“...พอเพียง มคี วามหมายกวา้ งขวางยง่ิ กว่านอ้ี กี คอื คำ�ว่าพอ กพ็ อเพยี งน้กี ็พอแค่น้ันเอง คนเราถา้ พอในความต้องการกม็ คี วามโลภนอ้ ย เม่ือมีความโลภน้อยกเ็ บยี ดเบียนคนอน่ื น้อย ถา้ ประเทศใดมีความคิดอนั นี้ มีความคิดวา่ ท�ำ อะไรต้องพอเพยี ง หมายความวา่ พอประมาณ ซือ่ ตรง ไมโ่ ลภอยา่ งมาก คนเรากอ็ ยู่เปน็ สขุ พอเพยี งนอี้ าจมีมากอาจจะมีของหรูหรากไ็ ด้ แต่วา่ ต้องไมเ่ บียดเบยี นคนอ่ืน...” พระราชด�ำ รสั เน่อื งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสดิ าลยั วนั ท่ี 4 ธนั วาคม 2551
ค�ำน�ำ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไดจ้ ดั ทำ� หนงั สอื “๑๒๒ อาชพี เกษตรกรรมทางเลอื ก” เพอ่ื เผยแพรอ่ งคค์ วามรใู้ นการประกอบอาชพี ดา้ นเกษตรกรรมทเี่ หมาะสมในการดำ� เนนิ ชวี ติ และการพง่ึ ตนเองตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ซงึ่ กองนโยบายเทคโนโลยี เพือ่ การเกษตรและเกษตรกรรมยงั่ ยืน ส�ำนกั งานปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ด�ำเนินการปรับปรุงและจ�ำแนกเน้ือหาในแต่ละอาชีพ เพื่อเผยแพร่ให้เกษตรกร และผทู้ ส่ี นใจใชเ้ ปน็ แนวทางในการประกอบอาชพี ประกอบดว้ ย ทางเลอื กอาชพี ดา้ นหมอ่ นไหม ทางเลอื กอาชพี ดา้ นปศสุ ตั ว์ ทางเลอื กอาชพี ดา้ นการผลติ อาหารสตั ว์ ทางเลอื กอาชพี ดา้ นประมง ทางเลอื กอาชพี ดา้ นการแปรรปู อาหาร ทางเลอื กอาชพี ดา้ นพชื ทางเลอื กอาชพี ดา้ นการแปรรปู ผลติ ภณั ฑอ์ นื่ ๆ และทางเลอื กอาชพี ดา้ นสมนุ ไพรไทย “การเลย้ี งสตั ว”์ เปน็ อาชพี ดงั้ เดมิ ทมี่ คี วามสำ� คญั ตอ่ ภาคการเกษตรของประเทศไทย สืบต่อกันมายาวนาน มีการใช้ประโยชน์ทั้งในแง่ของการเล้ียงไว้ใช้งาน การเล้ียงไว้ เปน็ อาหารในครวั เรอื น และการเลยี้ งไวเ้ พอ่ื จำ� หนา่ ย กลา่ วไดว้ า่ การเลย้ี งสตั วส์ ามารถ เปน็ อาชพี ทางเลอื กใหก้ บั เกษตรกรได้ ทง้ั อาชพี หลกั และอาชพี เสรมิ การจดั ทำ� หนงั สอื “ทางเลอื กอาชพี ดา้ นปศสุ ตั ว”์ เปน็ การรวบรวมความรแู้ ละขอ้ มลู เชงิ วชิ าการทจี่ ำ� เปน็ และสามารถน�ำไปใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพทางด้านการปศุสัตว์ ได้แก่ การเลย้ี งสตั วใ์ หญ่ การเลยี้ งสตั วเ์ ลก็ การเลยี้ งสตั วป์ กี การเลย้ี งแมลง และการเลย้ี งแบบ ผสมผสาน สำ� หรบั เผยแพรใ่ หแ้ กเ่ กษตรกรและผทู้ สี่ นใจ นำ� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะสม เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความมนั่ คงทางอาชพี และรายไดต้ อ่ ไป ในการจดั ทำ� หนงั สอื “ทางเลอื กอาชพี ดา้ นปศสุ ตั ว”์ เลม่ นี้ ไดร้ บั ความรว่ มมอื ในการอนเุ คราะหข์ อ้ มลู เปน็ อยา่ งดจี ากกรมปศสุ ตั ว์ ซง่ึ กองนโยบายเทคโนโลยเี พอื่ การเกษตร และเกษตรกรรมยั่งยืน ส�ำนักปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอขอบคุณ มา ณ โอกาสน้ดี ้วย กองนโยบายเทคโนโลยเี พอื่ การเกษตรและเกษตรกรรมยง่ั ยนื มนี าคม ๒๕๕๖
ทางเลอื กอดาช้าีพนปศสุ ตั ว์ สารบญั หนา้ การเลี้ยงสตั ว์ใหญ่ การเลี้ยงโคนมเพศผ้ ู 7 การเลี้ยงโคเนอื้ เพ่ือผลติ ลูกจ�ำหน่าย 13 การเลยี้ งโคนมเพ่อื ผลติ น�้ำนมดิบจ�ำหน่าย 16 การเลี้ยงกระบอื 20 การเลี้ยงกระบือนม 23 การเล้ยี งสัตว์เล็ก การเลย้ี งแพะเนือ้ เพ่อื ผลติ พนั ธจ์ุ �ำหนา่ ย 27 การเลย้ี งแพะเน้ือเพือ่ ผลิตนมจ�ำหนา่ ย 30 การเลย้ี งแพะเนอ้ื เพอ่ื ผลิตเน้อื จ�ำหนา่ ย 33 การเลย้ี งสกุ รเพ่ือผลติ สุกรลูกผสม พนั ธุ์ดรู ็อค-เหมยซาน 36 การเลี้ยงสกุ รขุน 39 การเลย้ี งหมปู ่า 42 การเลี้ยงแกะเพื่อจ�ำหน่าย ผลติ พนั ธจ์ุ �ำหนา่ ย 45 การเลี้ยงแกะเพ่ือผลิตเนอื้ จำ� หนา่ ย 48 การเลี้ยงสตั ว์ปกี การเลี้ยงไกช่ นเชงิ กีฬา (ไก่เก่ง) 51 การเล้ยี งไก่ชนเชิงอนุรักษ์ (ไก่สวยงาม) 55 การเล้ยี งไก่พนื้ บ้านเพอ่ื เสรมิ รายได ้ 58 การเล้ยี งไก่ลูกผสมพ้ืนเมอื งเพ่อื ผลติ ลูกจำ� หนา่ ย 61 การเลย้ี งไก่ลูกผสมพ้ืนเมืองเพื่อจำ� หนา่ ย 64
สารบัญต่อ การเล้ียงไกไ่ ข่ 67 การเลย้ี งไก่เน้ือ (ไก่กระทง) 70 การเลย้ี งไกเ่ บตง 73 การเลย้ี งไกค่ อลอ่ น 76 การเล้ียงไก่งวง 79 การเลย้ี งไกแ่ จ้ 82 การเลี้ยงเปด็ เพ่อื ผลิตเป็ดสาวจำ� หน่าย 85 การเลย้ี งเป็ดไขเ่ พื่อผลติ ไขจ่ �ำหนา่ ย 88 การเล้ียงขนุ เปด็ เพศผู้ 91 การเลย้ี งเปด็ พนั ธ์ุเนือ้ 94 การเลยี้ งขนุ เป็ดเทศ 97 การเลย้ี งนกกระทา 100 การเล้ียงหา่ น 102 การเลยี้ งแมลง 104 การเลี้ยงจงิ้ หรีด 108 111 การเลี้ยงสัตว์แบบผสมผสาน 114 117 การเลยี้ งไก่ไขผ่ สมผสานกบั การเล้ยี งปลา การเลยี้ งไก่เนือ้ ผสมผสานกับการเล้ยี งปลา การเลี้ยงเป็ดผสมผสานกับการเลยี้ งปลา การเลี้ยงสกุ รผสมผสานกับการเลย้ี งปลา
ทางเลอื กอาชีพด้านปศุสตั ว์ การเล้ียงสัตว์ใหญ่ การเลย้ี งโคนมเพศผู้ ในกจิ กรรมการเลีย้ งโคนม จะพบว่าโคนมเพศผู้ทีเ่ กดิ มาจะไม่เปน็ ทต่ี ้องการ ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เน่ืองจากเป็นภาระในการจัดเล้ียงดูค่อนข้างมาก จึงมัก จำ� หนา่ ยออกจากฟารม์ ในราคาถกู ตงั้ แตแ่ รกเกดิ อยา่ งไรกต็ ามเนอ่ื งจากความตอ้ งการ เนอื้ โคเพอื่ บรโิ ภคในตลาดยงั มอี ยสู่ งู ดงั นน้ั การนำ� เอาโคนมเพศผมู้ าเลยี้ งขนุ เปน็ โคเนอ้ื จะเป็นการเพ่ิมปริมาณการผลิตเนื้อโคให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด และ ยงั เป็นการสร้างมูลคา่ เพิ่มทางเศรษฐกจิ ได้อกี ด้วย 7
ทางเลือกอาชพี ดา้ นปศุสตั ว์ เง่อื นไขความสำ� เร็จ 1. เกษตรกรมคี วามรู้ หรอื ประสบการณใ์ นการเลย้ี งลกู โคแรกเกดิ จนถงึ หยา่ นม 2. ต้องมสี ถานทที่ ่ีเหมาะสมและเพยี งพอในการเลี้ยงดูและจัดท�ำแปลงหญา้ 3. สถานทเี่ ลยี้ งจะตอ้ งอยใู่ กลก้ บั แหลง่ เลย้ี งโคนม เพอ่ื จะสามารถหาโคนมเพศผู้ ไดโ้ ดยสะดวก 4. ควรอยใู่ กลแ้ หลง่ พชื อาหารหยาบหรอื แหลง่ ของวสั ดเุ หลอื ใช้ หรอื ผลพลอยได้ ทางการเกษตรราคาถูกในทอ้ งถนิ่ เพ่ือใช้เป็นอาหารเลี้ยงโค 5. ต้องมตี ลาดหรอื แหลง่ รบั ซ้ือโคนมขนุ ทชี่ ดั เจน เทคโนโลยแี ละกระบวนการผลิต 1. พันธุส์ ตั ว์ ในการขนุ จะใช้ลกู โคนมเพศผู้ อายปุ ระมาณ 3 วันข้นึ ไป และจะต้องไดก้ ิน นมน�ำ้ เหลืองจากแมโ่ คแลว้ 2. การจัดการเลยี้ งดู จะนิยมเล้ียงลูกโครวมกันในคอกและโรงเรือนที่มีหลังคากันแดดกันฝนได้ มกี ารแบง่ แยกคอกตามขนาดและอายขุ องลกู โค โดยในระยะอายุ 1 สปั ดาหถ์ งึ 2 เดอื น ให้เล้ียงลูกโคด้วยนมผงทดแทนหรือนมสด เสริมด้วยหญ้าคุณภาพดี และอาหารข้น ไมจ่ ำ� กัด และจะหย่านมเมอ่ื โคมอี ายปุ ระมาณ 2 เดือนหลังจากโคอายุ 3 เดอื นไปแล้ว ใหใ้ ชห้ ญ้าหรอื อาหารหยาบอน่ื ๆ ให้กนิ อย่างเตม็ ที่ โดยการเลย้ี งปลอ่ ยในแปลงหญา้ หรือขังคอกแล้วตัดหญ้ามาให้กิน เสริมด้วยอาหารข้น วันละ 1-2 กิโลกรัมต่อตัว ควรมีการถ่ายพยาธิ พ่นยาฆ่าเชื้อเห็บอย่างสม่�ำเสมอรวมท้ังการท�ำวัคซีนป้องกัน โรคคอบวม และโรคปากและเท้าเป่อื ยตามก�ำหนดเวลาทีเ่ หมาะสม เลีย้ งขนุ จนโคนม มอี ายุ 18 เดือน ซ่ึงจะมีนำ้� หนกั ตัวประมาณ 300 กิโลกรัมข้ึนไป กส็ ามารถจ�ำหนา่ ย ให้ผู้ซ้ือหรือโรงฆา่ ได้ 8
ทางเลอื กอาชพี ดา้ นปศุสตั ว์ ตน้ ทนุ และผลตอบแทน 1. ตน้ ทุน จะเปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยเกย่ี วกบั คา่ พนั ธโ์ุ ค คา่ นมผง และคา่ อาหารขน้ คา่ เวชภณั ฑ์ และการจดั การอ่ืนๆ ซึ่งจะมีตน้ ทนุ ประมาณตัวละ 10,000 – 15,000 บาท 2. ผลตอบแทน จะได้จากการจ�ำหน่ายโคนมเพศผู้ท่ีน้�ำหนัก 300 กิโลกรัมขึ้นไปเป็นหลัก และมีรายได้เสริมจากการจ�ำหน่ายมูลโคที่ได้จากการเลี้ยง โดยจะมีผลตอบแทนรวม ประมาณตัวละ 12,000 – 13,000 บาท ท้ังนี้ ต้นทุนและผลตอบแทนดังกล่าวจะสามารถเปล่ียนแปลงได้ ตามแหล่งที่ผลิต ราคาปัจจัยการผลิต และราคารับซ้ือของตลาดท่ีจะแตกต่างไป ในแตล่ ะทอ้ งที่ การเล้ยี งโคขนุ โคมัน เนอื่ งจากความตอ้ งการบรโิ ภคเนอื้ โคในตลาดมจี ำ� นวนมากขน้ึ ทกุ วนั โดยเฉพาะ ในตลาดลา่ งซง่ึ ไมต่ อ้ งการบรโิ ภคเนอ้ื โคคณุ ภาพดนี กั การเลยี้ งขนุ โคมนั เหมาะสำ� หรบั เป็นอาชีพเสริมแก่เกษตรกร เป็นวิธีการเล้ียงโคเพ่ือผลผลิตเนื้อคุณภาพต่�ำ โดยใช้ เวลาเลี้ยงสนั้ ประมาณ 2-4 เดือน ใชพ้ ื้นทก่ี ารเล้ียงดนู อ้ ยสามารถน�ำวสั ดเุ หลอื ใช้จาก ระบบไร่นามาเป็นอาหารเลี้ยงโคได้ ท�ำให้ต้นทุนในการเลี้ยงต่�ำ เหมาะส�ำหรับเป็น อาชีพเสรมิ แก่เกษตรกร เง่ือนไขความส�ำเร็จ 1. แหล่งทเ่ี ลยี้ งตอ้ งอย่ใู กล้แหล่งพันธโ์ุ คที่จะน�ำมาขนุ อาทิ ตลาดนดั ชายแดน และมตี ลาดรบั ซ้ือโคขุนทชี่ ดั เจน 2. ตอ้ งอยใู่ กลแ้ หลง่ พชื อาหารหยาบราคาถกู หรอื แหลง่ วสั ดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตร ที่จะนำ� มาใช้เป็นอาหารขนุ โค 3. ตอ้ งมเี งนิ ทนุ สำ� รองเพยี งพอสำ� หรบั ใชใ้ นการจดั หาพนั ธโ์ุ คและอาหารเลย้ี งโค 9
ทางเลอื กอาชพี ด้านปศุสตั ว์ เทคโนโลยีและกระบวนการผลิต 1. พันธโ์ุ ค พันธโุ์ คขนุ ท่ใี ช้ขนุ สว่ นใหญ่จะเปน็ เนอ้ื โคอายมุ าก หรือโคใกล้ปลดระวาง ส่วนใหญ่จะเปน็ สายพันธลุ์ ูกผสมโคเนอ้ื พันธต์ุ ่างๆ หรอื โคพนื้ เมือง 2. อาหารและการใหอ้ าหาร การขุนโคมันจะเลี้ยงด้วยหญ้าหรือวัสดุเหลือใช้ทางเกษตร โดยให้กิน อย่างเต็มที่ หรือ อาจเสริมด้วยอาหารขน้ วันละ 1-2 กโิ ลกรมั ต่อตัว หากต้องการเร่ง การเจริญเตบิ โตหรอื ตอ้ งการเพ่ิมนำ้� หนกั 3. โรงเรอื นและอุปกรณ์ โดยท่วั ไปโรงเรือนอาจทำ� แบบงา่ ยๆ ใชว้ ัสดรุ าคาถกู ทมี่ ใี นทอ้ งถ่นิ หรือใช้ วธิ ปี รบั ปรงุ ซอ่ มแซมโรงเรอื นทมี่ อี ยเู่ ดมิ ตามสภาพโดยไมต่ อ้ งลงทนุ มากนกั ควรมหี ลงั คา ใหส้ ามารถคมุ้ แดด คมุ้ ฝนได้ ขนาดของคอกโคขนุ ควรมขี นาดพอดกี บั โคทเ่ี ลย้ี งขนุ 4. การจัดการเลย้ี งดู ควรเริ่มด้วยการซ้ือโคอายมุ าก หรอื โคใกลป้ ลดระวางมาเล้ียง ด�ำเนินการ ถา่ ยพยาธแิ ละทำ� การฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคทอี่ าจเกดิ ขนึ้ อาทิ โรคคอบวม โรคปากและ เท้าเปื่อย เป็นต้น เล้ียงขุนในคอกให้อาหารหยาบหรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เปน็ หลกั ยกเวน้ ถา้ โคมสี ภาพไมส่ มบรู ณอ์ าจตอ้ งเสรมิ ดว้ ยอาหารขน้ ใชเ้ วลาในการขนุ ประมาณ 2-4 เดือน แลว้ แตส่ ภาพความอุดมสมบรู ณข์ องโคขนุ ใหร้ ูปรา่ งโคดมู สี ภาพ แข็งแรงมเี น้ือมีหนงั แลว้ จ�ำหน่ายใหผ้ ูซ้ ้ือหรือโรงฆา่ ต่อไป ตน้ ทนุ และผลตอบแทน ต้นทุนส่วนใหญ่เกิดจากค่าพันธุ์โค ค่าอาหาร และค่าเวชภัณฑ์จะมีต้นทุน ประมาณตัวละ 15,000 – 18,000 บาท ส่วนผลตอบแทนจะได้จากการจ�ำหน่าย โคขุนมนั ในราคาตัวละ 18,000-20,000 บาท ทงั้ น้ี ตน้ ทนุ และผลตอบแทนจากการเลย้ี งจะเปลย่ี นแปลงไปตามแหลง่ ทเี่ ลยี้ ง พนั ธโ์ุ ค อาหารสตั ว์ วตั ถดุ บิ ทใี่ ชใ้ นการเลย้ี ง ราคาโคทตี่ ลาดรบั ซอ้ื ขนาดการผลติ ดงั นนั้ กอ่ นการตัดสินใจเล้ียงจำ� เปน็ ต้องศึกษาข้อมลู และรายละเอียดให้ชดั เจนเสยี กอ่ น 10
ทางเลือกอาชพี ดา้ นปศสุ ตั ว์ การขุนโคเน้ือคุณภาพดี การเลี้ยงโคขุน เป็นการเลี้ยงโคอีกรูปแบบหนึ่งที่มุ่งผลผลิตเนื้อโคคุณภาพดี เพอ่ื สนองความต้องการของตลาด ทดแทนการน�ำเขา้ เนื้อจากตา่ งประเทศ การขุนโค ใช้เวลาน้อยสามารถคืนทุนได้เร็ว เลี้ยงง่าย สามารถใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ และวัสดุ เหลอื ใช้ทางการเกษตรทมี่ ใี นทอ้ งถ่ินมาเปน็ อาหารเล้ียงได้ เงอ่ื นไขความส�ำเร็จ 1. ตอ้ งมเี งนิ ทนุ สำ� รองเพยี งพอสำ� หรบั การจดั หาพนั ธโ์ุ คและอาหารสำ� หรบั ขนุ โค 2. ตอ้ งมตี ลาดเนอื้ โคขนุ คณุ ภาพดรี บั รองชดั เจน หรอื อาจตอ้ งดำ� เนนิ การเลยี้ ง ในลกั ษณะกลมุ่ ผู้เลีย้ งหรือการรบั จ้างเล้ยี งเพื่อไม่ให้มีปญั หาดา้ นการตลาดรองรบั 3. สถานที่เลี้ยงจะต้องอยู่ใกล้แหล่งพันธุ์โคท่ีจะน�ำมาใช้การขุน และอยู่ใกล้ แหล่งอาหารหยาบ หรอื วสั ดุเหลือใชใ้ นการเกษตร 4. ตอ้ งมีความรแู้ ละประสบการณ์ในการเล้ียงโคขนุ เทคโนโลยีในกระบวนการการผลิต 1. พันธุ์โค ควรเลอื กพนั ธโ์ุ คทส่ี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของตลาดโคขนุ ไดแ้ ก่ โคพนั ธ์ุ ลกู ผสมบาร์มนั ชารโ์ รเลล์ หรือ ซิมเมนทอล เป็นตน้ ควรเลอื กขนุ เฉพาะเพศผู้ เพราะ เจรญิ เตบิ โตเร็วกว่าเพศเมีย 2. โรงเรอื นและอปุ กรณ์ ผ้เู ลีย้ งจำ� เปน็ ต้องมโี รงเรือน และคอกส�ำหรบั ขนุ โค โดยอาจสรา้ งด้วยวัสดุ ท่มี ีในท้องถนิ่ แตต่ ้องป้องกนั แดดฝนได้และทนทาน ขนาดของคอกขนุ โคควรมขี นาด พอดีกับตัวโคอยู่เท่าน้ัน ถ้าหากเลี้ยงรวมกันหลายตัวควรมีพื้นท่ี 8 ตารางเมตร/โค 1 ตวั พนื้ คอกควรเปน็ พน้ื ดนิ หรอื คอนกรตี ปดู ว้ ยแกลบ ขเ้ี ลอ่ื ย ในคอกตอ้ งมรี างอาหาร และรางนำ้� โดยรางอาหารในคอกควรสงู ประมาณ 60 เซนตเิ มตร กวา้ ง 90 เซนตเิ มตร ยาว 50 เซนตเิ มตร ตอ่ โค 1 ตวั อ่างน�ำ้ ควรวางในจดุ ทตี่ �ำ่ สุดของคอก 3. อาหารและการใหอ้ าหาร อาหารส�ำหรับโคขุน มีท้ังอาหารหยาบ และอาหารข้น โดยอาหารหยาบ 11
ทางเลือกอาชีพด้านปศุสัตว์ จะไดจ้ ากพชื อาหารสตั ว์ หรอื วสั ดเุ หลอื ใช้ หรอื ผลพลอยไดจ้ ากระบบไรน่ า เชน่ ตน้ ขา้ วโพด ฟางขา้ ว ชานออ้ ย เปน็ ตน้ โดยอตั ราสว่ นอาหารหยาบตอ่ อาหารขน้ ทใี่ ชข้ นุ โคขน้ึ อยกู่ บั ราคาอาหาร อายุ และสภาพของโค ระยะเวลาขุน ความต้องการของตลาดโคขุน รวมท้ังขอ้ จ�ำกดั ในการให้อาหาร 4. การจดั การเลีย้ งดู ควรเริ่มเล้ียงโคขนุ เพศผู้ อายุประมาณ 1-2 ปี ใชว้ ธิ ีขนุ ได้ 2 แบบ คอื 1) ขนุ ดว้ ยอาหารหยาบเพยี งอยา่ งเดยี ว แตต่ อ้ งเปน็ อาหารหยาบทม่ี คี ณุ ภาพ และต้องใช้เวลาในการขนุ นาน มักใช้วิธนี ีก้ บั การขนุ เพื่อผลติ เน้อื คุณภาพปานกลาง 2) ขนุ ดว้ ยอาหารหยาบเสรมิ ดว้ ยอาหารขน้ วธิ นี ตี้ อ้ งลงทนุ สงู มงุ่ เนน้ สำ� หรบั การผลติ เนอื้ โคขนุ คณุ ภาพดี สง่ ขายใหต้ ลาดชน้ั สงู ระยะเวลาในการขนุ โคจะแตกตา่ งกนั อายขุ องโคทีข่ ุน เช่น โคหย่านมใช้เวลาขนุ นาน 10 เดือน โคอายุ 1 ปี ใชเ้ วลาขนุ นาน 8 เดอื น โคอายุ 1 ปีคร่งึ ใช้เวลาขนุ นาน 6 เดือน โคอายุ 2 ปี ใช้เวลา 4 เดือน จะได้ นำ�้ หนกั สดุ ทา้ ยเพอื่ สง่ ตลาด ประมาณ 450-500 กโิ ลกรมั แตท่ ง้ั น้ี การใหอ้ าหารโคขนุ ที่ถูกต้องจะตอ้ งครบถว้ นท้ังปรมิ าณ และโภชนาการตามท่ีต้องการ ต้นทนุ และผลตอบแทน 1. ตน้ ทุน คา่ ใชจ้ า่ ยส่วนใหญ่จะได้แก่ คา่ พันธโุ์ ค ค่าอาหารสำ� หรับขนุ โค คา่ เวชภณั ฑ์ และอาหารเสริมอน่ื ๆ โดยทวั่ ไปจะมีตน้ ทุนประมาณ ตวั ละ 17,000-20,000 บาท 2. ผลตอบแทน จะไดจ้ ากการจำ� หนา่ ยโคมชี วี ติ เมอ่ื ขนุ แลว้ จะมนี ำ�้ หนกั ประมาณ 450-500 กโิ ลกรัม จำ� หนา่ ยในราคาเฉลยี่ ประมาณกิโลกรมั ละ 45-50 บาท จะได้ผลตอบแทน ประมาณตัวละ 18,00-25,000 บาท ทั้งนี้ ตน้ ทุนและผลตอบแทนจะสามารถเปลี่ยนแปลงไดต้ ามสภาวะการตลาด และแหล่งทเี่ ลย้ี งอันเนือ่ งมาจากความแตกตา่ งของราคาพันธโ์ุ ค อาหารโค และราคา รับซ้ือโคขุนของแต่ละแหล่งที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจเล้ียงควรศึกษา ขอ้ มูลก่อน และรายละเอยี ดให้ชดั เจนเสยี กอ่ น 12
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศสุ ัตว์ กเพาร่ือผเลลิต้ยี ลงูกโจค�ำหเนนา่ อ้ื ย การเลยี้ งโคเนอื้ เปน็ อาชพี ทเี่ กษตรกรมคี วามคนุ้ เคย มคี วามรแู้ ละประสบการณ์ ในการเลย้ี งมาเปน็ เวลานาน การเลยี้ งสามารถดำ� เนนิ การไดใ้ นทกุ ภมู ภิ าคของประเทศ และเนือ่ งจากความตอ้ งการในการบริโภคเน้ือโคมีมากในขณะท่ีผู้เลย้ี งนอ้ ย ตลาดจึง มคี วามตอ้ งการสูง ทำ� ใหอ้ าชีพการเลีย้ งโคเนอื้ ไม่มีปัญหาดา้ นราคาและการจำ� หน่าย เหมอื นสนิ คา้ เกษตรอน่ื ๆ นอกจากนแ้ี ลว้ โคเนอ้ื ยงั ชว่ ยสรา้ งมลู คา่ เพมิ่ จากเศษวสั ดเุ หลอื ใช้ และผลพลอยได้ในทางดา้ นการเกษตรทม่ี ีอยูม่ ากมายในทอ้ งถนิ่ ตา่ งๆ ให้มากขึ้นได้ เงอ่ื นไขความสำ� เรจ็ 1. มสี ถานทเ่ี พยี งพอในการจดั ทำ� คอก หรอื โรงเรอื นสำ� หรบั การเลยี้ งดู และแปลงพชื อาหารสัตว์ ท่ตี ้งั ของโรงเรอื นหรือคอกเลี้ยงตอ้ งอยู่ในพ้นื ที่ดอน ไมม่ นี �้ำทว่ มขัง 2. ต้องมีแหล่งทุ่งหญ้าธรรมชาติส�ำหรับปล่อยเลี้ยงโค หรือสามารถจัดหญ้า หรืออาหารหยาบอนื่ ๆ ให้กินไดเ้ พียงพอตลอดทัง้ ปี 3. ต้องมพี ่อพันธุ์ส�ำหรบั คมุ ฝูง หรอื อยู่ใกลห้ น่วยทใี่ หบ้ รกิ ารผสมเทียม 4. ตอ้ งอยใู่ กลต้ ลาดรับซ้ือ-ขายโค หรอื มีตลาดรองรับทีช่ ดั เจน 13
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศุสัตว์ เทคโนโลยีและกระบวนการผลิต 1. พนั ธุโ์ ค เกษตรกรสามารถเลอื กพนั ธโ์ุ คไดห้ ลายพนั ธ์ุ โคพนั ธพ์ุ น้ื เมอื ง ซง่ึ จะแตกตา่ ง กนั ไปในแตล่ ะพนื้ ที่ อาทิ โคขนุ (ภาคใต)้ โคขาวลำ� พนู (ภาคเหนอื ) โคลาน (ภาคกลาง) และโคอสี าน เปน็ ตน้ หรอื โคเนอื้ ลกู ผสมทเี่ กดิ จากโคพน้ื เมอื งกบั โคพนั ธบ์ุ ราหม์ นั หรอื พนั ธช์ุ ารโ์ รเลล์ เปน็ ตน้ โดยคณุ สมบตั ขิ องโคแตล่ ะพนั ธก์ุ จ็ ะแตกตา่ งกนั ไป เชน่ โคพน้ื เมอื ง จะมีความสมบูรณ์พันธุ์สูง ผสมติดง่ายให้ลูกเร็ว ลูกดกและเลี้ยงง่าย แต่จะมีการ เจรญิ เติบโตช้า ตัวเล็ก ใหผ้ ลผลิตเนือ้ นอ้ ยกวา่ โคลูกผสม ซ่ึงมีโครงร่างใหญ่ 2. การจดั การเลี้ยงดู เกษตรกรควรเร่ิมต้นจากการเลี้ยงโคสาวหรือโคสาวอุ้มท้องหรือโคลูกติด จำ� นวนทเ่ี ลย้ี งจะขน้ึ อยกู่ บั ตน้ ทนุ ทเี่ กษตรกรมี แตเ่ พอื่ ใหค้ มุ้ คา่ กบั การลงทนุ และแรงงาน ทใี่ ช้ในการเลย้ี ง เกษตรกรควรเล้ยี งตั้งแต่ 5 ตัวขน้ึ ไปต่อครอบครวั การเลยี้ งจะใชว้ ิธี กงึ่ ขงั กง่ึ ปลอ่ ย โดยจะปลอ่ ยโคออกหากนิ พชื หญา้ ในแหลง่ ธรรมชาติ ทงุ่ หญา้ สาธารณะ หรือทุ่งหญ้าที่ปลูกสร้างขึ้น แล้วน�ำเข้าขังคอกในช่วงตอนเย็นโดยจะมีโรงเรือนหรือ ไมม่ ีกไ็ ด้ แตต่ ้องมเี พิงพกั ท่สี ามารถป้องกนั แดดและฝนได้ หลงั คาท�ำดว้ ยวัสดทุ หี่ าได้ ในทอ้ งถ่นิ เชน่ หลังคาหญ้าหรือแฝก พื้นที่จะเป็นพนื้ ดนิ อดั แนน่ หรอื พ้นื ซเี มนต์กไ็ ด้ แตต่ อ้ งมคี วามสะดวกในการทำ� ความสะอาด และสามารถขนยา้ ยมลู โคออกไดส้ ะดวก ในคอกพักหรือโรงเรอื นควรมรี างน้�ำ รางอาหารให้เพยี งพอกบั จำ� นวนโคท่ีเลีย้ ง ต้องมี น้�ำสะอาดและแร่ธาตุก้อนให้โคกินตลอดเวลา ในช่วงที่พืชอาหารหยาบคลาดแคลน ควรมีการเสริมพืชอาหารสัตว์คุณภาพดี หรืออาหารข้นให้กินเพ่ิมเติม โดยเฉพาะใน ระยะการเล้ียงท่ีส�ำคัญ เช่น ช่วงแม่โคอุ้มท้อง หลังคลอดและช่วงลูกโคให้เกษตรกร พิจารณาจากลกั ษณะรูปร่าง และความสมบูรณข์ องโคเป็นหลัก ถา้ โคผอมก็ควรเสริม อาหารเพม่ิ เตมิ แมโ่ คจะเรม่ิ ผสมพนั ธไ์ุ ดเ้ มอ่ื อายปุ ระมาณ 1.5 ปี ในโคพนื้ เมอื งและ 2 ปี ในโคลูกผสม ถ้าเกษตรกรต้องการพ่อพันธุ์คุมฝูง พ่อพันธุ์ 1 ตัวท่ีมีอายุ 3 ปีข้ึนไป จะคุมฝูงแม่พันธุ์ได้ 25-30 ตวั แตถ่ า้ พอ่ พนั ธ์อุ ายุนอ้ ยจะคุมฝงู ไดน้ ้อยลง ถ้าเกษตรกร ใชใ้ นการผสมเทยี ม จะตอ้ งคอยสงั เกตการณเ์ ปน็ สดั ของแมโ่ ค ซง่ึ จะมวี งรอบการเปน็ สดั 14
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศสุ ตั ว์ ประมาณ 21 วนั ควรผสมใหไ้ ดต้ ามรอบวงแม่โคต้ังท้องนานประมาณ 280-290 วัน ในช่วงคลอดผู้เลี้ยงควรเข้าช่วยเหลือในการคลอด และให้ลูกโคกินนมน�้ำเหลือง จากแมโ่ คโดยเรว็ ทส่ี ดุ ลกู โคจะหยา่ นมเมอ่ื อายปุ ระมาณ 6-7 เดอื น โคทกุ ตวั ควรไดร้ บั การดแู ลสขุ ภาพ ควรถา่ ยพยาธเิ ปน็ ประจำ� อยา่ งนอ้ ยปลี ะครงั้ และตอ้ งฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคที่ส�ำคญั ได้แก่ โรคคอบวม โรคปากและเท้าเป่อื ย ตามโปรแกรมอยา่ งสม�ำ่ เสมอ การจำ� หนา่ ยโคเนอ้ื จะสามารถจำ� หนา่ ยไดต้ งั้ แตล่ กู โคหยา่ นมเปน็ ตน้ ไป แมโ่ คพนื้ เมอื ง จะสามารถให้ลูกโคปีละ 1 ตัว เป็นอย่างน้อย แต่ถ้าเป็นลูกโคลูกผสมจะสามารถ ใหล้ ูกได้ 1-2 ตวั ต่อปี เป็นอยา่ งน้อย ต้นทนุ และผลตอบแทน 1. ต้นทนุ ในการเลย้ี งโคเนอ้ื 1 ตวั ชว่ งระยะเวลาการเลย้ี งดู 5 ปี เกษตรกรจะมคี า่ ใชจ้ า่ ย คอื คา่ พันธ์โุ คสาว หรอื โคสาวอ้มุ ท้อง คา่ อาหารเสรมิ และแรธ่ าตุ ค่าเวชภัณฑ์ ยาบำ� รุง ยาถา่ ยพยาธิ คา่ พชื พนั ธอ์ุ าหารสตั ว์ คา่ ปรบั ปรงุ ซอ่ มแซมคอก โรงเรอื น รางนำ�้ รางหญา้ และอน่ื ๆ รวมเฉลี่ยประมาณ 30,000-32,000 บาทต่อตวั 2. ผลตอบแทน เกษตรกรจะมีรายได้จากการขายลูกโคหย่านมในชว่ งเวลา 5 ปี แมโ่ ค 1 ตัว จะให้ลกู ประมาณ 3-4 ตัว จ�ำหนา่ ยไดใ้ นราคาตัวละประมาณ 8,000-10,000 บาท มผี ลตอบแทนประมาณ 32,000-40,000 บาท และจะมรี ายไดเ้ พม่ิ เตมิ จากการจำ� หนา่ ย มูลโคแหง้ ประมาณ 6,000 บาทต่อตัว โดยจะเรม่ิ คมุ้ ทุนในปที ่ี 2 หรือ 3 อย่างไรกต็ าม ต้นทุนและผลตอบแทนดังกล่าวอาจเปล่ียนแปลงไปตามแหล่งท่ีเลี้ยงและสภาวะ การตลาดรวมทั้งขนาดการผลติ 15
ทางเลอื กอาชีพดา้ นปศสุ ตั ว์ กเพา่ือรผเลลิตน้ยี �้ำงนโมคดนบิ จม�ำหนา่ ย การเลี้ยงโคนมเพื่อผลิตน�้ำนมดิบจำ� หนา่ ย เปน็ อาชพี ทไี่ ด้รบั ความสนใจจาก เกษตรกรในปัจจุบันมาก เนื่องจากสามารถท�ำให้เกษตรกรมีรายได้ประจ�ำท่ีแน่นอน และมั่นคง ไม่มีปัญหาด้านการตลาดเนื่องจากปัจจุบันน�้ำนมดิบที่ผลิตได้ในประเทศ ยังไม่มีเพียงพอต่อความต้องการบริโภค อีกท้ังสามารถน�ำเอาวัสดุเหลือใช้ และ ผลพลอยไดท้ างการเกษตรในแต่ละทอ้ งถิน่ มาใชเ้ ล้ียงโคนมไดเ้ ปน็ อยา่ งดอี ีกดว้ ย เง่ือนไขความส�ำเรจ็ 1. ควรมที ำ� เลทเ่ี ลยี้ งอยใู่ กลแ้ หลง่ รบั ซอื้ นำ�้ นม หรอื ในเขตการสง่ เสรมิ การเลย้ี งโคนม มกี ารคมนาคมสะดวก มแี หลง่ นำ้� ทจ่ี ะใชเ้ ลย้ี งโคนมไดต้ ลอดปี พน้ื ทมี่ คี วามอดุ มสมบรู ณ์ และเพียงพอทีจ่ ะใชใ้ นการจดั ทำ� แปลงหญา้ เลย้ี งโคนม 2. ควรมแี รงงานในครอบครัวอย่างน้อย 2 คน เพือ่ ใชใ้ นการเล้ียงโคนม 3. การเล้ียงโคนมเป็นการลงทุนค่อนข้างสูงจึงจ�ำเป็นต้องมีทุนส�ำรองเพ่ือใช้ ในการเล้ยี งอยา่ งพอเพยี ง 4. ผเู้ ลย้ี งจะตอ้ งมคี วามรกั ในอาชพี การเลยี้ งโคนม ตอ้ งมคี วามรแู้ ละประสบการณ์ 16
ทางเลือกอาชพี ด้านปศสุ ตั ว์ ในการเลี้ยงและต้องมคี วามขยัน แขง็ แรง ขวนขวายหาความรู้ใหมๆ่ อยูเ่ สมอ 5. ผเู้ ลย้ี งตอ้ งสงั กดั กลมุ่ หรอื สหกรณผ์ เู้ ลยี้ งโคนม เพอ่ื ความสะดวกในการจดั หา แหล่งเงนิ ทุน ปัจจัยการผลติ และการจำ� หน่ายผลผลิตน�ำ้ นมทผ่ี ลิตได้ เทคโนโลยแี ละกระบวนการผลติ 1. พนั ธโ์ุ คนม พนั ธโ์ุ คนมทเี่ ปน็ ทน่ี ยิ มเลย้ี งในประเทศไทย คอื โคนมลกู ผสมพนั ธโ์ุ ฮลสไตน์ ฟรีเซยี่ น หรือพันธข์ุ าว-ด�ำท่มี ีระดบั สายเลอื ดตงั้ แต่ 50 เปอรเ์ ซน็ ตข์ น้ึ ไป โดยระดับ สายเลอื ดทีน่ ยิ มเล้ียงในบา้ นเราจะอยทู่ ่ี 62.5 เปอรเ์ ซน็ ต์ 2. โรงเรือนและอุปกรณ์ สถานทใี่ ชเ้ ลยี้ งโคนม ตอ้ งพจิ ารณาใหเ้ หมาะสมหลายๆ อยา่ ง เชน่ นำ้� ทว่ มไมถ่ งึ อยหู่ า่ งจากสถานทเี่ ลยี้ งสตั วช์ นดิ อน่ื ๆ หรอื โรงงานทมี่ กี ลน่ิ เหมน็ โรงเรอื นตอ้ งสงู โปรง่ ปอ้ งกนั แดดฝน ลมพดั ผา่ นสะดวก อากาศเยน็ สบาย ออกแบบใหส้ ะดวกในการปฏบิ ตั งิ าน คงทน รักษาความสะอาดไดง้ า่ ย 3. อาหารและการใหอ้ าหาร อาหารสำ� หรบั ทใ่ี ชเ้ ลยี้ งโคนม แบง่ ออกเปน็ 2 ชนดิ ไดแ้ ก่ อาหารหยาบ และ อาหารขน้ โดยอาหารหยาบจะเป็นอาหารหลกั ที่ใชเ้ ล้ยี งโคนม ซึง่ ได้แก่ หญ้า หรือพชื อาหารสตั วอ์ นื่ ๆ รวมทงั้ วสั ดเุ หลอื ใช้ หรอื ผลพลอยไดจ้ ากระบบไรน่ า อาทิ ตน้ ขา้ วโพด ฟางขา้ ว ตน้ ถว่ั เปน็ ตน้ อาหารขน้ จะเปน็ อาหารเสรมิ สำ� หรบั ในกรณที โี่ คนมใหผ้ ลผลติ มากๆ หรอื อาหารหยาบหลกั มคี ณุ ภาพตำ่� หรอื ไมเ่ พยี งพอ โดยทวั่ ไปจะนยิ มใชอ้ าหารสำ� เรจ็ รปู ทอ่ี ยใู่ นท้องตลาด หรือเกษตรกรอาจจะผสมขึน้ ใชเ้ องเพอ่ื ลดต้นทนุ ในการเล้ียง 4. การจัดการเลี้ยงดู โดยทวั่ ไปเกษตรกรจะนยิ มเรม่ิ ตน้ การเลย้ี งโดยการซอ้ื แมโ่ คสาว หรอื แมโ่ คตง้ั ทอ้ ง มาเล้ียงการเล้ียงดูแม่โคอุ้มทอ้ ง จ�ำเป็นต้องระมดั ระวงั มากเป็นกรณพี ิเศษ โดยเฉพาะ ในชว่ งกอ่ นคลอด 2-4 สปั ดาห์ ตอ้ งมกี ารเสรมิ อาหารขน้ เพม่ิ เตมิ แยกแมโ่ คออกจากฝงู แม่โคจะตั้งท้องนาน 285 วัน ขณะเมื่อคลอดผู้เลี้ยงต้องคอยดูแลให้การช่วยเหลือ ลูกโคแรกเกิดต้องให้กินนมน้�ำเหลืองจากแม่โคภายใน 6 ช่ัวโมง และต้องให้กิน 17
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศสุ ตั ว์ เปน็ ระยะเวลาไมน่ อ้ ยกวา่ 3 วนั เพอ่ื ใหร้ า่ งกายลกู โคแขง็ แรง หลงั จากนน้ั จะแยกออกจากแม่ มาเลีย้ งในคอกเฉพาะ จะใหก้ ินนมผงรว่ มกบั แมน่ ม และจะเริ่มให้อาหารข้นเมือ่ ลกู โค อายไุ ด้ 1 เดอื น ในขณะเดยี วกนั จะเรมิ่ ฝกึ ใหล้ กู โคหดั กนิ หญา้ และจะหยดุ ใหน้ มเมอื่ ลกู โค มอี ายไุ ด้ 3 เดอื น ในระยะโครนุ่ จะใหโ้ คกนิ หญา้ อยา่ งเตม็ ท่ี เสรมิ อาหารขน้ เพยี งเลก็ นอ้ ย โดยจะนิยมเล้ียงด้วยการปล่อยให้หากินเองในแปลงหญ้าเพราะโคจะได้ออกก�ำลัง ชว่ ยประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยและแรงงาน เมอ่ื โคเจรญิ เตบิ โตเตม็ ท่ี อายุ 15-18 เดอื น โคเพศเมยี จะเรม่ิ แสดงอาการเปน็ สดั ควรจดั การผสมพนั ธใ์ุ หผ้ สมตดิ ภายในอายไุ มเ่ กนิ 18 เดอื น หลังจากแม่โคคลอดลูกแล้ว 3 วัน จะแยกลูกออกจากแม่โค และจะเริ่มรีดนมได้ โดยการรีดนมสามารถท�ำได้ท้ังแบบใช้เครื่องรีดหรือรีดด้วยมือ รีดนมวันละ 2 คร้ัง เช้า เย็น แม่โครีดนมหลังคลอดใหม่ๆ จะต้องให้อาหารเต็มท่ีท้ังหญ้าและอาหารข้น เพ่ืออาหารจะเข้าซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกายให้สมบูรณ์โดยเร็ว และให้ผลผลิต นำ้� นมเตม็ ที่ หลงั แมโ่ คคลอดไปแล้ว 60 วนั แมโ่ คจะเร่มิ เป็นสัดใหม่ และมวี งรอบการ เปน็ สดั ทกุ ๆ 21 วนั สามารถผสมพนั ธแ์ุ ละตงั้ ทอ้ งใหมไ่ ดอ้ กี แมโ่ คแตล่ ะตวั จะสามารถ รดี นมไดน้ าน ประมาณ 250-300 วนั จะใหน้ ำ้� นมมากหรอื นอ้ ยขนึ้ อยกู่ บั ความสมบรู ณ์ และสายเลอื ดของแมโ่ ค แม่โคลกู ผสมเลือด 50-62.5 เปอร์เซน็ ต์ ในบา้ นเราจะใหน้ ม โดยเฉลี่ย ประมาณ 10-15 กิโลกรัมต่อวัน และจะหยุดรีดนม ประมาณ 2 เดือน ก่อนคลอดคร้ังต่อไป เพอื่ แม่โคจะไดส้ ะสมอาหารให้เพียงพอก่อนการคลอด 5. การควบคมุ ปอ้ งกนั โรค ตอ้ งดแู ลสขุ ภาพแมโ่ คนมอยา่ งสมำ่� เสมอ ควรมกี ารทำ� วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคทสี่ ำ� คญั เชน่ โรคคอบวม โรคปากเท้าเป่อื ย ตรวจเลือดเพอ่ื ป้องกนั โรควัณโรค และแท้งตดิ ตอ่ หมั่นก�ำจดั พยาธภิ ายนอกและตรวจดอู าการของโรคเตา้ นมอักเสบอยา่ งสม�ำ่ เสมอ 18
ทางเลอื กอาชีพดา้ นปศสุ ัตว์ ตน้ ทุนและผลตอบแทน 1. ตน้ ทนุ จะสามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ 2 สว่ น คอื ตน้ ทนุ ถาวร ไดแ้ ก่ คา่ โรงเรอื น คา่ พนั ธโ์ุ คนม ค่าวสั ดุอปุ กรณ์ ค่าจดั ทำ� แปลงหญา้ คา่ จัดหาแหลง่ น้ำ� และตน้ ทนุ หมุนเวยี น สำ� หรับ เปน็ คา่ อาหารขน้ คา่ บรกิ ารผสมเทยี มและคา่ รกั ษาสตั ว์ คา่ ไฟฟา้ คา่ นำ�้ มนั คา่ เวชภณั ฑ์ และวัคซีนโดยรวม ต้นทุนส�ำหรับการเล้ยี งแมโ่ คนม 5 ตัว ในปจั จบุ นั เกษตรกรจะต้อง มีเงินทนุ อย่างน้อยประมาณ 250,000-300,00 บาท 2. ผลตอบแทน ผลตอบแทนหรอื รายไดห้ ลกั จะไดม้ าจากการผลติ นำ�้ นมดบิ จำ� หนา่ ย ซงึ่ ปจั จบุ นั ราคาสำ� หรับซือ้ น�้ำนมดบิ ณ ศนู ย์รบั ซื้อน้ำ� นมดบิ สหกรณ์ และกลมุ่ ผเู้ ลย้ี งโคนมตา่ งๆ อยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 10.50-12.0 บาท ปริมาณผลผลิตน้�ำนมของโคนม 1 ตัว จะได้ถึง 15,000-18,000 กิโลกรัม ต่อระยะการให้นม ผลตอบแทนในปีท่ี 1-3 จากการเล้ียงแม่โคนม 5 ตัว โดยเฉล่ียประมาณ 180,000-200,000 บาทต่อปี โดยเกษตรกรจะเริม่ คมุ้ ทุนในปีท่ี 4 หรอื 5 เป็นตน้ ไป นอกจากนี้เกษตรกรยงั มีรายได้ เพิม่ เติมจากการจ�ำหนา่ ยลูกโค และมลู โคทีจ่ �ำหน่ายในแตล่ ะปีอีกดว้ ย อย่างไรก็ตาม ต้นทุนและผลตอบแทนจะสามารถผันแปรได้ตามสภาวะ การตลาด ราคาแมโ่ ค อาหาร และราคานำ้� นมทรี่ บั ซอื้ เปน็ สำ� คญั ดงั นนั้ กอ่ นตดั สนิ ใจเลยี้ ง จ�ำเปน็ ตอ้ งศกึ ษาขอ้ มูลและรายละเอียดใหช้ ดั เจนเสียก่อน 19
ทางเลอื กอาชีพดา้ นปศสุ ัตว์ การเลี้ยงกระบอื กระบือ นับเป็นสัตว์ทเี่ กษตรกรมคี วามผกู พนั และมีประสบการณ์ในการเล้ียง มายาวนาน รวมทง้ั ยงั มบี ทบาทอยา่ งสำ� คญั ยงิ่ ในการผลติ ทางการเกษตรมาแตใ่ นอดตี กระบือเล้ียงง่ายใช้แรงงานในครอบครัวและเล้ียงได้ท้ังในที่ลุ่มและที่ดอน กระบือ สามารถใช้ประโยชน์จากหญ้าและพืชอาหารที่มีอยู่ตามธรรมชาติได้ดี ท�ำให้มีต้นทุน การเล้ยี งตำ�่ ปจั จุบนั ตลาดมีความตอ้ งการเนื้อกระบือสูงมาก เน่อื งจากกระบือที่เลีย้ ง ในประเทศมีปรมิ าณลดน้อยลงไปเรอ่ื ยๆ เงอื่ นไขความส�ำเร็จ การเลี้ยงกระบือต้องอาศัยพื้นท่ีที่เหมาะสม มีแหล่งน้�ำ มีแหล่งปล่อยเลี้ยง ทมี่ หี ญา้ หรอื พชื อาหารตามธรรมชาตอิ ยา่ งพอเพยี งหรอื อาจจะตอ้ งมแี หลง่ วสั ดเุ หลอื ใช้ จากระบบไร่นา เพื่อใช้เป็นอาหารเสริมรวมทั้งต้องมีพ่อพันธุ์คุมฝูงในกรณีที่ไม่มี หน่วยบริการผสมเทยี มใหบ้ รกิ ารในพนื้ ที่ 20
ทางเลอื กอาชีพด้านปศุสตั ว์ เทคโนโลยแี ละกระบวนการผลิต 1. พันธก์ุ ระบือ พนั ธก์ุ ระบอื ในแตล่ ะพน้ื ทจี่ ะแตกตา่ งกนั ออกไป โดยทวั่ ไปเกษตรกรจะนยิ ม เล้ยี งกระบือปลกั ซึ่งเป็นกระบือทช่ี อบนอนแช่ปลกั มีรูปร่างล่ำ� สนั ผิวหนังมีสีเทาเขม้ เกอื บดำ� อาจมสี ผี วิ ขาวเผอื ก มขี นเลก็ นอ้ ย ลำ� ตวั หนา้ ลกึ ทอ้ งใหญ่ แคบยาว มลี กั ษณะเขา โคง้ ไปขา้ งหลงั ตานนู เด่นชดั คอยาว และบรเิ วณใต้คอจะมขี นขาวเป็นรปู ตวั วี 2. การจดั การเล้ยี งดู เนอื่ งจากกระบอื เปน็ สตั วเ์ ลยี้ งงา่ ยไมย่ งุ่ ยาก ดงั นนั้ หลกั ในการจดั การ โดยทว่ั ไป คอื ตอ้ งใหก้ ระบอื กนิ อาหารทม่ี คี ณุ ภาพและจำ� นวนพอเพยี ง รวมทง้ั จดั สภาพแวดลอ้ ม ให้กระบืออยู่อย่างสบายและปลอดภัย การให้อาหารกระบือจะใช้การปล่อยเล้ียง ในแปลงพืชอาหารสัตว์ตามธรรมชาติ หรือวัสดุที่เป็นผลพลอยได้จากการปลูกพืช มาเป็นอาหารกระบือ เสริมแร่ธาตุและเกลือให้กินได้ตลอดเวลาเพื่อท�ำให้กระบือ ทเี่ ลย้ี งแขง็ แรง และมคี วามตา้ นทานโรค ตอ้ งทำ� วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคระบาด เชน่ โรคคอบวม โรคปากและเทา้ เปอ่ื ย เปน็ ประจำ� ทกุ ปตี ามโปรแกรมทก่ี ำ� หนด การผสมพนั ธแ์ุ มก่ ระบอื ท�ำได้หลายวิธี เช่น การผสมเทียม ซึ่งผู้เล้ียงจะต้องคอยสังเกตการณ์เป็นสัดของ แม่กระบือ หรือการใช้พ่อพันธุ์เข้าผสมหรือคุมฝูง โดยทั่วไปพ่อพันธุ์ 1 ตัวสามารถ ปลอ่ ยคมุ ฝงู แมก่ ระบอื ไดป้ ระมาณ 30-40 ตวั ชว่ งอายทุ ตี่ อ้ งดแู ลเปน็ พเิ ศษ ไดแ้ กร่ ะยะ แมก่ ระบือใกล้คลอดและลูกกระบือแรกเกดิ แม่กระบอื ปลักตวั หนึ่งจะให้ลูกได้ 1 ตัว ในระยะเวลา 1.5-2 ปี ในการเล้ียงกระบือที่ใช้พ่อพันธุ์คุมฝูงจ�ำเป็นต้องเปล่ียน พอ่ พันธใุ์ หม่ทกุ 3-4 ปี เพ่ือปอ้ งกันการผสมเลอื ดชดิ 21
ทางเลอื กอาชีพดา้ นปศุสตั ว์ ต้นทนุ และผลตอบแทน 1. ต้นทุน สว่ นใหญจ่ ะเปน็ คา่ พนั ธก์ุ ระบอื คา่ อาหารเสรมิ และแรธ่ าตุ การเลย้ี งแมก่ ระบอื 1 ตัว ในระยะเวลา 5 ปี จะตอ้ งมที นุ ในการเลี้ยงดปู ระมาณ 17,000-23,000 บาท 2. ผลตอบแทน จะไดจ้ ากการจำ� หนา่ ยลกู กระบอื ทเ่ี กดิ ในฝงู ในระยะเวลา 5 ปี แมก่ ระบอื 1 ตวั จะสามารถใหล้ กู ได้ 2-3 ตวั ลกู กระบอื หยา่ นมสามารถจำ� หนา่ ยไดใ้ นราคาตวั ละ ประมาณ 10,000-12,000 บาท คดิ เปน็ ผลตอบแทนประมาณ 1,000-2,000 บาทตอ่ ตวั ท้ังน้ี ต้นทุนและผลตอบแทนจากการเล้ียงดังกล่าว อาจเปล่ียนแปลงได้ตาม สภาวะการตลาดและแหลง่ ทีเ่ ลีย้ ง 22
ทางเลอื กอาชีพด้านปศสุ ตั ว์ การเล้ยี งกระบอื นม กระบือนม เป็นสัตว์เลีย้ งพืน้ เมอื งของประเทศอินเดยี ปากีสถาน อยี ิปต์ และ อติ าลี สำ� หรบั ประเทศไทยมกี ารเลยี้ งกระบอื มาประมาณ 50 กวา่ ปแี ลว้ นอกจากเลย้ี งงา่ ย ใชแ้ รงงานไดเ้ หมอื นกระบอื พน้ื เมอื งของไทยแลว้ ยงั สามารถเปลย่ี นอาหารหยาบ เชน่ หญา้ และพชื อาหารสตั วท์ ม่ี ตี ามธรรมชาตเิ ปน็ นำ้� นมไดด้ ว้ ย ตน้ ทนุ การเลย้ี งตำ�่ ปจั จบุ นั ตลาดมีความต้องการน้�ำนมและผลิตภัณฑ์จากนมกระบือสูงมาก เน่ืองจากมีไขมัน และโปรตนี สงู กวา่ นำ�้ นมโค และปรมิ าณการเลย้ี งในประเทศยงั มนี อ้ ยมากซง่ึ ไมเ่ พยี งพอ ต่อความต้องการของตลาด 23
ทางเลือกอาชพี ดา้ นปศสุ ัตว์ เง่ือนไขความส�ำเร็จ การเล้ียงกระบือนม จ�ำเป็นต้องมีพ้ืนท่ีเหมาะสม มีแหล่งพืชอาหารสัตว์ เพยี งพอ โดยเฉพาะแหลง่ นำ้� เพราะกระบอื นมเปน็ กระบอื ทช่ี อบอาบนำ�้ และทส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ คอื พนั ธก์ุ ระบอื นมทจ่ี ะเลยี้ งจะตอ้ งเปน็ พนั ธก์ุ ระบอื นมทดี่ ี ไดม้ าจากแหลง่ ทเ่ี ชอ่ื ถอื ได้ หรอื อาจนำ� พอ่ พนั ธก์ุ ระบอื นมพนั ธด์ุ มี าผสมพนั ธก์ุ บั แมพ่ นั ธก์ุ ระบอื พนื้ เมอื งของไทยเรา ก็ได้ เพื่อผลิตลูกผสมระหว่างกระบือพันธุ์นม และกระบือพื้นเมืองไทยซ่ึงสามารถ ให้นำ้� นมไดด้ ีเช่นเดยี วกัน เทคโนโลยีและกระบวนการผลิต 1. พนั ธกุ์ ระบือ พนั ธุก์ ระบือนมทนี่ ิยมเล้ียงมีอยดู่ ว้ ยกัน 2 พันธุ์ คอื 1. กระบือนมพันธุ์มูรร่าห์ (Murrah) มีแหล่งก�ำเนิดอยู่ทางภาคใต้ของ ประเทศอินเดียยอมรับกันว่าเป็นราชนิ ีแหง่ กระบอื นมของอนิ เดีย กลา่ วคอื สามารถ ให้น�้ำนมได้สูงกว่ากระบือนมพันธุ์อ่ืนและมีไขมันนมเฉลี่ย 7% ซึ่งสูงกว่าไขมัน ในนำ้� นมโคเกอื บ 1 เท่าตัว และมีโปรตีนประมาณ 9% ใหน้ ำ้� นมเฉล่ยี 1,350 – 1,800 กโิ ลกรมั ในระยะการใหน้ ม 305 วนั ซง่ึ บางตวั สามารถใหน้ ำ้� นมไดส้ งู ถงึ 3,600-4,500 กโิ ลกรมั หรอื เฉลย่ี วนั ละ 11-15 กโิ ลกรมั หรอื บางตวั ใหน้ มสงู สดุ วนั ละ 22.5 กโิ ลกรมั น�้ำหนักแรกเกิดประมาณ 38 กิโลกรัม กระบือพ่อพันธุ์โตเต็มที่หนักประมาณ 540 กโิ ลกรมั และแมพ่ นั ธโุ์ ตเต็มที่หนกั ประมาณ 427 กิโลกรัม 2. กระบือนมพันธุ์นิล่ี (Nili) เป็นกระบือนมที่ให้น้�ำนมน้อยกว่ากระบือ พนั ธม์ุ รู รา่ ห์ กลา่ วคอื กระบอื เพศเมยี โตเตม็ วยั หนกั ประมาณ 585 กโิ ลกรมั และกระบอื พอ่ พันธโ์ุ ตเตม็ วัยหนกั ประมาณ 450 กโิ ลกรมั ให้น้ำ� นมเฉล่ยี ประมาณ 1,575-1,800 กโิ ลกรมั ในระยะการใหน้ ม 250 วัน นอกจากนกี้ ระบือนม 2 พนั ธุ์นแ้ี ลว้ ยังมกี ระบือนมพันธุ์เมซานีซึง่ เป็นพนั ธ์ุที่ รฐั บาลประเทสอินเดียถวายแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อปี 2539 พันธ์ุราวี พันธช์ุ ชู าติ พนั ธุจ์ ฟั ฟาราบดี พนั ธเ์ุ มสวนา และพนั ธุบ์ ดั ดาวารี เปน็ ตน้ ซ่งึ เป็นกระบือ นมที่ให้นำ้� นมรองลงมา 24
ทางเลือกอาชีพด้านปศสุ ัตว์ 2. การจัดการเลีย้ งดู เนอ่ื งจากกระบอื นมเปน็ สตั วท์ เี่ ลยี้ งงา่ ย สามารถกนิ หญา้ ทขี่ นึ้ ตามธรรมชาติ ได้ดีกว่าโค นอกจากน้ียังสามารถกินหญ้าหมัก หญ้าแห้งและฟางข้าวได้ดีกว่าโค ความเปน็ อยงู่ า่ ยเหมอื นกบั กระบอื พนื้ เมอื งของไทย การปฏบิ ตั คิ วรปลอ่ ยใหก้ นิ หญา้ สด ทุกเชา้ และเย็น หมนั่ อาบน�ำ้ อยเู่ สมอ โดยใชแ้ ปรงหรือกาบมะพรา้ วถูทัง้ ตัวให้สะอาด จะท�ำใหก้ ระบือนมคุ้นเคยกับผูเ้ ลย้ี งมากขนึ้ ทงั้ ยังช่วยป้องกนั เหบ็ เหา ไร และพยาธิ ภายนอกไดด้ ว้ ย นอกจากนใี้ นขณะรีดนมควรใหอ้ าหารขน้ วันละประมาณ 2 กิโลกรมั อาหารขน้ อาจประกอบด้วย เกลอื ปน่ 0.5 กิโลกรมั ร�ำละเอียด 22.0 กิโลกรมั กระดกู ป่น 0.5 กโิ ลกรัม ปลายข้าว 32.5 กิโลกรมั เปลือกหอย 0.5 กิโลกรมั ข้าวโพด 16.5 กโิ ลกรมั แมกนเี ซยี ม 0.5 กโิ ลกรัม กากถ่ัวเหลอื ง 27.0 กโิ ลกรัม การรดี นม สามารถรดี นมได้ 2 ครงั้ ตอ่ วนั เหมอื นกบั โคนม สำ� หรบั ลกั ษณะเฉพาะ ของน้ำ� นมกระบือ คือ นำ้� นมกระบือจะมสี ีขาวปนเขียวเลก็ นอ้ ย มคี วามขน้ มาก มีรส หวานมนั กวา่ นมโคและนมแพะ สามารถนำ� ไขมนั นมมาทำ� เปน็ เนยแขง็ ไดม้ ากกวา่ นมโค เพ่ือให้กระบือที่เล้ียงมีความแข็งแรงและทนทานต่อโรค จ�ำเป็นต้องมีการท�ำ วคั ซนี ป้องกนั โรคระบาด เชน่ โรคคอบวม โรคปากและเท้าเปอื่ ย และตรวจโรคแทง้ ติดต่อเป็นประจ�ำตามโปรแกรมที่กรมปศุสัตว์ก�ำหนด การผสมพันธุ์แม่กระบือท�ำได้ หลายวธิ ี เช่น การผสมเทยี มและการใชพ้ อ่ พนั ธุ์คมุ ฝูง โดยท่ัวไปพอ่ พนั ธ์กุ ระบือ 1 ตวั สามารถคมุ ฝงู แม่กระบอื ได้ประมาณ 30-40 ตัว 25
ทางเลอื กอาชีพด้านปศสุ ตั ว์ ตน้ ทุนและผลตอบแทน ผลตอบแทนส่วนใหญ่จะได้จากการจ�ำหน่ายน้�ำนมเป็นหลัก ซ่ึงจะมีต้นทุน การผลติ นำ�้ นมกโิ ลกรมั ละประมาณ 24 บาท สว่ นราคาขายกโิ ลกรมั ละประมาณ 33 บาท ผลตอบแทนที่เกษตรกรไดร้ ับ กิโลกรัมละ 9 บาท ซึง่ น้�ำนมกระบือสามารถแปรรูปได้ เช่นเดียวกับนมโค และยังมีคุณสมบัติท่ีพิเศษกว่านมโค คือ มีคอเรสเตอรอลต�่ำกว่า 43% มีโปรตีนสูงกว่า 40% และมแี คลเซียมสูงกวา่ 58% มสี ารต้านอนมุ ลู อสิ ระ และ จากสาเหตุท่ีมีโปรตีนสูงนี้จึงท�ำให้สามารถน�ำไปผลิตชีสและเนยได้มากกว่านมโค โดยในการผลิตชีส 1 กิโลกรัม ใช้นมกระบือเพียง 5 กิโลกรัม ขณะท่ีนมโคใช้ไป 8 กโิ ลกรมั สว่ นการผลติ เนย 1 กโิ ลกรมั จะใชน้ มกระบอื 10 กโิ ลกรมั สว่ นนมโคตอ้ งใชถ้ งึ 14 กิโลกรัม ในระยะเวลา 5 ปี แมก่ ระบอื 1 ตวั จะสามารถใหล้ กู ได้ 2-3 ตวั ตน้ ทนุ การผลติ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งขายได้ จึงค่อนข้างต�่ำเฉลี่ยตัวละ 7,130 บาท ราคาขายตัวละ 15,000 บาท เกษตรกรจะไดร้ บั ผลตอบแทนตัวละ 7,870 บาท ทง้ั น้ี ตน้ ทนุ และผลตอบแทนจากการเลย้ี งกระบอื ดงั กลา่ ว อาจเปลย่ี นแปลงได้ ตามสภาวะการตลาดและแหลง่ ทเ่ี ลยี้ ง 26
ทางเลอื กอาชีพดา้ นปศุสตั ว์ การเลี้ยงสัตว์เล็ก เพก่อื าผรลเิตลพยี้ นั งธจุ์แ�พำหะนเนา่ ้อืย แพะ เปน็ สตั วเ์ ลยี้ งงา่ ยใหผ้ ลตอบแทนเรว็ ลงทนุ นอ้ ย เนอ่ื งจากแพะสามารถใช้ พชื อาหารหยาบและวสั ดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตรทม่ี ใี นทอ้ งถนิ่ เปน็ อาหารได้ การเลย้ี งแพะ สามารถใชแ้ รงงานภายในครอบครวั ปจั จบุ นั ปรมิ าณแพะพนั ธด์ุ มี ไี มเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการ ของเกษตรกรทจ่ี ะนำ� ไปใชเ้ ลยี้ งเปน็ พอ่ พนั ธ-์ุ แมพ่ นั ธเ์ุ นอื่ งจากมเี กษตรกรใหค้ วามสนใจ และหันมาเล้ยี งแพะกนั มากขึ้น 27
ทางเลอื กอาชพี ดา้ นปศุสัตว์ เง่ือนไขความส�ำเร็จ 1. เกษตรกรควรมีประสบการณ์ มีความรู้ และมีความต้ังใจจริงในการผลิต แพะพันธุด์ ี 2. เกษตรกรต้องมคี วามพร้อมในดา้ นพน้ื ท่ี โรงเรือน แรงงานและมแี หลง่ พชื อาหารหยาบหรือวสั ดุเหลือใชใ้ นทางการเกษตรส�ำหรับใช้เลีย้ งแพะอย่างเพยี งพอ 3. ควรมกี ารจดั การผลติ ในลกั ษณะกลมุ่ การผลติ และมเี ครอื ขา่ ยดา้ นการตลาด ท่ีชัดเจน เทคโนโลยแี ละกระบวนการผลติ 1. พันธ์ุแพะ สายพนั ธแ์ุ พะเนอื้ ทนี่ ยิ มเลยี้ ง ไดแ้ ก่ แพะพนั ธพ์ุ น้ื เมอื ง แพะพนั ธแ์ุ องโกลนเู บยี น และแพะพนั ธบ์ุ อรใ์ นการเลยี้ งของเกษตรกรนน้ั พอ่ พนั ธค์ุ วรเปน็ แพะพนั ธแ์ุ องโกลนเู บยี น หรือพันธุ์บอร์ ซึ่งรูปรา่ งสูงใหญ่แข็งแรงมีความสมบูรณ์พันธุ์ ควรมีอายุ 1 ปีขึ้นไป ส่วนแม่พันธุ์ควรเป็นพันธุ์พื้นเมือง หรือพันธุ์ลูกผสมแองโกลนูเบียน หรือพันธุ์บอร์ ท่มี ีลักษณะล�ำตัวยาว เต้านมโต หวั นมยาวสมสว่ น ปริมาณนำ้� นมมาก ความสามารถ ในการผลติ สูง และให้ลกู แฝด 2. โรงเรือนและอปุ กรณ์ โรงเรอื นทใ่ี ชเ้ ลย้ี งแพะ ควรเปน็ คอกยกพนื้ ทม่ี ที างลาดสำ� หรบั ขน้ึ ลง พน้ื ทค่ี อก ควรทำ� เปน็ รอ่ งเพอื่ ความสะดวกในการความสะอาด ผนงั คอกควรโปรง่ แตต่ อ้ งปอ้ งกนั แพะกระโดดหนอี อกได้ หลังคาอาจใชว้ สั ดุท่ีมีในทอ้ งถิ่น โดยท่วั ไปแพะ 1 ตวั จะใช้ พืน้ ท่ใี นคอกประมาณ 1 ตารางเมตร คอกควรแบง่ ออกเปน็ คอกย่อยๆ ส�ำหรับแยก เล้ียงแพะในแต่ละวัย บริเวณส�ำหรับปล่อยแพะรอบคอกเลี้ยงควรมีร้ัวกั้นท่ีแข็งแรง ภายในคอกควรมีที่ใหน้ ้ำ� อาหารขน้ และพชื อาหารหยาบอยา่ งเพียงพอ 3. อาหารและการใหอ้ าหาร แพะเปน็ สตั วเ์ คยี้ วเออื้ งคลา้ ยโค อาหารหลกั ตามปกตขิ องแพะ คอื อาหารหยาบ เชน่ หญา้ สดตา่ งๆ ใบไม้ และพชื ตระกลู ถ่ัวในการเลยี้ งแพะพนั ธุ์ควรเสริมอาหารขน้ เพม่ิ เตมิ เพ่อื ช่วยใหแ้ พะเจรญิ เติบโตและใหผ้ ลผลติ ดีขน้ึ 28
ทางเลือกอาชพี ดา้ นปศสุ ัตว์ 4. การจดั การเล้ยี งดู วธิ ีการเลีย้ งแพะมหี ลายวธิ ี เช่น การเลีย้ งแบบผูกล่าม การเลย้ี งแบบปล่อย หากนิ ในสวนยางหรอื สวนผลไม้ และการเลย้ี งแบบขงั คอก โดยมกี ารปลอ่ ยแปลงหญา้ เป็นระยะๆ หรือตัดหญ้ามาให้กินในคอก การเลี้ยงดูแพะตัวผู้กับตัวเมียจะคล้ายกัน แตค่ วรแยกแพะตัวผูแ้ ละตัวเมีย ตงั้ แต่อายุได้ 3 เดือน อตั ราส่วนการผสมพนั ธจุ์ ะใช้ พ่อพนั ธ์ุ 1 ตัวต่อแมพ่ ันธ์ุ 15-25 ตัว พ่อและแมพ่ นั ธ์ทุ จ่ี ะเร่มิ ผสมพันธไ์ุ ด้ควรมีอายุ ไมต่ �่ำกวา่ 8 เดือน ใน 1 ปี แม่แพะจะสามารถให้ลูกได้ 2-3 ตัว การเลี้ยงดูลกู แพะตอ้ ง ใหอ้ ยู่กบั แมใ่ นระยะแรกและแยกออกเมอื่ อายุเลย 3 เดอื นไปแลว้ 5. การสขุ าภบิ าล การจดั การดา้ นสขุ ภาพของแพะควรฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคปากและเทา้ เปอ่ื ย ปีละ 2 ครั้ง ถ่ายพยาธิตามโปรแกรม และหมั่นตรวจสุขภาพของแพะเป็นประจ�ำ หากพบแพะปว่ ย ควรแยกแพะปว่ ยออกเพอ่ื ท�ำการรักษาโดยทันที ต้นทนุ และผลตอบแทน สำ� หรบั การเลย้ี งแพะพนั ธด์ุ ี 1 ชดุ ประกอบดว้ ย พอ่ พนั ธ์ุ 1 ตวั แมพ่ นั ธ์ุ 10 ตวั 1. ตน้ ทุน สำ� หรบั การเลย้ี งแพะพนั ธด์ุ จี ำ� นวน 11 ตวั ตน้ ทนุ ในระยะแรกจะไดแ้ ก่ คา่ ใชจ้ า่ ย เก่ียวกับโรงเรือน อุปกรณ์ ค่าพนั ธ์แุ พะ ค่าจดั ทำ� แปลงหญา้ ค่าอาหาร คา่ เวชภัณฑ์ ค่าวัคซีนรวมประมาณ 35,000-40,000 บาท ในปที ่ี 2 และปตี ่อไปตอ้ งลงทนุ ในเรอื่ ง โรงเรือน อปุ กรณ์ และพนั ธุ์แพะ 2. ผลตอบแทน จะเรมิ่ จำ� หนา่ ยแพะในปที ี่ 2 ไดป้ ระมาณ 20-30 ตวั โดยเปน็ แพะลกู ผสมอายุ 1 ปี มนี ำ้� หนกั ประมาณ 25-30 กโิ ลกรมั ราคาจำ� หนา่ ยกโิ ลกรมั ละ 100 บาท จะขายได้ ตัวละ 2,500-3,000 บาท จะมีผลตอบแทนประมาณ 50,000-60,000 บาทตอ่ ปี ทงั้ นี้ ต้นทุนและผลตอบแทนในการเล้ียงจะแตกต่างกันไปตามแหล่งท่ีเลี้ยงและสภาวะ การตลาดของแตล่ ะพื้นที่ ดงั นน้ั เกษตรกรจ�ำเปน็ ต้องศึกษาของมลู และรายละเอยี ด ให้ชัดเจนเสยี ก่อน 29
ทางเลือกอาชพี ดา้ นปศสุ ัตว์ กาเพร่ือเผลลย้ี ิตงนแมจพ�ะำหเนนื้อ่าย นมแพะ มคี ณุ คา่ ทางอาหารสงู เหมาะอยา่ งยง่ิ สำ� หรบั คนปว่ ย ราคาดกี วา่ นมโค ตลาดมีความต้องการสูง โดยเฉพาะปัจจุบันจะนิยมน�ำไปใช้เป็นอาหารเล้ียงลูกสุนัข พนั ธด์ุ ี การเลยี้ งแพะใชพ้ นื้ ทนี่ อ้ ยสามารถเลย้ี งผสมผสานรว่ มกบั การปลกู พชื ได้ โดยแพะ จะท�ำหน้าที่ชว่ ยก�ำจัดวัชพชื ในแปลงหญา้ ใหผ้ ลตอบแทนเรว็ สามารถใชว้ สั ดุเหลอื ใช้ ทางการเกษตรในทอ้ งถนิ่ เปน็ อาหารได้ และใช้แรงงานในครัวเรอื นได้ เงอื่ นไขความสำ� เรจ็ 1. พ้ืนท่เี ล้ียงตอ้ งใกล้แหล่งตลาดพนั ธ์ุแพะและผบู้ ริโภคนมแพะ 2. ต้องมคี วามรู้ และประสบการณ์ในการเล้ียงดูแพะ การรดี นมแพะ และทำ� ผลติ ภัณฑ์จากนมแพะ 3. ต้องมีแหล่งพืชอาหารหยาบที่มีคุณภาพ หรือมีแหล่งวัสดุเหลือใช้ ทางการเกษตร ทีส่ ามารถใชเ้ ปน็ อาหารเลี้ยงแพะอย่างเพยี งพอ 4. ต้องมแี หลง่ จัดหาพันธ์ุแพะนมทด่ี ี เพอ่ื น�ำมาใช้เลย้ี งเบื้องตน้ 30
ทางเลือกอาชพี ดา้ นปศุสตั ว์ เทคโนโลยแี ละกระบวนการผลติ 1. พันธ์ุแพะนม พนั ธท์ุ น่ี ยิ มเลยี้ งไดแ้ ก่ พนั ธซ์ุ าแนน มสี ขี าว สคี รมี หรอื สนี ำ้� ตาลออ่ นๆ ใหน้ ำ�้ นม เฉลย่ี วนั ละ 2.0-2.5 กิโลกรมั ระยะการให้นม 150-200 วัน และพนั ธ์ุแองโกลนูเบียน ซ่ึงเป็นแพะที่ให้ท้ังเนื้อและนมมีหลายสี ทั้งสีเดียวในตัว หรือมีสีด่างปนให้น�้ำนม เฉลีย่ วันละ 1.0-1.5 กโิ ลกรัม ระยะการให้นม 120-150 วัน 2. โรงเรอื นและอปุ กรณ์ ลักษณะของโรงเรือนเลี้ยงแพะ ควรมีหลังคากันแดดและฝน ยกพื้นสูง เพอื่ ความสะดวกในการทำ� ความสะอาด มที ใ่ี หน้ ำ�้ และอาหารใหเ้ พยี งพอกบั จำ� นวนแพะ ท่ีเลี้ยง เพ่ือป้องกันการแย่งกินอาหารควรแบ่งก้ันคอกส�ำหรับแพะโต แม่อุ้มท้อง และลูกแพะออกจากกัน และควรมีคอกส�ำหรับรีดนมแพะเป็นการเฉพาะ พ้ืนคอก ควรยกสูงและท�ำเป็นช่องๆ เพ่ือให้มูลและปัสสาวะหล่นลงดินได้ พื้นคอกจะได้แห้ง และสะอาดนอกจากน้ีจ�ำเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการรีดและเก็บรักษาน�้ำนม รวมทั้ง เครือ่ งมือแปรรปู และบรรจุน้�ำนมเพอ่ื จำ� หน่ายด้วย 3. อาหารและการให้อาหาร อาหารหลักของแพะควรจะเป็นอาหารหยาบ เช่น หญ้าสดควรให้กินวันละ ประมาณ 10% ของน้ำ� หนักตัวแพะ อาหารหยาบควรมคี ุณภาพสูง เช่น หญ้าผสมถั่ว หรอื วสั ดผุ ลพลอยไดเ้ หลอื ใชท้ างการเกษตรและอตุ สาหกรรม เชน่ เปลอื กฝกั ขา้ วโพดออ่ น และควรให้อาหารเสรมิ เข้มขน้ เสรมิ วนั ละ 0.5-1.00 กิโลกรมั โดยพจิ ารณาจากสภาพ รา่ งกายแพะ เพ่ือให้แพะเจริญเติบโตและไดผ้ ลผลติ ดขี น้ึ 4. การจัดการเลยี้ งดู มหี ลายรปู แบบ ทงั้ แบบปลอ่ ยเลยี้ งในแปลงหญา้ ในสวนผลไมห้ รอื ไมย้ นื ตน้ การเลี้ยงระบบขังคอกปล่อยแปลงหญ้าเป็นบางเวลา หรือตัดหญ้าให้กินในคอก เป็นบางเวลา โดยทั่วไปแพะพ่อพันธุ์ 1 ตัว จะสามารถคุมฝูงตัวเมียได้ 10-15 ตัว และจะเรมิ่ ผสมพนั ธไ์ุ ดต้ ง้ั แตอ่ ายุ 8 เดอื นขนึ้ ไป แมแ่ พะ 1 ตวั จะใหล้ กู ไดป้ ลี ะ 2-3 ตวั ในช่วงแพะอุ้มท้องควรมีการดูแลเป็นพิเศษ ต้องให้อาหารหยาบคุณภาพดีหรือเสริม อาหารขน้ เพม่ิ ขนึ้ ในการเลยี้ งแพะนมจำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารจดบนั ทกึ ขอ้ มลู ทะเบยี นประวตั ิ 31
ทางเลือกอาชีพด้านปศุสตั ว์ ของแพะนมแตล่ ะตวั ต้องมีการท�ำเบอร์ประจ�ำตวั โดยวธิ ีการตดิ เบอรห์ ูหรือใชเ้ บอร์ แขวนคอ เพื่อเก็บประวัตใิ นการให้นำ�้ นมและการผสมพนั ธุ์ ในชว่ งแมแ่ พะให้นมตอ้ ง หมั่นท�ำความสะอาดแม่แพะรีดนมเป็นประจ�ำ มีการเสริมอาหารข้นก่อนหรือหลัง การรดี นมทกุ ครงั้ ตอ้ งรกั ษาเตา้ นมแพะใหป้ ราศจากการตดิ เชอ้ื โดยการทำ� ความสะอาด ด้วยด่างทับทิมก่อนและหลังการรีดนม เม่ือรีดนมแพะได้แล้วจ�ำเป็นต้องมีการ แปรรูปน้�ำนม นิยมแปรรูปด้วยวิธีการต้มแล้วบรรจุขวดออกจ�ำหน่าย โดยท่ัวไปจะ รดี นำ�้ นมไดป้ ระมาณตัวละ 1.5-2 กโิ ลกรัม รดี ไดน้ าน 150-200 วนั 5. การสขุ าภบิ าล จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารกำ� จดั พยาธภิ ายนอกเปน็ ประจำ� โดยการอาบนำ้� และฉดี พน่ ลำ� ตวั ดว้ ยยากำ� จดั พยาธภิ ายนอก สว่ นการกำ� จดั พยาธภิ ายในใหถ้ า่ ยพยาธแิ พะนมเปน็ ประจำ� ทุก 3 เดือน และบ่อยขึ้นถ้ามีพยาธิชุกชุม ควรมีการป้องกันโรคระบาดด้วยการ ฉดี วคั ซีนปอ้ งกันโรคตามโปรแกรมของกรมปศสุ ตั ว์ ต้นทนุ และผลตอบแทน สำ� หรบั การเลย้ี งนมแพะ จำ� นวน 11 ตวั เปน็ แพะพอ่ พนั ธ์ุ 1 ตวั และแพะแมพ่ นั ธ์ุ 10 ตัว 1. ต้นทนุ ในช่วงแรก ต้นทุนส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของโรงเรือน อุปกรณ์ คา่ พอ่ -แมพ่ นั ธแ์ุ พะ และการจดั ทำ� แปลงหญา้ ซงึ่ จะมคี ณุ คา่ ประมาณ 65,000-85,000 บาท สว่ นคา่ ใชจ้ า่ ยทต่ี อ้ งลงทนุ ทกุ ปี ไดแ้ ก่ คา่ อาหาร คา่ เวชภณั ฑแ์ ละวคั ซนี จะอยปู่ ระมาณ 13,000-15,000 บาทต่อปี 2. ผลตอบแทน จะไดจ้ ากการจำ� หนา่ ยนมแพะซง่ึ จะมนี ำ�้ นมประมาณ 3,000-4,000 กโิ ลกรมั ตอ่ ปี สามารถแปรรปู จำ� หนา่ ยไดใ้ นราคากโิ ลกรมั ละ 40 บาท จะมผี ลตอบแทนประมาณ ปีละ 12,000-160,000 บาท นอกจากน้ีจะมีรายได้จากจ�ำหน่ายลูกแพะหย่านม ซงึ่ จะมผี ลผลติ ปลี ะประมาณ 15-30 ตวั สามารถจำ� หนา่ ยไดใ้ นราคาตวั ละ 2,500 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 75,000-85,000 บาท ทั้งนี้ ต้นทุนและผลตอบแทนดังกล่าว สามารถเปล่ียนแปลงได้ตามสภาพของตลาดและแหล่งท่ีเล้ียง รวมท้ังฤดูกาล และเทศกาลทางศาสนาของผู้บรโิ ภค 32
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศุสัตว์ เกพาอื่ รผลเลติ เยี้ นงือ้ จแ�พำหะนเน่าือ้ย แพะ เป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยาก ใช้พื้นท่ีน้อย ให้ผลตอบแทนเร็ว ต้นทุน ในการเล้ียงต่�ำ เน่ืองจากแพะสามารถให้พืชอาหารหยาบและวัสดุเหลือใช้จากฟาร์ม เป็นอาหารได้ ปัจจุบันตลาดเน้ือแพะขยายตัวความต้องการในการบริโภคเน้ือแพะ มีมากขน้ึ แต่ผู้เล้ียงแพะเพือ่ จ�ำหน่ายเนือ้ ยังมอี ยนู่ อ้ ยมาก เงอ่ื นไขความส�ำเร็จ 1. เกษตรกรตอ้ งมคี วามพรอ้ มในเรอ่ื งพื้นทแ่ี ละแรงงานทใ่ี ช้เล้ยี ง 2. ตอ้ งมีตลาดจ�ำหน่ายเน้อื แพะในชุมชนหรือพนื้ ท่ใี กล้เคียงทช่ี ดั เจน 3. ต้องมีแหล่งพืชอาหารสัตว์หรือมีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในพ้ืนท่ี และ บรเิ วณใกล้เคียงอย่างเพียงพอ 4. ตอ้ งมแี หลง่ ในการจดั หาพนั ธแ์ุ พะทดี่ ี ควรมกี ารรวมตวั เปน็ กลมุ่ ผลติ ในชมุ ชน 33
ทางเลอื กอาชีพดา้ นปศสุ ตั ว์ เทคโนโลยีและกระบวนการผลติ 1. พนั ธ์ุแพะ โดยทว่ั ไปจะนยิ มใชแ้ พะพนั ธบ์ุ อร์ หรอื แพะลกู ผสม เชน่ ลกู ผสมบอร์ ลกู ผสม แองโกลนูเบยี น และ ลูกผสมพนื้ เมอื ง เปน็ ต้น 2. ดา้ นโรงเรอื นและอปุ กรณ์ โรงเรอื นทใ่ี ชใ้ นการเลย้ี งแพะจะตอ้ งสามารถปอ้ งกนั แดด ฝนและนำ�้ ทว่ มขงั ได้ ควรสร้างแบบง่ายๆโดยใช้วัสดุท่ีมีในท้องถิ่น ภายในโรงเรือนควรมีอุปกรณ์ท่ีจ�ำเป็น ตอ่ การเลย้ี ง ไดแ้ ก่ รางนำ�้ รางอาหารอยา่ งเพยี งพอ ตอ้ งมบี รเิ วณสำ� หรบั ปลอ่ ยใหแ้ พะ ออกก�ำลัง และหากนิ อาหารตามธรรมชาติ 3. อาหารและการใหอ้ าหาร โดยปกตจิ ะเลย้ี งโดยการปลอ่ ยในแปลงหญา้ ตามธรรมชาติ ในสวนมะพรา้ ว สวนยางพารา หรือสวนปาล์ม ในสภาพการเลี้ยงปกติไม่จ�ำเป็นต้องเสริมอาหารข้น แตค่ วรเพม่ิ อาหารหยาบคณุ ภาพดหี ากมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งใหอ้ าหารขน้ เสรมิ อตั ราทใ่ี ช้ ประมาณ 0.5-1.00 กโิ ลกรมั ตอ่ ตวั ตอ่ วนั จะเสรมิ กอ่ นการจำ� หนา่ ยประมาณ 1-2 เดอื น 4. การจัดการเล้ียงดู เกษตรกรควรเรม่ิ ตน้ ดว้ ยการเลยี้ งแพะทมี่ อี ายปุ ระมาณ 3 เดอื นขน้ึ ไป ควรเลย้ี ง รายละประมาณ 5-10 ตวั เนน้ การเลยี้ งดว้ ยอาหารหยาบเปน็ หลกั และเสรมิ อาหารขน้ ตามความจ�ำเป็น เช่น ในช่วงฤดูแล้งที่อาหารหยาบขาดแคลนหรือคุณภาพต่�ำ การจัดการเลี้ยงดคู วรเล้ียงแบบขังคอกในตอนเชา้ และเลย้ี งปลอ่ ยในชว่ งบา่ ยในแหลง่ พืชอาหารหยาบตามธรรมชาติ โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี มีขนาดน�ำ้ หนกั ประมาณ 30 กโิ ลกรัม สามารถจำ� หน่ายเพอ่ื น�ำไปบริโภคได้ 5. การสขุ าภบิ าล ควรมีการถ่ายพยาธิแพะ และฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามความจ�ำเป็นหรือ ตามโปรแกรมทกี่ ำ� หนดไว้ 34
ทางเลือกอาชพี ด้านปศุสตั ว์ ตน้ ทุนและผลตอบแทน 1. ต้นทุน ในระยะแรกจะตอ้ งลงทนุ ในเรอื่ งคา่ โรงเรอื นและอปุ กรณก์ ารเลย้ี ง ซงึ่ มคี า่ ใชจ้ า่ ย ประมาณ 3,000-3,500 บาท ส่วนค่าพันธุ์จะขึ้นอยู่กับปริมาณท่ีเล้ียง โดยแพะ อายุ 3 เดือน จะมรี าคาตัวละประมาณ 300-400 บาทตอ่ ตวั 2. ผลตอบแทน จะเรมิ่ จำ� หน่ายแพะได้เมอื่ อายุ 1-2 ปีข้นึ ไป ซง่ึ จะมีน�ำ้ หนกั เฉลี่ยประมาณ 30 กโิ ลกรมั ตอ่ ตวั และจำ� หนา่ ยไดใ้ นภาคกลาง ราคาประมาณกโิ ลกรมั ละ 50-60 บาท ส่วนภาคใต้จ�ำหน่ายได้ 100-150 บาท ต้นทุนและผลตอบแทนจากการเล้ียงแพะ ดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปตามแหล่งที่ใช้เลี้ยงแพะ และความต้องการของตลาด ในแตล่ ะฤดกู าลหรือเทศกาลทางศาสนา 35
ทางเลือกอาชพี ด้านปศุสตั ว์ การเลย้ี งสกุ ร เพือ่ ผลติ สุกรลกู ผสมพันธุด์ รู ็อค-เหมยซาน สุกรลูกผสมพนั ธุ์ดรู อ็ ค-เหมยซาน เปน็ สกุ รลกู ผสมท่ีสร้างขน้ึ เพื่อใชท้ ดแทน สุกรพ้ืนเมืองที่มีปริมาณน้อยลง โดยพบว่าสุกรลูกผสมพันธุ์ดูร็อค-เหมยซานจะมี ลักษณะโตเร็วกว่าพันธุ์พื้นเมือง เลี้ยงง่ายคล้ายพันธุ์ดูร็อค ให้ลูกดกเล้ียงลูกเก่ง คล้ายกับพันธุ์เหมยซาน สามารถใช้เศษอาหารในครัวเรือนเศษวัสดุทางการเกษตร เป็นอาหาร เหมาะกับเกษตรกรรายย่อยเพื่อเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม เน้ือสุกรลูกผสม นุ่มคล้ายกับสุกรพันธุ์พ้ืนเมือง เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคท้ังในตลาดท้องถ่ิน และ ตลาดทว่ั ไป ดงั น้ัน ปจั จุบนั จงึ มีเกษตรกรหนั มาสนใจขนุ ลกู สุกรพันธุ์ดรู อ็ ค-เหมยซาน แทนสกุ รพนั ธุ์พืน้ เมืองกันมากข้นึ ท�ำใหพ้ นั ธุส์ ุกรไม่เพยี งพอ เงื่อนไขความสำ� เร็จ 1. ในพื้นที่ท่ีจะใช้เลี้ยงหรือบริเวณใกล้เคียงต้องมีแหล่งวัสดุอาหารราคาถูก หรือมีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร หรือเศษอาหารทางครัวเรือนเพ่ือใช้เป็นอาหาร เลี้ยงสกุ รอย่างเพียงพอ 36
ทางเลือกอาชีพด้านปศสุ ัตว์ 2. ตอ้ งมตี ลาดรบั รองสกุ รลกู ผสม อาทิ กลมุ่ เกษตรกรผเู้ ลย้ี งขนุ สกุ รพนั ธพ์ุ น้ื เมอื ง และดูร็อค-เหมยซานทั้งในท้องถ่ิน หรือแหล่งตลาดซื้อขายบริเวณใกล้เคียงท่ีชัดเจน แน่นอน 3. ตอ้ งอยใู่ กลแ้ หลง่ จำ� หนา่ ยพนั ธส์ุ กุ รทจ่ี ะใชเ้ ปน็ พอ่ พนั ธแ์ุ มพ่ นั ธโ์ุ ดยเปน็ ฟารม์ ที่เช่อื ถือไดห้ รือได้รับการรับรอง เทคโนโลยีและกระบวนการผลิต 1. พนั ธุ์สกุ ร พนั ธส์ุ กุ รพอ่ แมพ่ นั ธท์ุ จี่ ะใชใ้ นการผลติ ลกู ผสมดรู อ็ ค-เหมยซาน จะใชพ้ อ่ สกุ ร พนั ธด์ุ รู อ็ คเจอรซ์ ส่ี ว่ นแมพ่ นั ธจ์ุ ะใชส้ กุ รเหมยซาน เมอื่ ผสมไดส้ กุ รลกู ผสมดรู อ็ ค-เหมยซาน จะมีสดี ำ� หูปรก ท้องแอน่ เล็กน้อย มีกลา้ มเนอื้ สะโพก และไหลม่ ากขึ้น 2. การจัดการเล้ยี งดู เกษตรกรควรเริ่มเลย้ี งด้วยสุกรลกู ผสม พอ่ แมพ่ ันธุอ์ ายปุ ระมาณ 3 เดือน โดยพอ่ แม่พันธุ์จะเร่มิ ผสมพนั ธ์ุได้เม่อื อายุ 8 เดือนขน้ึ ไป สว่ นแม่พนั ธจ์ุ ะเร่ิมผสมพันธุ์ ไดเ้ มอื่ อายุ 7-8 เดอื น โดยจะตั้งทอ้ งนาน 114 วัน อาหารที่ใชเ้ ลยี้ งสุกรนิยมให้อาหาร ส�ำเร็จรูปท่ีมีในท้องตลาด หรือเกษตรกรอาจลดต้นทุนด้วยการผสมอาหารเอง จากวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น ในแต่ละปีแม่สุกรหน่ึงตัวจะให้ลูกประมาณ 18-20 ตัว ส�ำหรับการจัดการดูแลในระยะท่ีส�ำคัญ ได้แก่ ระยะลูกสุกรเมื่อแรกคลอดควรดูแล เป็นพิเศษต้องใช้ผ้าสะอาดหรือฟางเช็ดตัวลูกสุกรหลังคลอดให้แห้ง ตัดสายสะดือ ตัดเขยี้ วออกใหห้ มดและตอ้ งให้ลูกสุกรไดก้ นิ นมนำ้� เหลืองทนั ที ระหวา่ งอายุ 1-3 วัน ให้ฉดี ธาตเุ หล็กเขา้ กลา้ มเนอ้ื ตัวละ 2 ซ.ี ซ.ี เพ่ือปอ้ งกนั โลหิตจางในระยะ 15 วันแรก ตอ้ งใชไ้ ฟฟา้ ให้ความอบอ่นุ แก่ลกู สุกร เม่ือสกุ รมอี ายุ 10 วนั เรมิ่ ให้อาหารสกุ รน�้ำนม หรืออาหารอ่อนให้กินทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง ลูกสุกรจะอย่านมเม่ืออายุ 4 อาทิตย์ หลังจากหย่านมแล้วควรย้ายออกไปคอกอนุบาลเพ่ือป้องกันลูกสุกรเครียด ควรฉีด วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคอหวิ าตส์ กุ ร เมอ่ื สกุ รมอี ายไุ ด้ 7 สปั ดาห์ และฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั โรคปาก และเทา้ เปือ่ ยเมื่อสกุ รอายไุ ด้ 2 เดือนครงึ่ และควรถา่ ยพยาธิทกุ 6 เดอื น 37
ทางเลอื กอาชพี ด้านปศุสัตว์ 3. การสขุ าภบิ าล ผู้เลี้ยงต้องให้ความสนใจหม่ันดูแลสุขภาพพ่อแม่พันธุ์สุกรอย่างสม�่ำเสมอ จ�ำเป็นตอ้ งถา่ ยพยาธแิ ละฉีดวัคซีนตามโปรแกรมท่กี ำ� หนดไวโ้ ดยเครง่ ครดั ตน้ ทนุ และผลตอบแทน สำ� หรบั การเลย้ี งลกู สกุ รผสมพนั ธด์ุ รู อ็ ค-เหมยซาน จำ� หนา่ ย 1 ชดุ ซง่ึ ประกอบดว้ ย พอ่ พนั ธ์ุ 1 ตวั แมพ่ นั ธ์ุ 3 ตวั การจำ� หนา่ ยจะเนน้ การจำ� หนา่ ยสกุ ร สำ� หรบั ใหเ้ กษตรกร รายอ่ืนๆ นำ� ไปเล้ียงขุนส่งตลาด ซงึ่ จะให้ผลตอบแทนไดม้ ากกวา่ 1. ตน้ ทนุ ในสว่ นตน้ ทนุ คงที่ ซงึ่ จะเปน็ คา่ พอ่ แมพ่ นั ธ์ุ โรงเรอื น และอปุ กรณเ์ ลยี้ งดจู ะมี ตน้ ทนุ ประมาณ 10,000-15,000 บาท สว่ นตน้ ทนุ ผนั แปรในแตล่ ะสว่ นจะเปน็ คา่ อาหาร เวชภัณฑ์ วคั ซนี และค่าผสมพนั ธุ์ กรณีท่ีไมไ่ ด้เล้ยี งพ่อพันธ์ุจะมีคา่ ผสมพันธ์ุประมาณ 2,000-3,000 บาทตอ่ ปี 2. ผลตอบแทน จะได้จากการจ�ำหน่ายลูกสกุ รซ่งึ จะได้ประมาณปลี ะ 50-60 ตัว จำ� หน่าย ในราคาตัวละ 500-800 บาท จะมีผลตอบแทนปีละ 30,000-45,000 บาท ท้ังนี้ ต้นทุนการผลิตและผลตอบแทนมีการผันแปรไปตามสภาวะการตลาดในแต่ละพื้นท่ี เนื่องจากราคาพ่อแม่พันธุ์ ราคาอาหารสัตว์และราคารับซ้ือของลูกสุกรท่ีผลิตได้ รวมทั้งขนาดการผลิต ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกเล้ียง เกษตรกรต้องศึกษาข้อมูล และรายละเอยี ดพรอ้ มวางแผนการผลติ ใหช้ ดั เจนเสยี ก่อน 38
ทางเลอื กอาชีพด้านปศุสัตว์ การเลย้ี งสุกรขนุ เนื้อสุกร เป็นเน้ือท่ีนิยมบริโภคท่ัวไป สามารถจ�ำหน่ายได้ทั้งตลาดในชุมชน ท้องถิ่น และในตลาดเมืองใหญ่ เกษตรกรสามารถเล้ียงได้ท้ังฟาร์มขนาดเล็ก และ ฟาร์มขนาดใหญ่ เนือ่ งจากการเลย้ี งใช้พน้ื ท่นี อ้ ย เล้ยี งง่าย การเล้ยี งสกุ รขนุ น้อยกว่า การเล้ียงสกุ รแบบอน่ื ๆ แต่ให้ผลตอบแทนเร็วกวา่ เง่ือนไขความส�ำเรจ็ 1. เกษตรกรตอ้ งมเี งนิ ทนุ สำ� รอง เพอ่ื ไวใ้ ชใ้ นการเลย้ี งสกุ รโดยเฉพาะคา่ อาหารสกุ ร อยา่ งเพียงพอ 2. สถานที่สร้างโรงเรือนต้องอยู่ห่างไกลจากชุมชน และไม่ก่อให้เกิดปัญหา กับสภาพแวดลอ้ ม 3. ต้องอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูก หรือมีแหล่งวัสดุเหลือใช้ จากครวั เรอื น หรอื ระบบไรน่ าเพอื่ ใช้เป็นอาหารเล้ียงสุกรอย่างเพยี งพอ 4. ต้องมีความชัดเจนเก่ียวกับตลาดจ�ำหน่ายสุกร ทั้งตลาดสุกรมีชีวิต และ ตลาดเน้อื สกุ รช�ำแหละ 39
ทางเลือกอาชพี ด้านปศสุ ัตว์ เทคโนโลยแี ละกระบวนการผลติ 1. พนั ธส์ุ ุกร สกุ รที่จะนำ� มาขนุ โดยทว่ั ไปนยิ มใช้ผสมสองสายพนั ธ์ุ สามสายพนั ธุ์ หรอื สสี่ ายพนั ธ์ุ ซง่ึ จะมลี กั ษณะการใหผ้ ลผลติ เชน่ การเจรญิ เตบิ โต และความแขง็ แรงดกี วา่ การใหผ้ ลผลติ จากพอ่ และแมพ่ นั ธท์ุ ใ่ี หก้ ำ� เนดิ พนั ธท์ุ ใี่ ชใ้ นการผสมขา้ มสายพนั ธมุ์ หี ลายพนั ธ์ุ อาทิ พนั ธ์ุลาร์จไวน์ พันธุแ์ ลนด์เรช และพันธ์ดุ รู ็อคเจอรซ์ ี่ เป็นต้น 2. ด้านโรงเรือนและอุปกรณ์ โรงเรอื นทเี่ ลยี้ งสกุ รควรตงั้ อยใู่ นทด่ี อน นำ้� ไมท่ ว่ ม ระบายนำ�้ ไดด้ ี หา่ งไกลจาก ชมุ ชน ตลาด และผเู้ ลย้ี งสกุ รรายอน่ื โรงเรอื นสกุ รตอ้ งสามารถปอ้ งกนั แดด ฝน และลม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน วัสดุที่ใช้มุงหลังคาข้ึนอยู่กับงบการลงทุน เช่น กระเบื้อง อะลมู เิ นยี ม สงั กะสี แฝกและจาก เปน็ ตน้ พนื้ คอกควรเปน็ พน้ื คอนกรตี เพอื่ ความสะดวก ในการทำ� ความสะอาด ขนาดคอก 4x3.5 เมตร จะสามารถเลยี้ งสกุ รขนุ ขนาด 60-100 กโิ ลกรมั ประมาณ 8-10 ตวั สว่ นความยาวของโรงเรอื นขนึ้ อยกู่ บั จำ� นวนสกุ รขนุ ทเ่ี ลย้ี ง 3. อาหารและการให้อาหาร สกุ รเปน็ สตั วก์ ระเพาะเดย่ี ว ไมส่ ามารถยอ่ ยอาหารทม่ี เี ยอ่ื ใยมากไดด้ เี หมอื น สัตว์กระเพาะรวม อาหารท่ีใช้เล้ียงสุกรจึงต้องมีโภชนะที่ครบถ้วน อาหารส�ำหรับ ลกู สกุ รขนุ สว่ นใหญจ่ ะนยิ มใหอ้ าหารสำ� เรจ็ รปู หรอื เกษตรกรบางรายอาจผสมอาหารใชเ้ อง เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยใช้หัวอาหารผสมรวมกับร�ำและปลายข้าวหรือวัสดุอื่นๆ ตามสดั สว่ นทกี่ ำ� หนด ส่วนการใหอ้ าหารสุกรแตล่ ะระยะนนั้ จะต้องมีความสมั พันธ์กับ ความตอ้ งการโภชนะของสุกรในแตล่ ะชว่ งอายุ 4. การจดั การเล้ียงดู ควรเรมิ่ เลยี้ งสกุ รขนุ ตง้ั แตร่ ะยะหยา่ นมทน่ี ำ�้ หนกั ประมาณ 20 กโิ ลกรมั โดยใช้ อาหารโปรตีน 18 เปอร์เซน็ ต์ ใหส้ กุ รกนิ เตม็ ทปี่ ระมาณวันละ 1-2 กิโลกรัม จากนน้ั เมือ่ สุกรขนุ มีน�ำ้ หนักประมาณ 60 กโิ ลกรมั จะเปลี่ยนอาหารโดยการใชอ้ าหารโปรตีน 16 เปอร์เซ็นตแ์ ทน ใหส้ ุกรกนิ อาหารวันละ 2.5-3.5 กิโลกรัม จนถงึ ระยะส่งถึงตลาด เมอื่ สกุ รขนุ มนี ำ�้ หนกั ประมาณ 100 กโิ ลกรมั ซง่ึ ตลอดเวลาการเลยี้ งจะตอ้ งมนี ำ�้ สะอาด ให้กินตลอดทง้ั วัน 40
ทางเลอื กอาชีพดา้ นปศสุ ัตว์ 5. การสุขาภิบาล ควรท�ำความสะอาดพ้ืนที่คอกสุกรเป็นประจ�ำ เพื่อลดการหมักหมมของ เชอ้ื โรคตา่ งๆ และปอ้ งกนั กลนิ่ ของมลู สกุ รไปรบกวนเพอ่ื นบา้ นอกี ดว้ ย สกุ รทกุ ตวั ตอ้ ง มกี ารถ่ายพยาธิ และจัดทำ� วัคซีนตามโปรแกรมทก่ี �ำหนดไวอ้ ย่างเครง่ ครดั ต้นทนุ และผลตอบแทน สำ� หรับตน้ ทนุ การเลี้ยงสกุ ร 1 ชุด จำ� นวน 5 ตวั 1. ต้นทนุ ในสว่ นตน้ ทนุ คงทไี่ ดแ้ ก่ การลงทนุ ในดา้ นโรงเรอื นและอปุ กรณใ์ นการเลย้ี ง ซ่งึ จะมีตน้ ทนุ ประมาณ 2,000-5,000 บาท สว่ นตน้ ทนุ ผนั แปรจะได้แก่ คา่ พันธส์ุ ุกร คา่ อาหาร คา่ วคั ซนี และคา่ เวชภณั ฑ์ ซงึ่ จะมตี น้ ทนุ ประมาณ 7,000-8,000 บาทตอ่ รนุ่ 2. ผลตอบแทน จะไดจ้ ากการจำ� หนา่ ยสกุ รขนุ ซงึ่ ถา้ จำ� หนา่ ยในราคาสกุ รมชี วี ติ จะไดใ้ นราคา กิโลกรัมละ 550 บาท จะมีผลตอบแทนประมาณ 5,000 บาต่อตัว แต่ถ้าจ�ำหน่าย เป็นเนอื้ ช�ำแหละจะท�ำให้เกษตรกรมีผลตอบแทนมากข้ึนกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตและผลตอบแทนที่ได้ จะเปล่ียนแปลงไปตาม สภาวะการตลาดอันได้แก่ ราคาอาหารสัตว์ ราคาพันธุ์สุกร รวมทั้งราคารับซ้ือ พันธุ์สุกร ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแหล่งท่ีเลี้ยงเป็นส�ำคัญ ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจ เลยี้ งสกุ รขนุ เกษตรกรจำ� เปน็ ตอ้ งศกึ ษาขอ้ มลู รายละเอยี ด และมกี ารวางแผนใหช้ ดั เจน เสียกอ่ น 41
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศสุ ัตว์ การเลย้ี งหมูป่า หมูป่า เป็นสัตว์ที่เล้ียงง่ายสามารถใช้อาหารในท้องถ่ินที่มีคุณภาพต่�ำ และ เศษวสั ดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตรเปน็ อาหารไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ปจั จบุ นั ความตอ้ งการในการ บรโิ ภคเนอ้ื หมปู า่ มคี อ่ นขา้ งมาก แตม่ ผี เู้ ลยี้ งนอ้ ย ทำ� ใหผ้ ลผลติ เนอ้ื หมปู า่ มไี มเ่ พยี งพอ ดงั นน้ั ราคาหมปู า่ จงึ สงู กวา่ ราคาเนอ้ื หมปู กตทิ ว่ั ไป เกษตรกรจงึ หนั มาสนใจเลย้ี งมากขนึ้ นอกจากนี้ยังสามารถเล้ียงหมูป่าในเชิงอนุรักษ์ เพ่ือทดแทนหมูป่าตามธรรมชาติ ซึ่งในปัจจบุ นั มีจำ� นวนนอ้ ยลง เงอื่ นไขความสำ� เรจ็ 1. พื้นที่ที่ใช้เล้ียงหมูป่าต้องอยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูก หรือมี วัสดุเหลอื ใช้ทางการเกษตรเพื่อใช้เปน็ อาหารเลี้ยงหมปู า่ อยา่ งเพียงพอ 2. เกษตรกรตอ้ งมคี วามรู้ และประสบการณใ์ นการเลีย้ งหมูปา่ 3. ต้องมแี หล่งจำ� หนา่ ยพันธ์ุ และตลาดรบั ซอื้ หมูป่าทีช่ ัดเจนแน่นอน 42
ทางเลือกอาชพี ดา้ นปศสุ ตั ว์ เทคโนโลยีและกระบวนการผลติ 1. พนั ธหุ์ มูป่า ลกั ษณะรปู รา่ งของหมปู า่ ทวั่ ไปจะมขี นหยาบแขง็ มสี นี ำ้� ตาลเขม้ หรอื สดี ำ� เขม้ หรอื สีดอกเลา หนังหนา หน้ายาว จมูกยาวและแหลมกวา่ สกุ รพันธพ์ุ ้ืนเมอื ง ขาเล็ก และเรยี ว ดปู ราดเปรยี ว ทั่วไปจะพบอยู่ 2 พันธุ์ คอื พันธุ์หน้ายาว และพันธุ์หนา้ สน้ั 2. ด้านโรงเรอื นและอุปกรณ์ เนอ่ื งจากหมปู า่ ยงั มพี ฤตกิ รรมเปน็ สตั วป์ า่ มอี าการตน่ื เมอื่ คนอยใู่ กล้ และอาจจะ แสดงอาการดรุ ้าย ดังนนั้ โรงเรอื นจะต้องสร้างให้แขง็ แรงทนทาน โดยใช้วัสดุกอ่ สร้าง ทห่ี าในบรเิ วณพน้ื ท่ี อาจไม่จำ� เป็นต้องเทพ้ืนซเี มนตแ์ ต่ต้องมีรวั้ รอบทีม่ ดิ ชดิ ป้องกนั หมูป่าขุดดินมุดหนีออกมานอกร้ัวได้ ควรจะมีการแยกคอกพ่อ-แม่พันธุ์ คอกคลอด เปน็ สดั ส่วนอย่างชัดเจน เพ่อื ปอ้ งกันอันตรายท่เี กิดกับลกู หมปู า่ 3. อาหารและการใหอ้ าหาร อาหารหมปู า่ มคี วามหลากหลาย เนอ่ื งจากหมปู า่ สามารถใชอ้ าหารในทอ้ งถนิ่ ทมี่ คี ณุ ภาพตำ่� และเศษวสั ดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตรไดเ้ ปน็ อยา่ งดี เชน่ ตน้ กลว้ ย มนั สำ� ปะหลงั มนั เทศ ขา้ วโพด ผลปาลม์ ผกั ชนดิ ตา่ งๆ นอกจากนส้ี ามารถผสมอาหารเลย้ี งหมปู า่ ไดเ้ อง โดยใชม้ นั เสน้ สบั เปน็ ชน้ิ เลก็ ๆ 60 สว่ น รำ� 40 สว่ น เกลอื ปน่ เลก็ นอ้ ยคลกุ เคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั หมกั ในภาชนะปดิ สนทิ นาน 1 เดอื น จากนนั้ นำ� มาใหห้ มปู า่ กนิ เปน็ อาหาร โดยใหว้ นั ละมอ้ื 4. การจัดการเลี้ยงดู เกษตรกรควรเรมิ่ ดว้ ยการเลย้ี งหมปู า่ พอ่ แมพ่ นั ธอ์ุ ายุ 3 เดอื น การจดั การเลยี้ งดู หมูปา่ ควรใชอ้ ตั ราการผสมพันธ์พุ ่อพันธ์ุ 1 ตัวตอ่ แม่พนั ธุ์ 5-10 ตัว หมูสาวผสมพันธ์ุ เม่อื อายุได้ 7 เดอื นและจะอมุ้ ทอ้ ง 114 วนั โดยจะให้ลกู ประมาณ 5-6 ตัวต่อคอก ซง่ึ พอ่ แมพ่ นั ธจ์ุ ะสามารถเลยี้ งเพอ่ื ผสมพนั ธไ์ุ ดน้ านประมาณ 5-6 ปี การเลยี้ งพอ่ แมพ่ นั ธ์ุ ควรจะต้องแยกเป็นสัดส่วน เมื่อแม่หมูป่าท้องใกล้คลอดจะต้องแยกแม่ออกจากฝูง มาอยู่ที่คอกคลอดเพื่อป้องกันพ่อหมูป่ากัดท�ำร้ายลูก ซ่ึงในระยะนี้ผู้เลี้ยงควรระวัง อนั ตรายจากแมห่ มปู า่ เพราะจะมนี สิ ยั ดรุ า้ ยขน้ึ ดงั นน้ั ผเู้ ลย้ี งควรทจ่ี ะรบกวนแมห่ มปู า่ ใหน้ ้อยทส่ี ดุ การเลย้ี งปจั จบุ นั จะมุ่งเพือ่ การจำ� หน่ายพนั ธ์ไุ ดแ้ ก่ ลกู หมปู า่ อายุ 3 เดือน 43
ทางเลอื กอาชพี ด้านปศสุ ตั ว์ แต่ถ้าเลยี้ งจนโต หมูปา่ ทีโ่ ตเตม็ ทจี่ ะหนกั ประมาณ 80 กิโลกรัม กจ็ ะจ�ำหนา่ ยให้กบั ผู้บรโิ ภคได้ 5. การสขุ าภิบาล ถงึ แมว้ า่ หมปู า่ จะมสี ขุ ภาพแขง็ แรงกวา่ สกุ รชนดิ อนื่ ๆ แตผ่ เู้ ลยี้ งกค็ วรจะตอ้ ง ให้ความสนใจหม่ันดูแลสุขภาพหมูป่าท่ีเลี้ยง ควรมีการถ่ายพยาธิและท�ำวัคซีน ตามโปรแกรมทกี่ �ำหนด ต้นทุนและผลตอบแทน สำ� หรบั การเลย้ี งหมปู า่ 1 ชดุ ซง่ึ ประกอบดว้ ย พอ่ พนั ธ์ุ 1 ตวั และแมพ่ นั ธ์ุ 5 ตวั 1. ต้นทนุ ในสว่ นต้นทนุ หลกั จะได้แก่คา่ พ่อแม่พันธุ์ ค่าโรงเรอื นและอุปกรณ์ ซึ่งจะมี ต้นทุนประมาณ 15,000-25,000 บาท ส่วนต้นทุนอื่นๆ จะได้แก่ คา่ อาหารเสริม คา่ เวชภัณฑ์ และค่าวัคซนี ประมาณ 7,000-8,000 บาท 2. ผลตอบแทน จะไดจ้ ากการจำ� หนา่ ยลกู หมปู า่ (อายุ 3 เดอื น) ประมาณปลี ะ 30 ตวั จำ� หนา่ ย ในราคาตวั ละ 1,500 บาท มีผลตอบแทนประมาณ 45,000-50,000 บาท โดยในปี ต่อมาผลตอบแทนจะเพิ่มขนึ้ และจะมจี ดุ คมุ้ ทนุ ในปที ี่ 3 ทง้ั นี้ ตน้ ทนุ การผลติ และผลตอบแทนจะมคี วามผนั แปรไปตามสภาวะการตลาด ขนาดการผลิตและแหล่งที่เลี้ยงเป็นส�ำคัญ ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจเลี้ยงเกษตรกร จ�ำเป็นตอ้ งศึกษาขอ้ มูลและรายละเอียดการเล้ยี งให้ชดั เจน 44
ทางเลือกอาชีพด้านปศสุ ัตว์ การเล้ยี งแกะ เพ่อื จ�ำหนา่ ย ผลิตพนั ธ์ุจ�ำหนา่ ย ปัจจุบนั ความตอ้ งการแกะพันธดุ์ เี พอ่ื ใชเ้ ป็นพอ่ แมพ่ ันธแ์ุ ละปรบั ปรงุ พนั ธุ์ มคี อ่ นขา้ งมาก เนื่องจากแกะเป็นสตั วท์ ่เี ลยี้ งงา่ ยใชพ้ ื้นท่ีน้อย และสามารถใช้แรงงาน ทม่ี ใี นครวั เรอื นการเลยี้ งแกะมกี ารลงทนุ ตำ�่ เนอ่ื งจากสามารถใชพ้ ชื อาหารหยาบ และวสั ดุ เหลอื ใชใ้ นทอ้ งถนิ่ เปน็ อาหารเลย้ี งแกะได้ แตจ่ ะใหผ้ ลตอบแทนคอ่ นขา้ งสงู และรวดเรว็ เง่อื นไขความสำ� เร็จ 1. เกษตรกรควรมปี ระสบการณ์ ความรเู้ กย่ี วกบั การเลย้ี งแกะ และมคี วามตง้ั ใจจรงิ 2. มีแหล่งการจ�ำหน่ายพันธุ์ดีให้กับเกษตรกรที่เร่ิมต้นเล้ียงหรืออยู่ใกล้ฟาร์ม จ�ำหนา่ ยพันธ์ุ 3. มีแหล่งพืชอาหารสัตว์ หรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรส�ำหรับเลี้ยงแกะ อย่างพอเพยี ง 4. ตอ้ งมกี ารผลติ ในลกั ษณะกลมุ่ และมเี ครอื ขา่ ยดา้ นการตลาดรองรบั ทชี่ ดั เจน 45
ทางเลือกอาชพี ด้านปศุสัตว์ เทคโนโลยีและกระบวนการผลติ 1. พนั ธแ์ุ กะ แกะพนั ธด์ุ ที นี่ ยิ มเลย้ี งในประเทศไทยมอี ยหู่ ลายพนั ธด์ุ ว้ ยกนั อาทิ พนั ธค์ุ าทาดนิ เป็นแกะจากประเทศสหรัฐอเมริกา พันธุ์ซานตาอิเนส เป็นแกะจากประเทศบราซิล มีลกั ษณะใบหยู าวปรก หน้าโคง้ นนู มีหลายสี พนั ธุบ์ าร์บาโดส แบล็คเบลลี่ เป็นแกะ จากหม่เู กาะบาร์บาโดสแถบทะเลแคริเบยี นมสี ีน�ำ้ ตาลออ่ นถงึ เข้ม และมีสดี �ำทใี่ ต้คาง ใต้ใบหู ขอบตาและบริเวณพื้นท้องลงมาถึงใต้ขา นอกจากนั้นยังมีพันธุ์ดอร์เปอร์ พันธุ์เซ้าท์แอฟริกามัตตอนเมอริโน่ พันธุ์คอร์ริเดล และพันธุ์บอนด์ ซึ่งมีลักษณะดี เหมาะสมทจี่ ะเลย้ี งเพ่อื ปรับปรงุ พันธุแ์ กะภายในประเทศ 2. ด้านโรงเรือนและอปุ กรณ์ โรงเรือนส�ำหรบั เลีย้ งแกะตอ้ งมหี ลงั คากนั แดดและฝน ยกพื้นสงู ควรแบง่ กั้นคอกสำ� หรับการเลีย้ งแกะโต แกะเลก็ แมอ่ ุม้ ท้อง แมเ่ ลีย้ งลกู หรือคอกมีลกั ษณะ เปน็ ชอ่ งเพอื่ ใหส้ ะดวกในการทำ� ความสะอาด ภายในคอกมรี างนำ้� รางอาหารทเ่ี พยี งพอ กับจ�ำนวนแกะทีเ่ ลีย้ ง และควรมอี ปุ กรณ์ใช้ในการตดั แต่งกีบแกะ 3. อาหารและการใหอ้ าหาร อาหารหลักของแกะ คือ พืชอาหารหยาบ โดยแกะสามารถกินหญ้าได้ หลายชนดิ รวมทง้ั พวกไมต้ ระกลู พมุ่ ชนดิ ตา่ งๆ โดยทวั่ ไปควรใหอ้ าหารหยาบประมาณ วนั ละ 10 เปอรเ์ ซน็ ตข์ องน้ำ� หนกั ตวั และควรเสรมิ อาหารข้นใหก้ นิ ในช่วงแกะอ้มุ ท้อง ประมาณวนั ละ 0.5-1.0 กโิ ลกรัมตอ่ ตัว มนี �้ำสะอาดวางให้กินตลอดเวลา 4. การจดั การเลี้ยงดู เกษตรกรควรเรม่ิ ตน้ ดว้ ยการเลยี้ งแกะพอ่ แมพ่ นั ธ์ุ แกะจะเรมิ่ ผสมพนั ธใ์ุ นอายุ 8 เดอื นขึ้นไป อัตราสว่ นการผสมพันธ์ุทีเ่ หมาะสมตอ้ งใช้ พ่อพนั ธุ์ 1 ตัว ตอ่ แม่พนั ธ์ุ 20-30 ตวั และจะอ้มุ ท้องนาน 150 วัน ช่วงระยะอมุ้ ท้องแมแ่ กะจะมคี วามต้องการ อาหารเพมิ่ ขน้ึ ดงั นนั้ ควรเสรมิ อาหารหยาบคณุ ภาพดปี ระเภทหญา้ ผสมพชื ตระกลู ถวั่ และเสริมอาหารข้นให้ก่อนแม่แกะจะคลอดลูก ควรมีการเตรียมคอกคลอดโดยต้อง 46
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศสุ ตั ว์ เป็นคอกที่สะอาดมฟี างแหง้ รองพื้นใหค้ วามอบอุ่น เม่อื ลกู คลอดแล้วควรให้ลูกกินนม น้�ำเหลืองจากแม่ทันทีลูกแกะจะเริ่มหัดกินหญ้าและอาหารเสริมตั้งแต่ 3-4 สัปดาห์ เปน็ ตน้ ไป การเลย้ี งแกะพนั ธด์ุ เี พอ่ื ผลติ ภณั ฑจ์ ำ� หนา่ ย เกษตรกรจำ� เปน็ ตอ้ งเกบ็ บนั ทกึ ขอ้ มลู ตอ้ งทำ� เบอรป์ ระจำ� ตวั แกะ โดยการใชค้ บี สกั เบอรห์ หู รอื การตดิ ทเ่ี บอรห์ ู หรอื ใช้ เบอร์แขวนคอ มกี ารบันทึกขอ้ มลู เกีย่ วกบั การสืบพนั ธุ์ เช่น อายุ และน�้ำหนกั เมอ่ื เริม่ ผสมพนั ธุ์ อตั ราการผสมตดิ อตั ราการคลอดลูก และขอ้ มูลการเจรญิ เตบิ โต เปน็ ตน้ ในแต่ละปีแม่แกะจะให้ลูกได้ประมาณ 1-2 ตวั 5. การสุขาภิบาล เกษตรกรตอ้ งเอาใจใสด่ แู ลสขุ ภาพในเรอ่ื งการกำ� จดั พยาธภิ ายนอก ไดแ้ ก่ เหบ็ เหา ไร และกำ� จัดพยาธิภายใน ไดแ้ ก่ พยาธติ ัวกลม พยาธิตัวตืด รวมทั้งตอ้ งฉีดวคั ซนี ปอ้ งกันโรคปากและเท้าเปื่อยให้กบั แกะดว้ ย ตน้ ทนุ และผลตอบแทน ส�ำหรับการเลย้ี งแกะ 1 ชุด ซึ่งประกอบด้วยพอ่ พนั ธ์ุ 1 ตัว และแมพ่ ันธ์ุ 10 ตวั 1. ตน้ ทุน ในต้นทุนคงท่ีจะได้แก่ ค่าโรงเรือน อุปกรณ์ และค่าพันธุ์แกะจะมีต้นทุน ประมาณ 30,000-50,000 บาท ส่วนตน้ ทนุ ท่ีต้องมีทุกปีไดแ้ ก่ ค่าอาหาร เวชภณั ฑ์ และวัคซนี ซึ่งมีค่าใชจ้ า่ ยประมาณ 6,000-7,000 บาท ตอ่ ปี 2. ผลตอบแทน การเลยี้ งแกะจะเรมิ่ ไดผ้ ลตอบแทนปที ่ี 2 ซง่ึ จะไดจ้ ากการจำ� หนา่ ยแกะพนั ธ์ุ อายุ 1 ปี น�้ำหนัก 25-30 กโิ ลกรัม ไดป้ ระมาณ 20-30 ตัว สามารถจ�ำหนา่ ยได้ในราคา ตัวละ 2,500-3,000 บาท และจะถงึ จดุ คุ้มทนุ ในปีท่ี 4-5 อย่างไรกต็ ามตน้ ทุนและผล ตอบแทนดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามแหลง่ ท่ีเลีย้ ง ขนาดการผลิต และตลาด รับซ้ือแกะ ดังน้ัน ก่อนการตัดสินใจเล้ียงเกษตรกรจ�ำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและราย ละเอียดให้ชดั เจนเสยี ก่อน 47
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศสุ ตั ว์ เกพาอ่ื รผเลลติ เ้ียนง้อื แจก�ำหะน่าย แกะ เปน็ สตั วท์ เ่ี ลยี้ งงา่ ยไมย่ งุ่ ยาก ใชพ้ น้ื ทน่ี อ้ ย สามารถใชแ้ รงงานในครอบครวั ได้ ใช้พืชอาหารสัตว์ตามธรรมชาติและวัสดุท่ีเหลือใช้ทางการเกษตรจากระบบฟาร์ม และที่มีในชุมชนเป็นอาหารเลี้ยงแกะได้เกษตรกรสามารถเล้ียงได้ท้ังเป็นอาชีพเสริม และอาชพี หลัก เง่ือนไขความส�ำเร็จ 1. สถานท่ีเล้ียงจ�ำเป็นต้องอยู่ใกล้แหล่งตลาดรับซ้ือและผู้บริโภคเนื้อแกะ หรือมตี ลาดรองรบั ผลผลิตทช่ี ดั เจน 2. ต้องมีแหล่งพืชอาหารหรือวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่เพียงพอ ต่อการเลีย้ งแกะ เพ่อื ลดต้นทุนการผลิต 48
ทางเลือกอาชีพดา้ นปศุสัตว์ เทคโนโลยแี ละกระบวนการผลิต 1. พันธแุ์ กะ โดยทั่วไปในการเลี้ยงจะนิยมใช้แกะพันธุ์พ้ืนเมือง ลูกผสมพันธุ์คาทาดิน หรือลูกผสมพันธุ์ซานตาอิเนส ท้ังนี้ข้ึนอยู่กับความเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น หรือความต้องการของตลาด รวมทัง้ แหล่งจ�ำหน่ายพันธุ์ทน่ี �ำมาใชใ้ นการเล้ยี ง 2. ดา้ นโรงเรือนและอุปกรณ์ โรงเรือนท่ีใช้เลี้ยงแกะต้องมีหลังคากันแดดและฝน มีขนาดเพียงพอกับ จ�ำนวนแกะที่ต้องการเลี้ยง ต้องมีคอกปล่อยรอบโรงเรือน เพื่อให้แกะออกก�ำลัง ภายในโรงเรือน ตอ้ งมอี ปุ กรณ์ใหน้ ้�ำและอาหารอยา่ งเพียงพอ 3. การจดั การเลีย้ งดู เกษตรกรควรเรม่ิ ตน้ การเลย้ี งดว้ ยแกะทม่ี อี ายปุ ระมาณ 3 เดอื น ในการเลยี้ ง เกษตรกรควรเลยี้ งเปน็ ชดุ ๆ ละประมาณ 5-10 ตวั เพอื่ ใหค้ มุ้ ตอ่ การลงทนุ ใชว้ ธิ ปี ลอ่ ยเลยี้ ง ในแปลงหญา้ หรอื พนื้ ทสี่ าธารณะทว่ั ๆ ไป เพอื่ ลดตน้ ทนุ การผลติ โดยใชพ้ ชื อาหารสตั ว์ ทมี่ อี ยตู่ ามธรรมชาตใิ นแปลงหญา้ หรอื ใชว้ สั ดเุ หลอื ใชจ้ ากระบบไรน่ าเปน็ อาหารหลกั แลว้ เสริมด้วยอาหารข้นประมาณ 0.5-1.0 กิโลกรัมต่อวันต่อตัว โดยเฉพาะช่วงเวลา กอ่ นจำ� หนา่ ยประมาณ 1-2 เดอื น เลย้ี งขนุ จนแกะมอี ายุ 8-12 เดอื น มขี นาดนำ�้ หนกั ตวั ประมาณ 30 กโิ ลกรัมก็จะเรมิ่ จำ� หน่ายได้ 4. การสุขาภิบาล ผเู้ ลยี้ งตอ้ งหมนั่ ดแู ลสขุ ภาพแกะทเ่ี ลย้ี ง ควรมกี ารดแู ลกำ� จดั พยาธภิ ายนอก และถา่ ยพยาธภิ ายในตามก�ำหนดเวลา รวมท้งั ท�ำวคั ซีนตามโปรแกรมทกี่ ำ� หนด ต้นทุนและผลตอบแทน 1. ต้นทุน ในการเลย้ี งแกะเนอ้ื จำ� นวน 10 ตวั ตอ่ รนุ่ ตน้ ทนุ คงทจี่ ะเปน็ คา่ โรงเรอื น อปุ กรณ์ และคา่ พนั ธส์ุ ตั ว์ ซง่ึ จะมตี น้ ทนุ ประมาณ 15,000-20,000 บาท และมคี า่ ใชจ้ า่ ยในสว่ น คา่ อาหาร คา่ เวชภณั ฑแ์ ละคา่ วคั ซนี ทตี่ อ้ งลงทนุ ทกุ ปี ประมาณปลี ะ 1,500-2,500 บาท มีผลตอบแทนประมาณ 20,000-25,000 บาทตอ่ รุ่น 49
ทางเลือกอาชีพด้านปศสุ ตั ว์ 2. ผลตอบแทน จะได้จากการจ�ำหน่ายแกะเมื่ออายุประมาณ 8-12 เดือน น้�ำหนักเฉล่ีย ประมาณ 30 กิโลกรัม จ�ำหน่ายได้ในราคาตัวละประมาณ 2,000-2,500 บาท มผี ลตอบแทนประมาณ 20,000-25,000 บาทต่อรนุ่ ทั้งน้ี ต้นทุนและผลตอบแทนจะเปล่ียนแปลงได้ตามสภาวะการตลาด และ สถานท่ีเลี้ยง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลี้ยง เกษตรกรจ�ำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและ รายละเอยี ดใหช้ ัดเจนเสียกอ่ น 50
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120