Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สนทนาภาษาธรรม เล่ม 22

สนทนาภาษาธรรม เล่ม 22

Published by Sarapee District Public Library, 2020-10-25 05:41:35

Description: สนทนาภาษาธรรม เล่ม 22
โดย ดร.สนอง วรอุไร

Keywords: ธรรมะ,ดร.สนอง วรอุไร,สนทนาภาษาธรรม

Search

Read the Text Version

www.kanlayanatam.com 100 ๒. หนูเคยอ่านพุทธพจน์ไว้ว่า “การให้ทานเป็น ผู้ไม่มีความหวังในทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลของทานแล้ว ใหท้ าน” หมายความว่าอยา่ งไรหรอื คะ? ๓. เวลาหนูอธิษฐานจิตหลังจากที่หนูทำ�ทาน ว่าขอ ให้บุญน้ีเป็นปัจจัย ให้หนูได้ไปสู่สุคติภูมิ อธิษฐานอย่างน้ี เป็นการมีจิตผูกพันในผลของทานหรือเปล่าค่ะ ถ้าใช่หนู ควรจะอธิษฐานใหม่ว่าอย่างไรคะ เพื่อไม่ให้มีจิตผูกพัน ในผลของทาน? ๔. หนูเคยทำ�แท้งเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้วค่ะอาจารย์ หนู อยากทราบว่าเราจะทำ�บุญ สรา้ งกศุ ลอยา่ งไรคะ ท่จี ะช่วย ปรับเปลี่ยนภพภูมิของลูกจากสัมภเวสี เป็นภพภูมิของ เทพเทวาคะ่ ? ๕. กลางดกึ คนื หนึง่ หนตู นื่ ขึ้นมา หนูเหน็ นมิ ิตอวยั วะ เพศของสุนัขเพศเมีย ลอยเข้ามาที่อวัยวะเพศของหนูถึง ๓ คร้ัง นิมิตน้ีหมายถึงหนูจะต้องไปเกิดเป็นสุนัขเพศเมีย ใชไ่ หมคะ? แลว้ ถา้ ใชห่ นจู ะสรา้ งกศุ ลอยา่ งไรเพอื่ ปดิ อบายภมู ิ และปรับเปลี่ยนภพภูมิเป็นสุคติภูมิคะ? หนูยังพอมีโอกาส อยใู่ ชไ่ หมคะ? ๖. บ่อยครั้งทีห่ นไู ดร้ ับกระแสเมตตาจากสิ่งศักด์ิสิทธิ์ เป็นกระแสเมตตาที่แรงมาก หนูอยากทราบว่าเป็นสิ่ง

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 101 ศกั ดส์ิ ทิ ธพ์ิ ระองคใ์ ดทท่ี า่ นเมตตาหนู ไมท่ ราบวา่ อาจารยพ์ อ จะกรุณาบอกหนูหน่อยได้ไหมคะ? เพื่อที่หนูจะได้ระลึกรู้ คุณท่านถูกพระองค์ และจะได้คลายข้อสงสยั ในใจนะคะ่ กราบขอบพระคณุ อาจารยท์ ใี่ หค้ วามเมตตาและกรณุ า มาตอบปัญหาให้กับหนู ขอใหอ้ าจารยม์ ีสขุ ภาพทแี่ ขง็ แรง และมีอายมุ ่ันขวญั ยนื อยู่เปน็ รม่ โพธ์ิร่มไทรใหก้ ับลกู ศษิ ย์นานๆ นะคะ ค�ำ ตอบ (๑) ใช่ครับ ความหลง (โมหะ) คือความไม่รู้ตาม ความเป็นจริงแท้ ที่เรียกว่า อวิชชา ตัวอย่างเช่น ไม่รู้ว่า สรรพส่ิงเกิดข้ึนแล้ว มีความดับไป (อนตั ตา) เป็นธรรมดา หรือ โลกธรรม ๘ (มีลาภ-มีเส่ือมลาภ, มียศ-มีเส่ือมยศ, มสี รรเสรญิ -มีนนิ ทา และมีสุข-มีทกุ ข)์ ใครผใู้ ดเอาจิตเขา้ ไป ผูกติดเป็นทาสของลาภ เมื่อลาภเส่ือมไปใจเป็นทุกข์ หรือ ไม่รจู้ ริงในเร่ืองของวตั ถุ เช่น ทรพั ย์เงินทองเป็นของก�ำพร้า และเปน็ สาธารณะแกโ่ จร แกไ่ ฟ แก่นำ้� แกพ่ ระราชา ขณะ ยังมีชีวิตอยู่ หากทรัพย์สิน เงินทองถูกโจรขโมยลักพาไป ถูกไฟไหม้ ถูกน�้ำพัดพาไป ทรัพย์ย่อมหายไปจากเจ้าของ

www.kanlayanatam.com 102 หรือหากเจ้าของทรัพย์ทิ้งขันธ์ลาโลก (ตาย) น้ีไป ย่อม ท้ิงทรัพย์ไว้เบื้องหลังให้คนอ่ืนครอบครอง อย่างนี้เรียกว่า เป็นของกำ�พร้า ผู้มีจิตยึดติดในทรัพย์สินเงินทอง จึงเป็น ผู้ไม่รู้จริง เรียกว่าเป็นผู้มีความหลง ตายแล้วมีโอกาสไป เกิดเปน็ เดรัจฉาน (๒) หมายความว่า ให้ส่ิงดีงามแก่ผู้อ่ืน แล้วไม่ หวังผลตอบแทน หรือไม่คิดถึงผลท่ีจะได้ตอบกลับคืนมา การใหท้ านในลกั ษณะนี้ ยอ่ มมผี ลแหง่ บญุ กศุ ล (อานสิ งส)์ สงู (๓) การอธิษฐาน หมายถึง การตั้งจิตปรารถนาใน ส่ิงดีงาม ซ่ึงจะมีจิตผูกพันหรือไม่ ต้องถามผู้อธิษฐานว่า จิตยังจดจ่ออยู่กับสิ่งท่ีให้หรือไม่ หากจิตยังจดจ่ออยู่กับสิ่ง ที่ให้เรียกว่าจิตยังมีโมหะส่ังสมอยู่ภายใน ซึ่งทำ�ให้จิต ขุ่นมัว และยิ่งไม่มีศีลคุมใจด้วยแล้ว เม่ือจิตหลุดออกจาก รา่ ง ย่อมถกู พลงั ของโมหะ ผลกั ดนั ให้ไปเกิดเป็นสตั วอ์ ยู่ใน ภพติรัจฉาน (๔) ผู้ท่ีไปเกิดเป็นสัมภเวสี ยังต้องเสวยอกุศล วิบาก จนกว่าหนี้เวรกรรมจะหมดสิ้น แล้วจึงจะมีโอกาสท่ี จิตวิญญาณจะโคจรไปเกิดอยู่ในภพใหม่ ตามแรงผลักของ กรรมท่ีทำ�ไว้เป็นเหตุ การไปปรับเปลี่ยนภพภูมิของผู้อ่ืน (ลูก) เป็นส่ิงที่เป็นไปไม่ได้ ท้ังนี้เพราะบุคคลมีกรรมเป็น

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 103 ของตัวเอง ผู้ใดประพฤติตนบำ�เพ็ญทานและรักษาใจให้ มีศีลคุมอยู่ทุกขณะตื่น หรือประพฤติกุศลกรรมบถ ๑๐ (เวน้ ทำ�ลายชวี ติ เวน้ จากถอื เอาของทเี่ ขามไิ ดใ้ ห้ เวน้ ประพฤติ ผิดในกาม เว้นพูดเท็จ เว้นพูดส่อเสียด เว้นพูดคำ�หยาบ เว้นพดู เพอ้ เจ้อ ไมโ่ ลภ คอยจอ้ งอยากไดข้ องเขา ไม่คดิ รา้ ย เบียดเบียนเขา และเห็นชอบตามคลองธรรม) ให้ถูกตรง ได้แลว้ โอกาสไปเกิดในภพสวรรค์ย่อมมีได้เป็นได้ (๕) ผู้ใดปรารถนาปิดอบายภูมิ ต้องพัฒนาจิต จนเกิดปัญญาเห็นแจ้ง แล้วใช้ปัญญาเห็นแจ้ง กำ�จัดอย่าง นอ้ ยสงั โยชน์ ๓ (สกั กายทฏิ ฐิ วจิ กิ จิ ฉา และสลี พั พตปรามาส) ให้หมดไปจากใจได้เมื่อใด ผู้นั้นจึงจะปิดอบายภูมิได้ คือ ตาย-เกิดอีกไม่เกนิ ๗ ชาติ ยอ่ มเขา้ ถงึ นิพพาน และภายใน ๗ ชาตินั้นจะไมล่ งไปเกดิ ตา่ํ กวา่ ภพมนุษย์ ตรงกนั ข้าม หาก ยังปิดอบายภมู ไิ ม่ได้ แตย่ งั ปรารถนานำ�พาชีวิตไปเกิดอยู่ใน สคุ ติภพ (ภพมนุษย์ เทวโลก และพรหมโลก) ต้องทำ�เหตุให้ ตรงดังน้ี • ศีล ๕ เปน็ เหตใุ ห้เกิดเปน็ มนษุ ย์ • ทาน + ศีล หรอื กุศลกรรมบถ ๑๐ เปน็ เหตใุ ห้เกดิ เปน็ เทวดา • ฌาน แล้วตายในฌาน เป็นเหตุให้เกิดเปน็ พรหม

www.kanlayanatam.com 104 (๖) พระพุทธโคดมมิได้สอนให้พุทธบริษัท เอาชีวิต ตนเองไปพ่ึงส่ิงศักด์ิสิทธิ์อ่ืนใด เพราะในธรรมวินัยของ พทุ ธศาสนามสี ง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธยิ์ งิ่ กวา่ คอื ผใู้ ดพฒั นาจติ ตามมรรค มอี งค์ ๘ จนเข้าถงึ สภาวธรรมเป็นอรยิ บุคคล (พระโสดาบนั พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหนั ต์) ได้แล้ว ผู้นน้ั มีความศักดิ์สิทธ์เิ หนอื ความศกั ดิ์สทิ ธิ์อื่นใดในสากลจักรวาล ๓๖. ถาม ๒ ข้อ ค�ำ ถาม กราบท่านดร.สนอง ท่ีเคารพคะ่ หนูมีคำ�ถามท่ขี อรบกวน ๒ ขอ้ นะคะ ๑. ถ้าหนูจะทำ�บุญใดๆ ให้แก่สุนัขและปลาที่เล้ียงไว้ ทีไ่ ดต้ ายไปแลว้ เขาจะไดร้ บั ไหมคะ ๒. หนูเคยช่วยนำ�นกตัวหนึ่งไปผ่าตัด เน่ืองจากมัน เป็นแผลฉกรรจม์ าก แต่ผลจากการผ่าตดั ทำ�ใหม้ นั ตอ้ งตาย ดังนี้แล้ว หนูทำ�บาปหรือเปล่าคะ และต้องแก้ไขอย่างไร บา้ งคะ กราบขอบพระคุณในความเมตตาคะ่

