Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์

ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์

Published by Porawan banjong, 2020-01-06 21:35:09

Description: ภูมิภาคของโลกกับพัฒนาการทางประวัติศาสตร์

Search

Read the Text Version

ภูมิภาคของโลก กบั พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์

ภมู ิภาคของโลกกบั พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ • ทวีปยโุ รป • ทวีปอเมรกิ าเหนอื • ทวีปอเมรกิ าใต้ • ทวีปแอฟรกิ า • ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย



แผนท่ที วปี ยโุ รป

ท่ตี งั้ และสภาพภมู ิอากาศทีม่ ผี ลต่อพัฒนาการของทวปี ทวีปยุโรป ประกอบดว้ ยทร่ี าบลมุ่ ที่ราบสงู เทอื กเขา และคาบสมุทรจา้ นวนมาก ท้าใหป้ ระเทศสว่ นใหญ่มีผนื ดนิ ติดตอ่ ทะเลและมีชายฝ่ังทะเลยาวมาก บางประเทศเปน็ เกาะ ซึ่งเหมาะแก่การท้าประมงและการเดินเรือ ส่วนประเทศทเ่ี ปน็ ผนื ดนิ และมที ่รี าบ กวา้ งใหญ่ และมีแมน่ ้าส้าคัญๆ ไหลผ่านหลายสาย เหมาะแกก่ ารเพาะปลกู นอกจากนี้ ยงั มอี ากาศอบอ่นุ และหนาวเย็น ทา้ ให้มีผ้คู นเข้ามาตัง้ หลักแหล่งและสร้างอารยธรรมต่างๆ มาต้ังแตส่ มยั โบราณจนถึงปจั จุบัน แม่น้าไรน์จากเทือกเขาแอลป์ ไหลผ่านเมอื งบอนน์ ประเทศเยอรมนี

พฒั นาการดา้ นการเมืองการปกครอง เริ่มข้นึ ทป่ี ระเทศองั กฤษ เกดิ รฐั สภาที่ประกอบดว้ ย สภาขุน โดยพระเจา้ จอห์นยอมรับ นาง และสภาสามญั ท้าใหอ้ ้านาจ แมกนาคาร์ตา หรอื มหากฎบัตร สทิ ธขิ์ าดของกษตั ริยล์ ดลง เกิดการปกครองแบบกษัตรยิ ์ รฐั สภาและประชาชนร่วมกัน ภายใต้รัฐธรรมนญู อยา่ งแท้จริง กอ่ การปฏิวตั อิ นั ร่งุ โรจน์ ขับกษตั รยิ ์ ออกจากราชบัลลงั ก์ และให้กษตั รยิ ์ พระองคใ์ หมย่ อมรับอ้านาจรัฐสภา

ระบอบกษัตรยิ ์แบบสมบรู ณาญาสิทธริ าชย์ ค.ศ. 1614 สภาฐานันดรในฝรงั่ เศสประกาศยุบตวั และประกาศใหอ้ านาจอธิปไตยสงู สดุ เปน็ ของกษตั ริย์ หลงั จากสงครามสามสิบปี (ค.ศ. 1618 – 1648) ปรัสเซยี และ ออสเตรยี จดั การปกครองแบบรวมศนู ย์อานาจไวท้ ่กี ษตั รยิ ์ ค.ศ. 1682 - 1725 เปน็ ยุคแห่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของรสั เซยี ค.ศ. 1789 ปฏวิ ัตฝิ รัง่ เศส ค.ศ. 1792 ฝร่งั เศสสถาปนาระบอบการปกครองแบบสาธารณรฐั แต่ไม่ประสบความสาเร็จ

สมัยจักรพรรดโิ ปเลียนท่ี 1 (ค.ศ. 1804 - 1815) ฝรั่งเศสกลับไปปกครองในระบอบกษัตรยิ ์อีกคร้ัง ในคริสตว์ รรษท่ี 19 อานาจของกษัตรยิ ์เร่มิ ถูกตอ่ ตา้ น เนอื่ งจากการแพรข่ ยายของลทั ธเิ สรนี ิยมและชาตินิยม ทาให้ เกิดการเปลย่ี นแปลงรูปแบบการปกครองใหก้ ษัตรยิ ์อยูภ่ ายใต้ อานาจของรัฐสภาในดินแดนตา่ งๆ ทั่วยโุ รป หลังสน้ิ สุดสงครามโลกคร้ังที่ 1 (ค.ศ. 1914 - 1918) ระบบการปกครองแบบกษัตริย์ในรสั เซยี เยอรมนี ออสเตรีย สิ้นสุดลง

ระบอบการปกครองของยุโรปในปัจจบุ ัน ระบอบประชาธปิ ไตย ระบอบเผดจ็ การคอมมวิ นิสต์ เกิดข้นึ ตง้ั แตส่ มัยกรีกโบราณ ใชเ้ ป็นคร้ังแรกในสหภาพโซเวยี ต เนน้ ความเปน็ ปัจเจกบุคคลนยิ ม หลงั จากการปฏวิ ัตริ ัสเซยี และขยายไป และเสรภี าพ มหี ลกั การสา้ คญั คอื สทิ ธิ ในหลายประเทศหลงั ส้ินสดุ เสรภี าพของประชาชน ประชาชนเป็น สงครามโลกครงั้ ที่ 2 เป็นระบอบ ทม่ี าของอ้านาจอธปิ ไตย ทุกคนมีสิทธิ การปกครองท่ีม่งุ เนน้ การสร้างสงั คม เสรภี าพ และความเสมอภาคภายใต้ ท่ีปราศจากชนช้นั และให้มคี วาม กฎหมาย เสมอภาคกันในดา้ นต่างๆ

พฒั นาการด้านเศรษฐกจิ • ในชว่ งของยุคกลางตอนตน้ ระบบเศรษฐกิจของยุโรปอย่ใู นลกั ษณะของแมเนอร์ ซง่ึ เนน้ การผลติ เพ่ือเลีย้ งตนเองเป็นหลกั • การเกดิ สงครามครเู สด ส่งผลใหเ้ ศรษฐกิจของยุโรปเริ่มฟืน้ ตวั เพราะมีการ เดินทางเข้ามาติดตอ่ ค้าขายจากคนภายนอก ทา้ ใหเ้ กดิ เมืองศนู ยก์ ลางการค้า และเกดิ เปน็ ระบบทุนนยิ ม • การประดิษฐค์ ิดค้นวิทยาการและเทคโนโลยสี มัยใหมใ่ นสมัยกลางตอนปลาย น้าไปส่ยู คุ แห่งการคน้ พบและการส้ารวจ เกิดเป็นการปฏิวตั ิทางการค้า ทา้ ให้ระบบ เศรษฐกิจแบบพาณิชยนยิ ม ทนุ นยิ ม และสังคมนิยม ถกู พฒั นาให้เตบิ โต ข้ึนมา จนถึงปัจจุบนั

พัฒนาการดา้ นสังคมและศิลปวฒั นธรรม การกาเนิดชนช้นั การขยายตัวของเมอื งในยุคปฏวิ ัติ อุตสาหกรรม • สมัยกลางตอนตน้ สังคมยุโรป ประกอบด้วย ชนชนั้ กษัตรยิ ์-ขุนนาง เร่ิมขยายตวั อย่างเด่นชัดในกลาง นักบวช และชาวนา-ชาวไร่ คริสตศ์ ตวรรษท่ี 19 มาจนกระท่งั • คริสตศ์ ตวรรษที่ 11 เกดิ ชนชน้ั กระฎุมพี ถึงปจั จบุ ัน ซ่ึงพบว่าประชากรยุโรป หรือชนช้ันกลาง ซง่ึ มบี ทบาทสา้ คญั ในปจั จบุ นั อาศยั อยใู่ นเขตเมอื ง ในการสร้างสรรคส์ งั คมยโุ รปให้มี เปน็ สว่ นใหญ่ ความกา้ วหนา้ และทันสมยั

การสร้างสรรคท์ างศิลปวัฒนธรรม • สมยั กลาง ศลิ ปะแบบกอธิกได้รับความนิยมไปทัว่ ยุโรป • ยุคฟนื้ ฟศู ลิ ปะวทิ ยาการ เกดิ รูปแบบศลิ ปะท่เี นน้ ความงามของธรรมชาติและกายวภิ าคของมนษุ ย์ • ต้นครสิ ต์ศตวรรษท่ี 18 เกิดงานศลิ ปะแบบบาโรก หรอื ศิลปะโรโกโก • กลางครสิ ต์ศตวรรษท่ี 19 เกดิ ศิลปะแบบเรยี ลลสิ ต์ หรือสจั นิยม และศลิ ปะอมิ เพรสชนั นสิ ต์ • หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ศิลปะของยุโรป เน้นพัฒนาในด้านเทคนคิ และการแสดงออก โดยนยิ มสร้างสรรคง์ านศลิ ปะทีส่ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของสงั คม

อทิ ธพิ ลของทวีปยุโรปต่อสังคมโลก • แนวคดิ ประชาธิปไตย • กฎหมายสิบสองโต๊ะ • งานศิลปะแขนงต่างๆ สมัยกรีก เป็นแมแ่ บบ ของโรมนั ทใี่ หค้ วาม สมัยกรกี -โรมัน ของระบอบการปกครอง ยตุ ธิ รรมทกุ ชนช้นั เป็นตน้ แบบในงาน แบบประชาธปิ ไตย เปน็ แม่แบบของ สรา้ งสรรคท์ ั่วโลก และระบอบกษตั รยิ ์ ประมวลกฎหมาย โดยเฉพาะงาน ภายใตร้ ัฐธรรมนญู ในนานาประเทศ สถาปัตยกรรม

• เมอื งและระบบ • ยุคการคน้ พบ เกดิ ลทั ธิ • การปฏวิ ตั ิด้านตา่ งๆ การปกครองแบบ พาณชิ ยนยิ ม ในยุคภูมธิ รรม น้าโลก เทศาภิบาลในสมัยกลาง และการปฏวิ ตั ิทาง เขา้ สสู่ งั คมแห่ง เป็นแมแ่ บบของเมอื ง การคา้ ครสิ ต์ศาสนา อุตสาหกรรม ทนุ นยิ ม และการจัดระบบการ ภาษาตะวันตก เทคโนโลยี ปกครองในปัจจุบัน และเชอ้ื โรคบางชนิด ประชาธปิ ไตย แพรไ่ ปทั่วโลก และชาตินยิ ม

• หลงั สน้ิ สดุ สงครามโลก • ผลจากลัทธสิ ังคมนิยม • การจัดต้งั สหภาพยโุ รป ครั้งที่ 2 เกิดการจดั ตงั้ นา้ ไปส่กู ารปฏิวตั ิ หรอื อียู กลายเป็น องค์กรระวา่ งประเทศ รัสเซยี เกิดการปกครอง แม่แบบในการจัดต้ัง เพ่ือเสริมสรา้ งสันตภิ าพ ระบอบคอมมวิ นิสต์ อาเซยี นในภมู ภิ าคเอเชยี และความร่วมมอื และขยายตัวไปยัง ตะวนั ออกเฉียงใต้ ของโลก ท่ีตา่ งๆ ทวั่ โลก



แผนที่ทวปี อเมรกิ าเหนอื

ท่ตี ัง้ และสภาพภมู อิ ากาศทมี่ ผี ลตอ่ พฒั นาการของทวีป ทวีปอเมริกาเหนือ ประกอบดว้ ยเขตเทือกเขาสูงทางตะวันตก ซ่ึงอดุ มสมบรู ณ์ ไปดว้ ยแร่ธาตุ ป่าไม้และแม่นา้ ล้าธาร มเี ขตท่ีราบตอนกลาง เป็นทีร่ าบขนาดใหญ่ที่มี ความอุดมสมบรู ณเ์ หมาะแก่การเพาะปลูก และเขตภูเขาหินเกา่ ภาคตะวันออก ซึ่งราย ล้อมด้วยมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมทุ รแปซิฟกิ ทา้ ให้สะดวกแก่การเดนิ ทาง ตดิ ตอ่ ค้าขาย ประกอบกับภมู อิ ากาศทีม่ ลี ักษณะเหมอื นทวปี เอเชีย ทา้ ใหม้ ผี ู้คนเข้ามาตั้ง ถิ่นฐานตั้งแต่อดตี จนถึงปจั จบุ นั เกรตเพลนส์ เปน็ ท่รี าบขนาดใหญบ่ ริเวณตอนกลางของทวีปอเมรกิ าเหนือ เหมาะแก่การท้าเกษตรและการเลี้ยงสัตว์

พฒั นาการดา้ นการเมืองการปกครอง สหรฐั อเมริกา • ค.ศ. 1776 - 1781 เกิดสงครามการปฏวิ ตั ิของชาวอเมรกิ นั จนสามารถ ประกาศเอกราช จากอังกฤษไดส้ ้าเรจ็ และใชร้ ูปแบบการปกครองแบบ สหพนั ธรัฐสาธารณรัฐ • ค.ศ. 1823 สหรฐั อเมรกิ าดา้ เนนิ นโยบายอยอู่ ย่างโดดเดีย่ ว และ ประกาศหลักการมอนโร • หลังส้ินสุดสงครามกลางเมืองใน ค.ศ. 1865 สหรฐั อเมรกิ าแบ่งแยก อ้านาจการปกครองออกเปน็ 3 ฝา่ ย คอื นิติบัญญตั ิ บรหิ าร และตุลาการ โดยมีหลักการส้าคญั ของการปกครอง คือ ประชาชนเปน็ แหล่งทมี่ า ของอ้านาจสงู สดุ

แคนาดา เมก็ ซโิ ก เดิมเป็นอาณานคิ มของ เดิมเปน็ อาณานคิ มของสเปน ฝรั่งเศสและอังกฤษตามลา้ ดับ ตอ่ มา และไดก้ อ่ การปฏิวตั ิประกาศ ไดเ้ กิดการเรียกรอ้ งให้ปฏริ ูป อสิ รภาพสา้ เร็จใน ค.ศ. 1810 การเมอื งโดยชาวแคนาดา ทา้ ให้ จนกระท่ังถึง อังกฤษยอมเปลย่ี นแปลงรปู แบบ ค.ศ. 1917 ได้ปฏิวตั ิเปล่ียนแปลง การปกครอง การปกครองเปน็ ระบอบ เป็นสหพันธรัฐใน ค.ศ. 1867 โดยมี ประชาธปิ ไตย นายกรฐั มนตรีและรฐั สภาเป็น โดยมีรัฐธรรมนญู เปน็ กฎหมายหลัก ผมู้ ีอา้ นาจบริหารประเทศที่แท้จรงิ ของประเทศมาจนถงึ ปัจจบุ นั

พฒั นาการด้านเศรษฐกจิ สหรฐั อเมรกิ า • เป็นระบบการคา้ เสรี โดยมรี ฐั เป็นผูค้ วบคุมและดา้ เนนิ การทางธรุ กจิ ท่ีเกย่ี วกบั กจิ การทางสาธารณะและสวสั ดิภาพของสงั คมสว่ นรวม แคนาดา • ระบบเศรษฐกจิ ขึ้นอยกู่ ับทรพั ยากรธรรมชาติ เพราะเปน็ ผผู้ ลิต และส่งออกแรท่ ส่ี า้ คญั หลายชนิด เชน่ ยูเรเนียม แก๊ส โปแตสเซยี ม เปน็ ต้น เมก็ ซิโกและประเทศในอเมริกากลาง • ประชากรสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกรรมและการประมง เป็นหลกั โดยมลี กั ษณะส้าคัญทางเศรษฐกจิ รว่ มกัน คอื การพ่งึ พงิ เงินลงทนุ จากต่างประเทศ และพงึ่ พิงสหรัฐอเมรกิ าและแคนาดา

พฒั นาการดา้ นสังคมและศิลปวัฒนธรรม สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เม็กซิโกและอเมริกากลาง เป็นสงั คมกลุ่มแองโกลอเมริกา เปน็ สังคมลาตนิ อเมริกา มลี กั ษณะ มีลกั ษณะเปน็ สงั คมเมอื งและสังคม เป็นสังคมเกษตรท่มี คี วามแตกตา่ งกันมาก อตุ สาหกรรม มมี าตรฐานการครองชพี ระหว่างเมอื งกบั ชนบท ประชากร สงู และเจริญก้าวหน้าทางวทิ ยาการ สว่ นใหญย่ ากจนและยังอ่านเขียนไมไ่ ด้ มวี ัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย กลายเป็น มีวฒั นธรรมทางด้านดนตรแี ละการเต้นร้า เอกลักษณ์ของชาติ เปน็ อัตลกั ษณ์ของประเทศในแถบนี้ เมอื งนิวยอรก์ ประเทศสหรฐั อเมริกา เมืองเม็กซโิ กซิตี ประเทศเมก็ ซโิ ก

อทิ ธพิ ลของทวปี อเมริกาเหนือตอ่ สงั คมโลก • สหรัฐอเมรกิ าเป็นประเทศอภมิ หาอา้ นาจทไี่ ดช้ ่อื วา่ เปน็ ผนู้ า้ ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย ซึง่ นานาประเทศการยอมรับ และน้าไปใช้ปกครองประเทศของตน • สหรัฐอเมรกิ าเป็นประเทศช้ันนา้ ในการพฒั นาดา้ นเทคโนโลยี การคมนาคมและการส่อื สาร เปน็ ตน้ ก้าเนิดของกระแสโลกาภวิ ตั น์ ทก่ี ระจายไปทั่วโลก • สหรฐั อเมริกาเปน็ ผู้นา้ แบบแผนการดา้ เนนิ ชีวิตและวัฒนธรรมอเมริกัน เผยแพรไ่ ปท่วั โลก จนเป็นที่รู้จกั และคุ้นเคยของคนทวั่ โลก อยา่ งกวา้ งขวาง • สหรัฐอเมริกาเปน็ ผนู้ ้าด้านอวกาศและนวิ เคลยี ร์ ทา้ ให้มบี ทบาท โดดเดน่ ดา้ นความม่ันคงทางการเมือง เป็นผนู้ ้าทางการทหารของโลก และมบี ทบาทส้าคญั ในการแกป้ ัญหาความขัดแย้งตา่ งๆ ทั่วโลก



แผนที่ทวปี อเมริกาใต้

ทีต่ ัง้ และสภาพภูมศิ าสตร์ท่ีมีผลต่อพัฒนาการของทวปี ทวปี อเมริกาใต้ได้รบั อทิ ธิพลจาก 2 องคป์ ระกอบหลกั คือ เทอื กเขาแอนดสี ซงึ่ อดุ มสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุ สง่ ผลใหม้ ีการท้าเกษตรกรรมในท่ีสูง กับแมน่ ้าแอมะซอน ท่ีเป็นป่าดบิ ช้ืน อนั ถอื เปน็ แหลง่ ผลติ ออกซิเจนทสี่ ้าคัญ ประกอบกบั มีมหาสมุทร ล้อมรอบ สะดวกต่อการเดินทางคา้ ขาย ในขณะที่สภาพอากาศปรากฏมหี ลายลักษณะ ทา้ ให้ปรากฏอารยธรรมของผู้คนท่เี ข้ามาต้ังถน่ิ ฐานอยู่ต้ังแต่อดีตถงึ ปัจจุบนั เมืองมาชู ปิกชูของจกั รวรรดิอนิ คา ต้ังอย่บู นเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู

พฒั นาการด้านการเมอื งการปกครอง หลงั จากรบั เอกราช หลายประเทศ ตกอย่ภู ายใต้อานาจการบรหิ ารของ ตน้ ครสิ ตว์ รรษที่ 19 ประเทศส่วนใหญใ่ น นายทหารพวกกอดิลโย อเมริกาใตไ้ ดร้ บั เอกราช ปลายทศวรรษ 1980 พลเมือง ประมาณ ค.ศ. 1980 ประเทศ เรยี กรอ้ งให้เปล่ยี นเปน็ ระบอบ ในอเมริกาใต้ส่วนใหญป่ กครองโดย ประชาธิปไตยมากขึ้น โดยให้มี นายทหารระดับสงู รฐั บาลมาจากการเลอื กตัง้ แตย่ ังประสบปัญหาต่างๆ มาจนกระทง่ั ปัจจบุ นั

แผนที่ประเทศในทวปี อเมรกิ าใตแ้ ละปี ค.ศ. ที่ไดร้ บั เอกราช

พัฒนาการด้านเศรษฐกิจ การพฒั นาและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอเมริกาใต้เริม่ ข้ึนในช่วงเวลา ใกล้เคยี งกับการได้รบั เอกราช ซ่งึ มีส่วนท้าให้เกิดการขยายตัวของชนชน้ั กลาง กลุม่ ใหม่อยา่ งรวดเร็ว ขณะที่ในหลายประเทศทปี่ ระสบปัญหาชอ่ งวา่ งระหว่าง คนรวยกบั คนจน ต่างใหค้ วามสนใจในการแกป้ ญั หาเศรษฐกิจดว้ ยการรบั ลทั ธิ สังคมนยิ ม ปัจจุบนั เศรษฐกจิ ในภาพรวมของอเมริกาใตย้ ังคงเน้นการผลติ ในภาค เกษตรกรรมเป็นหลกั ในขณะทีบ่ างประเทศให้ความส้าคญั กับการผลติ แรเ่ พือ่ ส่งออกอย่างจริงจัง

พฒั นาการดา้ นสังคมและศลิ ปวัฒนธรรม สังคมของอเมรกิ าใตเ้ ป็นการผสมผสานระหว่างกลมุ่ ชาตพิ ันธต์ุ ่างๆ ดังนี้ 1. ชนพน้ื เมืองของทวีปอเมรกิ า หรือพวกอินเดียน 2. พวกทีส่ บื เชื้อสายมาจากชาวยุโรป 3. พวกทส่ี ืบเชอื้ สายมาจากพวกทาสทีน่ าเข้ามาจาก ทวีปแอฟรกิ า

อทิ ธพิ ลของทวปี อเมรกิ าใตต้ ่อสงั คมโลก • ทวีปอเมรกิ าใตเ้ ป็นดินแดนอารยธรรมเกา่ แก่ และมีป่าแอมะซอน อันกวา้ งใหญ่ท้าใหด้ งึ ดดู นักท่องเทย่ี วจากทวั่ โลกใหเ้ ดนิ ทางเขา้ ไป เป็นจา้ นวนมาก • บางประเทศในทวปี อเมรกิ าใต้ เชน่ เวเนซเุ อลา เป็นประเทศ ผลิตน้ามนั รายใหญ่ของโลก ซึ่งมอี ทิ ธิพลต่อการกา้ หนดราคานา้ มนั ในตลาดโลก • ใน ค.ศ. 2011 ไดม้ กี ารก่อตงั้ สหภาพแห่งประชาชาตอิ เมริกาใต้ โดยใชส้ หภาพยโุ รปเป็นแม่แบบในการดา้ เนินงาน ซง่ึ จะท้าให้ อเมรกิ าใต้เป็นกล่มุ การคา้ เสรีใหญ่เปน็ อันดบั 3 ของโลก



แผนท่ที วีปแอฟรกิ า

ทีต่ งั้ และสภาพภมู ิศาสตร์ทีม่ ีผลต่อพฒั นาการของทวปี ทวปี แอฟรกิ า ตัง้ อยทู่ างตอนใต้ของทวปี ยโุ รป ลกั ษณะภมู ิประเทศสว่ นใหญเ่ ปน็ ท่ีราบสงู มีทะเลทรายกวา้ งใหญ่อยู่บริเวณตอนเหนอื ของทวีป ส่วนตอนกลางเป็นป่าฝนร้อนชนื้ ส่งผล ใหก้ ารคมนาคมสญั จรล้าบากและมีโรคภยั ชกุ ชมุ ผู้คนจึงเขา้ ไปอาศยั อยู่น้อย ขณะที่บริเวณเขต ที่ราบลุ่มแมน่ า้ และบริเวณชายฝง่ั ทะเลเมดเิ ตอร์เรเนยี น ซ่งึ เหมาะแก่การทา้ เกษตรกรรมและการ คมนาขนส่ง จะมผี ู้คนอาศยั อยูห่ นาแน่น กรงุ ไคโร ประเทศอยี ปิ ต์ ตง้ั อยบู่ ริเวณท่รี าบล่มุ แม่น้าไนล์ แหลง่ ก้าเนดิ อารยธรรมอียปิ ตโ์ บราณ

พฒั นาการด้านการเมืองการปกครอง ปลายทศวรรษ 1950 ประเทศ หลังจากรบั เอกราช ในบางประเทศ ในทวปี แอฟรกิ าเรมิ่ ได้รับเอกราช เกิดสงครามกลางเมอื งจากความ ขัดแย้งกนั เองของชนพน้ื เมือง ปัจจุบันรปู แบบการปกครองของประเทศต่างๆ มักยึดตามเมอื งแมเ่ ดมิ แตย่ ังขาดความมนั่ คง ทาใหเ้ กิด ปญั หาความขัดแยง้ การขับไล่รฐั บาล การคอรร์ ปั ช่นั การ ลิดรอนสิทธิ และปญั หาอ่นื ๆ เกิดขน้ึ บ่อยคร้ัง

พฒั นาการดา้ นเศรษฐกจิ แมท้ วีปแอฟรกิ าจะอดุ มไปดว้ ยแร่ธาตุท่ีมีมูลค่ามหาศาล แต่ยังมีการสา้ รวจและการทา้ เหมืองแรน่ อ้ ย ประชากรส่วนใหญย่ ังเปน็ ชาวชนบททดี่ า้ รงชีพดว้ ยการเพาะปลูก ท้ังน้ี เหตผุ ล ที่ทวีปแอฟริกามีความลา้ หลังทางเศรษฐกิจกวา่ ทวีปอนื่ ๆ ในโลก ได้แก่ 1. การตกอยู่ภายใต้การช้นี า้ 2. ความลา้ บากในการใช้ 3. การทา้ เกษตรกรรม ไมไ่ ดผ้ ลดี ทางเศรษฐกจิ ของประเทศ ประโยชนจ์ ากทรัพยากร ตะวนั ตกท่ีเขา้ มาต้ัง ธรรมชาติและการ อาณานคิ ม คมนาคมขนสง่ สินคา้ และวตั ถดุ ิบในทวปี

พฒั นาการดา้ นสงั คมและศิลปวฒั นธรรม พลเมอื งของทวีปแอฟรกิ า ภาษาที่ใชพ้ ูดในทวปี ศาสนาทส่ี า้ คัญในทวีป ประกอบด้วย 2 กลมุ่ ใหญ่ แอฟริกามมี ากกว่า 1,000 แอฟรกิ า ไดแ้ ก่ ศาสนา ไดแ้ ก่ พวกแอฟรกิ นั ผิวด้า ภาษา ซ่ึงมีหลายประเทศ คริสต์ ศาสนาอสิ ลาม และ ความเชอ่ื ดงั้ เดมิ ในทอ้ งถ่นิ และพวกคอเคเซียน ที่ใชภ้ าษาตะวนั ตก ซ่ึงมีรปู แบบสังคม เป็นภาษาราชการ และวฒั นธรรม ทแ่ี ตกตา่ งกัน

อทิ ธิพลของทวีปแอฟรกิ าตอ่ สงั คมโลก • ทวปี แอฟรกิ า • ทรัพยากรธรรมชาติ • เมอื่ ค.ศ. 2002 มีระดบั การพัฒนา ทย่ี งั คงมอี ยู่เปน็ มกี ารจัดตั้งสหภาพ ล้าหลงั ทส่ี ดุ ในโลก จา้ นวนมาก แอฟริกาขึน้ และประสบปญั หา ในแอฟรกิ า และมแี ผนจะจดั ต้งั รุนแรงเร่อื ง และแรงงานราคาถกู ประชาคมเศรษฐกจิ ขาดแคลนอาหาร ทา้ ให้มีหลายประเทศ แอฟริกาทีใ่ ช้ และโรคระบาด เขา้ ไปลงทุน เช่น สกุลเงนิ เดยี วกนั โดยเฉพาะโรคเอดส์ จนี เปน็ ตน้ ภายใน ค.ศ. 2023



แผนท่ที วีปออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี

ท่ตี งั้ และสภาพภมู ศิ าสตร์ทมี่ ผี ลต่อพัฒนาการของทวีป ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี ประกอบด้วยแผน่ ดนิ ในภาคพ้นื ทวีปรอ้ ยละ 99.5 สว่ นทเ่ี หลอื เป็นเกาะขนาดเล็ก ลกั ษณะภูมปิ ระเทศโดยทั่วไปเปน็ ท่ีราบสงู และตัง้ อยู่ทาง ทิศตะวนั ตก พน้ื ที่สว่ นใหญเ่ ปน็ ทะเลทรายแห้งแลง้ และทรุ กันดาร ส่วนบรเิ วณตอนกลาง จะเป็นเขตแหง้ แลง้ มากท่สี ดุ ขณะท่เี ขตชายฝงั่ ตะวันออกจะมแี มน่ ้าสายส้าคญั ไหลผา่ น ทา้ ใหม้ ผี คู้ นตงั้ ถิ่นฐานอยอู่ ย่างหนาแนน่ เทอื กเขาเกรตดไิ วดงิ ประเทศออสเตรเลีย ค่นั แบ่งเขตชายฝั่งตะวันออกกับเขตที่ราบสูงทางทศิ ตะวันตก

พฒั นาการด้านการเมอื งการปกครอง • ค.ศ. 1821 รฐั บาลองั กฤษเรมิ่ • ค.ศ. 1842 รัฐบาลอังกฤษผา่ น สง่ เสรมิ ใหเ้ สรีชนเขา้ มาตัง้ หลกั พระราชบัญญัติ ค.ศ. 1842 แหล่งในออสเตรเลยี ทาให้เกดิ การ ขยายตัวของชมุ ชนและมกี ารจดั ต้ัง ทาให้มีการจดั ตง้ั สภานติ บิ ญั ญัติ รฐั ต่างๆ ขน้ึ เป็นอสิ ระจากกัน ขน้ึ ในรฐั นวิ เซาท์เวลส์ • ค.ศ. 1856 รัฐวิกตอเรียจัดการ • ค.ศ. 1851 มกี ารค้นพบทองคา เลอื กตง้ั ท่ัวไป โดยกาลงคะแนน ในออสเตรเลยี ทาใหช้ าวตะวันตก ด้วยวธิ ีลับเปน็ ชาตแิ รก และชาตติ ่างๆ อพยพกันเข้ามา อาศยั และดาเนินธรุ กิจเพมิ่ ขน้ึ

• ค.ศ. 1857 รัฐวกิ ตอเรียยกเลกิ ขอ้ • ค.ศ. 1858 รัฐนิวเซาทเ์ วลส์ออก กาหนดการครองทรพั ย์สนิ อันเป็น กฎหมายการปฏริ ปู การเลือกตง้ั คณุ สมบตั ขิ องผู้ลงคะแนนเสยี ง โดยให้สทิ ธเิ ลอื กต้ังแกผ่ ชู้ ายทกุ คน ในสภาลา่ ง ทีเ่ ขา้ มาอาศยั ในรฐั 6 เดือนขนึ้ ไป • ปัจจุบนั ออสเตรเลีย • ค.ศ. 1901 รฐั ต่างๆ • ค.ศ. 1894 รัฐเซาท์ เปน็ สมาชกิ ของ รวมตัวกันเปน็ ประเทศ ออสเตรเลียให้ เครอื จักรภพทมี่ ี เรียกว่า เครือรฐั สทิ ธิการลงสมคั ร ประมุขของอังกฤษ ออสเตรเลีย จดั การ เลอื กตง้ั และการ เปน็ ผู้นา้ และทรง ปกครองในรปู แบบ ลงคะแนนเสยี ง แต่งตงั้ ผ้สู า้ เรจ็ ราชการ สหพนั ธรฐั ใชร้ ะบบ เลือกตั้งแก่สตรี ให้มาประจา้ อยู่ สองสภา มสี มาชกิ เป็นรฐั แรก ในออสเตรเลีย มาจากการเลือกตงั้

พัฒนาการด้านเศรษฐกจิ • การปศสุ ัตว์ แกะเป็นสตั ว์เศรษฐกจิ ส้าคัญของออสเตรเลีย ฟารม์ แกะในประเทศออสเตรเลยี โดยเริ่มเลยี้ งกันมาตง้ั แต่กลางทศวรรษที่ 1790 และขยายพน้ื ทเ่ี ล้ียงอยา่ งกวา้ งขวาง ท้าใหข้ นแกะ กลายเปน็ สินค้าสง่ ออกไปยังอังกฤษทีส่ า้ คญั สง่ ผลใหอ้ ุตสาหกรรมทอผ้าขนสัตว์ในอังกฤษ ขยายตัวอย่างตอ่ เนื่อง • การเกษตร การปลูกขา้ วในรฐั ควีนส์แลนด์ หลงั จากทองคา้ เร่ิมลดลง ออสเตรเลียไดด้ า้ เนิน ประเทศออสเตรเลีย นโยบายเปดิ พรมแดนเพื่อขยายพ้นื ท่ีการเกษตร พรอ้ มทง้ั ตง้ั วทิ ยาลัยการเกษตรและใชเ้ ทคโนโลยี สมยั ใหม่มาปรบั ปรุงพัฒนาพันธพ์ุ ชื และการเพาะปลูก จนกลายเป็นประเทศทีเ่ จริญกา้ วหนา้ ดา้ นการเกษตร และเปน็ ผนู้ า้ สง่ ออกพชื พนั ธต์ุ ่างๆ

พฒั นาการดา้ นสังคมและศิลปวัฒนธรรม • ในระยะของการบุกเบิก สงั คมและวัฒนธรรมของออสเตรเลียมีลักษณะเป็นตะวันตก และเปน็ สังคมแบบสมภาค • เมอ่ื มีการคน้ พบแหลง่ ทองคา้ ในทศวรรษท่ี 1850 ทา้ ใหม้ ผี อู้ พยพชนช้นั กลางเขา้ มา ในออสเตรเลียมากขน้ึ เกิดเป็นขบวนการเรยี กรอ้ งและปฏริ ูปกฎหมายการเลอื กตั้งจนนา้ ไปสู่ การเลือกตัง้ เปน็ ผลสา้ เร็จ • การเขา้ มาของชาวจีน ทนี่ า้ เอา วฒั นธรรมของตนเขา้ มาดว้ ย ท้าให้เกดิ นโยบายออสเตรเลีย ส้าหรับคนผิวขาว เพ่ือปอ้ งกัน การเข้ามาของคนผิวเหลือง และคนผวิ ดา้ ซึ่งถูกยกเลกิ ภาพวาดการต์ ูนใน ค.ศ. 1886 แสดงผลกระทบในแงล่ บทีค่ นผิวขาว ไปในชว่ งทศวรรษที่ 1960 ในออสเตรเลยี จะได้รับจากการที่มชี าวจีนมาอาศยั ในประเทศ

• หลังสงครามโลกคร้งั ท่ี 2 ออสเตรเลียมลี ักษณะเปน็ สังคมนานาชาติทีม่ คี วามหลากหลาย ทางดา้ นวัฒนธรรม เร่ิมเปิดตวั ตอ่ สังคมโลกมากขน้ึ และการศกึ ษาในระดับอดุ มศกึ ษา เกดิ การขยายตวั เปน็ อย่างมาก • ตั้งแต่ทศวรรษ 1960 รัฐบาลออสเตรเลยี เริม่ ใหค้ วามสนใจและสนบั สนนุ ในศิลปะ วัฒนธรรม และชวี ติ ความเปน็ อยูข่ องชาวอะบอรจิ นิ ิส พรอ้ มทงั้ สร้างความสมานฉันทร์ ะหว่าง ชาวออสเตรเลียผวิ ขาวและชนพนื้ เมืองอยา่ งเป็นรูปธรรม ศิลปะอะบอริจนิ สิ ได้รับการสนบั สนนุ จากรฐั บาลออสเตรเลยี จนเปน็ ท่ชี ่ืนชอบของผรู้ ักงานศิลปะทว่ั โลก

อทิ ธพิ ลของทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนยี ตอ่ สังคมโลก • ศิลปะวทิ ยาการของชาวอะบอรจิ นิ ิส ชนพื้นเมืองของออสเตรเลยี ได้รับการฟืน้ ฟู จนกลายเป็นที่นิยมและชื่นชอบของคนทว่ั โลก • ออสเตรเลียเป็นประเทศผู้นา้ ในด้านโทรทศั น์ วิทยุ อุตสาหกรรมบันทกึ เสยี งและอุตสาหกรรม ภาพยนตร์ ซึง่ เปน็ ทร่ี ู้จักไปท่ัวโลก • ออสเตรเลยี เป็นประเทศผลผลติ ทางเกษตรกรรม รายใหญข่ องโลก มีการปรบั ปรงุ พันธุ์พืช และใช้ เทคโนโลยีสมัยใหมม่ าพัฒนาผลผลิตให้มคี ณุ ภาพ

• ปจั จุบนั ออสเตรเลยี เปน็ ประเทศผ้นู ้า ทส่ี า้ คัญที่สดุ ในการส่งออกแรถ่ ่านหิน บ็อกไซต์ และโอพอล • ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกท่ใี ช้ วิธีการลงคะแนนเสียงเลอื กตั้ง โดยวิธลี ับ จนมกี ารน้าไปใช้ ในหลายประเทศทว่ั โลก



ความขดั แยง้ และความร่วมมอื ของโลก ในครสิ ต์ศตวรรษที่ 20 ถึงปจั จบุ ัน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook