Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รู้ทันโรค 2019 ALL

รู้ทันโรค 2019 ALL

Published by E-book Bang SAOTHONG Distric Public library, 2019-10-28 03:16:54

Description: รู้ทันโรค 2019 ALL

Search

Read the Text Version

การสูบบหุ รี่ นอกจากจะมผี ลตอ่ ผสู้ บู โดยตรงแลว้ ยงั ทำ� ใหผ้ อู้ น่ื ทสี่ ดู เอาควนั พษิ จากควนั บหุ รี่ เข้าไปเกดิ อนั ตรายเชน่ เดียวกับผสู้ บู ดว้ ย ซึ่งผลกระทบของบหุ ร่ีทม่ี ีผลตอ่ คนข้างเคียง มดี ังน้ี 1. เดก็ การสบู บหุ รข่ี องคนในครอบครวั ทำ� ใหเ้ ดก็ ปว่ ยดว้ ยโรคหลอดลมอกั เสบ ปอดบวม หอบหืด หูชน้ั กลางอักเสบมากย่งิ ขน้ึ ด้วย 2. หญงิ มคี รรภ์ หญงิ มคี รรภท์ ส่ี บู บหุ รจ่ี ำ� ทำ� ใหน้ ำ้� หนกั ตวั ขณะตง้ั ครรภเ์ พมิ่ นอ้ ย กว่าปกติ และมีโอกาสแท้งคลอดก่อนก�ำหนด และท�ำให้เกิดภาวะรกเกาะต่�ำ และ รกลอกตวั กอ่ นกำ� หนดมากขนึ้ บตุ รทค่ี ลอดจากมารดาทสี่ บู บหุ รอี่ าจมนี ำ้� หนกั ตวั และ ความยาวน้อยกว่าปกติ พัฒนาการด้านสมองช้าหรืออาจมีความผิดปกติทางระบบ ประสาทและระบบความจำ� 3. คู่สมรสของผู้สูบบุหร่ี มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคู่สมรสที่ไม่สูบบุหร่ี 2 เท่า มีความเสยี่ งท่ีจะเป็นโรคหวั ใจ 3 เทา่ และเสียชวี ติ เรว็ กว่าปกตถิ ึง 4 ปี 4. คนทั่วไป คนท่ัวไปท่ีต้องอย่ใู นบรรยากาศทผ่ี อู้ ่นื สูบบหุ ร่ี ควันบุหร่ีจะท�ำให้ เกิดการระคายเคอื งตาปวดศรี ษะ คัดจมกู นำ้� มกู ไหล โดยเฉพาะผทู้ มี่ ีอาการหอบหืด โรคหวั ใจ โรคหลอดลมอกั เสบ จะทำ� ใหม้ ีอาการของโรคเพมิ่ ขนึ้ เลิกบหุ รี่ 1. สรา้ งแรงจงู ใจใหก้ บั ตวั เอง เพราะแรงจงู ใจเปน็ สง่ิ สำ� คญั เชน่ ท�ำเพอ่ื สขุ ภาพ เพอ่ื คนทีค่ ณุ รัก หรือประหยัดเงินจากค่าบหุ ร่ีก็ตาม 2. ขอค�ำปรึกษาใครสักคนเพื่อเป็นแนวทางการเลิกบุหร่ีอย่าง ถกู วิธี ซ่งึ ปจั จุบนั ก็มีองคก์ รใหค้ ำ� ปรกึ ษาการเลกิ บหุ รี่มากมาย อาทิ Quit Line 1600 สถาบนั ธญั ญารักษ์ และคลนิ ิกเลกิ บุหร่ีตามสถานพยาบาลทั่วไป 3. ตง้ั เปา้ หมายใหต้ วั เอง คุณควรวางแผนในการเลกิ บุหร่ี โดยกำ� หนดวันท่จี ะ ลงมือเลิกบุหร่ี เพ่ือไม่ให้เกิดการผัดวันประกันพรุ่ง...แต่เอ๊ะ !! อย่าก�ำหนดวันเป็นปี หน้าเชียวนะ ทางท่ดี เี รม่ิ ต้งั แตส่ ปั ดาหน์ ี้เลยย่ิงดี 4. อยา่ รอชา้ ลงมอื ทนั ที เพยี งเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ ม ทง้ิ อปุ กรณท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั บหุ รี่ ทง้ั หมด และหาตวั ชว่ ยลดความอยากบหุ รไี่ วใ้ กลๆ้ ตวั เชน่ ขนมขบเคยี้ ว ลกู อม หมาก ฝร่งั ผลไม้รสเปรยี้ ว 151

5. ห่างไกลส่ิงกระตุ้น ระหว่างท่ีคุณก�ำลังอยู่ในช่วงเลิกบุหรี่ ควรหลีกเล่ียง กิจกรรม หรอื สถานที่ทเี่ ปน็ เขตสูบบหุ รี่ รวมถงึ สภาพแวดล้อมทม่ี ีคนสูบบุหรี่ เพราะ มเิ ชน่ นนั้ คณุ อาจจะอยากกลับมาสบู บุหร่อี กี ก็ได้ 6. ไม่หมกมุ่น ไม่ท�ำให้ตัวเองเครียด เพราะยิ่งคุณเครียดคุณจะย่ิงเลิกบุหร่ี ได้อยาก เพราะ 1 ในสาเหตุการตดิ บุหร่เี พราะความเชอ่ื ท่ีผิดทคี่ ดิ วา่ สูบหรีแ่ ล้วทำ� ให้ คลายเครียด เช่นน้นั ถ้ารูส้ กึ เครยี ดคณุ ควรหากจิ กรรมท�ำ เชน่ พดู คุยกับคนรอบขา้ ง หรอื อ่านหนังสอื ที่ชอบ 7. ไมห่ ว่ันไหว ทำ� จิตใจใหม้ ่ันคง เมื่อคุณรสู้ ึกอยากสบู บหุ รี่ ขอใหท้ บทวนถึง แรงจงู ใจ หรอื เหตผุ ลที่ทำ� ใหต้ ัดสินใจเลิกบุหรี่ เพราะจะท�ำใหค้ ุณมีกำ� ลังใจ และเกิด ความมุ่งมั่นในการเลิกบหุ รีอ่ กี คร้ัง 8. หม่ันออกก�ำลังกาย เพราะการออกก�ำลังกายนอกจากจะช่วยควบคุม นำ้� หนกั ทมี่ าหลงั จากการเลกิ บหุ รแ่ี ลว้ ยงั ชว่ ยใหส้ มองปลอดโปรง่ คลายความตงึ เครยี ด 9. ไมท่ า้ ทายบหุ รด่ี ว้ ยการกลบั ไปสบู อกี ครงั้ หลายๆ คนกลบั ไปสบู บุหรอี่ กี เปน็ ครง้ั คราว เพราะเช่อื ว่าคงไม่เปน็ ไร ซงึ่ จรงิ ๆ แลว้ การกลบั ไปสบู บหุ รอี่ กี แมจ้ ะนานๆ ครงั้ นนั่ กค็ อื สาเหตขุ องการเลิกบุหร่ไี ม่ได้เชน่ กนั 10. อยา่ ทอ้ กบั การตอ้ งเรม่ิ ตน้ ใหม่ ควรใหก้ ำ� ลงั ใจตวั เองและพยายามทอ่ งดงั ๆ ไว้เสมอว่า “ฉนั จะเลกิ สูบบหุ รใ่ี หไ้ ด้ในปีน”้ี กฎหมายทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั บุหร่ี ปัจจุบัน ประเทศไทยได้มีการปรับปรุงแก้ไข กฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบข้ึนใหม่ โดยมีผล บงั คับใช้เมอื่ วนั ท่ี 4 กรกฎาคม 2561 ท่ีผา่ นมา โดย มีการก�ำหนดนิยามผลิตภัณฑ์ยาสูบให้ครอบคลุม กลา่ วคอื นอกจากจะเปน็ ผลติ ภัณฑ์ทมี่ สี ว่ นประกอบ ของใบยาสบู หรอื พชื นโิ คเทยี นาทาแบกกมุ้ แลว้ ยงั รวม ถึงผลิตภณั ฑท์ ีม่ ีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบอีกดว้ ย ไม่ว่าจะบริโภคด้วยวิธีการสูบ ดม อม เคย้ี ว กิน เปา่ หรือพ่นเข้าไปในปากหรือจมูก รวมถึงทา หรือวิธี อ่ืนใดเพื่อให้ได้ผลเป็นเช่นเดียวกัน อีกท้ังได้มีการ แก้ไขขอ้ ปฏิบตั ทิ างกฎหมาย อาทเิ ชน่ 152

และเมื่อวันที่ 3 กมุ ภาพันธ์ 2562 ไดม้ ปี ระกาศกระทรวง สาธารณสุขฉบับใหม่ขึ้น โดยเจตนารมณ์ของประกาศกระทรวง ฉบับน้ี ได้ก�ำหนด สถานทส่ี าธารณะทห่ี า้ มสบู บุหรีจ่ ะครอบคลุม เพ่ิมมากข้ึนแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ (1.) สถานท่ีสาธารณะ อยา่ งโรงเรยี น โรงพยาบาล สนามเดก็ เลน่ จะเปน็ พนื้ ทปี่ ลอดบหุ รี่ 100% และบวกเพม่ิ อีก 5 เมตรจากทางเขา้ -ออก เพ่ือแก้ปัญหาการสูบบหุ รห่ี น้า สถานที่ (2.) กลุม่ ท่บี ังคับว่า พนื้ ทีท่ ่ตี ้องปลอดบุหรี่ 100% เช่น สปา/นวดแผนไทย/ ร้านอาหารท่ีมแี อร์รวมถงึ วดั ตลาด และสวนสาธารณะ (3.) บางพื้นท่ีท่ีกำ� หนดให้ สูบบุหร่ีได้ เช่น ท่าอากาศยาน หรือ สถาบันอุดมศึกษา สถานท่ีราชการ หรือ รัฐวสิ าหกิจจะตอ้ งจัดให้อยูน่ อกตวั อาคาร และ(4.) ใหบ้ างพ้นื ทเี่ ป็นพืน้ ท่ีปลอดบหุ รี่ 100% และบวกเพิ่มอีก 5 เมตรจากประตู หน้าต่าง หรือช่องระบายอากาศ เช่น ภายในและดาดฟ้าของหา้ งสรรพสินคา้ โรงงาน หรอื พน้ื ทใ่ี ตห้ ลงั คาบริเวณชานชาลา สถานีขนส่งรถทวั ร์ และชานชาลาของสถานรี ถไฟ ทา่ เรอื โดยสาร รวมถึงบริเวณโถง พักคอย หรือส่วนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันของคอนโด โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ รา้ นอาหารไมม่ ีแอรอ์ ยา่ งร้านหมูกระทะ ทีเ่ ปน็ ลานกวา้ ง เปน็ ต้น สว่ นเจา้ ของสถานทส่ี าธารณะและทท่ี ำ� งานทง้ั ภาครฐั และเอกชนมหี นา้ ทจี่ ดั การ พร้อมท้งั ดแู ลให้สถานทีส่ าธารณะ และท่ีทำ� งานปลอดบุหร่ีตามท่กี ฎหมายก�ำหนด สอบถาม ข้อมลู เพมิ่ เตมิ ได้ที่ ส�ำนักควบคมุ การบริโภคยาสูบ โทรศัพท์ 0-2590-3851 Website http://btc.ddc.moph.go.th 153

อบุ ัตเิ หตจุ ากการเดนิ ทางทางบก ในปัจจุบัน คนเรามีการเดินทางตามสถานที่ต่างๆ ตลอดเวลาการเดินทางแต่ละคร้ัง อาจเดนิ ทางดว้ ยเทา้ รถ เรอื หรอื เครอ่ื งบนิ บางครงั้ อาจเดนิ ทางไดร้ าบรนื่ แตบ่ างคร้ัง อาจพบเหตุการณ์ท่ีไม่คาดคิดขณะเดินทางได้ ซ่ึงอาจน�ำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สิน ไดร้ ับบาดเจบ็ จนถงึ เสยี ชีวิตได้ โดยท่เี รียกเหตุการณ์นวี้ า่ “อบุ ตั ิเหตุจากการเดินทาง” “อบุ ัตเิ หตจุ ากการเดินทางทางบก” เป็นอบุ ตั เิ หตุท่ีเกดิ ขนึ้ ขณะเดินทางด้วยเท้า ตามถนน หรือโดยสารรถตา่ ง ๆ เกิดขึน้ จากหลายสาเหตุ ได้แก่ จากความประมาท ความคึกคะนอง เช่น รถฝ่าไฟแดง จากการขาดความรู้ ความชำ� นาญ เช่น ผู้ขับขี่ ไม่ชำ� นาญทาง จากการไม่ปฏิบตั ติ ามกฎจราจรและขอ้ บงั คบั เร่ืองความปลอดภยั เชน่ ขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่ก�ำหนด จากสภาพร่างกายท่ีไม่พร้อมของผู้ขับข่ี เช่น ผขู้ บั ขี่เมาสรุ า จากสภาพภมู อิ ากาศและภมู ิประเทศท่ีไม่ดี เช่น ถนนลืน่ ข้อควรปฏบิ ัติขณะเดินทางตามถนน 1. เดินบนทางเท้าชิดด้านใน แต่ถ้าไม่มีทางเท้า ควรเดินชิดไหล่ทางด้านขวา เพอ่ื ใหเ้ หน็ รถทีส่ วนมา 2. ควรเดินข้ามถนนตรงบรเิ วณทางข้าม ได้แก่ ทางม้าลาย สะพานลอย และ กอ่ นขา้ มถนนมองถนนใหแ้ นใ่ จ โดยมองขวา มองซา้ ย มองขวา วา่ ปลอดภยั แล้วจงึ ขา้ ม 3. สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวหรือสีสว่างขณะเดินบนถนนกลางคืนเพื่อให้ผู้ขับขี่รถ สามารถเห็นไดช้ ดั เจน 4. ไมว่ ิ่งเล่นหรอื ผลกั เพ่ือนขณะเดนิ ทางตามถนน 154

ข้อควรปฏบิ ัตขิ ณะเดนิ ทางด้วยรถโดยสารประจำ� ทางหรือรถไฟ 1. ยนื คอยรถโดยสารตา่ ง ๆ ทป่ี า้ ยหยดุ รถโดยสาร บนทางเท้าและห่างขอบทางเขา้ ไปด้านใน 2. ถ้าเป็นรถไฟฟ้าควรยืนรอหลังเส้นเหลืองท่ีพ้ืน ชานชาลา 3. เมอื่ รถโดยสารมาจอดชดิ ขอบทางและจอดสนทิ ควรรอใหผ้ โู้ ดยสารลงจากรถกอ่ น แลว้ จงึ ขน้ึ ไป 4. ขนึ้ หรือลงรถใหเ้ ป็นระเบียบ ไมค่ วรผลักกัน 5. เม่ือขน้ึ รถแลว้ ควรหาทีน่ ัง่ แตถ่ า้ รถไมม่ ีทวี่ ่าง ควรจบั ราวหรือพนกั พงิ ใหม้ ั่นคง 6. ไม่ควรยืนใกล้ประตรู ถหรือยืนหอ้ ยโหนอยทู่ ปี่ ระตูรถ 7. ถา้ พบคนชรา ควรใหค้ นชราข้ึนรถก่อน หรอื ลกุ ใหน้ ่ัง 8. ถ้าต้องการลงจากรถโดยสารควรกดกริ่งให้สัญญาณกับพนักงานขับรถ แล้วไปยนื คอยท่ปี ระตูรถ 9. ลงรถเมอื่ รถจอดชดิ ขอบทางและหยุดสนิท 10. ถา้ โดยสารรถไฟหรอื รถไฟฟ้า หา้ มลงไปบนรางรถไฟ สอบถาม ข้อมูลเพ่มิ เตมิ ได้ที่ ส�ำนกั โรคไมต่ ิดต่อ โทรศพั ท์ 0-2950 3889 ข้อควรปฏิบัติในการขบั ขี่รถ 1. ปฏิบตั ิตามกฎจราจรเพ่อื ความปลอดภยั 2. สวมหมวกกนั นอ็ กและคาดเขม็ ขัดนริ ภัยขณะขบั ขรี่ ถ 3. ใหส้ ัญญาณมือหรอื สัญญาณไฟเล้ียวกอ่ นเล้ียวทกุ ครั้ง 4. ไมข่ บั ขีต่ ัดหน้าคันอื่นอย่างกระชั้นชดิ หรอื แซงสวนเลน 5. ไม่ดื่มสุรา หรือเสพสารเสพติดขณะขบั ขร่ี ถ 155

เมาไมข่ ับ การเมาแล้วขับ เป็นสาเหตุส�ำคัญที่ท�ำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ท�ำให้คนไทยต้อง เสียชีวิต ปีละ 13,000 คน และบาดเจ็บอีกนับล้านคน ในจ�ำนวนนี้หลายแสนคน ตอ้ งกลายเปน็ ผพู้ กิ าร การประเมนิ ความสญู เสยี ทางเศรษฐกจิ ทเี่ กดิ พบวา่ มมี ลู คา่ กวา่ สองแสนล้านบาทตอ่ ปี ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระดบั ความเขม้ ขน้ ของแอลกอฮอลใ์ นเลอื ดและโอกาส เกดิ อุบตั ิเหตุจราจร ระดบั แอลกอฮอล์ สมรรถภาพ โอกาสเกิด ในเลอื ด ในการขบั ข่รี ถ อุบตั ิเหตจุ ราจร (มิลลกิ รัมเปอร์เซ็นต์) 20 มีผลเพยี งเล็กนอ้ ย ใกลเ้ คยี งกบั คนไมด่ ม่ื สรุ า เฉพาะบางคน มีผลท�ำให้ความสามารถ ในการขับรถลดลงเฉลี่ย โอกาสเกดิ อุบตั เิ หตุเป็น 50 8% เป็นระดับที่นักวิจัย 2 เท่า ของคนท่ีไม่ด่มื สรุ า ทั่วไปยอมรับว่าการขับรถ จะเปน็ อนั ตราย มีผลท�ำให้ความสามารถ ในการขับรถลดลงเฉลี่ย 80 12% มีผลต่อคนขับรถ โอกาสเกิดอุบตั ิเหตเุ ป็น ทุกคนและระดับน้ีใช้เป็น 3 เทา่ ของคนท่ไี ม่ด่มื สรุ า กฎหมายควบคุมในหลาย ประเทศ 156

ระดับแอลกอฮอล์ สมรรถภาพ โอกาสเกิด ในเลอื ด ในการขบั ขี่รถ อบุ ัติเหตุจราจร (มิลลิกรัมเปอรเ์ ซน็ ต์) มีผลท�ำให้ความสามารถใน โอกาสเกิดอุบัตเิ หตุเปน็ การขบั รถลดลงเฉลย่ี 15% มี 6 เทา่ ของคนทไ่ี ม่ด่ืมสุรา 100 ผลต่อคนขับรถทุกคน และ ก า ร ขั บ ร ถ จ ะ แ ย ่ ล ง อ ย ่ า ง รวดเรว็ เม่อื ถงึ ระดบั น้ี 150 มีผลท�ำให้ความสามารถใน โอกาสเกิดอุบตั ิเหตเุ ป็น การขับรถลดลงเฉลย่ี 33 % 40 เทา่ ของคนท่ไี ม่ด่มื สุรา มากกวา่ 200 สมรรถภาพลดลงเป็น ไม่สามารถวดั ได้ เนือ่ งจาก สดั สว่ นกบั ระดบั แอลกอฮอล ์ ควบคมุ การทดลองไมไ่ ด้ แต่ โอกาสเกิดอบุ ตั เิ หตสุ งู มาก ขอ้ แนะนำ� ในการหลีกเล่ยี งการเกดิ อบุ ัตเิ หตุจากการเมาแล้วขบั - ไม่ควรด่ืมสรุ าหากต้องขับขรี่ ถ - หากดืม่ สุราไมค่ วรขับรถเอง ควรให้เพอื่ นท่ีไม่ด่ืมสุราขับรถไปสง่ - ใช้บริการรถแทก็ ซ่ีแทนการขบั เอง กฎหมายว่าดว้ ยการห้ามขบั ขร่ี ถในขณะเมาสรุ า ในประเทศไทยได้ก�ำหนดมาตรการในการตรวจจับผู้ขับขี่ที่เมาสุราโดยถือเอา ระดับแอลกอฮอลใ์ นเลือดท่ีเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซน็ ต์ “เปน็ ผ้ขู บั ขีท่ ่เี มาสุรา” และ มคี วามผดิ ตามกฎหมาย 157

พระราชบัญญตั ิจราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ แก้ไขเพิม่ เตมิ พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา 43 หา้ มมใิ หผ้ ู้ขับขี่รถในขณะเมาสรุ า หรือของเมาอยา่ งอื่น มาตรา 160 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษ จ�ำคุกไม่เกิน 1 ปี หรอื ปรับต้งั แต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทัง้ จำ� ทงั้ ปรับ พักใช้ ใบอนุญาตขบั ขไี่ มน่ อ้ ยกว่า 6 เดือน หรือเพกิ ถอน ใบอนญุ าตขับขี่ ถ้าเป็นเหตุให้ผูอ้ ืน่ ได้รับอันตรายแกก่ ายหรือ จติ ใจ ต้องระวางโทษหรือจ�ำคกุ ตง้ั แต่ 1 - 5 ปี และ ปรับตั้งแต่ 20,000 - 100,000 บาท พักใช้ ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอน ใบอนญุ าตขบั ขี่ ถา้ เปน็ เหตใุ ห้ผู้อน่ื ไดร้ ับอนั ตรายสาหสั ต้อง ระวางโทษจ�ำคุกต้ังแต่ 2 - 6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 - 120,000 บาท พกั ใชใ้ บอนญุ าตขบั ขไี่ ม่ นอ้ ยกว่า 2 ปี หรือเพกิ ถอนใบอนญุ าตขบั ข่ี ถา้ เปน็ เหตใุ หผ้ อู้ นื่ ถงึ แกค่ วามตาย ตอ้ งระวาง โทษจำ� คุกต้ังแต่ 3 - 10 ปี และปรบั ตั้งแต่ 60,000 - 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนญุ าตขบั ขี่ ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมได้น�ำระบบการคุมประพฤติมาใช้กับผู้ต้องหาในคดี เมาแลว้ ขบั โดยกรณที ถี่ กู ศาลตดั สนิ ใหร้ อลงอาญา จะตอ้ งเขา้ โครงการคมุ ประพฤตเิ ปน็ เวลา 1 ปี เพื่อปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมไม่ใหก้ ลบั มากระทำ� ผดิ ซำ�้ อกี บางจังหวดั ศาล ตัดสนิ โทษจ�ำคกุ ให้กกั ขังแทน สอบถาม ขอ้ มลู เพิ่มเตมิ ไดท้ ี่ ส�ำนกั โรคไม่ตดิ ต่อ โทรศพั ท์ 0-2950 3889 158

งว่ งไมข่ ับ การงว่ งหลบั ในขณะขบั รถเปน็ อนั ตรายอยา่ งยงิ่ อาจกอ่ ใหเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตแุ ละทำ� ใหผ้ ขู้ บั ผู้โดยสาร ถึงแกช่ วี ติ ได้ การหลับในเป็นการวบู หลับไปช่วงส้ันๆ ซ่ึงอาจเกิดข้ึนไม่รู้ตวั และเป็นส่ิงที่บังคับไม่ได้ สมองจะหลับไปวูบหนึ่ง ดังน้ัน คนหลับในจึงเสมือนกับคน หหู นวก ตาบอด เปน็ อมั พาต หรอื หมดสตไิ ปชวั่ ขณะหนง่ึ ถงึ จะเปน็ เวลาเพยี งไมก่ ว่ี นิ าที แตก่ ็นานพอทจ่ี ะท�ำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าเกิดขึ้นในขณะขับรถอยู่ สาเหตขุ องการงว่ งหลบั ใน...เกดิ ได้จากหลายปัจจยั ได้แก่ 1. การอดนอนหรือนอนไม่เพียงพอ คนส่วนใหญ่ต้องการนอนหลับวันละ 7 - 9 ช่ัวโมง โดยเฉล่ียประมาณวันละ 8 ชั่วโมง การอดนอนหรอื นอนหลับ ไม่เพยี งพออาจเปน็ ผลมาจาก - จ�ำนวนชวั่ โมงในการนอนหลบั นอ้ ยกวา่ ท่ีควรจะเป็นส�ำหรบั บุคคลน้ัน ๆ - การรบกวนโดยปัจจยั แวดลอ้ มต่าง ๆ เชน่ แสง เสยี งดงั เด็ก และกจิ กรรม ตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ - การเปน็ โรคผิดปกติในการนอน (Sleep disorder) ทีไ่ มไ่ ด้รบั การวนิ ิจฉยั และการแก้ไข - การเปลี่ยนแปลงวงจรการตื่นและการหลับของแต่ละคนจากการท�ำงาน เปน็ ผลัดหรอื เป็นกะที่ไม่แน่นอน 2. การกนิ ยาบางชนดิ เชน่ ยาแกแ้ พ้ ยาลดนำ�้ มกู ยาแกห้ วดั ยาแกไ้ อ ยานอนหลบั ยาคลายเครยี ด ยาแก้โรคซึมเศร้า ยากนั ชัก เป็นต้น 3. การดม่ื เครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอลม์ ฤี ทธก์ิ ดประสาท ทำ� ใหเ้ กดิ การง่วงนอนไดเ้ หมือนยานอนหลบั 4. ภาวะความเหนอื่ ยลา้ จากการทำ� งานมากกวา่ 12 ชว่ั โมง ตดิ ตอ่ กนั หลายวนั โดยไมไ่ ดพ้ กั การเหนอ่ื ยลา้ จากการขบั รถระยะทางไกล ๆ หรอื เปน็ เวลานาน หลายชั่วโมงติดตอ่ กนั 5. ภาวะการมรี ะดบั ออกซเิ จนในเลอื ดตำ�่ จากการไดร้ บั กา๊ ซคารบ์ อนมอนนอกไซด์ ทเี่ กดิ จากรถยนต์ซึ่งอาจร่ัวเข้าไปในตวั รถ 159

สญั ญาณเตอื น “อาการงว่ ง...ในขณะขับรถ” สญั ญาณเตือนทีจ่ ะท�ำใหผ้ ู้ขับขีร่ ูว้ า่ ตนเองมอี าการ “ง่วง” มีดงั นี้ 1. หาวบอ่ ยและหาวต่อเนอ่ื ง 2. ใจลอยไม่มสี มาธิ 3. ร้สู กึ เหนือ่ ยล้า หงุดหงดิ กระวนกระวาย 4. จ�ำไม่ได้ว่าขบั รถผา่ นอะไรมาเมอ่ื สองสามกิโลเมตรที่ผ่านมา 5. รสู้ ึกหนกั หนงั ตา ตาปรอื ลืมตาไม่ขึ้น มองเหน็ ภาพไมช่ ัด 6. ร้สู ึกมนึ หนักศีรษะ 7. ขับรถส่ายไปมาหรอื ออกนอกเสน้ ทาง 8. มองขา้ มสญั ญาณไฟและป้ายจราจร ขอ้ ควรปฏิบัตเิ พื่อหลกี เลี่ยงการง่วง...ในขณะขับรถ กอ่ นเดนิ ทางควรมีการเตรียมตัว ดังนี้ - นอนหลบั พกั ผอ่ นในเวลากลางคนื ให้เพียงพอ อย่างนอ้ ย 7 - 9 ชวั่ โมง - หาเพือ่ นร่วมทางเพือ่ พูดคยุ และผลัดเปลี่ยนกนั ขบั รถ - วางแผนการหยดุ พกั การขบั รถทกุ ๆ ระยะทาง 150 กโิ ลเมตร หรอื ทกุ 2 ชว่ั โมง - หลกี เล่ียงการดื่มเครือ่ งด่ืมท่มี ีแอลกอฮอล์ หรอื ยาทีอ่ อกฤทธ์ทิ ำ� ใหง้ ่วงซมึ - ควรงบี หลบั ก่อนขับรถถา้ รูส้ กึ อ่อนล้า - ถ้ามีอาการผดิ ปกตเิ ก่ยี วกับการนอน เช่น นอนหลบั ในตอนกลางวนั บ่อยๆ หรอื นอนหลบั ยากในเวลากลางคนื ฯลฯ ควรปรกึ ษาแพทย์ ขณะขบั ข่รี ถ เมื่อคณุ เริม่ มอี าการของสัญญาณเตือนของการงว่ ง ควรจะ - อย่าฝนื ขบั รถ - จอดรถในทีท่ ่ีปลอดภยั เพอื่ งีบหลบั ประมาณ 15 นาที กอ่ นขบั ตอ่ - สลับให้ผูอ้ ่นื ขับรถแทน - รบั ประทานของขบเคย้ี ว หรอื ดมื่ เครอ่ื งดมื่ ทช่ี ว่ ยใหร้ สู้ กึ สดชน่ื กระปรก้ี ระเปรา่ - เปิดหนา้ ต่างรถเพ่ือถา่ ยเทอากาศ ใหล้ มโชยปะทะหน้า เปิดเพลงดงั ๆ และ รอ้ งตามไปดว้ ย - ใชอ้ ปุ กรณ์/เครื่องมอื ส่งสัญญาณปลุก กรณีทม่ี ีอาการสปั หงก การปอ้ งกนั สามารถทำ� ไดง้ า่ ยๆ ทส่ี ำ� คญั คอื สอบถาม การฝึกให้มีนิสัยการนอนหลับให้เหมาะสมและ ขอ้ มลู เพิ่มเตมิ ได้ท่ี เพียงพอ มีการวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อม สำ� นักโรคไมต่ ดิ ต่อ กอ่ นการเดนิ ทาง และควรจำ� ไวเ้ สมอวา่ “งว่ งไมข่ บั โทรศพั ท์ 0-2950 3889 จะได้กลบั อยา่ งปลอดภยั ” 160

เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ชนิดหน่ึงที่ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับ ผู้ขับข่ีและผู้โดยสารรถยนต์ ซ่ึงหากเกิดอุบัติเหตุ เข็มขัดนิรภัยจะช่วยรั้งผู้ขับขี่หรือ ผู้โดยสารใหต้ ดิ กบั เบาะทนี่ งั่ ไมก่ ระเดน็ ออกนอกตวั รถหรอื ไปกระแทกกบั สว่ นของรถยนต์ ก่อนจะมาเป็นเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ เข็มขัดนิรภัยได้ถูกน�ำมาใช้ในสมัย สงครามโลกครงั้ ที่ 1 โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพอ่ื ปอ้ งกนั นกั บนิ ตกหลน่ ลงมาจากเครอ่ื งบิน ในขณะบิน เพ่ือท�ำการต่อสทู้ างอากาศ ซงึ่ มกี ารบนิ โฉบเฉี่ยวไปมารวมท้งั พลกิ ลำ� ตวั เครือ่ งบินและด้วยความปลอดภัยนเี้ อง เขม็ ขัดนริ ภยั จึงถกู พัฒนามาเปน็ เข็มขัดนิรภัย ในรถยนต์เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ส�ำหรับในประเทศได้มีการประกาศ ใชก้ ฎหมายทบ่ี งั คบั ใหผ้ ขู้ บั ขร่ี ถยนต์ และผโู้ ดยสาร ทนี่ งั่ ตอนหนา้ ทกุ คน ตอ้ งคาดเขม็ ขดั นิรภยั ท้งั ในกรงุ เทพฯ และตา่ งจังหวัด เม่ือวันที่ 7 ตุลาคม 2540 อันตรายจากการไมค่ าดเข็มขัดนริ ภยั กรณีเกดิ อบุ ตั เิ หตุ 1. แรงกระแทกจากการชนทเ่ี กดิ จากรถทวี่ งิ่ เรว็ 60 กโิ ลเมตรตอ่ ชวั่ โมง จะเทา่ กบั รถทตี่ กจากที่สงู 14 เมตร หรือความสูงประมาณตกึ 5 ชน้ั 2. คนท่ีอยู่ในรถถ้าไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะเดินทางด้วยความเร็วเท่ากับรถ เม่ือรถชนและหยุดกะทันหัน ศีรษะ ใบหน้า และล�ำตัวของคนในรถจะถูกเหว่ียงไป กระแทกกับพวงมาลัย กระจกหนา้ รถ หรือหลุดกระเด็นออกนอกตัวรถ 3. อวยั วะในรา่ งกาย เชน่ ตบั ไต ลำ� ไส้ สมองหรอื ไขสนั หลงั จะเคลอ่ื นไหวเทา่ กบั ความเร็วของรถ เม่ือรถชนหรือหยุด อวัยวะภายในจะกระแทกกันเอง ทำ� ให้ตับ ไต ล�ำไส้ หรือสมองฉีกขาดได้ ประโยชน์ของเข็มขดั นิรภัย ประโยชน์ของเข็มขัดนิรภัยคือจะช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ ได้มี การศกึ ษาวจิ ยั หลายประเทศ ผลการศกึ ษาตา่ งยนื ยนั วา่ เขม็ ขดั นริ ภยั มบี ทบาทสำ� คญั 161

ในการลดความรนุ แรงจากอุบตั ิเหตุไดจ้ ริง โดยพบว่า เข็มขดั นริ ภัยสามารถลดความ เสี่ยงจากการบาดเจบ็ ทั่วไปลงได้ ร้อยละ 40 - 50 ลดการบาดเจ็บสาหัสไดถ้ งึ ร้อยละ 43 - 65 และลดการเสยี ชวี ติ ไดร้ อ้ ยละ 40 - 60 และจากการทดสอบประสทิ ธิภาพ ของเขม็ ขดั นริ ภยั ในการชนหลายๆประเภท พบวา่ รถทเี่ กดิ การพลกิ ควำ่� เขม็ ขดั นริ ภยั จะมีประสิทธภิ าพมากท่ีสุดถึงรอ้ ยละ 77 รองลงมา คอื การชนด้านทา้ ย รอ้ ยละ 49 และอนั ดบั สาม คอื ชนดา้ นหนา้ รอ้ ยละ 43 ซง่ึ พบวา่ เขม็ ขดั นริ ภยั ชว่ ยลดความรนุ แรง จากอบุ ตั เิ หตุได้จรงิ ประเภทของเข็มขดั นริ ภัยในรถยนต์ ประเภทท่ี 1 เปน็ เขม็ ขดั นริ ภยั แบบยดึ 4 จดุ มลี กั ษณะ เป็นสายเขม็ ขัดทีย่ ึดตดิ กบั บริเวณของพนื้ รถ 2 จดุ เพ่อื คาด บรเิ วณตกั และอกี 2 จุด ยดึ จากโรลบารผ์ ่านเบาะนง่ั คนขับ มาบรรจบกับ 2 จุดแรก เขม็ ขดั นริ ภยั แบบนน้ี ยิ มใช้ในรถแข่ง เพราะให้ความปลอดภัยแกน่ ักแข่งรถสงู สดุ ประเภทที่ 2 เป็นเข็มขัดนิรภัยแบบยึด 3 จุด มีลักษณะเป็นสายเข็มขัดท่ียึด จากเสากลางหน่ึงจุด และยึดจากพนื้ รถอกี 2 จุด เมือ่ คาดเขม็ ขัดนริ ภัยสายเสน้ หน่ึง จะคาดผ่านบริเวณไหล่ของคนน่ัง ส่วนอีกเส้นหน่ึงจะคาดผ่านบริเวณตัก ซึ่งเข็มขัด นิรภัยแบบยึด 3 จุดน้ีนิยมใช้ในรถยนต์ท่ัวไป โดยติดต้ังท่ีเบาะน่ังส�ำหรับผู้ขับข่ีและ ผูโ้ ดยสารตอนหนา้ ประเภทท่ี 3 เปน็ เขม็ ขดั นิรภัยแบบยึด 2 จุด มลี ักษณะเป็นสายเข็มขดั ทยี่ ึดจาก พนื้ รถด้านหน่งึ ไปอกี ดา้ นหน่งึ โดยคาดผ่านบรเิ วณตกั เข็มขดั นิรภัยแบบยดึ 2 จุด มกั จะใช้กบั ทนี่ ่ังผู้โดยสาร ตอนหลัง แต่รถยนตร์ ุ่นใหมบ่ างรนุ่ ได้มกี ารเปล่ียนเขม็ ขัด นิรภยั ส�ำหรบั ผโู้ ดยสารที่น่ังตอนหลงั จาก 2 จดุ เป็น 3 จุด ทั้งนี้เพือ่ ให้ผโู้ ดยสาร ท่นี งั่ ตอนหลังมคี วามปลอดภยั มากย่ิงขนึ้ ฉะน้ันเม่ือก้าวข้ึนรถไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ สอบถาม หรือผู้โดยสารควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง โดย ข้อมูลเพมิ่ เตมิ ได้ท่ี ฝึกให้เกิดความเคยชิน ทั้งน้ีเพ่ือความปลอดภัย ส�ำนักโรคไม่ตดิ ต่อ ในการขับขข่ี องตัวคุณเอง โทรศพั ท์ 0-2950 3889 162

อุบตั เิ หตจุ ราจร : โทรศพั ท์มือถือ สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในไทย นอกจากสาเหตุหลักๆ แล้ว เมื่อหลายปี ทีผ่ ่านมาพบวา่ ตงั้ แตก่ ระแส “มอื ถือฟเี วอร์” เข้ามาตตี ลาดรากหญ้า หา้ งรา้ นบริษทั ต่างๆ ลดแลกแจกแถมแย่งส่วนแบ่งพื้นท่ีการตลาดมีเงินไม่ถึงพันบาทสามารถเป็น เจา้ ของไดพ้ รอ้ มโปรโมชน่ั และลกู เลน่ ตา่ งๆ เพยี บ จากนน้ั มาสถติ กิ ารเกดิ อบุ ตั เิ หตเุ พราะ การใช้โทรศพั ท์ขณะขบั รถเพ่มิ ขึน้ จากผลการวจิ ยั ของนกั จติ วทิ ยาตา่ งชาตพิ บวา่ การคยุ โทรศพั ทข์ ณะขบั รถโดยใช้ มือเดียว จะท�ำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย และการใช้มือถือขณะขับรถท�ำให้เกิด อาการ “การรับรลู้ น้ เกนิ ” (cognitive overload) ซง่ึ เปน็ ผลให้เกิดอบุ ตั ิเหตุท่เี ทยี บเทา่ หรือสูงกว่าความผิดพลาดจากการขับรถ หรือ “เมาแล้วขับ” การคุยและการถือ โทรศพั ทท์ ำ� ใหส้ มาธริ ะหวา่ งนน้ั ไขวเ้ ขว อกี ทงั้ ประโยคจากการสนทนากม็ ผี ลตอ่ สมาธิ และจะรบกวนการขับขี่ โดยเฉพาะการมองเห็น สมาธิจากการโทรศัพท์ถูกแบ่งไป ครงึ่ หนง่ึ ทำ� ใหส้ มาธใิ นการขบั ขเี่ หลอื เพยี งครง่ึ เดยี ว เสยี่ งตอ่ การเกดิ อบุ ตั เิ หตอุ ยา่ งมาก ขอ้ เท็จจริงจากงานวิจัย 1. ผู้ขับขี่ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 2-3 เทา่ และผทู้ ม่ี ปี ระสบการณใ์ นการขบั ขไี่ มว่ า่ จะมากหรอื นอ้ ยหากมกี าร ใช้โทรศพั ทข์ ณะขบั รถแลว้ มีโอกาสเกดิ อุบตั เิ หตไุ ดเ้ ชน่ เดียวกนั 2. การใช้ Hand held และ Hand free ท�ำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุถึง 4 เท่า ซ่ึงเสยี่ งเทา่ กบั ผู้ท่มี ีแอลกอฮอล์ในเลอื ดปริมาณท่ีกฎหมายกำ� หนด 3. การคุยโดยใช้ speaker ท�ำให้เสียสมาธิมากกว่าการคุยโดยใช้มือถือหรือ แฮนด์ฟรี 4. การคยุ โทรศพั ทไ์ มว่ า่ จะเปน็ การใชม้ อื เพอื่ ถอื โทรศพั ทห์ รอื การใชแ้ ฮนดฟ์ รนี นั้ ทำ� ใหร้ ะยะเวลาในการแตะเบรกช้าลงกว่าการขบั รถในสภาวะปกติ 163

5. การทดลองโดยให้ผ้ขู บั ขข่ี บั รถในสภาวะปกติ ใช้โทรศพั ท์และมแี อลกอฮอล์ ในเลอื ดประมาณ 80 mg % (ตามกฎหมายสหรฐั กำ� หนด) พบวา่ ขณะคยุ โทรศพั ทก์ ารแตะเบรกจะชา้ ลงและมกี ารเฉย่ี วชนเกดิ ขน้ึ ซงึ่ ผทู้ ดี่ ม่ื แอลกอฮอล์ กลบั ไมพ่ บการเฉ่ยี วชนแต่การขบั ขีจ่ ะกา้ วร้าว และเบรกในระยะกระชัน้ ชิด การบงั คบั ใชก้ ฎหมายในประเทศไทย ภาครัฐตระหนักถึงผลท่ีเกิดข้ึน สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับใหม่ออกกฎหมายบังคับใช้ห้ามโทรศัพท์ ขณะขบั รถ ตามพระราชบญั ญตั ิ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก (ฉบบั ท่ี 8) พ.ศ.2551 มาตรา 43 (9) ห้ามมิให้ผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับเว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมส�ำหรับ การสนทนา โดยท่ีผู้ขับข่ีไม่ต้องถือ หรือจับโทรศัพท์เคลื่อนท่ีนั้น ตามมาตรา 157 ผฝู้ ่าฝืนไม่ปฏิบตั ิตามมาตรา 43 (9) ตอ้ งระวางโทษปรับตง้ั แต่ 400 - 1,000 บาท และจากผลการตรวจสอบพบว่าหลังจากท่ีออกกฎหมายห้ามโทรศัพท์ขณะขับขี่ อบุ ตั เิ หตลุ ดลง การจราจรดขี นึ้ โดยใน พ.ร.บ.ดงั กลา่ วไดเ้ พมิ่ เตมิ ในมาตรา 43 วรรค 9 ไว้ดงั นี้ ข้อควรปฏิบัติหากจำ� เป็นตอ้ งใช้โทรศัพทข์ ณะขับรถ 1. ขณะขับรถและใช้โทรศพั ท์น้ัน มือควรอยทู่ ่พี วงมาลยั ตาควรมองถนน 2. วางโทรศัพท์ไว้ในที่ที่มองเห็นได้ง่าย เช่น ติดซองใส่โทรศัพท์ไว้กับเข็มขัด นริ ภยั เป็นต้น 3. ไม่ควรจดข้อความขณะก�ำลังขบั รถ และหากมีความจำ� เปน็ ตอ้ งจดขอ้ ความ ควรหยดุ รถก่อน 4. ใชก้ ารโทรด่วน (speed call) สำ� หรับเบอร์ที่ตอ้ งโทรออกบ่อยๆ 5. ให้ใช้ข้อความเสียงแทนการรับโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในการขับรถและ มีสายเรียกเขา้ สอบถาม ข้อมลู เพ่มิ เตมิ ได้ท่ี สำ� นักโรคไมต่ ดิ ตอ่ โทรศัพท์ 0-2950 3889 164

การตกน้ำ� จมน้�ำ ในเดก็ การจมน้ำ� เป็นสาเหตขุ องการเสยี ชวี ิตอันดบั 1 ของเดก็ ไทยอายตุ ำ่� กวา่ 15 ปี ซง่ึ สูง มากกวา่ การเสยี ชวี ติ จากโรคตดิ เชอ้ื และโรคไมต่ ดิ เชอ้ื และสงู มากกวา่ อบุ ตั เิ หตจุ ากการ จราจรถึง 2 เทา่ ตวั โดย 10 ปีทีผ่ ่านมา (ปี พ.ศ. 2549 – 2558) มเี ดก็ อายตุ ่ำ� กว่า 15 ปจี มน�ำ้ เสียชวี ิต 10,923 คน เดก็ ผ้ชู ายเสียชีวิตสูงมากกว่าเด็กผหู้ ญิงประมาณ 2 เท่าตัว กลุ่มอายุทเี่ สียชีวติ สูง คอื เด็กอายุ 0 - 4 และ 5 – 9 ปีรองลงมาคือ 10 – 14 ปี ช่วงเวลาที่พบว่ามีการจมน�้ำสูงคือ ช่วงฤดูร้อนและช่วงปิดเทอม และช่วงบ่ายของวันหยดุ แหลง่ นำ้� ทพ่ี บการเสยี ชวี ิตสูงสดุ คอื แหลง่ นำ�้ ตามธรรมชาติ บ่อขุดเพอ่ื การเกษตร สาเหตุ เด็กอายตุ �่ำกวา่ 5 ปี มกั เกิดจากการเผอเรอชว่ั ขณะของผ้ปู กครอง/ผดู้ ูแลเดก็ เชน่ รบั โทรศพั ท์ เปดิ - ปดิ ประตบู า้ นทำ� กบั ขา้ ว ซง่ึ บางครงั้ ไมค่ ดิ วา่ แหลง่ นำ�้ ในภาชนะ ในบา้ นจะทำ� ใหเ้ ดก็ จมนำ้� ได้ เนอ่ื งจากเดก็ เลก็ การทรงตวั ไมด่ ี จงึ ทำ� ใหล้ ม้ ในทา่ ศรี ษะ ท่ิมลงได้ จึงมักพบเด็กจมน�้ำสูงในแหล่งน�้ำภายในบ้านหรือรอบๆ บ้าน เช่น ถังน�้ำ กะละมัง แอง่ น�้ำ บ่อน�้ำ (เด็กสามารถจมนำ�้ เสยี ชีวติ ได้ในแหลง่ น�้ำที่มรี ะดบั ความสูง เพียง 1 - 2 นว้ิ ) เดก็ อายตุ ง้ั แต่ 5 ปขี นึ้ ไป เดก็ เรม่ิ โต และ ซน จะเร่ิมออกไปเล่นนอกบ้าน การจมน�้ำสูง มักเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก การท่ีเด็กว่ายน�้ำไม่เป็น และการช่วยเหลือท่ี ไม่ถูกวิธี โดยส่วนใหญ่จะเห็นว่าเด็กวัยน้ีจะ เสยี ชีวติ พรอ้ มกนั คร้ังละหลายๆคน เน่อื งจาก ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก พอเห็นเพ่ือน 165

หรือน้องตกน�้ำคิดว่าตัวเองว่ายน้�ำเป็นก็จะกระโดดลงไปช่วย แต่สุดท้ายก็จะกอดคอ กันตายหมู่ แหล่งน้�ำที่พบเด็กจมน�้ำสูงคือแหล่งน�้ำตามธรรมชาติ เช่น บ่อขุดเพื่อ การเกษตร คลอง แม่นำ�้ บงึ การป้องกนั เด็กอายตุ ำ�่ กวา่ 5 ปี - ผู้ปกครองและผู้ดูแลเด็กทุกคนควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ควรเผอเรอ แม้แต่เส้ียววินาทีเดียว โดยเด็กเล็กอายุต่�ำกว่า 5 ปี ต้องอยู่ในระยะที่ มองเหน็ ควา้ ถึง และเขา้ ถงึ - ไม่ปลอ่ ยท้ิงใหเ้ ดก็ เล่นน�ำ้ เองตามลำ� พังแม้ใน กะละมัง ถงั น�้ำ โอ่ง - มกี ารจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม เชน่ เทนำ�้ ทง้ิ ภายหลงั ใชง้ าน หาฝาปดิ รวมถงึ การ จัดพื้นท่เี ล่นปลอดภัยให้เดก็ - สอนใหเ้ ด็กเลก็ รู้จักแหลง่ นำ้� เส่ยี งภัยในบา้ น เช่น กะละมัง ถงั นำ�้ และวิธี การหลีกเล่ียง โดยเน้น “อย่าใกล้ อย่าเก็บ อย่าก้ม” คือสอนให้เด็ก อย่าเข้าไปใกล้แหล่งน�้ำ อย่าเก็บส่ิงของหรือของเล่นที่อยู่ในน�้ำ และ อยา่ ก้มไปดนู ้�ำในแหล่งน้�ำ เด็กอายุตง้ั แต่ 5 ปขี น้ึ ไป - ไมป่ ลอ่ ยให้เด็กไปเล่นน�้ำกนั เองตามลำ� พังตอ้ งมผี ูใ้ หญ่ไปด้วย - สอนให้เรียนรู้กฎแห่งความปลอดภัยทางน้�ำ เช่น ไม่เล่นใกล้แหล่งน้�ำ ไม่เล่นน้�ำคนเดียว ไม่ลงไปเก็บดอกบัว/กระทงในแหล่งน้�ำ ไม่เล่นน�้ำ ตอนกลางคืน รู้จักแหล่งน�้ำเส่ียง รู้จักใช้ชูชีพหรืออุปกรณ์ลอยน้�ำได้ เมือ่ ต้องโดยสารเรือ - ควรสอนให้เด็กรู้จักการเอาชีวิดรอดในน�้ำ เพราะหากเด็กไม่รู้จักวิธีการ เอาชีวิตรอดในน้�ำ เม่ิือตกน้�ำหรือจมน�้ำในจุดที่ห่างไกลจากฝั่งมากๆ 166

เด็กจะพยายามว่ายน�้ำเข้าหาฝั่งจนหมดแรงก่อนท่ีจะว่ายน�้ำถึงฝั่ง แต่การ เอาชวี ติ รอดทด่ี ที สี่ ดุ สำ� หรบั เดก็ คอื การลอยตวั อยใู่ นนำ้� ใหไ้ ดน้ านทส่ี ดุ เพอ่ื รอการชว่ ยเหลือ - สอนใหเ้ ด็กร้จู กั วธิ ีการช่วยเหลอื ท่ีถกู ต้อง คอื “ตะโกน โยน ยืน่ ” โดยเมื่อ พบคนตกน�้ำต้องไมก่ ระโดดลงนำ�้ ไปช่วย แตค่ วรตะโกนขอความช่วยเหลอื โทรแจง้ 1669 และหาอปุ กรณโ์ ยนหรอื ยนื่ ใหค้ นตกนำ�้ จบั เพอ่ื ชว่ ย เชน่ ไม้ เชอื ก ถงั แกลลอนพลาสตกิ เปล่า ขวดน้�ำพลาสตกิ เปล่า - จดั การสง่ิ แวดลอ้ มเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั แกเ่ ดก็ เชน่ สรา้ งรว้ั หาฝาปดิ / ฝังกลบหลุมบ่อท่ีไม่ได้ใช้ ติดป้ายค�ำเตือน จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน�้ำ ท่ีหาได้ง่ายบริเวณแหล่งน�้ำเส่ียง (ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า ขวดน�้ำ พลาสตกิ เปล่า ไม้ เชอื ก) - มีมาตรการทางด้านกฎหมาย/กฎระเบียบ/ข้อบังคับ เช่น ต้องใส่เส้ือชูชีพ เมอื โดยสารเรอื หา้ มดม่ื สรุ ากอ่ นลงเลน่ นำ้� กำ� หนดใหม้ บี รเิ วณเลน่ นำ้� /ดำ� นำ้� ที่ปลอดภัย และแยกออกจากบริเวณสัญจรทางน�้ำ ก�ำหนดให้มีเจ้าหน้าท่ี (lifeguard) ดแู ลแหล่งน้�ำ การชว่ ยเหลือ สอบถาม ขอ้ มลู เพม่ิ เติมไดท้ ่ี หลังจากช่วยคนท่ีตกน้�ำ จมน�้ำ สำ� นกั โรคไมต่ ดิ ต่อ ขึ้นมาแล้ว ห้ามจับอุ้มพาดบ่า กระโดด โทรศัพท์ 0-2950-3888 หรอื วง่ิ รอบสนามหรอื วางบนกระทะควำ�่ แล้วรีดน้�ำออก เพราะจะท�ำให้ขาด อากาศหายใจนานย่ิงขึ้น กรณีเด็ก ไม่หายใจให้ช่วยด้วยการเป่าปากและ นวดหัวใจและควรน�ำส่งโรงพยาบาล ทุกราย 167

การบาดเจบ็ จากการพลัดตกหกล้มในผสู้ ูงอายุ การพลดั ตกหกล้มเป็นปญั หาสาธารณสุขท่สี �ำคัญ ซง่ึ เปน็ สาเหตกุ ารตายอนั ดับสอง ในกลุม่ ของการบาดเจ็บโดยไม่ได้ตง้ั ใจ รองมาจากการบาดเจ็บจากอบุ ตั เิ หตุทางถนน ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ืองโดยในปี พ.ศ. 2557 มีผู้เสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มสูงถึง 2,007 คน หรือเฉล่ียวันละ 6 คน โดยเกอื บครึ่งเป็นกลุ่มผู้สงู อายุ ซึง่ ความเสี่ยงจะเพม่ิ สงู ขึ้นตามอายุ และพบใน เพศชายสงู กว่าเพศหญิง 3 เท่า เมือ่ พจิ ารณาตามภูมภิ าค พบว่า จงั หวดั ในภาคเหนอื มีอัตราการเสียชีวติ จากการพลัดตกหกลม้ ในผ้สู ูงอายสุ ูงเป็นล�ำดบั ตน้ ๆ สาเหตุ การพลดั ตกหกล้มสว่ นใหญม่ ีสาเหตุมาจากพืน้ ลืน่ /เปยี ก พืน้ ต่างระดบั สะดดุ สิ่งกีดขวาง เสียการทรงตัว หนา้ มืดวงิ เวียน แสงสว่างไมเ่ พยี งพอ ไมม่ รี าวจบั บริเวณ บ้าน บันได และหอ้ งน�้ำ เป็นต้น 168

ปจั จยั เส่ียงทเี่ กย่ี วข้อง 1. ปัจจัยเส่ียงด้านร่างกายและความสามารถ ที่ลดลง เชน่ การมองเห็น การเดนิ การทรงตัว การรบั รู้ และการเจ็บป่วยด้วยโรคเร้ือรังต่างๆ เช่น ไขข้ออักเสบ กระดูกพรุน ภาวะซึมเศร้า สมองเสื่อม เบาหวาน หลอดเลือดสมอง และพารก์ นิ สนั เป็นตน้ 2. ปัจจัยเสยี่ งดา้ นพฤติกรรม เชน่ การใชย้ าท่ีเสี่ยง ตอ่ การพลดั ตกหกลม้ (ไดร้ บั ยากลมุ่ ตา่ งๆ ตอ่ ไปน้ี 1 ชนดิ ข้ึนไป ได้แก่ ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาลด ความดนั โลหติ และยาขบั ปสั สาวะ หรอื รบั ยาตงั้ แต่ 4 ชนดิ ข้ึนไป (ไม่รวมวิตามิน)) การดื่มแอลกอฮอล์ที่เกินพอดี ขาดการออกก�ำลังกาย การสวมรองเท้าและเสื้อผ้า ที่ไมพ่ อดเี ป็นตน้ 3. ปัจจัยเส่ียงดา้ นสงิ่ แวดล้อม เชน่ พ้นื และบนั ได ลื่น พื้นต่างระดับ ไม่เรียบ แสงสว่างไม่เพียงพอ มสี ิง่ กีดขวาง ไม่มีราวจับบริเวณบ้าน บนั ได และหอ้ งน้ำ� เป็นต้น 4. ปจั จัยเสย่ี งดา้ นเศรษฐกิจและสังคม เช่น รายได้ และระดบั การศกึ ษา สมั พนั ธภาพในสงั คม และการเขา้ ถงึ การบรกิ ารสขุ ภาพและสงั คมนอ้ ย รวมถงึ ขาดการสนบั สนนุ จากชุมชน การป้องกันการพลดั ตกหกล้มในผู้สูงอายุ 1. ตวั ผูส้ งู อายุ - ผู้สูงอายุควรได้รับการประเมินความเส่ียงต่อการพลัดตกหกล้มและ รสู้ ถานะความเสยี่ งสขุ ภาพของตนเอง - ปรกึ ษาเจา้ หนา้ ทหี่ รอื บคุ ลากรทางการแพทย์ เพอ่ื ขอรบั คำ� แนะนำ� เกยี่ วกบั การใช้ยา การมองเหน็ การเดินและการเคลอ่ื นไหว - เข้ารับการรกั ษาหากมีอาการผดิ ปกติจากการเจบ็ ป่วยและโรคประจ�ำตัว 169

- หลีกเล่ียงการใชย้ าท่ไี มจ่ �ำเป็น และควรปรกึ ษาแพทย์หรอื เภสัชกรทุกคร้งั - ฝกึ การเดนิ และออกกำ� ลงั กายเพอื่ เพม่ิ ความแขง็ แรงของกลา้ มเนอื้ เนน้ ฝกึ การทรงตวั และการเคล่ือนไหว เชน่ โยคะ ไทเก๊ก เป็นต้น - ควรเปลยี่ นทา่ ชา้ ๆ เพอ่ื ปอ้ งกนั ภาวะความดนั ตกในทา่ ยนื ขณะลกุ นง่ั หรอื ยืนทกุ ครั้ง - กรณีที่มีความบกพร่องในการเดินหรือการทรงตัว ควรใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น โครงเหลก็ ช่วยเดนิ ไม้เทา้ เป็นตน้ - สวมใส่เส้อื ผ้า รองเทา้ ท่ีมีขนาดพอดี และควรสวมรองเทา้ สน้ เตี้ย ขอบมน ห้มุ ส้น พน้ื รองเทา้ ควรมีดอกยาง ไมล่ นื่ 2. ด้านสิง่ แวดล้อม - ผูส้ ูงอายคุ วรอาศยั อยู่ในบา้ นช้ันเดียว กรณีบ้าน 2 ชนั้ ควรจัดให้ผสู้ งู อายุ อยู่ชน้ั ลา่ ง - มแี สงสว่างเพียงพอท้งั ในบา้ นและบริเวณบ้าน โดยเฉพาะบริเวณทางเดนิ บันได และหอ้ งน�้ำ - พื้นและทางเดินเรยี บเสมอกัน ไมล่ ่ืน ไมเ่ ปยี ก ไม่มีสงิ่ กดี ขวาง หลีกเล่ยี ง การยกระดับสูงต่�ำไม่เท่ากัน ไม่ควรมีธรณีประตู และประตูควรเป็นแบบ บานเลื่อน และใช้ลูกบิด / มอื จบั ประตูแบบกา้ นโยก - บนั ไดมรี าวจบั 2 ขา้ ง สงู จากพน้ื 80 เซนตเิ มตร บนั ไดลกู ตงั้ สงู ไมเ่ กนิ 15 เซนติเมตร ลูกนอนไม่น้อยกว่า 28 เซนติเมตร มีแถบสีบอกขั้นบันไดท่ี ชัดเจน และไม่ลนื่ - ห้องนอนควรใช้เตียงทีม่ ีความสูงระดับขอ้ พบั เข่า (40 - 45 เซนตเิ มตร) เพ่ือใหล้ กุ ขนึ้ ไดส้ ะดวก - หอ้ งนำ้� ควรอยตู่ ิดกบั หอ้ งนอน พ้ืนไมล่ น่ื มคี วามลาดเอียงเพียงพอไปยงั ท่อระบายน้�ำเพ่อื ไม่ใหน้ �้ำขัง มรี าวจบั มีที่นง่ั สำ� หรบั อาบน้�ำ สงู 40 - 45 เซนตเิ มตร ใชโ้ ถสว้ มแบบชกั โครกหรอื นงั่ ราบ ไมม่ ธี รณปี ระตู และผสู้ งู อายุ ไมค่ วรลอ็ กประตขู ณะใช้ห้องนำ้� 170

- สวติ ซไ์ ฟควรอยใู่ นระดบั สงู จากพน้ื 120 เซนตเิ มตร และปลก๊ั ไฟควรสงู 35 - 90 เซนตเิ มตร - ความสูงของโต๊ะหรือที่ท�ำครัวควรสูงไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร สามารถหยิบจับอุปกรณ์ได้ง่าย สะดวก ไมต่ อ้ งกม้ เออ้ื ม และปีน การบาดเจบ็ หลังการพลัดตกหกล้ม การบาดเจบ็ จากการพลัดตกหกล้มประมาณครึง่ หน่ึงมีอาการฟกชำ�้ รองลงมา คอื มีอาการปวดหลัง และรนุ แรงจนกระดกู หกั ได้แก่ กระดกู ข้อมอื แขน และสะโพก เป็นต้น ซึ่งการพลัดตกหกล้มเป็นสาเหตุของความพิการเรื้อรัง ต้องรักษาตัวใน โรงพยาบาลเปน็ ระยะเวลานาน ทำ� ใหเ้ กดิ ภาวะแทรกซอ้ น เชน่ แผลกดทบั แผลตดิ เชอ้ื ขอ้ ติด และส่งผลกระทบตอ่ สภาพจติ ใจ ท�ำใหก้ ลัวการหกลม้ ซ�้ำ มภี าวะซึมเศรา้ ตอ้ ง พ่ึงพาอาศยั ผู้อนื่ ในการดูแล เป็นต้น หรืออาจเสียชวี ติ ได้ การชว่ ยเหลอื เบื้องตน้ เมื่อพบผู้สงู อายพุ ลดั ตกหกล้ม การชว่ ยเหลอื เบอ้ื งตน้ เมอื่ พบผพู้ ลดั ตกหกลม้ ควรตง้ั สติ อยา่ ตกใจ ใหป้ ระเมนิ การบาดเจ็บของผพู้ ลดั ตกหกลม้ หากไม่สามารถขยับและลุกเองได้ หรอื เมอื่ ขยบั ขา แลว้ รสู้ ึกปวดสะโพกหรอื โคนขา ไม่ควรเคล่ือนไหวเพอ่ื ป้องกนั กระดกู ท่หี ักไปทำ� ลาย เน้ือเย่ือ หลอดเลือด และเส้นประสาทข้างเคียง ควรเข้าเฝือกชั่วคราว และน�ำส่ง สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือ โทร. 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือจาก หนว่ ยบรกิ ารการแพทย์ฉกุ เฉนิ สอบถาม ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ ไดท้ ี่ ส�ำนกั โรคไมต่ ิดต่อ โทรศัพท์ 0-2950-3888 171

แมงมมุ แม่ม่ายน้ำ� ตาล แมงมุมแม่ม่ายน�้ำตาล (brown widow spider) มีช่ือทางวิทยาศาสตร์ว่า Latrodectus geometricus มกี ารคน้ พบครงั้ แรกในประเทศโคลมั เบยี ทวปี อเมรกิ าใต้ จากน้ันได้มีการกระจายกว้างออกไปยังทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปแอฟริกา ทวีป ออสเตรเลยี ในทวปี เอซยี พบทป่ี ระเทศฟลิ ปิ ปนิ ส์ ญป่ี นุ่ และอนิ เดยี สว่ นในประเทศไทย จากการส�ำรวจเก็บตวั อย่างแมงมมุ แม่ม่ายในประเทศไทยในพ้นื ที่ ๒๑ จงั หวัด ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ – ๒๕๕๗ ผลการสำ� รวจเบอื้ งตน้ พบแมงมมุ แมม่ า่ ยในพน้ื ที่ ๒๑ จงั หวดั ไดแ้ ก่ แพร่ กรงุ เทพฯ นครปฐม กาญจนบรุ ี ลพบรุ ี นครราชสมี า เพชรบรุ ี ประจวบครี ขี นั ธ์ สรุ าษฎรธ์ านี ชมุ พร ภเู กต็ เพชรบรู ณ์ พะเยา ลำ� ปาง เชยี งใหม่ ชลบรุ ี ระยอง ขอนแกน่ อุบลราชธานี สุรินทร์ หนองคาย และอีก ๙ จงั หวดั ไดแ้ ก่ นนทบุรี สมทุ รสงคราม ราชบรุ ี ชัยนาท พจิ ิตร ล�ำพูน จนั ทบรุ ี เลย และหนองบัวลำ� ภู กล่มุ แมงมมุ แม่ม่ายน�้ำตาล แมงมุมแม่ม่ายน้�ำตาล (brown widow spider) มีช่ือทางวิทยาศาสตร์ว่า Latrodectus geometricus อยู่ในวงศ์ theridiidae การแพร่กระจาย : พบทวั่ ทุกภาคของประเทศไทย ลกั ษณะทัว่ ไป เพศเมยี มขี นาดความยาวของลำ� ตวั ๘ – ๙ มลิ ลเิ มตร สว่ นหวั รวมกบั สว่ นนอก (cephalothorax) สนี ำ�้ ตาลเขม้ ถึงดำ� สว่ นทอ้ ง (abdomen) มีความหลากหลายสงู ตงั้ แตส่ ีขาวสวา่ ง สเี ทา สีนำ้� ตาลเขม้ ไปจนถึงสีด�ำ กึ่งกลางด้านบนของส่วนท้องมจี ุด 172

รปู วงกลมหรือสามเหล่ยี มสสี ้ม แดง หรือสีน้ำ� ตาลเข้ม ลอ้ มรอบด้วยกรอบสีขาวเรียง กนั เปน็ แถว ๓ จดุ เชอื่ มดว้ ยแถบสเี ดยี วกนั พาดไปทางดา้ นทา้ ยลำ� ตวั สองขา้ งของแนว กลางตวั ดา้ นบนส่วนทอ้ ง มจี ุดสีดำ� เรียงกนั ข้างละ ๔ จดุ เหน็ ชดั ในแมงมุมขนาดเลก็ แมงมมุ ท่มี ีอายุมากจะเหน็ ชดั เพยี งขา้ งละ ๓ จุด แตล่ ะจดุ มแี ถบสีอ่อนเชื่อมตอ่ พาด ไปดา้ นขา้ งของสว่ นทอ้ งเกดิ เปน็ ลวดลายสอี อ่ นสลบั เขม้ ตดั กบั สพี นื้ ของสว่ นทอ้ ง ดา้ น ล่างของส่วนท้องมีแถบสีส้มหรือสีแดงรูปร่างคล้ายนาฬิกาทรายเป็นลักษณะเด่น ขา มีสนี �้ำตาลออ่ น บริเวณข้อตอ่ ระหว่างปลอ้ งขามสี ดี �ำเข้ม (ภาพซ้าย) แมงมุมแม่มา่ ยน้ำ� ตาล เพศเมีย (ภาพขวา) แมงมมุ แมม่ า่ ยนำ้� ตาล เพศผู้ เพศผู้ มขี นาดเลก็ กวา่ เพศเมยี อยา่ งชดั เจน มีขนาดความยาวของล�ำตัว ๒ -๒.๖ มิลลิเมตร ส่วนหัวรวมกับส่วนนอก (cephalothorax) สีน้�ำตาลเข้มถึงด�ำ ส่วนท้อง (abdomen) มี ภาพส่วนทอ้ งมีแถบสสี ้มหรอื สีแดง ลวดลายคลา้ ยเพศเมยี ขาบรเิ วณขอ้ ตอ่ มสี ดี ำ� เขม้ รูปรา่ งคล้ายนาฬิกาทราย ตัดสีผิวของขาส่วนอื่น มองดูลักษณะเป็นบั้ง คลา้ ยในแมงมมุ เพศเมยี ถุงไข่ ทรงกลม ขนาดเฉลีย่ ๐.๕ – ๑.๒ เซนติเมตร สีครีม ผิวมีหนามแหลมลักษณะคล้ายท่นุ ระเบิด แหลง่ อาศยั และพฤตกิ รรม สว่ นใหญพ่ บอาศยั ในแหลง่ ชมุ ชน เชน่ ใตโ้ ตะ๊ เกา้ อ้ี ตามบ้านเรอื น สวนสาธารณะ สถานีขนสง่ หรอื รา้ นอาหาร บางแห่งพบอาศยั อยู่ใต้ ท้องรถยนต์ท่ีจอดอยู่กับที่ ในหลายจังหวัดพบอาศัยในพื้นท่ีป่าโดยอาศัยในโพรงไม้ หรือใช้ใยเชื่อมใบหญ้าเข้าหากันเพื่อท�ำเป็นรังนอน มักสร้างรังนอนตามมุมวัสดุหรือ ซอกหลบื ทีอ่ ับแสงและสงู จากพื้นไม่เกิน ๑ เมตร ในชว่ งเวลากลางคืนมักพบแมงมุม สร้างใยสำ� หรับดกั เหย่ือ เชอื่ มจากรังนอนดา้ นบนลงมาสพู่ ้ืนด้านลา่ ง 173

พิษของแมงมุมแม่ม่ายน�้ำตาล มีช่ือเรียก เฉพาะวา่ latrotoxin ซ่งึ จัดเป็นพษิ ที่มผี ลหลกั ตอ่ ระบบประสาท (neurotoxin) สง่ ผลให้กล้ามเนือ้ เกร็งจนเป็นอัมพาต ซ่ึงสาเหตุของการเสียชีวิต ลักษณะของถงุ ไข่แมงมมุ แมม่ ่ายน้ำ� ตาล จะเกดิ จากกลา้ มเนอ้ื กระบงั ลมและกลา้ มเนอื้ หวั ใจ หยุดท�ำงาน นอกจากนี้พิษของแมงมุมแม่ม่าย น้�ำตาลยังมีองค์ประกอบท่ีส่งผลต่อการท�ำลายเน้ือเยื่อรอบแผลท�ำให้เกิดความ เจ็บปวดและแผลจะหายช้า แต่ยังไม่เคยมีรายงานการเสียชีวิตจากการโดนแมงมุม แม่ม่ายน�ำ้ ตาลกดั เลย แมงมุมแมม่ า่ ยน�้ำตาลนั้นไม่ไดน้ า่ กลัวอยา่ งทีค่ ิด - ตัวเต็มวัยเพศเมียเท่านั้นที่สามารถกัดผ่านผิวหนังของมนุษย์ได้ ส่วน แมงมุมเพศผู้และแมงมุมท่ียังไม่เต็มวัยมีเข้ียวที่เล็กและส้ันจนไม่สามารถ กดั ผ่านผิวหนังของคนได้ - แมงมุมแม่ม่ายน�้ำตาลจะปล่อยพิษในการกัดแต่ละคร้ังน้อยมาก ซึ่งส่วน ใหญจ่ ะสรา้ งความเจบ็ ปวดในบรเิ วณทโี่ ดนกดั เทา่ นนั้ หรอื หากเปน็ การโดน กัดอยา่ งจังกอ็ าจทำ� ใหป้ วดทั่วทง้ั อวัยวะได้ - แมงมมุ ชนิดนี้ไมม่ ีนสิ ยั กา้ วรา้ ว เม่อื ถูกรบกวนจะวิง่ หนเี ขา้ หาซอกที่กำ� บัง ในรังนอนของมันหรือทิ้งตัวลงไปแกล้งตายที่พื้นท�ำให้แมงมุมชนิดน้ีมี โอกาสกัดคนน้อยมาก ส่วนใหญ่ผู้ท่ีถูกกัดเกิดจากการสัมผัสหรือกดทับ แมงมมุ โดยตรงใหไ้ ดร้ บั บาดเจบ็ ซงึ่ พษิ อาจมผี ลรนุ แรงกบั เดก็ หรอื ผทู้ เี่ ปน็ โรคหัวใจ รวมถงึ ผทู้ ่แี พพ้ ษิ เท่านัน้ วธิ ีป้องกันแม่มา่ ยแมงมุมสีด�ำ ๑. การรกั ษาความสะอาด ๒. การกำ� จดั แหล่งอาหาร เชน่ พวกแมลง ๓. ศัตรใู นธรรมชาติควบคุม เช่น แมงมุมแม่มา่ ย สอบถาม ขอ้ มลู เพิ่มเติมไดท้ ี่ ดว้ ยกันเอง แตนเบยี นไข่ แมงมมุ ในวงศ์ ส�ำนกั โรคติดตอ่ น�ำโดยแมลง โทรศัพท์ 0-2590-3144, pholcidae และ scytodidae 3142 174

เห็ดพิษ “เหด็ พิษ หรือ เห็ดเมา” เปน็ เห็ดทมี่ ีอนั ตรายต่อผูบ้ รโิ ภค ความเป็นพษิ อาจทำ� ใหเ้ ปน็ อนั ตรายถงึ แกช่ วี ติ ได้ เหด็ ทสี่ ามารถนำ� มาบรโิ ภคไดอ้ ยา่ งปลอดภยั มอี ยเู่ ปน็ จำ� นวนมาก แต่จะมีเหด็ พิษหรือเหด็ เมาอยู่ไมถ่ ึง 100 ชนดิ เหด็ พษิ ทจี่ ดั ว่าร้ายแรงท่ีสุดได้แก่ เห็ดในสกลุ Amanita สกลุ Helvella ซึง่ เห็ด เหล่านี้สามารถสร้างสารพิษชีวภาพที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ได้ เห็ดในสกุลนี้ ท่ีพบในประเทศไทย เช่น เห็ดระโงกหิน เห็ดไข่ตายซาก (ฮาก) และเห็ดเกล็ดดาว เป็นต้น อาการ เห็ดพิษแต่ละกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มท่ีสร้างสารพิษ cyclopeptide มีพษิ ตอ่ ตบั เชน่ เหด็ ไข่ตายซากหรือ เห็ดระโงกหิน อาการของสารพิษชนิดน้ีจะปรากฏใน 6 - 8 ช่วั โมง หลงั จากรบั ประทานเห็ด บางชนิดอาจ เร็วมากเพียง 2 ช่ัวโมง และบางชนิดอาจนานถึง 12 ชว่ั โมง จะมอี าการตา่ ง ๆ คอื มนึ งง ปวดศรี ษะ คล่นื ไส้ อาเจียน ท้องเสียและเปน็ ตะครวิ ทกี่ ล้ามเนอ้ื เจ็บท่ีท้อง ในรายที่รุนแรง จะพบการท�ำลายตับ มไี ขส้ งู ชกั ไมร่ สู้ กึ ตวั และถงึ ตายได้ภายใน 2 - 4 วัน 175

การรักษาเม่อื รับประทานเห็ดพษิ 1. เม่ือพบอาการผิดปกติให้ไปพบแพทย์ทันทีและบรรเทาอาการเร่ิมต้นด้วยการ ท�ำให้อาเจียนออกมาให้มากทส่ี ุด โดยการให้ดมื่ น้ำ� อนุ่ 1 ลิตร ผสมกบั เกลอื 1 ช้อนโตะ๊ (0.9 normal saline) หากผปู้ ว่ ยหมดสตอิ าจต้องใช้วธิ ีปั๊มเข้าทาง จมูก แลว้ ล้วงคอ ห้ามใชว้ ธิ ีนี้กบั เดก็ ทอ่ี ายตุ ่�ำกว่า 5 ขวบ 2. รวบรวมเห็ดที่เหลือหรือท่ีเก็บไว้ เศษอาหารจากการปรุง และส่วนที่อาเจียน ออก นำ� สง่ แพทย์เพื่อท�ำการรักษา ข้อแนะนำ� การบริโภคเห็ดให้ปลอดภัยจากพิษ 1. ห้ามกินเห็ดดบิ และควรกินเฉพาะเหด็ ทเ่ี คยกนิ และรูจ้ ัก 2. ต้องรู้แหลง่ ที่มาของเหด็ ไม่ควรเกบ็ เห็ดในบรเิ วณทม่ี สี ารพษิ ตกคา้ ง มารับประทาน 3. ควรสอบถามดวู า่ เคยมผี บู้ รโิ ภคเหด็ นนั้ มากอ่ นหรอื ไม่ ไมค่ วรลองกนิ โดยไมร่ จู้ กั 4. ไมค่ วรปรุงอาหารโดยใช้เหด็ ป่าหลายชนิดรวมกนั 5. หากไม่แน่ใจ ไมม่ ีขอ้ มูลเพียงพอ ไมค่ วรบรโิ ภคเป็นอันขาด 6. อย่าน�ำเหด็ ธรรมชาตไิ ปปรุงอาหารจนหมด ควรเกบ็ ไวอ้ ย่างละ 1 ดอก เพอ่ื นำ� ส่งแพทย์เพ่อื ใช้วิเคราะห์ในกรณเี กดิ อาการผิดปกติ 7. การพสิ ูจนเ์ หด็ พิษจะใชช้ อ้ นเงิน งาช้าง ข้าวสาร หวั หอม หรือรอยกัดท�ำลาย จากหนอนแมลงและสัตว์ไม่ได้ เพราะสารพิษในเห็ดมีหลากหลายไม่เหมือน สารพิษสงั เคราะหท์ ม่ี ีธาตุโลหะหนกั ท่วั ไป สอบถาม ขอ้ มูลเพิ่มเตมิ ได้ท่ี สำ� นักโรคตดิ ตอ่ ทว่ั ไป โทรศัพท์ 0-2590-3187 176


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook