ศภุ วรรณ วงศ์สร้างทรัพย์ คณะศึกษาศาสตร์และพฒั นศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ 2561
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรบั สุขศึกษา (Application Software for Health Education) ศภุ วรรณ วงศส์ รา้ งทรพั ย์ คณะศกึ ษาศาสตรแ์ ละพัฒนศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ 2561
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกต์สาหรบั สขุ ศึกษา คานา ก เอกสารประกอบการสอน รายวิชา โปรแกรมประยุกต์สาหรับสุขศึกษา รหัสวิชา 02170432 นี้ ได้เรียบเรียงข้ึนอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมเนื้อหาสาระรายวิชา ในหมวด วิชาเฉพาะเลือก ของ มหาวิทยาลัย เพ่ือใช้เป็นเคร่ืองมือสาคัญของผู้สอนในการใช้ประกอบการสอนของอาจารย์ ท่ีมุ่งเน้นให้ ผู้เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจในเนือ้ หา เอกสารเล่มนี้ ได้แบ่งเนื้อหาในการเรียนการสอนไว้ 15 สัปดาห์ ได้แก่ การปฐมนิเทศ แนะนารายวิชา แนวการเรียนการสอน บทนา นวัตกรรมการเรียนการสอน Education 4.0 โปรแกรม ประยกุ ต์เพ่ือการจัดการและพัฒนา โปรแกรมสนทนาออนไลน์ สอื่ การเรยี นรแู้ บบโตต้ อบ แหล่งเรียนรู้และ ทรัพยากรท่ีน่าสนใจในส่ือออนไลน์ กฎหมาย จริยธรรม และความปลอดภัยในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ การประยุกต์เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื ชวี ติ แนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต สรุป เน้ือหาและรวบยอดความคิด ผู้สอนควรได้ศึกษารายละเอียดแต่ละหัวข้อเร่ืองที่สอนจากเอกสาร หนังสือ ตารา หรือสื่ออ่ืน ๆ เพ่ิมเติมอีก หวังว่าเอกสารประกอบการสอนนี้คงอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการ สอนตามสมควร หากท่านที่นาไปใช้มีข้อเสนอแนะ ผู้เขียนยินดีรับฟังข้อคิดเห็นต่าง ๆ และขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ี ศุภวรรณ วงศ์สรา้ งทรัพย์ 27 มถิ ุนายน 2561
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกต์สาหรับสขุ ศึกษา สารบญั ข คานา หนา้ สารบัญ ก สารบัญภาพ ข แนะนารายวิชา ช 1 เนอื้ หา/รายละเอยี ด 1 จานวนชว่ั โมงทส่ี อน 1 กิจกรรมการเรียนการสอน 1 ส่ือการสอน 1 แผนการประเมินผลการเรียนรู้ 1 สรุป 6 บทท่ี 1 บทนา 7 เนอื้ หา/รายละเอยี ด 7 จานวนชว่ั โมงทสี่ อน 7 กจิ กรรมการเรยี นการสอน 7 สื่อการสอน 7 แผนการประเมินผลการเรยี นรู้ 7 สรปุ 12 คาถามทบทวน / แบบฝกึ หัด 12 เอกสารอ้างองิ 13 บทท่ี 2 นวตั กรรมการเรยี นการสอน Education 4.0 14 เน้ือหา/รายละเอียด 14 จานวนชั่วโมงที่สอน 14 กจิ กรรมการเรียนการสอน 14
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรบั สขุ ศกึ ษา สารบัญ (ตอ่ ) ค ส่อื การสอน หนา้ แผนการประเมินผลการเรยี นรู้ 14 สรปุ 14 คาถามทบทวน / แบบฝกึ หดั 22 เอกสารอ้างอิง - บทท่ี 3 โปรแกรมประยกุ ตเ์ พื่อการจัดการและพัฒนา1-4 23 เนอ้ื หา/รายละเอยี ด 24-65 จานวนชั่วโมงที่สอน 24-65 กจิ กรรมการเรยี นการสอน 24-65 สือ่ การสอน 24-65 แผนการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 24-65 สรุป 24-65 คาถามทบทวน / แบบฝึกหดั 37-75 เอกสารอ้างอิง 37-75 บทที่ 4 โปรแกรมสนทนาออนไลน์ 37-75 เนอื้ หา/รายละเอยี ด 76 จานวนชัว่ โมงทสี่ อน 76 กิจกรรมการเรียนการสอน 76 สอื่ การสอน 76 แผนการประเมินผลการเรยี นรู้ 76 สรปุ 76 คาถามทบทวน / แบบฝึกหดั 82 เอกสารอา้ งองิ - 82
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสขุ ศึกษา สารบญั (ต่อ) ง บทท่ี 5 สื่อการเรียนรูแ้ บบโตต้ อบ หน้า เนื้อหา/รายละเอียด 83 จานวนช่วั โมงทส่ี อน 83 กจิ กรรมการเรียนการสอน 83 สือ่ การสอน 83 แผนการประเมินผลการเรียนรู้ 83 สรปุ 83 คาถามทบทวน / แบบฝึกหดั 93 เอกสารอา้ งอิง - 94 บทท่ี 6 แหลง่ เรยี นรู้และทรัพยากรท่นี า่ สนใจในสื่อออนไลน์ 95 เน้อื หา/รายละเอียด 95 จานวนชัว่ โมงทส่ี อน 95 กจิ กรรมการเรยี นการสอน 95 สื่อการสอน 95 แผนการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 95 สรปุ 105 คาถามทบทวน / แบบฝึกหัด 105 เอกสารอ้างองิ 105 106 บทท่ี 7 กฎหมาย จริยธรรม และความปลอดภยั ในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 106 เนอ้ื หา/รายละเอียด 106 จานวนช่วั โมงท่สี อน 106 กจิ กรรมการเรยี นการสอน 106 สือ่ การสอน 106 แผนการประเมินผลการเรียนรู้
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรบั สขุ ศกึ ษา สารบญั (ตอ่ ) จ สรุป หนา้ คาถามทบทวน / แบบฝึกหดั 118 เอกสารอ้างอิง - บทท่ี 8 การประยกุ ต์เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือชีวติ 118 เน้ือหา/รายละเอยี ด 119 จานวนชัว่ โมงท่สี อน 119 กิจกรรมการเรียนการสอน 119 สือ่ การสอน 119 แผนการประเมินผลการเรยี นรู้ 119 สรุป 119 คาถามทบทวน / แบบฝกึ หดั 123 เอกสารอา้ งอิง - บทที่ 9 แนวโน้มของเทคโนโลยสี ารสนเทศในอนาคต 123 เนอ้ื หา/รายละเอียด 124 จานวนชวั่ โมงท่สี อน 124 กิจกรรมการเรียนการสอน 124 สอื่ การสอน 124 แผนการประเมินผลการเรียนรู้ 124 สรปุ 124 คาถามทบทวน / แบบฝกึ หัด 132 เอกสารอ้างองิ - สรปุ เนอ้ื หาและรวบยอดความคดิ 132 133
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรบั สขุ ศึกษา สารบัญ (ตอ่ ) ฉ ภาคผนวก หน้า ภาคผนวก ก แบบทดสอบความรู้ 134 ภาคผนวก ข แบบทดสอบทกั ษะ 135 ภาคผนวก ค ประวัตผิ ู้เรียบเรยี ง 148 151
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรับสุขศกึ ษา สารบญั ภาพ ช ภาพที่ หนา้ 1.1 ตัวอยา่ งโปรแกรมสาเร็จรูป (Packaged software) 9 2.1 คุณลักษณะของผู้เรยี นของ CCPR Model 17 2.2 โมเดล Thailand 4.0 19 3.1 - 3.25 25-37 3.26 - 3.35 40-44 3.36 - 3.46 48-51 3.47 - 3.59 55-64 3.60 - 3.83 66-74 4.1 ซอฟต์แวรส์ ไกป์ 78 4.2 ซอฟต์แวร์เอม็ ไออาร์ซี 79 6.1 ซอฟต์แวรก์ เู กลิ โครม 96 6.2 ซอฟต์แวรอ์ ะโดบี ดรีมวฟี เวอร์ 98 6.3 ซอฟต์แวรไ์ มโครซอฟทเ์ อาตล์ กุ 99 6.4 หน้าจอโปรแกรม Google Form 100 6.5 - 6.6 101 6.7 - 6.9 102 6.10 - 6.11 103 6.12 - 6.14 104 6.15 ข้อคาถามแบบ Time 105
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกต์สาหรบั สขุ ศกึ ษา แผนการสอนประจาสปั ดาหท์ ี่ 1 1 แนะนารายวชิ า รายละเอียด แนะนารายวชิ า สรุปขอบเขตเนอ้ื หาและรปู แบบการจัดการเรยี นการสอน การวดั และ การประเมินผล จานวนชั่วโมงที่สอน 3 ช่ัวโมง กจิ กรรมการเรยี นการสอน 1. แนะนาหนงั สอื ทใี่ ชป้ ระกอบการเรยี น 2. แนะนารายวิชาดว้ ยสอ่ื Powerpoint 3. ทดสอบกอ่ นเรียน สอื่ การสอน 1. เอกสารประกอบการเรยี น 2. Powerpoint แนะนารายวชิ า 3. แบบทดสอบก่อนเรยี น แผนการประเมินผลการเรียนรู้ 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 เขา้ ใจในภาพรวมของเนือ้ หารายวชิ า 1.2 สามารถเตรยี มความพร้อมของผู้เรียนและผู้สอน 1.3 ผลการทดสอบความรู้ก่อนเรียน 2. วธิ กี ารประเมินผลการเรียนรู้ 2.1 การถาม ตอบ และอภปิ รายในชน้ั เรยี น 2.2 การทดสอบก่อนเรียน 3. สดั ส่วนของการประเมิน 3.1 การถาม ตอบ และอภปิ รายในชั้นเรียน ร้อยละ 70 3.2 การทดสอบก่อนเรยี น ร้อยละ 30
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสขุ ศึกษา เนอื้ หาที่จะสอน 2 รายละเอียดการสอนประจารายวชิ า (ตาม มคอ.3) รายวชิ า (ช่อื วชิ าภาษาไทย) โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสุขศกึ ษา รหสั วชิ า 02170432 (ชือ่ วิชาภาษาอังกฤษ) Application Software for Health Education จานวนหน่วยกติ 2 (1-2-3) ชัว่ โมง เวลาเรียน บรรยาย 15 ชั่วโมง/ภาคเรยี น การฝึกปฏบิ ตั ิ 30 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น ศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเอง 45 ช่ัวโมง/ภาคเรียน คาอธิบายรายวิชา ความรพู้ น้ื ฐานของโปรแกรมประยุกต์ ประเภทและการใชโ้ ปรแกรมประยกุ ต์ทางสขุ ศึกษา สาธารณสขุ และสอื่ การสอนทางสขุ ศึกษา Basic knowledge of applied software, type and usage of applied software for health education, public health and instructional media for teaching in health education. จดุ มงุ่ หมายรายวิชา เพื่อให้สาระความรู้ครอบคลุมเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานของคุรุสภาและสอดคล้องกับมาตรฐาน คณุ วฒุ ิ ระดับปรญิ ญาตรี สาขาศึกษาศาสตร์ท่ีสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษากาหนดและให้นิสิต มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่า และนาความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมประยุกต์ทาง สุขศึกษา สาธารณสุข และส่ือการสอนทางสุขศึกษา ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพ่ือพัฒนาพฤติกรรม สขุ ภาพทถ่ี กู ตอ้ งใหแ้ กผ่ ้เู รยี น เนอ้ื หา แผนการสอนประจาสัปดาห์ที่ 1 แนะนารายวิชา 3 ช่ัวโมง หัวข้อหลัก ปฐมนิเทศรายวชิ า แผนการสอนประจาสปั ดาห์ท่ี 2 บทท่ี 1 บทนา 3 ช่ัวโมง หวั ขอ้ หลัก ความรู้พ้ืนฐานเกยี่ วกับโปรแกรมประยุกต์ แผนการสอนประจาสปั ดาห์ที่ 3 บทที่ 2 นวตั กรรมการเรียนการสอน Education 4.0 3 ชั่วโมง หวั ขอ้ หลัก นวตั กรรมการเรียนการสอน Education 4.0 แผนการสอนประจาสปั ดาห์ท่ี 4 บทที่ 3 โปรแกรมประยกุ ตเ์ พือ่ การจดั การ และพฒั นา 3 ชั่วโมง หัวขอ้ หลกั การประยกุ ต์โปรแกรมประเภทประมวลผลคา
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกต์สาหรบั สุขศึกษา แผนการสอนประจาสัปดาห์ท่ี 5 บทท่ี 3 โปรแกรมประยกุ ตเ์ พอ่ื การจัดการ 3 และพฒั นา 3 ชว่ั โมง หัวข้อหลกั การประยุกต์โปรแกรมประเภทตารางการคานวณ แผนการสอนประจาสัปดาห์ที่ 6 บทที่ 3 โปรแกรมประยุกต์เพ่ือการจัดการ และพฒั นา 3 ชว่ั โมง หัวข้อหลกั การประยุกต์โปรแกรมนาเสนอ แผนการสอนประจาสปั ดาห์ที่ 7 บทท่ี 3 โปรแกรมประยุกต์เพ่อื การจัดการ และพัฒนา 3 ช่วั โมง หัวข้อหลกั การประยุกต์โปรแกรม Dreamweaver การประยุกตโ์ ปรแกรมตกแต่งภาพ Photoshop แผนการสอนประจาสัปดาห์ท่ี 8 บทที่ 4 โปรแกรมสนทนาออนไลน์ 3 ชวั่ โมง หัวข้อหลกั ซอฟต์แวรเ์ พื่อการสนทนาออนไลน์ แผนการสอนประจาสปั ดาห์ที่ 9 บทที่ 5 ส่ือการเรยี นรูแ้ บบโต้ตอบ 3 ชั่วโมง หัวขอ้ หลัก Interactive Learning กบั การเรยี นรู้ในยคุ สมยั ใหม่ แผนการสอนประจาสปั ดาห์ท่ี 10 บทที่ 5 สื่อการเรยี นรูแ้ บบโต้ตอบ 3 ชัว่ โมง หัวขอ้ หลัก Interactive Learning กบั การเรยี นรู้ในยคุ สมัยใหม่ (ต่อ) แผนการสอนประจาสปั ดาห์ท่ี 11 บทที่ 6 แหล่งเรยี นรแู้ ละทรพั ยากรทีน่ า่ สนใจ ในส่ือออนไลน์ 3 ชว่ั โมง หัวข้อหลัก สอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์เพื่อการศึกษาแบบออฟไลน์ แผนการสอนประจาสปั ดาห์ที่ 12 บทท่ี 7 กฎหมาย จริยธรรม และความปลอดภยั ในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 3 ชวั่ โมง หวั ขอ้ หลัก กฎหมาย จริยธรรม และความปลอดภัยในการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ แผนการสอนประจาสัปดาห์ท่ี 13 บทที่ 8 การประยุกต์เทคโนโลยี 3 ชั่วโมง สารสนเทศเพ่อื ชวี ติ หวั ขอ้ หลัก การประยุกตเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศในดา้ นต่าง ๆ แผนการสอนประจาสปั ดาห์ท่ี 14 บทท่ี 9 แนวโน้มของเทคโนโลยี 3 ชัว่ โมง สารสนเทศในอนาคต หัวข้อหลัก แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศและการปรบั ตวั แผนการสอนประจาสัปดาห์ท่ี 15 สรปุ เนอ้ื หา 3 ชว่ั โมง หัวขอ้ หลัก สรปุ เน้ือหาและรวบยอดความคดิ
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสุขศึกษา วิธสี อนและกิจกรรม (ตาม มคอ.3) 4 วธิ กี ารสอน 1. ทดสอบนิสติ ก่อนเรียน 2. อาจารยส์ อนแบบบรรยาย สาธิต และใช้สื่อประกอบการบรรยาย และทบทวนเนอ้ื หา 3. อาจารย์มอบหมายให้นิสิตค้นคว้า เขียนรายงานในประเด็นที่เก่ียวข้องกับเน้ือหาและเป็น กระแสท่ีน่าสนใจ การประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับในการดาเนินชีวิตอย่างเหมาะสมและรู้เท่าทันการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และนาเสนอโครงการจัดการความรู้เพ่ือพัฒนาองค์กรและสังคม โดยใช้การ เรยี นรแู้ บบร่วมมอื 4. อาจารย์มอบหมายให้นิสิตค้นคว้าสืบค้นข้อมูล วิธีประเมินสารสนเทศ ระบุสารสนเทศที่ ต้องการใหส้ อดคลอ้ งกับความต้องการเพื่อนาสารสนเทศไปใช้ และเขยี นรายงาน 5. นิสิตจัดกิจกรรม อภิปราย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง ผลกระทบของ เทคโนโลยใี หม่ๆ ท่ีเกย่ี วข้องกบั การดาเนนิ ชีวติ อย่างมีคุณภาพโดยใช้กระบวนการกลุม่ 6. การมอบหมายงานใหค้ ดิ วเิ คราะห์แกไ้ ขปัญหาโดยใหน้ ิสิตรว่ มนาเสนอประสบการณ์ปัญหาท่ีได้ พบเหน็ จากบคุ คลใกลต้ วั หรอื ขา่ ว แล้วนาเสนอวิธกี ารแกป้ ัญหา 7. แนะนาการใชง้ านเว็บไซต์ อีเมล ฐานข้อมูลออนไลน์ ระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัย รวมถึง บริการต่างๆ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วให้นิสิตแนะนาตนเองผ่าน Facebook หรอื สงั คมออนไลน์ เพื่อสร้างมนุษยสัมพันธ์ระหว่างเพ่ือนนิสิตและสร้างความไว้วางใจแก่กัน จัดกิจกรรมให้นิสิตเขียนสะท้อนความดีของตนเองผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เพ่ือพัฒนาคุณลักษณะ ความเคารพตนเอง ให้เพื่อนนิสิตร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพ่ือชื่นชมความดี ของเพอ่ื นและสรา้ งความรว่ มมอื ในการทางานท่ีได้รับมอบหมายร่วมกนั 8. อาจารย์กากับดูแลนิสิตอย่างจริงจังและใกล้ชิดโดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน ให้นิสิตเรียนรู้จากการ ปฏิบัติจากใบงานตระหนักรู้ถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยี สารสนเทศบนพืน้ ฐานของคุณธรรม จรยิ ธรรม 9. ทดสอบนิสติ หลังเรยี น
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสขุ ศกึ ษา กจิ กรรม 5 ดาเนินการมอบหมายให้นิสิตค้นคว้า สืบคน้ ข้อมูล แนะนาวิธีการประเมินสารสนเทศ แนะนาการ คดั เลือกและระบสุ ารสนเทศท่ีตอ้ งการใหส้ อดคล้องกับความตอ้ งการเพือ่ นาสารสนเทศไปใช้ ฝึกปฏิบัติการ ใช้โปรแกรมสาเร็จรปู และเครือข่ายสารสนเทศของกิจกรรมการนาสารสนเทศที่ค้นคว้าได้ไปเขียนรายงาน ในประเด็นท่เี กี่ยวข้องกบั เนื้อหาและเปน็ กระแสทนี่ า่ สนใจ การประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ที่ได้รับในการดาเนินชีวิต อย่างเหมาะสมและรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และนาเสนอโครงการจัดการความรู้เพ่ือ พัฒนาองค์กรและสังคม โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เปิดโอกาสให้มีการอภิปราย แสดงความคิดเห็น เก่ียวกับการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองและบทเรียนท่ีสอน การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของ มหาวิทยาลัยเปน็ เครือ่ งมอื สง่ เสริมการเรียนร้แู ละช่องทางแสดงความคิดเห็นตา่ ง ๆ โดยอาจารย์กากับดูแล นิสติ อย่างจรงิ จังและใกล้ชิดโดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน ให้นิสิตเรียนรู้จากการปฏิบัติจากใบงานตระหนักรู้ถึง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศบนพ้ืนฐานของคุณธรรม จริยธรรม สื่อการเรยี นการสอน (ตาม มคอ.3) 1. สไลด์ประกอบการสอน 2. เครอื ข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ 3. เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์ 4. ฐานขอ้ มลู ออนไลน์ 5. หอ้ งปฏิบัติการคอมพวิ เตอร์ การวดั และประเมนิ ผล (ตาม มคอ.3) ร้อยละ 80 1. การวดั ผล (คือการกาหนดตวั เลขหรือคะแนนดบิ ) ร้อยละ 45 รอ้ ยละ 5 1.1 คะแนนระหว่างภาครวม ร้อยละ 20 1.1.1 แบบฝึกหดั รอ้ ยละ 10 1.1.2 การเขา้ ชัน้ เรียน รอ้ ยละ 20 1.1.3 โครงงานเดย่ี วสอ่ื การสอนจากโปรแกรมประยุกต์ รอ้ ยละ 20 1.1.4 แบบทดสอบทักษะปฏิบตั ิ 1.2 คะแนนสอบปลายภาครวม 1.2.1 สอบปลายภาค
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรบั สขุ ศกึ ษา 2. การประเมนิ ผล 6 แบบองิ เกณฑ์ ค่ารอ้ ยละ ค่าระดบั คะแนน ระดับคะแนน 80-100 4.00 A 75-79 3.50 B+ 70-74 3.00 B 65-69 2.50 C+ 60-64 2.00 C 55-59 1.50 D+ 50-54 1.00 D 0-49 0.00 F สรุป แนะนาแนวการสอนและเน้ือหารายวชิ าท้ังหมดในภาพรวม พร้อมทง้ั งานทีม่ อบหมายตลอดภาคเรยี น
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรบั สุขศกึ ษา แผนการสอนประจาสัปดาหท์ ่ี 2 7 บทท่ี 1 บทนา รายละเอยี ด 1. ความหมายของโปรแกรมประยุกต์ 2. ประเภทของโปรแกรมประยุกต์ 3. การเลือกใชโ้ ปรแกรมประยกุ ต์ จานวนช่ัวโมงทส่ี อน 3 ช่ัวโมง กจิ กรรมการเรียนการสอน 1. บรรยาย 2. มอบหมายงานเพ่ือระดมความคิดเกี่ยวกับการประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศและผลกระทบท่ี เกดิ ขึน้ ในชีวิตประจาวัน 3. สรุป และอภิปรายร่วมกนั ในช้นั เรียน สื่อการสอน 1. เอกสารประกอบการเรียน 2. Powerpoint 3. หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ แผนการประเมินผลการเรียนรู้ 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 เข้าใจในความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1.2 สามารถปรับตวั ให้เข้ากบั แนวโนม้ ของเทคโนโลยสี ารสนเทศในชวี ิตประจาวนั 2. วิธีการประเมินผลการเรยี นรู้ 2.1 การถาม ตอบ และอภปิ รายในชัน้ เรียน 2.2 การส่งงานตามท่ีมอบหมาย 3. สดั ส่วนของการประเมนิ 3.1 การถาม ตอบ และอภปิ รายในช้นั เรยี น รอ้ ยละ 80 3.2 การส่งงานตามกาหนดเวลา ร้อยละ 20
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสุขศกึ ษา เนอ้ื หาที่จะสอน 8 ความหมายของโปรแกรมประยกุ ต์ โปรแกรมประยุกต์ (application software หรือ application program) เป็นคาศัพท์ทาง คอมพิวเตอร์ศาสตร์ ท่ีใช้เรียกชุดคาสั่งท่ีสั่งการให้คอมพิวเตอร์สามารถทางานได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ บางครั้งเรามักได้ยินคาว่า ซอฟต์แวร์ (software) และคาว่า แอปพลิเคชัน (application) ท้ัง 3 คานี้คน ทวั่ ไปมักมคี วามเขา้ ใจว่าเปน็ คาท่ีใช้เรียกสิ่งเดียวกัน แต่ในศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์ คาทั้ง 3 มีความหมาย ที่แตกตา่ งกนั กลา่ วคอื ซอฟต์แวร์ หมายถึง คาท่ัวไปท่ีใช้เรียกโปรแกรมต่าง ๆ ท่ีใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์และมีอุปกรณ์ ต่าง ๆ ทเี่ กีย่ วข้อง (WhatIs.com, 2016) ซ่งึ ซอฟตแ์ วรจ์ ะมี 2 ลักษณะ คือ 1) ซอฟต์แวร์ระบบ (system software) คือ ชุดคาส่ังท่ีเขียนข้ึนด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ ใช้ สาหรับควบคุมการทางานของฮาร์ดแวร์ และอานวยความสะดวกในการทางานให้กับผู้ใช้ (วรวิทย์ นิเทศ ศิลป์, 2556) ซอฟต์แวร์ระบบที่นิยมใช้กับคอมพิวเตอร์ ได้แก่ Windows, Unix, Linuk ส่วนซอฟต์แวร์ ระบบที่นิยมใช้กับสมารท์ โฟน (smart phone) ไดแ้ ก่ IOS และ Android 2) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) หรือ โปรแกรมประยุกต์ บางครั้งถูกเรียกส้ัน ๆ ว่า โปรแกรม หรือ แอปพลิเคชัน คือ โปรแกรมใด ๆ ท่ีถูกออกแบบมาให้ทางานอย่างใดอย่างหน่ึง โดยเฉพาะ (WhatIs.com, 2016) ดังน้ันเม่ือพูดถึงคาว่า ซอฟต์แวร์ โปรแกรม หรือ แอปพลิเคชัน ในบริบทของผู้ใช้งานเทคโนโลยี สารสนเทศท่ัวไป จึงมกั หมายถงึ ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ หรอื โปรแกรมประยุกต์นั่นเอง ประเภทของโปรแกรมประยกุ ต์ โปรแกรมประยกุ ต์หน่วยย่อยของซอฟตแ์ วร์ ซง่ึ เป็นองค์ประกอบหนึ่งของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซ่งึ ประกอบด้วย ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ บคุ ลากร ขอ้ มลู และกระบวนการทางาน การใช้งานคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์เป็นส่วนสาคัญที่ขาดไม่ได้ โดยเมื่อทาการเปิดใช้งาน คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวรท์ จ่ี ะทางานในเบ้อื งต้นคอื ซอฟต์แวรร์ ะบบ หลังจากน้ันซอฟต์แวร์อื่น ๆ จะเปิดใช้ งานตามลาดับ ดังนน้ั หากอธิบายใหช้ ดั ซอฟต์แวรท์ ี่ใช้งานในคอมพิวเตอร์ ได้แก่ 1. ซอฟต์แวร์ระบบ (system software) เป็นชุดคาสั่งท่ีเขียนไว้เป็นคาส่ังสาเร็จรูป สร้างข้ึน สาหรับระบบ ทาหน้าท่ีคอยควบคุมการทางานของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์อ่ืน ๆ อีกท้ังยังอานวยความ สะดวกในการทางานแก่ผู้ใช้ บางครั้งอาจเรียกอีกช่ือหน่ึงคือ ระบบปฏิบัติการ (operating system) ซอฟต์แวร์ระบบท่ีนิยมใช้กับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันได้แก่ Windows, Ubuntu, Linux นอกจากน้ียังมี ซอฟต์แวร์ระบบสาหรับสมาร์ทโฟน เช่น IOS ท่ีใช้ในอุปกรณ์ iPhone, iPad และ Android ที่ใช้ใน อปุ กรณอ์ น่ื ๆ 2. ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) เป็นชุดคาส่ังที่เขียนไว้เป็นคาสั่งสาเร็จรูป เช่นเดียวกัน มีหน้าที่ทาให้คอมพิวเตอร์สามารถทางานต่าง ๆ ตามท่ีผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการนาเข้า
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสขุ ศึกษา ข้อมูล ประมวลผลข้อมูล จัดเก็บข้อมูล หรือแม้แต่แสดงผลให้อยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ส่วนมากซอฟต์แวร์ 9 ประยกุ ตม์ ักจาแนกออกเป็น 2 ประเภท คอื 2.1 ซอฟต์แวร์ประยุกต์สาหรับงานท่ัวไป เป็นชุดคาสั่งท่ีผู้พัฒนาสร้างขึ้นเพ่ือใช้ในการทางาน ด้านต่าง ๆ โดยผู้ใช้อาชีพใด ๆ ก็สามารถนาไปใช้กับงานของตนเองได้ ซอฟต์แวร์ประยุกต์รูปแบบนี้ ผู้ใช้ จะสามารถปรับแต่งการทางานภายในโปรแกรมได้บ้าง แต่ไม่สามารถแก้ไขโปรแกรมได้ ตัวอย่างของ ซอฟต์แวร์ประยุกต์สาหรับงานทั่วไป ได้แก่ Microsoft Office, Adobe Photoshop, Adobe Illustrator, SPSS, หรือแม้แต่โปรแกรมตัดต่อวิดีโอบางโปรแกรมท่ีดูเหมือนว่าถูกสร้างข้ึนมาให้ใช้ในการ ผลิตส่อื มลั ติมีเดียกจ็ ดั อยใู่ นกลุ่มนเ้ี ช่นกัน ภาพ 1.1 ตวั อย่างโปรแกรมสาเรจ็ รปู (Packaged software) ท่มี า: ภาพ http://loadprome.blogspot.com. สืบคน้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557. 2.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์สาหรับงานเฉพาะงาน เป็นชุดคาส่ังท่ีสร้างข้ึนเพ่ือการทางานอย่างใด อย่างหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น โปรแกรมจัดการบัญชี โปรแกรมระบบเช่าซื้อ โปรแกรมจัดระเบียนผู้ป่วย โปรแกรมหอ้ งสมุดอัตโนมัติ เป็นต้น ท้ังนี้โปรแกรมท่ีถูกสร้างขึ้นมาจะไม่สามารถประยุกต์ใช้ในงานต่าง ๆ ได้ ด้านผู้ใชก้ ็จาเป็นต้องมคี วามรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงจะสามารถใช้งานโปรแกรมกลุ่มน้ีได้อย่าง มีประสิทธภิ าพ โปรแกรมประยกุ ต์ทีม่ อี ยูใ่ นขณะน้ีมีมากมายและมีความสามารถที่หลากหลาย การเลือกนามาใช้ ควรคานึงถึงในหลาย ๆ ปัจจัย อาทิ ความสามารถของโปรแกรมที่รองรับความต้องการของเรา วิธีการใน การได้โปรแกรมมาอย่างถูกต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ความสามารถของบุคลากรในองค์การท่ีจะใช้โปรแกรม ประยกุ ต์น้ัน และความสามารถในการบารงุ รกั ษาโปรแกรมใหส้ ามารถใชง้ านได้ตอ่ เน่ือง สาหรับงานการเรียนการสอนสุขศึกษา การใช้โปรแกรมประยุกต์ในการทางาน จะมีทั้งท่ีเป็น ซอฟต์แวร์ประยุกต์สาหรับงานทั่วไป และซอฟต์แวร์ประยุกต์สาหรับงานเฉพาะด้าน ซ่ึงครูหรือ ผปู้ ฏบิ ัตงิ านจาเป็นต้องศึกษา เรียนรู้ และเลอื กใช้ให้เหมาะสมกับศกั ยภาพของหน่วยงานและแต่ละบุคคล
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสขุ ศึกษา การเรียกโปรแกรมประยุกต์ 10 ในวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ (software development lift cycle : SDLC) โดยพ้ืนฐานจะ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก คือ วิเคราะห์ระบบ (system analysis) ออกแบบระบบ (system design) พัฒนาและติดต้ังระบบ (system implement) และบารุงรักษา (system maintanance) ทั้งน้ีใน ข้ันตอนการออกแบบระบบ ผู้พัฒนาโปรแกรมจะสร้างต้นแบบของโปรแกรมโดยหลักของวิศวกรรม ซอฟตแ์ วร์ ไดแ้ บง่ ร่นุ (version) ของซอฟตแ์ วรไ์ ว้หลายกลุ่ม ได้แก่ 1. Alpha เป็นรุ่นที่ใช้เรียกโปรแกรมท่ีสร้างข้ึนและอยู่ในข้ันตอนการทดสอบภายในทีมพัฒนา ซอฟต์แวร์ โปรแกรมในรุ่นนี้จะสามารถทางานได้ระดับหน่ึง (อาจจะยังไม่ค่อยสมบูรณ์นัก) เม่ือผลการ ทดสอบขัน้ ต้นเสร็จส้ิน จะมีการพฒั นาซอฟต์แวรอ์ ีกคร้ังแล้วจึงจะเผยแพร่รนุ่ Beta ออกมา 2. Build เป็นโปรแกรมรุ่นท่ีกาลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ยังคงมีข้อผิดพลาดจานวนมาก หรือ อาจเรียกช่ือว่า Beta เป็นรุ่นท่ีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เผยแพร่ให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดมาทดลองใช้ วัตถุประสงค์ หน่ึงก็เพ่ือให้ผู้ใช้ได้ร่วมทดสอบและเป็นส่วนร่วมในการค้นหาบ๊ัก (bug) หรือ ข้อผิดพลาดของโปรแกรม เพ่ือนามาใช้ในการปรับปรุงแก้ไขต่อไป หลักจากผู้ใช้ได้ทดลองใช้แล้วจะรายงานผลการทางานให้ทีม พฒั นาได้ทราบ เพือ่ นาไปปรบั ปรุงและพฒั นาโปรแกรมให้สมบูรณ์ข้ึน การทาเช่นนี้เป็นไปตามแนวคิดการ พัฒนาซอฟต์แวร์ท่ีให้ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (user-centered design : UCD) ซึ่งก็จะได้แก่ รุ่น Beta 1, Beta 2 เป็นต้น 3. RC (release candidate) โปรแกรมรุ่นน้ีจะเป็นรุ่นท่ีมีการทดสอบและแก้ไขจนกระท่ัง ข้อผิดพลาดท่ีใหญ่ ๆ ไม่มีแล้ว จึงปล่อยให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไปใช้งาน ซ่ึงจะเป็นรุ่นสุดท้ายในวงรอบการ พฒั นาซอฟตแ์ วรน์ น้ั ๆ 4. RTM (refer to manufacturing) เป็นรุ่นของโปรแกรมท่ีพร้อมผลิตและจัดจาหน่าย เผยแพร่ให้ผู้ใช้ได้นาไปติดต้ังใช้งาน ดังน้ันหากผู้ใช้เห็นมีอักษรย่อ RTM ติดอยู่ในส่วนใดส่วนหน่ึงของชื่อ โปรแกรม น่ันหมายถึงว่าโปรแกรมน้ันสมบูรณ์แล้ว ไม่มีข้อผิดพลาด และพร้อมใช้งาน ตัวอย่างเช่น Microsoft Windows Vista 32/64bit Final RTM Build 6000 5. Demo เปน็ รุน่ ของโปรแกรมที่ผา่ นกระบวนการต่าง ๆ ท่ีนับว่าได้โปรแกรมที่สมบูรณ์แล้ว แต่ ปิดการทางาน (function) บางอย่างไว้ หรือไม่ให้ใช้ความสามารถบางอย่างได้ตลอดไป เช่น มีกาหนด ระยะเวลาในการใช้งาน ซ่ึงจะคล้ายการทางานโปรแกรมรุ่น Trial น่ันคือ เป็นโปรแกรมให้ใช้งานได้ฟรี แบบจากดั เวลา และลดความสามารถลง โดยท่ัวไปมักเป็นการนาเสนอขายโปรแกรมของตัวแทนจาหน่าย ท่ีต้องการให้ลูกค้าได้ลองใช้งานโปรแกรม หากมีความพึงพอใจในโปรแกรมจึงจะมีการจัดซื้อจริงตาม ขั้นตอนขององคก์ ารตอ่ ไป 6. Trial เป็นรุ่นของโปรแกรมท่ีสมบูรณ์ แต่มีการจากัดระยะเวลาการใช้งานเช่นเดียวกับรุ่น Demo โดยปกติจะให้ทดลองใช้ประมาณ 7 วัน 15 วัน 30 วัน หรือกาหนดจานวนครั้งในการใช้งาน หลังจากน้ันผู้ใช้งานต้องลงทะเบียน แล้วนาหมายเลขผลิตภัณฑ์ (serial number) มาใช้ยืนยันตัวตนใน
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรบั สขุ ศกึ ษา การเข้าใช้งานโปรแกรมได้ ท้ังน้ีหลังจากผู้ใช้ลงทะเบียนแล้ว การทางานบางส่วนของโปรแกรมท่ีถูกปิดไว้ 11 จะสามารถใชง้ านได้ 7. Shareware เปน็ รุ่นของโปรแกรมที่ทดลองใช้ และสามารถใช้งานได้ไปเร่ือย ๆ แต่การทางาน จะเปิดใหใ้ ชง้ านไม่ครบทง้ั หมด แตส่ งิ่ ทม่ี ักมมี ากับโปรแกรมกล่มุ น้ี คอื Pop-up โฆษณาที่จะปรากฎให้เห็น เป็นระยะ หรอื บางครง้ั ต้องรอชว่ งเวลาทีจ่ ะใชง้ านได้ โปรแกรมในลกั ษณะนี้ หากผู้ใชส้ นใจใช้งานแบบครบ ทุกการทางาน ต้องจ่ายเงินเพ่ือซ้ือโปรแกรมรุ่นสมบูรณ์ โดยลักษณะของโปรแกรมประเภทนี้มีลักษณะ คลา้ ยโปรแกรมรนุ่ Trial เชน่ กนั 8. Freeware เป็นรุ่นของโปรแกรมที่ให้ใช้งานได้ฟรี แต่ก็มีข้อจากัดในบางครั้ง เช่น ให้ใช้งาน เฉพาะส่วนบุคคล ไม่มีวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์ โปรแกรมลักษณะน้ีส่วนหน่ึงเป็นการฝึกฝีมือของ โปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ ที่จะพัฒนาตัวเองไปพัฒนาซอฟต์แวร์ท่ีสมบูรณ์ข้ึนต่อไป ทว่าการใช้งานโปรแกรม แบบ Freeware ผู้ใช้ควรระวังให้มาก เน่ืองจากอาจมีการแฝงชุดคาสั่งโปรแกรมไวรัสติดมาด้วยก็เป็นได้ ดังน้ันกอ่ นใชง้ านผู้ใชค้ วรหาข้อมลู การวิจารยก์ ารใช้งานโปรแกรมจากแหล่งต่าง ๆ ให้ดเี สยี ก่อน โปรแกรมประยุกต์ที่มีอยู่มากมาย สามารถเลือกมาใช้ได้จากเว็บไซต์ การเรียนรู้ให้เข้าใจถึง ลักษณะของโปรแกรมประยุกต์ลักษณะต่าง ๆ จะช่วยให้การตัดสินใจเลือกใช้โปรแกรมมีประสิทธิภาพ เพราะเราทราบถงึ ทมี่ าท่ไี ป ตลอดจนสิง่ ท่ีจะเกิดขึ้นได้ การเลอื กใช้โปรแกรมประยกุ ต์ อย่างท่ที ราบกนั ดวี ่าโปรแกรมประยุกต์ท่ีมีการพัฒนาและเผยแพร่ให้นามาใช้งานมีอยู่เป็นจานวน มาก การเลอื กใช้โปรแกรมตา่ ง ๆ เหล่านั้น ควรพิจารณาโดยมุ่งเน้นให้การนาโปรแกรมประยุกต์มาใช้เพ่ือ ส่งเสริมการทางานและสนับสนุนการให้บริการท่ีมีประสิทธิภาพ ดังน้ันในเบ้ืองต้นบรรณารักษ์จาเป็นต้อง ทราบความต้องการขององค์การและความต้องการของตนเอง อาทิ ต้องการทางานอะไร ใครเป็นผู้ใช้งาน บ้าง และจะใช้งานแบบใด เม่ือทราบความต้องการพื้นฐานชัดเจนแล้ว จึงจะทาการเลือกใช้โปรแกรม ประยุกต์ ซงึ่ มักจะพจิ ารณาจากปจั จยั พนื้ ฐาน (วรรณา วัฒนมะระ, 2548) ไดแ้ ก่ 1. งบประมาณ หรือราคาของโปรแกรมประยกุ ต์ 2. ความง่ายในการตดิ ตงั้ และการนามาใช้งาน 3. ความสามารถของฮารด์ แวรท์ ่ีจะรองรบั โปรแกรมประยกุ ต์ 4. ความยุง่ ยากในการเรยี นรู้และการใช้งาน 5. การบารงุ รกั ษาภายหลักนาโปรแกรมมาใช้แลว้ อย่างไรก็ตามการเลือกใช้โปรแกรมประยุกต์ใด ๆ ในการทางาน ไม่เพียงแต่พิจารณาเพ่ือการใช้ งานอยา่ งใดอย่างหน่ึงให้ลุลว่ งไป แต่ควรพิจารณาไปถึงอนาคตอีกสัก 2-3 ปีข้างหน้า ถึงความสามารถของ โปรแกรมและบุคลากรท่ีจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้โปรแกรมประยุกต์นี้ ไม่เช่นนั้นอาจก่อให้เกิด ปัญหาจากการหยุดใช้โปรแกรม การปลับเปลี่ยนบุคลากร ฯลฯ ท่ีส่งผลกระทบถึงความต่อเนื่องในการ ทางาน และนาไปสู่ความเสยี หาย การเสยี โอกาสขององคก์ ารก็เปน็ ได้
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสุขศึกษา สรุป โปรแกรมประยุกต์มีความสาคัญกับการดาเนินงานการจัดการเรียนการสอนในช้ันเรียน แต่สิ่ง 12 สาคัญที่ครูผู้สอนจาเป็นต้องรู้และเข้าใจ มิใช่เพียงรู้ว่าโปรแกรมประยุกต์คืออะไร มีก่ีประเภท การใช้งาน เป็นอย่างไร ทว่าครผู สู้ อนตอ้ งเลือกใช้โปรแกรมทีม่ ีคณุ สมบตั ิทร่ี องรับการทางาน มีกระบวนการใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีแหล่งให้ศึกษาและปรึกษาเม่ือเกิดปัญหา มีค่าใช้จ่ายท่ีองค์การสามารถสนับสนุนได้ และ สุดทา้ ยคอื สามารถใช้งานได้ถกู ต้องตามกฎหมาย คาถามทบทวน / แบบฝึกหัด 1. โปรแกรมประยุกต์ คืออะไร 2. คาวา่ “ซอฟต์แวร์” “โปรแกรม” และ “แอปพลเิ คชัน” มคี วามเหมอื นหรือความแตกตา่ งกัน อย่างไร 3. โปรแกรมประยกุ ต์ มกี ่ปี ระเภท 4. การเรยี กชื่อรุ่นของโปรแกรมประยกุ ต์ มอี ะไรบา้ ง และมลี ักษณะของโปรแกรมอย่างไร 5. นิสติ คิดว่าสถานการณ์ที่เป็นปญั หาอนั เกดิ จากการเลือกใช้โปรแกรมประยุกต์ที่ไม่ดี จะเป็น อยา่ งไร 6. นิสิตมีการดาวน์โหลดโปรแกรมประยุกต์ใช้ (Application) ตัวใดบ้างแล้วนามาประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจาวันอย่างไร
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสุขศกึ ษา เอกสารอา้ งองิ 13 WhatIs.com. (2016, June 14). Computer glossary, computer term. Retrieved from http://whatis.techtarget.com/search/query?q=application วรรณา วฒั นมะระ. (2548). ปจั จยั ที่มผี ลต่อการเลอื กใชร้ ะบบสารสนเทศทางการบัญชีและโปรแกรม สาเร็จรปู ทางการบญั ชีของธรุ กิจ กรณศี กึ ษา: บรษิ ทั ทวีกิจอเี ลค็ ตรกิ จากดั . เรียกใชเ้ ม่ือ 22 มกราคม 2561 จาก http://www.spu.ac.th/account/files/2012/07/วรรณา-วัฒนมะ ระ.pdf วรวิทย์ นเิ ทศศลิ ป.์ (2556). คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศเบ้อื งตน้ = Introduction to computer and information technology. เชยี งใหม:่ มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราช วิทยาลยั วิทยาเขตเชียงใหม่. http://loadprome.blogspot.com. สบื ค้นเมือ่ วันท่ี 10 ตุลาคม 2557.
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรบั สขุ ศึกษา แผนการสอนประจาสปั ดาหท์ ี่ 3 14 บทที่ 2 นวัตกรรมการเรียนการสอน Education 4.0 รายละเอยี ด แนวโนม้ เทคโนโลยีสารสนเทศในยุค Education4.0 ทกั ษะของเดก็ ในศตวรรษที่ 21 ลักษณะพเิ ศษ Education 4.0 แนวโน้มเทคโนโลยีการศกึ ษาในอนาคต จานวนช่ัวโมงท่สี อน 3 ชัว่ โมง กิจกรรมการเรียนการสอน 1. บรรยาย 2. มอบหมายงานเพื่อระดมความคิดเก่ียวกับการประยุกต์นวัตกรรมการเรียนการสอน Education 4.0 ทสี่ ง่ เสริมทกั ษะของเดก็ ในศตวรรษที่ 21 ส่อื การสอน 1. เอกสารประกอบการเรียน 2. Powerpoint 3. ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพิวเตอร์ แผนการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 เข้าใจในความหมายของแนวโนม้ เทคโนโลยีสารสนเทศในยคุ Education4.0 1.2 สามารถปรับตวั ใหเ้ ข้ากับแนวโนม้ ของแนวโนม้ เทคโนโลยกี ารศกึ ษาในอนาคต 2. วิธกี ารประเมินผลการเรยี นรู้ 2.1 การถาม ตอบ และอภิปรายในชน้ั เรียน 2.2 การสง่ งานตามท่มี อบหมาย 3. สดั สว่ นของการประเมนิ 3.1 การถาม ตอบ และอภปิ รายในช้ันเรียน รอ้ ยละ 80 3.2 การส่งงานตามกาหนดเวลา รอ้ ยละ 20
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรับสุขศึกษา เนื้อหาท่จี ะสอน 15 ปัจจุบันองค์ความรู้ในศาสตร์ต่างๆ มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างย่ิงองค์ ความรู้ ทางด้าน เทคโนโลยที ลี า้ หน้า ทาใหค้ วามร้ทู ี่เป็นปจั จบุ ันเกดิ ขึ้นยากตามไปด้วย การเรียนรู้จึงมิได้เป็นเพียง การถ่ายถอด ความรู้จากผู้สอนสู่ผู้เรียน หรือ ท่ีเรียกว่าการเรียนการสอนในระบบ Education 1.0 อย่างเชน่ ในอดีตท่ีผา่ นมา ซ่ึงการพฒั นาระบบการเรียนการ สอนด้วยการนาเทคโนโลยี มาใช้เป็นเคร่ืองมือ ในการจดั การเรียนการสอน หรือ ทเี่ รยี กวา่ Education 2.0 แตก่ ็ยงั ไมส่ ามารถนาไปสู่การพัฒนาผู้เรียนให้ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ได้ ดีเท่าท่ีควร และได้มีการปรับการเรียนการสอนเข้าสู่ระบบ Education 3.0 ดว้ ยการส่งเสริมให้ ผ้เู รยี นแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองจากส่ือการสอนทุกรูปแบบ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อ ดจิ ทิ ลั ผสม กับการทางาน เป็นกลุ่มและปรับการสอนให้มีรูปแบบ Interactive learning รวมท้ัง การนา สื่อ สังคมออนไลน์ (Social Media) เข้ามาเป็นเคร่ืองมือช่วยในการพัฒนาการเรียนการสอนมาก ย่ิงขึ้น ซ่งึ คลาวดเ์ ปน็ ต้นเหตทุ าให้รปู แบบการศึกษากลับด้าน “Flipped model” สิงที่ครูต้อง เข้าใจ Gen Z ใน เร่ือง life style ท่ีเปล่ียนไป การเรียนท่ีเปล่ียนไป การเข้าสังคมแบบใหม่ การเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ในยุค ดิจิทัล ความรู้ล่องลอยอยู่บนคลาวด์ ความรู้ที่เป็นเน้ือหา มองเห็นง่าย ซึงต้องใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบ Behaviorism, Cognitivism, Constructivism, Connectivism โดยการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล โมเดลการ เรียนรไู้ ปสกู่ ารค้นหา ใช้ขุมความรู้ ดิจิทัล ความรู้บนคลาวด์เป็นหัวใจการศึกษายุคใหม่ เม่ืออยากรู้อะไรก็ สอยลงมา เมื่อครูถาม ผู้เรียนก้มดูจากสมาร์ทโฟน แล้วเงยหน้าตอบ การเรียนการสอนในวันนี้ต้องเน้น ทกั ษะ มากกว่าเน้ือหา โดยที่ผู้สอนเป็นผู้บรรยายหรือสอนหนังสือ ซ่ึงผู้เรียนเป็นผู้ตรวจสอบข้อมูลที่สอน ได้ทันที โดยเข้าถึงกลุ่มข้อมูล จากความรู้ในคลาวด์ ได้ง่ายและเร็วมาก ถ้าผู้สอนมี เน้ือหาถูกต้องข้อมูล แมน่ เพราะถกู ตรวจสอบ (ณัฐพร เหน็ เจริญเลศิ และคณะ, 2559) ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนผ่านของความรูเ้ ป็นไปอย่างรวดเร็วและ ไม่มีท่ีสิ้นสุด ผู้สอนจึงต้องพัฒนาตนเองเพื่อก้าวผ่านเข้าสู่โลกแห่งการเรียนรู้แบบใหม่ การปรับกระบวนการเรียนการ สอนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้เรียนที่เปล่ียนแปลงไป และ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มา เป็นเคร่ืองมอื กระตุ้นการเรยี นร้ขู องผูเ้ รียน ซง่ึ สวุ ทิ ย์ เมษนิ ทรีย์ (2556) กลา่ ววา่ เป็นความท้าทายสาหรับ ผสู้ อนเป็นอย่างย่ิง ซ่งึ สังคมแหง่ การเรยี นร้แู บบใหม่ทมี่ ่งุ เนน้ ให้ผเู้ รียน มิใช่เพยี งแค่ได้รบั ความรู้แต่ต้องเป็น ผู้ท่ีสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ จึงเป็นจุดเปลี่ยนสาคัญที่ผู้สอนจะต้องพัฒนาศักยภาพเพื่อก้าวผ่านจากการ เรียนการสอนระบบ Education 3.0 เข้าสู่ระบบการเรียนการสอนแบบใหม่ หรือท่ีเรียกว่า Education 4.0 การศึกษาในอนาคตจะต้องปรับเปลี่ยนอนาคตชีวิตผู้คนจะยืนยาวข้ึน life expectancy สูงขึ้น ชีวติ จะอยกู่ ับเครื่องจกั รท่ีฉลาดมากขึ้น ผู้คนมี Visibility สูงขึ้น ข้อมูลทาให้มีการมองเห็นและรู้ได้มากข้ึน ดังน้ัน ผู้สอนยุคการศึกษา 4.0 ซ่ึงจะอยู่ร่วมกับส่ิงแวดล้อม ส่ือใหม่ ต้องอยู่บนการรู้เท่าทันสื่อ การ แสวงหาความรู้ทาไดเ้ ร็วมากข้ึน และเทคโนโลยีจะปรับเปลี่ยนวถิ ีชวี ติ วธิ กี ารทางาน และโครงสร้างองค์กร จะเปล่ียนไปจากเดิม ตัวแปร ระยะทาง เวลา สถานท่ีเปล่ียนไป Global connect ทาให้ทุกคนเป็น
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกต์สาหรบั สขุ ศกึ ษา Global citizen แรง กดดนั ทต่ี ้องเผชิญหน้ากับความทา้ ทา้ ยดว้ ยการเตรียมคนเพ่ืออนาคต ต้องตอบโจทย์ 16 การ เปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว มีพลวตั ทที่ าให้องค์กรเปล่ียน การศึกษาตอ้ งปรับตัวเองโดยเร็ว ความท้าท้ายสู่กรอบความคิดใหม่ (New Paradigm) ต้องคานึงถึง การศึกษาท่ีจัดขึน เฉพาะ บุคคล (individual person) การนาจุดเด่น ความเก่งของแต่ละคนออกมา (Bring the Best in one’s Talents) การเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทางดิจิทัลท่ีเปลี่ยนแปลงเร็ว (Information Climates) ความรู้จะ ไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเอามาใช้ไม่เป็น (Knowledge is Useless without Application) การเข้ากันได้ กับระบบเดิม (Least Partially Compatible with Old System) การมีต้นทุนต่า (Cost Effective) การเชื่อมโยงกับการพัฒนาความเจริญของมนุษย์ การเปล่ียนกรอบความคิดสาหรับ Generation Z ใน การมีทักษะ (Skill) มี ความสาคัญมากกว่าเน้ือหา (Content) กระบวนการเรียนรู้มีความสาคัญมากกว่า หลักสูตร ความรู้มีมากกว่าหลักสูตร ไม่ควรมีกรอบความคิด บูรณาการความรู้กับชีวิต และการใช้ ประโยชน์ คิดได้เอง สร้างสรรค์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ได้ มีความสาคัญมากกว่าการท่องจาและเทคโนโลยี ช่วยการเรียนรู้และพัฒนา มีความสาคัญกว่าการเรียนในห้อง ทิศทางทักษะ ต้องมากกว่า 3Rs คือ การ อ่าน R การเขียน write และการคิดเลข–aRithematics ยังต้องมอง หาทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 เช่น ทกั ษะการเป็นผู้นาผู้ตามที่ดี (Leadership) ทักษะความรู้ ความเข้าใจใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) ทักษะ การสื่อสาร (Communication) ทักษะการรู้จัก ตัวตนและอยู่ร่วมกับผู้อื่น (Emotional Intelligence) ทักษะการเป็นผู้ริเร่ิมก่อการ (Entrepreneurship) ทักษะความเป็นนานาชาติ (Global citizen) ทักษะ การแกป้ ัญหา (Problem Solving) ทกั ษะการทางานเปน็ ทมี (Teamwork) แนวโนม้ เทคโนโลยสี ารสนเทศในยคุ Education4.0 ในปัจจุบันสังคมไทยยังเป็นสังคมบริโภคนิยม ซื้อกินซื้อใช้ ไม่ผลิตหรือสร้างอะไร ถ้าสังคมเป็น เช่นน้จี ะเกิดการแขง่ ขันได้อย่างไร การศึกษาก็เช่นกัน ยังเป็นบริโภคนิยมไม่ค่อยค้นคว้าวิจัย ด้วยเหตุนี้จึง ต้องมกี ารปรับปรงุ การศึกษาใหม่ โดยสอนให้เดก็ มีความคดิ วิเคราะห์ สร้างสรรค์ สร้างผลิตภัณฑ์ และต้อง มีความรบั ผดิ ชอบตามคุณลกั ษณะของผเู้ รยี นของ CCPR Model
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรบั สขุ ศกึ ษา 17 ภาพที่ 2.1 คณุ ลักษณะของผู้เรียนของ CCPR Model ทม่ี า:https://sites.google.com/a/msu.ac.th/rangsima_/education4- 0?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1 “ศ.ดร.ไพฑรู ย์ สินลารตั น์” ศตวรรษที่ 21 ถือเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงท้ังด้านสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีซ่ึงส่งผล กระทบต่อวิถีชีวิตและวิถีการทางาน ทาให้ทรัพยากรมนุษย์ต้องปรับตัวและยกระดับสมรรถนะ ของตน เพ่ือให้ทันต่อการเปล่ียนแปลง ตลอดจนสามารถเป็นกาลังสาคัญของการขับเคลื่อนสู่ประเทศ 4.0 หรือ พัฒนาประเทศให้ก้าวสู่การเป็นประเทศโลก ปรับเปลี่ยนจากเศรษฐกิจท่ีขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพเป็น เศรษฐกจิ ทข่ี ับเคลื่อนดว้ ยนวตั กรรม ซึ่งเป็นเปา้ หมายสาคญั ของการปฏิรปู ประเทศไทย แต่เมื่อหันกลับมา มองกาลังคนของประเทศกลับพบว่าไม่เป็นท่ีน่าพอใจเท่าที่ควร ดังนั้นสานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะหน่วยงานท่ีมีภารกิจจัดทานโยบายการศึกษา เพ่ือพัฒนากาลังคนผ่านกระบวนการศึกษา จึงได้ ดาเนินการจัดทา “ข้อเสนอแนวทาการเสริมสร้างสมรรถนะกาลังคนรองรับโลกศตวรรษที่ 21” และแบ่ง การดาเนินออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรบั สุขศึกษา for ระยะที่ 1 : สารวจ 3 สมรรถนะ โดยอิงตามแนวทางการดาเนินงานของโครงการ Programme 18 the International Assessment of Adult Comprtencies (PIAAC) 1) การรู้หนังสือ ความสามารถในการอ่าน 2) ความสามารถในการคดิ คานวณ และ3) ความสามารถในการแก้ปัญหาภายใต้ สภาพแวดล้อมที่ใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยี ระยะท่ี 2 : ทาการศึกษาวเิ คราะหป์ ัจจยั เชิงสาเหตขุ องการพฒั นาสมรรถนะพืน้ ฐาน ระยะที่ 3 : สารวจสมรรถนะกาลังคนและความคาดหวังต่อสมรรถนะของเจ้าของกิจการและ สถานประกอบการ เพื่อนาข้อมูลดังกลา่ วมาวเิ คราะหค์ วามต้องการจาเปน็ ทกั ษะของเดก็ ในศตวรรษท่ี 21 3R คอื Reading-อา่ นออก, (W)Riting-เขียนได้, (A)Rithenmatics-คิดเลขเป็น 8C คอื -Critical Thinking and Problem Solving: มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และแก้ไขปญั หาได้ -Creativity and Innovation: คิดอย่างสรา้ งสรรค์ คิดเชงิ นวัตกรรม -Collaboration Teamwork and Leadership: ความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะผู้นา -Communication Information and Media Literacy: ทกั ษะในการสอ่ื สารและการรูเ้ ท่าทันส่ือ -Cross-cultural Understanding: ความเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม กระบวนการคิดข้าม วัฒนธรรม -Computing and ICT Literacy: ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ และการรูเ้ ท่าทันเทคโนโลยี ซึ่งเยาวชนในยุค ปัจจุบันมีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีอย่างมากหรือเป็น Native Digital ส่วน คนรุ่น เก่าหรือผู้สงู อายุเปรียบเสมือนเป็น Immigrant Digital แตเ่ ราต้องไม่อายที่จะเรียนรู้แม้ว่าจะสูงอายุแล้วก็ ตาม -Career and Learning Skills: ทักษะทางอาชพี และการเรียนรู้ -Compassion: มคี ณุ ธรรม มเี มตตา กรุณา มรี ะเบยี บวนิ ัย Thailand 4.0 เป็นเร่ืองของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยในยุค 1.0 เป็นยุค เกษตรกรรม จากน้ันกลายเป็นยุค 2.0 ท่ีมีการนาเคร่ืองจักรเข้ามาช่วยงานหรือเป็นยุคของอุตสาหกรรม เบา ในขณะท่ยี คุ 3.0 เปน็ ยุคอตุ สาหกรรมหนกั และมกี ารลงทนุ จากต่างชาติ อย่างไรกต็ าม เศรษฐกิจในยุค 3.0 ยังมีความเปราะบางต่อสถานการณ์โลก และประเทศไทยยังไม่สามารถก้าวข้ามความเป็นประเทศ รายได้ปานกลางได้ ดังน้ันจึงนามาสู่ Thailand 4.0 ท่ีเน้นที่การแก้ปัญหาให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดัก รายได้ปานกลาง เราจึงต้องพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่เรียกว่า New Economy Model มีการใช้ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ประชาชนสามารถสร้างรายได้ได้ด้วยตนเอง ต้องมีการปฏิรูปท้ัง โครงสรา้ งในทกุ มติ ิ ไม่วา่ จะเปน็ ภาคธรุ กจิ การเกษตร การศึกษา และแรงงาน จากระบบเศรษฐกิจที่เน้น
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกต์สาหรบั สุขศกึ ษา การผลิตโดยใช้แรงงาน เครื่องจักรและทรัพยากร เปลี่ยนมาเป็นการผลิตบนฐานความรู้และเทคโนโลยี 19 โดยมีการดึงสถาบันวิจัยระดับโลกเข้ามาต้ังในประเทศไทย และมีความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบันการเงิน ให้มากข้ึนที่เรียกว่าประชารัฐ โดยมีเป้าหมายให้เกิดผลสัมฤทธ์ิ ภายใน 3-5 ปี ในการสร้างโมเดล Thailand 4.0 หรือ \"ประเทศไทย 4.0\" หรือ \"ไทยแลนด์ 4.0\" ท่ีเป็น Value-based Economy น้ัน ต้องการปรับเปล่ียนโครงสร้างการผลิต เน้นการใช้เทคโนโลยีและ นวตั กรรมเพอื่ เพิม่ มลู ค่าสนิ คา้ และบรกิ าร โดยมเี ปา้ หมายอยทู่ ่ี 5 อตุ สาหกรรมหลักได้แก่ 1. Food, Agriculture & Bio-tech 2. Health, Wellness & Bio-Medical 3. Smart Devices, Robotics & electronics 4. Digital & Embedded Technology 5. Creative, Culture & High Value Service ภาพที่ 2.2 โมเดล Thailand 4.0 ที่มา: https://sites.google.com/a/msu.ac.th/rangsima_/education4- 0?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรบั สขุ ศึกษา การศึกษาไทย 1.0 เป็นยุคการศึกษาเพื่อสร้างนักปกครอง เป็นการศึกษาสาหรับชนชั้นสูงใน 20 สังคม โดยมีการจัดการศึกษาอย่างไม่เป็นทางการให้กับบุตรหลานชนชั้นปกครอง มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ เป็นนักปกครองในรุ่นต่อไป การศึกษาในยุคน้ีไม่เป็นท่ีแพร่หลาย มีการจัดการศึกษาเฉพาะกลุ่มเท่าน้ัน รูปแบบการจัดการศึกษาเป็นแบบบอกความรู้จากผู้สอน ถ้าผู้สอนไม่มีอะไรจะสอนแล้ว ถือว่าสาเร็จ การศึกษา การศึกษาไทย 2.0 เป็นยุคแห่งการจัดการศึกษาที่เปิดกว้างขึ้น เพตุจากการจัดการศึกษาในยุค 1.0 นั้น ไม่สามารถผลิตกาลังคนได้ทันต่อความต้องการในการบริหารราชการบ้านเมือง ทาให้ชนชั้น ปกครองต้องแก้ปัญหาดว้ ยการจัดให้มีการศึกษาสาหรับลกู หลานขุนนางชั้นสูง เพื่อผลิตกาลังคนป้อนเข้าสู่ ระบบราชการ ที่นับวันจะขยายขอบเขตงานเพ่ิมมากข้ึน ตามความเจริญและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ของประเทศในยุคน้ัน รูปแบบการจัดการศึกษาเริ่มมีระบบโรงเรียน แต่ยังเป็นการเรียนแบบบอกความรู้ จากผูส้ อนอยู่เชน่ เดมิ การศึกษาไทย 3.0 ในยุคนี้เป็นยุคที่ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศกาลังพัฒนา ท่ีพึ่งพา อุตสาหกรรมเบาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เป็นเหตุให้การศึกษายุคนี้ เป็นการจัดการศึกษา เพ่ือผลิตกาลังคนป้อนเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม เกิดการทาซ้าบัณฑิตอย่างมโหฬาร เป็นเหตุให้เกิดความ ตกต่าของบัณฑิตในทุกระดับ ทุกสถาบันการผลิต โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้นั้น เป็นแบบทางการ เหมือนสายพานการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม การศกึ ษาไทย 4.0 การศกึ ษายุคนี้ ควรเป็นการศึกษาเพ่ือการสร้างนวัตกรรม เป็นการศึกษาเพื่อ ปวงชน เป็นการศึกษาเพ่ือสังคม ท่ีคนท่ีได้รับการศึกษาน้ันต้องหันมาช่วยเหลือสังคมอย่างจริงจัง และ กว้างขวาง โดยท่ีไม่ใช่การศึกษาเพื่อวัตถุประสงค์ใด วัตถุประสงค์หนึ่งดังเช่นท่ีผ่านมา และการจัด การศึกษาต้องบูรณาการท้ังศาสตร์ ศิลป์ ชีวิต และเทคโนโลยีเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เพื่อสร้างคนท่ี สงั คมตอ้ งการไดใ้ นทกุ มติ ิ และมีรปู แบบการจัดการศึกษาท่ีหลากหลาย สอดคล้องและตอบสนองต่อความ ต้องการของผู้เรียน โดยครูอาจจะไม่มีความจาเป็นอีกต่อไป หรือถ้าจาเป็นต้องมีก็ต้องเปล่ียนแปลง บทบาทไปอยา่ งมาก ลกั ษณะพเิ ศษ Education 4.0 สืบเน่ืองจาก การเข้าถึงเนื้อหาความรู้มีลักษณะเปิด Open Education Resource เข้าถึงได้ง่าย ยิง่ ในยุค สมาร์ทโฟน Mobile Education การเขา้ ถึงยิ่งสะดวกมากยิง่ ขึน้ การแสวงหาความรู้จึงทาได้เร็ว เด็ก เยาวชน ยุคใหม่ มีลักษณะเป็นชนพื้นเมืองดิจิทัล Digital native การเรียนการสอนแบบเก่าใน
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรับสุขศึกษา หอ้ งเรียน ท่ที ่องบ่นเน้ือหา ตามแผนการสอน ตามกรอบหลักสูตร หรือทาโจทย์ ทาข้อสอบแบบเดิมจึงไม่ 21 เหมาะกับการศึกษายุคใหม่ การศึกษายุคใหม่ Next Generation Education ต้องเน้นแสวงหา เรียนรู้ได้เอง อย่างท้าทาย สร้างสรรค์ความรู้ใหม่ ต่อยอดความรู้เดิม คิดและประยุกต์ใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์ได้ เหมาะกับตนเอง สังคมตามสถานะการณ์ การจัดการศึกษา 4.0 จึงต้องนาเอาหลักการ เก่ียวกับยุคสมัยใหม่ ท่ีตรงความสนใจของ ชน พ้นื เมอื งดจิ ิทลั ทม่ี ชี วี ิตในโลกไซเบอร์ ซึง่ ประกอบด้วย การจัดการศึกษาที่ก่อให้เกิดการทางานร่วมกันบนไซเบอร์ โดยใช้ขีดความสามารถของระบบ เชอื่ มโยงทางฟสิ คิ ัลกับไซเบอร์ ที่มอี ปุ กรณส์ มาร์ทสมยั ใหมช่ ่วย เช่น สมารท์ โฟน แทบ็ เบล็ต ฯลฯ ต้องรู้จัก ใช้เคร่ืองมือสมัยใหม่เพื่อการแสวงหาเรียนรู้จากความรู้อันมหึมาบนคลาวด์ โดยการใช้เคร่ืองมือที่สมาร์ท สมยั ใหม่เช่ือมโยงสิง่ ต่างๆเขา้ ด้วยกนั การจัดการศึกษายุคใหม่ต้องใช้เครื่องทุ่นแรงทาเรื่องยากให้เข้าใจได้ง่ายข้ึน และเรียนรู้ได้เร็ว Learning curve สร้างกิจกรรมใหม่ๆบนไซเบอร์ โดยมีเครื่องมือทางดิจิทัล และเทคโนโลยีเกิดใหม่ IT เป็นสิ่งทุ่นแรงเหมือนเคร่ืองจักรกลช่วยให้เรียนรู้ในส่ิงที่ยาก และสูงข้ึน ใช้รูปแบบเสมือนจริง Virtualization ให้ผู้เรียนใช้รูปแบบการใช้เช่ือมต่อบนคลาวด์แบบเสมือนจริง เครื่องมือการเรียนรู้แบบ ใหมๆ่ เปน็ การให้ผเู้ รียนมีสว่ นรว่ มแสดงออกในความคิดเห็น Socratic method การจัดการศึกษาให้มีรูปแบบการบริการ Service oriented และเข้าถึงได้ในรูปแบบ real time ตลอดเวลา ทัง่ ถงึ ทกุ ท่ี ทกุ เวลา Ubiquitous การศึกษาต้องไม่เน้นกรอบการเรียนรู้ แต่เน้นการต่อยอดองค์ความรู้ สร้างความรู้ใหม่ ไม่อยู่ใน กรอบหลักสูตรแบบเดิม เป็นการเรียนรตู้ ามความตอ้ งการมากขึ้น โมเดลการจดั การศกึ ษาจะเปลีย่ นไป เหมอื นการฟงั เพลง เมือ่ กอ่ นต้องซอ้ื เทป ซีดี หรือผู้เรียนต้อง จา่ ยคา่ เลา่ เรียน แต่การศึกษาแบบใหม่ การเข้าถึงบริการกิจกรรมการเรียนรู้บนไซเบอร์ จะเหมือนการฟัง เพลงบน ยทู ูปโดยไมต่ อ้ งจ่ายเงนิ ซื้อเทปซดี ี เพียงการเขา้ ถงึ บนคลาวด์ ในโลกไซเบอร์
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสุขศึกษา แนวโน้มเทคโนโลยีการศกึ ษาในอนาคต 22 เทคโนโลยีในปัจจุบันมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทาให้มีวัสดุ อุปกรณ์ และ เทคนิควิธีการใหม่ๆ เพื่อนามาใช้ประโยชน์อย่างไม่มีขีดจากัดในทุกวงการ เช่นเดียวกับวงการศึกษาที่นา เทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ การนาเอา เทคโนโลยี เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอน เป็นการเพิ่มพูน ประสิทธิภาพทางการเรียนรู้แก่ ผู้เรียน และในสภาพปัจจุบันการเรียนการสอนก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงสิ่งน้ีได้ ครูจะต้องปรับเปล่ียนพฤติกรรม การสอนของตนเอง ตอ้ งยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่ เกดิ ข้นึ จงึ ต้องเรียนรู้เทคโนโลยีต่าง ๆ แล้ววิเคราะห์ ความเป็นไปได้ ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ให้เหมาะสมกับสภาพของโรงเรียน ท่ีมีความพร้อมในระดับ หน่งึ ครูควรต้องพฒั นาตนเองเพ่ือพัฒนาผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม และยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เพื่อนาพา ผเู้ รียนให้สามารถเรียนรู้ ดารงตนอยู่ได้อยา่ งมีความสุข บทสรุป Education 4.0 คือ การเรียนการสอนที่สอนให้ผู้เรียนสามารถนาองค์ความรู้ท่ีมีอยู่ทุกหนทุก แห่งบนโลกน้ี มาบูรณาการเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนานวัตกรรมต่างๆ มาตอบสนองความต้องการของคน สังคม แต่ในความเป็นจริงการเรียนการสอนในยุคปัจจุบันแตกต่างกับจุดมุ่งหมายของ Education 4.0 อย่างส้ินเชิง เช่น เราไม่เคยสอนให้เด็กได้คิดเองทาเอง ส่วนใหญ่สอนให้เด็กทาโจทย์แบบเดิมๆ เด็กส่วน ใหญ่ใช้เวลาในโลกออนไลน์ไปกับ การเล่นเกม การแชท เล่นFacebook Line Instargram เป็นการใช้ เทคโนโลยีโดยไม่ค่อยสรา้ งสรรค์แตเ่ หรียญมักมีสองด้าน เราจะนาไปใช้ในด้านใดให้เกิดประโยชน์ มันเป็น ความยากและความท้าทาย ของผู้ที่ต้องทาหน้าท่ีสอนเด็กๆ ในยุคน้ี เพราะการเรียนการสอนในยุค 4.0 ต้องปล่อยให้เด็กได้ใช้เทคโนโลยี ในการเรียนรู้ด้วยตนเอง ปล่อยให้เด็กกล้าคิดและกล้าที่จะทาผิด แต่ ทั้งหมดก็ยังคงต้องอยู่ในกรอบที่สังคมต้องการหรือยอมรับได้ ไม่ใช่ว่าเก่งจริง คิดอะไรใหม่ๆ ได้เสมอมี ความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่เป็นท่ียอมรับของสังคม Education 4.0 เหมือนจะเป็นเรื่องง่ายเพราะมีปัจจัย หลกั เพยี ง แค่ 3 ปัจจยั คือ 1. Internet เป็นเคร่ืองมือสาคัญสาหรับการค้นหาความรู้ ดังนั้นทางสถาบันการศึกษาต้อง สนับสนุนให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาเข้าถึงInternet ได้ง่าย มากกว่ามอง Internet เป็นผู้ร้ายแล้วกลัวว่า นกั เรียน นิสิต นกั ศกึ ษาจะใช้ Internet ไปในทางที่ไม่ดีเลยไมส่ นบั สนนุ โครงสร้างพ้นื ฐานเหลา่ นีใ้ นสถาบนั 2. ความคิดสร้างสรรค์ หลายๆท่านอาจคิดว่าเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ เป็นพรสวรรค์ไม่ใช่ พรแสวงเรยี นรู้กันไมไ่ ด้ เพราะคิดกันแบบนีเ้ ราถึงไม่สามารถสรา้ งอะไรใหมข่ ้นึ มาได้ หลักสูตรการเรียนการ สอนควรจะเปิดโอกาส ใหน้ ักเรียน นสิ ติ นกั ศกึ ษา กลา้ ทจี่ ะคิดนอกกรอบหรอื ต่อยอดจากตารา 3. การปฏิสัมพันธ์กับสังคม เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของสังคมและทางาน ร่วมกันในสังคมได้ สถานศึกษาควรมีกิจกรรมให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาได้เข้าร่วมเป็นประจา มีการ สนับสนนุ การทางานเปน็ กลุ่มมากกว่างานเดย่ี ว
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรบั สุขศึกษา หากเราสามารถทาตามปัจจัยทั้ง 3 ข้อ ได้เป็นอย่างดี Education 4.0 ก็จะสามารถสร้างและ 23 พัฒนาคน ใหส้ ามารถค้นหาความรตู้ ่างๆ มาปะตดิ ปะตอ่ และประยกุ ตเ์ ข้ากับงานที่ทา สามารถต่อยอดและ พัฒนาส่ิงใหม่ๆ ได้ มีเพ่ือนฝูงมีคอนเนคช่ัน ซึ่งท้ังหมดก็คือคุณสมบัติหลักๆ ของบุคลากรท่ีตลาดแรงงาน ในยุค Industry 4.0 ต้องการ อาทิเช่น ช่วยกันปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนในโรงเรียน จากระบบการ ท่องจาและบรรยายโดยการท่ไี มแ่ สดงความคดิ เห็นท่แี ตกตา่ ง มาเป็นระบบท่ีสอนใหผ้ ้เู รียนได้หัดคิด หัดทา สามารถที่จะโต้ตอบด้วยเหตุผลได้ แตก่ ย็ ังคงตอ้ งมกี รอบให้เข้าใจถึงการอยู่ร่วมในสังคมด้วย ผู้เรียนจะได้มี โอกาสสร้างนวัตกรรมแขง่ ขนั กบั ชาติอน่ื ๆ ได้ การพฒั นาการศกึ ษาภายใต้กรอบประเทศไทย 4.0 สู่ศตวรรษท่ี 21 จากการสร้าง ห้องเรียนกลับ ด้าน (Flipped Classroom) เร่ิมด้วยการฝึกให้ผู้เรียนรู้การเรียนด้วยตนเองเช่น ให้รู้วิธีดูคลิป การเก็บ ใจความ การคิดต่อยอดให้มีสมาธิให้ได้สาระ แนะให้หยุดหรือกรอก กลับ คลิปมาดูใหม่หากสงสัย ฝึกวิธี เขียน บันทึก จดบันทึก เขียน mind map กาหนดให้ตั้งคาถามท่ีน่าสนใจได้ และเตรียมถามครู การ เปล่ียนแปลงท่ีครู ต้องพัฒนาครูให้มีความรู้มีพื้นฐานแน่น พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ การจัดระบบความรู้ จัดการความรู้ มีความสามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้เรียน และมีความรู้จริง พร้อมที่จะถ่ายทอด การยอมรับ สองดา้ นทงั้ ทางการปฏบิ ตั ิ รับการป้อนกลบั ชว่ ยการพัฒนาการของผู้เรียนและบรรยากาศการเรียนรู้ การ เป็นผู้กากับการเรียนรู้ท้ังของตนเองและผู้เรียนเปล่ียนแปลงกระบวนการเรียนการสอน สร้างทักษะที่ จาเป็น โดยเรียนด้วยการลงมือทา Active Learning : PBL (Project Base Learning) ครูเปลี่ยนจากครู สอนเป็นพี่เล้ียง ครูฝึก (Coach) หรือ ผู้จัดการ ผู้สนับสนุน Learning Facilitator การนาเสนอเป็น รายงานและนาเสนอด้วยปาก หรืออาจเสนอเป็นละคร ครูชวน ผู้เรียนทา Reflection ว่าได้เรียนรู้ อะไร อยากเรยี นอะไรต่อ เพื่ออะไร ชวนคิดด้านคุณค่า จริยธรรม การเรียนแบบบูรณาการสหวิชาการ เช่ือมโยง ความรู้กับจินตนาการ แปลงสู่ รูปธรรมให้มีทักษะที่ต้องการในยุคศตวรรษที่ 21 (21stcentury skills) เช่น การทางานร่วมกัน (collaboration) ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) การแก้ปัญหา (Problem- solving) และการสื่อสารทีดี (Effective communication) การจัดการศึกษา ต้องสร้างความพอใจให้ ผู้เรยี นและ ท้าทา้ ยสกู่ ารสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียน อยากเรียนและสนุกอย่างเกม (Gamification for Education) เอกสารอ้างอิง ณฐั พร เหน็ เจรญิ เลิศ และคณะ. (2559). ขอบแดนใหม่แห่งการเรยี นรู้ : การศกึ ษา ระบบ 4.0. กรงุ เทพฯ: ศนู ยน์ วัตกรรมการเรยี นรู้ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. สวุ ิทย์ เมษินทรีย์. (2556). โลกเปลี่ยน ไทยปรับ. กรุงเทพฯ : กรงุ เทพธุรกิจ. https://goo.gl/jXJPuz https://sites.google.com/a/msu.ac.th/rangsima_/education4- 0?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรบั สขุ ศึกษา แผนการสอนประจาสัปดาห์ท่ี 4 24 บทท่ี 3 โปรแกรมประยุกตเ์ พอ่ื การจดั การและพฒั นา1 รายละเอียด 1. รบิ บอนคาสง่ั ตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2. สว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 3. วธิ ีการใช้สร้างงานโปรแกรม Microsoft Word จานวนชัว่ โมงท่สี อน 3 ชั่วโมง กจิ กรรมการเรียนการสอน 1. อาจารยน์ าเสนอริบบอนคาสง่ั ต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2. นิสติ ซักถามวธิ กี ารใชส้ รา้ งงานโปรแกรม Microsoft Word 3. นิสติ ฝึกปฏิบตั ิ สือ่ การสอน 1. เอกสารประกอบการเรยี น 2. สือ่ การสอนโดยใช้ PowerPoint 3. ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ แผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 การเข้าชัน้ เรยี น และแต่งกายถกู ระเบยี บ (M) 1.2 ความเขา้ ใจจากการเรยี นรู้ (K) 1.3 การประยุกตใ์ ชค้ วามร้ใู นการสร้างสรรคผ์ ลงาน (C) 1.4 ทักษะการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ (N) 2. วิธีการการวดั และการประเมินผลการเรียนรู้ 2.1 อาจารยพ์ จิ ารณาการเข้าช้ันเรียน และแตง่ กายถกู ระเบียบ 2.2 อาจารยส์ งั เกตความสนใจ การตอบคาถาม และการซักถาม
