126 ดร.สาวติ รี บญุ มี เอกสารอ้างอิง Alexander, M. and Walkenbach, J. (2010). Excel Dashboards & Reports. New Jersey: Wiley Publishing, Inc. Dillard, J. (Retrieved on July, 2017). The Data Analysis Process: 5 Steps To Better Dcision Making. URL: http://www.bigskyassociates.com/blog/bid/372186/the-data-analysis- process-5-steps-to-better-decision-making. Eksioglu, S.D., Seref, M.M.H., Ahuja, R.K. and Winston, W.L. (2011). Developing Spreadsheet- Based Decision Support Systems using Excel and VBA for Excel, 2nd edition. Massachusetts: Dynamics Idea. Winston, W.L. (2011). Microsoft Excel 2010: Data Analysis and Business Modeling. Washington: Microsoft Press.
แผนบรหิ ารการสอนประจาวิชาบทที่ 6 หวั ข้อเนื้อหาประจาบท 1. การเตรียมข้อมูลเพ่ือสรา้ ง Pivot Table โดยวิธกี ารนาเขา้ ขอ้ มูลจากฐานข้อมูลเชงิ สัมพันธ์ 2. การสร้าง Query ใน Microsoft Access 3. การปรับแต่งปรบั แต่งวธิ ีการนาเสนอข้อมูลใน PivotTable 4. การใชต้ วั กรอง และ Slicer 5. การออกแบบเคา้ โครงของ PivotTable 6. การจดั กลุ่มขอ้ มลู ใน PivotTable วตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. เพ่อื ใหผ้ ู้ศกึ ษาทราบวิธกี ารนาเขา้ ข้อมลู จากแหล่งภายนอกมาใช้ใน Excel 2. เพ่ือให้ผูศ้ กึ ษาสามารถสรา้ ง Query ใน Microsoft Access ได้ 3. เพ่อื ใหผ้ ูศ้ ึกษาสามารถสรา้ งฟิลดส์ าหรบั คานวณค่าใน PivotTable 4. เพ่อื ให้ผูศ้ ึกษาสามารถล้าง เลือก และย้ายตาแหน่ง ตาราง PivotTable ได้ 5. เพื่อใหผ้ ู้ศึกษาสามารถสร้างการคานวณคา่ ใน PivotTable ได้ 6. เพอื่ ใหผ้ ู้ศึกษาสามารถจัดรูปแบบตวั เลขในตาราง PivotTable ได้ 7. เพือ่ ให้ผศู้ กษาสามารถใช้ตวั แบ่งสว่ นขอ้ มลู และตวั กรองรายงานของ PivotTable ได้ 8. เพอื่ ให้ผู้ศึกษาทราบวิธีการออกแบบและปรบั เปลีย่ นเคา้ โครง PivotTable ได้ 9. เพอ่ื ให้ผศู้ ึกษาสามารถจัดกลมุ่ ข้อมลู ใน PivotTable ได้ วธิ กี ารสอนและกิจกรรมการเรยี นการสอนประจาบท 6. ศึกษาเอกสารประกอบการสอน 7. บรรยายและยกตวั อยา่ ง โดยใช้โปรแกรมนาเสนอ 8. ถามตอบในชน้ั เรียน 9. ปฏบิ ัตกิ บั โปรแกรมเป็นตวั อย่างหนา้ ชนั้ เรียน 10. ฝึกปฏิบตั ิกับโปรแกรม
128 ดร.สาวิตรี บญุ มี สอื่ การเรยี นการสอน 17. เอกสารประกอบการสอน 18. โปรแกรมนาเสนอ 19. ไฟล์ตวั อย่าง 20. Microsoft Excel 21. Microsoft Access การวัดและประเมินผล 16. สงั เกตจากพฤติกรรมความสนใจ และการรว่ มกิจกรรมในชั้นเรยี น 17. ประเมินผลจากการฝกึ ปฏบิ ัติในช้ันเรียน 18. ประเมนิ ผลจากการทดสอบปฏบิ ตั ิ
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สนิ ใจทางธรุ กิจ 129 บทท่ี 6 การปรบั แต่ง PivotTable เพอื่ นาเสนอทางธรุ กิจ จากเนือ้ หาในบทที่ 5 ในการเตรยี มขอ้ มลู เพื่อทา PivotTable ดว้ ยการสร้างตารางขอ้ มูล และวธิ ีการ สรา้ ง PivotTable เบอ้ื งต้นน้นั เป็นเพียงพื้นฐานเพื่อความเขา้ ใจการสรา้ ง PivotTable ข้อมูลท่จี ะนามา สร้าง PivotTable ไดน้ ้นั สามารถนาเขา้ มาจากแหล่งข้อมูลภายนอกได้ด้วย ไม่จากัดอยู่เพียงแค่ภายใ Excel เทา่ นน้ั นอกจากนี้ PivotTable ยังสามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการใช้ได้อกี ด้วย ซ่ึงวิธกี าร เหล่านจี้ ะครอบคลุมในเน้ือหาของบทนี้ จากตวั อย่างในบทที่ 5 ใชข้ ้อมลู จากแผ่นงานภายใน Excel และเตรียมข้อมลู โดยใชฟ้ ังกช์ นั VLOOKUP เพื่อนาข้อมลู มาแสดงรวมกนั ในตารางเดยี วเพื่อใช้สรา้ ง PivotTable ต่อไป ในความเปน็ จริง แลว้ น้ันขอ้ มลู สามารถนาเขา้ จากระบบจดั การฐานข้อมูลไดโ้ ดยตรง ซงึ่ ข้อมูลธุรกิจทีเ่ ก็บรกั ษากนั ไวใ้ น ฐานข้อมลู น้นั มจี านวนมหาศาล การนาเข้าข้อมูลจากฐานขอ้ มูลทลี ะตารางโดยตรงอาจจะไม่สามารถเก็บ ข้อมลู ลงใน Excel ไดท้ ง้ั หมด หรือเปลืองพืน้ ท่จี ดั เก็บและทรพั ยากรในการประมวลผล ดังนั้นการเตรยี ม ข้อมูลสามารถทาได้จากระบบจัดการฐานขอ้ มูลก่อนท่จี ะนาเขา้ มาใน Excel เชน่ การเลอื กคอลมั น์ การ เลอื กแถวขอ้ มูล แลว้ จงึ นาเข้าเฉพาะข้อมลู ท่ีเลือกและเตรียมไว้แล้วเท่าน้ัน 6.1. การสรา้ งควิ รี (Query) ใน Microsoft Access คิวรี หรือ Query เปน็ การเรยี กดูข้อมูลจากตารางท่สี ร้างไวใ้ นระบบฐานข้อมลู โดยฉพาะ Microsoft Access ในระบบจดั การฐานข้อมลู อืน่ จะเรียกวา่ View โดยทค่ี วิ รมี ลี กั ษณะเป็นตารางเสมอื นที่ไมส่ ามารถ เพ่มิ ลบ หรอื แก้ไขข้อมลู ได้ แต่สามารถเรียกดูข้อมูลไดท้ ั้งบางคอลมั น์ บางแถว ตามเงื่อนไข รวมทง้ั ยงั สามารถเรียกดูขอ้ มูลจากหลายตารางทม่ี ีความสมั พันธก์ นั และสามารถสรุปข้อมูลไดอ้ ีกด้วย จากตัวอยา่ งในบทที่ 5 สามารถจดั ทาเปน็ ฐานขอ้ มลู ในบทนต้ี ารางท้งั หมดจะถกู จัดเก็บในรูปแบบ ฐานขอ้ มูลเชิงสัมพันธ์ในโปรแกรม Microsoft Access โดยแตล่ ะตารางมคี วามสัมพันธ์ระหว่างตารางใน โปรแกรม Microsoft Access ตามภาพท่ี 6.1 ภาพท่ี 6.1 แผนภาพแสดงความสมั พนั ธข์ องข้อมลู เมนู BC20301 ไฟล์ประกอบในบทนี้ชือ่ Sales.accdb สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ http://academic.udru.ac.th/sawitree/
130 ดร.สาวิตรี บญุ มี ในไฟล์ Sales.accdb ประกอบด้วยตาราง 5 ตาราง คือ 1) ตาราง Customer เกบ็ ข้อมูลลกู คา้ ภาพท่ี 6.2 ตาราง Customer 2) ตาราง Product เก็บข้อมลู สินค้า ภาพที่ 6.3 ตาราง Product 3) ตาราง Product_Type เกบ็ ข้อมลู ประเภทสนิ คา้ ภาพท่ี 6.4 ตาราง Product_Type
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สินใจทางธรุ กิจ 131 4) ตาราง Sales_H เกบ็ ขอ้ มูลขายส่วนหวั ของใบเสร็จ ภาพท่ี 6.5 ตาราง Sales_H 5) ตาราง Sale_Detail เก็บขอ้ มูลขายสว่ นรายละเอียดสนิ คา้ ท่ีขายในใบเสร็จ ภาพท่ี 6.6 ตาราง Sale_Detail จากตารางข้อมลู ทง้ั 5 ตาราง สามารถสรา้ งควิ รีใหม้ โี ครงสร้างเหมือน ตารางข้อมลู Sale_Detail ของ เอกเซลในบทท่ี 5 ได้ ตามข้นั ตอนตอ่ ไปนี้ Access ไมส่ ามารถสรา้ งคิวรีจากตารางท่ีไม่ไดส้ ัมพนั ธ์กนั โดยตรงได้ เมื่อพจิ ารณาความสัมพันธข์ อง ตารางในภาพท่ี 6.1 จะพบวา่ ตาราง Product มีความสมั พันธโ์ ดยตรงกับ Product_Type สามารถนามา สรา้ งคิวรเี ดียวกันได้ แตไ่ มส่ ามารถสรา้ งรวมกบั Sale_H และ Customer ในขณะเดียวกนั ตาราง Sale_H มคี วามสมั พนั ธโ์ ดยตรงกับ Sale_Detail และ Customer จงึ สามารถสรา้ งเปน็ ควิ รเี ดียวกันได้ ดังภาพที่ 6.7 ภาพที่ 6.7 ความสัมพันธ์ท่สี ามารถสร้างควิ รี
132 ดร.สาวติ รี บญุ มี ดังนั้น จงึ ตอ้ งสรา้ งควิ รีทง้ั หมด 3 คิวรี ดงั ต่อไปนี้ Q_Products ประกอบด้วยเขตขอ้ มลู จากตาราง Product และ Product_Type Q_Sales ประกอบด้วยเขตขอ้ มูลจากตาราง Sale_Detail, Sale_H และ Customer Q_All ประกอบดว้ ยเขตขอ้ มลู จากคิวรี Q_Products และ Q_Sales วิธกี ารสรา้ งคิวรี ให้ไปทีร่ บิ บอน “สรา้ ง” และเลือกเครื่องมือ “ออกแบบคิวรี” ตามภาพท่ี 6.8 ภาพท่ี 6.8 เครอ่ื งมือออกแบบคิวรี จากนัน้ Access จะสร้างควิ รี ชือ่ Query1 มาใหอ้ ัตโนมัตซิ งึ่ สามารถเปลี่ยนช่อื ไดภ้ ายหลัง พรอ้ มเปดิ หน้าจอแสดงตารางมาให้เลือกตาราง ใหค้ ลิกเมาส์เลอื กตาราง Product และ Product_Type เพือ่ สร้าง ควิ รี Q_Products จะได้ผลลัพธ์จากการเลือกตามภาพท่ี 6.9 เมื่อเลอื กครบแล้วใหค้ ลกิ ปุ่ม “ปิด” เพ่ือปดิ หน้าตา่ งแสดงตาราง ภาพท่ี 6.9 การเลือกตารางเพ่ือสร้างคิวรี ใหส้ งั เกตว่าจะมเี สน้ ความสมั พันธใ์ ห้อตั โนมตั ิ ถ้าไม่มีจาเปน็ ตอ้ งสรา้ งเสน้ ความสมั พันธข์ ้นึ ไมเ่ ชน่ นั้นผลลพั ธ์จากคิวรจี ะไม่ถูกต้อง สร้างได้โดยลากเขตขอ้ มูล \"รหัสประเภทสินคา้ \" จากตารางหนึ่งไป อกี ตาราง ดบั เบล้ิ คลกิ เขตขอ้ มลู “ * ” จากกล่อง Product เพ่ือเลือกทุกคอลัมนจ์ ากตาราง Product และ ดบั เบล้ิ คลกิ เลอื กเขตขอ้ มลู “ชือ่ ประเภทสนิ ค้า” จากกล่อง Product_Type เพ่ือนามาแสดงร่วมกัน โดย ทง้ั สองตารางจะเช่ือมความสัมพนั ธ์ผา่ นเขตขอ้ มลู \"รหัสประเภทสนิ คา้ \" จะได้ผลลัพธ์ตามภาพท่ี 6.10
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 133 ภาพที่ 6.10 การเลือกเขตข้อมลู ใส่ควิ รี หรือ ทดลองดผู ลลพั ธ์ด้วยการคลิกเครื่องมือ “เรยี กใช้” หรือ Run บนริบบอน “ออกแบบ” ใช้วธิ ีกดเปลี่ยนมมุ มองเป็น มุมมองแผ่นงาน เพื่อดูขอ้ มูลในควิ รี ภาพท่ี 6.11 ข้อมลู ในคิวรี Q_Products ถ้าได้ข้อมลู ตามภาพที่ 6.11 ให้บนั ทึกคิวรีตั้งชอ่ื Q_Products แล้วปดิ ควิ รี สร้างควิ รีใหมโ่ ดยใช้วธิ กี ารเดมิ ตามรายละเอียดต่อไปน้ี คิวรีชื่อ Q_Sales ใช้ตาราง Sale_Detail, Sale_H และ Customer โดยเลอื กเขตข้อมูลตามภาพ ที่ 6.12 ภาพท่ี 6.12 เขตข้อมลู คิวรี Q_Sales
134 ดร.สาวิตรี บญุ มี ผลลัพธจ์ ากการเรยี กใช้ควรได้ตามภาพที่ 6.13 ภาพท่ี 6.13 ผลลัพธ์ควิ รี Q_Sales ควิ รีชอื่ Q_All สร้างจาก ควิ รี Q_Products Q_Sales แตก่ อ่ นจะเลอื กเขตขอ้ มลู ตอ้ งสรา้ ง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคิวรีทัง้ สองอนั กอ่ นดว้ ยการ คลิกที่เขตขอ้ มูล “รหัสสนิ คา้ ” แลว้ ลากไปยังเขตข้อมลู รหัสสินคา้ อีกตาราง จะไดค้ วามสัมพันธต์ ามภาพท่ี 6.14 จากนนั้ เลือกเขตข้อมูลตามภาพท่ี 6.15 ภาพที่ 6.14 ความสัมพันธ์ระหว่างคิวรี Q_Products และควิ รี Q_Sales ภาพท่ี 6.15 เขตขอ้ มูลคิวรี Q_All ในเขตข้อมลู ว่างถัดไปให้สรา้ งเขตข้อมลู ใหม่โดยใชส้ ูตรคานวณตามภาพที่ 6.16 ภาพท่ี 6.16 การสรา้ งเขตข้อมูลจากการคานวณ
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กิจ 135 คาอธบิ ายเพม่ิ เติมของสูตรคานวณ ตน้ ทุนรวม: [จานวน]*[ราคาต้นทุน] ข้อความทอ่ี ยู่หน้าเครอ่ื งหมาย “ : “ คือ ชือ่ ของเขตขอ้ มลู ใหม่ทส่ี รา้ งขึน้ ข้อความที่อยใู่ นเครื่องหมายวงเลบ็ ส่ีเหลยี่ ม “ [ ] “ คอื ช่ือเขตข้อมูลท่ีมอี ยู่แลว้ วธิ กี ารสร้างสตู รคานวณอาจจะใช้วธิ ีพมิ พ์ หรอื ใช้ตัวสรา้ ง ชว่ ยในการสรา้ งสตู รได้ ตามภาพที่ 6.17 ภาพท่ี 6.17 หนา้ ต่างสรา้ งนิพจน์ ทดลองเรยี กใช้ผลลัพธ์เพ่อื ดวู ่าสูตรทส่ี ร้างขน้ึ ถูกตอ้ งหรือไม่ ดงั ตัวอยา่ งตามภาพท่ี 6.18 ภาพที่ 6.18 บางสว่ นของข้อมูลในควิ รี Q_All เม่อื สรา้ งควิ รี Q_All เสรจ็ สิน้ และบันทึกเรยี บรอ้ ยแลว้ ให้ ปิดโปรแกรม Microsoft Access
136 ดร.สาวติ รี บญุ มี 6.2. การนาเข้าขอ้ มูลภายนอกเข้า Microsoft Excel ประโยชน์ของ Excel อยา่ งหนง่ึ คือ อนุญาตใหน้ าเขา้ ข้อมูลจากโปรแกรมอนื่ มาเพอ่ื วิเคราะหใ์ น Excel ได้ Excel สามารถนาเขา้ ข้อมูลได้จากหลายแหลง่ เช่น ข้อมลู ในAccess ตารางข้อมูลในเว็บไซต์ ไฟล์ ข้อความทเ่ี ก็บขอ้ มลู ไว้ หรอื ระบบจดั การฐานข้อมลู อน่ื ๆ จากตัวอย่างคิวรีใน Access ที่สร้างไวใ้ นไฟล์ Sales.accdb หลังจากทป่ี ิดไฟล์แล้ว มีข้ันตอนในการ นาเข้าข้อมลู มายัง Excel ดงั น้ี เร่มิ จากสรา้ งไฟล์ Excel ใหม่ ในแผ่นงาน Sheet1 ไปที่ริบบอน “ข้อมูล” เลอื กเคร่ืองมือ “จาก Access” ตามภาพที่ 6.19 ภาพที่ 6.19 เคร่ืองมือนาเข้าขอ้ มลู จาก Access Excel จะเปิดหนา้ ตา่ ง \"เลอื กแหลง่ ข้อมูล\" ขน้ึ มา ให้เลือกไฟล์ Access จากโฟลเดอร์ท่ีบันทึกไว้ ดงั ตวั อยา่ งตามภาพท่ี 6.20 ภาพที่ 6.20 หนา้ ต่างเลือกแหลง่ ข้อมูล เมอ่ื เลือกไฟล์ได้แล้ว Excel จะเปิดหน้าต่าง “เลอื กตาราง” ขน้ึ มา ใหเ้ ลือกคิวรี “Q_All” ตามภาพ ท่ี 6.21
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ 137 ภาพท่ี 6.21 หน้าตา่ งเลือกตาราง จากน้ันExcel จะเปิดหนา้ ต่าง “การนาเขา้ ข้อมลู ” ซึ่งสามารถนาเข้าเป็นตารางข้อมลู หรอื ไม่ต้อง นาเข้าตารางข้อมลู แตส่ ามารุสร้างเป็น PivotTable ไดเ้ ลยทนั ที ในกรณีนีใ้ หเ้ ลือกตามที่ Excel เลอื กใหค้ ือ ตาราง และในแผ่นงานท่ีมีอยู่ ตามภาพที่ 6.22 ภาพที่ 6.22 หน้าต่างการนาเข้าข้อมูล ซงึ่ วธิ ีการนาเขา้ ข้อมลู จากภายนอกน้ี หากมีความต้องการแก้ไขขอ้ มลู จะต้องทาให้แหลง่ ข้อมูล เท่านั้น (ในกรณนี ้ีคือ Microsoft Access) และใชป้ มุ่ “รีเฟรช” (Refresh) เพอ่ื อัพเดทข้อมลู ล่าสดุ ใน ตารางข้อมูลท่ีนาเข้าไวท้ ่ี Excel เมือ่ นาเขา้ ข้อมลู สาเรจ็ แล้ว จะพบว่า Excel นาเขา้ ขอ้ มลู ให้ในรปู แบบของตารางข้อมูล ให้เปลย่ี นช่อื ตารางทน่ี าเข้ามาจาก Table_Sales.accdb เป็น Sales เพือ่ เรมิ่ สร้าง PivotTable ตามขั้นตอนท่ปี ฏบิ ัตใิ น บทที่ 5
138 ดร.สาวิตรี บญุ มี สร้าง PivotTable และ Pivot Chart ในแผ่นงานใหม่ ใหไ้ ด้ผลลัพธต์ ามภาพที่ 6.23 เพื่อนามา ปรับแตง่ ภาพที่ 6.23 ตัวอย่าง PivotTable เพื่อใชป้ รบั แต่ง 6.3. การปรบั แตง่ PivotTable สงิ่ ทสี่ ามารถปรับแต่งได้ของ PivotTable มีดงั ตอ่ ไปนี้ 1) การกระทากับ PivotTable 2) การคานวณค่าใน PivotTable 3) การจดั รปู แบบตัวเลขใน PivotTable
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนุนการตดั สินใจทางธุรกจิ 139 6.3.1. การกระทากบั PivotTable ผใู้ ช้สามารถจดั การการทางานกับ PivotTable คือ การล้างตาราง การเลือกตาราง และ การยา้ ยตาราง โดยสามารถทาไดจ้ ากรบิ บอน “ตัวเลอื ก” ของ เคร่ืองมือ PivotTable ตามภาพท่ี 6.24 ภาพที่ 6.24 กล่มุ เครื่องมือการกระทาของ PivotTable การลา้ งตาราง คลิกเครอื่ งมอื “ล้าง” เลือก “ลา้ งทง้ั หมด” จะเป็นการลา้ งทั้งตาราง การเลือกตาราง คลกิ เครือ่ งมือ” เลอื ก” เลือก “ทัง้ PivotTable” จะเป็นการเลือกท้งั ตาราง การย้ายตาราง คลิกเคร่ืองมือ “ย้าย PivotTable” Excel จะแสดงหน้าต่างให้เลือกตาแหนง่ ทตี่ ้องการยา้ ย ตามภาพที่ 6.25 ภาพที่ 6.25 หน้าต่างย้าย PivotTable 6.3.2. การคานวณค่าใน PivotTable ผู้ใชส้ ามารถเลอื กการคานวณทต่ี ้องการได้ เช่น ผลรวม ค่าเฉล่ยี เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องมี ความรู้เร่ืองการใชฟ้ ังก์ช่ันคานวณใน Excel โดยสามารถทาไดจ้ ากรบิ บอน ตวั เลอื ก “ตวั เลอื ก” ของ เคร่ืองมอื PivotTable ตามภาพท่ี 6.26 ภาพท่ี 6.26 กล่มุ เครอื่ งมือการคานวณ 6.3.2.1. การสรุปค่า วธิ ีการสรุปคา่ คลกิ เคร่ืองมือ “สรุปคา่ ตาม” จะสามารถเลอื กไดว้ า่ ตอ้ งการหา ผลรวม ค่าเฉลี่ย นบั จานวน ค่าสงู สดุ คา่ เบีย่ งเบนมาตรฐาน หรอื อน่ื ๆ การคานวณท่ีไม่มีใหเ้ ลอื กสามารถ ค้นหาเพ่ิมเติมโดยเลอื ก “ตัวเลือกเพ่ิมเตมิ ...” ตามภาพท่ี 6.27
140 ดร.สาวิตรี บญุ มี ภาพท่ี 6.27 เครืองมือสรปุ ค่า จากตัวอย่าง ให้คลกิ คา่ ในตารางแลว้ เลือก “คา่ เฉลีย่ ” แล้วเปลยี่ นกลับเป็น “ผลรวม” เพื่อทาฝกึ ปฏบิ ตั ิในขอ้ ถัดไป 6.3.2.2. การแสดงคา่ วิธีการแสดงคา่ คลกิ เคร่อื งมอื “แสดงค่าเป็น” จะสามารถเลือกได้วา่ ตอ้ งการ แสดงค่าเปน็ เปอรเ์ ซน็ ต์ หรอื ความตา่ งระหว่างปา้ ยชือ่ หรือผลรวมสะสม เป็นต้น โดยไม่ตอ้ งคานวณเอง จากตวั อยา่ ง ใหค้ ลิกค่าในตารางแล้วเลอื กแสดงคา่ เปน็ “ % ของผลรวมคอลัมน์” จะไดผ้ ลลพั ธ์ตามภาพท่ี 6.28 ภาพที่ 6.28 ตัวอย่างการแสดงคา่ เปอรเ์ ซ็นต์ คลิกเลือก “ผลรวมสะสมสาหรบั ...” ในหน้าต่างแสดงค่าเป็น ให้เลือกเขต ขอ้ มูลพ้ืนฐานเปน็ “วันทีข่ าย” ตามภาพที่ 6.29 จะไดผ้ ลลัพธ์ตามภาพที่ 6.30 ซงึ่ เป็นการหาผลรวมสะสม ของสินค้าแต่ละประเภทเพ่มิ ข้ึนตามวนั ที่ขาย โดยแถวสุดท้ายจะแสดงยอดรวมทงั้ หมด ภาพที่ 6.29 หนา้ ต่างหาผลรวมสะสมตามวนั ที่ขาย
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนนุ การตดั สินใจทางธุรกจิ 141 ภาพท่ี 6.30 ผลลัพธ์ผลรวมสะสมตามวนั ท่ีขาย เปลี่ยนการต้งั คา่ “แสดงค่าเปน็ ” กลับเปน็ “ไมม่ ีการคานวณ” 6.3.2.3. การคานวณเขตขอ้ มูล วธิ ีการคานวณเขตข้อมูล คลกิ เครอ่ื งมือ “เขตขอ้ มูลรายการและชดุ ” เลือก “เขตข้อมูลจากการคานวณ” จะสามารถสร้างสตู รคานวณจากเขตข้อมลู ทีม่ ใี นตารางได้ สร้างเขตข้อมูลจากการคานวณใหมต่ ามภาพที่ 6.31 โดยใชว้ ิธดี ับเบลิ้ คลิก หรือ คลกิ ปุ่ม “แทรกเขตข้อมลู ” เพื่อแทรกเขตขอ้ มูลที่ต้องการใช้ในกล่องสูตร จากนนั้ คลกิ ปุ่ม ตกลง ภาพท่ี 6.31 การคานวณเขตข้อมลู Excel จะคานวณและเพิ่มเขตขอ้ มูลตามทตี่ ้ังชอื่ ไว้อัตโนมัติ ตามทแี่ สดงในภาพ ที่ 6.32
142 ดร.สาวิตรี บญุ มี ภาพท่ี 6.32 การสรา้ งเขตข้อมลู ยอดขาย วิธกี ารลบเขตข้อมูลท่ีสร้างขนึ้ คลิกเคร่ืองมอื “เขตข้อมูลรายการและชุด” เลอื กเขตข้อมูล จากการคานวณ ในหน้าตา่ งแทรกเขตข้อมลู จากการคานวณ ในกลอ่ งชื่อ ใหเ้ ลือกเขตข้อมลู ท่สี รา้ งไว้ แล้ว คลกิ ปุ่ม “ลบ” ตามภาพที่ 6.33 ภาพที่ 6.33 การลบเขตข้อมูลจากการคานวณ 6.3.3. การจดั รูปแบบตวั เลข ใน PivotTable สามารถจัดรูปแบบตัวเลขในเขตขอ้ มลู ได้ตามวิธีการจดั รูปแบบเซลล์ โดย คลกิ ที่ค่าในตาราง และคลิกเลือกเคร่อื งมือ “การต้งั คา่ เขตข้อมลู ” ในรบิ บอนตัวเลือก ตามภาพท่ี 6.34 ภาพที่ 6.34 การต้ังค่าเขตข้อมลู Excel จะเปิดหน้าต่าง “การตัง้ คา่ เขตข้อมลู ค่า” ให้คลิกปุ่ม “รปู แบบตัวเลข” ตรง มุมซา้ ยลา่ งของหน้าจอ จะปรากฏหน้าต่าง “การจัดรปู แบบเซลล์” เลอื กวิธีการจดั ตามต้องการ ฝกึ ปฏิบัติการจัดรูปแบบตวั เลข โดยจดั ใหต้ ัวเลขมี เครื่องหมาย “,” ค่ันหลกั พนั และไม่มีทศนยิ ม ตามภาพท่ี 6.35
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 143 ภาพท่ี 6.35 การจดั รปู แบบตัวเลขเขตข้อมูล 6.4. การใชต้ วั แบ่งส่วนขอ้ มลู และตวั กรองรายงาน ตวั แบง่ สว่ นขอ้ มลู และตัวกรองรายงาน มีลักษณะการทางานเปน็ ตัวกรองขอ้ มลู ทั้งตารางเหมือนกนั แต่มกี ารทางานที่ตา่ งกันที่ ตวั แบง่ ส่วนขอ้ มูล จะช่วยใหก้ รองข้อมูลแบบโตต้ อบได้ง่าย ด้วยการเปดิ หน้าตา่ ง ตวั กรองไวต้ ลอดเวลา ผูใ้ ช้ทไ่ี ม่มีความรู้ดา้ นการใช้ PivotTable จะสามารถใชต้ ัวกรองได้สะดวกและ รวดเรว็ มากข้ึน 6.4.1. ตัวกรองรายงาน วธิ กี ารใช้ตวั กรองรายงาน ให้ลาก เขตข้อมลู “จังหวัด” มาใส่ในกล่อง ตัวกรองรายงาน ตามภาพที่ 6.36 ดา้ นซ้าย ภาพท่ี 6.36 ตัวกรองรายงาน จะปรากฏตัวกรองขน้ึ ที่ด้านบนของตาราง ตามภาพภาพที่ 6.36 ดา้ นขวา คลิกทต่ี วั กรอง เพือ่ เลือกให้แสดงข้อมลู สรปุ ของเฉพาะ “จังหวัด1”
144 ดร.สาวติ รี บญุ มี 6.4.2. ตวั แบ่งส่วนข้อมูล ตัวแบ่งส่วนข้อมูล หรือมชี ื่อเรยี กวา่ Slicer สร้างตวั แบง่ ส่วนข้อมูลได้โดยไปท่ี ริบบอน “ตวั เลือก” เลือก “แทรกตวั แบ่งสว่ นขอ้ มลู ” ภาพที่ 6.37 หน้าต่างแทรกตัวแบง่ สว่ นขอ้ มูล ในหน้าต่าง “แทรกตัวแบ่งส่วนข้อมูล” เลือก “จงั หวดั ” แล้วคลกิ “ตกลง” ตามภาพท่ี 6.37 จะปรากฏหน้าต่าง ตวั กรอง “จงั หวดั ” ข้ึนมาซ่ึงจะแสดงการกรองสอดคล้องกบั ตัวกรองรายงาน ตาม ภาพที่ 6.38 ภาพท่ี 6.38 ตัวอยา่ งตัวแบง่ ส่วนขอ้ มลู ดงั น้ัน สามารถเลอื กใช้วธิ ีการกรองข้อมลู เพยี งอย่างใดอยา่ งหนึง่ ได้ แตจ่ ะเหน็ ไดว้ ่า วธิ ีการใชง้ านของตวั แบ่งส่วนข้อมูลจะใชง้ ่ายกวา่ นอกจากนก้ี ารกรองทง้ั สองวธิ สี ามารถกรองข้อมูลได้ มากกวา่ หนง่ึ เขตข้อมลู ได้อีกด้วย วิธีการลบตวั แบ่งส่วนข้อมูล ให้เลอื กกล่องตัวแบง่ ส่วนทสี่ ร้างข้นึ และกดปุ่ม Delete บน คยี ์บอร์ด หรือ คลกิ เม้าสป์ ุ่มขวาแล้วเลอื ก “เอา xxxx ออก” 6.4.3. ตัวกรองป้ายช่ือ ตวั กรองปา้ ยช่อื มคี วามต่างจากตัวกรองรายงานท่ี ตวั กรองรายงานจะกรองข้อมูลหมดทงั้ รายงานโดยไมก่ ระทบตอ่ รายการทีม่ ใี นตาราง ในขณะท่ีตัวกรองปา้ ยชอ่ื จะเป็นการกรองข้อมลู ในแต่ละ ป้ายชอ่ื โดยป้ายชอ่ื หมายถึงข้อมูลแตล่ ะชือ่ ที่มีในเขตขอ้ มลู นัน้ ๆ
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนนุ การตดั สินใจทางธุรกิจ 145 การกรอง/ซ่อนสมาชกิ เพ่ือกรอง/ซ่อนบางรายการที่ไม่ต้องการแสดงในรายงานสรปุ ตาม ตัวอย่างตอ้ งการซ่อนสินค้า ประเภท1 ให้คลิกขวาที่ชื่อหวั คอลมั น์ “ประเภท1” ทต่ี ้องการซ่อน และเลือก ตวั กรอง > ซอ่ นรายการทเี่ ลือก หรือคลกิ ท่ีปมุ่ ลูกศรท่ีป้ายชื่อคอลัมน์ การกรอง/ซ่อนเพิ่มเติม ให้คลิกท่ปี มุ่ ตัวกรองท่ีปา้ ย ช่อื คอลัมน์ แล้วเลือกการกรองที่ต้องการ ดังตัวอย่างในภาพท่ี 6.39 ภาพที่ 6.39 ตวั กรองป้ายชื่อ เรียงลาดับ ใช้ในการเรยี งป้ายชื่อในคอลมั นน์ ้ัน ตวั กรองป้ายช่ือ หมายถงึ กรองป้ายชอ่ื ตามเง่ือนไขท่ีกาหนด โดยกรองปา้ ยชื่อที่ เปน็ ตวั อักษร ถา้ ป้ายชื่อเปน็ วันที่ ตวั กรองนจ้ี ะกลายเป็นตัวกรองวันที่ ตวั กรองค่า หมายถงึ กรองป้ายชอ่ื ตามเงื่อนไขที่กาหนด โดยกรองป้ายชอื่ ทเ่ี ปน็ ตวั เลข กล่องกาเครื่องหมาย ใช้เลือก ป้ายชอ่ื ท่ีต้องการให้แสดง สามารถใช้วิธเี ดียวกนั ในการกรองป้ายชื่อแถว จากตวั อย่างใหท้ ดลองใชต้ วั กรองวนั ท่ีกบั คอลมั น์ วันทีข่ าย โดยเลอื ก ตัวกรอง > ตัวกรองวันท่ี > เดือนนี้ จะได้ผลลพั ธต์ ามภาพที่ 6.40
146 ดร.สาวิตรี บญุ มี ภาพท่ี 6.40 การกรองปา้ ยช่ือแถว แลว้ เลอื ก การล้างตัวกรองให้ คลกิ ที่ปุ่มตัวกรองทีป่ ้ายชอ่ื คอลัมน์ “ลา้ งตวั กรองออกจาก xxxxx” ตามภาพที่ 6.41 ภาพท่ี 6.41 การล้างตวั กรอง 6.5. การออกแบบเคา้ โครง PivotTable ก่อนการออกแบบเคา้ โครงให้ลากเขตข้อมลู “จังหวดั ” มาใส่ในกลอ่ ง “เขตข้อมลู แกน” โดยให้ “จงั หวัด” อยู่บน “วนั ท่ีขาย” ตามภาพที่ 6.42 ภาพที่ 6.42 การเพิ่มเขตข้อมูลจงั หวดั ตารางจะแสดงข้อมลู วนั ท่ขี ายในแตล่ ะจังหวัด และคานวณ “ผลรวมย่อย” ของแต่ละจงั หวัด ตาม ภาพที่ 6.43
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจทางธุรกิจ 147 ภาพที่ 6.43 ผลลพั ธก์ ารเพิม่ เขตข้อมูลจังหวดั ซึง่ สามารถเลือกไดว้ า่ ตอ้ งการใหต้ ารางแสดงค่าผลรวมใดบ้างในริบบอน “ออกแบบ” กลุ่มเคร่ืองมือ “เคา้ โครง” ซ่งึ ประกอบด้วยการเลอื ก ผลรวมยอ่ ย ผลรวมทั้งหมด เคา้ โครงรายงาน และการแสดงแถวว่าง ตามภาพท่ี 6.44 ภาพที่ 6.44 กล่มุ เครอ่ื งมือเค้าโครง 6.5.1. ผลรวมย่อย การตงั้ ค่าผลรวมย่อย คา่ เร่มิ ตน้ ของการแสดงผลรวมย่อยจะถูกตั้งค่าไว้ท่ี “แสดงผลรวม ยอ่ ยทัง้ หมดทดี่ ้านบนของกลุ่ม” โดยการแสดงผลรวมยอ่ ยจะมีเพม่ิ เตมิ อีก 2 แบบ คือ “ไม่ต้องแสดงผลรวม ยอ่ ย” และ “แสดงผลรวมย่อยท้ังหมดท่ีด้านล่างของกลุ่ม” ตามภาพที่ 6.45 ภาพท่ี 6.45 เครื่องมือตัง้ ค่าผลรวมย่อย ถา้ เลือก “ไมต่ อ้ งแสดงผลรวมย่อย” ผลรวมย่อยจะหายไปเหลอื แต่ปา้ ยชอื่ กลมุ่ ย่อย ตาม ภาพท่ี 6.46
148 ดร.สาวิตรี บญุ มี ภาพที่ 6.46 การไมแ่ สดงผลรวมย่อย ถ้าเลอื ก “แสดงผลรวมย่อยทัง้ หมดที่ด้านล่างของกลุ่ม” ผลรวมย่อยจะแสดงด้านล่าง ตามภาพท่ี 6.47 ภาพที่ 6.47 การแสดงผลรวมย่อยทงั้ หมดท่ดี ้านลา่ งของกลุ่ม 6.5.2. ผลรวมทั้งหมด การต้ังคา่ ผลรวมทั้งหมด ค่าเรม่ิ ตน้ ของผลรวมทงั้ หมดจะถูกตงั้ ค่าไวท้ ี่ “เปดิ สาหรบั แถว และคอลมั น์“ โดยการแสดงผลรวมท้งั หมดจะสามารถเลอื กไดว้ า่ จะแสดงเฉพาะแถว หรือเฉพาะคอลมั น์ หรือไม่แสดงเลย ถ้าเลอื ก “เปิดสาหรับคอลัมน์เท่านน้ั ” จะได้ผลลพั ธ์ ตามภาพท่ี 6.48
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนุนการตดั สินใจทางธุรกิจ 149 ภาพท่ี 6.48 การต้ังคา่ ผลรวมเปิดสาหรับคอลัมน์เท่านัน้ 6.5.3. เคา้ โครงรายงาน การตงั้ คา่ เคา้ โครงรายงาน ค่าเรม่ิ ตน้ ของเค้าโครงรายงานจะถกู ตงั้ ค่าไว้ท่ี “แสดงในแบบ กะทัดรดั ” ซง่ึ สามารถเลอื กเพ่ิมเตมิ ได้อีก 2 แบบ คือ แบบเค้ารา่ ง และแบบตาราง ถ้าเลอื ก “แสดงในแบบเค้าร่าง” และ เลือก “ทาปา้ ยช่อื รายการทั้งหมดซ้า” จะได้ ผลลัพธ์ ตามภาพที่ 6.49 ภาพท่ี 6.49 เคา้ โครงรายงานทาปา้ ยช่ือรายการท้งั หมดซ้า ใหส้ ังเกตความแตกต่างของเค้าโครงทีจ่ ัดใหม่ และเคา้ โครงเดิม 6.5.4. แถวว่าง การต้งั คา่ แถววา่ ง ค่าเรม่ิ ต้นของแถววา่ งจะถูกตั้งคา่ ไวไ้ มใ่ ห้มแี ถววา่ งต่อทา้ ยแตล่ ะ รายการ ถ้ารายการมีจานวนมากและทาให้อ่านข้อมลู ในตารางได้ยาก สามารถเพิ่มแถวว่างได้โดย ถ้าเลอื ก “แทรกบรรทัดวา่ งต่อทา้ ยแต่ละรายการ” จะได้ผลลพั ธ์ ตามภาพที่ 6.50
150 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพที่ 6.50 การต้ังคา่ แถววา่ ง ในรบิ บอน “ออกแบบ” ยังมีเครื่องมือใหส้ ามารถกาหนดสีของรายงานได้อกี ดว้ ย ในกลุ่มเคร่ืองมือ “ตัวเลือกลกั ษณะ PivotTable” และ “ลักษณะ PivotTable” ตามภาพท่ี 6.51 ภาพท่ี 6.51 เครื่องมือกาหนดลกั ษณะ PivotTable 6.6. การจัดกลุม่ ใน PivotTable ถ้าข้อมูลในรายงานมจี านวนมาก สามารถจัดกลุ่มข้อมูลเพิ่มเติมได้ เช่น วันทีข่ ายขอ้ มูลเป็นรายวัน ทาให้มขี ้อมลู มากสามารถจัดกล่มุ ให้แสดงเป็นรายเดอื นหรือรายปไี ด้ โดยมีขั้นตอนดงั น้ี จากตวั อย่างเลือกคา่ ในเขตข้อมลู “วนั ท่ีขาย” คลิกเม้าส์ปุ่มขวา เลือก “จัดกลุม่ ” ตามภาพที่ 6.52 ภาพที่ 6.52 การจดั กลุ่มข้อมูล
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนุนการตดั สินใจทางธรุ กจิ 151 ในหน้าต่าง “การจดั กล่มุ ” ให้เลอื ก จดั ตาม “วนั ” และ “เดือน” ตามภาพท่ี 6.53 ภาพท่ี 6.53 การจดั กลมุ่ ข้อมูลตามวนั และเดือน ผลลัพธท์ ่ไี ด้ในรายงานจะมเี ขตขอ้ มลู “เดือน” เพ่มิ ขนึ้ มา รวมถึงในกล่อง ป้ายช่ือแถวดว้ ย ตามภาพ ที่ 6.54 ภาพที่ 6.54 ผลลพั ธก์ ารจดั กลมุ่ ข้อมูลตามวันเดือน เขตข้อมลู เดือนสามารถลากย้ายไปยงั กล่องอืน่ ๆ ได้ ทดลองยา้ ย “เดือน” ไปท่กี ล่อง ป้ายช่อื คอลมั น์ และเอาเขตข้อมูล “ช่ือประเภทสนิ ค้า” ออก ตามภาพท่ี 6.55 จะไดผ้ ลลพั ธ์ตามภาพที่ 6.56 ภาพที่ 6.55 การย้ายเขตข้อมูลจดั กลมุ่
152 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพที่ 6.56 ผลลัพธจ์ ากการย้ายเขตข้อมูลจดั กลุ่ม วิธีการเอากลมุ่ ออก ให้คลิกเม้าส์ปมุ่ ขวาทเ่ี ขตข้อมลู เดมิ แล้วเลือก “ยกเลกิ การจัดกลุ่ม” 6.7. บทสรุป Excel มกั จะถูกนามาใชง้ านร่วมกนั แหล่งข้อมูลที่หลายหลาย เนื่องจาก Excel มีความสามารถใน การคานวณและวิเคราะห์ข้อมูลมากกวา่ ระบบจดั การฐานข้อมูลทถ่ี ้าหากต้องการคานวณทีไ่ ม่มใี นระบบ จะตอ้ งเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมในขณะที่ Excel มีฟงั ก์ขนั และเครอ่ื งมือทีเ่ ตรยี มไว้ล่วงหนา้ พรอ้ มใช้งาน Excel สามารถนาเขา้ ข้อมลู ได้จากหลายแหล่ง เชน่ ข้อมลู ในAccess ตารางข้อมูลในเว็บไซต์ ไฟล์ข้อความ ท่ีเก็บข้อมลู ไว้ หรอื ระบบจัดการฐานขอ้ มูลอ่นื ๆ ถา้ หากมีการนาเข้าข้อมูลจากฐานขอ้ มูล ผใู้ ช้ควรสร้าง คิวรเี พื่อดึงข้อมูลเฉพาะทตี ้องการนามาวิเคราะหใ์ นฐานข้อมลู กอ่ นนาเขา้ มายัง Excel เพื่อเพ่ิม ประสทิ ธภิ าพในการประมวลผล และประหยดั พ้ืนที่จดั เกบ็ ขอ้ มลู เม่อื นาเข้าข้อมลู มาสรา้ ง PivotTable แลว้ ตวั PivotTable เองนัน้ ยงั สามารถปรับแต่งการแสดงผล ให้ตรงตามความต้องการได้หลายอย่าง เช่น การย้าย PivotTable การคานวณ การสรุปค่า การต้ังค่าการ แสดงคา่ เปน็ เปอร์เซ็นต์ การแสดงยอดสะสม การคานวณในเขตข้อมูลใหม่ โดยไม่ต้องเขียนสูตรหรือ ฟังก์ชนั เพิม่ เติม และยงั สามารถเลอื กดูขอ้ มูลบางสว่ นด้วยการใชต้ ัวกรอง ทีม่ ีใหเ้ ลือกใชห้ ลายอย่างเช่นกนั เชน่ ตัวกรองรายงาน ตวั แบ่งส่วนข้อมูล และตวั กรองป้ายชอื่ นอกจากนยี้ งั สามารถปรบั แต่งเค้าโครงการ แสดงผลรวมย่อย ผลรวมทงั้ หมด การแสดงแถวว่าง การปรับสแี ละลกั ษณะของ PivotTable และสดุ ท้าย PivotTable ยงั สามารถจดั กลมุ่ ข้อมูลตามป้ายขอ้ มลู ได้อกี ดว้ ย ถ้าผูใ้ ชส้ ามารถใช้งาน PivotTable ได้ครบ ทกุ ฟังก์ชันการทางานแล้ว PivotTable จะเปน็ เคร่ืองมือในการวเิ คราะหข์ ้อมูลได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ เกือบเทยี บเท่าเครือ่ งมือวิเคราะหค์ ลงั ข้อมูลเลยทีเดียว
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนุนการตดั สินใจทางธุรกจิ 153 แบบฝึกหดั ท้ายบท 1) ยกตวั อยา่ งแหลง่ ขอ้ มูลภายนอกทส่ี ามารถนาเข้ามาใน Excel ได้มา 3 ตวั อย่าง 2) การนาเข้าขอ้ มลู จากภายนอก ต้องใชร้ ิบบอนใด และเมนูใด 3) เม่อื นาข้อมลู เขา้ มาแลว้ ข้อมูลถกู จดั รปู แบบใน Excel เปน็ รปู แบบใด 4) กลมุ่ เคร่ืองมือการกระทากับตาราง ในรบิ บอนการวิเคราะห์ของ PivotTable สามารถทาอะไรได้ บา้ ง 5) ถ้าต้องการย้าย PivotTable ไปยงั แผ่นงานอ่นื ต้องใช้เมนูใด 6) ยกตัวอย่างวธิ กี ารสรปุ ค่าใน PivotTable ทีไ่ มใ่ ชก่ ารหาผลรวม มา 5 อย่าง 7) เครอื่ งมือการแสดงค่าเป็น สามารถต้งั ค่าให้แสดงเปน็ อะไรไดบ้ า้ ง ยกตัวอยา่ งมา 5 อยา่ ง 8) ถ้าตอ้ งการหาผลรวมสะสมของเขตข้อมูลกาไร ต้องใชเ้ มนใู ด 9) ถ้าต้องการนาเขตข้อมูลมาคานวณ เชน่ ยอดขาย * 10% เพ่ือเป็นเขตข้อมูลใหม่ช่อื คอมมิชชน่ั จะตอ้ งใชเ้ มนใู ด 10) ถา้ ต้องการจัดรปู แบบวนั ที่ จาก 1/1/2017 เปน็ 1 มกราคม 2560 จะตอ้ งใชเ้ มนใู ด ทาอยา่ งไร 11) ถ้าต้องการสรา้ งตัวกรองรายงาน ตอ้ งทาอย่างไร 12) ถ้าต้องการแทรก Slicer ตอ้ งทาอย่างไร 13) ยกตวั อยา่ งวิธกี ารนาตัวกรองปา้ ยชื่อไปใช้กับ เขตข้อมลู กาไง มา 5 ตัวอยา่ ง 14) การออกแบบเค้าโครงของ PivotTable สามารถกาหนดอะไรได้บ้าง 15) ยกตัวอยา่ งการจดั กลุ่มข้อมูลใน PivotTable 16) จงออกแบบตารางผลลพั ธจ์ ากการสร้าง PivotTable จากขอ้ มลู ต่อไปน้ี มาอย่างนอ้ ย 3 ตาราง ช่ือพนักงาน วันท่ีอบรม เงินเดอื น แผนก คอรส์ อบรม ผล คา่ อบรม นางสาวอรอารียา ฉนั ดี 3/3/2559 44000 IT เทคนคิ การขาย ผ่าน 5000 นางสาวอรอารยี า ฉนั ดี 3/3/2559 44000 IT เทคนคิ การเจรจา ผา่ น 7000 ตอ่ รอง นายเฉลิมศกั ด์ิ จอมเกาะ 18/3/2559 45000 ขาย เทคนิคการขาย ผ่าน 5000 นายเฉลมิ ศักด์ิ จอมเกาะ 18/3/2559 45000 ขาย เทคนคิ การหาลูกคา้ ผา่ น 7000 นายชาครติ มานพ 17/5/2559 48000 บญั ชี เทคนิคการขาย ผ่าน 5000 นายชาครติ มานพ 17/5/2559 48000 บัญชี เทคนิคการหาลกู คา้ ผา่ น 7000 นายจารุพงศ์ สายอ่อน 2/12/2559 40000 ขาย เทคนคิ การขาย ผ่าน 5000
154 ดร.สาวิตรี บญุ มี เอกสารอ้างอิง Microsoft. (สบื ค้นเมื่อ 28 มกราคม 2559). Excel Help. สืบคน้ จาก https://support.office.com/en- us/excel
แผนบรหิ ารการสอนประจาวิชาบทท่ี 7 หวั ข้อเนอ้ื หาประจาบท 1. ความหมายของ Dashboard 2. ชนดิ ของแผนภมู ิ 3. การเลอื กใชแ้ ผนภมู ิ 4. การนาเสนอข้อมูลในรูปแบบตาราง 5. การนาข้อมูลในตารางสร้างแผนภูมิ 6. การนาข้อมูลทซี่ ากันออก 7. การใช้ Data Validation 8. การสรา้ ง Dashboard ดว้ ย Microsoft Excel 9. การใชฟ้ งั ก์ชันคานวณหลายเง่ือนไข วัตถุประสงค์เชงิ พฤติกรรม 1. เพอ่ื ใหผ้ ู้ศึกษามีความเข้าใจเก่ียวกบั Dashboard 2. เพอื่ ให้ผศู้ ึกษารจู้ ักแผนภูมิชนิดตา่ ง ๆ 3. เพือ่ ให้ผศู้ กึ ษาสามารถสรา้ งเลือกใช้แผนภูมิไดอ้ ย่างเหมาะสม 4. เพื่อให้ผู้ศึกษาสามารถสร้างตารางสาหรบั ใชส้ รา้ งแผนภมู ิแตล่ ะชนิดได้ 5. เพื่อใหผ้ ศู้ กึ ษาสามารถใชเครื่องมอื Remove duplication ของ Excel เพ่ือนาข้อมลู ท่ซี ากัน ออกได้อตั โนมัติ 6. เพื่อให้ผ้ศู กึ ษาสามารถใชเ้ ครื่องมือ Data validation ในการตรวจสอบขอ้ มลู นาเขา้ ได้ 7. เพอื่ ใหผ้ ูศ้ กึ ษาสามารถใชฟ้ งั ก์ชัน่ AVERAGEIFS COUNTIFS SUMIFS ได้ 8. เพ่ือใหผ้ ู้ศกึ ษาสามารถสรา้ ง Dashboard ดว้ ย Microsoft Excel ได้ วธิ กี ารสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนประจาบท 11. ศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน 12. บรรยายและยกตวั อยา่ ง โดยใชโ้ ปรแกรมนาเสนอ 13. ถามตอบในชนั เรยี น 14. ปฏิบัติกบั โปรแกรมเปน็ ตัวอย่างหน้าชันเรยี น 15. ฝึกปฏบิ ตั กิ บั โปรแกรม
156 ดร.สาวติ รี บญุ มี สื่อการเรยี นการสอน 22. เอกสารประกอบการสอน 23. โปรแกรมนาเสนอ 24. ไฟลต์ ัวอย่าง 25. Microsoft Excel 26. Microsoft Access การวัดและประเมินผล 19. สังเกตจากพฤติกรรมความสนใจ และการร่วมกจิ กรรมในชันเรยี น 20. ประเมินผลจากการฝกึ ปฏบิ ตั ใิ นชันเรียน 21. ประเมนิ ผลจากการทดสอบปฏิบตั ิ
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กิจ 157 บทท่ี 7 การสร้าง Dashboard ด้วย Microsoft Excel Dashboard เปน็ เครื่องมือทใ่ี ช้ในระบบสารสนเทศสาหรับผูบ้ รหิ าร ชว่ ยให้ผูบ้ รหิ ารไดท้ าความ เข้าใจภาพรวมของผลการดาเนินงานขององคก์ รไดอ้ ย่างรวดเรว็ จากวธิ กี ารนาเสนอในรูปแบบตารางสรปุ ขอ้ มลู แผนภูมิ หรือรปู ภาพ Microsoft Excel มีความสามารถในการสร้างแผนภูมิได้อย่างรวดเร็วและ หลากหลายทาใหม้ ีความเหมาะสมนามาใช้สรา้ งเปน็ Dashboard ได้อย่างดี 7.1. ความหมายของ Dashboard Dashboard มีความหมายโดยท่ัวไปหมายถึงแผงหน้าปัทว์ เช่น แผงหนา้ ปทั ว์ที่แสดงการทางานโดย ภาพรวมของรถยนต์ ซึ่งจะชว่ ยให้ผขู้ ับข่ีสามารถทาความเข้าใจขอ้ มูลบนหน้าจอในระหว่างขบั ข่ไี ด้อย่าง รวดเร็วไม่รบกวนสมาธิขณะขับขี่ เช่น เข็มชคี วามเร็วในการขับ เข็มชรี ะดบั ความร้อน หรอื สเกลบอกระดบั นามนั ท่ีคงเหลือ ในนัยยะเดยี วกับกับแผงหนา้ ปัทวร์ ถยนต์ ในทางธุรกจิ Dashboard หมายถึงภาพรวมของ ผลการดาเนนิ งานทีส่ าคญั ขององค์กร ท่แี สดงในรูปภาพกราฟฟิก และสามารถทาความเขา้ ใจได้อยา่ ง รวดเรว็ เพื่อใหผ้ ู้บริหารระดับสูงทีม่ ีเวลาทาความเขา้ ใจข้อมลู และสารสนเทศไม่มากนักสามารถรบั รู้สารท่ี ต้องการสอื่ ไดย้ อย่างรวดเร็วเพ่ือนาไปวางแผนกลยทุ ธ์ขององค์กรได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั อยา่ งในบทนีเป็นข้อมลู ทน่ี ามาจากฐานข้อมลู ตัวอยา่ งของ Microsoft Access ซง่ึ ขอ้ มลู ที่ นามาใช้เปน็ ข้อมลู เกี่ยวกบั การสัง่ ซอื สนิ คา้ ของบริษัทไปยงั บรษิ ัททจี่ ัดจาหนา่ ยสนิ ค้า โดยประกอบดว้ ย ขอ้ มลู จากตารางลูกคา้ (Customer) ตารางพนกั งาน (Employee) ตารางสินคา้ (Products) ตารางการ ส่งั ซอื สินค้า (Oders) ตารางรายละเอยี ดการส่งั ซือ (Order detail) ตารางสถานการณ์สง่ั ซอื (Order status) และตารางสถานะรายละเอียดการส่งั ซือ (Order detail status) โดยข้อมูลนามารวมกันในคิวรี ชอ่ื Q_Order และบริษทั ต้องการนามาสรุปเป็น Dashboard ให้ผูบ้ ริหารไดด้ ูภาพรวมผลการดาเนนิ งานของ บรษิ ัทเกยี่ วกบั การจดั การสินค้าคงคลงั และจัดการการจดั ซือสนิ ค้า ไฟล์ประกอบในบทนีชือ่ nwdb.accdb จากเว็บไซต์ academic.udru.ac.th/sawitree 7.1.1. การนาเขา้ ข้อมลู และเตรยี มขอ้ มูลจาก Microsoft Access ขอ้ มลู ใหน้ ามาจากการดาวน์โหลดไฟล์ nwdb.accdb และนาเขา้ Q_Order และ Employee มาใน Excel ตามวธิ กี ารในบทท่ี 6 จากนนั ให้ตงั ชือ่ แผน่ งานทีน่ าเข้ามาดงั นี คิวรี Q_Order ตงั ชอ่ื แผน่ งานว่า Data และ ตังชือ่ ตารางขอ้ มูลว่า Data ตามภาพที่ 7.1 ตาราง Employee ตังช่ือแผ่นงานว่า Employee และ ตังช่ือตารางข้อมูลว่า Employee
158 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพท่ี 7.1 ตัวอย่างข้อมูลที่นาเขา้ จาก Q_Order ในแผน่ งาน Data สร้างคอลัมน์ใหม่ในตารางขอ้ มลู Data โดยสร้างสตู รคานวณ ดังนี คอลมั น์ Sales = [Quantity]*[Unit Price] เพ่ือหายอดขาย คอลัมน์ Costs = [Quantity]*[Standard Cost] เพือ่ หาตน้ ทนุ คอลัมน์ Profit = [Sales]-[Costs] เพื่อคานวณกาไร คอลมั น์ Month_Sale =TEXT([@[Order Date]],\"mmm\") เพื่อแสดงเดือน ท่ีขาย ภาพท่ี 7.2 ตวั อยา่ งขอ้ มูลจากคอลมั น์ทีส่ ร้างใหม่ ภาพที่ 7.2 แสดงตัวอย่างข้อมูล โดยทข่ี ้อมูลคอลมั น์ Month_Sale นนั อาจจะแตกตา่ งกับ ภาพตัวอยา่ งตามภาษาที่ตงั ค่าไวใ้ นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ใี ช้ ถ้าใช้ภาษาไทย ผลลพั ธ์จะแสดงเป็นชื่อเดือน ยอ่ ภาษาไทย เชน่ พ.ค. เม.ย. เปน็ ตน้ 7.1.2. การเอาคา่ ทซ่ี ากันออก จากนันสร้างแผ่นงานใหม่ตงั ช่ือวา่ list เพ่ือเก็บข้อมลู ท่ีจะใชเ้ ป็นรายการในตวั เลอื กขอ้ มูล ซึ่งมีวธิ ีการสร้างรายการโดยใชเ้ คร่ืองมือ \"เอาค่าท่ซี ากันออก\" ตามวิธกี ารตอ่ ไปนี เปิดแผน่ งาน Data เลือกคอลมั น์ State/Province (คอลัมน์ AA) ทังหมด แล้วคัดลอก จากนนั เปิดกลับไปแผ่นงาน State เลือกเซลล์ A1 แล้วดาเนนิ การ วางแบบพเิ ศษ โดยเลือก วางค่า ตาม ภาพที่ 7.3
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนนุ การตดั สนิ ใจทางธุรกิจ 159 ภาพที่ 7.3 เมนวู างแบบพิเศษ เมือ่ วางข้อมลู เรียบร้อยแล้วให้ไปทรี่ บิ บอนข้อมูล (Data) เลอื กเครื่องมือ เอาค่าท่ีซากนั ออก (Remove Duplicates) ตามภาพที่ 7.4 Excel จะเปิดหน้าตา่ งถามชอ่ื คอลมั น์ท่ีต้องการนาค่าที่ซา กันออก เลอื กตามภาพที่ 7.5 ตอบตกลง จะได้ผลลัพธ์ตามคอลมั น์ A ในภาพที่ 7.6 จัดรปู แบบใหส้ วยงาม ภาพท่ี 7.4 เครือ่ งมือเอาค่าทีซากนั ออก ภาพท่ี 7.5 หนา้ ตา่ งเอาคา่ ทีซ่ ากนั ออก ตอ่ ไปให้คัดลอกคอลัมน์ Orders Status.Status Name (คอลัมน์ X) และ Category (คอลัมน์ R) แลว้ ทาซาแบบเดียวกันในแผ่นงานเดียวกันตามภาพที่ 7.6 สาหรบั คอลมั น์ Month ให้พิมพช์ ่ือ ย่อเดอื นทงั 12 เดอื นเปน็ ภาษาอังกฤษ ถ้าใชว้ นิ โดว์ภาษาอังกฤษ หรอื ภาษาไทยถา้ ใช้วินโดว์ไทย หรือ ดู ตามข้อมลู ในคอลมั น์ Month_sale
160 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพท่ี 7.6 รายการท่ีเตรยี มครบถ้วนแลว้ ภาพที่ 7.7 แผ่นงาน Dashboard
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สินใจทางธรุ กจิ 161 7.1.3. การสร้างตวั เลอื กรายการด้วยเครือ่ งมือตรวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมูล สร้างแผ่นงานใหม่ตงั ช่ือวา่ Dashboard ในแผ่นงานให้สร้างตารางเพอื่ ทา dashboard ตามภาพที่ 7.7 โดยชอ่ื พนักงานให้คดั ลอกจากคอลมั น์ First Name ตาราง Employee ชือ่ เดือน ชือ่ ประเภทสนิ ค้า และชอ่ื State คดั ลอกจากแผน่ งาน list ท่เี ตรยี มไว้ก่อนหนา้ นี จากนันเลอื กเซลล์ B2 ไปทร่ี บิ บอน “ข้อมูล” เลือกเครอื่ งมอื “การตรวจสอบความถูกต้อง ของขอ้ มูล” (Data Validation) ตามภาพที่ 7.8 ภาพท่ี 7.8 เครื่องมือตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมลู ในหน้าต่าง“การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล” ชอ่ ง“อนญุ าต:” ให้เลือก “รายการ” ชอ่ ง “ท่ีมา:” ใหเ้ ลือกเซลล์ $C$2:$C$4 จากแผน่ งาน list ตามภาพท่ี 7.9 คลิกตกลงจะมตี วั เลอื กรายการ เพม่ิ ขนึ ในเซลล์ B2 ตามภาพท่ี 7.10 ภาพที่ 7.9 หนา้ ต่างความถูกต้องของขอ้ มลู ภาพที่ 7.10 ตวั เลือกรายการสถานะการขาย จากนนั ในเซลล์ F2, B17 และ F17 ดว้ ยวธิ กี ารเดียวกนั โดยมรี ายละเอียด ดงั นี เซลล์ F2 เลือกรายการ เดือน =list!$E$2:$E$13 เซลล์ B17 เลือกรายการ เดือน =list!$E$2:$E$13 เซลล์ F17 เลือกรายการ State =list!$A$2:$A$13
162 ดร.สาวิตรี บญุ มี 7.2. ลกั ษณะของการนาเสนอข้อมลู ในรปู แบบตาราง ก่อนการสรา้ งแผนภูมิ ผูพ้ ฒั นาควรมคี วามเข้าใจเกีย่ วกับการนาเสนอข้อมลู ในรูปแบบตาราง เนือ่ งจากแผนภมู สิ รา้ งมาจากขอ้ มูลในรปู แบบตาราง ซึ่งรปู แบบตารางแตล่ ะรูปแบบจะสามารถนาไปใช้ สร้างแผนภูมไิ ดต้ า่ งชนดิ กัน การเข้าใจรูปแบบตารางท่ีใชจ้ งึ มคี วามสาคัญ รปู แบบตารางที่ใช้นาเสนอข้อมูลเพ่ือนาไปสร้างแผนภมู ใิ น Excel นันมรี ูปแบบหลัก 5 อย่าง ดงั นี 7.2.1. ตารางที่มีข้อมูลชุดเดยี ว การแสดงข้อมลู ในรูปแบบตารางนนั จะแสดงข้อมลู ทีป่ ระกอบขึนจากแถวและคอลัมน์ ข้อมลู ที่แสดงตามแถวเรยี กวา่ ประเภท ข้อมูลท่ีแสดงตามคอลมั น์เรยี กกว่าชดุ ขอ้ มลู น่ันหมายความว่า ใน หน่ึงชุดขอ้ มลู จะประกอบด้วยหลายประเภท ตารางที่มีข้อมูลชดุ เดียวจะแสดงข้อมูลของเขตข้อมลู เพียงหนึง่ อย่าง ซึง่ เมื่อนามานาเสนอ ในตารางทมี่ ีข้อมลู ชดุ เดยี วนี จะประกอบด้วย 2 คอลัมน์ คือ คอลัมน์แรกแสดงชื่อประเภท และคอลมั น์ที่ สองแสดงจานวนของแตล่ ะประเภท การสลับแถวหรอื คอลมั นข์ องแผนภมู ทิ สี่ ร้างจากตารางรูปแบบนีไมม่ ี ความแตกต่างในการแสดงผล ตารางที่ 7.1 แสดงตวั อย่างตารางท่มี ีข้อมูลชดุ เดียว จานวน (คน) เพศ 140 ชาย 260 หญงิ ตามตัวอย่างในตารางท่ี 7.1 ข้างต้นนนั ตารางแสดงข้อมูลของเขตข้อมูลช่ือวา่ “เพศ” โดยประเภทของเขตขอ้ มูลเพศทแี่ สดงในแถว ประกอบดว้ ย 2 ประเภท คอื ชาย และ หญิง จานวนของแต่ ละประเภทแสดงอยใู่ นคอลัมน์จานวน ซงึ่ ทังหมดนีคอื ข้อมลู ของขอ้ มลู ชุดเดียวคือ เพศ เพียงชดุ เดียว เทา่ นัน หรอื กลา่ วไดอ้ ีกนัยหน่ึงว่า ข้อมลู เพศหน่งึ ชุดประกอบดว้ ย 2 ประเภทคือ ชาย และ หญงิ 7.2.2. ตาราง Crosstab หรือตารางทีม่ ีข้อมูลมากกวา่ หนง่ึ ชดุ การแสดงข้อมูลในตารางรปู แบบนีจะมลี ักษณะเดียวกับรูปแบบแรก คอื ตารางจะแสดง ขอ้ มูลท่ีประกอบขึนจากแถวและคอลัมน์ ในหนงึ่ แต่ละคอลมั น์คอื หนง่ึ ชดุ ขอ้ มลู ทป่ี ระกอบด้วยรายการ หลายรายการ แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ ตารางรูปแบบนีจะมีขอ้ มูลมากกวา่ หนงึ่ เขตขอ้ มูล ซง่ึ ส่วนใหญม่ ักจะ ประกอบด้วย 2 เขตข้อมลู โดยเขตข้อมูลหนง่ึ แสดงตามแนวนอน และอีกเขตข้อมูลแสดงตามคอลมั น์ ดงั นันหมายความวา่ จะมีรายการแสดงอย่ใู นทงั แถวและคอลัมน์ ทาให้ตารางจะประกอบดว้ ยคอลมั น์ มากกว่า 2 คอลมั น์ตามจานวนรายการของเขตข้อมลู ท่แี สดงตามคอลมั น์ ซ่งึ แต่ละคอลัมนจ์ ะเรยี กวา่ หนง่ึ ชุดขอ้ มลู หรอื ในทางกลบั กัน แต่ละแถวกส็ ามารถเรยี กเป็นหน่งึ ชดุ ข้อมูลได้ แผนภูมทิ ่ีสรา้ งจากตาราง รูปแบบนีจะสามารถเลอื กสลบั แถวหรอื คอลัมน์เพอ่ื แสดงผลได้
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนบั สนนุ การตดั สินใจทางธรุ กิจ 163 ตารางที่ 7.2 แสดงตวั อย่างตารางที่มขี ้อมลู มากกว่าหนง่ึ ชดุ เพศ ชันปี ปี 1 ปี 2 ปี 3 ปี 4 ชาย 50 40 30 20 หญิง 100 70 60 50 ตามตัวอยา่ งท่แี สดงในตารางที่ 7.2 ขา้ งตน้ ตารางแสดงข้อมลู ของเขตข้อมลู 2 เขตข้อมูล คอื เพศ และ ชันปี โดยรายการของเขตข้อมลู เพศที่แสดงในแถว ประกอบด้วย 2 รายการ คือ ชาย และ หญงิ และรายการของเขตข้อมลู ชนั ปีที่แสดงในคอลมั น์ ประกอบดว้ ย 4 รายการ คอื ปี 1 ปี 2 ปี 3 และ ปี 4 ในเซลล์หรือช่องท่ีแถวตัดกับคอลมั นจ์ ะแสดงจานวนของรายการนัน ๆ เช่น 100 คือจานวนของเพศหญงิ ชันปี1 เปน็ ต้น ซ่งึ ถ้าองิ ตามคอลัมนจ์ ะถอื วา่ ตารางนมี ีชุดข้อมูล 4 ชดุ แต่ละชุดมี 2 ประเภทคือ ประเภท ชาย และประเภทหญิง ในทางกลับกันถา้ องิ ตามแถว ตารางนจี ะมชี ุดข้อมูล 2 ชุด แตล่ ะชุดมี 4 ประเภท คือ ประเภทปี 1 ประเภทปี 2 ประเภทปี 3 และ ประเภทปี 4 7.2.3. ตารางสองตัวแปร ตารางที่มีตวั แปรสองตัวจะมีความแตกต่างจากสองรูปแบบแรกแมว้ า่ ดูผิวเผินจะมีความ คลา้ ยคลงึ กับรูปแบบทสี่ องในกรณที ่ีขอ้ มลู สองชุด แต่ในความจริงนันตารางรูปแบบนีจะประกอบด้วย ข้อมลู ในคอลัมน์ หรือในแถว อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงเทา่ นนั ในกรณที ่ีขอ้ มูลอยูใ่ นรูปแบบคอลัมน์ 2 คอลัมน์ ข้อมลู ในคอลัมน์แรกจะถูกจัดให้อยใู่ นแกนนอน และคอลัมน์ทเ่ี หลือจะมคี วามสัมพันธก์ บั คอลัมนแ์ รก และ ถือเป็นขอ้ มูลเพียงชุดเดยี วเท่านัน ไมใ่ ช่สองชดุ เหมือนกบั ตารางในรปู แบบทส่ี อง ตารางที่ 7.3 แสดงตวั อย่างตารางสองตัวแปร XY 13 25 37 ตามตวั อย่างในตารางท่ี 7.3 ข้างต้น ตารางประกอบดว้ ย 2 คอลมั น์โดยแต่ละคอลมั น์มี 1 ตัวแปร ค่าในแต่ละแถวนนั ไม่ใชป่ ระเภทเหมือนตารางสองรูปแบบแรก แต่เปน็ ค่าในชุดข้อมลู จากข้อมูลใน ตารางตัวอยา่ งนนั มชี ุดข้อมูล 1 ชุด ท่ีมีคา่ ในชุดข้อมลู ประกอบด้วยค่าจากทัง 2 ตวั แปร คอื {1,3}, {2,5} และ {3,7}
164 ดร.สาวติ รี บญุ มี ถึงแมว้ า่ จะเป็นตาราง 2 ตวั แปรแต่บางครังกส็ ามารถมีมากกว่า 2 คอลัมนไ์ ด้ แตท่ ุก คอลมั น์ที่เพม่ิ ขนึ มาคอื ชุดขอ้ มลู ทมี่ ีความสมั พันธ์กบั คอลมั นแ์ รกตงั ตวั อย่างในตารางที่ 7.4 ตารางท่ี 7.4 แสดงตวั อย่างตารางสองตวั แปรที่มีมากกวา่ 2 คอลัมน์ X Y1 Y2 131 252 379 ตามตัวอย่างในตารางที่ 7.4 มีชดุ ข้อมูลทังหมด 2 ชุด คือชดุ ข้อมลู ของ {X,Y1} และ{X,Y2} ในกรณีเช่นนี Y1 และ Y2 ควรมมี าตรวัดเดยี วกนั ตารางรูปแบบนีใช้กับแผนภูมิกระจาย หรอื ท่ีเรยี กอีกช่ือวา่ XY 7.2.4. ตารางสามตวั แปร ตารางสามตัวแปรนันมีลักษณะเหมือนตารางสองตวั แปรทม่ี ี 2 คอลัมน์ แต่จะมีเพมิ่ อกี 1 คอลมั น์ โดยทัง 3 คอลมั น์คือตวั แปร 3 ตวั แปรทมี่ คี วามสัมพนั ธก์ นั และถือเป็น 1 ชดุ ข้อมูล หรอื {X,Y,Z} ตารางที่ 7.5 แสดงตวั อย่างตาราสามตัวแปร XYZ 1 3 15 2 5 10 375 ตามตัวอยา่ งในตารางที่ 7.5 ตารางประกอบด้วย 3 คอลัมน์โดยแต่ละคอลัมนม์ ี 1 ตวั แปร คา่ จากตัวแปรทัง 3 คอลัมน์ ถอื เปน็ ขอ้ มลู 1 ชดุ ทม่ี ีคา่ ในชุดขอ้ มูลประกอบด้วยค่าจากทงั 3 ตัวแปร คอื {1,3,15}, {2,5,10} และ {3,7,5} ตารางชนิดนใี ชก้ ับแผนภูมชิ นิดฟองเท่านนั โดยคา่ ของตัวแปร Z จะแสดงเปน็ ขนาดของ จดุ หรือทเ่ี รยี กว่าฟอง ที่จดุ ลง[oแผนภมู ิจากคา่ ของตวั แปร X และ Y
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนบั สนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 165 7.2.5. ตารางหนุ้ ตารางหุ้นมรี ูปแบบเฉพาะทางเชน่ กัน เน่อื งจากใชเ้ ฉพาะนาเสนอมูลคา่ ของหนุ้ ท่ีซือขาย ในตลาดหลกั ทรัพยซ์ ง่ึ มีขอ้ มลู ท่ีตอ้ งนาเสนอทเ่ี ฉพาะเจาะจง คอื ปรมิ าณการซือขาย ราคาเปดิ ราคาสูงสุด ราคาตต่าสดุ และราคาปิด ซง่ึ การเลอื กใชข้ อ้ มลู ดงั กลา่ วนนั จะใช้ทงั หมดหรือบางสว่ นจะขึนอยกู่ ับชนิดของ แผนภมู ิห้นุ ท่เี ลือกใช้ แต่ทังนีการสรา้ งตารางหนุ้ เพ่อื สร้างแผนภมู ิห้นุ นนั จะต้องมลี าดับของคอลัมน์ให้ตรง ตามทก่ี าหนดเทา่ นัน เช่น แผนภมู หิ ุ้นชนิดสงู -ตา่ -ปิด จะต้องนาเสนอข้อมูลตามตัวอย่างในตารางท่ี 7.6 เท่านัน ตารางที่ 7.6 แสดงตวั อย่างตารางหนุ้ วันที่ ราคาสูงสุด ราคาต่าสุด ราคาปิด 1 ก.พ. 88.39 86.70 88.26 2 ก.พ. 89.82 87.73 88.15 3 ก.พ. 89.89 87.63 89.89 7.3. การเตรยี มตารางขอ้ มลู สาหรับสร้างแผนภูมิโดยใช้ฟงั กช์ ั่น SUMIFS การรวมค่าตามเง่ือนไขหลายเงือ่ นไข โดยใช้ SUMIFS เปน็ การหาผลรวมค่าทมี่ ีหลายเงื่อนไข เช่น ผลรวมของยอดขายของบางผลิตภณั ฑ์ในบางภมู ิภาค ซ่ึงประกอบด้วย 2 เง่ือนไข คือ ผลติ ภณั ฑ์ และ ภูมิภาค โดยอารก์ วิ เมนต์ของฟงั กช์ ัน SUMIFS แสดงในภาพที่ 7.11 และอธบิ ายอยูใ่ นตารางท่ี 7.7 ไวยากรณ์: SUMIFS(sum_range, criteria_range1, criteria1, [criteria_range2, criteria2], ...) ภาพท่ี 7.11 หนา้ ตา่ งฟงั กช์ นั SUMIFS
166 ดร.สาวติ รี บญุ มี ตารางท่ี 7.7 อาร์กวิ เมนตข์ องฟังก์ชัน SUMIFS ช่ืออาร์กิวเมนต์ คาอธบิ าย ตัวอยา่ ง Sum_range (จาเปน็ ) Criteria_range1 (จาเป็น) ชว่ งของเซลล์ท่ีต้องการหาผลรวม data[Sales] ชว่ งท่จี ะถูกทดสอบจะใช้ Criteria1 data[OrdersStatus.Status Criteria_range1 และ Criteria1 จะตังค่า Name] การคน้ หาแบบคซู่ ่ึงช่วงจะถกู ค้นหาสาหรบั เกณฑ์ที่ระบุไว้ เม่ือรายการในชว่ งถูกค้นพบ คา่ ทีเ่ ก่ยี วข้องของช่วงเหล่า นัใน Sum_range จะถูกเพิ่ม (จาเป็น) Criteria1 เกณฑ์ทกี่ าหนดว่าเซลลใ์ ด $B$1 ใน Criteria_range1 จะถูกเพมิ่ ตวั อยา่ งเช่น สามารถใส่เง่ือนไข เป็น 32,\">32\", B4, \"แอปเปลิ้ \" หรือ \"32\" Criteria_range2, criteria2, ชว่ งเพิม่ เตมิ และเกณฑ์ทีส่ ัมพันธก์ ันของช่วง data[month_Sale],A4 … (ระบุหรือไม่ก็ได)้ สามารถใส่ได้ถงึ 127 คูข่ องช่วง/เง่ื จากแผ่นงานให้ฝกึ ปฏบิ ัติการใชฟ้ ังกช์ น่ั SUMIFS โดยมวี ิธกี ารดังนี ตารางซ้ายบน: เซลล์ B4 หาผลรวมของยอดขาย แยกตามสถานการณ์ขายและเดือนที่ขาย =SUMIFS(data[Sales],data[Orders Status.Status Name],$B$1,data[month_Sale],A4) ตารางซา้ ยบน: เซลล์ D4 หาผลรวมของของต้นทุน แยกตามสถานะการขายและเดือนที่ขาย =SUMIFS(data[Costs],data[Orders Status.Status Name],$B$1,data[month_Sale],A4) ตารางขวาบน: เซลล์ F4 หาผลรวมของยอดขาย แยกตามเดือนท่ขี ายและ State =SUMIFS(data[Sales],data[month_Sale],$F$1,data[State/Province],E4) ตารางซา้ ยลา่ ง: เซลล์ B20 หาผลรวมของยอดขาย แยกตามเดือนท่ีขายและพนักงานขาย =SUMIFS(data[Sales],data[month_Sale],$B$17,data[First Name],A20) ตารางขวาลา่ ง: เซลล์ F20 หาผลรวมของกาไร แยกตาม State ทข่ี ายและประเภทสินคา้ =SUMIFS(data[Profit],data[State/Province],$F$17,data[Category],E20)
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สินใจทางธุรกิจ 167 7.3.1. ฝึกปฏบิ ัติการสร้างสตู รที่อ้างอิงตารางข้อมูลใน Excel 1. ในเซลล์ B4 พมิ พ์ฟังกช์ ั่น SUMIFS ท่ีตอ้ งการใชก้ ดปุ่ม Tab เพื่อเลอื กฟังกช์ นั่ 2. พิมพช์ ื่อตารางขอ้ มูลท่ีต้องการอ้างอิง ในรายการตัวเลือกทป่ี รากฏให้เลือกตารางท่ีต้องการ โดย สงั เกตสัญลกั ษณใ์ ห้เป็นไอคอ่ นรูปตาราง กดปมุ่ Tab เพ่อื เลือกตารางทตี่ อ้ งการ ตามภาพที่ 7.12 ภาพท่ี 7.12 ตวั อยา่ งการเลือกชอ่ื ตารางขอ้ มลู 3. จากนนั ใสเ่ ครื่องหมาย “[” เพ่ือให้แสดงรายการตวั เลือกคอลมั นท์ ีม่ ีในตารางข้อมลู นัน กดปุ่ม Tab เพื่อเลือกคอลมั น์ทต่ี อ้ งการ แล้วใสเ่ คร่อื งหมาย “,” เพ่ือยืนยันการเลอื ก ตามภาพท่ี 7.13 ภาพที่ 7.13 ตัวอย่างการเลือกชอื่ คอลมั น์ในตารางข้อมูล 4. ทาวิธีเดยี วกนั จนครบอาร์กวิ เมนต์ทตี่ ้องใช้ ตามภาพที่ 7.14 ภาพที่ 7.14 ตวั อย่างการสรา้ งสูตรท่ีอา้ งอิงตารางข้อมลู คนละแผ่นงาน 5. คัดลอกสูตรใหเ้ ต็มตาราง แลว้ สรา้ งสูตรในตารางอ่ืน ๆ ให้ครบถ้วน จะไดผ้ ลลพั ธต์ ามภาพที่ 7.15
168 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพที่ 7.15 ผลลพั ธ์ตารางสาหรบั สร้างแผนภมู ิ 7.4. การสรา้ งแผนภมู ิดว้ ย Microsoft Excel แผนภูมิ หรือ Chart เปน็ รปู แบบหน่ึงในการนาเสนอข้อมูลด้วยการใช้องคป์ ระกอบต่างๆ เช่น คอลัมน์ หรือเสน้ แผนภูมจิ ะแสดงชดุ ของขอ้ มลู ตัวเลขในรูปแบบกราฟิกแทนที่การแสดงในรูปแบบตาราง ซึง่ ต้องใชเ้ วลาในการทาความเข้าใจข้อมลู แผนภมู ิชว่ ยให้ผูใ้ ช้ขอ้ มูลสามารถทาความเขา้ ใจข้อมลู จานวน มากได้งา่ ยยง่ิ ขึน รวมถึงการเข้าใจความสมั พันธ์ระหว่างชุดของข้อมลู ตา่ ง ๆ อีกดว้ ย แผนภูมยิ งั สามารถ แสดงภาพรวม ซึ่งทาให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและหาแนวโน้มท่ีสาคญั ได้ Microsoft Excel มีเครอ่ื งมือทีช่ ่วยสรา้ งแผนภูมิชนิดต่าง ๆ ท่ีใชบ้ อ่ ย ดังเช่น แผนภูมวิ งกลม แผนภูมิเส้น แผนภูมิคอลัมน์ แผนภมู ิแท่ง แผนภมู ิกระจาย
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 169 7.4.1. แผนภูมิวงกลม Pie Chart แผนภูมิวงกลมแสดงขนาดของขอ้ มูลโดยแบ่งเปน็ สัดสว่ นตามผลรวมของข้อมลู หน่ึง รายการตอ่ ผลรวมของขอ้ มูลทังหมด เปน็ การเปรียบเทยี บสดั ส่วนขององค์ประกอบในชดุ ขอ้ มูล ตามภาพท่ี 7.16 โดยแผนภมู ิวงกลมจะแสดงขอ้ มูลได้เฉพาะชุดข้อมูลหน่ึงชุดเท่านนั วิธกี ารนาเสนอจะแสดงในรปู แบบ วงกลม เหมอื น พาย หรอื ขนมเค้ก ไม่มแี กนแนวตงั และแนวนอน มีประโยชนม์ ากเมอื่ ต้องการเน้นท่ี องค์ประกอบเด่น ๆ ที่อยใู่ นข้อมูล ในทางธรุ กิจมักจะใช้แสดงข้อมูลที่ต้องการใหเ้ ป็นสัดสว่ นเปอรเ์ ซ็นตห์ รือ ร้อยละมากกว่าการเปรยี บเทียบค่าตามจานวนจริง เชน่ สว่ นแบ่งทางการตลาด สดั ส่วนของลูกค้าแตล่ ะ เพศ เป็นตน้ ภาพท่ี 7.16 ตัวอยา่ งแผนภูมิวงกลม แผนภมู ิวงกลมที่สามารถสรา้ งได้ใน Excel มีหลายชนิด เชน่ 1) แผนภมู วิ งกลมแบบแยกตวั ที่แยกชนิ เพ่ือเนน้ ข้อมูล เช่นในภาพท่ี 7.17 ภาพท่ี 7.17 แผนภมู ิวงกลมแบบแยกตัว 2) แผนภูมิวงกลมจากวงกลม เป็นแผนภมู วิ งกลมพร้อมคา่ ทผี่ ้ใู ชก้ าหนดซ่ึงแยกและรวมเขา้ กับ แผนภูมวิ งกลมอนั ทีส่ อง เชน่ ในภาพที่ 7.18
170 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพที่ 7.18 แผนภมู วิ งกลมจากวงกลม 3) แผนภูมแิ ทง่ จากวงกลม เป็นแผนภูมวิ งกลมพร้อมค่าท่ีผู้ใชก้ าหนดซงึ่ แยกและรวมเขา้ กับแผนภูมิ แทง่ แบบกองซ้อน เชน่ ในภาพท่ี 7.19 ภาพท่ี 7.19 แผนภูมิแท่งจากวงกลม ตารางข้อมูลของแผนภมู วิ งกลม ในการสร้างแผนภูมิวงกลม ตารางข้อมูลที่ใช้คือตารางที่มขี ้อมูลชุดเดยี ว ตวั อย่างเช่น เพศ จานวน (คน) ชาย 140 หญิง 260 ภาพที่ 7.20 ตัวอย่างตารางข้อมูลของแผนภูมิวงกลม
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ 171 ในการใช้แผนภูมิวงกลม มีสง่ิ ที่ตอ้ งพิจารณาเพ่ือความเหมาะสม ดังนี มชี ุดข้อมลู เพียงชดุ เดยี วท่ีต้องการแสดงในแผนภมู ิ เนื่องจากแผนภมู วิ งกลมมลี ักษณะการ ลงจดุ บนแกนที่เป็นวงกลม 360 องศา ซึ่งไมม่ ีสว่ นปลายของภาพ และมีเพยี งแกนเดยี ว ทาให้ลงจดุ ไดเ้ พียงชุดเดียวเท่านัน คา่ ของข้อมลู ทุกคา่ ที่ตอ้ งไม่มีคา่ เปน็ ลบ เน่อื งจากแผนภมู ิวงกลมมีเพียงแกนเดยี วซึ่งเป็น แกนท่ีแสดงได้เฉพาะคา่ บวก ทาให้ไมส่ ามารถลงจดุ ค่าทีเ่ ป็นค่าลบได้ ค่าของข้อมูลเกือบทังหมดไม่มีคา่ เป็นศูนย์ เนื่องจากถา้ ค่าเป็นศนู ยจ์ ะทาใหส้ ามารถแสดง เป็นชินสว่ นในแผนภูมไิ ด้ ภาพที่ 7.21 ตัวอยา่ งแผนภูมิวงกลมทม่ี ีคา่ ศนู ย์ มรี ายการหรือประเภทในหนึ่งชดุ ข้อมูลไม่เกนิ เจ็ดรายการ เนอื่ งจากพนื ทขี่ องวงกลมมี จากัดการแสดงข้อมลู จะสามารถทาได้ครบถ้วนและทาความเขา้ ใจได้ยาก ภาพท่ี 7.22 ตัวอยา่ งแผนภมู ิวงกลมทม่ี รี ายการมากเกินไป
172 ดร.สาวิตรี บญุ มี ตามทีก่ ลา่ วไปแล้วนัน แผนภมู วิ งกลมจะแสดงข้อมลู ได้เพยี งหนงึ่ ชุดเทา่ นนั ดงั นนั ถ้าหาก ตอ้ งการแสดงสดั สว่ น หรอื เปรยี บเทียบสดั ส่วนของข้อมูลมากกวา่ หนงึ่ ชุดขึนไป จาเปน็ ต้องใช้ แผนภูมิ ประเภทอื่น ๆ แทน เช่น แผนภูมแิ ทง่ แบบเรียงซอ้ น แผนภูมิพืนที่ หรือแผนภูมโิ ดนัท เป็นต้น 7.4.2. แผนภมู เิ ส้น Line Chart แผนภมู ิเส้น แสดงแนวโนม้ ของข้อมูล ณ ช่วงเวลาท่ีเท่า ๆ กัน เพื่อติดตามการ เปลี่ยนแปลงของข้อมลู ในชว่ งระยะเวลาสันๆ หรอื ระยะเวลายาวๆ สามารถใชเ้ ปรียบเทยี บแนวโนม้ ระหวา่ งหลายๆ ชดุ ข้อมลู โดยแกน x หรือแกนนอน มักจะเปน็ เวลา ทแี่ บ่งเป็นชว่ งเวลาเท่าๆ กัน แผนภูมิ ชนดิ นีจะแสดงแนวโนม้ สาหรบั ช่วงเวลาหน่งึ หรอื ของข้อมลู ชดุ หนงึ่ สามารถใช้แผนภมู นิ ีร่วมกับมารก์ เกอร์ ท่แี สดงผลที่ค่าของข้อมลู แตล่ ะค่า แผนภูมเิ สน้ จะมแี ผนภมู ิยอ่ ยชนิดต่าง ๆ ดังต่อไปนี - แผนภมู ิเสน้ แบบเปน็ กลุ่ม - แผนภมู ิเส้นแบบเรยี งซ้อน - แผนภูมิเส้นแบบเรียงซอ้ น 100% - แผนภมู คิ อลมั น์ 3 มิติ 1) แผนภูมิเสน้ แบบเปน็ กลมุ่ แสดงแนวโน้มของข้อมูล ณ ชว่ งเวลาท่ีเทา่ ๆ กัน เช่นในภาพที่ 7.23 ภาพท่ี 7.23 ตวั อยา่ งแผนภูมิเสน้ 2) แผนภูมิเสน้ แบบเรียงซอ้ น แสดงแนวโน้มการกระจายของคา่ แตล่ ะค่าตลอดช่วงเวลาหน่ึงหรอื ผลรวมหน่งึ เชน่ ในภาพที่ 7.24
เอกสารประกอบการสอนวิชาระบบสนับสนุนการตดั สนิ ใจทางธรุ กิจ 173 ภาพที่ 7.24 แผนภมู เิ สน้ แบบเรียงซ้อน 3) แผนภูมเิ ส้นแบบเรียงซอ้ น 100% แสดงแนวโนม้ ของคา่ แตล่ ะค่าเปน็ เปอรเ์ ซ็นต์ตลอดชว่ งเวลา หนึง่ หรอื ผลรวมหนึ่ง เช่นในภาพที่ 7.25 ภาพท่ี 7.25 แผนภูมเิ สน้ แบบเรียงซ้อน 100% 4) แผนภูมิเสน้ 3 มติ ิ แสดงค่าในรูปแบบ 3 มติ ิ คือ แยกชุดข้อมลู ในแกนมิติท่ี 3 มีข้อควรระวงั คือมติ ิ อาจจะทาให้กะขนาดของข้อมลู จากภาพผิดพลาด เชน่ ในภาพที่ 7.26
174 ดร.สาวติ รี บญุ มี ภาพท่ี 7.26 แผนภมู เิ ส้น 3 มิติ 5) แผนภมู ิพนื ที่ คือแผนภูมิเสน้ ทร่ี ะบายสพี ืนท่ขี องแตล่ ะชดุ ข้อมลู เชน่ ในภาพท่ี 7.27 ภาพท่ี 7.27 แผนภมู ิพนื ท่ี มขี ้อควรระวังคือ ชดุ ข้อมูลอาจจะถูกบังได้ แผนภูมิพืนทีจ่ ึงควรใชแ้ บบ 100% มากกวา่ เช่นในภาพ ที่ 7.28 ซึ่งสามารถแสดงสดั ส่วนของแต่ละชดุ ข้อมลู ได้ เปรียบเหมือนแผนภูมวิ งกลมทีม่ ีหลายชุดข้อมูล
เอกสารประกอบการสอนวชิ าระบบสนับสนนุ การตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ 175 ภาพที่ 7.28 แผนภูมพิ นื ทเ่ี รยี งซอ้ น 100% ตารางขอ้ มูลของแผนภูมเิ สน้ การสรา้ งแผนภูมิเส้นใชต้ าราง Crosstab ภาพท่ี 7.29 ตวั อย่างตารางข้อมลู ของแผนภมู ิเสน้ หรือแสดงการ 7.4.3. แผนภูมิคอลมั น์ เป็นแผนภูมิทใ่ี ช้แสดงการเปล่ียนแปลงของข้อมูลตลอดช่วงเวลาหนง่ึ เปรียบเทยี บข้อมลู แตล่ ะประเภท แผนภูมิคอลัมน์จะมแี ผนภมู ิยอ่ ยชนิดต่าง ๆ ดังต่อไปนี - แผนภูมิคอลมั น์แบบเปน็ กลมุ่ - แผนภมู ิคอลมั น์แบบเรยี งซ้อน - แผนภูมคิ อลมั น์แบบเรยี งซ้อน 100%
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342