180 บรษิ ทั สนั ทราย จากัด งบกาไรขาดทุน (บางส่วน) สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี ส้ินสุด วันท่ี 31 ธนั วาคม 2557 รายไดอ้ ่นื กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ 2,650 กาไรทย่ี งั ไมเ่ กดิ ข้ึนในหลกั ทรพั ย์เพ่ือคา้ 750 คา่ ใชจ้ า่ ยอ่ืน ขาดทุนจากการขายหลกั ทรัพย์ - ขาดทุนทยี่ งั ไม่เกดิ ขึ้นในหลกั ทรพั ย์เพ่อื คา้ 1,500 บรษิ ทั สันทราย จากัด xxx งบแสดงฐานะการเงนิ (บางสว่ น) 161,000 ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 2557 สนิ ทรัพย์ สินทรพั ยห์ มนุ เวียน เงินสด เงนิ ลงทุนช่ัวคราว หลกั ทรัพยเ์ พ่อื ค้า (94,500+66,500*) *หลักทรัพย์เพือ่ ค้า เปน็ ของ บมจ. แมแ่ จม่ และ บมจ. ดอยสะเกด็ การผ่านรายการจากสมดุ รายวันท่วั ไป ไปยงั สมุดแยกประเภท เฉพาะบญั ชี หลกั ทรัพยเ์ พื่อค้า บัญชี หลักทรัพย์เพอ่ื คา้ เลขท่บี ัญชี 104 หนา้ เครดิต พ.ศ. รายการ หน้า เดบติ พ.ศ. รายการ บญั ชี บาท - 2558 บัญชี บาท - 2558 ม.ค. 1 ยอดยกมา 161,000 (94,500+66,500)
181 บรษิ ัท สนั ทราย จากัด 300 งบกาไรขาดทุน (บางสว่ น) - สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี ส้ินสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2558 รายไดอ้ ืน่ 100 กาไรจากการขายหลกั ทรัพย์ - กาไรทย่ี ังไมเ่ กดิ ข้ึนในหลกั ทรพั ยเ์ พอื่ คา้ คา่ ใชจ้ า่ ยอ่ืน ขาดทนุ จากการขายหลกั ทรพั ย์ ขาดทุนทีย่ งั ไม่เกิดขน้ึ หลักทรัพย์เพื่อคา้ บริษทั สันทราย จากัด งบแสดงฐานะการเงิน (บางส่วน) ณ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2558 สนิ ทรพั ย์ สินทรพั ย์หมนุ เวยี น เงินสด xxx เงินลงทนุ ชว่ั คราว - หลกั ทรัพย์เพอ่ื คา้ การบนั ทกึ บัญชีในสมดุ รายวนั ท่ัวไป โดยปรบั เงินลงทุนใหเ้ ป็นมูลคา่ ยตุ ธิ รรม (ปรบั ผา่ นบัญชีคา่ เผ่อื การปรับมลู ค่าเงินลงทุน) การปรับเงินลงทุนให้เป็นมูลค่ายุติธรรมสามารถบันทึกบัญชีและนาเสนอในงบการเงินได้ อกี 1 วธิ ี คือ เปิดบัญชี “คา่ เผอ่ื การปรบั มูลค่าเงินลงทุน” ขึ้นมาแทนบัญชี “หลักทรัพย์เพ่ือค้า” เพื่อ บัญชี “หลักทรัพย์เพื่อค้า” จะได้แสดงมูลค่าเดิมตามท่ีได้บันทึกไว้ต้ังแต่แรก ตามท่ีมาตรฐานการ บัญชีกาหนด ดงั นี้
182 สมดุ รายวันทว่ั ไป - บรษิ ัท สันทราย จากัด หน้า....32 เครดิต วนั เดือนปี รายการ เลขที่ เดบิต 750 2557 บัญชี 1,500 ธ.ค. 31 ค่าเผื่อการปรบั มูลค่าเงินลงทนุ (94,500– 93,750) 750 93,750 กาไรทย่ี งั ไมเ่ กิดขน้ึ ในหลกั ทรพั ยเ์ พอ่ื ค้า 750 300 ปรบั เงนิ ลงทุนให้เปน็ มลู คา่ ยุตธิ รรม บมจ. แมแ่ จม่ 68,000 ขาดทนุ ทีย่ ังไมเ่ กดิ ข้นึ ในหลกั ทรัพย์เพ่ือค้า 1,500 ค่าเผอื่ การปรับมูลคา่ เงินลงทนุ (68,000 – 66,500) ปรับเงนิ ลงทุนใหเ้ ปน็ มูลคา่ ยุตธิ รรม บมจ.ดอยสะเกด็ 2558 94,800 ม.ค. 5 เงินสด (900 หนุ้ x 105.5 บาท )- 150 บาท) 66,400 หลักทรัพย์เพ่ือคา้ 1,500 ค่าเผอ่ื การปรับมลู คา่ เงินลงทุน กาไรจากการขายหลักทรพั ย์ ขายหลักทรพั ย์เพื่อค้า บมจ. แม่แจ่ม ม.ค. 25 เงินสด (700 หนุ้ x 95 บาท )- 100 บาท) คา่ เผือ่ การปรับมูลค่าเงินลงทุน หลักทรัพย์เพ่ือคา้ ขายหลักทรพั ยเ์ พอ่ื ค้า บมจ. ดอยสะเก็ด
183 บริษทั สนั ทราย จากดั 2,650 750 งบกาไรขาดทุน (บางส่วน) สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี ส้นิ สุด วันท่ี 31 ธันวาคม 2557 - รายไดอ้ ื่น 1,500 กาไรจากการขายหลักทรัพย์ กาไรทยี่ ังไมเ่ กดิ ขนึ้ ในหลกั ทรพั ยเ์ พื่อค้า ค่าใช้จา่ ยอ่นื ขาดทนุ จากการขายหลักทรพั ย์ ขาดทุนที่ยงั ไมเ่ กิดขึ้นในหลักทรพั ย์เพอ่ื คา้ บริษัท สันทราย จากัด งบแสดงฐานะการเงิน (บางสว่ น) ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 2557 สินทรพั ย์ สินทรัพย์หมุนเวียน เงินลงทุนชัว่ คราว หลกั ทรัพย์เพื่อค้า(บมจ.ดอยสะเก็ด) 68,000 หกั ค่าเผ่อื การปรบั มลู คา่ เงนิ ลงทนุ 1,500 66,500 หลักทรัพย์เพ่ือค้า (บมจ. แมแ่ จ่ม ) 93,750 55,000 บวก คา่ เผอ่ื การปรับมูลค่าเงนิ ลงทนุ 750 94,500 การผา่ นรายการจากสมุดรายวันท่ัวไป ไปยังสมดุ แยกประเภท เฉพาะบัญชี หลักทรัพยเ์ พ่อื ค้าและ บญั ชคี า่ เผื่อการปรับมูลคา่ เงินลงทนุ พ.ศ. รายการ บัญชี หลกั ทรัพย์เพือ่ คา้ รายการ เลขที่บัญชี 104 หน้า เดบิต พ.ศ. หน้า เครดิต 2558 บัญชี บาท - 2558 บัญชี บาท - ม.ค. 1 ยอดยกมา 161,000 (94,500+66,500)
184 บญั ชี คา่ เผือ่ การปรับมลู ค่าเงนิ ลงทุน เลขท่บี ัญชี 104.1 พ.ศ. รายการ ห น้ า เดบิต พ.ศ. รายการ ห น้ า เครดิต 2558 บญั ชี บาท - 2558 บัญชี บาท - ม.ค. 1 ยอดยกมา 750 (1,500 - 750) บริษทั สันทราย จากัด 300 งบกาไรขาดทนุ (บางส่วน) - สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี สิ้นสดุ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 รายไดอ้ น่ื 100 กาไรจากการขายหลกั ทรัพย์ - กาไรท่ยี งั ไม่เกิดขึ้นในหลกั ทรพั ย์เพอื่ ค้า ค่าใชจ้ า่ ยอนื่ ขาดทนุ จากการขายหลักทรพั ย์ ขาดทุนทยี่ งั ไมเ่ กดิ ขน้ึ จากการลงทุนในหลกั ทรัพยเ์ พอื่ คา้ บริษทั สันทราย จากัด - งบแสดงฐานะการเงิน (บางสว่ น) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 สนิ ทรัพย์ สนิ ทรพั ยห์ มุนเวยี น เงนิ ลงทนุ ช่วั คราว หลกั ทรพั ย์เพ่อื ค้า
185 ตัวอย่างท่ี 4-3 บริษัท ช้างคลาน จากัด (มหาชน) ลงทุนซ้ือหลักทรัพย์ในกิจการต่างๆ ซ่ึงเป็น หลักทรัพยใ์ นความตอ้ งการของตลาด โดยต้งั ใจจะลงทุนเปน็ หลักทรัพย์เพื่อคา้ การปรับเงินลงทนุ ให้เปน็ มูลค่ายตุ ธิ รรม (ปรับไปท่บี ัญชีเงินลงทนุ ) ดังน้ี 2557 ม.ค. 7 ซื้อหุ้นสามัญ 2,500 หุ้น จากบริษัท สันกาแพง จากัด (มหาชน) ราคาท่ีตราไว้หุ้น ละ 100 บาท ซ้ือในราคาตลาดหุ้นละ 110 บาท เสียค่านายหน้าและ คา่ ธรรมเนยี ม 500 บาท ก.พ. 14 ขายหุ้นสามัญ บริษัท สันกาแพง จากัด (มหาชน) บางส่วน จานวน 800 หุ้น ใน มลู ค่ายุติธรรมหุ้นละ 113 บาท เสยี คา่ นายหนา้ และค่าธรรมเนยี ม 150 บาท เม.ย. 15 ซื้อหุ้นบริษัท สันกาแพง จากัด (มหาชน) เพ่ิมเติมอีก 1,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 104 บาท เสยี ค่านายหน้า 300 บาท พ.ค. 10 ขายหุ้นบริษทั สนั กาแพง จากัด (มหาชน) จานวน 600 หุน้ ในมลู คา่ ยตุ ิธรรมหนุ้ ละ 105 บาท ค่าธรรมเนยี ม 100 บาท คาส่ัง บนั ทกึ บัญชีการซอ้ื -ขายหุ้นสามัญของบรษิ ทั ชา้ งคลาน จากัด
186 การบันทกึ บัญชีในสมดุ รายวนั ท่วั ไป สมดุ รายวันทั่วไป-บริษัท ชา้ งคลาน จากดั หน้า....30 วันเดอื นปี รายการ เลขท่ี เดบิต เครดติ 275,500 2557 บัญชี 2,090 ม.ค. 7 หลักทรพั ย์เพือ่ ค้า (2,500 หุ้น x110 บาท)+500 บาท 275,500 88,160 เงนิ สด 104,300 ก.พ. 14 ซ้ือหลักทรัพยเ์ พ่อื คา้ บมจ. สนั กาแพง 90,250 คานวณราคาตอ่ หนุ้ 275,500 บาท / 2,500 ห้นุ = 110.20 บาทตอ่ หนุ้ เงนิ สด (800 ห้นุ x 113 บาท )- 150 บาท) กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ หลักทรพั ยเ์ พือ่ คา้ (800 หนุ้ x110.20 บาท) ขายหลกั ทรัพยเ์ พื่อคา้ บมจ. สันกาแพง ราคาตลาดท่ีขายได้ 90,250 ราคาทนุ หลกั ทรัพยเ์ พอ่ื คา้ 88,160 กาไรจากการขายหลักทรพั ย์ 2,090 เม.ย. 15 หลักทรัพย์เพ่ือค้า(1,000 หุ้นx104 บาท)+ 300 บาท) 104,300 เงินสด คานวณราคาต่อหุน้ ห้นุ เดมิ (1,700 ห้นุ x 110.20 บาท) = 187,340 ห้นุ ใหม่ = 104,300 รวม 1,700 + 1,000 = 291,640 คานวณราคาต่อหุ้น 291,640 บาท / 2,700 หนุ้ = 108.01 บาทตอ่ หุ้น
187 สมดุ รายวนั ท่วั ไป-บริษัท ชา้ งคลาน จากดั หนา้ ....31 เครดติ วนั เดือนปี รายการ เลขที่ เดบิต 64,806 2557 บญั ชี พ.ค. 10 เงินสด (600 หนุ้ x 105 บาท )- 100 บาท) 62,900 ขาดทุนจากการขายหลกั ทรพั ย์(64,806-62,900) 1,906 หลักทรัพยเ์ พอ่ื ค้า(600 หุ้น x108.01 บาท) ขายหลักทรพั ยเ์ พอ่ื ค้า บมจ.สันกาแพง ตวั อยา่ งที่ 4-4 หลกั ทรพั ย์เผ่ือขาย – ตราสารทุน 2557 ม.ี ค. 1 บริษัท แม่วาง จากัด ลงทุนซ้ือหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาด จากบริษัท ดอยหล่อ จากัด (มหาชน) จานวน 1,000 หุ้น มีความต้ังใจจะถือไว้เผ่ือขาย ใน ราคาตลาดห้นุ ละ 102 บาท เสียคา่ นายหนา้ และคา่ ธรรมเนียม 350 บาท ธ.ค. 31 หุ้นบริษัท ดอยหล่อ จากดั (มหาชน) มีมลู คา่ ยุตธิ รรมหุ้นละ 107 บาท 2558 ม.ค. 15 ขายห้นุ บรษิ ทั ดอยหล่อ จากดั (มหาชน) ทงั้ หมด ในราคาหุ้นละ 105 บาท คาสง่ั บนั ทกึ บัญชใี นสมุดรายวนั ทัว่ ไปของบรษิ ทั แม่วาง จากัด โดยในวันสิ้นงวดปรับให้เป็นมูลค่า ยตุ ธิ รรม ดงั น้ี 1. ปรับไปที่บญั ชเี งินลงทุนโดยตรง 2. ปรับผา่ นบญั ชคี า่ เผื่อการปรับมูลคา่ เงนิ ลงทนุ
188 1. การปรับเงนิ ลงทุนใหเ้ ป็นมูลคา่ ยุติธรรม (ปรบั ไปท่ีบัญชเี งินลงทุนโดยตรง) สมุดรายวันทวั่ ไปบรษิ ทั แมว่ าง จากัด หน้า 15 วนั เดอื นปี รายการ เลขที่ เดบติ เครดิต 2557 บญั ชี มี.ค. 1 หลกั ทรพั ย์เผ่ือขาย(1,000 ห้นุ x 102 บาท)+ 350 บาท 102,350 เงนิ สด 102,350 ซ้อื หลักทรัพยเ์ ผื่อขาย ธ.ค. 31 หลกั ทรพั ยเ์ ผ่ือขาย 4,650 กาไรขาดทนุ ท่ยี งั ไมเ่ กดิ ขน้ึ ในหลกั ทรพั ยเ์ ผอ่ื ขาย 4,650 ปรับเงนิ ลงทนุ ใหเ้ ป็นมลู ค่ายุตธิ รรม 2558 ม.ค. 15 เงินสด(1,000 หุ้น x 105 บาท) 105,000 กาไรขาดทนุ ทย่ี งั ไม่เกดิ ข้ึนในหลกั ทรัพยเ์ ผื่อขาย 4,650 หลกั ทรพั ยเ์ ผอื่ ขาย 107,000 กาไรจากการขายหลักทรพั ย์ 2,650 ขายหนุ้ บมจ. ดอยหล่อ ทง้ั หมด อธิบาย วันที่ 31 ธ.ค. 2557 ต้องปรับมูลค่าของเงินลงทุนจากมูลค่าตามบัญชีให้เป็นมูลค่า ยตุ ิธรรม ดงั นี้ มลู คา่ ตามบัญชี (Book Value) BV = (1,000 หุน้ x 102 บาท) +350 บาท = 102,350 บาท มูลค่ายตุ ิธรรม (Fair Value) FV = (1,000 หุ้น x 107 บาท) = 107,000 บาท ผลต่างระหวา่ ง BV กับ FV คือ = 4,650 บาท เป็น กาไรขาดทุนท่ียังไม่เกิดขึ้นจากการลงทุนในหลักทรัพย์เผ่ือขาย แต่จะบันทึกบัญชีด้านเครดิต เน่อื งจากมูลคา่ ยตุ ธิ รรมมมี ลู คา่ สงู กว่ามลู ค่าตามบญั ชี คอื เกิดกาไรขนึ้ นัน่ เอง วันท่ี 1 ม.ค. 2558 ยอดยกมาของบัญชีเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผ่ือขาย= 107,000บาท และบญั ชีกาไรทีย่ งั ไม่เกิดขึน้ จากการลงทุนในหลักทรพั ยเ์ ผอ่ื ขาย = 4,650 บาท
189 วันท่ี 15 ม.ค. 2558 ขายหุ้นบริษัท ดอยหล่อ จากัด (มหาชน) ทั้งหมด ต้องปิดบัญชีท่ี เกี่ยวข้องกับบริษัท ดอยหล่อ จากัด (มหาชน) ทั้งหมด คือ บัญชีเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผ่ือขาย = 107,000 บาท และบัญชีกาไรที่ยังไม่เกิดข้ึนจากการลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย = 4,650 บาท เกิดผลต่าง คานวณโดย ราคาขายของหลกั ทรัพยเ์ ผ่อื ขาย ( 15 มกราคม 2558) 107,000 บาท มลู คา่ ตามบญั ชี (1 มีนาคม 2557) 102,350 บาท กาไรจากการขายหลกั ทรัพย์ 2,650 บาท การผ่านรายการจากสมดุ รายวนั ท่วั ไป ไปยงั สมุดแยกประเภท บญั ชี หลกั ทรัพยเ์ ผ่ือขาย เลขท่บี ัญชี 104 พ.ศ. รายการ ห น้ า เดบิต พ.ศ. รายการ ห น้ า เครดิต บญั ชี บาท - 2557 บญั ชี บาท - 2557 มี.ค. 1 เงนิ สด 102,350 ธ.ค. 31 ยอดยกไป 107,000 ธ.ค. 31 กาไรขาดทุนที่ยังเกิดข้ึน 4,650 ในหลกั ทรพั ยเ์ ผื่อขาย 107,000 107,000 บัญชี กาไรขาดทนุ ที่ยงั เกิดขึ้นในหลกั ทรัพยเ์ ผือ่ ขาย เลขทีบ่ ัญชี 304 หนา้ เครดิต พ.ศ. รายการ หนา้ เดบิต พ.ศ. รายการ บญั ชี บาท - 2557 บัญชี บาท - 2557 ธ.ค. 31 ยอดยกไป 4,650 4,650 ธ.ค. 31 หลักทรัพย์เผือ่ ขาย 4,650 4,650
190 บริษัท แมว่ าง จากดั xxx งบแสดงฐานะการเงนิ (บางสว่ น) 107,000 ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2557 4,650 สนิ ทรัพย์ สนิ ทรัพย์หมุนเวยี น เงนิ สด หลักทรพั ย์เผอื่ ขาย หนีส้ ินและส่วนของผถู้ ือหุ้น หน้ีสนิ ส่วนของผู้ถอื หุ้น ทนุ เรือนหนุ้ กาไร (ขาดทุน) ทยี่ ังไม่เกิดในหลักทรพั ย์เผ่อื ขาย บริษัท แม่วาง จากัด - - งบกาไรขาดทุนเบด็ เสรจ็ (บางสว่ น) สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี สนิ้ สุดวันที่ 31 ธนั วาคม 2557 รายได้อ่นื กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ ค่าใช้จ่ายอ่นื ขาดทุนจากการขายหลักทรพั ย์ การผา่ นรายการจากสมดุ รายวนั ทัว่ ไป ไปยงั สมุดแยกประเภท บัญชี หลักทรัพย์เผอื่ ขาย เลขท่บี ญั ชี 104 พ.ศ. รายการ หนา้ เดบิต พ.ศ. รายการ หน้า เครดติ 2558 บญั ชี บาท - 2558 บญั ชี บาท - 107,000 ม.ค. 1 ยอดยกมา 107,000 ม.ค. 15 เงนิ สด 107,000 107,000
191 บัญชี กาไรขาดทนุ ทย่ี งั เกดิ ข้นึ ในหลักทรัพย์เผอ่ื ขาย เลขท่ีบญั ชี 304 หนา้ เครดิต พ.ศ. รายการ หนา้ เดบิต พ.ศ. รายการ บญั ชี บาท - 2558 บัญชี บาท - 2558 4,650 ม.ค. 15 หลกั ทรพั ย์เผ่ือขาย 4,650 ม.ค. 1 ยอดยกมา 4,650 4,650 บริษทั แม่วาง จากัด xxx งบแสดงฐานะการเงิน (บางสว่ น) - ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 2558 - สนิ ทรัพย์ สินทรพั ยห์ มนุ เวยี น เงินสด หลกั ทรพั ยเ์ ผ่ือขาย หนสี้ นิ และส่วนของผูถ้ ือหุ้น หนส้ี ิน ส่วนของผู้ถอื หนุ้ ทุนเรือนหนุ้ กาไร (ขาดทนุ ) ท่ียังไม่เกดิ ในหลักทรพั ย์เผอ่ื ขาย บรษิ ัท แมว่ าง จากัด 2,650 งบกาไรขาดทุนเบด็ เสร็จ (บางส่วน) - สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี สน้ิ สดุ วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2558 รายไดอ้ ่นื กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ ค่าใชจ้ า่ ยอน่ื ขาดทุนจากการขายหลกั ทรพั ย์
192 2. การปรบั เงินลงทุนใหเ้ ป็นมลู คา่ ยตุ ิธรรม (ปรับผ่านบญั ชีค่าเผื่อการปรับมูลคา่ เงินลงทุน) สมดุ รายวนั ท่วั ไปบริษทั แม่วาง จากดั หนา้ 15 วนั เดือนปี รายการ เลขท่ี เดบิต เครดติ 102,350 2557 บัญชี 4,650 มี.ค. 1 หลักทรัพย์เผอ่ื ขาย(1,000 หุน้ x 102 บาท)+ 350 บาท 102,350 เงนิ สด ซ้อื หลกั ทรพั ย์เผอ่ื ขาย ธ.ค. 31 ค่าเผอ่ื การปรับมลู ค่าเงนิ ลงทนุ 4,650 กาไรขาดทุนท่ยี ังไม่เกดิ ขนึ้ ในหลักทรัพย์เผ่ือขาย ปรับเงนิ ลงทนุ ใหเ้ ปน็ มลู คา่ ยตุ ิธรรม 2558 ม.ค. 15 เงินสด(1,000 หนุ้ x 105 บาท) 105,000 กาไรขาดทนุ ทยี่ งั ไม่เกิดขน้ึ ในหลกั ทรพั ยเ์ ผ่อื ขาย(ปิด) 4,650 เงินลงทนุ ในหลกั ทรัพย์เผอื่ ขาย (ปิด) 107,000 ค่าเผื่อการปรบั มลู คา่ เงินลงทุน (ปิด) 4,650 กาไรจากการขายหลักทรพั ย์ 2,650 ขายหนุ้ บมจ. ดอยหลอ่ ท้งั หมด อธิบาย วันที่ 31 ธ.ค. 2556 ต้องปรบั มูลค่าของเงนิ ลงทุนจากมูลค่าตามบัญชีให้เป็นมูลค่ายุติธรรม ดงั นี้ มูลคา่ ตามบญั ชี (Book Value) BV = (1,000 ห้นุ x 102 บาท)+ 350 บาท = 102,350 บาท มูลคา่ ยุติธรรม (Fair Value) FV = (1,000 หุน้ x 107 บาท) = 107,000 บาท ผลตา่ งระหว่าง BV กับ FV คือ = 4,650 บาท เป็น กาไรขาดทนุ ทย่ี งั ไมเ่ กดิ ขนึ้ ในหลกั ทรพั ยเ์ ผือ่ ขาย แต่จะบนั ทกึ บญั ชดี า้ นเครดิต เน่ืองจากมูลค่า ยตุ ิธรรมมีมูลค่าสงู กวา่ มลู ค่าตามบัญชี คอื เกิดกาไรขึ้นนั่นเอง และด้านเดบิต เป็นบัญชีค่าเผื่อการ ปรบั มูลคา่ เงินลงทุน
193 วันท่ี 1 ม.ค. 2558 ยอดยกมาของบัญชีเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผ่ือขาย= 102,350 บาท บัญชีค่าเผอื่ การปรบั มูลคา่ เงินลงทนุ = 4,650 บาท และบัญชีกาไรท่ียังไ ม่เกิดขึ้นใน หลักทรพั ย์เผอื่ ขาย = 4,650 บาท วันที่ 15 ม.ค. 2558 ขายหุ้นบริษัท ดอยหล่อ จากัด (มหาชน) ทั้งหมด ต้องปิดบัญชีท่ี เกี่ยวข้องกับบริษัท ดอยหล่อ จากัด (มหาชน) ทั้งหมด คือ บัญชีเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย = 107,000 บาท และบัญชีกาไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย = 4,650 บาท บญั ชคี า่ เผือ่ การปรับมลู ค่าเงินลงทุน = 4,650 บาท เกดิ ผลต่าง คานวณโดย มูลคา่ ยตุ ธิ รรมของหลกั ทรัพย์เผอื่ ขาย ( 15 มกราคม 2558) 107,000 บาท มูลค่าตามบญั ชี (1 มนี าคม 2557) 102,350 บาท กาไรจากการขายหลักทรัพย์ 2,650 บาท การผา่ นรายการจากสมดุ รายวนั ทั่วไป ไปยังสมดุ แยกประเภท บญั ชี หลักทรัพย์เผ่ือขาย เลขท่ีบญั ชี 104 หน้า เครดิต พ.ศ. รายการ หน้า เดบติ พ.ศ. รายการ บัญชี บาท - 2557 บัญชี บาท - 2557 107,000 มี.ค. 1 เงินสด 102,350 ธ.ค. 31 ยอดยกไป 107,000 ธ.ค. 31 กาไรขาดทุนที่ยังเกิดขึ้น 4,650 107,000 ในหลักทรพั ย์เผ่อื ขาย บญั ชี ค่าเผื่อการปรบั มูลค่าเงินลงทนุ เลขทบี่ ัญชี 104.1 หนา้ เครดิต พ.ศ. รายการ หน้า เดบติ พ.ศ. รายการ บญั ชี บาท - 2557 บัญชี บาท - 2557 ธ.ค. 31 กาไรขาดทุนท่ียังเกิดข้ึน 4,650 ในหลกั ทรัพยเ์ ผือ่ ขาย 4,650 ธ.ค. 31 ยอดยกไป 4,650 4,650
194 บญั ชี กาไรขาดทนุ ทยี่ งั เกิดขึ้นในหลกั ทรัพย์เผ่อื ขาย เลขท่ีบญั ชี 304 หนา้ เครดิต พ.ศ. รายการ หน้า เดบติ พ.ศ. รายการ บญั ชี บาท - 2557 บัญชี บาท - 2557 ธ.ค. 31 ยอดยกไป 4,650 4,650 ธ.ค. 31 หลกั ทรพั ยเ์ ผ่อื ขาย 4,650 4,650 บริษัท แม่วาง จากัด งบแสดงฐานะการเงนิ (บางส่วน) ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2557 สนิ ทรัพย์ สนิ ทรัพยห์ มุนเวียน เงินสด xxx 107,000 หลักทรพั ยเ์ ผ่อื ขาย 102,350 บวก ค่าเผอ่ื การปรับมูลค่าเงนิ ลงทุน 4,650 4,650 - หน้ีสนิ และส่วนของผูถ้ ือหุ้น - หนส้ี ิน ส่วนของผ้ถู อื หนุ้ ทนุ เรอื นหนุ้ กาไร (ขาดทนุ ) ที่ยงั ไม่เกดิ ขึน้ ในหลกั ทรัพยเ์ ผอ่ื ขาย บรษิ ทั แมว่ าง จากดั งบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ (บางส่วน) สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี สิ้นสุดวนั ท่ี 31 ธันวาคม 2557 รายไดอ้ ื่น กาไรจากการขายหลักทรัพย์ ค่าใช้จา่ ยอนื่ ขาดทุนจากการขายหลกั ทรัพย์
195 การผา่ นรายการจากสมดุ รายวนั ท่วั ไป ไปยังสมดุ แยกประเภท บัญชี หลักทรัพย์เผื่อขาย เลขทีบ่ ญั ชี 104 หน้า เครดติ พ.ศ. รายการ หน้า เดบติ พ.ศ. รายการ บัญชี บาท - 2558 บัญชี บาท - 2558 102,350 ม.ค. 1 ยอดยกมา 102,350 ม.ค. 15 เงินสด 102,350 102,350 บัญชี ค่าเผ่อื การปรบั มูลค่าเงนิ ลงทุน เลขทบี่ ญั ชี 104.1 หน้า เครดิต พ.ศ. รายการ หน้า เดบติ พ.ศ. รายการ บัญชี บาท - 2558 บญั ชี บาท - 2558 4,650 ม.ค.15 ห ลั กท รัพ ย์เ ผ่ือ ข า ย 4,650 ม.ค. 1 ยอดยกมา 4,650 (ขาย) 4,650 บญั ชี กาไรขาดทุนท่ยี งั เกดิ ข้นึ ในหลักทรัพย์เผอื่ ขาย เลขทีบ่ ญั ชี 304 หนา้ เครดติ พ.ศ. รายการ หน้า เดบิต พ.ศ. รายการ บัญชี บาท - 2558 บัญชี บาท - 2558 4,650 ม.ค. 15 หลกั ทรพั ยเ์ ผื่อขาย (ขาย) 4,650 ม.ค. 1 ยอดยกมา 4,650 4,650 บริษัท แมว่ าง จากดั 2,650 งบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ (บางสว่ น) - สาหรับระยะเวลา 1 ปี สิน้ สุดวันท่ี 31 ธนั วาคม 2558 รายได้อนื่ กาไรจากการขายหลักทรัพย์ คา่ ใชจ้ ่ายอน่ื ขาดทนุ จากการขายหลกั ทรัพย์
196 ตราสารหนี้ การลงทนุ ในลกั ษณะนาเงินสดไปใหก้ ิจการอื่นยืม คือการลงทุนในฐานะเจ้าหน้ีของกิจการ นั้น ผลตอบแทนท่ีจะได้รับคือดอกเบี้ยรับ จะได้รับตามวันเวลาที่กาหนดไว้อย่างแน่นอน ซ่ึงไม่ได้ ขึ้นอยู่กับผลกาไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ รูปแบบน้ีคือการลงทุนใน “ตราสารหน้ี” ซ่ึงจะมีการกาหนด อายุหรือมีระยะเวลาส้ินสุดน่ันเอง กิจการต้องวางแผนการลงทุนว่าจะให้เป็นเงินลงทุนประเภทใด ดงั น้ี 1. หลกั ทรัพย์เพ่ือคา้ เป็นเงนิ ลงทนุ ทีก่ จิ การแนใ่ จว่าจะลงทุนเปน็ ระยะเวลาไมเ่ กนิ 1 ปี จดั เปน็ เงินลงทุนชว่ั คราว แสดงภายใต้หัวข้อสนิ ทรัพยห์ มนุ เวยี น 2. ตราสารหน้ที ่จี ะถือจนครบกาหนด เป็นเงนิ ลงทนุ ที่กจิ การมคี วามต้งั ใจวา่ จะลงทนุ จน ครบกาหนดตามเวลาท่ีตราสารหน้ีกาหนดเอาไว้ จัดเป็นเงินลงทุนระยะยาว แสดงภายใต้หัวข้อ สนิ ทรพั ย์ไมห่ มุนเวียน แตเ่ มื่อเวลาผ่านไปจนเหลือเวลาไมเ่ กนิ 1 ปี กิจการต้อง จัดรายการใหม่เป็น “ตราสารหน้ีท่ีจะครบกาหนดใน 1 ปี” จัดเป็นเงินลงทุนชั่วคราว แสดงภายใต้หัวข้อสินทรัพย์ หมุนเวียน 3. หลกั ทรัพย์เผอ่ื ขาย เป็นเงินลงทนุ ท่ีกิจการไม่แน่ใจวา่ จะลงทุนเปน็ ระยะเวลานานเทา่ ใด หากลงทุนไม่เกิน 1 ปี จัดเป็นเงินลงทุนชั่วคราว แสดงภายใต้หัวข้อสินทรัพย์หมุนเวียน หากลงทุน เกิน 1 ปี จัดเป็นเงินลงทุนระยะยาว แสดงภายใต้หัวข้อสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนแต่จะไม่ลงทุนจน ครบกาหนดของตราสารหน้ี หลักทรัพยเ์ พือ่ ค้า ตราสารหน้ี การลงทุนในตราสารหน้ีเป็นการลงทุนในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี กิจการหวังจะได้รับ ผลตอบแทนทเ่ี กดิ จากการซอ้ื ขายในระยะเวลาส้นั ๆ เท่านั้น จัดเป็นเงินลงทุนช่ัวคราว แสดงภายใต้ หวั ขอ้ สนิ ทรพั ยห์ มนุ เวยี น มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 105 เร่อื ง การบัญชสี าหรับเงินลงทุนในตราสารหน้ีและตราสาร ทุน กาหนดให้หลักทรัพย์เพ่ือค้านี้แสดงในงบแสดงฐานะการเงินในมูลค่ายุติธรรม กิจการไม่ต้อง จัดทาตารางดอกเบี้ย (จะกล่าวถึงตารางดอกเบ้ียในเรื่องหลักทรัพย์เผื่อขาย-ตราสารหนี้) เพื่อ คานวณว่า กิจการจะได้รับเงินสดเป็นดอกเบี้ยรับจานวนเท่าใด มีการตัดส่วนลดหรือสาวนเกิน มูลค่าเงินลงทุนอย่างไร เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะส้ัน เม่ือถึงวันสิ้นงวดกิจการต้องปรับบัญชี หลักทรัพย์เพื่อค้า-ตราสารหนี้ให้เป็นมูลค่ายุติธรรม ผลต่างระหว่างมูลค่าตามบัญชีกับมูลค่า ยุติธรรม อาจเป็นกาไรหรือขาดทุนท่ียังไม่เกิดข้ึนจากการลงทุนในหลักทรัพย์เพ่ือค้า ช่ือบัญชีคือ “กาไรที่ยังไม่เกิดข้ึนในหลักทรัพย์เพื่อค้า” หรือ “ขาดทุนท่ียังไม่เกิดขึ้น”จะถูกแสดงในงบกาไร
197 ขาดทนุ การปรับจะทาได้ 2 วธิ ี ดงั เชน่ ตราสารทุน คอื ปรับไปที่บัญชีหลักทรัพย์เพ่ือค้าหรือบัญชีค่า เผื่อการปรบั มลู คา่ เงนิ ลงทุน ตัวอย่างท่ี 4-5 บริษัท เชยี งใหม่ จากดั ลงทนุ ซ้อื หุ้นกู้ โดยมีความต้งั ใจจะถือไวเ้ พ่ือคา้ ดังนี้ 2557 ม.ี ค. 1 ซื้อหุ้นกู้ 9% ของบริษัท สบเมย จากัด (มหาชน) ราคาท่ีตราไว้มูลค่า 125,000 บาท จ่ายเงินสดซ้ือในมูลค่ายุติธรรม 127,500 บาท เสียค่านายหน้าและ ม.ิ ย. 1 ค่าธรรมเนียม1,500 บาท หุ้นกู้จ่ายดอกเบ้ียปีละ 2 คร้ัง วันที่ 1 มี.ค. และวันที่ 1 ส.ค. 15 ก.ย. ก.ย. 1 ซื้อหุ้นกู้ 6% ของบริษัท แม่แตง จากัด (มหาชน) ราคาที่ตราไว้มูลค่า 100,000 ธ.ค. 1 บาท จ่ายเงินสดซ้ือในมูลค่ายุติธรรม 102,000 บาท เสียค่านายหน้าและ ธ.ค. 31 ค่าธรรมเนียม 900 บาท หุ้นกู้จ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 คร้ัง วันท่ี 1 ก.พ. และวันที่ 1 ส.ค. ได้รับดอกเบ้ียหนุ้ กจู้ าก บรษิ ทั แม่แตง จากัด (มหาชน) ได้รบั ดอกเบย้ี หุ้นกู้จาก บรษิ ัท สบเมย จากัด (มหาชน) ขายหุ้นกบู้ รษิ ทั แมแ่ ตง จากดั (มหาชน) ท้ังหมดในราคา 106,000 บาท มูลค่ายุติธรรมของ บริษัท สบเมย จากัด (มหาชน) คือ 132,500 บาท (ปรับไปท่ี บัญชีเงนิ ลงทนุ โดยตรง) 2558 ม.ค. 5 ขายหุ้นกบู้ ริษัท สบเมย จากดั (มหาชน) ทง้ั หมดในราคา 130,000 บาท
198 สมดุ รายวนั ทั่วไปบรษิ ทั เชยี งใหม่ จากัด หน้า.. พ.ศ. รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต 129,000 2557 บญั ชี 104,900 ม.ี ค. 1 หลักทรัพยเ์ พ่ือค้า(127,500+1,500) 129,000 2,000 เงนิ สด 1,000 ซอ้ื เงนิ ลงทุนในหุ้นกู้ 9% บมจ.สบเมย 5,625 มิ.ย. 1 หลักทรพั ย์เพ่อื ค้า(102,000+900) 102,900 2,000 ดอกเบ้ยี คา้ งรับ ( 1 ก.พ.- 1 มิ.ย. 2557 = 4 เดอื น) 2,000 2,000 3,100 เงินสด 102,900 ซือ้ เงินลงทุนในหุน้ กู้ 6% บมจ.แม่แตง ส.ค. 1 เงนิ สด 3,000 ดอกเบ้ียคา้ งรับ (1 ก.พ.-1 มิ.ย. 2557) ดอกเบ้ยี รบั (1 มิ.ย. –1 ส.ค.2557) รบั ดอกเบยี้ จากบมจ.แมแ่ ตง ก.ย. 1 เงนิ สด 5,625 ดอกเบ้ยี รับ(1 ม.ี ค.-1 ก.ย. 2557) รบั ดอกเบย้ี จาก บมจ.สบเมย (125,000x9/100x6/12) ธ.ค. 1 ดอกเบยี้ คา้ งรับ 2,000 ดอกเบีย้ รับ ปรับปรุงดอกเบี้ยค้างรับต้ังแต่วันท่ี 1 ส.ค.- 1 ธ.ค. 2557 (100,000x6/100x4/12) จาก บมจ.แมแ่ ตง เงินสด (106,000+2,000) 108,000 ดอกเบีย้ ค้างรับ กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ หลกั ทรพั ย์เพ่อื คา้ ขายหนุ้ กู้ บมจ.แม่แตงพร้อมดอกเบีย้ รับ 4 เดือน
199 สมุดรายวันทั่วไปบริษทั เชยี งใหม่ จากัด หน้า.. พ.ศ. รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต 2557 3,750 3,750 ธ.ค. 31 บญั ชี 3,500 3,500 ดอกเบย้ี ค้างรบั 132,500 ดอกเบ้ียรบั ปรับปรงุ ดอกเบี้ยค้างรับตั้งแต่วันท่ี 1 ก.ย.- 31 ธ.ค. 2557 (125,000x9/100x4/12) จาก บมจ.สบเมย หลกั ทรพั ย์เพ่อื ค้า กาไรท่ยี ังไม่เกดิ ขึ้นในหลักทรัพยเ์ พือ่ ค้า ปรับเงนิ ลงทุนให้เป็นมูลคา่ ยตุ ธิ รรม บมจ.สบเมย มลู คา่ ยตุ ิธรรม 132,500 มลู ค่าตามบญั ชี 129,000 กาไรทยี่ ังไมเ่ กิดขึ้น 3,500 2558 ม.ค. 5 เงนิ สด (ราคาตลาด) 130,000 2,500 ขาดทนุ จากการขายหลักทรัพย์ หลักทรพั ย์เพ่อื ค้า ขายหนุ้ กู้ บมจ.สบเมย มูลคา่ ตามบญั ชี 132,500 ราคาท่ีขายได้ 130,000 ขาดทนุ จากการขายหลกั ทรัพย์ 2,500 อธบิ าย กจิ การเริม่ ต้นลงทนุ ใน บมจ.แมแ่ ตง วันท่ี 1 มิ.ย. กิจการจะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ ลงทุนจริงคือ 2 เดือน ช่วงเวลา 1 มิ.ย.-1 ส.ค. = 2 เดือน แต่ บมจ.แม่แตงจ่ายดอกเบ้ียทุกวันท่ี 1 ก.พ.และวันที่ 1 ส.ค. จานวนครั้งละ 6 เดือน ในวันน้ี 1 มิ.ย.กิจการต้องจ่ายเงินสดสาหรับดอกเบี้ย ท่ีติดมากับหุ้นกู้ด้วย โดยจะนับจากวันสุดท้ายท่ี บมจ.แม่แตง จ่ายดอกเบี้ยจนถึงวันท่ีกิจการไป ลงทุน คือวันท่ี 1 ก.พ. ถึงวันที่ 1 มิ.ย. 2557 = 4 เดือน สามารถคานวณจานวนเงินท่ีจะต้องจ่าย เพมิ่ ในวนั ที่1 ม.ิ ย. อีกดังนี้ = 100,000 x 6/100 x 4 / 12 = 2,000 บาท
200 ต่อมาวันที่ 1 ส.ค. 2557 เป็นวันที่กิจการจะได้รับดอกเบี้ยตามปกติ ดอกเบี้ยรับท่ีเกิด ข้ึนกับกิจการคือ 2 เดือน โดยนับตั้งแต่วันท่ีกิจการนาเงินไปลงทุนในบริษัท แม่แตง จากัด (มหาชน) คือวนั ที่ 1 มิ.ย. 2557 ถึงวันท่ี 1 ส.ค. 2557 คานวณดอกเบี้ย 2 เดือน ได้ดังนี้ = 100,000 x 6/100 x 2 / 12 = 1,000 บาท 1 ก.พ. (วนั ไดร้ ับดอกเบ้ีย) 1 มิ.ย. (วนั ทีล่ งทุน) 1 ส.ค. (วนั ได้รบั ดอกเบ้ีย) 4 เดอื น 2 เดอื น ภาพที่ 4-1 แสดงการลงทุนในระหว่างงวดดอกเบย้ี บรษิ ัท เชียงใหม่ จากดั งบกาไรขาดทุน (บางสว่ น) 12,375 สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี ส้ินสดุ วันท่ี 31 ธันวาคม 2557 3,100 รายได้ 3,500 ดอกเบยี้ รบั (1,000+5,625+3,750+2,000)* กาไรจากการขายหลกั ทรัพย์ กาไรทยี่ ังไมเ่ กดิ ขึน้ ในหลักทรัพย์เพ่ือคา้ ค่าใชจ้ า่ ย ขาดทนุ จากการขายหลักทรพั ย์ - ขาดทุนทย่ี งั ไมเ่ กดิ ขึ้นในหลกั ทรพั ย์เพื่อค้า (บมจ.สบเมย) - *ดอกเบี้ยรับ เกิดจาก บมจ.แม่แตง 1,000+ บมจ.สบเมย 5,625+บมจ.สบเมย 3,750+ บมจ.แม่แตง 2,000= 12,375 บาท บรษิ ัท เชียงใหม่ จากดั งบแสดงฐานะการเงนิ (บางส่วน) ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 2557 สนิ ทรพั ย์หมนุ เวยี น สินทรัพย์ เงินสด xxx เงินลงทนุ ชว่ั คราว 132,500 หลักทรพั ยเ์ พอ่ื คา้
201 บรษิ ัท เชยี งใหม่ จากดั - งบกาไรขาดทนุ (บางสว่ น) - สาหรับระยะเวลา 1 ปี สิ้นสดุ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2558 รายได้ 2,500 กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ - กาไรทีย่ งั ไม่เกดิ ขน้ึ ในหลกั ทรัพยเ์ พ่อื ค้า คา่ ใช้จา่ ย ขาดทนุ จากการขายหลกั ทรัพย์ ขาดทนุ ทย่ี ังไม่เกิดขนึ้ ในหลักทรัพยเ์ พื่อคา้ ตราสารหน้ที ่จี ะถือจนครบกาหนด ตามท่ีมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 105 เรื่อง การบัญชีสาหรับเงินลงทุนในตราสารหน้ีและ ตราสารทุนกาหนดไว้ในคานิยามว่า “เงินลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ท่ีกิจการจะมี ความตั้งใจแน่วแน่และมีความสามารถท่ีจะถือตราสารดังกล่าวไปจนครบกาหนด” หมายความว่า กิจการมีเงินสดมากพอในการลงทุนระยะยาว ทาให้มีความตั้งใจว่าจะสามารถลงทุนได้ตาม ระยะเวลาที่กาหนดในตราสารหนี้และจะไม่ขายเงินลงทุนน้ีก่อนจะครบกาหนด แต่มาตรฐานการ บัญชีได้กาหนดไว้อีกว่า เม่ือกิจการได้ลงทุนไปแล้วกิจการต้องทบทวนว่าต้องการจะเปล่ียน ประเภทของเงินลงทนุ ไปเป็นประเภทอ่ืนหรอื ไม่ ซ่งึ มาตรฐานการบญั ชอี นุญาต จะกลา่ วต่อไป กอบแก้ว รัตนอุบล, (2555: 8-2) กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วตราสารหนี้จะมีการกาหนด มูลค่าท่ีตราสารจะจ่ายให้ผู้ถือเม่ือตราสารหนี้นั้นครบกาหนดอายุ (Face Value) อัตราดอกเบี้ยท่ี จ่ายพร้อมท้งั ระยะเวลาการจ่ายดอกเบ้ยี และวันที่ตราสารหนน้ี ั้นจะครบกาหนด จากความเห็นข้างต้นพบว่า ในตราสารหนี้ที่จะถือจนครบกาหนดน้ี จะมีขอ้ กาหนดคือ - จานวนเงินที่กิจการผู้ถูกลงทุนจะจ่ายให้กิจการที่ไปลงทุนเม่ือตราสารหน้ีนั้นครบ กาหนด เรียกว่า “มูลคา่ ท่ตี ราไว้” หรือ Face Value - อตั ราดอกเบีย้ ที่กิจการผู้ถูกลงทุนต้องจ่าย - ระยะเวลาในการจ่ายดอกเบ้ียท่กี จิ การผู้ถกู ลงทนุ ตอ้ งจา่ ย - วนั ทค่ี รบกาหนดของตราสารหน้ี เม่อื กิจการจะไปลงทุนในตราสารหน้ี กิจการจะต้องทราบข้อกาหนดข้างต้น ซ่ึงกาหนดโดย กิจการผู้ถูกลงทุน และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อกาหนดน้ีได้ กิจการต้องคานวณมูลค่าปัจจุบัน ของเงินลงทุนและดอกเบ้ียรับ ตามระยะเวลาของตราสารหน้ีทั้งหมดและอัตราดอกเบี้ยใน
202 ท้องตลาด ในขณะเดียวกันอัตราดอกเบ้ียในท้องตลาดในวันท่ีกิจการลงทุนซ้ือหุ้นกู้อาจไม่ตรงกัน ทาใหเ้ กดิ ส่วนเกินหรือส่วนลดของมลู คา่ เงินลงทนุ กิจการต้องปรับดอกเบ้ียรับของกิจการให้เท่ากับ อัตราดอกเบี้ยในทอ้ งตลาด ดงั นี้ (กอบแกว้ : 2554-8-8) - หากอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดเท่ากับอัตราดอกเบี้ยท่ีระบุในตราสารหน้ี จะไม่เกิด ส่วนเกนิ หรอื สว่ นลดของมูลค่าเงินลงทนุ กิจการจะจา่ ยเงินลงทุนเท่ากบั “มูลค่าท่ตี ราไว้” - หากอัตราดอกเบ้ียในท้องตลาดสูงกว่าอัตราดอกเบ้ียที่ระบุในตราสารหน้ี จะเกิด สว่ นลดของมูลค่าเงนิ ลงทนุ กจิ การจะจ่ายเงนิ ลงทนุ นอ้ ยกว่า “มูลคา่ ท่ตี ราไว้” - หากอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดต่ากว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระบุในตราสารหนี้ จะเกิด ส่วนเกนิ ของมูลค่าเงนิ ลงทุน กิจการจะจา่ ยเงินลงทนุ มากกว่า “มลู ค่าที่ตราไว้” มาตรฐานการบัญชี ฉบับท่ี 105 เรื่อง การบัญชีสาหรับเงินลงทุนในตราสารหน้ีและตรา สารทนุ ได้ให้ความหมายของคาตา่ งๆ ดงั นี้ ราคาทุนตัดจาหน่าย หมายถงึ ราคาทนุ ของตราสารหนที้ ไี่ ด้มาหรอื โอนมาตั้งแต่ เร่ิมแรกหักเงินต้นท่ีจ่ายคืน และบวกหรือหักค่าตัด จาหนา่ ยสะสมของส่วนต่างระหว่างราคาทุนเร่ิมแรกกับ มูลค่าท่ีตราไว้ การตัดจาหน่ายส่วนต่างดังกล่าวต้อง คานวณโดยใช้วิธีอัตราดอกเบี้ยท่ีแท้จริงหรือวิธีอ่ืนที่ ให้ผลไม่แตกต่างจากวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอย่างมี นัยสาคญั วิธีอตั ราดอกเบ้ยี ทแ่ี ทจ้ รงิ หมายถงึ วธิ คี านวณหาอตั ราดอกเบ้ยี ทีแ่ ท้จรงิ ซึ่งเป็นอัตรา คงทตี่ ลอดอายุของตราสารหน้ี อตั ราดอกเบ้ยี ทแ่ี ท้จริง หมายถึง อตั ราคดิ ลดทท่ี าให้มลู ค่าปัจจุบนั ของกระแสเงนิ สดท่ี คาดว่าจะไดร้ ับในอนาคตเท่ากับราคาตามบญั ชขี องตราสารหนี้ จากความหมายตามที่มาตรฐานการบัญชีกาหนด ส่งผลให้กิจการต้องจัดทาตาราง ดอกเบ้ียตามวิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง ซ่ึงจะทาให้มูลค่าปัจจุบันของเงินลงทุนมีมูลค่าเท่ากับ มลู คา่ ท่ตี ราไว้ เมอ่ื ตราสารหนีค้ รบกาหนด รายละเอียดของตารางดอกเบ้ีย มดี งั นี้ - แสดงจานวนเงินของดอกเบี้ยรับท่ีจะได้รับจากกิจการผู้ถูกลงทุน ตามเวลาและอัตราที่ ถูกระบุไว้แลว้ - แสดงดอกเบ้ียรบั ตามอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด
203 - แสดงส่วนลดมูลค่าเงินลงทุนหรือส่วนเกินมูลค่าเงินลงทุน ซ่ึงเป็นผลต่างระหว่าง ดอกเบี้ยรับจากกิจการผู้ถูกลงทุน กับดอกเบี้ยรับในท้องตลาด เป็นการปรับให้ดอกเบ้ียท่ีกิจการ ได้รับเท่ากับดอกเบ้ียในท้องตลาด ทาให้มูลค่าตามบัญชีของเงินลงทุนมีความหมายเป็นราคาทุน ตัดจาหน่าย ซึ่งหมายถึงมูลค่าตามบัญชีของตราสารหน้ี โดยจะแสดงไว้เป็นช่องสุดท้ายของ ตารางดอกเบ้ยี - และส่วนลดส่วนเกินมูลค่านี้จะเป็นตัวปรับให้มูลค่าตามบัญชีมีมูลค่าสูงขึ้นหรือมูลค่า ต่าลงจนมจี านวนเท่ากับ “มูลค่าท่ีตราไว้” อัตราดอกเบ้ียในท้องตลาดเป็นอัตราดอกเบ้ียที่แท้จริงท่ี เกิดกบั กิจการ ตัวอย่างที่ 4-6 วันท่ี 1 มกราคม 2553 บริษัท สารภี จากัด ลงทุนซื้อตราสารหนี้จาก บริษัท แม่ อาย จากัด (มหาชน) เป็นหุ้นกู้ มูลค่า 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยระบุไว้ในใบหุ้น 8% ต่อปี บรษิ ัท แมอ่ าย จากดั จ่ายดอกเบ้ียปีละครั้งทุกวันที่ 31 ธันวาคม หุ้นกู้มีอายุ 4 ปี มีความต้ังใจที่จะ ถือไว้จนครบกาหนด ซึ่งเป็นหุ้นกู้ท่ีอยู่ในความต้องการของตลาด กิจการซื้อหุ้นกู้มาในราคา 187,320 บาท ทาให้อตั ราดอกเบยี้ ท่ีแทจ้ ริงในท้องตลาดเป็น 10% หุ้นกู้ครบกาหนดไถ่ถอน วันที่ 1 มกราคม 2557 วันท่ี 31 ธันวาคม 2553 มลู ค่ายตุ ิธรรมของหุน้ ก้เู ท่ากับ 210,000 บาท ให้ทา 1. ตารางแสดงการคานวณเกี่ยวกับดอกเบี้ยรับตามวิธีอัตราดอกเบ้ยี ท่ีแทจ้ ริง 2. บันทกึ บญั ชีรายการทีเ่ กยี่ วข้องในสมุดรายวันท่ัวไปของบริษทั สารภี จากดั ดังนี้ 2.1 วนั ที่ 1 มกราคม 2553 บนั ทกึ การซือ้ หุน้ กู้ 2.2 วันท่ี 31 ธันวาคม 2553 - 31 ธันวาคม 2556 บันทึกรับดอกเบ้ียและตัดจาหน่าย ส่วนลด 2.3 วันท่ี 1 มกราคม 2557 หนุ้ กคู้ รบกาหนดไถถ่ อน คานวณมลู ค่าปจั จุบนั ของหุน้ กู้ (ดตู ารางมลู ค่าปจั จุบันในภาคผนวก) มลู คา่ ปัจจุบันของเงินตน้ PVIF 4,10% : ( 200,000 x 0.68301 ) = 136,602 มูลค่าปจั จบุ ันของดอกเบยี้ รบั PVIFA 4,10%: ( 16,000 x 3.16987)= 50,718 มูลค่าปจั จบุ ันของหุน้ กู้ = 187,320
204 แสดงการคานวณดอกเบ้ียรับตามวิธีอัตราดอกเบยี้ ทแี่ ทจ้ ริง วนั ที่ เงนิ สดรับ ดอกเบี้ยรบั สว่ นลดมลู ค่าตดั มลู ค่าตามบัญชี (บาท) (8%)(บาท) (10%)(บาท) จาหนา่ ย(บาท) 187,320 1 ม.ค. 2553 - - - 190,052 31 ธ.ค. 2553 16,000 18,732 2,732 193,057 31 ธ.ค. 2554 16,000 19,005 3,005 196,363 31 ธ.ค. 2555 16,000 19,306 3,306 200,000 31 ธ.ค. 2556 16,000 19,637 3,637 64,000 76,680 12,680 - อธิบาย บมจ. แม่อาย จา่ ยดอกเบยี้ ปลี ะ 1 ครัง้ อัตราดอกเบ้ียที่ระบุในหุ้นกู้คือ 8% ในขณะที่อัตรา ดอกเบี้ยที่แท้จริงในท้องตลาดคือ 10% ระยะเวลา 4 ปี ทาให้กิจการต้องจ่ายเงินซื้อหุ้นกู้ในมูลค่า 187,320 บาท เป็นราคาที่ต่ากว่ามูลค่าท่ีตราไว้คือ 200,000 บาทอยู่ 12,680 บาท เรียกว่า “ส่วนลดมูลค่าตัดจาหน่าย” เมื่อครบกาหนด 4 ปี กิจการจะได้รับเงินต้นคืนในราคาตามมูลค่าคือ 200,000 บาท ซึ่งกิจการต้องบันทึกบัญชีรับเงินสดจากดอกเบี้ยท่ีระบุในใบหุ้น 8% โดยดอกเบ้ีย รับจะต้องเทา่ กับอตั ราดอกเบ้ียในท้องตลาด 10% กิจการตอ้ งปรบั 8% ซง่ึ นอ้ ยกวา่ ให้เทา่ กับ 10% กิจการต้องหาผลต่างระหว่าง 8% กับ 10% ซ่ึงก็คือ ส่วนลดมูลค่าตัดจาหน่าย กิจการนา ผลต่างน้ีไปเพิ่มบัญชีมูลค่าตามบัญชีของเงินลงทุนให้เพ่ิมข้ึนตามวันท่ีรับดอกเบ้ีย จะทาให้บัญชี เงินลงทุนมีมูลค่าเพ่ิมข้ึน ทาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนครบกาหนด 4 ปี บัญชีตราสารหนี้จะมีมูลค่า เท่ากับ 200,000 บาท ซ่ึงเป็นราคาตามมูลค่าของหุ้นกู้ และกิจการจะไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ครบ กาหนด 4 ปี คือวันท่ี 1 มกราคม 2557กิจการก็จะได้รับเงินจานวน 200,000 บาท คือมูลค่าที่ตรา ไว้ จากกิจการทไี่ ด้ไปลงทุน กิจการจะได้รับเงินสดจากกิจการท่ีไปลงทุนคือดอกเบี้ยรับ คานวณจาก 200,000 x 8% = 16,000 บาท ต่อปี ทุกวนั ที่ 31 ธันวาคม - วันที่ 1 ม.ค. 2553 กจิ การลงทนุ เปน็ วนั แรก กจิ การจ่ายเงินสดลงทุน 187,320 บาท งวดท่ี 1 วนั ท่ี 31 ธ.ค. 2553 (งวดแรกที่ไดร้ บั ดอกเบย้ี ) ช่องดอกเบ้ียรับ นามูลค่าตามบัญชีมาคูณกับอัตราดอกเบ้ียในท้องตลาด =187,320 x 10% = 18,732 บาท
205 ชอ่ งส่วนลดมูลค่าตัดจาหน่าย เกิดจากผลตา่ งระหว่าง ดอกเบย้ี รับในท้องตลาด กับที่ได้รับ จากบมจ. แม่อาย = 18,732-16,000 = 2,732 ช่องมูลค่าตามบัญชี นาส่วนลดมูลค่าตัดจาหน่าย 2,732 มาเพ่ิมบัญชีของหลักทรัพย์เผื่อ ขาย 187,320 บาท เพราะว่า ดอกเบี้ยท่ีระบุในใบหุ้น 8% แต่อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด 10% กิจการต้องปรบั 8% ซึ่งน้อยกวา่ ให้เทา่ กับ 10% ดังนี้ 187,320 + 2,732 = 190,052 บาท งวดที่ 2 วันท่ี 31 ธ.ค. 2554 ช่องดอกเบ้ียรับ นามูลค่าตามบัญชีมาคูณกับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด = 190,052 x 10% = 19,005 บาท ชอ่ งส่วนลดมูลค่าตัดจาหน่าย เกดิ จากผลต่างระหว่าง ดอกเบ้ียรับในท้องตลาด(10%) กับ ทไ่ี ดร้ ับจากบริษัท แมอ่ าย (8%) = 19,005 -16,000 = 3,005 ช่องมลู ค่าตามบัญชี นาส่วนลดมูลค่าตัดจาหนา่ ย 3,005 บาท มาเพิ่มบัญชีของหลักทรัพย์ เผ่ือขาย 190,052 บาท เพราะว่า ดอกเบี้ยท่ีระบุในใบหุ้น 8% แต่อัตราดอกเบ้ียในท้องตลาด 10% กจิ การตอ้ งปรบั 8% ซ่ึงนอ้ ยกวา่ ให้เท่ากบั 10% ดงั น้ี 190,052 + 3,005= 193,057 บาท งวดท่ี 3 วนั ที่ 31 ธ.ค. 2555 ช่องดอกเบี้ยรับ นามูลค่าตามบัญชีมาคูณกับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด = 193,057 x 10% = 19,306 บาท ช่องสว่ นลดมลู คา่ ตดั จาหนา่ ย เกิดจากผลต่างระหว่าง ดอกเบี้ยรับในท้องตลาด(10%) กับ ที่ได้รับจาก บมจ. แม่อาย (8%) = 19,306 -16,000 = 3,306 ช่องมูลค่าตามบัญชี นาส่วนลดมูลค่าตัดจาหน่าย 3,306 มาเพ่ิมบัญชีของหลักทรัพย์เผื่อ ขาย 193,057 บาท เพราะว่า ดอกเบี้ยท่ีระบุในใบหุ้น 8% แต่อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด 10% กิจการต้องปรบั 8% ซง่ึ น้อยกวา่ ใหเ้ ท่ากบั 10% ดงั น้ี 193,057 + 3,306 = 196,363 บาท งวดที่ 4 วันท่ี 31 ธ.ค. 2556 (เปน็ งวดสุดทา้ ย) ชอ่ งมูลคา่ ตามบญั ชี นามลู คา่ ตามบัญชี 196,363 บาท ไปลบออกจากมูลค่าที่ตราไว้ ดังนี้ 200,000 - 196,363 = 3,637 บาท ซ่ึง 3,637 บาท คือสว่ นลดมลู คา่ ตัดจาหนา่ ย ของงวดสดุ ทา้ ย ช่องดอกเบ้ียรับจึงต้องนา 3,637 บาท บวกเพ่ิมกับเงินสดที่ได้รับจากบมจ.แม่อาย ดังน้ี 16,000 + 3,637 = 19,637 บาท ซ่ึง 19,637 บาท คือดอกเบี้ยรับในท้องตลาดในอัตรา 10% ทาให้ มลู ค่าของตราสารหนเ้ี ท่ากับมลู คา่ ท่ีตราไว้ คอื 200,000 บาท
206 สมดุ รายวันท่วั ไป บริษทั สารภี จากดั หน้า 1 เครดิต วนั เดือนปี รายการ เลขท่ี เดบิต 187,320 2553 บญั ชี 18,732 ม.ค. 1 ตราสารหนท้ี ี่จะถือจนครบกาหนด 187,320 19,005 เงนิ สด 19,306 19,637 บนั ทึกการลงทุนในหนุ้ กู้ อายุ 4 ปี 16,000 200,000 ธ.ค. 31 เงนิ สด ตราสารหนี้ทจ่ี ะถอื จนครบกาหนด 2,732 ดอกเบย้ี รับ บันทึกรบั เงินสดและตัดสว่ นลดมูลค่า 16,000 พ.ศ. 2554 ธ.ค. 31 เงินสด ตราสารหนที้ จี่ ะถอื จนครบกาหนด 3,005 ดอกเบ้ียรับ บนั ทึกรบั เงินสดและตัดสว่ นลดมูลคา่ พ.ศ. 2555 ธ.ค. 31 เงินสด 16,000 ตราสารหนที้ จี่ ะถือจนครบกาหนด 3,306 ดอกเบยี้ รับ บันทึกรบั เงินสดและตัดส่วนลดมลู คา่ ธ.ค. 31 เงนิ สด 16,000 ตราสารหนท้ี ีจ่ ะถือจนครบกาหนด 3,637 ดอกเบี้ยรับ บนั ทึกรับเงินสดและตัดสว่ นลดมูลค่า 2557 ม.ค. 1 เงินสด 200,000 ตราสารหนี้ทจ่ี ะถือจนครบกาหนด ไถ่ถอนหุน้ กเู้ ม่อื ครบกาหนด
207 งบแสดงฐานะการเงนิ (บางสว่ น) ณ วันที่ 31 ธนั วาคม 25.. 31 ธันวาคม 2554 31 ธันวาคม 2553 193,057 สินทรัพย์ สนิ ทรพั ยห์ มนุ เวียน สนิ ทรพั ยไ์ ม่หมุนเวยี น ตราสารหน้ที ี่จะถอื จนครบกาหนด 190,052 งบแสดงฐานะการเงนิ (บางส่วน) ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 25.. 31 ธนั วาคม 2555 31 ธันวาคม 2556 200,000 สนิ ทรพั ย์ สินทรัพย์หมนุ เวียน ตราสารหนีท้ ่ีจะครบกาหนดภายใน 1 ปี 196,363 การแสดงขอ้ มูลในงบการเงินและการเปิดเผยขอ้ มูลในหมายเหตุประกอบงบการเงิน - กจิ การเร่ิมลงทุนในวันที่ 1 มกราคม 2553 ถึงวันท่ี 31 ธันวาคม 2553 =1 ปี ซ่ึงยังเหลือ เวลาอีก 3 ปี แสดงเป็นสินทรพั ยไ์ ม่หมุนเวียน - วันท่ี 31 ธันวาคม 2553 ถึงวันท่ี 31 ธันวาคม 2554 =1 ปี ซ่ึงยังเหลือเวลาอีก 2 ปี แสดงเป็นสนิ ทรัพยไ์ มห่ มุนเวียน - วันที่ 31 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 =1 ปี ซึ่งยังเหลือเวลาอีก 1 ปี แสดงเป็นสนิ ทรัพย์หมุนเวียน - วันท่ี 31 ธันวาคม 2555 ถึงวันท่ี 31 ธันวาคม 2556 =1 ปี ซ่ึงครบกาหนดไถ่ถอนใน วันที่ 1 มกราคม 2557 แสดงเป็นสินทรพั ยห์ มนุ เวยี น และตราสารหนี้ท่จี ะถอื จนครบกาหนดจะถูกแสดงเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน จนกว่าจะถึง ช่วงระยะเวลาท่ีจะครบกาหนดภายในหนึ่งปีจะต้องนามาแสดงเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน ส่วนบัญชี ดอกเบี้ยรบั จะถูกบนั ทึกเปน็ รายไดแ้ สดงในงบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ
208 ตัวอยา่ งที่ 4-7 ตอ่ ไปน้เี ป็นข้อมูลของบริษัท อมก๋อย จากัด วันท่ี 1 มกราคม 2554 บริษัท อมก๋อย จากัด ลงทุนซื้อหุ้นกู้ จาก บริษัท สะเมิง จากัด (มหาชน) มูลค่า 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยระบุไว้ในใบหุ้น 12% ต่อปี กาหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก วันท่ี 31 ธันวาคม หุ้นกู้มีอายุ 4 ปี มีความตั้งใจท่ีจะถือไว้จนครบกาหนด ซ้ือหุ้นกู้มาในราคา 106,339 บาท สง่ ผลให้อัตราดอกเบี้ยทีแ่ ท้จริงในตลาดเป็น 10% มูลค่ายุติธรรมของหุ้นกู้ วันท่ี 31 ธันวาคม 2554 เท่ากับ 410,000 บาท และ วันท่ี 31 ธนั วาคม 2555 เท่ากับ 400,000 บาท ใหท้ า 1. ตารางแสดงการคานวณเกีย่ วกับดอกเบยี้ รับตามวิธีอัตราดอกเบี้ยท่ีแทจ้ ริง 2. บันทกึ บัญชีรายการท่ีเกี่ยวข้องในสมุดรายวนั ท่วั ไปของบริษัท อมก๋อย จากดั ดงั นี้ 2.1 วนั ท่ี 1 มกราคม 2554 บนั ทึกการซอื้ ห้นุ กู้ 2.2 วันท่ี 31 ธันวาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557 - บันทึกรับดอกเบี้ยและตัดจาหน่าย สว่ นเกนิ มูลค่า 2.3 วันท่ี 1 มกราคม 2558 หนุ้ กู้ครบกาหนดไถถ่ อน การคานวณมลู ค่าปัจจบุ นั ของเงินลงทุน = 68,301 มลู คา่ ปัจจุบนั ของเงนิ ต้น PVIF 4,10% : ( 100,000 x 0.68301 ) = 38,038 มลู คา่ ปัจจุบนั ของดอกเบ้ยี รับ PVIFA 4,10% : ( 12,000 x 3.16987) =106,339 มูลคา่ ปัจจุบนั ของหุ้นกู้ แสดงการคานวณดอกเบ้ียรับตามวิธอี ตั ราดอกเบ้ยี ทแี่ ทจ้ รงิ วนั ท่ี เงินสดรับ ดอกเบย้ี รับ ส่วนเกินมลู ค่าตดั มูลค่าตามบญั ชี จาหน่าย(บาท) (บาท) (12%)(บาท) (10%)(บาท) 106,339 - 1 ม.ค. 2554 - - 104,973 1,366 31 ธ.ค. 2554 12,000 10,634 103,470 1,503 31 ธ.ค. 2555 12,000 10,497 101,817 1,653 31 ธ.ค. 2556 12,000 10,347 100,000 1,817 31 ธ.ค. 2557 12,000 10,183 - 7,581 48,000 52,419
209 อธบิ าย บมจ.สะเมิง จ่ายดอกเบ้ยี ปลี ะ 1 คร้ัง อัตราดอกเบี้ยที่ระบุในหุ้นกู้คือ 12% ในขณะที่อัตรา ดอกเบ้ียที่แท้จริงในท้องตลาดคือ 10% ระยะเวลา 4 ปี ทาให้กิจการต้องจ่ายเงินซื้อหุ้นกู้ในมูลค่า 106,339 บาท เป็นราคาท่ีสูงกว่ามูลค่าที่ตราไว้ 100,000 บาท อยู่ 6,339 บาท เรียกว่า “ส่วนเกิน มลู ค่าตดั จาหน่าย” เม่ือครบกาหนด 4 ปี กิจการจะได้รับเงินต้นคืนในราคาตามมูลค่าคือ 100,000 บาท ซึ่งกจิ การตอ้ งบนั ทึกบัญชีรับเงินสดจากดอกเบี้ยที่ระบุในใบหุ้น 12% โดยดอกเบ้ียรับจะต้อง เทา่ กับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด 10% กจิ การตอ้ งปรับ 12% ซง่ึ มากกว่าให้เทา่ กับ 10% กิจการต้องหาผลต่างระหว่าง 12% กับ 10% ซ่ึงก็คือ ส่วนเกินมูลค่าตัดจาหน่าย กิจการ นาผลต่างนี้ไปลดบัญชีราคาตามบัญชีของเงินลงทุนให้ลดลงตามวันที่รับดอกเบ้ีย จะทาให้บัญชี เงินลงทนุ มีมลู ค่าลดลง ทาอย่างน้ไี ปเร่ือยๆ จนครบกาหนด 4 ปี บัญชีตราสารหนี้จะมีมูลค่าเท่ากับ 100,000 บาท ซ่งึ เป็นมลู คา่ ท่ตี ราไวข้ องหุน้ กู้ และกจิ การจะไถ่ถอนหุ้นกู้ในวันที่ครบกาหนด 4 ปีคือ วันที่ 1 มกราคม 2558 กจิ การจะไดร้ ับเงินจานวน 100,000 บาท จากกจิ การผถู้ กู ลงทนุ กิจการจะได้รับเงินสดจากกิจการท่ีไปลงทุนคือดอกเบี้ยรับ คานวณจาก 100,000 x 12% = 12,000 บาทตอ่ ปี ทุกวนั ที่ 31 ธันวาคม วันท่ี 1 ม.ค. 2554 กิจการลงทุนเป็นวนั แรก กจิ การจา่ ยเงินสดลงทุน = 106,339 บาท งวดท่ี 1 วนั ที่ 31 ธ.ค. 2554 ชอ่ งดอกเบี้ยรับ นามูลค่าตามบัญชีมาคูณกับอัตราดอกเบ้ียในท้องตลาด ดังน้ี 106,339 x 10% = 10,634 บาท ช่องส่วนเกินมูลค่าตัดจาหน่าย เกิดจากผลต่างระหว่าง ดอกเบี้ยรับท่ีได้รับจากบมจ.สะ- เมิง (12%) กับดอกเบ้ียรบั ในท้องตลาด (10%) = 12,000 -10,634 = 1,366 บาท ช่องมูลค่าตามบัญชี นาส่วนเกินมูลค่าตัดจาหน่าย 1,366 มาลดบัญชีของหลักทรัพย์เผ่ือ ขาย 106,339 บาท เพราะว่า ดอกเบี้ยที่ระบุในใบหุ้น 12% แต่อัตราดอกเบ้ียในท้องตลาด 10% กจิ การต้องปรบั 12% ซึง่ มากกว่าใหเ้ ทา่ กบั 10% ดงั นี้ 106,339 - 1,366 = 104,973 บาท งวดท่ี 2 วนั ที่ 31 ธ.ค. 2555 ชอ่ งดอกเบี้ยรับ นามูลค่าตามบัญชีมาคูณกับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด ดังนี้ 104,973 x 10% = 10,497 บาท ช่องส่วนเกินมูลค่าตัดจาหน่าย เกิดจากผลต่างระหว่าง ดอกเบ้ียรับท่ีได้รับจากบมจ. สะ เมงิ (12%) กับดอกเบย้ี รบั ในท้องตลาด (10%) = 12,000 -10,497 = 1,503
210 ช่องมูลค่าตามบัญชี นาส่วนเกินมูลค่าตัดจาหน่าย 1,503 มาลดบัญชีของหลักทรัพย์เผื่อ ขาย 104,973 บาท เพราะว่า ดอกเบ้ียท่ีระบุในใบหุ้น 12% แต่อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด 10% กิจการต้องปรับ 12% ซ่งึ มากกว่าให้เท่ากับ 10% ดงั นี้ 104,973 - 1,503 = 103,470 บาท งวดท่ี 3 วนั ท่ี 31 ธ.ค. 2556 ชอ่ งดอกเบี้ยรับ นามูลค่าตามบัญชีมาคูณกับอัตราดอกเบ้ียในท้องตลาด ดังน้ี 103,470 x 10% = 10,347 บาท ช่องส่วนลดมูลค่าตัดจาหน่าย เกิดจากผลต่างระหว่าง ดอกเบ้ียรับที่ได้รับจากบริษัท สะ เมิง (12%) กบั ดอกเบี้ยรบั ในทอ้ งตลาด (10%) = 12,000 -10,347 = 1,653 ช่องมูลค่าตามบัญชี นาส่วนเกินมูลค่าตัดจาหน่าย 1,653 มาลดบัญชีของหลักทรัพย์เผ่ือ ขาย 103,470 บาท เพราะว่า ดอกเบ้ียท่ีระบุในใบหุ้น 12% แต่อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด 10% กจิ การตอ้ งปรับ 12% ซง่ึ มากกวา่ ให้เท่ากับ 10% ดังน้ี 103,470 - 1,653 = 101,817 บาท งวดที่ 4 วนั ที่ 31 ธ.ค. 2557 (เป็นงวดสดุ ทา้ ย) ช่องมูลค่าตามบัญชี นามูลค่าตามบัญชี 101,817 บาท ไปลบมูลค่าท่ีตราไว้ 100,000 ดังน้ี 101,817 - 100,000 = 1,817 บาท ซ่ึง 1,817 บาท คือส่วนเกินมูลค่าตัดจาหน่าย ของงวด สุดท้าย ช่องดอกเบี้ยรับจึงต้องนา 1,817 บาท หักออกจากเงินสดที่ได้รับจากบมจ.สะเมิง ดังน้ี = 10,183 + 1,817 บาท ซึ่ง 10,183 บาท คือดอกเบ้ียรับในท้องตลาดในอัตรา 10% ทาให้มูลค่าของ ตราสารหนี้เท่ากับมูลคา่ ที่ตราไว้ คอื 200,000 บาท สมดุ รายวันท่วั ไป บริษัท อมก๋อย จากัด หน้า … วนั เดือนปี รายการ เลขที่ เดบติ เครดติ 2554 บัญชี ม.ค. 1 ตราสารหนท้ี จ่ี ะถอื จนครบกาหนด 106,339 เงนิ สด 106,339 บันทึกการลงทนุ ในหุน้ กู้ อายุ 4 ปี ธ.ค. 31 เงินสด 12,000 ตราสารหนี้ทจ่ี ะถือจนครบกาหนด 1,366 ดอกเบ้ยี รบั 10,634 บันทึกรับเงนิ สดและตัดสว่ นเกินมูลคา่
211 พ.ศ. รายการ เลขท่ี เดบติ เครดิต 2555 บญั ชี 12,000 1,503 ธ.ค. 31 เงินสด 10,497 12,000 ตราสารหนท้ี ี่จะถือจนครบกาหนด 1,653 12,000 10,347 ดอกเบ้ียรบั 1,817 บันทกึ รบั เงินสดและตัดส่วนเกินมูลค่า 10,183 พ.ศ.2556 100,000 ธ.ค. 31 เงินสด ตราสารหนท้ี จ่ี ะถือจนครบกาหนด ดอกเบีย้ รับ บนั ทึกรับเงินสดและตดั ส่วนเกนิ มูลค่า พ.ศ.2557 ธ.ค. 31 เงินสด ตราสารหนท้ี ่จี ะถอื จนครบกาหนด ดอกเบย้ี รบั บันทกึ รบั เงนิ สดและตดั สว่ นเกินมูลค่า 2558 100,000 ม.ค. 1 เงนิ สด ตราสารหน้ที ่ีจะถอื จนครบกาหนด ไถถ่ อนหุน้ ก้เู มือ่ ครบกาหนด งบแสดงฐานะการเงนิ (บางสว่ น) ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 25.. 31 ธนั วาคม 2554 31 ธนั วาคม 2555 สินทรัพย์หมุนเวียน สินทรพั ย์ สนิ ทรัพยไ์ ม่หมุนเวียน ตราสารหนีท้ ีจ่ ะถือจนครบกาหนด 104,973 103,470
212 งบแสดงฐานะการเงิน (บางส่วน) ณ วนั ที่ 31 ธันวาคม 25.. 31 ธนั วาคม 2556 31 ธันวาคม 2557 100,000 สนิ ทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวยี น ตราสารหนี้ทจ่ี ะครบกาหนดภายใน 1 ปี 101,817 การแสดงขอ้ มลู ในงบการเงนิ และการเปิดเผยข้อมลู ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน - กิจการเร่ิมลงทุนในวันที่ 1 มกราคม 2554 ถึงวันท่ี 31 ธันวาคม 2554 = 1 ปี ซ่ึงยัง เหลอื เวลาอีก 3 ปี แสดงเป็นสนิ ทรพั ยไ์ มห่ มุนเวียน จานวน 104,973 บาท - วันท่ี 31 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 =1 ปี ซ่ึงยังเหลือเวลาอีก 2 ปี แสดงเปน็ สินทรัพย์ไมห่ มุนเวียน จานวน 103,470 บาท - วันท่ี 31 ธันวาคม 2555 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2556 =1 ปี ซึ่งยังเหลือเวลาอีก 1 ปี แสดงเปน็ สินทรัพย์หมุนเวียนหมุนเวยี น จานวน 101,817 บาท - วันท่ี 31 ธันวาคม 2556 ถึงวันท่ี 31 ธันวาคม 2557 =1 ปี เป็นปีสุดท้าย และครบ กาหนดไถ่ถอนในวนั ท่ี 1 มกราคม 2558 แสดงเป็นสินทรพั ยห์ มนุ เวยี น จานวน 100,000 บาท มาตรฐานการบัญชี ฉบับท่ี 105 กาหนดว่า ตราสารหน้ีที่จะถือจนครบกาหนด ให้นาเสนอ ในงบแสดงฐานะการเงินด้วยราคาทุนตัดจาหน่าย คือ มูลค่าตามบัญชีตามท่ีคานวณในตาราง ดอกเบี้ยไม่ต้องปรับให้เป็นมูลค่ายุติธรรม และตราสารหน้ีท่ีจะถือจนครบกาหนดจะถูกแสดงเป็น สินทรพั ย์ไมห่ มนุ เวยี น จนกว่าจะถึงชว่ งระยะเวลาทีจ่ ะครบกาหนดภายในหนึ่งปีจะต้องนามาแสดง เป็นสินทรัพย์หมุนเวียน ส่วนบัญชีดอกเบี้ยรับจะถูกบันทึกเป็นรายได้แสดงในงบกาไรขาดทุน เบ็ดเสรจ็ หลักทรพั ยเ์ ผอ่ื ขาย-ตราสารหนี้ การลงทุนในหลักทรัพยด์ ว้ ยความไมแ่ นน่ อนว่าจะถอื เงินลงทุนไวน้ านเป็นระยะเวลาเท่าใด ใหต้ งั้ ชื่อว่า “หลกั ทรัพย์เผอ่ื ขาย” และกิจการจะจัดประเภทเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนก็ต่อเม่ือกิจการ ถือไว้ไม่เกิน 1 ปี แต่ถ้าถือไว้เกิน 1 ปี จะจัดเป็นสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ในรูปแบบการลงทุนของ หลักทรัพย์เผื่อขายตราสารหน้ี จะมีลักษณะเช่นเดียวกับเรื่องตราสารหน้ีท่ีจะถือจนครบกาหนด เมื่อกิจการลงทุนในตราสารหนี้ จะมีเง่ือนไขระบุในใบหุ้น คืออัตราดอกเบ้ียของหุ้นกู้ ระยะเวลา ท้ังหมดของหุ้นกู้และวันท่ีจ่ายดอกเบ้ีย และตามที่มาตรฐานการบัญชี ฉบับท่ี 105 กาหนดว่า เม่ือ ถึงวันส้ินงวด กิจการต้องปรับมูลค่าตามบัญชีของหลักทรัพย์เผื่อขายให้เป็นมูลค่ายุติธรรม กิจการ
213 ต้องคานวณตารางดอกเบ้ียตามระยะเวลาของหุ้นกู้ จะมีรายการส่วนเกินมูลค่าหรือส่วนลดมูลค่า ตามขน้ั ตอนดังนี้ - เม่ือถึงวันท่กี ิจการจะได้รับดอกเบี้ยตามเง่ือนไขท่ีระบุในใบหุ้นกิจการต้องบันทึกรับเงิน สดและตัดบัญชีส่วนลดหรือส่วนเกินเพื่อให้ดอกเบ้ียรับมีมูลค่าเท่ากับอัตราดอกเบ้ียที่แท้จริงใน ทอ้ งตลาด - ในวนั ส้นิ งวด กจิ การต้องปรับมูลค่าตามบัญชีให้เป็นมลู คา่ ยุตธิ รรม ซ่ึงสามารถ ทาได้ 2 วธิ ี คอื บันทกึ ปรับไปบัญชีหลักทรัพย์เผื่อขาย หรือปรับผ่านบัญชีค่าเผื่อการปรับมูลค่าเงิน ลงทนุ ก็ได้ ซง่ึ จะทาให้ยอดยกไปของเงนิ ลงทุนเปน็ มูลคา่ ยุติธรรม การจาหนา่ ยหลกั ทรัพย์เผ่อื ขาย-ตราสารหน้ี เมื่อกิจการมีความจาเป็นที่จะต้องขายหลักทรัพย์เผ่ือขาย-ตราสารหน้ี ต้องปิดบัญชีท่ี เกี่ยวข้องให้หมด ได้แก่ บัญชีกาไรขาดทุนที่ยังไม่เกิดข้ึนจากการลงทุนในหลักทรัพย์เผ่ือขาย หรือ บญั ชคี ่าเผ่อื การปรบั มูลคา่ เงนิ ลงทุน เปน็ ตน้ ตัวอย่างท่ี 4-8 หลักทรัพย์เผ่ือขาย – ตราสารหน้ี (กรณีดอกเบ้ียท่ีแท้จริงต่ากว่าดอกเบี้ย ของหนุ้ ก้)ู วันท่ี 1 มกราคม 2554 บริษัท ดอยเต่า จากัด ลงทุนซ้ือหุ้นกู้ จาก บริษัท แม่เอียบ จากัด (มหาชน) มูลค่า 400,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 8% ต่อปี บริษัท แม่เอียบ จากัด (มหาชน) จ่าย ดอกเบ้ียทุกวนั ที่ 31 ธันวาคม หุ้นกูม้ อี ายุ 4 ปี โดยมคี วามตั้งใจที่จะถือไว้เผื่อขาย หุ้นกู้น้ีเป็นหุ้นกู้ท่ี อยู่ในความต้องการของตลาด กิจการซื้อหุ้นกู้มาในราคา 421,384 บาท ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยท่ี แท้จรงิ เปน็ 6% มูลค่ายุติธรรมของหุ้นกู้ ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 2554 เท่ากับ 410,000 บาท และ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 เท่ากับ 401,000 บาท ต่อมาได้ขายหุ้นกู้ไปในวันที่ 2 ม.ค. 2556 ในมูลค่ายุติธรรม เทา่ กับ 402,000 บาท
214 ให้ทา 1. ตารางแสดงการคานวณเกย่ี วกบั ดอกเบยี้ รับตามวธิ อี ัตราดอกเบย้ี ที่แทจ้ รงิ 2. บนั ทึกบัญชรี ายการที่เกีย่ วข้องในสมุดรายวันทว่ั ไปตงั้ แต่ 2.1 วนั ท่ี 1 ม.ค. 2554 บนั ทกึ การซอ้ื หุ้นกขู้ องบริษทั ดอยเตา่ จากดั 2.2 วนั ท่ี 31 ธ.ค. 2554 บันทกึ รับดอกเบ้ียและตดั จาหนา่ ยส่วนเกินมูลค่าและปรบั มลู คา่ เงินลงทนุ ใหเ้ ป็นมูลคา่ ยตุ ธิ รรม 2.3 วนั ที่ 31 ธ.ค. 2555 บันทกึ รบั ดอกเบี้ยและตัดจาหน่ายสว่ นเกินมูลค่าและปรับมลู ค่า เงินลงทนุ ใหเ้ ป็นมลู ค่ายุตธิ รรม 2.4 วนั ที่ 2 ม.ค. 2556 ขายหนุ้ กู้ของบรษิ ทั แม่เอยี บ จากัด ในราคา 402,000 บาท การคานวณมูลค่าปจั จุบันของเงินลงทนุ มูลคา่ ปัจจุบนั ของเงินต้น PVIF 3,6% : ( 400,000 x 0.83962 ) = 335,848 มูลคา่ ปัจจุบนั ของดอกเบี้ยรบั PVIFA 3,6%: ( 32,000 x 2.67301 ) = 85,536 มลู ค่าปจั จบุ ันของหุ้นกู้ = 421,384 แสดงการคานวณดอกเบยี้ รบั ตามวธิ อี ตั ราดอกเบี้ยทแ่ี ท้จริง วันที่ เงินสดรบั 8 ดอกเบีย้ รบั 6 ส่วนเกนิ มูลค่า มูลค่าตาม % % ตัดจาหนา่ ย บญั ชี 1 ม.ค. 2554 (บาท) 31 ธ.ค. 2554 (บาท) (บาท) (บาท) 421,384 31 ธ.ค. 2555 - - 31 ธ.ค. 2556 25,283 414,667 32,000 24,880 6,717 24,453 407,547 32,000 74,616 7,120 400,000 32,000 7,547 - 96,000 21,384
215 การบนั ทกึ บัญชีในสมดุ รายวันทั่วไป สมดุ รายวันทวั่ ไป หน้า... วนั เดือนปี รายการ เลขท่ี เดบติ เครดติ 2554 บญั ชี 421,384 ม.ค. 1 หลกั ทรัพย์เผ่ือขาย 421,384 6,717 เงินสด 25,283 บันทึกการลงทุนในหนุ้ กู้ อายุ 4 ปี 4,667 ธ.ค. 31 เงินสด 32,000 หลกั ทรัพย์เผื่อขาย ดอกเบย้ี รบั บนั ทึกรบั เงินสดและตดั ส่วนเกนิ มลู ค่า 4,667 มูลคา่ ตามบญั ชี 421,384 - 6,717 = 414,667 กาไรขาดทนุ ที่ยงั ไมเ่ กิดข้นึ ในหลักทรพั ยเ์ ผอ่ื ขาย หลักทรัพย์เผื่อขาย ปรับเงินลงทนุ ในเปน็ มูลค่ายตุ ิธรรม มลู คา่ ตามบัญชี 414,667 (หลังรบั ดอกเบยี้ ) มูลคา่ ยตุ ธิ รรม 410,000 ขาดทุนที่ยงั ไม่เกดิ ข้นึ 4,667 2555 ธ.ค. 31 เงนิ สด 32,000
216 หลกั ทรัพย์เผื่อขาย 7,120 ดอกเบย้ี รบั 24,880 บนั ทึกรบั เงนิ สดและตดั สว่ นเกินมลู คา่ 1,880 มูลคา่ ตามบัญชี 410,000 - 7,120 = 402,880 กาไรขาดทุนทย่ี งั ไมเ่ กดิ ขน้ึ ในหลกั ทรัพยเ์ ผอื่ ขาย หลกั ทรพั ยเ์ ผือ่ ขาย 1,880 ปรับเงนิ ลงทนุ ในเป็นมลู ค่ายุตธิ รรม มูลค่าตามบญั ชี 402,880 (หลังรับดอกเบ้ีย) มลู คา่ ยตุ ิธรรม 401,000 ขาดทุนทย่ี ังไม่เกิดขนึ้ 1,880 สมดุ รายวันทั่วไป บริษัท ดอยเต่า จากัด หนา้ … วันเดือนปี รายการ เลขที่ เดบติ เครดติ 2556 บญั ชี ม.ค. 2 เงนิ สด 402,000 ขาดทุนจากการขายหลกั ทรพั ย์ 5,547 กาไรขาดทุนทีย่ ังไมเ่ กิดขนึ้ ในหลกั ทรพั ย์เผอื่ ขาย(ปิด) 6,547 หลกั ทรัพยเ์ ผ่ือขาย (ปิด) 401,000 ขายหนุ้ ก้ทู ้งั หมด มลู คา่ ตามบัญชี 31 ธ.ค.2555 = 407,547 ราคาทีข่ ายได้ 1 ม.ค. 2556 = 402,000 ขาดทนุ จากการขายหลักทรัพย์= 5,547 บริษทั ดอยเต่า จากดั งบแสดงฐานะการเงิน (บางสว่ น) ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 255.. สินทรัพย์ 31 ธันวาคม 2554 31 ธันวาคม 2555 สินทรัพยไ์ มห่ มนุ เวียน หลักทรพั ย์เผ่อื ขาย 410,000 401,000 หน้ีสนิ และสว่ นของผูถ้ ือหนุ้
217 สว่ นของผ้ถู ือหนุ้ ทุนเรือนหุ้น กาไร (ขาดทุน) ท่ียังไมเ่ กิดขึน้ ในหลักทรัพย์เผอ่ื ขาย (4,667) (6,547)* *ขาดทุนทีย่ งั ไมเ่ กิดขนึ้ ปี 2554 = 4,667 บาท และปี 2555 = 1,880 บาท เป็นขาดทุนทีย่ งั ไม่เกิดขึน้ 2 ปี 4,667 + 1,880 = 6,547 บาท บรษิ ัท ดอยเต่า จากัด งบกาไรขาดทุนเบด็ เสร็จ (บางส่วน) สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี สิ้นสุดวนั ที่ 31 ธนั วาคม 255.. 31 ธนั วาคม 2554 31 ธนั วาคม 2555 31 ธันวาคม 2556 รายได้ ดอกเบย้ี รับ 25,283 24,880 - กาไรจากการขายหลักทรัพย์ - -- ค่าใชจ้ า่ ยอน่ื ขาดทุนจากการขายหลกั ทรพั ย์ - - 5,547 ตัวอย่างที่ 4-9 หลักทรัพย์เผื่อขาย – ตราสารหนี้ (กรณีดอกเบ้ียท่ีแท้จริงสูงกว่าอัตรา ดอกเบ้ียห้นุ ก้)ู วันที่ 1 มกราคม 2554 บริษัท เชียงดาว จากัด ลงทุนซื้อหุ้นกู้จากบริษัท สารภี จากัด (มหาชน) มลู ค่า 400,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี จ่ายดอกเบ้ียทุกวันที่ 31 ธันวาคม หุ้นกู้มี อายุ 3 ปี โดยมคี วามต้ังใจทจ่ี ะถอื ไว้เผื่อขาย หุ้นกู้นี้เป็นหุ้นที่อยู่ในความต้องการของตลาด กิจการ ซอ้ื ห้นุ กูม้ าในราคา 379,382 บาท ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยท่ีแทจ้ ริงเป็น 8% มูลค่ายุติธรรมของหุ้นกู้ วันท่ี 31 ธันวาคม 2554 เท่ากับ 390,000 บาท และ ณ วันท่ี 31 ธันวาคม 2555 เท่ากับ 395,000 บาท ต่อมาวันที่ 2 มกราคม 2556 ขายหุ้นกู้ไปทั้งหมดในมูลค่า ยุตธิ รรม 396,000 บาท การคานวณมูลคา่ ปจั จุบนั ของเงินลงทุน
218 มูลค่าปัจจบุ ันของเงนิ ต้น PVIF 3,8% : ( 400,000 x 0.79383 ) = 317,532 มลู ค่าปัจจบุ ันของดอกเบ้ยี รบั PVIFA 3,8%: ( 24,000 x 2.57710 ) = 61,850 มลู คา่ ปัจจุบนั ของหนุ้ กู้ = 379,382 คาสงั่ 1. ตารางแสดงการคานวณเกี่ยวกับดอกเบยี้ รบั ตามวิธีอัตราดอกเบย้ี ท่แี ท้จริง 2. บันทึกบัญชรี ายการที่เกีย่ วข้องในสมดุ รายวันท่ัวไปของบริษทั เชยี งดาว จากัดตงั้ แต่ 2.1 วันท่ี 1 มกราคม 2554 ซอื้ หนุ้ กู้ 2.2 วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 2554 (1) บนั ทึกรับดอกเบย้ี และตัดจาหน่ายส่วนลดมูลค่า (2) ปรบั มูลค่าของเงนิ ลงทุนใหเ้ ปน็ มลู คา่ ยตุ ธิ รรม 2.3 วันที่ 31 ธันวาคม 2555 (1) บันทึกรบั ดอกเบ้ียและตัดจาหน่ายส่วนลดมูลคา่ (2) ปรบั มลู คา่ ของเงนิ ลงทุนให้เป็นมูลคา่ ยตุ ิธรรม 2.4 วันท่ี 2 มกราคม 2556 ขายห้นุ กู้ในมลู คา่ ยตุ ิธรรม 396,000 บาท แสดงการคานวณดอกเบีย้ รับตามวิธีอตั ราดอกเบ้ียทีแ่ ท้จริง วันที่ เงินสดรบั ดอกเบ้ยี รบั สว่ นเกินมูลคา่ มูลค่าตาม 6% 8% ตัดจาหน่าย บญั ชี 1 ม.ค. 2554 - 31 ธ.ค. 2554 30,351 - 379,382 31 ธ.ค. 2555 24,000 30,859 31 ธ.ค. 2556 31,408 6,351 385,733 24,000 92,618 6,859 392,592 24,000 7,408 400,000 72,000 20,618 -
219 สมดุ รายวันทั่วไป บริษทั เชียงดาว จากัด หนา้ … วนั เดือนปี รายการ เลขท่ี เดบติ เครดิต 2554 บัญชี 379,382 30,351 ม.ค. 1 หลกั ทรพั ย์เผื่อขาย 379,382 4,267 เงนิ สด 30,859 บันทกึ การลงทุนในหนุ้ กู้ อายุ 3 ปี ธ.ค. 31 เงินสด 24,000 หลักทรัพยเ์ ผือ่ ขาย 6,351 ดอกเบ้ยี รบั บันทึกรับเงินสดและตดั สว่ นลดมลู คา่ หลักทรพั ยเ์ ผื่อขาย 4,267 กาไรขาดทุนท่ยี งั ไมเ่ กดิ ขึ้นในหลกั ทรพั ย์ เผอ่ื ขาย ปรับเงินลงทนุ ในเป็นมลู คา่ ยุตธิ รรม มูลค่ายุตธิ รรม 390,000 มลู คา่ ตามบญั ชี 385,733 (หลงั รบั ดอกเบย้ี ) กาไรท่ยี ังไม่เกดิ ข้ึน 4,267 2555 24,000 ธ.ค. 31 เงนิ สด หลกั ทรัพย์เผ่ือขาย 6,859 ดอกเบย้ี รบั
220 บนั ทกึ รบั เงนิ สดและตดั ส่วนลดมลู ค่า 1,859 มลู ค่าตามบญั ชี =390,000+6,859=396,859บาท ก า ไ ร ข า ด ทุ น ท่ี ยั ง ไ ม่ เ กิ ด ข้ึ น จ า ก ก า ร ล ง ทุ น ใ น 1,859 หลักทรพั ยเ์ ผื่อขาย หนา้ … หลักทรพั ย์เผอ่ื ขาย เครดิต ปรบั เงินลงทุนในเป็นมูลค่ายุติธรรม มลู ค่าตามบญั ชี 396,859 (หลงั รับดอกเบ้ีย) 3,408 395,000 มูลคา่ ยุตธิ รรม 395,000 ขาดทุนทีย่ ังไมเ่ กดิ ข้นึ 1,859 สมดุ รายวันทวั่ ไป บรษิ ัท เชียงดาว จากดั วันเดอื นปี รายการ เลขที่ เดบติ 2556 บญั ชี ม.ค. 2 เงินสด 396,000 กาไรขาดทุนท่ียังไม่เกิดข้ึนในหลักทรัพย์เผ่ือขาย 2,408 (4,267-1,859 = 2,408) กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ หลกั ทรัพยเ์ ผอ่ื ขาย ขายหุ้นก้ทู ้ังหมด ราคาทข่ี ายได้ 2 ม.ค. 2556 = 396,000 มลู ค่าตามบญั ชี 31 ธ.ค.2555 = 395,000 กาไรจากการขายหลกั ทรัพย์ = 3,408 บรษิ ัท เชียงดาว จากดั งบแสดงฐานะการเงนิ (บางส่วน) ณ วนั ที่ 31 ธันวาคม 255.. สินทรัพย์ 31 ธันวาคม 2554 31 ธนั วาคม 2555 สนิ ทรพั ยไ์ มห่ มนุ เวียน 390,000 395,000 หลักทรัพย์เผือ่ ขาย หน้ีสนิ และส่วนของผถู้ ือหุ้น หนส้ี นิ
221 ส่วนของผ้ถู อื หนุ้ 2,408 ทนุ เรือนหนุ้ กาไร (ขาดทุน) ทีย่ งั ไมเ่ กิดขน้ึ ในหลักทรัพย์เผ่อื ขาย 4,267 บริษัท เชียงดาว จากัด งบกาไรขาดทนุ เบ็ดเสร็จ (บางสว่ น) สาหรับระยะเวลา 1 ปี สน้ิ สุดวันท่ี 31 ธันวาคม 255.. 31 ธนั วาคม 2554 31 ธนั วาคม 2555 31 ธนั วาคม 2556 รายได้ ดอกเบย้ี รบั 30,351 30,859 - กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ - - 3,408 อธบิ าย เม่ือกิจการลงทุนในตราสารหน้ีและจัดประเภทเป็นหลักทรัพย์เผื่อขาย ซ่ึงมีอายุ 3 ปี กิจการต้องคานวณหามูลค่าปัจจุบันของหลักทรัพย์เผื่อขายก่อน และในวันแรกท่ีลงทุนคือวันที่ 1 ม.ค. 2554 กจิ การตอ้ งจ่ายเงินลงทุนเท่ากับมูลค่าปัจจุบันน้ันคือ 379,382 บาท และตามที่กาหนด ไว้ งวดที่ 1 วนั รบั ดอกเบยี้ คอื 31 ธ.ค. 2554 กิจการจะต้อง 1. รับเงนิ สด 24,000 บาท แต่อัตราดอกเบ้ียในท้องตลาดเป็น 30,351 บาท กิจการต้องนา ส่วนเกิน คือผลต่างระหว่าง 10 % กับ 12 % คือ 6,351 บาท มาเพ่ิมยอดบัญชีหลักทรัพย์เผ่ือขาย 379,382 บาท ดังน้ี = 379,382 + 6,351 = 385,733 บาท ทาให้บัญชีหลักทรัพย์เผ่ือขาย = 385,733 บาท 2. วันสิ้นงวดกจิ การตอ้ งปรับมลู คา่ ตามบัญชี 385,733 บาท ให้เป็นมูลคา่ ยตุ ธิ รรม คอื มลู คา่ ยตุ ธิ รรม 390,000 บาท มลู ค่าตามบัญชี 385,733 บาท กาไร (กาไรขาดทุนท่ียงั ไม่เกดิ ขนึ้ ) 4,267 บาท
222 ทาให้วันต้นงวด 1 ม.ค. 2555 ยอดยกมาของหลักทรัพย์เผ่ือขายคือ มูลค่ายุติธรรม 390,000 บาทและบญั ชีกาไร (ขาดทุนทยี่ งั ไม่เกดิ ขน้ึ ) ด้านเครดิต 4,267 บาท งวดท่ี 2 วันรบั ดอกเบี้ยคอื 31 ธ.ค. 2555 กจิ การจะต้อง 1. รบั เงินสด 24,000 บาท แต่อัตราดอกเบ้ียในท้องตลาดเป็น 30,859 บาท กิจการต้องนา ส่วนเกิน คือผลต่างระหว่าง 10 % กับ 12 % คือ 6,859 มาเพ่ิมยอดบัญชีหลักทรัพย์เผ่ือขาย 390,000 บาท ดังนี้ =390,000 + 6,859 = 396,859 บาท ทาให้บัญชีหลักทรัพย์เผื่อขาย = 396,859 บาท 2. วันส้ินงวดกิจการต้องปรับมูลค่าตามบัญชี 396,859 บาท ให้เป็นมูลค่ายุติธรรม คือ 395,000 บาท ดังนี้ BV 396,859 - FV 395,000= ขาดทนุ 1,859 มลู ค่าตามบญั ชี 396,859 บาท มลู ค่ายตุ ธิ รรม 395,000 บาท ขาดทุน (กาไรขาดทนุ ที่ยังไมเ่ กดิ ขนึ้ ) 1,859 บาท วันท่ี 1 ม.ค. 2556 ยอดยกมาของหลักทรัพย์เผื่อขายคือ มูลค่ายุติธรรม 395,000 บาท และบัญชีขาดทุน (ขาดทนุ ทีย่ งั ไมเ่ กดิ ขึน้ ) ด้านเดบติ 1,859 บาท วนั ที่ 2 ม.ค. 2556 ขายเงินลงทุนทัง้ หมดในราคาตลาด 396,000 บาทกจิ การตอ้ งปิดบัญชี -หลกั ทรพั ยเ์ ผือ่ ขายในราคา 395,000 บาท และต้องปิดบญั ชที เ่ี กยี่ วขอ้ งคือ -กาไร (ขาดทนุ ) ทย่ี งั ไม่เกดิ ข้ึนในหลกั ทรัพย์เผ่ือขาย ท่ีเกดิ ข้นึ ในปีแรกของการลงทนุ คือ กาไร (กาไรท่ียงั ไม่เกดิ ขนึ้ ) 4,267 บาท และในปที ่ีสองคอื ขาดทุน (ขาดทนุ ทย่ี ังไมเ่ กดิ ข้นึ ) 1,859 บาท ทาให้มียอดคงเหลือเปน็ กาไรที่ยงั ไม่เกดิ ขึ้น 2,408 บาท เงินลงทนุ ทวั่ ไป มาตรฐานการบัญชี ฉบับท่ี 105 เร่ือง การบัญชีสาหรับเงินลงทุนในตราสารหน้ีและตรา สารทุน ใหค้ วามหมายของคานยิ าม วา่ เงินลงทนุ ทวั่ ไป หมายถงึ เงนิ ลงทุนในตราสารทุนทีไ่ มอ่ ยใู่ นความต้องการของตลาดทา ใหก้ ิจการไมส่ ามารถจัดประเภทเปน็ หลกั ทรพั ยเ์ พื่อค้าหรือหลักทรพั ย์เผ่ือ ขาย เงินลงทุนทัว่ ไปสามารถจดั ประเภทเป็นเงนิ ลงทุนชว่ั คราวหรือเงนิ ลงทุนระยะยาว ตามที่มาตรฐานการบัญชีกาหนด กิจการต้องจัดประเภทเงินลงทุนในตราสารทุนท่ีไม่อยู่ ในความต้องการของตลาดเป็นเงินลงทุนท่ัวไป เงินลงทุนทั่วไปต้องแสดงในงบดุลด้วยราคาทุนจะ
223 จัดเป็นเงินลงทุนช่ัวคราวหรือเงินลงทุนระยะยาวก็ได้ และการแสดงรายการในงบแสดงฐานะ การเงินจะต้องเป็นราคาทุน หมายความว่าในวันส้ินงวดกิจการไม่ต้องปรับมูลค่าตามบัญชีเป็น มลู ค่ายตุ ธิ รรม และการลงทุนในเงินลงทุนทั่วไปจะมีความเสี่ยงสูงเน่ืองจากไม่อยู่ในความต้องการ ของตลาด มรการลงทนุ กิจการควรลงทุนในหลกั ทรัพย์ทีอ่ ย่ใู นความต้องการของตลาด เงินลงทนุ ในบรษิ ทั ยอ่ ย มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 10 เรื่อง งบการเงินรวม ได้ให้ความหมายของ คาว่า บรษิ ทั ยอ่ ยไวด้ ังน้ี บรษิ ัทย่อย หมายถึง กจิ การที่ถกู ควบคุมโดยอกี กจิ การหน่ึง และกลา่ วว่า “อานาจ” “ผู้ ลงทุนมีอานาจเหนือผู้ได้รับการลงทุนเมื่อสิทธิท่ีมีอยู่ของผู้ลงทุนทาให้มี ความสามารถในปัจจุบันในการส่ังการกิจกรรมที่เก่ียวข้องกล่าวคือ กิจการที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสาคัญต่อผลตอบแทนของผู้ได้รับการ ลงทนุ การควบคุมผ้ไู ด้รับการลงทุน หมายถงึ ผลู้ งทุนควบคมุ ผไู้ ด้รับการลงทุนเมอ่ื ผลู้ งทุน เปิดรับหรือมีสิทธิในผลตอบแทนผันแปรจากการเก่ียวข้องกับผู้ได้รับการ ลงทุนและมีความสามารถท่ีจะทาให้เกิดผลกระทบต่อผลตอบแทนน้ัน จากการมีอานาจเหนอื ผูไ้ ด้รับการลงทุน ตามท่ีมาตรฐานการรายงานการเงินกาหนดว่า เงินลงทุนในบริษัทย่อย หมายความว่า กิจการได้ไปลงทุนในกิจการอื่น กิจการมีอานาจในการควบคุม มีความสามารถในการสั่งการใน เรอื่ งสาคญั เปน็ กจิ กรรมที่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของกจิ การผู้ถูกลงทนุ เงินลงทุนในบริษัทร่วม มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 28 (ปรับปรุง 2557) เรื่อง เงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วม คา้ ไดใ้ ห้ความหมายของคาว่า บรษิ ัทรว่ ม และอิทธิพลอยา่ งมีนัยสาคัญไว้ดังน้ี บริษัทร่วม หมายถงึ กจิ การท่ีอยภู่ ายใต้อิทธิพลอย่างมนี ยั สาคัญของผลู้ งทนุ อทิ ธพิ ลอยา่ งมีนยั สาคญั หมายถึง อานาจในการเขา้ ไปมสี ว่ นร่วมในการตดั สินใจ
224 เกี่ยวกับนโยบายทางการเงินและการดาเนินงานของ กิ จ ก า ร ที่ ถู ก ล ง ทุ น แ ต่ ไ ม่ ถึ ง ร ะ ดั บ ที่ จ ะ ค ว บ คุ ม ห รื อ ควบคุมร่วมในนโยบายดงั กลา่ ว ตามที่มาตรฐานการบัญชีกาหนด เงินลงทุนในบริษัทร่วมหมายความว่า กิจการได้ไป ลงทุนในกิจการอื่น ในจานวนไม่มากพอที่จะทาให้กิจการสามารถควบคุมกิจการที่ไปลงทุนนั้นได้ กิจการจงึ เพียงแคเ่ ข้าไปมสี ่วนร่วมในการตัดสินใจเก่ียวกับนโยบายทางการเงินและการดาเนินงาน ของกจิ การท่ีถูกลงทุนแตไ่ ม่ถึงระดบั ท่จี ะควบคุมหรือควบคุมร่วมในนโยบายของกจิ การน้ัน ในเนือ้ หาของบัญชีขั้นกลางนี้จะศึกษาเพียงการลงทุนในจานวนไม่มากถึงข้ันท่ีจะเป็นเงิน ลงทุนในบรษิ ัทรว่ มหรือเงินลงทุนในบริษทั ย่อย ซ่งึ จะไดศ้ ึกษาในการบัญชชี ้นั สูงต่อไป การด้อยค่าของเงินลงทุน มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 105 เรื่อง การบัญชีสาหรับเงินลงทุนในตราสารหน้ีและตรา สารทุน กาหนดว่า การด้อยค่าของ ตราสารหนี้ท่ีจะถือจนครบกาหนด หลักทรัพย์เผื่อขายและเงิน ลงทุนท่ัวไปเท่าน้ัน ส่วนหลักทรัพย์เพ่ือค้ามาตรฐานการบัญชีไม่ได้กล่าวไว้ เนื่องจากกิจการได้ ลงทนุ ในหลักทรพั ยเ์ พ่ือค้าเพียงระยะเวลาสั้นๆ เม่ือมีการปรับมูลค่าหลักทรัพย์เพ่ือค้า ผลต่างน้ีจะ ถกู บนั ทกึ ในงบกาไรขาดทุนอยู่แลว้ ดงั น้ันหลกั ทรพั ย์เพือ่ คา้ จงึ จะไม่นามาพจิ ารณาการดอ้ ยค่า มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 36 (ปรับปรุง 2557) เรื่อง การด้อยค่า ให้ความหมายของคา นยิ าม ดังน้ี 2. สินทรพั ย์จะเกดิ การด้อยคา่ กต็ ่อเมอื่ มูลค่าตามบัญชขี องสินทรพั ยน์ ้นั สูงกวา่ มูลค่าท่ี คาดว่าจะได้รับคืนย่อหน้าที่12 ถึง 14 ได้ระบุข้อบ่งช้ีบางประการท่ีแสดงให้เห็นว่าผล ขาดทุนจากการด้อยค่า อาจจะเกิดขึ้น ถ้ามีข้อบ่งชี้ กิจการต้องประมาณมูลค่าท่ีคาด วา่ จะได้รบั คนื ของสนิ ทรพั ยอ์ ยา่ งเปน็ ทางการ ..... 3. ณ วนั สิน้ แต่ละรอบระยะเวลารายงาน กจิ การต้องประเมนิ วา่ มขี อ้ บง่ ชี้ ท่ีทาให้ สินทรัพย์อาจ เกิดการด้อยค่าหรือไม่ หากกิจการพบว่ามีข้อบ่งชี้ดังกล่าว กิจการต้อง ประมาณมลู ค่าท่คี าด ว่าจะไดร้ ับคืนของสินทรพั ย์นัน้ มูลค่าตามบัญชี หมายถึง ราคาของสนิ ทรัพย์ทรี่ บั รู้หลังจากหักค่าเสื่อมราคา สะสม (หรือ ค่าตัดจา หน่ายสะสม) และค่าเผอื่ การด้อยค่าสะสม มูลคา่ ท่คี าดวา่ จะไดร้ บั คนื หมายถงึ มลู คา่ ยตุ ธิ รรมหักต้นทุนในการจาหน่ายของ สินทรพั ย์หรือหน่วยสินทรัพย์ทีก่ ่อใหเ้ กิดเงินสด หรือมูลค่าจากการใช้ของ สนิ ทรัพย์นัน้ แลว้ แต่จานวนใดจะสงู กวา่
225 มลู คา่ จากการใช้ หมายถึง มูลค่าปจั จบุ ันของกระแสเงนิ สดในอนาคตที่คาดว่าจะได้รับ จากการใชส้ นิ ทรพั ย์หรอื หนว่ ยสนิ ทรพั ย์ท่กี ่อให้เกดิ เงินสด ตามทมี่ าตรฐานการบัญชกี าหนด สามารถสรปุ ความหมายของคาต่างๆ ดังนี้ มูลค่าจากการใช้ คือ มูลค่าปัจจุบันของสินทรัพย์ที่เกิดจากการคานวณว่ากิจการจะได้รับ ประโยชนจ์ ากสินทรพั ย์น้ันดว้ ยมูลคา่ เทา่ ใด) มูลคา่ ทีค่ าดว่าจะไดร้ บั คืน คือ มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์หักด้วยค่าใช้จ่ายท่ีกิจการต้องเสียไป เพื่อทาใหส้ ินทรพั ยน์ ้นั ขายได้) การดอ้ ยค่าของเงนิ ลงทุน คือ มูลค่าตามบัญชีของเงินลงทนุ ของกิจการผู้ถูกลงทุนสูงกว่ามูลค่าที่ คาดว่าจะได้รับคืนของเงินลงทุนนั้น โดยจะต้องว่ามีเหตุการณ์ที่ทาให้เงินลงทุนเกิดการด้อยค่า เหตุการณ์นั้นเรียกว่า “ข้อบ่งชี้ทั้งจากภายในและภายนอกกิจการ” มักจะเป็นเหตุการณ์ที่เป็นไป ในทางลบ ทาให้กิจการต้องคานวณหามูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืน เพื่อนามาเปรียบเทียบกับมูลค่า ตามบญั ชี หาก มลู ค่าตามบัญชสี งู กวา่ มูลคา่ ท่คี าดว่าจะได้รับคืนแสดงว่าเงินลงทุนเกิดการด้อยค่า แสดงไดด้ งั น้ี 1. เมื่อมขี ้อบง่ ช้ีทัง้ จากภายในและภายนอกกจิ การ 2. กิจการต้องทดสอบการด้อยค่า ระหว่าง มูลค่าตามบัญชีกับ มูลค่าจากการใช้ มูลค่า ใดมากกวา่ จะเลอื กมลู คา่ นั้นเพราะเปน็ ทางเลือกท่ีดีกว่า 3. เม่ือเลือกทางเลือกท่ีดีที่ได้แล้ว ทางเลือกนั้นจะมีความหมายเป็น “มูลค่าท่ีคาดว่าจะ ได้รับคืน”หากมูลค่าตามบัญชีสูงกว่ามูลค่าท่ีคาดว่าจะได้รับคืน เงินลงทุนจะเกิดการด้อยค่า กจิ การจะตอ้ งบนั ทกึ ”ขาดทนุ จากการด้อยค่า” การด้อยค่าของตราสารหนท้ี จี่ ะถอื จนครบกาหนด มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 105 เรอ่ื ง การบัญชีสาหรับเงนิ ลงทนุ ในตราสารหนี้และตรา สารทุน กาหนดว่า 32. ตราสารหนท้ี จี่ ะถือจนครบกาหนดจะด้อยค่าเม่ือมีความเป็นไปไดค้ ่อนข้างแนท่ ่ี กิจการจะไม่สามารถเรียกเก็บเงินต้นหรือดอกเบ้ียท้ังหมดหรือบางส่วนตามที่ระบุไว้ ในสัญญาได้ รายการขาดทุนจากการด้อยค่าของตราสารหน้ีดังกล่าวคือ ผลต่าง ระหวา่ งราคาตามบัญชีกับมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดที่คาดว่าจะได้รับจากตรา สารหน้ีนน้ั ซ่ึงคดิ ลดด้วยอัตราดอกเบี้ยทแี่ ท้จริงตามสัญญาเดมิ 33. กจิ การต้องบนั ทกึ รายการขาดทุนจากการด้อยค่าของตราสารหนที้ ่ีจะถือจนครบ
226 กา ห นดใ น งบ ก าไ ร ข าดทุ นทั น ที ท่ีเ งิ นล ง ทุ นเ กิ ดก า ร ด้อย ค่า แ ล ะต้ องรั บ รู้ รา ย ไ ด้ ดอกเบ้ียในเวลาตอ่ มาดว้ ยอตั ราคิดลดทค่ี านวณมูลคา่ ปัจจุบันของตราสารหน้นี ั้น ตามท่ีมาตรฐานการบัญชีกาหนด ตราสารหนี้ท่ีจะถือจนครบกาหนดจะด้อยค่าเม่ือมีข้อ บ่งช้วี ่ากิจการไม่สามารถเรยี กเกบ็ เงินตน้ หรอื ดอกเบ้ียท้ังหมดหรือบางสว่ นตามที่ระบไุ วใ้ นสญั ญา การด้อยคา่ ของหลักทรพั ย์เผ่ือขาย มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 105 เร่ือง การบัญชีสาหรับเงินลงทุนในตราสารหน้ีและตรา สารทนุ 35. กิจการต้องบนั ทกึ การดอ้ ยค่าของหลักทรพั ย์เผ่ือขายทนั ทีทมี่ ีหลักฐานสนับสนุนว่า หลักทรัพย์นั้นด้อยค่า โดยการกลับบัญชีส่วนต่ากว่าทุนจากการเปล่ียนแปลงมูลค่า ของหลักทรัพย์เผื่อขายท่ีแสดงอยู่ในส่วนของเจ้าของเป็นรายการขาดทุนจากการ ด้อยคา่ ทนั ทีที่เกิด เวน้ แต่กจิ การเคยบันทึกส่วนเกินทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าไว้ ในสว่ นของเจ้าของ กิจการต้องกลับบัญชีส่วนเกินทุนดังกล่าวในการบันทึกมูลค่าเงิน ลงทุนกอ่ นทจ่ี ะบันทึกรายการขาดทนุ จากการด้อยค่าในงบกาไรขาดทนุ 36. หลักฐานสนบั สนุนวา่ หลกั ทรัพย์เผือ่ ขายเกิดการดอ้ ยคา่ มีดังต่อไปน้ี 36.1 กจิ การท่ีออกหลกั ทรพั ยก์ าลงั ประสบปญั หาทางการเงิน 36.2 กจิ การทอี่ อกหลกั ทรพั ยผ์ ิดนัดชาระหน้ีหรือผิดเง่ือนไขในสัญญา 36.3 มีความเป็นไปได้สูงทก่ี จิ การผ้อู อกหลกั ทรพั ย์จะลม้ ละลายหรือฟืน้ ฟูกิจการ 36.4 หลกั ทรัพยน์ ้ันไมม่ กี ารซือ้ ขายในตลาดซื้อขายคล่องอกี ต่อไปเนอื่ งจากปญั หา ทางการเงนิ ตามท่ีมาตรฐานการบัญชีกาหนด เมื่อมีข้อบ่งช้ีหรือหลักฐานท่ีสนับสนุนว่าทาให้ หลักทรัพย์เผ่ือขายเกิดการด้อยค่า กิจการต้องบันทึกการด้อยค่าของหลักทรัพย์เผ่ือขายทันทีท่ีมี หลักฐานสนับสนุนการด้อยค่า กิจการต้องปิดบัญชีกาไรขาดทุนท่ียังไม่เกิดขึ้นเป็นรายการขาดทุน จากการด้อยค่าทันทีท่ีเกิด ซึ่งเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น กิจการผู้ถูกลงทุนกาลังจะล้มละลาย เป็น ต้น เร่ิมแรกเมื่อกิจการลงทุนในหลักทรัพย์เผ่ือขาย ในวันสิ้นงวดกิจการต้องปรับมูลค่า หลกั ทรพั ยเ์ ผือ่ ขายให้เป็นมลู ค่ายตุ ธิ รรมตามปกติ หากการปรบั มลู ค่าทาใหเ้ กดิ 1. ผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น และในปีต่อมาหากมีข้อบ่งชี้ว่ากิจการต้องบันทึกการด้อยค่า ของหลักทรัพย์เผ่ือขาย กิจการต้องปิดบัญชีรายการขาดทุนท่ียังไม่เกิดขึ้นที่แสดงในส่วนของผู้ถือ
227 หุ้นให้หมดไปทันทีด้านเครดิต จากน้ันต้องลดบัญชีหลักทรัพย์เผ่ือขายลงด้วยจานวนเดียวกันด้าน เครดิต เพื่อให้เท่ากับมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืน ในขณะเดียวกันจะเกิดขาดทุนจากการด้อยค่าทั้ง จานวนในดา้ นเดบิต ซง่ึ จะแสดงเปน็ คา่ ใชจ้ ่ายในงบกาไรขาดทนุ เบ็ดเสรจ็ ในงวดนน้ั ทนั ที 2. แต่ถ้าหากเกิดกาไรที่ยังไม่เกิดข้ึน และในปีต่อมาหากมีข้อบ่งช้ีว่ากิจการต้องบันทึก การด้อยคา่ ของหลักทรพั ยเ์ ผ่ือขาย 2.1 กิจการต้องปิดบัญชีกาไรท่ียังไม่เกิดขึ้นท่ีแสดงในส่วนของผู้ถือหุ้นให้หมดไปไป ยังบญั ชหี ลกั ทรัพย์เผอื่ ขายก่อน ทาใหบ้ ญั ชหี ลกั ทรพั ย์เผ่ือขายมีจานวนลดลง 2.2 จากนนั้ ตอ้ งลดบัญชีหลักทรพั ย์เผือ่ ขายลงด้านเครดติ ให้เหลือเท่ากับมูลค่าที่คาด ว่าจะได้รับคืน ในขณะเดียวกันจะเกิดขาดทุนจากการด้อยค่าด้านเดบิต ซ่ึงจะแสดงเป็นค่าใช้จ่าย ในงบกาไรขาดทนุ เบ็ดเสรจ็ ในงวดนั้นทันที ตวั อยา่ งที่ 4-10 บริษทั แม่สะรอง จากัด ลงทุนซอื้ หนุ้ ในบริษัท บา้ นห้วย จากัด (มหาชน) ในมูลค่า ยตุ ธิ รรม 360,000 บาท เมือ่ วันที่ 1 มกราคม 2556 มีความตั้งใจจะถือไว้เผ่ือขาย วันที่ 31 ธันวาคม 2556 มีมูลค่ายุติธรรมของหุ้น จานวน 300,000 บาท ได้พิจารณาการด้อยค่าของเงินลงทุน เนื่องจากพบข้อบ่งช้ีว่าเงินลงทุนอาจเกิดการด้อยค่า เนื่องจากบริษัท บ้านห้วย จากัด (มหาชน) กาลงั ประสบปญั หาทางการเงนิ และเกดิ การเปลีย่ นแปลงรฐั บาล วันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัท แม่สะรอง จากัด พิจารณามูลค่าท่ีคาดว่าจะได้รับคืน เทา่ กับ 160,000 บาท ซ่ึงทาให้หลักทรัพยเ์ ผื่อขายเกดิ การดอ้ ยคา่ ในปี 2557 คาสง่ั บนั ทกึ บัญชีรายการด้อยคา่ ของหลักทรัพย์เผ่อื ขาย สมุดรายวนั ทวั่ ไป บริษัท แมส่ ะรอง จากดั วนั เดอื นปี รายการ เลขที่ เดบิต เครดติ 2556 บัญชี ม.ค. 1 หลักทรพั ยเ์ ผอ่ื ขาย 360,000 เงินสด 360,000 ซือ้ เงนิ ลงทนุ ธ.ค. 31 กาไรขาดทนุ ท่ียังไม่เกดิ ขึ้นในหลักทรัพย์เผ่ือขาย 60,000 หลักทรัพยเ์ ผือ่ ขาย 60,000 ปรบั มูลค่าใหเ้ ป็นมลู คา่ ยตุ ธิ รรม มูลคา่ ตามบญั ชี 360,000 มูลค่ายุติธรรม 300,000
228 ขาดทุน(กาไรขาดทนุ ท่ียังไมเ่ กดิ ขน้ึ ) 60,000 2557 200,000 ธ.ค. 31 ขาดทุนจากการดอ้ ยคา่ ของสนิ ทรพั ย์ 60,000 กาไรขาดทนุ ที่ยงั ไมเ่ กิดข้นึ ใน หลกั ทรพั ย์เผ่อื ขาย 140,000 เงนิ ลงทุนในหลกั ทรัพยเ์ ผอื่ ขาย บันทึกการด้อยค่าของหลักทรัพย์เผือ่ ขาย เร่มิ แรกหลกั ทรัพย์เผือ่ ขายมีจานวน 360,000 บาท ในวันส้ินงวดมูลค่ายุติธรรมเหลือเพียง 300,000 บาท ทาให้เกิดขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น 60,000 บาท ในปีต่อมากิจการต้องบันทึกการด้อย ค่าของหลักทรัพย์เผ่ือขายทันทีเน่ืองจากมีข้อบ่งช้ี ทาให้มูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนเหลือเพียง 160,000 บาท กจิ การตอ้ งปดิ บัญชรี ายการขาดทนุ ทยี่ งั ไมเ่ กดิ ขนึ้ ทีแ่ สดงในส่วนของผู้ถือหุ้นให้หมด ไปทนั ทีจานวน 60,000 บาท จากน้ันต้องลดบัญชีหลักทรัพย์เผ่ือขายลง 140,000 บาท หลักทรัพย์ เผื่อขายจะเหลือ 160,000 บาท ในขณะเดียวกันจะเกิดขาดทุนจากการด้อยค่าจานวน 200,000 บาท ซ่ึงจะแสดงเป็นคา่ ใช้จ่ายในงบกาไรขาดทุนเบด็ เสรจ็ ในงวดน้ันทันที บรษิ ัท แมส่ ะรอง จากดั งบกาไรขาดทุน (บางส่วน) สาหรบั ระยะเวลา 1 ปี สนิ้ สุด วันที่ 31 ธนั วาคม 2557 รายได้ กาไรจากการขายหลกั ทรพั ย์ xxx ค่าใชจ้ ่าย ขาดทุนจากการขายหลกั ทรัพย์ xxx ขาดทุนจากการดอ้ ยค่า 200,000 บรษิ ทั แมส่ ะรอง จากดั งบแสดงฐานะการเงิน (บางส่วน) ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 255.. สินทรัพย์ 31 ธันวาคม 2556 31 ธันวาคม 2557 สนิ ทรพั ยไ์ มห่ มุนเวยี น หลกั ทรัพย์เผ่ือขาย 300,000 160,000
หนี้สินและส่วนของเจ้าของ (60,000) 229 ส่วนของเจ้าของ - กาไร(ขาดทนุ )ท่ียังไม่เกดิ ข้นึ ในหลกั ทรัพย์เผอ่ื ขาย ตัวอย่างท่ี 4-11 เม่ือวันที่ 1 มกราคม 2556 บริษัท แม่สะรอง จากัด ลงทุนซ้ือหุ้นในบริษัท บ้าน ห้วย จากัด (มหาชน) ในราคาตลาด 360,000 บาท มีความตั้งใจจะถือไว้เผื่อขาย วันที่ 31 ธันวาคม 2556 มูลคา่ ยุติธรรมของหนุ้ เทา่ กับ 370,000 บาท วันท่ี 31 ธันวาคม 2557 ได้พิจารณาการด้อยค่าของเงินลงทุนเนื่องจากพบข้อบ่งชี้ว่าเงิน ลงทุนอาจเกิดการด้อยค่า บริษัท แม่สะรอง จากัด พิจารณามูลค่าท่ีคาดว่าจะได้รับคืนเท่ากับ 160,000 บาท ซงึ่ ทาให้หลักทรพั ยเ์ ผื่อขายเกดิ การด้อยค่า ในปี 2557 สมดุ รายวันทัว่ ไป บรษิ ทั แม่สะรอง จากัด วันเดอื นปี รายการ เลขที่ เดบติ เครดิต 2556 บญั ชี ม.ค. 1 หลกั ทรัพย์เผอ่ื ขาย 360,000 เงินสด 360,000 ซ้อื เงินลงทุน ธ.ค. 31 หลักทรพั ย์เผื่อขาย 10,000 กาไรขาดทนุ ทย่ี งั ไมเ่ กิดข้ึน 10,000 ในหลักทรัพย์เผ่อื ขาย ปรบั มลู คา่ ใหเ้ ป็นมลู คา่ ยตุ ธิ รรม มลู คา่ ยตุ ธิ รรม 370,000 มลู คา่ ตามบญั ชี 360,000 กาไร(กาไรขาดทนุ ท่ยี ังไม่เกดิ ข้นึ ) 10,000 2557 ธ.ค. 31 กาไรขาดทนุ ที่ยงั ไม่เกิดขนึ้ ในหลกั ทรัพยเ์ ผ่อื ขาย 10,000 หลกั ทรัพย์เผ่ือขาย 10,000 ปดิ บัญชีขาดทนุ ทย่ี งั ไม่เกดิ ขน้ึ เขา้ บญั ชีเงนิ ลงทนุ (ทาให้มลู ค่าตามบัญชี= 360,000 บาท )
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 513
Pages: