สวารสขุาร ภาพจิต แหง่ ประเทศไทย ปีที่ 29 ฉบับที่ 2 เมษายน - มิถุนายน 2564 Volume 29 Number 2 April –June 2021 www.tci-thaijo.org/index.php/jmht ความชกุ ปจั จยั ทเ่ี ก่ียวข้อง และการสูญเสยี หน้าท่ีของภาวะติดเกมในเด็กและวยั รุ่นที่เปน็ โรคสมาธิสนั้ ดษุ เดือน ต้งั อารีอรณุ , ชาญวทิ ย์ พรนภดล, ฑฆิ ัมพร หอสิริ การศกึ ษาคณุ สมบตั ขิ องแบบประเมนิ ความฉลาดทางสตสิ มั ปชัญญะไทย รุจินนั ท เหล่านยิ มไทย, ศภุ โชค สงิ หกนั ต์, สุชีรา ภทั รายุตวรรตน์ ความชกุ ของการรบั รคู้ วามเครยี ด ภาวะซมึ เศรา้ และปจั จยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในผปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 เขตกรงุ เทพมหานคร วรนิ ทิพย์ สว่างศรี, นันทยทุ ธ หะสิตะเวช, ชลธชิ า แยม้ มา, ณัฐปพน รัตนตรยั , ดุษฎี จงึ ศริ กุลวิทย์ ผลของกลุม่ บา� บดั ด้วยการแก้ไขปญั หาร่วมกบั การเจริญสตติ ่อภาวะซมึ เศรา้ ในผูส้ งู อายุทม่ี ีโรคเรือ้ รังในชุมชน เกษร สายธน,ู กง่ิ กาญจน์ ชเู มือง, เกษราภรณ์ เคนบปุ ผา ประสทิ ธิผลและอาการไมพ่ ึงประสงค์จากการใช้ยาสามัญ risperidone solution กับยาต้นต�ารบั ในการรกั ษา ผูป้ ่วย autism spectrum disorder จินตนา ปรัชญาสนั ติ, พณั ณพฒั น์ พรรณแ์ ผ้ว, ชดาพิมพ์ เผ่าสวสั ดิ์, อาภาภรณ์ พงึ่ ยอด, ศิริพรรณ แสนลงั , ภาวนิ ี บญุ สวรรคส์ ง่ ประสทิ ธผิ ลของดนตรบี า� บดั รว่ มกับโปรแกรมการฟ้นื ฟูสมรรถภาพในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง สายฝน ทศภาทนิ รัตน,์ เรอื นทอง อภวิ งค,์ พรสรุ ยี ์ ควู จิ ติ รสุวรรณ, ฉววี รรณ แสงสว่าง, นิพนธ์ เชือ้ สะอาด, ลกั ขณา ไทยเครอื แนวปฏิบัติทางคลินกิ ส�าหรับการจดั การภาวะวติ กกงั วลและภาวะซึมเศร้าในผปู้ ว่ ยโรคหลอดเลือดสมอง : การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ วรี นนั ท์ แยม้ รัตนกุล, เอมอร จริ ะพันธุ์ การเปรียบเทยี บประสิทธิภาพและความปลอดภัยระหวา่ งการให้ยารักษาโรคจิตวนั ละคร้งั และวนั ละหลายครัง้ ใน ผูป้ ว่ ยโรคจิตเภท : การทบทวนวรรณกรรมอย่างเปน็ ระบบ อนสุ รา เครือนวล, ถนอมพงษ์ เสถยี รลัคนา, พลภัทร์ โล่เสถยี รกจิ , สุทธา สุปัญญา, พรทิพย์ ธีรรตั น์ไชยเลิศ, พินทสุ รกลับคณุ Mental Health of TJhoauirlnaanl odf ISSN 0859-497X E-ISSN 2697-567X
ISSN 0859-497X E-ISSN 2697-567X วารสารสขุ ภาพจติ แห่งประเทศไทย คณะที่ปรกึ ษา รองอธบิ ดกี รมสุขภาพจติ วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทยจัดท�ำขึ้นโดยกรมสุขภาพจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เพื่อเป็นช่องทางส�ำหรับเผยแพร่ผลงานวิจัยและผลงานวิชาการของ นพ.มล.สมชาย จักรพนั ธ์ ุ นพ.ยงยทุ ธ วงศ์ภริ มย์ศานติ์ บคุ ลากรทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ในดา้ นสขุ ภาพจติ และจติ เวชศาสตร์ ผ้อู �ำนวยการส�ำนกั วชิ าการสขุ ภาพจติ และเปน็ สอื่ กลางเชื่อมโยงแลกเปล่ียนความรดู้ า้ นสุขภาพจิต กำ� หนดออก: บรรณาธิการกติ ตมิ ศกั ด์ิ ปีละ 4 ฉบับ (ราย 3 เดอื น) ศ.เกยี รติคุณ นพ.พิเชฐ อดุ มรัตน์ กรรมการสมาคมจติ แพทยโ์ ลกตวั แทน เดอื นมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม ภาคพน้ื เอเชียใต้ ดาวนโ์ หลดและสง่ บทความ: บรรณาธกิ าร www.tci-thaijo.org/index.php/jmht พญ.พันธุ์นภา กติ ติรตั นไพบูลย ์ สถาบันพฒั นาการเด็กราชนครินทร์ การติดต่อ: กองบรรณาธิการวารสารสุขภาพจิตแหง่ ประเทศไทย รองบรรณาธิการ ศนู ย์สขุ ภาพจิตท่ี 12 สำ� นกั วชิ าการสุขภาพจิต ชนั้ 3 อาคาร 2 กรมสขุ ภาพจิต ดร.นพ.นพพร ตนั ตริ ังส ี โรงพยาบาลจติ เวชสงขลาราชนครนิ ทร์ 88/20 ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวญั อ.เมืองนนทบุรี ดร.นพ.อธิบ ตันอารยี ์ สถาบนั จติ เวชศาสตรส์ มเดจ็ เจา้ พระยา จ.นนทบุรี 11000 นพ.สุทธา สุปัญญา สำ� นกั วิชาการสขุ ภาพจิต โทร. 0-2590-8254, 8183 โทรสาร 0-2149-5539 ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสนุ นท์ ส�ำนกั วิชาการสุขภาพจติ e-mail: [email protected] พญ.กสุ ุมาวดี คำ� เกลย้ี ง บทความท่ีจะตีพิมพ์ให้ปฏิบัติตาม “ค�ำแนะน�ำผู้นิพนธ์” ของวารสาร สุขภาพจติ แหง่ ประเทศไทย กองบรรณาธิการ หมายเหต:ุ ศ.พญ.ดร.สาวติ รี อัษณางคก์ รชยั มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ ผอู้ า่ นสามารถนำ� ขอ้ ความ ขอ้ มลู จากวารสารไปใชไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ศ.พญ.สุวรรณา อรุณพงคไ์ พศาล มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ทางวิชาการได้ เช่น เพ่ือการสอน เพ่ือการอ้างอิง แต่การน�ำไปใช้เพ่ือ รศ.พญ.พรจริ า ปริวัชรากุล มหาวิทยาลยั มหิดล วตั ถปุ ระสงคอ์ น่ื เชน่ เพอื่ การคา้ จะตอ้ งไดร้ บั อนญุ าตเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร รศ.พญ.ศิริจิต สทุ ธจิตต์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ จากกรมสุขภาพจติ กอ่ น รศ.นพ.ดร.ตะวนั ชยั จิรประมุขพิทกั ษ์ มหาวิทยาลยั มหดิ ล ผศ.ดร.ดรณุ ี ภขู่ าว มหาวิทยาลยั มหดิ ล ความคิดเหน็ ขอ้ มลู และบทสรุปตา่ งๆ ทล่ี งตีพิมพใ์ นวารสาร พญ.เบญจพร ปญั ญายง ขา้ ราชการบำ� นาญ กรมสขุ ภาพจติ สุขภาพจติ แห่งประเทศไทย เป็นของผู้เขียนบทความ และมิได้ พญ.ดุษฎี จึงศิรกุลวิทย ์ สถาบนั สขุ ภาพจิตเดก็ และวยั ร่นุ แสดงว่ากองบรรณาธกิ ารหรอื กรมสขุ ภาพจิตเห็นพ้องดว้ ย ราชนครนิ ทร์ ดร.นพ.พทิ ักษ์พล บณุ ยมาลกิ กองตรวจราชการ สำ� นกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสขุ ดร.สุดา วงศ์สวสั ดิ ์ ขา้ ราชการบำ� นาญ กรมสขุ ภาพจติ ดร.หรรษา เศรษฐบุปผา มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ บรรณาธิการต่างประเทศ Prof.Walter Ling, M.D University of California, USA Assoc.Prof.Robert Ali, M.D University of Adelaide, Australia Rudy RD Bogoian, M.D. Independent Professional Role บรรณาธกิ ารบรหิ าร (ส�ำนักวชิ าการสุขภาพจิต) ดร.โสฬวรรณ อินทสทิ ธ ิ์ นายภพธร วุฒิหาร กองบรรณาธกิ ารฝ่ายจัดการ (ส�ำนกั วิชาการสุขภาพจิต) นางสาวสริ ิกุล จุลคีร ี นางฐิตญิ า จันทพรม นางฌานิตา ด�ำเขียว นายจาฏุพจน์ พรมสีดา นายธัญพิสฏิ ฐ์ บญุ พัฒนาภรณ์
ISSN 0859-497X E-ISSN 2697-567X Journal of Mental Health of Thailand Advisory board The Journal of Mental Health of Thailand is the Director General of Department of Mental Health (DMH) official journal of the Department of Mental Health, Ministry Deputy Directors of Department of Mental Health (DMH) of Public Health, Thailand. Its objective is to disseminate M.L.Somchai Chakraband, M.D. mental health and psychiatric research in order to distribute Yongyud Wongpiromsarn, M.D. and share experience amongst health and mental health Director of Bureau of Mental Health Academic Affairs personnel. Honorary Editor Free subscription: Emeritus Prof.Pichet Udomratn, M.D. WPA Board for Zonal Representative 16 Free access online: Every 3 months or 4 volumes/year (Southern Asia) Editor-in-Chief Download and Submission: Phunnapa Kittirattanapaiboon, M.D. Rajanagarindra Institute of www.tci-thaijo.org/index.php/jmht Child Development Associate Editors Contact: Nopporn Tantirangsee, M.D., Ph.D. Mental Health Center 12 Journal of Mental Health of Thailand Athip Tanaree, M.D., Ph.D. Songkhla Rajanagarindra Psychiatric Hospital Bureau of Mental Health Academic Affairs, Department of Mental Health, Ministry of Public Health Suttha Supanya, M.D. Somdet Chaopraya 88/20 Tiwanon Road, Nonthaburi, 11000 Thailand. Institute of Psychiatry Varoth Chotpitayasunondh, M.D., Ph.D. Bureau of Mental Health Academic Affairs Tel. +66-2590-8254, 8183 Fax. +66-2149-5539 e-mail: [email protected] Kusumavadee Kamkliang, M.D. Bureau of Mental Health Academic Affairs Editorial Board Remark: Prof.Sawitri Assanangkornchai, M.D., Ph.D. Prince of Songkla University Authorization to photocopy items for internal or personal use of specific clients, is granted. The consent does Prof.Suwanna Arunpongpaisal, M.D. Khon Kaen University not extend to other kinds of copying, such as for general distribution, for advertising, or for resale. Assoc.Prof.Pornjira Pariwatcharakul, M.D Mahidol University Assoc.Prof.Sirijit Suttajit Chiang Mai University Assoc.Prof.Tawanchai Jirapramukpitak, M.D., Ph.D. Mahidol University Asst.Prof.Darunee Phukao, Ph.D. Mahidol University Benjaporn Panyayong, M.D. Retired government employee on person Dutsadee Juengsiragulwit, M.D. Child and Adolescent Mental Health Rajanakarindra Institute Pitakpol Boonyamalik, M.D.,Ph.D. Government Inspectorat Office of the Permanent Secretary for Public Health Suda Wongsawat, Ph.D. Retired government employee on person Hunsa Sethabouppha, Ph.D. Chiang Mai University International Editors University of California, USA Prof.Walter Ling, M.D. Assoc.Prof.Robert Ali, M.D. University of Adelaide, Australia Rudy RD Bogoian, M.D. Independent Professional Role Managing Editors (Bureau of Mental Health Academic Affairs) Ms.Sorawan Intasitti, Ph.D. Mr.Phopthorn Wuttiharn Managing Staffs (Bureau of Mental Health Academic Affairs) Unless otherwise states, the views and opinion expressed Ms.Sirikul Chulkeeree Mrs.Thitiya Jantaprom in Journal of Mental Health of Thailand are those of authors of the papers, and do not represent those of the Mrs.Chanita Dumkhaew Mr.Chatuphot Phromsida editorial board or the Department of Mental Health. Mr.Tanpisith Boonpattanaporn
วารสารสุขภาพจิตแหง่ ประเทศไทย ปที ี่ 29 ฉบับที่ 2 เมษายน - มิถุนายน 2564 สารบัญ หน้า A บรรณาธกิ ารแถลง 93 นิพนธ์ตน้ ฉบบั ความชกุ ปจั จยั ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง และการสญู เสยี หน้าทข่ี องภาวะติดเกมในเดก็ และวยั รนุ่ 105 ทีเ่ ป็นโรคสมาธสิ ้ัน 114 ดุษเดือน ตงั้ อารีอรุณ, ชาญวทิ ย์ พรนภดล, ฑฆิ มั พร หอสิริ 125 การศึกษาคุณสมบัติของแบบประเมนิ ความฉลาดทางสตสิ มั ปชญั ญะไทย 137 รจุ นิ ันท เหลา่ นยิ มไทย, ศุภโชค สงิ หกันต์, สุชีรา ภทั รายตุ วรรตน์ 149 ความชุกของการรบั ร้คู วามเครยี ด ภาวะซึมเศร้า และปัจจัยทเ่ี กีย่ วขอ้ งในผู้ป่วย โรคโควดิ 19 เขตกรุงเทพมหานคร 161 วรนิ ทพิ ย์ สว่างศร,ี นนั ทยทุ ธ หะสิตะเวช, ชลธชิ า แยม้ มา, ณัฐปพน รัตนตรัย, 177 ดุษฎี จึงศิรกลุ วิทย์ I ผลของกลมุ่ บำ� บดั ดว้ ยการแกไ้ ขปญั หารว่ มกบั การเจรญิ สตติ อ่ ภาวะซมึ เศรา้ ในผสู้ งู อายทุ ม่ี โี รคเรอ้ื รงั ในชมุ ชน เกษร สายธน,ู กง่ิ กาญจน์ ชเู มอื ง, เกษราภรณ์ เคนบปุ ผา ประสิทธผิ ลและอาการไม่พึงประสงคจ์ ากการใช้ยาสามญั risperidone solution กับยาต้นต�ำรบั ในการรกั ษาผ้ปู ว่ ย autism spectrum disorder จนิ ตนา ปรชั ญาสันต,ิ พัณณพัฒน์ พรรณ์แผ้ว, ชดาพิมพ์ เผา่ สวสั ด์,ิ อาภาภรณ์ พึง่ ยอด, ศิรพิ รรณ แสนลงั , ภาวินี บญุ สวรรค์ส่ง ประสทิ ธผิ ลของดนตรบี ำ� บดั รว่ มกบั โปรแกรมการฟน้ื ฟสู มรรถภาพในผปู้ ว่ ย โรคหลอดเลอื ดสมอง สายฝน ทศภาทนิ รตั น,์ เรอื นทอง อภวิ งค,์ พรสรุ ยี ์ ควู จิ ติ รสวุ รรณ, ฉววี รรณ แสงสวา่ ง, นพิ นธ์ เชอื้ สะอาด, ลกั ขณา ไทยเครอื บทความปรทิ ศั น์ แนวปฏิบตั ิทางคลินกิ สำ� หรับการจดั การภาวะวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าในผปู้ ่วย โรคหลอดเลือดสมอง : การทบทวนวรรณกรรมอย่างเปน็ ระบบ วรี นนั ท์ แยม้ รัตนกลุ , เอมอร จริ ะพนั ธ์ุ การเปรยี บเทยี บประสทิ ธภิ าพและความปลอดภยั ระหวา่ งการใหย้ ารกั ษาโรคจติ วนั ละครงั้ และวนั ละหลายครงั้ ในผปู้ ว่ ยโรคจติ เภท : การทบทวนวรรณกรรมอยา่ งเปน็ ระบบ อนสุ รา เครือนวล, ถนอมพงษ์ เสถยี รลัคนา, พลภทั ร์ โลเ่ สถียรกิจ, สุทธา สุปญั ญา, พรทพิ ย์ ธีรรัตนไ์ ชยเลศิ , พนิ ทสุ ร กลับคุณ คำ� แนะนำ� สำ� หรบั ผนู้ พิ นธ์ สารบญั วารสารสมาคมจิตแพทย์แหง่ ประเทศไทย
Journal of Mental Health of Thailand Volume 29 Number 2 April – June 2021 CONTENTS PREFACE Page A EDITORIAL ORIGINAL 93 ORIGINAL ARTICLES Prevalence, associated factors and functions impairment of internet gaming 105 disorder (IGD) in children and adolescent with attention deficit 114 hyperactivity disorder (ADHD) Dutduan Tang-aree-arun, Chanvit Pornnoppadol, Tikumporn Hosiri 125 137 The study of the psychometric properties of the consciousness quotient inventory Thai version 149 Rujinant Laoniyomthai, Supachoke Singhakant, Sucheera Phattharayuttawat 161 Prevalence of perceived stress and depression and their associated 177 factors among COVID-19 patients in Bangkok Warintip Sawangsri, Nantayoot Hasitawech, Chonticha Yamma, I Nattapapon Rattanatrai, Dutsadee Juengsiragulwit The effects of problem-solving group therapy conjoined with mindfulness for depression in elderly with chronic diseases living in community Kesorn Saithanu, Kingkan Choomuang, Kedsaraporn Kenbubpha Effectiveness and adverse drug reactions between generic and original risperidone solution in patients with autism spectrum disorder Jintana Prachayasunti, Phannaphat Phanphaew, Chadapim Phoasavasdi, Arpaporn Puengyod, Siripran Sanlung, Pawinee Bunsawonsung Effectiveness of music therapy conjoined with rehabilitation program in post-stroke patients Saiphon Tospatinrat, Reanthong Apiwong, Bhornsuree Kuvijitsuwan, Chaweewan Sangsawang, Nipon Chuasa-ard, Lakkana Thaikruea REVIEW ARTICLES Clinical practice guidelines for the management of anxiety and depression in patients with stroke: a systematic review Weeranan Yaemrattanakul, Aimorn Jiraphan Comparison of efficacy and safety between once-daily dosing and divided dosing of antipsychotic drugs in patients with schizophrenia: a systematic review Anusara Kraunual, Thanompong Sathienluckana, Pholphat Losatiankij, Suttha Supanya, Porntip Theraratchailert, Pintusorn Klabkhun INSTRUCTION TO AUTHORS CONTENTS PREFACE IN JOURNAL OF THE PSYCHIATRIC ASSOCIATION OF THAILAND
บรรณาธิการแถลง สถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโคนา 2019 ยังคงเป็นปัญหาต่อเน่ืองท่ัวโลก ในประเทศไทยมีการระบาด เป็นระลอกที่สามและมีผู้ติดเช้ือเพิ่มข้ึนจ�ำนวนมาก อย่างไรก็ตาม นอกจากการปรับตัวสู่วิถีชีวิตใหม่ที่ต้องป้องกันสุขอนามัย อย่างเข้มข้นแล้ว วัคซีนโควิด 19 เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ส�ำคัญ ผู้ได้รับวัคซีนท้ังประเทศในขณะน้ีเพ่ิมเป็นหลายล้านคนแล้ว คาดวา่ จะบรรเทาความรุนแรงของโรคโควดิ 19 ไดใ้ นไม่ช้า วารสารสขุ ภาพจติ แหง่ ประเทศไทย เล่มท่ี 2 ของปี พ.ศ. 2564 (ปีท่ี 29) เดอื นเมษายน - มิถุนายน ยงั คงเน้ือหาสาระ ทางวิชาการด้านสุขภาพจิตและจิตเวชศาสตร์ที่หลากหลายประเด็น ดังเช่น รายงานนิพนธ์ต้นฉบับล่าสุดถึงผลกระทบด้าน สขุ ภาพจติ ในผูป้ ว่ ยโรคโควดิ 19 ในการศกึ ษาเรือ่ ง ความชุกของการรับรูค้ วามเครยี ด ภาวะซมึ เศรา้ และปัจจยั ที่เกยี่ วข้องใน ผู้ป่วยโรคโควิด 19 เขตกรุงเทพมหานคร โดย วรินทิพย์ สว่างศรี และคณะ ที่ศึกษาจากข้อมูลในโครงการการดูแลจิตใจ ทางโทรศัพท์แก่ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนในประเด็นเด็กและวัยรุ่นน้ัน มีรายงานนิพนธ์ต้นฉบับ ภาวะติดเกมในกลุ่มเฉพาะเรื่อง ความชุก ปัจจัยท่ีเกี่ยวข้อง และการสูญเสียหน้าท่ีของภาวะติดเกมในเด็กและวัยรุ่นท่ีเป็น โรคสมาธิสั้น โดย ดษุ เดือน ต้ังอารีอรณุ และคณะ ท่ีทำ� ให้ทราบความรุนแรงของปญั หาโรคร่วมนี้ในบริบทเฉพาะของเด็กไทย นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาประเด็นยาจิตเวชสองเรื่อง เร่ืองแรกเป็นนิพนธ์ต้นฉบับเร่ือง ประสิทธิผลและอาการ ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาสามัญ risperidone solution กบั ยาตน้ ต�ำรับในการรักษาผูป้ ว่ ย autism spectrum disorder โดย จนิ ตนา ปรชั ญาสนั ติ และคณะ และเรอ่ื งทส่ี องเปน็ บทความปรทิ ศั นเ์ รอื่ ง การเปรยี บเทยี บประสทิ ธภิ าพและความปลอดภยั ระหว่างการให้ยารักษาโรคจิตวันละครั้ง และวันละหลายครั้งในผู้ป่วยโรคจิตเภท : การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ โดย อนุสรา เครือนวล และคณะ ซึง่ ท้ังสองเรอื่ งเปน็ ประโยชน์อยา่ งมากในการตัดสนิ ใจส่ังจ่ายยาใหผ้ ู้ปว่ ยจติ เวช ส�ำหรับปัญหาสุขภาพจิตท่ีพบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคสมองเส่ือม มีสองรายงานการศึกษาคือ นิพนธ์ต้นฉบับเร่ือง ประสิทธิผลของดนตรีบ�ำบัดร่วมกับโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดย สายฝน ทศภาทินรัตน์ และคณะ และบทความปริทัศน์เร่ือง แนวปฏิบัติทางคลินิกส�ำหรับการจัดการภาวะวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วย โรคหลอดเลอื ดสมอง : การทบทวนวรรณกรรมอยา่ งเป็นระบบ โดย วีรนันท์ แยม้ รตั นกลุ และ เอมอร จิระพันธ์ุ ประเด็นการเจริญสติ (mindfulness) ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในระยะหลังท้ังในและต่างประเทศ งานวิจัยท ี่ น่าสนใจสองเรื่องคือ ผลของกลุ่มบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาร่วมกับการเจริญสติต่อภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุท่ีมีโรคเร้ือรัง ในชมุ ชน โดย เกษร สายธนู และคณะ และรายงานการพฒั นาเครอื่ งมอื เรอื่ ง การศกึ ษาคณุ สมบตั ขิ องแบบประเมนิ ความฉลาด ทางสติสัมปชัญญะไทย โดย รุจินันท เหล่านิยมไทย และคณะ ท่ีน�ำเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับเป็นสากลมาใช้กับคนไทย ซง่ึ จะเป็นทางเลือกหนึง่ ในการประเมินบุคคลหรอื การประเมินทางคลนิ กิ ในดา้ นสติและสมั ปชญั ญะ A
ดิฉันและกองบรรณาธิการขอขอบคุณผู้นิพนธ์ทุกท่านที่เชื่อมั่นและไว้วางใจส่งบทความเข้ามายังวารสาร ทั้งน ี้ ขอเชิญชวนทุกท่านอ่านบทความทางวารสารออนไลน์ www.tci-thaijo.org/index.php/jmht และยังสามารถส่งบทความ เพอ่ื เขา้ รบั การพจิ ารณาเผยแพรท่ างเวบ็ ไซตด์ งั กลา่ วดว้ ย ในโอกาสนี้ ดฉิ นั ขออำ� ลาบทบาทบรรณาธกิ ารวารสาร และขอขอบคณุ กองบรรณาธิการทุกท่านที่ร่วมมือการท�ำงานอย่างหนักมาตลอดสามปีครึ่ง ทั้งน้ีเพื่อเปิดโอกาสให้นักวิชาการรุ่นใหม่ของ กรมสุขภาพจิตได้มาร่วมพัฒนาวารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทยให้ก้าวหน้ามากข้ึน ซ่ึงดิฉันยินดีร่วมท�ำงานในฐานะ บรรณาธกิ ารกิตติมศักดิ์ และขอใหค้ วามมน่ั ใจกบั ผู้อา่ นทกุ ทา่ นถงึ การคงคณุ ภาพวารสารอยา่ งต่อเนื่อง พันธน์ุ ภา กิตตริ ตั นไพบูลย์ บรรณาธิการ
ภาวะติดเกมในเด็กและวยั ร่นุ ที่เป็นโรคสมาธสิ ัน้ ดุษเดอื น ตง้ั อารอี รุณ และคณะ นพิ นธต์ น้ ฉบับ ความชกุ ปจั จัยที่เก่ียวข้อง และการสูญเสียหน้าที่ของภาวะติดเกม ในเดก็ และวัยรนุ่ ท่เี ปน็ โรคสมาธสิ ัน้ วนั รบั : 22 ตลุ าคม 2563 ดุษเดอื น ตั้งอารีอรุณ, พ.บ. ,ชาญวิทย์ พรนภดล, พ.บ., วนั แกไ้ ข : 18 มนี าคม 2564 ฑิฆมั พร หอสิริ, พ.บ. วนั ตอบรบั : 25 มนี าคม 2564 ภาควชิ าจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวทิ ยาลยั มหิดล บทคดั ยอ่ วตั ถปุ ระสงค์ : เพอื่ ศกึ ษาความชกุ ของภาวะตดิ เกมในเดก็ ทป่ี ว่ ยเปน็ โรคสมาธสิ น้ั รวมถงึ ปจั จยั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง และการสญู เสยี หนา้ ท่ี จากโรคสมาธสิ น้ั วิธีการ : เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบตัดขวางในเด็กท่ีป่วยเป็นโรคสมาธิสั้นอายุระหว่าง 6 ถึง 18 ปี จ�ำนวน 455 คน ใช้แบบทดสอบการติดเกม (game addiction screening test; GAST) เพื่อคัดกรองเด็กที่มีความเส่ียงติดเกม และยืนยัน การวนิ ิจฉัยภาวะติดเกม (internet gaming disorder; IGD) ดว้ ยการสมั ภาษณ์ทางจิตเวชตามเกณฑ์วินิจฉยั โรค DSM-5 ศึกษา การสูญเสียหน้าท่ีจากโรคสมาธิส้ัน โดยใช้แบบประเมินความบกพร่องทางหน้าท่ีในเด็กและวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคสมาธิส้ัน (Weiss functional impairment rating scale: WFIRS) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา, t-test และ chi-square test ผล : เด็กที่เป็นโรคสมาธิส้นั และผูป้ กครองตอบรับเข้ารว่ มวจิ ัยจำ� นวน 320 คู่ (รอ้ ยละ 70.3) จากการคัดกรองพบมคี วามเสี่ยง ตดิ เกมจ�ำนวน 70 คน (รอ้ ยละ 22.1) และไดร้ ับการวินจิ ฉัยภาวะติดเกม 25 คน (ร้อยละ 8.3) ปจั จยั ทีส่ ัมพนั ธก์ บั ภาวะตดิ เกม ได้แก่ ระยะเวลาทีเ่ ล่นเกม (p < .05) และการเลน่ เกมทม่ี ีความรุนแรง (p < .05) โดยพบว่าเดก็ ท่ีปว่ ยเป็นโรคสมาธิส้ันทมี่ ีภาวะ ตดิ เกมมคี ะแนนการสญู เสยี หนา้ ทจี่ ากโรคสมาธสิ น้ั ทงั้ จากแบบประเมนิ ตวั เองและประเมนิ โดยผปู้ กครองสงู กวา่ กลมุ่ ทไี่ มต่ ดิ เกม (p < .05) สรปุ : ภาวะตดิ เกมเปน็ โรครว่ มทพ่ี บไดบ้ อ่ ยในเดก็ ทเี่ ปน็ โรคสมาธสิ นั้ และสง่ ผลตอ่ การสญู เสยี หนา้ ทจ่ี ากโรคสมาธสิ น้ั การประเมนิ และติดตามภาวะตดิ เกมในเดก็ ทีป่ ่วยเปน็ โรคสมาธสิ ้นั เป็นระยะ จะช่วยให้เดก็ ได้รบั การช่วยเหลืออยา่ งเหมาะสม คำ� ส�ำคญั : การสูญเสยี หนา้ ที่ ความชุก ภาวะติดเกม โรคสมาธิสน้ั ตดิ ต่อผู้นิพนธ์ : ชาญวิทย์ พรนภดล; e-mail: [email protected] วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย 2564;29(2):93-104. 9 3
Internet gaming disorder in children and adolescent with attention deficit hyperactivity disorder Tang-aree-arun D, et al. Original article Prevalence, associated factors and functions impairment of internet gaming disorder (IGD) in children and adolescent with attention deficit hyperactivity disorder (ADHD) Received : 22 October 2020 Dutduan Tang-aree-arun, M.D.,Chanvit Pornnoppadol, M.D., Revised : 18 March 2021 Tikumporn Hosiri, M.D. Accepted : 25 March 2021 Department of Psychiatry, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University Abstract Objective: To examine the prevalence, associated factors, and function impairment of IGD in children and adolescents with ADHD. Methods: A total of 455 ADHD participants aged 6 - 18 years were recruited. Game Addiction Screening Test (GAST) was utilized to screen for game addiction behavior. The final diagnosis of IGD was obtained from the diagnostic interview using DSM-5 criteria. The function impairment was evaluated using the Weiss Functional Impairment Rating Scale (WFIRS) - Thai version. Results: 320 ADHD participants (70.3%) participated in this study. Of those, 70 participants (22.1%) were initially screened positive using GAST and then 25 participants (8.3%) subsequently received IGD diagnosis. The significant associated factors of IGD included time spent playing games (p < .05) and playing violent game (p < .05). ADHD participants with comorbid IGD had a higher total score of WFIRS both on child’s and parents’ questionnaires (p < .05) than those without IGD. Conclusion: IGD is a common comorbid problem in ADHD patients and can cause more function impairment. These findings emphasize the importance of routine screening for IGD during the initial ADHD evaluation and follow-up visit to provide early appropriate interventions. Keywords: ADHD, function impairment, internet gaming disorder, prevalence Corresponding author: Chanvit Pornnoppadol; e-mail: [email protected] Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):93-104. 94
ภาวะติดเกมในเด็กและวัยร่นุ ท่เี ปน็ โรคสมาธสิ น้ั ดุษเดือน ตั้งอารอี รุณ และคณะ ความรเู้ ดมิ : ผปู้ ว่ ยตดิ เกมมคี วามสมั พนั ธก์ บั การขาดสมาธิ แมว้ ่าใน DSM-5 จะใชค้ ำ� ว่า “internet gaming disorder” และอาการหุนหันพลันแล่น แต่ในการวินิจฉัยน้ันสามารถใช้ได้ทั้งเกมออนไลน์ (online) ความรใู้ หม่ : ความชกุ ของภาวะตดิ เกมในเดก็ โรคสมาธสิ น้ั และออฟไลน์ (offline) นอกจากนี้ ในปี ค.ศ. 2018 องคก์ าร สูงกว่าเด็กทั่วไป ภาวะตดิ เกมท�ำใหห้ นา้ ที่ดา้ นต่าง ๆ ใน อนามยั โลก (World Health Organization; WHO) ไดก้ ำ� หนด เด็กโรคสมาธิสน้ั แย่ลง ให้ภาวะติดเกมเป็นหน่ึงในโรคจิตเวชและบรรจุอยู่ในบัญชี ประโยชนท์ ีจ่ ะนำ� ไปใช้ : ควรประเมนิ ภาวะตดิ เกมในเดก็ จ�ำแนกทางสถิติระหว่างประเทศของโรคและปัญหาสุขภาพท่ี โรคสมาธสิ ั้นทกุ ครัง้ ระหว่างติดตามการรกั ษา เกย่ี วขอ้ ง ฉบบั ที่ 11 (international statistical classification of diseases and related health problems; ICD-11) โดย ใช้ชอ่ื วา่ “gaming disorder”13 บทน�ำ โรคสมาธิส้ันเป็นโรคท่ีพบได้บ่อยในเด็กและวัยรุ่น เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า การเข้าถึงส่ือได้ง่าย และการ มีสาเหตุมาจากพัฒนาการทางสมองท่ีบกพร่อง (neuro- เลน่ เกมตา่ ง ๆ พฒั นาขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ สง่ ผลใหก้ ารเลน่ เกมเปน็ developmental disorder) โดยมแี ก่นของความผดิ ปกติ คือ กจิ กรรมทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มสงู ในเดก็ และวยั รนุ่ 1 การเลน่ เกมมาก ความบกพรอ่ งของสมาธิ (attention deficit) การขาดสมาธิ ขน้ึ ในเดก็ สง่ ผลใหเ้ พม่ิ ความเสย่ี งตอ่ ภาวะตดิ เกม และผลกระทบ จดจอ่ (inattentiveness) และการควบคมุ ตนเองทไี่ มด่ ี (poor ดา้ นลบตอ่ ผเู้ ลน่ ทงั้ ดา้ นสขุ ภาพรา่ งกาย จติ ใจ และสงั คม2-4 เชน่ self-regulation)14 โดยโรคสมาธิสั้นเป็นปัจจัยหนึ่งท่ีมี ผลกระทบต่อสมาธิ การเรยี น ความเครยี ด ภาวะซมึ เศร้า และ ความสัมพันธ์กับการติดเกม15-17 การศึกษาแบบติดตามไป ปญั หาดา้ นสมั พนั ธภาพกบั ผอู้ น่ื ในทศวรรษทผ่ี า่ นมา มรี ายงาน ขา้ งหนา้ พบวา่ ในเดก็ ทม่ี อี าการสมาธสิ น้ั เมอ่ื โตขนึ้ มแี นวโนม้ ที่ การศึกษาเกี่ยวกับการเล่นเกมมากขึ้น รวมถึงการศึกษา จะใช้เวลาในการเล่นเกมมากกว่าเด็กปกติ16 ในขณะเดียวกัน ความชกุ ของภาวะตดิ เกม5 โดยงานวจิ ยั ทวั่ โลกพบความชกุ ของ ภาวะติดเกมในเด็กตั้งแตร่ ้อยละ 0.6 - 19.95 ขณะทีก่ ารศกึ ษา ผู้ที่เล่นเกมเป็นเวลานานและในผู้ท่ีมีภาวะติดเกมพบว่ามี ในประเทศไทยพบความชุกของภาวะติดเกมในเด็กต้ังแต่ ความสัมพันธ์กับสมาธิท่ีลดลง18,19 รวมท้ังมีลักษณะขาดการ ร้อยละ 5.4 - 156-9 คา่ ความชกุ ท่ีแตกตา่ งกันนมี้ าจากการให้ ยั้งคดิ หรืออาการหุนหนั พลนั แล่น (impulsivity)18,20,21 ดังน้นั นยิ ามของภาวะตดิ เกม เครอื่ งมอื วดั ผล และพน้ื ทท่ี แ่ี ตกตา่ งกนั ในผู้ที่เป็นโรคสมาธิส้ันจึงมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะ ในแตล่ ะการศกึ ษา10,11 ตดิ เกม16,17 ในปี ค.ศ. 2013 สมาคมจิตแพทย์อเมริกัน ปัจจุบันมีผู้ศึกษาภาวะติดเกมในเด็กท่ีป่วยเป็น (American Psychiatric Association) ไดเ้ หน็ ความสำ� คญั ของ โรคสมาธิสั้นโดยพบความชุกในประเทศอิหร่านร้อยละ 1122 ผลกระทบจากการเลน่ เกม จงึ นยิ ามภาวะตดิ เกมวา่ “internet และในประเทศไทยร้อยละ 37.57 การศึกษาทั้งสองใช้วิธีการ gaming disorder หรอื IGD” โดยอธบิ ายภาวะติดเกมไว้วา่ ตอบแบบสอบถามเท่านั้น ซ่ึงอาจท�ำให้ได้จ�ำนวนเด็กท่ีมี เปน็ การเลน่ เกมในระยะเวลาตอ่ เนอ่ื งและซำ�้ ๆ สง่ ผลกระทบใน ภาวะติดเกมมากกว่าความเป็นจริง และยังไม่เคยมีการศึกษา ด้านลบหรือเกิดความทุกข์ทรมาน คู่มือเกณฑ์การวินิจฉัยโรค ความชุกภาวะติดเกมโดยการวินิจฉัยด้วยวิธีการสัมภาษณ์ และสถิติส�ำหรับความผิดปกติทางจิต ฉบับท่ี 5 (diagnostic ตามเกณฑ์ DSM-5 มากอ่ น และแมว้ า่ การศึกษาทผี่ ่านมาจะ and statistical manual of mental disorders, 5th edition; แสดงให้เห็นว่าภาวะติดเกมส่งผลกระทบด้านลบต่อเยาวชน DSM-5)12 ไดจ้ ัดภาวะตดิ เกมไว้ในหมวดโรคส่วนท่ี 3 (section แต่ยังไม่มีการศึกษาถึงการสูญเสียหน้าที่ (functional III, “conditions for further study”) ซ่ึงเป็นหมวดโรคท่ี impairment) จากโรคสมาธสิ น้ั ในเดก็ ทป่ี ว่ ยเปน็ โรคสมาธสิ น้ั ยังต้องศึกษาด้านการวินิจฉัยและข้อมูลด้านอ่ืน ๆ เพิ่มเติม ทม่ี ีภาวะติดเกม ดังนั้น การศึกษานจ้ี งึ ตอ้ งการส�ำรวจความชุก วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย 2564;29(2):93-104. 9 5
Internet gaming disorder in children and adolescent with attention deficit hyperactivity disorder Tang-aree-arun D, et al. ของภาวะติดเกมในเด็กท่ีป่วยเป็นโรคสมาธิส้ัน ปัจจัยที่ “ใช่เลย” “น่าจะใช่” “ไม่น่าใช่” “ไม่ใช่เลย” โดยมีคะแนน เกย่ี วขอ้ งกบั ภาวะตดิ เกม และการสญู เสยี หนา้ ทจี่ ากโรคสมาธสิ น้ั cut-off point มากกวา่ หรอื เทา่ กบั 33, 23 และ 30 คะแนน ในเดก็ ท่ปี ่วยเปน็ โรคสมาธสิ นั้ ท่มี ีภาวะติดเกม ส�ำหรับเด็กชาย เด็กหญิง และผู้ปกครองตามล�ำดับ แบบประเมินนี้มีค่า Cronbach’s alpha ฉบับตนเองและ วิธกี าร ฉบับผู้ปกครอง เท่ากับ 0.92 และ 0.94 ตามล�ำดับ และ การศึกษาน้ีเป็นการวิจัยแบบตัดขวาง ผ่านการ 2) แบบประเมินความบกพร่องทางหน้าท่ีในเด็กและวัยรุ่น รับรองจากคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมการวิจัย ที่ป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น (Weiss functional impairment คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เลขท่ี 826/2018 rating scale; WFIRS)24 ฉบบั ภาษาไทย เพอ่ื ศกึ ษาการสญู เสยี ด�ำเนินการเก็บข้อมูลระหว่างเดือนธันวาคม พ.ศ. 2561 ถึง หน้าที่จากโรคสมาธิส้ันในเด็กท่ีป่วยเป็นโรคสมาธิส้ันที่มี สิงหาคม พ.ศ. 2562 ภาวะติดเกม แบบประเมินน้ีประกอบด้วย 2 ฉบับ ได้แก่ เกณฑ์การเข้าร่วมวิจัยคือ ผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นอายุ ฉบบั ประเมินตนเองประกอบด้วยขอ้ ค�ำถาม 69 ข้อ และฉบบั ระหว่าง 6 ถึง 18 ปี ท่ีมารับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอก ประเมนิ โดยผปู้ กครองประกอบดว้ ยขอ้ คำ� ถาม 50 ขอ้ เปน็ การ หนว่ ยจติ เวชเดก็ และวยั รนุ่ โรงพยาบาลศริ ริ าช และผปู้ กครอง ประเมินทักษะด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านครอบครัว ด้านหน้าที่ โดยเกณฑ์การคัดออกคือ ผู้ท่ีได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิต การงาน ดา้ นการเรยี น ทกั ษะการใชช้ วี ติ ประจำ� วนั ดา้ นมมุ มอง (psychotic disorder) ความบกพร่องทางสติปัญญา ตอ่ ตนเอง ด้านการเข้าสังคม และด้านพฤตกิ รรมเส่ียง คำ� ตอบ (intellectual disability) ภาวะออทสิ ซมึ (autistic spectrum เป็นระดับความรุนแรง 4 ระดับ ได้แก่ “ไม่เคยเกิดข้ึน” disorder) และความผิดปกติด้านอารมณ์ท่ีมีอาการรุนแรง “เกิดขึ้นบางครั้ง” “เกิดข้ึนบ่อย ๆ” “เกิดข้ึนเป็นประจ�ำ” จนไม่สามารถร่วมมือในการตอบแบบสอบถามได้ (severe แบบประเมินนี้มคี ่า Cronbach’s alpha ฉบบั ผ้ปู กครองและ mood disorder) ค�ำนวณขนาดตวั อย่างโดยใชส้ ตู รประมาณ ฉบบั ตนเอง เทา่ กบั 0.98 และ 0.97 ตามล�ำดบั ท้ังนีถ้ อื ว่าผูท้ ี่ การความชุกของภาวะติดเกม ท่ีอ้างอิงจากจ�ำนวนผู้ป่วยเด็ก ตอบแบบสอบถามครบและส่งคืนได้ยินยอมเข้าร่วมวิจัย โรคสมาธสิ นั้ ในหนว่ ยตรวจโรคจติ เวชเดก็ และวยั รนุ่ โรงพยาบาล (implied consent) ศิริราช ในปี พ.ศ. 2560 และค่าความชุกของเด็กท่ีมี ระยะที่ 2 การสมั ภาษณท์ างโทรศพั ทเ์ พอ่ื ยนื ยนั การ ปัญหาติดเกมจากการศึกษาของเด็กนักเรียนในเขตดุสิต วินิจฉยั (clinical diagnostic interview) ผู้เข้ารว่ มวจิ ยั กรุงเทพมหานคร8 ร้อยละ 15 (p = .15) ก�ำหนดค่าความ และผปู้ กครองทม่ี ผี ลบวกจากแบบทดสอบการตดิ เกม (GAST) คาดเคลอื่ นทยี่ อมรบั ได้ เทา่ กบั .03 (d = .03) ไดข้ นาดตวั อยา่ ง จะถูกสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น อยา่ งน้อย 455 คน เพอื่ ยืนยันการวินิจฉยั ภาวะติดเกมตาม DSM-5 โดยผเู้ ข้าร่วม การศึกษานดี้ ำ� เนนิ การศกึ ษาใน 2 ระยะดงั น้ี วจิ ยั ทถ่ี กู สมั ภาษณท์ กุ คนจะผา่ นกระบวนการขอความยนิ ยอม ระยะที่ 1 การคัดกรองเด็กที่มีความเสี่ยงติดเกม (informed consent) เกณฑ์การวินิจฉัยภาวะติดเกมคือ (screening test) โดยใช้ 1) แบบทดสอบการตดิ เกม game มีลักษณะการเล่นเกมอย่างต่อเน่ืองและสม�่ำเสมอ ซึ่งอาการ addiction screening test (GAST)23 เพื่อคัดกรองเด็กท่ีมี ดังกล่าวมีผลกระทบท�ำให้เกิดความบกพร่องหรือความทุกข์ ความเสี่ยงติดเกม ประกอบด้วยฉบับประเมินตนเองและ ทรมานอย่างมนี ัยส�ำคัญทางคลนิ กิ แสดงออกตง้ั แต่ 5 อาการ ฉบับประเมินโดยผูป้ กครอง มขี ้อคำ� ถาม 16 ข้อ เพือ่ ประเมนิ ขน้ึ ไป ในระยะเวลา 12 เดอื นท่ผี า่ นมา ดงั ต่อไปนี้ 1) มคี วาม การเลน่ เกม 3 ด้าน ไดแ้ ก่ การหมกมุ่นการติดเกม การสูญเสยี หมกม่นุ สนใจกบั เกม (preoccupation) 2) มีอาการถอนเมอ่ื ความสามารถในการควบคมุ การเลน่ เกม และการสญู เสยี หนา้ ท่ี ถูกขัดขวางไม่ให้เล่นเกม (withdrawal) 3) ใช้เวลาในการ ความรบั ผดิ ชอบ คำ� ตอบเปน็ ระดบั ความรนุ แรง 4 ระดบั ไดแ้ ก่ เล่นเกมนานขึ้นเรื่อย ๆ (tolerance) 4) ไม่สามารถหยุด Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):93-104. 96
ภาวะติดเกมในเดก็ และวัยรุ่นทเ่ี ป็นโรคสมาธสิ นั้ ดษุ เดือน ตงั้ อารอี รณุ และคณะ การเล่นเกมได้ 5) สูญเสียความสนใจทเ่ี คยมตี อ่ กิจกรรมอ่นื ๆ ตวั ตอ่ เนอ่ื ง และใชส้ ถติ ิ chi-square test หรอื Fisher’s exact ยกเว้นการเล่นเกม 6) เล่นเกมอย่างต่อเนื่อง แม้จะทราบว่า ส�ำหรับตัวแปรกลมุ่ การเลน่ นนั้ กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หา 7) โกหกหลอกลวงในเรอื่ งปรมิ าณ เวลาที่ใช้เล่นเกม 8) ใช้การเล่นเกมเพื่อบรรเทาความรู้สึกใน ผล แง่ลบ 9) การเล่นเกมส่งผลกระทบในแง่ลบและเกิดปัญหา การศึกษาน้ีมีผู้ตอบรับเข้าร่วมวิจัยจ�ำนวน 320 คู่ ในเร่อื งความสมั พันธ์ การงาน และการศกึ ษา คดิ เปน็ อตั ราการตอบกลบั รอ้ ยละ 70.3 ผทู้ ต่ี อบแบบสอบถาม วเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยสถติ เิ ชงิ พรรณนา นำ� เสนอตวั แปร ครบและส่งคนื จ�ำนวน 317 คู่ การคดั กรองเด็กที่มีความเสี่ยง ต่อเน่ืองโดยใช้ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ตัวแปรกลุ่ม ติดเกมโดยใช้แบบทดสอบการติดเกม (GAST) พบเด็กท่ีป่วย น�ำเสนอโดยใช้ความถี่ ร้อยละ เปรียบเทียบความแตกต่าง เป็นโรคสมาธิสั้นที่น่าจะติดเกมร้อยละ 22.1 จากจ�ำนวนน้ี ระหว่างกลุ่มด้วยค่า p-value โดยใช้สถิติ t-test ส�ำหรับ พบว่ามีผู้ท่ีถูกถอนออกจากงานวิจัย (drop out) ในข้ันตอน การสมั ภาษณท์ างโทรศพั ทท์ ง้ั หมด 15 คน ดงั นนั้ จงึ มเี ดก็ ทป่ี ว่ ย เชิญชวนเด็กและผูป้ กครอง 455 คู่ เขา้ รว่ มการวจิ ัย ปฏิเสธการเขา้ รว่ มวจิ ัย 135 คู่ จำนวนผูเ้ ขา้ รว่ มวจิ ยั 320 คู่ ไมส่ ง่ แบบสอบถามคนื 3 คู่ จำนวนผตู้ อบแบบสอบถามครบและส่งคนื 317 คู่ จำนวนแบบทดสอบการตดิ เกม (GAST) จำนวนแบบทดสอบการตดิ เกม (GAST) มผี ลเป็นบวก 70 คน (เดก็ ) มผี ลเป็นลบ 247 คน (เด็ก) รอ้ ยละ 22.1 (70 × 100) 317 - ปฏิเสธกระบวนการขอความยนิ ยอม 10 คน - ปฏิเสธการสมั ภาษณ์ทางโทรศพั ท์ 1 คน - ตดิ ต่อไม่ได้ 4 คน จำนวนผูท้ ผี่ ่านการสัมภาษณ์ เพ่ือการวนิ ิจฉยั โดยจิตแพทยเ์ ดก็ ฯ 55 คน จำนวนเดก็ สมาธสิ นั้ ทีเ่ ข้าเกณฑ์ จำนวนเดก็ สมาธสิ นั้ ที่ไม่เข้าเกณฑ์ การวินิจฉยั ภาวะติดเกม (IGD) 25 คน การวินิจฉยั ภาวะติดเกม (IGD) 30 คน รอ้ ยละ 8.3 (25 × 100) 302 GAST, Game Addiction Screening Teat; IGD, Internet Gaming Disorder แผนภาพที่ 1 แสดงขนั้ ตอนการศกึ ษา วารสารสขุ ภาพจิตแห่งประเทศไทย 2564;29(2):93-104. 9 7
Internet gaming disorder in children and adolescent with attention deficit hyperactivity disorder Tang-aree-arun D, et al. ตารางที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปของกลมุ่ ตวั อย่าง ขอ้ มูล รวม จ�ำนวน (ร้อยละ) p-value ADHD with IGD ADHD with Non-IGD .78 ข้อมลู เดก็ 259 (85.8) .80 เพศ 43 (14.2) 21 (84.0) 238 (85.9) .19 76 (25.2) 4 (16.0) 39 (14.1) .32 ชาย 90 (29.8) 7 (28.0) 69 (24.9) หญิง 136 (45.0) 6 (24.0) 84 (30.3) .36 ชนดิ ของโรคสมาธสิ ั้น 143 (47.4) 12 (48.0) 124 (44.8) ซนไมน่ งิ่ 159 (52.7) 15 (60.0) 128 (46.2) .83 เหมอ่ ลอย 10 (40.0) 149 (53.8) ผสม 39 (13.0) โรคร่วมอื่น 202 (67.1) 2 (8.0) 37 (13.4) มโี รครว่ ม 35 (11.6) 18 (72.0) 184 (66.7) ไม่มโี รคร่วม 25 (8.3) 3 (12.0) 32 (11.6) 50 (15.8) 2 (8.0) 23 (8.3) ข้อมูลผ้ปู กครอง 75 (23.7) 5 (20.0) 45 (15.5) ความสัมพนั ธก์ ับเดก็ 32 (10.1) 6 (24.0) 69 (23.7) 159 (50.3) 1 (4.0) 31 (10.7) พอ่ 53 (17.6) 13 (52.0) 146 (50.2) แม่ 92 (30.5) 6 (24.0) 47 (17.0) ปยู่ ่าตายาย 50 (16.6) 8 (32.0) 84 (30.3) อ่นื ๆ 44 (14.6) 4 (16.0) 46 (16.6) การศกึ ษา 63 (20.9) 2 (8.0) 42 (15.2) ประถมศกึ ษา 5 (20.0) 58 (20.9) มธั ยมศกึ ษา ปวช./ปวส. ปรญิ ญาตรี หรือสงู กว่า รายได้ต่อเดอื น (บาท) < 10,000 10,001 – 20,000 20,001 – 30,000 30,001 – 40,000 > 40,001 – 50,000 Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):93-104. 98
ภาวะติดเกมในเด็กและวัยรุน่ ท่ีเปน็ โรคสมาธิสนั้ ดุษเดอื น ตัง้ อารอี รุณ และคณะ เปน็ โรคสมาธสิ ัน้ ท่ีน่าจะติดเกมทัง้ หมด 55 คน ทถี่ ูกสมั ภาษณ์ ด้านโรงเรยี น ทักษะการใช้ชวี ติ มมุ มองท่ีมีตอ่ ตนเอง และด้าน โดยจิตแพทย์ จากการสัมภาษณ์เพ่ือยืนยันการวินิจฉัยตาม พฤตกิ รรมเสี่ยง แสดงดงั แผนภาพท่ี 3 DSM-5 พบเดก็ ทปี่ ว่ ยเปน็ โรคสมาธสิ นั้ ทไ่ี ดร้ บั การวนิ จิ ฉยั ภาวะ วิจารณ์ ติดเกม 25 คน คิดเป็นร้อยละ 8.3 แสดงดังแผนภาพท่ี 1 การศกึ ษานห้ี าความชกุ ของภาวะตดิ เกมในเดก็ ทป่ี ว่ ย กลุ่มตัวอย่างเด็กมีอายุเฉลี่ย 10.35 + 2.7 ปี เกรดเฉลี่ย เป็นโรคสมาธิส้ันด้วยการสัมภาษณ์โดยอาศัยเกณฑ์การ 2.96 + 0.7 ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ วนิ จิ ฉยั DSM-5 พบความชกุ ของภาวะตดิ เกมในเดก็ ทป่ี ว่ ยเปน็ ระหวา่ งกลมุ่ ทม่ี ภี าวะตดิ เกมและไมต่ ดิ เกม ขอ้ มลู ทว่ั ไปของเดก็ โรคสมาธิส้ันร้อยละ 8.3 น้อยกว่าการศึกษาก่อนหน้าน้ี และผู้ปกครองกลุ่มที่มีภาวะติดเกมและไม่ติดเกมไม่มี ในตา่ งประเทศทพ่ี บความชกุ ของภาวะตดิ เกมในเดก็ ทป่ี ว่ ยเปน็ ความแตกต่างอย่างมีนยั สำ� คญั ทางสถิติ แสดงดงั ตารางท่ี 1 โรคสมาธิส้ันร้อยละ 1122 และในประเทศไทยท่ีพบความชุก จากการศึกษาปัจจัยที่เก่ียวข้อง พบว่าในกลุ่มที่มี ร้อยละ 37.57 เนอ่ื งจากการศกึ ษาท่ผี า่ นมาใชแ้ บบสอบถามใน ภาวะติดเกมใช้ระยะเวลาในการเล่นเกมมากกว่ากลุ่มท่ีไม่ การคดั กรองเพยี งขนั้ ตอนเดยี วซง่ึ อาจทำ� ใหค้ า่ ทไี่ ดส้ งู กวา่ และ ตดิ เกมอยา่ งมีนยั ส�ำคัญทางสถติ ิ (p < .05) โดยพบวา่ ผปู้ ว่ ย ใช้เคร่ืองมือคัดกรองภาวะติดเกมท่ีแตกต่างกัน การศึกษานี้ เด็กสมาธิสั้นที่มีภาวะติดเกมใช้เวลาในการเล่นเกมในช่วง เป็นการศึกษาแรกที่ใช้แบบสอบถามคัดกรองร่วมกับการ ปิดเทอมมากท่ีสุดเฉล่ีย 8.2 ชั่วโมงต่อวัน รองลงมา คือช่วง สัมภาษณ์จากจิตแพทย์โดยอาศัยเกณฑ์การวินิจฉัยของ วันหยุดเสาร์และอาทิตย์เฉลี่ย 6.4 ชั่วโมงต่อวัน และช่วง DSM-5 ในการหาความชุกของภาวะติดเกมในเด็กท่ีป่วยเป็น เปิดเทอมวันจันทร์ถึงศุกร์เฉล่ีย 2.9 ชั่วโมงต่อวัน ตามลำ� ดับ โรคสมาธสิ ั้น และผู้ป่วยเด็กสมาธิสั้นที่มีภาวะติดเกมส่วนใหญ่นิยมเล่นเกม เมื่อเปรียบเทียบการศึกษานี้กับกลุ่มประชากรท่ัวไป ท่ีมีความรุนแรง (violent game) มากกว่าเด็กสมาธิส้ันท่ีไม่ จะพบว่า อัตราความชุกของภาวะติดเกมในเด็กที่ป่วยเป็น ติดเกม 7.69 เท่า (OR = 7.69; 95% CI: 1.78 - 33.27; โรคสมาธิส้ันมีอัตราความชุกสูงกว่าเด็กปกติทั่วไป โดยพบ p < .05) แสดงดงั ตารางท่ี 2 ความชกุ ของภาวะตดิ เกมในเดก็ ทว่ั โลกเฉลยี่ รอ้ ยละ 4.6-5.53,5 การประเมินความบกพร่องทางหน้าท่ีโดยใช้ สอดคล้องกับผลของการศึกษาเดิมที่พบความชุกของภาวะ แบบประเมนิ WFIRS ฉบบั ภาษาไทยพบว่า ในเด็กที่ปว่ ยเป็น ตดิ เกมในเดก็ ทป่ี ว่ ยเปน็ โรคสมาธสิ นั้ มากกวา่ ในเดก็ ทไ่ี มไ่ ดเ้ ปน็ โรคสมาธิส้ันและมีภาวะติดเกมมีค่าเฉล่ียของคะแนนรวม โรคสมาธิส้ัน7,22 การพบความชุกของภาวะติดเกมที่มากกว่า สูงกว่ากลุ่มท่ีไม่ติดเกมอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติทั้งฉบับ ในผู้ป่วยสมาธิส้ันสามารถอธิบายได้จากลักษณะหุนหัน ประเมินตนเองและฉบับประเมินโดยผู้ปกครอง แสดงดัง พลนั แลน่ (impulsivity)18,20,21 การขาดสมาธิ (inattentive)18 แผนภาพท่ี 2 ค่าเฉลี่ยของคะแนนรวมที่สูงกว่าแสดงถึง การขาดการยบั ย้งั ตนเอง (poor self-regulation)16,20 ที่เปน็ การสูญเสียหน้าท่ีจากโรคสมาธิส้ันที่มากกว่า นอกจากนี้เม่ือ อาการส�ำคัญของโรคสมาธิสั้น ซ่ึงลักษณะดังกล่าวมีความ เปรยี บเทียบรายด้านพบว่า ในเด็กทป่ี ว่ ยเป็นโรคสมาธสิ น้ั และ สัมพันธ์กับภาวะติดเกม โดยท�ำให้ผู้ป่วยสมาธิสั้นหมกมุ่นใน มีภาวะติดเกมมีความบกพร่องทางหน้าที่มากกว่ากลุ่มที่ไม่ การเล่นเกมมากกว่าเด็กปกติท่ัวไป16,17 และในทางกลับกัน ตดิ เกมในทกุ ๆ ดา้ น โดยในแบบประเมินฉบบั ตนเองพบความ พบว่าการเล่นเกมส่งผลให้เกิดการขาดสมาธิมากข้ึน16,18,19 บกพรอ่ งทีแ่ ตกตา่ งอยา่ งมีนยั ส�ำคญั ทางสถติ ิในดา้ นครอบครวั การศึกษาก่อนหน้าน้ีพบว่าผู้ป่วยสมาธิส้ันใช้การเล่นเกมเพื่อ ดา้ นหนา้ ทก่ี ารงาน ทกั ษะการใชช้ วี ติ ประจำ� วนั และดา้ นความ หลบหลีกความรู้สึกแง่ลบของตนเองและปัญหาท่ีเผชิญใน เส่ียงอ่ืน ๆ ในขณะที่ฉบับประเมินโดยผู้ปกครองพบความ ชีวิตจริง3,17,25 นอกจากนี้ยังสามารถอธิบายความสัมพันธ์ของ บกพรอ่ งทแี่ ตกต่างอยา่ งมนี ยั ส�ำคญั ทางสถิติในดา้ นครอบครวั ภาวะติดเกมและโรคสมาธิส้ันได้จากกลไกทางสมองที่พบว่า วารสารสขุ ภาพจติ แห่งประเทศไทย 2564;29(2):93-104. 9 9
Internet gaming disorder in children and adolescent with attention deficit hyperactivity disorder Tang-aree-arun D, et al. ADHD with IGD ADHD with IGD ADHD with Non-IGD 42.92 50 50 44.52 44.52 ADHD with Non-IGD 45 45 (p < .05) (p < .05) (p < .05) 42.92 (p < .05) 40 40 คะแนนรวม ุทกด้าน (คะแนนเฉลี่ย) 35 35 30.59 30.59 27.98 27.98 คะแนนรวมทุก ้ดาน (คะแนนเฉ ี่ลย)30 30 25 25 20 15 20 10 15 5 10 05 0 ฉบบั ประเมนิ ตนเอง ฉบับผปู้ กครองประเมนิ แผนภาพท่ี 2 คะแนนรวมทกุ ด้าฉนบบั จปารกะแเมบนิบตปนรเะอเงมนิ ความบกพร่องทางหน้าท่ใี นเด็กและวฉัยบรบั ุ่นผทู้ป่ีปกคว่ รยอเปงปน็ รโะรเคมสินมาธิสน้ั (WFIRS) แผนภาพแทผ่ี 2นคภะาแพนทนร่ี 2วมคทะุกแดา้นนนจราวกมแบทบกุ ปดร้าะนเมินจคาวกาแมบบบกพปรร่อะงเทมานิงหคนวา้าทมีใ่ บนเกดพก็ แรลอ่ ะงวทัยารงุ่นหทนป่ี ว่้ายทเ่ีใปน็นเโดรคก็ สแมลาะธวสิ ัน้ัยร(Wุ่นทFIีป่RSว่ )ยเป็นโรคสมาธิสนั้ ADHD with IGD ADHD with Non-IGD 14 12.3 16.0 13.6 ADHD with IGD ADHD 14.0 (p < .05) 10.8 12 (p < .05) 10 14 12.3 12.0 16.0 9.6 13.6 8 8.4 (p < .05) 6 5.812 7.3 10.0 7.3 14.0 คะแนนเฉลี่ย 4 6.4 2.7 5.4 8.0 คะแนนเฉ ่ีลย 5.9 (p < .0153).25.0 2 (p < .03) 6.0 คะแนนเฉล่ีย 0 8.44.1 4.0 คะแนนเฉ ่ลีย 10.0 (p < .1050) 5.3 5.2 10.8 5.4 2.0 8.0 (p < .05) 3.7 7.3 4 3.3 4.1 30.03 (p3=.6.901.)6 6.0 (p52<.9.3.051)(.4p7<.3.0453.3).53.4 8 5.8 (p < .03) 6.4 (p < .05) (p < .05) 2.3 6 (p < .05) 4.0 5.3 5.2 1.7 4 3.7 4 2.3 4.3 2.7 (p < .051).4 2 1.7 2.0 0 ฉบบั ประเมนิ ตนเอง ฉบ0บั .ผ0ู้ปกครองประเมิน แผนภาพท่ี 3 คะแนนเฉลี่ยในแต่ละด้านจากแบบประเมนิ ความบกพร่องทางหน้าที่ในเดก็ และวยั ร่นุ ทป่ี ว่ ยเปน็ โรคสมาธิสน้ั (WFIRS) Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):93-104. 100 ฉบับประเมนิ ตนเอง ฉบับผูป้ กครองประเมิน
ภาวะติดเกมในเดก็ และวัยรนุ่ ทเ่ี ปน็ โรคสมาธสิ ั้น ดุษเดอื น ตง้ั อารอี รุณ และคณะ ทั้งสองภาวะพบกลไกการควบคุมการท�ำงานของตวั รบั สารสอื่ มากกว่ากลุ่มท่ีไม่มีภาวะติดเกมอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ ประสาทโดพามีนท่ีผิดปกติ (D2 receptor dysregulation) เมอื่ วเิ คราะหร์ ายดา้ นพบวา่ กลมุ่ ทม่ี ภี าวะตดิ เกมพบการสญู เสยี บริเวณสมองส่วนหน้า (orbitofrontal cortex) ส่งผลให้ หนา้ ทจ่ี ากโรคสมาธสิ น้ั รายดา้ นมากกวา่ กลมุ่ ทไ่ี มม่ ภี าวะตดิ เกม ขาดการควบคุมตนเอง (loss of self-control) และ เชน่ กนั ขอ้ มลู ดงั กลา่ วสอดคลอ้ งกบั การศกึ ษาเดมิ 18,19 ทพี่ บวา่ มีพฤติกรรม compulsive behavior ทั้งนี้ยังพบว่า การเล่นเกมและปัญหาสมาธิส่งผลต่อกันทั้งสองทิศทาง สารสื่อประสาทโดพามีนที่ลดลงส่งผลต่อ dopaminergic (bidirectional causality) นัน่ คอื การเล่นเกมเปน็ เวลานาน reward activity ทำ� ให้เกิดพฤติกรรมการตดิ เกมที่มากขน้ึ 26 ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสมาธิและความหุนหันพลันแล่น การศึกษาคร้ังนี้พบว่าระยะเวลาในการเล่นเกมมี ในขณะเดียวกันเด็กที่มีอาการขาดสมาธิ และความหุนหัน ความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการติดเกม โดยความสัมพันธ์นี้ พลนั แลน่ มากกวา่ มกั จะใชเ้ วลาในการเลน่ เกมมากกวา่ เชน่ กนั ไม่สามารถระบุได้ว่าระยะเวลาในการเล่นเกมที่นานข้ึน เนื่องจากการศึกษาน้ีเป็นการศึกษาแบบตัดขวาง จึงแสดง เป็นสาเหตุหรือเปน็ ผลจากการตดิ เกมเนอ่ื งจากเป็นการศึกษา ให้เห็นเพียงว่าการสูญเสียหน้าที่จากโรคสมาธิสั้นและภาวะ ภาคตัดขวาง อย่างไรก็ตามในการศึกษาที่ผ่านมาแสดงให้ ตดิ เกมมคี วามสมั พนั ธก์ นั โดยปจั จยั ทที่ ำ� ใหก้ ลมุ่ ทม่ี ภี าวะตดิ เกม เห็นว่าการเล่นเกมเป็นเวลานานส่งผลต่อปัญหาด้านสมาธิ18 สูญเสียหน้าท่ีจากโรคสมาธิส้ันมากกว่า อาจมาจากในกลุ่ม และในขณะเดยี วกนั ในผทู้ ม่ี ปี ญั หาการขาดสมาธกิ ม็ แี นวโนม้ ที่ ดงั กลา่ วเปน็ กลมุ่ ทมี่ คี วามรนุ แรงของโรคสมาธสิ นั้ ทมี่ าก สง่ ผล ใช้เวลาในการเล่นเกมมากขึ้น18 แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า ให้มีการสูญเสียหน้าที่จากโรคสมาธิสั้นมากกว่าและน�ำไปสู่ ปัจจัยด้านเวลาเป็นความเส่ียงของภาวะติดเกม20 นอกจากนี้ การตดิ เกม หรอื อาจเกดิ จากภาวะติดเกมเองทสี่ ่งผลให้อาการ การศกึ ษานย้ี งั พบวา่ เดก็ สมาธสิ น้ั ทมี่ ภี าวะตดิ เกมนยิ มเลน่ เกม ของโรคสมาธิส้ันมีความรุนแรงและสูญเสียหน้าท่ีจาก ท่ีมีความรุนแรง (violent game) มากกว่าเด็กสมาธิส้ันท่ี โรคสมาธสิ น้ั มากขน้ึ ไม่ติดเกม การศึกษาที่ผ่านมาพบว่าเนื้อหาของสื่อประเภท การศกึ ษานมี้ ขี อ้ จำ� กดั ในระเบยี บวธิ ที ใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา ความรุนแรงมักกระตุ้นให้เกิดความต่ืนเต้น เร้าใจ และดึงดูด ที่แสดงให้เห็นเพียงความสัมพันธ์ของโรคสมาธิสั้นและ ในผู้เล่น15 นอกจากน้ีแล้ว การแข่งขันในเกม (social ภาวะติดเกม ไม่สามารถบอกได้ว่าปัจจัยใดเป็นสาเหตุและ competition) ความรสู้ กึ มพี วกพอ้ ง (sense of community) ปัจจัยใดเป็นผล และมีข้อจ�ำกัดตรงท่ีงานวิจัยนี้ไม่ได้มีการ และระบบการได้รางวัล เป็นปัจจัยท่ีส่งผลให้ได้รับความนิยม ควบคมุ ปจั จยั รบกวน เชน่ ระดบั ความรนุ แรงของโรคสมาธสิ นั้ 29 จนน�ำไปสู่การติดเกม3,28 ในขณะเดียวกันเกมที่มีลักษณะ ปรมิ าณยาสมาธสิ นั้ ทไี่ ดร้ บั ในแตล่ ะคน29,30 ปญั หาดา้ นอารมณ3์ 1 ความรนุ แรง พบวา่ มคี วามสมั พนั ธก์ บั สมาธทิ ล่ี ดลง และสง่ ผล ลักษณะการเล้ียงดูและความสัมพันธ์ในครอบครัว32 เป็นต้น ตอ่ อาการหุนหนั พลนั แล่นที่มากขนึ้ อกี ดว้ ย18 ที่อาจสง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรมการเล่นเกมและส่งผลตอ่ การสูญเสีย การศึกษาน้ีเป็นคร้ังแรกที่ศึกษาการสูญเสียหน้าท่ี หน้าที่จากโรคสมาธิสั้น ท้ังนี้การศึกษาที่จะบอกได้ถึงสาเหตุ ในเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นและมีภาวะติดเกม โดยใช้ และผลควรเปน็ การศกึ ษาแบบตดิ ตามไปขา้ งหนา้ (prospective แบบสอบถาม WFIRS ท่ีเป็นแบบประเมินการสูญเสียหน้าท่ี study) และมกี ารควบคมุ ตวั แปรกวนทอี่ าจมผี ลตอ่ การตดิ เกม จากโรคสมาธิสั้นในด้านต่าง ๆ ซ่ึงคะแนน WFIRS ท่ีสูง และการสูญเสียหน้าท่ีจากโรคสมาธิสัน้ แสดงให้เห็นว่าเด็กมีการเสียหน้าที่ในด้านน้ัน ๆ ในการ ศึกษานี้พบว่ากลุ่มที่มีภาวะติดเกมมีคะแนนรวม WFIRS สรุป สูงกว่า ท้ังจากการประเมินตนเองและประเมินโดยผู้ปกครอง ภาวะติดเกมเป็นโรคร่วมท่ีพบได้บ่อยในเด็กที่ป่วย โดยการเสียหน้าท่ีจากโรคสมาธิสั้นในกลุ่มท่ีมีภาวะติดเกม เปน็ โรคสมาธสิ น้ั พบความชกุ ของภาวะตดิ เกมในเดก็ ทป่ี ว่ ยเปน็ วารสารสขุ ภาพจิตแห่งประเทศไทย 2564;29(2):93-104. 1 0 1
Internet gaming disorder in children and adolescent with attention deficit hyperactivity disorder Tang-aree-arun D, et al. โรคสมาธสิ นั้ รอ้ ยละ 8.3 และพบวา่ ภาวะตดิ เกมมคี วามสมั พนั ธ์ 5. Fam JY. Prevalence of internet gaming disorder in กับการสูญเสียหน้าที่จากโรคสมาธิสั้น การศึกษาน้ีแสดง adolescents: a meta-analysis across three decades. ให้เห็นว่าแพทย์ควรประเมินภาวะติดเกมในเด็กท่ีป่วยเป็น Scand J Psychol. 2018;59(5):524-31. doi:10.1111/ โรคสมาธสิ นั้ ทกุ ครง้ั ระหวา่ งตดิ ตามการรกั ษา เพอื่ ปอ้ งกนั และ sjop.12459. รักษาภาวะติดเกม อันจะส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือ อย่างเหมาะสม ทันท่วงที และลดการสูญเสียหน้าท่ีใน 6. Chupradit S, Kaewmamuang N, Kienngam N, ดา้ นตา่ ง ๆ Chupradit P. Prevalence and correlates between กิตติกรรมประกาศ game addiction and stress of adolescents in ผู้วิจัยขอขอบคุณ กองทุนเด็กไทยไม่ติดเกม Chiang Mai, Thailand. Indian J Public Health ศิริราชมูลนิธิ ที่ให้ทุนสนับสนุนงานวิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Res Dev. 2019;10(8):1091. doi:10.5958/0976- แพทยห์ ญิงสริ นิ ดั ดา ปัญญาภาส ท่ีอนุญาตใหใ้ ชแ้ บบประเมนิ 5506.2019.02042.4. WFIRS ฉบับภาษาไทย และคุณเพียงจิตต์ ธารไพรสาณฑ์ ที่ชว่ ยวเิ คราะห์ข้อมูลทางสถิติ 7. Kietglaiwansiri T, Chonchaiya W. Pattern of video game use in children with attention-deficit- เอกสารอา้ งอิง hyperactivity disorder and typical development. Pediatr Int. 2018;60(6):523-8. doi:10.1111/ped.13564. 1. Dreier M, Wölfling K, Duven E, Giralt S, Beutel ME, Müller KW. Free-to-play: about addicted whales, at 8. วรุณา กลกิจโกวินท์, ชัยพร วิศิษฎ์พงศ์อารีย์, พิสาส์น risk dolphins and healthy minnows, monetarization เตชะเกษม, ชาญวิทย์ พรนภดล, บุษบา ศุภวัฒน์ธนบดี. design and internet gaming disorder. Addict Behav. การติดเกมคอมพิวเตอร์ ปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกันของ 2017;64:328-33. doi:10.1016/j.addbeh.2016.03.008. เด็กนักเรียน ในเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร [Computer game addiction: risk and protective factors in 2. Gentile DA, Bailey K, Bavelier D, Brockmyer JF, students in Dusit District, Bangkok]. วชิรเวชสาร. Cash H, Coyne SM, et al. Internet gaming disorder 2558;59(3):1-14. in children and adolescents. Pediatrics. 2017;140 (Suppl 2):S81-5. doi:10.1542/peds.2016-1758H. 9. Taechoyotin P, Tongrod P, Thaweerungruangkul T, Towattananon N, Teekapakvisit P, Aksornpusitpong 3. Paulus FW, Ohmann S, von Gontard A, Popow C. C, et al. Prevalence and associated factors of Internet gaming disorder in children and adolescents: internet gaming disorder among secondary school a systematic review. Dev Med Child Neurol. students in rural community, Thailand: a cross- 2018;60(7):645-59. doi:10.1111/dmcn.13754. sectional study. BMC Res Notes. 2020;13(1):11. doi:10.1186/s13104-019-4862-3. 4. VAN Rooij AJ, Kuss DJ, Griffiths MD, Shorter GW, Schoenmakers MT, VAN DE Mheen D. The (co-) 10. Feng W, Ramo DE, Chan SR, Bourgeois JA. Internet occurrence of problematic video gaming, substance gaming disorder: trends in prevalence 1998-2016. use, and psychosocial problems in adolescents. Addict Behav. 2017;75:17-24. doi:10.1016/j. J Behav Addict. 2014;3(3):157-65. doi:10.1556/ addbeh.2017.06.010. JBA.3.2014.013. 11. Petry NM, Rehbein F, Ko CH, O’Brien CP. Internet gaming disorder in the DSM-5. Curr Psychiatry Rep. 2015;17(9):72. doi:10.1007/s11920-015-0610-0. 12. American Psychiatric Association. Diagnostic and statistical manual of mental disorders (DSM-5). 5th ed. Washington, DC: American Psychiatric Publishing; 2013. Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):93-104. 102
ภาวะติดเกมในเดก็ และวัยร่นุ ท่เี ป็นโรคสมาธสิ ้นั ดษุ เดอื น ตั้งอารีอรุณ และคณะ 13. World Health Organization. The ICD-11 classification 21. Yen JY, Liu TL, Wang PW, Chen CS, Yen CF, Ko CH. of mental and behavioral disorders: diagnostic Association between Internet gaming disorder and criteria for research. Geneva, Switzerland: World adult attention deficit and hyperactivity disorder Health Organization; 2018. and their correlates: impulsivity and hostility. Addict Behav. 2017;64:308-13. doi:10.1016/j. 14. ชาญวิทย์ พรนภดล. โรคสมาธิสั้น [Attention Deficit addbeh.2016.04.024. Hyperactivity Disorder]. กรุงเทพฯ: ส�ำนักพิมพ์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล; 22. Razjouyan K, Khademi M, Dorandish ZY, Davari- 2561. น. 425. Ashtiani R. An investigation into the frequency of addiction to video games in children with 15. Nikkelen SW, Valkenburg PM, Huizinga M, attention-deficit hyperactivity disorder. J Family Bushman BJ. Media use and ADHD-related behaviors Med Prim Care. 2020;9(2):669-72. doi:10.4103/jfmpc. in children and adolescents: a meta-analysis. jfmpc_464_19. Dev Psychol. 2014;50(9):2228-41. doi:10.1037/ a0037318. 23. ชาญวิทย์ พรนภดล, บัณฑิต ศรไพศาล, กุสุมาวดี ค�ำเกลี้ยง, เสาวนีย์ พัฒนอมร. การพัฒนาแบบทดสอบการติดเกม 16. Stenseng F, Hygen BW, Wichstrøm L. Time spent [The development of game addiction screening test gaming and psychiatric symptoms in childhood: (GAST)]. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. cross-sectional associations and longitudinal effects. 2557;59(1):3-14. Eur Child Adolesc Psychiatry. 2020;29(6):839-47. doi:10.1007/s00787-019-01398-2. 24. สริ นิ ดั ดา ปญั ญาภาส, ชาญวทิ ย์ พรนภดล, วฐิ ารณ บญุ สทิ ธ,ิ พรรณเพชร ลิขิตเกียรติขจร. ความเช่ือถือได้และความ 17. Weinstein A, Weizman A. Emerging association แม่นตรงของแบบประเมินความบกพร่องทางหน้าที่ใน between addictive gaming and attention-deficit/ เด็กและวัยรุ่นท่ีป่วยเป็นโรคสมาธิสั้น Weiss functional hyperactivity disorder. Curr Psychiatry Rep. impairment rating scale (WFIRS) ฉบับภาษาไทย 2012;14(5):590-7. doi:10.1007/s11920-012-0311-x. [Reliability and validity of weiss functional impairment rating scale (WFIRS)-Thai version in 18. Gentile DA, Swing EL, Lim CG, Khoo A. Video game children and adolescents with attention deficit playing, attention problems, and impulsiveness: hyperactivity disorder]. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่ง evidence of bidirectional causality. Psychol Pop ประเทศไทย. 2558;60(2)111-26. Media Cult. 2012;1(1):62-70. doi:10.1037/a0026969. 25. Chou WJ, Chang YP, Yen CF. Boredom proneness 19. Swing EL, Gentile DA, Anderson CA, Walsh DA. and its correlation with internet addiction and Television and video game exposure and the internet activities in adolescents with attention- development of attention problems. Pediatrics. deficit/hyperactivity disorder. Kaohsiung J Med Sci. 2010;126(2):214-21. doi:10.1542/peds.2009-1508. 2018;34(8):467-74. doi:10.1016/j.kjms.2018.01.016. 20. Rho MJ, Lee H, Lee TH, Cho H, Jung DJ, Kim DJ, 26. Weinstein AM. An update overview on brain imaging et al. Risk factors for internet gaming disorder: studies of internet gaming disorder. Front Psychiatry. psychological factors and internet gaming 2017;8:185. doi:10.3389/fpsyt.2017.00185. characteristics. Int J Environ Res Public Health. 2017;15(1):40. doi:10.3390/ijerph15010040. วารสารสุขภาพจติ แหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):93-104. 1 0 3
Internet gaming disorder in children and adolescent with attention deficit hyperactivity disorder Tang-aree-arun D, et al. 27. Tolchinsky A, Jefferson SD. Problematic video game 31. Reid A, Graziano P, McNamara J, Paneto A, play in a college sample and its relationship to Geffken G. Functional impairment differences time management skills and attention-deficit/ among youth with ADHD: The role of comorbid hyperactivity disorder symptomology. Cyberpsychol anxiety and mood disorders. J Nat Sci. 2015;1(1):e31. Behav Soc Netw. 2011;14(9):489-96. doi:10.1089/ cyber.2010.0315. 32. Deault LC. A systematic review of parenting in relation to the development of comorbidities 28. Lemmens JS, Hendriks SJ. Addictive online games: and functional impairments in children with examining the relationship between game genres attention-deficit/hyperactivity disorder (ADHD). and internet gaming disorder. Cyberpsychol Child Psychiatry Hum Dev. 2010;41(2):168-92. Behav Soc Netw. 2016;19(4):270-6. doi:10.1089/ doi:10.1007/s10578-009-0159-4. cyber.2015.0415. 29. Sasser T, Schoenfelder EN, Stein MA. Targeting functional impairments in the treatment of children and adolescents with ADHD. CNS Drugs. 2017;31(2):97-107. doi:10.1007/s40263-016-0400-1. 30. Coghill DR, Banaschewski T, Soutullo C, Cottingham MG, Zuddas A. Systematic review of quality of life and functional outcomes in randomized placebo-controlled studies of medications for attention-deficit/hyperactivity disorder. Eur Child Adolesc Psychiatry. 2017;26(11):1283-307. doi:10.1007/s00787- 017-0986-y. Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):93-104. 104
คุณสมบตั ขิ องแบบประเมินความฉลาดทางสตสิ ัมปชัญญะไทย รุจนิ นั ท เหล่านยิ มไทย และคณะ นิพนธ์ตน้ ฉบับ การศกึ ษาคณุ สมบตั ิของแบบประเมนิ ความฉลาดทางสตสิ มั ปชัญญะไทย วนั รบั : 5 กรกฎาคม 2562 รจุ ินันท เหลา่ นิยมไทย, วท.ม., ศุภโชค สิงหกนั ต,์ พ.บ., วนั แกไ้ ข : 17 พฤษภาคม 2564 สชุ ีรา ภทั รายุตวรรตน์, ปร.ด. วนั ตอบรบั : 18 พฤษภาคม 2564 ภาควชิ าจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล บทคดั ยอ่ วตั ถุประสงค์ : เพ่ือพฒั นาและทดสอบคุณสมบัตกิ ารวดั ของแบบประเมินความฉลาดทางสตสิ ัมปชญั ญะฉบับภาษาไทย วิธีการ : แบบประเมินความฉลาดทางสติสัมปชัญญะ (consciousness quotient inventory; CQ-i) ฉบับปี 2004 เป็น มาตรวดั รายงานตนเองแบบลเิ คริ ท์ (Likert scale) 6 ระดบั จ�ำนวน 257 ข้อ แบ่งเปน็ 7 องคป์ ระกอบ ได้แก่ ดา้ นรา่ งกาย (physical CQ) ด้านอารมณ์ (emotional CQ) ด้านปัญญา (cognitive CQ) ด้านความสัมพันธ์ (social-relational CQ) ด้านตัวตน (self CQ) ด้านการเตบิ โตภายใน (inner-growth CQ) และดา้ นจติ วิญญาณ (spiritual CQ) แบบประเมินแปลเปน็ ภาษาไทยและตรวจสอบความตรงกับความเทย่ี งในกลุม่ ตัวอย่างท่เี ปน็ นิสติ ระดับปริญญาตรี จำ� นวน 250 คน ผล : แบบประเมินความฉลาดทางสติสัมปชัญญะไทย (CQ-i Thai version) มีดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อค�ำถามและ วตั ถปุ ระสงค์ (index of item-objective congruence; IOC) อยรู่ ะหวา่ ง 0.6 - 1.0 ผ่านเกณฑ์จำ� นวน 256 ขอ้ และมหี นงึ่ ข้อ ที่มีคา่ IOC นอ้ ยกวา่ 0.5 และไดป้ รับปรงุ ตามขอ้ แนะนำ� จากผ้เู ชี่ยวชาญ ผลการตรวจสอบความเทยี่ งดว้ ย Cronbach’s alpha อยู่ในระดับดที ง้ั ฉบบั (.980) และรายองค์ประกอบ (physical CQ = .910, emotional CQ = .894, cognitive CQ = .882, social-relational CQ = .890, self CQ = .848, inner-growth CQ = .847 และ spiritual CQ = .904) สรุป : แบบประเมิน CQ-i ฉบับภาษาไทย มีคา่ ความตรงและความเทย่ี งอยใู่ นระดบั ดี อยา่ งไรกต็ าม ควรทดสอบคณุ สมบตั อิ ่นื เพ่ิมเตมิ เพ่อื ความเหมาะสมสำ� หรบั เป็นเครอื่ งมือในการวจิ ัยและการประเมินทางคลินกิ ค�ำสำ� คัญ : ความฉลาดทางสตสิ มั ปชญั ญะ คุณสมบัตกิ ารวดั ทางจิตวิทยา แบบวดั ความฉลาดทางสติสัมปชญั ญะ ตดิ ตอ่ ผ้นู ิพนธ์ : รุจินันท เหล่านยิ มไทย; e-mail: [email protected] วารสารสุขภาพจิตแหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):105-13. 105
The psychometric properties of the consciousness quotient inventory Thai version Laoniyomthai R, et al. Original article The study of the psychometric properties of the consciousness quotient inventory Thai version Received : 5 July 2019 Rujinant Laoniyomthai, M.Sc., Supachoke Singhakant, M.D., Revised : 17 May 2021 Sucheera Phattharayuttawat, Ph.D. Accepted : 18 May 2021 Department of Psychiatry, Faculty of Medicine Siriraj Hospital Abstract Objective: To develop and examine the psychometric properties of a Thai version of consciousness quotient inventory. Methods: The consciousness quotient inventory beta version 2014 (CQ-i beta v.2014) is a self-report measure with six-point Likert scale. There are 257 items in total which can be categorized into seven factors: physical, emotional, cognitive, social-relational, self, inner-growth, and spiritual. The CQ-i was translated into Thai and examined on its validity and reliability among 250 undergraduate students. Results: The indices of item objective congruence (IOC) of CQ-I Thai version scored between 0.6 - 1.0 for 256 items. One last item with IOC lower than 0.5 was revised upon the expert recommendation. The Cronbach’s alpha of all 257 items (.980) and sub-items of seven factors demonstrated acceptable values. (physical CQ = .910, emotional CQ = .894, cognitive CQ = .882, social- relational CQ = .890, self CQ = .848, inner-growth CQ = .847, and spiritual CQ = .904.). Conclusion: This CQ-i Thai version has good content validity and reliability. However, its psychometric properties should be further examined before application for research and clinical purposes. Keywords: CQ-i, consciousness quotient, psychometric properties Corresponding author: Rujinant Laoniyomthai; e-mail: [email protected] Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):105-13. 106
คุณสมบัติของแบบประเมินความฉลาดทางสติสมั ปชญั ญะไทย รุจนิ นั ท เหลา่ นิยมไทย และคณะ ความรเู้ ดมิ : ความฉลาดทางสตสิ มั ปชญั ญะยงั ไมม่ มี าตรวดั และคณะ6 ได้เสนอทฤษฎคี วามฉลาดทางสติสมั ปชญั ญะ และ ฉบบั ภาษาไทย เผยแพร่แบบประเมิน the consciousness quotient ความรู้ใหม่ : แบบประเมินความฉลาดทางสติสมั ปชัญญะ inventory; CQ-i ฉบับแรก และได้มีการปรับปรุงต่อเน่อื งเพอ่ื ฉบับภาษาไทยท่ีพัฒนามาจาก CQ-i beta v.2014 มี เปน็ เครอ่ื งมอื วดั ทางจติ วทิ ยาทถ่ี กู ตอ้ งและเชอื่ ถอื ไดย้ งิ่ ขนึ้ ในปี ความตรงเชิงเนือ้ หา (content validity) และความเที่ยง 20137 และ 20143 (internal consistency) อย่ใู นระดับดี CQ-i beta 2014 เป็นมาตรวดั รายงานตนเองแบบ ประโยชนท์ จ่ี ะนำ� ไปใช้ : แบบประเมนิ CQ-I Thai version ลเิ คิร์ท (Likert scale) 6 ระดับ จำ� นวน 257 ขอ้ แบ่งการ สามารถนำ� ไปพฒั นาตอ่ เนอ่ื งเพอื่ ใชใ้ นงานวจิ ยั การประเมนิ ผล ประเมินความฉลาดทางสติสัมปชัญญะเป็น 7 องค์ประกอบ การบำ� บัดทางคลินิก หรือการพัฒนาบคุ คลได้ ได้แก่ 1) ด้านร่างกาย (physical CQ) คือ การรับร้ถู งึ รา่ งกาย ของตนเองและกายภาพทางสิ่งแวดล้อม เช่น กริยาท่าทาง ร่างกาย น�้ำเสยี ง และประสาทสมั ผัสต่าง ๆ 2) ด้านอารมณ์ บทน�ำ (emotional CQ) คอื การรบั รอู้ ารมณข์ องตนเองและผอู้ น่ื เชน่ สติ กบั สัมปชัญญะ เป็นสองค�ำที่มลี ักษณะคล้ายกนั การเข้าอกเข้าใจ การเปดิ เผยอารมณ์ การจับอารมณข์ องผูอ้ นื่ “สติ (mindfulness)” หมายถึง ความระลกึ ได้ นกึ ได้ สำ� นึก การยอมรับทางอารมณ์ตนเอง ความฉลาดทางอารมณ์ อยไู่ ม่เผลอ ในขณะที่ “สมั ปชัญญะ” หมายถึง การตระหนกั การแยกแยะและรกั ษาอารมณท์ างบวก และการตอบสนองทาง ความรู้ชัดสิ่งท่ีนึกได้ เข้าใจชัดตามความเป็นจริง (clear อารมณ์ตอ่ บริบททางสงั คม 3) ด้านปัญญา (cognitive CQ) comprehension) ในภาษาไทยจึงมักใช้คู่กันเป็น คือการรับรู้กระแสความคิดต่าง ๆ การตัดสินใจ การท�ำ “สติสัมปชัญญะ (consciousness)” คือ ความระลึกได้และ ความเข้าใจ การท�ำให้มีความหมาย เช่น การหยั่งรู้ ความรตู้ วั หรอื ความรสู้ กึ ตวั ดว้ ยความรอบคอบ1 ในภาวะปกติ การกลั่นกรองทางปัญญา การรู้คิด การสะท้อนตนเอง มนุษย์จะมีสติสัมปชัญญะหรือความสามารถจดจ่ออยู่กับ การพิจารณาอคติ การยืดหยุ่นทางความคิด การคิดอย่างมี ความคิดและส่ิงแวดล้อม รวมท้ังวางแผนและปรับเปล่ียน วจิ ารณญาณ การควบคมุ ความสนใจ การเจรญิ สติ การยอมรบั ความคิดได้อย่างเหมาะสม ความสามารถจดจ่อของแต่ละคน มมุ มองหลากหลาย ความคดิ สรา้ งสรรค์ และความสามารถมอง สะทอ้ นถงึ ภาวะจิตใจ การท�ำความเขา้ ใจ และการท�ำงานของ ภาพรวม 4) ดา้ นความสมั พันธ์ (social-relational CQ) คือ ร่างกายทีแ่ ตกต่างกัน2 สง่ ผลตอ่ ศักยภาพในการใชช้ วี ติ ประจำ� การรบั รใู้ นความสมั พนั ธแ์ ละการเชอ่ื มโยงกบั ผคู้ นรอบขา้ ง เชน่ วนั 3 และบง่ ชถ้ี งึ ภาวะปกตหิ รอื ผดิ ปกต2ิ นอกจากนน้ี กั จติ วทิ ยา การรับรู้รูปแบบการสื่อสารของคนอ่ืน ทักษะการสนทนา ยังพบว่า ความฉลาดทางสติสัมปชัญญะมีความเช่ือมโยงกับ การหยงั่ รูท้ างสังคม และความยืดหย่นุ ในพฤติกรรมทางสงั คม ความคิดและจินตนาการ และเป็นองค์ประกอบส�ำคัญที่ 5) ดา้ นตวั ตน (self CQ) คอื การรบั รูต้ ัวตนและอัตลักษณ์ เชน่ เกย่ี วขอ้ งกบั การใชภ้ าษา การทำ� สมาธิ ภาวะความฝนั การนอน ภาพลักษณ์ การเชื่อมโยงระหว่างอารมณ์และความคิดของ การสะกดจิต และการใช้ยาเสพติดบางชนดิ 4 ตนเอง ความสามารถเหน็ ตวั เองอยา่ งเปน็ รปู ธรรม ความเมตตา อย่างไรก็ตาม การประเมินความฉลาดทาง ในตัวเอง และรับรูบ้ ุคลิกภาพตนเอง 6) ด้านการเติบโตภายใน สติสัมปชัญญะด้วยระเบียบวิธีวิจัยยังเป็นไปได้ยาก เนื่องจาก (inner-growth CQ) คือการรับรู้กระบวนการพัฒนาและ สติสัมปชัญญะเป็นปรากฏการณ์เฉพาะบุคคลที่มีความ เปล่ียนแปลงตนเอง เช่น การเรียนรู้จากประสบการณ์ตัวเอง แปรแปรวนไมส่ ามารถวดั ผลทางวทิ ยาศาสตร์ ทำ� ใหย้ ากตอ่ การ การเปดิ เผยตวั ตน การพฒั นาทางภาษา การยอมรบั คำ� วจิ ารณ์ สร้างตัวแปร เพื่อได้ผลวิเคราะห์ตามเกณฑ์ท่ีเหมาะสมทาง การละทิ้งมุมมองเก่าและเปิดรับมุมมองใหม่ การตรวจสอบ สถิติ5 จึงมีการศึกษาและพัฒนาแบบประเมินความฉลาดทาง อคตทิ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั การเรยี นรู้ และความเขม้ แขง็ ทางจติ ใจ และ สติสัมปชัญญะมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2008 Brazdau 7) ด้านจติ วญิ ญาณ (spiritual CQ) คอื การรับรูค้ วามเช่ือมโยง วารสารสขุ ภาพจติ แหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):105-13. 107
The psychometric properties of the consciousness quotient inventory Thai version Laoniyomthai R, et al. กันของมนุษย์ การควบคมุ การรคู้ ิดของตนเอง การตระหนักรู้ การฝกึ โยคะ ทำ� สมาธิ11 การวดั ประสทิ ธภิ าพทางการเรยี นและ ถึงส่ิงที่อยู่ในเหตุการณ์การตระหนักรู้ในขณะปัจจุบัน เช่น การท�ำงาน12,13 การหาความสัมพันธ์กับภาวะความเป็นผู้น�ำ14 การใส่ใจผู้อื่น ความเมตตาต่อตนเอง รับรู้ประสบการณ์ท่ี และพฤติกรรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม15 หรือการประเมิน เปลย่ี นไปของตนเอง และการพจิ ารณาใหน้ ิยามสิง่ ท่เี กิดขึ้น3 ประสิทธิภาพการทำ� งานทางประสาทวิทยา16 เปน็ ต้น CQ-i beta 2014 ผา่ นการวเิ คราะหค์ วามถกู ตอ้ งของ จากการทบทวนวรรณกรรมในประเทศไทยระยะ เนื้อหากับแบบประเมินทางจิตวิทยาท่ีใกล้เคียง เช่น ย่ีสิบปีท่ีผ่านมา พบมีการศึกษาสติสัมปชัญญะและพัฒนา self-consciousness scale (SCS), mindfulness attention โปรแกรมการเจริญสติ แต่ยังไม่พบเคร่ืองมือประเมิน and awareness scale (MAAS), Freiburg mindfulness ประสบการณ์สติสัมปชัญญะโดยตรง โดยใช้เคร่ืองมืออื่นเพ่ือ inventory (FMI), psychological well-being scales เปรียบเทียบผลก่อนและหลงั โปรแกรมฝึก เชน่ แบบประเมิน (PWB) เทียบเคียงกับทฤษฎีจิตวิทยาเชิงบุคคลบางส่วนของ สุขภาวะทางจิตเพื่อประเมินผลการฝึกเจริญสติตามหลักธรรม Macdonald และ Friedman8 และอิงกับระเบียบวิธีวิจัยท่ี มหาสติปัฏฐานสูตร ในกลุ่มบุคลากรโรงพยาบาลศรีธัญญา17 พัฒนาล่าสุด คือ “descriptive experience sampling” การศึกษาครั้งน้ีมีจุดประสงค์เพื่อแปล CQ-i beta version (DES) และ“ explicitation interview” (EI)9 รวมทัง้ ทดสอบ 2014 เปน็ ภาษาไทยและทดสอบความตรงและความเทยี่ ง ทงั้ นี้ ความเท่ียงตรงเชิงสภาพ (concurrent validity) ด้วยการ เนอื่ งจากเปน็ ฉบบั ทมี่ กี ารพฒั นาเปน็ เครอื่ งมอื วดั ทางจติ วทิ ยา วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธก์ บั แบบประเมนิ ความฉลาดทางอารมณ์ ทถ่ี กู ตอ้ งและนา่ เชอ่ื ถือ รวมทั้งมกี ารน�ำไปใช้อย่างแพร่หลาย และลักษณะบุคลิกภาพ เช่น emotional quotient inventory (EQ-i), the revised NEO personality วิธีการ inventory (NEO PI-R), the California psychological การวิจัยน้ีเป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาและทดสอบ inventory (CPI) และ Mayer-Salovey-Caruso emotional คุณสมบัติการวัดของแบบประเมิน แบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ intelligence test (MSCEIT)3 และผ่านการตรวจสอบ ขนั้ การแปลแบบประเมนิ และขนั้ การทดสอบความเชอ่ื มนั่ และ ความตรงเชิงเนือ้ หา จากความเห็นผู้เช่ยี วชาญ 25 คน ยืนยนั ความเทย่ี งตรงของแบบประเมิน ว่ามีเนื้อหาที่เหมาะสมและสามารถประเมินความฉลาด กลุ่มตัวอย่างท่ีศึกษา คือนิสิตระดับปริญญาตรี ทางสติสัมปชัญญะครอบคลุมทั้งการพัฒนาส่วนบุคคลและ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั สมุ่ ตวั อยา่ งแบบเจาะจง ในกลมุ่ นสิ ติ เทคนิคที่ใช้การปฏิบัติ การตรวจสอบความเที่ยงด้วยวิธีหา ทลี่ งทะเบยี นการศกึ ษาทว่ั ไป มสี ถานะเปน็ นสิ ติ ในปจั จบุ นั และ ความสอดคล้องภายในจากการเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง สมัครใจเข้าร่วมโครงการ จ�ำนวน 250 คน ค�ำนวณขนาด จ�ำนวน 638 คน ได้ค่า Cronbach’s Alpha ทั้งฉบับ ตวั อยา่ งจากสตู รของ W.G Cochran ระบรุ ะดับความเชอ่ื มัน่ เทา่ กบั .927 และมคี า่ Cronbach’s alpha ใน 7 องคป์ ระกอบ ที่ 95 เปอร์เซ็นต์ และข้อผดิ พลาดท่ี 5 เปอรเ์ ซน็ ต1์ 8 เกณฑก์ าร ได้แก่ physical CQ เท่ากับ .934, emotional CQ เทา่ กบั คัดออกอ้างอิงตามการออกแบบข้อค�ำถาม Lie scale ของ .927, cognitive CQ เท่ากบั .925, social CQ เท่ากับ .926, Brazdua และคณะ3 ประกอบด้วยขอ้ คำ� ถามคู่ที่คลา้ ยคลงึ กนั self CQ เท่ากบั .895, inner-growth CQ เทา่ กบั .877 และ จ�ำนวน 10 คู่ เพ่ือคัดกลุ่มตัวอย่างที่ตอบไม่ตรงกับความ spiritual CQ เท่ากับ .93910 เปน็ จรงิ ของตนเอง โดยผทู้ ่มี ผี ลรวม Lie scale มากกว่า 33 ในทางปฏิบัติ CQ-i beta 2014 แนะน�ำให้ใช้กับ คะแนนจะถกู คดั ออกจากกลุ่มตัวอย่าง การพัฒนาบุคคลและการประเมินความก้าวหน้าในการ แบบประเมินความฉลาดทางสติสัมปชัญญะต้นฉบับ ทำ� จติ บำ� บดั 3 นอกจากนี้ ยงั มกี ารนำ� ไปใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื สำ� หรบั ภาษาอังกฤษ คือ the consciousness quotient การวิจัยและการประเมินทางคลินิกอย่างกว้างขวาง เช่น inventory beta version 2014 พัฒนาโดย Brazdua การประเมินผลความฉลาดทางสติสัมปชัญญะก่อนและหลัง และคณะ3 ประเมินความถ่ีพฤติกรรมตนเอง 6 ระดับ จาก Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):105-13. 108
คณุ สมบัตขิ องแบบประเมินความฉลาดทางสตสิ มั ปชญั ญะไทย รุจนิ นั ท เหลา่ นยิ มไทย และคณะ ไม่เคยจนถงึ ตลอดเวลา โดย 1 หมายถงึ ไม่เคย; 2 หมายถงึ ลกั ษณะทว่ั ไปของกลมุ่ ตวั อยา่ ง กลมุ่ ตวั อยา่ งทงั้ หมด นาน ๆ คร้ัง; 3 หมายถึง เป็นบางครั้ง; 4 หมายถึง 250 คน จำ� แนกเปน็ เพศหญงิ มากกวา่ เพศชาย อตั ราสว่ น 2:1 ค่อนข้างบ่อย; 5 หมายถึง บ่อยครั้ง; และ 6 หมายถึง มีอายุเฉลีย่ 20.4 ปี (SD = 1.3) ตลอดเวลา จำ� นวน 257 ขอ้ แบง่ เปน็ 7 องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่ การตรวจสอบความตรงเชงิ เน้ือหาพบวา่ ข้อค�ำถาม physical CQ 37 ข้อ, emotional CQ 32 ข้อ cognitive CQ ส่วนใหญ่สอดคล้องกับนิยามเชิงปฏิบัติการวัด (operational 61 ข้อ, social-relational CQ 40 ข้อ, self CQ 27 ข้อ, definition) มคี ะแนนระหวา่ ง 0.6 – 1.0 จำ� นวน 256 ขอ้ และ inner-growth CQ 20 ข้อ, และ spiritual CQ 40 ขอ้ มีคะแนนเท่ากับ 0.33 จ�ำนวน 1 ข้อ ในองค์ประกอบของ ข้ันตอนการแปลแบบประเมิน 1) ติดต่อสถาบัน cognitive CQ ที่ IOC น้อยกว่า 0.5 จึงปรับปรุงตาม ความฉลาดสติสมั ปชญั ญะ (เมอื งบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย) ขอ้ เสนอแนะของผเู้ ชยี่ วชาญ19ในขอ้ 186 “ฉนั มปี ระสบการณ์ เพ่ือขออนุญาต 2) แปลแบบประเมินฉบับภาษาอังกฤษเป็น ทร่ี ตู้ วั วา่ ตนเองกำ� ลงั ฝนั ” ปรบั ปรงุ เปน็ “ขณะฝนั ฉนั มชี ว่ งเวลา ภาษาไทย โดยปรึกษาผู้เช่ียวชาญทางภาษา 3) ตรวจสอบ ท่ีรู้สึกตัวว่าก�ำลังฝัน” ท�ำให้แบบประเมินผ่านการตรวจสอบ ความตรงเชงิ เนื้อหา (content validity) ด้วยการตรวจสอบ ความตรงเชิงเนื้อหาท้ังหมด 257 ข้อ หาคา่ ดชั นคี วามสอดคลอ้ งระหวา่ งขอ้ คำ� ถามและวตั ถปุ ระสงค์ การทดสอบข้อจับเท็จ (lie scale) จากผลรวม (index of item-objective congruence; IOC) โดย lie scale 10 คู่มากกว่า 33 คะแนน พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ผเู้ ชยี่ วชาญ 3 คน ไดแ้ ก่ นกั จติ วทิ ยาการปรกึ ษา คณะจติ วทิ ยา 246 คนตอบทุกข้อ และคะแนนน้อยกว่า 33 (min = 2, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 คน และนักจิตวิทยาคลินิก max = 23, mean = 12.5, SD = 6.5) มเี พียง 4 คนทไ่ี ม่ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตอบค�ำถาม lie scale บางข้อ ผู้วิจัยแทนค่าสูงสุดในข้อท่ี 2 คน ไมไ่ ด้ตอบ (คะแนนสงู สุดเทา่ กับ 5) พบวา่ ผลรวม lie scale ข้ันตอนเก็บข้อมูลเพ่ือทดสอบความเช่ือม่ันและ ของกลมุ่ ตวั อยา่ ง 4 คนนอ้ ยกวา่ 33 คะแนน ดงั นนั้ กลมุ่ ตวั อยา่ ง ความเท่ียงตรงของแบบประเมิน โดยติดต่อขออนุญาต 250 คนผา่ นเกณฑท์ งั้ หมดจงึ ไมถ่ กู คดั ออก แสดงดงั ตารางที่ 1 จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั เพ่อื การเก็บขอ้ มลู ทำ� การเกบ็ ขอ้ มลู กลมุ่ ตวั อย่างตอบครบทุกข้อ 210 คน (รอ้ ยละ 84) ร่วมกับผู้ช่วยวิจัยที่ผ่านการอบรมจริยธรรมวิจัยในคน และ กลุ่มตวั อย่างท่ตี อบไมค่ รบ มีข้อท่ไี มต่ อบดังนี้ 1) กลุม่ ตวั อย่าง รวบรวมขอ้ มลู และสมุ่ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของแบบประเมนิ ไมต่ อบซำ้� กนั 1 - 3 คน 2) คำ� ตอบอยกู่ ระจายกนั 3) ขอ้ คำ� ถาม วเิ คราะหข์ อ้ มลู ทางสถติ ดิ ว้ ยโปรแกรมสำ� เรจ็ รปู SPSS มีความยาวปานกลางเมื่อเทยี บกบั ขอ้ ทีต่ อบครบ ใชส้ ถติ เิ ชงิ พรรณนาอธบิ ายลกั ษณะทวั่ ไปของกลมุ่ ตวั อยา่ งและ การตรวจสอบความเที่ยงด้วย พบว่า Cronbach’s การตอบแบบประเมิน และใชส้ ถิตติ รวจสอบคุณสมบตั ิการวัด alpha ของแบบประเมินความฉลาดทางสติสัมปชัญญะไทย ความตรงเชงิ เนือ้ หาดว้ ยวธิ หี าค่า index of item-objective ทั้งฉบับเท่ากับ .980 และ Cronbach’s alpha แต่ละ congruence (IOC) ด้วยวิธีหาค่าครอนบาคแอลฟา องคป์ ระกอบ อย่ใู นระหวา่ ง .847 - .910 แสดงดงั ตารางที่ 2 (Cronbach’s alpha) ของทัง้ ฉบบั และรายองค์ประกอบหลกั ผลการวิเคราะห์แบบท้ังฉบับและแต่ละองค์ประกอบ ตามเกณฑ์ความเที่ยงท่ีรับได้ (corrected item-total ไมผ่ ่านเกณฑค์ วามเทยี่ งทีร่ บั ได้ (CITC < .20) จ�ำนวน 18 ขอ้ correlation; CITC) คือค่าตัง้ แต่ .2 ข้ึนไป (CITC < .20) ไดแ้ ก่ ข้อ 17, 18, 30, 46, 47, 49, 58, 88, 92, 118, 131, การศึกษานี้ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการ 153, 163, 180, 181, 186, 207 และ 213 แตถ่ า้ ตดั ขอ้ กระทง จรยิ ธรรมการวจิ ยั ในมนษุ ย์ คณะแพทยศาสตร์ ศริ ริ าชพยาบาล ดงั กล่าวออก Cronbach’s alpha เพม่ิ เลก็ นอ้ ย พจิ ารณาว่า หนงั สอื รบั รองเลขที่ Si 152/2016 รบั รองวนั ท่ี 2 มนี าคม 2559 ไม่ควรตัดขอ้ กระทงออก ผล วารสารสุขภาพจิตแหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):105-13. 109
The psychometric properties of the consciousness quotient inventory Thai version Laoniyomthai R, et al. ตารางที่ 1 แสดงผลรวม lie scale (N = 250) ความถ่ี ร้อยละ 14 5.6 ผลรวม lie scale 88 35.2 0-5 117 46.8 6 - 10 27 10.8 11 - 15 4 1.6 16 - 20 0 0.0 21 - 25 250 100.0 26 - 50 รวม ตารางท่ี 2 สัมประสทิ ธค์ิ วามเท่ียงของ CQ-i Thai version (N = 250) Factor CITC < .20 CITC < .20 α (95% CI) α (95% CI) physical CQ (37 items) all 257 items each factors all 257 items each factors Item 18 = .065 Item 18 = .142 .980 .910 emotional CQ (32 items) Item 131 = - .130 Item 131= - .145 .894 Item 17 = .197 .882 cognitive CQ (61 items) Item 17 = .195 Item 47 = - .094 social-relational CQ (40 items) Item 47 = - .135 Item 49 = - .123 .890 self CQ (27 items) Item 49 = - .136 Item 58 = - .379 Item 58 = - .367 Item 88 = - .224 .848 Item 88 = - .201 Item 118 =.054 .847 Item 118 = .028 Item 153 =.119 .904 Item 153 = .076 Item 163 = - .145 Item 163 = - .162 Item 186 = .165 Item 186 = .170 Item 213 = - .331 Item 213 = - .352 em 30 = .118 Item 10 = .184 Item 92 = .171 Item 30 = .028 Item 180 = .031 Item 92 = .156 Item 207 = - .151 Item 134 = .117 Item 180 = .039 Item 76 = .192 Item 207= - .077 Item 216 = .179 inner-growth CQ (20 items) Item 46 = .198 Item 29 = .190 spiritual CQ (40 items) Item 181 = .140 Item 46 = .188 Item 181= .135 Item 221 = .196 CICT = corrected item-total correlation Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):105-13. 110
คณุ สมบตั ขิ องแบบประเมนิ ความฉลาดทางสตสิ ัมปชญั ญะไทย รจุ ินันท เหลา่ นิยมไทย และคณะ วิจารณ์ อย่างไรก็ตาม คา่ ความเทยี่ งสงู ทีพ่ บในแบบประเมนิ การศึกษาสติสัมปชัญญะในโลกตะวันออกมีมานาน CQ-i Thai version อาจเกิดจากความเป็นเอกพันธ์ของ มากกว่า 2,500 ปี ทางพุทธศาสนาได้แยกสติสัมปชัญญะ กลุ่มตัวอย่าง24 เช่น อายุเฉลี่ยกลุ่มตัวอย่างอยู่ในวัยรุ่น ออกจากกนั คอื สติ กบั สมั ปชญั ญะ20ในการศกึ ษาประเทศไทย ตอนปลาย และวัฒนธรรมสถาบันการศึกษา รวมท้ังอาจมี ได้น�ำการเจริญสติส�ำหรับพัฒนาบุคคลมาบูรณาการกับ จ�ำนวนข้อค�ำถามท่ีมากและมีข้อซ้�ำซ้อนซ่ึงสามารถตัดออกได้ หลักธรรมทางพุทธศาสนาในพระไตรปิฎก และศึกษา แม้ว่ากลุ่มตัวอย่างมากกว่าร้อยละ 80 ตอบข้อค�ำถามใน การน�ำสติ (four foundations of mindfulness) มาช่วย แบบประเมินความฉลาดทางสติสัมปชัญญะไทยครบทุกข้อ สง่ เสรมิ การรกั ษาทางชวี จิตสังคม และผปู้ ว่ ยจิตเภท17,21,22 สอดคล้องกับ Kerlinger (1992) ว่าสามารถวัดลักษณะที่ จากแบบประเมนิ ความฉลาดทางสตสิ มั ปชญั ญะของ ต้องการได้อย่างครอบคลุมและมีความเป็นตัวแทนสูง Brazdau และคณะ ท่ีประกอบด้วย 7 องค์ประกอบ ได้แก่ (representativeness of the test items) นอกจากนี้ physical CQ, emotional CQ, cognitive CQ, social- ความยาวของแบบประเมินอาจไม่ได้ส่งผลต่อความต้ังใจและ relational CQ, self CQ, inner-growth CQ และ สมาธขิ องกลมุ่ ตวั อยา่ งมากนกั เนอ่ื งจากผวู้ จิ ยั ใหเ้ วลาตอบแบบ spiritual CQ แบบประเมินดังกล่าวมีคุณสมบัติการวัดอยู่ใน ประเมิน 45 - 60 นาที ลกั ษณะการประเมินเปน็ การประเมิน ระดับดีและเป็นที่ยอมรับในงานวิจัยทางจิตวิทยา ซึ่งหลัง ความถ่ีของตนเอง และผู้วิจัยได้ช้ีแจงอย่างชัดเจนว่าระหว่าง พัฒนาเป็นแบบประเมินความฉลาดทางสติสัมปชัญญะ ประเมินกลุ่มตัวอย่างสามารถหยุดพักและดื่มน�้ำได้ รวมถึง ฉบับภาษาไทย (CQ-i Thai version) แล้วพบวา่ มีความตรง ลกั ษณะการตอบแบบประเมนิ มกี ารกระจายขอ้ ทไ่ี มไ่ ดต้ อบและ เชิงเน้ือหา (content validity) และความเที่ยง (internal มีความยาวปานกลางเม่ือเทียบกับข้ออื่น ๆ ซ่ึงผู้เชี่ยวชาญได้ consistency) อยู่ในระดบั ดที ี่ Cronbach’s alpha เทา่ กับ เสนอแนะแกไ้ ขรปู ประโยคใหก้ ระชับและเหมาะสม .980 ซ่ึงมากกว่าคา่ ของ CQ-i version 2013 (Cronbach’s การศึกษาคร้ังต่อไป ควรทดสอบคุณสมบัติอื่น Alpha = .927)3 แต่สอดคลอ้ งกบั CQ-i beta v.2014 พบว่า เพมิ่ เตมิ รวมทง้ั ศกึ ษาดชั นคี วามยากงา่ ยของแบบประเมนิ และ Cronbach’s alpha กล่าวคือ เข้าใกล้ 1 (Cronbach’s ศึกษาในกลุ่มวัยท่ีแตกต่าง เช่น กลุ่มวัยท�ำงาน เพื่อเป็น alpha > .80) ถือว่ามีความเที่ยงหรือความเชื่อมั่นอยู่ใน เครื่องมือในการวิจัยและการประเมินทางคลินิก หรือน�ำไปใช้ เกณฑด์ 2ี 3 แสดงดังตารางท่ี 3 ส�ำหรบั การพฒั นาสว่ นบุคคล25 ตารางท่ี 3 คา่ Cronbach’s alpha ของ CQ-i Thai version (N = 250) และ CQ-i beta version 2014 (N = 638) องค์ประกอบ CQ-i Thai version CQ-i beta version 2014 physical CQ .910 .934 emotional CQ .894 .927 cognitive CQ .882 .925 social-relational CQ .890 .926 self CQ .848 .895 inner-growth CQ .847 .877 spiritual CQ .904 .939 วารสารสขุ ภาพจติ แหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):105-13. 111
The psychometric properties of the consciousness quotient inventory Thai version Laoniyomthai R, et al. สรปุ 6. Brazdau O. Research on the consciousness แบบประเมินความฉลาดทางสติสัมปชัญญะฉบับ experience. The consciousness quotient and CQ ภาษาไทย ผ่านการทดสอบคุณสมบัติการวัดความเที่ยงอยู่ใน Inventory (doctoral dissertation). Bucharest: เกณฑด์ ี มคี า่ ความเชอื่ มนั่ ใกลเ้ คยี งกบั แบบประเมนิ ความฉลาด Romanian Academy of Science; 2008. ทางสติสัมปชัญญะต้นฉบับ และสามารถพัฒนาเป็นเคร่ืองมือ ท่ีใช้ประเมินในการวจิ ัยและทางคลินกิ ต่อไป 7. Brazdau O, Constantinescu PM, Constantinescu I, กิตตกิ รรมประกาศ Butucescu A, Sbircea R. Consciousness quotient งานวิจัยน้ีได้รับการสนับสนุนจากทุนบัณฑิตศึกษา inventory improvement: qualitative study using คณะแพทยศาสตรศ์ ริ ิราชพยาบาลมหาวทิ ยาลยั มหดิ ล cognitive interviewing approach. Procedia Soc เอกสารอ้างองิ Behav Sci. 2013;78:425-30. doi:10.1016/ j.sbspro.2013.04.324. 1. ทองย้อย แสงสินชัย. สติสัมปชัญญะ ส่วนมากรู้ แต่ไม่มี อา่ นวา่ สะ-ต-ิ สา-ปะ-ชนั -ยะ [Most of the consciousness 8. MacDonald D, Friedman H. Assessment of knows it, but doesn’t read it: Sa-Ti-Sam-Pa-Chan-Ya]. humanistic, transpersonal, and spiritual constructs: กรงุ เทพฯ: SERIDHAMMA (เสรชี น: เสรธี รรม); 2564 [สบื คน้ state of the science. J. Humanist. Psychol. เมอ่ื วนั ท่ี 11 ก.พ. 2564]. จาก: http://dhamma.serichon. 2002;42(4):102-25. doi:10.1177/002216702237126. us/2020/02/11/สติสมั ปชัญญะ-ส่วนมากร/ู้ . 9. Brazdau O. The consciousness quotient: construct 2. สมภพ เรอื งตระกลู . จติ เวชศาสตรพ์ น้ื ฐานและโรคทางจติ เวช development and content validity research. [Basic psychiatry and mental disorders]. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 1. Procedia Soc Behav Sci. 2015;187:244-9. กรุงเทพฯ: เรือนแกว้ การพิมพ;์ 2549. doi:10.1016/j.sbspro.2015.03.046. 3. Brazdau O, Opariuc C. Preliminary development of 10. Opariuc CD. Analysis internal structure CQ the consciousness quotient inventory (CQ-i): inventory. Constanta: Consciousness Quotient Introducing the conscious experience as a research Institute; 2015. variable in psychological assessment. Procedia Soc Behav Sci. 2014;127:600-5. doi:10.1016/ 11. Ahuja S. Effect of Yoga & meditation on j.sbspro.2014.03.319. consciousness & mindfulness. JCER. 2014;5(5): 434-47. 4. ภาควชิ าจติ วทิ ยา คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม.่ จิตวิทยาทั่วไป [General psychology]. พิมพ์ครั้งที่ 6. 12. Brazdau O, Mihai C. The consciousness quotient: เชยี งใหม:่ โครงการตำ� รามหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2543. a new predictor of students’ academic performance. Procedia Soc Behav Sci. 2011;11: 5. Brazdau O, Ahuja S. Higher-order thoughts, neural 245-50. doi:10.1016/j.sbspro.2011.01.070. realization, and the metaphysics of consciousness. In: Satsangi PS, Hameroff S, Sahni V, Dua P, editors. 13. Aggarwal N. Measuring consciousness quotient - Consciousness: integrating eastern and western a study of its influence on employee’s work perspectives. New Delhi: New Age Books; 2018. performance and organizational outcomes. IJSR. p. 187-94. 2013:2(11):358-67. 14. Chauhan V, Sharma S, Satsangee N. Leadership approach in relation to consciousness quotient: a correlational analysis. MJESTP. 2013;3(2):249-60. 15. Sahni P, Kumar J. Consciousness quotient: a predictor for pro-environmental behaviors. Paper presented at: The Science of Consciousness Conference; 2016 May 5; Tucson AZ. Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):105-13. 112
คณุ สมบัตขิ องแบบประเมินความฉลาดทางสติสมั ปชัญญะไทย รุจนิ ันท เหล่านิยมไทย และคณะ 16. Ahuja S, Sharma S. Consciousness quotient as 22. จุฬารัตน์ เขาประเสริฐ. การประยุกต์ใช้พุทธธรรมในการ a predictor of executive functioning. MJESTP. บ�ำบัดโรคจติ เภท [An application of Buddha Dhamma 2015;5(2):212-24. to heal schizophrenia] [วทิ ยานพิ นธป์ รญิ ญามหาบณั ฑติ ]. 17. ชชั วาล ศลิ ปกจิ , อรวรรณ ศลิ ปกจิ . การเจรญิ สตแิ ละแบบวดั กรงุ เทพฯ: มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณร์ าชวทิ ยาลยั ; 2548. สุขภาวะทางจติ [Mindfulness meditation and metal 23. สชุ รี า ภทั รายตุ วรรตน.์ ทฤษฎกี ารวจิ ยั และการใชส้ ถติ ใิ นการ well-being indicators]. วารสารสุขภาพจิตแห่ง วิจัยเชิงจิตวทิ ยา [Theories and statistical methods in ประเทศไทย. 2551;16(1):24-32 psychological research]. กรุงเทพฯ: ภาควิชา 18. ธานนิ ทร์ ศลิ ปจ์ าร.ุ การวจิ ยั และวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทางสถติ ดิ ว้ ย จติ เวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศริ ิราชพยาบาล; 2546. SPSS [Researching and analyzing statistical data with 24. ฉัตรศิริ ปิยะพิมลสิทธ์ิ. เอกสารประกอบการสอน ทฤษฎี the SPSS program]. กรุงเทพฯ: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี; การวัดและการทดสอบ [Theory of testing and 2555. measurement] [อินเตอร์เน็ต]. สงขลา: ภาควิชาการ 19. บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. การพัฒนาและตรวจสอบ ประเมนิ ผลและวจิ ยั คณะศกึ ษาศาสตรม์ หาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ ; คุณภาพเครื่องมือวิจัย: คุณสมบัติการวัดเชิงจิตวิทยา 2548 [สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 9 พ.ค. 2559]. จาก: http://watpon. [Development and validation of research in.th/thai/mod/page/view.php?id=6 instruments: psychometric properties]. กรุงเทพฯ: 25. สชุ รี า ภทั รายุตวรรตน์. คู่มอื การวดั ทางจติ วทิ ยา [Manual โรงพมิ พ์แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ; 2555. of psychological testing]. พิมพ์คร้ังที่ 1. กรุงเทพฯ: 20. พระพรหมคณุ าภรณ์ (ป.อ. ปยตุ โฺ ต). พจนานกุ รมพทุ ธศาสตร์ เมดิคลั มเิ ดยี ; 2545. ฉบับประมวลธรรม [Dictionary of Buddhism] พิมพ์ ครั้งที่ 34. กรุงเทพฯ: มหาจฬุ าลงกรณ์ราชวทิ ยาลัย; 2559. 21. จ�ำลอง ดิษยวณิช, พร้ิมเพรา ดิษยวณิช. จิตบ�ำบัด เชิงพลศาสตร์ที่อิงสติเป็นพ้ืนฐาน [Mindfulness-based dynamic psychotherapy]. วารสารสมาคมจติ แพทยแ์ หง่ ประเทศไทย. 2557;59(3):179-94. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย 2564;29(2):105-13. 113
Percieved stress and depression and their associated factors among COVID-19 patients Sawangsri W, et al. นพิ นธต์ ้นฉบบั ความชกุ ของการรบั รคู้ วามเครยี ด ภาวะซึมเศรา้ และปัจจยั ที่เกี่ยวข้อง ในผ้ปู ่วยโรคโควดิ 19 เขตกรุงเทพมหานคร วนั รบั : 4 พฤศจกิ ายน 2563 วรนิ ทิพย์ สวา่ งศร,ี พ.บ., นนั ทยุทธ หะสิตะเวช, วท.ม., วนั แกไ้ ข : 20 พฤษภาคม 2564 ชลธิชา แย้มมา, วท.ม., ณฐั ปพน รตั นตรยั , ศศ.บ., วนั ตอบรบั : 22 พฤษภาคม 2564 ดษุ ฎี จึงศิรกุลวิทย,์ พ.บ. สถาบันสขุ ภาพจติ เด็กและวยั รุ่นราชนครนิ ทร์ บทคดั ยอ่ วัตถุประสงค์ : เพ่ือศึกษาหาความชุกและปัจจัยท่ีเกี่ยวข้องกับการรับรู้ความเครียด และภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยโรคโควิด 19 ในกรุงเทพมหานคร วิธีการ : เป็นการศึกษาแบบตัดขวาง โดยใช้ข้อมูลจาก “โครงการการดูแลจิตใจทางโทรศัพท์แก่ผู้ป่วยโรคโควิด 19 ในเขต กรุงเทพมหานคร” ต้งั แตว่ นั ที่ 1 เมษายน ถงึ 29 พฤษภาคม 2563 จำ� นวน 898 คน เจ้าหนา้ ทโี่ ครงการสัมภาษณ์ผปู้ ่วยทาง โทรศัพทด์ ว้ ยแบบประเมนิ การรับรูค้ วามเครียด ประเมนิ ภาวะซมึ เศรา้ (9Q) และแบบประเมินความเส่ียงการฆา่ ตวั ตาย (8Q) วเิ คราะหข์ อ้ มูลโดยใชส้ ถติ ิเชงิ พรรณนาและ chi-square เพ่ือศกึ ษาความสมั พนั ธร์ ะหว่างปจั จัยต่าง ๆ ผล : ความชุกของการรบั รคู้ วามเครยี ดในผู้ปว่ ยโรคโควดิ 19 พบไดร้ อ้ ยละ 30.8 แบง่ เป็นการรบั รูค้ วามเครยี ดจากปจั จยั ด้าน โรคโควิด 19 ดา้ นชุมชนและสงั คม และด้านครอบครวั ร้อยละ 59.6, 38.6 และ 27.8 ตามล�ำดบั ปัจจัยทีม่ คี วามสัมพนั ธ์กับ ความเครียดอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ ได้แก่ เพศ และสถานะการรักษาแบบผู้ป่วยใน ส่วนความชุกของภาวะซึมเศร้าใน ผปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 เทา่ กบั รอ้ ยละ 16.5 ปจั จยั ทส่ี มั พนั ธก์ บั ภาวะซมึ เศรา้ ไดแ้ ก่ เพศ และมปี จั จยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การรบั รคู้ วามเครยี ด มากกวา่ 2 ด้านขน้ึ ไป สรุป : การรับรู้ความเครียดและภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยโรคโควิด 19 ค่อนข้างสูง โดยสัมพันธ์กับเพศ นอกจากน้ันการรับรู้ ความเครียดสัมพันธ์กับการรักษาแบบผู้ป่วยใน ส่วนภาวะซึมเศร้าสัมพันธ์กับปัจจัยที่ส่งผลต่อการรับรู้ความเครียดมากกว่า 2 ดา้ นขนึ้ ไป อย่างไรก็ตาม หากนำ� ไปใชใ้ นบรบิ ทอืน่ ทแี่ ตกตา่ งควรคำ� นงึ ถงึ ขอ้ จำ� กัดจากการสมั ภาษณท์ างโทรศพั ท์ คำ� ส�ำคญั : การรับรู้ความเครียด การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โควดิ 19 ภาวะซึมเศร้า ติดตอ่ ผนู้ ิพนธ์ : วรนิ ทิพย์ สวา่ งศรี; e-mail: [email protected] Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):114-24. 114
การรบั รูค้ วามเครียด ภาวะซมึ เศรา้ และปัจจยั ท่เี ก่ยี วขอ้ งในผู้ป่วยโรคโควดิ 19 กรงุ เทพมหานคร วรินทพิ ย์ สวา่ งศรี และคณะ Original article Prevalence of perceived stress and depression and their associated factors among COVID-19 patients in Bangkok Received : 4 November 2020 Warintip Sawangsri, M.D., Nantayoot Hasitawech, M.Sc., Revised : 20 May 20201 Chonticha Yamma, M.Sc., Nattapapon Rattanatrai, B.A., Accepted : 22 May 20201 Dutsadee Juengsiragulwit, M.D. Child and Adolescent Mental Health Rajanagarindra Institute Abstract Objective: To study the prevalence and associated factors of perceived stress and depression in patients with COVID-19. Methods: In this cross-sectional study, the data was collected from 898 patients in “the telephone counselling for COVID-19 patients project” during 1 April to 29 May 2020. The project staff interviewed the participants by telephone-based using perceived stress questionnaires, 9Q for depression and 8Q for suicidal risk. Data were analyzed using descriptive statistics and chi-square statistics. Results: The prevalence of perceived stress was 30.8% which mainly from COVID-19, social and community, and family factor 59.6%, 38.6%, and 27.8%, respectively. Gender and hospital admission were significantly associated with perceived stress. The prevalence of depression was 16.5%. Gender and two more perceived stress factors were significantly associated with depression. Conclusion: Perceived stress and depression in patients with COVID-19 were significant prevalence and associated with gender. Hospital admission was associated with perceived stress whereas two more perceived stress associated with depression. However, the limitation of using telephone interview should be considered in other contexts. Keywords: COVID-19, depression, stress, telephone interview Corresponding author: Warintip Sawangsri; e-mail: [email protected] วารสารสุขภาพจติ แห่งประเทศไทย 2564;29(2):114-24. 115
Percieved stress and depression and their associated factors among COVID-19 patients Sawangsri W, et al. ความรู้เดิม : การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ เพอ่ื นอยใู่ นภาวะดงั กลา่ ว ผทู้ ปี่ ระกอบอาชพี เสยี่ งหรอื พกั อาศยั โรคโควดิ 19 เปน็ โรคอบุ ัตใิ หม่ ปญั หาสุขภาพจิตทพี่ บใน อยู่ในมณฑลหูเป่ย์ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการระบาด จะมีภาวะ ผู้ตดิ เช้อื ดังกลา่ วยังมีการศึกษาทจี่ ำ� กัด ซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ และภาวะเครียดมากกว่า ความรู้ใหม่ : ผ้ปู ่วยโรคโควดิ 19 ทม่ี ขี ้อจำ� กดั การเข้าถึง ประชากรทวั่ ไป3 สามารถประเมินสภาวะสุขภาพจิตด้วยการสัมภาษณ์ ปัญหาสุขภาพจิตในผู้ป่วยโรคโควิด 19 มีรายงาน ทางโทรศพั ท์ โดยพบความชกุ ของการรบั รคู้ วามเครยี ดและ การศกึ ษาในโรงพยาบาลสนาม Jianghan Fangcang Shelter ภาวะซมึ เศร้าค่อนขา้ งสงู Hospital พบผู้ป่วยโรคโควิด 19 มีภาวะซึมเศร้าร้อยละ ประโยชน์ท่ีจะน�ำไปใช้ : การประเมินปัญหาสุขภาพจิต 13.4 สว่ นใหญ่เป็นผูห้ ญิง มอี าการทางกายมากกว่า 2 อาการ เบ้ืองต้นทางโทรศัพท์ เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถน�ำไปใช้ได้ใน ขึ้นไป มีปัญหาการนอนหลับ หรือมีคนในครอบครัวติดเช้ือ สถานการณท์ ม่ี กี ารจำ� กดั การเขา้ ถงึ กลมุ่ เสย่ี ง ทำ� ใหส้ ามารถ ร่วมด้วย4 และการศึกษาในผู้ป่วยโรคโควิด 19 ท่ีอาการคงที่ บง่ ชแี้ ละใหก้ ารดแู ลช่วยเหลอื จิตใจได้ตั้งแต่ระยะแรก ในประเทศจนี จำ� นวน 714 คน พบว่า รอ้ ยละ 96.2 มีอาการ บทนำ� เครียดหลังเหตุสะเทือนขวัญ (post-traumatic stress) การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ที่สัมพันธ์กับตัวโรค และร้อยละ 49.8 ของกลุ่มตัวอย่าง (Coronavirus Disease 2019; COVID-19) ถือเป็น รายงานว่าการให้บริการสุขภาพจิตศึกษามีส่วนช่วยให้ โรคอุบัติใหม่ที่มีการระบาดใหญ่ (pandemic) นอกจากจะ อาการดีขึ้น5 หากพิจารณาการศึกษาที่มีความใกล้เคียงกัน สง่ ผลตอ่ รา่ งกายของผตู้ ิดเชือ้ แล้ว ยังส่งผลต่อสภาพจติ ใจของ พบวา่ ผปู้ ว่ ยโรคซาร์ส (SARS) จะมภี าวะเครียดและวติ กกงั วล ประชาชนเป็นวงกว้าง จนถึงปจั จบุ นั ทว่ั โลกมจี ำ� นวนผตู้ ิดเช้ือ มากกว่าคนทัว่ ไปในช่วงของการตดิ เชื้อ6 โดยรอ้ ยละ 10 - 35 ไวรัสโคโรนา 2019 รวม 88.1 ล้านคน และมีผู้ติดเช้ือใน ของผรู้ อดชวี ติ จะมภี าวะซมึ เศรา้ หรอื วติ กกงั วลในชว่ งแรกของ ประเทศไทย 9,841 คน (ข้อมลู เมอ่ื วันท่ี 8 มกราคม 2564)1 การฟื้นตัวของโรค7,8 และยังพบปัญหาด้านสุขภาพจิตแม้จะ การศึกษาผลกระทบทางจิตใจในกลุ่มประชากรท่ัวไปช่วง ติดตามไปอีก 6 เดือนหลังออกจากโรงพยาบาล9 และเมื่อ การระบาดรุนแรงในประเทศจีนด้วยการประเมินตนเอง ติดตามในระยะยาว (30 เดือน) พบว่าร้อยละ 33 ของ แบบออนไลนพ์ บวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามรอ้ ยละ 53.8 ได้รบั ผู้รอดชีวิตได้รับการวินิจฉัยว่ามีโรคทางจิตเวช โดย 1 ใน 4 ผลกระทบทางจติ ใจในระดบั ปานกลางถงึ รุนแรง รอ้ ยละ 16.5 มีโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (post-traumatic รายงานถึงอาการซึมเศร้าระดับปานกลางถึงรุนแรง และ stress disorder) และรอ้ ยละ 15 มภี าวะซึมเศร้า10 รอ้ ยละ 8.1 มรี ะดบั ความเครยี ดอยทู่ รี่ ะดบั ปานกลางถงึ รนุ แรง สำ� หรบั สถานการณก์ ารระบาดในประเทศไทย มกี าร โดยผู้ตอบส่วนใหญ่เป็นผู้ท่ีกักตัวอยู่ในบ้าน 20 - 24 ช่ัวโมง ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด 19 รายแรกเม่ือวันที่ 8 มกราคม ต่อวัน (ร้อยละ 84.7) และพบปัญหาดังกล่าวมากในผู้หญิง 2563 หลงั จากนนั้ จำ� นวนผปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 เพม่ิ ขน้ึ ตามลำ� ดบั เป็นนักเรียนหรือก�ำลังศึกษา มีอาการเจ็บป่วยทางกาย หรือ จนถึงช่วง 30 พฤษภาคม 2563 พบผู้ปว่ ยท้ังหมด 3,077 ราย ยากจน2 เช่นเดียวกับอีกการศึกษาหนึ่งในประเทศจีนเช่นกัน เปน็ ผปู้ ว่ ยทอี่ าศยั หรอื ถกู กกั ตวั ในกรงุ เทพมหานคร 1,551 ราย11 ท่ีรายงานผลการส�ำรวจออนไลน์ในประชากรทั่วไป พบว่ามี โดยในจ�ำนวนผู้ป่วยท้ังหมดล้วนได้รับการกักตัวและติดตาม ภาวะซึมเศร้าร้อยละ 27.9 ภาวะวิตกกังวลร้อยละ 31.6 อาการทั้งส้ิน สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ภาวะนอนไม่หลับร้อยละ 29.2 และภาวะเครียดเฉียบพลัน ร่วมกับศูนยส์ ขุ ภาพจิตท่ี 13 กรมสุขภาพจิต ไดจ้ ดั ระบบการ (acute stress) รอ้ ยละ 24.4 โดยผทู้ ไี่ ดร้ บั การยนื ยนั หรอื สงสยั ดแู ลจติ ใจทางโทรศพั ทแ์ กผ่ ปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 กรงุ เทพมหานคร วา่ ตวั เองตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื มคี นในครอบครวั หรอื ตั้งแตว่ ันที่ 1 เมษายน เพื่อประเมนิ และให้ค�ำปรกึ ษาดแู ลผล กระทบดา้ นสขุ ภาพจติ ใหแ้ กผ่ ปู้ ว่ ย การวจิ ยั นจ้ี งึ มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพื่อศึกษาหาความชุกและความสัมพันธ์ของปัจจัยที่เก่ียวข้อง Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):114-24. 116
การรับรคู้ วามเครยี ด ภาวะซึมเศรา้ และปัจจยั ท่เี ก่ยี วขอ้ งในผปู้ ว่ ยโรคโควิด 19 กรงุ เทพมหานคร วรินทิพย์ สว่างศรี และคณะ กบั การรบั รคู้ วามเครยี ด และภาวะซมึ เศรา้ ในผปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 7 - 12 เปน็ ระดบั ความรนุ แรงเลก็ นอ้ ย; ชว่ งคา่ คะแนน 13 - 17 ในกรุงเทพมหานคร ที่เข้าร่วมโครงการการดูแลจิตใจทาง เป็นระดับความรุนแรงปานกลาง; ช่วงค่าคะแนน 18 ขึ้นไป โทรศพั ท์แก่ผูป้ ่วยโรคโควิด 19 เป็นระดับความรุนแรงสูง ส่วนที่ 4 ข้อมูลความเสี่ยงต่อการ วิธกี าร ฆ่าตวั ตายจากแบบประเมินการฆา่ ตัวตาย 8Q12 ประกอบด้วย งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบตัดขวาง ใช้ข้อมูล 8 ค�ำถาม 2 ค�ำตอบ ไม่ใช่ และใช่ ค่าคะแนนแต่ละข้อ ทุติยภูมิจากโครงการการดูแลจิตใจทางโทรศัพท์แก่ผู้ป่วย ไมเ่ ทา่ กัน การแปลผลคือ ช่วงค่าคะแนน 1 - 8 แนวโนม้ ทีจ่ ะ โรคโควิด 19 กรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วย ฆ่าตัวตายระดับน้อย; ช่วงค่าคะแนน 9 - 16 แนวโน้มท่ีจะ โรคโควิด 19 ที่ได้รับการตรวจยืนยันด้วยวิธีการตรวจ PCR ฆ่าตัวตายระดับปานกลาง; ชว่ งค่าคะแนน 17 ขึ้นไป แนวโนม้ และมีการรายงานจากสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง ที่จะฆ่าตวั ตายระดบั สูง กรุงเทพมหานคร ตั้งแตว่ นั ที่ 1 เมษายน ถงึ 29 พฤษภาคม กลุ่มตัวอย่างทุกรายจะได้รับการประเมินการรับรู้ 2563 โดยมีเกณฑก์ ารคัดเลอื กเขา้ ร่วมการวจิ ัยคือ อายุ 15 ปี ความเครยี ด หากพบมีความเครียดขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ จะได้รับการ ขึ้นไป สามารถฟังและพูดภาษาไทยได้ สภาวะทางร่างกายท่ี ประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยแบบประเมิน 9Q หากพบมีภาวะ สามารถพูดคุยสอ่ื สารได้ และได้รบั การประเมนิ จากเจ้าหน้าท่ี ซึมเศร้า (คะแนน 9Q ต้ังแต่ 13 คะแนนข้ึนไป) จะได้รับ โครงการด้วยตนเอง เกณฑ์การคัดออกคือ ผู้ป่วยท่ีโทรศัพท์ การประเมิน 8Q แสดงดังแผนภาพที่ 1 โดยกลุ่มตัวอย่าง ติดต่ออย่างน้อย 3 คร้ัง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ หรือปฏิเสธ ทกุ รายทมี่ คี วามเครยี ดหรอื ภาวะซมึ เศรา้ จะไดร้ บั การชว่ ยเหลอื การประเมนิ ปญั หาสุขภาพจติ ทางโทรศัพท์ ประคับประคองทางจิตใจ (psychological support) และ ข้อมูลท่ใี ช้ในการศึกษาน้ี ประกอบดว้ ยขอ้ มูล 4 ส่วน หรอื การใหก้ ารปรกึ ษาดา้ นสขุ ภาพจติ ทางโทรศพั ท์ และตดิ ตาม ได้แก่ ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป ไดแ้ ก่ เพศ อายุ สญั ชาติ สถานะ ประเมินผลการรับรู้ความเครียดหลังรับการปรึกษาเป็น การรักษาแบบผู้ป่วยใน อาการปัจจุบัน สถานท่ีรักษา และ เวลา 1 สัปดาห์ หากมีอาการรุนแรงจะได้รับการส่งต่อให้ วันท่ีสง่ ข้อมูล ส่วนท่ี 2 ขอ้ มูลด้านการรับรู้ความเครียด โดยใช้ ทีมวิกฤตสุขภาพจิตเพ่ือประเมินและดูแลต่อเน่ือง ขอ้ ค�ำถาม 3 ข้อ เพื่อประเมนิ การรับรู้ความเครียดจากปจั จัย การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความชุกของการรับรู้ กระตุ้นด้านโรคโควิด 19 ด้านผลกระทบต่อครอบครัว และ ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และปัจจัยเส่ียงต่อภาวะดังกล่าว ด้านตราบาปจากชุมชนและสังคม ซึ่งเป็นปัจจัยท่ีวิเคราะห์ ด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ และร้อยละ วิเคราะห์ จากสถานการณ์การระบาดตามความเห็นผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้ ความสมั พนั ธข์ องปจั จยั ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การรบั รคู้ วามเครยี ดและ 1) ท่านมีความเครียดหรือความกังวลต่ออาการป่วยด้วย ภาวะซึมเศร้าดว้ ยสถิติ Chi-square โรคโควิด 19 หรือไม่ 2) ทา่ นมคี วามเครยี ดหรือความกังวลตอ่ การศึกษาน้ีได้ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการ การถูกแยกจากครอบครัวด้วยโรคโควิด 19 หรือไม่ พิจารณาจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ สถาบันสุขภาพจิตเด็ก 3) ท่านมีความเครียดหรือความกังวลเกี่ยวกับบุคคลรอบข้าง และวัยรุ่นราชนครินทร์ เอกสารรับรองเลขที่ CAMRI-IRB- ท่รี ู้ว่าทา่ นปว่ ยด้วยโรคโควดิ 19 หรอื ไม่ หากผปู้ ว่ ยตอบวา่ ใช่ 2563/006 ลงวันท่ี 3 กรกฎาคม 2563 ในข้อใดข้อหน่ึงใน 3 ข้อดังกล่าวถือว่า ผู้ป่วยมีการรับรู้ ผล ความเครียดในหัวข้อนน้ั ๆ สว่ นที่ 3 ข้อมูลภาวะซมึ เศรา้ จาก จ�ำนวนผู้ป่วยติดเช้ือที่เข้าโครงการระบบการดูแล แบบคัดกรองโรคซึมเศร้า 9Q12 ประกอบด้วย 9 ค�ำถาม จิตใจทางโทรศัพท์แก่ผู้ป่วโรคโควิด 19 กรุงเทพมหานคร 4 คำ� ตอบ คอื ไมม่ เี ลย = 0; เปน็ บางครงั้ = 1; เปน็ บอ่ ย ๆ = 2; จ�ำนวนท้ังสิ้น 1,262 คน เป็นกลุ่มตัวอย่างที่เข้าเกณฑ์ เปน็ ทุกวนั = 3 จุดตดั คะแนนท่ีเหมาะสมคือ ช่วงคา่ คะแนน จำ� นวน 898 คน คดิ เปน็ อัตราการตอบรบั (response rate) วารสารสขุ ภาพจติ แหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):114-24. 117
Percieved stress and depression and their associated factors among COVID-19 patients Sawangsri W, et al. ร้อยละ 71.1 โดยกลุ่มตัวอย่างที่คัดออกเน่ืองจากไม่สามารถ ผลการวิเคราะห์ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการรับรู้ ติดต่อได้หลังติดต่ออย่างน้อย 3 คร้ัง (ร้อยละ 15.6) เป็น ความเครียดในผู้ป่วยท่ีรับรู้ความเครียดอย่างน้อย 1 ด้าน ชาวต่างประเทศ (ร้อยละ 7.6) ปฏิเสธการประเมินปัญหา จ�ำนวน 277 ราย พบว่า ปัจจัยด้านเพศและสถานะการ สุขภาพจิตทางโทรศัพท์ หรือไม่สามารถประเมินสุขภาพจิต รกั ษาตวั ในโรงพยาบาลมคี วามสมั พนั ธก์ บั การรบั รคู้ วามเครยี ด ดว้ ยตนเอง (รอ้ ยละ 2.4) และขอ้ มลู ไมค่ รบถว้ น (รอ้ ยละ 3.2 ) อยา่ งมีนัยสำ� คัญทางสถิติ เมือ่ วิเคราะหก์ ลุ่มตัวอยา่ งแยกตาม โดยจากกลุ่มตัวอย่างใน การศึกษา 898 ราย ส่วนใหญ่เป็น ประเภทการรับรู้ความเครียดพบว่า การรับรู้ความเครียด เพศหญิง (ร้อยละ 54.9) มอี ายุอยู่ในชว่ ง 15 - 60 ปี (ร้อยละ ดา้ นชุมชนและสงั คมมคี วามสมั พนั ธก์ ับเพศ อายุ และสถานะ 93.2) อาการสงบและจ�ำหน่ายกลับบ้านแล้ว (ร้อยละ 68.8) การรกั ษาตวั ในโรงพยาบาลอยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทางสถติ ิ การรบั รู้ ทง้ั น้ีเป็นกลุม่ อายุ 60 ปีขึน้ ไป เพียงร้อยละ 6 ความเครียดด้านโรคโควิด 19 มีความสัมพันธ์กับเพศอย่างมี กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 30.8 มีความรู้สึกเครียด นยั สำ� คญั ทางสถติ ิ และการรับรู้ความเครียด ดา้ นครอบครวั มี อย่างน้อยหนึ่งด้าน ได้แก่ การรับรู้ความเครียดด้าน ความสัมพันธ์กับสถานะการรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่าง โรคโควิด 19 เช่น กังวลว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต การรับรู้ มนี ยั ส�ำคัญทางสถติ ิ แสดงดังตารางที่ 3 ความเครียดด้านชุมชนและสังคม เช่น กลัวเพ่ือนร่วมงาน ความสัมพันธ์ของปัจจัยที่เก่ียวข้องกับภาวะซึมเศร้า รังเกียจ กลัวถูกให้ออกจากงาน กลัวคนในชุมชนทราบ ในผู้ป่วยโรคโควิด 19 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า ปัจจัยที่ การรับรู้ความเครียดด้านครอบครัว เช่น กลัวว่าสมาชิกใน เก่ียวข้องกับภาวะซึมเศร้าอย่างมีนัยส�ำคัญคือ เพศ และ ครอบครวั จะตดิ เชอ้ื ดว้ ย โดยในจำ� นวนนมี้ กี ารรบั รคู้ วามเครยี ด การรับรู้ความเครียดต้ังแต่ 2 ด้านขึ้นไปอย่างมีนัยส�ำคัญ หนง่ึ ดา้ น สองดา้ น และทง้ั สามดา้ น รอ้ ยละ 23.6, รอ้ ยละ 5.9, ทางสถติ ิ ดงั แสดงในตารางท่ี 4 และร้อยละ 1.3 ตามลำ� ดับ แสดงดังตารางท่ี 1 วจิ ารณ์ จากกลุ่มตัวอย่างที่รับรู้ว่ามีความเครียด 277 ราย จากการศึกษานี้พบว่า ความชุกของการรับรู้ ได้รับการประเมินด้วยแบบประเมิน 9Q จ�ำนวน 261 ราย ความเครยี ดในผูป้ ่วยโรคโควดิ 19 อยู่ที่รอ้ ยละ 30.8 ใกล้เคยี ง (รอ้ ยละ 94.2) มภี าวะซมึ เศรา้ ระดบั ปานกลางถงึ มาก จำ� นวน กับการศึกษาความเครียดหลังเกิดเหตุโรคระบาดของ 10 ราย ในจ�ำนวนน้ีได้รับการประเมินความเส่ียงต่อภาวะ ต่างประเทศที่พบภาวะเครียดในผู้ป่วยโรคซาร์ส ซึ่งถือเป็น ฆ่าตวั ตายดว้ ยแบบประเมนิ 8Q จำ� นวน 4 ราย ส่วนอีก 6 ราย โรคระบาดอุบัติใหม่ในขณะน้ันอยู่ท่ีร้อยละ 10 - 357,8,13 ไมพ่ บรายละเอียดการบันทึกข้อมูล แสดงดงั ตารางท่ี 2 ตารางที่ 1 ความชุกของการรับรคู้ วามเครียดและปจั จัยกระตนุ้ (N = 898) จำ� นวน คน รอ้ ยละ การรับรู้ความเครียด 621 69.2 277 30.8 ไม่รูส้ กึ เครยี ดหรอื วิตกกงั วล รูส้ ึกเครียดหรือวิตกกงั วล 107 39.8 165 59.6 ปัจจัยท่ีกระต้นุ ความเครยี ด 77 27.8 - ดา้ นชมุ ชนและสังคม - ดา้ นโรคโควดิ 19 - ด้านครอบครัว Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):114-24. 118
ประเมินความเสี่ยงต่อภาวะฆ่าตัวตายดว้ ยแบบประเมนิ 8Q จำนวน 4 ราย ส่วนอกี 6 ราย ไม่พบรายละเอยี ด การบันทกึ ข้อมลู แสดงดงั ตารางที่ 2 กาตรราบั รรคู้าวงาทมเี่ค2รียดคภวาาวมะซชมึ ุกเศขร้าอแงลภะปาจั วจะยั ทซเ่ี มึกีย่ เวศขร้อง้าใแนผล้ปู ะ่วยคโรวคาโคมวเดิ ส1ี่ย9งกตรุง่อเทภพามวหะานฆคา่รตวั ตายจากแบบคัดกวรรอนิ ทงิพ9ย์Qสวา่ แงศลระี แล8ะQคณะ ตารปารงะทเ่ีด2น็ ความชกุ ของภาวะซึมเศร้าและความเส่ียงต่อภาวะฆา่ ตวั ตายจากแบบคัดกรองจ9ำQนวแนละ 8Q ร้อยละ ภาวะซมึ เปศรระา้ เด(็นn = 261) จ�ำนวน ร้อยละ ภาวะซึมไมเศ่มรีภา้ า(nวะ=ซ2ึม6เ1ศ)ร้า 218 83.5 มไมรี ม่ะภีดาบั วคะซวมึาเมศรรา้นุ แรงเลก็ นอ้ ย มมรี ะดบับคคววามารมนุ รแนุ รแงเรลงก็ ปนา้อนยกลาง 21383 83.5 12.6 มมีรีระะดดบับั คคววามารมุนรแนุ รแงปรางนมกาลกาง 339 12.6 3.4 ควคาวมเาสมคคมมคมคย่ี ววเีภววีรภีงสะาาาาตาาี่ยมมดมมว่อวเเงบัะภเเะสสตซสสคาซี่ย่ยี มึ่อวีย่ีย่วงงึมเาสตะภงงศมเฆงู่ำ�สตราศร่า้าูงำ่วุนรตะา้แวั ฆรตงา่ามตยากวั (nตา=ย4)(n = 4) 91 3.4 0.4 41433 0.4 16.5 16.5 1331 75 75 25 25 ผู้เข้าร่วมโครงการท้ังหมด ผ้ทู ี่ถูกคดั ออก N = 1,262 N = 364 ผทู้ ่ีถกู คดั เขา้ N = 898 ผ้ทู รี่ สู้ กึ เครียดหรือวติ กกังวล ผู้ทไี่ ม่ร้สู ึกเครยี ดหรอื วิตกกงั วล N = 277 N = 621 ไม่ได้ประเมนิ N = 16 ผ้ทู มี่ ีภาวะซึมเศร้า ผู้ท่ไี มม่ ภี าวะซมึ เศร้า N = 43 N = 218 แผนภาพที่ 1 จำ� นวนผปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 ท่ีเขา้ โครงการระบบการดแู ลจิตใจทางโทรศพั ทแ์ ก่ผปู้ ว่ ยโรคโควดิ 19 กรุงเทพมหานคร และจ�ำนวนผเู้ ขา้ ร่วมการวจิ ัย วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย 2564;29(2):114-24. 4 119
Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):114-24. ตารางท่ี 3 จำ� นวนผูป้ ว่ ยโรคโควดิ 19 จ�ำแนกตามการรบั รูค้ วามเครียด และความสมั พนั ธข์ องปัจจัยทเี่ กยี่ วขอ้ ง Percieved stress and depression and their associated factors among COVID-19 patients การรับรคู้ วามเครยี ด ความเครียดด้านครอบครัว ความเครียดดา้ นชมุ ชนและสังคม ความเครียดดา้ นโรคโควิด 19 ปจั จยั จำ� นวน (รอ้ ยละ) p-value จำ� นวน (รอ้ ยละ) p-value จำ� นวน (รอ้ ยละ) p-value จำ� นวน (รอ้ ยละ) p-value เพศ < .01* มี ไมม่ ี มี ไมม่ ี มี ไม่มี อยา่ งนอ้ ย ไม่มี หนึ่งดา้ น .26 < .01* < .01* หญิง 175 (35.5) 318 (64.5) 47 (9.5) 446 (90.5) 73 (14.8) 420 (85.2) 110 (22.3) 383 (77.7) ชาย 102 (25.2) 303 (74.8) 30 (7.4) 375 (92.6) 34 (8.4) 371 (91.6) 55 (13.6) 350 (86.4) อายุ .16 .74 .02* .98 อายุ 15-59 ปี 263 (31.4) 574 (68.6) 73 (8.7) 764 (91.3) 104 (12.4) 733 (87.6) 154 (18.4) 683 (81.6) 120 อายุ ≥ 60 ปี 12 (22.2) 42 (77.8) 4 (7.4) 50 (92.6) 1 (1.9) 53 (98.1) 10 (18.5) 44 (81.5) สถานะการรกั ษา < .01* < .01* .04* .33 รบั การรักษา 103 (37.5) 172 (62.5) 36 (13.1) 239 (86.9) 41 (14.9) 234 (85.1) 56 (20.4) 219 (79.6) จำ� หน่าย 170 (27.5) 448 (72.5) 40 (6.5) 578 (93.5) 63 (10.2) 555 (89.8) 109 (17.6) 509 (82.4) * แตกตา่ งกันอยา่ งมีนัยส�ำคญั ทางสถติ ทิ ี่ p < .05 Sawangsri W, et al.
การรบั รู้ความเครียด ภาวะซึมเศรา้ และปัจจยั ทเี่ ก่ยี วข้องในผู้ป่วยโรคโควิด 19 กรุงเทพมหานคร วรินทพิ ย์ สวา่ งศรี และคณะ ตารางที่ 4 จ�ำนวนผู้ป่วยโรคโควดิ 19 จำ� แนกตามภาวะซึมเศรา้ และความสัมพนั ธข์ องปจั จัยทีเ่ กยี่ วข้อง ปจั จยั จ�ำนวน (ร้อยละ) p-value มภี าวะซมึ เศร้า ไมม่ ภี าวะซึมเศรา้ < .01* เพศ .33 หญงิ 37 (22.2) 130 (77.8) .82 ชาย 6 (6.4) 88 (93.6) < .01* .14 อายุ 40 (16.1) 208 (83.9) .20 อายุ ≥ 15, < 60 ปี 3 (27.3) 8 (72.7) .19 อายุ ≥ 60 ปี 17 (17) 83 (83) สถานะการรกั ษา 25 (15.9) 132 (84.1) รบั การรักษา จำ� หน่าย 25 (12.6) 173 (87.4) 18 (28.6) 45 (71.4) การรบั รคู้ วามเครียด การรบั รคู้ วามเครียด 1 ดา้ น 16 (21.9) 57 (78.1) การรับรคู้ วามเครยี ด มากกวา่ 1 ดา้ น 27 (14.4) 161 (85.6) การรับรู้ความเครยี ดดา้ นครอบครัว 20 (20.2) 79 (79.8) มี 23 (14.2) 139 (85.8) ไมม่ ี 30 (18.9) 129 (81.1) การรบั รู้ความเครยี ดดา้ นชุมชนและสงั คม 13 (12.7) 89 (87.3) มี ไมม่ ี การรับรู้ความเครียดด้านโรคโควดิ 19 มี ไมม่ ี * แตกต่างกนั อยา่ งมนี ยั สำ� คัญทางสถติ ิที่ p < .05 โดยพบความชุกของการรับรู้ความเครียดด้านโรคโควิด 19 สถานะการรักษาว่า รักษาในโรงพยาบาลหรือจ�ำหน่ายกลับ มากทส่ี ดุ รองมาเปน็ การรบั รคู้ วามเครยี ด ดา้ นชมุ ชนและสงั คม บ้านแล้ว เป็นตัวสะท้อนความรุนแรงและการด�ำเนินของโรค และการรบั รคู้ วามเครยี ดดา้ นครอบครวั สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ซึ่งความรุนแรงของโรคสัมพันธ์กับการรับรู้ความเครียด ผู้ป่วยโรคซาร์สก่อนหน้าน้ี ที่พบว่าผู้ป่วยจะมีผลกระทบทาง ส่วนปัจจัยที่สัมพันธ์กับการรับรู้ความเครียดด้านชุมชนและ จติ ใจในแงล่ บทางดา้ นความกงั วลเกยี่ วกบั สขุ ภาพ การเงนิ และ สังคมอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ คือ เพศ อายุ และสถานะ การกลับเข้าสู่สังคม6 โดยปัจจัยที่พบว่าสัมพันธ์กับการรับรู้ การรักษา พบได้ในประชากรท่ัวไปเช่นกัน โดยกลุ่มวัยเรียน ความเครียดในการศึกษานี้ คือ เพศ และสถานะการรักษา หรือวัยก�ำลังศึกษาพบได้มากกว่าวัยอื่น2 ท้ังนี้อธิบายได้จาก ซึ่งพบเช่นเดียวกันแม้ในกลุ่มประชากรท่ัวไปในสถานการณ์ การเจ็บปว่ ยด้วยโรคโควดิ 19 เปน็ โรคอุบตั ิใหมท่ ีค่ นส่วนใหญ่ โควิด 19 ที่ผู้หญิงมีความเครียดมากกว่าผู้ชาย2 ในขณะท่ี หวาดกลัว และการระบาดท่ีง่ายหากสัมผัสกันในชุมชน วารสารสุขภาพจติ แห่งประเทศไทย 2564;29(2):114-24. 121
Percieved stress and depression and their associated factors among COVID-19 patients Sawangsri W, et al. จึงส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคม การงาน การตีตราผู้ป่วย 3 ขอ้ ทย่ี งั ไมผ่ า่ นการทดสอบคณุ สมบตั เิ ครอ่ื งมอื กลมุ่ ตวั อยา่ ง ติดเช้ือในชุมชนและสังคม โดยเฉพาะขณะรักษาตัวใน ส่วนใหญ่เป็นผู้ท่ีมีอาการคงที่ หรือหายกลับบ้านแล้วซึ่ง โรงพยาบาล ปัญหาสุขภาพจิตน่าจะลดน้อยลงกว่าผู้ท่ีก�ำลังรักษาตัวอยู่ การศึกษาความชุกของภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วย ในโรงพยาบาล ภาวะซึมเศร้าท่ีประเมินต่อยอดเฉพาะ โรคโควดิ 19 พบภาวะซึมเศรา้ ปานกลางถงึ มาก อยู่ทีร่ ้อยละ กลุ่มตัวอย่าง ที่มีการรับรู้ความเครียดเท่านั้น ซึ่งหาก 3.8 น้อยกวา่ ความชุกในตา่ งประเทศ เชน่ ทโ่ี รงพยาบาลสนาม ตอบปฏิเสธจะขาดโอกาสในการประเมินภาวะซึมเศร้าต่อ Jianghan Fangcang Shelter Hospital พบภาวะซมึ เศร้า นอกจากนั้น การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ท�ำให้กลุ่มตัวอย่าง รอ้ ยละ 13.44 ความแตกตา่ งนีอ้ ธบิ ายไดจ้ ากวิธกี ารสัมภาษณ์ ไมส่ ะดวกใจทจ่ี ะรบั ความชว่ ยเหลอื ดา้ นจติ ใจแบบไมเ่ ผชญิ หนา้ ทางโทรศัพท์และการคัดเลือกเฉพาะผู้ท่ีมีความเครียดเพื่อ รวมท้ังข้อจ�ำกัดด้านเวลาและสภาวะสุขภาพ ท�ำให้ขาด ประเมนิ ภาวะซมึ เศรา้ จงึ อาจทำ� ใหไ้ ดค้ า่ นอ้ ยกวา่ ความเปน็ จรงิ ประเด็นค�ำถามที่น่าสนใจหลายเร่ือง เช่น ระดับการศึกษา อีกทั้งกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ในการศึกษานี้มีอาการหายทุเลา โรคประจำ� ตวั เศรษฐานะ โรคจติ เวชทมี่ อี ยเู่ ดมิ อาการปจั จบุ นั จำ� หนา่ ยแลว้ หรอื มอี าการคงทพี่ อทจี่ ะเขา้ รว่ มโครงการไดอ้ กี ความเข้าใจในโรคโควดิ 19 เปน็ ต้น2 ท้ังในประเทศไทยมีอัตราการติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ต่�ำ แบบประเมนิ การรบั รคู้ วามเครยี ดโดยการสมั ภาษณ์ อัตราการเสียชีวิตต�่ำ (ร้อยละ 1.85)11 และอัตราการหาย ทางโทรศัพท์ 3 ข้อ เป็นวิธีการที่เริ่มน�ำมาใช้ในการระบาด จากโรคโควิด 19 สูง (ร้อยละ 96.2) จึงอาจมีผลท�ำให้เกิด ครั้งน้ี เพ่ือเป็นส่วนหนึ่งในการค้นหาผู้ปวยโรคโควิด 19 ที่มี ภาวะซึมเศร้าได้ไม่รุนแรงเม่ือเทียบกับประเทศท่ีมีการ ความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตตั้งแต่ระยะแรกท่ีเริ่มรับรู้ ระบาดหนัก เช่น ประเทศจีนมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่ามาก ความเครยี ดและใหก้ ารชว่ ยเหลอื ทางจติ ใจภายใตส้ ถานการณ์ (รอ้ ยละ 5.3) อยา่ งไรกต็ าม จากสถานการณว์ กิ ฤตทผ่ี า่ นมาของ การแยกกักผู้ป่วยเพื่อลดความเสี่ยงการสัมผัสโรค โดยมี ประเทศไทย เช่น อุทกภัยในปี 2554 ผลการส�ำรวจโดย ข้อค�ำถามปลายปิดเพียง 3 ข้อ ทำ� ให้เกิดการน�ำไปใช้ได้ง่าย กรมสุขภาพจิต พบผู้ประสบภัยมีความเครียดสูงร้อยละ 5.9 ช่วยให้สามารถดูแลกลุ่มเส่ียงได้เร็ว อย่างไรก็ตาม ผลจาก มีภาวะซึมเศร้าร้อยละ 7.7 และเส่ยี งฆ่าตัวตายรอ้ ยละ 1.414 แบบประเมนิ การรบั รคู้ วามเครยี ดนย้ี งั ไมส่ ามารถเปรยี บเทยี บ ซึ่งสูงกว่าการศึกษาคร้ังน้ี ทั้งนี้อาจเน่ืองจากผลกระทบจาก กับการศึกษาอ่ืน ๆ ได้ ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพ่ือประเมิน อุทกภัยรุนแรงก่อให้เกิดความสูญเสียที่อยู่อาศัย ท่ีท�ำกิน ความแม่นและความตรงของเครื่องมือการรับรู้ความเครียด เกดิ ขนึ้ เปน็ เวลานาน และการฟน้ื ตวั ตอ้ งใชเ้ วลายาวนาน อกี ทง้ั เพ่ือเทียบเคียงกับเครื่องมือวัดความเครียดมาตรฐาน การศึกษาครั้งนี้เป็นงานวิจัยที่ศึกษาในช่วงต้นของการระบาด (concurrent validity) เพื่อพัฒนาคุณภาพของเครื่องมือ ในประเทศไทย จึงยังส่งผลกระทบไม่รุนแรงมากนกั ปจั จัยทม่ี ี ต่อไป และควรปรับข้ันตอนให้มีการคัดกรองภาวะซึมเศร้า ความสัมพันธ์ต่อภาวะซึมเศร้าในการศึกษานี้ คือ เพศ และ ไปพรอ้ ม ๆ กับการประเมินความเครียด เนอ่ื งจากเป็นปัญหา การรับรู้ความเครียดมากกว่า 2 ด้านข้ึนไป โดยการศึกษา สุขภาพจิตท่ีพบได้บ่อยและในบางรายอาจมีเพียงอาการใด ภาวะซึมเศร้าในประชากรปกติ ก็พบว่าผู้หญิงมีภาวะซึมเศร้า อาการหน่ึงเท่าน้ัน ผลการศึกษานี้มีประโยชน์ในการน�ำไป มากกว่าผ้ชู าย15 ต่อยอดเพ่ือพัฒนาระบบประเมิน ป้องกัน และให้ค�ำปรึกษา การศึกษานี้เป็นการศึกษาย้อนหลังจากผลการ ปัญหาสุขภาพจิตในผู้ป่วยโรคโควิด 19 หรือโรคระบาด ด�ำเนินการโดยเร่งด่วนในภาวะวิกฤต จึงมีข้อจ�ำกัดหลาย อบุ ัตใิ หมท่ างโทรศัพท์ตอ่ ไป ประการ เช่น การพัฒนาแบบประเมินการรับรู้ความเครียด Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):114-24. 122
การรับรู้ความเครยี ด ภาวะซมึ เศร้า และปัจจัยทีเ่ ก่ยี วข้องในผู้ป่วยโรคโควดิ 19 กรุงเทพมหานคร วรนิ ทพิ ย์ สว่างศรี และคณะ สรุป 5. Bo HX, Li W, Yang Y, Wang Y, Zhang Q, Cheung T, การรบั รคู้ วามเครยี ดและภาวะซมึ เศรา้ ในโรคโควดิ 19 et al. Posttraumatic stress symptoms and attitude ค่อนข้างสูง โดยสัมพันธ์กับเพศ นอกจากนั้นการรับรู้ toward crisis mental health services among ความเครียดสัมพันธ์กับการรักษาแบบผู้ป่วยใน ส่วนภาวะ clinically stable patients with COVID-19 in China. ซึมเศร้าสัมพันธ์กับปัจจัยท่ีส่งผลต่อการรับรู้ความเครียด Psychol Med. 2020:1-2. doi:10.1017/S0033 291720000999. การค้นหากลุ่มเส่ียงและให้การดูแลช่วยเหลือด้านจิตใจ 6. Chua SE, Cheung V, McAlonan GM, Cheung C, เบ้ืองต้นทางโทรศัพท์ เป็นวิธีการที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะ Wong JW, Cheung EP, et al. Stress and psychological impact on SARS patients during ในกลุ่มที่มีการจ�ำกดั การเข้าถึงได้ the outbreak. Can J Psychiatry. 2004;49(6):385-90. doi:10.1177/070674370404900607. กิตติกรรมประกาศ ผู้วิจัยขอขอบพระคุณ นายรัตนศักดิ์ สันติธาดากุล 7. Wu KK, Chan SK, Ma TM. Posttraumatic stress, ที่ใหค้ ำ� ปรกึ ษาดา้ นการศึกษาวจิ ัย anxiety, and depression in survivors of severe acute respiratory syndrome (SARS). J Trauma Stress. เอกสารอ้างอิง 2005;18(1):39-42. doi:10.1002/jts.20004. 1. ไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ประเทศไทย [Corona virus 8. Cheng SK, Wong CW, Tsang J, Wong KC. (COVID-19), Thailand] [อินเทอร์เน็ต]. Google news; Psychological distress and negative appraisals in 2564 [สืบค้นเม่อื วนั ท่ี 8 ม.ค. 2564]. จาก: https://news. survivors of severe acute respiratory syndrome google.com/covid19/map?hl=th&mid=% (SARS). Psychol Med. 2004;34(7):1187-95. 2Fm%2F07f1x&gl=TH&ceid=TH%3Ath doi:10.1017/s0033291704002272. 2. Wang C, Pan R, Wan X, Tan Y, Xu L, Ho CS, et al. 9. Wing YK, Ho SM. Mental health of patients infected Immediate psychological responses and associated with SARS. In: Chan JCK, Wong VC, editors. factors during the initial stage of the 2019 Challenges of severe acute respiratory syndrome. coronavirus disease (COVID-19) epidemic among Hong Kong: Elsevier (Singapore) Pte Ltd; 2006. the general population in China. Int J Environ Res p. 590. Public Health. 2020;17(5):1729. doi:10.3390/ 10. Mak IW, Chu CM, Pan PC, Yiu MG, Chan VL. ijerph17051729. Long-term psychiatric morbidities among SARS 3. Shi L, Lu ZA, Que JY, Huang XL, Liu L, Ran MS, survivors. Gen Hosp Psychiatry. 2009;31(4):318-26. et al. Prevalence of and risk factors associated with doi:10.1016/j.genhosppsych.2009.03.001. mental health symptoms among the general 11. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ . รายงานสถานการณ์ population in China during the coronavirus disease โควิด-19 [COVID-19 situation report] [อินเทอร์เน็ต]. 2019 pandemic. JAMA Netw Open. 2020;3(7):e2014053. นนทบุรี: กรม: 2563 [สืบค้นเมื่อวันท่ี 30 พ.ค. 2563]. doi:10.1001/jamanetworkopen.2020.14053. จาก: https://covid19.ddc.moph.go.th/. 4. Dai LL, Wang X, Jiang TC, Li PF, Wang Y, Wu SJ, et 12. กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ . แบบประเมนิ 2Q, 9Q al. Anxiety and depressive symptoms among และ 8Q [Evaluation form 2Q, 9Q and 8Q] [อนิ เทอรเ์ นต็ ]. COVID-19 patients in Jianghan Fangcang Shelter นนทบรุ :ี กรม; 2564 [สบื ค้นเมอื่ วนั ท่ี 8 ม.ค. 2564]. จาก: hospital in Wuhan, China. PLoS One. https://www.dmh.go.th/test/download/ 2020;15(8):e0238416. doi: 10.1371/journal. files/2Q%209Q%208Q%20(1).pdf pone.0238416. วารสารสขุ ภาพจติ แห่งประเทศไทย 2564;29(2):114-24. 123
Percieved stress and depression and their associated factors among COVID-19 patients Sawangsri W, et al. 13. Tsang HW, Scudds RJ, Chan EY. Psychosocial impact of SARS. Emerg Infect Dis. 2004;10(7):1326-7. doi:10.3201/eid1007.040090. 14. คณะท�ำงานสังเคราะห์บทเรียนการรับมืออภิมหาอุทกภัย 2554. สังเคราะห์บทเรียนการรับมือมหาอุทกภัย 2554 [Synthesis of lessons on dealing with the great flood 2011] [อนิ เทอรเ์ นต็ ]. นนทบรุ :ี สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสขุ ; 2555 [สืบค้นเม่ือวันที่ 7 ธ.ค. 2563]. จาก: http://k4ds.psu.ac.th/k4dm/file/km/hs1975.pdf 15. Kongsuk T, Kittirattanapaiboon P, Kenbubpha K, Sukawaha S, Leejongpermpoon J. The prevalence of major depressive disorders in Thailand: results from the epidemiology of mental disorders national survey 2008. Paper presented at: WPA section on epidemiology and public health meeting, prediction in psychiatric epidemiology - from childhood and adolescence to adulthood; 2010 Jul 11–14; Lisbon, Portugal. Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):114-24. 124
กลมุ่ บำ�บัดดว้ ยการแกไ้ ขปญั หาร่วมกับการเจรญิ สตติ ่อภาวะซึมเศร้าในผสู้ ูงอายโุ รคเร้ือรงั เกษร สายธนู และคณะ นิพนธ์ตน้ ฉบบั ผลของกลุ่มบำ� บดั ด้วยการแก้ไขปัญหารว่ มกับการเจริญสติต่อภาวะซมึ เศรา้ ในผ้สู งู อายทุ ่มี โี รคเรื้อรงั ในชมุ ชน วนั รบั : 19 มถิ นุ ายน 2563 เกษร สายธน,ู พย.ม.1, กิง่ กาญจน์ ชเู มือง, พย.ม.1, วนั แกไ้ ข : 20 พฤษภาคม 2564 เกษราภรณ์ เคนบุปผา, ปร.ด.2 วนั ตอบรบั : 22 พฤษภาคม 2564 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยอุบลราชธาน1ี , โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธ2์ิ บทคดั ยอ่ วัตถุประสงค์ : เพื่อทดสอบประสิทธิผลโปรแกรมกลุ่มบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาร่วมกับการเจริญสติต่อภาวะซึมเศร้าของ ผสู้ งู อายุทมี่ โี รคเรื้อรงั ในชมุ ชน วธิ กี าร : เปน็ การวจิ ยั กงึ่ ทดลองในกลมุ่ ตวั อยา่ งผสู้ งู อายทุ ปี่ ว่ ยดว้ ยโรคเรอ้ื รงั และมภี าวะซมึ เศรา้ อาศยั อยใู่ นชมุ ชนแหง่ หนงึ่ จำ� นวน 52 คน คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 26 คน กลุ่มทดลองได้เข้าร่วมโปรแกรม กลุ่มบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาร่วมกับการเจริญสติ 4 สัปดาห์ 7 กิจกรรม ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ วัดผลลัพธ์จากการลดลงของภาวะซึมเศร้าด้วยแบบวัดความเศร้าในผู้สูงอายุของคนไทย และการเพิ่มข้ึนของทักษะการ แก้ไขปัญหาดว้ ยแบบประเมนิ ทักษะการแกไ้ ขปญั หาท่มี ีค่าความเทย่ี งเทา่ กบั 0.89 และ 0.87 ตามล�ำดบั วิเคราะห์ข้อมลู โดยใช้ สถิติเชิงพรรณนาและ t-test ผล : กลมุ่ ตวั อยา่ งทัง้ สองกลุม่ มคี า่ เฉลีย่ คะแนนซมึ เศร้าลดต่�ำกวา่ ก่อนการทดลองอยา่ งมนี ัยสำ� คญั ทางสถติ ิ (p < .005) เม่อื สิ้นสุดการทดลองทันทีและหลังติดตามผล 1 เดือน พบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉล่ียคะแนนซึมเศร้าน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่าง มีนยั ส�ำคัญทางสถติ ิ (p < .005) และกลุม่ ทดลองมคี า่ เฉล่ยี ทักษะการแก้ไขปัญหาสงู กวา่ กลุ่มควบคุมอย่างมนี ยั ส�ำคญั ทางสถติ ิ (p < .005) เชน่ กัน สรุป : โปรแกรมกลุ่มบ�ำบดั ด้วยการแก้ไขปญั หารว่ มกบั การเจริญสตสิ ามารถลดอาการซึมเศรา้ และเสรมิ ทกั ษะการแก้ปญั หาใน ผ้สู ูงอายุทม่ี โี รคเร้อื รงั ได้ อาจเป็นทางเลอื กหนึ่งในการบ�ำบดั ในผู้สงู อายุทมี่ ีโรคเรอื้ รงั และภาวะซึมเศรา้ ในชมุ ชนได้ คำ� ส�ำคัญ : กลมุ่ บ�ำบัด การเจรญิ สติ การบำ� บดั ดว้ ยการแกไ้ ขปัญหา ผู้สงู อายทุ มี่ โี รคเรื้อรัง ภาวะซึมเศรา้ ตดิ ต่อผ้นู ิพนธ์ : เกษร สายธนู; e-mail: [email protected] วารสารสุขภาพจติ แห่งประเทศไทย 2564;29(2):125-36. 1 2 5
Problem-solving group therapy conjoined with mindfulness for depression in elderly with chronic diseases Saithanu K, et al. Original article The effects of problem-solving group therapy conjoined with mindfulness for depression in elderly with chronic diseases living in community Received : 19 June 2020 Kesorn Saithanu, M.N.S.1, Kingkan Choomuang, M.N.S.1 Revised : 20 May 2021 Kedsaraporn Kenbubpha, Ph.D.2 Accepted : 22 May 2021 Faculty of Nursing, Ubon Ratchathani University1 Prasrimahabhodi Psychiatric Hospital2 Abstract Objective: To test the efficacy of problem-solving group therapy conjoined with mindfulness for depression in elderly with chronic diseases living in the community. Methods: This study used quasi-experimental research. The subjects were 52 elderly with chronic conditions and depression comorbidity who lived in the community. They were recruited by purposive sampling and divided into two experimental and control groups of 26. The experimental group participated in the problem-solving group therapy, consisting of 7 sessions for 4 weeks, conjoined with mindfulness program while the control group received routine nursing care. The outcomes of this program were the reduction of depression scores and improved problem-solving skills measured by Thai geriatric depression scale (TGDS), and problem-solving inventory with the reliability of 0.89 and 0.87, respectively. Data were analyzed using descriptive statistics and t-test. Results: Both experimental and control group had statistically significant reduced depressive symptoms (p < .005) immediately after receiving the intervention. Comparing between two groups, the experimental group has a statistically significant lowered score of depression than the control group immediately after intervention and at one month follow-up (p < .005). While the problem-solving skill score of the experimental group were statistical significance higher than the control group in both immediately after intervention and at one month follow-up (p < .005). Conclusion: The problem-solving group therapy conjoined with mindfulness is more likely to reduce depression and improve problem-solving skills among the elderly who had chronic diseases. It could be an optional nursing care for elderly with chronic diseases and depression comorbidity in the community. Keywords: depression, elderly with chronic diseases, group therapy, mindfulness, problem-solving therapy Corresponding author: Kesorn Saithanu; e-mail: [email protected] Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):125-36. 126
กลมุ่ บำ�บัดด้วยการแกไ้ ขปัญหาร่วมกับการเจริญสติตอ่ ภาวะซึมเศร้าในผูส้ งู อายุโรคเรอื้ รงั เกษร สายธนู และคณะ ความรู้เดิม : การบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหา หรือการ ด้านจิตสังคม เช่น บุคลิกภาพ การเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย เจรญิ สติอย่างเดยี วมีประสิทธผิ ลตอ่ การลดภาวะซึมเศรา้ สนใจแต่ในด้านท่ีไม่ดีหรือด้านลบของสิ่งต่าง ๆ มากกว่า ความรใู้ หม่ : โปรแกรมกลมุ่ บำ� บดั ดว้ ยการแกไ้ ขปญั หารว่ ม ดา้ นบวก สภาวะอารมณไ์ มค่ งทแ่ี ละเปลย่ี นแปลงไดง้ า่ ย คดิ มาก กับการเจริญสติสามารถลดอาการซึมเศร้าและเพิ่มทักษะ วิตกกังวลง่าย5,6 รูปแบบการเผชิญปัญหาไม่เหมาะสม เช่น การแก้ไขปัญหาในผู้สูงอายุที่เป็นโรคเร้ือรังได้ ท�ำให้เกิด ปฏิเสธและหลีกหนีปัญหา มองเห็นปัญหาเป็นภาพรวม การตระหนักรู้ในปัญหาของตนเอง อยู่กับความเป็นจริง ไม่สามารถแยกประเด็นปัญหาออกเป็นส่วน ๆ จึงไม่สามารถ ลดความวติ กกงั วล นำ� ไปสกู่ ารแกไ้ ขปญั หาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม จดั การกบั ปญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ ได4้ นำ� ไปสกู่ ารเกดิ ปญั หาสขุ ภาพจติ ประโยชนท์ จี่ ะนำ� ไปใช้ : โปรแกรมฯ ดังกล่าว สามารถนำ� และปจั จยั ดา้ นสงั คม สงิ่ แวดลอ้ มและเศรษฐกจิ เชน่ การอยใู่ น ไปใช้เป็นทางเลือกในการบ�ำบัดส�ำหรับผู้สูงอายุท่ีมี สังคมท่ีแออัดหรือมีความรุนแรง ท�ำให้เกิดความเครียด โรคเร้ือรังและภาวะซึมเศร้าในชุมชนได้ และอาจปรับ นอกจากนี้ การสูญเสียสถานภาพและบทบาททางสังคมมีผล รูปแบบใหเ้ หมาะกับบริบทในกลุม่ เป้าหมายอื่น โดยตรงตอ่ สภาพจติ ใจและกอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาสขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายุ ไดเ้ ช่นเดียวกนั 5-7 แนวทางการบ�ำบัดรักษาผู้ท่ีมีภาวะซึมเศร้าหลาย บทน�ำ รูปแบบ ทั้งการรักษาทางด้านร่างกาย ได้แก่ การใช้ยารักษา ภาวะซมึ เศร้า (depression) เปน็ ภาวะที่พบได้บอ่ ย ซมึ เศร้า หรอื การรกั ษาด้วยไฟฟ้าในรายทไี่ ม่ตอบสนองต่อการ ในผู้สูงอายุ คิดเป็นร้อยละ 5.7 ในผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี1 รักษาด้วยยา การรกั ษาดา้ นจติ ใจดว้ ยจติ บำ� บดั รายบคุ คลหรือ ผสู้ งู อายทุ มี่ ภี าวะพงึ่ พงิ หรอื พกิ าร มกั มคี วามยากลำ� บากในการ รายกลุ่ม เช่น การให้ค�ำปรึกษา การบ�ำบัดเพื่อปรับเปล่ียน เข้ารับบริการสาธารณสุขและมีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าได้ ความคดิ และพฤตกิ รรม การท�ำกล่มุ จิตบ�ำบดั ประคับประคอง สงู กวา่ ผสู้ งู อายทุ วั่ ไป2 จากผลการคดั กรองสขุ ภาพผสู้ งู อายขุ อง เป็นต้น8 ท้ังน้ี การบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหา (problem ประเทศไทย ปี พ.ศ. 2556 พบวา่ มผี สู้ งู อายุท่ีมภี าวะซมึ เศรา้ solving therapy; PST) เป็นรปู แบบการบำ� บัดทางจติ สังคม ร้อยละ 33 และมีผู้สูงอายุที่เป็นโรคซึมเศร้า (depressive ชนดิ หนงึ่ ทเ่ี นน้ การจดั การและการแกไ้ ขปญั หาทเ่ี ฉพาะเจาะจง disorder) ร้อยละ 62 ปัจจัยทางชวี ภาพ ปจั จยั ดา้ นจติ สังคม ผู้บ�ำบัดและผู้ป่วยจะร่วมกันค้นหาและจัดล�ำดับความส�ำคัญ และปัจจัยด้านสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจมีผลต่อการ ของปัญหา แล้วมีการจัดการปัญหาให้ลดลงและปรับปรุง เกิดภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ โดยปัจจัยทางชีวภาพ เช่น พฤติกรรมการแก้ปัญหาให้เหมาะสม9 หลักส�ำคัญคือปรับ กรรมพนั ธ์ุ สารเสพตดิ พยาธสิ ภาพทางสมอง การเจบ็ ปว่ ยดว้ ย มุมมองต่อปัญหาในทางลบมาเป็นทางบวก ปรับจากวิธีการ โรคทางกาย3 ผสู้ งู อายทุ ีเ่ จบ็ ป่วยดว้ ยโรคเรือ้ รังทางกาย 5 โรค แก้ไขปัญหาแบบหุนหันพลันแล่นไม่สมเหตุผล ไม่ระมัดระวัง ได้แก่ มะเรง็ เบาหวาน โรคหวั ใจ โรคหลอดเลอื ดสมอง และ หรอื หลกี เลย่ี งมาเปน็ การแกไ้ ขปญั หาแบบใชเ้ หตผุ ล มที างเลอื ก โรคไตวายเรื้อรัง ถือเป็นกลุ่มเส่ียงในการเกิดภาวะซึมเศร้าซ่ึง ในการแก้ไขปัญหามากข้ึนและท�ำได้จริง ซ่ึงส่งผลให้ พบได้ร้อยละ 20 – 25 สูงกว่ากล่มุ ผูส้ ูงอายทุ ัว่ ไป4 เนื่องจาก อารมณ์เศร้าลดลง10 ทักษะการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย ความเจบ็ ปว่ ยสง่ ผลใหศ้ กั ยภาพในการดแู ลตนเองของผสู้ งู อายุ 4 ด้าน คือ การให้นิยามของปัญหาและท�ำความเข้าใจกับ ต่�ำลงและการรับรู้คุณค่าในตนเองลดลงจากการต้องพึ่งพิง โครงสรา้ งของปญั หา การกำ� หนดทางเลอื กในการแกไ้ ขปญั หา ผู้อื่นมากข้ึน อาจท�ำให้เกิดความเครียดและภาวะซึมเศร้า การตัดสินใจเลือกทางเลือกในการแก้ไขปัญหา และการ ตามมา ผสู้ งู อายทุ เี่ จบ็ ปว่ ยเปน็ เวลานานอาจคดิ อยากตายหรอื ด�ำเนินการตามทางที่เลือกและพิสูจน9์ ,11 การทบทวนเอกสาร วางแผนท�ำร้ายตัวเอง หรือไม่ยอมกินยาเพ่ือรักษาความ วจิ ัย พบว่า PST เปน็ รปู แบบการบ�ำบัดที่ช่วยลดภาวะซึมเศร้า เจ็บป่วยเพื่อปล่อยให้อาการทรุดลงจนเสียชีวิต2 ส่วนปัจจัย วารสารสุขภาพจิตแหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):125-36. 1 2 7
Problem-solving group therapy conjoined with mindfulness for depression in elderly with chronic diseases Saithanu K, et al. ในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า12 และสามารถใช้ได้ทั้งกลุ่มผู้ป่วยท่ีเป็น ผสมผสานแนวคดิ การเจรญิ สตใิ นผสู้ งู อายทุ ม่ี โี รคเรอื้ รงั รว่ มกบั โรคซึมเศร้า โรคซึมเศร้าเร้ือรัง และโรคซึมเศร้าที่มีอาการ ภาวะซึมเศร้าในชุมชน โดยเปรียบเทียบระดับภาวะซึมเศร้า เล็กน้อย13 การศึกษาในหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ และระดับทักษะการแก้ไขปัญหา ก่อนและหลังการทดลอง พบประสทิ ธภิ าพในการลดภาวะซมึ เศรา้ ไดท้ ง้ั ในผสู้ งู อายทุ วั่ ไป และหลังติดตามหนึ่งเดือนในผู้สูงอายุท่ีได้รับโปรแกรมบำ� บัด และผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน4,14 ช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ดังกล่าว และศึกษาเปรียบเทียบกับผู้ที่ได้รับการพยาบาล จดั การอารมณแ์ ละความเศรา้ ไดด้ ขี นึ้ รวมทง้ั จดั การปญั หาและ ตามปกติ โดยคาดว่าการศึกษาครงั้ นจี้ ะได้ทางเลอื กการบำ� บดั แรงกดดนั ที่เก่ยี วกบั โรคมะเร็งไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ15 สำ� หรบั ผสู้ งู อายทุ ม่ี โี รคเรอ้ื รงั และมภี าวะซมึ เศรา้ รว่ มไดอ้ ยา่ งมี ส่วนการเจริญสติ (mindfulness) เป็นการฝึกให้ ประสทิ ธผิ ล และเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของผสู้ งู อายใุ นการจดั การ อยู่กับปัจจุบันขณะ16 ท�ำให้สติเกิดขึ้น ต้ังม่ัน และท�ำให้ ปญั หาของตนเองทเี่ หมาะสมขน้ึ ย่ิงข้นึ ไปจนเกิดปญั ญา สติ คือ ความระลกึ ได้ ความนึกขึน้ ได้ ความไม่เผลอ การคุมจิตไว้กับสิ่งที่ก�ำลังท�ำอยู่ เป็นอาการที่ จิตไม่หลงลืม ระงับยับย้ังใจได้17 แนวทางการเจริญสติมี วธิ กี าร หลายรูปแบบแต่มีเป้าหมายเหมือนกัน คือ ดับทุกข์ ซ่ึงใน เปน็ การศกึ ษาวจิ ยั กง่ึ ทดลอง (quasi-experimental ปัจจุบันมีการศึกษาผลน�ำหลักการเจริญสติมาใช้ในการ research) ชนิดสองกลุ่ม ทดสอบก่อนและหลัง (pretest- เสริมสร้างสุขภาพจิตในผู้สูงอายุพบว่า ช่วยให้ผู้สูงอายุลด posttest control group design) เพอ่ื ทดสอบประสทิ ธผิ ล ความวิตกกังวลท�ำให้จิตใจสงบขึ้น18 หากผู้สูงอายุปฏิบัติ ของโปรแกรมกลุ่มบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาร่วมกับการ เจรญิ สตปิ ฏั ฐานอยา่ งตอ่ เนอื่ งจะชว่ ยปอ้ งกนั ภาวะซมึ เศรา้ ได1้ 9 เจรญิ สติตอ่ ภาวะซึมเศรา้ ของผสู้ ูงอายทุ ่ีมีโรคเร้อื รงั ในชมุ ชน ในกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังพบว่าช่วยให้สุขภาพจิตดีข้ึน ลดภาวะ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังในชุมชน ซึมเศร้าในผู้ป่วยโรคเบาหวานได2้ 0 นอกจากน้ี การศึกษาการ แห่งหน่ึงในจังหวัดอุบลราชธานี คัดเลือกกลุ่มตัวอย่าง เจริญสติร่วมกับการบ�ำบัดรูปแบบอื่นพบว่า เพิ่มประสิทธิผล แบบเฉพาะเจาะจง (purposive sampling) โดยมคี ณุ สมบัติ ในการบ�ำบัดรักษามากขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยนความคิด ตามเกณฑ์การคัดเข้าคือ อายุ 60 - 79 ปี มีโรคเรื้อรังใด ๆ และพฤติกรรม21,22 การสร้างความเข้มแข็งทางใจที่เน้นการ ใน 5 กลุ่มโรค ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฝกึ สต2ิ 3 เปน็ ตน้ การฝึกท�ำสมาธิประมาณ 20 นาที มีผลตอ่ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคระบบ การแก้ไขปัญหาของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเพิ่มมากข้ึน ทางเดินหายใจ โดยไม่มีอาการทางกายรุนแรงที่เป็นอุปสรรค เน่ืองจากการมีสติจะช่วยให้คนเราสามารถอยู่กับปัจจุบันและ ตอ่ การเขา้ กลมุ่ หรอื เปน็ โรคตดิ ตอ่ ทอ่ี ยใู่ นระยะแพรก่ ระจายเชอื้ รู้จักอารมณ์ของตนเองดีข้ึน จึงส่งผลให้ทักษะการแก้ไข มีภาวะซึมเศร้าอยู่ในระดับเล็กน้อย-ปานกลาง (จากการ ปัญหาดีขนึ้ 24 ประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยแบบวัดความเศร้าในผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม จากการทบทวนงานวิจัยท่ีผ่านมา ของไทยทมี่ ีคะแนนตง้ั แต่ 13 - 24 คะแนน) ไมม่ ีความจ�ำเสือ่ ม พบวา่ การศกึ ษาโปรแกรมกลมุ่ บำ� บดั ตามแนวคดิ การบำ� บดั ดว้ ย ไม่ได้รับการรักษาด้วยยารักษาซึมเศร้า ค�ำนวณขนาด การแก้ไขปัญหาผสมผสานแนวคิดการเจริญสติต่อภาวะ กลุ่มตัวอย่างโดยใช้โปรแกรม G* power ก�ำหนดระดับ ซึมเศร้ายงั มคี อ่ นขา้ งจ�ำกัด และยังไมม่ กี ารศกึ ษาในผู้สูงอายทุ ่ี ความเชื่อมั่นท่ี 0.05 ให้อ�ำนาจทดสอบ 0.80 และก�ำหนด ป่วยเป็นโรคเร้ือรังและมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย ดังน้ัน ขนาดความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตวั แปร (effect size) เทา่ กบั 0.70 คณะผู้วิจัยจึงต้องการศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรม ได้กลุ่มตัวอย่างจ�ำนวน 52 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและ กลุ่มบ�ำบัดตามแนวคิดการบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหา กลมุ่ ทดลอง กลมุ่ ละ 26 คน โดยจดั กลมุ่ ใหม้ ขี นาดใกลเ้ คยี งกนั (สมาชกิ กลมุ่ ละประมาณ 7 - 10 คน) คละชายหญงิ ทมี่ จี �ำนวน เท่ากันหรือใกล้เคียงกันมากท่ีสุด กลุ่มทดลองจะได้รับ Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):125-36. 128
กลมุ่ บ�ำ บดั ด้วยการแกไ้ ขปญั หาร่วมกบั การเจริญสตติ ่อภาวะซมึ เศรา้ ในผู้สูงอายุโรคเร้อื รัง เกษร สายธนู และคณะ โปรแกรมกลุ่มบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาร่วมกับการเจริญสติ การจดั การปญั หา โดยใหส้ มาชกิ กลมุ่ แลกเปลย่ี นประสบการณ์ ส่วนกลุ่มควบคุมจะได้รับการพยาบาลตามปกติจาก การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา รวมถึงผลกระทบท่ีเกิดขึ้น แล้ว โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล เช่น การติดตามอาการ เรียนรู้รูปแบบการจัดการปัญหาท่ีเหมาะสมโดยเชื่อมโยงถึง ตามนัดหมาย การให้ค�ำแนะน�ำเบ้ืองต้นในการดูแลสุขภาพ การมสี ติ และกิจกรรมท่ี 6 เปน็ กิจกรรมฝกึ ตัง้ เปา้ หมายอย่าง เปน็ ต้น มสี ตแิ ละการตดั สนิ ใจเลอื กวธิ จี ดั การปญั หา; สปั ดาหท์ ่ี 4 ไดแ้ ก่ เคร่ืองมือท่ีใช้ในการทดลอง ได้แก่ โปรแกรม กิจกรรมที่ 7 เป็นการประเมินผลลัพธ์การแก้ไขปัญหาและ กลุ่มบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาร่วมกับการเจริญสติ ผู้วิจัย การเจริญสติโดยการประเมินภาวะซึมเศร้าและทักษะการ พัฒนาโปรแกรมกลุ่มบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาตามแนวคิด แก้ไขปัญหา สนทนากลุ่มเกี่ยวกับกิจกรรมการบ�ำบัดและ ของเนซู และคณะ9 ร่วมกับแนวคิดการเจริญสติ ของ ข้อคิดเห็นอื่น ๆ หลังจากนั้นติดตามผล 1 เดือน ด้วยการ ธวชั ชัย กฤษณะปกรณ์กจิ และคณะ16 ตามหลกั สตปิ ัฏฐาน 4 สนทนากลุ่มและประเมินภาวะซึมเศร้าและทักษะการแก้ไข คือ กาย เวทนา จิต และธรรม ที่มีความสัมพันธ์กัน และ ปญั หาของสมาชิกกลุ่มอกี ครงั้ แนวปฏิบัตกิ ารเจรญิ สติของพระบวรปริยัติวิธาน17 ซึ่งมวี ิธกี าร เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ปฏิบัติที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ง่าย โปรแกรมกลุ่มบ�ำบัดนี้ 1) แบบทดสอบในการตรวจหาภาวะความพิการทางสมอง ผ่านการตรวจสอบด้านเนื้อหาและกระบวนการจาก (the mini-mental state examination; MMSE) ท่ี ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน และผู้น�ำศาสนาในชุมชน 2 ท่านได้ให้ พัฒนาข้ึนโดย อัญชลุ ี เตมียประดษิ ฐ์ และคณะ25 เพอื่ คดั กรอง ค�ำแนะน�ำเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการฝึกปฏิบัติเจริญสติ ก่อนน�ำไป ภาวะความพิการทางสมอง ประกอบด้วย 5 สว่ น จำ� นวน 11 ทดลองใช้ในผู้สูงอายุท่ีมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มตัวอย่าง ข้อคำ� ถาม 2) แบบสอบถามขอ้ มลู ส่วนบุคคล แบบเลอื กตอบ โปรแกรมกลุม่ บ�ำบดั ประกอบดว้ ย 7 กจิ กรรมโดยดำ� เนินการ จำ� นวน 9 ขอ้ ทผ่ี วู้ จิ ยั สรา้ งขน้ึ ประกอบดว้ ยขอ้ คำ� ถามเกย่ี วกบั ในระยะเวลา 4 สัปดาห์ ๆ ละ 1 - 2 กิจกรรม ใช้เวลาครัง้ ละ เพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ 90 นาที ดงั นี้ สปั ดาหท์ ี่ 1 ไดแ้ ก่ กจิ กรรมท่ี 1 สรา้ งสมั พนั ธภาพ ความพอเพยี งของรายได้ การเจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคเรอ้ื รงั และผดู้ แู ล ระหว่างสมาชิกกลุ่มและสร้างความเข้าใจเก่ียวกับการเข้าร่วม หลักเมื่อเจ็บป่วย 3) แบบวัดความเศร้าในผู้สูงอายุของไทย กจิ กรรม และกจิ กรรมท่ี 2 ใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั ภาวะซมึ เศรา้ และ (Thai geriatric depression scale; TGDS) พัฒนาโดย โรคเร้ือรังในผู้สูงอายุ โดยประเมินความรู้ก่อนและหลังให้ นิพนธ์ พวงวรินทร์26 และกลุ่มฟื้นฟูสมรรถภาพสมองแห่ง ความร;ู้ สปั ดาหท์ ี่ 2 ไดแ้ ก่ กจิ กรรมท่ี 3 เปน็ กจิ กรรมฝกึ ปฏบิ ตั ิ ประเทศไทย ประกอบด้วยข้อค�ำถามแบบเลือกตอบ จ�ำนวน เจริญสติ โดยพระสงฆ์เป็นผู้น�ำในการฝึกปฏิบัติเพื่อให้ 30 ข้อ ข้อค�ำถามด้านลบ จ�ำนวน 10 ข้อ และข้อค�ำถาม สมาชกิ กลมุ่ เกดิ ความเขา้ ใจการเจรญิ สตแิ ละสามารถฝกึ ปฏบิ ตั ิ ด้านบวก จำ� นวน 20 ขอ้ การแปลผลแบง่ เป็น 4 ระดบั คือ เจริญสติได้เหมาะสมข้ึน หลังจากน้ันให้ฝึกปฏิบัติเจริญสติ อยู่ในเกณฑ์ปกติ (0 - 12 คะแนน) มีความเศร้าเล็กน้อย ที่บ้านอย่างต่อเน่ืองทุกวัน ๆ ละประมาณ 30 นาที และให้ (13 - 18 คะแนน) มีความเศรา้ ปานกลาง (19 - 24 คะแนน) สมาชิกกลุ่มปฏิบัติเจริญสติก่อนเร่ิมกิจกรรมและหลังสิ้นสุด และมีความเศรา้ รนุ แรง (25 - 30 คะแนน) ค่าความเช่อื ม่ันใน กิจกรรมในแต่ละคร้ัง; สัปดาห์ที่ 3 ได้แก่ กิจกรรมท่ี 4 การศึกษาครั้งนี้เท่ากับ 0.89 และ 4) แบบประเมินทักษะ เป็นกิจกรรมค้นหาและปรับมุมมองต่อปัญหา โดยให้สมาชิก การแก้ไขปัญหา ที่คณะผู้วิจัยพัฒนาขึ้นจากแนวคิดการแก้ไข กลุ่มฝึกค้นหาและวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดจากการเจ็บป่วย ปัญหาของเนซู และคณะ11 ประกอบด้วยข้อค�ำถาม จ�ำนวน รวมถงึ ความคดิ เหน็ หรอื มมุ มองตอ่ ปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจ 20 ข้อ ได้แก่ การรับรู้ปัญหา มุมมองหรือทัศนคติต่อปัญหา ตนเองมากขน้ึ กิจกรรมท่ี 5 เป็นกิจกรรมฝกึ วิเคราะหร์ ปู แบบ รูปแบบการแก้ไขปัญหา การตดั สนิ ใจเลือกวธิ ีการแก้ไขปัญหา วารสารสขุ ภาพจติ แหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):125-36. 1 2 9
Problem-solving group therapy conjoined with mindfulness for depression in elderly with chronic diseases Saithanu K, et al. และการประเมินผลวิธีแก้ไขปัญหา การแปลผลแบ่งตาม ผลคะแนนซึมเศร้าและทักษะการแก้ไขปัญหาของ ชว่ งคะแนนรวมทักษะการแกไ้ ขปัญหา แบง่ เปน็ 4 ระดับ คือ กลุ่มทดลอง/กลุ่มควบคุม ก่อนและหลังทดลองและหลัง ทกั ษะการแกไ้ ขปญั หาอยใู่ นระดบั ตำ�่ (20 - 40 คะแนน) ระดบั ติดตาม 1 เดอื น ปานกลาง (41 - 60 คะแนน) ระดบั ดี (61 - 80 คะแนน) และ เม่ือเปรียบเทียบคะแนนซึมเศร้าของกลุ่มทดลอง ระดับดีมาก (81 - 100 คะแนน) ตรวจสอบเนื้อหาจาก พบว่า ค่าเฉล่ียคะแนนซึมเศร้าหลังการทดลองทันที และ ผทู้ รงคุณวุฒิ จ�ำนวน 5 ทา่ น และหาค่าความตรงตามเนอื้ หา หลังติดตามผล 1 เดือน ลดต่�ำกว่าก่อนการทดลองอย่างมี (CVI) เทา่ กบั .93 และคา่ ความเชือ่ มั่น เท่ากับ .87 นpยั =ส.�ำ0ค0ญั5ทตาางมสลถำ� ิตดิบั (t)2แ5ล=ะค9ว.7าม2,แตpก=ตา่ .ง0ค0า่ 5เฉแลลย่ี ะคะtแ25น=นท5กั .1ษ4ะ, การวจิ ยั นไ้ี ดผ้ า่ นการรบั รองการทำ� การวจิ ยั ในมนษุ ย์ การแก้ไขปัญหาหลังการทดลองทันทีและหลังติดตามผล หมายเลขรับรอง UBU-REC-37/2559 วันท่ี 24 1 เดือน สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 จากคณะกรรมการจริยธรรม (t25 = - 8.92, p = .005 และ t25 = - 8.91, p = .005) การวิจัยในมนุษย์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เก็บรวบรวม แสดงดังตารางที่ 2 ข้อมูลระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 เม่ือเปรียบเทียบคะแนนซึมเศร้าของกลุ่มควบคุม โดยผู้ท�ำกลุ่มบ�ำบัดเป็นอาจารย์พยาบาลท่ีมีความเช่ียวชาญ พบว่า คา่ เฉลยี่ คะแนนซมึ เศร้าหลงั การทดลองลดต�ำ่ กว่ากอ่ น ด้านการพยาบาลจิตเวช และมีประสบการณ์และผ่านการ การทดลองอย่างมนี ยั สำ� คญั ทางสถิติ (t25 = 5.14, p = .005) ฝกึ ทักษะการบ�ำบัดดว้ ยการแกไ้ ขปญั หา อย่างไรก็ตาม หลังติดตามผล 1 เดือน แม้ค่าเฉลี่ยคะแนน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ 1) วิเคราะห์ ซึมเศร้าจะลดต�่ำกว่าก่อนการทดลอง แต่ความแตกต่างไม่มี ข้อมูลส่วนบุคคล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถ่ี นัยส�ำคญั ทางสถิติ (p < .05) สว่ นคา่ เฉลีย่ คะแนนทกั ษะการ รอ้ ยละ มธั ยฐาน คา่ เฉลย่ี สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน 2) วเิ คราะห์ แก้ไขปัญหาพบว่า ท้ังหลังการทดลองและหลังติดตามผล ความแตกต่างของคะแนนซึมเศร้าและคะแนนทักษะการ 1 เดือน ไม่แตกต่างกับก่อนการทดลองอย่างมีนัยส�ำคัญทาง แกไ้ ขปญั หา กอ่ นการทดลอง หลังการทดลองทนั ที และระยะ สถิตทิ ร่ี ะดับ < .05 แสดงดงั ตารางที่ 2 ติดตาม 1 เดอื นของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคมุ โดยใชส้ ถิติ ผลคะแนนซึมเศร้าและทักษะการแก้ไขปัญหา paired t-test และ 3) วิเคราะห์ความแตกต่างของคะแนน ระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ก่อนและหลังทดลอง ภาวะซมึ เศร้าและทักษะการแก้ไขปญั หา ระหวา่ งกลมุ่ ทดลอง และหลงั ติดตาม 1 เดือน และกลุม่ ควบคมุ โดยใช้สถิติ independent t-test เมอื่ เปรยี บเทยี บคา่ เฉลยี่ คะแนนซมึ เศรา้ และคะแนน ผล ทักษะการแก้ไขปัญหาระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 73.1) ระหว่างก่อนและหลังการทดลองทันทีพบว่า กลุ่มทดลองมี สถานภาพสมรสคู่ จบช้ันประถมศึกษาและประกอบอาชีพ ค่าเฉล่ียคะแนนซึมเศร้าต�่ำกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยส�ำคัญ เกษตรกรรม รายได้ต่อเดือนอยู่ระหว่าง 600 - 1,500 บาท ทางสถิติ (t45 = - 7.02, p = .005) สว่ นคา่ เฉลยี่ คะแนนทกั ษะ ตอ่ เดอื น เพยี งพอแตไ่ มเ่ หลอื เกบ็ สว่ นโรคเรอื้ รงั ทพ่ี บมากทส่ี ดุ การแก้ไขปัญหาพบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยทักษะการ คือ ความดันโลหติ สงู (ร้อยละ 51.9) รองลงมา คอื ความดัน- แก้ไขปัญหาสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติ โลหิตสูงร่วมกับเบาหวาน (ร้อยละ 23.1) ผู้ดูแลหลักกรณี (t42 = - 10.67, p = .005) เจบ็ ป่วยส่วนใหญ่ คือ คคู่ รอง แสดงดังตารางที่ 1 เมอื่ เปรยี บเทยี บคา่ เฉลยี่ คะแนนซมึ เศรา้ และคะแนน ทักษะการแก้ไขปัญหาระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):125-36. 130
กลุม่ บ�ำ บัดด้วยการแก้ไขปญั หารว่ มกับการเจรญิ สตติ ่อภาวะซมึ เศรา้ ในผู้สงู อายุโรคเรื้อรัง เกษร สายธนู และคณะ ตารางที่ 1 ขอ้ มูลสว่ นบคุ คลของกล่มุ ตวั อยา่ งจ�ำแนกกลุ่มทดลองและกล่มุ ควบคมุ (n = 52) ข้อมลู ส่วนบุคคล จำ� นวนกลมุ่ ทดลอง จ�ำนวนกลุ่มควบคุม (n = 26) (n = 26) เพศ ชาย คน ร้อยละ คน ร้อยละ หญงิ 7 26.9 7 26.9 19 73.0 อายุ 19 73.0 69.35 + 5.45 ปี ค่าเฉลยี่ + สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน มธั ยฐาน (ค่าต�ำ่ สุด; ค่าสงู สดุ ) 70.08 + 4.61 ปี 60; 78 ปี 60; 76 ปี 1 3.8 สถานภาพสมรส -- 23 88.4 โสด 22 84.6 2 7.7 คู่ 4 15.3 26 100.0 หม้าย 23 88.4 -- 3 11.5 2 7.7 ระดับการศกึ ษา 8 30.7 21 80.7 ประถมศึกษา 16 61.5 2 7.7 มธั ยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. -- 1 3.8 1 3.8 -- อาชพี 1 3.8 24 92.3 ไมไ่ ดป้ ระกอบอาชพี 24 92.3 2 7.7 เกษตรกรรม 1 3.8 -- รับจ้าง -- -- ค้าขาย 1 3.8 10 38.4 ขา้ ราชการบ�ำนาญ 7 26.9 16 61.5 17 65.3 -- รายได้ต่อเดือน 2 7.7 11 42.3 600 - 1,500 บาท 16 61.5 2 7.7 1,501 - 3,000 บาท 3 11.5 9 34.6 3,001 - 4,500 บาท 3 11.5 4 15.3 4,501 บาท ขึน้ ไป 3 11.5 -- 1 3.8 23 88.4 ความเพียงพอของรายได้ 17 65.3 3 11.5 เพียงพอและเหลอื เกบ็ 9 34.6 เพยี งพอ ไมเ่ หลอื เกบ็ ไมเ่ พยี งพอ ตอ้ งก้ยู มื โรคเรอื้ รังทีเ่ ปน็ ในปจั จุบัน โรคความดนั โลหติ สงู โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสงู ร่วมกบั โรคเบาหวาน โรคระบบทางเดนิ หายใจ โรคหัวใจ ผู้ดแู ลหลักกรณีเจบ็ ป่วย คู่สมรส บตุ รหลาน วารสารสขุ ภาพจิตแห่งประเทศไทย 2564;29(2):125-36. 1 3 1
Problem-solving group therapy conjoined with mindfulness for depression in elderly with chronic diseases Saithanu K, et al. ตารางที่ 2 เปรยี บเทยี บคะแนนซมึ เศรา้ และคะแนนทกั ษะการแกไ้ ขปญั หา ก่อนทดลองหลังทดลองทันที และตดิ ตามผล 1 เดือน โดยใช้สถิติ paired t-test ตวั แปร Mean SD t df p-value กลุ่มทดลอง 20.04 1.95 25 .005 คะแนนซึมเศรา้ 15.73 1.95 9.72 25 .005 15.19 2.30 5.14 25 .005 ก่อนการทดลอง 78.58 5.10 25 .005 หลังการทดลอง 85.38 2.71 - 8.92 ตดิ ตามผล 1 เดอื น 84.92 3.47 - 8.91 คะแนนทักษะการแก้ไขปญั หา ก่อนการทดลอง 19.85 1.46 25 .005 หลงั การทดลอง 19.04 1.40 5.14 25 .005 ตดิ ตามผล 1 เดอื น 19.46 1.20 - 1.77 25 .232 กลุม่ ควบคุม 78.35 2.59 25 .239 คะแนนซมึ เศร้า 78.69 1.69 - 1.22 กอ่ นการทดลอง 78.88 1.82 1.21 หลังการทดลอง ติดตามผล 1 เดอื น คะแนนทกั ษะการแกไ้ ขปัญหา ก่อนการทดลอง หลงั การทดลอง ตดิ ตามผล 1 เดอื น แตกต่างกันอย่างมีนยั ส�ำคญั ทางสถิติที่ p < .05 ตารางที่ 3 เปรยี บเทยี บคะแนนซมึ เศร้าและคะแนนทกั ษะการแก้ไขปญั หาระหวา่ งกลมุ่ ทดลองและกลุ่มควบคมุ ระยะหลัง ทดลองและติดตามผล 1 เดอื น โดยใชส้ ถิติ Independent t-test ตัวแปร กลมุ่ ทดลอง กลมุ่ ควบคมุ t df p-value Mean SD Mean SD คะแนนซึมเศรา้ 19.04 1.40 - 7.02 45 .005 หลังการทดลอง 15.73 1.95 3.04 25 .006 ตดิ ตามผล 1 เดอื น 15.19 2.30 78.69 1.69 - 10.67 42 .005 1.85 25 .076 คะแนนทกั ษะการแก้ไขปญั หา 85.38 2.71 หลังการทดลอง 84.92 3.47 ติดตามผล 1 เดือน แตกตา่ งกนั อย่างมีนยั ส�ำคัญทางสถติ ิที่ p < .05 Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):125-36. 132
กลุม่ บ�ำ บดั ดว้ ยการแกไ้ ขปัญหารว่ มกับการเจรญิ สตติ อ่ ภาวะซมึ เศร้าในผู้สงู อายุโรคเรื้อรัง เกษร สายธนู และคณะ หลังการทดลองทันทีและหลังติดตามผล 1 เดือนพบว่า โดยรับรู้ว่าก�ำลังคิดหรือรู้สึกอย่างไร แต่ไม่สนใจรายละเอียด กลุ่มทดลองมีค่าเฉล่ียคะแนนซึมเศร้าต�่ำกว่า และมีค่าเฉล่ีย หรอื เนอ้ื หาความคดิ 29 เมอ่ื จติ ใจสงบ มสี มาธิ เขา้ ใจอารมณแ์ ละ คะแนนทักษะการแก้ไขปัญหาสูงกว่ากลุ่มควบคุม แต่ไม่มี ความคิดของตัวเอง อาการซึมเศร้าก็ลดลง จะเห็นได้ว่าการ นยั ส�ำคัญทางสถิติ (p < .05) แสดงดงั ตารางท่ี 3 เจรญิ สตจิ งึ เปน็ ผลดตี อ่ การบำ� บดั อาการซมึ เศรา้ และการพฒั นา ทกั ษะการแกไ้ ขปญั หา สอดคลอ้ งกบั การศกึ ษาทผี่ า่ นมาพบวา่ วจิ ารณ์ สมาธิและสติจะช่วยเพ่ิมการรู้ตัว ท�ำให้รู้เท่าทันความคิดท่ี จากการศึกษาผลของโปรแกรมกลุ่มบ�ำบัดตาม เกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์เข้ามากระทบ รู้อารมณ์ของตัวเอง แนวคิดการบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาผสมผสานแนวคิด จะส่งผลต่อการแสดงพฤติกรรมที่ตามมา ดังนั้นเมื่อมีสติจะ การเจริญสติต่อภาวะซึมเศร้าในครั้งนี้พบว่า มีประสิทธิผลใน ท�ำให้การแก้ไขปัญหาชีวิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น24 จากการ การลดคะแนนซึมเศร้า คล้ายกับหลายการศึกษาท่ีผ่านมาที่ สนทนากลมุ่ ภายหลงั การทดลอง กลมุ่ ทดลองไดใ้ หค้ วามเหน็ วา่ ใหก้ ารบำ� บดั ดว้ ยการแกไ้ ขปญั หาเพยี งอยา่ งเดยี ว12,14,27 และยงั หลังเข้าร่วมโปรแกรมแล้ว จิตใจสงบข้ึน และเข้าใจเก่ียวกับ พบว่าท�ำให้ทักษะการแก้ไขปัญหาดีขึ้น ทั้งนี้อาจเน่ืองจาก อารมณ์เศร้าของตนเองมากข้ึน อาการซึมเศร้าลดลง มีสติใน กจิ กรรมกลุ่มใหค้ วามรูภ้ าวะซมึ เศรา้ และโรคเรื้อรงั ในผูส้ ูงอายุ การใชช้ วี ติ รวมทงั้ สามารถแกไ้ ขปญั หาตา่ ง ๆ ไดด้ ขี น้ึ เชน่ เดยี ว ท�ำให้เข้าใจสาเหตุหรือปัจจัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้น กบั การศึกษาของดษุ ฎี จึงศริ กลุ วทิ ย์ และคณะ22 และผลลพั ธ์ หรือส่ิงประสบอยู่มากข้ึน และการบ�ำบัดแบบแก้ไขปัญหา นี้ยังคงอยู่ได้นานหลังเสร็จส้ินโปรแกรมฯ แล้วหน่ึงเดือน ช่วยให้ผู้สูงอายุมีมุมมองทางบวกตามความเป็นจริงต่อปัญหา โดยส่วนใหญ่ยังมีการปฏิบัติเจริญสติอย่างต่อเน่ืองและมี ที่เกิดขึ้นตามช่วงวัยของตน ข้อจ�ำกัดในชีวิตจากการเจ็บป่วย มุมมองต่อปัญหาและแก้ไขปัญหาดีข้ึน สามารถท�ำได้ในช่วง ยอมรบั ปญั หา คน้ หาวธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กดิ จากการเจบ็ ปว่ ย เช้าตรู่ บางรายปฏิบัติจนเป็นกิจวัตรประจ�ำวัน อย่างไรก็ตาม ด้วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ ด้วยตนเอง เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหา บางส่วนยังไม่สามารถปฏิบัติเจริญสติได้ต่อเน่ือง จากภาระ โดยการรับรู้ข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธีเพ่ือใช้ประกอบการ ต่าง ๆ เช่น ต้องเลี้ยงดูบุตรหลาน ส่งผลให้มีความกังวลใน ตัดสินใจแก้ไขปัญหาเรียนรู้การแก้ไขหลากหลายวิธี และ การปฏิบัติ ท�ำให้ไม่ค่อยมีสมาธิ ในช่วงกลางวันต้องท�ำงาน สามารถตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม ซึ่งต้อง ดังนั้น ในการกำ� หนดชว่ งเวลาในการปฏบิ ตั จิ งึ อาจใหผ้ สู้ ูงอายุ ฝกึ ทกั ษะในการปรบั เปลยี่ นการมองปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ ในทางบวก ปรับกิจกรรมในการเจริญสติ เช่น การก�ำหนดลมหายใจ (positive problem orientation) ได้แก่ การประเมินว่า เขา้ - ออก การตระหนกั รใู้ นอริ ยิ าบถหลกั เมอ่ื ยนื เดนิ นง่ั นอน ปัญหาคือความท้าทายหรือโอกาสท่ีเป็นประโยชน์ มีความ ใหต้ ระหนักร้วู า่ ยืน เดิน นงั่ นอน โดยประสานกับลมหายใจ เชอ่ื วา่ ปญั หาสามารถแกไ้ ขได้ มคี วามเชอื่ วา่ ตวั เองสามารถทจี่ ะ ไปพรอ้ มกนั เปน็ ตน้ 16 จงึ ควรปฏบิ ตั เิ จรญิ สตอิ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง และ แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ11,28 อีกท้ังการเสริม ทบทวนการปฏิบัติเพื่อวเิ คราะหผ์ ลการปฏบิ ัตอิ ยสู่ มำ่� เสมอ การปฏิบัติเจริญสติซึ่งเป็นการฝึกให้อยู่กับปัจจุบัน ท�ำให้มี นอกจากน้ี กระบวนการบำ� บดั แบบกลมุ่ ทำ� ใหผ้ สู้ งู อายุ ความเขา้ ใจในความคดิ อารมณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ เนอ่ื งจากการฝกึ ใชส้ ติ แต่ละคนได้พบปะแลกเปล่ียนประสบการณ์หรือเรื่องราวของ ก�ำหนดอริ ยิ าบถของตน ให้รวู้ า่ ตนกำ� ลังท�ำอะไรอยู่ การใชส้ ติ ตนเอง ท�ำให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ท่ีมีปัญหาอยู่ ก�ำหนดน้ีต้องก�ำหนดอย่างละเอียด เมื่อได้ฝึกใช้สติก�ำหนด คนเดยี ว ไดเ้ ห็นว่าสมาชกิ คนอืน่ มปี ญั หาเชน่ กัน อาจแตกต่าง อิริยาบถของตนอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้ ความเคยชินในการ หรือคล้ายคลึงกับตนเอง เช่น เบื่อหน่ายการรับประทานยา ใช้สติจะเกิดข้ึน และยังคงใช้ได้ดีอยู่แม้ออกจากการปฏิบัติ ไมม่ เี งนิ คา่ เดนิ ทางไปพบแพทย์ เปน็ ตน้ เมอื่ เหน็ สมาชกิ ในกลมุ่ เจริญสติแล้ว บุคคลจะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการตอบโต้กับ สามารถแก้ไขปัญหาและมีอาการเศร้าลดลงโดยเฉพาะผู้ท่ีมี สถานการณ์ภายในและภายนอกได้ดีและเหมาะสมย่ิงข้ึน วารสารสุขภาพจติ แห่งประเทศไทย 2564;29(2):125-36. 1 3 3
Problem-solving group therapy conjoined with mindfulness for depression in elderly with chronic diseases Saithanu K, et al. ปญั หาเดยี วกัน ท�ำใหต้ ระหนักได้วา่ ตนเองจะสามารถเอาชนะ เอกสารอา้ งอิง ปัญหาได้ ทำ� ให้เกดิ ความหวังมากยิง่ ขึ้น30 สมาชกิ กลุ่มเกดิ การ เรียนรู้และมปี ระสบการณ์ในการแกไ้ ขปัญหา มีการใหก้ �ำลังใจ 1. World Health Organization. Mental health of older กันและกนั ซงึ่ เหลา่ นี้เปน็ ปัจจยั บำ� บดั ของการเขา้ กลมุ่ บำ� บดั 31 adults [Internet]. Geneva: World Health Organization; อาจกลา่ วได้วา่ โปรแกรมฯ น้ี เปน็ การบำ� บัดทีท่ �ำให้ 2017 [cited 2019 Jul 24]. Available from https:// เกิดการตระหนักรู้ในปัญหาของตนเอง เพิ่มทักษะการ www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/ แก้ไขปัญหา ลดการคิดหมกมุ่น จึงน�ำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้ mental-health-of-older-adults. อย่างเหมาะสม ไม่หลีกหนีปัญหา หรือแก้ไขปัญหาได้อย่างมี สติมากข้ึน กระบวนการบ�ำบัดท�ำให้สามารถค้นหาและ 2. ณหทัย วงศ์ปการันย์, ทินกร วงศ์ปการันย์, เธียรชัย จัดล�ำดับความส�ำคัญของปัญหา และมีการฝึกการตัดสินใจ งามทิพย์วัฒนา, ยุพาพรรณ ศริ ิอ้าย, คะนงึ นจิ ไชยลังการณ,์ จดั การปญั หาใหบ้ รรเทาลง ซึง่ เปน็ การพัฒนาการแก้ไขปัญหา วิรัตน์ นิวัฒนนันท์, และคณะ. คู่มือการดูแลผู้สูงวัย: ให้มีความเหมาะสม อีกทั้งการเจริญสติเป็นวิธีที่สามารถท�ำ สูตรคลายซึมเศร้า [Elderly care guide: depression ได้ง่าย ไม่จ�ำกัดช่วงเวลา และยังสอดคล้องกับวิถีชีวิตของ formula]. นนทบุร:ี สถาบนั วิจยั ระบบสาธารณสุข (สวรส.); ผู้สูงอายุซ่ึงมีการปฏิบัติเกี่ยวกับศาสนกิจอยู่เป็นประจ�ำ เช่น 2559. น. 11-8. ไปวดั ฟงั เทศน์ สวดมนต์ เปน็ ต้น สรปุ 3. วรรณา เรืองประยูร, อทิตยา พรชัยเกตุ โอว ยอง, โปรแกรมกลุ่มบ�ำบัดด้วยการแก้ไขปัญหาร่วมกับ อัจฉราพร สี่หิรัญวงศ์. การบ�ำบัดโดยการแก้ปัญหาเพื่อ การเจริญสติสามารถลดภาวะซึมเศร้าและเสริมทักษะการ ลดอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ: การสังเคราะห์งานวิจัย แก้ปัญหาของผู้สูงอายุท่ีมีโรคเร้ือรังในชุมชนได้ ผู้สูงอายุได้ [Problem-solving therapy for reduce depressive เรียนรู้เกิดความเข้าใจตนเอง พัฒนาความสามารถในการ symptoms in older adults: synthesis of research จดั การปญั หา ปรบั เปลย่ี นวธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาอยา่ งมสี ติ รวมถงึ studies]. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต. จัดการความรู้สึกวิตกกังวลและเครียดจากปัญหาสุขภาพกาย 2557;28(3);37-48. ทนี่ �ำไปสู่การเกดิ ปญั หาสขุ ภาพจติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมขึน้ กิตตกิ รรมประกาศ 4. โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ กรมสุขภาพจิต กระทรวง งานวิจัยน้ีได้รับการสนับสนุนทุนจากส�ำนักงานคณะ สาธารณสุข. แนวทางการดูแลเฝ้าระวังโรคซึมเศร้า กรรมการวิจัยแห่งชาติ ขอกราบขอบพระคุณพระครูอุบลสุ ระดับจังหวัด (ฉบับปรับปรุงคร้ังที่ 2) [Guidelines for วรรณากรณ์ และพระครูสมุห์เฉวยี น กตปุญโญ ท่ีไดใ้ ห้ขอ้ คิด surveillance of depression at provincial level (2nd เห็นและช้แี นะแนวทางการฝกึ ปฏบิ ัตเิ จริญสติ revision)]. อุบลราชธาน:ี ศริ ธิ รรมออฟเซ็ท; 2554. 5. นริสา วงศ์พนารักษ์, สายสมร เฉลยกิตติ. ภาวะซึมเศร้า: ปัญหาสุขภาพจิตส�ำคัญในผู้สูงอายุ [Depression: a significant mental health problem of elderly]. วารสารพยาบาลทหารบก. 2557;15(3):24-31. 6. Touhy TA, Jett K. Ebersole and Hess’ gerontological nursing & healthy aging. 5th ed. USA: Elsevier Inc. Printing; 2017. 7. สาวิตรี สิงหาด. การพยาบาลผู้สูงอายุที่มีภาวะซึมเศร้า [Nursing of the elderly with depression]. วารสาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2559;18(3):15-24. 8. สมภพ เรอื งตระกูล. ต�ำราจติ เวชศาสตร์ ฉบับปรบั ปรงุ ตาม DSM-V [Textbook of psychiatry revised version according to DSM-V]. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 10. กรงุ เทพฯ: เรอื นแกว้ การพิมพ์; 2557. Journal of Mental Health of Thailand 2021;29(2):125-36. 134
กลมุ่ บ�ำ บดั ดว้ ยการแกไ้ ขปญั หารว่ มกับการเจริญสตติ อ่ ภาวะซมึ เศร้าในผสู้ งู อายโุ รคเร้ือรงั เกษร สายธนู และคณะ 9. Nezu AM, Nezu CM, D’Zurilla T. Problem-solving 17. พระบวรปริยัติวิธาน. คู่มือปฏิบัติธรรมเบื้องต้น [Basic therapy: a treatment manual. New York: Springer Dharma practice manual]. กรุงเทพฯ: บริษัท ธนาเพลส Publishing Company; 2013. จ�ำกัด; 2554. 10. โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ กรมสุขภาพจิต กระทรวง 18. ยวุ ดี พนาวรรต, จำ� ลอง ดษิ ยวณชิ . การเสรมิ สรา้ งสขุ ภาพจติ สาธารณสุข. คู่มือผู้เข้าอบรมการบ�ำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ผู้สูงวัยไทยด้วยวิปัสสนากรรมฐาน[Enhancement of ด้วยการแกไ้ ขปัญหา [A guide for participants to treat mental health of Thai elderly by insight meditation]. depression with problem solving]. อุบลราชธานี: วารสารสวนปรงุ . 2558;31(1):1-12. โรงพยาบาล; 2559. 19. พระสันต์ทัศน์ สินสมบัติ, พระครูปลัดสุวัฒน พุทธคุณ, 11. สุวรรณา อรุณพงค์ไพศาล, สรยุทธ วาสิกนานนท์, ปัญญา นามสง่า, ชัยรัตน์ ทองสุข, ภูวเดช สินทับศาล. บรรณาธกิ าร. ตำ� ราโรคซมึ เศรา้ [Textbook of depressive สติปัฏฐานกับการป้องกันภาวะซึมเศร้าของผู้สูงอายุ disorders]. ขอนแกน่ : โรงพมิ พ์คลังนานาวทิ ยา; 2558. [Satipattana to protect of depression for the 12. ธวัชชัย พละศักด์ิ, รังสิมันต์ สุนทรไชยา, รัชนีกร อุปเสน. elderly] [รายงานการวิจัย]. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยมหา ผลของโปรแกรมการบ�ำบัดโดยการแก้ปัญหาต่อภาวะ จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์พระพุทธชินราช; ซมึ เศรา้ ในผปู้ ว่ ยโรคซมึ เศรา้ [The effect of the problem 2561. solving therapy program on depression of patients 20. สมจิตร เสริมทองทิพย์, ภรภัทร เฮงอุดมทรัพย์, with major depressive disorder]. วารสารการพยาบาล ดวงใจ วัฒนสินธุ์, เวทิส ประทุมศรี. ผลของโปรแกรม จิตเวชและสขุ ภาพจติ . 2560;31(1):60-74. การบ�ำบัดทางปัญญาบนพื้นฐานของสติต่อภาวะซึมเศร้าใน 13. สณุ ิสา ศรีโมอ่อน, อทิตยา พรชยั เกตุ, อจั ฉราพร สีห่ ริ ญั วงศ์. ผู้เป็นเบาหวาน [The effect of mindfulness-based การบ�ำบัดโดยการแก้ปัญหาในการลดอาการซึมเศร้าใน cognitive therapy program on depression among วยั ผใู้ หญ่ : การพยาบาลตามหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ [Problem persons with diabetes]. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ solving therapy for reducing depressive symptoms มหาวทิ ยาลยั บรู พา. 2560;25(3):66-75. in adults: evidence-based nursing]. วารสารสภา 21. Klainin-Yobas P, Cho MA, Creedy D. Efficacy of การพยาบาล. 2554;26(3):107-16. mindfulness-based interventions on depressive 14. ราตรี ทองยู, วรรณา คงสุริยะนาวิน, อทิตยา พรชัยเกตุ symptoms among people with mental disorders: โอว ยอง, ลิวรรณ อุนนาภิรักษ์. ผลของกลุ่มบ�ำบัดแบบ a meta-analysis. Int J Nurs Stud. 2012;49(1):109-21. แก้ไขปัญหาต่ออาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุโรคเบาหวาน doi:10.1016/j.ijnurstu.2011.08.014. ชนิดท่ี 2 [Effects of group problem-solving therapy 22. ดษุ ฎี จึงศริ กุลวทิ ย,์ ญาดา ธงธรรมรตั น์, ปริยา ปราณตี พล on depressive symptoms in older adult people กรงั , ปราณตี ชมุ่ พทุ รา, ประเวช ตนั ตพิ วิ ฒั นสกลุ . กลมุ่ บำ� บดั with type-2 diabetes]. วารสารสภาการพยาบาล. ความคิดบนพื้นฐานการฝึกสติเพ่ือป้องกันโรคซึมเศร้าใน 2554;26(3):78-92. วัยรุ่นและผู้ใหญต่ อนตน้ : การศึกษานำ� ร่อง [The efficacy 15. Nezu AM, Nezu M, Salber KE. Problem-solving of group mindfulness-based cognitive therapy in therapy for cancer patients. Psychology. 2013; prevention of youth depression: a pilot study]. 10(2-3):217-31. doi:10.5209/rev_PSIC.2013.v10. วารสารสขุ ภาพจติ แหง่ ประเทศไทย. 2558;23(3);143-53. n2-3.43445. 23. กันต์ฤทัย ปานทอง, เพ็ญนภา แดงด้อมยุทธ์. ผลของ 16. ธวัชชยั กฤษณะปกรกิจ, สมจิตร หร่องบตุ รศรี, ผ่องพรรณ โปรแกรมการสร้างความเข้มแข็งทางใจท่ีเน้นการฝึกสติต่อ กฤษณะปกรกิจ. สมาธิบ�ำบัดทางจิตเวชศาสตร์และ ภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุโรคซึมเศร้า [The effective of สุขภาพจิต [Meditation therapy in psychiatry and resilience quotient emphasizing mindfulness- mental health]. ขอนแกน่ : คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั based program on depression in older persons with ขอนแก่น; 2552. major depressive disorder]. วารสารเกื้อการุณย์. 2561;25(2):105-18. วารสารสุขภาพจติ แหง่ ประเทศไทย 2564;29(2):125-36. 1 3 5
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112