฏบิ ตั ิด้วยการให้เกียรตอิ ยา่ งมาก ฉนั สมรสมาแล้ว 11 ปี สามขี องฉนั ไมเ่ คยแสดงการไมใ่ ห้เกียรตหิ รือพยายามเอาเสรีภาพทางความคดิ และการเลือ กสรรของฉนั ไป เรามกี ารแลกเปล่ียนกนั แตไ่ มเ่ คยท่ีจะปิ ดกนั้ ส่ิงเหลา่ นนั้  สามขี องฉนั เป็นคนที่ออ่ นโยนและมีนา้ ใจตอ่ ฉนั ปลอ่ ยให้ฉนั เป็นคนตดั สินใจเรื่องตา่ งๆ ภายในบ้าน ฉนั ทาความสะอาดและจดั แตง่ บ้านตามที่ต้องการ ฉนั ทาให้บ้านเป็นสถานที่อนั สงบสขุ และเป็นท่ีพกั ผ่อน เป็นสถานท่ีซง่ึ สมาชิกทกุ คนในบ้านสามารถผ่อนคลาย บรรเทาความเคร่งเครียดและลืมความกงั วลเกี่ยวกบั โลกภายนอก เมอ่ื ฉนั ต้องการท่ีจะเลิกอาชีพครูและท่ีปรึกษา ก่อนท่ีลกู คนแรกของเราจะเกิด เขามีความกระตือรือร้นและยอมรับการตดั สนิ ใจที่จะอย่บู ้านของฉนั และไมเ่ คยบอกให้ฉนั ทางานเพ่ือชว่ ยออกคา่ ใช้จ่ายภายในบ้าน  ขอบเขตหนง่ึ ที่ฉนั รู้สกึ ภมู ใิ จมาก สาหรับสถานภาพของตนเองในฐานะสตรีท่ีสมรสแล้วคือ ฉนั ชอบท่จี ะปลอ่ ยให้คนใดคนหนง่ึ เป็นผ้ตู ดั สนิ ใจหลกั สามีของฉนั เป็นผ้นู าครอบครัว แตฉ่ นั บอกกบั ลกู ๆ วา่ ฉนั เป็นรองประธาน ฉนั ยงั ได้รับการปฏิบตั ิด้วยความให้เกียรติ เช่นเดียวกบั ความมีศกั ด์ศิ รี ฉนั ชอบมนั  ในฐานะสตรีมสุ ลิม ฉนั มีสทิ ธิจะเคารพภกั ดตี อ่ พระผ้เู ป็นเจ้า มีสิทธิท่ีจะเลือกสามีท่ีดี และมชี ีวิตท่ีสะอาดบริสทุ ธิ์ ฉนั มสี ทิ ธิท่ีจะได้รับการปกป้ องและไมถ่ กู ทาร้าย ฉนั ภมู ิใจในตวั สามี ท่ีเป็นผ้สู นใจในตวั ภรรยาก่อนสง่ิ อ่ืน สามีท่ีสอบถามและให้เกียรตติ อ่ ทศั นะของฉนั ฉนั ไมม่ ีความรู้สกึ อย่างจริงๆ เลยวา่ ถกู เอาเปรียบในการเป็นสตรีมสุ ลิม เพียงสงิ่ เดียวคือเร่ืองการทางานนอกบ้าน บางครัง้ เป็นการยากท่ีจะหางาน (โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งกบั ผ้ทู ี่ไมใ่ ช่มสุ ลมิ )  โดยจาเพาะเจาะจงแล้ว ฉนั ชื่นชมไมเ่ ฉพาะแตก่ ารไมท่ ะเลาะกบั บรุ ุษเรื่องการนดั หมาย การพบปะ ข้อความหรือคาพดู ซา้ ซากท่ีน่ารังเกียจ ฉนั ยงั มีประสบการณ์ท่ีมอี สิ ระมากกวา่ ในทางเลอื กของฉนั เก่ียวกบั อาชีพ เงินที่ฉนั หามาได้ ความจากดั สว่ นตวั ที่ตามความต้องการของฉนั ไมใ่ ชข่ องผ้อู ่นื  การมาเป็นมสุ ลมิ ของฉนั ช่วยให้ฉนั มีความกล้าหาญท่ีจะยืนขนึ ้ ตอ่ ต้านความไมร่ ู้ และเข้ารับผิดชอบตอ่ ชีวิตตวั เอง ชีวิตของฉนั ในฐานะคริสเตียน เตม็ ไปด้วยภาวะหนีเสือปะจรเข้ ครัง้ แล้วครัง้ เลา่ ติดตอ่ กนั ตลอด ซง่ึ ฉนั หวงั วา่ พอ่ หรือใครสกั คนหนง่ึ จะชว่ ยปกป้ องฉนั มมุ หนง่ึ เกี่ยวกบั ชีวิตของฉนั คล้ายคลงึ กบั ความศรัทธา โชคไมด่ ีที่มมุ มองท่ีไมเ่ ป็นผ้ใู หญ่ดงั กลา่ ว

ไมเ่ พียงแตก่ ีดขวางความเจริญเตบิ โตสว่ นตวั เท่านนั้ แตย่ งั มผี ลกระทบตอ่ ความเคารพในตนเองอกี ด้วย อิสลามให้ความเคารพในตนเองแก่ฉนั เพื่อท่ีจะสามารถตดั สนิ ใจเรื่องใหญ่ๆ ได้ โดยปราศจากความหวาดกลวั ที่จะปฏิบตั ิให้ผ่านไปพร้อมกบั มนั  สตรีมสุ ลมิ ไมต่ ้องรับผิดชอบตอ่ การครองชีพแตอ่ ย่างใด สามจี ะเป็นผ้รู ับภาระในการครองชีพทงั้ หมด รวมทงั้ เสือ้ ผ้า และการเรียนรู้เกี่ยวกบั อิสลาม เงินทงั้ หมดท่ีเธอได้รับ คา่ เลยี ้ งดลู กู ที่ได้รับจากการสมรสครัง้ กอ่ น จากการทางาน สนิ สอด มรดกของเธอ หรือส่ิงอ่ืนๆ ลกั ษณะเดยี วกนั นี ้ เธอสามารถเกบ็ ไว้หรือจะใช้จา่ ยตามท่ีเธอเหน็ สมควร (ตราบใดท่ียงั อยใู่ นสงิ่ ที่อิสลามอนญุ าต) สามไี มอ่ าจมาย่งุ เกี่ยวกบั ทรัพย์สินเหลา่ นีไ้ ด้ ถ้าเธอทางาน เธอสามารถแบ่งปันมาจนุ เจือครอบครัวได้ ถ้าเธอต้องการ เพราะเธอใช้เวลาออกจากบ้านไปทางานที่เหลอื เป็นของเธอแตเ่ พียงผ้เู ดยี ว สามขี องฉนั ยงั ไมท่ ราบเรื่องนี ้เมอ่ื ตอนท่ีเราสมรสกนั เม่ือฉนั อธิบายให้เขาฟังเขากลา่ วว่า บรุ ุษต้องพบกบั ภาวะชกั หน้าไมถ่ งึ หลงั เป็นแน่ นนั่ เป็นความจริง ถ้าฉนั หาเงินได้บ้างจากที่ใดท่ีหนง่ึ ฉนั สามารถนาไปซือ้ เสือ้ ผ้าหรือเคร่ืองประดบั ใหม่ ๆ หรือจะเก็บเอาไว้กไ็ ด้ แตส่ ามีของฉนั ต้องจ่ายทกุ อยา่ งเกี่ยวกบั คา่ ใช้จ่ายภายในบ้านก่อน กอ่ นท่ีจะจ่ายให้ตวั เอง บรุ ุษมคี วามรับผิดชอบมากมาย ฉนั เป็นห่วงเกี่ยวกบั บ้าน แตม่ นั ไมใ่ ชค่ วามรับผิดชอบของฉนั ท่ีจะต้องจ่ายใบแจ้งหนีค้ า่ ใช้จ่ายตา่ งๆ ทกุ เดือน สามขี องฉนั รู้วา่ มนั เป็นความรับผิดชอบของเขาเอง  สทิ ธิประการหนงึ่ ที่ฉนั มี ซง่ึ มคี วามสาคญั มากสาหรับฉนั นนั้ ไมใ่ ชก่ ารมีงานทาและมีโอกาสใกล้ชิดกบั ลกู สาวของฉนั แตม่ นั เป็นส่ิงที่ดีมาก ที่สามีของฉนั จดั เตรียมการครองชีพตามมาตรฐานหรือสงู กวา่ ไว้ให้ โดยท่ีไมถ่ ามสิง่ ใด บ้าน เสอื ้ ผ้า ปัจจยั พืน้ ฐานที่ดี ฉนั รู้สกึ วา่ บ้านเป็นของภรรยาและผ้เู ป็นแม่ ฉนั รักบ้าน ฉนั ภมู ใิ จมากท่ีมีโอกาส และมนั จะเป็นไปไมไ่ ด้เลยถ้าฉนั ไมส่ มรส ไมม่ ขี อบเขตใดเลยท่ีเปิ ดสาหรับฉนั ในฐานะสตรีมสุ ลิม สิง่ ที่พวกเธอละทิง้ ไว้เบอื้ งหลงั การเดนิ ทางสเู่ ส้นทางมสุ ลิมทาให้บรรดาสตรีต้องละทิง้ ส่งิ ตา่ งๆ มากมายที่พวกเธอเติบโตมากบั มนั ไว้เบือ้ งหลงั ผ้ตู อบแบบสอบถามไมไ่ ด้ชีว้ า่ พวกเธอมคี วามรู้สกึ ที่มากมายใดๆ ในการสญู เสยี หรือมีความเสียใจ ตอ่ สิ่งที่พวกเธอต้องละทิง้ ไว้เบือ้ งหลงั เม่ือเข้ารับอิสลาม เกือบทงั้ หมดตอบแสดงความขอบคณุ ที่พวกเธอได้ค้นพบแนวทางการดาเนินชีวติ นี ้ แตบ่ างคนก็ยอมรับวา่ ต้องปรับตวั เพื่อละทิง้ บางสง่ิ ท่ีเคยช่ืนชอบในอดีตที่ผ่านมา

 ฉนั ไมร่ ู้สกึ เสยี ใจ หรือรู้สกึ วา่ สญู เสียสิง่ ใดในชีวติ ทีฉ่ นั ทิง้ ไว้เบือ้ งหลงั ฉนั ไมร่ ู้สกึ วา่ ได้ทิง้ อะไรไว้ เพียงแตเ่ ติบโตพฒั นาไปข้างหน้าในส่ิงท่ีฉนั ต้องการเป็นเทา่ นนั้ ฉนั ไมร่ ู้วา่ ตวั เองจะเป็นอยา่ งไร แตก่ ็วิงวอนขอให้ได้รับการปลดปลอ่ ยออกไปจากหนทางท่ีชวี ิตฉนั เคยดาเนินอยแู่ ละสงั คมที่ เป็ นไป  การเปล่ียนแปลงท่ียากลาบากท่ีสดุ คือ เมอ่ื ฉนั เร่ิมกินแตเ่ นือ้ สตั ว์ท่ีอนญุ าต ไมส่ ามารถกินมอื ้ หลกั ในอาหารเยน็ กบั ครอบครัวได้ เมือ่ ฉนั เข้ารับอสิ ลาม เราต้องเชือดแกะและไกเ่ อง ในตอนเร่ิมต้น ซง่ึ เป็นความไมส่ ะดวกอย่างหนง่ึ  ไมม่ ีสง่ิ ใดในชีวิต ทงั้ ตอ่ สามีและตอ่ อิสลามท่ีฉนั สญู เสยี ไป ฉนั ต้องการบทสรุปที่เป็นตรรกะในคาถามด้านศาสนาและศกั ยภาพในการเสาะแสวงหาคว ามสนั ติอยเู่ สมอ ศาสนาเป็นสถาบนั ของความศรัทธาและการยอมเช่ือฟังที่สมั ผสั ไมไ่ ด้ และฉนั พบบางส่งิ บางอย่างในอสิ ลามท่ีประทบั ใจฉนั และรู้สกึ เป็นธรรมชาติประดจุ ลมหายใจของตวั เอง  ไมม่ ีส่ิงใดที่ฉนั ทิง้ ไว้เบือ้ งหลงั ซงึ่ ฉนั รู้สกึ วา่ เป็นความสญู เสยี หรือความเสียใจ สิง่ ท่ีทาให้ฉนั เสียใจเพียงอยา่ งเดยี วคอื การที่ครอบครัวของฉนั ยงั ไมไ่ ด้เข้ารับอิสลาม  ฉนั ยงั คงเสยี ใจและรู้สกึ สญู เสยี ถงึ แม้วา่ ไมม่ ากเทา่ เม่ือก่อน นน่ั คอื ชว่ งเวลาคริสต์มาส ฉนั รักท่จี ะร้องเพลงและรู้สกึ ถงึ ความมหศั จรรย์ ฉนั มคี วามมอบหมายตอ่ พระผ้เู ป็นเจ้าอย่เู สมอ (ยกเว้นเวลาไมก่ ่ีปี ในวทิ ยาลยั ) ฉนั เป็นคนที่มีจิตวิญญาณมาก  สงิ่ เดียวที่ฉนั คิดถงึ เก่ียวกบั คริสต์มาส คอื การตกแตง่ ประดบั ประดา และการรับการให้ของขวญั มเี พียงเทา่ นนั้ จริงๆ  ส่ิงที่ฉนั รู้สกึ สญู เสียคือการ ได้ไปวา่ ยนา้ เพราะฉนั รักการวา่ ยนา้ และสามขี องฉนั ไมร่ ู้วา่ มนั เป็นอยา่ งไร ฉนั ต้องการให้ลกู ชายรู้วา่ การวา่ ยนา้ นนั้ สนกุ สนานเพียงใด ตอนนีฉ้ นั ไมร่ ู้วา่ จะชว่ ยเหลอื เขาให้เรียนได้อย่างไร ยกเว้นคนนอกที่จะสอนเขา  ฉนั คดิ ถงึ สายลมท่ีพดั ผา่ นเส้นผมของฉนั เพราะฉนั คลมุ ศรี ษะ แตฉ่ นั ก็เตอื นตวั เองให้มนั่ คงในศรัทธา และสิง่ ท่ีพระผ้เู ป็นเจ้าจะทรงตอบแทนฉนั  ฉนั ไมค่ ิดวา่ มีสง่ิ ใด ซงึ่ ฉนั ละทิง้ ไปที่ฉนั คิดถงึ มนั ฉนั เบื่อหนา่ ยภาพของงานปาร์ตี ้ และรอเวลานานกวา่ จะสมรส มีลกู สงิ่ นีเ้กิดขนึ ้ ก่อนทฉ่ี นั จะพบกบั อิสลาม ฉนั มองเหน็ ชีวติ ของตวั เองวา่ มีแตท่ ่ิมหวั ลง อย่างไรกต็ ามฉนั มีความทะนงตวั นิดหนอ่ ย และใช้เวลาสองสามปี กวา่ จะคลมุ ศีรษะ

 สงิ่ ที่เจ็บปวด ซง่ึ ฉนั จาต้องทิง้ ไว้เบือ้ งหลงั คือความสมั พนั ธ์ที่ใกล้ชิดและเครือขา่ ยท่ีกว้างขวาง และมีความหมายของความเป็ นเพื่อนที่มีชีวติ ชีวา  ฉนั ไมม่ คี วามรู้สกึ เสียใจจริงๆ ท่ีต้องละทิง้ สง่ิ ตา่ งๆ ไว้เบือ้ งหลงั ยกเว้น พิซซา่ แตฉ่ นั กไ็ ด้พบร้านท่ีบริการพิซซา่ เนือ้ แกะฮาลาล ในบริเวณท่ีเราอาศยั อยู่  ฉนั คลมุ ศรี ษะมาตงั้ แตเ่ ข้ารับอิสลาม แม้วา่ ฉนั จะเข้าใจถงึ การปกป้ องท่ีได้รับ (จากการคลมุ ศีรษะ) แตฉ่ นั ก็ยงั พบวา่ บางครัง้ ตวั เองกย็ งั อยากจะไปยงั ชายหาด เลน่ นา้ ทะเลและอาบแดด  การเช่ือมชีวิตของฉนั เข้ากบั พระผ้เู ป็นเจ้า คอื สว่ นท่ีมคี วามหมายมากที่สดุ ในอสิ ลามสาหรับฉนั ฉนั ต้องการและรักในความเคร่งครัดของการนมาซ และทกุ ส่ิงท่ีอิสลามต้องการ ขณะนีฉ้ นั รักการคลมุ ศีรษะ และภมู ิใจมากท่ีพระผ้เู ป็นเจ้าปกป้ องฉนั จากวิถีทางท่ีฉนั มงุ่ ไป และจากท่ีท่ีเพื่อนๆ ของฉนั มมากมายต้องจมปลกั อยู่ สตรีท่ีเข้ารับอิสลามได้รับเอาแนวทางใหมใ่ นการตดิ ตอ่ สมั พนั ธ์กบั โลก เธอยอมรับการปฏิบตั ทิ งั้ หมด ท่ีแม้จะขนึ ้ อย่กู บั การอธิบายจากหลากหลายวฒั นธรรม แตก่ ็เป็นสากล เธอมภี าระหน้าที่ที่จะต้องผสมคละเคล้าการเตบิ โตแบบตะวนั ตกของเธอเข้ากบั วฒั นธรรมของสามี ซงึ่ เป็นวฒั นธรรมของการประพฤติปฏิบตั ิตามหลกั การอสิ ลามและของประชาชาตมิ สุ ลิมท่ีเป็นกลมุ่ สนบั ส นนุ เธออยู่ ทงั้ หมดนีค้ ือสิ่งท่ีเธอจะต้องทา รวมทงั้ การสร้างสายสมั พนั ธ์กบั ครอบครัวเดิมของเธอขนึ ้ มาใหมด่ ้วย สตรีท่ีเข้ารับอสิ ลามจะต้องมีความรับผิดชอบในการท่ีจะชว่ ยอธิบายสิทธิท่ีอิสลามให้กบั สตรีมสุ ลิมในสภาพแวดล้อมท่ีพวกเธออยู่ ไมว่ า่ จะโยกย้ายไปอยปู่ ระเทศท่ีมมี สุ ลมิ เป็นชนสว่ นใหญ่ หรือการสมาคมกบั ผ้เู ข้ารับอสิ ลามใหมร่ วมทงั้ ผ้ทู ่ีอพยพเข้ามาในสหรัฐอเมริกา พวกเธอจะเป็นเสมอื นพ่ีเลีย้ งท่คี อยแนะนาผ้ทู ่ีเข้ารับอิสลามใหม่ และสร้างมติ รภาพกบั ผ้ทู ี่อพยพเข้ามาใหม่ สาหรับผ้เู ข้ารับอสิ ลามท่ีเป็นคนอเมริกนั โดยกาเนิด การญิฮาด กลายเป็นความจริงสว่ นตวั ของพวกเธอ ในการตอ่ ส้เู พ่ือแสดงออกถงึ การยอมจานนตอ่ พระผ้เู ป็นเจ้า โดยการใช้ชีวิตและประพฤติปฏิบตั ติ ามหลกั การอสิ ลาม 6. ยอมรับการเดนิ ทางของลูกสาว การประนีประนอมกนั ในการเลือกวถิ ีชีวติ ระหวา่ งลกู สาวกบั พอ่ แม่ เป็นเวลา 3 ปี ตงั้ แตโ่ จดีบอกเราเกี่ยวกบั การเข้ารับอสิ ลามของเธอ บรรณาธิการนิตยสารของนิกายท่ีเราสงั กดั

กาลงั มองหาบทความเกี่ยวกบั การประนีประนอมในเรื่องความสมั พนั ธ์ของครอบครัว และฉนั รู้สกึ วา่ ตวั เองสามารถเขียนบทความเก่ียวกบั สิง่ ที่เกิดขนึ ้ ซงึ่ ฉนั กบั โจดี ร่วมมือกนั เยียวยารักษาความสมั พนั ธ์ของเรา ฉนั เขียนเรื่องราวตา่ งๆ และสง่ ไปให้โจดตี รวจ เพื่อสง่ ให้กบั ทางนิตยสาร ฉนั เลา่ โดยทว่ั ๆ ไปเก่ียวกบั การท่ีความสมั พนั ธ์เราถกู ทาลายไป เม่อื เธอเป็นมสุ ลิม และวธิ ีการท่ีเราร่วมมอื กนั “ปฏิบตั งิ านจนลลุ ว่ งไป” ในไมก่ ี่ปี แรก เร่ืองราวของฉนั จบลงด้วยข้อความตอ่ ไปนี ้ “แนวความคดิ ขนั้ พืน้ ฐานที่ฉนั มีอย่กู ค็ อื พระผ้เู ป็ นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของทงั้ โลก ผ้ทู รงรักมนษุ ย์ทกุ คน ทรงเคลอื่ นไหวอยใู่ นชีวติ ของพวกเขา และทรงเป็นปฐมภมู ิในการแสดงออกทางศาสนาของพวกเขา ด้วยผลของประสบการณ์ที่เพิ่มพนู ขนึ ้ ฉนั สามารถกลา่ วกบั ลกู สาวได้วา่ “โจดี ลกู จะอย่ไู กลจากแมเ่ มื่อลกู เดนิ ทางไปอิหร่าน แมค่ งจะคิดถงึ ลกู แตแ่ มร่ ู้สกึ ขอบคณุ ที่ในระหวา่ งหลายปี ท่ีผา่ นมานี ้เราได้สร้างความสมั พนั ธ์ของเราขนึ ้ มาใหม่ แมล่ ะความพยายามท่ีจะควบคมุ ชีวิตของลกู ไปเสยี ถงึ แม้จะไมเ่ คยรู้สกึ วา่ แมไ่ ด้ทาเชน่ นนั้ ขณะนีแ้ มข่ อสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจของลกู แมป่ ลมื ้ ใจในความเข้มแขง็ ตอ่ ความศรัทธาในพระผ้เู ป็นเจ้าของลกู ที่ลกู สนใจในคนอ่นื ๆ และยอมมอบตวั เองให้กบั ความดงี าม ลกู จะเป็นความภมู ใิ จของผ้คู น ไมว่ า่ จะไปอย่ทู ่ีไหน” “ลกู สามารถไว้วางใจในตวั แม่ สาหรับการสนบั สนนุ และความรักความอาทร แมข่ อบใจท่ีช่วยให้แมเ่ ข้าใจวา่ ลกู ไมไ่ ด้ปฏิเสธเรา แตเ่ พียงเลอื กวิถีทางท่ีแตกตา่ งออกไป ตามเสยี งเรียกร้องของชีวิต ขอบคณุ ตอ่ ความกตญั ํตู อ่ เราในเรื่องการวางรากฐานให้ เพื่อสร้างชีวติ ของลกู ขอบคณุ สาหรับความรักตอ่ เรา ลกู คอื ลกู สาวของเรา คือเพ่ือนของเรา คือหน้าตา่ งที่เปิ ดไปสโู่ ลกอื่นๆ ของเรา แมร่ ักลกู ” (Saint Herald, 132 :17, พฤศจิกายน 1985, หน้า 18, 19, 24) สิง่ ที่สร้างความแปลกใจ คอื โจดไี มเ่ พียงแตร่ ับรองบทความดงั กลา่ วเทา่ นนั้ แตเ่ ธอยงั เขียนบทความในสว่ นของเธอด้วย เก่ียวกบั เรื่องราวและการตอ่ สู้ ในการเลอื กสรรของเธอ เพื่อท่ีจะปิ ดชอ่ งโหวข่ องความรักพ่อแมข่ องเธอ ซง่ึ ตอ่ ต้านความต้องการที่เธอจะปฏิบตั ิตามสง่ิ ท่ีเธอศรัทธา นี่คือเร่ืองราวในสว่ นของเธอ ซงึ่ บอกเลา่ ในเวลานนั้ และการตอบของโจดี มฮุ มั มดั ซอเดห์ กอ่ นท่ีฉนั และเรซาจะสมรสกนั เรื่องศาสนาเป็นหวั ข้อของการถกเกียงท่ีหลากหลายของเรา ถงึ แม้วา่ ในความเป็นจริงศาสนาของเรามีช่ือและหน้าตาที่แตกตา่ งกนั อย่างมากเป็นสองแนวกต็ าม เราก็ยงั พบวา่ ความรู้สกึ ของเราเก่ียวกบั พระผ้เู ป็นเจ้าชา่ งคล้ายคลงึ กนั เหลือเกิน น่ีคือบรุ ุษที่ฉนั สามารถแสดงออกและสารวจตรวจค้นแนวความคิดและความรู้สกึ ทางศาสนาด้วยได้ บางครัง้ คาถามที่เขากระต้นุ ฉนั ก็มีแตจ่ ะทาให้ฉนั ใกล้ชิดกบั เขามากขึน้

ความรู้สกึ เช่ือถือและมติ รภาพได้เพิ่มพนู ขนึ ้ ในระหวา่ งเรา และเราทงั้ คกู่ ็ตระหนกั วา่ เรามีความต้องการที่จะร่วมกนั และสนบั สนนุ ซงึ่ กนั และกนั ตอ่ ไป โชคไมด่ ี ที่ระหวา่ งเวลาซง่ึ ฉนั ได้รู้จกั กบั เรซา เพื่อนทสี่ นิทย่ิงของฉนั สองคน มีความรู้เพียงน้อยนิดเกี่ยวกบั อสิ ลาม ฉนั จะไปบอกพอ่ กบั แมว่ า่ อย่างไรวา่ ฉนั พบห้นุ สว่ นในชีวิตแล้ว ฉนั ต้องการการยอมรับและการรับรองของทา่ นในเร่ืองนี ้ซง่ึ ฉนั ต้องการมนั มากกวา่ สิง่ อื่นทงั้ หมด ฉนั เช่ือถือบคุ คลผ้เู ป็นท่ีรักทงั้ สองท่านนี ้ในการอบรมสง่ั สอนของทา่ น และในขณะนีฉ้ นั ต้องการให้ทา่ นพอใจ เหมอื นกบั ท่ีฉนั ต้องการให้ท่านพงึ พอใจมาตลอด แตท่ า่ นรู้จกั เรซาเพียงผิวเผิน และต้องการเวลารวมทงั้ ความพยายามท่ีจะทาให้ทา่ นแน่ใจเหมอื นที่ฉนั แนใ่ จ เมอื่ เราสมรส เราตกลงกนั วา่ เราจะศกึ ษาศาสนาของกนั และกนั เพื่อให้มีความเข้าใจภมู ิหลงั ของกนั และกนั ที่ดขี นึ ้ เราหวงั วา่ ส่งิ นีจ้ ะนาเราไปสคู่ วามรู้สกึ ร่วมกนั แม้วา่ ช่ือและความศรัทธาของเราจะตา่ งกนั กต็ าม เราดาเนินการศกึ ษาเรียนรู้ของเราตอ่ ไป บางครัง้ เรซากไ็ ปโบสถ์ร่วมกบั ครอบครัวของเรา และแลกเปลยี่ นแนวความคดิ ทางศาสนากบั พวกเขา ฉนั อา่ นบทความและหนงั สอื ท่แี นะนาแนวความคิดขนั้ พืน้ ฐานของอิสลาม แตไ่ มม่ ีใครในระหวา่ งเราต้องการจะเปลย่ี นศาสนาของกนั และกนั การย้ายไปอาร์คนั ซอทาให้เราหา่ งจากครอบครัว ระหวา่ งนีเ้องที่ฉนั มีความสนใจตอ่ อิสลามเพิ่มมากขนึ ้ เรซากบั ฉนั เริ่มนมาซด้วยกนั และความศรัทธาของเราก็เพิ่มพนู ขนึ ้ ความศรัทธาของฉนั ไมเ่ พียงแตแ่ ผก่ ว้างออกเท่านนั้ แตย่ งั เป็นรูปเป็นร่างอกี ด้วย ความสนใจในอสิ ลามของฉนั สกุ งอมจนกระทง่ั ถงึ จดุ ที่อสิ ลามได้กลายมาเป็นสว่ นหนง่ึ ของชีวิตฉนั ฉนั คดิ ไมอ่ อกเลย วา่ จะทาอยา่ งไร เพื่อสื่อขา่ วนีใ้ ห้พอ่ กบั แมร่ ู้ ไมม่ แี ม้แตแ่ ผนการ วา่ จะบอกทา่ นอย่างไร ฉนั รู้วา่ มนั จะทาให้ท่านเจบ็ ปวด แตก่ ็รู้สกึ มน่ั ใจและสบายใจตอ่ การตดั สินใจของตวั เอง ฉนั ต้องการการรับรองของท่าน หรืออย่างน้อยการยอมรับ และให้ทา่ นมีความยินดอี ย่างท่ีฉนั กาลงั ยินดี แตท่ ่านไมย่ ินดแี ละไมร่ ับรองด้วย ฉนั เพิ่งจะเร่ิมรู้ถงึ ความตงึ เครียดที่ความศรัทธาของฉนั กอ่ ให้เกิดขนึ ้ ในสดุ สปั ดาห์นนั้ เอง มนั เป็นช่วงเวลาท่ีฉนั ไมแ่ นใ่ จวา่ ตวั เองได้ทาลายสายใยความผกู พนั ระหวา่ งฉนั กบั พอ่ แมไ่ ปอยา่ งสิน้ เชิงแ ล้ว หรือเพียงแตส่ ร้างความตงึ เครียดอย่างรุนแรงให้ทา่ นเท่านนั้ แมม่ ีปฏิกิริยาออกมาทางคาพดู ฉนั สามารถจดั การกบั สิง่ นนั้ ได้ พ่อพดู น้อยมาก มองดแู ล้วท่านจะถอนตวั ออกไป และใช้ความคดิ อย่ลู กึ ๆ ฉนั พิจารณาดแู ล้ว คงใช้เวลานาน กวา่ ที่ท่านจะก้าวพ้นไปจากความตกตะลงึ และความโกรธท่ีตอ่ เนื่องมาตลอด แตฉ่ นั ไมร่ ู้วา่ จะนานเทา่ ใด และความสมั พนั ธ์ของเราจะดาเนินไปอย่างไร ฉนั ไมร่ ู้วา่ ฉนั จะยอมแพ้ให้กบั ความศรัทธาใหมข่ องตวั เองหรือความรักที่มีตอ่ พ่อแม่ดี

หลงั จากวนั ขอบคณุ พระเจ้า เม่อื เรซากบั ฉนั กลบั ไปอาร์คนั ซอ ฉนั รู้สกึ เงียบเหงาและไมส่ บายใจ เนื่องจากผลของเหตกุ ารณ์เมอ่ื สดุ สปั ดาห์ โทรศพั ท์จากบ้านกข็ าดรสชาด ความฝันของฉนั เตม็ ไปด้วยการปฏิเสธจากพอ่ กบั แม่ และมกั ตื่นขนึ ้ มาร้องไห้แบบคนจิตไมป่ กติ เช่นเดียวกบั พอ่ แม่ ฉนั รู้สกึ วา่ บางสิง่ บางอย่างถกู ตดั ทอนออกไปจากตวั ฉนั ความคดิ ประการหนงึ่ ที่ทาให้ฉนั ไมห่ มดความหวงั กค็ อื พอ่ กบั แมม่ ีความศรัทธาในพระผ้เู ป็นเจ้าองค์เดยี วกบั ที่ฉนั ศรัทธาและรักพระองค์เป็นอยา่ งมาก ฉนั จะรอคอยทา่ น และปลอ่ ยให้พระองค์ช่วยเยียวยารักษาความรู้สกึ ของทา่ น ตงั้ แตฉ่ นั บอกกบั ครอบครัววา่ เข้ารับอสิ ลาม ความสมั พนั ธ์ของเราเปล่ียนแปลงไปอยา่ งมากมาย ไมต่ ้องสงสยั เลยวา่ มนั ได้ผ่านเข้าไปไกลมากเลยทีเดยี ว ฉนั อาจกลา่ วด้วยความจริงใจวา่ ฉนั ไมเ่ คยรักและให้ความสนใจตอ่ พ่อกบั แมม่ ากเชน่ นีม้ ากอ่ นเลย ฉนั จะไมย่ อมแลกเปลีย่ นความสมั พนั ธ์ครัง้ ใหมข่ องเรากบั สิ่งใดเลย “พ่อกบั แมค่ ะ ขอบคณุ มากสาหรับความพยายามอย่างมากที่จะเข้าใจ หนจู ะยงั คงรอคอยคาสงั่ สอนและสนบั สนนุ ช่วยเหลอื จากจากพ่อกบั แม่ ในฐานะเพ่ือน หนจู ะพยายามสนบั สนนุ ช่วยเหลอื พอ่ กบั แมเ่ ชน่ กนั ด้วยความรักทงั้ หมดของหนู” โจดี ฏอฮิเราะฮ์ มฮุ มั มดั ซอเดฮ์ (Saint Herald, 132 :17, พฤศจิกายน 1985 หน้า 18 19 24) เราทงั้ สองฝ่ ายกต็ ้องการสงิ่ ที่เรียกวา่ การประนีประนอม ฉนั ไมไ่ ด้หมายความว่าอสิ ลามเป็นส่งิ ท่ีฉนั จะต้องยอมรับด้วยตวั เอง แตฉ่ นั เรียนรู้เพ่ือท่ีจะให้รับทราบวา่ อสิ ลามต้องการเรียกร้องให้ลกู สาวของฉนั และเพื่อนของเธอเป็นอะไร การเปลี่ยนแปลงในชีวติ ของเรา เน่ืองด้วยสาเหตจุ ากสมาชิกในครอบครัว อาจเป็นสงิ่ ท่ีทาลายและทาให้ความสมั พนั ธ์เกิดร้าวฉานขนึ ้ ได้ เราอาจกลายเป็นคนที่มคี วามสบั สนวา่ จะมีความสมั พนั ธ์กบั แตล่ ะคนอยา่ งไร จนกลายเป็นความทกุ ข์ใจและขดั ข้องใจ เราหวงั วา่ ในสิ่งนี ้ แม้แตใ่ นความร้าวฉานของเรา เราอาจมปี ระสบการณ์ที่จะประนีประนอม จนทาให้สามารถนาสว่ นตา่ งๆ ของความสมั พนั ธ์กลบั เข้ามาอยดู่ ้วยกนั ความสมั พนั ธ์ครัง้ ใหมน่ ี ้ อาจสะท้อนถงึ รูปแบบใหมข่ องความผกู พนั และการยอมรับกนั การประนีประนอมเป็นกระบวนการสองทาง ท่ีจะชว่ ยเราให้ไปพบกนั และกนั ได้ เพื่อประสานความเจ็บปวดและความโกรธขงึ ้ เพ่ือปรับแนวทางใหมข่ องความคดิ และเพื่อให้ได้รับความสมดลุ อกี ครัง้ หนงึ่ เพียงลกู สาวเริ่มฟันฝ่ าเพื่อให้ได้รับความรู้สกึ แห่งสมดลุ กบั พอ่ แมข่ องพวกเธอ ตามบทบาทใหมใ่ นชีวติ ที่เธอปฏิบตั ิ ดงั นนั้ พอ่ แมก่ ็จะฟันฝ่ าเพ่ือการยอมรับเส้นทางเดนิ ของลกู สาว ในการท่ีเธอเลอื กจะเป็นมสุ ลิม บรรดาผ้ทู ่ีตอบแบบสอบถาม จะได้รับแบบสอบถามของพ่อแม่ (ตาราง ข.) ซงึ่ พวกเธอสามารถร่วมมือกบั พอ่ แมไ่ ด้ ถ้าพวกเธอต้องการ มผี ้ทู ่ีเป็นพอ่ แม่ 7 คน

