Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27

สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27

Published by Sarapee District Public Library, 2020-10-26 04:30:46

Description: สนทนาภาษาธรรม เล่ม 27
โดย ดร.สนอง วรอุไร

Keywords: ธรรมะ,สนทนาภาษาธรรม,ดร.สนอง วรอุไร

Search

Read the Text Version

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร หมดไป และเรมิ่ กนิ ขณะกนิ กส็ งั เกตวา รสู กึ อะไร กบ็ รกิ รรมตาม นน้ั การทห่ี นอู นญุ าตใหต วั เองเขยี่ กนิ แบบ “ร”ู นี้ เหมาะสมตาม หลกั ไปนพิ พานหรือไมอ ยา งไรคะ ๒. เม่ือกอนหนูเปนคนท่ีมักจะเขียนรองเรียนหรือแสดง ความคดิ เหน็ ในดา นตา งๆ เพอ่ื ปรบั ปรงุ การทาํ งานของหนว ยงาน นั้น โดยเฉพาะภาครัฐ ดวยความเกลียด รําคาญ ดูถูก ฯลฯ แตชวงหลังๆ หนูจะกันอกุศลเกิดดวยการนั่งดูใจกอนเขียน พอวา งๆ เบาๆ ก็เริ่มเขยี น พอเขยี นไปแลว ใจอกุศลดว ยความ เกลียด หม่นั ไส ราํ คาญ ก็จะหยดุ “รู” แตบางครั้งก็ไมบ รกิ รรม และรอจนวางๆ เฉยๆ แลวก็จะเขียนตอจนเสรจ็ ๑๕๐ - การแสดงความคดิ เห็น โดยมสี ติ “ร”ู อยเู รอื่ ยๆ แบบน้ี ถือวาเปนการทําใหอกุศลเกิดไหมคะ ตองปรับปรุงอยางไร หรือวาหนูเลิกไปดีกวา แลวรอให “ธรรมชาติ” ดูแลไป (ทํา อะไรก็จะไดอยา งน้นั ) ตั้งใจไปนิพพานคะ จึงพยายามลดอกุศลใหม ใชกรรม อกุศลเกา และสรางกุศลใหมใหม ากที่สุดไปเร่ือยๆ ขอใหความดีงามที่อาจารยและผูถามทุกคนไดทํารวมกัน เปนปจจัยใหถึงพรอมสงพวกเราทุกคนไปนิพพานในที่สุดดวย เทอญ สาธุ คาํ ตอบ (๑) การเวนบริโภคเน้ือสัตวน้ันเหมาะกับรางกายของ บางคน แตหากจําเปนตองบริโภคเน้ือสัตว ตองไมสั่งใหเขา

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ฆาสัตวน้ันเพ่ือเรา ตองไมเห็นเขาฆาสัตวเพ่ือเรา และขณะ ๑๕๑ บรโิ ภคตอ งไมสงสยั วา เราเปน ตนเหตุใหเขาฆาสัตว เพื่อนาํ เน้อื มาปรุงเปน อาหารใหเรา หากเปนไปในลกั ษณะดังกลา ว บุคคล สามารถบรโิ ภคได โดยไมถือวาเปนปาณาตบิ าต อนึ่ง หากบริโภคเน้อื สัตว แลว ทาํ ใหเจบ็ ปว ย ตอ งเวนไม บริโภคเนื้อสัตว การนําพาชีวิตไปสูพระนิพพานน้ัน ตองใช ปญญาเห็นแจง กําจัดกิเลสท่ีผูกมัดใจ (สังโยชน ๑๐) ใหหมด ไปไดแ ลว จติ วญิ ญาณจงึ จะสามารถโคจรพน ไปจากวฏั สงสารได (๒) ผูท่ียังมีจิตของอยูกับสังคมหรือผูอื่น ไมสามารถ พฒั นาจติ ใหเ ขา ถงึ ภาวะนพิ พานได สง่ิ ทบี่ อกเลา ไปเปน มจิ ฉาสติ สั่งสมอยูในดวงจิต ตรงกันขาม หากเปนสัมมาสติแลว ตอง เอาจติ ไประลกึ รูอ ยูกับอยางใดอยางหน่งึ ในสติปฏ ฐาน ๔ (กาย เวทนา จิต ธรรม) วาดําเนินไปตามกฎไตรลักษณ เมื่อเห็น ผัสสะเปนอนัตตา ปญญาเห็นแจงจึงจะเกิดข้ึน แลวโอกาส ทจ่ี ติ วิญญาณจะโคจรพน ไปจากวัฏสงสาร ยอ มมไี ดเ ปน ได ๖๙. จิตเปน ทาสของกาม คาํ ถาม กราบเรียนอาจารยท่ีเคารพ รบกวนอาจารยกรุณาชวย คลายความสงสัยดวยนะคะ พอดีตอนนี้กําลังศึกษาเรื่องนรก- สวรรคอ ยู มคี วามคบั ของใจมากคะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ๑. เทวดานางฟา บนสวรรค ในแตล ะชน้ั สามารถมคี คู รอง เรอื นกนั ไดห รอื ไม ๒. สงสยั เร่อื งเทวดากับบริจาริกา (ภรรยา) ทเ่ี ทวดาบาง รูปมีภรรยาถึง ๕๐๐ - ๑,๐๐๐ รูปท่ีเกิดมาพรอ มตอนจุติ - ตอ งเกิดสวรรคช้นั ใดบาง จงึ จะไดบ ริจารกิ า - การมีภรรยาของเทวดาหลายๆ คนเหตุใดจึงไมบาป คะ ทั้งๆ ท่ีบนโลกมนุษยสามารถครองคูไดเพียงคนๆ เดียว และสามารถเลือกคูครองคนเดยี วไดห รือไมคะ - มีหนาที่อะไรบาง บริจาริกาทุกคนตองมีหนาที่สูสม หรอื ไม อานเจอทราบมาวา การกอดกันคอื การสมสบู นเทวโลก ๑๕๒ - เหตุใดการเกิดเปนเทพบุตรจึงมีบริจาริกา และนางฟา มบี รจิ ารกิ าดว ยหรอื ไม - เทวดาผูมีความปรารถนาท่ีจะบรรลุธรรม แตยังมี บริจาริกาคอยดูแลอยู สามารถละเวน และมุงปฏิบัติธรรมได หรือไม อยางเทวดาบางรูปจุติพรอมบริจาริกา แตถาบรรลุ โสดาบนั สกทิ าคามี เหลาบรจิ ารกิ าจะหายไปหรอื ไม ๒. มีความปรารถนาเกิดบนเทวโลก แตไมอยากมี บริจาริกา เพราะเหน็ วามากแกกาม ถา หากบุญไมถึงชนั้ พรหม เพราะไมสามารถนั่งถึงฌานได มีเทวดาช้ันใดบางที่มีกาม นอยและมุงปฏิบัติธรรม ๓. หากลวงเกินอาจารยไว ทางใดก็ตามขออโหสิกรรม จากอาจารยดวยนะคะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com คาํ ตอบ ๑๕๓ เปนปกติธรรมดาของชาวพุทธท่ีสงสัย หากศึกษาพระ ไตรปฎกตามหลักคันถธรุ ะ (ปริยัต)ิ ตรงกันขาม ผทู ีศ่ ึกษาตาม แบบวิปสสนาธุระ จะไมมีความสงสัย ท้ังนี้เปนเพราะสามารถ รู เห็น เขาใจ ดวยจติ ของตนเอง ทกุ คาํ ถามเปน เรอ่ื งของกาม (รูป เสยี ง กลิน่ รส สมั ผัสทางกาย) หากจติ ยงั เปน ทาสของกาม จะเขา นิพพานไมไ ด (๑) เทวดาที่เปนนางฟา มีวิมานอยูอาศัยยังเสพกามได แตม ลี กั ษณะเปน ทิพย (๒) คําวา “บริจาริกา” หมายถึง หญิงรับใช ในสวรรค ทุกชั้นมีบริจาริกาไมเทากัน ตามความจําเปนในสวรรค ช้ัน ดาวดึงสเ ทวดามีบาทบริจารกิ ามากกวาช้ันอื่น เหตุท่ีเทวดามีภรรยาหลายคน แลวไมบาป เปนเพราะ สมมติบญั ญตั ิของเทวดาวา ทกุ สง่ิ ท่เี กดิ ขนึ้ ในอาณาเขตของตน ถอื วา เปน ของตนโดยปรยิ าย สว นจะมคี คู รองคนเดยี ว หลายคน หรือไมปรารถนาคูครอง ขึ้นอยูกับสภาวธรรมในดวงจิตของ เทวดา บาทบรจิ ารกิ า ทาํ หนา ที่รับใชทกุ อยา งท่ีเทวดาเพศชาย ตองการ และเทพนารี (นางฟา) มีบาทบริจาริกาได เทวดา โสดาบันมีในทุกชั้นของสวรรคยังเสพกามได เทวดาสกทาคามี ไมน ยิ มเสพกาม และพรหมอนาคามีไมเสพกาม จิตมไิ ดสญู หาย ไปไหน จิตที่มีสภาวธรรมตางกัน ยอมโคจรไปเกิดในภพที่ ตางกัน พระปาเลาใหฟงวา จิตมิไดสูญอยางท่ีมนุษยคิด แต

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร จิตที่บริสุทธิ์ (ปราศจากสังโยชน ๑๐) ยังสามารถโคจรมาสู วัฏสงสารได แตไมมาเกิดเปนรูปนามอยูในวัฏสงสารอีกตอไป ตองพิสจู น (๒) เทวดา (นางฟา) ช้ันยามา มุงปฏิบัติธรรมมากกวา มงุ เสพกาม (๓) อโหสิใหแลว ครับ ๗๐. อํานาจของกเิ ลส คําถาม ๑๕๔ กราบเรียนอาจารยท่ีเคารพ ดิฉันมีขอสงสัยวา กรรมท่ี ผูหญิงตองมาน่ังเสียใจเพราะผูชายมีภรรยานอย และกรรมท่ี ผูหญิงบางคนตองมาเปนภรรยานอยคนอื่นเขา กรรมน้ีเปน กรรมใหมท่ีผูชายและภรรยานอยสรางข้ึนใหม หรือเปนกรรม เกาที่ภรรยาหลวงตองชดใช จึงทําใหผูชายนอกใจคะ สงสัย มากเลยวา สมมติวาการตองมาเปนภรรยานอยคนอื่นเขา บาปหรือไม หรือเปนกรรมที่กําลังใชอยูคะ ท่ีทําใหไมสามารถ มีคูครองของตนเองได คาํ ตอบ เพราะทั้งชายและหญิงมีกําลังของสติออน จิตจึงเปน ทาสของกามทกุ ข

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com กรรมคือการกระทํา ท่ีเขียนถามไปเปนทั้งกรรมเกาและ กรรมใหม ถือวาเปนบาปทั้งสองฝาย เหตุเปนเพราะจิตไม สามารถตา นกเิ ลสมารได ๗๑. ทาํ บญุ แบบไหน คําถาม ๑๕๕ กราบเรียนอาจารยส นอง วรอุไร ทเี่ คารพอยา งสงู ขณะ น้ีใน Social Network เชน Facebook มีผูทําบุญในงาน ตางๆ แลวนํามาเผยแพร ใหผูคนไดมาอนุโมทนากันมากมาย กระผมอยากทราบวา - เปน บญุ ท่ถี กู ตองตามบญุ กิริยาวตั ถุ ๑๐ หรือไม - ไดบ ญุ เทากับการทไี่ มไดบอกกลาวหรอื ไม กราบขอบพระคุณอาจารยเ ปน อยา งสงู ครบั คาํ ตอบ - ถูกตองตามบญุ กริ ิยาวัตถุ ๑๐ ขอ ที่วาดว ยมคี วามยินดี ในความดีของผอู นื่ (ปต ตานโุ มทนามยั ) - หากมีเจตนาเฉล่ียความดีใหคนอ่ืนมาอนุโมทนาบุญ ที่ตนทําไมถือวาเปนบาป ซ้ํายังทําใหมีบุญเพ่ิมมากขึ้น ตรง กันขาม หากการบอกกลาวนั้นมีเจตนาโออวด วาตนไดทําบุญ แลว ถอื วา เปน บาป การกระทาํ ในลกั ษณะนี้ จงึ ไดท ั้งบุญและได ทงั้ บาป

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๗๒. เปน พุทธศาสนกิ ชนทดี่ งี าม คําถาม เรียนทานอาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร กราบเรยี นถามทาน อาจารยเกี่ยวกับการปฏิบัติตนใหเปนพุทธศาสนิกชนที่ดีงาม และถูกตอ งตามธรรมคะ ๑. ปถุ ุชนคนธรรมดา ไมไดส มาทานศีล ไมไ ดเปนนักบวช สามารถสวดมนต ทําวัตรเชา-เย็น ไดหรือไมค ะ หรือสามารถ สวดไดเ ฉพาะผทู ส่ี มาทานศลี เปน นกั บวชเทา นน้ั สว นปถุ ชุ นตอ ง นําบทสวดอน่ื ๆ สวดมนตแทนคะ ๑๕๖ ๒. เม่ือสวดมนตและปฏิบัติสมาธิ จิตสงบแลวแผเมตตา แผสวนกุศลใหตามบทแผสวนบุญสวนกุศล ดิฉันสงสัยวาการ ท่ีเราแผสวนบุญกุศลใหเจาที่เจาทางดูแลบานเรือน ถาเปน วิญญาณเจาที่ก็เปนธรรมดา แตดิฉันสงสัยวาถาบานเรือนที่ อาศัยน้ันมีเจาเปนงู (เชนที่เปนขาวตามส่ือตางๆ ท่ีนําเสนอ เชน งูเจาท่ี) จะมีผลอยางไรคะ เราควรสวดบทแผสวนกุศล อยา งไรใหถ กู ตอ งคะ ๓. เมื่อพบหรือไดอานธรรมเทศนาแลวเห็นวาเปนธรรม เทศนาท่ีดีมีประโยชนกับแนวทางปฏิบัติกายใจแลวนําไป โพสต บทสาธยายธรรมของหลวงพอทานเทศน ใหบุคคลอื่น ในกลุมไลนไดอาน ไดอนุโมทนาบุญ สามารถทําไดไหมคะ เน่ืองจากไมไ ดขออนญุ าตกบั ทา น ขอขอบพระคณุ ทานอาจารยทเ่ี มตตาคะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com คาํ ตอบ ๑๕๗ คําวา “ปุถุชน” หมายถึง คนท่ีจิตหนาแนนไปดวยกิเลส และคําวา “พุทธศาสนกิ ชน” หมายถงึ ผทู ่ีนับถอื ศาสนาพทุ ธ ดังน้ันการเปนพุทธศาสนิกชนท่ีดีงาม ตองมีศีลธรรม คุมครองใจ คอื มีอยา งนอย เบญจศีล (ศลี ๕) และมเี บญจธรรม (ธรรม ๕) คมุ ครองใจอยทู ุกขณะตนื่ (๑) ในครง้ั ทผ่ี ตู อบปญ หาไปปฏบิ ตั ธิ รรมอยทู ว่ี ดั มหาธาตฯุ ทานเจาคณุ โชดกไดพูดวา “ถา คณุ ไมเอาศลี ลงคุมใหถึงใจ ใจ จะไมต้ังมั่นเปนสมาธิ” ซ่ึงหมายความวา ถาจิตไมมีศีลคุม แลว จะพัฒนาจติ ใหมสี ตยิ อมเกิดข้ึนไมได และในครง้ั พทุ ธกาล พระพุทธโคดมไดตรัสกับภิกษุในทํานองที่วา การประพฤติตาม กฎไตรสิกขา (ศีล สมาธิ ปญญา) เปนหนทางของการนําจิต สูความพนทุกข น่ันคือจิตหรือใจที่มีศีลคุม เม่ือนําไปพัฒนา (สมถภาวนา) แลวสมาธิจึงจะเกิดขึ้นได และจิตท่ีต้ังม่ันเปน สมาธิที่สมควรแลว จึงจะพัฒนา (วิปสสนาภาวนา) ไปสูการ เกิดปญญา (เห็นแจง) ได ดวยคํากลาวดังขางตนน้ี ฆราวาส ที่ไมมีศีลคุมใจ สามารถสวดมนตทําวัตรเชา-เย็นได แตจิต ไมสามารถเขาถึงมรรคผล (สมาธิ) ได แมจะนําบทมนตอ่ืน มาสวดแทน ก็เปนการสวดมนตที่สูญเปลา คือจิตไมเกิดสมาธิ ทเี่ ปนไป เพอื่ การเกดิ ของปญญาเห็นแจง (๒) คาํ วา “จิตสงบ” หมายถึง สงบจากอารมณปรงุ แตง ใดๆ จิตสงบประเด๋ียวประดาว (ขณิกสมาธิ) เปนจิตท่ีอารมณ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ปรงุ แตง หลากหลาย จติ สงบจวนแนว แน (อปุ จารสมาธิ) เปน จิตท่ีมีอารมณปรุงแตง อันเนื่องจาก กาย เวทนา จิต ธรรม (สติปฏฐาน ๔) และสุดทายจิตที่สงบแนวแน (อัปปนาสมาธิ) ไมมีสิ่งกระทบภายนอกใดๆ สามารถทําใหจิตเกิดเปนอารมณ ขน้ึ ได แมแ ตนิวรณ ๕ (กามฉันท พยาบาท ถนี มิทธะ อทุ ธัจจ- กุกกุจจะ วิจิกิจฉา) ก็ไมเกิดขึ้น แตเมื่อใดจิตถอนออกจาก อัปปนาสมาธิ (ฌาน) แลว ความรสู งู สุดที่เรียกวา โลกิยญาณ หรอื อภญิ ญา ๕ (อทิ ธวิ ธิ ิ ทพิ พโสต เจโตปรยิ ญาณ ปพุ เพนวิ าสา- นสุ ตญิ าณ ทพิ พจกั ขุ) ยอมเกิดขน้ึ เปนอตั โนมตั ิ แตไ มส ามารถ นําพาชีวติ ไปสคู วามพนทกุ ขได ๑๕๘ ผูที่มีจิตสงบยอมเปนผูมีบุญ แตมิใชเปนบุญสูงสุด ผูท่ี ใชปญญาเห็นแจงกําจัดกิเลสท่ีผูกมัดใจ (สังโยชน ๑๐) ได เปนผูท่ีมีบุญมากกวา จนถึงมีบุญสูงสุด เม่ือกําจัดกิเลสท่ีเปน สังโยชน ๑๐ ใหห มดไปจากใจได คนที่มีเมตตา มีอารมณสงบและเย็น (ไมมีโทสะ) สัตว (รูปนาม) กายหยาบหรือสัตวกายทิพยยอมเขาใกล ดวยเหตุน้ี บานเรือนที่มีงูเจาท่ีคุมรักษา ยอมสัมผัสกับบุญกุศลที่มีผูอุทิศ ใหไ ดง ายกวา สตั วทอี่ ยูหางไกล (๓) สามารถทําไดครับ เพราะหลวงพอทานมีเจตนาให ธรรมะเปนทาน และผูโพสตคําบรรยายมิไดทําเพื่อใหไดมาซึ่ง ทรพั ยเงนิ ทองหรือสนองความโลภสวนตัว

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๗๓. ประกันชีวติ คาํ ถาม ๑๕๙ กราบเรียนอาจารยท่ีเคารพคะ หนูจะสอบถามเร่ือง อาชีพประกันคะ ถาเรารูแ ลว วา - ประกันชวี ติ ไมส ามารถประกันชีวิตเราใหม่ันคงได - คนท่ีทําประกันเพราะคิดลวงหนาไปในอนาคตที่ยังมา ไมถึง เปน ความกงั วลไปเองของคนท่ีจิตไมอ ยกู ับปจ จบุ นั - ทําประกันเพื่อลดหยอนภาษี (เปนหนาท่ีที่เราตองเสีย ภาษอี ยแู ลว แตคนที่ทาํ กเ็ พื่อจะเสียภาษใี หนอยลง) - ฝากเงินประกันเพื่อเนนดอกเบยี้ (เปนการลงทนุ ) ถาเรายังอยูในอาชีพนี้ โดยท่ีไมไดไปขายประกันใหลูกคา แตลูกคาโทรมาซ้ือประกันเอง แลวเราก็เสนอไปตามท่ีลูกคา ตองการ โดยที่ใหลูกคาคิดเองวาจะซ้ือหรือไมซื้อ แลวเราก็ บอกรายละเอียดตามความเปนจริงทุกอยาง (แตไมมีลูกคาทํา ประกนั กับหนเู ลยคะ ต้งั แตหนูทราบความจริงในอาชพี ประกนั ) ทาํ อยา งนี้ถูกตองไหมคะ ทุกวันนี้ หนูยังมีชื่อเปนตัวแทนประกันชีวิต และหนูก็ ปฏิบตั ธิ รรมดวยคะ ถา หนปู ลอยงานประกนั ไปเรื่อยๆ โดยท่ีไม สงงานเลย หนูก็ยังไดกินคอมมิชช่ันจากลูกคาเกาอยู แตเม่ือ ถึงเวลาประเมินยอด ถาหนูประเมินไมผาน หนูก็จะหลุดจาก อาชพี ขายประกนั คะ อยากทราบวา หนคู วรปลอยไปหลุดจาก

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร อาชีพหรือเราลาออกเอง (เร็วข้ึน) หรือมีสติอยูกับปจจุบัน ดกี วา คะ ปลอ ยใหทุกอยา งเปน ไปตามเหตุและผลของมนั คะ ทานอาจารยมีงานแบบไหนที่นาจะเหมาะกับคนอยางหนู บางไหมคะ ความจริงก็ไมไดดิ้นรนหางานคะ แตก็ตองหาไป ตามหนาท่ีคะ คาํ ตอบ พระผูทรงความสัพพัญูตรัสไวในทํานองท่ีวา ผูท่ี ปรารถนามีชีวิตท่ีปกติสุข หรือปรารถนาพนทุกข ตองมี สติระลึกรูอยูกับปจจุบัน เพราะปจจุบันสามารถดับตนเหตุ ๑๖๐ ที่ทําใหเกิดปญหาได ส่ิงที่ผูถามปญหาเขียนบอกเลาไป เปน การสรางเหตุใหชีวิตผูกติดอยูกับมนุษยสมบัติ (ทรัพยกําพรา) ผูรูจริงจึงไมทําประกันดวย หากผูถามปญหาปรารถนานําพา ชีวิตของตนไปสูอิสรภาพท่ีสมบูรณ (พนทุกข) ตองไมเอาจิต ไปผูกติดเปนทาสของสิ่งท่ีเปนของกําพรา ตายแลวตองทิ้งไว กับโลกผูตอบปญหาจึงไมสามารถเขาไปกาวลวงในชีวิตของ ผูถามปญหา ดังนั้นจึงเปนไดเพียงผูชี้ทางฯ ผูถามปญหามี เอกสิทธ์ิในชีวิตเปนของตัวเอง จึงตองเลือกทางชีวิตใหกับ ตัวเองครับ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๗๔. ชีวิตมีความสวัสดี คําถาม ๑๖๑ กราบเรียนทานอาจารยดวยความเคารพคะ รบกวนเลา และสอบถามคําถามทา นอาจารยด งั นีค้ ะ ดิฉันโดนเขาใจผิดและใสรายมาเปนเวลานานแลวจาก คนกลมุ หน่ึง และแผขยายวงกวา งเรอื่ ยๆ ดิฉันศึกษาและปฏิบัติธรรมอยูจึงเขาใจวาเปนวิบากของ ตวั เอง ดิฉนั จงึ นึกยอนไป และไดไปกข็ ออโหสกิ รรมกับบางคน ท่ีทําได ความผิดอีกอยางหน่ึงที่พอจําไดคือ ไดเคยลวงเกิน คุณแมทางมโนกรรมคร้ังหน่ึงซ่ึงสําหรับดิฉันคิดวาคอนขางแรง เนื่องจากคร้ังน้ันโกรธทานมาก ดิฉันไมไดเลาแตไดกราบทาน และขออโหสิกรรมจากทานเร่ือยมา เชน วันปใหม สงกรานต เปนตน คณุ แมมกั พดู วาแมไ มไดคิดอะไรกบั ลูก ดฉิ ันขอความเมตตารับคําแนะนาํ จากทา นอาจารยว า พอ จะมีหนทางใดบางไหมคะที่จะทําใหวิบากเบาบางลงบาง เน่ือง จากนับวนั ย่งิ ดเู หมือนเหตุการณย ิง่ แยลงเร่ือยๆ คาํ ตอบ ผูรู รูวา ปุถุชนพูดไดทั้งดีและช่ัว แตจะดีหรือชั่วอยูท่ี การทําตัวของเรา หากเขาชั่วดังท่ีเขาพูด เขายอมเปนครู ผูมีพระคุณที่เราจะไดพัฒนาตัวเองใหดี ตรงกันขาม หากเรา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร มีพฤติกรรมดีแลว แตเขาพูดวาเราไมดี เขายอมเปนครูที่เห็น ผดิ สอนเราวา เราจะไมป ระพฤตเิ ชน เขา แลวเราก็จะไมเ ปนคน เห็นผดิ เหมือนเขา กฎแหงกรรมมีจริง และมีอิทธิพลเหนือชีวิตของสรรพ สัตวในวฏั สงสาร ดงั นั้น เมือ่ ถกู คนเขา ใจผดิ กลาววาจาใหร า ย ตอ งใหอ ภยั เขา เพราะเขามพี ระคณุ ทท่ี าํ ใหเ ราไดส รา งขนั ตบิ ารมี ไดส รา งเมตตาบารมี ไดส รา งปญ ญาบารมี ฯลฯ ในครง้ั พทุ ธกาล ณ วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี พระพุทธโคดมไดตรัสกับภิกขุที่นั่ง อยูแวดลอม ในทาํ นองที่วา “ตถาคต หมดราคะ โทสะ โมหะ แลว จงึ มไิ ดหวัน่ ไหว และมิไดหนีไปไหน” ๑๖๒ เมอื่ ปพุทธศกั ราช ๒๕๑๘ ท่ีวัดมหาธาตฯุ กรงุ เทพฯ ทาน เจา คณุ โชดก ไดก ลาวกบั ผูตอบปญหาวา \"คณุ เมอื่ ปฏิบัตธิ รรม แลวเสร็จในรอบวัน ตองอุทิศบุญกุศลใหกับเจากรรมนายเวร\" ดวยเหตุน้ี ผูตอบปญหาจึงไดปฏิบัติตามคําสอนของครูบา อาจารยเรอื่ ยมาจนทุกวันน้ี ผูใ ดมพี ฤติกรรมลวงเกนิ ผมู ีอปุ การคุณ (คณุ แม) ในชาตนิ ี้ ตองขออโหสิกรรมและไมประพฤติลวงเกินทานอีก แตบุคคล ยังมีแมในชาติที่ผานมาแลวอีกนับไมถวน หากหลงลืมมิได อุทิศบุญให หรือมิไดขอขมากรรม ผูรูจริงแทจึงมิบังอาจทํา ตัวเปนศัตรูกับใครผูใด ตรงกันขาม ทําตัวเปนกัลยาณมิตร กับสรรพสตั วในวัฏสงสาร

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com อนง่ึ พระสารบี ตุ รกลา ววา “สตเิ ปน รากฐานแหง คณุ ธรรม ทั้งปวง” ซึ่งหมายความวา ผูใดมีสติกํากับใจอยูทุกขณะตื่น กุศลธรรม (บุญ) ยอมเกิดและสั่งสมอยูในดวงจิต ดวยเหตุน้ี ผูไมประมาท พึงสวดมนตกอนนอน หลังสวดมนตเจริญ อานาปานสติ แลวอุทิศบุญกุศลใหแกเจากรรมนายเวรทุกครั้ง ชีวิตจึงจะพบกบั ความสวัสดี ๗๕. ไมป ลอ ยเวลาใหส ญู เปลา คาํ ถาม ๑๖๓ กราบเรียนอาจารย ดร.สนอง ครับ ผมมีขอสงสัยเกี่ยว กับธรรมะ หลังจากสวดมนตตอนเชาเสร็จแลว ผมต้ังจิต อธิษฐานวา ถาผมเกิดชาติใดๆ กเ็ กดิ พบพระพุทธศาสนา และ ไดบวชเปนพระภิกษุในพระพุทธศาสนา และไดปฏิบัติธรรม จนมีดวงตาเห็นธรรม และเขาถึงพระนิพพาน นเี้ ปน การตงั้ จิต อธษิ ฐานทถ่ี กู ตองหรอื เปลา คาํ ตอบ คําวา “อธิษฐาน” หมายถึง การต้ังจิตปรารถนาในส่ิง ดีงาม ดังน้ันท่ีถามมา จึงเปนการอธิษฐานท่ีถูกตองครับ การ สวดมนต หากสวดชาๆ และมีใจจดจออยูกับบทมนตท่ีสวด สติยอมเกิดขึ้น ขณะสวดมนตตองมีจิตระลึกถึงคุณของ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร พระพุทธเจา ระลึกถึงคุณของพระธรรม และระลึกถึงคุณของ พระสงฆ (อรยิ สงฆ) ยอ มมจี ติ ตง้ั มน่ั เปน สมาธแิ ละบญุ เขา ยง่ิ ไป กวานั้นหากใชจิตพิจารณาความหมายของบทมนตที่สวด ยอม เขา ถงึ ปญ ญาเหน็ แจง (โลกตุ ตรญาณ) ได ทง้ั สตแิ ละปญ ญาเหน็ แจง สามารถปริวรรตจิตใหเขาถึงความเปนอริยบุคคลได ผูรู จงึ นยิ มสวดมนตก อ นนอน และยงิ่ เปน นกั บวชแลว ตอ งสวดมนต เชา -เยน็ (ทาํ วัตรเชา ทาํ วัตรเยน็ ) การสวดมนตยงั เปนการให เสียงเปนทานแกมนษุ ย เทวดา และสรรพสัตวทีไ่ ดยินไดฟ งอีก ดวย การเขาถึงจุดหมายสูงสุดในพุทธศาสนาน้ัน หากผูถามมี ศีลคุมใจ มสี ัจจะ มีความเพียรอยูทกุ ขณะตื่น ยอมมีโอกาสเขา ๑๖๔ ถงึ สิ่งท่ปี รารถนาในวนั ขา งหนา ได ๗๖. เหน็ ถูกจึงวางได คาํ ถาม สวัสดีคะทานอาจารย ดร.สนอง กอนอื่นดิฉันตองขอ อโหสิกรรมตอทาน หากไดเ คยลวงเกนิ ทาน ดวยกาย วาจา ใจ คะ ต้ังแตป ๒๐๐๙ ดฉิ ันตั้งใจทจ่ี ะพฒั นาสติ ทาํ บญุ (โดยการ เขา คอรส ปฏบิ ตั ธิ รรม และรวมถงึ การเจรญิ สตใิ นชวี ติ ประจาํ วนั ) ดิฉันรูสึกวาตัวเองน้ันยังเด็กมากในทางธรรม ดิฉันขอถาม คาํ ถามทา นดงั ตอไปนี้คะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๑. ดิฉันไดยินทานสอนถึงเร่ืองการไมเอาธุระของคนอื่น ๑๖๕ มาเปน ของตน (ทา นกลา วถงึ คนอายุ ๙๓ ทยี่ งั แขง็ แรง ปน ตน ไม ไดสบาย ท่ีเปนแบบน้ีเพราะวาไมเอาเรื่องของคนอื่นมาเปน เรื่องของตน) ขอรบกวนทานชวยยกตัวอยางและแนะนําวิธี ดวยคะ วาดิฉันควรจะทําอยางไรที่จะไมเอาธุระของคนอ่ืนมา เปนของตน และยังคงทําหนาที่ของตัวเองสมบูรณตอคนที่ สําคัญในชีวิต เชน บิดามารดา ๒. จากที่ทานไดกลาวถึงการอธิษฐาน ทานบอกวาหาก ตั้งโปรแกรมจิตไวในทางบวก ก็จะไดในสิ่งนั้นในท่ีสุด สําหรับ ดิฉัน มีหมอดูเคยทักวายังไงก็จะไมอดอยาก ดิฉันก็ระลึกถึง สง่ิ นี้ได หลายๆ ครง้ั ที่ดฉิ นั เดินทางไปท่ที ไี่ มม ีใครรูจ ัก โดยแทบ จะไมมเี งนิ ดิฉันก็สามารถรอดมาได ๒.๑ ดิฉันอยากทราบวาส่ิงท่ีดิฉันไดกลาวมานั้น ถือ เปน การต้งั โปรแกรมจิตในทางบวกหรอื ไมค ะ ? ๒.๒ ดฉิ นั จาํ เปน หรอื ไมท จ่ี ะตอ งตงั้ โปรแกรมจติ เรอ่ื ยๆ เพ่ือใหสัมฤทธิ์ผล หรือวาดิฉันจะตองทําอะไร เพ่ือใหอธิษฐาน สัมฤทธิ์ผลคะ ? ๒.๓ การตง้ั โปรแกรมจติ นน้ั จะคงอยตู ลอดไปไหมคะ ? อะไรที่จะทาํ ใหม นั หยุดคะ ? ๒.๔ หากโปรแกรมจิตในทางลบ จะเปนอยา งไรคะ ? ๓. ดิฉันคบกับผูชายคนหนึ่งมาหลายปคะ เวลาที่เราไม ไดอยดู ว ยกัน เขากค็ บกบั คนอน่ื คะ เขาเปน คนทโี่ ลเล ตัดสนิ ใจ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ไมไดคะ ดิฉันจึงเขาคอรสปฏิบัติธรรม และแผสวนกุศลไปให เขาคะ หวงั วาเขาจะไดเปน คนท่ไี มโ ลเลเสียที ดิฉันเองยอมรับไดแมกระท่ังเด็กท่ีเกิดกับผูหญิงคนอ่ืนท่ี เขาคบเมื่อปท่ีแลว ดฉิ ันเรม่ิ ที่จะยอมรบั อะไรๆ ไดมากข้นึ ไมว า เขาจะมาหรือไมม า แลว จๆู ดิฉันกเ็ กิดรสู ึกเฉยๆ กับเหตุการณ พวกนี้ และดฉิ ันกส็ ามารถวางไดค ะ ๓.๑ ดิฉันสงสัยวา ทําไมอยูดีๆ ดิฉันถึงเจ็บปวดกับ เรือ่ งนน้ี อยลงคะ ๓.๒ ดิฉันเคยไดยนิ วา ศีลของคนทเี่ ปนคูกันตอ งเสมอ กัน ในกรณีคูของดิฉัน ดูเหมือนวาจะไมเสมอกัน ดิฉันเขาใจ ๑๖๖ ถูกไหมคะ ? (อยางไรก็ดี ดิฉันก็จะยังคงปฏิบัติตอไป และแผ เมตตาใหทกุ คน) ดิฉันรูสึกขอบพระคุณทานอยางสูง ที่กรุณาชวยตอบ คําถามใหกับดิฉันและคนหมูมากนะคะ ขอใหพวกเราไดถึง พระนิพพานกันคะ ขอบพระคณุ มากคะ คําตอบ กอนตอบปญ หา ไดอโหสกิ รรมใหกับผถู ามปญหาแลว ๑. คําวา “ไมเอาเรือ่ งคนอน่ื มาเปน ของตน” หมายความ วา ไมเอากิเลสของคนอ่ืนมาเปนของตน ตัวอยางเชน เรื่อง ของนาย ก. นิยมประพฤตคิ อรร ัปชั่น แลวยงั ไดรับอปุ โลกนใ ห เปน ใหญเ ปน โต มบี รวิ ารมาก มอี าํ นาจมาก ฯลฯ เมอ่ื ไดย นิ ไดฟ ง

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com เรอื่ งของนาย ก. แลว กเ็ ปนเรื่องของเขา ไมเ อาเร่ืองของนาย ๑๖๗ ก. มาคดิ หรือมาทาํ ใหจ ติ เกิดจินตนาการตอ เน่อื ง สวนนางสาว ข. มีหุนดี มีหนาตาสวยงาม เรียนอยูในสถาบันการศึกษาที่มี ชอื่ เสยี ง ฯลฯ เม่ือไดย นิ ไดฟ ง เรอื่ งของนางสาว ข. แลวไมเอา เรือ่ งของนางสาว ข. มาคดิ หรือไมเอามาจนิ ตนาการตอเนือ่ ง อยา งนี้จงึ จะเรยี กวา ไมเอาเรอื่ งของคนอ่ืนมาเปนของตน ผูที่ จะทําเชนน้ีได จิตตองมีสติและมีความเห็นถูกตามธรรม สวน เรื่องของบิดามารดา หากทานเจ็บปวย ผูเปนบุตร - ธิดาตอง ดูแลตองพาไปใหผูมีความรู (หมอ) ในดานการเจ็บปวยรักษา อยางน้ีจึงเรียกวาเปนลูกกตัญู สวนอาการเจ็บปวยของทาน จะหายหรอื ไม กเ็ ปน เรอ่ื งของทา น ผเู ปน บตุ ร - ธดิ าไมเ อาจติ มา จินตนาการใหเศราหมอง เพราะเราในฐานะลูกไดแสดงความ กตญั กู ตเวทตี อ ทา นแลว สวนจะหายจากอาการเจบ็ ปวยหรอื ไม เปน เรื่องของกฎแหงกรรม ทที่ า นไดทาํ เหตุไวก อน ๒. การต้ังโปรแกรมจิตไวในทางบวกหรือทางที่เปนกุศล เมอ่ื เหตุปจ จัยลงตัว ยอ มเกิดเปน กุศลวิบาก (บญุ ) ใหผ ูท กี่ ระทาํ เหตุดไี ดร บั (เสวย) สว นเร่อื งหมอดูเคยทกั วสิ ัชนาวา ศาสนา พุทธของผูรูจริงแท ผูรูจริงแท ไมเคยสอนใหพุทธบริษัทเช่ือ ในคาํ พดู ของคนอน่ื แตส อนใหเ ชอื่ ในการกระทาํ ของตนเอง ผใู ด ทาํ เหตุไวด ี เม่ือกรรมใหผ ล ยอมไดรบั ผลดีตอบกลบั คืนมา ๒.๑ ศาสนาพุทธไมสอนใหเช่ืออยางงมงายไรเหตุผล แตสอนใหมีปญ ญา (กาลามสูตร) ใหใชป ญญาพจิ ารณาจนเห็น

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร วาคํากลาวนั้นเปนบุญเปนกุศลหรือไม คํากลาวน้ันมีโทษหรือ ไมมีโทษแกผูปฏิบัติตาม ในฐานะที่ผูตอบปญหารูและมีธรรม อยูในใจตนเอง จึงบอกวา ผูใดพัฒนาจิตจนสามารถเขาถึง อภิญญา ๕ (แสดงฤทธ์ิได มีหูทิพย รูใจคนได ระลึกชาติ หนหลงั ได มตี าทพิ ย) และพฒั นาจติ (วปิ ส สนาภาวนา) จนเขา ถงึ ปญ ญาเหน็ แจง ไดแลว กาลามสตู รยอมมคี วามศักด์สิ ทิ ธ์ทิ ส่ี ุด ๒.๒ อยากเปนอะไรหรืออยากไดรับผลเชนไร ตอง ทําเหตุใหถูกตรงกับสิ่งที่ปรารถนาน้ัน บางคนปรารถนาไปเกิด เปนเทวดาตองบําเพ็ญทานรักษาศลี อยเู สมอ บางคนปรารถนา ไปเกิดเปนพรหมตองพัฒนาจิต (สมถภาวนา) ใหเปนสมาธิ ๑๖๘ แนว แน (ฌาน) แลว ตายในฌาน พลงั ของของฌานจงึ จะผลกั ดนั จิตวิญญาณใหไปโอปปาติกะเปนพรหม ความสมปรารถนาจึง จะเกิดขึ้นได สุดทาย บางคนปรารถนาปดอบายภูมิ เหตุตรง คือตองพัฒนาจิต (วิปสสนาภาวนา) จนเกิดปญญาเห็นแจง แลวใชปญญาเห็นแจงดับอยางนอยสังโยชน ๓ ใหหมดไป จากใจ โอกาสพน ไปจากอบายภูมจิ งึ จะเกิดขึน้ ได ๒.๓ การตงั้ โปรแกรมจติ หมายถงึ การตงั้ จติ ปรารถนา จะคงอยูตลอดไป หากไดรับพยากรณจากพระผูทรงความเปน สพั พญั ู หรอื มสี ตมิ นั่ คงทจ่ี ะกระทาํ เหตใุ หต รง การตงั้ โปรแกรม จิตหยุด คือไมไดรับในสิ่งท่ีตนปรารถนา เหตุเปนเพราะมีจิต ขาดสติ อันเน่ืองมาจากการประพฤติสัจจบารมียังไมเขมแข็ง จึงไมส ามารถประพฤตเิ หตุใหต รงกบั สงิ่ ทีต่ ้งั ปรารถนาไว

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๒.๔ ผทู ต่ี ั้งโปรแกรมจติ ในทางลบ เชน เผาพริก เผา ๑๖๙ เกลือ สาปแชงใหผูอื่นวิบัติ เมื่อเหตุปจจัยลงตัว อกุศลวิบาก ท่เี ปน ลบ (บาป) ยอมเกดิ ขึน้ กบั ผทู มี่ ีความเห็นผิดเชน นั้น ตรง กนั ขามหากผูท่ีถกู สาปแชงมคี ุณธรรมสงู มศี ลี มสี ตคิ มุ รักษาใจ บาปยอ มเกิดไดเ ร็วกับผูสาปแชง (ตง้ั โปรแกรมจิตในทางลบ) ๓. การแผสว นกศุ ล (บุญ) ไปใหผอู ่ืน หากผูทถ่ี กู กลาวถงึ ไมม าอนโุ มทนาบญุ เขายอ มไมไดรับผลบุญท่มี ผี ูแ ผไ ปใหน้ัน สาธุ ที่ไมเอาเรื่องของคนอื่น มาทําใหจิตของตนตอง สูญเสียอิสรภาพ (เศราหมอง) พระอริยบุคคลนิยมประพฤติ เชน นั้น อปุ ตสิ สะ (พระสารบี ุตร) ไดฟง ธรรมของพระพทุ ธเจา ทพี่ ระอัสสชินํามาบอกกลาว ในทาํ นองที่วา “ธรรมเหลา ใดเกดิ จากเหตุ ตถาคตตรสั เหตแุ หง ธรรมเหลาน้นั และตรสั ถงึ ความ ดับไวดวย ตถาคตมีปกติตรัสดังนี้” คือเห็นดวยใจที่สงบวา สรรพสิ่งไมใชตัวตน (อนัตตา) จึงปลอยวาง แลวจิตวางเปน อิสระจากส่ิงท่ีเขากระทบจิต ผลท่ีเกิดตามมาคือจิตไดปริวรรต เขาถึงความเปนพระโสดาบันอริยบุคคลไดขณะที่ยังอยูใน เพศฆราวาส ๓.๑ เหตุเพราะจิตเปนอสิ ระมากยิ่งขึ้น ๓.๒ คูสรา งคูสม มีคณุ ธรรม ๔ อยางใกลเคยี งกนั (๑) สมสัทธา (๒) สมสลี า (๓) สมจาคา (๔) สมปญ ญา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร หากคุณธรรมทั้ง ๔ มีความหางกัน ก็เปนคูปาก คูกัด คจู องเวร หมายเหตุ : ผูท่ีมีจิตเปนทาสของกาม (รูป เสียง กล่ิน รส สัมผัสทางกาย) ตายแลวยังตองไปเกิดอยูในกามภพ (นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน มนุษย เทวดา) เปนพระ อรยิ บคุ คลหรอื เขานพิ พานไมได ๗๗. คําแนะนําท่เี ปนบุญ คาํ ถาม ๑๗๐ กราบเรียนอาจารย ดร.สนอง ครับ ผมไดมีโอกาสไป เย่ียมพระนองชายซึ่งบวชท่ีวัดไดไมนาน และไดมีโอกาส สนทนากัน ผมก็ไดแนะนําใหพระไดฝกสมาธิ วิปสสนา เลา ใหพระฟงวา ตอนบวชผมปฏิบัติอยางไร และก็พูดแนะนํา วาการบวชเพื่อใหไดบุญในมุมมองของผม คือบวชแลวตั้งใจ ฝกปฏิบัติใหมาก เพราะอยากใหพระปฏิบัติใหมาก และกอน กลับก็พูดวา “ใหทานปฏิบัติใหดี ใหปฏิบัติชอบ ใหสมกับที่ ญาติโยมไดกราบไหว” การพูดแนะนําอยางน้ี ถือเปนบาป หรือไมค รบั ดวยความเคารพอาจารยอ ยางสงู

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com คาํ ตอบ ๑๗๑ คําวา “บญุ ” หมายถึง ความดี กศุ ล ความสขุ ฯลฯ บวช แลว หากมพี ฤตกิ รรมเปนบุญ กาย วาจา ใจ ตองตรงกนั คอื ประพฤตติ ามบุญกิรยิ าวตั ถุ ๑๐ อยางถกู ตองชอบธรรมดงั นี้ ๑. การใหสง่ิ ดีงาม ๒. การรกั ษาศีลและประพฤตดิ ี ๓. การเจรญิ จติ ตภาวนา ๔. การประพฤติออนนอม ๕. การขวนขวายรับใช ๖. การเฉล่ียสวนความดีใหผ ูอ่นื ๗. เมื่อเห็นผูอื่นทาํ ดี แลว มีความยินดี ๘. การฟง ธรรม ๙. การสงั่ สอนธรรม ๑๐. การทําความเห็นใหต รง ดงั นนั้ หากแนะนาํ ผบู วชใหมใ หป ระพฤตบิ ญุ กริ ยิ าวตั ถุ ๑๐ ถือวาเปนการแนะนําใหปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ .... เปนบุญครับ สาธุ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๗๘. ทาํ ตามใจแม คําถาม กราบเรียน ดร. สนอง ที่เคารพ ตอนนดี้ ิฉันเปนทุกขก ับ งานมากคะ ตอนนี้มีอาชีพรับราชการครู แตเปนงานท่ีแมกับ นองชายเลือกใหเพราะอยากใหรับราชการ ตั้งแตทํางานมา เกือบสองป ดิฉันทําตามหนาท่ีเพ่ือหนาท่ี ทําใหเต็มที่ ทําใหดี ทสี่ ดุ เหมอื นทอ่ี าจารยก ลา ว แตง านทท่ี าํ นน้ั บางอยา งมนั ขดั หลกั ของศีลธรรมและกฎหมาย แตก ต็ องทําเพ่อื องคก ร ตวั ดิฉันเอง ศรทั ธาในคาํ สอนของพระพทุ ธองค สวดมนตไ หวพ ระเปน ประจาํ ๑๗๒ และรักษาศีล ๕ จึงมักเกิดความรูสึกขัดแยงในใจตัวเองตลอด เวลา วาเรากําลังทําในสิ่งที่ไมถูกตอง ผิดศีล ทําใหดิฉันไมมี ความรักในงานที่ทําอยูเลย อีกทั้งเพ่ือนรวมงานขาดความ สามัคคี แตกแยกกันเปนหลายกลุม ชอบนินทา และไมให ความรวมมือในการทํางาน เม่ือไมมีคนที่จริงใจ ย่ิงรูสึกไมมี กัลยาณมิตร ปรึกษาใครก็ไมได รูสึกแตกแยก ไมคอยคบใคร เพราะคดิ วาในเมือ่ หากลั ยาณมิตรไมไ ด กอ็ ยคู นเดียวดกี วา เมื่อตอนกันยายนปที่แลวต้ังใจจะลาออกจากราชการ บอกแมไปวาดิฉันเปนคนมีความรูมีความสามารถ และขยัน ทาํ งาน ยงั ไงกไ็ มต กงานแนน อน แตแ มก เ็ ปน ทกุ ขใ จกบั ดฉิ นั มาก ทา นเครยี ดเปน เดอื นๆ ดฉิ นั กเ็ ครยี ด เรามมี มุ มองในการทาํ งาน ไมเหมือนกัน แมก็จะอยากใหรับราชการเพราะมีความมั่นคง

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com มีสวัสดิการมาก แตดิฉันมองความรักในงานมากอน เพราะ ๑๗๓ ถาไดทํางานที่รักและมีประโยชนมีคุณคาตอตนและคนอ่ืนแลว ตอใหหนักหนาทุกขยากเพียงใดดิฉันก็มีกําลังใจในการทํางาน อยางไรก็ตามเม่ือเห็นแมทุกขใจเพราะตัวเองนานขนาดน้ัน ดิฉันก็รูสึกผดิ เพราะในชวี ติ นี้ทําเพ่อื แมม าตลอด และตง้ั ใจจะ ทดแทนพระคุณแมใหมากที่สุด เปนคนที่เชื่อในเรื่องของความ กตัญูมาก ตอนนั้นจึงเอาพวงมาลัยไปขอขมาแม ใหอโหสิ กรรมในบาปท่ีทําใหบุพการีตองทุกขใจ แลวก็ต้ังใจวาจะกลับ มารับราชการตอ หลังจากนั้น ดิฉันก็พยายามปรับตัว อดทนกับงานท่ีทํา แตยิ่งอดทน ก็รูสึกวาทําไปวันๆ ไมใชง านทีช่ อบ ท่ที ําอยกู เ็ พือ่ แมเทาน้ัน นานเปนปที่ดิฉันทํางานหามรุงหามคํ่า บางวันกลับ ดึกมาก เกิดความเครียด เหนื่อยใจ รองไหบอยมาก เพราะ ระบายกบั ใครก็ไมไ ด บางทีก็คดิ วาเปนวิบากกรรมของเราท่มี า ตกในถ่ินที่ปจจัยแวดลอมไมไดเกื้อหนุนในทางธรรมเลยคะ ขาดกัลยาณมิตร ทุกข ทอ ก็ไมอยากใหแมรับรู เพราะกลัว ทานจะทุกขไปดวย จนบางทีก็กลัวตัวเองจะเปนโรคประสาท พยายามหนั หนา เขา หาธรรมะ แตก ็ชว ยไดบ างครงั้ เพราะจติ ฟุง มากคะ ดิฉันรูสึกทอแทกับชีวิต ถาจะเลือกทําในสิ่งที่ตัวเอง ชอบก็ทําใหแมตองทุกขใจ แตถาทําเพ่ือแม ตัวเองก็เปนทุกข เหลอื เกิน จงึ มคี าํ ถามเรยี นถามอาจารยใหชวยชแ้ี นะดงั นีค้ ะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ๑. ถา ตอ งทํางานท่ีบางครงั้ ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ยัง จะถือวาทําหนาทเ่ี พ่อื หนา ทหี่ รือไม ๒. การคดิ วาเม่อื ไมม ีกัลยาณมติ ร เรากอ็ ยูกับตวั เอง เปน กัลยาณมิตรใหตัวเองนั้น เปนความคิดที่ถกู ตอ งหรอื ไม ๓. ขอความเมตตาอาจารย ไดช้ีแนะแนวทางในการ ตัดสนิ ใจเลือก วาควรจะทําเพือ่ แมหรือเพื่อตวั เองคะ ๔. ทาํ อยา งไรจะไดพ บกลั ยาณมติ รในทางธรรมคะ ๕. หากตองทํางานอยูตอไป ดิฉันควรจะใชหลักธรรมใด ในการทําใหอดทนและไมทอแทกับงาน และอยูรวมกับคนท่ี แตกแยกอยางไรคะ ๑๗๔ กราบขอบพระคุณอาจารยเปนอยางสงู ทเี่ มตตาคะ คําตอบ (๑) ผูมีความเห็นถกู (สัมมาทฏิ ฐิ) เลือกทาํ แตง านดี (ไม ผิดกฎหมาย ไมผิดศีล ไมผิดธรรม) โดยมีอิทธิบาท ๔ (ทํา ดวยใจรัก ทําดวยความพากเพียร ทําดวยมีจิตจดจอ และ ใชปญญาไตสวนงานท่ีทํา) เปนแรงสนับสนุน ผูมีความเห็นถูก พึงเลอื กทางดาํ เนินชวี ติ ดวยตนเอง ผูมีความเห็นถูก มีความกตัญูกตเวทีตอผูมีอุปการคุณ ดวยการประพฤติจริยธรรมลูกท่ีดีตอพอแม ดังน้ัน หากผูถาม ปญหามีความเห็นผิดไปจากธรรม (ทําตามใจแม) บาปยอม เกดิ ขึน้ กบั ผมู คี วามเห็นผิด หากจําเปนตอ งทําตามใจผูอืน่ ตอ ง

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ประพฤติบุญใหญอยูเสมอ เพ่ือใหบาปตามสงผลไมทัน หรือ ๑๗๕ ดีที่สุดตองพัฒนาจิต แลวปดอบายภูมิใหได หรือหนีไปเกิด ในสุทธาวาสพรหมโลก หรือหนีไปอยูในพระนิพพาน คําวา \"ทําหนาที่เพื่อหนาท่ี\" ตองรูใหไดวา หนาท่ีที่ทํานั้นใหผลเปน บุญหรือบาป หากเปนบุญจงทํา หากเปนบาปจงงดเวนไมทํา ดว ยเหตนุ ้ี ผูรจู งึ เลือกทําหนาท่ีในงานทด่ี ีครบั (๒) ในครั้งพุทธกาล พระอานนทไดกลาวไวในทํานอง ท่ีวา \"ไมม ีใครเปน กลั ยาณมติ รไดเ ทา กายคตาสต\"ิ ดังนน้ั ความ คดิ เหน็ ของผูถามปญหาจงึ เปน สมั มาทิฏฐิ .... สาธุ (๓) ผูมีความเห็นถูก นิยมตัดสินใจเลือกทํางาน (งานดี) ดว ยตัวเอง และไมล มื ประพฤติจริยธรรมตอผมู ีอุปการคณุ (๔) ตองเขาหาและสนทนาธรรม กับผูมีความเห็นถูก อยูเสมอ (๕) งานท่ีทําหากใหผลเปนบาป ตองประพฤติกุศลธรรม อยูเสมอ เพื่อใหบุญใหญกวาบาป แลวจึงจะมีชีวิตอยูอยาง ปลอดภัย

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ๗๙. จรงิ ไหม คําถาม กราบเรยี น อ. สนอง วรอุไร ท่เี คารพอยา งสูง กอนอื่น กระผมตองขออโหสิกรรมตอทานอาจารย หากไดเคยลวงเกิน ทานดวยกาย วาจา ใจ คะ ขอเรียนสอบถามดังนค้ี รับ ๑. การทเ่ี ราไดโ หลดหนงั ในเว็บไซตท ่ัวๆ ไปทใี่ หบรกิ ารให ดูหนังออนไลนนั้น ผิดศีลไหมครับ ถาไมผิดศีล จะผิดธรรม ไหมครบั ๒. ในวัฏสงสารไมมีสิ่งใดเปนเรื่องบังเอิญ จริงไหมครับ ๑๗๖ แตส่ิงท่ีเกิด เชน ฝนตก เหตุใดจึงสามารถพิสูจนดวยวิธีทาง วทิ ยาศาสตรไดเชน กันครับ ๓. การที่จิตเราจะน่ิงเปนสมาธิไดนั้น ศีลตองบริสุทธิ์ ศลี ของเราตอ งบรสิ ทุ ธอิ์ ยยู าวนานเทา ใดจนกวา จติ นนั้ จะนงิ่ เปน สมาธิ หมายความวาถา เราตั้งใจจะปฏบิ ตั ใิ นอกี ๕ วนั ขา งหนา ภายในเวลากอ น ๕ วนั ถา เรามศี ีลบริสุทธิ์ เพยี งพอหรือไม ๔. การที่เราเคยคดิ วาอยากทาํ อาชพี ตา งๆ หลายๆ อยา ง แลวเราไดทําอาชีพตางๆ น้ัน เรียงลําดับมา หมายความวา เกิดจากการอธิษฐานของเราหรือไมครับ ถาอาชีพที่เราทํา ไมสามารถสรางรายไดใหเรามีความเปนอยูที่ดีได เราควรทํา อยางไรครับ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๕. หากเราไมม โี อกาสทจี่ ะไปปฏบิ ตั กิ รรมฐานในทท่ี ส่ี มควร จะตองฝกทีบ่ า นอยา งไรครับ ๖. ในจงั หวดั จนั ทบรุ มี พี ระอาจารยท สี่ อนกรรมฐานถกู ตอ ง ตามธรรมไหมครบั กระผมขอกราบขอบพระคุณ ทานอาจารย ดร.สนอง วรอไุ ร เปนอยางสูงครบั คาํ ตอบ ๑๗๗ (๑) ไมผ ดิ ศลี หากเจา ของลขิ สทิ ธอ์ิ นญุ าตใหก อ ปป (โหลด) ไปดูได สว นผดิ ธรรมน้นั มแี น เพราะจิตตกเปน ทาสของกาม (๒) ในวัฏสงสาร ทุกเหตุการณท่ีเกิดข้ึน เปนเร่ืองความ สัมพันธระหวางเหตุและผล ดังนั้นจึงไมมีความบังเอิญ หาก ประสงคจะพิสูจนดวยปญญาทางโลก ตองพัฒนาสมองดวย การอาน การฟง และการวิจัย ตรงกันขาม หากประสงคจะ พิสูจนดวยปญญาสูงสุด ตองพัฒนาจิต (สมถภาวนา) ใหเปน สมาธิ และพฒั นาจิต (วปิ ส สนาภาวนา) ใหเกดิ ปญญาเหน็ แจง จึงจะสามารถพิสูจนไดวา สรรพส่ิงเกิดขึ้นดวยความสัมพันธ ระหวางเหตแุ ละผล (๓) ปุถุชนที่ประสงคจะมีจิตนิ่ง ตองเอาศีลมาคุมใจใน หว งเวลาทป่ี ระสงคจะใหจ ติ ตง้ั ม่นั เปน สมาธิ (๔) ความคิดอยากทําอาชีพตางๆ เปนความเห็นถูกทาง โลก แตเปนความเห็นผิดในทางธรรม เพราะความอยากเปน กเิ ลส (ตณั หา) จงึ ไมส ามารถพฒั นาจติ ใหพ น ไปจากวฏั สงสารได

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร คาํ วา \"อธิษฐาน\" หมายถงึ การตัง้ จิตปรารถนาในส่งิ ที่ดี หากต้ังจิตปรารถนา เล้ียงกบ เลี้ยงปลา ขายเพื่อเอาเงินมา เลี้ยงดูครอบครัว ในทางธรรมไมถือวาเปนการอธิษฐาน แต หากมีจิตปรารถนาประกอบอาชีพที่ไมผิดกฎหมาย ไมผิดศีล ไมผ ดิ ธรรม โดยใชอ ทิ ธิบาท ๔ ใชความซือ่ สัตยต อลูกคา และ มีศีล ๕ คุมใจอยูทุกขณะต่ืน ความสําเร็จจึงจะมีโอกาสเกิด ขึน้ ได (๕) สวดมนตกอนนอนทุกวัน หลังสวดมนต เจริญ อานาปานสติไปจนหลับ ตื่นข้ึนตอนเชา จึงจะอุทิศบุญกุศลให กับเจา กรรมนายเวร ผทู ี่ทาํ ไดถูกตรงตามน้ี ความสมปรารถนา ๑๗๘ จึงจะมโี อกาสเกดิ ข้ึนได (๖) แนะนําใหไปปฏิบัติธรรมที่วัดมาบจันทร จังหวัด ระยอง หรอื ทศ่ี นู ยป ฏบิ ตั ธิ รรมเขาดนิ หนองแสง อ.แกง หางแมว จ.จันทบรุ ี แตจะเขาถึงธรรมทป่ี ฏบิ ตั ิไดห รือไม ข้ึนอยูกับตัวเอง เปนหลัก ๘๐. พฤติกรรมตา งจากคนอ่ืน คาํ ถาม กราบสวัสดีทานอาจารยสนอง วรอุไร หนูปฏิบัติธรรม มา ๘ ปแลว โดยไมเคยไปน่ังที่วัด น่ังที่บานตลอด สวดมนต และน่ังสมาธกิ อนนอน นั่งโดยใชพิจารณากายกับอสุภะ ตอนน้ี หนูมีปญหาถามทา นคะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๑. พิจารณาจนจิตสงบเห็นตัวเองและมีพระลอมรอบใส จวี รสีกรกั และมีเสยี งนุมๆ พดู วา เอหภิ กิ ขุ คืออะไรคะ ไมรูจ กั มากอนคะ ๒. เม่ือเวทนาเกิดมากก็ทนจนหายไป พออีกวันหน่ึง ใหมกไ็ มปวดเหมือนเดิม แตมีบางครั้งมีเสยี งบอกวา รูแลว วาง และวาง แลว หนจู ะทาํ ไงตอคะ ๓. การสื่อจิตมาสอนคืออะไรคะ ๔. ตอนนมี้ ีคนบอกวาเพีย้ นคะ กราบขอบพระคณุ อยา งสูงคะ คาํ ตอบ ๑๗๙ (๑) หากนําจิตไปสนใจกับสิ่งที่ถูกเห็น เรียกวา โมหะ ดังนั้นจึงขออภัยไมตอบเพราะไมเปนเหตุใหพนทุกข (๒) เมื่อ จิตวางจากอารมณปรุงแตง แลวตองใชจิตตามดูความวาง วาดําเนินไปตามกฎไตรลักษณ เมื่อความวางเขาสูความเปน อนัตตา จิตยอมไมวางดังที่ถามไป แลวปญญาเห็นในความ วางจงึ จะเกดิ ขนึ้ (๓) สง่ิ ท่บี อกเลา ไปแลวถามไป เปนความรขู นั้ สูง (โลกิย ญาณ) ไมส ามารถกาํ จดั กิเลสทผี่ กู มดั ใจ (สังโยชน) ได (๔) หากเปนการเพ้ียนดี เพ้ียนสูการเปล่ียนสภาวธรรม ในดวงจิต จากปุถุชนไปเปนอริยบุคคล เพี้ยนสูการนําพาชีวิต ไปสูสุทธาวาสพรหมโลก หรือเพ้ียนไปสูการนําชีวิตหลุดพนไป จากวัฏสงสาร จงเพย้ี นตอไป

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ผูมีสัมมาทิฏฐิรูวา ชีวิตเปนของตัวเอง จึงตองเลือกทาง ชวี ิตใหก บั ตวั เอง ใครจะพูดอยางไรเปนเรอ่ื งของเขา เรือ่ งของ เราอยูทกี่ ารกระทาํ ดีดวยตัวเอง นนั่ แหละดที ส่ี ุด ๘๑. ผลทผ่ี ิดทาง คําถาม กราบสวัสดีคุณอา ดร.สนอง ครบั กระผมเปนคนหน่งึ ท่ี เจรญิ สติ ในแบบสตปิ ฏ ฐานสี่ มาจากวดั อมั พวนั (หลวงพอ จรญั ) ครบั กอนอื่นกระผมขอกลาวกอนวา ท่ีกระผมจะแนะนาํ สภาว ๑๘๐ ธรรมตัวเองตอไปน้ี กระผมมิไดตอบตามตําราครับ เปนสภาว ที่เกิดข้ึนจริงกับตนเองลวนๆ ครับ กลาวแบบคราวๆ นะครับ กระผมปฏบิ ตั มิ า ๒ ชว งครับ คือคร้งั แรกทีป่ ฏิบตั ิ ตอ เนอ่ื งมา ได ๘ เดือน สภาวะธรรมถึงเห็นชัดในการเกิดดับของรูปนาม ท่กี าํ หนดรูอ ยู ไหลรื่นตอเนอ่ื งไดด ี แตย ังไมถ งึ กับเหน็ มนั ดบั ไป สนทิ ไมม ีการเกดิ ใหเ หน็ เลย และหยุดไป ๔ เดอื น ไมไดป ฏบิ ตั ิ ไมไ ดไ หวพ ระสวดมนตเ ลย เนอื่ งจากไปทาํ ธรุ กจิ ขายตรงเจา หนงึ่ กลบั บานดกึ ๆ มากทกุ วัน เลยมาพจิ ารณาเห็นความเส่ือมถอย ต่ําลงของจิตใจตนเองหลายอยาง จึงเลิกธุรกิจขายตรงและ กลับมาเร่ิมปฏิบัติใหมอีกครั้ง ซึ่งก็ผานสภาวธรรมเดิมๆ ครับ จนมาเห็นความดับไปของรูปนาม ยกตัวอยางคือทองพองยุบ ไมเห็นทองพองยุบ ไมเห็นอิริยาบถการกาว ยก ยาง แมแต

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com นอ ย กท็ นปฏบิ ตั ติ อ ไป ทาํ แบบไมเ หน็ นน่ั แหละครบั สกั ๒ เดอื น ๑๘๑ เกิดความเบ่ือหนายแบบสุดขีด งวงหงาวหาวนอน จนคิดจะ เลิกปฏิบตั อิ กี แตก็คิดวา เอานา มาไกลขนาดนแ้ี ลวจะเลกิ ไปใย บังคบั ตนเองไปวดั อัมพวนั ปฏบิ ตั ิ ๕ วัน วันสดุ ทายออกมาเรมิ่ มรี ูปนามปรากฏจางๆ ใหเ หน็ บา งไมเห็นบา ง กย็ งั ดี ปฏบิ ัติมา เร่ือยๆ เวทนา เล็กๆ นอยๆ คนั ยกุ ยิก ปวดไมมากนกั แตก ไ็ ม หายปวด ผา นมา จนเรมิ่ เหน็ การเกดิ ดบั ของรปู นาม ไหลรน่ื ดขี นึ้ เรื่อยๆ สมาธิมีมากเปนพิเศษ กําหนดอะไรก็คลองไปหมด บางคร้ังมากไปจนไมเห็นอิริยาบถของรูปนาม ทุกขเวทนาก็มี นอ ย น่ังกด็ ่งิ เขา ฌานไปเลย ตอ งถอยออกจากฌานบอยๆ ตอ ง เดนิ จงกรมใหมากๆ ถึงจะพอเอาอยูปก สตแิ รงๆ ดว ยครับ เลยตดั สนิ ใจไปวดั อมั พวนั อกี ครบั ปฏบิ ตั อิ กี ๕ วนั เพง่ิ กลบั มาจากวดั เมอ่ื วานครับ กลบั มาถึงบานทีก่ าญจนบรุ ี ตอนเย็นก็ เปด ธรรมะท่ีหลวงพอทา นเจาคณุ โชดกทานไดแสดงไว เลยลอง กําหนดเสยี งเปนวิปส สนาใหไ ดยนิ ในรูหู (ประสาทห)ู ปรากฏวา เห็นการเกิดดับของเสียงในรายละเอียดของเสียงก็เห็นเกิดดับ อกี ดว ย เหน็ ไหลรนื่ ตอ เนอ่ื ง จนถเี่ ขา ๆ หนา เกรง็ ปากเบยี้ ว กราม ขากรรไกรลา งของปากบดิ ไปจนสดุ จนปวดกราม กาํ หนดกไ็ มท นั มนั ถแี่ ละเรว็ แตเ หน็ สกั ครกู ค็ ลายลงมา กาํ หนดไดย นิ ตอ กเ็ กดิ รู เหน็ ถเี่ ขา ๆ ตอ เนอื่ งไปอกี ครานห้ี นกั ขน้ึ บวกกบั ความออ นเพลยี มาจากการเดนิ ทางและการปฏบิ ตั เิ ครง ตลอด ๕ วนั เลยหยุด กําหนด นอนฟง ไป ไมกําหนด เลยเผลอหลับไป

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร เชา มาปฏิบัติตอ เดินจงกรมไดราว ๕๐ นาที กเ็ กดิ อาการ เกรง็ ขา (จริงเรม่ิ เกร็งนาทีท่ี ๒๐) เกร็งจนเดินตอ ไดย าก เหน็ การเคลอื่ น ยก ยา ง เหยยี บ เอยี งตัวไปมา เห็นไหลล่นื ดมี าก เลยตอ งกําหนดนง่ั ดูพองยบุ ไป สัก ๑๐ นาทีกเ็ ริ่มออกอาการ เกร็งหนาทอง เริ่มพองยาวนานขึ้นเร่ิมเห็นทองพองนานและ ละเอียดขึ้นมากเร่ือยๆ แตทองยุบไมนาน และละเอียดนอย กวา ทองพอง แตก ย็ ังถือวา ละเอียด เหน็ ถเี่ ขาๆ กําหนดไมทนั พยายามหายใจใหเปนปกติ แตก็ย่ิงพองยาวและเกร็งหนาทอง ข้ึนไปเรอื่ ยๆ ทรงตวั บา ง แลวกห็ นักข้นึ ไปเรอ่ื ย แลว ก็ลดฮวบ คลายลงมาไดสกั ๔-๕ วนิ าทีก็เรมิ่ ถขี่ น้ึ ๆ อีก เปน อยู ๓ รอบก็ ๑๘๒ หมดเวลาปฏิบัติกอนครับ จริงๆ ก็คิดวาเปนสภาวธรรมหนึ่งท่ี ตองเจอและก็ผานไปไดเหมอื นทเี่ คยๆ เจอ หลายๆ อยางมานนั่ แหละครบั แตก อ็ ยากใหคุณอา แนะนาํ เกร็ดเล็กเกร็ดนอ ยอะไร ทเ่ี ผอ่ื จะมอี ะไรพอแนะนาํ ครบั ผมจะกาํ หนดยนื หนอนอ ยๆ ครบั ชว งน้ี ถา ยนื หนอมากแลว สมาธมิ นั มากไป มนั จะลาํ้ หนา สตคิ รบั สุดทายนี้ขอใหคุณอา ดร. มีสุขภาพแข็งแรงครับ ถา จะกรุณาตอบผม ก็ขอตอบเทาท่ีผมจําเปนตองทราบนะครับ กราบขอบพระคุณครับ คาํ ตอบ ผูถามปญหาเขียนบอกเลาไปท้ังหมด ถึงผลการปฏิบัติ ธรรมทีว่ ัดอัมพวนั น้ันทราบแลว ตอ งขออภยั ผูถามปญหาทีจ่ ะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ตอ งพูดวา การปฏบิ ัติสมาธิแบบพองหนอ-ยุบหนอ ผลทีถ่ กู ทาง ๑๘๓ จิตตองต้ังมนั่ เปน สมาธิ สวนการปฏิบัตวิ ปิ ส สนากรรมฐาน ผล ที่ถูกตรงจิตตอ งเกดิ ปญญาเหน็ แจง วา สรรพส่ิง (ผัสสะ) ท่เี กดิ ขึ้นในดวงจิต เปนไปตามกฎไตรลักษณ ที่สุดแลวผัสสะไมใช ตวั ตน (อนตั ตา) จงึ เปน สง่ิ ทวี่ า งเปลา จติ รู เหน็ เขา ใจ (สนทฺ ฏิ ฐโิ ก) ดังนแี้ ลว ยอ มปลอ ยวาง และวา งเปน อิสระจากสิ่งท่เี ขากระทบ จิต แตผลการปฏิบัติท่ีบอกเลาไป จิตขาดสติจึงไประลึกอยู กับอาการเกร็ง อาการปวด อาการหนักตัว อาการคัน ฯลฯ เหลาน้ีเปนการปฏิบัติธรรมที่ใหผลไมถูกทาง คือ จิตยังเขา ไมถ งึ การมีสติ และจิตยงั เขา ไมถ งึ การเกดิ ปญญาเหน็ แจง ฉะนั้น จงึ ขออนุญาตแนะนําวา (๑) การปฏบิ ัตธิ รรม ตอ งดําเนนิ ตามกฎไตรลักษณ (๒) ไมใชสมองคิด แตใชจิตตามดูจนเห็นวา สรรพส่ิง ลวนตางดําเนนิ ไปตามกฎไตรลักษณ ในที่สดุ ไมมตี ัวตน (๓) ทําตัวเปนคนโง แลวปฏิบัติใหถูกตรงตามคําช้ีแนะ ของครูสอนกรรมฐานท่มี ดี วงตาเหน็ ธรรม (๔) เรงความเพียรในการปฏิบัติธรรม ซึ่งทานเจาคุณ โชดกไดช แี้ นะไวว า - ผมู ีความเพยี รมาก ปฏบิ ัตธิ รรมวนั ละ ๒๐ ช่ัวโมง - ผูมีความเพียรปานกลาง ปฏิบัติธรรมวันละ ๑๐-๑๒ ช่ัวโมง - ผูมคี วามเพยี รนอย ปฏบิ ตั ธิ รรมวนั ละ ๕-๖ ชั่วโมง

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร (๕) ผทู ี่เอาชนะใจตนเองได ยอ มไมม ีอะไรท่ีจะตอ งแพอกี ฉะน้ัน .... สแู ละปรบั ความเหน็ ใหถ ูก สุดทา ย ขอบใจทอ่ี วยพรให ๘๒. ไปเกิดในกามภพ คําถาม เรยี นทา นอาจารย ดร.สนอง ดฉิ นั ไดร จู กั ทา นจากเพอ่ื นรกั ของดิฉัน เพื่อนของดิฉันชวยแนะนําดิฉันเก่ียวกับเรื่องปญหา ชวี ิตแตง งานของดิฉนั คะ ดิฉนั ไดอานหนงั สอื ภาษาองั กฤษของ ๑๘๔ ทานแลว และมีกําลังใจท่ีศึกษาธรรมะเพื่อการมีชีวิตอยางมี สตคิ ะ ๑. เมอื่ ไมน านมานดี้ ฉิ นั เพง่ิ รวู า สามขี องดฉิ นั แอบมสี มั พนั ธ ลึกซ้ึงกับผูหญิงอื่นมาถึงหาปแลวคะ ผูหญิงคนน้ีทํางานเปน ลูกนองของสามีดิฉันคะ เธอชวยเหลืองานของสามีดิฉันเยอะ เลยคะ อยางไรก็ดี ดิฉันก็ไดเตือนสามีฉันหลายครั้ง เพราะ ดิฉนั รูสึกไดวา ผูหญงิ คนนชี้ อบสามีของดฉิ นั คะ (ซง่ึ ดฉิ นั รูสกึ ได เมอื่ ๑๒ ปทแี่ ลว) ดฉิ ันจบั พริ ุธไดค รั้งหนง่ึ เม่อื ๕ ปท ีแ่ ลว ตอน เขาบอกวา เขากาํ ลงั ทาํ งานอยู แตจ รงิ ๆ แลว อยบู นรถกบั ผหู ญงิ คนนัน้ คะ ดิฉันก็ยังเชอ่ื เขาอยูและใหอ ภัยในครั้งนัน้ ๔ เดือนท่ี แลวดิฉันพบวาเขาแอบมีสัมพันธลึกซึ้งกันคะ เพราะฉันไปเจอ ขอ ความในมอื ถอื ของเขาคะ มนั เปน ขอ ความแบบทค่ี รู กั สง ถงึ กนั ดิฉันเสยี ใจและโกรธมากคะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ดิฉันคิดที่จะจบความสัมพันธไปเลย จะไดไมตองไปเสีย ๑๘๕ เวลากับผูชายคนน้ี แตว า เรามลี กู ดว ยกนั สองคนคะ และนีเ่ ปน ส่ิงที่ทําใหฉันยังคงอยูกับเขา แตวาดิฉันไมสามารถใหอภัยเขา ไดเลย (เพราะดิฉันเคยบอกเขาแลววา อยาติดตอกับผูหญิง คนนี้) ดิฉันคิดวาเราแตงงานกันอยางมีความสุขถึง ๑๖ ป ดฉิ นั ควรทาํ อยางไรดคี ะ ๒. ตั้งแตเด็กๆ เวลาท่ีดิฉันรวบรวมสมาธิ ดิฉันมักจะมี ความรูสึกถึงความเปนตัวตนของฉันในโลกนี้ โลกนี้เปนของ จริงคะ น่ีคือสิ่งท่ีดิฉันรูสึก แตจะรูสึกไดเพียงแคไมเกินนาทีคะ ดิฉันกลัวและรูสึกไมสบายใจ เวลาท่ีฉันรูสึกถึงตัวตนของดิฉัน ในรา งกายน้ี นคี่ อื ความรสู กึ อะไรคะ ? ดฉิ นั ควรจะทาํ สมาธแิ ละ ฝกจติ อยา งไรดคี ะ ขอบคณุ มากคะ คาํ ตอบ (๑) บุคคลผูพัฒนาจิตจนเขาถึงความรูสูงสุดระดับโลกิย ญาณ ยอมรู เห็น เขา ใจวา รปู นาม (สตั ว) ท่เี วียนตายเวยี น เกิดอยูในภพตางๆ ของวัฏสงสาร หากสภาวธรรมในดวงจิต เปนปุถุชน คือมีกิเลสกามสั่งสมอยูในดวงจิต ยังสามารถ มีคูครองไดหลายคน ยกเวนจิตท่ีเปนพระอนาคามีขึ้นไป ยอมมีจิตเปนอิสระจากกาม จึงปฏิเสธการมีครอบครัวอยาง เดด็ ขาด

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร ดังน้ัน เร่ืองที่บอกเลาไป จึงเปนเรื่องปกติธรรมดาของ ผทู ย่ี งั มจี ติ เปน ทาสของกาม (รปู เสยี ง กลน่ิ รส สมั ผสั ทางกาย) ผูรูจริงแกปญหาน้ีดวยการพัฒนาจิตตนเองใหมีความสงบและ เย็น (เมตตา) ดวยการใหอภัยเปนทานแกสามีท่ีเปนเหตุทําให ขัดใจ และดูแลรักษาครอบครัวใหคงอยู ดวยการประพฤติ จรยิ ธรรมการเปน แมท ดี่ ขี องลกู และจะดที ส่ี ดุ หากผถู ามปญ หา พัฒนาจิตตนเองใหสามารถปดอบายภูมิได แลวการเกิดเปน มนษุ ยในครัง้ นี้ จะไมสูญเปลา (๒) โลกธรรมและวัตถุเปนของท่ีมีอยูจริงตามที่ตาเห็น ตรงกนั ขา ม ผูท่ีพัฒนาจิตจนเขา ถึงปญ ญาเหน็ แจงไดแลว ยอ ม ๑๘๖ เห็นดวยจิตวา สรรพส่ิงในโลก ลวนเปนของไมมีอยูจริงแท สรุปไดวา ปญ ญาเหน็ ผดิ หรอื ความไมร จู รงิ (อวชิ ชา) ยอมเหน็ โลกธรรมและวัตถุเปนของท่ีมีอยูจริง แตความรูที่เปนจริงแท เห็นสรรพสิ่งในโลกเปนของวางเปลา น่ีเปนปญญาสูงสุดหรือ ปญญาเห็นแจงที่มนุษยสามารถเขาถึงได บัดนี้ประชากรโลก มีประมาณเจ็ดพันลานคน ทุกคนเกิดมาแลวตองตาย และทิ้ง มนุษยสมบัตไิ วเบ้ืองหลังใหเ ปนของกําพรา .... พิสจู นไ หม ?

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๘๓. ไมกลา นัง่ สมาธิ คาํ ถาม ๑๘๗ มีขอสงสัยอยากจะถามคะ คือเปนคนชอบน่ังสมาธิอยู เเลว เลยน่ังมาตลอด แตพออานหนังสือธรรมเลมหน่ึงเเลว เขาบอกวา ถา เรานงั่ ไปเรอื่ ยๆ พฒั นาจติ จนละเอยี ด จะสามารถ เห็นวิญญาณได คือเลยทําใหกลัวมากจนไมกลาทําสมาธิอีก เพราะปกติเปนคนกลวั ผีมากถึงมากที่สุด ทาํ อยา งไรดคี ะ ? คือ มวี ิธที ี่เวลาปฏิบตั ธิ รรมไปเเลวไมต อ งเห็น มไี หมคะ ไมต อ งการ มีญาณพิเศษอะไรท้ังน้ันคะ ขอใหแคไดนั่งสมาธิเทาน้ันละคะ รําคาญตัวเองเหมือนกันคะวากลัวในส่ิงที่ไมควรกลัว แตมัน ก็กลัวอยูดีคะ พยายามทําใจไมใหกลัวแลวแตก็กลัวอยูดีคะ ทําอยางไรดคี ะ คําตอบ กลวั ผเี ปนดว ยเหตไุ มรูจริงเรือ่ งผี ผตู อบปญ หาเคยกลวั ผี มาตั้งแตวัยเด็กท่ีจําความได แมกระทั่งบวชเปนพระภิกษุก็ยัง ไมเ ลกิ กลวั ผี จนวนั หนง่ึ ไดเ ขา ไปปฏบิ ตั ธิ รรม (พองหนอ-ยบุ หนอ) อยูในวิหารรางของวัดมหาธาตุฯ ลําพังเพียงรูปเดียว ในหวง เวลาประมาณตีสองถึงตีสาม ไดถูกผีบีบคอจนแทบจะหายใจ ไมออก จึงไดพูดออกไปวา \"ขอยอมตาย แตใหไดปญญาเห็น แจงก็แลวกัน\" ผียอมแพจึงเลิกบีบคอ นับต้ังแตคืนวันน้ันจน

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร กระท่ังบัดนี้ ไมกลัวผีอีกเลย ซ้ํายังชอบคบผีเปนเพื่อนอีก ดวย เหตุที่เปนเชนน้ีเพราะผูตอบปญหาเขาถึงความจริงเร่ือง ผี จงึ ไมกลวั ผีอกี ตอไป ผูใดปรารถนาไมก ลวั ผี ไมกลวั อมนษุ ย ไมก ลวั สงิ่ ลวงตาลวงใจใดๆ ตอ งพฒั นาจติ (วปิ ส สนาภาวนา) จนเขาถึงปญญาเห็นแจงไดแลว ความรูจริงแทในส่ิงท่ีกลัว จะไมเ กดิ ข้นึ ๘๔. วางตัวอยา งไร คําถาม ๑๘๘ กราบเรียนอาจารยสนองที่เคารพ ตัวลูกไดมีโอกาสยาย สายงานไปทําในแผนกท่ีสนใจ ทําใหตองไปท่ีทํางานใหม ตอน ไปก็เตรียมใจไวแลวคะ วาทุกท่ีลวนมีทั้งคนดีและคนไมดี เรา เนนทํางานใหดีที่สุด พัฒนาตัวเองดีกวา แตพออยูไปสักพัก ใจท่ีเตรียมตั้งรับไวก็รูสึกหดหูคะ เพราะไดเจอคนที่ทําตัวเปน เจาถิ่น คอยบังคับคนนูนคนนี้ไมใหชวยเหลือเรา และแสดง ใหเห็นตอหนาเลยวาเขาไมใหใครชวยเรา มันทําใหรูสึกอึดอัด มากคะ ทั้งๆ ท่ีตัวเองก็ไมเคยมีความประสงครายอะไรกับเขา เลย รสู ึกโดดเดี่ยวมากและก็หดหใู จดว ยคะ (ทีท่ ํางานเกา ลูกก็ เจอคนท่ีทําตัวเปนเจาถิ่นเชนนี้เหมือนกัน) อยากเรยี นถามอาจารยวา

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๑. ลูกควรมีแนวคิดอยางไร เพื่อชวยใหลูกมีสติสามารถ ๑๘๙ ตั้งรับเหตุการณเชนนี้ได ไมใหใจหดหูและเศราหมองยามเมื่อ ส่งิ เหลานม้ี ากระทบใจ ๒. ลกู ควรปฏบิ ัติตนอยางไรกับคนทเี่ ปน เจา ถ่ินคนนด้ี คี ะ ๓. ผูหญิงเม่ือเจอใครที่มีฐานะดีกวา หรือมีชาติตระกูล หรอื มหี นาตาดกี วา สวนใหญจะไมคอยชอบและจับกลมุ ตอ ตาน ทง้ั ๆ ท่เี ขากไ็ มไ ดมีเจตนาคิดรา ยหรอื เปนศตั รู แตผ ูห ญิงเหลานี้ ก็ไมชอบ เหตุการณแบบน้ีเม่ือเจอกับตัวเอง ควรจะวางตัว อยา งไรดคี ะ ถา เรายอมเขาตลอด เขากเ็ หยยี บยา่ํ เรา แตถ า เรา แข็งกราวก็จะเปนการทําใหเกิดความแตกแยก ลูกไมรูวาควร วางตัวอยางไรในสถานการณเชน น้ีดคี ะ ๔. ลูกจะมีวิธีไหนใหตัวเองไดทํางานหางไกลจากคน จิตใจไมดี และใหไดรายลอมกับบุคคลผูมีคุณธรรมและเปน กัลยาณมติ รกับลูกคะ ๕. คนสอนงานลกู มอี ายแุ ละตาํ แหนง ไลเ ลย่ี กบั ลกู ดงั นนั้ เขาจึงไมไ ดสอนอยา งเต็มที่ ลูกถามหาความรูแตละครัง้ ก็อึดอัด จึงไมรูวา ควรจะทาํ อยางไรดี หากจะไปถามความเขาใจงานกบั หัวหนาโดยตรง ก็กลัวจะโดนมองวา ประจบสอพลอ แตหากเรา ไมรีบเรียนรูงาน เมอื่ หัวหนา เรยี กถามเรียกใช ก็จะไมสามารถ ทาํ งานใหกับหวั หนาได เหตุการณเ ชน นล้ี กู ควรทําเชนไรดคี ะ ๖. ลูกพบเจอหัวหนาผูชายบางคน พูดจาละลาบละลวง เร่ืองสวนตัว อยางไมมีมารยาท คนเชนน้ีหากไมตอบ ตัวเรา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร จะถูกมองวาไมเคารพผูใหญ พยายามเล่ียงไมพบเจอ แตก็หนี ไมพนในบางคร้ัง บุคคลเชนน้ีลูกควรปฏิบัติตัวอยางไรกับเขา ดคี ะ ๗. ท่ีทํางานใหม ลูกควรไหวพระ, เจาท่ีเจาทาง, สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ อยางไรคะ เพ่ือชวยใหทานชวยปกปองคุมครอง ลูกใหหางไกลคนไมด ีเหลา น้ี ๘. ลูกมีความประสงคอยากสอบชิงทุนไปตางประเทศ เพื่อนําความรูมาพัฒนางานในสายตัวเอง หากแตก็กลัววาจะ สอบไมสําเร็จ เน่ืองจากตองแขงขันกับคนจํานวนมาก อีกท้ัง แผนกที่ลูกอยูก็ไมนิยมใหไปเรียนเมืองนอกหากไมมีเสนสาย ๑๙๐ ที่ใหญจริง ลูกควรใชหลักธรรมใดในการปฏิบัติเพื่อพาลูกไปสู ความสําเร็จท่ีตง้ั หวังไวดคี ะอาจารย สุดทายนี้ กราบขอบพระคุณอาจารยอยางสูงสําหรับ ความเมตตาตอบคําตอบของลูกคะ ขอใหอาจารยมีสุขภาพ แข็งแรง เปนรมโพธ์ิรมไทร ชวยชี้ทางสวางใหกับลูกศิษย ไปนานๆ นะคะ ทุกครั้งที่ลูกหลงทาง ลูกจะยึดแนวทางการ ทํางานของอาจารยท่ีอุทิศทั้งงานทางโลกและทางธรรมมา เปนกําลังใจ ใหเราตั้งใจทํางานทางโลกใหดีท่ีสุด โดยไมหวัง ตําแหนงใดๆ ใหใจหลง และละเลยการมุงเนนทํางานอยาง แทจ รงิ กราบขอบพระคุณอาจารยอ ีกครัง้ คะ

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com คาํ ตอบ ๑๙๑ การดูคน ใหดูท่ีพฤติกรรม (คิด พูด ทํา) คนดีตองมี พฤติกรรมดี ไมผิดกฎหมาย หรือไมผิดศีล หรือไมผิดธรรม หากเปนไปในทางตรงกันขาม เรียกวา คนไมดี มนุษยมีงาน สองชนดิ ใหท าํ คอื งานภายนอกทที่ าํ ใหก บั สงั คม สว นงานภายใน ตองทําใหใหกับตัวเอง หากประสงคไปเกิดดีในสุคติภพ ตอง สงั่ สมบญุ เพือ่ ใชเปน ปจ จยั เดินทางสสู คุ ติปรภพ (๑) มนุษยเปนสัตวท่ีฝกได กอนนอนสวดมนต หลังสวด มนตเจริญอานาปานสติ แลวปญญาเห็นถูกตามธรรมจึงจะ เกดิ ขึน้ ได ผูมีสติสมั ปชญั ญะ ดคู นอน่ื เปนครสู อนใจ หากเขามี พฤติกรรมดี จงทําอยางเขา แลว เราก็จะดเี หมอื นเขา หากเขา มีพฤตกิ รรมไมด ี จะไมทําอยางเขา แลว จติ ของเราจะสัง่ สมบุญ อยทู ุกขณะต่ืน (๒) ประพฤติออนนอมตอคนดีน้ันดีที่สุด หากพบกับคน ไมด ี จงคิด พดู ทํา เทา ทีจ่ าํ เปน แลวทําตัวใหอ ยูหางไกลน้ัน ดที ส่ี ุด (๓) คนดียอมประพฤติออนนอม คนดีนิยมใหสิ่งดีเปน ทานอยูเสมอและไมหวังผลตอบแทน คนดีมีศีลหาคุมใจอยู ทุกขณะต่นื คนไมท าํ การงาน (ชอบคยุ ) คนทป่ี ระพฤตติ อตา น สังคมเปนคนไมดี ฉะนั้น พึงเสวนากับคนดีเทานั้น หากเรา ประสงคจ ะเปน คนดี (๔) ในขอ (๓) บอกวิธีดูคนดีและคนไมดีใหแลว เราจะ เปนคนแบบไหน พึงเลือกคบหาสมาคมดวยตัวเองนะครับ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร (๕) คาํ วา “ประจบสอพลอ” หมายถงึ การประจบประแจง ผูบังคับบัญชาหรือผูมีฐานะสูงกวา ดวยการใหรายปายสีผูอื่น เพื่อเอาประโยชนตน หากผูถามปญหามีเจตนาเพื่อเรียนรู เพยี งอยา งเดยี ว จงึ มไิ ดถ อื วา เปน การประจบสอพลอ หมายเหตุ ส่ิงที่อยูรอบขางสามารถเปนครูสอนใจไดทั้งน้ัน (๖) ควรคบคาสมาคมเทาที่จําเปน เพ่ือใหการทํางาน สําเร็จลุลวง (๗) หากผูถามปญหาใชเหตุผลถูกตรงตามธรรม ส่ิงไม ดีท้ังหลายจะไมแผวพาน สวนการนับถือส่ิงศักด์ิสิทธิ์ หรือ สิ่งที่ระบบประสาทไมสามารถสัมผัสได เปนเร่ืองของปญหา ๑๙๒ ที่บคุ คลสามารถสมั ผสั ได จึงไมเ กี่ยวกบั คนอน่ื (๘) ความกลวั เกดิ จากความไมร จู รงิ ในสง่ิ ทกี่ ลวั ดร.โกลแมน วิจัยไวในตางประเทศวา คนที่ประสบความสําเร็จในชีวิต ใช ปญญาไอคิวรอ ยละ ๒๐ แตใ ชค ณุ ธรรม ( EQ ) ถึงรอยละ ๘๐ ดังนั้นจึงตองพัฒนาตัวเองใหถูกตรง อนึ่ง ชาวพุทธที่นิยม บําเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา ยอมทําใหตัวเอง เกิดดวงดี (ชะตาดี) ความสมปรารถนาในท่ีท่ีมุงหวัง ยอม เกดิ ขึน้ กับผมู ดี วงดี

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ๘๕. ตดิ สมมติ คาํ ถาม ๑๙๓ เรียนทา นอาจารย ดร.สนอง (และทมี งาน) กอ นอืน่ ดฉิ ัน ตองขอขมาตอทุกทาน หากไดเคยลวงเกินกันมานะคะ พอแม ของดิฉันตองการใหดิฉันอยูกับเขาตลอดเวลา ดิฉันก็มีพ่ีนอง (เปน ผชู ายอกี ๓ คน และมนี อ งสะใภอ กี สองคนคะ) ดฉิ นั ตระหนกั ไดวาพ่ีนองของฉันจําเปนตองมาดูแลพอแมบางแลวเพื่อเปน การตอบแทนพระคุณ (กตเวที) เพราะพอแมแกลงทุกทีทุกที บางครั้งดิฉันเองก็มีธุระและไมไดดูแลพอแมในบางเวลา ซึ่ง พ่ีนองของฉันก็จะเขามาดูแลแทน ดิฉันคิดไปเองวาดิฉันมีเหตุ อันสมควรที่จะไปทําธุระบาง เพราะตลอดเวลาดิฉันก็ทําตัว เปนลูกที่ดีและดูแลพอแม เวลาท่ีพ่ีนองคนอ่ืนๆ ไมอยู พี่นอง และสะใภก ็ดูมีความสุขทไ่ี ดด ูแลพอแมเ หมอื นกนั คะ ๑. ทานอาจารยคะ ดิฉันควรบริหารจัดการในการแบง เวลา (อยางชาญฉลาด) ใหก ับพอ แมแ ละตัวเองอยางไรดีคะ ? ๒. การไมไดดูแลพอแมในบางเวลา ถือวาอกตัญูหรือ ไมคะ แตถาดิฉันจะไมดูแลพอแมไปเลย จะถือวาอกตัญู หรอื ไมคะ ๓. เวลาท่ีดิฉันไมไดอยูกับครอบครัว ดิฉันก็แผเมตตา ใหเขา อยางนจ้ี ะชวยทดแทนการดแู ลท่บี า นไดไ หมคะ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร ในบางคร้ังที่สมาชิกในครอบครัวของดิฉันกําลังเศรากับ ปญ หา แตดิฉนั ไมไดรสู กึ รูรอ นตามไปดวยคะ ดิฉันสมั ผัสไดถงึ ความทุกขท่ีเขามี แตดิฉันไมไดทุกขไปดวย ดิฉันทําไดแคแผ เมตตาไปใหเพ่ือใหบรรเทาทุกขเขาไปบาง แตมันทําใหดิฉัน รูสึกแยคะ เพราะดิฉันรูสึกวาดิฉันเห็นแกตัว คนในครอบครัว มคี วามทกุ ขข นาดนนั้ แตตัวดฉิ ันยงั ปกติ พวกเขาสงสยั วาทาํ ไม ฉนั ถึงยังกนิ ยังหัวเราะได อยปู กติ ๔. หลังจากท่ีดิฉันไดเจริญสติ หรือทํากุศลกรรม ดิฉัน แผเมตตาใหกับพี่นองของฉัน เขาเปนมะเร็งคะ และพอแม ของดิฉันก็เศราเอามาก ดิฉันอธิษฐานใหพวกเขาเปดใจและ ๑๙๔ ใหเขาถึงปญญา ดิฉันต้ังจิตอธิษฐานใหพวกเขามีจิตเปนกุศล และแข็งแรง แตดิฉันก็เห็นไดวาพวกเขาดีขึ้นเพียงเล็กนอย ดฉิ นั ควรจะทําอยางไรดีท่จี ะบรรเทาทุกขใหพ วกเขาคะ คาํ ตอบ (๑) มนุษยเ กิดมา มีงานตองทาํ อยสู องอยา งคือ ก. งานภายนอก ไดแกงานที่ทําใหกับสังคมสวนรวม ครอบครวั เปนสังคมทีใ่ กลตวั ที่ผูรไู มเ วนประพฤติ ความเปน คนมีความกตัญูกตเวที เปนยอดของคุณธรรม ดังตัวอยาง พระพุทธโคดม พระสารีบุตร หมอชีวกโกมารภัจจ ฯลฯ ลวน ตางเปนผูมีความกตัญูกตเวที ความดีงามของชีวิตจึงได เกดิ ขึน้

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ข. งานภายใน ไดแกงานท่ีทําใหกับตัวเอง เพื่อนําปจจัย ๑๙๕ คือบุญไปเกิดใหมในปรโลกที่เปนสุคติภพ ผูรูจึงนิยมประพฤติ บุญกิรยิ าวัตถุ ๑๐ ตลอดชวี ติ (๒) ผูรู นิยมประพฤติกตัญูกตเวทีตอพอแมใหไดมาก ทีส่ ดุ ตรงกนั ขา ม ผไู มร ู นยิ มใหผอู นื่ ดแู ลพอ แมแ ทนตน แลว ความเสอ่ื มของชวี ติ ยอ มเกดิ ตามมา (๓) ขณะที่พอแมยังมีชีวิตอยู แลวลูกแผเมตตาใหเพียง อยางเดียว ยังไมถือวาเปนความกตัญกู ตเวทที เ่ี ปน รูปธรรม (๔) โรคมะเรง็ เกดิ จากเหตุประพฤติเบียดเบยี นสตั ว ดว ย เหตุน้ีผรู จู งึ นิยมประพฤตศิ ีล ๕ ใหมีอยกู บั ใจทุกขณะตน่ื พอแม เศราใจท่ีเห็นลูกเปนมะเร็งก็เปนเร่ืองของพอแม จงดูพอแม เปนตัวอยาง แลวอยาประพฤติเชนทาน การชวยเหลือผูเปน มะเร็งแลวอาจชวยไมได แตผูมีความรูทางโลกชวยบรรเทา อาการได ดังน้ันญาติจึงนิยมสงตอใหหมอเปนผูดูแลคนไข แทนตน การชวยเหลือท่ีดีท่ีสุดตองสอนญาติใหระวังรักษาตน มิใหเปนมะเรง็ ดว ยการประพฤติศลี ๕ ตลอดชวี ิต ๘๖. เลอื กทางไหน คาํ ถาม กราบเรยี นทาน ดร.สนอง วรอุไร แตกอนหนกู เ็ คยไปฟง ธรรมที่ชมรมกลั ยาณธรรมจัดคะ แตต อนน้ีหนไู มไ ดไ ปแลวนาน แลวคะ ตอนน้ีหนูมีขอสงสัย และมีความทุกขใจอยางมากวา

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอไุ ร หนูจะเลือกทางไหนดี เร่ืองของหนูมีอยูวา มีคนมาแนะให หนสู วดมนตท เ่ี ปน ของนกิ ายมหายานคะ ทม่ี ี อยู ๖ คาํ สวดซาํ้ ๆ ที่ ตอ งไปสมาคมดว ยอะ คะ แลว หนกู ส็ วดไดป ระมาณ ๑ เดอื นครง่ึ แลว หนูรสู กึ คดิ ถึงตอนที่หนเู คยไดทาํ บุญ ไหวพระ หนูก็อยาก จะหยุดสวด แตถาหากหนูหยุดสวดก็กลัววาชีวิตหนูจะดิ่งลง หนูควรจะทําอยางไรดีคะ บางคร้ังมันทําใหหนูอยากกลับมา สวดมนตเหมอื นเดิม แลว หนูกก็ ลวั เสียสัจจะคาํ อธิษฐานไป หนู กลัวบาป หนูไมรูจะเลือกทําอยางไรดีคะ ชวยชี้ทางสวางให หนูดวยคะ ขอทานอาจารยชวยช้ีนําหนูใหถูกทางดวยนะคะ หนูยัง ๑๙๖ รูสึกสับสนในตัวเองมากเลยคะ ถาหนูเปนคนเลวในสายตา คนอนื่ หนจู ะยงั ไหวพ ระทาํ บญุ ไดไ หมคะ ทห่ี นเู ปลย่ี นมาสวดมนต อันนี้เพราะหนูกลัวคนอ่ืนมาแยงแฟนหนูคะ เพราะหนูรักแฟน หนูมาก ชะตาชีวิตหนูเหมือนตองเสียบางอยางเพื่อใหไดมาคะ หรอื วา หนคู ดิ มากไปเองกไ็ มร ู ตอนนหี้ นจู ะกลบั มาทาํ บญุ หนิ ยาน เหมือนเดิมไดไหมคะ หนูตองทําขอขมาหรือทําอยางไรบางคะ แลวหนูตอ งทาํ ยงั ไงบางคะ เหมือนหนตู ายจากเดิมไปแลว กอน หนา นหี้ นกู เ็ คยไปไหวศ าลหลกั เมอื งทก่ี รงุ เทพฯ ตงั้ ๔ ครง้ั ภายใน ๑ เดอื น เพราะหนูไมสบายใจหนูกไ็ ปไหวพ ระอกี แลว อยๆู หนู กม็ าสวดมนตอ นั นี้ แลว หนคู วรจะทําอยางไรดคี ะ เหมือนกรรม มันกําลังตามหนูอยู หนูก็เลยสวดมนตอันน้ีเหมือนหนูตายจาก อันเดิมไปแลว หนูอยากไดดีมีความสุขกับเขาบาง เหมือนหนู

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ไมมีดีเลยหนูตองทําอยางไรบางคะ เหมือนหนูมาไกลแลว เขาบอกวาอยาหยุดสวด หนูรูสึกกลัวจังเลยคะ กรุณาให คําตอบ ถา หากหนเู ขยี นไมถ กู ตอ งหรอื ผดิ อยา งไร โปรดอโหสกิ รรม ใหหนูดวยนะคะ ขอขอบคุณความเมตตาที่อาจารยใหคําตอบ หนูดวยนะคะ ขอบพระคุณมากคะ คาํ ตอบ ๑๙๗ กอนอื่นตองรูวา พุทธศาสนาท่ีถูกเผยแผไปทางประเทศ ธิเบต จนี ญี่ปุน ฯลฯ เปน ความรสู ายมหายาน เปน การพฒั นา ตนใหเ ปน ผสู อนธรรม ใหรกู ารประพฤตพิ ิธกี รรม เชน สวดมนต ออนวอนส่ิงศักดิ์สิทธิ์ ทองบนมนตรา ใหเกิดเปนมงคลข้ึนกับ ชีวิต ตลอดจนพัฒนาชีวิตใหเขาสูพระนิพพาน ซึ่งสามารถ เรียกการมีพฤตกิ รรมเชน น้วี า พระโพธิสตั ว สวนความรูในพุทธศาสนาท่ีถูกเผยแผไปสูประเทศลังกา พมา ไทย ฯลฯ เปน สายหนิ ยานหรอื เถรวาท ในสายนพี้ ทุ ธศาสนกิ สามารถเขา ถงึ ความรใู นพระพทุ ธศาสนา (พระไตรปฎ ก) ไดส อง แนวทาง คือ แนวทางที่เรียกวา คันถธรุ ะ หรอื ปรยิ ตั ิ เปนการ พฒั นาสมองใหเ กดิ ปญ ญารจู าํ (สญั ญา) โดยมเี ปรยี ญธรรม ๓ ถงึ เปรียญ ๙ เปนเคร่ืองรองรับปญญาสัญญาที่พัฒนาได แมจะ พฒั นาสมองจนมคี วามรไู ดม ากเพยี งใด กไ็ มส ามารถสมั ผสั กบั สง่ิ อนั เปน ทพิ ยได ไมส ามารถนาํ พาชวี ติ ไปสพู ระนิพพานได เวน ไว แตว า พทุ ธศาสนกิ จะพฒั นาจติ จนเขา ถงึ ปญ ญาสงู สดุ โลกยิ ญาณ

ส น ท น า ภ า ษ า ธ ร ร ม เ ล ม ๒ ๗ ดร. สนอง วรอุไร และโลกุตตรญาณไดแลว จิตจะสามารถสัมผัสกับสิ่งอันเปน ทิพย และสามารถนําพาชีวิตไปสูการพนทุกข (นิพพาน) ได สรุปไดวา สายเถรวาทสามารถรแู ละมคี วามรูในพระไตรปฎก บคุ คลมชี ีวิตเปนเอกสิทธิ์ของตวั เอง จึงสามารถเลอื กการ ดําเนินชีวิตไดดวยตัวเอง เม่ือรูวาดําเนินชีวิตผิดพลาดไปแลว สามารถแกไขใหมใหถูกตอง ดวยการสวดมนตสรรเสริญคุณ พระรัตนตรัย แลวยกเลิกอธิษฐานเดิม ท้ังอธิษฐานใหม การ ประพฤติเชนนม้ี ไิ ดถ อื วาเปนการเสียสัจจะ อนึ่ง การสวดมนตมีเปาหมายอยูที่การพัฒนาจิตใหมีสติ และหากโยนิโสมนสิการ จนจิตเขาถึงธรรมในบทมนตไดแลว ๑๙๘ โอกาสท่ีจิตจะพัฒนาไปสูความเปนอริยบุคคลยอมเกิดข้ึนได ดวยเหตุน้ี การสวดมนตมิไดมีจุดมุงหมายอยูที่ปองกันมิให คนอื่นมาแยงแฟน ผูรูจริงทุกสิ่งทุกอยาง (สัพพัญู) ตรัสวา “มนุษยมีทรัพยสมบัติเปนหวงผูกขา มีสามี - ภรรยาเปนหวง ผูกมือ มีบุตร - ธิดาเปนหวงผูกคอ” ดังนั้นบุคคลจะทําตัวให สูญเสียอิสรภาพ ก็เลือกเอาตามท่ีชอบเถดิ สุดทาย พระผูทรงความเปนสัพพัญูยังตรัสวา คนอ่ืน จะพูดอยางไร ก็เปนเร่ืองท่ีเขาพูด แตความเปนจริงแทแลว อยูที่การกระทําของเรา ดวยเหตุน้ี ทานเจาคุณนรรัตนราช มานติ ย (ธมฺมวติ กโฺ ก ภิกขฺ )ุ จงึ ไดพัฒนาตนเองใหม จี ิตเปน อสิ ระ จากโลกธรรม และวัตถุทั้งปวง อุปติสสะ (พระสารีบุตร) ใน สมัยทเ่ี ปนพราหมณหนมุ จงึ ไดม จี ติ ปริวรรตจากปุถุชน ไปเปน อริยบคุ คลโสดาบนั เม่ือไดฟ งพระอสั สชิกลา ววา “พระศาสดา

จ า ก เ ว็ บ ไ ซ ต ช ม ร ม กั ล ย า ณ ธ ร ร ม www.kanlayanatam.com ทรงสอนวา สรรพส่ิง เกิดขึ้นลวนเกิดจากเหตุ และตรัสถึง ความดบั แหงเหตนุ ัน้ ไวด วย” พระศาสดามปี กตติ รสั ดงั น้ี จริงไหมครับ ๘๗. หมอยงั ตองตาย คาํ ถาม ๑๙๙ รบกวนทา น อาจารยส นอง ครบั ผมรกั ษาคนไขแ ลว เกดิ ผล แทรกซอนตามมา หดหใู จ มีหลกั ธรรมอะไรแนะนาํ ผมบา ง ผม ทาํ งานดา นผิวหนัง เลเซอรผูท่มี ปี ญ หาฝา บนใบหนา ทผ่ี านมา ไมเคยมีปญหาแทรกซอนอะไรกับคนไข เน่ืองจากผมทําตาม แนวทางการรักษาตลอด แตก็เกิดความผิดพลาดข้ึนมาจนได เมอ่ื เครอื่ งเลเซอรส ง พลงั งานแรงกวา คา พลงั งานทเี่ ราตงั้ ซงึ่ ผม จะยดึ คา พลงั งานเปน หลกั เชอื่ ถอื ในตวั เครอื่ งมอื ไมค ดิ วา เครอ่ื ง มือมันจะสง พลงั งานเกนิ คา ท่ีตัง้ เวลาผมทําเลเซอร ผมจะถาม คนไขว า รอนไหมทุกคน แตคนไขก บ็ อกพอทนได ซึง่ พลังงานท่ี ต้ังคานี้ก็ต่ํามาก ไมเคยมีปญหา จึงไมไดถามย้ําคนไข จนผม ทําเลเซอรทั่วหนา ผลสุดทายวันน้ันมีคนไขหนาไหมกลับมาหา ผม ๓ รายซง่ึ ไหมร ะดบั ไมร นุ แรง แตผ ลคอื จะเกดิ สะเกด็ รอยดาํ และหลดุ ไป หลงั หลุดจะเกดิ รอยดา งขาว แลวตามดวยรอยดํา ซึ่งถาคนไขโดนแดดจะเสี่ยงท่ีรอยดําจะจางยากอยู หลายป แตถาไมโดนแดด รอยดําจะจางไปเองภายในครึ่งป ตรงจุดน้ีทําใหผมกังวลมากๆ กลัวคนไขดูแลหนาไมดี จนเกิด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook