Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ม2 เทอม1-65

แผนการจัดการเรียนรู้ ม2 เทอม1-65

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ม2 เทอม1-65

Search

Read the Text Version

ปชป - วช.06 บันทกึ หลังหนว่ ยการเรยี นรอู้ งิ มาตรฐาน นักเรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ดั ของหนว่ ยการเรยี นรู้ ต่อไปน้ี มาตรฐาน ง 1.1 (ม.๒/1, ม.๒/2,ม.๒/3) 1. การจดั การเรียนการสอน / ด้านความรู้ ………..................................................................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ……………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… (นร. มีคะแนนผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน จำนวน ...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ .......................) 2. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ……………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรุปผลจากการประเมนิ ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจำหน่วยการเรยี นรู้  ระดับคณุ ภาพดีมาก จำนวน คน คิดเป็นร้อยละ  ระดับคณุ ภาพดี จำนวน คน คิดเป็นรอ้ ยละ  ระดับคณุ ภาพพอใช้ จำนวน คน คิดเป็นรอ้ ยละ  ระดบั คุณภาพปรับปรุง จำนวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ผลการจัดการเรียนร/ู้ ปญั หาหรอื อุปสรรค/แนวทางแก้ไขหรือขอ้ เสนอแนะ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๘ หลักการจัดและตกแต่งบ้าน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๙ การจัดและตกแตง่ บ้านใหน้ ่าอยู่ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๐ อุปกรณ์ที่ใช้ดูแลรักษาสวน .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

ปชป - วช.06 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๑ การตกแตง่ สวน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๒ สง่ิ ท่ีใชต้ กแตง่ สวน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๖ ขั้นตอนการตกแตง่ สวน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ........................................................ครูประจำวิชา (นางสาวสิรริ ัตน์ กล่นิ จนั ทร)์ วนั ท.่ี .........เดือน......................พ.ศ............... ความคดิ เหน็ ของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการงานอาชพี (ตรวจสอบนเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ (นางสาวสิริรัตน์ กลน่ิ จนั ทร)์ ตำแหนง่ หวั หน้ากลุ่มสาระการงานอาชีพ วันที.่ .........เดือน......................พ.ศ............... ความคิดเหน็ ของรองผ้อู ำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ (ตรวจสอบนเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ (นางวรี วลั ย์ เวียงจนั ทร)์ ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บริหารวิชาการ วนั ที.่ .........เดอื น......................พ.ศ............... ความคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น (ตรวจสอบนิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางสาวกันยาภัทร ภทั รโสตถ)ิ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนชมุ ชนประชาธปิ ัตยว์ ิทยาคาร วนั ท.ี่ .........เดอื น......................พ.ศ...............

ปชป - วช.06 ภาคผนวก 1. แบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน หนว่ ยที่ ๒ 2. แบบประเมนิ ชนิ้ งาน “สืบคน้ ข้อมูลหลกั การจัดและตกแต่งบา้ นใหน้ ่าอยู่” ๓. แบบประเมินชน้ิ งาน “เขยี นอธบิ ายหลกั การจัดและการตกแต่งบ้าน” ๔. แบบประเมนิ ชน้ิ งาน “แผนภาพความคิดเก่ยี วกบั หลักที่ใช้ในการตกแตง่ สวน” ๕. แบบประเมนิ ชิน้ งานรวบยอด “ออกแบบปอ๊ บอพั ๓มิตกิ ารใช้อปุ กรณ์ดูแลรกั ษาสวน”

ปชป - วช.06 แบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ถา้ ต้องการมีความรู้เกี่ยวกับการจดั และตกแต่งบา้ น 6. การดูแลรกั ษาสวนให้สวยงามอยเู่ สมอทำไดอ้ ย่างไร ควรสืบคน้ ข้อมลู จากแหล่งใด ก. รดนำ้ พรวนดนิ ใส่ป๋ยุ ป้องกนั และกำจดั โรคและแมลง ก. หนงั สอื พมิ พ์รายวนั ศตั รพู ืชเป็นประจำ ข. พิพิธภณั ฑสถานแหง่ ชาติ ข. ย้ายตำแหน่งของสวนไปในบริเวณตา่ ง ๆ ของบา้ นโดย ค. เจ้าของรา้ นขายสนิ ค้าตกแต่งบา้ น ไม่ซำ้ กนั ง. เวบ็ ไซต์เกย่ี วกับการจัดและตกแต่งบ้าน ค. เปลี่ยนพรรณไมแ้ ละของตกแตง่ สวนใหม่ทุกเดอื น ง. ว่าจา้ งคนทำสวนมาทำสวนให้ทุกวนั 2. บคุ คลใดให้ความร้เู กี่ยวกับการดูแลรักษาสวนได้ดี ทีส่ ดุ 7. สวนในบ้านสมยั ใหม่ควรตกแต่งอย่างไรจงึ จะ ก. คนขายอปุ กรณด์ แู ลรกั ษาตน้ ไม้ เหมาะสมที่สดุ ข. เกษตรกรผปู้ ลกู ตน้ ไม้ขาย ก. จัดสวนอยา่ งอิสระ วางพรรณไมแ้ ละของตกแต่งตามใจ ชอบ ค. คนรับจ้างตัดหญ้า ข. จัดสวนโดยเน้นใชห้ นิ กรวด และรูปปัน้ มากกวา่ ใช้ ง. คนขายปยุ๋ พรรณไม้ 3. เพราะเหตุใดจงึ ต้องมีการจดั และตกแต่งบ้าน ค. จัดสวนโดยเน้นสสี นั ของต้นไม้โดยไมใ่ ช้ของตกแต่งอน่ื ก. เพราะต้องการให้ส่ิงของในบ้านมอี ายกุ ารใช้งาน ง. จดั สวนรปู ทรงเรขาคณิตและมนี ้ำพตุ ้ังไวก้ ลางสวน ยาวนาน 8. ถ้ามีพ้ืนที่ว่างเล็กน้อยซง่ึ ไมไ่ ดป้ ลูกหญา้ เพราะหญ้า ข. เพราะตอ้ งการให้มคี นมาเยย่ี มเยยี นบ่อย ๆ หมดแลว้ ควรปลูกพรรณไม้ชนิดใดแทน ค. เพราะตอ้ งการให้บ้านมกี ลิ่นหอมสดช่นื ก. ไมน้ ้ำ ง. เพราะต้องการให้บ้านน่าอยอู่ าศัย 4. ถ้าตอ้ งการให้ห้องรบั แขกสามารถเดนิ เข้า-ออกได้ ข. ไมพ้ ุ่ม ค. ไม้คลมุ ดนิ สะดวก ควรทำอยา่ งไร ก. ทำประตูห้องรบั แขกเพมิ่ ง. ไม้ประธาน 9. การนำวสั ดุในทอ้ งถนิ่ มาประดิษฐ์เปน็ ของตกแตง่ บา้ น ข. จัดวางเครอื่ งเรอื นให้น้อยท่ีสดุ ค. จดั วางเครอ่ื งเรอื นชดิ ผนังไม่ตดิ ประตู มคี วามสำคัญอยา่ งไร ง. ขนย้ายเคร่ืองเรือนออกจากหอ้ งใหห้ มด ก. เปน็ การใช้ทรัพยากรอยา่ งจำกดั 5. ห้องรบั แขกที่มีแสงแดดสอ่ งจนทำให้ร้อนมาก ควร ข. เป็นการใชท้ รพั ยากรอยา่ งถูกวิธี เลือกใช้สงิ่ ใดตกแต่ง ค. เป็นการใชท้ รพั ยากรอยา่ งประหยัด ก. ผา้ มา่ นหรือมลู่ ี่ ง. เปน็ การใชท้ รพั ยากรทีม่ อี ยอู่ ย่างรู้คุณค่า ข. ตน้ ไมใ้ ส่กระถาง 10. การตกแต่งสวนตามข้อใดประหยัดคา่ ใชจ้ ่ายมาก ค. พัดลมตดิ เพดาน ที่สุด ง. รม่ พับได้ ก. สลับสบั เปลยี่ นตำแหน่งของพรรณไม้ในสวนทม่ี อี ยเู่ ดมิ ให้เปน็ สวนใหม่โดยใช้หลักศิลปะ ข. นำของตกแต่งบ้านและชดุ โต๊ะเก้าอ้ใี นบา้ นมาจดั วางไว้ ยงั ตำแหน่งต่าง ๆ ของสวน ค. ขอแบ่งพรรณไมแ้ ละของตกแต่งจากเพ่อื นบา้ นมาใช้ ตกแต่งสวนของตนเอง ง. 4ตดั แต่งพรรณไมท้ ่มี ีอย่เู ดิมให้เปน็ รูปดอกไม้หรือสัตว์ ตา่ ง ๆ ท้งั สวน

ปชป - วช.06 แบบประเมนิ ชิ้นงานงานการสืบค้นหลกั การจัดและตกแตง่ บ้านให้นา่ อยู่ คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมการสืบคน้ ขอ้ มูลเก่ยี วกับหลกั การจัดและตกแตง่ บ้านให้น่าอยู่แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน เลขที่ เนอ้ื หา ความถูกต้อง ภาษาทใ่ี ช้ การเขียน รวมคะแนน สรปุ ผล ชดั เจน ของเน้ือหา เข้าใจง่าย ส่อื สาร (๑๐ คะแนน) ผา่ น/ไมผ่ ่าน (3 คะแนน) (3 คะแนน) (๒ คะแนน) (๒ คะแนน) 1 2 3 4 5 เกณฑก์ ารประเมนิ ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมิน .........../................./................ ช่วงคะแนน ๘ – 10 ระดบั คุณภาพ ๗–๘ ดีมาก ๕–๖ ดี 0–5 พอใช้ ปรับปรงุ เกณฑ์การผ่าน อยใู่ นระดบั พอใชข้ นึ้ ไป

ปชป - วช.06 แบบประเมนิ ช้ินงานเขยี นอธบิ ายหลักการจดั และการตกแต่งบ้าน คำชี้แจง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตเขียนอธิบายหลกั การจัดและการตกแต่งบ้านแลว้ ขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน เลขที่ เน้อื หา ความถกู ตอ้ ง ภาษาท่ีใช้ การเขียน รวมคะแนน สรปุ ผล ชัดเจน ของเน้อื หา เขา้ ใจงา่ ย สือ่ สาร (๑๐ คะแนน) ผา่ น/ไมผ่ า่ น (3 คะแนน) (3 คะแนน) (๒ คะแนน) (๒ คะแนน) 1 2 3 4 5 เกณฑก์ ารประเมิน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน .........../................./................ ชว่ งคะแนน ๘ – 10 ระดับคณุ ภาพ ๗–๘ ดีมาก ๕–๖ ดี 0–5 พอใช้ ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น อยูใ่ นระดับพอใชข้ นึ้ ไป

ปชป - วช.06 แบบประเมนิ ช้ินงานแผนภาพความคิดเก่ยี วกับหลักท่ใี ช้ในการตกแตง่ สวน คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตแผนภาพความคิดเกยี่ วกบั หลักท่ีใช้ในการตกแตง่ สวนแล้วขดี ✓ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน เลขท่ี เน้อื หา ความถูกต้อง ภาษาท่ีใช้ การเขยี น รวมคะแนน สรุปผล ชัดเจน ของเนือ้ หา เขา้ ใจง่าย ส่อื สาร (๑๐ คะแนน) ผ่าน/ไม่ผ่าน (3 คะแนน) (3 คะแนน) (๒ คะแนน) (๒ คะแนน) 1 2 3 4 5 เกณฑก์ ารประเมิน ลงช่ือ...................................................ผูป้ ระเมนิ .........../................./................ ชว่ งคะแนน ๘ – 10 ระดบั คุณภาพ ๗–๘ ดีมาก ๕–๖ ดี 0–5 พอใช้ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น อยู่ในระดับพอใช้ขึน้ ไป

ปชป - วช.06 แบบประเมนิ ชนิ้ งานรวบยอด ป๊อบอพั ๓มิติการใช้อปุ กรณด์ ูแลรกั ษาสวน คำชีแ้ จง : ให้ผู้สอนสังเกตป๊อบอัพ ๓มติ ิการใช้อุปกรณ์ดแู ลรักษาสวน แลว้ ขดี ✓ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดับ คะแนน เลขที่ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ รวมคะแนน สรปุ ผล ปอ๊ บอพั ๓ ป๊อบอพั ๓ ป๊อบอัพ ๓ ปอ๊ บอัพ ๓ (๑0 คะแนน) ผา่ น/ไมผ่ ่าน มิตไิ ด้ มติ ไิ ด้ มติ ไิ ด้สะอาด มติ ิ ตรงตาม เรยี บรอ้ ย สวยงาม (๒ คะแนน) หลักการทกุ (3 คะแนน) (๒ คะแนน) ข้อ (๓ คะแนน) 1 2 3 4 5 เกณฑก์ ารประเมิน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ .........../................./................ ชว่ งคะแนน ๘ – 10 ระดับคณุ ภาพ ๗–๘ ดีมาก ๕–๖ ดี 0–5 พอใช้ ปรับปรุง เกณฑ์การผ่าน อยู่ในระดับพอใชข้ ึน้ ไป

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๘ รหสั ง ๒๒101 ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ รายวิชา การงานอาชีพ ปีการศกึ ษา 2565 ชอ่ื เรื่อง หลกั การจัดและตกแต่งบ้าน เวลาเรียน ๑ ชว่ั โมง ภาคเรียนที่ 1 ............................................................................................................................. .................................. 1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การจัดและตกแตง่ บ้าน ควรคำนึงถงึ หลกั ประโยชนใ์ ชส้ อย ความประหยดั ความปลอดภัย ความ สวยงาม และความสะอาด 2. ตัวชว้ี ัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตวั ช้ีวัด ง 1.1 ม.2/1 ใชท้ ักษะการแสวงหาความร้เู พ่ือพัฒนาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใชท้ ักษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มจี ิตสำนกึ ในการทำงานและใชท้ รัพยากรในการปฏิบตั ิงานอย่างประหยดั และคมุ้ คา่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายหลักการจัดและตกแต่งบา้ น (K) 2. เขยี นแผนภาพความคิดเก่ยี วกบั การจดั และตกแต่งบ้าน (P) 3. เห็นความสำคญั ของหลกั การจดั และตกแต่งบ้าน (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การจัดและตกแตง่ บา้ น 3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิน่ - 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวเิ คราะห์ 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. อยู่อยา่ งพอเพยี ง ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มงุ่ มั่นในการทำงาน 6. ชน้ิ งาน/ภาระงาน นกั เรียนสืบค้นหวั ข้อเกย่ี วกับหลกั การจดั และตกแตง่ บา้ น ในหัวขอ้ ที่ไดร้ ับมอบหมายดังนี้ นักเรยี นจะจดั และตกแตง่ บา้ นอย่างไรใหเ้ ป็นท่พี ึงพอใจของสมาชกิ ในบ้าน

7. การวัดผลประเมินผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์ การประเมนิ ก่อนเรียน แบบทดสอบ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ แบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๒ ประเมินการผลงานเกย่ี วกบั แบบประเมินชิ้นงาน การสบื คน้ ระดบั คณุ ภาพพอใช้ผ่านเกณฑ์ หลกั การจดั และตกแตง่ บา้ น ขอ้ มลู 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นร่วมกนั สงั เกตภาพการจัดตกแต่งหอ้ งตา่ ง ๆ แลว้ สนทนาร่วมกัน โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • ภาพท่ี 1 คือหอ้ งอะไร (ห้องนอน) • ภาพท่ี 2 คือห้องอะไร (ห้องนั่งเล่น ห้องรบั แขก) • ส่งิ จำเปน็ ในห้องนอนมอี ะไรบา้ ง (ตวั อย่างคำตอบ ท่ีนอน หมอน ผ้าห่ม ตู้เสอ้ื ผ้า) • สิง่ จำเป็นในห้องนั่งเล่น หรือห้องรบั แขกมอี ะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ โตะ๊ เกา้ อี้รับแขก หรือโซฟา) 2. นกั เรยี นร่วมกนั ศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกยี่ วกับหลกั การจดั และตกแต่งบ้าน จากแหลง่ การเรยี นรู้ ท่หี ลากหลาย เช่น หนงั สือเรยี น อินเทอร์เนต็ 3. นกั เรียนแบ่งกลุม่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลุ่มร่วมกันวเิ คราะห์ โดยสงั เกตภาพ และตอบคำถาม ดงั นี้ • จากภาพ นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ อึดอดั สกปรก ไมเ่ ป็นระเบียบ) • ถ้านักเรยี นต้องการจดั และตกแต่งห้องนอนให้นา่ อยู่ นกั เรียนคิดวา่ จะจัดและตกแตง่ ส่วนใดบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ 1. พับผ้าห่มและจัดวางหมอนใหเ้ ปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย

2. จดั กรอบรปู ใหต้ ้งั ตรง 3. เก็บอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เช่น ของเล่น หนังสอื ไว้ท่ีตแู้ ละลนิ้ ชักให้เรยี บร้อย 4. เกบ็ เส้อื ผ้าใสต่ ะกร้าผ้าให้เรยี บรอ้ ย) • นักเรยี นมีหลกั การจัดและตกแต่งหอ้ งอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ 1. ควรคำนึงถงึ ประโยชนใ์ ช้สอย โดยจดั วางเครอื่ งเรอื นและของตกแต่งให้เหมาะสมกับขนาดของหอ้ ง 2. ควรคำนึงถึงความประหยดั คา่ ใช้จ่าย ทรพั ยากร 3. ควรจดั เคร่อื งเรอื นและสงิ่ ของเครื่องใช้ใหเ้ ปน็ ระเบียบ 4. ใชห้ ลักศลิ ปะมาประยกุ ตใ์ ช้ในการจัดและตกแตง่ 5. ควรคำนงึ ถึงความสะอาดโดยเลอื กใชเ้ คร่ืองเรอื นและของตกแต่งทท่ี ำความสะอาดไดง้ ่าย) • เม่ือนกั เรียนดแู ลและจดั ตกแตง่ ห้องแล้ว จะเกดิ ผลอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ทำให้หอ้ งสะอาด เป็นระเบียบ สวยงาม สะดวกตอ่ การใชง้ าน และสร้างความ ประทับใจให้แกต่ นเองและผมู้ าเยือน) กจิ กรรมนสี้ ร้างเสริมทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ด้านการคิดแกป้ ญั หาและการร่วมมอื ทำงานเปน็ ทีม 4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สรุปความร้จู ากกิจกรรมเป็นแผนภาพความคิด ดังตัวอยา่ ง (ตัวอย่างคำตอบ) ประโยชนใ์ ช้สอย หลกั การจัด ประหยดั สวยงาม และตกแต่งบ้าน ปลอดภัย สะอาด 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดงั นี้ • นกั เรยี นจะจดั ตกแตง่ บ้านอย่างไรใหเ้ ป็นทพ่ี งึ พอใจของสมาชิกในบ้าน (ตวั อย่างคำตอบ ยดึ หลักการจัดตกแต่ง 5 ข้อ ประโยชน์ใช้สอย ประหยัด ปลอดภยั สวยงามและสะอาด) 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มจบั สลากหัวข้อ แล้วร่วมกนั ทำแผนภาพความคิดเกย่ี วกับหวั ข้อท่กี ลุ่มตนเอง จบั สลากได้ ดังตวั อยา่ ง

หลกั ประโยชนใ์ ชส้ อย หลกั ความประหยัด หลกั ความปลอดภัย หลักความสะอาด หลกั ความสวยงาม เลอื กเครอื่ งเรือน หรอื ของใชโ้ ดยคำนงึ ถงึ ความ คงทน เลอื กเครอ่ื งเรือนที่มขี นาดเหมาะสมกบั พ้ืนท่ี หลกั ประโยชนใ์ ชส้ อย เลือกของใช้ที่สะดวกในการใช้สอย และทำความ สะอาดง่าย เลือกเครือ่ งเรอื น เคร่ืองใช้ท่ีตรงกบั ประเภทการใช้ สอย เลอื กเคร่อื งเรอื นทีเ่ คล่อื นย้ายสะดวก จัดอุปกรณใ์ ห้เป็นหมวดหมู่ หยิบจบั สะดวก 7. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ส่ิงท่เี ข้าใจเป็นความร้รู ว่ มกัน ดงั น้ี การจดั และตกแต่งบา้ น ควรคำนงึ ถึงหลกั ประโยชนใ์ ชส้ อย ความประหยดั ความปลอดภัย ความสวยงาม และความสะอาด 8. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ นำเสนอแผนภาพความคิดเก่ยี วกับหลกั การจดั และตกแตง่ บ้าน ประกอบการอธบิ ายหนา้ ชั้นเรยี น 9. นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรุปเกย่ี วกับวธิ กี ารทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชงิ ระบบและวธิ กี ารทำงาน ทม่ี แี บบแผน 10. นักเรยี นรว่ มกนั รวบรวมแผนภาพความคดิ เกยี่ วกบั หลกั การจัดและตกแต่งบา้ นไปจดั ป้ายนิเทศ บรเิ วณโรงเรยี นหรือชุมชน เพอื่ เผยแพรค่ วามรใู้ ห้ผอู้ ่ืนไดศ้ กึ ษา 11.นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ ึกหลังการเรียนและหลงั การทำกจิ กรรม ในประเด็นต่อไปนี้ • สงิ่ ทนี่ ักเรียนได้เรยี นรใู้ นวนั นี้คืออะไร • นกั เรยี นมีส่วนร่วมกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด • เพ่อื นนักเรียนในกลมุ่ มีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพงึ พอใจกับการเรยี นในวันนีห้ รือไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะนำความรูท้ ไี่ ด้น้ไี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทว่ั ไป ไดอ้ ยา่ งไร

จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิด ประโยชนต์ อ่ สงั คมให้มากขน้ึ กวา่ เดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในคร้งั ต่อไป 9. ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ วีดีโอการสอน หลักการจัดและตกแตง่ บ้าน และรูปภาพภาพการจดั ตกแต่งหอ้ งต่าง ๆ 9.2 แหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน การงานอาชพี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 2. ภาพห้องนอน ห้องรบั แขก 3. กระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม 4. ดินสอสี 5. แหล่งการเรยี นรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน 6. google meet , คลปิ วีดีโอการสอน

ภาคผนวก แบบบันทึกการสืบค้นข้อมูลเกย่ี วกับหลักการจัดและตกแตง่ บ้าน คำชี้แจง ให้นักเรียนสบื คน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกับหลกั การจัดและตกแต่งบ้าน โดยให้ครอบคลุมหวั ข้อท่กี ำหนด ชือ่ .......................................................................................ชน้ั ม.๒/………… เลขที่............

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๙ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี รายวิชา การงานอาชพี รหสั ง ๒๒101 ระดบั ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ช่อื เรอ่ื ง การจดั และตกแต่งบ้านใหน้ า่ อยู่ เวลาเรยี น ๑ ชั่วโมง ............................................................................................................................. .................................. 1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การจดั และการตกแตง่ บ้าน เป็นการจัดวางเครอ่ื งเรอื นและติดตั้งใหเ้ ป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงาม สะดวกตอ่ การใช้งาน นา่ อยู่อาศยั ประหยดั ค่าใช้จ่าย ประหยัดพลังงาน เปน็ ทีพ่ งึ พอใจของผอู้ ยู่อาศัย และผู้มาเยย่ี มเยอื น 2. ตัวชี้วดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช้ีวดั ง 1.1 ม.2/1 ใชท้ ักษะการแสวงหาความรเู้ พ่อื พฒั นาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มีจติ สำนกึ ในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏิบตั งิ านอย่างประหยดั และคุม้ ค่า จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลักการจัดและการตกแตง่ บ้านใหน้ ่าอยู่ (K) 2. มที กั ษะในการจดั และตกแตง่ บ้าน (p) 3. เห็นความสำคญั ของการจดั และตกแต่งบ้าน (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง การจัดและการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคดิ - คดิ สรา้ งสรรค์ 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. อย่อู ย่างพอเพยี ง ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน การเขียนอธบิ ายหลกั การจัดและการตกแต่งบ้านใหน้ ่าอยู่

7. การวัดผลประเมนิ ผล วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ ประเมินภาระงาน การเขยี น แบบประเมินช้ินงาน ระดับคณุ ภาพพอใช้ผ่านเกณฑ์ อธิบายหลักการจัดและการ ตกแตง่ บา้ นใหน้ า่ อยู่ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาและแสดงความคิดเห็นรว่ มกนั โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • การจดั และตกแต่งบา้ นมีความสำคัญอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เพ่อื ความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย สวยงาม และสะดวกต่อการใชง้ าน) • เพราะเหตุใดจึงตอ้ งจัดให้หอ้ งนอนมเี ครอื่ งเรอื นนอ้ ยทส่ี ดุ (ตัวอย่างคำตอบ เพอ่ื ให้โปรง่ โล่ง อากาศถ่ายเทไดส้ ะดวก เหมาะสำหรบั นอนพักผ่อน) • ม่านและมู่ลี่ช่วยประหยัดพลงั งานได้อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ช่วยบังแสงแดดไมใ่ ห้หอ้ งร้อน ทำให้ไม่ต้องใช้พัดลม หรอื เครือ่ งปรบั อากาศ) • ถ้าต้องการประหยดั ทรพั ยากรในการจัดและตกแต่งบ้านตอ้ งทำอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ เลอื กใชข้ องตกแต่งท่หี างา่ ยในท้องถิ่น ประหยัดเวลาและคา่ เดินทาง) • ความรู้ทางดา้ นศิลปะนำมาใช้ในการจัดและตกแต่งบ้านไดอ้ ย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ นำศิลปะมาใช้โดยการประยกุ ต์เร่อื งสี รปู รา่ ง สดั ส่วน ความสมดุล เป็นตน้ ) 2. นักเรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกบั การจัดและตกแต่งบา้ นให้นา่ อยู่ จากแหลง่ การเรียนรทู้ ี่หลากหลาย เชน่ หนังสอื เรียน อนิ เทอรเ์ น็ต 3. นกั เรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม แต่ละกลุม่ ร่วมกันวิเคราะห์สาเหตุของปญั หาบ้านรก พ้นื ทใ่ี ช้สอยน้อย ผลที่เกิดข้ึน และเสนอแนวทางแกป้ ัญหา เขียนในแผนภาพความคิดและสรุปเป็น ความคิดรวบยอด ดังตัวอยา่ ง ใช้ส่งิ ของแล้วไมเ่ ก็บเข้าที่ ปญั หา ผลทีเ่ กิดขนึ้ สาเหตุ ไมน่ า่ อย่อู าศัย มพี ้ืนท่ใี ชส้ อยนอ้ ย มสี ิ่งของเครอ่ื งใชม้ ากเกินความจำเปน็ บ้านรก แนวทางแกป้ ญั หา ทำความสะอาด จัดเกบ็ ส่ิงของ เครอ่ื งใชใ้ ห้เป็นระเบียบ 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้ • ถา้ บา้ นของนักเรยี นมคี า่ ใช้ไฟฟา้ สงู ควรจดั ตกแตง่ บ้านอยา่ งไรเพอ่ื แก้ปญั หา (ตัวอยา่ งคำตอบ จัดวางเคร่อื งเรอื นไมใ่ ห้บังทศิ ทางลม ใช้ผ้ามา่ นหรอื มลู่ ่บี งั แสงแดด

เพ่อื ลดอุณหภมู ิภายในหอ้ งโดยไมต่ ้องใชพ้ ัดลมหรือเครื่องปรบั อากาศ) 5. นักเรยี นแต่ละกล่มุ ร่วมกนั วางแผนการจัดและตกแตง่ ห้องต่าง ๆ ภายในบา้ น 1 หอ้ ง และบริเวณ บ้าน 1 จดุ จากนัน้ ลงมอื ปฏบิ ตั ิจริง แล้วบนั ทึกลงในแบบบันทกึ ชน้ิ งานท่ี 1 เร่อื ง การจดั และตกแต่งบ้าน 6. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สงิ่ ทเ่ี ข้าใจเปน็ ความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี การจัดและการตกแตง่ บา้ น เปน็ การจดั วางเครื่องเรอื นและตดิ ตงั้ ให้เปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย สวยงาม สะดวกต่อการใชง้ าน น่าอยู่อาศัย ประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย ประหยัดพลงั งาน เป็นท่ีพงึ พอใจของผ้อู ยอู่ าศัย และผูม้ าเย่ยี มเยอื น 7. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอการจดั และตกแตง่ บ้านของกลมุ่ ตนเองทีไ่ ด้ปฏิบัติ ประกอบการอธิบายหนา้ ชัน้ เรียน 8. นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายสรุปเก่ียวกับวธิ กี ารทำงานให้เห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทำงาน ที่มีแบบแผน 9. นกั เรยี นร่วมกนั นำความรู้เรอื่ ง การจัดและตกแต่งบา้ น ไปแนะนำให้สมาชกิ ในครอบครวั และผูท้ ่ีสนใจในชุมชน เพ่ือเผยแพรค่ วามรู้ใหผ้ อู้ ่ืนได้ศึกษา 10.นักเรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรูส้ ึกหลังการเรยี นและหลงั การทำกจิ กรรม ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ • ส่งิ ทนี่ ักเรยี นได้เรยี นรู้ในวนั นี้คืออะไร • นกั เรยี นมีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • เพ่ือนนักเรยี นในกล่มุ มสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • นกั เรยี นพงึ พอใจกบั การเรยี นในวนั นห้ี รือไม่ เพียงใด • นกั เรยี นจะนำความรู้ท่ไี ดน้ ไี้ ปใช้ให้เกดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครวั และสังคมทวั่ ไป ไดอ้ ย่างไร จากนน้ั แลกเปล่ยี นตรวจสอบข้นั ตอนการทำงานทุกขัน้ ตอนว่าจะเพม่ิ คุณคา่ ไปสู่สงั คม เกดิ ประโยชนต์ อ่ สังคมให้มากขึ้นกว่าเดมิ ในขน้ั ตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในคร้งั ต่อไป 9. สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ สื่อการสอน PPT เร่อื ง หลกั การการจัดและตกแต่งบา้ นใหน้ ่าอยู่ 9.2 แหลง่ เรียนรู้ https://www.baanjomyut.com/library/greenparty/page4.html google meet , คลิปวีดีโอการสอน

ภาคผนวก ชิ้นงาน เขยี นในแผนภาพความคิดและสรปุ เปน็ ความคดิ รวบยอด สาเหตุของปัญหาบ้านรก พ้ืนทใ่ี ช้สอยน้อย ผลท่ีเกิดขึน้ และเสนอแนวทางแก้ปัญหา ดังตัวอย่าง ช่อื .......................................................................................ช้ัน ม.๒/………… เลขท.ี่ ...........

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑๐ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี รายวิชา การงานอาชพี รหัส ง ๒๒101 ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ชอ่ื เรือ่ ง อุปกรณท์ ีใ่ ชด้ ูแลรกั ษาสวน เวลาเรียน ๑ ชวั่ โมง ............................................................................................................................. .................................. 1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด อปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการดแู ลรักษาสวนมีหลายชนดิ การดูแลรกั ษาสวนให้สวยงามและมีอายยุ าวนาน จงึ ควรเลอื กอุปกรณ์ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะการใชง้ าน 2. ตวั ช้ีวัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตวั ช้ีวดั ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทกั ษะการแสวงหาความรูเ้ พ่อื พฒั นาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทักษะกระบวนการแก้ปญั หาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มจี ิตสำนกึ ในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏบิ ตั ิงานอย่างประหยัดและคมุ้ คา่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายขนั้ ตอนการใชอ้ ุปกรณด์ แู ลรักษาสวน (K) 2. มที ักษะในการใชอ้ ปุ กรณด์ ูแลรกั ษาสวน (P) 3. เหน็ ประโยชนแ์ ละความสำคัญของอปุ กรณด์ ูแลรกั ษาสวน (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง อปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นการดูแลรกั ษาสวน 3.2 สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่ - 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑.ความสามารถในการคิด – คิดสร้างสรรค์ ๒.ความสามารถในการส่ือสาร 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. อยู่อย่างพอเพยี ง ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน ป๊อบอพั ๓มติ เิ กีย่ วกับอปุ กรณ์ท่ีใช้ดูแลสวน

7. การวัดผลประเมินผล เกณฑ์ ระดบั คุณภาพพอใช้ผา่ นเกณฑ์ วธิ กี าร เครือ่ งมือ ประเมินชน้ิ ปอ๊ บอพั ๓มิตเิ กีย่ วกับ แบบประเมนิ ชิน้ งาน อปุ กรณ์ทีใ่ ช้ดูแลสวน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตภาพ แลว้ สนทนาและแสดงความคิดเห็นร่วมกนั โดยการตอบคำถาม ดงั นี้ • อุปกรณ์ในภาพ 2 ชนดิ น้ีแตกต่างกนั หรอื ไม่ (แตกต่าง/ไม่แตกต่าง ) • ภาพที่ 1 คือภาพอะไร (กรรไกรตดั กง่ิ ) • ภาพที่ 2 คอื ภาพอะไร (กรรไกรตัดหญ้า) • หากไมม่ อี ปุ กรณ์ในภาพที่ 1 สามารถใชอ้ ุปกรณใ์ นภาพที่ 2 แทนได้หรือไม่ เพราะเหตใุ ด (ตวั อยา่ งคำตอบ ไมไ่ ด้ เพราะกรรไกรตดั หญ้าไม่ไดอ้ อกแบบมาให้ตดั กิง่ ไมท้ ม่ี ีลกั ษณะแขง็ ) 2. นกั เรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาและรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับอุปกรณท์ ี่ใช้ดแู ลรกั ษาสวน จากแหล่งการเรยี นร้ทู ีห่ ลากหลาย เชน่ หนังสอื เรียน อินเทอรเ์ น็ต 3. นักเรยี นแบง่ กลุม่ ตามความเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั จบั คภู่ าพอปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการดแู ลรักษาสวนและ การใช้งานให้สัมพันธก์ นั ดงั ตวั อย่าง • ใชต้ ัดแตง่ กง่ิ หรอื ต้นไม้ • ใชต้ ดั หญา้ หรือเล็มหญา้

• ใช้รดน้ำตน้ ไม้ • ใช้พรวนดนิ ใส่ปยุ๋ 4. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็น โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ดังน้ี • ถ้าต้องการพรวนดนิ แต่ไม่มีสอ้ มพรวน นักเรยี นจะทำอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ใช้อุปกรณอ์ น่ื ทล่ี ักษณะการใชง้ านใกลเ้ คยี งกนั เช่น ชอ้ นปลูก) 5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันออกแบบและจัดทำหนังสือเลม่ เล็กเกี่ยวกบั อปุ กรณท์ ่ใี ชด้ แู ลสวน วธิ ีการใช้และการดูแลรักษาอปุ กรณ์ 6. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ สิง่ ทเ่ี ขา้ ใจเปน็ ความร้รู ่วมกนั ดังนี้ อปุ กรณท์ ี่ใช้ในการดูแลรักษาสวนมีหลายชนดิ การดแู ลรกั ษาสวนให้สวยงามและมีอายุยาวนาน จงึ ควรเลอื กอปุ กรณใ์ หเ้ หมาะสมกบั ลักษณะการใชง้ าน 7. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอหนงั สือเล่มเล็กเก่ยี วกับอปุ กรณ์ท่ใี ช้ดูแลสวน วิธกี ารใช้และการดแู ล รักษาอปุ กรณ์ของกลุม่ ตนเอง ประกอบการอธบิ ายหนา้ ชน้ั เรียน 8. นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเกีย่ วกบั วธิ ีการทำงานให้เห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทำงาน ทม่ี ีแบบแผน 9. นักเรียนรว่ มกนั รวบรวมหนงั สอื เล่มเล็กเก่ยี วกบั อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ดแู ลสวน วธิ ีการใชแ้ ละการดูแลรักษา อปุ กรณ์ ไปมอบให้กบั หอ้ งสมุดโรงเรียน หรอื หอ้ งสมดุ ชมุ ชน เพือ่ เผยแพรค่ วามรู้ให้ผู้อ่ืนไดศ้ กึ ษา 10.นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ ึกหลังการเรยี นและหลงั การทำกิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี้ • สิง่ ท่ีนกั เรียนได้เรียนร้ใู นวันน้คี อื อะไร • นกั เรยี นมีสว่ นร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด • เพื่อนนักเรยี นในกล่มุ มีส่วนรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด • นกั เรยี นพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นห้ี รอื ไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะนำความรทู้ ่ไี ด้นี้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทั่วไป ไดอ้ ย่างไร จากน้ันแลกเปลย่ี นตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทกุ ขัน้ ตอนวา่ จะเพม่ิ คุณคา่ ไปสู่สงั คม

เกดิ ประโยชน์ตอ่ สงั คมใหม้ ากขนึ้ กวา่ เดมิ ในข้นั ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในคร้งั ตอ่ ไป 9. สือ่ /แหล่งเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ ส่ือการสอน PPT อปุ กรณท์ ่ีใชด้ ูแลรักษาสวน 9.2 แหล่งเรยี นรู้ คลิปวดี โี อการสอน https://www.baanjomyut.com/library/greenparty/page4.html

ภาคผนวก ช้นิ งาน ป๊อบอัพ๓มติ ิเกย่ี วกบั อุปกรณท์ ใ่ี ชด้ แู ลสวน ชื่อ.......................................................................................ชั้น ม.๒/………… เลขท่.ี ...........

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ รายวิชา การงานอาชพี รหสั ง ๒๒101 ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565 ชอื่ เร่ือง การตกแตง่ สวน เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง ............................................................................................................................................................... 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การตกแตง่ สวนเปน็ การปรบั ปรุง เปล่ยี นแปลงสวนทม่ี ีอยแู่ ล้วใหด้ ูสวยงาม สดชนื่ ไมซ่ ้ำซากจำเจ และสร้างความประทับใจใหก้ ับผ้พู บเห็น 2. ตัวชว้ี ัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช้ีวัด ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความรู้เพ่ือพัฒนาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใช้ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มีจิตสำนกึ ในการทำงานและใช้ทรัพยากรในการปฏิบตั ิงานอยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายหลักที่ใช้ในการตกแตง่ สวน (K) 2. เขยี นแผนภาพความคิดเก่ยี วกับหลกั ท่ีใช้ในการตกแต่งสวน (P) 3. เหน็ ประโยชน์และความสำคัญของการตกแตง่ สวน (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง การตกแต่งสวน 3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน - 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๑.ความสามารถในการคิด – คิดสร้างสรรค์ ๒.ความสามารถในการสือ่ สาร 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. อย่อู ยา่ งพอเพียง ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 6. ช้นิ งาน/ภาระงาน เขียนแผนภาพความคิดเกยี่ วกบั หลกั ทีใ่ ช้ในการตกแตง่ สวน

7. การวัดผลประเมนิ ผล เครื่องมอื เกณฑ์ แบบประเมินชน้ิ งาน ระดับคุณภาพพอใช้ผา่ นเกณฑ์ วธิ ีการ ประเมนิ ชิ้น เขยี นแผนภาพ ความคดิ เกี่ยวกับหลักที่ใชใ้ นการ ตกแตง่ สวน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนร่วมกนั สงั เกตภาพ แลว้ สนทนาและแสดงความคิดเห็นรว่ มกัน โดยการตอบคำถาม ดังน้ี • ภาพนคี้ ือภาพอะไร (สวนหย่อม) • นักเรียนเคยเหน็ สวนลักษณะเหมอื นในภาพนีห้ รือไม่ (เคย/ไม่เคย) • จะพบเห็นสวนในภาพไดท้ ีใ่ ดบา้ ง (ตัวอย่างคำตอบ โรงเรียน สวนสาธารณะ) • นกั เรยี นคดิ ว่าสวนในภาพมีการตกแต่งเปน็ อย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ สวยงาม มีการจัดสัดสว่ นชัดเจน มีความสมดุล) 2. นกั เรยี นร่วมกนั ศึกษาและรวบรวมข้อมลู เกี่ยวกบั การตกแต่งสวน จากแหล่งการเรียนรู้ ท่หี ลากหลาย เชน่ หนงั สือเรียน อินเทอรเ์ น็ต 3. นักเรยี นแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม แต่ละกลุม่ ออกแบบแผนภาพความคิดเกีย่ วกบั หลกั ศลิ ปะ ที่ใช้ในการตกแต่งสวน

ดงั ตวั อย่าง สัดส่วน เป็นความสัมพนั ธ์ระห่างพนื้ ทว่ี า่ ง ในสวนกับขนาดของพรรณไมท้ จ่ี ะปลกู ความสมดลุ เป็นการจดั วางพรรณไม้ให้เกดิ ลงไปใหม่ เช่น ต้นไม้ขนาดใหญ่เหมาะกับพื้นท่ี ความสมดุลกันอยา่ งลงตวั สรา้ งจดุ สนใจหลัก ว่างขนาดใหญ่ ตน้ ไมข้ นาดเลก็ เหมาะกบั และจุดสนใจรอง เช่น จัดวางพรรณไมแ้ ละ สิ่งตกแตง่ ใหม้ ีสี ขนาด รูปร่าง จำนวนเท่ากัน พ้นื ทีว่ า่ งขนาดเล็ก และจัดวางเหมอื นกันท้งั 2 ขา้ ง หรอื มนี ้ำหนัก เทา่ กนั ด้วยสายตา หลกั ศลิ ปะทใี่ ชใ้ นการออกแบบ เพ่ือตกแต่งสวน ความขัดแยง้ เปน็ ความแตกตา่ งกันในเรอื่ งของ จงั หวะ เป็นความตอ่ เนอ่ื งกันของตำแหนง่ การใชเ้ ส้น รูปทรง และสีของพรรณไม้ การจัดวางพรรณไม้ เช่น หากวางพรรณไม้ เชน่ การปลูกไม้ยืนต้นตัดแตง่ พุ่มก่ิงใบ เปน็ รปู ทรงกรวยสลับกับไม้พุ่ม ตดั แตง่ เป็น ชนิดเดยี วกนั ไมต่ อ่ เนือ่ งกนั หรอื หา่ งบา้ ง ชดิ บา้ งจะดไู ม่สวยงาม แตห่ ากวางตอ่ เนื่องกนั รปู ทรงส่ีเหลี่ยมและอยู่ในระดับตำ่ กวา่ ในระยะหา่ งเท่า ๆ กัน จะดูสวยงามมากข้ึน ไมย้ นื ต้น การจดั วางพรรณไมท้ ่มี ีสขี องใบ หรือดอกแตกต่างกนั ไว้ดว้ ยกนั ความกลมกลืน เปน็ ความคลา้ ยคลงึ กนั ในเรื่องของ การใช้เส้น รูปทรง และสขี องพรรณไม้ เม่อื มคี วาม คลา้ ยคลึงกัน จะทำใหภ้ าพรวมของสวนมีความเป็น อันหนึง่ อนั เดียวกนั 4. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั วเิ คราะห์และแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดังน้ี • การตกแต่งสวนจำเปน็ ตอ้ งใช้หลักศิลปะหรอื ไม่ เพราะเหตุใด (ตัวอย่างคำตอบ จำเปน็ เพราะการตกแต่งสวนให้สวยงามจำเปน็ ต้องอาศยั หลักศิลปะหลายอย่าง มาผสมผสานกนั ) 5. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม ร่วมกันออกแบบและจดั ทำโปสเตอร์เก่ยี วกบั หลักศิลปะท่ีใช้ในการตกแต่งสวนลง ในกระดาษสำหรับทำกิจกรรม 6. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ส่งิ ท่เี ข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ การตกแตง่ สวนเป็นการปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงสวนที่มีอยแู่ ลว้ ใหด้ ูสวยงาม สดชนื่ ไมซ่ ้ำซากจำเจและ สรา้ งความประทับใจใหก้ บั ผู้พบเห็น 7. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอแผนภาพความคิดและโปสเตอรเ์ กี่ยวกบั หลกั ศลิ ปะทใี่ ช้ในการตกแตง่ สวนของกลมุ่ ตนเอง ประกอบการอธิบายหน้าช้ันเรียน 8. นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายสรปุ เกย่ี วกบั วธิ กี ารทำงานใหเ้ ห็นการคดิ เชิงระบบและวธิ ีการทำงาน ทีม่ แี บบแผน

9. นักเรียนรว่ มกนั รวบรวมแผนภาพความคดิ และโปสเตอร์เกีย่ วกับหลักศลิ ปะที่ใช้ในการตกแต่งสวน ไป ติดป้ายนเิ ทศบริเวณหนา้ ชั้นเรยี นหรือบริเวณโรงเรียน เพ่ือเผยแพรค่ วามรู้ใหน้ ักเรียนช้นั อ่ืนไดศ้ กึ ษา 10.นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ ึกหลังการเรียนและหลงั การทำกจิ กรรม ในประเด็นต่อไปน้ี • สงิ่ ที่นกั เรยี นไดเ้ รียนรใู้ นวนั นีค้ อื อะไร • นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด • เพือ่ นนักเรยี นในกลมุ่ มีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพยี งใด • นกั เรยี นพงึ พอใจกับการเรียนในวันนี้หรอื ไม่ เพียงใด • นกั เรียนจะนำความรทู้ ไ่ี ดน้ ี้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครวั และสังคมทั่วไป ไดอ้ ย่างไร จากนน้ั แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้ันตอนการทำงานทกุ ขั้นตอนวา่ จะเพิ่มคณุ ค่าไปสู่สงั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมใหม้ ากข้ึนกว่าเดิมในข้นั ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครง้ั ตอ่ ไป 9. สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรียนรู้ สอ่ื การสอน PPT หลักศิลปะที่ใช้ในการตกแตง่ สวน 9.2 แหลง่ เรยี นรู้ https://www.baanjomyut.com/library/greenparty/page4.html

ภาคผนวก ชิน้ งาน เขยี นเขยี นแผนภาพความคิดเก่ียวกบั หลักศลิ ปะท่ใี ช้ในการตกแตง่ สวน ช่ือ.......................................................................................ช้ัน ม.๒/…………

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑๒ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชีพ รายวิชา การงานอาชีพ รหสั ง ๒๒101 ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ชอ่ื เรื่อง ส่งิ ทีใ่ ช้ตกแตง่ สวน เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง ............................................................................................................................................................... 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด สง่ิ ทีใ่ ชต้ กแต่งสวนนยิ มนำมาตกแตง่ ให้สวนสวยงามมีให้เลือกมากมายหลายประเภทตามขนาด และรปู แบบของสวน 2. ตวั ชว้ี ัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ ตัวช้ีวดั ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทกั ษะการแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใชท้ กั ษะกระบวนการแก้ปญั หาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มจี ิตสำนึกในการทำงานและใชท้ รัพยากรในการปฏบิ ัติงานอยา่ งประหยัดและคมุ้ คา่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายลกั ษณะของสงิ่ ท่ใี ช้ตกแตง่ สวน (K) 2. เลือกใช้ส่ิงที่ตกแต่งสวนใหเ้ หมาะสมกบั รูปแบบของสวน (P) 3. เหน็ ประโยชนแ์ ละความสำคญั ของสิ่งท่ีใช้ตกแตง่ สวน (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ส่ิงทีใ่ ช้ตกแต่งสวน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ๑.ความสามารถในการคดิ – คดิ สร้างสรรค์ ๒.ความสามารถในการส่อื สาร 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. อยู่อย่างพอเพียง ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 6. ช้ินงาน/ภาระงาน เขียนวิธีการเลือกใชส้ ่งิ ท่ีตกแต่งสวนให้เหมาะสมกับรูปแบบของสวน

7. การวัดผลประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์ แบบประเมินชิน้ งาน ระดบั คณุ ภาพพอใช้ผ่านเกณฑ์ วิธีการ ประเมนิ ชิน้ เขยี นวิธกี ารเลือกใช้ ส่งิ ที่ตกแตง่ สวนใหเ้ หมาะสมกบั รูปแบบของสวน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนร่วมกนั สังเกตภาพ แล้วสนทนาและแสดงความคิดเห็นร่วมกัน โดยการตอบคำถาม ดงั น้ี • สวนในภาพเปน็ สวนแบบใด (สวนแนวใหม่ ) • จากภาพ ใช้ส่งิ ใดตกแต่งสวนบา้ ง (ต้นไม้ หนิ อิฐ กรวด กระถางเครอ่ื งปั้นดินเผา) • จากภาพ นักเรียนสามารถเพิม่ สิ่งท่ีใชต้ กแต่งสวนอะไรได้อีก (ตวั อย่างคำตอบ รูปปัน้ มา้ หินอ่อน) 2. นกั เรยี นร่วมกนั นำความรู้ในการจดั สวนทั้ง 3 ประเภท มาร่วมกนั วิเคราะห์ส่ิงท่ีใช้ตกแต่งสวนแต่ ละประเภท โดยเขยี นเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดานหน้าช้ันเรียน ดงั ตัวอยา่ ง รูปปั้น นำ้ พุ ส่ิงทีใ่ ช้ ตกแตง่ สวน แบบประดษิ ฐ์ ทางเทา้

บ่อปลา สะพานไม้ โต๊ะ เกา้ อ้ี โคมไฟฟา้ สงู สิ่งทใ่ี ช้ ตกแต่ง สวนแนวใหม่ กอ้ นหนิ ศาลา 3. นกั เรียนรว่ มกนั ศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเกย่ี วกับการตกแตง่ สวนแนวใหม่ จากแหล่งการเรยี นรทู้ ีห่ ลากหลาย เช่น หนังสอื เรียน อินเทอรเ์ น็ต 4. นกั เรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ เขยี นสิ่งท่นี ำมาใชต้ กแตง่ สวน เปน็ แผนภาพความคิด ดังตวั อยา่ ง น้ำตก นำ้ พุ ไฟประดบั มา้ น่งั ชดุ สนาม และศาลา น้ำและไฟ สง่ิ ทใี่ ช้ ตกแตง่ สวน รูปปน้ั และเครื่องป้นั เดนิ เผา พรรณไม้ ุ ไม้ประธาน ไม้พุ่ม อิฐ ไมค้ ลมุ ดนิ หิน หญา้ กรวด 5. นกั เรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกันวิเคราะห์และแสดงความคดิ เหน็ โดยการตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั น้ี • พรรณไม้ชนดิ ใดบ้างทีน่ ิยมปลูกประดบั แปลง ปลกู เปน็ ร้วั กัน้ บงั ตา และปลกู ไว้ริมขอบทาง (ตวั อย่างคำตอบ ชบา เข็ม มะลิ เทยี นทอง) 6. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ออกแบบโปสเตอร์สิ่งท่ใี ชต้ กแตง่ สวน พรอ้ มตกแต่งใหส้ วยงาม 7. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทีเ่ ข้าใจเปน็ ความรู้รว่ มกัน ดงั นี้ สิง่ ท่ีใช้ตกแตง่ สวนนยิ มนำมาตกแต่งใหส้ วนสวยงามมใี ห้เลอื กมากมายหลายประเภท ตามขนาดและรปู แบบของสวน 8. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงานโปสเตอร์ส่ิงทใี่ ชต้ กแตง่ สวนของกล่มุ ตนเอง

ประกอบการอธิบายหน้าช้นั เรยี น 9. นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเก่ียวกับวิธกี ารทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชงิ ระบบและวธิ ีการทำงาน ทม่ี แี บบแผน 10. นกั เรียนร่วมกนั รวบรวมผลงานโปสเตอร์สิ่งทใ่ี ช้ตกแต่งสวนไปตดิ ปา้ ยนิเทศบรเิ วณหนา้ ชน้ั เรยี น หรอื บริเวณโรงเรียน เพ่อื เผยแพร่ความรู้ใหน้ ักเรียนชัน้ อนื่ ได้ศกึ ษา 11.นักเรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความร้สู ึกหลงั การเรียนและหลังการทำกจิ กรรม ในประเด็นตอ่ ไปน้ี • ส่ิงทีน่ กั เรียนไดเ้ รียนรใู้ นวันนค้ี ืออะไร • นักเรยี นมีสว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพื่อนนักเรียนในกลุ่มมีสว่ นร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั น้ีหรือไม่ เพยี งใด • นกั เรยี นจะนำความรู้ท่ีได้นไ้ี ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสงั คมทั่วไป ได้อยา่ งไร จากนน้ั แลกเปลีย่ นตรวจสอบข้ันตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคณุ คา่ ไปสู่สังคม เกิดประโยชนต์ อ่ สงั คมใหม้ ากขน้ึ กวา่ เดิมในข้ันตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครัง้ ตอ่ ไป 9. สอื่ /แหล่งเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ สอ่ื การสอน PPT สิ่งที่ใชต้ กแต่งสวน 9.2 แหล่งเรยี นรู้ https://sites.google.com/site/foodandbeveragefortourism/bth-thi-1 https://issuu.com/854566/docs/_1_

ภาคผนวก ชิน้ งาน เขียนวธิ ีการเลือกใช้สิง่ ที่ตกแต่งสวนให้เหมาะสมกับรปู แบบของสวน ช่อื .......................................................................................ช้นั ม.๒/………… เลขท่.ี ...........

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี รายวชิ า การงานอาชีพ รหัส ง ๒๒101 ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ช่อื เร่ือง ข้ันตอนการตกแตง่ สวน เวลาเรียน ๑ ชัว่ โมง ............................................................................................................................. .................................. 1. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การตกแต่งสวนใหส้ วยงาม ประหยดั เวลา และประหยัดคา่ ใช้จ่าย สามารถทำได้โดยเร่ิมจากการวางแผน สำรวจและวิเคราะห์สวนเดิม ออกแบบสวนใหม่โดยใชห้ ลกั ศลิ ปะ และตกแตง่ สวนด้วยสงิ่ ที่ชว่ ยเพ่ิม ความสวยงาม 2. ตัวช้วี ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ง 1.1 ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความรู้เพ่ือพฒั นาการทำงาน ง 1.1 ม.2/2 ใชท้ ักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน ง 1.1 ม.2/3 มีจติ สำนกึ ในการทำงานและใช้ทรพั ยากรในการปฏบิ ตั ิงานอยา่ งประหยัดและคุม้ ค่า จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายวิธี กระบวนการและข้ันตอนการตกแตง่ สวน (K) 2. มที ักษะในการตกแต่งสวน (P) 3. เหน็ ประโยชน์และความสำคญั ของการตกแตง่ สวน (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง ขนั้ ตอนการตกแต่งสวน 3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ - 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๑.ความสามารถในการคิด – คิดสร้างสรรค์ ๒.ความสามารถในการสือ่ สาร 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ๓. มุ่งม่ันในการทำงาน 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน เขียนอธิบายวธิ กี ระบวนการและขน้ั ตอนการตกแต่งสวน ได้ถูกต้อง

7. การวัดผลประเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์ แบบประเมินชิ้นงาน ระดับคณุ ภาพพอใช้ผ่านเกณฑ์ วธิ กี าร ประเมนิ ชน้ิ เขยี นอธิบายวธิ ี กระบวนการและขนั้ ตอนการ ตกแต่งสวน ได้ถกู ต้อง 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนรว่ มกนั สงั เกตภาพแล้วสนทนาและแสดงความคดิ เห็น โดยร่วมกนั ตอบคำถาม ดังน้ี ภาพ A ภาพ B • จากภาพ A บ้านมลี ักษณะอยา่ งไร (ไม่มีสวนหนา้ บา้ น) • จากภาพ B บ้านมีลกั ษณะอย่างไร (บ้านมสี วนตกแต่งสวยงาม) • นักเรียนต้องการมีบ้านเหมือนในภาพใด เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ ภาพ B เพราะสวยงาม สดชืน่ น่าอยูอ่ าศัย) 2. นกั เรยี นร่วมกนั ศึกษาและรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกบั ขน้ั ตอนการตกแต่งสวน จากแหล่งการเรยี นรู้ ทีห่ ลากหลาย เชน่ หนงั สอื เรยี น อินเทอรเ์ น็ต 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั เขียนขัน้ ตอนการตกแตง่ สวนลงในแผนภาพความคิดและสรปุ เปน็ ความคดิ รวบยอด ดังตวั อย่าง 5. ปลูกพรรณไม้และจดั วางส่งิ ตกแตง่ ในสวนตามที่ออกแบบไว้ โดยปลกู ไม้ ประธานกอ่ น ตามดว้ ยไม้พุ่ม ไม้คลุมดนิ ปหู ญ้าและปูทางเทา้ เปน็ ลำดบั สุดท้าย 4. เลอื กซือ้ สง่ิ ตกแตง่ สวนตามแบบสวนใหมท่ รี่ ่างไว้ โดยวางแผนเลอื กซ้อื ในย่าน เดยี วกนั เพื่อประหยัดค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางและการขนส่ง 3. ปรับพ้นื ทโ่ี ดยย้ายพรรณไมแ้ ละสงิ่ ตกแตง่ ที่ไมต่ อ้ งการออกไป เตรยี มดนิ ในบรเิ วณทีจ่ ะ ปลูกพรรณไมใ้ หม่ และทำความสะอาดบรเิ วณท่ีจะวางสง่ิ ตกแต่งใหม่ แลว้ โรยปนู ขาวทำแนว ปลูกพรรณไม้หรือบรเิ วณทจ่ี ะตงั้ วางส่งิ ตกแตง่ ไว้ 2. ออกแบบสวนใหมโ่ ดยนำหลักศลิ ปะ ความรเู้ กี่ยวกับรูปแบบสวน และสิ่งที่ใช้ตกแตง่ สวน มาประยุกต์ใชร้ ่วมกนั ร่างเป็นภาพ 2 มติ ิ หรอื 3 มิติ แล้วระบายสีใหส้ วยงาม เพื่อเป็นแนวทางในการตกแต่งสวนใหม่ 1. สำรวจและวเิ คราะห์สวนเดิมว่ามพี รรณไม้ใดบา้ งท่ีควรคงไว้ พรรณไมใ้ ดบา้ งท่คี วรขนย้ายออกไป ดนิ มีความอดุ มสมบูรณห์ รอื ไม่ บริเวณใดรกร้าง บริเวณใดวา่ งเปล่า สิ่งตกแตง่ ใดบ้างทแ่ี ตกหกั หรือชำรดุ แลว้ จดบันทึกไว้

4. นกั เรียนแต่ละกลุม่ วเิ คราะหแ์ ละคดิ ประเมินเพอื่ เพิม่ คณุ คา่ โดยการตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดงั น้ี • ถ้าทกุ ครอบครัวปลกู ตน้ ไม้ในบรเิ วณบา้ นของตนเองจะเกิดผลดตี ่อชมุ ชน ประเทศ และโลกอย่างไร(ตวั อยา่ งคำตอบ สภาพอากาศในชุมชน ในประเทศ และในโลกดี ลดมลพษิ ทีเ่ กดิ จากการ เผาไหมเ้ ช้อื เพลิงของยานพาหนะต่าง ๆ ทกุ คนในชมุ ชน ในประเทศและโลกมีสุขภาพดีขน้ึ เพราะอากาศด)ี 5. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สำรวจพื้นทสี่ วนในบ้านของตนเอง สวนใกล้บ้าน หรอื สวนในโรงเรยี น จากนั้น ตกแต่งสวนโดยวาดภาพสวนทต่ี กแต่งและสวนทย่ี ังไมไ่ ด้ตกแต่ง ลงในชน้ิ งานที่ 2 เรอื่ ง การตกแต่งสวน แลว้ ตอบคำถาม 6. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สงิ่ ท่เี ข้าใจเป็นความรู้รว่ มกัน ดังน้ี การตกแต่งสวนให้สวยงาม ประหยดั เวลา และประหยดั คา่ ใช้จา่ ย สามารถทำได้โดยเริ่มจาก การวางแผนสำรวจและวเิ คราะห์สวนเดมิ ออกแบบสวนใหม่โดยใชห้ ลักศลิ ปะ และตกแต่งสวน ดว้ ยสิ่งท่ีช่วยเพม่ิ ความสวยงาม 7. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลงานการตกแตง่ สวนของกลมุ่ ตนเอง ประกอบการอธิบาย หน้าชน้ั เรยี น 8. นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายสรปุ เกีย่ วกบั วธิ ีการทำงานให้เหน็ การคดิ เชงิ ระบบและวิธีการทำงาน ท่มี แี บบแผน 9. นักเรียนร่วมกนั รวบรวมผลงานการตกแต่งสวน ไปติดป้ายนเิ ทศบรเิ วณหนา้ ชนั้ เรียน หรือบริเวณโรงเรยี น เพ่ือเผยแพรค่ วามรใู้ หน้ กั เรยี นชั้นอืน่ ไดศ้ กึ ษา 10.นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สกึ หลงั การเรยี นและหลังการทำกจิ กรรม ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี • สิง่ ทน่ี กั เรยี นได้เรียนรใู้ นวันนค้ี ืออะไร • นกั เรียนมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพยี งใด • เพอื่ นนกั เรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด • นกั เรยี นพึงพอใจกับการเรยี นในวนั นีห้ รือไม่ เพยี งใด • นกั เรียนจะนำความร้ทู ่ไี ดน้ ไี้ ปใช้ให้เกิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสังคมท่วั ไป ไดอ้ ยา่ งไร จากนน้ั แลกเปลย่ี นตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทกุ ขั้นตอนวา่ จะเพิม่ คุณคา่ ไปสูส่ งั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมใหม้ ากข้ึนกว่าเดิมในข้ันตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครง้ั ตอ่ ไป 9. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรยี นรู้ วีดีโอ ข้นั ตอนการตกแตง่ สวน 9.2 แหลง่ เรียนรู้ https://sites.google.com/a/ses26.go.th/krupuhworkm2/2- 2-kar-tktaeng-laea-brikar-kheruxng-dum

ภาคผนวก ชนิ้ งาน เขยี นอธบิ ายขน้ั ตอนการตกแตง่ สวนลงในแผนภาพความคิดและสรปุ เป็นความคิดรวบยอด ชื่อ.......................................................................................ชั้น ม.๒/………… เลขท.่ี ...........

กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ ปชป - วช.06 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ รายวชิ า การงานอาชพี ช่อื หน่วยการเรียนรู้ งานชา่ งในบ้าน รหสั วชิ า ง ๒๒101 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 เวลาเรียน ๗ ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทำงาน ทกั ษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทักษะการทำงานร่วมกนั และทักษะการแสวงหาความรู้ มี คณุ ธรรม และลักษณะนสิ ยั ในการทำงาน มจี ิตสำนึกในการใช้พลงั งาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพ่ือการ ดำรงชวี ติ และครอบครัว ตวั ชวี้ ดั ม.2/1 ใช้ทักษะการแสวงหาความรเู้ พื่อพัฒนาการทำงาน ม.2/2 ใช้ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หาในการทำงาน ม.2/3 มจี ติ สำนึกในการทำงานและใชท้ รัพยากรในการปฏิบตั ิงานอยา่ งประหยดั และคุม้ ค่า 2. สาระสำคญั การเรยี นรงู้ านชา่ งในบ้านสามารถนำความรู้ท่ีได้รบั มาซ่อมแซมสงิ่ ของเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในบา้ นซึ่ง จะต้องใชท้ กั ษะการแสวงหาความรเู้ พอ่ื พฒั นาการทำงาน และใชท้ ักษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทำงาน รวมท้งั การสรา้ งจติ สำนึกท่ดี ใี นการทำงานและใชท้ รัพยากรอยา่ งประหยดั และคมุ้ ค่า 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระแกนกลาง 1) ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ประกอบด้วยการศึกษา คน้ คว้า รวบรวม สังเกต สำรวจ และบนั ทึก เพอื่ ใช้ในการพฒั นาการทำงาน 2) ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หาในการทำงาน มขี ้ันตอน คือ การสังเกต วิเคราะห์ สรา้ งทางเลือก และ ประเมินทางเลอื ก เชน่ การเลือกใช้สิง่ ของทม่ี าตกแต่งห้องต่างๆ การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ทใี่ ชต้ กแตง่ สวน 3) การมีจิตสำนึกและใชท้ รัพยากรอย่างประหยดั และคุ้มคา่ เปน็ คณุ ธรรมในการทำงาน 3.2 สาระท้องถิน่ - ๓.๓ บรูณาการเขา้ กบั รายวิชา - วิชาภาษาไทย เรอ่ื ง การอ่านและเขยี น การพดู รายงานหนา้ ช้นั การพดู แสดงความคิดเหน็ - วิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม เรอื่ ง หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง - วชิ าทศั นศลิ ป์ เร่ือง การออกแบบแผนภาพความคดิ การออกแบบสวนแบบต่าง ๆ 4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มคี วามรบั ผิดชอบ 2. มุง่ มัน่ ในการทำงาน 3. ใฝ่เรยี นรู้

ปชป - วช.06 6. ชน้ิ งานหรือภาระงาน การออกแบบโปสเตอร์งานช่างในบ้าน(ใช้โปรแกรมCanva),แผนผงั ความคิดข้ันตอนการเปลี่ยนและ ซ่อมแซมหลอดไฟ 7. การวดั และประเมินผล 7.1 กอ่ นเรยี น ทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๓ 7.2 ระหวา่ งเรียน ประเมินการการเขียนแผนผงั ความคดิ ขนั้ ตอนการเปลี่ยนและซอ่ มแซมหลอดไฟ ประเมนิ การนำเสนอการสบื ค้นข้อมลู ขัน้ ตอนการเปลีย่ นและซ่อมแซมหลอดไฟ 7.3 หลงั การเรียน ทำแบบทดสอบหลังเรียนหนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ ประเมินชน้ิ งานรวบยอดการออกแบบโปสเตอร์งานชา่ งในบ้าน(ใชโ้ ปรแกรมCanva) 8. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1-๒ นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยท่ี ๓ 1. ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถามท้าทาย ดงั น้ี - ถ้าไม่มงี านชา่ งจะเกิดผลต่อการดำเนนิ ชีวิตประจำวันอย่างไร 2. ครอู ธิบายให้นกั เรยี นฟัง เกี่ยวกับความสำคัญของงานชา่ ง ดังนี้ - ในปัจจุบันโลกของเราได้มีการพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมากในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งส่งผลต่อ รูปแบบการดำเนินชีวิตของคนเรา โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ได้มีการคิดค้นอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ที่ อำนวยความสะดวกในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้การมีความรู้ทางด้านช่าง จึงมี ความสำคัญและจำเป็นต่อทุกคน เพราะนอกจากจะทำให้เราสามารถใช้อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ได้อย่าง ถูกวธิ แี ล้ว ยงั สามารถประกอบ ติดตงั้ บำรงุ รกั ษา ซอ่ มแซม และดัดแปลงอปุ กรณแ์ ละเครื่องใช้ไดอ้ ีกดว้ ย 3. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการประกอบอาชีพงานช่างท่ีนักเรียนรู้จัก โดย ครใู ชค้ ำถาม ดังนี้ -อาชีพงานช่างที่นักเรียนรู้จักมีอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ ช่างซ่อมรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ช่างซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า ช่างเชอื่ มโลหะ ช่างก่อสร้าง) -นกั เรียนและครอบครัวเคยใชบ้ รกิ ารงานช่างอะไรบ้าง (นกั เรยี นตอบตามประสบการณ์) -เพราะเหตุใดจึงตอ้ งใช้บรกิ ารงานชา่ งนัน้ ๆ (นกั เรยี นตอบตามประสบการณ์และความเข้าใจ) -นักเรยี นคนใดอยากประกอบอาชีพงานช่างบ้าง (นักเรยี นตอบตามความชอบ) -นกั เรียนที่อยากประกอบอาชพี งานช่าง อยากประกอบอาชีพงานชา่ งอะไร -เพราะอะไร (นักเรียนตอบตามความชอบและความเข้าใจ) 4.ให้นักเรียนศึกษา เรื่องประเภทของงานช่างพื้นฐานแล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้ คำถาม ดังนี้ -งานช่างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ งานออกแบบและ เขยี นแบบ งานไม้ งานปูน งานโลหะ งานไฟฟา้ งานเครอ่ื งยนต์ งานเคลือบผิวช้นิ งาน) -งานออกแบบเขยี นแบบทพ่ี บได้ทว่ั ไปมีกี่ประเภท อะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ 2 ประเภท คอื งาน เขียนแบบสถาปัตยกรรม การเขยี นแบบทางวิศวกรรม)

ปชป - วช.06 -งานไม้ เกี่ยวข้องกับอะไร (ตัวอย่างคำตอบ การประกอบ ติดตั้ง แกะสลัก ก่อสร้าง บำรุงรักษา ซอ่ มแซม และวัสดปุ ระเภทไม้ใหเ้ ปน็ ผลิตภณั ฑท์ ่ีต้องการ) -งานไมแ้ บ่งไดเ้ ป็นก่ปี ระเภท อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ 3 ประเภท ไดแ้ ก่ งานไม้กอ่ สรา้ ง งานไม้ ครภุ ัณฑ์ประเภทเฟอร์นิเจอรแ์ ละตกแตง่ งานไมแ้ กะสลัก) -งานปูนเก่ยี วขอ้ งกับอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นงานทใ่ี ชป้ ูนซีเมนตแ์ ละวสั ดผุ สม เพ่ือการก่อสร้าง และซ่อมแซมอาคารบ้าน เช่น งานปูนโครงสร้าง งานก่ออิฐฉาบปูน งานปั้นลวดลายปูน งานซ่อมแซมรอย แตกรา้ วของผนงั อาคาร เปน็ ตน้ ) -งานปูนโดยทั่วไปแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ 4 ประเภท คือ งานปูน โครงสร้าง งานปูนประณตี งานปนู เฟอรน์ ิเจอร์ และงานปนู สุขภณั ฑ)์ -งานโลหะ เป็นงานท่ีเกี่ยวข้องกับอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นงานช่างที่เก่ียวข้องกับการผลติ หรอื ปรบั ปรุงช้นิ งานที่ทำดว้ ยโลหะ) -งานโลหะ แบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ 6 ประเภท ได้แก่ งานโลหะแผ่น งาน เคาะขึ้นรูปโลหะ งานเหลก็ ดัดขึน้ รูป งานเช่ือมโลหะ งานหลอ่ โลหะ และงานผลิตภัณฑ์อะลมู เิ นียม) -งานไฟฟ้า เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการติดต้ัง ซอ่ มแซมวสั ดุอปุ กรณ์ และเครอื่ งมอื เคร่อื งใชใ้ นงานไฟฟ้า) -งานไฟฟ้าแบ่งเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ 2 ประเภท คือ งานไฟฟ้ากำลัง และ งานอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์) -งานเครื่องยนต์ เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นงานปรับแต่ง บำรุงรักษาและ ซ่อมแซมเครือ่ งยนตใ์ หม้ สี ภาพการใชง้ านทีด่ ี) -งานซ่อมเครื่องยนตแ์ บ่งเปน็ ก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง (ตวั อย่างคำตอบ 3 ประเภท ได้แก่ 1. การใชง้ านและควบคุมเครือ่ งยนตข์ ณะขับขร่ี ถจักรยานยนต์และรถยนต์ 2. งานตรวจซ่อม ปรบั แตง่ เครือ่ งยนต์ 3. งานบำรุงรักษาเครอ่ื งยนต์ เช่น การล้าง อดั ฉีด เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เป็นต้น) -งานเคลือบผิวชิ้นงาน เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นงานตกแต่งชิ้นงาน หรือผลติ ภัณฑ์ใหม้ ีความสวยงาม ทนทานและสามารถใช้สอยไดอ้ ย่างคมุ้ คา่ ) ให้ตวั แทนนกั เรียน 1 คน ออกมาสรปุ ประเภทของงานช่างพืน้ ฐาน เปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตัวอย่าง งานเคลือบผวิ ช้นิ งาน งานออกแบบและเขยี นแบบแบบ งานไม้ ประเภทของงานชา่ งพนื้ ฐาน งานเคร่อื งยนต์ งานปนู งานไฟฟ้า งานโลหะ

ปชป - วช.06 5. ครอู า่ นสถานการณ์ความไมป่ ลอดภัยในการปฏิบตั ิงานช่าง ใหน้ กั เรียนฟังดงั ตวั อย่าง อลงกรณ์พบวา่ หลอดไฟทบ่ี ้านเสีย เปิดไมต่ ดิ จงึ คิดที่จะเปลี่ยนหลอดใหม่ด้วยตนเอง เพราะคิด ว่าการเปลย่ี นหลอดไฟไม่ใชเ่ รื่องทีย่ ุง่ ยาก ในขณะทเ่ี ปลี่ยนหลอดไฟน้ันอลงกรณ์ ลมื ปิดสวิตชไ์ ฟฟ้า และไม่ไดส้ วมรองเทา้ เม่ืออลงกรณเ์ อ้ือมมอื เปล่ียนหลอดไฟ กระแสไฟฟา้ เกดิ ร่ัว ทำให้ ไฟฟา้ ชอร์ตอลงกรณท์ นั ที แต่โชคยงั ดี ทพ่ี ่อมาพบเข้าพอดี จงึ ชว่ ยอลงกรณไ์ ว้ไดท้ ัน จากนัน้ ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นใช้คำถาม ดงั น้ี -ในสถานการณน์ ี้กลา่ วถงึ ใคร (ตวั อยา่ งคำตอบ อลงกรณ)์ -เกิดเหตกุ ารณ์อะไรขึน้ กับอลงกรณ์ (ตัวอย่างคำตอบ เกดิ ไฟฟ้าชอรต์ เพราะความ รู้เทา่ ไม่ถึงการณ)์ -เพราะอะไรไฟฟ้าจงึ ชอร์ตอลงกรณ์ (ตัวอยา่ งคำตอบ เพราะลมื ปดิ สวิตช์ไฟฟ้า และไม่ได้สวม รองเท้าในขณะซ่อมแซมหลอดไฟฟา้ ) -ถา้ นกั เรยี นเปน็ อลงกรณ์นักเรยี นจะทำอยา่ งไร (นกั เรยี นตอบตามประสบการณแ์ ละความเขา้ ใจ) -นกั เรยี นคิดว่า ความไม่ปลอดภยั จากการปฏิบตั งิ านชา่ งส่วนใหญ่ มสี าเหตมุ าจากอะไรบ้าง (นกั เรียนตอบตามประสบการณแ์ ละความเข้าใจ) 6.ครอู ธิบายใหน้ กั เรียนฟงั ว่า ในการปฏบิ ตั ิงานช่าง ผูป้ ฏิบัตงิ านอาจได้รับบาดเจบ็ ได้ตลอดเวลา โดย เกิดจากความประมาทในการใชอ้ ุปกรณแ์ ละเครื่องมือ การแตง่ กายไม่เหมาะสม อัคคีภยั และสภาพแวดล้อมในขณะ ปฏิบตั ิงาน 7. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาแนวทางในการสร้างความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิงานช่าง แล้วใหต้ ัวแทนนักเรียนออกมาสรุปความรเู้ ปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตัวอย่าง ความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั งิ านชา่ ง 1. ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้อปุ กรณ์และเคร่ืองมืออย่างเคร่งครดั 2. สวมเส้อื ผ้าให้รดั กุมขณะปฏิบัติ 3. ตรวจสภาพอปุ กรณ์และเคร่อื งมืออยา่ สม่ำเสมอ 4. ใชอ้ ุปกรณ์และเครือ่ งมือใหเ้ หมาะสมกับงาน 5. จัดวางอุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมือให้เปน็ ระเบยี บ 6. มสี มาธใิ นการปฏบิ ตั ิงาน 7. หากเกดิ อุบตั เิ หตุในการปฏิบัตงิ าน ให้รีบแจง้ ครู ผู้ปกครอง หรอื ผ้ใู หญ่ 8. ให้นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั แผนภาพความคดิ เก่ียวกับ ประเภทของงานชา่ งพื้นฐานและความปลอดภัยในการปฏบิ ัติงานชา่ งวา่ ถกู ต้องหรือไม่ ถ้าไมถ่ ูกต้องควร ปรบั เปล่ยี นอยา่ งไร 9. ให้นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังนี้ - งานช่างพื้นฐานมหี ลายประเภทแบง่ ตามลักษณะงานที่ทำและการปฏิบัตงิ านช่างต้อง คำนงึ ถึงความปลอดภยั เปน็ สำคัญ ชัว่ โมงที่ ๓-๔ 1. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คำถามท้าทาย ดงั นี้ - ถ้าบานพับประตแู ละหนา้ ตา่ งท่บี า้ นของนักเรยี นเกดิ ชำรุด นกั เรียนจะทำอย่างไร 2. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการซ่อมแซมเครื่องมือเครื่องใช้ที่ชำรุด โดยครู ใช้คำถาม ดงั น้ี

ปชป - วช.06 -ท่บี ้านของนักเรียนเคยมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือเครื่องใช้อะไรท่ีชำรดุ หรือไม่ (ตัวอยา่ งคำตอบ เคย) -อุปกรณ์หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่เคยชำรุดมีอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ ก๊อกน้ำ หลอดไฟ สายไฟ พัด ลม) -เมื่ออุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้เหล่านั้นชำรุด นักเรียนหรือผู้ปกครองทำอย่างไร (ตัวอย่าง คำตอบ นำไปซอ่ มทรี่ า้ น เรยี กช่างมาซ่อม ท้งิ ) -นกั เรียนเคยซ่อมแซมเคร่ืองมือเครื่องใช้เหลา่ นีด้ ว้ ยตนเองหรอื ไม่ (ตัวอย่างคำตอบ เคย/ไม่เคย) -นักเรียนคิดว่า ตนเองสามารถซ่อมแซมเครื่องมือเครื่องใช้เหล่านี้ได้หรือไม่ (ตัวอย่างคำตอบ ได้/ ไมไ่ ด้) 3. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า การซ่อมแซมเป็นงานช่างลักษณะหนึ่งที่จะทำให้อุปกรณ์และ เคร่ืองมือเครื่องใช้ทช่ี ำรดุ ด้วยสาเหตตุ า่ ง ๆ นำกลับมาใชง้ านไดอ้ ีกคร้งั อุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ในบ้าน เช่น บานพับประตู หน้าต่าง ลูกปลายึดมุ้งลวด มือจับ หน้าต่าง ลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ หลอดไฟ สายไฟ สวิตช์ไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เมื่อใช้เป็นระยะเวลานานอาจมี การชำรุด ซ่งึ หากชำรดุ เพียงเล็กน้อย และนักเรยี นมคี วามรใู้ นการซอ่ มแซม ก็สามารถทำได้ดว้ ยตนเอง โดยไม่ต้องจ้างช่างซอ่ ม หรือซือ้ อุปกรณ์และเครอ่ื งมือเคร่อื งใช้ใหม่ 4.ให้นักเรียนศึกษาความรู้ เรื่อง หลักการซ่อมแซมอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ แล้วร่วมกัน แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถาม ดงั นี้ การซ่อมแซมอปุ กรณ์และเคร่ืองมือเครื่องใชโ้ ดยทัว่ ไปมีหลักการสำคัญอะไรบ้าง จากนั้นครูสุ่มเลือกตัวแทนนักเรียน 4 คน ออกมาเขียนหลักการซ่อมแซมอุปกรณ์และเครื่องมือ เครอื่ งใชค้ นละ 1 ขอ้ ลงในแผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตัวอย่าง หลกั การซ่อมแซมอปุ กรณ์และเคร่ืองมือเครื่องใช้ 1. ตรวจสอบลักษณะการชำรดุ ของอปุ กรณ์และเครือ่ งมือเครื่องใช้ 2. วางแผนการทำงานเพอ่ื ประหยัดเวลา แรงงานและค่าใชจ้ า่ ย 3. ปฏบิ ัตติ ามวิธกี ารและขั้นตอนท่ีวางแผนไว้ โดยคำนงึ ถึงความปลอดภยั ในการปฏิบัตงิ าน 4. ประเมนิ ผลการทำงาน โดยทดลองใช้อปุ กรณแ์ ละเครื่องมอื เครื่องใช้ท่ีซ่อมแซมแลว้ 5. ครนู ำบานพับประตูมาใหน้ ักเรยี นดู จากนั้นใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้ คำถาม ดังน้ี -ส่งิ ที่นกั เรยี นเห็น คืออะไร (ตัวอย่างคำตอบ บานพับ) -สง่ิ ทนี่ ักเรยี นเห็นมีไว้ทำอะไร (ตวั อย่างคำตอบ ใช้ยึดประตูหรอื หน้าต่างกับวงกบ เพื่อให้เปิด - ปิด ประตหู รอื หน้าต่างได้) 6. ครอู ธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ บานพบั แบ่งเปน็ 2 ประเภท คอื บานพบั ประตู และบานพบั หน้าต่าง ครนู ำนกั เรียนไปท่ีประตู ใหน้ ักเรียนสังเกตบานพบั ประตู จากนั้นอธิบายใหน้ ักเรียนฟังวา่ ใน การตดิ ต้ังบานพบั ประตตู ้องมีวงกบประตู บานพับประตูและสกรวู สำหรับยึดบานพบั ประตูกบั วงกบ เป็น ส่วนประกอบ ดงั น้ี 6.1 วงกบประตู ทำจากไม้ เหล็ก และพอลเิ มอร์ 6.2 บานพับประตู ทำจากโลหะ มีดว้ ยกนั หลายขนาด แล้วแตข่ นาดของบานประตู ถ้าเปน็ บานประตทู วั่ ๆ ไป ใช้บานพบั อย่างน้อย 4 ตัว เพื่อรองรบั ประตู ในการยดึ บานพับกับวงกบ ถ้าเป็นวงกบ ไมม่ ีพอลิเมอร์ใชส้ กรูวเกลียวเพอ่ื ยึดวงกบกบั บานพับ แต่ถา้ เปน็ วงกบเหล็กต้องเชื่อมเหลก็ เพ่ือยดึ วงกบของบาน พับ บานพบั ประตูแบบบานสวิงสามารถเปดิ ได้ทัง้ 2 ทาง

ปชป - วช.06 ครนู ำนกั เรียนไปท่ีหนา้ ตา่ ง ใหน้ กั เรยี นสงั เกตบานพับหนา้ ตา่ ง จากน้ันอธิบายให้นกั เรยี นฟังวา่ บานพับหน้าต่างท่นี ิยมใช้กนั มีอยู่ 2 แบบ คอื บานพับธรรมดาที่ทำจากโลหะเหมือนกบั บานพบั ประตู แต่มีขนาด เลก็ กวา่ และบานพบั แบบวิสโกท้ ีม่ ีแขนเป็นจดุ หมนุ และมีรางสำหรบั เล่ือนเปิด – ปดิ หน้าตา่ งได้ จากนน้ั ให้ นักเรียนดตู วั อย่างบานพับแบบธรรมดา และบานพบั แบบวิสโก้ จากหนังสือเรียนหรอื ชดุ กิจกรรม 7. ให้นกั เรยี นศึกษาวิธีการซ่อมแซมบานพบั ประตู แลว้ รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้ คำถาม ดังนี้ - วสั ดุอุปกรณแ์ ละเครือ่ งมือท่ีใช้ในการซ่อมแซมบานพบั ประตู มีอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคำตอบ 1. บานพบั ประตใู หม่ทีม่ ีขนาดเท่ากับของเดมิ 2. สกรูว 3. ไขควงชนดิ เดยี วกับสกรูว 4. สว่านมอื หรือสวา่ นไฟฟ้า) - ถา้ พลาสติกทรี่ องรบั แกนแตกหักต้องเปลย่ี นบานพับใหม่ใหม้ ขี นาดเทา่ กบั ของเดิมจะมี ขน้ั ตอนการซอ่ มแซมอย่างไรบ้าง - จากนั้นครูสุ่มเลือกตัวแทนนักเรียนออกมาเขียนข้นั ตอนการซอ่ มแซมบานพบั ประตูแตกหัก ลงใน แผนภาพความคิดแบบข้นั บันไดบนกระดาน ดังตวั อย่าง 1. ซอื้ บานพบั ให้มีขนาดเทา่ กบั ของเดิม 2. คลายสกรูวออกให้หมด 3. นำบานพับเกา่ ออก นำบานพับใหม่ใสเ่ ขา้ ไปแทน 4. ขันสกรูวดว้ ยไขควงท่ปี ากพอดกี ับร่องของสกรวู - ถา้ สกรวู ทยี่ ึดบานพับหลวมหรือยึดกับวงกบไมไ่ ด้แล้ว จะสามารถซ่อมแซมได้อยา่ งไร จากน้ันครูส่มุ เลือกตวั แทนนักเรยี นออกมาเขยี นข้ันตอนการซอ่ มแซมบานพับหลวมหรอื ยึดวง กบไม่ไดแ้ ล้วลงในแผนภาพความคิดแบบขั้นบันได บนกระดาน ดังตัวอยา่ ง 1. ถอดสกรวู ออกใหห้ มด แล้วนำบานพับไปเจาะรใู ห้ใหญ่กว่าเดิม 2. เลอื กสกรูวทีจ่ ะใชย้ ึดให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม และเหมาะสมกับรูทเี่ จาะใหม่ 3. นำบานพบั ทเี่ จาะรูใหใ้ หญม่ าใสแ่ ละยึดด้วยสกรวู ใหแ้ นน่ 8. ครูสาธิตวิธกี ารซอ่ มแซมบานพบั ประตทู ี่แตกหกั และการซอ่ มแซมบานพับหลวมใหน้ ักเรียนดู แล้วใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่มร่วมกันฝึกปฏิบตั ติ ามโดยใชบ้ านพับจำลองหรือซ่อมแซม บานพบั ประตูหนา้ ต่างใน โรงเรยี น 9.ให้นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาแลกเปลีย่ นความคิดเห็นวา่ การซ่อมแซมบานพบั ประตูทแี่ ตกหกั และการซ่อมแซมบานพับหลวม ของแต่ละกลุ่มพบปัญหาหรอื ไม่ ถ้าพบปัญหา นักเรียนแกไ้ ขอยา่ งไร ผลงาน ของกลุ่มใดเรยี บร้อยที่สุด เพราะอะไรผลงานของกลุ่มใดต้องปรับปรงุ เพราะอะไร และปรบั ปรงุ อย่างไร 10. ให้นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี บานพบั ประตู เมื่อใช้งานเป็นระยะเวลานานอาจมีการชำรดุ ถ้าเรามคี วามรู้ในการซ่อมแซม ก็ สามารถทำไดด้ ้วยตนเองโดยไม่ตอ้ งจา้ งช่างมาซ่อมหรือซอื้ ใหม่ ชว่ั โมงที่ ๕-๖ 1.ใหน้ ักเรยี นสงั เกตหลอดไฟบนเพดานห้อง แล้วรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ ำถาม ดังน้ี -หลอดไฟที่นกั เรยี นเห็นเปน็ หลอดไฟชนิดใด (ตวั อย่างคำตอบ หลอดฟลอู อเรสเซนต)์

ปชป - วช.06 -หลอดไฟชนดิ นี้มลี กั ษณะอย่างไร (ให้นกั เรยี นอธบิ ายจากที่เหน็ ) -ทบี่ ้านของนกั เรียนใชห้ ลอดไฟชนิดใดบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ หลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอดไส้ หลอดตะเกยี บ) -นักเรียนคิดว่าหลอดไฟเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือไม่ อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ จำเป็น เพราะให้แสงสว่างใน เวลากลางคนื ) -ถ้าหลอดไฟที่บ้านเสีย นกั เรยี นจะทำอยา่ งไร (นกั เรียนตอบตามประสบการณแ์ ละความเขา้ ใจ) 2. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า หลอดไฟฟ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้แสงสว่างซึ่งมีความ จำเป็นตอ่ ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ในปัจจุบนั ได้มีการพฒั นาหลอดไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านให้มีรูปแบบแตกต่างกัน ออกไป และประหยดั ไฟฟา้ ได้มากขึ้น 3. ให้นักเรียนศึกษาเรื่องชนิดของหลอดไฟฟ้า แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คำถาม ดงั นี้ -หลอดไฟฟ้าที่เปล่งแสงจากไส้หลอด ที่เรียกกันทั่วไปว่า หลอดดวงเทียน คือ หลอดชนิดใด (ตวั อยา่ งคำตอบ หลอดไส้) -หลอดไส้มกี ี่ชนิด อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ 2 ชนดิ คือ ชนิดเกลียวและชนิดเขี้ยว) หลอดไฟฟ้าท่ีให้แสง สวา่ งมากและไมแ่ สบตา มีอายกุ ารใชง้ านยาวนาน คอื หลอดชนดิ ใด (ตัวอยา่ งคำตอบ หลอดฟลอู อเรสเซนต)์ -หลอดตะเกียบ มีลักษณะอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นหลอดไฟฟ้าทีผ่ ลิตขึ้นมาเพ่ือให้ผลิตกระแสไฟฟา้ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและประหยัดพลังงาน โดยพฒั นาจากหลอดฟลอู อเรสเซนตธ์ รรมดามาเปน็ หลอดผอมซ่ึงประหยดั ไฟฟา้ ได้ถงึ 10 %) -หลอดตะเกยี บมีข้อดีกว่าหลอดฟลูออเรสเซนตอ์ ย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ มขี นาดส้ันกะทัดรัดกว่าหลอด ฟลูออเรสเซนต)์ 4. ให้นักเรียนศึกษาวิธีการเปลี่ยนและซ่อมแซมหลอดไฟฟ้า แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดย ครใู ช้คำถาม ดังนี้ -วสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการเปล่ียนหลอดไฟฟา้ คอื อะไร (ตัวอย่างคำตอบ หลอดไฟฟ้าชนดิ เดียวกบั หลอดท่ี ต้องการเปลย่ี น) -การเปลี่ยนหลอดไฟฟา้ มขี นั้ ตอนอย่างไรบ้าง (ให้นักเรยี นช่วยกนั ตอบ) จากนั้นครสู ่มุ เลอื กตัวแทนนกั เรียน 5 คน ออกมาเขียนขนั้ ตอนการเปล่ยี นหลอดไฟฟา้ คนละ 1 ขัน้ ตอน ลงในแผนภาพความคดิ แบบข้ันบนั ได บนกระดาน ดงั ตวั อย่าง 1. สำรวจวา่ หลอดเดมิ ทีเ่ สอ่ื มสภาพเปน็ หลอดชนิดใด 2. ปดิ สวิตช์ไฟ และสวมรองเทา้ ทุกครัง้ เพ่อื ป้องกนั ไฟฟา้ 3. ถ้าเปลี่ยนหลอดไฟเรืองแสง (หลอดฟลูออเรสเซนต์) แบบทรงกระบอกยาวที่มีขาหลอดแบบ ข้วั และหลอดเรอื งแสงแบบกลมมนท่ีมีขาแบบขวั้ ใหห้ มุนลอดไฟไปดา้ นใดด้านหนึ่ง หลอดไฟ จะแน่นเอง ถ้าเป็นหลอดกลมมนที่มีขาแบบเกลียว ให้หมุนตามเข็มนาฬิกา หลอดก็จะแน่น เอง กรณีต้องการเปล่ียนออกใหห้ มนุ ทวนเข็มนาฬิกา 4. หลังจากเปลี่ยนหลอดไฟเสร็จแล้วลองเปิดสวิตช์ดู ถ้าหลอดที่ เปลี่ยนใหม่สว่าง แสดงว่าใช้ การได้ แต่ถา้ ไมส่ วา่ งตอ้ งตรวจดูวา่ หลอดไฟแน่นหรือไม่ ถา้ ไมแ่ นน่ ตอ้ งหมุนใหแ้ นน่ -หลอดฟลูออเรสเซนต์เป็นหลอดประเภทเรืองแสง โดยถ้าใช้ไประยะเวลาหนึ่งอาจเกิดการ ขัดข้องทำให้หลอดเปิดไม่ติด ถ้านักเรียนต้องการซ่อมแซมหลอดฟลูออเรสเซนต์ ต้องใช้ อุปกรณ์อะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ 1.ไขควงตรวจสอบสายไฟ 2. อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ทตี่ อ้ งเปลี่ยนใหม่ เช่น หลอดไฟฟ้า แบลลาด สตาร์ตเตอร์ เปน็ ต้น) -ไขควงตรวจสอบสายไฟ มคี วามสำคญั ตอ่ การซ่อมแซมหลอดไฟฟ้าอยา่ งไร

ปชป - วช.06 (ตัวอยา่ งคำตอบ เปน็ เคร่ืองมอื เพื่อตรวจสอบว่ามีไฟเข้ามาที่จุดตรวจสอบหรือไม่ ถ้าไม่มีเข้ามา หลอดไฟท่ีติดอยู่ ที่ดา้ มจะติดขณะใช้ไขควงจท้ี ี่จดุ ตรวจสอบ ถา้ ไม่ตดิ แสดงว่าไฟไมม่ ีท่จี ุดนน้ั ) 5. ครูอธิบายวิธกี ารซ่อมแซมหลอดฟลอู อเรสเซนตใ์ หน้ ักเรยี นฟังแล้วรว่ มกนั แสดง ความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถาม ดงั น้ี - การตรวจสอบว่าไฟเข้าวงจรหลอดฟลูออเรสเซนตห์ รือไมต่ ้องใชอ้ ุปกรณ์ใด (ตัวอยา่ งคำตอบ ไข ควงตรวจสอบไฟ) - ถา้ ขาหลอดไฟฟ้าหลอมควรซ่อมแซมอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ใชไ้ ขควงขนั สกรูวสำหรบั ยดึ ใหแ้ น่น) -ถ้าขวั้ สตารต์ เตอรเ์ สียควรซอ่ มแซมอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เปลย่ี นสตารต์ เตอรใ์ หม)่ -ถา้ ไสห้ ลอดไฟมีสดี ำควรซอ่ มแซมอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เปล่ยี นหลอดไฟฟ้าใหม่) -ถา้ เกิดไฟฟ้าลัดวงจรควรซ่อมแซมอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ เปลี่ยนแบลลาดใหม)่ 6. ครูสาธิตวิธีการเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าและซ่อมแซมหลอดไฟฟ้าให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียน แบ่งกลุ่มร่วมกันฝึกปฏิบัติตาม โดยเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าและซ่อมแซมหลอดไฟฟ้าแบบจำลองหรือฝึกปฏิบัติกับ หลอดไฟฟ้าในโรงเรียน 7. ให้นักเรยี นร่วมกนั สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ วา่ การเปล่ียนหลอดไฟฟา้ และซ่อมแซม หลอดไฟฟา้ พบปัญหาหรือไม่ เมือ่ พบปญั หาแกไ้ ขอย่างไร ผลงานของกลมุ่ ใดเรียบร้อยทีส่ ดุ เพราะอะไร ผลงานของกล่มุ ใดต้องปรบั ปรุง เพราะอะไรและควรปรบั ปรุงอย่างไร 8. ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถามทา้ ทาย ดงั นี้ - นักเรยี นจะทราบได้อย่างไรวา่ หลอดไฟชนดิ ใดช่วยประหยัดไฟฟ้า 9. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ดังนี้ - หลอดไฟฟา้ เม่ือใชง้ านเป็นระยะเวลานานอาจมีการเส่อื มสภาพหรอื หมดอายุการใช้งาน ถ้า เรามคี วามรู้ในการเปลยี่ นหรอื ซอ่ มแซม ก็สามารถทำไดด้ ้วยตนอง โดยไม่ต้องจ้างชา่ งมาเปลีย่ นหรือซอ่ มแซม ให้ ชว่ ยให้ประหยดั คา่ ใช้จ่ายไดอ้ ีกทางหนึ่ง 9. สือ่ / แหล่งการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี 1-๒ วดี โี อการสอน งานชา่ งประเภทตา่ งๆ, ppt ประเภทงานช่างในบา้ น ชัว่ โมงท่ี ๓-๔ PPT เร่ือง การซอ่ มบานพับประตู,การซ่อมแซมอปุ กรณแ์ ละเครื่องมือเคร่ืองใช้ ช่ัวโมงที่ ๕-๖ PPT เร่อื ง เปล่ียนและซอ่ มแซมหลอดไฟ 10. เคร่ืองมอื วดั ผลและประเมนิ ผล แบบประเมนิ ช้นิ งานรวบยอด (มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชว้ี ดั ) ประเด็นการ ระดับคุณภาพ ประเมนิ ระดบั เหรยี ญทอง ขนั้ งานช้ินชิ้นเยยี่ ม ข้ันเร่มิ ดีแล้ว ข้นั พยายามอีกนดิ (5 คะแนน) (๒ คะแนน) (4 คะแนน) (3 คะแนน) ๑.เขียนอธิบาย เขียนขั้นตอนการ ข้นั ตอนการ ขนั้ ตอนการ ขั้นตอนการ ข้นั ตอนการ ซอ่ มแซมบานพบั ซอ่ มแซมบานพบั ซอ่ มแซม ประตูแตกหักที่ถกู ซ่อมแซมบานพับ ซอ่ มแซมบานพบั ประตแู ตกหกั ท่ีถกู บานพับ วธิ ีได้ถกู ต้อง วธิ ีไดถ้ ูกต้อง ประตู เหมาะสมครบทกุ ประตแู ตกหกั ท่ีถูก ประตแู ตกหกั ได้ เหมาะสมอย่างน้อย แตกหกั หวั ขอ้ ๑ รายการ วิธีได้ถูกต้อง ถูกต้อง เหมาะสม เหมาะสมอยา่ งน้อย อยา่ งน้อย ๒ ๓ รายการ รายการ

๒. แผนภาพ แผนภาพความคิด แผนภาพความคิด แผนภาพความคิด ปชป - วช.06 ความคดิ เกีย่ วกับข้ันตอน เกี่ยวกบั ข้ันตอน เกย่ี วกบั ขนั้ ตอน แผนภาพความคิด ข้ันตอนการ การเปล่ียนและ การเปล่ยี นและ การเปล่ียนและ เกีย่ วกบั ขนั้ ตอน เปล่ียนและ ซ่อมแซมหลอดไฟ ซอ่ มแซมหลอดไฟ ซ่อมแซมหลอดไฟ การเปลยี่ นและ ซอ่ มแซม ได้เรยี บรอ้ ย ได้เรยี บรอ้ ย ซ่อมแซมหลอดไฟ หลอดไฟ สะอาด สวยงาม ไดไ้ ม่เรียบร้อย ไม่ ไมส่ ะอาด ไมต่ รง ตรงตามหลกั การ สะอาด ไม่สวยงาม สะอาด ตรงตาม ตามหัวข้อ ๓. ออกแบบ ทกุ ข้อ ตรงตามหลกั การ ๔ หลกั การ ๓ ขอ้ โปสเตอร์ ข้อ ออกแบบโปสเตอร์ งานช่างใน ออกแบบโปสเตอร์ งานชา่ งในบ้าน(ใช้ บา้ น(ใช้ งานชา่ งในบา้ น(ใช้ ออกแบบโปสเตอร์ ออกแบบโปสเตอร์ โปรแกรมCanva) โปรแกรม โปรแกรมCanva) งานช่างในบา้ น(ใช้ งานชา่ งในบ้าน(ใช้ ไดไ้ มเ่ รยี บร้อย ไม่ Canva) ได้เรียบร้อย โปรแกรมCanva) โปรแกรมCanva) สะอาด ไมต่ รงตาม สะอาด สวยงาม ได้เรียบรอ้ ย หวั ข้อ ตรงตามหลักการ ไดไ้ มเ่ รียบรอ้ ย ไม่ ทกุ ข้อ สะอาด ไม่สวยงาม สะอาด ตรงตาม ตรงตามหลกั การ ๔ หลักการ ๓ ขอ้ ขอ้

ปชป - วช.06 บนั ทกึ หลังหนว่ ยการเรยี นร้อู ิงมาตรฐาน นักเรียนมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ตอ่ ไปนี้ มาตรฐาน ง 1.1 (ม.๒/1, ม.๒/2,ม.๒/3) 1. การจดั การเรยี นการสอน / ดา้ นความรู้ ……….............................................................................................................................. ....................................... ………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ……………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… (นร. มีคะแนนผา่ นเกณฑ์การประเมิน จำนวน ...............คน คิดเป็นรอ้ ยละ .......................) 2. ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ……………………….………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ ผลจากการประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจำหน่วยการเรยี นรู้  ระดับคุณภาพดีมาก จำนวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ  ระดับคุณภาพดี จำนวน คน คิดเปน็ ร้อยละ  ระดับคณุ ภาพพอใช้ จำนวน คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ  ระดบั คณุ ภาพปรบั ปรุง จำนวน คน คดิ เปน็ ร้อยละ ผลการจัดการเรียนรู้/ปญั หาหรอื อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ขหรือข้อเสนอแนะ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑๔-๑๕ ประเภทของงานช่างพ้นื ฐานและความปลอดภัยในการปฏิบัตงิ านช่าง ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๖-๑๗ การจัดและตกแต่งบ้านใหน้ า่ อยู่ .................................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๘-๑๙ อปุ กรณท์ ีใ่ ช้ดูแลรกั ษาสวน ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................... ................... ลงช่ือ........................................................ครูประจำวชิ า (นางสาวสิริรตั น์ กลนิ่ จันทร)์ วันท.่ี .........เดอื น......................พ.ศ...............

ปชป - วช.06 ความคิดเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการงานอาชีพ (ตรวจสอบนเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง) ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ (นางสาวสิรริ ัตน์ กลิน่ จันทร)์ ตำแหนง่ หวั หนา้ กลมุ่ สาระการงานอาชีพ วันท่.ี .........เดือน......................พ.ศ............... ความคดิ เหน็ ของรองผูอ้ ำนวยการกล่มุ บริหารวชิ าการ (ตรวจสอบนิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง) .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื (นางวีรวัลย์ เวยี งจันทร)์ ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ วันท.่ี .........เดือน......................พ.ศ............... ความคิดเหน็ ของผอู้ ำนวยการโรงเรียน (ตรวจสอบนิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง) ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื (นางสาวกนั ยาภัทร ภัทรโสตถิ) ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วิทยาคาร วันท.่ี .........เดือน......................พ.ศ............... ภาคผนวก 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรยี น หน่วยที่ ๓ 2. แบบประเมนิ ชิ้นงาน “เขยี นอธบิ ายขั้นตอนการซ่อมแซมบานพบั ประตูแตกหกั ” ๓. แบบประเมนิ ช้นิ งาน “แผนภาพความคิดข้ันตอนการเปลยี่ นและซ่อมแซมหลอดไฟ” ๔. แบบประเมนิ ชิน้ งานรวบยอด “ออกแบบโปสเตอร์งานชา่ งในบา้ น(ใชโ้ ปรแกรมCanva)”

ปชป - วช.06 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1.สิง่ สำคัญทจ่ี ะตอ้ งคำนึงถงึ มากทีส่ ดุ ในการปฏบิ ัตงิ าน 6. การบำรงุ รกั ษาอุปกรณ์งานช่างมีความสำคัญยกเวน้ ช่างคือข้อใด ข้อใด ก. ทักษะการปฏิบตั ิงานช่าง ก. มอี ายุการใช้งานมากขึน้ ข. ความปลอดภัยในการปฏิบัตงิ าน ข. มคี วามปลอดภัยในการใชง้ าน ค. ความสวยงามและความมีระเบยี บ ค. ลดคา่ ใช้จา่ ยภายในครอบครวั ง. การใช้เครือ่ งมือช่างได้หลากหลาย ง. ลดตน้ ทนุ ในการติดตง้ั ส่งิ อำนวยความสะดวก 2.การถอดพดั ลมออกเพื่อทำความสะอาด จดั เป็นงาน 7.คอ้ นชนดิ ใดเหมาะสำหรับใช้เคาะโลหะเพ่ือขึ้นรูป ช่างในบ้านในลกั ษณะใด ก. คอ้ นยาง ก. ซ่อมแซม ข. คอ้ นหงอน ข. บำรุงรักษา ค. ค้อนปอนด์ ค. ตดิ ตง้ั ง. ค้อนหัวกลม ง. การประกอบ 8.คุณลกั ษณะใดของแล็กเกอรท์ ี่ทำให้เปน็ ที่นิยมใช้ใน 3.งานชา่ งในข้อใดเปน็ การปฏบิ ัติงานในข้ันตอนสุดท้าย การเคลอื บผิววสั ดทุ เ่ี ป็นไม้ ของการปฏิบตั ิงานชา่ งของทกุ ประเภท ก. ทำงานโดยการทา ช่วยใหแ้ หง้ ชา้ ขึ้น ก. งานปนู ข. ทำงานโดยการพน่ ชว่ ยให้แห้งเรว็ ขึ้น ข. งานโลหะ ค. ไมม่ ีกลน่ิ ไม่ก่อให้เกิดอนั ตรายตอ่ รา่ งกาย ค. งานไฟฟา้ ง. ทำงานโดยการชุบ ชว่ ยให้ผวิ เรยี บเนยี นขึ้น ง. งานสี 9.เทปพันเกลียวเป็นอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการปฏบิ ตั งิ านช่างใด 4.บคุ คลในข้อใดปฏบิ ตั ิงานชา่ งโดยยึดหลกั 5 ส ก. งานชา่ งปูน ก. พชิ ัยทำงานช่างเสร็จแล้วจดั เกบ็ อุปกรณ์เข้าท่ใี ห้ ข. งานชา่ งไม้ เรยี บร้อย ค. งานชา่ งประปา ข. ไพรัชใชม้ ดี ตดั สง่ิ ของโดยหนั ทางคมเขา้ หาตนเอง ง. งานช่างไฟฟา้ ค. ไพโรจน์ไสขอบประตเู สรจ็ แล้วนำพดั ลมมาเปา่ ฝนุ่ 10. นักเรยี นมวี ิธีการซ่อมแซมประตู้ไม้ในบ้านทีป่ ิดไม่ ละอองใหส้ ะอาด สนทิ เน่ืองจากประตูตกอย่างไร ง. พาณิชปิดไฟกอ่ นจะทำการเปลีย่ นหลอดไฟ ก. หยอดน้ำมันสนทุกบานประตูตรงจดุ หมุน 5.ประโยชน์ของการมที ักษะการปฏิบัติงานช่างคือข้อใด ข. เปลย่ี นบานพบั ใหม่ให้มีขนาดเลก็ กวา่ เดิม ก. ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ ค. ถา้ ตกเล็กน้อยอาจไสหรือถากสว่ นท่ีทำใหป้ ดิ ข. ลดการใชท้ รพั ยากรที่มีอยู่อย่างจำกดั ไมส่ นทิ ออก ค. สามารถพฒั นาเปน็ อาชีพได้ ง. ปรับตำแหนง่ บานพบั ใหม่ ตดิ บานพับ 4 ตวั และเผื่อ ง. สง่ เสรมิ ให้เกดิ จติ สำนกึ ในเรื่องของความ บานพบั ใหใ้ หญ่ขึน้ ปลอดภัย

ปชป - วช.06 แบบประเมินชน้ิ งานเขียนอธิบายขน้ั ตอนการซ่อมแซมบานพบั ประตแู ตกหัก คำชี้แจง : ให้ผ้สู อนสังเกตเขียนอธบิ ายข้ันตอนการซ่อมแซมบานพบั ประตูแตกหัก✓ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน เลขท่ี เน้อื หา ความถูกต้อง ภาษาท่ใี ช้ การเขียน รวมคะแนน สรุปผล ชดั เจน ของเนื้อหา เข้าใจง่าย สื่อสาร (๑๐ คะแนน) ผ่าน/ไม่ผา่ น (3 คะแนน) (3 คะแนน) (๒ คะแนน) (๒ คะแนน) 1 2 3 4 5 เกณฑก์ ารประเมิน ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ .........../................./................ ช่วงคะแนน ๘ – 10 ระดับคณุ ภาพ ๗–๘ ดีมาก ๕–๖ ดี 0–5 พอใช้ ปรับปรุง เกณฑก์ ารผา่ น อยใู่ นระดับพอใชข้ น้ึ ไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook