บทท่ี ๕ แนวโน้มของประเทศไทย และสรุปแนวทางปฏริ ปู การจัดการศึกษา วตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรปู้ ระจําบท ๑. เพ่อื ให้นิสติ รแู้ ละเข้าใจถึงแนวโนม้ ของประเทศไทย ๒. เพ่อื ใหน้ ิสติ สามารถอธบิ ายแนวโนม้ ของประเทศไทยได้ ๓. เพอ่ื ให้นสิ ติ สามารถอธบิ ายแนวทางการปฏิรปู การจดั การศึกษาของไทยได้
๗๘ กรอบเนือ้ หา ๑. แนวโน้มของประเทศไทย - แนวโน้มประชากรไทย - แนวโนม้ ปัญหาเศรษฐกจิ และสภาพแวดลอ้ มของโลก ๒. สรปุ แนวทางการปฏริ ูปการจดั การศึกษา แนวคิด ๑. ในสมัยพุทธกาลศึกษาประมาณ ๕ ปี เฉลี่ยโดยมากเข้ามาบวชในสํานักของพระพุทธเจ้า แล้วจะอยู่ในสํานักพระพุทธเจ้าโดยตรง หรือในสมัยหลังๆ จะอยู่ในสํานักพระมหาเถระอ่ืน ๆ และ เมื่อได้ระยะเวลาพอสมควรพากันออกไปอยู่ป่าลึก ๆ จึงขอกัมมัฏฐานจากพระอุปัชฌาย์อาจารย์ หรือจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา้ ดว้ ยมขุ ปาฐะ ๒. สาเหตุสําคัญท่ีพราหมณ์ทั้งหลายในสมัยพุทธกาลละท้ิงความเชื่อเดิมท่ีสืบทอดกันมา หลายพันปี แล้วหันมานับถือพระพุทธศาสนามีหลายประการที่สําคัญที่สุดคือ คําสอนของพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสัจธรรมอันจริงแท้แน่นอนที่ผู้ปฏิบัติสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองในยุคน้ันมีผู้ ปฏิบัติจนเข้าถึงธรรมเป็นพระอริยบุคคลมากมาย ซ่ึงสามารถเป็นพยานยืนยันคําสอนได้เป็นอย่างดี นอกจากน้ีเหล่าพราหมณ์ให้การยอมรับในบุคลิกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในฐานะท่ีทรงมีกายมหา บุรุษจึงต้ังใจฟังคําสอนของพระองค์ พุทธวิธีสอนธรรมก็มีส่วนอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงความเช่ือ ของคนในสังคมอินเดีย พระองค์ทรงสอนโดยยึดตามจริตผู้เรียนหรือในปัจจุบันเรียกว่าสอนโดยยึด ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center) อีกประการหนึ่ง คําสอนของเหล่าพราหมณ์อาจารย์มีความ ขดั แย้งกันเอง จึงทําให้พราหมณ์จาํ นวนไม่นอ้ ยเสอื่ มศรทั ธาหันมานบั ถือพระพทุ ธศาสนา เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ติศกั ดิ์ ณ สงขลา
๗๙ แนวคิดการปฏิรูปการศึกษาเพื่อความสุขที่ผู้วิจัยได้สังเคราะห์ จากแนวคิดในการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคม และแนวคิดในการพัฒนาการศึกษาแบบทางเลือกท่ีมองเห็นความผิดพลาดของ การจัดการศึกษาและการพัฒนาเศรษฐกิจแบบมุ่งความเจริญเติบโตทางวัตถุเงินทองด้านเดียวและ เสนอแนะการพัฒนามนุษย์ ชุมชน และสงั คมทก่ี า้ วหนา้ กว่ายั่งยืนกวา่ อย่างเปน็ ระบบองคร์ วม แนวโนม้ ประชากรไทย เนื่องจากมีการวางแผนประชากรเพิ่มข้ึน และคนไทยแต่งงานช้าลง นิยมมีลูกน้อยลง ทําให้ อัตราการเพ่ิมประชากรตํ่า คือจะเพ่ิมอย่างช้า ๆ และเพิ่มถึงจุดสูงสุดท่ี 65.2 ล้านคน ในราว 12- 13 ปีข้างหน้า หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงเล็กน้อย กลับมาทรงตัวอยู่ที่ระดับ 60 ล้านคน ในอีก 30-50 ปีข้างหนา้ แต่โครงสร้างด้านอายุของประชากรจะเปลี่ยนไป คือ เนื่องจากมีอตั ราเกิดลดลง ประชากรวัย เด็กจะค่อย ๆ มีสัดส่วนลดลง ขณะที่มีการพัฒนาด้านสาธารณสุขสูงและการที่คนรู้จักดูแลสุขภาพดี ข้ึน ทาํ ใหค้ นอายุยืนขึ้น สัดส่วนของผู้สูงอายุ เช่น 60 ปขี ้นึ ไปจงึ มีแนวโน้มเพ่มิ ข้ึน แม้จํานวนประชากรวัยเรียนจะลดลง แต่การแข่งขันในการหางานทําและการแข่งขันทาง เศรษฐกิจซ่ึงมีพนื้ ฐานอยู่การใช้ความรู้เพิ่มขึ้น น่าจะทําให้ประชากรวยั เรียนสนใจจะเรียนเป็นสดั ส่วน สูงขึ้น และรัฐบาลต้องระดมทรัพยากรมาพัฒนาการศึกษา การให้ความรู้ประชาชนอย่างมีคุณภาพ และทันสมัยพอท่ีจะร่วมมือและแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในระบบเศรษฐกิจโลกได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น รวมท้ังรัฐบาลต้องวางแผนจัดการศึกษาให้ผู้ใกล้เกษียณและเกษียณแล้ว ด้วย เพ่ือให้ผู้สูงอายุเกิน 60 ปีท่ียังคงสุขภาพดีได้ทํางานหรือทํากิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ ต่อไป ทัง้ เพอ่ื ตวั พวกเขาเองและเพ่ือประเทศชาติ ก า ร ท่ี ป ร ะ ช า ก ร วั ย ทํ า ง า น 1 5 -5 9 ปี จ ะ มี สั ด ส่ ว น ล ด ล ง ใน 1 0 -2 0 ปี ข้างหน้า หมายถึง อัตราพ่ึงพิง(ระหว่างคนท่ีไม่ได้ทํางานกับคนท่ีทํางาน)จะเพ่ิมขึ้น การผลิตโดยรวม ทั้งประเทศอาจน้อยกว่าการบริโภค ดังน้ัน การจัดการศึกษาในอนาคตจึงจะต้องรวมถึงการวางแผน ดูแลท้ังสุขภาพ, สมองและชีวิตความเป็นอยู่คนสูงอายุ ให้พวกเขาช่วยตัวเองได้และช่วยทํางานเพื่อ ช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจสังคมได้ต่อไปจึงเป็นเร่ืองสําคัญ ในประเทศพัฒนาอุตสาหกรรม ซึ่งมีปัญหานี้ ก่อนไทย เขาได้ขยายอายุเกษียณเป็น 65 ปี และงานบางอย่างอาจขยายให้ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและ สมองดีคงทํางานไดต้ อ่ ไปแม้อายุมากกวา่ 65 ปไี ด้ด้วย นอกจากน้ีก็มีปัญหาแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น มีปัญหาลูกหลานของพวกเขาได้เรียนบ้าง ไม่ได้เรียนบ้าง โดยท่ีรัฐบาลมักปล่อยไปตามสภาพมากกว่า ที่จะมนี โยบายและการวางแผนระยะยาวอย่างชัดเจน เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ ักด์ิ ณ สงขลา
๘๐ ตารางท่ี ๑ แสดงจํานวนประชากรจาํ แนกตามวัยและดัชนผี สู้ ูงอายขุ องประเทศไทย จาํ นวนประชากรจําแนกตามวัยและดัชนีผสู้ งู อายขุ องประเทศไทย พ.ศ. ประชากร (ลา้ นคน) ดชั นีผสู้ งู อายุ ทั้งหมด วยั เด็ก ผสู้ งู อายุ (ผ้สู งู อาย/ุ เด็ก 100 คน) 2548 62.2 14.3 6.4 45.0 2553 63.7 13.2 7.5 57.0 2558 64.6 12.3 9.0 73.4 2563 65.1 11.2 11.0 98.0 2564 65.2 11.0 11.3 103.2 2568 65.1 10.4 12.9 123.6 2573 64.5 9.8 14.6 149.9 2578 63.4 9.1 15.9 174.4 2583 61.7 8.5 16.6 195.5 ที่มา : ปัทมา วา่ พัฒนวงศ์ และ ปราโมทย์ ประสาทกุล “ประชากรไทยในอนาคต” ใน กฤตยา อาชวนิจกุล และ วรชัย ทองไทย (บรรณาธิการ) ประชากรและสังคม 2549 สถาบนั วจิ ัยประชากรและสังคม ม ห า วิ ท ย า ลั ย ม หิ ด ล Institute for Population and Social Research, Mahidol University ตารางที่ 2 ประชากรวยั เรยี นในอนาคต พ.ศ. 2548 – 2583 (ลา้ นคน) ระดับการศึกษา 2548 2553 2558 2563 2568 2573 2578 2583 ต่าํ กวา่ 3 ปี 2.8 2.3 2.2 2.1 1.9 1.8 1.7 1.6 กอ่ นประถม (3-5 ป)ี 2.7 2.6 2.3 2.2 2.0 1.9 1.8 1.6 ประถมศึกษา (6-11 ปี) 5.7 5.5 5.1 4.5 4.3 4.0 3.7 3.5 มธั ยมตน้ (12-14 ปี) 3.0 2.8 2.7 2.4 2.2 2.1 2.0 1.8 มธั ยมปลาย (15-17 ปี) 3.0 3.0 2.7 2.8 2.3 2.2 2.1 1.9 อุดมศกึ ษา (18-24 ปี) 7.1 7.0 6.8 6.3 6.2 5.4 5.1 4.8 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล Institute for Population and Social Research, Mahidol University เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ ักด์ิ ณ สงขลา
๘๑ แนวโนม้ ปัญหาเศรษฐกจิ และสภาพแวดล้อมของโลก โลกกําลังมีปัญหาเศรษฐกิจชลอตัวควบค่ไู ปกับปัญหาเงินเฟ้อ(STAGFLATION) อนั เนื่องจาก นํ้ามัน, ธัญพืชท่ีเป็นอาหาร วัสดุก่อสร้างฯลฯ มีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และคงจะอยู่ในระดับสูง ต่อไป ประเทศไทยซึง่ มรี ะบบเศรษฐกจิ แบบพึ่งพาการลงทุนและการคา้ ระหว่างประเทศมาก มีโอกาส จะได้รับผลกระทบจากปัญหานี้สูง ในแง่ที่ว่าไทยต้องพ่ึงพาการผลิตเพื่อการส่งออก ท่ีต้องการการ นําเข้าสินค้าเครื่องจักร วัตถุดิบ และน้ํามันมาก หากประเทศสหรัฐและประเทศพัฒนาอุตสาหกรรม อ่ืนต่างมีปัญหาเศรษฐกิจชลอตัว พวกเขาก็จะซ้ือสินค้าจากไทยลดลง ทําให้เศรษฐกิจไทยซึ่งพ่ึงพา เศรษฐกิจโลกมากมีปัญหาชะลอตัวด้วย แม้ไทยจะผลติ ข้าวและพืชที่เป็นอาหารอ่ืนได้มากและอยู่ในกลุ่มประเทศผสู้ ่งออกอาหาร แต่ การทําการเกษตรสมัยใหม่เพื่อการส่งออกน้ัน ต้องพึ่งพาการใช้ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืชซึ่งมาจาก ผลิตภัณฑ์ของนํ้ามันมาก ท้ังต้องใช้รถแทรกเตอร์ เคร่ืองสูบนํ้าและเครื่องทุ่นแรงอ่ืน ๆ ในการผลิต และการขนส่งสินค้าซ่ึงล้วนต้องใช้นํ้ามัน ดังนั้นการท่ีน้ํามันมีราคาสูงจึงทําให้ต้นทุนการเกษตรของ ไทยสูงไปด้วย เกษตรกรจึงได้ประโยชน์จากทธ่ี ญั พชื ราสงู ขน้ึ ไดม้ ากนกั เน่ืองจากไทยต้องพึ่งพาการส่ังเข้าน้ํามันและพลังงานต่าง ๆ มาก โดยที่คนรวยคนช้ันกลาง ยังใช้นํ้ามันหรือพลังงานท้ังหมดอย่างเป็นการบริโภคส้ินเปลือง(เช่น ใช้รถยนต์ส่วนตัวมาก ใช้ไฟฟ้า เพ่ือการค้าและการพักผ่อนหย่อนใจมาก) ไม่ได้ใช้พลังงานอย่างมุ่งเกิดประสิทธิภาพการผลิตมากนัก บวกกับการมีโครงสร้างและนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจแบบทุนนิยมอุตสาหกรรมผูกขาดที่เป็นบริวาร บรรษัทข้ามชาติ ต้องพ่ึงพาทุนและการค้ากับต่างประเทศมาก ตลาดภายในประเทศคับแคบเพราะคน รวยส่วนน้อยเอาเปรียบคนจนส่วนใหญ่ทําให้ประเทศไทยมีแนวโน้มท่ีจะต้องเผชิญกับปัญหา เศรษฐกิจโลกชลอตัวคู่ไปกับปัญหาเงินเฟ้อท่ีหนักหน่วง โดยเฉพาะสําหรับผู้ที่มีรายได้น้อย จะยิ่ง เจอปัญหาของแพงแตม่ งี านทําหรอื มรี ายไดล้ ดลงอย่างหนกั หนว่ งมากขนึ้ การจัดการศึกษาท่ีดีจึงต้องรู้จักการมองการณ์ไกลและเตรียมประชาชนให้พร้อมท่ีจะรับ สถานะการณ์ที่จะเปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเร็วในอนาคต ประเทศไทยควรวางแผนการจัดการศึกษา และการพัฒนาคนแบบยืดหยุ่น สนองความจําเป็นที่จะต้องพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเพ่ือความอยู่ รอดและการมีชีวิตทมี่ ีคุณภาพไดท้ ้ัง 2 ด้าน ด้านหน่ึงคือ ผลิตคนที่มคี วามรู้และทักษะในสาขาท่ีเป็นที่ ตอ้ งการของตลาดเศรษฐกจิ ทนุ นยิ มโลก เช่น คนที่มีความรดู้ ้านโลจสิ ตกิ (การขนสง่ และการกระจาย สนิ คา้ ) คนงานในบางสาขาภาคอตุ สาหกรรม การค้าและบริการ ประเภทท่ีประเทศไทยมีศักยภาพจะ แข่งขันสู้เขาได้ เช่น อุตสาหกรรมเกษตร อาหาร สมุนไพร การท่องเที่ยว เครื่องประดับเซรามิกร์ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า ฯลฯ รวมทั้งการพัฒนาภาคเกษตรเพื่อการส่งออก อีกด้านหนึ่งคือควรให้ การศกึ ษาแบบให้คนไทยได้เรียนรู้จกั ตัวเองและชุมชน ช่วยตวั เองได้ ปรบั ตัวเรียนรไู้ ด้เกง่ เช่นเป็น ผ้ปู ระกอบการขนาดยอ่ มเองได้ รู้จักใช้ทรพั ยากร เชน่ การเกษตรและภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น ทํามาหา เลีย้ งชีพแบบเศรษฐกิจพอเพยี งได้อย่างยืดหยุ่น เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ตศิ กั ด์ิ ณ สงขลา
๘๒ ที่ต้องพัฒนาท้ัง 2 ด้านเพราะไทยเป็นประเทศท่ีมีประชากรมาก แต่ความรู้ความสามารถยัง พัฒนาได้น้อย ทรัพยากรมีจํากัด การมุ่งผลิตคนเพ่ือไปเป็นลูกจ้างภาครัฐหรือภาคธุรกิจเอกชนเป็น ด้านหลักอย่างทที่ าํ กันมานน้ั จะมตี าํ แหน่งงานน้อยลงเมื่อเทียบกับคนทเ่ี รยี นจบเพิ่มขน้ึ ปัจจุบนั กลุ่มท่ี ว่างงานมากท่ีสุดราว 20% ของคนว่างงานท้ังประเทศ คือกลุ่มท่ีจบปริญญาตรี และมีแนวโน้มว่าคน จบปริญญาตรีแต่ละปีซ่ึงปัจจุบันอยู่ราว 2 แสนเศษจะหางานแบบเป็นข้าราชการและลูกจ้างภาค ธุรกิจเอกชนได้ยากขึ้น ดังน้ันเราจึงจะต้องจัดการศึกษาแบบให้ผู้สําเร็จการศึกษามีความสามารถใน การปรับตัวไปสรา้ งงานด้วยตัวเองไดเ้ พิม่ ข้ึนด้วย นอกจากนี้แล้ว การที่โลกปัญหามีมลภาวะและการเปล่ียนแปลงทางภูมิอากาศที่เรียกว่าโลก ร้อนเพิ่มข้ึน จะทําให้เกิดปัญหาภัยแล้ง น้ําท่วม มีพายุและภัยพิบัติธรรมชาติต่างๆ บ่อยขึ้นรุนแรง ขน้ึ เปน็ ปัญหาท่ีจะกระทบการเกษตรของไทย วถี ีชวี ิตและสุขภาพของคนทั่วไปทีเ่ ราจะต้องตระหนัก ถึงความสําคัญและจัดการศึกษาให้คนไทยรู้จักการประหยัดในการผลิตและ การบริโภค และ เปล่ียนวิถีการใช้ชีวิตเพื่อลดการทําให้โลกร้อนและเกิดมลภาวะน้อยลง ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เร่ืองพลังงานทางเลือก เกษตรทางเลือก สาธารณสุขทางเลือกฯลฯ เพ่ิมข้ึน ซ่ึงจะเป็นผลดีต่อทุกคน ในระยะยาวมากกว่า การพัฒนาแบบใช้เทคโนโลยีตะวันตกเน้นการเพิ่มผลผลิต การเพ่ิมการบริโภค เพอ่ื การหาเงินหากาํ ไรอย่างทร่ี ฐั บาลทกุ รฐั บาลทําอยู่ แนวคดิ ของพทุ ธศาสนา ซึ่งเนน้ การทําดีตอ่ ผอู้ นื่ ละความชวั่ ทําจิตใจใหเ้ บิกบานผ่องใส การใช้ ชวี ิตเรียบงา่ ยแบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่โลภ ไม่เบียดเบียนสรรพสตั ว์ เป็นแนวคิดที่ทันสมัยเข้ากบั โลก ยุคใหม่ที่คนฉลาดในประเทศพัฒนาอุตสาหกรรมเร่ิมตื่นตัวเรื่องการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและการ แสวงหาชีวิตที่มีความสุขมากกว่าเงินทองได้ดีมาก 2 ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีพ้ืนฐานทาง เกษตร มีความหลากหลายทางชีวภาพ และศิลปวัฒนธรรม หากมุ่งพัฒนาประเทศไทยไปทาง อนรุ กั ษ์และฟื้นฟูธรรมชาตสิ ภาพแวดล้อมพร้อมกับการสร้างความเปน็ ธรรมและเศรษฐกิจพ่ึงตนเองได้ แบบพอเพียงแล้ว จะทําให้ประชาชนไทยมีชีวิตท่ีมีความสุขเพ่ิมข้ึน มีช่องทางท่ีประเทศไทยจะหา รายได้จากการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และการขายอาหารและสมุนไพรปลอดสารพิษ หัตถกรรมและ งานศิลปะวฒั นธรรมท่มี ีเอกลกั ษณเ์ ฉพาะเพอื่ นํารายได้มาช่วยพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คมด้านอื่น ๆ ได้มาก และจะทําใหป้ ระเทศไทยพัฒนาอย่างมีคุณภาพ และยัง่ ยนื กว่าท่ผี า่ นๆ มา สรุปแนวทางการปฏิรปู การจดั การศึกษา เพอื่ สรา้ งคุณภาพและความเปน็ ธรรม 1. ปฏิรูปโครงสร้างการบริหารเรื่องการศึกษาให้โปร่งใสมีประสิทธิภาพและมีวิสัยทัศน์ เพ่ือสว่ นรวมเพ่มิ ขึน้ โดยลดขนาดและลดบทบาทของการบริหารแบบรวมศูนย์อยู่ที่ส่วนกลาง คือ รัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการลง ด้วยการส่งเสริมให้มีการกระจายและอํานาจในเรื่องการบริหารจัดการศึกษา ของชาติเพ่ิมขึ้น เช่น จัดต้ังคณะกรรมการสภาการศึกษาแห่งชาติ และคณะกรรมการอุดมศึกษา แห่งชาติ ที่เป็นองค์กรอิสระของผู้ทรงคุณวุฒิท่ีเป็นกลางปลอดจากอํานาจของนักการเมืองและ ข้าราชการช้ันสูงในกระทรวงศึกษาธิการ กระจายการจัดการศึกษาไปสู่องค์กรปกครองท้องถ่ิน ภาค ธรุ กิจเอกชนและองค์กรสังคมประชาอนื่ ๆ เป็นสัดส่วนสูงขึ้น ส่วนการบริหารสถานศึกษาของภาครัฐ เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตตศิ กั ด์ิ ณ สงขลา
๘๓ ควรพัฒนาให้โรงเรียนที่พร้อมเป็นนิติบุคคล บริหารตนเองได้ แต่จะต้องพัฒนาระบบตรวจสอบดูแล ช่วยเหลือด้านคุณภาพจากฝ่ายวิชาการของกระทรวงศึกษา สํานักรับรองมาตรฐานและประเมิน คณุ ภาพการศกึ ษา(สมศ.) สมาคมวชิ าการและสมาคมวชิ าชพี การกระจายอํานาจให้เขตพ้ืนที่การศึกษาและคณะกรรมการครูอาจารย์ชุดต่างๆ เช่นคุรุสภา, คณะกรรมการส่งเสรมิ สวัสดิการและสวสั ดิภาพครู(ส.บ.ค.ศ.) ก.ค.ศ. และอ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ีการศกึ ษา คณะกรรมการสถานศึกษา ยังมีปัญหา เพราะมีการคัดเลือกไขว้กันไปมาแบบมุ่งรักษาประโยชน์ส่วน ตนและพรรคพวก ติดอยู่ในระบบราชการแบบรวมศูนย์อํานาจจากบนลงล่างและระบบการเมืองแบบ เล่นพวกและใช้อํานาจ แนวทางแก้ไข คือควรให้มีการกระจายอํานาจสู่สถานศึกษาโดยตรง(อาจจะทํา แบบขยายให้สถานศึกษาท่ีมีความพร้อมก่อน) และจัดให้มีระบบตรวจสอบคานอํานาจผู้บริหาร โดย สมาคมผู้บริหาร สมาคมครูอาจารย์ สมาคมวิชาชีพด้านต่าง ๆ รวมท้ังสหภาพครูอาจารย์ที่มุ่งผลของ งานและประโยชน์ของนักเรียนเป็นด้านหลัก และควรให้สถานศึกษากําหนดหลักสูตร กระบวนการ เรียนการสอนได้อย่างยืดหยุ่นข้ึน โดยให้สํานักงานรับรองมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา(สมศ.)ซึ่ง เป็นองค์กรมหาชนเป็นผู้ประเมินและรับรองมาตรฐานของสถาบันการศึกษา และให้ข้อมูลข่าวสารต่อ ผู้บริโภค เพือ่ ให้เกดิ การแข่งขนั ดา้ นคณุ ภาพ การท่ีจะทําให้เกิดส่ิงน้ีได้ ควรเปลี่ยนจากการท่ีรัฐบาลเคยจัดสรรงบประมาณไปให้ท่ี สถาบันการศึกษาของรัฐโดยตรงทั้งหมด มาเป็นจัดสรรให้สถาบันการศึกษาบางส่วนและบางส่วน อุดหนุนผู้เรียนโดยตรง โดยจ่ายเป็นคูปองการศึกษาให้ผู้เรียนเลือกไปจ่ายให้สถานศึกษาใดๆ ก็ได้ แทน และควรมีคณะกรรมการจัดสรรทรัพยากรและงบประมาณเพ่ือการศึกษา ที่ดูแลภาพรวม ท้ังหมด เพ่ือให้มีการวางแผนที่มีการกระจายการลงทุนทางการศึกษาแก่ท้องถิ่นต่าง ๆ อย่างท่ัวถึง เป็นธรรม โดยควรชะลอการขยายตัวของสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ในกรุงเทพและเมืองใหญ่ เพิ่ม งบประมาณให้สถาบันการศึกษาขนาดกลางและขนาดเล็ก ในจังหวัดและอําเภอรอบนอก ให้ครู อาจารย์ในโรงเรียนรอบนอกมีแรงจูงใจในด้านผลตอบแทน และงบความก้าวหน้าในระยะยาว เพิ่มขึ้น เพ่ือยกระดับสถาบันการศึกษาท่ัวประเทศให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับสถาบันการศึกษาขนาด ใหญ่ในเมืองใหญ่ นอกจากน้ีแล้วต้องปฏิรูประบบงบประมาณให้รัฐสามารถจ่ายเงินอุดหนุนให้ สถานศึกษาแบบต่าง ๆ ทีไ่ ม่ได้อยภู่ ายใต้สังกัดกระทรวงศึกษาโดยตรงได้อย่างยืดหยุ่นคล่องตัวเพ่ิมขึ้น ด้วย จะได้เพ่ิมการแข่งขนั ในเชิงคณุ ภาพ และเพ่มิ ทางเลอื กการศกึ ษาท่ีหลากหลาย 2. ลงทุนปฏิรูปการศึกษาปฐมวัยของเด็กวัย 3 – 5 ปีท่ัวประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ยังมี คณุ ภาพต่ําอย่างเร่งด่วน เด็กวัย 0.1 – 5 ปีเป็นวัยที่สําคัญท่ีสุดในกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาตนเองของ มนุษย์ สมองของเด็กช่วงนี้มีโอกาสเรียนรู้ได้เร็วที่สุดและมากท่ีสุด และสมองในช่วงนี้พัฒนาได้สูงถึง 80% ของการพฒั นาสมองทั้งชวี ิต รัฐควรจัดตั้งโรงเรียนพ่อแม่สําหรับพ่อแม่ท่ีมาฝากครรภ์ในทุกโรงพยาบาล โดยควรให้ทุน สนับสนุนแก่พ่อแม่ที่ยากจนด้วย เพื่อให้พ่อแม่รู้จักวิธีท่ีจะดูแลลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และเล้ียงลูกให้ เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตติศักด์ิ ณ สงขลา
๘๔ ฉลาดรอบด้านและมีพัฒนาการทางอารมณ์ท่ีดี โรงเรียนพ่อแม่ควรมีบุคลากรประจําคอยติดตามให้ คาํ แนะนําแกพ่ ่อแม่ทมี่ ลี กู เลก็ อย่างสมาํ่ เสมอตอ่ เน่ือง ควบคู่กันไปคือ การพัฒนาศูนย์ดูแลเด็กเล็กให้มีพี่เลี้ยง/ครูและการบริการท่ีมีคุณภาพ เพ่ิมข้ึน โดยรัฐควรจัดสรรงบฝึกอบรมและให้พี่เลี้ยง/ครูมีความรู้ด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ของเด็ก และใหก้ ารสนบั สนุนพวกเขาใหเ้ งนิ เดอื นสงู พอสมควร และสนบั สนุนใหศ้ นู ยต์ ่างๆ บริการไดอ้ ยา่ งมี คุณภาพใกล้เคียงกันท่ัวประเทศ สําหรับศูนย์เด็กเล็กหรือโรงเรียนอนุบาลของเอกชนท่ีดีอยู่แล้ว รัฐ อาจจะส่งเสริมแบบทํางานร่วมกันเป็นเครือข่ายและจ่ายเงินเป็นคูปองช่วยเหลือพ่อแม่ให้ส่งลูกเข้า โรงเรียนเอกชนที่ทําไดอ้ ย่างมคี ณุ ภาพอยแู่ ลว้ ได้ โดยรัฐไม่จําเปน็ ต้องจดั ตัง้ ใหม่แบบซ้าํ ซอ้ น การจะปฏิรูปให้ศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลมีคุณภาพจะต้องร่วมมือกับหลายฝ่ายการ โอนอํานาจการบริหารจัดการให้องค์กรท้องถ่ิน เช่น อบต.ถูกต้องในเชิงหลักการกระจายอํานาจแต่ ในความเป็นจริงต้องยอมรับว่าอบต. แต่ละแห่งมีความรู้ ความสามารถ ประสิทธิภาพและความ ซ่อื ตรงต่างกันมาก ในขณะท่ี อบต. ส่วนใหญ่ยังไม่เข้มแข็งหรอื มีคุณภาพมากพอ และมักสนใจเรื่อง การก่อสร้างวัตถุมากกว่าเรื่องการศึกษา จะต้องมีองค์กรพี่เล้ียงหรือองค์กรที่ท้ังตรวจสอบประเมิน คุณภาพท้ังให้คําแนะนําช่วยเหลือแก่องค์กรท้องถ่ินในด้านการจัดการศึกษาและการดูแลเด็กอย่าง สมํา่ เสมอเพอื่ ใหแ้ น่ใจวา่ เดก็ จะได้รับบริการทางการศกึ ษาที่ดขี ้นึ 3. แก้ปญั หาเด็กออกกลางคันในระดับประถมมัธยม และปัญหาโรงเรียนในเขตยากจนที่มี คณุ ภาพตาํ่ กวา่ โรงเรยี นในเขตราํ่ รวยอย่างจริงจัง การลงทุนสร้างโรงเรียนขยายและโรงเรียนไม่สามารถทําให้เด็กได้เรียนฟรี 12 ปีหรือแม้แต่ เรียนภาคบังคับ 9 ปีได้ทั้งร้อยเปอร์เซนต์ เพราะปัญหาการท่ีเด็กวัยท่ีควรได้เรียนชั้นประถม/มัธยม ปลายต้องออกกลางคัน หรือไม่ได้เรียนต่อเป็นสัดส่วนสูง มีสาเหตุมาจากท้ังปัญหาเศรษฐกิจสังคม ภายนอก เช่น ความยากจน เกเร ติดยาเสพติด การมีคู่ครองตั้งแต่วัยรุ่นฯลฯ และปัญหาท่ี โรงเรียนไม่สามารถจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพให้สนองความสนใจ ความพร้อมท่ีจะ เรยี นรู้ของนักเรียนสว่ นหน่ึงได้ดีพอ ทาํ ใหเ้ ด็กมปี ญั หาเรียนไม่ได้/ไมอ่ ยากเรียน การจะแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนไทยมีโอกาสได้เรียนมัธยมน้อยน้ีต้องวิเคราะห์สาเหตุของ ปัญหาให้ถึงรากเหง้า และหาทางแก้อย่างครบวงจร เช่น ให้ทุนเด็กยากจนสําหรับค่าใช้จ่ายด้านอ่ืน นอกจากคา่ เล่าเรียนเพ่ิมขึน้ เพิ่มและพัฒนาครูให้ครแู ต่ละห้องดูแลนักเรยี นจาํ นวนน้อยลง จะได้ดูแล ได้อย่างใกล้ชิดและเอาใจใส่ปัญหาส่วนตัวของนักเรียนแต่ละคนได้เพิ่มขึ้น พัฒนาวิธีการสอนท่ีเน้น การให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ทําให้การเรียนสนุกและน่าสนใจมากข้ึน พัฒนาสื่อการเรียนสมัยใหม่ให้ นักเรียนไดค้ น้ คว้าเรียนร้ดู ้วยตนเองได้อยา่ งสะดวกเพิม่ ขึน้ นอกจากเรื่องการช่วยให้เด็กได้เรียนต่อเพิ่มข้ึนแล้ว ควรปฏิรูปด้านหลักสูตร กระบวนการ เรียนการสอนท่ีจะส่งเสริมให้นักเรียนรักการอ่าน ใฝ่เรียนรู้ ฟังเป็น คิดวิเคราะห์เป็น รู้วิธีท่ีจะ ค้นคว้าเรียนรู้ต่อด้วยตัวเอง รู้จักตัวเอง รู้จักชุมชน รู้จักประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ การเมือง วัฒ น ธรรม ไท ย รู้จั ก ก ารป ระยุ ก ต์ ใช้ ค วาม รู้เพ่ื อ แ ก้ ปั ญ ห าแ ล ะพั ฒ น าต น เอ งแ ล ะ เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตตศิ ักด์ิ ณ สงขลา
๘๕ ชุมชน เปล่ียนแปลงหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ให้สัมพันธ์กับชีวิตจริง สัมพันธ์กับชุมชนและ สภาพแวดล้อม เพิ่มการเรียนรู้วิชาชีพ เช่น เกษตร ในชนบท วิชาช่าง ในเขตเมือง ทั้งในประถมและ มัธยมสายสามัญควรจะมีหลักสูตรหลายแบบ เช่น แบบประสม ระหว่างสายสามัญกับอาชีว เพ่ือให้ นักเรียนได้เร่ิมสัมผัสโลกของชีวิตจริงและตระหนักความเชื่อมโยงระหว่างวิชาการกับวิชาชีพ เพิ่ม เป้าหมายเรื่องคุณธรรมจริยธรรมที่ครูจะต้องทําตัวเป็นแบบอย่างโดยตรง และแทรกความรู้ความ เข้าใจในเรื่องนี้เข้าไปในทุกวิชาในกิจกรรมและการใช้ชีวิตจริง การเพิ่มการสอนวิชาศีลธรรมจริยธรรม แบบแยกส่วนและใช้วิธีสอบวัดผลแบบท่องจําหรือทําสมุดจดบันทึกการทําดี ผู้เรียนอาจมุ่งทําเพื่อ คะแนนมากกวา่ ท่ีจะเรยี นรแู้ บบ เข้าใจและเกดิ สํานกึ จริง 4. ปฏิรูปการจัดสรรและการใช้งบประมาณเรื่องการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพและความ เป็นธรรมเพิม่ ข้ึน เน่ืองจากสังคมไทยมีปัญหาความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนมาก การบริการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน 12 ปีฟรีจึงควรเน้นช่วยคนจน มากกว่าคนรวยหรือคนช้ันกลางที่สามารถช่วยตนเองได้อยู่ แล้ว โครงการให้เรียนฟรีโดยไมต่ ้องเสยี ค่าเล่าเรียนอยา่ งเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาเด็กยากจนไม่ได้ เรียนถึง 12 ปี ซึ่งมีสัดส่วนสูงมากได้ รัฐบาลต้องจัดสรรทุนสนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ ให้คน จนโดยตรง เช่น ค่าอาหารกลางวัน ค่าเคร่ืองเขียน อุปกรณ์การเรียน ค่าพาหนะ ค่า เคร่อื งแบบ เพราะส่วนท่ีผปู้ กครองต้องจ่ายเพื่อให้ลูกไปโรงเรียนเป็นค่าใช้จ่ายท่ีสูงสําหรับคนจน การ จัดสรรงบประมาณที่คิดตามหัวนักเรียนจะทําให้โรงเรียนขนาดเล็กและขนาดกลางท่ีอยู่รอบนอก เสียเปรียบโรงเรียนขนาดใหญ่ ในเมือง ต้องมีงบเพิ่มสําหรับโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาด กลาง โดยเฉพาะโรงเรียนในชุมชนแออัดและชนบท เพื่อจะได้ปรับปรุงโรงเรียนหรือประเทศให้มี คณุ ภาพได้มาตรฐานใกลเ้ คยี งกนั ควรลดบุคลากรการศึกษาที่หน่วยบริหารกลางของกระทรวงและสํานักงานประจําเขต การศึกษาต่าง ๆ ลง เพราะงบดําเนินการส่วนน้ีสูงและเป็นประโยชน์ต่อตัวนักเรียนน้อย โดยควร เฉลี่ยบุคลากรที่ทํางานบริหารสนับสนุนหรือธุรการออกไปสอนหรือเป็นผู้บริหารระดับโรงเรียนใน ต่างจังหวัด และควรมีการตรวจสอบว่าบุคลากรท่ีกินตําแหน่งครูอยู่ในต่างจังหวัดท่ีห่างไกลไปปฏิบัติ หน้าท่ีสอนจริงทุกวันหรือไม่ เพราะยังปรากฏว่ามีครูจํานวนหนึ่งท่ีมีชื่อกินเงินเดือนแต่ไม่ได้ไปสอน จริง ซึ่งเป็นการทุจริตฉ้อฉลท่ีมีผลเสียหายรุนแรง รวมทั้งยังมีครูท่ีใช้เส้นสายนักการเมืองย้ายมาช่วย ราชการโดยไม่ได้สอนจํานวนมาก ทําให้ครูอาจารย์ท่ีทํางานสอนในโรงเรียนจริง ๆ ขาดแคลน แต่มี การจ่ายเงินเดอื นใหก้ บั ตําแหนง่ ครคู ดิ รวมทั้งประเทศแลว้ มาก การใช้งบประมาณการศึกษาในปัจจุบัน จ้างครูอาจารย์จํานวนมากแต่ให้เงินเดือน ผลตอบแทนตํ่า ทําให้ไม่ได้คนเก่งมาเป็นครูอาจารย์ และหรือครูอาจารย์ไม่มีแรงจูงใจมากพอทําให้ คุณภาพการเรียนการสอนต่ําไปด้วย การจะปฏิรูปการศึกษาได้ต้องลดจํานวนครูที่ด้อยคุณภาพ ลง โดยการประเมินผลการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง และให้ครูที่ไม่ผ่านการประเมินเกษียณไป และ จ้างครูสาขาขาดแคลน ครูที่มีประสบการณ์และมีคุณภาพโดยให้ผลตอบแทนที่สูงข้ึน การจะช่วยครู ได้อีกทางหน่ึง คือ พัฒนาสื่อการเรียนการสอนและห้องสมุดให้นักเรียนรู้จักค้นคว้าเรียนด้วยตนเอง เพิ่มข้ึน ไม่ควรใช้วิธีให้ครูต้องบรรยายทั้ง 100% ของเน้ือหาตามหลักสูตรอย่างท่ีทํากันอยู่ ซ่ีงเป็น เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตติศกั ด์ิ ณ สงขลา
๘๖ การส้ินเปลืองแรงงานและเวลาของครูมาก ทั้งวิธีสอนท่ีเน้นการบรรยายก็เป็นวิธีท่ีล้าสมัยไม่ได้เพ่ิม ประสิทธิภาพในการเรยี นรู้ของนกั เรยี นแตอ่ ย่างใด การกระจายอํานาจทางการศึกษาสู่ท้องถ่ินควรทําแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยส่งเสริมให้ท้องถ่ิน มีความพร้อมและมีองค์กรคอยตรวจสอบและช่วยเหลือแนะนําเพื่อให้มีการจัดการศึกษาท่ีมี คณุ ภาพ และต้องทาํ ควบคู่ไปกับการปฏิรูปการคลังท้องถ่ิน ส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีบทบาทในการจัดหา รายได้เพื่ออุดหนุนการศึกษาในท้องถ่ินมากข้ึน โดยต้องกําหนดไปเลยว่ารายได้จากการเก็บ ภาษี และเงินอุดหนุนขององค์กรท้องถิ่นต้องใช้เพื่อการศึกษาไม่ตํ่ากว่า 25% ของรายได้ท้ังหมดของ องคก์ รทอ้ งถิน่ เพื่อปอ้ งกนั ไมใ่ ห้องคก์ รท้องถ่ินใช้รายได้ไปสร้างแตว่ ัตถุ สํ า ห รั บ อ ง ค์ ก ร ท้ อ ง ถิ่ น ท่ี มี ร า ย ไ ด้ ตํ่ า จ ะ ต้ อ ง ไ ด้ รั บ เงิ น อุ ด ห นุ น จ า ก รั ฐ บ า ล สู ง ข้ึ น เป็ น พิเศษ เพ่ือให้โรงเรียนท่ัวประเทศมีมาตรฐานใกล้เคียงกัน กฎระเบียบเดิมท่ีกําหนดวา่ องค์กรท้องถิ่น จ้างบุคลากรได้ไม่เกิน 40% ของงบประมาณกลับมีปัญหาในการจ้างและเพิ่มเงินเดือนครูเพื่อพัฒนา การศึกษาให้มีคุณภาพ ควรเปล่ียนกฎระเบียบนี้ เพียงแต่ต้องมีระบบตรวจสอบเพิ่มเติมว่าองค์กร ปกครองท้องถิ่นมีการจ้างบุคลากรท่ีมีความรู้ไปทํางานที่จะเป็นประโยชน์จริง ไม่ใช่เอางบประมาณ ของส่วนรวมไปจ้างเครอื ญาตพิ รรคพวก โดยไมค่ ่อย มงี านทํา ระบบกองทุนเงินกู้เพื่อการศึกษาซ่ึงมีงบประมาณจํากัดและจัดสรรให้ได้เพียงบางส่วนของ นักเรียนนักศึกษาที่ขาดแคลนควรจะทบทวนเสียใหม่ เพราะระเบียบการวิธีการกู้หละหลวมและการ ให้กู้แบบคิดดอกเบี้ยต่ํามากทําให้คนอยากกู้มากและคนไม่จนจริงก็กู้ได้ หลายคนเมื่อกู้ไปแล้วนําไปใช้ ผิดเป้าหมาย ผู้กู้ท่ีเรียนจบแล้วไม่ยอมใช้หนี้มีมากพอสมควร การให้กู้ควรเพ่ิมความรอบคอบในการ คัดเลือกให้เฉพาะผู้ขาดแคลนและเหมาะสม เช่น ตั้งใจเรียนในวิชาท่ีเป็นประโยชน์และมีผลการเรียน ไม่ตํ่าเกินไป งบประมาณส่วนหน่ึงน่าแบ่งให้เป็นการให้ทุนโดยตรงสําหรับผู้ยากจนท่ีเรียนได้ดี พอสมควร อีกส่วนหน่ึงใช้เป็นงบจ้างให้นักเรียนนักศึกษาทํางานให้สถาบันการศึกษาเป็นการ แลกเปลี่ยน ซ่งึ จะเป็นการฝกึ ใหน้ ักเรียนร้คู ณุ คา่ ของการทํางาน ดกี ว่าการเปิดช่องทางให้นักศึกษา กู้เงนิ เรยี นแบบเสยี ดอกเบีย้ ตํ่ามากได้ง่ายเกินไป 5. ปฏิรูปดา้ นคุณภาพ ประสทิ ธิภาพ และคุณธรรมของครูอาจารยอ์ ย่างจริงจัง ครูอาจารย์ส่วนใหญ่ท่ีมีราว 7 แสนคนยังมีแรงจูงใจ ความรู้ความสามารถ และคุณธรรมอยู่ ในเกณฑ์ตํ่าและปานกลาง ส่วนใหญ่ไม่รักการอ่าน การค้นคว้า ไม่สนใจใฝ่รู้ กางตําราเล่มเก่า สอน สอนแบบบรรยายให้นักเรียนท่องจําไปสอบแข่งขัน เน้นการเรียนตามตําราและมุ่งอาชีพมาก ไป มุ่งผลิตคนเพื่อไปทํางานเป็นพนักงานจ้างในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมมากกว่าจะสอนให้ นักเรียนฉลาด คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์เป็น สร้างด้วยตัวเองเป็น ดังนั้นถึงต้องมีการประเมินครู อาจารย์ใหม่อย่างจริงจังมากกว่าเรื่องการออกใบอนุญาตประกอบอาชีพของคุรุสภา ซึ่งให้ครูเก่าโดย อัตโนมัติ ควรคัดครูท่ีได้คะแนนประเมินต่ําและท่าทีปรับปรุงตัวได้ยากให้เกษียณก่อนครบอายุโดยไม่ ต้องชดเชยมากเท่าครูท่ีสมัครโครงการ EARLY RETIRE หรือให้โยกย้ายไปทํางานอื่นที่ไม่ใช่การสอน แทน เพราะการปล่อยให้คนที่ไม่เหมาะสมจะเป็นครูท่ีดีทํางานหน้าท่ีครูนั้น ทําให้เกิดผลลบที่ เสยี หายตอ่ นักเรยี นมากย่ิงกว่าปญั หาการขาดแคลนครูเสยี อกี เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
๘๗ ครูอาจารย์ที่มีแววว่าจะปฏิรูปพัฒนาตัวเองให้เป็นครูแนวใหม่ได้ต้องสนับสนุนให้พวกเขาหา เรียนรู้เพิ่มเติม เช่น มีทุนให้ซ้ือหนังสือ ทําวิจัย ไปฝึกอบรม เรียนต่อ แต่งตําราฯลฯ เพ่ิมข้ึน ระบบ การคัดเลือกและจ้างครูต้องวางเกณฑ์ระเบียบวิธีคัดเลือกให้ได้ครูที่มีคุณภาพจริงๆ และต้องแก้ไข ปัญหาเส้นสาย การบอกข้อสอบโกงข้อสอบอย่างเอาจริง รับสมัครคนที่มีความรู้ความสาขาต่างๆ โดยเฉพาะสาขาขาดแคลน เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ มาอบรม เพ่ิมเติมและให้เงินเดือนเพิ่มข้ึน เพ่ือแก้ปญั หาครสู าขาขาดแคลนได้รวดเร็วขึ้น ทาํ ระเบียบการจ้างครู ให้ยืดหยุ่น เช่น การจ้างเป็นครูพิเศษแบบต่างๆ ได้ ระบบการเรียนการสอนการฝึกครูต้อง เปล่ียนแปลงจากการสอนแบบเก่าเป็นการเรียนรู้ทั้งทฤษฎี การศึกษาจิตวิทยาการเรียนรู้ ความรู้ เฉพาะแขนง และภาคปฏิบัติ ต้องฝึกให้นักศึกษาครูรักการอ่าน การแสวงหาความรู้ มีแหล่งศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเอง เปลี่ยนวิธีการวัดผลจากการสอบ วัดการท่องจําตามตํารา เป็นวิธีให้ครูและ นักเรียน นักศึกษาร่วมกันประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษาท้ังในเชิงปริมาณ และคณุ ภาพมากขึน้ ขอ้ สําคญั คือ ต้องสร้างแรงจงู ใจภายในใหน้ ักศึกษาครูและครู เกิดความภาคภูมิใจ ในอาชีพครูว่าเป็นงานท่ีมีความหมายที่ท้าทายมีผลต่อการสร้างคนและสร้างชาติ ให้เจริญรุ่งเรืองและ มีความสขุ มาก ถ้าได้พัฒนาการทํางานดา้ นน้อี ย่างจรงิ จงั ขณะเดียวกันก็ควรเพิ่มแรงจูงใจภายนอกด้วย ควรปรับเพิ่มเงินเดือนครูที่มีภาระการสอน มาก ครูสาขาขาดแคลน ครูผู้เชี่ยวชาญให้แข่งขันกับตลาดแรงงานของภาคธุรกิจเอกชนได้ จัดให้ครู เก่ง ๆ มีลู่ทางท่ีจะก้าวหน้าได้เงินเดือนสูงข้ึนพอ ๆ กับผู้บริหาร ครูจะได้ไม่จําเป็นต้องไปแข่งขันกัน เพื่ อจะเป็ น ผู้ บ ริห ารเส ม อ ไป ส่ งเส ริม ระบ บ ห้ อ งส มุ ด แ ล ะนํ าเท ค โน โล ยี สารส น เท ศ วิทยุ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต ซีดีรอม และฯลฯ มาใช้ในการเรียนรู้โดยใช้ครูแต่น้อย แต่ต้องเป็นครู ที่มีคุณภาพสูงและได้ค่าตอบแทนสูงข้ึน จะเป็นประโยชน์กว่าระบบปัจจุบันที่ใช้ครูจํานวน มาก เงนิ เดือนกน็ ้อย สอนแบบบรรยายตลอดท้ังวัน แตน่ กั เรยี นกเ็ รยี นรูไ้ ด้น้อย พัฒนาระบบประเมินครูแบบใหม่ที่วัดคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความต้ังใจเป็นครู โดยเน้น คุณสมบัติหรือเนื้อหาสาระของครูอาจารย์แต่ละคน ไม่ใช่แค่ดูแต่รูปแบบว่าต้องมีปริญญา/ใบ ประกอบวิชาชีพ สรุปหรือเขียนรายงานได้ผ่านเกณฑ์การเล่ือนวิทยฐานะซ่ึงไม่ได้สะท้อนคุณภาพท่ี แท้จริง ต้องส่งเสริมให้ครู สนใจเรียนรู้พัฒนาตนเอง และมีการจัดฝึกอบรมครูใหม่อย่างขนาน ใหญ่ ปฏิรูปครูให้เข้าใจความหมายของการเรียนรู้ท่ีต้องใช้กระบวนการคิดเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่แค่ การท่องจําตามตํารา รณรงค์ให้ครูมีพฤติกรรมในการรักการอ่าน การค้นคว้า มีแรงจูงใจในการ อยากเรียนรู้และเผยแพร่ คิดเป็น มีความม่ันใจ ความภูมิใจในตัวเอง มีจิตสํานึกเพื่อส่วนรวมและมี ภาวะผู้นําในการเปล่ยี นแปลงพฒั นาคนให้ได้ก่อน ประเทศไทยจึงจะมคี รชู นิดท่สี ามารถไปสอนเด็กให้ รกั การเรยี นร้คู ดิ เป็น มจี ิตสํานึกเพอ่ื สว่ นรวมและพฒั นาภาวะผนู้ าํ ดังน้ันถ้าครูคนไหน ไม่ชอบการอ่าน ไม่ชอบการเรียนรู้ ไม่ชอบการคิด ค้นคว้า ก็ไม่ควร จะเป็นครู เพราะการมีครูแบบน้ี โดยเฉพาะครูท่ีมีปัญหา ครูท่ีทําให้เด็กเกลียดครูและเกลียด โรงเรียนจะเป็นผลเสียต่อการศึกษาของชาติ มากกว่าท่ีจะให้เด็กไปเรียนรู้จากห้องสมุดและสื่อต่าง ๆ เราควรจะโอนครูแบบน้ีไปทํางานอ่ืน ๆ หรือให้เกษียณก่อนอายุไปและหาครูที่มีนิสัยเป็นครูที่รัก เดก็ รกั การหาความรมู้ าสอนแทนเพือ่ ทาํ ใหเ้ ด็กสนุกทจี่ ะเรียน ถึงครใู หม่จะยังไมเ่ กง่ ทางวิชาการหรือ เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ตศิ กั ด์ิ ณ สงขลา
๘๘ การสอนมากนัก แต่ถ้ามีคุณสมบัติในการมีนิสัยเป็นครูท่ีรักเด็ก รับฟังเด็ก ตั้งใจสอน หวังดีต่อ เด็ก และรักการเรียนรู้เพิ่ม ต้องถือว่าเป็นคุณสมบัติท่ีสําคัญ และครูประเภทนี้จะมีศักยภาพในการ พัฒนาได้มากกว่าคนท่ีมาประกอบอาชีพครูท่ีมาทํางานเพ่ือเลี้ยงชีพมากกว่าเข้ามาเพราะมีจิตใจที่รัก การเป็นครูผรู้ ักความรู้และการเผยแพร่ความรู้ 6. เปล่ียนแปลงวิธีการวัดผลสอบแข่งขันและการคัดเลือกคนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย รัฐ จากการสอบแบบปรนัยท่ีเน้นคําตอบสําเร็จรูปเป็นการวัดการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และการ พัฒนาตนเองท่ีสะท้อนความรู้ความสามารถที่เป็นองค์รวมเชิงวิเคราะห์ได้ การคัดเลือกคนเข้าเรียน มหาวิทยาลัยควรพิจารณาความถนัดความพร้อม แรงจูงใจ ความพร้อมท่ีจะเรียนของผู้สมัคร ด้วย แทนการวัดจากคะแนนการสอบวิชาสามัญท่ีเน้นการท่องจําและเทคนิคการทําข้อสอบ ขณะเดียวกันต้องพัฒนาสถาบันอาชีวศึกษาและวิชาชีพให้มีคุณภาพและมีบรรยากาศน่าเรียนรู้และ ส่งเสริมให้คนท่ีจบมาได้ผลตอบแทนการทํางานสูงข้ึน มีโอกาสท่ีจะก้าวหน้าได้ไม่ต่างจากคนจบ มหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับผู้เรียนจบด้านอาชีวศึกษาในเยอรมันและประเทศพัฒนาอุตสาหกรรมอ่ืน ๆ นักเรียนบางส่วนจะได้เลือกเรียนสายอาชีวศึกษาไปโดยไม่ต้องมามุ่งสอบแข่งขันแย่งกันเข้า มหาวทิ ยาลยั ซ่งึ ขณะนีข้ ยายตัวเชงิ ปรมิ าณมากเกนิ ไป และคนท่จี บแล้วมาหางานทําไมไ่ ด้มากข้ึน มหาวิทยาลัยควรเปิดช่องทางให้คนอายุ 25 ปีที่ทํางานมาแล้วและอยากจะกลับมาเรียน มหาวิทยาลัย สามารถสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้โดยมีโควต้าต่างหาก เพื่อทําให้คนท่ีอยากเรียน มีโอกาสที่จะเรียนได้ตลอดชีวิต ไม่ใช่เปิดให้เฉพาะคนท่ีจบมัธยมปลายมุ่งแย่งกันเข้ามหาวิทยาลัย แบบจะเป็นจะตาย เหมือนมีโอกาสคร้ังเดียวในชีวิต และรู้สึกท้อแท้หมดอาลัยดูถูกตนเองเมื่อสอบ เข้ามหาวิทยาลัยปิดของรัฐไม่ได้ ซ่ึงเป็นทัศนคติที่ควรจะเปลี่ยนแปลงได้แล้ว การค้นคว้าเร่ืองการ ทํางานของสมองพบว่า สมองคนเรามีการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพข้ึนได้ อย่างต่อเนื่องถ้ารู้จักวิธี ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงควรเพ่ิมการให้บริการประชาชนรวมทั้งพัฒนา มหาวทิ ยาลัยเปดิ มหาวิทยาลยั สอนทางไกล สอนทางอินเตอร์เนต็ ให้มีคณุ ภาพและมคี วามหลากหลาย ขึน้ 7. พัฒนาการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัยที่สามารถจูงใจ ให้ประชาชนไทยส่วน ใหญ่ที่ปัจจุบันได้เรียนแค่ชั้นประถมศึกษาได้สนใจและได้เรียนรู้เพิ่มข้ึนอย่างจริงจัง โดยควร ทํางานรว่ มกับสถานศึกษาในระบบและองค์กรต่างๆ ในชุมชนและใช้ส่ือวิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ตให้ เป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ในวงกว้างข้ึน ส่งเสริมให้สื่อวิทยุโทรทัศน์เน้นเรื่องข้อมูลข่าวสาร ความรู้ และความบันเทิงท่ียกระดับความฉลาดและศิลปวัฒนธรรมประชาชนเพ่ิมข้ึน พัฒนา เครือข่ายอินเทอร์เน็ต หนังสือพิมพ์ การผลิตหนังสือ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ ให้ประชาชนทุกวัยท่ัวประเทศเข้าถึงได้ง่ายต้นทุนตํ่า และมีทางเลือกท่ีจะเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวาง หลากหลาย 8. วางแผนและลงทุนพัฒนาแรงงานให้มีความรู้และทักษะท่ีเป็นท่ีต้องการของระบบ เศรษฐกจิ สงั คม เช่น วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ช่างฝีมือ ศิลปิน นกั ประดษิ ฐ์ นัก ออกแบบฯลฯ มากกว่าที่จะปล่อยให้มีการขยายตัวตามความพร้อมของครูผู้สอนในสถาบันการศึกษา เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตติศักดิ์ ณ สงขลา
๘๙ ต่าง ๆ เช่น ระดับมัธยมนิยมขยายสายสามัญ อุดมศึกษานิยมขยายสาขาบริหารธุรกิจ นิเทศ ศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์มากกว่าสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การจะแก้ปัญหาการ ขาดแคลนการศึกษาและการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องเร่งพัฒนาครูด้านนี้และปฏิรูป กระบวนการเรียนการสอนและการมีห้องทดลองมีสื่อต่างๆ ส่งเสริมพัฒนาให้เด็กสนใจวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี งานอาชีพต่าง ๆ ต้ังแต่ระดับอนุบาลและประถม และส่งเสริมให้ผู้จบสายอาชีวศึกษามี คุณภาพเพ่ิมข้ึนและการจ้างงานที่ให้รายได้สูงข้ึน ส่วนผู้จบสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านอ่ืน นอกจากแพทย์และวิศวกร สถาปนิกควรทําให้เกิดระบบการจ้างงานท่ีให้รายได้สูงข้ึน และมี ความก้าวหน้าไดม้ ากข้นึ 9. ระดมทุนเพื่อพัฒนาหรือปฏิรูปการศึกษาเพ่ิมข้ึนอย่างจริงจังอย่างถือเป็นวาระสําคัญ ของชาติ โดยการปฏิรูปการเก็บภาษี เช่น เก็บภาษีมรดก เพ่ิมภาษีทรัพย์สินในอัตรา ก้าวหน้า ภาษีการบริโภคฟุ่มเฟือย และการหารายได้จากการให้สัมปทานสาธารณะสมบัติและ รัฐวิสาหกิจต่าง ๆ เข้ารัฐอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเพ่ิมขึ้น รวมทั้งอาจจะออกพันธบัตรเงินกู้เพ่ือการ ปฏิรูปการศึกษาได้ด้วย เพราะการลงทุนเพ่ือทําให้ประชาชนฉลาดและมีจิตสํานึก เป็นเง่ือนไขสําคัญ ท่ีจะทําให้ประเทศพัฒนาทางเศรษฐกิจสังคมได้อย่างแท้จริง เมื่อประเทศพัฒนาเศรษฐกิจได้มากขึ้น รัฐกจ็ ะมรี ายได้จากภาษมี ากพอทจี่ ะจา่ ยคืนพนั ธบตั รเงนิ กู้เพอื่ การศกึ ษาในภายหลังได้ การจัดสรรงบประมาณให้องค์กรปกครองท้องถิ่น ควรกําหนดว่าจะต้องใช้ในการศึกษาอย่าง น้อย 25% และไม่ควรมีขั้นต่ําว่าให้จ้างบุคคลากรได้ไม่เกิน 40% ของงบประมาณโดยเฉพาะถ้าเป็น เรือ่ งการศึกษาซึ่งต้องใชง้ บบุคคลากรมากกว่างบบรหิ ารจดั การงานธุรการอนื่ ๆ ระดม ทรัพยากรนอกภาครัฐ จากธุรกิจ องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบัน ศาสนา และทําให้โรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างแท้จริง คือให้ประชาชนในชุมชนรู้สึก การศึกษาเป็นเร่ืองสําคัญสําหรับการสร้างความเข้มแข็งและความอยู่รอดของชุมชน ประชาชนควร ได้รับการเชื้อเชิญให้เป็น เข้ามามีส่วนร่วมท้ังในเรื่องหลักสูตร คุณภาพการเรียนการสอน การหนุน ช่วยด้านทรัพยากร รู้สึกว่าชุมชนเป็นเจ้าของและมีส่วนรับผิดชอบไม่ใช่มองแบบแยกส่วนว่าโรงเรียน เปน็ เรอ่ื งของกระทรวงศกึ ษาฯ เท่าน้ัน ปฏิรูปการศึกษาของสงฆ์ให้เรียนรู้หลักพุทธศาสนาท่ีแท้จริงท่ีเก่ียวข้องกับการช่วยดับทุกข์ ทางสังคมอย่างกว้างขวางลึกซ้ึง ให้เณรและสงฆ์ท่ีอยู่ในวัยหนุ่มได้เรียนรู้วิชาการด้านต่าง ๆ ที่ เก่ียวข้องกับการพัฒนาคนและชุมชน เพ่ือให้สงฆ์ส่วนท่ีมีศักยภาพพัฒนาขึ้นมาเป็นครูและช่วยชุมชน ได้เพิ่มข้ึน ระดมปราชญ์ชาวบ้านและผู้มีความรู้ที่เกษียณจากงานประจําแล้วมาเป็นอาสาสมัครช่วย สอนชว่ ยให้ความรู้แก่นกั เรยี นและประชาชนในชมุ ชนเพิ่มขน้ึ 10. ทําให้การปฏิรูปการศึกษาเชื่อมโยงกับการปฏิรูปเศรษฐกิจการเมืองแบบทําให้ ประชาชนและชุมชนเข้มแขง็ ขึ้น การจะปฏิรูปให้คนทั้งประเทศมีโอกาสได้เรียนรู้มากข้ึนและดีข้ึนเป็นเร่ืองสําคัญท่ีทุก กระทรวงทุกหน่วยงานของภาคเอกชนและภาคสังคมประชาควรตระหนักและเข้ามีส่วนรวม ไม่ใช่ เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ติศกั ด์ิ ณ สงขลา
๙๐ ปล่อยให้กระทรวงศึกษาทําแต่ผู้เดียว การจะปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ของประชาชนทั้งประเทศให้ เกิ ด ผ ล ได้ จ ริ ง ต้ อ ง ทํ า ค ว บ คู่ ไ ป กั บ ก า ร ป ฏิ รู ป ท า ง เศ ร ษ ฐ กิ จ ก า ร เมื อ ง ใน ก า ร ท่ี จ ะ ก ร ะ จ า ย ทรพั ย์สิน รายได้ ความรู้ การมีงานทาํ ฐานะทางสงั คม อํานาจตอ่ รองทางการเมอื ง (เช่น การจดั ต้ัง กลุ่มองค์กรต่างๆ การแก้ไขรฐั ธรรมนญู ให้ประชาชนมีบทบาททางการเมืองเพ่ิมขึ้น) ไปสู่กลุ่มคนจนซี่ง เปน็ คนสว่ นใหญ่อย่างเป็นธรรมและทั่วถงึ รวมท้ังตอ้ งมีการปฏริ ูปสื่อมวลชนและกจิ กรรมทางสังคม วัฒนธรรมต่าง ๆ ให้มีเน้ือหาสาระท่ีเน้นการเรียนรู้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม สร้างสภาพแวดล้อมที่ เอ้ืออํานวยต่อการเรียนรู้ในเรื่องปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมืองอย่างมีเหตุผลมีหลักวิชาการ ทําให้ สังคมไทยท้ังสังคมเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่สังคมการเลียนแบบ การนิยมบริโภค หรือการ ปลุกเรา้ ทางการเมืองโดยใช้อารมณร์ กั ชอบเกลียดเท่านั้น ปฏิรูปการจัดสรรคล่ืนความถี่วิทยุโทรทัศน์และส่งเสริมให้ส่ือโทรทัศน์เป็นส่ือสาธารณะที่เน้น คุณภาพ เน้นสาระมากกว่าเพือ่ การคา้ หากาํ ไร ปฏิรูปการบริหารจดั การ การให้บรกิ ารประชาชนของ กระทรวงต่าง ๆ ส่งเสริมการฝึกอบรม การจัดประชุม การจัดต้ังองค์กรเพื่อพัฒนาคนในชุมชนต่าง ๆ ให้มีความรู้และร่วมมือกันจัดตั้งองค์กร เช่น กลุ่มออมทรัพย์ เครดิตยูเนียน สหกรณ์ สหภาพ แรงงาน สหพันธ์ กลุ่มอาชีพ สภาชุมชน เพื่อร่วมมือร่วมแรงทําการผลิตและการค้าขาย แลกเปลี่ยน และทํากิจกรรมเก่ียวกับพัฒนาชุมชนและสวัสดิการชุมชน เช่น การดูแลเด็ก เล็ก คนชรา คนยากจนและด้อยโอกาส การแก้ปัญหาและพัฒนาเด็กและเยาวชน การแก้ไขปัญหา ยาเสพตดิ และอบายมขุ ต่าง ๆให้มีประสิทธิภาพและให้บรกิ ารได้อยา่ งทั่วถงึ มากขนึ้ กลยทุ ธในการพัฒนาด้านความรแู้ ละประสทิ ธภิ าพเพอื่ ทําให้ประชาชนและชุมชนเข้มแข็ง ขึ้น 1) ส่งเสริมการพัฒนาทางเลอื กท่ีเน้นการพ่ึงตนเองของชุมชนและการพัฒนาอยา่ งย่ังยืน โดยใช้ภมู ิปญั ญา แรงงาน ทรัพยากรภายในประเทศ และเทคโนโลยที างเลือก เช่น พัฒนาแหลง่ นํ้าชลประทานขนาดย่อม ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และสารขจัดศัตรูพืชทําจาก สมุนไพร ส่งเสรมิ การปลกู ป่าไมท้ างเศรษฐกจิ การทาํ เกษตรแบบผสมผสานตามแนวธรรมชาติเพื่อลด ต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยและสารเคมี พัฒนาพลังงานทางเลือก เพิ่มคุณค่าการใช้ทรัพยากร ภายในประเทศและลดมลภาวะ ส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ที่จําเป็นทุกด้านรวมท้ังการจัดการฟาร์ม การจัดต้ังกลุ่มสหกรณ์ การพัฒนาการบริหารจัดการวิธีการและกระบวนการผลิต การแปรรูป การ จัดเก็บ การจัดส่งสินค้าและบริการต่าง ๆ ให้ประหยัดและมีประสิทธิภาพเพ่ิมขึ้น การฝึกและส่งเสริม อาชพี เสรมิ หรอื อาชีพอื่น 2) การพัฒนางานค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีทางเลือกที่เหมาะสม เช่น เกษตร ท างเลือก (เกษ ตรอิน ท รีย์ ไม่ใช้ปุ๋ ย สารเคมี ) สาธารณ สุขท างเลือก (แพ ท ย์แผน ตะวันออก สมุนไพร การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ โดยวิธีธรรมชาติ) พลังงานทางเลือก (พลัง แสงอาทิตย์ ลมความร้อนใต้โลก ชีวภาพ ก๊าซโซฮอลไบโอดีเซลฯลฯ) เพื่อหาทางใช้ทรัพยากรใน ประเทศแทนการส่ังเข้า และหาทางใช้ทรัพยากรอย่างย่ังยืน ไม่ทําลายอย่างสิ้นเปลืองหรือก่อให้เกิด ผลเสียต่อสภาวะแวดล้อมมาก ช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดการสูญเสียเงินตราตา่ งประเทศ ทาํ ให้เกิด การซ้อื ของและจ้างงาน ทําใหค้ นในประเทศมีรายไดเ้ พ่ิมขึน้ เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ติศกั ดิ์ ณ สงขลา
๙๑ 3) การพัฒ นาความรู้และทักษะทางด้านการติดต่อสื่อสารโทรคมนาคม การ ขนส่ง การตลาด การค้าภายในและภายนอกประเทศ สาธารณูปโภคต่าง ๆ การพัฒนาการให้ ความรู้ด้านการบริการจัดการ ข้อมูลข่าวสารการตลาด การสนับสนุนการจัดตั้งและพัฒนากลุ่ม เกษตรกรและสหกรณ์ เพื่อทําให้ต้นทุนการผลิตและการกระจายสินค้าตํ่า และมีประสิทธิภาพมาก ขึ้น พัฒนาเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวกรวดเร็ว เสยี ค่าใช้จา่ ยตํ่า เปน็ แหลง่ การศกึ ษาหาความร้ขู อ้ มลู ขา่ วสารที่มีประโยชนต์ ่อโดยใชต้ ้นทุนตาํ่ 4) การให้บริการทางด้านการศึกษาและฝึกอบรม และการให้ความรู้ข้อมูล ข่าวสาร บริการที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปญั หาและพัฒนาคนและชุมชน เช่นความรู้ด้านสุขภาพ ซึ่งรวมทั้งเร่ืองการดูแลและพัฒนาสุขภาพจิตและสมอง การฝึกพัฒนาอาชีพและบริการจัดหา งาน ความรู้ด้านบริหารจัดการฟาร์มเรื่องการเงินการบัญชี เร่ืองระบบสหกรณ์การค้าขาย เร่ือง เศรษฐกจิ การเมืองสังคมและศลิ ปวัฒนธรรมที่จะช่วยให้ประชาชนเรยี นรทู้ ่ีจะดูแลและพัฒนาตัวเองให้ คนมีสขุ ภาพกายและใจท่ีดี มีความรู้และทักษะในการทํางานใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพเพิ่มข้นึ และรจู้ ักใช้ชีวิต อยา่ งมคี ุณคา่ เพม่ิ ขนึ้ 5) การปรับปรุงปฏิรูประบบบริหารราชการและระบบการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น ให้นักการเมืองและพนักงานของรัฐต้องเปลี่ยนวิธีทํางาน มาเป็นแบบเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร งบประมาณโครงการต่าง ๆ อย่างโปร่งใส รับผิดชอบต่อการตรวจสอบดูแลของภาคประชาชนมาก ขึ้น เพ่ือลดการสูญเสียอันเน่ืองมาจากความทุจริตฉ้อฉล ความไม่เอาใจใส่ ความเฉ่ือยชา ล่าช้าต่าง ๆ และทํางานบริหารจัดการเร่ืองของสาธารณะมีประสิทธิภาพสามารถสนองความต้องการของ ประชาชนได้เพมิ่ ขึน้ 6) ปรับปรุงการวางแผนพัฒนาและการดําเนนิ งานตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมท้งั ใน ระดับชาติ ระดับภาค จังหวัด อําเภอ ตําบล หมู่บ้าน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมกําหนดโดยต้องมี แผนงาน โครงการ มาตรการที่มีรายละเอียดชัดเจนและภาครัฐต้องให้ความสําคัญกับแผนพัฒนา ระดับต่าง ๆ ด้วยการปรับรื้อระบบแก้ไขการบริหารงานราชการให้สามารถทํางานตามแผนท่ีวางไว้ ได้ รวมท้ังรู้จักประสานงานหน่วยงานราชการต่าง ๆ หน่วยงานเอกชนและภาคสังคมประชา เพ่ือ ร่วมมือกันพัฒนาท้องถ่ินอย่างมุ่งผลงานตามเป้าหมายเพื่อประโยชน์ส่วน รวมมากกว่ายึดติด ผลประโยชนข์ องตวั เองหรอื หน่วยงานของตน 7) การปฏิรูปการศึกษา การวิจัย การเผยแพร่ความรู้ที่ใช้งานได้และเป็นประโยชน์กับ คนส่วนใหญ่ ผ่านทางส่ือสารมวลชนและแหล่งกระจายเผยแพร่ความรู้แหล่งต่าง ๆ เพ่ือช่วยให้ คนรู้จักดูแลและใช้สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงและสร้างความรู้ท่ีประยุกต์ใช้งานได้ เพิ่มข้ึน โดยควรเป็นความรู้ที่นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาพัฒนาตัวเองและชุมชนได้อย่างมี ประสิทธิภาพและเป็นธรรมแล้ว ยังควรตระหนักถึงการพัฒนาตนเองทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ ตามแนวศาสนาพทุ ธและศาสนาอื่น และการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม อย่างมองการณ์ไกล เพ่ือให้คนท้ังประเทศอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ มีปัญญา และสังคมพัฒนาได้อย่าง ยัง่ ยนื ยาวนาน เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
๙๒ คาํ ถามท้ายบท ๑. แนวโนม้ ทางประชากร ปญั หาด้านเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมของโลกมีผลต่อการปฏริ ูปการจัด การศกึ ษาอยา่ งไร ? ๒. ให้นสิ ติ สรปุ แนวทางการปฏิรูปการจดั การศึกษาเพอื่ สร้างคุณภาพและความเป็นธรรม ? ๓. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร ? เก่ียวกับนโยบายของรัฐบาลในการแจกคอมพิวเตอร์ให้เด็กนักเรียน ท่วั ประเทศ เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ตศิ กั ดิ์ ณ สงขลา
บทที่ ๖ การศกึ ษาไทยในยุคโลกาภวิ ัตน์ ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ๑ วัตถปุ ระสงค์การเรียนรู้ประจําบท ๑. เพือ่ ให้นสิ ติ รแู้ ละเขา้ ใจการศึกษาไทยในยุคโลกาภิวัฒน์ ๒. เพื่อใหน้ สิ ิตสามารถอธิบายกระแสโลกาภวิ ฒั นท์ ี่มผี ลตอ่ การศึกษาไทยได้ ๓. เพ่อื ให้นิสิตสามารถวเิ คราะหก์ ารจัดการศกึ ษาไทยในยุคโลกาภิวัฒน์ได้ ๑ *ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยนโยบายการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสมาชิกคณะศึกษา โครงการการศกึ ษาไทยในยคุ โลกาภวิ ัตน์, ๒๕๓๘. เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ติศกั ด์ิ ณ สงขลา
๙๔ กรอบเนื้อหา ๑. การศกึ ษาไทยในยุคโลกาภวิ ัฒน์ - กระแสโลกาภิวัตน์กบั โอกาส และภัยคกุ คามสงั คมไทย - สู่โลกแหง่ กําลงั ปัญญา - สงั คมไทยในเสน้ ทางการเปล่ียนแปลง - ความหวงั และทางเลือกของแผ่นดนิ ไทย - เพ่ือดุลยภาพใหม่ของสังคมในอนาคต แนวคิด ๑. ในสมัยพุทธกาลศึกษาประมาณ ๕ ปี เฉลี่ยโดยมากเข้ามาบวชในสํานักของพระพุทธเจ้า แล้วจะอยู่ในสํานักพระพุทธเจ้าโดยตรง หรือในสมัยหลังๆ จะอยู่ในสํานักพระมหาเถระอื่น ๆ และ เมื่อได้ระยะเวลาพอสมควรพากันออกไปอยู่ป่าลึก ๆ จึงขอกัมมัฏฐานจากพระอุปัชฌาย์อาจารย์ หรอื จากสมเด็จพระสมั มาสัมพทุ ธเจ้าด้วยมขุ ปาฐะ ๒. สาเหตุสําคัญที่พราหมณ์ท้ังหลายในสมัยพุทธกาลละท้ิงความเช่ือเดิมที่สืบทอดกันมา หลายพันปี แล้วหันมานับถือพระพุทธศาสนามีหลายประการท่ีสําคัญท่ีสุดคือ คําสอนของพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสัจธรรมอันจริงแท้แน่นอนที่ผู้ปฏิบัติสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองในยุคน้ันมีผู้ ปฏิบัติจนเข้าถึงธรรมเป็นพระอริยบุคคลมากมาย ซึ่งสามารถเป็นพยานยืนยันคําสอนได้เป็นอย่างดี นอกจากน้ีเหล่าพราหมณ์ให้การยอมรับในบุคลิกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในฐานะที่ทรงมีกายมหา บุรุษจึงต้ังใจฟังคําสอนของพระองค์ พุทธวิธีสอนธรรมก็มีส่วนอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงความเชื่อ ของคนในสังคมอินเดีย พระองค์ทรงสอนโดยยึดตามจริตผู้เรียนหรือในปัจจุบันเรียกว่าสอนโดยยึด ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center) อีกประการหนึ่ง คําสอนของเหล่าพราหมณ์อาจารย์มีความ ขัดแย้งกนั เอง จึงทําให้พราหมณ์จาํ นวนไมน่ อ้ ยเสอ่ื มศรทั ธาหันมานับถอื พระพุทธศาสนา เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตติศกั ด์ิ ณ สงขลา
๙๕ ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าโลกจะถูกย่อลงด้วยวิทยาการก้าวหน้าด้านการ สือ่ สารโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เป็นปัจจยั ผลักดนั สําคัญท่ีทําให้โลก “ไร้พรมแดน” และทําให้พลโลกมีการติดต่อสัมพันธ์กันได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น นําไปสู่การผสมผสานความคิด ค่านิยม ตลอดจนวิถีชวี ติ ความเปน็ อยูร่ ะหว่างมวลมนุษยชาตหิ รือท่ีเรยี กวา่ “กระแสโลกาภวิ ัตน์” ทน่ี าํ โลกเข้า สยู่ ุคแห่งการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระหว่างประเทศใหม่ ซ่ึงมีผลกระทบต่อทุก ชาตทิ กุ ภาษารวมทง้ั ไทย เทคโนโลยีก้าวหน้าเน่ืองจากการนําวิทยาศาสตร์ยุคใหม่มาประยุกต์ใช้ ทําให้เกิดการ เปล่ียนแปลงท่ีมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตมนุษย์อย่าคาดไม่ถึง โดยเฉพาะด้านการสื่อสารท่ีนําโลกเข้าสู่ กระแสโลกาภิวัตน์และสภาพ “ไร้พรมแดน” ระหว่างประเทศน้ันได้นํามาซึ่งแนวโน้มที่น่าสนใจหลาย ประการ เช่น - ในโลกของธุรกิจ เทคโนโลยีที่ทันสมัยทําให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคติดต่อถึงกันได้รวดเร็ว รูปแบบการขายตรงระหว่างผู้ ผลิตกับผูบ้ ริโภคโดยไมผ่ ่านคนกลางมีมากขึน้ อย่างเห็นได้ชัด - ในโลกของส่ือมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศได้ทําให้เกิดความหลากหลายในรูปแบบวิธีการ ของการแสวงหาข่าวสาร ทําให้คนมีเสรีภาพในการเลือกรับสื่อท่ีสอดคล้องกับรูปแบบชีวิตและ รสนยิ มของตนได้มากขน้ึ - ในโลกของการศึกษา เครือข่ายข้อมูลข่าวสารต่างๆ ประกอบด้วยส่ือการศึกษาที่ทวี ประสทิ ธภิ าพยิง่ ข้ึน ได้นําไปส่รู ปู แบบการเรียนรู้ดว้ ยตนเองที่เขา้ มาเสริมระบบการเรียนแบบด้ังเดิม การเรียนรู้อยกู่ บั บา้ นหรือท่ที ํางานผา่ นเครอื ข่าย คอมพิวเตอร์ และสื่อสําเร็จรูปต่างๆ จะเป็น รูปแบบท่ชี ดั เจนยิ่งข้ึนในอนาคต - ในด้านของโครงสร้างสังคม การเติบโตของภาคธุรกิจและประชาชนตลอดจนอํานาจของ ข่าวสารทําให้หน่วยต่างๆในสังคมมีพลังในการต่อรองดีข้ึน ทําให้อํานาจจากส่วนกลางภายใต้ระบบรัฐ อุปถัมภ์แบบดั้งเดิมลดน้อยลง มีการกระจายอํานาจไปสู่ท้องถิ่นมากขึ้น และในขณะเดียวกันอาจเป็น แรงกระต้นุ ให้มีการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมท้องถ่นิ มากยิ่งข้นึ - ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสภาพ “ไร้พรมแดน” ทําให้ “รัฐชาติ” ลด ความสาํ คญั ลง ในขณะท่ี “รฐั ภูมิภาค” ทวีความสําคัญยิ่งขึ้น ท้ังในด้านเศรษฐกิจและการเมือง ดงั จะเห็นไดจ้ ากการรวมกลุ่มทางการคา้ ท้ังใน อเมรกิ าเหนือ ยโุ รป อาเซียนและเอเซียแปซิฟิค ทก่ี ําลัง กอ่ รปู ข้ึนอย่างรวดเรว็ ในปจั จบุ ันเกดิ รูปแบบ “เศรษฐกจิ ข้ามชาต”ิ ทสี่ ง่ ผลตอ่ ทุกประเทศในโลก สายนํ้าย่อมพัดพาทั้งส่ิงดีและปฏิกูลคละเคล้ากันมาฉันใด “กระแสโลกาภิวัตน์” ที่กําลังไหล บ่าสู่สังคมต่างๆ ทั่วโลก ก็มีท้ังคุณและโทษต่อสังคมตามแต่กรณีไปฉันนั้น ประเทศหรือสังคมที่จะอยู่ รอดและก้าวต่อไปได้อย่างม่ันคง คือประเทศหรือสังคมที่เข้าใจกระแสโลกาภิวัตน์อย่างถ่องแท้ สามารถพิเคราะห์และเลือกสรรสงิ่ ดีออกจากสิง่ ไม่ดี โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในปจั จุบันท่ีกระแสน้ยี ังไม่หยุด น่ิง ย่ิงต้องพิจารณาอย่างระมัดระวังว่า กระแสโลกาภิวัตน์ได้หยิบย่ืนส่ิงดีท่ีเป็นโอกาสของประเทศ อย่างไรบา้ ง และในขณะเดียวกนั ไดน้ ําพาเอาสง่ิ ไม่ดที ี่เป็นภัยคกุ คามปลอมปนมาอย่างไรบา้ ง เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ตศิ กั ดิ์ ณ สงขลา
๙๖ กระแสโลกาภวิ ัตนก์ ับ “โอกาส” และ “ภัยคุกคาม” สงั คมไทย กระแสโลกาภิวัตน์อาจมีผลดีหลายทาง นับต้ังแต่การโน้มนําให้เกิดความร่วมมือด้าน ต่างๆ ระหว่างประเทศโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มการรวมกลุ่มการค้าในระดับ ภูมิภาคและการจัดต้ังองค์กรการค้าโลกข้ึนในปัจจุบัน อันเป็นท่ีคาดหวังว่าจะช่วยสร้างเสถียรภาพ และความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจและการค้าให้แก่ทุกประเทศ นอกจากน้ี กระแสโลกาภิวัตน์ช่วยเร่ง กระบวนการถ่ายทอดและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาของประเทศต่างๆ เป็นไปโดย รวดเรว็ ยิง่ ขึ้นอีกดว้ ย กระแสโลกาภิวัตนย์ งั เป็นแรงผลังดันให้เกิด “คา่ นิยมสากล” ที่เออ้ื ประโยชน์ร่วมกนั ของ มนุษยชาติ อาทิ ค่านิยมประชาธิปไตย ค่านิยมว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค่านิยมเกี่ยวกับความกลมกลืน ระหว่างมนุษย์กับสภาวะแวดล้อม เป็นต้น ค่านิยมสากลดังกล่าวมีส่วนสําคัญในการสร้างความ ตระหนัก สํานึกต่อการแก้ปัญหาหลักบางเร่ืองร่วมกันระหว่างประเทศ หรืออีกนัยหนึ่งได้ทําให้ปัญหา หลักบางเร่ืองกลายเป็นปัญหาร่วมกันของมนุษยชาติที่ทุกประเทศมิอาจหันหลังให้ได้ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการลิดรอนประชาธิปไตย การคุกคามสิทธิมนุษยชน การทําลายทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ว่าจะปะทุขึ้น ณ จุดใดในโลก ก็ส่งผลเร่งเร้าให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองจากนานา ประเทศได้ กระแสโลกาภิวัตน์อาจส่งผลในทางไม่ดีด้วย ทําให้ภาพการพัฒนาของโลกในอนาคตไม่ แจ่มใสเท่าท่ีควร กระแสโลกาภิวัตน์ส่งเสริมให้โลกก้าวเข้าสู่ยุคการค้าเสรี ทําให้การแข่งขันทาง เศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นไปอย่างเข้มข้นและรุนแรงย่ิงข้ึน โดยเฉพาะระหว่าง “กลุ่มการค้า ภูมิภาค” ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยุโรป กลุ่มอเมริกาเหนือ กลุ่มอาเซียน หรือกลุ่มเอเซียแปซิฟิค การ รวมกลุ่มทางการค้าและการวางกติกาการค้าสากล ย่ิงทําให้การแข่งขันรุนแรง แม้ว่าจะไม่มีใครเลยที่ จบั จองการเปน็ “ผู้ชนะ” ทางเศรษฐกจิ ได้อยา่ งแทจ้ รงิ นอกจากนี้ กระแสโลกาภวิ ตั น์ทกี่ ัดกร่อนวัฒนธรรมดง้ั เดมิ ของประเทศตา่ งๆ ยงั กอ่ ใหเ้ กิด ปฏิกิริยาโดยธรรมชาติในการแสวงหาเอกลักษณ์และเสรีภาพของกลุ่มชนต่างๆ การแสวงหาอย่าง สุดโต่งได้ปรากฎออกมาในรูปของความคลั่งลัทธิเผ่าพันธุน์ ิยม และลัทธชิ าตินิยมทางวฒั นธรรม เราจะ เห็นปัญหาความขัดแย้งจากความต้องการแยกตนเองเป็นรัฐอิสระของกลุ่มชนบางเช้ือชาติท่ีก่อหวอด ขึ้นจนถึงเป็นสงครามกลางเมอื งในบางประเทศในปจั จบุ ัน ความขัดแยง้ ระหว่างรัฐชาตกิ ับชนกลุ่มน้อย ที่ต้องการสงวนรักษาเอกลักษณ์ทางเช้ือชาติและวัฒนธรรมของตน จะยังคงเป็นชนวนแห่งความร้าว ฉานท่ีทาํ ให้ประเทศต่างๆ ยังคงขาดสันตสิ ขุ ท่ีพงึ ปรารถนาในอนาคต ยิ่งไปกว่าน้ัน ธุรกิจบันเทิงแบบข้ามชาติท่ีใช้เทคโนโลยีเป็นส่ือ กลายเป็นกระบวนการ ครอบงําทางวัฒนธรรม และในบางคร้ังก็เป็นการแผ่ขยายส่ิงมอมเมา และ “ปฏิกูลทางวัฒนธรรม” ทําลายวัฒนธรรมดัง้ เดมิ ของแต่ละชนชาติและทอ้ งถิ่น เมื่อผนวกกับธุรกิจโฆษณาทเ่ี ตบิ โตอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยเทคนิคนานาประการในการล่อใจ ย่ิงเป็นการเร่งกระแสบริโภคนิยมให้กับคนรุ่นใหม่ พร้อม กันนั้นก็เป็นการทําลายสามัญสํานึกและวิจารณญาณของประชาชนเกี่ยวกับแก่นสารและสาระในชีวิต เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ติศักดิ์ ณ สงขลา
๙๗ ศิลปะกลายเป็นทาสรับใช้อุตสาหกรรมบันเทิงและการโฆษณาท่ีมุ่งแต่กําไร จนศิลปะได้สูญเสียพลัง ในการสร้างสนุ ทรยี ภาพทางจติ ใจและการประเทืองปัญญาความคดิ ของคน ส่โู ลกแหง่ “กาํ ลงั ปัญญา” เมื่อกระแสโลกาภิวัฒน์ได้นํามาท้ังส่ิงที่เป็น “คุณ” และ “โทษ” ต่อประเทศต่างๆ ดังกล่าว ขา้ งตน คําถามท่ปี ระเทศตา่ งๆ พึงถามตนเอง ก็คือ ๑. ประเทศต่างๆ จะ “ใช้โอกาส” จากสิ่งดี และ “หลีกเล่ียงภัยคุกคาม” จากสิ่งไม่ดี ท่ี กระแสโลกาภวิ ัตน์ชักนํามาได้ อย่างไร ท้ังทางเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม และสิง่ แวดลอ้ ม ๒. พันธกิจหรือพันธกรณี จากการวางกติกาทางเศรษฐกิจและความม่ันคงระหว่างประเทศที่ ผกู มดั ประเทศต่างๆ มากขน้ึ มีความหมายอยา่ งไรกับการดําเนนิ นโยบายการพฒั นาของประเทศน้นั ๆ ๓. กระแสเศรษฐกิจยุคโลกาภิวัตน์ ที่ทําให้การรวมกลุ่มในรูป “รัฐภูมิภาค” ดูจะมี ความสําคัญกว่าความเป็นประเทศหรือ “รัฐชาติ” บ่งบอกบทบาทท่ีเหมาะสมของประเทศแต่ละ ประเทศในภมู ิภาคน้ันๆ อย่างไร ๔. กระแสโลกาภิวัตน์ที่ทําให้ “ปัญหาเขามาเป็นปัญหาเราด้วย” นับต้ังแต่เร่ืองเศรษฐกิจ การค้า การเงิน ไปจนถึงเรื่อง ทางสังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ประเทศต่างๆ จะมีวิธีระวังตน อย่างไร ให้ “ร้เู ขา-รเู้ รา” และหลกี เล่ยี งหรอื บรรเทาปญั หาตา่ งๆ ทีอ่ าจเกิดขึ้น แม้ว่าคําถามดังกล่าวอาจยังไม่ปรากฏคําตอบชัดเจน รวมทั้งยังมีความไม่แน่นอนในเวที ระหว่างประเทศอยู่ สงู แต่สง่ิ ทเี่ ปน็ แนวโนม้ ทพ่ี อสรปุ ได้สําหรบั ทกุ ประเทศ คือ ๑. กระแสโลกาภิวัตน์ท่ีเปิดโอกาสให้มกี ารเคล่ือนย้ายทุนและปัจจัยการผลิตระหว่างประเทศ ได้อยา่ งคลอ่ งตัว ชใ้ี ห้เห็น วา่ ความได้เปรียบของประเทศทั้งหลายในอนาคต คงมิได้ขนึ้ กบั ความรํ่ารวย ของทรัพยากรธรรมชาตแิ ต่อย่างเดียวอีก ต่อไป หากแต่ขึ้นกับความถึงพร้อมด้านกําลังคนและ เทคโนโลยมี ากยิ่งข้ึน ทรพั ยากรบุคคลทม่ี ขี ดี ความสามารถสงู จะสามารถนําประเทศไปสคู่ วามก้าวหน้า และม่ันคงในทา่ มกลางกระแสโลกาภวิ ตั น์ ๒. พลเมืองแตล่ ะประเทศ ต้องมีความเป็น “พลโลก” และต้องมีขีดความสามารถสูงข้นึ ต้อง มคี วามสามารถในการ “รู้ เขา-รูเ้ รา” สามารถตดิ ต่อสมั พันธ์และเขา้ ใจเพือ่ นรว่ มโลกได้ดี ๓. ประเทศต่างๆ ต้องมีพลวัต คือความสามารถในการปรับตัวสูง คนในชาติมีความสามารถ ในการเรียนรู้และปรับตัว ต่อสถานการณ์ใหม่ๆ ท้ังทางเศรษฐกิจและสังคมได้ดี ซึ่งจะส่งผลต่อทั้ง เสถยี รภาพทางเศรษฐกจิ และความมน่ั คงทางสังคม ๔. ประเทศต่างๆ ต้องมีหลักที่ดีในการสงวนรักษาเอกลักษณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมของ ตนเอง ต้องเตรียมเผชิญ “ความสับสนทางค่านิยมและวัฒนธรรม” จากกระแสโลกาภิวัตน์ คนใน ชาตจิ ึงตอ้ งมีปญั ญาทจ่ี ะใตรต่ รองใคร่ครวญ และมีความรู้เท่าทันความเจริญทางวัตถุ มีความพอดี ระหวา่ งการแสวงหาปจั จยั ตา่ งๆ ในชวี ิตกบั การรกั ษาไว้ซงึ่ ค่า นิยมและวัฒนธรรมอันดีงาม เพอ่ื ให้สามารถกา้ วไปกบั โลกไดอ้ ยา่ งมน่ั คงและร้เู ทา่ ทนั เมื่อมองย้อนไปยงั ประเทศท้ังหลายท่ีเป็นผู้นําในเวทีโลกในอดีต จะประจักษ์ว่าการศกึ ษาเป็น ปัจจัยสําคัญที่อธิบายความสําเร็จของประเทศชาตินั้นๆ ประเทศชาติใดกอปรด้วยกําลังคนท่ีมี เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตตศิ กั ดิ์ ณ สงขลา
๙๘ การศึกษาสูง ก็ย่อมหวังสติปัญญาความคิดและพลังสร้างสรรค์จากประชาชนได้มากเป็นเงาตามตัว ดังน้ัน ไม่ว่ากระแสโลกาภิวัตน์จะชักนําประเทศต่างๆ ไปในทิศทางใดก็ตาม การศึกษาจะเป็นปัจจัย สําคัญในการพัฒนาบุคคลให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ดังกล่าวข้างต้น และเป็นพ้ืนฐานท่ีจะช่วย เสรมิ สร้างให้ประเทศ มีทั้งความสามารถในการร่วมมือและแข่งขันกับนานาประเทศ มีความจีรังยั่งยืน ในการพัฒนา เป็นกําลังปัญญาในการช่วยให้ประเทศสามารถแสวงหาโอกาสอย่างเหมาะสม สามารถ หลกี เลย่ี งภัยคกุ คามตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งทนั การในยุคสมยั ที่โลกมีความสลับซับซ้อนยากแกก่ ารเขา้ ใจขึ้นเป็น ลําดับ โลกในอนาคตจึงมิใช่โลกท่ีจะประชันกันด้วยกําลังอาวุธอีกต่อไป แต่จะเป็นโลกที่ประชันกัน ด้วยกาํ ลังปัญญา ประเทศใดมีกําลงั ปญั ญามาก กย็ ่อมมหี นทางสรา้ งโอกาส แสวงหาความรว่ มมือ และ สร้างสถานะในเวทีโลกไดม้ าก สงั คมไทยในเสน้ ทางการเปลี่ยนแปลง ในขณะท่ีกระแสโลกาภิวัตน์ได้บ่งบอกคําถามท่ีสําคัญหลายคําถามแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นคําถามเกี่ยวกับทิศทางการดําเนินนโยบายเศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรมและ สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงคําถามเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนที่จะเผชิญกับสถานการณ์ใหม่ๆ ของ ประเทศน้ัน ในส่วนของไทยเราเอง นอกจากต้องขบคิดประเด็นคําถามเหล่าน้ีในฐานะสมาชิกของ ประชาคมโลกแล้ว ยังสภาพการณ์และแนวโน้มในสังคมไทยเราเองที่สําคัญ และต้องนํามาพิจารณา ประกอบอีกหลายเรื่อง ทั้งในด้านประชากร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การเมือง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละสิง่ แวดลอ้ ม แนวโนม้ สาํ คัญที่พงึ พจิ ารณา เชน่ ๑. แนวโน้มประชากรและการสาธารณสุขท่ีแสดงว่าสัดส่วนประชากรวัยเด็กลดลงในขณะท่ี ประชากรสงู อายเุ พม่ิ ขน้ึ นํามา ซงึ่ ปญั หาอัตราการพงึ่ พงิ ของประชากรสูงอายุเพ่มิ มากขนึ้ และชี้ถึง ความจาํ เปน็ ในการพฒั นาการสาธารณสุขพ้ืนฐาน และคุณภาพประชากรทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายชว่ ง “วยั ผลิต” ของวยั แรงงานใหน้ านออกไป อันเปน็ ผลดตี ่อ ท้ังประเทศชาติ และ เพ่มิ คณุ ค่าใหแ้ ก่ประชากรกลมุ่ ใหม่ทเ่ี พม่ิ ข้นึ นี้ ๒. แนวโน้มเศรษฐกิจ ที่ช้ีถึงความสาํ เร็จระดับมหภาค แตส่ ร้างปัญหาการกระจายรายไดแ้ ละ ความเหลอื่ มลํ้าทางสังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในภาคเกษตรอันเป็นรากฐาน ของสังคมมาแตเ่ ดมิ และยังคงเปน็ ภาคทีค่ น ส่วนใหญ่ของประเทศยังคงใช้ชีวิตด้ินรนต่อสู้อยู่อย่างน่า เห็นใจทส่ี ุด ซึ่งหากไม่รีบทบทวนแก้ไขยอ่ มจะนํามาซง่ึ ภาระ ทางสังคมตอ่ ไปในอนาคต ๓. แนวโน้มสงั คมวัฒนธรรม ท่ีช้วี า่ กระแสวัฒนธรรมใหม่ท่ีมากับสอ่ื สารสนเทศและสอ่ื บันเทิง ตา่ งๆ จากนอกประเทศ กําลังค่อยๆ เข้าแทนที่เอกลักษณ์และคุณค่าแบบดั้งเดิมของสังคมไทย นบั ตั้งแตอ่ ุปนสิ ยั แบบไทย ค่านิยมเรอื่ ง ศาสนา ค่านิยมทางเพศ การเห็นคุณค่าในศิลปวัฒนธรรม อนั เป็นเอกลกั ษณข์ องไทยและการดํารงตนอย่างกลมกลนื กับธรรมชาติ ปัจจุบันกระแสวัฒนธรรม ใหม่ดังกลา่ ว ยังไหลบ่า จากประเทศไทยซงึ่ กลายเป็นศนู ย์กลางธรุ กจิ บนั เทงิ ข อ ง ภู มิ ภ า ค ไ ป สู่ ประเทศเพ่อื นบา้ นอีกดว้ ย นอกจากนี้ แรงกดดนั ทางเศรษฐกจิ ยงั นาํ มาซ่งึ ปัญหาสงั คมอกี หลาย เรอ่ื ง เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตติศกั ด์ิ ณ สงขลา
๙๙ เช่นปัญหามนุษยสัมพันธ์และความเอื้ออาทรระหว่างสมาชิกร่วมสังคม ปัญหาครอบครัวเด่ียวและ ครอบครัวหยา่ รา้ ง ปญั หาคุณภาพชวี ิตของเด็กและสตรี เป็นตน้ ๔. แนวโน้มการเมือง ช้ีถึงการเคารพกติกาประชาธิปไตยมากข้ึน แต่ขณะเดียวกัน ก็มีระบบ อปุ ถัมภจ์ ากผู้มีอทิ ธิพลภาย ใต้โครงสร้างอํานาจทางการเมืงที่สลับซับซ้อน โดยมีกลุ่มพลังทาง การเมอื งทหี่ ลากหลายข้ึน ๕. แนวโน้มของระบบราชการบ่งบอกถึงปัญหาที่ระบบราชการไม่สามารถดึงดูด “คนดี-คน เก่ง” เข้าสู่ระบบไดอ้ ีกต่อไป ภาพรวมของระบบราชการจึงมีพลังในการสร้างสรรค์และพัฒนา น้อยลง นอกจากนี้ กระแสวัตถนุ ิยมในสงั คมและ แรงกดดันทางเศรษฐกิจก็กําลังค่อยๆ กัดกร่อน อุดมคติด้ังเดมิ ของข้าราชการที่เนน้ การอุทศิ ตัวเสียสละดว้ ยความ สัตย์ซ่ือต่อแผ่นดินให้อ่อนแอ ลงเป็นลาํ ดับ ๖. แนวโน้มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แสดงว่าอิทธิพลของเทคโนโลยีสารสนเทศได้นําการ เปลย่ี นแปลงมาสู่ทกุ สาขา การผลิต การบริการและการเรียนรู้ของประเทศ แต่เป็นไปในอัตราที่ ตา่ งกนั ขึ้นอยกู่ บั ขดี ความสามารถในการรบั ปรับแปลงและใชป้ ระโยชน์เทคโนโลยี ๗. แนวโน้มสภาพสิ่งแวดล้อมระบุถึงการทําลายทรัพยากรธรรมชาติ ท้ังดิน น้ํา ป่า อย่าง รุนแรงและรวดเรว็ จนเข้าถงึ ขีด ภาวะวิกฤต เพราะขาดกลไกท่ีมีประสิทธิภาพในการควบคุมดูแล การใช้ทรพั ยากรอย่างเหมาะสม ความหวงั และทางเลือกของแผน่ ดนิ ไทย ปัญหาและแนวโน้มเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นเร่ืองที่ต้องขบคิดพิจารณาไปพร้อมกับการพิจารณา กระแสโลกาภิวตั น์ เพ่ือให้ได้มาซ่ึงข้อเสนอในการพฒั นาที่จะชว่ ยบรรเทาปัญหาตา่ งๆ ในสังคมไทยเรา เอง พร้อมๆ ไปกับการรับมือต่อปัญหาใหม่ๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อเสนอการพัฒนาไปสู่อนาคตยังไม่ ชัดเจนและมีรายละเอียดท่ีต้องพิจารณาอีกมาก แต่กระบวนทัศน์หรือแนวคิดอย่างเป็นระบบ ในการ มองทศิ ทางการพฒั นาของไทยในอนาคตนา่ จะมคี วามชดั เจนพอสมควร ได้แก่ ๑. กระแสโลกาภิวัตน์โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ คงเป็นแรงผลักดันให้ไทยต้องเคล่ือนไหว และปรบั ตัวอยตู่ ลอดเวลา ประเทศไทยจะไม่สามารถหยุดน่ิงได้ในท่ามกลางภาวะการแข่งขัน และการแสวงหาข้อไดเ้ ปรียบทางการคา้ ในตลาด โลก โดยเฉพาะอย่างย่ิงการพัฒนาตามแนว ทุนนิยมอยา่ งเร่งด่วนของประเทศเพื่อนบา้ น จะเพ่มิ แรงกดดนั ให้ ไทยต้องเร่ง ส ร้างค วาม ได้เปรียบในด้านปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะด้านทรัพยากรมนุษย์และเทคโนโลยี เพ่ือรองรับ อุตสาหกรรมการผลติ และการบรกิ ารยุคใหม่ทีม่ คี วามสามารถแข่งขันในเวทกี ารค้าโลกสงู ขึ้น ๒. ในขณะเดียวกัน ทิศทางการพัฒนาประเทศ ต้องเน้นการร่วมมือและแข่งขันทางเศรษฐกิจ ไปพร้อมๆ กับความจีรัง ย่ังยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งน้ี การพัฒนาประเทศให้เกิดดุลยภาพ ของรายไดป้ ระชากรมากข้ึนก็ดี การสร้าง ดุลยภาพระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการรักษา เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ติศักด์ิ ณ สงขลา
๑๐๐ ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อมกด็ ี จะเกิดขึน้ และ ดํ า ร ง อ ยู่ ไ ม่ ไ ด้ ถ้ า ไ ม่ ส ร้ า ง ขี ด ความสามารถอยา่ งพอเพียงของสงั คมไทย ท้ังในการร่วมมือและแข่งขันกัน ๓. สังคมไทยท่ีจะดํารงอยู่อย่างมั่นคงได้ในประชาคมโลก พึงมีความพอดีระหว่าง “วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกับคุณค่าทางสังคม” สังคมไทยต้องกอปรด้วย “คนดีที่ทันโลก” ปัญหา ปัจจุบันไม่วา่ จะเป็นความอ่อนแอล้าหลังของสังคมชนบท และภาคการเกษตรแบบดั้งเดิม ภาวะวิกฤต ของสถาบั น ครอบ ครัว คุณ ภาพ ชีวิตของป ระชาชน ตลอดจน ปั ญ ห าส่ิงแวดล้อมและ ทรัพยากรธรรมชาติล้วนชี้ชัดว่า กุศโลบายการพัฒนาประเทศในอนาคตจะเน้นแต่ความมั่นคงและ ประสิทธิภาพของเศรษฐกิจแต่ฝ่ายเดียวมิได้แต่ต้องเน้นให้ “คนมีความสุข ครอบครัวอบอุ่น ชุมชน เขม้ แข็ง สงั คม สันติ สงิ่ แวดล้อมยั่งยนื ” นอกจากนี้ คนไทยในอนาคตพึงมีโลกทัศน์ข้ามวัฒนธรรม และโลกทัศน์สากล เพ่ือการปรับตัวและการอยู่ร่วมกับชนต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรมได้อย่าง สนั ติ และสามารถร่วมมอื กนั ทํางานต่างๆ เพ่อื บําเพญ็ ประโยชน์ตอ่ ประชาคมโลกได้อย่างแท้จรงิ ๔. นอกจากนั้นแล้วสังคมไทยในอนาคตพึงเป็นสังคมท่ีมีการรักษาให้ดํารงอยู่อย่างม่ันคง ปัจจบุ นั สงั คมไทยมี “วิกฤตการณ์ทางคุณค่า” และ “วิกฤตการณ์ทางปัญญา” อันเน่ืองจาก สาเหตตุ า่ งๆ ได้แก่ การเบย่ี งเบนคา่ นยิ ม แบบไทยไปตามกระแสสังคมโลก ความไม่ยืดหยุ่นผ่อน ปรนกันระหว่างกลุ่มคนต่างค่านิยม และต่างอุดมการณ์อันเป็นชนวนความขัดแย้งในสังคม ตลอดจน ความสับสนเนื่องจากคณุ คา่ ในอุดมคตมิ ลี ักษณะตรงขา้ มกบั ความเปน็ จรงิ ใน สั งค ม “ค น ทํ า ผิ ด กลับได้รับการยกย่อง” และ “คนดีกลับได้รับการลงโทษจากระบบ” ส่ิงต่างๆ เหล่าน้ีเป็น วิกฤตการณ์ของสังคมไทยที่จะต้องรีบบรรเทาและขจัดไปในที่สุด เพื่อให้สังคมไทยมีสันติสุข และจีรังยัง่ ยืนในอนาคต รากฐานสําคัญของการพัฒนาไปในทิศทางดังกล่าวคือการเสริมสร้างขีดความสามารถ ศักยภาพและความเข้มแข็งในระดับบุคคล ครอบครัวและชุมชนเป็นพ้ืนฐาน สังคมไทยในอนาคตพึง เป็นสังคมท่ีประกอบด้วยชุมชนเมืองและชุมชนชนบทท่ีประชาชนมีความสามารถในการไตร่ตรอง แก้ปัญหา และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการรู้เท่าทันในความสัมพันธก์ ับสังคมภายนอกท้ัง ในระดับชาติและนานาชาติ รากฐานดังกล่าวน้ีเป็นสภาพพึงประสงค์ที่มีนัยสําคัญท้ังในเชิง ประสิทธภิ าพของระบบเศรษฐกิจ ความมัน่ คงตลอดจนการสบื สารเยอื่ ใยทางสงั คมและวฒั นธรรม บุคคลท่ีเกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยในอนาคต พึงมีชีวิตที่ม่ันคง สันติ และสืบทอดเอกลักษณ์ ทางวัฒนธรรมของตนได้ในชุมชนบ้านเกิดของตนเอง มิต้องท้ิงถิ่นฐานร่อนเร่ไปเผชิญโชคในเมืองใหญ่ และในต่างประเทศอย่างที่เป็นมาในอดีต จากเป้าหมายดังกล่าว สังคมไทยพึงมีการกระจายอํานาจ การปกครอง และการกระจายกิจกรรมการผลติ ทางเศรษฐกิจไปสู่ท้องถิ่นและชมุ ชน มีการเรียนรู้ วิจัย สร้างสรรค์ปัญญา พึงมีเสรีภาพในการแลกเปล่ียนและถ่ายทอดความรูแ้ ละความคิดระหว่างสมาชิกใน สังคม เพ่ือใช้ชุมชนมีส่วนในการตัดสินใจ ริเริ่มและดําเนินการต่างๆ ในชุมชนด้วยตนเองอย่างจริงจัง อันจะส่งผลดีต่อความเข้มแข็งและศักยภาพของชุมชนและประเทศ เกิดผลต่อการพัฒนาตนเองใน ระยะยาว ประเด็นท่ีต้องพิจารณาในเร่ืองวิสัยทัศน์ของการศึกษาไทยในอนาคต รวมไปถึงแนวทางการ นําไปสู่การปฏิบัติต่าง ๆ คงเป็นเร่ืองที่ต้องพิจารณาในรายละเอียดต่อไปอีกมาก นับตั้งแต่ประเด็น เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ติศกั ดิ์ ณ สงขลา
๑๐๑ เกย่ี วกับปรัชญาการศึกษา กลมุ่ เป้าหมายของการศึกษา รูปแบบและวิธีการให้การศกึ ษาแก่ประชาชน กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ตลอดจนรปู แบบการบริหารและการจัดสรรทรัพยากรเพ่ือการศึกษา ซึง่ ประเด็น เหล่านี้จะเกิดผลโดยสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้มีการพิจารณาวิสัยทัศน์ของ “กระแสโลกาภิวัตน์” และ “สภาพสังคมไทยในบริบทโลก” และภาพการศึกษาไทยท่ีจะโน้มนําสังคมไปสู่สภาพพึงประสงค์น้ัน อย่างไรก็ตาม จากสภาพปญั หาของสังคมไทยในปัจจบุ นั ท่ีปรากฎ และแนวโนม้ แรงผลกั ดันจากกระแส โลกที่มองเห็นได้ชัดเจนในบางประเด็น ก็ได้ช่วยให้สามารถกําหนดวิสัยทัศน์ของการศึกษาไทยใน อนาคตท่ีสําคญั ไดห้ ลายเรอื่ ง การศึกษาที่จะเอื้อต่อสภาพสังคมไทยในอนาคตที่มีความก้าวหน้าม่ันคงและความเสมอภาค ตอ้ งเป็นการศึกษาทม่ี ุ่งพัฒนาตัวบคุ คล ครอบครัว และการผนกึ กําลังกนั เป็นชุมชนเป็นสาํ คญั โดยเน้น ให้ระบบการศึกษาไทยในอนาคตเป็นระบบท่ีสามารถเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ของบุคคล ครอบครัว และชุมชน ส่งเสริมให้บุคคลมีความเข้าใจและทักษะเกี่ยวกับ “กระบวนการเรียนรู้” เพื่อศึกษาและ พัฒนาตนเองอย่างตอ่ เน่ืองตลอดชวี ติ ปรับตัวได้กับสภาวะโลกปัจจบุ ันท่ีมกี ารเปล่ียนแปลงกา้ วหน้าไป อย่างรวดเร็ว และสามารถรับข่าวสารใหม่ ๆ แล้วนํามาคิดและตัดสินใจ รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชน สามารถผนึกกําลงั เพ่อื เปลย่ี นแปลงสภาพปัญหาไปสสู่ ภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ปรัชญาการศึกษาในอนาคตพึงถือว่า “ชีวิตที่มีความสุขคือชีวิตท่ีมีการเรียนรู้” เป้าหมาย ของการศึกษาจงึ ต้องมุ่งสร้าง “คนท่ีมีความมัน่ ใจ และเป็นตัวของตวั เอง” ใฝก่ ารศึกษาที่ “สนอง ปัญญามากกว่าตัณหา” และมุ่งพัฒนา “วุฒิของความเป็นมนุษย์ ที่วัดไม่ได้ด้วยวุฒิบัตร” เพื่อ ส่งเสริมอิสรภาพของปัจเจกบุคคล ส่งเสริมให้คนมีคุณธรรมต่อกัน ต้านกระแสวัตถุนิยมและบริโภค นิยม นับถือกันเพราะเงินและฐานะ ซึ่งเป็นสภาพท่ีไม่พึงปรารถนาในสังคม นอกจากน้ี ปรัชญา การศึกษาพึงเน้นการพัฒนาบุคคลให้เป็นผู้ “สร้าง” มากกว่า “เสพ” ซึ่งจะเป็นผลดีต่อความ เขม้ แข็งทางเศรษฐกิจและความเทา่ เทียมทางสังคม ปรัชญาการศึกษาในอนาคตที่มุ่งพัฒนาความเป็นมนุษย์พึงเน้นให้สุนทรียศึกษาและพลศึกษา มีบทบาทสําคัญยิ่งขึ้น เพ่ือปรับสภาพสังคมท่ีคับแค้นเพราะการแข่งขันช่วงชิง เพราะกิจกรรม การศกึ ษาทง้ั สองด้านดงั กล่าวจะชว่ ยเสริมสร้างความสมดุลในการพัฒนาคนไดด้ ียงิ่ ขนึ้ รูปแบบการจัดการศึกษาในอนาคต พึงเป็นการศึกษาที่ให้อิสระแก่ผู้เรียน ให้ทางออกและ ทางเลือกท่ีดีแก่ทุกคน นอกจากน้ี การศึกษาต้องเป็นปัจจัยในการช่วยให้คนรักและสามารถอยู่ใน ท้องถ่ินได้อย่างพึงพอใจ การศึกษาพึงต้องช่วยให้ผู้เรียนสามารถทํางาน มีเสรีภาพและความ รับผิดชอบในหน้าท่ี และใช้ชีวิตในชุมชนของตนได้ โดยนัยต่าง ๆ เหล่าน้ี รูปแบบการศึกษาในอนาคต จึงต้องมีความหลากหลายเพื่อสนองความต้องการและลักษณะที่แตกต่างกันของบุคคลและชุมชน ทั้งนี้ เมื่อผู้เรียนมีทางเลือกมากขึ้นก็ต้องเน้นให้ผู้เรียนรู้จักใช้วิจารณญาณในการเลือกอย่างเหมาะสม ด้วย “วฒั นธรรมแหง่ การวจิ ารณ”์ จึงเปน็ คุณสมบัตทิ ี่สําคญั ของกระบวนการศึกษาในอนาคต การศึกษาในอนาคตควรสะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพของ “เครือข่ายการเรียนรู้” ที่มีการ ประสานสัมพันธ์กัน และใช้ความหลากหลายขององค์กรท่ีเก่ียวข้องให้เป็นประโยชน์อาทิ โรงเรียน เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตตศิ กั ด์ิ ณ สงขลา
๑๐๒ ครอบครัว ชุมชน ส่ือมวลชน องค์กรศาสนา ภาคเอกชน องค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ และ องค์กรเฉพาะกิจอื่น ๆ ควรมีการนําเทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่ายข้อมูลจากท่ัวโลกมาใช้ให้เป็น ประโยชน์สูงสุดต่อการเรียนรู้ เพื่อช่วยกันจัดการศึกษาสนองกลุ่มเป้าหมายท่ีหลากหลาย ทั้ง การศึกษาต่อเนื่องในระบบปกติท่ีต้องปรับให้สอดคล้องกับธรรมชาติของเด็กย่ิงข้ึน การศึกษาและ ฝึกอบรมระยะสั้น ตลอดจนการฝึกอบรมในสถานท่ีทํางานเพื่อพัฒนา “แรงงานที่ผลิตเป็น” ให้แก่ ภาคการผลิตต่าง ๆ ที่ต้องมีการปรับตัวและแข่งขันอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการศึกษาท่ีมาจากฐาน ครอบครัวและชุมชน “เพื่อสร้างความมั่นใจและการเคารพซึ่งกันและกันในสังคมเพื่อสร้างความ ภูมิใจ ความมศี กั ด์ิศรแี ละความสามารถพึง่ ตนเองได้” เพือ่ ดลุ ยภาพใหมข่ องสังคมในอนาคต การศึกษาไทยในอนาคตพึงมีส่วนสําคัญในการช่วยรักษาวัฒนธรรมอันเป็นรากฐานของ สังคมไทย การศึกษาต้อง “ช่วยสร้างสมดุลระหว่างภาคเศรษฐกิจท่ีทันสมัยกับคุณค่าแบบไทย” ท่ี เน้นค่านิยมและจริยธรรมตามแนวพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่แต่ละคนนับถือ อาทิ ความโอบ อ้อมอารี ความซื่อสัตย์สุจริต การกินพอดีอยู่พอดีที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ ความปรองดองในการ อยู่ร่วมกับเพ่ือนมนุษย์ เป็นต้น พร้อมกันนั้น ต้องเน้นให้การศึกษามีบทบาทในการเสริมสร้างให้คน ไทยมีวินัยในตนเอง มีความรับผิดชอบ มีความอดทน อดออม มุมานะ ทํางานด้วยขันติธรรมมากกว่า การมักง่าย เรียนลัด หวังความสําเร็จในชีวิตด้วยการเสี่ยงโชคหรือเก็งกําไรระยะส้ันอย่างที่เห็นใน ปัจจุบัน การศึกษา ต้องกระตุ้นและเน้นให้คนยึดม่ันในหลักธรรมที่เชื่อในการกระทําความดีมากกว่า การหวงั ให้อํานาจสงิ่ ศักด์ิสทิ ธิ์ ช่วยดลบันดาลสิง่ ตา่ ง ๆ ใหช้ วี ติ การศึกษาพึงเป็นส่ือให้คนไทยเข้าถึงแก่นวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชนชาติอ่ืนด้วย เพื่อ สร้างความสัมพันธ์และความสามารถในการร่วมมือและแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ได้ “การเรียนรู้ ความเป็นไทยและความเป็นสากลต้องสัมพันธ์กัน เพ่ือให้อยู่ร่วมกันได้กับประชาคมโลกและ ธรรมชาต”ิ ประการสําคญั คือ การศกึ ษาทจี่ ะเสริมสร้างความม่ันคงและก้าวหนา้ ใหแ้ ก่ประเทศได้นนั้ ตอ้ ง เปน็ การศึกษาท่ีมี “ความพอด”ี ในการผสมผสาน “คณุ ลักษณต์ ่างขั้ว” หลายเรอ่ื งที่จําเปน็ ต้องมี ควบคู่กันไปอยา่ งเหมาะเจาะกลมกลนื ในทรัพยากรบคุ คลของประเทศ อาทิ ๑. ความพอดีระหวา่ งการเปน็ ผ้นู าํ กบั การเป็นผูต้ าม ๒. ความพอดีระหว่างความสามารถในการทํางานเป็นหมู่คณะกับความสามารถในการดํารง ตนในฐานะปจั เจกบุคคล ๓. ความพอดรี ะหวา่ งเสรีภาพกับความรับผดิ ชอบ ๔. ความพอดีระหวา่ งความสามารถแข่งขนั กบั ความสมถะ รูจ้ ักพอ รู้จักรว่ มมือ ๕. ความพอดีระหว่างการเห็นความสําคัญและประโยชน์ในวิทยาการสมัยใหม่ กับความช่ืน ชมในภูมปิ ัญญาแบบดั้งเดิม ๖. ความพอดีระหว่างการเปิดรับวัฒนธรรมต่างชาติ กับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและ เอกลักษณไ์ ทย เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ กั ดิ์ ณ สงขลา
๑๐๓ ๗. ความพอดีระหว่างการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาการงานและฐานะกับการเรียนรู้เพ่ือพัฒนา ตนเอง และเพื่อ “ความปิติแหง่ การเรียนรู้” ๘. ความพอดีระหว่างการเพ่ิมพูนทักษะความสามารถเฉพาะทางกับการเพ่ิมพูนสุนทรยี ภาพ และความรอบรู้ในภาพรวม ๙. ความพอดีระหว่างการเรียนรู้ผ่านส่ือและเทคโนโลยีต่าง ๆ กับการเรียนรู้ด้วย กระบวนการ “มนุษยส์ ัมผสั มนุษย์” และ “มนุษยส์ มั ผสั ธรรมชาต”ิ ๑๐. ความพอดีระหว่างการจัดประมวลสาระความรู้ทางมนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ ความพอดีเหล่านี้ จะเป็นกุญแจสําคัญในการจัดการการศึกษาที่มีดุลยภาพ และช่วย เสริมสรา้ งท้ังความเจรญิ ทางวตั ถุและความเจรญิ ทางจติ ใจให้แก่สงั คมไทยไปในเวลาเดยี วกนั เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
๑๐๔ คําถามทา้ ยบท ๑. ให้นสิ ิตอธบิ ายกระแสโลกาภวิ ฒั น์ทม่ี ผี ลต่อการศึกษาไทย ? ๒. ให้นิสติ วเิ คราะหแ์ นวโน้มของการศกึ ษาไทย ? ๓. ท่านคดิ ว่าอะไร คือ ภยั คกุ คามสังคมไทย ซึ่งมผี ลตอ่ การศึกษาพระพทุ ธศาสนา ? เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ติศักดิ์ ณ สงขลา
บทที่ ๗ เทคโนโลยีสารสนเทศกับพระพทุ ธศาสนา วตั ถุประสงค์การเรียนรูป้ ระจําบท ๑. เพอ่ื ให้นิสิตสามารถรูแ้ ละเข้าใจกฏหมายท่ีเกี่ยวข้องกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ๒. เพอื่ ใหน้ ิสิตสามารถรแู้ ละเข้าใจถงึ เทคโนโลยสี ารสนเทศท่มี ผี ลตอ่ พระพุทธศาสนา ๓. เพือ่ ให้นสิ ติ สามารถอธิบายแนวโนม้ เทคโนโลยสี ารสนเทศทีม่ ผี ลตอ่ การศึกษาพระพุทธศาสนาได้
๑๐๖ กรอบเน้อื หา ๑. เทคโนโลยีสารสนเทศ - พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๒(หมวดท่ี ๙) ๒. เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั พระพุทธศาสนา - พระสงฆ์ในโลกอนิ เทอร์เน็ต - หลักธรรมสาํ หรับนกั เสพอินเทอร์เน็ต - การประยกุ ตใ์ ช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การศาสนา - ข้นั ตอนและวธิ ีการใช้งานเทคโนโลยที นี่ าํ มาใชเ้ พื่อศาสนา ๓. การใช้เทคโนโลยีกบั การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ๔. การศกึ ษาสมยั หลังพทุ ธกาล - การศกึ ษาธรรมะใกล้มือเผยแผ่ธรรมะผา่ นเทคโนโลยี - เทคโนโลยสี ารสนเทศกบั พระสงฆ์ แนวคิด ๑. ในสมัยพุทธกาลศึกษาประมาณ ๕ ปี เฉล่ียโดยมากเข้ามาบวชในสํานักของพระพุทธเจ้าแล้วจะอยู่ใน สาํ นักพระพุทธเจ้าโดยตรง หรือในสมัยหลังๆ จะอยใู่ นสํานักพระมหาเถระอื่น ๆ และเม่ือได้ระยะเวลาพอสมควรพา กันออกไปอยู่ป่าลึก ๆ จึงขอกัมมัฏฐานจากพระอุปัชฌาย์อาจารย์ หรือจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยมุข ปาฐะ ๒. สาเหตุสําคัญท่ีพราหมณ์ท้ังหลายในสมัยพุทธกาลละทิ้งความเชื่อเดิมที่สืบทอดกันมาหลายพันปี แล้ว หันมานับถือพระพุทธศาสนามีหลายประการท่ีสําคัญที่สุดคือ คําสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสัจธรรมอันจริง แท้แน่นอนที่ผู้ปฏิบัติสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองในยุคน้ันมีผู้ปฏิบัติจนเข้าถึงธรรมเป็นพระอริยบุคคลมากมาย ซ่ึง สามารถเป็นพยานยืนยันคําสอนได้เป็นอย่างดี นอกจากน้ีเหล่าพราหมณ์ให้การยอมรับในบุคลิกของพระสัมมาสัม พุทธเจ้า ในฐานะท่ีทรงมีกายมหาบุรุษจึงต้ังใจฟังคําสอนของพระองค์ พุทธวิธีสอนธรรมก็มีส่วนอย่างมากในการ เปลี่ยนแปลงความเช่ือของคนในสังคมอินเดีย พระองค์ทรงสอนโดยยึดตามจริตผู้เรียนหรือในปัจจุบันเรียกว่าสอน โดยยึดผู้เรยี นเป็นศูนย์กลาง (Child Center) อีกประการหน่ึง คําสอนของเหล่าพราหมณ์อาจารย์มีความขดั แย้งกันเอง จงึ ทําใหพ้ ราหมณจ์ าํ นวนไมน่ ้อยเส่อื มศรัทธาหันมานบั ถือพระพุทธศาสนา เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กิตติศักด์ิ ณ สงขลา
๑๐๗ ความหมาย การจัดการศึกษาในอนาคตท่ีจะถึงนี้ จําเป็นต้องยึดแนวตามพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ เพ่ือให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตามการดําเนินการจัดการศึกษาท้ังในปัจจุบันและใน อนาคต คงปฏิเสธไม่ได้ถึงความจําเป็นต่อการนําเอาเทคโนโลยีมาใช้เพ่ือดําเนินจัดการศึกษา ในการนี้ คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติตระหนักถึงประเด็นน้ี จึงได้นําเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาบรรจุลงไป พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาตอิ ยา่ งเนน้ หนกั และชัดเจน การใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษานั้นหากขาดซึ่งนโยบายข้อบังคับหรือแนวทางการใช้แล้ว อาจจะก่อให้เกิดการใช้อย่างหลงทิศหลงทาง การใช้อย่างพุ่มเฟือย การใช้เพ่ือเป็นเครื่องประดับของ สถาบัน หากเกิดเช่นนี้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆเลย แต่กลับทําให้ประเทศชาติส้ินเปลือง งบประมาณอยา่ งใช่เหตุ ในขณะเดียวกันแนวความคิดวิสัยทัศน์ของผู้บริหารประเทศ ผู้บริหารองค์กรสถาบันก็จําเป็น ถงึ จาํ เป็นทส่ี ุด พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาตจิ ะเปน็ เครื่องชท้ี างหรือตวั ท่ใี หค้ าํ ตอบได้ พระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพอื่ การศกึ ษา มาตรา 63 รัฐต้องจัดสรรคล่ืนความถี่ สื่อตัวนําและโครงสร้างพื้นฐานอ่ืนที่จําเป็นต่อการส่ง วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ วิทยุโทรคมนาคม และการสื่อสารในรูปอื่นเพ่ือใช้ประโยชน์สําหรับ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย การทํานุบํารุงศาสนา ศิลปะและ วฒั นาธรรมตามความจาํ เป็น มาตรา 64 รฐั ต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิตและพัฒนาแบบเรียนตํารา หนังสือทาง วิชาการ ส่ือส่ิงพิมพ์อ่ืน วัสดุอุปกรณ์และเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอื่น โดยเร่งรัดพัฒนาขีด ความสามารถในการผลิต จัดให้มีเงินสนับสนุนการผลิต และมีการให้แรงจูงใจแก่ผู้ผลิตและพัฒนา เทคโนโลยเี พือ่ การศกึ ษา โดยเปดิ ใหม้ กี ารแขง่ ขนั โดยเสรีอย่างเป็นธรรม จากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดท่ี 9 เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาข้างต้นน้ัน เรา สามารถแยกแยะไดเ้ ป็น 2 ประเด็นหลักๆคือ มาตรา 63 เปน็ ประเด็นทเี่ กี่ยวข้องกับ Hardware และ มาตราที่ 64 เป็นประเดน็ ท่เี กย่ี วข้องกบั Software โดยจะขอกลา่ วดงั นี้ มาตรา 63 Hardware จากสภาพปัจจุบัน สถาบันการศึกษาต่างๆ ต่างลงทุนเคร่ืองมือและ อุปกรณ์การศึกษาไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การลงทุนใน ลักษณะที่ใช้งบประมาณเป็นจํานวนมาก เลือกซื้อ hardware และอุปกรณ์เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ สงู เปรียบเสมือนการกวนน้ําอยู่ในอา่ ง ในขณะท่ี Hardware และอุปกรณ์เครอื ข่ายของตนไม่สามารถ เช่ือมออกสู่ภายนอกด้วยความไวท่ีเพียงพอต่อการสื่อสารการศึกษาได้ หรือถ้าต้องการเชื่อมเครือข่าย ด้วยความไวสูงที่เพยี งพอ ก็ต้องลงทุนจ่ายค่าเช่ือมความเร็วสูงให้กับเอกชน (ISP) ในราคาที่สงู มาก ถ้า สถาบันท่ีไม่มีงบประมาณจ่ายค่าเช่ือมความเร็วสูง(จ่ายค่า Hardware ไปหมดแล้วต้องรองบประมาณ เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
๑๐๘ หน้า ซึ่งจะได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้) หรือหากมีงบประมาณในปีต่อๆมา Hardware ท่ีมีอยู่ก็ไม่สามารถ รองรับได้การเชื่อมต่อได้แล้ว เนื่องจากตกรุ่นไปแล้วทําให้เกิดใช้ Hardware อย่างไม่คุ้มค่า หรือเสีย โอกาสด้าน Hardware โดยไมจ่ าํ เปน็ ดังน้ันหากเป็นไปตาม มาตราท่ี 63 นี้แล้ว สถาบันการศึกษาน้ันๆ จะสามารถใช้บริการ เชื่อมต่อเครือข่าย Internet ด้วยความเร็วอย่างเพียงพอ จากบริการของรัฐที่ ต้องจัดสรรให้อย่าง เพียงพอ ด้วยราคาท่ีไม่สูงหรืออาจให้เปล่า โดยนับเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านการศึกษาทีเดียวก็ ได้ ส่วนด้านวิทยุและโทรทัศน์ปัจจุบันเรามีเครือข่ายดาวเทียมไทยคมให้บริการอยู่แล้ว แต่มิได้เป็น เครือข่ายโทรทัศน์ท่ีเป็น Free TV ที่เราสามารถดูได้อย่าง 3 5 7 9 ITV โดยท่ัวไปเราจะต้องมี อุปกรณ์ถึงจะดูได้ เช่นกัน ถ้าเป็นตามมาตรา 63 แล้ว รัฐต้องจัดสรรเครือข่ายคล่ืนวิทยุโทรทัศน์ สําหรับการศึกษาที่สามารถเลือกดูเลือกชมได้อย่างเพียงพอ อย่างสะดวกสบายดังเช่น 3 5 7 9 ITV เลยที่เดียว ส่วนจะมีโฆษณาหรือไม่น้ันต้องไปตีความกันอีกที หากมี รายได้จะต้องเข้าสู่ระบบการ จดั การเครอื ขา่ ยวิทยโุ ทรทัศน์ใหส้ ามารถเล้ียงตนเองได้ มาตรา 64 Software ต้องยอมรับอย่างหน่ึงว่ารายการวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษาหรือ Website เพ่ือการศึกษาท่ีนําเสนออย่างจริงจังและมีคุณภาพน้ันหาได้ยากมาก อาจจะเป็นเพราะค่า เช่าเวลาออกอากาศ ค่าเช่า Domain ,Web hosting ท่ีสูงมาก และหาผู้สนับสนุนเงินทุนได้น้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย ท่ีทําอยู่ก็เพราะใจรักมีงานประจําอยู่แล้วใช้บริการ Free Webhosting จ่ายค่า Domain ค่าไฟ คา่ Net เอาเอง หากเปน็ ไปตาม มาตรา 64 รัฐต้องจดั ให้มกี ารสนับสนุนให้มีการผลิต รายการ Software ,Website เพื่อการศึกษา เช่น มีเงินทุนให้กู้ยืมโดยเฉพาะท่ีคิดอัตราดอกเบ้ียต่ํา ให้เช่าเวลาออกอากาศท่ีถูก มี Webhost ที่ให้บริการ Free ,หรือคิดในราคาท่ีตํ่ากว่าปกติ คิดภาษี รายได้ที่อัตราตํ่า ให้มีการประกวดมีการแจกรางวัล และสิทธิพิเศษอ่ืนๆเพ่ือสร้างแรงจูงใจ อย่างไรก็ ตามก่อนท่ีจะเรียกร้องหรือแสดงความคิดในความต้องการใดๆน้ัน จําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตนเอง และองค์กรก็ให้เข้าสู่ยุคสมัย Cyber Education ก่อน ผู้บริหารนับเป็นหัวเรือสําคัญ จะต้อง Update ตนเองอย่างสม่ําเสมอ อย่าคิดว่าเทคโนโลยีเป็นคนท่ีไม่หน้าคบ ไม่อยากคุย ไม่อยากเสวนา ด้วย ถ้าเป็นที่พูดก็เท่ากับเป็นการปิดประตูบ้านตนเองแล้วเปิดไฟในบ้านรอวันแบตเตอร่ีหมดอย่าง เดี่ยว ผู้ปฏิบัติก็เช่นกันต้องหม่ันศึกษาฝึกฝนตามวิทยาการที่ก้าวไกล อย่าเพียงแต่รอคําสั่งจาก ผู้บริหารเท่าน้ัน ท้ายนี้ขออย่าให้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับนี้อย่าเป็นเพียงเครื่องประดับ ข้างฝาเท่านนั้ ข้ึนอยูก่ ับพวกเราทกุ คน พระสงฆ์ในโลกอนิ เทอรเ์ น็ต เมื่อมีหลักในการเทียบเคียงแล้ว พระสงฆ์ก็ควรเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะโดยไม่ขัดกับ พระธรรมวินัย เมื่อเทคโนโลยีมารวมเข้ากับสารเทศเทศ จึงทําให้กลายเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศซ่ึงมี องค์ประกอบท่ีสําคัญคือ เทคโนโลยีสารสนเทศ (information technology), ไอที (IT) หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศ (information and communications technology), ไอซีที (ICT) หมายถึง เทคโนโลยสี ําหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซ่งึ ครอบคลุมถงึ การรับ-สง่ , แปลง, จัดเก็บ, ประมวลผล, และค้นคืนสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศจึงเป็นการรับ การประมวลผล และการแจกจ่าย สารสนเทศในรูปแบบเสียง ภาพ เนื้อหาท่ีเป็นข้อความและ ตัวเลข โดยระบบพ้ืนฐานหลักการไม โครอิเล็กทรอนคิ ร่วมกับคอมพิวเตอรแ์ ละระบบโทรคมนาคม เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
๑๐๙ หากจะว่าโดยสรุปเทคโนโลยีสารสนเทศคือคอมพิวเตอร์ โปรแกรม คน ข้อมูลข่าวสารและ ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ถ้าหากมีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์ท่ีไม่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต ก็ไม่ น่ามปี ัญหาอะไร แต่เมื่อพระตอ้ งเขา้ ไปเก่ียวข้องกับอนิ เทอร์เนต็ จงึ มปี ระเดน็ ท่ปี ลีกย่อยอีกมาก เพราะ ทางดว่ นสายนี้มีท้ังสิ่งที่เปน็ คณุ และเปน็ โทษต่อการประพฤติผิดธรรมวนิ ัย พระสงฆ์เม่ืออยู่ในสังคมอินเทอร์เน็ตควรใช้อย่างไร เรื่องน้ีเป็นประเด็นปัญหาที่พระสงฆ์ถูก โจมตีมาก เพราะมีบางรูปเข้าไปดูเว็บไซด์ท่ีไม่เหมาะสมกับสมณภาวะ องค์กรสงฆ์จะมีวิธีการในการ แก้ปัญหาอยา่ งไร ในส่วนท่ีเป็นประโยชน์เราปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันมีวัด องค์กรสงฆ์จํานวนมากที่ใช้ประโยชน์ จากอินเทอร์เน็ตในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วิธีแก้ปัญหาท่ีเรียบง่ายและได้ผลท่ีสุดคือให้วางเครื่อง คอมพิวเตอร์ไว้ในสถานท่ีเปิดเผย ไม่เปิดโอกาสให้อยู่ผู้เดียว เพราะอาจพลั้งเผลอเข้าไปดูเว็บที่ไม่ เหมาะสมไดง้ ่าย หลกั ธรรมสําหรบั นกั เสพอนิ เทอร์เนต็ ข้อมูลในโลกไซเบอร์มีท้ังคุณและโทษ ในการกําหนดรู้โลกแห่งเทคโนโลยีนั้น พระพรหม คุณาภรณ์(ธรรมกับการพัฒนาชีวิต)ได้เสนอแนวทางในการปฏิบัติเม่ือต้องสัมพันธ์กับข่าวสารข้อมูลใน ยุคปจั จุบนั โดยใช้หลักปฏิสัมภิทา ในขุททกนกิ าย ปฏสิ มั ภิทามรรค(31/268/96) 1.อัตถปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในอรรถ ปรีชาแจ้งในความหมาย เห็นข้อธรรมหรือ ความย่อ ก็สามารถแยกแยะอธิบายขยายความออกไปได้โดยพิสดาร เห็นเหตุอย่างหน่ึงก็สามารถคิด แยกแยะกระจายเช่ือมโยงต่ออกไปได้จนล่วงรู้ถึงผล เม่ือต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี แม้จะมีเน้ือหา เพียงน้อยนดิ ก็ร้คู วามหมาหมายและสามารถขยายความออกไปได้ 2. ธัมมปฏิสัมภิทา ปัญญาแตกฉานในธรรม ปรีชาแจ้งในหลัก เห็นอรรถาธิบายพิสดาร ก็ สามารถจับใจความมาต้ังเป็นกระทู้หรือหัวข้อได้ เห็นผลอย่างหนึ่งก็สามารถสืบสาวไปหาเหตุได้ การ เสพเทคโนโลยแี ม้จะมเี นือ้ หามาก แตก่ ็สามารถจับสาระสําคญั ได้ 3.นิรุตติปฏิสัมภิทา หมายถึงปัญญาแตกฉานในนิรุตติ ปรีชาแจ้งในภาษา รู้ศัพท์ถ้อยคํา บญั ญัติและภาษาต่างๆ เข้าใจใช้คาํ พูดช้ีแจงใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจและเห็นตามได้ เม่อื รับรู้แล้วพูดสอ่ื สารให้คน อืน่ เข้าใจได้ 4.ปฏิภาณปฏิสัมภิทา หมายถึงปัญญาแตกฉานในปฏิภาณ ปรีชาแจ้งในความคิดทันการ มี ไหวพริบซึมซาบในความรู้ที่มีอยู่ เอามาเช่ือมโยงเข้าสร้างความคิดและเหตุผลขึ้นใหม่ ใช้ประโยชน์ได้ สบเหมาะ เข้ากับกรณ์เข้ากับเหตุการณ์ เม่ือเสพแล้วสามารถเชื่อมโยงกับความรู้เก่าสังเคราะห์จนเป็น องคค์ วามรู้ใหม่ นําไปใช้ใหเ้ หมาะกบั สถานการณไ์ ด้ ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศหากถือตามปฏิสัมภิทาคือรู้ความหมายขยายความได้ จับ ประเด็นสําคัญได้ ส่ือสารถ่ายทอดเป็น และใช้ความรู้ได้ถูกเรื่องทันการณ์ ข้อมูลข่าสารในโลกไซ เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ติศักด์ิ ณ สงขลา
๑๑๐ เบอร์บางคร้ังมีเพียงน้อยนิดและกระจัดกระจาย เราต้องํานมาอธิบายขยายความให้ได้ บางคร้ังมี ข้อมูลมหาศาลก็ต้องย่อความจับประเด็นให้ได้ จากน้ันนํามาวิเคราะห์สังเคราะห์จนกลายเป็นองค์ ความรู้ใหม่และนําเสนอออกไปให้สังคมได้รับรู้ได้ หลักปฏิสัมภิทานั้นพระสารรีบุตรได้อธิบายไว้ในสัญ เจตนิยวรรค อังคุตรนิกาย จตุกกนิบาต (21/172/154) ความว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย เราอุปสมบท แล้วได้ก่ึงเดือน ก็ได้กระทําให้แจ้งอรรถปฏิสัมภิทาโดยเป็นส่วน โดยจําแนก เราย่อมบอก แสดง บัญญัติ แต่งต้ังเปิดเผย จําแนก กระทําให้ง่ายซึ่งอรรถปฏิสัมภิทา ธรรมปฏิสัมภิทา นิรุตติปฏิสัมภิทา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา โดยอเนกปริยาย โดยเป็นส่วน โดยจําแนกเราย่อมบอก แสดง บัญญัติ แต่งต้ัง เปิดเผย จาํ แนก กระทําใหง้ า่ ยซงึ่ ปฏภิ าณปฏสิ ัมภทิ านน้ั โดยอเนกปริยาย กผ็ ใู้ ดแลพึงมคี วามสงสยั หรือ เคลือบแคลงผู้นั้น พึงถามเรา เราพึงพยากรณ์” หากพระสารีบุตรยังอยู่ท่านคงให้คําตอบได้ แต่เม่ือ ท่านไม่อยู่เราก็สามารถศึกษาจากพระไตรปิฎกและนํามาอธิบายเช่ือมโยงกับส่ิงท่ีได้พบเห็นได้ น่ันจะ เปน็ วธิ ีหน่ึงทจี่ ะทาํ ให้พระไตรปิฎกเปน็ คัมภรี ์ท่ี “ไมต่ าย”ไปตามกาลเวลา เคนิ ชิ โอมาเอะชาวญี่ ปุ่ น (Kenichi Ohmae,The next global Stage)ได้กล่าวถึง ความก้าวหน้าของประเทศต่างๆไว้อย่างน่าคิดว่า “ในภูมิภาคท่ีหวังจะก้าวหน้าประชาชนต้องรู้อย่าง น้อยสามภาษาคือภาษาของตนเอง ภาษาอังกฤษ และภาษาเทคโนโลยี ซ่ึงในสมัยนี้คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ประกอบกับระบบอินเตทอร์เน็ต” หากพระสงฆ์ศึกษาภาษาของตนเองคือ พระไตรปิฎก ศึกษาภาษาโลกคือภาษาอังกฤษ และภาษาเทคโนโลยีให้เข้าใจ ก็จะเป็นอุปกรณ์สําคัญ ในการศึกษาและเผยผพ่ ระพทุ ธศาสนาในโลกปัจจุบนั ได้อย่างทนั การ ดังนั้นหากพระสงฆ์เข้าใจสภาวะของตนเองแล้ว เทคโนโลยีสารสนเทศก็คือวิชาการอย่าง หนึ่งท่ีพระควรศึกษาและคณะสงฆ์ควรส่งเสริมให้พระได้มีโอกาสศึกษาให้มากขึ้น โดยใช้หลัก ปฏิสัมภิทาคือรู้จักความหมาย รู้จักหลักการ รู้จักภาษาหรือศัพท์เฉพาะต่างๆและสามารถคิดต่อได้ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างรู้เท่าทันและนําไปอธิบายหลักธรรมของ พระพุทธศาสนาให้กับคนร่วมสมัยเข้าใจได้ พระสงฆ์ก็จะอยู่ในสังคมโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป อกี นาน พระสงฆ์เมือ่ อยู่ในสังคมอนิ เทอร์เน็ตควรใชอ้ ย่างไร เรื่องน้ีเป็นประเด็นปัญหาท่ีพระสงฆ์ถูกโจมตีมาก เพราะมีบางรูปเข้าไปดูเว็บไซด์ที่ไมเ่ หมาะ สมกับสมณภาวะ องค์กรสงฆ์จะมีวิธีการในการแก้ปัญหาอย่างไร ในส่วนที่เป็นประโยชน์เราปฏิเสธ ไม่ได้ว่าปัจจุบันมีวัด องค์กรสงฆ์จํานวนมากท่ีใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตในการเผยแผ่พระพุทธ ศาสนา วิธีแกป้ ัญหาท่ีเรยี บงา่ ยและไดผ้ ลท่ีสดุ คอื ให้วางเครื่องคอมพิวเตอรไ์ ว้ในสถานที่เปดิ เผย ไม่เปิด โอกาสใหอ้ ย่ผู ู้เดยี ว เพราะอาจพลงั้ เผลอเข้าไปดเู วบ็ ที่ไม่เหมาะสมได้งา่ ย เทคโนโลยีในสังคมใดสังคมนั้นก็กลายเป็นสังคมยูบิควิตัสได้โดยไม่ยาก ในส่วนของ พระพุทธศาสนาเป็นส่วนของเน้ือหาที่สามารถเผยแผ่ได้ในสังคมโดยการใช้เทคโนโลยีทั้งสี่ประเภท โดยที่พระสงฆ์ผู้ทําการเผยแผ่ไม่ต้องสร้างเครื่องมือใหม่ขึ้นมาเลย เพราะมีเทคโนโลยีที่ตอบสนองอยู่ แล้ว เพียงแต่ออกแบบเน้ือหาจากหลักคําสอนของพระพุทธศาสนาให้เหมาะสมกับยุคสมัย จากน้ันจึง เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
๑๑๑ นําเผยแผ่โดยอาศัยเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีการเข้าถึง ส่ิงที่บรรจุในชิปคอมพิวเตอร์ขนาด เล็กบรรจุข้อมูลได้มากพอนั้น อาจเป็นพระไตรปิฎกทั้งฉบับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เมื่อมีข้อ สงสัยในหลักธรรมคําสอนของพระพุทธศาสนาก็สามารถใช้โทรศัพท์มือถือเปิดดูทางเว็บไซต์ทาง พระพุทธศาสนาซ่ึงในอนาคตควรมีหลายภาษาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อย่างท่ัวถึง หาก ยังคิดว่าพระไตรปิฎกยังเป็นหลักคําสอนท่ียากแก่การทําความเข้าใจ องค์กรสงฆ์หรือคณะสงฆ์ก็ต้อง หาทางปรับปรุงเปล่ียนแปลงภาษาให้ทันสมัยเหมาะแก่ยุคสมัยซ่ึงการปรับปรุงมิได้ทําให้หลักธรรม ด้ังเดิมมีการเปล่ียนแปลงแต่อย่างใด ภาษาท่ีเหมาะกับคนในสังคมยุบิควิตัสควรเป็นข้อความท่ีส้ัน กระชับ ง่ายเข้าใจได้ทันที ภาษาพระพุทธศาสนาสามารถทําให้ง่ายได้เช่น “ทําดีไม่ต้องเดี๋ยว” ซ่ึงก็มา จากภาษาบาลีในภัทเทกรัตตสูตร (ม.อุปริ. 14/527/348.) ว่า “อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ” ภาษาแปล ตามพระไตรปิฎกฉบับภาไทยแปลว่า “พงึ ทาํ ความเพยี รเสียในวันน้ีแหละ” ซงึ่ ถกู ต้องตามลกั ษณะการ ถอดความจากภาษาบาลีเป็นภาษาไทย แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนในยุคยูบิควิตัส แต่ถ้านํามาปรับปรุง แปลใหม่จะทําให้ติดปากคนได้ง่าย การประยุกต์มิใช่เป็นการเปล่ียนแปลงมิใช่การทําให้คําสอนเป็น สัทธรรมปฎิรูปแต่ประการเพียงแต่ให้เหมาะสมกับยุคสมัยเท่านั้นเมื่อโลกเจริญไปด้วยพลังขับเคลื่อน ของเทคโนโลยี หากพระพุทธศาสนาไมป่ ระยุกต์หลกั ธรรมให้เหมาะสมกบั ยคุ สมัยแลว้ ในอนาคตจะหา คนสนใจศกึ ษาจนเข้าใจหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาน้อยยง่ิ ขนึ้ แม้ในประเทศท่ไี ด้ชอื่ ว่าพัฒนาแล้วก็ ยังประสบปัญหาการอ่านหนังสือของเด็กดังที่หนังสือนิวยอร์คไทม์ ฉบับวันที่ 1 กันยายน 2548 บ็ อบ เฮอร์เบรต์ ได้เขียนบทความลงตีพิมพ์แสดงถงึ ความสนใจของเด็กๆในสหรัฐอเมริกามีข้อความตอน หนึ่งว่า “ บ้านเรือนชาวอเมริกันนับวันจะไมม่ ีหนังสือและสง่ิ พิมพ์หลงเหลืออยแู่ ล้ว เด็กหันหน้าเข้าหา ความบันเทิงจากโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และเกมส์อิเล็คทรินิกส์กันหมด ดูเหมือนเทคโนโลยีท่ีสร้าง ความสุขแบบฉับพลัน(Instant Gratification Technology)ได้เข้ามาทําหน้าที่แทนการอ่านไปเสีย แลว้ ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศหากถือตามปฏิสัมภิทาคือรู้ความหมายขยายความได้ จับประเด็น สาํ คัญได้ ส่ือสารถ่ายทอดเปน็ และใช้ความรไู้ ดถ้ ูกเรื่องทันการณ์ ขอ้ มูลขา่ สารในโลกไซเบอรบ์ างครั้ง มีเพียงน้อยนิดและกระจัดกระจาย เราต้องนํามาอธิบายขยายความให้ได้ บางคร้ังมีข้อมูลมหาศาลก็ ต้องย่อความจับประเด็นให้ได้ จากนั้นนํามาวิเคราะห์สังเคราะห์จนกลายเป็นองค์ความรู้ใหม่และนํา เสนอออกไปให้สังคมได้รับรู้ได้ เทคโนโลยีกับศาสนาถึงแม้จะอยู่คนละส่วน แต่ทั้งสองอย่างนี้มีความ เกี้ยวข้องและมีความสําคัญกับชีวิตมนุษย์ไม่แพ้กัน ศาสนาถูกเทคโนโลยีไล่ที่ พระสงฆ์ซ่ึงเป็นผู้เผย แผ่ศาสนาควรนําพระธรรมคําสอนมาปรับเปลี่ยนวิธีการสอนให้ทันสมัยโดยใช้เทคโนโลยีเป็นสื่อ เพ่ือให้ศาสนากับเทคโนโลยีได้เดินหน้าไปพร้อมๆกัน ไม่ปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตายอยู่ข้างหลัง โดยเฉพาะศาสนาท่เี ป็นเครือ่ งยึดเหนีย่ วจติ ใจของมนษุ ย์ การประยกุ ต์ใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการศาสนา อาณาจักรของเทคโนโลยี กับอาณาจักรของศาสนา หรือศาสนาจัดอยู่คนละส่วนกัน แต่ทั้ง สองส่วนมีความเก่ียวข้องกับชีวิตมนุษย์ เดิมพระศาสนาจักมีอิทธิพลกับชีวิต มนุษย์มาก แต่ตอนหลัง ถูกไล่ที่โดยเทคโนโลยีและวิถีชีวิตสมัยใหม่“ ดร.สมเกียรติ ต้ังกิจวาณิช เปิดประเด็นการเสวนาเรื่อง เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
๑๑๒ “พุทธศาสนากับเทคโนโลยีจะอยู่ร่วมกันอย่างสอดคล้องสมดุลได้อย่างไร” ณ ห้องประชุมจุมภฏ พนั ธุท์ ิพย์ อาคารประชาธปิ กราํ ไพพรรณี จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั เมือ่ วันท่ี ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๕ จากนั้น ดร.สมเกียรติ ก็ฟันธงว่า ศาสนากับเทคโนโลยีไปด้วยกันได้ยาก เพราะมันมีความ ขัดแย้งกันอยู่ลึก ๆ ศาสนาต้องการมุ่งไปสู่การพัฒนาตัวเองของมนุษย์ ขณะท่ีเทคโนโลยีส่วนใหญ่ ออกแบบมาด้วยจุดประสงค์ ๒ อย่าง คือ เพ่ือการสงคราม และแรงผลักดันในเชิงพาณิชย์ ฉะน้ัน คาํ ถามสาํ คัญในยคุ ที่เทคโนโลยีเปน็ ใหญ่ในสังคม คือ ศาสนาจะมีบทบาทชว่ ยให้สังคมกลับเขา้ สู่สมดุล ใหม่ได้อยา่ งไร คณุ สุทธิชยั หยุ่น ผู้ดําเนินรายการตงั้ คําถามวา่ หากมองเทคโนโลยใี นแง่ดีบา้ ง มนั จะชว่ ยเร่ือง ศาสนาได้หรือเปล่า เช่น การสอนศาสนาผ่านอินเตอร์เน็ต “มันเป็นเพียงการรับรู้ข้อมูล ซ่ึงผมยังไม่คิดว่าจะสามารถเข้าถึงจิตใจ” ดร.สมเกียรติ ยืนยัน “พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เน้นการพัฒนาตนเอง พ่ึงตนเอง ฝึกตนเอง เทคโนโลยีมีแนวโน้มไปอีกด้าน หน่ึง คือเอื้ออํานวยความสะดวกในเชิงกายภาพ ซึ่งอาจทําให้ยึดติดอยู่กับวัตถุ ขาดวัตถุแล้วเป็นทุกข์ ง่ายขึ้น ขณะที่ศาสนาเน้นให้มนุษย์กลับไปหารากฐานของตัวเอง และพัฒนาจิตใจมากกว่าเร่ือง กายภาพหรอื การอํานวยความสะดวก” ด้านพระสันติกโร ให้ความเห็นว่าเทคโนโลยีในพุทธศาสนา คือ “การภาวนา” ถ้าพุทธบริษัท รู้จักใช้ก็จะขยายไปถึง ศีล สมาธิ และปัญญา “แต่เดี๋ยวน้ีพระไม่อยากศึกษาเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา โยมอยากศึกษาอะไร พระก็อยากศึกษาอนั น้นั จงึ คล้อยไปตามเทคโนโลยีทอี่ ํานาจทหาร ทุนนิยม และ กามารมณผ์ ลักดนั ” ส่วนความหวังที่จะให้เทคโนโลยีแห่งโลกปัจจุบัน อย่างเช่น อินเตอร์เน็ต เป็นเครื่องมือในการ สอนศาสนานั้น ท่านถือว่าเป็นการเปิดประตูข้ันแรกเท่านั้น แต่คนท่ีสนใจธรรมะหากท่องจากหนังสือ อย่างเดียว ไม่ออกไปไหน อาจท่องจนเมา เมาธรรมะไม่ใช่รู้ธรรมะ” ต่อคําถามถึงประโยชน์ของ เทคโนโลยีอย่างส่ือทีวีท่ีสามารถนําข่าวสารความรู้ไปถึงเด็ก ๆ ในถิ่นทุรกันดาร พระสันติกโรต้ัง ข้อสังเกตว่า ส่ิงแรกท่ีต้องถามคือ เด็กเหล่าน้ันจําเป็นต้องฟังผู้รู้จากแดนไกลหรือเปล่า ท่านเช่ือว่าใน หมบู่ า้ นที่เด็กเหลา่ น้นั อยู่ จะมีบุคคลที่เหมาะสม ท่ีจะพูดคุยส่งั สอนเด็กเหลา่ นน้ั “และอกี ด้านหนึง่ แม้ จะมีสิ่งดี ๆ เผยแพร่ ผ่านสื่อแบบดี ๆ เด็กเหล่าน้ันจะดูหรือเปล่า เราไม่มีอํานาจจะให้เขาดู บางคน อาจคิดแปลงธรรมะให้เป็นเพลง เป็นหนังที่เด็กชอบ ก็ถามว่าเด็กดูทําไม ดูเพ่ือเอาสีสัน ดูเอาความ สวยความหล่อของพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้ดูเพ่ือเอาธรรมะ ฉะน้ันเราไม่แน่ใจ คิดว่าเป็นความเชื่อมากกว่า ความจริง” ผู้ดําเนินรายการ ถามซํ้าว่าเทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวกับ Information technology สามารถนาํ ศาสนาผา่ นสอื่ ไปถงึ คนจํานวนมาก นา่ จะย่ิงดีมใิ ชห่ รอื เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ติศักดิ์ ณ สงขลา
๑๑๓ “พุทธศาสนามองอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัย การมีข้อมูลธรรมะดีเป็นปัจจัยหนึ่ง แล้วใช้สื่อให้ แพร่หลายก็เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยกว่าจะรู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร มันข้ึนกับบริบทของ สังคมดว้ ย ตอบอย่างเบด็ เสร็จไมไ่ ด้ “แต่ถ้าดูเหตุปัจจัยท้ังหลาย คงยากที่จะได้ผล และคิดว่าไม่คุ้ม เน่ืองจากเทคโนโลยีมีราคา แพง การทาํ ที่สงบในทุกหมู่บ้าน คุ้มคา่ กวา่ และถกู กว่า” หมอประเวศ วะสี กล่าวถึงเทคโนโลยีว่า โดยตัวมันเป็นกลาง ๆ สุดแต่คนจะนําไปใช้ เป็น ประโยชน์ก็มี เป็นโทษก็มี อย่างเรื่องยีน ตอนนี้รู้หมดท้ังสามพันล้านตัวอักษรที่อยู่ใน DNA ของเรา มันมรี หัสอยใู่ นนนั้ สามพนั ลา้ นตัว ซง่ึ ตอนนีม้ ันรู้หมดแลว้ ก็จะมีผลกระทบทัง้ ทางบวกและทางลบ “ผมอยากดึงท่านไปเรื่องประเด็นใหญ่ ว่าเทคโนโลยีเป็นตัวกําหนดสังคม แล้วมันมีลักษณะ อย่างไร.. ตอนที่เทคโนโลยียังเป็นเรื่องการล่าสัตว์ สังคมเป็นสังคมท่ีอยู่กันเป็นกลุ่ม เม่ือพบเทคโนโลยี เกษตร สังคมก็อยู่กันแบบหมู่บ้าน พอพบเทคโนโลยีอุตสาหกรรมก็เกิดเมืองโตข้ึน มาถึงตอนนี้เป็นยุค เทคโนโลยี Information ส่ิงท่ีเกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงคือ มีเทคโนโลยีที่แพงมาก มันจึงเช่ือมกับการ เกดิ ทุนนยิ ม ซงึ่ ทําให้คนแตกต่างกนั มาก “คนที่รวยท่ีสุด ๓๐๐ คนในโลก มีทรัพย์สมบัติมากกว่าคน ๒,๐๐๐ ล้านคน และ ๒๐๐ คน อยใู่ นอเมรกิ า” “พอความตา่ งเกดิ ขึ้น คนกข็ ดั แยง้ กัน ความรุนแรงและอะไรอ่ืน ๆ ก็เกดิ ขึน้ ” หมอประเวศ ช้ีทางออกว่าเราต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี ต้องเข้าใจว่าสังคมในอุดมคติของพุทธ ศาสนา อยากเห็นสังคมท่ีมนุษย์อยู่ร่วมกันได้ดี ท่ีท่านพุทธทาสภิกขุใช้คําว่า “ธรรมิกสังคมนิยม” คือ การอยรู่ ว่ มกัน ไม่ใชต่ ัวใครตัวมัน เปน็ ปัจเจกชนสุดโต่ง ทอดทง้ิ กัน แตใ่ หเ้ ปน็ การคํานึงถึงกนั “เพราะฉะนั้นเทคโนโลยีกับพุทธ ผมคิดว่าเราต้องศึกษาพุทธธรรมให้ดี และพยายามสร้าง สังคมท่ีดี ไม่เช่นน้ันเราจะไม่มีทางควบคุมผลร้ายของเทคโนโลยีท่ีเชื่อมกับทุนนิยม นี่เป็นจุดสําคัญที่ คนไทยเขา้ ใจกันน้อยในทกุ วนั น้ี” ต่อคําถามที่ตั้งเป็นหัวข้อเสวนา “พุทธศาสนากับเทคโนโลยี จะอยู่ร่วมกันอย่างไรให้ สอดคล้องและสมดุล” หมอประเวศชี้ว่าต้องอาศัยพุทธเทคโนโลยี คือการเจริญสติ ฟังดูเหมือนยาก แต่จรงิ ๆ แล้ว ไม่ยาก “มนุษย์เป็นสัตว์ประเภทเดียวท่ีสามารถเห็นตัวเอง เห็นความคิดของตวั เองได้ สติแปลว่าเรารู้ กายเราเป็นอย่างไร หายใจเข้า หายใจออก เดินก็รู้ ก้าวย่างต่าง ๆ ก็รู้ ความทุกข์สุขก็รู้ แล้วจะเจอ ความสุขท่ีไมเ่ คยเจอมากอ่ น และอีกอย่างหน่งึ ท่ที ําไดง้ ่ายและนา่ ทาํ มาก คือ การร่วมทุกข์ คนเด๋ียวนี้มี เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
๑๑๔ ความทุกข์เยอะ ความจน ความเจ็บ เป็นกําพร้า และอีกร้อยแปด ถ้าเราร่วมทุกข์ ความทุกข์ของเรา จะนอ้ ยลง” วงเสวนาวันนั้นไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนตายตัวว่า พุทธศาสนากับเทคโนโลยีจะอยู่ร่วมกันได้ หรือไม่ อย่างไร ในช่วงท้ายของการเสวนา หมอประเวศยกพุทธพจน์ตอนหน่ึงข้ึนมากล่าว เป็นการท้ิง ทา้ ยวงเสวนาท่ีสวยงาม “‘การชมหรือติเตียนไม่ใช่ธรรมะ’ ธรรมะคือการรู้ว่าอะไร ทําให้เกิดอะไร และการส่ือสารใน รูปอ่ืนเพื่อประโยชน์สําหรับการศึกษา การทะนุบํารุง ศาสนา ศิลปะและจัดสรรคลื่นความถี่ สื่อตัวนํา และโครงสร้างพื้นฐานท่ีจําเป็นต่อการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ วิทยุรัฐโทรคมนาคม วัฒนธรรมตามความจําเป็น รัฐส่งเสริมสนับสนุนให้มีการวิจัยและพัฒนา การผลิตและพัฒนา แบบเรียน ตํารา สื่อสง่ิ พิมพ์อน่ื วัสดุอุปกรณแ์ ละเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอ่ืน โดยจัดให้มีเงินสนับสนุน และเปิดให้มีการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม รวมท้ังการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการใช้ เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา ให้มีการพัฒนาบุคลากรท้ังด้านผู้ผลิตและผู้ใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาในโอกาสแรกที่ทําได้ อันจะ นําไปสู่การแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ให้มีการระดมทุน เพ่ือจัดตั้งกองทุน พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา จากเงินอุดหนุนของรัฐ ค่าสัมปทานและผลกําไรท่ีได้จากการดําเนิน กิจการ ด้านส่ือสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ และโทรคมนาคมจากทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้อง ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรประชาชน รวมท้ังให้มีการลดอัตราค่าบริการเป็นพิเศษในการใช้เทคโนโลยี ให้ มีหน่วยงานกลาง ทําหน้าท่ีพิจารณาเสนอนโยบาย แผน ส่งเสริม และประสานการวิจัย การพัฒนา และการใช้ รวมทั้งการประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพของการผลิตและการใช้เทคโนโลยีเพื่อ การศึกษา ขน้ั ตอนและวิธกี ารใชง้ านเทคโนโลยที ีน่ าํ มาใช้เพอ่ื ศาสนา การเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมิได้จํากัดอยู่เฉพาะพระสงฆ์เท่าน้ัน จะเห็นได้ว่าเว็บไซต์ส่วนหน่ึงเป็นของหน่วยงานหรือองค์กรทั้งของรัฐและเอกชน บางเว็บไซต์ ดาํ เนนิ การโดยวดั โดยมีพระสงฆ์เปน็ ผูค้ วบคมุ ดูแล ในอดีตพระสงฆ์มีหน้าที่ศึกษาพระธรรมวินัย และเผยแผ่ธรรมโดยการเทศนาธรรม บรรยาย ธรรมอยู่ในวัด พอมายุคหนึ่งอาจจะมีการออกไปแสดงธรรมตามโรงเรียนหรือสถานที่ต่างๆ นอกวัด บ้าง แต่หลักการสําคัญยังอยู่ภายในวัด ใครอยากรู้อยากศึกษาธรรมะต้องเข้ามาท่ีวัด แต่ในปัจจุบัน เมื่อเทคโนโลยีเจริญขึ้น สื่อต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้รับสารได้แม้จะอยู่ที่บ้าน เพียงแต่มีเครื่องมือรับสาร คือคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ก็สามารถศึกษาค้นคว้าปฏิบัติธรรมได้แล้ว ดังนั้นจึงมี พระสงฆ์กลุ่มหนึ่งพยายามเผยแผ่พระพุทธศาสนา โดยใช้อุปกรณ์ที่สําคัญของยุคสมัยคืออินเทอร์เน็ต ใครที่เปิดเคร่ืองคอมพิวเตอร์และเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตก็สามารถจะรับรู้ข่าวสารจากพระสงฆ์ท่ี ตนต้องการฟังและเคารพเล่ือมใสได้ เทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงเป็นอุปกรณ์ที่สําคัญในการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา พระสงฆ์ซ่ึงเป็นผู้ปฏิบัติการคือเป็นผู้นําเสนอสาระที่ถูกต้อง จึงเป็นเรื่องท่ีควรศึกษา เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ตศิ ักด์ิ ณ สงขลา
๑๑๕ ว่ามีวิธีการและรูปแบบในการเผยแผ่ธรรมะโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไร มีกระบวนการในการ เผยแผ่อย่างไร การสื่อสารและการประเมินผลอย่างไร และประสิทธิผลในการเผยแผ่เป็นอย่างไร อุปสรรคปัญหาในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศโดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตคืออะไร และแนวทางในการ พฒั นาเป็นอย่างไร ดร.สมเกียรติ กล่าวว่า ศาสนากับเทคโนโลยีไปด้วยกันได้ยาก เพราะมันมีความขัดแย้งกันอยู่ ลึก ๆ ศาสนาต้องการมุ่งไปสู่การพัฒนาตัวเองของมนุษย์ ขณะที่เทคโนโลยีส่วนใหญ่ออกแบบมาด้วย จุดประสงค์ ๒ อย่าง คือ เพื่อการสงคราม และแรงผลักดันในเชิงพาณิชย์ ฉะนั้นคําถามสําคัญในยุคท่ี เทคโนโลยเี ป็นใหญใ่ นสงั คม คือ ศาสนาจะมีบทบาทช่วยให้สงั คมกลบั เขา้ สูส่ มดลุ ใหม่ได้อย่างไร ความหวังท่ีจะให้เทคโนโลยีแห่งโลกปัจจุบัน อย่างเช่น อินเตอร์เน็ต เป็นเครื่องมือในการสอน ศาสนาเป็นเพียงการเปิดประตูขั้นแรกเท่าน้ัน แต่คนท่ีสนใจธรรมะหากท่องจากหนังสืออย่างเดียว ไม่ ออกไปไหน อาจท่องจนเมา เมาธรรมะไม่ใช่รู้ธรรม ประโยชน์ของเทคโนโลยีอย่างส่ือทีวีที่สามารถนํา ข่าวสารความรู้ไปถึงเด็ก ๆ ในถิ่นทุรกันดาร พระสันติกโร ต้ังข้อสังเกตว่า เด็กเหล่านั้นจําเป็นต้องฟัง ผ้รู ู้จากแดนไกลหรือเปล่า ทา่ นเช่อื ว่าในหมูบ่ า้ นท่ีเด็กเหลา่ นน้ั อยู่ จะมบี คุ คลทเ่ี หมาะสม ทจ่ี ะพดู คยุ สั่ง สอนเด็กเหล่านั้น “และอีกด้านหนึ่ง แม้จะมีสิ่งดี ๆ เผยแพร่ ผ่านส่ือแบบดี ๆ เด็กเหล่าน้ันจะดูหรือ เปล่า เราไม่มีอํานาจจะให้เขาดู บางคนอาจคิดแปลงธรรมะให้เป็นเพลง เป็นหนังท่ีเด็กชอบ ก็ถามว่า เด็กดูทําไม ดูเพื่อเอาสีสัน ดูเอาความสวยความหล่อของพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้ดูเพื่อเอาธรรมะ ฉะน้ันเรา ไม่แน่ใจ คดิ ว่าเปน็ ความเช่ือมากกว่าความจริง” การใช้เทคโนโลยีกบั การเผยแผ่พุทธศาสนา การศกึ ษา ธรรมะใกล้มือเผยแผ่ธรรมะผ่านเทคโนโลยี ปัจจัย 5 ท่ีทุกคนขาดไม่ได้ในยุคโลกาภิวัฒน์เช่นน้ี คงไม่ปฏิเสธกันว่าคือโทรศัพท์มือถือไม่ เพียงเวลาไม่ก่ีสิบปีเท่าน้ัน จากโทรศัพท์ที่ต้องมีสายระโยงระยาง ก็เป็นโทรศัพท์ไร้สาย จาก โทรศพั ท์มือถือท่ีคยุ แล้วไมเ่ ห็นหน้า ทุกวนั น้ีกส็ ามารถคยุ โตต้ อบกนั ได้โดยสามารถเห็นหน้าของอีกฝา่ ย ได้แล้ว และโทรศัพท์ก็เล็กบางกว่ารุ่นแรกๆ อย่างเหลือเช่ือ ยิ่งความทันสมัยของเทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงสังคมมากขึ้นเท่าใด ดูเหมือนว่าวัตถุนิยมย่ิงทําให้ความเจริญทางด้านจิตใจกลับสวนทาง กัน ห่างไกลศาสนามากย่ิงขึ้น เพราะแต่ละวัน จิตใจหลงระเริงไปกับส่ิงย่ัวยุท่ีเป็นวัตถุต่างๆ ทั้งรูป รส กลน่ิ เสยี ง จากข้อมลู ของสถาบันรามจิตติในโครงการ Child Watch ที่ได้รบั การสนับสนุนจากสํานักงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ท่ีเก็บข้อมูลของการใช้ชีวิตของเด็กช่วงวัยต่างๆ ตั้งแต่ ประถม มัธยมต้น มัธยมปลาย อาชีวศึกษา จนถึงอุดมศึกษาด้วยกลุ่มตัวอย่างท่ัวประเทศกว่า 140,000 คนในปี 2549 - 2550 ทผ่ี า่ นมาพบว่า เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตติศกั ดิ์ ณ สงขลา
๑๑๖ \"เด็กเพียง 10% ท่ีประกอบกิจกรรมทางศาสนาอย่างสมํ่าเสมอ และมีเด็ก 25% ที่สวดมนต์ ก่อนนอนเป็นประจํา ขณะท่ีเด็กมัธยมศึกษากว่า 65% มีโทรศัพท์มือถือแล้ว แล้วใช้เวลาคุยโทรศัพท์ เฉลี่ยวันละ 93 นาที นอกจากน้ี 10-12% ที่ใช้โทรศัพท์มือถือส่ง SMS หรือโหลดภาพ โหลดเพลง โหลดเกมเปน็ ประจาํ ทกุ วัน\" เม่ือเป็นเช่นนี้ การหล่อหลอมความเจริญในจิตใจของปุถุชนยุคไซเบอร์จําเป็นต้องพ่ึงพา เทคโนโลยีเปน็ ตวั ช่วยกล่อมเกลาดว้ ย \"โครงการธรรมะใกล้มือ\" เป็นการเผยแผ่ธรรมะอย่างทันสมัย โดยส่งถึงคนได้อย่างสะดวก น่าสนใจ ได้สาระธรรม ตรงตามความต้องการ สอดคล้องกับสภาพทางสังคมและการสื่อสารสมัย ปัจจุบันที่ส่งตรงเข้าโทรศัพท์มือถือเป็นธรรมะประจําวัน และผู้รับบริการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะ เป็นธรรมทานอยา่ งหนงึ่ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงาน ทั้งสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สขุ ภาพ (สสส.) กบั บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอรว์ ิส จาํ กดั (มหาชน) หรอื เอไอเอส \"ขณะน้ีมีการเก็บรวบรวมเสียงธรรมะของท่านพระพุทธทาสประมาณ 2-3 หม่ืนช้ินเก็บรักษา ไว้ที่หอจดหมายเหตุ โดยจะมีการจัดหมวดหมู่ใหม่ ท่ีสามารถเผยแผ่เพื่อช่วยสังคมและประชาชนได้ ทันที ในระหว่างการดําเนินการอนุรักษ์งานต้นฉบับพร้อมกับการจัดระบบฐานข้อมูล ซ่ึงต้องจัดสร้าง อาคารสถานท่ี การใช้ช่องทางการส่ือสารเพอื่ เสริมสร้างสตปิ ัญญาและจิตใจให้เจริญเติบโตจนกล้าแข็ง จงึ ถือเป็นส่ิงท่ีมปี ระโยชน์ ดําเนนิ การมานาน 1 ปีเศษแลว้ ดังน้ัน ถ้ามองย้อนกลับไปในอดีตการบรรยายธรรม พระสงฆ์จะต้องนําใบลานไปเทศน์ด้วย จากน้ันก็เปลี่ยนแปลงเป็นหนังสือธรรมะ แต่วันน้ีโดยเทคโนโลยีทางโทรศัพท์มือถือ ช่วยให้ธรรมะใกล้ มือ ใกล้ตัว ใกล้ใจ หลักพุทธธรรมของศาสนาพุทธคือการมีค่าทุกเวลา โชคดีขณะนี้เรามีปราชญ์ทาง ศาสนาพุทธหลายคน สามารถนํามาประยุกต์ไปเผยแพร่ จะเป็นเคร่ืองมือสืบสานพุทธศาสนาไปยังรุ่น ลูกหลานต่อไป ในฐานะที่ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการจัดตั้งหอ จดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญได้กล่าวถึงโครงการดีๆ เช่นนี้ \"ธรรมะใกล้ตัว\" ผู้รับบริการไม่ต้อง เสียค่าใช้จ่ายเพ่ิมเตมิ ในการเปิดฟังธรรมะน้ีแบ่งเป็น 2 ชนิดคอื 1.การฟงั คลิปเสียงธรรมะ ผใู้ ช้บริการ เอ.ไอ.เอสสามารถกด *272 แล้งโทรออก เพื่อรับฟังเสียงธรรมะ ซึ่งมีความยาวประมาณ 1-3 นาที ในหัวข้อต่างๆ ไดแ้ ก่ ธรรมะวันน้ี, ธรรมะสามัญคลายเครยี ด, ธรรมะกับการงานและอาชีพ, ธรรมะกับ ความรัก, ธรรมะกับครอบครัว, ธรรมะกับการสร้างสุข และธรรมะประจําวัน นอกจากน้ันยังสามารถ รับฟังธรรมะย้อนหลังได้อีก 1 สัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มเผยแผ่ได้ต้ังแต่วันที่ 28 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป และ ทยอยเพิ่มระบบบริการจนสมบูรณ์เพื่อเป็นธรรมพรปีใหม่ก่อนส้ินปี 2551 นี้ 2.การรับข้อความสั้น หรือ SMS คตธิ รรมสอนใจ วนั ละ 1 ข้อความ โดยสามารถใช้บรกิ ารได้ฟรีต้ังแตว่ ันท่ี 14 พฤศจิกายน 2551 เป็นตน้ ไป เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ติศักดิ์ ณ สงขลา
๑๑๗ หนึ่งในภาคีธรรมที่ร่วมงานเผยแผ่ความดีครั้งนี้ คือ นพ.บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและ เลขานุการมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ อธิบายถึงข้ันตอนกว่าที่จะมาเป็นคลิปธรรมะ ท้ังหลายว่า การทํางานคร้ังน้ีเป็นการร่วมมือกันทํางานแบบอาสาสมัครธรรม อาสาสมัครหอจดหมาย เหตุช่วยกันคัดสรรและตัดต่อข้อธรรมท่ีเหมาะๆ แล้วทําข้อสรุปสาระสําคัญพร้อมกับคําสําคัญสําหรับ สืบค้นส่งให้อาสาสมัครบริษัทเพลย์เวร์คปรับปรุงคุณภาพเสียงและระบบซอฟท์แวร์และให้บริการ เพื่อให้บริษัท เอ.ไอ.เอส ซ่ึงอาสาบริการเครือข่ายสู่สาธารณะ โดยไม่มีการเรียบรับค่าบริการ หรือค่า ดําเนินการแต่อย่างใด เพ่ือเป็นการปฏิบัติธรรมเพ่ือธรรมทาน และหากใครอยากฟังแบบเต็มๆ จุใจ สามารถเข้าดูได้ท่ีเว็บไซต์ www.dhamma4u.com ซึ่งเป็นระบบทั้งหมดจะเชื่อมต่อเข้ากับระบบ ฐานข้อมลู หลักของหอจดหมายเหตุฯ ดว้ ย \"ไม่เพียงแต่ข้อธรรมของพระพุทธทาสเท่าน้ัน หอจดหมายเหตุฯได้สรรหาสาระธรรมจากพระ รูปอื่นๆ ท่ีหลากหลาย ซึ่งได้รับเมตตาจากพระคุณเจ้าอีก 3 รูป คือ พระเดชพระคุณเจ้าพระพรหม คณุ าภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต), พระโพศาล วิสาโล และพระมหาวุฒิชัย วรเมธี (ว.วชิรเมธี) นําเสนอเสียงใน การเผยแพร่โครงการน้ี และมีเสียงที่บันทึกใหม่เพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ\" ท้ายสุดคุณหมอเห็นว่า อยา่ งน้อยโครงการน้ีจะทําให้ธรรมะไปสคู่ นเหลา่ นั้นไดอ้ ย่างถึงมือ และสามารถเลือกหวั ข้อทเ่ี หมาะสม กับแต่ละคนได้ เมื่อได้ฟังธรรมะบ่อยๆ ก็ย่อมทําให้เกิดความเคยชินกับสิ่งดีงาม จนนํามาสู่การปฏิบัติ อย่างเป็นธรรมย่อมส่งผลที่ดีต่อครอบครัว องค์กร สังคม และหากมีคนได้รับฟังและนํามาพูดคุยกันก็ จะเปน็ การวเิ คราะห์ สังเคราะหธ์ รรมะ ขดั เกลาจติ ใจใหด้ ขี นึ้ ได้ หากเราๆ ท่านๆ ได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองที่ปรากฏในสื่อมวลชนแขนงต่างๆ น้ัน จะพบว่า แทบทุกวันมักจะมีข่าวในทางลบเกี่ยวกับเยาวชน จะหนักจะเบาก็แล้วแต่กรรมแต่วาระของแต่ละคน และเม่ือเร็วๆ น้ีข้าพเจ้ามีโอกาสได้รับฟังจากปากของพ่อเมืองสุรินทร์ว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจาก เยาวชนเพิ่มและรุนแรงมากขน้ึ กว่าเก่ากอ่ นมาก ปรากฏการณ์เช่นนี้ มันลามไปทุกหัวระแหงของประเทศไทย ท้ังเป็นและไม่เป็นข่าวบ้าง ทั้งนี้ คนในชุมชนย่อมรู้จักดี ถึงแม้ทางการจะหามาตรการและวิธีการต่างๆ มาป้องกัน แก้ปัญหา แต่ดู เหมือนจะเป็นปลายเหตุเสียมากกว่า ข้าพเจ้ายังเช่ือมั่นว่าวิธีทางตามแนวพระพุทธศาสนา จะเป็น หนทางหนง่ึ ท่ีบรรเทาหรือเยียวยาปัญหาทเ่ี กดิ ในทุกวนั นี้ได้ นอกจากปัญหาศีลธรรมทีต่ กต่ําของเยาวชนแล้ว ปัญหาการคอรปั ชน่ั ในบ้านเมอื งเราก็จะค่อย ลดน้อยถอยลงในอนาคตอีกด้วย หรือคนที่กําลังทําอยู่และคิดจะทํา ก็คงรู้สึกละอายแก่ใจ หากคนใน สังคมพากันต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการกระทําผิดเหล่านั้น เว้นเสียแต่ว่า บุคคลน้ันจะไม่มี หิรโิ อตตัปปะ อยใู่ นจติ ใจหรือกมลสันดาน เราต้องยอมรบั ว่าคนไทยทกุ วนั น้ี กําลังชื่นชมกบั ความสําเรจ็ ของคนทางดา้ นวัตถุ ถึงแม้วา่ เขา จะทําธุรกิจท่ีทําให้เยาวชนไทย กลายเป็นคนที่หันเข้าหาความเสื่อมถอยทางศีลธรรมมากข้ึน ภาพ ข้างบนนั้น เป็นภาพถ่ายเม่ือเร็วๆ นี้จากนครลอสแองเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นภาพข่าวจาก หนงั สอื พิมพ์ทีข่ า้ พเจา้ ได้มีโอกาสรว่ มงานด้วย เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ กั ด์ิ ณ สงขลา
๑๑๘ อย่าว่าอย่างโน้นอย่างน้ีเลย ณ วันนี้ ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณคนไทยที่นั่น ท่ีให้โอกาสและที่ ยืนกับข้าพเจ้ามาเป็นเวลาเกือบ ๒ ปีแล้ว หากท่านอ่านบทความของข้าพเจ้ามาโดยตลอด ข้าพเจ้า มักจะพูดถึงกิจกรรมท่ีข้าพเจ้าได้ไปปฏิบัติท่ีวัดไทย ลอสแองเจลิส อยู่บ่อยๆ และข้าพเจ้าก็ยังคงจะ กลา่ วถึงอยตู่ อ่ ไป อย่างท่ีเรียนใหท้ ราบว่าตอนต้นว่า ทุกวันน้ี ศีลธรรมของเยาวชนและคนไทยเรมิ่ ถอยลงทุกวัน ซึ่งหลายๆ หน่วยงานในภาครัฐ ต่างก็หาทางแก้ไขกันอยู่ ... ยํ้าอีกครั้ง เราต้องยอมรับ เมื่อข้าพเจ้ามี โอกาสไปปฏิบัตหิ นา้ ทอี่ ยทู่ ่ีวัด และได้ซมึ ซับรบั เอาวัตรปฏบิ ตั ิและคําสอนในช่วงนั้น กอปรกบั ท่ีคาํ สอน ที่หลวงเต่ียหรือพระธรรมราชานุวัตร ได้ให้ไว้ก่อนเดินทาง ถึงแม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่ คุณูปการท่ีท่านได้มอบไว้กับวงการพระพุทธศาสนารวมถึงการที่ท่านได้ให้โอกาสข้าพเจ้า นี่เป็นสิ่ง หนึ่งท่ีข้าพเจ้าปวารณาตัวไว้ว่า จะนําความรู้ความสามารถเท่าที่จะมีและทําได้ รับใช้พระพุทธศาสนา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หลายๆ ท่านได้กล่าวถึงเว็บไซต์ของข้าพเจ้าว่าเปลี่ยนไปจากแนวทางของ เทคโนโลยีการศึกษา จะกลายเป็นเว็บไซต์ธรรมะไปเสียแล้ว เป็นเจตนารมณ์ของข้าพเจ้าเอง ท่ีจะ ผสมผสานท้ังเทคโนโลยีการศึกษาและพุทธศาสนา เพ่ือการเผยแผ่ให้ได้มากที่สุด เท่าที่ข้าพเจ้าจะทํา ได้ อาจดูเหมือนข้าพเจ้าจะกล่าวโอ้อวดหรือยกยอตนเองมากเกินไป แต่ข้าพเจ้าต้ังใจท่ีจะทําเช่นนั้น ตามกําลังของข้าพเจ้านะครับ ตามที่ข้าพเจ้าจ่ัวหัวไว้ \"เทคโนโลยีการศึกษากับการส่งเสริม พระพุทธศาสนา\" ข้าพเจ้าคิดเอาไว้ ทําอย่างไรจะให้ พระธรรมคําสอน เข้าสู่ระบบการศึกษาใน รูปแบบของสื่อที่ทันสมัยและน่าสนใจมากท่ีสุด แน่นอน ... เร่ืองน้ีไม่ใช่ข้าพเจ้าคิดคนแรกแน่ๆ และมี หลายๆ หน่วยงานนําไปปฏิบัติแล้ว พระไตรปิฎกก็ยังถูกบรรจุไว้ใน CD-ROM เรียบร้อยแล้ว CAI ท่ีมี เนื้อหาเกี่ยวกับหลักธรรมคําสอนก็มีไม่น้อย ... เพียงแต่ว่า (ให้ท่านไปหาคําตอบเอาเอง) ข้าพเจ้า กล่าวย้ําอยู่เสมอว่า ทุกวันน้ีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จู่โจมเข้าถึงบ้านคนในแวดวง การศึกษา จนต้ังตัวแทบไม่ทัน กลับกลายเป็นว่าครูต้องมาทํางานเอกสารกันให้วุ่นไปหมด... ท้ังๆ ที่ เม่ือก่อนหน้านี้สัก ๑๐ ปี มีการคาดเดากันว่าหากหน่วยงานต่างๆ มีคอมพิวเตอร์ใช้แล้ว อัตราการใช้ กระดาษจะลดลง หรือกลายเป็นสํานักงานไร้กระดาษ มาถึงวันนี้ กลับกลายเป็นว่าอัตราการใช้ กระดาษเพ่ิมเป็น ๓๐๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ งานเอกสารล้นงานครูจนแทบไม่มีเวลาทําอย่างอ่ืนกันแล้ว ให้ เราตรึกตรองกันดูเถิด นี่ก็เป็นอีกเร่ืองหน่ึงของการใช้เทคโนโลยี ขณะที่โลกตะวันตกซ่ึงเจริญพรั่ง พร้อมด้านวัตถุ จนอีก ๑๐๐ ปีเมืองไทยก็ตามไม่ทัน หากเรามัววิ่งตามตัวเลขทางเศรษฐกิจ เพ่ือความ รุ่มรวยของคนไม่กี่จําพวก แต่คนส่วนใหญ่ยังยากจนเหมือนเดิม จะมีประโยชน์อะไรในการมีประเทศ วันน้ี เราต้องยอมรับโดยดีว่า คนท่ีพร่ังพร้อมด้านวัตถุเริ่มหันมาสนใจเรื่องราวภายในและแสวงหา ความสันติเพิ่มมากข้ึน โดยเฉพาะหลักธรรมคําสอนของพระพุทธองค์ เป็นนัยบางอย่างท่ีเราต้องขบ คิด และในฐานะที่ผมคิดว่าผมเป็นนักเทคโนโลยีการศึกษา (นอกระบบ) และผมก็เห็นว่าเราควรจะทํา ให้เรอ่ื งราวของพระพุทธศาสนารวมถึงหลกั ธรรมคําสอนเป็นเร่ืองสนุกในห้องเรียน เพื่อให้เยาวชนของ เราเติบใหญ่เป็นคนที่มีคุณภาพ ไม่เป็นคนจอมปลอม คอรัปชั่นจนไม่ลืมหูลืมตา กรุงโรมไม่ได้สร้าง เสร็จในวันเดียวแม่นํ้าเทมส์ ใช้เวลากว่า ๑๐๐ ในการเยียวยาให้เป็นแม่น้ําที่ใสสะอาด ฉันใดก็ฉันนั้น เร่มิ คิดเริ่มทําวันนี้ ด้วยความมุ่งมน่ั และต้ังใจ ผมเชอื่ วา่ เราประสบความสาํ เร็จแนน่ อนครบั เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตติศกั ดิ์ ณ สงขลา
๑๑๙ เทคโนโลยีสารสนเทศกับพระสงฆ์ สถานการณ์พระพุทธศาสนาในปัจจุบันมีหลายสิ่งหลายอย่างท่ีกําลังเกิดขึ้นและแทบจะแยก ไม่ออกเลยว่า นั้นคือหลักของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ลองทบทวนกันดูว่าส่ิงท่ีปรากฏในปัจจุบันจะได้ ช่ือว่าเป็นหลักคําสอนของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ในสังคมปัจจุบันจะนิยมเรื่องของเทคโนโลยี สารสนเทศ ในวงการ พระพทุ ธศาสนาก็พยายามท่จี ะพฒั นาหรอื ว่าจะใชศ้ าสนาให้เปน็ ประโยชน์ในยุค เทคโนโลยีแก่สังคม ซึ่งเป็นเร่ือง แน่นอนที่ศาสนาจะต้องเปล่ียนแปลงตามยุคตามสมัยออกมาใน รูปแบบต่างๆ คือถ้าสังคมเปล่ียนพระพุทธศาสนาก็เปล่ียน และความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เห็นอยู่ ในปัจจุบันมีการเปล่ียนแปลงก้าวหน้าไปมาก แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นน้ันก็ไม่ได้เปล่ียนแปลงไปแบบ พัฒนาเสมอไปย่อมมีส่ิงที่แปลกปลอมแทรกแซงเข้ามาในสังคมมากข้ึนและความแปเลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะทุกวันน้ีสังคมและเศรษฐกิจก็กระทบต่อ พระพุทธศาสนา เมื่อเศรษฐกิจตกต่ํา คนเดือดร้อนค่านิยมท่ีเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนาก็เปลี่ยนไป ปัจจุบันความเจริญทางวัตถุคืบหน้าไปไกลกว่าความเจริญทางจิตใจมาก คนตกเป็นทาสของวัตถุนิยม และบริโภคนิยม เห็นแก่ตัวมากข้ึน ขาดความเอื้ออาทรและช่วยเหลือกัน ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ไม่เช่ือ เรอื่ งการทาํ ดีได้ดี ทําชว่ั ได้ชัว่ จึงเกิดปัญหาทกุ หย่อมหญา้ แมแ้ ตใ่ น รัฐบาลในวดั ในมหาวิทยาลัยที่เป็น สถาบันชั้นสูงของประเทศ กระแสโลกาภิวัตน์ การส่ือสารไรพ้ รมแดน คนไทยจํานวนมากตกเป็นเหยื่อ ของข้อมูลข่าวสาร การโฆษณา และโฆษณาชวนเชื่อ ทางวัตถุนิยม ขณะท่ีข้อมูลข่าวสารทางจิตนิยม แทบจะไม่มีสภาพท่ัวไปในโลกปัจจุบันนี้ ข่าวสารข้อมูลมีอิทธิพลอย่างกว้างขวาง และมีความ เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ส่งผลให้ขอ้ มูลและข่าวสารแพร่กระจายไปในเวลาอันรวดเรว็ ครอบคลุม ไปทั่วโลก ทําให้โลกแคบลงเหมือนเป็นชุมชนเดียวกนั เป็นหมู่บ้าน (global village) การเชื่อมโยงด้าน สารสนเทศเป็นสิ่งสําคัญในการสร้างโอกาสทางการศึกษา และการพัฒนาตนเอง ทําให้เข้าถึงแหล่ง ความรู้ที่ต้องการได้มากข้ึน เป็นระบบการเรียนรู้ท่ีเปิดกว้าง ไม่จํากัดเวลา สถานท่ี และเข้าถึงผู้คน ได้มากท่ีสุด ดังน้ัน คณะสงฆ์ไทย ได้ตระหนักถึงความสําคัญของการใช้สื่อจากวิทยาการ และ เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพ่ือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จึงได้จัดทําโครงการศูนย์เผยแผ่พุทธศาสนาทาง เทคโนโลยีสารสนเทศ ขึน้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อเป็นการประชาสัมพนั ธ์ บริการวิชาการพระพุทธศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณีอนั ดี งานของชาวพุทธ และแถลงกิจการของคณะสงฆไ์ ทย ดว้ ยส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. เพื่อสร้างเครือข่าย ของการเผยแผ่พุทธศาสนาให้ขยายออกไปได้กว้างขวางยิ่งขึ้น และจะ เปน็ แรงกระตุ้นให้แก่วัดอ่ืนๆ ในการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา 3. เพ่ือเป็นการช่วยให้พระสงฆ์ และผู้สนใจท่ัวไป สามารถใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ผลิตสื่อ ตา่ งๆ ในการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนา 4. เพื่อประสานความร่วมมือในการทํางานเผยแผ่พระพุทธศาสนาระหว่างพระสงฆ์ และ ฆราวาสในระดบั นานาชาติ ดังนั้นในยุคสมัยใหม่นี้สิ่งที่ต้องระวังอย่างมากคือลัทธิแนวความคิดแบบตะวันตกที่กําลัง หล่ังไหลเข้าสู่สังคมไทย ไม่ใช่ว่าไม่ดีถ้าเรารู้จักใช้รูจ้ ักปรับจะเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์กับเราในแงข่ อง กระแสความเจริญทางวัฒนธรรมและทางการส่ือสารเทคโนโลยีสารสนเทศจะมีผลทําให้เกิดการ เปล่ียนแปลงตามหลักธรรมชาติท่ีต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงเราจะทําอย่างไรให้เป็นความเปล่ียนแปลง ท่ียังสามารถรักษาเอกลักษณ์และยังคงความเป็นพระพุทธศาสนาที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ อีกมุม เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโนม้ การศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กิตติศกั ดิ์ ณ สงขลา
๑๒๐ หน่ึงคือสิ่งที่ปรากฏขึ้นในสังคมจะมีการเปลเล่ียนแปลงในเชิงลบนั้นเราจะทําอย่างไรจะไม่ให้เกิด ผลกระทบในเชิงลบต่อพระพุทธศาสนาไม่ให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมท่ีมีชาติ ภาษา วัฒนธรรม จารีตประเพณีเป็นของตนเอง มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจแบบเกษตรกรรม ช่วยเหลือ เก้ือกูลมีเมตาธรรมต่อกันซึ่งได้รับการปลูกฝังมาแต่เยาว์วัย ปัจจุบันคุณธรรมเหล่าน้ีกําลังสูญหายไป ท่ามกลางกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลง ความเจริญทางด้านวัตถุ การแข่งขันกําลังเข้ามาอยู่เหนือ คุณธรรม มนุษย์ต้องทําทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด นึกถึงประโยชน์ของตนเป็นหลักทําให้ลืมคุณค่า ทางจิตใจอนั เป็นคุณธรรมในการอยู่ร่วมกนั ในสังคม จากการศึกษาการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศาสนา ศิลปะและ วัฒนธรรม สรุปได้ดังนี้ เปน็ การนําเทคโนโลยีสารสนเทศมาเพอ่ื เผยแผห่ ลกั ธรรมคาํ สอนของศาสนา หรือส่งเสริมพุทธศาสนานําเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนางานศิลปะและวัฒนธรรมลดข้ันตอนการผลิต สร้างสรรค์งานได้สะดวกรวดเร็ว เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ิตตศิ กั ด์ิ ณ สงขลา
๑๒๑ คําถามทา้ ยบท ๑. พระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ กล่าวถงึ การใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศกึ ษาไวอ้ ยา่ งไร ? ๒. เทคโนโลยีมีผลต่อการการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาอย่างไร มขี อ้ ดี มีข้อเสยี อยา่ งไร? ๓. ท่านคิดว่า เทคโนโลยีมีประโยชนห์ รือมีโทษต่อพระพุทธศาสนามากกว่า? เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโนม้ การศึกษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กิตตศิ ักดิ์ ณ สงขลา
บทท่ี ๘ แนวโนม้ การจัดการศกึ ษาไทยกบั พระพุทธศาสนา วตั ถปุ ระสงค์ประจาํ บท ๑. เพอื่ ให้นิสติ รู้ เขา้ ใจ สามารถอธิบายถึงการปฏิรปู การศกึ ษาในประเทศไทยได้ ๒. เพื่อใหน้ ิสติ สามารถวเิ คราะหก์ ารจัดการศึกษาของไทยกับพระพทุ ธศาสนาได้
๑๒๓ กรอบเน้ือหา ๑. การปฏริ ูปการศกึ ษากับการศึกษาคณะสงฆ์ ๒. แนวโนม้ การจัดการศึกษากับพระพุทธศาสนา แนวคิด ๑. ท่ีผ่านมาการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์เป็นไปแบบตามมีตามเกิด งบประมาณไม่เพียงพอ ต้องช่วยเหลือตัวเองมาก ผลจึงออกมาไม่ได้มากเท่าท่ีควร แต่คิดว่าเม่ือมีการจัดการศึกษาตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ ซ่ึงกําหนดไว้ว่ารัฐต้องสนับสนุนงบประมาณ การ จัดการศาสนศึกษาคงได้รับงบประมาณเต็มเม็ดเต็มหน่วย พระสงฆ์ท่ีท่านจัดการศึกษาและรัก การศึกษาทา่ นก็หวังและรอคอยตรงจุดนก้ี ันอยู่ ๒. ที่ผ่านมาโรงเรียนท่ีสอนศาสนา สอนเฉพาะทฤษฎี ไม่ไดเ้ น้นสอนการปฏิบัติให้มากเพราะ บางครั้งเด็กก็ไม่เข้าใจคําสอนบางคํา และสอนวิปัสสนาในภาคปฏิบัติน้อย แต่พระสงฆ์เองก็มี ข้อจํากัดในการไปสอนในโรงเรียนโดยเฉพาะการสอนกรรมฐาน คือพระสงฆ์มีไม่พอท่ีจะเข้าไปสอนใน โรงเรยี นทุกแห่งได้ ภิกษสุ ามเณรในแต่ละปมี ีประมาณ ๓ แสนรูป แต่เป็นพระผู้ใหญท่ ี่ทาํ งานคณะสงฆ์ บ้าง เป็นพระชราภาพบ้าง กําลังศึกษาเล่าเรียนเองบ้าง เป็นสามเณรเล็กๆ บ้าง ที่มีศักยภาพและมี เวลาพอท่ีจะไปสอนตามโรงเรียนต่างๆ ได้ก็มีเป็นหม่ืนรูปเท่านั้น แต่โรงเรียนในประเทศทุกระดับมี มากกว่านัน้ มากมาย เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ตศิ ักด์ิ ณ สงขลา
๑๒๔ การปฏริ ปู การศกึ ษากบั การศึกษาคณะสงฆ์ พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ได้กล่าวไว้ว่า การจัดการศึกษาของคณะสงฆ์นั้น เป็น การจัดการศึกษาที่เรียกว่า \"การศาสนศึกษา\" จัดโดยมีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายเป็น ๓ ระดับ คือ ระดับที่ ๑ จัดเพื่อตัวบคุ คล ระดับท่ี ๒ จัดเพอ่ื พระศาสนา ระดับที่ ๓ จดั เพอ่ื สงั คม การจดั การศกึ ษาเพือ่ ตวั บุคคล การจัดการศึกษาเพ่ือตัวบุคคล คือภิกษุสามเณรทุกรูปที่บวชมาจะต้องศึกษาหลักเบื้องต้นคือ พระวินัย การศึกษาพระวินัยก็คือศึกษาเร่ืองศีลของภิกษุสามเณร ระเบียบปฏิบัติทางศาสนา รวมถึง ธรรมเนียมตา่ งๆ เป็นการศึกษาเพอ่ื รักษาตวั เอง เพ่ือปฏิบัตไิ ดถ้ ูกต้อง ทําไดถ้ กู ต้อง ตลอดถึงศึกษาเพื่อ เอาตัวให้รอด คือหลุดพ้นจากความทุกข์ เช่นศึกษาและปฏิบัติกรรมฐาน การจัดการศึกษาแบบนี้เป็น การจัดให้เฉพาะตัวบุคคล ได้ประโยชน์เฉพาะตัว ใครทําใครได้ และเอาตัวรอดได้ โดยจะเรียนตาม อัธยาศยั เรียนจากตาํ รา หรอื จากครอู าจารย์ก็ได้ การจดั การศกึ ษาเพ่อื พระศาสนา การจัดการศึกษาเพ่ือพระศาสนา คือจัดหลักสูตรให้เป็นประโยชน์ในเชิงธํารงรักษาเน้ือหา สาระหรือแก่นสารพระศาสนาเข้าไว้ ได้แก่ การเรียนนักธรรมและบาลี หลักสูตรที่ใช้เรียนก็มีเน้ือหาที่ มีมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้า โดยนําพระไตรปิฎกและหลักธรรมต่างๆ มาย่อแล้วเรียนกัน เรียนเพ่ือ รักษาพระพุทธศาสนา เรียกกันวา่ เรยี นพระพุทธพจน์ ท่ีพระพทุ ธศาสนาดาํ รงคงอยู่และสบื ต่อมาได้ทุก วันนี้โดยไม่สูญหายหรือผิดเพี้ยนไป และมีการสืบทอดพัฒนาตลอดมาก็เพราะได้อาศัยการศึกษาเล่า เรยี นแบบนี้ การจดั การศึกษาเพอื่ สังคม การจัดการศึกษาเพื่อสังคม การศึกษาแบบนเี้ ป็นการจัดการศึกษาเพอื่ ช่วยเหลือสังคมคือลูก ชาวบ้านโดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา กล่าวคอื สมยั แรกๆ รัฐไม่สามารถจัดการศกึ ษาได้ทว่ั ถึง ทําให้ลูกชาวบ้านผู้ใฝ่รู้แต่ยากจนไม่มีโอกาสได้เรียน จึงอาศัยมาบวชเป็นสามเณรจึงได้เรียน การเรียน แบบนี้เรียกกันว่า \"พระปริยัติธรรมแผนกสามัญ\" คือเรียนวิชาทางโลกควบคู่กันไปกับเรียนทางธรรม ตามแบบท่ี ๒ เม่ือเรียนจบแล้วก็สึกหาลาเพศไป และสามารถใช้ความรู้ไปประกอบอาชีพเป็นพลเมือง ดีของชาติต่อไปได้ การจดั การศึกษาแบบน้ีจึงเป็นการช่วยเหลือสังคมหรอื ผลิตคนที่มีคุณภาพให้สังคม ได้ทางหน่งึ ยังมีการจัดการศึกษาอีกประเภทหนึ่งท่ีนับเข้าในระดับน้ี คือมหาวิทยาลัยสงฆ์ มี ๒ แห่ง คือ มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย และมหาวทิ ยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ท้ังสองแห่งน้ีสอน ระดับปริญญา พื้นฐานของภิกษุสามเณรท่ีจะเข้าเรียนต้องผ่านการศึกษา ๓ ระดับข้างต้นมาก่อน การ จัดการศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์ก็เพ่ือผลิตพระบัณฑิตออกไปรับใช้พระศาสนาและช่วยเหลือสังคม เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดย…อาจารย์กิตติศักดิ์ ณ สงขลา
๑๒๕ คือเม่ือเรียนกันจบแล้วหากยังบวชอยู่ไปก็รับใช้ พระศาสนา หากสึกออกไปก็ไปรับใช้สังคม เป็น ประโยชน์ต่อสงั คม สําหรับการจัดการศึกษาสงเคราะห์ หมายถึง การจัดการศึกษาให้แก่เยาวชน เป็นการดึง เยาวชนเข้ามาเรียนในวัด มีพระเป็นผู้สอนหรือควบคุมดูแลใกล้ชิด โดยเปิดวัดให้เป็นโรงเรียน พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เป็นโรงเรียนการกุศลของวัด เป็นศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ ระบบน้ีคณะ สงฆ์ทํามาก่อนจะมีพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ แต่เม่ือพระราชบัญญัติน้ีออกมาก็ จะเอื้อประโยชน์แก่การจัดการศึกษาระบบน้ีให้มีความ เข้มแข็งมีประสิทธิภาพมากข้ึน ได้รับผลมาก ข้ึน มีประโยชน์มากขึ้น ตามพระราชบัญญัติระบุว่าวัด สามารถจัดการศึกษาโดยนําเด็กเข้ามาเรียนใน วัดได้ รัฐจะสนับสนุนเตม็ ท่ี ซึ่งการจดั การสงเคราะห์ เรื่องการศกึ ษาแกเ่ ยาวชนอยา่ งนี้วัดจํานวนมากก็ จัดทําดําเนินการกันอยู่แล้วไม่น้อย กระจายอยู่ทั่ว ประเทศ นับร้อยนับพันแห่ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะที่วัดราชโอรสารามทํามานานแล้ว แต่ทําในรูปของการส่งพระไปสอนในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใน วัด นาํ นกั เรยี นเขา้ มาในวดั นุง่ ขาวหม่ ขาว ถือศีลแปด ปฏิบัติกรรมฐาน ใช้เวลา ๒ คืน ๓ วัน จดั เป็นรุ่น ตลอดทั้งปี เวียนกันไป และต้องทําอย่างน้ีคนละ ๑ คร้ังต่อปี นอกจากน้ันยังกําหนดให้นักเรียนเรียน ธรรมศึกษาและสอบกัน ปรากฏว่าก่อนจบ ม.๖ มีนักเรียนสอบได้ช้ันธรรมศึกษาเอกจํานวนไม่น้อย การทําแบบนีเ้ ปน็ การนาํ เดก็ เข้าวดั และนาํ ใหห้ ่างยาเสพติดทีห่ ่วงกันอยู่ได้ด้วย ขณะนี้มีการปฏิรูปการเรียนรู้ โดยเน้นการสอนศาสนากับการปฏิรูปการเรียนรู้ สามารถใช้ กระบวนการดังกล่าวข้างต้น ไปใช้ได้เลย (พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) แต่ก็มีข้อแม้อยู่ คือ ตามปกติวัดก็มีขอบเขตจํากัดของวัด ทางพระจะไปเรียกร้องมากขอมากก็ไม่ได้ แม้อยากจะทํา อยากจะช่วยแต่ไม่มีโอกาสก็ทําไม่ได้ ก็อยู่ที่รัฐจะเปิดโอกาสให้ โรงเรียนจะเปิดโอกาสให้ วัดเปิดอยู่ แล้ว จะพบกันครึ่งทางก็ได้ คือวัดเปิดให้เด็กเข้ามาเรียนรู้ในวัด หรือโรงเรียนเปิดโอกาสให้พระที่มี ความรู้เข้าไปสอนในโรงเรียน ก็เป็นอันสําเร็จท้ังน้ัน ในขณะนี้บางวัดสถานที่อาจจะยังไม่พร้อมเพราะ ยังไมท่ ราบโครงการ แต่ก็สามารถจัดใหเ้ ป็นแหล่งเรียนรขู้ องเดก็ ได้ตามแบบการเรยี นสมัยใหม่ สาํ หรับ บางวัดมีความพร้อม เช่นท่ีโรงเรียนวัดราชโอรส ห้องเรียนวิชาพระพุทธศาสนาทําไว้อย่างดี ติดแอร์ และปูพรมให้ มีพระไปสอน น่ังเรียนกันกับพ้ืนแบบธรรมชาติวิธีหน่ึง บางวัดบางแห่งจัดบรรยากาศ สําหรับการเรียนรู้พระพุทธศาสนาได้ยอดเยี่ยมมาก นั่งเรียนกันภายใต้ต้นไม้ท่ีร่มรื่น เงียบสงบ บรรยากาศดี อย่างนี้ถ้ารัฐสนับสนุนให้ดี โรงเรียนทําความตกลงกับวัดให้ดีก็จะสามารถช่วยเหลือเด็ก ช่วยเหลือระบบการเรียนรู้ยคุ ปฏริ ปู การศกึ ษาได้ดีทเี ดยี ว ท่ีผ่านมาการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์เป็นไปแบบตามมีตามเกิด งบประมาณไม่เพียงพอ ต้องช่วยเหลือตัวเองมาก ผลจึงออกมาไม่ได้มากเท่าท่ีควร แต่คิดว่าเม่ือมีการจัดการศึกษาตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ ซ่ึงกําหนดไว้ว่ารัฐต้องสนับสนุนงบประมาณ การ จัดการศาสนศึกษาคงได้รับงบประมาณเต็มเม็ดเต็มหน่วย พระสงฆ์ที่ท่านจัดการศึกษาและรัก การศกึ ษาทา่ นกห็ วงั และรอคอยตรงจดุ นก้ี ันอยู่ ที่ผ่านมาโรงเรียนที่สอนศาสนา สอนเฉพาะทฤษฎี อยากให้เน้นสอนการปฏิบัติให้มากขึ้น เพราะบางคร้ังเด็กก็ไม่เข้าใจคําสอนบางคํา และอยากให้สอนวิปัสสนาในภาคปฏิบัติไม่ใช่ด้านปริยัติ เอกสารประกอบการสอน วชิ าแนวโน้มการศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารยก์ ติ ติศกั ด์ิ ณ สงขลา
๑๒๖ อย่างเดียว แต่พระสงฆ์เองก็มีข้อจํากัดในการไปสอนในโรงเรียนโดยเฉพาะการสอนกรรมฐาน คือ พระสงฆ์มีไม่พอท่ีจะเข้าไปสอนในโรงเรียนทุกแห่งได้ ภิกษุสามเณรในแต่ละปีมีประมาณ ๓ แสนรูป แต่เป็นพระผู้ใหญ่ท่ีทํางานคณะสงฆ์บ้าง เป็นพระชราภาพบ้าง กําลังศึกษาเล่าเรียนเองบ้าง เป็น สามเณรเลก็ ๆ บา้ ง ท่มี ศี กั ยภาพและมเี วลาพอท่ีจะไปสอนตามโรงเรียนต่างๆ ได้ก็มีเปน็ หมนื่ รูปเทา่ น้ัน แต่โรงเรียนในประเทศทุกระดับมีมากกว่านั้นอีก ดังนั้นจําต้องผลิตพระสงฆ์ท่ีเป็นครูสอนให้มากข้ึน พระท่ีเรียนจบการศึกษาก็ใช่ว่าจะเป็นครูสอนได้ทุกรูป เพราะยังมิได้เรียนรู้หลักการสอนโดยเฉพาะ เลย แม้ให้ท่านไปสอนก็คงสอนไม่ได้ดีเท่ากับพระที่เรียนรู้หลักการเป็นครูมาแล้ว เหมือนผู้ที่เรียนเก่ง จบปริญญามาก็ใช่ว่าจะสามารถเป็นครูที่ดีได้ทุกคนไป ข้อน้ีก็ต้องอาศัยรัฐเข้าไปช่วยเหลือโดยการ จดั สรรงบประมาณสําหรับสร้างพระสงฆ์ท่ีมีคุณภาพให้มากข้ึน แม้ทางคณะสงฆ์จะทําอยู่ก็ยงั ไม่พออยู่ ดีเนื่องจากต้องใช้ทุนรอนมาก เม่ือของพระไม่พอก็ต้องพึ่งรัฐบ้าง ทั้งน้ีก็ทําเพื่อรัฐนั่นเอง โดยอาศัย พระเปน็ ผู้ช่วย สําหรับการสอนวิชาจริยธรรมและวิชาวิปัสสนาแก่เด็กนั้น เป็นสิ่งท่ีดีมาก การที่จะทําให้เด็ก ดีมีคุณภาพตามอุดมการณ์ที่ว่า \"เก่ง ดี มีความสุข\" นั้น \"ดี\" จะต้องมาจากกรรมฐาน ต้องเริ่มต้นที่ กรรมฐานคือต้องฝึกฝนจิตก่อน ถ้าจิตของเด็กสงบได้ อ่อนลงได้ เก่งก็จะตามมา เพราะเขาจะมีสมาธิ ในการเรียนมากขึ้นและไม่ติดอบายมุขท้ังหลาย และคําว่า \"ดี\" ในท่ีน้ีไม่ได้หมายความเพียงเป็นคนที่มี ความเคารพอ่อนน้อมถ่อมตน มีความซื่อสัตย์สุจริตอย่างเดียว แต่ต้องดีเพราะผ่านกระบวนการฝึกจิต มาแล้ว ถ้าจิตของเด็กอ่อนลง สมาธิก็แขง็ ขนึ้ เก่งกจ็ ะตามมา ดี และความสขุ ก็จะตามมา การศึกษาใน อดีต ดูเหมือนว่าจะหลงทางกันมานานแล้ว คือไปเน้นท่ีความเก่ง เน้นแต่คนเก่ง จึงพยายามสร้างเด็ก ให้เรียนเก่ง คนเก่งจึงมีมาก คนดีก็มีเหมือนกัน แต่เป็นดีท่ีมีคุณธรรมภายนอกคือกิริยามารยาท มิได้ เน้นพัฒนาจิตภายในหรือจิตวิญญาณ ดังนั้นการศึกษาสมัยใหม่ควรจะได้เน้นเร่ืองการฝึกจิตให้มาก เพราะเป็นเรื่องสําคัญมาก หากเน้นเพียงให้ดีภายนอกอย่างเดียวก็อาจจะดีได้ไม่ตลอด ต่อไปเมื่อเจอ ส่ิงแวดล้อมท่ียั่วยุจติ เขา้ ก็จะควบคมุ จติ ไมไ่ ดด้ ีกจ็ ะลบเลอื นหรือกลายเป็นอ่นื ไป การทจี่ ะให้พระสงฆเ์ ขา้ ไปสอนในโรงเรียนเห็นด้วยมาก แต่จะต้องระวังเร่อื งการควบคุมความ ประพฤตขิ องเด็กๆ ต่อพระสงฆ์ให้อยู่ในกรอบที่ดีงามด้วยและควบคมุ พระสงฆ์ผู้เข้าไปสอนในโรงเรียน ด้วยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นพระหนุ่มวัยรุ่น อันนี้เป็นเร่ืองท่ีเก่ียวกับสังคมและกิเลสตลอดถึง ส่งิ แวดลอ้ มต่างๆ ก็ต้องควบคุมกัน วิธีที่ดีท่ีสุดก็คือตอ้ งควบคุมท่ีจติ ก่อน ทั้งครูและนักเรียนต้องฝกึ ฝน เร่ืองจิตโดยต้องปฏิบัติกรรมฐานให้ จิตสงบ ให้มีสติทุกเม่ือด้วยกันท้ังสองฝ่าย ปัญหาที่วิตกกันก็จะ คลีค่ ลายลงได้ การจัดการศึกษาด้านศาสนาควรพัฒนาบุคลากรก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะการพัฒนา ครูผู้สอน การพัฒนาหลักสูตรถ้ามีเนื้อหาวิชาการมากเกินไป นักเรียนจะไม่อยากเรียน การจัดการ ศึกษาด้านศาสนาจะต้องมีบุคลากรที่มีคุณภาพ ผู้สอนก็ต้องมีความรู้ความสามารถโดยเฉพาะ เพราะ วิชาการด้านศาสนาเป็นวิชาเฉพาะทาง มิใช่สอนกันได้ทุกคน ท่ีกล่าวนี้มิใช่ดูแคลนครูท่ีสอนวิชา ศาสนาอยู่ ท่ีบางทา่ นสอนไมไ่ ด้ดีหรอื สอนใหเ้ ด็กรู้เรอ่ื งไมไ่ ด้ ทําให้เด็กไม่อยากเรยี น มิใช่อยู่ทห่ี ลักสตู ร มีเนื้อหามากเกินไป แต่เน่ืองมาจากครูผู้สอนไม่มีพื้นฐานวิชาด้านศาสนาหรือวิชาศีลธรรมมากนัก ทํา ใหผ้ ู้เรยี นและผ้สู อนมคี วามรพู้ อๆ กนั คอื อา่ นจากตําราไปพรอ้ มๆ กัน เอกสารประกอบการสอน วิชาแนวโน้มการศกึ ษาพระพุทธศาสนา โดย…อาจารย์กติ ติศักด์ิ ณ สงขลา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173