Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27

สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27

Published by Sarapee District Public Library, 2020-10-26 04:30:46

Description: สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27
โดย ดร.สนอง วรอุไร

Keywords: ธรรมะ,สนทนาภาษาธรรม,ดร.สนอง วรอุไร

Search

Read the Text Version

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๔๓. ทอ แทในการปฏิบัตธิ รรม คําถาม เรียนทานอาจารย ดร.สนอง วรอุไร ดฉิ ันไดป ฏิบัติธรรม ตามหลกั สตปิ ฏ ฐานสี่ แตข ณะปฏบิ ตั จิ ติ ฟงุ ซา นมาก กาํ หนดแลว ยังไมห าย และกาํ หนดยนื หนอไมค อยได ทําใหเ กดิ ความทอแท ในการปฏบิ ตั ิ อยากเรยี นถามอาจารยว า จะมวี ธิ แี กไ ขอยา งไรคะ คําตอบ การปฏบิ ตั ธิ รรมเปน การพฒั นาจติ อยา งหนงึ่ หากประสงค ๑๐๐ จะพัฒนาจิตใหเกิดปญญาเห็นแจง ตองปฏิบัติตามหลักไตร สิกขา (ศีล สมาธิ ปญญา) เม่ือเอาศีลมาคุมใจไดแลว จึงจะ เริ่มปฏิบัติสมถกรรมฐาน เม่ือจิตต้ังมั่นเปนสมาธิไดแลว จึง ตามดวยการปฏิบัติวิปสสนากรรมฐานตามหลักสติปฏฐาน ๔ (กาย เวทนา จติ ธรรม) ดวยการใชจิตท่ีต้งั มัน่ เปน อุปจารสมาธิ ตามดูผัสสะอยางใดอยางหนึ่งในสติปฏฐาน ๔ ท่ีเกิดข้ึนกับจิต วาดําเนินไปตามกฎไตรลักษณ เม่ือใดท่ีผัสสะเขาสูความเปน อนตั ตาอยางถาวร เม่อื น้นั ปญญาเหน็ แจง ในผัสสะยอ มเกดิ ขึ้น คนสว นมากในยคุ สมยั นก้ี าํ ลงั ความเพยี รออ น ยอ มแพใ จ ตวั เอง ยอมปลอ ยใหม ารเขา มามอี าํ นาจเหนอื ใจ เจา คณุ โชดก เคยพูดไวว า ผมู ีความเพยี รมาก ปฏบิ ตั ิธรรมวันละ ๒๐ ชัว่ โมง ผูมคี วามเพียรปานกลาง ปฏิบตั ธิ รรมวันละ ๑๕-๑๖ ช่ัวโมง ผูม ี

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ความเพยี รนอ ยปฏบิ ตั ธิ รรมวนั ละ ๕-๖ ชว่ั โมง ดงั นน้ั จงึ ตอ งดใู จ ตัวเอง วา ตนยงั มคี วามดอยในเรอื่ งความเพยี รอยหู รอื ไม ทัง้ น้ี เพราะปญญาเห็นแจง ยอมเกิดขึ้นกับผูมีความเพียรเปนเลิศ หรือยอมพูดไดในอีกทางหน่ึงวา ปญญาเห็นแจงยอมเกิดขึ้น กับผูท่ีเอาชนะใจตนเองได ๔๔. หนีกรรมไมพ น คําถาม ๑๐๑ เรยี นทานอาจารย ดร.สนอง ทีเ่ คารพ กระผมไดต ดิ ตาม การชท้ี างธรรมจากทา นมานาน และไดท ดลองปฏบิ ตั แิ ละศกึ ษา เพิ่มเติมเม่ือมีโอกาสตามสถานปฏิบัติธรรมและสื่อธรรม ตา งๆ จนไดผลทนี่ า พอใจข้นึ ตามลําดบั ผมมขี อ สงสัยตอ งการ เรยี นถามทานอาจารยด งั น้ี ๑) ผมเคยไปอบรมสัมมนาท่ีตางจังหวัด ซึ่งตองฟง บรรยาย และเดินทางเปนเวลาหลายวัน จนทําใหเ ปนลมขณะ ท่ีลุกจากอางนํ้าซ่ึงน่ังแชน้ํารอนจนเหงื่อออก แลวลุกข้ึนยืน เพื่อเปดนํ้าเย็นจากฝกบัวเพ่ือใหรางกายเกิดความสดชื่น แต เพ่ิงยืนอาบไดครูเดียวก็เปนลมหมดสติไป เปนครั้งแรกในชีวิต ที่เกิดอาการอยางน้ี เพราะผมชอบออกกําลังกายมาตลอด เพิ่งจะหยุดไปเมื่อปสองปกอนน้ัน (ขณะน้ันผมอายุประมาณ สี่สิบหาป) เม่ือผมรูสึกตัวอีกครั้งก็พบวากําลังนอนอยูบนพ้ืน

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร หองนํ้าและรูสึกเจ็บบริเวณกระโหลกทายทอย แตไมมีแผล เลอื ดออก เม่ือลองพจิ ารณาดูแลวผมคงหงายหลงั จากในอาง นํ้าแลวหัวฟาดกับขอบปูนท่ีกอไววางอางลางหนา แลวลมมา อยูบนพ้ืนหองน้ําหมดสติไป จากนั้นผมก็เฝาเช็คอาการตัวเอง ตลอด พบวาปกติดี มีเพียงอาการเจ็บเล็กนอยสองวันก็หาย เจ็บ เม่ือจบสัมมนา ผมก็ไปสถานปฏิบัติธรรมใกลๆ โรงแรม เพื่อถามพระเก่ียวกับเหตุการณที่เกิดขึ้น ซ่ึงทานก็บอกวาจาก ประสบการณของทานเคยเจอแตพระดวยกันลมแตหัวทาน ฟาดโถสว มเสยี ชวี ิต แตทานกใ็ หค ําตอบแกผ มไมไ ด ผมไดแ ตต ั้ง สมมตฐิ านไวดงั นี้ ๑๐๒ ๑.๑) เปนกําลังสติอัตโนมัติ ทํางานรักษากายเมื่อจิตอยู ในภวงั ค เหตุคอื อานสิ งสจากการปฏิบัตธิ รรม ๑.๒) หลังจากปฏิบัติธรรม ผมเพิ่มนิสัยอยางหนึ่งคือ เมื่อผานบริเวณที่สังเกตเห็นศาล เชน ดอยขุนตาลหรือตนไม ใหญตางๆ ที่มพี วงมาลยั คลอ ง เชน โคง รัชดา ผมมกั จะระลกึ ถึง ตอนทาํ บญุ แลว อทุ ศิ สว นกศุ ลออกไป ตอนเขา โรงแรมทส่ี มั มนา ผมเห็นศาลพระพรหมใหญตั้งอยูหนาโรงแรม ผมก็ทําเชนกัน เหตุน้ี สง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธ์จิ งึ ชวยคมุ ครอง ๑.๓) โชคดี แตอาจารยเคยพูดไววา เรื่องบังเอิญไมมี ในทางพุทธศาสนา ขออาจารยชวยเมตตาชี้แนะดวยครับ วา ผม เห็นถกู หรือ เหน็ ผดิ ตรงไหนบา ง

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๒) หางกันประมาณหาหกเดือน ผมไปสัมมนาทางภาคใต ๑๐๓ สองสามวัน จึงไดมีโอกาสแวะวัดขางทาง ผมจึงเขาไปเพื่อ ไหวพระเปนศิริมงคลและซื้อของฝาก บังเอิญพบพระแกๆ รูปหน่งึ ตะโกนถามผมวา มาทําอะไร ผมก็ตอบไปวา มาไหวพระ ทา นกไ็ มวา อะไรแลว กเ็ ดนิ ไปสอนพระหนุมท่ยี นื อยูอีกทาง เม่อื ผมไหวพ ระพุทธรปู เสร็จและเดนิ ดูสวนเลก็ นอ ยก็เดินกลบั ก็มา พบทานอีกครั้งบริเวณใกลประตูหนา ผมจึงเดินเขาไปสนทนา กับทานเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม ทานก็เมตตาสอนใหหลาย อยาง ขณะน้ันฝนเริ่มตกปรอยๆ ทานก็ยังคอยตอบส่ิงท่ีผม สงสัยโดยไมแสดงความอึดอัดรําคาญแตอยางใด เม่ือผมถาม ถึงเรื่องที่ผมเปนลมแลวทําไมจึงยังเปนปกติอยู ทานกลับ ตอบวา “จริงๆ แลวตัวเราเองก็ไมมีอะไร” และเม่ือผมถาม วาเวลาผมทําบุญเสร็จ ผมจะอธิษฐานวานิพพานัง ปจโยโหตุ ทาํ เชน นถี้ กู ตอ งหรอื ไม ทา นกย็ งั พดู ทาํ นองวา จรงิ ๆ แลว อะไรๆ มันก็ไมมี ซ่ึงผมยังไมเขาใจอยูดี พอดีคนท่ีมารับทานยืนรออยู นานกเ็ ดินจะมากางรมใหทา น ผมรูส ึกตัววารบกวนมานาน จึง ลาทาน แลวเดินแยกกลับมา ขอถามอาจารยวา คําตอบของ พระทา นเปนหลักธรรมอะไรครบั ทา ยน้ี หากมกี ารกระทาํ ใดลว งเกนิ กบั ทา นอาจารย กระผม ขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ และขออาราธณาคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท้ังหลายปกปองคุมครองทานอาจารยและ กัลยาณมิตร ตราบจนถึงนิพพานดวยเทอญ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร คาํ ตอบ กอนอ่ืนตองแสดงความยินดีท่ีผูถามปญหา ยังไมยอมแพ ใจตนเองในการทําความดี (๑) ขณะแชน้ําอุน การไหลเวียนของเลือดในรางกาย ยอมเกิดขึ้นเร็ว จึงทําใหนํ้าตาลในเลือดลดลงอยางฮวบฮาบ อาการเปนลมหมดสติจึงเกิดขึ้นได ดวยเหตุน้ีในครั้งตอไป หากจะมีการแชน้ําอุนเกิดข้ึนอีก ตองเตรียมชงเคร่ืองด่ืมท่ีมี นา้ํ ตาลมากไวด ม่ื เพอ่ื ปอ งกนั มใิ หเ กดิ อาการเปน ลมหมดสตคิ รบั (๑.๑) มิใชเหตุผลทท่ี ําใหเกิดอาการหมดสตคิ รับ (๑.๒) พฤติกรรมที่บอกเลาไป เปนการใหส่ิงดีงาม ๑๐๔ กบั รูปนามท่ีอยตู างมิติ ถือวาเปนการไดเพ่อื นท่ดี คี รบั (๑.๓) จริงตามที่เคยพูดวา \"ความบังเอิญไมมีในทาง พุทธศาสนา\" ดังนั้น หากพัฒนาจิตใหเกิดอภิญญา ๕ ไดแลว จงึ จะสามารถสัมผสั กับเพอื่ นในตา งมิตไิ ด (๒) การทน่ี กั บวชรูปนน้ั ตอบวา “จริงๆ แลว อะไรๆ มนั ก็ไมมี” การกลาวเชนนั้นยอมเกิดขึ้นกับจิตท่ีเขาถึงดวงตา เห็นธรรมแลว ยอมเห็นสรรพสิ่งในวัฏสงสารเปนเพียงสมมติ มีเกิดข้ึนช่ัวคราว แลวดับไป คือไมมีน่ันเอง สุดทาย อโหสิให แลว

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๔๕. เมอ่ื กายและใจมีบุญ คาํ ถาม ๑๐๕ กราบสวัสดีทานอาจารย ดร.สนองครับ ขอเรียนถาม ปญ หา ๒ ขอ ครบั ผม ขอ ๑. คอื ตวั ผมสงสัยวาทุกคร้งั ท่ีเราทําความดี ไมว าจะ ไปทําบุญท่ีวัด ถวายสังฆทาน ใหอาหารปลา หรือทําบุญอยู ที่บาน สวดมนตนั่งสมาธิ หรือชวยคนอื่น เวลาจะอุทิศบุญ ผมตอ งทอ งบทสวดแผสว นกุศลทุกคร้งั เลยหรอื เปลา ครบั หรือ วา ใหนึกอยใู นใจวา บุญกศุ ลน้ีขาพเจาอทุ ิศใหก ับ......ครบั ไดเ ลย ครบั ไมตองทองตามบทแผส ว นกุศล ขอ ๒. คือบุญท่ีผมสงใหอยากสงใหถึงพวกเขา จะมีวิธี เตรียมจิตระหวางการอุทิศบุญอยางไรครับ ตองมีสมาธิใน ระหวา งอทุ ศิ บญุ ใชห รือไมค รบั ขอบคณุ ทานอาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร ครบั ทีส่ ละเวลามาตอบปญหาครบั คาํ ตอบ (๑) ผูมีจิตต้ังม่ันเปนสมาธิอยูกอนแลว เม่ืออุทิศบุญกุศล ใหผูอน่ื สัตวอน่ื ไมจําเปนตอ งทองบทสวดแผสว นบญุ กศุ ล ทง้ั น้ี เปนเพราะใจของผูอุทิศบุญ ยอมส่ือถึงกันไดกับใจของผูมารับ บุญกศุ ลท่ีมผี ูอทุ ศิ ให

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร (๒) ผูอุทิศบุญกุศลที่มีใจตั้งมั่นเปนสมาธิ ยอมแผบุญ กุศลไปไดไกล ตรงกันขาม ผูที่มีใจเปนสมาธิออน การทําจิต ใหตั้งมั่นเปนสมาธิดวยการหยาดนํ้าขณะกําลังอุทิศบุญน้ัน ๔๖. จิตเรม่ิ ดี คาํ ถาม กราบเรียนทานอาจารย ดร.สนอง วรอุไร ดิฉันมีปญหา จะกราบเรยี นถามทา นอาจารย ดังน้ีคะ ๑. ดิฉันไดไปปฏิบัติกรรมฐาน ที่คณะ ๕ วัดมหาธาตุฯ ๑๐๖ หลังจากไดฟงทานอาจารยทางซีดีมีผลเกิดขึ้นบาง เชน เมื่อ น่ังไปนานๆ ความเจ็บปวดขณะน่ังไมไดหายไปคะ แตรูสึกวา ความเจ็บปวดมันแยกออกจากตัวเรา เหมือนเราแคเปนผูดู ไมรูสึกทรมานกับความเจ็บปวดน้ัน อาการเชนนี้ หมายความ วา อยา งไรคะ ๒. ดิฉันไมมีโอกาสไดไปปฏิบัติอยางตอเนื่อง ไปไดแค ชวงปดเทอม และไมไดคางคืน ทุกครั้งทไี่ ปจะมลี กั ษณะแปลกๆ เกิดขึ้นบาง รูสึกวากาวหนาข้ึน แตพอกลับมาปฏิบัติท่ีบาน รูสึกวาไมเหมือนกับท่ีวัด ท้ังๆ ที่ดิฉันก็ไมไดมีความกังวลใดๆ แตกลับรสู ึกวา ไมก า วหนา เลย ทําไมจึงเปนเชน น้นั คะ (อยูที่วดั แคป ระมาณครั้งละ ๓ ช่ัวโมงคะ)

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๓. เราจะเจรญิ สติในชวี ติ ประจําวันไดอยางไรคะ ๔. ขอ นไี้ มเ กย่ี วกับการปฏิบัตินะคะ สนุ ัข หรอื แมว ทม่ี ี เจาของ เปนชาติสุดทายที่เขาจะเกิดเปนสัตวเดรัจฉานใชไหม คะ ชาตติ อไปเขาจะเปนคนหรือเปลาคะ สดุ ทา ยนี้ ถาดิฉนั ไดลวงเกนิ อาจารย ทางกาย วาจา ใจ ท้ังที่เจตนาก็ดี มิไดเจตนาก็ดี กราบขออภัยและขออโหสิ กรรมดวยนะคะ คําตอบ ๑๐๗ (๑) หมายความวา ปญญาเห็นแจง เริ่มเกิดขึ้นกับผูที่ เจรญิ วปิ ส สนากรรมฐาน (๒) ปฏิบัติธรรมท่ีบานไมสัปปายะ เหมือนกับการปฏิบัติ ธรรมท่ีวัดซึ่งมีความสัปปายะมากกวา ความกาวหนาในธรรม ท่ปี ฏิบัตจิ งึ ไดเ กดิ ขน้ึ (๓) ผูมีศีลและมีสัจจะคุมใจอยูทุกขณะตื่น สามารถ พัฒนาจิตใหมีสติในชีวิตประจําวันได ดวยการสวดมนต (สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย) กอนนอน หลังสวดมนตเจริญ สติภาวนาท่ีประพฤติอยูเปนประจํา ทําทุกครั้งท่ีนึกได ทํา ทุกคร้ังท่ีวางจากงาน ก็สามารถทําใหจิตมีกําลังสติเพ่ิมข้ึนได (๔) การทีส่ ัตวเล้ยี ง (สนุ ขั ) ตายแลว จะไปเกดิ เปน คนใน ชาติถัดไปได ผูอยูใกลชิดตองสังเกตดูพฤติกรรมท่ีสุนัขทําไว เปน เหตุ หากสนุ ขั มีพฤตกิ รรมถกู ตรงตามศลี ๕ อยเู ปน นจิ เมื่อ ตายแลว จติ วญิ ญาณของสนุ ขั จงึ จะมโี อกาสไปเกดิ เปน มนษุ ยไ ด

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ๔๗. ไมผิดศีลแตผดิ กฎหมาย คาํ ถาม กราบเรียนทาน อาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร ทเี่ คารพอยาง สูง กระผมขอเรยี นสอบถามปญหา ๒ ขอครบั ๑. การสรางกระทอม (เพ่ือขายของ) ริมทางหลวง ผิดศีลหรือไมครับ และการวางรถเข็นบนถนนสาธารณะหนา บานเราเองเพ่ือขายของ ผิดศีลหรือไมครับ ๒. เมื่อบุคคลเปนพระอริยะ (พระโสดาบัน) แลว จะ ถอยหลังกลับมาเปนปุถุชนอีกหรือไมครับ ๑๐๘ สดุ ทา ยนี้ ถา กระผมไดล ว งเกนิ อาจารย ทางกาย วาจา ใจ ท้งั ทเ่ี จตนาก็ดี มิไดเ จตนากด็ ี กราบขออภยั และขออโหสกิ รรม ดวยครับ คําตอบ (๑) การสรางกระทอมริมทางหลวง หากมีวัตถุประสงค ใชในทางท่ีไมผิดกฎหมาย ไมผิดศีล ไมผิดธรรม น้ันเปนส่ิงดี ท่ีควรทํา หากประพฤติแลวผิดอยางใดอยางหนึ่ง ผูรูจริงแท จะไมป ระพฤติ เพราะเปนเหตใุ หมชี ีวติ วิบัติได (๒) พระโสดาบันเปนผูท่ีมีสภาวธรรมในดวงจิต ปราศ จากสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส หรือดูไดจาก พฤติกรรมที่แสดงออก เชน มีศีล ๕ คุมใจอยูทุกขณะต่ืน ไม

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com พูดดิรัจฉานกถา ไมประพฤติดิรัจฉานวิชา ฯลฯ และไมถอย กลับมามีสภาวธรรมเปนปถุ ชุ นอีก พระสารีบุตรเคยกลาวไวในคร้ังพุทธกาล ในทํานองท่ีวา “บางคร้ังเรากระทําความดี กลับมีผูอ่ืนมองเห็นเปนเร่ืองไมดี ก็มีอยูถมเถไป ประสาอะไรกับใจของปุถุชน มักถูกกิเลสชัก พาใจใหเห็นดีเปนช่ัว เห็นช่ัวเปนดี แลวเที่ยวพูดใหรายปายสี คนอน่ื ใหต องเสียหายโดยไรเหตุผล” สุดทาย อโหสใิ ห และไมมโี ทษใดๆ ตอกัน ๔๘. ตัณหาของผูลว งลับ ๑๐๙ คาํ ถาม กราบเรียนทานอาจารย ดร.สนอง วรอุไร ดิฉันมีปญหา จะกราบเรยี นถามทานอาจารย ดงั นี้คะ เพอ่ื นของดิฉันเพง่ิ เสยี ชวี ิตดว ยอบุ ัติเหตุทางรถยนต เม่ือ วันท่ี ๓๐ ธ.ค. ๕๖ ตอนเวลา ประมาณ ๑๕.๓๐ น. ตรงดอย นางแกว อ.ดอยสะเก็ด จ.เชยี งใหม และไดเขา ฝน ญาตวิ าอยาก ทําบุญที่อยู อาศัย ไมทราบวาทานอาจารยจะแนะนําวิธีการ ทําบุญดานท่ีอยูอาศัย ตามที่เพื่อนของดิฉันบอกเลามาวาควร จะไปทําที่ไหน อยางไรคะ ที่เพื่อนสามารถไดรับสวนบุญใน คร้ังน้ีอยางเต็มที่ และตองบอกกลาวเขาอยางไรตอนทําบุญ สําหรับการตายแบบสัมพเวสีของเขาคะ ขอบพระคุณทา นอาจารยมากนะคะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร คาํ ตอบ ตองเปนเจาภาพหรือรวมเปนเจาภาพ สรางกุฏิถวาย ภกิ ษุหรอื สามเณร เพ่ือใชเปน ท่ีอยูอาศยั หรอื สรา งสถานปฏิบัติ ธรรมกับวัดที่ตองการ เม่ือสรางแลวเสร็จตองอุทิศบุญกุศลให กบั ผลู ว งลบั (บอกชอ่ื และนามสกุล) หากผลู วงลบั มาอนโุ มทนา บุญได เขายอ มไดร ับอานิสงสของบญุ นนั้ ๔๙. อกุศลวิบากยังคงอยู คาํ ถาม ๑๑๐ กราบเรียนอาจารย ดร.สนอง วรอุไร ทีเ่ คารพ ในชว งน้ี ดิฉันมักจะคิดในทางที่ไมดี เชน ปรามาสตอพระรัตนตรัย คิด ไมดีตอบุคคลรอบขาง โดยความคิดมักจะเกิดข้ึนมาเอง และ รับสิ่งตางๆ รอบตัวเขามาปรุงเปนอารมณ ในตอนน้ีรูสึกเสีย ความม่นั ใจมากคะ รสู ึกวาตวั เองเปนคนไมดี ดฉิ นั ขอคาํ แนะนํา จากอาจารยในการแกไขในสิ่งท่ีเปนอยูคะ คําตอบ การคิดไมดี (ปรามาส) พระรัตนตรัย หรือคิดไมดีกับ คนรอบขาง เหตุเกิดจากจิตของผูคิดไมดี มีกําลังสติออน ดังน้ันควรพัฒนาจิตใหมีกําลังของสติเพ่ิมมากขึ้น ดวยการ เอาศีล อยางนอยศีล ๕ มาคุมใจใหไดทุกขณะต่ืน ตามดวย

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com สวดมนตสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยกอนนอน หลังสวดมนต ๑๑๑ แลวเสร็จตองกําหนดลมหายใจเขา-ออก จนกระทั่งหลับไป ต่ืนนอนตอนเชาตองอุทิศบุญกุศลใหกับเจากรรมนายเวร หากผูถามปญหามีสัจจะพัฒนาจิตตามท่ีช้ีแนะมา จิตยอมมี กําลังของสติมากข้ึน กุศลธรรม (บุญ) ยอมเกิดขึ้นกับจิตท่ี มีสติคุม หลังจากนั้นจึงอุทิศบุญกุศลใหกับเจากรรมนายเวร แลวหนเ้ี วรกรรมจึงจะลดลงได อน่ึง จิตที่มีสติกํากับ ยอมเปนบอเกิดแหงปญญาเห็น ถูกตามธรรม แลวความคิดติดลบ ที่คิดวาตัวเองเปนคนไมดี จะไมเกิดข้ึน ผูใดมีสัจจะ ไมยอมแพใจตัวเอง เช่ือแลวทําตามท่ีผูรู ชี้แนะ ความสําเร็จในส่ิงที่ปรารถนายอมเกิดขึ้น .... สู ๕๐. สอนดว ยศรัทธา ไมบ งั คบั คาํ ถาม สวัสดีขอรับทานอาจารยสนอง กระผมขอความเมตตา กรุณาตอบคําถามเพื่อคลายความสงสัยครับ คนฉะเชิงเทรา เหมือนกนั นะขอรับกระผม ๑. คือคุณแมเปนคนรูธรรมะเยอะเหลือเกิน ไมคอยฟง ใคร ธรรมะของปุถุชนนักเทศนตางๆ ทานปฏิเสธหมด ตอง เปนพระอริยะหรือเกจิอาจารยเทาน้ันถึงสอนแลวทานจึงจะฟง

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร แตถากระผมจะบังคับคุณแมใหทํากรรมฐานจะเปนบาปไหม ขอรับ เพราะทานปฏิเสธตลอด ไมเคยฟงกระผมเลย คือ กระผมอยากไดบุญกับคุณแมมาก และถาเปนทานอาจารย สนอง จะมีวิธีการสอนคุณแมอยางไรครับ ? ๒. กระผมไดมีโอกาสสงอาหารใหกับผูปฏิบัติธรรมถึงเขา อธษิ ฐานจิตคนหน่ึง ในวดั แหง หน่งึ ที่ไปปฏบิ ตั ธิ รรม ปรากฏวา เขาเขาสมาธไิ ดนานต้ัง ๒๔ ชม. ในอิริยาบถนงั่ อริ ิยาบถเดยี ว แตเจตนาของเกลากระผมไมเต็มรอยเปอรเซนต และรูสึกไม คอ ยมศี รทั ธาและปติในขณะนั้น แตมารูท หี ลงั วาจะไดอ านิสงส มาก แลวอยางนี้อานิสงสจะสงผลในชาตินี้ไหมขอรับกระผม ๑๑๒ กระผมเคยไดยินวา ผูใดไดทําบุญกับทานที่เขานิโรธสมาบัติถา มศี รัทธาท้ัง ในขณะทํา กอ นทาํ และหลังทาํ จะไดอานิสงสม าก ในชาตนิ น้ั เลย คาํ ตอบ (๑) ความเชอื่ จะเกดิ ขน้ึ กบั ผใู ด ผนู น้ั ตอ งมปี ญ ญาเสมอกนั หรือมีปญญาสูงกวา นี่เปนสาเหตุท่ีหน่ึง ในครั้งพุทธกาล พระพุทธโคดมไดพบกับปญหานี้ จึงไดตรัส กาลามสูตร ให กับชาวกาลามะ แหงเกสปุตตนิคม ในแควนโกศล ถึงเร่ือง สิบอยา งท่อี ยาพึงปลงใจเช่ือ จนกวา จะไดพิจารณาดว ยปญ ญา วา ส่ิงที่ไดเห็น สิ่งที่ไดยินไดฟงเปนกุศลหรือเปนอกุศล เปน ธรรมะท่ีเปนโทษ หรือเปนธรรมะที่ปราศจากโทษ เปนธรรม ท่ีนําไปปฏิบัติแลวมีชีวิตเจริญหรือมีชีวิตวิบัติ ฯลฯ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ผูตอบปญหาในฐานะท่ีเปนนักวิทยาศาสตร ถูกสอนให ๑๑๓ เชื่อในความจริง (เหตุผล) และไดไปปฏิบัตธิ รรม (สมถภาวนา) จนเขาถึงอภิญญา ๕ และปฏิบัติธรรม (วิปสสนาภาวนา) จน เขาถึงญาณ ๑๖ ได จึงไดรูดวยจิตของตนเองวา กาลามสูตร นน้ั ศกั ดส์ิ ทิ ธท์ิ ส่ี ดุ และเปน พทุ ธวจนะทเ่ี ปน จรงิ มาจนทกุ วนั น้ี .... พิสจู นไหมครับ สาเหตุที่สอง จะเชื่อหรือไมเช่ือ ขึ้นอยูกับความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) ท่ีตัวเองไปแสวงหาความรู ดวยการพัฒนาสมอง แบบคันถธุระ (ปริยัติ) จึงเช่ือคนอื่นยาก ท้ังนี้เปนเพราะรูจํา แตไมรูจริงในความรูน้ัน จึงไมยอมเชื่อใครผูใด แตเช่ือสถาบัน หรือเชื่อครูบาอาจารยที่ประสิทธิ์ประสาทความรูนั้นให ยก ตวั อยา งเชน ศาสนาพุทธสอนวา ภพตา งๆ ในวฏั สงสาร มีทั้ง สัตว (รปู นาม) กายทิพยแ ละสตั วกายหยาบ ผทู ่เี หน็ ผดิ ไมเคย สัมผัสกับผี (สัมภเวสี) ไมเคยสัมผัสกับเทวดา ไมเคยสัมผัส กับพญานาค ฯลฯ ไมสามารถพิสูจนไดวา สัตวกายทิพยมี อยูจรงิ จงึ ไมเชื่อ ผูใดยังกลาวติรัจฉานกถา ยังประพฤติติรัจฉานวิชา ยัง ไมมีศลี ๕ คมุ ใจ ฯลฯ ตา งๆ เหลา นี้ ทําใหม ารมอี ํานาจเหนือ ใจ ความเชื่อในสิ่งที่อยูนอกเหนือประสาทสัมผัส จึงไมเกิดข้ึน แลวทาํ ใหไมเ ชอ่ื ดังน้ันการบังคับคุณแมใหไปปฏิบัติกรรมฐาน โดยคุณแม ยงั ไมเตม็ ใจถอื วา เปนบาป ตรงกันขาม หากคณุ แมเ ช่ือลูกและ เต็มใจไปปฏิบตั ิธรรม ผูแนะนําจึงจะไดบ ุญ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร (๒) การนง่ั ปฏบิ ตั ธิ รรม และสามารถนง่ั ไดใ นอริ ยิ าบถเดยี ว นาน ๒๔ ชว่ั โมง น้ันเปนตัวบงชี้วา จิตเขา ถงึ อปั ปนาสมาธหิ รือ ความทรงฌาน หากตายในขณะจิตทรงฌาน จิตวญิ ญาณยอ ม ถูกพลังของฌาน ผลักดันไปสูพรหมโลก อันเปนภพสูงสุดใน วัฏสงสาร แตยังมสี ภาวธรรมในดวงจิตเปนปถุ ุชน ผมู จี ติ ต้ังมนั่ แนวแน (อัปปนาสมาธิ) ไดใ นชาตนิ ้ี ยอ มเขา ถึงฌานสมาบัติสุขซ่ึงละเอียดออน ประณีต และยืนยาวกวา กามสขุ ผมู ีจิตทรงฌานสามารถหนีปญ หาได สามารถหนีความ เจบ็ ปว ย (อาพาธ) ได ทาํ ใหม อี ายยุ นื ยาวได ทาํ ใหม ปี ญ ญาสงู สดุ (โลกยิ ญาณ) หรืออภิญญา ๕ ได แตยังมสี ภาวธรรมในดวงจติ ๑๑๔ เปนปุถชุ น เวยี นตาย-เวยี นเกิดในวฏั สงสารไมส ิ้นสดุ การทําบุญเปนคนแรกกับผูที่เขานิโรธสมาบัติได ยอมได บุญมาก ดังตัวอยางของสรทะฤาษี (อดีตพระสารีบุตร) ทํา อาสนะดอกไม ยืนกางรมดอกไมถวายพระอโนมทัสสีพุทธเจา ซ่ึงนั่งเขานโิ รธสมาบัตินาน ๗ วัน จงึ สงผลใหมาเกดิ เปน พระ- สารีบตุ รในคร้ังพุทธกาล ซงึ่ เปนอคั รสาวกท่ีมปี ญญามาก พระมหากสั สปะ พระอรหันตทักขิไณยบคุ คล น่งั เขานโิ รธ สมาบัตนิ าน ๗ วนั ในวันท่ี ๘ ไดรับการถวายนาํ้ ผักดอง จาก หญงิ ชรายากจน ผลปรากฏวา หญิงชรายากจนตายแลวไปเกดิ เปน เทพนารี อยใู นวมิ านชั้นนมิ มานรดี มีนางอปั สรเปน บริวาร แวดลอ มมากมาย ฤาษีโคตมะ (อดีตพระปุณณมันตานีบุตร) ถวายอาสนะ ดอกไมและยืนกั้นรมถวายพระปทุมุตตระพุทธเจา ผูเขานิโรธ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com สมาบัตินาน ๗ วัน ตอนหลังฤาษีโคตมะไดมาเกิดอยูในครั้ง พุทธกาล และบวชเปนภิกษุที่มีช่ือวา พระปุณณมันตานีบุตร ไดบรรลุอรหันตท ่มี คี วามชํานาญในการแสดงธรรม สรปุ ผลแหงความดี (อานสิ งส) ที่เกิดจากการถวายทาน กบั ผทู อ่ี อกจากนโิ รธสมาบตั ิเปนคนแรก ตามท่ียกตวั อยาง มิได เกิดในชาติปจจุบันที่ถวายทาน แตผลเดนชัดไดเกิดขึ้นในอีก หลายชาติถดั ไป ๕๑. คนแพม าร คาํ ถาม ๑๑๕ กราบสวัสดีทานอาจารย ดร.สนอง วรอุไร คะ ขออนญุ าต ถามนะคะ ๑. หนูเปนคนชอบศึกษาเร่ืองเกี่ยวกับธรรมะคะ อาน หนงั สือพวกน้แี ลว รูสึกสบายใจ ชอบสวดมนต นั่งสมาธิ แตวา ไมชอบเขาวัด หนูก็ไมรูวาทําไม เพราะเวลาหนูไป พวกญาติ ผใู หญชอบพดู เชงิ เปรยี บเทียบในบางเรอ่ื ง ๒. หนูอยากฝกตัวเองใหเปนคนที่มีสัจจะ บางทีหนูต้ังใจ มากท่จี ะทําเรอื่ งนัน้ ๆ ใหสําเร็จ แตกท็ อ จนลม เลิกไปงา ยๆ ๓. บอ ยครง้ั ทหี่ นรู สู กึ วา ตวั เองเรยี นไมร เู รอ่ื ง ทง้ั ๆ ที่ ตง้ั ใจ ฟงอาจารยสอนตลอดเวลา แตบางครั้งหนูก็คิดเรื่องอ่ืนบาง หนูควรทําอยางไรคะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๔. หนูอยากไดคําแนะนําในการใชชีวิตในวัยเรียน ขอบ พระคณุ อยา งสูงคะ คําตอบ (๑) ความชอบคือความพอใจความถูกใจ เปนเร่ืองของ ปญญาที่มีพอๆ กัน หรือมีปญญาระดับเดียวกันกับความรูใน ธรรมะที่มีคนเขียนบอกได เหตุท่ีน่ังสมาธิอยูท่ีบาน แลวทําให จติ สงบ เพราะท่ีบา นมีความเปน สัปปายะ (เหมาะสม) เหตทุ ่ไี ม ชอบคนอนื่ พดู เพราะผถู ามปญ หามกี าํ ลงั ของสตสิ มั ปชญั ญะ ออนกวากาํ ลงั ของมาร จงึ รบั เอาคาํ พูดที่ไมดขี องคนอนื่ มา ๑๑๖ ปรงุ เปนอารมณไมด ี (บาป) ใหเ กดิ ข้ึนกบั ตวั เอง คนท่พี ัฒนา จิตจนมีสติสัมปชัญญะสองนําทางชีวิต คนอื่นพูดไมดีก็เปน เรื่องของเขา ไมรับเร่ืองที่ไมดีของเขามาปรุงเปนอารมณ ไมดีของเรา คนอ่ืนพูดดีก็เปนเร่ืองของเขา ไมรับเอามาเปน เรื่องดี เขามาปรุงอารมณท่ดี ีของเรา หากผูถามปญ หา คดิ พดู ทาํ ดี แลว ความดยี อมเกดิ ขึ้นและสัง่ สมอยใู นจติ วิญญาณของ ผูถามปญ หา .... จรงิ ไหม ? (๒) อยากมีสัจจะตองทําตนใหมีศีลคุมใจ แลวพัฒนาจิต (สมถภาวนา) ใหมีสติระลึกทันสิ่งกระทบทุกขณะต่ืน เม่ือใด คุณธรรมท้ังสองคุมใจทุกขณะต่ืนไดแลว การมีสัจจะจึงจะ เกิดข้ึนได

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com (๓) ตองพัฒนาจิตดวยการสวดมนตกอนนอน หลังสวด มนตก ําหนดลมหายใจเขา-ออก อยางนอ ย ๓๐ นาที เมอ่ื สอง กิจกรรมแลวเสรจ็ ตอ งอทุ ิศบุญใหเจากรรมนายเวร (๔) ทาํ ตามขอ (๓) เมอื่ จติ เปน สมาธิแลว คลื่นสมองยอม เปน ระเบยี บโดยอัตโนมัติ สง ผลใหมคี วามจําเพิม่ ขึ้น ตามกําลงั ของสติทีพ่ ัฒนาได .... ลองพสิ จู นดสู ิ ๕๒. คนตกงาน คาํ ถาม ๑๑๗ กราบเรียนทา นอาจารย ดร.สนอง ที่เคารพอยางสูง หนู ประสบปญหาดานอาชีพการงานมากคะ ตกงานมา ๒ ปแลว สมัครงานไปหลายสิบแหงก็ไมมีใครรับเลยคะ หนูพยายาม ขายของเองบา ง แตกข็ ายไดน อ ยมาก แมจ ะขายลดราคาแลว แตลูกคาก็ตอแลวตออีก หนูอยากขอคําแนะนําจากทาน อาจารยวาจะทําอยางไร ถึงจะมีโอกาสหางานได หรือถาหา ไมไดจริงๆ ก็สามารถประกอบอาชีพคาขายเองไดประสบ ความสําเร็จดี หรือทาํ มาคา คลอ งได ทกุ วนั นี้หนพู ยายามรกั ษา ศีล ๕ แตก ย็ งั ไมถึงขั้นคมุ ใจไดค ะ พยายามเดินจงกรมและนงั่ สมาธิทุกวัน แตสภาพการณก็ยังเหมือนเดิม เหมือนหนูมี กรรมเกาอยู จึงไมประสบความสําเร็จในอาชีพเลย และหนู เปนคนไมเ กงอะไรสกั อยางเลยคะ คือไมมคี วามชํานาญดา นใด เปนพิเศษ ทุกวันนี้ก็พยายามจะเรียนรูงานสายอาชีพอยูคะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร เพราะอยากมีความชํานาญเฉพาะดานบาง ทั้งที่อายุมากแลว แตเหมือนใจมันไมสู ใจไมมีแรง หอเห่ียว ไมกลา ไมม่ันใจ ในตนเอง ทําใหเรยี นรไู ดชา มากคะ ขอทา นอาจารยชวยช้แี นะ ใหชวี ติ หนไู ดม โี อกาสทํามาหา เลี้ยงชีพไดดีดวยคะ กราบขอบพระคุณอยางสูง คาํ ตอบ จากงานวิจยั ที่ทําในตางประเทศ ดร. โกลแมน พบวาคนท่ี ประสบความสําเรจ็ ในชวี ติ ใชป ญญาทางโลก (I.Q.) รอ ยละ ๒๐ ใชคณุ ธรรม (E.Q.) มากถึงรอ ยละ ๘๐ ซึ่งผูตอบปญหาเคยพูด ๑๑๘ กบั นกั ศึกษาวา หากพัฒนาตนเองใหม ีความถองแท (ทําไดห รอื ทําเปน ) จนเปนที่ตอ งการ เรยี กหาเรยี กใชไดแ ลว จะไมต กงาน ดงั น้ันตอ งดูตัวเอง แลวทําเหตุใหถูกตรง ความสมปรารถนา จึงจะเกดิ ข้นึ ได ในทางพทุ ธศาสนาพบวาผมู ชี ะตา (ดวง) ดี ไมวิบัติ การ จะมีดวงดีได ตองประพฤติทาน ศีล ภาวนา อยูเสมอ จน คณุ ธรรมทัง้ สามใหผล แลวดวงยอมดแี นนอน ศีล ๕ เปนคุณธรรมที่ผลักดันจิตวิญญาณใหมาเกิดเปน มนุษย ผูมีกาย วาจา และโดยเฉพาะใจ ตองมีศีล ๕ คุมอยู ทุกขณะตื่น เมื่อนําตัวเองไปปฏิบัติธรรม (สมถภาวนา) แลว จิตจึงจะมีสติเกิดข้ึนได สติเปนมารดาแหงคุณธรรมท้ังปวง หมายความวา กศุ ลธรรมทง้ั หลายยอ มเกดิ ขนึ้ แลว ถกู เกบ็ บนั ทกึ ไวเปนบุญอยูในดวงจติ ของผมู ีสติ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๕๓. ความเหน็ แกตวั คําถาม ๑๑๙ กราบเรียนอาจารย ดร.สนอง วรอุไร ท่ีเคารพคะ ดิฉัน อายุ ๓๓ ป ยงั ไมแ ตง งาน ชวงเวลา ๑๐ ปท่ผี านมาดฉิ ันมีชวี ติ ท่ลี มเหลว ทําอะไรก็ไมป ระสบผลสาํ เร็จ ชวี ติ มีอุปสรรคตลอด เรียนไมจบ ทั้งๆ ท่ีกอนหนานี้มีความมุงม่ันในชีวิต, การงานก็ ไมส ําเร็จ เปล่ยี นงานบอ ย เขา งานท่ไี หนก็เจอแตเ พอ่ื นรว มงาน แยๆ หัวหนางานไมดี, ถูกใสรายปายสี, ถูกเขาใจผิดตลอด ไมรูวา เปนกรรมอะไรคะ ทาํ งานไมมีความสขุ เลย กบั ครอบครวั ก็ทะเลาะกับแมตลอด ถูกแมดาประจานชาวบานชาวตลาด เขาเปนคนที่โทสะรุนแรง ควบคุมความโกรธไมได จนบางคร้ัง รูสึกเกลียดในความเปนแมตัวเอง เขาเปนคนท่ีไมมีเหตุผล บางครั้งรูสึกเกลียดชีวิตตัวเอง อยากตาย ไมมีแรงใจในการ ดาํ เนินชวี ิต ปจจุบันดิฉันตองไปพบจิตแพทย หมอบอกวาเปนโรค ซึมเศรา ตองรับประทานยาอยางตอเนื่อง หมอจายยาให ๒ ชนิดคะ คือยาลดความวิตกกังวลและยาลดอาการซึมเศรา ดิฉันปฏิบัติธรรมมาตั้งแตป ๒๕๔๙ แตจิตไมสงบเลย ไม กาวหนา ตอนท่ีปฏิบัติธรรมใหมๆ บางคร้ังรูสึกกลัวตัวเองจะ เปน บา ควบคุมสติตัวเองไมไ ด แตพอเปลียนแนวกรรมฐานมาที่ ยบุ หนอพองหนอ เหน็ สตติ วั เองมากข้นึ รวู ิธกี าํ หนดจติ ปจจุบัน

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร อาการดังกลาวหายไปคะ แตการปฏิบัติธรรมก็ยังไมกาวหนา จติ ไมคอยสงบ ดิฉนั มีคําถามจะถามอาจารยด ังน้คี ะ ๑. ในบางคร้ังรูสึกจิตตกมาก จิตใจออนแอ ไมอยากมี ชีวิตอยู รูสึกทุกขกับการอยูโดดเด่ียวเดียวดายเหมือนชีวิตอยู คนเดียวในโลกใบนี้ เกดิ จากกรรมอะไรคะ ดิฉันตอ งแกอยางไร ถงึ จะหาย ถงึ จะมีจิตใจทเ่ี ขม แขง็ ตองฝก จิตอยางไรบางคะ ๒. โรคซึมเศราท่ีดิฉันเปนอยู มีโอกาสหายไดโดยไมตอง รับประทานยาหรือไมคะ ถาดิฉันฝกวิปสสนากรรมฐานตาม หลกั สติปฏ ฐาน ๔ ๓. การฝกวิปสสนากรรมฐานตามหลักสติปฏฐาน ๔ น้ัน ๑๒๐ จะชวยสามารถปรับสารเคมีในสมองเราไดจริงหรือเปลา (เคย อา นเจอในหนงั สอื คะ ) กรณีคนที่เปน โรคซึมเศราคะ ๔. การท่ีดิฉันถกู คนอ่นื เขา ใจผดิ ในการคดิ พดู ทํา เกิด จากกรรมอะไรคะ มวี ิธีแกอ ยางไรจึงจะไมเ จอเหตกุ ารณเหลา นี้ อกี คะ ๕. ดิฉันอยากมีครอบครัวที่อบอุน อยากมีบาน มีรถเปน ของตนเอง ปจ จุบนั อยอู พารท เมนท รสู กึ เบ่ือมากเพราะอยมู า ต้ังแตอายุ ๑๖ ป สิ่งเหลานี้เราสามารถอธิษฐานไดหรือเปลา จะผิดบาปหรอื เปลา ถา ไดทําอยา งไรถึงจะอธษิ ฐานไดสาํ ร็จ ๖. ดิฉันรูสึกวาจิตใจตัวเองปล่ียนไป หงุดหงิดงาย โกรธ เร็วขึ้น พอเจอส่ิงที่ไมไดดังใจท่ีเราปรารถนา ก็รูสึกหงุดหงิด อารมณเสียงาย มีอาการอยากดาส่ิงรอบขางขึ้นมาทันที แต

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com กอนไมเปนแบบนี้คะ มีวิธีแกอารมณและจิตใจตัวเองอยางไร บางคะ สดุ ทา ยนด้ี ฉิ นั ตอ งกราบขอบพระคณุ อาจารยม า ณ ทนี่ ค้ี ะ ขออํานาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงปกปองคุมครองอาจารยคะ ใหพบเจอแตค วามสขุ ในชีวิตคะ คําตอบ ๑๒๑ อุปสรรคเปนมารเขามาขัดขวางบุคคลมิใหบรรลุความดี หากบุคคลพัฒนาจิตใหมีสติและมีปญญาเห็นถูกตามธรรม (สติสัมปชัญญะ) แลวใชสองนําทางใหกับชีวิต ยอมนําพาชีวิต ไปสูความสําเร็จท่ีดีที่ตนปรารถนาได ท้ังนี้ตองมีความอดทน และมีความเพียรเปน กําลังสนบั สนุน ผูมีสติสัมปชัญญะ ยอมมองคนไมดีเปนครูสอนใจ วาเรา จะไมประพฤติเชนเขา แลวเราก็จะไมทําไมดีเหมือนเขา ใน ทางตรงกันขาม จงมองคนท่ีมีความประพฤติดีเปนครูสอนใจ วา เราจะประพฤติเชนเขา แลว เราก็จะดีเหมือนเขา อนง่ึ การ ปฏิบัติธรรม ตองประพฤติตนใหตรงตามธรรม (ทาน ศีล ภาวนา) ประพฤตติ นเปน ผใู หส ิง่ ดีงาม (ใหทาน) กับสตั วบ ุคคล ที่ตองการโดยไมหวังผลตอบแทน ทํากาย วาจา และใจ ใหมีศีล ๕ คุมอยูทุกขณะต่ืน แลวจึงนําตัวไปปฏิบัติธรรม ใหถูกตรง ปฏิบัติสมถภาวนาแลวจิตตองมีสติต้ังมั่นเปน สมาธิ ปฏิบัติวิปสสนาภาวนา แลวจิตตองเกิดปญญาเห็นแจง (โลกุตตรญาณ ๑๖)

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร สรุปไดวา หากปฏิบัติธรรมไดผลถูกตรงแลว ตองมีสิ่ง ดีงามเกิดขึ้นกับจิต ดังน้ันตองดูตัวเอง แลวปรับแกไขเหตุที่ ผิดพลาดใหถูกตรง ผูใดชนะใจตัวเองได ชีวิตนี้ไมมีอะไรท่ีจะ ตองแพอ กี .... สู (๑) ผรู ไู มเ อาจติ ไประลกึ อยกู บั อดตี แตเ อาจติ ระลกึ อยกู บั ปจจุบัน สวดมนตสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยกอนนอนทุกวัน แลวตามดวยการกําหนดลมหายใจเขา-ออก (การน่ังหรือนอน ภาวนายอ มทําได) ภาวนาหรือกําหนดจนหลบั ไป ตื่นนอนตอน เชาจึงอุทศิ บญุ กุศลใหเจากรรมนายเวร (๒) จงอยาบันทึกเร่ืองติดลบ (โรคซึมเศรา) เพิ่มเติมไว ๑๒๒ ในดวงจติ แลว ประพฤตติ ามขอ (๑) (๓) จงเลิกอานหนังสือ แลวพัฒนาจิตดวยการปฏิบัติ สมถภาวนา เมือ่ จติ จดจอ หรือระลึกรูอ ยกู บั ปจจุบนั ขณะไดแ ลว โรคซึมเศราจะไมเกิดข้ึน .... พิสูจนไหม ? (๔) คนมีธรรมประจําใจ ไมเอาจิตไประลึกหรือจดจออยู กับเรือ่ งของคนอ่นื แตร ะลึกอยกู ับการกระทาํ ของตัวเอง สง่ิ ใด ท่ีจิตส่ังใหคิด สั่งใหพูด สั่งใหกระทํา หากไมดีตองตรงกันขาม หากคดิ ดี พดู ดี ทําดี จงทาํ ดตี อ ไปใหม ีความดี (บุญ) มากขน้ึ (๕) อธิษฐานในสิง่ ดีๆ ท่ีตนปรารถนาได แตจะสําเร็จตอ ง ทําเหตุใหตรง ผูรูจริง (ผูมีปญญาเห็นถูก) อธิษฐานใหจิตมี สติคุมอยูทุกขณะตื่น เมื่อทําเหตุใหถูกตรงแลว ส่ิงดีงามท่ีตน ปรารถนา (อธิษฐาน) จึงจะสําเรจ็ ได

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com (๖) ตองทําเหตุใหถ กู ตรงสามอยา ง ก. อยา งนอยตอ งมีศลี ๕ คุมใจ ข. พัฒนาจติ (สมถภาวนา) ใหม ีสตอิ ยูทุกขณะต่ืน ค. ใหอ ภยั เปน ทาน ในทุกเหตทุ ที่ ําใหข ดั ใจ แลว ความสงบ เย็น (เมตตา) ยอมเกดิ ขนึ้ ในดวงจิต หากผถู ามปญ หาทาํ เหตทุ งั้ สามใหถ กู ตรงแลว ความสาํ เรจ็ ในส่ิงท่ีปรารถนาจงึ จะเกิดข้ึนได ๕๔. ร่าํ รวยเพราะใหทรพั ย คาํ ถาม ๑๒๓ กราบเรียนถามทานอาจารย ผมมักชักชวนเพ่ือนๆ ให ทาํ บญุ และมักจะสาํ รองเงินลวงหนาไปกอน โดยเพือ่ นๆ จะเอา เงนิ มาใหท หี ลงั อยากถามวา เงนิ (ตวั แบง ค และเหรยี ญ) ทเี่ พอื่ น เอามาใหผมในภายหลัง ที่เขาไดต้ังใจทําบุญและอธิษฐานไว ผมสามารถนํามาใชโ ดยชอบธรรมเลยใชหรอื ไม มีขอควรระวงั อะไรบา งหรอื เปลา ครบั จรงิ ๆ ถา คดิ ดมู นั กค็ อื เงนิ ผมแลว เพราะ ผมสํารองของตัวเองออกไปกอนเพื่อทําบุญตามที่เพื่อนต้ังใจ แตก็อยากถามเพื่อความมั่นใจและสบายใจครับ อีกขอคือ สมมติผมต้ังใจทําบุญย่ีสิบบาท แตมีแตแบงค รอ ย ผมสามารถใสแบงคร อยในพานทาํ บุญ และหยบิ เงนิ ทอน

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร แปดสบิ บาทจากพานท่คี นอน่ื ไดใสท ําบุญไวกอนแลว ไดห รอื ไม ครับ จะบาปหรือถือเปน เงนิ ทําบญุ แลวหรือไมครบั ขอบพระคุณทา นอาจารยค รับ คําตอบ บุญเกิดทุกคร้ังท่ีมีเจตนา แลวประพฤติตามบุญกิริยา วัตถุ ๑๐ ผูที่บอกลวงหนาวาจะทําบุญ โดยมีผูอื่นออกใหกอน เมื่อมีโอกาสเปดใหและผูบอกบุญไดประพฤติถูกตรงตามนั้น ผูบอกบุญและผูทําบุญยอมไดรับผล (อานิสงส) แหงบุญนั้น ในวันเวลาท่ไี ดก ระทําเสร็จลงแลว ๑๒๔ มีเจตนาทําบญุ ๒๐ บาท โดยเอาแบง ก ๑๐๐ ใสล งในพาน ที่เปดวางไวใหทําบุญ แลวหยิบเงินทอนกลับคืนมา ๘๐ บาท เปนเจตนาท่ีประพฤติถูกตรง ถือวาเปนบุญ ตรงกันขาม หาก มีเจตนาหยิบเงินทอนกลับคืนมามากกวาน้ัน ถือวาเปนบาป หากลืมจํานวนที่มีเจตนา แลวหยิบเงินทอนกลับมานอยกวา ถือวา ไดท ง้ั บุญและไดทัง้ บาป หากลืมเจตนา แลว หยิบเงินทอน มามากกวา ไดบาปมาก ไดบุญนอ ย

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๕๕. อกุศลวิบาก คําถาม กราบเรียนอาจารยสนองที่เคารพอยางสูง กระผมอยาก ทราบวาการท่ีเราเปนโรคผิวหนัง คันตามตัวมาก เกิดจาก เจากรรมนายเวรหรือเปลาครับ แลวจะมีวิธีแกไขใหทุเลา เบาบางไดอยางไรครับ หรือจะทําบุญอยางไรครับ สุดทายนี้ ขอใหอาจารยมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไปครับ คาํ ตอบ ๑๒๕ ในเร่ืองที่บอกเลาไป (คันตามตัว) เปนอกุศลวิบาก เหตุ เกิดจากผูถามปญหาเคยประพฤติกรรมไมดีไวกอน เม่ือกรรม ไมดใี หผ ล อกศุ ลวบิ ากจงึ ไดเกดิ ขึ้นตามกฎแหงกรรม ในครง้ั พทุ ธกาล โกกาลกิ ภกิ ขุ ไดก ลา ววาจาปรามาส (ดถู กู ) พระอคั รสาวกทง้ั สอง พระพทุ ธเจา ทรงหา มกไ็ มย อมหยุดมจิ ฉา วาจาเชนน้ัน ผลจึงไดเกิดพุพองตามผิวหนัง แลวแตกเปน นํ้าหนอง (เลือดเสีย สีขาวขน) ตองน่ังบนใบตองอยูท่ีหนา วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี แตหนี้เวรกรรมยังใชไมหมด จึงตอง ลงไปเกิดอยใู นปทมุ นรก (อเวจี) หากผูถามปญหาประสงคหนีอาการคันและพุพองได ชว่ั คราว ตอ งหนไี ปเกดิ เปน ชาวฟา ชาวสวรรค ดว ยการพฒั นาตน ใหมีศีลคุมใจอยูทุกขณะตื่น และบําเพ็ญทานอยูเสมอตลอด

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ชีวิต ก็สามารถหนีไปเกิดเปนเทวดาได และหากพัฒนาจิต (สมถภาวนา) จนจิตตั้งมั่นเปนฌาน ตายแลวพลังของฌาน ยอมมีโอกาสผลักดันจิตวิญญาณไปสูพรหมโลก ทั้งเทวดา และพรหมเปนสัตว (รปู กาย) ทพิ ย ไมมโี รคดังกลาว หากผูถามปญหาประสงคหนีจากอาการคันและพุพอง ไดอยางถาวร ตองพัฒนาจิตจนใหปดอบายภูมิได ดวยการ เจริญวิปสสนากรรมฐานจนเกิดปญญาเห็นแจง แลวใช ปญญาท่ีพัฒนาได ไปตัดอยางนอยสังโยชน ๓ (สักกายทิฏฐิ วจิ กิ จิ ฉา สีลพั พตปรามาส) ใหหมดไปจากใจ หากจิตวญิ ญาณ โคจรมาเกิดเปนมนุษย ยอมไมเปนโรคดังกลาว เพราะมี ๑๒๖ จริยธรรมคุมรักษา หากโคจรไปเกิดเปนรูปกายทิพย (เทวดา หรือพรหม) จะไมมีอาการคันและพุพองเกิดขึ้น ตาย-เกิดอีก ไมเ กนิ ๗ ชาติ จติ วญิ ญาณจึงจะโคจรพนไปจากวฏั สงสารได ๕๖. เหตเุ กดิ เพราะรูไมจริง คาํ ถาม กราบเรียนทาน อาจารย ดร.สนอง วรอุไร ท่ีเคารพ อยางสูง กระผมมีขอสงสัยเร่ืองหน่ึงมานานแลวเกี่ยวกับ ครอบครัวตนตระกูลของกระผม กระผมขออนุญาตเลา รายละเอียดยอๆ นะครับ เทาท่ีกระผมทราบก็คือ ตนตระกูล เปนพระยาคนหนึ่งที่มีความรูความสามารถมาก และไดเปน

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ครูสอนหนังสือใหกับเหลาบรรดาผูมีศักดิ์สูง (กระผมใชคํา ๑๒๗ หลีกเล่ยี ง) แตดวยความท่ีเปนคนโมโหรา ย ดุราย จงึ ไดทําราย ลูกศิษยจนเสียชีวิต ซึ่งหลังจากนั้นพอแมพี่นองของเขาก็ สาปแชงใหวิบัติ ๗ ชั่วโคตร ซึ่งภายหลังมาจนวันนี้ ไมวาจะ เปนใครในตระกูลน้ีก็ไมมีใครเจริญงอกงาม แมกระทั่งตัว กระผมเอง เรื่องดังกลาวนี้กระผมเองไมทราบวาจริงเท็จ แคไหน แตก็คิดวาบุญและกรรมของเราเทานั้นท่ีเปนตัว กําหนดส่ิงทเี่ ปน อยู และส่ิงท่ีจะเกดิ ตอไปภายภาคหนา กระผม อยากเรียนสอบถาม อาจารยสนองดังนี้ครับ ๑. พอแมพ่ีนองของเขาสาปแชงจะมีผลตามที่เขาเจตนา ไดห รือไม ๒. ถาเปนจริง เราจะแกไขสิ่งที่เราไมไดเปนคนกอไวได ไหมครบั ๓. จากท่ีเคยเรียนสอบถาม ขอ ๔๗ ขอสอบถามเพ่มิ เติม อีกประเด็นเดียวครับ คือ เม่ือเราสรางกระทอมท่ีอยูบนพื้นที่ ของกรมทางหลวงไปแลว แตข ณะนไี้ มไ ดใ ชแ ลว เพราะไดป ฏบิ ตั ิ ตามที่อาจารยสนองไดแนะนํา เราตองรื้อกระทอมดวยหรือไม ครบั สุดทา ยน้ี ถากระผมไดล ว งเกนิ อาจารยทางกาย วาจา ใจ ทั้งทเี่ จตนาก็ดี มไิ ดเจตนากด็ ี กราบขออภัยและขออโหสกิ รรม ดวยครบั

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร คาํ ตอบ ความคิดเห็นของผูถามปญหาท่ีวา “บุญและกรรมของ พวกเราเทานั้นท่ีเปนตัวกําหนด” ความคิดเห็นเชนน้ี ถูกตรง ตามธรรมครบั (๑) หากผูถูกสาปแชง มีศีลและมีสติคุมใจอยูทุกขณะต่ืน คําสาปแชงไมสามารถทําใหบุคคลผูมีคุณธรรมดังกลาววิบัติ ได และหากเมื่อใดผูถูกสาปแชงพัฒนาจิตจนเปนอริยบุคคลได ความวิบัตยิ อมยอนกลบั ไปเกิดข้ึนกับผูกลาววาจาสาปแชง (๒) คาํ วา “ถา ” ไมม ใี นพทุ ธศาสนา แตม คี าํ วา “เหต”ุ และ “ผล” เทา น้นั ๑๒๘ (๓) ผูใดรูวาไมดีแลวเลิกประพฤติ (รื้อท้ิง) ถือวาเปนคน มีจติ สาํ นกึ ท่ดี ี (คนด)ี ยอมมบี ญุ คมุ รกั ษา ๕๗. คดิ ไมดี คาํ ถาม กราบเรยี นทา น อาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร ทเ่ี คารพ หลายป ท่ีผานมาเริ่มมีอาการคิดไมดีเกิดขึ้นโดยที่ไมไดต้ังใจจะคิด คือ คิดไมดีตอพระรัตนตรัย เลยพยายามหนีโดยบิดเบือนความคิด น้ัน หรือคิดเพอฝนไปเร่ืองอื่นเพ่ือจะไดไมวางคิดสิ่งไมดีตางๆ และไดมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมท่ีวัดอัมพวัน รูสึกดีขึ้นมากคะ แตว า ไมไ ดป ฏิบตั ติ อเนอื่ ง อาการเกาจงึ กลับมาอีก ในบางครงั้ จะมีคําหยาบคายผุดขึ้นมาดวยคะ ในตอนนี้มักเปนคนยํ้าคิด

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ยํ้าทํา รูสึกวาตัวเองคิดมากและกลัวบาปจนเกินไป ไมคอย เชื่อม่ันในตัวเองสักเทาไหรคะ ขอความกรุณาทานอาจารย ชวยแนะนําวิธีแกไขดวยคะ คาํ ตอบ ๑๒๙ ดังที่พูดอยูเสมอวา ผูใดพัฒนาจิตใหมีสติคุมอยูทุกขณะ ตื่น ความดีงาม (คุณธรรม) ท้ังหลายท้ังปวงยอมเกิดตามมา ตามท่ีพระสารีบุตรไดกลาวไวในทํานองท่ีวา “สติเปนมารดา แหง คณุ ธรรม” นนั่ เอง วธิ แี กไ ข ตอ งพฒั นาจติ ของผถู ามปญ หา ใหมีศีล ๕ และมีสติคุมอยูทุกขณะต่ืน ดวยการสวดมนตกอน นอน หลังสวดมนตแ ลวเสร็จ ตองเจริญสตภิ าวนา ตามวิธีการ ท่ีใชอ ยูใ นปจจบุ ัน ผูมีศลี มีสจั จะ และมีความเพยี ร ยอมแกไ ข ปญหาไดเปน ผลสาํ เร็จ ๕๘. รูทันมาร คําถาม กราบอาจารย ดร.สนอง วรอุไร หนูปฏิบัติธรรมมา สักระยะหน่ึง เขาคอรสปฏิบัติมีพระอาจารยแนะนําตลอดและ คิดวาตนเองปฏิบัติไมผิดทางแนนอน พระอาจารยวาปฏิบัติ ในชีวิตจริงมันยาก และถาไมเปล่ียน เราจะแยกวาเดิม ซ่ึง ตอนน้ีหนูมีปญหามากๆ แบบวาทุกขมาก ทนไมไหวแลว หนู ไมอ ยากทาํ แลว และมนั ไมมีแรงทาํ ดวยคะ จิตมนั ลอยๆ ไปเลย

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร แขนขามันไมม ีแรงเลย และหนกู ไ็ มไ ดบ ริกรรมดวย จิตเหมอื น มันก็ยงั รๆู อยู และทแี่ ยค อื มนั เจอวบิ ากตลอด ทุกขม าก ปวย กาย ปวยใจ ทาํ อะไรผิดนิดผดิ หนอย กรรมมันเลนแรงเลย หนูไมอยากอยูอยางนี้ แตมันไมยอมใหหนูออกจากวงจร กิเลส→กรรม→วิบาก น้เี ลย มนั สงิ หนอู ยทู กุ วันเลย ทาํ อยา งไร ดคี ะ ? หนูดูอยู รอู ยู ไมไ หวแลว ไมไดห นี ขอออกมาพกั กอน ไดไหม ทาํ อยา งไรดคี ะ ท่วี าตองมีกําลังพละ ๕ ตานทานมาร รูอยู แตยังไมอยากทําตอนน้ี แบบวาออกมาพักกอน เพราะ ยิ่งปฏบิ ตั ิ ยิง่ เจออะไรแรงๆ แรงข้นึ แรงขนึ้ สตหิ นูนอ ยนิดเอง มันรุมทีเดียว หนูทนไมไหวแลวคะ ขอทราบวิธีออก ออก ๑๓๐ ไมไ ดคะ ขอบพระคณุ อาจารยท ่เี มตตาตอบคาํ ถามคะ คําตอบ การปฏิบัติธรรมคือการพัฒนาจิต หากปฏิบัติไดถูกทาง ตองไดร ับผลดงั น้ี ก. ปฏิบตั สิ มถกรรมฐาน แลว จติ ตอ งต้ังม่นั เปน สมาธิ ข. ปฏิบัตวิ ิปส สนากรรมฐาน แลวจิตตองเกดิ ปญ ญาเห็น แจง เมอ่ื ปฏบิ ตั ธิ รรมแลว ไดรบั ผลเปน อยา งอ่ืน แสดงวาปฏบิ ตั ิ ไมถูกทาง ผูใดไมยอมแพใจตัวเอง แตพัฒนาจิตจนมีกําลัง ของพละ ๕ กลาแข็งไดแลว จะปองกันส่ิงเลวรายท้ังหลาย มารทั้งหา (ขันธมาร กิเลสมารอภิสังขารมาร เทวปุตตมาร และมจั จุมาร) ไมส ามารถครอบงาํ จติ ได

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๕๙. ตดิ โลกียะ คําถาม ๑๓๑ กราบเรียนทานอาจารย ดร.สนอง วรอุไร ดิฉันมีความ ทุกขใ จเน่อื งจากสามนี อกใจมหี ญงิ อื่น เพือ่ นแนะนําใหฟ ง ธรรม ก็ได search มาเจอการบรรยายธรรมะของทา น รูสกึ เลอื่ มใส การเผยแผธรรมของทานอาจารยมาก กอนหนาน้ีก็เคยอาน หนงั สอื ของทา นอาจารย ดิฉันอยากเรียนถามทานอาจารยวาชีวิตครอบครัวจะ แตกแยกหรือไม ดิฉันควรทําอยางไรดี ลูกสาวก็ไมอยากให ครอบครัวแตกแยก ลกู สาวตอนนเี้ รยี นปริญญาตรี ทลี่ อนดอน จบเดือน มิย.นี้ แลวอยากจะเรียนฝงเข็ม ถาดิฉันตัดสินใจ พลาด เกรงวาจะกระทบอนาคตลูก ดิฉันอยูตางประเทศคะ สามีก็เปนคนตา งประเทศ อยากขอความเมตตาจากทาน อาจารยชวยแนะนําคะ ขอแสดงความเคารพอยางสูงคะ คาํ ตอบ พระผูทรงความเปนสัพพัญู ไดตรัสในทํานองท่ีวา ผูใดปรารถนามีชีวิตคูท่ีดีงาม ตองทําเหตุส่ีอยางใหมีกําลัง ใกลเคียงกัน ๑. มีความเชอื่ พอๆ กนั (สมสทั ธา) ๒. มศี ีลเสมอกนั (สมสีลา)

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๓. มกี ารสละบรจิ าคพอๆ กัน (สมจาคา) ๔. มีปญ ญาใกลเคียงกนั (สมปญ ญา) นอกจากน้ีพระผูทรงความเปนสัพพัญู ยังไดตรัสใน ทํานองท่ีวา ๑. มนษุ ยม สี มบัติ เปน หว งผกู ขา ๒. มนษุ ยมีสามี - ภรรยา เปนหวงผูกมอื ๓. มนุษยมีบตุ ร - ธิดา เปน หวงผูกคอ และพระผูทรงความเปนสัพพัญู ยังไดตรัสไวอีกวา “มนษุ ยสมบตั ิ สวรรคสมบัติ พรหมสมบัติ เปน สิ่งท่คี รอบครอง ไดช่ัวคราว ตายแลวตองทิ้งไวให ไรเจาของ (กําพรา) แต ๑๓๒ นิพพานสมบัติ (วิมุตติสุข) เปนส่ิงท่ีจริงแทแนนอน สามารถ ครอบครองไดตลอดไป” ดังนั้นผูถามปญหาพึงเลือกเอาเอง ตามสติปญญาของตนเองเถิด เสนทางชีวิตของลูกจะดําเนิน ไปอยางไร ผูรูจริงแทไมเขาไปกาวลวง บุคคลมีชีวิตเปนของ ตนเอง จึงตองเลือกทางเดินของชีวิตดวยตัวเอง ๖๐. ปฏบิ ัตธิ รรมผดิ ทาง คาํ ถาม กราบเรียนทานอาจารย ดร.สนอง วรอุไร ผมสังเกตวา ตัวผมเองนั่งสมาธิใชคําบริกรรมแลวฟุงซานไดงายกวาไมใช คําบริกรรมแตตามลมหายใจอยางเดียว ท้ังน้ีมีความรูสึกวา เวลาใชคําบริกรรม จติ ไปอยกู ับคําบริกรรม ยุบหนอ พองหนอ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com หรือ พทุ - โธ มากกวา เอาจิตไปอยูท่ที อง หรอื ลมหายใจจริงๆ ๑๓๓ แลว กก็ ลายเปนวา ในหัวทองคําบรกิ รรมไป แตใจยังหลดุ ไปคดิ เร่ืองอ่ืน พอลองไมใชคําบริกรรมแตมาดูลมหายใจอยางเดียว กลับรูสึกวาจิตเปนสมาธิไดงายกวา เพราะโฟกัสจุดเดียวที่ลม ที่ทอ งไปเลย ทง้ั นผ้ี มกเ็ พิ่งเร่ิมฝก ไมไ ดฝกมานาน ( คนละกรณี กับบริกรรมจนถงึ จุดทคี่ ําบริกรรมหายไปเอง) ไมท ราบวา ผมมา ถกู ทางหรอื ไม เพราะ ไดย นิ วา ชว งแรกคาํ บรกิ รรมจะชว ยดงึ จติ ไวไดดีกวาสําหรับผูเริ่มฝกใหม ถาไมบริกรรมจะฟุงซานไดงาย (แตก รณีของผมตรงขาม) อยากใหทานอาจารยใหค ําแนะนาํ วา ควรฝกแบบน้ีตอ ไป หรอื ไม ถา ควร โดยหลกั ผมตอ งตามลมหายใจทงั้ สาย หรอื ตาม เฉพาะทองยุบทองพอง แลวถาไปคิดเรื่องอ่ืน หรือ ปวด คัน งว ง ตอ งพจิ ารณา หรือกําหนด อยางไร ท้ังน้ีถา ผมถกู จรติ กบั วิธกี ารน้ี จะไปศึกษา ปฏบิ ตั ิ ปรึกษา หรือสอบอารมณไดกับทานใด ที่ไหนไดบาง เพราะโดยมาก สํานกั ตา งๆ จะสอนใหใชค ําบริกรรม ขอบพระคณุ ครบั คําตอบ วิธีการใดท่ีนํามาบริกรรมดวยจิตแลวจิตตั้งม่ันเปนสมาธิ ไดงาย จงใชวิธกี ารน้นั ตรงกนั ขาม วธิ ีการใดนํามาใชแลวมจี ติ ฟงุ ซาน จงเลกิ ใชวธิ กี ารน้ัน ถามไปวา : ดําเนินปฏิปทาถกู ทางหรอื ไม

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ตอบมาวา : ผิดทางครับ ผูท่ีดําเนินปฏิปทาไดถูกทางมี ผลเปนดังน้ี ก. เจรญิ สมถกรรมฐานแลว จติ ตองตัง้ มนั่ เปนสมาธิ ข. เจรญิ วปิ ส สนากรรมฐานแลว จติ ตอ งเกดิ ปญ ญาเหน็ แจง ถามไปวา : ควรฝกแบบนีต้ อ ไปหรอื ไม ตอบมาวา : วธิ กี ารใดทนี่ าํ มาใชพ ฒั นาจติ แลว ทาํ ใหจ ติ ตงั้ มัน่ เปนสมาธิ จงใชว ิธกี ารนั้น ผทู เี่ ขาถึงมรรคผลแหง ธรรมไดงา ย ตองปฏิบัติ ศลี สมาธิ ปญ ญา คอื ตอ งเอาศลี บรสิ ทุ ธค์ิ มุ ใจใหไ ดก อ น แลว เรง ความเพยี ร ในการปฏบิ ตั ธิ รรม (๕-๖ ชวั่ โมงตอ วนั ) ทกุ ครง้ั ทปี่ ฏบิ ตั ธิ รรมแลว ๑๓๔ เสรจ็ ตองอทุ ศิ บุญกศุ ลใหเ จา กรรมนายเวร ๖๑. ปรับแกไ ขเลก็ นอย คําถาม ดิฉันขอรบกวนทานชวยตอบขอสงสัย เน่ืองจากมีปญหา ในการทําสมาธิคะ ดิฉนั นัง่ สมาธเิ จริญภาวนาเปนประจําทกุ วนั โดยเดินจงกรม ๓๐ นาที แลว น่งั สมาธิ ๓๐ นาที จนวนั หนง่ึ เหมือนกับตัวเองมองดูตัวเองทุกอากัปกิริยา ต้ังแตเดินจงกรม น่ังสมาธิ เหมือนกับคนที่เดิน-น่ังอยูนั้นไมใชตัวเอง และ มีอยูชวงหนึ่ง รูสึกสัมผัสไดถึงเหง่ือท่ีผุดออกมาจากทุกรู ขุมขน และมีอาการเชนเดิมเปนเวลาเกือบ ๑ อาทิตย แลวก็

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ไมมีอาการเชนน้ัน หลังจากนั้นมาน่ังสมาธิแลวแทบไมรูสึก อะไรเลย น่ิงมาก เหมือนนั่งเฉยๆ เหมือนไมไดอะไรเลย จะ แกไขไดอยางไร ขอขอบคุณคะ คําตอบ ตามที่บอกเลาไป ผูถามปญหาดําเนินมาไดถูกทางแลว แตมีแกไขเล็กนอยคือ ขณะจิตนิ่ง ไมมีอารมณใดๆ เกิดขึ้น ตองใชจิตกําหนดวา “น่ิงหนอๆๆ” ไปเร่ือยๆ จนกวาความ น่งิ จะหายไป แลวเอาจติ มาสกู ารบริกรรมเดมิ ท่ีทําอยู ๖๒. จิตขาดสติ ๑๓๕ คําถาม กราบเรยี นทา นอาจารย ดร.สนอง วรอไุ รครบั - คร้ังหน่ึงผมมีกิจกรรมท่ีตองไปคางคืนนอกสถานที่ ในโรงแรมแหงหนึ่ง ซ่ึงผมก็ไดจุดธูปเพ่ือบอกกลาวเจาที่และ เทวดาทอี่ ารักขา ณ บรเิ วณนน้ั วาจะมกี ิจกรรมเกิดขนึ้ ณ ท่ี แหงน้ัน และผมมีจุดประสงคที่จะสวดมนตบทธารณปริตร ให เหลาเทวดาที่อารักขาอยูไดฟงดวย แตในขณะที่ผมสวดอยู ผมมีอาการรางกายและเสียงส่ันเองไปโดยอัตโนมัติ โดยจิต ภายในกร็ ูอ ยู วาตัวเองกําลังสนั่ แตกไ็ มสามารถบงั คบั ตัวเองได จึงอยากเรียนถามวาอาการเชนนี้เกิดจากอะไร ทําไมอาการ แบบนี้จึงเกิดข้ึน และมีวิธีแกไขอยางไรครับ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร - เหตุการณตอมา คําถามน้ีอาจจะเปนคําถามไรสาระ สักหนอยครับ ในชวงกลางคืน มีเร่ืองแปลกๆ เกิดขึ้น เชน โปรเจคเตอรเ ปดไดเ อง จอเลอื่ นลง - ขนึ้ เอง เปนตน เหตกุ ารณ เชนนี้ผมไมแนใจวาเกิดจากความผิดพลาดของอุปกรณเอง หรอื จากสง่ิ ทม่ี องไมเ หน็ แตถ าเกิดจากส่ิงเหลานจี้ ริง ผมอยาก ทราบวาเกิดจากอะไร และเขาเหลา นั้นตอ งการอะไรหรอื เปลา เพราะกอนหนา น้ี ผมไดกรวดนาํ้ อทุ ศิ บญุ กุศลใหไ ปแลว ครับ ขอบคณุ อาจารยทเ่ี มตตาครบั คําตอบ ๑๓๖ รางกายสั่น เสียงสั่น เหตุเปนเพราะ จิตมิไดจดจอ (ขาดสติ) อยูกับคําท่ีใชในบทสวดมนต แกไขโดยการสวด มนตดวยใจจดจอ แลวจะทําใหการสวดมนตชาลง และตอง สวดไมผดิ ไปจากอกั ขระของบทสวดมนต ตอนทายท่ีถามไป เหตุเปนเพราะผูถามปญหามิไดเอา จิตจดจออยูกับปจจุบันขณะ ตรงกันขาม เอาจิตไปจดจออยู กับการเปด การเล่ือนจอภาพข้ึน - ลงของคอมพิวเตอรวาเกิด ขึ้นไดอยางไร จึงเกิดเปนจินตนาการของจิตไปตางๆ นานา ผดิ ทางครบั

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๖๓. ชอบตกปลาตกกงุ คําถาม ๑๓๗ กราบสวัสดีคะ ๑. จะถามเรื่องพอคะ เวลาวางๆ ของพอ พอชอบไป ตกปลา ตกกุง คะ ทําอยางไร จะใหพอเลิกตกปลาตกกุงคะ เพราะตอนเชาทานก็ทํางาน ชวงหลังเท่ียงเปนตนไปก็วาง เปนแบบน้ีทุกวันคะ เลยเปนขออางของพอคะวาวาง ไมมี อะไรทํา ตกไดปลาไดกุงมาก็นํามาทําอาหารทานคะ (ทั้งๆ ที่ สามารถหาซอื้ ทานเองไดค ะ ) เมอ่ื เหตปุ จ จยั พรอ ม พอ ก็คงเลกิ ไปเองนะคะ แคตองการทราบวามีทางไหนชวยใหทานเลิกได เร็วข้ึนคะ เม่ือกอนเคยบอกพอไปหลายครั้งแลวคะ วาสงสาร ปลา กุง แตปจจุบนั กแ็ คร เู ฉยๆ คะ วาพอ ไปตกปลา ตกกุง ถาเห็นกุง ปลา ที่พอตกมา ที่ยังไมตาย ก็เคยนําไปปลอย กลับลงสูคลองหลายครั้งแลวคะ ถาพอโกรธหรือดาเราท่ีนํา ปลา กงุ ของทานไปปลอ ย จะบาปไหมคะ ๒. เวลาน่ังสมาธิ เมื่อตองอุทิศบุญ อุทิศใหเจากรรม นายเวรเรากอ นทกุ ครง้ั แลว จาํ เปน ตอ งอทุ ศิ ใหเ ทวดาประจาํ ตวั ไหมคะ และตองการทราบวาบุคคลอ่ืนๆ (ภูตผีปศาจท้ังหลาย เทพบตุ รเทพธิดาทุกๆ พระองค และสรรพสตั วท ้งั หลาย) ตอง อทุ ิศทกุ ครัง้ หลังจากท่นี ั่งสมาธหิ รอื ทาํ บุญอะไรกต็ าม หลังจาก ท่ีอุทิศใหเจากรรมนายเวรแลวใชไหมคะ จําเปนตองเนนให

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร เจากรรมนายเวรของเรากอนและอุทิศบอยๆ สวนบุคคลอื่น ควรอุทิศตอนไหนบางคะ จําเปนตองอุทิศทุกวันไหมคะ (บุคคลอื่นๆ) ชวยอธิบายดวยคะ ขอแสดงความเคารพอยางสงู คะ คําตอบ (๑) วิธีแกปญหาที่บอกเลาไป ลูกตองนําพอเขาวัดและ สนทนากับพระสงฆผูทรงคุณธรรมบอยๆ แลวผูเปนพอก็จะ เลิกตกกุงตกปลาไปเอง การขัดใจแลวทําใหบุพการีบันดาล โทสะ (โกรธ) บตุ รผูเปน ตนเหตุขัดใจยอมไดรบั ผลบาปครบั ๑๓๘ (๒) การบําเพ็ญจิตตภาวนา เปนบุญใหญสุด เพราะ สามารถนําพาชีวิตไปสูพระนิพพานได ดวยเหตุน้ีผูรูจึงนิยม ทําตัวเปนผูใหสิ่งดีงาม (อุทิศบุญ) แกสรรพสัตว เพราะใหส่ิง ดีงามแกผูอื่น ยอมไดรับความเปนเพ่ือนดีตอบกลับคืนมา ผูรู จริงนิยมอุทิศบุญทุกครั้งที่นึกได หรืออุทิศบุญกอนนอนทุกวัน สวนการอุทศิ บญุ ใหกับสัตว (รปู นาม) ใดนั้น ขน้ึ อยกู บั การระลึก ไดข องผูอุทิศ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๖๔. ตอ งเลือกเอง คาํ ถาม ๑๓๙ สวัสดีทานอาจารยที่เคารพ และกราบอนุโมทนากับ อาจารยท่ีชี้หนทางแหงการพนทุกขใหกับสัตวโลกท่ีเบื่อการ เวียนวายตายเกิด ตอนน้ีอยากจะถามอาจารยวา พอปฏิบัติแลวย่ิงเบื่อใน การเรียนบทเรียนชีวิต พอเห็นคนก็ไมเห็นจะมีอะไรเลย มีแต ความโลภ โกรธ หลง คิดวาไฟสามกองน้ีมันรอนจึงหาวิธีท่ีจะ ดับไฟสามกองน้ีกห็ นั เขามาปฎิบัตธิ รรม พอปฏบิ ัติกถ็ ามตัวเอง อยูเพ่ืออะไรไปเพื่อไร สมัยกอนไมรูจักตัวเอง รูแตเรื่องของ คนอื่น ไมเคยโทษตัวเองเลย โทษแตคนอื่น แตพอปฏิบัติจริง เราเดินทางผิด ทางที่พระพุทธเจาบอกวาถาอยากพนทุกขใหดู ที่ตัวเอง คนหาตัวใหไดวาตัวเรามีอะไร พอคนหาก็มีแตธาตุ และขันธหรือรูปกับนาม ไมเห็นมีตัวเราเลย พอปฏิบัติก็เห็น การเกดิ มันเปนทกุ ข จึงหาหนทางดับการเกิด การแก การตาย ไมอยากกลับมาเรียนบทเรียนอีก ถึงมันจะยากแตถาเรามี ความเพยี รตอนทที่ าํ อยู คือ ทาน ศีล ภาวนา อยากใหอาจารย ชแี้ นะดว ยคะ เพอ่ื เปน หนทางแหง การพน ทกุ ข ขอกราบอนโุ มทนา กับอาจารย จะรอคําตอบ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร คําตอบ คนขาดสติ นิยมเอาเรื่องที่ไมดีของคนอื่นมาทับถมใจ ตัวเอง คนทใ่ี ชอารมณนาํ พาชีวติ ยอมมคี วามโลภ ความโกรธ ความหลง ส่ังสมอยูในจิต หากตายลงในวันใด กิเลสใหญทั้ง สามนั้นมีพลัง ผลักดันจิตวิญญาณไปสูภูมิท่ีปราศจากความ เจริญ (อบายภูมิ) ตรงกันขาม บุคคลท่ีมีศีล และใชปญญา จากสมอง สองนําทางใหกับชีวิต ตายแลวพลังของกุศลธรรม (บุญ) ยอมผลักดันจิตวิญญาณสูสุคติภพ ดังน้ันการที่ไดเกิด มาเปนมนุษยและใชศีลกับปญญาจากสมอง สองนําทางให กับชีวิต ตองทํางานภายนอกท่ีดีใหกับสังคมสวนรวม และยัง ๑๔๐ ตองทํางานภายในใหกับตัวเอง เพ่ือสั่งสมบุญเดินทางชีวิตไปสู ปรโลกที่เปน สุคติภพ ผูทีใ่ ชส ติสมั ปชัญญะในดวงจติ สองนาํ ทาง ชวี ิต ยอมรูว า ชวี ิตเปนเอกสิทธิ์เฉพาะตน จงึ ตองเลือกทางเดนิ ของชีวิตดวยตัวเอง ตลอด ๔๕ พรรษาท่ีพระผูทรงความเปน สัพพัญูออกเผยแผธรรม พระพุทธองคมิไดเขาไปกาวลวงใน ชวี ิตผใู ด แตพระองคเปน ไดเพียงผชู ี้ทางสูสุคตแิ ละสูท ุคติ และ สพู ระนพิ พานใหพ ทุ ธศาสนกิ ชนเลอื กประพฤตปิ ฏบิ ตั ดิ ว ยตนเอง ดังนั้น ผูถามปญหาจะนําพาชีวิตไปทางไหน ตองเลือกดวย ตวั เองครับ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๖๕. อธษิ ฐานกอ นเดนิ ทาง คําถาม ๑๔๑ รบกวนเรียนสอบถามดงั น้ีครบั ๑. ถาเรานบั ถอื เจา แมกวนอมิ จาํ เปนไหม ทตี่ องไมทาน เนื้อ จาํ พวก เน้ือโค หรือเนือ้ กระบอื ๒. สญั ญาณใดท่ีแสดงใหเ รารูวา บุญไดส งผลแลว ๓. เราควรอธษิ ฐานอยา งไรเมอ่ื ตอ งออกจากบา นเดนิ ทาง ไปที่ตา งๆ ๔. เมือ่ ไมน านมานี้กระผมไดใ หเ งนิ บดิ า (๕๐๐ บาท) และ บิดาขาพเจาดีใจมาก โดยแสดงออกถึงความดีใจอยางมาก และกระผมก็ไดรับรูถึงความรูสึกนั้นอยางมากเชนกัน กรณี เชน นีไ้ ดบุญหรอื ไมค รับ เมื่อเงนิ ทใี่ หเ พยี งเล็กนอ ย ๕. ถา เรารูวาการทเ่ี ราใหเงนิ บิดา-มารดาไป แลวทา นนาํ ไปใชในทางท่ไี มดี เราจะไมใหไ ดห รือไมค รบั สดุ ทา ยนี้ ถา กระผมไดลว งเกนิ อาจารย ทางกาย วาจา ใจ ทั้งท่เี จตนากด็ ี มไิ ดเ จตนากด็ ี กราบขออภยั และขออโหสิกรรม ดว ยครับ คาํ ตอบ (๑) จาํ เปน ครับ (๒) เม่อื บญุ ไดสง ผลแลว ความสุขกายสุขใจยอมเกดิ ขนึ้

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร (๓) คาํ วา \"อธษิ ฐาน\" หมายถงึ การตงั้ จติ ปรารถนาในสิง่ ที่ดีงาม บุคคลสามารถบรรลุคําอธิษฐานไดตอเมื่อตองมีศีล คุมใจอยูทุกขณะต่ืนและยิ่งมีสัจจะดวยแลว คําอธิษฐานยอม ศกั ดิ์สิทธิ์ กอนเดินทางออกจากบานตองมีสติคุมใจ พรอมท้ัง อธิษฐานใหเดินทางดวยความสะดวก ราบรื่นและปลอดภัย ทัง้ ไปและกลบั (๔) การใหทรัพยเปนทานตอบิดาผูมีอุปการคุณ เมื่อให แลวยอมเกิดบุญกับผูให และย่ิงบิดาอนุโมทนาการใหทานของ บุตร บุญยอมเกิดเพิ่มมากขึ้น พระสารีบุตรเปลี่ยนความเห็น ๑๔๒ ผิดของแม (นางสารี) จากปุถุชนมาเปนอริยบุคคลโสดาบัน ถอื เปนการใหท านสงู สุด (๕) เมื่อรูวาทรัพยที่บุตรใหแกบิดามารดานั้น ถูกนําไปใช ในทางทเ่ี ปนอกุศล แลวบุตรยุติการใหทรัพยแกพอ แม ไมถือวา เปน บาป ๖๖. รตู ัวเมอ่ื ถกู หลอก คําถาม กราบเรียนถามทา นอาจารย ดร.สนอง หนเู ปนคนทช่ี อบ โดนเซลลหลอกขายของท่ีมีตําหนิใหคะ เคยซื้อกลองก็โดน เซลลหลอกเอากลองมีปญหามาให หนูก็มาตรวจเจอตอนหลัง

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ก็ช้ําใจคะ คร้ังลาสุดนี้หนูซื้อมอเตอรไซด เซลลบอกวาเปน ๑๔๓ รถใหม แตพ อซอ้ื แลว ถงึ เพิ่งมารวู าเปนรถเกา หนูเห็นเอกสาร ภายหลงั วา จดทะเบยี นต้งั แตป  ๒๕๕๕ ท้งั ๆ ท่ีหนกู ็ซื้อกบั บรษิ ทั ที่เชื่อถือไดแตก็มาเจอเซลลที่ทํางานในบริษัทน้ันๆ แบบนี้ ตลอดๆ เลยคะ เซลลอางวาตัวแทนจําหนายมอเตอไซคยี่หอ นน้ั ไมไ ดบ อกเขา อยากกราบเรียนถามทา นอาจารยดงั นค้ี ะ ๑. เวลาหนูเจอกรณีแบบนี้ หนูควรแจงรองเรียนกับ ฝายบริการหลังการขาย เพื่อใหเขาทราบพฤติกรรมของเซลล คนนั้นๆ ไหมคะ เขาจะไดไมประพฤติเชนน้ีกับลูกคาคนอ่ืนอีก ตอไป หรือวาหนูควรคิดวามันเปนกรรมของหนู ที่ชาติกอน อาจเคยทํามาคาขายแลวหลอกลวงลูกคาไวมากมาย ควรวาง อเุ บกขา คดิ วา ชดใชก รรมไป ไมต อ งทาํ อะไร โปรดชแ้ี นะดว ยคะ ๒. หนอู ยากไดเ งนิ คนื บางสว น เพราะเขาแจง วา เปน รถใหม แตน่ีปรากฏวาเปนรถเกา ๒ ปแลว หนูเห็นราคาท่ีประกาศ ขายในทอ งตลาดจะลดลงประมาณ ๔๐-๕๐% หนคู วรจะเจรจา กับเขา เพื่อขอเงินคืนบางสวนไหมคะ หรือคิดวาชดใชกรรม แลว ปลอ ยไป โปรดชแ้ี นะดวยคะ ๓. การที่หนูซ้ือของที่ราคาแพงๆ แลวเจอแบบนี้บอยๆ หนูจะทําบุญอะไรท่ีจะแกไขไดบางคะ ท่ีตอไปจะไมตองเจอ อกี คะ กราบขอบพระคุณทา นอาจารยอยา งสงู คะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร คําตอบ ขอ (๑) และ (๒) เรอ่ื งทีบ่ อกเลาไปแกปญหาไดสามทาง ก. หากจะชดใชหนี้เวรกรรมใหหมดไปชั่วคราว ตองให อภัยเปนทาน และตองยุติการซ้ือส่ิงของ จากรานหรือบริษัท ดังกลาวอีกตอ ไป ข. หากผูถามปญหาประสงคจะผูกเวรตอเน่ือง ตองรอง เรียนผูมอี าํ นาจเหนือกวา ใหเขาจัดการให ค. ฝก จิตใหม ีศีล และมสี ตคิ ุมอยทู กุ ขณะตนื่ ๖๗. ทําความดยี อมมีมารขัดขวาง ๑๔๔ คําถาม สวัสดีคะอาจารย หนูมีประเด็นตรงที่วาหนูเห็นวาการมี ครอบครัวนั้นเปนทุกขมาก ไมอยากมีสามี ไมอยากมีลูก และ จะดูแลพอแมพ่ีนองที่มีอยูใหดีท่ีสุด แตแอบอธิษฐานไว (เผ่ือ มีเจากรรมนายเวรในรูปของสามีและลูก หลังจากท่ีเชื่อและ ศรัทธาเอาจริงวาเจากรรมนายเวรมีจริง) วา ถาชาติน้ีจะมี คูครอง ขอใหเขาเปนคนมีธรรม เปนคูบุญ และจะครองเรือน ตามหลักธรรม เพือ่ เกอื้ หนนุ กันไปพบนิพพานในทีส่ ดุ จนป ๕๓ ก็ไดพบและคบกับคูคนปจจุบันซึ่งเปนชาวยิว ซง่ึ เขากอ็ ยากมคี รอบครวั ที่มพี ระเจา (หลกั ธรรม) นาํ ทาง แต ตดิ ตรงทห่ี นไู มใ ชย วิ เขาจงึ ไมน บั หนเู ปน ภรรยาตามหลกั ศาสนา

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ยูดาย แตตลอดเวลาท่ีอยูดวยกันก็ไดเอาหลักธรรมของสอง ๑๔๕ ฝายมาปรับใช ชวนกันทําบุญตามแนวทั้งสองศาสนา (ใหทาน วปิ ส สนา ฟง ธรรมวนั อาทติ ยท วี่ ดั อโุ มงค ตกั บาตร เปน อปุ ฏ ฐาก แกส งฆ คดิ ดี ทาํ ดี ฯลฯ) รวมถงึ แลกเปลยี่ นขอ ธรรมตามศาสนา อยูเ นืองๆ และตลอดเวลาที่อยูดวยกัน หนูก็จะยํ้ากับเขาตลอดวา หนปู รารถนาใหเ ขามคี รอบครวั ยวิ ทดี่ นี ะ (รตู วั วา ไมใ ชห นแู นน อน เพราะลูกจะเปนยิวได ตองเกิดจากแมที่เปนยิวเทานั้นคะ) จน คร้ังท่ีเขากลับไปประเทศบานเกิดปลายป ๕๕ ดิฉันก็บอกเขา วา \"ไมตองหวงทางนี้ กลับไปคราวนี้ขอใหไดเจอผูหญิงยิวท่ีดี และมคี รอบครัวท่ดี ี และเดนิ ในทางของพระเจานะ\" เพราะหนู ไมตองการผูกเวรผูกกรรมกับเขา หากเขาอยากคบและสราง ครอบครัวกับผูหญิงยิวขึ้นมา จนวันหน่ึงเขาก็บอกวากําลังคบ กบั ผูหญิงยวิ คนหนง่ึ จากนั้นหนูก็ฝกปฏิบัติวิปสสนา ฟงธรรมมากข้ึนกวา ปกติ (พลกิ วิกฤตเปน โอกาส เพ่ือดแู ลใจตัวเอง และแผเมตตา ใหตวั เองและเขาทง้ั ค)ู แตผ ูหญิงก็ทอ งขนึ้ มาและขอเลกิ กับเขา เขาจึงกลับมาเมืองไทย เพ่ือวางแนวท่ีจะสรางครอบครัวกับ หนู และตอนนี้เขากําลังอยูท่ีบานเกิดเพื่อจะจัดการทุกอยาง ใหจบลง (ดวยดี) และกลับมาสรางครอบครัวท่ีเมืองไทย หนู จึงใครขอเรยี นถามวา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ๑. เพราะเหตใุ ดความปรารถนาของหนใู นเรอ่ื งมคี ชู วี ติ ทดี่ ี จงึ มอี ุปสรรคคะ (หนูคบกบั เขา แตเ ขากไ็ ดค บผหู ญิงอื่น) ๒. เปนไปไดหรือไม อยางไรคะ ท่ีเขาไดมีโอกาสเจอกับ ผหู ญงิ อกี คนนัน้ เพราะมาจากแรงปรารถนาของหนู ๓. เพราะเหตุใดความปรารถนาของหนูในเรื่องใหเขามีคู ชีวติ ทดี่ ี จึงมีอปุ สรรคคะ (เขาเลกิ กัน) ๔. ถาหนูจะอธิษฐานอยากใหมีกิเลสนอยท่ีสุด ในเรื่องที่ จะสรางครอบครวั กับเขา ตอ งทาํ อยางไรคะ และมีปจ จยั อะไร ทเ่ี กี่ยวของกบั การนบ้ี างทจ่ี ะทําใหถ งึ พรอม ๕. หลงั จากที่หางกนั ไปอีกคร้ังในรอบน้ี บางครั้งก็รสู กึ วา ๑๔๖ เราไมจ าํ เปน ตอ งมคี รอบครวั นะ เดนิ บนทางของเราไป (นพิ พาน) ท่ีผานมาทําดีท่ีสุดกับทั้งตัวเองและทั้งสองคนแลว แลวปลอย ทุกอยางไปตามวิบากของใครของคนนั้น แผเมตตาอโหสกิ รรม ใหกันไป....น่ีหมายถึงวาชาติกอนๆ หนูปรารถนาวาขอนิพพาน และขอใหม ีอุปสรรคนอ ยลง ซ่ึงมีกําลังแรงกวา ความปรารถนา ทีจ่ ะมคี รอบครัวหรอื เปลา คะ ๖. การแผเมตตาใหผูอ ื่นทงั้ ๆ ทต่ี ัวเองยังออ นแอทางใจอยู นี่ เหมาะสมหรือไมอ ยา งไรคะ และควรทาํ อยางไรใหเ หมาะสม ๗. แผเมตตาใหเจากรรมนายเวรที่ทําใหเราสามคนตอง มาพัวพันกันอยางไรดีคะ ใหอโหสิกรรมซ่ึงกันและกัน แบบ เจากรรมนายเวรไมผูกใจเจ็บทกุ คน

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๘. ตอนนี้ตองมาเฝาพี่ชายในโรงพยาบาลที่กวางโจว ๑๔๗ รตู วั วา มีความกังวลเร่ืองพีช่ าย เรอ่ื งคา ใชจ า ย เรื่องการสรา ง ครอบครัว ฯลฯ จึงต้ังใจวาพอมีเวลาวางจะบังคับใหตัวเอง ทาํ วปิ ส สนา แบบวา มพี ระธรรมเปน ทพ่ี ง่ึ แนวยบุ - พอง สามหน ตอวัน หนละช่ัวโมง แตไมไดเดินจงกรม อาศัยรูหนอในกิริยา และความรูสึกใหไดมากที่สุด จนรูสึกตึงเปร้ียะขึ้นมาในวันท่ีสี่ เครียด อึดอัดจนรองไห พอวันที่หาขอเลิกทุกอยาง แลวมีสติ กับกิริยาและความรูสึกใหบอย สวดมนตแลวแผเมตตา และ อธษิ ฐานเร่ืองการสรา งครอบครัว - หนตู อ งปรบั การปฏบิ ตั ธิ รรมอยา งไรในสถานการณน ค้ี ะ รูตัววายังมีกิเลสคะ “อยาก” มีเพื่อนเดินไปพบนิพพาน เลยรบกวนถามอาจารยใหชวยชี้ทางใหผูที่ยัง \"อยาก\" ครอง เรือน เพราะรูสึกวาพอมีคูแลวมีแรงเดินไปนิพพานมากขึ้น เหมือนมีสังฆะอยูใกลตลอดเวลานะคะ ขอขอบพระคุณคะท่ีสละเวลามาตอบจดหมายของหนู ผูมีกิเลสแตแอบใฝดี สาธุคะ คาํ ตอบ (๑) ผูมีความเปนสัพพัญูตรัสวา คูครองที่อยูดวยกัน และมีความสุข ตอ งมธี รรมะสี่ขอใกลเ คียงกัน คอื - สมสัทธา - สมสีลา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร - สมจาคา - สมปญ ญา ฉะนน้ั จงนาํ ชวี ติ ดว ยสตปิ ญ ญา และเปน ผทู ไ่ี มแ พใ จตวั เอง ความสมปรารถนาจึงจะเกิดขึน้ ได (๒) และ (๓) ไมใชแรงปรารถนาของผูถามปญหา แต เปนแรงใจของเขาท่ีมีกําลังของสติออน จึงไมสามารถตาน กเิ ลสมารได (๔) อิสรภาพของชีวิตมีความสุขมากกวาความสุขท่ีเกิด จากกิเลสกาม หากผูถามปญหาไมแพใจตนเอง ประพฤติตาม ขอ (๑) ไดแ ลว ความสมปรารถนาจึงจะเกดิ ขนึ้ ๑๔๘ (๕) ผใู ดชนะใจตนเองได ผูนั้นจึงจะมีความสุข (๖) การใหอ ภยั เปน ทาน ยอ มเกดิ ผลเปน ความสงบและเยน็ และยังถูกเกบ็ สัง่ สมอยใู นดวงจติ เปนเมตตาบารมี คนที่มีเมตตาจะไมเกิดโทสะ ปฏิบัติสมถกรรมฐาน แลว ยงั มโี อกาสไปเกิดเปนพระพรหมได (๗) ทุกครั้งท่ีบุคคลพัฒนาจิต (ปฏิบัติธรรม) ยอมเกิด อานิสงสเปนบุญใหญ สามารถไปเกิดเปนพรหม หรือเปล่ียน สภาวธรรมในดวงจิตเปนอริยบุคคลได ฉะน้ัน พึงมีสติและ อุทิศบุญกุศลใหเจากรรมนายเวรทุกคร้ัง อุปสรรคและปญหา ของชีวิตยอมลดนอยลง และหมดไปไดในที่สุด (๘) ผูถามปญหาควรแสวงหาที่เหมาะสม (สปั ปายะ) แลว ปฏิบัติธรรมกับครูสอนกรรมฐานที่เขาถึงธรรม โดยมีสัจจะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com มขี ันติ มคี วามเพยี รเปนแรงสนบั สนุน และชีวิตอสิ ระจึงจะเกดิ ขึ้นได อนึ่ง ผูที่มีจิตเปนทาสของกาม (อยากครองเรือน) ไม สามารถพัฒนาจิตใหเขาถึงสภาวะนิพพานไดครับ ๖๘. ไตรสิกขาชวยได คาํ ถาม ๑๔๙ ตองกราบขออภัยและขอขมากรรมหากสิ่งใดลวงเกิน อาจารย ทั้งกาย วาจา และใจคะ ขออาจารยไดโปรดเมตตา และอโหสิกรรมใหดวยคะ ๑. หนูตั้งใจกินแตผักมาไดแปดปแลว เพ่ือฝกตนเอง เคยเครียดกับตัวเองขนาดที่วาอดขาวเพราะหาอาหารที่เปน ผักไมได รองไหและอึดอัดหากมีช้ินเน้ือสัตวเขาปาก เคยดูถูก คนทยี่ ังกนิ เน้อื สัตว ฯลฯ ทาํ ใหท้ังกายและใจไมสบายอยา งมาก เมื่อไดศึกษาเพ่ิมเติมและรูวาถึงแมตัวไมกินเนื้อสัตว แตใจ ไมสงบ กุศลก็ไมเกิด หรือเกิดนอย จนปจจุบันนี้ หากจําเปน จริงๆ หนูจึงอนุญาตใหตัวเองเลือก (เข่ีย) กินอาหารที่เหลือ แลวจากที่ผูอ่ืนกิน (สวนใหญเปนคนในครอบครัว) เน่ืองจาก คิดวาเปนอาหารที่เขาใหทานมา หากไมกินก็จะตองถูกทิ้ง เสียของ กอนกินก็จะแผเมตตาใหนองเน้ือสัตว แลวพิจารณา ใจตัวเองวารสู กึ อะไรอยู ถา รสู กึ อยาก ก็จะรๆู ๆ จนความอยาก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook