รวมรายงานนวัตกรรมการนิเทศ

1 โรงเรีฝนบ้านรูสะมิแล สานักงานเขตพ๊ืนท่ีการศึกผาประถมศึกผาปัตตานี เขต 1 สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ผาข๊ันพื๊นฐาน กระทรวงศึกผาธิการ

ก คานา แผนการนิเทศภายในสถานศึกษาเล่มนี้ เป็นเครื่องมือและทิศทางในการนิเทศภายในสถานศึกษา ของโรงเรียนบ้านรสู ะมิแล สงั กัดสานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาปตั ตานี เขต 1 จัดทาข้ึนโดยมุ่งหวัง ในการพัฒนาพร้อมกับยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนทั้งระบบตามกรอบภาระงานใน 4 กลุ่มงาน ของโรงเรยี น จดุ มุ่งหมายสาคัญคือยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนให้สูงข้ึนเป็นไปตามมาตรฐาน การศกึ ษาของชาติ แผนการนเิ ทศเลม่ นส้ี าเรจ็ ลลุ ่วงไดด้ ้วยความร่วมมือของคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้นาชุมชน ผู้ปกครองนักเรียนและผู้นานักเรียนได้ร่วมให้ข้อคิดพร้อมกับเสนอแนะแนวทางในการพัฒนา คณุ ภาพของนกั เรียนโรงเรียนบา้ นรูสะมิแลทงั้ ระบบมคี วามพงึ พอใจเป็นอย่างยิ่ง ขอขอบคุณคณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้นาชุมชน ผู้ปกครองนักเรียนและผู้นานักเรียน ท่ใี ห้ความรว่ มมือในการจดั ทาแผนการนเิ ทศภายในสถานศึกษาเล่มน้ี จนสาเรจ็ ลุล่วงไปไดด้ ้วยดี โรงเรยี นบ้านรสู ะมแิ ล กนั ยายน 2564

ข สารบญั หน้า คานา ก สารบญั ข ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทัว่ ไปของสถานศกึ ษา 1 ข้อมลู ท่ัวไป 1 ที่ตั้งและอาณาเขตโรงเรยี น 1 สภาพท่วั ไปของโรงเรยี น 2 อานาจหนา้ ทโ่ี รงเรียน 2 ข้อมลู พ้นื ฐานโรงเรยี น 5 ขอ้ มลู ผูบ้ รหิ าร 5 ขอ้ มลู ดา้ นอาคารสถานที่ 6 ขอ้ มลู งบประมาณ 6 ข้อมูลสภาพชุมชนโดยรวม 7 ขอ้ มลู ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น 7 ทศิ ทางการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา 10 เปา้ หมายและผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน ปี 2564 12 ตอนท่ี 2 นวัตกรรมการนิเทศภายในของสถานศึกษาในสถานการณ์ 13 การระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 C D S D E R Model 13 ผลการดาเนินงานดา้ นการนิเทศภายในของสถานศึกษา 13 สภาพปจั จุบนั /ปัญหา ขอ้ มลู พื้นฐานของสถานศกึ ษา

รปู แบบหรือกระบวนการนิเทศภายในของสถานศึกษา ค วิธีดาเนนิ การ การกากบั ตดิ ตาม ประเมินและรายงาน หน้า ผลสาเร็จทไี่ ด้ และการนาผลไปใช้ 14 ตอนที่ 3 ภาคผนวก 16 18 18 21

๑ ตอนที่ ๑ ขอ้ มูลท่ัวไป ******************************* ๑. ขอ้ มูลทว่ั ไป โรงเรียนบ้านรูสะมิแล ได้ปฏิบัติภารกิจโดยให้ความสาคัญกับการวางแผนการจัดการศึกษา กากับ ดูแล ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดและการพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพโดยประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น เข้ามา มีส่วนร่วม สอดคล้องกับแนวทางการกระจายอานาจการบริหารและจัดการศึกษาไปสู่สถานศึกษาและท้องถิ่น ในปกี ารศึกษา ๒๕๖4 โรงเรียนบ้านรูสะมิแล ได้จัดทาแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับแนวทางพัฒนาคุณภาพ การศึกษากระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานและ สานักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 ภายใต้นโยบาย “สานักงานเขตพ้ืนท่ี วิถีใหม่ วิถีคุณภาพ เขตพ้ืนที่ 3G โรงเรยี นดี 3S” เพ่ือขบั เคลือ่ นคุณภาพการศึกษาสู่เขตพนื้ ท่คี ุณภาพ ซึ่งมี 3 องคป์ ระกอบ ได้แก่ S1 : SMART Student (เดก็ เกง่ ) S2 : SMART Teacher (ครูด)ี S3 : SMART School (โรงเรียนมคี ุณภาพ) โรงเรยี นจดั การเรียนสอนสอนด้วยระบบคุณภาพ ม่งุ มนั่ ท่ีผลงานหรือผลสมั ฤทธ์ิ เพ่ือการพฒั นา ประสิทธภิ าพของสถานศึกษาให้เกิดประสิทธภิ าพสงู สดุ มคี วามคุม้ ค่า เปน็ รปู ธรรมและไดร้ ับการยอมรบั จาก สาธารณชนอันเปน็ การสร้างศักยภาพ เพื่อเพมิ่ ขีดความสามารถในการใหบ้ ริการประชาชนต่อไป 2. ทต่ี ง้ั และอาณาเขตโรงเรียน โรงเรียนบา้ นรูสะมิแล ทตี่ ัง้ หมู่ที่ ๑ ตาบลรสู ะมิแล อาเภอเมือง จงั หวดั ปตั ตานี สังกดั สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต ๑ โทร 086-9611121 โทรสาร : - E-mail : [email protected] เปดิ สอนระดบั ชั้นปฐมวัย ถงึ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เนอื้ ท่ี ๔๘ ไร่ เขตพน้ื ท่ีบริการหมทู่ ่ี ๑ หมทู่ ่ี 3 และหมู่ที่ ๔ ตาบลรูสะมแิ ล มอี าณาเขตติดตอ่ ดงั น้ี ทศิ เหนือ จดอ่าวปัตตานี ทิศตะวันออก จดมหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตปตั ตานี ทิศใตแ้ ละทิศตะวันตก จดชมุ ชนบ้านรสู ะมิแล

๒ 3. สภาพทั่วไปของโรงเรียนบา้ นรูสะมิแล ด้านภมู ศิ าสตร์ โรงเรียนบ้านรูสะมิแล ตั้งอยู่บนฝ่ังทะเลด้านอ่าวไทย พื้นท่ีเป็นท่ีต่าน้าท่วมถึงเม่ือมีน้าทะเลหนุน สภาพดนิ เป็นดินเหนียวจากโคลนเลน มปี า่ โกงกางอยรู่ ะหวา่ งทะเลและโรงเรียน อากาศไม่ร้อนมีลมพัดตลอดปี มีฝนมรสุม ๒ ฤดู แต่ฝนจะตกชุกในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่มีอาชีพ ทีเ่ กี่ยวกับการประมง รายไดป้ านกลาง การคมนาคมสะดวก มีถนนตัดผา่ น 4. อานาจหนา้ ท่ีโรงเรียนบา้ นรสู ะมแิ ล โรงเรียนบ้านรูสะมิแล สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทหน้าท่ีตามเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ สรุปได้ดงั น้ี 1. จัดทานโยบายแผนพัฒนาการศึกษาด้านวิชาการ ด้านบุคคล ด้านงบประมาณ และด้านบริหารท่วั ไป 2. จัดตัง้ และรับผดิ ชอบการใชจ้ ่ายงบประมาณ 3. พัฒนาหลกั สูตรและจัดการเรียนการสอน

๓ 4. ออกระเบยี บ ข้อบังคบั ประกาศ และ แนวปฏิบตั ิ 5. นเิ ทศ กากับ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล ตามแผนงานโครงการ 6. ระดมทรัพยากร ปกครอง ดแู ล บารุงรกั ษาทรัพยส์ ิน 7. จัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา 8. สง่ เสริมความเขม้ แข็ง และ สรา้ งความสัมพนั ธ์กบั ชุมชน อน่ึง ตามมาตรา ๓๙ ของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ ซ่ึงกาหนดอานาจหน้าท่ีของ ผ้อู านวยการสถานศึกษาไวด้ งั นี้ 1. บริหารกิจการของสถานศกึ ษาหรอื ส่วนราชการใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคบั ของทางราชการและของสถานศึกษา 2. ประสานการระดมทรพั ยากรเพือ่ การศกึ ษา รวมทงั้ ควบคมุ ดแู ลบคุ ลากร การเงิน การพสั ดุ สถานทแี่ ละทรพั ยส์ นิ อืน่ ของสถานศึกษา 3. เปน็ ผ้แู ทนของสถานศึกษาในการทากิจการทว่ั ไปรวมท้ังการทานิติกรรมสัญญา ของโรงเรยี น 4. จัดทารายงานประจาปเี สนอต่อเขตพ้นื ที่การศึกษา 5. อานาจหน้าทใ่ี นการอนมุ ัติประกาศนียบตั รและวุฒิบตั รของสถานศกึ ษาให้เป็นไปตามระเบียบ ท่ีคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานกาหนด 6. ปฏิบตั งิ านอืน่ ท่ีไดร้ ับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลดั กระทรวง เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานและผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษา

ขอบขา่ ยและภารกจิ การบริหารและการจดั การศกึ ษา ๔ การบรหิ ารดา้ นวิชาการ การบรหิ ารดา้ นงบประมาณ การบริหารดา้ นการบรหิ าร การบรหิ ารด้านการบริหาร บคุ คล ทว่ั ไป ๑. การพฒั นาหรือการดาเนนิ การ ๑. การจดั ทาแผนงบประมาณและคา ๑. การวางแผนอตั รากาลัง .๑ การพฒั นาระบบและ เกี่ยวกับการใหค้ วามเหน็ การพัฒนา ของตัง้ งบประมาณเพอ่ื เสนอตอ่ หลกั สตู รสาระหลกั สูตรท้องถน่ิ เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขั้น ๒. การจัดสรรอัตรากาลัง เครอื ข่ายข้อมลู สารสนเทศ พื้นฐาน ๒. การวางแผนด้านวชิ าการ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการ ๒. การประสานงานและพฒั นา ๒. การจดั ทาแผนปฏบิ ตั ิการใช้ ศกึ ษา ๓. การจดั การเรียนการสอนใน เครอื ข่ายการศกึ ษา จ่ายเงิน ตามทไ่ี ดร้ ับจัดสรร ๓. การสรรหาและบรรจแุ ต่งตงั้ สถานศกึ ษา งบประมาณจากสานักงาน ๔. การเปล่ียนตาแหน่งใหส้ งู ขนึ้ ๓. การวางแผนการบรหิ าร คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ๔.การพฒั นาหลกั สตู รของ โดยตรง การยา้ ยขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากร การศกึ ษา ทางการศกึ ษา สถานศกึ ษา ๓. การอนมุ ัตกิ ารใชจ้ ่ายงบประมาณ ๔. การวจิ ยั เพอื่ พฒั นานโยบาย ๕. การดาเนินการเกี่ยวกบั การ ๕. การวัดผล ประเมินผล และ ท่ไี ดร้ บั จัดสรร และแผน เลือ่ นขั้นเงนิ เดอื น ดาเนนิ การเทยี บโอนผลการเรียน ๔. การขอโอนและขอเปล่ยี นแปลง ๕. การจดั ระบบการบรหิ ารและ ๖. การลาทกุ ประเภท ๖. การวจิ ยั เพอื่ พฒั นาคณุ ภาพ งบประมาณ พัฒนาองคก์ ร ๗. การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงาน การศกึ ษาในสถานศึกษา ๕. การรายงานผลการเบกิ จา่ ย ๖. การพัฒนามาตรฐานการ ๘. การดาเนินการทางวนิ ยั และการ ๗. การพัฒนาและส่งเสรมิ ใหม้ แี หลง่ งบประมาณ ปฏบิ ัตงิ าน ลงโทษ เรยี นรู้ ๖. การตรวจสอบตดิ ตามและรายงาน ๗. งานเทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา ๙. การสงั่ พักราชการและการสง่ั ให้ ๘. การนิเทศการศกึ ษา การใช้ผลผลติ จากงบประมาณ ๘. การดาเนนิ งานธรุ การ ออกจากราชการไวก้ อ่ น ๙. การดูและอาคารสถานทแ่ี ละ ๙. การแนะแนว ๗. การระดมทรัพยากรและการลงทนุ ๑๐. การรายงานการดาเนนิ การ สภาพแวดลอ้ ม ๑๐. การพฒั นาระบบประกัน เพือ่ การศกึ ษา ทางวนิ ยั และการลงโทษ ๑๐. การจดั ทาสามะโนผเู้ รยี น คุณภาพภายในและมาตรฐาน ๘. การปฏิบตั งิ านอนื่ ใดทีไ่ ดร้ บั ๑๑. การรับนกั เรียน การศกึ ษา ๑๑. การอทุ ธรณแ์ ละการร้องทกุ ข์ มอบหมายเกี่ยวกบั กองทุนเพอ่ื ๑๒. การออกจากราชการ ๑๒. การเสนอความคิดเห็น ๑๑.การส่งเสรมิ ชมุ ชนใหม้ คี วาม การศกึ ษา ๑๓. การจดั ระบบและการจดั ทา เก่ียวกับการจดั ตัง้ ยบุ รวมหรอื เขม้ แข็งทางวชิ าการ ๙. การบรหิ ารจดั การทรพั ยากรเพอ่ื เลกิ สถานศกึ ษา ทะเบียนประวตั ิ ๑๒. การประสานความรว่ มมอื ใน การศกึ ษา ๑๓. การประสารการจัด ๑๔. การจัดทาบัญชรี ายชอ่ื และให้ การพฒั นาวิชาการกับสถานศึกษา ๑๐. การวางแผนพัสดุ การศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และองคก์ รอืน่ ๑๑. การกาหนดรปู แบบรายงาน หรอื ความเห็นเก่ยี วกับการเสนอของ และตามอัธยาศยั พระราชทานเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์ ๑๓.การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ งาน คุณลกั ษณะเฉพาะของครภุ ัณฑห์ รอื ๑๔. การระดมทรัพยากรเพื่อ สิ่งกอ่ สร้างท่ใี ชง้ บประมาณเพือ่ เสนอ ๑๕. การสง่ เสรมิ การประเมนิ วทิ ย วิชาการแก่บุคคล ครอบครวั องคก์ ร ต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา การศกึ ษา หนว่ ยงาน สถานประกอบการและ ขัน้ พน้ื ฐาน ฐานะขา้ ราชการครูและบคุ ลากร สถาบนั อน่ื ทจ่ี ดั การศกึ ษา ทางการศึกษา ๑๕. การทศั นศกึ ษา ๑๒. การพฒั นาระบบข้อมูลและ ๑๔.การจัดทาระเบยี บและแนว ๑๖. การสง่ เสรมิ ยกย่องเชิดชู ๑๖. งานกจิ การนกั เรยี น สารสนเทศเพ่ือการจดั ทาและจดั หา ๑๗. การประชาสมั พนั ธง์ านการ ปฏิบัติเกย่ี วกับงานด้านวชิ าการของ พสั ดุ เกียรติ สถานศกึ ษา การศกึ ษา ๑๓. การจัดหาพัสดุ ๑๗. การสง่ เสรมิ มาตรฐานวิชาชพี ๑๕.การคัดเลอื กหนังสอื แบบเรียน ๑๘. การสง่ เสรมิ สนบั สนนุ และ ๑๔. การควบคุมดแู ล บารงุ รกั ษาและ และจรรยาบรรณวชิ าชพี เพ่อื ใช้ในสถานศกึ ษา ประสานการจดั การศกึ ษาของ จาหนา่ ยพสั ดุ ๑๘. การสง่ เสรมิ วนิ ัย คณุ ธรรมและ บคุ คล ชมุ ชน องคก์ ร หนว่ ยงาน ๑๖. การพฒั นาและใชส้ อ่ื เทคโนโลยี ๑๕ การจดั หาผลประโยชนจ์ าก และสถาบนั สังคมอน่ื ทจ่ี ัด ทรัพย์สนิ จรยิ ธรรมสาหรบั ข้าราชการครูและ การศกึ ษา เพ่ือการศกึ ษา บคุ ลากรทางการศกึ ษา ๑๖. การรับเงนิ การเกบ็ รกั ษาเงนิ ๑๙. งานประสานราชการกับ ๑๙. การรเิ รม่ิ ส่งเสริมการขอรบั และจ่ายเงนิ ส่วนภมู ิภาคและสว่ นทอ้ งถน่ิ ใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพครูและ ๑๗. การจดั ทาบัญชีการเงนิ บุคคลากรทางการศกึ ษา ๒๐. การจัดระบบการควบคุม ๑๘. การจัดทารายการทางการเงนิ ๒๐. การพฒั นาขา้ ราชการครูและ ภายในหน่วยงาน และงบการเงนิ บุคคลากรทางการศกึ ษา ๒๑. แนวทางการจัดกจิ กรรมเพอื่ ๑๙. การจัดทาและจดั หาแบบพิมพ์ ปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมในการ ทะเบยี น และรายงาน ลงโทษนกั เรยี น

5. ข้อมลู พนื้ ฐานของโรงเรียนบ้านรูสะมแิ ล ๕ รายการ จานวน 1. นักเรยี นทัง้ หมด ๓20 คน 76 คน - ก่อนประถมศกึ ษา ๒44 คน - ประถมศึกษา ๑2 ห้อง 2. ห้องเรยี นทัง้ หมด ๓ ห้อง - กอ่ นประถมศึกษา 9 หอ้ ง - ประถมศึกษา 3. ขนาดโรงเรยี น ๓20 คน - ขนาดกลาง ๒8 คน (นกั เรยี น ๑๒๑-๖๐๐ คน) ๑ คน 4. บคุ ลากรในสถานศกึ ษา ๑5 คน 3 คน - ผอู้ านวยการโรงเรยี น 1 คน - ครู 6 คน - พนักงานราชการ ๑ คน - ลูกจ้างประจา ๑ คน - อัตราจา้ ง - ธรุ การโรงเรียน - พนักงานรกั ษาความปลอดภยั ครู 6. ขอ้ มลู ผู้บรหิ าร ผู้อานวยการโรงเรียน ช่ือ-สกุล นางนันทา แววสง่า ตาแหน่งผู้อานวยการเชี่ยวชาญ โทรศัพท์ ๐๘-๖๙๖๑-๑๑๒๑ e-mail : nanta๖๐๕๒@gmail.com วุฒิการศึกษาสงู สดุ ปริญญาโท สาขาศึกษาศาสตร์เพื่อพัฒนาชมุ ชน ดารงตาแหนง่ ทโี่ รงเรยี นน้ีเมอ่ื วนั ท่ี ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ จนถงึ ปจั จุบัน เป็นเวลา 10 ปี 7 เดือน

๖ 7. ขอ้ มูลดา้ นอาคารสถานที่ ๑. อาคารเรียน อาคารประกอบ มี ๖ หลัง จาแนกเปน็ ๑.๑ อาคารเรียนแบบ ป.๑ก จานวน ๒ หลงั แยกเป็นหอ้ งสมดุ ๑ หลงั เป็นห้องเรียนระดับปฐมวยั 1 หลัง ใชเ้ ป็นห้องเรยี น 3 ห้องและหอ้ งพยาบาล 1 ห้อง ๑.๒ อาคารเรียน สปช.๑๐๕/๒๙ จานวน ๒ หลัง ใช้เป็นห้องเรยี น 9 ห้อง ห้องเศรษฐกจิ พอเพียง ๑ หอ้ ง ห้องวิทยาศาสตร์ ๑ ห้อง หอ้ ง Smart Classroom ๑ ห้อง หอ้ งสานักงาน ๑ ห้อง ห้องประชุม ๑ หอ้ ง ห้องเกยี รติยศ 1 ห้อง และห้อง คอมพิวเตอร์ ๑ ห้อง ๒. อาคารประกอบจานวน ๒ หลงั ใช้เปน็ หอ้ งโภชนาการ ๑ หลัง และเปน็ อาคาร อเนกประสงค์ ๑ หลัง ๓. ห้องนา้ จานวน ๓ หลัง จานวน ๑๐ ห้อง ๔. สนามเดก็ เลน่ จานวน ๑ สนาม ๕. สนามฟตุ ซอล จานวน ๑ สนาม 8. ขอ้ มูลงบประมาณ งบประมาณ (รบั -จ่าย) งบประมาณ รายการ จานวน/บาท เงินนอกงบประมาณ งบพฒั นาคุณภาพการจัดการศกึ ษา 1,229,485 ประเภทเงนิ อุดหนนุ รายหัว - ค่าหนงั สือเรียน 192,025 เงนิ นอกงบประมาณ - ค่าอปุ กรณก์ ารเรียน 109,190 ประเภทเรยี นฟรี - ค่าเครอ่ื งแบบนักเรยี น 109,560 15 ปี - ค่ากิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน 139,720 งบอาหารกลางวัน จาก อปท. 1,280,000 เงนิ อ่ืนๆ 3,059,980 รวมรายรบั งบพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาคดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๐๐ ของรายรับ

๗ 9. ขอ้ มูลสภาพชุมชนโดยรวม ๑. สภาพชุมชนรอบบริเวณสถานศกึ ษา สภาพชุมชนรอบบริเวณสถานศึกษา มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มชายฝ่ังทะเล ด้านหน้ามีถนนลาดยาง ผ่าน ด้านขา้ งเปน็ ที่ตั้งบ้านเรอื นชุมชน ดา้ นหลงั ติดทะเลอ่าวไทย สภาพดินเป็นหาดโคลนเลน บริเวณใกล้เคียง โดยรอบสถานศึกษาได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร้านค้าชุมชน ตลาดนัดรูสะมิแล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลรูสะมิแล เนื่องจากพ้ืนท่ีติดทะเล ดังนั้นจึงเกิดอาชีพการประมงชายฝ่ัง ประชากรสว่ นใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ประเพณี/ศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถิ่นที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป คือกวนอาซูรอ เมาลดิ และสลิ ะ 2. ระดบั การศึกษาของผู้ปกครอง ผปู้ กครองสว่ นใหญ่จบการศกึ ษาระดับประถมศึกษา ประกอบอาชีพ ประมง ร้อยละ ๑๐ รับจ้างร้อย ละ ๕๐ ค้าขายร้อยละ 2๐ และอื่นๆ ร้อยละ ๕ นับถือศาสนาอิสลามร้อยละ ๙๙.๖๘ ฐานะทางเศรษฐกิจ/ รายได้โดยเฉลีย่ ตอ่ ครอบครัวตอ่ ปี ๔๐,๐๐๐ บาท จานวนคนเฉลีย่ ตอ่ ครอบครวั ๕ คน ๓. โอกาสและข้อจากัดของสถานศกึ ษา โอกาส อยู่ใกล้แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น ลานค้าชุมชน ตลาดนัดรูสะมิแล โรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตาบลรูสะมิแล และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งเป็นแหล่ง เรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย ทั้งการเรยี นรู้ของนักเรียนและการพัฒนาทางวิชาชพี ของครู ข้อจากัด เป็นข้อจากัดในการฝึกทักษะการใช้ภาษาไทย เนื่องจากเป็นชุมชนท่ีใช้ภาษามลายูถ่ินเป็น สว่ นใหญ่ ทาให้ขาดแหลง่ ฝึกทักษะภาษาไทยในชวี ิตประจาวัน ๑๐. ข้อมูลผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น โรงเรียนบ้านรูสะมิแล มผี ลการประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผเู้ รยี น (RT) ช้นั ประถมศกึ ษา ปีท่ี 1 ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ (NT) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ ผลการประเมินคณุ ภาพการศึกษา ระดบั ชาติ (O-NET) ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น (I-NET) ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 และผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นตามกล่มุ สาระการเรียนรู้

๘ ตารางที่ แสดงผลการประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผ้เู รยี น (RT) ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 ปกี ารศึกษา 2562 และ 2563 ทักษะความสามารถด้าน คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ ผลตา่ ง ๒๕๖2 2563 การอา่ นออกเสียง 57.20 65.69 + 8.49 การอา่ นร้เู รื่อง 74.56 76.30 + 1.74 รวม 2 ด้าน 65.88 71.00 + 5.12 ตารางท่ี 2 ข้อมูลการทดสอบความสามารถพน้ื ฐานของผเู้ รียนระดบั ชาติ (NT) ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓ ปกี ารศกึ ษา ๒๕62 และ ๒๕๖3 ทักษะความสามารถ คะแนนเฉล่ียปีการศึกษาท่ีผ่านมา ผลตา่ ง ๒๕๖2 2563 ความสามารถด้านภาษา 30.01 27.85 - 2.16 ความสามารถดา้ นคานวณ 38.00 28.50 - 9.50 - 5.83 รวม 34.00 28.17 ตารางท่ี 3 ขอ้ มูลการทดสอบทางการศกึ ษาระดบั ชาติ (O-NET) ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ปีการศึกษา ๒๕62 และ ๒๕๖3 รายวิชา คะแนนเฉล่ยี ปีการศึกษาที่ผ่านมา ผลตา่ ง 2562 2563 ภาษาไทย 40.65 54.35 + 13.70 คณติ ศาสตร์ 21.48 23.50 + 2.02 วทิ ยาศาสตร์ 29.52 35.47 + 5.95 ภาษาอังกฤษ 29.44 34.63 + 5.19 รวม 30.27 36.99 + 6.72

๙ ตารางที่ 4 แสดงผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน (I-NET) ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ปกี ารศกึ ษา 2562 และ 2563 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ปีการศึกษา ผลตา่ ง 2562 2563 อลั -กุรอาน 42.96 45.48 + 2.52 อลั -หะดษี 31.70 52.59 + 20.89 อลั -อากดี ะฮ์ 39.11 40.59 + 1.48 อลั -ฟกิ ฮ์ 33.63 28.62 - 5.01 อัตตารีค 32.22 44.35 + 12.13 อัล-อคั ลาก 49.81 40.56 - 9.25 ภาษามาลายู 41.33 30.52 - 10.81 ภาษาอาหรบั 32.15 26.81 - 5.34 เฉล่ียรวม 37.86 38.69 + 0.83 ตารางท่ี 5 ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นรายชนั้ ตามกล่มุ สาระการเรยี นรเู้ ทียบกับเปา้ โรงเรียน ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖3 ชั้น ป.๕ ป.๖ รวม เฉลี่ย เป้า ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ โรงเรียน สาระ ภาษาไทย 77.99 75.25 72.23 79.26 72.68 86.55 463.96 77.33 72.00 คณติ ศาสตร์ 74.98 78.68 72.19 72.17 73.17 73.03 444.22 74.04 72.00 วทิ ยาศาสตร์ 88.57 76.40 76.00 79.09 73.12 71.31 464.49 77.42 72.00 สังคมศึกษา 80.71 79.08 74.90 77.09 79.16 78.59 469.53 78.26 72.00 ประวตั ิฯ 89.86 76.83 75.74 79.57 74.50 85.55 482.05 80.34 72.00 พละ/สุขฯ 81.58 83.88 79.16 81.00 82.46 81.86 489.94 81.66 73.00 ศิลปะ 82.59 84.04 80.03 83.86 83.86 89.34 503.72 83.95 73.00 การงานฯ 79.27 80.70 77.84 83.26 82.14 86.00 489.21 81.54 73.00 ตา่ งประเทศ 75.86 74.39 74.55 82.97 78.75 85.45 471.94 78.66 72.00 เฉล่ีย 81.26 78.80 75.84 79.80 77.76 81.96 475.45 92.24 72.00

๑๐ 11. ทิศทางการบริหารจดั การศึกษา วสิ ยั ทศั น์ ภายในปี ๒๕68 โรงเรยี นบา้ นรูสะมิแล เป็นโรงเรียนคุณภาพ นักเรียนมคี ณุ ธรรม ก้าวทันเทคโนโลยี มวี ิถีพอเพยี ง ด้วยความรว่ มมอื ของทกุ ภาคส่วน ปรชั ญาของสถานศึกษา การศึกษา คือ การพัฒนาชีวิต พันธกจิ 1. จัดการศึกษาให้นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของหลักสูตรการศึกษา ขั้นพ้ืนฐานและปฐมวัยอย่างท่ัวถึงและเพ่ิมขีดความสามารถในการแข่งขัน ก้าวทันโลก ดจิ ิทัล (Digital) 2. จัดการศึกษาให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยม หลกั ของคนไทย ๑๒ ประการและมที ัศนคติท่ดี ตี ่อบา้ นเมือง 3. จดั การศึกษาใหน้ กั เรียนนอ้ มนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปใช้ในการดารงชวี ติ 4. ส่งเสริมและพัฒนาครู บุคลากรให้มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย มี ประสิทธภิ าพและเนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ 5. ส่งเสริมการบริหารจัดการแบบมสี ว่ นร่วมจากทกุ ภาคสว่ น เปา้ ประสงคห์ ลัก 1. นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัย ทัว่ ถงึ มคี วามสามารถในการแข่งขนั และกา้ วทนั โลกดจิ ิทัล (Digital) 2. นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการและมที ัศนคติท่ดี ีต่อบา้ นเมอื ง 3. นักเรียนน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดารงชีวิต 4. ครู และบุคลากรมีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย มีประสิทธิภาพและ เน้นผูเ้ รียนเปน็ สาคญั 5. สถานศึกษาบริหารจัดการแบบมสี ว่ นร่วมจากทุกภาคส่วน

๑๑ ประเด็นกลยทุ ธ์ หลัก ๑. พัฒนาคุณภาพนักเรียนตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและปฐมวัยให้มีความสามารถ ในการแขง่ ขันและก้าวทนั เทคโนโลยี ๒. สง่ เสริมใหน้ กั เรยี นเป็นคนดี มีคณุ ธรรม มคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และทศั นคติทด่ี ีต่อ บ้านเมอื ง ๓. ส่งเสริมใหน้ กั เรยี นน้อมนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในการดารงชีวิต ๔. พัฒนาศกั ยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายอย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพและเนน้ นกั เรยี นเป็นสาคัญ ๕. พฒั นาประสิทธภิ าพการบริหารจดั การองคก์ รอย่างมสี ่วนรว่ มจากทุกภาคส่วน อตั ลกั ษณ์ของสถานศึกษา (ประถมศกึ ษา) หลัก คณุ ธรรมดพี ร้อม อดออมเปน็ นจิ กิจกรรมสร้างศิษย์ ชีวติ พอเพยี ง อตั ลกั ษณข์ องสถานศกึ ษา (ปฐมวัย) หลัก ออมเป็นนจิ จติ แจม่ ใส วินยั นาตน เอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา หลัก ประหยัด อดออม คำขวัญของสถานศึกษา หลัก เรยี นดี มวี ินยั ใฝศ่ ึกษา พฒั นาสิง่ แวดล้อม

๑๒ 12. เป้าหมายผลสัมฤทธ์ิโรงเรียนบ้านรูสะมิแล ปีการศกึ ษา ๒๕๖4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ปกี ารศึกษา ๒๕๖3 ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย 72 73 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 72 73 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ 72 73 72 73 กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ 72 73 - ประวตั ิศาสตร์ -- - หน้าทพี่ ลเมือง 73 74 73 74 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพละ 73 74 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ 72 73 กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานและเทคโนโลยี กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ผ่านกจิ กรรม 100 % สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ผ่านกิจกรรม 100 % คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ผ่านกิจกรรม 100 % อ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ผา่ นกจิ กรรม ๑๐๐ % กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน

๑๓ ตอนท่ี 2 นวัตกรรมการนเิ ทศภายในของสถานศกึ ษา ในสถานการณก์ ารระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 C D S D E R Model ******************************* 1. ผลการดาเนนิ งานดา้ นการนเิ ทศภายในของสถานศกึ ษา ช่ือรูปแบบ นวตั กรรมการนิเทศภายในของสถานศึกษาในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยรูปแบบ C D S D E R Model 2. สภาพปจั จบุ ัน/ปญั หา ข้อมูลพ้นื ฐานของสถานศึกษา ในปกี ารศกึ ษา ๒๕๖4 โรงเรียนบ้านรูสะมิแล ได้จัดการเรียนการสอนเป็น ๒ ระดับ คือ ระดับปฐมวัย สอนตั้งแต่ช้ันอนุบาล 1 – ๓ จานวน 3 ห้องเรียน มีนักเรียน 76 คน ระดับประถมศึกษา จัดการสอน ต้ังแต่ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ จานวน 9 ห้องเรียน มีนักเรียน 244 คน รวมจัดการเรียนการสอน ๒ ระดับ จานวน 12 ห้องเรียน นักเรียนท้ังสิ้น 320 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 ) มีข้าราชการ จานวน 15 คน พนักงานราชการ 3 คน ครูอัตราจ้าง 6 คน ธุรการโรงเรียน ๑ คน ลูกจ้างประจา ๑ คน พนักงาน รักษาความปลอดภยั ครู 1 คน ซ่ึงตอ้ งรับภาระสอนหลายวิชาและมีงานอ่นื ท่ีได้รับมอบหมายพิเศษ เพ่ือให้การ จัดการศึกษาดาเนินไปด้วยความเรียบร้อย บังเกิดผลดีแก่ทางราชการ มีการพัฒนาความรู้ความสามารถและ เพม่ิ ประสบการณป์ ฏิบัตงิ านในหนา้ ท่ีใหม้ ปี ระสิทธภิ าพอยูเ่ สมอ สภาพชมุ ชนรอบบรเิ วณโรงเรยี นมีลักษณะเปน็ ท่ีราบลุ่มชายฝ่ังทะเล ผู้ปกครองส่วนใหญ่จบการศึกษา ระดับประถมศึกษา ประกอบอาชีพ ประมง รอ้ ยละ ๑๐ รับจ้างร้อยละ ๕๐ ค้าขายร้อยละ 2๐ และอื่นๆ ร้อย ละ ๕ นับถือศาสนาอิสลามร้อยละ ๙๙.๖๘ ฐานะทางเศรษฐกิจ/รายได้โดยเฉลี่ยต่อครอบครัวต่อปี ๔๐,๐๐๐ บาท จานวนคนเฉลี่ยต่อครอบครัว ๕ คน ชุมชนมีความสัมพันธ์กับโรงเรียนในระดับค่อนข้างดีมาก โรงเรียน ได้รบั โอกาสในการพัฒนาการจัดการศึกษาเป็นอย่างดีจากชุมชน และชุมชนให้ความร่วมมือช่วยเหลือโรงเรียน ท้ังด้านกาลังคน กาลังทรัพย์ และกาลังสติปัญญา ช่วยวางแผนการจัดการศึกษา ร่วมสร้างวิสัยทัศน์ ของโรงเรียน แผนปฏิบตั กิ าร ตลอดจนภมู ิปัญญาท้องถน่ิ และแหลง่ เรียนรู้นอกสถานศึกษา สภาพปัญหาทีพ่ บในโรงเรียนบา้ นรูสะมิแลปจั จบุ นั คอื การระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 ซ่ึงเกิดการระบาด มาต้ังแต่ พ.ศ.2563 ทาให้โรงเรียนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียน การสอนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้เต็มตามศักยภาพนักเรียนเรียนรู้ อยา่ งมคี วามสุข และเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งปลอดภยั

๑๔ จากสภาพปัจจุบันและปัญหาท่ีพบ โรงเรียนจึงได้สร้างนวัตกรรมการนิเทศภายในของสถานศึกษา ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยรูปแบบ C D S D E R Model เพื่อเป็น แนวทางในการนิเทศการจัดการเรียนการสอนของครู ให้คาแนะนา คาปรึกษาหารือและช่วยเหลือครูในการ แกป้ ัญหาการเรียนการสอน งานสนับสนุนการเรียนการสอน ตลอดจนส่งเสริมให้ครูได้ช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และวางแผนการสอน การทางานร่วมกันจนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการ สอน ให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเองสร้างองค์ความรู้และเป็นการเรียนรู้ ตลอดชีวติ 3. รูปแบบ หรือกระบวนการนเิ ทศภายในของสถานศกึ ษา Model มี 6 ขน้ั ตอน C D S D E R Model มี 6 ขัน้ ตอนดังน้ี 1. C : Create Understanding C : Create Understanding หมายถึง สรา้ งความเขา้ ใจ โรงเรียนใหค้ วามสาคญั กบั บคุ ลกรทุกฝา่ ยที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา จาเป็นอย่างย่ิง ที่ต้องทาความเข้าใจกระบวนการนิเทศทั้งระบบ และวิธีการดาเนินงานในแต่ละข้ันของการนิเทศ เพ่อื ใหผ้ ูด้ าเนนิ งานมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ และมีเทคนิคในการดาเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพ่ือการพัฒนาคุณภาพนักเรียนให้สูงขึ้น ขั้นตอนน้ีนอกจากจะเป็นการช่วยให้ผู้ดาเนินงานสามารถ ทางานได้อย่างมีคุณภาพแลว้ ยงั เปน็ การเสริมสรา้ งความมั่นใจในการทางานให้แก่ผู้ดาเนินงานอีกด้วย และจะทาให้ครูผู้รับการนเิ ทศคลายความวติ กกังวล พรอ้ มรบั การนเิ ทศ

๑๕ 2. D : Develop System D : Develop System หมายถงึ ใฝ่พัฒนาระบบ โรงเรียนได้ดาเนินโครงการนิเทศภายใน อย่างเป็นระบบ กาหนดวัตถุประสงค์ กาหนด กิจกรรม ปฏิทินการปฏิบัติงาน บทบาทหน้าท่ีของผู้รับผิดชอบท่ีชัดเจน มีการตรวจสอบ ทบทวน ปรบั ปรงุ พัฒนากิจกรรมอยา่ งตอ่ เน่อื ง 3. S : Supervise All Activities Supervise All Activities หมายถึง นเิ ทศครบทกุ กจิ กรรม โรงเรียนได้มอบหมายให้คณะนิเทศเข้านิเทศเพื่อพัฒนาให้กาลังใจ ส่งเสริม สนับสนุน คณะครู โดยกิจกรรมหลักท่ีนิเทศในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่ ดา้ นการเรียนการสอน และงานโครงการ เพ่ือรว่ มกันพฒั นางานใหม้ ีคณุ ภาพ 4. D : Develop Student Develop Student หมายถึง นาพัฒนาผู้เรยี น การนเิ ทศภายในของโรงเรียน มุ่งม่ันที่จะพัฒนาผ้เู รียนอย่างต่อเนื่อง ดว้ ยวธิ กี ารที่หลากหลาย ไม่มีข้อจากัดในเร่ืองพื้นที่ในการจัดการเรียนการสอนและรูปแบบการเรียนรู้ คณะครูได้นาผลการ นิเทศมาปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เต็มตาม ศักยภาพ 5. E : Exchange Knowledge Exchange Knowledge หมายถึง แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ การแลกเปลยี่ นเรียนรู้ เปน็ วิธีการสาคัญของกิจกรรมการนิเทศ ระหว่างผู้นิเทศ กับผู้รับการ นิเทศ หรือระหว่างผู้รับการนิเทศด้วยกัน โดยได้นาผลจากการนิเทศมาแลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมคิด ปรับปรงุ แก้ไขและพัฒนาแนวทางการดาเนินงานกจิ กรรมต่าง ๆ เพื่อให้บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ทกี่ าหนดไว้ 6. R : Ready To Be Proud Of Ready To Be Proud Of หมายถึง สู่ความภาคภมู ใิ จ โรงเรียนส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกฝ่ายมุ่งมั่นดาเนินกิจกรรมให้ประสบผลสาเร็จเป็นที่ ประจักษ์ ทกุ ฝ่ายพงึ พอใจ เป็นแบบอยา่ งท่ีดี (รว่ มคดิ รว่ มทา ร่วมภาคภมู ใิ จ)

๑๖ ท้ังน้ี ในการดาเนินงาน C D S D E R Model เป็นกระบวนการทางานท่ียึดหลักการของวงจร คุณภาพ (PDCA) ซ่ึงเป็นกระบวนการที่ใช้ปรับปรุงการทางานขององค์กรอย่างเป็นระบบ โดยมีเป้าหมาย เพื่อแกป้ ัญหาและเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนอ่ื ง 4. วธิ ีดาเนนิ การ ข้ันท่ีหน่งึ ประชมุ ผเู้ กย่ี วข้องช้ีแจงการดาเนินงาน 1) ประชุมคณะครู และบุคลากรในโรงเรียน ปรึกษาหารือเพื่อวางแผน การนิเทศในสถานการณ์ การระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 2) ประชุมชี้แจงผู้ปกครองผ่านกลุ่มไลน์ห้องเรียน เกี่ยวกับการกาหนดรูปแบบการจัดการเรียน การสอนของโรงเรียน การติดตามการเรียนของนกั เรยี น ในสถานการณก์ ารระบาดของโรคติดเช้ือไวรัส โคโรนา2019 ทงั้ ในรปู แบบ On Hand On Line และ On Demand ขน้ั ทีส่ อง กาหนดรายละเอียดการนเิ ทศ คณะครู และบุคลากรในโรงเรียน ร่วมกันกาหนด วิธีการนิเทศภายใน ภายใต้สถานการณ์ การระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัส โคโรนา 2019 ดังนี้ 1) วิธีการนเิ ทศ 1.1) แบบออนไลน์ 1.2) PLC 1.3) ประชมุ ฝ่ายงาน 1.4) สง่ แบบบันทึกการสอน 1.5) ส่งผลงานนกั เรยี น 2) กาหนดผรู้ ับผิดชอบ หวั หน้าฝา่ ยงานทัง้ 4 ฝา่ ย เป็นคณะนิเทศ โดยกาหนดปฏิทนิ การนเิ ทศ ดังน้ี 2.1) ปฏทิ ินการนเิ ทศ 2.1.1) PLC เดือนละ 1 ครั้ง (วันจนั ทรแ์ รกของเดือน) โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มท่ี 1 ครูชว่ งชนั้ ปฐมวัย กลมุ่ ท่ี 2 ครชู น้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3 กลมุ่ ที่ 3 ครูช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 - 6 กลุ่มท่ี 4 ครูอสิ ลามศกึ ษา

๑๗ 2.1.2) ประชุมฝา่ ยงาน เดอื นละ 1 ครง้ั (วันจันทรส์ ปั ดาหท์ ี่ 2 ของเดือน) 2.1.3) สง่ แบบบนั ทึกการสอน เดอื นละ 2 ครง้ั 2.1.4) สง่ ผลงานนักเรยี นทุกวนั ท่ีทาการสอน ข้นั ท่ีสาม ครูจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน/คณะนเิ ทศออกนิเทศ 1) คณะครู จัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามท่ีกาหนดไว้ ทั้ง On Hand, On Line, On demand และทางานตามภาระงานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 1.1) ครูดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ผ่านทางเครือข่าย อินเทอร์เนต็ ด้วยโปรแกรม Google meet, Google Classroom, Zoom และ Line 1.2) ครูจดั ทาคลปิ วิดโี อการสอน มาชว่ ยสนบั สนนุ การเรยี นรูข้ องนักเรยี น 2) ทีมนเิ ทศ นิเทศตดิ ตามงานท่ไี ด้รับมอบหมาย ตามปฏิทินทีก่ าหนดไว้ ดังนี้ 2.1) PLC เดือนละ 1 ครั้ง (วันจันทร์แรกของเดือน) โดยนัดหมายครูทุกคน PLC ทางไลน์ กลุ่มโรงเรียน นาเสนอผลการสอน ปัญหาอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอน โดย แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ครูชั้นปฐมวัย ครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 ครูช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 4 – 6 และครูอสิ ลามศึกษา 2.2) ประชุมฝ่ายงาน เดือนละ 1 คร้ัง (วันจันทร์สัปดาห์ท่ี 2 ของเดือน) โดยคุณครูแต่ละ ฝ่ายงานนาเสนอผลการปฏิบัติงานของโครงการ/กิจกรรมที่รับผิดชอบ 4 ฝ่ายงาน ได้แก่ ฝ่ายการบริหารวิชาการ ฝ่ายการบริหารการเงิน ฝ่ายการบริหารบุคคล และ ฝา่ ยการบรหิ ารท่วั ไป 2.3) ส่งแบบบันทึกการสอน เดือนละ 2 ครั้ง ได้กาหนดให้คุณครูส่งแบบบันทึกการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนให้หัวหน้าฝ่ายบริหารวิชาการ ทุกวันท่ี 15 และ 30 ของ เดือน 2.4) ส่งผลงานนักเรียน ทุกวันท่ีทาการสอน ครูทุกคนส่งภาพการจัดกิจกรรมการเรียน การ สอน และผ ล ท่ีเ กิด จากการ เ รีย น การ ส อนเ ข้าใน ไล น์งานวิ ช าก าร ของโ ร งเ รี ย น ทุกวนั ทสี่ อน ข้นั ที่สี่ แลกเปล่ียนเรียนรู้ 1) คณะนิเทศนาผลจากการนิเทศ มาแลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมคิด ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาแนว ทางการดาเนินงานตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ ัตถปุ ระสงค์ทก่ี าหนดไว้ 2) ครูรว่ มกนั แลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการเรียนการสอน วิธีการดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมท่ี รับผิดชอบ ร่วมกันนาเสนอผลการปฏิบัติงานท่ีสาเร็จ และวิธีการแก้ปัญหางานที่ยังไม่บรรลุ เปา้ หมาย

๑๘ 3) แจ้งผลการนิเทศ/เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาการดาเนินงานตามโครงการ/สนับสนุนให้ ครพู ฒั นากระบวนการจดั การเรยี นการสอน การดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมให้ดียง่ิ ขึ้น ขั้นท่ีหา้ ปรับปรุงพัฒนางาน 1) ครูนาผลการนิเทศมาปรับปรุง/พัฒนา/แก้ไขการทางาน ท้ังการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการดาเนินงานโครงการ/กจิ กรรม 2) ครูเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการและฝึกทักษะการสร้างใบงานออนไลน์ Live Worksheets จนสามารถสร้างสรรค์ใบงาน แบบฝึกหัดมีชีวิตรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้นักเรียนสามารถ ทาใบงานออนไลน์ไดโ้ ดยไมต่ ้องพิมพ์กระดาษออกมาและสามารถตรวจคะแนนหรือส่งคาตอบ ให้ครผู ่านทาง Email Line หรอื ชอ่ งทางอน่ื ท่ีครกู าหนดได้ 3) ครูได้เรียนรู้ สืบค้น และจัดหา ข้อมูล แหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ออนไลน์ เพ่ือนามาใช้ ประกอบการเรยี นการสอนออนไลน์ 4) ครูออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการให้นักเรียนรู้จักสืบค้นความรู้ด้วยตนเองและ ใช้ทักษะทางเทคโนโลยีรูปแบบต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ท่ีมี จัดทาและส่ง ช้ินงาน/ภาระงานที่ครูมอบหมาย เช่น คลิปวิดีโอนาเสนองาน คลิปเสียง การถ่ายรูปภาพ เปน็ ต้น 5) ครูออกแบบหน่วยการเรียนรู้ตามสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกการอ่าน คิด วิเคราะห์ และสามารถนาผลไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวันได้ 5. การกากับ ติดตาม ประเมินและรายงานผล การกากับตดิ ตาม การกากับติดตาม โรงเรียนได้กาหนดผู้นิเทศ พร้อมบทบาทหน้าท่ีอย่างชัดเจนพร้อมตาราง การออกนิเทศไว้ตามทีก่ ลา่ วไว้ในข้อท่ี 2.4 วิธดี าเนินการ ข้นั ที่สาม โดยมผี ู้นิเทศ ดังน้ี 1. นางนันทา แววสงา่ ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรียน 2. นางสุภาวดี แสงเพชร ตาแหน่ง ครูชานาญการ (หัวหน้าฝ่ายบรหิ ารวชิ าการ) 3. นางแวนูรียะห์ แวดอเลาะ ตาแหน่ง ครชู านาญการพเิ ศษ (หัวหน้าฝา่ ยบรหิ ารการเงิน) 4. นางสมใจ คงสขุ ตาแหน่ง ครชู านาญการพเิ ศษ (หัวหน้าฝ่ายบรหิ ารทวั่ ไป) 5. นางสาวณัฏฐนชิ เนาวไ์ พร ตาแหนง่ ครชู านาญการ (หัวหนา้ ฝา่ ยบรหิ ารบคุ คล) นอกจากนี้ คณะผู้นิเทศต้องประชุมเพื่อสรุปผลการนิเทศตามท่ีกาหนดไว้ในข้อท่ี 2.4 วิธีการ ดาเนินการ ขั้นท่ีสี่ ซ่ึงจะเป็นผลให้คณะผู้นิเทศได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการนิเทศแต่ละระดับชั้น เพื่อสะทอ้ น จดุ เด่น จดุ ทค่ี วรพัฒนาตอ่ ไป

๑๙ การประเมินผล โรงเรียนกาหนดการประเมินผลการนิเทศภายใน หลายรูปแบบ เช่น การเทียบพัฒนาทักษะด้าน การอ่าน การเขียน การคิดคานวณ การสื่อสาร ของนักเรียน การสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในประเด็น คุณลักษณะอันพึงประสงค์จากการเรียนออนไลน์ และจากการทากิจกรรมที่บ้าน นอกจากนี้ยังมีการสอบถาม ความพึงพอใจในรูปแบบการนิเทศของโรงเรียนจากคณะครูทุกท่าน เพ่ือนามาพัฒนาการนิเทศภายใน ให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรยี น สอดคล้องสถานการณ์ต่าง ๆ เพ่อื ร่วมกนั พฒั นา แก้ไข/ปรับปรุงตอ่ ไป การรายงานผล เมื่อผู้นิเทศได้ดาเนินการนิเทศการจัดการเรียนการสอน และโครงการ/กิจกรรมเรียบร้อยแล้ว รายงานผลการนิเทศสง่ ให้ผ้อู านวยการโรงเรียน เพื่อตรวจสอบข้อมูลท่ไี ด้จากการนเิ ทศตามลาดับ ผู้อานวยการ โรงเรียนจะทาการสรุปผลการนิเทศในภาพรวม ปัญหาและอุปสรรคท่ีเกิดขึ้น พร้อมทั้งหาทางแก้ไข เช่น หาก วัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนไม่พร้อม จะแจ้งให้งานพัสดุดาเนินการแก้ไขโดยเร็ว งานโครงการ/กิจกรรมท่ี ไม่สามารถดาเนินการได้ ให้ปรับเปล่ียนวิธีการดาเนินงานให้เหมาะกับสถานการณ์ท่ีเป็นอยู่ หรือชะลอการ ดาเนินงานเป็นต้น จากนั้นผู้อานวยการโรงเรียนจะแจ้งแนวทางแก้ไขปัญหาและ อุปสรรคต่าง ๆ ท่ีได้ ดาเนนิ การไปแล้วและอยรู่ ะหว่างดาเนนิ การใหแ้ ก่คณะครูและบุคลากรทุกคนทราบในที่ ประชุมประจาเดอื น 6. ผลสาเรจ็ ที่ได้ และการนาผลไปใช้ ผลสาเร็จทไ่ี ด้ 1. ครมู ีการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็น เคร่อื งมือในการจดั การเรียนรู้ และใชแ้ หลง่ เรยี นรทู้ ห่ี ลายหลายและเหมาะสม 2. นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะทางวิชาการ ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ สมรรถนะที่สาคัญ ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามมาตรฐานหลักสูตรสถานศึกษาและมาตรฐาน การประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา 3. ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ มีความรู้ ความเข้าใจในบทบาทของการส่งเสริม พัฒนาผูเ้ รียนมากขน้ึ 4. สถานศึกษามีผลการปฏิบัติงานเปน็ ไปตามเป้าหมายทีก่ าหนดไว้ 5. สถานศึกษามีความพร้อมรับการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้น ในสถานการณ์การระบาด ของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 และมีความพร้อมต่อการเปล่ียนแปลงทั้งด้านการทางาน ตามนโยบาย กลยทุ ธ์ วธิ ีการทางาน และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศดา้ นการเรียนการสอน 6. เปน็ การสง่ เสริมการสร้างบรรยากาศการทางานเป็นทีมในสถานศึกษา

๒๐ การนาผลไปใช้ 1. ผู้นเิ ทศสามารถปรับปรุงและพฒั นาระบบการนเิ ทศให้มีประสทิ ธภิ าพย่งิ ขึน้ 2. ผู้รับการนิเทศสามารถนาผลการนิเทศไปพัฒนา และปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้อย่างมคี ุณภาพ และเกดิ ประสทิ ธิภาพสงู สุด

๒๑ ภาคผนวก

โมเดล นวตั กรรมการนเิ ทศภายในสถานศกึ ษา

รปู แบบหรือกระบวนการนิเทศภายในของสถานศกึ ษา C D S D E R Model มี 6 ขั้นตอน ดังน้ี 1. C : Create Understanding หมายถึง สร้างความเขา้ ใจ โรงเรยี นใหค้ วามสาคญั กบั บคุ ลกรทุกฝา่ ยท่มี สี ่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษา จาเป็นอย่างย่ิงท่ีต้องทา ความเข้าใจกระบวนการนิเทศท้ังระบบ และวิธีการดาเนินงานในแต่ละข้ันของการนิเทศ เพ่ือให้ผู้ดาเนินงาน มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ และมีเทคนิคในการดาเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการพัฒนาคุณภาพ นักเรียนให้สูงข้ึน ข้ันตอนน้ีนอกจากจะเป็นการช่วยให้ผู้ดาเนินงานสามารถทางานได้อย่างมีคุณภาพแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจในการทางานให้แก่ผู้ดาเนินงานอีกด้วย และจะทาให้ครูผู้รับการนิเทศคลาย ความวติ กกงั วล พรอ้ มรับการนเิ ทศ 2. D : Develop System หมายถึง ใฝพ่ ัฒนาระบบ โรงเรียนได้ดาเนินโครงการนิเทศภายใน อย่างเป็นระบบ กาหนดวัตถุประสงค์ กาหนดกิจกรรม ปฏิทินการปฏิบัติงาน บทบาทหน้าท่ีของผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน มีการตรวจสอบ ทบทวน ปรับปรุงพัฒนา กิจกรรมอยา่ งตอ่ เน่ือง 3. S : Supervise All Activities หมายถึง นิเทศครบทกุ กิจกรรม โรงเรียนได้มอบหมายให้คณะนิเทศเข้านิเทศเพ่ือพัฒนาให้กาลังใจ ส่งเสริม สนับสนุนคณะครู โดยกิจกรรมหลักที่นิเทศในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่ ด้านการเรียน การสอน และงานโครงการเพอ่ื ร่วมกนั พัฒนางานใหม้ ีคุณภาพ

4. D : Develop Student หมายถึง นาพัฒนาผูเ้ รียน การนิเทศภายในของโรงเรียน มุ่งม่ันที่จะพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเน่ืองด้วยวิธีการที่หลากหลาย ไม่มีข้อจากัดในเรอ่ื งพื้นท่ีในการจัดการเรียนการสอนและรูปแบบการเรียนรู้ คณะครูได้นาผลการนิเทศมาปรับ วธิ ีเรียน เปลยี่ นวิธสี อนเพือ่ พัฒนาผ้เู รียน มุ่งเนน้ ให้ผู้เรยี นเกิดการเรียนรู้เต็มตามศักยภาพ 5. E : Exchange Knowledge หมายถึง แลกเปลีย่ นเรียนรู้ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ เป็นวิธีการสาคัญของกิจกรรมการนิเทศ ระหว่างผู้นิเทศ กับผู้รับการนิเทศ หรือระหวา่ งผู้รบั การนิเทศดว้ ยกัน โดยได้นาผลจากการนิเทศมาแลกเปล่ียนเรียนรู้ ร่วมคิด ปรับปรุงแก้ไขและ พัฒนาแนวทางการดาเนินงานกจิ กรรมต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุวัตถปุ ระสงค์ทก่ี าหนดไว้ 6. R : Ready To Be Proud Of หมายถงึ สู่ความภาคภูมใิ จ โรงเรียนส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกฝ่ายมุ่งม่ันดาเนินกิจกรรมให้ประสบผลสาเร็จเป็นที่ประจักษ์ ทกุ ฝ่ายพึงพอใจ เป็นแบบอย่างทดี่ ี (ร่วมคดิ ร่วมทา รว่ มภาคภูมิใจ)

นวตั กรรมการนิเทศภายในสถานศกึ ษา 1. สร้างความเขา้ ใจ ประชุมทีมบริหารในการสร้างความรูค้ วามเขา้ ใจ เพ่ือถ่ายทอดไปยังผมู้ ีสว่ นเก่ียวข้องทกุ ฝ่าย สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจงานทุกฝา่ ยของโรงเรยี นให้กับบคุ ลากรทุกฝา่ ย

2. ใฝพ่ ัฒนาระบบ วางแผนและดำเนินโครงการนเิ ทศภายในสถานศกึ ษาอยา่ งเปน็ ระบบ ตดิ ตามงานเพอ่ื ตรวจสอบ ทบทวน นำไปปรบั ปรุง แกไ้ ขและพัฒนา

3. นเิ ทศครบทกุ กจิ กรรม นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรทู้ ี่หลากหลายภายในหอ้ งเรยี น

3. นเิ ทศครบทกุ กจิ กรรม (ตอ่ ) นักเรยี นเกิดกระบวนการเรียนร้ทู ี่หลากหลายภายนอกห้องเรยี น

3. นเิ ทศครบทกุ กิจกรรม (ต่อ) การจัดการเรยี นการสอนในรปู แบบ On hand

3. นเิ ทศครบทกุ กจิ กรรม (ตอ่ ) การจัดการเรียนการสอนในรปู แบบ On line

4. นำพฒั นาผ้เู รยี น พัฒนาผู้เรยี นตามศักยภาพอย่างรอบดา้ น

5. แลกเปลยี่ นเรียนรู้ นำผลจากการนเิ ทศมาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ร่วมคดิ ปรับปรงุ แกไ้ ขและพฒั นาแนวทางการดำเนนิ งาน กจิ กรรมตา่ งๆ เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ ัตถปุ ระสงคท์ ก่ี ำหนดไว้

5. แลกเปล่ยี นเรียนรู้ (ต่อ) แลกเปลี่ยนเรียนรทู้ ักษะอาชพี ต่างๆ ให้แก่ผู้ปกครองและชมุ ชน

6. สู่ความภาคภมู ใิ จ ดำเนินกจิ กรรมใหป้ ระสบผลสำเร็จเป็นทป่ี ระจักษ์ (ร่วมคดิ รว่ มทำ ร่วมภาคภูมใิ จ

รูปแบบการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019

รปู แบบการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ในสถานการณก์ ารระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 โรงเรยี นบ้านรูสะมแิ ล ชือ่ - สกลุ สอนชัน้ On-hand รปู แบบการสอน หมายเหตุ ✓ On-line On-demand นางณัฐนี หะยีสะอิ อ.1 ✓ นายเจะฮสั มลุ เลาะห์ เจะมามะ อ.2,ป.4-5 ✓ ✓ นางบุษบา เจ๊ะเละ ✓ นายอบั ดุลเล๊าะ สนโิ ช อ.2 ✓ ✓ นางสุภาพร กเู ดรด์ าเก็ง อ.2,ป.2 นางสาวซารนู ี ลาเตะ๊ ✓ ✓✓ นางอรณุ ี วงศส์ รุ ยิ ะ อ.3 ✓ ✓ นางสาวชมฟ้า จนั ทวิเศษ อ.3,ป.1 ✓ ✓ นางจิราพร มที อง ✓ นางซลั มา หีมอะด้ำ ป.1 ✓ ✓ นางเกลยี วขวญั บญุ พรหม ป.1-3 ✓ ✓ นางสมใจ คงสขุ ป.1 ✓ ✓ นางเจ๊ะโรฮานี เจ๊ะดอเลาะ ป.2/1 ✓ ✓ นางสาวนูรฮดู า มามะ ป.2/2 ✓ ✓ นางสาวธนฏิ ฐา ศักดแิ์ กว้ ป.3/1 ✓ ✓ นางสาวละไม ไชยรัตน์ ป.3-4 ✓ นายธรี เชษฐ์ เพชรโชติ ป.3 ✓ นายซาการียา ลาเต๊ะ ป.1,ป.3 ✓ ✓ นางแวนูรียะห์ แวดอเลาะ ป.3/2 ✓ นางสาวณฏั ฐนชิ เนาว์ไพร ป.4,ป.6 ✓ นางสภุ าวดี แสงเพชร ป.1-6 ✓ นางสาวอนสิ เจะมะ ป.5 ✓ นางสาวซุไลดา หะยีดอเลาะ ป.5-6 ✓✓ นายสะมาแอ อาแว ป.5-6 ป.2,ป.5-6 ป.5-6 ป.6

รปู แบบการจัดกา โรงเรียนบ้านรูสะมแิ ล ศนู ย์ นพเ ชนั้ อนบุ า รูปแบบ วธิ ดี ำเนนิ การ การวัดผลประเมนิ ผล On-hand - ครผู ้สู อนแจกใบงานให้เด็กลากตัว ครผู ู้สอนใหเ้ ด็กทำกา พยัญชนะ ก – ง พรอ้ มฝึกอา่ น แลว้ ทำ พยัญชนะ ก- ง เดก็ ส กจิ กรรมวาดภาพระบายสีรูปผกั รูป ดี และทำกจิ กรรมวา ผลไม้ รปู สตั วต์ า่ งๆ เด็กทำกิจกรรม รูปผัก ผลไมแ้ ละรูปส เสริมทักษะโดยการลากเส้นจับคภู่ าพท่ี สวยงามไม่ออกนอกเ เหมอื นกนั และการจับคูภ่ าพกบั ตวั เลข สะอาด เด็กได้ลากเส เหมือนกันและการจบั ตัวเลขทำได้ถูกต้อง เ งานใหค้ รูทางไลนโ์ ดย วดี โี อ และ ถ่ายภาพผ ตนเอง จากน้ันครปู ระ ผลงานเดก็ 3 ระดบั พอใช้ ดี

ารเรียนการสอน เก้า อำเภอ เมอื ง จงั หวดั ปตั ตานี าลปที ี่ 1 มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค ล ตวั บง่ ชีท้ ี่ 2.2 -เดก็ สามารถอา่ นและลาก เด็กตอ้ งมี (กลา้ มเน้ือเลก็ ) ใช้ พยัญชนะ ก- ง ได้ดี และ ผู้ปกครองชว่ ย ารอา่ นและลาก มอื -ตาประสาน สามารถใช้มือกำหนด กำกบั ดูแล ส่วนใหญ่ทำได้ สัมพนั ธ์กนั ทิศทางโดยการดจู ากลูกศร ตลอดเวลา หาก าดภาพระบายสี มาตรฐานที่ 9 พร้อมทั้งการจบั ดินสอเด็ก ไมม่ ีผปู้ กครองเด็ก สัตวอ์ ย่าง พฒั นาการดา้ น สามารถจบั ดินสอไดด้ ีถนดั จะไม่ทำใบงาน เสน้ เรียบร้อย สตปิ ญั ญา มือและถกู ต้องเป็นสว่ นใหญ่ เพราะไม่มสี มาธิ ส้นจบั คู่ภาพที่ ตวั บ่งช้ีที่ 9.2 อ่าน เดก็ สามารถทำกิจกรรม ในการทำใบงาน บภาพกบั และพดู ข้อความด้วย ระบายสโี ดยไม่ออกนอก เด็กได้ ส่งใบ ภาษาของตน และ ขอบเสน้ เดก็ ทำงานดว้ ย ยการอัดคลปิ เขยี นขีดเข่ียอย่างมี ความตง้ั ใจ จดจ่อ ผลงาน ผลงานของ ทิศทาง สะอาด เรียบร้อยดีมาก ะเมินจาก ตวั บง่ ชที้ ่ี 10.1 มี ส่วนกิจกรรมเสรมิ ทักษะ คือ ปรบั ปรงุ ความสามารถในการ โดยการลากเสน้ จบั คภู่ าพท่ี คิดรวบยอด เหมือนกนั และการจบั คู่ ภาพกับตัวเลข เดก็ ทำได้ และถูกตอ้ ง

ช้ันอนุบ รูปแบบ วิธดี ำเนินการ การวดั ผลประเมนิ ผล On - hand 1. ครูพูดคุยถึงกจิ กรรมการ - สงั เกตจากการใช้กลา้ มเนื้อ เรยี นการสอนกับผู้ปกครอง มดั เลก็ โดยมอื ประสานกับตา ผ่านไลน์ กลมุ่ อ.2 - สังเกตจากการออกเสียง 2. ใหน้ กั เรียนดคู ลปิ บตั รคำ - สังเกตการณเ์ ปรยี บเทียบ สตั วน์ า่ รู้และให้เดก็ บอกช่ือสัตว์ สั้น-ยาว ทช่ี อบหรือรู้จักมาคนละ 3 ชือ่ - สงั เกตการเขยี นคลา้ ย ทางไลน์กลุ่ม ตัวอกั ษรได้ดว้ ยตนเอง 3. ครแู จกลกู ปัดกับเชือกแล้ว - สงั เกตการณเ์ รียงลำดับ ให้เดก็ ร้อยลูกปัด เพื่อพัฒนา เหตกุ ารณ์ 4-5 ลำดับ กลา้ มเน้อื มัดเล็กและสายตา - สังเกตการวาด โดยมี สมั พนั ธก์ บั มือ มมุ ชัดเจน 4. แจกใบงานลากเสน้ ต่อจดุ จำนวน 1-10 5. ใบงานเปรียบเทยี บความ ส้ัน-ยาวและระบายสตี ามคำสั่ง ของภาพสั้นหรือยาว 6. ใหเ้ ด็กรจู้ ักวันท้งั เจด็ และสี ประจำวนั โดยใหใ้ บงานลาก เส้นประ หมวดคำ ระบายสีให้ ตรงกับสปี ระจำวัน 7. ใบงานเรียงลำดบั เหตุการณ์ การปลกู ต้นไม้

บาล 2 มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค อ ดา้ นร่างกาย - เดก็ ได้เรียนร้ถู งึ ชื่อสัตว์ - ผู้ปกครองบางคนไม่ตดิ ตาม า - เขยี นรปู ส่ีเหล่ียมตาม ต่างๆ งานเด็กอยา่ งสม่ำเสมอ แบบได้อยา่ งมีมมุ ชัดเจน - เด็กไดป้ ฏบิ ัติการร้อย - ผู้ปกครองไม่มาตามนดั - ร้อยวสั ดุขนาด ลูกปัดทมี่ ีขนาด เวลาแจกใบงาน เส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง 0.5 เสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 0.5 เซนติเมตรได้ เซนตเิ มตรได้ดว้ ยตนเอง - เลน่ และทำกจิ กรรม และชนื่ ชมกับผลงาน อยา่ งปลอดภัย - เดก็ พูดหรอื เปล่งคำ ด้านอารมณ์-จติ ใจ ออกมาได้อย่างเหมาะสม - กลา้ พดู กลา้ แสดงออก - ผุ้ปกครองสว่ นใหญใ่ ห้ อย่างเหมาะสมกับบาง ความร่วมมอื ในการ สถานการณ์ ติดตามส่งงานและดูแล - ทำงานทไ่ี ดร้ ับ บตุ รหลานด้วยดี มอบหมายจนสำเรจ็ เม่ือมี ผูช้ แี้ นะ - แสดงอารมณ์ความร้สู กึ ไดต้ ามสถานการณ์ ด้านสงั คม - เกบ็ ของเข้าทีด่ ้วยตนเอง - มีส่วนรว่ มตกลงและ ปฏบิ ัติตามข้อตกลงเมื่อมี ผชู้ แี้ นะ

รปู แบบ วิธดี ำเนินการ การวดั ผลประเมินผล โดยให้ 8. ใหเ้ ดก็ วาดภาพ มมี ุมท่ชี ดั เจน

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ผลการดำเนนิ งาน ปัญหาอุปสรรค - เลน่ ทำงานร่วมกับผ้อู ่นื ได้ ด้านสตปิ ัญญา - อ่านภาพสัญลกั ษณ์ คำ ตามองขอ้ ความได้ - เขยี นคล้ายตัวอักษรได้ - เปรยี บเทยี บความ เหมือนและความต่างได้ - เรยี งลำดับเหตกุ ารณ์ได้ 4 ลำดบั

ชัน้ อนบุ า รูปแบบ วธิ ดี ำเนนิ การ การวัดผลประเมนิ ผล มา On-hand - ครผู ู้สอนแจกใบงาน -ครผู ู้สอนให้เดก็ ส่งภาพการทำ มฐ ให้นักเรียนทำ ใบงาน การบ้านทางไลน์กลมุ่ ป และทำงานตามที่ไดร้ ับ ผู้ปกครองนักเรียน ส่งภาพถา่ ย เล มอบหมาย มาให้คุณครูดผู ลงานของตนเอง ผูอ้ ใบงานท่แี จกให้ เชน่ คลิปการท่อง ก-ฮ, คลปิ ขอ นกั เรยี นคอื หนว่ ยของ การนับตัวเลข 1-30 และคลิป กา เล่นของใช้ และแบบฝกึ การแนะนำตวั เอง จากนน้ั ให้นำ ขอ เสริมทกั ษะ ใบงานการบา้ นมาสง่ คุณครู ม ภาษาไทย หน่วยของเล่นของใช้และ เก ประเมนิ จากผลงานเดก็ 3 ขอ ระดับ คือ ดี พอใช้ ควรเสรมิ มฐ มีป มฐ สัญ มฐ มีค ยอ กำ เป คว

าลปที ี่ 3 าตรฐาน/ตวั ชี้วดั ผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรค ฐ. 1 ตบช.1.3 รกั ษาความ เด็กสามารถปฏบิ ัติตนให้ นักเรียนบางคนไม่มี ปลอดภัยของตนเองและผู้อนื่ ปลอดภยั ในกิจวตั ร โทรศพั ท์ ไมม่ ีไลน์ ทำให้ ล่นและทำกจิ กรรมและปฏบิ ัติต่อ ประจำวัน การเล่นอย่าง ส่งงานล่าช้า อนื่ อย่างปลอดภัยได้ การรูจ้ ัก ปลอดภยั รจู้ กั ของเลน่ ของ ผปู้ กครองบางคนต้องไป องเลน่ และของใช้ ใช้และการจำแนกและจดั ทำงาน ขาดการดแู ลและ ารจำแนกและจัดกลุ่มของเล่น กลมุ่ ของใช้ตามรปู ทรง การฝกึ นกั เรยี นในการทำ องใช้ตามรปู ทรงเรขาคณติ เรขาคณติ การเก็บรักษา การบ้าน มฐ.6 ตบช.6.2 มวี ินยั ในตนเอง ของเล่นของใชเ้ ขา้ ทีใ่ ห้ กบ็ ของเลน่ เรยี บร้อยดว้ ยตนเอง องใช้เข้าท่ีใหเ้ รยี บร้อย การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ที่ ฐ.8 ตบช.8.2 ดีของครอบครัว ปฏิสัมพนั ธท์ ่ีดกี ับผอู้ ่ืน และมวี ินยั ในตนเอง มี ฐ.9 ตชว.9.2 อา่ นเขียนภาพ ปฏสิ ัมพนั ธ์ที่ดีกบั ผู้อน่ื ญลักษณ์ได้ ครูผสู้ อนต้องคอยตดิ ตาม ฐ. 10 ตบช.10.1 ผลการทำงานอย่เู สมอ ความสามารถในการคิดรวบ อด การจบั คภู่ าพตามท่ี ำหนดใหไ้ ด้ ปรียบเทียบความแตกตา่ งและ วามเหมือนของส่งิ ตา่ งๆ

รูปแบบ วิธีดำเนินการ การวัดผลประเมนิ ผล On-hand - ครผู ้สู อนแจกใบงานให้ ครูผู้สอนใหเ้ ด็กสง่ ภาพการ นกั เรยี นทำ ทำใบงาน และทำงานตามที่ไดร้ ับ การบ้านทางไลน์กลมุ่ มอบหมาย ผ้ปู กครอง และถ่ายภาพมา หน่วยสัตว์น่ารัก ใหค้ ณุ ครดู ูผลงานของ ตนเอง จากน้นั ให้นำใบงาน การบ้านมาสง่ คณุ ครหู นว่ ย สตั วน์ ่ารัก และประเมนิ จาก ผลงานของเด็ก 3 ระดบั คือ ดี พอใช้ ควรเสริม

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด ผลการดำเนนิ งาน ปญั หาอุปสรรค -มฐ. 5 ตบช.5.2 มี เด็กสามารถบอกลักษณะ นกั เรยี นบางคนไม่มีโทรศัพท์ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและ ของสัตว์เลี้ยง รูปรา่ ง ไม่มีไลน์ ทำใหส้ ง่ งานลา่ ชา้ จติ ใจทดี่ ีงาม แสดงความ ลักษณะ ขนาดของสัตว์ที่ ผปู้ กครองบางคนต้องไป รกั และมเี มตตาสตั ว์เลี้ยงท่ี แตกตา่ งกนั อาหารสัตว์ ทำงาน ขาดการดูแลและ บา้ นอยา่ งเหมาะสม เลีย้ ง การจับคู่ภาพเหมือน การฝึกนกั เรียนในการทำ มฐ.7 ตบช. 7.1 ดูแล จบั คู่ภาพทีม่ ีความสมั พันธ์ การบา้ น รกั ษาธรรมชาตแิ ละ กัน การจบั ค่ภู าพกับ ก สง่ิ แวดลอ้ ม จำนวน อ การเล้ียงสัตว์ เดก็ รู้จักตวั พยัญชนะ นบั และจบั คู่โยงเส้นตวั เลข