Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ວິຊາບັນຊີຊັ້ນກາງ1

ວິຊາບັນຊີຊັ້ນກາງ1

Published by thongla4567, 2021-08-27 02:43:27

Description: ວິຊາບັນຊີຊັ້ນກາງ1

Search

Read the Text Version

81 สมดุ เงนิ สด บริษทั ขอนแกน่ จากดั พ.ศ. รายการ เลขท่ี เงินฝาก พ . ศ . รายการ เลขท่ี เลขที่ เงินฝาก 2557 บญั ชี ธนาคาร 2557 เชค็ บญั ชี ธนาคาร ก.พ.1 ยอดยกมา  168,000 ก.พ.1 บัญชีคา่ ธรรมเนียม 1,000 1 ตั๋วเงนิ รบั 20,000 1 บัญชีลูกหนก้ี ารคา้ (เชค็ คนื ) 60,000 ดอกเบย้ี รบั 600 16 บญั ชเี จ้าหนี้การคา้ 307 58,000 5 บัญชลี กู หนก้ี ารคา้ 18 บัญชีค่าโฆษณา 308 102,000 10 บัญชีลกู หนก้ี ารคา้ 72,000 22 บัญชเี จ้าหนี้การค้า 309 32,000 20 บัญชีขายสินคา้ 238,000 24 บัญชเี จา้ หนี้การค้า 310 26,000 25 บญั ชีลกู หนก้ี ารค้า 96,000 28 บัญชีเงินเดอื น 311 66,000 64,000 ยอดยกไป  313,600 658,600 658,600 Bank Statement บริษทั ขอนแก่น จากดั ธนาคารไทยไทย รายงานบัญชกี ระแสรายวัน เลขที่ 2345678 คงเหลือ 2557 รายการ เลขทเี่ ชค็ ถอน ฝาก 53,600 255,600 ก.พ. 1 ยอดยกมา 381,600 1 ฝาก 202,000 357,600 595,600 5 ฝาก 126,000 537,600 633,600 6 ถอน 306 24,000 601,600 10 ฝาก 238,000 575,600 574,600 17 ถอน 307 58,000 21 ฝาก 96,000 23 ถอน 309 32,000 25 ถอน 310 26,000 28 คา่ ธรรมเนียม 1,000

82 ข้อ 8. วันท่ี 31 ส.ค. 2557 ซ่ึงเป็นวันปิดบัญชีของบริษัท บ้านผือ จากัด บัญชีเงินฝากธนาคารตาม สมุดบัญชีของกิจการมียอดคงเหลือ 63,880 บาท แต่บัญชีเงินฝากธนาคารตามใบแจ้งยอดของ ธนาคารแสดงยอด 84,542 บาท จากการเปรียบเทยี บรายการ พบขอ้ แตกต่าง ดังน้ี 1. เช็คนาฝากธนาคารในวนั ท่ี 30 ส.ค. แตธ่ นาคารยังไม่ฝากในบญั ชีให้ 11,758 บาท 2. เชค็ ของลูกคา้ 10,400 บาท กจิ การนาฝากธนาคารวนั ที่ 25 ส.ค. แตธ่ นาคารคนื เชค็ มา 3. เชค็ สง่ั จ่ายไปแล้ว ผรู้ ับยงั ไม่นาไปขึ้นเงินทีธ่ นาคาร 29,120 บาท เปน็ เชค็ เลขท่ี 2224 4. ธนาคารนาเชค็ ของบรษิ ัท บา้ นจ่ัน จากดั มาหกั จากบัญชีเงินฝากของกจิ การ 10,000 บาท 5. ในวันท่ี 27 ส.ค. กิจการนาเช็คเข้าฝากธนาคาร 12,020 บาท ซ่ึงได้รับจากการขายสินค้า ธนาคารบนั ทกึ บญั ชแี ลว้ แต่พนักงานของบริษทั บนั ทึกยอดเป็น 12,200 บาท 6. ธนาคารเรียกเก็บเงินตามต๋ัวเงินรับให้กิจการได้ในวันที่ 29 ส.ค. ธนาคารบันทึกเพิ่ม ยอดเงินฝากธนาคารให้กิจการแล้ว มูลค่าตั๋วเงินรับ 24,000 บาท ดอกเบ้ียรับ 480 บาท และธนาคาร หักค่าธรรมเนียม 100 บาท ให้ทา 8.1 งบพิสูจนค์ วามถูกต้องของสาเหตรุ ะหว่างกจิ การไปหาธนาคารหรือระหว่างธนาคารไปหา กิจการ 8.2 งบพสิ ูจน์ยอดเงินฝากธนาคารเพอื่ หายอดเงนิ ฝากธนาคารท่ีถกู ตอ้ ง 8.3 ปรับปรุงรายการในสมุดรายวนั ทัว่ ไป ข้อ 9. บริษัท โนนสะอาด จากัด ผู้บริหารของกิจการได้กาหนดจานวนเงินสดย่อย 10,000 บาท ใน วนั ท่ี 1 ก.ค. 2557 ด้วยเชค็ เลขที่ 11120 2557 ก.ค. 5 แผนกบัญชสี ่งจดหมายไปใหล้ ูกหนแี้ ละจ่ายคา่ ไปรษณีย์ลงทะเบียน 2,000 บาท 10 แผนกบคุ คล จา่ ยคา่ พาหนะ 5,000 บาท 25 แผนกคลงั สนิ คา้ จ่ายคา่ ขนสง่ ออก 1,000 บาท 30 แผนกธรุ การ จา่ ยคา่ ใช้จ่ายเบด็ เตล็ด 1,000 บาท ส.ค. 1 ผรู้ ักษาเงินสดยอ่ ย นาหลักฐานการจา่ ยเงนิ ทงั้ หมดมาเบิกกับกจิ การเพือ่ รับเงนิ มาชดเชยเงนิ สดย่อยจากรายจา่ ยท้งั หมด 9,000 บาท และไดร้ ับเชค็ เลขที่ 11190 จากกจิ การ

83 ให้ทา 9.1 บันทึกบัญชีในสมุดรายวันทว่ั ไปของบริษัท โนนสะอาด จากัด 9.2 ผรู้ ักษาเงินสดยอ่ ยบนั ทกึ รายการทั้งหมดในสมดุ เงินสดย่อย

84 เอกสารอา้ งองิ กอบแก้ว รัตนอุบล. (2555). การบัญชีชั้นกลาง 1. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์. กรมพฒั นาธุรกจิ การค้า. (2554). คาชีแ้ จงเรื่อง กาหนดรายการย่อท่ีต้องมีในงบการเงิน.สบื คน้ เม่ือ 17 กุมภาพนั ธ์ 2558, จาก http://www.dbd.go.th/ewt_news.php?nid=1099&filename=law06 ดุษฎี สงวนชาติ, กชกร เฉลิมกาญจนา, ณัฐชานนท์ โกมุทพุฒิพงศ์, ดวงสมร อรพินท์, ประภาภรณ์ เกียรติกุลวัฒนา, ปริญดา มณีโรจน์, พรรณนิภา รอดวรรณะ และ สมพงษ์ พรอุปถัมภ์. (2554) การบัญชีข้ันกลาง. พิมพ์คร้ังที่ 5. กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั . ธารินี พงศ์สุพัฒน์. (2555). การบัญชีข้ันกลาง 1. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพมหานคร: วชิรินทร์สาส์น พร้ินทต์ ้ิง จากัด. นพิ ันธ์ เห็นโชคชยั ชนะ และ ศิลปพร ศรีจน่ั เพชร. (2554).ทฤษฏีการบัญชี กรุงเทพมหานคร: หจก.ทีพี เอ็น เพรส. บญุ เสรมิ วิมกุ ตะนันท์, ดษุ ฎี สงวนชาต,ิ นันทพร พิทยะ และ พิมพ์พนา ปีตธวัชชัย (2556). การบัญชี ชั้นกลาง 1. พิมพ์ครง้ั ที่ 7. กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. สภาวิชาชพี บัญชีในพระบรมราชูปถมั ภ์. (2557). มาตรฐานการบัญชี ฉบบั ที่ 7 เรื่องงบกระแสเงนิ สด. สืบคน้ เมอ่ื 10 มกราคม 2558, จาก http://www.fap.or.th/images/column_1412565962/TAS%207-web.pdf ธนาคารทหารไทย. เงนิ ฝากธนาคารประเภทกระแสรายวนั . สบื ค้นเมอ่ื 29 ตลุ าคม 2556, จาก https://www.tmbbank.com/personal/deposits/current/currents.php. ธนาคารทหารไทย. วงเงินกเู้ บิกเกินบัญช.ี สืบคน้ เมอ่ื 29 ตลุ าคม 2556, จาก https://www.tmbbank.com/business/corporate/loan-financing/short-term/over- draft.php

85 ซีพีออลล์. หมายเหตปุ ระกอบงบการเงิน บมจ ซีพีออลล์. สืบค้นเมอื่ วนั ที่ 18 มกราคม 2558 http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/datafile/dsf/0721120000-00- 00TG204L02061.PDF สมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย. (2538). ศัพท์บัญชี. กรุงเทพมหานคร: บริษทั พี. เอ. ลีฟว่ิง จากดั .

86 แผนบรหิ ารการสอนประจาบทที่ 3 เรือ่ ง ลกู หนแี้ ละตัว๋ เงินรบั หวั ข้อเนอื้ หาประจาบท 1. ความหมายและประเภทของลกู หน้ี 2. การรับรแู้ ละการวดั มลู คา่ ลกู หนีก้ ารคา้ 3. การบนั ทกึ บัญชลี ูกหน้ีทคี่ าดการณ์วา่ จะเก็บเงินไม่ได้ 4. การบันทกึ บัญชีลกู หนี้ทเี่ กบ็ เงินไม่ได้ 5. หนสี้ ูญได้รบั คืน 6. การจัดหาเงนิ โดยใช้บัญชีลกู หน้กี ารค้า 7. ความหมายและประเภทของตว๋ั เงนิ รบั 8. การจดั หาเงินโดยใชต้ ว๋ั เงินรบั 9. การแสดงรายการในงบแสดงฐานะการเงินและการเปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุ ประกอบงบการเงนิ 10. มาตรฐานการรายงานทางการเงินสําหรับกจิ การท่ไี มม่ ีส่วนไดเ้ สยี สาธารณะ วัตถุประสงค์เชงิ พฤติกรรม เมื่อศกึ ษาบทนแ้ี ลว้ ผศู้ กึ ษาสามารถ 1. ทราบถึงความหมายของลกู หน้ี และประเภทของลกู หน้ี 2. สามารถอธบิ ายวธิ กี ารบันทึกบัญชีเก่ียวกับลูกหนี้กรณีที่ไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหน้ี ได้ 3. สามารถอธิบายถึงข้ันตอนและการบันทึกบัญชีในการนําบัญชีลูกหนี้ไปหา ผลประโยชนไ์ ด้ 4. สามารถอธบิ ายความหมายของต๋ัวเงนิ และตั๋วเงนิ รบั ได้ 5. สามารถบันทกึ บญั ชีรายการเกีย่ วกับตวั๋ เงินรับได้

87 6. สามารถอธิบายถึงขั้นตอนและการบันทึกบัญชีในการนําตั๋วเงินรับไปหาผลประโยชน์ ได้ วธิ ีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนประจาบท 1. แนะนาํ เนอื้ หารายวชิ า 2. แนะนาํ ตํารา เอกสารอนื่ เว็บไซต์ทเ่ี กี่ยวข้อง เพ่ือศกึ ษาเพมิ่ เติม 3. แนะนํากจิ กรรมการเรียนการสอน การวัดผลและการประเมนิ ผล 4. บรรยายโดยใช้หนังสือและยกตัวอย่างประกอบ ให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการ วิเคราะห์บทเน้ือหาท่ีเรียนและนักศึกษามีส่วนร่วมในการซักถามแทรกระหว่างการ บรรยาย 5. ให้นกั ศึกษาแบ่งกลมุ่ เพ่อื แสดงบทบาทสมมติในการเปน็ หน้ี ในการออกตั๋วเงินระหว่าง กนั 6. ให้นกั ศกึ ษาศึกษาและทําแบบฝึกหัดท้งั ในหอ้ งเรียนและการบ้าน 7. การจําลองเหตกุ ารณ์ทางธุรกจิ โดยให้นักศึกษาได้ฝกึ ปฏิบัติเลยี นแบบเหตุการณจ์ รงิ 8. อาจารย์เฉลยแบบฝกึ หดั รวมถงึ การบ้าน สอ่ื การเรียนการสอน 1. ตาํ ราหลกั เอกสารประกอบการสอน บทความตา่ งๆ ท่ีเกี่ยวข้อง 2. ตัวอย่างเอกสารจริง เช่น ป้ายราคาสินค้าท่ีติดกับตัวสินค้า ใบแจ้งหน้ีค่าหนังสือ เป็น ต้น 3. มาตรฐานการบัญชฉี บับท่ี 101 เรอ่ื ง หนส้ี งสยั จะสูญและหน้ีสูญ 4. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตจากการเขา้ เรยี นตรงเวลาและความสนใจในห้องเรียน 2. สอบถามเพอ่ื ประเมนิ ความเขา้ ใจในเนือ้ หาท่เี รียนเปน็ รายกล่มุ 3. เฉลยแบบฝกึ หดั ในหอ้ งและใหส้ มาชิกในกลุ่มดูแลกันเองหากมีนักศึกษาที่ทําผิด โดย การแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง 4. การตอบคาํ ถามท้ายบท

88 บทที่ 3 ลูกหนี้และตั๋วเงนิ รับ ตามคําชี้แจงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่องกําหนดรายการย่อในงบการเงิน ลูกหนี้ของ กิจการจัดเป็นสินทรัพย์ในลําดับถัดมาต่อจากเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ตามลําดับของ การเรยี งลาํ ดับสภาพคล่องของสินทรัพย์ ในงบแสดงฐานะการเงนิ ในการดําเนินธุรกิจหากกิจการต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องการมีรายได้จากการให้บริการ สูงขึ้น ผลกําไรสูงข้ึนและมีความได้เปรียบทางการแข่งขันกับกิจการอื่น ความจําเป็นท่ีต้องขาย สินค้าเปน็ เงนิ เชื่อจึงเข้ามาเก่ียวข้อง ซึ่งการขายสินค้าเป็นเงินสดไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาแต่อย่างใด แต่การขายสินค้าเป็นเงินเชื่อทําให้กิจการต้องมีการวางแผนต้ังแต่การพิจารณาให้สินเช่ือแก่ลูกค้า การให้ส่วนลดตามเง่ือนไขเพ่ือจูงใจให้ลูกค้าท่ีค้างชําระมาชําระเงินสดโดยเร็ว เป็นต้น เหตุการณ์ เหล่าน้ีแสดงให้เห็นถึงสิ่งท่ีกิจการต้องเผชิญ อย่างไรก็ตามการดําเนินกิจการค้าตามปกติก็ไม่ สามารถหลกี เล่ยี งเหตุการณ์ทีม่ คี วามเสี่ยงหรอื ความไมแ่ นน่ อนน้ีไปได้ เน่อื งจากการขายสินค้าเป็น เงินเชื่อของกิจการก่อให้เกิดลูกหนี้ หรืออาจเกิดจากการให้บริการแล้วยังไม่ได้รับชําระ การท่ี กิจการไม่ได้ขายสินค้าเป็นเงินสดเพียงอย่างเดียวหรือรับเงินสดก่อนให้บริการแก่ลูกค้า ในทาง ปฏิบัติอาจมีความจําเป็นต้องให้สินเช่ือแก่ลูกค้า แต่ในทางตรงกันข้าม กิจการท่ีมีลูกหนี้จะต้องมี ภาระต่างๆ มาเกี่ยวข้อง เช่น ภาระในการติดตามทวงถามหน้ี เงินเดือนของพนักงานติดตามทวง ถามหนี้ ความล่าช้าในการชําระหน้ีและอาจเลวร้ายจนถึงการไม่ได้รับชําระหน้ีจากลูกหน้ี เป็นต้น กจิ การควรปฏิบัตอิ ยา่ งไรกับส่งิ เหลา่ น้ี ความหมายและประเภทของของลูกหนี้ ศัพท์บัญชี (2538: 79,4) ได้ใหค้ วามหมายของคาํ ตา่ งๆ ดังน้ี ลูกหนี้ (receivable) สทิ ธเิ รยี กร้องจากบคุ คลอน่ื ไมว่ า่ จะเปน็ ในรปู เงนิ สด สนิ คา้ หรือ บริการ ลูกหน้กี ารคา้ ( account receivable) เงนิ ท่ีลกู ค้าคา้ งชาํ ระค่าสนิ คา้ หรือคา่ บรกิ ารท่ี กิจการไดข้ ายไปตามปกติธุระ แตไ่ มร่ วมถงึ เงนิ ค้างรับของกจิ การทเ่ี กิดข้นึ จากกรณีอ่ืน

89 คําชี้แจงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กําหนดรายการย่อท่ีต้องมีในงบการเงิน พ.ศ.2554 (2554: อ. 1-1) ให้ความหมายของ ลูกหน้ีการค้าและลูกหนี้อ่ืน (Trade and other receivables) ดังน้ี ลูกหนก้ี ารคา้ หมายถงึ เงินท่ลี กู คา้ คา้ งชาํ ระคา่ สนิ ค้าหรอื ค่าบรกิ ารที่กจิ การได้ขายหรือ ใหบ้ รกิ ารตามปกติ และลกู หน้ตี ามต๋ัวเงินรับอันเกดิ จากค่าสนิ ค้าหรือบริการดังกลา่ ว ลูกหน้ีอนื่ หมายถึง ลกู หนีอ้ ่ืนทไ่ี ม่ใชล่ กู หนี้การค้าเชน่ คา่ ใช้จ่ายลว่ งหนา้ รายไดค้ ้างรบั เงนิ ทดรอง เปน็ ตน้ มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 101 เร่ือง หนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญ ให้ความหมายของ ลกู หนี้ ดงั นี้ ลกู หนีก้ ารคา้ หมายถงึ “ลูกหนที้ ีเ่ กิดจากการดําเนนิ การคา้ ตามปกติของธุรกิจและจะมชี อ่ื บัญชีแตกต่างกันตามประเภทของธุรกิจ เช่น ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ หมายถึง บัญชีระหว่าง ธนาคารท่ีมีดอกเบ้ีย เงินให้สินเช่ือและดอกเบ้ียค้างรับ กิจการประกันภัย หมายถึง บัญชีเบี้ย ประกันภยั คา้ งรับ เงนิ คา้ งรับเก่ยี วกับการประกันต่อ และเงนิ ใหก้ ู้ยืม” ลูกหนอี้ ืน่ หมายถึง “ลูกหนีท้ ี่ไมไ่ ดเ้ กิดจากการดาํ เนินการค้าตามปกติของธรุ กิจ เช่น ลูกหน้ีและเงินให้กู้ยืมแก่กรรมการและลูกจ้าง เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทในเครือและบริษัทร่วม รายได้ อืน่ ค้างรับ” กอบแกว้ รตั นอบุ ล.(2555: 3-6) กล่าวถึงลูกหนี้ ดงั น้ี ลูกหนี้ท่ีแสดงเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนหรือไม่หมุนเวียนอาจจัดแยกประเภทย่อยได้อีกเป็น ลูกหน้ีการค้า (Trade receivables) และลูกหน้ีที่ไม่ใช่ลูกหนี้การค้า (Nontrade receivables) ลูกหนี้การคา้ เป็นลกู หน้ที ่เี กดิ จากการขายสนิ คา้ หรอื ให้บรกิ ารตามปกตธิ ุรกิจเป็นเงินเชื่อ ซ่ึงในกลุ่ม ของลูกหนี้แล้ว ลูกหน้ีการค้าจะเป็นบัญชีท่ีมีความสําคัญมากที่สุดและมักจะมีสัดส่วนท่ีค่อนข้าง สูงเมือ่ เทียบกับสินทรพั ย์หมุนเวียนรวมของกิจการ ลูกหนี้การค้ามักจะถูกจัดประเภทเป็นสินทรัพย์ หมุนเวียน เพราะเป็นสินทรัพย์ท่ีสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในรอบระยะเวลาดําเนินงาน ตามปกติ และอาจจดั ประเภทยอ่ ยลงไปได้อกี วา่ เปน็ ลูกหน้กี ารคา้ และตว๋ั เงินรับการค้า สรปุ ความหมายต่างๆ ของลูกหนี้ ได้ดังนี้ ลูกหน้ี (Receivables) หมายถึง การท่ีกิจการมีสิทธิเรียกร้องเอากับผู้อื่น ให้ผู้อื่นชําระ เงินสด สนิ ค้า หรอื บรกิ ารใหก้ บั กิจการ และสิทธเิ รียกร้องน้อี าจเกดิ จากหลายสาเหตุ เช่น 1. การขายสินคา้ เปน็ เงนิ เชือ่ 2. การใหบ้ ริการแลว้ ยงั ไม่ไดร้ บั ชาํ ระเงิน

90 3. การใหก้ ยู้ มื เงนิ 4. การปฏิบตั ติ ามสญั ญาอย่างมีเง่ือนไข ลกู หนอ้ี าจเป็นได้ทั้งสินทรัพย์หมุนเวียนหรือสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาใน การเป็นหนี้ หาก เป็นลูกหน้ีที่มีกําหนดชําระหน้ีภายในเวลา 12 เดือน จะจัดเป็นสินทรัพย์ หมุนเวียน แต่ถ้าลูกหน้ีมีกําหนดระยะเวลาชําระหนี้นานเกิน 12 เดือน จะจัดเป็น สินทรัพย์ไม่ หมุนเวียน ซึ่งท้ัง 2 ประเภทจะถูกนําเสนอในงบแสดงฐานะการเงิน ลูกหน้ีสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ตามความสําคัญ ดงั นี้ 1. ลูกหน้ีการค้า (Trade receivables) คือ ลูกหนี้ที่เกิดจากการทํามาหากินตามปกติ ของกิจการ เช่น กิจการขายสินค้าและลูกค้ายังไม่ได้ชําระเงิน กิจการให้บริการและลูกค้ายังไม่ได้ ชําระเงิน ลูกค้าก็จะกลายเป็น ลูกหน้ี เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วลูกหน้ีการค้าจะถูกจัดประเภทเป็น สินทรัพยห์ มนุ เวยี น เพราะเกดิ จากการซ้ือขายสินค้าซึ่งจะตกลงกันอยู่ที่ 30 วัน หรือ 45 วัน แล้วแต่ กรณี กิจการต้องให้ความสําคัญกับลูกหน้ีการค้า เนื่องจากกิจการจะได้รับชําระหน้ีจากลูกหน้ี การค้าในเวลาอีกไม่นาน กิจการอาจต้องนําเงินสดไปใช้หน้ี หรือนําเงินสดไปลงทุนอย่างอ่ืน ซึ่ง กิจการตอ้ งมีการวางแผนในการใช้เงินเปน็ อย่างดี 2. ลูกหน้ีอ่ืน (Other receivables) คือ ลูกหน้ีท่ีเกิดข้ึนกับกิจการนอกเหนือจากการทํา มาหากินตามปกติ แต่มกั จะมีจาํ นวนน้อยกว่า ลูกหน้ีการค้า ลูกหน้ีอื่นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ 2.1 บัญชีรายไดค้ า้ งรบั ทกุ รายการ เชน่ เงนิ ปันผลค้างรบั ดอกเบ้ยี ค้างรับ 2.2 เงนิ ท่ีกจิ การให้พนักงานของกจิ การยมื 2.3 เงินมัดจาํ ต่างๆ ทก่ี ิจการตอ้ งจ่ายไปก่อน ซ่งึ จะตอ้ งเปน็ ไปตามเงื่อนไขจึงจะได้รับ คนื ในภายหลงั 2.4 เงินของกจิ การทใ่ี ห้กรรมการกู้ยืม ในทางปฏิบัติ กิจการมักจะเก่ียวข้องกับ ลูกหน้ีการค้า เป็นส่วนใหญ่เพราะเกิดจากการ ดําเนินงานตามปกติและมีจํานวนมากกว่าลูกหนี้อื่น ดังน้ัน กิจการควรให้ความสําคัญกับลูกหนี้ การค้า ซึ่งมีหลายเหตุการณ์เกี่ยวกับลูกหน้ีการค้าที่ต้องทําการพิจารณา เพื่อให้การ บันทึก บัญชีลกู หนก้ี ารคา้ ถกู ต้องครบถว้ น รวมถึงการวางแผนเก่ียวกับลกู หนี้การคา้ ในอนาคตได้

91 การรบั รู้และการวัดมลู คา่ ลกู หนี้ กิจการขายสินค้าเป็นเงินเชื่อจะมีลูกหน้ีเกิดขึ้น หรือกิจการให้บริการแล้วแต่ยังไม่ได้รับ ชําระเงินจะมีลูกหนี้เกิดขึ้น เช่นกัน ซ่ึงถือเป็นการเกิดข้ึนของสินทรัพย์พร้อมกับการเกิดขึ้นของ รายได้ กิจการตอ้ งบันทึกบญั ชีรายการค้าน้ี ตามหลักเกณฑ์คงค้าง โดยเดบิตลูกหน้ีการค้า เครดิต ขายสินค้า ตามมลู ค่าทเ่ี กิดขนึ้ ณ ขณะน้ัน ว่ากิจการจะบันทึกมลู ค่าของลูกหน้ีเท่าใด กิจการอาจมี กลยุทธ์ในการขายโดยการให้ส่วนลด แก่ลูกค้าเพื่อเป็นการจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้า และจูงใจให้ ลกู หน้ีชําระหนี้โดยเรว็ ซ่งึ ส่วนลดจะเปน็ จดุ แรกของการกําหนดมูลค่าของลกู หนี้การค้า สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์ และ สมเดช โรจน์คุรีเสถียร (2552: 335 ) กล่าวถึง ส่วนลด สําหรับกจิ การซอื้ ขายสินค้า ดังนี้ 1. สว่ นลดการค้า ( Trade discounts ) “การให้ส่วนลดการค้า การจูงใจผู้ซ้ือให้ทําการ ซ้ือสินค้าจากกิจการเป็นจํานวนมาก หรือซ้ือเป็นประจําหรืออาจจะซ้ือโดยจ่ายเงินสดทันที สิ่ง สาํ คัญของสว่ นลดการค้าก็คือจะไม่มบี ันทึกบญั ชใี นสว่ นทเี่ ป็นส่วนลดการคา้ ” 2. ส่วนลดเงินสด ( Cash discounts) “การท่ีจะจูงใจลูกหนี้ หรือผู้ซ้ือสินค้าไปเป็นเงิน เชื่อนําเงินสดมาชําระหนี้โดยเร็ว ก็มักจะมีการกําหนดเงื่อนไขในการชําระเงิน ( Terms of payment) ในทํานองเดยี วกันเมื่อกิจการได้ซื้อสินค้ามาเป็นเงินเช่ือ ก็อาจจะต้องนําเงินสดไปชําระ หนีโ้ ดยเรว็ เพ่ือทจี่ ะได้รับส่วนลดเงินสดด้วยเช่นกัน” ส่วนลดเงินสดยังแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ เม่อื กจิ การไดซ้ ้อื สินค้ามาเป็นเงนิ เช่ือ และชําระหนี้ค่าสินค้านั้นภายในระยะเวลาท่ีจะได้รับส่วนลด จงึ เรียกวา่ “ส่วนลดรบั ” เมอื่ กิจการได้ขายสินค้าไปเป็นเงินเชื่อและได้รับชําระหน้ีจากลูกหนี้ภายใน ระยะเวลาทก่ี ิจการจะใหส้ ่วนลดแก่ลูกหน้ี สว่ นลดน้ีก็คอื “สว่ นลดจา่ ย” บุญเสริม วิมุกตะนันท์ และคณะ (2556: 89) กล่าวถึง การบันทึกบัญชีลูกหน้ีการค้าที่มี การให้สว่ นลดเงินสดมี 2 วิธี 1. วิธีราคาเต็ม (gross method) วิธีน้ีจะบันทึกบัญชีลูกหน้ีการค้าและบัญชีขายเต็ม จาํ นวนกอ่ น เมอ่ื ลกู คา้ ชาํ ระหน้ีภายในกาํ หนดทไี่ ดส้ ่วนลด จงึ บนั ทึกรายการสว่ นลดเงนิ สด 2. วิธีราคาสุทธิ (net method) วิธีนี้จะบันทึกบัญชีลูกหนี้การค้าและบัญชีขายตาม จํานวนที่หักส่วนลดเงินสดแล้ว หากลูกค้าไม่ชําระเงินภายในกําหนดที่จะได้ส่วนลดจึงจะบันทึก บญั ชปี รับปรุงรายการ

92 จากความหมายข้างต้นของส่วนลด สามารถอธิบายได้ว่า ส่วนลดในการซื้อขายสินค้า แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ สว่ นลดการคา้ และสว่ นลดเงนิ สด ดงั นี้ 1. ส่วนลดการค้า (Trade Discount) หมายถึง ส่วนลดท่ีคํานวณจากราคาสินค้าท่ี กําหนดไวเ้ ป็นราคาขาย จะทําการให้ส่วนลดในทันทีท่ีมีการซื้อขายเกิดขึ้น เป็นการจูงใจผู้ซื้อให้ทํา การซ้อื น่ันเอง อาจซอื้ โดยจ่ายเงินสดทันที หรอื อาจซื้อเป็นเงนิ เชอ่ื กไ็ ด้ 2. ส่วนลดเงินสด (Cash Discount) หมายถึง ส่วนลดท่ีคํานวณจากราคาสินค้าท่ีได้ตก ลงกันไว้ จะทําการลดให้ในทันทีที่มีการจ่ายชําระค่าสินค้าหรือรับชําระค่าสินค้านั้น เป็นการจูงใจ ให้เกิดการชําระหนี้โดยเร็ว โดยมีการกําหนดรายละเอียดว่า จะต้องชําระเงินสดภายในเวลาก่ีวัน และจะไดร้ บั สว่ นลดเปน็ จาํ นวนเท่าใด เรยี กว่า เง่ือนไขในการชําระเงิน ซ่ึงมีตวั อยา่ งทีน่ ยิ มใช้ ดงั นี้ 2/10 n/30 หมายความวา่ จาํ นวนหนท้ี ง้ั หมดต้องชําระภายใน 30 วัน แต่ถ้าสามารถ ชําระ หน้ีภายใน 10 วันนับจากวันท่ีทําการซื้อขายสินค้านั้น จะได้รับส่วนลดเงินสด 2 % จากราคาที่ตก ลงกนั ไว้ ส่วนลดเงินสดถูกแบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะ คือ 2.1 ส่วนลดรับ (Purchase Discount) เกิดข้ึนเมื่อกิจการซ้ือสินค้าเป็นเงินเชื่อทําให้ กิจการมีเจ้าหนี้การค้า และกิจการสามารถชาํ ระหนคี้ ่าสนิ คา้ ภายในระยะเวลาท่ีจะได้รับส่วนลด จึง เรียกว่าสว่ นลดนว้ี ่า “ส่วนลดรับ” 2.2 ส่วนลดจ่าย (Sale Discount) เกิดข้ึนเมื่อกิจการได้ขายสินค้าไปเป็นเงินเชื่อ ทํา ใหก้ ิจการมีลูกหนีก้ ารคา้ และลูกหนี้การค้าสามารถมาชําระหน้ีค่าสินค้าภายในระยะเวลาท่ีกิจการ จะตอ้ งใหส้ ว่ นลดแกล่ ูกหนี้ จงึ เรียกว่าส่วนลดนน้ั วา่ “ส่วนลดจา่ ย” และจากความหมายของสว่ นลดเงินสดสามารถบันทกึ บญั ชไี ด้ 2 วิธี คือ - บันทึกราคาเต็ม (gross method) คือการบันทึกบัญชีการขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ ตามปกติ หากลูกหน้ีการค้ามาทันกําหนดตามเงื่อนไขในการชําระหน้ี กิจการต้องลดราคาให้ และ กิจการจึงบนั ทกึ บญั ชี “สว่ นลดจา่ ย” ทาํ ใหก้ จิ การไดร้ บั ชาํ ระเงนิ จากลูกหนี้นอ้ ยลง - บันทึกราคาสุทธิ (net method) คือการบันทึกบัญชีการขายสินค้าในราคาที่หัก ส่วนลดเงินสดเรียบร้อยแล้ว วิธีน้ีจะบันทึกบัญชีให้ ”ส่วนลดจ่าย” แก่ลูกหนี้ ในวันที่กิจการขาย สินค้าเป็นเงินเชื่อทันที หากลูกหนี้การค้ามาไม่ทันกําหนดตามเง่ือนไข กิจการจะต้องบันทึกบัญชี กลบั รายการทไี่ ดใ้ ห้ “สว่ นลดจ่าย” ไวเ้ ป็น “ส่วนลดจา่ ยท่ีไดร้ ับคนื ”

93 ตัวอย่างท่ี 3-1 วันท่ี 1 มี.ค. 2557 สินค้าของกิจการคือ “เสื้อกันหนาว” เสื้อกันหนาวติดราคาขาย 1,000 บาท มีป้ายลดราคา 10 % (คอื ส่วนลดการคา้ ) คาํ นวณได้โดย = 1,000 - ( 1,000 * 10 /100 ) = 1,000 - 100 บาท ดงั นน้ั ราคาสินคา้ สทุ ธิ = 900 บาท ( ได้ ส่วนลดการคา้ = 100 บาท ) หมายความว่า ถ้าขายสนิ คา้ เป็นเงินสดจะได้รบั เงินสด = 900 บาท ถา้ ขายสนิ ค้าเป็นเงินเช่ือ จะมีลกู หน้ี = 900 บาท เช่นกัน บันทึกบัญชี โดย สมุดรายวันทั่วไป หน้า... เครดิต 30 900 พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ เดบิต บญั ชี ม.ี ค. 1 ลกู หนี้การค้า / เงินสด 900 ขายสินคา้ ขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เชื่อหรอื ขายเปน็ เงนิ สด ตัวอย่างท่ี 3-2 การบันทึกบัญชี การขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ ตามวิธีการบันทึกบัญชีสินค้าเมื่อสิ้น งวด 1 มี.ค. 2557 กิจการขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ ราคาขาย 55,000 บาท เง่ือนไขในการชําระหนี้ 2/10 n/30 และกจิ การได้รบั ชําระหนีจ้ ากลกู หนใ้ี นวนั ที่ 11 มี.ค. 2557 อธิบาย วิธีการนับวันครบกําหนด คือ “นับวันถัดจากวันท่ีขายและนับวันที่ครบกําหนด ด้วย” ตามโจทย์วันท่ีขาย คือ วันที่ 1 มี.ค. จะต้องนับวันถัดไป คือวันท่ี 2 มี.ค. นับไปเรื่อยๆ จนกระทง่ั ครบ 10 วัน เริ่มนับ วันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันท่ี 5 วันที่ 6 วันที่ 7 วันท่ี 8 วันที่ 9 วันท่ี 10 วันที่ 11 ครบ 10 วันคือวันที่ 11 มีนาคม เม่ือลูกหน้ีมาชําระ กิจการต้องให้ส่วนลดจ่ายแก่ลูกหนี้ การค้า

94 สมุดรายวันทว่ั ไป หนา้ ....30 เครดิต พ.ศ.2557 รายการ เลขท่ี เดบิต 55,000 55,000 บัญชี 55,000 53,900 ม.ี ค. 1 ลกู หนก้ี ารคา้ 1,100 ขายสนิ ค้า ขายสนิ คา้ เป็นเงนิ เชื่อ 11 เงนิ สด (55,000-1,100) สว่ นลดจ่าย (55,000x 2/100) ลกู หน้ีการคา้ ลูกหนี้ชําระหนี้ทนั กาํ หนดให้ส่วนลดเงนิ สด 2% แต่ถ้าเป็นวันที่ 12 มีนาคม เป็นต้นไป กิจการไม่ต้องให้ส่วนลดเงินสดแก่ลูกหน้ีการค้า กิจการจะได้รับชําระหน้ีตามปกติ 55,000 บาท แต่ลูกหน้ีการค้าจะต้องชําระหน้ีท้ังหมดภายใน วนั ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2557 สมดุ รายวนั ทั่วไป หนา้ ....30 รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต บญั ชี ม.ี ค. 1 ลูกหนกี้ ารค้า 55,000 ขายสินค้า 55,000 ขายสินค้าเป็นเงนิ เชื่อ 55,000 12 เงนิ สด 55,000 ลกู หนกี้ ารคา้ ลูกหนี้ชําระหน้ีไม่ทันกําหนดไม่ให้ส่วนลดเงิน สด

95 ตัวอยา่ งที่ 3-3 การขายสนิ ค้าเป็นเงินเช่ือ ตามวิธกี ารบันทึกบัญชสี ินค้าเมื่อส้นิ งวด กรณี Gross Method วันท่ี 1 มี.ค. 2557 กิจการขายสินค้าเป็นเงินเช่ือ ราคาขาย 55,000 บาท เง่ือนไขในการ ชาํ ระหนี้ 2/10 n/30 และกิจการไดร้ บั ชําระหนจี้ ากลูกหนใ้ี นวนั ท่ี 11 มี.ค. 2556 สมดุ รายวันท่ัวไป พ.ศ. 2557 กรณีลกู หนม้ี าชาระเงินทนั กาหนด กรณลี ูกหนม้ี าไม่ทันชาระเงนิ เพราะต้องการส่วนลด เพราะไม่ตอ้ งการส่วนลด มี.ค. 1 ลูกหนีก้ ารค้า 55,000 ลูกหนีก้ ารค้า 55,000 ขายสินคา้ ขายสนิ ค้า 55,000 55,000 ขายสินค้าเป็นเงนิ เช่ือ 11 ขายสินคา้ เปน็ เงินเช่ือ เงนิ สด (55,000 – 1,100) 53,900 ส่วนลดจ่าย(55,000 x 2%) 1,100 ไม่บนั ทกึ บัญชี ลูกหนีก้ ารคา้ 55,000 รับชําระหนี้ ใหส้ ว่ นลดเงนิ สด 2 % 30 เงนิ สด 55,000 ไมบ่ ันทกึ บัญชี ลกู หน้ีการคา้ 55,000 รบั ชาํ ระหนี้ไม่ให้ส่วนลดเงินสด 2 %

96 ตวั อยา่ งท่ี 3-4 การขายสนิ ค้าเปน็ เงินเช่ือ ตามวิธกี ารบนั ทึกบญั ชีสนิ ค้าเม่ือสิ้นงวด กรณี Net Method วันที่ 1 มี.ค. 2557 กิจการขายสินค้าเป็นเงินเช่ือ ราคาขาย 55,000 บาท เง่ือนไขในการ ชาํ ระหน้ี 2/10 n/30 และกจิ การไดร้ บั ชําระหนี้จากลกู หนใ้ี นวันท่ี 11 มี.ค. 2557 พ.ศ. 2557 กรณลี ูกหนม้ี าชาระเงนิ ทนั กาหนด กรณีลกู หนมี้ าไมท่ ันชาระเงนิ เพราะต้องการสว่ นลด เพราะไมต่ อ้ งการส่วนลด มี.ค. 1 เดบิต ลกู หนกี้ ารค้า 53,900 เดบิต ลกู หน้ีการคา้ 53,900 เครดติ ขายสินค้า เครดิต ขายสินคา้ 53,900 53,900 ขายสินคา้ เป็นเงนิ เช่ือและหักส่วนลดจ่าย ขายสินค้าเปน็ เงินเชื่อและหักสว่ นลด 2% จากลูกหนกี้ ารค้า จา่ ย 2% จากลกู หน้กี ารคา้ [55,000 - [55,000 - (55,000 X 2 %)] 11 (55,000 X 2 %)] เดบิต เงินสด (55,000 – 1,100)53,900 เครดิตลกู หนกี้ ารคา้ 53,900 ไม่บันทึกบัญชี รับชําระหนจี้ ากลูกหนี้ทห่ี ักส่วนลดจ่าย แล้ว 30 ไม่บันทึกบญั ชี เดบิต เงินสด 55,000 เครดิต ลูกหน้กี ารค้า 53,900 เครดิตสว่ นลดจ่ายท่ไี ดร้ ับคืน* 1,100 รบั ชําระหนี้ไม่ใหส้ ่วนลดเงนิ สด 2 % เพราะลกู หนม้ี าไมท่ ันตามเงื่อนไข จงึ เกิด บญั ชีส่วนลดจ่ายทไ่ี ดร้ บั คนื *ธารินี พงศ์สุพัฒน์ (2555: 3-3) ให้ความหมายของ “ส่วนลดจ่ายที่ได้รับคืน” แสดงเป็น รายไดอ้ ่ืนๆ ในงบกาํ ไรขาดทุนเบด็ เสร็จ ตามความเห็นข้างต้น หากกิจการบันทึกบัญชีลูกหนี้ด้วยจํานวนที่ให้ส่วนลดเงินสดแล้ว แต่ลูกหน้ีไม่สามารถมาชําระหน้ีได้ทันภายใน 10 วัน กิจการต้องบันทึกบัญชี “ส่วนลดจ่ายที่ได้รับ คนื ” กลับมาเป็นรายไดข้ องกจิ การ แสดงในงบกาํ ไรขาดทุน

97 และเมอ่ื ถงึ วนั ครบกําหนดจริงกิจการจะตอ้ งได้รับชาํ ระ แต่อาจมีลูกหน้ีบางรายไม่สามารถ มาชําระหนี้ได้ กิจการต้องพิจารณาตัดบัญชีลูกหนี้รายน้ันออกจากบัญชี ไม่อย่างนั้นจะทําให้ บัญชีลูกหนค้ี ้ามมี ูลคา่ สงู กว่าความเปน็ จริง นิพันธ์ เห็นโชคชัยชนะ และ ศิลปพร ศรีจ่ันเพชร (2552: 2-2) กล่าวถึง “แนวคิดของหลัก ความระมัดระวัง (Conservatism Principle หรือ Conservatism Constraint) เป็นแนวคิดท่ี นํามาใช้ในกรณีที่กิจการอยู่ในสภาวะท่ีมีความเส่ียงหรืออยู่ในสภาพท่ีไม่แน่นอน ท้ังนี้เพ่ือให้เกิด ความม่ันใจวา่ กจิ การได้คํานึงถงึ ความไม่แน่นอนหรือความเสียหายทอี่ าจเกิดข้ึน” จากคํากล่าวข้างต้น ทําให้กิจการต้องคํานึงถึงความเส่ียงหรือสภาพท่ีไม่แน่นอนเมื่อ กิจการมีลกู หนีก้ ารคา้ กจิ การต้องบันทึกข้อมูลท่ีเก่ียวกับลูกหนี้ให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริง ทสี่ ุดเท่าท่ีจะสามารถทําได้ เพอื่ งบการเงินจะได้มคี วามหมายตอ่ การตัดสนิ ใจ ดังน้นั ตามหลักความระมัดระวัง เม่ือกิจการมีลูกหน้ีการค้า กิจการควรมีวิธีปฏิบัติว่าก่อน จะถึงวันครบกําหนดชําระหน้ี กิจการต้องคํานึงถึงความเสียหายท่ีจะเกิดขึ้นเพ่ือจะได้วางแผนใน การใช้เงินหากลูกหนี้ไม่สามารถชําระหน้ีได้ ก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้นจริงเนื่องจากการเก็บ เงนิ จากลูกหนกี้ ารค้าไมไ่ ด้ มาตรฐานการบัญชีฉบับท่ี 101 เรื่อง หน้ีสงสัยจะสูญและหน้ีสูญ ให้ความหมายของคํา ตา่ งๆ และวธิ ีปฏิบตั ิเมื่อกิจการมีลกู หนก้ี ารคา้ ดงั นี้ หน้สี ญู หมายถงึ ลูกหน้ีทไี่ ดต้ ิดตามทวงถามจนถงึ ทส่ี ุดแล้ว แตไ่ มไ่ ด้รับชําระหนแ้ี ละได้ตัด จาํ หนา่ ยออกจากบัญชี หนส้ี งสัยจะสูญ หมายถึง ลกู หนที้ ี่คาดวา่ จะเรยี กเก็บไมไ่ ด้และถอื เปน็ ค่าใช้จ่ายของรอบ ระยะเวลาบญั ชีนนั้ ค่าเผื่อหนี้สูญ หรอื ค่าเผอื่ หน้สี งสยั จะสญู หมายถึง จาํ นวนทีก่ นั ไว้สาํ หรบั ลกู หนท้ี คี่ าดว่า จะเรียกเกบ็ ไมไ่ ด้ และถือเปน็ บัญชีปรับมลู ค่าที่ตงั้ ขึน้ เพอ่ื แสดงเป็น รายการหกั จากบญั ชลี กู หน้ใี นงบการเงนิ เพื่อให้คงเหลอื เป็นมูลค่าสทุ ธิ ของลกู หนท้ี ค่ี าดหมายว่าจะเก็บได้

98 วิธีปฏิบตั ิเมอื่ กิจการมลี ูกหน้กี ารค้า ดงั นี้ วิธีต้ังค่าเผ่ือ เป็นวิธีท่ีถูกต้องตามหลักการบัญชีว่าด้วยการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายกับรายได้ของ รอบระยะเวลาบัญชแี ละบัญชลี ูกหนี้ ณ วันสน้ิ รอบระยะเวลาบญั ชี จะแสดงในมูลค่าที่ใกล้เคียงกับ ความเป็นจริงแม้ว่าวิธีน้ีจะต้องมีการประมาณจํานวนหน้ีสงสัยจะสูญขึ้นก็ตาม การประมาณ อาจจะทาํ ได้โดยอาศัยประสบการณท์ ่ีผา่ นมาในอดีต สภาพของตลาดในปัจจุบันและการวิเคราะห์ ยอดลูกหนคี้ า้ งชําระ” วิธีการประมาณหน้สี งสยั จะสญู 7 วธิ ที น่ี ิยมใชก้ ัน มีดังน้ี 7.1 คาํ นวณเปน็ ร้อยละของยอดขาย วิธนี ี้ กิจการจะตอ้ งคดิ วิเคราะห์จากเหตุการณ์ทผ่ี ่าน มาจากจาํ นวนลูกหน้ีทเ่ี กบ็ ไม่ได้ เทยี บเปน็ อัตราสว่ นกบั ยอดขาย คือ 7.1.1 คาํ นวณเปน็ รอ้ ยละของยอดขายรวม โดยถือวา่ การขายเป็นรายการท่ีก่อให้เกดิ ลูกหนแ้ี ละอตั ราส่วนของการขายสมั พนั ธ์กับจาํ นวนหน้ีทเี่ กบ็ ไม่ได้ 7.1.2 คาํ นวณเปน็ ร้อยละของยอดขายเช่ือ โดยถือวา่ การขายเชอ่ื สมั พันธ์โดยตรงกับ ลูกหน้ี ส่วนการขายเงนิ สดไมไ่ ด้กอ่ ใหเ้ กดิ ลกู หน้ีแต่อย่างใด 7.2 คํานวณเปน็ รอ้ ยละของยอดลูกหน้ี โดยการวเิ คราะห์จากประสบการณท์ ่ีผ่านๆ มา กิจการจะสามารถประมาณอัตราร้อยละของลูกหน้ีที่คาดว่าจะเก็บไม่ได้ตอ่ ยอดลูกหน้ีที่ คงคา้ งอยูไ่ ด้ ดังนี้ 7.2.1 คาํ นวณเป็นรอ้ ยละของลูกหน้ี โดยถือวา่ อตั ราส่วนของจํานวนหนี้สงสัยจะ สญู สําหรบั ลกู หนท้ี ้ังหมดจะคงที่ 7.2.2 คาํ นวณโดยการจัดกล่มุ ลกู หนจ้ี ําแนกตามอายขุ องหนี้ที่คา้ งชาํ ระ ลกู หน้ี กลุ่มท่ีค้างชําระนานจะนํามาคํานวณหาจํานวนหน้ีสงสัยจะสูญด้วยอัตราร้อย ละทสี่ ูงกวา่ ลกู หนท้ี ีเ่ รม่ิ คา้ งชําระเกนิ กาํ หนด โดยถือว่าลูกหน้ีที่ค้างชําระนานจะ มโี อกาสไมช่ าํ ระหนม้ี ากกว่าลกู หน้ีท่เี ริ่มเกดิ ขนึ้ 7.2.3 คํานวณโดยพิจารณาลกู หนแี้ ตล่ ะราย แต่จะรวมเฉพาะรายท่ีคาดว่าจะเรยี ก เกบ็ ไมไ่ ด้เทา่ นนั้ เป็นหนีส้ งสยั จะสญู วิธนี ี้อาจจะกระทําได้ยากในทางธุรกิจทม่ี ี ลูกหนจี้ าํ นวนมากราย

99 จากความหมายของคาํ ศพั ทแ์ ละวธิ ปี ฏบิ ตั ิเกยี่ วกบั ลกู หนตี้ ามทม่ี าตรฐานการบัญชีกําหนด สามารถนาํ มาอธิบายได้ว่า บัญชีหนส้ี ูญ เป็นลกู หนี้ท่กี จิ การได้ทวงถามหน้จี นถึงที่สุดแล้วแต่ไมไ่ ดร้ บั ชําระ สร้าง ความเสยี หายใหแ้ ก่กจิ การ กิจการต้องตดั บัญชีลูกหนี้ออกจากบัญชีแสดงเป็นค่าใช้จ่ายในงบกําไร ขาดทนุ บัญชีหนี้สงสยั จะสูญ แปลวา่ ลกู หนท้ี ี่คาดว่าจะสญู บัญชีหนสี้ งสยั จะสญู เปน็ จาํ นวน เงินท่ีกิจการทําการคาดการณ์ขึ้นมาเองว่า ก่อนที่จะครบกําหนดรับชําระหน้ีจากลูกหนี้การค้า แสดงเปน็ คา่ ใช้จ่ายในงบกําไรขาดทนุ บัญชีคา่ เผือ่ หนี้สงสัยจะสูญ เป็นบัญชีสินทรพั ย์แต่แสดงยอดดา้ นเครดติ เพ่อื ให้บัญชี ลกู หนกี้ ารค้าแสดงมลู ค่าที่คาดว่าจะเกบ็ เงนิ ได้จริง จะบันทึกบัญชีคู่กับบัญชีหน้ีสงสัยจะสูญ บัญชี ค่าเผ่อื หนีส้ งสยั จะสญู น้ที าํ หนา้ ที่หกั ออกจากบญั ชีลูกหนกี้ ารค้าแสดงในงบแสดงฐานะการเงนิ การบนั ทึกบัญชลี กู หน้ีท่ีคาดการณว์ า่ จะเก็บเงนิ ไม่ได้ ตามหลักความระมัดระวัง เม่ือกิจการมีลูกหนี้การค้า หมายความว่า กิจการกําลังอยู่ใน สภาวะทีม่ คี วามเสี่ยงหรืออยู่ในสภาพที่ไม่แน่นอน กิจการต้องต้ังค่าเผ่ือ ตามท่ีมาตรฐานการบัญชี กําหนด เพ่ือให้บัญชีลูกหน้ีการค้าแสดงมูลค่าท่ีใกล้เคียงความเป็นจริง วิธีการตั้งค่าเผ่ือคือ การ คาดการณ์ว่าถ้าลูกหนี้ไม่มาชําระหนี้จํานวนเท่าน้ีบาทแล้วจะส่งผลให้จํานวนลูกหนี้ที่คาดว่าจะ ได้รับชําระจะเป็นเท่าใด โดยจะต้องคาดการณ์ในวันส้ินงวดก่อนที่จะมีรายการหนี้สูญ เกิดข้ึนจริง การคํานวณทําได้ง่ายๆ คือคาดการณ์เป็นร้อยละจากสาเหตุที่กิจการคาดว่าเป็น ต้นเหตุใหเ้ กิดลูกหนีก้ ารค้า ดงั น้ี 1. คาดการณ์ตัวเลขจากบญั ชขี ายสนิ คา้ โดยคิดเป็นร้อยละของบัญชีขายสินค้าในวัน ส้ินงวด บัญชีขายสินค้าเป็นบัญชีรายได้ที่ไม่มีความต่อเนื่องจากงวดหนึ่งไปยังอีกงวดหน่ึง หากกิจการใช้วิธีการคาดการณ์จากบัญชีขายสินค้า ในวันส้ินงวดให้กิจการคาดการณ์ว่าถ้าลูกหนี้ การค้าไม่มาชําระหนค้ี ดิ เปน็ รอ้ ยละเทา่ ใดใหน้ ําจาํ นวนร้อยละนั้นมาคูณกับบัญชีขายสินค้า เม่ือได้ จํานวนเงินจากการคาดการณ์ในปีปัจจุบันแล้วสามารถนําจํานวนเงินน้ันไปบันทึกบัญชีในวันสิ้น งวดไดเ้ ลย กิจการสามารถนําบัญชีขายสินค้าเป็นเงินเชื่อมาพิจารณาเป็นนโยบายในการคาดการณ์ หน้ีสงสัยจะสูญได้ เพราะว่าบัญชีขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ คือรายได้ของกิจการที่ทําให้เกิดลูกหนี้ การค้า หรือกิจการอาจใช้บัญชีขายสินค้าเป็นเงินสดได้ หากกรายการขายสดมีจํานวนน้อยกว่า รายการขายสนิ คา้ เปน็ เงินเช่ือ

100 2. คาดการณ์ตัวเลขจากบญั ชลี กู หน้ีการค้า โดยคดิ เป็นร้อยละของบัญชีลูกหนี้การค้า ณ วันส้ินงวด ลูกหนี้การค้าเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนที่มีความต่อเน่ืองจากงวดหนึ่งไปยังอีก งวดหนึ่ง หากกิจการใช้วิธีการคาดการณ์จากบัญชีลูกหนี้การค้า เมื่อได้จํานวนเงินจากการ คาดการณ์ในปีปัจจุบันแล้วจะต้องพิจารณาเป็น 2 กรณี 1. หากกิจการเปิดดําเนินการเป็นปีแรก สามารถนําจํานวนเงินจากการคาดการณ์ในปีปัจจุบันไปบันทึกบัญชีในวันสิ้นงวดได้เลย 2. หาก เป็นปีต่อเน่ืองกันตามปกติ ต้องพิจารณาก่อนว่าบัญชีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญมียอดคงเหลือก่อน ปรับปรุงอยจู่ าํ นวนเทา่ ไหร่ จากน้ันจะตอ้ งคาํ นวณดังนี้ - นํายอดค่าเผ่ือหนี้สงสัยจะสูญคงเหลือก่อนปรับปรุงกับจํานวนเงินที่คํานวณได้ใน วนั สิ้นงวดปจั จบุ นั มาหาผลต่าง หากยอดค่าเผื่อหนส้ี งสยั จะสูญคงเหลอื ก่อนปรับปรุงมีจํานวนน้อย กว่าให้นาํ ผลตา่ งมาบันทึกบญั ชีในวันสิ้นงวด ดงั น้ี เดบิต หน้สี งสัยจะสูญ เครดิต ค่าเผอ่ื หน้ีสงสยั จะสูญ - นํายอดค่าเผ่ือหน้ีสงสัยจะสูญคงเหลือก่อนปรับปรุงกับจํานวนเงินท่ีคํานวณได้ใน วันสิ้นงวดปัจจุบันมาหาผลต่าง หากยอดค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญคงเหลือก่อนปรับปรุงมีจํานวน มากกว่าให้นําผลต่างมาบันทึกบัญชีในวันสิ้นงวด เรียกว่า ค่าเผ่ือหนี้สงสัยจะสูญเกินความ ตอ้ งการ ดงั น้ี เดบติ ค่าเผอ่ื หน้สี งสยั จะสญู เครดิต หนส้ี งสัยจะสญู มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 101 เรื่อง หนี้สงสัยจะสูญและหนี้สูญ กล่าวถึงค่าเผ่ือหนี้สงสัย จะสูญเกินความตอ้ งการวา่ หนี้สงสัยจะสูญที่คํานวณได้น้อยกว่าจํานวนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญท่ีต้ังอยู่ในบัญชีแล้ว ทั้งนี้อาจเปน็ เพราะจํานวนลูกหนี้ลดนอ้ ยลงเมอื่ เทยี บกบั รอบระยะเวลาบญั ชีปีก่อน ส่งผลให้กิจการต้องบันทึกบัญชีแบบน้ี เพ่ือปรับปรุงจํานวนหนี้สงสัยจะสูญให้ได้เท่ากับ มลู คา่ ปัจจบุ ันที่คาํ นวณได้ สามารถแบ่งวธิ กี ารพิจารณาตามลกั ษณะของลูกหน้ไี ด้ ดังนี้ 2.1 แบบอัตราร้อยละอัตราเดียว กิจการอาจมีลูกหน้ีหลายราย แต่ละรายมี จํานวนเงินไม่มากนัก กิจการจะต้องนําบัญชีลูกหนี้การค้าทั้งหมดในวันสิ้นงวดมาพิจารณา โดย กิจการจะต้องใชด้ ลุ ยพินิจในการคาดการณ์ว่าจะมีลูกหนี้จํานวนเท่าใดที่จะไม่มาชําระหนี้เป็นร้อย

101 ละ จากนั้นให้นําบัญชีลูกหน้ีการค้ามาคูณกับร้อยละท่ีพิจารณาได้ จากนั้นจึงนําผลลัพธ์ไป พจิ ารณาเพอื่ บันทกึ บัญชีในวนั สิ้นงวดตอ่ ไป 2.2 แบบอัตราร้อยละหลายอัตรา หากกิจการมีลูกหน้ีจํานวนไม่มากรายนัก แต่ จํานวนเงินของลูกหนี้แต่ละรายมีมูลค่าสูง กิจการจะคาดการณ์จํานวนที่คาดว่าจะเก็บเงินไม่ได้ เป็นรอ้ ยละ แต่จะแบ่งพิจาณาเป็นหลายอัตรา โดยนําบัญชีลูกหนี้การค้ามาจําแนกตามระยะเวลา ของหน้ที ี่ค้างชําระ ดังนี้ 2.2.1 ลกู หนที้ ่ยี ังไมค่ รบกําหนดชาํ ระ โอกาสทจี่ ะเก็บเงินไม่ไดก้ จ็ ะน้อยเพราะ ยังไมค่ รบกาํ หนด ทาํ ให้จาํ นวนร้อยละทีค่ าดการณก์ ็น้อย 2.2.2 ลูกหนีท้ คี่ รบกาํ หนดชาํ ระแลว้ กย็ ังไมไ่ ดร้ บั ชําระ โอกาสทจ่ี ะเก็บเงินไมไ่ ด้ ก็มมี ากขึน้ กวา่ ลูกหนี้ท่ียังไม่ครบกําหนดชําระ ทาํ ใหจ้ ํานวนร้อยละที่คาดการณ์กส็ ูงขึน้ 2.2.3 ลูกหนี้ทค่ี รบกาํ หนดชําระแล้วและเกนิ เวลาท่ีกาํ หนดใหน้ านออกไปอีก โอกาสท่จี ะเก็บเงนิ ไม่ไดก้ ็ยิ่งมากขน้ึ ทําให้จํานวนรอ้ ยละที่คาดการณ์ก็สูงขึ้นไปอีก จากน้ันนําบัญชีลูกหนี้การค้าแต่ละรายท่ีได้แยกพิจารณาตามระยะเวลาในการเป็นหนี้ แลว้ มาคณู กับร้อยละหลายอตั ราท่ีกําหนดไว้ทุกรายแลว้ นําผลลัพธ์ไปบันทึกบัญชี 2.3 แบบนาลูกหนี้แต่ละรายมาพิจารณา จะพิจารณาเฉพาะรายท่ีคาดว่าจะเรียก เกบ็ ไมไ่ ดเ้ ทา่ น้นั ตัวอยา่ งที่ 3-5 บรษิ ัท นากลาง จาํ กัด มีขอ้ มูลตา่ งๆ ณ วันสนิ้ งวด (31 ธ.ค. 2557) ดังนี้ บรษิ ทั นากลาง จาํ กัด งบทดลอง (บางสว่ น ) วันที่ 31 ธนั วาคม 2557 ชอ่ื บญั ชี เลขทบี่ ัญชี เดบิต เครดิต ลูกหนี้การค้า 105 1,050,000 คา่ เผื่อหนส้ี งสัยจะสญู 105.1 5,000 ขายสินค้า 401 1,000,000 รบั คืนและส่วนลด 402 3,000 ส่วนลดจ่าย 403 2,000

102 จากประสบการณ์ในปี 2556 ของผู้บริหารพบว่ามีหน้ีสงสัยจะสูญเกิดขึ้น 2 % ดังน้ัน การ ประมาณหน้ีสงสัยจะสูญในปี 2557 กิจการจึงมีนโยบายว่า ให้คาดการณ์หน้ีสงสัยจะสูญ 2 % ของบัญชขี ายสุทธิ การคาํ นวณ ขายสทุ ธิ = 1,000,000 – 3,000- 2,000 = 995,000 บนั ทกึ บญั ชีในวันสน้ิ งวดดงั นี้ สมุดรายวันทั่วไป หน้า.... 30 พ.ศ. 2557 รายการ เลขท่ี เดบิต เครดิต บญั ชี ธ.ค. 31 หนี้สงสยั จะสญู (995,000 x 2 %) 19,900 คา่ เผอื่ หน้สี งสยั จะสูญ 19,900 บันทึกหนี้สงสัยจะสูญ 2 % ของบัญชีขาย สุทธิ ตัวอย่างท่ี 3-6 บริษัท นากลาง จํากัด มีข้อมูลบางส่วนจากงบทดลองในวันส้ินงวด วันที่ 31 ธ.ค. 2557 ดังนี้ บรษิ ัท นากลาง จาํ กัด งบทดลอง (บางสว่ น ) วันท่ี 31 ธนั วาคม 2557 ชอื่ บัญชี เลขทบ่ี ัญชี เดบิต เครดิต ลกู หน้ีการค้า 105 1,050,000 คา่ เผื่อหน้ีสงสยั จะสูญ 105.1 5,000 ขายสนิ คา้ 401 1,000,000 รับคืนและส่วนลด 402 3,000 สว่ นลดจ่าย 403 2,000 จากประสบการณ์ในปี 2556 ของผู้บริหารพบว่ามีหนี้สงสัยจะสูญเกิดข้ึน 2 % ดังน้ัน การ ประมาณหน้ีสงสัยจะสูญในปี 2557 จึงใช้นโยบายว่า ให้ประมาณหน้ีสงสัยจะสูญ 2 % ของ บญั ชีลกู หนี้การคา้ ในวนั สน้ิ งวด การคาํ นวณ บญั ชีลูกหนีก้ ารค้า = 1,050,000 x 2% = 21,000 แต่ บญั ชีคา่ เผอ่ื หนสี้ งสัยจะสูญมยี อดคงเหลือก่อนปรับปรุงด้านเครดิต = 5,000 บาท

103 ดงั นั้น 21,000 – 5,000 = 16,000 บาท นํา 16,000 บาท ไปบนั ทกึ บัญชี ดังน้ี หน้า.... สมดุ รายวันท่ัวไป เครดิต 30 16,000 พ.ศ. รายการ เลขท่ี เดบิต 2557 บัญชี ธ.ค. 31 หนีส้ งสยั จะสูญ 16,000 ค่าเผอื่ หนส้ี งสยั จะสูญ บนั ทกึ หนี้สงสยั จะสญู 2% ของบญั ชีลูกหนกี้ ารคา้ แตถ่ ้ากิจการมีบัญชคี า่ เผื่อหนสี้ งสยั จะสญู คงเหลือกอ่ นปรบั ปรงุ ดา้ นเดบิต 8,000 บาท เปน็ คา่ เผอื่ หนี้สงสยั จะสูญเกินความต้องการ การคานวณ บัญชีลกู หนก้ี ารค้า = 1,050,000 x 2% = 21,000 แต่ บัญชีค่าเผือ่ หน้สี งสยั จะสญู มยี อดคงเหลือก่อนปรับปรุงดา้ นเดบิต = 8,000 บาท ดงั นน้ั 21,000 + 8,000 = 29,000 บาท นาํ 29,000 บาท ไปบนั ทึกบัญชี ดงั นี้ สมดุ รายวันท่วั ไป หน้า....30 พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต 29,000 29,000 บัญชี ธ.ค. 31 หนส้ี งสัยจะสญู ค่าเผื่อหน้ีสงสยั จะสญู บนั ทึกหนสี้ งสยั จะสูญ 2 % ของลกู หนีก้ ารคา้ แต่ถา้ กจิ การมีบญั ชีค่าเผอ่ื หนสี้ งสยั จะสูญคงเหลอื ก่อนปรบั ปรงุ ดา้ นเครดติ 25,000 บาท การคาํ นวณ บัญชลี กู หนี้การค้า = 1,050,000 x 2% = 21,000 แต่ บัญชคี า่ เผอื่ หนี้สงสยั จะสญู มยี อดคงเหลอื ก่อนปรับปรุงด้านเครดิต = 25,000 บาท ดงั นนั้ 25,000 - 21,000 = 4,000 บาท นาํ 4,000 บาท ไปบนั ทึกบัญชี ดงั นี้

104 สมดุ รายวันทว่ั ไป หนา้ ....30 เดบิต เครดิต พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ 4,000 บญั ชี 4,000 ธ.ค. 31 ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสญู ( 25,000– 21,000 ) หนี้สงสัยจะสญู บันทกึ หนี้สงสยั จะสูญ 2 %ของลูกหนี้การคา้ ตัวอย่างท่ี 3-7 บริษัท อยุธยา จํากัด มีนโยบายให้พิจารณาลูกหน้ีโดยใช้อัตราร้อยละหลายอัตรา ได้กําหนดไว้ ดังน้ี อายหุ น้ี % หนส้ี งสัยจะสูญ ยังไมถ่ ึงกําหนด 4% พน้ กําหนด 1-30 วัน 10% พ้นกาํ หนด 31-60 วัน 15% พ้นกาํ หนด เกิน 60 วัน 25% การพจิ ารณาลูกหน้แี ต่ละรายตามอายุในการเป็นหน้ี บริษทั อยธุ ยา จาํ กัด ตารางจําแนกอายุลูกหนี้ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 2557 ชอื่ ลกู หนี้ ยอดคงเหลอื ยังไม่ครบ ครบกําหนดแลว้ (บาท) (บาท) กาํ หนด(บาท) เกนิ 1-30 วนั เกนิ 31-60 วัน เกิน 60 วันขึน้ ไป บริษัท ระยอง จาํ กดั 200,000 140,000 60,000 บริษทั ชลบรุ ี จํากดั 300,000 100,000 200,000 บรษิ ทั จนั ทบุรี จํากดั 240,000 120,000 120,000 อื่นๆ 260,000 140,000 60,000 40,000 20,000 รวม 1,000,000 500,000 120,000 240,000 140,000

105 การคาํ นวณการคาดการณ์หนี้สงสยั จะสูญ อายหุ น้ี จานวนเงนิ % หนสี้ งสัย ประมาณการหนีส้ งสัยจะสูญ จะสญู (บาท) (บาท) 4% 10,000 ยังไมถ่ ึงกาํ หนด 500,000 10% 12,000 พน้ กาํ หนด 1-30 วนั 120,000 15% 36,000 พน้ กาํ หนด 31-60 วนั 240,000 25% 35,000 พน้ กาํ หนด เกนิ 60 วัน 140,000 1,000,000 103,000 หากกิจการมบี ัญชคี า่ เผื่อหนสี้ งสยั จะสูญคงเหลอื ก่อนปรับปรงุ ด้านเครดติ 30,000 บาท การคาํ นวณ 103,000 – 30,000 = 73,000 บาท นาํ 73,000 บาท ไปบันทึกบญั ชี ดงั น้ี พ.ศ. 2557 สมุดรายวันท่ัวไป เลขที่ หนา้ ....30 ธ.ค. 31 รายการ บญั ชี เดบิต เครดิต หนี้สงสยั จะสญู (103,000– 30,000) 73,000 ค่าเผอ่ื หน้ีสงสยั จะสญู 73,000 บันทึกหน้ีสงสัยจะสูญจากการจําแนก อายุลกู หนี้ การบันทกึ บญั ชลี ูกหนท้ี ่ีเกบ็ เงนิ ไมไ่ ด้ เมือ่ ครบกําหนดชาํ ระหนี้ ตามปกตกิ จิ การมกั จะได้รบั ชําระหน้จี ากลกู หน้ีของกจิ การ ดังน้ี สมดุ รายวันทวั่ ไป หน้า....30 รายการ พ.ศ. 2557 เลขที่ เดบิต เครดิต บญั ชี ม.ี ค. 1 เงินสด 50,000 ลกู หนก้ี ารคา้ 50,000 รับชาํ ระเงนิ สดจากลูกหนี้

106 แต่หากกรณีทีล่ กู หนีไ้ ม่สามารถชําระหน้ไี ด้ และกจิ การได้มีการติดตามทวงถามจนถึงท่ีสุด แต่ก็ไม่ได้รับชําระหน้ี ตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 101 เรื่อง หน้ีสงสัยจะสูญและหน้ีสูญ กลา่ วถงึ วิธีการปฏิบัตใิ นการบันทกึ บญั ชี ดงั น้ี 9. เม่ือมกี ารทวงถามหนจ้ี ากลูกหนีจ้ นถึงทส่ี ดุ แลว้ ลกู หน้ีก็ยงั ไมช่ ําระหนี้และกิจการได้มี การดําเนนิ การตามเงอื่ นไขท่กี าํ หนดในกฎหมายภาษีอากรแล้ว ให้กิจการตัดจําหน่าย ลกู หน้เี ปน็ สญู โดยเดบติ บัญชหี นี้สูญและเครดิตบัญชีลูกหน้ีและในขณะเดียวกัน ก็ให้ ลดจํานวนค่าเผ่ือหนี้สงสัยจะสูญด้วยจํานวนเดียวกัน โดยเดบิตบัญชีค่าเผื่อหน้ีสงสัย จะสูญและเครดิตบญั ชหี น้ีสงสยั จะสูญ 10. ในกรณที ่กี ิจการตอ้ งการตัดจําหน่ายลูกหน้ีเป็นสูญ เมื่อคาดหมายได้ค่อนข้างแน่นอน ว่าจะไม่ได้รับชําระหน้ีและยังตัดจําหน่ายตามกฎหมายภาษีอากรไม่ได้ อาจจะเป็น การสมควรที่จะตัดจําหน่ายลูกหนี้เป็นสูญ โดยการลดจํานวนลูกหนี้ลงพร้อมกับ จํานวนค่าเผอื่ หน้สี งสัยจะสูญ อย่างไรก็ตามมีผู้โต้แย้งว่าถ้าไม่อาจตัดหน้ีสูญได้อย่าง แท้จริงแล้วก็ไม่ควรตัดจําหน่ายจากบัญชี ควรจะให้คงอยู่ท้ังบัญชีลูกหน้ีและบัญชีค่า เผื่อหนี้สงสัยจะสูญเช่นเดิม เพราะแม้จะคงอยู่ก็มิได้ทําให้ลูกหนี้สุทธิแสดงมูลค่า เปล่ียนแปลงไป แต่กม็ ีผู้โต้แย้งวา่ ถา้ หากยงั คงให้มอี ยใู่ นบญั ชีและสะสมเป็นเวลานาน จะทําใหเ้ กิดความยุง่ ยากในทางปฏิบตั ิทางการบัญชี เพราะมจี ํานวนมาก” ตามท่มี าตรฐานการบัญชกี าํ หนดไว้ หากพบปัญหาเมื่อครบกําหนดชําระเงิน คือกิจการไม่ สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้ได้ และได้ติดตามทวงถามจนถึงท่ีสุดแล้ว กิจการต้องตัดจําหน่าย บัญชีลกู หนกี้ ารคา้ ออกจากบญั ชี “การตัดจาํ หน่าย” คือ การบันทึกบัญชีลูกหน้ีออกทางด้านเครดิต เน่ืองจากไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้ได้ กิจการไม่ควรปล่อยให้ค้างอยู่ในบัญชี สามารถนํามา อธิบายในกรณีท่ีกจิ การไม่สามารถเกบ็ เงินจากลกู หนไี้ ด้ ดงั น้ี 1. บนั ทกึ ตัดจาหน่ายบัญชีลกู หนีต้ ามกฎหมายภาษีอากร เม่ือกิจการได้ติดตามทวง ถามลูกหน้ีจนถึงที่สุด แต่ก็ไม่ได้รับชําระเงินและจํานวนลูกหนี้เข้าเกณฑ์ถือเป็นค่าใช้จ่ายตาม กฎหมายภาษีอากร (ดูประกาศกฎกระทรวงในภาคผนวกท้ายบท) ให้กิจการบันทึกบัญชี 2 รายการ ตามจาํ นวนเงนิ ของลกู หน้กี ารค้าทตี่ ดั บญั ชดี ังนี้ เดบติ หนีส้ ญู (เป็นความเสยี หายถอื เปน็ ค่าใช้จ่าย) xx เครดติ ลกู หนีก้ ารคา้ (ตดั จําหนา่ ยออกจากบญั ช)ี xx เดบิต คา่ เผ่ือหนีส้ งสัยจะสญู (ลดจาํ นวนการคาดการณ์) xx เครดิต หนส้ี งสัยจะสญู (ลดจํานวนการคาดการณ์) xx

107 2. การบันทึกตัดจาหน่ายบัญชีลูกหนี้ตามกฎหมายภาษีอากรไม่ได้ เม่ือกิจการได้ ตดิ ตามทวงถามลกู หนจ้ี นถึงท่ีสุด แตก่ ไ็ มไ่ ดร้ ับชําระเงิน กิจการต้องตัดจําหน่ายบัญชีลูกหนี้การค้า ออกจากบัญชี เม่ือกิจการม่ันใจว่าจะไม่ได้รับชําระหนี้และตัดบัญชีลูกหน้ีออกตามหลักภาษีอากร ไม่ได้ กิจการสามารถที่จะตัดบัญชีลูกหน้ีออกจากบัญชีได้ การบันทึกบัญชีจะบันทึกเพียง 1 รายการ ตามจํานวนเงินของลกู หนี้การค้าท่ตี ดั บญั ชดี ังน้ีคือ เดบติ ค่าเผื่อหนส้ี งสัยจะสญู (ลดจํานวนการคาดการณ)์ xx เครดิต ลูกหน้ีการคา้ (ตดั บญั ชีลกู หนี้) xx หน้ีสญู ได้รบั คนื มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 101 หนี้สงสัยจะสูญ กําหนดว่า ในบางรอบระยะเวลาบัญชี กิจการอาจจะได้รับชําระหนี้จากลูกหนี้ท่ีได้จําหน่ายเป็นหน้ีสูญไปแล้ว วิธีการบัญชีอาจกระทําได้ โดยถือเอาเงนิ ทไี่ ดร้ บั เป็นรายได้อนื่ หรือนาํ ไปเพิม่ บญั ชีค่าเผ่อื หนส้ี งสยั จะสูญ ตามที่มาตรฐานการบัญชีกําหนด อธิบายได้ว่าหากกิจการได้รับชําระเงินคืนจากลูกหน้ีท่ี ตัดจําหน่ายจากบัญชีไปแล้ว ถือเป็นการได้เงินโดยไม่คาดหวังให้ถือเป็นรายได้อื่น ซึ่งก็แล้วแต่ว่า จะเป็นจํานวนเท่าใด การบันทึกบัญชีในเร่ืองนี้จะต้องข้ึนอยู่กับการตัดจําหน่ายลูกหนี้ออกจาก บญั ชี คอื 1. การตดั จาหน่ายบัญชลี ูกหน้ีตามหลกั ภาษีอากรใหถ้ อื เปน็ รายได้อ่นื มดี ังนี้ เดบติ ลูกหน้ี (กลบั มาใหม่ เนอื่ งจากกจิ การไดต้ ัดจําหนา่ ยบญั ชีลูกหน้ีไปแล้ว)xx เครดติ หน้ีสูญรบั คนื (รายไดอ้ น่ื ) xx เดบติ เงนิ สด (บนั ทึกรบั เงนิ สดตามปกติ) xx เครดติ ลูกหนี้ (เก็บเงินได้แล้ว จงึ ปดิ บัญชี) xx 2. การตดั จาหน่ายบญั ชีลูกหนต้ี ามกฎหมายภาษีอากรไมไ่ ด้ มดี ังน้ี เดบิต ลกู หน้ี (กลบั มาใหม่ เนื่องจากกจิ การได้ตดั จําหน่ายบญั ชลี ูกหนไ้ี ปแล้ว)xx เครดติ คา่ เผื่อหนส้ี งสัยจะสญู (กลับรายการการคาดการณ)์ xx เดบติ เงินสด (บันทึกรับเงนิ สดตามปกติ) xx เครดิต ลูกหน้ี (เก็บเงนิ ไดแ้ ล้ว จงึ ปิดบัญชี) xx

108 ตัวอย่างท่ี 3-8 การตัดจาหน่ายลูกหนี้เป็นสูญและหน้ีสูญรับคืนตามกฎหมายภาษีอากร และไม่เปน็ ไปตามกฎหมายภาษอี ากร ในระหว่างงวดบัญชี 2557 ส.ค. 13 กิจการตัดจาํ หนา่ ยบัญชีลูกหนี้การคา้ ออกจากบัญชี โดยกิจการได้ติดตามทวง ต.ค. 20 ถามลูกหนี้จนถึงทส่ี ดุ แลว้ แตก่ ไ็ ม่ไดร้ ับชาํ ระจาํ นวน 110,000 บาท ลกู หนท้ี ีต่ ดั จาํ หน่ายไปแล้ว นําเงินมาคืน จํานวน 80,000 บาท สมุดรายวนั ท่ัวไป พ.ศ. ตามกฎหมายภาษีอากร ไมเ่ ป็นไปตามกฎหมายภาษีอากร 2557 ส.ค. 13 เดบิต หน้ีสญู 110,000 เดบิต ค่าเผื่อหนสี้ งสัยจะสูญ 110,000 เครดิต ลกู หน้ีการค้า 110,000 เครดิต ลูกหนี้การคา้ 110,000 ตัดจําหนา่ ยลูกหนที้ ีไ่ ม่สามารถเก็บเงินได้ ตัดจําหนา่ ยลูกหนท้ี ่ไี ม่สามารถเก็บเงนิ ได้ เดบิต ค่าเผ่อื หนส้ี งสยั จะสูญ 110,000 เครดิต หนีส้ งสัยจะสูญ 110,000 - บันทกึ ลดจาํ นวนค่าเผื่อหนส้ี งสัยจะสูญ ต.ค. 20 เดบิต ลูกหนี้การค้า 80,000 เดบิต ลกู หนีก้ ารค้า 80,000 เครดิต หน้สี ูญรับคืน 80,000 เครดิต ค่าเผือ่ หนี้สงสยั จะสญู 80,000 ต้ังลูกหนีท้ ี่ตัดจําหน่ายแล้วนําเงินมาคนื ตัง้ ลูกหน้ีที่ตัดจําหน่ายแลว้ จะนําเงินมาคืน เดบิต เงนิ สด 80,000 เดบิต เงนิ สด 80,000 เครดติ ลูกหน้กี ารค้า 80,000 เครดิต ลูกหนก้ี ารค้า 80,000 รับเงินจากลกู หน้ที ี่ตดั บญั ชีไปแลว้ รับชําระเงินสดจากลกู หนท้ี ี่ตัดจําหนา่ ยแลว้ เมื่อกิจการได้รับชําระเงินจากลูกหนี้ หรือเมื่อกิจการตัดจําหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชี ซึ่ง ถอื ไดว้ า่ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างกิจการกับลูกหน้ีรายน้ันสิ้นสุดลง ซ่ึงดูเหมือนว่า เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง กับลูกหน้ีคือการขายสินค้าเป็นเงินเช่ือ เมื่อถึงวันครบกําหนดชําระหนี้จะได้รับชําระเงินหรือเม่ือ ครบกําหนดแล้วกิจการไม่ได้รับชําระเงิน ก็ตัดจําหน่ายลูกหนี้ออกจากบัญชีไป แต่ในทางปฏิบัติ น้ันกิจการยังมีวิธีการที่เก่ียวข้องกับลูกหนี้ได้อีกคือกิจการสามารถนําลูกหนี้ไปหาผลประโยชน์ได้ เชน่ การนําบัญชลี กู หนี้ไปเปน็ หลกั ทรัพย์เพอื่ ขอกู้ยืมเงนิ หรอื การนาํ บญั ชีลกู หน้ีไปขายให้กิจการท่ี

109 รับซื้อเพื่อนําเงินสดมาใช้ก่อน ซึ่งทําให้เกิดความสะดวกในการดําเนินธุรกิจ เน่ืองจากว่ากิจการไม่ ตอ้ งรอใหถ้ ึงวนั ครบกําหนดก่อนจึงจะได้รบั ชําระเงินสด การจดั หาเงนิ โดยใช้บญั ชลี ูกหนีก้ ารค้า การขายสนิ ค้าเป็นเงนิ เชื่อทําให้กิจการมีลูกหนี้โดยกิจการจะต้องกําหนดระยะเวลาในการ ชําระหน้ี เช่น 30 วัน 45 วัน เป็นต้น ซึ่งกว่าลูกหน้ีจะนําเงินสดมาชําระหนี้ก็ต้องรอให้ครบกําหนด ก่อน หากกิจการต้องการใช้เงินสดก่อนที่จะถึงวันครบกําหนดชําระเงิน หรือกิจการต้องการได้รับ เงนิ สดเรว็ ขน้ึ เพือ่ นาํ ไปดําเนินงาน มีวิธีใดบ้างที่จะทําให้กิจการจะได้รับเงินจากบัญชีลูกหนี้การค้า ได้เร็วขน้ึ บญุ เสริม วมิ กุ ตะนนั ท์ และคณะ (2556: 104) กล่าวว่า “กิจการสามารถเร่งการรับเงินโดย นําเอาลกู หน้กี ารค้าท่มี อี ยไู่ ปใชห้ าเงินจากแหล่งอ่นื ได้ ในทางปฏบิ ตั ินยิ มใช้ 2 วธิ ี คือ 1. การขายหรือโอนบญั ชีลกู หน้ีการคา้ ( sales of accounts receivable) ทําได้ 2 วธิ ี คือ 1.1 วธิ ไี ล่เบ้ียไมไ่ ด้ (factoring without recourse) 1.2 วธิ ีไลเ่ บ้ียได้ ( factoring with recourse) 2. การกู้ยืมโดยใช้ลูกหนี้การค้าเป็นหลักประกัน (Secured borrowing หรือ assignment of accounts receivable) การขายบญั ชีลูกหน้ีการค้า ลูกหน้ีการค้าเป็นสินทรัพย์ของกิจการ ซ่ึงในปัจจุบันการนําบัญชีลูกหน้ีการค้าไปขาย ถือ เปน็ ธุรกรรมตามปกติ โดยธนาคารหรอื สถาบันการเงินจะเป็นผูร้ ับซอื้ ลูกหนี้ เหมือนการนําสินทรัพย์ ทัว่ ไปๆ ของกจิ การไปขาย ผู้รับซื้อลูกหน้ีจะจ่ายเงินให้ผู้ขายลูกหน้ี เอกสารที่เก่ียวข้องกับลูกหนี้จะ ถูกนําไปใหผ้ ้รู ับซ้ือลูกหนี้ซึ่งผู้รับซื้อลูกหนี้จะโอนเงินไปให้ผู้ขายลูกหน้ีการค้า โดยผู้รับซ้ือลูกหน้ีจะ หักคา่ ธรรมเนยี มในการซ้ือลูกหนี้ไวจ้ ํานวนหนึ่งเป็นรายได้ของผู้รับซื้อลูกหนี้เอง และเงินอีกจํานวน หน่ึงผู้รับซ้ือลูกหนี้จะหักไว้เผื่อมีรายการท่ีทําให้ผู้รับซื้อลูกหน้ีไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้ได้ครบ เรียกว่า “เงินประกันค่าใช้จ่าย” และเมื่อครบกําหนดชําระหนี้ ผู้รับซื้อลูกหนี้จะเป็นคนไปเรียกเก็บ เงินจากลูกหน้ีทร่ี ับซื้อเอง และก่อนท่ีจะทําการซ้ือขายลูกหนี้นั้นจะต้องตกลงกันก่อนว่าการซื้อขาย จะเป็นแบบการขายลูกหนี้โดยผู้ขายลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องหน้ีสูญ (วิธีไล่เบ้ียไม่ได้) หรือจะ เป็นการขายลกู หนี้โดยผ้ขู ายลกู หนี้ต้องรบั ผิดชอบเรอ่ื งหนส้ี ญู (วธิ ีไล่เบีย้ ได้)

110 1 2 ลูกหนก้ี ารค้า 3 ผู้รับซ้ือลกู หนีก้ ารค้า ผูข้ ายสนิ คา้ (ผขู้ ายลกู หนกี้ ารคา้ ) 4 ภาพท่ี 3.1 วงจรการนําลูกหนกี้ ารคา้ ไปขาย อธบิ ายประกอบ ภาพท่ี 3.1 1. ผ้ขู ายสนิ คา้ ขายสนิ ค้าเปน็ เงินเช่ือให้ลูกหนี้การค้า 2. ผู้ขายสินค้า นําเอกสารของลูกหนี้การค้าไปขายให้ผู้รับซื้อลูกหนี้การค้า เรียกว่า “ผู้ขายลกู หน”ี้ 3. ผู้รับซอื้ ลกู หน้กี ารค้าโอนเงินใหผ้ ูข้ ายลูกหน้ี 4. ผู้รบั ซื้อลูกหนก้ี ารคา้ ไปเก็บเงนิ กับลูกหนีก้ ารค้าเมือ่ ครบกําหนดชาํ ระหน้ี ลูกหนี้การคา้ เปน็ สินทรพั ยท์ ่ีทําให้กิจการผู้ขายสินค้าอยู่ในสภาวะความเสี่ยงหรือความไม่ แนน่ อนในการรบั ชําระเงนิ สด ดงั นน้ั เมอื่ ผ้ขู ายสินค้านาํ ลูกหน้ีการค้าไปหาประโยชน์ในขณะท่ียังไม่ ถึงวันครบกําหนดชําระหน้ีของลูกหน้ีการค้าน้ัน แต่ส่ิงที่ผู้ขายสินค้าต้องรับผิดชอบคือ การรับคืน สนิ ค้าและการให้ส่วนลดจ่ายแก่ลูกหน้ีการค้า เพราะว่าสินค้าท่ีถูกขายออกไปเป็นของผู้ขายลูกหนี้ ดังนั้น หากเกิดบัญชีรับคืนสินค้าและส่วนลด และบัญชีส่วนลดจ่าย ผู้ขายลูกหน้ีจะต้องบันทึก บัญชี 2 รายการนต้ี ามปกติ ก่อนท่ีผู้รับซ้ือลูกหน้ีจะโอนเงินไปให้ผู้ขายลูกหนี้ ผู้รับซ้ือลูกหน้ีจะหักเงินจากผู้ขายลูกหนี้ 2จํานวนคือ 1. จํานวนแรกหักเผื่อไว้เป็นรายการรับคืนสินค้าและส่วนลด ส่วนลดจ่ายและค่าใช้จ่าย อ่ืนๆ ท่ีอาจเกิดขึ้น ซึ่งทําให้ผู้รับซื้อลูกหนี้เก็บเงินจากลูกหนี้ได้ไม่ครบ เรียกว่า “เงินประกัน คา่ ใชจ้ า่ ย” 2. จาํ นวนทสี่ องเป็นรายได้ของผู้รับซ้ือลูกหน้ีเอง

111 ข้อควรพิจารณาคือ หากมีปัญหาในเรื่องหน้ีสูญที่เกิดจากจากลูกหนี้การค้า ทําให้การซ้ือ ขายลูกหนี้การค้าจะต้องตกลงกันก่อนว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบระหว่างผู้รับซ้ือลูกหนี้กับผู้ขาย ลูกหนี้ ซ่ึงจะส่งผลให้ผู้รับซื้อลูกหน้ีเก็บเงินจากลูกหน้ีการค้าได้ไม่ครบ จึงต้องแบ่งการขายลูกหนี้ การคา้ ออกเปน็ 2 ประเภทตามความรบั ผิดชอบเรือ่ งหน้ีสญู คอื 1. การขายลูกหนี้โดยผขู้ ายลกู หนี้ไมต่ ้องรับผิดชอบเรื่องหนสี้ ูญหรอื ประเภทไล่เบ้ียไม่ได้ 2. การขายลกู หนโ้ี ดยผขู้ ายลูกหนต้ี ้องรับผิดชอบเร่อื งหน้สี ญู หรือประเภทไล่เบ้ียได้ การขายลูกหน้ีโดยผู้ขายลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องหนี้สูญหรือประเภทไล่เบ้ียไม่ได้ (factoring without recourse) ผู้ขายลูกหน้ี ได้นําลูกหน้ีการค้าไปขายให้ผู้รับซ้ือลูกหนี้ เม่ือถึงวันครบกําหนดชําระหน้ี หากผรู้ ับซอื้ ลูกหนี้ไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหน้ีการค้าได้ ผู้รับซื้อลูกหน้ีต้องรับผิดชอบรายการหนี้ สูญน้ีเอง หมายความว่าผู้ขายลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ พิจารณาเหตุการณ์เม่ือถึงวันครบ กาหนดชาระหนี้แล้ว ผู้รบั ซือ้ ลกู หนีจ้ ะไปเรยี กเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าเอง ได้เปน็ 3 ประเด็น คือ 1. เมื่อถึงวันครบกําหนดชําระหน้ี ถ้าไม่มีรายการรับคืนสินค้าและส่วนลดจ่ายแก่ลูกหนี้ การคา้ และผูร้ บั ซอื้ ลูกหนจ้ี ะต้องคืนเงินประกันคา่ ใชจ้ า่ ยท้งั หมดใหแ้ กผ่ ้ขู ายลูกหนี้ 2. เมื่อถึงวันครบกําหนดชําระหน้ี ถ้ามีรายการรับคืนสินค้าและส่วนลดจ่ายแก่ลูกหนี้ จะ ทําให้จํานวนเงินท่ีได้รับจากลูกหนี้ลดลง และผู้รับซ้ือลูกหนี้จะต้องหักจากเงินที่เรียกว่า “เงิน ประกนั ค่าใช้จา่ ย” เหลอื จํานวนเทา่ ใด จงึ คืนเงนิ ให้แกผ่ ขู้ ายลกู หน้ี 3. เมื่อถงึ วนั ครบกาํ หนดชําระหน้ี หากผ้ซู ้ือลูกหนี้ไมส่ ามารถเก็บเงินจากลูกหน้ีท่ีรับซ้ือได้ ผรู้ บั ซือ้ ลูกหน้ีไมส่ ามารถเรียกร้องจากผขู้ ายลูกหน้ไี ดเ้ ลย ลูกหนก้ี ารค้า 1 ผขู้ ายสินค้า(ผขู้ ายลกู หน้ีการคา้ ) 2 ผ้รู บั ซอื้ ลูกหนีก้ ารค้า (1.รับคืน 2. สว่ นลดจา่ ย) 4 3 (หน้สี ูญ) ภาพท่ี 3.2 วงจรการนาํ ลูกหนก้ี ารค้าไปขาย ประเภทไล่เบี้ยไมไ่ ด้

112 ตวั อยา่ งท่ี 3-9 ต่อไปน้ีเป็นข้อมลู การนาํ ลกู หน้ไี ปขายของบริษทั ร้อยเอ็ด จํากดั 2557 ม.ค. 2 บริษัท ร้อยเอ็ด จํากัด ขายบัญชีลูกหนี้การค้า ให้บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด 250,000 บาท โดยบริษัท ร้อยเอ็ด จํากัด ไม่ต้องรับผิดชอบในหน้ีสูญ บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด คิดค่าธรรมเนียมทางการเงิน 3% และกันไว้เป็นเงินประกันค่าใช้จ่ายอีก 5% ของลูกหน้ี การคา้ ม.ค. – ก.พ. ระหวา่ ง 2 เดือนนบี้ ริษทั ยูดแี ฟคเตอรงิ จํากัด เรยี กเกบ็ เงนิ สดจากลูกหนี้ไดค้ รบ ม.ี ค. 1 บรษิ ทั ยดู แี ฟคเตอริง จาํ กดั ส่งเงนิ ทีก่ นั ไวเ้ ผอ่ื มปี ัญหาคืน ใหบ้ ริษัท ร้อยเอ็ด จํากัด ใหท้ า บันทึกบัญชใี นสมุดรายวันท่วั ไปของท้งั สองบริษทั พ.ศ.2557 บริษัท รอ้ ยเอด็ จากดั – ผู้ขายลูกหน้ี บรษิ ทั ยดู ีแฟคเตอริง จากัด – ผ้รู ับซอ้ื ลูกหน้ี ม.ค. 2 เดบิต เงินสด 230,000 เดบติ ลกู หนีก้ ารค้า 250,000 เดบติ เงินประกันคา่ ใช้จา่ ย 12,500 เครดิต เงนิ ประกันคา่ ใช้จา่ ย 12,500 เดบิต ขาดทนุ จากการขายลกู หน้ี 7,500 เครดติ รายไดค้ ่าธรรมเนียม 7,500 เครดิต ลกู หนีก้ ารคา้ 250,000 เครดติ เงนิ สด 230,000 ขายบญั ชีลูกหนี้การค้าแบบไลเ่ บย้ี ไมไ่ ด้ รับซอ้ื ลกู หนี้การคา้ แบบไลเ่ บีย้ ไม่ได้ (250,000 – 12,500 – 7,500 = 230,000 ) ม.ค.-ก.พ. - เดบติ เงินสด 250,000 มี.ค. 1 ไมต่ ้องบันทึกบญั ชี เครดติ ลูกหนีก้ ารคา้ 250,000 เกบ็ เงนิ จากลกู หน้กี ารคา้ ทีร่ ับซอื้ ได้ครบ เดบติ เงินสด 12,500 เดบิต เงนิ ประกนั คา่ ใช้จ่าย 12,500 เครดติ เงนิ ประกนั ค่าใชจ้ ่าย 12,500 เครดิต เงินสด 12,500 รับเงินประกนั ค่าใช้จ่ายคืนจากผู้รับซอื้ ลูกหน้ี จ่ายเงินประกนั คา่ ใชจ้ า่ ยคนื ให้ผู้ขายลูกหนี้

113 ตวั อยา่ งท่ี 3-10 ต่อไปนีเ้ ปน็ ขอ้ มลู การนาํ ลูกหนี้การค้าไปขายของบริษัท ร้อยเอด็ จาํ กัด 2557 ม.ค. 2 บริษัท ร้อยเอ็ด จํากัด ขายบัญชีลูกหนี้การค้า ให้บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด 250,000 บาท โดยบริษัท ร้อยเอ็ด จํากัด ไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้สูญ บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด คิดค่าธรรมเนียมทางการเงิน 3% และกันไว้เป็นเงินประกันค่าใช้จ่ายอีก 5% ของลูกหนี้ การคา้ ม.ค.2-31 ลกู หนี้การค้านาํ เงินสดมาชําระหน้ีทันเงอื่ นไข บรษิ ทั รอ้ ยเอ็ด จาํ กดั ให้ส่วนลดจ่าย 2,000 บาท ก.พ.1-28 สนิ ค้าชํารดุ บริษทั รอ้ ยเอ็ด จาํ กดั รับคนื สนิ คา้ จากลูกหนก้ี ารค้า 6,000 บาท ก.พ. 28 บรษิ ทั ยูดแี ฟคเตอริง จาํ กดั เรียกเก็บเงนิ สดได้ 238,500 บาท และมีหนี้สูญเกิดข้ึน 3,500 บาท (ตดั จําหนา่ ยตามหลกั บญั ช)ี มี.ค. 1 บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด ส่งเงินท่ีประกันค่าใช้จ่ายท่ีเหลือคืน ให้บริษัท ร้อยเอ็ด จํากัด ใหท้ า บันทกึ บญั ชใี นสมุดรายวันทว่ั ไปของทงั้ สองบริษัท อธบิ าย วันที่ 2 ม.ค. ผขู้ ายลกู หนี้ไดร้ ับเงนิ 230,000 บาท ผู้รับซอื้ ลูกหน้ีจา่ ยเงิน 230,000 บาท วนั ท่ี 2-31 ม.ค.ผ้ขู ายลูกหน้รี ับคืนสนิ ค้า 2,000 บาทจากลูกหนี้ วันท่ี 1-28 ก.พ. ผ้ขู ายลกู หนี้ใหส้ ว่ นลดจ่าย 6,000 บาทแก่ลูกหน้ี วนั ท่ี 28 ก.พ. ผ้รู ับซื้อลูกหน้ีไปเกบ็ เงินกบั ลูกหนกี้ ารค้า มหี นสี้ ูญ 3,500 บาท ผู้รบั ซอ้ื ลกู หนไ้ี ปเก็บเงนิ กับลกู หนกี้ ารค้า ได้รับเงิน 238,500 บาท เพราะ 250,000 บาท ลูกหนกี้ ารค้า มีจํานวนเต็ม -2,000 บาท หกั ส่วนลดจา่ ย -6,000 บาท หกั รบั คืนสินคา้ -3,500 บาท หกั หนส้ี ูญ 238,500 บาท ลกู หน้ีการคา้ คงเหลอื วันที่ 1 มี.ค. เงินประกันค่าใช้จ่าย 12,500 -2,000-6,000 = 4,500 บาท เน่ืองจากเป็นวิธีไล่เบ้ีย ไม่ได้ ผ้รู บั ซอื้ ลูกหนต้ี ้องรบั ผิดชอบหน้ีสญู ทําให้ตอ้ งรับผดิ ชอบหนส้ี ูญจํานวน 3,500 บาทเอง

114 พ.ศ. สมุดรายวันท่ัวไป 2557 บรษิ ัท ร้อยเอด็ จากดั – ผู้ขายลกู หนี้ บริษทั ยูดีแฟคเตอรงิ จากดั –ผ้รู ับซอ้ื ลกู หน้ี ม.ค. 2 เดบติ เงินสด 230,000 เดบิต ลูกหนก้ี ารค้า 250,000 เดบิต เงินประกันค่าใช้จา่ ย 12,500 เครดติ เงินประกนั คา่ ใชจ้ ่าย 12,500 เดบิต ขาดทุนจากการขายลูกหน้ี 7,500 เครดิต รายไดค้ ่าธรรมเนียม 7,500 เครดิต ลกู หน้ีการค้า 250,000 เครดติ เงินสด 230,000 ขายบญั ชลี กู หน้กี ารค้าแบบไล่เบี้ยไมไ่ ด้ รับซ้อื ลูกหน้ีการคา้ แบบไล่เบยี้ ไมไ่ ด้ ม.ค.2-31 เดบติ ส่วนลดจา่ ย 2,000 ไม่บันทกึ บญั ชี เครดติ เงินประกนั คา่ ใชจ้ า่ ย 2,000 บนั ทกึ ให้สว่ นลดจา่ ยแกล่ ูกหน้ีการค้า ก.พ.1-28 เดบิต รับคนื สนิ คา้ และสว่ นลด 6,000 ไม่บนั ทกึ บญั ชี เครดติ เงินประกันค่าใชจ้ ่าย 6,000 บนั ทึกรับคนื สินค้าจากลูกหนกี้ ารคา้ ก.พ. 28 ไม่บันทึกบัญชี เดบติ เงนิ สด 238,500 เดบิต เงินประกันคา่ ใช้จ่าย 8,000 เดบิต ค่าเผือ่ หน้ีสงสัยจะสญู 3,500 เครดิต ลกู หน้กี ารค้า 250,000 เก็บเงินจากลูกหน้ีท่ีรับซ้ือ ได้เงินไม่ครบ เนือ่ งจาก รายการรบั คนื และสว่ นลดจ่ายและหน้ี สูญ ม.ี ค. 1 เดบิต เงนิ สด 4,500 เดบติ เงินประกนั ค่าใชจ้ ่าย 4,500 เครดิต เงนิ ประกันค่าใชจ้ า่ ย 4,500 เครดติ เงนิ สด 4,500 รบั เงินประกันคา่ ใช้จา่ ยคนื จากผรู้ บั ซื้อลกู หนี้ จ่ายเงนิ ประกนั ค่าใชจ้ ่ายคืนให้ผขู้ ายลูกหนี้

115 สรุปว่า 1. ผู้ขายลูกหน้ีได้รับเงินทั้งสิ้น = 230,000 + 4,500 = 234,500 บาท (เหตุผลที่ผู้ขาย ลูกหนี้ได้รับเงินเพียงแค่ 234,500 บาท เนื่องจาก ผู้ขายลูกหน้ีจะถูกหักค่าธรรมเนียมจากการขาย ลูกหน้ี จํานวน 7,500 บาท และจากข้อตกลง ทําให้ผู้ขายลูกหน้ีไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้สูญท่ี เกดิ ข้นึ 3,500 บาท แต่มีรายการส่วนลดจา่ ย 2,000 บาทและ รายการรบั คืน 6,000 บาท) 2. ผู้รับซื้อลูกหน้ีการค้าได้รับเงินท้ังสิ้น = -230,000 +238,500 – 4,500 = 4,000 บาท (เหตผุ ลท่ผี ู้รับซอ้ื ลกู หนไ้ี ดร้ ับเงนิ เพียงแค่ 4,000 บาท เนื่องจาก ผู้รับซื้อลูกหน้ีต้องมีรายได้จากการ รับซ้ือลูกหน้ี จํานวน 7,500 บาท แต่เน่ืองจากข้อตกลง ทําให้ผู้รับซ้ือลูกหน้ีต้องรับผิดชอบในหนี้ สูญที่เกดิ ขึ้น 3,500 บาท ดังน้ัน 7,500 – 3,500 = 4,000 บาท) การขายลูกหน้ีโดยผขู้ ายลกู หน้ีตอ้ งรับผิดชอบเร่อื งหน้ีสญู หรือประเภทไล่เบย้ี ได้ (factoring with recourse) ผู้ขายลูกหน้ี นําลูกหน้ีการค้าไปขายให้ผู้รับซ้ือลูกหนี้ เม่ือถึงวันครบกําหนดชําระหน้ีหาก ผู้รับซ้ือลูกหนี้ไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหน้ีการค้าได้ ผู้รับซ้ือลูกหน้ีไม่ต้องรับผิดชอบรายการหน้ี สูญ หมายความว่าความเส่ียงเร่ืองหน้ีสูญจะยังคงเป็นของผู้ขายลูกหน้ีอยู่ หากเป็นดังนี้การขาย ลูกหนม้ี ีวิธีปฏบิ ัตไิ ด้ 2 แนวทาง คอื 1. ผู้ขายลูกหนขี้ อก้เู งนิ จากผรู้ ับซือ้ ลูกหนี้ 2. ผขู้ ายลกู หน้ีตอ้ งการขายลกู หนี้ กอบแกว้ รตั นอบุ ล (2555: 3-25) กลา่ ววา่ การขายลูกหนโ้ี ดยรับภาระหนี้สูญน้ันจะถือเป็น การขายไดก้ ็ตอ่ เมอ่ื การขายนน้ั เข้าหลกั เกณฑ์ 3 ประการ คือ 1. ผู้ขายและเจ้าหน้ีของผู้ขายไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์นั้นได้ ซึ่งหมายความว่า ผู้ขาย ไม่สามารถจะนําเงินท่ีเก็บจากลูกหน้ีไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวได้ ถ้าหากผู้ขายเป็นผู้เก็บเงินหรือ จะตอ้ งรีบนําเงนิ ส่งผซู้ ือ้ ในทันที และในกรณีท่ีกิจการผู้ขายเลิกกิจการ เจ้าหน้ีของผู้ขายไม่สามารถ จะบังคบั ใหล้ ูกหนชี้ ําระหน้แี ทนผู้ขายได้ 2. ผ้ซู อ้ื มีสิทธทิ ี่จะนาํ ลูกหนี้ทซ่ี อื้ ไปคา้ํ ประกัน หรอื แลกเปล่ยี นกบั สินทรัพย์อ่นื ได้ 3. ไมม่ สี ัญญาซื้อกลบั คนื ท่จี ะทําใหผ้ ขู้ ายกลบั ไปควบคุมลูกหนไี้ ด้อีก จากคํากล่าวข้างต้น หากการขายลูกหน้ีแบบไล่เบ้ียได้ ได้พิจารณาการขายแล้วว่า เข้าเกณฑ์ท้ัง 3 ข้อ ข้างต้น การขายลูกหน้ีจะถือว่าเป็นการขาย เพราะผู้ซื้อลูกหนี้มีสิทธิในลูกหน้ี มากกว่าผู้ขายลูกหนี้ แต่หากไม่เข้าหลักเกณฑ์ 3 ข้อนี้แล้ว การขายลูกหนี้จะถือเป็นการกู้ยืมเงิน จากผู้รับซื้อลูกหน้ี และในการบันทึกบัญชีกิจการต้องประมาณการบัญชีหน้ีสูญที่ต้องรับผิดชอบ

116 เน่ืองจากลูกหนี้ยังอยู่ในความรับผิดชอบของกิจการ เม่ือเก็บเงินจากลูกหน้ีได้ครบจึงล้างบัญชีน้ี ออกไป แต่ถ้ากรณีการขายลูกหน้ีถือเป็นการกู้ยืม มีลักษณะกู้ยืมโดยนําลูกหนี้ไปค้ําประกันจึงไม่ ต้องบันทกึ บญั ชีประมาณการบัญชหี น้สี ูญที่ตอ้ งรบั ผิดชอบ กิจการต้องรบั ผิดชอบลกู หนี้อย่แู ลว้ ลกู หนก้ี ารค้า 1 ผ้ขู ายสนิ คา้ (ผู้ขายลูกหนี้การค้า) 2 (1.รับคนื 2. ส่วนลดจา่ ย 3. หนี้สญู ) 4 3 ผรู้ บั ซอ้ื ลูกหนก้ี ารคา้ ภาพที่ 3-3 วงจรการนาํ ลูกหนี้การค้าไปขาย ประเภทไลเ่ บ้ยี ได้ ตัวอย่างท่ี 3-11 บริษัท ร้อยเอด็ จํากัด นําลูกหนไ้ี ปขาย การขายลกู หน้ีถอื เป็นการขาย 2557 ม.ค. 2 บริษทั ร้อยเอ็ด จํากดั ขายบัญชลี กู หนก้ี ารคา้ ใหบ้ รษิ ัท ยดู แี ฟคเตอริง จํากดั 250,000 บาท โดยผู้ขายลูกหนี้ต้องรบั ผิดชอบในหนี้สูญ และบญั ชีหนี้สูญที่ตอ้ งรับผิดชอบ 10,000 บาท บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด คิดค่าธรรมเนียมทางการเงิน 3% และกันไว้เป็นเงิน ประกนั ค่าใช้จา่ ยอกี 5% ของยอดลกู หน้กี ารค้า ม.ค. – ก.พ. บรษิ ทั ยดู ีแฟคเตอรงิ จํากดั เกบ็ เงินได้ทั้งหมด ม.ี ค. 1 บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด ส่งเงินประกันค่าใช้จ่ายท่ีเหลือคืน บริษัท ร้อยเอ็ด จาํ กัด ให้ทา บันทึกบญั ชีในสมดุ รายวันทัว่ ไปของท้ังสองบริษทั

117 พ.ศ.2557 บรษิ ัท รอ้ ยเอ็ด จากดั – ผขู้ ายลูกหนี้ บริษทั ยูดีแฟคเตอรงิ จากัด – ผูร้ บั ซอ้ื ลกู หน้ี ม.ค. 2 เดบิต เงินสด 230,000 เดบติ ลกู หน้ีการค้า 250,000 ม.ค–ก.พ. เดบิต เงินประกันค่าใช้จ่าย 12,500 เครดติ เงนิ ประกนั ค่าใช้จา่ ย 12,500 มี.ค. 1 เดบติ ขาดทุนจากการขายลกู หน้ี 7,500 เครดติ รายไดค้ า่ ธรรมเนยี ม 7,500 เครดิต ลูกหนีก้ ารค้า 250,000 เครดติ เงนิ สด 230,000 ขายบญั ชลี กู หน้ีการค้าแบบไล่เบย้ี ได้ รับซื้อลกู หน้กี ารคา้ แบบไลเ่ บยี้ ได้ เดบติ ขาดทุนจากการขายลกู หนี้ 10,000 เครดิต หนส้ี ูญที่ตอ้ งรบั ผิดชอบ 10,000 บนั ทึกหนสี้ ินจากการไล่เบ้ยี เดบติ หนส้ี ูญทตี่ อ้ งรับผดิ ชอบ 10,000 เดบติ เงนิ สด 250,000 เครดิต ขาดทุนจากการขายลูกหนี้ 10,000 เครดิต ลูกหน้ีการค้า 250,000 กลับรายการหนสี้ นิ จากการไลเ่ บ้ยี เกบ็ เงนิ จากลกู หน้ที ี่รับซือ้ ไดค้ รบ เดบิต เงนิ สด 12,500 เดบิต เงินประกันคา่ ใช้จ่าย 12,500 เครดติ เงินประกนั ค่าใชจ้ ่าย 12,500 เครดิต เงินสด 12,500 รบั เงนิ ประกันคา่ ใช้จา่ ยคืนจากผ้ซู ื้อลูกหน้ี จ่ายเงินประกันค่าใช้จา่ ยคนื ให้ผู้ขายลูกหน้ี ตัวอยา่ งท่ี 3-12 บริษัท รอ้ ยเอด็ จํากดั การขายลกู หน้ถี ือเปน็ การขาย 2557 ม.ค. 2 บรษิ ัท รอ้ ยเอด็ จาํ กัด ขายบญั ชลี กู หนี้การคา้ ให้บรษิ ัท ยูดแี ฟคเตอริง จาํ กดั 250,000 บาท โดยผู้ขายลูกหนต้ี อ้ งรับผิดชอบในหน้สี ูญ และบญั ชีหนส้ี ูญท่ตี อ้ งรบั ผดิ ชอบ 10,000 บาท บรษิ ทั ยูดแี ฟคเตอริง จํากดั คดิ คา่ ธรรมเนยี มทางการเงนิ 3% และกนั เผ่ือไว้ เปน็ เงินประกนั คา่ ใช้จา่ ยอกี 5% ของยอดลกู หน้กี ารค้า ม.ค.1-31 ลูกหนี้การคา้ นําเงนิ สดมาชาํ ระหนี้ทันเงอื่ นไข บริษทั รอ้ ยเอด็ จํากดั ให้สว่ นลดจา่ ย 2,000 บาท ก.พ.1-28 สินค้าชาํ รุด บริษัท ร้อยเอ็ด จาํ กัด รบั คนื สินค้าจากลูกหน้ีการค้า 6,000 บาท ก.พ. 28 บรษิ ทั ยดู ีแฟคเตอรงิ จาํ กดั เรยี กเกบ็ เงนิ สดได้ 238,500 บาท และมีหน้ีสญู เกิดขน้ึ 3,500 บาท มี.ค. 1 บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด ส่งเงินประกันค่าใช้จ่ายท่ีเหลือคืน ให้บริษัท ร้อยเอ็ด จาํ กัด ใหท้ า บันทกึ บญั ชใี นสมดุ รายวันทัว่ ไปของทงั้ สองบริษัท

118 สมดุ รายวนั ทั่วไป พ.ศ.2557 บรษิ ทั ร้อยเอด็ จากดั – ผ้ขู ายลูกหน้ี บริษทั ยูดีแฟคเตอริง จากดั – ผูร้ บั ซอ้ื ลูกหน้ี ม.ค. 2 เดบติ เงินสด 230,000 เดบิต ลกู หน้กี ารค้า 250,000 เดบิต เงินประกันค่าใชจ้ า่ ย 12,500 เครดติ เงนิ ประกันค่าใชจ้ า่ ย 12,500 เดบติ ขาดทนุ จากการขายลูกหนี้ 7,500 เครดติ รายไดค้ า่ ธรรมเนียม 7,500 เครดติ ลูกหนี้การค้า 250,000 เครดิต เงินสด 230,000 ขายบัญชลี ูกหนีก้ ารค้าแบบไลเ่ บีย้ ได้ รับซ้อื ลกู หนก้ี ารคา้ แบบไล่เบย้ี ได้ เดบิต ขาดทุนจากการขายลูกหน้ี 10,000 เครดติ หน้ีสูญทีต่ ้องรบั ผิดชอบ 10,000 บันทึกหน้ีสนิ จากการไล่เบย้ี ม.ค.1-31 เดบติ สว่ นลดจา่ ย 2,000 ไมบ่ นั ทึกบญั ชี เครดติ เงนิ ประกนั คา่ ใชจ้ ่าย 2,000 บนั ทึกให้สว่ นลดจา่ ยแกล่ กู หนก้ี ารค้า ก.พ. 1-28 เดบิต รบั คนื สนิ คา้ และสว่ นลด 6,000 ไมบ่ นั ทกึ บัญชี เครดติ เงินประกันคา่ ใช้จา่ ย 6,000 บันทึกรบั คนื สนิ คา้ จากลูกหน้ีการคา้ ก.พ. 28 เดบิต คา่ เผอื่ หน้สี งสัยจะสูญ 3,500 เดบติ เงินสด 238,500 เครดิต เงินประกนั ค่าใชจ้ ่าย 3,500 เดบิต เงินประกนั ค่าใช้จา่ ย 11,500 บนั ทึกตดั จาํ หน่ายลกู หนี้เป็นสญู เครดติ ลูกหนก้ี ารค้า 250,000 เดบติ หน้สี ญู ทต่ี อ้ งรบั ผดิ ชอบ 10,000 เก็บเงินจากลกู หนี้ที่รับซ้อื ไดเ้ งินไม่ครบเน่ืองจาก เครดิต ขาดทนุ จากการขายลูกหนี้ 10,000 รายการรบั คนื และสว่ นลดจา่ ยและหนสี้ ูญ ปดิ บญั ชหี น้ีสญู ที่ต้องรบั ผิดชอบ (250,000-2,000-6,000-3,500=238,500 ) มี.ค. 1 เดบติ เงินสด 1,000 เดบติ เงนิ ประกันค่าใชจ้ า่ ย 1,000 เครดติ เงินประกันค่าใชจ้ ่าย 1,000 เครดติ เงินสด 1,000 รับเงนิ ประกนั ค่าใชจ้ า่ ยคืนจากผู้ซอ้ื ลกู หน้ี จา่ ยเงินประกนั คา่ ใช้จา่ ยคนื ใหผ้ ้ขู ายลูกหน้ี (12,500 – 11,500 = 1,000 )

119 ตัวอยา่ งท่ี 3-13 บริษทั รอ้ ยเอ็ด จํากดั กรณกี ารขายลกู หนถ้ี อื เปน็ การกู้ยืม 2557 ม.ค. 1 บริษัท ร้อยเอ็ด จํากัด ขายบัญชีลูกหน้ีการค้า ให้บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด 250,000 บาท โดยผู้ขายลกู หนตี้ อ้ งรับผิดชอบในหนีส้ ญู และบัญชหี นี้สูญที่ตอ้ งรับผิดชอบ10,000 บาท บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด คิดค่าธรรมเนียมทางการเงิน 3% และกันเผ่ือไว้เป็นเงิน ประกันค่าใชจ้ ่ายอีก 5% ของยอดลูกหนกี้ ารค้า ม.ค.1-31 ลูกหน้กี ารค้านาํ เงินสดมาชาํ ระหนี้ทนั เงอ่ื นไข บรษิ ทั รอ้ ยเอด็ จํากัด ใหส้ ว่ นลดจ่าย 2,000 บาท ก.พ.1-28 สินค้าชํารุด บริษทั ร้อยเอ็ด จาํ กัด รบั คนื สินคา้ จากลกู หนีก้ ารค้า 6,000 บาท ก.พ. 28 บริษทั ยูดแี ฟคเตอริง จํากัด เรียกเกบ็ เงนิ สดได้ 238,500 บาท และมีหนส้ี ญู เกิดขึ้น 3,500 บาท มี.ค. 1 บริษัท ยูดีแฟคเตอริง จํากัด ส่งเงินประกันค่าใช้จ่ายที่เหลือคืน ให้บริษัท ร้อยเอ็ด จาํ กัด ใหท้ า บันทึกบัญชใี นสมุดรายวนั ท่วั ไปของท้ังสองบริษัท พ.ศ.2557 บรษิ ัท รอ้ ยเอด็ จากดั – ผูก้ ู้ บรษิ ทั ยดู ีแฟคเตอริง จากดั – ผู้ใหก้ ู้ ม.ค. 1 เดบติ เงนิ สด 230,000 เดบติ ลูกหนเ้ี งนิ กู้ 250,000 เดบิต เงนิ ประกันคา่ ใช้จ่าย 12,500 เครดิต เงนิ ประกนั คา่ ใชจ้ า่ ย 12,500 เดบติ ส่วนลดจากการกยู้ ืม เครดติ ดอกเบีย้ รับลว่ งหนา้ 7,500 7,500 เครดิต เงนิ กู้ 250,000 เครดติ เงนิ สด 230,000 ก้ยู มื เงินโดยใช้ลูกหนี้เปน็ หลกั ประกัน ใหก้ ูย้ ืมเงินรบั ลกู หนเ้ี ป็นหลักประกนั ม.ค. 1-31 เดบิต สว่ นลดจ่าย 2,000 ไมบ่ นั ทกึ บัญชี เครดติ ลูกหนก้ี ารคา้ 2,000 บนั ทึกใหส้ ่วนลดจ่ายแก่ลกู หนีก้ ารค้า ก.พ. 1-28 เดบติ รับคนื สนิ ค้าและสว่ นลด 6,000 ไมบ่ นั ทกึ บัญชี เครดติ ลกู หนกี้ ารค้า 6,000 บนั ทกึ รับคนื สนิ คา้ จากลูกหนกี้ ารค้า

120 พ.ศ.2557 บรษิ ทั ร้อยเอด็ จากดั – ผู้กู้ บรษิ ัท ยดู แี ฟคเตอรงิ จากัด – ผูใ้ หก้ ู้ ก.พ. 28 เดบิต คา่ เผ่อื หนส้ี งสัยจะสูญ 3,500 เดบติ เงนิ สด 238,500 เครดติ ลกู หนกี้ ารคา้ 3,500 เดบิต เงินประกันคา่ ใชจ้ ่าย 11,500 บนั ทกึ ตัดจําหนา่ ยลกู หน้ีเป็นสญู เครดิต ลกู หนี้เงินกู้ 250,000 เดบติ เงนิ กู้ เก็บเงินจากลูกหนี้เงินกู้ ได้เงินไม่ครบเน่ืองจาก 11,500 เครดิต เงนิ ประกนั ค่าใชจ้ า่ ย 11,500 รายการรับคนื และสว่ นลดจา่ ยและหนี้สูญ บันทึกลดยอดเงินประกันค่าใช้จ่ายเพราะมี (250,000-2,000-6,000-3,500=238,500 ) รายการรับคนื สว่ นลดจา่ ยและหน้ีสญู เดบติ เงนิ กู้ 238,500 เครดิต ลูกหน้ีการคา้ 238,500 เก็บเงินจากลูกหนี้การค้าได้แล้วนําเงินไปใช้หน้ี เงนิ กู้ เดบติ ดอกเบย้ี จา่ ย 7,500 เครดิต ส่วนลดจากการกู้ยมื 7,500 บนั ทึกดอกเบ้ยี จา่ ย มี.ค. 1 เดบติ เงินสด 1,000 เดบิต เงนิ ประกันคา่ ใชจ้ า่ ย 1,000 เครดติ เงินประกันค่าใชจ้ า่ ย 1,000 เครดติ เงนิ สด 1,000 รบั เงนิ ทป่ี ระกนั ค่าใชจ้ า่ ยคืนจากผซู้ ื้อลกู หนี้ จา่ ยเงนิ ประกันคา่ ใชจ้ า่ ยคืนใหผ้ ูข้ ายลูกหนี้ (12,500 – 11,500 = 1,000 ) เดบติ ดอกเบยี้ รบั ลว่ งหน้า 7,500 เครดิต ดอกเบ้ยี รับ 7,500 บันทกึ ดอกเบีย้ รับทเี่ กดิ ขึ้นจริง

121 การกู้ยืมเงิน โดยนาบัญชีลูกหนี้ไปเป็นหลักประกันเงินกู้ยืม (secured borrowing หรือ assignment of accounts receivable) กอบแกว้ รัตนอุบล.(2555: 3-20) กล่าววา่ การกู้ยืมเงินโดยใช้ลูกหน้ีเป็นสินทรัพย์ค้ําประกันการกู้ยืม (Secured Borrowing) ซึ่งอาจ ทําได้โดย 1.1 ใชบ้ ญั ชีลกู หนีโ้ ดยรวมเป็นสินทรัพยค์ ้ําประกนั (Pledging) 1.2 ใชบ้ ัญชลี ูกหนี้เฉพาะบญั ชใี ดบญั ชหี นง่ึ เปน็ สินทรพั ย์ค้ําประกัน (Assignment) ลูกหนย้ี งั คงเปน็ สินทรพั ย์ของกจิ การผู้กูย้ มื กิจการผู้กู้ยืมยังคงต้องรับภาระเก่ียวกับการรับ คนื สนิ คา้ หนส้ี ญู และส่วนใหญ่แล้วมักจะยังเป็นผูต้ ิดตามเก็บหนจ้ี ากลูกหน้ี ตามความเห็นดังกล่าว เม่ือกิจการมีความจําเป็นต้องใช้เงิน กิจการไปขอกู้ยืมเงินจาก บุคคลอื่น เรียกว่า \"ผู้ให้กู้ยืม\" และกิจการจะกลายเป็น “ผู้กู้ยืม” ซึ่งจะต้องตกลงว่าจะใช้คืนใน กําหนดเวลาใด ตามวิธีน้ีกิจการจะทําการกู้ยืมเงินตามปกติ เพียงแต่ กิจการจะนําบัญชีลูกหนี้ การค้าของกิจการไปเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน กิจการจะกลายเป็นผู้กู้และกิจการจะบันทึก การกู้ยืมและดอกเบ้ียจ่ายตามปกติ และกิจการในฐานะผู้กู้ยืมยังปฏิบัติตามปกติ ได้แก่ การเก็บ เงินจากลกู หนก้ี ารค้า การรบั คืนสนิ คา้ การให้สว่ นลดจ่ายและการรับผิดชอบเรื่องหน้ีสูญ เม่ือถึงวัน ครบกําหนดชําระหนี้กิจการจะต้องไปเก็บเงินจากลูกหน้ีการค้าเองและจะต้องนําเงินท่ีเก็บจาก ลูกหน้ีการค้าได้น้ีไปชําระคืนให้ผู้ให้กู้ และกิจการต้องเปิดเผยข้อมูลในหมายเหตุประกอบงบ การเงิน เพือ่ ใหผ้ ใู้ ชง้ บการเงินทราบว่ากิจการได้นําบัญชีลูกหน้ีการค้าของกิจการไปเป็นหลักทรัพย์ ค้ําประกันเงนิ กู้เรียบร้อยแลว้

122 ตัวอย่างที่ 3-14 บริษัท บางกะปิ จํากัด กู้ยืมเงินจากธนาคาร โดยใช้บัญชีลูกหน้ีการค้าเป็น หลกั ประกันในการก้ยู มื เงนิ 2557 ก.ค. 1 บริษัท บางกะปิ จํากัด ได้นําบัญชีลูกหน้ี 700,000 บาท ไปให้ธนาคารพาณิชย์ ไทย เป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินจํานวน 500,000 บาท โดยลูกหน้ียังคงเป็น ของบริษัท บางกะปิ จํากัด ธนาคารพาณิชย์ไทยคิดค่าธรรมเนียม 1% ของลูกหนี้ ธนาคารพาณิชย์ไทยคิดดอกเบ้ีย 12 %ต่อปี ข้อตกลงระหว่างกันคือ บริษัท บาง กะปิ จํากดั จะชําระเงนิ ทกุ เดือนเมอ่ื เกบ็ เงินสดจากลกู คา้ ได้ ก.ค. 31 รับชําระเงินจากลูกหน้ีการค้า 454,000 บาท เกิดส่วนลดจ่าย 6,000 บาท รับคืน สนิ ค้าและส่วนลด 14,000 บาท ส.ค. 1 นาํ เงนิ สดไปชําระหนเี้ งินกู้ยืม ส.ค. 31 รับชาํ ระเงนิ จากลูกหน้ี และลกู หนี้จาํ นวนหนึง่ เกบ็ ไมไ่ ด้จาํ นวน 2,000 บาท ก.ย. 1 จา่ ยชําระเงินกูย้ มื พร้อมดอกเบ้ีย การบันทกึ บญั ชกี ารกยู้ ืมเงนิ ของบรษิ ทั บางกะปิ จํากัด มดี ังน้ี สมุดรายวันทั่วไป บริษัท บางกะปิ จํากัด หน้า ....30 พ.ศ. รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต 2557 บัญชี ก.ค. 1 เงินสด 493,000 คา่ ธรรมเนยี ม (บัญชีลูกหนี้ 700,000x1%) 7,000 เงินกู้ยืม 500,000 กูย้ ืมเงินโดยนําลกู หนีเ้ ปน็ หลกั ทรัพยค์ า้ํ ประกนั 31 เงินสด 434,000 ส่วนลดจา่ ย 6,000 รบั คืนและสว่ นลด 14,000 ลูกหนี้การค้า 454,000 รับชําระเงินจากลูกหน้ี 454,000 บาท เกิด สว่ นลดจ่ายและรับคนื สินค้า

123 สมุดรายวันท่วั ไป บรษิ ทั บางกะปิ จาํ กัด หนา้ ....30 พ.ศ. รายการ เลขท่ี เดบิต เครดิต 2557 บัญชี ส.ค. 1 เงินกูย้ มื 434,000 ดอกเบ้ยี จ่าย (500,000x12%x1/12) 5,000 เงินสด 439,000 นาํ เงินสดไปชาํ ระหนเ้ี งนิ ก้ยู ืม 31 เงินสด 244,000 ค่าเผอื่ หนีส้ งสัยจะสูญ 2,000 ลูกหน้ีการคา้ (700,000-454,000) 246,000 รับชําระเงินจากลูกหน้ี และลูกหน้ีจํานวนหน่ึง เกบ็ ไม่ได้ ก.ย. 1 เงนิ กู้ยมื (500,000-434,000) 66,000 ดอกเบย้ี จ่าย ( 66,000x12%1/12) 660 เงนิ สด 66,660 จ่ายชําระเงนิ กู้ยืมพร้อมดอกเบย้ี จากการบันทึกบัญชีการนําลูกหน้ีการค้าไปเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน กิจการต้อง แสดงบัญชีเงินกู้ยืมเป็นหนี้สินในงบแสดงฐานะการเงิน และกิจการต้องเปิดเผยข้อมูลในการนํา ลูกหนี้ไปเปน็ หลกั ประกนั ในการกู้ยมื เงินนี้ ในหมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ อีกด้วย เชน่ 1. จาํ นวนลกู หนี้การค้าท่ีนาํ ไปเป็นหลกั ประกัน 2. ระยะเวลาในการกยู้ ืม 3. เงอ่ื นไขอนื่ ๆ (ถา้ ม)ี

124 ตวั๋ เงินรบั ( Notes Receivable) ความหมายและประเภทของต๋ัวเงินรับ ตามปกติของการดําเนินกิจการ กิจการมักจะไม่คิดดอกเบ้ียกับลูกหน้ีการค้า และเมื่อครบ กําหนดชําระหน้ีกิจการต้องได้รับชําระหนี้จากลูกหนี้การค้าเป็นเงินสด แต่ในบางคร้ังเมื่อครบ กําหนดลูกหน้ีอาจไม่สามารถชําระเงินสดให้กับกิจการได้ หมายความว่าลูกหนี้อาจขอเพ่ิม ระยะเวลาในการชําระหนอี้ อกไปอกี กิจการจงึ ต้องพิจารณาใหม่ว่ากิจการควรคิดดอกเบ้ียหรือควร จัดทําเอกสารหลักฐานท่ีชัดเจนขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ในทางปฏิบัตินิยมให้ลูกหนี้การค้า จัดทําตัว๋ เงนิ ทม่ี ีความชัดเจนแล้วมอบใหก้ ับกจิ การเพ่อื เปน็ หลกั ฐานในการเปน็ หน้ี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (2558: 313,316,345)ให้ความหมายของต๋ัวเงินและ เชค็ ดงั นี้ มาตรา 898 อันต๋ัวเงินตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้ มีสามประเภทๆ หน่ึงคือ ต๋ัวแลก เงิน ประเภทหนึง่ คือ ตวั๋ สญั ญาใช้เงนิ ประเภทหนงึ่ คือ เช็ค มาตรา 908 อนั ว่าตว๋ั แลกเงนิ น้ันคอื หนังสอื ตราสารซ่ึงบุคคลคนหน่งึ เรียกว่าผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลอีก คนหนง่ึ เรยี กว่า ผจู้ ่าย ให้ใช้เงินจาํ นวนหนึง่ แก่บุคคลคนหนงึ่ หรอื ให้ใชต้ ามคําสั่งของบุคคลคนหน่ึง ซ่ึงเรียกว่าผรู้ ับเงิน” มาตรา 909 อนั ตวั๋ แลกเงนิ นั้น ต้องมีรายการดงั กล่าว ต่อไปนี้ คือ (1) คําบอกชื่อว่าเป็นตั๋วแลกเงิน (2) คาํ ส่ังอันปราศจากเงื่อนไขใหจ้ า่ ยเงนิ เปน็ จํานวนแนน่ อน (3) ชื่อหรือยหี่ อ้ ผ้จู า่ ย (4) วนั ถึงกําหนดใชเ้ งนิ (5) สถานที่ใชเ้ งิน (6) ช่ือหรือยี่หอ้ ผรู้ บั เงนิ หรือคําจดแจง้ วา่ ใหใ้ ช้เงินแก่ผถู้ ือ (7) วันและสถานทอี่ อกต๋ัวเงิน (8) ลายมอื ชื่อผู้ส่งั จา่ ย” มาตรา 982 อันว่าต๋ัวสัญญาใช้เงินน้ัน คือหนังสือตราสารซ่ึงบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้ออกต๋ัว ให้ คําม่ันสัญญาว่าจะใช้เงินจํานวนหนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคําส่ังของบุคคลอีกคน หนงึ่ เรียกวา่ ผรู้ ับเงิน

125 มาตรา 983 ตั๋วสญั ญาใชเ้ งินน้ัน ต้องมีรายการด่ังกล่าวต่อไปน้ี คอื (1) คําบอกช่ือวา่ เป็นตว๋ั แลกเงิน (2) คํามน่ั สญั ญาอันปราศจากเงื่อนไขวา่ จะใช้เงนิ เป็นจํานวนแน่นอน (3) วนั ถึงกาํ หนดใชเ้ งิน (4) สถานท่ีใชเ้ งนิ (5) ช่ือหรือย่ีหอ้ ผู้รบั เงนิ หรอื คําจดแจง้ ว่าให้ใช้เงนิ แก่ผถู้ ือ (6) วนั และสถานที่ออกตัว๋ สญั ญาใช้เงนิ (7) ลายมอื ช่ือผู้ออกตว๋ั มาตรา 987 อันว่าเช็คน้ันคือหนังสือตราสารซึ่งบุคคลคนหน่ึงเรียกว่า ผู้ส่ังจ่าย สั่งธนาคารให้ใช้ เงนิ จํานวนหน่งึ เม่อื ทวงถามใหแ้ ก่บุคคลอีกคนหน่ึง อันเรียกวา่ ผู้รบั เงิน มาตรา 988 อนั เชค็ น้นั ตอ้ งมรี ายการดัง่ ต่อไปนคี้ อื (1) คําบอกช่อื วา่ เปน็ เชค็ (2) คาํ สงั่ อันปราศจากเงอ่ื นไขให้ใชเ้ งนิ เปน็ จาํ นวนแน่นอน (3) ชอ่ื หรือยห่ี ้อและสาํ นักงานของธนาคาร (4) ชอ่ื หรอื ย่หี อ้ ของผู้รบั เงนิ หรอื คาํ จดแจ้งวา่ ให้ใชเ้ งนิ แกผ่ ู้ถอื (5) สถานทใ่ี ช้เงนิ (6) วันและสถานทอี่ อกเช็ค (7) ลายมอื ชอ่ื ผสู้ ่ังจ่าย จะเหน็ ว่า ตั๋วเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ สามารถแบง่ ได้ 3 ประเภท คอื 1. ตัว๋ แลกเงิน (Bill of exchange) 2. ตั๋วสญั ญาใชเ้ งนิ (Promissory Notes) 3. เชค็ (cheque)

126 ตั๋วแลกเงนิ ................................. ( สถานท่ีออกตวั๋ ) ............................. ( วันออกตว๋ั ) คุณสอง ( ผู้จา่ ย ) เมื่อเห็นตวั๋ แลกเงนิ ฉบับน้ี โปรดจา่ ยเงนิ 100,000 บาท ( หนง่ึ แสนบาทถว้ น ) ให้แก่ คณุ สาม ( ผู้รบั เงนิ ) หรอื ตามคาํ สง่ั ของคุณสาม หนง่ึ ( ผสู้ งั่ จา่ ย ) ภาพที่ 3.4 ตัวอยา่ งต๋ัวแลกเงิน ตามตัวอย่างตว๋ั แลกเงนิ มีบคุ คลทเี่ กยี่ วข้อง 3 ฝ่าย คอื 1. คุณหนง่ึ เปน็ ผ้สู ั่งจา่ ย 2. คณุ สอง เปน็ ผจู้ ่าย 3. คุณสาม เป็น ผรู้ ับเงนิ ต๋วั สัญญาใชเ้ งิน ................................. ( สถานท่อี อกตัว๋ ) ................................ ( วันออกตวั๋ ) ขา้ พเจ้าขอสัญญาวา่ จะจา่ ยเงินจาํ นวน 100,000 บาท ( หนึ่งแสนบาทถ้วน ) ให้แก่คณุ หนงึ่ ( ผ้รู ับเงนิ ) หรือตามคาํ สั่งภายใน 3 เดอื น นบั แตว่ นั ออกตวั๋ สาม ( ผ้จู า่ ย หรือ ผสู้ ่ังจ่าย ) ภาพท่ี 3.5 ตัวอย่างตั๋วสัญญาใช้เงิน ตามตัวอย่างตั๋วสัญญาใช้เงิน มบี ุคคลท่ีเกยี่ วข้อง 2 ฝ่าย คือ 1. คุณสาม เป็นผจู้ ่ายเงิน 2. คุณหนึง่ เป็นผู้รับเงิน

127 ภาพที่ 3.6 ตวั อย่างเช็ค ตามตัวอย่างเช็ค มบี คุ คลทเี่ ก่ยี วข้องอยู่ 3 ฝ่าย คอื 1. มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอดุ รธานี เปน็ ผ้สู ่งั จ่าย 2. ธนาคารกรุงไทย เปน็ ผจู้ ่าย 3. นางสาวขนิษฐา ศักด์สิ ุรยี ม์ งคล เป็น ผรู้ บั เงนิ จากความหมายของตว๋ั เงนิ ตามที่กฎหมายกาํ หนด อาจกลา่ วได้ว่า ต๋ัวเงิน คือ สัญญาในการเป็นหน้ีระหว่างกัน ซ่ึงจะถูกทําขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย จํานวนเงินท่ีแน่นอน และภายในเวลาท่ีกําหนด รายละเอียดในตั๋วเงินนั้นจะแตกต่างกันไปตามที่ กฎหมายกาํ หนด ตว๋ั เงินในทางบญั ชี แบง่ เปน็ ต๋ัวเงินรบั คอื หนงั สือตราสารทีล่ กู หนเ้ี ป็นผู้ออกให้ เพ่ือรอรับเงนิ ตามเวลาทร่ี ะบใุ นตว๋ั เงิน ต๋ัวเงินจ่าย คือ หนังสือตราสารที่ลูกหนี้เป็นผู้ออกไว้ เพ่ือรอจ่ายเงินตามเวลาที่ระบุในตั๋ว เงิน แต่รายละเอียดทีส่ ําคัญในการบันทกึ บญั ชีคือ 1. เงินตน้ คือจํานวนเงินที่จะได้รบั ชาํ ระหรอื ตอ้ งจา่ ยชาํ ระ 2. อตั ราดอกเบีย้ จะถกู กําหนดเปน็ รอ้ ยละตอ่ หน่งึ ปี 3. วนั ท่ีครบกาํ หนดใชเ้ งิน อาจกําหนดเป็น ปี เดือน หรือ วัน แลว้ แต่จะตกลงกัน

128 วนั ถึงกาหนดใชเ้ งนิ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ (2558: 318) กาํ หนดวา่ มาตรา 913 กําหนดว่า “อันวันถึงกําหนดของต๋ัวแลกเงินน้ัน ท่านว่าย่อมเป็นอย่างใด อยา่ งหน่ึงด่งั กล่าวตอ่ ไปนค้ี อื (1) ในวนั ใดวันหน่ึงทก่ี าํ หนดไว้ หรอื (2) เมือ่ สิ้นระยะเวลาอนั กําหนดไว้นบั แตว่ ันท่ีลงในตั๋วน้ัน หรือ (3) เมื่อทวงถาม หรอื เม่อื ไดเ้ หน็ หรอื (4) เมอ่ื สน้ิ ระยะเวลาอนั กําหนดไว้ นับแตไ่ ดเ้ หน็ ” ตามที่กฎหมายกําหนด จะเห็นได้ว่าการกําหนดระยะเวลาในการชําระหน้ี ควรกําหนดให้ ชดั เจน ดงั น้ี 1. ต๋วั มอี ายเุ ปน็ ปี วิธีการนบั คือ วนั ทคี่ รบกาํ หนดจะตรงกับวันท่เี ดิม เดือนเดมิ แต่เปน็ ปี ถดั ไปเช่น ตว๋ั เงินลงวนั ท่ี 5 พ.ย. 2557 ตัว๋ อายุ 1 ปี วันครบกําหนดคือวันท่ี 5 พ.ย. 2558 2. ต๋ัวมีอายุเป็นเดือน วิธีการนับคือ วันท่ีครบกําหนดจะตรงกับวันที่เดิม เดือนถัดไป โดยถือเกณฑ์ว่า 1 เดือนมีค่าเท่ากันหมดไม่ว่าจะเป็นเดือนท่ีลงท้ายด้วยคมหรือเดือนท่ีลงท้าย ด้วยยนก็ตาม เช่น ตั๋วเงินลงวันที่ 5 พ.ย. 2557 ตั๋วอายุ 3 เดือน วันครบกําหนดคือวันท่ี 5 ก.พ. 2558 3. ตั๋วมีอายุเป็นวัน การกําหนดอายุต๋ัวเป็นวัน จะมีความละเอียดมากที่สุด วิธีการนับ คือ “ให้นับวันถัดจากวันท่ีระบุในต๋ัวและนับวันท่ีต๋ัวเงินครบกําหนดด้วย” ซ่ึงตามปกติ 1 ปี มี 365 วนั แต่เพอ่ื ความสะดวกในการคํานวณอาจใช้ 360 วันแทนได้ เช่น ตั๋วเงินลงวันที่ 5 พ.ย. 2557 ต๋ัว อายุ 90 วนั วนั ครบกําหนดคือวนั ท่ี 3 ก.พ. 2558 ซ่งึ วธิ ีการนบั วันจะเป็นดงั นี้ - จํานวนวนั ในเดอื น พ.ย. (30 – 5) 25 วนั - จาํ นวนวันในเดือน ธ.ค. 31 วนั - จํานวนวันในเดือน ม.ค. 31 วนั - จาํ นวนวันในเดอื น ก.พ. 3 วัน 90 วัน รวม

129 การคานวณดอกเบย้ี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (2558: 317) กําหนดว่า มาตรา 911 กําหนดว่า “ ผู้สง่ั จ่ายจะเขียนข้อความกําหนดลงไว้ว่าจํานวนเงินอันจะพึงใช้ นน้ั ใหค้ ดิ ดอกเบย้ี ดว้ ยกไ็ ด้ และในกรณเี ชน่ นน้ั ถ้ามิได้กล่าวลงไว้เป็นอย่างอ่ืน ท่านว่าดอกเบ้ียต้อง คดิ แตว่ ันทลี่ งในต๋ัวเงนิ ” ตามข้อกําหนดของกฎหมาย เม่ือมีการเพิ่มระยะเวลาในการเป็นหน้ีให้กับลูกหนี้ออกไปอีก กิจการควรได้รบั ผลตอบแทนจากลกู หนีค้ ือ ดอกเบ้ียรบั เปน็ รายได้ของกิจการนอกเหนือจากเงินต้น ที่ลูกหนไี้ ด้กอ่ ขน้ึ กฎหมายกําหนดว่า สามารถกาํ หนดดอกเบยี้ ลงไปบนต๋ัวดว้ ยกไ็ ด้ อํานวย ศรีสโุ ข (2545: 99) ให้สูตรการคาํ นวณดอกเบ้ีย ดังน้ี ดอกเบยี้ ตว๋ั เงิน = จานวนเงนิ หน้าต๋วั x อัตราดอกเบย้ี x ระยะเวลาที่กาหนด เช่น ตัว๋ เงนิ จํานวน 12,000 บาท อตั ราดอกเบี้ย 10 % ต่อปี วันทร่ี ะบุในต๋วั 1 ม.ค. 2557 1. ต๋วั อายุ 1 ปี วนั ครบกาํ หนดจะเปน็ วนั ที่ 1 ม.ค. 2558 คํานวณไดโ้ ดย = 12,000 x 10 % x 1 ปี = 1,200 บาท 2. ต๋ัวอายุ 3 เดือน วันครบกําหนดจะเป็นวันที่ 1 เม.ย. 2557 คํานวณได้โดย = 12,000 x 10 % x (3 เดือน / 12 เดือน) = 300 บาท 3. ต๋วั อายุ 90 วัน วันครบกําหนดจะเปน็ วนั ท่ี 1 เม.ย. 2557 คํานวณได้โดย = 12,000 x 10 % x (90 วัน / 360 วนั ) = 300 บาท หมายเหตุ : 1. 1 ปี มี 360 วนั แตเ่ พอ่ื ความสะดวกในการคํานวณมกั ใช้ 365 วนั 2. เดอื นกุมภาพนั ธน์ บั จาํ นวนเพยี ง 28 วัน เพราะ 29 วนั 4 ปมี จี ํานวนหน่งึ ครง้ั ผลตอบแทนท่ีเกิดจากการเพิ่มระยะเวลาในการเป็นหน้ี คือ ดอกเบี้ยรับ นั้น ในการจัดทํา ต๋วั เงินยงั สามารถแบ่งออกเปน็ 2 ประเภทตามข้อตกลงเรอื่ งอัตราดอกเบ้ียอีกดว้ ย

130 ชนดิ ของตวั๋ เงนิ รับ บุญเสริม วิมุกตะนันท์ และคณะ (2556: 112) กล่าวว่า ประเภทของตั๋วเงินรับ แบ่งได้ 2 ชนดิ คือ 1. ต๋ัวเงินชนิดมีดอกเบี้ยหรือต๋ัวเงินรับชนิดระบุอัตราดอกเบี้ยบนต๋ัว (Interest- bearing Notes) ต๋ัวเงินรับประเภทน้ีจะระบุอัตราเงินต้นอัตราดอกเบี้ยและวันครบกําหนดชําระไว้ บนหน้าต๋ัวเมื่อถึงกําหนด ผู้รับเงินตามตั๋วจะได้รับชําระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ กําหนดไวบ้ นตั๋ว 2. ต๋ัวเงินชนิดไม่มีดอกเบี้ยหรือตั๋วเงินรับชนิดไม่ระบุอัตราดอกเบ้ียบนต๋ัว หรือ รวมดอกเบ้ียไว้บนหน้าต๋ัว (Non- Interest bearing Notes) ตั๋วเงินรับประเภทน้ีจะไม่ระบุ อตั ราดอกเบยี้ ไว้บนตว๋ั แต่จะแสดงจํานวนเงินต้นรวมดอกเบยี้ ไว้” ตามความหมายข้างต้น จะเห็นวา่ ตัว๋ เงินยงั สามารถแบ่งตามชนิดของดอกเบี้ยได้อีกเป็น 2 ประเภท คอื 1. ต๋ัวเงินระบุดอกเบี้ย หมายถึง ต๋ัวเงินท่ีระบุจํานวนเงินไว้ในต๋ัว และได้กําหนดอัตรา ดอกเบ้ียไว้อย่างชัดเจนบนต๋ัวเงิน เมื่อถึงวันครบกําหนด จะมีดอกเบี้ยเกิดข้ึนต่างหากจากที่ระบุไว้ หน้าตั๋ว ซ่ึงมูลค่าของดอกเบ้ียจะขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยที่กําหนดและระยะเวลาที่กําหนดไว้ด้วย เชน่ กนั 2. ตั๋วเงินไม่ระบุดอกเบ้ีย หมายถึง ตั๋วเงินที่ระบุจํานวนเงินไว้ในต๋ัว และไม่ได้กําหนด อัตราดอกเบี้ยไว้บนตั๋วเงิน เมื่อถึงวันครบกําหนด จะไม่มีดอกเบ้ียเกิดข้ึนต่างหาก แต่มูลค่าของ ดอกเบีย้ จะถกู รวมอยู่ในจาํ นวนเงนิ ในต๋ัวเงิน ในรายวชิ าบัญชีช้ันกลาง 1 จะกล่าวถึงเฉพาะ “สินทรัพย์” เท่าน้ัน ทําให้ ต๋ัวเงินที่จะกล่าว ตอ่ ไป จะกลา่ วถงึ เฉพาะ “ตวั๋ เงินรับ”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook