สทนช.เดนิ สายต่อเนอ่ื งเปน็ คร้งั ท่ี 3 เรง่ สร้างความเข้าใจบรบิ ทใหมบ่ ริหารจัดการนา้ สทนช. เดินสายอย่างต่อเน่ือง เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ภายใต้แผน แม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับทุกภาคส่วนในพ้ืนท่ี ภาคเหนอื ตอนบน หลงั ประสบความส้าเร็จมาแล้วในพน้ื ทภ่ี าคอสี าน วันนี้ (10 กรกฎาคม 2562) นายปรีชา สุขกล่้า ท่ีปรกึ ษาด้านบริหารจัดการทรพั ยากรน้า ส้านักงานทรัพยากรน้า แห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561” ณ โรงแรมเมอร์เคียว อ้าเภอเมือง จังหวัด เชียงใหม่ ส้าหรับการสัมมนาครั้งน้ีจัดขึ้นเป็นคร้ังท่ี 3 ในจ้านวน 9 ครั้ง โดยจัดในพ้ืนท่ีภาคเหนือตอนบน ครอบคลุมพ้ืนที่ จงั หวดั เชียงใหม่ แมฮ่ อ่ งสอน เชียงราย พะเยา น่าน ล้าพนู ล้าปาง และแพร่ เพื่อสร้างการรับรู้การบริหารจัดการทรัพยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และร่างกฎหมาย ล้าดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการลุ่มน้า และภาคส่วนท่ีเก่ียวข้องในพ้ืนที่ลุ่มน้ารับทราบ อันจะน้าไปสู่การขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพในการ บริหารจัดการทรพั ยากรน้าในเขตพืน้ ทีล่ มุ่ นา้ ต่อไป ส้าหรับบริบทใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศ ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บทการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ (กนช.) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองคค์ วามรู้ นวตั กรรม และเทคโนโลยีท่ีจะขบั เคลื่อนแผนแมบ่ ท ให้ไปสู่เป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่ก้าหนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เก่ียวกับบริบทการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้าของประเทศของคณะกรรมการลุ่มน้าท่ัวประเทศ เน่ืองจากตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ที่จัดท้าแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟ้ืนฟูและการ อนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อ กนช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพ่ือใช้ในการบริหารจัดการน้าในพื้นท่ีให้มี ประสทิ ธภิ าพตอ่ ไป ท้ังนี้ การจัดสัมมนาจะมีการบรรยายเร่ือง 4 เสาหลักในการบริหารจัดการน้าของประเทศไทย การบรรยายสร้าง ความรู้ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการได้มาซงึ่ กรรมการลมุ่ น้า ผแู้ ทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ กรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้า และกรรมการ ลุ่มน้าผู้ทรงคณุ วุฒิ หลกั เกณฑ์และวธิ ีการพ้นจากต้าแหนง่ ของกรรมการผ้แู ทนองค์กรผใู้ ช้น้า และกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ รวมท้ังการก้าหนดวัตถุประสงค์ อ้านาจ หน้าท่ี และการด้าเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และ วธิ ีการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้าด้วย ซ่งึ จะท้าให้ผรู้ ่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า อันจะน้าไปสู่การขับเคล่ือนการบริหารจัดการทรัพยากรน้าในแต่ละลุ่มน้าท้ัง 22 ลุ่มน้าหลักทั่วประเทศ เพ่ือให้เกิดผลเป็น รูปธรรมและมปี ระสทิ ธิภาพสูงสดุ
ซ่ึงหลังจากน้ี สทนช. จะเร่งเดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเน่ืองให้ครอบคลุมส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยจะจัดสัมมนา อีกจ้านวน 6 คร้ัง ประกอบด้วย พื้นท่ีภาคเหนือตอนล่าง ท่ีจังหวัดพิษณุโลก วันที่ 12 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพื้นท่ี จังหวดั พิษณุโลก ตาก สุโขทัย ก้าแพงเพชร พจิ ิตร อุตรดติ ถ์ นครสวรรค์ อทุ ัยธานี พ้ืนทภี่ าคตะวนั ตก ท่จี งั หวัดราชบุรี ในวันท่ี 23 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพื้นท่ีจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พ้ืนที่ภาคกลาง ท่ีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ีจังหวัด พระนครศรีอยุธยา เพชรบูรณ์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบรุ ี สระบุรี ปทมุ ธานี นนทบรุ ี สมุทรปราการ พื้นทภี่ าคตะวนั ออก ที่จังหวัดระยอง วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ีจังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา นครนายก ชลบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี สระแก้ว ตราด พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ท่ีจังหวัดสงขลา วันที่ 2 สิงหาคม 2562 ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสงขลา ตรัง พัทลุง สตูล ปตั ตานี ยะลา นราธิวาส และคร้งั สุดทา้ ย พ้ืนท่ีภาคใตต้ อนบน ทจ่ี ังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี วันที่ 5 สิงหาคม 2562 ครอบคลุมพ้นื ที่ จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี ชุมพร ระนอง พงั งา ภูเกต็ กระบี่ นครศรีธรรมราช .................................. ส้ำนกั งำนทรัพยำกรนำ้ แหง่ ชำติ 10 กรกฎำคม 2562
สทนช.เดนิ สายต่อเนอื่ งเปน็ คร้งั ท่ี 4 สรา้ งความเข้าใจบรบิ ทใหมบ่ รหิ ารจดั การน้า สทนช. ยงั คงเดินสายจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่อง เรง่ สร้างความรู้ความเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจดั การทรพั ยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรพั ยากรน้า 20 ปี และพระราชบญั ญตั ิทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ใหก้ ับทุกภาคสว่ น ในพ้ืนที่ภาคเหนือตอนล่าง หลงั ประสบความส้าเรจ็ มาแล้ว 3 ครัง้ ในพนื้ ทภี่ าคอสี านตอนบน-ล่าง และภาคเหนอื ตอนบน วันน้ี (12 กรกฎาคม 2562) ว่าที่ร้อยตรี สมชัย แตงไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการลุ่มน้า 1 ส้านักงาน ทรัพยากรน้าแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา เร่ือง “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผน แม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561” ณ โรงแรมเรือนแพ รอยัล พาร์ค อ้าเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดย สทนช. ยังคงเร่งเดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่อง ส้าหรับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นใน พ้นื ท่ีภาคเหนอื ตอนลา่ ง ครอบคลุมพื้นท่ีจังหวัดพษิ ณุโลก ตาก สุโขทัย ก้าแพงเพชร พิจิตร อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ และอุทยั ธานี เพื่อสร้างการรับรู้การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และร่างกฎหมายล้าดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับหน่วยงาน ราชการ รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการลุ่มน้า และภาคส่วนท่ีเก่ียวข้องในพ้ืนที่ลุ่มน้ารับทราบ อันจะน้าไปสู่การขับเคลื่อนให้ เกิดผลเปน็ รปู ธรรมและมีประสิทธภิ าพในการบริหารจดั การทรพั ยากรน้าในเขตพ้นื ทลี่ มุ่ น้าต่อไป ส้าหรับบริบทใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศ ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บทการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ (กนช.) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบัญญัตทิ รพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองคค์ วามรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่จะขบั เคล่ือนแผนแม่บท ให้ไปสู่เป้าหมายตามวิสัยทัศน์ท่ีก้าหนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เก่ียวกับบริบทการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้าของประเทศของคณะกรรมการลุ่มน้าท่ัวประเทศ เน่ืองจากตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ท่ีจัดท้าแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟื้นฟูและการ อนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อ กนช. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้าในพ้ืนที่ให้มี ประสทิ ธิภาพตอ่ ไป ทั้งน้ี การจัดสัมมนาจะมีการบรรยายเรื่อง 4 เสาหลักในการบริหารจัดการน้าของประเทศไทย การบรรยายสร้าง ความรู้ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ หลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารไดม้ าซ่ึงกรรมการลุม่ นา้ ผแู้ ทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่นิ กรรมการผู้แทนองคก์ รผใู้ ช้นา้ และกรรมการ ลุ่มน้าผทู้ รงคณุ วุฒิ หลักเกณฑ์และวิธีการพ้นจากต้าแหนง่ ของกรรมการผแู้ ทนองค์กรผ้ใู ช้น้า และกรรมการลุ่มนา้ ผทู้ รงคุณวุฒิ รวมทั้งการก้าหนดวัตถุประสงค์ อ้านาจ หน้าที่ และการด้าเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ข้ันตอน และ วธิ ีการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้าด้วย ซ่งึ จะท้าให้ผูร้ ่วมสัมมนามีความร้คู วามเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า อันจะน้าไปสู่การขับเคล่ือนการบริหารจัดการทรัพยากรน้าในแต่ละลุ่มน้าท้ัง 22 ลุ่มน้าหลักทั่วประเทศ เพ่ือให้เกิดผลเป็น รูปธรรมและมปี ระสิทธภิ าพสูงสุด
ซ่ึงหลังจากน้ี สทนช. จะเร่งเดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเน่ืองให้ครอบคลุมส่วนภูมิภาคท่ัวประเทศ โดยจะจัดสัมมนา อีกจ้านวน 5 ครั้ง ประกอบด้วย พ้ืนท่ีภาคตะวันตก ท่ีจังหวัดราชบุรี ในวันท่ี 23 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพื้นท่ีจังหวัด ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พ้ืนท่ีภาคกลาง ท่ีจังหวัด พระนครศรีอยุธยา วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ครอบคลมุ พ้ืนท่ีจังหวัดพระนครศรอี ยธุ ยา เพชรบูรณ์ ชัยนาท สิงหบ์ ุรี อา่ งทอง ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ พื้นที่ภาคตะวันออก ที่จังหวัดระยอง วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุม พื้นท่ีจังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา นครนายก ชลบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี สระแก้ว ตราด พ้ืนท่ีภาคใต้ตอนล่าง ที่จังหวัดสงขลา วนั ที่ 2 สิงหาคม 2562 ครอบคลมุ พนื้ ท่ีจงั หวดั สงขลา ตรัง พัทลงุ สตูล ปัตตานี ยะลา นราธวิ าส และครัง้ สุดท้าย พืน้ ทภี่ าคใต้ ตอนบน ท่ีจงั หวัดสุราษฎร์ธานี วนั ท่ี 5 สงิ หาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่จี ังหวดั สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเกต็ กระบี่ นครศรธี รรมราช .................................. สำ้ นักงำนทรัพยำกรน้ำแหง่ ชำติ 12 กรกฎำคม 2562
สทนช.เดนิ สายตอ่ เนอื่ งเป็นครงั้ ที่ 5 ลงพนื้ ทภ่ี าคตะวนั ตก เรง่ สร้างความเข้าใจบริบทใหมบ่ ริหารจดั การนา้ สทนช. ยังคงเดินสายจดั สัมมนาอยา่ งต่อเนื่อง เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในบรบิ ทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบรหิ ารจัดการทรพั ยากรนา้ 20 ปี และพระราชบญั ญตั ิทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ใหก้ ับทุกภาคส่วน ในพนื้ ท่ีภาคตะวนั ตก หลงั ประสบความส้าเร็จมาแลว้ ในพนื้ ที่ภาคอีสานและภาคเหนอื วันน้ี (23 กรกฎาคม 2562) นายส้าเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการส้านักงานทรัพยากรน้าแห่งชาติ (สทนช.) เป็น ประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใตแ้ ผนแม่บทการบริหารจดั การทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561” ณ โรงแรมเวสเทิร์นแกรนด์ อ้าเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โดย สทนช. ยังคง เดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่อง ส้าหรับครั้งนี้เป็นครั้งท่ี 5 ซ่ึงจัดข้ึนในพื้นที่ภาคตะวันตก ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้การบริหาร จดั การทรัพยากรน้าภายใตแ้ ผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ทส่ี อดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และร่างกฎหมายล้าดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการลุ่มน้า และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ลุ่มน้ารับทราบ อันจะน้าไปสู่การขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพในการ บรหิ ารจัดการทรัพยากรนา้ ในเขตพืน้ ทล่ี มุ่ นา้ ต่อไป ส้าหรับบริบทใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศ ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บทการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ (กนช.) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบญั ญัติทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองคค์ วามรู้ นวตั กรรม และเทคโนโลยีที่จะขับเคลอ่ื นแผนแมบ่ ท ให้ไปสู่เป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่ก้าหนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับบริบทการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้าของประเทศของคณะกรรมการลุ่มน้าทั่วประเทศ เน่ืองจากตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ท่ีจัดท้าแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟื้นฟูและการ อนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อ กนช. ท่ีมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้าในพ้ืนท่ีให้มี ประสทิ ธภิ าพต่อไป ทั้งน้ี การจัดสัมมนาจะมีการบรรยายเร่ือง 4 เสาหลักในการบริหารจัดการน้าของประเทศไทย การบรรยายสร้าง ความรู้ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ หลักเกณฑแ์ ละวิธีการได้มาซึง่ กรรมการลมุ่ น้า ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ กรรมการผู้แทนองค์กรผ้ใู ช้นา้ และกรรมการ ลุม่ น้าผูท้ รงคุณวุฒิ หลักเกณฑ์และวิธกี ารพ้นจากต้าแหนง่ ของกรรมการผู้แทนองค์กรผใู้ ช้น้า และกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งการก้าหนดวัตถุประสงค์ อ้านาจ หน้าท่ี และการด้าเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ข้ันตอน และ วธิ ีการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้าด้วย ซง่ึ จะท้าให้ผรู้ ่วมสัมมนามีความรคู้ วามเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า อันจะน้าไปสู่การขับเคล่ือนการบริหารจัดการทรัพยากรน้าในแต่ละลุ่มน้าท้ัง 22 ลุ่มน้าหลักท่ัวประเทศ เพ่ือให้เกิดผลเป็น รปู ธรรมและมีประสทิ ธภิ าพสงู สดุ
ซึ่งหลังจากน้ี สทนช. จะเร่งเดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเน่ืองให้ครอบคลุมส่วนภูมิภาคท่ัวประเทศ โดยจะจัดสัมมนา อีกจ้านวน 4 ครั้ง ประกอบด้วย พื้นที่ภาคกลาง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันท่ี 25 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพชรบูรณ์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ พ้ืนท่ีภาค ตะวนั ออก ทจ่ี ังหวดั ระยอง วันท่ี 31 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ีจงั หวัดระยอง ฉะเชิงเทรา นครนายก ชลบรุ ี ปราจีนบุรี จันทบุรี สระแก้ว ตราด พื้นท่ีภาคใต้ตอนล่าง ท่ีจังหวัดสงขลา วันท่ี 2 สิงหาคม 2562 ครอบคลุมพื้นท่ีจังหวัดสงขลา ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และครั้งสุดท้าย พ้ืนท่ีภาคใต้ตอนบน ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันที่ 5 สิงหาคม 2562 ครอบคลุมพืน้ ทจี่ ังหวัดสุราษฎร์ธานี ชมุ พร ระนอง พงั งา ภเู กต็ กระบี่ นครศรีธรรมราช .................................. สำ้ นกั งำนทรัพยำกรน้ำแห่งชำติ 23 กรกฎำคม 2562
สทนช.ยังคงเดนิ หนา้ สร้างความเข้าใจบริบทใหม่บรหิ ารจัดการน้า เปน็ ครังที่ 6 พืนทภี่ าคกลาง สทนช. ยงั คงเดินสายจดั สัมมนาอย่างต่อเนื่อง เร่งสร้างความรูค้ วามเข้าใจในบรบิ ทใหม่ของการบริหารจดั การทรพั ยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรนา้ 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรนา้ พ.ศ. 2561 ให้กับทุกภาคสว่ น ในพืนท่ีภาคกลาง หลังประสบความสา้ เร็จมาแลว้ 5 ครัง ในพนื ทภ่ี าคอีสาน เหนอื และตะวันตก วนั นี้ (25 กรกฎาคม 2562) นายปรีชา สุขกล้่า ที่ปรึกษาด้านบริหารจัดการทรพั ยากรน้า ส้านักงานทรัพยากรน้า แห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบริหาร จัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561” ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อยุธยา อ้าเภอเมือง จงั หวัดพระนครศรีอยุธยา โดย สทนช. ยังคงเดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเน่ือง ส้าหรับครั้งนี้เป็นครั้งท่ี 6 ซ่ึงจัดขึ้นในพื้นท่ีภาคกลาง ครอบคลุมพ้ืนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพชรบูรณ์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และ สมุทรปราการ เพื่อสร้างการรับรู้การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และร่างกฎหมายล้าดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการลุ่มน้า และภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้องในพื้นที่ลุ่มน้ารับทราบ อันจะน้าไปสู่การ ขับเคล่อื นใหเ้ กดิ ผลเปน็ รปู ธรรมและมีประสทิ ธิภาพในการบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้าในเขตพื้นท่ลี มุ่ น้าตอ่ ไป ส้าหรับบริบทใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศ ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บทการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ (กนช.) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบญั ญัติทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 และ 4.การพฒั นาองคค์ วามรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีท่ีจะขบั เคลื่อนแผนแม่บท ให้ไปสู่เป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่ก้าหนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เก่ียวกับบริบทการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้าของประเทศของคณะกรรมการลุ่มน้าทั่วประเทศ เนื่องจากตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ท่ีจัดท้าแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟื้นฟูและการ อนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อ กนช. ท่ีมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้าในพ้ืนท่ีให้มี ประสิทธภิ าพต่อไป ทั้งนี้ การจัดสัมมนาจะมีการบรรยายเรื่อง 4 เสาหลักในการบริหารจัดการน้าของประเทศไทย การบรรยายสร้าง ความรู้ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ หลักเกณฑแ์ ละวิธีการไดม้ าซ่ึงกรรมการลมุ่ น้า ผแู้ ทนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ กรรมการผู้แทนองคก์ รผ้ใู ช้น้า และกรรมการ ลมุ่ น้าผทู้ รงคณุ วุฒิ หลักเกณฑ์และวิธีการพ้นจากต้าแหนง่ ของกรรมการผแู้ ทนองค์กรผใู้ ช้น้า และกรรมการลุ่มน้าผทู้ รงคุณวุฒิ รวมทั้งการก้าหนดวัตถุประสงค์ อ้านาจ หน้าที่ และการด้าเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ข้ันตอน และ วิธีการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้าด้วย ซ่ึงจะท้าให้ผู้ร่วมสัมมนามีความร้คู วามเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า อันจะน้าไปสู่การขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้าในแต่ละลุ่มน้าทั้ง 22 ลุ่มน้าหลักท่ัวประเทศ เพื่อให้เกิดผลเป็น รปู ธรรมและมปี ระสิทธภิ าพสงู สุด
ซ่ึงหลังจากน้ี สทนช. จะเร่งเดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเน่ืองให้ครอบคลุมส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยจะจัดสัมมนา อีกจ้านวน 3 คร้ัง ประกอบด้วย พ้ืนท่ีภาคตะวันออก ท่ีจังหวัดระยอง วันท่ี 31 กรกฎาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนที่จังหวัด ระยอง ฉะเชิงเทรา นครนายก ชลบุรี ปราจีนบุรี จันทบุรี สระแก้ว ตราด พ้ืนที่ภาคใต้ตอนล่าง ท่ีจังหวัดสงขลา วั น ที่ 2 สิ ง ห า ค ม 2562 ค ร อ บ ค ลุ ม พื้ น ท่ี จั งห วั ด ส งข ล า ต รั ง พั ท ลุ ง ส ตู ล ปั ต ต า นี ย ะ ล า น ร า ธิ ว า ส และครั้งสุดท้าย พื้นท่ีภาคใต้ตอนบน ท่ีจังหวัดสุราษฎร์ธานี วันที่ 5 สิงหาคม 2562 ครอบคลุมพื้นท่ีจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พงั งา ภูเกต็ กระบี่ นครศรีธรรมราช .................................. สำ้ นักงำนทรัพยำกรน้ำแหง่ ชำติ 25 กรกฎำคม 2562
สทนช.เดนิ สายอย่างตอ่ เนือ่ งเป็นครั้งที่ 7 เร่งสรา้ งความเข้าใจบรบิ ทใหม่บรหิ ารจดั การน้า พ้ืนทภี่ าคตะวนั ออก ผ่านมาเกินกว่าครึ่งทาง สทนช. ยังคงเดินสายจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่อง เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในบริบทใหม่ของการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับทุกภาคส่วนในพ้ืนท่ีภาคตะวันออก หลังประสบความส้าเร็จมาแล้ว 6 ครั้ง ในพ้ืนที่ภาคอีสาน เหนือ ตะวนั ตก และภาคกลาง วันนี้ (31 กรกฎาคม 2562) นายประดบั กลัดเข็มเพชร ผู้ช่วยเลขาธิการส้านักงานทรพั ยากรนา้ แหง่ ชาติ (สทนช.) เป็นประธานเปิดการสัมมนา เร่ือง “บริบทใหม่การบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัตทิ รพั ยากรน้า พ.ศ. 2561” ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ อา้ เภอเมือง จังหวัดระยอง โดย สทนช. ยังคง เดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่อง ส้าหรับครั้งน้ีเป็นครั้งท่ี 7 ซ่ึงจัดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออก ครอบคลุมพ้ืนท่ีจังหวัดระยอง ฉะเชงิ เทรา นครนายก ชลบรุ ี ปราจีนบรุ ี จนั ทบรุ ี สระแก้ว และตราด เพื่อสรา้ งการรบั รู้การบรหิ ารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้ แผนแมบ่ ทการบริหารจัดการทรัพยากรนา้ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และรา่ งกฎหมายล้าดับรอง ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการลุ่มน้า และภาคส่วนที่ เกี่ยวข้องในพื้นที่ลุ่มน้ารับทราบ อันจะน้าไปสู่การขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ทรัพยากรนา้ ในเขตพน้ื ทีล่ ุ่มนา้ ต่อไป ส้าหรับบริบทใหม่ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศ ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บทการ บริหารจัดการทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ (กนช.) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบญั ญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีทจ่ี ะขับเคลื่อนแผนแม่บท ให้ไปสู่เป้าหมายตามวิสัยทัศน์ท่ีก้าหนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เก่ียวกับบริบทการบริหารจัดการ ทรัพยากรน้าของประเทศของคณะกรรมการลุ่มน้าท่ัวประเทศ เน่ืองจากตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ที่จัดท้าแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟื้นฟูและการ อนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อ กนช. ท่ีมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้าในพื้นที่ให้มี ประสทิ ธภิ าพต่อไป ท้ังนี้ การจัดสัมมนาจะมีการบรรยายเรื่อง 4 เสาหลักในการบริหารจัดการน้าของประเทศไทย การบรรยายสร้าง ความรู้ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาติ หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารได้มาซ่งึ กรรมการลุม่ นา้ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กรรมการผู้แทนองคก์ รผใู้ ช้น้า และกรรมการ ลมุ่ น้าผูท้ รงคุณวุฒิ หลักเกณฑ์และวิธกี ารพ้นจากต้าแหน่งของกรรมการผแู้ ทนองค์กรผ้ใู ช้นา้ และกรรมการลุ่มน้าผทู้ รงคุณวุฒิ รวมท้ังการก้าหนดวัตถุประสงค์ อ้านาจ หน้าท่ี และการด้าเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และ วธิ ีการก่อต้ังองค์กรผู้ใช้น้าด้วย ซึ่งจะท้าให้ผ้รู ่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจในบริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า อันจะน้าไปสู่การขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้าในแต่ละลุ่มน้าทั้ง 22 ลุ่มน้าหลักท่ัวประเทศ เพ่ือให้เกิดผลเป็น รูปธรรมและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ซึ่งหลังจากนี้ สทนช. จะยังคงเดินหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ โดยจะจัด สัมมนาอีกจ้านวน 2 ครั้ง ในพื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วย พ้ืนท่ีภาคใต้ตอนล่าง ท่ีจังหวัดสงขลา วันท่ี 2 สิงหาคม 2562 ครอบคลมุ พ้ืนท่ีจังหวดั สงขลา ตรัง พทั ลงุ สตลู ปตั ตานี ยะลา นราธวิ าส และครั้งสุดท้าย พ้นื ทภี่ าคใต้ตอนบน ทจ่ี งั หวัดสุราษฎร์ธานี วันท่ี 5 สงิ หาคม 2562 ครอบคลมุ พ้นื ที่จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเกต็ กระบ่ี นครศรธี รรมราช .................................. ส้ำนักงำนทรัพยำกรนำ้ แหง่ ชำติ 31 กรกฎำคม 2562
สทนช.เดนิ สายทั่วประเทศเป็นคร้งั ที่ 8 สรา้ งความเข้าใจบริบทใหม่บรหิ ารจดั การน้า พน้ื ทภ่ี าคใตต้ อนลา่ ง สทนช. เดินสายจัดสัมมนาท่ัวประเทศอย่างต่อเนื่อง เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจในบรบิ ทใหม่ของการบริหารจัดการทรพั ยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับทุกภาคส่วนใน พื้นท่ีภาคใต้ตอนล่าง หลังประสบความส้าเร็จมาแล้ว 7 ครั้ง ในพ้ืนท่ีภาคอีสาน เหนือ ตะวันตก กลาง และตะวันออก เพ่ือน้าไปส่กู ารขบั เคล่อื นการบรหิ ารจดั การทรัพยากรนา้ ใหเ้ กดิ ผลเป็นรูปธรรม วันน้ี (2 สงหาคม 2562) นายส้าเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการส้านักงานทรัพยากรน้าแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธาน เปิดการสัมมนา เร่ือง “บรบทใหม่การบรหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบรหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และ พระราชบัญญัตทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561” ณ โรงแรมหรรษา เจบี อ้าเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดย สทนช. ยังคงเดนหน้าจัด สัมมนาท่ัวประเทศอย่างต่อเน่ือง ส้าหรับครั้งน้ีเป็นครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นในพ้ืนท่ีภาคใต้ตอนล่าง ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสงขลา ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธวาส เพื่อสร้างการรับรู้การบรหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบรหารจัดการ ทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาต และร่างกฎหมายล้าดับรองตามพระราชบัญญัตทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวสาหกจ คณะกรรมการลุ่มน้า และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นท่ีลุ่มน้ารับทราบ อันจะ นา้ ไปสู่การขับเคล่ือนให้เกดผลเป็นรปู ธรรมและมีประสทธภาพในการบรหารจดั การทรัพยากรน้าในเขตพื้นท่ีลุ่มน้าต่อไป ส้าหรับบรบทใหม่ในการบรหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศ ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บทการบรหาร จดั การทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาต (กนช.) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบัญญัต ทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีท่ีจะขับเคล่ือนแผนแม่บทให้ไปสู่เป้าหมายตาม วสัยทัศน์ที่ก้าหนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับบรบทการบรหารจัดการทรัพยากรน้าของประเทศ ของคณะกรรมการลุ่มน้าทั่วประเทศ เนื่องจากตามพระราชบัญญัตทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ที่จัดท้า แผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบรหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟื้นฟูและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อ กนช. ทมี่ ีนายกรฐั มนตรเี ปน็ ประธาน เพ่อื ใช้ในการบรหารจัดการน้าในพนื้ ท่ใี หม้ ีประสทธภาพต่อไป ทั้งนี้ การจัดสัมมนาจะมีการบรรยายเร่ือง 4 เสาหลักในการบรหารจัดการน้าของประเทศไทย การบรรยายสร้างความรู้ ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาต หลักเกณฑ์และ วธีการได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้า ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่น กรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้า และกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒ หลักเกณฑ์และวธีการพ้นจากต้าแหน่งของกรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้า และกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒ รวมทั้งการก้าหนด วัตถุประสงค์ อ้านาจ หน้าท่ี และการด้าเนนงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ข้ันตอน และวธีการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้า ดว้ ย ซึ่งจะท้าให้ผู้รว่ มสัมมนามีความรู้ความเข้าใจในบรบทใหม่ของการบรหารจดั การทรพั ยากรน้า อันจะน้าไปสู่การขับเคล่ือนการ บรหารจัดการทรพั ยากรน้าในแต่ละลมุ่ น้าทัง้ 22 ลุม่ น้าหลักท่ัวประเทศ เพ่อื ใหเ้ กดผลเปน็ รปู ธรรมและมปี ระสทธภาพสูงสุด ซึ่งหลังจากนี้ สทนช. จะยังคงเดนหน้าจัดสัมมนาอย่างต่อเน่ืองให้ครอบคลุมส่วนภูมภาคทั่วประเทศ โดยจะจัดสัมมนาอีก จ้านวน 1 ครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย ในพ้ืนท่ีภาคใต้ตอนบน ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี วันที่ 5 สงหาคม 2562 ครอบคลุมพ้ืนท่ีจังหวัด สรุ าษฎรธ์ านี ชุมพร ระนอง พังงา ภเู ก็ต กระบี่ นครศรธี รรมราช .................................. ส้ำนกั งำนทรัพยำกรน้ำแห่งชำติ 2 สิงหำคม 2562
สทนช.ปิดภารกจิ เดินสายจดั สัมมนาสรา้ งความเขา้ ใจบรบิ ทใหม่การบริหารจัดการนา้ สทนช. ปิดภารกิจการเดินสายจัดสัมมนา หลังจัดมาอย่างต่อเน่ืองท่ัวประเทศครบ 9 ครัง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจใน บริบทใหม่ของการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญัติ ทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กับทุกภาคส่วนได้รับทราบ ม่ันใจจะสามารถขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้าของ ประเทศให้เกดิ ผลไดอ้ ย่างเปน็ รปู ธรรม วันนี้ (5 สงหาคม 2562) นายส้าเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการส้านักงานทรัพยากรน้าแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธาน เปิดการสัมมนา เรื่อง “บรบทใหม่การบรหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบรหารจัดการทรัพยากรน้า 20 ปี และ พระราชบัญญัตทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561” ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า อ้าเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังเดนสายจัดสัมมนา อย่างต่อเนื่องท่ัวประเทศ ทั้งพ้ืนที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ ตอนล่าง ส้าหรับครั้งน้ีเป็นคร้ังท่ี 9 ซึ่งเป็นคร้ังสุดท้าย จัดข้ึนในพื้นท่ีภาคใต้ตอนบน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบ่ี และนครศรีธรรมราช เพื่อสร้างการรับรู้การบรหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้แผนแม่บทการบรหาร จัดการทรัพยากรน้า 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ท่ีสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาต และร่างกฎหมายล้าดับรองตามพระราชบัญญัต ทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 ให้กบั หน่วยงานราชการ รฐั วสาหกจ คณะกรรมการลุ่มน้า และภาคสว่ นที่เกยี่ วขอ้ งในพ้นื ท่ีล่มุ น้ารับทราบ อนั จะน้าไปสู่การขับเคลื่อนให้เกดผลเป็นรปู ธรรมและมปี ระสทธภาพในการบรหารจัดการทรพั ยากรน้าในเขตพนื้ ทลี่ มุ่ นา้ ต่อไป ส้าหรับบรบทใหม่ในการบรหารจัดการทรพั ยากรน้าของประเทศ ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ 1.แผนแม่บทการบรหาร จัดการทรัพยากรน้า 2.องค์กรกลาง ได้แก่ คณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาต (กนช .) สทนช. กรรมการลุ่มน้า 3.พระราชบัญญัตทรพั ยากรน้า พ.ศ. 2561 และ 4.การพัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีท่ีจะขับเคลอื่ นแผนแม่บทให้ ไปสู่เป้าหมายตามวสัยทัศน์ที่ก้าหนดไว้ โดย สทนช. ให้ความส้าคัญกับการสร้างการรับรู้เก่ียวกับบรบทการบรหารจัดการ ทรัพยากรน้าของประเทศของคณะกรรมการลุ่มน้าทั่วประเทศ เน่ืองจากตามพระราชบัญญัตทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 คณะกรรมการลุ่มน้าจะต้องเป็นผู้ท่ีจัดท้าแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบรหารจัดการ การบ้ารุงรักษา การฟ้ืนฟูและการ อนุรักษ์ทรัพยากรน้าในเขตลุ่มน้า เสนอต่อ กนช. ท่ีมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพ่ือใช้ในการบรหารจัดการน้าในพื้นท่ีให้มี ประสทธภาพตอ่ ไป ทั้งนี้ การจัดสัมมนาจะมีการบรรยายเรื่อง 4 เสาหลักในการบรหารจัดการน้าของประเทศไทย การบรรยายสร้างความรู้ ความเข้าใจในแนวทางการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้าในคณะกรรมการทรัพยากรน้าแห่งชาต หลักเกณฑ์และ วธกี ารไดม้ าซ่ึงกรรมการลุ่มน้า ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่น กรรมการผแู้ ทนองค์กรผู้ใช้น้า และกรรมการลมุ่ น้าผูท้ รงคุณวุฒ หลักเกณฑ์และวธีการพ้นจากต้าแหน่งของกรรมการผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้า และกรรมการลุ่มน้าผู้ทรงคุณวุฒ รวมทั้งการก้าหนด วตั ถุประสงค์ อ้านาจ หน้าที่ และการด้าเนนงานขององค์กรผู้ใช้น้า ตลอดจนหลักเกณฑ์ ข้ันตอน และวธีการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้า ด้วย ซ่ึงจะท้าให้ผู้ร่วมสัมมนามีความรู้ความเข้าใจในบรบทใหม่ของการบรหารจัดการทรัพยากรน้า อันจะน้าไปสู่การขับเคลื่อน การบรหารจดั การทรัพยากรน้าในแต่ละลมุ่ นา้ ทั้ง 22 ลุ่มน้าหลักทั่วประเทศ เพอื่ ใหเ้ กดผลเปน็ รปู ธรรมและมปี ระสทธภาพสูงสดุ .................................. สำ้ นักงำนทรัพยำกรน้ำแหง่ ชำติ 5 สงิ หำคม 2562
o รายละเอยี ดโครงการสัมมนาฯ
ดาวน์โหลด เอกสารประกอบ การสมั มนา เรื่อง บริบทใหมก่ ารบรหิ ารจดั การทรัพยากรนา้ ภายใตแ้ ผนแม่บทการบริหาร จัดการทรพั ยากรน้า 20 ปี และพระราชบัญญตั ิทรัพยากรน้า พ.ศ. 2561 1. โครงการสัมมนาฯ ประกอบด้วย 2. พระราชบัญญัติทรัพยากรน้า 2561 3. (ร่าง)แผนแม่บทบริหารจัดการนา้ ฯ 20 ปี (อ.อิทธพิ ล) 4.2 ppt ร่างกฎกระทรวงการก่อตังองคก์ รผใู้ ชน้ ้า 4.1 ppt พ.ร.บ.นา้ 2561และกฎหมายล้าดับรอง 4.3 ppt รา่ งกฎกระทรวงการไดม้ าซึง่ กรรมการลุ่มน้าฯ 4.4 ppt รา่ งกฎกระทรวงการได้มาซงึ่ กรรมการ กนช 4.5 ppt ร่างกฎกระทรวงการพน้ จากต้าแหน่งของกรรมการฯ 5. ppt แผนแม่บทน้า (ทปษ.สราวธุ ) 6. รา่ งกฎหมายลา้ ดับรองภายใต้พระราชบัญญัติทรพั ยากรนา้ พ.ศ. 2561 ข้อมูล ณ วันที่ 28 มิ.ย.62
แบบสอบถามเพ่อื ประเมินโครงการ ครงั ท.ี่ ...... สมั มนา เรอื่ ง บริบทใหม่การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรน้า ภายใต้แผนแมบ่ ทการบริหารจดั การทรพั ยากรน้า 20 ปี และพระราชบญั ญัติทรัพยากรนา้ พ.ศ. 256๑ ค้าอธิบาย แบบประเมินฉบับนี้มีท้ังหมด ๔ ตอน ขอให้ผู้ตอบแบบสอบถามตอบให้ครบท้ัง ๔ ตอน เพ่ือให้การดาเนินโครงการเป็นไปตาม วัตถปุ ระสงค์และเพอ่ื เปน็ ประโยชน์ในการนาไปใช้ต่อไป ตอนท่ี 1 ข้อมลู ท่วั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 1. เพศ หญิง ชาย 2. อายุ ตา่ กวา่ 20 ปี 20-30 ปี 31-40 ปี 41-50 ปี 51 ปีขน้ึ ไป 3. สถานภาพการทางาน/อาชีพปัจจบุ ัน เจา้ ของกิจการ อื่นๆ.............................. ข้าราชการ/พนักงานรัฐวสิ าหกจิ พนกั งานบริษัท องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น เกษตรกร ตอนท่ี 2 ทา่ นคดิ ว่าการสัมมนาฯ ในครงั้ นี้ บรรลุวัตถุประสงค์มากน้อยเพยี งใด คา้ ชีแจง โปรดทาเคร่อื งหมาย ลงในช่องท่ีตรงกบั ความคดิ เหน็ ของท่านเพยี งระดบั เดยี ว ระดับของการบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ วตั ถปุ ระสงค์ มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย 1) สร้างการรับรู้ทิศทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้าภายใต้ (ร่าง) (4) (3) (2) (1) แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้า ๒๐ ปี (พ.ศ. 2561-2580) และกรอบแนวทางการขับเคล่ือนไปสู่การจดั ทาแผนแมบ่ ทล่มุ น้า 2) สร้างการรบั รู้ รา่ งกฎหมายลาดับรองตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้า พ.ศ. ๒๕๖๑ ตอนท่ี ๓ ท่าน มคี วามพงึ พอใจ เกยี่ วกับเรื่องต่างๆ ดังตอ่ ไปนมี้ ากน้อยเพยี งใด คา้ ชีแจง โปรดทาเครอื่ งหมาย ลงในช่องที่ตรงกบั ความพงึ พอใจของท่านเพยี งระดบั เดยี ว รายการประเมนิ มากทส่ี ดุ ระดบั ความพึงพอใจ นอ้ ย (4) (1) 1) ความเหมาะสมของระยะเวลาการสัมมนา มาก ปานกลาง 2) เอกสาร/ขอ้ มูลทใ่ี ชป้ ระกอบการสัมมนา (3) (2) 3) วทิ ยากร 4) ประโยชนข์ องเน้ือหาสาระต่อการปฏบิ ัติงาน 5) สถานทใี่ นการจัดสัมมนา 6) การปฏิบัตงิ านของเจา้ หนา้ ที่ผจู้ ัดสัมมนา ตอนที่ 4 ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ…………………………………………………………………………………………………………………………… ..........…………….……………..……………………………………………………………………………..........…………….……………..………………………… …………………………………………………..........…………….……………..……………………………………………………………………………..........…… ..........…………….……………..……………………………………………………………………………..........…………….……………..………………………… …………………………………………………..........…………….……………..……………………………………………………………………………..........…… …………………………………………………..........…………….……………..……………………………………………………………………………..........…… ขอขอบคุณทุกทา่ นที่ให้ความร่วมมอื ตอบแบบสอบถาม
1. รา่ งกฎกระทรวงการก่อตงั้ องค์กรผใู้ ช้น้า พ.ศ. .... ความคดิ เหน็ เพิ่มเตมิ ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................ ............................................ ...................................................................................... .................................................................................................................. ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................................................................... ......................... ......................................................................................................... ............................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ........................................................................................................................................... ............................................................. ..................................................................... ............................................................................................................................. ...... ............................................................................................................................ ............................................................................ ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... .............................................................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................ ................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... 2. ร่างกฎกระทรวงการได้มาซ่ึงกรรมการลุ่มน้าผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กรรมการลุ่มน้าผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้า และกรรมการล่มุ นา้ ผู้ทรงคณุ วุฒิ พ.ศ. .... ความคดิ เหน็ เพ่มิ เตมิ ................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ........................................................................................................................................................................ ................................ .................................................................................................. ...................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................... .............................................................. ............................................................................................................................. ............. ..................................................................................................................... ................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ....................................................................................................................................................... ................................................. ................................................................................. ....................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... .......................................................................................................................................................................... .............................. /3. ร่างกฎกระทรวง
3. รา่ งกฎกระทรวงการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลมุ่ นา้ ในคณะกรรมการทรัพยากรนา้ แหง่ ชาติ พ.ศ. .... ความคดิ เห็นเพิ่มเติม........................................................................................................................ ........................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ........................................................................................................................................................ ................................................ .................................................................................. ...................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ........................................................................................................................................................................... ............................. ..................................................................................................... ................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ....................................................................................................................................... ................................................................. .............................................................................................................................................................................................. .......... ........................................................................................................................ ................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... .......................................................................................................................................................... .............................................. .................................................................................... .................................................................................................................... 4. ร่างกฎกระทรวงการพน้ จากตา้ แหนง่ ของกรรมการลมุ่ นา้ ผู้แทนองคก์ รผ้ใู ช้น้าและกรรมการลุ่มนา้ ผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. .... ความคดิ เหน็ เพิ่มเตมิ ............................................................................................................................. ...................... ............................................................................................................................. ........................................................................... .............................................................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................ ................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ................................................................................................................................................................................. ....................... ........................................................................................................... ............................................................................................. ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................................. ........................................................... ....................................................................... ............................................................................................................................. .... ....................................................................................................... ................................................................................................. ............................................................................................................................. ........................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................................... ......................................................................................................................................... ............................................................... ..................................................................................................................................................................................................... ขอขอบคุณทที่ า่ นใหค้ วามรว่ มมือในการแสดงความคดิ เห็น สำ้ นักงำนทรัพยำกรนำ้ แห่งชำติ สำ้ นักนำยกรัฐมนตรี
สํานักงานทรัพยากรนา้ํ แหงชาติ (สทนช.) อาคารจุฑามาศ เลขที่ 98/168-170 ถนนวิภาวดรี ังสติ แขวงตลาดบางเขต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครฯ 10210
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175