เอกสารประกอบหลักสูตร กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขันพื นฐาน พุ ทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) โรงเรียนทบั โพธพิ ั ฒนวทิ ย์ สํานกั งานเขตพื นทกี ารศึกษามธั ยมศึกษาสุรนิ ทร์ สํานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขันพื นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
3 ประกาศโรงเรยี นทบั โพธพิ์ ัฒนวิทย์ เรอื่ ง ให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนทับโพธิพ์ ฒั นวทิ ย์ พทุ ธศกั ราช 2565 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560) เพือ่ ให้การจดั การศึกษาข้นั พนื้ ฐาน สอดคลอ้ งกบั ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคม ความ เจรญิ กา้ วหนา้ ทางวทิ ยาการ เปน็ การสรา้ งกลยุทธใ์ หม่ ในการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาให้สามารถตอบสนองความ ต้องการของบคุ คล สังคมไทย ผู้เรียนมศี กั ยภาพในการแขง่ ขันละความรว่ มมอื อย่างสรา้ งสรรค์ในสงั คมโลก ปลูกฝงั ให้ผู้เรียนมีจติ สำนกึ ในความเปน็ ไทย มีระเบียบวนิ ัย คำนงึ ถึงผลประโยชน์ส่วนรวม และยึดมัน่ ในการปกคครอง ระบอบประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข เป็นไปตามเจตนารมณ์มาตรา 20 ของรัฐธรรมนูญ แหง่ ราชอณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2550 และพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แกไ้ ข เพิ่มเตมิ ฉะน้ันอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 12 และมาตรา 15 แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธกิ าร พุทธศักราช 2546 และคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พนื้ ฐานโรงเรียนทับโพธพิ์ ัฒนวิทย์ ได้ มีมติเหน็ ชอบให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนทับโพธ์พิ ฒั นวิทย์ พุทธศกั ราช 2565 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) เมอื่ วันท่ี 9 เดือน พฤษภาคม พุทธศกั ราช 2565 จึงประกาศให้ใชห้ ลักสตู รโรงเรยี นทบั โพธ์พิ ฒั นวทิ ยต์ ั้งแตบ่ ดั น้เี ปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วนั ที่ 9 เดอื น พฤษภาคม พุทธศกั ราช 2565 (ลงชื่อ) (ลงช่อื ) (นางจันทรด์ ี จอ้ ยสระคู) ( นางจฬุ าภรณ์ บุญศรี ) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน ผู้อำนวยการโรงเรยี นทับโพธ์พิ ฒั นวิทย์
4 ประกาศโรงเรยี นทับโพธพิ์ ฒั นวิทย์ เรื่อง อนมุ ตั ิให้ใชห้ ลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนทับโพธ์พิ ัฒนวิทย์ พุทธศกั ราช 2565 ตวั ชวี้ ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรยี นรู้(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ------------------------------------------ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นทบั โพธิ์พัฒนวทิ ย์ พทุ ธศกั ราช 2565 ตวั ช้วี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรู้(ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1– 6 สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาสรุ นิ ทร์ ฉบบั นี้ ได้รับความเหน็ ชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพืน้ ฐาน โรงเรยี นทับโพธพ์ิ ัฒนวทิ ย์ จึงประกาศให้ใชห้ ลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนทับ โพธ์ิพัฒนวทิ ย์ พทุ ธศักราช 2565 ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ตง้ั แต่บดั น้ีเป็นต้นไป ประกาศ ณ วนั ที่ 9 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2565 (ลงช่อื ) ( นางจฬุ าภรณ์ บุญศรี ) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนทับโพธิ์พฒั นวิทย์
5 ข คำนำ โรงเรียนเรียนทับโพธิ์พัฒนวิทย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33ได้จัดทำหลักสูตรกลุ่ม สาระการเรียนรู้ศิลปะตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เล่มนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ เปน็ กรอบและทศิ ทางในการพฒั นาหลักสูตรและจดั การเรยี นการสอน ซึ่งมีเน้ือหาประกอบด้วยทำไมจึงต้องเรียน ศิลปะ เรียนรู้อะไร ในศิลปะ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ คุณภาพผู้เรียน ตารางวิเคราะห์สาระการเรยี นรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ การวิเคราะห์เพื่อจัดทำคำอธิบายรายวิชา คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา และหนว่ ยการเรยี นรู้ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรยี นทับโพธ์ิพัฒนวิทย์ ผู้อำนวยการ โรงเรยี น และคณะครโู รงเรยี นทบั โพธ์พิ ัฒนวิทย์ ที่ได้รว่ มกันทำงานอย่างเป็นระบบ และตอ่ เนือ่ ง ในการวางแผน ดำเนินการ ส่งเสริมสนับสนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้มีความสมบูรณ์ เหมาะสมสำหรับการ จัดการเรียนการสอนในแตล่ ะระดับชั้น และสามารถพฒั นาผเู้ รียนไปส่คู ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรทู้ ีก่ ำหนดไว้ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ
สารบัญ 6ค เรื่อง หนา้ ประกาศโรงเรยี นทับโพธ์ิพฒั นวทิ ย์ ก คำนำ ข สารบัญ ค 1.วสิ ยั ทัศนข์ องกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 1 2.ความสำคญั ของการเรยี นกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 1 3.ส่งิ ที่ตอ้ งเรียนรู้อะไรในกลมุ่ สาระศลิ ปะ 2 4.คณุ ภาพผู้เรียน 2 5.สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 4 6.สาระและ มาตรฐานการเรยี นรู้ 6 7. ตัวชี้วัด และสาระการเรียนรแู้ กนกลาง 6 8. คำอธิบายรายวิชา (รายชั้น) 23 9. หนว่ ยการเรยี นรูแ้ ละเวลาเรยี น 65 10. การจดั การเรยี นรู้/ กระบวนการเรียนรู้ 84 11. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้ 85 12. การวดั และประเมนิ ผล 86 บรรณานกุ รม ภาคผนวก คำสงั่ โรงเรียน คณะผูจ้ ัดทำ
1 1.วสิ ัยทศั น์กล่มุ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกำลังของชาติใหเ้ ปน็ มนุษย์ที่มีความ สมดุลท้งั ดา้ นรา่ งกาย ความรู้ คณุ ธรรม มีจิตสำนกึ ในความเป็นพลเมอื งไทยและเป็นพลโลก ยดึ มั่นในการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติ ที่จำเป็นต่อ การศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชวี ิตโดยมุง่ เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคัญบนพ้ืนฐานความเชื่อว่า ทุกคน สามารถเรยี นรู้และพฒั นาตนเองได้เต็มตามศกั ยภาพ 2.ความสำคญั ของการเรยี นกลุ่มสาระการเรยี นรู้ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐานมีหลกั การท่สี ำคญั ดังน้ี 1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือความเปน็ เอกภาพของชาติ มจี ุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็นเป้าหมาย สำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพืน้ ฐานของความเป็นไทยควบคูก่ ับความ เป็นสากล 2. เป็นหลักสตู รการศึกษาเพ่อื ปวงชนทีป่ ระชาชนทกุ คนมโี อกาสได้รับการศกึ ษาอย่างเสมอภาค และมีคณุ ภาพ 3. เป็นหลกั สตู รการศกึ ษาท่ีสนองการกระจายอำนาจ ให้สงั คมมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับ สภาพและความตอ้ งการของทอ้ งถิน่ 4. เปน็ หลกั สตู รการศกึ ษาท่ีมโี ครงสร้างยดื หยนุ่ ทัง้ ดา้ นสาระการเรยี นรู้ เวลาและการจดั การเรียนรู้ 5. เปน็ หลักสตู รการศึกษาทีเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยครอบคลุมทุก กลุ่มเป้าหมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์ จุดหมาย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพใน การศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จงึ กำหนดเป็นจดุ หมายเพื่อให้เกดิ กบั ผเู้ รยี นเมอื่ จบการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ดงั นี้ 1. มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมทพ่ี ึงประสงค์ เห็นคณุ ค่าของตนเอง มีวินัยและปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรม ของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนับถือ ยดึ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. มคี วามรู้ ความสามารถในการสอ่ื สาร การคดิ การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมีทกั ษะชีวติ 3. มีสุขภาพกายสุขภาพจิตทีด่ ี มีสุขนสิ ยั และรกั การออกกำลังกาย 4. มีความรักชาติ มีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ 5. มจี ิตสำนกึ ในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย การอนรุ ักษ์และพฒั นาสง่ิ แวดลอ้ ม มีจิตสาธารณะ ทมี่ งุ่ ทำประโยชน์และสร้างสง่ิ ทด่ี ีในสังคม และอยรู่ ่วมกันในสังคมอยา่ งมคี วามสขุ
2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ 3.สง่ิ ที่ตอ้ งเรยี นรู้อะไรในกล่มุ สาระศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะเป็นกล่มุ สาระที่ช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมีความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ มีจินตนาการ ทางศิลปะ ชื่นชมความงาม มีสุนทรียภาพ ความมีคุณค่า ซึ่งมีผลต่อคุณภาพชีวิตมนุษย์ กิจกรรมทางศิลปะช่วย พฒั นาผูเ้ รียนทงั้ ดา้ นร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม ตลอดจนการนำไปสกู่ ารพฒั นาสงิ่ แวดล้อม สง่ เสริมให้ ผเู้ รยี นมคี วามเช่อื ม่นั ในตนเอง อันเปน็ พ้ืนฐาน ในการศึกษาต่อหรอื ประกอบอาชีพได้ เรียนรอู้ ะไรในศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะวิธีการทางศิลปะ เกิดความ ซาบซ้งึ ในคุณคา่ ของศิลปะ เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นแสดงออกอย่างอสิ ระในศลิ ปะแขนงต่าง ๆ ประกอบด้วยสาระสำคัญ คอื • ทัศนศิลป์ มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุ สร้างและนำเสนอผลงานทางทัศนศิลป์จาก จินตนาการ โดยสามารถใช้อุปกรณ์ท่ีเหมาะสม รวมทั้งสามารถใชเ้ ทคนคิ วิธีการของศลิ ปินในการสร้างงานได้อยา่ งมี ประสิทธิภาพ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างานศิลปะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากลชื่นชม ประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจำวนั • ดนตรี มีความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบดนตรีแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ทางดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเข้า ใจ ความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ร้องเพลง และเล่นดนตรีในรูปแบบต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเสียงดนตรี แสดงความรู้สกึ ทีม่ ีตอ่ ดนตรีในเชงิ สนุ ทรียะ เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหว่างดนตรีกบั ประเพณีวฒั นธรรม และเหตุการณ์ ในประวตั ิศาสตร์ • นาฏศลิ ป์ มีความร้คู วามเข้าใจองคป์ ระกอบนาฏศิลป์ แสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ ใช้ศัพท์ เบื้องต้นทางนาฏศิลป์วิเคราะห์วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอย่างอิสระ สร้างสรรค์ การเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ ประยุกต์ใช้นาฏศิลป์ในชีวิตประจำวัน เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์กับ ประวตั ิศาสตร์วัฒนธรรม เหน็ คุณคา่ ของนาฏศิลป์ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถน่ิ ภูมิปัญญาไทย และ สากล 4.คณุ ภาพผู้เรียน จบชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 • รู้และเข้าใจเรื่องทัศนธาตุและหลักการออกแบบและเทคนิคทหี่ ลากหลายในการสร้างงานทัศนศิลป์ 2 มิติ และ 3 มติ ิ เพื่อสือ่ ความหมายและเร่ืองราวตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ วเิ คราะหร์ ปู แบบเน้ือหาและประเมินคุณค่างาน ทัศนศลิ ปข์ องตนเองและผอู้ ่นื สามารถเลือกงานทัศนศิลป์โดยใช้เกณฑ์ที่กำหนดขึ้นอย่างเหมาะสม สามารถออกแบบ รปู ภาพ สัญลกั ษณ์ กราฟิกในการนำเสนอขอ้ มูลและมคี วามรู้ ทกั ษะทีจ่ ำเป็นดา้ นอาชพี ที่เกีย่ วข้องกันกับงานทัศนศลิ ป์
