200 ��� ด้านหนึ่งของชีวติ ไม่ยอมท�ำให้ ท�ำเอาพวกเราคอน้�ำชาผิดหวังไปตาม ๆ กัน เลยจ�ำเป็นต้อง กนิ กาแฟแทน พอถึงตอนบ่าย เมื่อส่ังน้�ำชาก็ได้แบบเดียวกัน เป็นอันหมดปัญญา เราโงอ่ ยอู่ ยา่ งนตี้ งั้ หลายวนั ตอนหลงั เพงิ่ นกึ ได ้ กส็ ง่ั นำ�้ ชามาคนละแกว้ (เขา ใส่แก้ว) รีบหยิบมะนาวท้ิง แล้วสั่งนมเปล่ามาถ้วยหนึ่ง เอามาแบ่งกันผสม เอาเอง (นำ้� ตาลเขามีไว้ใหท้ ่โี ตะ๊ แล้ว) เทา่ น้ันกส็ ิ้นเร่อื ง ! Yes - No (Niet - เนียต) เราสังเกตว่าชาวรัสเซียมีนิสัยชอบปฏิเสธไว้ก่อน เราจะได้ยินเสียง ค�ำว่า Niet มากก็ตอนกินนี่แหละ ผิดกับนิสัยของคนไทยซ่ึงมักจะตอบ Yes เสมอ (เพราะหน้าตาก็รับข้าวรับน้�ำอยู่แล้ว) กลับจากรัสเซียมานาน ค�ำอืน่ ลืมหมด แตค่ �ำวา่ Niet เหน็ จะไม่มวี นั ลมื เกี่ยวกับค�ำตอบเรื่อง Yes-No นี้ขออนุญาตเล่าเร่ืองจริงที่น่าขัน เร่ืองหนึ่งคือ เช้าวันหน่ึงท่านข้าราชการไทยท่ียศสูงมากคนหน่ึง ตื่นแต่เช้า และออกมายนื ทร่ี ะเบยี งชนั้ บนของคฤหาสนอ์ นั โออ่ า่ ของทา่ น มองออกไป ทางสนามใหญ่หน้าบ้าน เห็นคนสวนก�ำลังตัดหญ้าอยู่ ทันใดนั้นมีฝรั่ง คนหนง่ึ จะเปน็ ชาตอิ ะไรกไ็ มท่ ราบ เดนิ ผา่ นประตใู หญเ่ ขา้ มาหาคนสวนแลว้ พูดกันอยู่ตั้งนาน พอฝร่ังคนน้ันออกไปแล้ว ท่านเรียกคนสวนมาและ ถามวา่ “เขามาพดู เรอ่ื งอะไร และเราตอบไปวา่ อยา่ งไร เราเขา้ ใจภาษาของเขา หรือ ?” คนสวนตอบอย่างนอบน้อมว่า “เกล้าฯ ไม่เข้าใจเลยขอรับ ก็เลย ตอ้ งตอบ Yes ไปเรอื่ ย ๆ และเดย๋ี ว ๆ ก็ตอบ No เสียที !”
ฉลบชลัยย์ พลางกรู ��� 201 ออกไปเที่ยวชมเมอื งต่าง ๆ เห็นจะพอกันทีเรื่องเมืองมอสโคว์ ถึงเวลาท่ีเราควรจะไปดูเมือง ส�ำคัญ ๆ อ่ืน ๆ ของเขาบ้าง การเดินทางน้ันถ้าเป็นเมืองใกล้ ๆ ก็ไปรถบัส ถา้ ไมไ่ กลมากนกั จะไปโดยรถไฟ แต่ถา้ ไกลมากก็จะไปโดยเครื่องบนิ พวกเราที่อยากนั่งเครื่องบินแอโรฟล็อตได้สมใจแล้วคราวนี้ แต่พอ ขนึ้ ไปได ้ 2 - 3 คร้ังกอ็ ยากจะขอเลิกแล้ว เพราะนกั บินรสั เซียบนิ ขนึ้ และลง ปรู๊ดปร๊าด ท�ำให้ปวดหู ไม่นุ่มนวลเหมือนนักบินของ SAS เลย เมื่อเรา ไปบน่ ใหใ้ คร ๆ ฟงั จะไดร้ บั คำ� บอกเลา่ จากผทู้ ร่ี จู้ รงิ วา่ นกั บนิ ไทยนนั่ แหละ เก่ง - ดีที่สุด เมื่อมีการสอบ (อะไรจ�ำไม่ได้) ที่ 1 ถึง 6 หรืออะไรท�ำนองนี้ จะได้แก่นกั บนิ ไทยเสมอ เราโงเ่ สยี นาน ไมร่ ู้จกั ของดขี องตัวเอง เราไปเท่ียวดหู ลายเมือง จ�ำชื่อไม่ได ้ และไปเมืองไหนกอ่ นเมอื งไหน หลงั กจ็ ำ� ไมไ่ ดอ้ กี จำ� ไดแ้ ตเ่ มอื งเคยี ฟ (Kiev) และรกิ า้ (Riga) ทอ่ี อกจะใหญโ่ ต และสำ� คญั แตจ่ ะไมข่ อเลา่ เพราะไมใ่ ชเ่ มอื งแบบทพ่ี วกเราชอบ ยงั มอี กี เมอื ง หนึง่ ซึ่งนา่ ประทบั ใจทส่ี ดุ และนา่ กล่าวถงึ อย่างยงิ่ นครเลนนิ กราด เลนนิ กราด (Leningrad) เดมิ ชอ่ื วา่ เซนตป์ เี ตอรส์ เบริ ก์ (St. Petersburg) หรือเป็นภาษารัสเซียว่า Petrograd สร้างข้ึนโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช อาคารทใี่ หญท่ สี่ ดุ อาคารแรกของเมอื งนค้ี อื ปอ้ ม Peter and Paul ซง่ึ สรา้ งขน้ึ กลางเกาะกลางแม่น้�ำเนวา (Neva) ต่อมาได้เปล่ียนจากป้อมมาเป็นสุสาน ที่ฝังพระศพกษัตริย์ทุกองค์ในราชวงศ์โรมานอฟ ปัจจุบันน้ีได้ดัดแปลงให้ เป็นพพิ ธิ ภัณฑ์ หลังจากการปฏิวัติครั้งใหญ่ เปลี่ยนระบบการปกครองน้ัน เซนต ์
202 ��� ดา้ นหนึง่ ของชวี ิต ปีเตอร์สเบิร์กได้เปล่ียนช่ือเป็นเลนินกราด เมื่อตอนที่คณะเราไปชมนั้น กย็ งั ใชช้ อื่ นนั้ อย ู่ ทง้ั ทตี่ วั เลนนิ ไดต้ ายไปหลายปแี ลว้ แตภ่ ายหลงั กเ็ ปลย่ี นกลบั เป็นเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กอีก เมืองนี้ตั้งอยู่บนสองฝั่งของปากแม่น�้ำเนวาซ่ึง ไหลลงสู่อ่าวฟนิ แลนด์ เดิมทีมอสโคว์เคยเป็นเมืองหลวงของรัสเซีย แต่ต้ังแต่ ค.ศ. 1712 เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กจึงได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงแทน จนกระท่ัง ปี ค.ศ. 1918 เป็นเมืองท่ีใหญ่โตมาก เป็นศูนย์กลางของรถไฟ และเป็น เมอื งท่าท่ใี หญม่ ากดว้ ย ทางดา้ นสถาปตั ยกรรม เลนนิ กราดนบั เปน็ เมอื งทส่ี วยทสี่ ดุ เมอื งหนงึ่ ในโลก นอกจากตัวอาคารแล้ว ถนนหนทาง จัตุรัส สวนสาธารณะ ฯลฯ โดยทวั่ ไป กล็ ว้ นแตส่ รา้ งไวอ้ ยา่ งสวยงามและยงิ่ ใหญน่ า่ ประทบั ใจทสี่ ดุ ยง่ิ เม่ือหลังจาก ค.ศ. 1712 ที่ได้เป็นเมืองหลวงน้ัน ก็มีการก่อสร้างพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และอาคารสถานที่ส�ำคัญ ๆ เพ่ิมขึ้นมากมาย ท่ีเป็นท่ีรู้จักกันด ี กค็ ือพระราชวังฤดูหนาว (Hermitage) และพระราชวงั ฤดรู อ้ น (Peterhof) เฮอมเิ ทจ (Hermitage) พระราชวงั ฤดหู นาว นคี่ อื สงิ่ ทอ่ี ยากจะกลา่ วถงึ ทส่ี ดุ ในทนี่ ้ี เพราะเปน็ สว่ นสำ� คญั ทสี่ ดุ ของ เซนต์ปีเตอร์สเบิกร์ก สร้างข้ึนในปี ค.ศ. 1754 โดยพระนางอลิซาเบธ เปตรอฟนา แตไ่ ดส้ ้ินพระชนมเ์ สียก่อนเสร็จ เมื่อพระนางแคเธอรีนท่ี 2 ขนึ้ ครองราชยต์ อ่ ไดส้ รา้ งเฮอมเิ ทจหลงั เลก็ เพม่ิ ขนึ้ และตอ่ มากม็ กี ารสรา้ งเสรมิ กนั อกี หลายครงั้ จนบดั นร้ี วมกนั เปน็ หมอู่ าคารหา้ หลงั แตท่ างตดิ ตอ่ เชอื่ มกนั โดยสถาปนิกต่าง ๆ นั้น มองดูกลมกลืนเข้ากันได้อย่างดีเย่ียม ดูไม่ออกเลย ว่าตอนไหนเปน็ ของสถาปนิกคนไหน พระนางแคเธอรนี ท ่ี 2 ตงั้ ชอ่ื พระราชวงั นวี้ า่ Hermitage แปลวา่ ทปี่ ลด
ฉลบชลัยย์ พลางกรู ��� 203 ปล่อยอารมณ์โดดเดี่ยว - และดูเหมือนว่าสมัยน้ันรัสเซียจะร่�ำรวยมากแน่ ๆ พระนางจึงได้ทุ่มเทเงินกว้านซื้อ และสะสมภาพวาดของศิลปินเอกของโลก เช่น Leonardo da Vinci, Rembrandt และอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ใช่เฉพาะ ภาพวาดเทา่ นนั้ ศลิ ปวตั ถทุ มี่ ชี อ่ื จากประเทศตา่ ง ๆ ทว่ั โลกกไ็ ดม้ ารวมอยทู่ นี่ ้ี ด้วย การทดี่ ฉิ นั ไมไ่ ดเ้ ลา่ เรอ่ื งพระราชวงั อน่ื ๆ ทง้ั ในมอสโควแ์ ละเมอื งตา่ ง ๆ น้นั ก็เพราะวา่ ถ้าได้ด ู Hermitage แลว้ พระราชวังอนื่ ๆ ก็หมดความหมาย เชน่ เดยี วกบั เมอื่ เราไปยโุ รปไดไ้ ปชมโบสถโ์ บราณสวยงามในประเทศตา่ ง ๆ มากมาย แต่พอได้ไปชมโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ที่วาติกัน โบสถ์อ่ืน ๆ ก็ลืมไป ได้เลย ในพระราชวังเฮอมิเทจน้ี นอกจากภาพวาดที่มีชื่อเสียงลำ�้ ค่าจ�ำนวน มากมายนบั ไมถ่ ว้ นแลว้ ศลิ ปวตั ถอุ น่ื ๆ ไมว่ า่ จะเปน็ เครอ่ื งใช ้ เครอ่ื งประดบั บ้าน เคร่ืองประดับกาย เคร่ืองเงิน เคร่ืองทอง และเครื่องอัญมณี จิตรกรรม บนฝาผนังและเพดาน รวมท้ังห้องศาสตราวุธอันเต็มไปด้วยศาสตราวุธ ทั่วโลก จากโบราณถึงปัจจุบันและอื่น ๆ อีกนั้น ดิฉันไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ให้สมกับความยิ่งใหญ่ ขอให้ท่านผู้อ่านใช้จินตนาการเอาเองก็แล้วกัน ส�ำหรับตัวดิฉันนั้น คิดว่าหลายห้องสวยกว่าที่ในพระราชวังแวร์ซายส์ของ ฝรั่งเศสด้วยซ้�ำไป เมื่อได้ชมส่ิงท่ีจ�ำเริญตาแล้วเช่นนี้ กลับมาน่ังนึกถึงอยู่ อีกนานกวา่ จะลืมลง ปจั จบุ นั น ้ี เฮอมเิ ทจไดร้ บั การยกยอ่ งวา่ เปน็ พพิ ธิ ภณั ฑท์ ส่ี วยทสี่ ดุ และ มีชือ่ เสยี งทส่ี ุดแหง่ หนงึ่ ของโลก โรงแรมเลนนิ กราด พวกเราไปพักอยู่ท่ีโรงแรมเลนินกราดซ่ึงเป็นโรงแรมใหญ่โต ต้ังอยู่
204 ��� ดา้ นหน่ึงของชีวติ ติดกับถนนใหญ่ซ่ึงแล่นขนานกับแม่น้�ำเนวา ดิฉันขอกล่าวถึงโรงแรมนี้สัก เลก็ นอ้ ย เพราะเขามอี ะไรบางอยา่ งทแ่ี ปลกกวา่ ทอี่ น่ื คอื ตวั อาคารโรงแรมเปน็ รูปยาว หันหน้าออกติดถนนไปตลอด และท่ีฝาด้านหน้าห้องโถงที่ท้ังยาว ทง้ั ใหญน่ กี้ น้ั ดว้ ยกระจกใส ซงึ่ ทำ� ใหม้ องออกไปเหน็ ขา้ งนอกโดยตลอด และ ข้างนอกก็มองเข้ามาเห็นข้างในด้วย มิหน�ำซ�้ำยังเอากระจกเงากั้นด้านหลัง ของห้องโถงน้ี ซ่ึงช่วยขยายให้ห้องดูกว้างขึ้นอีกเท่าตัว และไหนยังจะขยาย ไปถงึ ถนนขา้ งนอกอกี ดว้ ย เวลาพวกเราเดนิ กนั ไปเปน็ กลมุ่ จากดา้ นหนงึ่ ไป ยังอีกด้านหนึ่งน้ัน มองดูตัวเองเห็นเหมือนเดินอยู่ในถนนท่ีกว้างท่ีสุดที่เคย เห็นมา ผิดกันก็แต่ไม่ต้องคอยระวังรถชนเท่าน้ัน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ยัง เดินคล่องอยูจ่ ึงชอบเดินไปเดินมา สนุกดี เรอื รบหลวง ออโรรา่ เรอื ออโรรา่ (Aurora) สรา้ งขนึ้ ใน ค.ศ. 1904 ประมาณสมยั รชั กาลท ่ี 5 ของเรา ไดเ้ คยเขา้ มารว่ มในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกรชั กาลท ่ี 6 ดว้ ย ใน การปฏิวัติใหญ่ได้ใช้เสียงปืนใหญ่ในเรือนี้ เป็นสัญญาณให้คณะผู้ก่อการ บอลเชวกิ บกุ เขา้ ยดึ พระราชวงั ฤดหู นาว ในสงครามโลกครงั้ ท ่ี 2 ไดถ้ กู ปลอ่ ย จมลง เพอื่ ปอ้ งกนั ระเบดิ จากเยอรมนั หลงั สงครามไดก้ ขู้ น้ึ มาทำ� เปน็ พพิ ธิ ภณั ฑ์ จอดไว้ที่ท่าเรือใหญ่ แสดงประวัติศาสตร์นาวี และอาวุธยุทธภัณฑ์ของ ทหารเรือ ตอนนน้ั ได้เห็นมนี ิทรรศการพิเศษเกยี่ วกบั ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง ไทย-รัสเซยี ดว้ ย เราได้รับเชิญให้เข้าชมเรือ ออโรร่า โดยตลอด กัปตันหนุ่มหน้าตา หล่อเหลา อัธยาศัยใจดี ยิ้มแย้ม ได้อธิบายให้เราฟังว่าในฤดูหนาว น้�ำใน แมน่ ำ�้ สว่ นมากจะแขง็ ฉะนนั้ ถงึ ตอนทหี่ มิ ะละลาย นำ�้ แขง็ กอ้ นใหญ ่ ๆ มหมึ า จะไหลแรงและเร็วลงสู่ทะเล จะท�ำให้สะพานหักสะบั้น เขาจึงต้องเปลี่ยน
ฉลบชลัยย์ พลางกรู ��� 205 สร้างสะพานเป็นแบบยกไดต้ ลอดทางทีก่ อ้ นน�้ำแข็งจะไหลผา่ น ขอเล่าเร่ืองน่าขันแทรกตรงน้ีสักหน่อย คือได้ชมเชยกันแล้วว่าถนน ทุกสายของเขาสะอาดสะอ้าน ทีนี้เราได้มาเห็นแม่นำ้� ของเขาอีก โดยนั่งรถ ชมเมอื งไปตามถนนที่ขนานกับแมน่ ้�ำตลอด เอาอกี แล้ว มองหาขยะไม่เหน็ สักช้ินเดียว ท่านหญิงแก้ว (ม.จ. อัปภัศราภา) ซ่ึงมีพระนิสัยชอบสนุกและ ตดิ ตลกอยแู่ ลว้ ทรงรบั สงั่ วา่ “หมนั่ ไสน้ กั ท�ำสะอาดดไี ปเถอะ ถา้ ฉนั ไดม้ า รัสเซียอีก ฉันจะแอบเอาผักตบชวามาสัก 2 - 3 กอ แล้วคอยดูซิว่านายจะ สะอาดน่าหมั่นไส้อย่างนี้ไปอีกไหม ?” ทุกคนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน แต่ใน ทันทีก็นึกข้ึนได้ว่า หน้าหนาวน�้ำจะแข็งเป็นส่วนมาก ผักตบคงจะไม่ สามารถรอดชวี ติ อยไู่ ด ้ ทา่ นแกว้ จงึ ทรงรบั สง่ั ตอ่ “เออ จรงิ ซนิ ะ ลมื นกึ ไป” กลบั มอสโคว์ หลังจากเลนินกราดแล้ว เราไปเมืองอื่นอีกหรือเปล่า จ�ำไม่ได้ จ�ำได้ แตว่ า่ เราเดนิ ทางกลบั มอสโควโ์ ดยรถไฟ ดฉิ นั เปน็ คนนอนตน่ื สายจนเคยชนิ แลว้ และตอนน้ตี อ้ งเผน่ ขน้ึ ไปนอนเตียงชั้นบน เลยหลบั สนิทไมร่ ้วู า่ ช้ันลา่ ง เขาทำ� อะไรกนั แตเ่ สยี งทา่ นแกว้ ดงั ขนึ้ มาวา่ “เอา้ นอนอยไู่ ด ้ รถไฟก�ำลงั จะ เขา้ มอสโควใ์ นอกี ไมก่ นี่ าท ี ใคร ๆ เขากเ็ ตรยี มตวั กนั พรอ้ มแลว้ ” เทา่ นนั้ แหละ ดิฉันไต่บันไดลงไป จริงอย่างท่านว่า พวกเขาเดินไปเดินมาเต็มไปหมด แต่ ดฉิ นั เปน็ คนไวมาแตไ่ หนแตไ่ รแลว้ ลา้ งหนา้ แปรงฟนั ประเดย๋ี วเดยี วกเ็ สรจ็ ทนั ขา้ วของก็ไม่มีอะไรจะตอ้ งจัด เพราะไมค่ อ่ ยไดห้ ยบิ อะไรออกมาใช้ การท่ีเรากลับมามอสโคว์ก่อนจะเดินทางออกจากรัสเซียนั้น เขามี โปรแกรมจะให้เราได้ชมพิพิธภัณฑ์เคร่ืองทองซ่ึงใหญ่โตมาก พวกที่ชอบ เครอื่ งประดบั ตา่ ง ๆ อยากดกู นั เหลอื เกนิ แตท่ ไ่ี หนได ้ ผดิ หวงั เขาจดั วนั ผดิ เพราะวันน้ันเป็นวันหยุดประจ�ำสัปดาห์ของพิพิธภัณฑ์เครื่องทอง และเรา
206 ��� ดา้ นหนงึ่ ของชีวิต ไม่มีเวลาอีกแล้ว เพราะทุกอย่างจัดไว้พร้อมส�ำหรับการเดินทางออกจาก มอสโควใ์ นวนั รงุ่ ขน้ึ ดฉิ นั ไมร่ สู้ กึ อะไรเลย คดิ วา่ เราเทย่ี วกนั มาเหนด็ เหนอ่ื ย พอสมควรแลว้ หยดุ พกั นอนเลน่ สกั วนั หนงึ่ กอ่ นเดนิ ทางตอ่ ไปกด็ แี ลว้ แต่ พวกที่ยังมกี ำ� ลงั วังชาดีไม่ยอมหยุด แยกยา้ ยกนั ไปตามใจชอบ ออกจากมอสโคว์ เราบินตรงจากมอสโคว์ไปเฮลซิงกิ (Helsinki) ประเทศฟินแลนด ์ ตอนนน้ั เปน็ ฤดใู บไมร้ ว่ งของเขา ใบไมส้ เี หลอื ง สที อง สแี ดง ยงั อยบู่ นตน้ อีกมาก แลดูเป็นสีเหลืองทองไปท้ังเมือง มิหน�ำซ้�ำไม่ว่าจะแล่นรถไปตาม ถนนไหน มกั จะมคี ู หรอื คลองเลก็ ๆ บอ่ บงึ ทมี่ นี ำ้� ใสสะอาดสะทอ้ นเงาของ ใบไม้บนต้น เขาว่าฟินแลนด์มีพื้นที่ส่วนที่เป็นดินและน�้ำเท่า ๆ กัน ดูค ู เลก็ ๆ เหลา่ น ้ี พนื้ ลา่ งเปน็ กรวดสตี า่ ง ๆ มองเหน็ ผา่ นน้�ำใสลงไปแลว้ สดชน่ื นา่ ดจู รงิ ๆ ทเ่ี ฮลซงิ กนิ ้ี เราไมไ่ ดช้ มสถานทสี่ ำ� คญั อะไร เพราะเวลาไมพ่ อ ไดแ้ ต่ น่ังรถชมรอบเมือง และแวะจ่ายของท่ีร้านสรรพสินค้าใหญ ่ ๆ บ้างเท่าน้ัน มคั คเุ ทศกข์ องเราชอ่ื Mme. Donner หมอ่ มเสมอชอบมคั คเุ ทศกค์ นนม้ี าก และ ชอบฟนิ แลนดม์ ากดว้ ย เลยขอแยกจากคณะเราอยตู่ อ่ และจะไปสมทบกบั เรา ท่โี คเปนเฮเกน (Copenhagen) เองก่อนเรากลบั เมืองไทย หลังจากนั้นไม่นานนัก หม่อมเสมอได้เชิญ Mme. Donner มาเที่ยว เมอื งไทย และยงั ไดช้ วนดฉิ นั ไปรว่ มรบั ประทานอาหารดว้ ยครง้ั หนงึ่ Mme. Donner ไดบ้ อกดฉิ นั วา่ ถา้ ดฉิ นั ชอบฟนิ แลนดก์ จ็ ะขอแลกบา้ นกนั คนละเดอื น เพราะเธอก็อยากอยู่เท่ียวให้ท่ัวเมืองไทยเหมือนกัน ดิฉันสนใจ แต่ยังหา โอกาสเหมาะ ๆ ไม่ได้ พอดีต้องย้ายบ้านคร้ังใหญ่ แฟ้ม addresses ของ พวกตา่ งประเทศหายไปเลยขาดการตดิ ต่อกัน
ฉลบชลัยย์ พลางกรู ��� 207 ออกจากฟนิ แลนด์ เราตรงไปสวเี ดน จะพกั อยเู่ พยี งคนื เดยี ว ทางสถานทตู ไทยในสวเี ดน ขอต้อนรับเลี้ยงอาหารเย็น ท่ีสวีเดนน้ี มีคนไทยแบบผู้ลี้ภัยการเมืองอยู ่ หลายคน และพวกเราบางคนกค็ ดิ วา่ ไปเทย่ี วกนั เองจะสนกุ กวา่ ไปสถานทตู เลยมีผู้รับเชิญไปสถานทูตเพียงประมาณครึ่งจ�ำนวน พวกผู้หญิงไม่ชอบ ไปไหนเองให้ยงุ่ ยาก จึงไปสถานทูตกนั ครบทุกคน เมอ่ื กนิ ขา้ วเสรจ็ แลว้ จำ� ไมไ่ ดว้ า่ ผชู้ ายคนหนงึ่ จะเปน็ พวกเราเอง หรอื พวกสถานทตู กไ็ ม่ทราบ ไดเ้ อย่ ขนึ้ วา่ อยากจะไปชมไนตค์ ลับในเมอื งนบ้ี า้ ง ไหม มีแห่งหน่ึงซึ่งมีช่ือเสียงท่ีสุด พวกเราเห็นว่ายังหัวค�่ำอยู่ ยังไม่มีใคร งว่ งนอน กเ็ ลยตอบรบั กนั อยา่ งงา่ ย ๆ แตม่ ใี ครอกี คนหนง่ึ พดู วา่ คลบั แหง่ นไี้ ด้ ชื่อว่าโป๊พิสดาร จะไปดีหรือครับ พวกเราทะนงตนว่าเป็นนักท่องเท่ียวช้ัน ยอด คดิ วา่ ทปี่ ารสี เรายงั เคยชมโฟลแี บแจร ์ มแู ลงรจู ฯลฯ มาแลว้ มนั จะมี อะไรโป๊กว่าน้ันหนักหนาเจียวหรือ ข้อส�ำคัญ ฉากสวย เคร่ืองแต่งตัวสวย การแสดงแบบต่าง ๆ แปลก ๆ สวย ๆ ประกอบกับดนตรีที่ไพเราะ ถึงจะมี ผู้หญิงเปลือยอก แต่ถ้าผู้หญิงสวยมันก็น่าดู ถ้าเราจะไปดูที่ว่าโป๊มากที่สุด คือเปลือยตลอด ก็ไมน่ า่ จะเป็นอะไร พวกผชู้ ายนะ่ แน่นอน ไปกนั ทกุ คน เม่ือเรายืนยันเช่นน้ัน ทางสถานทูตก็ให้ไปเรียกแท็กซ่ีมา มีคนถาม คุณหญิงท่านหน่ึงซ่ึงอายุ 80 ปีแล้ว ว่าท่านจะไปด้วยหรือ ท่านว่า “อ้าว ! ก็ต้องไปด้วยกันซี เดี๋ยวตายไปยมบาลถาม จะตอบว่ายังไงล่ะ ?” ทุกคน หัวเราะ แต่คนขับแท็กซี่เอง พอเห็นเป็นผู้หญิงทั้งกลุ่ม ก็ชักลังเล ย้อนถาม เจา้ หนา้ ทส่ี ถานทตู วา่ จะไปทน่ี จ่ี รงิ หรอื แลว้ กท็ ำ� ทา่ พกิ ล ซงึ่ ตอนนน้ั เราไมส่ นใจ เพิ่งมานึกได้ตอนกลับมาโรงแรมแล้วถึงค�ำพูดและท่าทางของพวกผู้ชาย ชาวเมืองนั้น เมื่อได้ทราบว่าเรากำ� ลังจะไปคลับน้ี แต่พวกผู้ชายของเราเอง คงไม่มใี ครรู้
208 ��� ด้านหนง่ึ ของชวี ติ ไนต์คลับ ทไ่ี ม่นกึ ฝนั วา่ จะไดพ้ บเหน็ สถานท่ีน้ีไม่ใหญ่โตอะไร เพียงแต่เป็นห้องโถงโล่ง ๆ ด้านสุดมีเวท ี ทไี่ มก่ วา้ งมากนกั หอ้ งโถงนแ้ี บง่ เปน็ สองสว่ น มฝี าโปรง่ ๆ กน้ั ครง่ึ หอ้ ง ทาง ด้านท่ีเขาให้พวกเรา (ผู้หญิง) น่ังน้ันจัดเป็นโต๊ะเล็ก ๆ น่ังได้เพียง 2 - 3 คน โต๊ะเหล่าน้ีจัดเรียงเป็นระยะห่าง ๆ กันไปตามริมฝาท้ังสามด้าน ตรงกลาง ปล่อยให้เป็นท่ีว่าง กว้างประมาณ 3 เมตร ดิฉันรู้สึกว่าทางด้านผู้หญิงนั้น มีแต่พวกเราเท่านั้น ไม่เห็นมีผู้หญิงชาติอื่นเลย ส่วนทางด้านผู้ชายจัดเป็น ม้าน่ังยาว ๆ ห่าง ๆ กัน ด้านหน้ามีสองแถว และเรียงต่อ ๆ ไปด้านหลังอีก ประมาณ 4 - 5 แถว ด้านน้ีมีพวกฝรั่งมาปะปนบ้าง แต่ท่ีนั่งก็ไม่เต็ม ยังว่าง อีกหลายท่ี คิดว่าถึงแม้มีแขกเต็มห้องก็จะจุได้ไม่กี่สิบคน (ไม่ถึง 100 แน่) เหตฉุ ะนเี้ องทเ่ี ราไดร้ บั ทราบมากอ่ นแลว้ วา่ บตั รคา่ ชมการแสดงทน่ี แ่ี พงกวา่ ทีอ่ น่ื ๆ มาก กอ่ นทจ่ี ะเรมิ่ การแสดงอกี หลายนาท ี ดฉิ นั เหน็ ขวดแชมเปญตง้ั อยบู่ น โต๊ะเล็กของเราโต๊ะละขวด คิดว่าไหน ๆ เขาก็คิดเงินเราอยู่แล้ว จึงอยากจะ ชมิ ด ู (จำ� ไมไ่ ดว้ า่ ใครเปดิ ให)้ โอโ้ ฮ ! อรอ่ ยมากจรงิ ๆ คดิ วา่ อรอ่ ยกวา่ ทเี่ คย กินมาแล้วท้ังหมด แต่ไม่กล้าดื่มมาก เกรงจะเมาแล้วจะเกิดอาเจียนข้ึนมา จะเป็นเร่ืองยงุ่ ผู้หญิงพวกเราโตะ๊ อืน่ ๆ รบั รองได้ว่าไม่ไดแ้ ตะแชมเปญเลย ฉากแรก (มี 3 - 4 ฉาก) ตวั ฉากก็ไม่เห็นสวยอะไรนัก (หลังจากท่ีเรา ไดด้ จู ากปารสี มาแลว้ ) การแสดงกค็ อื ผหู้ ญงิ รปู รา่ งด ี ผวิ คอ่ นขา้ งคลำ้� เปลอื ย อก ออกมาเตน้ และรอ้ งเพลงเขา้ จงั หวะดนตร ี กพ็ อดไู ด ้ แตไ่ มป่ ระทบั ใจนกั ฉากทสี่ อง เปน็ เรอ่ื งตลก มมี งุ้ กางอยบู่ นพนื้ เวท ี นยั วา่ ชายหญงิ คหู่ นงึ่ เพ่ิงแต่งงานกันเป็นคืนแรก เจ้าบ่าวคงจะเป็นไก่อ่อน ไม่รู้เร่ืองอะไร จึงได้ เตรยี มตะเกยี งดวงหนง่ึ กบั หนงั สอื ตำ� ราเลม่ หนง่ึ วางไวน้ อกมงุ้ ใกล ้ ๆ ประเดยี๋ ว เดียวตัวเจ้าบ่าวผลุดออกมาจากมุ้ง ลุกล้ีลุกลนเปิดต�ำราอ่าน 2 - 3 นาที
ฉลบชลยั ย์ พลางกูร ��� 209 ก็กลับเข้าไป แล้วอีกไม่นานก็ผลุดออกมาท�ำแบบเดียวกันอีก จ�ำไม่ได้ว่า จบอยา่ งไร แตก่ ็เรยี กว่าพอดไู ด ้ นา่ ขันดี ส่วนฉากต่อ ๆ ไปจนจบน้ันสุดที่จะบรรยาย ท่านเชื่อไหม ? มีแต่ ชายเปลอื ยทง้ั สนิ้ สองคนบา้ ง หมเู่ ลก็ บา้ ง หมใู่ หญบ่ า้ ง เตน้ เปน็ วงกลมบา้ ง ดฉิ นั ไมท่ ราบวา่ ผหู้ ญงิ อนื่ ๆ คดิ อยา่ งไร แตเ่ ขา้ ใจวา่ คงจะคดิ เชน่ เดยี วกบั ดฉิ นั คือ ตกใจ น่ังตัวแข็งท่ือ ไม่หันหน้าหันหลัง ไม่พูดกัน เสียงคนดูเงียบกริบ รวมท้ังดา้ นฝ่ายชายด้วย ตอนพักคร้ังแรก เจ้าตัวพระเอกของคณะเดินลงมาโชว์ตัว ก้าวช้า ๆ ไปใกล้ ๆ ข้างโต๊ะท่ีพวกเราน่ัง เดินไปจนรอบ ดิฉันแทบหยุดหายใจ ไมก่ ลา้ กระดกุ กระดกิ เลย กลวั เขาจะเขา้ มาทกั ทาย นงั่ ภาวนาขอใหก้ ารแสดง จบเสียเร็ว ๆ พอการแสดงจบก็รสู้ กึ เหมอื นรอดตาย ! เราเดินออกจากไนต์คลับนั้นกันอย่างเงียบ ๆ ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์ อะไรทงั้ สน้ิ ดฉิ นั มคี วามรสู้ กึ แปลก ๆ อยา่ งบอกไมถ่ กู คอื คลา้ ย ๆ ถกู ทำ� โทษ แล้วปล่อยออกมา ! ไมม่ ีใครถามเลยว่าคา่ ดเู ท่าไร ค่าแท็กซ่ีเท่าไร และใคร เป็นคนออกเงินไป ไม่ใช่จะเสียดายเงินแต่ไม่อยากพูดถึงมากกว่า หัวหน้า ทัวร์ก็คงเข้าใจจึงไม่ทวงถามเลย ดิฉันไม่เคยเล่าเรื่องน้ีให้ใครฟังมาก่อน เพราะกลวั จะถกู เขาสมนำ้� หนา้ แตเ่ หน็ วา่ อกี ไมน่ านกจ็ ะตายแลว้ จงึ เขยี นเลา่ เอาไวส้ อนคนหลงั ๆ “นทิ านเรอ่ื งนสี้ อนใหร้ วู้ า่ อยา่ ทะนงตนวา่ เกง่ ทกุ อยา่ ง อาจจะไปโดนดี เขา้ แบบน”ี้ อย่างไรก็ตาม เราเข้าสู่ชีวิตธรรมดาในเช้าวันรุ่งข้ึน โดยบินไป โคเปนเฮเกน ท่ีนั่นไม่ได้ดูอะไรมาก นอกจากสถานพิพิธภัณฑ์ของ บรรพบุรุษเจ้าของเบียร์คาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg) ซ่ึงยกให้รัฐ อยากขอเล่า ให้ฟังว่าต้นตระกูลเจ้าของเบียร์คาร์ลสเบิร์กเม่ือสามชั่วคนมาแล้ว ก่อนตาย ได้ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้รัฐ แทนท่ีจะให้ลูกหลานของตน แต่พวก
210 ��� ด้านหนึง่ ของชวี ติ ลูกหลานก็ได้ขยายกิจการจนย่ิงใหญ่ข้ึนกว่าเดิมและร�่ำรวยขึ้นมาก แต่แล้ว ก็ด�ำเนินการตามแบบพ่อ คือยกสมบัติให้รัฐอีก และลูกหลานรุ่นต่อมาก็ทำ� แบบเดยี วกนั เปน็ รนุ่ ทสี่ าม ฉะนนั้ เมอ่ื แลน่ รถไปทวั่ เมอื งโคเปนเฮเกนจะเหน็ สถานทใ่ี หญโ่ ตชอ่ื Carlsberg มากมาย ซง่ึ เปน็ สถานทร่ี าชการและพพิ ธิ ภณั ฑ ์ ซึ่งรฐั ได้รับมอบจากตระกลู นี้ ดิฉันอยากให้นักการเมืองไทยหลาย ๆ คนท่ีคิดแต่จะโกงกิน เพ่ือ สะสมเงนิ ทองไวใ้ หล้ กู หลาน ทง้ั ๆ ทกี่ ร็ ำ่� รวยมหาศาลอยแู่ ลว้ นนั้ ไดเ้ ดนิ ทาง ไปดเู มอื งโคเปนเฮเกนบอ่ ย ๆ เพอ่ื จะไดเ้ ตอื นสต ิ ไดย้ งั้ คดิ บา้ ง ไมต่ อ้ งถงึ กบั ยกทรัพย์สินให้รัฐหรอก แค่เพียงหยุดโกงรัฐโกงประชาชนก็จะเป็นที่พอใจ ของคนท่ัวไปแลว้
ฉลบชลยั ย์ พลางกูร ��� 211 ได้รบั เชญิ ไปประเทศจนี ไมน่ านนกั หลงั จากทท่ี า่ นปรดี แี ละทา่ นผหู้ ญงิ พนู ศขุ ออกจากประเทศ จนี มาอยทู่ ช่ี านกรงุ ปารสี (อองโตน)ี ดฉิ นั กไ็ ดไ้ ปกราบเยย่ี มทา่ นทกุ ปตี ามท่ี เคยมา วันหนึ่งได้พบท่านเอกอัครราชทูตจีนประจ�ำกรุงปารีสมาเยี่ยมท่าน ดฉิ นั ไดข้ อรอ้ งใหท้ า่ นปรดี ชี ว่ ยเรยี นทา่ นเอกอคั รราชทตู วา่ ดฉิ นั อยากไปเมอื งจนี แต่ขอไปเมื่อไทยและจีนมีสัมพันธไมตรีต่อกัน เพราะว่าสามีไปตายท่ีนั่น ท่านปรีดีคงจะได้อธิบายเล็กน้อยเร่ืองสามีและดิฉัน ท่านเอกอัครราชทูตก็ บอกว่าให้คุณวาณี ลูกสาวคนสุดท้องของท่านปรีดี ซ่ึงเช่ียวชาญภาษาจีน เขียนจดหมายบอกเรื่องนี้แก่ท่าน แล้วท่านจะน�ำเร่ืองเสนอเอง (ขณะนั้น ไทยและจนี ตดั สัมพันธไมตรมี าหลายปแี ลว้ ) หลังจากนั้นไม่นานนัก ไทยกับจีนมีสัมพันธไมตรีกัน (สมัย ม.ร.ว. คึกฤทธ์ิ ปราโมช) นายกรัฐมนตรีเพ่ิงกลับจากไปเยือนประเทศจีนไม่นาน คุณวาณีก็ได้รับจดหมายจากคณะจีน -ไทย ถามมาว่ายังอยากไปประเทศจีน อยหู่ รอื เปลา่ ถา้ ยงั อยากไปอย ู่ เขาจะสง่ บตั รเชญิ มาสองใบ สำ� หรบั คณุ วาณี และดิฉัน บังเอิญตอนนั้นคุณพูนศุขมาเยี่ยมญาติที่เมืองไทย คุณวาณีได้ โทรศัพท์มาปรึกษาคุณพูนศุขว่าอยากจะให้ดิฉันได้เยี่ยมอีกหลายแห่ง ในประเทศจีน ซ่ึงคิดว่าทางการคงไม่จัดโปรแกรมให้ เช่นการไปเย่ียมบ้าน ท่านท้ังสองที่อยู่ในปักก่ิง กวางโจว และท่ีอื่น ๆ อีก ซ่ึงคุณพูนศุขเองก็ยัง ไมเ่ คยไปหลายแหง่ และตง้ั ใจอยากจะไปเยยี่ มเพอื่ นคนไทยทป่ี ระเทศจนี ดว้ ย คณุ วาณีจึงเขยี นตอบไปว่าอยากใหเ้ ขาเชญิ คุณพูนศขุ ไปด้วย โดยคณุ พูนศุข กบั ดฉิ นั ก็จะกลบั ไปท่ปี ารสี ทา่ นเอกอคั รราชทตู จนี แสดงความกรณุ าแกด่ ฉิ นั มาก โดยไดเ้ ชญิ ทา่ น ปรดี ี คณุ พนู ศขุ คณุ วาณ ี และดฉิ นั ไปรบั ประทานอาหารทบี่ า้ นของทา่ นเพอื่
212 ��� ด้านหนึ่งของชีวติ จะได้จัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ไปรับความหนาวของประเทศจีน (จ�ำได้ว่า นายกรัฐมนตรีไปเป็นไข้ที่น่ัน) อันที่จริง คุณพูนศุขและคุณวาณีก็รู้จัก ประเทศจีนดีแล้ว มีแต่ดิฉันซ่ึงยังไม่เคยไป แต่ว่าตัวดิฉันเองได้เตรียมตัว ของใช้และเสอื้ ผ้าไปยโุ รปทกุ ปอี ยู่แลว้ ก็เลยไม่ตอ้ งตระเตรยี มอะไรมากนัก ในการเล้ียงคร้ังน้ัน ท่านเอกอัครราชทูตได้จัดให้เป็นพิเศษ กระท่ัง ของหวาน ท่านก็ให้ท�ำเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ขนาดเล็ก ๆ เช่น ม้า ม้าลาย เสือ ฯลฯ ซงึ่ ดฉิ นั เองกนิ ไมล่ ง กราบขอรอ้ งทา่ นวา่ อยากนำ� กลบั บา้ นไปอวดเพอื่ น ๆ ท่านได้ยินเขา้ ก็พอใจ ใหไ้ ปเอาตวั สัตว์ต่าง ๆ มาอีกมากมาย พอถึงวันก�ำหนดไปโดยเคร่ืองบินไชน่าแอร์ไลน์ ซึ่งมีคนผิวขาว ไม่มากมายนัก แต่มีคนจีน (จากประเทศจีน) ท้ังลำ� เป็นเคร่ืองบินแอร์บัส ซงึ่ ซอ้ื จากประเทศองั กฤษ มที น่ี งั่ จัดใหน้ งั่ อยา่ งสบาย ดฉิ นั คดิ วา่ เขาคงท�ำไว้ ส�ำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเท่านั้น ส่วนเส้นทางภายในประเทศคงจะ ไมไ่ ดใ้ ชแ้ บบน ้ี แตต่ รงกนั ขา้ ม เมอ่ื ไปถงึ ทนี่ นั่ จงึ รวู้ า่ อยา่ งนอ้ ยส�ำหรบั พวกเรา ตอ้ งใช้เครอ่ื งบนิ แบบเดยี วกัน ปักกิ่ง เมอ่ื ไปถงึ สนามบนิ ปกั กง่ิ มเี จา้ หนา้ ทท่ี างการมารบั 3 - 4 คน และเขา แจกโปรแกรมแก่เราคนละแผ่น ดิฉันเห็นว่าเขาจัดส�ำหรับเรา 3 - 4 คน อยา่ งเตม็ ทที่ จ่ี ะอย ู่ 21 วนั ทา่ นปรดี สี งั่ วา่ ใหเ้ รามาอยเู่ มอื งจนี สกั 14 วนั กพ็ อ เพราะการอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เราไม่จ�ำเป็นต้องไปดู เช่นการขุดน้�ำมัน เป็นต้น คุณพูนศุขเห็นว่าท่าทางเขายินดีต้อนรับเราถึง 21 วัน จะปฏิเสธ ก็ยาก เป็นอันว่าเราต้องอยู่ 21 วัน นอกจากบางคร้ังก็ไปเท่ียวครึ่งวัน จึง ยนิ ดรี ับค�ำเขา เมอ่ื ไปถงึ โรงแรมปกั กง่ิ ซง่ึ เปน็ โรงแรมทใ่ี หญโ่ ตมาก เราไดท้ ราบวา่
ฉลบชลัยย์ พลางกรู ��� 213 ทตู ไทยคนใหมซ่ ง่ึ จะมารบั ตำ� แหนง่ ประจำ� ประเทศจนี พกั อยทู่ น่ี นั่ ดว้ ย แตเ่ รา ไม่ได้พบกับเขา แต่ว่ามีนักศึกษาไทยสามคนได้แจ้งกับเจ้าหน้าท่ีว่าอยากจะ พบคุณพูนศุข คุณพูนศุขขอดูชื่อ ก็กลายเป็นทั้งสามคนที่เราเคยพบแล้ว ทป่ี ารสี คอื นายวริ ตั ิ ศกั ดจ์ิ ริ พาพงษ ์ นายธรี ยทุ ธ บญุ ม ี และนายพนิ จิ จาร-ุ สมบัติ ก็เลยตอบว่ายินดีพบเขา ตอนนั้นประเทศไทยกับจีนได้ตัด สัมพันธไมตรีกันอยู่นาน เขาจึงไม่มีล่ามไทยให้กับเรา เราจึงต้องใช้ล่าม อังกฤษ คุณวิรัติบอกกับดิฉันว่า “ดีเหมือนกันนะครับท่ีเราจะได้ฝึกภาษา อังกฤษสกั ท”ี เช้าวันรุ่งข้ึน เขามาถามว่าเราอยากกินอาหารแบบไหน แบบข้าวต้ม จีนหรือแบบท่ีเขากินกันทุกวัน คือพวกขนมจีบ ซาลาเปา คุณพูนศุขตอบ วา่ พวกเรากนิ อะไรกไ็ ดท้ งั้ นนั้ ครน้ั ถงึ เวลาอาหาร เขาเลยจดั มาทง้ั สองอยา่ ง เราจงึ บอกเขาวา่ ตอ่ ไปขอเปน็ ขา้ วตม้ อยา่ งเดยี ว เขาเอาขา้ วตม้ มาให ้ ใสช่ าม แบบลายมังกรชามใหญ่ เกือบจะเท่ากะละมังย่อม ๆ ของเรา พอเราขอ น้�ำปลาสกั ถ้วยหนงึ่ แลว้ เขาก็เอาน้ำ� ปลามาให้หนึ่งชามก๋วยเตยี๋ วจีน เราก็เลย ขอเก็บไว้สำ� หรับอาหารมื้ออ่ืน เราเร่ิมต้นโปรแกรมจากเช้าวันนั้นเลย ดิฉันได้ล่ามภาษาอังกฤษ ส่วนคุณพูนศุขและคุณวาณีไม่ต้องใช้ล่ามอะไร หลังจากนั้นเราได้พบกับ นักศึกษาสามคนนั้นอีก คุณวิรัติ (หัวหน้ากรุ๊ป) บอกว่าพูดภาษาอังกฤษ เสยี เมอ่ื ยมอื เลย ! ตอ่ ไปจะขอเขาใหเ้ ปลย่ี นคนอนื่ บา้ งจะไดไ้ หม (คณุ ธรี ยทุ ธ บุญมี และคุณพินิจ จารุสมบัติ) คุณพูนศุขตอบว่าคงไม่เป็นไร เพราะเขา ไม่ถอื สาอะไร แน่นอน ส่ิงต่าง ๆ ท่ีส�ำคัญในปักกิ่ง เขาพาเราไปดูเกือบท่ัว การไป ของเราจัดเป็นสี่กรุ๊ป คุณพูนศุขและคุณวาณีน่ังรถคันท่ีหนึ่ง ดิฉันพร้อมกับ ล่ามน่ังรถคันท่ีสอง ต่อไปเป็นเจ้าหน้าท่ีจีนคันท่ีสาม และคันสุดท้ายคือ คนไทยทอี่ ยใู่ นปกั กงิ่ ซง่ึ ยงั ไมเ่ คยเหน็ ของพวกน ี้ มาขออนญุ าตไปดว้ ย เพราะ
214 ��� ด้านหนงึ่ ของชวี ิต ขณะน้ันประเทศจีนไม่ยอมให้คนต่างชาติเข้าหลายเมือง นอกจากผู้ที่ได้รับ อนุญาตพิเศษเช่นคณะของเรา เขาจึงจัดให้เป็นคันท่ีส่ี ไปไหน ๆ ก็ไปทั้งส่ี กรปุ๊ นี ้ ใครว่าประเทศคอมมิวนิสต์ไม่ถือยศศักด์ิกัน ไม่จริงเลย เพราะดิฉัน เกือบจะท�ำเปิ่น วิ่งตามคุณพูนศุขไป (เพราะอยู่เมืองไทย เรานั่งรถด้วยกัน เสมอ) รถยนต์ทใ่ี ช้ผลติ ในประเทศจนี ทง้ั หมด เราไปดูก�ำแพงเมืองจีนเป็นแห่งแรก (ขอโทษท่ีอาจจะสับสนเรื่อง สถานที่ต่าง ๆ เพราะดูมานานแล้ว) ดิฉันข้ึนไปบนก�ำแพงพร้อมกับพวก นักท่องเท่ียวอ่ืน ๆ แต่ว่าคุณพูนศุขคอยอยู่ข้างล่าง เพราะว่าข้างบนหนาว เกนิ ไป ต่อมาเขารู้ว่าดิฉันเป็นครู ก็คงจะอยากดูโรงเรียนต่าง ๆ เขาเลยจัดให้ ต้ังแต่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย การไปเยี่ยมโรงเรียนครั้งนี้พวกเจ้าหน้าท่ี จีนเองก็ไม่เคยรู้จักชื่อโรงเรียนมาก่อน เขาพาเราวกเวียนไปหลายครั้ง คร้ัง หน่ึงเรามองเห็นนักเรียนเข้าแถวยืนกันข้างถนน ก็ไม่รู้ว่าเขาท�ำอะไรกัน ทแี่ ทเ้ ขามาคอยรบั เรานนั่ เอง เรอื่ งโรงเรยี นกไ็ มม่ อี ะไรจะนา่ เลา่ แตว่ า่ ของเขา ดูท�ำเอาจริงจัง ไปถึงที่หอสมุดของมหาวิทยาลัย พวกเราดีใจมากท่ีเห็น หนงั สอื ไทยหลายเลม่ เขาพาเราไปดแู ผนกแพทยซ์ งึ่ ตอนนนั้ เมอื งไทยกำ� ลงั สนใจ คือการฝงั เข็ม อีกอย่างหนึ่งที่เขาอวดแก่เราคือเขื่อนแห่งหน่ึง ซึ่งเขาเล่าอย่างภาค ภมู ใิ จวา่ พวกผชู้ าย เดก็ ผชู้ าย หรอื พวกทมี่ รี ถจกั รยาน จะไปขนหนิ กอ้ นโต ๆ จากภเู ขาซง่ึ กอ็ ยไู่ กลพอใช ้ กลบั มาทำ� เขอ่ื นนดี้ ว้ ยตนเอง รฐั บาลเพยี งแตใ่ ห้ คา่ เครอ่ื งมอื ในการทำ� เชน่ จอบ เสยี ม และอนื่ ๆ เมอ่ื เปน็ เชน่ นแ้ี ลว้ ชาวบา้ น แถวนั้นจะรักเขื่อนน้ีมาก เพราะเขาท�ำด้วยตัวเขาเอง ทางการไม่ต้องจัดการ ดแู ลเรอื่ งความสะอาด เพราะเขาถอื วา่ เขอ่ื นนเ้ี ปน็ ของพวกเขาแท้ ๆ ทางจนี เขาบอกว่าคึกฤทธิ์ก็ยงั ไม่ไดด้ เู ข่อื นนเ้ี ลย อาจเป็นเพราะวา่ มเี วลาไมพ่ อ
ฉลบชลยั ย์ พลางกรู ��� 215 อีกอย่างหนึ่งที่เขาภูมิใจจะอวดเราก็คือทะเลสาบอันกว้างใหญ ่ ประชาชนท�ำกันเอง โดยมีผู้น�ำ (เหมา เจ๋อ ตุง) เป็นผู้ริเริ่มท�ำด้วยตนเอง ทะเลสาบนค้ี งจะตอ้ งท�ำอยู่นานเพราะมันใหญโ่ ตมาก มีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งคนท่ีไปเมืองจีนเคยเห็นแล้วกลับมาเล่า ก็คือบ้าน ใตด้ นิ สองชน้ั ใชห้ ลบภยั สำ� หรบั เวลาขา้ ศกึ มาโจมต ี เขาบอกวา่ เขาสรา้ งหอ้ ง ใตด้ นิ นเ้ี พอ่ื ใหใ้ คร ๆ รวู้ า่ เขาไมไ่ ดค้ ดิ จะไปโจมตใี คร เปน็ แตเ่ พยี งคอยรบั การ โจมตีเท่าน้ัน บ้านน้ีมีทางออกสองทาง ทางหน่ึงห่างไกลจากเมืองไปเป็น กิโล ส่วนอีกทางหน่ึงอยู่ใกล้ ห้องใต้ดินน้ีมีห้องหนึ่งซ่ึงใหญ่มากและมี ออกซเิ จนสำ� หรบั คนหายใจ กอ่ นทจ่ี ะออกไปตามทางเดนิ เมอ่ื มกี ารโจมตที าง อากาศ ในห้องใต้ดินนี้จะมีการซ้อมหลบภัยบ่อย ๆ และการท่ีใคร ๆ ว่า บางทปี ระเทศจนี จะแผ่อ�ำนาจไปทางอ่ืนน้ัน ไม่เป็นความจรงิ เลย อกี อยา่ งหนงึ่ ซง่ึ ใคร ๆ กร็ จู้ กั ดคี อื เปด็ ปกั กง่ิ ซง่ึ เราไดร้ บั เชญิ ใหไ้ ปกนิ แล้วจากคุณนิด (คุณนิดเป็นคนหน่ึงซ่ึงชอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต ์ ยังเคยมาใช้โรงเรียนดิฉันเป็นที่เรียนของนักเรียน ซ่ึงเข้าใจว่าจะชอบทาง เดียวกัน ตอนหลังต้องออกจากประเทศเพราะรัฐบาล แล้วไปได้รับการ แตง่ ตงั้ ใหเ้ ปน็ เจา้ หนา้ ทชี่ น้ั สงู คนหนง่ึ ) คณุ นดิ สงั่ เปด็ ปกั กง่ิ สองตวั ซง่ึ ใหญ่ มาก เรากินกันไม่ถึงคร่ึงตัว นอกนั้นไปแจกจ่ายคนไทยท่ีอยู่ในเมืองจีน ด้วยกนั ดิฉนั ถามถึงอัศน ี พลจนั ทร (“นายผี”) ซงึ่ เป็นญาตกิ ับดิฉัน ขณะนนั้ อย่ใู นประเทศจนี เหมอื นกนั แต่เจา้ หน้าท่บี อกดฉิ นั ว่า อัศนีไม่ไดอ้ ยใู่ นเมอื ง จนี แลว้ เขารับรองว่าถ้าอยู่ในประเทศจีนเมอื งใดก็ตาม เขาจดั การให้มาพบ เราได้ ในปักกิ่งนี้ เราได้ไปชมพระราชวังฤดูร้อนซ่ึงน่าดูและใหญ่โต ได้ เหน็ พระราชวงั หลวงของจนี (แทบจะใหญท่ สี่ ดุ ในโลก) ในพระราชวงั มหี อ้ ง ต่าง ๆ หลายพันห้อง ดิฉันได้เห็นค�ำว่า Power behind the Throne จริง ๆ
216 ��� ดา้ นหน่ึงของชวี ติ กต็ อนนแี้ หละ คอื เมอ่ื พระเจา้ แผน่ ดนิ อายนุ อ้ ยเกนิ กวา่ ทจี่ ะสง่ั การอะไรไดเ้ อง เขามีบัลลังก์เล็ก ๆ อยู่ข้างหน้า ข้างหลังมีม่านกั้นปิดให้ซูสีไทเฮาน่ังส่ังการ อย่ดู ้านหลงั ในพระราชวงั น ้ี ใคร ๆ กด็ ไู มร่ จู้ กั จบ ขณะทเ่ี ราไปดนู น้ั กม็ นี กั ทอ่ งเทย่ี ว อนื่ ๆ ไปดพู รอ้ มกนั แตพ่ อถงึ ตอนเทยี่ งทกุ คนตอ้ งออกไปหาอาหารกนิ แต่ วา่ ของเรามพี เิ ศษคอื เขาจดั เตรยี มอาหารไวใ้ นวงั นน้ั และพวกเราทง้ั หมดกก็ นิ กันทนี่ ่ัน ในการเลยี้ งครงั้ น ี้ อาหารใสจ่ านเชงิ ทกุ อยา่ ง ดฉิ นั ถามเขาวา่ นา่ เสยี ดาย ทเ่ี อาของโบราณนมี้ าใส ่ แตเ่ ขาบอกวา่ จานชามแบบน ้ี เขามอี ยหู่ ลายแสนใบ เราได้ไปเยี่ยมท่ีเก็บอัฐิคุณกุหลาบ สายประดิษฐ์ ซึ่งไปเสียชีวิตอยู่ ท่ีนั่น ทุกคร้ังที่ไปเยี่ยมสถานที่ใด หัวหน้ากรุ๊ปจะต้องเป็นคนโต้ตอบกับ เจ้าหน้าที่ หัวหน้ากรุ๊ปดิฉันคือคุณพูนศุข นอกจากหลายครั้งท่ีคุณพูนศุข ไม่ได้ไปด้วย เพราะท่านเคยเห็นส่ิงเหล่าน้ันแล้ว และขอเวลาอยู่โรงแรม เพอื่ ไปเยยี่ มพรรคพวกทงั้ จนี และไทยทอี่ ยทู่ น่ี น่ั ตอนนด้ี ฉิ นั ตอ้ งเปน็ หวั หนา้ กรุ๊ปแทน ดิฉันถามล่ามภาษาอังกฤษของเราว่าทำ� ไมจึงพูดอังกฤษได้ชัดเจน อย่างนี้ เขาเล่าว่าเริ่มเรียนภาษาอังกฤษท่ีโรงเรียน แต่ว่าเมื่อสงครามโลก คร้ังท่ี 2 มีสุภาพสตรีอังกฤษคนหน่ึงซึ่งคงจะได้เคยท�ำประโยชน์อะไรที่จีน ไดข้ อรอ้ งรฐั บาลจนี ใหแ้ อบตวั เธอไวไ้ มใ่ หไ้ ปถกู กกั ขงั อยา่ งพวกเชลยธรรมดา และตัวเขาเองได้รับเลือกให้ไปรับใช้สุภาพสตรีอังกฤษผู้นั้น กินอยู่ด้วยกัน เสร็จสรรพตลอดระยะเวลาสงคราม เขาจึงใกลช้ ดิ กบั คนอังกฤษจรงิ ๆ เม่ือได้รับค�ำบอกเล่าเรื่องสถานที่น้ัน ๆ ล่ามอังกฤษจะเล่าต่อให้เรา ฟงั เปน็ ภาษาองั กฤษ เจา้ หนา้ ทคี่ งจะไดต้ กลงกบั สถานทนี่ นั้ ๆ วา่ เมอื่ พาไปดู แลว้ กอ่ นจะกลบั มกั จะตอ้ งรบั ประทานอาหารดว้ ยกนั หวั หนา้ กรปุ๊ มหี นา้ ที่ กลา่ วขอบคณุ เจา้ ของสถานท ่ี ตอนนน้ั ดฉิ นั ตอ้ งพดู เปน็ ภาษาองั กฤษเกยี่ วกบั ความประทับใจสถานท่ีน้ัน ๆ และล่ามแปลเป็นภาษาจีนให้เจ้าของสถานท่ี
ฉลบชลัยย์ พลางกูร ��� 217 ฟงั แตต่ อนขอบคณุ ดฉิ นั ขอรอ้ งวา่ ขอใหค้ ณุ วาณพี ดู แทนคณะของเรา แลว้ คณุ วาณตี อ่ ทา้ ยดว้ ยคำ� ขอบคณุ เปน็ ภาษาจนี มเี จา้ หนา้ ทบี่ างคนมาลอ้ ลา่ มวา่ คุณวาณีพูดภาษาจีนไดด้ กี ว่าลา่ มเสยี อีก วนั หนง่ึ เขาพาเราไปดแู ขง่ ฟตุ บอล จะเปน็ ชาตไิ หนกบั ชาตไิ หนจำ� ไมไ่ ด ้ คงจะเป็นการแข่งท่ีส�ำคัญ แต่เขาคงต้องการให้เราได้เห็น เหมา เจ๋อ ตุง ซ่ึง นง่ั เปน็ ประธานในการแขง่ ครงั้ น ้ี เราไดน้ ง่ั อฒั จนั ทรช์ น้ั เดยี วกบั เหมา เจอ๋ ตงุ แต่ว่าห่างไปทางขวามากพอใช ้ ในเมืองปักก่ิง ขณะน้ันที่ก�ำแพงเกือบจะทุกแห่งมีการเขียนด่า เต้ิง เสี่ยว ผิง ไว้มากมาย แต่ว่าภายหลัง เต้ิง เสี่ยว ผิง ได้ข้ึนมามีอำ� นาจอีกครั้ง หนง่ึ เห็นจะพอแล้วส�ำหรับปักกิ่ง ความจริงมีมากกว่านี้ แต่กลัวว่าจะ มากไปเดยี๋ วคนอา่ นจะเบอ่ื และตอ่ ไปกจ็ ะออกไปตามชนบทและเมอื งตา่ ง ๆ เขาพาเราไปดูชนบทท่ีคนจีนชาวไร่ชาวสวนคอมมิวนิสต์อยู่กัน บ้านเป็นตึกแถวชั้นเดียวเหมือนกับตึกแถวของบ้านเรา หันหน้าเข้าหากัน ตรงกลางเป็นระเบียงใหญ่ มีลมซ่ึงพัดเข้ามาต้ังแต่ต้นแถวไปตลอดจนถึง สดุ ทา้ ย ตกึ เหลา่ นม้ี มี ากมาย สรา้ งไวใ้ กลท้ ที่ ำ� ไรท่ ำ� สวนของเขา และรฐั บาล ได้ก�ำหนดเงินเดือนส�ำหรับชาวไร่ชาวสวนเหล่าน้ีไว้ ส่วนเงินท่ีหาได้เกิน กว่าท่ีรัฐบาลกำ� หนด รัฐบาลก็ยกให้เป็นเงินพิเศษแก่ตัวเขาเอง (หน้าท่ีอื่น ๆ รัฐบาลก็จะก�ำหนดงานให้ท�ำอย่างเดียวกันน้ี คือไม่มีใครมีทรัพย์สินท่ีเป็น ของตวั เองเลย) แตว่ า่ ส�ำหรบั คนงานแบบอนื่ กจ็ ะอยหู่ า่ งออกไปใกลท้ ที่ �ำงาน ของตน ชาวนาคอมมิวนิสต์ไม่มีท่ีนาเป็นของตนเองเลย นอกจากท่ีรัฐบาล ก�ำหนดให้ มีชนบทแห่งหน่ึงซ่ึงไม่กว้างสักเท่าไร มีแก๊สออกมาจากพื้นดินเป็น เปลวไฟแบบตะเกียง นา่ ดมู าก และอาจจะสามารถใช้ปรงุ อาหารได้
218 ��� ดา้ นหนงึ่ ของชีวติ ในชนบทอีกแห่งหนึ่ง เราได้ไปชมพระราชวังโบราณซึ่งเอาดินกลบ ฝงั ไว ้ เพ่ิงขุดพบในศตวรรษน้ีเอง ผู้ท่ีท�ำการกลบดินจะต้องท�ำอย่างดีมาก และผู้ท่ีขุดพบก็คงท�ำอย่างระมัดระวังมากเพราะพระราชวังโบราณน้ียังคง สภาพสวยงามดี ไม่เสียหาย และเป็นเน้ือท่ีไม่ใช่น้อย แม้แต่ตามท่ีที่เข้าไป พระราชวังน้ีทั้งสองข้างเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ขนาดเท่าตัวจริงยาวเหยียด เช่น เสือ หมี ม้า และอีกมากมาย ในพระราชวังนี้ รัฐบาลคอมมิวนิสต์ได้ท�ำรูป ถุงเงินไว้เกือบทุกแห่ง ว่าแต่ละแห่งนี้สิ้นเงินไปมากมายเท่าไร บางอันมีค่า เกือบจะเท่ากับชีวิตของคนคนหน่ึง ท้ังน้ีก็เพ่ือให้เห็นว่ากษัตริย์สมัยโบราณ ได้จา่ ยเงนิ ไปมากเทา่ ไร หลงั จากนี้เขาใหเ้ ราพกั เจ็ดวัน เซ่ียงไฮ้ เมืองน้ีเคยเรียกกันว่าเป็น “ปารีสตะวันออก” เพราะทันสมัยกว่า ทอ่ี นื่ ๆ สมยั เมอ่ื องั กฤษและฝรง่ั เศสไปมอี �ำนาจในจนี ไดส้ รา้ งบา้ นเปน็ วงั ไว้ หลายแห่ง เราไปพักบ้านท่ีพวกชาวอังกฤษเคยอยู่ บ้านมีลักษณะเป็นแบบ โรงแรมสำ� หรบั ตอ้ นรบั แขกผมู้ เี กยี รตเิ ทา่ นน้ั มหี อ้ งทำ� ผม หอ้ งซกั แหง้ ครวั ใหญม่ าก และอนื่ ๆ ดฉิ นั ไมก่ ลา้ สง่ เสอื้ ผา้ ไปซกั เพราะกลวั วา่ ตอนกลบั ไป จะไม่เสร็จ แต่เม่ือถึงเวลาจริง ๆ ของท่ีคุณวาณีส่งซักน้ันจัดห่อมาราวกับ เสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่ ๆ ก่อนที่จะเข้าไปถึงห้องนอน ต้องผ่านห้องโถงใหญ่ มาก และขณะนนั้ อากาศคอ่ นขา้ งหนาว เครอ่ื งฮตี เตอรป์ รบั อณุ หภมู ไิ มค่ อ่ ย จะพอ ตอนนอนเราต้องใส่เส้ือหลายชั้น ก่อนจะออกจากที่น่ี คุณพูนศุข อยากจะเลยี้ งขอบคณุ เขา แตข่ อใหเ้ ขาเปน็ คนจดั การให ้ ซง่ึ ในทสี่ ดุ กลายเปน็ เขาเลี้ยงเราอีก คุณพูนศุขสั่งอาหารอย่างหนึ่งคือต้มย�ำกุ้ง โดยคิดว่ากุ้งจะ ราคาแพงกวา่ เหด็ แตก่ ลายเปน็ วา่ เห็ดราคาแพงกว่าทง้ั หมด จากเซย่ี งไฮ ้ คณุ วาณกี บั ดฉิ นั บนิ ไปจงุ กงิ แตค่ ณุ พนู ศขุ ขอไมไ่ ป และ
ฉลบชลัยย์ พลางกูร ��� 219 ขอกลับไปปักก่ิง โดยนัดให้ไปพบกันที่เมืองเทียนสินตามเวลาที่ก�ำหนด ไว้ในโปรแกรม เม่ือไปถึงจุงกิงแล้ว (ระหว่างสงครามโลกครั้งท่ี 2 จุงกิง ถือเป็นเมืองหลวงของจีนแทนปักก่ิง) จึงได้เห็นว่าจุงกิงอยู่ในที่ท่ีมีเขาล้อม รอบ และตอนนั้นเมืองจุงกิงก�ำลังร้ือถนนหลายแห่ง เราเองยังต้องไปถนน แคบ ๆ อาจเปน็ เพราะเหตนุ เ้ี องทร่ี ฐั บาลจนี ไมย่ อมใหค้ นตา่ งชาตเิ ขา้ เมอื ง เขา ใหเ้ ราไปพกั ทบี่ า้ นแหง่ หนงึ่ อยเู่ ยอ้ื งกบั บา้ นทเี่ จยี ง ไค เชก็ เคยอย ู่ บา้ นหลงั นเ้ี ปน็ แถวยาว บนหลงั คาบา้ นเขาจะเดนิ สายไฟไว ้ และเมอื่ คนตา่ งชาตมิ าอย่ ู คนในเมืองก็จะรู้ว่ามีแขกผู้มีเกียรติมาพัก แต่ดิฉันก็ไม่ได้ไปดู Victory House ตัวจริง ๆ เลย เพราะมีคูน้�ำ และถนนก็รื้อหมด ไม่คุ้มกับการไป แต ่ เจา้ หนา้ ทไี่ ดช้ ส้ี ถานทนี่ ใ้ี หด้ เู ทา่ นน้ั (เมอ่ื ไมน่ านมาน ้ี คณุ ฉตั รทพิ ย ์ นาถสภุ า ไดไ้ ปดสู ถานทน่ี ด้ี ว้ ยตนเอง และกลบั มาเขยี นเรอื่ งรายละเอยี ดสถานทต่ี า่ ง ๆ รวมทงั้ Victory House ก่อนท่จี ำ� กดั จะส้นิ ชวี ติ ไวใ้ นหนงั สอื ) พอรุ่งขึ้นฝนตกมาก เจ้าหน้าท่ีเห็นว่าจะเป็นอันตราย ก็ขอให้เราอยู่ ตอ่ อกี วนั โดยไมไ่ ดจ้ ดั ไวใ้ นโปรแกรม คนื วนั นน้ั เขาใหเ้ ราดหู นงั ในสถานท่ ี น้ันเอง ซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่ คราวน้ีเขาเปิดไฟชั้นบนหลังคา คนจะรู้ว่ามี แขกผู้มีเกียรติก�ำลังอยู่ในสถานท่ีนั้น และเป็นธรรมเนียมท่ีพวกชาวบ้านจะ พากันมาดูหนังท่ีฉายอยู่ ขณะที่ดูหนังนั้น เขาให้เราน่ังข้างหน้า ระหว่าง คณุ วาณกี บั ดฉิ นั มโี ตะ๊ ซงึ่ ตงั้ ของกนิ เลน่ เชน่ เมด็ กวยจ ๊ี ทอฟฟ ่ี และอน่ื ๆ อกี พอรุ่งขึ้นจะออกจากจุงกิงไปยังเทียนสิน ขณะน้ันเครื่องบินจะต้อง ผ่านสนามบินของอีกเมืองหนึ่ง (จ�ำชื่อไม่ได้) เจ้าหน้าท่ีมาถามเราว่าเม่ือถึง สนามบนิ ทก่ี ำ� ลงั จะลงน ้ี เปน็ เวลาอาหารพอด ี เราจะสงั่ อะไร คณุ วาณบี อกวา่ จะกนิ ปลา และพอไปถึงจริง ๆ กไ็ ด้กนิ ตามทส่ี ่งั ไว ้ ท่ีสนามบนิ น ี้ นอกจาก คณะเราแลว้ มคี นตา่ งชาตนิ ง่ั อยอู่ กี โตะ๊ หนงึ่ นอกจากนนั้ กเ็ ปน็ ชาวจนี ทง้ั หมด ดิฉันยังไม่เคยกินปลาท่ีมีรสอร่อยเช่นนี้มาก่อนเลย เจ้าหน้าที่บอกว่าปลาน้ ี จับมาสด ๆ จากแมน่ ้ำ� แยงซเี กียง
220 ��� ดา้ นหน่งึ ของชีวติ ทจี่ งุ กงิ นเ้ี ราไดไ้ ปชมถนิ่ ทเ่ี กดิ ของแพนดา้ และพวกเราชอบอาหารใน มณฑลนี้มาก เพราะมีรสเปรี้ยวเค็ม คล้ายอาหารไทย ผิดจากอาหารจีน ธรรมดา เทียนสนิ เมื่อไปถึงเทียนสินก็ได้พบคุณพูนศุขที่น่ัน เขาเชิญเราไปกินอาหาร ทส่ี ถานทแี่ หง่ หนง่ึ เมอื่ พบกบั หวั หนา้ ของทนี่ นั่ และหวั หนา้ ทนี่ นั่ ไดบ้ อกกบั ดฉิ นั วา่ ไดส้ ง่ั คนครวั ไปหาปลาทกุ ตลาดแลว้ แตจ่ �ำเปน็ จรงิ ๆ เพราะปลาไมม่ ี วนั น้นั เราจึงไมไ่ ด้กนิ ปลา ตอนนั้นดิฉันเพ่ิงเอะใจว่าท�ำไมเขาถึงจ�ำเพาะเจาะจงให้ดิฉันกินปลา จึงถามคุณวาณีว่าคุณวาณีได้แจ้งกับเจ้าหน้าท่ีที่รับรองเราต้ังแต่แรกท่ีมาถึง ประเทศจนี แลว้ และอาหารจากมือ้ นน้ั มาเขาจงึ จดั ให้เรากนิ ปลาทกุ มอ้ื เสมอ ทเ่ี มอื งเทยี นสนิ นเ้ี ขาพาเราไปดสู ถานทข่ี ดุ นำ้� มนั ซง่ึ ขา้ งบนมตี กึ ใหญ่ ส�ำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมปุ่มต่าง ๆ หลายคน เจ้าหน้าท่ีเหล่าน้ันดูเหมือน ยงั อายไุ มถ่ งึ 20 ป ี ดฉิ นั กลวั เหลอื เกนิ วา่ ถา้ เดก็ พวกนกี้ ดปมุ่ ผดิ จะเกดิ อะไร ขึ้น แตเ่ ขายืนยันวา่ เขาไดเ้ ลอื กคนทเี่ หมาะสมแล้ว เราบินกลบั มาจุงกงิ และเห็นจะพอแลว้ สำ� หรับโปรแกรมนี้ จากที่เราได้ไปชมมาหลายเมือง เราได้รับของขวัญตั้งแต่ต้นกรุ๊ป คือ คณุ พนู ศขุ คณุ วาณ ี และดฉิ นั ดว้ ย ทงั้ นเี้ ปน็ ความเออื้ เฟอ้ื ของรฐั บาลจนี และ เจา้ หนา้ ท่ีที่จัดมากไ็ ด้ท�ำงานของเขาอยา่ งดีท่ีสดุ โดยเฉพาะล่าม ซ่งึ คร้งั หนง่ึ ต้องพาเราไปดูโรงงานท�ำไหมพรมซ่ึงเขาไม่เคยไปมาก่อน เขาเล่าให้ฟังว่า ก่อนนอนคืนน้ัน เขาต้องไปเปิดพจนานุกรมหาค�ำต่าง ๆ จากภาษาจีนเป็น ภาษาอังกฤษ เพื่อใหเ้ ราเข้าใจไดช้ ดั เจน ตอนเดินทางกลับน้ี เราได้ผ่านกวางโจวซ่ึงเป็นที่พักของท่านปรีดี
ฉลบชลยั ย์ พลางกรู ��� 221 ครง้ั ท ี่ 2 อยบู่ นแควแมน่ ำ�้ สองแหง่ มาสบกนั เปน็ ทวิ ทศั นท์ น่ี า่ ดมู าก (ตอนแรก เขาใหท้ า่ นปรดี พี กั ในปกั กง่ิ อยใู่ นถนนหนงึ่ ซงึ่ อากาศหนาวมาก ขณะทเี่ ราไป ถนนน้ันได้ร้ือท้งิ ไปแลว้ ) สว่ นกวางโจวนั้นอากาศใกล้เคยี งเมอื งไทย จากกวางโจวซงึ่ ชายแดนตดิ ตอ่ กบั ฮอ่ งกง เจา้ หนา้ ทไี่ ดพ้ าเราพรอ้ มกบั ลา่ มมาสง่ ขนึ้ รถไฟและจดั การใหเ้ ราเปน็ พเิ ศษโดยสง่ ขา้ วของของเราใสต่ พู้ เิ ศษ แต่พอมาถึงฮ่องกงแล้ว เกิดการโกลาหลใหญ่ ไม่มีใครทราบว่าของ ของเราอยู่ที่ไหน ต้องคอยอยู่ครู่ใหญ่ ๆ และหลังจากนั้นคุณวาณีและคุณ พนู ศขุ ก็บินกลับไปปารีสเลยโดยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ ส่วนดิฉัน ทาง เจา้ หนา้ ทไ่ี ดจ้ ดั ใหอ้ ยโู่ รงแรมซงึ่ อยตู่ รงขา้ มกบั ทที่ ำ� งานของเจา้ หนา้ ทที่ ฮ่ี อ่ งกง และได้จัดรถเบนซ์พิเศษส�ำหรับเดินทางไปไหนมาไหนในฮ่องกง แต่ดิฉัน ไมไ่ ดใ้ ช้รถของเขาเลย กอ่ นออกเดนิ ทาง เจา้ หนา้ ทไี่ ดต้ อ่ วา่ ดฉิ นั วา่ เมอ่ื เขาพาเราไปไหนแลว้ เขาจะต้องส่งเราจนถึงบ้าน แต่ดิฉันมีตั๋วเคร่ืองบินแอร์สยาม (Air Siam) ซงึ่ ซอื้ ไวก้ อ่ นเดนิ ทางไปเมอื งจนี (ตว๋ั นไ้ี มไ่ ดร้ ะบวุ นั เดนิ ทางกลบั ) กอ่ นทจ่ี ะ ข้ึนเครื่องบินนี้ เกิดการโกลาหลว่าข้าวของของดิฉันเกินนำ�้ หนักที่ได้ให้ไว ้ บงั เอญิ ดฉิ นั รจู้ กั กบั เจา้ ของรา้ นอาหารไทยรา้ นหนง่ึ ซง่ึ รจู้ กั ดกี บั ผอู้ ำ� นวยการ ของสายการบนิ ทนี่ นั่ เขารบั อาสาวา่ จะพาไปหาผอู้ ำ� นวยการ เผอ่ื จะชว่ ยเหลอื ลดหยอ่ นได ้ เมอื่ ไปถงึ ทน่ี นั่ เขาแนะน�ำตวั ดฉิ นั แกผ่ อู้ �ำนวยการ และบอกวา่ การไปเมืองจีนคร้ังนี้โดยได้รับค�ำเชิญจากรัฐบาลจีน ไม่ได้ไปส่วนตัว จึง อยากขอความชว่ ยเหลอื (คณุ พนู ศขุ กบั คณุ วาณ ี ไมม่ ปี ญั หาอะไร เพราะกลบั โดยเคร่ืองบินของจีนเอง) พอดิฉันเอานามบัตรให้ดู เขากลับบอกว่าอยาก พบดิฉันมานานแล้ว เพราะดิฉันได้เล้ียงดูหลานของเขา (ลูก ๆ ของนายชิต สงิ หเสน)ี มาเปน็ เวลานาน อนั ทจ่ี รงิ นนั้ ดฉิ นั ไมไ่ ดเ้ ลย้ี งดอู ะไร นอกจากให้ เรยี นฟร ี เขาบอกวา่ ไมต่ อ้ งหว่ ง เดย๋ี วเขาจะจดั การดแู ลเรอื่ งขา้ วของทนี่ �้ำหนกั เกนิ ก�ำหนดนใ้ี ห้
222 ��� ด้านหนึง่ ของชีวติ การทอ่ งเทยี่ วสหรัฐอเมริกา มีอยู่ปีหนึ่งที่คณะทัวร์ซ่ึงดิฉันได้ร่วมไปด้วยเสมอน้ัน คิดจะไป อเมรกิ ากนั ดฉิ นั ไปกบั เขาไมไ่ ด ้ เพราะตอ้ งไปสง่ ลกู สาวเขา้ เรยี นในประเทศ อังกฤษ ฉะนั้น ปีต่อมาจึงคิดจะไปอเมริกาบ้าง พยายามหาเพ่ือนจะชวนไป ดว้ ยกนั กห็ าไมไ่ ด ้ บงั เอญิ มเี พอื่ นคนหนงึ่ ซง่ึ มกี ารงานรว่ มกบั บรษิ ทั World Express จึงไดไ้ ปปรึกษาเขา เขาชว่ ยแนะน�ำรายละเอยี ดให้ดงั น ้ี :- 1. ซื้อตั๋วเครื่องบินร่วมไปกับคณะ World Express ในราคาพิเศษ ซึ่งมีข้อแม้ว่าเมื่อลงที่ซานฟรานซิสโก (San Francisco) แล้วจะแยกไปไหน ก็ได้ แต่จะต้องหยุดไม่ต่�ำกว่าส่ีแห่ง แล้วขากลับจะต้องมาข้ึนเคร่ืองท ี่ ซานฟรานซสิ โกเพอื่ กลบั เมอื งไทย ตวั๋ นจ้ี ดั ใหม้ กี ำ� หนดเวลาแนน่ อน 21 วนั ถา้ ไปแบบนี้จะได้ลดราคาเครือ่ งบนิ ถงึ 50 % 2. เขาจะจัดรายการต๋ัวให้ด้วย ว่าภายใน 21 วันน้ี เขาจะปรึกษากับ ดฉิ นั วา่ ควรจะแวะเมอื งไหนบา้ ง และควรจะอยทู่ ไี่ หนกว่ี นั หรอื ถา้ อยากอย ู่ ท่ีไหนนานเป็นพิเศษ ก็จะจัดให้ตามต้องการได้ จะท่องเท่ียวจากด้านฝั่ง ซานฟรานซิสโกไปรอบจนถงึ ทางฝ่ังนิวยอรก์ (New York) 3. ตลอดทุกเมืองท่ีไป จะจองโรงแรมช้ันหนึ่งให้ตามเวลาในต๋ัว และทุกแหง่ ที่เคร่อื งบนิ ขน้ึ - ลงจะตอ้ งมีรถของโรงแรมรบั - สง่ 4. จดั อาหารทง้ั เชา้ - เยน็ นอกจากบางวนั ไมต่ อ้ งการอาหารเยน็ เพราะ มกี ารนดั หมายไวก้ บั เพอ่ื นฝงู ทางโนน้ อาหารกลางวนั ไมจ่ ดั เพราะคงจะไป ช็อปปิ้ง หรือไปเที่ยวกับคณะทัวร์ย่อย ซึ่งมีไว้ให้เลือกมากตามโรงแรม ใหญ ่ ๆ แต่บางแหง่ ทเ่ี ขาเห็นวา่ เราควรจะไปแน่ ๆ ก็จะจัดทวั รย์ ่อยไวใ้ ห้เลย เมอ่ื ตกลงรายละเอยี ดกนั แลว้ เขาขอเวลาคดิ ราคาตกลงกบั ทางอเมรกิ า ประมาณ 5 - 6 วัน แจ้งมาว่ารวมทั้งหมดจะเป็นเงินประมาณ 40,000 บาท (สมัยนั้นเงินไม่แพงเท่าเด๋ียวนี้) ซึ่งแพงกว่าท่ีคณะทัวร์พวกดิฉันไปเม่ือปี
ฉลบชลัยย์ พลางกรู ��� 223 ที่แล้ว เพราะเขาจา่ ยกนั เพียงสองหมน่ื กว่าเท่านัน้ ดิฉันมาคิดดูว่า ที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่าดิฉันต้องการแวะเท่ียว ไม่ต่�ำกว่า 10 เมือง ซึ่งทัวร์ของเขาไม่มากเท่านี้ และการไปคนเดียวไม่มี พรรคพวกมาแชร์นั้น ก็จะต้องแพงกว่าเป็นธรรมดาอยู่เอง แต่ว่ามีอยู่บ้าง เหมอื นกนั ทเี่ ขาควรจะทำ� ใหถ้ กู กวา่ ทจี่ ดั ใหเ้ รา เชน่ รถทมี่ ารบั - สง่ เราทส่ี นามบนิ นน้ั เขาใชล้ มิ ซู นี (Limousine) ซงึ่ ตามปกตจิ ะนงั่ ไดแ้ ปดคน แตน่ เี่ รานง่ั เพยี ง สองคน ถา้ นงั่ รถแทก็ ซธี่ รรมดาจะถกู กวา่ มาก แตก่ อ็ กี นน่ั แหละ ความทดี่ ฉิ นั กลัวนิโกรขับรถ (ตามท่ีได้รู้มา) ก็ยำ้� กับเขาครั้งแล้วคร้ังเล่าว่าต้องใช้รถของ โรงแรมเท่านั้น ตกลงราคาและรายละเอียดกันเรียบร้อย ดิฉันให้เขารีบเตรียมการ เพ่ือจะให้พร้อมทันทีหลังโรงเรียนปิดภาคปลาย (เดือนเมษายน) ทีน้ีเกิดมี เพอื่ นคนหนง่ึ รเู้ รอ่ื งเขา้ มาขอรว่ มไปดว้ ย ดฉิ นั ตอ้ งรบี แจง้ ให ้ World Express ทราบทนั ท ี เพอ่ื จดั ทกุ อยา่ งเพมิ่ ขน้ึ เปน็ สองท ่ี เขากร็ บั ปากจะจดั ทำ� ใหท้ นั เวลา ได้ ดิฉันเห็นว่ามีเพ่ือนไปด้วยน้ัน มีอะไรจะได้ปรึกษากัน เสียแต่ว่าเพื่อน คนนี้คือคนที่ดิฉันเคยเล่าไว้ว่าชอบช็อปปิ้งอย่างเดียว ตอนไปทัวร์ยุโรป ดว้ ยกนั เธอซอื้ ของเสยี จนคนในคณะเออื มระอา และตวั หวั หนา้ ทวั รก์ อ็ อ่ นใจ มาขอให้ดิฉันช่วยห้ามปรามเธอ และก็แปลกท่ีว่าใคร ๆ ห้ามเธอไม่ฟังเลย แตเ่ ธอเกรงใจดฉิ นั คนเดยี ว ! - คราวนด้ี ฉิ นั คดิ วา่ จะปลอ่ ยใหเ้ ธอซอ้ื ตามใจก็ แล้วกนั ไม่ตอ้ งเสยี เวลาเสยี แรงห้ามปรามเธอ ขอเล่าแทรกตรงนี้สักหน่อยว่า ดิฉันไม่เคยรู้จักกับ World Express มากอ่ นเลย ไมค่ อ่ ยจะไวใ้ จ กลวั เขาจะทำ� เหลวไหล เพราะกอ่ นนน้ั ไมน่ านมี เรื่องว่าบริษัททัวร์แห่งหน่ึง พานักท่องเที่ยวไปลอยแพท้ิงไว้ท่ียุโรป (หรือ อเมริกา จ�ำไม่ได้แน่) ทางสถานทูตต้องช่วยเหลือ เป็นท่ีเดือดร้อนมาก แต่ เพอ่ื นดฉิ นั พวก World Express คนนเ้ี ขายนื ยนั อยากใหด้ ฉิ นั ลองใชบ้ รกิ ารของ บรษิ ทั นด้ี บู า้ ง เผอ่ื ชอบใจจะไดใ้ ชต้ อ่ ไปเรอื่ ย ๆ (เขารวู้ า่ ดฉิ นั ไปตา่ งประเทศ
224 ��� ด้านหน่ึงของชีวติ ทุกปี) เขาถึงกับไปรับรองกับทาง World Express ว่าดิฉันยังไม่ต้องจ่ายเงิน ท้ังหมด เอาไว้กลับมาแล้วค่อยจ่าย เขารับผิดชอบเอง แต่ส�ำหรับเพ่ือน ของดิฉันที่มาขอไปด้วยน้ัน ต้องจ่ายก่อนแบบธรรมดา ในใบ voucher ทุกใบของดฉิ นั เขาพิมพไ์ ว้วา่ fully pre-paid ทัง้ ๆ ท่ยี ังไม่ได้จา่ ยเลย ตรงน้ีต้องอธิบายอีกว่าดิฉันกลัวเงินหาย ฝันว่าเงินหายบ่อย ๆ ทีนี ้ ถ้าไปท�ำเงินหายท่ีต่างประเทศจะท�ำอย่างไร จะได้ใครช่วยเหลือ โดยเฉพาะ ตอนแรก เมอื่ จะไปคนเดยี ว จงึ ขอรอ้ งทางบรษิ ทั ทำ� ใบ voucher สำ� หรบั แทน เงนิ สดใหท้ กุ อยา่ ง เปน็ เลม่ หนาปกึ ทเี ดยี ว ไปถงึ ทไี่ หนกฉ็ กี ใบ voucher ใหเ้ ขา ตามที่เขาพิมพ์ไว้ ค่ารถ ค่าโรงแรม ค่าอาหาร แม้แต่ค่าทิปบริกรใบละ 1 ดอลลาร์ เขาก็ท�ำให้ต่างหาก เป็นอันว่าถ้าไปท�ำเงินหายหมด ก็จะไม่ เดอื ดรอ้ นอะไรนกั พวกเพอ่ื นฝงู รเู้ รอื่ งนกี้ พ็ ากนั ขนั วา่ ดฉิ นั ท�ำแปลกมนษุ ย ์ ! เมอ่ื คอยอยนู่ านจนใกลว้ นั เดนิ ทางแลว้ เอกสารอะไรยงั ไมไ่ ดเ้ ลย ดฉิ นั กลมุ้ ใจมาก หวั หนา้ ทวั รบ์ อกวา่ ถา้ ยงั ไมม่ าถงึ กอ่ นวนั เดนิ ทาง จะใหท้ างโนน้ ส่งตรงไปท่ีฮ่องกง เราไปรับเอาที่นั่น ดิฉันไม่ยอม ไม่ตกลงด้วย ในท่ีสุด ไดค้ วามวา่ เมอ่ื เขาสง่ ชอ่ื ดฉิ นั ไปครงั้ แรก เขาเขยี นถกู Balankura (พลางกรู ) แต่เม่ือส่งอะไรตามไปไม่ทราบ เขาเขียนผิดว่า Balankula ทางโน้นเลย ยงั ทำ� ใหไ้ มไ่ ด ้ เรอ่ื งนถ้ี อื เปน็ บทเรยี นไดว้ า่ การสะกดชอื่ ตา่ ง ๆ นนั้ สำ� คญั มาก ต้องดอู ย่างละเอียด มิฉะนน้ั จะเกดิ การเสยี หายอยา่ งในเรอ่ื งของดฉิ ันน้ี วันที่ออกเดินทาง ดิฉันให้เพ่ือนท่ีจะไปด้วยมาท่ีบ้านดิฉันก่อนเวลา เพอื่ เราจะไดอ้ อกไปพรอ้ มกนั ดฉิ นั ลองยกกระเปา๋ ใบใหญข่ องเธอทง้ั สองใบ รสู้ กึ วา่ มนั เบาผดิ ปกต ิ ขอเปดิ ด ู เหน็ มขี องไมถ่ งึ ครงึ่ กระเปา๋ เธอบอกวา่ ตง้ั ใจ จะไปซ้ือของใช้ใหม่เอาทางโน้น และแน่ละ เก็บท่ีว่างเอาไว้ใส่ของอ่ืน ๆ ท่ี ต้ังใจจะไปช็อปปิ้งให้สมใจ - เธอคิดต่างกับดิฉัน ดิฉันไม่หมายน�้ำบ่อหน้า เลย ต้องเตรียมไปให้พร้อมทุกคร้ัง เพราะว่าถ้าหาซื้อไม่ได้ตามที่ต้องการ จะวา่ อย่างไร
ฉลบชลัยย์ พลางกรู ��� 225 ออกเดินทาง อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเรียบร้อย เราไปหยุดท่ีฮ่องกงก่อน แล้วจึงต่อ ไปถึงโตเกียว ตอนน้ันคุณสุพงษ์ โสตถิทัต เป็นผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ ทนี่ น่ั ดฉิ นั รจู้ กั เธอมานานแลว้ เมอ่ื ดฉิ นั ไปฮอ่ งกงครงั้ แรก เธอเปน็ ผจู้ ดั การ ธนาคารกรุงเทพท่ีฮ่องกง แล้วจึงย้ายมาอยู่ญ่ีปุ่น ดิฉันโทรเลขถึงเธอบอกว่า ดฉิ นั จะไปถงึ โตเกยี วโดยสายการบนิ นนั้ เทย่ี วบนิ นนั้ วนั ทเ่ี ทา่ นน้ั และเวลา นนั้ แต่สะเพร่าอีกแลว้ ไมไ่ ดบ้ อกวา่ AM หรอื PM ! เมื่อไปถึงสนามบินโตเกียวแล้ว เขาจะให้ขึ้นรถบัสไปโรงแรม ก็ อวดดีบอกว่าจะไปเอง แล้วน่ังรอคุณสุพงษ์ เช่ือว่าเธอจะต้องมารับแน ่ ขา้ งฝา่ ยคณุ สพุ งษก์ ค็ ดิ เอาเองวา่ เราคงไมไ่ ปถงึ เวลา AM แน ่ (จำ� ชวั่ โมงไมไ่ ด้ แล้ว) ต้องมา PM ก็เลยนั่งท�ำงานตามสบาย สักช่ัวโมงกว่า ๆ เกิดเฉลียวใจ ขึ้นมา โทร. ไปถามที่ออฟฟิศของสายการบินน้ัน จึงรู้ว่าเรามาถึงแล้ว คุณ สพุ งษห์ วงั ดไี ปจองโรงแรมไวใ้ ห ้ ทงั้ ๆ ทเ่ี ราไมไ่ ดข้ อรอ้ งมา เธอวา่ กนั เอาไว้ ก่อน และโรงแรมนั้นคุ้นเคยกับธนาคารกรุงเทพมาก โทร. บอกเลิก แทนท่ี เขาจะโกรธ เขากลบั ดีใจ เพราะมีแขกมารอคอยหอ้ งว่างอยแู่ ลว้ ความจริงดิฉัน โทร. ถึงคุณสุพงษ์ก็เพื่อจะได้พบปะพูดคุยกันเท่าน้ัน ถ้าไม่บอกไปเดี๋ยวเธอรู้เข้าทีหลังจะต่อว่าเอา เราไม่อยากกวนเวลาทำ� งาน ของเธอ และตวั เราเองกม็ เี วลาเพยี งเลก็ นอ้ ย อยากจะเดนิ ดขู องเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ท่ีใกล้ ๆ โรงแรมมากกว่า เพราะรุ่งเช้าก็จะต้องบินต่อไปแล้ว อย่างไรก็ด ี คุณสพุ งษ์ก็พาไปเลยี้ งอาหารกลางวนั จนได ้ แล้วพามาสง่ ถงึ โรงแรม อยากเลา่ เร่ืองนา่ ขันอย่างหนง่ึ คือเย็นวันน้นั เพอ่ื นของดฉิ นั ส่งั อาหาร ขา้ วกบั แกง ดฉิ นั บอกวา่ เพงิ่ ออกมาจากเมอื งไทยไดว้ นั เดยี ว คดิ ถงึ อาหารไทย แลว้ หรอื คนญปี่ นุ่ จะทำ� ไดเ้ รอ่ื งอะไร เธอกไ็ มฟ่ งั สงั่ จนได ้ พอเขายกมาเสริ ฟ์ ดฉิ นั อยากจะหวั เราะใหด้ งั ลน่ั ตวั แกงนน้ั ใส ๆ ขนุ่ ๆ เหมอื นนำ�้ ลา้ งชามด ี ๆ
226 ��� ดา้ นหน่งึ ของชีวิต น่ีเอง มีแต่คราบมัน ๆ สีกะหรี่ลอยอยู่บาง ๆ จ�ำไม่ได้ว่าเพื่อนกินหรือเปล่า ส่วนดิฉันน้ันสั่งอาหารฝร่ังคือสเต็กเน้ืออย่างธรรมดา ก็กินได้สบาย เพราะ เน้ือของเขานุ่มดี โอซาก้า จากโตเกยี ว จำ� ไมไ่ ดว้ า่ ทำ� ไมเราจงึ ไปโอซากา้ กอ่ นไปฮาวาย ทจ่ี �ำได้ ก็เพราะว่าเม่ือไปญี่ปุ่นครั้งแรกกับทัวร์ของคุณสมถวิลนั้น เรามาโอซาก้าใน ระยะทเี่ ขามกี ารแสดงสนิ คา้ ใหญป่ ระจำ� ป ี ผคู้ นมาจากทตี่ า่ ง ๆ มาขายและมา ซื้อสินค้า ส่วนมากเป็นพ่อค้าใหญ่ ๆ ผู้คนเต็มเมืองไปหมด คราวนี้ก็ เชน่ เดยี วกนั เขาคงจะมกี ารแสดงสนิ คา้ ในเดอื นเมษายน เราไดไ้ ปอยทู่ โ่ี รงแรม เล็ก ๆ คือ Station Hotel ทั้งสองครั้ง คร้ังแรกท่ีจ�ำได้ดี เพราะเช้าวันก่อน เคร่ืองบินจะออก ดิฉันออกไปเดินเล่นใกล้ ๆ โรงแรม เห็นร้านขายของ เบด็ เตลด็ รา้ นหนง่ึ เปดิ บานเกลด็ แลว้ มองผา่ นกระจกเขา้ ไป เหน็ เสอ้ื ไหมพรม ตัวหน่ึงสวยมาก พื้นสีเทาและปักลวดลายสีด�ำเป็นแบบลายกนกไทย จึง เคาะประตเู รยี กผหู้ ญงิ ทก่ี �ำลงั กวาดพนื้ ใหเ้ ปดิ ประต ู เขาชใี้ หด้ นู าฬกิ า บอกวา่ 10 น. จึงจะเปิดได้ ดิฉันช้ีนาฬิกาบ้างท่ี 9 น. บอกว่าเครื่องบินจะออกแล้ว โดยกางแขนท�ำท่าขยับปีก เขาเข้าใจ แต่คงกลัวความผิด หันมองเลิกล่ัก ทางโนน้ ทางน ี้ คงจะสงสารดฉิ นั เลยเปดิ ประตใู ห ้ แตท่ ำ� มอื ทำ� ไมใ้ หร้ บี เรว็ ดิฉันก็เร็วทันใจ คว้าเสื้อตัวนั้นได้ จ่ายเงินตามป้ายราคา แล้วรีบออกมาโดย ไม่มีใครเหน็ พอกลบั ถงึ โรงแรม เพอ่ื น ๆ เหน็ ชอบใจกนั ใหญ ่ วง่ิ ออกไปจะขอซอื้ บ้าง แต่คราวน้ีเขาทำ� ท่าไม่ยอมเด็ดขาดเลย คราวหลงั นกี้ เ็ ชน่ เดยี วกนั ดฉิ นั พาเพอื่ นคนทไ่ี ปดว้ ยกนั นไี้ ปทรี่ า้ นน้ี อกี แตไ่ ปเวลาธรรมดา หลงั 10 น. แลว้ คราวนเี้ หน็ เขาขายขนมเปน็ ถงุ และ
ฉลบชลัยย์ พลางกูร ��� 227 เป็นกล่อง ดิฉันเล่าให้เพ่ือนฟังว่าเคยท�ำท่าเครื่องบิน และซ้ือของได้ส�ำเร็จ เธอเลยบอกวา่ เธออยากจะซอ้ื คกุ กหี้ รอื บสิ กติ ทม่ี รี สเคม็ รสหวานไมเ่ อา และ ขอให้ดิฉันทำ� ท่าให้คนขายทราบวา่ เอารสเค็ม ๆ ท่านลองคิดดูซวิ ่าใครบ้างจะสามารถท�ำท่าเค็ม ๆ ได้ ! จากโอซาก้า เราคงจะบินตรงไปฮาวายเลย หรืออย่างไรจำ� ไม่ได้แน ่ ต้องขออภยั ด้วย ฮาวาย ฮาวายเป็นหมู่เกาะ เมืองหลวงชื่อฮอโนลูลู (Honolulu) เราลงจาก เครอื่ งบนิ แลว้ ยงั ไงจงึ ไดล้ งเรอื ไปขน้ึ ฝง่ั ทฮ่ี อโนลลู ู จำ� ไมไ่ ดอ้ กี แลว้ แตท่ จี่ ำ� ได ้ สวน1ก1ุห ลเมาษบาทย่ลี นอ ส2แ5อ1ง5เจลิส
228 ��� ด้านหนง่ึ ของชวี ติ แนน่ อนคอื มหี ญงิ สาวกลมุ่ หนงึ่ สวมกระโปรงเปน็ สาย ๆ ทำ� ดว้ ยดอกไมแ้ หง้ กรูกันออกมาต้อนรับพวกเรา และสวมมาลัยดอกไม้สดให้เราทุกคน เสร็จ แลว้ ก็เตน้ รำ� ทำ� เพลงใหเ้ ราดสู ักครู่ กอ่ นที่จะเชิญเราเขา้ ท่พี ัก ทฮี่ าวายน ี้ เขาพาคณะเราไปเทยี่ วตามเกาะตา่ ง ๆ หลายแหง่ ซงึ่ ลว้ นแต่ ปลกู ตน้ ไมด้ อกไมน้ า่ ด ู ดฉิ นั เพง่ิ เคยเหน็ ดอกชบา (ชน้ั เดยี ว) สตี า่ ง ๆ ทดี่ อก ใหญ่มาก บานเต็มที่แล้วเท่ากับจานขนาดกลางของเรา เมื่อไปถึงเกาะไหน เขาก็แสดงการเต้นระบ�ำ แสดงดนตรีและการเล่นต่าง ๆ มีอยู่เกาะหนึ่ง เขา สรา้ งรปู สบั ปะรดจ�ำลองใหญโ่ ตมหมึ าและสวยงาม วางนอนอยบู่ นเสาเหลก็ ใหญ ่ แบบเสาปา้ ยโฆษณาใหญ่ ๆ ของเรา คงเพอื่ จะแสดงวา่ เมอื งนเ้ี ปน็ เมอื ง ทม่ี ีสับปะรดดีมชี ่อื เสียง แต่ในปจั จบุ นั เขา้ ใจวา่ จะเปล่ยี นไปแลว้ ที่ฮอโนลูลูได้พบคุณครูเย็นใจ ซ่ึงเคยเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ที ่ โรงเรียนดรุโณทยาน เธอไปเรียนอะไรเพิ่มเติมท่ีมหาวิทยาลัยฮอโนลูลูก็ ไม่ทราบ เธอพาเราไปท่ีอพาร์ตเมนต์ของเธอด้วย ซ่ึงท่ีนั่นเราได้พบคนงาน หญงิ ไทยทไ่ี ปทำ� งานดแู ลรักษาความสะอาดหลายคน ดิฉันหาซ้ือของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่ีถูกใจไม่ได้เลย นอกจากพวก พวงกญุ แจหรอื เขม็ กลดั ซง่ึ ประดบั ดว้ ยลาวา ลาวาคอื น�้ำทลี่ ะลายจากภเู ขาไฟ ตอนระเบิด แล้วไหลลงมากระจัดกระจายแตกเป็นเม็ดใหญ่เม็ดเล็ก เป็น สนี ำ�้ เงนิ ดำ� ๆ ขนุ่ ๆ มองดเู หมอื นหนิ ผสมกบั โลหะ และบนผวิ มสี เี ขยี ว ๆ แดง ๆ นดิ หนอ่ ย แบบสขี องปกี แมลงทบั แตบ่ างกว่ามาก แยกจากคณะทซ่ี านฟรานซิสโก จากฮอโนลลู ู เราตรงไปซานฟรานซสิ โก ตอนนแ้ี หละทด่ี ฉิ นั กบั เพอื่ น แยกจากคณะทัวร์และเดินทางต่อไปกันตามล�ำพัง โดยใช้โปรแกรมท่ีทาง World Express จัดให้ เราพักที่โรงแรมชื่อคล้าย ๆ St. Francis หรือ
ฉลบชลัยย์ พลางกูร ��� 229 อะไรทำ� นองน ้ี อยเู่ ชงิ สะพานสงู ทเี่ มอื งนเ้ี ราไมไ่ ดไ้ ปเทย่ี วทไ่ี หน นอกจาก แลน่ รถไปตามถนนรมิ ฝง่ั ทะเล ไดเ้ หน็ ป ู ปลา หอย ฯลฯ ของทะเลสด ๆ วาง ขายอยู่เต็มไปหมด แน่ละเราแล่นรถดูเมืองด้วย ท่ีซานฟรานซิสโกน้ี จิตรา อาภาภิรมย์ นักเรียนเก่าดรุโณทยาน มารับและพาไปชมสถานท่ีต่าง ๆ ด้วย แต่เราอยู่ซานฟรานซิสโกเพียงคืนเดียวก็เดินทางไปลอสแองเจลิส (Los Angeles) ดิฉันได้เร่ิมใช้สมุด voucher ฉีกออกจ่ายทีละแผ่น ค่าโรงแรม ค่า อาหาร คา่ รถ ฯลฯ แม้แตค่ ่าทิปบรกิ ร เขากแ็ ยกทำ� ใหใ้ บละ 1 ดอลลาร์ ถึงลอสแองเจลสิ เม่ือไปถึงลอสแองเจลิสได้วันเดียว รุ่งขึ้นคุณนวลเปล่ง (อดีตคร ู โรงเรียนดรุโณทยาน) กับสมรรัตน์ นักเรียนเก่าดรุโณทยาน ก็มาหา แล้ว ตั้งแต่วันน้ันจนกระท่ังวันออกจากลอสแองเจลิส เวลากลางวันก็แทบไม่ได้ อยู่โรงแรมเลย ส่วนมากจะไปกับสองคนน้ี เขาบอกว่าดิฉันมีเวลาอยู่น้อย ฉะนนั้ จะตอ้ งพาเทย่ี วใหค้ มุ้ ออกจากโรงแรมหลงั อาหารเชา้ และกวา่ จะกลบั ถงึ โรงแรมก็ค่�ำมืด บางทกี ็ดึกทีเดียว วนั แรกไปบา้ นคณุ นวลเปลง่ ไปพบสามขี องเธอ แตไ่ มไ่ ดค้ ยุ กนั นาน เพราะจะต้องรักษาเวลา เท่ียวมากจนจ�ำไม่ได้ว่าท่ีไหนบ้าง สมรรัตน์พาไป เทยี่ วสวนดอกไม ้ ตอนนนั้ ดอกแดฟโฟดลิ ส ์ (daffodils) บานแลว้ ทจี่ �ำไดก้ ็ เพราะสมรรตั นเ์ ลา่ วา่ เมอ่ื มาอยแู่ รก ๆ พอเหน็ ดอกแดฟโฟดลิ ส ์ เขากท็ อ่ งโคลง Daffodils (ของ William Wordsworth) เบา ๆ พวกเพอ่ื นนกั เรยี นแปลกใจที่ ทอ่ งไดเ้ ชน่ น้นั เกง่ กว่าพวกเขาบางคนเสียอกี วันหนึ่งเขา โทร. ไปจองโต๊ะอาหารเย็นไว้ท่ีภัตตาคารจีนแห่งหน่ึง แลว้ พาเราเทยี่ วดโู นน่ ดนู ท่ี งั้ วนั หยดุ แตช่ วั่ ตอนกนิ อาหารกลางวนั แบบเบา ๆ
230 ��� ดา้ นหนึ่งของชีวิต เร็ว ๆ เท่านั้น เที่ยวไปจนบ่ายมากแล้ว ยังเหลืออีกหลายแห่งที่เตรียมจะไป เกรงว่าจะหิว ก็เลยจอดรถกินของเบา ๆ (แบบ drive in) รองท้องเสียก่อน ในท่ีสุดเม่ือไปถึงภัตตาคารที่จองโต๊ะไว้ก็ตั้งสี่ทุ่มกว่า เจ้าของร้านถามว่าเรา หายไปไหนมา จนคนอ่ืน ๆ ท่ีมาจองไว้กินกันเสร็จหมด และกลับไปแล้ว เปน็ สว่ นมาก ดฉิ นั เหลอื บเหน็ ปา้ ยชอื่ ภตั ตาคารกอ็ ดหวั เราะไมไ่ ด ้ เพราะมนั ออกจะเหมาะสมกบั อาการของพวกเราในตอนนนั้ คอื ชอื่ The Hungry Tiger จ�ำไดไ้ มม่ ีวนั ลืมเลย อีกวันหนึ่งต้องขอเวลาให้เพื่อนดิฉันช็อปปิ้งเสียคร่ึงวัน เพราะเธอ กระหายมานานแล้ว วันนั้นเธอเลือกซ้ือ night dress 5 - 6 ตัว pajamas 5 - 6 ชุด ส่งให้สมรรัตน์ท้ังไม้แขวน ขอให้ช่วยพาดแขนไว้ แล้วซื้อเส้ือ อยู่กับบ้านอีกไม่รู้กี่ตัว ขอให้พาดอีกแขนหน่ึง แล้วยังซ้ือของอื่น ๆ ถือเอง อีกพะรุงพะรัง ตอนเดินไปช�ำระเงิน ผู้คนมองดูกันเป็นแถว สมรรัตน์ต้อง ยกแขนไวต้ ลอดเวลาเพราะเสอ้ื เหลา่ นน้ั มนั ยาวจะระพนื้ อยแู่ ลว้ ดฉิ นั บอกวา่ ซ้ือเสยี ให้พอ แลว้ อยา่ มากวนเวลาซ้อื ทีหลังอีก ตามโปรแกรมท่ีเขาจัดให้จากเมืองไทย ไม่รู้ว่าเล่าสลับวันกันหรือ เปล่า แต่ว่าวันหน่ึงจัดให้เราไปฮอลลีวู้ด (Hollywood) ไปกินข้าวร้านจีนที่ เบฟเวอร์ลีฮิลส์ (Beverley Hills) ซ่ึงเขาสั่งจองไว้เรียบร้อยแล้ว เขาว่าถ้า ไม่จองไว้จะไม่มีวันได้กินเลย เพราะดูเหมือนว่ามีพวกดาราภาพยนตร์นิยม ไปกินกัน คุณนวลเปล่งกับสมรรัตน์ไปกับเราด้วย เขาติดป้ายชื่อดิฉันไว ้ ขา้ งฝา พอเราไปถึงกจ็ ึงปลดป้ายออก เราไมต่ อ้ งใชเ้ งนิ สดเทา่ ไรเลยในการกนิ อาหารทนี่ ี่ เพราะลำ� พงั voucher ทเ่ี ขาออกใหเ้ ราสองคนสำ� หรบั อาหารกลางวนั และอาหารเยน็ คนหนงึ่ มอ้ื ละ 10.50 ดอลลาร ์ รวมสองคนสองวนั ก ็ 84 ดอลลารแ์ ลว้ (สมยั นน้ั เงนิ ยงั ถกู อย)ู่ กินอ่ิมแล้ว อาหารยังเหลืออีก ทางร้านก็จัดใส่กล่องให้เราเอากลับบ้านโดย มิต้องขอร้อง ทีแรกดิฉันจะไม่เอา แต่คุณนวลเปล่งคะย้ันคะยอให้เอามา
ฉลบชลัยย์ พลางกูร ��� 231 เพราะอาหารด ี ๆ ทงั้ นน้ั นา่ เสยี ดาย อนง่ึ เชา้ วนั รงุ่ ขนึ้ ดเู หมอื นคนใดคนหนงึ่ จะติดธุระ จะมาหาเราไดก้ ใ็ นตอนบ่าย บางทีอาหารน้ันจะเปน็ ประโยชน์ แปลกมาก เช้าวันรุ่งขึ้น ฝนตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลย ดิฉันได้ คิดไว้กับเพื่อนว่าจะลองออกไปเที่ยวดูอะไร ๆ ใกล้ ๆ โรงแรมเองบ้าง เป็น อันว่าไปไม่ได้ เลยใช้เวลาเขียนจดหมายถึงเมืองไทยได้หลายฉบับ ตอน กลางวนั ลองเปดิ กลอ่ งอาหาร 2 - 3 กลอ่ งนนั้ ด ู แนใ่ จวา่ ตอ้ งอรอ่ ยกวา่ อาหาร ในโรงแรมแน่ และข้ีเกียจแต่งตัวด้วย กินในห้องนอนน่ันแหละสบายด ี อาหารเหล่านั้นกเ็ ลยได้เปน็ ประโยชน์จริง ๆ เขาจัดให้เราไปดิสนีย์แลนด์ด้วย ไปถึงก็ซ้ือต๋ัวเล่มเล็ก ๆ คนละเล่ม แล้วนั่งรถ นั่งเรือ แล้วฉีกตั๋วไปตามท่ีเขาเขียนไว้ทีละแผ่น ดูไปไม่กี่อย่าง กเ็ บอ่ื แลว้ ใชต้ ว๋ั ยงั ไมถ่ งึ ครง่ึ เลม่ ขน้ึ มาเอาตว๋ั ทเี่ หลอื แจกพวกเดก็ ยากจนทม่ี า คอยรับแจกอยู่ นัยว่ามีการแจกต๋ัวแบบนี้ทุกวัน เราเดินดูอะไรเล็กน้อย ตอนกลางวันเลยทดลองกินอาหารเม็กซิกันเพื่อให้เป็นความรู้ ไม่อร่อยนัก แตก่ ็พอกินได ้ เพราะรสจัดและมเี ผด็ แบบอาหารไทยด้วย จ�ำไม่ได้ว่าเราไปดูการแสดงต่าง ๆ ของปลาโลมาท่ีไหน ซ่ึงน่าดูมาก คนเลี้ยงปลาทั้งหญิงและชายสามารถพูดคุยกับปลารู้เร่ืองดี สั่งให้ท�ำอะไร ปลาก็จะทำ� เช่นนั้น มีการกระโดดลอดหว่ งไฟดว้ ย น่าต่นื เตน้ มาก อยลู่ อสแองเจลสิ ไมเ่ กนิ 4 - 5 วนั เพราะมรี ายการจะไปทอ่ี น่ื อกี หลาย เมือง ได้ไปดูเขื่อนรูสเวลต์ (Roosevelt) ซ่ึงเป็นเขื่อนท่ีใหญ่ที่สุดแห่งหน่ึง ของโลก อยรู่ มิ เขตของลอสแองเจลสิ ตอ่ กบั แอรโิ ซนา (Arizona) ทใี่ กล้ ๆ นน้ั มสี ะพานซง่ึ ไมย่ าวนกั ทรี่ มิ เขตดา้ นลอสแองเจลสิ มนี าฬกิ าเรอื นหนงึ่ แขวนไว้ มองไปท่ีปลายสะพานด้านแอริโซนาก็มีนาฬิกาแขวนไว้อีกเรือนหน่ึง นาฬกิ าสองเรอื นนบี้ อกเวลาหา่ งกนั ตงั้ หนง่ึ ชว่ั โมง ทง้ั ๆ ทต่ี งั้ อยหู่ า่ งกนั ไมก่ ่ี สิบเมตร เพราะแต่ละเรือนบอกเวลาของรัฐนนั้ ๆ แปลกดเี หมือนกัน
232 ��� ดา้ นหนึ่งของชวี ิต ไปแอรโิ ซนา – ลาสเวกสั แอริโซนาเป็นเขตทะเลทราย ของท่ีระลึกต่าง ๆ จะท�ำเป็นรูปต้น กระบองเพชร ซงึ่ เปน็ ตน้ ไมข้ องทะเลทราย เราไปพกั ทโี่ รงแรมใหญโ่ ตมาก ทล่ี าสเวกสั ซง่ึ มคี นสำ� คญั ๆ ไปพกั กนั เสมอ เพราะมคี าสโิ น ไฟฟา้ เปดิ สวา่ งจา้ ตลอดคนื เหมือนกลางวนั ดี ๆ นี่เอง โรงแรมแบบนมี้ อี ยู่ตดิ ๆ กนั หลายแห่ง ดิฉันลองออกจากห้องนอนไปเดินดูรอบ ๆ ซึ่งเป็นที่โล่งกว้างขวางมาก มี การพนันให้เล่นทุกแบบ และมีห้องต่าง ๆ แสดงการเต้นระบ�ำท�ำเพลง และ การโชวร์ อ้ ยสพี นั อยา่ ง ไปยนื ดไู ดโ้ ดยไมต่ อ้ งเสยี เงนิ เลย ดฉิ นั กบั เพอ่ื นลอง ไปหยอด Slot machines ด ู 2 - 3 ครง้ั ใหข้ น้ึ ชอื่ วา่ ไดม้ าเลน่ การพนนั ทลี่ าสเวกสั แลว้ ! เสยี เงินไปนิดหน่อยเท่าน้ัน ดฉิ นั เหน็ ชา่ งวาดรปู คนหนง่ึ กำ� ลงั นง่ั วาดรปู คนจรงิ วาดไดร้ วดเรว็ มาก และมองดูมีชวี ติ จิตใจจริง ๆ โดยเฉพาะสายตา ดฉิ ันอยากใหเ้ ขาวาดบ้าง ไป ถามเขา เขาให้ดูวา่ คนจองควิ ยาวไปถงึ เช้า จึงหมดโอกาส เพราะตอนเชา้ เรา กจ็ ะออกเดินทางแล้ว เสยี ดายเหลอื เกนิ ดูแกรนด์แคนยอน เขาพาไปดูแกรนด์แคนยอน (Grand Canyon - หุบหิน) ก่อนหรือ หลังมาพักท่ีโรงแรมนี้จ�ำไม่ได้ เพียงจ�ำได้ว่าเมื่อเครื่องบินเล็กลงจอดท ่ี สนามบินเล็ก ๆ ในเขตแกรนด์แคนยอนแล้ว เห็นพวกผู้ชายใส่หมวกแบบ คาวบอยเต็มไปหมด เขาให้เราท้ิงข้าวของไว้ที่สนามบิน เพ่ือไปขึ้น เฮลิคอปเตอร์ ซ่ึงจะพาไปดูทั่วบริเวณแกรนด์แคนยอน ดิฉันไม่ค่อยไว้ใจ เลย มองหนา้ มองหลงั เปน็ หว่ งกลวั วา่ ของจะหาย เจา้ หนา้ ทรี่ ใู้ จเรา บอกวา่ ไม่ต้องห่วง รับรองของจะปลอดภัย จึงยอมขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เขาบินไป
ฉลบชลัยย์ พลางกูร ��� 233 เตี้ย ๆ จนท่ัว แล้วจอดท่ีที่แห่งหน่ึงกลางทุ่งน้ัน เพื่อให้ดูบ่อแคบ ๆ ซ่ึงลึก ลงไปมากทีเดียว น่าเสียวไส้ ใครตกลงไปไม่มีหวังรอดแน่ หินใน แกรนด์แคนยอนน้ีมีสีต่าง ๆ และรูปร่างต่าง ๆ สวยงามน่าดู เม่ือกลับมาถึง สนามบิน เหน็ ของยงั อยูค่ ่อยโลง่ อกไป ชิคาโก จากแกรนด์แคนยอน เราแวะไปพักท่ีฟีนิกซ์หนึ่งคืน แต่ไม่มีอะไร น่าเล่า แล้วจึงต่อไปชิคาโก (Chicago) เมืองนี้มีคนไทยมาก มาเรียนหรือ ท�ำงานเป็นหมอและนางพยาบาล เย็นวันหน่ึง ลูกสาวของเพอ่ื นท่ีเมืองไทย คนหน่ึงขับรถมารับ บอกว่าจะเลี้ยงอาหารจีน ดิฉันบอกว่าเป็นเด็กจะมา เลย้ี งผใู้ หญไ่ มไ่ ด ้ ดฉิ นั จะเปน็ คนเลยี้ งเอง เธอไมย่ อม บอกวา่ เธอไมใ่ ชเ่ ดก็ แลว้ ดฉิ นั เคยเหน็ เธอตงั้ แตเ่ ลก็ กย็ งั นกึ วา่ เธอเปน็ เดก็ อยนู่ น่ั เอง แตเ่ ธอบอกวา่ ขณะนั้นเธอทำ� งานเป็นครูสอนพวกนางพยาบาลได้เงินเดือนแยะแล้ว พอท่ี จะเลยี้ งเราไดอ้ ยา่ งสบาย ! ดฉิ นั เชอื่ วา่ เธอพดู จรงิ เพราะดรู ถทเี่ ธอใช ้ ยห่ี อ้ อะไรก็ไม่ทราบ แต่คันยาวเหยียด ครึ่ง ๆ รถตู้ทีเดียว และเมื่อเธอแล่นช้า ๆ กอ่ นจะจอด มหี ญงิ สาวอเมรกิ นั หลายคนโบกมอื ทกั ทายเธอ เธอบอกวา่ พวกนนั้ เป็นศิษย์พยาบาลของเธอเอง ตอนกินอาหารเสร็จนั้นเป็นเวลาสัก 4 - 5 ทุ่ม อากาศหนาวมากทั้ง ๆ ที่เป็นต้นเดือนพฤษภาคมแล้ว เธอพาเราชมเมือง แลว้ ไปจอดทรี่ มิ ทะเลสาบ มรี ถอนื่ ๆ มาจอดกนิ ลมแบบเราหลายคนั เหมอื นกนั ท ี่ Shore Drive น ้ี ทช่ี คิ าโกน ้ี มเี รอื่ งแปลกทอี่ ยากเลา่ ใหฟ้ งั คอื ในรา้ นอาหารจนี มากกวา่ หนงึ่ แหง่ มรี ายการอาหารเปน็ ภาษาไทย ทง้ั นกี้ เ็ พราะมคี นไทยไปกนิ เปน็ ประจำ� กนั มากนนั่ เอง
234 ��� ดา้ นหนง่ึ ของชวี ติ บพั ฟาโล จากชิคาโก เรามุ่งตรงไปเมืองบัฟฟาโลเพ่ือที่จะข้ามฝั่งไปดูน้�ำตก ไนแอการา (Niagara) จากทางฝง่ั แคนาดา เพราะถา้ ดจู ากดา้ นอเมรกิ าจะไมเ่ หน็ สวยนกั เมอื่ เราไปถงึ สะพานขา้ ม เจา้ หนา้ ทเ่ี ฝา้ สะพานบอกวา่ เพงิ่ มกี ฎหมาย ออกมาเมอ่ื 2 - 3 วนั นเี่ องวา่ คนทจี่ ะขา้ มฟากไปฝง่ั แคนาดาจะตอ้ งมใี บอนญุ าต จากทางการ มิฉะนน้ั จะกลับเข้ามาไมไ่ ด้ ดิฉันเอาหลักฐานให้เขาดูว่าเราออกจากเมืองไทยมาก่อนที่กฎหมาย ของเขาจะออก ให้ดูโปรแกรมการเดินทางของเราทั้งหมด พร้อมกับใบจอง โรงแรมท่ีทางปลายสะพานด้านแคนาดาหน่ึงคืน และให้ดูหลักฐานว่าหลัง จากนั้นเราจะไปนิวยอร์ก วอชิงตัน ฯลฯ เขาเข้าไปปรึกษากันสักครู่ คงจะ สงสารเราและรู้ว่าเราพูดจริง จึงบอกว่าจะท�ำใบอนุญาตให้ข้ามสะพานกลับ มาไดใ้ นวนั รงุ่ ขน้ึ ดฉิ นั เกรงวา่ วนั รงุ่ ขนึ้ อาจจะมกี ารสบั เปลย่ี นเจา้ หนา้ ท ่ี แลว้ จะเกดิ การขลกุ ขลกั ขนึ้ อกี แตเ่ ขารบั รองวา่ วนั รงุ่ ขนึ้ เขากย็ งั คงอยทู่ น่ี นั่ ไมต่ อ้ ง วิตก เรอ่ื งจงึ เรยี บรอ้ ยไป เราขา้ มสะพาน แลว้ กต็ รงไปยงั โรงแรมทจี่ องไว ้ ซง่ึ อยใู่ กล้ ๆ นน่ั เอง เปน็ รปู หอคอยสงู ชนั้ บน (ดาดฟา้ ) มที ก่ี นิ อาหารบนพนื้ ทหี่ มนุ ไปไดร้ อบ ๆ จากท่ีตรงนี้เราจะเห็นน�้ำตกได้อย่างชัดเจน เห็นได้ว่าใหญ่โตและสวยมาก จริง ๆ ตามค�ำเล่าลือ ตั๋วกินอาหารน้ันมีใบจองมาจากเมืองไทยแล้ว ฉะนั้น ทุกอยา่ งจงึ เป็นไปโดยเรียบรอ้ ย นวิ ยอร์ก รุ่งข้ึนกลับไปฝั่งอเมริกา อยู่โรงแรมเดิม และวันต่อไปก็บินตรงไป นิวยอร์ก ท่ีเมืองนี้เดิมทีเขาจะจองโรงแรมย่าน Fifth Avenue ให้เรา แต ่
ฉลบชลยั ย์ พลางกูร ��� 235 เพอ่ื นคนหนง่ึ ทกี่ รงุ เทพฯ ซงึ่ เคยมาเทย่ี วแลว้ พอรวู้ า่ เพอื่ นทจี่ ะมากบั ดฉิ นั นน้ั ชอบช็อปปิ้งมาก จึงบอกว่าให้ไปอยู่โรงแรมแถบ Eighth Avenue ซ่ึงอยู่ ติดกับร้านสรรพสินค้าท่ีใหญ่โตมากจะสะดวกกว่า (ลืมชื่อโรงแรมไปแล้ว) เพราะวา่ เดนิ ไปไดส้ บาย จะไปวนั ละกห่ี นกย็ งั ได ้ ตกลงเรากท็ ำ� ตามเขาบอก คือใหเ้ ขาจัดโรงแรมใน Eighth Ave. นัน้ ทีนี้เม่ือมาถึงโรงแรมนี้ กลายเป็นว่าเขาก�ำลังท�ำการปรับปรุงใหญ่โต คือตอนนั้นบรรดาโรงแรมที่เดิมมีห้องพักใหญ่ ๆ น้ันเห็นว่าไม่จ�ำเป็น จึง พากนั ซอยหอ้ งเดมิ เจยี ดใหเ้ ลก็ ลง เพอื่ จะไดจ้ �ำนวนหอ้ งมากขนึ้ ทน่ี กี่ เ็ ชน่ เดยี ว กนั เขาจดั ใหเ้ ราไปอยทู่ างปกี ทปี่ รบั ปรงุ แลว้ แตย่ งั ไมท่ นั เสรจ็ ด ี คอื ยงั ไมไ่ ด้ ติดฮีตเตอร์ ดิฉันไม่ยอม ขอพบผู้จัดการให้เปลี่ยนห้องให้เรา เล่าความจริง ใหฟ้ งั ถงึ เรอ่ื งทเ่ี ราอตุ สา่ หเ์ ปลย่ี นจาก Fifth Ave. มาอยทู่ นี่ ี่ ถา้ ไมเ่ ปลยี่ นหอ้ ง เรากจ็ ะยา้ ยออก แลว้ จะบอกเรอ่ื งนแ้ี กบ่ รษิ ทั จดั ทวั รไ์ มใ่ หส้ ง่ คนมาทน่ี อ่ี กี ตอ่ ไป ผูจ้ ดั การขอโทษโดยด ี และจัดการให้เราไดห้ อ้ งตามท่ีเราตอ้ งการ เอาละ ทนี เี้ พอ่ื นของดฉิ นั ยมิ้ นอ้ ยยมิ้ ใหญท่ จ่ี ะไดช้ อ็ ปปง้ิ ใหส้ มใจอยาก ดฉิ นั ไปเปน็ เพอื่ นเธอเฉพาะครง้ั แรกเทา่ นนั้ ครงั้ ตอ่ ไปใหไ้ ปเอง คอื ตา่ งคน ตา่ งไป จะไดไ้ มเ่ สยี เวลามวั คอยกนั อย ู่ นดั กลบั มาพบกนั ตอนอาหารกลางวนั ทโี่ รงแรม ตวั ดฉิ นั เองนน้ั ตอ้ งการซอื้ เสอ้ื jumper สตี า่ ง ๆ ตามวนั เพอื่ เอาไว ้ ใสส่ �ำหรบั ไปทัวรต์ า่ งประเทศทกุ ๆ ป ี ของทมี่ อี ยู่เดมิ ไม่พอใช้ ดฉิ นั เลอื กซอื้ ไดเ้ พยี ง 3 - 4 ตวั ทมี่ สี แี ละลวดลายตามทตี่ อ้ งการ ลอง แบะดูท่ีหลังคอ ที่แท้ Made in Korea ท้ังนั้น แต่ก็ช่างปะไร ถูกใจแล้วก ็ แล้วกัน ดิฉันเคยเข็ด คือครั้งหน่ึงไปเห็นหมวกใบหน่ึงสวยถูกใจท่ีปารีส แต่บอกว่า Made in England พอดีกับที่เรากำ� ลังจะไปอังกฤษอยู่แล้ว คิดว่า ไปซอ้ื ทอี่ งั กฤษคงจะมใี หเ้ ลอื กมากกวา่ และอาจจะราคาถกู กวา่ ดว้ ย ทไ่ี หนได ้ ไปถึงอังกฤษเท่ียวหาหมวกแบบนั้นต้ังหลายแห่งก็ไม่มีเลย ต้ังแต่นั้นก็เลย จ�ำไว้ว่าถา้ พบของถกู ใจทไี่ หนก็ให้ซื้อทนั ที ไมต่ อ้ งไปหมายน้ำ� บอ่ หน้า
236 ��� ดา้ นหนึ่งของชวี ติ ส่วนเพื่อนดิฉันนั้นได้ใจ เสียเวลาซื้อของตั้งมากแล้วยังไม่พอ ไปซ้ือ วิกผมมาอันหนึ่ง แล้วเข้าห้องสระผม (ท่ีร้าน) เพ่ือให้เขาใส่วิกให้ด้วย แต่ ดฉิ นั ไมเ่ ดอื ดรอ้ น เอาเวลาทรี่ อเธอนงั่ เขยี นจดหมายถงึ เมอื งไทยไดห้ ลายฉบบั พบเพอื่ นตา่ งชาติ ดิฉันเคยเล่าเร่ือง Dr. Chakravarty (จักรพรรดิ) เพ่ือนชาวอินเดีย ของจ�ำกัด ซ่ึงเป็นคนสนิทของตะกอร์ (Rabindranath Tagore) กวีเอกของ อนิ เดยี ไวใ้ นเรอ่ื งชวี ติ ในประเทศองั กฤษแลว้ ขณะนน้ั เขาอยใู่ นนวิ ยอรก์ เขา รู้ว่าดิฉันมาก็มาหาที่โรงแรม จะพาไปรับประทานอาหารข้างนอกแต่ดิฉัน บอกเขาว่ามี voucher ส�ำหรับค่าอาหารของโรงแรมอยู่แล้ว เราสองคนกิน ไม่เคยหมดเลย ให้ดิฉันเลี้ยงเขาดีกว่า เขาจึงยอม ดิฉันดีใจมากท่ีได้พบเขา และถ้าวิญญาณของจ�ำกัดได้ล่วงรู้ก็จะต้องพลอยดีใจไปด้วย เพราะเขารัก จ�ำกัดมาก ตอนเม่ือจ�ำกัดตาย หลังสงครามเลิกไม่นานนัก เขาได้รับเชิญให้ มาปาฐกถาที่สมาคมชาวอินเดียในเมืองไทย ท้ังเขาและภริยาชาวเดนมาร์ก ยังไดไ้ ปเยย่ี มดฉิ นั ทโี่ รงเรยี นดรุโณทยานดว้ ย ทน่ี วิ ยอรก์ เราไดไ้ ปดสู ถานทสี่ �ำคญั ๆ ตามทเ่ี ขาจดั โปรแกรมใหเ้ ชน่ ที่ Empire State Building ซง่ึ ตอนนนั้ เปน็ ตกึ สงู ทส่ี ดุ ในโลก (แตเ่ ดยี๋ วนไ้ี มใ่ ช ่ แลว้ ) วนั ทเี่ ราไปนน้ั จากชนั้ ยอดมองออกไปไมเ่ หน็ อะไรเลย เพราะหมอกจดั เหลอื เกนิ ทน่ี วิ ยอรก์ นไ้ี มไ่ ดพ้ บคนไทยเลย และเราอยไู่ มเ่ กนิ สวี่ นั กเ็ ดนิ ทาง ผา่ นไปแวะทฟ่ี ลิ าเดลเฟยี (Philadelphia) หนงึ่ คนื กอ่ นจะตอ่ ไปยงั วอชงิ ตนั ดซี ี (Washington D.C.) เมอื งหลวงของสหรฐั อเมริกา
ฉลบชลยั ย์ พลางกรู ��� 237 หนา้ ทที่ �ำการไป2ร4ษ ณเมยี ษก์ ารยุงนวอ 2ช5ิง1ต5นั สหรฐั อเมรกิ า วอชิงตนั ดซี ี ที่นี่นอกจากได้ไปดูสถานท่ีส�ำคัญ ๆ ตามที่เขาจัดโปรแกรมให้แล้ว เรายังไดพ้ บคนทรี่ ูจ้ ักและไปดูที่อนื่ ๆ นอกจากนน้ั ไปอกี
238 ��� ด้านหน่งึ ของชีวิต ยังมีชาวอินเดียอีกคนหนึ่งซ่ึงเป็นเพ่ือนกับ Dr. Chakravarty ชื่อ Dr. Amrit Baruah มภี รยิ าเปน็ ชาวอเมรกิ นั เขาเคยมาเมอื งไทย และดฉิ นั ได้ รบั รองพาเขาไปดสู ถานทส่ี �ำคญั ตา่ ง ๆ ในกรงุ เทพฯ เขารวู้ า่ ดฉิ นั มาวอชงิ ตนั ก็มารับเราไปกินอาหารกลางวันท่ีแฟลตของเขา นัยว่าจะแสดงฝีมือปรุง อาหารอนิ เดยี อวดเรา แตม่ เี รอื่ งทน่ี า่ ขนั เกดิ ขน้ึ คอื ตวั เขาเขา้ ครวั ไปปรงุ แกง กะหรี่เน้ือวัวเองก่อน โดยให้ภริยาน่ังคุยกับเรา สักครู่ก็เดินออกมาบอกว่า ปรงุ เรยี บรอ้ ยแลว้ เพยี งแตต่ งั้ ไฟอกี หนอ่ ยใหเ้ นอื้ นมุ่ และเขา้ กบั น้�ำแกงเทา่ นน้ั ให้ภริยาเขา้ ไปดูแทนได้แลว้ และตัวเขาก็นง่ั คุยกบั เรา สกั ครูใ่ หญ่ ๆ เขาร้อง บอกภรยิ าวา่ ใหเ้ อา eggplant (มะเขอื ) ทอี่ ยใู่ นชามวางไวใ้ กล ้ ๆ นนั่ ใสล่ งไป ในแกงได้แลว้ ภรยิ าถามวา่ จะใหใ้ สเ่ ทา่ ไร เขาวา่ ใส่ให้หมดน่นั เลย สกั ประเดยี๋ วเขาวา่ แกงจะไดท้ แ่ี ลว้ กเ็ ดนิ เขา้ ไปด ู แลว้ เรากไ็ ดย้ นิ เสยี ง เขาหวั เราะลน่ั เพราะภรยิ าของเขาเอาไข ่ (egg) ในชามทว่ี างไวใ้ กล้ ๆ นน้ั ใส ่ ลงไปในแกง แทนทจ่ี ะเอามะเขอื ใส ่ เพราะเธอคงไดย้ นิ แคค่ ำ� วา่ egg ไมไ่ ดย้ นิ ค�ำว่า plant (หรืออาจจะไม่รู้จักค�ำ eggplant เลยก็เป็นได้) เป็นอันว่าเขา อดแสดงฝีมืออาหารอินเดีย และเราก็กินอาหารแบบฝร่ังธรรมดา ซึ่งเขาก็มี อยู่แล้ว ดิฉันไม่รูว้ ่าเขาจะจดั การอย่างไรตอ่ ไปกบั แกงไข่น่นั ! ไปเยี่ยมสถานทตู ไทย วนั หนงึ่ ดฉิ นั ขอใหท้ างโรงแรมชว่ ยเรยี กแทก็ ซใี่ หพ้ าเราไปสถานทตู ไทย เพราะจะไปเยี่ยมคุณสุนทร หงส์ลดารมภ์ ซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตอยู่ ที่นั่น ดิฉันรู้จักคุณสุนทรดี เพราะลูก ๆ ของเธออยู่โรงเรียนดิฉันทุกคน คนขบั แทก็ ซเ่ี ปน็ นโิ กร แตด่ ฉิ นั ไมก่ ลวั เพราะทางโรงแรมจดั ให ้ นอกจากนนั้ เขายงั โทรศพั ทไ์ ปรายงานทางโรงแรมตลอดเวลาวา่ เราไปถงึ ไหนแล้ว เมอื่ รถผา่ นสถานทตู ตรนิ แิ ดด (Trinidad) ซงึ่ อยกู่ อ่ นถงึ สถานทตู ไทย
ฉลบชลัยย์ พลางกูร ��� 239 ไม่ไกลนัก คนขับรถช้ีให้ดู บอกว่าที่มีคนไปรุมล้อมกันเต็มอยู่น้ัน เพราะ ทางตรินิแดดก�ำลังเกิดการจลาจล ชาวตรินิแดดท้ังหลายเลยพากันไปรอ ฟงั ขา่ วคบื หนา้ ดฉิ นั ตกใจมาก บอกเขาวา่ ดฉิ นั มเี พอ่ื นสนทิ คนหนง่ึ เปน็ ชาว ตรินิแดด และเขาชอบทางการเมืองมากด้วย เขาจะอยู่ในคณะจลาจลนั่น หรือเปล่าก็ไม่รู้ เขาถามชื่อ ดิฉันบอกว่าช่ือ Dr. Eric Williams เขาร้อง อย่างประหลาดใจ บอกว่านั่นคือนายกรัฐมนตรีของเขา ดิฉันบอกว่า Eric เพอื่ นดฉิ นั นน้ั ภรยิ าเขาเปน็ ... ยงั ไมท่ นั พดู จบ คนขบั รถตอ่ ใหว้ า่ musician เท่านั้นแหละ ดิฉันดีใจเป็นท่ีสุด เพราะ Elsie (ภริยาของ Eric) เรียนจบท่ี London Academy of Music และทางผปู้ กครอง (Mr. Cardew) อนญุ าตให้ ดิฉันเรียนเปียโนกับเขา เน่ืองจากในหลักสูตรอนุบาลมีดนตรีด้วย คน ขับรถบอกว่าขณะนั้น Elsie อยู่ในเมืองนี้ และให้เบอร์โทรศัพท์แก่ดิฉัน เขาเลา่ ว่าท�ำงานที่สถานทูตตรินิแดด แตว่ ันนน้ั เปน็ วนั อาทติ ย์ วนั หยดุ กเ็ ลย มาขบั รถแทก็ ซี่หาล�ำไพ่ ได้พบเพ่ือนคนไทย เม่ือไปถึงสถานทูตไทย ได้พบคุณบุญถ่ิน อัตถากร และคุณสนั่น สุมิตร ซึ่งดิฉันรู้จักท้ังสองคน ดิฉันเล่าเรื่อง Elsie ให้เขาฟัง เขาว่าน่าจะ เชิญมาสถานทูตไทยให้รู้จักกับคุณสุนทรบ้าง แต่ดิฉันไม่อยากรบกวน คุณ สุนทรให้รถของสถานทูตพาคุณบุญถ่ิน คุณสน่ัน กับเราทั้งสองคนไปเที่ยว ดูสถานท่ีส�ำคัญซ่ึงเรายังไม่ได้ดู เช่นที่ฝังศพของประธานาธิบดีเคนเนดี้และ อน่ื ๆ
240 ��� ดา้ นหน่ึงของชีวติ ได้พบ Elsie Williams เม่ือกลับถึงโรงแรม ดิฉันยังไม่ทันจะได้น่ังเลย Elsie ก็โทรศัพท ์ มาหา บอกว่าเช้าวันรุ่งขึ้นจะมารับเราไปกินอาหารกลางวันที่บ้านเขา แล้วก็ มาตามนน้ั เรากนิ ไปคยุ ไปดว้ ยความดใี จทไ่ี ดพ้ บกนั โดยมไิ ดค้ าดฝนั สกั ครู่ ใหญ่ ๆ Elsie นึกขึ้นมาได้ มองดูนาฬิกาแล้วตกใจ บอกว่าระยะนั้นเขา เปลย่ี นเวลาเปน็ Summer Time แลว้ เราตอ้ งหมนุ นาฬกิ าใหเ้ รว็ ขน้ึ หนงึ่ ชว่ั โมง เขาต้องรีบพาเรากลับโรงแรมเพื่อให้ทันกับคณะทัวร์ที่เขาจัดไว้ให้ ตอนนี้ อยากจะขอเตอื นคนทไ่ี ปยโุ รปและอเมรกิ าในตอนเดอื นเมษายน - พฤษภาคม ใหร้ ะวังเร่ือง Summer Time ไว ้ มิฉะน้ันอาจเกิดการเสยี หายขน้ึ ได้ หลังจากนั้นดิฉันก็ไม่ได้ว่าง และดูเหมือนอีกวันเดียวก็ออกจาก วอชิงตันไปฟลอริดา (Florida) โดยจะเลาะไปตามเมืองชายทะเลกลับไปยัง ซานฟรานซสิ โก จดุ ท่ีเราจะต้องข้นึ เครอ่ื งกลับเมืองไทย ขอเลา่ แทรกตรงนอี้ กี สกั นดิ คอื เราไดไ้ ปดอู นสุ าวรยี เ์ ทพเี สรภี าพดว้ ย ต้ังอยู่บนริมฝั่งปากอ่าวใกล้เกาะแมนฮัตตัน แต่จำ� ไม่ได้ว่าไปดูตอนอยู่เมือง ไหน - ตอนน้ันดิฉนั ยงั เดินคล่อง จึงได้ขึน้ ไปชมถงึ ยอด ไมย่ อมแพใ้ ครเลย ฟลอริดา - ไมอามี เราบนิ ออกจากวอชงิ ตนั ตรงไปไมอาม ี (Miami) รฐั ฟลอรดิ า (Florida) โรงแรมอยู่ริมทะเล ชายทะเลเมืองน้ีเต็มไปด้วยโรงแรมเรียงกันเป็นแถว ยดื ยาว เขาวา่ ในฤดรู อ้ น ทเ่ี มอื งตา่ ง ๆ กลางประเทศรอ้ นมาก ผคู้ นจะมาอยู่ ท่ีน่ีเตม็ ไปหมด อากาศท่ีน่ตี ามปกตเิ หมอื นเมอื งไทยตลอดปี ท่ีโรงแรมมีโปรแกรมทัวร์มาให้เลือกหลายแบบ มีอยู่ทัวร์หนึ่งซ่ึงดู ผคู้ นจะเชยี รก์ นั มาก ออกแตเ่ ชา้ ไปทงั้ วนั และกลบั เอาตอนคำ่� เลย ราคาแพง
ฉลบชลยั ย์ พลางกูร ��� 241 มาก ดูเหมือนเกือบ 100 ดอลลาร์ เราไม่รู้จะเลือกทัวร์ไหนดี ก็เลยตาม คนส่วนมากไป เพราะเหน็ ว่าตอ่ ไปกจ็ ะไมม่ ีทางใชเ้ งินแล้ว รถบัสใหญ่มาก ไปด้วยกันสองคัน คนเต็มรถ แล่นไปตามถนน ท่ามกลางป่าละเมาะ ถนนนี้เข้าใจว่าแล่นเลียบขนานไปตามฝั่งทะเล แต่ไม่ ใกลท้ ะเลนกั เพราะมองไปไมเ่ หน็ ฝง่ั ตน้ ไมท้ อี่ ยขู่ า้ งทางนน้ั แปลกกวา่ ตน้ ไม้ ทอี่ น่ื ซงึ่ พวกฝรง่ั ไมเ่ คยเหน็ จงึ สนใจและตน่ื เตน้ กนั แตส่ �ำหรบั ดฉิ นั แลว้ “อก จะแตกตาย” เพราะว่าตลอดทางนั้นเหมือนข้างทางรถไฟระหว่างกรุงเทพฯ กับแม่กลอง สมุทรสงคราม ซ่ึงเป็นที่ท่ีดิฉันเกิดอย่างไม่ผิดเพี้ยนเลย รถจะ หยุดเป็นระยะ และมัคคุเทศก์จะลงมาชี้และอธิบายถึงต้นไม้ต่าง ๆ เช่น ต้น จาก ที่มีใบเหมือนใบมะพร้าว แต่เป็นกอเตี้ยติดดิน ลูกเป็นทะลายเหมือน มะพรา้ ว แตล่ ะลกู เลก็ กวา่ ลกู ตาล และเนอื้ ขา้ งในคลา้ ยเนอื้ ลกู ตาล ตน้ โกงกาง ซงึ่ มรี ากสงู ขน้ึ มาเหนอื ดนิ ตงั้ เมตรและเกะกะเกง้ กา้ ง เขาบอกวา่ ทางการกำ� ลงั คิดจะเอาไม้โกงกางน้ีไปท�ำเป็นถ่าน ดิฉันต้องหัวเราะ และบอกเขาว่า เมืองไทยเราใช้ถ่านโกงกางมาหลายร้อยปีแล้ว เพราะเนื้อไม้แน่นละเอียด เราใช้กับเตารีดแบบโบราณ เด๋ียวน้ีมีเตารีดไฟฟ้า เตารีดแบบเดิมนี้ก็หายไป เขายำ�้ กบั ดฉิ นั วา่ ตน้ โกงกางนชี้ อื่ วา่ mangrove ไมใ่ ช ่ mango นะ อยา่ เขา้ ใจผดิ ! ตน้ เหงอื กปลาหมอ ทกี่ งิ่ และใบเปน็ หนามคลา้ ยตน้ กระบองเพชร ตน้ เปน็ กอ ตดิ ดนิ คนไทยโบราณ (หรอื แมแ้ ตป่ จั จบุ นั น)้ี นยิ มเอาไปทำ� เปน็ ยารกั ษาโรค ตน้ ปรง ซ่งึ เป็นกอใบคลา้ ยใบเฟริ ์นแตใ่ หญก่ ว่า ยอดใบออ่ นสแี ดง ๆ เขาเอา ไปชุบไข่ทอดกินกับน�้ำพริก (น่ีดิฉันก�ำลังเล่าเองนะคะ ไม่ใช่มัคคุเทศก์ อธิบาย คนในกรุงเทพฯ อาจจะไม่เคยเห็นต้นไม้เหล่านี้ แต่คนต่างจังหวัด ทมี่ ีชายทะเล เชือ่ ว่าตอ้ งรู้จกั ทัง้ น้นั ) ยงั ไมห่ มดคะ่ เทา่ ทจี่ ำ� ไดม้ ตี น้ ไมใ้ หญแ่ บบมะมว่ ง แตไ่ มใ่ หญเ่ ทา่ และ ลกู ของมนั กลมขนาดลกู มะขวดิ ชอื่ ตน้ ตะบนู สถานรี ถไฟเลก็ ๆ ใกลต้ วั เมอื ง สมุทรสงครามเคยมีชื่อว่าสถานีบางตะบูน เดี๋ยวนี้จะเลิกไปแล้วหรือยังก็
242 ��� ด้านหน่ึงของชวี ติ ไม่ทราบ แล้วก็มีต้นฝอยทอง ซ่ึงเด็ก ๆ ชอบเก็บมาเล่นขายของ เพราะแลดู เหมอื นฝอยทองจริง ๆ โดยมากมักจะเลอ้ื ยคลุมกอไม้อนื่ ๆ ดิฉันคุยกับมัคคุเทศก์เร่ืองต้นไม้เหล่าน้ี เขาบอกว่าต้ังแต่เขาพานัก ท่องเที่ยวมาทิศน้ีตั้ง 10 ปีแล้ว เพ่ิงพบคนที่รู้จักต้นไม้เหล่าน้ีเป็นคนแรก คอื ดฉิ นั นน่ั เอง แต่ว่านอกจากต้นไม้ท่ีเขาว่าแปลกตามท่ีกล่าวมาแล้วน้ัน ยังมีสิ่งท ่ี น่าดูกว่า ก็คือสัตว์ ต้องขออธิบายก่อนว่าถนนนี้ยกสูงขึ้น แต่สองข้างเป็น ทตี่ ่ำ� มนี ำ�้ ทว่ มอยตู่ ลอดเวลา แตน่ �้ำไมส่ งู นกั จะเรยี กวา่ เฉอะแฉะกเ็ หน็ จะได้ เขาทำ� สะพานไมก้ วา้ งประมาณเมตรครง่ึ ทอดจากถนนลงไปในดงกอไม ้ ยาว ประมาณ 5 เมตร รถหยดุ ใหค้ นผลดั กนั เดนิ ลงไปด ู แนน่ อน เมอ่ื มนี �้ำทไ่ี หน กย็ อ่ มมปี ลาทนี่ น่ั ปลาตวั เลก็ ตวั นอ้ ยนนั้ ไมใ่ ชข่ องแปลก แตม่ ปี ลาตนี (หรอื บางคนเรยี กวา่ ปลาตาเหลอื ก) ซงึ่ ขนาดธรรมดาจะยาวราว 1 ฟตุ ปลาชนดิ นี ้ ไม่อยู่ในน้�ำลึก จะอยู่ตามเลน และขุดรู ซ่ึงข้างบนเป็นรูปเหมือนภูเขาไฟ ปูแสม ปูเปี้ยว ก็มีอยู่บ้าง แต่ที่เขาตั้งใจจะให้ดูจริง ๆ คือตัวเงินตัวทอง (ซ่ึง เรียกธรรมดาว่าเหยี้ ) สัตว์ชนิดนก้ี ช็ อบอยตู่ ามท่มี ีน้ำ� เฉอะแฉะเหมือนกัน พอมคี นเหน็ เหย้ี เขา้ คนหนงึ่ กร็ อ้ งเอะอะ เฮโลจะแยง่ กนั ด ู แตเ่ ขาบอก วา่ สะพานไมแ้ บบนน้ั ยงั มอี กี เปน็ ระยะ ๆ หลายแหง่ (ไกลกนั พอสมควร) ใคร ยังไม่เหน็ ทแี่ ห่งน้กี ็ไปดูข้างหนา้ ได้แน่นอน สิ่งที่เขาว่าน่าอัศจรรย์น้ันยังมีอีกอย่างหน่ึง คือถนนจะแล่นผ่านที ่ ราบเรียบกว้างมาก และยาวไปตามถนนทางด้านไกลทะเล เขาช้ีให้ดูและ อธิบายว่าเวลาฝนตกหนักเพียงชั่วคร่ึงชั่วโมงเท่านั้น ที่น่ันจะกลายเป็น ทะเลสาบมหึมาไปเลย เร่ืองนี้ดิฉันก็บอกเขาว่าดิฉันเช่ือ เพราะพื้นดิน ราบเรียบ แม้แต่มีน้�ำกลบอยู่สูงสักเพียงครึ่งฟุต (มองไม่เห็นดินเลย) ก็จะ แลดูเป็นทะเลสาบไปได้ ถ้าจำ� ไม่ผิดดูเหมือนชื่อบึง Everglades เมืองไทย มที รี่ าบเรยี บแบบนหี้ ลายแหง่ แตเ่ มอื งของพวกฝรง่ั เหลา่ นนั้ ภมู ปิ ระเทศลว้ น
ฉลบชลัยย์ พลางกูร ��� 243 แต่เป็นที่สงู ๆ ตำ่� ๆ จงึ คดิ วา่ ทนี่ ั่นเปน็ สิง่ อัศจรรย์ไป ดเู หมอื นเรากนิ อาหารเชา้ ในรถ เปน็ อาหารกลอ่ ง ตอนกลางวนั ไมแ่ น่ อาจจะแวะกนิ ในรา้ นในหมบู่ า้ นเลก็ ๆ ซง่ึ เขาคงจดั เตรยี มไวส้ ำ� หรบั คณะทวั ร์ เปน็ ประจำ� แตต่ อนคำ่� กลบั มากนิ ทโ่ี รงแรม พอรถจอดหนา้ โรงแรม ผคู้ นกรกู นั ลงมาแลว้ กไ็ ชโยโหฮ่ ว้ิ รอ้ ง Wonderful, Wonderful, It’s such a wonderful day! ดิฉันไม่อยากฟังเลย สงสารตัวเองท่ีต้องน่ังรถท้ังวัน ไม่ได้เห็นอะไร แปลกประหลาดสักนิดเดียว ซ�้ำน่าเบ่ือ เสียดายเงินด้วย ไม่คุ้มเลย ฉะน้ัน ขอเตอื นคนไทยทจี่ ะไปไมอาม ี อยา่ ไปหลงเสยี เงนิ แบบนเี้ ลยนะคะ คนทอ่ี ยู่ ในเมืองท่ีไม่ใกล้ทะเล ถ้าอยากดู ก็ขอให้ไปขึ้นรถไฟสายแม่กลอง เสียเงิน ไมก่ ีบ่ าทหรอกค่ะ เมอื่ กลบั มาถงึ เมอื งไทย ดฉิ นั ไปสมทุ รสงคราม ไปเลา่ ใหค้ นทน่ี นั่ ฟงั เขาว่า มนิ ่าละ่ พวกนกั ศึกษาแลกเปลีย่ น (ฝร่ัง) ทีไ่ ปอยแู่ ม่กลอง บอกวา่ เขา มาจากไมอามี และเล่าว่าถนนจากไมอามีที่แล่นไปชนบทนั้น เหมือนทาง รถไฟไปสมุทรสงครามมากท่ีสุด พูดแล้วไม่ค่อยมีคนเช่ือนัก แต่ดิฉันว่า เชอื่ เถดิ เพราะดฉิ นั ไดไ้ ปเหน็ มาดว้ ยตาตนเองแลว้ ทง้ั ตน้ ไม ้ ทงั้ สตั ว ์ เหมอื น กนั หมดเลย จากไมอามี เราผ่านเมืองนิวออร์ลีนส์ (New Orleans) ซ่ึงพลเมือง ใช้ภาษาฝร่ังเศส ค้างท่ีนั่นหน่ึงคืน ก็กลับไปลอสแองเจลิส แล้วกลับ กรุงเทพฯ เลย (โดยผ่านซานฟรานซิสโก จุดเร่ิมต้นของเราหรือเปล่าน่ัน จ�ำไม่ได ้ แตไ่ มไ่ ดค้ ้างแน)่ สรุปแล้วการไปเที่ยวอเมริกาครั้งนี้ถือว่าเกินคุ้มก็ตอนที่ได้ไปพบกับ Elsie เพราะเราเคยสนิทสนมกันมาก เขาและสามีของเขารักจ�ำกัดมาก และจำ� กัดก็รกั เขามากด้วย
244 ��� ดา้ นหน่งึ ของชวี ิต การไปเท่ยี ยวโุ ตรา่ปงตปะรวะนั เทอศอคกร้ังสดุ ท้าย มีอยู่ปีหน่ึงที่ดิฉันอยากจะร่วมคณะทัวร์ไปเท่ียวยุโรปตะวันออก (ดูเหมือนจะหกประเทศ) แต่ก�ำหนดที่เขาจะออกเดินทางนั้นช้ามาก ดิฉัน ไม่อยากรอให้เสียเวลา จึงไปเจรจากบั เขาว่าดฉิ นั จะขอไปอังกฤษ - ฝรั่งเศส ก่อน แล้วจะไปร่วมคณะกับเขาที่เวียนนาตามเวลากำ� หนด เพราะเราจะออก จากเวยี นนาเพอ่ื เขา้ เขตยโุ รปตะวนั ออก ดฉิ นั ชำ� ระเงนิ เขากอ่ นครบทกุ อยา่ ง นอกจากคา่ เครอ่ื งบนิ ซงึ่ จา่ ยเพยี งขากลบั เทยี่ วเดยี ว เพราะขาไปดฉิ นั จะไปเอง ดิฉันจ�ำเป็นต้องเอาพาสปอร์ตติดตัวไปด้วย เขาจะเอาไปทำ� วีซ่าให้เข้ายุโรป ตะวันออกหกประเทศนั้น ท�ำไม่ทัน ก็เลยตกลงกันว่าดิฉันจะไปท�ำวีซ่า เข้าประเทศเหล่านัน้ เองที่องั กฤษ ดิฉันมีเพ่ือนคนหนึ่งซ่ึงท�ำงานอยู่กับสายการบินสวิสแอร์ (Swiss Air) เขาบอกดิฉันว่ามีวิธีท่ีจะซื้อต๋ัวแบบพิเศษ ซึ่งจะได้ราคาถูกมาก คือ ต๋ัวจะซ้ือจากฮ่องกงท้ัง ๆ ท่ีตัวเราจะข้ึนท่ีกรุงเทพฯ และจะต้องซ้ือต๋ัวแบบ ไป - กลับยุโรป ซึ่งราคาถูกกว่าตั๋วไปเท่ียวเดียว โดยดิฉันจะจ่ายเงินเพียง คร่ึงเดียวเท่าน้ัน และขากลับให้เอาต๋ัวท่ีไม่ได้ใช้มาคืน ดิฉันยังไม่เข้าใจอยู่ จนกระท่ังบัดนี้ว่าท�ำไมจึงเป็นเช่นน้ันได้ แต่ไม่อยากซักไซ้เขา เราซื้อตั๋ว ราคาถูกได้ก็แล้วกัน อนึ่ง ดิฉันดีใจที่จะได้ข้ึนเครื่องบินสวิสแอร์ เพราะ ไมเ่ คยใชส้ ายการบินนม้ี าก่อน ทง้ั ๆ ท่ขี ้นึ สายอน่ื มาไมต่ ่ำ� กว่า 10 สายแลว้ ดิฉันไปลอนดอนก่อน และถามเจ้าหน้าที่สวิสแอร์เรื่องการไปขอทำ� วีซ่า ท่ีบริษัทนี้บริการดีเหลือเกิน เขาอาสาไปทำ� ให้เองถึงสองประเทศ แต่ ไม่ส�ำเร็จ เพราะท้ังสองประเทศนั้นแจ้งว่าระเบียบของเขาจะต้องขอดู หลกั ฐานการจองโรงแรมในประเทศเขาเสยี กอ่ น แตห่ ลกั ฐานของดฉิ นั อยกู่ บั หวั หนา้ ทวั รท์ างเมอื งไทย เขาบอกดว้ ยวา่ ไมต่ อ้ งไปทสี่ ถานทตู อนื่ อกี หรอก
ฉลบชลัยย์ พลางกรู ��� 245 คณะทัวร์ยุโรปตะวนั ออก เพราะจะเหมือนกันทั้งนั้น ดิฉันตกใจเพราะเสียเวลาไปเปล่าสองวันแล้ว เกรงจะไมท่ นั การ เลยตดั สนิ ใจไปปารสี คา้ งทน่ี น่ั เพยี งคนื เดยี วกบ็ นิ ตอ่ ไป เวียนนา ไปเล่าเหตุการณ์ให้เขาฟังท่ีสถานทูต ขอให้ทางสถานทูตไทยที่ เวียนนาช่วยรับรองเทา่ ท่ีจะทำ� ได้ มีเจ้าหน้าท่ีคนหนึ่งเป็นแหม่มท�ำงานในสถานทูต เป็นคนน่ารักมาก คงเหน็ วา่ ดฉิ นั อยใู่ นฐานะลำ� บากและสงสาร จงึ วง่ิ เตน้ ใหท้ างการทำ� เรอื่ งเสรจ็ ภายในวนั เดยี ว แลว้ รบั อาสาจะไปตดิ ตอ่ ขอวซี า่ ใหเ้ องทง้ั หกสถานทตู ซงึ่ จะ ต้องใช้เวลาหกวัน โดยท่ีตัวดิฉันไม่ต้องไปเองเลย แต่ดิฉันก็ต้องหมั่นไป สถานทตู ไทย เผ่อื จะมีเรอ่ื งขดั ขอ้ งอะไรบา้ ง
246 ��� ด้านหนงึ่ ของชีวิต ดิฉันไม่ได้จองโรงแรมในเวียนนาไว้ แต่เจ้าหน้าท่ีที่สนามบินกรุณา จัดหาให้ จึงไปได้โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งเป็นช้ันดี แต่อยู่นอกเมืองไปหน่อย ทเี่ วยี นนานขี้ า้ วของแพงกวา่ ในลอนดอนมาก ลองเปรยี บคา่ ทพ่ี กั ในลอนดอน ซึ่งดิฉันเคยพักเป็นประจ�ำ 7 วันจะเท่ากับที่พักในเวียนนาเพียงคืนเดียว ดิฉันเคยมาเวียนนา 3 - 4 คร้ังแล้ว เพราะทัวร์มายุโรปมักจะแวะที่น่ีแทบทุก คณะ แต่ว่าจะพักอยู่เพียงสองคืนเท่านั้น และก็ไม่เคยให้ลงเดินดูเมืองเลย ไดแ้ ตน่ งั่ รถผา่ นไปรอบ ๆ ตวั เมอื งจรงิ ๆ กไ็ มใ่ หญโ่ ตอะไร ไมว่ า่ เราจะไป ทางไหนก็จะผ่านอนุสาวรีย์ของโยฮัน เสตราส์ (Johann Strauss Jr.) ก�ำลัง สไี วโอลิน ทุกที คราวนดี้ ฉิ นั คดิ วา่ มเี วลาวา่ งมาก อยเู่ ปลา่ ๆ ถงึ 6 วนั อยากจะใชเ้ วลา เท่ียวดูเมืองให้รู้แจ้งเห็นจริงบ้าง จึงไปคุยกับพวกสถานทูต ถามเขาว่า ทางทิศไหนมีอะไรน่าดูบ้าง ตั้งใจจะไปให้ครบสี่ทิศเลย พอรู้แล้วก็เริ่มต้น เดนิ ตงั้ แตเ่ ชา้ เดนิ บา้ งหยดุ ดตู ามหา้ งรา้ นและสถานทตี่ า่ ง ๆ บา้ ง เดนิ ไปจนถงึ เวลาเที่ยง ก็หาอาหารกินตามร้านเล็ก ๆ โดยมากก็จะกินไส้กรอก เพราะ ไส้กรอกเวียนนามีชื่อเสียง และกินแล้วไม่เคยผิดหวัง เสร็จแล้วก็เดินกลับ แตม่ าตามถนนอกี ฝง่ั หนง่ึ เมอื่ ไปเลา่ ใหพ้ วกสถานทตู ฟงั วา่ ไดเ้ ดนิ ไปถงึ ไหน มาบ้าง เขาแปลกใจบอกว่าไม่น่าเชื่อเลยว่าผู้หญิงอย่างดิฉันจะเดินได้ไกล เช่นนนั้ ตอนน้ันดิฉนั อายุ 60 กว่าแลว้ ขณะนั้นเอกอัครราชทูตไทยที่ประจ�ำเวียนนาคือ คุณเดช ตะละภัฏ เมอ่ื ทา่ นไดท้ ราบวา่ มผี หู้ ญงิ ไทยคนหนงึ่ มาพกั อยทู่ โ่ี รงแรมนอกเมอื ง และจะ อยถู่ งึ 7 วนั ทา่ นจงึ ใหเ้ จา้ หนา้ ทส่ี ถานทตู เชญิ ดฉิ นั ไปรบั ประทานอาหารเยน็ กับท่าน โดยส่งรถมารับถึงโรงแรม ดิฉันบอกท่านว่าดิฉันเคยเห็นท่าน ไปสอนภาษาฝร่ังเศสคุณแป๋ว (สุดา) ลูกสาวท่านปรีดี ที่บ้านสีลมหลายครั้ง เพราะดิฉันอยู่ที่บ้านน้ัน และดิฉันมาปารีสทุกปี มาอยู่กับท่านปรีดีท่ีบ้าน Antony ตอนโรงเรยี นปดิ เทอมปลาย พอรเู้ ทา่ นนั้ คณุ เดชท�ำทา่ ดใี จมาก และ
ฉลบชลยั ย์ พลางกรู ��� 247 พูดกับดิฉันอย่างเป็นกันเองทันที แล้วเราก็คุยกันถึงใครต่อใครหลายคนซึ่ง ทั้งท่านและดิฉันรู้จัก ถามข่าวถึงท่านปรีดี ท่านผู้หญิง ลูก ๆ และคนโน้น คนนเ้ี ลยสนกุ ใหญ ่ ทา่ นบอกวา่ วนั รงุ่ ขนึ้ ขอเชญิ ไปอกี อยากคยุ ตอ่ ยงั ไมจ่ บ ! แล้วหลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน คนขับรถลาไปไหนก็ไม่ทราบ ท่าน อตุ สา่ หข์ บั รถมาเอง บอกวา่ วนั นน้ั พรรคพวกจบั ปลาในแมน่ ำ้� ดานบู (Danube) แล้วเอามาให้ท่านสด ๆ อยากให้ดิฉันไปลองชิม ดิฉันเกรงใจท่านเหลือเกิน เป็นอันว่าแทนที่ดิฉันจะอยู่โดดเดี่ยวหงอยเหงา กลายเป็นไม่ว่างเลย เช้า ๆ ไปเดนิ กวา่ จะกลบั กบ็ า่ ย แวะไปถามขา่ วทส่ี ถานทตู บา้ ง และตอนค�่ำกไ็ ดไ้ ป กินอาหารฟรีกับคุณเดชและภริยา วันหน่ึงพอกินอาหารเสร็จ ท่านชวนไป ที่ลานกลางเมือง ซ่ึงเป็นท่ีกว้างมาก เขาไม่ให้รถเข้าไปเพื่อให้ผู้คนได้ไป เดนิ เลน่ และซอ้ื ของกนิ ของใชเ้ ลก็ ๆ นอ้ ย ๆ เปน็ ทเ่ี พลดิ เพลนิ เหน็ มรี ถเขน็ คันหน่ึงขายไส้กรอกควันขึ้น ท่าทางจะร้อนโอ่ คุณเดชชวนไปยืนกินท้ัง ๆ ท่ีเราเพ่ิงกินอาหารอิ่มกันไปหยก ๆ แต่ทุกคนก็กินได้ เพราะมันท้ังร้อน ทัง้ อรอ่ ย ภริยาของท่านก็ท่าทางเป็นนกั กนิ เหมอื นกัน วซี า่ ของดฉิ นั เสรจ็ ครบ พอดกี บั วนั ทคี่ ณะทวั รจ์ ากเมอื งไทยมาถงึ พอด ี ดฉิ ันยา้ ยจากโรงแรมเดมิ มาอยู่กับคณะ แลว้ รงุ่ ข้นึ เรากอ็ อกเดนิ ทางกนั เลย จ�ำได้ว่าเราเข้าเขตประเทศเชคโกสโลวาเกียก่อน เพราะมีเร่ืองวุ่นวาย เขาบังคับให้เราทุกคนแลกเงินตามจ�ำนวนท่ีมีก�ำหนดไว้ว่าจะใช้ท่ีนั่น อย่างนอ้ ยวนั หนึ่ง (แลกมากไม่ห้าม) เรากแ็ สดงหลกั ฐานให้เขาดวู ่าเราจะอยู่ เพยี งวนั เดยี วเทา่ นนั้ ใหด้ ใู บจองโรงแรมและอน่ื ๆ เขาทำ� คลา้ ย ๆ กบั วา่ กลวั เราจะไม่มีเงิน จะไปอดอยากตกระก�ำล�ำบากให้เป็นที่เดือดร้อนแก่เขา หรือ อะไรท�ำนองน้ี ขณะนั้นทุกประเทศในยุโรปตะวันออกก�ำลังมีงานฉลองอิสรภาพ (ครบ 30 ปี) พร้อมกันหมด และงานจะมีถึง 7 วัน ฉะน้ันไม่ว่าเราจะไป ประเทศไหน ก็จะได้เห็นเขาท�ำพิธีแบบเดียวกัน อนึ่งทุกประเทศก่อนจะ
248 ��� ดา้ นหนง่ึ ของชีวติ อนญุ าตใหเ้ ขา้ กต็ อ้ งทำ� แบบเดยี วกบั ประเทศเชคโกสโลวาเกยี ทเ่ี ราไดป้ ระสบ มาแลว้ ประเทศท่ีสองคือโปแลนด์ ที่ประเทศนี้มีพิเศษไปอีก คือทุกคนจะ ต้องไปดูภาพยนตร์ที่เขาจัดไว้เกี่ยวกับสงครามโลกคร้ังที่ 2 ซึ่งฮิตเลอร์ได ้ เขน่ ฆา่ ชาวยวิ ไปหลายลา้ นคน และฮติ เลอรป์ ระกาศดว้ ยวา่ จะลบเมอื งวอรซ์ อ (Warsaw เมืองหลวงของโปแลนด์) ออกจากแผนท่ีโลกเลย ! ฉะนั้นเมือง วอร์ซอท่ีเราไปชมอยู่น้ีจึงถูกท�ำลายพินาศแหลกลาญ แต่เขาก็ได้สร้างเมือง ขน้ึ ใหมใ่ หเ้ หมอื นกบั เมอื งเดมิ และดกี วา่ ดว้ ยซำ้� เขาใหไ้ ปดกู ำ� แพงทท่ี ำ� เปน็ อนุสาวรีย์ของพวกยิวท่ีถูกฆ่า เมื่อตอนสงครามสงบแล้ว ผู้น�ำของเยอรมนี ตอ้ งมาท�ำพธิ ขี อขมาและขออโหสิกรรม ณ ท่ีนั้นดว้ ย ต่อไปนี้จะไปประเทศไหนก่อน - หลังจ�ำไม่ได้ เพราะไม่ค่อยจะม ี ส่ิงประทับใจมากนัก แต่จะขอเล่าเร่ืองฮังการี ซึ่งเมืองหลวงช่ือบูดาเปสต์ (Budapest) ท่ีนี่มีตึกรัฐสภา (เดิม) สวยงามมาก สร้างแบบกอธิก มียอด หลงั คาเปน็ ยอดแหลม ๆ ใหญน่ อ้ ยเรยี งรายอยเู่ ตม็ ดฉิ นั ไปยนื ชมบนสะพาน ใกล้ ๆ น้ัน แบบชมรัฐสภาของประเทศอังกฤษ เห็นว่าเป็นท่ี 2 รองจาก อังกฤษแน่นอนทีเดียว แต่ท่ีบนสะพานนี้ ตอนท่ีดิฉันไปยืนอยู่ (คนเดียว) นั้น ดูออกจะ เปลี่ยว ไม่ค่อยมีคนเดินข้ามไปมา มีผู้ชายคนหน่ึงเดินเข้ามาหาดิฉัน แล้ว พดู ภาษาองั กฤษจะขอแลกเงนิ เอาเปน็ ดอลลารอ์ เมรกิ นั ดฉิ นั ทำ� เปน็ หนา้ ตา เหลอหลา แสดงใหเ้ ขาเหน็ วา่ ไมร่ เู้ รอื่ ง เขาเปลยี่ นพดู ฝรงั่ เศส แลว้ กเ็ ยอรมนั ดิฉันยังคงท�ำท่าไม่รู้เรื่องอยู่ดี เขาอาจจะนึกว่าดิฉันเป็นใบ้ก็ได้ ! เขายอม แพเ้ ดนิ กลบั ไปเลย โอโ้ ฮ ! ตลอดเวลานนั้ ดฉิ นั ใจสน่ั กลวั แทบตาย ดฉิ นั เคย ไดป้ ระสบการณแ์ บบเดยี วกนั นค้ี รง้ั หนงึ่ เมอ่ื ไปเทยี่ วประเทศพมา่ ตอนทเี่ ขา เปิดประเทศใหม่ ๆ หลังจากที่ปิดไม่ให้ชนต่างชาติเข้าเสียหลายปี และได้ เขยี นเลา่ ไวแ้ ลว้ หลงั จากวนั นน้ั ดฉิ นั ผซู้ ง่ึ ชอบไปเดนิ เลน่ คนเดยี วเปน็ ประจ�ำ
ฉลบชลยั ย์ พลางกรู ��� 249 ก็ต้องหยุดนสิ ยั น้ีเสียตลอดเวลาทอ่ี ยใู่ นประเทศยโุ รปตะวนั ออกเหลา่ น้นั ท่ีประเทศยูโกสลาเวีย (Yugoslavia) ซ่ึงเมืองหลวงช่ือเบลเกรด (Belgrade) นั้น เขาได้สร้างเมืองใหม่ขึ้นอีกทางฝั่งแม่น้�ำตรงข้าม และ ปรับปรุงถนนหนทางมากมาย ดิฉันชื่นชมกับถนนที่ซ้อน 2 - 3 ช้ันของเขา ซึ่งดูก็ไม่ค่อยเห็นมีรถมากนัก (ตอนนั้นเมืองไทยเรายังไม่มีทางด่วนแบบ ปัจจุบันนี้) ดิฉันว่าเขาเตรียมสร้างล่วงหน้า เมื่อมีการจราจรหนาแน่นจะได้ ไม่มปี ัญหามากนกั ผิดกับเมอื งเราทีส่ รา้ งเม่ือเกดิ ปัญหาแล้ว มีอยู่ประเทศหน่ึง จะเป็นโรมาเนียหรือบุลแกเรียไม่แน่ใจ พลเมือง ใจดี เม่ือเราไปดูการท�ำพิธีฉลองของเขา เขาพูดกันว่ามีคนต่างชาติมา หลีก ให้เขาหน่อย แล้วก็พากันหลีกทางให้เราเข้าไปใกล้ประธานผู้ซึ่งกำ� ลังท�ำพิธี นั้น เขาบอกเราด้วยว่าเข้าไปให้ใกล้ ๆ แล้วคืนวันน้ันจะได้เห็นตัวเราใน โทรทศั น ์ แตเ่ สยี ดายจรงิ ๆ วา่ เรากำ� ลงั จะออกเดนิ ทางในเยน็ วนั นนั้ เสยี แลว้ ภูมิประเทศของประเทศกลุ่มน้ีดูเหมือนกันหมด ไม่ค่อยมีอะไร แตกต่างกัน ไปไหนก็เห็นต้น Horse Chestnut ใหญ่มาก ๆ แผ่ก่ิงก้านสาขา ใหร้ ม่ เงา และดูครึ้มด ี ใบอันดกสีเขียวแกข่ องมันสลับกับดอกสีขาวสะพรงั่ น้ันสวยสะดุดตาพอใช้ แต่ข้าวของต่าง ๆ ราคาแพงมาก ซ้ืออะไรไม่ลงเลย และกไ็ มเ่ หน็ มสี นิ คา้ อะไรจะนา่ ซอื้ ดว้ ย ทเ่ี หน็ วา่ นา่ ดหู นอ่ ยกเ็ สอ้ื blouse ปกั ลวดลายสีต่าง ๆ ท่ีหน้าอก ซ่ึงดิฉันเองก็มีอยู่ 2 - 3 ตัวแล้ว (มีคนซื้อมาฝาก) กเ็ ลยไมซ่ อ้ื ไปตง้ั หกประเทศซอื้ ไดผ้ า้ ปโู ตะ๊ ลกู ไมส้ ขี าวผนื เดยี วจากเบลเกรด มีอยู่อย่างหนึ่งซึ่งคนท่ัวไปจะไม่รู้สึก แต่ตัวดิฉันเองนั้นอึดอัดจะตาย เสียให้ได้ คือตอนอาหารเช้า เขาเสิร์ฟอาหารแบบอังกฤษตามธรรมดา มี แยมส้ม (marmalade) ด้วย แต่ของเขาไม่ใช่สีเหลือง กลายเป็นสีเขียวแท้ ๆ มองดูแล้วเหมือนกับว่าท�ำจากมะเขือเทศดิบ ๆ กินไม่ลงเลย ลองออกไป หาซอื้ ตามรา้ นตา่ ง ๆ กม็ แี ตแ่ บบน ี้ มหิ นำ� ซำ�้ ยงั มแี ตข่ วดใหญเ่ บอ้ เรอ่ ทง้ั นน้ั แปลกท่ีว่าเหมือนกันหมดทุกประเทศ คิดว่าอย่างน้ัน เพราะได้ลองหาดู
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258