ทุกๆ วนั ดิฉันไม่เคยลืมทีจ่ ะขอบคุณพระผู้เป็นเจา้ ทพ่ี ระองคใ์ หด้ ิฉนั มโี อกาสไดพ้ บปะผคู้ นมากมาย เรอ่ื งเลา่ ของแตล่ ะคนลว้ นมคี ณุ คา่ คนสามญั ที่อาจไม่มีใครรจู้ กั คนเล็กๆ ทเ่ี ปน็ ผสู้ ร้างแรงบนั ดาลใจที่ย่งิ ใหญ่ให้กบั ผู้คน อกี มากมาย คนทใ่ี ชค้ วามทกุ ขย์ ากของตนเองเปน็ เสมอื นกรวดทรายทป่ี ทู าง ไปสู่การเปล่ียนแปลงเพ่ือชีวิตที่ดีกว่าของคนรุ่นต่อไป คนที่ไม่ท้อถอย ไม่ ยอมแพ้ และก้มหวั ให้กับความไม่ชอบธรรมใดๆ เราจึงควรขอบคณุ พวกเขารว่ มกัน ผู้หญิง ความยตุ ิธรรม และความทรงจ�ำบาดแผล ๑๔๙
ภาพชีวิต ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์๑ กษิดศิ อนนั ทนาธร๒ ๑ ภาพในบทความน้ีมาจาก http://pridi-phoonsuk.com ๒ ผูจ้ ดั การโครงการ ๑๐๐ ปชี าตกาล ศาสตราจารย์ ดร.ปว๋ ย อึ๊งภากรณ์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, กรรมการมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป และกรรมการมูลนิธิปรีดี พนมยงค์
วนั เรมิ่ ชีวติ คู่ ปรดี ี-พูนศุข ๑๖ พฤศจกิ ายน ๒๔๗๑ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยตุ ฺโต) เคยกล่าวแตเ่ มอ่ื เปน็ พระธรรมปฎิ กวา่ “ทา่ นผูห้ ญิงพนู ศขุ พนมยงค์ มิใช่เปน็ เพยี งบุคคลหนึ่ง ที่ มีชื่อผ่านเข้ามาในประวัติศาสตร์ ในฐานะเป็นภริยาของท่านรัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ เท่านั้น แต่ชีวิตของท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ เป็น ประวัตศิ าสตร์สว่ นหนึ่งดว้ ยทีเดียว อยา่ งน้อย ในกระแสแหง่ ความผนั ผวน ปรวนแปรของเหตุการณ์บ้านเมือง ทช่ี ีวิตของท่านผ้หู ญงิ พนู ศุข ถกู กระทบ ภาพชวี ิต ท่านผหู้ ญิงพนู ศุข พนมยงค์ ๑๕๑
กระแทกอย่างหนักหน่วงรุนแรงคร้ังแล้วครั้งเล่า ตลอดช่วงเวลายาวนาน ทา่ นผูห้ ญิงรู้เหน็ ร้สู ึก มองสถานการณ์และเหตุการณ์เหลา่ นน้ั อยา่ งไร รวม ท้ังน�ำชีวิตและบุคคลท่ีเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะครอบครัว ลุล่วงผ่านพ้นมาได้ อย่างไร กเ็ ปน็ เรื่องที่น่าสนใจศึกษาอยา่ งมาก”๓ ในวาระ ๑๐ ปี แหง่ การจากไปของทา่ นผหู้ ญงิ พนู ศขุ พนมยงค์ คชู่ วี ติ ของท่านผู้ประศาสน์การน้ัน ขอน�ำภาพและถ้อยค�ำของท่านผู้หญิงพูนศุข สตรผี ู้ “ไมข่ อรบั เกยี รตยิ ศใดๆ ทง้ั สน้ิ ” ผซู้ งึ่ เปน็ กำ� ลงั ใจทส่ี ำ� คญั ใหม้ หาบรุ ษุ อย่างท่านผู้ประศาสน์การมีชีวิตท่ีมีความสุข แม้ต้องเผชิญกับความส�ำเร็จ และความล้มเหลว อยา่ งขึน้ และลงอยา่ งสดุ ๆ ในชวี ติ อนั ผนั ผวนก็ตาม พนู ศุขในวัย ๖ ขวบ ถา่ ยรูปกบั พระยาชัยวิชติ วศิ ษิ ฏธ์ รรมธาดา กับคุณหญงิ เพ็ง พร้อมครอบครวั ๓ บูชาธรรม บชู าคณุ ทา่ นผหู้ ญงิ พนู ศุข พนมยงค์ (๒ มกราคม ๒๔๕๕ – ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๐) (ม.ป.ท.: ม.ป.พ., ม.ป.ป.), น. ๑๑. ๑๕๒ ปรดี ีบรรณานสุ รณ์ ๒๕๖๐
ดังเมื่อคราวท่านได้รับรางวัล “Outstanding Women in Bud- dhism Awards” แห่งสหประชาชาติ เม่ือ พ.ศ.๒๕๔๘ ท่านได้แสดง สุนทรพจน์ความตอนหน่ึงว่า “ข้าพเจ้าเกิดมาในครอบครัวพุทธศาสนิกชน ตั้งแต่เยาว์วัยบิดามารดาได้ปลูกฝังให้ลูกๆ ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา เม่ือ แต่งงานมีครอบครัว สามีข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีในการยึด หลกั ธรรมะเปน็ สรณะ ชวี ติ ทผี่ า่ นรอ้ นผา่ นหนาวมา ๙๓ ปี มที ง้ั ความสขุ และ ความทุกข์ ความส�ำเร็จและความผิดหวัง หลักธรรมในพระพุทธศาสนาได้ ช่วยให้ข้าพเจ้าด�ำรงชีวิตอยู่ได้ หลักธรรมค�ำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัม พทุ ธเจา้ ทวี่ า่ นน้ั คอื ธมโฺ ม หเว รกขฺ ติ ธมมฺ จารึ ธรรมะยอ่ มรกั ษาผปู้ ระพฤติ ธรรม ขา้ พเจ้าเช่ือมัน่ วา่ ถ้าทุกคนปฏิบตั ิตามหลักธรรมในพทุ ธศาสนา ท้งั ในยามสนั ติ ยามสงคราม และยามท่ีชีวติ ผันผวน โดยท�ำตามหนา้ ที่อยา่ งรบั ผดิ ชอบและตงั้ สติอยเู่ สมอ เราทกุ คนจะประสบสนั ตสิ ุขในใจ”๔ ตวั อยา่ งความกลา้ หาญและยดึ มน่ั ในหลกั การของทา่ น เชน่ ในคนื วนั ท่ี ๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ ทม่ี ีรถถงั ไปยงิ ท่ที ำ� เนียบท่าช้าง ทพี่ ำ� นกั ของทา่ น รัฐบุรุษอาวุโส หลังจากที่ท่านรัฐบุรุษอาวุโสหลบออกไปได้อย่างหวุดหวิด แลว้ ทา่ นผหู้ ญงิ ไดถ้ ามทหารทม่ี าในคนื นน้ั วา่ มาทำ� อะไร “พวกเราจะเปลย่ี น ๔ พนู ศขุ พนมยงค์, ทา่ นผู้หญิง, “คำ� กล่าวของท่านผหู้ ญิงพนู ศุข พนมยงค์ ในโอกาสที่ ไดร้ บั รางวัล “Outstanding Women in Buddhism Awards” แห่งสหประชาชาติ วันท่ี ๗ มนี าคม ๒๕๔๘ ณ ตึกสหประชาชาติ กรงุ เทพฯ,” ใน ไม่ขอรับเกียรติยศใดๆ ท้งั สน้ิ ๙๕ ปี ๔ เดอื น ๙ วัน พูนศขุ พนมยงค์ (กรงุ เทพฯ: ลลติ า สดุ า ศขุ ปรดี า ดษุ ฎี วาณี, ๒๕๕๑), น. ๓๓๑. ภาพชีวิต ทา่ นผู้หญิงพนู ศุข พนมยงค์ ๑๕๓
รัฐบาล” ทหารตอบ ท่านผู้หญิงจึงได้ทักท้วงทันทีว่า “ท�ำไมมาเปล่ียนท่ีน่ี ทำ� ไมไมไ่ ปเปลย่ี นทสี่ ภาเลา่ ”๕ นา่ เสยี ดายทค่ี วามขอ้ น้ี ไมเ่ ปน็ ทตี่ ระหนกั เลย แมจ้ ะเนน่ิ นานผา่ นมาถงึ ๗๐ ปแี ลว้ วา่ ควรจะเปลย่ี นรฐั บาลกนั ในรฐั สภาให้ ได้ ถา่ ยเมอื่ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๕ ขณะท่ีตำ� รวจน�ำไปศาลอาญา เพือ่ ขออ�ำนาจฝากขงั ข้อหากบฏภายในและภายนอกราชอาณาจักร ขณะอายุ ๔๐ ปี ๑๐ เดือน ๑๙ วนั ๕ ดู พูนศุข พนมยงค์, “รฐั ประหาร ๘ พฤศจกิ ายน ๒๔๙๐,” ใน เพงิ่ อ้าง, น. ๑๗๘. ๑๕๔ ปรีดีบรรณานสุ รณ์ ๒๕๖๐
หลงั จากน้นั ในปี พ.ศ.๒๔๙๕ ทา่ นกถ็ กู อ�ำนาจรัฐเบียดเบยี นบีฑา ถูก ตง้ั ขอ้ หาเปน็ กบฏ ซงึ่ เรยี กกนั วา่ “กบฏสนั ตภิ าพ” แตเ่ มอ่ื คมุ ขงั ครบ ๘๔ วนั แลว้ ไม่อาจหาหลกั ฐานใดมาเล่นงานท่านได้ ทา่ นจงึ ไดร้ บั อสิ รภาพออกมา โดยทย่ี งั ไมจ่ ำ� ตอ้ งกลา่ วถงึ วา่ ระหวา่ งควบคมุ ตวั ทา่ นไวน้ นั้ ตำ� รวจไดพ้ ยายาม ท�ำสงครามจิตวิทยาอยู่เสมอ เช่น กล่าวว่ารู้หรือไม่ว่านายปรีดีนอกใจ แต่ ทา่ นผหู้ ญงิ กเ็ ชอ่ื ในรกั แทท้ มี่ ตี อ่ กนั อยา่ งไมห่ วนั่ ไหว จนในบนั้ ปลายชวี ติ ถงึ นายปรดี จี ะไมไ่ ดก้ ลบั มาอยทู่ เ่ี มอื งไทย แตท่ ง้ั สองกไ็ ดเ้ คยี งคกู่ นั อยา่ งยาวนาน ท้งั ในประเทศจนี และฝรั่งเศส แม้เมอ่ื ท่านรัฐบุรษุ อาวุโสถึงแก่อสญั กรรมไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๖ แต่ท่านผู้หญิงก็ได้สานต่อเจตนารมณ์ในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง อย่าง นอ้ ยคอื การเลา่ ขานเรอื่ งราวของสามผี ซู้ ง่ึ เปน็ คนดที เ่ี มอื งไทยไมต่ อ้ งการ เชน่ “ในขณะที่มีชีวิตอยู่ นายปรีดี พนมยงค์ มิได้เรียกร้องหรือมุ่งหวังทวง ต�ำแหน่งในราชการหรือ รับประโยชน์ด้านทรัพย์สินเงินทองมาเป็นรางวัล ตอบแทน ด้วยถอื วา่ การกระท�ำท้ังหลายเปน็ ไปดว้ ยเจตนาอันบรสิ ุทธิ์ เพอ่ื สนองคณุ ชาตแิ ละแผน่ ดนิ เกดิ เพยี งเทา่ นนั้ เอง”๖ ความขอ้ นี้ ถา้ ชวนใหผ้ อู้ า่ น สงสยั และอยากทา้ ทายท่านผูห้ ญิงว่าความจรงิ เป็นเชน่ นัน้ หรือไม่ ด้วยการ ไปศึกษาประวัติของท่านรัฐบุรุษอาวุโส ก็นับถือเป็นการจุดประกายที่ดี ทีเดียว ๖ ดู พนู ศขุ พนมยงค,์ “คำ� กลา่ วในพธิ เี ปดิ ปา้ ยชอื่ “ถนนปรดี ี พนมยงค”์ ของทา่ นผหู้ ญงิ พูนศุข พนมยงค์ วนั ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ณ จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา,” ใน เพิง่ อ้าง, น. ๓๓๗. ภาพชีวติ ท่านผหู้ ญิงพูนศุข พนมยงค์ ๑๕๕
ในวนั ชาตจิ นี บนประตูสันติสวรรค์ จัตรุ ัสเทียนอันเหมนิ กรงุ ปักกงิ่ ๑ ตุลาคม ๒๕๐๘ ท่านผู้หญงิ พูนศขุ ในวัย ๕๐ ปี ที่นครกวางโจว พ.ศ.๒๕๐๕ ๑๕๖ ปรดี บี รรณานสุ รณ์ ๒๕๖๐
ทา่ นผู้หญงิ พนู ศขุ ใหโ้ อวาทกับนักศึกษาท่ีลานปรดี ี พนมยงค์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ท่านผู้หญิงพูนศุขมีอายุยืนยาวพอท่ีจะส่งต่อแนวคิดและอุดมการณ์ ของนายปรดี ไี ปยงั คนรนุ่ หลงั ไมว่ า่ ผา่ นกจิ กรรมตา่ งๆ ของสถาบนั ปรดี ี พนม ยงค์ ท่ีท่านเป็นประธาน หรือการให้โอวาทในวาระต่างๆ โดยเฉพาะก็แก่ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งท่านเคยกล่าวในวันแรกพบ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙ วา่ “ขอให้นักศึกษาธรรมศาสตร์ เอานายปรีดี พนมยงค์ เป็นตัวอย่าง อทุ ิศตนเพอื่ บา้ นเมอื งมาช่ัวชวี ติ แตไ่ มเ่ คยคดิ หาประโยชนใ์ ส่ตวั เลย”๗ ๗ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล (บรรณาธิการ), คู่มือนักศึกษาใหม่ (กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร,์ ๒๕๕๓), น. ๔๕. ภาพชวี ติ ทา่ นผูห้ ญงิ พูนศขุ พนมยงค์ ๑๕๗
รกั แทท้ คี่ ดิ วา่ มแี ตใ่ นนยิ ายนน้ั ชวี ติ ของนายปรดี แี ละทา่ นผหู้ ญงิ พนู ศขุ ไดแ้ สดงใหป้ รากฏแกต่ าโลกเหน็ แลว้ วา่ รกั แทใ้ นชวี ติ จรงิ กม็ อี ยู่ นอกจากสงิ่ ท่ีท่านท้ังสองเผชิญด้วยกันมาช่ัวชีวิตแล้ว วันท่ีท่านผู้หญิงพูนศุขถึงแก่ อนจิ กรรมก็คอื คนื ของวันคลา้ ยวนั เกดิ ของนายปรดี ีนัน่ เอง คือคืนวันท่ี ๑๑ ตอ่ วันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ภาพชวี ติ ทา่ นผหู้ ญงิ พนู ศขุ ทใ่ี นวยั สาวเปน็ ผเู้ ขม้ แขง็ คลอ่ งแคลว่ และ กลา้ หาญ ในวยั ชราเปน็ ผอู้ อ่ นโยน ใจดี และเปน็ คณุ ยายทา่ นของใครหลายๆ คน เป็นภาพชวี ติ ทีช่ วนให้ใคร่ครวญและคน้ หาว่า “ขา้ งหลงั ภาพ” เหลา่ นี้ มอี ะไรอยบู่ า้ ง ‘คณุ ลุงคณุ ปา้ ’ ของนกั เรยี นไทยในฝรัง่ เศสและในยุโรป ถา่ ยท่ีบา้ นอองโตนี ชานกรงุ ปารสี ๑๕๘ ปรีดบี รรณานสุ รณ์ ๒๕๖๐
คณะอนกุ รรมการฝา่ ยจดั ท�ำหนงั สือท่ีระลึก คณะกรรมการจัดงานวนั ปรดี ี พนมยงค์ ประจ�ำปี ๒๕๖๐ ตามค�ำสงั่ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ท่ี ๒๙๖/๒๕๖๐ ๑. นางดษุ ฎี พนมยงค์ บุญทศั นกลุ ที่ปรกึ ษา ๒. นายสุลกั ษณ์ ศิวรักษ ์ ทปี่ รึกษา ๓. นายสันตสิ ุข โสภณสิร ิ ทปี่ รึกษา ๔. นายกษดิ ิศ อนันทนาธร ประธานอนกุ รรมการ ๕. นางนงลักษณ์ บัทเล่อร ์ อนกุ รรมการ ๖. นายสายฟา้ ตันธนา อนุกรรมการ ๗. นายยทุ ธนา จังอินทร ์ อนุกรรมการ ๘. นางเฉลิมขวัญ จนั ทร์ชว่ งศร ี อนุกรรมการ ๙. นางศุภณา เย็นเปน็ สุข อนุกรรมการ ๑๐. นางประภาพันธ์ วอ่ งไว อนกุ รรมการ ๑๑. นางสาวนภวรรณ วรสทิ ธ ิ์ อนกุ รรมการ ๑๒. นายวชริ พลบุญ อนุกรรมการ ๑๓. นางสาวณฐั กาญจน์ หนั จรัส อนกุ รรมการและเลขานกุ าร ๑๕๙
ท่านผ้หู ญงิ พนู ศขุ และนายปรีดี พนมยงค์ กับนางฉลบชลยั ย์ พลางกูร ท่ปี ระเทศฝร่งั เศส ขอร�ำลึกถึง ครฉู ลบชลัยย์ พลางกูร (๑๙ พฤศจกิ ายน ๒๔๕๙ – ๖ เมษายน ๒๕๖๐) ครใู หญแ่ ห่งโรงเรยี นดรโุ ณทยาน ภรรยาผสู้ ละสามคี อื นายจ�ำกัด พลางกรู ไป “เพอ่ื ชาติ เพ่ือ humanity” สตรีผหู้ าญกล้าทา้ ทายอ�ำนาจอันฉ้อฉล คณุ ปา้ ผอู้ ุปการะ “เหยื่ออธรรม” และลูกหลานของคนเหลา่ นัน้ นบั แตก่ ารลอบสงั หารกลมุ่ รฐั มนตรอี สี านอยา่ งเหยี้ มโหดในทศวรรษ ๒๔๙๐ มาจนนกั ศกึ ษาในเหตกุ ารณ์ ๖ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ด้วยความเคารพรกั อย่างสูง บรรณาธกิ าร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164