• นกั เรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพียงใด • เพือ่ นนักเรียนในกลมุ่ มีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นักเรยี นพึงพอใจกับการเรียนในวันน้ีหรือไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะนำความรทู้ ่ไี ด้นีไ้ ปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทว่ั ไป ได้อยา่ งไร จากนนั้ แลกเปล่ยี นตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพม่ิ คุณคา่ ไปสู่สงั คม เกดิ ประโยชนต์ ่อสงั คมใหม้ ากขึน้ กวา่ เดมิ ในขั้นตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครงั้ ตอ่ ไป สอ่ื การเรยี นรู/้ แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพอุปกรณ์ทใี่ ช้ดูแลสวน 3. กระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม 4. ดนิ สอสี 5. แหล่งการเรียนรทู้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น 6. google meet , คลิปวีดโี อการสอน การประเมินการเรยี นรู้ 1. ประเมินความรู้ เรอื่ ง อปุ กรณท์ ี่ใช้ในการดแู ลรกั ษาสวน 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม 3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านมีวนิ ัย แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มีการชแี้ จง สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หน้า เปา้ หมาย สมาชิก ตา่ งคนต่างทำงาน และมกี ารชแ้ี จงเปา้ หมาย มกี ารช้ีแจงเป้าหมาย ไมม่ ีการช้แี จงเป้าหมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั ิงานรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกัน ปฏิบตั ิงานรว่ มกนั อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทุกคน พร้อมกบั การประเมินเปน็ เป็นระยะ ๆ ระยะ ๆ
การวัดประเมนิ ผลการจัดการเรียนรู้ 1.การประเมินผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นตามจุดประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีการประเมนิ เครือ่ งมือ เกณฑ์การให้คะแนน 1. อธิบายขนั้ ตอนการใชอ้ ุปกรณ์ ตรวจผลงานการเขยี นอธิบายขั้นตอน เกณฑ์การให้คะแนน ดูแลรกั ษาสวน การใชอ้ ปุ กรณด์ แู ลรักษาสวน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 2. ทกั ษะในการใชอ้ ุปกรณด์ แู ล ประเมินจากการการใช้อปุ กรณ์ รกั ษาสวน ดูแลรักษาสวน 3. เหน็ ประโยชนแ์ ละ ตรวจผลงานการเขียนอธบิ าย ความสำคญั ของอปุ กรณ์ดูแล ประโยชน์และความสำคญั ของ รกั ษาสวน อปุ กรณด์ ูแลรกั ษาสวน 2.การประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ตัวชี้วัด วธิ กี ารประเมนิ เครื่องมอื เกณฑก์ ารให้คะแนน ขอ้ ที่ 3 มวี นิ ัย ประเมนิ จากการทำงานกลุม่ ลงชือ่ ...........................................ผูส้ อน (นางสาวสริ ริ ัตน์ กลิน่ จนั ทร์) วนั ที่...........เดือน.............พ.ศ…………
บันทึกผลการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เร่ือง งานบา้ น เวลา 12 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 เร่อื ง อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการดูแลรักษาสวน เวลา 2 ชวั่ โมง ชื่อครูผู้สอน นางสาวสริ ริ ัตน์ กลนิ่ จันทร์ วันท่ี เดอื น ปี บนั ทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ 1.การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ ผลการจัดการเรียนรู้ 1. อธบิ ายขนั้ ตอนการใชอ้ ปุ กรณ์ดูแลรักษาสวน จำนวนนกั เรียนทง้ั หมด……….คน จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นการประเมิน……….คน คดิ เป็นร้อยละ………. จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นการประเมิน……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. เลขท่ีนกั เรียนที่ไมผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………… 2. ทักษะในการใช้อปุ กรณ์ดแู ลรกั ษาสวน จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรยี นท่ผี า่ นการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. จำนวนนกั เรยี นท่ีไม่ผา่ นการประเมิน……….คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………. เลขที่นักเรียนทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ …………………………………………… 3. เห็นประโยชนแ์ ละความสำคัญของอุปกรณ์ จำนวนนักเรยี นท้งั หมด……….คน ดแู ลรกั ษาสวน จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นการประเมนิ ……….คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนักเรยี นท่ไี ม่ผา่ นการประเมิน……….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ………. เลขท่ีนักเรยี นท่ไี มผ่ ่านการประเมิน…………………………………………… 2.การประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ จดุ ประสงค์ ผลการจดั การเรียนรู้ ข้อที่ 3 มวี ินัย จำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด……….คน จำนวนนักเรียนที่ไดร้ ะดับดเี ย่ียม……….คน ระดับดี…………..….คน ระดับผ่าน…………..คน ระดบั ไมผ่ า่ น……….คน เลขท่นี กั เรยี นท่ีไม่ผ่านการประเมนิ ……………………………………………
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 4 กลุม่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 รายวชิ า การงานอาชีพ รหสั วิชา ง22102 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ช่ือหนว่ ย งานบ้าน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง การตกแต่งสวน เวลา 2 ช่วั โมง สอนวันที่ เดือน พ.ศ ชอื่ ครูผสู้ อน นางสาวสิรริ ัตน์ กลน่ิ จันทร์ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทกั ษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรม และลักษณะนสิ ยั ในการทำงาน มจี ิตสำนึกในการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากร และสงิ่ แวดลอ้ ม เพอ่ื การดำรงชวี ติ และครอบครัว ตวั ชีว้ ัด ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทกั ษะการแสวงหาความรู้เพื่อพฒั นาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มจี ติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายหลักท่ีใช้ในการตกแต่งสวน 2. เขียนแผนภาพความคิดเกย่ี วกับหลักทีใ่ ช้ในการตกแตง่ สวน 3. เหน็ ประโยชนแ์ ละความสำคัญของการตกแตง่ สวน สาระสำคัญ การตกแตง่ สวนเป็นการปรบั ปรุง เปล่ยี นแปลงสวนที่มอี ยู่แล้วใหด้ ูสวยงาม สดช่นื ไมซ่ ำ้ ซากจำเจ และสร้างความประทบั ใจใหก้ ับผ้พู บเหน็ สาระการเรียนรู้ การตกแต่งสวน สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มวี นิ ยั
คำถามสำคัญ การตกแต่งสวนจำเปน็ ตอ้ งใชห้ ลกั ศลิ ปะหรือไม่ เพราะเหตุใด การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นรว่ มกนั สงั เกตภาพ แล้วสนทนาและแสดงความคิดเห็นรว่ มกัน โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • ภาพนค้ี ือภาพอะไร (สวนหยอ่ ม) • นกั เรียนเคยเหน็ สวนลกั ษณะเหมือนในภาพน้ีหรอื ไม่ (เคย/ไมเ่ คย) • จะพบเหน็ สวนในภาพได้ท่ีใดบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ โรงเรยี น สวนสาธารณะ) • นกั เรยี นคิดว่าสวนในภาพมีการตกแต่งเปน็ อย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ สวยงาม มีการจัดสัดสว่ นชัดเจน มีความสมดลุ ) 2. นกั เรยี นรว่ มกนั ศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วกบั การตกแตง่ สวน จากแหลง่ การเรยี นรู้ ท่หี ลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อนิ เทอร์เน็ต 3. นักเรียนแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ ออกแบบแผนภาพความคดิ เกีย่ วกับหลกั ศิลปะ ท่ใี ช้ในการตกแต่งสวน ดงั ตัวอยา่ ง
ความสมดุล เป็นการจดั วางพรรณไมใ้ หเ้ กิด สัดส่วน เป็นความสมั พนั ธ์ระห่างพ้นื ทวี่ า่ ง ความสมดลุ กนั อยา่ งลงตวั สร้างจดุ สนใจหลกั ในสวนกบั ขนาดของพรรณไมท้ ่จี ะปลกู และจุดสนใจรอง เช่น จดั วางพรรณไมแ้ ละ ลงไปใหม่ เช่น ตน้ ไมข้ นาดใหญ่เหมาะกบั สิ่งตกแตง่ ให้มีสี ขนาด รูปร่าง จานวนเท่ากนั พ้ืนทว่ี า่ งขนาดใหญ่ ตน้ ไมข้ นาดเลก็ เหมาะกบั และจดั วางเหมอื นกนั ท้งั 2 ขา้ ง หรือมนี ้าหนกั พ้ืนท่วี ่างขนาดเล็ก เทา่ กนั ดว้ ยสายตา หลกั ศิลปะทใ่ี ช้ในการออกแบบ เพอื่ ตกแต่งสวน ความขดั แย้ง เป็นความแตกต่างกนั ในเร่ือง จงั หวะ เป็นความตอ่ เน่ืองกนั ของตาแหน่ง ของการใชเ้ ส้น รูปทรง และสีของพรรณไม้ การจดั วางพรรณไม้ เช่น หากวางพรรณไม้ เช่น การปลูกไมย้ นื ตน้ ตดั แตง่ พมุ่ กิ่งใบ ชนิดเดียวกนั ไม่ตอ่ เนื่องกนั หรือห่างบา้ ง ชิดบา้ ง เป็นรูปทรงกรวยสลบั กบั ไมพ้ ่มุ ตดั แต่งเป็น จะดูไมส่ วยงาม แตห่ ากวางตอ่ เน่ืองกนั รูปทรงสี่เหลย่ี มและอยใู่ นระดบั ต่ากวา่ ในระยะห่างเทา่ ๆ กนั จะดสู วยงามมากข้นึ ไมย้ นื ตน้ การจดั วางพรรณไมท้ ี่มีสีของใบ หรือดอกแตกตา่ งกนั ไวด้ ว้ ยกนั ความกลมกลืน เป็นความคลา้ ยคลงึ กนั ในเร่ืองของ การใชเ้ สน้ รูปทรง และสีของพรรณไม้ เม่อื มคี วาม คลา้ ยคลึงกนั จะทาให้ภาพรวมของสวนมคี วามเป็น อนั หน่ึงอนั เดียวกนั 4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ดังน้ี • การตกแต่งสวนจำเป็นต้องใช้หลักศิลปะหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (ตวั อยา่ งคำตอบ จำเป็น เพราะการตกแต่งสวนให้สวยงามจำเปน็ ตอ้ งอาศยั หลกั ศิลปะหลายอย่าง มาผสมผสานกัน) 5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่ม ร่วมกันออกแบบและจัดทำโปสเตอร์เกย่ี วกับหลักศลิ ปะที่ใช้ในการตกแต่งสวนลง ในกระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม 6. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสิ่งที่เขา้ ใจเป็นความร้รู ว่ มกนั ดังนี้ การตกแต่งสวนเป็นการปรบั ปรุง เปลีย่ นแปลงสวนท่มี อี ยู่แลว้ ใหด้ ูสวยงาม สดชน่ื ไมซ่ ำ้ ซากจำเจและ สรา้ งความประทบั ใจให้กบั ผู้พบเห็น
7. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ นำเสนอแผนภาพความคิดและโปสเตอร์เกย่ี วกบั หลักศลิ ปะทีใ่ ช้ในการตกแต่ง สวนของกล่มุ ตนเอง ประกอบการอธบิ ายหนา้ ชนั้ เรยี น 8. นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ เก่ียวกบั วิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวธิ ีการทำงาน ทม่ี ีแบบแผน 9. นกั เรยี นรว่ มกนั รวบรวมแผนภาพความคิดและโปสเตอรเ์ ก่ยี วกับหลกั ศิลปะที่ใช้ในการตกแตง่ สวน ไป ติดป้ายนเิ ทศบริเวณหนา้ ชัน้ เรียนหรือบรเิ วณโรงเรยี น เพือ่ เผยแพรค่ วามรู้ใหน้ ักเรยี นชั้นอ่ืนได้ศึกษา 10. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สกึ หลังการเรยี นและหลงั การทำกิจกรรม ในประเดน็ ต่อไปนี้ • สิ่งท่นี กั เรียนไดเ้ รียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพียงใด • เพอื่ นนักเรยี นในกลุ่มมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด • นกั เรียนพงึ พอใจกับการเรียนในวนั นี้หรอื ไม่ เพียงใด • นักเรยี นจะนำความรู้ที่ไดน้ ไ้ี ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครวั และสงั คมทั่วไป ได้อยา่ งไร จากน้ันแลกเปลี่ยนตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพม่ิ คณุ ค่าไปสสู่ งั คม เกดิ ประโยชนต์ อ่ สังคมให้มากขึน้ กวา่ เดมิ ในขัน้ ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครัง้ ต่อไป สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพสวนหยอ่ ม 3. กระดาษสำหรับทำกิจกรรม 4. ดนิ สอสี 5. แหล่งการเรยี นรูท้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น 6. google meet , คลปิ วีดโี อการสอน การประเมินการเรียนรู้ 1. ประเมินความรู้ เร่ือง การตกแตง่ สวน 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ 3. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านมวี ินัย
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ รายการการประเมิน ระดับคุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไม่มีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไม่มีการช้แี จง สมาชิกชดั เจน สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหนา้ เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนตา่ งทำงาน และมกี ารช้แี จงเป้าหมาย มีการช้แี จงเป้าหมาย ไม่มีการชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อยา่ งชดั เจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏิบัติงานร่วมกัน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน อยา่ งร่วมมอื ร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมิน ไม่ครบทุกคน พร้อมกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ
การวดั ประเมินผลการจดั การเรยี นรู้ 1.การประเมินผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงค์ วธิ ีการประเมิน เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารให้ 1.อธบิ ายหลักทใี่ ช้ในการตกแตง่ สวน ตรวจผลงานการเขยี นอธบิ ายอธิบาย คะแนน หลกั ที่ใชใ้ นการตกแตง่ สวน 2. เขยี นแผนภาพความคดิ ประเมนิ จากการเขยี นแผนภาพ เกณฑก์ ารให้ เกี่ยวกบั หลักทใ่ี ช้ในการตกแต่ง ความคดิ เกี่ยวกับหลักท่ีใชใ้ นการ คะแนน สวน ตกแต่งสวน ประเมนิ จากการการเขยี นอธบิ าย เกณฑ์การให้ 3. เหน็ ประโยชน์และความสำคญั ประโยชน์และความสำคญั ของการ คะแนน ของการตกแตง่ สวน ตกแตง่ สวน 2.การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตัวชีว้ ดั วธิ ีการประเมิน เครอื่ งมอื ขอ้ ท่ี 3 มวี ินัย ประเมินจากการทำงานกลุม่ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...........................................ผู้สอน (นางสาวสริ ิรัตน์ กลน่ิ จนั ทร์) วันที.่ ..........เดือน.............พ.ศ…………
บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่อื ง งานบา้ น เวลา 12 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง การตกแต่ง เวลา 2 ชั่วโมง ชื่อครูผสู้ อน นางสาวสิริรตั น์ กลิ่นจนั ทร์ วันที่ เดอื น ปี บนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้ 1.การประเมนิ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ ผลการจัดการเรยี นรู้ 1.อธบิ ายหลักท่ีใชใ้ นการตกแต่งสวน จำนวนนักเรียนทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรียนทผ่ี ่านการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. จำนวนนกั เรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ ……….คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ………. เลขที่นกั เรยี นท่ไี ม่ผ่านการประเมิน…………………………………………… 2. เขยี นแผนภาพความคิดเกย่ี วกับหลักทใ่ี ช้ใน จำนวนนักเรียนทง้ั หมด……….คน การตกแต่งสวน จำนวนนักเรยี นที่ผ่านการประเมิน……….คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนักเรียนทไี่ มผ่ า่ นการประเมนิ ……….คน คดิ เปน็ ร้อยละ………. เลขทนี่ กั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………… 3. เห็นประโยชน์และความสำคญั ของการตกแตง่ จำนวนนกั เรียนทั้งหมด……….คน สวน จำนวนนกั เรียนทผ่ี า่ นการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. จำนวนนักเรยี นที่ไมผ่ ่านการประเมิน……….คน คดิ เปน็ ร้อยละ………. เลขที่นกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………… 2.การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จุดประสงค์ ผลการจดั การเรยี นรู้ ขอ้ ท่ี 3 มีวนิ ัย จำนวนนักเรียนทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรยี นที่ได้ระดับดีเยีย่ ม……….คน ระดบั ดี…………..….คน ระดับผา่ น…………..คน ระดับไมผ่ ่าน……….คน เลขท่นี ักเรียนทไี่ มผ่ ่านการประเมิน……………………………………………
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 กลุม่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564 รายวชิ า การงานอาชีพ รหัสวิชา ง22102 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ชือ่ หนว่ ย งานบ้าน หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง สิง่ ทใ่ี ช้ตกแตง่ สวน เวลา 2 ชว่ั โมง สอนวนั ที่ เดอื น พ.ศ ช่อื ครูผ้สู อน นางสาวสริ ริ ตั น์ กลนิ่ จนั ทร์ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคดิ สร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทำงานร่วมกนั และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทำงาน มจี ิตสำนกึ ในการใช้พลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม เพ่ือการดำรงชวี ติ และครอบครวั ตวั ชว้ี ัด ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความรเู้ พื่อพัฒนาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มีจิตสำนกึ ในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏบิ ัติงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายลักษณะของสิ่งท่ีใชต้ กแต่งสวน 2. เลือกใช้สิ่งทตี่ กแต่งสวนใหเ้ หมาะสมกับรปู แบบของสวน 3. เหน็ ประโยชน์และความสำคัญของส่งิ ท่ใี ชต้ กแตง่ สวน สาระสำคญั สงิ่ ทใี่ ชต้ กแตง่ สวนนยิ มนำมาตกแต่งใหส้ วนสวยงามมใี หเ้ ลือกมากมายหลายประเภทตามขนาด และรปู แบบของสวน สาระการเรยี นรู้ สิ่งทใ่ี ช้ตกแตง่ สวน สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ มีวนิ ัย
คำถามสำคัญ พรรณไมช้ นิดใดบ้างท่ีนยิ มปลูกประดับแปลง ปลกู เป็นร้ัวกัน้ บังตา และปลูกไว้ริมขอบทาง การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนรว่ มกนั สงั เกตภาพ แล้วสนทนาและแสดงความคิดเห็นรว่ มกนั โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • สวนในภาพเป็นสวนแบบใด (สวนแนวใหม่ ) • จากภาพ ใชส้ ่งิ ใดตกแต่งสวนบ้าง (ต้นไม้ หิน อฐิ กรวด กระถางเครอื่ งปั้นดนิ เผา) • จากภาพ นักเรียนสามารถเพม่ิ ส่งิ ที่ใช้ตกแต่งสวนอะไรไดอ้ กี (ตัวอย่างคำตอบ รปู ปั้น ม้าหินออ่ น) 2. นักเรียนร่วมกนั นำความรใู้ นการจดั สวนท้ัง 3 ประเภท มารว่ มกันวิเคราะหส์ ง่ิ ทใ่ี ชต้ กแต่งสวนแต่ ละประเภท โดยเขียนเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดานหน้าชนั้ เรยี น ดังตัวอยา่ ง รูปป้ัน น้ำพุ ส่ิงท่ใี ช้ ตกแต่งสวน แบบประดิษฐ์ ทำงเทำ้ บ่อปลำ ส่ิงทีใ่ ช้ สะพำนไม้ โตะ๊ เกำ้ อ้ี ตกแต่ง โคมไฟฟ้ำสูง สวนแนวใหม่ กอ้ นหิน ศำลำ
3. นักเรยี นรว่ มกนั ศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกบั การตกแตง่ สวนแนวใหม่ จากแหลง่ การเรยี นรทู้ หี่ ลากหลาย เช่น หนังสือเรียน อินเทอรเ์ นต็ 4. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลุม่ เขยี นสิ่งทีน่ ำมาใชต้ กแตง่ สวน เปน็ แผนภาพความคิด ดงั ตวั อย่าง น้ำตก น้ำพุ ไฟประดบั มำ้ นง่ั ชุดสนำม และศำลำ น้ำและไฟ ส่ิงทใี่ ช้ ตกแต่งสวน รูปป้ันและเคร่ืองป้ันเดินเผำ พรรณไม้ วสั ดุปูพ้ืน ไมป้ ระธำน ไมพ้ ุ่ม อิฐ ไมค้ ลมุ ดิน หิน หญำ้ กรวด 5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันวเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ โดยการตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ดงั นี้ • พรรณไมช้ นิดใดบ้างท่ีนยิ มปลกู ประดับแปลง ปลูกเป็นร้วั ก้นั บงั ตา และปลกู ไว้รมิ ขอบทาง (ตวั อยา่ งคำตอบ ชบา เข็ม มะลิ เทียนทอง) 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ออกแบบโปสเตอรส์ ่ิงทีใ่ ชต้ กแตง่ สวน พร้อมตกแตง่ ให้สวยงาม 7. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่งิ ทเ่ี ข้าใจเป็นความรรู้ ว่ มกัน ดงั น้ี สิ่งทใ่ี ช้ตกแต่งสวนนยิ มนำมาตกแต่งให้สวนสวยงามมีใหเ้ ลอื กมากมายหลายประเภท ตามขนาดและรูปแบบของสวน 8. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลงานโปสเตอร์ส่ิงท่ใี ช้ตกแตง่ สวนของกล่มุ ตนเอง ประกอบการอธบิ ายหน้าช้ันเรียน 9. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรปุ เกย่ี วกบั วธิ ีการทำงานใหเ้ ห็นการคดิ เชงิ ระบบและวธิ ีการทำงาน ทม่ี ีแบบแผน 10. นกั เรียนร่วมกนั รวบรวมผลงานโปสเตอร์ส่งิ ที่ใช้ตกแตง่ สวนไปตดิ ปา้ ยนเิ ทศ บริเวณหนา้ ชัน้ เรียนหรอื บรเิ วณโรงเรยี น เพ่อื เผยแพร่ความรูใ้ ห้นักเรียนชัน้ อ่ืนไดศ้ ึกษา
11. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทำกิจกรรม ในประเด็นตอ่ ไปนี้ • สง่ิ ที่นกั เรยี นได้เรยี นรู้ในวนั น้คี อื อะไร • นักเรียนมีส่วนรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพียงใด • เพื่อนนกั เรยี นในกลุ่มมีส่วนร่วมกจิ กรรมในกลุม่ มากน้อยเพยี งใด • นักเรยี นพึงพอใจกับการเรียนในวันนหี้ รอื ไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนำความรทู้ ี่ได้น้ไี ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครวั และสังคมทว่ั ไป ไดอ้ ย่างไร จากนนั้ แลกเปลยี่ นตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทกุ ข้ันตอนว่าจะเพิ่มคณุ ค่าไปสู่สงั คม เกดิ ประโยชนต์ ่อสังคมให้มากขึน้ กว่าเดิมในขน้ั ตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครัง้ ตอ่ ไป สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพสวน 3. กระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม 4. ดนิ สอสี 5. แหล่งการเรยี นรูท้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น 6. google meet , คลปิ วีดีโอการสอน การประเมนิ การเรียนรู้ 1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง สิง่ ทใ่ี ชต้ กแตง่ สวน 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ 3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นมวี ินัย แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ รายการการประเมิน ระดับคณุ ภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไม่มกี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารชีแ้ จง สมาชิกชัดเจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหน้า เปา้ หมาย สมาชิก ต่างคนตา่ งทำงาน และมกี ารชแี้ จงเปา้ หมาย มีการชี้แจงเปา้ หมาย ไมม่ กี ารชแ้ี จงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชดั เจนและ อยา่ งชัดเจน มีการปฏบิ ัติงานร่วมกัน ปฏบิ ตั ิงานร่วมกัน ปฏิบัติงานรว่ มกัน อย่างรว่ มมือร่วมใจ แตไ่ ม่มกี ารประเมนิ ไมค่ รบทุกคน พรอ้ มกับการประเมินเป็น เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ
การวดั ประเมนิ ผลการจัดการเรยี นรู้ 1.การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ วิธกี ารประเมนิ เคร่ืองมอื 1. อธบิ ายลกั ษณะของสง่ิ ทีใ่ ชต้ กแต่ง ตรวจผลงานการเขียนอธิบายลกั ษณะ เกณฑ์การให้ สวน ของสง่ิ ที่ใชต้ กแตง่ สวน คะแนน 2. เลอื กใชส้ ่ิงท่ีตกแต่งสวนให้ ประเมนิ จากการเขยี นแผนภาพ เกณฑ์การให้ เหมาะสมกบั รปู แบบของสวน ความคิดการเลอื กใช้สง่ิ ที่ตกแต่งสวน คะแนน ใหเ้ หมาะสมกบั รปู แบบของสวน 3. เห็นประโยชน์และความสำคญั ประเมนิ จากการการเขยี นอธบิ าย เกณฑก์ ารให้ ของส่งิ ทใี่ ช้ตกแตง่ สวน ประโยชน์และความสำคัญของการ คะแนน ตกแต่งสวน 2.การประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ตวั ชี้วัด วธิ กี ารประเมนิ เครื่องมอื เกณฑ์การใหค้ ะแนน ข้อที่ 3 มีวนิ ัย ประเมนิ จากการทำงานกล่มุ ลงชอื่ ...........................................ผู้สอน (นางสาวสริ ิรตั น์ กลิน่ จันทร)์ วนั ท่.ี ..........เดอื น.............พ.ศ…………
บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง งานบ้าน เวลา 12 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 เร่ือง สง่ิ ทใ่ี ช้ตกแตง่ สวน เวลา 2 ชว่ั โมง ชือ่ ครูผูส้ อน นางสาวสิริรัตน์ กล่นิ จันทร์ วนั ท่ี เดือน ปี บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ 1.การประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงค์ ผลการจัดการเรียนรู้ 1. อธบิ ายลกั ษณะของส่งิ ที่ใชต้ กแต่งสวน จำนวนนักเรียนทง้ั หมด……….คน จำนวนนักเรยี นทผี่ า่ นการประเมิน……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ ่านการประเมนิ ……….คน คิดเปน็ ร้อยละ………. เลขทน่ี ักเรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ …………………………………………… 2. เลือกใช้ส่ิงท่ีตกแตง่ สวนให้เหมาะสมกับ จำนวนนักเรยี นทง้ั หมด……….คน รูปแบบของสวน จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นการประเมิน……….คน คดิ เป็นร้อยละ………. จำนวนนักเรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. เลขทน่ี กั เรยี นทีไ่ มผ่ ่านการประเมนิ …………………………………………… 3. เหน็ ประโยชนแ์ ละความสำคญั ของสิง่ ท่ใี ช้ตกแตง่ จำนวนนักเรียนทั้งหมด……….คน สวน จำนวนนกั เรยี นท่ีผ่านการประเมิน……….คน คดิ เป็นร้อยละ………. จำนวนนกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. เลขทน่ี กั เรยี นทไ่ี มผ่ ่านการประเมนิ …………………………………………… 2.การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ จุดประสงค์ ผลการจัดการเรยี นรู้ ขอ้ ท่ี 3 มวี ินยั จำนวนนกั เรียนทัง้ หมด……….คน จำนวนนักเรยี นท่ีได้ระดบั ดเี ยย่ี ม……….คน ระดับดี…………..….คน ระดบั ผา่ น…………..คน ระดับไม่ผา่ น……….คน เลขทน่ี กั เรียนทไี่ ม่ผ่านการประเมิน……………………………………………
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 รายวิชา การงานอาชพี รหัสวิชา ง22102 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ช่ือหน่วย งานบ้าน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรื่อง ขัน้ ตอนการตกแต่งสวน เวลา 2 ชวั่ โมง สอนวันที่ เดอื น พ.ศ ชื่อครูผ้สู อน นางสาวสริ ิรตั น์ กลนิ่ จนั ทร์ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ง 1.1 เขา้ ใจการทำงาน มีความคดิ สร้างสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทำงานร่วมกนั และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรม และลกั ษณะนสิ ัยในการทำงาน มจี ิตสำนกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากร และสิ่งแวดล้อม เพ่อื การดำรงชีวิตและครอบครวั ตัวชวี้ ัด ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความรูเ้ พ่ือพัฒนาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มีจติ สำนกึ ในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏบิ ตั งิ านอย่างประหยัดและคุ้มค่า จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธี กระบวนการและข้ันตอนการตกแตง่ สวน 2. มที ักษะในการตกแต่งสวน 3. เหน็ ประโยชนแ์ ละความสำคญั ของการตกแต่งสวน สาระสำคญั การตกแต่งสวนใหส้ วยงาม ประหยัดเวลา และประหยดั คา่ ใช้จา่ ย สามารถทำไดโ้ ดยเรม่ิ จากการวางแผน สำรวจและวิเคราะห์สวนเดมิ ออกแบบสวนใหมโ่ ดยใช้หลักศลิ ปะ และตกแต่งสวนดว้ ยส่ิงท่ชี ่วยเพม่ิ ความสวยงาม สาระการเรยี นรู้ ขน้ั ตอนการตกแต่งสวน สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. อยู่อย่างพอเพียง คำถามสำคญั ถ้าทุกครอบครัวปลกู ต้นไม้ในบรเิ วณบ้านของตนเองจะเกดิ ผลดีต่อชมุ ชน ประเทศ และโลกอยา่ งไร การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรียนรว่ มกนั สงั เกตภาพแลว้ สนทนาและแสดงความคิดเห็น โดยรว่ มกันตอบคำถาม ดังนี้ ภาพ A ภาพ B • จากภาพ A บ้านมีลกั ษณะอยา่ งไร (ไม่มีสวนหนา้ บ้าน) • จากภาพ B บา้ นมลี ักษณะอยา่ งไร (บ้านมสี วนตกแตง่ สวยงาม) • นักเรยี นตอ้ งการมีบา้ นเหมือนในภาพใด เพราะอะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ภาพ B เพราะสวยงาม สดชื่น น่าอยู่อาศยั ) 2. นกั เรียนรว่ มกนั ศกึ ษาและรวบรวมข้อมลู เกีย่ วกบั ขั้นตอนการตกแต่งสวน จากแหลง่ การเรียนรู้ ทห่ี ลากหลาย เชน่ หนังสือเรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั เขยี นข้นั ตอนการตกแตง่ สวนลงในแผนภาพความคิดและสรุปเปน็ ความคดิ รวบยอด ดงั ตวั อย่าง 5. ปลกู พรรณไมแ้ ละจดั วางส่ิงตกแตง่ ในสวนตามท่ีออกแบบไว้ โดยปลูกไมป้ ระธานกอ่ น ตามดว้ ยไมพ้ มุ่ ไมค้ ลุมดิน ปูหญา้ และปูทางเทา้ เป็นลาดบั สุดทา้ ย 4. เลือกซ้ือส่ิงตกแต่งสวนตามแบบสวนใหม่ทร่ี ่างไว้ โดยวางแผนเลอื กซ้ือ ในยา่ นเดียวกนั เพอ่ื ประหยดั ค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทางและการขนส่ง 3. ปรบั พ้นื ท่ีโดยยา้ ยพรรณไมแ้ ละส่ิงตกแตง่ ทไี่ ม่ตอ้ งการออกไป เตรียมดินในบริเวณ ท่ีจะปลูกพรรณไมใ้ หม่ และทาความสะอาดบริเวณทีจ่ ะวางสิ่งตกแต่งใหม่ แลว้ โรย 2. ออกแบปบนู สขวาวนทใาหแมนโ่ วดปยลนูกาพหรลรกั ณศิลไมปห้ะรคือวบามริเรวู้เณกี่ยทว่จี กะบั ตร้งั ูปวแางบสบ่ิงสตวกนแตแ่งลไะวส้ ่ิงท่ีใชต้ กแตง่ สวน มาประยกุ ตใ์ ชร้ ่วมกนั ร่างเป็นภาพ 2 มติ ิ หรือ 3 มิติ แลว้ ระบายสีให้สวยงาม เพ่อื เป็นแนวทางในการตกแต่งสวนใหม่
1. สารวจและวเิ คราะหส์ วนเดิมวา่ มีพรรณไมใ้ ดบา้ งทค่ี วรคงไว้ พรรณไมใ้ ดบา้ งทีค่ วรขนยา้ ยออกไป ดินมีความอุดมสมบูรณห์ รือไม่ บริเวณใดรกร้าง บริเวณใดวา่ งเปลา่ ส่ิงตกแต่งใดบา้ งทแ่ี ตกหัก หรือชารุด แลว้ จดบนั ทกึ ไว้ 4. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ วิเคราะหแ์ ละคิดประเมินเพ่ือเพม่ิ คุณคา่ โดยการตอบคำถามกระตุน้ ความคิด ดังนี้ • ถา้ ทุกครอบครัวปลูกต้นไม้ในบรเิ วณบา้ นของตนเองจะเกดิ ผลดีต่อชุมชน ประเทศ และโลกอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ สภาพอากาศในชมุ ชน ในประเทศ และในโลกดี ลดมลพิษทเี่ กิดจากการ เผาไหมเ้ ชอื้ เพลงิ ของยานพาหนะตา่ ง ๆ ทกุ คนในชุมชน ในประเทศและโลกมสี ุขภาพดีขึ้นเพราะอากาศดี) 5. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ สำรวจพน้ื ท่สี วนในบ้านของตนเอง สวนใกลบ้ า้ น หรือสวนในโรงเรียน จากน้ัน ตกแต่งสวนโดยวาดภาพสวนทตี่ กแตง่ และสวนทย่ี ังไม่ไดต้ กแตง่ ลงในชิ้นงานท่ี 2 เรื่อง การตกแตง่ สวน แล้วตอบคำถาม 6. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปสง่ิ ท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี การตกแตง่ สวนให้สวยงาม ประหยดั เวลา และประหยัดคา่ ใช้จ่าย สามารถทำได้โดยเริ่มจาก การวางแผนสำรวจและวเิ คราะห์สวนเดมิ ออกแบบสวนใหมโ่ ดยใชห้ ลกั ศิลปะ และตกแต่งสวน ดว้ ยส่งิ ที่ชว่ ยเพม่ิ ความสวยงาม 7. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลงานการตกแตง่ สวนของกลุ่มตนเอง ประกอบการอธบิ าย หนา้ ชัน้ เรียน 8. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรปุ เกีย่ วกับวิธีการทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชิงระบบและวิธกี ารทำงาน ที่มแี บบแผน 9. นกั เรียนร่วมกนั รวบรวมผลงานการตกแตง่ สวน ไปติดป้ายนเิ ทศบรเิ วณหน้าชน้ั เรียน หรือบริเวณโรงเรยี น เพอื่ เผยแพรค่ วามรู้ใหน้ ักเรียนชั้นอ่ืนไดศ้ ึกษา 10. นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สกึ หลงั การเรยี นและหลงั การทำกิจกรรม ในประเด็นตอ่ ไปน้ี • สง่ิ ทีน่ ักเรยี นได้เรียนรใู้ นวนั นค้ี อื อะไร • นกั เรยี นมสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพียงใด • เพือ่ นนักเรียนในกลุ่มมีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • นักเรยี นพึงพอใจกับการเรยี นในวันน้ีหรอื ไม่ เพยี งใด • นักเรียนจะนำความรู้ทไ่ี ดน้ ีไ้ ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสังคมท่วั ไป ได้อยา่ งไร จากนน้ั แลกเปล่ียนตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทุกขนั้ ตอนว่าจะเพม่ิ คณุ ค่าไปสูส่ งั คม เกดิ ประโยชน์ต่อสงั คมใหม้ ากขึ้นกวา่ เดมิ ในขนั้ ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครงั้ ตอ่ ไป
ส่อื การเรยี นรู/้ แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 2 2. ภาพบ้านทตี่ กแตง่ สวนและไมต่ กแตง่ สวน 3. กระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม 4. ดินสอสี 5. แหล่งการเรยี นรทู้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น 6. google meet , คลปิ วีดโี อการสอน การประเมนิ การเรยี นรู้ 1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง ขน้ั ตอนการตกแต่งสวน 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ 3. ประเมินชน้ิ งาน เรื่อง การตกแตง่ สวน 4. ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ด้านมีวนิ ยั อยู่อย่างพอเพียง แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ รายการการประเมิน ระดับคุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุม่ ไม่มกี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไม่มกี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน และมีการช้ีแจงเป้าหมาย มีการช้แี จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อยา่ งชัดเจนและ อยา่ งชัดเจน มกี ารปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏบิ ัติงานร่วมกัน อย่างร่วมมือรว่ มใจ แต่ไมม่ กี ารประเมิน ไมค่ รบทกุ คน พรอ้ มกับการประเมินเป็น เป็นระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ ช้นิ งาน เร่ือง การตกแตง่ สวน รายการการประเมนิ ระดบั คุณภาพ การตกแต่งสวน 4 32 1 อธิบายความแตกตา่ ง อธิบายความแตกตา่ งระหวา่ ง อธบิ ายความแตกต่าง อธบิ ายความ ระหวา่ งสวนที่ตกแต่ง สวนทีต่ กแตง่ และสวนท่ยี ัง และสวนทีย่ งั ไมไ่ ด้ ไม่ได้ตกแต่งไดอ้ ย่างมีเหตุผล ระหวา่ งสวนทตี่ กแตง่ และ แตกต่างระหว่าง ตกแตง่ อธบิ ายขั้นตอน อธิบายข้ันตอนการตกแตง่ สวน การตกแต่งสวนได้ ไดอ้ ย่างชัดเจนเป็นลำดับ สวนทีย่ งั ไม่ไดต้ กแต่งได้ สวนท่ีตกแตง่ และ สามารถปฏิบัตไิ ด้ ข้นั ตอน สามารถแนะนำผอู้ ่ืน โดยตอ้ งมีผอู้ ่ืนแนะนำ ได้ อธบิ ายข้ันตอนการตกแตง่ สวนทีย่ ังไม่ได้ สวนได้อยา่ งชดั เจน ตกแต่ง อธิบาย เป็นลำดบั ข้ันตอน ขัน้ ตอนการตกแตง่ สวนได้
การวัดประเมินผลการจัดการเรียนรู้ 1.การประเมินผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วิธกี ารประเมิน เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1.อธบิ ายวิธี กระบวนการและ ตรวจผลงานการเขียนอธิบายวิธี ขน้ั ตอนการตกแต่งสวน กระบวนการและขั้นตอนการ ตกแตง่ สวน 2.มีทักษะในการตกแต่งสวน ประเมนิ จากการเขยี นแผนภาพ เกณฑ์การให้คะแนน ความคดิ การตกแต่งสวน 3. เห็นประโยชน์และความสำคญั ประเมินจากการการเขยี นอธบิ าย เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ของการตกแตง่ สวน ประโยชนแ์ ละความสำคัญของ การตกแต่งสวน 2.การประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ตัวช้วี ดั วธิ กี ารประเมนิ เคร่อื งมอื ขอ้ ที่ 3 มีวินัย ประเมนิ จากการทำงานกลุม่ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ขอ้ ท่ี 5 อยู่อย่างพอเพียง ประเมินจากการทำงานกลุ่ม เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...........................................ผู้สอน (นางสาวสิรริ ตั น์ กล่ินจันทร์) วนั ท.่ี ..........เดือน.............พ.ศ…………
บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง งานบ้าน เวลา 12 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 6 เรื่อง ข้นั ตอนการตกแต่งสวน เวลา 2 ชั่วโมง ชื่อครูผ้สู อน นางสาวสริ ริ ตั น์ กลิน่ จนั ทร์ วนั ที่ เดือน ปี บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ 1.การประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงค์ ผลการจัดการเรียนรู้ 1.อธบิ ายวิธี กระบวนการและขน้ั ตอนการตกแต่งสวน จำนวนนักเรยี นทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรียนที่ผา่ นการประเมิน……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนักเรยี นท่ีไม่ผ่านการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. เลขทน่ี กั เรียนท่ไี ม่ผา่ นการประเมิน…………………………………………… 2.มที กั ษะในการตกแตง่ สวน จำนวนนกั เรียนทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรยี นทีผ่ า่ นการประเมิน……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนักเรียนทีไ่ มผ่ ่านการประเมิน……….คน คิดเป็นร้อยละ………. เลขที่นักเรียนที่ไมผ่ ่านการประเมิน…………………………………………… 3. เห็นประโยชนแ์ ละความสำคัญของการตกแต่งสวน จำนวนนักเรียนทง้ั หมด……….คน จำนวนนกั เรียนทผ่ี า่ นการประเมิน……….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ………. จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน……….คน คิดเป็นร้อยละ………. เลขทนี่ ักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมิน…………………………………………… 2.การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จุดประสงค์ ผลการจัดการเรยี นรู้ ข้อที่ 3 มีวินัย จำนวนนกั เรียนทัง้ หมด……….คน จำนวนนกั เรยี นทไ่ี ด้ระดบั ดีเยีย่ ม……….คน ระดับดี…………..….คน ระดบั ผา่ น…………..คน ระดับไมผ่ า่ น……….คน เลขทีน่ ักเรยี นที่ไมผ่ ่านการประเมนิ …………………………………………… ขอ้ ที่ 5 อยู่อย่างพอเพยี ง จำนวนนกั เรียนทง้ั หมด……….คน จำนวนนกั เรียนทไ่ี ด้ระดับดเี ยย่ี ม……….คน ระดับดี…………..….คน ระดับผา่ น…………..คน ระดับไม่ผ่าน……….คน เลขทน่ี ักเรียนท่ไี มผ่ ่านการประเมิน……………………………………………
ชิน้ งานที่ 1 เรื่อง การจัดและตกแต่งบ้าน ได_้ _________คะแนน คะแนนเต็ม 10 คะแนน วนั ท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________ ชื่อ_____________________________เลขท่ี______ช้นั __________ นกั เรียนเลือกวางแผนจดั และตกแต่งห้องตา่ ง ๆ ภายในบา้ น 1 ห้อง และบริเวณบา้ น 1 จุด จากน้นั ลงมอื ปฏบิ ตั ิจริง แลว้ บนั ทึกผลลงในแบบบนั ทกึ (ตวั อยา่ งคาตอบ) แบบบันทกึ 1. การจดั และตกแตง่ หอ้ ง 1.1 หอ้ งที่นกั เรียนจดั และตกแตง่ คอื หอ้ งอะไร (ห้องรับแขก) 1.2 นกั เรียนจดั และตกแต่งห้องอยา่ งไร (จดั วางเคร่ืองเรือนชิดผนงั ยกของตกแตง่ ชิ้นใหญอ่ อกไป ตดิ ต้งั ผา้ มา่ นท่เี ยบ็ เองบริเวณประตูและหนา้ ตา่ ง) 1.3 หอ้ งทน่ี กั เรียนจดั และตกแตง่ ดีข้นึ กว่าเดิมอยา่ งไร (เดินเขา้ -ออกไดส้ ะดวกข้นึ และลดความร้อนที่เกิดจากแสงแดดส่องได)้ 1.4 นกั เรียนพบปัญหาในการจดั และตกแต่งหอ้ งหรือไม่ ถา้ พบ แกไ้ ขปัญหาน้นั อยา่ งไร (พบ คือ ของตกแตง่ ห้องช้ินใหญท่ ่ียกออกไป ไมม่ ีที่จดั เก็บ จึงแกป้ ัญหาโดยนาไปจดั วาง ในบริเวณห้องโถงซ่ึงมีพ้นื ท่มี ากกวา่ ) 1.5 การจดั และตกแต่งหอ้ งของนกั เรียนประหยดั ทรพั ยากรอยา่ งไร (นาผา้ ที่เคยซ้ือไวใ้ นราคาถกู มาตดั เยบ็ เป็นผา้ มา่ นดว้ ยตนเอง) 2. การจดั และตกแต่งบริเวณบา้ น 2.1 บริเวณบา้ นท่ีนกั เรียนจดั และตกแต่งคอื บริเวณใด (ระเบยี งบา้ น) 2.2 นกั เรียนจดั และตกแต่งบริเวณบา้ นน้นั อยา่ งไร (แขวนไมป้ ระดบั ทปี่ ลกู ในกระถาง วางตุก๊ ตาดินเผาไวท้ เ่ี สา มมุ ระเบยี ง) 2.3 บริเวณบา้ นที่จดั และตกแต่งดีข้ึนกวา่ เดิมอยา่ งไร (สวยงาม มชี ีวิตชีวามากข้ึน) 2.4 นกั เรียนพบปัญหาในการจดั และตกแต่งบริเวณบา้ นหรือไม่ ถา้ พบ แกไ้ ขปัญหาน้นั อยา่ งไร (ไมพ่ บ) 2.5 การจดั และตกแตง่ บริเวณบา้ นของนกั เรียนประหยดั ทรัพยากรอยา่ งไร (นาไมป้ ระดบั กระถาง และตกุ๊ ตาดินเผาท่มี ใี นบา้ นมาใชต้ กแตง่ ระเบียงโดยไม่ตอ้ งซ้ือใหม่)
แบบบนั ทกึ หนว่ ยการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เรอื่ ง อาหารและโภชนาการ รหสั -ชื่อวชิ า ง22101 การงานอาชพี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลา 14 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั มาตรฐานง. 1.1 เขา้ ใจการทำงาน มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน ทกั ษะ การจดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทักษะการทำงานรว่ มกัน และทกั ษะการ แสวงหาความรู้ มคี ุณธรรม และลักษณะนสิ ยั ในการทำงาน มจี ิตสำนกึ ในการใช้ พลังงาน ทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ ม เพือ่ การดำรงชีวิตและครอบครัว ตวั ชวี้ ดั ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความรเู้ พอื่ พฒั นาการทำงาน ตวั ชวี้ ดั ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ตวั ชว้ี ดั ง 1.1 ม.2/3 มจี ติ สำนึกในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏบิ ตั ิงานอย่างประหยัดและคุ้มคา่ สาระสำคญั การเตรียม ประกอบ จดั ตกแต่ง และบรกิ ารเครือ่ งดื่มอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและได้ผลงานทมี่ คี ุณภาพ ต้องทำอย่างมหี ลักการตามขน้ั ตอนที่ถูกตอ้ ง สาระการเรยี นรู้ ความรู้ - การเตรยี ม ประกอบ จดั ตกแตง่ และบรกิ ารเคร่ืองดื่ม - ความหมายของเครื่องดื่ม - ประเภทของเครือ่ งดืม่ - ความสำคญั และประโยชนข์ องเครือ่ งด่ืม - หลักการเตรยี ม ประกอบ จัด ตกแต่ง และบริการเครือ่ งดื่ม - วัสดุ อุปกรณ์ท่ีใช้ในการ เตรียม ประกอบ จดั ตกแต่ง และบรกิ ารเครอ่ื งดื่ม ทกั ษะ - ขน้ั ตอนการเตรียมประกอบ จัด ตกแตง่ และบริการเครื่องดม่ื ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการส่อื สาร ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude) ขอ้ ที่ 4 ใฝเ่ รยี นรู้ ตัวชีว้ ัดที่ 4.1 ต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
การอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขยี น - 2. การประเมนิ ผลรวบยอด ชอื่ ภาระรวบยอด เรือ่ ง การประกอบ จดั ตกแตง่ และบรกิ ารเครอื่ งดมื่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง อาหารและโภชนาการ เวลา 14 ชวั่ โมง เวลาในการปฏบิ ตั ิภาระงานรวบยอด เวลา 4 ชว่ั โมง คะแนนในหนว่ ยการเรยี นรู้ 10 คะแนน คะแนนจากประเดน็ การประเมนิ 10 คะแนน ลกั ษณะงาน ใหน้ กั เรยี นประกอบ จัด ตกแตง่ และบรกิ ารเครอื่ งดม่ื ประเดน็ การประเมนิ (มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั ) ประเดน็ การประเมิน ดี (10 คะแนน) ระดับคุณภาพ ปรับปรงุ (5คะแนน) พอใช้ (7 คะแนน) บันทึกผลการฝึกประกอบ บนั ทกึ ผลการฝึกประกอบ บนั ทกึ ผลการฝกึ ประกอบ บนั ทกึ ผลการฝกึ ประกอบ จดั ตกแต่ง และบรกิ าร จดั ตกแตง่ และบริการ จดั ตกแต่ง และบริการ จัด ตกแตง่ และบริการ เครอื่ งด่มื เคร่ืองดมื่ ลงในแบบบนั ทึก เคร่ืองดมื่ ลงในแบบบันทึก เคร่อื งดืม่ ลงในแบบบนั ทึก ไดส้ ัมพนั ธ์กับการปฏิบัติ มี ไดส้ ัมพนั ธ์กับการปฏบิ ัติ มี ไดส้ ัมพันธ์กบั การปฏิบัติ มี การเช่อื มโยงให้เห็นเปน็ การเชื่อมโยงใหเ้ ห็นเปน็ การเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ เป็น ภาพรวม แสดงให้เหน็ ถงึ ภาพรวม แสดงใหเ้ ห็นถงึ ภาพรวม แสดงใหเ้ หน็ ถึง ความสมั พนั ธ์และประโยชน์ ความสัมพนั ธ์และประโยชน์ ความสัมพนั ธแ์ ละประโยชน์ ทีเ่ กดิ ข้นึ กบั ตนเอง และ ที่เกิดขน้ึ กับตนเอง และ ที่เกิดขน้ึ กบั ตนเอง ผ้อู ่นื อย่างเป็นเหตเุ ปน็ ผล ผอู้ น่ื
3. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ ครงั้ ที่ มาตรฐาน การ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้/ (เวลา) การเรยี นรู้/ ประเมนิ ผล แหล่งเรียนรู้ 1.ให้นักเรียนเลือกเครื่องด่มื ที่ตนเองชอบคนละ 3 ชนิด แลว้ ตัวชี้วดั บอกเหตุผลทชี่ อบ พร้อมประโยชนท์ มี่ ตี ่อรา่ งกาย จากนั้นครู 1. ใบงานเร่ือง รว่ มสนทนากบั นักเรียนเกย่ี วกบั ประสบการณ์ในการด่ืม 1 ง 1.1 ม.2/1 - เคร่ืองดืม่ ของนักเรยี น ประเภทของ (2 ชม.) ง 1.1 ม.2/2 2. ครูรว่ มสนทนาพูดคุยกบั นักเรียนว่า ในชวี ติ ประจำวนั เราจะ เคร่อื งดม่ื พบเครอื่ งดืม่ มากมายหลายชนดิ เช่น น้ำด่ืม นมสด เครือ่ งดื่ม ง 1.1 ม.2/3 เหล่านม้ี ปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกาย และเคร่ืองด่มื บางชนดิ ยงั สามารถ 2. อินเทอรเ์ น็ต ทำไดด้ ว้ ยตนเอง เพ่อื ให้ได้เครอื่ งดื่มท่ีสดใหม่ ปลอดภยั และ 2 ง 1.1 ม.2/1 ปฏบิ ัติภาระ ประหยัดค่าใช้จ่าย 1. ใบงานเรอื่ ง (4ชม.) ง 1.1 ม.2/2 งานรวบยอด 3. ครนู ำเคร่อื งด่ืมชนดิ ตา่ ง ๆ มาให้นักเรียนดู (หากไมม่ ีอาจหา ภาพมาใหน้ ักเรยี นดูแทนกไ็ ด้) แล้วใหน้ ักเรียนร่วมกันอภปิ ราย ประกอบ จัด ง 1.1 ม.2/3 “เรอื่ ง ความแตกต่าง ประโยชน์และโทษของเครอ่ื งด่มื แต่ละชนิด ตกแต่ง และ ประกอบ จัด จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นร่วมกันอธบิ ายความหมายของคำวา่ บรกิ าร “เครือ่ งด่มื ” เครือ่ งดมื่ ตกแต่ง และ 4. ให้นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ ก่ยี วกบั ประเภทของเคร่อื งด่ืมจาก หนงั สือเรียนการงานอาชีพและเทคโนโลยี ม.2 จากนั้นชว่ ยกนั 2. อนิ เทอรเ์ นต็ บรกิ าร สรุปความร้เู ป็นแผนภาพความคิด 1. ให้นักเรยี นศึกษาหลักการเตรยี ม ประกอบ จดั ตกแตง่ และ เคร่อื งด่ืม” บริการเครอื่ งดม่ื ในหวั ขอ้ ต่อไปนี้ - การเตรียมเคร่อื งด่ืม - การประกอบเคร่ืองด่ืม - การจัดเครือ่ งดืม่ - การตกแต่งเครอ่ื งดื่ม- การบริการเคร่อื งดืม่ จากนนั้ ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายสรุปความรู้ 2. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เตรยี มวัตถดุ ิบ วัสดอุ ุปกรณ์ในการทำ ให้พรอ้ ม จากนน้ั ช่วยกันประกอบ จดั ตกแต่ง และบริการ เคร่ืองดมื่ ทเี่ ลือกตามข้นั ตอนที่ศกึ ษา 3. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ เตรียมวัตถุดิบ วัสดุอปุ กรณ์ท่ีจะใชใ้ น การประกอบนำ้ ผลไม้ ให้พรอ้ ม จากนนั้ ชว่ ยกนั ประกอบ จัด ตกแตง่ และบรกิ ารเครื่องดมื่ ให้สวยงาม ตามขัน้ ตอนทถ่ี ูกต้อง 4. เมอ่ื ทุกกลุ่มทำเสรจ็ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุม่ นำเสนอตำรับและ ประโยชนข์ องเคร่ืองดื่มท่ีแตล่ ะกลมุ่ ทำ จากน้ันใหท้ กุ คนในช้นั ร่วมชม และชมิ รสชาติ ครแู ละนกั เรยี นช่วยกันสรุปเนื้อหา
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 รายวชิ า การงานอาชพี รหสั วิชา ง22102 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ชื่อหนว่ ย อาหารและโภชนาการ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ือง ความสำคัญและประโยชน์ของเคร่ืองดืม่ เวลา 2 ชัว่ โมง สอนวันที่ เดือน พ.ศ ชือ่ ครูผู้สอน นางสาวสริ ิรตั น์ กลิ่นจนั ทร์ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทำงาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั และทักษะการแสวงหาความรู้ มคี ุณธรรม และลักษณะนสิ ัยในการทำงาน มีจติ สำนึกในการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากร และส่งิ แวดลอ้ ม เพ่อื การดำรงชีวิตและครอบครวั ตัวช้วี ัด ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความรู้เพ่ือพฒั นาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มจี ิตสำนึกในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏบิ ัติงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความสำคญั และประโยชนข์ องเคร่อื งด่มื 2. เขยี นประโยชน์ของเครื่องดมื่ ท่ีมตี ่อสขุ ภาพ 3. เหน็ ความสำคัญและประโยชนข์ องเครื่องด่ืม สาระสำคญั เครอื่ งดืม่ เป็นอาหารลกั ษณะเหลวที่ดืม่ ง่าย ไม่ตอ้ งเค้ยี ว เหมาะสำหรับคนท่รี ่างกายปกติและผ้ปู ่วย เม่อื ดื่มเข้าไปแล้วร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ดท้ ันทีและช่วยให้รา่ งกายสดชนื่ สาระการเรียนรู้ ความสำคญั และประโยชนข์ องเครอ่ื งดืม่ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
คำถามสำคัญ เครอื่ งด่ืมมคี วามสำคัญและมีประโยชน์ต่อรา่ งกายอยา่ งไรบา้ ง การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นเลือกเครอ่ื งด่มื ท่ีตนเองชอบคนละ 1 ชนดิ แล้วบอกเหตุผลท่ีชอบ พรอ้ มกับประโยชน์ที่มีต่อร่างกาย จากนั้นร่วมกันสนทนาแลกเปลยี่ นประสบการณ์ในการดมื่ เครอื่ งดื่ม ของนกั เรยี น โดยใช้คำถาม ดังน้ี • เครื่องด่ืมท่ีนักเรียนชอบดม่ื คอื อะไร (นกั เรยี นตอบตามความชอบ) • เครอื่ งดมื่ ชนิดใดบ้างเปน็ เครอื่ งดมื่ ทมี่ ีประโยชนแ์ ละเครอ่ื งดมื่ ชนดิ ใดบ้างเปน็ เครอ่ื งดมื่ ท่ไี ม่มีประโยชน์ (ตัวอย่างคำตอบ เคร่ืองด่มื ท่มี ีประโยชน์ คือ นำ้ เปลา่ บริสุทธิ์ นม นำ้ ผลไม้ น้ำธญั พืช เคร่อื งด่ืมท่ีไม่มีประโยชน์ คือ น้ำอัดลม) • นกั เรยี นเคยทำเครื่องดม่ื ดม่ื เองหรอื ไม่(ตัวอย่างคำตอบ เคย) • นักเรยี นเคยทำเครอ่ื งดม่ื อะไรบา้ ง (ตัวอย่างคำตอบ ทำน้ำใบเตย น้ำกระเจย๊ี บ น้ำผลไมต้ ่าง ๆ) • นกั เรยี นคดิ ว่าการทำเครอ่ื งด่ืมดม่ื เองมีประโยชนอ์ ยา่ งไรบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ ประหยัดค่าใชจ้ ่าย ไดเ้ ครอ่ื งด่มื ที่สะอาดปราศจากสงิ่ เจอปน) 2. นกั เรียนรว่ มกนั ศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกบั เครอื่ งดืม่ ท่มี ปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย จากแหล่งการเรยี นรูท้ ีห่ ลากหลาย เช่น หนงั สอื เรียน อนิ เทอรเ์ น็ต จากนนั้ ร่วมกนั สรปุ ความรู้ทไี่ ด้ เปน็ แผนภาพความคิด บนกระดาน ดังตวั อย่าง ใหโ้ ปรตนี แคลเซียม วิตามินบี 1, บี 2 มสี รรพคุณต่าง ๆ ในการบารุงร่างกาย และธาตุเหลก็ นม เครื่องด่ืม น้าพืชสมุนไพร ท่มี ปี ระโยชน์ น้าผกั ผลไม้ และธญั พชื น้าเปลา่ บริสุทธ์ิ ต่อร่างกาย ให้วติ ามนิ ตา่ ง ๆ น้าตาล และใยอาหาร ช่วยในการทางานของระบบยอ่ ยอาหาร ป้องกนั อาการทอ้ งผกู
3. นกั เรยี นสงั เกตภาพเครื่องดื่มทมี่ ปี ระโยชน์ตอ่ ร่างกายบนกระดาน ดงั น้ี จากนั้นนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับภาพเครือ่ งดื่มดงั กล่าว โดยใชค้ ำถาม กระต้นุ ความคิด ดงั น้ี • นักเรียนเหน็ ภาพเคร่อื งด่ืมอะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ นมสด น้ำแอปเปิล น้ำตะไคร้ และนำ้ ขา้ วกลอ้ งงอก) • นกั เรียนคดิ วา่ เครื่องดมื่ ในภาพมปี ระโยชนต์ ่อร่างกายหรอื ไม่ อยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ มปี ระโยชน์ เพราะเครอื่ งดื่มในภาพมีสารอาหารท่มี ีประโยชน์ต่อรา่ งกาย ช่วยบำรุงรา่ งกายใหส้ ดชนื่ แข็งแรง) 4. นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายและคดิ ประเมินเพอื่ เพิม่ คุณคา่ เกยี่ วกบั ความสำคัญและประโยชน์ ของเครอ่ื งด่ืม โดยใช้คำถามสำคัญ ดงั น้ี • เครอ่ื งดม่ื มีความสำคญั และมปี ระโยชนต์ ่อร่างกายอย่างไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ ชว่ ยดับกระหาย ช่วยในการย่อยอาหาร ทำใหร้ ่างกายสดชืน่ มสี ารอาหาร ท่มี ีประโยชนต์ ่อร่างกาย บางชนิดมีสรรพคณุ ในการปรบั สมดลุ ของรา่ งกายให้ปกติ ) 5. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความสำคญั และประโยชน์ของเคร่อื งดม่ื เป็นแผนภาพความคิด ดงั ตัวอย่าง มสี ารอาหารทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อร่างกาย ทาใหร้ ่างกายสดช่ืน ความสาคญั ช่วยดบั กระหาย และประโยชน์ ช่วยในการยอ่ ยอาหาร มสี รรพคณุ ในการปรับ ของเครื่องดื่ม สมดุลของร่างกายตาม ชนิดของเคร่ืองดื่ม
6. นักเรียนแบ่งกลุ่ม เลือกเครอ่ื งดม่ื ท่ีมีประโยชนต์ อ่ รา่ งกาย กลุ่มละ 3 ชนิด พรอ้ มเขยี นประโยชนข์ อง เครอ่ื งดม่ื ชนิดทีเ่ ลือก ลงในกระดาษสำหรับทำกจิ กรรม ดงั ตัวอย่าง เคร่ืองดม่ื ประโยชนต์ ่อรา่ งกาย (แก้รอ้ นใน) 1. (น้ำรากบวั ) (แกท้ ้องรว่ ง) 2. (นำ้ สะระแหน่) (ช่วยรักษาโรคทางเดนิ ปัสสาวะ) 3. (น้ำกระเจ๊ยี บ) 7. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ส่งิ ทีเ่ ขา้ ใจเป็นความรู้รว่ มกัน ดังน้ี เครือ่ งดืม่ เป็นอาหารลกั ษณะเหลวที่ดืม่ งา่ ย ไมต่ ้องเค้ียว เหมาะสำหรบั คนที่รา่ งกายปกติ และผูป้ ่วย เม่ือด่มื เข้าไปแล้วรา่ งกายสามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ทนั ทีและชว่ ยให้ร่างกายสดชน่ื 8. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอประโยชนข์ องเครอื่ งด่มื ทเ่ี ลือกหน้าชน้ั เรียน 9. นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ เกี่ยวกับวธิ กี ารทำงานให้เหน็ การคิดเชงิ ระบบและวธิ ีการทำงาน ท่มี แี บบแผน 10. นักเรยี นรว่ มกนั รวบรวมขอ้ มูลเกีย่ วกบั เคร่ืองด่มื ที่มีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย แล้วจัดทำเป็นสมดุ ภาพ พรอ้ มบอกประโยชน์และสรรพคณุ ของเครือ่ งด่ืม แลว้ นำไปไวใ้ นมุมสาระน่ารใู้ นห้องสมุดของโรงเรียน เพอ่ื เผยแพรค่ วามรู้ใหก้ ับผูอ้ น่ื 11. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สกึ หลังการเรียนและหลังการทำกิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี้ • สงิ่ ที่นักเรยี นได้เรยี นรูใ้ นวันน้คี ืออะไร • นกั เรียนมีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • เพอื่ นนักเรียนในกลุ่มมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพงึ พอใจกับการเรียนในวันน้หี รอื ไม่ เพียงใด • นักเรยี นจะนำความรทู้ ไ่ี ดน้ ีไ้ ปใช้ให้เกดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทวั่ ไป ไดอ้ ยา่ งไร จากนัน้ แลกเปลยี่ นตรวจสอบข้นั ตอนการทำงานทกุ ขน้ั ตอนวา่ จะเพม่ิ คุณคา่ ไปสูส่ ังคม เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมให้มากขน้ึ กว่าเดมิ ในขนั้ ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครง้ั ต่อไป ส่อื การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพเครื่องดื่มท่มี ปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกาย 3. กระดาษสำหรับทำกิจกรรม 4. แหล่งการเรยี นรทู้ งั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น 5. google meet,คลปิ วีดีโอการสอน
การประเมนิ การเรยี นรู้ 1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง ความสำคญั และประโยชน์ของเคร่ืองด่มื 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทำงาน แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมนิ ระดับคุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไมม่ ีการช้แี จง สมาชิกชัดเจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เป้าหมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมีการชี้แจงเปา้ หมาย มีการชีแ้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการช้ีแจงเปา้ หมาย การทำงาน อยา่ งชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มกี ารปฏบิ ัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั งิ านรว่ มกนั ปฏิบตั งิ านร่วมกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แตไ่ ม่มกี ารประเมิน ไม่ครบทุกคน พร้อมกบั การประเมนิ เป็น เป็นระยะ ๆ ระยะ ๆ
การวัดประเมินผลการจัดการเรียนรู้ 1.การประเมินผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงค์ วิธีการประเมิน เคร่ืองมือ 1. อธบิ ายความสำคญั และประโยชน์ ตรวจผลงานการเขยี นอธิบาย เกณฑ์การให้คะแนน ของเครอ่ื งดื่ม ความสำคญั และประโยชนข์ อง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 2. เขยี นประโยชน์ของเครอื่ งดมื่ ที่ มตี ่อสุขภาพ เคร่ืองด่มื เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3. เห็นความสำคัญและประโยชน์ ตรวจผลงานการเขยี นอธบิ าย ของเครอื่ งดม่ื ประโยชนข์ องเครอื่ งดืม่ ท่ีมตี ่อ สุขภาพ ตรวจผลงานการเขยี นอธิบาย ความสำคญั และประโยชนข์ อง เครือ่ งดม่ื 2.การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ตัวช้วี ัด วธิ กี ารประเมิน เคร่อื งมอื ขอ้ ท่ี 4 ใฝเ่ รยี นรู้ ประเมนิ จากการทำงานกลมุ่ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ข้อที่ 6 มุ่งม่ันในการทำงาน ประเมนิ จากการทำงานกลมุ่ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอื่ ...........................................ผู้สอน (นางสาวสิริรตั น์ กลน่ิ จันทร)์ วนั ท.ี่ ..........เดือน.............พ.ศ…………
บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง อาหารและโภชนาการ เวลา 14 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 7 เร่ือง ความสำคัญและประโยชน์ของเครื่องดืม่ เวลา 2 ช่วั โมง ชอ่ื ครูผู้สอน นางสาวสิริรัตน์ กลนิ่ จันทร์ วันที่ เดอื น ปี บนั ทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้ 1.การประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงค์ ผลการจัดการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความสำคญั และประโยชน์ของเครื่องดม่ื จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรียนท่ผี ่านการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. จำนวนนกั เรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน……….คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ………. เลขท่นี ักเรยี นท่ไี มผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………… 2. เขยี นประโยชน์ของเครอ่ื งด่ืมทีม่ ตี อ่ สุขภาพ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด……….คน จำนวนนักเรียนทผ่ี ่านการประเมนิ ……….คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนกั เรียนทีไ่ ม่ผ่านการประเมนิ ……….คน คดิ เปน็ ร้อยละ………. เลขที่นักเรยี นที่ไม่ผา่ นการประเมิน…………………………………………… 3. เหน็ ความสำคัญและประโยชน์ของเครื่องด่ืม จำนวนนกั เรยี นท้งั หมด……….คน จำนวนนักเรียนที่ผา่ นการประเมิน……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นการประเมนิ ……….คน คิดเปน็ รอ้ ยละ………. เลขทีน่ กั เรยี นท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ …………………………………………… 2.การประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ จุดประสงค์ ผลการจดั การเรียนรู้ ขอ้ ที่ 4 ใฝ่เรยี นรู้ จำนวนนกั เรียนทัง้ หมด……….คน จำนวนนักเรยี นทไี่ ด้ระดับดีเย่ียม……….คน ระดับดี…………..….คน ระดับผา่ น…………..คน ระดบั ไม่ผา่ น……….คน เลขท่ีนกั เรยี นทไี่ ม่ผ่านการประเมนิ …………………………………………… ข้อท่ี 6 ม่งุ มั่นในการทำงาน จำนวนนักเรียนทง้ั หมด……….คน จำนวนนกั เรียนทีไ่ ด้ระดับดีเย่ียม……….คน ระดับดี…………..….คน ระดับผ่าน…………..คน ระดับไม่ผา่ น……….คน เลขทีน่ ักเรยี นทไ่ี ม่ผา่ นการประเมนิ ……………………………………………
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 รายวิชา การงานอาชพี รหัสวิชา ง22102 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ชื่อหน่วย อาหารและโภชนาการ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอื่ ง หลกั การจัดเตรียมเคร่อื งดื่ม เวลา 2 ชวั่ โมง สอนวันท่ี เดือน พ.ศ ชอ่ื ครผู ูส้ อน นางสาวสริ ิรตั น์ กล่นิ จันทร์ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มคี วามคิดสร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทำงาน ทกั ษะการจดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทักษะการทำงานรว่ มกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลกั ษณะนสิ ยั ในการทำงาน มจี ติ สำนกึ ในการใช้พลงั งาน ทรัพยากร ตวั ชวี้ ัด และสง่ิ แวดล้อม เพื่อการดำรงชีวิตและครอบครวั ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทกั ษะการแสวงหาความรู้เพื่อพฒั นาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มจี ติ สำนกึ ในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั การเตรยี มเครอื่ งดมื่ 2. เขียนขั้นตอนการเตรียมเครอื่ งดื่มได้ถูกตอ้ ง 3. เหน็ ความสำคญั ของหลักการเตรยี มเครอ่ื งดม่ื และรู้จกั เลอื กใช้ทรพั ยากรอย่างค้มุ ค่า สาระสำคญั การเตรียมเคร่ืองดมื่ ก่อนการประกอบเครอื่ งดม่ื ท่เี หมาะสมและถกู หลัก จะทำใหไ้ ดเ้ ครอื่ งดมื่ ที่สะอาด ปลอดภยั มีคณุ ภาพและคณุ คา่ ทางอาหารตอ่ ผู้บริโภค สาระการเรยี นรู้ หลักการจดั เตรียมเครือ่ งด่ืม สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
คำถามสำคญั ถ้าปฏิบตั ิตามหลักการเตรียมเครือ่ งด่ืมท่ีถกู ต้องจะส่งผลดีอย่างไร การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนสงั เกตภาพเคร่อื งดื่มผลไม้ 1 ชนิด เช่น น้ำส้มค้ัน จากน้ันร่วมกนั สนทนาแลกเปล่ียน ประสบการณ์ โดยใชค้ ำถาม ดังน้ี • เครื่องดม่ื ในภาพคืออะไร (ตัวอย่างคำตอบ นำ้ ส้มค้ัน) • มสี ว่ นผสมอะไรบา้ ง (ตวั อย่างคำตอบ ส้ม น้ำเชอื่ ม เกลือ) • ถ้านักเรียนจะทำเครื่องด่มื ผลไมใ้ นภาพ จะตอ้ งเตรยี มส่ิงใดบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ สว่ นผสมและวตั ถดุ บิ ) • นักเรียนเคยทำเครอื่ งดมื่ ผลไมอ้ ะไรด่มื เองบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ น้ำมะนาว นำ้ แอปเปิล) 2. นกั เรียนร่วมกนั ศึกษาและรวบรวมข้อมลู เกยี่ วกบั หลกั การจัดเตรียมเครอ่ื งด่ืม จากแหลง่ การเรยี นรู้ ที่หลากหลาย เช่น หนังสอื เรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต แลว้ นำความรูท้ ีไ่ ด้สรุปเป็นแผนภาพความคิดบนกระดาน ชง่ั ตวงส่วนผสมให้พร้อม หลักการ เลือกส่วนผสมและวตั ถุดิบ จดั เตรียมเครื่องด่ืม ทีม่ ีคุณภาพ ลา้ งวตั ถุดิบท่ีจะใชท้ า เครื่องดื่มให้สะอาด เลอื กส่วนผสมและวตั ถุดิบ ทีม่ ีตามฤดกู าลในทอ้ งถน่ิ 3. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายและแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับหลกั การจัดเตรยี มเครื่องดืม่ โดยใชค้ ำถาม กระตุน้ ความคิด ดังนี้ • ก่อนประกอบเครอ่ื งด่มื จะต้องเตรยี มสงิ่ ใดบ้าง (ตัวอยา่ งคำตอบ ส่วนผสมและวัตถุดิบ) • การเลือกส่วนผสมและวตั ถุดบิ ให้คุ้มคา่ ควรทำอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เลอื กใชส้ ว่ นผสมและวัตถุดิบตามฤดกู าลในท้องถ่ิน) • การเตรยี มวัตถดุ ิบในการทำเคร่อื งดืม่ ให้ปลอดภัยและสะอาดควรทำอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ล้างวัตถุดิบทจี่ ะใช้ทำเครอ่ื งดื่มให้สะอาดทกุ ครั้ง) • ถา้ ต้องการให้เครือ่ งดื่มมรี สชาตดิ ีตามสูตรควรทำอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ ชงั่ ตวงสว่ นผสมใหพ้ รอ้ มกอ่ นประกอบเครื่องดื่ม) 4. นักเรียนร่วมกนั อภิปรายและคิดประเมนิ เพื่อเพมิ่ คณุ คา่ เกย่ี วกบั หลกั การเตรยี มเครอื่ งดืม่ โดยใชค้ ำถามสำคญั ดังนี้ • ถ้าปฏบิ ัติตามหลกั การเตรียมเครือ่ งดื่มท่ีถูกต้องจะส่งผลดีอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ ได้เครอื่ งดื่มท่ีมีรสชาตดิ ี สะอาด ปลอดภัย และมคี ุณค่าทางอาหารตอ่ ผู้ดม่ื )
5. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความคดิ รวบยอดเกีย่ วกับหลักการจดั เตรยี มเครอ่ื งดม่ื และวิเคราะหผ์ ลทเี่ กิดข้ึน ถา้ นำหลักการเตรยี มเครื่องด่มื ไปปฏบิ ตั อิ ย่างถกู ตอ้ ง เป็นแผนภาพความคิด ดงั ตัวอยา่ ง หลักการเตรียมเคร่ืองดื่ม ผลท่ีเกิดขนึ้ 1. เลอื กใชส้ ่วนผสมและวตั ถดุ ิบที่มีคณุ ภาพ ไดเ้ คร่ืองด่ืมทม่ี ีรสชาติดี สะอาด ปลอดภยั 2. เลือกใชส้ ่วนผสมหรือวตั ถุดิบท่มี ีตามฤดกู าล ถ้าปฏิบตั ิ มีคุณภาพและใหค้ ุณค่าทางอาหารแกผ้ ูด้ ่ืม ในทอ้ งถน่ิ 3. ลา้ งผกั หรือผลไมท้ ีจ่ ะใชท้ าเครื่องดื่ม ให้สะอาด 4. ชง่ั ตวงส่วนผสมให้พร้อม ขั้นปฏบิ ัติและสรปุ ความร้หู ลงั การปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 6. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ เลือกเครอื่ งดม่ื ท่ีชอบกล่มุ ละ 1 ชนดิ แลว้ เขยี นขน้ั ตอนในการเตรียมเครือ่ งดืม่ แล้ว พรอ้ มบอกเหตผุ ลที่เลอื กเครอื่ งดมื่ ชนิดดงั กลา่ ว ลงในกระดาษสำหรับทำกิจกรรม ดงั ตัวอย่าง ข้นั ตอนการเตรียมเครื่องด่ืม ชื่อเคร่ืองด่ืม (น้ามะนาว) ข้นั ตอนการเตรียม (เลอื กซ้ือมะนาวทมี่ ีคณุ ภาพราคายอ่ มเยาในทอ้ งถิ่นและส่วนผสม แลว้ นามะนาว ไปลา้ งใหส้ ะอาด และเตรียมส่วนผสมน้าเชื่อมและเกลอื ใหพ้ ร้อมกอ่ นทาน้ามะนาว) เหตผุ ลที่เลือก (เพราะมะนาวเป็นสินคา้ OTOP ของชุมชน ราคาถูก และมีรสชาตอิ ร่อย) 7. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สง่ิ ทเี่ ข้าใจเปน็ ความรูร้ ่วมกัน ดงั น้ี การเตรียมเคร่ืองด่ืม กอ่ นการประกอบเคร่อื งดื่มทเี่ หมาะสมและถูกหลกั จะทำใหไ้ ด้เครอื่ งดมื่ ท่สี ะอาด ปลอดภัย มีคณุ ภาพและคณุ ค่าทางอาหารตอ่ ผบู้ ริโภค 8. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอขั้นตอนการเตรยี มเครื่องด่ืม หน้าชั้นเรยี น 9. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายสรปุ เกี่ยวกับวธิ ีการทำงานให้เห็นการคิดเชงิ ระบบและวิธกี ารทำงาน ที่มแี บบแผน 10. นักเรยี นรว่ มกนั รวบรวมข้อมลู เกี่ยวกับหลักการเตรียมเครอ่ื งดื่มไปจดั ปา้ ยนิเทศเพอ่ื เผยแพร่ความรู้ให้กับ ผอู้ ื่น 11. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลงั การเรียนและหลงั การทำกิจกรรม ในประเดน็ ต่อไปน้ี • สิ่งท่นี กั เรียนได้เรียนรใู้ นวนั น้คี ืออะไร • นักเรียนมสี ว่ นร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด
• เพื่อนนกั เรยี นในกลุ่มมีส่วนร่วมกจิ กรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนในวันน้ีหรอื ไม่ เพยี งใด • นักเรยี นจะนำความรทู้ ่ีไดน้ ีไ้ ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครวั และสงั คมทัว่ ไป ได้อย่างไร จากนัน้ แลกเปล่ยี นตรวจสอบขัน้ ตอนการทำงานทกุ ขั้นตอนว่าจะเพมิ่ คณุ ค่าไปสู่สงั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมใหม้ ากขน้ึ กวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในคร้งั ต่อไป สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐาน การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพเครอื่ งด่มื ผลไม้ 3. กระดาษสำหรับทำกิจกรรม 4. แหลง่ การเรียนร้ทู ้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน 5. google meet,คลปิ วีดีโอการสอน การประเมนิ การเรียนรู้ 1. ประเมินความรู้ เรอ่ื ง หลกั การจัดเตรียมเคร่ืองดมื่ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ 3. ประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุม่ ไม่มีการกำหนด มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารชี้แจง สมาชิกชัดเจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชิก ต่างคนตา่ งทำงาน และมกี ารชีแ้ จงเป้าหมาย มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชแ้ี จงเปา้ หมาย การทำงาน อยา่ งชดั เจนและ อย่างชดั เจน มีการปฏบิ ัตงิ านร่วมกนั ปฏิบัติงานร่วมกนั ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกัน อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แตไ่ มม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทุกคน พรอ้ มกบั การประเมินเป็น เป็นระยะ ๆ ระยะ ๆ
การวัดประเมินผลการจัดการเรยี นรู้ 1.การประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จุดประสงค์ วิธีการประเมนิ เคร่ืองมอื 1.อธิบายหลักการเตรยี มเครื่องดืม่ ตรวจผลงานการเขยี นอธิบาย เกณฑ์การให้คะแนน หลักการเตรียมเคร่อื งดมื่ 2.เขียนขั้นตอนการเตรยี ม เกณฑก์ ารให้คะแนน เคร่อื งด่มื ได้ถูกต้อง ตรวจผลงานการเขียนขนั้ ตอน 3.เหน็ ความสำคัญของหลักการ การเตรียมเครือ่ งดื่มไดถ้ ูกตอ้ ง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เตรียมเครอื่ งด่ืมและรจู้ กั เลอื กใช้ ตรวจผลงานการเขยี นอธิบาย ทรพั ยากรอยา่ งคุ้มค่า ความสำคญั ของหลักการเตรยี ม เคร่อื งดื่มและร้จู ักเลอื กใชท้ รัพยากร อย่างคุ้มค่า 2.การประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ตัวชีว้ ดั วิธีการประเมนิ เคร่อื งมือ ข้อท่ี 4 ใฝ่เรียนรู้ ประเมนิ จากการทำงานกลุ่ม เกณฑก์ ารให้คะแนน ข้อที่ 6 มุ่งมนั่ ในการทำงาน ประเมินจากการทำงานกลุ่ม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชือ่ ...........................................ผู้สอน (นางสาวสริ ริ ัตน์ กลน่ิ จนั ทร์) วนั ที.่ ..........เดอื น.............พ.ศ…………
บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่อื ง อาหารและโภชนาการ เวลา 14 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 8 เร่ือง หลกั การจัดเตรียมเครื่องด่มื เวลา 2 ชวั่ โมง ชื่อครูผ้สู อน นางสาวสิริรตั น์ กล่ินจนั ทร์ วนั ที่ เดอื น ปี บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ 1.การประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ ผลการจัดการเรียนรู้ 1.อธบิ ายหลกั การเตรยี มเครอ่ื งด่มื จำนวนนกั เรียนทง้ั หมด……….คน จำนวนนักเรยี นที่ผ่านการประเมิน……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนักเรียนท่ีไมผ่ ่านการประเมนิ ……….คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………. เลขที่นกั เรยี นท่ีไมผ่ า่ นการประเมนิ …………………………………………… 2.เขียนขนั้ ตอนการเตรยี มเครอื่ งดืม่ ไดถ้ ูกตอ้ ง จำนวนนักเรยี นทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรียนที่ผา่ นการประเมนิ ……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนกั เรียนท่ีไม่ผา่ นการประเมิน……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. เลขทน่ี กั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมิน…………………………………………… 3.เห็นความสำคญั ของหลักการเตรียมเครือ่ งดมื่ จำนวนนักเรยี นทั้งหมด……….คน และรู้จักเลือกใชท้ รพั ยากรอยา่ งคุ้มค่า จำนวนนักเรยี นทผ่ี ่านการประเมนิ ……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ ่านการประเมนิ ……….คน คิดเปน็ ร้อยละ………. เลขทน่ี ักเรียนทไี่ มผ่ า่ นการประเมิน…………………………………………… 2.การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จดุ ประสงค์ ผลการจดั การเรยี นรู้ ขอ้ ท่ี 4 ใฝเ่ รียนรู้ จำนวนนักเรียนทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรียนทีไ่ ดร้ ะดับดเี ยยี่ ม……….คน ระดับดี…………..….คน ระดบั ผา่ น…………..คน ระดบั ไม่ผา่ น……….คน เลขทน่ี ักเรียนที่ไม่ผา่ นการประเมิน…………………………………………… ข้อท่ี 6 ม่งุ ม่นั ในการทำงาน จำนวนนักเรียนทัง้ หมด……….คน จำนวนนักเรียนทไ่ี ด้ระดบั ดีเย่ยี ม……….คน ระดบั ดี…………..….คน ระดับผ่าน…………..คน ระดับไม่ผา่ น……….คน เลขทน่ี ักเรียนที่ไม่ผา่ นการประเมิน……………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 รายวิชา การงานอาชีพ รหัสวิชา ง22102 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ชอ่ื หนว่ ย อาหารและโภชนาการ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรื่อง หลกั การประกอบเครอ่ื งดมื่ เวลา 2 ช่ัวโมง สอนวันท่ี เดือน พ.ศ ช่ือครผู ้สู อน นางสาวสริ ริ ัตน์ กลน่ิ จันทร์ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคดิ สร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มคี ณุ ธรรม และลักษณะนสิ ยั ในการทำงาน มจี ิตสำนึกในการใช้พลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม เพือ่ การดำรงชวี ิตและครอบครวั ตวั ช้วี ัด ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความร้เู พื่อพฒั นาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มจี ิตสำนกึ ในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบตั ิงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลกั การประกอบเคร่อื งดืม่ 2. เขยี นหลักการประกอบเครื่องดื่มทีถ่ กู วิธี 3. เหน็ ความสำคัญของหลักการประกอบเคร่ืองด่มื สาระสำคัญ การประกอบเครื่องดมื่ ต้องเลือกใชอ้ ุปกรณ์ทส่ี ะอาดและเหมาะสม เพอ่ื จะไดเ้ คร่ืองดื่มที่รสชาติดี ถกู หลกั อนามัย และมคี ุณค่าทางอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ตอ่ ร่างกาย สาระการเรยี นรู้ หลักการประกอบเคร่อื งด่ืม สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุง่ มั่นในการทำงาน
คำถามสำคญั การด่มื เครื่องดืม่ ท่มี ีส่วนผสมของผกั หรอื ผลไมใ้ ห้ถูกวธิ ีควรปฏบิ ตั ิอยา่ งไร การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนร่วมกนั สนทนาแลกเปลย่ี นประสบการณเ์ กี่ยวกับการประกอบเครอื่ งด่มื โดยใชค้ ำถามดงั นี้ • นกั เรยี นคนใดเคยทำเคร่ืองดมื่ รับประทานเองบา้ ง (นักเรยี นตอบตามประสบการณ์) • วสั ดุ อปุ กรณ์ที่นกั เรียนใช้มีอะไรบ้าง (นกั เรยี นตอบตามประสบการณ์) 2. นักเรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับหลกั การประกอบเครอื่ งดม่ื จากแหลง่ การเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย เช่น หนงั สอื เรียน อินเทอร์เนต็ รว่ มกนั สรปุ ความร้ทู ไี่ ด้ เป็นแผนภาพความคิด ดังตวั อย่าง เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ หลักการประกอบ ใชอ้ ปุ กรณ์ หรือเคร่ืองมือ ผกั หรือผลไมส้ ด เคร่ืองดื่ม ท่สี ะอาด ปราศจากกล่ิน ควรดื่มทนั ทที ที่ าเสร็จ ใชเ้ คร่ืองป่ันแทนการ ใชน้ ้าเชื่อมแทนน้าตาล สับผกั และผลไม้ เพ่ือประหยดั เวลา หากตอ้ งการเน้ือละเอยี ด 3. นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายและแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับหลักการประกอบเครอื่ งดืม่ โดยใช้คำถามกระตุ้นความคิด ดังน้ี • อปุ กรณ์และเครือ่ งมือทใี่ ชใ้ นการประกอบเครอ่ื งด่ืมควรมลี ักษณะอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ สะอาด ปราศจากกลิ่นตา่ ง ๆ) • ถ้าต้องการใหเ้ นือ้ ผักหรอื ผลไมเ้ นยี นละเอยี ด ควรเลอื กใชอ้ ปุ กรณ์ใด (ตัวอยา่ งคำตอบ ใช้เครอื่ งปนั่ แทนการสับ) • วิธีการใดบา้ งในการประกอบเคร่ืองดม่ื ท่ีชว่ ยใหป้ ระหยดั เวลาและแรงงาน (ตวั อยา่ งคำตอบ การใชน้ ำ้ เชื่อมแทนน้ำตาลทราย) • ถ้าต้องการเกบ็ เครื่องดื่มไว้นานควรทำอย่างไร (นำไปตม้ ใหเ้ ดอื ดกอ่ น พกั ไว้ให้เย็นแล้วใส่ภาชนะแชต่ เู้ ยน็ ) 4. นกั เรียนร่วมกนั คิดประเมินเพ่อื เพิ่มคณุ ค่าเก่ียวกบั หลักการประกอบเครอ่ื งดืม่ โดยใช้คำถามสำคัญ ดังน้ี • การด่มื เคร่อื งดมื่ ทมี่ สี ่วนผสมของผกั หรอื ผลไมใ้ ห้ถูกวิธีควรปฏบิ ตั ิอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ด่มื ทนั ทีทเ่ี สร็จ เพ่ือไมใ่ ห้เสยี คุณคา่ ทางอาหาร)
5. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความคดิ รวบยอดเกี่ยวกับหลกั การประกอบเคร่ืองดื่ม และวเิ คราะห์ ผลที่เกิดข้ึน ถ้านำหลักการเตรียมเคร่ืองด่มื ไปปฏิบตั ิอยา่ งถูกตอ้ ง เป็นแผนภาพความคิด ดงั ตวั อยา่ ง หลักการประกอบเคร่ืองดื่ม ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ 1. ใชอ้ ุปกรณ์หรือเครื่องมอื ท่สี ะอาด ไดเ้ คร่ืองด่ืมทม่ี ีรสชาตดิ ี ถกู หลกั อนามยั ปราศจากกล่นิ ถ้าปฏบิ ัติ และมคี ุณค่าทางอาหารที่มปี ระโยชน์ตอ่ ร่างกาย 2. ใชเ้ ครื่องป่ันแทนการสบั ผกั และผลไม้ หากตอ้ งการเน้ือเนียนละเอยี ด 3. ใชน้ ้าเช่ือมแทนน้าตาลทรายกบั น้า เพื่อประหยดั เวลา 4. เคร่ืองดื่มทีม่ ีส่วนผสมเป็นผกั หรือผลไมส้ ด ควรด่ืมทนั ทที ี่ทาเสร็จ ถา้ ตอ้ งการเก็บไวน้ าน ควรตม้ ใหเ้ ดือดกอ่ น 6. นักเรียนแบง่ กลมุ่ เขียนขน้ั ตอนและวธิ ีการประกอบเคร่อื งดมื่ ที่ชอบ 1 ชนิด โดยใชห้ ลักการ ประกอบเครอ่ื งด่มื ที่ถกู วธิ ี ลงในกระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม ดงั ตวั อย่าง หลกั การประกอบเครื่องด่ืม ช่ือเคร่ืองดื่ม (น้าส้มป่ัน) ข้นั ตอนและวธิ ีการ (เลอื กใชเ้ คร่ืองป่ันและมดี ปอกผลไมท้ ่สี ะอาด ปราศจากกลน่ิ จากน้นั ปอกเปลอื กส้ม แลว้ ใชม้ ีดปอกผลไมล้ อกเส้นใยและเอาเมด็ ออกให้ไดเ้ น้ือสม้ เป็นช้ิน ๆ แลว้ นาไปป่ันกบั น้าเช่ือม และด่ืมทนั ทหี ลงั ทาเสร็จ) 7. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ส่ิงทีเ่ ขา้ ใจเปน็ ความร้รู ่วมกนั ดงั นี้ การประกอบเคร่อื งดม่ื ตอ้ งเลือกใช้อปุ กรณ์ทส่ี ะอาดและเหมาะสม เพ่ือจะได้เครื่องดมื่ ที่รสชาติดีถูก หลกั อนามยั และมีคุณคา่ ทางอาหารทม่ี ีประโยชนต์ ่อร่างกาย 8. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอขั้นตอนและวิธกี ารประกอบเครอื่ งด่มื หน้าชั้นเรยี น 9. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายสรปุ เกย่ี วกบั วธิ กี ารทำงานให้เหน็ การคดิ เชงิ ระบบและวธิ ีการทำงาน ทม่ี ีแบบแผน 10. นักเรียนรว่ มกนั รวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วกบั หลักการประกอบเคร่ืองดม่ื ไปจดั ปา้ ยนิเทศ เพอ่ื เผยแพร่ความร้ใู หก้ บั ผู้อืน่
11.นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรยี นและหลังการทำกิจกรรม ในประเด็นต่อไปน้ี • สงิ่ ทีน่ ักเรยี นได้เรียนรู้ในวนั น้คี อื อะไร • นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • เพ่อื นนักเรียนในกลุ่มมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด • นกั เรยี นพงึ พอใจกบั การเรยี นในวันน้ีหรือไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนำความรทู้ ไี่ ด้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครวั และสงั คมท่ัวไป ได้อยา่ งไร จากนั้นแลกเปลย่ี นตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทุกขน้ั ตอนว่าจะเพ่ิมคุณคา่ ไปสูส่ งั คม เกิดประโยชนต์ อ่ สังคมใหม้ ากข้นึ กวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครัง้ ตอ่ ไป สอื่ การเรียนร้/ู แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. กระดาษสำหรับทำกิจกรรม 3. แหลง่ การเรยี นร้ทู ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น 4. google meet,คลปิ วีดีโอการสอน การประเมินการเรยี นรู้ 1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง หลักการประกอบเคร่อื งดมื่ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ 3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมนิ ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกล่มุ ไม่มกี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไม่มีการช้แี จง สมาชิกชัดเจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนตา่ งทำงาน และมกี ารชแี้ จงเป้าหมาย มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย ไม่มีการชแ้ี จงเป้าหมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อย่างชัดเจน มกี ารปฏิบตั ิงานรว่ มกัน ปฏิบัตงิ านร่วมกนั ปฏิบตั งิ านรว่ มกัน อยา่ งร่วมมอื รว่ มใจ แตไ่ ม่มกี ารประเมิน ไมค่ รบทุกคน พร้อมกับการประเมนิ เป็น เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ
การวดั ประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้ 1.การประเมนิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีการประเมิน เครือ่ งมือ เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1.อธิบายหลกั การประกอบเครอื่ งดม่ื ตรวจผลงานการเขยี นอธบิ าย เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน หลักการประกอบเคร่อื งด่มื เกณฑก์ ารให้คะแนน 2.เขียนหลักการประกอบ ตรวจผลงานการเขยี นหลักการ เครื่องดืม่ ท่ีถกู วธิ ี ประกอบเครอ่ื งดื่มทถี่ กู วิธี 3.เหน็ ความสำคัญของหลกั การ ตรวจผลงานการเขียนอธบิ าย ประกอบเคร่อื งดื่ม ความสำคญั ของหลกั การประกอบ เคร่ืองดม่ื 2.การประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ตัวชว้ี ัด วธิ ีการประเมิน เคร่ืองมือ ข้อที่ 4 ใฝ่เรยี นรู้ ประเมินจากการทำงานกลมุ่ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ข้อท่ี 6 ม่งุ มัน่ ในการทำงาน ประเมนิ จากการทำงานกล่มุ เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...........................................ผู้สอน (นางสาวสิริรัตน์ กลน่ิ จันทร์) วันที.่ ..........เดือน.............พ.ศ…………
บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง อาหารและโภชนาการ เวลา 14 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 9 เรื่อง หลักการประกอบเครือ่ งดื่ม เวลา 2 ชัว่ โมง ช่อื ครูผสู้ อน นางสาวสริ ริ ตั น์ กลน่ิ จนั ทร์ วันที่ เดือน ปี บนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้ 1.การประเมินผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ ผลการจดั การเรียนรู้ 1.อธิบายหลกั การประกอบเคร่ืองดมื่ จำนวนนักเรียนทง้ั หมด……….คน จำนวนนกั เรยี นทผี่ ่านการประเมนิ ……….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมนิ ……….คน คดิ เปน็ ร้อยละ………. เลขทีน่ กั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมนิ …………………………………………… 2.เขยี นหลักการประกอบเคร่อื งดม่ื ทถ่ี ูกวิธี จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด……….คน จำนวนนกั เรยี นท่ีผา่ นการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. จำนวนนกั เรยี นทีไ่ ม่ผ่านการประเมนิ ……….คน คิดเป็นร้อยละ………. เลขทนี่ ักเรียนที่ไมผ่ ่านการประเมิน…………………………………………… 3.เห็นความสำคญั ของหลกั การประกอบ จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด……….คน เคร่อื งด่มื จำนวนนักเรยี นทผ่ี ่านการประเมนิ ……….คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………. จำนวนนกั เรยี นทีไ่ ม่ผา่ นการประเมิน……….คน คิดเป็นร้อยละ………. เลขท่นี ักเรียนทไ่ี มผ่ ่านการประเมิน…………………………………………… 2.การประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ จดุ ประสงค์ ผลการจดั การเรียนรู้ ขอ้ ท่ี 4 ใฝ่เรยี นรู้ จำนวนนักเรียนทั้งหมด……….คน จำนวนนกั เรยี นที่ได้ระดับดเี ยีย่ ม……….คน ระดับดี…………..….คน ระดบั ผา่ น…………..คน ระดับไม่ผา่ น……….คน เลขท่นี ักเรียนทีไ่ ม่ผา่ นการประเมนิ …………………………………………… ขอ้ ที่ 6 มงุ่ มน่ั ในการทำงาน จำนวนนักเรยี นทั้งหมด……….คน จำนวนนักเรียนท่ไี ด้ระดับดเี ยี่ยม……….คน ระดบั ดี…………..….คน ระดับผ่าน…………..คน ระดบั ไม่ผ่าน……….คน เลขทนี่ ักเรยี นที่ไมผ่ า่ นการประเมิน……………………………………………
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 รายวชิ า การงานอาชพี รหสั วชิ า ง22102 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ช่ือหน่วย อาหารและโภชนาการ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่อื ง หลกั การจัดและตกแต่งเครอ่ื งด่มื เวลา 2 ชั่วโมง สอนวันที่ เดอื น พ.ศ ชอื่ ครูผ้สู อน นางสาวสริ ิรตั น์ กลน่ิ จนั ทร์ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ง 1.1 เขา้ ใจการทำงาน มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มีทกั ษะกระบวนการทำงาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน และทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรม และลกั ษณะนสิ ยั ในการทำงาน มจี ติ สำนึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ ม เพื่อการดำรงชวี ติ และครอบครัว ตวั ชว้ี ัด ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความร้เู พื่อพัฒนาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มีจิตสำนกึ ในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏบิ ัตงิ านอย่างประหยัดและคุ้มค่า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลักการจัดและตกแตง่ เครือ่ งด่มื 2. เขียนหลกั การจัดและตกแต่งเคร่ืองดืม่ ท่ถี ูกวิธี 3. เหน็ ความสำคัญของการจัดและตกแต่งเครอ่ื งด่ืม สาระสำคัญ การจดั และตกแต่งเครอ่ื งด่มื ทเี่ หมาะสม จะชว่ ยให้เครอื่ งดม่ื มคี วามสวยงามและชวนดม่ื ยิ่งขนึ้ สาระการเรียนรู้ 1. การจัดเคร่ืองดืม่ 2. การตกแตง่ เครอ่ื งดืม่ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
คำถามสำคัญ การจดั และตกแต่งเคร่ืองด่ืมมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรยี นสังเกตภาพแก้วเคร่อื งดื่มผลไมท้ ม่ี ีการจดั ตกแตง่ สวยงามบนกระดาน จากนน้ั ร่วมกนั สนทนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ โดยใชค้ ำถาม ดงั น้ี • นกั เรียนจะพบเหน็ แกว้ เครื่องดื่มในภาพไดใ้ นสถานทีใ่ ด(ตัวอย่างคำตอบ รา้ นอาหาร) • แกว้ เครื่องด่ืมในภาพมลี ักษณะเปน็ อยา่ งไร(ตวั อยา่ งคำตอบ จดั ตกแต่งสวยงาม นา่ ดื่ม) • นักเรยี นชอบอะไรในแกว้ เคร่ืองดืม่ ในภาพ (ตวั อย่างคำตอบ การใชอ้ ปุ กรณ์ในการจดั และตกแต่งแกว้ เครอ่ื งด่ืมเหมาะสมและสร้างสรรค์) 2. นกั เรยี นร่วมกนั ศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั การจัดและตกแต่งเคร่อื งด่มื จากแหลง่ การเรยี นรูท้ ี่หลากหลาย เช่น หนังสอื เรียน อนิ เทอร์เน็ต จากน้ันรว่ มกันสรปุ ความรทู้ ีไ่ ด้ เป็นแผนภาพความคิด ดังตวั อย่าง หลักการจดั การจดั เครื่องดื่ม และตกแต่ง การตกแตง่ เคร่ืองดื่ม เคร่ืองด่ืม ตกแต่งดว้ ยวสั ดุธรรมชาติ เหมาะสมกบั สภาพร่างกายผดู้ ่ืม ไม่เป็นอนั ตราย ตกแตง่ ดว้ ยชอ้ นคนหรือหลอด เหมาะสมกบั สภาพอากาศ เหมาะสมกบั โอกาส จดั ลงในภาชนะที่เหมาะสม 3. นักเรยี นสังเกตภาพแก้วเครอ่ื งดม่ื 2 แก้ว บนกระดาน แลว้ วิเคราะหเ์ ปรียบเทยี บความแตกต่างในภาพ โดยใช้ คำถาม ดงั น้ี ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196