ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตรี) - หนาท่ี 99 ตองประกอบศัพทว า นาวาย ตรต,ิ แตเมือ่ ใชปจ จัยแทนศัพทเสีย ศัพทหนง่ึ คือ ตรติ แลว สาํ เร็จรปู เปน นาวโิ ก เชนน้ี กไ็ ดค วาม เทา ๒ ศัพท ทําคําพูดใหสัน้ ไมร งุ รงั เยิน่ เยอ. [ อ.น. ]. ถ. ปจจัยกติ กก ับปจจยั ตัทธติ ใชต างกันอยางไร ? สรณีย เปนตัทธติ หรอื กิตก ? มที ี่กาํ หนดอยา งไร ? ต. ปจจัยกิตก ลงปรงุ ธาตุ, ปจ จยั ตัทธติ ลงปรุงนาม. สรณีย เปน ตทั ธติ ก็ได. เปนกติ กก ็ได, ถา เปนนามศพั ท เปน ตทั ธติ , ถาเปน กิรยิ าศัพท เปน กิตก. [ ๒๔๖๔ ]. ถ. ปชู นีโย เปน ศัพทต ทั ธิตก็ได เปนกติ กกไ็ ด จะสงั เกต อยา งไรวา ทเ่ี ชนไร ควรใชเ ปนศพั ทตทั ธติ หรอื กิตก ? ต. ปชู นีโย จะแปลเปน ตัทธติ วา ผูควรซง่ึ อันบชู า หรอื จะ แปลเปนกิตกวา ผูอ ันบคุ คลพึงบชู า ก็ไดค วามอยา งเดยี วกนั วา ผู ควรบชู า เพราะฉะนนั้ ถาเปนนามศพั ท จะเปน ตัทธิหรือกติ กก ็ได แตโ ดยมาก ใชเปน ตัทธิต ถา เปน กริ ยิ าศัพท ตองเปนกิตก. [ ๒๔๖๑ ]. ถ. โภชก โภคี เปน ศพั ทต ทั ธติ หรอื กติ ก ? ต. โภชโก ปรงุ ข้ึนจาก ภุชุ ธาตุ ณฺวุ ปจ จัย เปน นามกิตก, โภคี ปรุงขึ้นจากบทนาม โภค อีก ปจจยั เปน ตัทธติ . [ ๒๔๗๐ ]\" ถ. ตัทธิตทงั้ สิน้ ทานนยิ มบทปลง เปนลิงคว จนะอะไร ? ต. ตัทธติ ทีเ่ ปน คุณ บทปลง เปนได ๓ ลิงคและทง้ั ๒ วจนะ ตามตวั ประธาน คอื ตัวประธานเปนลงิ ค วจนะอะไร ก็ตอ งเปนลงิ ค
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตรี) - หนา ท่ี 100 วจนะนั้น ตัทธติ ที่เปนนาม โคตตตทั ธติ บทปลงเปนได ๓ ลิงค เอกวจนะ. สมุหตทั ธิตทล่ี ง กณฺ ณ ปจ จยั บทปลงเปน ปุงลิงค เอกวจนะ, สมุหตัทธติ และภาวตทั ธิท่ลี ง ตา ปจ จัย บทปลงเปน อิตถลี ิงค เอกวจนะ, ภาวตัทธิต นอกจากทล่ี ง ตา ปจ จัยแลว บท ปลงเปน นปุงสกลิงค เอกวจนะท้ังสน้ิ . สว น วภิ าคตทั ธิต บทปลง เปน ตติยาวิภัตติ เอกวจนะ อพั พยตัทธติ มอี รรถลงในประการ ไม เปนวิภัตติ และวจนะไร ๆ เพราะเปน พวกอัพยยศัพท . [ อ. น. ] ถ. ปจ จัยตทั ธติ ใชป ระกอบกับศพั ทพ วกไหนไดบาง ? ของให ชักตวั อยางมาดว ย. ต. ประกอบกับศพั ทหลายพวก คอื นามนาม เชน วาสฏิ โ เหลา กอแหงวาสิฏฐะ พวก ๑, คุณนาม เชน นลี ตตฺ ความเปน แหงของเขยี ว พวก ๑. สพั พนาม เชน สพฺพถา ประการทั้งปวง พวก ๑, ศพั ทส ังขยา เชน ทุติโย ตกิ เอกธา พวก ๑, อพั ยยศัพท เชน ปจฉฺ ิโม พวก ๑, ศัพทน ามกิตก เชน คมนตา ความเปน แหง การไป, ปาจกตฺต ความเปน แหงคนหงุ พวก ๑, ศพั ทก ิรยิ ากิตกพวก อนพั ยยะ เชน กตตตฺ ความเปนแหงกิจอนั บคุ คลทําแลว, คตตฺต ความเปนแหงชนผไู ปแลว พวก ๑, และศัพทอ าขยาตมีบา งบางตัว เชน อตถฺ ติ า ความเปนแหง วัตถุมอี ยู, นตถฺ ติ า ความเปนแหงวัตถุ ไมม อี ยู. [ อ.น.] ถ. ตัทธิต โดยยอ มีเทา ไร ? โดยพสิ ดารมีเทา ไร ? อะไรบาง ? ต. โดยยอ มี ๓ คอื สามัญญตัทธิต ภาวตัทธิต อัพยตัทธติ .
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สาํ หรับเปรียญธรรมตร)ี - หนาท่ี 101 โดยพิสดารมี ๑๕ คือ สามญั ญตัทธติ ทา นแบง เปน ๑๓ คอื โคตต- ัตทั ธิต ตรตยาทติ ัทธติ ราคาทิตทั ธิต ชาตาทิตทั ธิต สมุหตัทธติ ฐานตัทธิต พหลุ ตัทธติ เสฏฐตทั ธิต ตทัสสตั ถติ ัทธิต ปกตติ ัทธิต สังขยาตทั ธิต ปณุ ณตัทธติ วิภาคตัทธิต. แตใ นคมั ภรี ศ พั ทศาสตร ทัง้ หลาย ทา นแบง เปน ๑๕ คอื เติม อุปมาตทั ธติ และนสิ สติ ตัทธิต เขาดว ย ถา รวม ๒ ตัทธติ นี้เขาดวยก็เปน ๑๗, แต ๒ ตทั ธติ นไี้ มได ใชทัว่ ไป จงึ มไิ ดม อี ธบิ ายไวใ นบาลีไวยากรณ. [ อ. น.]. ถ. ยกวภิ าคตัทธิตในสามญั ญตัทธติ ๑๓ ออกเสยี ตัทธติ ไหน เปนนามอะไร ? ต. โคตตตทั ธิตเปน นามนามกไ็ ด คณุ นามก็ได, ตรตยาทิตัทธติ ราคาทติ ัทธิต ชาตาทติ ัทธิต ฐานตทั ธิต พหุลตัทธติ เสฏฐตทั ธติ ตทสั สตั ถิตัทธติ ปกติตทั ธิต ปูรณตทั ธิค เหลา นี้ เปนคุณนาม, สมุหตทั ธติ และ ภาวตัทธติ เปนนามนาม, สงั ขยาตัทธิตตามวิเคราะห ในแบบ เปนคณุ นาม แตมักใชเ ปนนามนาม. [ ๒๔๖๗ ] ถ. ปจจัยตัทธิตอะไรบา ง ท่ลี งในศัพทแลว เปน นามนาม ? จงอธิบายมา. ต. ปจ จยั ทีล่ งในโคตตตทั ธิต เปน นามนามก็ได เปน คุณนาม กไ็ ด, ท่ลี งในสมหุ ตัทธิต และภาวตทั ธิต เปน นามนามอยางเดียว ทล่ี งในสงั ขยาตทั ธติ ในแบบเปน คุณนาม แตม ักใชเปนนามนาม. [ ๒๔๗๓ ]
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 102 ถ. ปจจยั อะไรบาง ที่ลงในศพั ทแ ลว เปนนามนาม ? จงชกั ตัวอยา ง. ต. ปจ จัยในโคตตัทธติ เชน วาสิฏโ เปนตน ๑, ปจจยั ใน สมหุ ตัทธิต เชน มานุสโก มานโุ ส คามตา ๑, ปจจยั ในภาวตัทธติ เชน จนทฺ ตตฺ ปณฑฺ ิจฺจ ปุถุชชฺ นตฺตน มทุ ุตา เวสม รามณียก ๑. [ ๒๔๖๐ ]. [ โคตตตทั ธิต ] ถ. โคตตตทั ธติ ที่ไดชือ่ เชนน้ัน เพราะอะไร ? ต. เพราะใชปจจัยแทน โคตฺต ศพั ท หรือศัพทท มี่ เี น้ือความ อยา งเดยี วกันกับ โคตฺต เชน อปจจฺ ศพั ท ที่แปลวา เหลา กอ เปนตน. [อ. น. ]. ถ. ในโคตตตทั ธิตนี้ ใชปจจัยแทนศัพทกตี่ วั ? อะไรบาง ? ขอดตู ัวอยาง. ต. มี ๘ ตวั คือ ณ ณายน ณาน เณยฺย ณิ ณกิ ณว เณร. ณ ปจ จัย เชน โคตโม, ณายน ปจจยั เชน กจจฺ ายโน, ณาน ปจ จยั เชน โมคคฺ ลฺลาโน, เณยฺย ปจจัย เชน ภาคิเนยฺโย ณิ ปจจยั เชน วารุณ,ิ ณิก ปจจยั เชน สากยฺ ปตุ ตฺ ิโก, ณว ปจ จัย เชน มาณโว, เณร ปจ จยั เชน สามเณโร. [ อ. น. ]. ถ. ปจ จยั สําหรบั ตัทธิตน้ี มถี ึง ๘ ตวั เมอื่ จะนําไปใชประกอบ กบั ศพั ท จะตอ งนาํ ไปทั้งหมด หรือจะแบง ใชต วั ใดตัวหนงึ่ ? ต. ไมตอ งนาํ ไปประกอบทั้งหมด พงึ เลือกใชแ ตต วั ใดตวั หนึ่ง
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรับเปรียญธรรมตรี) - หนาท่ี 103 ตามทีเ่ ห็นวาเหมาะกับศัพทนั้น ๆ หรอื ตามทท่ี า นนิยม ท่ีมไี วหลาย ตัวเชน นน้ั กเ็ พ่อื ใหเลือกใชไดสะดวก และใหค รบตามภาษานยิ ม ทพ่ี ดู กัน . [ อ. น.]. ถ. เม่ือปจ จัยประกอบกบั ศัพทแลว จะทราบไดอยา งไรวา ศพั ทนปี้ ระกอบกับปจ จัยตวั นนั้ ๆ ต. จะทราบได ตอ งสังเกตที่ทา ยศัพท และตอ งทราบศพั ทเดมิ กอน เชน กจจฺ ายโน ศพั ทเดมิ เปน กจจฺ , เม่ือแยก กจฺจ ออกแลว คงเหลอื แต ณายน ซ่งึ เปนปจ จัย ก็ทราบไดวา กจฺจายน ลง ณายน ปจจยั เพราะ ณ เมอื่ ประกอบปจจยั กับศัพทแ ลว ทา นใหลบเสยี เหลือไวแ ตส ระท่ี ณ อาศัย เม่ือทราบศัพทเดิมแลว ก็ทราบปจจัยได หรือเม่อื ทราบปจจยั แลว ก็ทราบศพั ทเ ดมิ ไดเ หมือนกนั . [อ. น. ]. ถ. วิธีตง้ั วิเคราะหแ หง โคตตตัทธิตน้ี ทําอยา งไร ? จงแสดง ใหเหน็ ชัด. ต. วธิ ตี ง้ั วิเคราะหน ั้น ทา นใหประกอบศพั ทเ ดิมเปน ฉัฏฐีวภิ ตั ติ เอกวจนะ แลวประกอบศพั ทที่ใชแ ทน โคตตฺ ศพั ท เปน ปฐมาวิภตั ติ ตามลิงคของตนเรียงไวหลงั ศพั ทเ ดิม, ในโคตตตัทธติ ทานใช อปจฺจ ท่แี ปลวา เหลากอ แทน โคตฺต ศพั ท ตวั อยา งเชน สมณสฺส อปจฺจ สาํ เรจ็ รูปเปน สามเณโร แปลไดความเทากับบทวเิ คราะห วา เหลา กอแหง สมณะ, อปจฺจ นั้น แมมีอยใู นบทวิเคราะหก็จรงิ แตไม ปรากฏในบทสาํ เรจ็ เพราะลบ อปจจฺ เสยี ใชป จจัยแทน, เฉพาะ ศั พั ท สามเณโรน้ี ใช เณร ปจ จัยแทน อปจจฺ ศพั ท. อน่งึ การ
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตรี) - หนาท่ี 104 จะลงปจ จัยท่ีทา ยศพั ทใ ด ตอ งลบวภิ ัตตทิ ปี่ ระกอบอยูกับศพั ทน ั้นเสีย กอ น ใหเ หลอื อยูแ ตร ปู เดิมจริง ๆ เชน สมณสสฺ ตอ งลบ ส วภิ ัตติ เหลอื อยแู ต สมณ ซ่ึงเปน รปู เดมิ แลว จงึ ประกอบปจ จยั ได จะลง ปจจัยทา ยศัพททม่ี ีวิภตั ติประกอบอยไู มไ ด. [ อ. น.]. ถ. ณ ปจ จยั เม่ือจะประกอบกับศพั ท ทานใหล บ ณ เสีย ครนั้ ลบ ณ แลว กเ็ ปน อันแลวกัน หรือมีใหเ ปลี่ยนแปลงอยา งไรอีก ? ต. เมื่อลบ ณ แลว ถาสระอยูห นา ศพั ทเปน รสั สะลว น ไมม ี พยญั ชนะสงั โยคอยูเ บ้ืองหลัง ตอ งพฤทธิ คอื ทฆี ะ อ เปน อา, วิการ อิ เปน เอ, อุ เปน โอ, เวนแตสระทอ่ี ยูห นาศพั ทเปน รัสสะ มี พยญั ชนะสงั โยคอยเู บอื้ งหลงั หรอื เปน ทีฆะ ไมต อ งพฤทธิ ลบ ณ แลวเปน อนั แลวกัน, สวนสระท่ี ณ อาศัย และสระพยัญชนะอน่ื ๆ ท่ีเหลอื อยู ใหป ระกอบกบั ศพั ทไ ดทเี ดียว ตวั อยางเชน :- ภคินิ ลง เณยยฺ ปจ จยั เมอ่ื ลบ ณ แลว ตองทฆี ะสระทอ่ี ักษร ตัวหนาอาศัย คอื อ เปน อา แลวนาํ เ-ยย ไปประกอบกับ ภาคนิ ิ สาํ เรจ็ รูปเปน ภาคิเนยโฺ ย แปลวา เหลากอแหงพ่ีนอ งหญิง. วธิ วา ลง เณร ปจจัย ลบ ณ แลว ตองวิการสระท่อี กั ษร ตวั หนาอาศัย คอื อิ เปน เอ, แลว นํา เ-ร ไปประกอบกบั เวธวา สําเร็จรูปเปน เวธเวโร แปลวา เหลา กอแหง แมหมาย. อปุ กุ ลง ณว ปจ จยั ลบ ณ แลว ตองวิการสระท่อี ักษรตวั หนาอาศัย คือ อุ เปน โอ, แลวนาํ -ว ไปประกอบกับโอปกุ สาํ เรจ็ รูปเปน โอปกโว แปลวา เหลากอแหง อปุ กุ.
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตรี) - หนาท่ี 105 ทกขฺ ลง ณิ ปจจยั ลบ ณ แลว เอา อิ ท่เี หลอื ประกอบกบั ทกขฺ เปน ทกฺขิ เฉพาะศัพทน้ี เมอ่ื ลบ ณ แลว ไมต อ งพฤทธหิ รอื วกิ าร เพราะ ทกฺ เปนพยญั ชนะสงั โยค. โคตม ลง ณ ปจ จยั ลบ ณ แลว เอา อ ไปประกอบกบั โคตม กค็ งเปนรปู เดมิ ไมต องเปล่ยี นแปลง เพราะ โค เปน ทีฆะ สระอยูแลว .[ อ. น. ]. ถ. ภิกขฺ ุ กับ สามเณโร เปน บทอะไร ? อยา งไหน มมี ลู เดิม อยางไร ? จงแสดงใหตลอดสาย. ต. ภิกขฺ ุ เปน บทกิตก, สามเณโร เปนบทตทั ธติ , ภกิ ขุ เปน กัตตสุ าธนะ ลงในอรรถแหง ตัสสลี ภกิ ขฺ ธาตุ รู ปจจยั ไมล บท่สี ุด ธาตุ รสั สะ อู เปน อุ ลบ ร เสยี วเิ คราะหว า ภิกฺขติ สีเลนาติ ภิ กิ ขฺ ,ุ สว นสามเณโรนน้ั เปนโคตตตัทธิต เณร ปจ จัย ทีฆะ อ เปน อา ลบ ณ เสยี วิเคราะหวา สมณสสฺ +อปจจฺ = สามเณโร มลู เดิมมีอยางน้ี . [๒๔๖๘ ]. ถ. โคตตตัทธิต เปนตัทธติ นามหรือคณุ ? และเปนไดก ล่ี ิงค ? จงแสดงตัวอยา งดวย. ต. เปน ไดท ัง้ นาม ทง้ั คณุ และเปนไดท้ัง ๓ ลงิ ค ตัวอยางเชน โคตโม ปุงลงิ ค, โคตมี อคิ ถลี งิ ค, โคตม นปุงสกลงิ ค. [อ. น. ] [ตรตยาทติ ัทธติ ] ถ. เหตุไร ตัทธิตนี้ จงึ เรยี กวา ตรตยาทิตัทธิต ? ต. เพราะใชปจ จัยแทนศพั ทต า ง ๆ ไมม ที ีส่ นิ้ สดุ มี ตรติ ศพั ท
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรียญธรรมตรี) - หนาท่ี 106 เปนตน . จึงไดช่ืออยางน้ัน. [ อ. น. ]. ถ. ตัทธิตน้ี มปี จจยั กี่ตัว ? ไดแกอ ะไร ? ต. มตี วั เดยี ว ไดแก ณกิ ปจจัย. [อ.น. ]. ถ. ณิก ปจจัย ในโคตตตัทธติ ก็มีแลว เมอื่ ซํ้ากนั อยา งนี้ จะ รไู ดอ ยางไรวา ศพั ทน ี้เปนตัทธติ นนั้ ? ต. ตอ งสังเกตความแหงศัพททป่ี จจยั ลงแทน ถา ไดความใน ตทั ธิตไหน ก็รูไ ดว าเปนตทั ธิตนัน้ เชน ธมมฺ โฺ ก จะลงแทน อปจจฺ [ เหลา กอ] ในโคตตตทั ธิต คอื แปลวา \"เหลากอแหงธรรม\" ไมไ ด ความ ก็รวู า เปน ตทั ธิตนีไ้ มได ถา ลงแทน ยุตฺต [ ประกอบแลว]. หรอื ติ [ ต้งั อยูแลว ] คือแปลวา ประกอบแลวในธรรม หรือตัง้ อยแู ลวในธรรม จงึ ไดความดี เชนนก้ี ร็ ไู ดว าเปน ตรตยาทติ ัทธติ ดงั นีเ้ ปน ตน . [อ.น. ]. ถ. ตัทธติ น้ี ใช ณิก ปจ จยั แทนศพั ทอะไรไดบ าง ? ต. ใชแ ทนศัพทตาง ๆ ไมมีจํากัด อาจใชแ ทนศพั ทท เ่ี ปน นามนาม คุณนาม กริ ยิ าอาขยาต นามกติ ก และกริ ยิ ากติ กไดท ง้ั นั้น แตทีใ่ ชแ ทนโดยมากนนั้ คือ ศพั ทกิริยาอาขยาต และกริ ิยากติ ก นอกนั้นกม็ ีหา ง ๆ ในแบบทา นยกตวั อยางมาแสดงไวด ังน้ี :- ใชแ ทนศพั ท ตรติ เชน นาวิโก ผูขามดวยเรือ. \" \" สสฏ \" เตลิก ระคนแลวดว ยงา. \" \" จรติ \" สากฏโิ ก ผูเท่ียวไปดว ยเกวยี น. \" \" ชาโต \" ราชคหิโก ผูเกิดในเมอื งราชคฤห.
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรบั เปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 107 ใชแทนศัพท วสติ เชน ราชคหิโก ผูอ ยใู นเมอื งราชคฤห. \" \" กต \" กายกิ อันชนทาํ แลว ดว ยกาย. \" \" วตฺตติ \" กายิก เปนไปในกาย. \" \" นิยตุ โฺ ต \" โทวารโิ ก ผปู ระกอบในประตู. \" \" หนฺตวฺ า ชีวตฺ ิ \" สากุณิโก ผูฆ า ซึง่ นกเปนอย.ู \" \" สนตฺ ก \" สงฆฺ ิก ของมีอยูแหง สงฆ. \" \" ทิพฺพติ \" อกขฺ โิ ก ผูเ ลน ดวยสกา. นอกจากน้ี ยังใชแทนศัพทอ่นื ๆ อีกมาก แลว แตค วามของ ศพั ทตัทธติ น้ันจะบง ถงึ . [ อ. น.]\" ถ. ตัทธิตทัง้ มวล ลว นใชป จ จัย จะรไู ดวาเปนตัทธิตไหน ตอง อาศัยการแปล ? ถา จรงิ ตามนี้ จงลองแปลศัพทวา ธมมฺ ิโก ให เปนชื่อของการกรายกฐิน อติเรกลาภ อุบาสก ภกิ ษุ รวม ๔ นยั พรอ มทัง้ แสดงปจจัยไมนอยกวา ๒ ตทั ธิต และบทวเิ คราะหดว ย. ต. ธมมฺ โิ ก เปน ชื่อของการกราบกฐิน แปลวา อนั ทําโดย ธรรม [ คือทําถูกระเบยี บ], เปน ชื่อของอติเรกลาภ แปลวา อันเกดิ โดยธรรม [ คอื สมั มาชีพ], เปน ชื่อของอตเิ รกลาภ แปลวา ผตู ้ังอยู ในธรรม หรอื ผูประกอบในธรรม, ทัง้ ๓ ชือ่ นี้ ลง ณกิ ปจ จยั ใน ตรยาทติ ทั ธิต วิเคราะหวา ธมเฺ มน+กโต = ธมฺมิโก [ กนิ ตฺถาโร ] ธมฺเมน+ชาโต = ธมฺมโิ ก [ อตเิ รกลาโภ]. ธมเฺ ม + โิ ต = ธมมฺ โิ ก ธมเฺ ม+ยตุ ฺโต วา = ธมฺมโิ ก [ อปุ าสโก ]. เปนช่อื ของภกิ ษุ แปลวา ผูมีธรรม [ แปลเหมอื นอุบาสกกไ็ ด ] ลง อกิ ปจจยั ในตทัสสตั ถิ-
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 108 ตทั ธติ วเิ คราะหว า ธมฺโม อสสฺ อตถฺ ีติ ธมมฺ โิ ก [ ภิกขุ ] [ ๒๔๗๑ ]. ถ. ณิก ปจ จยั ในตรตยาทติ ัทธติ ลงในอรรถเปน หลายอยา ง สงั เกตอยางไรจึงจะรูไดว า เมอ่ื ลงในศพั ทน้นั แปลวา อยางน้ัน? ต. สังเกตศพั ทน ามทป่ี รุงข้นึ น้ัน และคิดแปลปจจัยใหเ ขาความ กนั เชน ธมมฺ ิโก แปลวา ผูต ง้ั อยใู นธรรมก็ได ผปู ระพฤติธรรม ก็ได สงฆฺ ิโก เปน ของสงฆกม็ ี เฉพาะสงฆก ็มี. [๒๔๕๗ ]. ถ. ณกิ ปจ จยั ลงในตทั ธติ อะไรบาง ? และตา งกันอยางไร ? ต. ลงในโคตตตัทธิต ๑, ในตรตยาทติ ทั ธิต ๑, ตางกันอยางน้ี ลงในโคตตตัทธิต แทนศัพท อปจฺจ ซง่ึ แปลวา เหลากอ และมัก ลงในศัพทที่เปนชื่ออสาธารณะ ซึ่งเปนตนโคตร, สว นลงในตรตยาทิ- ตัทธิต ไมกาํ หนดแนวาลงแทนศพั ทอะไร [ เวน ศพั ท อปจฺจ ] แลว แตไดค วาม .[ ๒๔๖๐ ]. ถ. จงแปลและต้งั วเิ คราะหศพั ทวา เสนาสนโิ ก มาดสู ัก ๕ อยา ง ? ต. ถา แปลวา ผอู ยใู นเสนาสนะ วิเคราะหวา เสนาสเน วสตตี ิ เสนาสนโิ ก. ถาแปลวา ผูทําซ่ึงเสนาสน วเิ คราะหวา เสนาสน กโรตตี ิ เสนาสนิโก. ถา แปลวา เปนผใู หญในเสนาสนะ วเิ คราะหวา เสนาสเน+ อิสสฺ โร= เสนาสนโิ ก. ถา แปลวา ผรู กั ษาซึง่ เสนาสนะ วเิ คราะหวา เสนาสน รกขฺ ตตี ิ เสนาสนิโก.
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตร)ี - หนา ที่ 109 ถา แปลวา ผูเกิดในเสนาสนะ วิเคราะหว า เสนาสเน+ชาโต =เสนาสนิโก. [ อ. น.]. ถ. ตทั ธติ น้ี เปน นามหรือคณุ ? การต้งั วิเคราะหในตัทธติ น้ี ถอื หลกั วธิ อี ยา งไร ? ต. เปน คุณลว น การตงั้ วิเคราะหน้ัน ตอ งตงั้ รูปตามความที่ แปล เชน ราชคหโิ ก ถาแปลวา ผูไปสูก รงุ ราชคฤห ก็ใหประกอบ ศัพทน ามท่ปี รากฏอยูนั้นเปนทุติยาวิภัตติ และหาศัพทคาํ วา ไป คอื คจฉฺ ติ มาวางไวขางหลังศพั ทน ามนน้ั ถาศัพททใ่ี ชปจ จัยแทนนน้ั ประกอบรปู เปนกริ ิยาอาขยาต ตองเติม อติ ิ (เพราะเหตุนน้ั ) ไวทา ย วเิ คราะหทกุ ๆ วเิ คราะหไป เม่อื ไดศ ัพทอยางนั้นแลว จึงต้ังวิเคราะห ดังน้ี : ราชคห คจฺฉตีติ ราชคหโิ ก. ถา แปลวา ผูอยูใ นกรุงราชคฤห ก็ตงั้ วเิ คราะหว า ราชคเห วสตตี ิ ราชคหิโก ดังนเี้ ปน ตน. [ อ. น. ] ถ. โทวาริโก ศพั ทน ี้ ผิดลกั ษณะทฆี ะและวิการศัพทท ีเ่ นื่อง ดว ย ณ ใชไหม ? เหน็ อยา งไรจงแถลง. ต. ถา ศพั ทเ ดิมเปน ทวฺ าร สาํ เร็จรูปเชนนั้น กเ็ ปนอันผิดลักษณะ แตบางอาจารยวา ศพั ทเ ดมิ เปน ทุวาร จึงวกิ าร อุ เปน โอ ได, ถา เชนนี้ ไมผิดลักษณะ, อกี อยางหน่ึง เขาใจวา ศัพทเดิมคงเปน ทฺวาร แตเ พือ่ ไมใ หขดั กับสํานวนภาษาท่ีเขานิยมพูดกัน ทา นจงึ ประกอบเปนรูปเชนนั้น. [ อ. น. ]. [ ราคาทิตัทธิต ] ถ. ราคาทติ ัทธติ ใชป จจยั แทนศัพทก่ตี วั ? คอื ปจ จัยอะไร ?
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 110 ใชแทนศัพทพ วกไหนบา ง ? ต.ใชปจ จัยแทนศพั ท ๒ ตวั คอื ณ , แทนศพั ทต าง ๆ มี ราคา เปน ตน มิไดจ ํากัดศพั ท เชนเดียวกบั ตรตยาทิตัทธิต แตในแบบท่ี ทานแสดงเปนตัวอยา งไวดังนี้ :- ใชแ ทนศัพท รตตฺ เชน กาสาว [ ผา ] อันบคุ คลยอ มแลว ดวยน้ําฝาด. \" \" อิท มส \" มาหิส [ เนอ้ื น้ี ] ของกระบือ. \" \" ชาโต \" มาคโธ ผูเกดิ แลว ในแวน แคลนมคธ. \" \" วสติ \" มาคโธ ผูอยูในแวน แควนมคธ. \" \" อิสฺสโร \" มาคโธ ผูเปน ใหญใ นแวนแควนมคธ. \" \" นิยตุ โฺ ต \" กตฺตโิ ก [ เดอื น ] ประกอบดว ยฤกษ- กัตตกิ า. \" \" อธิเต \" เวยฺยากรโณ ผูเรียนซง่ึ พยากรณ. [อ. น. ]. ถ. ราคาทิตทั ธิต เปนนามหรอื คุณ ? ตางจากตรตยาทิตัทธติ อยางไรบา ง ? ต. เปน คุณลวน, ตา งจากตรตยาทติ ัทธิตกเ็ พียงเปน ปจจยั เทา นัน้ คือ ในตรตยาทิตทั ธใิ ช ณิก, ตัทธติ น้ีใช ณ, สว นการตัง้ วิเคราะห การแปลเหมือนกนั เปน คณุ และมีปจจัยตัวเดียวเหมือนกัน. [ อ. น. ] ถ. ตทั ธติ ไหนบา ง ใชปจ จยั แทนศพั ทเ ปนอนั มาก ? จงเขียน ศัพททป่ี ระกอบปจจยั แลวในตัทธติ เหลา น้ันมาดู.
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนาท่ี 111 ต. ตรตยาทิตทั ธิต ราคาทิตัทธติ ชาตาทติ ทั ธิต ใชปจจยั แทนศัพทเปนอันมาก, โทวารโิ ก เปน ตรยาทิตทั ธติ ลง ณกิ ปจ จัย. กตฺตโิ ก เปน ราคาทติ ัทธิต ลง ณ ปจจัย, อนฺติโม เปน ชาตาทติ ัทธติ ลง อมิ ปจจยั . [ ๒๔๖๙]. ถ. นาคริโก นาคโร ก็แปลวา ชาวเมือง เหมือนกนั เปน ตัทธติ เดยี วกันหรอื ตางกัน ? จงวเิ คราะหมาดู. ต. ตางกัน, นาคริโกเปน ตรตยาทิตทั ธติ ณิก ปจ จัย วเิ คราะห วา นคเร+ชาโต, นคเร+วสตีติ = ราครโก, นาคโร เปน ราคาทิตัทธติ ณ ปจจัย วเิ คราะหอยางเดียวกัน. [ ๒๔๖๔ ]. ถ. ตัทธติ อะไรบาง ใชป จ จยั แทนศพั ทโ ดยไมมีจาํ กัด ? เมื่อ เปนเชน นน้ั จะรไู ดอยางไรวา ในทีน่ ใี้ ชปจ จยั แทนศพั ทน้ี ในทนี่ ้ัน ใชป จจยั แทนศัพทนนั้ ? จงชี้แจงมา. ต. ตรตยาทิตัทธติ ราคาทิตทั ธติ ชาตาทติ ทั ธิต ๓ นี้ ใชป จ จัย แทนศพั ทโ ดยไมจาํ กดั รไู ดโ ดยพิจารณาความทีเ่ หมาะแกรูปศพั ท และโดยหยัง่ ถึงความหมายแหงศัพทท่ีใชใ นท่ีนนั้ ๆ เชน เตลกิ เปน คณุ ของ โภชน กต็ องแปลวา ระคนดวยงา, ราชคหิโก เปน คณุ ของ ชโน กต็ องแปลวา ผูเกิดในเมืองราชคฤห, หรอื ผอู ยูใ นเมอื ง ราชคฤห, ตามความหมายในนั้น. [ ๒๔๗๙ ]. ถ. ณ ปจ จัย ในตัทธติ ลงในอรรถอะไรบาง ? และตอ งทํา วธิ อี ยางไร ? ต. ณ ปจ จัยลงในอรรถ ๕ อยา ง คอื โคตตตัทธิต ราคาทิตัทธติ
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตร)ี - หนาท่ี 112 สมหุ ตัทธติ ตทัสสัตถติ ัทธิต ภาวตัทธติ . ถา สระทีอ่ ยหู นาศัพทเ ปน รสั สะลวน ไมม ีพยญั ชนะสังโยคอยูเบอื้ งหลัง ตองพฤทธิ คอื ทฆี ะ อ เปน อา, วกิ าร อิ เปน เอ, อุ เปน โอ. เวนไวแ ตสระท่อี ยเู บือ้ งหนา ศัพท เปน รสั สะ มพี ยัญชนะสังโยคอยูเ บ้ืองหลัง หรือ เปน ทฆี ะ ไมต องพฤทธิ และ ณ ปจจัยนั้นจะตองลบเสยี คงไวแ ตสระท่ี ณ อาศัย. [ ๒๔๕๘ ]. [ ชาตาทติ ัทธิต ] ถ. ตัทธิตน้ี เพราะเหตุไร จงึ ไดช ่อื วา ชาตาทติ ทั ธิต ? ใช ปจจัย แทนศัพทเ ทาไร ? อะไรบา ง ? ขออทุ าหรณป ระกอบดว ย. ต. เพราะใช ปจจัย แทนศพั ทต าง ๆ มี ชาต ศพั ท เปนตน จึงไดช่ือวา ชาตาทิตทั ธิต, ตัทธิตน้ี ใชปจ จยั แทนศัพทไ ดมาก ไมมี จาํ กัด เชนเดยี วกบั ตรตยาทติ ัทธติ และ ราคาทิตทั ธิต. ใชป จ จัย ๓ ตัว คือ อิม อิย กิย ปจ จัย อทุ าหรณ ดังน้ี :- อมิ ปจ จัย เชน ปรุ โิ ม [ ชน ] เกดิ แลว ในกอ น. อิย ปจจยั เชน ปณฑฺ ิตชาติโย [ ชน ] เกดิ แลว โดยชาติ แหงบณั ฑติ . กยิ ปจ จยั เชน อนธฺ กโิ ย [ ชน ] ประกอบแลว ในทมี่ ืด. [ อ. น. ]. ถ. ชาตาทติ ัทธิต เปนนามหรือคุณ ? ทําไมจึงวาอยางนัน้ ? โสตฺถิโก โสตฺถิโย แปลวา [ ชน ] ถึงซง่ึ ความสวัสดี เปนตทั ธติ อะไร ? วเิ คราะหใหดดู วย. ต. เปนคุณ เพราะมีบทอื่นเปนประธาน, เมือ่ เปน คณุ กเ็ ปนได
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนาที่ 113 ทั้ง ๓ ลิงค, โสตถฺ โิ ก เปน ตรตยาทิตัทธิต วิเคราะหว า โสตถฺ +ึ ปตฺโต= โสตฺถิโก ลง ณกิ ปจ จัย, โสตฺถโิ ย เปนชาตาทิตทั ธิต วเิ คราะห เหมือนอยางนั้น แตล ง อยิ ปจจัย .[ อ. น. ]. ถ. การต้งั วิเคราะหชาตาทติ ทั ธิตนั้น มีกฎเกณฑอ ยา งไรบา ง ? ต. มกี ฎเกณฑอ ยางเดียวกับตรตยาทิตทั ธิต และ ราคาทิตัทธิต คือไมจ ํากัดศัพท แลว แตค วามจะระบุใหป ระกอบรปู วเิ คราะหเชน ไร ตวั อยา งเชน อนตฺ โิ ท ถาแปลวา ผูเกิดแลวในที่สดุ กต็ ง้ั วเิ คราะหว า อนฺเต+ชาโต= อนตฺ ิโม [ ชโน ]. ถาแปลวา ผปู ระกอบแลว ในที่สดุ ก็ต้ังวเิ คราะหว าอนเฺ ต + นยิ ุตโฺ ต= อนตฺ โิ ม [ ชโน ] เปน ตน. บาง วิเคราะหก ต็ ้ังเหมือน ตทัสสตั ถติ ัทธิต เชน ปตุ ฺตโิ ม แปลวา ผมู บี ุตร ก็ต้ังวิเคราะหว า ปุตฺโต อสสฺ อตถฺ ีติ ปตุ ฺตโิ ม [ ชโน] . [ อ. น.]. ถ. การต้งั วเิ คราะหและคาํ แปลศัพทข องชาตาทติ ัทธติ และตทสั - สัตถิตัทธเิ หมือนกนั เชนนี้ จะสังเกตรูไ ดแ นนอนอยางไรวา เปน ตทั ธิตไหน? ปตุ ตฺ มิ า เปนตทั ธติ อะไร ? ตง้ั วิเคราะหอ ยางไร ? ต. ตองสงั เกตปจจยั เปนหลัก เพราะตัทธิตท้ังปวงมีปจจยั ประจาํ เฉพาะตัทธิตนนั้ ๆ แลว , ปจ จัยใน ๒ ตัทธติ ทง้ั ปวงมีปจจยั อยแู ลว ปตุ ตฺ ิมา ถาเปน พหวุ จนะ เปนชาตาทิตทั ธติ อมิ ปจจยั วเิ คราะหวา ปุตฺโต เตส อตถฺ ตี ิ ปตุ ตฺ ิมา[ มาตาปตโร] ถา เปน เอกวจนะ เปน ตทัสสตั ิถตทั ธติ อมิ นฺตุ ปจ จัย วเิ คราะห ปตุ ฺโต อสฺส อตถฺ ตี ิ ปตุ ฺติมา [ ชโน]. ทเ่ี ปน รปู เชน น้ี แจกตามแบบ ภควนฺตุ ศัพท. [ อ. น. ].
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรบั เปรยี ญธรรมตรี) - หนาที่ 114 [ สมุหตทั ธิต ] ถ. สมหุ ตัทธติ หมายความวา กระไร ? มปี จ จัยกตี่ วั ? อะไร บาง ? และปจ จยั เหลา นั้น ปจจยั ตวั ไหน เปน เครอ่ื งหมายลงิ คอะไร ? ต. หมายความวา ตัทธิตท่ใี ชป จ จยั แทน สมหุ ศพั ท ซง่ึ แปล วา ความประชุม มปี จ จัย ๓ ตัว คือ กณฺ ณ ตา, กณฺ ณ ๒ ตัวน้ี เมื่อประกอบศัพทแลว เปนเครื่องหมายปุงลงิ ค เชน มานุสโก มายุโร เปนตน, ตา เปนเครอ่ื งหมายอิตถลี ิงค เชน สหายตา เปนตน . [ อ. น.]\" ถ. ตัทธติ น้ี เปนคณุ หรือนาม ? ตา งจากราคาทิตทั ธิตอยางไร บา ง ? ต. เปน นามแท, ตา งจากราคาทติ ัทธติ คือ ราคาทติ ัทธิต เปน คุณนามลวน เปน ได ๓ ลงิ ค และใช ณ ปจจัย แทนศพั ทไมม ีจํากัด ี่ตงั้ แต ราค ศัพท เปน ตนไป, มี ณ ปจ จยั ใชแทนศัพทตัวเดียว. สวน ตัทธิตนเ้ี ปน นาม ใชปจ จัยแทน สมุห ศพั ท ๓ ตวั มีจาํ กดั ใชแทน ไดแต สมุห ศพั ทเ ทานนั้ ไมทัว่ ไป, เมือ่ กลา วถงึ รปู วิเคราะหก็ตางกนั ในราคาทติ ทั ธิต ไมม นี ิยมแนน อนตายตวั ลงไป, ยอ มแลว แตศ ัพท ตทั ธติ นัน้ จะบง ความเปนอยางใด ก็ต้งั วเิ คราะหต ามรปู ความน้ัน, สว น ตัทธิตนี้ ศพั ทหนาซึ่งเปนนาม มจี ํากัดใหป ระกอบเปน ฉฏั ฐวี ิภัตติ พหวุ จนะ, ศัพทหลงั ใช สมหุ ศพั ท เปน ปฐมาวิภัตติ, บทปลง เปน เอกวจนะ เปนได ๒ ลงิ ค คอื ปุงลิงคและอิตถีลงิ คเ ทา น้นั ตวั อยา ง วิเคราะหด งั น้ี : ชนาน+ สมโุ ม = ชนตา เปน ตน. [ อ. น. ]. ถ. เพราะเหตไุ ร ในรูปวิเคราะหแหง ตัทธติ นี้ ทา นจงึ บังคับให
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนาที่ 115 ประกอบศัพทนาม เปนพหวุ จนะ ? ลองประกอบ มหสิ ศัพท ดว ย ปจ จยั ทั้ง ๓ นัน้ มาดู. ต. เพราะ สมหุ ศัพท ซึง่ ประกอบวา ความประชุม อยเู บอื้ งหลงั ซง่ึ บง ความถึงนามมีจํานวนมาก ถา คนเดยี วหรือสง่ิ เดียว เรียกวา ประชุมไมได ฉะน้นั จงึ ตอ งประกอบศัพทหนา เปน พหวุ จนะ จะ ประกอบเปนเอกวจนะ ใชไ มได. มหสิ ประกอบดว ยปจ จยั ๓ ตวั นั้น มีรูปดงั น้ี : กณฺ ปจ จยั มาหิสโก, ณ ปจ จัย มาหโิ ส, ตา ปจจัย มหสิ ตา. [ อ. น.]. ถ. นคร ศัพท ถา ประสงคค วามวา ประชุมแหงชาวเมืองเปน ตทั ธติ อะไร ? จงตงั้ วิเคราะหมาดู. ต. นคร ศัพท ถาประสงคค วามวา ประชุมแหง ชาวเมอื ง เปน ราคาทิตัทธิตกอ น แลว เปน สมุหตทั ธติ อีกช้ันหนง่ึ , ตง้ั วเิ คราะห อยา งน้ี : นคเร+ชาโต=นาคโร, ตสฺม+ึ วสตีติ วา = นาคโร, นาคราน + สมุโห = นาครตา. [ ๒๔๖๐ ]. ถ. คามตา เปน ตทั ธิตอะไรบาง ? แปลวา กระไร ? จงแสดง ความเปนไปของศพั ท ต้ังแตเ ปน นามจนถึงตัทธติ น้.ี ต. คามตา เปนสมุหตัทธติ แปลวา ประชมุ แหงชาวบา น, เปน ภาวตัทธิต แปลวา ความเปนแหงชาวบาน, คาโม [ บาน ] เปนนาม, คาเม+วสตตี ิ= คาโม เปน ราคาทิตทั ธติ , คามาน+สมุโห = คามตา เปน สมุหตทั ธติ , คาสสฺ +ภาโว = คามตา เปน ภาวตัทธิต. [ ๒๔๖๖]
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 116 ถ. แปลโวหาร วา ประชุมแหง ชาวเมือง แปลตามพยญั ชนะ วา ประชมุ แหง ชนเกดิ ในเมอื ง หรือวา ประชมุ แหง ชนอยูใ นเมอื ง ดังน้ี เปนตทั ธิตอะไร ? วเิ คราะหอยา งไร ? ต. เปน ราคาทติ ัทธิต กอ น แลว เปน สมุหตทั ธิต อีกช้นั หนึ่ง วเิ คราะหวา นคเร+ชาตา=นาครา, ตสฺมึ+วสนฺตตี ิ วา= นาครา, เตส+สมโุ ม=นาครตา.[๒๔๗๓]. ถ. จงชขี้ อ ท่ตี างกันของศพั ทท ีล่ ง ณ ปจจยั ในตัทธนิ ัน้ ๆ มา ใหครบ พรอ มท้ังวิเคราะหตวั อยาง. ต. ในโคตตตัทธิต ลงแทนศพั ท คือ อปจฺจ เชน วิเคราะห วา โคตมสฺส + อปจจฺ = โคตโม, ในราคาทติ ทั ธิต ลงแทนศัพทตา ง ๆ มี รตตฺ ศัพทเ ปนตน เชน วิเคราะหวา กวาเวน+รตฺต=กาสาว, ในสมุหตัทธิต ลงแทน สมหุ ศพั ท เชน วเิ คราะห วา มนุสสฺ าน+ สมโุ ห=มานุโส, ในตทัสสัตถติ ัทธิต ลงแทน อตฺถิ ศพั ท เชน วิเคราะห วา สทฺธา อสสฺ อตถฺ ีติ สทโฺ ธ, ในภาวตทั ธติ ลงแทน ภาว ศัพท เชน วิเคราะหว า วิสมสฺส+ภาโวช=เวสม. [๒๔๗๕ ]. [ ฐานตัทธติ ] ถ. ฐานตัทธติ มีปจจยั กีต่ วั ? อะไรบาง ? และปจจัยนี้ ใช แทนศพั ทอ ะไร ? ต. มี ๑ ตัว คอื อยี แตใช เอยยฺ ปจ จัย แทนบางกไ็ ด เชน ทกฺขิเณยฺโย ใชแ ทน ฐาน ศพั ท ซึง่ แปลวา ทต่ี ้งั และใชแทน อรห ศัพท ซ่ึงแปลวา ควร บา ง, ในสัททนตี ิวา อีย ปจจัย ลงในอรรถ
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนา ที่ 117 อันอน่ื ไดบ าง เชน อปุ าทานาน+หิต=อุปาทานยี แปลวา เกอื้ กูล แกอปุ าทานทั้งหลาย, อทุ เร+ภว = อทุ รีย [ โภชนะ] มใี นทอง, โดย นยั น้ี อีย หรอื เอยฺย ยอ มใชแทนศัพทท้งั ๔ คือ ฐาน [ ที่ตั้ง ] อรห [ ควร ] หิต [ เก้อื กูล ] ภว [ มี ]. [ อ. น. ]. ถ. ฐานตทั ธติ เปน นามพวกไหน ? โภชนยี ตงั้ วเิ คราะห อยา งไร ? ต. เปนพวกคุณนาม, วเิ คราะหว า โภชนสฺส + าน = โภชนยี [ ภาชนะ ] เปน ท่ตี ั้งแหงโภชนะ, โภชน อรหตีติ โภชนีย [ วตั ถ]ุ ยอ มควรซ่ึงโภชนะ เหตุนั้น จงึ ชื่อวา โภชนยี , โภชนสสฺ + หิต = โภชนีย [ วัตถ]ุ เกื้อกลู แกโ ภชนะ ชอื่ โภชนยี ะ, โภชเน+ภว = โภชนยี [ วัตถุ ] มีในโภชนะ ชอ่ื วา โภชนียะ, จะใชอ ยา งใดอยา งหน่ึงกไ็ ด. [ อ. น.] ถ. ปจ จัยในตทั ธิตน้ี ใชป ระกอบกบั ศัพทพ วกไหน ? ต. ใชป ระกอบกบั ศพั ทห ลายพวก แตท ่ีปรากฏโดยมาก กค็ ือ ศัพทนามนาม และ ศัพทน ามกติ ก. [ อ. น. ]. [ พหุลตัทธติ ] ถ. พหลุ ตัทธติ ใชป จ จยั อะไรแทนพหลุ ศัพท ? ต. ใช อาลุ ปจจยั แทน. [ อ. น.]\" ถ. ทําไม ในวิเคราะหท านจึงใช ปกติ แทน พหุล เลา ? ต. เพราะ ปกติ มเี นอ้ื ความอยางเดยี วกับ พหุล แมในภาษา ไทยเอง เชนคําวา ทาํ บาปเปน ปกติ กห็ มายความวา ทําบาปเสมอ
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนาท่ี 118 หรือทําบาปมากน่นั เอง เพราะฉะน้ัน จงึ ใชแ ทนกันได. [ อ.น.] ถ. ตัทธิตนี้ เปน ไดกีล่ ิงค ? เพราะเหตไุ ร จงึ เปน ไดเ ชน นนั้ ? ต. เปนได ๓ ลิงค เพราะเปน คุณนาม ซึ่งเปนบทอืน่ เปนประธาน เชน สตี าลุ [ ประเทศ] มหี นาวมาก เปนตน. ศพั ทท ่สี าํ เรจ็ รปู เปน ตัทธิตนแ้ี ลว คงรปู อยูอยางนัน้ ท้ัง ๓ ลงิ ค ไมตองเปลยี่ นแปลง เพราะ เปน ศัพท อุ การตั น ซึง่ มที ัง้ ๓ ลิงค. [ อ. น.] ถ. ปจจัยในตทั ธิตนี้ ใชประกอบกับศพั ทพ วกไหน ? ต. โดยมาก ใชป ระกอบกับศพั ทพวกนามนาม. [ อ. น. ] ถ. จงตงั้ วเิ คราะห ทยาลุ ศพั ท มาดดู วย ? ต. ทยา อสฺส ปกติ ทยาลุ [ ชโน ] แปลวา ความเอ็นดูเปน ปกตขิ องช้นั [ ชนนั้น ] ชื่อวา มคี วามเอ็นดเู ปน ปกติ, ทยา อสฺส พหุลา วา ทยาลุ [ ชโน ] แปลวา อีกอยางหนงึ่ ความเอ็นดขู องชน นั้นมาก [ ชนนน้ั ] ชื่อวา มีความเอน็ ดมู าก. [ อ.น. ]. [ เสฏฐตัทธติ ] ถ. ในเสฏฐตัทธติ มีปจ จัยกี่ตัว ? และตวั ไหน ใชในอรรถ อยางไร ? ต. มี ๕ ตัว ตร อยิ สิ สฺ ก อิย ใชห มายความเปรยี บ อุทาหรณ วา ปาปตโร ปาปย ิสฺสโก ปาปโ ย เปนบาปกวา, ตม อิฏ ใช หมายความถึงทส่ี ดุ อทุ าหรณวา ปาปตโม ปาปฏ โ เปน บาปท่สี ุด แปลวา ไมมพี วกอืน่ บาปเหมือน. [๒๔๕๘ ].
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรบั เปรยี ญธรรมตรี) - หนาท่ี 119 ถ. ปจ จัยในเสฏฐตทั ธิต มเี ทาไร ? ใชในทต่ี างกันอยางไร ? ต. มี ๕ คือ ตร อยิ สิ ฺสา อิย อิกฺ . ในปจจัย ๕ ตวั นี้ ตร อิยิสฺสก และ อิย ลงในวเิ สสคุณศัพท, ตม และ อฏิ ลงใน อติวิเสสนคุณศพั ท. สว น อยิ ิสฺสก ไมม ีในทีอ่ ่นื นอกจาก ปาปน สิ ฺสโก ที่ทา นยกขึน้ เปนอทุ าหรณในคัมภรี ศ ัพทศาสตรนัน้ ๆ. [ ๒๔๗๐]. ถ. อิย ปจ จัย ลงในอรรถแหง ตทั ธติ อะไรบาง ? ศัพทท่ี ประกอบปจจัยนีแ้ ลว ตอ งเปน คุณนามทั้งน้ันมิใชหรอื ถาเชน น้ัน จะจดั เปน ชน้ั ยง่ิ และหยอ นตามคณุ ศัพทน้นั ๆ อยางไร ? ต. ลงในชาตาทติ ทั ธิต และ เสฏฐตัทธติ . เปน อยา งนัน้ จัด เปน ชั้นยงิ่ และหยอนตามคณุ ศพั ทนน้ั ๆ ดงั นี้ : ทล่ี งในชาตาทิตัทธติ เปน ชน้ั ปกต,ิ ท่ลี งในเสฏฐตัทธติ เปน ชนั้ วิเสส.[ ๒๔๖๒ ]. ถ. ปจ จัย ๕ ตัวนน้ั ตวั ไหนใชน อ ยที่สดุ ? และเปน เครอื่ งหมาย คณุ นามช้นั ไหน ? ต. อิยิสสฺ ก ใชน อ ยทส่ี ดุ มีใชประกอบกบั บาป เปน ปาป- ิยสิ ฺสโก ที่แสดงไวเ ปน ตวั อยา งในแบบเทา นนั้ นอกจากน้ันไมป รากฏ เปนเคร่ืองหมายคุณนามชนั้ วเิ สส. [ อ. น. ] ถ. ปจ จยั ในเสฏฐตทั ธิต นยิ มลงในศพั ทพ วกไหน ? เมื่อลง แลว จดั เปน นามศัพทพ วกไหน ? ต. นิยมลงในศพั ทคณุ นามช้นั ปกติ เชน ปาปตโร ปาปตโม ปาปโย ปาปฏโ เปนตน เม่ือลงแลว จัดเปน คุณนามช้ันวิเสสบาง อตวิ ิเสสบาง. [ อ. น.].
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรับเปรยี ญธรรมตร)ี - หนา ที่ 120 ถ. เสยฺโย เชยโฺ ย ลงปจจยั อะไร ? ทาํ ไมจึงเปน รูปอยา งน้ัน มีวิเคราะหอ ยา งไร ? ต. ลง อยิ ปจ จัย, ท่ีเปนรูปเชนน้นั คือ เสยโฺ ย มลู ศพั ทเปน ส เม่ือลง อยิ ตามปกติตองเปน สิโย แตไ มถ ูกกับภาษานิยม ทานจงึ ใหแ ปลง อิย เปน เอยยฺ เขากับ ส ก็เปน เสยฺโย, เชยฺโย มลู ศพั ท เปน ช ลงปจ จยั นนั้ แลว ก็แปลงเปนอยางเดยี วกนั กบั เสยโฺ ย. ศัพท ท้งั ๒ นี้ กอจะต้ังวิเคราะห ตอ งทราบอรรถเสยี กอ น. ส เปน ไป ในอรรถแหง ปสฏ ทีแ่ ปลวา ประเสรฐิ .ช เปน ไปในอรรถแหง วุฑฒุ ที่แปลวา เจรญิ . วิเคราะหอ ยางนี้ อยจฺ ปสฏโ อยจฺ ปสฏโ , อยมิเมส วเิ สเสน ปสฏโ ติ เสยโฺ ย [ ชโน ] ชนน้ี ประเสรฐิ ดวย ชนน้ี ประเสริฐดวย, ชนน้ี ประเสรฐิ โดยวเิ ศษ แหง [ กวา] ชนเหลา น้ี เพราะฉะนัน้ ชนนี้ จงึ ชื่อวา ประเสริฐกวา. อยฺจ วฑุ ฺโฒ อยจฺ วฑุ ฺโฒ, อยมเิ มส วเิ สเสน วฑุ ฺโฒติ เชยโฺ ย [ ชโน ] ชนน้ี เจรญิ ดวย ชนน้ี เจริญดวย , ชนน้ี เจริญโดยวเิ ศษ แหง[ กวา ] ชนเหลา น้ี เพราะฉะนั้น ชนนี้ จงึ ชื่อวา เจริญกวา. [ อ. น.]. ถ.กนโิ ย เสฏโ เชฏโ ศัพทไหน เปนศัพทช ัน้ ไหน ? ิวเิ คราะหอยางไร ? ต. กนโิ ย เปนคณุ ศัพทช ้นั วเิ สส, สเฏโ เชฏฏ โ เปน คณุ ศพั ท ชัน้ อตวิ ิเสส กนิโย ออกจากศัพทวา กน เปนไปในอรรถแหง ยุว
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ที่ 121 แปลวา หนุมนอย วเิ คราะหว า อยฺจ ยวุ า อยฺจ ยุวา, อยมิเมส วเิ สเสน ยุวาติ กนโิ ย [ ชโน ] ชนน้ี หนุมนอยดว ย ชนนี้ หนมุ นอยดวย,ชนน้ี หนุม นอยกวา . สวน เสฏโ เชฏโ มมี ลู ศพั ทแ ละ เชยฺโย ดังท่ีกลา วมาแลว .[ อ. น.]. ถ. วิเคราะหท ีท่ านวางไวใ นสําหรับศพั ทท ว่ั ๆ ไป นอกจากที่ กลามาแลวน้นั เปน อยา งไร ? จงตั้ง ปาปตโร มาดูเปน ตวั อยา ง. ต. เปนดังนี้ :สพฺเพ อิเม ปาปา, อยมเิ มส วเิ สเสน ปาโปติ ปาปตโร [ ชโน ] ชนท้ังหลาย เหลา น้ี ทัง้ ปวง เปน บาป, ชนน้ี เปน บาปโดยวิเศษแบง (กวา) ชนท้งั หลายเหลา นี้ เพราะเหตุน้ี ชนนี้ จึงชอ่ื วา เปนบาปกวา. แมศพั ทอ่นื ๆ กจ็ งตง้ั วิเคราะหตามแบบนี้ เปล่ยี นแต ปาปา กบั ปาโป ในวิเคราะห. เมอ่ื จะตั้งวิเคราะหศพั ทอ ่ืน ใหป ระกอบ ศัพทอ่ืนวางลงแทนที่ ปาปา ปาโป นน้ั ใชแ บบเดียวกนั ทั้งที่เปนวเิ สส คณุ นาม ท้ังอตวิ ิเสสคุณนาม. [ อ. น.]. ถ. จงประกอบ ปฺุ ตามปจจัยทงั้ ๕ มาดู ? ต. ปุ ฺ ตโร ปฺุ ตโม ปฺุยิ ิสสฺ โก ปุ ฺโิ ย หรอื ปุ ฺเยฌฺ ย ปุ ฺ ิฏโ . [ อ. น. ]. ถ. ปณฑฺ ิต ศัพท ถาถือความวา ชนมีชาติแหง บณั ฑิตอยาง หนึ่ง เกิดแลวโดยชาติแหง บณั ฑติ อยางหนึง่ เปน บัณฑติ กวา อยาง
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรับเปรียญธรรมตรี) - หนา ที่ 122 หน่ึง อยางไหน เปนตัทธติ อะไร ? ปจ จยั อะไร ? จงต้ังวเิ คราะหม าดู. ต. ปณฑฺ ติ ศพั ท ถา ถือความวา ชนมชี าติแหงบณั ฑติ เปน ชาตาทติ ัทธิต อิย ปจจยั วิเคราะหวา ปณฑฺ ติ ชาติ อสสฺ อตฺถตี ิ ปณฺฑิตชาตโิ ย. ถาประสงคค วามวา ชนเกดิ แลว โดยชาติแหงบัณฑิต ก็เปน ชาตาทิตัทธิต อิต ตร ปจจัย อยา งเดยี วกนั วิเคราะหวา ปณฑฺ ิต- ชาติยา+ชาโต = ปณฺฑิตชาติโย, ถาประสงคความวา ชนเปน บัณฑิต กวา เปน เสฏฐตทั ธิต ตร ปจจยั วิเคราะหว า สพเฺ พ อเิ ม ปณฑฺ ิตา อยมิเมส วเิ สเสน ปณฺฑิโตติ ปรฑฺ ติ ตโร. [ ๒๔๖๒ ]. [ ตทัสสตั ถิตทั ธติ ] ถ. ตัทธติ นี้ ใชป จ จยั แทนศพั ทก ต่ี วั ? อะไรบาง ? และใชแทน ศพั ทอ ะไร ? ต. ใชป จ จัย ๙ ตวั คอื วี ส สี อกี อี ร วนฺตุ มนฺตุ ณ ในสทั ทนตี ิปกรณ ทา นเพ่มิ อิมนฺตุ ปจ จัย เขา ดวย เชน ปาปม า เปนตน. ใชแ ทน อตถฺ ิ ศพั ท ซ่งึ แปลวา มอี ย.ู [ อ. น. ]. ถ. ตทั ธิตน้ี จดั เปน นามหรอื คุณ ? หรอื เปนไดท ้งั ๒ ? จง แสดงอทุ าหรณใ หดูปจ จัยละ ๑ อทุ าหรณ. ต. เปน คณุ ลว น เปนนามไมไ ด อทุ าหรณวา เมธาวี ลง วี ปจจยั , สุเมธโส ลง ส ปจจยั , ตปสี ลง สี ปจจยั , ทณฑฺ โิ ก ลง อิก ปจ จยั , ทณฑฺ ี ลง อี ปจ จัย, มธุโร ลง ร ปจ จัย, สีลวา ลง วนตฺ ุ ปจ จัย, สติมา ลง มนฺตุ ปจ จยั , สทโฺ ธ ลง ณ ปจจยั . [ อ. น. ]. ถ. ในปจ จยั ๙ ตวั น้ัน ตัวไหนนิยมลงในศพั ทอ ยา งไร ? ต. วี ปจ จัย นิยมลงในศัพทท ่ีเปน อา การนั ต ในอติ ถลี งิ ค.
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 123 สี ปจ จัย นยิ มลงในศพั ทท เ่ี ปน มโนคณะบางตวั . วนตฺ ุ \" \" \" อ อา การันต. มนตฺ ุ \" \" \" อิ อุ การนั ต. นอกจาํ นี้ ไมนิยมลงเฉพาะศัพทน ัน้ ศพั ทนี.้ [ อ. น. ]. ถ. อายสฺมา แปลวา ผมู อี ายุ ลงปจจัยอะไร ? มีวิเคราะห อยางไร ? ไฉนจงึ เปน รปู เชน นน้ั ? ต. ลง มนฺตุ ปจ จยั วิเคราะหว า อายุ อสฺส อตฺถีติ อายสฺมา [ ชโน ]. การที่เปน รูปเชน น้ัน คอื แปลง อุ แหง อายุ ศัพท เปน อสฺ เขา กับ อาย เปน อายสฺ ลง มนฺตุ ปจจัย เปน อายสมฺ นตฺ ุ แจกตาม แบบ ภควนตฺ ุ ศพั ท จงึ เปน อายสมฺ า. [ อ. น.]. ถ. โภโค โภคี ยสสี ศพั ทไ หนแปลวา อยา งไร ? ลงปจจัย อะไร ? วิเคราะหอ ยา งไร ? ต. โภโค แปลวา [ ชน ] มโี ภคะ ลง ณ ปจจยั วิเคราะหวา โภโค อสฺส อตฺถีติ โภโค [ ชโน ]. โภคี แปลและวิเคราะหเ หมือนกัน แปลกจาก โภโค เพราะ ลง อี ปจจัย เทา น้ัน. ยสสี แปลวา [ ชน ] มยี ศ ลง สี ปจ จัย วเิ คราะหวา ยโส อสฺส อตฺถตี ิ ยสสี [ ชโน ]. [ อ. น. ]. ถ. วเิ คราะหข องตทั ธิตนี้ ทานวางระเบียบไวอยางไร ? จง อธบิ าย. ต. วางนามนามที่จะประกอบกบั ปจจยั ไวตน ตามลงิ คของตน,
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนาท่ี 124 วางสพั พนาม คอื อสสฺ ซง่ึ เปนตวั ประธานของศัพทต ัทธิตไวท่ี ๒, วาง อตฺถิ ซงึ่ ใชป จ จยั แทนในศพั ทตัทธติ ไวที่ ๓, วาง อิติ ซ่งึ เปนเหตไุ วท ่ี ๔, วางศัพทตัทธิต ซ่ึงเรยี กวา บทปลงไวท่ี ๕, ตวั อยางเชน ปฺา อสฺส อตฺถตี ิ ปฺ วา เปนตน. [ อ. น. ]. ถ. ธมมฺ ิโก กด็ ี อนาถปณ ฑฺ โิ ก กด็ ี ตา งกเ็ ปนชอ่ื ของอบุ าสก แตมีวิเคราะหแ ละปจ จัยตา งกนั หรือไม ? อธบิ าย. ต. ธมมฺ โิ ก ทานแปลวา ตง้ั อยูในธรรม กม็ ี ประกอบในธรรม กม็ ี ถาตามนี้ เปน อนั ลง ณิก ปจ จยั ในตรตยาทิตัทธิต วเิ คราะห วา ธมเฺ ม+ิโต=ธมฺมโิ ก, ธมเฺ ม+ยุตฺโต วา = ธมมฺ ิโก. แตถา จะ สังเกตศัพท ธมฺมโิ ก ใสคําวา สสีลวา ปฺวา ธมฺมโิ ก สิยา จะ เหน็ วาลง อิก ปจ จยั ในตทสั สตั ถิตัทธติ วเิ คราะหวา ธมโฺ ม อสฺส อตถฺ ตี ิ ธมฺมโิ ก. สว นศพั ท อนาถปณฑฺ ิโก นัน้ ลง อิก ปจจัย ใน ตทัสสัตถิตทั ธิต วิเคราะหวาอนาถาน ปณโฺ ฑ เอตฺถ ๑ อตถฺ ีติ อนาถปณฑฺ ิโก. [ ๒๔๖๓ ]. ถ. อนฺติมา ชุติมา ปตุ ตฺ มิ า สตฺตมา ศพั ทไ หน ลงปจจยั อะไร ? มรี ูปเปนลิงคไ หน ? ถา ตอ งการใชใ นลงิ คอ นื่ จะทําอยา งไร ? ต. อนตฺ ิมา อิม ปจ จยั , ชตุ ิมา มนตฺ ุ ปจ จัย, ปตุ ตฺ มิ า อิมนฺตุ ปจ จัย, สตฺตมา ม ปจจัย, ชุตมิ า ปตุ ตฺ มิ า เปน ปงุ ลงิ ค,ถาตองการใช ใน อิตถลี งิ ค ตอ งเปน ชตุ ิมตี ปุตตฺ ิมนตฺ ี , นปงุ สกลิงค ชุตมิ ชตุ ิมนฺต ๑. ตามแบบใช อสฺส แตท ใี่ ช เอตฺถ นัน้ ถอื ตามแบบทีม่ ีใน มังคลตั ถทีปนี เลม ๑ หนา ๗ ซึง่ แกศ พั ทน ี.้ [ อ. น. ].
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 125 ปุตติม ปุตตฺ ิมนตฺ , อนตฺ ิมา สตตฺ มา เปนอติ ถลี งิ ค. ถา ตอ งการใช ในปงุ ลิงค ตอ งเปน อนตฺ ิโม สตฺตโม, นปงุ สกลิงค อนตฺ มิ สตตฺ ม. [ ๒๔๗๑ ]. [ ปกตติ ทั ธิต ] ถ. ตัทธติ น้ี มีปจจัยกีต่ วั ? คืออะไร ? ใชแ ทนศัพทอ ะไรบา ง ? ต. มี ๑ ตัว คือ มย, ใชแ ทนศพั ทกริ ิยา คือ ปกต ซ่งึ แปลวา ทาํ แลว บาง, ใชแทนศพั ทน าม คอื วิการ บาง. [ อ. น. ]. ถ. มย ปจ จยั นิยมลงในศัพทช นิดไหน ? จงแสดงตัวอยางดว ย. ต. นยิ มลงในศพั ทท เี่ ปนนาม เชน สุวณณฺ ทอง, มตตฺ ิกา ดิน, อย เหล็ก, ทารุ ไม เปน ตน.[ อ. น. ]. ถ. ตัทธิตน้ี เปนนามหรือคุณ, ศพั ทวา โสวณฺณมย อนั บุคคล ทําแลวดว ยทอง หรือเปน วิการแหงทอง ตั้งวิเคราะหอ ยางไร ? ทําไม จึงตอ งวกิ าร อุ เปน โอ หรอื มย ปจจัย มลี กั ษณะเชนเดยี วกับ ณ ปจ จัย อยางนั้นหรือ ? ต. เปนคุณ, โสวณฺมย แปลวา อันบุคคลทาํ แลว ดว ยทอง วเิ คราะหว า สุวณฺเณน+ปกต = โสวณฺณมย [ ภาชน ] , แปลวา , เปน วิการแหง ทอง วเิ คราะหว า สุวณฺณสสฺ +วกิ ารโร = โสวณฺณมย [ ภาชน ], ทต่ี องวิการ อุ เปน โอ น้ัน หาเปนเพราะอาํ นาจ มย ปจจยั ไมเพราะ มย ปจจัย ไมม ีลกั ษณะเชน ณ ปจ จยั เลย โดยมาก เมอื่ ลง มย ปจจัย แลว ไมม เี ปล่ียนแปลงแตอ ยา งใดอยา งหนึ่ง เชน มตตฺ ิกามย ทารุมย เปนตน แตท ่ี โสวณณฺ มย ท่ีวิการ อุ เปน โอ น้ัน
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ที่ 126 เปน ไปตามความนิยมของภาษา เพ่ือใหถอยคําไพเราะ. [ อ. น. ]. ถ. อโยมย เจโตมย ๒ ศัพทนี้ เมื่อพจิ ารณา ก็เห็นไดช ดั วา ผิดปกติ เพราะแปลง อ เปน โอ การท่เี ปน เชนนนั้ เพราะ มย ปจ จัย หรอื เพราะอะไร ? ต. ไมใ ชเ พราะ มย ปจจัย เปน เพราะลักษณะของศัพท มโนคณะตา งหาก คือ ศัพทม โนคณะ เมื่อเขา สมาสหรือประกอบกับ ศพั ทอ ่นื แลว เอาสระท่ีสดุ ของตนเปน โอ ได, อย เจต ๒ ศพั ทน้ี ก็ เปนศัพทมโนคณะ จึงตองเปน ไปตามลักษณะของตน. [ อ. น.]. [ ปรู ณตัทธติ ] ถ. ปูรณตทั ธติ มีปจ จยั เทา ไร ? อะไรบาง ? ใชแ ทนศัพทอะไร ? ต. มี ๕ คือ ติย ถ ม อี. ใชแ ทน ปูรณ ซงึ่ แปลวา เปนท่เี ต็ม. [ อ. น.]. ถ. ปจจยั ทงั้ ๕ นี้ มกี ฎเกณฑใหล งในศัพทพ วกไหนหรือไม ? เมอ่ื ลงกบั ศพั ทพวกนน้ั แลว ทําศัพทพวกน้นั ใหค งท่ีอยูหรอื เปล่ยี น แปลงเปนอยางไร ? จงแสดงตวั อยางใหเหน็ ดว ย. ต. ใหล งในศัพทปกติสังขยาอยา งเดียว ลงในศัพทน ามหรอื คุณไมไ ด เมือ่ ลงแลว ทาํ ปกตสิ ังขยาใหเปน ปรุ ณสงั ขยา ตวั อยาง เชน เอกาทส ๑๑ เปนปกตสิ งั ขยา ลง ม ปจจัย เปน เอกาทสโม แปลวา ที่ ๑๑, ลง อี ปจจัย เปน เอกาทสี แปลวา ท่ี ๑๑ เปน ปูรณสงั ขยา . [ อ. น. ]. ถ. ตทั ธิตนี้ เปนคณุ ทงั้ หมดใชไ หน ? ถา ใช ก็คงเปนไดท ั้ง ๓
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตรี) - หนาท่ี 127 ลงิ ค หรืออยา งไร ? ต. ใช, แตศ ัพททล่ี ง อี ปจ จัย เปนไดแตอ ติ ถลี งิ คอ ยา งเดยี ว สวนศัพทท ล่ี งปจจยั นอกน้นั เปนได ๓ ลิงค. [ อ. น.]. ถ. ปจจยั ในปูรณตัทธิต ปรากฏวา ตอ งประกอบกับศัพท สงั ขยา จะเพียงแตเ ปน สงั ขยาแลว ก็ประกอบไดทุกตวั หรือมจี ํากัด อยา งไร ? จงอธบิ าย. ต. ไมใ ชว าเพียงเปนศพั ทสังขยาแลว จะประกอบไดทุกตวั ไป ตอ งมีจํากัดอยา งนี้ คอื ปจจยั เหลา นัน้ บางตวั ประกอบไดใ นสังขยา บางศัพท เชน ติย ประกอบไดเฉพาะ ทวฺ ิ กบั ติ. ถ ประกอบได เฉพาะ จต.ุ ประกอบไดเ ฉพาะ ฉ. อกี ประกอบไดตั้งแต เอกาทส ถึง อฏารส ที่ใชใ นอิตถลี ิงค, นอกจากน้ี ใช ม ประกอบทั้งสนิ้ . [ ๒๔๗๖ ]. ถ. ปจจัยในปรู ณตทั ธติ ใชประกอบไดในสังขยาบางศพั ท คอื ตยิ ประกอบไดเฉพาะแต ทวฺ ิ กับ ต.ิ ถ ประกอบไดเ ฉพาะ จต.ุ ประกอบไดเ ฉพาะ ฉ. อี ประกอบไดเฉพาะต้ังแต เอกาทส ถงึ อฏ ารส ท่ีใชใ นอติ ถีลงิ ค, นอกจากน้ใี ช ม ประกอบท้งั ส้ิน. [ ๒๔๖๗ ] ถ. อี ปจจัย ในตทัสสัตถติ ัทธติ กบั ปูรณตัทธติ มีวธิ ใี ชตา ง กนั อยางไร ? ต. อี ปจ จัย ในตทสั สตั ถติ ัทธติ ใชประกอบกบั นามนาท่ัวไป
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 128 สวนในปูณณตัทธิต ใชประกอบกบั ปกตสิ ังขยา ตั้งแต เอกาทส ถึง อฏารส เทา น้ัน ใชต า งกันอยา งน้.ี [ ๒๔๖๘ ]. ถ. อี ปจ จยั ทา นใหล งในสงั ขยาตั้งแต เอกาทส ถงึ อฏารส ถาจะใหปจ จัยอ่ืนมาลงกบั สังขยาเหลา น้ี จะขัดขอ งอยางไรบา งหรอื ไม ? ต. ถาจะใหเปน อติ ถีลงิ ค ใชปจจยั อืน่ ลง ยอมขดั ของ ตอง ใชล งไดแ ต อี ปจจยั เทา นัน้ ถา จะใชป จจยั อื่นลง ตองเปนลิงคอน่ื ถาใหเปนลิงคอ น่ื ลง ม ปจ จยั ได เชน เอกาทสโม เปนตน . [ อ. น. ]. ถ. คาํ วา อฑฒฺ ซ่ึงแปลวา กง่ึ นน้ั ไดแกจํานวนเทาไร ? และใชอยา งไรบา ง ? ต. จะวา ไดแ กจํานวนเทา ไรน้ัน ไมแน เพราะคําวา กึ่ง กนิ ความกวาง ไมทราบวา กึง่ ของอะไร, ถาเปนกงึ่ ของจํานวนหนว ย กไ็ ดแก ๑ สว น ใน ๒ สวน เชน ๑ สตางค แบงครง่ึ เปน ๒ สวน กงึ่ หนง่ึ ก็ไดแ กครง่ึ สตางค, ถาเปนกึง่ ของจาํ นวน ๑๐ ก็ไดแ กจํานวน ๕ ถา เปน กงึ่ ของจาํ นวน ๑๐๐ ก็ไดแกจาํ นวน ๕๐ , ถาเปนกึ่งของ จาํ นวน ๑๐๐๐ ก็ไดแ กจ าํ นวน ๕๐๐, แมจ าํ นวนย่ิงข้นึ ไป กใ็ หถ อื โดยนัยนี.้ ศพั ทนี้ ในวิเคราะห ทานใหประกอบเปน ตติยาวิภัตติ คือ อฑฌฺ ฒน ซงึ่ แปลวา ทั้งกึง่ เชน อฑฌฺ ฒน+ตติโย= อฑฺฒเตยฺโย แปลวา ท่ีสามทง้ั กงึ่ ไดแก สองครง่ึ , ทว่ี าท่ี ๓ นนั้ หมายถึงจาํ นวน เต็ม ท่ีวาทั้งกึ่งคอื คร่ึงของท่ี ๓.[อ. น. ]. ถ. จงประกอบสงั ขยา จตุ จตทุ ฺทส ดวยปจจยั ในปูรณตัทธิต มาดู พรอมดวยวเิ คราะห?
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรับเปรียญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 129 ต. จตนฺ นฺ + ปรู โณ= จตุตฺโต [ ชน ] เปน ท่เี ต็มแหงชนท้ังหลาย ๔ ชื่อท่ี ๔ ลง ถ ปจ จัย, จตทุ ฺทสนฺน + ปรู โณ = จตุททฺ สโม [ ชน ] เปนที่เต็มแหงชนทัง้ หลาย ๑๔ ชือ่ ท่ี ๑๔ ลง ม ปจ จยั , จตุทฺทสนฺน+ ปูรณี=จตทุ ฺทสี [ หญิง] แปลเชนเดยี วกัน ลง อี ปจ จยั . [ อ. น.]\" ถ. เตชสี กับ เตชสี ตางกันอยา งไร ? ต. ตางกันอยางนี้ เตชสี เปน ตทัสสัตถติ ัทธิต ลง สี ปจจัย แปลวา มเี ดช วเิ คราะหวา เตโช อสสฺ อตถฺ ีติ เตชส.ี เตรสี เปน ปูรณตัทธติ ลง อี ปจจัย แปลวา ท่๑ี ๓ วเิ คราะหวา เตรสนนฺ + ปูรณ=ี เตรสี. [๒๔๖๖]. [ สังขยาตทั ธติ ] ถ. สังขยาตทั ธิต มีปจจัยกต่ี ัว ? ใชแ ทนศัพทอะไร ? จงแสดง อทุ าหรณด ว ย. ต. มปี จจยั ๑ ตัว คอื ก, ใชแทนศพั ท คอื ปรมิ าณ ซงึ่ แปลวา เคร่อื งกาํ หนดนับ ตวั อยางเชน จตกุ ฺก [ วัตถุ] มีปรมิ าณ ๔. [ อ. น. ]. ถ. ปจ จยั ในตัทธติ นใ้ี ชลงในศพั ทพ วกไหน ? สตฺตก มวี เิ คราะห อยางไร ? ต. ลงในศัพทสังขยา, สตตฺ ปรมิ าณานิ อสฺสาติ สตตฺ ก [ วตั ถุ ] มปี รมิ าณ ๗. [ อ. น.]. ถ. ตัทธิตนี้ เปนนามหรอื คณุ ? เปนไดกล่ี ิงค ? ขอดูตวั อยาง. ต. เปน คณุ , เปน ได ๓ ลิงค, ตัวอยางเชน ติโก [ ชน ]
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สาํ หรับเปรียญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 130 ปุงลงิ ค, ตกิ า [ หญิง ] อติ ถีลิงค, ติก [ วัตถุ ] นปุงสกลงิ ค, แปลวา มีปริมาณ ๓. [ อ. น.]. [ วภิ าคตทั ธิต ] ถ. ในวภิ าคตทั ธิต มีปจจยั ก่ตี วั ? อะไรบา ง ? ทานใชประกอบ กบั ศพั ทท ั่วไป หรอื ประกอบเฉพาะศัพทเ หลา ไหน ? มีวธิ แี จกดว ย วภิ ตั ตินามทั้ง ๗ อยา ง ไร ? ต. มี ๒ ตัว คอื ธา โส. ธา ปจจยั ทานมกั ใชป ระกอบกับ ปกติสังขยาเปนพ้นื เชน เอกธา ทฺวิธา แตใ ชประกอบกบั ศัพทอ ่ืน กม็ บี า ง เชน พหธุ า, โส ปจ จยั ใชประกอบกับนามศพั ททว่ั ๆไป เชน สตุ ตฺ โส, สพพฺ โส. ศพั ทที่ประกอบดว ยปจ จัยทง้ั ๒ น้ี สําเร็จ รูปแลว จะแจกดว ยวิภตั ตนิ ามท้งั ๗ ใหเ ปน รูปไปตา ง ไมไ ด คง อยอู ยา งเดิมและ เปนไดแ ตตตยิ าวิภัตติอยางเดียว. [ ๒๔๘๐ ]. ถ. ปจจัยในตัทธิตนี้ ใชแทนศัพทอะไร ? แปลวา อยางไร ? และการแปลเชนนัน้ มีหลกั อยา งไร ? ต. ใชแทน วิภาค ศพั ท แปลวา สว น บาง จาํ แนก บาง, ที แปลเชน นน้ั มีหลกั ดงั นี้ : ถา ลงในศพั ทสังขยา แปลวา สว น, ลงใน ศพั ทนาม แปลวา จําแนก, เชน เอกธา โดยสวนหนึง่ . สตุ ฺตโส โดยจาํ แนกสตู ร เปนตน . [อ. น. ]. ถ. ตทั ธติ น้ี จดั เปนลงิ คอ ะไร ? บทวเิ คราะหเปน อยา งไร ? สตตฺ ธา แปลวาอยางไร ? ตง้ั วิเคราะหใหดดู ว ย. ต. เปน อลิงค เพราะลงในอรรถแหงตตยิ าวภิ ตั ติ แปลกจาก
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตรี) - หนาท่ี 131 ตัทธติ อืน่ ๆ ทง้ั บทวิเคราะหท ง้ั ๒ ศพั ท ก็ประกอบเปน ติยาวภิ ัติ, สตฺตธา แปลวา โดยสวน ๗ วิเคราะหว า สตตฺ ห+ิ วิภาเคห=ิ สตฺตธา. [ อ. น. ]. [ ภาวตทั ธิต ] ถ. ภาวตัทธติ มปี จจยั ทตี่ ัว ? อะไรบาง ? ใชแ ทนศพั ทอะไร ? ต. มี ๖ ตัว คือ ตตฺ ณฺย ตตฺ น ตา ณ กณ,ฺ แตใ น สทั ทนีตปิ กรณ แสดงปจจัยเพม่ิ ขึน้ ๓ คอื ณิย ปจจยั เชน วริ ยิ อาลสีย, เณยฺย ปจ จัย เชน โสเจยฺย, พยฺ ปจจัย เชน ทาสพยฺ เปนตน. ใชแ ทน ภาว ศพั ท ซ่ึงแปลวา ความมี ความเปน . [ อ. น. ]. ถ. ตทั ธติ น้ี เปน นามหรือคุณ ? เปน ไดก่ีลิงค ลงิ คไ หนบาง ? ต. เปน นาม, ศพั ทท ี่ลง ต ปจจัย เปน อติ ถีลงิ ค อยางเดยี ว ศพั ทท ี่ลงปจ จัยนอกนีเ้ ปนนปุงสกลงิ คอยางเดยี ว. [ อ. น.]. ถ. ขอตัวอยางศัพททล่ี งปจ จัยในตัทธติ น้ี มาอยางละศพั ท ? ต. ตฺต ปจจัย เชน มนสุ สฺ ตฺตล ณยฺ ปจจยั เชน โปรสิ ฺส, ตฺตน ปจจยั เชน ปถุ ชุ ชฺ นตตฺ น, ตา ปจ จยั เชน สหายตา, ณ ปจจัย เชน มทฺทว, กณฺ ปจ จยั เชน รามณียก. [ อ. น. ]. ถ. ปจ จัยในตัทธิตนี้ ลงในศัพทพ วกไหนบา ง ? ขอตัวอยางดว ย. ต. ลงในนาม เชน จนทฺ ตฺต ความเปน แหงพระจนั ทร. ลง ในคุณ เชน นลี ตฺต ความเปนแหงของเขียว, ลงในศัพทน ามกติ ก เชน ปาจกตฺต ความเปน แหงคนหุง, ลงในศพั ทกริ ยิ ากิตก เชน คตตา ความเปนแหงบคุ คลผูไปแลว , ลงในศพั ทก ริ ิยาอาขยาต เชน อตฺถิตา ความเปนแหง ...มอี ยู, นตฺถติ ร ความเปน แหง ..ไมมีอยู,
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สาํ หรบั เปรียญธรรมตรี) - หนา ท่ี 132 (ทลี่ ง ภาว ศพั ท โดยตรงกม็ ี เชน อตถฺ ิภาโว นตถฺ ภิ าโว) และ ลงในศพั ทตัทธติ เหมอื นกันกม็ ี เชน ทณฑฺ ิตตฺ ความเปนแหงคนมี ไมเทา, ทณฺฑี เปน ตทัสสัตถิตัทธติ มากอนแลว วเิ คราะหวา ทณโฺ ฑ อสสฺ อตฺถีติ ทณฑฺ ี [ นโร คน ] มีไมเ ทา อี ปจ จยั , ทณฺฑโิ ณ+ภาโว = ทณฑฺ ติ ตฺ ตฺต ปจ จัย. [ อ. น. ]. ถ. เวรกิ เปน ตทั ธติ อะไรบาง ? มวี ิเคราะหอยา งไรบา ง ? ต. เปน ได ๒ ตทั ธติ คือ เปนตทัสสตั ถติ ัทธิตแลว เปน ภาว- ตัทธติ วิเคราะหด งั น้ี :- เวร อสฺส อตฺถีติ เวรี [ คน ] มีเวร อี ปจ จัย. เวริโน+ภาโว= เวริก ความเปนแหงคนมเี วร กณฺ ปจ จยั , อกี อยาง หน่ึง เวร อสสฺ อตฺถตี ิ เวรโิ ก อกี ปจจยั , เวรกิ สสฺ +ภาโว= เวรกิ ณ ปจ จัย. [ อ. น.]. ถ. อาชชฺ ว มททฺ ว เปน ตัทธิตอะไร ? จงวิเคราะหมาดทู ้ัง ๒ ศัพท และลงอะไร จงึ ไดเปนตัทธติ น้ัน ? ต. อชุ ุโน + ภาโว = อาชฺชว, มทุ ุโน+ภาโว=มททฺ ว เพราะลง ณยฺ ปจ จัย ในภาวตทั ธติ จงึ ไดเปน ภาวตัทธิต. [ ๒๔๖๕ ]. ถ. ตา ปจจยั ลงในตทั ธิตอะไรบาง? เม่ือเห็นศพั ท สหายตา สังเกตุอยางไร จึงรูวาเปน ตทั ธติ ชื่อนน้ั ? ต. ลงในสมุหตัทธติ และ ภาวตัทธิต. สังเกตความในเร่ืองนน้ั ถาเพง สหาย ศัพท เปน นาม เปน สมหุ ตทั ธติ , ถา เพง เปนคุณ เปน ภาวตัทธติ . [ ๒๔๕๙ ]. ถ. ณ ปจ จยั ในตทั ธิต ลงในอรรถอะไรบาง ? และตองทาํ
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนา ท่ี 133 วิธอี ยางไร ? ต. ณ ปจ จัย ลงในอรรถ ๕ อยาง คอื โคตตตทั ธิต ราคาท-ิ ตทั ธิต สมหุ ตทั ธติ ตทัสสัตถติ ัทธิต ภาวตัทธติ , ถา สระอยูหนา ศพั ท เปน รัสสะลวน ไมมพี ยญั ชนะสงั โยคอยูเบื้องหลัง ตอ งพฤทธิ คอื ทีฆะ อ เปน อา, วิการ อิ เปน เอ, อุ เปน โอ, เวนไวแ ตส ระท่อี ยู หนา ศพั ทเ ปนรัสสะ มีพยัญชนะสงั โยคอยูเ บื้องหลังหรอื เปนทฆี ะ ไม ตอ งพฤทธิ และ ณ ปจจัยนนั้ ตอ งลบเสีย คงไวแ ตสระที่ ณ อาศัย. [ ๒๔๖๘ ]. [ อพั ยยตัทธติ ] ถ. อัพยยตทั ธิต มปี จ จัยกต่ี วั ? อะไรบา ง ? นิยมลงในศัพท พวกไหน ? ขอตวั อยาง, เมือ่ ลงแลว จดั เปน ลงิ คอะไร ? ต.มี ปจ จัย ๒ ตัว คือ ถา ถ, นยิ มลงในทายสัพพนาม เชน ยถา ตถา กถ อิตฺถ เปน ตน, เมือ่ ลงแลว เปน อลงิ ค เพราะเปน พวกอพั ยยศัพท แจกตามลงิ คทงั้ ๓ ไมได. [ อ. น.]. ถ. ถา ทา ธา ปจ จยั ๓ ตวั นี้ ตวั ไหน ลงในตทั ธติ ชอ่ื อะไร ? ลงไดจ ําเพาะศพั ทพวกไหน ? หรือมขี ดี คน่ั อยา งไร ? แสดงอทุ าหรณ ดวย. ต. ถา ทา ๑ ลงในอัพยยตทั ธิต. ถา ลงในประการ จําเพาะหลัง สัพพนาม อุทาหรณ เชน ยถา ประการใด, ตถา ประการนัน้ , สพฺพถา ประการท้ังปวง เปนตน , ทา ลงในกาล จาํ เพาะหลังสพั พนาม เปน ๑. อนุโลมเขา ในตทั ธิตนี้ เพราะลงทายสพั พนามเหมอื นกัน. [ อ. น. ].
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตร)ี - หนา ที่ 134 เครอื่ งหมายสตั ตมวี ภิ ัตติดวย อุทาหรณ เชน กทา ในกาลไร, สพพฺ ทา ในกาลท้ังปวง, สทา ใกาลทกุ เม่อื , อฺ ทา ในกาลอนื่ , เอกทา ในกาลหน่งึ , ยทา ในกาลใด, ตทา ในกาลน้นั , นอกจากนี้ไมปรากฏ. ธา ลงในวภิ าคตทั ธติ จําเพาะหลังสังขยา อทุ าหรณ เชน เอกธา โดยสวนเดียว, ทฺวิธา โดยสว นสอง เปน ตน. [ ๒๔๕๙ ]. ถ. ปกติสังขยา สัพพนาม ลงปจ จยั แลว เปนตทั ธติ อะไร ? ขอตวั อยาง. ต. ปกติสังขยา ลงปจจัยแลว เปน ปรู ณตัทธิต บา ง สังขยา- ตทั ธติ บาง วิภาคตัทธิต บา ง, ทุติโย ปจฺ โม เปน ปรู ณตทั ธติ , ทวฺ กิ ติก เปน สังขยาตัทธติ , เอกธา ทฺวิธา เปน วภิ าคตทั ธิต, สัพพนาม ลงปจจัยแลว เปน อัพยยตทั ธติ เชน ตถา กถ เปนตน . [ ๒๔๖๙ ]. ถ. จาตุทฺทโส เปน วเิ สสนะของ อุโปสโถ แปลวากระไร ? เปน วิเสสนะของ ชโน แปลวาประไร ? แปลเชนนัน้ เปน ตัทธิตอะไร ? ปจ จยั อะไร ? จงต้ังวเิ คราะหมาดว ย. ต. จาตุททฺ โส เปนวเิ สสนะของ อโุ ปสโถ แปลวา อุโบสถ มใี นดิถที ่ี ๑๔, เปนวิเสสนะของ ชโน แปลวา ชน เกิดในดถิ ีท่ี ๑๔, เปนปูรณตทั ธิตแลว เปนราคาทิตทั ธิต เหมอื นกันท้ัง ๒ อยา งน้นั , วิเคราะหใ นปูรณตัทธติ กอ็ ยางเดยี วกัน คือ จตุทฺทสนฺน + ปรู ณี =จาตุทฺทสี [ ดิถี] เปนที่เตม็ แหง ดิถที ง้ั หลาย ๑๔ ชอ่ื ที่ ๑๔ อี ปจจัย, สว นวเิ คราะหใ นราคาทิตัทธติ ท่ีเปน วิเสสนะของ อุโปสโถ ดงั น้ี :
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ที่ 135 จตุทฺทสยิ +อตฺถีต=ิ จาตุททฺ โส. ทเี่ ปนวเิ สสนะของ ชโน ดงั นี้ : จตทุ ฺทสิย + ชาโตติ = จาตทุ ทฺ โส ณ ปจ จัย. [ อ. น. ]. [ อาขยาต ] ถ. ศพั ทเชน ไร เรียกวา อาขยาต ? มีประโยชนอ ยา งไร ? ต. ศพั ทท แี่ สดงกริ ยิ าของนามนาม เชน ยนื เดิน น่งั นอน เปน ตน เรียกวา อาขยาต. มีประโยชนใ หร ไู ดวา นามนามแสดง กริ ิยาอาการเปนเชน ไร, ถา ไมมศี ัพทพ วกน้ี กจ็ ะรูเชนนั้นไมได และ เม่อื ตองการจะแสดงกริ ิยาของนามนามเหลาน้ัน กไ็ มรจู ะทาํ อยางไร การมศี ัพทพ วกนีไ้ ว ยอมตดั ความขดั ขอ งดังกลา วแลว ได. [ อ.น.]. ถ. ศพั ทอ าขยาตนี้ จะสมบูรณใชก ารได ตองประกอบดวย อะไรบา ง ? หรือสมบรู ณไ ดโดยลําพัง ? ต. ตองประกอบดว ยเคร่ืองประกอบ ๘ อยา ง คอื วภิ ัตติ กาล บท วจนะ บรุ ษุ ธาตุ วาจก ปจ จยั , จะสมบรู ณโ ดยลําพงั หาไดไม. [ อ. น.]. ถ. ในเครอื่ งประกอบ ๘ อยางน้ัน สําคญั ทุกอยา งเสมอกนั หรืออยางไหนยงิ่ กวา ? จงแสดง. ต. สาํ คญั ทุกอยาง แตท่ีสาํ คญั ยิ่ง ก็คอื วภิ ตั ติ ธาตุ ปจ จัย ๓ อยา งนี้ อยางใดอยางหนึง่ ขาด ก็ทําศัพทใ หสมบรู ณไมไ ด เมอื่ มี ๓ อยา งน้แี ลว ยอมทําใหร ูเคร่ืองประกอบ ๕ อยา งน้ันได เพราะวภิ ัตติ เปน เครอ่ื งหมายใหร ู กาล บท วจนะ บุรุษ, สว น ธาตุ กเ็ ปน ราก ฐานสาํ หรบั เปน ทีป่ ระกอบของส่ิงเหลานนั้ , ปจจัย เมอ่ื ประกอบกับ
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สาํ หรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ที่ 136 ธาตุแลว ก็ใหรู วาจก ได, เพราะฉะนัน้ ๓ อยางน้ี จึงจดั วา เปน สําคัญยิง่ กวา ๕ อยางนัน้ . [ อ. น.]. [ วิภตั ติ ] ถ. วภิ ตั ติอาขยาต จัดเปน ก่ีหมวด ? อะไรบาง ? หมวดหนง่ึ มกี ่ีวิภตั ติ ? ต.จัดเปน ๘ หมวดคอื วตั ตมานา ปญจมี สตั ตมี ปโรกขา หยิ ตั ตนี อชั ชัตตนี ภวิสสนั ติ กาลาตปิ ต ต.ิ หมวดหนึ่งๆ มี ๑๒ วภิ ัตติ. [ อ. น.]. ต. วิภตั ติอาขายาต รวมทง้ั สน้ิ มเี ทา ไร ? วิภัตติทีซ่ ํา้ กนั คอื วภิ ตั ติ อะไรบา ง ? ต. มี ๙๖ วิภัตต.ิ วภิ ตั ตทิ ่ซี าํ้ กัน คือ มิ ม มใี นวตั ตมานา และปญ จมี. เส มใี นวตั ตมานา หิยตั ตนี และอัชชตั ตนี . เอ มใี น วัตตมานา ปญจมี และ ปโรกขา. และ อัชชตั ตน,ี มฺเห มีในวัตตมานา ปโรกขา และอชั ชตี ตน.ี อา โอ มใี นหยิ ตั ตนี และ อชั ชัตตนี. วโฺ ห มีในปญจมี และ ปโรกขา. มฺห มใี จปโรกขา และ หยิ ัตตนี. สสฺ เส สฺส สสฺ วฺเห มใี นภวสิ สนั ติ และ กาลาตปิ ต ติ. [ อ. น. ]. ถ. วิภัตติ ๘ หมวดนี้ หมวดไหนมีใชมากในปกรณตา ง ๆ ? ต. หมวด วัตตมานา ปญ จมี สัตตมี อชั ชตั ตนี ภวสิ สันติ ๕ หมวดน้ี ใชม ากในปกรณต าง ๆ แตใชม ากที่สดุ กค็ ือ วัตตมานา และ อชั ชตั ตนี. [ อ. น. ]
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตร)ี - หนา ที่ 137 ถ. วิภตั ติ ๘ หมวด ๆ ไหนบอกกาลอะไร ? ต. วัตตมานา บอกปจ จุบนั กาล, ปโรกขา หยิ ัตตนี อชั ชตั ตนี บอกอดีกาล, ภวสิ สนั ติ กาลาติปต ติ บอกอนาคตกาล. สวนหมวด ปญจมี กับหมวดสตั ตมี ทา นไมไ ดระบุไวช ัด แตก อ็ นโุ ลมเขาใน หมวดบอกปจ จุบนั กาล [ อ. น. ]. ถ. วภิ ัตตินาม กับ วภิ ัตติอาขยาต ใชต างกันอยา งไร ? ต. วิภตั ตนิ าม สําหรับใชล งทท่ี า ยนามศัพท ทาํ นามศพั ทใหม ี รูปตาง ๆ และเปนเครื่องหมาย ลิงค วจนะ, สว นวภิ ัตติอาขยาต ใชลงทายธาตุ ทําธาตใุ หมีรูปตา ง ๆ และเปนเครื่องหมาย กาล บท วจนะ บรุ ุษ. [ อ. น. ]. ถ. วภิ ตั ติไหนบา ง ใชแ ทนวิภัตติอืน่ ซงึ่ เปน เครอ่ื งหมายให ทราบบุรุษ อนั ตา งจากช้ันของตนได ? ต. อา หิยตั ตนี และ อี อัชชตั ตนี เปนเครือ่ งหมายประถมบุรษุ ใชแ ทน โอ ซ่ึงเปน เครือ่ งหมายมธั ยมบรุ ษุ ได ตัวอยาง เชน มา อโวจ [ ทา น ] อยา ไดกลา วแลว , มา กริ [ ทาน ] อยา ทาํ แลว . [ อ. น. ]. ถ. ตฺถ ปรัสสบท หยิ ตั ตนวี ิภัตติ ตางจาก ตถฺ อัชชตั ตนวี ิภัตติ อยา งไร ? ภทิ ฺ ธาตุ ซง่ึ ประกอบดวยวภิ ัตติทงั้ ๒ นั้น สําเรจ็ รูปเปน อยา งไร ? ต. ตถฺ หิยัตตนี ไมมี อิ อยหู นา , อัชชัตตนี มี อิ. ภิท ธาตุ ประกอบดว ย ตถฺ หยิ ตั ตนี เปน อภินทฺ ตฺถ, อัชชัตตนี เปน อภนิ ฺทติ ถฺ . [ ๒๔๖๔ ].
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 138 ถ. สัตตมีวิภตั ตแิ หงกริ ยิ าอาขยาต บอกความอะไรบา ง ? ขอ ตัวอยางของเนือ้ ความที่สัตตมวี ิภัตตบิ อกมาอยางละอทุ าหรณ. ต. สัตตมี บอกความยอมตาม และความกาํ หนด ความราํ พงึ เปน ตน, บอกความยอมตาม แปลวา ควร อุทาหรณว า ภเชถ ปุรสิ ตุ ตฺ เม [ ชน ] ควรคบซงึ่ บุรษุ สงู สุดทั้งหลาย. บอกความกาํ หนด แปลวา พึง อทุ าหรณว า ปฺฺุเจ ปุรโิ ส กยริ า ถาวา บุรษุ พงึ ทําซ่ึงบุญไซร, บอกความราํ พึง แปลวา พึง อุทาหรณวา ยนนฺ นู าห ปพพฺ ชเฺ ชยฺย ไฉนหนอ เราพงึ บวช. [ ๒๔๖๕ ]. ถ. คาํ วา จิตฺต รกฺเขยฺยาสิ และคาํ วา จติ ฺต รกขฺ าหิ หมาย ความตางกนั หรอื เหมือนกัน ? ถาเหมือนกัน กแ็ ลวไป ถาตางกัน จงอธบิ าย. ต. หมายความตางกัน ประโยคตน ใชส ัตตมีวิภัตติ เปน คํา แนะนาํ วาควรจะทาํ เชนนั้น ไมใชคาํ สง่ั . ประโยหลงั ใชปญ จมีวิภตั ติ เปนคาํ สั่งทเี ดยี ว. [ ๒๔๗๐]. ถ. เมื่อเปน กริ ยิ าศัพทท ีท่ า นประกอบ ม วิภตั ติ เชน คจฉฺ าม สังเกตอยางไร จงึ จะรวู าเปน วัตตมานา หรือ ปญ จมี ? ต. สงั เกตความในเรือ่ งนัน้ ถา หมายความปจจบุ ัน เปนวัตต- มานา. ถาหมายความบังคบั หรอื ความหวัง หรอื ความออ นวอน เปนปญจมี . [๒๔๙๕ ]. ถ. มาศพั ท มีทใี่ ชไดอยางไรบาง ? ชกั อทุ าหรณม า. ต. มีที่ใชแ ตก ิรยิ า อนั เปนปญจมีและอชั ชัตตนวี ิภตั ตเิ ทานั้น
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรบั เปรียญธรรมตร)ี - หนาท่ี 139 อุทาหรณว า มา ม ภนเฺ ต นาเสถ, มา เอว กริ. [ ๒๔๖๓ ]. ถ. วภิ ตั ติและปจ จัยในอาขยาต ลงทีไ่ หน ? และลงแลว เปน เครื่องหมายอะไร ? ต. วิภัตติ ลงทาย ปจ จยั . ปจจยั ลงทาย ธาตุ, วภิ ตั ตเิ ปน เครือ่ งบอก กาล บท วจนะ บุรษุ . ปจ จยั เปน เครื่องหมายบอกวาจก. [ ๒๔๖๐ ]. ถ. วภิ ตั ตอิ าขยาต กบั วภิ ตั ตนิ าม มีขอทีเ่ หมือนกันและตาง กันอยางไรบาง ? ต. ขอท่ีเหมอื นกนั คอื จดั เปน ๒ วจนะเหมือนกนั , ขอทต่ี าง กนั คือ วภิ ตั ตินามจัดเปน ๗ หมวด เปนเคร่อื งหมายใหร ูเน้ือความ ของนามศพั ท, สว นวภิ ตั ติอาขยาต จัดเปน ๘ หมวด เปน เครอ่ื ง หมายใหรกู าล , และในหมวดหนง่ึ ๆ จัดเปน ๒ บท ๓ บรุ ษุ เพือ่ ใหบง ถึงนามท่เี ปนประธานแหง กิริยา. [ ๒๔๗๙ ]. ถ. สตั ตมวี ภิ ัตติ บอกความกาํ หนด กแ็ ปลวา พึง, บอกความ รําพงึ กแ็ ปลวา พึง, ถา เห็นอทุ าหรณวา อปฺเปวนาม มยมฺป อายสมฺ นฺตาน กิ ฺจมิ ตฺต อนฺปฺปทชเฺ ชยฺยาม จะรไู ดอ ยา งไรวา บอก ความกําหนด หรอื บอกความรําพึง ? ต. อทุ าหรณวา อปเฺ ปวนาม มยมปฺ อายสฺมนฺตาน กิ จฺ ิมตตฺ อนปุ ปฺ ทชเฺ ชยยฺ าม ดงั นี้ เปน สัตตมวี ิภตั ติ บอกความรําพึง, รไู ด ดว ยนบิ าตที่เปน ตน ความ คอื อปเฺ ปวนาม เพราะวา สัตตมีวิภตั ติ ทบ่ี อกความกําหนด ทานนิยมใช เจ สเจ เปนอาทิ เปนตน ขอ ความ
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 140 ในประโยคนน้ั ๆ, ถาบอกความราํ พึง ทา นมักใช อปเฺ ปวนาม หรอื ยนฺนูน เปน อาทิ. [ ๒๔๗๖ ]. ถ. สตั ตมีวภิ ัตติ กริ ิยาอาขยาต บอกความอะไรบา ง? เพยี ง ๓ อยา งกไ็ ด จงเขยี นบาลีมาอยา งละอุทาหรณ. ต. บอกความยอมตาม อทุ าหรณวา อภติ เฺ รถ กลฺยาเณ. บอกความกําหนด อทุ าหรณวา สเจ ลเภถ นปิ ก สหาย. บอก ความราํ พึง อุทาหรณวา กสสฺ นุ โขห ปม ธมมฺ เทเสยฺย. [ ๒๔๗๓ ] ถ. อ อาคม, อิ อาคม, มา ศพั ท, ใชประกอบกบั กิรยิ าได ทั่วไป หรอื มจี าํ กัดอยา งไร ? จงแถลง. ต. มีจาํ กดั เปน บางอยาง คือ อ อาคม ประกอบไดเ ฉพาะแต ทีห่ นา ธาตใุ นกริ ยิ าซ่งึ ใชว ภิ ัตติ หิยัตตนี อัชชัตตนี และกาลาตปิ ตติ. อิ อาคม ประกอบไดเ ฉพาะแตทห่ี ลังธาตุในกริ ิยาซึง่ ใชวภิ ตั ติ อชั ชตั ตนี ภวสิ สนั ติ และกาลาติปตต.ิ มา ศัพท ประกอบไดเ ฉพาะแตก ริ ิยา ท่ีใชวิภัตติ ปญ จมี และอชั ชัตตานี. [๒๔๖๗ ]. ถ. อ ตน ธาตุ ทานบัญญตั ิใหแ ปลวากระไร ? มีไดท่ัวไปทกุ วภิ ตั ติ หรอื จาํ เพาะแตหมวดไหน ? เชนคําวากระไร ? ชักมาแต จาํ เพาะ. ต. ทา นบญั ญตั ใิ หแ ปลวา ได, มีไดจาํ เพาะ หยิ ตั ตนี เชน คาํ วา อวจ ไดก ลาวแลว, อัชชัตตนี เชน คาํ วา อกาสิ ไดทาํ แลว, กาลาตปิ จ จัย เชน คําวา อคจฉฺ ิสฺสา จกั ไดไ ปแลว.[ ๒๔๕๘ ]. ถ. ส อาคม ลงในวิภัตตหิ มวดไหนบาง ? ขอตวั อยา งดวย.
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรบั เปรียญธรรมตร)ี - หนาท่ี 141 ต. ส อาคม ลงในวิภตั ตหิ มวด อชั ชตั ตนี ได เชน อทาสิ อทส ุ อาโรเจสิ อาโรเจสุ เปน ตน . [ อ. น. ]. [ กาล ] ถ. กาล โดยยอมมเี ทาไร ? โดยพสิ ดารมีเทา ไร ? อะไรบาง ? จะรูก าลน้นั ๆ ไดอ ยางไร ? ต. โดยยอ มไม ๓ คือ ปจ จบุ นั กาล ๑ อดตี กาล ๑ อนาคตกาล ๑ โดยพสิ ดารมี ๘ คือ ปจจุบนั แท ปจ จุบันใกลอ ดตี ปจจบุ นั ใกล อนาคต, อดีตกาลไมม กี าํ หนด อดตี กาลตัง้ แตวานนี้ อดีตกาลตง้ั แต วันนี้, อนาคตแหงปจ จบุ ัน อนาคตกาลแหง อดีต, รไู ดดวยวิภัตติ เพราะวภิ ัตตเิ หลานัน้ เปน เครือ่ งหมายบอกใหรูกาลได. [ อ. น. ]. [ บท ] ถ. บท มีเทา ไร ? อะไรบา ง ? อยางไหนมีประโยชนอ ยา งไร ? ต. มี ๒ คอื ปรัสสบท บทเพ่ือผอู ่ืน อัตตโนบท บทเพ่อื ตน. ปรสั สบท เปน เคร่ืองหมายใหรกู ริ ยิ าทเี่ ปนกัตตวุ าจก, อัตตโนบท เปน เคร่ืองหมายใหรกู ริ ิยาท่ีเปนกมั มวาจก และภาววาจก. น้ีแสดง ตามทเ่ี ปน ไปโดยมาก แตไ มแ นน ัก ทจ่ี ะใหร ูวาจกแน ตอ งอาศัย สงั เกตปจ จัยทปี่ ระจาํ วาจกน้นั ๆ ดวย. [ อ. น.]. [ วจนะ ] ถ. วจนะในอาขยาต เหมือนกบั วจนะในนาม หรือตางกัน ? ต. เหมอื นกันกม็ ี ตา งกันกม็ ี, ทเ่ี หมือนกนั แบง เปน ๒ คือ
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 142 เปนเอกวจนะ และพหวุ จนะ เหมือนกนั , ทต่ี างกัน คอื วจนะในนาม นัน้ เปน เคร่ืองหมายใหรูนามนามวามากหรือนอย และอยูท่นี ามนาม, สว นวจนะในอาขยาต อยทู ศ่ี พั ทกิริยา ถานามนามเปนวจนะไหน ศพั ทก ิริยาก็ตอ งประกอบเปน วจนะนนั้ เวน แตนามนามหลายศพั ท มี จ ศัพท อยใู นระหวา ง แมเ ปน เอกวจนะ กิริยากต็ องประกอบ เปน พหุวจนะ เชน อุปาสโก จ อปุ าสกิ า จ โสตาปนฺนา อเหสุ. [ อ. น. ] ถ. เมือ่ ผนู อยพูดกบั ผูใหญ มวี ิธแี สดงความเคาระดว ยวจนะ อยา งไรหรือไม? ต. ม,ี คือ เมอ่ื ผนู อ ยพดู กับผูใหญค นเดยี ว ทา นนิยมใหใ ช มธั ยมบรุ ุษเปนพหวุ จนะ ดงั คาํ วา ตมุ ฺเห ปฺจสตปริวารา สวฺ าตนาย อธิวาเสถ. แตอ ยา งเขาใจวา เม่ือผูนอยพูดกบั ผใู หญ จะตอ งใชม ัธยม- บรุ ษุ พหวุ จนะ ทุกคราวไป ทใ่ี ชเ ปนเอกวจนะกม็ ี เชนคาํ วา อุปชฌฺ าโย เม ภนฺเต โหหิ, หรอื จะใชประถมบรุ ษุ เอกวจนะ ในท่ีควรใชม ธั ยม- บรุ ษุ พหวุ จนะ แสดงความเคารพกไ็ ด เหมอื นคําวา อปโฺ ปสสฺ ุกฺโก ภนฺเต ภควา ทฏิ ธมมฺ สุขวิหาร อนุยุตโฺ ต วิหรต.ุ [ ๒๔๖๖ ]. [ บรุ ุษ ] ถ. บุรษุ ในอาขยาต แบง เปนเทาไร ? อะไรบา ง ? จะรวู าเปน บรุ ษุ อะไรแน ตอ งถืออะไรเปน หลัก ? ต. แบง เปน ๓ คอื ประถมบรุ ุษ ๑ มัธยมบรุ ุษ ๑ อตุ ตมบรุ ษุ ๑. จะรูบ รุ ษุ ไดแ น ตอ งถือวิภัตตเิ ปนหลกั เพราะวิภตั ติเปน เครือ่ งแสดง
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรบั เปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 143 ใหรบู ุรษุ เชน ติ เปน ประถมบรุ ุษ, สิ เปน มัธยมบรุ ุษ, มิ เปน อุตตมบุรุษ เปน ตน. [ อ. น.]. ถ. เพราะเหตไุ ร จงึ แบง บรุ ษุ เปน ๓ ? ต. เพราะในสพั พนาม ซ่งึ เปน ประธานของกริ ยิ าแบงบุรษุ เปน ๓, สวนกริ ิยาซง่ึ เปนเคร่ืองแสดงอาการของประธานใหป รากฏ จงึ จําเปนตอ งแบงเปน ๓ ดวย เพือ่ ใหเทา กัน จะแบงใหมากหรอื นอ ย กวา กนั ไมไ ด. [ อ. น. ]. ถ. ตัวประธานกับตัวกิริยา มกี ฎเกณฑใ หคลอ ยเขา หากนั อยางไรบา ง ? ต. มกี ฎเกณฑอยางน้ี ถา สพั พนามทเ่ี ปน ประธาน เปน บุรุษใด กริ ิยากต็ องเปนบุรษุ นั้น เชน โส เปน ประถมบุรษุ กิรยิ ากต็ อ ง เปน ประถมบุรษุ ตาม, ตวฺ เปนมธั ยมบุรษุ กริ ิยากต็ อ งเปนมธั ยมบุรุษ ตาม. อห เปน อตุ ตมบรุ ุษ กริ ิยากต็ องเปน อุตตมบรุ ษุ ตาม ให บุรษุ ตรงกันเสมอไป สับเปลย่ี นกนั ไมไ ด. [ อ. น. ]. [ ธาตุ ] ถ. ในอาขยาต มอี ะไรเปนทีส่ ิง่ สาํ คัญในการทจี่ ะทาํ เปน รปู ราง ขึน้ ? ทานจัดแบงไวอยางไร ? จงจดั มาดู. ต. มีธาตเุ ปนสิ่งสําคัญ, ทานจัดแบง ไวเ ปน ๘ หมวด คอื ๑. หมวด ภู ธาตุ ๒. หมวด รธุ ฺ ธาตุ ๓. หมวด ทวิ ฺ ธาตุ ๔. หมวด สุ ธาตุ ๕. หมวด กี ธาตุ ๖. หมวด คหฺ ธาตุ ๗. หมวด ตนฺ ธาตุ ๘. หมวด จรุ ฺ ธาต.ุ [ ๒๔๘๐ ].
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรบั เปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 144 ถ. ที่วา ธาตุเปน สําคัญน้ัน สาํ คญั อยางไร ? ต. เปน สาํ คัญอยางนี้ คือ เปนทปี่ ระกอบ วิภัตติ ปจ จัย ทํา ใหกิรยิ าศัพทสมบูรณ ถา ขาดธาตแุ ลว จะใช วภิ ตั ติ ปจ จยั โดย ลําพงั ไมได เปรียบเหมือนเรอื น เสาเปนสําคญั สําหรับรองรับทัพพ- สัมภาระอ่นื ๆ ฉันใด, ธาตกุ เ็ ปนฉนั นั้น. [ อ. น.]. ถ. ในอาขยาต ทา นใชอะไรเปน มลู ศพั ท ? จะใชน ามบางได หรือไม ? อธิบาย. ภชุ ฺ หรฺ ธาตุ ประกอบ ติ วัตตมานาวิภตั ติ สําเรจ็ รปู เปนอยา งไรบาง ? อยา งไหนลงปจจยั อะไร ? ต. ใชธาตุ, ถาประกอบดวย อาย หรอื อิย ปจจัย ก็ใชได เชน ปพฺพตายติ ปตุ ตฺ ิยติ เปน ตัวอยาง, สาํ เร็จรปู เปน ภฺุชติ หรติ บา ง เปน พุภุกขฺ ติ ลง ข ปจ จัย, ท่เี ปน ชคิ สึ ติ ลง ส ปจ จัย. [ ๒๔๗๒ ]. ถ. กิริยาอาขยาต มอี ะไรเปน มลู ราก ? รชฺ ธาตุ ภิท ธาตุ ติ วัตตมานาวภิ ตั ติ สําเร็จรูปอยางไร จึงเปนหมวด ทวิ ธาตุ ? อยางไร จึงเปน หมวด รธุ ธาตุ ? ต. กริ ิยาอาขยาต มีธาตเุ ปน มลู รากบาง นามศัพทบาง, รชฺ ธาตุ ติ วตั ตมานาวภิ ัตติ ลง ย ปจจยั ในหมวด ทวิ ฺ ธาตุ สาํ เรจ็ รปู เปน รชชฺ ต,ิ ในหมวด รุธฺธาตุ สําเรจ็ รูปเปน รชฺ ต,ิ ภิทฺ ธาตุ สําเร็จรปู เปน ภิชชฺ ติ ภินทฺ ติ. [ ๒๔๖๔ ]. ถ. ธาตุแบงเปนกี่อยาง ? อะไรบาง ? ต. มี ๒ คือ สกมั มธาตุ ธาตมุ ีกรรม ๑. อกัมมธาตุ ธาตุ ไมมกี รรม ๑. [ อ. น. ].
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สําหรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ที่ 145 ถ. คําวา กรรม ในทนี่ ี้ ไดแ กอ ะไร ? จะรไู ดอ ยางไรวา ธาตุ นเี้ ปน ธาตุประเภทนนั้ ประเภทน้ี ? ต. ไดแ กสิ่งที่ถูกเขาทํา ถูกเขาคดิ เชน คนทาํ นา ภกิ ษคุ ือ ธรรม เปน ตน , คาํ วา นา และ ธรรม นน้ั ทา นเรียกวา กรรม คือ ผูถกู ทํา. รูไดด ว ยการสงั เกตความของธาตุนนั้ ๆ ถาธาตุใดแสดงความ ใหเ รยี กหากรรมจงึ จะไดความชัด ถาไมเรียกหากรรมความไมชัด ดงั คาํ วา คนกิน ความไมช ัด ชวนใหน ึกวากินอะไร ? ถา เตมิ กรรม ตอทา ยวา คนกนิ ขาว หรอื คนกินขนม เชน นี้ ไดความชดั ธาตุ ชนดิ นี้ เรียกวา สกัมมธาตุ คือธาตมุ ีกรรม. ธาตุในไมแสดงความ ใหเรียกหากรรม ตามลําพังกไ็ ดความชัดพอแลว เชน นกบนิ คนเดนิ สนุ ขั นอน เปน ตน ธาตุชนดิ น้ี เรียกวา อกมั มธาตุ ธาตไุ มม ีกรรม. [ อ. น. ]. ถ. สกัมมธาตุ อกมั มธาตุ ใชในวาจกอะไรไดบ าง ? ต. สกัมมธาตุ ใชไดทุกวาจก, แตอ กัมมธาตุ ใชไ ดแ ตใ น กัตตุวาจก ภาววาจก เหตกุ ัตตุวาจก. [ ๒๔๖๐ ]. [ วาจก ] ถ. จงแสดงวาจกในอาขยาต. ในวาจกเหลาน้ี วาจกอะไรบา ง ใชด ืน่ ในปกรณท ง้ั หลาย ? ต. วาจากในอาขยาต มี ๕ คอื :- ๑. กัตตุวาจก เปนกิริยาของผูท ําทเ่ี ปน ประธาน อุทาหรณวา ธมมฺ จารี สขุ เสต.ิ
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สาํ หรับเปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 146 ๒. กมั มวาจก เปน กริ ยิ าของสิง่ ทถี่ กู ทาํ ท่ีเปน ประธาน อุทาหรณ วา ปาป กริยติ. ๓. ภาววาจก เปนกริ ิยาหาประธานที่เปน ปฐมาวภิ ตั ตมิ ิได อทุ าหรณว า จิตฺเตน อุปปฺ ชชฺ เต. ๔. เหตกุ ัตตวุ าจก เปน กิรยิ าของผูใชทเ่ี ปนประธาน อทุ าหรณ วา เมตตฺ อปุ ฺปาเทติ. ๕. เหตุกมั มวาจก เปน กริ ิยาของส่งิ ทถ่ี ูกเขาใชใ นทาํ ทเี่ ปน ประธาน อุทาหรณว า โอทโน ปาจาปยเต. ในวาจกเหลา นี้ กตั ตุวาจกและเหตุกตั ตุวาจก ใชอ ่ืนในปกรณ ทงั้ หลาย. [๒๔๕๗,๒๔๖๗ ]. ถ. วาจก มเี ทา ไร ? ใจความตา งกนั อยางไร ? ต. มี ๕, ตา งกันอยางนี้ กัตตวุ าจก ยกผทู าํ เปนบทประธาน, กัมมวาจก ยกกรรมเปนบทประธาน, ภาววาจก กลา วแตความมีความ เปน, เหตุกัตตุวาจก ยกผใู ชใหทําเปน บทประธาน, เหตุกมั มวาจก ยกส่งิ ท่ีถกู เขาใชใหท ําเปนบทประธาน.[ ๒๔๗๐ ]. ถ. วาจกทั้ง ๕ มปี ระโยชนอยางไร ? จงยกตัวอยา งมา ประกอบกบั คาํ อธบิ ายใหเ ห็นสม. ต. มปี ระโยชนใ นทางพดู และแตงหนงั สือ ถา ผพู ูดผูแตไ ม เขาใจวิธีของวาจก อาจทําเนอื้ ความที่ประสงคน ั้น ๆ ใหแ ผกไป คอื จักไดใจความตรงกันขา ม หรอื ถือเอาใจความไมได เชนตองการ จะพูดวา \"บดิ าใหบ ุตรศึกษาศลิ ปะ\" ซึ่งควรจะตอ งเรยี งคําพดู เปน
ประโยค๑ - ประมวลปญหาและเฉลายบาลีไวยาการณ (สาํ หรบั เปรยี ญธรรมตรี) - หนา ท่ี 147 ภาษาบาลี ปตา ปุตฺต สปิ ฺป สกิ ฺขาเปติ แตห าเรยี กเชนน้ันไม ไปเรยี งเสียวา ปต ปตุ ฺต สิปฺป สกิ ขฺ ติ กลบั มคี วามแผนกันไปวา บดิ าศึกษาศิลปะกะบตุ ร ดงั น้ีเปน ตัวอยา ง. [ ๒๔๖๒ ]. ถ. จงเอาศพั ท ๔ นี้ คือ ปต ุ ธตี ุ ปุปฺผ วุ ธาตุ เรียงตาม ลกั ษณะแหง วาจกทงั้ ๕ ยกภาววาจก. ต. กัตตวุ าจก. ปตโุ น ธตี า ปปุ ฺผ วุณาติ. กมั มวาจก. ปต ุโน ธตี รา ปุปฺผ วุยฺยเต. เหตกุ ัตตุวาจก. ปต า ธีตร ปปุ ผฺ วุณาเปติ, เหตกุ มั มวาจก, ปต รา ธีตรา ปุปผฺ วุณาปย เต.[ ๒๔๖๒ ]. ถ. คําวา \"ทําการงาน\" ประสงคเ ปนคณุ นามอยา งหน่ึง เปน อาขยาตอยางหนึง่ คํามคธวา กระไร ? ต. คําวา \"ทาํ การงาน\" ทีป่ ระสงคเปนคุณนาม คํามคธวา \"กมมฺ กาโร\" ท่ีประสงคเปน อาขยาต คาํ มคธวา \"กมมฺ กโรติ.\" [ ๒๔๗๗ ]. [ ปจ จัย ] ถ. ปจจัยในอาขยาต มปี ระโยชนอ ยางไร ? และตางจากปจจัย ในตทั ธติ อยา งไร ? ต. มีประโยชนใ หก ําหนดรวู าจกไดแ มน ยํา, ตา งกันปจ จัยใน ตัทธิต คอื นิยมลงทา ยธาตเุ ปนพนื้ มีลงทายนามศัพทบา งบางตวั เมอื่ ลงทา ยธาตหุ รือนามศัพทน ้ัน ๆแลว ศัพทนัน้ ๆ กส็ าํ เร็จรปู เปน กริ ิยาทั้งส้ิน, สว นปจ จัยในตัทธิต นยิ มลงทายนามศพั ทเ ปนพ้นื ไมมี ลงทายธาตุ เมอ่ื ลงแลว ใชแทนศพั ทต า ง ๆ. [ อ. น. ]
ประโยค๑ - ประมวลปญ หาและเฉลายบาลไี วยาการณ (สําหรับเปรียญธรรมตรี) - หนา ท่ี 148 ถ. จงแสดงปจ จัยในอาขยาต ทล่ี งในธาตุ ๘ หมวด ในวาจก ท้งั ๕ ? ต. ท่ลี งในธาตุ ๘ หมวด คอื อ เอ ย ณุ ณา นา ณฺหา โอ เณ ณฺย ๑๐ ตวั และลงในกตั ตุวาจกดว ย, ในกัมมวาจก ลง ย ปจ จยั กบั ทั้ง อิ อาคม หนา ย, ในภาววาจก ลง ย ปจ จัย, ในเหตกุ ตั ตุ วาจก ลงปจ จยั ๔ ตัว คอื เณ ณย ณาเป ณาปย ตัวใดตัวหน่ึง, ในเหตุกมั มวาจก ลงปจจัย ๑๐ ตวั น้นั ดวย เหตปุ จ จยั คอื ณาเป ดวย ลง ย ปจ จัย กับทัง้ อิ อาคม หนา ย ดวย. [ ๒๔๖๓-๒๔๗๑ ]\" ถ. จาํ กาํ หนดรูวาจกไดอ ยางไร? และวาจก ทงั้ ๕ น้นั โดย ใจความตางกนั อยางไร ? ต. กริ ิยาศพั ททป่ี ระกอบดว ย อ เอ ย ณุ ณา นา ณหฺ า โอ เณ ณฺย ตัวใดตวั หน่งึ เปน กัตตวุ าจก, ทป่ี ระกอบดว ย ย ปจ จยั กบั อิ อาคม เปน กัมมวาจก, ทีป่ ระกอบดว ย ย ปจจยั เปน ภาววาจก, ท่ปี ระกอบดว ย เณ ณย ณาเป ณาปย ตวั ใดตัวหน่งึ เปน เหตุกัตตุ วาจก, ท่ีประกอบดว ยปจจัย ๑๐ ตวั ในกัตตวุ าจกตวั ใดตัวหนึ่งดว ย ณาเป ปจจยั ดว ย ย ปจ จยั กบั อิ อาคมดวย เปนเหตุกัมมวาจก รูไ ดอ ยางน.้ี ตางกนั อยางน้ี : กัตตวุ าจก ยกผูทาํ เองเปนบทประธาน, กัมมวาจก ยกกรรมเปน บทประธาน. ภาววาจก กลาวแตค วามมี ความเปน , เหตุกัตตวุ าจก ยกผใู ชใ หท าํ เปนบทประธาน. เหตุกัมม- วาจก ยกสิ่งทถี่ ูกเขาใชใ หท ําเปนบทประธาน. [๒๔๖๖ ]. ถ. กริ ยิ าศพั ทในประโยค ภาววาจก นยิ ม วจนะ บุรุษ บท
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197