ตอบแบบสอบถามกลบั มา บอกเลา่ เรื่องราวการตอ่ ส้แู ละการปรับตวั การตอบรับทงั้ จากลกู สาวและพ่อแมช่ ีใ้ ห้เห็นวา่ มีความเจบ็ ปวดเกิดขนึ ้ เพราะการเลอื กวิถีชีวิตของลกู สาวท่ีแตกตา่ งจากพอ่ กบั แม่ แบบสอบถามของพอ่ แม่ จะถามถงึ ปฏิกิริยาตอ่ การเข้ารับอสิ ลามของลกู สาว พวกเขาต้องให้คะแนนตงั้ แต่ 1 ถงึ 10 ( 1 คือความสมั พนั ธ์ถกู ทาลายอยา่ งสิน้ เชิง จนถงึ 10 คือยอมรับได้ไมม่ ปี ัญหา) วา่ พวกเขารู้สกึ ในครัง้ แรกอย่างไร เก่ียวกบั การเข้ารับอสิ ลามของลกู สาว และพวกเขาก็ต้องให้คะแนน 1 ถงึ 10 เช่นกนั เกี่ยวกบั ความรู้สกึ ในขณะท่ีตอบแบบสอบถามนี ้ ระยะเวลาที่ลกู สาวเข้ารับอิสลามท่ีผ่านไปจนกระทงั่ ถงึ วนั ที่ตอบแบบสอบถาม มีตงั้ แต่ 3 ปี จนถงึ 12 ปี ในแตล่ ะรายคะแนนจะเพ่ิมขนึ ้ ชีใ้ ห้เหน็ ถงึ การปรับปรุงความสมั พนั ธ์ของพวกเขา ถ้าคะแนนของปฏิกิริยาท่ีพวกเขาให้เม่ือตอนเริ่มแรกเป็น 1 หรือ 2 คะแนนความรู้สกึ ในภายหลงั ก็จะเป็น 5 หรือ 6 ถ้าคะแนนของปฏิกิริยาที่พวกเขาให้เมอ่ื ตอนเร่ิมแรกเป็น 6 หรือ 7 พวกเขากจ็ ะให้คะแนน 8 หรือ 9 ของความรู้สกึ ในภายหลงั ตอ่ ไปนีค้ อื ตวั อย่าง 3 เรื่อง เกี่ยวกบั ปฏิกิริยาของพอ่ แม่ และวิธีการแก้ ไขสถานการณ์ในขณะนนั ้ เร่ืองท่ี 1 : การยอมรับด้วยสีหน้าท่ีเป็ นกงั วล ลกู สาวของฉนั เป็นมสุ ลมิ ได้ 4 ปี คร่ึง เธอถกู เลีย้ งดมู าแบบคาทอลิก แตใ่ นปี ท้ายๆ ท่ีวิทยาลยั เธอกเ็ ร่ิมแสวงหาศาสนาของตนเอง เธอรีบไปยงั โบสถ์คริสต์อืน่ ๆ อกี สองแห่ง แมซ่ งึ่ เป็นคนเลา่ เร่ืองนี ้ ให้คะแนนความรู้สกึ ของเธอเมือ่ ลกู สาวเข้ารับอิสลามที่ 1 คะแนนในตอนแรก แตเ่ พิ่มเป็น 6 ขณะท่ีตอบแบบสอบถาม ลกู สาวของฉนั เร่ิมพดู คยุ กบั บรุ ุษมสุ ลมิ ที่ร้านใกล้บ้านของเรา และตดั สนิ ใจที่จะยอมรับความศรัทธานนั้ เรารู้วา่ เธอศกึ ษาอิสลาม แตเ่ ธอปกปิ ดการเข้ารับอิสลามของเธอเป็นความลบั จนกระทง่ั สตรีที่มคี วามศรัทธาแบบเดยี วกบั เธอ สง่ ช่อดอกไม้มาให้ ฉนั ไมเ่ คยลว่ งลา้ ความเป็นสว่ นตวั ของลกู ๆ แตค่ ราวนีฉ้ นั ตดั สนิ ใจที่จะอา่ นการ์ดอวยพรท่ีแนบมาด้วย ซง่ึ อา่ นได้วา่ “ขอแสดงความยินดสี าหรับการเป็นมสุ ลิม” เรายงั ไมพ่ ดู อะไรกบั เธอในเวลานนั้ เราหวงั วา่ เธอคงจะปรับทกุ ข์กบั เรา จนกระทงั่ วนั หนง่ึ เธอขออนญุ าตนาเพ่ือนบรุ ุษมาพบกบั เรา เขามาจากประเทศมสุ ลิม เขาขออนญุ าตนดั ลกู สาวของเรา ด้วยความตงั้ ใจท่ีจะสมรสกบั เธอ และอธิบายวา่ ศาสนาของเขาไมอ่ นญุ าตให้เขาอยสู่ องตอ่ สองกบั เธอ นอกจากจะต้องสมรสกนั กอ่ น เราทงั้ สองตกตะลงึ เน่ืองจากเมื่อ 30 นาทีก่อน เรายงั ไมร่ ู้ด้วยซา้ วา่ มีตวั เขาอยู่ (ในโลกนี)้ พ่อของเธอลกุ ขนึ ้ เผชิญหน้ากบั เขา แสดงความไมพ่ อใจ ที่สตรีได้รับการปฏิบตั เิ ยี่ยง “เบีย้ ลา่ ง” และถกู บงั คบั ให้แตง่ ตวั ด้วยเสอื ้ ผ้าที่ล้าหลงั ในขณะท่ีบรุ ุษจะแตง่ กายอย่างไรกไ็ ด้ สว่ นฉนั สภุ าพมากกวา่ แตก่ ต็ กตะลงึ พอกนั ฉนั หวงั วา่ ลกู จะไมต่ กใจกลวั จนไมก่ ล้าปรับทกุ ข์กบั ฉนั เชน่ ท่ีฉนั เคยรู้สกึ กบั แมข่ องตวั เอง และฉนั ก็เจบ็ ปวดมาก เธอผา่ นมาแล้วสองศาสนา และฉนั กงั วลวา่ เธออาจสมรสแล้วพบวา่ ตวั เองไมเ่ หน็ ด้วยกบั ศาสนานีเ้ช่นกนั

ฉนั แทบประสาทเสยี กบั ความคดิ ของเธอท่ีจะสมรสกบั คนตา่ งชาติ พวกเขาอาจเดนิ ทางไปอย่ทู ี่นนั่ และฉนั เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกบั กรณีนี ้ดงั ในหนงั สือ “Not Without My Daughter” ฉนั เคยอา่ นบางส่งิ บางอยา่ งเกี่ยวกบั อิสลามและประทบั ใจในการอทุ ิศตนของพวกเขา ฉนั เคยนกึ เอาวา่ อลั ลอฮ์กบั พระบิดาของฉนั เหมือนกนั ฉนั บอกสิง่ นนั้ กบั (คนท่ีจะเป็น) สามีของเธอ ฉนั ไมอ่ าจระงบั การอนญุ าตได้ เพราะเธออายุ 25 ปี แล้ว และถ้าบรุ ุษคนนีป้ ฏิบตั ติ อ่ เธออยา่ งดี เขาก็คงจะเข้ากนั ได้กบั ฉนั และดเู หมือนเขาจะคคู่ วรกบั เธอ จริงๆ แล้ว เรากงั วลอย่างมากตอ่ สภาวะทางอารมณ์ของเธอในเวลานนั้ เน่ืองจากนิสยั ตา่ งๆ อย่างอนื่ และการปรับตวั ได้ไมด่ ใี นชีวติ ของเธอ เธอเป็นลกู สาวของเรา เรารักเธอและต้องการเป็นสว่ นหนง่ึ ของชีวิตเธอ ฉนั เช่ือวา่ ทกุ คนมีสทิ ธิท่จี ะมีความสมั พนั ธ์สว่ นตวั กบั พระผ้เู ป็นเจ้า และมสี ิทธิท่จี ะใช้ชีวิตตามแนวทางของตนเอง เราโต้แย้ง ถกเถียง เอะอะใสก่ นั และเขียนจดหมาย จนกระทงั่ โดยพืน้ ฐานแล้วเราพอใจ มนั เป็นชว่ งเวลาแห่งความพยายามของฉนั ฉนั รู้สกึ เสยี การควบคมุ รู้สกึ วา่ สงิ่ ท่ีฉนั กลวั อยา่ งท่ีสดุ จะเป็นจริง ฉนั ไปหาหมอ และต้องกินยาระงบั ประสาทนานถงึ 6 เดอื น ขณะนีเ้รามคี วามสมั พนั ธ์ท่ีดีและสวยงามกบั เธอ เราพดู คยุ กนั แตฉ่ นั ไมเ่ หน็ ด้วยกบั ส่ิงที่เธอพดู และกระทามากมายหลายสิ่ง ประเพณีบางอยา่ งเช่นการคลมุ ศรี ษะสร้างความราคาญให้ฉนั ฉนั รู้สกึ วา่ บรุ ุษที่เป็นผ้นู บั ถือศาสนาอสิ ลาม ชา่ งกลวั ความรู้สกึ ทางเพศของตนเองเสยี เหลือเกิน จนสตรีต้องมารับภาระช่วยพวกเขาในการควบคมุ มนั พี่สาวของเธอคนหนงึ่ ต้องการลกั พาตวั เธอไปแล้วล้างสมองเสยี ใหม่ พ่ีชายอีกคนหนงึ่ ไมค่ อ่ ยสนใจจะเอาเร่ืองกบั เธอ แตอ่ กี คนหนง่ึ กลบั ไม่ พนี่ ้องคนอ่นื ๆ รักเธอ แตค่ ดิ วา่ เธอมอี ารมณ์ไมแ่ น่นอน ประเดน็ หลกั ของความตงึ เครียดคือความแตกตา่ งทางด้านศาสนาของเรา (เยซูกบั มฮุ มั มดั ) และความแตกตา่ งของคณุ คา่ ทางศีลธรรม เราไมไ่ ด้รับประทานอาหารร่วมกนั เพราะเธอไมอ่ าจอยรู่ ่วมห้องกบั ญาติบรุ ุษและพ่ีเขย (หมายเหตุ น่ีอาจเป็นขนบทางวฒั นธรรมที่ไมป่ กติ เม่ือเทียบกบั เรื่องอ่ืน) สาหรับการเลยี ้ งฉลองและวนั หยดุ พกั ผ่อน เราไมเ่ คยแม้แตจ่ ะเชิญลกู สาวของเราเข้าร่วม เพราะเธอจะไมร่ ับรู้วนั หยดุ พกั ผอ่ นหรือแม้แตว่ นั เกิดของเรา เธอจะไมไ่ ปรับประทานอาหารกลางวนั กบั ฉนั ในวนั เกิดของเธอ เพราะกลวั วา่ มนั จะเป็นการฉลอง พดู อยา่ งตรงไปตรงมา ฉนั ไมช่ อบสิ่งนีเ้ลย แม้แตก่ ารถา่ ยรูปเธอก็ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกบั เรา พร้อมด้วยลกู ๆ ของฉนั อกี 5 คน เพราะพ่ีเขยของเธอร่วมอยดู่ ้วย ฉนั คิดวา่ น่ีเป็นกฎที่ไมก่ ินกบั สตปิ ัญญา และฉนั คิดวา่ มนั เป็นวฒั นธรรมมากกวา่ ศาสนา พอ่ ของเธอคดิ วา่ สามีของเธอได้เปล่ียนแปลงบางส่ิงบางอยา่ งและเธอก็ไมค่ วรจะไปทามนั ทงั้ หมด ในที่สดุ สามขี องเธอกบั พอ่ ก็เกิดการถกเถียงกนั

การท่ีจะไมใ่ ห้มเี พ่ือนหรือญาติบรุ ุษเลย นบั เป็นเรื่องยากลาบาก แตเ่ ราพยายามให้มีห้องแยกกนั ระหวา่ งชายกบั หญิง กระนนั้ บรุ ุษทงั้ หมดยกเว้นสามขี องเธอกไ็ ปอย่ใู นห้องกบั พวกสตรี แตฉ่ นั กม็ ีความสขุ อยกู่ บั ลกู สาวของเรา และจริงๆ ฉนั ชอบสามีของเธอ แม้จะมีความตงึ เครียดก็ตาม จริงแล้ว ความตงึ เครียดทงั้ หลายท่ีฉนั มเี ก่ียวกบั เธอไมไ่ ด้มาจากการหยดุ ยงั้ เธอจากการเข้ารับอสิ ลาม แตม่ ีบางสิง่ จากท่ีฉนั สงั เกตเหน็ จากภาวะทางอารมณ์ของเธอ เธอบอกเราวา่ เราจะต้องไปนรก เราเลีย้ งดเู ธอมาในความเชื่อศรัทธาท่ีผิด และเราให้เธอกินอาหารท่ีผิดหลกั การศาสนา ดงั นนั้ ฉนั จงึ คดิ วา่ สว่ นหนง่ึ ของปัญหา มาจากความจริงที่เธอเผชิญปัญหาในวยั ผ้ใู หญ่ (ความเห็นของฉนั ไมใ่ ช่ของเธอ) เธอเร่ิมที่จะไมเ่ ชื่อหมอ ยา วติ ามินสงั เคราะห์ นมท่ีไขมนั แตกตวั เป็นอนภุ าคเลก็ ๆ ดงั นนั้ ส่งิ ท่ีเราต้องจดั การกลบั เป็นปฏิกิริยาของเรามากกวา่ การเข้ารับอิสลามของเธอ ฉนั รู้สกึ วา่ เธอกลวั เรื่องเพศ กลวั การทางาน กลวั ชีวิต และซอ่ นอยเู่ บือ้ งหลงั อสิ ลาม ฉนั ยงั คงคดิ วา่ นน่ั เป็นไปได้มากจริงๆ แตด่ เู ธอมคี วามสขุ รักสามีและวถิ ีชีวิตของเธอ ดงั นนั้ ฉนั จงึ ต้องยอมรับและหวงั วา่ เธอจะสามารถนาชีวติ ที่ดีที่สดุ ไป เท่าท่ีเธอจะทาได้ ความหวงั ท่ีฉนั มีคือ เราจะเรียนรู้ที่จะยอมรับและให้เกียรติ ซงึ่ กนั และกนั มากขนึ ้ และนนั่ จะทาให้เธอกบั พ่อได้เข้าใจกนั ครอบครัวนีต้ ้องสมั ผสั กบั การประพฤติปฏิบตั ขิ องวฒั นธรรมสามี เพียงด้านเดียว การประพฤติปฏิบตั ดิ งั กลา่ วคือภรรยาของเขา (ลกู สาวของพวกเขา) ไมส่ ามารอยหู่ ้องเดยี วกบั บรุ ุษได้ ยกเว้นครอบครัวของเธอ ถงึ แม้วา่ เธอจะคลมุ ศรี ษะ พ่อแมก่ ย็ งั สนใจเกี่ยวกบั ปฏิกิริยาอน่ื ๆ ที่เธอมีในชีวติ เร่ืองท่ี 2 : เปิ ดกว้างสู่ความแตกต่างและการเปล่ียนแปลง ครอบครัวตอ่ ไป มีประวตั ิของการเปิ ดกว้างและยอมรับความหลากหลายของสภาพแวดล้อมทางวฒั นธรรม ซง่ึ มกี ารให้และรับจากสมาชิกของครอบครัว ลกู สาวเป็นมสุ ลมิ มาแล้ว 7 ปี พ่อจบปริญญาเอก ในด้านการเป็นท่ีปรึกษา และทางานในวทิ ยาลยั แมป่ ่ วยและมีแมเ่ ลีย้ ง มเี ดก็ โต 4 คนจากครอบครัวของพ่อ และ 4 คน จากครอบครัวของแมเ่ ลยี ้ ง พ่อ ซง่ึ เร่ืองราวของเขาจะถกู นาเสนอตอ่ ไปนี ้ได้ให้คะแนนปฏิกิริยาครัง้ แรกของเขาท่ี 6 และตอ่ มาเพ่ิมเป็น 9 “วชิ าเอกในวทิ ยาลยั ของลกู สาวของผม นาพาให้เธอไปสมั ผสั กบั นกั ศกึ ษานานาชาติ จากการปรับตวั ของครอบครัว ทาให้เธอมคี วามใจกว้างอย่างมากตอ่ ผ้คู นจากระบบวฒั นธรรมและความเชื่ออ่นื ๆ ผมเป็นหม้ายและสมรสกบั สตรีชาวยิว

เมอ่ื ลกู สาวของผมเดินทางไปทางานท่ีซาอดุ ิอารเบียในภารกิจด้านการศกึ ษา เธอจงึ มโี อกาสพดู คยุ กบั ผ้นู าของมสั ยิด เธอโทรศพั ท์บอกผมเก่ียวกบั การเข้ารับอสิ ลามของเธอ ปฏิกิริยาในตอนแรกของผมไมไ่ ด้แปลกใจแตอ่ ยา่ งใด แตส่ นใจเก่ียวกบั การท่ีเธอจะจดั การกบั การลว่ งละเมดิ ทางเพศมากกว่า เธอเริ่มแตง่ กายตามแบบวฒั นธรรมท่ีนน่ั และคลมุ ศีรษะด้วย แตด่ เู หมือนวา่ เธอจะจดั การกบั ความแตกตา่ งที่เธอเผชิญอยทู่ กุ วนั ได้ เมื่อเหน็ เช่นนีผ้ มจงึ คลายความกงั วลลง ลกู สาวของผมเข้าเป็นมสุ ลมิ และตอ่ มาได้สมรส ความจริงกค็ ือ เขามีอายนุ ้อยกวา่ เธอและยงั ไมไ่ ด้ทางานที่มน่ั คง นนั่ คอื ส่ิงทผ่ี มเป็นกงั วลมากกวา่ เรื่องของศาสนา น่ีเป็นการสมรสครัง้ ท่ีสามของเธอ ครัง้ แรกจบลงด้วยการหยา่ ร้าง ครัง้ ที่สองกบั มสุ ลมิ ชาวอยี ิปต์ ซงึ่ ละลายไปกบั ประเพณีของมสุ ลิม การสมรสครัง้ นีเ้ป็นการแตง่ เงียบๆ ภายใต้คา่ ประเพณีแบบมสุ ลิมอีกเชน่ กนั ในตอนแรกมีช่องวา่ งระหวา่ ง (สมาชิกใน) ครอบครัว และการสมรสของเธอกบั สามตี ้องใช้เวลาระยะหนึ่งสาหรับการยอมรับ แตน่ ี่กเ็ ป็นผลดีกบั เขาทงั้ สองทางเช่นกนั ปัจจบุ นั ทกุ คนล้วนเปิ ดกว้าง น้องสาวได้รับการยอมรับอย่างใกล้ชิดสนิทสนม แม้วา่ ในเวลานีจ้ ะยงั มคี วามตงึ เครียดปรากฏอยกู่ บั น้องเขยบ้างก็ตาม ระบบคณุ คา่ และความเช่ือทาให้เกิดความยากลาบากนิดหนอ่ ย แตต่ ้องการความใจกว้างอย่างมากในสว่ นของทกุ คน ลกู สาวของผมไมค่ อ่ ยเผยแผ่ความเช่ือของมสุ ลิม เธอต้องการการยอมรับไมใ่ ช่การเปล่ียนศาสนา การตดิ ตอ่ สื่อสารเป็นส่ิงท่ีดีมาก เราทงั้ หมดอา่ นหนงั สอื และรักท่ีจะแบ่งปันความคิดเกี่ยวกบั ชีวิต การเมอื งและสถานการณ์โลก ประสบการณ์นีม้ ีผลกระทบน้อยมากกี่ยวกบั เร่ืองเทววิทยาและการยอมรับในเรื่องศาสนาของผม ผมมีความเชี่ยวชาญในด้านเทววิทยาและเรื่องศาสนา ผมใช้ชีวติ ภายใต้ความเข้าใจและการเปิ ดกว้างอย่เู สมอ ผมมีความสนใจใคร่รู้ในระบบความเช่ือของผ้อู นื่ และกระตอื รือร้นอย่เู สมอท่ีจะได้รับขา่ วคราวตา่ งๆ ความสนใจทางด้านศาสนาของผมในขณะนีค้ ือ การไมเ่ ชื่อในพระเจ้า ซง่ึ เป็นลกั ษณะเฉพาะ ของผ้ทู ่ีดาเนินตามแนวทางยนู ิทาเร่ียน ในวนั หยดุ แตล่ ะคนจะปฏิบตั ิภารกิจของตน การรวมตวั ของครอบครัวจะไมม่ งุ่ ไปท่ีประเดน็ ทางศาสนา เราฉลองให้กบั ชีวิตและการมชี ีวติ อยู่ แบ่งปันอาหารกนั นสิ ยั คมุ นา้ หนกั และคา่ นิยมของมสุ ลิมกบั ยวิ นนั้ คล้ายกนั มาก เราไมไ่ ด้รวมไปในวนั หยดุ พกั ผอ่ นของพวกเขา แตเ่ ป็นเทศกาลท่ีรับรู้กนั และให้เกียรติกนั เราอย่ใู นบ้านที่ต้องถอดรองเท้ากอ่ นเข้าบ้าน อาหารคมุ นา้ หนกั สว่ นมากเป็นผกั พร้อมด้วยเนือ้ แพะ ไกแ่ ละปลา ส่งิ เหลา่ นีจ้ งึ เป็นเรื่องปกติ วตั ถทุ างศาสนาและศลิ ปะไมใ่ ชส่ ว่ นหนง่ึ ของบ้านเรา และครอบครัวของลกู สาวของเราก็ไมไ่ ด้ตงั้ ข้อกาหนดอะไรแกเ่ ราในเรื่องนี ้

หลานสองคนของผมวเิ ศษมากทีเดยี ว เรามีความสขุ กบั พวกเขาจริงๆ และพวกเขากแ็ หลง่ แหง่ ความเพลดิ เพลนิ ท่ีแท้จริงของเรา ความหว่ งใยจริงๆ ของผม คอื การเลือกปฏิบตั ิตอ่ เธอและหลาน ภรรยาของผมอย่กู บั ส่งิ นีต้ อนเป็นเดก็ ยิวในโลกที่ไมใ่ ชย่ ิว มนั สามารถเรียกวา่ ความป่ าเถื่อนได้ ชาวคริสต์ทว่ั ไปเกลยี ดคนอืน่ มาก และทาร้ายพวกเขา ลกู เขยของเราเป็นชาวปาเลสไตน์ และปัจจบุ นั สมาชิกในครอบครัวเกือบทงั้ หมดรวมทงั้ พอ่ ของเขาด้วย อาศยั อย่ใู นสหรัฐอเมริกา ผมมีความกงั วลจริงๆ เก่ียวกบั อนาคตข้างหน้าของลกู สาวผ้แู นว่ แนข่ องผม ถ้าเธอตดั สนิ ใจไปอาศยั อย่ใู นตะวนั ออกกลาง ความหวงั สาหรับความสมั พนั ธ์ของผมกบั ลกู สาวก็คอื ขอให้มนั ดาเนินไปอย่างทกุ วนั นี ้ และเราสามารถท่ีจะมีความสมั พนั ธ์ในด้านบวกและยอมรับหลานทงั้ สองได้ ความสมั พนั ธ์ของเราคอื ความเป็นหนงึ่ เดียวท่ีเป็นสว่ นผสมของมสุ ลมิ ยิว และยนู ิทาเร่ียน เราต้องการความใจกว้างจริงๆ จดุ แขง็ ของเร่ืองนีค้ อื การเปิ ดกว้างของครอบครัว ไปสคู่ วามแตกตา่ ง และมติ ทิ ี่เพ่ิมขนึ ้ ซงึ่ นาเข้ามาโดยลกู สาว ครอบครัวนีย้ อมรับความแตกตา่ งทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว และสามารถท่ีจะเปิ ดขอบเขตในการยอมรับวิถีชีวิตอื่นๆ ด้วย แม้วา่ จากนนั้ จะมคี วามต้องการในการปรับและการทาหน้าท่ที งั้ ในสว่ นของลกู สาวและครอบครัวของเธอ กบั ครอบครัวเดิมก็ตาม เร่ืองท่ี 3 : จากความรุ่มร้อนไปสู่การยอมรับ ในครอบครัวตอ่ ไป แมไ่ ด้เปลยี่ นจากความโกรธเป็นฟื นเป็นไฟ ไปสกู่ ารยอมรับอยา่ งจริงใจ ตอ่ ส่ิงท่ีลกู สาวเลอื ก แตม่ นั ก็เกิดขนึ ้ ในชว่ งเวลาหลายปี ลกู สาวเป็นมสุ ลมิ มาแล้ว 12 ปี ครัง้ แรกที่รู้วา่ ลกู สาวของตนเป็นมสุ ลิม แมใ่ ห้คะแนนความรู้สกึ ของเธอเก่ียวกบั ความเปล่ยี นแปลงของลกู สาวท่ี 1 พ่อให้ 4 อยา่ งไรก็ตามทงั้ สองคนให้คะแนนความรู้สกึ ที่ 8 ในขณะตอบแบบสอบถาม แมไ่ ด้ร่วมแบ่งปันเร่ืองของเธอดงั นี ้ “เมือ่ ลกุ สาวของเราเดนิ ทางไปศกึ ษาท่ีวิทยาลยั (คริสต์) นอกเมอื ง เรารู้สกึ มน่ั ใจวา่ เราสง่ เธอไปยงั สภาพแวดล้อมท่ีใกล้เคยี งกบั วิถีชีวิตของครอบครัวเรา เท่าที่จะเป็นไปได้ เราพบเพ่ือนใหมข่ องเธอจากประเทศแถบตะวนั ออกกลาง เมื่อเราไปเยี่ยมเธอ และรู้สกึ ชอบเขา เรายงั เชิญเขามาเยี่ยมครอบครัวของเราในวนั หยดุ สดุ สปั ดาห์ครัง้ หนง่ึ เราไมเ่ คยคิดวา่ น่ีจะนาไปสคู่ วามสมั พนั ธ์ท่ีจริงจงั เราคดิ วา่ ลกู สาวของเราคนนี ้ เป็นคนที่เข้มแข็งท่ีสดุ เกี่ยวกบั เร่ืองศาสนา จากบรรดาลกู 4 คนของเรา 4 เดือนตอ่ มาเธอบอกเราวา่ จะไมไ่ ปร่วมในพิธีฉลองเสวยกระยาหารมือสดุ ท้ายของพระเยซูคริสต์อกี แล้ว ภาคการศกึ ษาตอ่ มา เพ่ือนของเธอผ้นู ีย้ ้ายไปเรียนวทิ ยาลยั อืน่ เธอต้องการกระทาเช่นเดยี วกนั

แตเ่ ราปฏิเสธที่จะให้เธอย้ายไปเราหวงั วา่ น่ีจะเป็นจดุ สิน้ สดุ ของความสมั พนั ธ์และเธอน่าจะออกมาจากชว่ งหนง่ึ ของชีวิตนนั้ ได้ ในฤดรู ้อนถดั มา เพื่อนของเธอผ้นู นั้ ได้มาเชา่ บ้านในเมืองที่เราอยู่ และลกู สาวของเรากย็ ้ายเข้าไปอย่พู ร้อมด้วยยายของเธอ โดยท่ีความสมั พนั ธ์ของเราไมค่ อ่ ยดีนกั เธอบอกกบั เราในตอนปลายเดือนมถิ นุ ายนวา่ เธอจะสมรสกบั เขาในเดอื นสิงหาคม “ไมว่ า่ จะมีเราหรือไม”่ เราเออออไปกบั แผนการของเธออยา่ งไมเ่ ตม็ ใจ โดยไมม่ ใี ครเชื่อวา่ การสมรสครัง้ นีจ้ ะเกิดขนึ ้ แตม่ นั ก็เกิดขนึ ้ ในบ้านของเรา โดยผ้พู ิพากษา ด้วยการประนีประนอมวา่ เธอจะยงั ไมเ่ ข้ารับอสิ ลาม พอ่ แมข่ องเขายงั ไมร่ ู้เรื่องการสมรส ดงั นนั้ เราจงึ ไมม่ ีคาสนบั สนนุ จากครอบครัวของเขาเพ่ือยืนยนั การปฏิเสธของเรา ไมก่ ่ีเดือนหลงั จากนนั้ เธอบอกเราเกี่ยวกบั การเข้ารับอสิ ลามของเธอ ฉนั ตอบรับข่าวนนั้ ด้วยความโกรธ ความเจบ็ ปวดและความหวาดกลวั ความโกรธพ่งุ ไปที่ลกู เขยของฉนั เกือบทงั้ หมด โดยท่ีเรามนั่ ใจวา่ ลกู สาวของเราจะไมม่ วี นั ตดั สินใจเชน่ นี ้ ยกเว้นแตเ่ ธอจะถกู ล้างสมอง มนั เป็นความเจ็บปวด เพราะสิง่ นีป้ รากฏขนึ ้ ในเวลาทีช่ ่างง่ายดายสาหรับเธอเหลอื เกิน ที่ยอมสละเวลาของชีวิตการศกึ ษา และการใช้ชีวติ อยใู่ นแนวทางของพระเยซคู ริสต์ ความจริงที่วา่ เธอสามารถปฏิเสธความคาสอนเหลา่ นีไ้ ด้ในเวลาไมก่ ่ีเดือนนนั้ ทาให้เกิดความรุ่มร้อน มนั เป็นความหวาดกลวั ในตอนแรก เพราะเราเกรงวา่ ลกู คนอื่นๆ ของเราจะทาตาม เพราะเธอเป็นลกู คนโต และพวกเขาก็มองดเู ธอและฟังความคิดเหน็ ของเธอ เมอ่ื เวลาผา่ นไป เราจงึ เร่ิมรู้จกั ตะวนั ออกกลาง และรับฟังขา่ วและรายงานเกี่ยวกบั ผ้กู ่อการร้ายในภมู ภิ าคนนั้ อยา่ งสนใจ จากนนั้ ความกลวั จงึ ตกไปอย่ทู ี่ตวั เธอ ตราบใดท่ีสามีของเธอยงั ศกึ ษาอย่ใู นวิทยาลยั พวกเขายงั ต้องอย่ใู นสหรัฐอเมริกา แตเ่ ราไมร่ ู้วา่ อะไรจะเกิดขนึ ้ เม่อื เขาจบการศกึ ษา หลงั จากที่พวกเขามลี กู คนแรก เรามคี วามหวาดกลวั มากยิ่งกวา่ เกา่ วา่ สามีของเธอต้องการพาพวกเขาทงั้ หมดกลบั ประเทศ บางทีความหวาดกลวั นีจ้ ะบรรเทาขนึ ้ ถ้าเขาได้รับสญั ชาตอิ เมริกนั เราพยายามทาใจให้สบายและพยายามเชื่อ เราไมเ่ พียงแตก่ งั วลถงึ ชีวติ ของเธอบนโลกนี ้แตใ่ นชีวิตหลงั การตายอีกด้วย ตวั บทท่ีสถิตคมั ภีร์ไบเบิลที่อยใู่ นใจของฉนั คอื จอห์น 14 : 6 “เราเป็นทางนนั้ เป็นความจริงและเป็นชีวติ ไมม่ ใี ครมาถงึ พระบิดาได้ นอกจากจะมาทางเรา” ฉนั ตดั สนิ ใจวา่ ถ้ามีตวั บทที่รบกวนจิตใจฉนั ก็ต้องมีตวั บทอ่ืนๆ ที่ปลอบใจฉนั ดงั นนั้ ฉนั จงึ เร่ิมอา่ นบทดงั กลา่ วคาตอ่ คา ในโองการแรกฉนั ได้รับแรงบนั ดาลใจทฉ่ี นั ต้องการ ”อยา่ ให้ใจของท่านทงั้ หลายวิตก ทา่ นวางใจในพระเจ้า จงวางใจในเราด้วย ในพระนิเวศแห่งบิดาเรา มีที่อยเู่ ป็นอนั มาก” (จอห์น 14 :1-2) ในตวั บทบอกกบั ฉนั วา่ ถ้ามีที่อย่เู ป็นอนั มาก ดงั นนั้ จะต้องมีหนทางเป็นอนั มากทอดไปสสู่ ถานท่ีเหลา่ นี ้ พระเยซคู ริสตไ์ ด้เตรียมสถานท่สี าหรับคริสเตยี นและมฮุ มั มดั เตรียมสถานท่ีสาหรับมสุ ลมิ

พระผ้เู ป็นเจ้าเพียงแตท่ รงหยิบย่ืนหนทางท่ีแตกตา่ งให้ลกู สาวของเราดาเนินตาม และเธอดาเนินตามมนั อย่างดีท่ีสดุ เทา่ ที่เธอสามารถ ซงึ่ เหมอื นกบั ท่ีเราพยายามท่ีจะทา ไมม่ ีใครในครอบครัวนีพ้ ยายามจะนาอปุ สรรคหรือเคร่ืองกีดขวางไปวางไว้บนถนนเพื่อสร้างความลาบากใ ห้เธอ น่ีคอื จดุ หลกั ของเร่ืองท่ีชว่ ยให้ฉนั ได้ปรับเปล่ยี นความรู้สกึ ฉนั อยากจะเพ่ิมเร่ืองราว ท่ีช่วยยืนยนั ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ของฉนั วนั หนงึ่ หลานชายคนโตของฉนั ได้บงั คบั ฉนั อย่างมากให้เรียนภาษาอาหรับ เมอ่ื ฉนั ถามเขาว่า ทาไมฉนั ต้องเรียนด้วย หลานชายตอบวา่ “เพราะถ้ายายตายเทวทตู จะมาถามคาถามยายเป็นภาษาอาหรับ แล้วยายจะได้ตอบได้ ไมง่ นั้ ยายจะต้องตกนรกนะครับ” ฉนั รู้จากนา้ เสยี งของเขาวา่ คาตอบของฉนั จะเป็นสง่ิ ที่ดตี อ่ เขาและมนั จะหวนกลบั มาเป็นคาตอบแก่ตวั ฉนั เองด้วย ฉนั ตอบหลานวา่ “คนเราแตล่ ะคนจะมเี ทวทตู ประจาตวั ของตนเอง ผ้ซู งึ่ รู้ดีวา่ เรามอี ะไรอย่ใู นใจ ยายรู้คาตอบท่ีจะตอบคาถามเทวทตู ของยาย และหลานก็จะรู้คาตอบของหลาน” เขารู้สกึ ผ่อนคลายและฉนั ก็รู้สกึ ผอ่ นคลายจริงๆ สาหรับฉนั คาตอบตอ่ ความแตกตา่ งในความศรัทธาของเราเป็นเร่ืองพืน้ ๆ มนั เป็นสงิ่ ที่ช่วยเหลอื ได้มากที่เห็นลกู สาวของเรา ในฐานะเป็นแม่ และได้รู้วา่ คณุ คา่ พืน้ ฐานของเราได้ถกู นาไปใช้ เธอมีความเป็ นห่วง เป็นลกู สาวที่มคี วามสวา่ งสดใส และเป็นแมท่ ี่วเิ ศษ ซง่ึ ขณะนีม้ ีลกู ชายสองคน อายุ 10 ปี และ 3 ปี เรายงั คงมคี วามสมั พนั ธ์ท่ีนา่ รัก ซงึ่ พวกเราทงั้ หมดทาหน้าท่ีอย่างหนกั เพื่อรักษามนั ไว้ เรามีรากฐานครอบครัวที่ดี และฉนั แนใ่ จวา่ มนั จะสามารถทนตอ่ ความแตกตา่ งใดๆ ที่เราอาจเผชิญในวนั เวลาที่จะมาถงึ เราโชคดีที่พวกเขา เข้าร่วมเป็นสว่ นสว่ นหนง่ึ ในเทศกาลคริสต์มาสของครอบครัว พวกเขาคดิ เสยี ว่ามนั เป็นวนั ตรุษ ใช้เวลาอยกู่ บั เรา เมื่อวนั ตรุษจริงๆ ของพวกเขามาถงึ เธอก็จะร่วมกบั ครอบครัวและเพื่อนฝงู ของสามี ฉนั ไมร่ ู้วา่ มนั จะเป็นเชน่ นีต้ ลอดไปหรือไม่ แตข่ ณะนีม้ นั เป็นอย่างที่เราทาอยู่ เราไมไ่ ด้เฉลมิ ฉลองเทศกาลอิสลามกบั พวกเขา ยกเว้นการรับรู้และให้เกียรตคิ ณุ คา่ ตา่ งๆท่ีพวกเขามีในชีวติ ” เรื่องราวของแตล่ ะครอบครัวมีความแตกต่างกนั แตเ่ รื่องราวของสามครอบครัวนี ้ แตล่ ะครอบครัวต้องการที่จะปฏิบตั ิภารกิจไปตามสถานการณ์ ถงึ แม้วา่ ความเป็นห่วงเป็นใยและความสนใจยงั มอี ยู่ พวกเขาก็พยายามหาวธิ ีการที่จะสมั พนั ธ์กนั ในฐานะครอบครัว เรามียงั ความผกู พนั กนั อย่เู สมอ ไมว่ า่ จะเป็นในเชิงบวกหรือเชิงลบ พ่อแมอ่ าจมีความรู้สกึ วา่ ถูกทรยศ ท่ีถกู ทาให้เจบ็ ปวดหรือปวดร้าว วธิ ีท่ีพ่อแมแ่ สดงปฏิกิริยาตอบโต้ลกู สาว อาจทาให้ความรู้สกึ แบบเดยี วกนั เกิดขนึ ้ กบั เธอ ณ บางจดุ ในการกระบวนการประนีประนอม จะต้องมีการตดั สนิ ใจ วา่ จะจดั การกบั ความเจ็บปวด และจะปลอ่ ยให้สงิ่ นนั้ มีผลกระทบตอ่ ตวั เองอย่างไร หลายครัง้ ท่ีเราไมม่ ีจิตใจให้กบั ความสมั พนั ธ์ และไมร่ ู้วธิ ีท่ีจะปฏิบตั ติ อ่ ผ้อู ่ืน เราป้ องกนั ตวั เองรวดเร็วเกินไป

ดงึ ศีรษะของเราเข้าไปในกระดองเหมือนเตา่ รวดเร็วเกินไป ป้ องกนั ตวั เองตอ่ ทกุ สง่ิ ท่ีอยนู่ อกเหนือความเข้าใจของเรามากเกินไป ในเวลาดงั กลา่ ว ขยบั เข้าสกู่ ารประนีประนอม มเี ร่ืองเกี่ยวเน่ืองในลกั ษณะปกติของทงั้ สามเรื่อง โดยพ่อแมท่ งั้ สาม ซงึ่ ปฏิบตั อิ อกมาแตกตา่ งกนั ในแตล่ ะสถานการณ์ ความเกี่ยวเนื่องปกตนิ ี ้ สามารถช่วยนาเราไปในจดุ ที่เป็นบวก ผา่ นการสร้างความสมั พนั ธ์ และรักษาเอาไว้ในสถานการณ์แหง่ การประนีประนอม ประการแรก มคี วามต้องการมาแตเ่ ดมิ ที่จะรักษาความสมั พนั ธ์ไว้ ถงึ แม้วา่ ความเจบ็ ปวดที่ร้าวลกึ และการแตกแยกได้บงั เกิดขนึ ้ ในเรื่องทีห่ นง่ึ แมก่ ลา่ ววา่ “เรารักเธอและต้องการท่ีจะเป็นสว่ นหนง่ึ ของช์ี วติ เธอตอ่ ไป” ประสบการณ์ของฉนั เองเกี่ยวกบั การประนปี ระนอม เป็นตวั อยา่ งหนง่ึ ความต้องการ ท่ีจะทาให้มคี วามสมั พนั ธ์ดงี าม มนั ไมไ่ ด้เกิดขนึ ้ ทนั ที ในความเป็นจริงนา่ จะเป็นการงา่ ย ในการที่จะอดทนในสภาวะที่รู้สกึ ตอ่ ต้าน ซงึ่ เป็นปฏิกิริยาแรกของฉนั ฉนั โกรธมากและเจบ็ ปวด จนอยากจะเดินหนไี ปจากโจดแี ละเรซา เอาพวกเขาออกไปเสียจากชีวิตของฉนั ไมย่ งุ่ เก่ียวกบั พวกเขาและ “ปัญหาดงั กลา่ ว” อกี เลย สาหรับฉนั ช่วงท่ีต้องการปฏิเสธพวกเขาอยา่ งสิน้ เชิงนนั้ มรี ะยะเวลาสนั้ เพียงแคค่ ืนเดียว เป็นความปลาบปลืม้ เพียงใดสาหรับฉนั ที่มปี ระสบการณ์ท่ีจะชว่ ยนาฉนั ไปสคู่ วามต้องการที่จะเยียวยาเข้ามาแทนท่ี ฉนั ยงั คงเจบ็ ปวดและใช้เวลาเป็นเดือน กวา่ ความเสียใจจะมาสจู่ ดุ ที่รู้สกึ ปกติ มนั ใช้เวลาเป็นปี ๆ กวา่ จะมาสรู่ ะดบั ที่ผ่อนคลายของการยอมรับอย่างแท้จริง ความเก่ียวเน่ืองอ่ืนๆ ที่ช่วยสร้างความสมั พนั ธ์ขนึ ้ มาใหม่ คอื ความตงั้ ใจที่พยายามจะเข้าใจ ส่งิ ท่ีลกู สาวเลือก ในความปรารถนาอยา่ งลกึ ๆ ท่ีจะปลดเปลอื ้ ง แมค่ นหนง่ึ ได้ค้นหาตวั บทพระคมั ภีร์ และพบการชว่ ยเหลอื ทีร่ ักษาแนวทางสาหรับการยอมรับเปิ ดไว้ให้ น่ีอาจจะเป็นพลงั ของความพยายามเกือบทงั้ หมด เป็นพฤติกรรมของความพยายามในตอนแรก เพ่ือให้ได้รับขนั้ ตอนของหนทางที่เปิ ดออกมา แตด่ ้วยสานกึ แห่งคณุ คา่ ที่แข็งแกร่งของพอ่ แม่ ควรจะลองฟัง มองดแู ละรู้สกึ ถงึ สิง่ ท่ีลกู สาวได้มีประสบการณ์ ลกู สาวอาจมี “แรงขบั เคลอ่ื น” ที่ลกึ ซงึ ้ กวา่ ครอบครัวมาก จนกระทงั่ ถงึ ระดบั ที่มีความรู้สกึ วา่ เธอสามารถขดั ขืนตอ่ ครอบครัวได้ และครอบครัวจะเป็นฝ่ ายรู้สกึ บาดเจ็บอย่างแท้จริง สมาชิกแตล่ ะคนของครอบครัวต้องตดั สินใจถงึ วิธีการที่จะแสดงปฏิกิริยาตอบสนอง บางส่งิ บางอยา่ งท่ีลกู สาวเลอื ก อาจจะอยเู่ หนือความสามารถของครอบครัวท่ีจะยอมรับ ในกรณีดงั กลา่ ว การถอนตวั ดจู ะเป็นสิ่งที่กระทาได้มากท่ีสดุ ในขนั้ ตอนของความพยายามท่ีจะเข้าใจนี ้ บคุ คลหนง่ึ สามารถหาแหลง่ ข้อมลู ที่จะศกึ ษาและเรียนรู้ เกี่ยวกบั ส่ิงท่ีลกู สาวเลอื ก คาเตอื น ณ ที่นีค้ ือ

ส่ิงท่ีศกึ ษาอาจจะสะท้อนทศั นะของตะวนั ตกหรืออาจมีความเอนเอียงทางวฒั นธรรมได้ มีคาอธิบายจานวนมากตอ่ สงั คมมสุ ลมิ ท่ีพวกเขาไมเ่ หน็ ด้วยเสมอไป หนงั สอื ที่ควรจะค้นคว้าดอู าจจะมาจากท่ีลกู สาวเป็นผ้แู นะนา นี่คอื เวลาท่ีเหมาะสมที่จะคดิ ผ่านไปสเู่ รื่องราวทางศาสนาและความเชื่อสว่ นบคุ คล และสร้างความแขง็ แกร่งให้กบั ชีวติ ทางจิตวิญญาณของตน หลายครัง้ ที่เรายอมรับความเชื่อท่ีเราไมเ่ คย แม้แตจ่ ะเข้าไปตรวจสอบ เราได้ยินสง่ิ ที่นกั บวชของเราเทศน์ นนั่ มนั เป็นข้อกาหนดทางศาสนา หรือ “เป็นวถิ ีทางที่ป่ ยู า่ ตายายเช่ือ” ด้วยความต้องการที่จะให้การประนีประนอมเข้ามาแทนที่และมีการเปิ ดสคู่ วามเข้าใจ ดงั นนั้ คนผ้หู นงึ่ จะต้องจาแนกแยกแยะ และเผชิญหน้ากบั ปัจจยั ท่ีสาคญั จากทศั นะคติของพ่อแม่ และเพื่อจาแนกแยกแยะความรู้สกึ ของท่านวา่ เป็นการปฏิเสธ ขดั ข้องใจ หรือปราศจากการควบคมุ สมาชิกครอบครัวอาจต้องนมุ่ นวลตอ่ ตวั เอง จนกวา่ จะเข้มแข็งพอท่ีจะเริ่มการเดินทางสกู่ ารสร้างความสมั พนั ธ์อีกครัง้ หนงึ่ ใช้เวลาแก้ไขการปฏิเสธ ความโกรธและความหดหู่ สมาชิกบางคนของครอบครัวอาจต้องแสวงหาความชว่ ยเหลือให้คาปรึกษาหารือเพื่อให้สามารถจดั การกั บความรู้สกึ โกรธและเสียใจได้ ปัจจยั ประการหนง่ึ ท่ีอาจจาแนกแยกแยะออกมาคือความโกรธ ซง่ึ เป็นอารมณ์ตามธรรมชาติ ในสภาพแวดล้อมเชน่ นนั้ แตม่ ีความจาเป็นท่ีจะต้องแสดงออกในทางท่ีเหมาะสม การเยียวยาและการประนีประนอมจงึ จะเกิดขนึ ้ ได้ แม้แตใ่ นสถานการณ์เชน่ นี ้ ความรักที่เป็นการเยียวยารักษาของพระผ้เู ป็นเจ้า และการอภยั โทษก็จะเกิดขนึ ้ และสมาชิกของครอบครัวจะสามารถพบกบั การปลดปลอ่ ย และสามารถมาสทู่ ิศทางของปัญหา โดยปลอ่ ยความเจบ็ ปวดไปเสยี มิเช่นนนั้ กจ็ ะมแี ตค่ วามรู้สกึ ทรมานและความป่ วยไข้ทางจิต ปัจจยั อ่ืนๆ ท่ีอาจจาแนกแยกแยะออกมาในฐานะเป็นสง่ิ ท่ีควรสนใจคอื ความไร้ความสามารถของเราที่จะสญู เสยี การควบคมุ ไป ที่จะปลอ่ ยเลอื ดเนือ้ เชือ้ ไขท่ีบรรลนุ ิตภิ าวะแล้วของเราไป ซงึ่ เป็นภาระท่ียากลาบากสาหรับพอ่ แมจ่ านวนมาก ไมว่ า่ ลกู สาวของพวกเขาจะหนั มาสอู่ ิสลามหรือไมก่ ต็ าม พอ่ แมอ่ าจมีประสบการณของความห่วงกงั วล ความสญู เสยี และความเศร้าเสยี ใจในฐานะที่เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาตขิ องการปลอ่ ยบางสิ่งบางอย่างไป เม่ือลกู สาวเลือกในสิ่งท่ีพ่อแมไ่ มค่ ้นุ เคย มนั กอ็ าจจะผสมผสานสภาวะการณ์ดงั กลา่ ว ด้วยความรู้สกึ หวาดกลวั ความไมแ่ น่ใจ และความล้มเหลว นบั วา่ มคี วามสาคญั ท่ีจะเข้าใจวา่ ความรู้สกึ บางอย่างท่ีพอ่ แมม่ ปี ระสบการณ์นนั้ อาจไมเ่ ก่ียวข้องโดยตรงกบั การเข้ารับอสิ ลามของลกู สาวก็ได้ ยงั มีปัจจยั อื่นๆ อีก นน่ั คือลกู สาวอาจไมอ่ ยู่ในภาวะท่ีพร้อมจะดาเนินการในเรื่องความสมั พนั ธ์ ดงั นนั้ จงึ มคี วามเป็นไปได้มากขนึ ้ สาหรับความรู้สกึ ปฏิเสธในสว่ นของเรา

เธออาจพยายามรวบรวมความแขง็ แกร่ง และให้อยตู่ วั เสียกอ่ นในบทบาทบาทใหมท่ ่ีเธอเลือก กอ่ นเผชิญหน้ากบั อานาจของพอ่ แม่ ปัจจยั สาคญั มากมายของการเปล่ียนแปลงอาจมีผลกระทบกบั เธอในทนั ที เช่น การศกึ ษา อาชีพ ศาสนาใหม่ ความคาดหวงั ในวฒั นธรรมใหม่ การสมรสใหม่ การเปลย่ี นถา่ ยไปสคู่ วามเป็นผ้ใู หญ่ สาหรับสตรีเกือบทงั้ หมดในการศกึ ษาวิจยั ปัจจยั หลากหลายเหลา่ นีม้ ปี รากฏอยู่ ปัจจยั สาคญั ประการที่ 4 คอื ความหวงั สถานการณ์เชน่ นีไ้ มไ่ ด้กอ่ ตวั ขนึ ้ ในทนั ทีตามปกติ จะมีขนั้ ตอนมากมายอยขู่ ้างหน้า และบางขนั้ ตอนอยขู่ ้างหลงั ในการสร้างและรักษาความสมั พนั ธ์ อาจมเี วลาท่ีลกู สาวต้องถกู โดดเด่ียว และไมพ่ ร้อมท่ีจะเริ่มสานความสมั พนั ธ์ตอ่ ไป เชน่ เดยี วกนั จะมขี ้อแนะนาเมอื่ เราต้องใช้เวลาสาหรับความโศกเศร้าสว่ นตวั และการพฒั นาขนึ ้ ในขณะท่ียงั คงรักษาเส้นสายของการสือ่ สารให้ยงั คงเปิ ดอยู่ มนั เป็นสานกึ ของความหวงั ที่ปลอ่ ยให้เราอดทนกบั ลกู สาวของเรา ท่ีเราต้องมอี ย่กู บั ตวั เอง อยา่ งไรก็ตาม เพ่ือนสนิทและญาติๆ อาจทาลายความหวงั ของเรา เมือ่ พวกเขาแสดงออกด้วยการวิจารณ์เชน่ วา่ “โอ้ ลกู สาวผ้นู ่าสงสารของคณุ เธอจะต้องตกนรก เราจะสวดอ้อนวอนให้เธอ” “สตรีทกุ คนถกู ปฏิบตั อิ ยา่ งป่ าเถ่ือนที่นนั่ ” “เธอจะทาอยา่ งไร ถ้าสามีทิง้ เธอไป และเอาลกู ๆ กลบั ไปประเทศของเขา” “นนั่ เป็นสิง่ ที่แย่ท่ีสดุ ที่เกิดขนึ ้ ” ปฏิกิริยาดงั กลา่ ว ไมไ่ ด้มีความหมายว่าจะทาให้เจ็บปวด แตเ่ ป็นการแสดงความเหน็ ใจและสนบั สนนุ สงิ่ ท่ีพวกเขาเข้าใจจากความเป็นจริงของเรา ในอกี ด้านหนง่ึ คนบางคนอาจเป็นผ้ฟู ัง ผ้ถู าม มีความรู้สกึ ร่วมกบั ความหว่ งกงั วลของเรา การพดู กบั พวกเขาช่วยเราให้สะท้อนสงิ่ ท่ีเรารู้สกึ และช่วยทาให้ความขดั แย้งในตวั เราชดั เจนขนึ ้ ถ้าสามารถตระหนกั ถงึ ความเกี่ยวเนื่องพืน้ ๆ เหลา่ นี ้ ขนั้ ตอนเบือ้ งต้นของการเปิ ดตวั ของเราด้วยความต้องการท่ีจะสานสมั พนั ธ์ ด้วยการเปิ ดไปสคู่ วามเข้าใจและการยอมรับ ด้วยการจาแนกแยกแยะและเผชิญหน้ากบั ความรู้สกึ ของเราเอง และด้วยการยงั คงมคี วามหวงั ดงั นนั้ เราจะอย่ใู นจดุ ของการพฒั นาไปสกู่ ารประนปี ระนอมกนั เราจะสามารถจดั การกบั ความโกรธ ความกลวั ความโศกเศร้าของเราได้ สามารถแสวงหาความช่วยเหลือจากช่วงของเวลา ใช้กลวิธีของการวิงวอนขอ การผอ่ นคลาย ความสงบน่ิง และจินตนาการ สงิ่ เหลา่ นีส้ ามารถช่วยเราให้หลดุ จากการจมดิง่ ไปสหู่ ้วงลกึ ของความสนิ ้ หวงั และหมกมนุ่ อยใู่ นมนั ถงึ แม้วา่ เราอาจไมต่ ้องการเช่ือมสมั พนั ธ์กบั ลกู สาวของเราในเส้นทางของเธอ เรากจ็ ะสามารถเดินทางร่วมไปกบั เธอได้ในเส้นทางของเรา



7. ดาเนินตามเส้นทางเข้าสู่การแต่งงาน เมื่อสองคนรวมเป็นหนงึ่ ในอิสลาม จากวนิ าท่ีแรกที่โจดกี บั เรซาบอกเราวา่ พวกเขาต้องการแตง่ งาน และแสดงออกอย่างชดั เจนวา่ มคี วามตงั้ ใจท่ีจะไปอาศยั อย่ใู นอหิ ร่านบ้านเกิดของเขา ช่วงนนั้ เป็นเวลาท่ีเจ้าหน้าที่สถานทตู สหรัฐอเมริกาถกู จับเป็นตวั ประกนั อย่ใู นอหิ ร่าน และความสมั พนั ธ์ระหวา่ งอิหร่านกบั สหรัฐอเมริกาก็ไมส่ ้ดู ีนกั นน่ั เป็นความต่นื ตระหนกสาหรับฉนั อย่างแท้จริง ความจริงท่ีวา่ เขาเป็นมสุ ลิมนนั้ ดเู หมือนจะมีความสาคญั น้อยลง เพราะเราคาดหวงั วา่ เขาจะเข้ารีตเป็นคริสเตยี น ยิ่งกวา่ นนั้ เรายงั ยกยอ่ งและชมชอบหนมุ่ น้อยคนนีอ้ ยา่ งจริงใจ ในท่ีสดุ วนั แห่งความหวาดกลวั กม็ าถงึ เรซาพาโจดไี ปอิหร่าน เพ่ืออาศยั อยทู่ ี่นน่ั ตามท่ีพวกเขาพดู วา่ จะไปหลงั จากการแตง่ งานแล้ว พวกเขาวางแผนเดินทางไปอิหร่านอยา่ งรวดเร็ว ภายหลงั การแตง่ งาน ตอนนีเ้รซาได้รับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์และปริญญาโทสาขาเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม สว่ นโจดจี บปริญญาตรีสาขาพยาบาลศาสตร์ พวกเขาพร้อมที่จะไปแล้ว สงครามระหวา่ งอิรักกบั อิหร่านยงั คงส้รู บกนั อยู่ ซง่ึ ดเู หมอื นไมป่ ลอดภยั เลย มนั ช่างไกลเหลอื เกิน ฉนั จะมโี อกาสพบเธออกี หรือไม่ ฉากจากภาพยนตร์ “Fiddler on the Roof” ผดุ ขนึ ้ มาในจิตใจของฉนั โดยท่ีฉนั เห็น เทฟยา กบั ลกู สาวคนที่สองของเขา ณ สถานีรถไฟ เพ่ือรอสง่ เธอขนึ ้ รถไฟไปไซบีเรีย เพ่ืออย่กู บั สามขี องเธอ ฉนั ได้ยินเสียงร้องเพลง “Far From the Home I Love” ของลกู สาวของเขาอกี ครัง้ หนงึ่ โจดีกบั เรซาขายทกุ ส่งิ ทกุ อยา่ งท่ีพวกเขามี ยกเว้นท่ีพอจะใสไ่ ปในกระเป๋ าเดนิ ทางขนาดใหญ่ 4 ใบ ซง่ึ พวกเขาจะเอาไปด้วย เพื่อเริ่มต้นชีวิตในอหิ ร่าน โจดีกบั เรซาใช้เวลาคืนสดุ ท้ายกบั เรา พวกเขาต่นื เต้นมากและมคี วามสขุ การมองดพู วกเขาเดนิ ทางออกจากสนามบินในเช้าวนั รุ่งขนึ ้ นบั วา่ เป็นส่ิงที่ทรมานท่ีสดุ ท่ีฉนั เคยทา ฉนั รู้สกึ วา่ โจดเี ดนิ ทางออกจากชีวิตของเราเพื่อความดี ฉนั อยากจะนอนลงบนพืน้ สนามบิน แล้วดีดดนิ ้ พร้อมกบั สง่ เสียงกรีดร้อง แตฉ่ นั ยงั คงควบคมุ มนั ไว้ จนกระทงั่ เราไปถงึ ท่ีรถ ซง่ึ ฉนั สามารถล้มตวั เข้าไปได้อย่างปลอดภยั เธอไปแล้ว ฉนั จะไมไ่ ด้พบกบั เธออกี มนั เหมือนกบั เธอตายไปแล้ว การแตง่ งานครัง้ นีต้ ดั เธออกไปจากฉนั พาเธอไปสดู่ ินแดนที่แปลกประหลาดและมสี งคราม แตช่ ีวติ ก็ดาเนินตอ่ ไป และฉนั ต้องออกเดินทางไปปฏิบตั ิหน้าท่ีในแคนาดา โจโทรศพั ท์มาหาบอกวา่ โจดโี ทรมา บอกวา่ มีเข่ือนแตกเหนือกรุงเตหราน และนา้ ทะลกั มาทางพืน้ ทที่ ่ีพวกเขาอาศยั อยกู่ บั พอ่ แมข่ องเรซา คนหลายพนั คนเสยี ชีวิตจากกระแสนา้ และโคลนถลม่ ในบรรดาผ้ตู ายมีพ่อของเรซา ซงึ่ จมนา้ ตายอยใู่ นอพาร์ทเมนท์ซงึ่ ครอบครัวอาศยั อยู่ เกือบทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งในอพาร์ทเมนท์ถกู ทาลาย

ภายใต้กระแสนา้ และโคลนหนาหลายฟตุ ทางครอบครัวก้ศู พพ่อเรซาขนึ ้ จากนา้ ทาความสะอาดอพาร์ทเมนท์ และพยายามรักษาส่ิงท่ีพวกเขาสามารถทาได้ ฉนั รู้สกึ เศร้าอยา่ งสดุ ซงึ ้ ใชแ่ ล้ว ฉนั เศร้าเกี่ยวกบั พอ่ ของเรซา แตฉ่ นั ถกู ปกคลมุ ด้วยความโศกเศร้าอยา่ งอืน่ ถ้าโจดีสญู เสยี ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งท่ีเธอนาไปอหิ ร่าน แล้วเธอจะจาได้อยา่ งไรวา่ เราคอื ใครในชีวิตของเธอก่อนหน้านี ้เธอไมม่ สี ิง่ ใดเหลอื อยเู่ พื่อเตอื นความจา รูปถ่ายทงั้ หมดของเธอสญู ไป สิ่งท่ีเธอเก็บ กระดาษจดหมาย ฉนั แนใ่ จวา่ เธอต้องลืม เมอื่ เวลาผา่ นไปวา่ เราคอื ใครและเธอมาจากไหน ขณะนีค้ รอบครัวของเธอคอื ครอบครัวเรซา และไมต่ ้องสงสยั เลยวา่ เราต้องสญู เสยี การตดิ ตอ่ อยา่ งแนน่ อน สามเดอื นให้หลงั เราได้รับโทรศพั ท์อีกครัง้ หนงึ่ โจดกี บั เรซาจะกลบั มาสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจในอหิ ร่านฝื ดเคืองเพราะสงคราม พวกเขาเริ่มตระหนกั วา่ ต้องการเวลาท่ีจะสร้างความเข้มแขง็ ทางเศรษฐกิจ ก่อนไปลงหลกั ปักฐานในอิหร่าน มนั ชา่ งเป็นการเฉลมิ ฉลองอะไรเชน่ นีส้ าหรับเรา พวกเขาจะกลบั มา เราจะได้โจดีและเรซาของเรากลบั คนื เรามเี วลาอย่ดู ้วยกนั หลายปี ในเขตเมอื งเดียวกนั การให้เกียรติและความรักท่ีเรามใี ห้กบั เรซาในตอนเร่ิมต้นนนั้ ตอนนีย้ ่ิงเพิ่มขนึ ้ และสมบรู ณ์เตม็ ท่ี บทบาทที่เรซาแสดงออกในครอบครัวของเขากบั ภรรยาและลกู ๆ เหมือนกบั คริสเตยี นที่เคร่งครัด ซงึ่ รู้สกึ ถงึ ความรับผิดชอบในการนาครอบครัว เขาจริงจงั กบั ความเป็นหวั หน้าครอบครัว ในขณะเดียวกนั ก็กระต้นุ โจดีให้มีสว่ นร่วมในการตดั สินใจกบั เขา ถ้าเราจะอธิบายถงึ สามมี สุ ลิมทงั้ มวล จากแบบอยา่ งท่ีลกู เขยของเราแสดงแกเ่ รา เราอาจบอกคณุ ได้วา่ พวกเขาสภุ าพ แขง็ แกร่ง ออ่ นโยน ฉลาด เออื ้ เฟื อ้ มอี ธั ยาศยั มีความสขุ เป็นตวั ของตวั เอง เป็นธรรมชาติ เราทง่ึ ในความรู้และความเคร่งครัดในการปฏิบตั ิศาสนกิจของเขา ความต้องการท่ีจะให้ลกู ๆ เติบโตขนึ ้ เป็นมสุ ลมิ และได้รับการปกป้ องจากภาพลกั ษณ์ท่ีไมด่ ีจากรายการโทรทศั น์หรือภาพยนตร์ ความรู้สกึ รับผิดชอบตอ่ ครอบครัวท่ีเขาเป็นห่วง และการเป็นตวั ของตวั เองในการดแู ลเศรษฐกิจของครอบครัว และยงั มีความรู้สกึ ที่หนกั แนน่ ตอ่ ครอบครัวเดิมของเขา รวมทงั้ ความผกู พนั กบั ประเทศของตน โดยท่ีคณุ คา่ ของบทบาทการเป็นตวั อยา่ งท่ีแขง็ แกร่งของผ้ชู ายในบ้านและครอบครัว เป็นสง่ิ สาคญั ในครอบครัวคริสเตยี น สิง่ นีก้ ไ็ ด้รับการสนบั สนนุ อยา่ งเข้มแขง็ ในครอบครัวมสุ ลิม สามไี ด้รับการมอบหมายให้เป็นกาลงั ท่ีแข็งแรงของครอบครัว และมอบตาแหน่งผ้นู าในการตดั สินใจ รวมทงั้ การปฏิบตั ิในเรื่องศาสนาให้ ผ้หู ญิงบางคนที่ตอบแบบสอบถาม เข้ารับอสิ ลามขณะที่พวกเธอยงั เป็นโสด และกลา่ ววา่ พวกเธอจาเป็นต้องแตง่ งานกบั มสุ ลมิ ในอกี ด้านหนง่ึ ผ้หู ญิงท่ีไมใ่ ช่มสุ ลมิ อาจได้รับการแนะนาให้รู้จกั อสิ ลามในเวลาท่ีเธอจะแตง่ งานกบั ผ้ชู ายมสุ ลิม ในตวั อย่างอนื่ ๆ ความสนใจในอสิ ลามกอ่ นหน้านี ้ เป็นการเปิ ดโอกาสให้ผ้หู ญิงทไ่ี ม่ใชม่ สุ ลมิ ได้พฒั นาความสมั พนั ธ์กบั ผ้ชู ายมสุ ลิม

สามีในการสารวจของเรา ดงั้ เดิมมาจากหลากหลายประเทศคือ อิหร่าน อริ ัก ซีเรีย อยี ิปต์ จอร์แดน ปาเลสไตน์ คเู วต อินเดีย ตรุ กี เลบานอน ปากีสถาน เคนยา อฟั กานิสถาน โอมาน ตนู ีเซีย โมรอคโค และสหรัฐอเมริกาเอง ขณะนีจ้ านวนมากถือสญั ชาตอิ เมริกนั และแคนาดา และทงั้ หมดมีการศกึ ษาดี บางคนวางแผนที่จะพาครอบครัวกลบั ไปประเทศของตน หรือไมก่ ็กลบั ไปอยทู่ ่ีประเทศของตนแล้ว คนอนื่ ๆต้องการอาศยั อยใู่ นสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา ด้วยความหวงั วา่ จะอย่ใู นเมอื งท่ีมีชมุ ชนมสุ ลมิ ใหญ่ๆ เพื่อจะได้ปฏิบตั ศิ าสนกิจและเลีย้ งดลู กู ๆ ตามหลกั การอิสลาม ผ้หู ญิงคนหนงึ่ ซงึ่ เป็นโสดขณะที่เธอตอบแบบสอบถาม ได้เขียนจดหมายมาบอกวา่ เธอได้แตง่ งานแล้วกบั หนมุ่ อียิปต์ที่วเิ ศษจริงๆ ซง่ึ ได้รับการเอาใจใสแ่ ละให้เกยี รติจากเธอและครอบครัวของเธอ  คณุ อาจจะแปลกใจวา่ ทาไมฉนั จงึ บอกทกุ ส่งิ เกี่ยวกบั เร่ืองนี ้ ฉนั เพียงแตอ่ ยากให้คณุ เข้าใจวา่ ในอสิ ลามสถาบนั การครอบครัวคอื ส่งิ ท่ีช่วยเหลอื ฉนั ให้สามารถปฏิบตั ศิ าสนกิจได้อย่างเตม็ ที่เทา่ ที่จะเป็นไปได้ ในฐานะทีเ่ ป็นคนอเมริกนั ที่เข้ารับอสิ ลาม ฉนั พบวา่ เป็นการยากอยา่ งย่ิง ในตอนแรกเร่ิมที่จะเป็นมสุ ลมิ ท่ีดี และต้องเปลีย่ นแปลงความประพฤตทิ งั้ หมด ท่ีฉนั เคยทามาตลอดชีวติ ถงึ แม้วา่ ฉนั จะทาเป็นประจา ขณะนีพ้ ร้อมกบั สามี ฉนั รู้สกึ วา่ ตวั เองปฏิบตั ติ ามอิสลามได้มากขนึ ้ ในจิตใจของฉนั ฉนั รู้วา่ ตวั เองตดั สนิ ใจถกู ต้อง ฉนั โชคดมี ากที่สดุ ท่ีไมต่ ้องตดั สนิ ใจเลือกระหวา่ งครอบครัวกบั อสิ ลาม (เพราะอิสลามต้องชนะในท่ีสดุ ) แตฉ่ นั โชคดีที่สดุ เพราะพระผ้เู ป็นเจ้าทรงชีน้ าฉนั มาสหู่ นทางท่ีถกู ต้อง ฉนั ไมไ่ ด้กลา่ ววา่ ฉนั ไมม่ ปี ัญหา แตท่ ่ีฉนั ทาทงั้ หมดนี ้ได้เข้าไปฝังอยใู่ นหวั ใจของฉนั ฉนั อา่ นคมั ภีร์อลั กรุ อาน และรู้สกึ วา่ ชีวิตทงั้ หมดนีด้ ีขนึ ้ แสวงหาสามมี ุสลิม คแู่ ตง่ งานพบกนั ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ซงึ่ เป็นเร่ืองธรรมดาในสหรัฐอเมริกา ที่วิทยาลยั ในขณะการทางาน ณ กิจกรรมทางสงั คม หรือผา่ นทางเพ่ือน ๆ นี่คือบางเร่ืองราวของการพบกนั  ฉนั พบสามีกาลงั เลน่ บิงโก ฉนั นง่ั อย่กู บั เพื่อนของครอบครัวเรา และเขาเกิดก็รู้จกั เพื่อนของเราคนนนั้ ด้วย เขามยี ิม้ ท่ีสวยงามและง่ายที่จะพดู คยุ ด้วย ฉนั เพิ่งจะผละมาจากความสมั พนั ธ์ที่โชคร้ายกบั ผ้ชู ายหลอกลวง เป็นเวลา 9 ปี

ของชว่ งเวลาแหง่ การบรรลนุ ิตภิ าวะของฉนั แตช่ ่วงวยั รุ่นของฉนั นนั้ สมบรู ณ์ เม่ือฉนั พบกบั ผ้ชู ายคนตอ่ มา ฉนั มกี รอบความคดิ ในจิตใจที่เลวเกี่ยวกบั ผ้ชู าย มนั เป็นเรื่องน่าพิศวงท่ีฉนั ตดั สนิ ใจแตง่ งานอกี ครัง้ หนง่ึ เขาไมไ่ ด้พดู ถงึ เรื่องเพศหรือแสดงกิริยาใดๆ ไมเ่ คยจบั ฉวยหรือสมั ผสั ร่างกายสว่ นใดของฉนั หรือเรียกฉนั วา่ เป็นผ้หู ญิงของเขาในที่สาธารณะ มนั เป็นความสดชื่นอกี ครัง้ หนงึ่ ที่ได้รับการปฏิบตั เิ ช่นนนั้ เขาไมเ่ คยพาฉนั ไปไหนโดยไมม่ คี นท่ีไปเป็นเพ่ือน ซงึ่ แสดงวา่ เขาเป็นสภุ าพบรุ ุษ ฉนั รู้สกึ วา่ ได้รับการยกยอ่ งและชอบการปฏิบตั ขิ องเขา  ฉ์ันพบกบั สามใี นวทิ ยาลยั เขาสภุ าพมาก (ฉนั สงั เกตเห็นระหวา่ งทาง) และดดู ี ฉนั ไมเ่ คยมองดใู ครเลยจริงๆ เม่ือฉนั พบเขา เพราะสงิ่ แรกทีฉ่ นั สงั เกตเห็นในตวั เขา ซงึ่ อยใู่ นอนั ดบั แรกๆ ของสงิ่ ที่ฉนั สนใจคือ การให้ความสาคญั กบั ครอบครัว (ความภกั ดี และการให้เกียรต)ิ ตอ่ พอ่ แม่ เขาจะตอบคาถามท่านทงั้ สอง ด้วยความสภุ าพอยา่ งยิ่ง  ฉนั พบสามใี นวิทยาลยั ชมุ ชนทฉ่ี นั ศกึ ษาอยู่ เขาเป็นคนปรุงเนือ้ ยา่ ง บางครัง้ มีการให้บริการระหวา่ งเรา เขาเป็นคนท่ีเออื ้ เฟื อ้ และสภุ าพที่จะพดู คยุ ด้วย เขามีความรู้สกึ ทางศาสนาในตวั และมีความคิดเป็นผ้ใู หญ่ แน่นอนฉนั คิดวา่ เขาเป็นคนหน้าตาดีด้วย ฉนั ชมชอบวิถีชีวติ ที่เขาปฏิบตั ติ อ่ ครอบครัวและสงั คม ฉนั มีความคิดเป็นพิเศษ วา่ เขาเป็นเพ่ือนของฉนั และเรามีความเหน็ พ้องกนั อยา่ งงา่ ยดายในหลายๆ เรื่อง รวมทงั้ เรื่อศาสนา เขาเป็นผ้กู ระต้นุ ให้ฉนั สารวจค้นหาตวั เอง  ฉนั เป็นครูสอนพิเศษภาษาองั กฤษให้เขา เขาช่วยเหลอื ฉนั ในการศกึ ษาอิสลาม แตเ่ มื่อฉนั เข้ารับอิสลาม ฉนั ไมส่ ามารถพบเขาได้อกี เขาให้เกียรติการตดั สินใจของฉนั ที่จะหยดุ พบกบั เขาทนั ทีท่ีเป็นมสุ ลิม ตอ่ มาภายหลงั มคี นหลายคนสงั เกตเหน็ “ผ้ทู ี่เหมาะสม” กบั ตวั ฉนั ในมสั ยิด แตก่ ็ปรากฏออกมาวา่ เป็นคนๆ เดียวกบั ที่ฉนั สอนภาษาองั กฤษให้ และเขาเป็นผ้ชู กั นาฉนั มาสอู่ สิ ลาม ฉนั พบวา่ เขามคี วามจริงใจ สภุ าพ มีนา้ ใจและออ่ นโยน ถ้า ณ ท่ีนนั้ มี “คทู่ างจิตวิญญาณ” สาหรับฉนั ก็คงจะเป็นเขา เขาเป็นผ้ทู ่ีเติมเตม็ “ชอ่ งวา่ ง” ของความเดยี วดาย และต้องการความรักท่ีไมม่ ีเง่ือนไข ท่ีไมไ่ ด้รับการเติมให้มาก่อน ครอบครัวของฉนั ยอมรับเขาอย่างสมบรู ณ์นบั จากวนั ที่พวกเขาพบกนั พวกเขารักเขามากและเป็นมติ รกบั เขาทกุ คน  ฉนั พบกบั สามี ขณะท่ีเราทางานในภตั ตาคารเดียวกนั ฉนั เป็นคนเสิร์ฟ เขาเป็นคนล้างจาน เขาเป็นคนที่มาใหมใ่ หมใ่ นประเทศนีแ้ ละพดู ภาษาองั กฤษไมไ่ ด้ เขาดเู ป็นคนสภุ าพและไมส่ ลบั ซบั ซ้อน ทางานหนกั และมีนา้ ใจ  ฉนั พบกบั สามขี ณะที่อย่ใู นวทิ ยาลยั เรายงั ทางานท่ีเดียวกนั ในภตั ตาคารอาหารเมก็ ซิกนั ฉนั ประทบั ใจเขา เพราะเขาทางานหนกั มาก มคี วามคลอ่ งแคลว่

และมคี วามประพฤติที่สภุ าพเรียบร้อย ฉนั มีความต้องการผ้ทู ี่คดิ วา่ ฉนั ดพี ร้อมสาหรับเขา เขายกยอ่ งและปฏิบตั ติ อ่ ฉนั อย่างให้เกียรติ และมีศกั ดิศ์ รี (แม้วา่ เราจะยากจนกต็ าม) ผ้หู ญิงบางคนเข้ารับอิสลามในขณะที่ยงั เป็นโสด และพบกบั สามขี องพวกเธอในวธิ ีอ่นื วิธีการปกตทิ ี่กระทากนั ในการมองหาสามภี รรยาคอื การโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ในนิตยสาร หรือบธู แตง่ งานในการประชมุ ตา่ งๆ ของมสุ ลมิ เป็นเร่ืองที่ไมผ่ ิดปกตแิ ตป่ ระการใดที่ผ้ซู ง่ึ พร้อมจะแตง่ งานจะให้เพ่ือนๆ มสุ ลิม เป็นผ้มู องหาคนท่ีเหมาะสมให้ ข้อความที่คดั มาจากแบบสอบถามนบั วา่ เป็นภาพรวมท่ีดีของความสมั พนั ธ์และการแตง่ งานของมสุ ลมิ ใน สหรัฐอเมริกา  ฉนั พบกบั สามี โดยผ่านอิมามของมสั ยิด ฉนั ยอมรับเขา เพราะความเคร่งครัดในศาสนา ไมม่ อี ะไรเลยที่เป็นปัญหา เขาไมม่ ีสว่ นเก่ียวข้องในการเข้ารับอิสลามของฉนั เพราะฉนั เป็นมสุ ลมิ แล้ว การฉลองแตง่ งานของฉนั เป็นไปในแบบอสิ ลาม ฉนั ได้พดู คยุ กบั เขาราวสองสปั ดาห์และตดั สนิ ใจแตง่ งานกอ่ นเดือนรอมาฎอน ปี ค.ศ.1991 สองวนั  การแตง่ งานของฉนั จดั ขนึ ้ ด้วยความต้องการของฉนั เพื่อการสนบั สนนุ (ในทางศาสนา) เพื่อชว่ ยให้ฉนั ศกึ ษาเรื่องศาสนาของฉนั (ซง่ึ เป็นสง่ิ จาเป็น) ฉนั บอกวาลี (ผ้ทู ี่จดั การแตง่ งาน) ของฉนั วา่ ผ้ชู ายเป็นผ้เู คร่งครัดในศาสนา ซง่ึ เป็นคณุ สมบตั ิเดียวท่ีฉนั ต้องการในตวั เขา ฉนั ต้องการสามผี ้ซู งึ่ สามารถสอนเร่ืองอสิ ลามท่ีลกึ ซงึ ้ ให้กบั ฉนั ได้ และเพื่อเตอื นฉนั เกี่ยวกบั พระผ้เู ป็นเจ้าอย่ตู ลอดเวลา เพราะฉนั เป็นมสุ ลมิ แล้ว ครอบครัวของฉนั ไมร่ ู้จกั เขามากอ่ นท่ีจะแตง่ งาน พวกเขาพบกนั 2 วนั กอ่ นพิธีแตง่ งาน เขาขออนญุ าตพอ่ แมเ่ พื่อแตง่ งานกบั ฉนั 1 วนั ก่อนเข้าพิธี ท่านไมช่ อบเขา แตท่ กุ วนั นี ้ ทา่ นเพียงแตอ่ ดทนกบั เขาเท่านนั้ ผ้ทู ี่จะมาเป็นสามขี องฉนั นนั้ เขามาพบฉนั ในคืนวนั ศุกร์และเราแตง่ งานกนั ในวนั อาทิตย์ ตอนบ่าย ในงานฉลองแตง่ งานเราเชิญเพ่ือนๆ และครอบครัวมาด้วย การแตง่ งานของเราเป็นแบบอิสลาม ฉนั แตง่ กายอยา่ งถกู ต้อง ไมใ่ ช่ชดุ เจ้าสาวสีขาว เราอย่คู นละห้อง อิมามมาถามถงึ การยอมรับของฉนั และส่งิ ท่ตี ้องการเป็นสินสอด ฉนั ได้ยินเขากลา่ วคาพดู สาคญั เกี่ยวกบั การแตง่ งาน ณ จดุ นนั้ แมข่ องฉนั กเ็ ดินออกไป พร้อมกบั กลา่ ววา่ มนั เป็นละครตลกเร่ืองใหญ่เก่ียวกบั การแตง่ งานอะไรเช่นนี ้ ฉนั ร้องไห้และเจบ็ ปวด แตเ่ รากด็ าเนินพิธีตอ่ ไป แตร่ วดเร็วขนึ ้  ฉนั พบกบั สามีผ่านทางโฆษณาแตง่ งานในนิตยสาร เพื่อนของเขาเป็นผ้ลู งโฆษณา (ฉนั ตอบจดหมายโฆษณาของเพ่ือนเขาช้าเกินไป) แตเ่ พ่ือนของเขา

ได้เอาจดหมายตอบของฉนั ไปให้เขา ซงึ่ กค็ ือสามีของฉนั ในปัจจบุ นั เราพดู คยุ กนั ทางโทรศพั ท์เป็นเวลา 10 ถงึ 12 ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์ เป็นเวลานาน 6 สปั ดาห์ จากนนั้ เขาจงึ บินมาแคนซสั เรามีความมน่ั ใจตอ่ การแตง่ งานถงึ 90% แม้วา่ จะยงั ไมพ่ บกนั แตก่ ารพบกนั กเ็ พื่อให้มีความมนั่ ใจมากขนึ ้ เราตกลงกนั ในวนั นนั้ และจดั พิธีแตง่ งานตามแบบอิสลามในอีก 2 วนั ถดั มา ฉนั มองหาคนบางคนที่เป็นมสุ ลมิ ท่ีเข้มแขง็ ทงั้ ในทางทฤษฎีและปฏิบตั ิ ผ้ทู ่ีใช้ชีวิตแบบอสิ ลาม ไมว่ า่ คนท่ีอยรู่ อบข้างเขาจะใช้ชีวิตอย่างไร ฉนั ต้องการคนท่ีเป็นผ้จู ดั เตรียมการชีวิตที่ดี เพราะในชีวิตแตง่ งาน ผ้ชู ายคอื ผ้ทู ี่จดั เตรียมทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งให้ครอบครัว แม้วา่ ผ้หู ญิงจะมีเงิน ฉนั ได้ยินเร่ืองราวมากมายของผ้ชู ายที่ไมย่ อมทางาน หรือต้องการให้ภรรยาจนุ เจือเขา ดงั นนั้ ฉนั จงึ ต้องการความแน่ใจวา่ สามขี องฉนั จะทางานหนกั เพ่ือครอบครัวของเรา ย่ิงฉนั รู้จกั เขามากขนึ ้ เทา่ ใด ดเู หมอื นเขาก็ย่ิงสมบรู ณ์ในเร่ืองนี ้ฉนั ได้บอกไปตรงๆ ในจดหมายของฉนั วา่ ต้องการมสุ ลมิ ที่เข้มแขง็ และฉนั เป็นหม้ายลกู หนง่ึ (ในกรณีที่บางคนอาจต้องการผ้หู ญิงโสดบริสทุ ธ์ิ) พร้อมทงั้ แนบรูปถา่ ยไปด้วย แม้วา่ ฉนั จะไมไ่ ด้ขอรูปถ่ายเขาโดยตรงแตเ่ ขาก็สง่ มาให้รูปหนง่ึ ดเู หมอื นวา่ ไมส่ าคญั เขาและฉนั ได้รู้จกั กนั อยา่ งดีทางโทรศพั ท์ พดู คยุ กนั ถงึ ส่ิงตา่ งๆ มากมายในชีวติ อิสลาม เหตกุ ารณ์ความเคล่ือนไหวทว่ั ไป (รวมทงั้ บางเรื่องท่ีเกี่ยวพนั กบั มสุ ลมิ ) ฯลฯ ฉนั ทาให้แนใ่ จวา่ ครอบครัวของเขายอมรับภรรยาชาวอเมริกนั (เขามาจากประเทศมสุ ลิม) แม้แตเ่ รื่องท่ีฉนั ผา่ นการหยา่ ร้างและมลี กู ติดหนงึ่ คน แตเ่ ขารับรองวา่ ไมม่ ีความแตกตา่ งใดๆ สาหรับพวกเขา พวกเขาล้วนเลือกคคู่ รองและบางคนก็เลอื กมาจากประเทศอืน่ ๆ เราเริ่มสนิทกนั โดยผา่ นการสนทนาทางโทรศพั ท์ และฉนั มกั รอคอยโทรศพั ท์จากเขา ถ้าฉนั มีวนั ท่ีไมด่ ี ฉนั ก็จะโทรศพั ท์บอกเขา เพ่ือให้ตวั เองรู้สกึ ดีขนึ ้ ซงึ่ ดเู หมือนประเพณีเก่าๆ ความต้องการของเราไมไ่ ด้เป็นไปในทางที่อยากจะรู้จกั ซงึ่ กนั และกนั เม่ือเราพบกนั เราตา่ งรู้วา่ เราเป็นคนที่ถกู โฉลกกนั มติ รภาพและความประทบั ใจ จงึ เปล่ียนมาเป็นความรัก อสิ ลามไมอ่ นญุ าตการออกไปเท่ียว และการมเี พศสมั พนั ธ์กอ่ นการแตง่ งาน ฯลฯ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สดุ ในการรู้จกั กนั และเพื่อจะได้ดวู า่ สามารถดาเนินความสมั พนั ธ์ตอ่ ไปด้วยกนั ได้หรือไม่ นน่ั คือส่งิ ที่สาคญั ท่สี ดุ เมอ่ื รู้จกั กนั ถ้าเขาอยใู่ นระดบั เดียวกบั คณุ มอี ิสลามและมบี คุ ลกิ ภาพ ถ้าเขามีส่ิงนี ้คณุ กจ็ ะประทบั ใจในตวั เขาและรักเขา ฉนั ต้องการคนที่สภุ าพออ่ นโยนและมคี วามรัก และก็ได้พบคนเช่นนนั้ เขาไมเ่ คยตะโกนใสห่ น้าหรือทบุ ตฉี นั ตามภาพพจน์ที่ปรากฏของผ้ชู ายอาหรับ ฉนั ต้องยอมรับวา่ ความคิดของฉนั เกี่ยวกบั ผ้ชู ายอาหรับทงั้ หมดคือ บงั คบั ควบคมุ และทาร้ายผ้หู ญิง แตเ่ ขาไมไ่ ด้เป็นเชน่ นนั้ เขาบอกวา่ รักฉนั และฉนั แนใ่ จวา่ เขารักฉนั เขามคี วามเป็นห่วงและเอาใจใสด่ มี าก

เข้าสู่การแต่งงานกับมุสลมิ ถ้าทงั้ ครู่ อดพ้นจากการปฏิเสธของครอบครัวมาได้ในระหวา่ งคบกัน พวกเขากจ็ ะเตรียมตวั เข้าพิธีแตง่ งาน บ่อยครัง้ ที่เป็นการยากสาหรับพอ่ แมข่ องผ้หู ญิงที่จะแตง่ งานกบั มสุ ลมิ ที่มาจากประเทศอื่น พวกเขาอาจรู้สกึ สงสยั ในเจตนาของผ้ชู าย และแสดงความกลวั ให้ลกู สาวรู้ การพบกนั เป็นครัง้ แรกระหวา่ งผ้ชู ายท่ีมาชอบลกู สาวกบั ครอบครัวของเธออาจกลายเป็นความตงึ เครียด อยา่ งไรก็ตามในกรณีของผ้หู ญิงที่ตอบแบบสอบถามหลายคน ครอบครัวกลบั เป็นผ้พู ฒั นาการยอมรับและสร้างมิตรภาพกบั สามี ด้วยเชน่ กนั  พ่อกบั แมไ่ มแ่ นใ่ จเกี่ยวกบั สามขี องฉนั เน่ืองจากท่านยงั ไมไ่ ด้พบกบั เขาโดยตรง จนกระทงั่ คนื ท่ีเราแตง่ งาน เราตงั้ ใจท่ีจะใช้เวลาสกั สองสามวนั (หลงั การแตง่ งาน) อย่กู บั ท่าน เพื่อให้ท่านได้รู้จกั ค้นุ เคยกบั เขามากขนึ ้ ทา่ นเริ่มมีความรักตอ่ เขาเพิ่มขนึ ้ ความจริงในสายตาของพอ่ เขาเป็นลกู ชายที่ทา่ นไมเ่ คยมมี ากอ่ น แมส่ ารภาพวา่ ท่านไมค่ ดิ วา่ จะสามารถหาสามใี ห้ฉนั ได้ดีกวา่ เขา จากการปฏิเสธย่างสิน้ เชิงเมอื่ ครัง้ แรกที่ท่านรู้วา่ ฉนั คบกบั เขา บดั นีพ้ ่อกบั แมย่ อมรับเขาเป็นสว่ นหนงึ่ ของครอบครัวแล้ว ในการสารวจวจิ ยั ฉนั ต้องการเรื่องท่ีเป็นภาพที่ดขี องผ้ทู ่ีเข้ารับอสิ ลาม ซง่ึ มิใช่การละเลยความสนใจความสมั พนั ธ์ในสว่ นที่ไมร่ าบรื่นท่ีมอี ยู่ ผ้หู ญิงคนหนง่ึ โทรศพั ท์มาหา หลงั จากได้รับแบบสอบถาม และกลา่ ววา่ เธอไมส่ ามารถให้ชื่อและตอบแบบสอบถามได้ เพราะประสบการณ์ของเธอมไิ ด้เป็นในทางบวก ในความเป็นจริงเธอแตง่ งานกบั ผ้ชู ายมสุ ลมิ ท่ีแตกตา่ งกนั สองคน ทงั้ สองคนเป็นผ้มู ีการศกึ ษา คนหนง่ึ เป็นนกั ฟิ สกิ ส์ ทงั้ สองคนทาร้ายเธอและหลอกลวงเธออยา่ งมาก เธอหลบซอ่ นตวั เองและใช้ชีวติ อยา่ งหวาดกลวั ฉนั ไมไ่ ด้ตงั้ ใจที่จะยกย่องชีวติ แตง่ งานของมสุ ลิม แตฉ่ นั รู้อยา่ งชดั เจนวา่ การแตง่ งานของมสุ ลิมทกุ คนนนั้ ไมใ่ ช่ความหายนะอยา่ งท่ีสือ่ พยายามชีน้ าให้เราเช่ือ ความตงั้ ใจของฉนั ในการเขียนส่ิงเหลา่ นีก้ ็เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในเชิงบวก ซง่ึ ตรงกนั ข้ามกบั เร่ืองราวในเชิงลบ เพื่อนาเสนอภาพที่มคี วามสมดลุ มากขนึ ้ ในหมมู่ สุ ลมิ มีการแตง่ งานที่ดี ที่ไมด่ ีและท่ีอยกู่ ง่ึ กลางระหวา่ งนนั้ เหมอื นกบั ศาสนาและวฒั นธรรมอนื่ ๆ และความสมั พนั ธ์ที่ผิดเพีย้ นไปก็สามารถพบได้ มีแม้แตผ่ ้ชู ายจากประเทศเหลา่ นนั้ ท่ีแตง่ งานเพื่อให้ได้กรีนการ์ด ( ซงึ่ อนญุ าตให้ผ้ทู ่ไี มใ่ ช่คนอเมริกนั สามารถอาศยั ทางานอยใู่ นอเมริกาได้ )

 ฉนั เข้าร่วมกบั ชมรมเพ่ือนทางจดหมาย จากโฆษณาทางหนงั สือพิมพ์ และได้รับจดหมายจากนกั ศกึ ษาอาหรับมสุ ลมิ ในวทิ ยาลยั เขาขอแตง่ งานกบั ฉนั และฉนั ตอบตกลง เขาแตง่ งานเพียงเพ่ือต้องการความบริสทุ ธิ์ของฉนั และกรีนการ์ด หลงั จากเราหย่าจากกนั ฉนั อาศยั อย่ใู นรัฐเทนเนสซี เพอื่ นๆ แนะนาฉนั ให้รู้จกั กบั มสุ ลมิ คนหนง่ึ เขาเป็นคนเคร่งครัดและเรียบงา่ ย ตอบคาถามต่างๆ ของฉนั ได้อย่างถกู ต้อง และฉนั ต้องการสามีและลกู ของฉนั เอง พอ่ แมข่ องฉนั แสดงความกงั ขากอ่ นการแตง่ งานของฉนั เพราะทา่ นไมค่ ดิ วา่ เขาจะตา่ งจากสามคี นแรก ซงึ่ เป็นมสุ ลมิ เชน่ กนั ตอนนีท้ า่ นยอมรับเขาและลกู ชายวยั 3 ขวบของเราแล้ว เราจดั พิธีแตง่ งานอยา่ งเรียบง่ายท่ีศนู ย์กลางอิสลาม จากนนั้ จงึ ออกไปเลยี ้ งอาหารกนั ที่พอนเดโรซาสเตก็ เฮาส์ เราเชิญแขกจานวนมาก แตม่ เี พียงเพ่ือนๆ ของเราเพียงเลก็ น้อย เพราะน้องสาวของฉนั เพ่ิงจดั งานฉลองปริญญาไปเม่ือคืนกอ่ นหน้า งานของฉนั เป็นงานแบบอสิ ลาม จากนนั้ เราเดนิ ทางไปฮนั นีมนู กนั ที่นิวยอร์ค  ฉนั เคยแตง่ งานมาก่อนกบั มสุ ลมิ แตเ่ ป็นการแตง่ งานที่ไมป่ ระสบความสาเร็จ นบั เป็นเวลาห้าปี ท่ีฉนั ถกู บีบคนั้ ทางอารมณ์และร่างกาย คาแนะนาของฉนั สาหรับผ้ทู ่ีต้องการแตง่ งานคอื ต้องมผี ้ทู ่ีตรวจสอบพี่น้องมสุ ลมิ ชาย ที่พวกเธอต้องการแตง่ งานด้วย การแตง่ งานครัง้ นีเ้ป็นสง่ิ ท่ีไมด่ ี หลงั การแตง่ งานเขานมาซเพียงครัง้ เดยี ว ได้รับกรีนการ์ด ออกไปเพลินกบั ผ้หู ญิงอ่นื และในท่ีสดุ ก็ได้เป็นประชาชนอเมริกนั เขามีภตั ตาคาร แตง่ งานกบั ผ้หู ญิงมสุ ลมิ จากสงิ คโปร์ และนาครอบครัวของเขามาอยสู่ หรัฐอเมริกา ขอบคณุ ท่ีฉนั เกิดในสหรัฐอเมริกา ปัจจบุ นั ฉนั มีชีวติ แตง่ งานที่มีความสขุ กบั ผ้ทู ่ีเป็นมสุ ลิมเชน่ กนั การแตง่ งานกบั มสุ ลมิ ของผ้หู ญิงท่ีทาการสารวจ สว่ นใหญ่เป็นภาพเชิงบวก เร่ิมต้นด้วยการเฉลมิ ฉลองการแตง่ งาน ซงึ่ แตกตา่ งอย่างมีนยั ยะสาคญั กบั คา่ นิยมแบบตะวนั ตก บางครัง้ พิธีการแตง่ งานทาให์เ้ กิดความหวาดกลวั และความเจบ็ ปวดกบั ครอบครัว ความฝันของครอบครัวที่จะได้เห็นลกู สาวเดนิ ไปยงั แท่นหน้าโบสถ์ และมีนกั บวชจบั มือเจ้าสาวสง่ ให้กบั เจ้าบา่ ว ที่พวกเขารับรองแล้ว มนั เป็นพิธีในประเพณีของศาสนาคริสต์ พร้อมด้วยการต้อนรับและของขวญั และบรรดาผ้รู ่วมงานตา่ งเดนิ ตามไป อยา่ งไรก็ตาม เร่ืองราวการแตง่ งานระหวา่ งผ้ทู ี่ไมใ่ ชม่ สุ ลิมกบั มสุ ลมิ แสดงให้เหน็ ถงึ ความแตกตา่ งอยา่ งมากมายและหลากหลายสถานการณ์ บางคนมีงานแตง่ งานท่ีใหญ่โต

(เพื่อให้พอ่ แมพ่ อใจ) แตก่ ม็ กี ารจดั งานแตง่ งานเลก็ ๆ โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น มีการฉลองเลก็ น้อยตามแบบมสุ ลิม  เรามกี ารแตง่ งานแบบพิเศษสาหรับมสุ ลิมกบั ผ้ทู ่ีไมใ่ ชม่ สุ ลมิ ซงึ่ เรียกวา่ การแตง่ งานแบบมเี ง่ือนไข เงื่อนไขของเราคอื 99 ปี มเี พียงเรากบั เพ่ือนสองคน จากนนั้ เราจงึ มีการแตง่ งานสาหรับครอบครัวของฉนั ในโบสถ์ พ่อแตง่ งานให้เราและไมม่ กี ารอ้างถงึ พระเยซู พ่อให้เกียรตติ อ่ ความต้องการของสามีของฉนั มนั เป็นสิ่งท่ีดมี าก และครอบครัวกร็ ับได้ ไมม่ ีปัญหามากนกั เพราะฉนั ไมใ่ ช่มสุ ลมิ และสามีของฉนั ก็ไมค่ อ่ ยเคร่งครัด เรามกี ารแตง่ งานครัง้ ที่สาม เม่ือฉนั เป็นมสุ ลิม เพื่อเป็นการฉลองการแตง่ งานแบบถาวรในฐานะมสุ ลิมทงั้ คู่  ครอบครัวของฉนั ไมเ่ คยแสดงการตอ่ ต้านการแตง่ งานของฉนั หรือตอ่ สามขี องฉนั เราไมส่ นิทกนั แมเ่ พียงแตถ่ ามวา่ ฉนั มคี วามสขุ หรือไม่ เมอ่ื ฉนั ตอบวา่ มีความสขุ ดี แมบ่ อกวา่ แมก่ ็เช่นกนั การแตง่ งานของเรากระทาโดยนกั บวชแบบติสท์ เพราะฉนั ไมไ่ ด้สงั กดั นิกายใดมานานหลายปี แล้ว ฉนั ไมร่ ู้จกั นกั บวช ฉนั จงึ ถามหานกั บวชจากเพื่อนร่วมห้องท่ีไปเข้าโบสถ์ดงั กลา่ ว เป็นการแตง่ งานที่เรียบงา่ ยมาก เราได้รับการบอกกลา่ วให้อา่ นคาประกาศแตง่ งานลว่ งหน้า สง่ิ เดียวที่เราขอให้นกั บวชเปลย่ี นกค็ อื “ด้วยนามของเยซูคริสต์” มาเป็น “ด้วยพระนามของพระผ้เู ป็นเจ้า” สว่ นท่ีเย่ียมท่ีสดุ คือประเพณีฉลองแบบอาหรับ ด้วยการร้องเพลงฉลองและมกี ารเต้น  เราแตง่ งานกนั โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่ศาล โดยไมม่ คี รอบครัวของฉนั และมเี พื่อนอีกเลก็ น้อยเป็นพยาน หลงั จากนนั้ ไมก่ ่ีเดือนเราจงึ แตง่ งานโดยเชค (นกั วชิ าการด้านศาสนา) ในพธิ ีสนั้ ๆ ด้วยพยานเพียง 2 คน  ไมม่ ีองค์ประกอบสาคญั ทางด้านวฒั นธรรมใดๆ ในการแตง่ งานของเรา เชน่ การตดั และรับประทานขนมเค้ก โปรยนา้ ตาลบนศีรษะของเรา การแตง่ งานของเราเรียบง่ายตามแบบอสิ ลาม ซงึ่ คนสองคนมีความต้องการที่จะเป็นห้นุ สว่ นกนั ในชีวติ และยอมรับตอ่ พระผ้เู ป็นเจ้าวา่ จะมีชีวิตอย่แู ละทางานด้วยกนั ด้วยความกลมเกลยี วและออกห่างจากบาป เขาอา่ นคาอา่ นแตง่ งานเป็นภาษาอาหรับ และฉนั ยอมรับการแตง่ งาน สาหรับสนิ สอดเขาสญั ญาวา่ จะให้คมั ภีร์อลั กรุ อานที่เป็นภาษาอาหรับแก่ฉนั ซงึ่ เขาได้ให้ในภายหลงั เขายงั ให้ชดุ นมาซและพรมปนู มาซแกฉ่ นั หลงั จากการแตง่ งาน ตามหลกั การของอสิ ลาม เราเดนิ ทางไปยงั ศาล และประกาศแตง่ งานตอ่ หน้าผ้พู ิพากษา

(ในอสิ ลามมสุ ลิมได้รับคาแนะนาให้ปฏิบตั ิตามกฏหมายของปรเทศที่ไปอาศยั อยู่ ตราบเทา่ ท่ีกฎหมายดงั กลา่ วไมข่ ดั แย้งกบั หลกั การอิสลาม)  การฉลองแตง่ งานของเราสวยงาม และสมบรู ณ์ตาบแบบทวั่ ๆ ไป วนั นนั้ เป็นวนั ท่ีสมบรู ณ์ แสงแดดสอ่ งและเยน็ สบาย มนี กั ดนตรีเคร่ืองสาย 4 คน ณ คฤหาสถ์ติดถนนใหญ่ อาหารบฟุ เฟต์สดุ หรู ฉนั คดิ วา่ เป็นความเข้าใจ วา่ เป็นแบบฉบบั ท่ีต้องมดี นตรีอาหรับขบั กลอ่ มเป็นการต้อนรับ เราจงึ อยใู่ นข้อตกลงวา่ แขกจะได้รับการต้อนรับด้วยสิ่งนี ้เราจงึ เลอื กเคร่ืองสาย นอกจากสองสิ่งนีแ้ ล้ว งานของเราเป็นงานเฉลิมฉลองแบบอิสลาม สองสง่ิ ท่ีทาให้บรรยากาศไมเ่ ป็นแบบอสิ ลามนนั้ พอ่ ของฉันจดั มาให้ และเรามแี ขกเหรื่อที่เป็นคริสเตยี นมาร่วมด้วย ฉนั ดใี จท่ีมีแขกที่เป็นคริสเตยี น เพราะประเดน็ ซงึ่ เป็นเร่ืองลกึ ลบั เกี่ยวกบั อิสลามจะได้ถกู ขจดั ออกไปเสยี บ้างบางสว่ น เก่ยี วกับครอบครัวของสามี ปัจจยั อ่ืนๆคอื เกี่ยวกบั อิทธิพลของครอบครัวของสามีที่มีตอ่ การยอมรับภรรยา แนน่ อนสิ่งท่ีเราต้องกระทาในการแตง่ งาน คือการสร้างความสมั พนั ธ์กบั ญาตทิ างกฎหมาย แตใ่ นสถานการณ์เชน่ นี ้มมี ติ ขิ องความแตกตา่ งทางด้านวฒั นธรรมเพ่ิมเข้ามา ผ้ชู ายจะมีการผกู พนั กบั ครอบครัวเดมิ และบ้านเกิดของตนอย่างเหนียวแน่น และความรู้สกึ ในการยอมรับภรรยานนั้ อาจเป็นเรื่องทีส่ าคญั ยิ่ง บางครัง้ จะเหนียวแน่นจนถงึ ขนาดทาให้การแตง่ งานถกู ยกเลกิ ถ้าหากครอบครัวไมร่ ับรอง บางคนเรียนรู้ท่ีจะอยกู่ บั ความสมั พนั ธ์ที่เปราะบางนนั้ กบั ครอบครัวของสามี แตส่ ว่ นใหญ่ของผ้ทู ่ีตอบแบบสอบถามได้รับความรัก การยอมรับ และมคี วามสขุ ที่ได้รู้จกั ครอบครัวของสามี พวกเธอรายงานวา่ มีการติดตอ่ สอื่ สารระหวา่ งครอบครัวทางจดหมายและโทรศพั ท์ รวมทงั้ การเดินทางกลบั ไปเย่ียมบ้านเกิดของสามี ในเวลาเดยี วกนั ญาตพิ ี่น้องกม็ าเย่ียมเยียนพวกเขาในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดาด้วยเชน่ กนั  ฉนั ได้พบกบั ครอบครัวของสามี ฉนั กลวั แทบตายที่จะได้พบพวกเขา พวกเขามแี นวความคิดท่ีแย่มากเกี่ยวกบั ผ้หู ญิงอเมริกนั พวกเขาตกตะลงึ เม่ือเหน็ ฉนั คลมุ หน้า เหน็ ได้ชดั วา่ พวกเขาไมค่ อ่ ยสบายใจ ไมใ่ ชก่ ารยินดีต้อนรับ แตก่ ไ็ มม่ ใี ครฆ่าฉนั เราพกั อย่กู บั ครอบครัวของสามี (ในประเทศของเขา) ฉนั อย่ทู น่ี ่ีมาประมาณหนงึ่ ปี แตย่ งั ไมค่ อ่ ยได้รับการยอมรับ มเี พียงบางคนเทา่ นนั้ ท่ียินดตี ้อนรับฉนั พวกเขาเกือบทงั้ หมดกลวั วา่ วนั หนง่ึ ฉนั จะจากไปพร้อมกบั ลกู ๆ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook