บทที่1-2

2 หนว่ ยที่ 1 หลักการของระบบคอมพวิ เตอร์ Computer System แผนผงั ความคดิ (Mind Mapping)

3 บรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การเลอื กประเภท การใช้คอมพิวเตอร์ การใชค้ อมพิวเตอร์เพ่อื คอมพิวเตอร์ให้ ไดอ้ ย่างถูกประเภท การสือ่ สารและการ เหมาะสมกับงาน อย่าง ปลอดภัยและเกิด คน้ ควา้ ข้อมลู ตา่ ง ๆ รคู้ ุณค่า และคำนึงถงึ ประโยชน์สูงสดุ ความประหยดั มีภมู ิคมุ้ กนั มีเหตผุ ล พอประมาณ หลักการของ ระบบ คอมพิวเตอร์ ความรู้ คุณธรรม 1. ความหมายของระบบ 1. ความประหยัด คอมพิวเตอร์ 2. ความรอบคอบ 3. ความมีวินัยในตนเอง 2. องคป์ ระกอบของระบบ 4. ความตั้งใจเรยี น คอมพวิ เตอร์ 5. ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ 3. ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4. หลักการทำงานของ คอมพิวเตอร์ 5. คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ 6. การนำคอมพิวเตอรไ์ ปใชง้ าน

4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยที่ 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ คำช้แี จง 1. แบบทดสอบท้ังหมดมี 15 ขอ้ คิดเปน็ คะแนน 15 คะแนน 2. ให้นักเรียนเลอื กคำตอบทถ่ี กู ทีส่ ดุ เพียงคำตอบเดยี วแลว้ ทำเครอื่ งหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคำตอบ 3. แบบทดสอบมี 4 ตัวเลือก คอื ก, ข, ค, และ ง 4. ใชเ้ วลาในการทำแบบทดสอบ 15 นาที 1. องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง ก. ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม และบคุ ลากร ข. ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม บุคลากร และข้อมูล ค. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม บุคลากร และโปรแกรมเมอร์ ง. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม บุคลากร และกระบวนการทำงาน 2. หน่วยประมวลผลกลาง หรือซพี ยี ู จัดอยู่ในสว่ นใดของระบบคอมพิวเตอร์ ก. ฮาร์ดแวร์ ข. โปรแกรม ค. อปุ กรณ์ต่อพว่ ง ง. อปุ กรณจ์ ัดเก็บขอ้ มูลสำรอง 3. ขอ้ ใดอธบิ ายความหมายของ ระบบคอมพวิ เตอร์ ได้ถูกต้องทีส่ ุด ก. อปุ กรณค์ อมพิวเตอรท์ ม่ี องเหน็ และจับต้องสัมผัสได้ทั้งหมด ข. อุปกรณอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ท่มี คี วามสามารถในการประมวลผลแบบอัตโนมัติ ค. ข้นั ตอนการปฏบิ ัติงานท่ีมีการกำหนดอย่างชัดเจนในรูปของเอกสาร สือ่ อิเลก็ ทรอนิกส์ หรือโดย วธิ ีการอื่น ๆ ให้ชดุ อุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลขอ้ มลู โดยอัตโนมัติ ง. ชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ ที่เช่ือมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำส่ัง และแนวทางปฏิบัตงิ านใหช้ ุดอปุ กรณ์ทำหน้าทปี่ ระมวลผลขอ้ มูลโดยอัตโนมัติ

5 4. ฮาร์ดแวรใ์ นขอ้ ใด ทำหน้าทเี่ ปน็ จุดศนู ยก์ ลางในการเชือ่ มต่อฮาร์ดแวร์อื่น ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ก. กลอ่ งหรอื เคส ข. แผงวงจรหลกั ค. หน่วยจ่ายกำลงั ไฟฟา้ ง. หนว่ ยประมวลผลกลาง 5. Windows 10 จัดเป็นโปรแกรมประเภทใด ก. โปรแกรมประยกุ ต์ ข. โปรแกรมขับอปุ กรณ์ ค. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ง. โปรแกรมระบบปฏบิ ตั กิ าร 6. โปรแกรมควบคุมการทำงานของเครือ่ งพมิ พ์ เป็นโปรแกรมประเภทใด ก. โปรแกรมประยุกต์ ข. โปรแกรมขบั อุปกรณ์ ค. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ง. โปรแกรมระบบปฏบิ ตั กิ าร 7. โปรแกรมประเภทใด ทมี่ รี ะยะเวลาในการใช้งานท่ีจำกดั ก. ฟรีแวร์ ข. แชร์แวร์ ค. โอเพนซอร์ส ง. คอมเมอรเ์ ชียลแวร์ 8. Windows 10 มีหนา้ ทีส่ ำคัญอย่างไร ก. เกบ็ ข้อมูลสำรองของระบบคอมพิวเตอร์ ข. แสดงผลขอ้ มูลที่ผา่ นการประมวลผลแลว้ ค. ประมวลผลข้อมูลทีไ่ ด้จากขั้นตอนการนำเขา้ ข้อมูล ง. เปน็ ตัวกลางในการใหผ้ ู้ใช้สามารถตดิ ต่อกับคอมพวิ เตอร์ได้

6 9. สมปองมีหน้าท่ีป้อนข้อมูลประจำวันเข้าสู่ระบบ และปฏิบัติงานตามขั้นตอนในคู่มือทำงาน เพื่อให้ ระบบพมิ พ์รายงานผลการดำเนนิ งานแก่ผูจ้ ดั การ “สมปอง” เปน็ บคุ ลากรด้านใดของคอมพิวเตอร์ ก. ผูใ้ ช้ ข. นกั วเิ คราะห์ระบบ ค. ผดู้ แู ลระบบเครือข่าย ง. ชา่ งเทคนคิ คอมพวิ เตอร์ 10. เมือ่ มีการนำระบบ Input, Processing, Output และ Storage เขา้ ด้วยกนั เรยี กว่าอะไร ก. ระบบปฏบิ ัตกิ าร ข. ระบบคอมพวิ เตอร์ ค. วงจรการประมวลผลขอ้ มูล ง. วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ 11. คอมพิวเตอรป์ ระเภทใดมปี ระสิทธภิ าพสูงทส่ี ุด ก. มินคิ อมพวิ เตอร์ ข. ซูเปอรค์ อมพิวเตอร์ ค. โน๊ตบคุ๊ คอมพวิ เตอร์ ง. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ 12. คอมพิวเตอร์ประเภทใดจดั อยู่ในประเภทคอมพิวเตอร์ส่วนบคุ คล ก. มินคิ อมพิวเตอร์ ข. ซเู ปอร์คอมพิวเตอร์ ค. โน๊ตบคุ๊ คอมพวิ เตอร์ ง. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ 13. หน่วยความจตุ ามขอ้ ใด มีขนาดความจมุ ากทส่ี ดุ ก. กิโลไบต์ (Kilobyte : KB) ข. กิกะไบต์ (Gigabyte : GB) ค. เทราไบต์ (Terabyte : TB) ง. เมกกะไบต์ (Megabyte : MB)

7 14. ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช่ คณุ สมบัติของคอมพิวเตอร์ ก. มีความเรว็ สูง ข. มคี วามแม่นยำ ค. มีความนา่ เชื่อถือ ง. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 15. เครอื่ งคอมพิวเตอรช์ นดิ ใดทีใ่ ชใ้ นการวิเคราะหส์ ภาพภูมิอากาศ ก. มนิ คิ อมพวิ เตอร์ ข. ซเู ปอรค์ อมพิวเตอร์ ค. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ง. และไมโครคอมพิวเตอร์

8 หน่วยท่ี 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System) ======================================================= สาระสำคญั คอมพิวเตอร์มีเทคโนโลยีและการทำงานคือ การรับข้อมูลทางหน่วยนำเข้าข้อมูล ซ่ึงข้อมูล หรือคำสั่งต่าง ๆ ที่นำเข้ามาจะจัดเก็บไว้ท่ีหน่วยจัดเก็บข้อมูล จากน้ันข้อมูลหรือคำสั่งถูกนำไปทำการ ประมวลผลโดยหน่วยประมวลผลกลาง แล้วนำผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลผลมาเก็บไว้ในหน่วย จดั เก็บข้อมูลอีกคร้ัง พร้อมท้ังแสดงผลลัพธ์ออกทางหน่วยแสดงผลข้อมูล ดังน้ันการทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์จงึ ประกอบด้วย 4 ส่วนดว้ ยกนั ได้แก่ หน่วยนำเข้าขอ้ มูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วย จัดเก็บขอ้ มลู และหน่วยแสดงผลข้อมูล สาระการเรียนรู้ 1. ระบบคอมพิวเตอร์ 2. องคป์ ระกอบของระบบคอมพิวเตอร์ 3. ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4. หลักการทำงานของคอมพวิ เตอร์ 5. คุณลกั ษณะของคอมพิวเตอร์ 6. การนำคอมพวิ เตอร์ไปใชง้ าน

9 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. บอกความหมายของระบบคอมพวิ เตอร์ได้ 2. บอกองคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ได้ 3. บอกประเภทของคอมพวิ เตอร์ได้ 4. อธิบายหลกั การทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ 5. บอกคุณลกั ษณะของคอมพิวเตอร์ได้ 6. บอกการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้งานได้ 7. มีเจตคติท่ีดีในการปฏิบัติงานด้วยตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ความร่วมมือในการทำงาน ความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ และการพง่ึ ตนเอง 1. ความหมายของระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ (Computer) มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 หมายถึง เครื่องอเิ ล็กทรอนิกส์แบบอตั โนมตั ิ ทำหนา้ ที่เสมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ท้ังที่ ง่ายและซับซ้อน โดยวธิ ที างคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสามารถในการประมวลผลแบบ อัตโนมัติ เม่ือรับคำส่ังหรือข้อมูลเข้ามาทางหน่วยนำเข้าข้อมูล ทำการประมวลผลข้อมูลจนได้ผลลัพธ์ หรือสารสนเทศตามที่ต้องการและแสดงผลลัพธ์ออกมาทางหน่วยแสดงผลข้อมูล อีกทั้งยังสามารถ จัดเก็บข้อมูลหรือสารสนเทศเหล่าน้ันลงในส่ือจัดเก็บขอ้ มูล เช่น ฮาร์ดดิสก์ หนว่ ยความจำแบบแฟลช เป็นตน้ เพอ่ื นำมาใช้เมอื่ ต้องการในภายหลังได้ ระบบ (System) หมายถึง ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงานท่ีมีการกำหนดอย่างชัดเจนอาจจะอยูใ่ นรูป ของเอกสาร ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ หรือโดยวิธีการอื่น ๆ เพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ตามท่ีต้องการ มีองค์ประกอบ คอื ปัจจยั นำเขา้ กระบวนการ ผลผลติ และข้อมูลป้อนกลบั ซึง่ มคี วามสัมพันธ์เชือ่ มโยงกนั ดังนั้น ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System) หมายถึง ชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันและสามารถทำงานร่วมกันได้ โดยมีการกำหนดชุดคำส่ังหรือโปรแกรมควบคุม เพื่อให้ชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ทำหน้าท่ีประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติจนกระทั่งได้ผลลัพธ์ตาม ท่ีต้องการโดยมีขัน้ ตอนคือ นำเขา้ ขอ้ มูล ประมวลผลข้อมูล แสดงผลลัพธ์ข้อมลู และจดั เกบ็ ขอ้ มลู

10 2. องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องทำงานเป็นระบบ ดังน้ัน ส่วนประกอบแต่ละ องค์ประกอบจะต้องทำงานสัมพันธ์กันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย องค์ประกอบสำคญั 4 ส่วน ไดแ้ ก่ ฮารด์ แวร์ โปรแกรม บุคลากร และข้อมูล ดงั ภาพที่ 1.1 ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม ข้อมูล บคุ ลากร ภาพที่ 1.1 : ระบบคอมพิวเตอร์ 2.1 ฮารด์ แวร์ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) หมายถึง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ท่ีมองเห็นและจับต้องสัมผัสได้ ประกอบด้วย แผงวงจรหลัก หน่วยประมวลผลกลาง แรม หน่วยจ่ายกำลังไฟฟ้า ฮาร์ดดิสก์ กล่องหรือ เคส เคร่ืองขับดิสก์ซีดี/ดีวีดี และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ แป้นพิมพ์ เมาส์ จอภาพ เคร่ืองพิมพ์ ลำโพง ซ่ึงฮาร์ดแวร์จะไม่สามารถทำงานด้วยตัวเองได้ จะต้องนำฮาร์ดแวร์ติดตั้งเช่ือมต่อ เขา้ ด้วยกันโดยมีแผงวงจรหลกั เปน็ จุดศนู ยก์ ลางให้ฮาร์ดแวร์ทำงานรว่ มกนั เรียกว่า ระบบคอมพิวเตอร์ โดยมโี ปรแกรมระบบปฏบิ ตั กิ ารควบคมุ และจดั การทรัพยากรต่าง ๆ แบง่ การทำงานเปน็ 4 หนว่ ยดงั นี้ 2.1.1 หนว่ ยนำเขา้ ข้อมลู หน่วยนำเข้าข้อมูล (Input Unit) ทำหน้าท่ีในการนำเข้าข้อมูลหรือคำสั่งเข้าสู่ คอมพวิ เตอร์ ผา่ นทางอปุ กรณน์ ำเขา้ ขอ้ มูล เชน่ แปน้ พิมพ์ เมาส์ ไมโครโฟน เคร่ืองกราดภาพ เปน็ ต้น

11 2.1.2 หน่วยประมวลผลกลางหรอื ซีพียู หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู (CPU ย่อมาจาก Central Processing Unit) หมายถงึ หน่วยประมวลผลกลางทำหนา้ ทปี่ ระมวลผลข้อมลู ตามคำส่ังที่บรรจอุ ยู่ภายใน ในลักษณะของ การคำนวณและเปรียบเทียบ โดยรับข้อมูลจากหน่วยนำเข้าข้อมูลแล้วทำการประมวลผล จัดเก็บ ขอ้ มลู ไวท้ ่ีหนว่ ยจัดเก็บขอ้ มลู และสง่ ผลลพั ธ์ทไ่ี ด้จากการประมวลออกส่หู นว่ ยแสดงผลขอ้ มลู 2.1.3 หนว่ ยจัดเก็บขอ้ มูล หนว่ ยจัดเก็บขอ้ มูล (Storage Unit) แบ่งได้ 2 ประเภท คอื 1) อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหลักหรือหน่วยความจำหลัก (Primary Storage or Main Memory) ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลหรือคำสั่งที่ได้รับมาจากอุปกรณ์นำเข้าข้อมูล เพ่ือจัดเตรียม ส่งให้กบั หนว่ ยประมวลผลกลางเพ่ือทำการประมวลผล และรับผลลพั ธ์จากการประมวลผลเพื่อสง่ ออก ไปยังอปุ กรณแ์ สดงผล อาจแยกไดเ้ ป็น 2 ชนดิ คอื 1.1) แรมหรือหน่วยความจำเข้าถึงแบบสุ่ม (RAM : Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำท่ีจัดเก็บและอ่านข้อมูลได้ในขณะเปิดใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เม่ือปิด เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ข้อมลู ในแรมจะหายไป เน่อื งจากแรมต้องการกำลังไฟฟ้าไปเลีย้ งอย่ตู ลอดเวลา 1.2) รอมหรือหน่วยความจำแบบอ่านได้อย่างเดียว (ROM : Read Only Memory) เช่น ซีมอสจัดเกบ็ โปรแกรมฝังไวใ้ ชต้ อนเร่ิมเปิดเครื่องคอมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น 2) อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage Devices) ทำหน้าที่ จัดเก็บข้อมูลหรอื โปรแกรมที่จะป้อนเขา้ ส่หู น่วยความจำหลกั ภายในคอมพิวเตอร์ ก่อนจะนำไปทำการ ประมวลผลและเก็บผลลัพธ์จากการประมวลผล จัดเก็บข้อมูล แฟ้มภาพ แฟ้มเพลง แฟ้มงานท่ีถูก สร้างและบันทึกด้วยโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งแฟ้มเหล่านั้นจะจัดเก็บอยู่ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์จัดเก็บขอ้ มลู สำรอง เชน่ ฮารด์ ดิสก์ แฟลชไดร์ฟ แผน่ ซีดี/ดีวดี ี เมมโมร่ีการ์ด เป็นตน้ 2.1.4 หนว่ ยแสดงผล หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทำหน้าท่ีในการแสดงผลลัพธ์ท่ีได้จากการ ประมวลผล ซง่ึ ผู้ใช้สามารถดูผลลัพธ์ ที่เกดิ ข้นึ ได้ เชน่ จอภาพ เคร่อื งพิมพ์ ลำโพง เป็นต้น

12 2.2 โปรแกรม โปรแกรม (Program) หรือซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง ชุดคำสั่งที่เขียนหรือพัฒนา เพื่อควบคุมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ให้ทำงานร่วมกันได้ และหรือเพื่อใช้งานด้านใดด้านหน่ึงโดยเฉพาะ ตามทผี่ ูใ้ ช้ต้องการ มีรายละเอียดดังน้ี 2.2.1 ลิขสทิ ธ์ิโปรแกรม ลิขสิทธิ์โปรแกรม (Program Copyright) หมายถึงลิขสิทธ์ิท่ีอนุญาตให้ใช้งาน โปรแกรมได้ถูกต้องตามกฎหมาย ดงั น้ี 1) โปรแกรมเชงิ พาณชิ ยห์ รือคอมเมอรเ์ ชียลแวร์ (Commercial Ware) โปรแกรมเชิงพาณชิ ยห์ รือคอมเมอร์เชียลแวร์หรอื ไลเซนสโ์ ปรแกรม (License Program) คือ โปรแกรมที่เขียนและพัฒนาเพ่ือจำหน่ายหรือสงวนไว้เพื่อจุดประสงค์เชิงพาณิชย์ มที ้ัง โปรแกรมระบบปฏิบัติการ โปรแกรมประยุกต์ โปรแกรมอรรถประโยชน์ เช่น ไมโครซอร์ฟ วินโดว์ (Microsoft Windows) แม็ค โอเอสเอ็กซ์ (Mac OS X) ชุดโปรแกรมตระกูลอะโดบ้ี ซีเอส (Adobe CS) ชุดโปรแกรมตระกลู ไมโครซอร์ฟ ออฟฟิส (Microsoft Office) เปน็ ต้น ลักษณะของโปรแกรมเชิงพาณิชย์ ไดแ้ ก่ (1) เปน็ โปรแกรมที่มีลขิ สทิ ธิ์ (2) ผู้ใช้สามารถซื้อโปรแกรมได้จากผแู้ ทนจำหน่าย ผูผ้ ลิตและรา้ นคา้ จำหนา่ ย (3) ผู้ซื้อได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อให้ใช้เท่าน้ันไม่ได้มอบลิขสิทธ์ิ ใหแ้ กผ่ ู้ซอื้ ซ่ึงผูซ้ ้ือจะไดร้ บั สญั ญาอนุญาตระบเุ งือ่ นไขการใช้ต่าง ๆ เมอ่ื ผู้ซ้ือได้ชำระคา่ โปรแกรม (4) ผู้ใช้จะต้องอ่านข้อสัญญาอนุญาตให้เข้าใจด้วยความระมัดระวัง เน่ืองจาก โปรแกรมเชิงพาณชิ ย์ เจา้ ของลขิ สทิ ธหิ์ รือผผู้ ลติ จะมขี อ้ สงวนสทิ ธม์ิ ากกว่าโปรแกรมประเภทอื่น ๆ (5) ผใู้ ชไ้ มส่ ามารถทำซ้ำโปรแกรม ยกเวน้ การทำสำเนาเพื่อเกบ็ ไวใ้ ชป้ ระโยชน์ ในการบำรุงรักษาหรือป้องกันการสูญหาย (Backup Copy) และจะใช้สำเนาที่สำรองไว้เฉพาะกรณีท่ี โปรแกรมต้นฉบบั สูญหาย หรือเสยี หายจนไม่สามารถใช้งานได้เทา่ น้ัน (6) ไม่สามารถดัดแปลงหรือแก้ไขต่อยอด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ ลขิ สทิ ธิ์ (7) ไม่สามารถศึกษาหรือทำวิศวกรรมย้อนกลับได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าของลิขสทิ ธิ์

13 2) โปรแกรมฟรหี รือฟรีแวร์ (Freeware) ฟรีแวร์ หมายถงึ โปรแกรมที่สรา้ งขึ้นและสามารถนำไปใชไ้ ด้ในทกุ จุดประสงค์ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น ราคาขายหรือค่าลิขสิทธิ์ เป็นต้น อนุญาตให้กลุ่มผู้พัฒนามีส่วนร่วมใน การสร้างโปรแกรมแต่จะไม่เผยแพร่รหัสต้นฉบับสู่สาธารณชนเพื่อรักษาความลับทางการค้า เช่น ระบบปฏิบัติการอูบุนตู (Ubuntu LTS) โปรแกรมรีโวอันอินสตอลเลอร์ (Revo Uninstaller) มีเดีย เพลเยอรค์ ลาสสิก (Media Player Classic) ฟอ็ กอิท รีดเดอร์ (Foxit Reader) เปน็ ต้น คุณลกั ษณะของโปรแกรมฟรี ไดแ้ ก่ (1) เป็นโปรแกรมที่มีลิขสิทธ์ิ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ ท่ีกำหนดไว้โดยเจ้าของ ลขิ สิทธิ์ (2) ผู้ใช้สามารถคน้ หาโปรแกรมฟรีได้จากการดาวน์โหลดทางอินเทอรเ์ น็ต (3) สามารถทำซ้ำโปรแกรมเพื่อป้องกันการสูญหายและสามารถจำหน่ายหรือ จา่ ยแจก แต่จะตอ้ งไมม่ วี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือแสวงหากำไร 3) โปรแกรมเสรี (Free Program) โปรแกรมเสรีหรอื โปรแกรมโอเพนซอร์ส (Open-source Program) หมายถึง โปรแกรมท่สี ามารถนำไปใช้ แก้ไข ดดั แปลง พัฒนา และแจกจา่ ยไดโ้ ดยเสรี โดยไม่ต้องจ่ายคา่ ลิขสทิ ธ์ิ โปรแกรมโอเพนซอร์สถือว่าเป็นโปรแกรมท่ีเปิดเผยหลักการหรือเหล่งท่ีมาของเทคโนโลยีของ โปรแกรมน้ันให้บุคคลภายนอกได้ใช้ เปิดโอกาสให้ผใู้ ช้ทำการแก้ไข ดดั แปลง และเผยแพร่รหัสท่ีใช้ใน การสร้างโปรแกรม เช่น ระบบปฏิบัติการลินกุ ส์ ตระกูลโอเพ่นออฟฟิส (OpenOffice.org) ไฟร์ฟ๊อกซ์ (Firefox) พีเอชพี (PHP) เป็นตน้ คณุ ลกั ษณะของโปรแกรมเสรี ไดแ้ ก่ (1) เป็นโปรแกรมท่มี ลี ขิ สิทธ์แิ ละมีเงื่อนไขท่ีกำหนดไวโ้ ดยเจ้าของลิขสทิ ธ์ิ (2) ผ้ใู ชส้ ามารถค้นหาโปรแกรมฟรไี ดจ้ ากการดาวนโ์ หลดทางอินเทอร์เน็ต (3) สามารถทำซ้ำโปรแกรมเพื่อป้องกันการสูญหายและสามารถจ่ายแจก แต่ จะต้องไมม่ ีวัตถุประสงคเ์ พอื่ แสวงหากำไร (4) สามารถดัดแปลงโปรแกรมได้ โดยไมต่ ้องขออนญุ าตจากเจ้าของลิขสทิ ธิ์ (5) สามารถศึกษาและทำวิศวกรรมย้อนกลับโปรแกรมได้ โดยไม่ต้องขอ อนญุ าตจากเจ้าของลิขสทิ ธิ์

14 (6) สามารถพฒั นาต่อยอดโปรแกรมโดยไม่ตอ้ งขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งผู้พัฒนาต่อยอดจะต้องยินยอมให้โปรแกรมท่ีพัฒนาต่อยอดน้ันเป็นโปรแกรมฟรีแบบใช้ได้เสรี เช่นกัน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ กล่าวคือ ไม่สามารถกล่าวอ้างสิทธิในลักษณะของ โปรแกรมเชิงพาณิชยไ์ ด้ 4) โปรแกรมแชรแ์ วร์ (Shareware) โปรแกรมแชร์แวร์ หมายถึง โปรแกรมท่ีสามารถใช้ได้ทุกจุดประสงค์เหมือน โปรแกรมฟรี แต่แชร์แวร์อาจมีระยะเวลาทดลองใช้และต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพ่ิมเพ่ือต่ออายุ หรือเปิด ฟงั ก์ชันการใชง้ านท่สี มบรู ณ์ 2.2.2 ประเภทการใช้งาน 1) โปรแกรมระบบ (System Program) โปรแกรมระบบทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการทำให้โปรแกรมประยุกต์สามารถ ติดต่อกับฮาร์ดแวรข์ องคอมพวิ เตอร์และเตรยี มสว่ นตดิ ตอ่ ใช้งานกับบุคลากรทางคอมพวิ เตอร์ดงั ภาพท่ี 1.2 จัดสรรทรพั ยากรของคอมพวิ เตอร์และจดั การการทำงานของโปรแกรมประยุกต์ตา่ ง ๆ ดังนี้ บคุ ลากรทางคอมพิวเตอร์ (People Ware) โปรแกรมประยุกต์ (Application Program) โปรแกรมระบบ (System Program) ฮารด์ แวร์ (Hardware) (โปรแกรมระบบปฏิบตั กิ าร โปรแกรมอรรถประโยชน์ โปรแกรมขบั อุปกรณ์) (โปรแกรมจดั การสำนักงาน ดหู นงั ฟังเพลง เบราวเ์ ซอร์อนิ เตอรเ์ น็ต) (ผ้ใู ช้ ช่างเทคนิค นักวเิ คราะหร์ ะบบ นกั เขียนโปรแกรม)

15 ภาพท่ี 1.2 : โปรแกรมระบบ 1.1) โปรแกรมระบบปฏิบัติการหรือโอเอส (OS ย่อมาจาก Operating System) หมายถึง โปรแกรมท่ีทำหน้าที่จัดการ ควบคุมการทำงานร่วมกันของฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ ทำงานร่วมกับโปรแกรมประยุกต์และจัดเตรียมส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ โปรแกรม ระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้ในปัจจุบันดังภาพท่ี 1.3 เช่น Windows 8.1 (วินโดว์ 8.1) Windows 10 (วนิ โดว์ 10) Unix (ยูนกิ ส์) Linux (ลินุกส์) Mac OS (แม๊ค โอเอส) เป็นตน้ ภาพท่ี 1.3 : โปรแกรมระบบปฏบิ ัตกิ ารหรือโอเอส ทมี่ า : https://i1.wp.com/help.x-cart.com/images/1/1d/OS_logos.png 1.2) โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program) ทำหน้าท่ีจัดการทรัพยากร ของคอมพิวเตอร์ (Resource) หรือเพ่ิมประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ เรว็ ขึ้น ดังภาพที่ 1.4 เช่น โปรแกรมลบแฟ้มขยะ โปรแกรมจดั เรียงข้อมูลบนฮาร์ดดสิ ก์ใหม่ โปรแกรม ปอ้ งกันข้อมลู โปรแกรมป้องกันไวรสั และภัยคกุ คาม โปรแกรมจัดการฮารด์ ดิสก์ เป็นตน้

16 ภาพท่ี 1.4 : โปรแกรมอรรถประโยชน์ ทม่ี า : http://nanat1997.weebly.com/uploads/6/0/0/4/60046191/4987163_orig.png 1.3) โปรแกรมขับอุปกรณ์ (Device Driver) เป็นโปรแกรมที่มีหน้าที่ควบคุม การทำงานของฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ให้ทำงานสอดคล้องกัน เช่น โปรแกรมควบคุมการทำงานของ ฮารด์ ดสิ ก์ การด์ จอ เมาส์ เครอื่ งพมิ พ์ เป็นตน้ 2) โปรแกรมประยุกต์ (Application Program) โปรแกรมประยกุ ต์เป็นโปรแกรมที่เขยี นหรือพฒั นาขนึ้ เพอ่ื ใช้งานเฉพาะดา้ นใด ดา้ นหน่ึง ตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น ไมโครซอร์ฟ ออฟฟิส (Microsoft Office) ใชส้ ำหรับจัดการ งานในสำนักงาน ด้านการจัดทำเอกสาร การคำนวณ การนำเสนอ การจัดการฐานข้อมูล การสร้าง ใบปลิวโฆษณา ดังภาพที่ 1.5 หรือโปรแกรมท่ีใช้สำรวจและค้นหาข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ตหรือ เน็ตบราวส์เซอร์ ไดแ้ ก่ Microsoft Internet Explorer, Google Chrome, Mozilla Firefox เป็นต้น ภาพที่ 1.5 : โปรแกรมไมโครซอร์ฟ ออฟฟิส ทมี่ า : https://fhphisuttida.files.wordpress.com/2014/09/ms-office-2010.jpg 2.3 บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์ บุคลากรทางคอมพิวเตอร์ (People Ware) หมายถึง บุคลากรท่ีทำหน้าท่ีควบคุมสั่งการ ให้คอมพวิ เตอร์ทำงานตามทีต่ อ้ งการเพื่อใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ของงาน ดงั น้ี

17 2.3.1 ผ้ใู ช้ ผู้ใช้ (User) คือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ระดับพื้นฐานท่ีมีลักษณะการใช้งานท่ัวไป เชน่ งานดา้ นธุรการ งานดา้ นสำนักงาน งานดา้ นป้อนขอ้ มลู งานดา้ นบริการลกู คา้ เป็นตน้ 2.3.2 ช่างเทคนิคคอมพวิ เตอร์ ช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ (Computer Technician) มีหน้าที่ดูแลและแก้ไขปัญหา เกี่ยวกับคอมพวิ เตอรท์ ้ังดา้ นฮาร์ดแวร์และด้านโปรแกรม เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถใช้งานไดต้ ามปกติ ดังภาพที่ 1.6 (หมายเลข 1) โดยจะต้องมีทกั ษะ ความชำนาญ และประสบการณใ์ นการแกป้ ญั หา 2.3.3 นกั วิเคราะห์ระบบ นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) มีหน้าท่ีวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ และผู้บริหาร ออกแบบการทำงานของโปรแกรมให้ผใู้ ช้คอมพิวเตอรใ์ ช้งานโปรแกรมไดง้ ่ายและสะดวก 2.3.4 นกั เขยี นโปรแกรม นักเขียนโปรแกรม (Programmer) มีหน้าท่ีเขียนโปรแกรมซ่ึงนักวิเคราะห์ระบบ ไดอ้ อกแบบไว้ เพ่ือสร้างระบบงานนน้ั ออกมาให้ใชง้ านได้จริง ๆ 2.3.5 ผู้ดแู ลระบบเครือข่าย ผู้ดูแลระบบเครือข่าย (Network Administrator) มีหน้าท่ีดูแล บริหารระบบ เครือข่ายและแก้ไขปัญหาดังภาพท่ี 1.6 (หมายเลข 2) เช่น ติดต้ังระบบเครือข่าย แก้ไขปัญหาระบบ เครอื ข่าย และป้องกันการบกุ รกุ ระบบเครอื ข่าย เป็นต้น 2.3.6 ผู้ดูแลเวบ็ ผู้ดูแลเว็บ (Web Master) มีหน้าที่ในการออกแบบ ให้คำปรึกษา สร้าง ดูแล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีความสะดวกในการใช้บริการอินเทอร์เน็ต เช่น สรา้ งเว็บไซต์ใหล้ ูกคา้ เย่ียมชมและส่งั ซื้อสินค้า สร้างบรกิ ารเวบ็ บอร์ด เปน็ ตน้

18 หมายเลข 1) (หมายเลข 2) ภาพที่ 1.6 : บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์ ทมี่ า : https://www.enterpriseitpro.net/wp-content/uploads/2017/06/networkadmin.jpg 2.4 ขอ้ มูล ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงท่ียังไม่ผ่านการประมวลผล เช่น รายการสั่งซ้ือสินค้าจาก ลูกค้า รายการสง่ สนิ ค้า ชอ่ื ท่ีอยลู่ กู คา้ ยอดขายในแต่ละวนั ความสูงของบคุ คล เปน็ ต้น ขอ้ มูลจะถูกจัดเก็บไวใ้ นรูปแบบของแฟ้ม (File) ข้อมูลอาจเป็นได้หลายชนดิ เช่น ตัวเลข ตัวอักษร รปู ภาพ รูปถ่าย เปน็ ต้น ซ่งึ ข้อมูลทผี่ า่ นการประมวลผลแล้ว เรียกวา่ สารสนเทศ 3. ประเภทของคอมพิวเตอร์ ประเภทของคอมพิวเตอร์พิจารณาจากขนาดและความสามารถในการประมวลผลข้อมูลของ คอมพิวเตอร์ แบ่งได้ 4 ประเภท ดงั นี้

19 3.1 ซเู ปอร์คอมพิวเตอร์ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer) ดงั ภาพท่ี 1.7 เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีมีขนาดใหญ่ และมีประสิทธิภาพสูงท่ีสุดในทุกประเภทของคอมพิวเตอร์ โดยที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะประกอบด้วย หนว่ ยประมวลผลกลางจำนวนมาก สามารถประมวลผลชุดคำส่ังได้หลายล้านคำสั่งต่อวินาที เหมาะกับ งานที่มีความซับซ้อนสูง เช่น งานด้านวิทยาศาสตร์ งานดา้ นวิศวกรรมศาสตร์ งานด้านพยากรณ์อากาศ และงานดา้ นวิจยั นิวเคลยี ร์ เปน็ ต้น ภาพท่ี 1.7 : ซเู ปอรค์ อมพิวเตอร์ ที่มา : http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/d3/IBM_Blue_Gene_P_supercomputer.jpg 3.2 เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) ดังภาพท่ี 1.8 เป็นคอมพิวเตอร์ที่มี ประสิทธิภาพน้อยกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ นิยมนำมาใช้ในงานภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร บริษัทประกันภัยและสายการบินนำมาใช้เพื่อประมวลผลแบบรวมศูนย์ โดยใช้เป็นเคร่ืองแม่ข่าย เพ่ือให้บริการแก่เคร่ืองลูกข่ายที่มีการเช่ือมต่อถึงกัน เป็นต้น มีความเร็วในการประมวลผลประมาณ พนั ลา้ นคำสัง่ ตอ่ วนิ าที ภาพที่ 1.8 : เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ท่มี า : http://www.trendinginsocial.com/wp-content/uploads/2015/01/ibm-zec12.jpg

20 3.3 มนิ ิคอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer) ดังภาพท่ี 1.9 เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง มี ประสทิ ธภิ าพการทำงานนอ้ ยกว่าเมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ รองรับการทำงานจากผ้ใู ช้ได้หลายคนในเวลา เดียวกัน เช่น การจองห้องพักของโรงแรม บริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์เคล่ือนที่ ตลาดหลักทรัพย์ สถานศกึ ษา เปน็ ตน้ ภาพที่ 1.9 : มนิ คิ อมพวิ เตอร์ ที่มา : http://www.trendinginsocial.com/wp-content/uploads/2015/01/ibm-zec12.jpg 3.4 ไมโครคอมพวิ เตอร์ ไมโครคอมพิวเตอร์ (Micro Computer) ดังภาพที่ 1.10 เป็นคอมพิวเตอร์ท่ีมีขนาดเล็ก และมีประสิทธิภาพน้อยท่ีสุด แต่มีการนำมาใช้งานมากท่สี ุดเนื่องจากมีขนาดเลก็ และราคาท่ีไม่สูงมาก โดยได้นำมาใช้เป็นคอมพวิ เตอร์สว่ นบคุ คลในบรษิ ัท องค์กรตา่ ง ๆ แบง่ ไดเ้ ปน็ 5 ชนิด ดังนี้ ภาพที่ 1.10 : ไมโครคอมพวิ เตอร์ ที่มา : https://cdn-images-1.medium.com/max/800/1*VfLnu3rkQCRGSF_CN0deXQ.png

21 3.4.1 คอมพิวเตอร์แบบต้งั โตะ๊ คอมพิวเตอร์แบบต้ังโต๊ะ (Desktop Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก และนำมาใช้งานเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เรียกว่า พีซี (PC ย่อมาจาก Personal Computer) หรือ เรียกว่าเคร่ืองคอมพิวเตอร์ การนำมาใช้งานเป็นคอมพิวเตอร์ที่ต้ังบนโต๊ะทำงานจึงทำให้ถูกเรียกว่า คอมพวิ เตอร์แบบตั้งโตะ๊ 3.4.2 โน้ตบ๊กุ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ (Notebook Computer) หรือแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ (Laptop Computer) เป็นคอมพิวเตอร์แบบพกพา มีคุณลักษณะท่ีดีคือ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เหมาะในการพกพาไปในทีต่ า่ ง ๆ เนื่องจากสามารถเกบ็ ไว้ในกระเปา๋ เอกสารได้ 3.4.3 คอมพวิ เตอร์แบบรวมหน่งึ คอมพิวเตอร์แบบรวมหนึ่ง หรือเรียกว่าออลอินวันพีซี (All-In-One PC) คือ คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่ไดต้ ิดต้ังอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทง้ั หมดรวมไว้ภายในตัวเครอื่ ง และติดต้ังช่องทาง ส่ือสารต่าง ๆ ไว้ด้านหลังของจอภาพ โดยสามารถใช้ทำงานต่าง ๆ และมีประสิทธิภาพเหมือนกับ คอมพิวเตอร์แบบต้ังโต๊ะท่ัวไป ข้อดี เช่น หน้าจอมีขนาดใหญ่เหมาะสมในการทำงาน ใช้พ้ืนท่ีในการ ติดต้งั นอ้ ย สามารถใชห้ นา้ จอแบบสัมผัสได้ (Touch Screen) และรปู แบบสวยงาม เป็นตน้ 3.4.4 แทป็ เล็ตพีซี แท็ปเล็ตพีซี (Tablet PC) เป็นคอมพิวเตอรส์ ่วนบุคคลทส่ี ามารถพกพาได้สะดวก และใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงาน ออกแบบให้สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองรวบรวมการทำงานทุก อย่างไว้ในจอสัมผัส โดยการใช้ปากกาสไตลัส หรือปลายน้ิว ในการเลือกหรือสั่งงานแทนการใช้ แปน้ พิมพห์ รอื เมาส์ มีอุปกรณ์ไร้สายสำหรับการเชอ่ื มตอ่ อินเทอรเ์ นต็ และระบบเครือข่าย 3.4.5 ปาล์มคอมพิวเตอร์ ปาล์มคอมพิวเตอร์ (Palm Computer) หรือคอมพิวเตอร์มือถือ (Handheld Computer) ประกอบด้วยปากกา การรู้จักจดจำลายมือ เครื่องมือสำหรับจัดการกับงานส่วนตัวและ การสอ่ื สาร ปัจจุบนั ผ้ผู ลิตได้นำเทคโนโลยีนผี้ นวกเขา้ กบั แทป็ เลต็ พซี ีซง่ึ ได้รับความนยิ มอยา่ งมาก

22 4. หลกั การทำงานของคอมพิวเตอร์ หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยการทำงานตามกระบวนการทำงาน ได้แก่ หน่วยนำเขา้ ข้อมูลจะนำเขา้ ข้อมูลสู่คอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลจะถูกจดั เก็บไว้ในหน่วยจดั เกบ็ ขอ้ มลู ที่เป็น หน่วยความจำหลักหรือหน่วยความจำสำรอง และส่งข้อมูลให้กับหน่วยประมวลผลกลางเพื่อทำการ ประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามท่ีต้องการและส่งผลลัพธ์ไป ยังหน่วยแสดงผลข้อมูลหรือหน่วย จดั เกบ็ ข้อมลู ซ่งึ มรี ายละเอยี ดการทำงานและหลักการทำงานของคอมพวิ เตอร์ ดงั ภาพท่ี 1.11 หน่วยนำเข้าขอ้ มลู หน่วยประมวลผลกลาง หนว่ ยจดั เก็บขอ้ มลู หนว่ ยความจำหลกั หนว่ ยแสดงผลข้อมลู หนว่ ยจดั เกบ็ ขอ้ มลู หน่วยความจำสำรอง ภาพท่ี 1.11 : กระบวนการทำงานของคอมพวิ เตอร์ 5. คณุ ลักษณะของคอมพิวเตอร์ คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ (Specification Of Computer) ที่จะแสดงถึงความแตกต่าง ของคอมพิวเตอร์เม่ือเปรียบเทียบกับคอมพวิ เตอร์เครื่องอื่น ๆ จะพิจารณาจากคุณลกั ษณะของ ขนาด ขอ้ มูล ความเร็วของหนว่ ยประมวลผลกลาง และความจขุ องอุปกรณจ์ ดั เก็บข้อมูล รายละเอยี ดดงั น้ี

23 5.1 ขนาดข้อมูล ขนาดข้อมูลหรือเวิร์ด (Word Size) คือหน่วยของข้อมูลจากการนำกลุ่มบิตหลาย ๆ บิต มารวมกันเป็นเวิร์ด ซึ่งหนึ่งเวิร์ดอาจมีขนาด 16 บิต 32 บิต หรือ 64 บิต ดังน้ันหากคอมพิวเตอร์มี ความสามารถในการรับส่งข้อมูลท่ีสูง เช่น ขนาดข้อมูล 64 บิต หมายถึงคอมพิวเตอร์เคร่ืองใดมีขนาด เวิร์ดเพียง 16 บิต จะต้องรับส่ง 4 รอบ คอมพิวเตอร์ 32 บิต จะรับส่งเพียง 2 รอบ หรือถ้าเป็น คอมพวิ เตอร์แบบ 64 บิต จะรบั สง่ ข้อมูลกันเพียงรอบเดยี วเทา่ นน้ั เป็นตน้ โครงสรา้ งของขอ้ มูล (Data Structure) ดงั น้ี 5.1.1 บิต บิต (bit) คือ ข้อมูลที่มีขนาดเล็กสุด เป็นข้อมูลที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและ นำไป ใช้งานได้ ไดแ้ ก่ เลขฐานสอง ซง่ึ ประกอบดว้ ยเลข 0 หรือ เลข 1 เทา่ น้นั 5.1.2 ไบต์ ไบต์ (Byte) หรือ อักขระ (Character) ได้แก่ ตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ พเิ ศษ เชน่ 0, 1, …, 9, A, B, …, Z ซง่ึ 1 ไบตเ์ ท่ากบั 8 บติ หรือ ตัวอกั ขระ 1 ตวั เปน็ ต้น 5.1.3 เขตขอ้ มลู เขตข้อมูล หรือฟิลด์ (Field) ได้แก่ ไบต์ หรือ อักขระต้ังแต่ 1 ตัวขึ้นไปรวมกัน เป็นเขตขอ้ มลู เช่น เลขประจำตวั (ID) ชือ่ พนกั งาน (Name) เป็นต้น 5.1.4 ระเบียน ระเบียนหรือเรคคอร์ด (Record) ได้แก่ เขตข้อมูลต้ังแต่ 1 ข้ึนไปที่มีความสัมพันธ์ รวมกันเป็นระเบียน เช่น ชอ่ื -สกุล เลขประจำตวั ขอ้ มูลของพนักงาน 1 คน เป็น 1 ระเบยี น เปน็ ต้น 5.1.5 แฟม้ แฟ้มหรือไฟล์ (File) ได้แก่ การรวมกันของหลาย ๆ ระเบียนท่ีเป็นเร่ืองเดียวกัน เช่น ข้อมลู ของประวัตพิ นักงานแต่ละคนรวมกันเป็น แฟม้ เก่ียวกบั ประวัตพิ นักงานของบริษัท เปน็ ตน้ 5.1.6 ฐานขอ้ มูล ฐานข้อมูล (Database) คอื การเก็บรวบรวมแฟ้มข้อมูลหลาย ๆ แฟ้มที่เกี่ยวข้อง กันมารวมเข้าด้วยกัน เชน่ แฟ้มขอ้ มลู ของแผนกตา่ ง ๆ มารวมกันเปน็ ฐานข้อมูลของบริษัท เปน็ ตน้

24 5.2 ความเร็วของหนว่ ยประมวลผลกลาง ความเร็วของหน่วยประมวลผลกลางหมายถึงความสามารถในการประมวลผลของหนว่ ย ประมวลผลกลาง มีหน่วยวัดความเร็ว ดังน้ี 5.2.1 กิกะเฮิรตซ์ กิกะเฮิรตซ์ (GHz : Gigahertz) เป็นหน่วยวัดความเร็วของคอมพิวเตอร์ โดย ความเรว็ 1 เมกกะเฮิร์ซต่อสัญญาณนาฬิกา หมายถึงจำนวนบิต (16, 32 หรือ 64) ทถี่ ูกดำเนนิ การได้ อยา่ งน้อยหน่งึ ล้านครัง้ ต่อวินาที ในปจั จุบนั ความเรว็ ของหนว่ ยประมวลผลกลางอยู่ท่ีหนึง่ พันลา้ นคร้ัง ตอ่ วนิ าที ดังภาพท่ี 1.12 เช่น Intel Core 2 QUAD มีความเร็ว 2.83 กกิ ะเฮิรตซ์ เปน็ ต้น 2.83 GHz ภาพท่ี 1.12 : ความเร็วของหน่วยประมวลผลกลาง 5.2.2 มิปส์ มิปส์ (MIPS ย่อมาจาก Million of Instructions Per Second) เป็นหน่วยวัด ความเร็วหน่วยประมวลผลกลางของมินิคอมพิวเตอร์หรือเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ซ่ึงในเวลา 1 วินาที หน่วยประมวลผลกลางจะประมวลผลได้ประมาณจำนวนหน่ึงล้านคำส่ัง 5.2.3 ฟล็อป ฟล็อป (FLOPS ย่อมาจาก Floating Point Operations Per Second) เป็น หน่วยวัดความเรว็ ของซูเปอรค์ อมพิวเตอร์ โดยไมค่ ำนึงถงึ จำนวนคำส่งั ที่ถูกประมวลผล แต่วดั จากงาน ที่ปฏิบัติการโดยซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์จะปฏบิ ัตกิ ารได้ 30-100 กิกะฟล็อป (GFLOPS : Gigaflops) โดย ที่ 1 กิกะฟล็อปจะเทา่ กับ 1 พนั ลา้ นฟล็อป

25 5.3 ความจุของอุปกรณ์จดั เกบ็ ขอ้ มูล ความจุของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage Capacity) เป็นตัวบ่งช้ีถึงสมรรถนะของ คอมพิวเตอร์ได้ เช่น ถ้าหากความจุของแรมมีขนาดความจสุ ูง จะทำให้สามารถจัดเก็บข้อมลู เพื่อใช้ใน การประมวลผลหรือรอการประมวลผลได้มาก ส่งผลให้คอมพิวเตอร์มีสมรรถนะในการทำงานท่ีเรว็ ข้ึน ดงั ภาพที่ 1.13 แรมความจุ 4 กิกะไบต์ หรือฮาร์ดดิสก์ทม่ี ีขนาดความจุสูงทำให้จดั เกบ็ ข้อมลู ต่าง ๆ ได้ จำนวนมาก ดงั ภาพท่ี 1.14 ฮาร์ดดสิ กม์ คี วามจุ 1 เทราไบต์ 4 GB ภาพท่ี 1.13 : ความจุของแรม 1 TB ภาพท่ี 1.14 : ความจุของฮารด์ ดสิ ก์ แสดงหน่วยวดั ความจขุ องอปุ กรณจ์ ดั เก็บข้อมลู ได้ดังน้ี 5.3.1 ไบต์ ไบต์ (Byte : B) ย่อมาจาก BinarY digiT Eight เป็นจำนวนของหน่วยความจำ ขนาด 8 บิต (bit) ทีใ่ ชเ้ ก็บตัวอกั ขระ 1 ตัว จะเปน็ ตัวอักษรหรือตัวเลขก็ได้

26 5.3.2 กโิ ลไบต์ กิโลไบต์ (Kilobyte : KB) เนื่องจากไบต์แทนค่าหน่วยความจำได้น้อยมาก จึงนำ หน่วยความจำมารวมเป็นกลมุ่ กิโลไบต์ โดยขนาด 1 KB มีค่าเท่ากบั 1,024 B 5.3.3 เมกกะไบต์ เมกกะไบต์ (Megabyte : MB) ขนาด 1 MB มีค่าเท่ากับ 1,024 กิโลไบต์ หรือ 1,048,576 B 5.3.4 กิกะไบต์ กิกะไบต์ (Gigabyte : GB) ขนาด 1 GB มีค่าเท่ากับ 1,024 เมกกะไบต์ หรือ 1,073,741,824 B เป็นหนว่ ยวัดความจุของอปุ กรณ์จดั เก็บข้อมลู ทีใ่ ช้กับคอมพิวเตอร์ยุคปัจจบุ นั 5.3.5 เทราไบต์ (Terabyte : TB) เทราไบต์ (Terabyte : TB) ขนาด 1 TB มีค่าเท่ากับ 1,024 กิกะไบต์ หรือ 1,099,511,627,776 B เปน็ หนว่ ยความจขุ องอุปกรณจ์ ัดเก็บข้อมลู ท่ใี ชก้ ับคอมพิวเตอร์ยุคปจั จบุ ัน 6. การนำคอมพิวเตอร์ไปใช้งาน ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำคัญต่อการประกอบอาชีพได้มีการนำไปใช้งานทางด้าน ต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง เน่ืองจากคอมพิวเตอรม์ ีอยู่หลายระดับ หลายขนาด และมีขีดความสามารถท่ี หลากหลาย โดยแมว้ ่าในปัจจุบัน เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์จะมีการพัฒนาสูงมากข้ึนแต่กลับมีราคา ทถ่ี กู ลง ดังนั้นคอมพิวเตอร์จงึ ถกู นำมาใชง้ านในทุก ๆ ด้าน องค์กรทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน หรือบุคคลต่าง ๆ ได้มีการนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ ใช้งานในหลายด้านด้วยกัน เช่น เคร่ืองมินิคอมพิวเตอร์ใช้ในด้านการแพทย์ ดังภาพท่ี 1.15 เครื่อง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใช้ในด้านการวเิ คราะห์สภาพภูมิอากาศ ด้านการวิเคราะหส์ ภาพการจราจร เคร่ือง มินิคอมพิวเตอร์ใช้ในด้านระบบควบคุมงานผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม เคร่ืองไมโครคอมพิวเตอร์ ใช้ในด้านระบบคิดเงินเดือน ระบบควบคุมบัญชี ระบบสินค้าคงคลัง ระบบด้านงานเอกสาร การวิจัย พัฒนา การศึกษา การเกษตร ความบันเทิง เป็นต้น จนนำไปสกู่ ารแชร์ข้อมลู หรอื ใช้สารสนเทศร่วมกัน ท้งั ในระดับองค์กร และชุมชนออนไลน์ (Social Network)

27 ภาพที่ 1.15 : การนำคอมพิวเตอร์ไปใชง้ านดา้ นการแพทย์ ท่ีมา : http://csmju.jowave.com/cs100_v2/lesson5-9.html คอมพิวเตอรม์ ีคณุ สมบตั ิ ดงั น้ี 1) คอมพวิ เตอร์มคี วามเรว็ สงู ในการประมวลผล 2) คอมพวิ เตอรม์ ีความแมน่ ยำสูง โดยเฉพาะงานคำนวณท่ีมีความซับซอ้ น 3) คอมพวิ เตอร์มคี วามเที่ยงตรง ทที่ ำงานซำ้ ๆ หลายรอบก็จะได้ผลลพั ธท์ ต่ี รงกันเสมอ 4) คอมพิวเตอร์มีความถูกต้อง เชื่อถือได้ โดยคอมพิวเตอร์จะทำงานได้อย่างต่อเน่ือง ไม่ต้อง มีการพักผ่อนเม่ือเทียบกับการทำงานของมนุษย์ท่ีมีโอกาสผิดพลาดสูงกว่า จากการทำงานที่ต่อเน่ือง ทำให้เหน่อื ยล้าหรือจากการทำงานหนกั ซึ่งต้องใช้เวลาพกั ผ่อน 5) คอมพิวเตอร์ที่มีอุปกรณ์จดั เก็บขอ้ มลู ขนาดความจุสูง จะสามารถจัดเก็บหรือสำรองข้อมูล ไดส้ ูง

28 สรปุ หนว่ ยท่ี 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพวิ เตอร์ คือ ฮารด์ แวร์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ตอ่ พว่ งเปน็ อุปกรณ์ที่จะต้องนำมา ประกอบเชื่อมต่อเข้าด้วยกันเพื่อให้ฮาร์ดแวร์ทำงานร่วมและสัมพันธ์กันเป็นระบบ มีท้ังท่ีติดต้ังอยู่ ภายในเคสและภายนอกเคส โดยมีการกำหนดชุดคำสั่งหรือโปรแกรมควบคุม เพ่ือให้ชุดอุปกรณ์ของ คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติจนกระทั่งได้ผลลัพธต์ ามท่ีต้องการโดย แบ่งออก ได้เป็น 4 ประเภท คือ หน่วยนำเข้าข้อมูล หน่วยประมวลผลกลาง หน่วยจัดเก็บข้อมูล และหน่วย แสดงผล ซ่ึงส่วนประกอบแต่ละองค์ประกอบจะต้องทำงานสัมพันธ์กันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบสำคญั 4 สว่ น ไดแ้ ก่ ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม บุคลากร และขอ้ มูล คอมพิวเตอร์สามารถแบ่งประเภทออกได้เป็น 4 ประเภทตามประสิทธิภาพในการนำไปใช้ งานคือ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ และไมโครคอมพิวเตอร์ โดยมี กระบวนการทำงาน ได้แก่ หน่วยนำเขา้ ขอ้ มูลจะนำเข้าข้อมูลสู่คอมพิวเตอร์ จดั เก็บไว้ในหน่วยจัดเก็บ ข้อมูล ทำการส่งข้อมูลให้กับหน่วยประมวลผลกลางเพื่อทำการประมวลผลข้อมูลและส่งผลลัพธ์ไปยัง หนว่ ยแสดงผลขอ้ มูลหรือหนว่ ยจัดเกบ็ ขอ้ มูล คุณลักษณะของคอมพิวเตอรพ์ ิจารณาจาก ขนาดข้อมลู ความเรว็ ของหน่วยประมวลผลกลาง และความจุของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล คอมพิวเตอร์มีการนำไปใช้ประโยชน์ใน องค์กร บริษัท การใช้ งานส่วนบุคคล เพราะมีความเรว็ สูง มีความแมน่ ยำสูง มีความเที่ยงตรง มีความถูกต้อง เชื่อถือได้ และ มีความจสุ ูง

29 ศัพท์เทคนิค หนว่ ยท่ี 1 หลกั การของระบบคอมพวิ เตอร์ คำศพั ท์ คำอ่าน ความหมาย Computer System คอมพิวเตอร์ ซสิ เทม็ ระบบคอมพิวเตอร์ทีป่ ระกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ โปรแกรมและอุปกรณ์ อน่ื ๆ ท่ที ำงานด้วยกนั Input Unit อนิ พุท ยูนติ หน่วยนำเขา้ ข้อมลู Central Processing Unit เซ็นทรัล โปรเซสซ่งิ ยนู ติ หนว่ ยประมวลผลกลาง Storage Unit สตอเรจ ยนู ิต หน่วยจดั เกบ็ ข้อมลู Output Unit เอาต์พทุ ยูนิต หน่วยแสดงผล Operating System โอเปอรเ์ รตตง้ิ ซิสเท็ม โปรแกรมระบบปฏบิ ตั ิการ Device Driver ดีไวซไ์ ดร์ฟเวอร์ โปรแกรมขับอุปกรณ์ People Ware พีเพลิ แวร์ บคุ ลากรทางคอมพิวเตอร์ Data ดาตา้ ข้อมูล Program or Software โปรแกรมหรือซอร์ฟแวร์ ชดุ คำสั่ง Commercial Ware คอมเมอร์เชยี ลแวร์ โปรแกรมเชิงพาณชิ ย์ Freeware ฟรีแวร์ โปรแกรมฟรี Free Program ฟรี โปรแกรม โปรแกรมเสรี Shareware แชรแ์ วร์ โปรแกรมแชรแ์ วร์ Specification สเปกซิฟิเคช่ัน คุณลักษณะ

30 ชือ่ วิชา : คอมพิวเตอรแ์ ละการบำรงุ รกั ษา หน่วยท่ี : 1 ช่อื หน่วย : หลกั การของระบบคอมพวิ เตอร์ สปั ดาหท์ ่ี : 1 ใบงานท่ี : 1.1 สอนครัง้ ท่ี : 1 ชื่องาน : สรปุ เน้ือหาเป็นแผนผงั ความคิดและนำเสนอ จำนวนช่ัวโมง : 4 1. จุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1) บอกความหมายของระบบคอมพวิ เตอร์ได้ 2) บอกองคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ได้ 3) บอกประเภทของคอมพวิ เตอร์ได้ 4) อธบิ ายหลักการทำงานของคอมพวิ เตอร์ได้ 5) บอกคุณลักษณะของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 6) บอกการนำคอมพิวเตอร์ไปใช้งานได้ 7) มีเจตคติท่ีดีในการปฏิบัติงานด้วยตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ความร่วมมือในการทำงาน ความคดิ ริเร่มิ สรา้ งสรรค์ และการพึ่งตนเอง 2. วัสดุ/อปุ กรณ์ 1) เอกสารประกอบการสอนวิชา คอมพวิ เตอร์และการบำรุงรักษา รหสั วชิ า 2204-2005 2) เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 3) เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 4) สือ่ ประกอบการสอน ไดแ้ ก่ ส่ือของจรงิ สอื่ มัลติมีเดีย 5) ระบบอนิ เตอรเ์ น็ต 6) อปุ กรณ์เช่อื มต่อเครือข่ายทอ้ งถ่นิ แบบไรส้ าย 7) กระดาษขาวเทา 8) ปากกาเมจิก 3. ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 1) แบ่งกลุ่มตามความสมคั รใจ กลุม่ ละ 4 – 5 คน คดั เลือกประธาน เลขานุการ 2) สมาชิกกลุ่มส่งตัวแทนจับฉลากเพื่อรับผิดชอบตามหวั ข้อดงั นี้ กลุม่ ท่ี 1 องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์

31 กล่มุ ที่ 2 หลกั การทำงานของคอมพิวเตอร์ กลมุ่ ท่ี 3 การจำแนกประเภทและความแตกตา่ งของคอมพิวเตอรแ์ ตป่ ระเภท กลุ่มท่ี 4 บคุ ลากรท่เี ก่ยี วข้องกบั คอมพวิ เตอร์ กลุ่มที่ 5 คุณลกั ษณะทมี่ คี วามแตกตา่ งในระบบคอมพวิ เตอร์ กลุ่มท่ี 6 การนำคอมพิวเตอรไ์ ปประยุกต์ใช้งานทางด้านตา่ ง ๆ 3) เวลาในการปฏิบัติใบงาน 90 นาที สมาชกิ กลุ่มศึกษาเอกสารประกอบการสอนวิชาคอมพิวเตอรแ์ ละการบำรุงรักษา หน่วยท่ี 1 เรื่องหลักการของระบบคอมพิวเตอร์ หน้าท่ี 7 – 26 ตามหัวข้อท่ีได้รับมอบหมาย หรือศึกษาค้นคว้า ขอ้ มลู เพ่ิมเติมจากหนงั สืออา้ งอิงอืน่ ๆ และอินเทอร์เน็ต 4) สมาชกิ กลุม่ สรปุ เน้ือหาเปน็ แผนผังความคดิ และนำเสนอ 4.1) สมาชกิ กลุ่มสรปุ ความรทู้ ไ่ี ดเ้ ป็นแผนผงั ความคิดลงในกระดาษขาวเทา 4.2) สมาชกิ กลุม่ นำเสนอผลงาน ใช้เวลากล่มุ ละ 7 – 10 นาที 4.3) นำแผนผังความคิดท่จี ัดทำแสดงผลงานเป็นปา้ ยนเิ ทศภายในหอ้ งเรยี น 5) สมาชิกในห้องรว่ มกนั อภปิ ราย ซกั ถามปญั หา ขอ้ สงสยั และสรปุ เนอ้ื หาพรอ้ มกบั ครูผ้สู อน 4. ข้อควรระวังในการปฏบิ ตั ิงาน 1) ตรวจสอบความเรียบร้อยของเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงอ่ืน ๆ และระบบ กำลังไฟฟา้ ใหอ้ ยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนลงมอื ปฏิบตั งิ าน 2) สอบถามและปรกึ ษาครผู ู้สอนในกรณีท่ไี ม่แนใ่ จหรือไม่เขา้ ใจ 3) ห้ามเล่นกันในขณะปฏิบัติงาน ดูแลรักษาความเป็นระเบียบ รักษาความสะอาดบริเวณ ปฏิบัตงิ านและบรเิ วณรอบ ๆ 5. การประเมนิ ผล 1) ใบงานที่ 1.1 2) การรว่ มแสดงความคิดเห็น ตอบข้อซกั ถามรว่ มกัน 3) คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ของนักเรยี น 4) การบูรณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

32 6. หมายเหตุ ศกึ ษาและคน้ คว้าเกย่ี วกับหลักการของระบบคอมพวิ เตอรเ์ พม่ิ เติมได้จาก 1) http://www.chaipat.or.th/site_content/34-13/3579-2010-10-08-05-24- 39.html 2) http://www.kroocom.net/web/index.php/2014-11-07-06-45-49 3) https://sites.google.com/site/teachermoomeng/khxmphiwtexr-beuxng- tn/hlak-kar-thangan-khxng-khxmphiwtexr 4) https://www.youtube.com/watch?v=WnZcAir48mk

33 แบบประเมนิ ใบงานที่ 1.1 วชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละการบำรงุ รกั ษา รหสั วิชา 2204–2005 หนว่ ยที่ 1 หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์ ชื่องาน : แผนผงั ความคดิ ชอื่ เรอื่ งการนำเสนอผลงาน............................................................................................................ กลุ่มท่ี...............ช่ือกลมุ่ ................................................................................................................. ชือ่ สมาชิก 1............................................................. 2....................................................... 3............................................................. 4....................................................... 5............................................................. 6....................................................... ท่ี รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 543 1 ความถูกตอ้ ง ครบถว้ นของเนื้อหา 2 แผนผังความคดิ 3 การตรงต่อเวลา 4 รปู แบบการนำเสนอ 5 ความรว่ มมอื ของสมาชกิ ในกลุ่ม ผู้ประเมนิ ..................................................... (...................................................) ................./..................../.............

34 เกณฑก์ ารประเมินใบงานที่ 1.1 วชิ าคอมพวิ เตอร์และการบำรุงรกั ษา รหัสวิชา 2204–2005 หน่วยที่ 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ ช่อื งาน : สรปุ เนอื้ หาเป็นแผนผังความคดิ เกณฑ์การให้คะแนน 1. ความถูกต้องของเนอ้ื หา 5 คะแนน = มสี าระตรงตามหวั ขอ้ มีการสรปุ ประเด็นทีส่ ำคญั ของเน้ือหาครบถว้ นชัดเจน 4 คะแนน = มสี าระตรงตามหัวข้อ มกี ารสรุปประเดน็ ทส่ี ำคญั ของเนื้อหาไม่ครบถ้วน 3 คะแนน = มสี าระตรงตามหัวข้อ ขาดการสรุปประเด็นท่ีสำคญั ของเนอื้ หา 2. แผนผังความคิด 5 คะแนน = มีสาระตรงตามหวั ข้อ มีการสรปุ มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ และมคี วามสวยงาม 4 คะแนน = มสี าระตรงตามหวั ข้อ มีการสรปุ และมีความสวยงาม 3 คะแนน = มีสาระตรงตามหัวขอ้ รปู แบบแผนผงั ความคดิ ไมน่ า่ สนใจ ขาดการสรปุ ประเด็นเร่ืองสำคัญ 3. การตรงตอ่ เวลา 5 คะแนน = ปฏิบัตงิ านสรุปความรู้ไดส้ ำเร็จภายในเวลา 90 นาที 4 คะแนน = ปฏิบัติงานสรุปความรู้ไดส้ ำเร็จภายในเวลา 95 นาที 3 คะแนน = ปฏิบัตงิ านสรุปความรู้ไดส้ ำเร็จภายหลังเวลา 96 นาที 4. รปู แบบการนำเสนอ 5 คะแนน = มีรปู แบบการนำเสนอทเ่ี หมาะสม ใชเ้ ทคนคิ ท่ีแปลกใหม่ ใชส้ อ่ื และเทคโนโลยี ประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจ สมาชกิ ในกลมุ่ มสี ่วนรว่ ม ใชเ้ วลา 7 – 10 นาที 4 คะแนน = เทคนคิ การนำเสนอใชก้ ารนำเสนอแบบบรรยายที่ไม่มีส่ือประกอบ สมาชิกในกลมุ่ ส่วนใหญ่มสี ่วนร่วม ใชเ้ วลา 7 – 10 นาที 3 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไมน่ ่าสนใจ ขาดการสรปุ ประเดน็ เร่ืองสำคญั สมาชิกในกลุ่ม ขาดการมีสว่ นรว่ ม ใช้เวลาน้อยกวา่ 7 นาที

35 5. ความร่วมมือของสมาชิกในกลมุ่ 5 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมีบทบาทและให้ความร่วมมือในการทำงานกลุ่มเปน็ อย่างดี 4 คะแนน = สมาชิกสว่ นใหญ่มบี ทบาทและใหค้ วามร่วมมอื ในการทำงานกลุ่มเป็นอย่างดี 3 คะแนน = สมาชกิ สว่ นนอ้ ยมีบทบาทและให้ความร่วมมือในการทำงานกล่มุ เปน็ อย่างดี หมายเหตุ เกณฑ์การผา่ น นกั เรยี นต้องไดค้ ะแนนร้อยละ 60 ขน้ึ ไป

36 แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ วิชาคอมพิวเตอรแ์ ละการบำรุงรักษา รหสั วชิ า 2204–2005 หน่วยท่ี 1 หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์ คำชแ้ี จง ทำเครอ่ื งหมาย ✓ หากนักเรยี นมีพฤติกรรมทเ่ี หมาะสมหรอื ทำเครอื่ งหมาย  หากนกั เรียน มีพฤติกรรมท่ไี ม่ตรงกับรายการ แผนกวิชา…………………………………………………….. ตรงต่อเวลา ความสนใจใฝ่รู้ ระดับชั้น.............................................................. ความร่วม ืมอในการทำงาน ความคิด ิรเริ่มสร้างสรรค์ หนว่ ยท.่ี .............................................................. การ ่ึพงตนเอง รวมคะแนน ครผู ูส้ อน.............................................................. วันที.่ ............เดือน...............................พ.ศ.......... ที่ ช่ือ-สกุล 11111 5 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15

37 เกณฑ์การประเมนิ ✓ = 1 คะแนน  = 0 คะแนน แบบประเมินการบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง วชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละการบำรุงรักษา รหสั วชิ า 2204–2005 หน่วยที่ 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ คำชีแ้ จง ทำเคร่อื งหมาย ✓ หากนักเรียนมีพฤตกิ รรมทเี่ หมาะสมหรอื ทำเครอ่ื งหมาย  หากนักเรยี น มพี ฤติกรรมที่ไม่ตรงกับรายการ แผนกวชิ า…………………………………………………….. ระดบั ชน้ั .............................................................. ความประห ัยด ความรอบคอบ หนว่ ยท.่ี .............................................................. ความมีวินัยในตนเอง ความ ัต้งใจเรียน ครูผสู้ อน.............................................................. ความ ่ซือ ัสตย์สุจ ิรต รวมคะแนน วนั ท.่ี ............เดอื น...............................พ.ศ.......... ที่ ช่อื -สกุล 1 1 1 1 15 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11

38 12  = 0 คะแนน 13 14 15 เกณฑ์การประเมิน ✓= 1 คะแนน แบบฝึกหัด วชิ าคอมพวิ เตอร์และการบำรงุ รกั ษา รหสั วิชา 2204–2005 หนว่ ยท่ี 1 หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์ *************************************************************************** คำสัง่ : จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ใหส้ มบรู ณ์ทส่ี ุด (ขอ้ ละ 1 คะแนน) 1. คอมพิวเตอร์ หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... 2. องค์ประกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... 3. พซี คี อมพิวเตอร์ หมายถึงอะไร และตรงกับภาษาอังกฤษวา่ อะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 4. จงจำแนกประเภทของคอมพวิ เตอรโ์ ดยพจิ ารณาถึงขนาด และขดี ความสามารถของคอมพวิ เตอร์ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….....

39 5. การออกแบบกระบวนการทำงานของระบบโปรแกรมต่าง ๆ ให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ใช้งานระบบ โปรแกรมไดง้ ่ายและสะดวกทส่ี ุด เป็นหน้าท่ขี องบคุ ลากรใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 6. สิ่งท่ีบ่งบอกถงึ ความแตกต่างในระบบคอมพวิ เตอร์ คอื ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 7. หน่วยจดั เก็บขอ้ มลู (Storage) แบ่งตามหน้าท่ีไดเ้ ปน็ ก่ีประเภท อะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 8. จงยกตวั อยา่ งอปุ กรณ์ทเ่ี ป็นหน่วยจดั เก็บขอ้ มลู ภายนอก (External Storage) มา 3 ชนดิ …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 9. Microsoft Office จัดเปน็ โปรแกรมประเภทใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 10. งานด้านพยากรณ์อากาศการเกิดพายุ ตอ้ งใช้คอมพวิ เตอร์ประเภทใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………... ************************************************

40 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ คำชีแ้ จง 1. แบบทดสอบทั้งหมดมี 15 ขอ้ คิดเปน็ คะแนน 15 คะแนน 2. ให้นกั เรยี นเลอื กคำตอบทถี่ ูกทสี่ ดุ เพียงคำตอบเดียวแลว้ ทำเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคำตอบ 3. แบบทดสอบมี 4 ตวั เลือก คือ ก, ข, ค, และ ง 4. ใชเ้ วลาในการทำแบบทดสอบ 15 นาที 1. ฮาร์ดแวรใ์ นขอ้ ใด ทำหนา้ ทเ่ี ป็นจดุ ศูนยก์ ลางในการเชือ่ มตอ่ ฮาร์ดแวร์อนื่ ๆ เข้าด้วยกัน ก. กล่องหรือเคส ข. แผงวงจรหลกั ค. หน่วยจา่ ยกำลงั ไฟฟา้ ง. หนว่ ยประมวลผลกลาง 2. ขอ้ ใดอธิบายความหมายของ ระบบคอมพวิ เตอร์ ได้ถกู ตอ้ งท่สี ุด ก. อุปกรณค์ อมพวิ เตอร์ทม่ี องเหน็ และจบั ต้องสัมผัสได้ทัง้ หมด ข. อปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ สท์ ม่ี ีความสามารถในการประมวลผลแบบอตั โนมัติ ค. ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิงานที่มกี ารกำหนดอย่างชัดเจนในรูปของเอกสาร สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ หรือโดย วธิ ีการอนื่ ๆ ใหช้ ุดอปุ กรณท์ ำหน้าที่ประมวลผลข้อมลู โดยอัตโนมัติ ง. ชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ ที่เช่ือมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง และแนวทางปฏิบตั ิงานใหช้ ดุ อุปกรณท์ ำหนา้ ที่ประมวลผลข้อมลู โดยอตั โนมตั ิ 3. องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วยอะไรบ้าง ก. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม และบคุ ลากร ข. ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม บคุ ลากร และข้อมลู ค. ฮารด์ แวร์ โปรแกรม บคุ ลากร และโปรแกรมเมอร์ ง. ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม บุคลากร และกระบวนการทำงาน

41 4. หน่วยประมวลผลกลาง หรอื ซีพยี ู จัดอยู่ในส่วนใดของระบบคอมพวิ เตอร์ ก. ฮาร์ดแวร์ ข. โปรแกรม ค. อปุ กรณต์ ่อพ่วง ง. อุปกรณจ์ ัดเก็บขอ้ มูลสำรอง 5. หน่วยความจุตามข้อใด ท่ีมีขนาดความจมุ ากทีส่ ดุ ก. กโิ ลไบต์ (Kilobyte : KB) ข. กิกะไบต์ (Gigabyte : GB) ค. เทราไบต์ (Terabyte : TB) ง. เมกกะไบต์ (Megabyte : MB) 6. Windows 10 จัดเป็นโปรแกรมประเภทใด ก. โปรแกรมประยุกต์ ข. โปรแกรมขับอปุ กรณ์ ค. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ง. โปรแกรมระบบปฏบิ ตั กิ าร 7. เครื่องคอมพวิ เตอรช์ นิดใดท่ีใช้ในการวิเคราะห์สภาพภมู อิ ากาศ ก. มินคิ อมพวิ เตอร์ ข. ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ ค. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ง. และไมโครคอมพวิ เตอร์ 8. โปรแกรมประเภทใด ทมี่ รี ะยะเวลาในการใช้งานท่ีจำกัด ก. ฟรีแวร์ ข. แชร์แวร์ ค. โอเพนซอร์ส ง. คอมเมอร์เชยี ลแวร์

42 9. คอมพวิ เตอร์ประเภทใดมปี ระสทิ ธิภาพสูงท่สี ดุ ก. มนิ ิคอมพิวเตอร์ ข. ซูเปอร์คอมพวิ เตอร์ ค. โนต๊ บุ๊คคอมพวิ เตอร์ ง. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ 10. Windows 10 มีหน้าทสี่ ำคัญอยา่ งไร ก. เก็บข้อมลู สำรองของระบบคอมพวิ เตอร์ ข. แสดงผลข้อมูลทผ่ี ่านการประมวลผลแล้ว ค. ประมวลผลขอ้ มลู ที่ได้จากขน้ั ตอนการนำเข้าข้อมลู ง. เปน็ ตัวกลางในการใหผ้ ใู้ ช้สามารถติดต่อกับคอมพวิ เตอร์ได้ 11. สมปองมีหน้าที่ป้อนข้อมูลประจำวันเข้าสู่ระบบ และปฏิบัติงานตามข้ันตอนในคู่มือทำงาน เพ่ือให้ระบบพิมพ์รายงานผลการดำเนินงานแก่ผู้จัดการ “สมปอง” เป็นบุคลากรด้านใดของ คอมพิวเตอร์ ก. ผู้ใช้ ข. นกั วิเคราะห์ระบบ ค. ผู้ดูแลระบบเครือข่าย ง. ช่างเทคนคิ คอมพิวเตอร์ 12. ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้ ไม่ใช่ คณุ สมบัติของคอมพวิ เตอร์ ก. มคี วามเรว็ สงู ข. มีความแม่นยำ ค. มีความน่าเชอ่ื ถือ ง. มีความคิดสรา้ งสรรค์

43 13. โปรแกรมควบคมุ การทำงานของเคร่อื งพิมพ์ เปน็ โปรแกรมประเภทใด ก. โปรแกรมประยุกต์ ข. โปรแกรมขบั อปุ กรณ์ ค. โปรแกรมอรรถประโยชน์ ง. โปรแกรมระบบปฏบิ ัตกิ าร 14. เมอ่ื มีการนำระบบ Input, Processing, Output และ Storage เขา้ ด้วยกนั เรยี กว่าอะไร ก. ระบบปฏิบตั กิ าร ข. ระบบคอมพิวเตอร์ ค. วงจรการประมวลผลข้อมลู ง. วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ 15. คอมพวิ เตอร์ประเภทใดจดั อย่ใู นประเภทคอมพิวเตอร์สว่ นบุคคล ก. มินิคอมพวิ เตอร์ ข. ซูเปอรค์ อมพวิ เตอร์ ค. โน๊ตบคุ๊ คอมพวิ เตอร์ ง. เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์

44 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยท่ี 1 หลกั การของระบบคอมพิวเตอร์ ข้อท่ี คำตอบ ข้อที่ คำตอบ 1 ข 11 ข 2 ก 12 ค 3 ง 13 ค 4 ข 14 ง 5 ง 15 ข 6ข 7ข 8ง 9ก 10 ข เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยท่ี 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ ข้อที่ คำตอบ ข้อที่ คำตอบ 1 ข 11 ก 2 ง 12 ง 3 ข 13 ข 4 ก 14 ข 5 ค 15 ค 6ง 7ข 8ข 9ข 10 ง

45 เฉลยแบบฝึกหัด หน่วยที่ 1 หลักการของระบบคอมพิวเตอร์ *************************************************************************** 1. คอมพิวเตอร์ หมายถงึ แนวคำตอบ หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีมีความสามารถประมวลผลแบบอัตโนมัติ ทำ หนา้ ที่เหมอื นสมองกลใชส้ ำหรบั การแกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ท้งั ทงี่ ่าย และซับซอ้ น โดยวธิ ที างคณิตศาสตร์ 2. องคป์ ระกอบของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง แนวคำตอบ ประกอบดว้ ย 4 องค์ประกอบ ดังนี้ ฮาร์ดแวร์ โปรแกรม บคุ ลากร ขอ้ มลู 3. พีซคี อมพิวเตอร์ หมายถึงอะไร และตรงกบั ภาษาอังกฤษวา่ อะไร แนวคำตอบ หมายถึง คอมพิวเตอร์ส่วนบคุ คล และตรงกับภาษาอังกฤษว่า PC : Personal Computer 4. จงจำแนกประเภทของคอมพวิ เตอร์โดยพิจารณาถึงขนาด และขีดความสามารถของคอมพวิ เตอร์ แนวคำตอบ มีอยู่ด้วยกัน 4 ประเภท ดังนี้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ และไมโครคอมพวิ เตอร์ 5. การออกแบบกระบวนการทำงานของระบบโปรแกรมต่าง ๆ ให้ผ้ใู ช้งานคอมพวิ เตอร์ใช้งานระบบ โปรแกรมไดง้ ่ายและสะดวกท่ีสดุ เป็นหนา้ ท่ีของบคุ ลากรใด แนวคำตอบ นักวเิ คราะห์ระบบ (System Analyst) 6. สิ่งที่บ่งบอกถงึ ความแตกต่างในระบบคอมพิวเตอร์ คอื แนวคำตอบ ประกอบดว้ ย ดังนี้ ขนาดของขอ้ มูล ความเร็วหนว่ ยประมวลผลกลาง และขนาด ของหน่วยความจำ 7. หนว่ ยจดั เกบ็ ข้อมลู (Storage) แบ่งตามหนา้ ที่ได้เปน็ ก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง แนวคำตอบ แบ่งได้ 2 ประเภท คือ หน่วยเก็บข้อมูลหลักหรือหน่วยความจำหลัก (Primary Storage) และหนว่ ยจัดเก็บขอ้ มูลสำรอง (Secondary Storage) 8. จงยกตัวอย่างอุปกรณท์ ่ีเป็นหน่วยเกบ็ ขอ้ มูลภายนอก (External Storage) มา 3 ชนดิ แนวคำตอบ ฮาร์ดดิสก์ แผน่ ซีดี/ดวี ีดี และแฟลชไดร์ฟ

46 9. Microsoft Office จัดเป็นโปรแกรมประเภทใด แนวคำตอบ โปรแกรมประยุกต์ (Application Software) 10. งานดา้ นพยากรณ์อากาศการเกดิ พายตุ ้องใชค้ อมพิวเตอรป์ ระเภทใด แนวคำตอบ ซเู ปอรค์ อมพิวเตอร์ (Supercomputer) บรรณานกุ รม ฝา่ ยตำราวชิ าการ. (2556). คู่มือเรยี นวิชาคอมพิวเตอร์และการบำรงุ รักษา. บรษิ ัทซีเอ็ดยูเคชนั่ จำกดั . กรงุ เทพฯ. ฝา่ ยตำราวิชาการ. (2557). พจนานกุ รมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ. บริษทั ซเี อด็ ยเู คชั่น จำกัด. กรงุ เทพฯ. พรพรรณ โสภาพล. (2557). คอมพิวเตอร์และการบำรุงรักษา. บริษัท สำนกั พมิ พเ์ อมพันธ์ จำกดั . กรุงเทพฯ. ยทุ ธนา หนูนาค. (2559). เอกสารประกอบการสอน วชิ าคอมพิวเตอรแ์ ละการบำรุงรักษา. วิทยาลัยสารพดั ชา่ งกาฬสนิ ธ์.ุ กาฬสินธ์ุ. สชุ าติ ใจสถาน. (2555). ธรรมาภิบาลเทคโนโลยสี ารสนเทศ. ศนู ย์สง่ เสริมวชิ าการ. กรงุ เทพฯ. สทุ ธิพนั ธุ์ แสนละเอยี ด. (2559). ตดิ ตง้ั และแก้ปัญหา ฉบับ ชา่ งคอมมืออาชีพ (2016). บริษทั ไอดีซี พรีเมยี ร์ จำกดั . กรงุ เทพฯ. ระบบคอมพิวเตอร์. (2559). https://www.krui3.com/content/computer-system/ [ออนไลน์]. เขา้ ถึงเม่ือวันท่ี 10 พฤษภาคม 2559. ศัพทค์ อมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยีสารสนเทศ. http://www.royin.go.th/wp-content/uploads/ 2017/01ภาษาไทยภาษาส่ือ-ศพั ท์คอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ.pdf [ออนไลน์]. เขา้ ถึงเมือ่ วันที่ 10 มิถนุ ายน 2560.



42 หน่วยท่ี 2 ฮาร์ดแวร์คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์ต่อพว่ ง Computer Hardware & Peripheral Device แผนผงั ความคดิ (Mind Mapping)

43 บรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การเลอื กฮาร์ดแวร์และ การใช้ฮาร์ดแวร์และ การก้าวทันเทคโนโลยี อปุ กรณต์ ่อพ่วงให้ อปุ กรณ์ต่อพ่วงได้อย่าง ของฮารด์ แวรแ์ ละ เหมาะสมกับงาน อย่าง ถกู ประเภท ปลอดภัย อุปกรณ์ต่อพ่วงท่ี รูค้ ณุ ค่า และคำนึงถงึ และเกดิ ประโยชน์สูงสุด เปล่ียนแปลงอย่าง ความประหยัด รวดเรว็ ในปัจจุบัน มเี หตุผล พอประมาณ มภี มู คิ ุ้มกนั ฮาร์ดแวร์ คอมพิวเตอร์และ อปุ กรณ์ตอ่ พ่วง เง่ือนไข : ความรู้ เงือ่ นไข : คณุ ธรรม 1. ความหมายของ 1. ใช้ของอย่างคุ้มค่า ฮารด์ แวร์ 2. ความอดทน 3. ความรับผดิ ชอบ 2. แผงวงจรหลัก 4. ความตัง้ ใจเรียน 3. สว่ นประกอบภายใน 5. ความซ่ือสัตหยน์สจุ ว่รติ ยท่ี 2 แผงวงจรหลกั 4. อุปกรณ์ฮารด์ แวร์อื่น ๆ 5. อปุ กรณ์ตอ่ พ่วง

44 ฮาร์ดแวรค์ อมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณต์ อ่ พว่ ง (Computer Hardware & Peripheral Device) ====================================== สาระสำคัญ ไมโครคอมพิวเตอร์ หรือ พีซีคอมพิวเตอร์ (Personal Computer : PC) คือ คอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคล ซ่ึงประกอบไปด้วยอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เช่น แผงวงจรหลักหรอื เมนบอร์ด หนว่ ยประมวลผล กลางหรือซีพียู หน่วยความจำหลักหรือแรม ฮาร์ดดิสก์ หน่วยจ่ายกำลังไฟฟ้าหรือเพาเวอร์ซัพพลาย เมาส์ แป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ด จอภาพ เป็นต้น ในการประกอบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานนั้น จำเป็น จะต้องรจู้ ักช่ือและหนา้ ที่ของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เพื่อนำมาประกอบใช้งานได้ถูกต้องตรงตามหนา้ ท่ีของ ฮารด์ แวร์และเพ่ือให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เตม็ ประสิทธภิ าพ สาระการเรียนรู้ 1. ฮารด์ แวร์คอมพวิ เตอร์ 2. แผงวงจรหลัก 3. อปุ กรณ์ฮาร์ดแวร์อ่นื ๆ 4. อุปกรณ์ต่อพ่วง จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1. บอกความหมายของฮารด์ แวร์คอมพวิ เตอร์ได้ 2. บอกรปู แบบแผงวงจรหลักได้ 3. อธบิ ายสว่ นประกอบของแผงวงจรหลักได้ 4. บอกรายละเอียดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อืน่ ๆ ได้ 5. บอกหนา้ ท่ขี องอปุ กรณต์ ่อพว่ งได้ 6. มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบ รับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน ความ กระตือรอื ร้น ความปลอดภัยและกลา้ แสดงออกในสิ่งท่ีถูกต้อง