การเพิม่ ประสิทธภิ าพ การบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ
เรอ่ื ง การเพม่ิ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ จัดพิมพค์ รงั้ ที่ 1 ปีที่จัดพิมพ์ 2562 จานวนหน้า 114 หน้า จานวนท่ีพมิ พ์ จานวน 70 เลม่ จัดทาโดย สานกั งบประมาณของรัฐสภา สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร พิมพ์ท่ี ถนนประดิพทั ธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรงุ เทพฯ 10400 โทร. 0 2244 2222 โทรสาร 0 2244 2088 สานักการพมิ พ์ สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0 2244 2117 โทรสาร 0 2244 2122
การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ คานา รำยงำนกำรศึกษำ เร่ือง “กำรเพิม่ ประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของประเทศ” ฉบบั นี้เป็นกำรศึกษำเชงิ คุณภำพ (Qualitative research) ซึ่งผ้ศู กึ ษำใช้วธิ ีกำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล โดยศึกษำ ค้นคว้ำและรวบรวมข้อมูลในระดับปฐมภูมิด้วยวิธีกำรสัมภำษณ์กลุ่มย่อยหรือกำรสนทนำกลุ่ม (Group Interviews) จำกตัวแทนผู้บริหำรและเจ้ำหน้ำท่ีที่เกี่ยวข้องด้ำนงบประมำณ รวมทั้งศึกษำค้นคว้ำและ รวบรวมข้อมูลในระดับทุติยภูมิที่มีกำรเรียบเรียงไว้แล้วจำกเอกสำรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี เอกสำร วิชำกำร รำยงำนประจำปี รำยงำนผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณ รำยงำนกำรกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและ เงินกันขยำย บทควำม งำนวิจัยที่เก่ียวข้องด้ำนงบประมำณ กฎหมำย ระเบียบ คำส่ัง มติคณะรัฐมนตรี นโยบำยของรัฐบำล และข้อมูลจำกอินเตอร์เน็ตระหว่ำงปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 โดยมี วัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษำรูปแบบ และแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ รวมทั้งผลกำร ดำเนินงำนและปัญหำอุปสรรคที่เกิดข้ึนจำกกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐท่ีผ่ำนมำ และ 2) เพื่อจัดทำ ข้อเสนอแนะแนวทำงกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ ให้แก่ สมำชิกรัฐสภำ คณะกรรมำธิกำรวิสำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และคณะอนุกรรมำธิกำร ชุดต่ำงๆ ใช้ประกอบกำรพจิ ำรณำอนมุ ัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีให้เป็นไปไดอ้ ย่ำงเหมำะสม เป็นธรรม และเกดิ ประสทิ ธิภำพสูงสุด ผู้ศึกษำหวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำรำยงำนวิชำกำรฉบับน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อสมำชิกรัฐสภำ คณะกรรมำธิกำรวิสำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และคณะอนุ กรรมำธิกำรชุดต่ำงๆ สำหรับนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ประกอบกำรพิจำรณำอนุมัติงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปีให้กับหน่วยรับงบประมำณต่ำงๆ ตลอดจนเพื่อให้ประชำชนหรือผู้สนใจท่ัวไปนำไปใช้ประโยชน์ ในกำรศึกษำ คน้ คว้ำ และอ้ำงอิงต่อไป จไุ รลกั ษณ์ เอยี้ วพนั ธ์ กนั ยำยน 2562 สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร หนำ้ ก
การเพ่มิ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ บทสรปุ ผบู้ ริหาร รำยงำนกำรศึกษำเรื่อง “กำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของประเทศ” ฉบับนี้ เป็นกำรศึกษำเชิงคุณภำพ (Qualitative research) ซึ่งผู้ศึกษำใช้วิธีกำรเก็บรวบรวมข้อมูล โดยศึกษำค้นคว้ำและรวบรวมข้อมูลในระดับปฐมภูมิด้วยวิธีกำรสัมภำษณ์กลุ่มย่อยหรือกำรสนทนำกลุ่ม (Group Interviews) จำกตัวแทนผู้บริหำรและเจ้ำหน้ำท่ีที่เก่ียวข้องด้ำนงบประมำณ รวมทั้งศึกษำค้นคว้ำ และรวบรวมข้อมูลในระดับทุติยภูมิท่ีมีกำรเรียบเรียงไว้แล้วจำกเอกสำรงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี เอกสำรวิชำกำร รำยงำนประจำปี รำยงำนผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณ รำยงำนกำรกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปี และเงนิ กันขยำย บทควำม งำนวิจยั ท่ีเก่ยี วข้องด้ำนงบประมำณ กฎหมำย ระเบยี บ คำส่ัง มติคณะรัฐมนตรี นโยบำยของรัฐบำล และข้อมูลจำกอินเตอร์เน็ตระหว่ำงปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 มำเป็นกรอบ แนวคิดในกำรศึกษำและวิเครำะห์เพื่อค้นหำข้อเท็จจริงวำ่ มำตรกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรใช้จำ่ ยงบประมำณ รำยจำ่ ยประจำปีงบประมำณของรัฐบำลท่ีผำ่ นมำ สำมำรถเพ่มิ ประสิทธิภำพกำรดำเนินงำนและกำรเบกิ จำ่ ย งบประมำณของภำครัฐให้สูงข้ึนได้อย่ำงมีนัยสำคัญหรือไม่ ประกำรใด ประกอบกับมีกฎหมำย ระเบียบ มำตรกำร หลักเกณฑ์และวิธีกำรต่ำงๆ เก่ียวข้องกับกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยประกำศใช้บังคับใหม่ หลำยฉบับ สำมำรถช่วยเพ่ิมประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของภำครัฐอย่ำงไรบ้ำง เพ่ือนำไปสู่กำรจัดทำข้อเสนอแนะแนวทำงกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ ให้ฝ่ำยนิติบัญญัติใช้เป็นข้อมูลประกอบกำรพิจำรณำอนุมัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2563 ให้กบั หน่วยรับงบประมำณไดอ้ ย่ำงเหมำะสม เป็นธรรม และเกดิ ประสิทธิภำพสูงสุด ผลการศึกษาสรุปได้ ดงั นี้ จำกข้อค้นพบในกำรศึกษำรูปแบบ และแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันใช้รูปแบบของระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ (Strategic Performance Based Budgeting : SPBB) โดยมีลกั ษณะเปน็ กำรกระจำยอำนำจกำรบรหิ ำรงบประมำณใหก้ บั ส่วนรำชกำร และหน่วยงำนของรัฐแต่อยู่บนหลักกำรพื้นฐำนควำมรับผิดชอบที่ส่วนรำชกำรจะต้องดำเนินงำนให้เป็นไปตำม เปำ้ หมำยที่กำหนด และมีควำมเป็นอิสระในกำรบริหำรงบประมำณดว้ ยตนเองเพ่ือให้มีควำมคลอ่ งตัวในกำร บริหำรงบประมำณมำกขึ้น จำกกำรศึกษำรูปแบบและแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้ง ผลกำรดำเนินงำนและปัญหำอุปสรรคท่ีเกิดขึ้นจำกกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐท่ีผ่ำนมำตั้งแต่ ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 ผู้ศึกษาได้ค้นพบประเด็นปัญหาอุปสรรคบางประการที่อาจส่งผล กระทบตอ่ การบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ดังน้ี 1. การเช่ือมโยงระบบฐานข้อมูลแผน/ผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ ระบบ BB EvMIS ของสานักงบประมาณ กับระบบ GFMIS ของกรมบัญชีกลาง ซ่ึงในปัจจุบันระบบ ฐำนข้อมูลของท้ังสองหน่วยงำนดังกล่ำวยังไม่สำมำรถเช่ือมโยงและบูรณำกำรให้เป็นฐำนข้อมูลเดียวกัน เพ่อื ให้ข้อมูลมคี วำมเป็นเอกภำพ และสำมำรถรองรบั กำรใชป้ ระโยชนข์ องทกุ ภำคสว่ นได้อย่ำงแทจ้ ริง 2. การกาหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปี ยังขำดกำรมีส่วนร่วมของหน่วยงำนที่ได้รับจัดสรรงบประมำณ รำยจำ่ ยลงทุนเป็นจำนวนเงนิ ทส่ี ูง และหนว่ ยงำนทเ่ี กยี่ วขอ้ งเข้ำมำกำหนดเป้ำหมำยกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณ โดยเฉพำะเป้ำหมำยรำยจ่ำยลงทุน จึงทำให้กำรจัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ไม่ได้กำหนดให้สอดคล้องกับกำรปฏิบัติงำนจริงของหน่วยรับงบประมำณจนนำไปสู่กำรขอปรับปรุงแผนฯ ในระหวำ่ งปงี บประมำณของช่วงระยะเวลำทีผ่ ่ำนมำค่อนขำ้ งมำก สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร หนำ้ ข
การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 3. การบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยภายใต้มาตรการตา่ งๆ ของรฐั บาล ส่วนใหญส่ ำมำรถชว่ ย เร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณของหน่วยงำนที่ได้รับงบประมำณในลักษณะรำยจ่ำยประจำ และหน่วยงำน ทไ่ี ด้รับงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนประเภทดำเนินกำรปเี ดียว รวมทัง้ หนว่ ยงำนท่ไี ด้รับงบประมำณไปบรหิ ำร จัดกำรเองทงั้ จำนวน แตย่ ังไมส่ ำมำรถชว่ ยเร่งรัดกำรก่อหน้ผี ูกพัน และกำรเบกิ จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับ งบประมำณที่ได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินท่ีสูงโดยเฉพำะรำยกำรผูกพัน ขำ้ มปงี บประมำณ 4. การนาผลรายงานการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณจากระบบ BB EvMIS มาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดทางบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณถัดไป ในช่วงท่ีผ่ำนมำ สำนักงบประมำณได้นำผลรำยงำนกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณจำกระบบ BB EvMIS มำใช้ เป็นข้อมูลประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจ่ำยในปีงบประมำณถัดไปค่อนข้ำงน้อย ทำให้ หน่วยรับงบประมำณที่ยังไม่มีควำมพร้อมในกำรดำเนินงำนโดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุนได้รับจัดสรร งบประมำณเช่นเดิม และปัญหำท่ีตำมมำทำให้ไม่สำมำรถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภำยในปีงบประมำณ รวมทั้ง ไม่สำมำรถเบิกจ่ำยงบประมำณไดต้ ำมแผนฯ และเปำ้ หมำยทรี่ ัฐบำลกำหนด 5. ผลการดาเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณย้อนหลัง 5 ปีงบประมาณ (พ.ศ. 2557-2561) พบว่ำรัฐบำลได้ออกมำตรกำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนที่เข้มงวดโดยเฉพำะมำตรกำร เร่งรัดก่อหนี้ผูกพันซ่ึงกำหนดระยะเวลำชัดเจนและมีกำรติดตำมอย่ำงต่อเน่ือง แต่ผลกำรเบิกจ่ำย งบประมำณยังมีควำมล่ำช้ำ หรือมีอัตรำส่วนกำรเบิกจ่ำยงบประมำณท่ีใกล้เคียงกันทุกปีโดยปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 อยทู่ ีอ่ ตั รำรอ้ ยละ 65.82 73.92 75.55 70.26 และ 70.47 ตำมลำดับ สำหรับสัดส่วนงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงต่องบประมำณรำยจ่ำยประจำปี มีสัดส่วนค่อนข้ำง สูงเฉลี่ยร้อยละ 15.67 โดยส่วนใหญ่เป็นค่ำใช้จ่ำยที่เกี่ยวข้องกับบุคลำกรภำครัฐ รองลงมำคือ รำยกำร เงินสำรองจ่ำยเพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น แต่เมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนงบประมำณรำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ ต่องบประมำณรำยจ่ำยประจำปี พบว่ำมีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 3.91 ซ่ึงสูงกว่ำสัดส่วนตำมประกำศ คณะกรรมกำรนโยบำยกำรเงินกำรคลังภำครัฐท่ีกำหนดไว้ร้อยละ 2.0 - 3.5 และมีกำรเบิกจ่ำยงบประมำณ คอ่ นข้ำงน้อย ซ่ึงทำให้ต้องขอกนั เงินไว้เบิกเหลื่อมปี และขอขยำยระยะเวลำกำรเบิกจ่ำยเงินงบประมำณ 6. ผลจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 ภำยหลังจำก พระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ประกำศใช้บังคับมีผลทำให้งบประมำณท่ีได้รับอนุมัติ ให้กันไว้เบิกเหลื่อมปี/กันขยำยโดยยังไม่ได้ก่อหน้ีผูกพัน ตั้งแต่ปีงบประมำณ 2554 – 2561 ไม่ได้รับอนุมัติ (พับคืนคลัง) จำนวนทั้งสิ้น 33,097.2535 ล้ำนบำท ทำให้หน่วยรับงบประมำณเกิดปัญหำหยุดชะงัก ในกำรทำงำน ขำดกำรดำเนินงำนอย่ำงต่อเนื่อง รวมท้ังทำให้งำนเกิดควำมล่ำช้ำและต้องขยำยระยะเวลำ ในกำรดำเนนิ งำนออกไป 7. การเตรียมความพร้อมในกระบวนการจัดซือ้ จดั จ้างเพอ่ื เรง่ รัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจา่ ย กำรกำหนดให้หน่วยรับงบประมำณเตรียมกำรวำงแผนกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงได้ตั้งแต่ร่ำงพระรำชบัญญัติฯ ผ่ำนกำร พิจำรณำของคณะกรรมำธิกำรวิสำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติฯ วำระท่ี 2 ทำให้หน่วยรับงบประมำณ ที่มีโครงกำรลงทุนและได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนจำนวนมำกมีควำมคล่องตัวในกำรบริหำร งบประมำณและสำมำรถก่อหน้ีผูกพันได้เร็วย่ิงข้ึน แต่ยังไม่สำมำรถเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณให้เป็นไป ตำมแผนฯ และเป้ำหมำยทรี่ ฐั บำลกำหนดได้ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร หน้ำ ค
การเพม่ิ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 8. ระบบการรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุน ไม่มีกำรเผยแพร่ หรือรำยงำนผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณของหน่วยงำนที่ได้รับจัดสรรงบประมำณในลักษณะเงินอุดหนุน อำทิ กองทุนและเงินทุนหมุนเวียน หน่วยงำนอิสระของรัฐ องค์กำรมหำชน มหำวิทยำลัยในกำกับ รวมทั้ง องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ในระบบ GFMIS เชน่ เดยี วกบั ของหน่วยรับงบประมำณอ่ืนๆ 9. การติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสารองจ่าย เพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือจาเปน็ กำรใช้จำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ ท่เี สนอในร่ำง พระรำชบัญญัติฯ ส่วนใหญ่รัฐบำลจะใช้ดำเนินกำรในเรื่องท่ีสำคัญและเร่งด่วนในกำรแก้ไขปัญหำ ตำมสถำนกำรณ์ท่ีอำจเกิดขึ้น ซ่ึงไม่มีกำรแสดงรำยละเอียดตัวชี้วัดของผลผลิต/โครงกำร – กิจกรรม – รำยกำร แผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณอย่ำงชดั เจน จึงอำจทำให้กำรติดตำม ตรวจสอบ ผลกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณทำได้ค่อนข้ำงยำก ดังน้ัน จึงควรมีกลไกในกำรกำกับดูแล และ ติดตำมตรวจสอบให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณดังกล่ำวเกิดควำมคุ้มค่ำ ควำมประหยัด และควำมโปร่งใส รวมทั้งกำรรักษำวินัยกำรเงินกำรคลงั อย่ำงเคร่งคัดเพ่ือใหฐ้ ำนะทำงกำรเงินกำรคลงั ของประเทศมีเสถยี รภำพ ม่ันคง และประชำชนได้รบั ประโยชนส์ งู สุด ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1.1 รัฐบำลควรมีกำรรำยงำนผลกำรใช้งบประมำณแผ่นดินในกรณีท่ีมีกำรโอนหรือ นำรำยจ่ำยตำมงบประมำณท่ีกำหนดไว้ในรำยกำรใดตำมกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำยภำยใต้แผนฯ ไปใช้ในรำยกำรอ่ืนของหน่วยรับงบประมำณให้รัฐสภำทรำบเป็นรำยไตรมำสและสรุปเป็นรำยงำนประจำปี หลังส้ินปีงบประมำณ เพ่ือให้ฝ่ำยนิติบัญญัติได้รับทรำบกำรใช้งบประมำณรำยจ่ำยและกำรโอนงบประมำณ รำยจ่ำยในแต่ละปีงบประมำณ นอกจำกนี้ ควรนำผลกำรใช้จ่ำยในปีงบประมำณท่ีผ่ำนมำ ใช้เป็นข้อมูล ประกอบกำรพิจำรณำอนมุ ตั ิงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีถัดไปดว้ ย 1.2 กำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณในแต่ละไตรมำส โดยเฉพำะเป้ำหมำย รำยจ่ำยลงทุน ควรเปน็ กำรกำหนดรว่ มกันระหว่ำงหน่วยงำนกลำงทเ่ี กย่ี วข้องกบั ผ้แู ทนจำกหน่วยงำนท่ไี ดร้ ับ จัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนในจำนวนเงินที่สูง เพื่อให้กำรจัดทำแผนปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำย งบประมำณตำมมำตรกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณใกล้เคียงกับ กำรปฏิบตั ิงำนจรงิ 1.3 ในกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ควรดำเนินกำรโดยใช้กลไกของ คณะกรรมกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐในกำรส่ังกำรหน่วยรับงบประมำณ เพื่อให้กำร บริหำรงำนมีเอกภำพและสำมำรถส่ังกำรแก้ไขปัญหำอุปสรรคท่ีเกิดข้ึนให้บรรลุผลสำเร็จตำมแผนฯ และเปำ้ หมำยที่กำหนดไว้ 1.4 ควรมีกำรพัฒนำระบบฐำนข้อมูลด้ำนงบประมำณให้มปี ระสิทธิภำพและเกิดกำรบูรณำกำร ขอ้ มลู ร่วมกนั อย่ำงแท้จรงิ โดยดำเนินกำร ดังน้ี 1.4.1 ควรมีกำรเช่ือมโยงระบบต่ำงๆ ภำยในสำนักงบประมำณให้เป็นฐำนข้อมูล เดยี วกนั ทง้ั ในส่วนของระบบ e-Budgeting ระบบ BB EvMIS และระบบอืน่ ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ งกบั งบประมำณ 1.4.2 ในอนำคตควรมีกำรบูรณำกำรระบบฐำนข้อมูลของหน่วยงำนกลำงอ่ืนๆ ท่ีมีกำร รำยงำนผลในมิติด้ำนผลกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณ อำทิ ระบบ e-Budgeting ระบบ BB EvMIS โดยสำนักงบประมำณ ระบบ GFMIS โดยกรมบัญชีกลำง และระบบ eMENSCR โดยสำนักงำน สภำพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชำติ ใหเ้ ป็นฐำนข้อมูลเดยี วกันเพอื่ ให้ข้อมูลมีควำมเป็นเอกภำพ และ สำมำรถรองรบั กำรใชป้ ระโยชน์ของทกุ ภำคส่วนภำยใต้มำตรฐำนเดียวกันได้อยำ่ งสมบรู ณย์ ่ิงข้นึ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร หนำ้ ง
การเพ่มิ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 1.4.3 ควรมีกำรสำรวจหรือรับฟังควำมคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ใช้ระบบต่ำงๆ ที่เก่ียวข้องกับงบประมำณเพ่ือนำมำปรับปรุงระบบต่ำงๆ ให้มีประสิทธิภำพย่ิงขึ้น ซ่ึงจะนำไปสู่กำรบริหำร งบประมำณรำยจ่ำยทม่ี ปี ระสทิ ธภิ ำพอย่ำงแทจ้ รงิ ต่อไป 2. ขอ้ เสนอแนะเชิงปฏิบัติ 2.1 หน่วยงำนกลำงท่ีเก่ียวข้อง และหัวหน้ำหน่วยรับงบประมำณควรมีกำรพิจำรณำ วิเครำะห์ข้อมูลเชิงลึกของแต่ละหน่วยงำนประกอบด้วย ต้ังแต่ข้ันตอนกำรทบทวนกำรวำงแผน กำรจัดทำ คำของบประมำณที่มีควำมเหมำะสมสอดคล้องกับงบประมำณท่ีได้รับ รวมทั้งควรนำผลสัมฤทธิ์หรือ ประโยชน์ท่ีจะได้รบั ของงำนที่เกิดข้ึนจริงจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ตลอดจนควรนำผลกำรปฏิบัติงำนและ ผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณมำประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปีอย่ำงจริงจงั มำกข้นึ 2.2 กำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยให้แก่หน่วยรับงบประมำณ ควรต้องคำนงึ ถึงควำมจำเป็น และภำรกิจ ฐำนะเงินนอกงบประมำณ ควำมสำมำรถในกำรใช้จ่ำยและก่อหนี้ผูกพัน กำรปฏิบัติหน้ำที่ โดยอิสระ ตลอดจนต้องคำนึงถึงควำมสำมำรถในกำรหำรำยได้ รวมทั้งควำมเหมำะสมและควำมแตกต่ำง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ แต่ละรปู แบบตำมท่ีบญั ญตั ิไว้ในมำตรำ 17 แห่งพระรำชบัญญัติวินัยกำรเงิน กำรคลงั ภำครัฐ พ.ศ. 2561 ก่อนท่ีจะพจิ ำรณำอนมุ ัติคำขอตัง้ งบประมำณให้กับหนว่ ยรับงบประมำณ 2.3 หน่วยงำนกลำงในฐำนะเป็นผู้รับนโยบำยจำกรัฐบำลมำปฏิบัติเพ่ือให้งำนด้ำนกำรจัดกำร งบประมำณของประเทศมีประสิทธิภำพและประสิทธิผลยิ่งข้ึน ควรนำจุดอ่อนจุดแข็ง และปัญหำอุปสรรค ท่ีเกิดขึ้นจำกกำรดำเนินงำน รวมทั้งนำแนวทำงกำรปฏิบัติงำนของคณะกรรมกำรติดตำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำย งบประมำณภำครัฐในช่วงที่ผ่ำนมำ ใช้ประกอบกำรพิจำรณำทบทวนและวิเครำะห์เพื่อหำแนวทำงในกำร บริหำรและเรง่ รัดติดตำมกำรใช้จำ่ ยงบประมำณให้มีประสิทธภิ ำพมำกยงิ่ ข้นึ 2.4 หน่วยงำนกลำงที่กำหนดนโยบำย ออกกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหลักเกณฑ์ ที่เก่ียวข้องกับกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำย และหน่วยงำนส่วนกลำงของแต่ละหน่วยรับงบประมำณ รวมท้งั หน่วยงำนส่วนภมู ิภำค จะต้องให้ควำมสำคญั กับกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเขำ้ ใจกบั กฎหมำยท่ีประกำศใช้ บังคับใหม่ อำทิ พระรำชบัญญัติกำรจัดซื้อจัดจ้ำงและกำรบริหำรพัสดุภำครัฐ พ.ศ. 2560 พระรำชบัญญัติ วินัยกำรเงินกำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พระรำชบญั ญตั ิวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 และระเบียบว่ำด้วย กำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 รวมท้ังควรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจในข้ันตอนกำรดำเนินงำน ตำมหลักเกณฑ์ วิธีกำร และแนวทำงกำรปฏิบัติตำมมำตรกำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณท่ีรัฐบำล ประกำศใช้ รวมทั้งประสำนติดตำมให้มีกำรปฏบิ ตั ิในเรอื่ งดังกล่ำวใหเ้ ป็นระบบและต่อเนื่อง 2.5 หน่วยรับงบประมำณ ควรมีกำรเตรียมควำมพร้อมของข้อมูลและเอกสำรท่ีเก่ียวข้อง ในขั้นตอนกำรดำเนินกำรจัดซื้อจดั จำ้ งในโครงกำรลงทุนที่จะไดร้ ับกำรจัดสรรงบประมำณไว้ล่วงหน้ำ เพื่อให้ สำมำรถดำเนินกำรได้ทันทีที่พระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีมีผลบังคับใช้ตำมกฎหมำย ซึ่งจะทำให้หน่วยรับงบประมำณสำมำรถก่อหนี้ผูกพัน รวมทั้งเบิกจ่ำยงบประมำณได้ตำมแผนฯ และ เปำ้ หมำยทีก่ ำหนด 2.6 กรมบัญชีกลำง ควรมีกำรเผยแพร่หรือรำยงำนผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณของ หน่วยงำนท่ีได้รับกำรจัดสรรงบประมำณในลักษณะเงินอุดหนุนเพิ่มเติม เพื่อให้ภำครัฐ ภำคเอกชน และ ภำคประชำชน สำมำรถติดตำมผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณและผลกำรดำเนินงำนของหน่วยงำนดังกล่ำว ไดอ้ ยำ่ งตอ่ เน่ืองและเปน็ ปจั จบุ นั มำกยงิ่ ขึ้น สำนักงบประมำณของรัฐสภำ สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร หน้ำ จ
การเพิ่มประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ สารบญั หน้า คานา ก บทสรุปผู้บริหาร ข สารบัญ ฉ สารบัญตาราง ซ สารบญั แผนภาพ ฌ บทที่ 1 บทนา 1 1.1 ควำมเป็นมำและควำมสำคญั ของปัญหำ 1 1.2 วัตถปุ ระสงค์ของกำรศึกษำ 2 1.3 ขอบเขตของกำรศกึ ษำ 3 1.4 วธิ กี ำรศกึ ษำ 3 1.5 ระยะเวลำในกำรศึกษำและเก็บรวบรวมขอ้ มลู 4 1.6 ประโยชนท์ ค่ี ำดว่ำจะไดร้ ับ 4 1.7 นยิ ำมศพั ทเ์ ฉพำะ 4 บทที่ 2 แนวคดิ ทฤษฎี และวรรณกรรมทีเ่ กย่ี วข้อง 6 2.1 แนวคิดกระบวนกำรงบประมำณและระบบงบประมำณแบบมงุ่ เน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ 6 2.1.1 แนวคิดกระบวนกำรงบประมำณ 6 2.1.2 แนวคดิ ระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ 7 2.2 กำรบรหิ ำรงบประมำณ 8 2.2.1 กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยสำหรบั หน่วยรบั งบประมำณ 9 2.2.2 กำรบริหำรงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำง 14 2.3 กฎหมำย ระเบยี บ ประกำศ และมตคิ ณะรฐั มนตรีที่เกย่ี วข้อง 15 2.3.1 รัฐธรรมนญู แห่งรำชอำณำจักรไทย พ.ศ. 2560 15 2.3.2 พระรำชบญั ญัตวิ ินัยกำรเงินกำรคลังภำครัฐ พ.ศ. 2561 16 2.3.3 ระเบียบวำ่ ด้วยกำรก่อหนีผ้ ูกพนั ข้ำมปีงบประมำณ พ.ศ. 2562 18 2.3.4 ระเบียบว่ำดว้ ยกำรบริหำรงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำง รำยกำรเงนิ สำรองจ่ำย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2561 19 2.3.5 ประกำศคณะกรรมกำรนโยบำยกำรเงนิ กำรคลังของรัฐ เรอื่ ง กำหนดสดั สว่ นตำ่ งๆ เพอื่ เปน็ กรอบวินยั กำรเงนิ กำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 21 2.3.6 มตคิ ณะรฐั มนตรีทเี่ กี่ยวข้อง 22 2.4 เปรยี บเทียบกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของประเทศไทยกับตำ่ งประเทศ 26 2.5 ประเด็นข้อสงั เกตของคณะกรรมำธิกำรวิสำมญั พิจำรณำรำ่ งพระรำชบัญญัติงบประมำณ รำยจ่ำย ประจำปี พ.ศ. 2559 - 2561 29 2.6 วรรณกรรมท่ีเกี่ยวข้อง 30 สำนักงบประมำณของรัฐสภำ สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร หน้ำ ฉ
การเพ่ิมประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ 3 มาตรการเพ่มิ ประสิทธภิ าพการใชจ้ ่ายงบประมาณและผลการดาเนนิ งานทผ่ี า่ นมา 32 3.1 มำตรกำรเพมิ่ ประสิทธิภำพกำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปี พ.ศ. 2557-2561 32 3.2 สรุปภำพรวมงบประมำณ และผลกำรเบกิ จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี 38 3.2.1 ภำพรวมงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี 38 1) สัดส่วนงบประมำณรำยจำ่ ย (จำแนกตำมประเภทรำยจำ่ ย) 38 2) สดั สว่ นงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง 41 3.2.2 สรุปผลกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำย และกำรกนั เงนิ ไว้เบิกเหลอ่ื มปี 43 1) กำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจำ่ ยภำพรวม ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 43 2) กำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจำ่ ยประจำ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 45 3) กำรเบิกจำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ยลงทุน ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 46 4) กำรจัดอันดบั กระทรวง/หน่วยงำนที่มผี ลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณสงู สุด/ตำ่ สุด 5 อนั ดับแรก ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 47 5) สรปุ สถำนะงบประมำณทีก่ นั ไวเ้ บกิ เหลอื่ มปี (ไม่รวมงบกลำง) 49 6) สรุปผลกำรเบิกจำ่ ยรำยจำ่ ยงบกลำง และกำรกันเงินไว้เบกิ เหลอ่ื มปี 49 3.3 ปญั หำและอปุ สรรคในกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐทผ่ี ่ำนมำ 52 บทท่ี 4 ผลการศกึ ษา 54 4.1 รูปแบบ และแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจำ่ ยของภำครฐั 54 4.1.1 กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยสำหรบั หนว่ ยรับงบประมำณ 55 1) กำรจัดทำแผนกำรปฏิบตั ิงำนและแผนกำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณ 55 2) กำรปรับปรงุ แผนกำรปฏบิ ัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ 55 3) กำรอนุมตั ิเงินจดั สรร 56 4) กำรใชจ้ ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย กำรโอนงบประมำณรำยจำ่ ย กำรโอนเงนิ จดั สรร หรอื กำรเปล่ียนแปลงเงินจัดสรร 56 5) กำรประเมินผลและกำรรำยงำน 58 4.1.2 กำรบริหำรงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำง 58 4.2 ผลกำรดำเนนิ งำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีทผ่ี ำ่ นมำ 67 4.2.1 ผลกำรดำเนนิ งำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหนว่ ยรบั งบประมำณ 67 4.2.2 ผลกำรดำเนินงำนและกำรใช้จำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำง 69 4.3 ปัญหำอปุ สรรคท่ีเกดิ ข้นึ จำกกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจำ่ ยภำครฐั ทผี่ ำ่ นมำ 70 บทท่ี 5 บทสรุปและข้อเสนอแนะ 77 5.1 สรุปผลกำรศกึ ษำ 77 5.2 ขอ้ เสนอแนะ 80 บรรณานุกรม 83 ภาคผนวก 85 ภำคผนวก ก ข้อมลู ท่ไี ด้รับจำกกำรสมั ภำษณผ์ ูบ้ ริหำรและเจ้ำหนำ้ ทที่ ี่เกย่ี วข้อง ดำ้ นงบประมำณ 86 ภำคผนวก ข ประเด็นในกำรสัมภำษณ์และขอรับทรำบข้อมูล 98 ภำคผนวก ค ประมวลภำพกำรเขำ้ สมั ภำษณ์และขอรับทรำบขอ้ มลู 101 สำนักงบประมำณของรัฐสภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร หนำ้ ช
การเพิม่ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ สารบัญตาราง หนา้ ตารางที่ 1 เปรียบเทยี บหลักเกณฑ์และแนวทำงกำรโอนงบประมำณรำยจำ่ ย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2558 – 2561 22 2 เปรียบเทยี บแนวทำงกำรจดั ทำงบประมำณรำยจ่ำยเพม่ิ เติม ปงี บประมำณ พ.ศ. 2559-2561 24 3 สรปุ ประเด็นข้อสงั เกตของคณะกรรมำธิกำรวสิ ำมัญฯ ประจำปี พ.ศ. 2559 - 2561 29 4 สรปุ แนวทำงตำมมำตรกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 33 5 สดั สว่ นงบประมำณรำยจ่ำยจำแนกตำมประเภทรำยจ่ำย ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 38 6 งบประมำณรำยจ่ำยลงทุนจำแนกตำมกระทรวง/หน่วยงำน สงู สุด 5 อนั ดบั แรก ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 39 7 งบประมำณรำยจ่ำยลงทุนจำแนกตำมสว่ นรำชกำร (ระดับกรม) สูงสุด 5 อนั ดับแรก ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 40 8 สัดส่วนงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 41 9 เปรยี บเทียบผลกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยภำพรวมกับเป้ำหมำยตำมมำตรกำร เพ่ิมประสิทธิภำพ ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 43 10 เปรียบเทียบผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยภำพรวมกับเป้ำหมำยตำมมำตรกำรเพิ่มประสทิ ธภิ ำพ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2558 - 2561 (จำแนกตำมประเภทรำยจ่ำยเป็นรำยไตรมำส) 44 11 เปรยี บเทยี บผลกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ยประจำกับเป้ำหมำยตำมมำตรกำรเพิม่ ประสิทธภิ ำพ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 45 12 เปรยี บเทยี บผลกำรเบกิ จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุนกับเปำ้ หมำยตำมมำตรกำรเพิ่ม ประสทิ ธภิ ำพ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 46 13 กระทรวง/หนว่ ยงำนที่มผี ลกำรเบิกจำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยภำพรวมสูงสดุ /ตำ่ สดุ 5 อนั ดับแรก ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 47 14 กระทรวง/หน่วยงำนที่มผี ลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยลงทนุ เกนิ 1,000 ล้ำนบำท สูงสุด/ต่ำสุด 5 อันดับแรก ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 48 15 สรุปสถำนะงบประมำณทีก่ นั ไว้เบกิ เหลื่อมปี ตัง้ แตป่ ีงบประมำณ พ.ศ. 2554 – 2561 49 16 เปรยี บเทียบผลกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 49 17 เปรียบเทียบผลกำรเบกิ จำ่ ยงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 51 18 สรปุ สถำนะเงนิ กันไว้เบกิ เหล่ือมปรี ำยกำรเงนิ สำรองจำ่ ยเพื่อกรณีฉกุ เฉนิ หรือจำเปน็ ตัง้ แต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2555 - 2561 51 19 ปญั หำและอปุ สรรคทเี่ กดิ ขึ้นจำกบรหิ ำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครฐั ต้งั แต่ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 52 20 กำรเปรยี บเทยี บกระบวนกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจำ่ ย ระหว่ำงพระรำชบญั ญตั ิวิธกี ำร งบประมำณ พ.ศ. 2502 และทแ่ี ก้ไขเพิม่ เติมกับพระรำชบัญญตั ิวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 70 สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร หน้ำ ซ
การเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ หนา้ สารบัญแผนภาพ 38 42 แผนภาพที่ เปรยี บเทยี บสัดส่วนงบประมำณรำยจำ่ ยจำแนกตำมประเภทรำยจำ่ ย 43 1 ตั้งแตป่ ีงบประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 44 2 สดั สว่ นงบกลำงและเงินสำรองจำ่ ยเพื่อฉุกเฉิน/งบประมำณปี 2557-2561 45 3 กำรเปรยี บเทียบสดั สว่ นรำยจ่ำยงบกลำง/งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง 46 4 ตง้ั แตป่ ี 2557-2561 50 5 เปรยี บเทยี บกำรเบิกจำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยภำพรวม ปี 2557-2561 50 6 เปรียบเทียบกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำ ปี 2557-2561 7 เปรยี บเทยี บกำรเบิกจำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยลงทุน ปี 2557-2561 8 เปรียบเทยี บสัดสว่ นกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำง/งบประมำณ ปี 2557-2561 เปรยี บเทยี บสดั สว่ นกำรเบกิ จ่ำยเงินสำรองจ่ำยเพอื่ ฉกุ เฉนิ หรือจำเป็น/งบประมำณ ปี 2557-2561 สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร หน้ำ ฌ
การเพม่ิ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ บทท่ี 1 บทนา 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของปญั หา งบประมำณแผ่นดิน เป็นกลไกสำคัญของรัฐบำลในกำรขับเคล่ือนยุทธศำสตร์กำรพัฒนำ ประเทศให้บรรลุผลสำเร็จตำมเป้ำหมำยของรัฐบำลภำยใต้ทรัพยำกรภำครัฐที่มีอยู่จำนวนจำกัด ดังน้ัน ในแต่ละปีงบประมำณหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินกำรตำมกระบวนกำรงบประมำณตั้งแต่กำรจัดทำ งบประมำณ กำรอนุมัติงบประมำณ กำรบรหิ ำรงบประมำณ กำรควบคมุ และติดตำมประเมินผลงบประมำณ เพ่ือให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณในแต่ละปีเป็นไปอย่ำงเหมำะสม เป็นธรรม คุ้มค่ำ และเกิดประโยชน์กับ ประชำชนมำกท่ีสุด ทั้งน้ี เม่ือกำรจัดทำงบประมำณ และกำรอนุมัติงบประมำณดำเนินกำรเสร็จส้ินลงแล้ว กระบวนกำรงบประมำณข้ันต่อไปก็คือ กำรบริหำรงบประมำณ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนท่ีสำคัญข้ันตอนหนึ่งของ กระบวนกำรงบประมำณเพื่อนำเงินงบประมำณท่ีได้รับอนุมัติจำกรัฐสภำไปใช้จ่ำยในกำรขับเคลื่อนและ พัฒนำประเทศให้เจริญก้ำวหน้ำทั้งต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลำ เน่ืองจำกงบประมำณแผ่นดินเป็นของประชำชนทุกคน ประชำชนทุกคนจึงเป็นผู้มีสิทธิท่ีจะได้รับประโยชน์ จำกกำรบริหำรจัดกำรงบประมำณแผ่นดินนั้น หำกใช้จ่ำยงบประมำณแผ่นดินไปในทำงที่เกิดประโยชน์ เฉพำะบำงกลุ่ม ไม่เพียงจะนำมำซึ่งปัญหำควำมขัดแย้งแต่ยังอำจส่งผลให้กำรพัฒนำประเทศไม่เป็นไปตำม เป้ำหมำยท่ีรัฐบำลตั้งไว้ ดังน้ัน ทุกภำคส่วนจึงควรให้ควำมสำคัญในเรื่องกำรใช้จ่ำยงบประมำณแผ่นดิน โดยคำนึงถึงหลักควำมประหยัด ควำมคุ้มค่ำ และควำมโปร่งใสของกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย รวมท้ัง กำรรักษำวินยั กำรเงินกำรคลังอยำ่ งเคร่งคัดเพอื่ ใหฐ้ ำนะทำงกำรเงินกำรคลังของประเทศมเี สถียรภำพ ม่นั คง และกอ่ ให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ แกป่ ระชำชนและประเทศชำติอย่ำงยั่งยนื จำกกำรบริหำรงบประมำณของภำครัฐที่ผ่ำนมำพบว่ำ ภำยหลังจำกที่พระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปปี ระกำศใช้แลว้ มีหน่วยงำนจำนวนมำกที่ประสบปัญหำในกำรบริหำรและกำร ใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย โดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุนท่ีส่วนใหญ่ไม่สำมำรถเบิกจ่ำยงบประมำณได้ตำม เป้ำหมำยภำยในระยะเวลำท่ีกำหนด ซึ่งอำจมีสำเหตุมำจำกหลำยปัจจัยทั้งปัจจัยด้ำนกฎหมำย ปัจจัย ด้ำนองค์ควำมรู้ ปัจจัยด้ำนเทคโนโลยี ปัจจัยด้ำนสภำพกำรณ์ในปัจจุบันไม่เหมำะสมกับแผนงำน โครงกำร กิจกรรม หรือรำยกำรท่ีต้ังไว้ตอนต้น หรือไม่สำมำรถดำเนินกำรไดต้ ำมแผนและ/หรือโครงกำรที่ต้ังเป้ำหมำยไว้ ประกอบกับด้วยในปัจจุบันบริบททำงเศรษฐกิจ สังคม และกำรเมืองมีกำรเปล่ียนแปลงไป รวมทั้งปัญหำ ในเรื่องกำรบริหำรงบประมำณท่ีมีควำมหลำกหลำยและซับซ้อนมำกยิ่งข้ึน หน่วยงำนกลำงท่ีเก่ียวข้อง จึงได้พยำยำมท่ีจะเสนอมำตรกำรเชิงรุกผ่ำนเป็นมติคณะรัฐมนตรี อำทิ มำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพ กำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีมำอย่ำงต่อเน่ือง โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเร่งรัดกำรเบิกจ่ำย งบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐในทุกหน่วยรับงบประมำณ และคำดหวังท่ีจะให้เป็นกำรกระตุ้นเศรษฐกิจ ของประเทศ พร้อมท้ังกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณภำครัฐในภำพรวม รำยจ่ำยประจำ และ รำยจ่ำยลงทุนเป็นรำยไตรมำส และสิ้นปีงบประมำณ ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์แนวทำงกำรดำเนินกำร เกี่ยวกับกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยให้ทุกหน่วยรับงบประมำณถือปฏิบัติเพ่ือเร่งรัดกำรเบิกจ่ำย งบประมำณใหเ้ ปน็ ไปตำมเปำ้ หมำยทรี่ ัฐบำลกำหนด สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร หนำ้ 1
การเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ แต่จำกกำรศึกษำรำยงำนผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยหน่วยงำนกลำงที่เกี่ยวข้อง และผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณในภำพรวมของทุกส่วนรำชกำร จำกระบบ กำรบรหิ ำรกำรเงินกำรคลังภำครฐั แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (Government Fiscal Management Information System-GFMIS) ของกรมบัญชีกลำง กระทรวงกำรคลัง ปรำกฏว่ำภำยหลังจำกได้มีกำรบังคับใช้มำตรกำร ของรัฐบำลแล้ว ผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณของภำครัฐในภำพรวมมิได้เพ่ิมสูงขึ้นอย่ำง มีนัยสำคัญ โดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุนที่ยังคงมีผลกำรเบิกจ่ำยต่ำกว่ำเป้ำหมำยถึงแม้ว่ำสำนักงบประมำณและ กรมบัญชีกลำงจะพยำยำมเร่งรัดกำรใช้จ่ำยงบประมำณอย่ำงต่อเนื่อง รวมท้ังกำหนดเป็นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อเร่งรัดให้ทุกหน่วยรับงบประมำณเร่งเบิกจ่ำยงบประมำณแล้วก็ตำม นอกจำกนั้น ยังพบอีกว่ำในช่วง ท่ผี ่ำนมำฝ่ำยบริหำรได้มีกำรจัดทำพระรำชบญั ญัติโอนงบประมำณรำยจ่ำยท่ีมวี งเงินโอนค่อนขำ้ งสูงมำอย่ำง ตอ่ เนอื่ งต้ังแตป่ ีงบประมำณ พ.ศ. 2558 - 2561 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ำมำตรกำรของรัฐดังกล่ำวยังไม่สำมำรถ กระตนุ้ กำรเบกิ จ่ำยงบประมำณหรือกำรใช้จำ่ ยงบประมำณภำครัฐเพื่อกระตนุ้ เศรษฐกจิ ของประเทศได้อยำ่ ง มีประสิทธิภำพเท่ำท่ีควร นอกจำกน้ี ภำยหลังจำกพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ประกำศใช้บังคับตำมที่กระทรวงกำรคลังได้แจ้งให้ทรำบตำมหนังสือกระทรวงกำรคลัง ด่วนท่ีสุด ที่ กค 0402.5/ว 124 ลงวันที่ 15 พฤศจิกำยน 2561 มีผลทำให้งบประมำณที่ได้รับอนุมัติให้กันไว้เบิกเหลื่อมปี/ กันขยำยโดยยังไม่ได้ก่อหน้ีผูกพัน ต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 – 2561 ไม่ได้รับอนุมัติ (พับคืนคลัง) จำนวนทั้งสิ้น 33,097.2535 ล้ำนบำท ซึ่งเป็นผลมำจำกมำตรำ 43 แห่งพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้ขยำยเวลำขอเบิกเงินจำกคลังได้เฉพำะกรณีท่ีหน่วยรับงบประมำณได้ก่อหน้ีผูกพัน ไว้ก่อนสิ้นงบประมำณและได้มีกำรกันเงินไว้ตำมระเบียบกระทรวงกำรคลังแล้ว ทำให้หน่วยรับงบประมำณต่ำงๆ เกิดปัญหำหยุดชะงักในกำรทำงำน ขำดกำรดำเนินงำนอย่ำงต่อเน่ือง รวมท้ังทำให้งำนเกิดควำมล่ำช้ำและ ตอ้ งขยำยระยะเวลำในกำรดำเนินงำนออกไป ด้วยเหตุน้ี ผู้ศึกษำในฐำนะท่ีเป็นนักวิเครำะห์งบประมำณในสังกัดสำนักงบประมำณของรัฐสภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร ซ่ึงมีหน้ำที่ในกำรศกึ ษำ วิเครำะห์ วิจัย จัดทำรำยงำนด้ำนเศรษฐกิจ กำรเงินกำรคลัง และกำรงบประมำณ ติดตำมตรวจสอบกำรใช้จ่ำยงบประมำณของรัฐบำลให้เป็นไปอย่ำง เหมำะสม และสอดคล้องกับวตั ถุประสงคข์ องพระรำชบญั ญัติทรี่ ัฐสภำให้ควำมเห็นชอบ จึงมีควำมสนใจทจี่ ะ ศึกษำและจัดทำรำยงำนวิชำกำร เรื่อง “กำรเพิม่ ประสิทธิภำพกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจ่ำยของประเทศ” เพื่อสนับสนุนข้อมูลทำงวิชำกำร ให้แก่ สมำชิกรัฐสภำ และคณะกรรมำธิกำรวิสำมญั พิจำรณำร่ำงพระรำชบญั ญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และคณะอนุกรรมำธิกำรชดุ ตำ่ งๆ สำหรบั นำไปใชป้ ระกอบกำรพิจำรณำอนมุ ัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีให้กับหนว่ ยรับงบประมำณต่ำงๆ ให้เป็นไปอย่ำงเหมำะสม เป็นธรรม และเกิด ประสิทธิภำพสูงสดุ ตลอดจนเพอ่ื ใหป้ ระชำชนหรือผู้สนใจท่ัวไปนำไปใชป้ ระโยชน์ในกำรศึกษำ ค้นคว้ำ และ อ้ำงองิ ตอ่ ไป 1.2 วตั ถุประสงค์ของการศึกษา 1.2.1 เพื่อศึกษำรูปแบบ และแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ รวมท้ังผลกำร ดำเนินงำน และปัญหำอปุ สรรคที่เกิดขึ้นจำกกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐทผี่ ำ่ นมำ 1.2.2 เพ่ือจัดทำข้อเสนอแนะแนวทำงกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำย ภำครัฐ ให้แก่ สมำชิกรัฐสภำ คณะกรรมำธิกำรวิสำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปี และคณะอนุกรรมำธิกำรชุดต่ำงๆ ใช้ประกอบกำรพิจำรณำอนุมัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี งบประมำณให้กับหนว่ ยรบั งบประมำณไดอ้ ย่ำงเหมำะสม เปน็ ธรรม และเกดิ ประสิทธภิ ำพสงู สดุ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร หนำ้ 2
การเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 1.3 ขอบเขตของการศกึ ษา 1.3.1 ศึกษำกระบวนกำรงบประมำณโดยมุ่งเน้นศึกษำและวิเครำะห์เฉพำะในส่วนของ กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐตำมระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ ควบคู่ ไปกับกำรศึกษำรูปแบบ แนวทำง และวธิ กี ำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของต่ำงประเทศ 1.3.2 ศึกษำเปรียบเทียบกระบวนกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยระหว่ำงพระรำชบัญญัติ วิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ซ่ึงบังคับใช้ทดแทนพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2502 และ ท่ีแก้ไขเพิ่มเติม รวมท้ังระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ซ่ึงบังคับใช้ทดแทนระเบียบว่ำ ด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เพ่ือใช้วิเครำะห์ข้อสังเกต /ข้อแตกต่ำง/ ข้อดี ของกฎหมำยและระเบยี บฉบับใหม่ว่ำมผี ลต่อกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐในปัจจุบันอย่ำงไรบ้ำง 1.3.3 ศึกษำผลของมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี งบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 และผลจำกกำรบังคับใช้กฎหมำย ระเบียบ รวมท้ังหลักเกณฑ์และวิธีกำร ฉบับใหมท่ ่ีมผี ลต่อกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณ 1.3.4 ศึกษำข้อมูลผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี รำยจ่ำยงบกลำง รวมทั้ง กำรกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปีและเงนิ กันขยำยของหน่วยรับงบประมำณจำกระบบ GFMIS ของกรมบัญชีกลำง กระทรวงกำรคลงั และฐำนขอ้ มูลของสำนักงบประมำณของรัฐสภำ โดยกำหนดขอบเขตกำรศึกษำในเชงิ ลึก เฉพำะกำรใช้จ่ำยงบประมำณประเภทรำยจ่ำยลงทุน ในช่วงระหวำ่ งปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 เทำ่ นนั้ 1.3.5 ศึกษำผลกำรดำเนินงำน ปัญหำอุปสรรค และข้อจำกัดท่ีเกิดขึ้นจำกกำรบริหำร งบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐที่ผ่ำนมำจำกรำยงำนผลกำรเบิกจ่ำยและแนวทำงกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำยใต้ มำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 และ รำยงำนของคณะกรรมำธิกำรเศรษฐกิจ กำรเงินและกำรคลังสภำนิติบัญญัติแห่งชำติ ปีงบประมำณ พ.ศ. 2559 รวมท้ังผลกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จำ่ ยงบประมำณของปงี บประมำณ พ.ศ. 2560 จำกเอกสำร งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปี พ.ศ. 2562 1.4 วธิ ีการศึกษา กำรศึกษำคร้ังนี้เป็นกำรศึกษำเชิงคุณภำพ (Qualitative research) ใช้กำรบรรยำยควำมหรือ พรรณนำ (Descriptive Research) โดยมขี ้นั ตอนกำรศกึ ษำ ค้นควำ้ และรวบรวมขอ้ มูล ดงั นี้ 1.4.1 ศึกษำจำกข้อมูลปฐมภูมิโดยใช้วิธีกำรสัมภำษณ์กลุ่มย่อยหรือกำรสนทนำกลุ่ม (Group Interviews) จำกตัวแทนผู้บริหำรและเจ้ำหน้ำที่ที่เกี่ยวข้องด้ำนงบประมำณโดยกำรเลือกกลุ่ม ตวั อยำ่ งแบบจำเพำะเจำะจง จำนวน 4 หนว่ ยงำน ประกอบดว้ ย 1) สำนกั งบประมำณ ในฐำนะหนว่ ยงำนกลำงที่มีอำนำจหน้ำทีใ่ นกำรจัดทำงบประมำณ บริหำรจัดกำรงบประมำณ ควบคมุ งบประมำณ และติดตำมประเมนิ ผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณ 2) กรมบญั ชีกลำง ในฐำนะเป็นหน่วยงำนทม่ี ีอำนำจหน้ำที่ในกำรควบคุมดแู ลกำรใช้จ่ำย เงนิ แผน่ ดนิ และรวบรวมผลกำรเบิกจำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยในภำพรวมของทง้ั ประเทศ 3) กรมชลประทำน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมทำงหลวง กระทรวงคมนำคม ในฐำนะเป็นหนว่ ยรบั งบประมำณทไี่ ด้รับกำรจดั สรรงบประมำณรำยจ่ำยลงทนุ เป็นจำนวนเงินทีส่ ูง สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร หนำ้ 3
การเพิม่ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 1.4.2 ศึกษำจำกข้อมูลทุติยภูมิท่ีมีกำรเรียบเรียงไว้แล้ว เช่น ศึกษำเอกสำรงบประมำณ รำยจำ่ ยประจำปี เอกสำรวชิ ำกำร รำยงำนประจำปี รำยงำนผลกำรเบิกจ่ำยงบประมำณ รำยงำนกำรกันเงิน ไว้เบิกเหล่ือมปีและเงินกันขยำย บทควำม งำนวิจัยที่เก่ียวข้องด้ำนงบประมำณ กฎหมำย ระเบียบ คำสั่ง มตคิ ณะรัฐมนตรี นโยบำยของรฐั บำล และข้อมูลจำกอินเตอร์เน็ตระหวำ่ งปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 1.4.3 นำขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ำกกำรศึกษำหลกั กำร แนวคดิ ทฤษฎี มำตรกำร และกฎหมำยท่ีเกยี่ วข้อง รวมท้ังรูปแบบ แนวทำง และวิธกี ำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐของต่ำงประเทศ ตลอดจนข้อมลู จำก กำรสมั ภำษณผ์ ู้บริหำรและเจ้ำหน้ำทีท่ ีเ่ กีย่ วขอ้ งด้ำนงบประมำณมำเปน็ กรอบแนวคิดในกำรวิเครำะหร์ ว่ มกับ ขอ้ มูลผลกำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ปัญหำอุปสรรค และข้อจำกัดท่ีเกิดข้ึน จำกกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐท่ีผ่ำนมำ เพ่ือนำไปสู่กำรจัดทำบทสรุป ข้อเสนอแนะแนวทำง กำรเพม่ิ ประสทิ ธภิ ำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐตอ่ ไป 1.5 ระยะเวลาในการศกึ ษาและเก็บรวบรวมขอ้ มูล ระยะเวลำในกำรศึกษำและเกบ็ รวบรวมข้อมูลตง้ั แตเ่ ดือนตุลำคม 2561 ถงึ เดอื นกนั ยำยน 2562 1.6 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ บั 1.6.1 ทำให้ทรำบถึงรูปแบบ และแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ รวมทั้ง ผลกำรดำเนินงำนและปัญหำอุปสรรคที่เกดิ ข้ึนจำกกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐทผ่ี ่ำนมำ 1.6.2 เป็นข้อมูลให้สมำชิกรัฐสภำ คณะกรรมำธิกำรวิสำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และคณะอนุกรรมำธิกำรชุดต่ำงๆ นำข้อเสนอแนะแนวทำงกำรเพ่ิม ประสทิ ธิภำพกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ ไปใช้ประกอบกำรพิจำรณำอนุมัตงิ บประมำณรำยจ่ำย ประจำปใี หก้ บั หนว่ ยรับงบประมำณในปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 และปีตอ่ ๆ ไป 1.6.3 สำนักงบประมำณของรัฐสภำมีขอ้ มูลวิชำกำรเผยแพร่ผ่ำนทำงเว็บไซต์เพื่อให้ประชำชน หรือผ้สู นใจทว่ั ไปนำไปใชป้ ระโยชน์ในกำรศึกษำ ค้นควำ และอำ้ งอิง 1.7 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ กระบวนการงบประมาณ หมำยถึง กระบวนกำรที่เป็นลำดับขั้นตอนเกย่ี วกับกำรกำหนดแผน ควำมต้องกำรในกำรจัดทำงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี เริ่มตั้งแต่กำรทบทวนผลกำรดำเนินงำนของ หน่วยงำนท่ีผ่ำนมำ กำรจัดทำกรอบวงเงินในระดับมหภำค กำรเสนอของบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยงำน ต่ำงๆ ไปจนถึงข้ันที่รัฐบำลแถลงรำยงำนกำรรับจ่ำยเงินประจำปีต่อรัฐสภำเพ่ือเสนอรัฐสภำพิจำรณำอนุมัติ และตรำเป็นพระรำชบัญญัติประกำศเป็นกฎหมำยใช้เป็นกรอบในกำรบริหำรและติดตำมประเมินผล กำรเบิกจำ่ ยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ หมำยถึง ระบบงบประมำณที่ให้ ควำมสำคัญกับกำรกำหนดพันธกจิ ขององค์กร เป้ำหมำย และวัตถุประสงค์ กลยุทธ์ แผนงำน งำน/โครงกำร อย่ำงเป็นระบบ มีกำรติดตำมประเมินผลอย่ำงสม่ำเสมอ เพ่ือวัดผลสำเร็จของงำนเป็นระบบที่เช่ือมโยง กำรบริหำรจัดกำรทรัพยำกร กำรเงินและพัสดุ ที่สะท้อนให้เห็นถึงผลสำเร็จของงำนหรือพันธกิจต่ำงๆ ขององค์กรหรือของรฐั ภำยใตร้ ะบบกำรบรหิ ำรกิจกำรบ้ำนเมืองและสงั คมท่ีดี สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร หนำ้ 4
การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ งบประมาณรายจ่าย หมำยถึง จำนวนเงินอย่ำงสูงที่อนุญำตให้จ่ำยหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตำมวัตถุประสงค์และภำยในระยะเวลำทกี่ ำหนดไว้ในพระรำชบญั ญัติงบประมำณรำยจ่ำย กฎหมายว่าดว้ ยงบประมาณรายจ่าย หมำยถงึ พระรำชบัญญัตงิ บประมำณรำยจ่ำยประจำปี พระรำชบญั ญตั ิงบประมำณรำยจ่ำยเพ่ิมเติม หรือพระรำชบัญญตั โิ อนงบประมำณรำยจ่ำย แลว้ แตก่ รณี เงินนอกงบประมาณ หมำยถึง บรรดำเงินท้ังปวงที่หน่วยงำนของรัฐจัดเก็บหรือได้รับไว้เป็น กรรมสิทธิ์ตำมกฎหมำย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือจำกนิติกรรมหรือนิติเหตุ หรือกรณีอ่ืนใด ท่ีต้องนำส่งคลัง แต่มกี ฎหมำยอนญุ ำตให้สำมำรถเก็บไว้ใช้จำ่ ยได้โดยไมต่ ้องนำส่งคลัง เงินจัดสรร หมำยถึง ส่วนหนึ่งของงบประมำณรำยจ่ำยท่ีแบ่งสรรให้จ่ำย หรือให้ก่อหน้ีผูกพัน ในระยะเวลำหนึ่ง หน่วยรับงบประมาณ หมำยถึง หน่วยงำนของรัฐท่ีขอรับหรือได้รับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำย และให้หมำยควำมรวมถงึ สภำกำชำดไทยด้วย หนว่ ยงานของรฐั หมำยถึง 1) ส่วนรำชกำร 2) รัฐวสิ ำหำกิจ 3) หนว่ ยงำนของรัฐสภำ ศำลยุติธรรม ศำลปกครอง ศำลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตำมรัฐธรรมนูญและองค์กรอัยกำร 4) องค์กำรมหำชน 5) ทุนหมุนเวียนที่มีฐำนะเป็นนิติบุคคล 6) องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และ 7) หน่วยงำนอื่นของรัฐตำมท่ี กฎหมำยกำหนด หน่วยงานกลาง หมำยถึง สำนักงบประมำณ สังกัดสำนักนำยกรัฐมนตรี และรำยงำนฉบับน้ี หมำยรวมถึงกรมบัญชีกลำง สังกัดกระทรวงกำรคลัง ในฐำนะเป็นหน่วยงำนที่ทำหน้ำท่ีควบคุมดูแลกำรใช้จ่ำย เงนิ แผน่ ดนิ และรวบรวมผลกำรเบกิ จ่ำยงบประมำณรำยจำ่ ยในภำพรวมของท้งั ประเทศ รายจ่ายลงทุน หมำยถึง รำยจ่ำยท่ีรัฐบำลจ่ำยเพื่อจัดหำทรัพย์สินประเภททุน ทั้งที่มีตัวตน และทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตน ตลอดจนรำยจ่ำยที่รัฐบำลอุดหนุนหรือโอนให้แก่บุคคล องค์กร หรือรัฐวิสำหกิจ โดยผู้รับไมต่ ้องจ่ำยคนื ให้รัฐบำลและผ้รู บั นำไปใชจ้ ัดหำทรัพยส์ นิ ประเภททุน เป็นต้น การบริหารงบประมาณ หมำยถึง กำรใช้จ่ำยงบประมำณให้เป็นไปตำมที่ฝ่ำยนิติบัญญัติ หรือรัฐสภำอนุมัติ โดยกำรควบคุมกำรปฏิบัติงำนให้เป็นไปตำมวัตถุประสงค์ เป้ำหมำย แผนงำน ตำมพระรำชบญั ญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และเอกสำรงบประมำณ ตลอดจนระเบียบที่เก่ยี วขอ้ งกับ กำรใช้จำ่ ยเงินงบประมำณแผ่นดนิ การเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณ หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรใช้จ่ำย งบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณได้ตำมวตั ถุประสงค์และเป้ำหมำย หรือหลักเกณฑ์กำรวดั ของ ตัวช้ีวัดผลสำเร็จตำมท่ีกำหนดไว้ หรือตำมท่ีได้ตกลงกับสำนักงบประมำณภำยใต้แผนกำรปฏิบัติงำนและ แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ รวมทั้งตำมเป้ำหมำยของมำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณ รำยจำ่ ยประจำปีทร่ี ฐั บำลกำหนด ประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณ หมำยถึง ควำมสำเร็จของกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ได้ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ระบบ GFMIS ย่อมาจาก Government Fiscal Management Information System หมำยถึง กำรบริหำรงำนกำรเงินกำรคลังภำครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซ่ึงรัฐบำลได้ใช้ GFMIS เป็นเคร่ืองมือในกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำรงำนกำรคลังภำครัฐ และสำมำรถใช้เป็นข้อมูลในกำร ตดั สินใจเก่ียวกับนโยบำยกำรคลัง และปรับทิศทำงเศรษฐกิจของประเทศได้อย่ำงทันท่วงทีซ่ึงประกอบด้วย ระบบงำนสำคัญ 5 ระบบงำน ได้แก่ 1) ระบบงบประมำณ (PM) 2) ระบบจัดซ้ือจัดจ้ำง (PO) 3) ระบบ กำรเงินและบัญชี (FI) 4) ระบบบญั ชตี น้ ทุน (CO) และ 5) ระบบบรหิ ำรบคุ คล (HR) สำนักงบประมำณของรัฐสภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร หนำ้ 5
การเพิ่มประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และวรรณกรรมทเี่ กยี่ วขอ้ ง กำรศึกษำคร้ังนี้เป็นกำรศึกษำเชิงคุณภำพ ( Qualitative research) เรื่อง “กำรเพ่ิม ประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำของประเทศ” ผู้ศึกษำได้ใช้วิธีกำรศึกษำจำกแนวคิด ทฤษฎี ทำงวิชำกำร และวรรณกรรมท่ีเกย่ี วข้อง เพอ่ื ใช้เปน็ กรอบแนวทำงในกำรศกึ ษำ โดยมีรำยละเอยี ด ดงั นี้ 2.1 แนวคิดกระบวนการงบประมาณและระบบงบประมาณแบบมงุ่ เน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ 2.1.1 แนวคิดกระบวนการงบประมาณ (Budget Process) กระบวนกำรงบประมำณ (Budget Process) แบ่งออกเป็น 4 ข้ันตอน ดังนี้ (สถำบันวิจัยสังคม จฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลยั , 2553, น. 5-34) 1) การจัดทางบประมาณ (Budget Preparation) กำรเตรียมกำรจดั ทำงบประมำณ แต่ละปี เริ่มจำก 4 หน่วยงำนหลัก ได้แก่ สำนักงำนคณะกรรมกำรพัฒนำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ กระทรวงกำรคลัง สำนักงบประมำณ และธนำคำรแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดทำข้อเสนอทำงเศรษฐกิจ มหภำค ประมำณกำรทำงเศรษฐกจิ ประมำณกำรรำยไดแ้ ละประมำณกำรหนีส้ ำธำรณะเพอื่ กำหนดนโยบำย งบประมำณและวงเงินงบประมำณท่ีเหมำะสมกับสภำพเศรษฐกิจแล ะนโยบำยของรัฐบำลเพ่ือเสนอต่อ คณะรัฐมนตรีพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบนโยบำยงบประมำณ ยุทธศำสตรก์ ำรจัดสรรงบประมำณและวงเงิน งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีแล้ว สำนักงบประมำณจะมีหนังสือแจ้งแนวทำงกำรดำเนินงำนในกำรจัดทำ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีและคมู่ อื ปฏิบัติเกี่ยวกับกำรจัดทำคำของบประมำณรำยจำ่ ยประจำปใี ห้สว่ นรำชกำร รัฐวิสำหกิจและหน่วยงำนอื่นรับทรำบและจัดทำคำของบประมำณส่งให้สำนักงบประมำณพิจำรณำ ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี เพ่ือจัดพิมพ์เป็นร่ำงพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีและเอกสำร ประกอบกำรพจิ ำรณำใหค้ วำมเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี 2) การอนุมัติงบประมาณ (Budget Approval) เป็นกำรนำร่ำงพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีและเอกสำรประกอบท่ีคณะรัฐมนตรีได้ให้ควำมเห็นชอบแล้วส่งให้รัฐสภำ พิจำรณำ ซ่ึงประกอบด้วย 2 สภำ คือ สภำผู้แทนรำษฎรและวุฒิสภำเพ่ือให้ควำมเห็นชอบก่อนนำขึ้น ทูลเกล้ำฯ เพื่อประกำศใช้เป็นกฎหมำย ทั้งนี้ กำรพิจำรณำของสภำผู้แทนรำษฎรจะต้องพิจำรณำให้แล้วเสร็จ ภำยใน 105 วัน จะพจิ ำรณำใน 3 วำระ คือ วาระที่ 1 กำรพิจำรณำรับหรือไม่รบั หลักกำรแห่งร่ำงพระรำชบัญญัติฯ ทรี่ ัฐบำลเสนอ หำกพิจำรณำแล้วมีมติไม่รับหลักกำร ร่ำงพระรำชบัญญัติดังกล่ำวก็เป็นอันตกไป หำกมีมติรับหลักกำร ก็จะนำเขำ้ สกู่ ำรพิจำรณำในวำระท่ี 2 วาระที่ 2 กำรพิจำรณำในข้ันกรรมำธิกำรวิสำมัญพิจำรณำร่ำงพระรำชบัญญัติฯ โดยสภำผู้แทนรำษฎรจะต้ังคณะกรรมำธิกำรฯ เพ่ือพิจำรณำรำยละเอียดของร่ำงพระรำชบัญญัติฯ แล้วนำเข้ำสู่ที่ประชุมเต็มสภำพิจำรณำเรียงตำมมำตรำ ทั้งน้ีสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรจะขอแปรญัตติ ในทำงลดหรือตัดทอนรำยจ่ำยซึ่งมิใช่รำยจ่ำยตำมข้อผูกพันในเร่ืองกำรส่งใช้คืนต้นเงินกู้ ดอกเบ้ียเงินกู้และ เงินที่กำหนดใหจ้ ำ่ ยตำมกฎหมำยได้เทำ่ น้นั จะแปรญัตตขิ อเพม่ิ งบประมำณไม่ได้ สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร หนำ้ 6
การเพิม่ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ วาระที่ 3 กำรพิจำรณำเพื่อลงมติเห็นชอบร่ำงพระรำชบัญญัติฯ ทั้งฉบับโดยไม่มีกำร อภิปรำยเพิ่มเติม หำกพิจำรณำแล้วมีมติเห็นชอบ ประธำนสภำผู้แทนรำษฎรก็จะเสนอร่ำงพระรำชบัญญัติฯ ให้วฒุ สิ ภำเพ่อื พจิ ำรณำต่อไป แตห่ ำกมีมตไิ ม่เห็นชอบร่ำงพระรำชบญั ญัติดังกลำ่ วก็เป็นอันตกไป สำหรับกำรพิจำรณำของวุฒิสภำ จะมกี ำรต้ังกรรมำธิกำรเพอื่ ศึกษำร่ำงพระรำชบัญญัติฯ เช่นเดียวกัน โดยพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบภำยใน 20 วัน หำกพิจำรณำแล้วให้ควำม เห็นชอบ นำยกรัฐมนตรีจะนำข้ึนทูลเกล้ำฯ เพ่ือให้พระมหำกษัตริย์ทรงลงพระปรมำภิไธย และประกำศ ในรำชกิจจำนเุ บกษำบังคับใชเ้ ปน็ กฎหมำยต่อไป แต่หำกพจิ ำรณำแล้วไม่ใหค้ วำมเห็นชอบสภำผู้แทนรำษฎร อำจยกร่ำงพระรำชบัญญัติฯ ข้ึนพิจำรณำใหม่ได้ทันที และเมื่อสภำผู้แทนรำษฎรยืนยันร่ำงเดิมด้วยคะแนน เสียงมำกกว่ำกึ่งหน่ึงของจำนวนสมำชิกทั้งหมดเท่ำท่ีมีอยู่ของสภำผู้แทนรำษฎร ให้ถือว่ำได้รับควำมเห็นชอบ จำกสภำผแู้ ทนรำษฎรแลว้ 3) การบริหารงบประมาณ (Budget Execution) เม่ือมีกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติฯ ส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกิจ และหน่วยงำนอื่น จะต้องวำงแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ให้สอดคล้องกับเป้ำหมำยกำรให้บริกำรกระทรวง ผลผลิต/โครงกำร ตำมวงเงินงบประมำณรำยจ่ำยท่ีระบุไว้ใน เอกสำรงบประมำณประกอบพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี เพ่ือให้มีกำรเบิกจ่ำยและ ดำเนินกำรใช้จ่ำยงบประมำณที่ไดร้ บั จัดสรร 4) การควบคุมและติดตามประเมินผลงบประมาณ (Budget Control and Budget Evaluation) เป็นกำรตรวจสอบกำรนำงบประมำณไปใช้จ่ำย เพ่ือให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณ เป็นไปตำมเป้ำหมำยและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ซ่ึงอำจดำเนินกำรโดยหน่วยงำนหลักคือ สำนักงบประมำณ สำนักงำนกำรตรวจเงินแผ่นดิน และดำเนินกำรโดยส่วนรำชกำรที่ได้รับงบประมำณเอง รวมท้ังฝ่ำยนิติบัญญัติโดยคณะกรรมำธิกำรติดตำมกำรใช้จ่ำยงบประมำณ โดยคำนึงถึงควำมคุ้มค่ำของกำร ใช้งบประมำณ (value for money) เปน็ สำคญั 2.1.2 แนวคิดระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยทุ ธศาสตร์ (Strategic Performance Based Budgeting : SPBB) ระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ (Strategic Performance Based Budgeting : SPBB) เป็นระบบท่ีได้มีกำรนำมำใช้ตั้งแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบันเป็นระบบ งบประมำณที่ให้ควำมสำคัญกับกำรกำหนดพันธกิจ จุดมุ่งหมำย วัตถุประสงค์ กลยุทธ์ แผนงำน งำน/ โครงกำรอย่ำงมีระบบ มีกำรติดตำมและประเมินผลสม่ำเสมอ เพื่อวัดผลสำเร็จของงำนตำมเป้ำหมำย เชงิ ยุทธศำสตรร์ ะดับชำติ มีกำรกระจำยอำนำจและควำมรับผดิ ชอบของฝ่ำยต่ำง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับชำติ ระดับกระทรวงและระดับกรมหรือระดับหน่วยงำน ระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำน ตำมยุทธศำสตร์จึงมีองค์ประกอบท่ีสำคัญ 6 ประกำร คือ (สถำบันวิจัยสังคม จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย, 2553, น. 35-38) 1) มุ่งเน้นผลสาเร็จตามเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ คือกำรให้ควำมสำคัญกับ ควำมสำเร็จตำมเป้ำหมำยในทุกระดับ ต้ังแต่เป้ำหมำยเชิงยุทธศำสตร์ระดับชำติจนถึงเป้ำหมำย กำรให้บรกิ ำรของกระทรวงและหน่วยงำน 2) เน้นหลักการธรรมาภิบาล เป็นระบบที่เน้นหลักกำรธรรมำภิบำลหรือหลักกำร บริหำรจัดกำรท่ีดี โดยมีกำรแบ่งหน้ำท่ีควำมรับผิดชอบในแต่ละระดับที่ชัดเจน เร่ิมตั้งแต่รัฐบำลรับผิดชอบ ต่อผลสำเร็จตำมเป้ำหมำยเชิงยุทธศำสตร์ระดับชำติเพรำะเป็นผู้บริหำรและผู้กำหนดนโยบำยสูงสุดของ ประเทศสู่ระดับกระทรวงหรือรัฐมนตรีที่รับผิดชอบต่อผลสำเร็จตำมเป้ำหมำยกำ รให้บริกำรของกระทรวง และระดบั หน่วยงำนหรือหวั หนำ้ หนว่ ยงำนท่ีรบั ผดิ ชอบต่อผลสำเรจ็ ของผลผลติ ท่สี ่งผลโดยตรงต่อประชำชน สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร หนำ้ 7
การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 3) การมอบอานาจการบริหารจัดการงบประมาณ เพ่ือสนับสนุนให้กระทรวงและ หน่วยงำนสำมำรถบรรลุผลสัมฤทธ์ิตำมเป้ำหมำยและยุทธศำสตร์ในกำรให้บริกำรที่มีควำมเชื่ อมโยงและ สอดคล้องกันในแต่ละระดับ จึงได้มีกำรมอบอำนำจกำรบริหำรจัดกำรงบประมำณให้กับกระทรวงและ หนว่ ยงำนมำกขึน้ พร้อมทัง้ ผ่อนคลำยกฎระเบยี บต่ำง ๆ ใหม้ คี วำมคล่องตัวในกำรบริหำรจัดกำรงบประมำณ มำกขึ้นด้วย 4) การเพิ่มขอบเขตความครอบคลุมของงบประมาณ กำรจัดทำงบประมำณรำยจ่ำย ท่ีผ่ำนมำมีขอบเขตจำกัดอยู่เพียงค่ำใช้จ่ำยของกิจกรรมที่ใช้จ่ำยจำกงบประมำณแผ่นดินเท่ำน้ัน ไม่รวมถึง กิจกรรมท่ีใช้เงินนอกงบประมำณ เช่น เงินกู้ เงินช่วยเหลือ และเงินรำยได้ของหน่วยงำน เป็นต้น ดังน้ัน กำรนำเงินนอกงบประมำณมำพิจำรณำร่วมกันกบั งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีจะทำให้แผนกำรเงินโดยรวม ของภำครัฐมีควำมสมบูรณ์ ครอบคลุมและสำมำรถใช้ประโยชน์ในกำรวำงแผนทำงกำรเงินและกำรคลัง ไดถ้ กู ตอ้ งเหมำะสมย่ิงขน้ึ 5) การประมาณการงบประมาณรายจ่ายล่วงหน้าระยะปานกลาง เป็นกำรวำงแผน งบประมำณรำยจ่ำย 3 ปีล่วงหน้ำจำกค่ำใช้จ่ำยที่หน่วยงำนได้รับอนุมัติในปัจจุบัน ภำยใต้สมมติฐำนว่ำไม่มี กำรเปล่ียนแปลงนโยบำยสำหรับแผนงำนต่ำง ๆ เหล่ำนั้น ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่ำสัดส่วนของค่ำใช้จ่ำย ท่ีเกดิ ข้นึ ในอนำคตนนั้ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำรพัฒนำประเทศในแตล่ ะด้ำน 6) การติดตามประเมินผลความสาเร็จตามเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ กำรรำยงำนผล กำรดำเนินงำนที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อเป็นกำรตรวจสอบผลกำรดำเนินงำนของทุกหน่วยงำนว่ำได้ บรรลุผลสำเร็จตำมเป้ำหมำยเชิงยุทธศำสตร์ท่ีกำหนดไว้หรือไม่ โดยมีตัวช้ีวัดผลสำเร็จในทุกมิติทั้งปริมำณ คุณภำพ เวลำ และค่ำใช้จ่ำย ไว้อย่ำงชัดเจนเพ่ือใช้เป็นข้อมูลประกอบกำรตัดสินใจในกำรบริหำร งบประมำณ ตลอดจนเป็นกำรแสดงควำมรบั ผิดชอบของหนว่ ยงำนตอ่ ผลสำเร็จของงำน 2.2 การบริหารงบประมาณ (Budget Execution) การบริหารงบประมาณ (Budget Execution) ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งของกระบวนกำร งบประมำณหรือเรียกอีกอย่ำงหนึ่งว่ำวงจรงบประมำณ (Budget Cycle) เป็นกิจกรรมที่สำคัญที่ต้อง ดำเนินกำรต่อเนื่องจำกข้ันตอนกำรจดั ทำงบประมำณ และกำรอนุมตั งิ บประมำณ ซ่ึงกำรบริหำรงบประมำณ ของประเทศไทยในปัจจุบันใช้กำรบริหำรงบประมำณในรูปแบบระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำน ตำมยุทธศำสตร์ (Strategic Performance Based Budgeting : SPBB) โดยกำรบริหำรงบประมำณ ในลักษณะเช่นน้ีจะเป็นกำรกระจำยอำนำจกำรบริหำรงบประมำณให้กับส่วนรำชกำรและหน่วยงำนของรัฐ แต่อยู่บนหลักกำรพื้นฐำนควำมรับผิดชอบท่ีส่วนรำชกำรจะต้องดำเนินงำนให้เป็นไปตำมเป้ำหมำยทีก่ ำหนด และมีควำมเป็นอสิ ระในกำรบรหิ ำรงบประมำณด้วยตนเองเพือ่ ให้มคี วำมคลอ่ งตวั ในกำรบรหิ ำรงบประมำณ ดังน้ัน เมื่อพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีมีผลบังคับใช้ตำมกฎหมำยแล้ว หน่วยรับงบประมำณจะต้องเตรียมควำมพร้อมในกำรเร่งรัดกำรดำเนิ นงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปีให้เป็นไปตำมแผนฯ และเป้ำหมำยท่ีกำหนด โดยจะต้องดำเนินกำรบริหำรงบประมำณ ใหเ้ ป็นไปตำมหลักเกณฑ์และวธิ ีกำรบริหำรงบประมำณที่ใช้อยใู่ นปจั จบุ นั ซึง่ ไดใ้ ช้ระเบียบวำ่ ด้วยกำรบริหำร งบประมำณ พ.ศ. 2562 ซึ่งบังคับใชท้ ดแทนระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไข เพ่ิมเติม โดยได้กำหนดแนวงทำงกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยไว้ 2 ลักษณะด้วยกัน ประกอบด้วย (สถำบนั วจิ ยั สงั คม จุฬำลงกรณ์มหำวทิ ยำลัย, 2553, น. 23-30) สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร หนำ้ 8
การเพ่ิมประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 2.2.1 การบริหารงบประมาณรายจ่ายสาหรับหน่วยรับงบประมาณ มีข้ันตอนกำรบริหำร งบประมำณรำยจำ่ ยกำหนดใหด้ ำเนนิ กำรตำมลำดับ ดังน้ี 1) การจัดทาแผนการปฏิบัติงานและแผนการใชจ้ ่ายงบประมาณ 1.1) การจัดทาแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณสาหรับ หน่วยรับงบประมาณ (ตามระเบียบฯ ข้อ 8 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 11) เน่ืองจำกงบประมำณแบบมุ่งเน้น ผลงำนตำมยุทธศำสตร์ เป็นระบบกำรจัดกำรงบประมำณมุ่งเน้นให้เกิดควำมยืดหยุ่นและคล่องตัวสูงในกำร บริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณ แต่ในขณะเดียวกันเพื่อเป็นหลักประกันผลงำนของ หน่วยรับงบประมำณว่ำจะผลิตผลผลิตหรือจัดทำโครงกำรให้บรรลุตำมท่ีเสนอขออนุมัติใช้จ่ำยเงินแผ่ นดิน ไว้กับรัฐสภำจึงได้กำหนดให้มีกำรจัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ เพ่ือใช้เป็น เครือ่ งมอื ประกอบในกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจำ่ ยของหน่วยรบั งบประมำณใหเ้ ป็นไปอย่ำงมปี ระสิทธิภำพ ดังนั้น ภำยหลังจำกพระรำชบัญญตั ิงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีมีผลบังคับใช้เป็น กฎหมำยแล้ว กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณจะต้องดำเนินกำรตำมระเบียบ ว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 รวมทั้งระเบียบอ่ืนๆ และหลักเกณฑ์ที่เก่ียวข้องกับกำรบริหำร งบประมำณรำยจ่ำยตำมที่ผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณกำหนด โดยให้หน่วยรับงบประมำณทุกหน่วยงำน จะต้องจัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับเป้ำหมำย กำรปฏิบัติรำชกำรของหน่วยรับงบประมำณภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติ แผนแม่บท แผนปฏิรูปประเทศ โดยมี เป้ำหมำย ตัวชี้วัด รำยกำร และวงเงินงบประมำณตำมที่ได้รับควำมเห็นชอบจำกรัฐสภำ เพ่ือแสดงถึง ผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับจำกกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ส่งให้สำนักงบประมำณพิจำรณำให้ควำม เห็นชอบไม่น้อยกว่ำสิบห้ำวันก่อนวันเร่ิมปีงบประมำณ เพื่อเป็นกรอบแนวทำงในกำรใช้จ่ำยหรือ ก่อหน้ีผูกพันงบประมำณรำยจ่ำยท่ีได้รับตำมกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำย และเพื่อใช้ในกำรกำกับ ดูแล และติดตำมประเมินกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยหรือก่อหน้ีผูกพันงบประมำณให้เป็นไปอย่ำง มีประสิทธภิ ำพ สำหรับกรณีที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้มีแผนงำน ผลผลิต หรือโครงกำรขึ้นใหม่ ในระหว่ำงปีงบประมำณ ให้หน่วยรบั งบประมำณจัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ส่งให้สำนักงบประมำณในระยะเวลำที่กำหนด และเม่ือสำนักงบประมำณพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบแผน ดังกล่ำวแล้ว ให้หน่วยรับงบประมำณแจ้งให้รัฐมนตรเี จ้ำสังกัดหรือรัฐมนตรีท่ีกำกับดูแลหรือควบคุมกิจกำร ของหน่วยรับงบประมำณ หรือรัฐมนตรีผรู้ ักษำกำรตำมกฎหมำยแล้วแต่กรณีทรำบ เพ่ือใช้ในกำรกำกบั ดูแล และติดตำมกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยหรือก่อหน้ีผูกพันงบประมำณ ส่วนในกรณีของหน่วยงำนของ รัฐสภำ ศำลยุติธรรม ศำลปกครอง ศำลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตำมรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยกำร สำนักงบประมำณจะรับทรำบแผนเพ่ือใช้ในกำรติดตำมประเมินผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณ และให้หัวหน้ำ หน่วยงำนใช้แผนดังกล่ำวในกำรกำกับดูแล และติดตำมกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณของ หนว่ ยงำนให้เปน็ ไปตำมหลักวินัยกำรเงินกำรคลงั ภำครัฐ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร หนำ้ 9
การเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 1.2) การจัดทาแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณสาหรับ งบประมาณรายจ่ายบูรณาการ (ตามระเบียบฯ ข้อ 12 ข้อ 13 และข้อ 14) ในกรณีกำรจัดทำแผน กำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณสำหรับงบประมำณรำยจ่ำยบูรณำกำร ให้หน่วยรับ งบประมำณที่มีงบประมำณรำยจ่ำยบูรณำกำร จัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ โดยจำแนกตำมแผนงำนบูรณำกำร ผลผลิต โครงกำรที่ได้รับงบประมำณโดยแผนดังกล่ำวจะต้องแสดงถึง วัตถุประสงค์ ควำมเช่อื มโยงเปำ้ หมำยกำรปฏบิ ัติรำชกำรของหนว่ ยรับงบประมำณกับเป้ำหมำยรว่ ม ภำยใต้ ยุทธศำสตร์ชำติ แผนแม่บท แผนปฏิรูปประเทศ โดยมีเป้ำหมำย ตัวช้ีวัด รำยกำรและวงเงินงบประมำณ ตำมที่ได้รับควำมเห็นชอบจำกรัฐสภำ เพ่ือแสดงถึงผลสัมฤทธ์ิหรือประโยชน์ท่ีจะได้รับจำกกำรใช้จ่ำย งบประมำณ และส่งแผนดงั กลำ่ วให้หน่วยรับงบประมำณท่เี ปน็ เจ้ำภำพหลักของแผนงำนบูรณำกำรรวบรวม และพจิ ำรณำภำพรวมควำมสอดคล้องของแผนฯ เสนอผู้มีอำนำจกำกับแผนงำนบรู ณำกำรพิจำรณำใหค้ วำม เห็นชอบแล้วจึงสง่ ให้สำนักงบประมำณไมน่ อ้ ยกว่ำสิบหำ้ วนั กอ่ นวันเร่มิ ปงี บประมำณ เว้นแต่กรณีที่ได้รับจัดสรรงบประมำณตำมพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำย เพ่ิมเติม หรือตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรโอนงบประมำณรำยจ่ำยหรือตำมท่ีได้มีกำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย ตำมพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 ให้ส่งแผนฯ ภำยในระยะเวลำท่ีสำนักงบประมำณกำหนด เป็นกรณีไป และเมื่อสำนักงบประมำณพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบแผนดังกลำ่ วแล้ว ให้หนว่ ยรับงบประมำณ ท่ีเป็นเจำ้ ภำพหลกั สง่ แผนฯ ให้ผู้มีอำนำจกำกับแผนงำนบรู ณำกำร ส่วนในกรณีของหนว่ ยรับงบประมำณอ่ืน ยกเว้นหน่วยงำนของรัฐสภำ ศำลยตุ ิธรรม ศำลปกครอง ศำลรฐั ธรรมนูญ องค์กรอิสระตำมรัฐธรรมนูญ และ องค์กรอัยกำรให้จัดส่งแผนฯ ใหร้ ัฐมนตรเี จ้ำสงั กัดหรอื รัฐมนตรีทก่ี ำกับดูแลหรือควบคุมกิจกำรของหนว่ ยรับ งบประมำณหรือรัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมกฎหมำยแล้วแต่กรณีทรำบ เพ่ือใช้ในกำรกำกัดดูแลและติดตำม กำรปฏบิ ัติงำนและกำรใชจ้ ำ่ ยหรอื กอ่ หน้ีผูกพนั งบประมำณ 2) การปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ (ตามระเบียบฯ ข้อ 15 ข้อ 16 และข้อ 17) ในกรณีท่ีหน่วยรับงบประมำณต้องกำรขอปรับแผนฯ ซึ่งนอกเหนือไปจำกที่ได้รับ ควำมเหน็ ชอบจำกสำนักงบประมำณแล้ว ใหก้ ระทำไดใ้ นกรณี 2.1) มีควำมจำเปน็ ตอ้ งเปลย่ี นแปลงเปำ้ หมำยหรือตวั ชี้วดั ของแผนงำน ผลผลติ หรือ โครงกำรใหแ้ ตกตำ่ งไปจำกทส่ี ำนักงบประมำณได้ให้ควำมเห็นชอบไวแ้ ลว้ 2.2) มีกำรโอนงบประมำณรำยจ่ำยไปให้หน่วยรับงบประมำณอื่นตำมวิธีกำร ที่กฎหมำยกำหนด 2.3) เม่ือคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีเจ้ำสังกัดหรอื รัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือควบคุม กิจกำรของหน่วยรับงบประมำณมีนโยบำยใหม่ และมีควำมจำเป็นต้องปรับปรุงเป้ำหมำยของแผนงำน ผลผลติ หรอื โครงกำรใหส้ อดคลอ้ งกับนโยบำยทก่ี ำหนดข้ึนใหม่น้นั หลังจำกนัน้ ใหห้ นว่ ยรบั งบประมำณทีเ่ สนอขอปรับแผนดงั กล่ำวดำเนนิ กำร ดงั นี้ (1) กรณีกำรปรับแผนของหน่วยรับงบประมำณ ให้หน่วยรับงบประมำณเสนอขอปรับ แผนต่อรัฐมนตรีเจ้ำสังกัดหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือควบคุมกิจกำรของหน่วยรับงบประมำณ หรือ รัฐมนตรีผู้รักษำกำรตำมกฎหมำยเพื่อขอควำมเห็นชอบในหลักกำร และจัดส่งแผนที่ปรับแล้วให้สำนัก งบประมำณพจิ ำรณำใหค้ วำมเห็นชอบ (2) กรณีกำรปรับแผนสำหรับงบประมำณรำยจ่ำยบูรณำกำร ให้หน่วยรับงบประมำณ เสนอขอปรับแผนต่อผู้มีอำนำจกำกับแผนงำนบูรณำกำรโดยเสนอผ่ำนหน่วยรับงบประมำณท่ีเป็นเจ้ำภำพหลัก และจดั ส่งแผนท่ีปรบั แล้วให้สำนกั งบประมำณพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 10 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ (3) กรณีกำรปรับแผนของหน่วยรับงบประมำณท่ีเป็นหน่วยงำนของรัฐสภำ ศำลยุติธรรม ศำลปกครอง ศำลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตำมรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยกำร ให้กระทำได้โดยไม่ต้องขอ ทำควำมตกลงกับสำนักงบประมำณ และจัดส่งแผนที่ปรับแล้วให้สำนักงบประมำณภำยในสิบห้ำวันนับแต่ วนั ทไ่ี ด้มีกำรปรบั แผน ท้ังน้ี เม่ือสำนักงบประมำณให้ควำมเห็นชอบกำรปรับแผนแล้ว ให้ถือปฏิบัติตำม ระเบียบวำ่ ดว้ ยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ข้อ 11 หรอื ข้อ 14 แลว้ แตก่ รณีต่อไป 3) การอนุมัติเงินจัดสรร (ตามระเบียบฯ ข้อ 18 ข้อ 19 ข้อ 20 และข้อ 21) เม่ือพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีใช้บังคับ สำนักงบประมำณจะอนุมัติเงินจัดสรรในวงเงินทีก่ ำหนด ไว้ในพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ให้สอดคล้องกับแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำย งบประมำณ หรือตำมที่สำนักงบประมำณกำหนด โดยหน่วยรับงบประมำณไม่ต้องยื่นคำขออนุมัติเงินจัดสรร สำหรับในกรณีท่ีเป็นงบประมำณรำยจ่ำยเพ่ิมเติม หรืองบประมำณรำยจ่ำยท่ีโอนมำจำกหน่วยรับงบประมำณ อืน่ สำนักงบประมำณอำจกำหนดให้หนว่ ยรบั งบประมำณต้องยนื่ คำขออนุมตั ิเงินจดั สรรก็ได้ และเมื่อได้รับอนุมัติเงินจัดสรรจำกสำนักงบประมำณแล้ว ให้หน่วยรับงบประมำณ ขอเบิกจ่ำยเงินผ่ำนระบบกำรบริหำรกำรเงินกำรคลังภำครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Government Fiscal Management Information System : GFMIS) จำกกรมบัญชีกลำงตำมวงเงินท่ีได้รับอนุมัติเงินจัดสรร จำกสำนักงบประมำณตำมแผนปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ สำหรับกรณีที่ต้องดำเนินกำร หรือเบิกจ่ำยโดยสำนักงำนในส่วนภูมิภำคให้หน่วยรับงบประมำณเร่งดำเนินกำรส่ งเงินจัดสรรต่อไป ยังสำนักงำนในสว่ นภูมภิ ำคภำยในสบิ หำ้ วนั นบั แตว่ ันทไ่ี ดร้ ับอนมุ ัตเิ งินจัดสรร ทั้งน้ี กำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยจะมีผลนับต้ังแต่วันท่ีพระรำชบัญญัติ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปีประกำศบังคับใช้แล้ว และให้หน่วยรับงบประมำณใช้จ่ำยหรือก่อหนี้ผูกพัน ได้ภำยหลงั จำกวันประกำศใชพ้ ระรำชบัญญตั ิดงั กลำ่ ว 4) การใชง้ บประมาณรายจา่ ย การโอนงบประมาณรายจ่าย การโอนเงินจัดสรรหรือ การเปลย่ี นแปลงเงนิ จดั สรร 4.1) การใช้งบประมาณรายจ่าย (ตามระเบียบฯ ข้อ 22 และข้อ 23) กำรใช้ งบประมำณรำยจ่ำยเป็นกำรใช้จ่ำยจำกงบประมำณที่ได้รับอนุมัติจัดสรร หรือจำกกำรโอนเงินจัดสรร หรือจำกกำรเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรในแต่ละรำยกำรตำมกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำย โดยกำร ใช้จ่ำยงบประมำณจะต้องเป็นไปเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้ำหมำยตำมที่กำหนดไว้ในแผนกำร ปฏิบตั งิ ำนและแผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณท่ีสอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศำสตร์ชำติ ดงั น้ี 4.1.1) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนยุทธศำสตร์ ให้ใช้สำหรับดำเนินภำรกิจ ทีไ่ ด้รับมอบหมำยในเชิงนโยบำย 4.1.2) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนบูรณำกำร ให้ใช้จ่ำยตำมภำรกิจของหน่วยรับ งบประมำณที่กำหนดไว้ในแผนงำนบูรณำกำร 4.1.3) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนพ้ืนฐำน ให้ใช้สำหรับกำรบริหำรงำนตำมหน้ำท่ี และอำนำจของหนว่ ยรับงบประมำณ 4.1.4) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนบุคลำกรภำครัฐ ให้ใช้สำหรับกำรบริหำรงำน บุคลำกรภำครัฐ 4.1.5) งบประมำณรำยจ่ำยสำหรับทุนหมุนเวียน ให้นำไปจ่ำยแก่เงินทุนหมุนเวียน ตำมวงเงินทีก่ ำหนดในกำรอนมุ ัตเิ งินจดั สรร สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 11 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร
การเพ่ิมประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 4.1.6) งบประมำณรำยจ่ำยแผนงำนบริหำรจัดกำรหน้ีภำครัฐ ให้ใช้สำหรับ ชำระต้นเงินกู้ ดอกเบ้ียเงินกู้ หรือค่ำใช้จ่ำยในกำรบริหำรหนี้ ตำมแผนกำรบริหำรหน้ีสำธำรณะ หรือ แผนกำรบริหำรหนข้ี องหนว่ ยรับงบประมำณ 4.1.7) งบประมำณรำยจ่ำยเพ่ือชดใช้เงินคงคลัง และงบประมำณรำยจ่ำย เพื่อชดใช้เงินทุนสำรองจ่ำย ให้เบิกจ่ำยเพื่อชดใช้เงินคงคลังและเงินทุนสำรองจ่ำยตำมวิธีกำรท่ีกรมบัญชีกลำง กำหนด 4.2) การโอนงบประมาณรายจ่าย การโอนเงินจัดสรรหรือการเปล่ียนแปลง เงินจัดสรร (ตามระเบียบฯ ข้อ 25 ข้อ 26 ข้อ 27 ข้อ 28 และข้อ 29) กำรจัดทำงบประมำณรำยจ่ำย เป็นกำรคำดกำรณ์โดยจัดทำงบประมำณไว้ล่วงหน้ำ เมื่อถึงเวลำท่ีนำไปใช้จ่ำยจริง สถำนกำรณ์ต่ำงๆ อำจเปลี่ยนแปลงไปทำให้ต้องมีกำรเปลี่ยนแปลงรำยกำรงบประมำณรำยจ่ำยท่ีได้เคยกำหนดไว้ในงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปี เพ่ือควำมยืดหยุ่น และควำมคล่องตัวในกำรดำเนินงำนให้สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน ที่เกิดขึ้น ซ่ึงตำมระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ได้กำหนดกำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย กำรโอนเงินจัดสรรหรือกำรเปลี่ยนแปลงเงนิ จัดสรร ไว้ 3 ลักษณะ ประกอบดว้ ย 4.2.1) กำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย หมำยถึง กำรโอนจำนวนเงินงบประมำณ รำยจ่ำยที่กำหนดไว้ในกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำยจำกแผนงำน หรือผลผลิต หรือโครงกำร หรือ รำยกำรใดๆ ไปต้ังเปน็ งบประมำณรำยจ่ำยของแผนงำน หรอื ผลผลติ หรอื โครงกำร หรือรำยกำรอ่ืน 4.2.2) กำรโอนเงินจัดสรร หมำยถึง กำรโอนจำนวนเงนิ งบประมำณรำยจ่ำยที่สำนัก งบประมำณอนมุ ัติเงินจดั สรรจำกแผนงำน หรอื ผลผลติ หรือโครงกำร หรือรำยกำรใดๆ ไปตั้งเป็นเงินจัดสรร ของแผนงำนหรอื ผลผลิต หรือโครงกำร หรือรำยกำรอื่น 4.2.3) กำรเปล่ียนแปลงเงินจัดสรร หมำยถึง กำรเปลี่ยนแปลงรำยกำรและ/หรือ จำนวนเงินจดั สรรที่ได้รับอนุมัตจิ ดั สรรจำกสำนกั งบประมำณ สำหรบั ในกรณที ่ีหนว่ ยรับงบประมำณมีควำมจำเป็นต้องโอนงบประมำณรำยจ่ำย โอนเงิน จดั สรรหรือเปล่ียนแปลงเงินจัดสรรใหด้ ำเนนิ กำร ดงั นี้ (1) กำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย กำรโอนเงินจัดสรรหรือเปล่ียนแปลงเงินจัดสรร หน่วยรับงบประมำณจะต้องมีควำมจำเป็น เพื่อแก้ไขปัญหำกำรปฏิบัติงำน เพิ่มประสิทธิภำพกำรให้บริกำร เพ่ิมคุณภำพกำรให้บริกำร พัฒนำบุคลำกร พัฒนำเทคโนโลยี และจะต้องแสดงเหตุผลควำมจำเป็นหรือ ควำมเหมำะสมได้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชำชน ควำมประหยัด ควำมคุ้มค่ำ ควำมโปร่งใส รวมทั้ง ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั ยุทธศำสตรช์ ำติ แผนแม่บท แผนปฏิรูปประเทศ และเปำ้ หมำยกำรให้บรกิ ำรกระทรวงดว้ ย (2) กำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย หรือกำรโอนเงินจัดสรรจำกแผนงำนหนึ่งไปต้ังจ่ำย ในแผนงำนอื่น ให้กระทำได้เฉพำะกำรโอนระหว่ำงแผนงำนพื้นฐำน หรือระหว่ำงแผนงำนยุทธศำสตร์ หรือระหว่ำงแผนงำนพื้นฐำนและแผนงำนยุทธศำสตร์ ภำยในหน่วยรับงบประมำณเดียวกัน โดยให้ขอ ทำควำมตกลงกับสำนกั งบประมำณ เวน้ แต่จะมกี ฎหมำยบญั ญัติไวเ้ ป็นอย่ำงอน่ื (3) กำรโอนเงินจัดสรร และ/หรือกำรเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรที่ได้รับอนุมัติให้ขยำย เวลำเบิกจ่ำยเงนิ จำกคลังใหข้ อทำควำมตกลงกับสำนักงบประมำณก่อน นอกจำกกรณีที่กล่ำวข้ำงต้น กำรใช้งบประมำณรำยจำ่ ย กำรโอนเงินจัดสรรจำกผลผลิต หรือโครงกำรใดๆ ไปตั้งจ่ำยในผลผลิต หรือโครงกำรอื่นๆ ภำยในแผนงำนเดียวกัน กำรเปล่ียนแปลงเงินจัดสรร รวมถึงกำรเปลี่ยนแปลงรำยละเอียดของเงินจัดสรร สำหรับงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณ และงบประมำณรำยจ่ำยบูรณำกำรให้ถือปฏิบัติตำมหลักเกณฑ์ว่ำด้วยกำรใช้งบประมำณรำยจ่ำย กำรโอน เงนิ จดั สรรหรือกำรเปลยี่ นแปลงเงนิ จัดสรร ทส่ี ำนกั งบประมำณกำหนด สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 12 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 5) การประเมินผลและการรายงาน (ตามระเบียบฯ ข้อ 34 ข้อ 35 และข้อ 36) กำรบริหำรงบประมำณก็เพ่ือต้องกำรให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณเป็นไปตำมเป้ำหมำย หรือเพ่ือให้บรรลุ วัตถุประสงค์ในเร่ืองต่ำงๆ ที่กำหนดไว้ และเม่ือมีกำรใช้จ่ำยงบประมำณแล้วจำเป็นต้องมีกำรติดตำม ตรวจสอบ และประเมินผลว่ำใช้จ่ำยงบประมำณเป็นไปตำมแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำย และ ปฏิบัติตำมขั้นตอนของระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 และระเบียบ/หลักเกณฑ์อ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข้องหรือไม่ สำหรับกำรรำยงำนผลถือเป็นวิธีกำร/ข้ันตอนในกำรตรวจสอบให้มีกำรรำยงำนผล กำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณในช่วงท่ีผ่ำนมำเพ่ือทบทวนผลกำรปฏิบัติงำนตำมแผนฯ ท่ีกำหนดไว้ว่ำเป็นอย่ำงไร รวมท้ังมีปัญหำ อุปสรรค และแนวทำงแก้ไขตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่ สำนักงบประมำณกำหนดหรือไม่ และจัดทำรำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณส่งให้ สำนักงบประมำณตำมหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ข้อ 34 และข้อ 35 เพ่ือใหส้ ำนักงบประมำณนำผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยตำมข้อ 36 ไปประกอบกำรพจิ ำรณำจัดทำงบประมำณรำยจำ่ ยในปงี บประมำณถัดไป จำกควำมสำคัญของกระบวนกำรติดตำม กำรประเมินผลและกำรรำยงำนผลตำม ระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ซึ่งได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีกำร และระยะวลำให้หน่วยรับ งบประมำณจดั ใหม้ ีระบบกำรรำยงำนผลกำรปฏบิ ัตงิ ำนและผลกำรใช้จำ่ ยงบประมำณและใหจ้ ัดทำรำยงำน ดังนี้ (1) รำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณตำมวัตถุประสงค์และ เป้ำหมำยหรือตัวชี้วัดท่ีกำหนดไว้หรือตำมที่ได้ตกลงกับสำนักงบประมำณภำยใต้แผนกำรปฏิบัติงำนและ แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ พร้อมท้ังระบุปัญหำ อุปสรรคและแนวทำงแก้ไขตำมหลักเกณฑ์ และวิธีกำร ที่สำนักงบประมำณกำหนด และจัดส่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ภำครัฐเมื่อส้ินระยะเวลำในแต่ละไตรมำส ภำยในสิบหำ้ วันนบั แต่วนั สนิ้ ไตรมำส (2) รำยงำนประจำปีที่แสดงถึงควำมสำเร็จในกำรปฏิบัติงำนและกำรใช้งบประมำณ รำยจ่ำยที่เช่ือมโยงกับเป้ำหมำยกำรให้บริกำรกระทรวง ยุทธศำสตร์ชำติ แผนแม่บทภำยใต้ยุทธศำสตร์ชำติ และแผนปฏิรูปประเทศโดยมีค่ำเป้ำหมำยและตัวช้ีวัดที่ชัดเจน และจัดส่งให้สำนักงบประมำณภำยใน ส่ีสิบห้ำวนั นับแตว่ นั สนิ้ ปงี บประมำณ (3) รำยงำนกำรปรับแผนกำรปฏิบตั ิงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ กำรใช้งบประมำณ รำยจำ่ ยและกำรกำรโอนเปลย่ี นแปลงเงินจัดสรร สำหรับในกรณีแผนงำนบูรณำกำร ให้หน่วยรับงบประมำณที่เป็นเจ้ำภำพหลัก จัดทำ รำยงำนผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณของแผนงำนบูรณำกำร ตำมเป้ำหมำยหรือตัวช้ีวัด ที่กำหนดไว้ หรือตำมที่ได้ตกลงกับสำนักงบประมำณ พร้อมท้ังระบุปัญหำ อุปสรรคและแนวทำงแก้ไข ตำมหลักเกณฑ์ และวิธีกำรท่ีสำนักงบประมำณกำหนด และจัดส่งให้สำนักงบประมำณภำยในสิบห้ำวัน นบั แต่วันสิ้นไตรมำส นอกจำกนี้สำนักงบประมำณจะรำยงำนผลตอ่ คณะรัฐมนตรภี ำยในเกำ้ สิบวนั นับแต่วัน สิ้นปีงบประมำณ พร้อมทั้งเสนอแนวทำงกำรแก้ไขปัญหำและอุปสรรคจำกกำรใช้งบประมำณรำยจ่ำย เพื่อให้หน่วยรับงบประมำณดำเนินกำรปรับปรุงแก้ไขภำยในระยะเวลำที่กำหนด และสำนักงบประมำณ จะใช้ผลกำรปฏิบัติงำนและผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ประกอบกำรพิจำรณำจัดทำงบประมำณรำยจ่ำย ในปีงบประมำณตอ่ ไป สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 13 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร
การเพิ่มประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 2.2.2 การบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง (ตามระเบียบฯ ข้อ 30 ข้อ 31 ขอ้ 32 และ ข้อ 33) งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงเป็นรำยกำรงบประมำณรำยจ่ำยที่ต้ังไว้เพ่ือจัดสรรให้แก่หน่วยรับ งบประมำณใช้จ่ำย โดยแยกต่ำงหำกจำกงบประมำณรำยจ่ำยของหน่วยรับงบประมำณ โดยปกติกำหนดไว้ เพ่ือใชจ้ ำ่ ยในหลำยกรณี เช่น กรณีเป็นงบบุคลำกรท่ีทุกหน่วยงำนใช้จ่ำยในรำยกำรเดียวกันร่วมกัน เช่น เงินเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนำญ เงนิ ชว่ ยเหลอื ขำ้ รำชกำร ลูกจ้ำงและพนกั งำนของรัฐ เป็นตน้ เป็นค่ำใช้จ่ำยตำมนโยบำยและโครงกำรพิเศษของรัฐบำล เช่น ค่ำใช้จ่ำยในกำรชำระหน้ี กองทนุ หมูบ่ ำ้ นและชุมชนเมอื ง คำ่ ใช้จำ่ ยในกำรพัฒนำศกั ยภำพหม่บู ้ำนและชุมชน เป็นต้น เป็นค่ำใช้จ่ำยในกรณีที่ยังไม่สำมำรถกำหนดเป้ำหมำยหรือวงเงินค่ำใช้จ่ำยไว้ล่วงหน้ำได้ เช่น เงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น คำ่ ใช้จำ่ ยตำมโครงกำรอนั เนื่องมำจำกพระรำชดำริ เป็นตน้ เป็นค่ำใชจ้ ่ำยในกำรปรับปรุงยุทธศำสตร์และนโยบำยเพื่อตอบสนองให้ทนั กับสถำนกำรณ์ ทีเ่ ปลี่ยนแปลง เช่น คำ่ ใชจ้ ำ่ ยเพื่อปรบั กลยทุ ธแ์ ละรองรับกำรเปลยี่ นแปลง เป็นต้น ตำมพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 มำตรำ 36 วรรคสอง บัญญัติไว้ว่ำ “รำยจ่ำยต่ำงๆ ที่กำหนดไว้ในงบกลำงให้ผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณ มีอำนำจจัดสรรให้หน่ วยรับ งบประมำณเบิกจ่ำยโดยตรง หรือเบิกจ่ำยในรำยกำรต่ำงๆ ของหน่วยรับงบประมำณน้ันๆ ได้ตำม ควำมจำเป็น” โดยปกติงบประมำณรำยจำ่ ยงบกลำงมิได้กำหนดไว้สำหรับหนว่ ยรบั งบประมำณใดโดยเฉพำะ ดังน้ัน เม่ือหน่วยรับงบประมำณใดมีควำมจำเป็นต้องใช้งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงรำยกำรใดๆ ให้ทำ ควำมตกลงกับสำนักงบประมำณเป็นกรณีไป และมำตรำ 36 วรรคสำม บัญญัติไว้ว่ำ “ในกรณีท่ีมีควำม จำเป็นผู้อำนวยกำรสำนักงบประมำณโดยอนุมัตินำยกรัฐมนตรีจะโอนงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงรำยกำร ใดรำยกำรหนง่ึ ไปเพม่ิ รำยกำรอน่ื ๆ ในงบกลำงดว้ ยก็ได้” ทั้งน้ี เมื่อสำนักงบประมำณได้ให้ควำมตกลงในกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรใดแล้ว จะจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงรำยกำรน้ันให้หน่วยรับงบประมำณท่ีสำนักเบิก ท่ีขอรับกำรจัดสรรงบประมำณ โดยสำนักงบประมำณจะจัดทำเป็นหนังสือและจัดส่งข้อมูลด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ภำครัฐ และให้ถือว่ำวันที่ได้จัดส่งเอกสำรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่ำวเป็นวันที่ได้รับกำรจัดสรร งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง ท้ังน้ีให้หัวหน้ำหน่วยรับงบประมำณที่ได้รับอนุมัติให้ใช้งบประมำณรำยจ่ำย งบกลำงใดแล้วต้องรับผิดชอบในกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำงรำยกำรนั้นให้เป็นไปตำมระเบียบ ว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 และระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2561 รวมท้ังจะต้องใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย งบกลำงให้เป็นไปด้วยควำมเรียบร้อยอย่ำงมีประสิทธิภำพ โปร่งใส คุ้มค่ำ เป็นประโยชน์อย่ำงแท้จริง ต่อกำรบริหำรรำชกำรแผ่นดิน และจะต้องเป็นกำรรักษำวินัยทำงกำรเงินกำรคลังของรัฐเช่นเดียวกับ กำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจ่ำยสำหรบั หนว่ ยรับงบประมำณนั้นๆ ดว้ ย สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 14 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผ้แู ทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ สรปุ ความรบั ผิดชอบของหน่วยงานทเี่ ก่ียวข้องในการบริหารงบประมาณ หน่วยรบั งบประมาณ สานักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง 1) จัดทำแผนกำรปฏบิ ัติงำนและ 1) อนมุ ตั ิแผนกำรปฏบิ ตั ิงำนและ 1) ควบคมุ ดูแล และตรวจสอบ แผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณเสนอให้ แผนกำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณ กำรเบิกจ่ำยเงนิ ของหน่วยรับ สำนกั งบประมำณเห็นชอบ 2) อนุมตั เิ งนิ จัดสรรใหห้ น่วยรับ งบประมำณ กำรก่อหนผี้ กู พัน 2) กำรเบิกจำ่ ยงบประมำณตำม กำรนำเงนิ ส่งคลัง และกำรถอนคนื หลกั เกณฑ์วำ่ ด้วยกำรใช้ งบประมำณ เงินรำยไดข้ องหนว่ ยรับงบประมำณ งบประมำณรำยจำ่ ย กำรโอน 3) อนุมตั กิ ำรโอนและหรือเปลีย่ นแปลง 2) กำรบริหำรเงนิ คงคลงั ของประเทศ เงินจดั สรรหรือกำรเปลีย่ นแปลง เงินจัดสรร ทสี่ ำนักงบประมำณ รำยกำรงบประมำณ กรณีที่ กำหนด นอกเหนอื อำนำจของหน่วยรับ 3) โอนและหรอื เปล่ยี นแปลงรำยกำร งบประมำณ งบประมำณ กรณีท่เี ป็นอำนำจ ของหวั หนำ้ หน่วยงำนของรฐั 2.3 กฎหมาย ระเบยี บ ประกาศ และมตคิ ณะรัฐมนตรีทีเ่ กย่ี วขอ้ ง 2.3.1 รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 62 วรรคแรก รัฐต้องรักษำวินัยกำรเงินกำรคลังอย่ำงเคร่งครัดเพื่อให้ฐำนะ ทำงกำรเงินกำรคลังของรัฐมีเสถียรภำพและมั่นคงอย่ำงย่ังยืนตำมกฎหมำยว่ำด้วยวินัยกำรเงินกำรคลังของรัฐ และจัดระบบภำษใี หเ้ กดิ ควำมเปน็ ธรรมแกส่ งั คม มาตรา 140 กำรจำ่ ยเงินแผ่นดนิ จะกระทำได้เฉพำะท่ีได้อนุญำตไว้ในกฎหมำยว่ำด้วย งบประมำณรำยจ่ำย กฎหมำยว่ำด้วยวิธีกำรงบประมำณ หรือกฎหมำยเกี่ยวด้วยกำรโอนงบประมำณ กฎหมำยว่ำด้วยเงินคงคลัง หรือกฎหมำยว่ำด้วยวินัยกำรเงินกำรคลังของรัฐ เว้นแต่ในกรณีจำเป็นรีบด่วน จะจ่ำยไปก่อนก็ได้ แต่ต้องเป็นไปตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรท่ีกฎหมำยบัญญัติในกรณีเช่นว่ำน้ี ต้องต้ัง งบประมำณรำยจ่ำยชดใช้ในพระรำชบัญญัติโอนงบประมำณรำยจ่ำยหรือพระรำชบัญญัติงบประมำณ รำยจ่ำยเพมิ่ เติม หรอื พระรำชบญั ญัตงิ บประมำณรำยจ่ำยประจำปงี บประมำณถดั ไป มาตรา 141 วรรคแรก งบประมำณรำยจ่ำยของแผ่นดินให้ทำเป็นพระรำชบัญญัติ ถ้ำพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณออกไม่ทันปีงบประมำณใหม่ ให้ใช้กฎหมำย ว่ำด้วยงบประมำณรำยจำ่ ยในปงี บประมำณปีกอ่ นน้ันไปพลำงก่อน มาตรา 142 ในกำรเสนอร่ำงพระรำชบญั ญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ ตอ้ งแสดงแหลง่ ทมี่ ำและประมำณกำรรำยได้ ผลสัมฤทธหิ์ รือประโยชน์ทคี่ ำดว่ำจะได้รบั จำกกำรจำ่ ยเงินและ ควำมสอดคล้องกับยุทธศำสตร์ชำติและแผนพัฒนำต่ำงๆ ทั้งนี้ ตำมหลักเกณฑ์ทีบ่ ญั ญตั ิไว้ในกฎหมำยวำ่ ด้วย วนิ ยั กำรเงนิ กำรคลังภำครฐั สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 15 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ มาตรา 258 ใหด้ ำเนินกำรปฏิรปู ประเทศอยำ่ งน้อยในด้ำนต่ำงๆ ใหเ้ กดิ ผล ดังต่อไปนี้ ค. ด้ำนเศรษฐกจิ (3) ปรับปรุงระบบภำษีอำกรให้มคี วำมเป็นธรรม ลดควำมเหลื่อมล้ำ เพ่ิมพูน รำยได้ของรัฐด้ำนต่ำงๆ อย่ำงมีประสิทธิภำพ และปรับปรุงระบบกำรจัดทำและกำรใช้จ่ำยงบประมำณให้มี ประสทิ ธภิ ำพและสมั ฤทธิ์ผล 2.3.2 พระราชบญั ญัตวิ ินยั การเงินการคลงั ภาครัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 9 คณะรฐั มนตรีต้องรักษำวนิ ัยในกิจกำรท่ีเก่ียวกบั เงนิ แผ่นดนิ ตำมพระรำชบญั ญัตินี้ อย่ำงเคร่งครัด ในกำรพิจำรณำเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบำยกำรคลัง กำรจัดทำงบประมำณ กำรจัดหำรำยได้ กำรใช้จ่ำย กำรบริหำรกำรเงินกำรคลัง และกำรก่อหนี้ คณะรัฐมนตรีต้องพิจำรณำ ประโยชน์ที่รัฐหรือประชำชนจะได้รับ ควำมคุ้มค่ำ และภำระกำรเงินกำรคลังที่เกิดข้ึนแก่รัฐ รวมถึงควำมเส่ียง และควำมเสยี หำยทอ่ี ำจเกิดขนึ้ แก่กำรเงินกำรคลงั ของรัฐอยำ่ งรอบคอบ คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหำรรำชกำรแผ่นดินโดยมุ่งสร้ำงควำมนิยมทำงกำรเมือง ทีอ่ ำจก่อใหเ้ กดิ ควำมเสียหำยตอ่ ระบบเศรษฐกจิ ของประเทศและประชำชนในระยะยำว มาตรา 11 ใหค้ ณะกรรมกำรมหี นำ้ ที่และอำนำจ ดังต่อไปน้ี (4) กำหนดสัดส่วนงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยจ่ำยเงินสำรองจ่ำย เพ่ือกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สัดส่วนงบประมำณเพ่ือกำรชำระหน้ีภำครัฐ สัดส่วนกำรก่อหน้ีผูกพัน งบประมำณรำยจ่ำยข้ำมปีงบประมำณ สัดส่วนกำรก่อหนี้ผูกพันเกินกว่ำหรือนอกเหนือไปจำกท่ีกำหนดไว้ ในกฎหมำยวำ่ ดว้ ยงบประมำณรำยจ่ำยและสัดสว่ นตำมทกี่ ำหนดไว้ในมำตรำ 50 มาตรา 15 กำรจัดทำกรอบวงเงินงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี ให้นำแผนกำรคลัง ระยะปำนกลำงมำประกอบกำรพิจำรณำด้วย และให้คำนึงถึงภำวะเศรษฐกิจของประเทศ ควำมเป็นธรรม ทำงสังคม นโยบำยงบประมำณ เสถียรภำพและควำมย่ังยืนทำงกำรคลังของประเทศ ควำมจำเป็นที่จะต้อง ใช้จ่ำย กำรจัดเก็บรำยได้แผ่นดิน สถำนะของหน้ีสำธำรณะ และควำมสำมำรถในกำรกู้เงินเพื่อชดเชย กำรขำดดุลงบประมำณ มาตรา 17 กำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยให้แกห่ นว่ ยงำนของรัฐต้องคำนงึ ถงึ (1) ควำมจำเป็นและภำรกจิ ของหนว่ ยงำนของรฐั ทีข่ อรบั จัดสรรงบประมำณ (2) ฐำนะเงินนอกงบประมำณของหน่วยงำนของรัฐท่ีสำมำรถใช้จ่ำยได้ รวมตลอดถึงรำยได้หรอื เงนิ อนื่ ใดท่ีหนว่ ยงำนของรัฐนั้นมีอยู่หรือสำมำรถนำมำใชจ้ ่ำยได้ (3) ควำมสำมำรถในกำรใช้จ่ำยและกำรก่อหนี้ผูกพันของหน่วยงำนของรัฐ ภำยในปงี บประมำณน้นั (4) กำรปฏิบัติหน้ำที่โดยอิสระของรัฐสภำ ศำลยุติธรรม ศำลปกครอง ศำลรัฐธรรมนูญ องคก์ รอิสระตำมรฐั ธรรมนญู และองค์กรอัยกำร กรณีองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ต้องเป็นไปเพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ในกำรทำหน้ำที่ดูแลและจัดทำบริกำรสำธำรณะและกิจกรรมสำธำรณะเพ่ือประโยชน์ของประชำชน ในท้องถ่ินโดยคำนึงถึงควำมสำมำรถในกำรหำรำยได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจน ควำมเหมำะสมและควำมแตกต่ำงขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ แตล่ ะรูปแบบ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 16 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพมิ่ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ มาตรา 19 กำรเสนอกฎหมำยว่ำด้วยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีให้เป็นไปตำม กฎหมำยว่ำด้วยวิธีกำรงบประมำณ โดยต้องแสดงแหล่งท่ีมำและประมำณกำรรำยได้ ผลสัมฤทธิ์หรือ ประโยชน์ทค่ี ำดว่ำจะได้รับจำกกำรจำ่ ยเงิน และควำมสอดคล้องกับยุทธศำสตร์ชำติและแผนพฒั นำต่ำง ๆ ดว้ ย มาตรา 20 กำรต้ังงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีต้องดำเนินกำรตำมหลักเกณฑ์ ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) งบประมำณรำยจ่ำยลงทุน ต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่ำร้อยละย่ีสิบของ งบประมำณรำยจ่ำยประจำปี และตอ้ งไมน่ อ้ ยกวำ่ วงเงินส่วนท่ขี ำดดลุ ของงบประมำณประจำปีน้นั (2) งบประมำณรำยจ่ำยเก่ียวกับบุคลำกรของรัฐและสวัสดิกำรของ บุคลำกรของรฐั ตอ้ งตั้งไว้อยำ่ งพอเพยี ง (3) งบประมำณรำยจ่ำยเพื่อกำรชำระหนี้ภำครัฐซ่ึงเป็นหน้ีสำธำรณะ ท่ีกระทรวงกำรคลังกู้หรือค้ำประกัน ต้องตั้งเพ่ือกำรชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบ้ีย และค่ำใช้จ่ำยในกำรกู้เงิน อยำ่ งพอเพยี ง (4) ภำระทำงกำรเงินท่ีมีกฎหมำยบัญญัติให้รัฐบำลต้องส่งเงินเข้ำสมทบ หรอื ชดเชยเพอ่ื กำรใด ๆ ตอ้ งต้ังงบประมำณรำยจ่ำยให้ตำมเวลำทีก่ ฎหมำยกำหนด (5) ภำระทำงกำรเงินเพ่ือชดเชยต้นทุนทำงกำรเงินและกำรบริหำรจัดกำร รวมทั้งควำมเสียหำยจำกกำรดำเนินกิจกรรม มำตรกำร หรือโครงกำรตำมมำตรำ 28 ต้องตั้งงบประมำณ รำยจ่ำยให้ในโอกำสแรกที่กระทำได้ (6) งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น ให้ตั้งได้เฉพำะเพื่อวัตถุประสงค์ในกำรป้องกันหรือแก้ไขสถำนกำรณ์อันกระทบต่อควำมสงบ เรียบร้อยของประชำชน ควำมม่ันคงของรัฐ กำรเยียวยำหรือบรรเทำควำมเสียหำยจำกภัยพิบัติสำธำรณะ รำ้ ยแรง และภำรกิจท่เี ปน็ ควำมจำเป็นเรง่ ด่วนของรัฐ ในกรณีที่กำรต้ังงบประมำณรำยจ่ำยไม่สำมำรถดำเนินกำรตำมหลักเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้ ในวรรคหนึ่งได้ให้แสดงเหตุผลควำมจำเป็นและมำตรกำรในกำรแก้ไขต่อรัฐสภำพร้อมกับกำรเสนอ ร่ำงพระรำชบญั ญตั ิงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีดว้ ย มาตรา 21 กำรจัดทำงบประมำณรำยจ่ำยเพ่ิมเติม ให้กระทำได้เมื่อมีเหตุผลและ ควำมจำเป็นที่ต้องใช้จ่ำยเงินระหว่ำงปีงบประมำณ โดยไม่สำมำรถรองรับงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี งบประมำณถัดไปได้ และให้ระบทุ มี่ ำของเงนิ ท่ีจะใช้จ่ำยตำมงบประมำณรำยจำ่ ยเพม่ิ เติมดว้ ย มาตรา 22 งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง ให้ต้ังได้เฉพำะในกรณีที่มีเหตุผลและ ควำมจำเป็นท่ีไม่อำจจัดสรรหรือไม่สมควรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยให้แก่หน่วยงำนของรัฐที่รับผิดชอบ ไดโ้ ดยตรง มาตรา 24 กำรโอนงบประมำณรำยจำ่ ยระหว่ำงหน่วยงำนของรฐั จะกระทำมไิ ด้ เวน้ แต่ จะมกี ฎหมำยอนญุ ำตใหก้ ระทำได้ มาตรา 43 กำรก่อหน้ีผูกพนั กำรใช้จ่ำยเงินงบประมำณ หรือเงนิ อื่นของหน่วยงำนของรัฐ ต้องพิจำรณำภำระทำงกำรเงินท่ีเกิดขึ้นและข้อผูกพันในกำรชำระเงินตำมสัญญำ และประโยชน์ท่ีรัฐ จะได้รับด้วย สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 17 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร
การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 2.3.3 ระเบียบวา่ ด้วยการกอ่ หน้ีผกู พันขา้ มปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 เพ่ือให้หน่วยรับงบประมำณใช้จ่ำยงบประมำณอย่ำงมีประสิทธิภำพ อำศัยอำนำจ ตำมควำมในมำตรำ 41 แห่งพระรำชบัญญัติวินัยกำรเงินกำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ผู้อำนวยกำรสำนัก งบประมำณโดยอำศัยควำมเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงกำหนดระเบียบไว้ให้หน่วยงำนของรัฐถือปฏิบัติ โดยสรุปเฉพำะในส่วนท่เี ก่ียวขอ้ งกบั กำรศกึ ษำครั้งน้ี ดงั นี้ ข้อ 4 เมื่อคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติรำยกำรและวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ำมปีงบประมำณแล้ว ให้หน่วยรบั งบประมำณดำเนินกำร ดังตอ่ ไปน้ี 1) ในกรณีท่ีเป็นรำยกำรครุภัณฑ์ ท่ีดิน หรือส่ิงก่อสร้ำง ให้เสนอผลกำรจัดซื้อ จัดจ้ำงท่ีได้ดำเนินกำรแล้วต่อสำนักงบประมำณเพ่ือพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบควำมเหมำะสมของรำคำ ก่อนทำสัญญำก่อหน้ีผูกพัน เว้นแต่เป็นรำยกำรที่สำนักงบประมำณได้เคยให้ควำมเห็นชอบควำมเหมำะสม ของรำคำไวแ้ ลว้ 2) ในกรณีท่ีเป็นรำยกำรก่อหน้ีผูกพันซึ่งเป็นรำยจ่ำยประจำในงบดำเนินงำน งบเงินอุดหนุนหรืองบรำยจ่ำยอ่ืน ให้ดำเนินกำรก่อหนี้ผูกพันภำยในวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ทั้งน้ี ตำมหลักเกณฑ์ เง่อื นไข หรือวธิ ีปฏิบัติท่ีกระทรวงกำรคลังกำหนด รวมทงั้ กฎหมำย ขอ้ บังคับ ระเบียบ และ มติคณะรฐั มนตรีทเี่ กี่ยวข้อง ตลอดจนมำตรฐำนของทำงรำชกำร โดยใหค้ ำนงึ ถึงควำมคมุ้ ค่ำและประหยัด ข้อ 5 กำรเสนอให้สำนักงบประมำณพิจำรณำควำมเหมำะสมของรำคำตำมข้อ 4 สำหรับรำยกำรครุภัณฑ์ ที่ดิน และส่ิงก่อสร้ำง ไม่ว่ำจะเบิกจ่ำยในงบรำยจ่ำยใด ให้หน่วยรับงบประมำณ เสนอรำยละเอียดประกอบ ดังต่อไปน้ี (1) รำยกำรครุภณั ฑ์แต่ละรำยกำร ใหร้ ะบุรำคำกลำงและคณุ ลักษณะเฉพำะของ แตล่ ะรำยกำรทีก่ ำหนดไว้ (2) รำยกำรท่ีดิน ให้ระบุรำคำกลำงที่กำหนดไว้ เนื้อที่ของที่ดินและแผนผัง สังเขปของที่ดินแต่ละรำยกำร จังหวัด อำเภอ และตำบล ซึ่งเป็นที่ต้ังของที่ดิน รวมท้ังรำคำกลำงของท่ีดิน ซ่ึงกรมที่ดินเป็นผู้ประมำณกำร รำคำที่ดินท่ีซ้ือขำยกันในท้องตลำดในบริเวณและเวลำใกล้เคียง และรำคำ ท่ีดนิ ซง่ึ ทำงรำชกำรประเมนิ เพ่ือเสียภำษี (3) รำยกำรก่อสร้ำง ให้ระบุประเภทของสิ่งก่อสร้ำง รำคำกลำงท่ีกำหนดไว้ แบบรูปและรำยกำรก่อสร้ำง หรือรำยละเอียดอ่ืนใดที่จะเป็นประโยชน์ในกำรพิจำรณำของสำนัก งบประมำณ เช่น ขนำด หรือเนื้อที่ของอำคำรท่ีจะก่อสร้ำง เว้นแต่สิ่งก่อสร้ำงน้ันๆ เป็นส่ิงก่อสร้ำงที่สำนัก งบประมำณได้กำหนดแบบแปลนมำตรฐำนข้ึนไว้ หรือหน่วยรับงบประมำณได้กำหนดแบบแปลนมำตรฐำน ซ่ึงได้รับควำมเห็นชอบจำกสำนักงบประมำณแล้ว ไม่ต้องส่งแบบรูปและรำยกำรก่อสร้ำงให้สำนัก งบประมำณ ข้อ 6 เมื่อได้รับควำมเห็นชอบเกี่ยวกับควำมเหมำะสมของรำคำจำกสำนักงบประมำณแล้ว ให้หน่วยรบั งบประมำณดำเนินกำรทำสญั ญำก่อหนี้ผกู พันตำมวงเงินและรำยละเอียดที่สำนักงบประมำณกำหนด วงเงินและรำยละเอียดที่สำนักงบประมำณได้ให้ควำมเห็นชอบแล้ว จะเปลี่ยนแปลง แก้ไขมไิ ด้ เว้นแต่ไดท้ ำควำมตกลงกับสำนักงบประมำณ ข้อ 7 ในกรณีท่ีมีควำมจำเป็นต้องเปล่ียนแปลงรำยกำร วงเงิน ระยะเวลำ หรือ รำยละเอียดของรำยกำรก่อหนี้ผูกพันข้ำมปีงบประมำณท่ีได้รับอนุมัติจำกคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้หน่วยรับ งบประมำณดำเนินกำร ดังตอ่ ไปนี้ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 18 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร
การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 1) กำรเปล่ียนแปลงรำยละเอียดของรำยกำรโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหน้ีผูกพัน ให้ทำควำมตกลงกับสำนกั งบประมำณ 2) กำรขยำยระยะเวลำก่อหน้ีผูกพันโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหน้ีผูกพัน ให้เสนอขอ อนมุ ัตติ อ่ รัฐมนตรีเจ้ำสงั กดั และรำยงำนสำนักงบประมำณทรำบภำยในสบิ ห้ำวันนับแตว่ นั ทไ่ี ด้รับอนุมัติ 3) กำรเปล่ียนแปลงรำยกำรหรือกำรเพ่ิมวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินวงเงินท่ี คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้เสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยต้องส่งผลกำรจัดซื้อจัดจ้ำงหรือรำยละเอียด อ่นื ใดท่ีเกยี่ วข้องให้สำนักงบประมำณพิจำรณำเพื่อเสนอควำมเห็นประกอบกำรพิจำรณำของคณะรัฐมนตรีด้วย ท้ังน้ี กำรขอเพ่มิ วงเงนิ ทต่ี อ้ งขยำยระยะเวลำกอ่ หนี้ผูกพันให้เสนอขออนุมตั ิคณะรฐั มนตรีในครำวเดียวกัน ให้สำนักงบประมำณกำหนดหลักเกณฑ์ หรอื วิธีปฏิบัตเิ ก่ียวกบั กำรเปล่ยี นแปลงรำยละเอยี ด ของรำยกำรก่อหนี้ผูกพันตำมข้อ 1) รวมท้ังกำรบริหำรวงเงินงบประมำณรำยจ่ำยที่ตั้งไว้สำหรับรำยกำรก่อหนี้ ผกู พันข้ำมปีได้ตำมควำมเหมำะสม ข้อ 8 กำรขออนุมตั ิเงินจัดสรรและกำรใช้รำยจ่ำยตำมระเบยี บนี้ ให้ปฏิบัตติ ำมระเบียบ วำ่ ด้วยกำรบรหิ ำรงบประมำณโดยอนุโลม 2.3.4 ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสารองจ่ายเพื่อกรณี ฉุกเฉนิ หรอื จาเปน็ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2561 เพ่ือให้กำรใช้จ่ำยเงินงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณี ฉุกเฉินหรือจำเป็น สอดคล้องกับพระรำชบัญญัติวินัยกำรเงินกำรคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 อำศัยอำนำจ ตำมควำมในมำตรำ 33 และมำตรำ 36 วรรคสอง แห่งพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 สำนักงบประมำณจึงกำหนดระเบียบไว้ดงั ตอ่ ไปนี้ หมวด 1 การขอรับการจดั สรร ข้อ 5 กำรขอรับกำรจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำย เพ่อื กรณฉี กุ เฉินหรือจำเปน็ ใหก้ ระทำไดใ้ นกรณที เ่ี ปน็ รำยจำ่ ย ดังนี้ 1) เป็นรำยจ่ำยเพื่อกำรป้องกันหรือแก้ไขสถำนกำรณ์อันมีผลกระทบต่อควำม สงบเรยี บรอ้ ยของประชำชน หรอื ควำมม่ันคงของรัฐ 2) เป็นรำยจ่ำยที่จำเป็นต้องจ่ำยเพื่อกำรเยียวยำหรือบรรเทำควำมเสียหำยจำก ภยั พบิ ตั สิ ำธำรณะรำ้ ยแรง 3) เป็นรำยจ่ำยท่ีได้รับจัดสรรงบประมำณไว้แล้ว แต่มีจำนวนไม่เพียงพอและมี ควำมจำเป็นเร่งดว่ นของรฐั ต้องใช้จำ่ ยหรอื ก่อหนผี้ กู พนั งบประมำณโดยเรว็ 4) เป็นรำยจ่ำยท่ีไม่ได้รับจัดสรรงบประมำณ แต่รัฐมีภำรกิจจำเป็นเร่งด่วนท่ีจะต้อง ดำเนนิ กำรและต้องใช้จำ่ ยหรือก่อหน้ีผกู พนั งบประมำณโดยเรว็ ขอ้ 6 ส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกิจ หน่วยงำนอ่ืน จะขอรับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ เพื่อใช้จ่ำยตำมข้อ 5 ได้แต่เฉพำะกรณีไม่สำมำรถปรับแผนฯ ได้ หรือปรับแผนฯ แล้วแตง่ บประมำณยังไม่เพียงพอ ขอ้ 7 กำรขอรับจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ ให้สว่ นรำชกำร รฐั วิสำหกจิ หน่วยงำนอนื่ จดั ทำรำยละเอยี ด ดงั น้ี 1) คำชี้แจงเกี่ยวกับเหตุผลควำมจำเป็นในกำรขอใช้งบประมำณรำยจ่ำย พรอ้ มเอกสำรประกอบ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 19 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2) วัตถุประสงค์ของกำรขอใช้งบประมำณรำยจ่ำยและควำมสอดคล้องของ ยุทธศำสตร์ชำติ นโยบำยรัฐบำล แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ แผนควำมมั่นคงแห่งชำติ รวมทั้ง มติคณะรฐั มนตรีท่ีเกย่ี วขอ้ ง 3) แผนกำรปฏบิ ตั ิงำนและแผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณทขี่ อรับจัดสรรเปน็ รำยเดือน 4) สำนักเบกิ ท่จี ะดำเนนิ กำรเบกิ จำ่ ย 5) รำยละเอียดประกอบกำรพจิ ำรณำตำมท่สี ำนักงบประมำณกำหนด หมวด 2 การจดั สรร ข้อ 10 สำนักงบประมำณจะพิจำรณำจัดสรรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำร เงินสำรองจ่ำยฯ โดยจะพิจำรณำควำมเหมำะสมของวงเงินที่จะใช้จ่ำยเสนอนำกยกรัฐมนตรีให้ควำมเห็นชอบ ก่อนพจิ ำรณำ ดังนี้ 1) กรณีวงเงินที่ขอรับกำรจัดสรรคร้ังละไม่เกิน 10 ล้ำนบำท สำนักงบประมำณ จะเสนอนำยกรัฐมนตรเี พ่ือทรำบกอ่ นพิจำรณำอนุมัติ 2) กรณวี งเงินที่ขอรับกำรจัดสรรครั้งละเกิน 10 ล้ำนบำท แต่ไม่เกิน 100 ล้ำนบำท สำนักงบประมำณจะเสนอนำยกรฐั มนตรีเพ่ือพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ ในกรณที ่ีนำยกรัฐมนตรีเห็นสมควร ให้นำเสนอคณะรฐั มนตรีเพื่อพิจำรณำก่อน สำนักงบประมำณจะแจ้งให้ส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกิจ หน่วยงำนอ่ืน นำเร่ืองเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยเสนอผ่ำนรองนำยกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเจ้ำสังกัดหรือรัฐมนตรี ทกี่ ำกบั ดูแล แล้วแตก่ รณี 3) กรณีวงเงินเกิน 100 ล้ำนบำท สำนักงบประมำณจะเสนอเรื่องต่อนำยกรัฐมนตรี เพ่ือพิจำรณำให้ควำมเห็นชอบ เม่ือนำยกรัฐมนตรีให้ควำมเห็นชอบแลว้ สำนักงบประมำณจะแจง้ ให้ส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกิจ หน่วยงำนอื่น นำเรื่องเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรี โดยเสนอผ่ำนรองนำยกรัฐมนตรี รัฐมนตรี เจำ้ สงั กัดหรอื รฐั มนตรที ่ีกำกบั ดแู ล แลว้ แต่กรณี หมวด 3 การใชร้ ายจา่ ย และการโอนเปลยี่ นแปลงงบประมาณ ข้อ 11 เม่ือส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกิจ หน่วยงำนอื่น ได้รับกำรจัดสรรงบประมำณ รำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ แล้ว จะต้องดำเนินกำรใช้จ่ำยให้บรรลุผลตำมแผนฯ โดยนำ ระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ซ่ึงบังคับใช้ทดแทนระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำร งบประมำณ พ.ศ. 2548 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติมมำใช้บังคับโดยอนุโลม ท้ังนี้ กำรโอนเปลี่ยนแปลงรำยกำร จะกระทำมิได้ เวน้ แต่จะไดร้ ับควำมตกลงจำกสำนักงบประมำณ หมวด 4 การรายงาน ข้อ 14 ให้ส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกิจ หน่วยงำนอื่น รำยงำนผลกำรดำเนนิ กำรตำมแผนฯ ต่อสำนกั งบประมำณภำยใน 60 วนั ทำกำรนบั แตว่ ันทีก่ ำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณแลว้ เสร็จ ขอ้ 15 ให้สว่ นรำชกำร รัฐวิสำหกิจ หน่วยงำนอ่นื จัดทำสรุปผลกำรปฏิบัติงำนและผล กำรใช้จ่ำยงบประมำณภำยใน 30 วันนับแต่วันส้ินปีงบประมำณ พร้อมทั้งรำยงำนปัญหำ อุปสรรค และ แนวทำงกำรแก้ไขเพ่ือเสนอรองนำยกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีแล้วแต่กรณี และแจ้งสำนักงบประมำณทรำบ เพือ่ สำนักงบประมำณรำยงำนผลต่อคณะรฐั มนตรตี ่อไป สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 20 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2.3.5 ประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เร่ือง กาหนดสัดส่วนต่างๆ เพอ่ื เป็นกรอบวนิ ัยการเงินการคลงั ของรัฐ พ.ศ. 2561 อำศัยอำนำจตำมควำมในมำตรำ 11 (4) แห่งพระรำชบัญญัติวินัยกำรเงินและกำรคลัง ของรัฐ พ.ศ. 2561 และมติคณะกรรมกำรนโยบำยกำรเงินกำรคลังของรัฐในกำรประชุม ครั้งท่ี 1/2561 เมื่อวันที่ 23 พฤษภำคม พ.ศ. 2561 จึงออกประกำศกำหนดสัดส่วนต่ำงๆ เพ่ือเป็นกรอบวินัยกำรเงิน กำรคลังของรัฐ ดงั ต่อไปน้ี 1) สัดส่วนงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเปน็ ต้องต้ังไม่น้อยกว่ำรอ้ ยละ 2 แตไ่ ม่เกนิ ร้อยละ 3.5 ของงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปี 2) สัดส่วนงบประมำณเพื่อชำระคืนตน้ เงินกขู้ องรัฐบำลและหน่วยงำนของรัฐซึ่งรัฐบำล รับภำระตอ้ งตั้งไม่น้อยกวำ่ รอ้ ยละ 2.5 แตไ่ มเ่ กินรอ้ ยละ 3.5 ของงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี 3) สัดส่วนงบประมำณเพื่อกำรชำระดอกเบ้ียและค่ำใช้จ่ำยในกำรกู้เงินของรฐั บำลและ หน่วยงำนของรฐั ซง่ึ รฐั บำลรบั ภำระ ตอ้ งต้ังตำมภำระทค่ี ำดวำ่ จะเกดิ ข้ึนในปงี บประมำณนนั้ 4) สัดส่วนกำรก่อหนี้ผูกพันงบประมำณรำยจ่ำยข้ำมปีงบประมำณ ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี 5) สัดส่วนกำรก่อหนี้ผูกพันเกินกว่ำหรือนอกเหนือไปจำกท่ีกำหนดไว้ในกฎหมำย วำ่ ด้วยงบประมำณรำยจ่ำย ต้องไมเ่ กนิ ร้อยละ 5 ของงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 21 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผูแ้ ทนรำษฎร
การเพิ่มประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2.3.6 มตคิ ณะรฐั มนตรีที่เกยี่ วขอ้ ง 1) หลกั เกณฑแ์ ละแนวทางการโอนงบประมาณรายจา่ ย ปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 – 2561 ตารางที่ 1 เปรยี บเทยี บหลกั เกณฑ์และแนวทางการโอนงบประมาณรายจา่ ย ปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 – 2561 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2559 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2561 มติคณะรัฐมนตรี วนั ที่ 14 ก.ค. 58 มตคิ ณะรัฐมนตรี วนั ท่ี 29 มี.ค. 59 มตคิ ณะรัฐมนตรี วนั ที่ 7 ม.ี ค. 60 มติคณะรัฐมนตรี วนั ท่ี 5 ม.ิ ย. 61 วงเงนิ โอน 7,917.0777 ล้ำนบำท วงเงนิ โอน 22,106.5550 ลำ้ นบำท วงเงนิ โอน 11,866.5123 ล้ำนบำท วงเงนิ โอน 12,730.4977 ลำ้ นบำท วตั ถุประสงค์การโอน วัตถุประสงคก์ ารโอน วัตถุประสงค์การโอน วัตถปุ ระสงคก์ ารโอน เพือ่ ดำเนินกำรตำมนโยบำยสำคญั เร่งด่วน เพื่อให้กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำย เพือ่ ให้กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำย เพื่อใหก้ ำรบริหำรงบประมำณรำยจำ่ ย ของรัฐบำล ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2559 เปน็ ไปอยำ่ ง ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2560 เปน็ ไปอย่ำง ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 เป็นไปอย่ำง หลักการโอน มปี ระสิทธภิ ำพ และสอดคลอ้ งกบั นโยบำย มปี ระสทิ ธภิ ำพ และสอดคลอ้ งกบั นโยบำย มีประสิทธิภำพ และสอดคล้องกบั กำรปฏริ ปู สำคญั เร่งดว่ นของรัฐบำลในกำรกระตุ้น สำคญั เรง่ ดว่ นของรฐั บำลในกำรกระตุ้นกำรใช้ ประเทศ และนโยบำยสำคัญเร่งดว่ นของรัฐบำล เปน็ รำยจำ่ ยลงทุนที่ไม่สำมำรถผกู พัน กำรใชจ้ ่ำยภำครฐั จ่ำยภำครัฐ หลกั การโอน งบประมำณได้ทันภำยในเดือนกรกฎำคม 2558 หลกั การโอน หลักการโอน เปน็ รำยจำ่ ยลงทุน และเป็นรำยกำรปเี ดยี ว 1) เป็นรำยจ่ำยลงทุนท่ีไมส่ ำมำรถลง เปน็ รำยจ่ำยลงทุนทีไ่ มส่ ำมำรถลงนำม ท่ีไม่สำมำรถก่อหนผ้ี กู พันไดท้ ันภำยในวนั ที่ 31 นำมจัดซ้ือจดั จำ้ งได้ภำยในวันท่ี 31 มีนำคม 2559 จัดซ้อื จดั จ้ำงไดท้ ันภำยในวันที่ 31 มีนำคม 2560 พฤษภำคม 2561 ไม่รวมงบกลำง ไม่รวมงบกลำง ไมร่ วมงบกลำง ยกเว้น ยกเวน้ 2) เป็นรำยจำ่ ยลงทนุ ที่มีวงเงินเหลอื จำ่ ย 1) รำยจ่ำยประจำ หรอื งบประมำณเหลอื จ่ำย ต่อรำยกำรไมต่ ่ำกวำ่ 100,000 บำท 1) รำยจำ่ ยประจำ และงบประมำณเหลอื ของรำยจ่ำยลงทุน จ่ำยของรำยจำ่ ยลงทนุ 3) เป็นรำยจ่ำยประจำทีห่ มดควำมจำเป็น 2) รำยจำ่ ยลงทุนทเ่ี ป็นรำยกำรกอ่ หน้ีผกู พนั หรือไมส่ ำมำรถดำเนินกำรไดต้ ำมเป้ำหมำย 2) รำยจ่ำยลงทนุ ทีม่ วี งเงินแตล่ ะรำยกำร ขำ้ มปีงบประมำณ ท่กี ำหนด เกนิ กว่ำ 1,000 ล้ำนบำท ยกเว้น 3) รำยจ่ำยลงทุนท่เี ป็นงำนดำเนินกำรเอง 3) รำยจำ่ ยลงทุนทเ่ี ป็นงำนดำเนนิ กำรเอง 4) รำยจ่ำยลงทนุ ท่เี ป็นคำ่ จัดกรรมสิทธท์ิ ีด่ ิน 4) รำยจำ่ ยลงทุนที่เป็นงำนดำเนนิ กำรเอง ค่ำจดั กรรมสทิ ธ์ิทีด่ นิ รำยกำรในงบลงทุนที่มี 5) รำยจำ่ ยลงทนุ ทม่ี ีคณุ ลกั ษณะพเิ ศษหรือ ค่ำกรรมสทิ ธท์ิ ด่ี ิน รำยกำรท่มี ลี กั ษณะพเิ ศษ คุณลักษณะพเิ ศษหรอื ต้องจัดหำจำก จัดซ้ือจำกตำ่ งประเทศ ตอ้ งใช้เทคโนโลยีหรือข้อเทคนิคพิเศษช้ันสงู ตำ่ งประเทศ หรือรำยกำรทีค่ ณะรฐั มนตรี หรือต้องจัดหำจำกต่ำงประเทศ รำยกำรท่ี สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 22 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2561 ตัง้ จ่ายเป็น คณะรฐั มนตรีเห็นชอบในกำรขยำยระยะเวลำ พจิ ำรณำใหค้ วำมเห็นชอบในกำรขยำย 6) รำยจำ่ ยลงทุนท่สี ว่ นรำชกำร รฐั วสิ ำหกจิ งบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ จำนวน และเงินงบประมำณเหลอื จำ่ ย ระยะเวลำ และหน่วยงำนอ่นื ดำเนินกำรขออทุ ธรณก์ บั 7,917.0777 ล้ำนบำท กรมบญั ชีกลำง 5) รำยจ่ำยลงทนุ ทเ่ี ข้ำสูก่ ระบวนกำรจดั ซือ้ จัดจ้ำงแล้วภำยใน 31 มนี ำคม 2559 และ 7) รำยกำรท่คี ณะรฐั มนตรพี จิ ำรณำใหค้ วำม จะสำมำรถลงนำมจัดซ้อื จดั จำ้ งไดภ้ ำยใน เหน็ ชอบในกำรขยำยระยะเวลำ 31 พฤษภำคม 2559 ตั้งจ่ายเป็น 6) รำยจำ่ ยลงทุนจำกกำรโอนเปลย่ี นแปลง 1) งบกลำง รำยกำรเงนิ สำรองจ่ำยฯ เงินเหลอื จ่ำยจำกรำยจำ่ ยลงทุนหรอื รำยจำ่ ย จำนวน 10,000.0000 ลำ้ นบำท ประจำ ซง่ึ ได้รบั ควำมเห็นชอบจำกรองนำยก รฐั มนตรเี จ้ำสังกดั ให้ดำเนนิ กำรไดโ้ ดยต้อง 2) กองทุนประชำรัฐเพื่อเศรษฐกจิ ฐำนรำก ลงนำมจดั ซอ้ื จดั จ้ำงไดภ้ ำยใน วนั ท่ี 31 จำนวน 2,730.4977 ลำ้ นบำท สิงหำคม 2559 ตัง้ จ่ายเปน็ ตงั้ จา่ ยเปน็ 1) งบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยฯ งบกลำง รำยกำรเงินสำรองจำ่ ยฯ จำนวน 21,885.5550 ลำ้ นบำท จำนวน 11,866.5123 ล้ำนบำท 2) หน่วยงำนของรัฐสภำ จำนวน 21.0000 ลำ้ นบำท 3) เงินทุนหมุนเวียนเพื่อผลติ และขยำย พันธุ์พืช จำนวน 200.0000 ล้ำนบำท ที่มา : พระรำชบัญญตั ิโอนงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2558 - 2561 สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 23 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพมิ่ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ 2) แนวทางการจดั ทางบประมาณรายจ่ายเพ่มิ เติม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 - 2561 ตารางท่ี 2 เปรียบเทยี บแนวทางการจัดทางบประมาณรายจ่ายเพม่ิ เติม ปงี บประมาณ พ.ศ. 2559 - 2561 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2559 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2561 มตคิ ณะรฐั มนตรี วนั ท่ี 19 ม.ค. 2559 มติคณะรฐั มนตรี วนั ท่ี 7 ธ.ค. 2559 มติคณะรัฐมนตรี วนั ท่ี 16 ม.ค. 2561 วงเงนิ เพ่ิมเติม 56,000.00 ล้ำนบำท วงเงนิ เพ่มิ เติม 190,000.00 ล้ำนบำท วงเงินเพ่ิมเติม 150,000.00 ล้ำนบำท วตั ถุประสงค์การจดั ทางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วตั ถุประสงคก์ ารจดั ทางบประมาณรายจา่ ยเพิ่มเติม วตั ถุประสงคก์ ารจดั ทางบประมาณรายจ่ายเพ่ิมเตมิ เพือ่ ให้มงี บประมำณรำยจำ่ ยในกำรดำเนนิ กำร เพือ่ ใหม้ ีงบประมำณรำยจำ่ ยในกำรดำเนินกำร เพือ่ ให้มีงบประมำณรำยจ่ำยในกำรดำเนนิ กำร ตำมนโยบำยเรง่ ดว่ นของรัฐบำลรองรบั กำรปรับ ตำมนโยบำยเร่งดว่ นของรฐั บำลท่จี ะสรำ้ งควำม และขับเคลอ่ื นกำรพฒั นำตำมนโยบำยของรัฐบำล โครงสรำ้ งระบบเศรษฐกิจท่ีให้ควำมสำคญั กับกำร เข้มแข็งและยั่งยนื ให้กับเศรษฐกจิ ภำยในประเทศ ทจ่ี ะรักษำทิศทำงควำมเจริญเตบิ โตทำงเศรษฐกิจ กระจำยควำมเจริญไปส่ภู มู ภิ ำค และเพ่ิมขดี กำรพัฒนำเศรษฐกิจฐำนรำกและชุมชนเขม้ แข็ง ทม่ี ีกำรขยำยตวั ให้เป็นไปอย่ำงตอ่ เนื่อง ควบคู่กบั กำร ควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขันของประเทศ ส่งเสริมกำรเพ่ิมขีดควำมสำมำรถกำรแขง่ ขันของ สรำ้ งควำมเขม้ แขง็ ใหก้ บั เศรษฐกิจภำยในประเทศ แหลง่ ท่ีมาของเงิน อุตสำหกรรมศกั ยภำพ เพ่ือยกระดับรำยได้และพฒั นำ อย่ำงยง่ั ยืน และรักษำวินยั ทำงกำรคลังในกำรตัง้ คณุ ภำพชวี ิตของประชำชนในทกุ ภมู ภิ ำค และเพื่อ งบประมำณรำยจ่ำยเพ่ือชดใช้เงินคงคลัง เป็นรำยได้ของสำนักงำนคณะกรรมกำรกิจกำร รักษำวนิ ัยทำงกำรคลังในกำรต้ังงบประมำณรำยจำ่ ย แหลง่ ที่มาของเงนิ กระจำยเสยี ง กจิ กำรโทรทัศน์ และกิจกำร เพอื่ ชดใช้เงนิ คงคลงั โดยใหค้ วำมสำคัญกับกำรพฒั นำ โทรคมนำคมแห่งชำติ (กสทช.) ที่ได้จำกกำรประมลู ในมติ ิพ้นื ท่ี (Area) 1) รำยไดภ้ ำษแี ละรำยไดอ้ นื่ จำนวน 49,641.92 ล้ำนบำท ใบอนุญำตให้ใช้คลื่นควำมถเ่ี พื่อประกอบกิจกำร แหล่งที่มาของเงนิ 2) เงินกูเ้ พ่อื ชดเชยกำรขำดดุลงบประมำณ จำนวน โทรคมนำคมย่ำน 1,800 MHz และย่ำน 900 MHz 100,358.10 ลำ้ นบำท 1) ภำษแี ละรำยได้อื่น จำนวน 27,078.28 ล้ำนบำท 2) เงินกเู้ พื่อชดเชยกำรขำดดุลงบประมำณ จำนวน 162,921.72 ล้ำนบำท สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 24 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพิ่มประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2559 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 การนาไปใช้ การนาไปใช้ การนาไปใช้ 1) เปน็ ค่ำใชจ้ ่ำยขยำยโครงข่ำยอนิ เทอร์เนต็ 1) รำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจำ่ ยเพื่อกรณี 1) รำยจำ่ ยเพ่ือชดใช้เงนิ คงคลัง จำนวน ให้ครอบคลุมทุกหม่บู ำ้ นท่วั ประเทศและค่ำใช้จ่ำย ฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 22,921.72 ล้ำนบำท 49,641.90 ลำ้ นบำท 2) ค่ำใช้จำ่ ยในกำรดำเนินกำรตำมนโยบำยรฐั บำล กำรเพ่ิมประสิทธภิ ำพโครงข่ำยอนิ เทอร์เน็ต 2) กองทนุ เพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขนั ของ จำนวน 100,358.10 ลำ้ นบำท เพื่อดำเนนิ กำร ดงั น้ี ระหว่ำงประเทศสู่กำรเป็น ASEAN Digital Hub ประเทศสำหรับอุตสำหกรรมเป้ำหมำย จำนวน จำนวน 15,000.00 ล้ำนบำท 10,000.00 ลำ้ นบำท 2.1) เพื่อใชจ้ ่ำยในกำรส่งเสริมและพฒั นำเศรษฐกจิ ฐำนรำกและชุมชน จำนวน 4,600.00 ล้ำนบำท 2) เป็นรำยจำ่ ยงบกลำง รำยกำรเงนิ สำรองจำ่ ย 3) กองทนุ หมู่บ้ำนและชมุ ชนเมอื งแห่งชำติ จำนวน เพ่ือกรณีฉุกเฉนิ หรือจำเปน็ เพ่อื เปน็ คำ่ ใช้จำ่ ย 15,000.00 ล้ำนบำท 2.2) เพ่ือใช้จ่ำยตำมแผนยุทธศำสตรป์ ฏิรูป เสริมสรำ้ งควำมเข้มแขง็ และก้ำวหน้ำของประเทศ โครงสร้ำงกำรผลติ ภำคกำรเกษตร จำนวน ตำมแนวทำงปฏริ ูป จำนวน 32,661.03 ลำ้ นบำท 4) แผนงำนบรู ณำกำรเสรมิ สร้ำงควำมเข้มแข็งและ 24,300.96 ล้ำนบำท ยั่งยนื ใหก้ ับเศรษฐกจิ ภำยในประเทศ จำนวน 3) เพ่ือเปน็ รำยจ่ำยชดใชเ้ งนิ คงคลงั ที่ไดจ้ ำ่ ยเป็น 115,000.00 ล้ำนบำท 2.3) เพื่อใช้จำ่ ยตำมแผนยุทธศำสตรเ์ สรมิ สร้ำง เงนิ เบี้ยหวดั บำเหน็จ บำนำญไปแลว้ จำนวน ศักยภำพและพัฒนำคณุ ภำพชวี ิต จำนวน 8,338.97 ลำ้ นบำท 4.1) งบกลำง ค่ำใช้จำ่ ยสง่ เสรมิ และสร้ำงควำม 21,078.45 ลำ้ นบำท เขม้ แข็งเศรษฐกิจภำยในประเทศ จำนวน 19,942.79 ลำ้ นบำท 2.4) เพ่ือใชจ้ ่ำยตำมแผนงำนยุทธศำสตรส์ ง่ เสริม เศรษฐกิจและพัฒนำศกั ยภำพชมุ ชน จำนวน 4.2) สว่ นรำชกำร กลมุ่ จงั หวดั และรฐั วิสำหกจิ 50,378.93 ลำ้ นบำท ในพืน้ ท่ี จำนวน 75,057.21 ล้ำนบำท 4.3) กองทุนพัฒนำ SME ตำมแนวประชำรฐั จำนวน 20,000.00 ลำ้ นบำท 5) รำยจ่ำยเพ่ือชดใชเ้ งินคงคลัง จำนวน 27,078.28 ล้ำนบำท ท่มี า : พระรำชบัญญตั ิงบประมำณรำยจำ่ ยเพมิ่ เตมิ ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2559 - 2561 สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 25 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร
การเพม่ิ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2.4 เปรยี บเทียบการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศไทยกับต่างประเทศ จำกกำรศึกษำรูปแบบ แนวทำง และวิธีกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยของประเทศไทย เปรียบเทียบกับต่ำงประเทศ จำนวน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกำ เกำหลีใต้ และญี่ปนุ่ สรปุ สำระสำคัญไดด้ ังนี้ (สถำบนั วิจยั สงั คม จุฬำลงกรณ์มหำวทิ ยำลัย, 2553, น. 78) 2.4.1 ประเทศไทย กำรบริหำรงบประมำณของประเทศไทยในปัจจบุ ันใช้กำรบริหำรงบประมำณในรปู แบบ ระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ (Strategic Performance Based Budgeting : SPBB) เมื่อพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีมีผลบังคับใช้ตำมกฎหมำยแล้ว หน่วยรับงบประมำณ จะต้องเตรียมควำมพร้อมในกำรเร่งรดั กำรดำเนินงำนและกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีให้เป็นไป ตำมแผนฯ และเป้ำหมำยที่กำหนด โดยจะต้องดำเนินกำรบริหำรงบประมำณให้เป็นไปตำมหลักเกณฑ์ และวิธีกำรบริหำรงบประมำณทใ่ี ชอ้ ยู่ในปัจจุบัน ซ่ึงได้ใช้ระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ซึ่งบังคับใช้ทดแทนระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2548 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม โดยได้ กำหนดกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจำ่ ยไว้ 2 ลกั ษณะด้วยกัน ประกอบด้วย 1) กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยสำหรับหน่วยรับงบประมำณ ข้ันตอนกำรบริหำร งบประมำณรำยจ่ำยกำหนดให้ดำเนินกำรตำมลำดบั ดังน้ี 1.1) กำรจดั ทำแผนกำรปฏบิ ตั งิ ำนและแผนกำรใชจ้ ำ่ ยงบประมำณ 1.2) กำรปรับปรงุ แผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณ 1.3) กำรอนมุ ตั เิ งนิ จดั สรร 1.4) กำรใช้งบประมำณรำยจ่ำย กำรโอนงบประมำณรำยจ่ำย กำรโอนเงินจัดสรร หรือกำรเปลีย่ นแปลงเงนิ จัดสรร 1.5) กำรประเมนิ ผลและกำรรำยงำน 2) กำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง ตำมพระรำชบัญญัติวิธีกำรงบประมำณ พ.ศ. 2561 มำตรำ 36 วรรคสอง บัญญัติไว้ว่ำ รำยจ่ำยต่ำงๆ ท่ีกำหนดไว้ในงบกลำงให้ผู้อำนวยกำรสำนัก งบประมำณมีอำนำจจัดสรรให้หน่วยรับงบประมำณโดยตรงหรือเบิกจ่ำยในรำยกำรต่ำงๆ ของส่วนรำชกำร หรือรัฐวิสำหกิจน้ันๆ ได้ตำมควำมจำเป็น และเม่ือสำนักงบประมำณอนุมัติให้ใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย งบกลำงรำยกำรใดแล้ว ให้หัวหน้ำหน่วยรับงบประมำณรับผิดชอบในกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำย งบกลำงรำยกำรน้ันให้เป็นไปตำมระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2562 ซ่ึงบังคับใช้ทดแทน ระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำรงบประมำณ พ.ศ. 2548 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม และระเบียบว่ำด้วยกำรบริหำร งบประมำณรำยจ่ำยงบกลำง รำยกำรเงินสำรองจ่ำยเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2561 ให้เป็นไปด้วย ควำมเรียบร้อยอย่ำงมีประสิทธิภำพ โปร่งใส คุ้มค่ำ เป็นประโยชน์อย่ำงแท้จริงต่อกำรบริหำรรำชกำร แผ่นดิน และจะต้องเป็นกำรรักษำวินัยทำงกำรเงินกำรคลังของรัฐเช่นเดียวกับกำรบริหำรงบประมำณ รำยจำ่ ยสำหรับหนว่ ยรับงบประมำณนั้นๆ ด้วย 2.4.2 ประเทศออสเตรเลยี อำนำจหน้ำท่ีหลักในกำรบริหำรงบประมำณเป็นของกระทรวงกำรคลัง ซึ่งกำรบริหำร งบประมำณของประเทศออสเตรเลียแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ งบประมำณประจำปีท่ีเป็นเงินงบประมำณ ด้ำนกำรบริกำรและกำรบริหำรมีสัดส่วนเท่ำกับ 20% ของเงินงบประมำณท้ังหมด และงบประมำณพิเศษ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 26 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผ้แู ทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ตำมนโยบำยรฐั บำลมีสัดส่วนเท่ำกับ 80% ของเงินงบประมำณทง้ั หมด จำกกำรศึกษำพบว่ำ รฐั บำลประเทศ ออสเตรเลยี มกี ำรบริหำรและจดั สรรงบประมำณ 4 รปู แบบ คอื 1) กำรจดั สรรงบประมำณตำมยทุ ธศำสตร์หรือนโยบำยของรฐั บำล 2) กำรจัดสรรงบประมำณตำมหนำ้ ท่ี 3) กำรจดั สรรงบประมำณตำมพน้ื ท่ี 4) กำรจัดสรรงบประมำณใหแ้ กเ่ ขตกำรปกครองส่วนท้องถนิ่ สำหรบั กำรประเมนิ ผลกำรใชง้ บประมำณแบบกำรประเมินผลด้วยตนเอง (Self Assessment) เป็นหน้ำท่ีของแต่ละหน่วยงำนท่ีต้องเป็นผู้จัดกำรและติดตำมผลงำนเพ่ือให้แน่ใจว่ำผลงำนของตนสำมำรถ ดำเนนิ งำนได้บรรลเุ ปำ้ หมำย 2.4.3 ประเทศนวิ ซีแลนด์ กำรบริหำรและจัดสรรงบประมำณของประเทศนวิ ซแี ลนด์มปี ระเด็นหลัก ดังน้ี 1) แบ่งอำนำจหน้ำท่ีในกำรควบคุมรำยจ่ำยภำครัฐ โดยกรมหรือหน่วยงำนต้องทำ รำยงำนกำรคลังทุกเดือนถึงสถำนะของงบประมำณท่ีได้รับจัดสรรในแต่ละแผนงำนข้อมูลและส่งไปให้ ผู้ตรวจเงนิ แผ่นดิน 2) อำนำจของรัฐบำลในกำรยกเลิกกำรใช้จ่ำยเงินของรัฐ กำรจัดสรรงบประมำณแผ่นดิน เปน็ อำนำจในเชงิ อนญุ ำต ไม่ใช่คำสั่งหรอื คำบงั คับวำ่ รัฐบำลจะตอ้ งใชจ้ ำ่ ยเงินตำมที่ได้รับ 3) งบฉุกเฉินและกำรใช้จ่ำยเกินวงเงิน รฐั มนตรีกระทรวงกำรคลังมอี ำนำจในกำรอนมุ ัติ ให้มกี ำรใช้จ่ำยเงินเกนิ กวำ่ ทไ่ี ดร้ ับจัดสรร 4) กำรโอนเงินงบประมำณภำยในปีงบประมำณกำรจัดสรรงบประมำณโดยรัฐสภำ ได้จัดสรรรำยจ่ำยเพ่ือวัตถุประสงค์เฉพำะอย่ำงตำมที่ระบุไว้ แม้ว่ำกำรใช้จ่ำยเงินงบประมำณจะน้อยกว่ำ วงเงินท่ีระบุไว้รัฐบำลหรือหน่วยงำนก็ไม่สำมำรถใช้เงินท่ีเหลือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นแต่ผู้สำเร็จรำชกำร แทนพระองคอ์ ำจมีคำสง่ั โอนรำยกำรไปใชเ้ ป็นรำยจ่ำยรำยกำรอ่ืนในหนว่ ยงำนเดยี วกันได้ สำหรับกำรประเมินผลกำรใช้งบประมำณ โดยหน่วยงำนกลำงท่ีเกี่ยวข้องในกำร ประเมินผลกำรดำเนินงำน ประกอบด้วย 2 หน่วยงำนกลำง คือ กระทรวงกำรคลังจะประเมินผลสำเร็จ จำกกำรดำเนินงำนตำมหน่วยงำนได้ตั้งเป้ำหมำยไว้ หำกหน่วยงำนดำเนินกำรไม่บรรลุเป้ำหมำยท่ีกำหนด จะส่งผลต่อกำรพิจำรณำวงเงินงบประมำณในปีถัดไป และ State Service Commission จะประเมินผล กำรทำงำนของผู้บรหิ ำร 2.4.4 ประเทศสหรัฐอเมรกิ า ในกำรบริหำรงบประมำณประเทศสหรัฐอเมริกำรถือวำ่ ได้ท้ังรัฐบำลและรัฐสภำรว่ มกัน บริหำรงบประมำณโดยมีกระทรวงกำรคลังเป็นหน่วยงำนที่รับผิดชอบในด้ำนควำมสมดุลของกำรเงินโดย รำยได้จะเข้ำมำที่กระทรวงกำรคลัง และเป็นผู้ดำเนินกำรแจกจ่ำยเงินงบประมำณให้กับทุกหน่วยงำน ผำ่ นธนำคำรกลำงของสหรัฐ โดยจะไมม่ เี งินทแ่ี จกจ่ำยได้โดยตรงจำกกระทรวงกำรคลัง ซึ่งมีวิธกี ำร ดังน้ี 1) สมมติงบประมำณประจำปีในปที ี่ผ่ำนมำบวกอัตรำเงินเฟ้อเท่ำกับงบประมำณในปตี ่อไป 2) จะมีกำรวิเครำะห์สภำวะเศรษฐกิจ สังคม และควำมม่ันคง มุ่งเน้นตำมนโยบำย ของรัฐที่สำคญั 3) กำรจัดทำงบประมำณจะเน้นงบประมำณในส่วนที่จะเพ่ิมหรือลดโดยเจ้ำหน้ำท่ี วเิ ครำะห์งบประมำณ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 27 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ สำหรับกำรประเมินงบประมำณด้วย Program Assessment Rating Tool (PART) เป็นชุดคำถำมที่สอบถำมถึงแผนท่ีได้ดำเนินกำรไปโดยดูด้ำนควำมโปร่งใส ควำมสอดคล้องและควำมเป็น ระบบในกำรทำงำน โดยแบง่ กำรประเมินผลออกเปน็ 3 ส่วน คอื (1) กำรประเมินรปู แบบและวัตถปุ ระสงคข์ องแผนงำน (2) กำรประเมนิ กำรบริหำรแผนงำน (3) กำรประเมนิ ผลลพั ธแ์ ละควำมรับผดิ ชอบ 2.4.5 ประเทศเกาหลใี ต้ ฝ่ำยบริหำรมีอำนำจตำมกฎหมำยในกำรจัดทำและบริหำรงบประมำณ ทั้งนกี้ ำรบริหำร งบประมำณมุ่งเน้นกำรควบคุมปัจจัยกำรนำเข้ำ หน่วยงำนสำมำรถดำเนินกำรบริหำรงบประมำณท่ีได้รับ จัดสรรเอง และมีวิธีกำรวัดผลของกำรดำเนินงำนด้วยตนเอง และมีกำรนำเหตุผลทำงด้ำนกำรคลังมำเป็น แนวทำงในกำรบริหำร โดยที่จะช่วยจัดกำรหน้ีสำธำรณะให้อยู่ในระดับท่ีเป็นที่ยอมรับได้ และสำมำรถที่จะ บริหำรกำรก่อหนีไ้ ด้ สำหรับกำรประเมินผลกำรใช้งบประมำณของประเทศเกำหลีใต้ เป็นรูปแบบ กำรประเมินตนเองท่ีเรียกว่ำ Self Assessment of the Budgetary Programme (SABP) โดยมีต้นแบบ มำจำก PART ของประเทศสหรฐั อเมริกำ โดยใช้ชดุ คำถำมเหมอื น PART แบง่ ออกเป็นสว่ น คอื กำรวำงแผน กำรจัดกำร และผลกำรดำเนนิ งำน 2.4.6 ประเทศญป่ี ุ่น 1) คณะรัฐมนตรีจะดำเนินกำรจัดสรรงบประมำณไปสู่หน่วยงำนต่ำงๆ โดยมีกำร แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 กำรจัดทำสัญญำกำรใช้จ่ำยงบประมำณ และระยะท่ี 2 กำรจ่ำย งบประมำณในรปู เชค็ ธนำคำรหรอื รูปแบบอนื่ ๆ 2) กำรบริหำรงบประมำณ หัวหน้ำหน่วยงำนต้องดำเนินกำรจัดทำแผนควำมต้องกำร เบิกจ่ำยงบประมำณและจัดทำแผนกำรชำระค่ำใช้จ่ำยเป็นรำยไตรมำส และได้รับควำมเห็นชอบจำก รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงกำรคลังและจะแจ้งแผนกำรใช้จ่ำยเงินทั้งหมดของรัฐบำลให้แก่ธนำคำรกลำง ของประเทศญี่ปุ่นและกำรเบิกจ่ำยเงินงบประมำณนั้น เจ้ำหน้ำท่ีผู้ที่รบั ผิดชอบด้ำนกำรเบิกจำ่ ยจะเขียนเช็ค สั่งจ่ำย สง่ ให้แกธ่ นำคำรกลำง สำหรับกำรประเมินผลกำรใช้งบประมำณของประเทศญ่ีปุ่น เป็นกำรให้หน่วยงำน ดำเนินกำรประเมนิ ผลกำรใช้จ่ำยงบประมำณด้วยตนเอง (Self Assessment) เพื่อให้หน่วยงำนแสดงควำม รบั ผดิ ชอบในผลกำรดำเนินงำนของตนเอง สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 28 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2.5 ประเด็นข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจาปี พ.ศ. 2559 – 2561 ในกำรพิจำณำงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ 3 ปีท่ีผ่ำนมำ คณะกรรมำธิกำร วสิ ำมญั ฯ มขี ้อสังเกตที่เก่ียวข้องกบั กำรใช้จำ่ ยงบประมำณ สรปุ ประเด็นสำคญั ดงั น้ี ตารางที่ 3 สรุปประเดน็ ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวสิ ามัญฯ ประจาปี พ.ศ. 2559 – 2561 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2559 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ปงี บประมาณ พ.ศ. 2561 กำรตดิ ตำมเรง่ รดั กำรใช้จำ่ ย ควรมกี ำรเผยแพรข่ ้อมลู กำรใชจ้ ำ่ ย รำยกำรสงิ่ กอ่ สร้ำง ควรพิจำรณำ งบประมำณของส่วนรำชกำรตำ่ งๆ เปน็ งบประมำณตอ่ สำธำรณะเพื่อเป็นกำรเพิม่ ควำมพรอ้ มแบบรปู รำยกำรในประเด็น ภำรกจิ ทส่ี ำคัญประกำรหน่ึง แตค่ วรมงุ่ เนน้ ประสิทธภิ ำพ ควำมโปรง่ ใสในกำรใช้จ่ำย ตำ่ งๆ กบั กำรขออนญุ ำตใชท้ ่รี ำชพสั ดุ กำรประเมินผลในเชิงผลสมั ฤทธิ์ของงำน/ งบประมำณ ป่ำสงวนแห่งชำติ อุทยำนแห่งชำติ โครงกำรควบคู่กันไปเพอ่ื ตดิ ตำมควำมคุม้ คำ่ กำรจดั ทำรำยงำนผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ ม ในกำรใช้จ่ำยงบประมำณ ลดควำมซำ้ ซ้อน หน่วยงำนตำ่ งๆ ตอ้ งเร่งรดั กำร (EIA) กำรปฏิบตั ติ ำมกฎหมำยและระเบียบ และสำมำรถนำผลกำรประเมนิ มำใช้เปน็ ดำเนินงำนและเบิกจ่ำยงบประมำณ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง และควรพิจำรณำควำม ขอ้ มูลสำหรบั พจิ ำรณำจดั สรรงบประมำณ ใหเ้ ป็นไปตำมเป้ำหมำยทร่ี ฐั บำลกำหนด เหมำะสมอนื่ ๆ เช่น ผลกำรเบกิ จำ่ ย ในปตี อ่ ไป รวมท้ัง ควรมกี ำรรำยงำนผลกำร รวมทั้งรฐั วสิ ำหกจิ ต่ำงๆ จะต้องเรง่ รดั งบประมำณ วงเงินผกู พันงบประมำณข้ำม ปฏิบัตงิ ำนและผลกำรใช้จำ่ ยงบประมำณ กำรเบิกจ่ำยงบลงทุนโดยเรว็ ทั้งโครงกำร ปีควรสอดคลอ้ งกบั ควำมสำมำรถในกำร ท่ีสำมำรถเปรียบเทยี บระหวำ่ งปีปจั จุบนั และ ท่รี ฐั วิสำหกิจดำเนินกำรเองหรอื ภำคเอกชน เบิกจ่ำยของแตล่ ะปี และควำมสำมำรถ ปที ่ผี ำ่ นมำโดยจดั ทำรำยงำนผ่ำนระบบ รว่ มลงทนุ สำหรบั หน่วยงำนตำ่ งๆ ทีม่ กี ำร ของหนว่ ยงำนในกำรนำเงินนอก สำรสนเทศทส่ี ำมำรถรำยงำนควำมก้ำวหน้ำ กันเงนิ ไว้เบิกจ่ำยเหล่อื มปกี รณไี มม่ ีหนี้ งบประมำณมำสมทบ ได้อย่ำงต่อเนื่องและเปน็ ปัจจุบนั มกี ำร ผูกพนั ตอ่ เน่อื งเป็นระยะเวลำนำน ตรวจสอบกำรปฏิบตั ิงำนภำยใน (Internal กรมบัญชีกลำง ควรเสนอต่อคณะรฐั มนตรี กำรเบิกจำ่ ยงบประมำณทลี่ ่ำชำ้ เพือ่ กำหนดมำตรกำรใหม้ กี ำรกันเงนิ เหลอื่ ม หรอื ทเี่ หลือจำ่ ยของหนว่ ยงำนที่อำจจะมี Audit) ทกุ ไตรมำสหรอื ทกุ คร่ึงปเี พือ่ ให้ ปไี ด้ในระยะเวลำทเี่ หมำะสม และหำกยงั สำเหตจุ ำกกำรจัดซอื้ จดั จ้ำงหรอื ระเบียบ ฝ่ำยบรหิ ำรและฝ่ำยนติ ิบญั ญตั ิสำมำรถใช้ ไม่ก่อหนีผ้ ูกพนั ให้ยกเลิกโครงกำรและนำเงิน ของกรมบญั ชีกลำงขอใหห้ น่วยงำน เป็นข้อมลู ในกำรจดั ทำงบประมำณไดอ้ ย่ำง มีประสิทธิภำพ ส่งคืนคลงั ทเ่ี กีย่ วข้อง ได้แก่ กระทรวงกำรคลัง ดำเนนิ กำรแกไ้ ขระเบียบ กฎ ขอ้ บงั คบั ต่ำงๆ ท่ชี ่วยเออื้ อำนวยใหส้ ่วนรำชกำรได้ เบิกจ่ำยหรือส่งคนื เงนิ ไดอ้ ยำ่ งรวดเรว็ ดว้ ย กำรจดั ทำงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปี ควรมีกำรพจิ ำรณำจดั ทำ งบประมำณแผ่นดินทุก 2 ปี เพื่อใหม้ น่ั ใจ ว่ำกำรพิจำรณำงบประมำณ มกี ำร พจิ ำรณำถึงผลกำรดำเนนิ งำนและ ผลสัมฤทธิ์ในปีท่ีผ่ำนมำอยำ่ งรอบคอบ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 29 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 2.6 วรรณกรรมทเ่ี ก่ียวขอ้ ง จำกกำรศึกษำเร่ืองกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรบริหำรงบประมำณรำยจำ่ ยของประเทศ ผศู้ ึกษำ ได้ศึกษำผลงำนท่เี ก่ียวข้องและใกล้เคยี งกบั เรื่องท่ีทำกำรศกึ ษำ ดังนี้ โสรัส สุขถาวร ได้ทำกำรศึกษำส่วนบุคคล เรื่อง “มำตรกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำย งบประมำณ : กรณีศึกษำกำรบริหำรงบประมำณของกระทรวงกำรต่ำงประเทศ (ปี พ.ศ. 2556-2558)” สรุปไดว้ ำ่ 1. ส่วนรำชกำรจำนวนมำกไม่สำมำรถก่อหนี้ผูกพันได้ตำมระยะเวลำท่ีกำหนดในมำตรกำร เพ่ิมประสิทธภิ ำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณโดยเฉพำะงบรำยจ่ำยลงทนุ และจำเป็นตอ้ งเสนอขออนุมัติผ่อนผัน ให้สำมำรถเบิกจ่ำยงบประมำณต่อไป เป็นเหตุให้ต้องชะลอกำรก่อหนี้ผูกพันงบประมำณในช่วงระหว่ำงที่ กำลังยื่นขอผ่อนผันกำรดำเนินกำรในแต่ละคร้ังด้วย ซ่ึงมีส่วนให้กระบวนกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงต้องขยำยเวลำ ออกไป และส่งผลใหก้ ำรเบิกจ่ำยงบประมำณลำ่ ช้ำยิ่งขน้ึ 2. กำรเบิกจ่ำยงบประมำณของภำครัฐในช่วงที่มีกำรประกำศใช้มำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพ กำรใช้จ่ำยงบประมำณในช่วงปลำยปี 2556 ปลำยปี 2557 และในปี 2558 พบว่ำ ผลกำรเบิกจ่ำย งบประมำณของส่วนรำชกำรต่ำงๆ สว่ นใหญย่ ังมิไดเ้ พม่ิ ขึ้นอยำ่ งมีนัยสำคัญ โดยเฉพำะงบรำยจ่ำยลงทุนของ ภำครัฐยังคงตำ่ กว่ำเปำ้ หมำย แมส้ ำนกั งบประมำณและกรมบัญชีกลำง กระทรวงกำรคลัง จะพยำยำมเร่งรัด กำรใช้งบประมำณอย่ำงต่อเน่ืองแล้วก็ตำม อย่ำงไรก็ดีในปีงบประมำณ 2558 ก็ยังมีส่วนรำชกำรต่ำงๆ ที่ยังไม่สำมำรถก่อหนี้ผูกพันงบรำยจ่ำยลงทุนได้ทันภำยในวันที่ 31 กรกฎำคม 2 558 ต้องยกเลิก กำรดำเนินกำรและส่งคืนงบประมำณ รวมทั้งนำไปสู่กำรโอนงบประมำณรำยจ่ำยปี 2558 ไปเป็นงบกลำง เพ่ือนำไปดำเนินนโยบำยเรง่ ด่วนสำคัญของรัฐบำล 3. ผลกำรเบิกจำ่ ยงบประมำณ ของกระทรวงกำรต่ำงประเทศในภำพรวม ในชว่ งปีงบประมำณ พ.ศ. 2556-2558 ยังไม่เป็นไปตำมเป้ำหมำยโดยเฉพำะผลกำรเบิกจ่ำยงบรำยจ่ำยลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็น รำยกำรค่ำที่ดินและสิ่งก่อสร้ำงในต่ำงประเทศท่ีไม่สำมำรถดำเนินกำรก่อหนี้ผูกพันได้ทันภำยใน ปีงบประมำณ และต้องดำเนินกำรขอกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปีกรณีไม่มีหน้ีผูกพัน เนื่องจำกกำรจัดซ้ือท่ีดิน อำคำร รวมท้ังปรับปรงุ ซ่อมแซมอำคำรในต่ำงประเทศ จำเป็นต้องฝ่ำยกระบวนกำรของทำงกำรท้องถ่ิน รวมทั้ง ตดิ ขัดในขอ้ ระเบยี บและกฎหมำยที่เกย่ี วข้องของทำงกำรในประเทศน้ันๆ 4. มำตรกำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณ มีจุดประสงค์เพื่อเร่งรัดกำรใช้จ่ำย งบประมำณของส่วนรำชกำร บนพื้นฐำนของสมมุติฐำนที่เช่ือว่ำกำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครัฐจะมีส่วน สำคัญในกำรสนับสนุนกำรขบั เคล่อื นเศรษฐกิจของประเทศ แต่จำกผลกำรศึกษำพบว่ำ งบประมำณรำยจำ่ ย ประจำปีจะมีสัดส่วนประมำณร้อยละ 20 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และงบรำยจ่ำยลงทุน จะมีสัดส่วนประมำณร้อยละ 20 ของงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี หรือประมำณร้อยละ 3 ของผลิตภัณฑ์ มวลรวมในประเทศ (GDP) ในขณะที่งบรำยจ่ำยประจำซึ่งมีสัดส่วนประมำณร้อยละ 80 ของงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปี โดยส่วนใหญ่เป็นรำยกำรค่ำใช้จ่ำยที่กำหนดช่วงเวลำของกำรเบิกจ่ำยไว้ตลอดท้ัง ปีงบประมำณ ดังน้ัน กำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยโดยเฉพำะรำยจ่ำยลงทุนของส่วนรำชกำรท่ีมีสัดส่วนประมำณ ร้อยละ 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หำกสำมำรถดำเนินกำรเบิกจ่ำยได้อย่ำงเต็ม ประสิทธิภำพ ก็อำจเป็นกำลังในกำรขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ในระดับหน่ึงแม้อำจมิได้มีผล อย่ำงยิง่ ยวด หรอื มนี ยั สำคญั ตอ่ กำรขบั เคลือ่ นเศรษฐกิจของประเทศในภำพรวม สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 30 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรมีกำรติดตำมประเมินผลของกำรดำเนินกำรตำมมำตรกำรฯ โดยหน่วยงำนเจ้ำภำพ ควรพิจำรณำจัดทำแบบสอบถำมให้ทุกส่วนรำชกำรเป็นผู้ประเมินควำมสำเร็จ พร้อมรับฟังควำมเห็นและ ปัญหำอุปสรรคของทุกส่วนรำชกำรภำยหลังจำกกำรดำเนินกำรตำมมำตรกำรฯ เพื่อนำมำประกอบกำร พิจำรณำปรับเสริมมำตรกำรฯ ให้สำมำรถเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณของทุกส่วนรำชกำร ได้อย่ำงแทจ้ รงิ 2. ในกำรเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบลงทุน สำนักงบประมำณและกรมบัญชีกลำง อำจจำเป็นต้อง พิจำรณำในประเด็นของกำรผอ่ นปรนระเบียบวิธีปฏบิ ัติในกระบวนกำรจัดซือ้ จดั จำ้ ง หรอื ระบบ E-auction และขั้นตอนต่ำงๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อกระชับกระบวนกำรให้ส้ันลง ลดขั้นตอน และสำมำรถดำเนินกำรจัดซ้ือ จัดจ้ำงให้ได้รวดเร็วข้ึน ซึ่งจะนำไปสู่กำรเบิกจ่ำยงบประมำณท่ีเร็วข้ึนและใกล้เคียงกับเป้ำหมำยที่รัฐบำล กำหนดไว้ได้ แต่ยังคงต้องมีควำมเข้มข้นในกระบวนกำรตรวจสอบควำมถูกต้องในกำรจัดซื้อจัดจ้ำงมำกข้ึน เพ่ือให้ยังคงควำมโปร่งใส ยุติธรรม และมิให้เกิดช่องโหว่ที่จะนำไปสู่กำรทุจริตซ่ึงจะไม่เป็นผลดีต่อภำครัฐ ในภำพรวม 3. กำรท่ีหน่วยงำนใดๆ จะกำหนดมำตรกำรใดมำตรกำรหนึ่งขึ้นมำเพ่ือบังคับใช้กับทุกส่วน รำชกำรต่อไป ควรที่จะมีกำรประเมินควำมเป็นไปได้ที่มำตรกำรนั้นจะประสบควำมสำเร็จหรือหน่วยงำน ซึ่งเป็นผู้กำหนดมำตรกำรนั้นๆ ควรเป็นหน่วยงำนตัวอย่ำง หรือมีแบบอย่ำงควำมสำเร็จในกำรดำเนินกำร เพื่อเป็นต้นแบบให้หน่วยงำนต่ำงๆ สำมำรถใช้เป็นแนวทำงในกำรดำเนินกำรให้ประสบควำมสำเร็จ เชน่ เดยี วกับหน่วยงำนตน้ แบบได้ 4. กระทรวงกำรต่ำงประเทศจำเป็นต้องพิจำรณำปรับแนวทำงกำรบริหำรงบประมำณ เพื่อเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณให้ได้มำกท่ีสุดภำยใต้มำตรกำรฯ เพ่ือให้สำมำรถใช้งบประมำณให้เกิด ประสิทธิผลสูงสุดเท่ำท่ีจะสำมำรถดำเนินกำรได้ รวมทั้งเสนอแนวทำงเพื่อกระตุ้นให้ทุกหน่วยงำน ในกระทรวงฯ สำมำรถวำงแผนและบริหำรงบประมำณ โดยเฉพำะรำยจ่ำยงบรำยจ่ำยลงทุนในต่ำงประเทศ ให้สำมำรถเบกิ จ่ำยงบประมำณไดใ้ กล้เคยี งกับเป้ำหมำยมำกที่สุด 5. ทุกหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้องภำยในกระทรวงต่ำงประเทศ ควรพิจำรณำเตรียมกระบวนกำร จัดซื้อจัดจ้ำงไว้ล่วงหน้ำ เพ่ือให้สำมำรถลงนำมในสัญญำจัดซื้อจัดจ้ำงและก่อหนี้ผูกพันรำยจ่ำยงบลงทุน ได้ทนั ทีท่ีพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีประกำศใช้ ซึ่งจะส่งผลให้สำมำรถเบิกจำ่ ยงบรำยจ่ำย ลงทุนไดเ้ รว็ ขึ้น และใกลเ้ คียงกบั เปำ้ หมำยกำรเบิกจ่ำยท่ีทำงกำรกำหนด ภามิรักษณ์ ชมแสง ได้ทำกำรวิจัย เรื่อง “แนวทำงกำรพัฒนำและเพ่ิมประสิทธิภำพ กำรบริหำรจัดกำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ” สรุปได้ว่ำ กำรบริหำรจัดกำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐ ของประเทศไทยในระยะท่ีผ่ำนมำ ยังไม่สำมำรถบรรลุเจตนำรมณ์ของกำรจัดกำรงบประมำณแบบมุ่งเน้น ผลงำนตำมยุทธศำสตร์ได้อย่ำงสมบูรณ์ และได้มีข้อเสนอแนะแนวทำงกำรพัฒนำและเพ่ิมประสิทธิภำพ กำรบริหำรจัดกำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐภำยใต้ระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำนตำมยุทธศำสตร์ ท้ังในด้ำนรำยได้ที่ควรเพ่ิมฐำนภำษี และปรับโครงสร้ำงภำษีบำงประเภทใหม่เพ่ือสร้ำงควำมเป็นธรรมและ สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ทำงเศรษฐกิจและสังคม สำหรับในด้ำนรำยจ่ำยควรน้อมนำแนวทำงตำมปรัชญำ เศรษฐกิจพอเพียงมำเป็นกรอบแนวคิดและแนวทำงปฏิบัติ กำรวำงแผนงบประมำณต้องอยู่บนพื้นฐำนของ ข้อมูลท่ีถูกต้อง สร้ำงเครือข่ำยข้อมูลด้ำนกำรงบประมำณอิเล็กทรอนิกส์ พัฒนำโครงสร้ำงแผนงำนและ ตัวช้ีวัดควำมสำเร็จให้มีควำมทันสมัยเป็นมำตรฐำนควบคู่กับกำรส่งเสริมควำมร่วมมือในกำรลงทุนระหว่ำง ภำครฐั และเอกชน (PPP) และกำรบริหำรจัดกำรเงินนอกงบประมำณ สำนักงบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 31 สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ บทท่ี 3 มาตรการเพม่ิ ประสิทธภิ าพการใชจ้ า่ ยงบประมาณ และผลการดาเนินงานท่ีผ่านมา จำกกำรศกึ ษำแนวคดิ ทฤษฎที ำงวิชำกำร กฎหมำย ระเบียบ ประกำศ มตคิ ณะรัฐมนตรี และ ผลงำนวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับกำรบริหำรงบประมำณรำยจ่ำยภำครัฐตำมระบบงบประมำณแบบมุ่งเน้นผลงำน ตำมยุทธศำสตร์ ควบคู่ไปกับกำรศึกษำรูปแบบ แนวทำง และวิธีกำรบรหิ ำรงบประมำณรำยจำ่ ยของไทยและ ต่ำงประเทศในบทท่ี 2 และในบทนี้จะเป็นกำรรวบรวมข้อมูลจำกแหล่งข้อมูลปฐมภูมิท่ีเก็บรวบรวม ด้วยวิธีกำรสัมภำษณ์ผบู้ ริหำรและเจำ้ หน้ำทีท่ ่ีรับผิดชอบด้ำนงบประมำณ และจำกแหล่งขอ้ มูลทุติยภูมิทเี่ ก็บ รวบรวมไว้แล้ว เพ่ือให้เห็นควำมเป็นมำของกำรบังคับใช้มำตรกำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณ รำยจ่ำยประจำปี ต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 รวมทั้งผลกำรดำเนินงำนและปัญหำอุปสรรค ทผี่ ่ำนมำ ดังน้ี 3.1 มาตรการเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการใช้จา่ ยงบประมาณรายจา่ ยประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 – 2561 ต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน หน่วยงำนกลำงที่เก่ียวข้องได้เสนอมำตรกำร เพ่มิ ประสทิ ธิภำพกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปีผ่ำนเปน็ มติคณะรัฐมนตรี โดยมวี ัตถปุ ระสงค์เพ่อื 3.1.1) ให้กำรใช้จ่ำยงบประมำณภำครฐั เปน็ ปจั จยั สนบั สนุนกำรขยำยตวั ทำงเศรษฐกจิ ของประเทศ 3.1.2) เร่งรดั กำรใชจ้ ำ่ ยใหเ้ ป็นไปตำมแผนกำรปฏิบตั ิงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ 3.1.3) ให้นำไปใช้ในกำรวำงแผน เร่งรัดเตรียมควำมพร้อม จัดลำดับควำมสำคัญของรำยกำร/ โครงกำร 3.1.4) ติดตำมและรำยงำนผลให้รัฐบำลใช้ประกอบกำรตัดสินใจปรับปรุงหรือเปล่ียนแปลง รำยกำรใหเ้ หมำะสมตำมสถำนกำรณ์ 3.1.5) ไม่ให้โอนเปล่ยี นแปลงไปใชข้ ำ้ มยทุ ธศำสตร์/วตั ถปุ ระสงค์ 3.1.6) ใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู ประกอบกำรจดั ทำงบประมำณปีต่อไป พร้อมท้ังได้มีกำรกำหนดเป้ำหมำยกำรเบิกจ่ำยงบประมำณรำยจ่ำยภำพรวม รำยจ่ำยประจำ และรำยจ่ำย ลงทุนเป็นรำยไตรมำส และส้ินปีงบประมำณ ประกอบกับได้กำหนดหลักเกณฑ์แนวทำงกำรดำเนินกำร เก่ียวกับกำรบริหำรงบประมำณให้ทุกส่วนรำชกำรถือปฏิบัติ เพื่อเร่งรัดกำรเบิกจ่ำยงบประมำณของ ทุกหน่วยรับงบประมำณให้เป็นไปตำมเป้ำหมำยที่กำหนด ทั้งนี้ ผู้ศึกษำได้ดำเนินกำรสรุปแนวทำงตำม มำ ต ร ก ำ ร เ พิ่ ม ป ร ะ สิ ท ธิ ภ ำ พก ำ ร ใช้ จ่ ำ ย งบ ป ร ะ มำ ณ ซึ่ ง ห น่ ว ย ง ำ น กล ำ งที่ เ ก่ีย ว ข้ องก ำ ห น ด ข้ึ น ตั้ งแ ต่ ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 – 2561 ดังน้ี สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 32 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ ตารางท่ี 4 สรุปแนวทางตามมาตรการเพ่มิ ประสิทธิภาพการใชจ้ ่ายงบประมาณรายจ่ายประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2557 – 2561 ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 1. จัดทำแผนกำรปฏบิ ัตงิ ำนและ 1. จัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและ 1. จัดทำแผนกำรปฏบิ ตั งิ ำนและ 1. กรณมี ีควำมจำเป็นต้อง 1. จดั ทำแผนกำรปฏบิ ตั งิ ำนและ แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ แผนกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณเป็น แผนกำรใช้จำ่ ยงบประมำณเป็น ดำเนนิ กำรตำมแผนกำร แผนกำรใช้จำ่ ยงบประมำณ สง่ ใหส้ ำนักงบประมำณภำยใน รำยเดอื นและรำยไตรมำส ส่งให้ รำยเดอื นและรำยไตรมำส ปฏบิ ตั ิงำนและแผนกำรใช้จ่ำย ส่งใหส้ ำนักงบประมำณภำยใน วันที่ 4 กันยำยน 2558 โดยมี สำนักงบประมำณภำยในวนั ที่ ใหส้ อดคล้องกับเป้ำหมำยกำร งบประมำณ และพร้อมท่จี ะเริ่ม วันท่ี 9 กนั ยำยน 2557 หลักเกณฑ์และเงอื่ นไข ดังน้ี 12 กนั ยำยน 2559 โดยมี เบิกจำ่ ยรำยไตรมำส สง่ ใหส้ ำนกั ดำเนินกำรหรือกอ่ หนี้ผกู พนั 1.1 รำยจำ่ ยประจำ ต้องสอดคลอ้ ง หลกั เกณฑแ์ ละเงอ่ื นไข ดังนี้ งบประมำณภำยในวันท่ี 15 ภำยในวันท่ี 30 มิถุนำยน 2557 2. กำรจัดทำแผนตำมข้อ 1 ตอ้ ง กบั เปำ้ หมำยกำรเบิกจำ่ ย 1.1 รำยจำ่ ยประจำ ตอ้ งสอดคล้อง กนั ยำยน 2560 โดยมหี ลักเกณฑ์ ตอ้ งเร่งดำเนินกำรและเบกิ จ่ำย ดำเนนิ กำรภำยใตห้ ลักเกณฑ์และ งบประมำณรำยไตรมำส และ กบั เปำ้ หมำยกำรเบกิ จำ่ ย และเง่อื นไข ดงั น้ี ภำยในวนั ท่ี วนั ท่ี 30 ก.ย. 2557 เง่อื นไข ดังน้ี ตอ้ งเร่ิมเบกิ จ่ำยภำยใน งบประมำณรำยไตรมำส และ 1.1 รำยจ่ำยประจำ ต้องเร่งรดั ให้ 2.1 รำยจำ่ ยประจำ ต้อง ไตรมำสท่ี 1 สำหรับกำร ตอ้ งเรง่ รดั ใหเ้ รม่ิ ดำเนนิ กำรและ เร่ิมดำเนินงำนและเบิกจ่ำย 2. กรณไี มส่ ำมำรถเร่มิ ดำเนนิ กำร สอดคล้องกบั เปำ้ หมำย ฝึกอบรมประชมุ สมั มนำ เบิกจ่ำยภำยในไตรมำสท่ี 1 ภำยในไตรมำสที่ 1 สำหรับ หรอื กอ่ หน้ีผกู พนั ไดท้ ันภำยใน กำรเบกิ จ่ำยงบประมำณ ให้คำนึงถงึ ประโยชน์ของ สำหรบั กำรฝึกอบรม ประชมุ กำรฝึกอบรม ประชมุ และ วันท่ี 30 มิถนุ ำยน 2557 แต่ รำยไตรมำส และตอ้ งเร่ิม ประชำชนท่จี ะได้รับเป็นหลกั และสมั มนำ ให้คำนงึ ถงึ สมั มนำ ใหค้ ำนงึ ถงึ ประโยชน์ จำเป็นตอ้ งดำเนนิ กำรตำมแผนฯ เบิกจ่ำยภำยในไตรมำสที่ 1 และให้จัดทำแผนฯ โดย ประโยชน์ทที่ ำงรำชกำรจะได้รับ ทที่ ำงรำชกำรจะได้รบั และ ให้เสนอเรือ่ งตอ่ ปลัดกระทรวง 2.2 รำยจ่ำยลงทุน เบกิ จำ่ ยในไตรมำสที่ 1 และระยะเวลำทีเ่ หมำะสมเป็น ระยะเวลำทเี่ หมำะสมเป็น เพ่อื เสนอหัวหน้ำฝำ่ ยที่รบั ผิดชอบ - กรณจี ัดหำครภุ ณั ฑ์ ต้องมี ไม่น้อยกวำ่ รอ้ ยละ 50 สำคญั รวมทงั้ สอดคลอ้ งกับกำร สำคัญ รวมทงั้ สอดคลอ้ งกับ และกำกับดแู ล หรือหวั หน้ำคณะ ควำมพรอ้ มเกย่ี วกบั ของวงเงนิ งบประมำณ ดำเนนิ กำรตำมนัยมติ กำรดำเนินกำรตำมนยั มติ รักษำควำมสงบแห่งชำติ (คสช.) คณุ ลักษณะ เฉพำะผลกำร ทไี่ ด้รับจดั สรร คณะรฐั มนตรี เม่อื วันท่ี 10 คณะรฐั มนตรี เมือ่ วันท่ี 10 แล้วแต่กรณี พิจำรณำให้ควำม สืบรำคำ และสถำนที่/ 1.2 รำยจ่ำยลงทนุ พฤษภำคม 2559 เร่ือง กำร พฤษภำคม 2559 เรอ่ื ง เหน็ ชอบ พืน้ ทร่ี องรบั ครุภณั ฑ์ - กรณีจัดหำครภุ ณั ฑ์ ต้องมี พฒั นำบคุ ลำกรภำครัฐโดยกำร กำรพัฒนำบคุ ลำกรภำครฐั - กรณสี ิง่ กอ่ สรำ้ ง ต้องมี ควำมพรอ้ มเกย่ี วกบั คณุ จัดหลกั สูตรฝึกอบรมของ โดยกำรจดั หลักสตู รฝึกอบรม 3. กรณไี ด้รับควำมเหน็ ชอบแผนฯ ควำมพร้อมเกย่ี วกบั ลกั ษณะเฉพำะผลกำรสืบ หน่วยงำนตำ่ งๆ และควรจดั ทำ ของหน่วยงำนตำ่ งๆ และควร แล้ว แต่ไม่สำมำรถเรม่ิ ดำเนินกำร ข้อกำหนดและขอบเขต รำคำ และสถำนที/่ พน้ื ท่ี แผนฯ ให้สำมำรถเบิกจำ่ ยได้ จดั ทำแผนฯ ใหส้ ำมำรถ หรือก่อหน้ีผูกพันโครงกำร/ ของงำน (TOR) แบบรูป รองรับครภุ ณั ฑ์ ในไตรมำสท่ี 1 ใหม้ ำกทสี่ ุด เบกิ จ่ำยได้ในไตรมำสที่ 1 รำยกำรไดภ้ ำยในวนั ที่ 30 รำยกำร ประมำณรำคำ มิถุนำยน 2557 รวมถงึ ได้ทบทวน สถำนท/่ี พ้นื ท่กี ่อสรำ้ ง ควำมจำเป็นแลว้ เห็นวำ่ โครงกำร/ สำนกั งบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 33 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพิ่มประสทิ ธิภาพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 รำยกำรดังกลำ่ ว หมดควำม เตรียมควำมพร้อมกำร - กรณสี ง่ิ ก่อสร้ำง ต้องมีควำม หรอื ไม่นอ้ ยกว่ำร้อยละ 50 ใหม้ ำกทส่ี ุดหรอื ไมน่ ้อยกวำ่ จำเปน็ หรอื ไม่สำมำรถดำเนนิ กำร จดั ซ้อื จัดจ้ำง เมือ่ รำ่ ง พรอ้ มเกย่ี วกับขอ้ กำหนดและ ของวงเงินงบประมำณท่ีได้รบั รอ้ ยละ 50 ของวงเงิน หรอื มีควำมซำ้ ซอ้ น หรือมี พระรำชบัญญตั ิ ขอบเขตของงำน (TOR) จัดสรร งบประมำณท่ไี ดร้ บั จดั สรร งบประมำณเหลือจ่ำย หรือคำดวำ่ งบประมำณรำยจำ่ ย แบบรูปรำยกำร ประมำณ 1.2 รำยจ่ำยลงทนุ 1.2 รำยจ่ำยลงทุน จะไมส่ ำมำรถเบิกจำ่ ยไดท้ ัน ประจำปงี บประมำณ รำคำ สถำนท/ี่ พน้ื ทีก่ อ่ สร้ำง - กรณจี ดั หำครภุ ณั ฑ์ - กรณีจัดหำครภุ ัณฑ์ ต้องมี ภำยในวันที่ 30 กนั ยำยน 2557 พ.ศ. 2558 ผ่ำนกำร ให้ปรบั แผนฯ โดยโอน พจิ ำรณำในวำระที่ 2 1.3 เตรียมควำมพร้อมกำรจัดซอ้ื ตอ้ งมคี วำมพร้อมเก่ียวกบั ควำมพร้อมเกย่ี วกบั เปลี่ยนแปลงงบประมำณเพอ่ื (ประมำณวนั ที่ 17 ก.ย. 57) จดั จำ้ ง เมื่อรำ่ งพระรำช คุณลักษณะเฉพำะ คุณลกั ษณะเฉพำะ ผลกำร นำไปชำระหนคี้ ่ำสำธำรณปู โภค โดยจะก่อหน้ีผกู พันได้ บัญญตั งิ บประมำณรำยจำ่ ย ผลกำรสบื รำคำ และ สบื รำคำ และสถำนที่/พ้นื ท่ี หรือชดเชยคำ่ งำนสิ่งก่อสรำ้ งตำม ก็ตอ่ เมอื่ ไดร้ บั กำรจดั สรร ประจำปีงบประมำณ สถำนที่/พ้นื ทรี่ องรับ รองรบั ครภุ ณั ฑ์ สญั ญำแบบปรบั รำคำได้ (ค่ำ K) งบประมำณจำกสำนัก พ.ศ. 2559 พิจำรณำเสรจ็ ครุภณั ฑ์ - กรณีท่ีดนิ และส่งิ กอ่ สร้ำง หรือดำเนินโครงกำร/รำยกำรที่มี งบประมำณแลว้ และต้อง (วันที่ 14 ส.ค. 58) โดยจะ - กรณที ่ดี ินและ ตอ้ งมคี วำมพร้อมเกย่ี วกับ ขอ้ ผกู พันตำมกฎหมำยเปน็ ลำดับ กอ่ หนี้ผูกพันใหแ้ ล้วเสรจ็ กอ่ หนีผ้ กู พันไดก้ ต็ อ่ เมื่อได้รบั ส่งิ กอ่ สรำ้ งต้องมีควำม กำรกำหนดจำนวนพื้นท่ี แรกก่อน จำกนน้ั นำไปดำเนินกำร ภำยในไตรมำสที่ 1 ยกเว้น กำรจดั สรรงบประมำณจำก พรอ้ มเก่ียวกบั กำร สถำนทต่ี ้ัง และรำคำของ ในโครงกำร/รำยกำรท่ีมคี วำม รำยกำรทมี่ วี งเงนิ เกนิ สำนกั งบประมำณแล้ว ดังน้ี กำหนดจำนวนพ้นื ท่ี ท่ดี ิน ข้อกำหนดและ พร้อมและกอ่ หนผี้ ูกพนั ไดภ้ ำยใน 500 ล้ำนบำท ใหก้ ่อหนี้ - รำยจำ่ ยลงทนุ ท่มี วี งเงนิ สถำนท่ตี ้งั และรำคำ ขอบเขตของงำน (TOR) วนั ท่ี 31 สงิ หำคม 2557 ผกู พนั อยำ่ งชำ้ ภำยใน ไมเ่ กิน 2 ล้ำนบำทให้ก่อหน้ี ของที่ดนิ ข้อกำหนด แบบรูปรำยกำร ประมำณ ไตรมำสที่ 2 ผูกพันและเบกิ จ่ำย และขอบเขตของงำน รำคำ สถำนท/ี่ พน้ื ทีก่ อ่ สร้ำง ในไตรมำสที่ 1 (TOR) แบบรูปรำยกำร ทั้งนี้ ควรจดั ทำแผนฯ โดยกำหนด - รำยจ่ำยลงทนุ ทม่ี วี งเงิน ประมำณรำคำ สถำนที/่ ใหร้ ำยจำ่ ยลงทุนปเี ดยี ว จะต้องก่อหน้ี ต้งั แต่ 2 ลำ้ นบำทขึน้ ไป พ้นื ทก่ี อ่ สรำ้ ง ผกู พนั ภำยในไตรมำสท่ี 1 จะตอ้ งกอ่ หนี้ผูกพันภำยใน 1.3 เตรยี มควำมพรอ้ มกำรจดั ซื้อ ยกเวน้ รำยกำรที่มีคณุ ลักษณะ ไตรมำสที่ 1 จดั จ้ำง เมื่อรำ่ งพระรำชบญั ญัติ พเิ ศษหรือจัดหำจำกต่ำงประเทศ - รำยจำ่ ยลงทนุ ท่มี วี งเงนิ เกิน งบประมำณรำยจ่ำยประจำปี รำยจ่ำยลงทนุ ทม่ี ีวงเงนิ ต่อรำยกำร 500 ล้ำนบำทใหก้ อ่ หนี้ งบประมำณ พ.ศ. 2560 เกิน 1,000 ลำ้ นบำท และรำยจำ่ ย ผูกพนั อยำ่ งชำ้ ไตรมำสที่ 2 พจิ ำรณำเสร็จ (25 ส.ค. 59) ลงทุนผูกพนั รำยกำรใหม่ จะต้องให้ โดยจะกอ่ หนผ้ี กู พนั ได้ก็ตอ่ เมื่อ สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 34 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสิทธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 และรำยกำรครุภณั ฑ์ทมี ี ไดร้ บั อนมุ ตั เิ งนิ ประจำงวด ก่อหน้ผี กู พันใหแ้ ลว้ เสร็จภำยใน วงเงนิ สงู รวมถงึ ครุภณั ฑ์ทีม่ ี จำกสำนกั งบประมำณแลว้ ไตรมำสท่ี 2 คณุ ลักษณะพิเศษหรือจดั หำ ดงั นี้ 2. ใหส้ ว่ นกำรฯ จัดทำแผนกำร จำกตำ่ งประเทศ จะตอ้ ง - รำยจำ่ ยลงทุนปีเดียว เร่งรัดก่อหนผี้ ูกพันโดยเรว็ ปฏบิ ตั งิ ำนและแผนกำรใชจ้ ำ่ ย ต้องกอ่ หนีผ้ กู พนั ใหแ้ ลว้ งบประมำณ ในกรณีทเ่ี ปน็ เสร็จภำยในไตรมำสท่ี 1 งบประมำณรำยจ่ำยบรู ณำกำร - รำยกำรทมี่ ีวงเงนิ ตอ่ ใหเ้ ปน็ ไปตำมระเบยี บวำ่ ดว้ ยกำร รำยกำรไมเ่ กิน 2 ลำ้ นบำท บรหิ ำรงบประมำณรำยจ่ำยสำหรบั ให้เบกิ จำ่ ยตำมมำตรกำร แผนงำนบูรณำกำร พ.ศ. 2559 กระตุ้นเศรษฐกิจภำยใน รวมทั้งบรหิ ำร กำกบั ติดตำม ไตรมำสที่ 1 ให้สอดคลอ้ งกับเป้ำหมำยกำร ยกเวน้ รำยกำรที่มคี ณุ ลักษณะ เบิกจำ่ ยงบประมำณรำยไตรมำส พิเศษหรือจัดหำจำกตำ่ งประเทศ รำยจำ่ ยลงทนุ ทีม่ วี งเงินตอ่ รำยกำร เกนิ 1,000 ลำ้ นบำท และรำยจำ่ ย ลงทุนผูกพนั รำยกำรใหม่ จะตอ้ งให้ กอ่ หนผ้ี ูกพันให้แล้วเสร็จภำยใน ไตรมำสที่ 2 ทง้ั น้ี เพือ่ ให้เบกิ จำ่ ยรำยจ่ำย ลงทนุ ได้ตง้ั แตไ่ ตรมำสท่ี 1 ควรกำหนดแบง่ งวดงำนและ เบิกจำ่ ยรำยกำรสิง่ ก่อสรำ้ งปีเดียว ให้เหมำะสมกับกำรปฏบิ ตั งิ ำนจรงิ สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 35 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร
การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการบริหารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 3. ใหส้ ว่ นรำชกำรฯ เร่งโอนจัดสรร 2. ใหส้ ว่ นรำชกำรฯ เรง่ โอนจัดสรร 2. ใหส้ ว่ นรำชกำรฯ เรง่ โอนจัดสรร 3. ให้ส่วนรำชกำรฯ เรง่ โอนจดั สรร งบประมำณไปยังสำนักเบกิ งบประมำณไปยงั สำนักเบกิ ส่วน งบประมำณไปยังสำนกั เบิก งบประมำณไปยังสำนักเบิก สว่ นภูมภิ ำค อยำ่ งชำ้ ไมเ่ กิน 7 วนั ภมู ิภำค อยำ่ งชำ้ ไม่เกิน 3 วนั สว่ นภูมภิ ำค อย่ำงชำ้ ไมเ่ กนิ วันที่ ส่วนภมู ภิ ำค อยำ่ งช้ำไมเ่ กนิ วนั ท่ี นับตงั้ แต่วนั ท่ไี ดร้ บั กำรจดั สรร นับตง้ั แตว่ นั ที่ไดร้ บั กำรจดั สรร 7 ตุลำคม 2559 และสำนัก 6 ตุลำคม 2560 งบประมำณ งบประมำณ งบประมำณจะร่วมมือกับ กรมบัญชกี ลำงรวบรวมผลกำร 4. ให้ส่วนรำชกำรฯ รำยงำน 4. ให้สว่ นรำชกำรฯ รำยงำนผล 3. ใหส้ ว่ นรำชกำรฯ รำยงำนผล โอนฯดงั กลำ่ ว รำยงำนตอ่ ผลสมั ฤทธิก์ ำรปฏบิ ตั ิงำนและกำร กำรปฏบิ ตั งิ ำนและผลกำรใช้จ่ำย กำรปฏบิ ตั งิ ำนและผลกำรใชจ้ ำ่ ย คณะรัฐมนตรตี อ่ ไป ใช้จำ่ ยงบประมำณเปน็ รำยเดอื น งบประมำณดว้ ยระบบอิเลก็ งบประมำณด้วยระบบอเิ ล็ก และรำยไตรมำส และบนั ทึกใน ทรอนกิ ส์ภำครฐั เปน็ รำยเดอื น ทรอนกิ ส์ภำครัฐเป็นรำยเดอื น 3. ให้สว่ นรำชกำรฯ รำยงำน ระบบ BB EvMIS รวมทัง้ มีกำร และรำยไตรมำส และรำยไตรมำส ผลสัมฤทธกิ์ ำรปฏิบัติงำนและกำร รับฟังควำมคดิ เห็นของผู้ที่ ใช้จ่ำยงบประมำณเป็นรำยเดอื น เกี่ยวขอ้ งประกอบด้วย 5. เมอ่ื ส้นิ สดุ ไตรมำสที่ 2 ของ 4. หัวหนำ้ สว่ นรำชกำรฯ และ และรำยไตรมำส และบนั ทกึ ใน ปีงบประมำณ พ.ศ. 2558 ผ้วู ำ่ รำชกำรจงั หวดั ตดิ ตำมผล ระบบ BB EvMIS 5. ให้หัวหนำ้ สว่ นรำชกำรฯ และ ผลกำรปฏบิ ตั ิงำนและกำรใช้จ่ำย กำรดำเนนิ งำนใหเ้ ป็นไปตำม ผู้วำ่ รำชกำรจงั หวัด ตดิ ตำมผล งบประมำณไมเ่ ปน็ ไปตำมแผนฯ แผนกำรปฏิบัติและแผนกำรใช้ 4. ใหห้ ัวหน้ำสว่ นรำชกำรฯ และ กำรดำเนินงำนใหเ้ ป็นไปตำม ใหพ้ ิจำรณำทบทวนแผนฯ จำ่ ยงบประมำณโดยเครง่ ครดั ผวู้ ่ำรำชกำรจังหวดั ติดตำมผล แผนกำรปฏบิ ตั แิ ละแผนกำรใช้ ท่ีสนองตอบต่อแผนพฒั นำ กำรดำเนินงำนให้เป็นไปตำม จำ่ ยงบประมำณโดยเครง่ ครดั เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชำติ และ 5. ใหเ้ ร่งรดั กำรก่อหนี้และเบิก แผนกำรปฏิบัตแิ ละแผนกำรใช้ นโยบำยเร่งด่วนของรัฐบำล จำ่ ยเงินกนั ไวเ้ บิกเหล่ือมปีใหแ้ ลว้ จ่ำยงบประมำณโดยเคร่งครดั 6. ให้เร่งรัดกำรก่อหนีแ้ ละเบิก เสนอตอ่ รัฐมนตรีเจำ้ สังกัดและส่ง เสรจ็ โดยเร็ว จำ่ ยเงนิ กันไวเ้ บิกเหลอ่ื มปี สำนักงบประมำณพจิ ำรณำให้ 5. ใหเ้ รง่ รัดกำรกอ่ หนแ้ี ละเบิก ใหแ้ ลว้ เสร็จโดยเรว็ ควำมเห็นชอบ ดงั น้ี 6. หำกมคี วำมจำเปน็ เร่งด่วนตอ้ ง จ่ำยเงินกนั ไว้เบกิ เหล่ือมปใี ห้แลว้ ดำเนินกำรใหส้ อดคล้องกับ เสรจ็ โดยเร็ว นโยบำยรัฐบำล ให้ปรบั แผน 6. หำกมคี วำมจำเปน็ เร่งด่วนและ สอดคลอ้ งกับนโยบำยรัฐบำล กำรแก้ไขปญั หำ และกำรกระตุ้น สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ หนำ้ 36 สำนักงำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยของประเทศ ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 5.1 กรณียืนยันกำรดำเนนิ กำร กำรปฏิบตั ิงำนเพอ่ื ดำเนินกำรได้ เศรษฐกิจ รองนำยกรัฐมนตรีหรอื ตำมแผนทีก่ ำหนดไวเ้ ดิม ยกเว้นรำยกำรลงทนุ ทีม่ วี งเงนิ รัฐมนตรสี ำมำรถมอบหมำยให้ ใหช้ ้แี จงเหตุผลและควำม ไมเ่ กนิ 2 ลำ้ นบำท โดยเสนอ สว่ นรำชกำรฯ ทบทวนแผนฯ และ จำเปน็ และแนวทำงแกไ้ ข รองนำยกรัฐมนตรีหรอื รฐั มนตรี สง่ ใหส้ ำนกั งบประมำณพจิ ำรณำ ปญั หำเพื่อใหม้ ีควำมพรอ้ ม ทกี่ ำกับดูแลกำรปฏิบตั ริ ำชกำร ตำมระเบียบที่เกย่ี วขอ้ งต่อไป และเร่งรดั กำรดำเนนิ งำน พิจำรณำ และส่งให้สำนัก งบประมำณพจิ ำรณำเหน็ ชอบ 5.2 กรณไี มส่ ำมำรถดำเนนิ กำร ตอ่ เน่ืองจำกหมดควำมจำเปน็ ไม่เปน็ ประโยชน์ต่อทำงรำชกำร ให้เปลย่ี นแปลงหรอื ปรบั ปรงุ เพอื่ ดำเนนิ รำยกำรที่มีควำม พร้อมในกำรดำเนนิ กำรไดจ้ รงิ ภำยในวตั ถุประสงค์ทต่ี อบสนอง ต่อแผนพฒั นำเศรษฐกิจและ สงั คมแหง่ ชำติ และนโยบำย เรง่ ดว่ นของรัฐบำล ทมี่ า: มำตรกำรเพิม่ ประสทิ ธิภำพกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2557 - 2561 สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 37 สำนกั งำนเลขำธิกำรสภำผู้แทนรำษฎร
การเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายของประเทศ 3.2 สรุปภาพรวมงบประมาณ และผลการเบิกจา่ ยงบประมาณรายจ่ายประจาปี 3.2.1 ภาพรวมงบประมาณรายจ่ายประจาปี 1) สดั สว่ นงบประมาณรายจา่ ย (จาแนกตามประเภทรายจ่าย) ตารางที่ 5 สัดสว่ นงบประมาณรายจ่ายจาแนกตามประเภทรายจา่ ย ปงี บประมาณ พ.ศ. 2557 - 2561 หน่วย: ล้ำนบำท ปงี บประมาณ รายการ ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 งบประมาณรายจา่ ยประจาปี 2,525,000.0000 2,575,000.0000 2,776,000.0000 2,923,000.0000 3,050,000.0000 พรบ. งบประมาณ 2,525,000.0000 2,575,000.0000 2,720,000.0000 2,733,000.0000 2,900,000.0000 พรบ. งบประมาณเพมิ่ เตมิ - - 56,000.0000 190,000.0000 150,000.0000 รอ้ ยละ 100.00 100.00 100.00 100.00 100.00 รายจา่ ยประจา 2,038,590.2231 2,130,624.0744 2,237,991.7782 2,290,439.6642 2,373,530.4165 รอ้ ยละ 80.74 82.74 80.62 78.36 77.82 รายจา่ ยลงทนุ 486,409.7769 444,375.9256 538,008.2218 632,560.3358 676,469.5835 รอ้ ยละ 19.26 17.26 19.38 21.64 22.18 ทม่ี า: 1) พระรำชบญั ญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 2) พระรำชบญั ญัติงบประมำณรำยจ่ำยเพิม่ เติม ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2559-2561 3) ขอ้ มลู จำกระบบกำรบรหิ ำรกำรเงินกำรคลังภำครฐั แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบัญชีกลำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ประมวลผลโดย: สำนักงบประมำณของรฐั สภำ แผนภาพท่ี 1 รายจ่ายประจา เป็นคำ่ ใช้จำ่ ยในกำร บริหำรงำนประจำ อำทิ เงนิ เดือน ค่ำใชจ้ ่ำย ร้อยละ (%) ในกำรดำเนนิ งำนต่ำงๆ มสี ดั สว่ นเฉลีย่ ประมำณ 3 ใน 4 ของวงเงนิ งบประมำณ 100% 19.26 17.26 19.38 21.64 22.18 และสว่ นหน่งึ เป็นรำยจำ่ ยตำมกฎหมำยโดย 80% 82.74 80.62 78.36 77.82 ระบใุ หร้ ำยจ่ำยบุคลำกรและสวัสดกิ ำรของ ปี 2561 รัฐตอ้ งต้ังไว้อย่ำงพอเพยี ง 60% รายจา่ ยลงทุน เป็นคำ่ ใชจ้ ่ำยลงทุน 40% 80.74 ในสินทรัพย์ประเภททุนเพือ่ ประโยชนร์ ะยะ ยำวในด้ำนต่ำงๆ ของประเทศ มสี ดั สว่ น 20% โดยเฉล่ยี ประมำณ 1 ใน 5 หรือเฉลยี่ คดิ เป็น ร้อยละ 19.94 ของวงเงนิ งบประมำณ 0% ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 รำยจ่ำยประจำปี ซง่ึ สอดรบั กบั ปี 2557 รายจ่ายประจา รายจ่ายลงทุน พระรำชบญั ญตั ิวินัยกำรเงินกำรคลงั ของรัฐ พ.ศ. 2561 มำตรำ 20 (1) ที่ระบใุ หร้ ำยจำ่ ย ลงทนุ มีจำนวนไม่นอ้ ยกว่ำร้อยละ 20 ของ งบประมำณรำยจำ่ ยประจำปี ทมี่ า: 1) พระรำชบญั ญัตงิ บประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 2) พระรำชบัญญตั ิงบประมำณรำยจ่ำยเพม่ิ เติม ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2559-2561 3) ข้อมูลจำกระบบกำรบรหิ ำรกำรเงนิ กำรคลงั ภำครฐั แบบอิเล็กทรอนกิ ส์ (GFMIS) กรมบญั ชกี ลำง ปีงบประมำณ พ.ศ. 2557-2561 ประมวลผลโดย: สำนกั งบประมำณของรัฐสภำ สำนักงบประมำณของรฐั สภำ หนำ้ 38 สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114