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 105 ค�ำ ตอบ (๑) หากจิตวิญญาณของสุนัขหรือปลาที่ตายไปเกิด ใหม่ สามารถมาอนุโมทนาบญุ ทผี่ ถู้ ามปัญหาอทุ ิศให้ เขาจงึ จะได้รับผลแหง่ บุญท่อี ทุ ศิ (๒) ไม่บาปครับ เหตุเพราะมีเจตนาดีหวังจะช่วยนก ให้พน้ จากการบาดเจ็บ แต่ทน่ี กต้องตายลง เปน็ เพราะกรรม ของนกเองที่ตามมาให้ผล ๓๗. สงสยั เรอื่ งศลี คำ�ถาม มีความสงสัยในเร่ืองอนันทเศรษฐี (ศีลไม่ละเมิด แต่ ไม่ได้รักษาศลี ) ๑. ทำ�ไมการไม่ละเมิดศีล จึงไม่ต้องรักษาศีลได้ ล่ะครับ ๒. แล้วการรักษาศีลจะอยู่ที่ไหน หรือต้องไปรับกับ พระท่ีวดั ๓. ผมเข้าใจตามความเห็นส่วนตัวว่า หากจะถือว่า รกั ษาศลี ตอ้ งประกอบด้วย - เจตนา คือ ต้ังใจไม่ทำ�เพื่อการรักษาศีลข้อน้ันๆ

www.kanlayanatam.com 106 รวมถงึ การระลกึ ได้ว่ารบั ศลี มาแล้ว แลว้ มีเจตนาที่จะรกั ษา ศีลน้นั ไว้ - ความเข้าใจในบทของศีล เช่น การไม่ขโมยของ ก็เพ่ือไม่เบียดเบียนผู้อ่ืนให้เดือดร้อน การไม่ดื่มสุราก็เพ่ือ ให้มีสติพิจารณาตัวเองได้โดยสมบูรณ์ ไม่ทราบว่าผมเข้าใจ ถูกต้อง หรือ ขาดตกบกพร่อง ตรงไหนไหมครับ จึงจะได้ ชอื่ ว่าเปน็ ผูร้ กั ษาศีล และไดร้ ับผลบุญจากการรักษาศีล ดว้ ยความเคารพอยา่ งสงู ค�ำ ตอบ (๑) การไม่ละเมดิ ศลี มิไดห้ มายความว่าจะตอ้ งรกั ษา ศลี หากผใู้ ดมศี ลี ทบี่ รสิ ทุ ธค์ิ มุ ใจอยทู่ กุ ขณะตนื่ ผนู้ นั้ ไมจ่ ำ�เปน็ ตอ้ งรักษาศีล (๒) ผู้ใดยังต้องรักษาศีล แสดงว่าผู้น้ันยังมีกำ�ลัง ของสติอ่อน จึงจำ�เป็นต้องรักษาศีลให้อยู่ครบ และไม่ให้ มีมลทินปนเป้ือน ตรงกันข้าม ผู้ใดมีกำ�ลังของสติกล้าแข็ง อยกู่ บั จติ ทกุ ขณะตนื่ ผนู้ นั้ ยอ่ มมศี ลี คมุ จติ และไมจ่ ำ�เปน็ ตอ้ ง ไปสมาทานศีลมาจากผู้อ่นื

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 107 (๓) เข้าใจถูกตามความเห็นของผู้ถามปัญหา แต่ผู้ มีปัญญาเห็นถูกตามธรรม ทำ�ใจให้มีศีลคุมอยู่ทุกขณะตื่น แล้วไม่จำ�เปน็ ตอ้ งรักษาศลี * การไม่ลักขโมยของ ต้องรวมถึงการไม่ถือเอา สง่ิ ของใดๆ ทม่ี เี จา้ ของครอบครอง มาเปน็ ของตนโดยยงั มไิ ด้ รบั อนญุ าต อาทิ : ใชโ้ ทรศพั ท์ของราชการหรอื องคก์ รมาใช้ ในเรื่องสว่ นตวั ถอื ว่าเปน็ การละเมดิ ศีลขอ้ ๒ * ส่วนเรื่องการด่ืมสุรา แม้จะไม่ด่ืมทางปาก แต่ยัง บรโิ ภควตั ถใุ ด ทม่ี สี ารแอลกอฮอลเ์ ปน็ สว่ นประกอบหรอื มใี จ อยากบริโภค ถือวา่ ยังมจี ิตเปน็ ทาสของสุรา หากนำ�ตวั เข้า ปฏบิ ตั ิธรรม ย่อมเข้าไมถ่ ึงธรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ ๓๘. อธษิ ฐานพบลกู ค�ำ ถาม กราบเรยี นอาจารย์ ดร.สนอง วรอไุ ร ท่ีเคารพยง่ิ ดิฉันได้สูญเสียบุตรอันเป็นท่ีรักยิ่งมากว่า ๒ ปีแล้ว บุตรของดิฉันเป็นคนท่ีมีความกตัญญู ใจกว้าง คนอยู่ใกล้ มีความสุข เป็นคนมองโลกในแง่บวก ดิฉันมิได้ห่วงในเร่ือง ภพภูมิของลูกเลย เพราะม่ันใจในความกตัญญูที่ลูกมีต่อ

www.kanlayanatam.com 108 บุพการีตลอดท่ีอยู่ด้วยกันมา และค่อนข้างม่ันใจท่ีลูกจะ อยู่ในภพภูมิท่ีสูงทุกวันนี้ดิฉันจะเจริญกรรมฐานทุกวันๆ ละ ๑ ช.ม. และจะเจรญิ สติเสมอเทา่ ทจ่ี ติ จะระลกึ ได้ ทุกครงั้ ท่ีว่างจากงานภายนอกดิฉันจะทำ�งานภายในตลอดจนกว่า จะหลับ (ทำ�ตามคำ�แนะนำ�ของ อ.สนอง ผู้มีความเมตตา) และทุกๆ วันก็ได้อุทิศบุญให้กับลูกอยู่เสมอ มิได้ขาดแม้แต่ วนั เดยี ว ดฉิ นั ตง้ั ความปรารถนาในการหลดุ พน้ โดยไดต้ ง้ั จติ อธิษฐานจะบำ�เพ็ญ ศีล สมาธิ ปัญญา ตลอดอายุขัย ดฉิ นั มี คำ�ถามอยากเรียนถามอาจารย์ ดังน้ี ๑. ความคิดถึงลูก (มีอยู่เสมอมิได้ขาด) จัดเป็น อภิสังขารมารใช่หรือไม่ บางครั้งจิตระลึกรู้ทันก็ดับไป บางครั้งรู้ไม่ทันก็หดหู่ แต่ก็รู้ว่ามันเป็นส่ิงที่อยู่ชั่วคราว และความคิดถึง จะเป็นอุปสรรคในการบรรลุธรรมหรือไม่ ควรจดั การอยา่ งไร ๒. ดฉิ ันต้ังจติ อธษิ ฐานพบลกู อกี ครั้ง เพ่อื ใหไ้ ด้ปฏิบตั ิ ธรรมร่วมกันจนกว่าจะนิพพาน โดยการสร้างเหตุดังกล่าว ขา้ งตน้ ขอเรยี นถามวา่ จดั เปน็ กเิ ลสหรอื ไม่ ขออาจารยโ์ ปรด ให้คำ�แนะนำ�เพอื่ ความสวา่ งของชีวติ ขอความเมตตาจากอาจารย์ ชว่ ยแนะนำ�ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิ เพือ่ การดำ�เนนิ ชีวติ เพมิ่ เตมิ ด้วยค่ะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 109 ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์สำ�หรับคำ�ตอบและคำ� แนะนำ�คะ่ และทา้ ยนขี้ อกราบอาราธนาคณุ พระศรรี ตั นตรยั โปรดช่วยปกปักรักษา อ.สนอง ให้มีสุขภาพแข็งแรงอายุ ยนื ยาวเพ่ือเปน็ ประโยชน์ตอ่ สัตวโ์ ลกต่อไป ขอแสดงความเคารพอยา่ งสูง คำ�ตอบ (๑) ใช่ครับ หากปรารถนากำ�จัดอภิสังขารมารให้ หมดไปต้องพัฒนาจิต (สมถภาวนา) ให้มีกำ�ลังของสติกล้า แข็ง และพัฒนาจิต (วิปสั สนาภาวนา) ใหม้ กี ำ�ลังของปญั ญา เหน็ แจ้งกลา้ แขง็ การรู้ไมท่ ันในบางครั้ง น่นั คือผลทจ่ี ติ ขาด สติเป็นบางคร้ังการมีจิตหดหู่ชั่วคราว หมายถึง บางขณะ จิตรับสิ่งกระทบไม่ดีเข้าปรุงเป็นอารมณ์หดหู่ หากผู้ถาม ปัญหาปล่อยให้กิเลสท้ังสอง (ขาดสติและมีอารมณ์หดหู่) ยังมีอำ�นาจเหนือใจการบรรลุธรรมท่ีนำ�ไปสู่ความพ้นทุกข์ ยอ่ มเกดิ ข้นึ ไม่ได้ ดังนั้นผู้ท่ีปรารถนาพ้นทุกข์ ต้องพัฒนาจิตให้มีกำ�ลัง ของสติ และปญั ญาเหน็ แจง้ กล้าแข็งได้แลว้ อภสิ งั ขารมาร ยอ่ มหมดไปจากใจ แลว้ โอกาสนำ�พาชวี ติ พน้ ไปจากความทกุ ข์

www.kanlayanatam.com 110 จงึ จะเกดิ ขนึ้ (๒) ผู้ใดปรารถนาให้คำ�อธิษฐานเป็นจริง ผู้นั้นต้อง สร้างมหาทาน ต้งั สจั จอธษิ ฐาน และต้องทำ�เหตใุ หต้ รง แลว้ โอกาสทคี่ ำ�อธษิ ฐานจะเปน็ จรงิ ยอ่ มเกดิ ขน้ึ ไดใ้ นวนั ขา้ งหนา้ การอธิษฐานขอพบลูก เพ่ือจะได้ปฏิบัติธรรมร่วมกัน แลว้ นำ�พาชวี ติ ไปสนู่ พิ พาน ไมถ่ อื วา่ เปน็ กเิ ลสของปถุ ชุ น แตย่ งั เปน็ กเิ ลสของพระอรยิ บุคคล ผู้ปรารถนานิพพาน ต้องประพฤติทาน ศีล ภาวนา อยู่ทุกขณะตื่น เมื่อจิตเข้าถึงอริยผลแห่งคุณธรรมท้ังสาม ไดเ้ มือ่ ใด โอกาสท่จี ติ จะเขา้ ถึงนพิ พาน ยอ่ มเกดิ ขนึ้ ดังน้ัน ผู้ถามปัญหาจะสมความปรารถนาได้ ต้องพัฒนาจิตตนเอง ให้ถกู ตรงตามคำ�ช้แี นะ ๓๙. ผูต้ ้องการพน้ ทกุ ข์ ค�ำ ถาม เรียนถามทา่ นอาจารย์ท่เี คารพนบั ถือเป็นอยา่ งสงู เนื่องด้วยดิฉันได้อ่านได้ติดตามปฏิบัติธรรมของท่าน ดร.สนอง วรอุไร จึงเรียนถามว่า รายการต่อไปน้ีโดยสรุป สำ�หรบั ผตู้ อ้ งการพน้ ทกุ ขท์ ำ�ดงั น้ี และมขี อ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 111 โดยสังเขปอีกไหมคะ ๑. สวดมนตก์ ่อนนอน ทำ�สมาธิ แผ่เมตตา ๒. ดูลมหายใจเขา้ ออก เม่ือวา่ งจากการงาน ๓. ดูจิต ดกู ายเวลาทำ�งานหรอื ระลึกได้ ๔. รักษาศีลอย่างนอ้ ย ๕ ขอ้ ให้คมุ ใจทุกขณะตื่น ๕. ใสบ่ าตรทำ�บุญเมอ่ื มโี อกาส ขอคำ�แนะนำ�เพม่ิ เติมที่ยงั ตกหลน่ คะ่ ขอขอบพระคุณ เปน็ อยา่ งสูงคะ่ คำ�ตอบ (๑) การแผ่เมตตา ผู้แผเ่ มตตาต้องพฒั นาตนเอง ให้มี ความเมตตาเกดิ ขน้ึ กบั ตวั เองไดก้ อ่ น แลว้ จงึ จะแผใ่ หผ้ อู้ น่ื ได้ ส่วนการสวดมนต์ ทำ�สมาธิ ถือว่าเป็นการทำ�จิต ภาวนาซงึ่ เปน็ บญุ ใหญ่ ผใู้ ดประพฤตไิ ดแ้ ลว้ ยอ่ มมบี ญุ เกดิ ขนึ้ กบั ผูน้ ัน้ ผูม้ บี ุญจงึ สามารถอุทิศบญุ ใหผ้ อู้ น่ื ได้ (๒) ต้องรักษาศีล อย่างน้อยศีล ๑๐ ให้มีอยู่กับใจ ทกุ ขณะตืน่ (๓) เอาจติ จดจอ่ อยกู่ ับลมหายใจ เขา้ - ออก ทุกคร้ัง ที่วา่ งจากงาน และทกุ ครง้ั ท่นี กึ ได้

www.kanlayanatam.com 112 (๔) ใชจ้ ติ ท่ีตงั้ มน่ั จวนแนว่ แน่ (อปุ จารสมาธิ) ดจู ิตท่ี มีมลทิน และดูกาย (ธาตุ ๔) ว่าดำ�เนินไปตามกฎไตรลักษณ์ (๕) ต้องประพฤตบิ ุญกริ ยิ าวัตถุ ๑๐ (ทาน ศลี ภาวนา ประพฤติอ่อนน้อม ช่วยเหลือคนอื่น อุทิศความดีให้คนอื่น ยนิ ดี (อนุโมทนา) ทคี่ นอน่ื ทำ�ความดี ฟงั ธรรม ส่งั สอนธรรม และทำ�ความเหน็ ใหต้ รง) อย่ทู กุ ขณะตน่ื ทร่ี ะลกึ ได้หรือนกึ ได้ เมอ่ื เกิดปญั ญาห็นแจ้งแล้ว ตอ้ งใช้ปัญญาท่พี ฒั นาได้ กำ�จัดสังโยค ๑๐ ให้หมดไปจากใจ แลว้ โอกาสพน้ ทกุ ข์จงึ จะ เกิดขนึ้ ได้ ๔๐. โรคกรรม ค�ำ ถาม กราบเรียนท่านอาจารย์ทีเ่ คารพ กระผมใครข่ อกราบรบกวนเรยี นปรกึ ษา ถงึ การกระทำ� ของข้าพเจ้าว่า ปัจจุบันข้าพเจ้าเต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ เรอ้ื รงั ไปหาหมอแตล่ ะครงั้ จะไดโ้ รคใหมๆ่ มาทกุ ครง้ั ทง้ั ๆ ท่ี เลกิ ดืม่ เหล้ามา ๑๒ ปีแลว้ ไมส่ ูบบหุ ร่ี ไมเ่ ที่ยวกลางคืน และ ออกก�ำลังกายทกุ วนั เช้า-เย็น อยา่ งสมำ่� เสมอมา เปน็ เวลา กว่า ๑๐ ปีแล้ว แต่มีอยู่ครั้งหนง่ึ กระผมได้ไปพบแพทย์

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 113 ตามนดั ปรากฏวา่ ไดพ้ บพระภกิ ษรุ ปู หนงึ่ ซงึ่ เปน็ โรคเดยี วกนั (ไวรสั ตับอกั เสบ) และไดส้ นทนากับทา่ น และมีอยู่ตอนหน่ึง ทา่ นไดท้ ักวา่ “ดูจากหนา้ ตาของโยมแล้วดูสดใสมาก ไมน่ า่ เชอื่ ว่าจะข้โี รคอยา่ งนี้ แสดงวา่ โยมไมไ่ ด้เปน็ โรคอนั เกิดจาก ทางกาย แต่เป็นโรคอันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรต่างหาก” และบุคคลอื่นท่ีพบเห็นก็จะทักอย่างน้ีทุกคร้ังไป สิ่งท่ีผม ปฏบิ ัตอิ ยูท่ กุ วันนีค้ อื ๑. ทกุ วนั เสาร์ (เน่ืองจากเปน็ วันหยดุ และกระทำ�ได้ ตามกำ�ลังทรัพย์) ผมจะไปทำ�บุญใส่บาตร โดยอธิษฐาน ใหเ้ ทวดาผปู้ กปกั รกั ษาตวั ผม และเจา้ กรรมนายเวรไปพรอ้ ม กันเลย (ทำ�เป็นชุดแรก) ๒. ชุดที่ ๒ จะทำ�บญุ อุทศิ ส่วนกุศลใหก้ บั ตนเอง เพื่อ เป็นการแก้เคล็ด (คิดเอง) และก่อนนอนผมจะทำ�วัตรเย็น ตอ่ ดว้ ยสวดพาหงุ มหากา คาถาชนิ บญั ชร และแผเ่ มตตาโดย อทุ ศิ บญุ กศุ ลจากการเจรญิ ภาวนา ใหแ้ กเ่ ทวดาผปู้ กปกั รกั ษา ตวั เอง และเจา้ กรรมนายเวรพรอ้ มขอขมาไปดว้ ย เสรจ็ แลว้ จะสวดบทสรรเสรญิ หลวงปชู่ วี กโกมารภจั จอ์ กี ๒ บท พรอ้ ม อธิษฐานขอให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ต่ืนนอนก็จะทำ�วัตร- เช้า และปฏิบตั ิ (สวด) เหมือนทำ�วัตรเย็นทุกวนั แต่กระผม ไม่ได้น่ังสมาธิ เน่ืองจากพยายามมาหลายปีแล้วไม่สำ�เร็จ

www.kanlayanatam.com 114 อาจจะเน่ืองมาจากเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ ด้วยน่ัง ไดไ้ ม่เกนิ ๑๐ นาทีก็จะมีอาการเหนบ็ ชา ทำ�ใหส้ มาธกิ ระเจงิ ทุกครง้ั สงิ่ ทอ่ี ยากกราบเรยี นทา่ นอาจารยค์ อื สงิ่ ทพี่ ระทา่ นพดู นน้ั หมายความวา่ อยา่ งไรครบั และหากเปน็ จรงิ จะมวี ธิ แี กไ้ ข อย่างไรครับ และส่ิงที่ผมปฏิบัติมาน้ันถูกต้องหรือไม่ครับ ถ้าไม่ถูกต้อง รบกวนท่านอาจารย์ช่วยโปรดกรุณาช้ีแนะ ทางออกทถ่ี กู ตอ้ งดว้ ยครบั เนอื่ งจากกระผมไมค่ อ่ ยมคี วามรู้ ทางนมี้ ากนกั แต่จิต และสมาธไิ มเ่ คยเครยี ด หรือกังวลกบั โรคภยั ไขเ้ จบ็ แมแ้ ตน่ อ้ ยครบั และขอกราบขอบพระคณุ ทา่ น อาจารยม์ า ณ ที่นด้ี ว้ ยครับ คำ�ตอบ คนในยุคปัจจบุ ัน เจบ็ ปว่ ย (อาพาธ) ดว้ ยเหตุสี่อยา่ ง ๑. ออกกำ� ลงั กายไม่สม�่ำเสมอ ๒. เพียรมาก นอนน้อย ๓. ฤดูกาลเปลยี่ น ๔. โรคกรรม โรคภยั ไขเ้ จบ็ ทเ่ี กดิ จาก ๑. - ๓. บำ�บดั รกั ษาใหห้ ายไดง้ า่ ย

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 115 ดว้ ยการปรบั เหตใุ หต้ รงกนั ขา้ ม สว่ นโรคกรรมหรอื โรคทเ่ี กดิ จากการทำ�เหตุเบียดเบียนจะหมดไปได้ ต้องชดใช้หนี้เวร กรรมไปเรื่อยๆ จนกวา่ เจ้ากรรมนายเวรจะเลกิ ผกู พยาบาท ดังนั้น ส่ิงท่ีพระพูดนั้นหมายความว่า ผู้ถามปัญหา เป็นโรคกรรมที่เกิดจากการเบียดเบียน แล้วผลของกรรม เบยี ดเบยี นไดถ้ กู เกบ็ บนั ทกึ ไวใ้ นดวงจติ เมอ่ื กรรมเบยี ดเบยี น ให้ผล อกุศลวิบากคือ การเจ็บป่วยจึงเป็นผลให้ผู้ทำ�กรรม ตอ้ งไดร้ ับ วิธีแกไ้ ขโรคกรรมทำ�ดงั นี้ ๑. ชดใช้หน้ีเวรกรรมไปจนกว่าจะหมดหนี้ คือ เจ้า กรรมนายเวรเลิกจองเวร ๒. ทำ�บุญใหญ่ (ปฏิบัติธรรม) ด้วยการสวดมนต์ ก่อนนอน หลังสวดมนต์เจริญอานาปานสติ เม่ือท้ังสอง กจิ กรรมแลว้ เสรจ็ ต้องอุทศิ บุญกุศลใหเ้ จ้ากรรมนายเวร ท่ี ทำ�ใหผ้ ถู้ ามปญั หาต้องเจบ็ ปว่ ย หากทำ�ได้ดงั นี้ถอื ว่าถกู ตอ้ ง แต่วิธีท่ีดีท่ีสุด ผู้ถามปัญหาควรนำ�ตัวเองเข้าร่วมปฏิบัติ ธรรมกบั ผอู้ น่ื แลว้ ขอความเมตตาจากผเู้ ขา้ รว่ มปฏบิ ตั ธิ รรม อุทศิ บุญกุศลให้กบั เจา้ กรรมนายเวรของผู้ถามปัญหา วิธนี ้ี ทำ�ให้หนี้เวรกรรมหมดไปได้เร็ว อนึ่ง การปฏิบัติธรรม ไม่จำ�เป็นต้องน่ังเสมอไป สามารถปฏิบัติได้ในทุกอิริยาบถ

www.kanlayanatam.com 116 (ยนื เดนิ นงั่ นอน กนิ ด่ืม พูด ฟงั ฯลฯ) ท่เี หมาะสมกับ อัตภาพของผู้ถามปัญหา ๔๑. จำ�เป็นหรือไม่ คำ�ถาม กราบเรยี น อาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร - เรื่องการจุดธูป-เทียนในการสวดมนต์น่ังสมาธิ มีความจำ�เปน็ หรือไม่ แล้วใหผ้ ลอย่างไร - การแผ่เมตตาอุทิศบุญกุศล ต้องบอกช่ือคนท่ีเรา จะให้ด้วยหรือเปล่าครับ หรือแค่กล่าวว่าให้ บิดามารดา ญาตพิ น่ี อ้ ง ฯลฯ แคน่ ีพ้ ่อแม่ และญาตพิ ่นี อ้ ง รวมถึงคนอ่ืนๆ จะไดร้ บั หรือไมค่ รับ ขอบคุณอาจารย์สำ�หรับคำ�แนะนำ� ดว้ ยความเคารพอยา่ งสูงครับ คำ�ตอบ การจุดธูป-เทียนในการสวดมนต์นั่งสมาธิ ไม่มีความ จำ�เป็น เม่อื จดุ ธปู เทียนแล้ว ยังเปน็ มลพิษกบั รา่ งกายของผู้

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 117 ท่ีหายใจเอาอากาศที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไปอีกด้วย ผู้ถามปัญหา ต้องระบุช่ือของคนที่ประสงค์จะอุทิศบุญให้ หากกล่าวว่า อุทิศบุญให้บิดามารดาญาติพ่ีน้อง คนท่ีมิได้เป็นบิดามารดา ญาตพิ ี่นอ้ งจะไม่มีสิทธิ์มารับบุญกุศล ที่มีผู้อุทิศใหไ้ ด้ ๔๒. อาชีพตุลาการ ค�ำ ถาม กราบเรียนถามท่าน ดร.สนอง เก่ียวกับผู้พิพากษา ครับ กราบสวัสดีทา่ นอาจารย์ ดร.สนอง วรอุไร ทเ่ี คารพ ครับ ผมมีคำ�ถามที่อยากกราบเรียนถามท่านอาจารย์ เก่ียวกับการประกอบอาชีพผู้พิพากษา และอัยการครับ สืบเนื่องจากผมได้ฟังคำ�บรรยายธรรมท่านอาจารย์ท่ีว่า มี ผพู้ พิ ากษาคนหนง่ึ ทต่ี ายแลว้ ฟน้ื ปรากฏวา่ ตอนทต่ี ายไปนนั้ ไปพบเจอผพู้ พิ ากษา อยั การ ทร่ี จู้ กั หลายคนอยใู่ นนรก ทำ�ให้ ผมเกดิ ความสงสยั วา่ ๑. ท่ีคนเหล่านั้นลงนรก เป็นเพราะกรรมส่วนอ่ืนๆ ของเขาทไ่ี มเ่ กยี่ วกบั การปฏบิ ตั หิ นา้ ทผ่ี พู้ พิ ากษา หรอื อยั การ หรอื เปลา่ ครับ

www.kanlayanatam.com 118 ๒. อาชีพผ้พู พิ ากษา และอยั การน้ัน แม้วา่ จะปฏบิ ัติ หน้าท่ีโดยสุจริต ทำ�หน้าท่ีโดยปราศจากอคติ ๔ ตัดสิน คดีความไปตามท่ีกฎหมายบัญญัติ กฎหมายระวางโทษให้ ประหารชีวิตจำ�คุก ปรับ ยึดทรัพย์ ขับไล่ ก็ตัดสินไป ตามนนั้ เชน่ น้ี จะถือว่าเป็นบาปหรอื ไมค่ รบั การท่ีมีบคุ คล หลายคนอ้างว่า ที่สง่ั ฟ้องหรือตดั สินไปนั้นเป็นเพราะหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายมา ทำ�เพื่อความยุติธรรม ทำ�เพ่ือความ สงบสขุ ของสังคม ฯลฯ ข้ออา้ งเช่นนี้รับฟังไดห้ รือเปล่าครบั ๓. หากในขอ้ ที่ ๑. นนั้ เป็นบาป ผมมคี ำ�ถามตอ่ ไป ครับวา่ คนที่ทำ�หนา้ ที่เป็นผู้ช่วยผพู้ ิพากษา ซง่ึ เปน็ ฝ่ายเบ้ือง หลัง (เป็นผู้พิพากษาแต่ไม่ได้มีหน้าที่ตัดสิน โดยทำ�หน้าท่ี ยกร่างคำ�พิพากษาให้กับองค์คณะ ชว่ ยค้นขอ้ กฎหมาย และ คำ�พพิ ากษาศาลฎีกา) จะเปน็ บาปดว้ ยหรอื ไมค่ รบั ผมทราบดีครับว่าคำ�ถามนี้ มีผลกระทบมหาศาล ต่อผู้ประกอบวิชาชีพน้ี รวมท้ังต่อสังคมด้วย แต่ผมเอง ก็มีส่วนได้เสียต่อคำ�ถามน้ี ก่อนท่ีจะมาเรียนถามท่าน อาจารย์ ผมไดพ้ ยายามศกึ ษาคนทใ่ี หค้ ำ�ตอบในเรอ่ื งนไ้ี ว้ เชน่ ท่านพุทธทาส (หนังสือคู่มือมนุษย์ บรรยายครั้งท่ี ๑๐) จากญาตขิ องคณุ พอ่ ทไ่ี ดศ้ กึ ษาธรรมะซงึ่ อดตี เคยเปน็ อยั การ ฯลฯ ทุกท่านให้คำ�ตอบทำ�นองเดียวกันว่า หากทำ�ด้วย

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 119 ด้วยความสุจริต ปฏิบัติไปตามหน้าที่นั้น “ไม่บาป” แต่ กระนั้นผมก็ยังไม่หายเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องน้ี ไม่ใช่มา จากเฉพาะจากคำ�บรรยายธรรมจากทา่ นอาจารยอ์ ยา่ งเดยี ว นะครับ แต่ผมเคยอ่านเรื่องพระสารีบุตรกับโจรเคราแดง ที่ว่า โจรเคราแดงประหารชีวิตคนตามคำ�ส่ังของพระราชา ความจริงแล้วเป็นบาป แต่พระสารีบุตรก็ต้ังใจว่า “เราจัก ลวงบุรุษผู้นี้” ไปโปรดโจรเคราแดง ทำ�ให้ความกังวลของ โจรเคราแดงหมดไป ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม ทำ�ให้ผมคิดว่าการท่ีหลายคนบอกว่า การทำ�อาชีพผู้ พิพากษาหรืออัยการนี้ไม่บาป จะเป็นเหมือนเร่ืองพระสารี บุตรกบั โจรเคราแดงหรอื ไมค่ รบั ดว้ ยความเคารพอย่างสงู คำ�ตอบ (๑) มนุษย์ผู้ใด เทวดาองค์ใด รวมถึงสัตว์เดรัจฉาน ตัวใด หากประพฤติทุศีล ตายแล้วอกุศลกรรมมีโอกาส ผลักดันจติ วิญญาณ ใหโ้ คจรไปเกิดเปน็ สัตว์อย่ใู นภพนรกได้ ดังน้ันผใู้ ดเอาจิตกลับมาดูตัวเอง ย่อมเหน็ พฤตกิ รรม (คิด พดู ทำ�) ของตนวา่ เปน็ กศุ ลหรอื เป็นอกุศล

www.kanlayanatam.com 120 มนษุ ย์สว่ นใหญใ่ นโลกพฒั นาความรู้ (ปัญญา) เพียง สองข้ันต้นคือ สุตมยปัญญาและจินตามยปัญญา ความรู้ เช่นนไี้ มส่ ามารถรู้ เหน็ เข้าใจ เรอื่ งที่อยนู่ อกเหนอื ประสาท สมั ผัสได้ เช่น การทุจริตของบุคคลผคู้ ิดทำ�เอกสารหลักฐาน เบื้องต้นอันเป็นเท็จได้ และหากผู้ใดเข้าร่วมในกระบวน กรรมอันเปน็ เท็จ ถือว่ามสี ่วนร่วมในอกศุ ลนั้นดว้ ย (๒) แม้ผู้พิพากษา และอัยการ จะปฏิบัติหน้าที่โดย สุจริต ทำ�หน้าท่ีโดยปราศจากอคติ ๔ และตัดสินคดีความ ไปตามท่ีกฎหมายบัญญัติ แต่หากหลักฐานการทำ�ความผิด นั้น ไม่ถูกตรงตามความเป็นจริง เมื่อผู้พิพากษาตัดสิน คดีความให้จำ�เลยต้องรบั โทษทง้ั ๆ ท่จี ำ�เลยมิได้เปน็ ผู้กระทำ� ความผิดจริง การผูกพยาบาทของผู้ถูกตัดสิน ย่อมเกิดขึ้น ไดแ้ ละหากเมอ่ื ใดทกี่ รรมใหผ้ ล ผเู้ ขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มในกระบวน กรรม ยังต้องรับอกุศลวิบากน้ัน ดังเรื่องของคุณหมอ อาจนิ ต์ บญุ เกตุ ไดเ้ ขียนบอกเล่าไว้เปน็ ตวั อย่าง (๓) ผู้ช่วยผู้พิพากษาท่ีข้องเกี่ยวกับหลักฐานอันเป็น เท็จ ยอ่ มต้องได้รับอานสิ งส์บาปนน้ั ด้วย ผู้ถามปัญหาได้อ้างเอาข้อเขียนท่ีระบุอยู่ในหนังสือ คู่มือมนุษย์ และได้อ้างเอาความคิดเห็นของญาติคุณพ่อ มาเป็นกรณีศึกษา ผู้ตอบปัญหาก็จะบอกว่า พระพุทธเจ้า

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 121 โคดมผู้รู้แจ้ง และรู้ทุกส่ิงทุกอย่าง (สัพพัญญู) ได้มอบ กาลามสูตรให้กับพทุ ธบริษัทไว้ ๑๐ ข้อว่า อยา่ ปลงใจเชอ่ื : ๑. ด้วยการฟังตามกันมา ๒. ด้วยการถอื สืบๆ กันมา ๓. ด้วยการเล่าลอื ๔. ดว้ ยการอา้ งตำ�ราหรือคมั ภีร์ ๕. ดว้ ยตรรก ๖. ด้วยการอนุมาน ๗. ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล ๘. เพราะเข้ากันได้กบั ทฤษฎขี องตน ๙. เพราะมองเหน็ รูปลักษณ์น่าเชอื่ ๑๐. เพราะเขาเปน็ ครขู องเรา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือคัดกรองความไม่จริง ออกจาก ความเป็นจริง ซ่ึงผู้ใดพัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนเข้าถึง โลกยิ ญาณ ไดแ้ ลว้ และพฒั นาจติ (วปิ สั สนาภาวนา) จนเขา้ ถงึ ปญั ญาเห็นแจ้งได้แล้ว ยอ่ มรู้เหน็ ความจรงิ และความไม่จริง ไดอ้ ยา่ งถูกตรง ดังนั้น หากผู้ถามปัญหาได้พัฒนาจิตให้ถูกตรงตาม ที่ช้ีแนะมาน้ี ความเคลือบแคลงสงสัยในข้อเขียนท่ีระบุอยู่ ในหนังสือ คู่มือมนุษย์ ในความคิดเห็นของญาติคุณพ่อใน

www.kanlayanatam.com 122 เรอื่ งของโจรเคราแดง ฯลฯ ย่อมหมดไปโดยปรยิ าย ๔๓. ปตี ิในระดับต่างๆ ค�ำ ถาม เรียน ดร. สนอง ผมเร่ิมปฏิบัติธรรมมาต้ังแต่อุปสมบท จนปัจจุบัน เป็นฆราวาส ก็เปน็ ระยะเวลา ๒-๓ ปีแลว้ ครับ เนน้ การดูจิต แตม่ กี ารเวน้ ชว่ งเหมอื นกนั เพราะกำ�ลงั ใจในการปฏบิ ตั นิ อ้ ย ภายหลงั จงึ เพมิ่ การฝกึ เรอ่ื งสมถะเขา้ มาดว้ ย ทำ�ใหก้ ำ�ลงั ใจใน การปฏิบตั มิ มี ากขน้ึ ครับ ผมมเี รือ่ งรบกวนถามอาจารย์ดงั นี้ ๑. ปตี ิถือวา่ อยูใ่ นข่ายของอปุ จาระสมาธิหรือไม่ ๒. หากเกิดปีติ เช่น ตัวโยกคลอน ควรทำ�เช่นไร จงึ จะดกี บั การปฏิบัติท่ีสดุ ๓. หลังผ่านปีติได้ ข้ันต่อไป คือ ปฐมฌานหรือ ไม่ครับ มจี ดุ สงั เกตอยา่ งไร ๔. ผมเพ่ิงอธิษฐานกับตนเองว่าจะถือศีลแปดเป็นนิจ แต่เน่ืองจากสติผมไม่ไวมาก จึงมีการพูดเท็จ หรือพูดจา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 123 ไม่เหมาะสมบ่อย การผิดคำ�อธิษฐาน ก็ทำ�ให้กำ�ลังใจถูก ลดทอนลง อาจารย์มีคำ�แนะนำ�อยา่ งไรบ้างครับ ๕. ผมมีผู้ใต้บงั คับบญั ชาทปี่ ระพฤติไม่ดนี กั บางท่าน เกินกว่าท่ีจะพูดจาแนะนำ�ดีๆ ควรจะตักเตือนหรือลงโทษ อย่างไรไม่ให้ศีลด่างพร้อยครับ (โดยไมด่ ่า ไม่ทำ�ให้เขาเจ็บใจ โกรธแค้น) ขออาราธนาส่ิงศักด์ิสิทธิ์ บันดาลให้อาจารย์สุขภาพ แข็งแรงด้วยครับ ขอบคณุ มากครับ คำ�ตอบ (๑) ปีติ หมายถึง ความอิ่มใจ หรือความดื่มด่�ำ ในใจ ปีติเกิดได้กับจิตของคนท่ัวไป เช่น ปีติเบ็ดเตล็ด (ปกณิ กเจตสิก) อันไดแ้ ก่ วิตก วจิ าร อธโิ มกข์ วิรยิ ะ ปีติ และฉนั ทะหรอื เกดิ ไดก้ บั จติ ของคนทเี่ รมิ่ ปฏบิ ตั ธิ รรม ซงึ่ เปน็ วิปัสสนูปกิเลสอย่างหนง่ึ หรือเกิดได้กับจิตของคนที่เข้าถึง สมาธิระดับฌาน (รูปฌานท่ี ๑, ๒) หรือเกิดได้กับจิตของ คนที่บรรลุอริยธรรมสูงสุดแล้ว เช่น ปีติในโพชฌงค์ ๗ (สติ ธมั มวิจยะ วิรยิ ะ ปตี ิ ปัสสทั ธิ สมาธิ อเุ บกขา)

www.kanlayanatam.com 124 (๒) ขณะตัวโยกคลอน ต้องกำ�หนดว่า “โยกคลอน หนอๆๆๆๆ” ไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการดงั กลา่ วจะหายไป (๓) ผู้ท่ีพัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนเข้าถึงความ ตง้ั มัน่ เปน็ สมาธริ ะดับ ปฐมฌาน มสี ่ิงให้สงั เกตไดด้ งั นี้ คือ จติ มอี ารมณ์ วติ ก วิจาร ปตี ิ สุข เอกัคคตา และนิวรณ์ ๕ (กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจกุกกุจจะ วิจิกิจฉา) จะไม่เกดิ ข้ึนขณะทจี่ ติ ทรงอยู่ในฌาน (๔) ควรอธษิ ฐานว่า “จะพยายามรกั ษาศลี ๘ ให้มาก เทา่ ทีท่ ำ�ได”้ (๕ ) ผบู้ งั คับบญั ชาตอ้ งเวน้ อคติ (ชอบ ชงั หลง กลวั ) และว่ากล่าวตักเตือนลูกน้องให้ถูกตรงตามหน้าท่ี โดยมี ผบู้ งั คบั บญั ชากบั ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาเทา่ นนั้ ทรี่ กู้ นั เพยี งสองคน อย่ามวั หลงระเรงิ กบั สขุ ทางโลกยี ์ ซึ่งเปน็ สขุ เทยี มทีต่ อ้ งจ่ายดอกเบยี้ แพง ยามสขุ ก็หลงไป ยามทุกข์กบ็ อกว่าเข็ด เจบ็ แลว้ รู้จักจำ� . . .คิด พดู ท�ำ ให้พจิ ารณา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 125 คำ�ถาม ๔๔. กลวั ก้ิงกอื กราบเรียน อ.ดร.สนอง วรอุไร ครับ คอื ผมรกั การปฏบิ ตั ธิ รรมครบั บางครง้ั จะหาเวลาเดนิ จงกรมบา้ ง แตผ่ มมคี วามขลาดกลวั กง้ิ กอื มาก แบบตวั สแี ดง ยังพอกล้าดูกล้าแตะบ้าง แต่ถ้าเป็นแบบตัวลายๆ กับพวก กิ้งกือป่าแบบมีขนด้วยแล้วจะกลัวมาก พยายามคิดว่าเรา กลวั อะไรมนั สรปุ แบบโงๆ่ ไดต้ ามนี้ กลวั เพราะมนั มตี ัวเป็น ปล้องๆ สสี ัน ขาท่มี ีมากของมนั และกลิ่นด้วย แลว้ จำ�พวก ตะขาบก็ด้วย เห็นแล้วขนลุกเกรียวเลย แบบว่าขยะแขยง สุดๆ ขลาดกว่างู ผี และเสือ แบบให้เลือกหนีฝ่าดงก้ิงกือ มากๆ กับดงผี ผมกล้นั ใจเลือกดงผเี ลยว่างน้ั ไม่รู้ชาตกิ ่อน เคยทำ�กรรมกับพวกเขาไว้หรือเปล่า เราสามารถใช้ธรรม ขอ้ ไหนแกไ้ ด้บา้ งครบั อาจารย์ ค�ำ ตอบ ความกลวั เกดิ จากจติ ขาดสติ และไมร่ จู้ รงิ ในสง่ิ ทก่ี ลวั ธรรมะที่แก้ไขในเร่ืองนี้ได้ ต้องพัฒนาจิตให้มีกำ�ลังของสติ กล้าแขง็ และพัฒนาจติ ใหม้ ีความเห็นถูกตรงตามความเป็น จริงไดเ้ มอ่ื ใด ความกลัวในสงิ่ ทถ่ี ามย่อมหมดไปเป็นธรรมดา

www.kanlayanatam.com 126 ๔๕. ปฏบิ ตั ธิ รรมท่บี า้ น ค�ำ ถาม กราบเรยี นท่านอาจารย์ ดร.สนอง อยากถามถึงวิธีปฏิบัติธรรมท่ีเราสามารถปฏิบัติได้ ในชีวิตประจำ�วัน ซึ่งเราต้องทำ�งานไปด้วย และยังมีภาระ ทางบ้านต้องดูแล ยังไม่มีเวลาไปปฏิบัติอย่างจริงจังใน สถานปฏบิ ตั ธิ รรม ค�ำ ตอบ การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำ�วัน สามารถทำ�ได้ท่ี บา้ นดงั น้ี (๑) ทำ�ใจใหม้ ีศีล ๕ คุมอยทู่ กุ ขณะตืน่ (๒) สวดมนตก์ อ่ นนอน (๓) ปฏิบัติจติ ตภาวนาหลังสวดมนต์ (๔) อทุ ศิ บญุ กุศลให้เจา้ กรรมนายเวร และสรรพสตั ว์ ผู้ทรงความร้หู างา่ ยมาก ทหี่ ายากคอื ผู้ทรงคณุ ธรรม

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 127 ๔๖. ขาดๆ หายๆ ค�ำ ถาม กราบเรยี น อ.ดร.สนอง วรอไุ ร ค่ะ หนูเคยปฏิบัติธรรมมาบ้าง เคยเข้าหลักสูตรของ ยุวพุทธ ๖ ครั้ง ตอนออกจากหลักสูตรก็ตั้งใจจะปฏิบัติต่อ ท่ีบา้ น แต่พอนานๆ ไป ไม่ได้ปฏบิ ัตติ อ่ เนือ่ ง กล็ มื ๆ ไปบา้ ง ขาดสติอยบู่ อ่ ยๆ พอคดิ ได้กต็ ัง้ ใจ และพยายามจะทำ�แตม่ ัน เกดิ เหตกุ ารณแ์ ปลกๆ ทำ�ใหก้ ลวั ไมก่ ลา้ ทำ�ตอ่ คอื พอคดิ จะทำ� สง่ิ ใดทด่ี ๆี เหมอื นมนั มคี วามคดิ ทจี่ ะทำ�ไมด่ แี ทรกขนึ้ มาบอ่ ยๆ เมื่อใดท่ีเห็นจิตตัวเองคิดเมตตา อยากให้คนอ่ืนเป็นสุขมันมี ความคดิ แทรกขนึ้ มาตลอดเลยวา่ เรอ่ื งของคนอนื่ อยา่ ไปยงุ่ อยา่ ไปชว่ ย มนั รสู้ กึ เหมอื นเปน็ เงาดำ�ๆ นา่ กลวั อยใู่ นตวั เองคะ่ หนเู ลยไปวดั จะไปนงั่ สมาธิ และสวดมนตท์ ว่ี ดั แทนทบี่ า้ น แต่ พอสวดท่ีวัดหนูกับนึกบทสวดมนต์ไม่ค่อยออก จำ�ได้ขาดๆ หายๆ เหมือนความจำ�เสื่อมช่ัวคราวเลยค่ะ แต่พอมาสวด ทบ่ี า้ นตวั เอง กลบั สวดมนตไ์ ดค้ ลอ่ ง ทง้ั ๆ ทไี่ มไ่ ดด้ หู นงั สอื เลย หนผู ิดปกติหรอื เปลา่ ค่ะ มันรูส้ กึ ใจหว่นั ๆ กลวั ๆ ไมแ่ นใ่ จว่า สงิ่ ท่ีทำ�เปน็ สงิ่ ทถี่ ูกต้องหรือเปล่า

www.kanlayanatam.com 128 รบกวนอาจารย์ช่วยเมตตาตอบคำ�ถามหนูด้วยนะคะ กราบขอบพระคณุ ค่ะ.. ค�ำ ตอบ ผู้ใดมีศีลและมีสัจจะคุมใจอยู่ทุกขณะต่ืน เมื่อนำ�ตัว เขา้ ปฏบิ ตั ธิ รรม โดยมคี วามเพยี รเปน็ แรงสนบั สนนุ ผนู้ นั้ ยอ่ ม เขา้ ถงึ ธรรมทปี่ ฏบิ ตั ไิ ดง้ า่ ย และหากผใู้ ดออกจากสถานปฏบิ ตั ิ ธรรมมาแล้ว ได้พัฒนาจิตให้มีกำ�ลังของพละ ๕ อยู่เสมอ ผู้น้นั ย่อมไม่เสอื่ มไปจากธรรมทป่ี ฏบิ ตั ไิ ด้ ปัญหาต่างๆ ที่บอกเล่าไป เหตุเป็นเพราะจิตมี กำ�ลงั อ่อน ไม่สามารถต้านพลงั อำ�นาจของมาร ดังนนั้ ผ้ถู าม ปญั หาควรปรบั แกไ้ ขวธิ ปี ฏบิ ตั ใิ หถ้ กู ตรง แลว้ ความผดิ ปรกติ ของจติ จงึ จะหมดไป คนอ่ืนเขาดูออกวา่ ใครจรงิ ใจกบั เขา เขากนิ ข้าวเหมือนเรา ไม่ใช่กินแกลบ จงจรงิ ใจและซ่ือตรงกบั ทุกคนเสมอ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 129 ๔๗. ผีบ้านผีเรอื น ค�ำ ถาม เรียนถามอาจารย์ ดร.สนองค่ะ เจา้ ท่ี ต่างจาก ผีบ้านผเี รอื น อยา่ งไรคะ ขอบพระคณุ ค่ะ ค�ำ ตอบ ภมุ เทวดาเปน็ สง่ิ มชี วี ติ ทม่ี รี ปู นามเปน็ ทพิ ย์ และมหี นา้ ท่รี กั ษาพน้ื ท่ี (ดนิ ) เชน่ พระภมู เิ จ้าที่ สว่ นผบี ้านผีเรือน ใช้ เรยี กจติ วญิ ญาณของคนทตี่ ายไปแลว้ และไปเกดิ เปน็ รปู นาม ทพิ ยท์ อี่ ยปู่ ระจำ�บา้ น ดงั นนั้ เจา้ ทแ่ี ละผบี า้ นผเี รอื น มรี ปู นาม ท่เี ป็นทิพยเ์ หมอื นกัน มีทอ่ี ยู่ต่างกัน และแต่มีหน้าที่ต่างกัน เม่ือใช้หัวใจฟังคนอน่ื เราจะไดย้ ิน มากกว่าท่ีเขาพดู การวางอารมณ์ ความคดิ ความเหน็ ตัดสนิ ด้วยธรรม เป็นเรอ่ื งท่ดี ที ่ีสดุ

www.kanlayanatam.com 130 ๔๘. เป็นไปไดห้ รือไม่ คำ�ถาม กราบเรยี นทา่ นอาจารยด์ ร.สนอง วรอไุ ร ทเ่ี คารพครบั ผมไดห้ นั เขา้ มาเรยี นรธู้ รรมและปฏบิ ตั ธิ รรม เนอ่ื งดว้ ย ไดพ้ บคำ� สอนท่านอาจารยจ์ ากทางอินเตอรเ์ นต็ เมื่อ ๒-๓ ปี กอ่ น เพราะในชว่ งนนั้ มคี วามทกุ ขห์ ลายเรอ่ื ง โดยเฉพาะ หนส้ี นิ ทเี่ ปน็ อยนู่ ที้ ำ� ใหผ้ มเปน็ ทกุ ขม์ าก แตก่ ย็ อมรบั ครบั วา่ นา่ จะเปน็ ผลกรรมที่เราได้ท�ำไว้ในอดีต และปัจจุบันนี้ผมพอจะเข้าใจ ในธรรมบา้ ง ซึ่งเมอ่ื กอ่ นแทบจะไมร่ ้อู ะไรเลย และเมอื่ ไดฟ้ งั ค�ำสอนของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ก็ยิ่งท�ำให้ผมมีสติ พิจารณาในเรอ่ื งต่างๆ มากขึ้น และในขณะเดยี วกันผมก็จะ ปฏิบัติตนให้มีศีลคุมใจ และจะมุ่งปฏิบัติปัญญาท่ี ๓ คือ ภาวนามยปัญญา ตามที่อาจารย์ได้ย้�ำอยู่ตลอดเวลาในการ สอน ค�ำถามผมคอื - ผู้มีทุกข์อยู่ในขณะนี้หรือรับกรรมอยู่ในขณะน้ี จะสามารถปฏิบัติธรรมแล้วเข้าถึงธรรมน้ัน เป็นไปได้หรือ ไม่ครบั ท้ายน้ีผมขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ ในการ บรรยายธรรม และส่ังสอนธรรมในทุกๆ แห่งครับ จะได้

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 131 กราบแทบเทา้ ครูบาอาจารย์ ดร.สนอง วรอไุ ร ท่ผี มเคารพ อยา่ งสงู ครับ ค�ำ ตอบ ผู้ท่ียังเสวยอกุศลวิบาก (ทุกข์) อยู่ในปัจจุบัน หาก ประพฤตติ นใหม้ ศี ีล และมสี จั จะคมุ ใจใหไ้ ดท้ ุกขณะตน่ื แลว้ เรง่ ความเพยี รปฏบิ ตั ธิ รรม ยอ่ มมโี อกาสเขา้ ถงึ ธรรมทป่ี ฏบิ ตั ิ ได้ น่นั คอื ปฏิบตั สิ มถภาวนาแลว้ จติ เขา้ ถึงความตั้งม่ันเปน็ สมาธิ ปฏิบัติวปิ สั สนาภาวนาแลว้ จติ เขา้ ถึงปญั ญาเหน็ แจ้ง ๔๙. ทกุ ขเ์ พราะพ่อ คำ�ถาม กราบเรียน อ.ดร.สนอง วรอไุ ร ผมรบกวนถามอาจารย์เรื่องทุกข์เพราะพ่อ ตอนน้ี ผมมีความคิดที่จะทำ�ให้พ่อเลิกดื่มเหล้า เลยย้ายกลับมา อยู่กับท่าน (ก่อนหน้าน้ีผมอยู่กับแม่) โดยส่วนตัวผมเป็น คนปฏิบัติธรรมถือศีลอยู่แล้วเลยคิดว่า ผมมาปฏิบัติธรรม ให้ท่านเห็น ให้ท่านได้รับรู้ เช่น การสวดมนต์ นั่งสมาธิ

www.kanlayanatam.com 132 เผื่อว่าการกระทำ�ของผม จะช่วยให้พ่อท่านเลิกด่ืมหรือ ลดได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ผล ผมอยากให้พ่อของผมเลิก ด่ืมสุรา ผมควรจะทำ�ยังไงดีครับ พ่อผมท่านจะเครียดง่าย พอท่านเครียดแล้วก็จะดื่มจนเกินตัวครับ ผมไม่อยากทำ� ตามคำ�แนะนำ�ท่ีบอกว่า ถ้าทกุ ขเ์ พราะพ่อแม่แล้ว “ให้ทำ�ใจ หรือวางเฉย” ผมไม่อยากทำ�ใจ หรือวางเฉย เร่ืองทำ�ใจ ผมว่ามันง่ายไป เพียงแต่ผมอยากช่วยให้ท่านเลิกดื่มเหล้า ให้ได้ อยากให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขครับเหมือน ตอนช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา รบกวนอาจารยแ์ นะนำ�ทคี รับ ดว้ ยความเคารพอยา่ งสูง คำ�ตอบ การพัฒนาตนให้มีศีลและมีธรรมคุมใจ ซึ่งผู้เป็น ลูกต้องพัฒนาจิตให้มีอารมณ์สงบเย็น (เมตตา) ให้ได้ก่อน เมื่อใดท่ีพ่อหันมาศรัทธาในความดีของลูก แล้วปัญหาการ ดื่มเหล้าของพ่อจึงจะมีโอกาสหมดไปได้ ดูตัวเองให้ออกว่า การไม่อยากทำ�ใจให้วางเฉย เป็นความเห็นทีผ่ ิดไปจากธรรม ของพระพุทธโคดม คนที่ยังมีความเห็นผิด ย่อมมีอุปสรรค และปัญหาเกิดขึ้นกับชีวิต ดังน้ันจะเช่ือปัญญาตรัสรู้ของ พระพุทธะหรือวา่ จะเชอ่ื มาร ก็เลอื กเอาตามที่ชอบเถดิ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 133 ๕๐. ท่องพุทโธ คำ�ถาม กราบเรียนท่านอาจารย์สนอง วรอุไร ตามท่ีท่านอาจารย์บรรยายในคลิบทางเว็บไซต์ กระผมสงสัยว่า ท่ีท่านบอกใหท้ ่องพุทโธ พุทโธ ตลอดเวลา ถา้ ทำ�ได้จะดีคือมีสติตลอดเวลา กระผมลองทำ�ดแู ลว้ ปัญหา มวี า่ ถา้ ทอ่ งพทุ โธแลว้ ไมส่ ามารถเขา้ ใจอยา่ งอนื่ ได้ เชน่ ตอน ทำ�งานถา้ ท่องพทุ โธ ใจก็จะจดจอ่ อยู่กบั พุทโธแล้วจะทำ� คิด เร่อื งงานอยา่ งอ่ืนไมไ่ ด้ ผมควรทำ�อยา่ งไรครับผม คำ�ตอบ การเอาจติ จดจอ่ อยกู่ บั คำ�วา่ “พทุ -โธ” เปน็ การพฒั นา จิต (สมถภาวนา) ให้ต้ังมั่นเป็นสมาธิ มิได้หมายความว่า จะให้เกิดเป็นความรู้เห็นเข้าใจในสิ่งท่ีกำ�ลังทำ� และการ กำ�หนด “พุท-โธ” ควรทำ�ทุกครงั้ ทนี่ กึ ได้ และทำ�เม่อื วา่ งจาก งานภายนอกทท่ี ำ�ให้กับหน่วยงาน สังคม หรอื ครอบครวั

www.kanlayanatam.com 134 ๕๑. อยากร้เู รือ่ งกรรม ค�ำ ถาม ขอรบกวนสอบถามด้วยความเคารพ อยากรบกวนถามดร.สนองนะครับว่า การจะทราบ ไดว้ ่า ทำ�กรรมใดจะได้รับผลใด สามารถทำ�ได้หรือเปล่าครับ ขอบคณุ ครบั ค�ำ ตอบ ผู้ท่ีสั่งสมบารมีมามาก สั่งสมบารมีมายาวนาน สามารถรู้ผลของกรรม ท่ีเกิดจากการกระทำ�ไว้ในอดีตได้ ดงั ตวั อยา่ งของพระมหาโมคคัลลานะ ทไี่ ปเห็นผลของกรรม ทส่ี ง่ มา้ กณั ฐกะใหไ้ ปเกดิ เปน็ กณั ฐกเทพบตุ ร อยใู่ นสวรรคช์ นั้ ดาวดึงส์ได้ ไปเห็นผลของกรรมท่ีส่งบริวารของนางวิสาขา ให้ไปเกิดเป็นเทพบุตร-เทพธิดาอยู่ในสวรรค์ช้ันดาวดึงส์ได้ ไปเห็นผลของกรรม ท่ีส่งติสสภิกษุ ให้ไปเกิดเป็นติสสมหา พรหม อยู่ในพรหมโลกชั้นมหาพรหมาภูมิ ฯลฯ นอกจากนผี้ ทู้ ส่ี งั่ สมบารมมี าก สงั่ สมบารมมี ายาวนาน สามารถพัฒนาจิต (สมถภาวนา) ใหเ้ ขา้ ถึงอนาคตงั สญาณ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 135 ที่สามารถหยั่งรู้กรรมท่ีทำ�ในปัจจุบัน แล้วให้ผลไปเกิดเป็น อะไรในอนาคตได้ ดังตัวอย่างท่ีพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า ได้พยากรณ์ชีวิตของฤษีสรทะว่า ในอนาคตข้างหน้าอีก ๑ อสงไขยกบั อกี ๑๐๐,๐๐๐ กปั ป์ จกั ไดไ้ ปเกดิ เปน็ อคั รสาวก ของพระพทุ ธโคดมและมชี อื่ วา่ สารบี ตุ ร และในครงั้ พทุ ธกาล พระพุทธโคดม ได้พยากรณ์ชีวิตของวัสสการพราหมณ์ นักปราชญ์แห่งกรุงราชคฤห์ว่า เมื่อตายจากมนุษย์แล้ว จกั ตอ้ งไปเกดิ เปน็ ลงิ ไดพ้ ยากรณช์ วี ติ ของพระเจา้ สปุ ปพทุ ธะ ว่า อกี ๗ วนั ขา้ งหนา้ จะถูกธรณสี ูบลงไปเกิดอยู่ในภพนรก แลว้ ทงั้ สองคำ�พยากรณ์ ปรากฏมีผลเป็นจรงิ ๕๒. อาจารย์ดุ คำ�ถาม กราบเรยี น อ.สนอง ทเ่ี คารพ หนเู ป็นนสิ ติ ทันตแพทย์คะ่ เรยี นอยชู่ ้นั ปีท่ี ๔ ตอนนี้ เพง่ิ ขน้ึ คลนิ กิ เรม่ิ ทำ�คนไข้ และทำ�งานทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั อารมณ์ ของอาจารย์ ซง่ึ เปลย่ี นแปลงไดต้ ลอดเวลา ทำ�ใหห้ นมู ปี ญั หา ในการปรบั ตวั ทำ�ตวั ไมถ่ กู เมอื่ อยตู่ อ่ หนา้ อาจารย์ เชน่ เวลา ที่หนูรายงานกับอาจารย์ท่ีดุมากๆ จะลนมาก ไม่มีสติเลย

www.kanlayanatam.com 136 พูดผิดๆ ถูกๆ จนอาจารย์โมโหมาก ไม่ให้ทำ�งานแล้ว เดินหนีไปเลย พี่ๆ บอกว่าหนูเป็นคนที่ไม่มีความม่ันใจใน ตัวเอง ทำ�ให้ไม่กล้าลงมือทำ� ต้องถามคนอื่นตลอด หรือ ลงมอื ทำ�ก็ผดิ ๆ ถูกๆ ท้งั ที่จรงิ ๆ แลว้ หนสู ามารถทำ�ได้ สว่ น เร่ืองคนไข้ก็มักจะปฏิเสธการรักษากลางคัน เช่น ไม่ว่าง มาทำ� ทำ�ให้ต้องเริ่มทำ�งานใหม่หมด ทำ�ให้ทุกข์ใจมาก กลัวจะเรียนไม่จบ ท้อใจมาก ไม่อยากจะคิดแต่มันก็แวบ เข้ามาในหัว ทำ�ใหอ้ า่ นหนงั สือไม่รู้เร่อื ง หนมู พี น้ื ฐานเคยปฏบิ ตั ธิ รรมมาบา้ ง ทงั้ เขา้ คา่ ยปฏบิ ตั ิ ธรรมท่ียุวพุทธหรือไปปฏิบัติท่ีอ่ืน หรือทำ�เองที่บ้านบ้าง แต่ไม่ค่อยต่อเน่ือง รู้สึกว่าสิ่งท่ีเคยฝึกมาไม่สามารถดึงมา ใช้ได้เลย หนูควรจะฝึกสติอย่างไรดีคะ ขอคำ�ช้ีแนะจาก อาจารยด์ ้วยคะ่ ขอกราบขอบพระคณุ อ.สนอง เป็นอย่างสงู คะ่ ค�ำ ตอบ ปัญหาท่ีบอกเล่าไป เกิดจากจิตมีกำ�ลังสติอ่อน ผู้ใด ปรารถนาพน้ ไปจากปญั หาดงั กลา่ ว ตอ้ งประพฤตติ นใหม้ ศี ลี และมีสัจจะคุมใจให้ได้ทุกขณะต่ืน แล้วสวดมนต์ก่อนนอน

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 137 หลงั สวดมนต์ตอ้ งเจริญอานาปานสติ (พทุ -โธ) แล้วอุทิศบุญ ให้เจ้ากรรมนายเวร เมื่อใดจิตต้ังม่ันเป็นสมาธิ และเข้าถึง ปัญญาเห็นถูกตามธรรมได้แล้ว ความประหม่า ความกลัว อาจารยด์ ุ ตลอดจนกลวั เรยี นไมจ่ บ ยอ่ มปลาสนาการจากใจ ๕๓. ไม่อยากเกิดอกี ค�ำ ถาม กราบเรยี น อ.ดร.สนอง วรอไุ ร ค่ะ อาจารย์ค่ะ จากที่หนูได้ทราบมาว่า “การทำ�บุญกับ พระที่ออกจากนโิ รธสมาบตั ิ อานสิ งส์มากและเรว็ ” จงึ มีขอ้ สงสัยในใจ ดังตอ่ ไปน้คี ะ่ ๑. พระเข้านิโรธสมาบัติเพื่ออะไรคะ? จะทำ�ให้ได้ไป นพิ พานเร็วขน้ึ หรือไมค่ ะ แล้วตอ้ งเขา้ บอ่ ยคร้งั แค่ไหนคะ ๒. กัลยาณมิตรหลายคนบอกว่า ส่วนใหญ่เป็นบุญ บารมเี กา่ ทเ่ี คยสรา้ งและสงั่ สมไวแ้ ลว้ อยา่ งหนซู งึ่ เปน็ ผหู้ ญงิ อยากเขา้ นโิ รธสมาบตั บิ า้ ง ตอ้ งฝึก และขัดเกลาอย่างไรคะ หนูอยากทำ�ให้ชาตินี้ ไม่เสียชาติเกิด ท่ีได้มาพบพระพุทธ ศาสนา และได้มาพบกัลยาณมิตรอย่าง อ.ดร.สนอง และ ครูบาอาจารย์ทางธรรมหลายท่าน หนูว่าหนูโชคดีมากๆ

www.kanlayanatam.com 138 จึงอยากจะเก็บเก่ียวความรู้และฝึกปฏิบัติไว้มากๆ หนู อธษิ ฐานจติ ไมอ่ ยากมาเกดิ อกี อยา่ งนอ้ ยๆ ขอใหไ้ ดป้ ดิ อบาย ในชาตนิ ใ้ี หไ้ ด้คะ่ ขอกราบอนโุ มทนาบญุ กบั อาจารยด์ ว้ ยนะคะ ทเี่ มตตา ตอบคำ�ถามหนู และหลายคนๆ ในเวบ็ ไซตน์ คี้ ่ะ สาธุค่ะ ค�ำ ตอบ (๑) พระอรยิ บคุ คลตง้ั แตพ่ ระอนาคามขี น้ึ ไป ทส่ี ามารถ พัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนเข้าถึงสภาวธรรมท่ีเรียกว่า นิโรธสมาบัติได้ มีจุดประสงค์เพ่ือดับเวทนาและดับสัญญา ชั่วคราว มิได้มีจุดประสงค์เพื่อนำ�พาชีวิตไปสู่ความพ้นทุกข์ หรือที่เรียกว่านิพพาน ส่วนจะพัฒนาจิตให้เข้าถึงสภาวะ ดงั กลา่ ว บอ่ ยครง้ั แคไ่ หน ขน้ึ อยกู่ บั บญุ บารมเี กา่ ทที่ ำ�สง่ั สมมา และยงั ขนึ้ อยกู่ บั จดุ ประสงค์ ของผมู้ คี วามสามารถทางดา้ นนี้ (๒) ในครัง้ พุทธกาลไม่เคยปรากฏว่า มีภิกษุณีอรหันต์ รูปใดปฏิบัติสมถภาวนา เพื่อนำ�จิตให้เข้าถึงสภาวะนิโรธ สมาบตั ิ ทง้ั นเ้ี พราะการปฏบิ ตั เิ ชน่ นนั้ มใิ ชเ่ ปน็ เหตนุ ำ�พาชวี ติ ไปสคู่ วามพน้ ทุกข์ ผ้ตู อบปัญหาจึงไมแ่ นะนำ� ใหผ้ ใู้ ดพฒั นา จติ ไปสู่ความเห็นผดิ (มิจฉาทฏิ ฐ)ิ เช่นน้นั

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 139 ๕๔. จับมือแฟน ค�ำ ถาม กราบสวสั ดีอาจารยท์ ่ีเคารพคะ่ ๑. หนูมีความสงสัยว่าถ้าหากจับมือกับแฟน ผิดศีล ไหมคะ (คณุ แมก่ ็ใหค้ บกนั เป็นเพื่อนไปกอ่ นคะ่ ) ๒. หนมู คี วามสงสยั วา่ การสำ�เรจ็ ความใครด่ ว้ ยตวั เอง เป็นบาปไหมคะ. ๓. หนเู คยผดิ ศลี ขอ้ ๓ ถา้ หากหนปู ฏบิ ตั ธิ รรมจะชว่ ย ให้กรรมเบาบางลงได้ไหมคะ ขอความเมตตาจากอาจารยไ์ ดโ้ ปรดชท้ี างสวา่ งใหห้ นู ดว้ ยคะ่ กราบขอบพระคณุ อย่างสงู คะ่ ค�ำ ตอบ (๑) เพียงแค่จับมือกัน (กายกรรม) ไม่ถือว่าเป็น การประพฤติผิดศีล แต่หากใจคิดเลยเถิดไปถึงการร่วม ประเวณี (มโนกรรม) ถอื วา่ ผิดศีล

www.kanlayanatam.com 140 (๒) เป็นบาปครับ ซ่ึงถ้าพุทธบริษัทที่เป็นนักบวช หากมีพฤติกรรมเช่นน้ัน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส และจะพ้น จากบาปน้ไี ดต้ ้องเข้าปรวิ าสกรรม (๓) ผู้ท่ียังประพฤติผิดศีลข้อ ๓ แล้วมาปฏิบัติ ธรรม ย่อมไม่สามารถเข้าถึงธรรมที่ปฏิบัติได้ กรรมจะ ยังคงอยู่ แต่หากเลิกประพฤติผิดศีลข้อ ๓ โดยเด็ดขาด แล้วหันมาปฏิบัติธรรม ย่อมเข้าถึงมรรคผลแห่งธรรมที่ ปฏิบัตไิ ด้ ดังตัวอย่างของ อัมพปาลี โสเภณีแหง่ แคว้นวัชชี หรือ สิริมาโสเภณี แห่งแคว้นมคธ ได้ทำ�ให้ดูเป็นตัวอย่าง จนเปน็ พระอรหนั ต์ และพระโสดาบนั ได้ตามลำ�ดบั ๕๕. กลวั อกี แลว้ ค�ำ ถาม กราบเรียนถามทา่ น อ.ดร.สนอง วรอไุ รครับ กระผมมีความกลัวอีกแล้วครับท่านอาจารย์ คือ ไมน่ านมานี้ ผมไดไ้ ปกราบครบู าอาจารยท์ า่ นหนงึ่ แถวๆ บา้ น ผม ซ่ึงก่อนไปไม่กี่วันน้ันผมได้มีความคิดไม่ดีกับท่านมากๆ เกิดข้ึนมาเอง แล้วประกอบกับวันท่ีจะไป ก็มีความคิดไม่ดี กบั คนอน่ื ๆ ด้วย เพราะในรา่ งกายผมเองมีโรคประจำ�ตัวอยู่

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 141 เก่ียวกับกามโรค แต่ไม่ร้ายแรงถึงโรคเอดส์ และติดต่อกัน ไมไ่ ด้ง่ายๆ ครับ ผมเองก็กลัววา่ โรคน้ีมนั จะไปติดคนอื่นและ สร้างความเดือดรอ้ นให้ผ้อู ่ืน แต่จรงิ ๆ มันไม่ได้ตดิ กันงา่ ยๆ แบบนนั้ เลย แตม่ นั กม็ แี รงกระตนุ้ ใหห้ วาดกลวั ไปตา่ งๆ นานา จนผมไปกราบอาจารย์ท่านนี้ก็ยังกลัวอยู่ แต่ก็สำ�รวมกาย วาจาใจให้ดที ่สี ุดเพ่ือไมใ่ หเ้ กิดความเดอื ดร้อนแกใ่ คร ขณะที่อยู่ต่อหน้าท่านผมก็ไม่มีเจตนาท่ีไม่ดีเลย มีแต่ ถามถงึ แนวทางการปฏบิ ตั ธิ รรม และขอขมาทา่ น นง่ั ฟงั ทา่ น และเกิดความปีติเป็นอย่างย่ิง ไม่มีเจตนาใดๆ เลยท่ีจะไป เบียดเบียนท่าน แต่พอกลับมาแล้วก็มาคิดมากอีกว่าเราทำ� อนันตริยกรรมไปหรือเปล่า เชื้อโรคจะติดพ้ืนไหม ผู้อ่ืนจะ เดือดรอ้ นไหม คิดไปตา่ งๆ นานา จนวันนกี้ ็ยงั คดิ ไม่หยดุ เลย ผมกลัวมากๆ แล้วเวลานึกถึงหลวงปู่ทีไร ผมแทบไม่กล้า นกึ ถึงทา่ นเลย ผมกลัวบาปกลวั อนันตริยกรรมมากๆ ไม่รวู้ ่า อกศุ ลกรรมใดมนั ใหผ้ ลผมอยู่ แตผ่ มกลวั เรอ่ื งอนนั ตรยิ กรรม มากๆ เลยครับท่านอาจารย์ ทำ�ให้ผมไม่กล้าจะไปหาพระ หรือไม่ค่อยกลา้ ออกไปทำ�บญุ เลย เพราะกลวั จริง แต่จากการศึกษาข้อมูลแล้ว ก็รู้ว่าโรคที่ผมมีอยู่มัน ไมไ่ ดต้ ดิ กบั ใครงา่ ยๆ ไมต่ ดิ ทางผวิ หนงั ทางเลอื ด ตดิ จากการ มเี พศสมั พนั ธ์ ความคดิ มนั พาคดิ ไปถงึ วา่ เชอ้ื มนั จะตดิ พน้ื ไหม

www.kanlayanatam.com 142 อะไรทำ�นองนี้ ผมรู้สึกท้อมากเลยครับ ผมอยากทราบว่า สิ่งท่ีผมกระทำ�ไป จัดเป็นอนันตริยกรรมไหมครับ ผมกลัว จรงิ ๆ ครบั ผมกราบขอบพระคุณในความเมตตา ของท่าน อาจารย์ ดร.สนอง วรอไุ ร เปน็ อยา่ งสงู นะครบั สงิ่ ใดเปน็ การ รบกวนอาจารย์ ผมกราบขอขมามา ณ ทน่ี ้ีครับ ค�ำ ตอบ ความไม่รู้จรงิ (อวชิ ชา) เปน็ ตน้ เหตุ ใหเ้ กิดความกลวั ดงั นนั้ ผรู้ ไู้ มจ่ รงิ จติ ยอ่ มไมต่ ง้ั มน่ั เปน็ สมาธิ จติ ทไ่ี มเ่ ปน็ สมาธิ เพราะไมม่ ศี ลี บรสิ ทุ ธค์ิ มุ ดงั นน้ั ผใู้ ดปรารถนาจะมใิ หค้ วามกลวั เกิดข้ึน แล้วคิดไปต่างๆ นานา ไมถ่ ือว่าเปน็ อนนั ตริยกรรม มิได้ตัดทางสวรรค์ มิได้ตัดทางนิพพาน แต่เมื่อใดท่ีกรรม ใหผ้ ล ยอ่ มเกิดเปน็ ความเร่ารอ้ นข้ึนในดวงจิต ตงั้ มัน่ คอื สติ ตงั้ ใจ คอื งานธรรม จติ สงบ ก็พบธรรม

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 143 ๕๖. หา้ มไดห้ รอื ไม่ คำ�ถาม อยากทราบวิธีในการปฏิบัติกรรมฐานท่ีถูกต้อง เพื่อ ทำ�จิตใจให้สงบ เพราะมันจะต้องมีการฉุกคิดข้ึนมาทุกคร้ัง เวลาปฏบิ ัติ เราจะห้ามมนั ได้หรอื ไม่ครบั และมนั จะเกดิ ขน้ึ จริงหรอื เปลา่ ครบั เพราะมนั ทำ�ให้เราวติ กกงั วล จะสามารถ แก้ไขอย่างไรดีครับ และทำ�ไมจิตของผมมันต้องมีการคิด ข้ึนมาแวบหนึ่งขึ้นทุกคร้ังจนฟุ้งซ่าน เป็นอำ�นาจของกรรม หรือเปลา่ ครบั เป็นกรรมเกดิ จากอะไรครับ ขอแสดงความนับถืออย่างสงู คำ�ตอบ ท่านเจ้าคุณโชดกเคยพูดกับผู้ตอบปัญหาในทำ�นอง ท่ีว่าผู้ใดไม่เอาศีลลงคุมใจ ใจย่อมฟุ้งซ่านด้วยอารมณ์ปรุง แต่งดังนั้น ศีลจึงเป็นฐานให้จิตต้ังมั่นเป็นสมาธิ สมาธิเป็น ฐานใหจ้ ติ เกดิ ปญั ญาเหน็ แจง้ ผรู้ จู้ รงิ แทแ้ ละรทู้ กุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง (พระพุทธโคดม) จงึ ได้บัญญัติไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปญั ญา)

www.kanlayanatam.com 144 ไว้ให้ภิกษุสงฆ์ประพฤติปฏิบัติ เพื่อพัฒนาจิตไปสู่ความ พ้นทุกข์ ในฐานะท่ีผู้ถามปัญหาเป็นพุทธบริษัท (ฆราวาส) ปรารถนาจะมิให้จิตมีอารมณ์ฟุ้งซ่าน ต้องเอาศีลคุมใจ ใหไ้ ดท้ กุ ขณะตน่ื แลว้ โอกาสทจี่ ติ จะปราศจากอารมณฟ์ งุ้ ซา่ น ยอ่ มเกดิ ขึ้น ส่วนคำ�ว่า “กรรม” หมายถึง การกระทำ� มนุษย์ ทำ�กรรมไดส้ ามทางคอื คิด (มโนกรรม) พดู (วจกี รรม) และ ทำ� (กายกรรม) ผใู้ ดยงั มคี วามไมร่ จู้ รงิ (อวชิ ชา) อยใู่ นดวงจติ ผู้นนั้ ยงั ตอ้ งเวยี นตาย - เวยี นเกิดอยใู่ นวัฏสงสาร การเกิด เป็นทุกข์ การตายเปน็ ทกุ ข์ ทกุ ข์เกิดขึน้ เพราะความไม่รู้จรงิ บุคคลผูไ้ ม่รู้จริงยังต้องทำ�กรรมอยู่อย่างไม่มวี นั จบสิน้ การปฏิบัติ ไม่มีการแบ่งเวลา วา่ เวลานี้สำ�หรบั การปฏบิ ตั ิ เวลานี้ไมต่ อ้ งปฏิบัติ แท้จริงแล้ว เวลาทั้งหมดของชีวิตทีเ่ หลือ คือการปฏบิ ัติ หากมีหน้าทภ่ี าระ ตอ้ งทำ�กท็ �ำ ไป . . . แ ต่ ใ จ ค อ ย รู้ เ ส ม อ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 145 ๕๗. ถามเลยนะคะ คำ�ถาม กราบเรยี น อ.สนอง ทเ่ี คารพค่ะ ถามเลยนะคะ ๑. การจุดธูป เป็นวิธีการหน่ึงท่ีจะเชิญผู้ท่ีเราจะ อทุ ศิ บญุ ให้ ใหเ้ ขามาอนุโมทนาบญุ ได้ ใชห่ รือเปล่าคะ ๒. มีคนที่เขาส่ือสารกับส่ิงศักดิ์สิทธ์ิเทพเทวดา ได้บอกลูกว่า ในนิมิตเขาเห็นองค์จ้ีกง และเห็นหน้าลูก แล้วให้ลูกไปหารูปองค์จ้ีกงมาไว้บูชา และให้สวดมนต์บูชา ทา่ น เพอ่ื ใหง้ านตา่ งๆ ทต่ี ดิ ขดั จะไดผ้ า่ นไปไดอ้ ยา่ งราบรน่ื ลกู ควรทำ�อยา่ งไรคะ่ ๓. สืบเน่ืองจากผู้ที่ส่ือสารกับเทพเทวดาได้ เขา บอกว่ามีเทวดามาคุ้มครองเรา หลังจากนั้นพิธีกรรมต่างๆ ก็ตามมา เช่น ต้องไปทำ�พิธีไหว้ ต้องสวดมนต์บทต่างๆ ลูกก็ทำ�ค่ะ และตอนนี้รู้สึกว่ามันเยอะเกินไป และคิดว่ามัน ไมใ่ ช่ทางพ้นทุกข์ท่แี ทจ้ รงิ คิดถกู ทางหรือไมค่ ะ ขออนญุ าต ขอคำ�แนะนำ�จากอาจารยด์ ้วยคะ่ ๔. เมื่อก่อนลูกจะทำ�อะไรจะต้องขอพร ขอให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเทวดาดลบันดาลให้ประสบความสำ�เร็จ

www.kanlayanatam.com 146 แตป่ จั จบุ นั นล้ี กู มคี วามคดิ วา่ เราจะทำ�อะไรใหส้ ำ�เรจ็ เราตอ้ ง ทำ�เหตใุ ห้ตรงกอ่ น จะสำ�เร็จหรอื ไม่กย็ อมรบั ได้ทกุ กรณี และ เลกิ ยดึ ตดิ พธิ กี รรม สง่ิ ศักดสิ์ ทิ ธิ์ และเทวดา (แต่ยังเคารพ เทพ เทวดาในคณุ ความดที ที่ า่ นม)ี ลกู กำ�ลงั เดนิ ไปถกู ทางหรอื ไม่คะ ขอคำ�แนะนำ�ด้วยค่ะอาจารย์ ขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงค่ะท่ีกรุณา และขอ อนุโมทนาบุญทีเ่ กดิ ข้ึนด้วยค่ะ สาธุ ค�ำ ตอบ (๑) ใช่ การจุดธูปเป็นวิธีอย่างหนึ่ง ท่ีจะเชิญ อมนุษย์ให้มาอนุโมทนาบุญ และไม่ต้องจุดธูปก็อุทิศบุญ ใหก้ ับอมนุษย์ได้ (๒) ควรรับฟัง แล้วเอาส่ิงท่ีเขาพูดมาเป็นครูสอนใจ ของเรา ว่าเขาพูดถูกตามความรู้ของเขา แต่มิได้ถูกตรง ตามคำ�แนะนำ�ของผทู้ รี่ จู้ รงิ แทว้ า่ งานจะสำ�เรจ็ ลลุ ว่ งไปดว้ ยดี ต้องทำ�งานด้วยการใช้อิทธิบาท ๔ สนับสนุน และย่ิงทำ� ดวงชะตาใหด้ ี ดว้ ยการประพฤติ ทาน-ศลี -ภาวนา จนเขา้ ถงึ มรรคผลได้แลว้ ความตดิ ขัดในงานย่อมไมเ่ กดิ ขึ้น (๓) ผู้ใดเอาจิตเข้าไปผูกติดเป็นทาสของพิธีกรรม

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 147 ผู้นั้นย่อมไม่สามารถนำ�พาชีวิตไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ ผู้ถาม ปัญหาคดิ ได้ถกู ทางสคู่ วามพ้นทุกขแ์ ล้ว ...สาธุ (๔) ตลอดสี่สิบห้าพรรษาที่ออกเผยแพร่ธรรม พระพุทธโคดมมิได้สอนพุทธบริษัท ให้ประพฤติตนเป็น ผขู้ อ แตส่ อนพทุ ธบรษิ ทั ทำ�เหตใุ หถ้ กู ตรง แลว้ ผลถกู ตรงตาม ความปรารถนาจึงจะเกิดขึ้น ดังน้ันความรู้เห็น เข้าใจของ ผ้ถู ามปัญหา สอ่ งนำ�ทางใหก้ บั ชวี ิตได้ถกู ตรงแล้ว ...สาธุ ๕๘. ก่อนจะ early retire ค�ำ ถาม กราบเรียน อ.ดร.สนอง วรอไุ ร ผมมเี รอ่ื งจะขอคำ�แนะนำ�จากทา่ นอาจารย์ เพราะเทา่ ท่ีผม (ประสาคนโง่ๆ) ได้ยินมา มักจะมีแต่เร่ืองลูกเนรคุณ ทอดท้ิงบุพการี กอ่ นเขียนคำ�ถามครง้ั นี้ ผมกเ็ หน็ ว่าในกลมุ่ คำ�ถามสนทนาภาษาธรรมนี้ มีแต่เร่ืองลูกกลัวบาปเพราะ ไม่ดูแลพ่อแม่ หรอื พอ่ แมก่ ลวั ลกู จะไม่ได้ดี ผมจึงต้องเขียนคำ�ถามน้ีข้ึนมา เนื่องจากปัญหา ของผมจะตรงกันข้ามกับข้อมูลส่วนใหญ่ท่ีกล่าวมา นั่นคือ ตัวผมเองมีร่างกายไม่แข็งแรง แต่ก็ทนอยู่มาจนทุกวันน้ี

www.kanlayanatam.com 148 (ไม่ทราบจะมีนิวรณ์มากไปหรือเปล่า) เมื่อจบการศึกษา แพทย์ กค็ ดิ วา่ ถงึ เวลาทเ่ี ราควรจะทำ�หนา้ ทด่ี แู ลตนเอง และ ครอบครัว เพราะเรากเ็ ปน็ ลกู คนโตเสยี ดว้ ย แต่พอ่ แม่ท่านก็ ใหเ้ ราหยดุ ไปทลี ะขนั้ จากแรกไมใ่ หผ้ มทำ�งานนอกเวลา ใหผ้ ม เอาเงนิ ท่ีพอมีอย่ไู ปซื้ออาคารเตรียมไว้ทำ�ร้านเอง ผมก็ยอม เพราะคิดว่าท่านคงหวงั ดี พอทำ�ไปสกั พกั ทา่ นก็บอกใหผ้ ม หยดุ ทำ�รา้ น เพราะทา่ นเหนือ่ ยมาก มีอาการประสาทหลอน ผมรกั และเปน็ หว่ งท่าน ยอมปดิ ร้านมาเฝา้ บา้ นใหท้ า่ น ทา่ น ก็หายจากอาการน้ันได้ทันที ผมเป็นแพทย์ก็พอเข้าใจว่า มอี ะไรเกดิ ขึ้น เพราะก่อนปดิ ร้านน้ัน ญาติพ่ีนอ้ งกเ็ คยเตือน ผมว่าเร่ืองนี้มันแปลกนะ ดูดีๆ ก่อนใครป่วยจริงหรือเปล่า แต่ตัวผมก็คิดว่าบุพการีคือผู้เลี้ยงดูเรามา คงไม่มีใครจะมา ทำ�อะไรแปลกๆ หรอก ทุกวันน้ี ผมจึงทนอยู่เป็นเด็กเฝ้าบ้าน-ล้างจานให้พ่อ แม่ งานแพทยไ์ มไ่ ดท้ ำ� แตผ่ มกค็ ดิ วา่ สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ มาทกุ ๆ อยา่ ง คงเป็นเพราะกรรมท่ีเราสร้างมานมนาน อดีตคงแก้ไขไม่ได้ แตท่ ี่ยงั หนักใจอยู่กค็ อื ๑. ขณะนผี้ มตอ้ งทนอยกู่ บั ทา่ นทผี่ มรกั แตท่ า่ นระแวง ผมมาก กินข้าวก็ต้องเอากับข้าวไปซ่อนกัน ผมก็คิดว่า “เอาเถอะเราทำ�หน้าท่ีเราก็พอ” เลยให้เงินท่านใช้ทุกเดือน

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล่ ม ๒ ๒ 149 ข้าวปลาอาหารซื้อกินเอง ซ้ือฝากท่านพร้อมๆ กันไป เฝ้าบ้านให้ท่าน เพราะท่านชอบจะออกไปห้างสรรพสินค้า ทุกๆ วันหยดุ แต่ไม่เทา่ นน้ั ชว่ งดึกๆ ผมจะลุกเดนิ ออกจาก ห้องพักมา ท่านก็จะต้องเดินตามมาดูว่าผมท�ำอะไร ผม เคยยนื ไหว้พระหนา้ หอ้ งพระทุกๆ วัน ท่านก็ต้องมายืนหลัง ผม หลังๆ นี้ผมต้องไหว้พระแค่ในห้องนอน แค่พูดเรื่องนี้ ผมก็รู้สึกว่าผมบาปมากไปแล้วนะท่ีพูดเรื่องพ่อแม่อย่างน้ี แต่ผมก็อยากจะขอค�ำปรึกษาจากท่านอาจารย์ เพราะผม นึกไม่ออกจริงๆ ว่าถ้าเราต้องอยู่กันอย่างนี้ ตัวผมเองก็ ไมใ่ ช่พระอรยิ ะ บางทีกม็ ีจิตน้อยเนอ้ื ต่ำ� ใจ ไมพ่ อใจท่านบา้ ง มันจะเป็นการสร้างบาปกันไปเรื่อยๆ หรือเปล่าผมควรจะ แก้ไขอยา่ งไรดคี รบั ใจถงึ จะสงบกวา่ น้ี ๒. ขอคำ�แนะนำ�จากท่านอาจารย์เร่ืองรูปแบบและ สถานท่ีปฏิบัติธรรมระยะสั้นๆ ในกรุงเทพฯ (แถวๆ สถานี รถไฟสามเสน) เพราะผมยังตอ้ งทำ�งานราชการไปอกี อย่าง น้อย ๓-๔ ปี ก่อนจะ early retire ได้ เลยมีเวลาว่าง เป็นช่วงๆ ไม่ยาวนาน เดือนท่ีผ่านมาได้ไปสิงห์บุรี จึงรู้ว่า วิธีทำ�ใหจ้ ติ สงบน้นี า่ สนใจมาก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook