76 ดร.สาวติ รี บญุ มี 4.4.2. สว่ นประกอบของระบบย่อยการจดั การแบบจาลอง ระบบย่อยของการจัดการแบบจาลองประกอบดว้ ย 5 สว่ น คือ ฐานแบบจาลอง ระบบ จัดการฐานแบบจาลอง ภาษาท่ใี ช้ในการสรา้ งแบบจาลอง สารบญั แบบจาลอง และ การดาเนนิ การกบั แบบจาลอง (Turban et. Al, 2007: 115-118; กติ ติ ภกั ดีวฒั นะกุล, 2553: 41) 4.4.2.1. ฐานแบบจาลอง (Model Base) ฐานแบบจาลอง ประกอบด้วยแบบจาลองชนดิ ตา่ ง ๆ เชน่ แบบจาลองทางสถิติ แบบจาลองทางการเงิน แบบจาลองพยากรณ์ การวิเคราะหเ์ ชงิ ปรมิ าณ และแบบจาลองเชิงปรมิ าณอ่ืน ๆ แบบจาลองที่อย่ใู นฐานแบบจาลองสามารถแบ่งได้เปน็ 4 กลมุ่ ตามวัตถปุ ระสงค์การใช้งาน คือ แบบจาลอง เชิงกลยุทธ์ (Strategical models) สาหรับผ้บู รหิ ารระดับสงู แบบจาลองยุทธวิธี (Tactical models) สาหรับผ้บู รหิ ารระดับกลาง แบบจาลองเชงิ ปฏิบัตกิ าร (Operational models) สาหรบั งานประจาวัน และ แบบจาลองเชงิ วเิ คราะห์ (Analytical models) สาหรบั การวิเคราะหข์ ้อมูล 4.4.2.2. ระบบจัดการฐานแบบจาลอง (Model Base Management System) ระบบจัดการฐานแบบจาลอง (MBMS) มีหนา้ ท่ีในการสรา้ งแบบจาลอง หรือ เคร่อื งมือสาหรับวิเคราะห์ของ DSS มีหน้าทีแ่ ก้ไขและปรบั ปรุงแบบจาลอง คัดเลือก และเรียกใช้ แบบจาลองท่ีมีอยู่ในฐานแบบจาลอง เปน็ ซอฟท์แวรต์ วั กลางติดต่อระหว่างผ้ใู ชก้ บั ฐานแบบจาลอง ทา หนา้ ที่คล้าย DBMS เน่อื งจากเกณฑ์การเลือกแบบจาลองอาจจะมเี ชิงคุณภาพคือเป็นข้อความไม่ใชต่ วั เลข จงึ อาจจะต้องใช้ ปญั ญาประดิษฐ์มาช่วยจดั การ MBMS มหี น้าทแี่ ละความสามารถ ดงั ต่อไปนี้ 1) ผใู้ ช้ตอ้ งสามารถเขา้ ถึงและดึงแบบจาลองมาใชง้ านได้ 2) ผูใ้ ช้ตอ้ งสามารถทดลองและปฏบิ ัตกิ ารใดๆ กับแบบจาลองได้ 3) ผู้ใช้ตอ้ งสามารถสรา้ งแบบจาลองไดง้ ่าย 4) ตอ้ งจัดเก็บและจดั การกับแบบจาลองชนิดต่าง ๆ ได้ 5) เข้าถึงและทางานกบั แบบจาลองโปรแกรมอนื ๆ ได้ 6) แสดงหมวดหมู่หรือรายการของแบบจาลองได้ 7) สามารถจัดเกบ็ เข้าถงึ เชื่อมโยง จดั หมวดหมู่ และคน้ หาแบบจาลองได้ ตวั อยา่ ง MBMS สาเรจ็ รปู ทสี่ ร้างมาเพ่ือใชก้ ับ DSS แสดงใน ตารางท่ี 4.2
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนนุ การตดั สินใจทางธรุ กิจ 77 ตารางที่ 4.2 MBMS สาเรจ็ รูปทส่ี รา้ งมาเพ่อื ใช้กบั DSS เฉพาะเรื่อง ชอื่ โปรแกรม คาอธบิ าย AutoMod, AutoSched อนิเมช่นั สามมติ ิใช้ในการจดั การการผลิตและจดั สรร วัตถดุ ิบในการผลิต และจัดตารางการผลิต Budgeting & Reporting ระบบจาลองการผลติ ท่ชี ว่ ยประมาณการต้นทนุ การผลิต ใช้สาหรบั อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มขนาดใหญ่ OIS ใชใ้ นการพยากรณ์ทิศทาง แบบจาลองการคา้ การ วิเคราะห์ความเสยี่ ง OptiPlan Professional, ใช้สนบั สนุนงานวางแผนหว่ งโซอ่ ุปทาน OptiCaps, OptiCalc Planning Workbench ระบบวางแผนเชงิ กราฟิกสาหรับอตุ สารกรรมที่มี กระบวนการทางานต่อเน่ืองกัน เชน่ สายพานการผลิต StatPac Gold ชุดโปรแกรมสาหรบั การวิเคราะห์ผลสารวจ TRAPEZE สาหรบั การวางแผน การจดั ตารางงาน และการดาเนินการ ผลติ TruckStops, OptiSite, สาหรับการจดั การการจดั จาหนา่ ย และการขนสง่ สินค้า BUSTOPS (ทมี่ า: ปรบั ปรุงจาก Turban, E. and Aronson, A.E., 1998) 4.4.2.3. ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสร้างแบบจาลอง (Modeling Language) เนือ่ งจาก DSS ตอ้ งเกีย่ วข้องท้ังปญั หาแบบมีโครงสรา้ งและก่งึ โครงสร้าง ทาให้ การจัดการแบบจาลองจาเป็นตอ้ งใชภ้ าษาและเครื่องมือทสี่ ามารถพัฒนาซอฟท์แวรไ์ ด้ ยกตัวอย่างเชน่ C++ และ Java บางครงั้ มีการใชเ้ ทคโนโลยี OLAP ในการทางานรว่ มกับแบบจาลองในการวิเคราะห์ข้อมลู ทม่ี จี านวนมาก แตใ่ นกรณที ่ีมีความซับซ้อยไมม่ ากและขอ้ มูลน้อยกว่าก็มกั จะใช้ Excel หรอื โปรแกรม กระดานคานวณในการจดั การ 4.4.2.4. สารบัญแบบจาลอง (Model Directory) สารบญั แบบจาลองมหี นา้ ทีเ่ ช่นเดยี วกนั กับสารบัญข้อมลู คือ เกบ็ รายช่ือ แบบจาลอง และซอฟทแ์ วร์ที่มอี ยูใ่ นฐานแบบจาลอง รวมถงึ คาอธบิ ายแบบจาลอง หน้าทแี่ ละการใช้งาน และความสามารถของแต่ละแบบจาลอง
78 ดร.สาวติ รี บญุ มี 4.4.2.5. การดาเนินการกบั แบบจาลอง การดาเนินการกับแบบจาลองประกอบดว้ ย การใชง้ านแบบจาลอง (Model execution) คือ กระบวนการควบคมุ การทางานจรงิ ของแบบจาลอง การทางานร่วมกนั ของแบบจาลอง (Model integration) คอื การบูรณาการให้แบบจาลองหลาย ๆ อันสามารถทางานร่วมกันได้ และการ ประมวลผลรวมกนั ของแบบจาลอง (Command processor) มีหนา้ ทีแ่ ปลคาสงั่ จากผู้ใชแ้ ล้วส่งคาสง่ั ไป เรียกใชแ้ บบจาลองจากระบบจดั การฐานแบบจาลอง 4.4.3. ประโยชนข์ องแบบจาลอง แบบจาลองมปี ระโยชน์ในการใช้งานหลายดา้ น เช่น ดา้ นเศรษฐศาสตร์ การใชแ้ บบจาลอง ช่วยคานงึ ถงึ ความคมุ้ ค่าระหว่างคา่ ใชจ้ ่ายและประสทิ ธภิ าพได้ก่อนเร่ิมปฏิบตั ิงาน ในดา้ นระยะเวลา แบบจาลองชว่ ยให้เห็นภาพผลลพั ธ์ที่คาดวา่ จะเกดิ ข้ึนอยา่ งรวดเรว็ ทันต่อเวลาในการใชง้ านสนับสนนุ การ ตัดสินใจทม่ี เี วลาจากดั หรอื ในด้านการทดลองแทนมนษุ ย์ สามารถใช้จาลองเหตุการณ์ต่างชว่ ยให้ทาความ เข้าใจและมองภาพภายในได้ชัดเจน ในเอกสารเล่มน้ีเน้นการพฒั นาแบบจาลองของ DSS โดยใชโ้ ปรแกรมคานวณ หรือ Microsoft Ecel เนื่องจาก ช่วยให้ใช้งานงา่ ย ไม่ซับซ้อนเมื่อเทยี บกบั โปรแกรมอนื่ ๆ ใชใ้ นงานไดห้ ลายด้าน ทง้ั คณติ ศาสตร์ สถิติ การเงิน วิทยาศาสตร์ มีความยืดหยนุ่ สูง มสี ว่ นการทางานเพิ่มเติม และ Add-in ท่มี ี ประโยชน์ และ สามารถเขยี นโปรแกรมเพ่ิมเตมิ โดยใช้ VBA ได้ 4.4.4. ประเภทของแบบจาลอง ประเภทของแบบจาลองสามารถแบง่ ออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้ 7 ประเภท คือ แบบจาลองเพอ่ื หาทางเลือกท่ีดีท่สี ดุ สาหรบั ปัญหาทีม่ ีทางเลือกน้อย แบบจาลองเพ่อื ค้นหาทางเลอื กที่ดี ท่ีสดุ โดยใช้ Algorithm แบบจาลองเพื่อคน้ หาทางเลือกท่ีดีที่สดุ โดยใช้สูตร แบบจาลองสถานการณ์ Simulation แบบจาลองสถานการณ์ Heuristic แบบจาลองอื่น และ แบบจาลองพยากรณ์ โดยมี รายละเอียดตามตารางท่ี 4.3 ตารางท่ี 4.3 ประเภทของแบบจาลอง ช่อื ประเภท การใชง้ าน เทคนิคทใ่ี ช้ คน้ หาทางเลือกที่ดีทีส่ ุดเมื่อมีตัวเลือก ตารางการตดั สินใจ แบบจาลองเพ่ือหาทาง ค่อนข้างน้อย แขนงการตัดสินใจ เลือก ทีด่ ที ่สี ุดสาหรับปญั หาท่ีมี คน้ หาทางทางเลอื กทด่ี ีท่ีสดุ จาก Linear Programming ทางเลือกน้อย ตัวเลอื กท่ีมจี านวนมากและไม่สิ้นสดุ แบบจาลองทางคณิตศาสตร์ ตา่ งๆ แบบจาลองเพื่อหาทาง เลือก ทีด่ ีที่สดุ โดยใช้ Algorithm
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนุนการตดั สินใจทางธุรกจิ 79 ชื่อประเภท การใช้งาน เทคนคิ ทใี่ ช้ แบบจาลองเพ่ือหาทาง โดยใชว้ ิธีการเปรียบเทียบความต่างท่ี แบบจาลองเครอื ข่าย เลือก ที่ดที ส่ี ุดโดยใช้สูตร ละตัวเลือก แบบจาลองสถานการณ์ Simulation ค้นหาทางเลือกท่ีดที ีส่ ุด ในคร้ังเดียว เชน่ แบบจาลองสินค้าคงคลัง แบบจาลองสถานการณ์ Heuristic โดยใชส้ ูตรคานวณ (EOQ) แบบจาลองพยากรณ์ คน้ หาทางเลือกท่ี “ดพี อ” หรือดเี ทา่ ท่ี ใช้ Simulation แบบจาลองอนื่ ๆ มตี วั เลือกโดยใช้การทดลอง คน้ หาทางเลือกที่ “ดีพอ” โดยใช้ Expert system กฏเกณฑใ์ นการเลือก Heuristic programming พยากรณอ์ นาคตสาหรับสถานการณ์ แบบจาลองพยากรณ์ การ สมมติ วิเคราะห์มาร์คอฟ คน้ หา “What-if” โดยใชส้ ตู ร เชน่ แบบจาลองทางการเงนิ แบบจาลองแถวคอย (ที่มา: ปรบั ปรุงจาก Turban et. Al, 2007: 151) 4.4.4.1. แบบจาลองเพ่ือหาทางเลอื กท่ดี ีท่ีสดุ สาหรับปญั หาที่มที างเลือกนอ้ ย แบบจาลองประเภทนี้ใช้คน้ หาทางเลือกทด่ี ที ่สี ดุ เม่อื มีตวั เลอื กค่อนขา้ งนอ้ ย โดยเทคนิคหรอื เครื่องมือทใี่ ช้บ่อยคือ ตารางการตัดสินใจ (Decision table) และ แขนงการตัดสนิ ใจ (Decision tree) ภาพที่ 4.3 แสดงตัวอย่างของตารางการตัดสนิ ใจกรปุ๊ เลือดจากลักษณะนสิ ยั (ตวั อย่างนีเ้ ปน็ เพยี งขอ้ มลู สมมตเิ ท่าน้ัน) จากตารางประกอบด้วยเง่ือนไขต่าง ๆ ถา้ การตอบคาถาม ใกลเ้ คียงกบั กรณีได้จะได้ผลลัพธ์เป็นตัวเลอื กตามกรณนี ัน้ ๆ เช่น ถา้ บุคคลหน่ึงชอบความสมบูรณแ์ บบ เจ้า คดิ เจา้ แคน้ และใส่ใจความรสู้ ึกคนอืน่ คนน้ันมีโอกาสมเี ลือกกรุป๊ A เป็นต้น ตารางการตดั สนิ ใจเหมาะเม่อื แตล่ ะทางเลือกใชเ้ กณฑเ์ ดียวกนั และแต่ละเกณฑ์มีสองคาตอบคือ ใช่ หรอื ไม่ใช่ ถา้ แตล่ ะทางเลอื กใช้ เกณฑ์ในการเลือกไมค่ ่อยซ้ากัน และแต่ละเกณฑส์ ามารถมีไดห้ ลายคาตอบ ควรใช้แขนงการตดั สินใจ ตาม รายละเอียดในตัวอย่างถดั ไป
80 ดร.สาวิตรี บญุ มี ภาพท่ี 4.3 ตัวอยา่ งตารางการตดั สนิ ใจ ภาพที่ 4.4 แสดงตัวอยา่ งแขนงการตดั สินใจการอนมุ ัติสินเชอ่ื โดยพิจารณาตามเง่ือนไข คือ รายได้ ประวตั ิอาชญากรรม จานวนปีท่ที างาน และประวัติการจา่ ยบตั รเครดิต จะเหน็ วา่ แขนงการ ตัดสนิ ใจมีลักษณะการประเมินเงอ่ื นไขหรือเกณฑท์ ีต่ ่างจากตารางการตดั สินใจท่ี ผลการพิจารณาเง่ือนไข หนึง่ จะส่งผลต่อเงื่อนไขท่สี องแตกต่างกันออกไป เชน่ ถ้ามีรายได้ต่ากว่า 15,000 บาท ใหพ้ ิจารณาต่อวา่ มี ประวัตอิ าชญากรรมหรอื ไม่ แตถ่ า้ มีรายได้ระหวา่ ง 15,000 – 50,000 บาทใหพ้ ิจารณาจานวนปที เ่ี คย ทางานแทน เป็นตน้ ประวตั ิ อนุมตั ิ อาชญากรรม ไมอ่ นุมตั ิ ไม่อนุมตั ิ รายได้ จานวนปีทางาน จ่ายบตั รเครดติ อนุมตั ิ หรอื ไม่ ไมอ่ นมุ ัติ อนมุ ตั ิ ประวตั ิ อนมุ ตั ิ อาชญากรรม ไม่อนมุ ตั ิ ภาพท่ี 4.4 ตัวอยา่ งแขนงการตัดสนิ ใจ 4.4.4.2. แบบจาลองเพื่อคน้ หาทางเลือกทด่ี ที ี่สดุ โดยใช้ Algorithm แบบจาลองประเภทนี้ใช้คน้ หาทางทางเลือกท่ีดีที่สดุ จากตัวเลือกที่มีจานวน มากและไมส่ น้ิ สดุ โดยใชว้ ิธีการเปรยี บเทียบความต่างทล่ี ะตัวเลือก เครื่องมือทีใ่ ช้ เช่น Linear Programming แบบจาลองทางคณติ ศาสตร์ต่างๆ และ แบบจาลองเครือข่าย เปน็ ตน้
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 81 โปรแกรมเชงิ เสน้ (Linear Programming) เปน็ แบบจาลองทใ่ี ชส้ มการเส้นตรง ช่วยในการแก้ปัญหาทีม่ หี ลายปจั จัย เช่น ต้องการผลิตสนิ ค้า 2 ชนิด คือ X1 และ X2 ซงึ่ มีราคาขาย 8 บาท ตอ่ หนว่ ย และ 10 บาทต่อหนว่ ย ตามลาดับ เง่ือนไขของการผลิตคอื จานวนวตั ถุดบิ ท่มี ีจากดั ซงึ่ สนิ ค้าทัง้ สองชนิดใชว้ ัตถุดิบรว่ มกนั โดยสามารถเขียนเป็นโปรแกรมเชิงเส้นได้ ดงั น้ี สมการวตั ถปุ ระสงคค์ ือ รายได้สูงสุด 8 X1 + 10 X2 โดยจานวนการผลิตขึน้ อย่กู บั เงือ่ นไขของวัตถุดบิ ทมี่ ีอยอู่ ย่างจากัด วัตถดุ ิบ 1 0.4 X1 + 0.2 X2 <= 10 วัตถุดบิ 2 0.2 X1 + 0.4 X2 <= 14 การแกป้ ัญหาลักษณะเชน่ โปรแกรมเชงิ เสน้ น้ี สามารถแก้ด้วยการแกส้ มการหรือ วาดแผนภูมเิ ส้น แตส่ าหรับ DSS สามารถสร้างแบบจาลองชนิดน้ีได้โดยใชเ้ ครอ่ื งมอื Solver ที่เปน็ Add-in ใน Microsoft Excel เพอื่ ใชแ้ ก้ปัญหาลกั ษณะเชน่ เดียวกันนี้ ซึ่งประหยัดเวลา รวดเร็ว แมน่ ยา และใชเ้ วลา คานวณน้อยกวา่ ตามภาพท่ี 4.5
82 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพท่ี 4.5 ตวั อย่างการแกป้ ัญหาโปรแกรมเชิงเสน้ ดว้ ย Solver แบบจาลองเครอื ข่ายงาน Network Model ใช้กับปญั หาที่มขี นาดใหญแ่ ละซบั ซ้อน เช่น ปญั หาการขนส่งสนิ คา้ Transportation model ปญั หาการมอบหมายงาน Assignment model ซง่ึ สามารถสร้างแบบจาลองชนิดนี้ไดโ้ ดยใช้ Excel เพอ่ื ใช้แก้ปัญหาไดเ้ ชน่ กนั ดังตวั อยา่ งในภาพท่ี 4.6 ทีใช้ Excel ช่วยในการคานวณหาตน้ ทนุ ทตี่ า่ ทส่ี ดุ ในการหาเสน้ ทางขนสง่ สนิ คา้ จากแตล่ ะโรงงาน
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนนุ การตดั สินใจทางธุรกิจ 83 ภาพท่ี 4.6 ตัวอย่างการใช้ Excel กับแบบจาลองเครอื ขา่ ยงาน 4.4.4.3. แบบจาลองเพื่อค้นหาทางเลือกทด่ี ีที่สุดโดยใช้สูตร แบบจาลองชนดิ นใี้ ช้ค้นหาทางเลือกทดี่ ที ี่สุด ในครั้งเดียว โดยไม่มกี าร เปรยี บเทียบทางเลือก โดยใช้สูตรคานวณ เชน่ แบบจาลองสนิ ค้าคงคลงั (EOQ) แบบจาลองสนิ คา้ คงคลงั เกย่ี วข้องกับการบรหิ ารสินค้าคงเหลอื โดยเนน้ การ คานึงถึงปริมาณการส่ังซ้ือทีป่ ระหยัดทสี่ ุด (Economic order quantity : EOQ) หมายถงึ จานวนสินคา้ ท่ี ทาใหผ้ ลรวมของคา่ ใช้จา่ ยในการเก็บรักษาและคา่ ใชจ้ า่ ยในการส่ังซ้ือต่าทีส่ ุด สูตร โดย S คอื จานวนสินค้าท่ตี ้องการ หรอื ประมาณการยอดขาย/ปี O คอื ค่าใช้จา่ ยในการสั่งซ้ือต่อครั้ง C คือ ค่าใช้จา่ ยในการเก็บรกั ษาต่อหนว่ ย ภาพท่ี 4.7 แสดงตวั อย่างการใช้ Excel สร้างแบบจาลองเพ่อื คน้ หาทางเลือกท่ี ดีทีส่ ุดโดยใช้สตู ร ของการหาปริมาณการสง่ั ซอ้ื ที่ประหยดั ท่ีสุด สาหรับการบริหารสินค้าคงคลัง การสรา้ ง แบบจาลองนี้ จะครอบคลมุ อยู่ในเนื้อหาบทที่ 9 ถึง บทที่ 11
84 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพท่ี 4.7 ตัวอยา่ งแบบจาลองโดยใชส้ ูตร EOQ 4.4.4.4. แบบจาลองสถานการณ์ Simulation แบบจาลองชนดิ นี้ ใช้คน้ หาทางเลือกที่ “ดีพอ” หรือดเี ทา่ ทม่ี ีตัวเลอื กโดยใช้ การทดลอง หรือ การสร้าง Simulation เพ่ือจาลองขอ้ มูลทส่ี ามารถเป็นไปไดเ้ พื่อหาผลลพั ธ์ เคร่อื งมอื ของ Excel ที่สามารถทา simulation ได้ เชน่ ตวั จัดการสถานการณ์สมมติ (Scenario manager) หรอื ตารางข้อมูล (Data table) ตัวจัดการสถานการณ์สมมติ หรือ Scenario Manager ใช้จาลองสถานการณ์ ทีส่ ามารถเกิดขึน้ ได้ จากตวั อย่างในภาพที่ 4.8 ทแ่ี สดงสถานการณ์ที่สมมติขนึ้ 3 สถานการณเ์ พ่ือวเิ คราะห์ ผลตอบแทนจากโครงการลงทุน ภาพท่ี 4.8 ตัวอย่างสถานการณส์ มมติ
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกิจ 85 ภาพที่ 4.8 เป็นผลลัพธ์จากการใช้เคร่ืองมือตัวจัดการสถานการณ์สมมติใน Excel ซึ่งมี ลกั ษณะการใช้งานตามภาพท่ี 4.9 เนื้อหาในการใช้เครื่องมือชนิดนค้ี รอบคลมุ ในบทท่ี 12 ภาพท่ี 4.9 ตัวอยา่ งการใช้เครื่องมือ Scenario manager ของ Excel แตถ่ ้าหากต้องการการจาลองข้อมูลเดียวแต่มคี ่าทีแ่ ตกต่างกนั ไปจานวนมาก ควรใช้เคร่อื งมือตารางข้อมลู Data Table ทสี่ ามารถสรา้ งผลลพั ธข์ องข้อมูลทเ่ี ปล่ียนไปให้อัตโนมตั ิ จาก ภาพท่ี 4.10 เปน็ การจาลองเปล่ียนค่าของข้อมลู ราคาเพื่อดูการเปลยี่ นแปลงของกาไร เนือ้ หาในการใช้ เครอ่ื งมอื ชนดิ นี้ครอบคลุมในบทท่ี 12 ภาพท่ี 4.10 ตัวอย่างการจาลองข้อมูลโดยใช้ Data table ใน Excel แบบจาลองสถานการณ์ Simulation มีข้อดี คือ มคี วามตรงไปตรงมา สามารถ ทาให้มองเห็นภาพท่ีจะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต สามารถใช้เป็นสว่ นตดิ ตอ่ กับผูใ้ ช้ใน DSS สรา้ งจากมมุ มอง ของผู้บรหิ ารได้สามารถจัดการกบั ปัญหาไดห้ ลายรูปแบบ และมคี วามยืดหยนุ่ ปรบั เปลย่ี นตวั แปรได้
86 ดร.สาวิตรี บญุ มี แต่ก็มีข้อจากัด คือ ไมส่ ามารถรบั ประกนั ไดว้ า่ ทางเลือกไหนดที สี่ ุด ใช้งบประมาณในการพฒั นาสงู ใน บางครั้ง เป็นแบบจาลองที่สร้างมาแลว้ ใชไ้ ดเ้ ฉพาะปัญหานั้น ๆ และบางคร้ังใชง้ านยาก ผู้ใช้ จาเปน็ ต้องมีความรู้ 4.4.4.5. แบบจาลองสถานการณ์ Heuristic โปรแกรมฮวิ รสิ ติก ใช้แก้ปัญหาท่ีซบั ซ้อนมาก ปัญหาไม่มโี ครงสร้างและก่งึ โครงสรา้ ง ไมต่ ัวแปรที่ไม่แน่นอน ใชก้ ฏเกณฑ์ในการพิจารณาปญั หา ค้นหา เรยี นรู้ ประเมิน และพจิ ารณา ตดั สนิ ใจ โปรแกรมฮิวรสิ ติกน้ี มขี ้อดี คอื ใช้แก้ปญั หาได้ง่ายขึ้น ช่วยให้มีความคดิ สร้างสรรค์ ประหยดั เวลาในการกาหนดสูตรคานวณ ใช้งานรว่ มกับ Intelligent Agent และนามาจาลอง เขยี นโปรแกรมได้ แต่ในขณะเดยี วกันมี ข้อจากัด ในเร่ืองไม่สามารถรบั ประกันได้วา่ จะเป็นแนวทางที่ดที ่สี ดุ กฎตา่ ง ๆ ที่ใชอ้ าจจะมขี ้อยกเวน้ ไมส่ ามารถทานายผลลัพธไ์ ด้ในทกุ แนวทาง และความสัมพนั ธ์ระหว่าง สว่ นต่างๆ ในระบบ อาจสง่ ผลกระทบต่อภาพรวม แบบจาลองโปรแกรมฮวิ ริสตกิ สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภท ดงั นี้ 1) Construction Heuristic สรา้ งแนวทางดว้ ยการเพม่ิ สว่ นประกอบขน้ึ เร่ือยๆ 2) Improvement Heuristic พฒั นาจนกว่าจะใชไ้ ด้ 3) Mathematical Programming ประยกุ ตว์ ธิ ีการทางคณิตศาสตร์ 4) Decomposition แยกปัญหาเปน็ สว่ น ๆ เพื่อแก้ไข 5) Partitioning แยกหาวิธีแก้ปัญหาสว่ นย่อย แล้วนามาแกส้ ่วนรวม 4.4.4.6. แบบจาลองพยากรณ์ แบบจาลองประเภทนี้เน้นการพยากรณ์อนาคตสาหรับสถานการณ์สมมติ เครอ่ื งมือท่ีใชเ้ ช่น แบบจาลองพยากรณ์ และการวิเคราะห์ตัวแบบมารค์ อฟ เปน็ ต้น
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สินใจทางธุรกิจ 87 ภาพที่ 4.11 ตัวอยา่ งการใช้ Solver กบั ตวั แบบมารค์ อฟ ภาพท่ี 4.11 แสดงการนาเคร่ืองมือ Solver ของ Excel มาใช้แก้ปญั หาตัวแบบ มารค์ อฟ นอกจากน้ยี ังสามารถสร้างสมการเชงิ ถดถอย (Regression equation) เพอ่ื ใชเ้ ป็นแบบจาลอง พยากรณ์ ตามตวั อยา่ งในภาพที่ 4.12 ซ่งึ เป็นการนาข้อมลู มาสร้างเป็นแผนภูมกิ ระจายและให้ Excel สรา้ ง สมการเพ่ือใช้ในการพยากรณ์ยอดขาย ภาพที่ 4.12 ตวั อย่างแบบจาลองพยากรณ์
88 ดร.สาวติ รี บญุ มี 4.4.4.7. แบบจาลองอืน่ แบบจาลองอ่ืน ๆ มักใช้การคน้ หา “What-if” โดยใช้รว่ มกบั สูตรที่สร้างไว้ เช่น แบบจาลองทางการเงิน และ แบบจาลองแถวคอย เป็นต้น เครือ่ งมือของ Excel ทใี่ ชใ้ นการวิเคราะห์ What-if ประกอบดว้ ย ตวั จดั การสถานการณส์ มมติ และ ตารางข้อมูล ท่ีกลา่ วถงึ ในหัวข้อก่อนหน้า นอกจากนย้ี ังมี เคร่ืองมือคน้ หาเป้าหมาย (Goal seek) ที่เป็นประโยชน์มากอีกเครื่องมือหนึง่ จากภาพท่ี 4.13 คือแบบจาลองทใี่ ช้วเิ คราะหป์ ริมาณการสง่ั ซื้อท่ีประหยัดท่ีสุด กอ่ นการวเิ คราะห์ What-if ด้วยเครอื่ งมือค้นหาเป้าหมาย ของ Excel โดยจะคน้ หายอดขายท่ีทาให้ EOQ มคี า่ 1,000 ถว้ ย จากคา่ ปัจจุบัน 707.11 ถ้วย ภาพท่ี 4.14 แสดงผลลพั ธ์จากการค้นหาเป้าหมาย ค่าของ ยอดขายเปล่ียนอตั โนมตั เิ ปน็ 2,000 ถว้ ย ทจ่ี ะทาให้ EOQ มคี ่าตามเป้าหมายที่ต้องการ เครอ่ื งมือค้นหา เปา้ หมายหรือ Goal Seek นี้จะครอบคลมุ ในเน้ือหาบทท่ี 12 ภาพที่ 4.13 ตวั อยา่ งการเรยี กใชเ้ ครอ่ื งมือค้นหาเปา้ หมาย
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ 89 ภาพที่ 4.14 ตัวอย่างผลลัพธ์ของเครอ่ื งมือค้นหาเป้าหมาย 4.5. การจัดการสือ่ ประสานกบั ผใู้ ช้ (User Interface Management) User Interface เป็นสือ่ กลางในการติดตอ่ และตอบโต้ระหว่างผูใ้ ชแ้ ละระบบ ด้านฮาร์ดแวร์ เช่น คยี บ์ อรด์ เมาส์ จอสัมผสั เครือ่ งอา่ นบาร์โค้ด ดา้ นซอฟต์แวร์ การโตต้ อบผ่านแสดงผลทางจอภาพ ภาพท่ี 4.15 แสดงหนา้ ที่ของส่วนส่อื ประสานกบั ผู้ใช้ ท่เี ป็นสือ่ กลางระหว่างผูใ้ ชโ้ ดยแปลคาสัง่ จากผู้ใช้แลว้ สง่ ไป ประมวลผลกับสว่ นจัดการแบบจาลองทร่ี ้องขอข้อมูลจากสว่ นจัดการขอ้ มลู และสง่ ผลลัพธ์กลับไปให้ผ้ใู ช้ ดงั น้นั จะเหน็ ได้วา่ ผใู้ ช้จะไมร่ ูก้ ระบวนการทางานภายในของระบบและรับร้ผู า่ นสว่ นสือ่ ประสานกับผ้ใู ช้ เทา่ นัน้ คาถาม สว่ นจดั การสอ่ื ประสานกับผู้ใช้ ผ้ใู ช้ คาตอบ สว่ นจัดการขอ้ มลู ส่วนจดั การแบบจาลอง ภาพที่ 4.15 หนา้ ท่ีของส่วนสื่อประสานกับผใู้ ช้
90 ดร.สาวติ รี บญุ มี 4.5.1. องค์ประกอบส่วนการจัดการส่อื ประสานกับผใู้ ช้ องคป์ ระกอบส่วนสอ่ื ประสานกับผู้ใชน้ ้นั แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลกั คอื องค์ประกอบใน กลุ่มผู้ใช้ระบบ และ องคป์ ระกอบในกลมุ่ ของระบบคอมพิวเตอร์ 1) องคป์ ระกอบในกล่มุ ของผูใ้ ชร้ ะบบ ประกอบด้วย 3 สว่ น คือ องค์ความรู้ (Knowledge) เปน็ ความรู้ท่ีผูใ้ ชจ้ ะตอ้ งมีในการใชร้ ะบบ ภาษาการกระทา (Action language) เป็นภาษาหรือการกระทาทผ่ี ใู้ ช้ ใชต้ ิดต่อส่อื สารกับระบบ และปฏกิ ริ ยิ า โตต้ อบของผใู้ ช้ (User’s reaction) เปน็ ปฏิกิริยาตอบโต้ของผูใ้ ช้เม่ือระบบแสดง ผลลัพธม์ า 2) องคป์ ระกอบในกลมุ่ ของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วย 3 สว่ น คอื บทโต้ตอบ (Dialog) ซ่งึ เป็นบทสนทนาที่เตรียมไวใ้ นระบบ การประมวลผลของคอมพิวเตอร์ (Computer processing) ใช้แปลคาส่งั ทผี่ ้ใู ช้ปอ้ นผา่ นทาง action language แลว้ ประมวลผล และภาษาการนาเสนอ (Presentation language) แสดงผลการ ประมวลผลในรูปแบบต่าง ๆ ภาพท่ี 4.16 แสดงตวั อย่างส่วนสอื่ ประสานกับผใู้ ช้ที่มีลกั ษณะเปน็ หนา้ จอของโปรแกรมท่ี แสดงผา่ นจอภาพคอมพิวเตอร์ ใช้วธิ กี ารโต้ตอบดว้ ยการพมิ พแ์ ละการคลกิ ปุม่ และนาเสนอผลลัพธบ์ น หนา้ จอ
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ 91 ภาพที่ 4.16 ตวั อยา่ งสอ่ื ประสานกับผใู้ ช้ 4.5.2. ระบบจดั การส่ือประสานกบั ผู้ใช้ (User Interface Management System : UIMS) ระบบจดั การส่ือประสานผูใ้ ช้ คือ ซอฟต์แวรท์ ี่ทาหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางประสานสว่ นตา่ ง ๆ ในระบบ เพอื่ ทาให้เกิดผลลพั ธต์ ามท่ีผูใ้ ชต้ อ้ งการ เช่น ตดิ ต่อกบั ระบบจดั การฐานข้อมูล ระบบจดั การ แบบจาลอง ระบบจดั การฐานความรู้ บางครัง้ มกี ารประสานกบั รูปแบบการแสดงผลลัพธ์ ความสามารถของระบบจดั การสื่อประสานผใู้ ช้ ต้องสามารถรองรับการแสดงผลเชิง กราฟฟกิ หรือ GUI ควรรองรับอุปกรณ์นาเขา้ และอปุ กรณ์แสดงผล ได้หลายประเภท ควรมคี วามยืดหยุ่น ปรับตามปัญหาที่แตกต่างกนั ได้ ควรมกี ารจัดเตรียมตวั อยา่ งใหผ้ ใู้ ชฝ้ กึ ทักษะการใชร้ ะบบ และผู้ใช้สามารถ ปรบั แตง่ หนา้ จอของระบบได้ตามต้องการ 4.5.3. การออกแบบสว่ นสื่อประสานกบั ผู้ใช้ การออกแบบส่วนสอ่ื ประสานกบั ผใู้ ช้ ควรคานงึ ถงึ ประเดน็ ดังต่อไปนี้ 1) ขณะทผี่ ้ใู ช้ระบบจรงิ ๆ 2) เวลาท่ีใช้ในการเรียนรู้ระบบ 3) ความสามารถรอบดา้ นทเ่ี ข้ากับระบบอ่นื ๆ ได้ 4) ขอ้ ผดิ พลาดที่เกิดขนึ้ จากตัวผู้ใช้ 5) เครือ่ งมอื ทผี่ ู้ใชจ้ ะใช้ 6) ระดับความต้องการของผ้ใู ช้ 7) ความอ่อนล้าของผใู้ ช้ในการใชง้ าน
92 ดร.สาวิตรี บญุ มี 8) มาตรฐานการใชค้ าสง่ั 9) ความสวยงาม นา่ ใช้ ไมซ่ ับซ้อน 10) เลอื กใช้ไอคอนและสญั ลักษณ์ถูกต้อง เหมาะสม 11) รองรับจานวนสารสนเทศเข้า-ออก อยา่ งเหมาะสม 4.5.4. รูปแบบของส่ือประสานกับผู้ใช้ รปู แบบของการส่ือประสานกับผูใ้ ช้ มี 5 รูปแบบ คอื การโตต้ อบดว้ ยคาส่งั การโตต้ อบ ดว้ ยเมนู การโต้ตอบดว้ ยแบบฟอรม์ การโต้ตอบเชงิ วตั ถุ และการโต้ตอบดว้ ยภาษามนุษย์ 1) การโต้ตอบด้วยคาสง่ั (Command Language Interaction) วิธกี ารน้ีใช้วธิ พี มิ พ์ คาสง่ั เชน่ DOS, UNIX ภาพท่ี 4.17 ตัวอย่างการโตต้ อบด้วยคาสั่งใน DOS 2) การโตต้ อบดว้ ยเมนู (Menu Interaction) เชน่ การใช้ Pull-down menu หรือ การ ใช้ Pop-up menu ภาพท่ี 4.18 ตวั อยา่ ง Pull-down menu
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ 93 ภาพที่ 4.19 ตวั อยา่ ง Pop-up menu 3) การโต้ตอบดว้ ยแบบฟอรม์ (Form Interaction) ภาพท่ี 4.20 ตวั อยา่ งการโต้ตอบด้วยฟอร์ม
94 ดร.สาวติ รี บญุ มี 4) การโต้ตอบเชิงวัตถุ ภาพท่ี 4.21 ตัวอย่างการโต้ตอบเชงิ วัตถุ 5) การโตต้ อบดว้ ยภาษามนุษย์ ภาพที่ 4.22 ตวั อย่างการโตต้ อบด้วยภาษามนุษย์
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนุนการตดั สินใจทางธุรกิจ 95 4.5.5. การออกแบบคอนโทรลท่ใี ชใ้ นหนา้ จอ GUI หนา้ จอ GUI จะใช้คอนโทรลในการควบคุมการโต้ตอบกับผูใ้ ช้ ซง่ึ คอนโทรลมหี ลายชนิด แตล่ ะชนดิ มกี ารใชง้ านทแ่ี ตกตา่ งกันตามตารางท่ี 4.4 ตารางท่ี 4.4 ชนิดคอนโทรลและการใช้งาน ชนิดคอนโทรล การใชง้ าน Textbox รบั ขอ้ มลู ประเภทตัวเลข ข้อความ Radio button รบั ข้อมูลที่มีตวั เลอื กชดั เจน และเลอื กไดร้ ายการเดียว Checkbox รับข้อมูลท่ีมตี วั เลอื กชดั เจน และเลือกได้หลายรายการ List box รบั ขอ้ มลู ท่ีมีตวั เลอื กหลายรายการ แสดงรายการตลอดเวลา Combo box รบั ขอ้ มลู ที่มตี วั เลอื กหลายรายการ คลกิ ปมุ่ เพ่ือแสดงรายการ Spin box (Numericupdown) ข้อมลู ตัวเลข ใช้เพม่ิ /ลดตวั เลข Others ปฏิทนิ ภาพท่ี 4.23 แสดงตวั อยา่ งการนาคอนโทรลมาใชใ้ นการออกแบบหน้าจอ GUI ภาพที่ 4.23 ตวั อย่าง Graphic User Interface
96 ดร.สาวิตรี บญุ มี 4.5.6. การตอบสนองของระบบ (Providing Feedback) การตอบสนองของระบบเป็นการแจง้ ให้ผู้ใชท้ ราบวา่ ขณะนี้ระบบกาลังทาสงิ่ ใดอยู่ เพือ่ ให้ ผู้ใชร้ ับทราบวา่ ระบบไดร้ บั คาสัง่ กาลังดาเนนิ การ ดาเนินการเสรจ็ สิ้น หรอื ต้องดาเนนิ การสง่ิ ใดต่อไป โดย สามารถตอบสนองไดห้ ลายรูปแบบ ดงั นี้ 1) แจ้งสถานะการทางาน (Status information) ภาพที่ 4.24 ตัวอยา่ งกราฟฟิกแสดงสถานะการทางาน ทมี่ า: www.dwuser.com และ www.jqueryscript.net 2) แสดงความพรอ้ มในการรบั คาส่งั (Prompt) เพ่ือให้ผู้ใช้ดาเนนิ การต่อ ภาพที่ 4.25 ตวั อย่างการตอบสนองแบบ Prompt 3) แจ้งข้อความเตือน (Warning/ Error Message) ภาพท่ี 4.26 ตัวอย่างการแจง้ เตอื น
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 97 4.6. บทสรุป ระบบสนับสนุนการตัดสนิ ใจประกอบด้วยองคป์ ระกอบหลัก 3 องค์ประกอบ คือ ส่วนจัดการข้อมลู ส่วนจดั การแบบจาลอง สว่ นจัดการสอ่ื ประสานกบั ผ้ใู ช้ ถา้ ในกรณีทเี่ ปน็ DSS แบบอจั ฉริยะจะมี องคป์ ระกอบส่วนท่ี 4 เพ่ิมขึ้นมาคือ สว่ นการจัดการความรู้ จากองคป์ ระกอบของ DSS จะพบวา่ DSS มี องคป์ ระกอบที่แตกตา่ งจากระบบสารสนเทศอ่นื คือสว่ นจดั การแบบจาลอง และส่วนที่เหมอื นระบบ สารสนเทศอน่ื คือสว่ นจดั การขอ้ มลู และส่วนส่ือประสานกบั ผู้ใช้ แต่ละองค์ประกอบต้องทางาน ประสานกันเพอ่ื จดั ทาสารสนเทศให้กบั ผู้บรหิ าร สว่ นการจัดการข้อมลู ทาหน้าท่ีคัดกรองข้อมูล เก็บรวม รวม จดั เก็บข้อมลู และเรยี กใชข้ ้อมูล ประกอบดว้ ยฐานข้อมูล ระบบจดั การฐานข้อมูล สารบญั ข้อมูล ส่วน สอบถามขอ้ มูล และส่วนกล่ันกรองขอ้ มลู เทคโนโลยีที่ใชใ้ นการจดั การข้อมลู สว่ นใหญ่เป็นฐานข้อมูลเชิง สัมพนั ธ์ คลังข้อมูล และการทาเหมืองข้อมูล ส่วนการจัดการแบบจาลอง ทาหน้าท่สี ร้าง ปรับปรงุ จัดเก็บ และเรยี กใชแ้ บบจาลอง ประกอบด้วย ฐานแบบจาลอง ระบบจดั การฐานแบบจาลอง ภาษาทีใ่ ชส้ รา้ ง แบบจาลอง สารบญั แบบจาลอง และการดาเนนิ การกบั แบบจาลอง เทคโนโลยที ี่ใชส้ ่วนใหญ่จะเป็นภาษาที่ ใชใ้ นการพัฒนาโปรแกรม แต่โปรแกรมสาเรจ็ รูปทีไ่ ด้รบั ความแพรห่ ลายในการทาแบบจาลองคือ Excel ซง่ึ จะอธิบายการพัฒนาแบบจาลองดว้ ย Excel ในบทถัดไป ส่วนการจัดการส่อื ประสานกบั ผู้ใช้ มหี นา้ ทร่ี ับคา สั่งจากผู้ใช้ แปลงคาสง่ั และส่ือสารกบั ส่วนจัดการแบบจาลองและส่วนจัดการข้อมลู เพ่ือแสดงผลลพั ธใ์ หก้ บั ผ้ใู ช้ DSS เนน้ ส่วนส่ือประสานกับผูใ้ ช้ทใ่ี ชง้ านงา่ ย และแสดงผลในรูปแบบแผนภูมิหรือ กราฟกิ ประกอบด้วย ระบบจัดการสือ่ ประสานกบั ผู้ใช้ องคป์ ระกอบส่วนผ้ใู ชร้ ะบบ และองคป์ ระกอบส่วน คอมพิวเตอร์
98 ดร.สาวิตรี บญุ มี แบบฝึกหัดทา้ ยบท 1) องค์ประกอบของสถาปตั ยกรรมระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ แบง่ เป็น 4 องค์ประกอบ อะไรบา้ ง อธิบาย 2) จากองคป์ ระกอบในข้อ 1) ทา่ นคดิ วา่ อะไรบ้างท่ีแตกต่างจากระบบสารสนเทศอืน่ เชน่ ระบบ ประมวลผลรายการ (TPS) ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ (MIS) เพราะเหตุใด 3) อธบิ ายสว่ นการจดั การข้อมลู ตามหัวขอ้ ต่อไปนี้ a. การเก็บรวบรวมข้อมลู b. การวิเคราะห์ขอ้ มูลในคลงั ขอ้ มลู c. การแสดงผลข้อมลู 4) อธบิ ายความหมายของแบบจาลอง 5) อธิบายประเภทของแบบจาลอง และยกตวั อย่าง 6) อธบิ ายความหมายของการส่ือประสานกบั ผ้ใู ช้ 7) การออกแบบสว่ นสอ่ื ประสานกบั ผ้ใู ช้ควรคานงึ ถึงอะไรบ้าง 8) รูปแบบของส่วนสือ่ ประสานกับผ้ใู ช้มกี ีแ่ บบอะไรบ้าง ยกตัวอย่าง 9) จากภาพเป็นการโตต้ อบแบบใด
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ 99 10) จากภาพเป็นการตอบสนองแบบใด 11) จากภาพเปน็ การโตต้ อบกบั ผใู้ ช้แบบใด
100 ดร.สาวิตรี บญุ มี เอกสารอ้างอิง กิตติ ภกั ดีวัฒนะกุล. (2553). ระบบสนบั สนนุ การตัดสนิ ใจและระบบผู้เชยี่ วชาญ. กรุงเทพฯ: เคทพี ี. Eksioglu, S.D, Seref, M.M.H., Ahuja, R.K. and Winston, W.L. (2011). Developing Spreadsheet- Based Decision Support Systems: Using Excel and VBA for Excel, 2nd edition. Massachusetts: Dynamics Idea. Sauter, V.L. (2010). Decision Support Systems for Business Intelligence, 2nd edition. New Jersey: John Wiley & Sons. Sharda, R., Delen, D., and Turban, E. (2014). Business Intelligence and Analytics: Systems for Decision Support, 10th Edition. London: Prentice-Hall. Turban, E. and Aronson, J.E.(1998). Decision Support Systems and Intelligent Systems. New Jersey: Prentice-Hall. Turban, E., Aronson, J.E., and Liang, T.(2007). Decision Support Systems and Intelligent Systems, 7th Edition. New Delhi: Prentice-Hall.
แผนบรหิ ารการสอนประจาวชิ าบทที่ 5 หัวข้อเน้อื หาประจาบท 1. การวเิ คราะห์ข้อมูลเพื่อสนบั สนุนการตดั สินใจ 2. หลกั การสร้าง Data Model 3. การสรา้ ง Data Model โดยใช้ Data Table 4. การใช้ VLOOKUP รวมข้อมูลจากหลายตาราง 5. ความหมายของ PivotTable ใน Microsoft Excel 6. ส่วนประกอบของ PivotTable 7. การสรา้ ง PivotTable เบอื้ งต้น 8. การสร้าง PivotChart วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. เพ่อื ให้ผ้ศู กึ ษามีความเขา้ ใจในหลักการสรา้ ง Data Model เพ่อื ใชใ้ นการวิเคราะหข์ ้อมูล 2. เพอื่ ใหผ้ ูศ้ กึ ษาสามารถสรา้ ง Data Model โดยใชเ้ ครือ่ งมือ Data Table ของ Excel ได้ 3. เพ่อื ให้ผศู้ ึกษาสามารถประยุกต์ใชฟ้ งั ก์ชนั VLOOKUP ในการรวมข้อมูลจากหลายตารางได้ 4. เพอ่ื ใหผ้ ศู้ ึกษาเขา้ ใจประโยชนใ์ นการใช้ PivotTable เพื่อสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กิจ 5. เพ่ือใหผ้ ู้ศึกษารจู้ ักองคป์ ระกอบของ PivotTable ใน Excel 6. เพอื่ ใหผ้ ู้ศึกษาสามารถสร้าง PivotTable จาก Data Model ที่สรา้ งขน้ึ ได้ 7. เพอ่ื ให้ผู้ศึกษาสามารถสร้าง PivotChart จาก PivotTable ท่ีสร้างข้นึ ได้ วิธีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนประจาบท 1. ศึกษาเอกสารประกอบการสอน 2. บรรยายและยกตัวอย่าง โดยใชโ้ ปรแกรมนาเสนอ 3. ถามตอบในชั้นเรียน 4. ปฏิบตั กิ ับโปรแกรมเป็นตวั อย่างหน้าชนั้ เรยี น 5. ฝึกปฏบิ ตั ิกบั โปรแกรม
102 ดร.สาวติ รี บญุ มี สื่อการเรยี นการสอน 13. เอกสารประกอบการสอน 14. โปรแกรมนาเสนอ 15. ไฟลต์ ัวอย่าง 16. Microsoft Excel การวัดและประเมินผล 13. สังเกตจากพฤติกรรมความสนใจ และการรว่ มกจิ กรรมในชั้นเรยี น 14. ประเมนิ ผลจากการฝึกปฏบิ ัติในชน้ั เรียน 15. ประเมินผลจากการทดสอบปฏิบตั ิ
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกิจ 103 บทท่ี 5 การเตรยี มขอ้ มลู และการสรา้ งตาราง PivotTable เบ้อื งตน้ PivotTable เป็นเครอ่ื งมือในการวเิ คราะห์ขอ้ มูลที่มปี ระโยชนแ์ ละใช้งานง่าย แต่การจะนา PivotTable มาใชไ้ ดน้ น้ั จาเปน็ ตอ้ งมีการเตรยี มข้อมูลให้พรอ้ มก่อนนามาใช้งาน ซ่งึ มีความคลา้ ยคลงึ กับ การเตรยี มดาต้ามารท์ จากคลังขอ้ มูลเพ่ือนามาใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกจิ เครือ่ งมือทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับการ จดั การข้อมูลในรปู แบบของตารางนนั้ คือ ตารางข้อมลู การเข้าใจหลักการทางานของตารางขอ้ มลู จะช่วย ใหท้ างานกับข้อมูลจานวนมากที่มรี ปู แบบเดยี วกนั กบั ฐานข้อมูลเชงิ สมั พนั ธ์ไดง้ ่ายและสะดวกขึ้น 5.1. การวิเคราะห์ข้อมูลเพอ่ื สนับสนนุ การตดั สินใจ ในบทท่ี 4 ได้กลา่ วถึงองคป์ ระกอบของระบบสนับสนนุ การตัดสินใจ หนง่ึ ในองคป์ ระกอบนั้นคอื ส่วน การจัดการขอ้ มลู ซึง่ การนาข้อมูลท่ีเก็บรักษาไว้ในฐานข้อมูลมาใชว้ ิเคราะห์นั้น ในบทดังกลา่ วไดอ้ า้ งถงึ การ วเิ คราะห์แบบ OLAP จากข้อมลู ในคลงั ขอ้ มลู หรือ Data warehouse และเทคนิคการวเิ คราะหก์ ารทา เหมอื งข้อมลู ซ่ึงทัง้ สองวธิ ีต้องใชโ้ ปรแกรมเฉพาะทางและความรู้ทางด้านเทคนิค ในขณะที่ Excel มี เคร่อื งมอื ท่ีเรยี กว่า PivotTable ท่สี ามารถใช้วเิ คราะหข์ ้อมูลได้เช่นกัน โดยเนน้ การปรบั เปลยี่ นการสรุป ขอ้ มูลโดยไมม่ ีต้องความรู้เก่ียวกับฟังก์ชันใน Excel และสถติ ิข้ันสูง เน้นการนาเสนอใหเ้ ข้าใจง่ายและ รวดเรว็ ของข้อมูลเชงิ ปรมิ าณ โดยการวิเคราะหข์ ้อมลู มีข้นั ตอนสาคญั 5 ขั้นตอน (Dillard, J., 2017) ดงั น้ี ขั้นตอนที่ 1 ระบปุ ญั หาหรือคาถามทตี่ อ้ งการทราบคาตอบให้ชดั เจนและตรงประเดน็ ข้นั ตอนท่ี 2 ระบุวา่ คาถามนน้ั ใช้อะไรในการวดั ค่าเชงิ ปริมาณ และวัดอยา่ งไร ขน้ั ตอนท่ี 3 รวบรวมขอ้ มลู ท่ตี รงตามความต้องการและระบุในขน้ั ตอนท่ี 2 ขนั้ ตอนที่ 4 ทาการวิเคราะหข์ ้อมลู ขั้นตอนที่ 5 แปลผลและนาเสนอขอ้ มลู ข้นั ตอนท่ี 1 และ ขัน้ ตอนที่ 2 ได้กลา่ วถงึ ในบทที่ 2 ในบททนีจ้ ะกล่าวถึงขั้นตอนท่ี 3 การรวบรวม ข้อมลู เพื่อเตรียมทา Data model เพื่อใชใ้ นการวเิ คราะห์ขอ้ มูล โดยใช้ Data Table และการรวมขอ้ มูล จากหลายตารางโดยใช้ฟังกช์ ่ัน VLOOKUP ข้ันตอนท่ี 4 และ 5 ทาการวเิ คราะหข์ อ้ มลู และนาเสนอขอ้ มลู โดย PivotTable 5.2. หลักการสร้างแบบจาลองข้อมูล (Data Model) Data model หรอื แบบจาลองข้อมูลเป็นข้อมลู ท่ีถูกรวบรวมไว้ดว้ ยกนั เพื่อใชจ้ ัดทารายงาน สารสนเทศ PivotTable หรอื Dashboard ซง่ึ Data model ที่ดนี ัน้ ควรมีข้อมูลที่สนบั สนุนการตอบ คาถามที่ต้องใชใ้ นการตดั สนิ ใจ
104 ดร.สาวิตรี บญุ มี ส่งิ แรกท่ีต้องคานึงถึงในการสร้าง Data model คือ ส่วนของข้อมลู (data) ส่วนการวิเคราะห์ (Analysis) และสว่ นการนาเสนอ (Presentation) ควรแยกออกจากกนั (Alexander, M. and Walkenbach, J.,2010: 30-34) หรอื แยกกนั ตาม Input-Process-Output นั่นเอง ดงั ภาพท่ี 5.1 จากภาพที่ 5.1 ภาพ (ก) ส่วนของข้อมลู คือตารางที่เกบ็ ข้อมูลทรี่ วบรวมมาตามจริง ยงั ไมม่ กี ารสรปุ ขอ้ มลู ซ่ึงควรจะอยใู่ นรปู แบบทพ่ี รอ้ มนาไปวิเคราะห์ ภาพ (ข) ส่วนวเิ คระห์ เป็นตารางที่ได้สรุปข้อมูลจากก การวิเคราะห์แลว้ และพร้อมนาไปนาเสนอเป็นแผนภมู ติ าม ภาพ (ค) สว่ นนาเสนอ ทั้งสามส่วนควรแยกออกจากกัน เพือ่ ให้เกิดความยืดหย่นุ ในการวเิ คราะห์และนาเสนอ ซ่งึ ส่วนการ วิเคราะห์และสว่ นนาเสนออาจจะอยใู่ นแผน่ งานเดียวกันท้ังหมดก็ได้ หรอื อยคู่ นละส่วนก็ได้ แตส่ ่วนข้อมลู น้ันควรแยกอยู่คนละแผน่ งานจะดที ี่สดุ เนื่องจากอาจจะมกี ารเปลย่ี นแปลงของขอ้ มลู ในอนาคตจึงควรไมม่ ี สง่ิ อ่ืนนอกจากขอ้ มูลในแผน่ งานนน้ั (ก) สว่ นขอ้ มูล (ข) ส่วนวิเคราะห์
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนนุ การตดั สินใจทางธุรกจิ 105 (ค) สว่ นนาเสนอ ภาพท่ี 5.1 การแยกสว่ นของ Data model สว่ นข้อมูลจะเตรียมโดยใช้ Data table ตามหัวข้อ 5.2 สว่ นวิเคราะห์ จะจดั ทาโดย PivotTable ตามหวั ข้อ5.3 และสว่ นนาเสนอ จะจัดทาโดย PivotChart ตามหัวขอ้ 5.4 ตวั อย่างในบทน้ี จะเปน็ การวเิ คราะห์ข้อมูลการขายสินคา้ ของบรษิ ทั แหน่งหนง่ึ โดยขอ้ มูลจะได้ จากการสร้างตารางเพ่ือทาเป็นตารางข้อมลู จานวน 5 ตาราง ประกอบดว้ ยตาราง Master 3 ตาราง คอื ตารางสินค้า ตารางลกู คา้ ตารางประเภทสินค้า และตาราง Transation 2 ตาราง คือ ตารางขาย_ส่วนหวั และตารางขาย_รายละเอยี ด ซ่ึงตารางทง้ั 5 น้ี ออกแบบและเก็บขอ้ มลู ตามหลกั การ normalization ของ การออกแบบฐานข้อมูล ดังนั้น ตารางขาย_รายละเอียดจงึ เกบ็ แตร่ หสั สินค้าโดยไม่มีช่ือสนิ คา้ ก่อนการ วิเคราะหจ์ งึ ต้องถูกทาการ denormalization เพื่อนาข้อมูลทั้งหมดกลบั มารวมกนั ในตารางเดยี วเพอื่ ใชช้ ่ือ ขอ้ มูลมาวิเคราะห์และนาเสนอผลการวิเคราะหเ์ พ่ือการตัดสินใจ ซ่งึ เขา้ ใจงา่ ยกว่าการแสดงผลเป็นรหัส 5.2.1. การเตรยี ม Data model โดยใชต้ ารางขอ้ มลู (Data Table) ตารางข้อมลู (Data table) เปน็ การจัดรปู แบบขอ้ มูลใหอ้ ยู่ในรปู แบบตารางท่มี ลี ักษณะ การทางานคล้ายคลึงกบั ตารางของระบบฐานข้อมลู ท่ีประกอบดว้ ยคอลมั น์ และ ระเบยี น การจัดรูปแบบ เช่นน้จี ะมขี ้อดี ดงั นี้ - การสร้างสตู รสามารถอ้างองิ โดยใชช้ ่อื ตาราง หรอื ช่อื คอลัมนไ์ ดโ้ ดยตรง แทนการใชช้ ่ือชว่ งเซลล์ - เม่ือมีการเพิ่มข้อมูลในชว่ งตารางข้อมลู ที่เราอ้างอิง เราไม่จาเปน็ ต้องแก้สูตรเช่นเดียวกับการใช้ชื่อ ชว่ งเซลล์ เนอื่ งจาก Excel จะปรบั ปรุงชว่ งท่ีอยู่ในตารางข้อมลู ใหค้ ลุมขอ้ มลู ใหม่อตั โนมัติ แตท่ ั้งนใ้ี นบางกรณีการอา้ งอิงสูตรไปยงั ตารางขอ้ มลู จะไมเ่ หมาะสม ถ้ามีความจาเปน็ ต้อง ลอ็ คแถวหรือคอลัมน์ในสูตรเนอื่ งจากการอ้างอิงชอื่ คอลัมน์ของตารางทาให้ไม่สามารถใช้ปุ่ม F4 ได้ โดย วิธีการสรา้ งตารางข้อมูล สามารถสร้างได้จากริบบอนหน้าแรก เครือ่ งมือ \"Format as Table\"
106 ดร.สาวิตรี บญุ มี การจดั รปู แบบเปน็ ตารางสามารถทาได้ตามขน้ั ตอนต่อไปนี้ 1) สรา้ งไฟล์ Excel ใหม่ และบันทึกช่ือ ex3pivot1.xlsx 2) ข้ันตอนที่ 1 สรา้ งขอ้ มูล เลอื กแผ่นงาน \"Sheet1\" เปลี่ยนช่ือแผน่ งานเป็น “สนิ ค้า” และพิมพ์ข้อความตามภาพที่ 5.2 หมายเหตุ ควรใช้การเตมิ ชดุ ข้อมูลอตั โนมัติจะช่วยใหส้ ร้างข้อมูลาหรบั ฝึกปฏิบัติไดเ้ ร็วขนึ้ ภาพท่ี 5.2 ตารางสนิ ค้า สร้างแผน่ งานใหม่ ตง้ั ชือ่ แผน่ งาน “ประเภทสนิ ค้า” และพิมพข์ ้อความตามภาพที่ 5.3 ภาพท่ี 5.3 ตารางประเภทสินค้า สร้างแผ่นงานใหม่ ตง้ั ช่อื แผ่นงาน “ลูกคา้ ” และพิมพข์ ้อความตามภาพที่ 5.4
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สินใจทางธรุ กจิ 107 ภาพท่ี 5.4 ตารางลกู ค้า สร้างแผ่นงานใหม่ ต้ังชื่อแผน่ งาน “ขาย_ส่วนหวั ” และพิมพ์ข้อความตามภาพท่ี 5.5 ภาพท่ี 5.5 ตารางขาย_สว่ นหวั สรา้ งแผน่ งานใหม่ ตั้งช่อื แผ่นงาน “ขาย_รายละเอยี ด” และพิมพ์ขอ้ ความ ในแถวท่ี 1 ของแต่ละ คอลัมน์ตามลาดบั ดังน้ี คอลมั น์ A เลขที่ใบเสร็จ คอลมั น์ B ลาดบั คอลัมน์ C รหัสสนิ ค้า คอลัมน์ D จานวน คอลัมน์ E วันทข่ี าย คอลัมน์ F รหัสลูกคา้ คอลมั น์ G ชอ่ื ลกู คา้ คอลมั น์ H จงั หวัด คอลัมน์ I ช่อื สนิ ค้า คอลมั น์ J ราคาตน้ ทุน คอลัมน์ K ราคาขาย
108 ดร.สาวิตรี บญุ มี คอลมั น์ L รหสั ประเภทสนิ ค้า คอลัมน์ M ชอื่ ประเภทสินค้า คอลมั น์ N ราคารวม คอลมั น์ O ต้นทุนรวม คอลมั น์ P กาไร จากนนั้ พิมพข์ ้อมลู ในตารางเฉพาะคอลมั น์ A B C และ D ตามภาพท่ี 5.6 ภาพท่ี 5.6 ขอ้ มลู ในตารางขาย_รายละเอยี ด เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วจะไดต้ ารางตามภาพที่ 5.7
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สนิ ใจทางธุรกิจ 109 ภาพที่ 5.7 ตารางขาย_รายละเอียด 3) ขัน้ ตอนท่ี 2 สร้างตารางข้อมูลจากขอ้ มลู ทมี่ ี วธิ ีการสร้างตารางข้อมูลมี 2 วธิ ี คอื สร้างจากเครื่องมือในริบบอน Home เครอ่ื งมอื Format as Table หรือ ใช้ป่มุ Ctrl + T เลอื กแผน่ งาน “สนิ ค้า” คลิกเลอื กเซลล์ใดกไ็ ด้ทมี่ ขี ้อมลู และในรบิ บอน”หน้าแรก” เลือก “จดั รปู แบบเป็นตาราง” แลว้ เลือกรูปแบบตามตอ้ งการ ตาม ภาพท่ี 5.8 ภาพที่ 5.8 เคร่ืองมือสร้างตารางขอ้ มลู เมื่อมหี นา้ ตา่ งยืนยันพ้นื ทที่ ่จี ะใช้สร้างตารางข้อมูล ใหท้ าเครอื่ งหมาย ในกล่อง “มีหัวตาราง” ตามภาพที่ 5.9 ควรตรวจสอบใหม้ ีเคร่ืองหมายทกุ ครั้ง หัวตาราง หมายถงึ แถวท่ี 1 ของแตล่ ะคอลมั น์ท่ีถูกใชเ้ ป็นชื่อของข้อมูลในคอลมั น์ เช่น ในแผน่ งาน สนิ คา้ คอลัมน์ A มีหวั คอลัมนใ์ นแถว 1 ชือ่ \"รหัสสนิ คา้ \" และข้อมูลในแถวอื่น ๆ คือ ส1001 ส 1002 ส1003 ... เปน็ ตน้
110 ดร.สาวิตรี บญุ มี ภาพที่ 5.9 หน้าตา่ งสร้างตารางขอ้ มลู หลงั จากคลิกปุ่ม OK Excel จะทาการจัดรปู แบบตารางให้ตามที่เลอื ก และใหส้ งั เกตวา่ มเี มนูเพิ่ม ข้ึนมาคือ เมนูออกแบบ (Design) ของ เครื่องมือตาราง (Table tools) ตามภาพที่ 5.10 ซ่งึ จะ แสดงเฉพาะเม่ือมีการคลิกภายในขอบเขตของตาราง ภาพที่ 5.10 เมนเู ครอื่ งมือตาราง กอ่ นทจ่ี ะคลิกเม้าสต์ าแหนง่ อื่น ๆ ให้ไปทเี่ มนู “ออกแบบ” ไปทีก่ ล่องซา้ ยมือสุด เปลยี่ นชอ่ื ตาราง เป็น Product ตามภาพที่ 5.11 ภาพที่ 5.11 การตั้งชอ่ื ตารางข้อมลู ทาซา้ ทุกแผ่นงานโดยตั้งช่อื ตามรายละเอยี ดต่อไปน้ี แผ่นงาน “ประเภทสนิ คา้ ” ตัง้ ชอ่ื Product_Type แผ่นงาน “ลูกค้า” ต้ังช่ือ Customer แผ่นงาน “ขาย_ส่วนหวั ” ตั้งชื่อ Sale_H แผ่นงาน “ขาย_รายละเอยี ด” ตั้งชือ่ Sale_Detail
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 111 5.2.2. การบูรณาการขอ้ มลู จากหลายตารางดว้ ยฟังก์ชน่ั VLOOKUP 5.2.2.1. ฟงั กช์ ัน VLOOKUP เป็นฟังกช์ ันท่ีใช้สาหรับคน้ หาขอ้ มลู จากชว่ งเซลลใ์ น Excel โดยคน้ หาจากคา่ ในคอลัมน์แรกของชว่ งเซลลต์ ามแนวตัง้ และส่งค่ากลบั เปน็ ผลลพั ธ์ในคอลมั น์ท่รี ะบุ ฟังกช์ นั VLOOKUP ประกอบดว้ ย 4 อารก์ วิ เมนต์ ซ่งึ 3 อารก์ วิ เมนตแ์ รกนน้ั ตอ้ งใส่ค่า ส่วนอารก์ ิวเมนตส์ ุดทา้ ยไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใสก่ ็ได้ แต่ทงั้ นี้จะทางานตามคา่ ท่ี Excel ต้งั ให้เป็นเรม่ิ ต้น โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ VLOOKUP(lookup_value,table_array,col_index_num,[range_lookup]) การทางาน ใช้ค้นหาคา่ ในคอลัมนแ์ รกของตาราง แล้วส่งกลับคา่ ในแถวเดียวกันจากคอลัมน์อนื่ ในตาราง ภาพที่ 5.12 หน้าต่างฟังกช์ นั VLOOKUP และอาร์กวิ เมนต์ lookup_value (ต้องระบุ) ค่าท่ีจะค้นหาในคอลัมน์แรกของตาราง ท้ังนี้ Lookup_value สามารถเป็นได้ทั้งค่าหรือการอ้างอิงเซลล์ ถ้าค่า lookup_value ที่เป็นตัวเลขมีค่าน้อยกว่าค่าท่ี น้อยทส่ี ุดในแถวแรกของ table_array จะทาให้ VLOOKUP คนื ค่าความผิดพลาด #N/A หรอื อีก นยั หนง่ึ คือหาขอ้ มูลไมพ่ บ ค่าที่ใส่ในอาร์กิวเมนต์น้ี คือ ค่าหนึ่งค่า หรือ เซลล์หน่ึงเซลล์ ท่ีมีค่าหนึ่งค่าอยู่ในนั้น สามารถใช้ได้ทั้งตัวเลขและตัวอักษรขึ้นอยู่กับวิธีการค้นหา ถ้าเป็นการค้นหาแบบตรงการทุก ประการสามารถใช้ได้ท้ังตัวเลขและตัวอักษร แต่ถ้าเป็นการค้นหาแบบใกลเ้ คียงจะใชไ้ ด้เฉพาะตัว เลขเท่านนั้ แตท่ ั้งน้คี วรหลีกเล่ียงการพิมพ์ค่าลงไปโดยตรงในสูตร แต่ใช้วิธกี ารอ้างองิ เซลล์ในสูตร เพ่อื ให้สามารถคัดลอกสูตร หรือเปล่ียนคา่ ทจ่ี ะคน้ หาได้ table_array (ต้องระบุ) คอลัมน์ข้อมูลสองคอลัมน์หรือ มากกว่า โดยค่าในคอลัมน์แรกของ table_array คือค่าที่ค้นหาด้วย lookup_value ค่าเหล่านี้อาจเป็นข้อความ ตัวเลข หรือค่าทาง ตรรกะ ตักอกั ษรข้อความทใ่ี ช้ตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็กจะไมแ่ ตกต่างกนั ไมม่ ีผลต่อการคน้ หา
112 ดร.สาวิตรี บญุ มี ค่าท่ีใส่ในอาร์กิวเมนต์นี้ คือ ช่วงของเซลล์ท่ีเป็นตารางที่มีข้อมูลท้ังหมด และไม่ จาเปน็ ต้องเลอื กหัวคอลมั น์ สงิ่ สาคัญทค่ี วรรูใ้ นการเลือก table_array - คอลัมน์ที่มีค่าท่ีจะค้นหา หรือ lookup_value ในคอลัมน์ จะต้องอยู่คอลัมน์แรก จากทางซ้ายของชว่ งเซลล์ทเี่ ลอื กเปน็ ตารางเสมอ - ถา้ เป็นการค้นหาแบบตรงกันทุกประการ คอลัมนแ์ รกนั้นไม่จาเป็นต้องเรียงลาดบั - ถ้าเป็นการค้นหาแบบใกล้เคียง คอลัมน์แรกนั้นต้องเรียงลาดับจากน้อยไปมาก ไม่เช่นนัน้ ผลลพั ธอ์ าจจะผดิ พลาดได้ - การเลือกช่วงเซลล์น้ันต้องครอบคลุมตั้งแต่คอลัมน์ที่มีค่าท่ีจะค้นหาไปจนถึงคอลัมน์ ที่มผี ลลพั ธท์ ่ีตอ้ งการ และถงึ ข้อมูลแถวสุดท้าย col_index_num (ต้องระบุ) หมายเลขคอลัมน์ใน table_array ซึ่งค่าผลลัพธ์ต้องการทราบ จะถูกส่งกลับมา ถ้า col_index_num เป็น 1 จะส่งกลับค่าในคอลัมน์แรกใน table_array ถ้า col_index_num เป็น 2 จะส่งกลับค่าคอลมั น์ทส่ี องใน table_array เปน็ ต้น ค่าที่ใส่ในอาร์กิวเมนต์น้ีจะต้องเป็นตัวเลขเท่านั้น ซ่ึงได้มาจากการนับคอลัมน์จากช่วง ของ table_array ทเี่ ลอื กไว้ โดยนบั จากคอลัมนแ์ รกทางซา้ ยเปน็ 1 เสมอและนับไปจนถงึ คอลัมน์ ท่ีต้องการทราบผลลพั ธ์ range_lookup ค่าตรรกะท่ีระบุว่าต้องการให้ VLOOKUP ค้นหาการจับคู่ท่ีตรงกันหรือการ จับคทู่ ใ่ี กล้เคียง: - ถ้าต้องการค้นหาแบบค่าใกล้เคียง ให้ใส่เป็น TRUE หรือไม่ใส่ค่าอะไรไว้ โดย VLOOKUP จะทาการส่งการจับคู่ค่าที่ค้นหา lookup_value กับข้อมูลในคอลัมน์ แรกที่ตรงกัน หรือถ้าไม่พบการจับคู่ท่ีตรงกัน ค่าที่ใกล้เคียงท่ีสุดที่น้อยกว่าค่า lookup_value จะถูกสง่ กลับมา คอลัมน์แรกน้ันต้องเรียงลำดับจำกน้อยไปมำก - ถ้าต้องการค้นหาแบบตรงกันทุกประการ ให้ใส่เป็น FALSE จะทาให้ VLOOKUP ค้นหาเฉพาะการจับคู่ที่ตรงกัน ในกรณีน้ี ค่าในคอลัมน์แรกของ table_array ไม่ จาเป็นต้องเรียงลาดับ หากมีคา่ สองคา่ หรือมากกว่าในคอลัมน์แรกของ table_array ท่ีตรงกับ lookup_value ค่าแรกที่พบจะถูกนามาใช้ หากไม่พบการจับคู่ที่ตรงกัน ค่าความผิดพลาด #N/A จะถกู สง่ คืน ค่าท่ีใส่ในอาร์กิวเมนต์น้จี ะต้องเป็นคาวา่ TRUE หรือ FALSE หรือเว้นไว้โดยไม่ใส่ซึ่งกจ็ ะ เปน็ การทางานเปน็ คา่ TRUE
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนนุ การตดั สนิ ใจทางธุรกิจ 113 5.2.2.2. การอ้างองิ และเรยี กใชต้ าราง การเรยี กใชต้ ารางและข้อมูลในตาราง มีลักษณะการเรียกใชแ้ บบทัง้ ตาราง หรอื ท้ังคอลัมน์ หรอื ทง้ั แถว หรือ เฉพาะคอลัมน์ในแตล่ ะแถว โดยใช้วธิ ีการระบเุ ป็นเช่ือตารางหรือช่ือคอลัมน์ กากับในวงเลบ็ สี่เหลี่ยม และระบุคอลมั นใ์ นตารางด้วยเคร่ืองหมายจุด \".\" เชน่ [Product] หมายถงึ ข้อมูลทัง้ หมดในช่วงของตารางชอื่ Product [Product].[ชื่อสินค้า] หมายถึง ข้อมูลทั้งหมดในช่วงคอลัมน์ชอื่ ช่ือสินค้า ของ ตารางชอื่ Product [@ชือ่ สนิ ค้า] หมายถงึ แถวปัจจบุ ันในคอลมั น์ชอ่ื สนิ ค้าทีต่ รงกับแถวทส่ี ร้างสตู ร โดยวธิ กี ารเรียกใชเ้ มื่อสร้างสูตรน้ันทาได้ 2 วิธคี ือ ใช้เมาส์คลิกเลือกที่เซลล์ใน ตารางซ่งึ Excel จะเติมช่ือตารางและคอลมั น์ให้อตั โนมตั ิ หรือใช้วธิ ีการพมิ พ์ ตามข้ันตอนดังน้ี พิมพ์เครื่องหมายเท่ากับ = ในเซลล์ที่ต้องการสร้างสูตร ถ้าต้องการค้นหาชื่อลูกค้าให้ใส่ฟังก์ชันท่ี ตอ้ งการก่อน เช่น =VLOOKUP(… ดงั ภาพที่ 5.13 ภาพที่ 5.13 ตวั อยา่ งการพิมพส์ ร้างสูตร ถ้าคอลัมน์หรือตารางท่ีต้องการใช้อยู่ในแผ่นงานเดียวกันให้ใช้เมาส์คลิกที่เซลล์ที่ต้องการ Excel จะขึ้นชอื่ คอลมั นใ์ ห้ตามภาพที่ 5.14 จากการคลิกเซลล์ F2 ภาพท่ี 5.14 การเรยี กชื่อคอลัมนใ์ นตารางข้อมูลโดยการคลิก ถ้าคอลัมน์หรือตารางท่ีต้องการอยู่คนละแผ่นงาน ให้พิมพ์ชื่อตารางลงไป ตามตัวอย่างนี้คือ ตาราง Customer ระหว่างท่ีพิมพ์ Excel จะขึ้นช่ือที่เกี่ยวข้องให้เลือก ท้ังชื่อฟังก์ชันและชื่อ ตาราง ให้สังเกตที่สญั ลกั ษณ์รปู ตาราง ดงั ภาพท่ี 5.15
114 ดร.สาวิตรี บญุ มี ภาพที่ 5.15 ตวั อย่างการอ้างอิงชอื่ ตารางโดยการพิมพ์ ใช้เมาส์ดับเบ้ิลคลิกท่ีชื่อตาราง Customer ที่ต้องการ หรือ ใช้ปุ่มลูกศรบนคีย์บอร์ดเลื่อนขึ้นลง แลว้ กดปมุ่ แท็บ (tab) เพ่ือเลอื กชื่อที่ตอ้ งการ จากนน้ั ใส่สตู รให้ครบตามภาพท่ี 5.16 ภาพท่ี 5.16 สตู ร VLOOKUP ท่ีสร้างเสร็จแล้ว หมายเหตุ วธิ ีการอ้างองิ เซลล์แบบโครงสร้างน้ี ไมส่ ามารถใชใ้ นบานหน้าตา่ งฟังกช์ ันได้ ต้องเป็นการ พิมพ์สร้างฟงั กช์ นั ในเซลล์โดยตรงเทา่ น้ัน เลอื กแผน่ งาน “ขาย_รายละเอียด” โดยใช้ VLOOKUP ค้นหาขอ้ มูลจากแตล่ ะตาราง ในคอลัมน์ ตอ่ ไปน้ี คอลมั น์ วนั ที่ขาย, รหสั ลูกค้า จากตาราง Sale_H =VLOOKUP([@เลขท่ใี บเสรจ็ ],Sale_H,2,FALSE) คอลัมน์ ชอ่ื ลกู ค้า จากตาราง Customer =VLOOKUP([@รหสั ลูกค้า],Customer,2,FALSE) คอลัมน์ จังหวดั จากตาราง Customer =VLOOKUP([@รหัสลกู ค้า],Customer,3,FALSE) คอลมั น์ ชอ่ื สนิ คา้ จากตาราง Product =VLOOKUP([@รหสั สินคา้ ],Product,2,FALSE) คอลัมน์ ราคาต้นทนุ จากตาราง Product =VLOOKUP([@รหสั สนิ คา้ ],Product,3,FALSE) คอลมั น์ ราคาขาย จากตาราง Product =VLOOKUP([@รหสั สินค้า],Product,4,FALSE) คอลมั น์ รหสั ประเภทสนิ ค้า จากตาราง Product =VLOOKUP([@รหสั ประเภทสนิ คา้ ],Product,5,FALSE)
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ 115 คอลมั น์ ชื่อประเภทสินคา้ จากตาราง Product_Type =VLOOKUP([@รหัสลกู ค้า],Product_Type,2,FALSE) คอลมั น์ที่เหลอื ให้คานวณโดยเรยี กใช้ชือ่ คอลมั น์ท่ีอย่ใู นตารางเดียวกนั ตามสตู รต่อไปนี้ ราคารวม = [จานวน] * [ราคาขาย] ตน้ ทุนรวม = [จานวน] * [ราคาต้นทุน] กาไร = [ราคารวม] – [ต้นทุนรวม] ภาพที่ 5.17 ตารางข้อมลู ท่เี ตรียมเสรจ็ แลว้ ภาพที่ 5.17 ตารางข้อมลู ทเ่ี ตรียมเสร็จแล้ว 5.3. การสร้าง Pivot Table PivotTable เครื่องมือที่ชว่ ยในการเฉือนข้อมลู หรอื จดั ทาตารางสรปุ ข้อมลู แบบ Crossstab จาก ข้อมูลจานวนมาก เพ่ือนามาวิเคราะห์ โดยทีผ่ ู้ใชไ้ ม่ต้องมีความรู้เรอื่ งการใชฟ้ งั ก์ชนั ใน Excel และใช้งาน ง่ายจากการลากแล้วปล่อยคอลมั นท์ ่ีตอ้ งการ 5.3.1. วธิ ีการสรา้ ง PivotTable ก่อนสรา้ ง PivotTable ตอ้ งตรวจสอบกอ่ นว่าตารางข้อมูลทีม่ นี ้นั มีส่วนหวั หรือ ชอื่ คอลมั นห์ รือไม่ เน่ืองจาก PivotTable จะดึงช่อื คอลมั น์จากแถวแรกในตารางไปใชง้ าน จากนั้นคลกิ ทเี่ ซลล์ใดก็ไดใ้ นตารางขอ้ มูล Sale_Detail แลว้ ไปท่ีรบิ บอน “แทรก” เลือก ปมุ่ Pivot Table ตามภาพที่ 5.18 . ภาพที่ 5.18 เครอ่ื งมอื แทรก PivotTable
116 ดร.สาวิตรี บญุ มี จะปรากฏหน้าจอสรา้ ง Pivot Table ตามภาพท่ี 5.19 ตรวจสอบชว่ งใหถ้ กู ต้อง และเลอื ก แผน่ งานใหม่ คลิก “ตกลง” ภาพที่ 5.19 หน้าตา่ งสร้าง PivotTable 5.3.2. ส่วนประกอบของ PivotTable Excel จะสรา้ งแผ่นงานใหม่ตามภาพที่ 5.20 สาหรับ PivotTable โดยมีสว่ นตา่ ง ๆ ดังนี้ สว่ นแสดงผลลพั ธ์ ช่อื คอลมั น์ท่ใี ชเ้ ลอื ก เพือ่ แสดงผล ช่ือคอลมั น์ท่ีอยู่ดา้ นบนของตารางผลลัพธ์ ตัวกรองผลลพั ธ์ ชื่อแถวที่อยู่ดา้ นซา้ ยของตารางผลลัพธ์ ขอ้ มูลท่ีตอ้ งการสรุป ภาพท่ี 5.20 สว่ นประกอบของ PivotTable
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนนุ การตดั สนิ ใจทางธรุ กิจ 117 5.3.3. วธิ กี ารเลอื กคอลัมนส์ รา้ ง PivotTable วิธีการสรา้ งตาราง PivotTable ทาได้โดย ลากชอื่ คอลมั นต์ ่าง ๆ จากกลอ่ งช่อื คอลัมนที่ใช้ เลือกด้านบนขวาของหนา้ จอ ลงในกรอบสเ่ี หลี่ยมด้านล่างตามชอ่ งที่ต้องการใหแ้ สดง ในกล่องชอ่ื แถว ช่อื คอลัมน์ กล่องตวั กรอง และกล่องคา่ โดยสงิ่ สาคัญคอื ต้องใส่คอลมั นใ์ นกลอ่ งค่าเสมอ ตวั อยา่ งที่ 1 ตอ้ งการทราบยอดขายรวม ราคาตน้ ทุนรวม และกาไรส่วนต่างจากยอดขายและต้นทุน สนิ คา้ แยกตามใบเสร็จ เพื่อดูว่าใบเสรจ็ หรือรายการขายใดสรา้ งกาไรให้มากหรือน้อยเพียงใด จากตวั อยา่ งท่ี 1 สามารถแบ่งขอ้ มลู ได้ 2 สว่ น ประกอบดว้ ย สว่ นท่ี 1 ตอ้ งการเห็นค่าตัวเลขท่ีเปน็ ผลสรุปจากการคานวณ คือ หาผลรวมของยอดขาย ต้นทุน และกาไร ใหล้ ากคอลัมน์ ราคารวม ตน้ ทนุ รวม และกาไร ลงในกล่องค่า ส่วนท่ี 2 ประเภททใี่ ช้ในการจดั กลุ่มผลรวม คือ ใบเสร็จ ให้ลากคอลมั น์ รหสั ใบเสรจ็ ลง ในกลอ่ งชื่อแถว ตามภาพท่ี 5.21 ตัวอย่างการสรา้ ง PivotTable 1 ภาพที่ 5.21 ตัวอยา่ งการสร้าง PivotTable 1 เน่ืองจากข้อมลู ในคอลมั น์ ราคารวม ตน้ ทุนรวม และ กาไร เปน็ ชนิดตวั เลข PivotTable จะทาการหาผลรวมใหอ้ ตั โนมัติ ถา้ ข้อมูลเป็นชนดิ ตวั อกั ษร PivotTable จะทาการนบั ขอ้ มูลให้อัตโนมตั ิ โดยการคานวณเหลา่ น้สี ามารถกาหนดและต้ังคา่ ไดเ้ อง เช่น ให้หาคา่ เฉลยี่ ค่าสงู สุด คา่ ต่าสุด เป็นตน้ วธิ กี ารต้ังค่าการคานวณจะอธิบายในบทที่ 6 ในตวั อย่างที่ 1 น้ี ผลลพั ธ์จากการสร้าง PivotTable มีลักษณะตามภาพท่ี 5.22
118 ดร.สาวิตรี บญุ มี ภาพท่ี 5.22 ผลลัพธ์จากตัวอย่าง PivotTable 1 จะเห็นได้ว่า PivotTable สรา้ งผลลัพธใ์ นรปู แบบตาราง ซ่ึงตารางลักษณะนี้เหมาะแก่การ ทาไปสรา้ งเป็นแผนภมู เิ พ่ือให้สวยงามและเขา้ ใจข้อมลู ได้ง่ายขึ้น 5.4. การสร้าง PivotChart PivotChart เหมอื นการสรา้ งแผนภมู ิใน Excel ตามปกติ แตม่ ีส่วนท่แี ตกต่างกนั ที่ PivotChart จะ เปลีย่ นแปลงไปอตั โนมตั ิตาม PivotTable ท่ีเปล่ยี นแปลงไปตามผู้ใช้เลือก วิธีการสรา้ ง PivotChart ให้ไปทรี่ ิบบอนเมนู เครื่องมือ PivotTable เมนู การวเิ คราะห์ ในกลุ่ม เครื่องมือ Tools เลือก PivotChart ตาม ภาพท่ี 5.23 ภาพที่ 5.23 เมนสู ร้าง PivotChart จากนัน้ Excel จะแสดงหนา้ จอ แทรกแผนภูมิ โดยจะเลือกแผนภมู คิ อลมั น์มาให้ เน่ืองจากเหมาะสม ในการใช้กบั ตารางแบบ Crosstab ใหเ้ ลือกตามที่ Excel เลอื กมาใหค้ ือ Clustered column chart ตาม ภาพที่ 5.24 โดยรายละเอียดการเลอื กใชแ้ ผนภูมจิ ะอธิบายเพิ่มเติมในบทที่ 7 ผลลพั ธจ์ ากการสร้างมลี กั ษณะตามภาพที่ 5.25
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 119 ภาพที่ 5.24 หนา้ ตา่ งแทรกแผนภูมิ ภาพที่ 5.25 ผลลพั ธจ์ ากการสรา้ ง PivotChart
120 ดร.สาวิตรี บญุ มี 5.5. ตวั อย่างการสรา้ ง PivotTable ตวั อย่างที่ 2 จากข้อมลู การขายในตาราง Sale_detail ตอ้ งการทราบยอดขายของแต่ละจังหวัดแยก ตามประเภทสินค้า จากตัวอยา่ งท่ี 2 มปี ระเภทท่ีตอ้ งใช้ 2 อย่างคือ จงั หวัด และ สนิ ค้า จงึ สามารถแบง่ ข้อมูล ได้ 3 ส่วน ประกอบดว้ ย สว่ นท่ี 1 ต้องการเห็นค่าตวั เลขทีเ่ ปน็ ผลสรปุ จากการคานวณ คือ หาผลรวมของยอดขาย ให้ลากคอลมั น์ ราคารวม ลงในกล่องค่า สว่ นท่ี 2 ประเภทที่ใช้ในการจดั กลุม่ ผลรวม คอื สนิ คา้ ใหล้ ากคอลัมน์ รหัสสินค้า ลงใน กลอ่ งชื่อแถว สว่ นท่ี 3 ประเภททีใ่ ช้ในการจัดกลุ่มผลรวม คือ จงั หวดั ใหล้ ากคอลัมน์ จงั หวัด ลงในกล่อง ชอื่ คอลมั น์ ตามภาพท่ี 5.26 ตัวอย่างการสร้าง PivotTable 2 ได้ผลลัพธ์ตามภาพท่ี 5.28 ภาพท่ี 5.26 ตัวอยา่ งการสรา้ ง PivotTable 2 สามารถสลับคอลัมน์และแถวได้ ตามภาพที่ 5.27 ไดผ้ ลลัพธต์ ามภาพท่ี 5.29 ภาพที่ 5.27 ตัวอยา่ งการสลับแถวและคอลัมน์ของ PivotTable 2
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนบั สนนุ การตดั สินใจทางธุรกิจ 121 ภาพท่ี 5.28 ผลลพั ธจ์ ากตัวอย่าง PivotTable 2 ภาพที่ 5.29 ผลลัพธ์จากการสลบั แถวและคอลมั น์ของ PivotTable 2 ตัวอยา่ งที่ 3 จากข้อมลู การขายในตาราง Sale_detail ตอ้ งการทราบยอดขาย และ กาไร ของแตล่ ะ จังหวัดแยกตามประเภทสินค้า จากตัวอยา่ งท่ี 3 มีประเภทท่ีต้องใช้ 2 อย่างคือ ประเภทสินคา้ และจังหวัด จงึ สามารถ แบ่งข้อมลู ได้ 3 สว่ น ประกอบด้วย ส่วนท่ี 1 ตอ้ งการเหน็ ค่าตวั เลขทีเ่ ป็นผลสรปุ จากการคานวณ คอื หาผลรวมของยอดขาย และกาไร ใหล้ ากคอลัมน์ ราคารวม และ กาไร ลงในกล่องค่า ส่วนที่ 2 ประเภทท่ีใชใ้ นการจัดกลุม่ ผลรวม คือ ปรเภทสินค้า ใหล้ ากคอลัมน์ ช่ือประเภท สินค้า ลงในกล่องชอ่ื แถว
122 ดร.สาวติ รี บญุ มี สว่ นที่ 3 ประเภทที่ใชใ้ นการจัดกลุ่มผลรวม คอื จงั หวดั ให้ลากคอลมั น์ จงั หวดั ลงในกล่อง ช่อื คอลัมน์ ตามภาพท่ี 5.30 ตวั อยา่ งการสร้าง PivotTable 3 จะไดผ้ ลลัพธ์ตามภาพท่ี 5.32 ภาพที่ 5.30 ตวั อยา่ งการสรา้ ง PivotTable 3 สามารถลากคอลัมน์มาแสดงซ้อนกันในแถวได้ ตามภาพที่ 5.31 ผลลพั ธท์ ไ่ี ดจ้ ะแสดง จังหวัด และแสดงแต่ละประเภทสินค้าในแตล่ ะจังหวดั ตามภาพท่ี 5.33 ภาพท่ี 5.31 ตวั อย่างการสลบั แถวและคอลัมน์ของ PivotTable 3 ภาพที่ 5.32 ผลลพั ธจ์ ากตัวอยา่ ง PivotTable 3
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ 123 ภาพที่ 5.33 ผลลัพธ์การสลบั แถวและคอลมั น์ของ PivotTable 3 ตวั อยา่ งที่ 4 จากข้อมลู การขายในตาราง Sale_detail ต้องการทราบยอดขายของแตล่ ะประเภท สินค้าแยกตามวันทีข่ าย จากตวั อยา่ งที่ 4 มปี ระเภทที่ต้องใช้ 2 อย่าง คือ วนั ท่ีขาย และ สนิ ค้าสามารถแบ่งขอ้ มลู ได้ 3 ส่วน ประกอบด้วย สว่ นท่ี 1 ตอ้ งการเห็นคา่ ตวั เลขทีเ่ ป็นผลสรุปจากการคานวณ คือ หาผลรวมของยอดขาย ใหล้ ากคอลมั น์ ราคารวม ลงในกลอ่ งค่า สว่ นท่ี 2 ประเภทท่ีใชใ้ นการจดั กลุ่มผลรวม คอื วันท่ีขาย ใหล้ ากคอลมั น์ วันทข่ี าย ลงใน กลอ่ งช่อื แถว สว่ นท่ี 3 ประเภทท่ใี ช้ในการจดั กลุ่มผลรวม คือ ประเภทสินค้า ให้ลากคอลัมน์ ประเภท สินค้า ลงในกลอ่ งชอื่ คอลัมน์ ตามภาพท่ี 5.34 และจะไดผ้ ลลพั ธ์ตามภาพที่ 5.35 ภาพที่ 5.34 ตวั อยา่ งการสรา้ ง PivotTable 4
124 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพท่ี 5.35 ผลลพั ธจ์ ากตัวอยา่ ง PivotTable 4 5.6. บทสรุป PivotTable เป็นเครอ่ื งมือทีเ่ ป็นจุดเด่นของ Excel เนื่องจากช่วยในการวเิ คราะห์ข้อมลู ท่อี ยู่จานวน มาก และทาการวิเคราะหไ์ ด้ใกล้เคยี งกบั การวเิ คราะหค์ ลงั ขอ้ มลู นอกจากน้ียงั เป็นเครื่องมือท่ใี ชง้ านง่าย สามารถเลอื กคอลมั นห์ รือแถวไดด้ ้วยการคลกิ หรือลาก และสามารถสลบั คอลัมน์กับแถวด้วยการลาก และ ยงั สามารถสรุปข้อมลู ให้ไดอ้ ัตโนมัติ แตท่ ้งั นกี้ ารใช้ PivotTable ตอ้ งมกี ารเตรียมข้อมูลให้อยูใ่ นรูปแบบ ตารางท่เี ก็บขอ้ มลู แตล่ ะรายการในแถว และรายละเอียดของรายการในคอลัมน์ โดยทคี่ วรมชี อ่ื คอลัมน์ เสมอเพ่ือสะดวกในการสร้าง PivotTable ตารางข้อมลู นีส้ ามารถใชก้ ารพมิ พข์ ้อมูลในข่วงเซลล์ธรรมดาได้ หรอื การใช้เคร่ืองมือตารางข้อมูล (Data Table) ในExcel ท่จี ะขว่ ยใหส้ ร้างสตู รได้ง่ายและสะดวกขึ้น สามารถอัพเดตข้อมลู แถวใหม่ได้ และสามารถสร้างแบบจาลองข้อมลู ได้ในภายหลัง เมื่อสร้างตารางข้อมลู และตอ้ งมีการนาข้อมลู จากหลายตารางมารวมกัน ในบทน้ีกลา่ วถึงวิธีการใชฟ้ ังก์ชนั VLOOKUP ชว่ ยใน การดึงข้อมูลจากตารางอื่นมาแสดงในตารางเดยี วกัน เมอื่ ข้อมูพร้อมแล้วจะสามารถสรา้ ง PivotTable ได้ วิธกี ารสร้างตวั กรอง และปรับแตง่ แก้ไขจะอธิบายต่อไปในบทท่ี 6
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจทางธุรกิจ 125 แบบฝึกหดั ท้ายบท 1) เมนขู อง Excel ทีใ่ ชใ้ นการสร้างตารางข้อมูลคือเมนูใด 2) ทาไมจึงควรใช้ตารางข้อมูล แทนทีก่ ารพิมพ์ข้อมูลลงในเซลล์ตามปกติ 3) เมนูของ Excel ท่ีใชเ้ ปลี่ยนชื่อตารางขอ้ มลู ทีส่ รา้ งขน้ึ คือเมนูใด 4) อธบิ ายการอา้ งอิงตารางขอ้ มูลตอ่ ไปน้ี Sale_H[เลขทใี่ บเสร็จ] Sale_H คืออะไร [เลขที่ใบเสร็จ] คืออะไร 5) Denormalization หมายถึงอะไร 6) ฟงั ก์ชั่น VLOOKUP ใช้ทาอะไร 7) อธบิ ายองคป์ ระกอบแตล่ ะสว่ นของฟังก์ช่นั =VLOOKUP([@เลขทีใ่ บเสรจ็ ],Sale_H,2,FALSE) =VLOOKUP( คืออะไร [@เลขทีใ่ บเสรจ็ ], คืออะไร Sale_H, คืออะไร 2, คอื อะไร FALSE) คอื อะไร 8) Pivot Table คืออะไร มีประโยชนใ์ นดา้ นในบา้ ง ยกตวั อย่าง 9) เมนขู อง Excel ท่ีใช้สร้าง Pivot Table คือเมนูใด 10) เตมิ คาอธบิ ายเกยี่ วกับ Pivot Table ลงในภาพให้สมบูรณ์ D F
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342