แนวดำเนนิ กำรศนู ยแ์ กนนำขยำยเครอื ขำ่ ย โครงกำรนักธุรกจิ นอ้ ยมีคณุ ธรรม นำสเู่ ศรษฐกจิ สรำ้ งสรรค์ รุ่นท่ี 2 กำรประชุมอบรมเชงิ ปฏิบัติกำรพฒั นำศูนย์แกนนำขยำยเครอื ข่ำย โครงกำรนกั ธุรกิจนอ้ ยมีคุณธรรม นำสเู่ ศรษฐกจิ สร้ำงสรรค์ ระหว่ำงวนั ท่ี 26 - 30 มนี ำคม 2561 ณ โรงแรมฮิพ รชั ดำ กรุงเทพมหำนคร สำนักพฒั นำนวัตกรรมกำรจดั กำรศึกษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้นื ฐำน กระทรวงศกึ ษำธิกำร
คำนำ เอกสารแนวดาเนินการศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจ สร้างสรรค์ ฉบับนี้ เป็นเอกสารท่ีจัดทาขึ้นเพ่ือเป็นแนวทางการดาเนินงานของโรงเรียนศูนย์แกนนาฯ รุ่นที่ 1 - 2 ได้มีการปรับปรุงเน้ือหารายละเอียดบางส่วนของเอกสารแนวดาเนินการศูนย์แกนนาฯ ฉบับแรก และสร้าง โมเดลการขับเคล่ือนการทางานของศูนย์ให้เป็นรูปธรรม พร้อมคาอธิบายรายละเอียด เพื่อให้โรงเรียนที่ตั้งศูนย์ ทางานได้ง่ายข้ึน แต่ทั้งน้ยี ังคงยึดหลักสาคัญไว้ 3 ประการ คือ 1) บทบาทหน้าท่ีการดาเนินงานของศนู ย์ คือ การ ขยายผลการจัดการเรียนรู้งานอาชีพตามแนวทางโครงการนักธุรกิจน้อยฯ 4 ประการ ให้แก่โรงเรียนและชุมชน ทสี่ นใจ 2) กระบวนการทางานของศูนยแ์ บบมีส่วนร่วมกับชุมชนและเครอื ข่ายที่เข้ามาสนับสนนุ 3) ผลลัพธ์ท่ี เกิดกับนักเรียน 4 ประการ คือ นักเรียนมีทัศนคติท่ีดีต่ออาชีพอิสระการเป็นผู้ประกอบการ มีทักษะพื้นฐาน การเป็นผู้ประกอบการ คิดเป็น ทาได้ ขายเป็น ความมีคุณธรรมสู่ความสาเร็จในการประกอบอาชีพการเป็น ผู้ประกอบการหรือการทาธุรกิจ มีความซ่ือสัตย์ ขยัน อดทน มุ่งมั่น กตัญญู (รู้จักแบ่งปันสังคม) มีความคิด สร้างสรรค์ใหม่ๆ สร้างผลงานขายได้เชิงพาณิชย์ การรู้จักทรพั ย์สินทางปัญญาของตนเองและการไม่ละเมิด ทรพั ยส์ นิ ทางปัญญาของผูอ้ ืน่ ผลกระทบท่สี าคัญ คอื ความพงึ พอใจของชุมชนและผมู้ ีส่วนเก่ยี วขอ้ ง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอขอบคุณคณะทางานจัดทาเอกสาร คณะทางานปรับร่างเอกสารให้สาเร็จเรียบร้อยเป็นอย่างดียิ่ง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับน้ี จะทาให้โรงเรียนที่ได้รับมอบหมายจากสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ทาหน้าที่เป็น ศูนย์ขยายผลโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ไปยังโรงเรียนและชุมชนท่ีสนใจ สามารถทางานไดง้ ่ายข้นึ สานกั พัฒนานวตั กรรมการจัดการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
สำรบัญ เรอ่ื ง หน้า คำนำ 1 สว่ นที่ 1 บทนำ 1 12 ความเปน็ มา วัตถุประสงค์ 13 แนวคิดหลกั ของการตั้งศูนยแ์ กนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธรุ กิจนอ้ ยมีคณุ ธรรม 13 14 นาสู่เศรษฐกิจสรา้ งสรรค์ 16 ภาพความสาเรจ็ ของศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายฯ 18 แผนการขยายศนู ย์แกนนาขยายเครือขา่ ยฯ 19 คาสาคัญ 19 สว่ นที่ 2 โมเดลกำรขับเคลื่อนศูนย์แกนนำขยำยเครอื ข่ำยฯ 26 คาอธิบายรายละเอยี ดของโมเดลการขบั เคลื่อนศูนย์แกนนาขยายเครือขา่ ยฯ 27 27 - ดา้ นปัจจยั 27 - ดา้ นกระบวนการ 28 - ดา้ นผลผลิต 28 - ด้านผลลัพธ์ 29 - ดา้ นผลกระทบ 32 ส่วนที่ 3 กำรดำเนินกำรและกำรพฒั นำศูนยแ์ กนนำขยำยเครือข่ำยฯ 44 การจัดทาแผนพฒั นาและแผนปฏิบตั ิการประจาปี 79 กจิ กรรมดาเนินการศูนย์ศูนย์แกนนาขยายเครือขา่ ยฯ 81 การนิเทศ กากบั ติดตามผลการดาเนนิ การ 81 การประเมนิ ผลการดาเนนิ การ 82 การจดั ทารายงานผลการประเมิน 83 สว่ นท่ี 4 กำรพัฒนำและขยำยเครือขำ่ ยของศนู ยแ์ กนนำขยำยเครอื ข่ำยฯ 84 การพฒั นาศนู ยแ์ กนนาฯ 84 การขยายเครือข่าย 84 การแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ 85 การเผยแพร่ประชาสมั พันธ์ความร้แู ละผลงาน การเผยแพร่ประกาศเกียรติคุณ การส่งเสรมิ การตลาด ส่วนที่ 5 คำถำมและคำตอบโครงกำรนักธรุ กจิ นอ้ ยมคี ุณธรรม นำสเู่ ศรษฐกิจสร้ำงสรรค์
เร่อื ง หนา้ บรรณำนกุ รม 100 ภำคผนวก 101 ภาคผนวก 1 รายช่อื ศูนยแ์ กนนาขยายเครือขา่ ยฯ ร่นุ ท่ี 1 102 ภาคผนวก 2 ข้อเสนอแนะแนวทางสาหรับสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาทีจ่ ะขยายผล โครงการนกั ธุรกจิ น้อยฯ 103 ภาคผนวก 3 สะท้อนคดิ สะท้อนผล สะทอ้ นโครงการ 107 ภาคผนวก 4 ตารางการประชุมอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารพัฒนาศนู ยแ์ กนนาขยายเครอื ขา่ ยฯ 108 ภาคผนวก 5 กิจกรรมการประชมุ อบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารพฒั นาศูนย์แกนนาขยายเครอื ขา่ ยฯ 109 ภาคผนวก 6 แผนแม่บทโครงการพฒั นาการศึกษาในพน้ื ทีโ่ ครงการพฒั นาดอยตุง 111 คณะกรรมกำรจดั ทำเอกสำร 127
1 ส่วนท่ี 1 บทนำ ควำมเปน็ มำ โครงการนกั ธุรกิจนอ้ ยมคี ุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เกดิ จากการท่ีสานักพัฒนานวัตกรรมการจัด การศกึ ษาได้จัดเก็บข้อมูลจากโรงเรยี นแล้วพจิ ารณาเห็นว่าโรงเรียนได้เปิดสอนงานอาชีพในโรงเรียนทุกโรงเรียน ในกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี บางโรงเรียนจัดทาเป็นรายวิชาเพ่ิมเติม บางโรงเรียนสอนเป็น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นชุมนุมตามความสนใจของผู้เรียน บางโรงเรียนสอนบูรณาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยีกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เช่น สาระการเรียนรู้ศิลปะ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เป็นตน้ สามารถผลิตชิ้นงานไดอ้ ยา่ งหลากหลายโดยมีฐานการผลติ จากแหล่ง วตั ถุดิบและภูมปิ ัญญาของท้องถิ่น มโี รงเรียนจานวนไมน่ ้อยนักเรยี นสามารถผลิตชิ้นงานได้จานวนมาก สามารถ สร้างรายได้ระหว่างเรียนและปลูกฝังคุณลักษณะที่ดีให้กับนักเรียนตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้เป็นอย่างดี แต่คุณภาพผลงานนักเรียน วิธีคิดและการจัดการเรียนการสอน ของครูให้กับนักเรียนในเรื่องน้ีสมควรได้รับการต่อยอดพัฒนาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกและสังคม ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และเพื่อสอดคล้องและเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 10 - 12 ที่ให้ความสาคัญกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ที่มุ่งให้ประเทศมีการผลิตสินค้า และบริการอย่างสร้างสรรค์ เพ่ิมมูลค่าสินคา้ โดยใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยในการผลิต เพ่ือสร้างความมง่ั คง่ั ทางเศรษฐกิจ ของประเทศ ดังนั้น การสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เกิดข้ึนในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนได้ ควรสร้าง รากฐานที่เข้มแข็งโดยเริ่มที่การศึกษา ด้วยการบ่มเพาะ ปลูกฝังความสามารถด้านการคิดและเจตคติที่ดี ในการทางาน การสร้างสรรค์ การสั่งสมความรู้และทักษะท่ีจาเป็นในการทางาน การรู้จกั หาโอกาสและช่องทาง ทามาหากินและก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทางานให้นักเรียนตั้งแต่ยังเป็นเด็กให้สามารถนาไปใช้ในอนาคต ดังน้ัน สานักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา จึงได้จัดทาโครงการนกั ธุรกิจน้อยมคี ุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้นักเรียนเรียนรู้ด้านธุรกิจหรือการเป็นผู้ประกอบการตามความเหมาะสมกับวัย ให้นักเรียนมีความสามารถ “คิดเป็น ทาได้ ขายเปน็ ” อย่างมคี ุณธรรม มีการสร้างสรรค์ชนิ้ งานใหมๆ่ และจดลิขสิทธ์ิ อนุสิทธิบัตร สิทธิบัตร เพ่ือปลูกฝังการรกั ษาทรัพย์สินทางปัญญาของตนเองและการไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อ่ืน ประสบการณ์ จากกิจกรรมนี้จะทาให้นักเรียนเกิดความมั่นใจในตนเอง มีทัศนคติท่ีดีต่ออาชีพอิสระเป็นทางเลือกอาชีพหนึ่ง ในอนาคตได้ และเป็นการพัฒนาคุณภาพเด็กไทยยุคใหม่ท่ีสอดคล้องกับแนวคิดของการจัดการศึกษาในศตวรรษท่ี 21 และการเตรียมเยาวชนในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนได้เป็นอย่างดี โครงการได้เร่ิมเก็บข้อมูลและดาเนินการ มาตัง้ แต่ปงี บประมาณ 2553 ถึงปัจจุบนั
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12 การดาเนินการท่ีผ่านมา สานักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขน้ั พ้ืนฐาน ได้จัดทาหลกั สูตรอบรมครู ผู้บรหิ ารโรงเรียน ประกอบด้วยหัวขอ้ หลกั เช่น ความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนักธุรกิจน้อยฯ เชน่ ความสาคัญ ความเป็นมา หลักการโครงการ ธุรกิจคุณธรรม และการเขียนแผนธรุ กิจเพอื่ นาสู่การปฏบิ ตั ิ การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ บรรจภุ ณั ฑ์เพือ่ การพาณชิ ย์ การเพิ่มมูลคา่ สินค้า ทรพั ย์สินทางปัญญา การใช้ ICT เพื่อการพาณิชย์ การพฒั นาหลกั สูตรและการจดั การเรียนร้ตู ามแนวทางโครงการนักธรุ กจิ น้อยฯ เป็นตน้ และได้คัดเลือกโรงเรียนเข้ารับการอบรม 4 รุ่นๆ ละ 100 โรงเรียน รวมจานวน 400 โรงเรียน นอกจากการอบรม ด้านองค์ความรู้ให้โรงเรียนในโครงการนักธุรกิจน้อยฯ แล้ว โครงการได้จัดเวทีสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การนาเสนอผลงานวชิ าการ การจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ การนเิ ทศติดตามเพื่อการพัฒนาและอืน่ ๆ โรงเรียนในโครงการได้นาหลักการของโครงการนักธุรกิจน้อยฯ 4 ประการ ลงสู่หลักสูตรสถานศึกษา กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ชุมนุม ชมรมของโรงเรียน เพ่ือดาเนินการให้บรรลุเป้าหมายของโครงการ คุณภาพ ความสาเร็จของแต่ละโรงเรียนแตกตา่ งกันออกไป (ในปงี บประมาณ 2559 โรงเรียนศูนย์แกนนาขยายเครือข่าย โครงการนักธุรกิจน้อยฯ และสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ได้ของบประมาณไปขยายผลได้อีก 200 โรงเรียน รวมเปน็ 600 โรงเรียน) ต่อมาในปี 2556 ได้คัดเลือกโรงเรียนที่มีผลงานเชิงประจักษ์ ได้รับการยกย่อง ได้รับรางวัลระดับชาติ และระดับนานาชาติ มีผลงานวิจัย จัดต้ังเป็นศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่ เศรษฐกจิ สร้างสรรค์ รนุ่ ที่ 1 จานวน 29 ศนู ย์ (รายชื่อดังภาคผนวก) วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้มีศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในท้องถิ่น ที่มีการดาเนนิ งานอยา่ งเปน็ รปู ธรรม และขยายเครือข่ายในการพัฒนาและให้บริการในท้องถิ่น 2. เพื่อพัฒนาบุคลากรในโรงเรยี นและชุมชนที่เป็นศูนยแ์ กนนาฯ และเครือขา่ ยให้มีความรู้ความสามารถ พื้นฐานด้านธรุ กิจ และการเป็นผปู้ ระกอบการทมี่ คี ุณธรรม นาสู่เศรษฐกจิ สร้างสรรคใ์ นโรงเรยี น ชุมชน ทอ้ งถน่ิ 3. เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนางานอาชีพสู่การเป็นนักธุรกิจที่มีคุณธรรม สร้างผลิตภัณฑ์ได้อย่าง สรา้ งสรรค์ รกั ษาทรพั ยส์ ินทางปัญญาของตนเอง ชมุ ชนและประเทศชาติ
13 แนวคดิ หลกั ของกำรจดั ต้งั ศนู ย์แกนนำขยำยเครือขำ่ ยโครงกำรนักธุรกจิ น้อยมคี ณุ ธรรม นำส่เู ศรษฐกิจสรำ้ งสรรค์ ศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มุ่งพัฒนานักเรียน และบุคลากรในโรงเรียนท่ีเป็นศูนย์แกนนาฯ โรงเรียนเครือข่ายและชุมชนให้มีทักษะพื้นฐานการเป็นผู้ประกอบการ ท่ีมีคุณธรรม มีประสบการณ์ตามวัย ใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในเชิงพาณิชย์ โดยใช้ วัตถุดิบในชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น ชุมชน หน่วยงาน องค์กรภาครัฐและเอกชนในท้องถ่ิน มีส่วนรว่ มสนับสนุน ในการดาเนินงาน ทั้งในด้านการวางแผน การคิดออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การผลิต และการตลาด ผลิตภัณฑ์จากศูนย์แกนนาฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานรับรองคุณภาพ จดทะเบียนทรัพย์สิน ทางปัญญา และมุ่งพัฒนาศูนย์แกนนาฯ เป็นศูนย์กลางในการแลกเปล่ียนเรียนรู้และพัฒนาตนเองในโรงเรียน ชุมชนและท้องถนิ่ อย่างย่งั ยืน ภำพควำมสำเรจ็ ของศูนยแ์ กนนำขยำยเครอื ข่ำยนกั ธรุ กจิ นอ้ ยมคี ุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสรำ้ งสรรค์ 1. ศนู ยแ์ กนนาฯ มคี วามเข้มแข็งสามารถขยายเครือขา่ ยไปยังโรงเรยี นและชุมชน ในการพัฒนาอาชีพ แกน่ ักเรียนและบคุ คลในชุมชนตามแนวทางของโครงการนกั ธุรกจิ น้อยฯ อย่างต่อเนื่องและยง่ั ยนื 2. ศูนย์แกนนาฯ และโรงเรียนเครือข่ายมีผลิตภัณฑ์จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือได้รับ การรบั รองมาตรฐานจากหนว่ ยงานรับรองคณุ ภาพ 3. ศูนยแ์ กนนาฯ ไดร้ ับการยอมรับด้านการบริการจากบุคลากรท่ีเขา้ รว่ มงานและชุมชนในท้องถ่ิน 4. นกั เรยี นมที กั ษะพ้ืนฐานบรรลเุ ปา้ หมายโครงการนักธุรกิจน้อยมคี ณุ ธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 4 ประการ มีความรู้พ้ืนฐานด้านธุรกิจ การเป็นผู้ประกอบการ มีคุณธรรม มีวิสัยทัศน์ ความคิดสร้างสรรค์ คิดเชิงธุรกิจได้ สามารถบริหารจัดการ รู้จักส่ือสารและมีบุคลิกภาพที่ดี รู้จักรักษาทรัพย์สินทางปัญญาและไม่ละเมิด ทรัพยส์ ินทางปญั ญาของผ้อู น่ื 5. ชุมชนทไ่ี ด้รับการบรกิ ารจากศูนยแ์ กนนาฯ สามารถสร้างผลิตภณั ฑ์ที่สร้างสรรค์ มีคณุ ภาพ รจู้ ักวางแผน การตลาด และจาหนา่ ยผลผลติ ได้ 6. ชุมชน องค์กรท้องถ่ิน หนว่ ยงานท้งั ภาครฐั และเอกชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาศูนย์แกนนาฯ และ เขา้ ร่วมเปน็ ภาคเี ครอื ขา่ ยศนู ย์แกนนาฯ 7. นักเรียน บคุ ลากรในโรงเรยี น ชุมชน หน่วยงานภาครฐั และเอกชน องค์กรทอ้ งถ่นิ และผมู้ ีส่วนร่วม มีเจตคติท่ีดีต่องานอาชีพอิสระ และมีความพึงพอใจในการดาเนินงานของศูนย์แกนนานักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสูเ่ ศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ 8. สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาให้ความสาคัญ มีบทบาทในการพัฒนาศูนย์แกนนาให้ขับเคล่ือน อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและขยายผลการพัฒนาศูนยแ์ กนนาและเครือขา่ ยอยา่ งกว้างขวาง
14 แผนกำรขยำยศูนย์แกนนำขยำยเครอื ข่ำยโครงกำรนักธรุ กจิ น้อยมีคณุ ธรรม นำสเู่ ศรษฐกจิ สร้ำงสรรค์ ของสำนักพัฒนำนวัตกรรมกำรจดั กำรศกึ ษำ สพฐ. โครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ คาดหวังจะขยายการจัดต้ังศูนย์แกนนาฯ เพมิ่ ข้ึนปีละ 30 ศูนย์ แต่เน่ืองจากประสพปญั หางบประมาณปี 2557 - 2560 จงึ ไม่ได้ขยายศูนย์แตป่ ระการใด กำรจดั ต้งั ศูนยแ์ กนนำขยำยเครือข่ำยฯ ร่นุ ที่ 2 ในปีงบประมาณ 2561 ได้รับงบประมาณเพิ่มมากกว่า 4 ปีท่ีผ่านมา จึงเห็นสมควรจัดต้ังศูนย์แกนนา ขยายเครอื ข่ายโครงการนกั ธุรกจิ นอ้ ยฯ เพ่ิมเตมิ อกี จานวน 20 ศูนย์ โดยมีเกณฑ์การคดั เลอื ก ดังนี้ คณุ สมบัตโิ รงเรียน 1. ผู้บริหารและครมู ีวิสัยทศั น์ มีความมุ่งมั่นพัฒนานักเรียนให้บรรลุเป้าหมายของโครงการนักธุรกิจนอ้ ยฯ อยา่ งต่อเนอื่ ง 2. โรงเรยี นมปี จั จยั พร้อมในการดาเนินการ (บุคลากร อาคารสถานที่ แหล่งงบประมาณสนับสนุน ฯลฯ) ทีจ่ ะทาให้เป้าหมายประสบความสาเร็จ 3. โรงเรยี นมีจานวนนักเรยี นไม่ต่ากวา่ 120 คน (ยกเว้นโรงเรยี นทีม่ ีผลงานโดดเด่นเปน็ ทปี่ ระจกั ษ์) 4. โรงเรยี นมผี ลติ ภัณฑเ์ ดน่ เปน็ เอกลักษณ์ของโรงเรยี น 5. โรงเรยี นมีความพร้อมด้าน ICT และสามารถใช้ ICT ในการจัดการเรยี นรู้ และใช้เพอื่ การพาณิชยไ์ ด้ 6. ชุมชน องค์กรท้องถิ่น หรือเครือข่ายเอกชนเข้มแข็ง มีความพร้อมท่ีจะเข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุน การพัฒนาของโรงเรยี นทีท่ าหน้าท่ศี ูนย์แกนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธรุ กจิ น้อยฯ ส่ิงที่โรงเรียนจะไดร้ ับกำรสนับสนุนจำกกำรเปน็ ศนู ยแ์ กนนำฯ 1. ได้รบั การสง่ เสรมิ สนับสนุนการทาวจิ ัยเสร็จสน้ิ จานวน 1 เรอื่ ง 2. การประกาศรบั รองการเป็นตัวแทนของสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานในการดาเนินการ ขยายผลโครงการนักธุรกจิ น้อยฯ ในนาม “ศูนย์แกนนำขยำยเครือข่ำยโครงกำรนักธรุ กิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่ เศรษฐกิจสรำ้ งสรรค์” 3. ได้รบั งบประมาณสนับสนุนในการดาเนนิ งานอย่างน้อย 3 ปี (ยกเวน้ โครงการถูกยกเลิกหรือไม่ได้รับ การสนบั สนนุ จากสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน) 4. ได้รับการพัฒนาคน องค์ความรู้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ การพัฒนาหลักสูตรและการจัด การเรยี นรู้ การพฒั นาธุรกิจ สนับสนุนตลาด สนับสนนุ เวทใี นกจิ กรรมต่างๆ อย่างต่อเน่อื ง 5. หากสามารถพัฒนาศูนยไ์ ด้ตามเกณฑม์ าตรฐานของโครงการจะไดร้ ับเกียรตบิ ัตรยกย่องเป็นโรงเรยี น ต้นแบบของการทาธรุ กิจคุณธรรมอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับชุมชนจากสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน 6. ได้รบั การต่อยอดใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรู้ และศนู ยบ์ รกิ ารความรู้ดา้ นอาชีพ 7. เป็นศูนย์คดั สรรผลติ ภัณฑ์จาหนา่ ยระบบ E-COMMERCE ทัง้ ในประเทศและตา่ งประเทศ เป็นต้น
15 รำยชือ่ โรงเรียนทไี่ ดร้ ับกำรคัดเลือกทำหน้ำทีศ่ นู ย์แกนนำขยำยเครอื ขำ่ ยโครงกำรนักธรุ กิจนอ้ ยฯ รุ่นท่ี 2 ท่ี สงั กัด โรงเรยี นทีต่ ้งั ศูนยแ์ กนนำขยำยเครือขำ่ ยฯ 1 สพป.กาญจนบุรี เขต 3 โรงเรยี นวัดวังก์วิเวการาม 2 สพป.จันทบรุ ี เขต 2 โรงเรียนวัดเวฬวุ นั 3 สพป.นครราชสีมา เขต 7 โรงเรียนเพชรหนองขาม 4 สพป.บุรรี ัมย์ เขต 4 โรงเรยี นบ้านหนองขวาง 5 สพป.ราชบรุ ี เขต 1 โรงเรียนอนบุ าลปากท่อ 6 สพป.ระยอง เขต 2 โรงเรยี นชุมชนวดั ตะเคยี นงาม 7 สพป.สุโขทยั เขต 1 โรงเรียนบ้านบงึ หญ้า 8 สพป.สรุ ินทร์ เขต 2 โรงเรยี นสระขุดดงสาราญวิทยา 9 สพม. 4 จงั หวัดปทมุ ธานี โรงเรียนเตรยี มอุดมศกึ ษาพฒั นาการปทุมธานี 10 สพม. 7 จงั หวัดสระแกว้ โรงเรยี นคลองนา้ ใสวทิ ยาคาร 11 สพม. 10 จงั หวดั สมทุ รสาคร โรงเรยี นสมทุ รสาครวทิ ยาลัย 12 สพม. 10 จงั หวัดสมุทรสาคร โรงเรียนวัดธรรมจรยิ าภริ มย์ 13 สพม. 12 จงั หวัดพทั ลงุ โรงเรียนพัทลงุ 14 สพม. 19 จังหวัดเลย โรงเรียนศรสี องรักษ์วทิ ยา 15 สพม. 20 จังหวดั อดุ รธานี โรงเรยี นเพญ็ พิทยาคม 16 สพม. 22 จังหวดั นครพนม โรงเรียนกุดฉมิ วิทยาคม 17 สพม. 28 จังหวดั ยโสธร โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถัมภ์ 18 สพม. 41 จงั หวัดกาแพงเพชร โรงเรยี นปางมะคา่ วทิ ยาคม 19 สศศ. โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 24 จงั หวดั พะเยา 20 สศศ. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54 จงั หวดั อานาจเจรญิ ให้ทาหน้าท่ีเป็นตัวแทนสานักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สานักงานคณะกรรมการการศึกษ า ขน้ั พื้นฐาน ในการขยายผลโครงการนักธุรกิจน้อยฯ ตามวตั ถปุ ระสงคใ์ หเ้ กิดความสาเร็จตามทตี่ งั้ ไว้
16 คำสำคัญ 1. ศูนย์แกนนำขยำยเครือข่ำยโครงกำรนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้ำงสรรค์ หมายถงึ โรงเรียนทีป่ ระสบความสาเร็จในการดาเนินการจัดการเรยี นรู้งานอาชีพตามแนวทางโครงการนักธุรกจิ น้อย มคี ณุ ธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และสานกั พฒั นานวตั กรรมการจัดการศึกษา สพฐ. ไดพ้ ัฒนาให้เกดิ ความเขม้ แข็ง ยิ่งข้ึนเพื่อทาหน้าท่ีขยายผลไปยังโรงเรียน เครือข่าย และชุมชนที่สนใจ ตามบทบาทหน้าที่ที่กาหนด โดยมีการ ขบั เคลอื่ นการดาเนินงานของศนู ย์แบบมีส่วนร่วมกับชุมชนและเครอื ข่ายท่ใี กลเ้ คยี ง 2. โรงเรียนเครือข่ำย หมายถึง โรงเรียนที่มีความสนใจการจัดการเรียนรู้งานอาชีพตามแนวทางโครงการ นักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และสมัครใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายของศูนย์แกนนา ขยายเครือข่ายโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ จัดการเรียนรู้ พัฒนานักเรียนและ บุคลากรในชุมชนดา้ นงานอาชพี ร่วมกับศูนย์แกนนาฯ อยา่ งตอ่ เน่ือง 3. โครงกำรนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้ำงสรรค์ หมายถึง โครงการท่ีสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยสานักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาดาเนินการ มุ่งพัฒนานักเรียน ให้มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพอิสระการเป็นผู้ประกอบการ มีทักษะพ้ืนฐานของการเป็นผู้ประกอบการ คิดเปน็ ทาได้ ขายเป็น มีความคิดสร้างสรรค์ ผลติ ชิ้นงาน/บรกิ าร จาหน่ายได้เชิงพาณิชย์ รูจ้ ักรักษาทรัพย์สินทางปญั ญา และ ไมล่ ะเมิดทรัพย์สนิ ทางปัญญาของผอู้ ืน่ 4. ธุรกิจ หมำยถึง กระบวนการที่มีผปู้ ระกอบการ (Entrepreneur) ดาเนินกิจกรรมเร่ิมต้นต้ังแต่การคิด การผลิต การแลกเปลยี่ น จาหนา่ ยสินค้า โดยม่งุ หวังกาไรหรอื ผลตอบแทน ภายใต้เปา้ หมายและกฎเกณฑ์ทกี่ าหนด 5. นักธุรกิจน้อย หมายถึง นักเรียนท่ีใช้กระบวนการทาธุรกิจในการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) โดยดาเนินกิจกรรมเร่ิมต้นตั้งแต่การคิด การผลิต การแลกเปล่ียน จาหน่ายสินค้า โดยมุ่งหวังกาไรภายใต้เป้าหมาย และกฎเกณฑ์ทก่ี าหนด 6. คุณธรรมนักธุรกิจน้อย หมายถึง คุณธรรมสู่ความสาเร็จของการเป็นผู้ประกอบการ หรือการทา ธุรกจิ 5 ประการ คอื ความซอื่ สัตย์ ขยัน อดทน มุ่งมน่ั กตญั ญู (รจู้ กั แบ่งปนั สงั คม) 7. ผู้ประกอบกำร (Entrepreneur) หมายถึง บุคคลท่ีไม่ต้องการเป็นลูกจ้าง แต่ต้องการมีธุรกิจ ของตนเอง ยอมรับความเสี่ยงที่มากบั การทาธุรกจิ และผลกาไรท่ีได้จากการทาธรุ กิจ ที่มาจากการขายสินค้าและ บริการ มีความเป็นผู้นาทางธุรกิจ และเป็นนักนวัตกรรมท่ีสามารถใช้ความคิดและกระบวนการทางธุรกิจใหม่ๆ ใหเ้ ป็นประโยชน์ 8. เศรษฐกจิ สร้ำงสรรค์ หมายถงึ แนวคิดการขับเคลอื่ นเศรษฐกิจบนพื้นฐานการใช้ความรู้ (Knowledge) การศึกษา (Education) การสร้างสรรค์งาน (Creativity) และการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ท่เี ชื่อมโยงพื้นฐานทางวัฒนธรรม การส่ังสมความรู้ของสังคม เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยสินค้าและ การบริการใช้ความคิดสร้างสรรค์ การใช้นวัตกรรมเป็นตัวพัฒนาและขับเคล่ือนในการผลิต เป็นการเพิ่มมูลค่า สร้างมลู คา่ เพิม่
17 9. ทรัพย์สินทำงปัญญำ หมายถึง ผลงานอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ทรัพย์สินทางปัญญา เป็นทรัพย์สนิ อกี ชนิดหนึ่งนอกเหนอื จากอสังหาริมทรัพย์ เป็นทรัพย์สนิ ที่เคลอ่ื นยา้ ยได้ มี 2 ประเภท คอื ทรัพย์สิน ทางอตุ สาหกรรม และลขิ สิทธิ์ ทรัพย์สินทำงอุตสำหกรรม เป็นความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เก่ียวกับสินค้าอุตสาหกรรม ความคิดสรา้ งสรรค์นี้จะเปน็ ความคิดในการประดิษฐค์ ิดค้น การออกแบบผลติ ภัณฑ์ทางอุตสาหกรรมซึ่งอาจเป็น กระบวนการหรือเทคนิคในการผลิตท่ีไดป้ รับปรุงหรือคิดค้นขึ้นใหม่ หรือที่เก่ียวข้องกับตัวสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ ที่เป็นองค์ประกอบและรูปร่างสวยงามของตัวผลิตภัณฑ์ และยังรวมถึงเครื่องหมายการค้า หรือย่ีห้อ ชื่อและถิ่นท่ีอยู่ ทางการคา้ ที่รวมถึงแหล่งกาเนิดสินค้าและการปอ้ งกันการแขง่ ขันทางการคา้ ท่ีไมเ่ ป็นธรรม ซ่ึงสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น สทิ ธิบัตร (Patent) เครื่องหมายการค้า (Trademark) แบบผังภูมิของวงจรรวม (Layout - Designs of Integrated Circuit) ความลบั ทางการคา้ (Trade Secrets) และสิง่ บ่งช้ที างภูมศิ าสตร์ (Geographical Indication) ลิขสทิ ธ์ิ (Copyright) หมายถงึ สิทธิแต่เพียงผ้เู ดยี วที่จะกระทาการใดๆ เก่ียวกับงานท่ีผู้สร้างสรรค์ ได้ริเร่ิมโดยใช้สติปัญญา ความรู้ ความสามารถของตนเองในการสร้างสรรค์ โดยไม่ลอกเลียนแบบงานของผู้อื่น ประเภทงานลิขสิทธิ์ที่กฎหมายลิขสิทธ์ิให้ความคุ้มครองมี 9 ประเภท ได้แก่ งานวรรณกรรม งานนาฏกรร ม งานศิลปกรรม งานดนตรีกรรม งานส่ิงบันทึกเสียง เช่น เทป ซีดีเพลง งานโสตทัศนวัสดุ งานภาพยนตร์ งานแพรเ่ สียง แพร่ภาพ งานอื่นใดในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ (มีงานบางอย่างอยู่ในประเภทแต่ก็ ไมถ่ ือว่าเปน็ ลิขสิทธ์ิ เชน่ ขา่ วประจาวัน ระเบยี บข้อบังคับ ประกาศ คาสั่ง ฯลฯ ขอใหศ้ ึกษาเพิม่ เติม) 10. มำตรฐำนผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) หมายถึง ข้อกาหนดด้านคุณภาพที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ ชมุ ชน เพื่อให้เป็นท่ีเชื่อถือ เป็นทยี่ อมรับ และสร้างความมั่นใจใหก้ ับผูบ้ ริโภคในการเลือกซ้ือผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งเนน้ ให้ เกิดการพัฒนาอย่างย่ังยืน เพ่ือยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กาหนด และสอดคล้อง กับนโยบาย OTOP ของรัฐบาล 11. เคร่ืองหมำย อ.ย. หมายถงึ เครือ่ งหมายทแ่ี สดงถงึ มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์สุขภาพ ท่ีสานักงานคณะกรรมการ อาหารและยา กาหนดให้เป็นข้อมูลหน่ึงที่ผู้บริโภคควรให้ความสาคัญในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อให้ เกิดความมั่นใจในการบริโภคอย่างปลอดภัย เป็นเครื่องหมายที่มีเลข 13 หลัก บนผลิตภัณฑ์ หรือที่เรียกว่า เลขสารบนอาหาร ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงว่า ผลิตภัณฑ์น้ันได้ผ่านการตรวจสอบความเหมาะสมของสถานท่ีต้ัง และอาคารผลิต เครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิต การควบคุมกระบวนการผลิต การสุขาภิบาล โรงงาน การบารุงรกั ษาและการทาความสะอาด และบุคลากรในการผลิต ให้เป็นไปตามเกณฑว์ ิธีการท่ีดีในการผลิต หรือ จี.เอ็ม.พี. (Good Manufacturing Practices) นอกจากนั้น ต้องผ่านการตรวจสอบในเร่ืองคุณภาพมาตรฐาน ของผลติ ภณั ฑ์ ภาชนะบรรจุ และการแสดงขอ้ มลู บนฉลากวา่ ครบถว้ น ไม่โออ้ วด หลอกลวง หรอื ทาใหเ้ ข้าใจผดิ 12. เครือขำ่ ยศูนย์แกนนำนักธรุ กิจน้อยฯ หมายถึง โรงเรียนเครอื ขา่ ย และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนหรือภาคส่วนอ่ืนของสังคมทั้งบุคคลและกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้สามารถดาเนินงาน ตามบทบาทหนา้ ท่ไี ดเ้ ปน็ อย่างดียงิ่
18
28 คำอธิบำยรำยละเอียดของโมเดลกำรขับเคลื่อนศนู ย์แกนนำขยำยเครือข่ำย โครงกำรนักธรุ กจิ น้อยมคี ุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสรำ้ งสรรค์ ปัจจัย โครงการนักธุรกิจน้อยฯ พจิ ารณาถึงนโยบายระดบั ประเทศ ระดับกระทรวงศึกษาธิการ และสานกั งาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ซึ่งประกอบด้วยนโยบายด้านต่างๆ แต่มีสารถสาคัญท่ีเกี่ยวข้องกับการ ดาเนินการพฒั นาทักษะอาชพี โครงการนกั ธรุ กจิ น้อยฯ ดงั นี้ 1. นโยบำยระดับประเทศ (รัฐบำล) 1.1 นโยบายรัฐบาล Thailand 4.0 เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบายที่เปลี่ยนเศรษฐกิจแบบเดิมไปสู่ เศรษฐกิจ ท่ีขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เปลี่ยนจาก SMEs แบบเดิมไปสู่การเป็น Smart Enterprises และ Startups ท่ีมีศักยภาพสูง เปล่ียนจากรูปแบบบริการแบบเดิมซึ่งมีการสร้างมูลค่าค่อนข้างต่า ไปสู่บริการที่มีมูลค่าสูง เปล่ียน จากแรงงานทักษะตา่ ไปสแู่ รงงานที่มคี วามรู้และทักษะสงู โมเดลรัฐบาล Thailand 4.0 น่ันคือ ม่ันคง มั่งคั่ง และ ยั่งยนื 1.2 นโยบายรฐั บาล “สานพลงั ประชารัฐ” เป็นนโยบายทีจ่ ะสนับสนุน โมเดลรัฐบาล Thailand 4.0 โดยมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ธนาคาร ประชาชน สถาบันศึกษาและสถาบันวิจัยต่างๆ ประกอบ กับการส่งเสริม SME และ Startup เพ่ือขับเคล่ือนไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมต้องมีโครงสร้างด้านการส่ือสาร และโทรคมนาคม ที่มีคุณภาพ มีอินเตอร์เน็ตที่ครอบคลุมประชากรมากที่สุด เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงทุก ภาคส่วนได้อย่างไม่สะดุด โครงสร้าง ของ ICT ก็จะเป็นปัจจัยแห่งความสาเร็จ เราจะก้าวข้ามผ่านกับดักประเทศ รายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูง ในยุค Thailand 4.0 ได้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพ่ือพัฒนาประเทศ ไปสเู่ ปา้ หมายให้ได้ 1.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) สานักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (สศช.) ได้จัดทาบนพ้ืนฐานของกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ซ่ึงเป็นแผน หลักของการพัฒนาประเทศ และเป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) รวมทั้งการปรับโครงสร้างประเทศไทยไปสู่ประเทศไทย 4.0 ตลอดจนประเด็น การปฏริ ปู ประเทศ 2. นโยบำยกระทรวงศกึ ษำธิกำร แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) กาหนดผลผลิตและ ผลลัพธ์ ที่เก่ียวข้อง คือ วางรากฐานทักษะอาชีพให้แก่ผู้เรียนตั้งแต่วัยการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ผู้เรียนสามารถนา ความรู้ไปฝกึ คิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ และแกไ้ ขปัญหาท่ีเกดิ ข้นึ ได้ มที ักษะการทางานร่วมกับผู้อ่ืน สอดคล้องกับทักษะที่จาเป็นในศตวรรษท่ี 21 มีคุณธรรมจริยธรรม มีองค์ความรู้ เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา ด้าน ระบบบริหารจัดการมีความคล่องตัวในการบริหารงานการศึกษามากยิ่งขึ้น มีความโปร่งใสและเป็นท่ียอมรับของ ผู้รับบริการ มกี ลไกการส่งเสริมใหท้ ุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการ สนบั สนนุ ทรัพยากรเพ่อื การศึกษา สถานศกึ ษาทุก ระดับทกุ ประเภท มีธรรมาภบิ าลในการบรหิ าร
29 3. นโยบำยสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พนื้ ฐำน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ท่ีกาหนดในแผนปฏิบตั ิราชการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยมียุทธศาสตรใ์ นการดาเนนิ งานในสว่ นทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ดังน้ี สง่ เสริมใหผ้ ู้เรยี นมีทักษะกำรเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 ทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 พัฒนาโดยเครือข่ายองค์กรความร่วมมือ เพื่อทักษะแห่งการ เรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (Partnership For 21st Century Skills) (www.p21.org) ท่ีมีชื่อย่อว่าเครือข่าย P21 การ พัฒนากรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี 21 เป็นการผสมผสานองค์ความรู้ทักษะเฉพาะด้านความ ชานาญการ และความรู้เท่าทันด้านต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อความสาเร็จของผู้เรียนทั้งด้านการทางาน และการ ดาเนนิ ชวี ติ ประกอบดว้ ยทกั ษะสาคัญ 3 ด้าน ไดแ้ ก่ 1. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation) ในศตวรรษ ที่ 21 ได้แก่ 1) การคิด วิเคราะห์และการแก้ปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ประกอบด้วยการมเี หตุผลการคดิ อยา่ ง เปน็ ระบบการตัดสินใจ/ตัดสินและการแก้ปัญหา 2) การส่ือสาร (Communication) เปน็ การสอื่ สารที่ชัดเจน 3) การร่วมมือ (Collaboration) เป็นการร่วมมือกัน และ 4) การคิดสร้างสรรค์ (Creativity Thinking) ประกอบด้วยการคิดอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละการทางานรว่ มกับผูอ้ ื่นอยา่ งสรา้ งสรรค์ 2. ทักษะสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี (Information, Media and Technology Skills) มุ่งเน้น ให้มีความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศและส่ือต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม สามารถจัดการเชื่อโยงประเมินและสร้าง สารสนเทศรวมถึงการประยุกต์ใชเ้ รื่องจริยธรรม และกฎหมายกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ 3. ทักษะชีวิตและการประกอบอาชีพ (Life and Career Skills) มุ่งเน้นให้มี ความสามารถในการ ยดื หยุ่นและสามารถปรับตัวได้ ริเริ่มและเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีทักษะทางสังคมและก้าวข้ามวัฒนธรรม มีความ รับผิดชอบและสามารถผลิตสร้างสรรค์งานได้ ตลอดจนมีความเป็นผู้นาและรับผิดชอบต่อสังคม การเรียนรู้ใน ศตวรรษที่ 21 เป็นการกาหนดแนวทางยุทธศาสตร์ในการจัดการเรียนรโู้ ดยรว่ มกันสร้างรูปแบบและแนวปฏิบัติ ในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 โดยท่ีองค์ความรู้ ทักษะความเชี่ยวชาญ และสมรรถนะท่ีเกิดกับตัวผเู้ รยี นเพอ่ื ใชใ้ นการดารงชวี ิตในสังคม แห่งการเปลย่ี นแปลงในปัจจุบนั 4. โรงเรียน 1. สร้างแรงบนั ดาลใจ ผเู้ รยี น ผู้เก่ียวขอ้ ทุกฝา่ ยให้มีพลัง เห็นคุณคา่ และประโยชน์ในสง่ิ ทจี่ ะร่วมกัน ทา มีความต้องการเข้ามาร่วมคิดรว่ มทา 2. เห็นคุณค่าของการทางานร่วมกัน ในปัจจุบันการทางานเพียงลาพังคนเดียวงานสาเร็จได้ยาก เพราะ ภาวการณ์เปลี่ยนแปลงของสังคมเกิดข้ึนรวดเร็วมาก การตัดสินใจที่ประสบความสาเร็จต้องอาศัยข้อมูลจากทุก ภาคสว่ น 3. สร้างความศรทั ธาในการศกึ ษาสอู่ าชีพ การศกึ ษาเพื่อการมงี านทา ทกั ษะพื้นฐานการทางานรว่ มกับคน อ่นื เปน็ ความจาเป็นของการจัดการศกึ ษาในอนาคต 4. ภูมิปัญญาท้องถ่ิน การพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็งและย่ังยืนต้องอยู่บนพื้นฐานของภูมิปัญญา ท้องถนิ่ ที่เหมาะสมกับบริบทของทอ้ งถนิ่
30 5. สรา้ งมูลคา่ ของเศรษฐกิจสร้างสรรคข์ องโรงเรยี นและชุมชนเพอ่ื การพัฒนา 6. การวิเคราะห์ศกั ยภาพในการดาเนินการจัดต้งั ศนู ย์แกนนาฯ ใหค้ รอบคลุม 4 ด้าน (4M) คือ 1) ด้านอาคารสถานท่ี ท่ีใช้เป็นท่ีตั้งศูนย์ สถานที่ฝึกวิชาชีพ วัสดุอุปกรณ์ ที่ใช้ในการดาเนินงาน เคร่อื งมอื ที่ใช้ในการผลติ วตั ถดุ ิบท่ีใช้ในการผลติ สถานท่ีจาหนา่ ยและเกบ็ อปุ กรณ์ 2) ด้านบุคลากร ได้แก่ บุคลากรภายในโรงเรียน ตั้งแต่ผู้อานวยการโรงเรียน ครูฝ่ายวิชาการ และครูกลุ่มการงานอาชีพ และครูผู้รับผิดชอบ ตลอดจนบุคลากรในชุมชน และบุคลากรเครือข่ายท่ีจะเข้ามาร่วม บริหารจดั การและสง่ เสรมิ สนบั สนุน 3) งบประมาณ และหรือเงินที่รับการสนับสนุน จากเครือข่ายที่เป็นแหล่งทุนอื่นๆ ท่ีจาเป็นต้อง ใช้ในการดาเนินงาน 4) การบริหารจัดการแบบมีสว่ นรว่ ม ตั้งแต่การกาหนดนโยบาย เปา้ หมายและการดาเนินงาน โครงการ 5. เครือขำ่ ย ประกอบด้วย 2 ส่วน 1. โรงเรียนท่ีสนใจสมัครเข้ามาเป็นเครือข่ายของศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายฯ ที่ศูนย์ต้องให้การ ส่งเสริมสนับสนุนและช่วยเหลือพัฒนาให้ได้ตามเป้าหมายที่โครงการนักธุรกิจน้อยฯ กาหนด ปีละไม่ต่ากว่า 3 โรงเรียน 2. เครือข่ายส่งเสริมสนับสนุนการดาเนินงานของศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายฯ ในด้านต่างๆ เช่น งบประมาณ องค์ความรู้ บุคลากร ทรัพยากร การตลาด และการจาหนา่ ยผลติ ภณั ฑ์และดา้ นอื่นๆ เครอื ข่ำยควำมร่วมมือ 1) หน่วยงานของรัฐ สนก.สพฐ./สพท./อปท. พาณชิ ย์จังหวัด อตุ สาหกรรมจงั หวัด พฒั นาชุมชนวสิ าหกิจชุมชน (OTOP SMEs) วัฒนธรรมจงั หวัด สาธารณสขุ จังหวัด มหาวิทยาลยั วิทยาลยั ตา่ งๆ สถาบันคน้ ควา้ และพฒั นาผลิตภณั ฑ์อาหารฯ/สวทน. กรมทรัพยส์ นิ ทางปัญญา/แหล่งบริการการท่องเท่ียว 2) ธุรกิจเอกชน บริษัท หา้ งรา้ น โรงงาน ธรุ กิจตา่ งๆ ธนาคารพาณชิ ย์ ห้างสรรพสนิ ค้า ตลาดนดั ตลาดทีร่ ัฐบาลสง่ เสริม (ประชารฐั ) การแสดงและจาหน่ายสินคา้ ตามโอกาส ฯลฯ 3) สมาคม มลู นิธิ สมาคมครู และผู้ปกครอง สมาคมวิชาชพี ต่างๆ มูลนธิ ิ กลมุ่ แม่บา้ น
31 สหกรณ์ 4) โครงการในพระราชดาริ ศูนยศ์ ิลปาชพี ในจังหวัด ศนู ย์สง่ เสรมิ ศิลปาชีพระหวา่ งประเทศ โครงการพระราชดาริ ศนู ย์จาหนา่ ยสินค้าในพระราชดาริ (ภฟู า้ ) องคป์ ระกอบศนู ยแ์ กนนำขยำยเครอื ข่ำยโครงกำรนกั ธุรกิจน้อยฯ ประกอบด้วย โครงสรำ้ งของศูนย์แกนนำขยำยเครอื ข่ำยโครงกำรนักธรุ กิจน้อยมคี ุณธรรม นำสูเ่ ศรษฐกจิ สรำ้ งสรรค์ โครงสร้างของศนู ยฯ์ ประกอบด้วยคณะกรรมการ 2 คณะ คือ 1. คณะกรรมกำรอำนวยกำรศนู ย์ ใหโ้ รงเรียนพิจารณาแตง่ ตั้งจานวนตามความเหมาะสม ตัวอย่างเช่น 1.1 ผ้อู านวยการโรงเรียน/รองผู้อานวยการโรงเรยี นท่ไี ดร้ บั มอบหมาย ประธาน 1.2 หวั หน้างานวชิ าการ รองประธาน 1.3 ผแู้ ทนหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ กรรมการ 1.4 ผ้แู ทนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ กรรมการ 1.5 ผู้แทนคณะกรรมการสถานศึกษา กรรมการ 1.6 ผ้แู ทนศาสนา/ปราชญ์ชาวบา้ น/กลมุ่ อาชีพชุมชน/ผแู้ ทนสถานประกอบการ/ กรรมการ ผแู้ ทนสถาบนั การศกึ ษา 1.7 ผแู้ ทนผปู้ กครอง กรรมการ 1.8 ครผู ู้รับผิดชอบโครงการ กรรมการและเลขานุการ 1.9 ครูในโครงการฯ กรรมการและผชู้ ่วยเลขานกุ าร 1.10 ประธานนกั เรยี นศูนย์แกนนา กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้ำท่คี ณะกรรมกำรอำนวยกำร คือ 1. พิจารณาให้ความเหน็ ชอบแผนพฒั นา 3 ปีและแผนปฏบิ ัติการประจาปีของศนู ย์แกนนาฯ 2. ใหก้ ารสนับสนุนการดาเนนิ งานตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปีของสถานศึกษา 3. กากับติดตามการดาเนนิ งานตามแผนปฏิบตั กิ ารประจาปีของสถานศึกษา 4. พจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบในสาระหลกั สูตรท่ศี ูนย์แกนนาจัดทา 5. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ศูนย์แกนนาสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตามสาระหลักสูตรได้ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 6. ติดตามดูแล ช่วยเหลือแก้ปัญหาและส่งเสริมสนับสนุนให้ศูนย์แกนนาสามารถดาเนินการจัด การศึกษาได้อยา่ งมีคุณภาพ 7. เสนอแนะแนวทางการบริหารจัดการ ด้านงานวิชาการ ด้านงบประมาณ ด้านบุคลากรและด้าน บริหารทั่วไปของศนู ย์แกนนา 8. ให้การสนับสนนุ การระดมทรัพยากร ตลอดจนวิทยากรภายนอก ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ และภาคี เครือข่ายในการส่งเสรมิ การดาเนนิ กิจกรรมของศนู ยแ์ กนนา
32 9. ยกระดบั การสรา้ งนวตั กรรมใหเ้ หน็ เป็นรปู ธรรม 10. ให้ขวญั กาลงั ใจและยกย่องเชิดชูเกียรตแิ ก่ครูและบุคลากรอื่นในศูนยแ์ กนนา 11. รับทราบและให้ความเห็นชอบรายงานผลการดาเนินงานประจาปีของศูนย์ฯ และเผยแพรส่ ู่ สาธารณชน 12. พิจารณาแตง่ ตงั้ ที่ปรึกษา ของคณะกรรมการศูนย์แกนนาตามความจาเปน็ และความเหมาะสม 13. ให้ความเหน็ ชอบในการคัดเลือกโรงเรียนเครือข่าย 2. คณะกรรมกำรดำเนินกำรศูนยแ์ กนนำ จานวนพิจารณาตามความเหมาะสม ตัวอย่างเชน่ 2.1 ครูผ้รู ับผิดชอบโครงการฯ (ศูนยแ์ กนนาฯ) ประธาน 2.2 ครูกล่มุ สาระการงานอาชีพและเทคโนโลย/ี ครูทุกกลุ่มสาระ/ กรรมการ ครูผู้รบั ผดิ ชอบกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น 2.3 ประธานนักเรียนของโรงเรียน กรรมการ 2.4 ครูในโครงการฯ กรรมการและเลขานุการ 2.5 ประธานชมรม/ประธานชุมนุม/ประธานนักเรียนศนู ย์แกนนา กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หนำ้ ทข่ี องคณะกรรมกำรดำเนินกำรศนู ยแ์ กนนำฯ 1. จัดทาแผนพัฒนาศูนยแ์ กนนาและแผนปฏบิ ัติการประจาปขี องศูนย์แกนนา 2. ดาเนนิ งานด้านวิชาการ ได้แก่ 2.1 พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ วัดผลประเมินผล พัฒนาสื่อ นวัตกรรมและเทคโนโลยี และ วจิ ยั เพอื่ พฒั นาคุณภาพ 2.2 ส่งเสริมความรู้ด้านวชิ าการแก่โรงเรียนเครือข่ายและชุมชน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ และผลกั ดนั ใหเ้ กดิ ผลในทางปฏิบตั ิ 2.3 ประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับหน่วยงานต่าง ๆ 2.4 จัดทาเกณฑใ์ นการคัดเลือกโรงเรียนเครือขา่ ย 3. ดาเนินงานด้านบุคลากร ได้แก่ สรรหาวิทยากรภายนอก/ภูมิปัญญาท้องถิ่น/ผู้ช่วยปฏิบัติงานของศูนย์ เพอื่ เสริมสร้างประสทิ ธภิ าพของการดาเนนิ การ 4. ดาเนนิ งานด้านงบประมาณ 4.1 จัดทาและเสนอของบประมาณ ระดมทรพั ยากรและการลงทนุ 4.2 ประเมินผล และรายงานผลการใชเ้ งินและดาเนนิ งาน 5. ดาเนินงานด้านบรหิ ารท่วั ไป ได้แก่ 5.1 ดูแลอาคารสถานท่ีและสภาพแวดลอ้ ม 5.2 จัดทาข้อมูลสารสนเทศของระบบเครอื ขา่ ย 5.3 จัดกจิ กรรมประชาสมั พนั ธผ์ ลงาน / ผลิตภัณฑ์ 5.4 ประสานกบั หน่วยงานราชการตา่ ง ๆ และหนว่ ยงานอนื่ ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง 6. จัดประชมุ รว่ มกับคณะกรรมการอานวยการศูนย์แกนนาอย่างนอ้ ยปีละ 2 ครั้ง
33 7. ดาเนนิ การอนื่ ๆ ตามท่ีคณะกรรมการอานวยการศูนย์แกนนามอบหมาย บทบำทหนำ้ ทขี่ องศนู ยแ์ กนนำขยำยเครอื ขำ่ ยโครงกำรนกั ธรุ กจิ น้อยมคี ณุ ธรรม นำสเู่ ศรษฐกจิ สรำ้ งสรรค์ 1. บทบาทหน้าท่ีขยายผลด้านการจัดการเรียนรู้งานอาชีพนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจ สรา้ งสรรค์ และองคค์ วามรูต้ า่ งๆ ไปยงั โรงเรยี นและชมุ ชนทส่ี นใจ โดยมีเป้าหมายปีละอย่างน้อย 3 โรงเรยี น 2. บทบาทด้านการสรา้ งศรัทธาดึงดดู ใจให้ผสู้ นใจเขา้ มารว่ มงาน 2.1 เปน็ ตวั อย่างในด้านพัฒนาตนเองอย่างสมา่ เสมอ 2.2 จัดอาคารสถานท่ีครบวงจร สะอาด สวยงาม เช่น ห้องทาการของศูนย์ เป็นศูนย์ที่มีชีวิต มี กจิ กรรม มีองค์ความรู้แสดงให้เห็นถึงความเป็นองค์กร วิสัยทศั น์ พนั ธกิจ เป้าหมาย โครงสร้าง บทบาทหน้าที่ของ ศูนย์ ผลงาน มสี ว่ นจาหน่าย ห้องเรียนร้ดู ูงาน เปน็ ต้น 2.3 มีความสามารถในการช่วยเหลือโรงเรียนเครือข่าย ด้านหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้การ สอนงานอาชีพนกั ธรุ กจิ น้อยมีคณุ ธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ 2.4 มวี ิธีการทางานอย่างเป็นระบบ ทางานเป็นทีม มีมนุษยสัมพันธ์ มีน้าใจ ช่วยเหลือผู้อื่น จริงใจ ต่อการทางานเพอ่ื ความสาเร็จของส่วนรวม 2.5 เปน็ ทพี่ ่งึ ของโรงเรียนเครอื ขา่ ยและชุมชนได้ 2.6 เปน็ ผนู้ าดา้ นองค์ความรู้ สามารถถา่ ยทอดใหผ้ ู้อนื่ ได้ 2.7 มผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถ ความสาเร็จของนักเรียนด้านการเป็นผู้ประกอบการ การคิด การผลติ และการจาหนา่ ย ไดร้ ับรางวัล เปน็ ทยี่ กยอ่ ง ยอมรบั เปน็ แบบอยา่ งกับผู้อื่นได้ 2.8 มีมนษุ ยสมั พันธท์ ด่ี ีกับผอู้ น่ื มีวธิ กี ารท่ดี ีในการสร้างและแสวงหาเครือข่าย การทางานรว่ มกัน 3. บทบำทด้ำนกำรเป็นแหลง่ เรียนรู้ใหม่ๆ 3.1 เป็นแหล่งรวบรวมและเผยแพร่องค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านการเป็นผู้ประกอบการหรือธุรกิจ การ ผลิต การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ บรรจภุ ณั ฑ์ ทรพั ยส์ ินทางปญั ญา ภมู ิปัญญาท้องถิ่นต่างๆ 3.2 อบรมพัฒนาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการนักธุรกจิ น้อยมีคุณธรรม นาส่เู ศรษฐกจิ สร้างสรรค์ ใหแ้ กโ่ รงเรียนเครือข่าย ชุมชน และผสู้ นใจทัว่ ไป ตามหลักสตู รการอบรม 3.3 อบรมด้านการพัฒนารายวิชางานอาชพี ตามแนวโครงการนักธรุ กจิ นอ้ ยฯ ให้แก่โรงเรยี น เครือข่าย 3.4 สง่ เสรมิ สนบั สนุนให้เครือข่ายทเ่ี กยี่ วข้องแลกเปล่ียนเรยี นรู้ เพ่อื การปรับปรงุ และพัฒนางาน 3.5 จดั กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่หลากหลาย เชน่ จดั วทิ ยากรอบรมหลกั สตู รงานอาชพี ระยะสน้ั จดั ทศั นศึกษาแหลง่ ความรงู้ านอาชีพอ่ืนๆ จดั เย่ียมศูนยแ์ กนนาฯ อ่นื ๆ ฯลฯ ทงั้ นี้ ใหส้ ่งเสริมสนับสนนุ นักเรียนเป็นวิทยากร ท้ังการสาธติ การทาผลิตภัณฑ์ อธบิ ายความรู้ การนา ชม การดาเนินงานของศูนย์ 4. บทบำทด้ำนกำรเป็นแหลง่ ฝึกปฏิบัติ 4.1 อานวยความสะดวกใหค้ รภู มู ิปญั ญาได้ถา่ ยทอดความรู้ใหแ้ กค่ รู นักเรียน ผ้สู นใจและเครือข่าย
34 4.2 จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ และสถานที่ให้เพียงพอและเหมาะสมกับการฝึกปฏิบัติและเหมาะสมกับ วัยของผู้เรยี น 4.3 ประสานงานตดิ ต่อและจัดทาเอกสารการฝกึ ปฏิบัติให้พอเพียงกบั การฝึก 4.4 ส่งเสริมให้มีการประกวดแข่งขันผลผลิตของศูนย์ เช่น รายวิชาอาชีพตามแนวทางของ โครงการนักธรุ กิจนอ้ ยฯ แผนการสอนของครู ผลติ ภณั ฑ์/บรรจุภัณฑ์ของนกั เรยี น เป็นต้น เพ่อื ยกระดับคุณภาพ 4.5 เชญิ ชวนและประกาศให้ชุมชน เครอื ข่าย ผ้สู นใจสมัครเข้าร่วมฝึกปฏบิ ัตงิ านตามหลักสตู รท่ีศูนย์จัด อบรม 4.6 ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี น ผสู้ นใจ มาเรยี นรูง้ านทีศ่ ูนยม์ กี ารสาธติ การฝึกปฏิบตั ิการสร้างผลิตภณั ฑ์แก่ผเู้ ขา้ ชม 4.7 สง่ เสริมใหเ้ ครือขา่ ย เช่น ครู นักเรียน ผู้สนใจ มาเรยี นรู้ได้ฝึกการดาเนินธรุ กิจ การจาหน่าย ผลติ ภัณฑ์ 4.8 จดั ทาข้อมูลผลการสารวจความพึงพอใจของผมู้ าเย่ยี มชมและผใู้ ช้บริการศนู ย์แกนนาฯ 5. บทบำทเปน็ ศนู ยค์ ดั เลอื กและจำหน่ำยผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเครอื ข่ำย 6. บทบำทด้ำนเช่ือมโยงภำคเี ครอื ขำ่ ยศูนยแ์ กนนำฯ ศูนยน์ ักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสเู่ ศรษฐกิจสร้างสรรค์ มีความจาเป็นเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการ เชือ่ มโยงภาคีเครือขา่ ย โดยภาคเี ครอื ข่ายที่จะเชอื่ มโยงนัน้ ให้ศนู ย์เป็นผู้พิจารณาได้ตามความเหมาะสมกบั บริบท โดยคานงึ ถึงภาระงาน การดาเนนิ กจิ กรรมที่มีเป้าหมายเดยี วกันหรือใกล้เคยี งกันเพ่ือสรา้ งความสาเร็จและความ เขม้ แข็งของศนู ย์อย่างต่อเนือ่ งยงั่ ยืนตอ่ ไป กำรบริหำรจดั กำรศูนย์แกนนำฯ 1. ดำ้ นสถำนท่ีต้ังของศูนย์ 1.1 ต้งั อยู่ในสถานทท่ี ่ีมีการคมนาคมที่สะดวก ปลอดภัย ห่างไกลมลพษิ 1.2 มสี งิ่ อานวยความสะดวกแกผ่ ู้มาปฏบิ ตั งิ านและใช้บริการดา้ นสาธารณปู โภค 1.3 อยใู่ นแหล่งทรัพยากรทมี่ ีวตั ถุดิบสาหรบั นามาใช้ในงานพฒั นาอาชพี 2. ด้ำนบุคลำกร 2.1 มีความพร้อมด้านครู วทิ ยากร หรือผู้ใหค้ วามรปู้ ระจาในการจัดการเรยี นรู้ ให้การฝึกปฏบิ ัติ แก่ผูเ้ รียนจนสามารถปฏบิ ัตใิ นเรอ่ื งนนั้ ๆ ได้ 2.2 ครูผรู้ ับผดิ ชอบมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในหลักสูตรอบรม หลกั สูตรสถานศึกษา ตามแนวทาง โครงการนกั ธุรกิจน้อยมีคณุ ธรรม นาสเู่ ศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ 2.3 ครูและนักเรียนมผี ลงานหรือเคยได้รบั รางวัลตั้งแต่ระดับเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาข้นึ ไป 2.4 วทิ ยากร/ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน มีคุณสมบัติคอื เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ทักษะ ใน สาขาวิชาหรือหลักสตู รนนั้ ๆ หรือเป็นผูม้ คี วามรู้ความชานาญ ประสบการณ์ในการประกอบอาชีพสาขาวิชาหรอื หลกั สตู รน้ันๆ หรอื เปน็ ผทู้ ีม่ ีความสามารถและประสบการณใ์ นการถา่ ยทอดความรู้ใหแ้ ก่ผูเ้ รยี น 3. ด้ำนงบประมำณ
35 ศูนย์แกนนาฯ มีความสามารถในการสร้างรายได้จากธุรกิจของตนเอง การบริหารงบประมาณ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม สามารถระดมทรัพยากรเพื่อให้การดาเนินของศูนย์เป็นไปได้ อย่างตอ่ เนื่อง 4. ด้ำนกำรบรหิ ำร 4.1 มรี ะบบบริหารศูนย์แบบมสี ว่ นรว่ ม เหมาะสม เอื้อต่อการดาเนินงานและเปน็ ศนู ย์กลางการ พฒั นาอาชีพของชมุ ชนได้ 4.2 มรี ะบบเทคโนโลยีที่ทนั สมัยนามาใช้ในการบรหิ ารจัดการ 4.3 มีระบบเครือข่ายทง้ั ภาครฐั และเอกชนทเี่ อื้อต่อการพัฒนางาน 4.4 มรี ะบบบริหารทโี่ ปร่งใสและตรวจสอบได้ 5.5 มกี ารจดั ทาบนั ทกึ ขอ้ ตกลงความร่วมมอื ระหว่างศนู ย์แกนนากบั หนว่ ยงานทางการศึกษา ในระดบั ตา่ งๆ และเครอื ขา่ ยความรว่ มมอื 5. ด้ำนผลงำน มีผลงานโดดเดน่ เช่น มีผลงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ เช่น มผช. อย. หรอื ผลิตภัณฑ์มกี ารข้ึนทะเบยี นทรพั ยส์ ินทางปญั ญา เช่น ลขิ สิทธ์ิ สิทธิบตั ร อนุสิทธิบตั ร หรือขึน้ ทะเบยี นผูป้ ระกอบการ OTOP เป็นต้น 6. หลักสูตรกำรอบรมของศูนย์แกนนำฯ สาหรับพัฒนาโรงเรียนเครือข่าย เช่น การพฒั นาหลักสูตร หลักสูตรสถานศึกษาตามแนวทางโครงการนักธุรกิจน้อยฯ การเป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์/ บรรจุภัณฑ์ การเพิม่ มูลคา่ สนิ ค้า ทรพั ยส์ ินทางปญั ญา เปน็ ต้น ดำ้ นกระบวนกำร การขบั เคล่อื นศนู ย์แกนนาฯ โดยโรงเรียน/ชมุ ชน และเครือข่าย (สนก.สพฐ./สพท./หนว่ ยงานภาครฐั และ เอกชน) 1. สรำ้ งแรงบนั ดำลใจในกำรทำงำนรว่ มกนั (พฒั นำคน พฒั นำตนเอง พัฒนำกลุม่ ) เป็นการพัฒนาคน พัฒนาตนเองและพัฒนากลุ่ม โดยการสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสาเร็จในการ ปฏบิ ัติงาน ต้องการสร้างคุณค่าและความสาเร็จในชีวติ การกาหนดเป้าหมายสู่ความสาเรจ็ การจัดทาแผนชีวติ สู่ ความสาเรจ็ การดาเนนิ งานตามแผนชวี ติ และพฒั นาแผนชีวติ สคู่ วามสาเรจ็ อยา่ งมคี วามสุข 2. กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรพัฒนำร่วมกัน เป็นการวิเคราะห์สภาพความพร้อมของโรงเรียนในปัจจุบัน ท่ีจะทาหน้าที่ศูนย์แกนนาขยาย เครือข่ายโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปัญหา อุปสรรค เพื่อกาหนดเป้าหมาย การพัฒนาตามสภาพปญั หาและความต้องการท่ีวิเคราะห์ 3. กำรวำงแผนพัฒนำส่เู ป้ำหมำย เป็นการนาเป้าหมายการพัฒนาศูนย์ท่ีกาหนด มาวางแผนการดาเนินการพัฒนาศูนย์แกนนาฯ ในระยะ 3 ปี และแผนปฏิบัติการประจาปี เพ่ือนาไปใช้ในการพัฒนาศูนย์แกนนาฯ ตามขั้นตอนและรายละเอียดที่ระบุ ในแผนใหป้ ระสบผลสาเรจ็ ตามเป้าหมายทก่ี าหนด 4. กำรพัฒนำทีมงำน/หลกั สตู รกำรอบรมโรงเรียนเครือขำ่ ยและชมุ ชน
36 เป็นการพัฒนาตนเองของศูนย์เพื่อเตรียมความพร้อมสาหรับการดาเนินการตามบทบาทหน้าท่ีของ ศนู ย์ในการสร้างทกั ษะพ้ืนฐานการเป็นผปู้ ระกอบการ ธุรกจิ ที่เน้นคุณธรรม การคิด การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ สู่การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปญั ญา การลงมอื ปฏิบตั ิทนี่ าไปใชไ้ ดใ้ นชวี ติ จรงิ 5. กำรดำเนินกำรพัฒนำตำมบทบำทหนำ้ ท่ีของศูนยต์ ำมแผนที่วำงไว้ เป็นการนาแผนระยะสน้ั และระยะยาวของศูนยแ์ กนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธรุ กิจน้อยฯ ทว่ี างแผน ไว้ลงสู่การปฏิบัติทุกข้ันตอน โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กร ชุมชน สมาคม มูลนิธิ และโครงการใน พระราชดาริให้การสนับสนุนการดาเนินโครงการพฒั นาศูนย์แกนนาฯ อย่างต่อเนือ่ ง 6. กำรตรวจสอบ ตดิ ตำม กำกับ และปรบั ปรงุ เป็นการตรวจสอบ ติดตาม กากับ การดาเนินการโครงการพัฒนาศูนย์แกนนาขยายเครือข่าย โครงการนักธุรกิจน้อยฯ ตามแผนที่กาหนดอย่างต่อเนื่อง สม่าเสมอ ตรวจสอบการดาเนินงาน ผลผลิตว่าบรรลุ วัตถุประสงค์ตามเกณฑ์มากน้อยเพียงใด โดยจะนาผลการประเมินท่ีผ่านเกณฑ์นาเสนอหน่วยงานเพ่ือการยก ย่อง ช่ืนชม ส่วนผลการประเมินที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ต้องนาไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อการพัฒนาให้ดีขึ้น ขั้นการ ตรวจสอบเป็นการตรวจสอบทัง้ ภายในและภายนอก 7. กำรขยำยเครือข่ำยสร้ำงควำมเข้มแข็งของศูนยแ์ กนนำฯ การดาเนินการจัดต้ังศูนยแ์ กนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธรุ กิจน้อยฯ ให้เกดิ ความเขม้ แข็ง ศูนย์ ท่ีจัดตั้งขึ้นให้มีการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน จึงมีความจาเป็นต้องแสวงหาเครือข่ายเข้ามา เป็นกรรมการบริหารศูนย์และช่วยเหลือสนับสนุนให้ศูนย์มีความเข้มแข็ง สามารถจัดการศึกษาและงานอาชีพ ตลอดจนขยายงานอาชีพในโรงเรียนเครอื ขา่ ยไดต้ ามเปา้ หมาย ด้ำนผลผลติ เปน็ ผลที่เกดิ จากการพฒั นาศูนย์แกนนาขยายเครอื ข่ายโครงการนักธุรกิจน้อยมีคณุ ธรรม นาส่เู ศรษฐกิจ สร้างสรรค์ 7 ขั้นตอน คือ ศูนย์แกนนาฯ เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โรงเรียนมีคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์ เป็นศนู ย์กลางการเรียนรแู้ ละเครือข่ายเขม้ แข็ง ดำ้ นผลลัพธ์ 1. มที กั ษะพื้นฐานการเป็นผู้ประกอบการหรือการทาธุรกิจ “คิดเป็น ทาได้ ขายเป็น” 2. มีคุณธรรมสู่ความสาเร็จการเป็นผู้ประกอบการ “ซ่ือสัตย์ ขยัน อดทน มุ่งม่ัน กตัญญู (รู้จักแบ่งปัน สังคม)” 3. มีความคิดสร้างสรรค์ พฒั นาผลงาน ขายไดเ้ ชิงพาณชิ ย์ 4. รกั ษาทรัพย์สนิ ทางปัญญาของตนเอง ไมล่ ะเมิดทรัพยส์ ินทางปญั ญาของผู้อืน่ ด้ำนผลกระทบ
37 เปน็ ผลเกิดแกผ่ ้มู ีส่วนร่วม และชมุ ชนท้องถ่ินของศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายฯ คือ ชุมชนมีความพึง พอใจในผลการดาเนินงานของศนู ย์แกนนาฯ ส่วนท่ี 3 กำรดำเนนิ กำรและกำรพัฒนำศนู ยแ์ กนนำขยำยเครือขำ่ ยโครงกำรนักธรุ กิจน้อย การดาเนินการของศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธรุ กิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้ประสบความสาเร็จอย่างเป็นรูปธรรม บรรลุวัตถุประสงค์ เป้าหมายที่กาหนด และสามารถบริหารงบประมาณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะตอ้ งจัดทาแผนพฒั นาและแผนปฏิบัติการประจาปีเปน็ แนวทางในการบรหิ ารงานศนู ย์ แกนนาฯ และกาหนดกจิ กรรมการนเิ ทศ การประเมนิ ผล ตลอดจนรายงานผลการประเมิน ดงั นี้ กำรจัดทำแผนพฒั นำ และแผนปฏิบตั ิกำรประจำปี 1. แผนพัฒนา 3 ปี เป็นแผนการดาเนินงานระยะยาวของศูนย์แกนนาฯ ซ่ึงเป็นแนวทางการบริหาร ศูนย์แกนนาฯ โดยเชื่อมโยงการดาเนินการต่าง ๆ ท่ีส่งผลในเชิงสนับสนุนหรือเป็นอุปสรรคต่อกัน เพื่อช่วยให้ คณะกรรมการกาหนดแนวทางการดาเนินงาน และใช้ทรัพยากรบริหารงานศูนย์แกนนาฯ ท้ังด้านงบประมาณ บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ และการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีข้ันตอน การดาเนนิ งานดังนี้ 1.1 เตรยี มการจดั ทาแผนพฒั นา 3 ปี 1.2 เก็บรวบรวมและวเิ คราะห์ขอ้ มลู 1.3 จดั ทาแผนพัฒนา 3 ปี
38 1.3.1 กาหนดวสิ ยั ทัศน์ 1.3.2 กาหนดยุทธศาสตร์เลอื กแนวทางพัฒนา 1.3.3 กาหนดวตั ถปุ ระสงคก์ ารพฒั นา 1.3.4 จดั ทารายละเอียดโครงการ/กจิ กรรมพัฒนา/ชมุ นุม/ชมรม 1.3.5 นเิ ทศ กากับ ติดตาม และประเมินผล 1.4 อนุมัติและประกาศใชแ้ ผนพัฒนา 3 ปี 2. แผนปฏิบัติการประจาปี เป็นแผนปฏิบัติการท่ีจัดทาขึ้นสาหรับใช้ในการปฏิบัติการประจาปี ซ่ึงจะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนา 3 ปี เพ่ือให้คณะกรรมการบริหารศูนย์แกนนาฯ และโรงเรียนเครือข่าย ใช้เป็นแนวทางในการดาเนินโครงการ/กิจกรรม/งบประมาณที่ใช้ในแต่ละปีงบประมาณ ซ่ึงมีขั้นตอน การดาเนนิ การ ดงั น้ี 2.1 การวางแผน (P : Plan) 2.1.1 ทบทวนผลการประเมนิ การปฏบิ ตั ิงานปีที่ผา่ นมา 2.1.2 ศึกษาแผนพัฒนา 3 ปขี องศนู ย์แกนนาฯ 2.1.3 จัดทารา่ งแผนปฏบิ ตั กิ ารใหส้ อดคล้องกับแผนพัฒนา 3 ปี 2.1.4 นารา่ งแผนปฏบิ ัติการเขา้ ที่ประชุมคณะกรรมการอานวยการศนู ย์แกนนาฯ 2.1.5 ปรบั รา่ งแผนปฏิบตั ิการตามขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการอานวยการศนู ยแ์ กนนาฯ 2.1.6 นาเสนอผู้อานวยการศูนย์แกนนาฯ อนุมัตแิ ผนปฏิบตั ิการ 2.2 การดาเนนิ การ (D : Do) 2.2.1 แจ้งคณะกรรมการศูนยแ์ กนนาฯ และผเู้ ก่ียวขอ้ ง 2.2.2 ประชาสัมพนั ธ์แผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี 2.2.3 ดาเนนิ การตามแผนปฏบิ ตั กิ ารทไ่ี ดร้ ับอนุมตั ิ 2.3 การตดิ ตาม กากับการดาเนินการ (C : Check) 2.3.1 นิเทศตดิ ตาม กากับการดาเนนิ การตามแผน 2.3.2 ประเมนิ ผลการดาเนนิ การ 2.3.3 วิเคราะหผ์ ล สรุปผล และรายงานผล 2.3.4 นาเสนอผลการดาเนินการในท่ีประชุมคณะกรรมการอานวยการศูนย์แกนนาฯ เพื่อ พจิ ารณากาหนดแนวทางแก้ไข ปรับปรุง 2.3.5 ผอู้ านวยการศนู ย์แกนนาฯ เสนอรายงานผลการดาเนินงานต่อ สพป./สพม. และ สพฐ. 2.4 การดาเนินการต่อเนอื่ ง (A : Act) 2.4.1 นาแผนปฏิบัติการทปี่ รับปรุงมาดาเนนิ การตอ่ เน่ือง 2.4.2 นเิ ทศ ติดตาม กากบั ให้เกดิ การปฏบิ ตั ิต่อเนอ่ื ง 2.4.3 ประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน กิจกรรมดำเนนิ กำรศนู ย์แกนนำขยำยเครือข่ำยโครงกำรนักธรุ กิจนอ้ ยมคี ณุ ธรรม นำสเู่ ศรษฐกจิ สร้ำงสรรค์ 1. จัดทาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติมท่ีเน้นความเป็นนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยให้ครูผู้สอนรายวิชาเพ่ิมเติมจัดทาภายใต้การให้คาปรึกษา กากับ ดูแลของคณะกรรมการดาเนินการ
39 ศนู ย์แกนนาฯ โดยยึดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เพ่ือพัฒนาวิชาชีพในการเป็น ผ้ปู ระกอบการ นาไปสู่อาชพี กลุม่ อาเซยี น ดังมีขนั้ ตอนตอ่ ไปน้ี ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาข้อมูลพ้ืนฐาน วิเคราะห์ศักยภาพของโรงเรียน ตามสภาพจริง ท้ังที่เป็นปัญหา จุดเด่นท่ีเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน สังคมศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ระดมทรัพยากรท้ังของโรงเรียน และชุมชนมาใช้ ใช้ศักยภาพทีม่ ีให้เต็มท่ี กาหนดเนอื้ หาสาระ ตัวชี้วดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื แหล่งเรียนรู้ และ การวัดผลประเมินผล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพตามที่วิเคราะห์ เพ่ือให้ได้หลักสตู รที่ทนั สมยั เหมาะสมกับ สถานการณ์ ขนั้ ตอนท่ี 2 จัดทาโครงร่างหลกั สูตรรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ดงั น้ี 1. จัดทาโครงสร้างเวลาเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ตามแนวทางการกาหนดเวลาเรียนพ้ืนฐาน ทส่ี อดคล้องกบั บริบทของโรงเรียนศนู ยแ์ กนนาฯ 2. จัดทาคาอธิบายรายวิชา โดยนาตวั ชีว้ ดั ทกุ ข้อของสาระการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงาน อาชีพและเทคโนโลยี และ/หรือกลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีนามาบูรณาการมาวิเคราะห์ให้สอดคล้องกัน รายวิชา เพ่ิมเติมต้องเน้นตามความต้องการและความถนัดของผู้เรียน แลว้ กาหนดเป็นผลการเรียนรู้ใหช้ ัดเจน คือผู้เรียน ตอ้ งมีความรแู้ ละปฏิบัติได้จนเกดิ ผลงานตามเป้าหมาย 3. กาหนดรหัสของรายวิชา ใชร้ ะบบการกาหนดรหัสวิชาตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 มีระบบการกาหนดรหัส เช่นเดียวกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 ท่ปี ระกอบด้วยตวั อักษรและตวั เลข 6 หลัก แต่มขี อ้ แตกต่างของการกาหนดรหัสบางหลัก เชน่ หลักที่ 1 เปน็ รหสั ตัวอักษรแสดงกลุ่มสาระการเรยี นรู้ หลักที่ 2 เป็นรหัสตัวเลข แสดงระดับการศึกษา ซ่ึงมี 3 ตัวเลข เลข 1 หมายถึง ระดับ ประถมศกึ ษา เลข 2 หมายถงึ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น เลข 3 หมายถงึ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หลักท่ี 3 เปน็ รหัสตัวเลข แสดงปีทีเ่ รียนของรายวชิ า หลักที่ 4 เป็นรหัสตัวเลข แสดงประเภทของรายวิชา ซึ่งกาหนดรหัสตัวเลขไว้ 2 ตัว เลข 1 หมายถงึ รายวชิ าพนื้ ฐาน เลข 2 หมายถึง รายวิชาเพิ่มเตมิ หลักท่ี 5 และ 6 เป็นรหัสตัวเลข แสดงลาดับของรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ในปี/ระดับ การศึกษาเดยี วกนั ตัวอยา่ ง ง 3 0 2 1 0 หมายถงึ ลาดับที่ เปน็ รายวิชาเพิม่ เตมิ ในกลุ่มสาระการงานอาชีพฯ เรยี นปใี ดกไ็ ด้ (ม.4, 5, 6) ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวิชากลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี 4. จดั เวลาเรียน โดยกาหนดเวลาเรียนให้สอดคลอ้ งกับหลักสตู รสถานศึกษา
40 5. จัดการเรียนรู้ โดยการกาหนดภาระหรือช้ินงานที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้เรียนบรรลุเป้าหมาย มคี วามรทู้ ่ีคงทนและมีความสามารถนาความรู้ไปใช้ในชีวติ จริง 6. กาหนดการวดั ผลและประเมนิ ผลทห่ี ลากหลายและให้สอดคล้องกบั ผลการเรียนรู้ 2. จดั กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน/ชุมนุม/ชมรม และโครงการพิเศษทีเ่ น้นการเป็นนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นาส่เู ศรษฐกจิ สร้างสรรค์ มขี ัน้ ตอนดังน้ี 2.1 แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนนิ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น/ชุมนมุ /ชมรม และโครงการพิเศษ 2.2 จัดทาแผนงานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน/ชุมนุม/ชมรม และโครงการพิเศษท่ีส่งเสริมการเป็น นักธุรกิจนอ้ ย 2.3 ดาเนินงานตามแผนงานกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน/ชุมนุม/ชมรม และโครงการพิเศษ 2.4 ติดตามกากบั การดาเนนิ งานกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น/ชมุ นุม/ชมรม และโครงการพิเศษ 2.5 นาผลการติดตามกากับไปพฒั นากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น/ชมุ นมุ /ชมรม และโครงการพเิ ศษ 3. การใหบ้ รกิ าร แนะนาให้คาปรกึ ษา มขี ้นั ตอนดงั นี้ 3.1 แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนนิ การให้บริการ แนะนาใหค้ าปรกึ ษา 3.2 ดาเนินการใหบ้ ริการ เช่น จัดอบรม ศึกษาดูงาน ให้คาปรึกษาเรื่องต่าง ๆ บริการสื่อ แนะนา แหล่งเรียนรู้ วิทยากร ภูมิปัญญา ฯลฯ ใหแ้ กโ่ รงเรียนเครอื ขา่ ย ชุมชน 3.3 บันทึกสถติ ิการใหบ้ รกิ าร แนะนา ให้คาปรกึ ษา 3.4 สรุปผลการให้บรกิ าร รายงานผล 4. ส่งเสริมและพัฒนาบคุ ลากรศูนยแ์ กนนาฯ ดาเนินการดังนี้ 4.1 แตง่ ต้งั คณะกรรมการดาเนนิ การส่งเสรมิ และพัฒนาบุคลากร 4.2 ดาเนนิ การส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร ดว้ ยวิธีการต่อไปนี้ 4.2.1 จดั ประชุมสัมมนา ศกึ ษาดงู าน 4.2.2 จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ส่กู ารพฒั นาผลติ ภัณฑ์ 4.2.3 จดั นทิ รรศการแสดงผลผลติ จากวัตถุดิบทอ้ งถนิ่ 4.2.4 จดั ประชุมปฏิบัติการ การสร้างผลิตภณั ฑ์สมู่ าตรฐาน 4.2.5 จดั เวทีแสดงผลติ ภัณฑ์ มงุ่ มัน่ สกู่ ารคา้ หารายไดร้ ะหวา่ งเรยี น ฯลฯ 4.3 สรปุ ผลรายงานผล 5. ส่งเสรมิ สนบั สนุนโรงเรียนเครอื ข่าย ดาเนินการดังน้ี 5.1 แตง่ ต้ังคณะกรรมการดาเนนิ การส่งเสริมสนบั สนนุ โรงเรยี นเครือข่าย 5.2 ดาเนินการส่งเสริมสนับสนนุ โรงเรยี นเครือข่ายดังนี้ 5.2.1 ใหค้ าปรึกษา แนะนา เกีย่ วกับการดาเนนิ การของโรงเรียนเครอื ข่าย 5.2.2 สนับสนุนการสร้างผลติ ภณั ฑ์ของโรงเรยี นเครือข่ายสมู่ าตรฐาน 5.2.3 ชว่ ยเผยแพรผ่ ลผลิตของศูนยเ์ ครอื ขา่ ย 5.2.4 ชว่ ยหาการตลาดเพื่อศูนยเ์ ครือข่ายนาผลติ ภณั ฑ์เป็นสินคา้ 5.2.5 สนบั สนนุ ในเรื่องต่าง ๆ ตามท่ีเครือขา่ ยต้องการ 5.3 สรุปผล รายงานผล
41 6. เผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ผลงานของศนู ย์แกนนา ดาเนินการดังน้ี 6.1 แต่งตั้งคณะกรรมการดาเนนิ งานเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธผ์ ลงานของศนู ยแ์ กนนาฯ 6.2 ดาเนินการเผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์ดงั น้ี 6.2.1 จดั ทาแผ่นพบั จุลสาร วารสาร 6.2.2 ใช้สอ่ื สารมวลชน สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ 6.2.3 จดั นิทรรศการผลงาน ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ 6.2.4 จดั เวทีแสดงผลติ ภัณฑ์ และจาหนา่ ยหารายไดร้ ะหวา่ งเรียน 6.2.5 จดั เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ ศึกษาดูงาน ฯลฯ 6.3 สรุปผล รายงานผล
42 กำรนิเทศ กำกับติดตำมผลกำรดำเนนิ กำร การดาเนินการของศูนย์แกนนาขยายเครือข่ายโครงการนักธรุ กิจน้อยมีคุณธรรม นาสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้มีระบบและบรรลุเป้าหมาย ควรมีการนิเทศ กากับ ตดิ ตามผลการดาเนินการของศูนย์แกนนาอย่างสม่าเสมอ โดยมีการนิเทศภายในและนิเทศภายนอก ซ่ึงจะช่วยให้การดาเนินการของศูนย์แกนนาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การนเิ ทศดาเนินการดงั น้ี 1. การนิเทศภายใน มีกระบวนการดงั น้ี 1.1 การวางแผนการนิเทศ 1.2 ดาเนินการนิเทศตามแผน 1.3 สรปุ ผลการนเิ ทศ 1.4 นาผลการนิเทศไปพฒั นาศนู ยแ์ กนนาอย่างต่อเน่ือง 1.1 การวางแผนการนเิ ทศ เป็นการเตรียมความพรอ้ มกอ่ นนิเทศ ซง่ึ ตอ้ งเตรียมเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี 1.1.1 จัดทาแผนการนิเทศ ให้คณะกรรมการนิเทศใช้เป็นแนวทางในการนิเทศดังตัวอย่าง ต่อไปน้ี แผนกำรนิเทศภำยในของศนู ยแ์ กนนำฯ เร่ืองทีน่ เิ ทศ วธิ กี ำรนเิ ทศ ระยะเวลำ งบประมำณ ผู้รบั ผดิ ชอบ 1. การวางระบบงานของศูนย์แกนนาฯ ใหค้ าปรึกษา แต่ละศนู ย์ ศูนยแ์ กนนาฯ คณะกรรมการ 1) จัดทาระบบโครงสรา้ งบรหิ ารศูนย์ กาหนดตาม นเิ ทศภายใน แบบมีสว่ นร่วม ประชมุ แกนนาฯ ความเหมาะสม 2) จัดทาระบบเทคโนโลยีทีใ่ ชใ้ นการ บรหิ ารศูนย์ ใหค้ าแนะนา กาหนดเวลา 3) จัดทาระบบเครอื ขา่ ย 4) จัดทาระบบข้อมูลสารสนเทศ สังเกต ในการนิเทศ 2. การแตง่ ต้ังคณะกรรมการของศูนย์แกนนาฯ สารวจตรวจสอบ ตามความ 1) แตง่ ต้งั คณะกรรมการอานวยการศูนย์ 2) แตง่ ต้งั คณะกรรมการดาเนินการของ เอกสาร เหมาะสม ศูนย์แกนนา 3) แตง่ ต้งั คณะกรรมการนเิ ทศภายใน ฯลฯ โดยกาหนดให้ 3. การดาเนนิ งานพฒั นาศูนยแ์ กนนาฯ และ ตรวจสอบเอกสาร มีการนิเทศ โรงเรียนเครอื ขา่ ย ให้คาปรึกษา เดอื นละ 1) การจัดทาแผนพัฒนา 3 ปี 2) การจดั ทาแผนปฏบิ ัตกิ ารประจาปี 1 ครงั้ 3) การพัฒนางานวิชาการ ตรวจสอบเอกสาร (1) การจัดทาหลักสตู รรายวิชา ใหค้ าแนะนา (2) การจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น/ ประชุมปฏบิ ัตกิ าร ศึกษาดงู าน ชมุ นุม/ชมรม และโครงการพิเศษ (3) การจัดแหล่งเรยี นรู้ บรรยากาศ ฯลฯ
43 เร่อื งทน่ี เิ ทศ วิธกี ำรนเิ ทศ ระยะเวลำ งบประมำณ ผรู้ ับผิดชอบ 4) การพัฒนางานบริหารทั่วไป สังเกต (1) การจดั ด้านอาคารสถานท่ี ตรวจสอบ (2) การจดั ด้านห้องปฏบิ ตั กิ าร ให้คาปรึกษา (3) การจดั หาเคร่อื งมือในการทา ผลผลติ ต่าง ๆ ฯลฯ 5) การพัฒนางานบุคลากร ตรวจสอบเอกสาร (1) การแต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนนิ การ การไปศึกษาดงู าน (2) การแตง่ ตง้ั ผู้รบั ผดิ ชอบงาน/โครงการ อบรม/ประชุม (3) ครภู ูมปิ ญั ญา/วทิ ยากรท้องถน่ิ ปฏบิ ตั กิ าร (4) การศกึ ษาดูงาน ให้คาแนะนา ฯลฯ ฯลฯ 6) การดาเนินการดา้ นงบประมาณ ให้คาปรึกษา (1) การจัดสรรงบประมาณ ตรวจสอบ (2) การบริจาคขององคก์ ร/หน่วยงาน ประชุมช้ีแจง ภาครัฐและภาคเอกชน (3) การจาหน่ายผลิตภณั ฑข์ อง ศูนยแ์ กนนาฯ 4. ผลการดาเนินงาน 1) ผลความกา้ วหน้าของงาน/โครงการ สังเกต 2) ผลเมอ่ื ส้ินสุดโครงการ ประชมุ ช้ีแจง 3) ประสทิ ธภิ าพการดาเนนิ การของศนู ย์ ใหค้ าแนะนา แกนนาฯ ตรวจสอบเอกสาร 4) รายงานผลการดาเนนิ งาน 1.1.2 แต่งต้ังคณะกรรมการนเิ ทศภายใน ประกอบดว้ ย ประธานกรรมการ 1) ผอู้ านวยการโรงเรยี น กรรมการ 2) รองผอู้ านวยการฝา่ ยวิชาการ กรรมการ 3) รองผู้อานวยการฝา่ ยอานวยการ กรรมการ 4) รองผูอ้ านวยการฝา่ ยบรหิ ารทั่วไป กรรมการ 5) รองผูอ้ านวยการฝ่ายกิจการนักเรยี น 6) ครูผรู้ ับผดิ ชอบศูนยแ์ กนนาฯ กรรมการและเลขานุการ 7) ตวั แทนคณะกรรมการดาเนินการศูนย์แกนนาฯ กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร
44 1.1.3 กาหนดกิจกรรมนิเทศ กจิ กรรมนเิ ทศ เปน็ แนวทางการดาเนนิ กจิ กรรมการนิเทศทมี่ ีความหลากหลาย ผ้นู เิ ทศ ตอ้ งเลือกกิจกรรมนเิ ทศให้เหมาะสมกับเร่อื งที่ต้องการนิเทศ ดังนาเสนอรายละเอียดกิจกรรมนิเทศที่นามาใช้กัน อย่างแพรห่ ลายดังน้ี (1) การให้คาปรึกษา เป็นกิจกรรมท่ีผู้นิเทศให้คาปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ แก่ผู้มาขอรับ การนเิ ทศ เชน่ การจัดการเรียนรู้ การพฒั นาส่อื /นวัตกรรมการเรยี นรู้ การพัฒนาคณุ ธรรมจริยธรรมนักเรียน ฯลฯ (2) การสังเกตการสอน เป็นกิจกรรมที่ผู้นิเทศเป็นผู้ปฏิบัติ ซ่ึงผู้นิเทศต้องการพัฒนา ครูผู้สอนให้มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ก็เลือกการสังเกตการณ์สอนของครู และเน้นการจัดทาแผน การจัดการเรียนรู้ การนาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้จัดการเรียนรู้ให้บรรลุจุดประสงค์ ด้วยการพัฒนาผู้เรียน ให้มีความรู้ความสามารถ มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มีทักษะในการปฏิบัติงาน มีความคิดสร้างสรรค์งาน และ พัฒนาผลงานใหเ้ ปน็ ผลิตภัณฑ์จาหนา่ ยเป็นสนิ คา้ หารายได้ระหว่างเรยี น และปลกู ฝงั คณุ ธรรม 5 ประการในการ เป็นนกั ธรุ กจิ นอ้ ย ตามตวั ชีว้ ดั ที่กาหนดไว้ในแผนการจัดการเรยี นรู้ (3) การประชุมชี้แจง เปน็ กิจกรรมที่ผูน้ ิเทศและผู้รับการนิเทศปฏบิ ัติร่วมกัน กจิ กรรม การประชมุ ช้แี จงช่วยให้เกดิ ความเข้าใจเร่อื งที่นเิ ทศตรงกันและมีความชัดเจนตอ่ การนาไปปฏิบัตงิ าน (4) การให้คาแนะนา เป็นกิจกรรมที่ผู้นิเทศให้คาแนะนาในด้านต่างๆ แก่ผู้รับ การนิเทศ ได้แก่ การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาสื่อ/นวัตกรรม ฯลฯ การให้คาแนะนา ควรเปิดโอกาสให้ผู้รับ การนิเทศร่วมคิด ร่วมแก้ไขปัญหา และยอมรับแนวทางปรับปรุง หรือแก้ไขปัญหาด้วยความเต็มใจ พร้อมท่ีจะ ปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา (5) การเสนอข้อมูลเป็นกล่มุ เป็นการเสนอข้อมลู ที่ทาให้การรบั ฟังเป็นที่นา่ สนใจยิ่งข้ึน สามารถดาเนินการได้หลายลักษณะ เช่น การบรรยายเป็นหมู่คณะ ซึ่งประกอบด้วย ผู้ให้ข้อมูลหลายๆ คน ต่อเน่ืองกัน และอาจมีผู้แสดงข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอีกก็ได้ การจัดซิมโพเซียมเป็นการเสนอข้อมูลเป็นกลุ่ม อย่างเป็นทางการ และการโต้วาทีก็เป็นอีกลักษณะหนึ่งของการเสนอข้อมูลกลุ่ม การให้ข้อมลู เป็นกลุ่มมีจุดเน้น ทกี่ ารให้ขอ้ มูล แนวความคดิ หรอื แลกเปล่ียนความคิดเห็นซ่งึ กนั และกนั โดยปกติมักนิยมใช้กจิ กรรมการใหข้ อ้ มูล เป็นกลุ่มนีเ้ ป็นส่วนนา และจะตามดว้ ยการอภิปรายกลุ่มยอ่ ย หรือระดมความคดิ เห็น (6) การสังเกตภายในห้องเรียน เป็นกิจกรรมท่ีสังเกตการทางานในสถานการณ์จริง ของบุคลากร เพื่อวิเคราะห์สภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเหล่านั้น การสังเกตภายในห้องเรียนจะช่วยให้ ทราบจุดดีหรือจุดอ่อนของบุคลากร สามารถนามาเป็นประโยชน์ในการประเมินผลการปฏิบัติการหรือใช้ ในการพัฒนาบุคลากรได้ การสงั เกตจะเปน็ ไปอย่างมีคุณภาพหากผู้สงั เกตเป็นผู้ทม่ี ีทกั ษะ มเี ครือ่ งมือท่ีมีคุณภาพ และมีการบนั ทึกข้อมูลได้อย่างถูกต้อง (7) การสาธิต เป็นกิจกรรมที่มุ่งให้ผู้อ่ืนได้เห็นการดาเนินการคล้ายสถานการณ์จริง อย่างไรก็ตาม ผู้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้จากการสาธิตจะเป็นไปอย่างจากัด ประสบการณ์ท่ีได้จากการสาธิต จะอยู่ในระดับปานกลางและมักมีข้อจากัด คือหากดาเนินการกับกลุ่มขนาดเล็กก็มักไม่คุ้มค่าหรือไม่ประหยัด แต่หากจะดาเนินการกับกลุ่มใหญ่ก็มักไม่สามารถทราบรายละเอียดได้อย่างท่ัวถึง การสาธิตจะมีคุณค่ามากขึ้น ในกรณีที่มกี ารดาเนินการสงั เกตอยา่ งเป็นระเบียบและมีกิจกรรมติดตามมา เช่น การอภิปราย การให้ดูวดี ีทศั นซ์ ้า และการใหล้ องปฏบิ ตั ิ เปน็ ตน้
45 (8) การอภปิ ราย เป็นกจิ กรรมทเี่ หมาะสาหรับกลุ่มขนาดเลก็ การอภิปรายจะเกีย่ วขอ้ ง กบั การปฏิสมั พันธ์ทั้งทางภาษาและท่าทาง การอภิปรายมีโครงสร้างท่ียืดหยุ่นและไม่เป็นทางการ การอภิปราย มีความใกล้เคียงกับการประชุมกลุ่มและอภิปรายกลุ่ม การอภิปรายจะนาไปใช้ร่วมกับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การเย่ยี มชน้ั เรยี น การสาธิต และการบรรยาย ฯลฯ เพอ่ื แกป้ ญั หาตา่ ง ๆ ทีม่ ีความสลับซับซ้อนได้ (9) การระดมความคิด เป็นกิจกรรมกลุ่มท่ีเก่ียวข้องกับการเสนอแนวความคิด วิธีการ แก้ปัญหาหรือได้ข้อแนะนาต่าง ๆ ซ่ึงแต่ละคนจะแสดงความคิดออกมา แต่จะไม่มีการอภิปราย ไม่มีการ วิเคราะห์ หรือวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใด แม้ว่าการระดมความคิดจะเป็นการแสดงความคิดเห็นค่อนข้างอิสระ แต่ถ้าหากมีการกาหนดปัญหาหรือวางโครงสร้างท่ีชัดเจนก็ย่อมจะสามารถได้แนวความคิดต่างๆ มากมายใน เวลาอันจากัด บรรยากาศในการระดมความคิดจะต้องเป็นไปในทางที่ดี ไม่มีอคติต่อแนวความคิดของบุคคลใด ทั้งสิ้น ถึงแม้แนวความคิดท่ีสมาชิกเสนอมานั้นจะไม่สามารถนาไปปฏิบัติได้โดยตรง แต่แนวความคิดนั้นจะถูก นาไปผสมผสานใหเ้ กิดแนวความคิดอ่นื หรอื เกิดแนวความคดิ ใหม่ทีส่ ามารถนาไปปฏบิ ัตไิ ด้ (10) การประชุมกลุ่มย่อย เป็นการประชุมกลุ่มเพ่ืออภิปรายในหัวข้อเรื่องที่จาเพาะ เจาะจง มีการกาหนดโครงสร้างน้อยท่ีสุด แต่ม่งุ เน้นการปฏสิ ัมพันธ์ภายในกลุ่มมากที่สุด บรรยากาศการประชุม จะมุ่งท่ีการแสดงความคิดเห็นท่ีมีต่อเรื่องใดเร่ืองหนึ่งโดยเฉพาะและเป็นบรรยากาศท่ีดี ก่อนการประชุมกลุ่ม สมาชิกภายในกลุ่มจะได้รับทราบเร่ืองราวท่ีจะทาการประชุม ซ่ึงอาจเป็นหัวข้อปัญหา คาถามหรือประเด็นต่างๆ สมาชิกต้องแสดงความคิดเห็นออกมาด้วยถ้อยคาส้ันๆ และชัดเจน อาจมีการเสนอข้อมูลแบบเป็นทางการ ประกอบด้วยก็ได้ เช่น การบรรยาย การฉายภาพยนตร์ การเสนอข้อมูลเป็นกลุ่ม เป็นต้น การประชุมกลุ่มย่อย อาจดาเนนิ การในลักษณะของการมอบงานให้แต่ละกลุ่มแตกต่างกันก็ได้ ปฏิสัมพันธ์ที่เกดิ ข้ึนของการประชุมกลุ่ม จะเป็นไปแบบอิสระ การแสดงความคิดเห็นทาได้อย่างเต็มท่ี ยอมรับฟังซ่ึงกันและกัน ผลจากการประชุมกลุ่ม ควรจะได้มาซ่ึงการเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรือได้ข้อแนะนาเกี่ยวกับทางเลือกในการปฏิบัติงาน กิจกรรม จะมีคุณค่ามากข้ึน ถ้ามีกิจกรรมอ่ืนๆ ตามมา เช่น การสรุปประเด็นหรือตงั้ เป็นคาถามในกรณีท่ีจะต้องแสวงหา ขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ อกี (11) การพาไปทัศนศึกษา เป็นการเดินทางออกจากโรงเรียนไปสถานที่แห่งอื่น เพื่อ ศึกษาดูงานท่ีสัมพันธ์กับงานที่ตนเองปฏิบัติอยู่ ถึงแม้ว่าการไปทัศนศึกษาจะเป็นที่สนใจและเป็นท่ีนิยมของครู และนักเรียนก็ตาม แต่ไม่นิยมนามาใช้ในการฝึกอบรมครูประจาการมากนัก การไปทัศนศึกษาจะได้ประโยชน์ เชิงเพม่ิ พนู ประสบการณแ์ ก่ผูร้ ว่ มกจิ กรรม (12) การเย่ียมเยียน เป็นกิจกรรมท่ีบุคคลหน่ึงจะไปเย่ียมและสังเกตการทางานของ อีกบุคคลหนึ่ง การเยี่ยมเยียนถึงแม้จะสามารถกระทาเป็นกลุ่มขนาดเล็กได้ แต่ในทางปฏิบัติโดยท่ัวไป มักจะดาเนินการในลักษณะของกจิ กรรมรายบุคคล กจิ กรรมการเย่ียมเยยี นที่ได้ผลนนั้ จาเปน็ ต้องมคี ู่มือเก่ียวกับ การสังเกตพฤติกรรมการทางานควบคู่ไปด้วย ควรจะไปเยี่ยมเยียนคนท่ีมีความสามารถในการทางานและ ดีเพียงพอที่จะเป็นตัวอย่างได้ และจาเป็นจะต้องมีการวางแผนในการจัดกิจกรรมเป็นอย่างดี จึงจะทาให้ การเยย่ี มเยียนเกิดประโยชนส์ ูงสุด (13) การปฏิบัติจริง กิจกรรมนี้ใช้ได้กับรายบุคคลหรือกลุ่มขนาดเล็ก เป็นกิจกรรม ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติจริง กิจกรรมการปฏิบัติตามคาแนะนาเป็นท่ีสนใจมากข้ึน เมื่อมีการฝึกทดลองสอนหรือ การฝึกสอน นอกจากน้ันในการนิเทศแบบคลินิกก็มีการใช้กิจกรรมลักษณะนี้มากเช่นเดียวกัน ในบางคร้ัง อาจใชร้ ว่ มกับกิจกรรมการเย่ยี มเยียนและกจิ กรรมการสังเกต
46 1.1.4 กาหนดเรอ่ื งที่นเิ ทศ มีดงั นี้ 1) การวางระบบงานของศนู ย์แกนนา (1) จัดทาโครงสรา้ งบรหิ ารศนู ยฯ์ แบบมีส่วนรว่ ม (2) จดั ทาระบบเทคโนโลยีท่ีใชใ้ นการบริหารศนู ยแ์ กนนาฯ (3) จัดทาระบบโรงเรียนเครอื ข่าย (4) จดั ทาระบบขอ้ มูลสารสนเทศ 2) การแต่งตั้งคณะกรรมการของศูนย์แกนนาฯ (1) แต่งต้ังคณะกรรมการอานวยการของศนู ยแ์ กนนาฯ (2) แตง่ ตงั้ คณะกรรมการดาเนินการศนู ยแ์ กนนาฯ (3) แต่งตง้ั คณะกรรมนเิ ทศภายใน 3) การดาเนนิ งานพฒั นาศูนย์แกนนาฯ และโรงเรียนเครือขา่ ย (1) จดั ทาแผนพฒั นา 3 ปี (2) จดั ทาแผนปฏิบตั กิ ารประจาปี (3) การพัฒนางานวชิ าการ จดั ทาหลักสูตรรายวิชาเพ่มิ เตมิ จดั ทากิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น จดั ชมรม/ชุมนมุ /โครงการพิเศษ แหล่งเรียนร้/ู ภมู ิปัญญา ฯลฯ (4) การพัฒนางานบรหิ ารทั่วไป อาคารสถานท่ี หอ้ งปฏิบัติการงานอาชพี เครื่องมอื /อุปกรณ์ตา่ ง ๆ ฯลฯ (5) การพฒั นางานบุคลากร ผู้รบั ผดิ ชอบงาน/โครงการ คณะกรรมการดาเนนิ การฯ ภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ฯลฯ (6) การดาเนนิ งานงบประมาณ งบประมาณจากทางราชการ การบริจาคจากองค์กร/หนว่ ยงานภาครฐั และเอกชน การจาหนา่ ยผลิตภัณฑข์ องศนู ย์แกนนาฯ 4) ผลการดาเนินงานของศูนยแ์ กนนาฯ (1) ผลความกา้ วหนา้ ของงาน/โครงการ (2) ผลการดาเนนิ งานเมอื่ สน้ิ สดุ โครงการ (3) ผลประเมินประสทิ ธิภาพการดาเนนิ การของศูนย์แกนนาฯ
47 1.1.5 จัดทาส่ือและเคร่ืองมือนิเทศ ส่ือและเครื่องมือนิเทศ เป็นนวัตกรรมท่ีจัดทาขึ้นเพื่อใช้ ในการนิเทศ กากับ ติดตาม ซ่ึงต้องจัดทาให้สอดคล้องกับกิจกรรมและการดาเนินงานของศูนย์ฯ จึงควรนา เครื่องมือเหล่านี้ไปให้ผู้เช่ียวชาญศึกษาและตรวจสอบคุณภาพก่อนนาไปใช้เพื่อให้เกิดความเช่ือมั่น ในประสทิ ธภิ าพของเคร่อื งมอื และในการดาเนินงานศนู ยฯ์ น้ี ขอเสนอตัวอยา่ งเครอ่ื งมอื นเิ ทศดงั ต่อไปนี้ ฉบับท่ี 1 แบบบันทกึ กำรให้คำปรึกษำ ชื่ อ ศู น ย์ แ ก น ห้ นา อาเภอ จังหวดั ) ชอ่ื ผู้รบั คาปรึกษา ชื่ อ ผู้ ใ คาปรึกษา วัน เดือน ปีทีใ่ หค้ าปรึกษา คาชีแ้ จง ผูน้ เิ ทศภายในบันทึกผลจากการให้คาปรึกษาตามหัวข้อลงในแบบบันทึกตามความเปน็ จรงิ 1. หวั ขอ้ ทข่ี อรับคาปรกึ ษา 1 2) 3) 4) 5) 2. สาระทใ่ี หค้ าปรึกษาตามหัวขอ้ ทข่ี อรับการปรึกษา ) 1 2) 3) 4) 5) 3. ความต้องการขอคาปรกึ ษาเพ่ิมเติม
48 ลงชอ่ื .........................................ผูใ้ ห้คาปรกึ ษา (.........................................) ฉบบั ที่ 2 แบบสังเกตกำรสอน ช่ื อ ศู น ย์ แ ก น นา อาเภอ จังหวัด ชือ่ ครูผูส้ อน สอน เรือ่ ง ช้นั ชอ่ื ผูส้ ังเกตการสอน วั น เ ดื อ น ปี ท่ี สงั เกต คาชี้แจง ทาเคร่ืองหมาย ใน ตามสภาพจรงิ และบนั ทกึ ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม เร่อื งทีส่ ังเกต บันทึกผลกำรสงั เกตกำรสอน 1. เอกสารเกี่ยวกบั การจดั การเรียนรู้ 1.1 หลกั สูตรรายวิชาเพม่ิ เตมิ เน้ือหำสำระ ก ลุ่ ม ส า ร ะ ก า ร สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ในหลักสตู รแกนกลางฯ เรยี นรู้ สอดคลอ้ งกับสภาพปญั หาชุมชน/ท้องถ่นิ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผู้เรยี น เหมาะสมกับเวลาเรียนทกี่ าหนด ข้ อ เ ส น อ แ น ะ เ พ่ิ ม เ ติ ม เวลำเรียน กาหนดเวลาเรียนตามโครงสร้างของหลกั สูตรสถานศึกษา เหมาะสมกบั เนื้อหาสาระ เหมาะสมกับกจิ กรรมการเรยี นรู้
49 ข้ อ เ ส น อ แ น ะ เ พ่ิ ม เ ติ ม คำอธิบำยรำยวิชำ น ะ ตวั ชี้วัดสอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาสาระและกิจกรรม ม สาระการเรยี นรู้ครบถ้วนเหมาะสม กิจกรรมการเรยี นรู้เหมาะสมกับเน้อื หาสาระ ข้ อ เ ส น อ แ เ พิ่ ม เ ติ กำรวัดและประเมนิ ผล แน ะ สอดคลอ้ งกับเน้ือหาสาระ ติ ม สอดคล้องกับกจิ กรรมการเรยี นรู้ สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ เนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง ข้ อ เ ส น อ เ พิ่ ม เ เรอ่ื งท่สี ังเกต บนั ทึกผลกำรสังเกตกำรสอน 1.2 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กำรดำเนินกำร ชื่ อ ชุ ม นุ ม / มีผู้รับผดิ ชอบ ชมรม มีคณะกรรมการดาเนนิ งาน มีโครงการ/แผนงาน/กจิ กรรม ดาเนนิ งานตามแผนงาน/โครงการ ติดตามผลการดาเนนิ โครงการและประเมนิ ผล พฒั นาผลงานเป็นผลติ ภณั ฑ์สูอ่ าชีพนกั ธุรกิจน้อย ข้ อ เ ส น อ แ น ะ ม เ พิ่ ม เ ติ
50 1.3 แผนการจัดการเรยี นรู้ องคป์ ระกอบ ความคิดรวบยอด ตัวชีว้ ัด/คณุ ธรรมนกั ธุรกิจน้อย แน ะ เนอื้ หาสาระ ติ ม กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ การวดั ผลและประเมินผล บนั ทกึ ผลหลงั สอน ข้ อ เ ส น อ เ พิ่ ม เ ควำมสอดคลอ้ งขององค์ประกอบ ทุกองค์ประกอบมีความสอดคลอ้ งกนั มี บ า ง อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ที่ ส อ ด ค ล้ อ ง กั น ได้แก่ มี บ า ง อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ท่ี ไ ม่ ส อ ด ค ล้ อ ง กั น ไดแ้ ก่ ข้ อ เ ส น อ แ น ะ เ พิ่ ม เ ติ ม เร่ืองที่สังเกต บนั ทึกผลกำรสงั เกตกำรสอน มวี ิธกี ระตุ้นใหผ้ เู้ รยี นสนใจบทเรียน 2. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 2.1 ขั้นนา
51 เน้นความตอ้ งการของผเู้ รียน มีกิจกรรมขั้นนาเชอ่ื มโยงสกู่ ิจกรรมทจ่ี ะเรียนรู้ ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม 2.2 ข้ันดาเนินกิจกรรมการ ผู้เรียนเรียนรดู้ ้วยกจิ กรรมท่ีหลากหลาย เรยี นรู้ กระตุ้นให้ผ้เู รียนสร้างความร้ดู ว้ ยตนเอง ผู้เรยี นได้ลงมือปฏิบตั จิ รงิ สือ่ /อุปกรณ์เพยี งพอ เหมาะสม ผู้เรียนมีคณุ ธรรม 5 ประการของนักธรุ กิจนอ้ ย นาเสนอผลงานที่เปน็ ผลติ ผลจากการเรยี นรู้ ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม 2.3 ขน้ั สรปุ สรุปองค์ความรูจ้ ากกจิ กรรมเรียนรู้ มีแนวทางในการเรียนรสู้ ู่การเชอื่ มโยงความร้ใู หม่ ชื่ อ ลงชอ่ื .........................................ผสู้ งั เกตการสอน นา อาเภอ (.........................................) วั น ประชุม ฉบบั ที่ 3 แบบบันทกึ กำรประชุมชแี้ จง ศู น ย์ แ ก น จงั หวดั เ ดื อ น ปี ที่
คาชี้แจง 1. แบบบนั ทกึ นแี้ บ่งเป็น 3 ตอน คอื 52 1) บนั ทึกกอ่ นประชุม 2) บันทึกระหวา่ งประชุม 3) บนั ทกึ หลังประชุม (สรปุ ผลรวม) ) 2. บนั ทึกผลการประชุมชีแ้ จงให้ครบถว้ นสมบรู ณ์ตามความเปน็ จริง ) ) 1. บนั ทึกก่อนประชุมชี้แจง 1.1 แนะนาคณะกรรมการนิเทศ ประกอบดว้ ย 1 2 3 1.2 มอบหมายงานให้กรรมการนิเทศ ฯลฯ 1) นิเทศเร่ือง ผู้ ผู้ นเิ ทศ ผู้ 2) นิเทศเรื่อง ฯลฯ นิเทศ 3) นิเทศเร่ือง นิเทศ 2. บันทึกระหว่างประชุม 1) เรอื่ ง สรปุ ผล 2) เรอ่ื ง สรปุ ผล 3) เรื่อง สรปุ ผล
53 ฯลฯ 3. บนั ทึกหลงั ประชุม (สรุปผลรวมของข้อ 2 ทุกเรื่อง) ลงชื่อ.............................................ผูบ้ นั ทกึ (..............................................) ฉบบั ที่ 4 แบบบันทกึ กำรให้คำแนะนำ ชื่ อ ศู น ย์ แ ก น นา โรงเรยี น ชื่ อ ส า นั ก ง า น เ ข ต พ้ื น ท่ี การศึกษา อาเภอ จังหวดั วันเดอื นปที ่ีนิเทศ ช่ื อ ผู้ รั บ คาแนะนา คาชแ้ี จง ผูน้ ิเทศบนั ทกึ ข้อมูลการให้คาแนะนาใหส้ มบูรณค์ รบถ้วน เร่ืองทแี่ นะนำ 1) 2)
54 3) 4) 5) ลงชอ่ื .............................................ผใู้ หค้ าแนะนา (..............................................)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121