3 • รู้และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของงานทัศนศิลป์ของชาติและท้องถิ่นแต่ละยุคสมัย เห็น คุณค่างานทัศนศลิ ปท์ สี่ ะท้อนวฒั นธรรมและสามารถเปรียบเทยี บงานทัศนศลิ ป์ที่มาจากยคุ สมัยและวัฒนธรรมต่างๆ • รู้และเข้าใจถึงความแตกต่างทางด้านเสียง องค์ประกอบ อารมณ์ ความรู้สกึ ของบทเพลงจากวัฒนธรรม ต่าง ๆ มีทักษะในการร้อง บรรเลงเครื่องดนตรี ทั้งเดี่ยวและเป็นวงโดยเน้นเทคนคิ การรอ้ งบรรเลงอยา่ งมีคุณภาพ มี ทักษะในการสร้างสรรค์บทเพลงอย่างง่าย อ่านเขียนโน้ตในบันไดเสียงที่มีเครื่องหมาย แปลงเสียงเบื้องต้นได้ รู้และ เข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลต่อรูปแบบของผลงานทางดนตรี องค์ประกอบของผลงานด้านดนตรีกับศิลปะแขนงอื่น แสดง ความคิดเห็นและบรรยายอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อบทเพลง สามารถนำเสนอบทเพลงที่ชื่นชอบได้อย่างมีเหตุผล มี ทกั ษะในการประเมนิ คุณภาพของบทเพลงและการแสดงดนตรี รถู้ งึ อาชีพต่าง ๆ ท่เี ก่ียวข้องกบั ดนตรีและบทบาทของ ดนตรีในธรุ กจิ บนั เทงิ เขา้ ใจถึงอทิ ธิพลของดนตรีท่มี ตี อ่ บคุ คลและสงั คม • รู้และเข้าใจที่มา ความสัมพันธ์ อิทธิพลและบทบาทของดนตรีแต่ละวัฒนธรรมในยุคสมัยต่าง ๆ วิเคราะห์ ปัจจยั ทท่ี ำให้งานดนตรีไดร้ บั การยอมรับ • รู้และเข้าใจการใช้นาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครในการแปลความและส่ือสารผา่ นการแสดง รวมทง้ั พฒั นารปู แบบการแสดง สามารถใช้เกณฑ์ง่าย ๆ ในการพิจารณาคณุ ภาพการแสดง วจิ ารณ์เปรียบเทยี บงานนาฏศิลป์ โดยใชค้ วามรู้เรือ่ งองค์ประกอบทางนาฏศิลปร์ ว่ มจดั การแสดง นำแนวคดิ ของการแสดงไปปรบั ใช้ในชวี ิตประจำวนั • รู้และเข้าใจประเภทละครไทยในแต่ละยุคสมัย ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ของนาฏศิลป์ไทย นาฏศลิ ป์พื้นบ้าน ละครไทย และละครพ้นื บ้าน เปรยี บเทียบลักษณะเฉพาะของการแสดงนาฏศิลป์จากวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมทั้งสามารถออกแบบและสร้างสรรค์อุปกรณ์ เครื่องแต่งกายในการแสดงนาฏศิลป์และละคร มีความเข้าใจ ความสำคัญ บทบาทของนาฏศิลป์ และละครในชวี ติ ประจำวนั จบชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 • รู้และเข้าใจเกี่ยวกบั ทัศนธาตุและหลักการออกแบบในการส่ือความหมาย สามารถใช้ศัพท์ทางทัศนศลิ ป์ อธิบายจดุ ประสงคแ์ ละเนือ้ หาของงานทศั นศลิ ป์ มที กั ษะและเทคนคิ ในการใช้วสั ดุ อุปกรณ์และกระบวนการที่สูงข้ึนใน การสร้างงานทัศนศิลป์ วิเคราะห์เนื้อหาและแนวคิด เทคนิควิธีการ การแสดงออกของศิลปินทั้งไทยและสากล ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการออกแบบสร้างสรรค์งานที่เหมาะสมกับโอกาส สถานที่ รวมทั้งแสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกบั สภาพสังคมด้วยภาพล้อเลยี นหรือการต์ นู ตลอดจนประเมนิ และวิจารณ์คุณคา่ งานทศั นศิลป์ด้วยหลัก ทฤษฎวี ิจารณศ์ ิลปะ • วิเคราะห์เปรียบเทียบงานทัศนศิลป์ในรูปแบบตะวนั ออกและรปู แบบตะวันตก เข้าใจอิทธิพลของมรดก ทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาระหว่างประเทศท่มี ีผลตอ่ การสร้างสรรค์งานทัศนศลิ ปใ์ นสังคม • รู้และเข้าใจรูปแบบบทเพลงและวงดนตรีแต่ละประเภท และจำแนกรูปแบบของวงดนตรีทั้งไทยและ สากล เข้าใจอิทธิพลของวัฒนธรรมตอ่ การสรา้ งสรรค์ดนตรี เปรียบเทียบอารมณแ์ ละความรู้สึกที่ได้รับจากดนตรีท่ีมา จากวัฒนธรรมต่างกัน อ่าน เขียน โน้ตดนตรีไทยและสากล ในอัตราจังหวะต่าง ๆ มีทักษะในการร้องเพลงหรือเล่น ดนตรีเดี่ยวและรวมวงโดยเน้นเทคนิคการแสดงออกและคุณภาพของการแสดง สร้างเกณฑ์สำหรับประเมินคุณภาพ การประพนั ธ์ การเลน่ ดนตรีของตนเองและผู้อนื่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม สามารถนำดนตรีไประยุกตใ์ ชใ้ นงานอื่น ๆ
4 • วเิ คราะห์ เปรียบเทียบรปู แบบ ลักษณะเด่นของดนตรีไทยและสากลในวัฒนธรรมต่าง ๆ เขา้ ใจบทบาทของ ดนตรีที่สะท้อนแนวความคิดและค่านิยมของคนในสังคม สถานะทางสังคมของนักดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ สร้าง แนวทางและมสี ่วนรว่ มในการส่งเสรมิ และอนุรกั ษ์ดนตรี • มีทักษะในการแสดงหลากหลายรูปแบบ มีความคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคู่ และเป็นหมู่ สร้างสรรค์ละครสั้นในรูปแบบที่ช่ืนชอบ สามารถวิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และละครที่ต้องการสื่อ ความหมายในการแสดง อิทธิพลของเครื่องแต่งกาย แสง สี เสียง ฉาก อุปกรณ์ และสถานที่ที่มีผลต่อการแสดง วิจารณก์ ารแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร พัฒนาและใชเ้ กณฑ์การประเมนิ ในการประเมินการแสดง และสามารถวิเคราะห์ ทา่ ทางการเคลอ่ื นไหวของผ้คู นในชวี ติ ประจำวัน และนำมาประยุกต์ใช้ในการแสดง • เข้าใจววิ ัฒนาการของนาฏศิลป์และการแสดงละครไทย และบทบาทของบุคคลสำคัญในวงการนาฏศิลป์ และการละครของประเทศไทยในยคุ สมัยตา่ ง ๆ สามารถเปรียบเทียบการนำการแสดงไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ และเสนอ แนวคิดในการอนรุ กั ษน์ าฏศิลป์ไทย 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม มาตรฐานที่กำหนด ซง่ึ จะช่วยใหผ้ เู้ รียนเกิดสมรรถนะสำคัญและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดังน้ี สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5 ประการ คอื 1)ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร ที่ใช้ถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อนั จะเปน็ ประโยชน์ต่อ การพฒั นาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาตอ่ รองเพอ่ื ขจัดและลดปญั หาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลอื กรับหรอื ไม่รบั ข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึง ผลกระทบทม่ี ตี อ่ ตนเองและสงั คม 2) ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนพไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศเพ่ือ ตดั สินใจเกี่ยวกับตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3) ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นสามารถในการแกป้ ญั หาและอปุ สรรค์ต่าง ๆ ท่เี ผชิญได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลีย่ นแปลงของ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหา มีการตัดสินใจที่มี ประสทิ ธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กิดต่อตนเอง สังคมและสงิ่ แวดล้อม 4) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนิน ชีวิตในประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างตอ่ เนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกนั ในสังคมด้วยการ สร้างเสรมิ ความสมั พนั ธอ์ ันดรี ะหวา่ งบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแยง้ ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้
5 ทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพสังคม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ส่งผลกระทบต่อ ตนเองและผู้อ่ืน 5) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยดี ้านต่าง ๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรยี นรู้ การสื่อสาร การทำงาน การ แก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถกู ต้องเหมาะสม และมีคณุ ธรรม คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์มุง่ เนน้ ให้ผู้เรียนสามารถอยรู่ วมกับผู้อนื่ ในสังคมได้อย่างมคี วามสุข ในฐานะเป็น พลเมืองไทยและพลโลก 8 ข้อ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้สถานศึกษาสามารถกำหนดคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เพิ่มเตมิ ใหส้ อดคลอ้ งตามบริบทและจุดเน้นของตนเองได้ จากขอ้ สรปุ ของผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษาสรุปไดว้ ่า คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์เป็นลักษณะของคนดีคือ คน ท่ดี ำเนนิ ชีวติ อย่างมคี ุณภาพ มีจิตใจท่ีดงี าม มีคุณธรรม จริยธรรม และได้สรุปสาระคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดังนี้ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึงมคี วามภาคภูมิใจในความเป็นไทย นิยมไทย ปฏิบัติตามคำส่ังสอนของ ศาสนาเคารพเทดิ ทูนศาสนา แสดงความจงรักภกั ดี เทดิ ทนู พระเกียรติและ พระราชกรณียกจิ ของพระมหากษัตรยิ ์ 2.ซือ่ สตั ยส์ ุจริต หมายถงึ การประพฤติปฏบิ ตั อิ ยา่ งเหมาะสม และตรงตอ่ ความเปน็ จริงประพฤติปฏิบัติอย่าง ตรงไปตรงมา ทง้ั กาย วาจา ใจ ตอ่ ตนเองและผ้อู ืน่ รวมตลอดทง้ั ตอ่ หน้าที่ การงานและคำม่นั สญั ญา ความประพฤติที่ ตรงไปตรงมาและจริงใจในส่งิ ทีถ่ ูกทีค่ วร ถูกตอ้ ง ตามทำนองคลองธรรมรวมไปถึงการไมค่ ดิ คดทรยศ ไมค่ ดโกงและ ไม่หลอกลวงนอกจากนี้แล้วความซอ่ื สตั ย์สุจริตยงั รวมไปถงึ การรกั ษาคำพูดหรือคำมั่นสญั ญาและการปฏิบัติหน้าท่ีการ งานของตนเองดว้ ยความรบั ผดิ ชอบและด้วยความซ่อื สตั ยไ์ มแ่ สวงหาผลประโยชนใ์ หแ้ กต่ นเองและพวกพ้องดว้ ยการใช้ อำนาจหน้าที่โดยมิชอบซง่ึ ความซือ่ สัตย์สุจริตน้ีจะดำเนนิ ไปด้วยความตั้งใจจรงิ เพ่ือทำหน้าทขี่ องตนเองให้สำเร็จลุล่วง ดว้ ยความระมดั ระวงั และเกดิ ผลดตี อ่ ตนเองและสงั คม 3. มีวินัยหมายถึง การควบคุมความประพฤติให้ถกู ต้องและเหมาะสมกบั จรรยามารยาท ข้อบังคับ ข้อตกลง กฎหมาย และศลี ธรรมการรู้จกั ควบคมุ ตนเองใหป้ ระพฤติปฏิบัติตามข้อตกลง ขอ้ บงั คบั ระเบียบแบบแผน และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ยอ่ มนำมาซ่ึงความสงบสขุ ในชวี ติ ของตนความเปน็ ระเบียบเรียบร้อยของสังคมและประเทศชาติ 4. ใฝ่เรยี นรู้หมายถึง การคน้ คว้าหาความรหู้ รือสงิ่ ท่เี ป็นประโยชน์ เพือ่ พฒั นาตนเอง อยเู่ สมอ 5.อยู่อย่างพอเพียงหมายถึง การมีความพอดีในการบริโภค ใช้ทรัพยากรและเวลาว่างให้เป็นประโยชน์ คำนึงถงึ ฐานะและเศรษฐกิจ คิดกอ่ นใช้จ่ายตามความเหมาะสมรู้จักการเพิ่มพนู ทรัพย์ ด้วยการเก็บและนำไปใช้ให้เกิด ประโยชนด์ แู ลรกั ษาบรู ณทรัพย์ของตนเอง มีการเกบ็ ออมเงนิ ไว้ตามสมควร 6.มุ่งมั่นในการทำงานหมายถึง การศึกษาเรียนรู้เพื่อหาขอ้ เท็จจรงิ ซึ่งอาจพัฒนาไปสู่ความจริงในสิง่ ทีต่ ้องการเรียนรู้ หรือต้องการหาคำตอบเพื่อนำคำตอบที่ได้นั้นมาใช้ประโยชน์ ในด้านต่าง ๆ เช่น การยกระดับความรู้การนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน ฯลฯหรอื นำมาสรุปเป็นความจริงใหไ้ ด้ 7.รกั ความเป็นไทยหมายถึง เข้าใจ หวงแหนความเปน็ ไทยซึง่ ถอื เปน็ ตน้ ทนุ ทางสังคม ทำใหท้ ุกศาสนา สามารถอยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ย่างสันตโิ ดยต้องมีการดำเนนิ ชวี ติ โดยกายสุจริต วจีสุจรติ และมโนสุจริตเปน็ คุณลักษณะที่
6 เกี่ยวขอ้ งกบั การเขา้ สังคมและการมีปฏสิ ัมพนั ธ์กับผู้อน่ื เช่น ความมกี ิรยิ ามารยาท การปรับตวั ความตรงต่อเวลา ความสภุ าพ การมีสัมมาคารวะการพูดจาไพเราะ และความอ่อนนอ้ มถ่อมตน 8. มีจิตสาธารณะหมายถึง คุณลักษณะทางจิตใจของบุคคลเกี่ยวกับการมองเห็นคุณค่า หรอื การให้คุณค่า แกก่ ารมีปฏสิ ัมพนั ธ์ทางสังคมและสงิ่ ต่าง ๆ ทเี่ ปน็ สง่ิ สาธารณะทไ่ี มม่ ีผู้ใดผู้ผู้หนงึ่ เป็นเจา้ ของ หรอื เป็นส่ิงทคี่ นในสงั คม เป็นเจ้าของรว่ มกนั เป็นส่ิงทส่ี ามารถสังเกตได้จากความร้สู ึกนกึ คดิ หรอื การกระทำทแ่ี สดงออกมา ได้แก่ การหลีกเล่ยี ง การใช้หรือการกระทำที่จะทำให้เกิดความชำรุดเสียหายตอ่ สว่ นรวมท่ีใช้ประโยชนร์ ่วมกนั ของกลมุ่ การถอื เป็นหนา้ ที่ท่ีจะ มีสว่ นร่วมในการ 6. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทศั นศิลป์ ถ่ายทอดความรูส้ กึ ความคดิ ต่องานศิลปะอยา่ งอสิ ระ ชืน่ ชม และประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั มาตรฐาน ศ 1.2 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างทัศนศลิ ป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา่ งาน ทัศนศลิ ป์ทเี่ ป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ ภูมปิ ัญญาไทย และสากล สาระท่ี 2ดนตรี มาตรฐาน ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์วิจารณ์คุณค่าดนตรี ถา่ ยทอด ความร้สู ึก ความคดิ ตอ่ ดนตรอี ย่างอิสระ ช่ืนชมและประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน มาตรฐาน ศ 2.2 เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งดนตรี ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ ค่าของดนตรี ท่ี เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาทอ้ งถนิ่ ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล สาระที่ 3นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ 3.1 เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศลิ ปอ์ ย่างสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณค์ ุณค่า นาฏศิลป์ถ่ายทอดความร้สู ึก ความคดิ อย่างอิสระ ช่นื ชมและประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน มาตรฐาน ศ 3.2 เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตร์และวัฒนธรรมเห็นคุณค่า ของนาฏศลิ ป์ท่ีเปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ภูมปิ ัญญาไทยและสากล 7. ตวั ชี้วัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สาระท่ี 1 ทศั นศิลป์ มาตรฐาน ศ 1.1 สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ปต์ ามจินตนาการ และความคิดสรา้ งสรรค์ วิเคราะหว์ ิพากษว์ จิ ารณ์คุณคา่ งาน ทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรูส้ กึ ความคิดต่องานศิลปะอย่างอสิ ระช่ืนชม และ ประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ
7 ช้ัน ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ม.1 1. บรรยายความแตกตา่ งและความ • ความแตกตา่ งและความคล้ายคลงึ กนั คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทัศนศิลป์และ ของทศั นธาตุในงานทัศนศลิ ป์ และส่งิ แวดล้อม สง่ิ แวดลอ้ มโดยใช้ความรู้เร่อื งทศั นธาตุ 2. ระบุ และบรรยายหลักการออกแบบงาน • ความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืน ความสมดุล ทศั นศิลป์ โดยเน้นความเป็นเอกภาพความ กลมกลนื และความสมดุล 3. วาดภาพทศั นียภาพแสดงให้เหน็ • หลักการวาดภาพแสดงทัศนยี ภาพ ระยะไกลใกล้ เปน็ 3 มิติ 4. รวบรวมงานป้นั หรอื สื่อผสมมาสรา้ งเป็น • เอกภาพความกลมกลืนของเรื่องราวในงานป้ันหรือ เรอื่ งราว 3มิตโิ ดยเน้นความเป็นเอกภาพ ความ งานส่อื ผสม กลมกลนื และการส่ือถึงเรื่องราวของงาน 5. ออกแบบรูปภาพ สญั ลักษณ์ • การออกแบบรปู ภาพ สัญลกั ษณ์ หรือกราฟิกอืน่ ๆในการนำเสนอความคิด หรอื งานกราฟกิ และข้อมูล 6. ประเมินงานทศั นศิลป์ และบรรยายถึง • การประเมินงานทัศนศิลป์ วิธกี ารปรับปรงุ งานของตนเองและผู้อ่ืนโดย ใชเ้ กณฑ์ที่กำหนดให้ ม.2 1. อภปิ รายเกยี่ วกับทศั นธาตุในด้านรปู แบบ • รปู แบบของทัศนธาตุและแนวคิดในงาน และแนวคดิ ของงานทัศนศิลป์ท่ีเลอื กมา ทัศนศลิ ป์ 2. บรรยายเกยี่ วกับความเหมือนและความ • ความเหมอื นและความแตกต่างของรูปแบบการ แตกต่างของรปู แบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ใน ใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ในงานทศั นศิลป์ งานทัศนศลิ ป์ของศิลปิน ของศิลปนิ 3. วาดภาพดว้ ยเทคนิคที่หลากหลาย • เทคนคิ ในการวาดภาพสื่อความหมาย ในการส่ือความหมายและเรื่องราวต่าง ๆ ม.2 4. สรา้ งเกณฑ์ในการประเมิน • การประเมนิ และวจิ ารณง์ านทศั นศิลป์ และวิจารณง์ านทัศนศิลป์ 5. นำผลการวจิ ารณ์ไปปรับปรุงแก้ไขและ • การพัฒนางานทัศนศิลป์ พฒั นางาน • การจัดทำแฟ้มสะสมงานทศั นศลิ ป์ 6. วาดภาพแสดงบุคลกิ ลักษณะ • การวาดภาพถ่ายทอดบคุ ลกิ ลกั ษณะ ของตวั ละคร ของตัวละคร 7. บรรยายวธิ กี ารใชง้ านทัศนศิลป์ • งานทศั นศลิ ป์ในการโฆษณา ในการโฆษณาเพือ่ โน้มน้าวใจและนำเสนอ ตัวอย่างประกอบ
8 ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.3 1. บรรยายส่ิงแวดล้อม และงานทศั นศิลป์ท่ี • ทัศนธาตุ หลกั การออกแบบในสง่ิ แวดล้อม เลือกมาโดยใช้ความรเู้ รื่องทศั นธาตุ และ และงานทศั นศลิ ป์ หลักการออกแบบ 2. ระบุ และบรรยายเทคนิค วิธีการ ของ • เทคนคิ วธิ ีการของศลิ ปินในการสรา้ งงาน ศลิ ปินในการสร้างงาน ทศั นศิลป์ ทัศนศิลป์ 3. วเิ คราะห์ และบรรยายวธิ กี ารใช้ ทศั น • วิธกี ารใช้ทศั นธาตแุ ละหลักการออกแบบในการ ธาตุ และหลักการออกแบบในการสรา้ งงาน สร้างงานทัศนศลิ ป์ ทัศนศลิ ป์ของตนเองใหม้ คี ุณภาพ 4. มที กั ษะในการสร้างงานทัศนศิลปอ์ ย่าง • การสรา้ งงานทศั นศิลป์ทงั้ ไทยและสากล นอ้ ย 3ประเภท ม.3 5. มีทกั ษะในการผสมผสานวัสดตุ ่าง ๆ ใน • การใชห้ ลักการออกแบบในการสร้างงาน การสร้างงานทัศนศิลป์โดยใชห้ ลกั การ สอ่ื ผสม ออกแบบ 6. สร้างงานทศั นศลิ ป์ ทง้ั 2มติ ิ และ 3 • การสร้างงานทัศนศิลป์แบบ 2 มิติ และ 3 มิตเิ พื่อ มติ ิ เพือ่ ถ่ายทอดประสบการณ์และ ถ่ายทอดประสบการณ์ และจินตนาการ จนิ ตนาการ 7.สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์ส่ือความหมาย • การประยุกต์ใช้ทศั นธาตแุ ละหลักการ เปน็ เรื่องราว โดยประยุกตใ์ ชท้ ศั นธาตุและ ออกแบบสรา้ งงานทศั นศิลป์ หลักการออกแบบ ม.3 8. และคุณค่าในงานทศั นศิลป์ ของตนเอง ในงานทัศนศลิ ป์ และผ้อู น่ื หรอื ของศิลปนิ 9. สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ป์เพ่ือบรรยาย • การใชเ้ ทคนิค วิธีการที่หลากหลาย เหตุการณต์ ่าง ๆ โดยใช้เทคนิค สรา้ งงานทศั นศลิ ป์เพ่อื สือ่ ความหมาย ทห่ี ลากหลาย 10.ระบุอาชีพท่ีเก่ียวขอ้ งกับงานทัศนศิลป์ • การประกอบอาชีพทางทัศนศิลป์ และทักษะทจ่ี ำเป็นในการประกอบอาชพี น้นั ๆ 11.เลือกงานทศั นศิลป์โดยใช้เกณฑท์ ี่ • การจดั นทิ รรศการ กำหนดข้นึ อยา่ งเหมาะสม และนำไป จัดนิทรรศการ ม.4- 6 1. วิเคราะหก์ ารใช้ทัศนธาตุ และหลกั การ • ทัศนธาตุและหลักการออกแบบ ออกแบบในการส่ือความหมายในรูปแบบ ตา่ ง ๆ 2. บรรยายจดุ ประสงคแ์ ละเน้อื หาของงาน • ศัพท์ทางทัศนศิลป์ ทศั นศลิ ป์โดยใชศ้ ัพท์ทางทัศนศิลป์
9 ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 3. วิเคราะหก์ ารเลอื กใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ และ • วสั ดุ อปุ กรณ์ และเทคนคิ ของศิลปิน เทคนิคของศิลปินในการแสดงออกทาง ทัศนศลิ ป์ ในการแสดงออกทางทัศนศิลป์ 4. มที กั ษะและเทคนิคในการใชว้ ัสดุ • เทคนคิ วัสดุ อุปกรณ์ กระบวนการในการ อุปกรณ์และกระบวนการท่ีสงู ขึ้น สรา้ งงานทศั นศิลป์ ในการสร้างงานทัศนศิลป์ 5. สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ดว้ ยเทคโนโลยีต่าง • หลกั การออกแบบและการจัดองคป์ ระกอบศิลป์ ๆ โดยเน้นหลกั การออกแบบและการจัด ด้วยเทคโนโลยี องคป์ ระกอบศลิ ป์ 6. ออกแบบงานทศั นศิลป์ไดเ้ หมาะกบั • การออกแบบงานทัศนศลิ ป์ โอกาสและสถานท่ี 7. วเิ คราะห์และอธิบายจดุ มงุ่ หมาย • จุดมงุ่ หมายของศลิ ปนิ ในการเลอื กใชว้ ัสดุ ของศิลปนิ ในการเลือกใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ อุปกรณ์ เทคนิคและเน้ือหา ในการสร้างงาน เทคนคิ และเน้อื หา เพ่อื สร้างสรรคง์ าน ทัศนศลิ ป์ ทศั นศิลป์ 8. ประเมินและวิจารณ์งานทศั นศิลป์โดยใช้ • ทฤษฎกี ารวจิ ารณ์ศลิ ปะ ทฤษฎกี ารวจิ ารณ์ศลิ ปะ 9. จดั กลุ่มงานทศั นศิลปเ์ พื่อสะท้อน • การจัดทำแฟม้ สะสมงานทัศนศิลป์ พัฒนาการและความกา้ วหน้าของตนเอง 10.สรา้ งสรรค์งานทศั นศิลป์ไทย สากล • การสรา้ งงานทศั นศลิ ป์จากแนวคดิ และวธิ กี าร โดยศึกษาจากแนวคดิ และวธิ ีการ ของศิลปิน สร้างงานของศิลปินทต่ี นชน่ื ชอบ 11.วาดภาพ ระบายสีเปน็ ภาพลอ้ เลียน • การวาดภาพล้อเลยี นหรือภาพการต์ ูน หรอื ภาพการ์ตูนเพ่ือแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับสภาพสังคมในปัจจุบัน สาระท่ี 1 ทศั นศลิ ป์ มาตรฐาน ศ 1.2 เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งทัศนศิลป์ ประวัตศิ าสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า งานทศั นศลิ ปท์ ี่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปญั ญาไทย และสากล ชัน้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.1 1. ระบุ และบรรยายเกีย่ วกับลกั ษณะ รูปแบบ • ลกั ษณะ รูปแบบงานทัศนศิลป์ของชาติและ งานทศั นศิลป์ของชาติและของท้องถิ่นตนเอง ท้องถิน่ จากอดตี จนถงึ ปจั จุบนั 2. ระบุ และเปรยี บเทยี บงานทัศนศิลป์ของ • งานทัศนศิลป์ภาคตา่ ง ๆ ในประเทศไทย ภาคต่าง ๆ ในประเทศไทย
10 ช้นั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 3. เปรียบเทยี บความแตกต่างของจดุ ประสงค์ • ความแตกตา่ งของงานทัศนศลิ ป์ ในการสรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์ของวฒั นธรรม ในวฒั นธรรมไทยและสากล ไทยและสากล ม.2 1. ระบุ และบรรยายเกย่ี วกับวัฒนธรรมต่าง ๆท่ี • วฒั นธรรมที่สะทอ้ นในงานทัศนศิลปป์ ัจจบุ นั สะทอ้ นถงึ งานทศั นศิลปใ์ นปัจจุบนั 2. บรรยายถงึ การเปล่ยี นแปลงของ • งานทัศนศิลป์ของไทยในแต่ละยุคสมัย งานทศั นศลิ ป์ของไทยในแต่ละยคุ สมัยโดย เน้นถงึ แนวคิดและเนอ้ื หาของงาน 3. เปรียบเทยี บแนวคิดในการออกแบบงาน • การออกแบบงานทศั นศิลป์ในวฒั นธรรมไทย ทัศนศิลป์ที่มาจาก วฒั นธรรมไทยและสากล และสากล ม.3 1. ศกึ ษาและอภิปรายเกีย่ วกบั งานทัศนศิลป์ ท่ี • งานทศั นศิลป์กบั การสะท้อนคุณค่า สะท้อนคุณค่าของวัฒนธรรม ของวฒั นธรรม 2. เปรียบเทยี บความแตกต่างของ • ความแตกตา่ งของงานทัศนศิลป์ในแต่ละยุค งานทศั นศลิ ป์ในแต่ละยุคสมยั สมยั ของวัฒนธรรมไทยและสากล ของวัฒนธรรมไทยและสากล ม.4-6 1. วเิ คราะห์ และเปรียบเทยี บงานทัศนศิลปใ์ น • งานทัศนศลิ ปร์ ูปแบบตะวนั ออกและตะวันตก รปู แบบตะวันออกและรปู แบบตะวนั ตก 2. ระบุงานทศั นศลิ ป์ของศลิ ปินทม่ี ีชอ่ื เสียง • งานทัศนศลิ ปข์ องศิลปนิ ทีม่ ชี ื่อเสยี ง และบรรยายผลตอบรับของสงั คม 3. อภิปรายเกยี่ วกบั อทิ ธิพลของวฒั นธรรม • อทิ ธิพลของวฒั นธรรมระหวา่ งประเทศ ระหว่างประเทศที่มผี ลตอ่ งานทัศนศิลป์ใน ทมี่ ีผลตอ่ งานทศั นศิลป์ สังคม สาระท่ี 2ดนตรี มาตรฐาน ศ 2.1เข้าใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คณุ ค่าดนตรี ถ่ายทอดความรสู้ กึ ความคดิ ตอ่ ดนตรีอยา่ งอสิ ระ ช่ืนชมและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ม.1 1. อ่าน เขียน ร้องโน้ตไทย และโนต้ สากล • เคร่อื งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรี - โนต้ บทเพลงไทย อัตราจงั หวะสองชั้น - โน้ตสากล ในกญุ แจซอลและฟา ในบันไดเสยี ง C Major
11 ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 2. เปรยี บเทียบเสยี งรอ้ งและเสยี ง • เสียงรอ้ งและเสียงของเครอ่ื งดนตรี ของเครือ่ งดนตรีทม่ี าจากวฒั นธรรม ในบทเพลงจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ทต่ี า่ งกนั - วิธกี ารขับรอ้ ง - เครอื่ งดนตรที ่ใี ช้ 3. ร้องเพลงและใช้เคร่ืองดนตรีบรรเลง • การรอ้ งและการบรรเลงเครอ่ื งดนตรี ประกอบการร้องเพลงด้วยบทเพลง ทห่ี ลากหลายรปู แบบ ประกอบการรอ้ ง - บทเพลงพน้ื บ้านบทเพลงปลุกใจ ม.1 3. ร้องเพลงและใช้เคร่อื งดนตรบี รรเลง - บทเพลงไทยเดมิ ประกอบการรอ้ งเพลงดว้ ยบทเพลง - บทเพลงประสานเสยี ง 2 แนว - บทเพลงรปู แบบ ABA ที่หลากหลายรูปแบบ - บทเพลงประกอบการเต้นรำ 4. จดั ประเภทของวงดนตรไี ทยและ • วงดนตรีพื้นเมือง วงดนตรีทีม่ าจากวัฒนธรรมต่าง ๆ • วงดนตรีไทย • วงดนตรสี ากล 5. แสดงความคิดเห็นทมี่ ีต่ออารมณข์ อง • การถ่ายทอดอารมณข์ องบทเพลง บทเพลงทีม่ คี วามเร็วของจงั หวะ - จงั หวะกับอารมณ์เพลง และความดัง - เบา แตกตา่ งกนั - ความดงั -เบากับอารมณ์เพลง - ความแตกตา่ งของอารมณ์เพลง 6. เปรยี บเทยี บอารมณ์ ความรู้สกึ ในการ ฟังดนตรแี ตล่ ะประเภท 7. นำเสนอตวั อยา่ งเพลงทต่ี นเองชื่นชอบ • การนำเสนอบทเพลงท่ีตนสนใจ และอภิปรายลกั ษณะเด่นท่ีทำใหง้ านนั้น น่าชน่ื ชม 8. ใช้เกณฑ์สำหรบั ประเมินคณุ ภาพ • การประเมินคุณภาพของบทเพลง งานดนตรีหรอื เพลงทีฟ่ ัง - คณุ ภาพดา้ นเน้อื หา - คุณภาพดา้ นเสียง - คณุ ภาพดา้ นองคป์ ระกอบดนตรี 9. ใชแ้ ละบำรุงรักษาเคร่ืองดนตรี • การใช้และบำรงุ รกั ษาเครอื่ งดนตรีของตน อยา่ งระมัดระวังและรับผดิ ชอบ ม.2 1. เปรยี บเทียบการใช้องค์ประกอบดนตรี • องค์ประกอบของดนตรีจากแหลง่ ทม่ี าจากวฒั นธรรมตา่ งกัน วฒั นธรรมตา่ ง ๆ 2. อ่าน เขยี นรอ้ งโน้ตไทย และโน้ตสากลที่ • เคร่ืองหมายและสญั ลกั ษณ์ทางดนตรี มีเครอื่ งหมายแปลงเสียง - โนต้ จากเพลงไทยอัตราจังหวะสองช้ัน - โน้ตสากล (เครอ่ื งหมายแปลงเสยี ง) 3. ระบปุ จั จัยสำคัญที่มีอิทธพิ ลต่อการ • ปจั จยั ในการสร้างสรรค์บทเพลง
12 ชัน้ ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สรา้ งสรรคง์ านดนตรี - จนิ ตนาการในการสร้างสรรค์บทเพลง - การถา่ ยทอดเร่ืองราวความคิด ในบทเพลง ม.2 4. ร้องเพลง และเล่นดนตรเี ดี่ยวและรวมวง • เทคนิคการร้องและบรรเลงดนตรี - การร้องและบรรเลงเดยี่ ว - การร้องและบรรเลงเปน็ วง 5. บรรยายอารมณ์ของเพลงและความรู้สึกที่ • การบรรยายอารมณ์และความรู้สกึ ในบทเพลง มีต่อบทเพลงทฟี่ งั 6. ประเมนิ พฒั นาการทักษะทางดนตรี • การประเมินความสามารถทางดนตรี ของตนเอง หลงั จากการฝกึ ปฏิบัติ - ความถูกต้องในการบรรเลง - ความแม่นยำในการอ่านเครอ่ื งหมาย และสญั ลกั ษณ์ - การควบคมุ คุณภาพเสียงในการร้อง และบรรเลง 7. ระบุงานอาชีพตา่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับ • อาชีพทางด้านดนตรี ดนตรแี ละบทบาทของดนตรใี นธุรกจิ บันเทิง • บทบาทของดนตรีในธรุ กจิ บันเทิง ม.3 1. เปรยี บเทยี บองคป์ ระกอบทใ่ี ช้ในงาน • การเปรียบเทยี บองคป์ ระกอบในงาน ดนตรแี ละงานศิลปะอนื่ ศลิ ปะ - การใชอ้ งค์ประกอบในการสรา้ งสรรค์ งานดนตรีและศิลปะแขนงอ่ืน - เทคนคิ ทีใ่ ช้ในการสรา้ งสรรคง์ าน ดนตรีและศิลปะแขนงอื่น 2. ร้องเพลง เล่นดนตรเี ดยี่ ว และรวมวง • เทคนิคและการแสดงออกในการขับร้อง โดยเน้นเทคนคิ การร้อง การเลน่ การ และบรรเลงดนตรเี ด่ยี วและรวมวง แสดงออก และคุณภาพสียง 3. แตง่ เพลงส้ัน ๆ จงั หวะง่าย ๆ • อตั ราจังหวะ 2 และ 444 •การประพนั ธเ์ พลงในอัตราจังหวะ 2 และ 4 44 4. อธิบายเหตุผลในการเลอื กใช้ • การเลอื กใชอ้ งคป์ ระกอบในการสรา้ งสรรค์ องค์ประกอบดนตรีในการสรา้ งสรรค์ บทเพลง งานดนตรขี องตนเอง - การเลือกจงั หวะเพือ่ สรา้ งสรรค์ บทเพลง - การเรยี บเรียงทำนองเพลง ม.3 5. เปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่าง •การเปรียบเทยี บความแตกต่างของบทเพลง งานดนตรขี องตนเองและผอู้ ่ืน - สำเนียง
13 ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง - อตั ราจงั หวะ - รูปแบบบทเพลง - การประสานเสยี ง - เครือ่ งดนตรีที่บรรเลง 6. อธบิ ายเกีย่ วกบั อิทธพิ ลของดนตรี • อิทธพิ ลของดนตรี ทม่ี ตี อ่ บคุ คลและสงั คม - อิทธิพลของดนตรีต่อบคุ คล - อทิ ธิพลของดนตรีต่อสงั คม 7. นำเสนอหรือจัดการแสดงดนตรี • การจัดการแสดงดนตรใี นวาระต่าง ๆ ทเ่ี หมาะสมโดยการบรู ณาการกับสาระ การ - การเลือกวงดนตรี เรียนรอู้ ่ืนในกลมุ่ ศลิ ปะ - การเลือกบทเพลง - การเลอื กและจัดเตรยี มสถานที่ - การเตรยี มบคุ ลากร - การเตรยี มอุปกรณเ์ คร่อื งมอื - การจดั รายการแสดง ม.4-6 1. เปรยี บเทียบรปู แบบของบทเพลงและ • การจดั วงดนตรี วงดนตรแี ตล่ ะประเภท - การใช้เครื่องดนตรีในวงดนตรี ประเภทตา่ งๆ - บทเพลงทีบ่ รรเลงโดยวงดนตรี ประเภทตา่ งๆ 2. จำแนกประเภทและรปู แบบของ • ประเภทของวงดนตรี วงดนตรีทงั้ ไทยและสากล - ประเภทของวงดนตรไี ทย - ประเภทของวงดนตรสี ากล 3. อธบิ ายเหตผุ ลที่คนตา่ งวัฒนธรรม • ปจั จยั ในการสรา้ งสรรค์ผลงานดนตรี สร้างสรรคง์ านดนตรีแตกตา่ งกนั ในแต่ละวฒั นธรรม - ความเชื่อกับการสรา้ งสรรค์งาน ดนตรี - ศาสนากบั การสรา้ งสรรค์งานดนตรี - วิถีชีวติ กบั การสร้างสรรค์งานดนตรี - เทคโนโลยีกับการสรา้ งสรรค์งาน ดนตรี ม.4-6 4. อ่าน เขยี น โน้ตดนตรีไทยและสากล • เครือ่ งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ในอัตราจังหวะต่าง ๆ - เครอื่ งหมายกำหนดอัตราจังหวะ - เคร่ืองหมายกำหนดบนั ไดเสียง • โน้ตบทเพลงไทยอตั ราจงั หวะ 2 ชนั้ และ 3 ช้ัน
14 ชนั้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 5. รอ้ งเพลง หรือเล่นดนตรเี ดย่ี วและ • เทคนิค และ การถา่ ยทอดอารมณ์เพลง รวมวงโดยเนน้ เทคนิคการแสดงออก ดว้ ยการร้อง บรรเลงเครอ่ื งดนตรีเดี่ยวและ และคณุ ภาพของการแสดง รวมวง • เกณฑ์ในการประเมนิ ผลงานดนตรี 6. สร้างเกณฑส์ ำหรับประเมินคณุ ภาพ การประพนั ธแ์ ละการเลน่ ดนตรี - คุณภาพของผลงานทางดนตรี ของตนเองและผูอ้ นื่ ได้อย่างเหมาะสม - คุณค่าของผลงานทางดนตรี • การถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สกึ ของงาน 7. เปรยี บเทยี บอารมณ์ และความรสู้ ึก ดนตรจี ากแตล่ ะวัฒนธรรม ท่ไี ดร้ บั จากงานดนตรีทม่ี าจากวัฒนธรรม ต่างกนั • ดนตรีกบั การผ่อนคลาย 8. นำดนตรีไปประยกุ ตใ์ ช้ในงานอื่น ๆ • ดนตรีกบั การพัฒนามนุษย์ • ดนตรกี บั การประชาสมั พันธ์ • ดนตรกี ับการบำบดั รักษา • ดนตรกี บั ธรุ กจิ • ดนตรกี บั การศึกษา สาระท่ี 2ดนตรี มาตรฐาน ศ 2.2 เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหว่างดนตรี ประวัตศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เหน็ คณุ คา่ ของดนตรีที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาท้องถ่ิน ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล ชัน้ ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1. อธบิ ายบทบาทความสัมพนั ธ์และ • บทบาทและอทิ ธพิ ลของดนตรี อิทธิพลของดนตรที ่มี ีต่อสงั คมไทย - บทบาทดนตรีในสงั คม - อิทธพิ ลของดนตรีในสังคม 2. ระบุความหลากหลายขององค์ประกอบ • องค์ประกอบของดนตรีในแต่ละ ดนตรีในวัฒนธรรมตา่ งกัน วฒั นธรรม ม.2 1. บรรยายบทบาท และอทิ ธพิ ลของดนตรี • ดนตรีในวฒั นธรรมต่างประเทศ ในวฒั นธรรมของประเทศต่าง ๆ - บทบาทของดนตรีในวัฒนธรรม 2. บรรยายอิทธิพลของวัฒนธรรม - อทิ ธพิ ลของดนตรีในวัฒนธรรม และเหตกุ ารณ์ในประวัติศาสตร์ทมี่ ีต่อ • เหตุการณ์ประวตั ิศาสตร์กับการเปลีย่ นแปลง รูปแบบของดนตรีในประเทศไทย ทางดนตรีในประเทศไทย - การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกบั งานดนตรี
15 ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีกับ งานดนตรี ม.3 1. บรรยายวิวฒั นาการของดนตรีแตล่ ะ ยุค • ประวตั ดิ นตรีไทยยุคสมยั ตา่ ง ๆ สมัย • ประวัตดิ นตรีตะวนั ตกยุคสมัยต่าง ๆ 2. อภปิ รายลกั ษณะเดน่ ท่ีทำให้งานดนตรี • ปัจจัยที่ทำใหง้ านดนตรีได้รบั การยอมรบั นั้นไดร้ ับการยอมรับ ม.4-6 1. วิเคราะห์รปู แบบของดนตรีไทยและ • รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยแต่ละยุค ดนตรสี ากลในยุคสมัยตา่ ง ๆ สมัย • รปู แบบบทเพลงและวงดนตรีสากลแต่ละ ยคุ สมัย 2. วเิ คราะหส์ ถานะทางสังคมของ • ประวัตสิ งั คตี กวี นักดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ 3. เปรียบเทียบลักษณะเด่นของดนตรี • ลกั ษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวฒั นธรรม ในวฒั นธรรมต่างๆ - เครื่องดนตรี - วงดนตรี - ภาษา เนอื้ รอ้ งสำเนียง - องคป์ ระกอบบทเพลง 4. อธิบายบทบาทของดนตรีในการสะท้อน • บทบาทดนตรใี นการสะทอ้ นสังคม แนวความคิดและค่านิยม - ค่านยิ มของสังคมในผลงานดนตรี ที่เปลย่ี นไปของคนในสงั คม - ความเช่อื ของสงั คมในงานดนตรี 5. นำเสนอแนวทางในการส่งเสรมิ และ • แนวทางและวิธกี ารในการสง่ เสรมิ อนรุ ักษ์ อนุรกั ษ์ดนตรีในฐานะมรดกของชาติ ดนตรีไทย สาระที่ 3นาฏศลิ ป์ มาตรฐาน ศ 3.1 เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อย่างสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษว์ ิจารณ์ คุณค่านาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดอย่างอสิ ระ ช่ืนชมและประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวัน ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1. อธิบายอิทธิพลของนกั แสดงช่อื ดัง • การปฏิบัตขิ องผู้แสดงและผชู้ ม ที่มผี ลต่อการโนม้ น้าวอารมณห์ รอื ความคิด • ประวัตนิ กั แสดงทช่ี น่ื ชอบ ของผู้ชม • การพฒั นารปู แบบของการแสดง • อทิ ธพิ ลของนักแสดงที่มผี ลตอ่ พฤตกิ รรมของ ผู้ชม
16 ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 2. ใชน้ าฎยศัพท์หรอื ศพั ทท์ างการละคร • นาฏยศัพทห์ รือศพั ท์ทางการละคร ในการแสดง ในการแสดง • ภาษาท่า และการตบี ท • ทา่ ทางเคลือ่ นไหวทีแ่ สดงส่อื ทางอารมณ์ • ระบำเบด็ เตล็ด • รำวงมาตรฐาน 3. แสดงนาฏศลิ ป์และละครในรูปแบบง่าย ๆ • รปู แบบการแสดงนาฏศิลป์ - นาฏศิลป์ - นาฏศิลปพ์ นื้ บ้าน - นาฏศลิ ปน์ านาชาติ 4. ใช้ทักษะการทำงานเปน็ กลุ่ม • บทบาทและหนา้ ทีข่ องฝ่ายต่าง ๆ ในการ ในกระบวนการผลิตการแสดง จัดการแสดง •การสร้างสรรคก์ ิจกรรมการแสดงที่สนใจ โดยแบ่งฝา่ ยและหน้าท่ใี ห้ชัดเจน 5. ใช้เกณฑ์งา่ ย ๆ ท่ีกำหนดให้ในการ • หลักในการชมการแสดง พจิ ารณาคุณภาพการแสดงทชี่ ม โดยเน้นเรื่องการใช้เสียงการแสดงทา่ และ การเคลอ่ื นไหว ม.2 1. อธบิ ายการบรู ณาการศิลปะแขนงอน่ื ๆ • ศลิ ปะแขนงอืน่ ๆ กับการแสดง กบั การแสดง - แสง สี เสยี ง - ฉาก - เครื่องแตง่ กาย / - อุปกรณ์ 2. สร้างสรรค์การแสดงโดยใชอ้ งค์ประกอบ • หลักและวธิ กี ารสรา้ งสรรคก์ ารแสดง โดยใช้ นาฏศลิ ป์และการละคร องคป์ ระกอบนาฏศิลป์และการละคร 3. วเิ คราะห์การแสดงของตนเองและผูอ้ น่ื • หลักและวิธีการวิเคราะห์การแสดง โดยใช้นาฏยศพั ท์หรือศพั ท์ทางการละคร ที่ เหมาะสม 4. เสนอขอ้ คิดเห็นในการปรบั ปรงุ • วธิ กี ารวเิ คราะห์ วิจารณ์การแสดง นาฏศิลป์ การแสดง และการละคร • รำวงมาตรฐาน 5. เช่อื มโยงการเรยี นรู้ระหว่างนาฏศิลป์ • ความสมั พนั ธข์ องนาฏศิลป์หรอื และการละครกบั สาระการเรยี นรอู้ น่ื ๆ การละครกับสาระการเรียนรอู้ ่ืน ๆ ม.3 1. ระบโุ ครงสรา้ งของบทละครโดยใช้ศัพท์ • องคป์ ระกอบของบทละคร ทางการละคร - โครงเรือ่ ง
17 ชั้น ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง - ตวั ละครและการวางลกั ษณะนิสยั ของตัวละคร - ความคิดหรือแก่นของเรื่อง - บทสนทนา ม.3 2. ใชน้ าฏยศัพทห์ รือศพั ทท์ างการละคร • ภาษาทา่ หรอื ภาษาทางนาฏศิลป์ ท่ีเหมาะสมบรรยายเปรียบเทยี บการแสดง - ภาษาท่าท่ีมาจากธรรมชาติ อากปั กริ ิยาของผู้คนในชวี ติ ประจำวันและ - ภาษาท่าทมี่ าจากการประดิษฐ์ ในการแสดง - รำวงมาตรฐาน 3. มที ักษะในการใช้ความคิดในการพฒั นา • รูปแบบการแสดง รปู แบบการแสดง - การแสดงเป็นหมู่ - การแสดงเดย่ี ว - การแสดงละคร - การแสดงเปน็ ชดุ เปน็ ตอน 4. มที กั ษะในการแปลความและ • การประดิษฐท์ า่ รำและท่าทางประกอบ การแสดง การสือ่ สารผ่านการแสดง - ความหมาย - ความเปน็ มา - ท่าทางท่ีใช้ในการประดิษฐ์ท่ารำ 5. วิจารณ์เปรยี บเทียบงานนาฏศิลป์ • องค์ประกอบนาฏศิลป์ ที่มคี วามแตกตา่ งกันโดยใช้ความรู้ - จังหวะทำนอง เรอ่ื งองคป์ ระกอบนาฏศิลป์ - การเคลื่อนไหว - อารมณ์และความรสู้ ึก - ภาษาทา่ นาฎยศพั ท์ - รูปแบบของการแสดง - การแตง่ กาย 6. รว่ มจัดงานการแสดงในบทบาทหน้าท่ี • วิธีการเลอื กการแสดง ตา่ ง ๆ - ประเภทของงาน - ขนั้ ตอน - ประโยชนแ์ ละคุณค่าของการแสดง 7. นำเสนอแนวคดิ จากเนือ้ เรื่อง • ละครกบั ชีวิต ของการแสดงทส่ี ามารถนำไปปรับใช้ ในชวี ิตประจำวัน ม.4-6 1. มีทกั ษะในการแสดงหลากหลายรปู แบบ • รูปแบบของการแสดง - ระบำ รำ ฟอ้ น
18 ช้นั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - การแสดงพน้ื เมอื งภาคต่าง ๆ - การละครไทย - การละครสากล 2. สรา้ งสรรคล์ ะครส้ันในรปู แบบ • ละครสร้างสรรค์ ท่ีชน่ื ชอบ - ความเปน็ มา - องคป์ ระกอบของละครสรา้ งสรรค์ - ละครพูด o ละครโศกนาฏกรรม o ละครสุขนาฏกรรม o ละครแนวเหมอื นจริง o ละครแนวไมเ่ หมอื นจริง 3. ใชค้ วามคดิ รเิ รม่ิ ในการแสดงนาฏศิลป์ • การประดษิ ฐ์ทา่ รำท่ีเปน็ ค่แู ละหมู่ เปน็ คู่ และหมู่ - ความหมาย - ประวตั คิ วามเป็นมา - ทา่ ทางท่ีใช้ในการประดิษฐ์ท่ารำ - เพลงทใ่ี ช้ 4. วิจารณ์การแสดงตามหลักนาฏศิลป์ • หลักการสร้างสรรค์และการวจิ ารณ์ และการละคร • หลักการชมการแสดงนาฏศิลปแ์ ละละคร 5. วเิ คราะห์แกน่ ของการแสดงนาฏศิลป์ • ประวัตคิ วามเปน็ มาของนาฏศิลป์ และการ และการละครที่ต้องการส่ือความหมาย ใน ละคร - วิวัฒนาการ การแสดง - ความงามและคุณคา่ 6. บรรยาย และวิเคราะห์ อทิ ธิพลของ • เทคนคิ การจัดการแสดง เครือ่ งแต่งกาย แสง สี เสียง ฉากอุปกรณ์ - แสงสีเสยี ง และสถานท่ีทม่ี ีผลต่อการแสดง - ฉาก - อุปกรณ์ - สถานที่ - เครือ่ งแตง่ กาย ม.4- 6 7. พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินในการ • การประเมินคุณภาพของการแสดง ประเมนิ การแสดง - คุณภาพดา้ นการแสดง - คุณภาพองคป์ ระกอบการแสดง 8. วเิ คราะห์ท่าทาง และการเคลือ่ นไหว • การสร้างสรรค์ผลงาน ของผู้คนในชีวิตประจำวนั และนำมา
19 ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ประยกุ ต์ใช้ในการแสดง - การจัดการแสดงในวันสำคญั ของโรงเรยี น - ชดุ การแสดงประจำโรงเรยี น สาระท่ี 3นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ 3.2เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตรแ์ ละวฒั นธรรมเหน็ คณุ ค่าของนาฏศิลป์ที่เป็น มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ภมู ิปัญญาไทยและสากล ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.1 1. ระบปุ จั จัยที่มีผลต่อการเปล่ยี นแปลง • ปจั จยั ทม่ี ีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลง ของนาฏศลิ ป์ นาฏศิลปพ์ น้ื บ้าน ละครไทย ของนาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ป์พ้นื บ้าน ละครไทย และละครพ้ืนบา้ น และละครพ้ืนบา้ น 2. บรรยายประเภทของละครไทย • ประเภทของละครไทยในแตล่ ะยุคสมยั ในแตล่ ะยุคสมยั ม.2 1. เปรยี บเทียบลักษณะเฉพาะของ • นาฏศิลปพ์ ้ืนเมอื ง การแสดงนาฏศลิ ป์จากวฒั นธรรมต่างๆ - ความหมาย - ที่มา - วฒั นธรรม - ลักษณะเฉพาะ 2. ระบุหรอื แสดงนาฏศิลป์นาฏศิลป์ • รปู แบบการแสดงประเภทต่าง ๆ พ้ืนบ้าน ละครไทยละครพื้นบา้ น - นาฏศิลป์ หรือมหรสพอ่นื ท่ีเคยนิยมกนั ในอดีต - นาฏศลิ ปพ์ ืน้ เมือง - ละครไทย - ละครพน้ื บา้ น ม.2 3. อธบิ ายอิทธิพลของวัฒนธรรมที่มีผลตอ่ • การละครสมยั ตา่ ง ๆ เนื้อหาของละคร ม.3 1. ออกแบบ และสร้างสรรคอ์ ุปกรณ์และ • การออกแบบและสร้างสรรค์อปุ กรณ์และ เคร่ืองแตง่ กาย เพอ่ื แสดงนาฏศิลปแ์ ละ เคร่อื งแตง่ กายเพ่ือการแสดงนาฏศิลป์ ละครท่มี าจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ 2. อธิบายความสำคัญและบทบาทของ • ความสำคัญและบทบาทของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์และการละครในชีวิตประจำวนั และการละครในชีวติ ประจำวัน 3. แสดงความคิดเห็นในการอนรุ กั ษ์ • การอนุรกั ษ์นาฏศิลป์ ม.4- 6 1. เปรยี บเทียบการนำการแสดงไปใช้ใน • การแสดงนาฏศิลป์ในโอกาสตา่ งๆ โอกาสต่าง ๆ
20 ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง 2. อภปิ รายบทบาทของบุคคลสำคัญ • บคุ คลสำคัญในวงการนาฏศลิ ปแ์ ละ ในวงการนาฏศิลปแ์ ละการละคร ของประเทศไทยในยุคสมยั ต่างๆ การละครของไทยในยุคสมยั ตา่ ง ๆ 3. บรรยายววิ ฒั นาการของนาฏศิลปแ์ ละ • ววิ ัฒนาการของนาฏศิลปแ์ ละการละคร การละครไทย ตงั้ แต่อดตี จนถงึ ปจั จุบัน ไทยตัง้ แต่อดตี จนถึงปจั จุบนั 4. นำเสนอแนวคดิ ในการอนุรักษ์ • การอนรุ ักษน์ าฏศิลป์ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน นาฏศลิ ปไ์ ทย โครงสร้างรายวิชาพื้นฐาน
21 โครงสรา้ งกลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ รายวิชาพื้นฐาน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ศ21101ศลิ ปะ1 จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกติ หนว่ ยกติ ศ21102ศลิ ปะ2 จำนวน 40 ชัว่ โมง 1.0 หนว่ ยกิต ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 หน่วยกติ ศ22101ศิลปะ3 จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกิต หนว่ ยกติ ศ22102ศลิ ปะ4 จำนวน 40 ชัว่ โมง 1.0 หน่วยกติ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยกิต ศ23101ศลิ ปะ5 จำนวน 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยกิต ศ23102ศลิ ปะ6 จำนวน 40 ช่ัวโมง 1.0 หนว่ ยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หน่วยกิต ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ศ31101ศิลปะ1(นาฏศิลป)์ จำนวน 20 ชัว่ โมง 0.5 ศ31102ศิลปะ(ทัศนศลิ ป)์ จำนวน 20 ชัว่ โมง 0.5 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ศ32101ศิลปะ3 (ดนตรี) จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 ศ32102ศลิ ปะ4(นาฏศิลป์) จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ศ33101ศิลปะ 5 (ทศั นศิลป)์ จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 ศ33102ศิลปะ6(ดนตรี) จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5
22 รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ศ21201ศลิ ปะ1 (นาฏศิลป์ไทย) จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ศ20201จิตรกรรม จำนวน 20 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ศ 23208 ดนตรีพ้ืนบา้ นอสี านโปงลาง จำนวน 40 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ศ22202ดนตรี1 (ปฏิบตั ิขล่ยุ รคี อรเ์ ดอร์) จำนวน 20 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต ศ22204นาฏศลิ ป์ 1 จำนวน 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ ศ23201นาฏศิลปพ์ น้ื เมอื ง1 จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ ศ23204การขบั ร้องเพลงไทยสากล จำนวน 40 ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกติ ช่ัวโมง 0.5 หน่วยกิต ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ศ30201จิตรกรรมไทย จำนวน 20 ศ32202นาฏศิลปพ์ ื้นเมือง จำนวน 20 ศ30203ดนตรี – นาฏศิลป์ จำนวน 20 ศ31201การทอเส่อื กก จำนวน 40 ศ31202 การทอเสอ่ื กก จำนวน 40 ศ30205นาฏศิลป์พ้ืนเมือง จำนวน 20 ศ31202การละคร 1 จำนวน 20 ศ33202 การวาดภาพลายเส้น จำนวน 20
23 คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน
24 คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน รายวชิ า ศิลปะ(ทัศนศิลป์) รหัสวิชา ศ21101 กลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ิลปะ เวลา 20 ชวั่ โมง /ภาค เรียน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์ ความหมายและความสำคัญขององค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุ สร้างและนำเสนอผลงานทาง ทศั นศลิ ปจ์ ากจินตนาการ โดยสามารถใช้อุปกรณ์ท่ีเหมาะสม รวมทัง้ สามารถใช้เทคนิค วธิ ีการของศิลปินในการสร้าง งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา่ งานศิลปะที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและ สากล ชื่นชม ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันโดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการพิจารณาคุณค่าเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างเหมาะสม รหัสตัวช้ีวดั ศ 1.1 ม.1/1 ,ม.1/2,ม.1/3,ม.1/4, ม.1/5,ม.1/6 ศ 1.2 ม.1/1, ม.1/2,ม.1/3 รวมท้ังหมด 9 ตวั ชี้วดั
25 คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน รายวชิ าศิลปะ (ดนตรี-นาฏศิลป์ ) รหสั วชิ าศ21102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรยี น ศึกษาเครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรีให้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถเปรียบเทียบเสียงร้อง เสียง เครื่องดนตรีทีม่ าจากวฒั นธรรมที่ต่างกัน และเข้าใจเก่ียวกับประเภทของวงดนตรีไทยและวงดนตรีสากล วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่าดนตรี และสามารถแสดงความคดิ เห็น เปรียบเทียบอารมณ์ ความรู้สึกในการฟงั เพลงแตล่ ะ ประเภท วิเคราะหแ์ ละประเมินคุณภาพงานเพลงหรอื งานดนตรีทีฟ่ งั อยา่ งมหี ลกั เกณฑ์ โดยใช้ทักษะกระบวนการทางดนตรีในการแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์การบรรยาย การถ่ายทอดอารมณ์ของบทเพลงถ่ายทอดความรู้สึกทางดนตรอี ย่างอิสระ ช่นื ชมและประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวันเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ร้องเพลง และเล่นดนตรี เพื่อนำความรู้จากการศึกษาดนตรีและการขับร้อง ไปบูรณาการกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและใช้ใน ชวี ิตประจำวนั ยดึ หลกั ความพอเพยี งตามความคิดอิสระอยา่ งสร้างสรรคร์ ่วมส่งเสริมและอนรุ กั ษ์ดนตรีดว้ ยความชื่นชม และเหน็ คณุ คา่ ศึกษา วิเคราะห์วิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับเรื่องนาฏยศัพท์หรือศัพท์ทางการละครในการแสดงบทบาทและ หน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ในการจัดการแสดง หลักการชมการแสดง สร้างสรรค์กิจกรรมการแสดงทีส่ นใจโดยแบง่ ฝ่าย และหน้าที่ให้จัดเจน บรรยายประเภทของละครไทยในแต่ละยุคสมัยระบุปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ นาฏศิลป์ นาฏศิลป์พ้นื บ้าน ละครไทย และละครพนื้ บ้าน สามารถแสดงนาฏศิลป์ และละครรูปแบบงา่ ยๆ โดยใช้ทักษะกระบวนการคิดทักษะกระบวนการแก้ปัญหาทักษะกระบวนการใช้ชีวิตทักษะก ระบวนการ สื่อสาร และทักษะกระบวนการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ กล้าคิด กล้าแสดงออกทางศิลปะอย่าง สรา้ งสรรค์ เหน็ คณุ ค่า ซอ่ื สัตย์สจุ ริต มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ และสามารถประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั เพื่อนำความรู้จากการศึกษาและการแสดงนาฏศิลป์ ไปบูรณาการใช้ในชีวิตประจำวนั ตามหลักของ ความพอเพยี งตามความคดิ อิสระอย่างสรา้ งสรรคร์ ่วมส่งเสริมและอนรุ กั ษด์ ว้ ยความชนื่ ชมและเห็นคุณคา่ รหสั ตวั ช้ีวัด ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3, ม.1/4 , ม.1/5, ม.1/6 ,ม.1/7, ม.1/8 ,ม.1/9 ศ 2.1 ม.1/1 , ม.1/2 ศ 2.2 ม. 1/1 , ม. 1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 ศ 3.1 ม 1/1 , ม 1/2 ศ 3.2 รวมทงั้ หมด 18 ตวั ชว้ี ัด
26 คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน รายวิชา ศิลปะ(ทัศนศลิ ป)์ รหัสวชิ า ศ22101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ เวลา 20 ชั่วโมง /ภาค เรยี น ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษา อภิปราย เก่ียวกับรูปแบบและแนวคิดของผลงานทัศนศิลป์ ฝกึ ปฏิบัตวิ าดภาพดว้ ยเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อแสดงบุคลิกลักษณะของตัวละครในการสื่อความหมายและเรือ่ งราวต่างๆ ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ บรรยายความ แตกตา่ งของการใชว้ ัสดุ อุปกรณข์ องศลิ ปิน วิธกี ารใชง้ านทัศน์ศลิ ป์ในการโฆษณา การเปล่ยี นแปลงแนวคิดและเน้ือหา ของงานทัศนศิลป์ของไทยในแต่ละยุคสมัย เห็นคุณค่า เปรียบเทียบแนวคิดในการออกแบบงานทัศนศิลป์ที่มาจาก วัฒนธรรมไทยและสากลเพ่อื นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน โดยใชก้ ารประเมนิ และวจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์เพ่ือการปรับปรงุ แกไ้ ข และพัฒนางาน โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสบื ค้นข้อมลู กระบวนการปฏบิ ัติตามสภาพจริง เพื่อให้เกิดความชื่นชมและเห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ในวิถีชีวิตของคนในสังคมตามวัฒนธรรมของไทยและ วัฒนธรรมสากล รหัสตัวช้ีวดั ศ 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7 ศ 1.2 ม.2/1, ม.2/2,ม.2/3 รวมทัง้ หมด 10 ตัวชีว้ ัด
รายวชิ า ศิลปะ (ดนตรี-นาฏศิลป์) คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน 27 ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 2 รหสั วิชา ศ22102 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรยี น ศึกษาและปฏิบตั ิเก่ียวกับวงดนตรีไทยและสากล ปัจจัยในการสรา้ งสรรค์ผลงานดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม โน้ต ดนตรไี ทยและสากล การประเมนิ ผลงานดนตรี การนำดนตรไี ปประยุกต์ใชใ้ นงานอ่ืน ๆ ยคุ สมยั ของดนตรี ดนตรใี นแต่ ละวัฒนธรรม บทบาทของดนตรีในการสะท้อนสังคม แนวทาง และวธิ ีการในการสง่ เสรมิ อนรุ ักษ์ดนตรไี ทย โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิพากษว์ จิ ารณ์ จำแนกประเภท อธบิ าย เปรียบเทียบความเหมือนและความ แตกต่าง การสรุปความรู้และการจัดระบบความคิดเป็นแผนภาพ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ สร้างและ นำเสนอผลงานด้านดนตรีให้ได้ผลตามที่ต้องการ สามารถสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจความคิด ความรู้สึกของตนเอง เข้า ใจความไพเราะ งดงามของดนตรี บรรยายและอธิบายเกี่ยวกับดนตรีได้สัมพนั ธ์และเชื่อมโยงกับประวตั ิศาสตรแ์ ละ วฒั นธรรม เพื่อเห็นความสำคัญและคุณค่าของดนตรีและนำความรู้ด้านดนตรีไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและ ประกอบการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ตลอดจนสร้างสรรค์งานดนตรี เชื่อมั่นภาคภูมิใจในการแสดงออก รบั ผดิ ชอบ มงุ่ มนั่ ในการปฏิบตั งิ านร่วมกับผูอ้ ื่น เห็นคุณคา่ ของดนตรีทีเ่ ปน็ มรดกและเปน็ เอกลกั ษณข์ องชาติ ศึกษา วิเคราะห์เปรียบเทียบการแสดงของตนเองและผู้อื่น และอภิปรายเกี่ยวกับการบูรณาการศิลปะแขนง อื่นๆ กับการแสดง สามารถใช้นาฏศัพท์หรือศัพท์ทางการละครทีเ่ หมาะสมสร้างสรรค์การแสดงโดยใชอ้ งค์ประกอบ นาฏศิลป์และการละคร เสนอข้อคิดเห็นในการปรบั ปรุงการแสดงเชื่อมโยงการเรียนรู้ระหว่างนาฏศลิ ป์และการละคร กับสาระการเรียนรูอ้ ื่นๆ เปรียบเทียบลักษณะเฉพาะของการแสดงนาฏศิลป์จากวัฒนธรรมต่างๆ อธิบายอิทธพิ ลของ วัฒนธรรมทม่ี ตี อ่ เนอ้ื หาของละครระบหุ รือแสดงนาฏศลิ ป์ นาฏศลิ ปพ์ ้ืนบา้ น ละครไทยละครพ้ืนบ้าน หรือมหรสพอ่ืน ทเ่ี คยนิยมกันในอดตี โดยใช้ทักษะกระบวนการคิด ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะกระบวนการใช้ชีวิต ทักษะกระบวนการ สอื่ สาร และทักษะกระบวนการใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื ให้มคี วามรูค้ วามเข้าใจ กลา้ คิด กลา้ แสดงออกทางศลิ ปะอย่างสรา้ งสรรค์ เห็นคุณค่า ซ่ือสัตยส์ ุจรติ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ รกั ความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ และสามารถ ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั รหสั ตวั ชี้วัด ศ 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7 ศ 2.2 ม.2/1, ม.2/2 ศ3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5 ศ3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 รวมทง้ั หมด 17 ตัวชี้วัด
28 รายวชิ า ศลิ ปะ(ทัศนศลิ ป)์ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง /ภาคเรียน รหัสวชิ าศ23101 จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ บรรยายสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ที่เลือกมา โดยใช้ความรู้เรื่อง ทัศนธาตุและหลักการ ออกแบบ เทคนิค วิธีการ ของศิลปินในการสร้างงานทัศนศิลป์ วิธีการใช้ทศั นธาตุ และหลักการออกแบบในการสร้าง งานทัศนศิลป์ของตนเองให้มีคุณภาพ มีทักษะในการสร้างงานทัศนศิลป์อย่างน้อย 3 ประเภท มีทักษะในการ ผสมผสานวสั ดุต่างๆ ในการสรา้ งงานทัศนศิลปโ์ ดยใช้หลักการออกแบบ สร้างงานทศั นศิลป์ ท้ัง 2 มิติ และ 3 มิติ เพื่อ ถ่ายทอดประสบการณ์และจนิ ตนาการ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์สอ่ื ความหมายเปน็ เร่ืองราว โดยประยุกต์ใช้ทัศนธาตุ และหลักการออกแบบ รปู แบบเนื้อหา และคณุ คา่ ในงานทัศนศลิ ปข์ องตนเองและผู้อืน่ หรอื ของศิลปิน สร้างสรรค์งาน ทัศนศิลปเ์ พื่อบรรยายเหตกุ ารณต์ ่างๆ โดยใช้เทคนิคที่หลากหลาย ระบอุ าชีพท่ีเกย่ี วขอ้ งกับงานทัศนศิลป์และทักษะท่ี จำเป็นในการประกอบอาชพี นนั้ ๆเลือกงานทัศนศลิ ป์โดยใช้เกณฑ์ทก่ี ำหนดข้ึนอย่างเหมาะสมและนำไปจัดนิทรรศการ ศึกษาและเปรียบเทยี บเกี่ยวกบั งานทัศนศิลป์ที่สะท้อนคุณค่าของวฒั นธรรม ความแตกตา่ งของงานทัศนศิลป์ในแต่ละ ยุคสมยั ของวัฒนธรรมไทยและสากลโดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางทัศนศิลป์ในการสร้างและนำเสนอผลงานทัศนศิลป์ การเลอื กใชว้ ัสดุ อปุ กรณท์ ีเ่ หมาะสม การวเิ คราะห์ การวพิ ากษ์วิจารณค์ ณุ คา่ งานทศั นศลิ ป์ เพอ่ื ให้เห็นคุณคา่ งานทัศนศิลป์ เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งทศั นศลิ ป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม นำความรู้ ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวัน มจี รยิ ธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสม รหสั ตวั ชี้วัด ศ 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10, ม.3/11 ศ 1.2 ม.3/1, ม.3/2 รวมทง้ั หมด 13 ตัวชีว้ ัด
29 คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน รายวชิ า ศิลปะ(ดนตรี-นาฏศลิ ป)์ รหัสวิชา ศ23102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต เวลา 40 ช่ัวโมง /ภาค เรยี น ศึกษาและปฏิบตั ิเกี่ยวกับวงดนตรไี ทยและสากล ปัจจัยในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม โน้ต ดนตรีไทยและสากล การประเมนิ ผลงานดนตรี การนำดนตรไี ปประยุกต์ใช้ในงานอนื่ ๆ ยุคสมยั ของดนตรี ดนตรีในแต่ ละวฒั นธรรม บทบาทของดนตรีในการสะท้อนสงั คม แนวทาง และวิธกี ารในการส่งเสริมอนรุ กั ษด์ นตรีไทย โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ จำแนกประเภท อธิบาย เปรียบเทียบความเหมือนและความ แตกต่าง การสรุปความรู้และการจัดระบบความคิดเป็นแผนภาพ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ สร้างและ นำเสนอผลงานด้านดนตรใี ห้ได้ผลตามที่ต้องการ สามารถสื่อสารให้ผู้อื่นเขา้ ใจความคิด ความรู้สึกของตนเอง เข้า ใจความไพเราะ งดงามของดนตรี บรรยายและอธิบายเก่ียวกับดนตรีได้สัมพนั ธ์และเชื่อมโยงกับประวตั ิศาสตร์และ วัฒนธรรม เพ่ือนำความรู้ด้านดนตรีไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั และประกอบการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ตลอดจนสร้างสรรค์งานดนตรี เชื่อมั่นภาคภูมิใจในการแสดงออก รับผิดชอบ มุ่งมั่นในการปฏิบัติงานร่วมกับผู้อน่ื เหน็ คณุ คา่ ของดนตรที ีเ่ ปน็ มรดกและเปน็ เอกลักษณข์ องชาติ ศกึ ษา โครงสรา้ งของละครโดยใช้ศัพท์ทางการละคร บรรยายเปรียบเทียบการแสดงอากัปกริ ิยาของผู้คนใน ชวี ิตประจำวันและการแสดง วิจารณเ์ ปรยี บเทียบงานนาฏศลิ ปโ์ ดยใช้องค์ประกอบนาฏศลิ ป์ โดยใชท้ กั ษะกระบวนการ กระบวนการกล่มุ มาสร้างงานนาฏศิลป์ และละคร ใช้นาฏยศพั ท์หรอื ศัพท์ทางการ ละครที่เหมาะสม มที กั ษะในการใช้ความคิดพัฒนารปู แบบการแสดง การแปลความ และการสอ่ื สารผา่ นการแสดง สร้างสรรค์งานแสดงในบทบาทหน้าท่ีต่าง ๆ ออกแบบและสรา้ งสรรค์อุปกรณ์ และเครือ่ งแตง่ กายเพ่ือแสดงนาฏศิลป์ และละคร เพื่อความรู้จากการศึกษาและการแสดงนาฏศิลป์ไปบูรณาการใช้ในชีวิตประจำวัน มีความรัก ชื่นชม เห็น คุณคา่ ของนาฏศิลป์และการละคร รว่ มอนรุ ักษ์มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ัญญาไทย สากล รหัสตวั ชี้วดั ศ 2.1 ม.3/1,ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 ,ม.3/5, ม. 3/6,ม.3/7 ศ 2.2 ม.3/1 ,ม.3/2 ศ 3.1 ม.3/1,ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 ,ม.3/5, ม.3/6,ม.3/7 ศ 3.2 ม.3/1 ,ม.3/2, ม.3/3 รวมทงั้ หมด 19 ตวั ชวี้ ัด
รายวิชา ศิลปะ(ดนตรี-นาฏศลิ ป์) คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน 30 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 รหัสวิชา ศ 31101 กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรียน ศึกษา เปรียบเทียบการนำการแสดงไปใช้ในโอกาสต่างๆ และอภิปรายบทบาทของบุคคลสำคัญในวงการ นาฏศิลป์ และการละครของประเทศไทยในยุคสมัยต่างๆ และบรรยายวิวัฒนาการของนาฏศิลป์และการละครไทย ต้ังแตอ่ ดีตจนถึงปจั จุบัน มีการนำเสนอแนวคิดในการอนุรักษ์นาฏศิลป์ไทย โดยใช้ทักษะในการแสดงหลากหลายรูปแบบ ใช้ความคิดริเริ่มในการแสดงนาฏศิลป์เป็นคูแ่ ละหมู่ วิจารณ์การ แสดงตามหลักนาฏศิลป์และการละคร วเิ คราะหแ์ กน่ ของการแสดงนาฏศิลป์และการละครทีต่ ้องการสอ่ื ความหมายใน การแสดง วิเคราะห์ท่าทาง และการเคลอื่ นไหวของผ้คู นในชวี ิตประจำวันและนำมาประยกุ ต์ใช้ใน การแสดงเพ่ือใหเ้ ห็น คณุ ค่าและสามารถสร้างการแสดงนาฏศิลป์และการละครอยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์คุณค่าการแสดง นาฏศิลป์และการละครอยา่ งชืน่ ชม และนำมาประยกุ ต์ใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั รหสั ตวั ชี้วดั ศ 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ,ม.4-6/4,ม.4-6/7,ม.4-6/8 ศ 3.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4 รวม 9 ตัวชี้วัด
31 คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน รายวชิ า ศิลปะ(ทัศนศลิ ป์) รหัสวชิ า ศ31102 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ เวลา 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศกึ ษาและฝกึ ปฏิบัตงิ านศิลปะ ด้านทศั นศิลป์ในเรือ่ ง ทัศนธาตแุ ละหลักการออกแบบในการส่ือความหมาย ในรูปแบบต่างๆ ศัพท์ทางทัศนศิลป์ เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ และเทคนิคของศิลปินในการแสดงออกทางทัศนศิลป์ เปรยี บเทียบงานทัศนศิลปใ์ นรูปแบบตะวันออกและรปู แบบตะวนั ตก โดยใช้ทักษะวิเคราะห์ จำแนก บรรยาย อภิปราย เลือกใช้วัสดุ เปรียบเทียบเทคนิค วิธีการ เลือกใช้เทคนิค วิธีการ ปฏิบตั ิ อธบิ าย สรุป แสดงความคิดเหน็ วิจารณ์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ การเรียนรู้เทคนิค วิธีการทำงาน ตลอดจนเปิดโอกาสให้แสดงออกอย่าง อสิ ระ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ จนิ ตนาการ มีสุนทรยี ภาพ สรา้ งสรรคง์ านศิลปะดว้ ยความชื่นชมและเห็นคุณค่า ของศิลปวัฒนธรรมไทยสากล รหัสตวั ชี้วัด ศ 1.1 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3,ม.4-6/4 ศ 1.2 ม.4-6/1 รวม 5 ตวั ชี้วดั
32 คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน รายวิชา ศิลปะ(ดนตรี) รหัสวิชา ศ32101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรียน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับวงดนตรีไทยและสากล ปัจจัยในการสรา้ งสรรค์ผลงานดนตรีในวัฒนธรรมต่างๆ โน้ต ดนตรไี ทยและสากล การประเมนิ ผลงานดนตรี การนำดนตรีไปประยุกตใ์ ชใ้ นงานอ่นื ๆ ยุคสมยั ของดนตรี ดนตรีในแต่ ละวฒั นธรรม บทบาทของดนตรีในการสะท้อนสงั คม แนวทางและวิธี การในการสง่ เสรมิ อนรุ ักษ์ดนตรีไทย โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ จำแนกประเภท อธิบาย เปรียบเทียบความเหมือนและความ แตกต่าง การสรุปความรู้และการจัดระบบความคิดเป็นแผนภาพ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ สร้างและ นำเสนอผลงานด้านดนตรีให้ได้ผลตามท่ีต้องการ สามารถสื่อสารให้ผู้อ่ืนเขา้ ใจความคิด ความรู้สกึ ของตนเองเข้าใจ ความไพเราะ งดงามของดนตรี บรรยายและอธิบายเกี่ยวกับดนตรีได้สัมพันธ์และเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และ วฒั นธรรม เพื่อเห็นความสำคัญและคุณค่าของดนตรีและนำความรู้ด้านดนตรีไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และ ประกอบการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ื่น ๆ ตลอดจนสร้างสรรค์งานดนตรี เชื่อมั่นภาคภูมิใจในการแสดงออก รับผดิ ชอบ ม่งุ มั่นในการปฏบิ ัติงานรว่ มกบั ผู้อน่ื เห็นคณุ ค่าของดนตรที ีเ่ ป็นมรดกและเป็นเอกลักษณข์ องชาติ รหสั ตัวชี้วดั ศ 2.1 ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ศ 2.2 ม.4-6/3 ,ม.4-6/4, ม.4-6/5, รวมทั้งหมด 8 ตัวชีว้ ดั
33 คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน รายวชิ า ศิลปะ(นาฏศลิ ป)์ รหสั วชิ า ศ32102 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรยี น ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษาและฝึกทักษะในการแสดงหลากหลายรปู แบบ สร้างสรรค์ละครสนั้ ในรูปแบบทช่ี ่นื ชอบ วิเคราะหแ์ กน่ ของ การแสดงนาฏศิลป์และการละครที่ต้องการสื่อความหมายในการแสดง บรรยายและวิเคราะห์อิทธิพลของเครื่องแตง่ กาย แสง สี เสียง ฉาก อุปกรณ์ และสถานที่ที่มผี ลต่อการแสดง พัฒนาและใช้เกณฑ์การประเมินในการประเมินการ แสดง ววิ ัฒนาการของนาฏศลิ ป์และการละครไทยตงั้ แต่อดตี จนถงึ ปจั จบุ ัน โดยใช้ทักษะกระบวนการทางนาฏศิลป์ ในการแสดงออกอยา่ งสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า งานนาฏศิลปเ์ พอ่ื ให้เหน็ คุณคา่ งานดนตรที ่เี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน และเขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่าง ดนตรกี บั ประวตั ศิ าสตรแ์ ละวัฒนธรรม และการนำความรไู้ ปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวัน ตวั ชว้ี ัด ศ 3.1 ม.4-6/1,ม.4-6/2, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7 ศ 3.2 ม.4-6/3 รวม6ตัวช้วี ัด
34 คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน รายวิชา ศิลปะ(ทัศนศิลป์) รหัสวชิ า ศ33101 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรียน ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาและฝึกปฏิบัติงานศิลปะ ด้านทัศนศิลป์ในเรื่อง งานทัศนศิลป์ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยเน้นหลักการ ออกแบบและการจัดองค์ประกอบศิลป์ ออกแบบงานทัศนศลิ ป์ได้เหมาะกับโอกาสและสถานที่ อธิบายจุดมุ่งหมาย ของศิลปินในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์เทคนิคและเนื้อหา เพื่อสร้างสรรคง์ านทัศนศิลป์ วิจารณ์งานทศั นศิลป์โดยใช้ ทฤษฎีการวิจารณศ์ ลิ ปะ ระบุงานทศั นศลิ ปข์ องศิลปนิ ท่ีมชี อ่ื เสยี ง และบรรยายผลตอบรับของสังคม โดยใชค้ วามรู้ ทกั ษะ ความสามารถเกี่ยวกบั การสร้างสรรค์ และสื่อความคดิ จนิ ตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ด้วยงานทศั นศลิ ป์ การนำองค์ประกอบศลิ ปะมาสร้างสรรค์เป็นงานศลิ ปะ การแสดงความคดิ เหน็ ความรสู้ ึกเกี่ยวกับ ความงาม คุณคา่ การวิเคราะห์ วิจารณง์ านศลิ ปะ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ การเรียนรู้เทคนิค วิธีการทำงาน ตลอดจนเปิดโอกาสให้แสดงออกอย่าง อสิ ระ มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ จินตนาการ มสี นุ ทรยี ภาพ สรา้ งสรรคง์ านศิลปะดว้ ยความชื่นชมและเห็นคุณค่า ของศิลปวฒั นธรรมไทยสากล รหัสตัวช้ีวดั ม.4-6/1,ม.4-6/5 ,ม.4-6/6 ,ม.4-6/7 ,ม.4-6/8, ม.4-6/9 ,ม.4-6/10 , ศ 1.1 ม.4-6/11 ม.4-6/2, ม.4-6/3 ศ 1.2 รวม10ตวั ชี้วัด
35 คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน รายวิชา ศลิ ปะ(ดนตร)ี รหัสวชิ า ศ33102 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรยี น ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับวงดนตรไี ทยและสากล ปัจจัยในการสร้างสรรคผ์ ลงานดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม โน้ต ดนตรีไทยและสากล การประเมนิ ผลงานดนตรี การนำดนตรีไปประยุกต์ใช้ในงานอ่ืน ๆ ยคุ สมยั ของดนตรี ดนตรีในแต่ ละวัฒนธรรม บทบาทขอ งดนตรีในการสะทอ้ นสังคม แนวทาง และวิธกี ารในการส่งเสริมอนุรกั ษด์ นตรีไทย โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ จำแนกประเภท อธิบาย เปรียบเทียบความเหมือนและความ แตกต่าง การสรุปความรูแ้ ละการจดั ระบบความคิดเปน็ แผนภา พ เพื่อให้ผู้เรยี นเกิดความรู้ ความเข้าใจ สร้างและ นำเสนอผลงานด้านดนตรีให้ได้ผลตามท่ีต้องการ สามารถสื่อสารให้ผู้อ่ืนเข้าใจความคิด ความรู้สึกของตนเอง เข้า ใจความไพเราะ งดงามของดนตรี บรรยายและอธิบายเกี่ยวกับดนตรีไดส้ ัมพันธ์และเชื่อมโยงกับประวตั ิศาสตรแ์ ละ วฒั นธรรม เพื่อเห็นความสำคัญและคุณค่าของดนตรีและนำความรู้ด้านดนตรีไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและ ประกอบการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ตลอดจนสร้างสรรค์งานดนตรี เชื่อมั่นภาคภูมิใจในการแสดงออก รบั ผิดชอบ มงุ่ มนั่ ในการปฏบิ ตั งิ านร่วมกบั ผอู้ ืน่ เห็นคุณค่าของดนตรีที่เป็นมรดกและเปน็ เอกลักษณข์ องชาติ รหัสตัวชี้วดั ศ 2.1 ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5,ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8 ศ 2.2 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2, ม.4-6/4,ม.4-6/5, รวมทงั้ หมด 11 ตัวช้ีวัด
36 คำอธบิ ายรายวิชาเพมิ่ เติม
37 คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ รายวชิ า ศิลปะ(จิตรกรรม) รหัสวิชา ศ20201 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ภาคเรยี นที่ 1 จำนวน 0.5หนว่ ยกติ เวลา 20 ช่วั โมง /ภาคเรียน ศึกษาเกี่ยวกับองค์ประกอบศิลป์ ทัศนธาตุสร้างและนำเสนอผลงานทางทัศนศิลป์ได้อย่างอิสระตาม จินตนาการ ความคดิ สรา้ งสรรค์ โดยเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ในการปฏิบัติงานด้วยเทคนิคและกระบวนการสร้างสรรค์งานจิตรกรรม อย่าง เหมาะสม ปลอดภัย วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ คุณค่างานทัศนศิลป์ เพื่อให้เกิดวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน สามารถแสดงความคิดเห็นต่อผลงานทัศนศิลปด์ ้วยความช่ืน ชม เห็นคุณค่าและประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ผลการเรียนรู้ 1.เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์และการนำองค์ประกอบศิลป์มาใช้ในการปฏิบัติงานจิตรกรรมได้อย่างเหมาะสม ปลอดภยั และมคี วามรบั ผดิ ชอบ 2.บรรยายหลักการใช้ทัศนธาตุ จุด เสน้ รปู รา่ ง รูปทรง พน้ื ผิว พ้ืนทว่ี ่าง นำ้ หนกั ออ่ นแก่ สีมาใช้ในงาน จติ รกรรมและฝกึ ปฏบิ ัตงิ านนำองค์ประกอบศลิ ปม์ าสร้างสรรค์งานจติ รกรรม 3.วาดภาพโดยใช้เทคนคิ ของแสงเงา 4.ระบุและบรรยายเทคนิควิธีการต่างๆ และวัสดุอุปกรณใ์ นการสร้างสรรค์งานจิตรกรรมสามารถปฏิบตั งิ าน ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ประทบั ใจ 5.เขียนภาพระบายสีตามหลักการ ขั้นตอน เทคนิค วิธีการ สามารถฝึกปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ตามกระบวนการทางศิลปะ รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้
38 คำอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เติม รายวชิ า การปฏบิ ตั ิขลยุ่ รีคอร์เดอร์ รหัสวชิ า ศ20202 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ชว่ั โมง /ภาคเรียน ศึกษาความรู้เกี่ยวกับเคร่ืองดนตรีประเภทขลุ่ย ประวัติความเป็นมา ส่วนประกอบของขลุ่ย การกำเนิดเสียง เครอ่ื งดนตรีประเภทขลยุ่ วสั ดุอุปกรณใ์ นการทำขลยุ่ นำความร้ทู ไี่ ดศ้ กึ ษาเกยี่ วกับเครอ่ื งดนตรีประเภทขลุ่ยมาปฏิบัติ บรรเลงเพลงต่าง ๆ ที่ตนชื่นชอบ และสามารถสร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรีได้อย่างเหมาะสม การใช้และการ บำรงุ รกั ษาเครอ่ื งดนตรี การนำเสนอบทเพลงที่ตนสนใจ การประเมินคุณภาพของบทเพลง โดยใชท้ ักษะการบรรเลง วิเคราะห์ วพิ ากย์ วจิ ารณ์ บรรยาย เปรยี บเทียบงานดนตรสี ากล เพื่อนำความร้จู ากการศกึ ษาวธิ กี ารทางดนตรี การบรรเลงดนตรี ไปบูรณาการกับกลุม่ สาระการเรียนรู้อ่ืนและ ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ยดึ หลกั ความพอเพียงตามความคิดอิสระอย่างสร้างสรรคร์ ่วมส่งเสริมและอนุรักษ์ดนตรีด้วยความ ชืน่ ชมและเหน็ คณุ ค่า ผลการเรยี นรู้ ๑. ศกึ ษาความรู้เกย่ี วกับประวัตคิ วามเปน็ มาของขลยุ่ รคี อร์เดอร์ ๒. อธิบายลกั ษณะ ส่วนประกอบ เสยี ง และการดแู ลรกั ษาขลยุ่ รคี อร์เดอร์ ๓. แสดงท่านงั่ ทา่ ยืน และวิธีการจบั ขล่ยุ รคี อรเ์ ดอรข์ ณะบรรเลง ๔. ฝกึ บรรเลงเดี่ยวเพลงงา่ ย ๆ รวมทงั้ หมด 4 ผลการเรยี นรู้
