ในสว นของสถานที่ในการสัมมนา สว นใหญม ีความเหน็ ระดับมากที่สุด จํานวน 52 ราย คิดเปนคาเฉล่ียรอยละ 48.60 ระดับมาก จํานวน 48 ราย คิดเปนคาเฉลี่ยรอยละ 44.86 และระดับปานกลาง จํานวน 6 ราย คิดเปนคาเฉล่ียรอยละ 5.61 ตามลําดับ โดยมีคาเฉล่ีย ตัวกลางเลขคณิต ( x ) เทากับ 3.41 โดยสรุปผูเขารวมสัมมนาฯ มีความเห็นตอประโยชนของ เนอ้ื หาสาระตอการปฏบิ ัติงาน ในระดบั มากท่สี ุด เจา หนา ท่ปี ฏบิ ตั ิงานของโครงการ (N = 107) มากที่สุด 52 (48.60%) มาก 46 (42.99%) ปานกลาง 9 (8.41%) นอ ย 0 (0.00%) 0 10 20 30 40 50 60 ในสวนของเจาหนาท่ีปฏิบัติงานของโครงการ สวนใหญมีความเห็นระดับมากท่ีสุด จํานวน 52 ราย คิดเปนคาเฉลี่ยรอยละ 48.60 ระดับมาก จํานวน 46 ราย คิดเปนคาเฉล่ีย รอยละ 42.99 และระดับปานกลาง จํานวน 9 ราย คิดเปนคาเฉลี่ยรอยละ 8.41 ตามลําดับ โดยมีคาเฉลี่ยตัวกลางเลขคณิต ( x ) เทากับ 3.40 โดยสรุปผูเขารวมสัมมนาฯ มีความเห็นตอ สถานทใี่ นการสัมมนา ในระดบั มากท่สี ดุ สรุปในภาพรวมผูเขารวมสัมมนาฯมีระดับความเห็นเกี่ยวกับเร่ืองตางๆของการ จัดประชุมฯคิดเปนคาเฉลี่ยตัวกลางเลขคณิต( x ) 3.28 ซ่ึงหมายถึงมีความเห็นตอโครงการ สมั มนาฯ ในระดบั มากทส่ี ุด ตอนท่ี 4 ขอ คิดเห็นและขอ เสนอแนะ 1. อยากใหเสนอเอกสารใหกับผูเขารวมประชุมลวงหนาเพ่ือจะไดอานพิจารณา ลว งหนากอ น 2. ควรใชเวลา 2-3 วัน เพราะเกี่ยวของกบั บทบาทและหนาท่ีของหลายหนวยงาน และเวลาท่ใี ชใ นการรับฟงการสรางการบั รนู อยเกนิ ไปเนื่องจากความรูความเขาใจแตล ะคนไมเทากัน และเวลาในการแลกเปล่ยี นเรยี นรนู อยเกนิ ไปทาํ ใหค วามเขาใจไมชดั เจน 3. ขอใหม ุง ม่ันเพ่ือปวงชน 4. เหมาะสมทงั้ เวลาและเนอื้ หาสาระครบั 93
5. ในการสัมมมนาครั้งตอไปไมวาจะเปนในลักษณะใดก็ตามควรเชิญผูท่ีเขารวมให หลากหลายมากท่ีสุดเทาทีจะมากไดโดยเฉพาะ อปท. ซ่ึงมักจะอางถึงกรรมสิทธิในแหลงนํ้า สาธารณะอยูบอ ยครงั้ 6. วิทยากรบางทานนําเสนอเร็วเกินไปทําใหผูรวมสัมมนาไมเขาใจ/ไมสามารถ ขบั เคลือ่ นตอ ไปได 94
95
สรุปผลการอภิปรายระดมข้อคิดเห็น ประเด็นชี้แจง และข้อเสนอแนะต่อแผนแม่บทการบริหาร จดั การทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญตั ิทรัพยากรน้าพ.ศ. 2561ของผู้เขา้ ร่วมสมั มนาฯ สรุปผลการอภิปรายระดมข้อคิดเห็น ประเด็นช้ีแจง และข้อเสนอแนะต่อแผนแม่บทการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้าพ.ศ. 2561 ตามหัวข้อ “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศไทย” ของผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ ในพ้ืนที่ 6 ภูมิภาค จ้านวน 9 ครง้ั ดังนี้ 1. สรุปผลการอภิปราย (ประเด็นสาระส้าคญั ขอ้ คดิ เหน็ และขอ้ ชีแ้ จง) ที่มีต่อแผนแมบ่ ทการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ. 2661 – 2580) 2. สรุปผลการอภิปราย (ประเด็นสาระส้าคัญ ข้อคิดเห็น และข้อช้ีแจง) ที่มีต่อ พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 3. ข้อเสนอแนะที่มีต่อแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และ พระราชบัญญตั ิทรัพยากรนา้ พ.ศ. 2561 1. สรปุ ผลการอภปิ ราย (ประเด็นสาระส้าคัญ ข้อคิดเห็น และข้อช้แี จง) ทมี่ ีตอ่ แผนแม่บทการ บริหารจัดการทรพั ยากรนา้ 20 ปี (พ.ศ. 2661 – 2580) สรุปผลการอภิปรายทีม่ ีต่อแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ. 2661 – 2580) ประเดน็ สาระส้าคัญ/ข้อคิดเห็น ประเดน็ ช้ีแจง 1. การก้าหนดขอบเขตลุ่มน้าใหม่ควรมีการก้าหนด กรณีการก้าหนดระยะห่างแหล่งน้ากับพื้นท่ีเอกชนและ ระยะหา่ งแหลง่ น้ากับพ้ืนท่ีเอกชน (ไดเ้ คยมีการเสนอให้ การรุกล้าล้าน้าน้ันเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับและ ก้าหนดระยะดังกล่าว) เพ่ือการก้าหนดมาตรการรุกล้า ต้องไปบังคับตามกฎหมายเหล่านั้น เช่น ประมวล ล้าน้า หากไม่ก้าหนดระยะดังกล่าวแล้วภาครัฐจะมี กฎหมายท่ีดิน ท้ังน้ี บางกรณีมิใช่การรุกล้าลา้ น้าแต่อาจ มาตรการอย่างไรในการจัดการการรุกล้าล้าน้า เป็นกรณีที่ดินตกน้า กล่าวคือ ที่ดินถูกกัดเซาะจนเป็น โดยเฉพาะลา้ น้าสาขาทอ่ี ยไู่ กลหูไกลตาประชาชน ท่ีดินตกน้า ศาลฎีกาเคยตัดสินว่า ถ้าที่ดินถูกกัดเซาะตก น้าไปไม่ว่าจะเป็นที่ดินชายน้า หรือชายฝั่งทะเล ถ้าที่ดิน ตกน้าแล้วเจ้าของมีเจตนาหวงกันถือว่ายังมีกรรมสิทธิ์ใน ที่ดินนั้นไม่ว่าจะใช้ประโยชน์จากที่ดินนั้นหรือไม่ แต่หาก เจ้าของไม่ดูแล ปล่อยปละละเลยถือว่าสละสิทธิ์และตก เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ทั้งนี้ แผนแม่บทว่าด้วย การบริหารจดั การทรพั ยากรน้า 20 ปี มกี ารกา้ หนดกล ยทุ ธ์ในการจดั การการรกุ ล้าลา้ น้าไว้ดว้ ยแล้ว 2. หากมีการพัฒนา/ขยายถนนหนทางต่างๆ แล้วมี แผนแมบ่ ทวา่ ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรนา้ 20 ปี การจัดการทางนา้ อย่างไร น้าจะไหลไปทางใด ด้านท่ี 3 ก้าหนดเร่ืองการจัดการสิ่งกีดขวางทางน้าซ่ึง รวมถึงถนนด้วย โดยก้าหนดล้าดับความส้าคัญท่ีจะต้อง จัดการในระยะแรกๆ ท่ีจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงาน ต่างๆ เช่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท 3. กรณีลุ่มน้าซ่ึงมีพื้นท่ีคาบเก่ียวกันระหว่าง อ.แม่อาย แผนแม่บทการบริการจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี จ.เชียงใหม่ และ อ.ฝาง จ.เชียงราย ปัญหาภูมปิ ระเทศ ก้าหนดให้มี 22 ลุ่มน้า ซึ่งลุ่มน้ากกเป็นลุ่มน้าท่ีมีพ้ืนท่ี ด้านทิศตะวันตกสูงกว่าด้านทิศตะวันออก ส่งผลให้น้า ติดต่อระหว่างประเทศต้องมีการบริหารจัดการน้าโดย ไหลลงสู่แมน่ ้ากก ไมไ่ หลลงแมน่ ้าปงิ คณะกรรมการลมุ่ นา้ 96
สรุปผลการอภิปรายที่มตี ่อแผนแม่บทการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรน้า 20 ปี (พ.ศ. 2661 – 2580) ประเด็นสาระส้าคัญ/ข้อคิดเห็น ประเด็นชี้แจง 4. เม่ือเกิดปัญหาภัยแล้ง การบริหารจัดการแหล่งน้า เม่ือเกิดปัญหาภัยแล้ง โดยหลักจะจัดล้าดับใหม้ ีการใชน้ า้ ต้นทุน ต้องจัดล้าดับให้มีการใช้น้าเพื่อการอุปโภค เพ่ือการอุปโภคบริโภคก่อน ซึ่งมีหน่วยงานให้การ บริโภค ก่อนหรอื ไม่ สนับสนุน ไดแ้ ก่ กรมทรัพยากรน้าบาดาล กรมฝนหลวง และการบินเกษตรซึ่งจะเติมน้าโดยการท้าฝนหลวง และ มีแผนเสริมด้าเนินการโดยกรมป่าไม้ กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการ บริหารจัดการ แหล่งตน้ น้าล้าธาร 5. การบริหารจัดการน้าโดยการสร้างฝายกั้นน้า/ฝาย เห็นด้วยในการสร้างความเข้าใจกบั ประชาชน นอกจากน้ี ชะลอน้า ควรสร้างความเข้าใจแก่ภาคประชาชนผู้มี ในการบริหารจัดการน้ายังประกอบด้วย การจัดการกับ ส่วนได้ส่วนเสียก่อน เนื่องจากท่ีผ่านมามีราษฎรบาง สิ่งกีดขวางทางน้า เช่น การสร้างสะพานควรยกให้สูง กลมุ่ ไม่พอใจ เพ่ือให้น้าสามารถไหลผ่านโดยสะดวก ทั้งนี้ ต้องให้ ข้อมลู กับกรมทางหลวง/กรมทางหลวงชนบท ด้วย 6. การน้าพ้ืนท่ีในเขตป่าไม้เพื่อใช้ในการเก็บกักน้าเมื่อ ขณะน้ีมีการแก้ไขปัญหาแล้ว ตย. โครงการอัน เกิดปญั หานา้ แล้ง นา้ ท่วม ไมส่ ามารถด้าเนินการได้ เน่ืองมาจากพระราชด้าริซ่ึงมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตป่า ไม้ถาวรตามมติ ครม. โดยการบูรณาการการใช้ ประโยชน์ท่ีดิน เม่ือเกิดปัญหา ภาคประชาชน/องค์กร ผู้ใช้น้า อาจเสนอแผนบริหารจัดการน้าโดยผ่านการ พจิ ารณาจากคณะกรรมการลุ่มนา้ ได้ 7. ปัญหาการใช้สารเคมีในการท้าลายวัชพืชซ่ึงมี เป็นปัญหาระดับชาติ อาจเสนอให้ กนช. มีมติให้ ผลกระทบต่อแหลง่ ต้นนา้ ลา้ ธาร กระทรวงมหาดไทยดา้ เนนิ การแกไ้ ขปัญหา 8. เสนอให้มีการปรับปรุงโครงการที่ไม่ก่อให้เกิด ให้องค์กรผู้ใช้น้าเสนอแก้ไขโดยบรรจุในแผนของ ประโยชน์ คณะกรรมการลุ่มน้า 9. ควรท้าธนาคารน้าใต้ดินเพื่อปัญหาน้าแล้งในเขตฤดู มีบรรจุไว้ในแผนแม่บทการบริการจัดการทรัพยากรน้า ฝน เช่น ชัยนาท อุทยั ธานี ฯลฯ 20 ปี เรียบร้อยแลว้ 10. ภาวะน้าท่วมในเขตเมือง จะมีมาตรการอย่างไร สามารถบรรจุไว้ในแผนฯ ได้ เพื่อของบประมาณ หรอื ออกกองทนุ หรอื กฎหมายรองรบั อย่างไร ด้าเนินนการ แต่ไม่จ้าเป็นต้องมีกองทุนเพราะกฎหมาย ไม่มีอา้ นาจ 11. ขอทราบแนวทางการแก้ปัญหาของ กปภ. มี 2 แนวทาง คือ 1) เสนอเร่ืองมายัง สทนช. เพ่ือขอ เนื่องจากใช้น้าต้นทุนจากอ่างเก็บน้ากรมชลประทาน สนับสนุนงบประมาณ 2) เสนอผ่านแผนแม่บทลมุ่ น้า ซง่ึ กรมชลประทานเสนอให้ กปภ.ของบประมาณเพ่ือขุด ลอก 12. แผนแม่บทฯ ด้านที่ 3 การจัดการน้าท่วมและ สทนช. มีแผนการพัฒนาทะเลสาบสงขลาแล้ว และ อุทกภัย มีปัญหาน้าต้ืนเขินจะด้าเนินการขุดลอก หรือ มาตรา 6 วรรค 2 น้ามาบริหารจัดการทรัพยากรน้า มีการบรู ณาการอยา่ งไร ใ น ก ร ณี แ ห ล่ ง น้ า ไ ม่ มี ห น่ ว ย ง า น เ จ้ า ภ า พ ซึ่ ง นายกรัฐมนตรีสามารถประกาศหนว่ ยงานรบั ผิดชอบได้ 13. แผนแม่บทด้านท่ี 4 ควรให้ครอบคลุมการจดั การ เรื่องน้าเสียเป็นวาระส้าคัญ กฎหมายก้าหนดให้มีการ น้าเสียจากชุมชน น้าเสียการเกษตร เช่น พาราควอท เสนอเรื่องผ่านจากองค์กรผู้ใช้น้าไปยังคณะกรรมการลุ่ม และสารเคมีอ่ืนๆจากยาฆ่าหญ้า และน้าเสียจาก 97
สรุปผลการอภปิ รายท่ีมตี ่อแผนแม่บทการบริหารจัดการทรพั ยากรน้า 20 ปี (พ.ศ. 2661 – 2580) ประเด็นสาระสา้ คัญ/ข้อคิดเหน็ ประเดน็ ช้ีแจง อุตสาหกรรม โดยเสนอเรื่องการน้าเข้าสารเคมีท่ีท้าให้ น้าเสนอไปยังคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้า ซึ่งมีโทษตาม (กนช.) ได้ พระราชบัญญัติทรัพยากรน้าฯ น่าจะช่วยได้ระดับหนึ่ง ขอให้เรือ่ งนเี้ ปน็ วาระแห่งชาติ 2. ประมวลผลการอภิปราย (ประเดน็ สาระสา้ คัญ ข้อคดิ เห็น และขอ้ ช้แี จง) ทีม่ ีตอ่ พระราชบัญญตั ทิ รัพยากรน้า พ.ศ. 2561 สรุปผลการอภปิ รายที่มีตอ่ พระราชบัญญตั ิทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 ประเด็นสาระส้าคญั /ข้อคิดเห็น ประเดน็ ชีแ้ จง 1. พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ใน พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 มาตรา 42 เรื่องการจัดสรรน้าและการใช้น้า ท่ีก้าหนดให้การใช้ วรรคหน่ึงกา้ หนดว่าการใชน้ ้าประเภทที่ 1 ไม่ต้องขอรับ น้าประเภทที่หนึ่ง ซึ่งได้แก่การใช้ทรัพยากรน้า ใบอนุญาตและไมต่ ้องชา้ ระค่าน้า แตม่ าตรา 55 มิให้น้า สาธารณะเพื่อการด้ารงชีพ อุปโภคบริโภคใน ความในมาตรา 42 วรรคหน่ึง มาตรา 48 และมาตรา ครัวเรือน การเกษตรเล้ียงสัตว์ฯ ไม่ต้องขอรับ 54 มาบังคับใช้แก่การใช้ทรัพยากรน้าสาธารณะท่ีเป็น ใบอนุญาตและไม่ต้องช้าระค่าน้า ขัดแย้งกับ น้าบาดาลตามกฎหมายว่าด้วยน้าบาดาล ดังนั้น ก็ยังคง พระราชบัญญัติน้าบาดาล พ.ศ. 2520 และท่ีแก้ไข บงั คบั ตามพระราชบญั ญัตนิ ้าบาดาล พ.ศ. 2520 และท่ี เพ่ิมเติม ที่ก้าหนดให้ต้องเสียค่าน้าบาดาล หรือไม่ แก้ไขเพมิ่ เตมิ อยา่ งไร 2. พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 หมวด พนัก งานเจ้าหน้าที่ แต่งตั้งโดยนายก รัฐมนตรี ท่ี 7 พนกั งานเจา้ หน้าท่ี รวมถงึ คณะกรรมการลุ่มน้า รั ฐ ม น ต รี ว่ า ก า ร ก ร ะ ท ร ว ง เ ก ษ ต ร แ ล ะ ส ห ก ร ณ์ ด้วยหรือไม่ และกรณีน้าท่วมจังหวัดสกลนครเม่ือปี รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย และรฐั มนตรีว่าการ พ.ศ. 2561 มีสิ่งกีดขวางทางน้าที่ต้องท้าลายในช่วง กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ที่เกดิ น้าท่วม ใครคือผู้บังคบั ใช้กฎหมายในการ มาตรา 66 ก้าหนดให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีตามที่ได้รับ การแต่งตั้งตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้าฯ มีอ้านาจ ท้าลายสิ่งกีดขวางฯ ร้ือถอนสิ่งก่อสร้างที่มิใช่บ้านเรือน หรือด้าเนินการอ่ืนใดเท่าที่จ้าเป็นแก่การป้องกันและ แก้ไขภาวะน้าท่วม แต่ต้องชดเชยความเสียหายแก่บุคคล นั้น และมาตรา 72 หาก ก ารปฏิบัติหน้าที่นั้น ด้ า เ นิ น ก า ร ไ ป ต า ม ห น้ า ที่ แ ล ะ อ้ า น า จ แ ล ะ ก ร ะ ท้ า ไ ป พอสมควรแก่เหตุและมิได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้กระท้าน้ันพ้นจากความผิดและ ความรับผิดทง้ั ปวง 3. พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้ องค์กรตามกฎหมายมีโครงสร้างของผู้แทนภาค ความส้าคัญกับองค์กร โครงสร้างไม่ถึงประชาชน ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้าและ อยากให้การจัดท้ากฎหมายล้าดับรองเกิดประโยชน์ถึง รับเร่อื งราวรอ้ งทกุ ขใ์ นเขตลมุ่ นา้ ตัวเอง ประชาชนอยา่ งแทจ้ ริง 98
สรปุ ผลการอภปิ รายทม่ี ีต่อพระราชบัญญตั ิทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 ประเดน็ สาระสา้ คญั /ข้อคิดเห็น ประเด็นชีแ้ จง 4. การแบง่ ประเภทการใชน้ า้ ประเภทที่ 1 ขอใหแ้ บ่ง พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 มาตรา 41 ให้ชดั เจนเพราะอาจเกิดผลกระทบกับเกษตรกรในภาค (1) (2) กา้ หนดการแบ่งประเภทผใู้ ช้นา้ ไว้ โดยเกษตรกร อีสานได้ เนอื่ งจากจ้านวนท่ดี ินท่ีเกษตรกรถอื ครองใน ไดร้ ับการยกเว้นการเสียค่าน้าโดยไมร่ ะบขุ นาด แต่ละภาคและฐานะทางเศรษฐกิจมีความแตกต่างกัน ออกไป มิเช่นน้ันจะเกดิ ขอ้ วิพากษ/์ ถกเถียงกนั ได้ 5. ในอดีต กนช. ตามระเบียบส้านักนายกรัฐมนตรี พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 นอกจากจะ ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้า พ.ศ. 2550 ก้าหนดให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ก้าหนดให้มี กนช. ที่เป็นผู้แทนจากภาคประชาชน ทรัพยากรน้าโดยการจดทะเบียนองค์กรผู้ใช้น้า เป็น จ้านวน 6 คน แต่ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า คณะกรรมการลุ่มน้า เป็น กนช. แล้ว ยังก้าหนดให้ พ.ศ. 2561 กา้ หนดใหม้ ี กนช. เพยี ง 6 คน เหตใุ ด ประชาชนมีส่วนร่วมในด้านอ่ืนๆ ได้อีก เช่น มาตรา การมีส่วนร่วมจึงน้อยลง ผู้แทนภาคประชาชนท่ีเป็น 17(16) มาตรา 23(10) ซงึ่ การมสี ่วนร่วมในทุกๆ เวท/ี กนช. อาจจะไม่สามารถรับทราบและสะท้อนปัญหา กิจกรรมตามที่กฎหมายก้าหนดน้ันอาจมีความส้าคัญ ของภาคประชาชนได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นท่ี ดังเช่น มากกวา่ เวที กนช. ก็อาจเป็นได้ ภาคอีสานมี 20 จังหวัด หากมี กนช. ผู้แทนภาค เพียง 1 ทา่ นอาจไมเ่ พียงพอ 6. การก้าหนดขอบเขตลุ่มน้าใหม่ควรมีการก้าหนด กรณีการก้าหนดระยะห่างแหล่งน้ากับพ้ืนท่ีเอกชนและ ระยะห่างแหล่งน้ากับพ้ืนท่ีเอกชน (ได้เคยมีการเสนอ การรุกล้าล้าน้านั้นเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับและ ให้ก้าหนดระยะดังกล่าว) เพ่ือการก้าหนดมาตรการ ต้องไปบังคับตามกฎหมายเหล่าน้ัน เช่น ประมวล รุกล้าล้าน้า หากไม่ก้าหนดระยะดังกล่าวแล้วภาครัฐ กฎหมายทด่ี ิน ท้งั นี้ บางกรณมี ิใช่การรกุ ล้าลา้ น้าแต่อาจ จะมีมาตรการอย่างไรในการจัดการการรุกล้าล้าน้า เป็นกรณีที่ดินตกน้า กล่าวคือ ท่ีดินถูกกัดเซาะจนเป็น โดยเฉพาะล้านา้ สาขาท่อี ยไู่ กลหูไกลตาประชาชน ท่ีดินตกน้า ศาลฎีกาเคยตัดสินว่า ถ้าที่ดินถูกกัดเซาะตก น้าไปไม่ว่าจะเป็นท่ีดินชายน้า หรือชายฝ่ังทะเล ถ้าท่ีดิน ตกน้าแล้วเจ้าของมีเจตนาหวงกันถือว่ายังมีกรรมสิทธ์ิใน ที่ดินน้ันไม่ว่าจะใช้ประโยชน์จากท่ีดินนั้นหรือไม่ แต่หาก เจ้าของไม่ดูแล ปล่อยปละละเลยถือว่าสละสิทธิ์และตก เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ทั้งน้ี แผนแม่บทว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี มีการก้าหนดกลยุทธ์ในการจัดการการรุกล้าล้า น้าไว้ด้วยแล้ว 7. กปภ. ควรเป็นผใู้ ช้น้าสาธารณะประเภทท่ีหนงึ่ คือ กปภ. เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งควรได้รับการสนับสนุนในด้าน การอปุ โภคบรโิ ภคในครัวเรอื น ไมใ่ ชผ่ ้ใู ชน้ ้าประเภทที่ การจัดสรรน้าตามมาตรา 49 (2) หลักเกณฑ์ วิธีการ สอง คือ ภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบัน และขอทราบ และเง่ือนไขการเรียกเก็บ ลดหย่อน หรือยกเว้นค่าใช้น้า การจัดต้ังองค์กรผู้ใช้น้าว่าต้องด้าเนินการอย่างไร ซ่ึงกรณีน้ีอาจมีการยกเว้นคา่ ใช้นา้ ได้ โครงสร้างอัตราการจัดเก็บค่าน้าของแต่ละลุ่มน้าซ่ึงมี ผลกระทบกับประชาชน เทา่ กันหรือไม่ 8. มาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ. ทรัพยากรน้า พ.ศ. มาตรา 55 แห่ง พ.ร.บ. ทรพั ยากรน้า พ.ศ.2561 เป็น 2561 การใช้น้าประเภทที่ 1 ไม่ต้องขอรับ ข้อยกเว้นของ มาตรา 42 ท่ีมิให้ใช้บังคับกับกรณีน้า ใบอนุญาต และไม่ต้องช้าระค่าใช้น้า แต่การใช้น้า บาดาล ซึ่งมีผลให้ต้องขออนุญาตและมีค่าใช้น้า แต่อาจ มกี ารพจิ ารณาให้ได้รับการยกเว้น 99
สรปุ ผลการอภปิ รายที่มีตอ่ พระราชบัญญัตทิ รัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ประเดน็ สาระส้าคัญ/ข้อคิดเหน็ ประเดน็ ชแี้ จง บาดาลต้องขออนุญาตและมีค่าใช้น้าซึ่งเห็นว่าไม่มี ความเป็นธรรม 9. องค์กรผู้ใช้น้าซ่ึงเคยมีการรวมตัวเป็นสมาคมอยู่ ในการข้ึนทะเบียนองค์กรผู้ใช้น้าจะมีการตรวจสอบ แล้ว ถ้าจะขอจัดต้ังเป็นองค์กรผู้ใช้น้าจะต้องต้ังเป็น คุณสมบัติ กรณีมีการรวมตัวเป็นสมาคมอยู่แล้วก็ สมาคมใหม่หรือไม่ สามารถสมัครไดเ้ ลย 10. กรณี “ผังน้า” ปัญหาเม่ือเกิดท่ีงอกหรือท่ีดินถูก ประมวลกฎหมายท่ีดิน และแนวค้าพิพากษาศาลฎีกา กัดเซาะ มีการส้ารวจหรือไม่ว่ามีผู้ครอบครองหรือไม่ กรณีท่ีดินท่ีถูกกัดเซาะหรือท่ีดินตกน้า ถ้าเจ้าของยังคงมี อยา่ งไร การหวงกันก็ยังคงมสี ิทธใิ นทดี่ นิ นัน้ 11. ต้องการให้มีการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของ องค์กรผู้ใช้น้าสามารถเสนอความเห็นผ่านคณะกรรมการ ภ า ค ป ร ะ ช า ช น ใ น ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า น้ า แ ล้ ง ลมุ่ น้า และเสนอ กนช. พจิ ารณา น้าท่วม ตย. ในพ้ืนท่ีบ่อเกลือ เกิดปัญหาดินโคลน ถล่ม มีห้วยแล้งซ่ึงมีน้าเฉพาะหน้าฝน ถ้าได้รับรู้การ จัดระบบข้อมูลการบริหารจัดการน้าเพ่ือไปสู่การ ปฏบิ ตั จิ ะเป็นประโยชนอ์ ย่างยิง่ 12. กรณี “ผังน้า” ปัญหาเมื่อเกิดท่ีงอกหรือท่ีดินถูก ประมวลกฎหมายท่ีดิน และแนวค้าพิพากษาศาลฎีกา กัดเซาะ มีการส้ารวจหรือไม่ว่ามีผู้ครอบครองหรือไม่ กรณีท่ีดินท่ีถูกกัดเซาะหรือที่ดินตกน้า ถ้าเจ้าของยังคงมี อย่างไร การหวงกนั ก็ยงั คงมีสทิ ธใิ นที่ดินน้ัน 13. ควรมีการกา้ หนดโทษผูท้ ้าลายหรือท้าให้เสียหาย องค์กรผู้ใช้น้าสามารถเสนอเร่ืองให้คณะกรรมการลุ่มน้า ต่อ “ฝายมีชวี ติ ” พิจารณาแก้ไขปัญหาได้ 14. หมวด 4 การจัดสรรน้าและการใช้น้าของ ขณะนี้ สทนช. อยรู่ ะหว่างการศึกษาเร่อื งนี้อยู่ ประเภทที่ 1 ได้ก้าหนดหรือให้ใช้น้าก่ีลูกบาศก์เมตร หรือกี่ไร่ และถ้าเข้าข่ายการใช้น้าประเภทท่ี 2 การ แปรรูปต้องขอหรือไม่ 15. ยังไม่เห็นนโยบายเป็นรูปประธรรมของน้าทะเล พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ได้ก้าหนด และไม่มีนโยบายเร่ืองขยะในน้า ในพระราชบัญญัติ นยิ ามของ “น้า” รวมถงึ นา้ ทะเลด้วยแลว้ ทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 น้ี มาตรา 17 (6) แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 กนช. มอบหมายหน่วยงานของรัฐและองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับ การบริหารทรัพยากรน้าให้มีคุณภาพและจัดการมลพิษ ทางน้าทอ่ิ ย่ใู นหน้าทแี่ ละอา้ นาจของหน่วยงานของรัฐและ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินนั้น 16. การท้าผังน้าตามหมวด 5 ภาวะน้าแล้งและ สทนช. และกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีด้าเนินการ ภาวะน้าท่วม จะมีความซ้าซ้อนกับผังน้าของกรม รว่ มกันจัดท้าผงั น้า เพ่อื นา้ ผงั นา้ มาใช้ โยธาธิการและผงั เมืองหรอื ไม่ 17. การบูรณาการข้อมูลด้านน้า สทนช.มีข้อมูลเป็น ได้ก้าหนดให้หน่วยงานท่ี กนช. ก้าหนดสนับสนุนข้อมูล แหล่งเดยี วหรอื ไม่ แ ล ะ เ ช่ื อ ม โ ย ง ร ะ บ บ ส า ร ส น เ ท ศ ใ ห้ เ ป็ น ปั จ จุ บั น เ พื่ อ ประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรน้าท้ังในภาวะปกติและ ภาวะวิกฤติไวแ้ ล้วตามมาตรา 23 (9) 100
สรปุ ผลการอภิปรายที่มตี อ่ พระราชบัญญัติทรัพยากรนา้ พ.ศ. 2561 ประเด็นสาระสา้ คญั /ข้อคิดเห็น ประเดน็ ชแ้ี จง 18. การใช้ประโยชน์ท่ดี ินทม่ี ผี ลกระทบแหล่งน้า จะมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงมหาดไทย โดยความ การดา้ เนินการอยา่ งไร เห็นชอบของ กนช. มีอ้านาจออกกฎกระทรวงก้าหนด หลกั เกณฑก์ ารใชป้ ระโยชน์การใชท้ ี่ดนิ ทีอ่ าจส่งผลกระทบ กับแหล่งนา้ สาธารณะ 19. อ้านาจ หน้าท่ี และภารกิจของ สทนช. มีความ โครงสร้างของ สทนช. เป็นโครงสร้างของหน่วยงานใน ซบั ซอ้ นกบั หน่วยงานอ่นื หรอื ไม่ การจัดท้านโยบายต้ังแต่ กนช. คณะกรรมการลุ่มน้า จะ ไม่เป็นหน่วยงานปฏิบัติเหมือนกรทมทรัพยากรน้า หรือ กรมชลประทาน 3. ขอ้ เสนอแนะทีม่ ีต่อแผนแมบ่ ทการบริหารจัดการทรพั ยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญตั ทิ รัพยากรนา้ พ.ศ. 2561 1. การจัดท้าผังน้าเพ่ือใช้ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้าในพ้ืนท่ีลุ่มน้า มี ข้อเสนอแนะว่า เพื่อให้ผังน้ามีความสมบูรณ์ของข้อมูล ควรต้องพิจารณาจัดท้าผังน้าในพ้ืนที่ขนาด เล็กลงมาจากพื้นทใี่ นลมุ่ น้าหลกั เชน่ ในพนื้ ท่ีล่มุ นา้ สาขา พน้ื ทล่ี มุ่ น้าย่อย และพน้ื ทล่ี ุ่มน้าท่มี ขี นาด เล็กหรือที่เรียกว่า ลุ่มน้าจิ๋ว ซ่ึงข้อมูลลุ่มน้า มีความแตกต่างกันในลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ รวมถึงขนบธรรมเนียม ประเพณีของท้องถ่ิน หากมีข้อมูลเพ่ือน้ามาใช้ประกอบในการบริหาร จัดการฯ ทส่ี มบรู ณ์ จะท้าใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ การบริหารจดั การฯ ในพื้นทล่ี ่มุ นา้ มากขนึ้ 2. การจัดท้าแผนแม่บทของลุ่มน้า จากการที่ สทนช. จะได้เพ่ิมเสาหลักเพ่ือให้เกิด ประสิทธิภาพสูงสุด มีความม่ันคง ยั่งยืน เสาท่ีสี่ คือ งานวิจัยและนวัตกรรม รวมถึงการรวบรวม องค์ความรู้และน้อมน้าศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการน้าของประเทศ ได้มี ข้อเสนอใหห้ นว่ ยงานในพน้ื ท่ลี มุ่ นา้ มีการพจิ ารณาเรอ่ื งการกักเก็บนา้ เพือ่ ไวใ้ ช้ประโยชน์ก่อนไหลลง สทู่ ะเล เชน่ การกักเก็บน้าฝนไว้ใช้ก่อนปลอ่ ยให้ไหลลงสู่ทะเล 3. องค์กรผู้ใช้น้า มีข้อเสนอแนะให้พิจารณาเร่ืองการรับจดทะเบียนก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้า ควรให้ผใู้ ช้น้าสามารถด้าเนนิ การจดทะเบียนเปน็ องคก์ รผใู้ ชน้ ้าในพ้ืนทลี่ ุ่มน้านัน้ ๆ ได้ 4. การน้า พ.ร.บ.ทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 มาใช้บังคับในทางปฏิบัติ เช่น ในหมวด 4 การจัดสรรนา้ และการใช้น้า อาทิ การขออนุญาตการใชน้ ้า การได้รับอนุญาตการใช้น้า ประเภทที่ 2 มีข้อเสนอแนะให้มีการพิจารณาเร่ืองโครงสร้างขององค์กรลุ่มน้าที่ได้เคยมีการจัดต้ังไว้ตาม ระเบียบส้านักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารทรัพยากรน้าแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ประกอบใน การพิจารณาก้าหนดในกฎกระทรวง และการก้าหนดลุ่มน้าเป็น 22 ลุ่มน้าซ่ึงมีความแตกต่างจาก เดิมท่มี กี ้าหนดไว้ 25 ลุ่มนา้ เสนอแนะให้มกี ารพิจารณาอัตลักษณ์ชมุ ชน ขนบธรรมเนียมประเพณี ของท้องถิ่นนั้นๆ มาประกอบในการพิจารณาก้าหนดเขตพื้นที่ลุ่มนา้ รวมถึงการบริหารจัดการของ องค์กรลุ่มน้าเพ่ือให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ชุมชน สังคม เศรษฐกิจ ในพื้นที่ ลุ่มน้า เปน็ ต้น 5. กฎหมายรองท่ีจะมีประกาศออกมาบังคับใช้ในอนาคต มีข้อเสนอแนะว่าควรต้องมีการ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ต่อประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้าให้รับรู้ รับทราบ ซ่ึงกฎหมายบางฉบับที่ 101
ประกาศใช้แล้ว เช่น EEC ยังไม่ได้สนองตอบความต้องการของประชาชน ชุมชน ในระดับพ้ืนที่ แตเ่ ปน็ การสนองตอบความต้องการต่อนิคมอตุ สาหกรรมในพน้ื ที่ 6. พ.ร.บ.ทรัพยากรน้าฯ ที่จะต้องมีการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติในการบริหารจัดการน้าใน ระดับพ้นื ท่ี เช่น ในทอ้ งถ่ิน อปท.ยังต้องการองค์ความรู้เพ่ือน้ามาใชป้ ระกอบการบรหิ ารจัดการน้า และยังไม่ได้รับการตอบสนองเรื่องงบประมาณในการด้าเนินการ อาทิ การจัดท้าระบบกระจายน้า เพื่อการอุปโภคบริโภค รวมถึงหน่วยงานผู้รับผิดชอบในพ้ืนที่ที่ยังไม่มีเจ้าภาพในการด้าเนินการใน การแกไ้ ขปัญหาให้ประชาชนในพน้ื ที่ 7. การบูรณาการการด้าเนินการภายใต้ พ.ร.บ.ทรัพยากรน้า ฯ มีข้อเสนอแนะให้พิจารณา กฎหมายที่เก่ียวข้องในการบริหารจัดการน้า การใช้บังคับของหน่วยงานผู้รับผดิ ชอบ ท่ีควรมีความ ชดั เจนไมซ่ ้าซอ้ นในการปฏบิ ตั ขิ องหนว่ ยงาน และการบรหิ ารจัดการน้าเพื่อใหเ้ กิดประโยชน์ควรต้อง มีการวิเคราะห์ พิจารณาไม่ใช่เป็นเพียงการบริหารน้าที่มีอยู่แต่ต้องพิจารณาการเพ่ิมน้าต้นทุนหรือ การกักเกบ็ น้าใหม้ ีปริมาณน้ามากขึน้ ดว้ ย 102
สรุปข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างกฎหมายล้าดับรองฯ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ของผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ สรุปข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างกฎหมายล้าดับรองฯ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากร นา้ พ.ศ. 2561 ของผู้เขา้ ร่วมสัมมนาฯ ในพ้ืนท่ี 6 ภมู ิภาค จา้ นวน 9 ครง้ั ประเด็นร่างกฎหมาย ล้าดับรองฯ ดังน้ี 1. ร่างกฎกระทรวงการก่อต้ังองค์กรผใู้ ช้น้า พ.ศ. ... (มาตรา 38 วรรคสอง การก้าหนดวัตถุประสงค์ หน้าที่และอ้านาจ และการ ด้าเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้า รวมทั้งหลักเกณฑ์ ข้ันตอน และวิธีการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้า หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้า แหง่ ชาติ) 2. ร่างกฎกระทรวงการได้มาซ่ึงกรรมการลุ่มน้าผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลมุ่ นา้ ผแู้ ทนองค์กรผู้ใชน้ ้าและกรรมการลมุ่ น้าผทู้ รงคณุ วุฒิ พ.ศ. .... (มาตรา 28 หลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้าผู้แทนองค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถ่ิน กรรมการผ้แู ทนองค์กรผู้ใชน้ ้า และกรรมการลุม่ น้าผู้ทรงคณุ วฒุ )ิ 3. ร่างกฎกระทรวงการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลมุ่ น้าในคณะกรรมการ ทรัพยากรน้าแหง่ ชาติ พ.ศ. ..... (มาตรา 10 หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าใน คณะกรรมการทรพั ยากรน้าแหง่ ชาติ) 4. ร่างกฎกระทรวงการพ้นจากต้าแหน่งของกรรมการลุ่มน้าผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้าและ กรรมการลุม่ น้าผู้ทรงคณุ วุฒิ พ.ศ. ...... (มาตรา 32 หลักเกณฑ์และวิธีการพ้นจากต้าแหน่งของกรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้า และกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ อันเนื่องมาจากเหตุบกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหน้าที่ มีความ ประพฤตเิ ส่อื มเสยี หรือหย่อนความสามารถ) ประเดน็ ร่างกฎหมายล้าดับรอง ข้อคดิ เหน็ ของผเู้ ขา้ ร่วมสัมมนาฯ ตามพระราชบัญญตั ิทรัพยากรนา้ พ.ศ. 2561 1. ร่างกฎกระทรวงการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้า พ.ศ. ... 1. เหน็ ดว้ ยกบั กฏกระทรวง (มาตรา 38 วรรคสอง การก้าหนดวัตถุประสงค์ 2. การก่อตั้งองค์กรผู้ใช้ฯ คือการสร้างอ้านาจต่อรอง หน้าที่และอ้านาจ และการด้าเนินงานขององค์กรผู้ใช้ อย่างได้ผล โดยผู้ร่วมองค์กรมีวัตถุประสงค์อันเดียวกัน ยึด น้า รวมท้ังหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการก่อตั้ง หลักการจัดการตามหลักธรรมาภิบาลบริหารจัดการ และ องค์กรผู้ใช้น้า หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก ยึดหลักการทรงไว้ แค่ปริมาณผู้ใช้น้าคนส่วนมากคือภาค ก ร ร ม ก า ร ผู้ แ ท น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ลุ่ ม น้ า ใ น เกษตรกร เป็นลา้ ดบั ที่ 1 คณะกรรมการทรัพยากรนา้ แห่งชาติ) 3. ควรมสี ่วนรว่ มของเกษตรกรเป็นหลกั 4. กรณียกร่างของคณะท้างานค่อนข้างถูกต้องแล้วมี เพียงบางพื้นที่ที่มีปัญหาระดับจังหวัด ในกรณีลุ่มน้ากกและ โขง ทีมีพื้นท่ี 1 จังหวัด 2 ลุ่มน้า เช่น ลุ่มน้าฝาง 3 อ้าเภอของจังหวัดเชียงใหม่แต่ไปข้ึนกับลุ่มน้า กก-โขง ภาคเหนือ ไมไ่ ดข้ ้ึนกับลมุ่ นา้ ปงิ จะด้าเนนิ การอย่างไร 5. ร่างกฏกระทรวงการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้า มีการ กล่าวถึงผู้จะก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้า 8 ข้อ (ด้าน) ตาม วัตถุประสงค์ แต่ พรบ. น้า ก้าหนดกลุ่มองค์กรผู้ใช้น้า 3 103
ประเดน็ ร่างกฎหมายลา้ ดับรอง ข้อคดิ เห็นของผู้เขา้ ร่วมสัมมนาฯ ตามพระราชบัญญตั ิทรพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 1. ร่างกฎกระทรวงการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้า พ.ศ. .... ด้าน (พาณชิย์,เกษตร,อุตสาหกรรม) หากมีผู้ขอจัดตั้ง (ต่อ) องค์กรท่ีไม่อยู่ใน 3 กลุ่ม จะไม่สามารถเข้าไปเป็นตัวแทน ในคณะกรรมการลุ่มน้าได้ (แม้ว่า การต้ังองค์กรฯใช้น้าถูก ก้าหนดไว้ 3 ด้าน) หากมีผู้มีความสนใจในการต้ังองค์กร ผู้ใช้น้าในด้านการวิจัยเกี่ยวกับน้า (เช่น กลุ่มอนุรักษ์ทะเล ไทย) จะเขา้ อย่ใู นกล่มุ ใด ใน 3 กลมุ่ 6. ทีมาขององค์กรผู้ใช้น้าต้องอยู่ในลุ่มน้านั้นๆ ซึ่งอาจมี หลายองค์ก รไ ด้เช่นกันก รณีที่ลุ่มน้าน้ันคาบ เกี่ย ว / วตั ถุประสงคท์ ี่ชดั เจน 7. ควรมีแผนงาน/กจิ กรรมอยา่ งต่อเนอ่ื ง 8. ต้องมีการท้าความเข้าใจกับราษฏร์ในลุ่มน้าว่า แตกต่างกบั กลมุ่ ผใู้ ชน้ า้ JMC ของกรมชลประทานอยา่ งไร 9. ควรให้องค์กรผู้ใช้น้ามีบทบาทที่แท้จริงเน่ืองจาก ปัจจุบันส่วนราชการมีการช่วยเหลือตลอดท้าให้เขาไม่ สามารถยืนได้ด้วยตนเอง 10. เป็นเร่ืองท่ีเหมาะสมและมีวิสัยทัศน์ที่ดี เพราะการมี อ ง ค์ ก ร ผู้ ใ ช้ น้ า จ ะ ช่ ว ย ชุ ม ช น ผู้ ใ ช้ น้ า มี ส่ ว น ก้ า ห น ด ก ติ ก า ร รายละเอียดอนื่ ๆ ในการบริหารจัดการและคุ้มครองแหล่งน้า เพอ่ื ความผาสขุ และความมนั่ คงของทรพั ยากรน้า 11. ควรมีกองทุนต้นน้าด้วยเพ่ือจะไปพัฒนาต้นน้าให้เขา้ เขาดูแลรักษาป่าให้ด้วย กลางน้าและปลายน้าจะได้มีน้าใช้ ตลอดไป 12. การน้าไปสู่การปฏิบัติต้องมีการเตรียมท้ังหน่วยงาน ร า ช ก า ร ใ น พ้ื น ท่ี อ ง ค์ ก ร ป ก ค ร อ ง ส่ ว น ท้ อ ง ถิ่ น แ ล ะ ภ า ค ประชาชนคิดว่าร่างกฏกระทรวงการก่อตั้งองค์กรผู้ ใ ช้น้ า ควรน้าไปรับฟังความคิดเห็นของคนในพื้นท่ีด้วย เพ่ือสร้าง ความเข้าใจและแลกเปล่ียนเพื่อปรับหรือเติมให้เกิดการ เรียนรู้ร่วมกันซ่ึงวควรมีกระบวนการและข้อมูลความรู้ทั้ง ทางวิชาการและความรู้ในพืน้ ทม่ี าใชใ้ นการขับเคล่อื น 13. ควรก้าหนดระยะเวลาในการพิจารณาอุทธรณ์ และ การอุทธรณ์กรณีไม่รับจะทะเบียนใหถ้ า้ นายทะเบียนเห็นควร จดให้ตามอุทธรณ์ไม่มีกรณีขัดแย้ง แต่ถ้านายทะเบียนไม่ เห็นควรจดทะเบียนให้เช่นเดิม จะมีองค์กรใดท่ีจะตัดสินใน ขั้นสุดท้ายเหนือนายทะเบียนหรือจะให้ผู้ขอจดทะเบียนไป ฟ้องศาลปกครอง ซ่ึงจะต้องใช้เวลามาก เกรงจะเสีย ประโยชนต์ อ่ ผใู้ ช้น้าซึ่งไมอ่ าจจะทดแทนได้เพราะกฏหมายไม่ ก้าหนดการทดแทนการเสยี ประโยชน์แบบน้ี 14. ควรมีการก้าหนดโครงสร้างหลักขององค์กรผู้ใช้น้า และการแตง่ ต้ังผู้แทนในการท้านติ กิ รรมแทนองคก์ รผูใ้ ช้น้า 104
ประเดน็ ร่างกฎหมายลา้ ดับรอง ข้อคิดเหน็ ของผเู้ ขา้ รว่ มสัมมนาฯ ตามพระราชบญั ญตั ิทรพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 1. ร่างกฎกระทรวงการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้า พ.ศ. .... 15. สมาชิกองค์กรผู้ใช้น้าคนหน่ึงอาจมีความเป็นไปได้ท่ี (ต่อ) จะมีอาชีพมากกว่า 1 อาชีพ เช่น เป็นเจ้าของกิจการ อุตสาหกรรม ในขณะที่ท้าฟาร์มปศุสัตว์ หรือปลูกผัก จา้ หนา่ ยจงึ ไมเ่ ห็นดว้ ยทสี่ มาชกิ จะเป็นสมาชิกแดอ่ งคก์ รเดียว 16. การมีกฏหมายน้าเกิดขึ้นมาใหม่เป็นแผนท่ีดีที ประโยชน์เพราะมีกฏกระทรวงและมีนายกรัฐมนตรีเป็น ประธานสามารถคุ้มกันให้คณะกรรม การน้ามีความ แขง็ แกร่งและเพิม่ การทา้ งานไดม้ ากข้นึ 17. การได้องค์กรผู้ใช้น้าจ้านวนมากเกินไปทั่วประเทศ ถ้าเกณฑ์มีการเปิดกว้างตามร่างจะเกิดความสับสนในการ ปฏิบัติในอนาคตการก้าหนดกลุ่มผู้แทนไม่ชัดเจนเหมาะสม หรือก้าหนดจ้านวนในแต่ละเขตจังหวัดภาคไว้ให้เหมาะสม เหมอื นจา้ นวน สส. ของประเทศ 18. ให้ความเห็นในส่วนของ กนช. จังหวัด เห็นด้วนให้ มกี ารจดั ตงั้ เพอ่ื ประสานการปฏิบัติในระดบั จงั หวดั 19. จะมีปัญหาในทางปฏิบัติหรือไม่ กรณีหน่วยงานของ รัฐซึ่งอยู่ในฐานะผู้ใช้น้า อันอาจมีส่วนร่วมในการบริหาร จัดการน้าได้ในฐานะการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้าได้อย่างเช่น ก า ร ป ร ะ ป า ส่ ว น ภู มิ ภ า ค ซึ่ ง เ ป็ น ผู้ ดู แ ล น้ า เ พื่ อ ก า ร สาธารณูปโภคของประชาชน และถูกนึกถึงนฐานะของการ ใช้น้าเพื่อพาณิชกรรม และขาดการบรรจุให้มีส่วนร่วมโดย การเป็นกรรมการโดยต้าแหน่ง หากการประปาก่อต้ัง องค์กรผู้ใช้น้าตามร่างกฏกระทรวงนี้ไม่ส้าเร็จ ด้วยเหตุท่ี แมน้ การประปาจะเป็นนติ ิบุคคลแต่ก็เป็นเพียงนิติบคุ คลเดียว กปภ.สาขานพ้ืนท่ีซึ่งตั้งและใช้น้าตามลุ่มน้าต่างๆ มิได้เป็น นิติบุคคลดว้ ย กรรมการ กปภ.มเี พยี งชดุ เดียวคอื บอร์ดใหญ่ กปภ.สาขาเป็นเพียงจ้าหน้าท่ีในการปฏิบัติงานเท่านั้น ย่อมจะเกิดปัญหาในการพิจารณาน้า/แผนการใช้น้าเพ่ือการ ประปาได้งขอให้ผู้จัดพิจารณาการยกร่างให้ครอบคลุมให้ การประปาภูมิภาคได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในกระบวนการ บริหารน้าในฐานะณะกรรมการลุ่มน้าด้วยเนื่องจากส่วน ราชการอันเป็นกรรมการโดยต้าแหน่งโดยมิต้องก่อต้ังแต่ ประการใดทั้งๆ ที่บางภาคส่วนด้รับผลกระทบจกาพรบ.น้า นอ้ ยมาก 20. เพ่มิ เตมิ โดยการรบั ฟงั ความคดิ เห็นอีกคร้งั หน่ึง 21. ควรมีการเกบ็ ค่านา้ ทุกภาคส่วนไม่ยกเวน้ 22. อันนี้เป็นกฏหมายล้าดับรองฯ วิทยากรไม่ได้ กล่าวถึง/นา่ จะยกตัวอย่างกฏหมายลูกๆ เพื่อประกอบ พรบ. น้าในบางมาตราเพ่อื ใหเ้ กดิ ความชัดเจนมากข้ึน 105
ประเด็นรา่ งกฎหมายล้าดับรอง ข้อคดิ เห็นของผู้เขา้ ร่วมสัมมนาฯ ตามพระราชบญั ญตั ทิ รัพยากรน้า พ.ศ. 2561 1. ร่างกฎกระทรวงการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้า พ.ศ. .... 23. ถ้าอยู่ในองค์กรผู้ใช้น้าก็ไม่สมควรจะจ้ากัดว่าได้ให้ (ตอ่ ) อยูใ่ นองค์กรอื่นซง่ึ ผใู้ ชน้ า้ ควรจะไปอยู่ในองคก์ รอ่นื ได้ดว้ ย 24. องค์ประกอบขององค์กรผู้ใช้น้าควรประกอบด้วย กลุ่มองค์กรท่ีหลากหลายกว่าที่ปรากฏมี 3 ส่วนคือ กลุ่ม เกษตรกรรม กลุ่มพาณิชกรรม กลุม่ อุตสาหกรรม นน้ั ใน ส่วนของกลุ่มเกษตรกรรมนั้นควรแบ่งย่อยออกไปเพ่ือให้ ครอบคลุมภาคเกษตรทั้งระบบ ได้แบ่ง ชาวนา (เชิงเดี่ยว) /ชาวสวน (เชิงเดี่ยว) รวมสวนยาง ,ปาล์ม,กาแฟ / ชาวประมง (น้าจืดและน้าเค็ม) / ปศุสัตว์ (ผู้เลี้ยงจ้านวน มาก) / เกษตรยง่ั ยืน ( 6 ประเภท) 25. ในกรณีเลือกเพียง 3 คน ไปเป็นผู้แทนใน คณะกรรมการลุ่มน้าน้ันควรมีการคัดเลือกด้วยกระบวนการ เครือข่ายโดยให้ผู้แทนทั้ง 5 ประเภท มีเวทีสมัชชา เกษตรกรลุ่มน้าออกแบบคัดเลือกตามแนวทางและวิธีการที่ สมัชชามีมติรับรองซ่ึงควรจัดให้มีเวทีสมัชชาเกษตรกรทุกปี ในส่วนของกลุ่มผูใ้ ช้น้าภาคอืน่ อีก 2 ภาค เช่นเดียวกันควร ใช้การคัดเลือกภายในและทุก 3 ปี ขอให้มีสมัชชาลุ่มน้าใน ทุกกลมุ่ น้า 2. ร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้า 1. องค์กรผู้ใช้น้า ควรมีการจดทะเบียนผ่านหน่วย ผู้แทนองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน กรรมการลมุ่ น้า ราชการที่เกี่ยวข้องกับองค์กรนั้นมาก่อน จึงจะมาขอจด ผู้ แ ท น อ ง ค์ ก ร ผู้ ใ ช้ น้ า แ ล ะ ก ร ร ม ก า ร ลุ่ ม น้ า ทะเบียนในตามพรบ.นี้ ผู้ทรงคุณวฒุ ิ พ.ศ. .... 2. ควรยกร่างฯ ให้เสร็จก่อน จึงจะมารับฟังความ (มาตรา 28 หลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซ่ึงกรรมการ คิดเห็นประชาชน โดยอาจจะท้าประชาพิจารณ์หรือถอด ลุ่มน้าผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กรรมการ แบบฯ กแ็ ลว้ แต่ความสะดวก/เหมาะสม ผู้ แ ท น อ ง ค์ ก ร ผู้ ใ ช้ น้ า แ ล ะ ก ร ร ม ก า ร ลุ่ ม น้ า 3. เห็นดว้ ยกบั กฏกระทรวง ผู้ทรงคณุ วุฒ)ิ 4. ควรมีฝ่ายปกครองท้องท่ี ผวจ.นอภ. กน. และ ผู้ ใ ห ญ่ บ้ า น ผู้ ดู แ ล บ้ า บั ด ทุ ก ข์ บ้ า รุ ง สุ ข แ ก น ห ลั ก คณะกรรมการหมู่บ้านอยู่ท่ีน่ีฯ เหมือนประเทศฯ มี คณะรฐั มนตรี ในหมู่บ้านมคี ณะกรรมการหม่บู า้ นฉันใดฯ 5. กรณีผู้แทนอปท. ที่คัดเลือกมาเป็นกรรมการลุ่มน้า เป็นการแตง่ ตั้ง โดยตวั บคุ คลหรือโดยตา้ แหน่งซ่งึ หากผู้แทน อปท. ที่ได้รับการคัดเลือกมาโดยต้าแหน่งหมดวาระใน ต้าแหน่งน้ันไปแล้ว สถานภาพของการเป็นกรรมการลุ่มน้า จะยังคงอยู่หรือไม่? 6. ควรมีงบประมาณสนบั สนุนกรรมการ 7. กรรมการลุ่มน้าควรเปิดโอกาศให้ กปภ. (การประปา ส่วนภูมิภาค) มีสิทธ์ิท่ีจะเข้าเป็นกรรมการลุ่มน้าได้เพราะ ตามร่างกฏกระทรวง ไม่แน่ใจวา่ จะสามารถเข้าทางชอ่ งทาง องค์กรผู้ใช้น้าได้หรือไม่ (ผู้ทรงคุณวุฒิไม่ได้เพราะก้าหนด 106
ประเด็นรา่ งกฎหมายล้าดับรอง ข้อคดิ เหน็ ของผ้เู ข้าร่วมสัมมนาฯ ตามพระราชบัญญตั ทิ รพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 2. ร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้า ห้ามเป็นราชการหรือหน่วยงานของรัฐ) ซึ่งหาก กปภ. ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กรรมการลุ่มน้า ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการลุ่มน้าจะมีผลต่อการขออนุญาตใช้ ผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้าและกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ น้าเน่ืองจากจัดเป็นผู้ใช้น้าประเภทน้ัน ซ่ึงต้องผ่านความ พ.ศ. .... (ตอ่ ) เหน็ ชอบของคณะกรรมการลมุ่ น้าก่อนท่ีจะไดรับอนุญาตจาก หนว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้อง 8. การคัดค้านกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ควร เกิดข้ึนแต่ให้เป็นหน้าท่ีของคณะกรรมการสรรหาที่ท้าหนา้ ที่ คัดกรองคุณสมบัติตามที่ก้าหนดเพื่อป้องกัน ความขัดแย้ง หรือการกล่าวหาถึงผลประโยชน์ทับซ้อนโดยเหตุผลการ คัดค้านใหก้ รรมการสรรหาเป็นผ้ชู ี้แจงเหตุผลแก่ผู้สมคั ร 9. ลุ่มน้าท่ีคาบเก่ียวหลายจังหวัดต้องเฉล่ียกรรมการให้ ครบทุกพืน้ ทีใ่ นลุม่ นา้ นั้นๆ 10. กลไกของกรรมการ - ผู้ทรงคุณวฒุ ิ ควรมาจากท้ัง นวก/สถาบนั การศึกษา/ผู้ มีประสบการณใ์ นการพัฒนาในพืน้ ทล่ี ุ่มน้า - ผู้แทนภาคพาณิชย์ ควรเลือกผู้แทนจากหลากหลาย กิจการทขี่ ้ึนทะเบยี นกบั หน่วยงานจังหวัด มิใชม่ าจากองค์กร หอการคา้ เทา่ น้นั - ผู้แทนผู้ใช้น้า ควรมาจากองค์กรที่จดทะเบียนและ คัดเลือกกนั เอาในระดบั จงั หวัด 11.วิธกี ารเลือก อยากท่านความโปร่งใสในการคัดเลือก และได้กลไกที่มีคุณภาพเลือกด้วยวธิ ีการเปิดเผย โดยทุกภาค ส่วนเลือกกันเอาขึ้นไป ไม่อยากเห็นวธิ ีการเลือกแบบลงลับ แ บ บ เ ลื อ ก ตั้ ง เ พ ร า ะ ไ ม่ ต้ อ ง ก า ร ค น ท่ี มี แ ต่ ค ว า ม รู้ ไ ม่ มี ประสบการณแ์ ละตัวแทนนกั การเมืองเข้ามารว่ มในกลไกน้ี 12.ซ้าซอ้ นควรทีแคก่ รรมการลุ่มน้า โดยมีแคผ่ ู้แทนจาก องค์กรผู้ใช้น้าและหน่วยงานราชการที่เก่ียวข้องก็เยอะจน ปวดหัวแลว้ 13. กรณีน้ีเช่ือว่าร่างกฏกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการ ลมุ่ นา้ จะเปน็ องคก์ รที่เป็นทางการในระดับต่างๆ แตก่ ารจะ ให้มีลักษณะแบบเก่าๆ นั้น จะไม่สามารถตอบสนองให้ เกิดผลตรงตามเป้าหมายที่สมบูรณ์ได้ แต่อย่างไรก็ดีการ ท้างานต่างๆ ของคณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องได้รับ งบประมาณสนับสนุนเพื่อขับเคลี่อนที่คล่องตัวและเป็นกลไก ส้าคญั ในการบริหารจัดการทรพั ยากรน้าทดี่ ี 14. อยากเห็นการสรรหาหรือคัดเลือกอย่างเป็นระบบ และควรมีการพัฒนาศักยภาพเพื่อน้าไปสู่ความรู้และเข้าใจ ในการทา้ งานในพืน้ ท่ี 107
ประเดน็ รา่ งกฎหมายล้าดับรอง ข้อคดิ เหน็ ของผูเ้ ข้ารว่ มสัมมนาฯ ตามพระราชบญั ญัตทิ รพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 2. ร่างกฎกระทรวงการได้มาซ่ึงกรรมการลุ่มน้า 15.การให้อาจารย์ในสถาบันการศึกษาเป็นกรรมการ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลุ่มน้า ผู้ทรงคุณวุฒิได้จะกลายเป็นช่องทางในการที่อาจารย์จะมา ผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้าและกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ หาผลประโยชน์ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในการ พ.ศ. .... (ตอ่ ) ท้าการศึกษาวิจัย โดยคณะกรรมการลุ่มน้าเป็นเจ้าของ โครงการจะมีผลในเชิงผลประโยชน์ร่วมกันตามระเบียบ กฏหมายการจดั ซอ้ื จัดจา้ ง 16. เห็นด้วยกับกฏกระทรวงท่ีออกมาให้กรรมการลุ่มน้า และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินดูแลเพิ่มเติม แต่ปัญหา ส้าคัญองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ 17.ความสมดุลของภาคราชการ ภาค อปท ภาค ประชากร กม. NGO ซ่ึงต้องสมดุลแตไ่ มส่ ร้างปัญหาในการ ท้างานในอนาคต 18. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิควรเป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิจริงๆ ไม่ควรเป็นตัวแทนกลุ่มใด และผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละคนเป็น หลายลุ่มน้าได้หรอื ไม่ 19.กรรมการล่มุ น้า หากได้ผูแ้ ทนที่ไม่มีความรู้เร่อื งการ บริหารจัดการดีอย่างแท้จริงหรือไม่สามารถเข้าใจหลักการ บริหารจัดการน้าและหากเห็นแต่ประโยชน์พาะคนในพ้ืนที่ หรอื เป็นนกั การเมอื งจะส่งผลเสียตอ่ การตัดสนิ ใจในภาพรวม ที่เหมาะสมอยา่ งแนน่ อน 20. อ ง ค์ ก ร ผู้ ใ ช้ น้ า ต้ อ ง ม า มี บ ท บ า ท เ พ่ิ ม ขึ้ น ใ น อ ง ค์ ก ร ปกครองส่วนทอ้ งถิน่ 21.ควรรับฟังความคดิ เหน็ อกี ครัง้ หนง่ึ 22. ในส่วนของการคัดเลือกกรรมการลุ่มน้าในส่วนของ ผูท้ รงคุณวฒุ ิควรใช้วธิ ีการแบ่งกลุ่ม เป็น 2 กลุม่ คอื - กลุ่มท่ี 1 ผู้เชีย่ วชาญ/ชา้ นาญการ - กลุม่ ท่ี 2 ภาคประชาสงั คม 23. ในการคัดเลือกควรให้มีการคัดสรรแบ่งแยกกันโดย ในภาคประชาสังคมขอให้มีโค้วต้า 2 คน ให้มีกระบวนการ คดั สรรกนั ภายในภาคีประชาสังคม เชน่ การมีสมัชชา ของ กลุ่มต่างๆ หรือในกลุ่มน้าทะเลสาปสงขลา มีสภาลุ่มน้า ทะเลสาปสงขลาซ่ึงจัดให้มีการประชุมวิชาการหลักการจัด สมชั ชา ลมุ่ นา้ ทะเลสาบสงขลาเป็นประจา้ ทกุ ปีอยแู่ ล้ว จงึ ใช้ เงื่อนไขและโอกาสเหล่านี้เชิญภาคีภาคประชาสังคมมาร่วม และคัดเลือกผ้แู ทนเขา้ ร่วมเปน็ กรรมการได้โดยตรง 24. ควรเพิ่มผู้แทนจากภาคประชาสังคมในสัดส่วนของ คณะกรรมการล่มุ น้าดว้ ย 108
