(สำเนำ) บันทกึ ข้อความ สว่ นราชการ กพ.ทบ. (กองกำรศึกษำฯ โทร. ๐ ๒๒๙๗ ๗๐๑๑, ๘๗๐๒๕) ท่ี กห ๐๔๐๑/๒๔๙๑ วันท่ี ๓๑ ส.ค. ๖๔ เร่ือง ขออนมุ ตั ใิ ช้คมู่ ือปฏิบตั งิ ำน เร่อื ง กำรจดั กำรควำมรกู้ องทพั บก เรียน ผบ.ทบ. (ผำ่ น ผช.ผบ.ทบ.(๑)) - เห็นควรอนุมัติตำมที่ กพ.ทบ. เสนอในข้อ ๔ (ลงช่ือ) พล.ท. อยทุ ธ์ ศรวี เิ ศษ (อยุทธ์ ศรีวเิ ศษ) รอง เสธ.ทบ.(๑) ๑ ก.ย. ๖๔ - อนุมัติตำมเสนอในข้อ ๔ รับคำสงั่ ผบ.ทบ. (ลงชื่อ) พล.อ. พรศกั ด์ิ พูลสวสั ดิ์ (พรศกั ด์ิ พูลสวัสด)์ิ ผช.ผบ.ทบ.(๑) ๑ ก.ย. ๖๔ สำเนำถกู ต้อง (ลงชอื่ ) พ.ท.หญงิ จันทิรำ นำคบญุ นำ (จนั ทริ ำ นำคบุญนำ) หน.กพ.ทบ. ๖ ก.ย. ๖๔
(สำเนา) บันทกึ ข้อความ สว่ นราชการ กพ.ทบ. (กองการศกึ ษาฯ โทร. ๐ ๒๒๙๗ ๗๐๑๑, โทร.ทบ. ๘๗๐๒๕) ท่ี กห ๐๔๐๑/๒๔๙๑ วนั ท่ี ๓๑ ส.ค. ๖๔ เร่อื ง ขออนุมัติใชค้ ู่มือปฏิบัตงิ าน เรอ่ื ง การจดั การความรกู้ องทัพบก . เรียน ผบ.ทบ. (ผ่าน ผช.ผบ.ทบ.(๑)) อ้างถงึ ๑. หนังสอื กพ.ทบ. ดว่ นมาก ท่ี กห ๐๔๐๑/๕๔ ลง ๖ ม.ค. ๖๐ ๒. หนังสอื กพ.ทบ. ที่ กห ๐๔๐๑/๓๙๒๑ ลง ๒๓ พ.ย. ๖๓ ๓. คำสงั่ คณะกรรมการจดั การความรู้ของ ทบ. ท่ี ๒/๒๕๖๓ ลง ๒๙ ธ.ค. ๖๓ สงิ่ ที่ส่งมาดว้ ย ๑. คู่มอื ปฏิบตั งิ าน เรอื่ ง การจัดการความร้กู องทัพบก จำนวน ๑ เล่ม ๒. สรปุ ขอ้ พิจารณาฯ (รา่ ง) คู่มอื การจัดการความรู้กองทัพบก จำนวน ๑ ชดุ ๑. กพ.ทบ. ขออนุมัติใช้คู่มือปฏิบัติงาน เรื่อง การจัดการความรู้กองทัพบก เพ่ือให้ นขต.ทบ. ยึดถือเป็นกรอบแนวทาง และเป็นมาตรฐานในการดำเนินการจัดการความรู้ รายละเอียดตามส่งิ ที่ส่งมาด้วย ๑ ๒. ขอ้ เท็จจรงิ ๒.๑ ผบ.ทบ. (ผช.ผบ.ทบ.(๑) รับคำสั่งฯ) ได้กรุณาอนุมัติแผนแม่บทการจัดการความรู้ ของ ทบ. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ จำนวน ๔ กลยุทธ์ ได้แก่ กลยุทธ์พัฒนาศักยภาพกำลังพล ด้านการจัดการความรู้ กลยุทธ์บูรณาการกระบวนการจัดการความรู้เข้ากับการปฏบิ ัติงานประจำเพื่อพัฒนา คุณภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์สร้างแรงจูงใจและดำรงความต่อเนื่องด้านการจัดการความรู้ และกลยุทธ์พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการจัดการความรู้ รายละเอียดตามอ้างถึง ๑ และ กพ.ทบ. ได้แจ้งแนวทางการปฏิบัติการจัดการความรู้ของ ทบ. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เพื่อให้ หน่วยใช้เป็นแนวทางในการกำหนดแผนการปฏิบัติการจัดการความรู้ภายในหน่วยให้สอดคล้องกัน รายละเอยี ดตามอ้างถึง ๒ ๒.๒ คณะทำงานขับเคลื่อนการจัดการความรู้ของ ทบ. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ตามอ้างถึง ๓ ได้จัดทำคู่มือปฏิบัติงาน เรื่อง การจัดการความรู้กองทัพบก ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการดำเนินงานการจัดการความรู้ของ นขต.ทบ. และเป็นเอกสารอ้างอิงสำหรับ ผู้ประสานงานการจดั การความรูข้ อง ทบ. กำลงั พล และผูท้ ี่เกยี่ วขอ้ งในการดำเนินการจัดการความรู้ เพอ่ื สรา้ ง ความรู้ความเข้าใจในขั้นตอนกระบวนการการจัดการความรู้ภายในหน่วยให้มีความชัดเจนและ เป็นรูปธรรมมากยง่ิ ข้นึ
-๒- ๒.๓ สาระสำคัญของคู่มือปฏิบัติงาน เรื่อง การจัดการความรู้กองทัพบก ประกอบด้วย ๒ ส่วน ส่วนแรก เป็นภาคทฤษฎี ประกอบด้วยความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการความรู้ ขั้นตอน กระบวนการจัดการความรู้ การดำเนินงานการจัดการความรู้ภายในหน่วยของ นขต.ทบ. และการติดตาม ประเมินผลและการรายงานผลการปฏิบตั ิงาน สว่ นที่สอง เปน็ ภาคผนวก ประกอบด้วย เอกสารอา้ งอิง และ แบบฟอร์มพร้อมตัวอย่างเอกสารในการดำเนินการจัดการความรู้ เพื่อให้กำลังพลใช้เป็นหลักฐานในการ จัดการความรู้ของหน่วยต่อไปได้ ทั้งนี้ คู่มือฯ ดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาตรวจสอบจากคณะทำงาน ขับเคลื่อนการจัดการความรู้ของ ทบ. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดตามสิ่งท่ี สง่ มาด้วย ๒ ๓. กพ.ทบ. พิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน เรื่อง การจัดการความรู้ กองทัพบก ตามข้อ ๑ เป็นการดำเนินการเพื่อให้ผู้ประสานงานการจัดการความรู้ของหน่วย กำลังพล และ ผทู้ เี่ กี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ ได้ใช้เปน็ แนวทางการปฏบิ ัติงานและเปน็ หลักฐานอ้างอิงในการจดั การ ความรู้ของหน่วยให้เป็นระบบ มีความชดั เจน และเป็นรูปธรรมมากยิ่งข้ึน กอปรกบั มีความสอดคล้องกบั แผนแม่บทการจัดการความรู้ของ ทบ. และแนวทางการจัดการความรู้ของ ทบ. ตามข้ อ ๒.๑ ดังน้ัน จึงเห็นควรอนมุ ัติ ๔. ขอ้ เสนอ เห็นควรดำเนนิ การดังน้ี ๔.๑ ให้ใชค้ ูม่ อื ปฏบิ ัติงาน เร่อื ง การจัดการความร้กู องทพั บก ตามขอ้ ๑ ๔.๒ สำเนาให้ นขต.ทบ. ทราบ เพื่อยึดถอื เป็นกรอบแนวทางการดำเนนิ งานด้านการ จัดการความรูข้ องหน่วยต่อไป จึงเรียนมาเพื่อกรุณาพิจารณา หากเห็นเป็นการสมควร กรุณาอนุมัติตามเสนอในข้อ ๔ ทั้งนี้ อยู่ในอำนาจของ ผบ.ทบ. ซึ่งมอบให้ ผช.ผบ.ทบ.(๑) อนุมัติ ตาม คำสั่ง ทบ. ที่ ๑๓๒/๒๕๖๓ ลง ๒๖ ม.ี ค. ๖๓ และคำส่งั ทบ. (เฉพาะ) ท่ี ๑๒๗๒/๖๓ ลง ๑ ต.ค. ๖๓ (ลงช่ือ) พล.ท. มานัสชัย ศรีประจนั ทร์ (มานัสชยั ศรีประจนั ทร์) จก.กพ.ทบ. พ.ท.หญงิ ร่าง/พมิ พ์/ตรวจ ส.ค. ๖๔ พ.อ. ตรวจ ส.ค. ๖๔ พ.อ. ตรวจ ส.ค. ๖๔ พ.อ. ตรวจ ส.ค. ๖๔ พล.ต. ตรวจ ส.ค. ๖๔ พล.ต. ตรวจ ส.ค. ๖๔
คมู่ ือปฏิบัตงิ าน (Work Manual) เร่อื ง การจัดการความรกู้ องทพั บก (Army Knowledge Management) จดั ทำโดย สงิ หาคม ๒๕๖๔ กรมกำลงั พลทหารบก
คมู่ อื ปฏบิ ตั ิงาน (Work Manual) เรื่อง การจัดการความรกู้ องทัพบก (Army Knowledge Management) ไดผ้ า่ นการตรวจสอบกลั่นกรองจากคณะทำงานขับเคลื่อนการจัดการความรกู้ องทัพบก ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เรยี บรอ้ ยแล้ว จงึ สามารถใช้เปน็ เอกสารเผยแพร่ และใช้เปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั ิงานได้ (ลงชือ่ ) พลโท มานัสชัย ศรปี ระจนั ทร์ (มานสั ชยั ศรปี ระจันทร)์ จก.กพ.ทบ./ประธานกรรมการจัดการความรู้ของ ทบ. (ลงช่อื ) พลตรี กำธร บญุ ทอง (กำธร บุญทอง) ผอ.สพบ.กพ.ทบ./ประธานคณะทำงานขับเคล่อื น การจดั การความรู้ของ ทบ. (ลงชื่อ) พนั เอก โกวิท บญุ ยกจิ โณทยั (โกวิท บญุ ยกจิ โณทยั ) ผอ.กกศ.สพบ.กพ.ทบ./คณะทำงาน และเลขานกุ ารฯ.
คำนำ พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.๒๕๕๖ หมวด ๓ มาตรา ๑๑ สว่ นราชการ มีหนา้ ทพ่ี ฒั นาความรใู้ นส่วนราซการเพ่ือใหม้ ีลกั ษณะเป็นองค์การแห่งการเรียนร้อู ย่าง สม่ำเสมอ โดยต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสาร สามารถประมวลผลความรู้ในด้านต่าง ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ ความสามารถ สรา้ งวิสยั ทัศน์และปรับเปลย่ี นทัศนคติของข้าราชการในสงั กัด ใหเ้ ปน็ บคุ ลากรที่มีประสิทธิภาพ และมกี ารเรียนรรู้ ่วมกนั กองทัพบก จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการจัดการความรู้ และจัดทำแผนแม่บทการจัดการ ความรู้กองทัพบกขึ้น เพอ่ื ใช้เป็นกรอบแนวทางในการจัดการความรู้ของกองทพั บก โดยตระหนกั ถึงความสำคัญ ในการใช้การจัดการความรู้ (Knowledge Management หรือ KM) เป็นเครื่องมือในการนำองค์กรก้าวสู่ องค์กรสมรรถนะสงู โดยการสรา้ งสินทรพั ย์ทางความรู้ให้อยู่กับองค์กร พฒั นาระบบใหอ้ งค์ความรู้ถูกถ่ายทอด และเก็บรักษาไว้ที่องค์กร และมีการแบง่ ปันความรู้ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ภายในองค์กร อันจะส่งผลให้ เกดิ ประสิทธิภาพ ประสทิ ธิผล และนวัตกรรมขององค์กร คู่มือการจัดการความรู้ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดเป็นองค์ความรู้ ในการสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับขั้นตอนกระบวนการจัดการความรู้ภายในหน่วยใหม้ ีความชดั เจนและเป็นรูปธรรมมากขึน้ นำไปสู่การ จัดการความรู้ที่เป็นองค์ความรู้ของหน่วย คณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือฉบับนี้จะเป็นประโยซน์ต่อ หน่วยขึน้ ตรงต่อกองทัพบก ผู้ประสานงานการจัดการความรู้ของกองทพั บก กำลังพล และผทู้ เ่ี กี่ยวข้อง ในการ ดำเนนิ การจดั การความรู้ต่อไป คณะทำงานขับเคล่ือนการจดั การความรู้กองทพั บก ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๔
สารบัญ บทที่ ๑ ความรูเ้ บื้องตน้ เก่ยี วกับการจัดการความรู้ หนา้ - ความหมาย และประเภทของความรู้ - ความหมายของการจดั การความรู้ ๑-๗ - ทำไมต้องจดั การความรู้ ๑ - หลักสำคัญของการจัดการความรู้ ๑ - แนวทาง และแนวคดิ การจดั การความรู้ ๒ - กระบวนการจดั การความรู้ ๒ - เคร่ืองมือในการจัดการความรู้ ๒ - ผลลพั ธ์ทไี่ ด้จากการจัดการความรู้ ๓ ๕ ๗ บทท่ี ๒ กระบวนการจัดการความรู้ของ ทบ. ๘-๙ - ความเป็นมา ๘ - เป้าประสงคข์ องการจดั การความรูข้ อง ทบ. ๘ - แผนแมบ่ ทการจดั การความร้ขู อง ทบ. ๘ - ผลผลติ และผลลัพธ์ทีม่ ุ่งหวงั จากการจัดการความรู้ ๙ - กระบวนการจดั การความรขู้ อง ทบ. ๙ บทท่ี ๓ ขั้นตอนการปฏบิ ัตขิ อง นขต.ทบ. ในการจดั การความรู้ภายในหน่วย ๑๐ - ๑๒ บทที่ ๔ การติดตามประเมินผลและรายงานผลการจัดการความรู้ ๑๓ - ๑๖ - การรายงานผลการดำเนินการจัดการความรู้ ๑๓ - การนิเทศติดตามประเมินผลการจัดการความรู้ ๑๓ - หลกั ฐานการจดั การความรู้ประกอบการดำเนนิ งานของ นขต.ทบ. ๑๔ - เกณฑ์การนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการดำเนนิ งานการจดั การความรู้ ๑๖ ผนวก ก กจิ กรรมการดำเนนิ งานดา้ นการจดั การความรู้ของ นขต.ทบ. ๑๙ - ๒๐ ผนวก ข การจดั ทำแฟ้มการจัดการความรู้ประจำหนว่ ย ๒๑ - ๑๐๓ สว่ นท่ี ๑ เอกสารอ้างองิ การดำเนินงานการจดั การความรู้ ๒๒ - ๕๗ ส่วนท่ี ๒ แบบฟอรม์ และตัวอยา่ งการใชเ้ คร่ืองมือ ๕๘ - ๑๐๓ - แบบฟอรม์ ที่ ๑ แผนท่ีความรู้ (Knowledge Mapping) ด้วยการวิเคราะหโ์ ครงสร้าง ๕๙ - แบบฟอร์มที่ ๒ ฐานข้อมูลองค์ความรู้ของ นขต.ทบ. ๖๒ - แบบฟอรม์ ที่ ๓ แบบบนั ทึกการมอบหมายภารกิจ ๖๔ - แบบฟอรม์ ที่ ๔ การเขียนบทเรียนเฉพาะการปฏบิ ตั งิ าน (One Point Lesson : OPL) ๖๖ - แบบฟอร์มที่ ๕ คู่มือปฏิบัตงิ าน (Work Manual) ๗๐ - แบบฟอร์มท่ี ๖ แบบเสนอโครงการพฒั นาคุณภาพงาน กจิ กรรมติดดาวของ ทบ. ๘๐ - แบบฟอร์มที่ ๗ รายงานผลการดำเนินงานการจดั การความรู้ของ นขต.ทบ. ๙๘ - ขัน้ ตอนการสง่ ไฟล์เอกสารการรายงานผลการดำเนนิ งานการจดั การความร้ขู อง ทบ. ๑๐๒
๑ บทท่ี ๑ ความรเู้ บ้อื งต้นเกย่ี วกับการจดั การความรู้ ๑. ความหมายของความรู้ ราชบณั ฑติ ยสถาน, ๒๕๔๒ : หมายถงึ ส่ิงทส่ี ่งั สมมาจากการศกึ ษาเล่าเรียน การค้นคว้าหรอื ประสบการณ์ รวมท้ัง ความสามารถเชิงปฏิบัติและทักษะ ความเข้าใจหรือสารสนเทศท่ีได้รับมาจากประสบการณ์ ส่ิงที่ได้รบั มาจากการได้ ยิน ได้ฟัง การคดิ หรอื การปฏิบตั ิ บุญดี บญุ ญากจิ , ๒๕๔๙ : หมายถึง สารสนเทศทผี่ ่าน กระบวนการคิด การเปรียบเทียบเช่ือมโยงกับความรู้อื่น จนเกิดเปน็ ความเข้าใจและนำไปใช้ประโยชน์ในการสรุปและตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้โดยไม่จำกัดช่วงเวลา หรอื กลา่ วไดว้ า่ เปน็ สารสนเทศท่ีกอ่ ให้เกิดประโยชน์กบั เราในการนำไปใช้งาน ๒. ประเภทของความรู้ ๒.๑ ความร้ทู ่ีฝังอยู่ในคน (Tacit Knowledge) : ความรทู้ ่ีได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์หรือสัญชาตญาณของ แต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่าง ๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์ อักษรได้โดยง่าย ๒.๒ ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) : ความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้โดยผ่านวิธีต่าง ๆ ดงั ภาพที่ ๑ ภาพท่ี ๑ ประเภทของความรู้ (The Iceberg Model) ที่มา : ชูชัย สมทิ ธไิ กร, ๒๕๕๐, หนา้ ๒๙ ๓. ความหมายของการจัดการความรู้ สำนักงาน ก.พ.ร., ๒๕๕๗ : การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กรชึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือ เอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบเพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้ง ปฏิบตั ิงานไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ อนั จะส่งผลใหอ้ งคก์ รมีความสามารถในเชิงแขง่ ขันสงู สุด
๒ ๔. ทำไมต้องจัดการความรู้ หลายองค์กรพบปญั หา • เมอ่ื มบี คุ ลากรเกษยี ณอายุหรือลาออก มักมีผลกระทบกบั งาน • เวลามปี ญั หาในการทำงาน ไม่ทราบวา่ จะไปถามผ้ทู เี่ ก่งในเรอื่ งน้นั ไดท้ ไี่ หน • มีผ้ทู รงความรู้มาก แตค่ นในองค์กรไม่สนใจในการเพ่มิ และแบ่งปันความรู้ • องค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ไม่ได้ถูกนำมาใช้แลกเปลี่ยน ต่อยอดความรู้ใหม่ แต่เป็นการทำงาน ซำ้ ซอ้ นกบั คนอ่นื ท่ไี ด้ทำมาแล้ว • องค์กรมกี ารสร้าง/แลกเปลีย่ น/ประยุกต์ใช้ความรู้แบบไม่เป็นระบบ • การตัดสินใจมกั กระทำโดยไม่ได้ใชค้ วามรทู้ ด่ี ีที่สุดท่ีมอี ยู่ภายในองค์กร • ใช้เวลานานในการค้นหาข้อมูลทีต่ ้องการ ซึ่งส่วนใหญ่หาไม่ค่อยพบ หรือถ้าพบข้อมูลก็ไมท่ ันสมยั ไม่สมบรู ณ์ หรอื ไม่ตรงตามทต่ี ้องการ • มขี ้อมูล และสารสนเทศทว่ มท้น แต่ไมส่ ามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ด้อย่างแท้จริง ๕. หลักสำคัญของการจัดการความรู้ • ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากความรู้ที่ฝังอยู่ในคน (Tacit Knowledge) เป็น ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) ให้มากท่ีสดุ เพื่อให้เกดิ ความรู้และประโยชนส์ ูงสุดต่อองค์กร • บรหิ ารจัดการให้คนท่ีมี Tacit Knowledge ถ่ายทอดออกมาสู่คนอื่น ๆ ที่ต้องการความรู้นั้นด้วยวิธีการอย่าง เปน็ ระบบ เชน่ เอกสารค่มู อื /ส่ือรูปแบบต่าง ๆ หรือการสอนงานแบบเปน็ พเ่ี ลีย้ ง / การถ่ายทอดแลกเปล่ียนความรู้ ๖. แนวทางการจัดการความรู้ ต้องใหเ้ กดิ การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ (Knowledge Sharing : KS) • การแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากวิธีการทำงานแบบ Best Practice (ผลงานที่มีผลสัมฤทธิ์สูง มีประสิทธิภาพสูง หรอื มีคณุ ภาพสงู ) • การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ในชุมชนนกั ปฏิบัติ (Community of Practice, COP) ๗. แนวคิดการจดั การความรู้ แนวคดิ การจดั การความรมู้ ีจุดเนน้ ไม่เหมือนกัน ๗.๑ ถา้ เปน็ ความรู้ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เน้น เครอ่ื งมือ และเทคโนโลยี (2T : Tool & Technology) ๗.๒ ถ้าเปน็ ความรู้ฝงั ลึก (Tacit Knowledge) เน้น กระบวนการและคน (2P : Process & People) การจัดการความรู้ทั้ง 2 สว่ นมจี ุดเชือ่ มที่สำคญั คือ การนำไปปรบั ใช้ ซึง่ จะช่วยในการปรับความรู้ชัดแจง้ ให้เกิดข้ึน ในบุคคล และนำความรู้ที่มีอยู่ในตัวบุคคล ความร้ฝู ังลึก นำมาปรับใช้ ทดสอบหลายครัง้ จนนำไปสู่ความรู้ท่ีชัดแจ้ง จดั เก็บและเผยแพร่ได้ ตวั อยา่ งเช่น ในตำราบอกว่าการเปน็ ผู้บริหารที่ดีต้องทำตามน้ี แตท่ ุกคนที่นำไปปฏิบัติใช่ว่า จะสำเร็จทุกคน ต้องมีองค์ความรู้ที่มีอยู่ในตัวคน ประกอบด้วย การจัดการความรู้ทั้งสองส่วนต้องสมดุลกัน (วจิ ารณ์ พานชิ , ๒๕๕๓) ดังภาพท่ี ๒
๓ ภาพที่ ๒ แนวคิดการจัดการความรู้ ๘. กระบวนการจดั การความรู้ ประกอบดว้ ย ๗ ขัน้ ตอน ดงั ภาพท่ี ๓ ภาพที่ ๓ กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management Process)
๔ • ขั้นที่ ๑ การบ่งชี้ความรู้ (Knowledge Identification) : ทำการวิเคราะห์องค์ความรู้ว่า อะไรบ้างที่จำเป็นต่อหน่วยงาน (การวิเคราะห์ภารกิจ) โดยตรวจสอบว่า ได้จัดทำองค์ความรู้เรื่องนั้นหรือยัง โดยสืบคน้ ว่าความรู้นน้ั อย่ทู ไี่ หน อย่กู บั ใคร และสามารถดึงความรู้จากแหลง่ ตา่ ง ๆ ท่อี าจอยกู่ ระจัดกระจายมา รวมไว้ เพ่ือจดั ทำเนอ้ื หาใหเ้ หมาะสม ในรูปแบบของฐานขอ้ มูลการจัดการความรขู้ องหนว่ ย • ขน้ั ท่ี ๒ การสร้างและแสวงหาความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition) : เปน็ การสร้าง แสวงหา รวบรวมความรู้ทัง้ ภายใน/ภายนอก รักษาความรู้เดิม แยกความรู้ทีใ่ ช้ไม่ได้แล้วออก • ขั้นที่ ๓ การจัดความรู้ภายในหน่วยงานให้เป็นระบบ (Knowledge Organization) : กำหนด โครงสร้างความรู้ แบ่งชนิด ประเภท ให้สืบค้น เรียกคืน และใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว หมายถึง การจัด สารบัญและจัดเก็บความรู้ประเภทต่าง ๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้การเก็บรวบรวม การค้นหา และการนำมาใช้ สามารถกระทำได้ง่ายและรวดเร็ว การจัดเก็บความรู้ให้เป็นระบบต้องพิจารณาถึงลำดับชั้นในการเข้าถึง (สิทธิการ เข้าถงึ ความรู้) เพราะบางประเด็นอาจเป็นทรัพยส์ ินด้านปัญญาขององค์กรทีต่ ้องรักษาในชัน้ ความลับ ซ่ึงจำเป็นต้อง ใชร้ ะบบสารสนเทศ และการสื่อสาร ที่มีการออกแบบใหต้ อบสนองความตอ้ งการของผู้ปฏิบตั งิ าน • ขน้ั ท่ี ๔ การประมวลและกลนั่ กรองความรู้ (Knowledge Codification and Refinement) : การปรับปรุงรูปแบบเอกสารให้เปน็ มาตรฐาน การใชภ้ าษาเดียวกนั การปรบั ปรุงเน้ือหาให้สมบูรณ์ มีความมุ่งหมาย เพอื่ นำความรู้ไปใชไ้ ด้สะดวก ทำความเข้าใจได้ง่าย มีความเข้าใจตรงกนั ทั่วท้งั หนว่ ยงาน เพ่อื ชว่ ยลดระยะเวลา หรือ กระบวนการในการอธิบายในกรณีที่นำความรเู้ หล่าน้นั ไปถ่ายทอด • ข้นั ที่ ๕ การเขา้ ถึงความรู้ (Knowledge Access) : เปน็ การกำหนดรปู แบบและวธิ ีการทจ่ี ะทำให้ คนในหน่วยงานสามารถเข้าถึงความร้ใู นรูปแบบต่าง ๆ ขนึ้ อยูก่ ับลักษณะของความรู้ • ขั้นที่ ๖ การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Sharing) : การแบ่งปัน สามารถทำได้หลาย วิธกี าร โดยกรณีท่ีเป็นความรชู้ ัดแจ้ง จัดทำในรูปแบบเอกสาร ฐานความรู้ ระบบสารสนเทศการจัดการความรู้ หรือ กรณีท่เี ป็นความรู้ฝังลึก จดั ทำเปน็ ระบบทีมข้ามสายงาน กจิ กรรมกลุ่มคุณภาพและนวัตกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ ระบบพ่ีเล้ียตงากราารสงบัแเสปดลยี่งนตงวัานอยก่ารงยืมคตวัวาเมวทรทู้ีแลช่ี กัดเปแลจย่ี ้งนคแวลามะรคู้ เวปา็นมตน้รู้ทดีฝ่งั ภงั าลพึกทใ่ี น๔ตวั บุคคล ความรทู้ ชี่ ดั แจ้ง ✓ เอกสาร (Document) (Explicit Knowledge) ✓ ก ระเบยี บ (Rule) ✓ วธิ ีปฏบิ ตั ิ (Practice) ความรทู้ ่ฝี งั ลึกในตัวบุคคล ✓ ระบบ (System) (Tacit Knowledge) ✓ ทัก ะ (Skill) ✓ ประสบการณ (Experience) ✓ ความคดิ ( Mind of individual) ✓ พรสวรรค (Talent) ภาพท่ี ๔ ตัวอยา่ งการแบ่งปนั ในรปู แบบของความรู้ชัดแจ้ง และความร้ทู ฝี่ ังลึกในตัวบุคคล • ขั้นที่ ๗ การเรียนรู้ (Learning) : เป็นการนำความรู้นั้น ๆ ไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจแก้ปัญหา และปรับปรุงหนว่ ยงาน
๕ ๙. เคร่ืองมอื ในการจดั การความรู้ (Knowledge Management Tool) การจัดการความรู้ประกอบด้วย กระบวนการหลกั ๆ ได้แก่ การคน้ หาความรู้, การสรา้ งและแสวงหาความรู้ใหม่, การจัดความรู้ให้เป็นระบบ, การประมวลผลและกลั่นกรองความรู้, การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ สุดท้ายคือ การเรียนรู้ และเพื่อให้มีการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกองทัพบก เครื่องมือหลากหลายประเภท ถกู สร้างขึ้นมาเพอื่ นำไปใช้ในการถ่ายทอดและแลกเปล่ียนความรู้ ซ่งึ อาจแบง่ เปน็ ๒ กลุ่มใหญ่ ๆ คอื ๙.๑ เคร่ืองมอื ทช่ี ว่ ยในการ “เขา้ ถึง” ความรู้ ซึ่งเหมาะสำหรับความรู้ทีเ่ ป็นรปู ธรรม เป็นลายลักษณ์อักษรและสามารถจับต้องได้ มักเป็นแบบทางเดียว ประกอบดว้ ย (๑) แฟ้มงานเพื่อการพัฒนา (Portfolio) คือ การบันทึกผลงาน นวัตกรรมในการทำงาน คำชื่นชม ความภาคภูมิใจทั้งระดับบุคคล ระดับแผนก หรอื ระดับองค์การ (๒) แหล่งผู้รู้ในองค์กร (Center of Excellence - CoE) คือ การกำหนดแหล่งผู้รู้ในองค์กร (Center of Excellence) ให้สามารถติดต่อสอบถามผรู้ ไู้ ด้ (๓) ฐานความรู้ (Knowledge Bases) คือ การเก็บข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ที่องค์กรมีไว้ในระบบฐานข้อมูล และให้ผตู้ ้องการใชค้ ้นหาข้อมูลความรู้ผ่านระบบสารสนเทศ (Information System : IS) ทำให้สามารถเขา้ ถึงข้อมูล ได้ตลอดเวลา ผ่านระบบอินเทอรเ์ น็ต อนิ ทราเน็ต หรอื ระบบอน่ื ๆ ได้อยา่ งสะดวกรวดเร็วและถูกต้อง (๔) Intranet, Web คือ ระบบเครือข่ายสื่อสารที่รองรับสำหรับการจัดเก็บองค์ความรู้ที่ทำให้สามารถ เข้าถงึ ไดง้ า่ ยจากทุกท่ี ทุกเวลา (๕) Web blog คือ เครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ๒ ทาง ที่สะดวกรวดเร็วในการสื่อสาร อาจเป็นการ ประกาศขา่ วสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ ๙.๒ เครือ่ งมอื ที่ช่วยในการ “ถา่ ยทอด” ความรู้ ซง่ึ เหมาะสำหรบั ความรู้นามธรรม อาศยั การปฏสิ มั พันธ์ระหว่างบุคคลเปน็ หลกั ประกอบด้วย (๑) ชุมชนนักปฏิบัติ (Communities of Practice หรือ CoP) คือ คนที่อยู่กลุ่มงานเดียวกันหรือมีความ สนใจในเร่ืองใดเรื่องหนึ่งร่วมกันรวมตัวกันอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปล่ียน เรยี นรแู้ ละสรา้ งองค์ความรู้ใหม่ ๆ (๒) ทีมข้ามสายงาน (Cross-Functional Team) คือ การจัดตั้งทีมงานหรือคณะทำงานเพื่อมาทำงาน ร่วมกนั ในเรอ่ื งใดเรอื่ งหนงึ่ ท่ีกำหนดข้ึนภายใต้ความเช่อื ทว่ี ่าการทำงานในแต่ละเรือ่ งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากหลาย ด้าน มาแลกเปล่ียนประสบการณ์และทำงานร่วมกันจึงจะประสบความสำเร็จ (๓) การทบทวนสรุปบทเรียน (After action review หรือ AAR) คือ การร่วมกันทบทวนกระบวนการ ทำงานแต่ละข้ันตอน เพ่ือค้นหาโอกาสและอุปสรรคในการดำเนินการ ซึ่งในการทบทวนน้ัน อาจได้ค้นพบวิธีปฏิบัติ ที่ดี (Best Practice) และแนวทางการปรับปรุงให้เกิดผลงานที่ดีขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องทำการสรุปบทเรียนทุกครั้ง เมื่อเสร็จกระบวนการทำงานที่สำคัญแต่ละขั้นตอน รวมถึงเป็นการตรวจสอบระดับของการบรรลุวัตถุประสงค์ท่ี กำหนดไว้ด้วย (๔) เวทเี สวนา (Dialogue หรือ สนุ ทรียสนทนา) คือ การจัดกลุ่มพูดคุยกันเพ่ือเอาส่ิงดีท่ีแต่ละคนมีอยู่ใน ตัวเองหรือในการปฏิบัติออกมา โดยไม่ขีดวงที่ชัดเจนมากเกินไป มีเพียงการกำหนดประเด็นกว้าง ๆ ในเรื่องที่จะ สนทนากัน ไม่รู้คำตอบสุดท้ายว่าคืออะไร ไม่กำหนดเวลาสนทนาของแต่ละคน เปิดกว้าง ด้านเวลา สถานที่บุคคล และเปิดกวา้ งทางใจของทุกคนท่ีเข้าร่วมกจิ กรรมกนั บรรยากาศสบาย ๆ บรรยากาศเชงิ บวก
๖ (๕) เพ่ือนชว่ ยเพอื่ น (Peer Assist) คือ การใหห้ รอื ขอรับคำแนะนำหรือประสบการณ์ท่ีมีคุณค่าจากบุคคล หรอื หน่วยงานทปี่ ระสบความสำเร็จในเร่ืองนนั้ ๆ เพ่ือจะได้นำไปประยกุ ต์ใช้ในหนว่ ยงาน (๖) การเรียนรู้โดยการปฏิบัติ (Action Learning) คอื การเรยี นรจู้ ากการลงมือปฏบิ ัติจรงิ เพอ่ื ให้เข้าใจถึง สาเหตแุ ละนำไปสู่การแกไ้ ขปัญหา โดยสามารถพัฒนาวธิ ีการทำงานใหม้ ปี ระสิทธภิ าพยงิ่ ข้นึ ได้ (๗) การสอนงาน (Coaching) คือ การถ่ายทอดจากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าหรือรุ่นพ่ีที่มีผลงานดี มาแนะนำใหค้ นที่มาใหม่ หรือคนท่ีตอ้ งการเรยี นร้ไู ดป้ รับปรุงวธิ กี ารทำงาน (๘) พี่เลี้ยง (Mentoring) คือ การให้คนทำงานที่อยู่คนละฝ่าย/กลุ่มงาน/แผนกหรือแผนกเดียวกันก็ได้ มาชว่ ยแนะนำวธิ ีการทำงาน ชว่ ยเหลือสนับสนนุ คอยให้คำปรึกษาช้ีแนะ มกั ใชใ้ นการเรียนรู้ในกลุ่มผู้บริหารหรือผู้ท่ี จะก้าวไปเปน็ ผู้บรหิ าร (๙) การเรียนรู้จากบทเรียนที่ผ่านมา (Lesson Learned) คอื การเรียนรู้โดยอาศยั ข้อมูลความสำเร็จและ ความผิดพลาดจากการดำเนินการที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางในการวางแผนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เกดิ ขอ้ ผดิ พลาดนอ้ ยที่สดุ หรอื อย่างนอ้ ยไม่เกิดความผิดพลาดในประเด็นท่ีเคยผิดพลาดมาแลว้ (๑๐) การถ่ายทอดความร้โู ดยการเล่าเรื่อง (Storytelling) คอื การถอดความรู้ฝงั ลกึ โดยการมอบหมายให้ผู้ที่ มีผลงานดีหรือมีวิธีการทำงานที่ดี มาเล่าให้คนอื่น ๆ ฟัง ว่าทำอย่างไรผู้เล่าจะเล่าให้เห็นการปฏิบัติ ใช้ภาษาเชิง ปฏบิ ตั ิจรงิ และมกี ารบันทึกเกบ็ ไว้อย่างเป็นระบบ (๑๑) การศึกษาดูงาน (Study tour) คือ การเรียนลัดจากประสบการณ์ของผู้อื่นโดยเข้าไปดูสถานที่จริง การปฏบิ ตั ิจริง เพอื่ ให้เหน็ ตวั อย่างที่เป็นรูปธรรมสามารถนำมาประยุกต์ใชง้ านได้ (๑๒) เวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ (Knowledge Forum) คือ การจัดการประชุมหรือกิจกรรมอย่าง เป็นกิจจะลักษณะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเปิดพื้นที่ให้บุคลากรในองค์กรมีโอกาสพบปะพูดคุยกัน เป็นอีกวิธีหน่ึง ซึง่ สามารถกระตนุ้ ให้เกิดการแลกเปลยี่ นเรียนรูร้ ะหว่างกันได้ ซึง่ อาจทำได้ในหลายลักษณะ เชน่ การสมั มนาหรือการ ประชมุ ทางวชิ าการท่ีจัดอย่างสม่ำเสมอ (๑๓) IQCs (Innovation & Quality Circles) คือ กลุ่มที่พัฒนามาจากกลุ่ม QCs (Quality Circles) ซึ่ง สมาชิก ของกลุ่มจะมาจากต่างหน่วยงาน หรือต่างระดับในองค์กร หรืออาจจะมาจากต่างองค์กรก็ได้ กลุ่ม IQCs จะรวมตัวกันเพื่อค้นหาวิธีการที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรือเพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานต่าง ๆ การทำกลุ่ม IQCs นี้จะเป็นการระดมสมองเพื่อกำหนดแนวคิดต่าง ๆ ที่หลากหลายในการพัฒนาองค์กรตามหัวข้อ เรอื่ งท่ีตัง้ ไว้และคน้ หาทางเลือกท่ีดีทีส่ ุด ช่วยแกป้ ัญหาในการทำงานของหน่วยงานหรอื องค์กร (๑๔) สภากาแฟ (Knowledge Café) คือ การเลา่ เรือ่ งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างน่ังรับประทาน กาแฟ ในเรอ่ื งงานทส่ี นใจและงานที่เกิดปัญหาเพอ่ื แสวงหาแนวทางปรบั ปรงุ แก้ไข (๑๕) การสับเปลี่ยนงาน (Job Rotation) คือ การย้ายบุคลากรไปทำงานในหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งอาจอยู่ ภายในสายงานเดียวกันหรือข้ามสายงานเป็นระยะ ๆ เปน็ วธิ ีการท่มี ีประสิทธิผลในการกระตุ้นให้เกิดการแลกเปล่ียน ความรูแ้ ละประสบการณข์ องทั้งสองฝ่าย ทำใหผ้ ถู้ กู สบั เปลี่ยนงานเกิดการพัฒนาทกั ษะท่ีหลากหลายมากข้ึน (๑๖) วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) คือ การเรียนรู้จากวิธีการทำงานที่ดีที่สุดในเรื่องนั้น ๆ เพื่อใช้เป็นต้นแบบ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงาน ซึ่งอาจจะเป็นระบบบริหารเทคนิควิธีการต่าง ๆ ที่ทำให้ผล งานบรรลเุ ปา้ หมายระดับสูงสุด
๗ ๑๐. ผลลัพธท์ ไ่ี ด้จากการจดั การความรู้ ๑๐.๑ ผลสัมฤทธิ์ของงานดีขึน้ หรือได้นวัตกรรมใหมเ่ พอื่ ลดขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน ๑๐.๒ บคุ ลากร เกดิ การพัฒนาการเรยี นรู้ เกดิ ชุมชนการเรียนรู้ (CoP: Communication of Practices) ๑๐.๓ ความรู้ของบุคลากรและหน่วยงาน มีการจัดระบบและจัดเก็บในรูปแบบฐานข้อมูล เตรียมพร้อม สำหรบั นำไปใชป้ ระโยชน์ ๑๐.๔ หน่วยงานมีสภาพเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ สามารถตอบสนองความต้องการ และเทียบเท่ากับ องค์กรอ่นื ได้ โดยสรุปผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดการความรู้ จะส่งผลให้เกิดการพัฒนางาน พัฒนาคน พัฒนาองค์กร ดัง ภาพที่ ๕ ผลการปฏิบัตงิ าน ภาพที่ ๕ แสดงความสมั พนั ธ์ระหว่าง ผลการปฏบิ ตั ิ กำลงั พล หนว่ ยงาน ท่ีเกดิ จากการจดั การความรู้
๘ บทท่ี ๒ กระบวนการจัดการความร้ขู อง ทบ. ๑. ความเปน็ มา ทบ. เริ่มดำเนินการจัดการความรู้อย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ ตามแนวทางในพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองทีด่ ี พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๑๑ ที่กำหนดให้ “ส่วนราชการ ต้องมีหน้าทีใ่ นการพฒั นาความรู้ เพื่อให้มีลกั ษณะเป็นองค์การแห่งการเรยี นรู้อย่างสม่ำเสมอ” ด้วยการกำหนดไว้ เป็นสว่ นหน่งึ ของนโยบายการปฏบิ ตั ิงานกองทัพบก นโยบายเฉพาะดา้ นกำลงั พล โดยมุ่งเนน้ การพฒั นากำลงั พล กองทพั บกใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจ และความชำนาญในงาน เพ่อื ใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิหน้าท่ีไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ ได้นำรูปแบบกระบวนการจดั การความรู้ ๗ ข้ันตอน ของสำนักงานคณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นแนวทางในการดำเนนิ การ โดยวตั ถุประสงค์ของการจัดการความรู้ในระยะเร่ิมแรก มงุ่ เน้นการถอดบทเรียน เทคนคิ ความรู้ที่ฝงั ในตัวกำลงั พลและในหน่วยงาน มาจัดทำเปน็ คูม่ อื การปฏิบัติงานเพ่ือนำไปเผยแพร่ แบ่งปัน ให้กำลงั พลใชป้ ระโยชน์ในการปฏบิ ัตงิ านให้ถูกต้องเป็นมาตรฐานเดยี วกัน ต่อมาในปงี บประมาณ ๒๕๖๐ เร่ิมมี การเชื่อมโยงการจัดการความรู้กับการพัฒนาคุณภาพ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้น โดยมุ่งเน้นให้หน่วยทบทวนปัญหา และหาโอกาสปรับปรุงพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้ เรียนรู้ แนวทางการปฏิบัติใหม่ที่ด/ี ที่เป็นเลิศ มาแบ่งปันเผยแพร่ทางเว็บไซต์การจัดการความรู้ของหนว่ ยและ กองทพั บก เพือ่ ใหก้ ำลงั พลนำไปใชป้ ระโยชน์ตอ่ ไป ๒. เปา้ ประสงค์ของการจดั การความรู้ของ ทบ. “กองทัพบกเป็นองค์กรท่ีเปน็ เลิศด้านการจัดการความรู้” ๓. แผนแมบ่ ทการจดั การความรู้ของ ทบ. รายละเอยี ดตามภาพที่ ๖ ภาพที่ ๖ แผนแม่บทการจัดการความรขู้ อง ทบ.
๙ ประกอบดว้ ย ๔ กลยทุ ธ์ ทตี่ ้องดำเนนิ การดังนี้ กลยุทธ์ท่ี ๑ พัฒนาศกั ยภาพกำลงั พลดา้ นการจดั การความรู้ กลยุทธ์ที่ ๒ บูรณาการกระบวนการจดั การความรู้เข้ากับการปฏิบตั ิงานประจำเพื่อพัฒนาคุณภาพของงาน อยา่ งตอ่ เนอื่ ง กลยุทธ์ที่ ๓ สรา้ งแรงจงู ใจและดำรงความตอ่ เน่อื งด้านการจัดการความรู้ กลยุทธ์ที่ ๔ พัฒนาระบบสารสนเทศ เพอ่ื สนับสนนุ การจดั การความรู้ ๔. ผลผลติ และผลลพั ธท์ ่ีมงุ่ หวังจากการจัดการความรู้ ๑. กำลังพลของ ทบ. สามารถนำการจดั การความรู้ไปใช้ในการพฒั นางานอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. ทบ. มีนวัตกรรมกระบวนการ สงิ่ อุปกรณ์ และยุทโธปกรณ์ ๓. มีกระบวนการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ประชาชน ๔.. ทบ. มรี ะบบบริหารและพฒั นากำลังพลรองรบั THAILAND ๔.๐ ๕. มีคลังความรู้ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์สนบั สนนุ การปฏบิ ัติงานของ ทบ. ดา้ นต่าง ๆ ๖. มีทำเนียบผู้เช่ียวชาญในสาขาท่สี ำคัญเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิภารกิจดา้ นต่าง ๆ ของ ทบ. ๗. เกิดวฒั นธรรมการแลกเปลีย่ นเรยี นรใู้ น ทบ. ๕. กระบวนการจัดการความรู้ของ ทบ. ในการดำเนินงานจดั การความรู้ของ ทบ. เพ่ือพฒั นาไปสอู่ งคก์ รแห่งการเรียนรู้ มกี ระบวนการปฏบิ ตั ิดงั นี้ ลาดับท่ี ผังกระบวนการ เวลา ๑. แผนแมบ่ ทการจัดการความรู้ ทบ. ๒. แตง่ ตง้ั คณะทางานขับเคลอื่ น ก.ย.ของทกุ ปี ๓. การจัดการความรู้ ทบ. ๔. กพ.ทบ.อนมุ ตั แิ นวทาง และแผนปฏบิ ัติ ก.ย.ของทุกปี การจัดการความรขู้ อง นขต.ทบ. ๕. ดาเนินการกจิ กรรม ๑ ปีงบประมาณ ตตาานมแแผผนนปปฏฏิบตับิ ิกัตาิกราจรัดจกัดารกคาวราคมวราู้ มนรขู้ตน.ทขบต.. ทบ. ทาไมค่ รบถ้วนตามทก่ี าหนด รวบรวม ตรวจสอบ ๑๐ วนั ทาการ ผลการดาเนินงาน ทาครบถ้วนตามทกี่ าหนด ๖. ๕ วนั ทาการ รายงานผลการดาเนินงาน
๑๐ บทท่ี ๓ ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิของ นขต.ทบ. ในการจัดการความร้ภู ายในหนว่ ย การดำเนินงานการจัดการความรู้ภายในหนว่ ย นขต.ทบ. เพอื่ พฒั นาสู่การเปน็ องคก์ รแห่งการเรียนรู้ ควรปฏบิ ตั ิตามขนั้ ตอนดงั นี้ • ขัน้ ตอนท่ี ๑ กำหนดเป้าหมาย เป็นการวิเคราะห์เพื่อให้ทราบถึงความรู้จำเป็นที่หน่วยต้องการ เพื่อบรรลุภารกิจ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ หรือแก้ปัญหาของหน่วย โดยผลการวิเคราะห์นำมาจัดทำในรูปแบบแผนที่ความรู้ (Knowledge Mapping) ดงั ภาพท่ี ๗ แผนที่ความรู้ ภาพท่ี ๗ การวิเคราะห์ภารกิจ ในรปู แบบของแผนทีค่ วามรู้ (Knowledge Mapping) เมื่อทราบถึงความรู้ที่จำเป็นแล้ว ทบทวนดูว่า ความรู้ใดที่หน่วยยังไม่มี หน่วยจึงนำมากำหนดเป็น เปา้ หมายในการดำเนนิ การเพ่ือใหม้ คี วามรนู้ ้ัน
๑๑ • ขั้นตอนที่ ๒ วางแผนการจัดการความรู้ นำเป้าหมายในการจัดการความรู้จากขั้นตอนที่ ๑ มาวางแผนใน การจัดการให้มีความรู้นน้ั ตัวอยา่ งตามภาพท่ี ๘ ภาพท่ี ๘ แผนปฏบิ ตั ิการจดั การความรู้ระดับหนว่ ย • ข้ันตอนท่ี ๓ การจัดการความรตู้ ามแผนการจัดการความรขู้ องหนว่ ย การดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ตามที่กำหนด โดยใช้กระบวนการ KM (KM Process) ๗ ขั้นตอน ตามภาพท่ี ๙ ภาพที่ ๙ กระบวนการ KM (KM Process) ๗ ข้นั ตอน
๑๒ ๑. การบ่งชี้ความรู้ (Knowledge Identification) : หน่วยจะต้องทำการค้นหาว่า ความรู้ที่สำคัญ ต่อการบรรลุเป้าหมายน้นั คอื อะไร อยทู่ ใ่ี คร ๒. การสร้างและแสวงหาความรู้ (Knowledge Creation and Acquisition) : เป็นการหาวิธีใน การดึงเอาความรู้จากแหล่งต่าง ๆ ในข้อ ๑ และนำมาเก็บรวบรวม เพื่อจัดทำเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการ หรือบางส่วนความรทู้ ่ยี ังขาดอาจต้องสร้างโดยการศึกษาตอ่ ยอดจากความรู้เดมิ ๓. การจัดการความรใู้ ห้เปน็ ระบบ (Knowledge Organization) เมอื่ ได้เน้อื หาความรูม้ าแล้ว หน่วย ต้องมีการแบง่ ประเภทของความรู้ แบ่งประเภทหวั ขอ้ จดั ทำสารบัญ เพือ่ ใหง้ า่ ยต่อการคน้ หา โดยรูปแบบการ นำเสนอเนือ้ หาความรู้ที่ ทบ. กำหนดในเบอื้ งต้นได้ • คู่มอื ปฏิบตั งิ าน (Work Manual) รายละเอยี ดตามผนวก ข • การเขียนบทเรียนรายภารกิจ หรือประเด็นความรู้แบบเจาะจง (One Point Lesson: OPL) รายละเอยี ดตามผนวก ข • ส่อื ความรู้ในรปู แบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ๔. การประมวลและกลน่ั กรองความรู้ (Knowledge Codification and Refinement) ก่อนนำเข้าสู่ระบบจะต้องปรับปรุงเนื้อหาการใช้ภาษาให้เป็นภาษาเดียวกัน ทันสมัย เข้าใจง่าย รวมท้งั รปู แบบของขอ้ มูล เพอื่ ความสะดวกในการปอ้ นเขา้ สู่ระบบ ๕. การเข้าถึงความรู้ (Knowledge Access) หน่วยจะต้องกำหนดวิธีการกระจายความรู้สู่ผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงความรู้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ในเวลาท่ตี อ้ งการ เชน่ ทำเปน็ ฐานความรู้ IT จัดการอบรม จดั การสอนโดยใชร้ ะบบพเี่ ล้ยี งสอนงาน เปน็ ต้น ๖. การแบ่งปันแลกเปลยี่ นความรู้ (Knowledge Sharing) เป็นการจัดให้มีช่องทางการถา่ ยเทความรู้จากผู้รู้ ทั้งที่เป็น Tacit และ Explicit ในส่วนที่เป็นTacit เช่น การเป็นพี่เลี้ยงสอนงาน การจัดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ การจัด hot line สายด่วนผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น ในส่วนท่เี ปน็ Explicit เชน่ ผู้รู้จัดทำเอกสารคู่มือ บันทึกประสบการณ์ จัดทำ CD VDO การปฏิบัติงานสำหรับ ผู้สนใจไว้ศกึ ษา เปน็ ต้น ๗. การเรียนรู้ (Learning) เป็นการนำความรู้ที่จัดทำขึ้นไปใช้ประโยชน์ และติดตามประเมินผลการนำความรู้ไปใช้ ว่า ใช้ ประโยชน์ในงานจรงิ หรอื ไม่ และกอ่ ให้เกิดการแก้ปญั หาและปรับปรงุ องค์กรให้ดขี น้ึ ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง เพอ่ื นำผลมา ปรับปรุงพฒั นาความรู้ให้ทันสมยั สอดคล้องกับความต้องการใชง้ านต่อไป
๑๓ บทท่ี ๔ การตดิ ตามประเมนิ ผลและรายงานผลการจัดการความรู้ ๑. การรายงานผลการดำเนนิ การจัดการความรู้ นขต.ทบ. ตอ้ งรายงานผลการดำเนินการจดั การความรู้ให้ ทบ. (ผ่าน กพ.ทบ.) ทราบภายใน ส.ค. ของทุกปี โดยใช้แบบฟอรม์ ตามผนวก ข ๒. การนเิ ทศตดิ ตามประเมินผลการจดั การความรู้ ๒.๑ หลกั เกณฑ์/ตัวช้ีวดั การประเมนิ ผลการดำเนินงานการจดั การความรู้ โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินผลจากแผนแมบ่ ทการจัดการความรขู้ อง ทบ. สรุปได้ดังนี้ ๑. กลยุทธ์การพัฒนาศักยภาพกำลังพลด้านการจัดการความรู้ ซึ่งเกี่ยวกับกิจกรรมที่ส่งกำลังพล เข้าร่วมการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ การสัมมนา หรอื กิจกรรมอืน่ ๆ ท่เี กยี่ วกับการจัดการความรู้ท่ี ทบ. จัดข้ึน หรือ หนว่ ยริเริ่มส่งกำลงั พลเข้ารว่ มอบรม กิจกรรมหลัก ๆ ประกอบดว้ ย - การอบรมเชิงปฏิบัติการที่ ทบ. จัดให้กับกำลังพลที่ได้รับการแต่งตั้งเปน็ ผู้ประสานงานการจัดการ ความรขู้ อง นขต.ทบ. - การประชมุ คณะทำงานการจดั การความรู้ของ นขต.ทบ./ของหน่วยงานใน นขต.ทบ. - การฝึกอบรมเชงิ ปฏิบัติการเพอื่ พฒั นาทักษะความรู้กำลังพล ทบ. ๒. กลยทุ ธ์การบูรณาการกระบวนการจัดการความรู้เขา้ กับงานประจำ สรปุ ได้ดงั นี้ - การจัดทำแผนที่ความรู้ (Knowledge Mapping) (กำหนดให้ นขต.ทบ. ดำเนินการจัดส่งหน่วยละ ๑ ฉบบั ) โดยใช้แบบฟอรม์ ตามผนวก ข - การประเมินกระบวนการกิจกรรมการจัดทำและปรับปรุงคู่มือการปฏิบัติงาน ประกอบการ สง่ หลกั ฐานเชิงประจักษ์ (ไฟลค์ ่มู ือ การเผยแพรร่ ายการเอกสาร ค่มู ือ ข้ันตอนการปฏิบตั ิงาน) - การจัดกิจกรรม/โครงการพัฒนาคุณภาพงาน กิจกรรมติดดาวของ ทบ. เพื่อสร้างแนวทาง การปฏบิ ัตทิ ี่เป็นเลิศ (Best Practices) ๓. กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจในการจัดการความรู้และธำรงความต่อเนื่องด้านการจัดการความรู้ (การส่งผลงานเข้าร่วมประกวด การส่งกำลังพลเข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับการจัดการความรู้ที่ ทบ. จัดข้ึน ให้รางวัล หรอื ประกาศชมเชยแกผ่ ้รู บั ผิดชอบงานเกี่ยวกบั การจัดการความรู้ หรือพัฒนากระบวนการการทำงาน อาทเิ ชน่ การนำผปู้ ระสานงานการจัดการความรูท้ ไ่ี ด้รบั การคัดเลอื กไปศกึ ษาดงู าน ณ ตา่ งประเทศ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ การจัดสรรงบประมาณในปนี ้ัน ๆ ) ๔. กลยุทธ์การส่งเสริมการนำระบบสารสนเทศ และระบบดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการจัดการความรู้ และรองรับไทยแลนด์ ๔.๐ ตามแนวทางการเผยแพร่องค์ความรู้บนเว็บไซต์ของ ทบ. (สามารถสืบค้นได้จาก เว็บไซต์การจัดการความรู้ของ ทบ. https://km-army.rta.mi.th) ส่งเสรมิ ให้เกดิ การพฒั นารปู แบบการรายงานผล การดำเนินงานการจดั การความรู้ผ่านสือ่ ออนไลน์
หลกั ฐานการจดั การความรู้ประกอบการดำเนนิ งานของ นขต.ทบ. ประกอบด้วย ลำดับ เครอื่ งมอื ที่ ทบ. กำหนดให้ใช้ หลักฐานเชิงประจัก ก์ ารจดั การความรู้ แบบฟอร์มและตัวอย่างเอกสาร ๑ เอกสารอ้างองิ การดำเนินงาน ๑. แผนแมบ่ ทการจัดการความรู้ของ ทบ. ประจำปี ๒๕๖๐ -๒๕๖๔ ผนวก ข ส่วนท่ี ๑ การจดั การความรขู้ องกองทพั บก ๒. แผนการจดั การความรูข้ อง ทบ. ประจำปงี บประมาณ ๒๕๖๔ ๓. แผนการจัดการความรู้ กพ.ทบ. ผนวก ข ส่วนที่ ๒ แบบฟอรม์ ที่ ๑ ๓ แผนทคี่ วามรู้ ๔. คำส่ังแต่งต้ังคณะกรรมการ และมอบอำนาจหนา้ ท่ีเกีย่ วกับการ ผนวก ข ส่วนท่ี ๒ แบบฟอรม์ ท่ี ๒ (Knowledge Mapping) จดั การความรู้ ผนวก ข ส่วนท่ี ๒ แบบฟอรม์ ที่ ๓ ๔ การจดั ทำฐานขอ้ มูลองค์ความรู้ แผนท่คี วามรู้ (Knowledge Mapping) โดยการวิเคราะห์โครงสร้าง ผนวก ข ส่วนท่ี ๒ แบบฟอร์มท่ี ๔ ของ ทบ. หนว่ ยงาน (ระดับกรม - แผนก) ผนวก ข ส่วนที่ ๒ แบบฟอร์มที่ ๕ ฐานขอ้ มลู องค์ความร้ขู อง นขต.ทบ. (ส่งไฟล์เอกสารประกอบ เชน่ ไฟล์ ๔ การบนั ทึกภารกิจรายบคุ คล คูม่ ือปฏบิ ตั ิงาน ผ่านเว็บไซต์ การจดั การความร้กู องทพั บก www.km- ผนวก ข ส่วนที่ ๒ แบบฟอร์มท่ี ๖ army.rta.mi.th) ๕ บทเรียนเฉพาะการปฏิบตั งิ าน แบบบันทึกการมอบหมายภารกจิ รายบุคคล (สง่ ไฟล์เอกสารประกอบ (One Point Lesson: OPL) ตั้งแต่ หน.แผนกลงไป) เปน็ การสรปุ งานส่วนบุคคล โดยการเขียนเปน็ ขนั้ ตอนการดำเนินงานใน ๖ คู่มือปฏิบัติงาน แต่ละหวั ข้องานสำคญั เชน่ หลกั ฐานการปรับปรุงกระบวนงาน (Work Manual) ๑. คมู่ ือการปฏบิ ตั งิ านตามหนว่ ยสมรรถนะในงาน ๗ โครงการพัฒนางานอยา่ งต่อเนอ่ื ง (Unit of Competence : UoC) (Continuous Quality Improvement : CQI) ๒. ค่มู อื ความรูใ้ นประเด็นสำคญั ทหี่ น่วยกำหนด (ระดบั หน่วย) ๑. หลักฐานการพฒั นาคณุ ภาพอย่างต่อเนื่อง ๒. หลกั ฐานรางวลั ที่ได้รับจากการประกวดในระดบั ชาตหิ รือนานาชาติ (ทมี่ กี รรมการพิจารณา) และมีการเผยแพรส่ ูส่ าธารณะอยา่ งเป็น ทางการ ๑๔
ลำดบั เครอื่ งมอื ท่ี ทบ. กำหนดใหใ้ ช้ หลกั ฐานเชิงประจัก ์การจัดการความรู้ แบบฟอรม์ และตัวอย่างเอกสาร ๓. นวัตกรรมเชงิ ผลติ ภัณฑ์ (Product) ทเ่ี กดิ จากการจัดการความรู้ / ผนวก ข ส่วนที่ ๒ แบบฟอรม์ ท่ี ๗ ๘ รายงานผลการดำเนินงาน การจัดการความรู้ นวตั กรรมเชงิ บรกิ าร (Service) เกดิ จากการจดั การความรู้ ๑. หลักฐานการส่งกำลงั พลเข้ารับการประเมนิ ผปู้ ระสานงานการจัดการ ความรู้ ทบ.ผ่านระบบการเรยี นออนไลน์ E-learning กพ.ทบ. ๒. หลกั ฐานท่ีแสดงการนำคู่มอื ปฏิบัติงานไปใช้ ๓. หลกั ฐานแสดงการเปล่ียนแปลง (กอ่ น/หลงั ) ๔. หลักฐานการถ่ายทอดความรู้ในกระบวนการจัดการความรู้ ๕. หลกั ฐานการเรียนผ่าน e-learning ความรใู้ นการปฏิบัติงานท่ีหนว่ ย รเิ ร่มิ จดั ทำด้วยตนเอง เพื่อให้กำลงั พลของหน่วยไดเ้ รียนรู้ (นอก หลกั สตู รของ ทบ.) ๖. การนำระบบสารสนเทศสนับสนนุ การจดั การความรู้ - ระบบคลังความรอู้ เิ ลก็ ทรอนิกส์ ออนไลน์ ผา่ นอินเตอรเ์ นต็ - ส่ือสังคมออนไลน์ทนี่ ามาใชส้ นบั สนนุ การจดั การความรู้ - ไฟลค์ วามร้ใู นงาน - เวบ็ ไซต์ของหน่วยท่มี ีความรทู้ ่ีได้จากการจัดการความรู้ - ระบบงาน IT (Application) ทีน่ ำมาใช้ปฏบิ ัติงาน - สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ นื่ ๆ ทีเ่ ก่ียวกับความรเู้ พื่อการปฏิบตั ิงาน ๑๕
เกณฑ์การนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการดำเนนิ งานการจดั การความรู้ (ระดบั ที่คาดหวัง : ระดบั ๕ ในทกุ องค์ประกอบ) ๑.กระบวนการจดั การความรู้ (KM Process) ระดับ พฤติกรรม/เกณฑ์การพิจารณา วิธีการประเมนิ พบหลกั ฐานท่แี สดงให้เหน็ ว่าผู้บรหิ ารแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนทจ่ี ะส่งเสริมการจัดการความรู้ในหนว่ ยงาน และนำการจัดการความรู้ไป พ ิ จ า รณ า จ า กเ อกส า ร/ ๑ ใช้ในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ และ/หรือภารกิจของหน่วยงาน และมีการตั้งคณะกรรมการ, คณะทำงานรับผิดชอบอำนวยการ และ หลักฐานในส่วนที่ ๑ ของ ประสานงานการจดั การความรูข้ องหนว่ ย แ ฟ ้ ม ก า ร จ ั ด ก า ร ค ว า ม รู้ ๒ พบการปฏิบัตใิ นระดบั ท่ี ๑ และมีการจัดทำแผนการจัดการความร้ทู ่ีสนับสนนุ ยุทธศาสตรแ์ ละ/หรือภารกิจของหนว่ ย (ผนวก ข สว่ นที่ ๑) ๓ พบการปฏิบัติในระดับที่ ๒ และมีการดำเนินการตามแผนการจัดการความรู้ และมีผู้ประสานงานการจัดการความรู้ของหน่วย ที่มี ความรู้ ความสามารถเก่ยี วกับกระบวนการ และการใชเ้ ครือ่ งมือการจดั การความรู้ เพ่อื ปรบั ปรุงพัฒนาและเพิม่ ประสิทธิภาพงาน ๔ พบการปฏิบัติในระดับที่ ๓ และมีกระบวน/กิจกรรมส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการจัดการความรู้ภายในหน่วยอยา่ ง ต่อเน่อื ง และครอบคลมุ นขต. ของหน่วย ๕ พบการปฏิบตั ใิ นระดับท่ี ๔ และมผี ลการดำเนินการตามแผนฯ ได้ ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๙๐ ในทุกกจิ กรรม ๒. การใช้ระบบสารสนเทศ (Information System : IS) สนบั สนนุ การจดั การความรู้ ระดบั พฤติกรรม/เกณฑก์ ารพิจารณา วิธีการประเมิน ๑ มรี ะบบสารสนเทศสนับสนนุ การจัดการความรู้ ที่เอือ้ ใหก้ ำลงั พลภายในหน่วยสามารถเขา้ ถึงความร้ไู ด้ พิจารณาจาก สาธิตหรือ ๒ มรี ะบบสารสนเทศสนับสนุนการจัดการความรู้ ทีเ่ อื้อให้กำลงั พลภายในหน่วย และ ทบ. สามารถเขา้ ถงึ ความรู้ได้ แตย่ าก แสดงการใช้ระบบสารสนเทศ ๓ มรี ะบบสารสนเทศสนับสนุนการจัดการความรู้ ทีเ่ อือ้ ให้กำลงั พลภายในหนว่ ย และ ทบ. สามารถเข้าถงึ ความร้ไู ด้งา่ ย และหลากหลาย สนับสนนุ การจัดการความรู้ ๔ มรี ะบบสารสนเทศสนบั สนุนการจดั การความรู้ ที่เอื้อใหก้ ำลังพลภายใน ทบ. และ นอก ทบ. สามารถเขา้ ถึงความรไู้ ด้ง่าย ๕ พบการปฏิบัติในระดับที่ ๔ และระบบสารสนเทศสนับสนุนการจัดการความรู้และมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้สนับสนุน งานการจัดการความรู้ และการแลกเปล่ียนเรียนรู้กระบวนการทำงานของหน่วย ๑๖
๓. ผลผลติ ของการจดั การความรู้ และการนำไปใช้ประโยชน์ ระดบั พฤติกรรม/เกณฑก์ ารพจิ ารณา วิธกี ารประเมนิ ๑ พบหลักฐานของกิจกรรมและผลผลติ การจดั การความรู้ เช่น ภาพถ่าย คลิปเสียง คลิปวีดีโอ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ครอบคลุมงาน พิจารณาจากหลักฐานของ ตาม อฉก./อจย. กิจกรรมและผลผลิตการ ๒ พบการปฏบิ ตั ิในระดบั ท่ี ๑ ซ่ึงครอบคลมุ งานตาม อฉก./อจย จัดการความรู้ มีการทบทวน ๓ พบการปฏิบัติในระดับท่ี ๒ และมกี ารเพมิ่ ขนึ้ ของคู่มอื /สื่อความรู้ท่ีเกิดจากการสกัดความรู้ ถอดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานในภารกิจ และปรับปรุงเน้อื หาความรใู้ ห้ มีความทนั สมยั อยู่ตลอดเวลา จากแหล่งตา่ ง ๆ ท้ังภายในและภายนอกหน่วย และง่ายต่อการนำไปใช้ ๔ พบการปฏบิ ัติในระดับที่ ๓ และมีการทบทวน และปรบั ปรุงเนอ้ื หาความรู้ใหม้ ีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ๕ พบการปฏิบัตใิ นระดบั ที่ ๔ และมีการทบทวน และปรับปรงุ เนอ้ื หาความรู้ให้มคี วามทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และงา่ ยต่อการนำไปใช ๔. การเรยี นรรู้ ะดับบุคคล และองค์กร ระดับ พฤติกรรม/เกณฑก์ ารพจิ ารณา วิธกี ารประเมนิ ๑ บุคลากรในหนว่ ยมีความรู้ ความเขา้ ใจในการนำการจัดการความร้ไู ปใชใ้ นการปรับปรงุ พัฒนางาน พจิ ารณาจากบคุ ลากรในหน่วย ๒ พบการปฏิบัตใิ นระดบั ท่ี ๑ และ มบี คุ ลากรในองค์กรที่สามารถทำหนา้ ที่ผูป้ ระสานงานการจัดการความรู้ (Facilitator)/ ผู้เช่ียวชาญ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการนำ ในการถอดความรู้ ได้อย่างมีคุณภาพในทุกหน่วยงานย่อยขององคก์ ร การจัดการความรู้ไปใช้ในการ ๓ พบการปฏบิ ตั ใิ นระดับท่ี ๒ และมีบคุ ลากรในองคก์ รที่สามารถประยุกต์/ใช้เทคนิค KM ไปพฒั นางานในความรบั ผิดชอบได้อย่างน้อย ปรบั ปรุงพัฒนางาน มีกจิ กรรม ที่แสดงสะท้อนถึงพฤติกรรม หน่วยละ ๑ คน ๔ พบการปฏิบัตใิ นระดับท่ี ๓ และมีกิจกรรมทีแ่ สดงสะท้อนถงึ พฤตกิ รรมการเรยี นรูร้ ่วมกัน,การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซ่ึงกันและกัน กา รเ รียนรู้ แล กเ ปลี่ยน ของบุคลากรภายในหน่วยงาน ในการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพ ประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน หรือการให้บริการของทีม และ/หรือ ประสบการณ์กับบุคลากร ภายนอก หน่วยที่ดขี ึ้น ๕ พบการปฏิบัติในระดับที่ ๔ และมีกิจกรรมที่แสดงสะท้อนถึงพฤติกรรมการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับบุคลากรภายนอก หนว่ ยงาน ในการปรบั ปรุงพัฒนาคุณภาพ ประสิทธภิ าพการปฏิบัติงาน หรือการให้บรกิ ารของหนว่ ยท่ีดขี นึ้ ๑๗
แนวทางการรบั การตรวจนิเทศฯ ของ นขต.ทบ. ๑. จัดเตรียมเอกสาร/หลักฐานเชิงประจักษ์ทุกองคป์ ระกอบ ซึ่งหนว่ ยได้ดำเนินการ เพื่อเปน็ ข้อมูลให้ คณะกรรมการฯ พจิ ารณาและให้คำแนะนำ ๒. เตรยี มการบรรยายสรุปผลการดำเนนิ งานการจัดการความร้ขู องหน่วยให้คณะกรรมการฯ รบั ทราบ และให้คำแนะนำ วงรอบการนิเทศ การดำเนินการตรวจนิเทศ ให้ใส่ไวใ้ นแผนการดำเนนิ งานการจดั การความรู้ โดยดำเนนิ การในห้วงเดอื น พ.ค. เปน็ ตน้ ไป เพอ่ื ให้สามารถนำข้อมูลในการตรวจนเิ ทศมา ประกอบการสรุปรายงานผลการดำเนนิ งานประจำปี ให้เกิดประโยชน์สงู สดุ ๑๘
๑๙ ผนวก ก กจิ กรรมการดำเนินงานด้านการจดั การความรู้ของ นขต.ทบ. หนว่ ย นขต.ทบ. ห้วง ก.ย. นขต.ทบ. รับทราบ และปฏบิ ัติตามอนุมัตแิ นวทางการจดั การความรขู้ อง ทบ. ประจำปี ของทกุ ปี ไตรมาสที่ ๑ ๑. นขต.ทบ. เร่มิ จัดทำแผนการจดั การความร้ปู ระจำปงี บประมาณ ต.ค. ๒. แต่งตั้งคณะกรรมการการจดั การความรู้ และผู้ประสานงานการจดั การความรู้ของ นขต .ทบ. โดยมีหนา้ ท่ี ดงั นี้ ๒.๑ กำหนดแนวทางในการนำแผนขับเคลื่อนการจัดการความรู้ของ นขต.ทบ. สู่การปฏิบัติ ให้เกดิ ผลอยา่ งเป็นรูปธรรมและยงั่ ยืน ๒.๒ กำหนดรูปแบบหลักเกณฑ์และแนวทางการในการติดตาม ประเมินผลการจัดการความรู้ ของ นขต.ทบ. ๒.๓ กำหนดแนวทางในการนิเทศและดำเนินการนิเทศ ติดตามและประเมินผลให้เป็นไปตามเกณฑ์ การประเมนิ ผลภายใตก้ รอบการรายงานผลการดำเนินงานการจดั การความร้ขู อง ทบ. (๔ กลยทุ ธ)์ ๒.๔ กำหนดห้วงเวลาการติดตามการรายงานผลการจัดการความรู้ของ นขต.ทบ. ให้ คณะกรรมการจดั การความรขู้ อง ทบ. ทราบ ตามระยะเวลาทีก่ ำหนด ๒.๕ ประสานและเช่ือมโยงการจัดการความรู้ของชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice (COP)) ของหนว่ ยงานภายใน นขต.ทบ. ๒.๖ กำหนดระเบียบ หลักเกณฑ์และแนวทางจัดเก็บ เผยแพร่องค์ความรู้ของ นขต.ทบ. ใหเ้ ปน็ ไปตามแนวทางการเผยแพรข่ ้อมูลผ่านส่ือออนไลน์ ๒.๗ เรือ่ งอนื่ ๆ ตามที่ประธานคณะกรรมการจัดการความรขู้ อง นขต.ทบ. มอบหมาย พ.ย. – ธ.ค. ดำเนนิ การตามแผนการจัดการความรู้ของ ทบ. ประจำปงี บประมาณ โดยการนำเครอื่ งมอื การ จัดการความรู้ ทีก่ ำหนดให้ นขต.ทบ. ใชป้ ระกอบการดำเนนิ งาน ๑. จัดทำการวเิ คราะหห์ นว่ ยงาน แผนทค่ี วามรู้ (Knowledge Mapping) ๒. การจดั ทำ ทำเนยี บความรู้ และคลังความรู้ของหน่วยงาน ๓. จัดทำบทเรียนหนงึ่ การปฏิบัติ (OPL : One Point Lesson) / Flow chart ๔. คูม่ ือปฏิบัติงาน (Work Manual) ๕. โครงการพฒั นางานอย่างตอ่ เนอ่ื ง (CQI) โดยมีรายละเอยี ดกิจกรรม ดงั น้ี ๑. นขต.ทบ. จัดประชมุ อบรม เรอ่ื งการจดั การความร้ภู ายในองค์กร ๒. การวิเคราะห์องค์กร จากโครงสร้างการจัดหน่วย (K-Mapping) โดยเตรียมข้อมูลโครงสร้าง หน่วยงาน การจัดหน่วย และสมรรถนะหน่วยงาน เพื่อประกอบการจัดทำ KMAP (ถ้ามีอยู่แลว้ ให้ตรวจสอบความถูกต้องและความทันสมัยของงาน) โดย นขต.ทบ. ดำเนินการตาม กระบวนการการจัดการความรู้
๒๐ หน่วย นขต.ทบ. ห้วง ๓. กำหนดหัวข้อองค์ความรู้ จากการบริหารความเสี่ยง และงานที่มีความสำคัญของหน่วย ที่ต้องพัฒนาแนวทางการปฏิบัติให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี (ตามผนวก ข ส่วนที่ ๒ แบบฟอร์มที่ ๑ การวิเคราะหอ์ งค์กรและการเขียนแผนที่ความร)ู้ ๔. ฐานข้อมูลองค์ความรูข้ อง นขต.ทบ. (ตามผนวก ข ส่วนที่ ๒ แบบฟอร์มที่ ๒ ฐานข้อมลู องค์ ความรู้ของ นขต.ทบ.ประกอบด้วย รายการคู่มือ/โครงการพัฒนางานอย่างต่อเนื่องที่เคย จดั ทำ ห้วงเวลาทจี่ ดั ทำ) ๕. แบบบันทกึ การมอบหมายภารกจิ รายบุคคล (ตามผนวก ข ส่วนที่ ๒ แบบฟอรม์ ที่ ๓ สำหรับ เขียนภารกิจรายบคุ คล และงานตามทไ่ี ด้รับมอบหมายใหป้ ฏิบัตจิ ริง) ๖. การเขยี นบทเรียนเฉพาะการปฏิบัติงาน (ตามผนวก ข ส่วนที่ ๒ แบบฟอรม์ ท่ี ๔ เลือกหัวข้อ จากกิจกรรม หรืองานทพี่ บปัญหา หรอื มคี วามเสย่ี งตอ่ หนว่ ยงานถา้ ปฏิบัติงานผดิ พลาด) ๗. การจัดทำคู่มือปฎิบตั ิงานการจัดการความรู้ (ตามผนวก ข ส่วนท่ี ๒ แบบฟอร์มที่ ๕) ๘. การจดั ทำโครงการพฒั นาอยา่ งต่อเน่ือง (CQI) โดย นขต.ทบ. คัดเลือกหัวขอ้ องค์ความรู้ เพ่ือ นำมาจัดทำโครงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (CQI) ตัวอย่าง การเขยี นในแตล่ ะแบบฟอร์ม (ตามผนวก ข) หรือดาวนโ์ หลดแบบฟอรม์ เอกสาร และ ศกึ ษาเพ่มิ เตมิ ไดท้ ่เี ว็บไซต์การจดั การความรู้กองทัพบก https://km-army.rta.mi.th ไตรมาสที่ ๒ การเสนอโครงการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง (CQI) : ให้ นขต.ทบ. คัดเลือกโครงการเพื่อรับการ ม.ค. - มี.ค. ประเมนิ ระยะเวลาดำเนินการ ๑ เดือน (เม.ย. ของทุกปี) ไตรมาสที่ ๓ การแลกเปลี่ยนเรียนร้แู ละเสรมิ สรา้ งแรงจงู ใจของ ทบ. ด้านการจดั การความรู้ ประกอบดว้ ย เม.ย. - ม.ิ ย. ๑. กิจกรรมงานมหกรรมการจดั การความรขู้ อง ทภ. ระยะเวลาดำเนนิ การ ๑ วัน หว้ ง พ.ค. - ส.ค. ผู้รับผิดชอบดำเนนิ การ : นขต.ทบ.สว่ นกลางทไ่ี ด้รับมอบหมาย, ทภ.๒, ทภ. ๓ และ ทภ.๔ ประกอบด้วย กิจกรรมย่อย ๒ กิจกรรม ได้แก่ การเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกี่ยวกบั การจดั การความรโู้ ดยวิทยากรใน ทบ. และ/หรือ นอก ทบ. ๒. กจิ กรรมติดดาวผลงานการจัดการความรูค้ ุณภาพ : ระยะเวลาดำเนินการ ๓ วนั หว้ ง พ.ค. - ส.ค. ผรู้ บั ผิดชอบดำเนินการ : กพ.ทบ./ คณะทำงานขับเคลื่อนการจัดการความรู้ ๓. การดำเนนิ การ นขต.ทบ. เสนอโครงการ/ผลงานที่เกิดจากการนำกระบวนกาจดั การความรู้ ไปใช้เป็นเครื่องมือปรับปรุงแก้ไขปัญหา พัฒนา และยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน เพ่ือ ขอรับรางวัลจาก ทบ. โดยมีคณะกรรมการ ทบ. พิจารณาคัดเลือกผลงานที่ผ่านเกณฑ์ที่ กำหนดเพ่อื รบั รางวัล ไตรมาสท่ี ๔ รายงานสรุปผลการดำเนนิ งาน ตามแบบฟอร์มการรายงานผลการดำเนนิ งานการจัดการความรู้ ก.ค. - ก.ย. ๔ กลยุทธ์ (หว้ งเดอื น ส.ค. ของทุกป)ี
๒๑ ผนวก ข การจัดทำแฟม้ การจดั การความรู้ประจำหน่วย
๒๒ สว่ นที่ ๑ เอกสารอา้ งอิงการดำเนนิ งานการจัดการความรู้ ๑. แผนแม่บทการจดั การความร้ขู อง ทบ. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ ๒. แผนการจดั การความรู้ของ ทบ. ประจำปงี บประมาณ ๒๕๖๔ ๓. แผนการจดั การความรู้ กพ.ทบ. ๔. คำสั่งแต่งต้ังคณะกรรมการ และคณะทำงานการจัดการความรู้ของหน่วย
๒๓ ๑. แผนแม่บทการจัดการความรู้ของ ทบ. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110