39 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ รายวิชา นาฏศลิ ป์พ้ืนเมอื ง รหสั วิชา ศ32201 กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 20 ชว่ั โมง /ภาคเรียน ศึกษานาฏศิลป์พื้นเมืองในเรื่องประวัติความเป็นมาการแต่งกายลีลาท่ารำเพลงประกอบการรำฝึกแสดง นาฏศิลป์พื้นเมืองการละเล่นพื้นเมืองร้องและรำเพลงพื้นเมืองตามความสนใจการจัดประเภทของการแสดงพื้นเมือง ประวัติบุคคลในท้องถิน่ ที่ประสบผลสำเร็จในการสร้างศิลปะพื้นบ้านสามารถจัดการแสดงพื้นบา้ นของจงั หวัดสุรนิ ทร์ และศิลปะพืน้ บ้านของภาคอ่นื ๆของประเทศไทย โดยใช้กระบวนการฝึกปฏิบตั ิกระบวนการกลุม่ มาสร้างงานแสดงที่หลากหลาย นำท่าทางและการเคลื่อนไหว ของผู้คนในชวี ติ ประจำวนั มาประยกุ ต์ใชใ้ นการแสดง เพือ่ ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจชืน่ ชมเหน็ คุณค่ามวี ินัยใฝร่ ใู้ ฝ่เรียนมุ่งมัน่ ในการทำงานและมีทกั ษะเก่ยี วกับการแสดง พ้นื บ้านสำรวจและทำความเขา้ ใจภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่ินสามารถอนุรักษ์และนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน ผลการเรียนรู้ 1. มีความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั นาฏศิลปพ์ ื้นเมืองในเร่อื งประวตั คิ วามเป็นมาการแตง่ กายลีลาทา่ รำ 2. นักเรียนสามารถบอกและอธิบายประเภทของการแสดงพ้นื เมืองประวัตบิ ุคคลในทอ้ งถ่นิ ท่ี ประสบผลสำเรจ็ ในการสรา้ งศิลปะพืน้ บา้ นได้ 3. นกั เรียนสามารถฝกึ แสดงนาฏศลิ ปพ์ ื้นเมอื งการละเลน่ พน้ื เมืองร้องและรำเพลงพ้ืนเมอื งตาม ความสนใจได้ 4. นักเรียนมีทักษะและสามารถจดั การแสดงพนื้ บา้ นของจังหวดั สุรินทรแ์ ละศลิ ปะพื้นบ้านของภาค อนื่ ๆของประเทศไทยเป็นครงั้ คราวได้ 5. นกั เรยี นสามารถสำรวจและทำความเข้าใจภูมปิ ัญญาท้องถิ่นได้ 6. นักเรยี นมีความชน่ื ชมเหน็ คุณคา่ และภาคภมู ิใจในศลิ ปะการแสดงพ้ืนบ้านภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ มี ความตระหนกั ทจ่ี ะถา่ ยทอดและอนรุ กั ษแ์ ละนำมาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวันต่อไป รวมทงั้ หมด 6 ผลการเรียนรู้
40 คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม รายวิชา การขับรอ้ งเพลงไทยสากล รหสั วชิ า ศ20203 กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ช่ัวโมง /ภาคเรยี น ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับการขับร้องเพลงไทยสากล อย่างสร้างสรรค์ เขา้ ใจองค์ประกอบการขับร้องเพลง การ หายใจ การเปล่งเสยี งสระ พยัญชนะอย่างถูกต้องและเหมาะสม มีทักษะการขับร้องเรือ่ งทำนอง คำร้อง และจังหวะ การแสดงออกทางด้านร่างกายบุคลิกภาพ โดยใช้ทักษะการขับร้อง บรรเลง วิเคราะห์ วิพากย์ วิจารณ์ จำแนก บรรยายเปรียบเทียบงานดนตรีและงาน ศิลปะแขนงอ่นื เพอ่ื นำความรไู้ ปใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมสารมาถประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั อยา่ ง และมีความสุข ผลการเรยี นรู้ 1 . เข้าใจองคป์ ระกอบต่างๆ ของบทเพลงไทยสากล 2. ศกึ ษาหลกั การและวิธกี ารขบั ร้องเพลงไทยสากล 3. ผเู้ รียนฝึกทกั ษะการขับร้องเพลงไทยสากลอยา่ งถกู ตอ้ ง 4. ผู้เรียนมที กั ษะการขบั ร้องเพลงไทยสากล ตามแบบท่กี ำหนดอยา่ งถกู ต้อง 5. ผเู้ รยี นมีทกั ษะการขบั รอ้ งเพลงไทยสากล ตามความสนใจอยา่ งถกู ต้อง 6. ผู้เรียนสามารถนำทักษะการขับรอ้ งเพลงไทยสากลไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวันได้อยา่ งมีความสุข รวมทงั้ หมด 6 ผลการเรยี นรู้
41 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ รายวชิ า จติ รกรรมไทย รหสั วชิ า ศ32203 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ช่วั โมง /ภาคเรยี น ศึกษาลักษณะทวั่ ไปของจิตรกรรมไทย มคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ียวกับลายไทยเบ้ืองต้น อธิบายความหมายของ ลายไทยเบอ้ื งตน้ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้อย่างหลากหลาย ปฏิบัติงานเขียนลวดลายตามแบบอุดมคติไทยลงในภาพได้ฝึก ปฏบิ ตั ิเกยี่ วกับการเขยี นภาพ การเขยี นลวดลายเบ้อื งตน้ การวาดภาพลายไทยอย่างงา่ ย และวิธใี ช้สแี บบไทย เพ่ือให้มีความรักความภมู ิใจในจิตรกรรมไทย ชืน่ ชมและเหน็ คุณค่าของงานจิตรกรรมไทย และนำไปใชใ้ นการ สรา้ งงานศิลปะอน่ื ๆ ผลการเรยี นรู้ 1.ปฏิบตั งิ านเขยี นลวดลายตามแบบอดุ มคตไิ ทยลงในภาพได้ 2.อธบิ ายความหมายของลายไทยเบอ้ื งตน้ และการนำไปใชไ้ ด้ 3.มคี วามร้คู วามเข้าใจเกี่ยวกับลายกระจงั และสามารถปฏิบตั ิได้ 4.มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการเขียนลายกระจังใบเทศ ลายกระจังปฏิญาณและสามารถปฏิบัติได้ด้วย ความชื่นชมและเห็นคุณค่า 5.มคี วามรู้ความเขา้ ใจ เก่ียวกับลายประจำยาม และสามารถปฏบิ ตั ิได้ด้วยความช่นื ชม 6.นักเรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจ เก่ียวกับกาบที่จะใช้เป็นตวั แตกหน่อต่อลายไทยและสามารถปฏบิ ัติได้ 7.นกั เรียนมีความรคู้ วามเขา้ ใจ เก่ยี วกบั ลายกระหนกและสามารถปฏบิ ัตไิ ด้ด้วยความช่ืนชม 8.มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั ลายเถา และสามารถเขยี นลายเถาไดด้ ้วยความช่นื ชม รวมทัง้ หมด 8 ผลการเรียนรู้
42 คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เติม รายวชิ า ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ 2 รหัสวิชา ศ 30203 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลา 20 ชั่วโมง /ภาคเรยี น ********************************************************************************** ศกึ ษาและปฏบิ ัติเคร่อื งดนตรีประเภทเครือ่ งดีด เครื่องสี เคร่อื งตี เครือ่ งเป่า ฝกึ โสตประสาท ศึกษาทฤษฎี และโน้ตสากล เพื่อเป็นพื้นฐานไปสู่การบรรเลงเดี่ยว การบรรเลงรวมวง และศึกษานาฏศิลป์ในเรื่องศัพท์เบื้องต้น ทางการรำ จังหวะ ท่าทาง ลีลา การแต่งกาย การแสดงท่าประกอบจังหวะ และเพลงประกอบการเคลื่อนไหว ฝึก ท่วงท่าลีลา การเคลือ่ นไหวตามจังหวะและความ รู้สึก ฝกึ ปฏิบตั กิ ารรำแบบพ้นื เมือง รำแบบมาตรฐาน เพื่อใหม้ ีความ เข้าใจ เห็นคณุ ค่าสามารถรำเข้ากบั จงั หวะ เคลอื่ นไหวได้อยา่ งเปน็ ธรรมชาตแิ ละนำไปใชใ้ นโอกาสตา่ งๆ ผลการเรียนรู้ 1. ศึกษาและปฏิบตั เิ คร่อื งดนตรปี ระเภทเคร่ืองดีด เครื่องสี เคร่อื งตี เคร่อื งเป่า 2. ฝกึ โสตประสาท 3. ศึกษาทฤษฎีและโนต้ สากล เพอื่ เป็นพ้นื ฐานไปสู่การบรรเลงเด่ยี ว การบรรเลงรวมวง 4. ศึกษานาฏศิลป์ในเรื่องศัพท์เบ้ืองต้นทางการรำ จังหวะ ท่าทาง ลีลา การแต่งกาย การแสดงท่าประกอบ จงั หวะ และเพลงประกอบการเคลือ่ นไหว 5. ฝึกท่วงท่าลีลา การเคลื่อนไหวตามจังหวะและความ รู้สึก ฝึกปฏิบัติการรำแบบพื้นเมือง การรำแบบ มาตรฐาน 6. มีความเข้าใจ เหน็ คณุ ค่าสามารถรำเข้ากบั จงั หวะ เคลอื่ นไหวได้อย่างเปน็ ธรรมชาติ รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้
43 คำอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รายวิชา ลายไทย รหสั วิชา ศ 30202 กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ิลปะ ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เวลา 20 ชวั่ โมง /ภาคเรียน ********************************************************************************** ศึกษาประวตั คิ วามเป็นมา ลักษณะของลายพื้นบ้านหรือลายไทย หลักการและวิธกี ารเขียน การใช้เส้นและสี การผูกลาย การคัดลอก คุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ในการเรียนลวดลาย อุปกรณ์และเครื่องมือในการเขียนลายพื้นบ้าน หรือลายไทย ปฏิบัตกิ ารเขยี นลายพนื้ บ้านหรอื ลายไทยท่มี ีอยู่ในทอ้ งถิน่ ดว้ น เส้น รปู รา่ ง รปู ทรง ผกู ลาย ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมาย คุณคา่ ลายพ้นื บา้ นหรอื ลายไทย 2. บอกชอื่ คณุ สมบัติ วิธกี ารใชแ้ ละการดแู ลรักษาวัสดอุ ปุ กรณ์ลายพ้ืนบ้านหรอื ลายไทย 3. ถ่ายทอดการมองเหน็ โดยลายพืน้ บา้ นหรือลายไทย ประกอบแสงเงาเลียนแบบธรรมชาติ 4. สามารถวาดภาพลายพื้นบ้านหรอื ลายไทย แสดงระยะไกลใกล้ เป็น 3 มิติ 5. ลายพนื้ บ้านหรือลายไทยแสดงค่านำ้ หนักออ่ น- แก่ของแสงและเงาทตี่ กกระทบบนวตั ถไุ ดถ้ ูกตอ้ งตามสภาพจริง 6. ลายพืน้ บา้ นหรือลายไทย ส่งิ ของ สตั ว์ ทิวทศั น์ และคนเหมอื นโดยวิธกี ารออกแบบลายพื้นบ้านหรือลายไทยได้ รวมทงั้ หมด 6 ผลการเรยี นรู้
44 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ รายวชิ า การทอเสอ่ื กก รหัสวิชา ศ 31201 กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 1.0 หน่วยกติ เวลา 40 ชัว่ โมง /ภาคเรียน ********************************************************************************** ศกึ ษาความเปน็ มาของการทอเสอ่ื กก วิธีการปลูก วัสดุ อุปกรณ์ ข้นั ตอน กระบวนการทอเสอื่ ลวดลายต่างๆ ของเสอ่ื การนำไปใชป้ ระโยชน์ มีความร้คู วามเขา้ ใจในการทอเส่ือกกไดอ้ ยา่ งถูกต้องตามกระบวนการ สร้างผู้เรียนให้ มีนิสัยที่ขยัน รับผิดชอบ อดทน ประณีต รอบคอบ ระมัดระวังในเรื่องของความละเอียดอ่อนในการทำงานและสรา้ ง ค่านิยมทดี่ ใี ห้แก่นกั เรียนในการอนรุ กั ษแ์ ละสืบสานวฒั นธรรมภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมาย คณุ คา่ งานศลิ ปะประดษิ ฐจ์ ากต้นกกมา 2. บอกช่ือ คณุ สมบัติ วธิ ีการใชแ้ ละการดแู ลรักษาวสั ดุอปุ กรณ์งานศลิ ปะประดิษฐจ์ ากต้นกกมา 3. ถา่ ยทอดการมองเห็นโดยงานศิลปะประดิษฐ์จากตน้ กกมา 4. สามารถสร้างงานศิลปะประดษิ ฐ์แสดงระยะไกลใกล้ เป็น 3 มิตจิ ากชมุ ชนมา 5. งานศลิ ปะประดิษฐ์แสดงค่าน้ำหนกั อ่อน-แก่ของแสงและเงาทต่ี กกระทบบนวตั ถุไดถ้ ูกตอ้ งตามสภาพจรงิ 6. งานศิลปะประดิษฐ์โดยวิธีการงานศิลปะประดิษฐล์ ายพ้ืนบ้านหรือลายไทยในชมุ ชนได้ รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้
45 คำอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม รายวิชา การทอเสอ่ื กก 2 รหัสวิชา ศ 31202 กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 1.0 หน่วยกติ เวลา 40 ชว่ั โมง /ภาคเรยี น ********************************************************************************** ศึกษาความเป็นมาของการทอเส่ือกก การถกั การสาน การเยบ็ วสั ดุ อุปกรณ์ ข้นั ตอน กระบวนการทอ เส่ือ ลวดลายต่างๆของเสื่อ การนาไปใช้ประโยชน์ มีความรู้ความเขา้ ใจในการคิดประดิษฐ์การแปรรูป การจกั สาน ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งตามกระบวนการ สร้างผูเ้ รียนให้มีนิสัยที่ขยนั รับผิดชอบ อดทน ประณีต รอบคอบ ระมดั ระวงั ใน เร่ืองของความละเอียดออ่ นในการทางานและสร้างค่านิยมท่ีดีให้แกน่ ักเรียนในการอนุรักษ์และสืบสานวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมาย คณุ คา่ งานศลิ ปะการประดิษฐ์จากตน้ กกได้ 2. บอกช่ือ คุณสมบตั ิ วิธีการใชแ้ ละการดูแลรกั ษาวสั ดุอปุ กรณ์งานศลิ ปะท่ีนามาประดิษฐ์ 3. สามารถเยบ็ จกั รและทาผลิตภณั ฑจ์ ากตน้ กกได้ 4.สามารถนาความรู้และทกั ษะไปใชใ้ นการสร้างอาชีพและการพฒั นาอาชีพจากตน้ กกให้ มคี ณุ ภาพ และ สร้างรายไดก้ บั ตนเอง ครอบครวั 5.สามารถลงมอื ปฏิบตั แิ ละเรียนรู้ทบ่ี า้ นได้ เป็นการส่งเสริมการใชเ้ วลาว่างให้เกิด รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรียนรู้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104