ประเดน็ รา่ งกฎหมายล้าดับรอง ข้อคิดเหน็ ของผูเ้ ขา้ รว่ มสัมมนาฯ ตามพระราชบัญญัติทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 3. ร่างกฎกระทรวงการคัดเลือกกรรมการผู้แทน 1. ควรการใช้วิธีคัดเลือกกันเอง ของแต่ละกลุ่มโดย คณะกรรมการล่มุ น้าในคณะกรรมการทรพั ยากรน้า เปิดเผยไม่ผ่านกระบวนการท่ีดี อาจเป็นการได้มาจาก แห่งชาติ พ.ศ. ..... อิทธพิ ลหรอื พวกพ้อง (มาตรา 10 หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการคัดเลอื กกรรมการ 2. เหน็ ดว้ ยกับการสรรหาคัดเลอื กกอ่ นมกี ฏกระทรวง ผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการ 3. ควรเลอื กขน้ึ ไปเร่มิ จากชุมชนหมบู่ า้ น ทรัพยากรนา้ แห่งชาติ) 4. ควรคัดเลือกทุก 1 ปี หรอื สรรหาแบบ สว. 5. ขอให้คดั เลือกบุคคลคุณภาพจรงิ ไมใ่ ช่เลือกบุคคลด้าน ที่มาท้าให้องค์กรเดินหน้าไม่ได้/ป่ันป่วน/ไม่มีข้อมูล/ไม่มี สาระ 6. ควรให้ สนช.ภาค เป็นผู้คัดเลือกเนื่องจากมี ความรู้,ความช้านาญ,ในอดีตด้าเนินการอยู่แล้ว (สน. ทรัพยากรนา้ ภาค) กรม ทน. 7. ควรให้ภาคเกษตรกรมีส่วนรว่ มในการขับเคล่อื น โดย ผ่านส้านักงานเกษตรแต่ละจังหวัดและน้าเสนอกลุ่มเกษตร ผ่านการใช้น้า จากส้านักงานเกษตรจังหวัดอาทิ กลุ่ม อาสาสมคั รเกษตร กลุ่มศพก. กล่มุ เกษตรแปลงใหญ่ 8. คณะกรรมการทรัพยกรน้าแห่งชาติ (กนช.) ในส่วน ของผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้าก้าหนดให้มี 4 คน (วิทยากรระบุ วา่ มา 4 ภาค) แต่ตาม พรบ.ก้าหนดองคก์ รผใู้ ชน้ า้ มีเพียง 3 กลุ่ม (พาณิชย์,เกษตร,อุตสาหกรรม) กรณีนี้เป็นไปได้ หรือไม่ให้เพ่ิมกรรมการทรัพยกรน้าแห่งชาติในส่วนของ ผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ามาทุกภาค ( 4 ภาค) โดยมาภาคละ 3 กลุม่ รวม 12 คน 9. ถ้าเป็นเหมือนการสรรหา สว. 250 เสียง ก็คงเกิด เสถียรภาพสูงแต่ไม่แน่ใจว่าจะตอบสนองความต้องการของ องค์กรผ้ใู ชน้ ้า 10. ตามร่างสังเกตว่าเป็นการในการด้าเนินการอยู่ใน ส่วนของพ้ืนที่ซึ่งภาคราชการด้าเนินการบางคร้ังอาจได้ผล ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และโอกาสของชุมชนในการน้ีจะเหลือ น้อยลงมาก ท่ีส้าคัญคือการจะได้มาตามร่างอาจไม่ต่างจาก การคิดสรรหรือการสรรหาการเลือกต้ังในแบบการเมืองที่ ผา่ นไปเมือ่ ไมน่ านน้ี 11. ขอให้กฏกระทรวงออกมาก่อนแล้วกรรมการลุ่มน้า ท้าตามไดอ้ ยา่ งดี 12. ก า ร เ ฉ ลี่ ย ค ว า ม ส้ า คั ญ ข อ ง แ ต่ ล ะ ลุ่ ม น้ า ไ ม่ ใ ห้ เ กิ ด ปัญหาความขัดแย้งในการใช้ทรัพยากรน้าระหว่างลุ่มน้าใน อนาคตตอ้ งวางเกณฑไ์ ว้ 13.เลอื กจากบคุ คลครอบคลุมทุกอาชพี 109
ประเดน็ รา่ งกฎหมายลา้ ดับรอง ข้อคดิ เหน็ ของผู้เขา้ รว่ มสัมมนาฯ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรนา้ พ.ศ. 2561 3. ร่างกฎกระทรวงการคัดเลือกกรรมการผู้แทน 14.ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนท่ัวไปให้รับทราบเพื่อ คณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้า ก่อให้เกดิ การมสี ว่ นร่วม แห่งชาติ พ.ศ. ..... (ต่อ) ก า ร คั ด เ ลื อ ก ก ร ร ม ก า ร ผู้ แ ท น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ลุ่ ม น้ า โดยเฉพาะพ้ืนท่ีตะวันออกต้องพิจารณาอย่างเหมาะสม เนือ่ งจากเป็นพื้นทเ่ี ฉพาะและมีการบรหิ ารจัดการน้าตา่ งจาก พ้ืนที่อ่ืนของประเทศจ้าเป็นต้องได้ผู้ท่ีมีความรู้จริงในพื้นท่ี และมองภาพรวมของประเทศไดจ้ ริง ไม่เชน่ น้ันจะเกิดปญั หา การบรหิ ารน้าที่ไม่เหมาะสมได้ เพราะการบรหิ ารจัดการน้า ในพนื้ ที่ EEC มคี วามซบั ซ้อนและเกยี่ วข้องกบั หลายลุ่มน้า 4. ร่างกฎกระทรวงการพ้นจากต้าแหน่งของ 1. เห็นด้วยกับร่างกระทรวงท่ีพ้นต้าแหน่งต่อไปก็มีการ กรรมการลุ่มน้าผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้าและกรรมการ คดั สรรขึ้นมาใหม่ ลมุ่ นา้ ผู้ทรงคณุ วุฒิ พ.ศ. ...... 2. ควรใหอ้ ยใู่ นตา้ แหนง่ หลายวาระได้ (มาตรา 32 หลักเกณฑ์และวิธีการพ้นจากต้าแหน่ง 3. องค์กรผู้ใช้น้าคือหน่วยที่ไม่น่าจะมีวาระเพราะเป็น ของกรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้าและกรรมการลุ่ม เจ้าของพ้ืนท่ีแต่กรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิควรเป็น น้าผู้ทรงคุณวุฒิ อันเนื่องมาจากเหตุบกพร่องหรือไม่ ผู้เช่ียวชาญ และมีภูมิล้าเนาอยู่ในลุ่มน้าน้ันเพื่อเป็นการช่วย สุจรติ ตอ่ หน้าที่ มีความประพฤตเิ ส่ือมเสีย หรือหย่อน ท้องถิ่นของตนเองที่ส้าคัญคือการร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ความสามารถ) ด้านการมีส่วนร่วมอย่างไรและการก้าหนด CEO ท่ีชัดเจน ว่าจะให้ผู้ว่าหรือนายก อปท.และในอนาคตคงต้องมีผู้ตรวจ ประจ้าลุ่มน้า เพือ่ ให้การขบั เคลอ่ื นมคี วามรวดเร็ว 4. หากเป็นตามร่างก็น่าจะไม่มีปัญหาใดๆ แต่กังวลว่า ใบอนุญาตมหากมีการด้าเนินการเรื่องนี้จริงจังแล้วอาจจะ เ ป็ น ส่ ว น ใ ห้ ค ว า ม เ ป็ น ธ ร ร ม ช า ติ ใ น ก า ร ใ ช น้ า ข อ ง ภ า ค ประชาชนสูญเสียไป และบางทีจะเป็นประเด็นในการคิด แกไ้ ขที่ยุง่ ยากได้ 5. ควรจะให้โอกาสให้กรรมการลุ่มน้าชุดเดิมสอบถาม ความคิดเห็นว่าจะท้างานเป็นคณะกรรมการลุ่มน้าอยู่หรือ เปล่าถ้ายังมีความสามารถก็น่าจะให้เขาทา้ ต่อไปเพื่อสานต่อ และมีประสบการณ์ท่ีมีกว่าต้องมาเลือกกันใหม่ เร่ิมต้นใหม่ อกี เพราะกรรมการไม่มเี งนิ ตอบแทนหรือเงนิ เดือนดว้ ยควรมี ค่าตอบแทนคณะกรรมการลมุ่ น้าด้วย 6. ควรมีการลงรายละเอียดและกระบวนการมีส่วนร่วม จากภาคส่วนทีเ่ ก่ยี วข้องใหค้ วามเหน็ อกี ครัง้ 7. ควรเพ่ิมผู้แทนจากภาคประชาสังคมในสัดส่วนของ คณะกรรมการลุ่มน้าดว้ ย 110
บทท่ี 3 สรุปประเดน็ และเนือ้ หาที่สาคัญ
บทท่ี 3 สรุปประเดน็ และเนื้อหาท่สี าคัญ จากการจดั โครงการสัมมนา เรื่อง บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรนา้ ภายใต้แผน แม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ในพืนที่ 6 ภูมภิ าค จ้านวน 9 ครังทัว่ ประเทศ ของนักงานเลขานกุ ารคณะกรรมการทรัพยากรน้า แห่งชาติ (สลน.) ร่วมกับกองนโยบายและยุทธแม่บท (กนผ.) ส้านักงานทรัพยากรน้าแห่งชาติ ใน ปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 สรปุ ผลดา้ เนนิ การได้ดังนี 1. การประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการ โดยประเมินจ้านวนผู้เข้าร่วมสัมมนาพบว่า ไม่ต่้ากว่าเป้าหมายโครงการที่ก้าหนดไว้ คือ จ้านวนผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ในพืนท่ี 6 ภูมิภาค จ้านวน 9 ครังท่ัวประเทศ รวมจ้านวน 1,224 คน (จากเป้าหมาย 1,170 คน) ประกอบด้วย การจัดสัมมนาฯ กลมุ่ เป้าหมาย* รวม (1) – (3) (4) การจดั สมั มนาฯ จ้านวน 9 ครงั ในพืนท่ี 6 ภมู ภิ าค ดงั นี 175 ครั้งท่ี 1 ในพืนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในวันที่ 3 ก.ค. 2562 ณ 145 30 139 โรงแรมประจกั ษ์ตรา ดไี ซน์ โฮเทล จังหวดั อดุ รธานี 125 14 148 ครั้งที่ 2 ในพืนท่ีภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในวันที่ 5 ก.ค. 2562 ณ 133 15 140 โรงแรมสุนยี ์ แกรนด์ จงั หวัดอบุ ลราชธานี 125 15 121** ครง้ั ท่ี 3 ในพนื ทีภ่ าคเหนอื ตอนบน ในวนั ที่ 10 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมเมอรเ์ คียว 99 22 99** จังหวดั เชยี งใหม่ 81 18 139 ครั้งที่ 4 ในพืนท่ีภาคเหนือตอนลา่ ง ในวันท่ี 12 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมเรือนแพ 124 15 130 รอยัล พารค์ จงั หวัดพษิ ณโุ ลก 114 16 133 คร้ังท่ี 5 ในพืนที่ภาคตะวันตก ในวันที่ 23 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมเวสเทิร์น 109 24 แกรนด์ จังหวัดราชบุรี 1,224 ครั้งที่ 6 ในพืนท่ีภาคกลาง ในวันท่ี 25 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมคลาสสิค คามิ 1,055 169 โอ อยุธยา จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา คร้ังท่ี 7 ในพืนที่ภาคตะวันออก ในวันที่ 31 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมคลาสสิค คามโิ อ ระยอง จงั หวดั ระยอง คร้งั ที่ 8 ในพืนทภ่ี าคใตต้ อนล่าง ในวันที่ 2 ส.ค. 2562 ณ โรงแรมหรรษา เจบี จงั หวดั สงขลา ครั้งท่ี 9 ในพืนท่ีภาคใต้ตอนบน ในวันที่ 5 ส.ค. 2562 ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จังหวดั สุราษฎรธ์ านี รวม (คน) หมายเหตุ : * กลุม่ เปา้ หมาย 1,170 คน (9 ครัง x 130 คน) ประกอบดว้ ย (1) ภาคราชการ และรฐั วิสาหกิจ ทเี่ ก่ยี วข้องในพืนท่ีลมุ่ นา้ (2) คณะกรรมการลุ่มน้า และเครือข่าย/ฝา่ ยเลขานุการคณะกรรมการล่มุ น้า (3) ภาคเอกชน ประชาชนทวั่ ไป และผ้มู ีสว่ นได้สว่ นเสยี ท่เี ก่ียวข้องในพนื ท่ีลมุ่ น้า (4) บคุ ลากร/เจา้ หน้าท/่ี ผู้ที่ปฏิบตั งิ านที่สา้ นกั งานทรพั ยากรน้าแห่งชาติ ** จ้านวนผู้เข้าร่วมโครงการน้อยกว่าเป้าหมายที่ตังไว้ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวกลุ่มเป้าหมายต้องเตรียม ความและรับฟังการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี 111
2. ผลการประเมินผลความเหมาะสมของกระบวนการจัดโครงการสัมมนาฯ โดยใช้ แบบสอบถามเป็นเคร่อื งมือในการประเมิน ผลปรากฎวา่ คร้ังที่ 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ณ โรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์ โฮเทล จังหวัดอุดรธานี จากการสอบถามข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการ จ้านวน 145 คน ได้รับแบบ ประเมินแบบสมบูรณ์ทังสิน 107 ชุด คิดเป็นร้อยละ 73.79 ผลการประเมินความพึงพอใจทมี่ ตี ่อ โครงการสัมมนาฯ ดงั นี 1) ข้อมูลท่ัวไป ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จ้านวน 95 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 88.79 และเพศหญิง จา้ นวน 12 คน คิดเปน็ ร้อยละ 11.21 ตามลา้ ดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 70 คน คิดเป็นร้อยละ 65.42 รองลงมามี อายุระหว่าง 41 – 50 ปี จ้านวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 23.36 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่มี อาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 95 คน คิดเป็นร้อยละ 88.79 รองลงมาอยู่ใน อาชีพเกษตรกร จา้ นวน 9 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 8.41 ตามลา้ ดบั 2) ความคิดเห็นเก่ียวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของการสัมมนาฯ คดิ เป็นค่าเฉลี่ยตวั กลางเลขคณิต ( x ) 3.09 ซ่งึ หมายถึงมี ความคิดเห็นเก่ียวกบั การบรรลุวตั ถปุ ระสงคข์ องการสมั มนาฯ ในระดบั มาก 3) ความพึงพอใจเกี่ยวกับเร่ืองต่างๆ ของการสัมมนาฯ ภาพรวมผู้เข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเก่ียวกับเร่ืองต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉล่ียตัวกลางเลขคณิต (x ) 2.94 ซึ่งหมายถึงมคี วามเห็นตอ่ โครงการสมั มนาฯ ในระดบั มาก แบ่งเป็น - ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มาก จา้ นวน 59 ราย คิดเป็นค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 55.14 - เอกสาร/ขอ้ มูลทใี่ ชป้ ระกอบการประชมุ ส่วนใหญม่ ีความเห็นระดับมาก จา้ นวน 66 ราย คิดเปน็ คา่ เฉลีย่ รอ้ ยละ 60.00 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 58 ราย คิดเป็น คา่ เฉลย่ี ร้อยละ 62.06 - ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดับมาก จา้ นวน 59 ราย คิดเป็นคา่ เฉลย่ี รอ้ ยละ 61.36 - สถานท่ีในการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 59 ราย คิดเป็นค่าเฉลี่ยรอ้ ยละ 62.06 - เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานของโครงการ ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 57 ราย คดิ เปน็ ค่าเฉลี่ยร้อยละ 53.51 4) ข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะ - การจัดสัมมนาโดยภาพรวมดีมาก เห็นควรมีการจัดสัมมนาเพื่อสร้าง การรบั ร้ขู ้อมลู ขา่ วสารอย่างตอ่ เนื่อง - การน้าเสนอของวิทยากรไม่น่าสนใจ ภาพรวม ภาพใหญ่ ความ เชอื่ มโยงไมช่ ดั เจน - ควรนา้ เผยแพร่เอกสารข้อมลู ผ่านหน้า Web ให้ download file เพ่อื นา้ มาอา่ นกอ่ น คร้ังท่ี 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ณ โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ จังหวัด อบุ ลราชธานี จากการสอบถามขอ้ มลู จากผู้เขา้ รว่ มโครงการ จ้านวน 125 คน ไดร้ ับแบบประเมิน 112
แบบสมบรู ณ์ทงั สิน 112 ชุด คดิ เปน็ ร้อยละ 89.60 ผลการประเมนิ ความพึงพอใจที่มตี อ่ โครงการ สมั มนาฯ ดงั นี 1) ข้อมูลท่ัวไป ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จ้านวน 90 คน คดิ เป็นร้อยละ 80.36 รองลงมาเปน็ เพศหญิง จ้านวน 12 คน คิดเปน็ ร้อยละ 19.64 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 98 คน คิดเป็นร้อยละ 87.50 รองลงมามีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี จ้านวน 61 คน คิดเป็นร้อยละ 54.46 ตามล้าดับ และ ส่วนใหญ่มีอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 98 คน คิดเป็นร้อยละ 87.50 รองลงมาอยู่ในอาชีพเกษตรกร จา้ นวน 8 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 7.14 ตามล้าดบั 2) ความคิดเห็นเก่ียวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของการสัมมนาฯ คดิ เปน็ ค่าเฉลี่ยตัวกลางเลขคณิต ( x ) 3.13 ซ่ึงหมายถึงมี ความคดิ เหน็ เก่ยี วกับการบรรลุวัตถปุ ระสงคข์ องการสมั มนาฯ ในระดับมาก 3) ความพึงพอใจเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของการสัมมนาฯ ภาพรวมผู้เข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเก่ียวกับเรื่องต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉล่ียตัวกลางเลขคณิต (x ) 3.26 ซึง่ หมายถึงมคี วามเหน็ ต่อโครงการสัมมนาฯ ในระดบั มากท่สี ุด แบง่ เปน็ - ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญม่ คี วามเห็นระดับ มาก จา้ นวน 62 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉล่ียร้อยละ 55.36 - เอกสาร/ข้อมูลท่ีใช้ประกอบการประชุม ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มากทส่ี ุด จา้ นวน 44 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉล่ยี ร้อยละ 39.29 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 67 ราย คิดเป็น คา่ เฉลี่ยร้อยละ 58.26 - ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดบั มากท่สี ุด จ้านวน 39 ราย คิดเปน็ คา่ เฉล่ยี รอ้ ยละ 34.82 - สถานที่ในการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมากที่สุด จ้านวน 46 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉลีย่ รอ้ ยละ 41.07 - เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานของโครงการ ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จา้ นวน 65 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉลย่ี รอ้ ยละ 58.04 4) ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะ - การจัดสัมมนาในครังนีมีประโยชน์มาก มีเนือหากรอบในการท้างาน ชัดเจนเหมาะสมดแี ล้ว - ควรมกี ารอบรมสัมมนาในประเด็นใหม่ ๆ ทเ่ี กดิ ขนึ อย่างตอ่ เนื่อง เพ่ือ จะปฏิบตั /ิ รบั รูอ้ ย่างถูกต้อง ครั้งท่ี 3 ภาคเหนือตอนบน ณ โรงแรมเมอร์เคียว จังหวัดเชียงใหม่ จากการ สอบถามข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการ จ้านวน 133 คน ได้รับแบบประเมินแบบสมบูรณ์ทังสิน 110 ชุด คดิ เป็นร้อยละ 82.71 ผลการประเมนิ ความพึงพอใจท่ีมีตอ่ โครงการสัมมนาฯ ดงั นี 1) ข้อมูลท่ัวไป ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จ้านวน 74 คน คิดเป็นร้อยละ 67.27 รองลงมาเป็นเพศหญิง จ้านวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 32.73 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 80.00 รองลงมามีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี จ้านวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 46.36 ตามล้าดับ และ ส่วนใหญ่มีอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 88 คน คิดเป็นร้อยละ 80.00 รองลงมาอยู่ในอาชีพอื่นๆ เช่น NGO นักวิจัย และส่ือมวลชน เป็นต้น จ้านวน 10 คน ตามลา้ ดับ 113
2) ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลุวตั ถุประสงค์ของการสัมมนาฯ คิดเป็นค่าเฉลี่ยตวั กลางเลขคณติ ( x ) 3.11 ซง่ึ หมายถึงมี ความคดิ เห็นเกี่ยวกับการบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องการสมั มนาฯ ในระดับมาก 3) ความพึงพอใจเก่ียวกับเรื่องต่างๆ ของการสัมมนาฯ ภาพรวมผู้เข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเก่ียวกับเรื่องต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉล่ียตัวกลางเลขคณิต (x ) 3.15 ซง่ึ หมายถงึ มคี วามเหน็ ตอ่ โครงการสัมมนาฯ ในระดบั มาก แบ่งเปน็ - ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มาก จา้ นวน จา้ นวน 65 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉลี่ยรอ้ ยละ 59.09 - เอกสาร/ข้อมูลทใ่ี ช้ประกอบการประชุม ส่วนใหญม่ คี วามเห็นระดับมาก จ้านวน 66 ราย คดิ เป็นค่าเฉลย่ี รอ้ ยละ 60.00 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 76 ราย คิดเป็น ค่าเฉลีย่ ร้อยละ 69.09 - ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดบั มาก จ้านวน 73 ราย คิดเป็นค่าเฉลีย่ รอ้ ยละ 66.36 - สถานที่ในการสัมมนา สว่ นใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน จ้านวน 73 ราย คิดเป็นคา่ เฉล่ยี ร้อยละ 66.36 - เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานของโครงการ ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 73 ราย คดิ เป็นคา่ เฉล่ยี รอ้ ยละ 66.36 4) ขอ้ คดิ เหน็ และข้อเสนอแนะ - มีประโยชน์มากส้าหรับผ้ทู ี่มีหน้าท่ีเกีย่ วข้องกบั ทรัพยากรน้า และจะได้ บรรลุตามความส้าเรจ็ ตามภารกจิ บรหิ ารจัดการนา้ ตามการปฏิบัตกิ ารบริหารน้าของชาติ คร้ังท่ี 4 ภาคเหนือตอนล่าง ณ โรงแรมเรือนแพ รอยัล พาร์ค จังหวัดพิษณุโลก จากการสอบถามข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการ จ้านวน 25 คน ได้รับแบบประเมินแบบสมบูรณ์ ทงั สนิ 100 ชุด คดิ เปน็ ร้อยละ 80 ผลการประเมินความพงึ พอใจท่มี ีต่อโครงการสมั มนาฯ ดังนี 1) ข้อมูลทั่วไป ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จ้านวน 83 คน คิดเป็นร้อยละ 17.00 รองลงมาเป็นเพศหญิง จ้านวน 83 คน คิดเป็นร้อยละ 83.00 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 59 คน คิดเป็นร้อยละ 59.00 รองลงมามีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี จ้านวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 23.00 ตามล้าดับ และ ส่วนใหญ่มีอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 76 คน คิดเป็นร้อยละ 71.00 รองลงมาอยู่ในอาชีพเกษตรกร จา้ นวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 10.87 ตามลา้ ดบั 2) ความคิดเห็นเก่ียวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ คิดเปน็ ค่าเฉลี่ยตวั กลางเลขคณิต ( x ) 3.17 ซึ่งหมายถึงมี ความคิดเห็นเกย่ี วกับการบรรลวุ ตั ถุประสงค์ของการสมั มนาฯ ในระดบั มาก 3) ความพึงพอใจเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของการสัมมนาฯ ภาพรวมผู้เข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเกี่ยวกับเร่ืองต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉล่ียตัวกลางเลขคณิต (x ) 3.10 ซึ่งหมายถึงมีความเหน็ ต่อโครงการสมั มนาฯ ในระดับมาก แบง่ เป็น - ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มาก จ้านวน จ้านวน 65 ราย คิดเป็นคา่ เฉลีย่ รอ้ ยละ 65.00 - เอกสาร/ข้อมลู ที่ใช้ประกอบการประชุม ส่วนใหญ่มคี วามเห็นระดบั มาก จา้ นวน 60 ราย คิดเปน็ ค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 60.00 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 63 ราย คิดเป็น ค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 63.00 114
- ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดบั มาก จา้ นวน 68 ราย คดิ เป็นค่าเฉลยี่ รอ้ ยละ 68.00 - สถานทใี่ นการสัมมนา สว่ นใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน จา้ นวน 64 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉล่ียร้อยละ 64.00 - เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานของโครงการ ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จา้ นวน 769 ราย คิดเป็นค่าเฉล่ียร้อยละ 69.00 4) ขอ้ คิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะ - ควรใช้เวลาทา้ ความเขา้ ใจ/แลกเปลีย่ น/รบั ฟงั ความคิดเหน็ มากกว่านี เพ่ือเขา้ ใจและสามารถน้าไปทา้ ความเข้าใจกบั คนในพนื ท่ีเพอื่ เตรียมการมีสว่ นร่วม ครัง้ ที่ 5 ภาคตะวันตก ณ โรงแรมเวสเทิรน์ แกรนด์ จังหวดั ราชบุรี จากการสอบถาม ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการ จ้านวน 99 คน ได้รับแบบประเมินแบบสมบรู ณ์ทังสิน 95 ชุด คิด เป็นร้อยละ 95.96 ผลการประเมินความพึงพอใจท่ีมีต่อโครงการสัมมนาฯ ดงั นี 1) ข้อมูลทั่วไป ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จ้านวน 77 คน คิดเป็นร้อยละ 81.05 รองลงมาเป็นเพศหญิง จ้านวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 81.05 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 52.63 รองลงมามีอายุระหวา่ ง 31 – 40 ปี จ้านวน 26 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 27.37 ตามล้าดบั ส่วน ใหญ่มีอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 83 คน คิดเป็นร้อยละ 83.37 รองลงมา อยู่ในอาชีพอ่ืน เช่น องค์กรอิสระ ข้าราชการบ้านาญ เป็นต้น จ้านวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 5.26 ตามลา้ ดบั 2) ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของการสัมมนาฯ คิดเปน็ คา่ เฉล่ียตวั กลางเลขคณิต ( x ) 3.21 ซ่งึ หมายถึงมี ความคดิ เห็นเกี่ยวกับการบรรลวุ ัตถุประสงคข์ องการสัมมนาฯ ในระดับมาก - ความพงึ พอใจเก่ยี วกับเรือ่ งต่างๆ ของการสมั มนาฯ ภาพรวมผ้เู ข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเก่ียวกับเรื่องต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉลี่ยตัวกลางเลขคณิต (x ) 3.18 ซงึ่ หมายถึงมคี วามเหน็ ตอ่ โครงการสมั มนาฯ ในระดบั มาก แบง่ เป็น - ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มาก จา้ นวน จา้ นวน 66 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉลีย่ ร้อยละ 69.47 - เอกสาร/ข้อมลู ที่ใชป้ ระกอบการประชมุ ส่วนใหญ่มีความเห็นระดบั มาก จ้านวน 54 ราย คิดเป็นคา่ เฉลย่ี ร้อยละ 56.84 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 48 ราย คิดเป็น ค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 50.53 - ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดบั มาก จ้านวน 62 ราย คิดเป็นคา่ เฉลีย่ รอ้ ยละ 65.26 - สถานที่ในการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จา้ นวน จา้ นวน 58 ราย คิดเปน็ ค่าเฉลีย่ รอ้ ยละ 61.05 - เจ้าหนา้ ท่ปี ฏิบัติงานของโครงการ ส่วนใหญ่มคี วามเห็นระดับมากที่สุด จ้านวน 51 ราย คดิ เป็นคา่ เฉล่ียร้อยละ 53.68 4) ข้อคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะ - อยากใหม้ ีสัมมนาแบบนี ไดค้ วามรดู้ ๆี เพราะมปี ระโยชนม์ าก ครั้งที่ 6 ภาคกลาง ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จาก การสอบถามข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการ จ้านวน 81 คน ได้รับแบบประเมินแบบสมบูรณ์ทังสิน 81 ชดุ คิดเปน็ ร้อยละ 100 ผลการประเมินความพงึ พอใจท่มี ีตอ่ โครงการสมั มนาฯ ดงั นี 115
1) ข้อมูลท่ัวไป ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จ้านวน 61 คน คิดเป็นร้อยละ 75.31 รองลงมาเป็นเพศหญิง จ้านวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 24.69 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 48.15 รองลงมามีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี จ้านวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 22.22 และส่วนใหญ่มี อาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 87.65 รองลงมาอยู่ใน อาชีพพนักงานบรษิ ทั จา้ นวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 4.94 ตามล้าดับ 2) ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของการสัมมนาฯ คดิ เปน็ ค่าเฉล่ียตวั กลางเลขคณติ ( x ) 2.66 ซง่ึ หมายถึงมี ความคดิ เหน็ เก่ียวกบั การบรรลวุ ัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ ในระดบั มาก 3) ความพึงพอใจเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของการสัมมนาฯ ภาพรวมผู้เข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเกี่ยวกับเร่ืองต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉล่ียตัวกลางเลขคณิต (x ) 3.12 ซ่งึ หมายถึงมคี วามเห็นต่อโครงการสมั มนาฯ ในระดบั มาก แบง่ เป็น - ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มาก จ้านวน จา้ นวน 42 ราย คิดเปน็ คา่ เฉลี่ยร้อยละ 51.58 - เอกสาร/ข้อมลู ทีใ่ ช้ประกอบการประชุม ส่วนใหญ่มีความเห็นระดบั มาก จ้านวน 38 ราย คดิ เปน็ ค่าเฉล่ยี ร้อยละ 46.91 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 45 ราย คิดเป็น ค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 55.56 - ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดบั มาก จ้านวน 45 ราย คิดเป็นค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 55.56 - สถานทใ่ี นการสัมมนา ส่วนใหญม่ คี วามเหน็ ระดับมากทส่ี ุด จา้ นวน 31 ราย คิดเป็นค่าเฉลีย่ รอ้ ยละ 38.27 - เจ้าหน้าทป่ี ฏบิ ัติงานของโครงการ ส่วนใหญม่ คี วามเหน็ ระดับมากท่ีสุด จา้ นวน 47 ราย คิดเปน็ ค่าเฉล่ียร้อยละ 58.02 4) ขอ้ คิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะ - การจัดสัมมนาครังนีถือว่าจัดได้เป็นอย่างดี ครบถ้วนทุกด้านทังด้าน เนือหาสาระการสมั มนา และสภาพโดยรวมของการสมั มนา เจ้าหนา้ ทผ่ี ู้จัดสัมมนาได้ปฏบิ ัตงิ านดีมาก และประสานงานกบั ผู้เขา้ ร่วมสมั มนาตลอด ครั้งท่ี 7 ภาคตะวันออก ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ จังหวัดระยอง จากการ สอบถามข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการ จ้านวน 124 คน ได้รับแบบประเมินแบบสมบูรณ์ทังสิน 102 ชดุ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 82.26 ผลการประเมนิ ความพึงพอใจทีม่ ตี ่อโครงการสัมมนาฯ ดงั นี 1) ข้อมูลทั่วไป ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จ้านวน 75 คน คิดเป็นร้อยละ 73.53 รองลงมาเป็นเพศหญิง จ้านวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 26.47 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 48.04 รองลงมามีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี จ้านวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 30.39 และส่วนใหญ่มี อาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 80 คน คิดเป็นร้อยละ 78.43 รองลงมาอยู่ใน อาชพี พนักงานบรษิ ัทและเกษตรกร จ้านวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 4.90 เท่ากนั ตามลา้ ดบั 2) ความคิดเห็นเก่ียวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ของการสัมมนาฯ คิดเปน็ ค่าเฉลี่ยตัวกลางเลขคณิต ( x ) 3.19 ซ่ึงหมายถึงมี ความคิดเหน็ เกย่ี วกบั การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคข์ องการสมั มนาฯ ในระดบั มาก 116
3) ความพึงพอใจเก่ียวกับเร่ืองต่างๆ ของการสัมมนาฯ ภาพรวมผู้เข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเก่ียวกับเรื่องต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉลี่ยตัวกลางเลขคณิต (x ) 3.26 ซึง่ หมายถงึ มคี วามเหน็ ตอ่ โครงการสมั มนาฯ ในระดบั มากที่สดุ แบง่ เป็น 4) ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มาก จ้านวน จา้ นวน 43 ราย คดิ เป็นค่าเฉลยี่ ร้อยละ 43.86 - เอกสาร/ข้อมูลท่ีใช้ประกอบการประชุม ส่วนใหญม่ คี วามเห็นระดบั มาก ทสี่ ดุ จ้านวน 45 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉลยี่ รอ้ ยละ 45.90 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 46 ราย คิดเป็น ค่าเฉล่ยี ร้อยละ 46.92 - ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดบั มาก ทส่ี ุด จ้านวน 38 ราย คดิ เปน็ ค่าเฉล่ยี ร้อยละ 38.76 - สถานทใ่ี นการสัมมนา สว่ นใหญม่ ีความเห็นระดบั มากท่สี ุด จ้านวน 31 ราย คดิ เปน็ ค่าเฉล่ียร้อยละ 38.27 - เจา้ หนา้ ทป่ี ฏบิ ัติงานของโครงการ สว่ นใหญ่มีความเห็นระดบั มากที่สุด จ้านวน 48 ราย คิดเปน็ คา่ เฉล่ยี ร้อยละ 48.96 4) ขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะ - ควรด้าเนินการอย่างตอ่ เนอื่ ง - การจัดสัมมนาครังนีเน้นบรรยายให้ความรู้แต่เพียงอย่างเดียว ขาด การเน้นหนักในการมีส่วนร่วมของผู้เก่ียวข้องในการถก เถียงต่อร่างกฏกระทรวงการได้มาขอ ง คณะกรรมการลุ่มน้าในส่วนของรายละเอียดต่างๆ วทิ ยากรมกี ารพูดโดยสรุป ทา้ ใหไ้ มเ่ น้นภาพและ ไมม่ ีการมีสว่ นร่วมอยา่ งแทจ้ รงิ คร้ังที่ 8 ภาคใต้ตอนล่าง ณ โรงแรมหรรษา เจบี จังหวัดสงขลา จากการสอบถาม ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการ จ้านวน 14 คน ได้รับแบบประเมินแบบสมบรู ณ์ทังสิน 97 ชุด คิด เป็นร้อยละ 85.09 ผลการประเมนิ ความพึงพอใจทมี่ ีต่อโครงการสัมมนาฯ ดังนี 1) ข้อมูลทั่วไป ผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จ้านวน 79 คน คิดเป็นร้อยละ 81.44 รองลงมาเป็นเพศหญิง จ้านวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 18.56 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 49 คน คิดเป็นร้อยละ 45.79 รองลงมามีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี จ้านวน 36 คน คิดเป็นร้อยละ 33.64 และส่วนใหญ่มี อาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 82 คน คิดเป็นร้อยละ 84.54 รองลงมาอยู่ใน อาชพี เกษตรกร จา้ นวน 7 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 7.22 ตามล้าดับ 2) ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลวุ ัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ คดิ เป็นคา่ เฉล่ียตัวกลางเลขคณติ ( x ) 3.15 ซ่ึงหมายถึงมี ความคดิ เหน็ เกยี่ วกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ ในระดับมาก 3) ความพึงพอใจเก่ียวกับเรื่องต่างๆ ของการสัมมนาฯ ภาพรวมผู้เข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเกี่ยวกับเร่ืองต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉลี่ยตัวกลางเลขคณิต (x ) 2.89 ซงึ่ หมายถงึ มีความเหน็ ตอ่ โครงการสัมมนาฯ ในระดับมาก แบ่งเป็น - ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มาก จ้านวน จ้านวน 56 ราย คิดเป็นค่าเฉล่ยี ร้อยละ 59.92 - เอกสาร/ข้อมูลท่ีใช้ประกอบการประชุม ส่วนใหญม่ ีความเหน็ ระดับมาก ทสี่ ดุ จ้านวน 56 ราย คดิ เป็นค่าเฉลีย่ ร้อยละ 59.92 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 62 ราย คิดเป็น คา่ เฉลย่ี ร้อยละ 66.34 117
- ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดับมาก ทีส่ ดุ จ้านวน 62 ราย คิดเปน็ คา่ เฉลีย่ รอ้ ยละ 66.34 - สถานทใ่ี นการสมั มนา ส่วนใหญม่ คี วามเหน็ ระดบั มากทส่ี ุด จ้านวน 64 ราย คดิ เปน็ คา่ เฉลี่ยร้อยละ 68.48 - เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานของโครงการ สว่ นใหญ่มีความเห็นระดับมากท่ีสุด จ้านวน 72 ราย คิดเป็นคา่ เฉลี่ยรอ้ ยละ 77.04 4) ข้อคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะ - เป็นประโยชน์แก่ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการ ร่วมกันเพื่อขับเคล่ือนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และมีความรู้ความเข้าใจ พรบ.ทรัพยากรนา้ พ.ศ. 2561 มากยิง่ ขนึ คร้งั ท่ี 9 ภาคใต้ตอนบน ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จงั หวัดสรุ าษฏรธ์ านี จากการ สอบถามข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการ จ้านวน 109 คน ได้รับแบบประเมินแบบสมบูรณ์ทังสิน 107 ชดุ คดิ เปน็ ร้อยละ 98.17 ผลการประเมินความพึงพอใจทีม่ ตี อ่ โครงการสมั มนาฯ ดงั นี 1) ขอ้ มลู ทว่ั ไป ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการสมั มนาฯ สว่ นใหญ่เปน็ เพศชาย จา้ นวน 93 คน คิดเป็นร้อยละ 86.92 รองลงมาเป็นเพศหญิง จ้านวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 13.08 ตามล้าดับ และส่วนใหญ่ช่วงอายุระหว่าง 51 ปีขึนไป จ้านวน 58 คน คิดเป็นร้อยละ 54.21 รองลงมามีอายุระหว่าง 41 – 50 ปี จ้านวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 17.76 และส่วนใหญ่มี อาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ จ้านวน 81 คน คิดเป็นร้อยละ 75.70 รองลงมาอยู่ใน อาชีพเกษตรกร จ้านวน 16 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 14.95 ตามล้าดับ 2) ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบรรลุวัตถุประสงค์ของการสัมมนาฯ มีระดับ การบรรลุวัตถปุ ระสงค์ของการสัมมนาฯ คิดเป็นค่าเฉล่ียตวั กลางเลขคณิต ( x ) 3.29 ซึง่ หมายถึงมี ความคิดเห็นเก่ยี วกบั การบรรลวุ ัตถุประสงค์ของการสมั มนาฯ ในระดับมากทีส่ ดุ 3) ความพึงพอใจเก่ียวกับเรื่องต่างๆ ของการสัมมนาฯ ภาพรวมผู้เข้าร่วม สัมมนาฯมีระดับความเห็นเกี่ยวกับเร่ืองต่างๆของการจัดประชุมฯคิดเป็นค่าเฉล่ียตัวกลางเลขคณิต (x ) 2.89 ซ่ึงหมายถึงมคี วามเห็นต่อโครงการสัมมนาฯ ในระดับมาก แบง่ เป็น - ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับ มาก จา้ นวน จ้านวน 51 ราย คิดเป็นคา่ เฉลี่ยรอ้ ยละ 47.66 - เอกสาร/ขอ้ มูลท่ใี ชป้ ระกอบการประชมุ ส่วนใหญ่มคี วามเห็นระดบั มาก ทสี่ ุด จ้านวน 40 ราย คิดเป็นค่าเฉลี่ยรอ้ ยละ 37.38 - วิทยากร ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมาก จ้านวน 55 ราย คิดเป็น ค่าเฉล่ียรอ้ ยละ 51.40 - ประโยชน์ของเนือหาสาระต่อการปฏิบัติงาน ส่วนใหญ่มีความเห็น ระดบั มาก ท่สี ุด จา้ นวน 0 ราย คดิ เปน็ ค่าเฉลย่ี ร้อยละ 37.38 - สถานที่ในการสัมมนา ส่วนใหญ่มีความเห็นระดับมากที่สุด จ้านวน 52 ราย คดิ เป็นคา่ เฉลยี่ ร้อยละ 48.60 - เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานของโครงการ ส่วนใหญม่ ีความเห็นระดบั มากท่ีสุด จา้ นวน 52 ราย คดิ เป็นค่าเฉลีย่ ร้อยละ 48.60 4) ข้อคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะ - ควรใช้เวลา 2-3 วัน เพราะเก่ียวข้องกับบทบาทและหน้าท่ีของหลาย หน่วยงาน และเวลาท่ีใช้ในการรับฟังการสร้างการับรู้นอ้ ยเกินไปเนื่องจากความรู้ความเข้าใจแตล่ ะ คนไมเ่ ทา่ กนั และเวลาในการแลกเปลยี่ นเรียนร้นู ้อยเกนิ ไปทา้ ใหค้ วามเขา้ ใจไม่ชัดเจน 118
3. การอภิปรายเพ่ือตอบข้อซักถามท้าความเข้าใจ พร้อมทังรับฟังความคิดเห็นและ ข้อเสนอแนะ ในหัวข้อ “บรบิ ทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศไทย” ในการสมั มนา เร่ือง บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้าพ.ศ. 2561 ในพืนท่ี 6 ภูมิภาค จ้านวน 9 ครัง สามารถนา้ มาประมวลและสรปุ ผล ดงั นี 3.1 ประมวลผลการอภิปรายเพื่อตอบข้อซักถามท้าความเข้าใจ พร้อมทังรับฟังความ คิดเห็นและข้อเสนอแนะ ในหัวข้อ “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศไทย” ผู้เข้าร่วมการสัมมนาได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเป็นค้าถามและข้อเสนอแนะส่วนใหญ่มา จากภาคประชาชน ซ่ึงสะท้อนได้ว่า ภาคประชาชนให้ความส้าคัญต่อแผนแม่บทการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้าพ.ศ. 2561 เป็นอย่างมาก อาทิเช่น 1) แผนแม่บทฯ ด้านท่ี 3 การจัดการน้าท่วมและอุทกภัย มีปัญหาน้าตืนเขินจะด้าเนินการขุดลอก หรือมีการบูรณาการอย่างไร 2) มาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ. ทรัพยากรน้า พ.ศ.2561 การใช้น้า ประเภทที่ 1 ไมต่ อ้ งขอรับใบอนุญาต และไม่ต้องช้าระค่าใชน้ ้า แตก่ ารใชน้ ้าบาดาลตอ้ งขออนุญาต และมคี ่าใช้น้าซง่ึ เห็นวา่ ไม่มีความเป็นธรรม 3) องค์กรผู้ใชน้ า้ ซงึ่ เคยมีการรวมตวั เปน็ สมาคมอยู่แล้ว ถา้ จะขอจดั ตงั เปน็ องคก์ รผู้ใช้น้าจะตอ้ งตงั เป็นสมาคมใหม่หรือไม่ เป็นตน้ 3.2 ภาพรวมที่มีต่อร่างกฎหมายล้าดับรองฯ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมการสัมมนาได้ให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างกว้างขวางในประเด็นร่าง กฎกระทรวงการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้าผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรรมการลุ่มน้า ผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้าและกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงการก่อตัง องค์กรผู้ใช้น้า พ.ศ. ...... 119
ภาคผนวก o ประมวลภาพโครงการสัมมนาฯ o ขา่ วประชาสมั พนั ธโ์ ครงการสัมมนาฯ o รายละเอียดโครงการสัมมนาฯ
o ประมวลภาพโครงการสัมมนาฯ
ประมวลภาพโครงการสัมมนา เร่ือง บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติ ทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ในพนื ที่ 6 ภมู ภิ าค จ้านวน 9 ครงั ท่วั ประเทศ ครังท่ี 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในวันที่ 3 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์ โฮเทล จังหวดั อดุ รธานี นายสมเกยี รติ ประจา้ วงษ์ นายสราวุธ ชวี ะประเสริฐ เลขาธกิ ารสา้ นกั งานทรัพยากรน้าแห่งชาติ ผอู้ ้านายการกองนโยบายและแผนแม่บท เปน็ ประธานในพิธีเปดิ สัมมนา กลา่ วรายงานการสัมมนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายสราวธุ ชีวะประเสริฐ นายสราวธุ ชีวะประเสรฐิ และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หัวขอ้ “พระราชบญั ญัติ การบรรยาย หัวข้อ “(รา่ ง) แผนแมบ่ ท ทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรนา้ 20 ปี การอภิปราย หวั ข้อ “บรบิ ทใหม่การบรหิ าร กฎหมายลา้ ดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จัดการทรพั ยากรน้าของประเทศไทย” การขบั เคลื่อน”
ครังท่ี 2 ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในวันที่ 5 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมสนุ ยี ์ แกรนด์ จังหวดั อุบลราชธานี นายอทุ ยั เตียนพลกรัง นางสาวฉวี วงศประสทิ ธิพร ผอู้ า้ นวยการศูนย์อ้านวยการน้าแห่งชาติ เลขานุการคณะกรรมการลุม่ นา้ โขง เปน็ ประธานในพธิ ีเปดิ สมั มนา กล่าวรายงานการสัมมนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายดุลยฤทธิ์ หอมนาน นายดุลยฤทธ์ิ หอมนาน และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หวั ขอ้ “พระราชบัญญตั ิ การบรรยาย หัวข้อ “(รา่ ง) แผนแม่บท ทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนา้ 20 ปี การอภิปราย หัวขอ้ “บรบิ ทใหม่การบรหิ าร กฎหมายล้าดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จดั การทรัพยากรน้าของประเทศไทย” การขบั เคลอื่ น”
ครังท่ี 3 ภาคเหนือตอนบน ในวันท่ี 10 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมเมอร์เคียว จังหวดั เชยี งใหม่ นายปรีชา สุขกล้า่ นายอัตถพงษ์ ฉนั ทานุมัติ ทป่ี รกึ ษาดา้ นบรหิ ารจัดการทรัพยากรนา้ เลขานุการคณะกรรมการลมุ่ น้าปงิ วัง สาละวิน เป็นประธานในพธิ เี ปิดสมั มนา กล่าวรายงานการสัมมนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายดุลยฤทธ์ิ หอมนาน นายดุลยฤทธ์ิ หอมนาน และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หัวขอ้ “พระราชบัญญัติ การบรรยาย หวั ขอ้ “(รา่ ง) แผนแมบ่ ท ทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรน้า 20 ปี การอภิปราย หัวขอ้ “บรบิ ทใหม่การบรหิ าร กฎหมายลา้ ดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จัดการทรัพยากรน้าของประเทศไทย” การขับเคลือ่ น”
ครังท่ี 4 ภาคเหนือตอนล่าง ในวันท่ี 12 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมเรือนแพ รอยัล พาร์ค จงั หวัดพิษณุโลก ว่าที่ร้อยตรสี มชัย แตงไทย นายดลุ ยฤทธิ์ หอมนาน เลขานกุ ารคณะกรรมการลมุ่ นา้ ยม น่าน ผ้อู า้ นวยการกลุ่มนโยบายและแผนแมบ่ ท เปน็ ประธานในพิธีเปดิ สัมมนา กลา่ วรายงานการสมั มนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายดลุ ยฤทธิ์ หอมนาน นายดุลยฤทธ์ิ หอมนาน และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หวั ข้อ “พระราชบัญญตั ิ การบรรยาย หวั ขอ้ “(ร่าง) แผนแม่บท ทรพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจัดการทรัพยากรนา้ 20 ปี การอภิปราย หวั ข้อ “บรบิ ทใหม่การบรหิ าร กฎหมายลา้ ดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จัดการทรัพยากรน้าของประเทศไทย” การขับเคล่อื น”
ครังที่ 5 ภาคตะวนั ตก ในวันท่ี 23 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมเวสเทิร์นแกรนด์ จังหวดั ราชบุรี นายสา้ เริง แสงภู่วงค์ นางพัชรวีร์ สวุ รรณิก รองเลขาธกิ ารส้านกั งานทรพั ยากรน้าแหง่ ชาติ เลขานกุ ารคณะกรรมการลุ่มนา้ แมก่ ลอง ลุ่มนา้ เพชรบรุ ี เป็นประธานในพิธีเปิดสมั มนา และลุ่มนา้ ชายฝง่ั ทะเลตะวนั ตก (ประจวบคีรีขนั ธ์) กลา่ วรายงานการสมั มนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายชนาวชั ร อรุณรัตน์ นายชนาวัชร อรุณรัตน์ และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หัวขอ้ “พระราชบัญญัติ การบรรยาย หัวข้อ “(ร่าง) แผนแมบ่ ท ทรพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจดั การทรัพยากรนา้ 20 ปี การอภปิ ราย หวั ขอ้ “บรบิ ทใหม่การบรหิ าร กฎหมายลา้ ดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จัดการทรัพยากรนา้ ของประเทศไทย” การขบั เคลื่อน”
ครังที่ 6 ภาคกลาง ในวันที่ 25 ก.ค. 2562ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา นายปรชี า สุขกลา่้ นายธวัขชยั ใบเจรญิ ทีป่ รกึ ษาด้านบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนา้ เลขานุการคณะกรรมการลุม่ น้าเจ้าพระยา ลุ่มนา้ ปา่ สัก เปน็ ประธานในพธิ ีเปดิ สัมมนา ลมุ่ น้าสะแกกรัง และลมุ่ นา้ ท่าจนี กล่าวรายงานการสมั มนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายชนาวชั ร อรณุ รัตน์ นายชนาวัชร อรุณรตั น์ และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หวั ขอ้ “พระราชบัญญตั ิ การบรรยาย หัวข้อ “(รา่ ง) แผนแมบ่ ท ทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจดั การทรัพยากรนา้ 20 ปี การอภิปราย หัวขอ้ “บรบิ ทใหมก่ ารบรหิ าร กฎหมายล้าดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จดั การทรพั ยากรน้าของประเทศไทย” การขับเคล่อื น”
ครังท่ี 7 ภาคตะวันออก ในวันท่ี 31 ก.ค. 2562 ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ จังหวัด ระยอง นายประดบั กลดั เขม็ เพชร นายจรัล เทพอวยพร ผู้ช่วยเลขาธกิ ารส้านักงานทรพั ยากรนา้ แห่งชาติ เลขานกุ ารคณะกรรมการลมุ่ นา้ ชายฝั่งทะเลตะวันออก เป็นประธานในพิธเี ปิดสัมมนา ลมุ่ น้าบางปะกง ลุ่มน้าปราจีนบรุ ี และลมุ่ น้าโตนเลสาป กลา่ วรายงานการสมั มนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายชนาวชั ร อรณุ รัตน์ นายชนาวชั ร อรุณรัตน์ และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หัวข้อ “พระราชบญั ญัติ การบรรยาย หวั ขอ้ “(ร่าง) แผนแม่บท ทรัพยากรนา้ พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจัดการทรัพยากรนา้ 20 ปี การอภิปราย หัวข้อ “บรบิ ทใหมก่ ารบรหิ าร กฎหมายลา้ ดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จดั การทรพั ยากรน้าของประเทศไทย” การขบั เคลื่อน”
ครังท่ี 8 ภาคใต้ตอนลา่ ง ในวนั ท่ี 2 ส.ค. 2562 ณ โรงแรมหรรษา เจบี จงั หวดั สงขลา นายสา้ เรงิ แสงภูว่ งค์ นางสาวยพุ เยาว์ จนั ทร์เทศ รองเลขาธกิ ารสา้ นกั งานทรพั ยากรนา้ แหง่ ชาติ ผู้อ้านวยการสา้ นักงานคณะกรรมการทรพั ยากรนา้ แห่งชาติ เปน็ ประธานในพธิ ีเปดิ สมั มนา กลา่ วรายงานการสัมมนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายชนาวัชร อรณุ รตั น์ นายชนาวัชร อรุณรัตน์ และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หัวขอ้ “พระราชบญั ญตั ิ การบรรยาย หัวขอ้ “(ร่าง) แผนแมบ่ ท ทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจดั การทรัพยากรน้า 20 ปี การอภปิ ราย หวั ขอ้ “บรบิ ทใหม่การบรหิ าร กฎหมายล้าดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จดั การทรัพยากรน้าของประเทศไทย” การขับเคล่อื น”
ครังท่ี 9 ภาคใต้ตอนบน ในวันที่ 5 ส.ค. 2562 ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จังหวัด สรุ าษฏรธ์ านี นายส้าเริง แสงภู่วงค์ นางสาวยพุ เยาว์ จนั ทรเ์ ทศ รองเลขาธิการส้านกั งานทรัพยากรนา้ แหง่ ชาติ ผอู้ ้านวยการส้านกั งานคณะกรรมการทรัพยากรนา้ แหง่ ชาติ เปน็ ประธานในพิธเี ปิดสมั มนา กล่าวรายงานการสัมมนา ผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ นายชนาวัชร อรุณรตั น์ นายชนาวัชร อรณุ รัตน์ และผศ.อิทธิพล ศรีเสาวลักษณ์ การบรรยาย หัวข้อ “พระราชบญั ญัติ การบรรยาย หวั ข้อ “(รา่ ง) แผนแมบ่ ท ทรพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 และ การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนา้ 20 ปี การอภปิ ราย หัวขอ้ “บรบิ ทใหม่การบรหิ าร กฎหมายลา้ ดบั รอง” (พ.ศ. 2561 - 2580) และแนวทาง จดั การทรพั ยากรน้าของประเทศไทย” การขบั เคลอ่ื น”
o ขา่ วประชาสมั พนั ธ์โครงการสมั มนาฯ
(http://thainews.prd.go.th/th/home) สทนช. จัดสัมมนาสรา งความเขาใจบริบทใหมบ รหิ ารจดั การน้าํ เวทีแรกที่ จ.อุดรธานี ครอบคลมุ พน้ื ท่ี 10 จงั หวดั ภาคอสี านตอนบน (http://thainews.prd.go.th/uploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/2bbda67f65101cacb5aa1c3d78cc4233_small.jpg) (http://thainews.prd.go.th/uploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/282d38fc06fcfd8b84302c09c3d0c176_small.jpg) (http://thainews.prd.go.th/uploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/a7cf747dd4e4361cec3c3f53 (http://thainews.prd.go.th/uploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/27d61260245f6d487(ah3t5tp56:/6/tdh6a5infee2w9se.5p_rdsm.goa.ltlh.jp/ugp) loads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/e2b9006ac49fb5106e1f93d6
(http://thainews.prd.go.th/uploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/6a2ea00d5d16f25119(h5t5tpfb:/8/4th0bai3n4eawf8s0.p_rsdm.gaol.lt.hjp/gu)ploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/58b0b91b585e1a393a5938b (http://thainews.prd.go.th/uploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/0188edd1f172b8549cc116f4 (http://thainews.prd.go.th/uploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/1495de7764f6e4515ee6531a2230d8ea_small.jpg) (http://thainews.prd.go.th/uploads/uploads_old/transcode/image/2562/7/3/24f97714cbd66c52c910abd 03 ก.ค. 2562 | เขา ชม : 250 (//line.me/R/msg/text/?สทนช. จัดสัมมนาสรางความเขาใจบรบิ ทใหมบรหิ ารจดั การนํา้ เวทแี รกที่ จ.อุดรธานี ... ขอ มูลขา วและท่มี า: http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG190703160307862) นายสมเกยี รติ ประจาํ วงษ เลขาธกิ ารสํานกั งานทรัพยากรนาํ้ แหงชาต ิ (สทนช.) กลาวเปด การสมั มนาเรอื่ ง “บริบทใหมการบรหิ าร จัดการทรพั ยากรนา้ํ ภายใตแผนแมบทการบรหิ ารจัดการทรัพยากรนา้ํ 20 ป และพระราชบญั ญตั ทิ รัพยากรน้ํา พ.ศ. 2561” ณ โรงแรม ประจกั ษต รา ดไี ซน โฮเทล อาํ เภอเมือง จงั หวัดอดุ รธานี โดยมนี ายสิธชิ ยั จนิ ดาหลวง รองผวู าราชการจังหวัดอุดรธาน ี กลา วตอ นรบั คณะ ผเู ขา รวมสมั มนาท่มี าจากหนวยงานท่เี กย่ี วของ อาทิ กรมชลประทาน กรมทรพั ยากรนํ้า สาํ นกั งานปองกนั และบรรเทาสาธารณภัย องคกร ปกครองสวนทองถิน่ เปน ตน เพอื่ สรา งการรับรกู ารบริหารจัดการทรัพยากรน้ําภายใตแ ผนแมบทการบรหิ ารจดั การทรัพยากร นาํ้ 20 ป (พ.ศ.2561-2580) ทสี่ อดคลอ งกับยุทธศาสตรช าติ และรางกฎหมายลําดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ํา พ.ศ. 2561 ให กับภาคสว นทเ่ี กย่ี วของในพื้นทล่ี มุ นาํ้ รับทราบ อันจะนําไปสกู ารขับเคลือ่ นใหเ กดิ ผลเปน รูปธรรมและมีประสิทธิภาพในการบรหิ ารจดั การ ทรัพยากรน้าํ ในเขตพื้นท่ลี มุ นา้ํ ตอ ไป เลขาธิการสํานกั งานทรัพยากรนํ้าแหงชาติ กลา ววา การจัดสมั มนาครัง้ น ี้ เปน 1 ใน 9 ครั้ง ที่จดั ขึ้นในสวนภูมภิ าคทว่ั ประเทศ เริ่ม ตนคร้งั แรกในพนื้ ทอี่ ีสานเหนอื ครอบคลุมพ้นื ทีจ่ งั หวดั อุดรธานี ขอนแกน เลย หนองบัวลาํ ภ ู ชยั ภูมิ หนองคาย นครพนม บึงกาฬ สกลนคร กาฬสนิ ธุ ครัง้ ท่ ี 2 พืน้ ทอ่ี สี านใต ครั้งท่ ี 3 พนื้ ทีภ่ าค เหนอื ตอนบน คร้ังที่ 4 พืน้ ทภี่ าคเหนือตอนลา ง คร้งั ท ่ี 5 ภาคตะวนั ตก ครง้ั ท่ี 6 พน้ื ที่ภาคกลาง ครัง้ ที ่ 7 พ้ืนทภ่ี าคตะวันออก ครัง้ ท่ี 8 พ้นื ที่ภาคใตตอนบน และครัง้ สดุ ทา ย ครัง้ ท่ี 9 ในพน้ื ท่ภี าคใตตอนลา ง เพ่อื สรางความเขา ใจบรบิ ทใหมใ นการบริหารจัดการทรพั ยากร ้ ้้
น้าํ ของประเทศดวย 4 เสาหลกั คือ 1.แผนแมบ ทการบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้ํา 2.องคก รกลาง ไดแก คณะกรรมการทรพั ยากรน้ําแหง ชาต ิ (กนช.) สทนช. กรรมการลมุ นาํ้ 3.พระราชบญั ญตั ิทรัพยากรนาํ้ พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองคค วามร ู นวัตกรรม และเทคโนโลยี ทีจ่ ะขับเคลือ่ นแผนแมบทใหไปสูเปา หมายตามวสิ ยั ทศั นทีก่ าํ หนดไว ทง้ั นี้ ยังมีการบรรยายสรางความรคู วามเขา ใจในแนวทางการคดั เลือกกรรมการผแู ทนคณะกรรมการลุมนํา้ ในคณะกรรมการ ทรพั ยากรน้ําแหงชาติ หลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารไดมาซ่ึงกรรมการลมุ นา้ํ ผูแทนองคกรปกครองสว นทองถิ่น กรรมการผแู ทนองคก รผใู ช นา้ํ และกรรมการลุมนํ้าผูทรงคุณวฒุ ิ หลกั เกณฑแ ละวิธีการพนจากตาํ แหนงของกรรมการผแู ทนองคก รผูใชนา้ํ และกรรมการลมุ น้ําผทู รง คุณวฒุ ิ รวมท้งั การกาํ หนดวตั ถุประสงค อํานาจ หนา ท่ ี และการดําเนินงานขององคกรผูใ ชนํ้า ตลอดจนหลกั เกณฑ ข้ันตอน และวธิ ีการกอ ตง้ั องคก รผใู ชนํา้ ดว ย ซ่งึ จะทําใหผูร ว มสัมมนามคี วามรคู วามเขาใจในบรบิ ทใหมข องการบริหารจัดการทรัพยากรนาํ้ อนั จะนาํ ไปสกู ารขับ เคลื่อนการบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้ําในแตละลุม นํา้ ทง้ั 22 ลุมนํา้ หลกั ทว่ั ประเทศ เพอ่ื ใหเ กิดผลเปนรปู ธรรมและมีประสทิ ธิภาพสูงสุด # บริหารจัดการนา้ํ #สํานกั ขาวกรมประชาสัมพันธ #NNT #ILOVETHAILAND ขอมลู ขาวและทีม่ า ผสู อื่ ขา ว : ฉัตรชยั เคนสุวรรณ ผเู รียบเรยี ง : ธญั ญารตั น ธีรหิรญั วฒั น แหลง ทม่ี า : สวท.อุดรธานี ขา่ วยอดนิยม โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม จดั กจิ กรรมเดนิ -วิง่ มหากุศลมหดิ ล 62 นํารายไดช ว ยเหลอื ผูป ว ยในพระบรมราชานเุ คราะหแ ละผูปว ยยากไร 22 ก.ย. 2562 (http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG190922093715176) วงิ่ พักตบั จงั หวัดสตูล สขุ ภาพดี...ชีวิตเปล่ียนได 22 ก.ย. 2562 (http://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG190922093809177) ข่าวท่เี ก่ยี วขอ้ ง
September 25, 2019 Search Home Business อสงั หารมิ ทรัพย์ การเงนิ - ตลาดทุน เศรษฐกจิ มหภาค Columnist Politics World Headline Tech ยาน P 100.57 +0.12 +0.12% FASHION 648.19 +2.61 +0.40% HOME 24.49 -0.04 -0.16% PERSON 257.73 -1.13 -0.44% FIN หน้าแรก / เศรษฐกจิ มหภาค / ตดิ ดาบบอรด์ ลุ่มนํา...พระเอกใหมแ่ ก้แล้ง-นาํ ท่วม มติเอกฉันท!์ คงดอกเบีย จคี าํ ตอบ 1.5 % ยกระดบั ชุ ติดดาบบอร์ดลุ่มนาํ ...พระเอกใหม่แก้แล้ง-นําท่วม อ่าน 790 ครัง เปดกรุสมบตั ิ \"นาที รชั กจิ สนิ “ปยะ ประการ\" แบรนดเ์ นมหร-ู … ส.ส.เพชรบ 12 Aug 2019 18 สถานการณ์นาํ แล้ง-นําท่วมแต่ละพื นทีแต่ละปยังเอาแน่เอาแน่เอานอนไม่ได้เนืองจากเปนปรากฎการณ์ทาง ธรรมชาติ ดังนัน โครงสร้างองค์กรบริหารจัดการนาํ ของประเทศจึงมีบทบาทสาํ คัญ ทังนี ไม่ได้มีเพี ยงชันบน สุดอย่างคณะกรรมการทรัพยากรนาํ แห่งชาติ (กนช.) ทีมีนายกรัฐมนตรีเปนประธาน และมีสํานักงานทรัพยากร นาํ แห่งชาติ (สทนช.) เปนฝายเลขานุการแต่เพี ยงเท่านัน
ยังมีอีก 2 หน่วยงาน ได้แก่ ลุ่มนาํ และคณะกรรมการลุ่มนํา และองค์กรผู้ใช้นํา ระดับบนสุด อย่าง กนช. มีมาก่อนแล้ว ส่วน สทนช. เพิ งจัดตังเมือป 2560 ทาํ หน้าทีเลขานุการ กนช. แทนกรมทรัพยากร นํา และมี พ.ร.บ.ทรัพยากรนํา 2561 มีผลบังคับใช้เมือวันที 27 มกราคม 2562 เปนเครืองมือในการบริหาร คณะกรรมการลุ่มนาํ ทีมีผู้แทนกรมทรัพยากรนาํ เปนเลขานุการก็มีมาก่อนแล้วเช่นกัน แต่ไม่มี บทบาทเปนทีประจักษ์ รับรู้แค่เปนคณะกรรมการลุ่มนาํ เท่านันแต่พ.ร.บ.ทรัพยากรนํา พ.ศ.2561 ติดดาบให้คณะ กรรมการลุ่มนาํ อย่างชัดเจน มีหน้าทีและอํานาจในการบริหารจัดการนําในเขตลุ่มนํา แล้วยังมีอาํ นาจหน้าทีอีก 11 ประการ อาทิ จัดทาํ แผนแม่บทการใช้ การพั ฒนา การบริหารจัดการ การบํารุงรักษา การฟนฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรนําใน ลดภาษเี ครอื งดืมนวัตกรรม 'สิงคโปร์'ข เขต 22 ลุ่มนําเสนอ กนช.ให้ความเห็นชอบ จัดทาํ แผนปองกันและแก้ไขภาวะนําแล้ง และแผนปองกันและแก้ไข ภาวะนําท่วมเสนอ กนช. ให้ความเห็นชอบ พิ จารณาปริมาณการใช้นาํ การจัดสรรนาํ และจัดลําดับความ เพือสขุ ภาพ สหรฐั ฯอยู สาํ คัญในการใช้นําในเขตลุ่มนําและควบคุมการใช้นําตามกรอบ หลักเกณฑ์ และแนวทางที กนช. กาํ หนด กรมพัฒน์ออก 4 มาตรการ โตข้ ่าวมวั ! เอากันแค่เบาะๆไม่กีประการก็จะเห็นถึงโฉมหน้าและบทบาทใหม่ของคณะกรรมการลุ่มนาํ ชว่ ยภาคธุรกจิ นําทว่ มอสี าน เวยี ดนาม สรุปอีกที คณะกรรมการลุ่มนําคือพระเอกในแต่ละเขตลุ่มนาํ พระเอกเปนทีมนี ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเปนประธาน กรรมการประกอบด้วยส่วน ราชการเกียวข้อง อาทิ ตัวแทนกรมควบคุมมลพิ ษ กรมเจ้าท่า กรมชลประทาน กรมทรัพยากรนาํ กรม ทรัพยากรนําบาดาล กรมทีดิน กรมประมง กรมปองกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมปาไม้ กรมพั ฒนาทีดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปาและพั นธ์ุพื ช เปนต้น แล้วยังมีตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถินในเขตลุ่มนาํ จังหวัดละ 1 คน ผู้แทนองค์กรผู้ใช้นําจากภาค เกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคพาณิชยกรรม ภาคละ 3 คน ผู้ทรงคุณวุฒิทีมีความรู้และมี ประสบการณ์เกียวกับนาํ 4 คนโดยมีตัวแทนสาํ นักงานทรัพยากรนาํ แห่งชาติภาคใน สทนช. เปนกรรมการและ เลขานุการของคณะกรรมการลุ่มนํา เพื อส่งไม้ต่อไปยัง สทนช. ส่วนกลาง กลันกรองเข้าสู่ กนช. อีกที โครงสร้างและบทบาทใหม่ของคณะกรรมการลุ่มนาํ เท่ากับเปนการกระจายอํานาจการจัดการนาํ เปนรูปธรรม มากขึน เพราะสามารถจัดทําและเสนอแผนขึนไปสู่องค์กรบริหารจัดการนําส่วนบนสุดของประเทศได้ ดร.สมเกียรติ ประจาํ วงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า คณะกรรมการลุ่มนํามีบทบาททีสําคัญ ในการขับเคลือนแผนการบริหารจัดการนําในระดับลุ่มนําขณะนีอยู่ระหว่างร่างกฎหมายลูกออกมา เพื อเลือก คณะกรรมการลุ่มนําชุดใหม่ทาํ งานภายใต้บริบทใหม่ นอกจากนียังมีองค์กรผู้ใช้นํา ซึงเปนหน่วยทีใกล้ชิดได้ประโยชน์จากนาํ โดยตรง รวมกลุ่ม บริหารจัดการนําในพื นทีเชือมต่อกับกรรมการลุ่มนํา องค์กรผู้ใช้นําเหล่านี อาจจัดตังและขึนทะเบียนการใช้นํา จากแหล่งนําของหน่วยงานต่างๆ ซึงท้ายสุดต้องขึนทะเบียนกับ สทนช.ทังหมด ทังนีจะเห็นได้ว่า องค์กรบริหารจัดการนาํ ของประเทศ ตังแต่ระดับบนสุด ระดับลุ่มนาํ และระดับ ผู้ใช้นํา มีการกาํ หนดอํานาจและหน้าทีชัดเจน เปนลักษณะการบริหารควบคู่สองทาง ทังจากบนลงล่าง และ เสนอจากล่างขึนบน เพื อขับเคลือนการบริหารจัดการนาํ ของประเทศเปนไปในทิศทางเดียวกันอย่างมี ประสิทธิภาพ
“เพื อให้ภาคส่วนต่างๆ ในเขตลุ่มนําได้รับรู้สิงเหล่านี สทนช. จึงจัดสัมมนาบริบทใหม่การบริหารจัดการนาํ ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรนาํ 20 ป และพ.ร.บ.ทรัพยากรนํา พ.ศ. 2561 ซึงประเดิมจัดแห่งแรกไปแล้วในจ.อุดรธานี และทะยอยจัดขึนจังหวัดอืน จนครบจาํ นวน 9 ครัง ครอบคลุมทุกลุ่มนํา” ทังนี ผลจากการระดมสมองจะนาํ ไปใช้จัดทาํ แผนบริหารจัดการนําของคณะกรรมการลุ่มนาํ สําหรับ ปงบประมาณ 2564 ทีจัดทาํ ล่วงหน้าควบคู่ไปด้วยการขับเคลือนแผนแม่บทการบริหารจัดการนาํ ของประเทศ ในทางปฏิบัติ ทวีความเข้มข้นขึนเปนลาํ ดับ ฉายภาพและทิศทางชัดขึนอย่างทีไม่เคยมีมาก่อน โฆษณา AirAsia Big Sale 6ลา้ นทนี งั ราคาสมาชกิ BIG เรมิ ตน้ 0 บาท จองดว่ นถงึ 26 ก.ย. 62 นเี ทา่ นัน AirAsia จองเลย
สทนช. รุกลงพนื้ ท่ี 9 ครงั้ ทวั่ ประเทศ สร้างความเขา้ ใจบริบทใหมบ่ รหิ ารจัดการน้า สทนช.เดินสายสร้างความรู้ความเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการ ทรัพยากรนา้ 20 ปี และพระราชบญั ญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ทวั่ ประเทศ ประเดิมครัง้ แรกพน้ื ทีอ่ สี านเหนอื ม่นั ใจจะนา้ ไปสู่ การขบั เคล่ือนการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนา้ ให้เกิดผลเปน็ รูปธรรม วนั นี้ (3 กรกฎาคม 2562) ที่โรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์ โฮเทล อาเภอเมือง จงั หวัดอุดรธานี สานักงานทรัพยากรน้าแห่งชาติ (สทนช.) จัดสัมมนา เรื่อง “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561” นายสมเกียรติ ประจ้าวงษ์ เลขาธิการส้านักงานทรัพยากรน้าแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า การจัดสัมมนาคร้ังนี้ เป็น 1 ใน 9 คร้ัง ที่ สทนช. จัดข้ึนในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ เพ่ือสรา้ งการรับรู้การบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการ บรหิ ารจดั การทรพั ยากรน้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ทส่ี อดคล้องกับยุทธศาสตรช์ าติ และรา่ งกฎหมายลาดบั รองตามพระราชบัญญัติ ทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกจิ คณะกรรมการล่มุ น้า และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพ้ืนทล่ี ุ่มน้ารับทราบ อันจะนาไปสกู่ ารขับเคลอื่ นให้เกดิ ผลเปน็ รปู ธรรมและมปี ระสทิ ธิภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรนา้ ในเขตพ้ืนทีล่ ุ่มน้าต่อไป “บริบทใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศน้ัน จะประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บทการบริหาร จัดการทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ (กนช.) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบัญญัติ ทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่จะขับเคลื่อนแผนแม่บทให้ไปสู่เป้าหมายตาม วสิ ัยทัศน์ท่ีกา้ หนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เก่ียวกับบริบทการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศของ คณะกรรมการลุ่มน้าทั่วประเทศ เนื่องจากตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ที่จัดท้า แผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ (กนช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้าในพื้นที่ให้มี ประสทิ ธภิ าพต่อไป\" เลขาธกิ าร สทนช. กล่าว ทง้ั น้ี การจดั สัมมนาในคร้งั นี้ นอกจากจะมกี ารบรรยายเร่ือง 4 เสาหลักในการบริหารจัดการน้าของประเทศไทยแล้ว ยงั จะมี การบรรยายสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้า แห่งชาติ หลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซ่ึงกรรมการลุ่มน้า ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้า และ กรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ หลักเกณฑ์และวิธีการพ้นจากตาแหน่งของกรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้า และกรรมการลุ่มน้า ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งการกาหนดวัตถุประสงค์ อานาจ หน้าที่ และการดาเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ข้ันตอน และวิธีการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้าด้วย ซ่ึงจะทาให้ผู้ร่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า อันจะนาไปสู่การขับเคล่ือนการบริหารจัดการทรัพยากรน้าในแต่ละลุ่มน้าทั้ง 22 ลุ่มน้าหลักทั่วประเทศ เพื่อให้ เกิดผลเป็นรูปธรรม และมปี ระสทิ ธิภาพสงู สดุ
สาหรับการจัดสัมมนาทั้ง 9 คร้ังท่ัวประเทศน้ัน เริ่มต้นคร้ังแรกในพื้นที่อีสานเหนือ ครอบคลุมพ้ืนท่ีจังหวัดอุดรธานี ขอนแก่น เลย หนองบัวลาภู ชัยภูมิ หนองคาย นครพนม บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธ์ุ ครั้งที่ 2 พื้นที่อีสานใต้ ท่ีจังหวัดอุบลราชธานี วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2562 ครอบคลมุ พื้นท่ีจงั หวัดอุบลราชธานี มหาสารคาม ร้อยเอด็ สุรนิ ทร์ นครราชสีมา บุรรี มั ย์ ศรีสะเกษ ยโสธร อานาจเจริญ มุกดาหาร ครั้งท่ี 3 พื้นที่ภาคเหนือตอนบน ท่ีจังหวัดเชียงใหม่ วันท่ี 10 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน ลาพูน ลาปาง แพร่ ครั้งที่ 4 พ้ืนที่ภาคเหนือตอนล่าง ท่ีจังหวัดพิษณุโลก วันท่ี 12 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ตาก สุโขทัย กาแพงเพชร พิจิตร อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี คร้ังที่ 5 ภาคตะวนั ตก ทจ่ี งั หวดั ราชบุรี ในวันท่ี 23 กรกฎาคม 2562 ครอบคลมุ พืน้ ที่จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขนั ธ์ ครั้งที่ 6 พ้ืนท่ีภาคกลาง ท่ีจงั หวัดพระนครศรีอยุธยา วันท่ี 25 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพชรบูรณ์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ครัง้ ที่ 7 พื้นทภี่ าคตะวันออก ทจี่ ังหวัดระยอง วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ครอบคลมุ พื้นทจี่ ังหวัดระยอง ฉะเชงิ เทรา นครนายก ชลบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี สระแก้ว ตราด คร้ังที่ 8 พ้ืนท่ีภาคใต้ตอนบนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันท่ี 7 สิงหาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช และครั้งสุดท้าย ครั้งที่ 9 ในพ้ืนที่ภาคใต้ตอนล่าง ที่จังหวัด สงขลา วันท่ี 9 สิงหาคม 2562 ครอบคลุมพืน้ ท่จี ังหวดั สงขลา ตรงั พทั ลงุ สตูล ปตั ตานี ยะลา นราธวิ าส .................................. สา้ นักงานทรัพยากรนา้ แหง่ ชาติ 3 กรกฎาคม 2562
สทนช.เดินสายตอ่ เนอ่ื งสร้างความเขา้ ใจบริบทใหมบ่ รหิ ารจดั การนา้ สทนช. เดินสายอย่างต่อเน่ือง เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ภายใต้แผน แม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับทุกภาคส่วนในพืนท่ี อสี านใต้ หลังประสบความสา้ เร็จครงั แรกในพนื ที่อีสานเหนือ วนั น้ี (5 กรกฎาคม 2562) นายอุทัย เตียนพลกรัง ผู้อ้านวยการศูนย์อ้านวยการน้าแห่งชาติ ส้านักงานทรัพยากร น้าแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา เร่ือง “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บท การบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561” ณ โรงแรมสุนีย์ แกรนด์ อ้าเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยการสัมมนาครั้งนี้จัดขนึ้ เป็นคร้ังที่ 2 พื้นที่อีสานใต้ ครอบคลมุ พ้ืนที่จงั หวัดอุบลราชธานี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ยโสธร อ้านาจเจริญ และมุกดาหาร เพื่อสร้างการรับรู้การบริหารจัดการ ทรัพยากรนา้ ภายใตแ้ ผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ท่ีสอดคล้องกับยุทธศาสตรช์ าติ และ ร่างกฎหมายล้าดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการลุ่ม น้า และภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้องในพื้นที่ลุ่มน้ารับทราบ อันจะน้าไปสู่การขับเคล่ือนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพใน การบริหารจัดการทรัพยากรนา้ ในเขตพนื้ ทลี่ ุ่มน้าต่อไป ส้าหรับบริบทใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศ ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บท การบริหารจัดการทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ (กนช.) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบญั ญัติทรพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองคค์ วามรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทจ่ี ะขับเคลือ่ นแผนแมบ่ ท ให้ไปสู่เป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่ก้าหนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับบริบทการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้าของประเทศของคณะกรรมการลุ่มน้าท่ัวประเทศ เนื่องจากตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ที่จัดท้าแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟื้นฟูและการ อนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อ กนช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพ่ือใช้ในการบริหารจัดการน้าในพ้ืนที่ให้มี ประสิทธภิ าพตอ่ ไป ท้ังน้ี การจัดสัมมนาจะมีการบรรยายเร่ือง 4 เสาหลักในการบริหารจัดการน้าของประเทศไทย การบรรยายสร้าง ความรู้ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ หลักเกณฑ์และวิธกี ารไดม้ าซึ่งกรรมการลมุ่ นา้ ผูแ้ ทนองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน กรรมการผู้แทนองค์กรผใู้ ช้น้า และกรรมการ ลมุ่ น้าผูท้ รงคณุ วุฒิ หลักเกณฑ์และวิธกี ารพ้นจากต้าแหนง่ ของกรรมการผแู้ ทนองค์กรผใู้ ช้น้า และกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ รวมท้ังการก้าหนดวัตถุประสงค์ อ้านาจ หน้าที่ และการด้าเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ข้ันตอน และ วิธีการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้าด้วย ซงึ่ จะท้าให้ผรู้ ่วมสัมมนามีความรคู้ วามเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า อันจะน้าไปสู่การขับเคล่ือนการบริหารจัดการทรัพยากรน้าในแต่ละลุ่มน้าทั้ง 22 ลุ่มน้าหลักท่ัวประเทศ เพื่อให้เกิดผลเป็น รูปธรรมและมีประสทิ ธภิ าพสงู สดุ
ซ่ึงหลังจากนี้ สทนช. จะเร่งเดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมส่วนภูมิภาคท่ัวประเทศ โดยจะจัดสัมมนา อกี จ้านวน 7 ครั้ง ประกอบด้วย พนื้ ท่ภี าคเหนือตอนบน ที่จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนที่จงั หวัด เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา น่าน ล้าพูน ล้าปาง แพร่ พ้ืนท่ีภาคเหนือตอนล่าง ท่ีจังหวัดพิษณุโลก วนั ท่ี 12 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนที่จังหวัดพิษณุโลก ตาก สุโขทัย ก้าแพงเพชร พิจิตร อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี พ้ืนที่ภาคตะวันตก ท่ีจังหวัดราชบุรี ในวันท่ี 23 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ีจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พื้นท่ีภาคกลาง ท่ีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันท่ี 25 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพชรบูรณ์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ พื้นที่ภาคตะวันออก ท่ีจังหวัดระยอง วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพื้นท่ีจังหวัด ระยอง ฉะเชิงเทรา นครนายก ชลบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี สระแก้ว ตราด พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ท่ีจังหวัดสงขลา วันที่ 2 สงิ หาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ีจังหวัดสงขลา ตรัง พัทลงุ สตลู ปัตตานี ยะลา นราธวิ าส และคร้งั สุดทา้ ย พืน้ ทภ่ี าคใต้ ตอนบน ที่จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี วันท่ี 5 สงิ หาคม 2562 ครอบคลมุ พืน้ ที่จังหวดั สรุ าษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเกต็ กระบี่ นครศรีธรรมราช .................................. สำนกั งำนทรัพยำกรนำแหง่ ชำติ 5 กรกฎำคม 2562
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175