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสุขศึกษา 2.3 อาจารยพ์ ิจารณาผลงานจากการฝกึ ปฏบิ ัติ 25 3. สัดส่วนของการประเมิน 3.1 ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม (M) รอ้ ยละ 10 3.2 ด้านความรู้ (K) ร้อยละ 30 3.3 ด้านทักษะทางปัญญา (C) ร้อยละ 30 3.4 ด้านทกั ษะความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบุคคลและความรบั ผดิ ชอบ (I) รอ้ ยละ 0 3.5 ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตวั เลข การสื่อสาร และการใชไ้ อที (N)ร้อยละ 15 เน้อื หาท่สี อน โปรแกรม Microsoft Word เป็นโปรแกรมสาหรับสร้างเอกสาร ท้งั ที่เป็นเอกสารทว่ั ไป จดหมาย ซองจดหมาย ใบงาน ใบความรู้ โปสเตอร์ เกียรติบตั ร บัตรคา หรือเอกสารใด ๆ กส็ ามารถสรา้ งได้ด้วย โปรแกรม Microsoft Word สว่ นประกอบของ Microsoft Word เม่อื เข้าสูโ่ ปรแกรม Microsoft Word จะเห็นว่าโดยทวั่ ไปจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนการทางาน (ดังภาพท่ี 1) ได้แก่ ภาพท่ี 3.1 หน้าจอโปรแกรม Microsoft Word หมายเลข เปน็ สว่ นตดิ ต่อกบั ผใู้ ช้หรือที่รวบรวมเคร่ืองมือต่าง ๆ ท่ใี ชใ้ นการทางาน เรียกว่า ริบบอน Ribbon โดยริบบอนนี้จะมี 2 ลักษณะ คอื
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสขุ ศึกษา 1) ริบบอนปกติ เป็นรบิ บอนที่มอี ยแู่ ลว้ เปน็ พนื้ ฐานเมือ่ เปิดโปรแกรมขน้ึ มาเพอ่ื ใช้งาน ไดแ้ ก่ File, 26 Home, Insert, Design, Page layout, Reference, Mailing, Review และ View 2) ริบบอนเฉพาะงาน เป็นรบิ บอนทร่ี วบรวมเครื่องมือยอ่ ย ๆ ทีจ่ าเปน็ ซ่ึงจะปรากฎข้นึ เมื่อมกี าร ทางานในบางสว่ นงาน เชน่ รูปภาพ ตาราง กล่องข้อความ เปน็ ตน้ หมายเลข เปน็ ฟังค์ชันหนงึ่ ทเ่ี พ่ิมเข้ามาใน Microsoft Word เพ่อื ความสะดวกสบายในการ ทางาน โดยจะเป็นแท๊บมมุ มองทที่ าให้ผใู้ ช้เห็นสงิ่ ที่กาลังทางานอยูใ่ น 3 ลกั ษณะ คือ มุมมองหวั เรือ่ ง มุมมองหน้ากระดาษ และมุมมองผลลัพธ์การคน้ หา หมายเลข เปน็ พืน้ ท่ีทีผ่ ้ใู ชใ้ ชส้ รา้ งงานเอกสารต่าง ๆ อย่างไรกต็ ามส่วนประกอบของ Microsoft Word ไม่ได้มีเพียง 3 ส่วนหลักนีเ้ ท่านน้ั ยังมกี าร ทางานอนื่ ๆ อีกมากมายท่ีจะปรากฏใหเ้ หน็ เมือ่ ได้มกี ารทางานเก่ียวข้องในสว่ นงานนัน้ ๆ รบิ บอนต่าง ๆ ทีค่ วรรจู้ ัก หลงั จากที่เราทราบวา่ โปรแกรม Microsoft Word อาศยั รบิ บอนต่าง ๆ ในการรวบรวมเครื่องมือ ทใ่ี ช้ในการทางาน ในส่วนนจ้ี ะพาไปรจู้ ักกบั รบิ บอนต่าง ๆ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. ริบบอน File เปน็ เคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นการสร้างเอกสารใหม่ การเปิดเอกสาร การบนั ทกึ การพิมพ์ การแบง่ ปนั และการต้ังคา่ ตา่ ง ๆ ภาพท่ี 3.2 ริบบอน File
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสขุ ศกึ ษา 2. รบิ บอน Home เปน็ เครือ่ งมือเก่ียวกับ คลปิ บอร์ด (clipboard) ตัวอักษร (font) การยอ่ หน้า 27 (paragraph) รูปแบบตัวอักษร (style) และการแก้ไข (editing) ภาพท่ี 3.3 รบิ บอน Home 3. ริบบอน Insert เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับการแทรกหน้า (pages) ตาราง (tables) ภาพประกอบ (illustrations) ส่ือออนไลน์ (Online media) การเชื่อมโยง (links) ความคิดเห็น (comments) หัวและ ท้ายกระดาษ (header & footer) ตัวอกั ษรพิเศษ (text) และสญั ลักษณ์ (symbols) ภาพที่ 3.4 ริบบอน Insert 4. ริบบอน Design เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับการออกแบบรูปบบของเอกสาร (document formatting) แบล็คกราวน์ (background) ภาพที่ 3.5 รบิ บอน Design 5. รบิ บอน Page layout เป็นเคร่ืองมือเกี่ยวกับการจัดโครงร่างหน้ากระดาษ (page setup) ย่อ หนา้ (paragraph) และการลาดบั เอกสาร (arrange) ภาพที่ 3.6 ริบบอน Page layout
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรับสุขศกึ ษา 6. ริบบอน Reference เป็นเคร่ืองมือเกี่ยวกับการทาสารบัญ (table of contents) การทา 28 อ้างอิงท้ายหน้า (footnotes) การอ้างอิงและบรรณานุกรม (citations & bibliography) การบรรยาย ภาพ (captions) และการทาดรรชนี (index) ภาพท่ี 3.7 ริบบอน Reference 7. ริบบอน Mailing เป็นเคร่ืองมือเกี่ยวกับการสร้างจดหมาย (create) การสร้างจัดหมายเวียน (start mail merge) การเพิม่ เขตข้อมูล (write & insert fields) การดูผลลัพธ์ (preview results) และการรวม จดหมาย (finish & merge) ภาพท่ี 3.8 รบิ บอน Mailing 8. ริบบอน Review เป็นเครื่องมือเก่ียวกับการพิสูจน์อักษร (proofing) การเปลี่ยนภาษา (language) ความคิดเห็น (comments) การติดตามการแก้ไข (changes) การเปรียบเทียบ (compare) การปอ้ งกนั เอกสาร (protect) การเขียนเหมือนปากกา (ink) และการเชือ่ มโยงไปยังโปรแกรม OneNote ภาพที่ 3.9 ริบบอน Review 9. รบิ บอน View เป็นเครื่องมือเกยี่ วกบั มมุ มองเอกสาร (views) การแสดงเครอื่ งมอื (show) การ ขยาย (zoom) การสลับหนา้ ตา่ งการทางาน (windows) และการเขียนโปรแกรมเสริม (macros) ภาพที่ 3.10 ริบบอน View
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสุขศึกษา โปรแกรม Microsoft Word มรี บิ บอนเป็นทีเ่ กบ็ รวบรวมเครอ่ื งมือช่วยการทางานต่าง ๆ ซึ่งมีการ 29 จัดกลุ่มให้ใช้งานได้สะดวก หากเรียนรู้และสามารถเรียกใช้เคร่ืองมือต่าง ๆ จากริบบอนท่ีมีอยู่ได้นั้น ก็จะ ทาให้การสร้างงานเอกสารสามารถทางานได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลา และสามารถดึงศักยภาพของ โปรแกรม Microsoft Word ออกมาไดอ้ ย่างมากมาย การสรา้ งงานเอกสาร การสร้างงานเอกสารใน Microsoft Word มีเทคนิคต่าง ๆ มากมาย ซ่ึงสามารถนามาประยุกต์ สร้างงานเอกสารท่ีมีคณุ ภาพได้ โดยเฉพาะงานวิชาการที่มีข้อกาหนดในรายละเอียดมากมาย บรรณารักษ์ ควรทราบเป็นเบ้อื งต้น ดงั ต่อไปนี้ 1. การกาหนดคา่ ไม้บรรทัด ไมบ้ รรทดั เป็นอปุ กรณ์อยา่ งหนง่ึ ท่ีมคี วามจาเป็นในการสร้างงานเอกสาร เพราะมันช่วยให้การ จัดตาแหน่งต่าง ๆ ของเอกสารให้สวยงาม อีกท้ังยังใช้ในการทางานร่วมกับแท็บด้วย วิธีการกาหนดค่าไม้ บรรทัด มีดงั น้ี 1.1 กรณีเปิดโปรแกรมขึ้นมาแล้วไม่มีไม้บรรทัด ให้ไปท่ีริบบอน View - ทาเคร่ืองหมายถูกท่ี ชอ่ ง Ruler 1.2 กรณมี ีไมบ้ รรทดั แตห่ นว่ ยวัดไมต่ รงตามความต้องการ มวี ิธกี ารเปลยี่ นดงั น้ี 1) ไปที่ริบบอน File - Options - Advance - Display 2) เลือกหน่วยวดั ทตี่ อ้ งการ คลกิ OK ภาพที่ 3.11 หนา้ ตา่ งการกาหนดหนว่ ยวดั ไมบ้ รรทดั
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสุขศกึ ษา 2. การกาหนดค่าหน้าเอกสาร (Margins) 30 งานเอกสารที่สร้างขึ้นของแต่ละองค์การ หน่วยงาน มักมีข้อกาหนดในการจัดการเอกสาร เพื่อให้เกิดความสวยงาม เป็นระเบียบแบบแผน ซ่ึงขั้นตอนแรกเร่ิมทางานเอกสาร จาเป็นต้องกาหนดค่า หน้าเอกสารเสยี กอ่ น โดยมีขั้นตอนต่อไปนี้ 1) คลิกริบบอน Page layout - Margins - Custom margin ภาพที่ 3.12 คาสง่ั การกาหนดคา่ หนา้ กระดาษ 2) ระบุขนาดของหน้าเอกสารที่ต้องการ อาทิ ขอบบน (top) ขอบซ้าย (left) ขอบล่าง (bottom) และ ขอบขวา (right) เมื่อกาหนดเสรจ็ แลว้ คลิก OK ภาพที่ 3.13 หนา้ ต่างกาหนดคา่ หนา้ เอกสาร
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกต์สาหรบั สุขศึกษา 3. การสร้างรปู แบบตัวอกั ษร 31 รูปแบบตวั อกั ษรเป็นเคร่ืองมือท่ีช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนตัวอักษรตามท่ีเรากาหนดได้อย่าง รวดเรว็ ชว่ ยเพิ่มประสทิ ธิภาพในการสรา้ งงานเอกสาร มีข้นั ตอนดังนี้ 1) ไปที่ริบบอน Home - Style ภาพท่ี 3.14 คาสั่งสร้างรูปแบบตัวอักษร 2) คลกิ สว่ นขยาย เลือก Create a style เลือก Modify 3) กาหนดรูปแบบตวั อกั ษรตามตอ้ งการ คลิก OK ภาพที่ 3.15 หนา้ ต่างการกาหนดรูปแบบตัวอกั ษร 4) ถ้าต้องการให้ข้อมูลใดเป็นหัวข้อในสารบัญให้กาหนดในส่วนของ Style based on เป็น Heading 1, 2, 3 … ตามลาดบั 4. การแทรกการอา้ งอิง การอ้างอิงเป็นสิ่งบ่งบอกท่ีมาของเน้ือหาท่ีน ามาจากแนวคิดหรือหลักการของผู้อื่น โดยปกติ สาขาวิชาทางมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จะเลือกใช้รูปแบบการอ้างอิงแบบ APA (American Psychological Association) แต่สามารถเลือกใช้รูปแบบการอ้างอิงอ่ืนได้เช่นเดียวกัน ข้ันตอนการใส่ อ้างอิง มีดังนี้ 1) ไปทีร่ ิบบอน References - Insert Citation - Add new source
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสขุ ศกึ ษา 32 ภาพที่ 3.16 คาส่งั แทรกการอ้างอิง ภาพที่ 3.17 หน้าตา่ งบันทกึ ขอ้ มลู การอา้ งอิง 2) เลอื กภาษาการเสนอขอ้ มูลของทรัพยากรสารสนเทศนัน้ ๆ 3) เลือกรปู แบบทรัพยากรสารสนเทศ 4) บนั ทกึ ขอ้ มลู การอา้ งองิ ให้ครบถว้ น คลกิ OK หมายเหตุ หากมีการบันทึกข้อมูลการอ้างอิงผิด ต้องทาการปรับแก้ใหม่ โดยใช้เม้าส์ คลิกท่ี รายการอา้ งอิงนน้ั - คลกิ - เลอื ก Edit source - ปรับแก้ขอ้ มลู การอา้ งอิงใหถ้ กู ตอ้ ง หากต้องการเพ่ิมขอ้ มูลเลขหน้าทอี่ ้างอิง สามารถทาได้โดยใชเ้ ม้าสค์ ลิกที่ รายการอา้ งอิงน้นั - คลิก - เลอื ก Edit citation - เพ่ิมข้อมูลเลขหนา้ ท่ีอา้ งอิง - คลกิ OK
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรบั สขุ ศกึ ษา 33 ภาพที่ 3.18 คาสัง่ การปรับแก้การอา้ งองิ 5. การทาบรรณานกุ รมอตั โนมตั ิ บรรณานุกรมเป็นส่วนประกอบในส่วนท้ายของเอกสาร ซ่ึงมีการทางานสืบเน่ืองมาจากการ แทรกการอา้ งองิ มีวธิ ีการดงั น้ี 1) ไปท่ีรบิ บอน References - Bibliography - Insert Bibliography ภาพท่ี 3.19 คาสงั่ สรา้ งบรรณานุกรมอตั โนมตั ิ 2) ใช้เม้าส์เลือกขอ้ มลู บรรณานุกรมทัง้ หมด เพื่อปรบั เปลีย่ นตวั อักษรให้สวยงาม 6. การกาหนดเลขหนา้ โดยปกติเอกสารจะมีเลขหน้ากากบั เพ่ือใหผ้ ้ใู ช้เปดิ ใช้งานได้สะดวก ซึ่งเลขหน้าในส่วนต้นของ เอกสาร ได้แก่ คานา กิตติกรรมประกาศ สารบัญ สารบัญภาพ และสารบัญตาราง มักใช้ตัวเลขหรือ
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรบั สุขศึกษา ตัวอักษรที่ต่างไปจากเลขหน้าในส่วนของเนื้อหา ดังน้ันเราจึงต้องแยกส่วนของเอกสารออกจากกันโดยใช้ 34 คาส่งั Breaks ดังขัน้ ตอนตอ่ ไปน้ี 1) ไปท่รี ิบบอน Insert - Page number - เลือกรปู แบบและตาแหน่งของเลขหน้า 2) กาหนดรูปแบบของเลขหน้า โดยดับเบล้ิ คลิกเข้าไปในส่วน Header - Page number - Format page number ภาพที่ 3.20 คาส่ังกาหนดรูปแบบเลขหนา้ 3) ปรับเปลี่ยนรูปแบบเลขหน้า - เลือก Start at: - กาหนดเลขหน้า เช่น เปลี่ยนรูปแบบเลข หนา้ เป็นตวั อกั ษรไทย - เลอื ก Start at: ก - คลิก OK ภาพที่ 3.21 หนา้ ตา่ งการกาหนดรปู แบบเลขหน้า 4) เลอ่ื นเม้าส์คลกิ ใหเ้ คอรเ์ ซอรไ์ ปอยูห่ น้าข้อความทีเ่ ราต้องการ Break 5) ไปท่ีรบิ บอน Page layout - Breaks - Next pages
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรับสขุ ศกึ ษา 35 ภาพท่ี 3.22 คาสั่ง Break 6) ทาตามข้ันตอนที่ 2 อกี คร้ังในหนา้ ทต่ี ้องการเรม่ิ ตน้ เลขหน้าใหม่ 7) ปรับเปลี่ยนรูปแบบเลขหน้า - เลือก Start at: - กาหนดเลขหน้า เช่น เปล่ียนรูปแบบเลข หน้าเป็นตวั เลขอารบคิ - เลอื ก Start at: 1 - คลิก OK 7. การทาสารบัญอัตโนมัติ การทาสารบัญอัตโนมัติ เป็นผลต่อเน่ืองมาจากการสร้างรูปแบบตัวอักษร มีข้ันตอนการทา ดังน้ี 1) ไปทรี่ บิ บอน References - Table of contents - Custom Table of Content
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกตส์ าหรับสุขศกึ ษา 36 ภาพท่ี 3.23 คาสงั่ การทาสารบัญอัตโนมัติ 2) ปรับแตง่ การตงั้ คา่ ของสารบญั เพอ่ื ให้การแสดงผลตรงตามความต้องการ คลกิ OK ภาพที่ 3.24 หนา้ ตา่ งปรบั แต่งการตั้งค่าของสารบญั ตามความต้องการ 3) ใช้เม้าส์เลือกข้อมลู สารบญั ทั้งหมด เพอ่ื ปรบั เปล่ยี นตัวอกั ษรให้สวยงาม หมายเหตุ ทุกครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาใด ๆ ท่ีทาให้หัวข้อมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือเลข หนา้ เปล่ียนไปจากเดมิ ตอ้ งทาการอัปเดตสารบัญอตั โนมตั ทิ ุกครง้ั โดยไปท่ีสารบญั - คลิกขวา - Update Field
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรับสุขศกึ ษา only กรณีมกี ารปรับเฉพาะเน้ือหาทาให้เลขหนา้ เปลย่ี นแปลง เลอื ก Update page number 37 ส่วนกรณมี กี ารปรบั หัวข้อและเนอ้ื หาทาใหเ้ ลขหนา้ เปล่ียนแปลง เลือก Update entire table ภาพท่ี 3.25 หนา้ ต่างเลือกวิธีการอปั เดตสารบัญอตั โนมตั ิ สรุป การสร้างงานเอกสาร เป็นส่วนหน่ึงของงานห้องสมุด การเรียนรู้และเข้าใจโปรแกรม Microsoft Word นอกจากจะทาให้งานเอกสารดูสวยงาม มีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยให้การใช้งานทาได้รวดเร็ว ประหยัดเวลาการทางานไปได้อย่างมาก ท้ังน้ีเทคนิคพื้นฐานท่ีควรเรียนรู้คือ การกาหนดค่าหน้าเอกสาร การสร้างรูปแบบตัวอักษร การแทรกการอ้างอิง การทาบรรณานุกรมอัตโนมัติ การกาหนดเลขหน้า และ การทาสารบญั อตั โนมตั ิ แบบฝึกหดั 1. ปรับเปลีย่ นหนว่ ยวดั ของไม้บรรทัด จากเซนตเิ มตรเป็นนวิ้ 2. กาหนดค่าหนา้ กระดาษ บน 1.5 นิ้ว ซ้าย 1.5 นิว้ ขวา 1 น้ิว และลา่ ง 1 นว้ิ 3. สร้างรปู แบบตัวอักษร ใช้ฟอนต์ TH Saraban New ขนาด 16 ตวั ปกติ จดั ชดิ ซ้าย 4. สร้างรายการอ้างอิง 5 รายงาน (หนังสือ 2 รายการ, วารสาร 1 รายการ, หนังสือพิมพ์ 1 รายการ และเวบ็ ไซต์ 1 รายการ) 5. สรา้ งบรรณานุกรมอัตโนมัติ เอกสารอ้างองิ ธชั ชยั จาลอง. (2554). Microsoft office ฉบบั สมบรู ณ์ 2010. กรุงเทพฯ: ซเี อ็ดยเู คช่ัน.
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรับสขุ ศกึ ษา แผนการสอนประจาสปั ดาห์ท่ี 5 38 บทที่ 3 โปรแกรมประยกุ ตเ์ พอ่ื การจดั การและพฒั นา2 รายละเอียด 1. รบิ บอนคาสง่ั ต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Excel 2. ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Excel 3. วิธกี ารใชส้ ร้างงานโปรแกรม Microsoft Excel จานวนช่ัวโมงทีส่ อน 3 ชั่วโมง กิจกรรมการเรียนการสอน 1. อาจารยน์ าเสนอรบิ บอนคาสง่ั ต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Excel 2. นสิ ิตซกั ถามวิธกี ารใชส้ ร้างงานโปรแกรม Microsoft Excel 3. นิสติ ฝึกปฏบิ ัติ สอื่ การสอน 1. เอกสารประกอบการเรียน 2. สอ่ื การสอนโดยใช้ PowerPoint 3. หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ แผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 การเข้าช้ันเรยี น และแตง่ กายถกู ระเบียบ (M) 1.2 ความเขา้ ใจจากการเรยี นรู้ (K) 1.3 การประยุกต์ใชค้ วามร้ใู นการสร้างสรรคผ์ ลงาน (C) 1.4 ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ (N) 2. วธิ กี ารการวดั และการประเมินผลการเรียนรู้ 2.1 อาจารยพ์ ิจารณาการเข้าชนั้ เรียน และแต่งกายถกู ระเบยี บ 2.2 อาจารยส์ ังเกตความสนใจ การตอบคาถาม และการซักถาม 2.3 อาจารยพ์ จิ ารณาผลงานจากการฝึกปฏิบตั ิ 3. สดั ส่วนของการประเมิน
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยุกต์สาหรบั สุขศกึ ษา 3.1 ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม (M) รอ้ ยละ 10 39 3.2 ด้านความรู้ (K) ร้อยละ 30 3.3 ด้านทกั ษะทางปัญญา (C) ร้อยละ 30 3.4 ด้านทักษะความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบุคคลและความรับผดิ ชอบ (I) ร้อยละ 0 3.5 ดา้ นทักษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตัวเลข การส่ือสาร และการใชไ้ อที (N)ร้อยละ 15 เน้ือหาท่สี อน โปรแกรม Microsoft Excel เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการเก็บข้อมูลลงบนแผ่นตารางงาน (spread sheet) ซง่ึ มีลกั ษณะเด่นในดา้ นการคานวณด้วยสูตรทางคณิตศาสตร์ สามารถใส่ฟังก์ชัน ต่าง ๆ การจัดทา รายงานทแี่ สดงผลเป็นตวั เลข รูปภาพ แผนภูมทิ ม่ี ีความสวยงาม (สุพีชา ถริ จิตตกุล, 2554: 1) นอกจากน้ีหัวใจหลักอีกอย่างหน่ึงของโปรแกรม Excel คือ การนาข้อมูลท่ีอยู่ในตารางมา วเิ คราะหแ์ ละประมวลผลเพอื่ ให้ได้ผลลพั ธ์จากการคานวณมาเป็นข้อมลู เพ่ือชว่ ยในการตดั สนิ ใจ (ดวงพร เกี๋ยงคา, 2554: 1) สว่ นประกอบของ Microsoft Excel เมื่อเปดิ โปรแกรม Microsoft Excel ขน้ึ มาจะพบวา่ มสี ่วนประกอบทสี่ าคัญ 2 สว่ นหลัก ๆ คอื หมายเลข เปน็ ส่วนติดต่อกบั ผู้ใช้หรือที่รวบรวมเคร่อื งมอื ตา่ ง ๆ ท่ีใชใ้ นการทางาน เรียกว่า รบิ บอน Ribbon โดยรบิ บอนน้จี ะมี 2 ลักษณะ คอื 1) รบิ บอนปกติ เป็นริบบอนที่มีอย่แู ลว้ เปน็ พื้นฐานเมอ่ื เปิดโปรแกรมขึ้นมาเพ่ือใช้งาน ได้แก่ File, Home, Insert, Page layout, Formulas, Data, Review และ View 2) รบิ บอนเฉพาะงาน เปน็ ริบบอนท่ีรวบรวมเคร่ืองมือย่อย ๆ ท่ีจาเป็น ซ่ึงจะปรากฎข้ึนเม่ือมีการ ทางานในบางสว่ นงาน เชน่ รูปภาพ ตาราง กลอ่ งขอ้ ความ เป็นต้น หมายเลข เปน็ พื้นท่ีท่ผี ู้ใชใ้ ชส้ รา้ งงานสเปรดชีตต่าง ๆ
เอกสารประกอบการสอน รายวิชา 02170432 โปรแกรมประยกุ ต์สาหรับสขุ ศึกษา 40 ภาพท่ี 3.26 หนา้ โปรแกรม Microsoft Excel ริบบอนตา่ ง ๆ ท่คี วรรู้จกั ริบบอนของโปรแกรม Microsoft Excel มีลักษณะท่ีคล้ายกับริบบอนของโปรแกรม Microsoft Word มีแตกต่างกันอยู่ในบางเครื่องมือท่ีเป็นลักษณะเฉพาะตัวของโปรแกรม Microsoft Excel ซึ่งมีริบ บอนดังต่งไปนี้ 1. รบิ บอน File เปน็ เคร่อื งมือทใี่ ช้ในการสร้างเอกสารใหม่ การเปิดเอกสาร การบันทึก การพิมพ์ การแบง่ ปัน และการต้ังคา่ ต่าง ๆ ภาพท่ี 3.27 รบิ บอน File
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ า 02170432 โปรแกรมประยกุ ตส์ าหรับสขุ ศึกษา 2. ริบบอน Home เป็นเครื่องมือเก่ียวกับ คลิปบอร์ด (clipboard) ตัวอักษร (font) การจัดเรียง 41 ข้อมูล (alignment) จานวน (numbers) รูปแบบตาราง (styles) รูปแบบเซล (cells) และการแก้ไข (editing) ภาพท่ี 3.28 รบิ บอน Home 3. ริบบอน Insert เป็นเครื่องมือเก่ียวกับการแทรกตาราง ( table) รูปภาพ (illustrations) แผนภูมิภาพ (charts) แผนภูมิเส้น (sparklines) ตัวกรอง (filters) การเช่ือมโยง (link) ตัวอักษรพิเศษ (text) และสญั ลักษณ์ (symbols) ภาพที่ 3.29 ริบบอน Insert 4. ริบบอน Page layout เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับการจัดการรูปแบบ (themes) การต้ังค่าหน้า เอกสาร (page setup) การกาหนดขนาด (scale to fit) ตัวเลือกตาราง (sheet option) และการจัดวาง ข้อมลู (arrange) ภาพที่ 3.30 รบิ บอน Page layout 5. ริบบอน Formulas เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับสูตรการคานวน โดยมีคลังสูตรประเภทต่าง ๆ (function library) การระบุชือ่ (defined names) การตรวจสอบสูตร (formula auditing) และเคร่อื ง คดิ เลข (calculation) ภาพท่ี 3.31 รบิ บอน Formulas 6. ริบบอน Data เป็นเคร่ืองมือเก่ียวกับการเรียกใช้ข้อมูลจากภายนอก (get external data) การเช่อื มต่อข้อมลู (connections) การจดั เรียงและตัวกรองข้อมูล (sort & filter) เครื่องมือจัดการข้อมูล (data tools) และตวั จัดการโครงร่างข้อมลู (outline)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166