Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แก้กรรม

แก้กรรม

Published by librarytl49, 2020-11-03 09:19:01

Description: กฎธรรมชาติเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ คือกระบวนการก่อการกระทำและ. การให้ผลของการกระทำ หรือพูดให้จำเพาะลงไปอีกว่า กระบวนการแห่งเจตน์จำนงหรือความคิด

Search

Read the Text Version

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย! นแ้ี ล เปน็ ความผดิ แผกแตกตา่ งกนั เปน็ ความมงุ่ หมาย ทแ่ี ตกตา่ งกนั เปน็ เครอื่ งกระทา� ใหแ้ ตกตา่ งกนั ระหวา่ งตถาคตผอู้ รหนั ต- สัมมาสมั พุทธะ กบั ภิกษผุ ้ปู ัญญาวมิ ตุ ต.ิ ๘. ตรัสไวว้ า่ ให้ทรงจ�าบทพยัญชนะและค�าอธิบายอยา่ งถูกตอ้ ง พร้อมขยนั ถา่ ยทอดบอกสอนกันตอ่ ไป -บาลี จตุกกฺ . อ.ํ ๒๑/๑๙๗/๑๖๐. ภิกษทุ งั้ หลาย ! พวกภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั น ้ี เลา่ เรยี นสตู รอนั ถอื กนั มาถกู ดว้ ยบทพยญั ชนะทใี่ ชก้ นั ถกู ความหมายแหง่ บทพยญั ชนะทใ่ี ชก้ นั กถ็ กู ยอ่ มมนี ยั อนั ถกู ตอ้ งเชน่ นน้ั . ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! นเี่ ปน็ มลู กรณที หี่ นงึ่ ซงึ่ ทา� ใหพ้ ระสทั ธรรมตงั้ อยไู่ ดไ้ มเ่ ลอะเลอื นจนเสอ่ื มสญู ไป... ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! พวกภกิ ษเุ หลา่ ใด เปน็ พหสุ ตู คลอ่ งแคลว่ ในหลกั พระพทุ ธวจน ทรงธรรม ทรงวนิ ยั ทรงมาตกิ า (แมบ่ ท) พวกภกิ ษเุ หลา่ นนั้ เอาใจใส ่ บอกสอน เนอ้ื ความแหง่ สตู รทงั้ หลายแกค่ นอน่ื ๆ เมอื่ ทา่ นเหลา่ นน้ั ลว่ งลบั ไป สตู รทง้ั หลาย กไ็ มข่ าดผเู้ ปน็ มลู ราก (อาจารย)์ มที อ่ี าศยั สบื กนั ไป. ภิกษุท้ังหลาย ! น่ีเป็น มูลกรณีท่ีสาม ซ่ึงท�าให้พระสัทธรรมต้ังอยู่ได้ ไมเ่ ลอะเลอื นจนเสอ่ื มสญู ไป... *** ในที่นี้ยกมา ๒ นัย จาก ๔ นัย ของมูลเหตุส่ีประการ ที่ท�าให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้ ไม่เลอะเลือนจนเส่ือมสูญไป ๙. ทรงบอกวิธีแกไ้ ขความผิดเพ้ยี นในคา� สอน -บาลี มหา. ท.ี ๑๐/๑๔๔/๑๑๓-๖. ๑. (หากม)ี ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นก้ี ลา่ วอยา่ งนวี้ า่ ผมู้ อี ายุ ! ขา้ พเจา้ ไดส้ ดบั รบั มาเฉพาะพระพกั ตรพ์ ระผมู้ พี ระภาควา่ “นเ้ี ปน็ ธรรม นเ้ี ปน็ วนิ ยั นเี้ ปน็ คา� สอนของพระศาสดา”... ๒. (หากม)ี ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นก้ี ลา่ วอยา่ งนวี้ า่ ในอาวาสชอ่ื โนน้ มี สงฆอ์ ยพู่ รอ้ มดว้ ยพระเถระ พรอ้ มดว้ ยปาโมกข์ ขา้ พเจา้ ไดส้ ดบั มาเฉพาะ หนา้ สงฆน์ นั้ วา่ “นเี้ ปน็ ธรรม นเ้ี ปน็ วนิ ยั นเี้ ปน็ คา� สอนของพระศาสดา”...

๓. (หากม)ี ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นกี้ ลา่ วอยา่ งนวี้ า่ ในอาวาสชอื่ โนน้ มี ภกิ ษผุ เู้ ปน็ เถระอยจู่ า� นวนมาก เปน็ พหสุ ตู เรยี นคมั ภรี ์ ทรงธรรม ทรงวนิ ยั ทรงมาตกิ า ขา้ พเจา้ ไดส้ ดบั มาเฉพาะหนา้ พระเถระเหลา่ นน้ั วา่ “นเี้ ปน็ ธรรม นเี้ ปน็ วนิ ยั นเี้ ปน็ คา� สอนของพระศาสดา”... ๔. (หากม)ี ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นก้ี ลา่ วอยา่ งนวี้ า่ ในอาวาสชอ่ื โนน้ มี ภกิ ษผุ เู้ ปน็ เถระอยรู่ ปู หนง่ึ เปน็ พหสุ ตู เรยี นคมั ภรี ์ ทรงธรรม ทรงวนิ ยั ทรงมาตกิ า ขา้ พเจา้ ไดส้ ดบั มาเฉพาะหนา้ พระเถระรปู นน้ั วา่ “นเ้ี ปน็ ธรรม นเ้ี ปน็ วนิ ยั นเ้ี ปน็ คา� สอนของพระศาสดา”... เธอทง้ั หลายยงั ไมพ่ งึ ชนื่ ชม ยงั ไมพ่ งึ คดั คา้ นคา� กลา่ วของผนู้ น้ั พงึ เรยี น บทและพยญั ชนะเหลา่ นน้ั ใหด้ ี แลว้ พงึ สอบสวนลงในพระสตู ร เทยี บเคยี ง ดใู นวนิ ยั ถ้าบทและพยัญชนะเหล่านั้น สอบลงในสูตรก็ไม่ได้ เทียบเข้าใน วินัยก็ไม่ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า “น้ีมิใช่พระด�ารัสของพระผู้มีพระภาค พระองคน์ นั้ แนน่ อน และภกิ ษนุ รี้ บั มาผดิ ” เธอทงั้ หลาย พงึ ทง้ิ คา� นนั้ เสยี ถา้ บทและพยญั ชนะเหลา่ นนั้ สอบลงในสตู รกไ็ ด ้ เทยี บเขา้ ในวนิ ยั กไ็ ด ้ พงึ ลงสนั นษิ ฐานวา่ “นเ้ี ปน็ พระดา� รสั ของพระผมู้ พี ระภาคพระองคน์ นั้ แนน่ อน และภกิ ษนุ นั้ รบั มาดว้ ยด”ี เธอทงั้ หลาย พงึ จา� มหาปเทส... นไี้ ว.้ ๑๐. ทรงตรสั แกพ่ ระอานนท ์ ให้ใชธ้ รรมวนิ ยั ท่ีตรสั ไวเ้ ป็นศาสดาแทนตอ่ ไป -บาลี มหา. ท.ี ๑๐/๑๗๘/๑๔๑. -บาลี ม. ม. ๑๓/๔๒๗/๔๖๓. -บาลี มหาวาร. ส.ํ ๑๙/๒๑๗/๗๔๐. อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างน้ีว่า ‘ธรรมวินัยของ พวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปเสียแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา’ ดังนี้. อานนท์ ! พวกเธออยา่ คิดอย่างนนั้ . อานนท์ ! ธรรมก็ดี วนิ ัยก็ดี ทเ่ี รา แสดงแล้ว บญั ญัติแลว้ แก่พวกเธอท้ังหลาย ธรรมวนิ ัยน้ัน จกั เป็น ศาสดาของพวกเธอทง้ั หลาย โดยกาลลว่ งไปแหง่ เรา.

อานนท์ ! ในกาลบดั นกี้ ด็ ี ในกาลลว่ งไปแหง่ เรากด็ ี ใครกต็ าม จกั ตอ้ งมตี นเปน็ ประทปี มตี นเปน็ สรณะ ไมเ่ อาสงิ่ อน่ื เปน็ สรณะ มธี รรมเปน็ ประทปี มธี รรมเปน็ สรณะ ไมเ่ อาส่งิ อืน่ เป็นสรณะ เปน็ อย.ู่ อานนท ์ ! ภิกษพุ วกใด เปน็ ผ้ใู ครใ่ นสกิ ขา ภิกษพุ วกน้ัน จกั เปน็ ผอู้ ยู่ในสถานะ อนั เลิศทส่ี ดุ แล. อานนท์ ! ความขาดสูญแห่งกัลยาณวัตรน้ี มีในยุคแห่งบุรุษใด บุรุษน้ันชื่อว่า เป็นบรุ ุษคนสดุ ทา้ ยแห่งบรุ ษุ ท้ังหลาย... เราขอกลา่ วยา้� กะ เธอว่า... เธอท้งั หลายอยา่ เปน็ บรุ ุษคนสุดท้ายของเราเลย. เธอทั้งหลายอยา่ เปน็ บุรษุ คนสดุ ท้าย ของเราเลย -บาลี ม. ม. ๑๓/๔๒๗/๔๖๓.



พุทธวจน-หมวดธรรม 19 พทุ ธวจน-ปฎ ก วิทยุวัดนาปาพง

• ล�ำ ดบั ก�รสบื ทอดพทุ ธวจน รชั กาลท ่ี ๗ รชั กาลท ่ี ๙ พทุ ธกาล รชั กาลท ่ี ๑ รชั กาลท ่ี ๔ รชั กาลท ่ี ๕ ๑) หลกั ฐานสมยั พทุ ธกาล การใช้ พุทธวจน ที่มีความหมายถึงคำาสอนของ พระพทุ ธเจา้ มมี าตงั้ แตใ่ นสมยั พทุ ธกาล ดงั ปรากฏหลกั ฐาน ในพระวินัยปิฎก ว่าพระศาสดาให้เรียนพุทธวจน (ภาพท่ี ๑.๑ และภาพท่ี ๑.๒) ภาพท ่ี ๑.๑ ค�ำ อธบิ �ยภ�พ : ขอ้ ความสว่ นหนง่ึ จากพระไตรปฎิ ก ฉบบั ร.ศ. ๑๑๒ (จปร.อกั ษรสยาม) หนา้ ๖๔ ซง่ึ พระไตรปฎิ กภาษาไทย ฉบบั หลวง พ.ศ. ๒๕๒๕ เลม่ ท่ี ๗ พระวนิ ยั ปฎิ ก จลุ วรรค ภาค ๒ หนา้ ๔๕ ไดแ้ ปลเปน็ ภาษาไทยไวด้ งั น้ี [๑๘๐] ... ดูกรภกิ ษทุ ้ังหลาย ภกิ ษุไมพ่ งึ ยกพทุ ธวจนะข้ึนโดยภาษา สันสกฤต รูปใดยกข้ึน ต้องอาบัติทุกกฏ. ดูกรภิกษุท้ังหลาย เร�อนุญ�ตให้  เล�่ เรยี นพุทธวจนะตามภาษาเดิม. ทม่ี า : พระไตรปฎิ ก ฉบบั ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ.๒๔๓๖) พระวนิ ยปฏิ ก จลุ ล์ วคั ค์ เลม่ ๒ หนา้ ๖๔

ภาพท ่ี ๑.๒ คำ�อธบิ �ยภ�พ : คาำ แปลเปน็ ภาษาไทย ของภาพท่ี ๑.๑ จาก หนังสือ สารานุกรม พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ประมวลจาก พระนิพนธ์ สมเด็จ พ ร ะ ม ห า ส ม ณ เ จ้ า กรมพระยาวชริ ญาณ- วโรรส ทม่ี า : หนังสือ สารานกุ รมพระพุทธศาสนา ประมวลจากพระนพิ นธ์ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส หนา้ ๖๙๖

• ล�ำ ดบั ก�รสบื ทอดพทุ ธวจน รชั กาลท ่ี ๙ พทุ ธกาล รชั กาลท ่ี ๑ รชั กาลท ่ี ๔ รชั กาลท ่ี ๕ รชั กาลท ่ี ๗ ๒) หลกั ฐานสมยั รชั กาลท ่ี ๑ พุทธวจนะ มีปรากฏในหนังสือพงษาวดาร กรงุ ศรอี ยธุ ยา ภาษามคธ แล คาำ แปล ซง่ึ แตง่ เปน็ ภาษามคธ เพอ่ื เฉลมิ พระเกยี รตเิ มอ่ื สงั คายนาในรชั กาลท ่ี ๑ เปน็ หนงั สอื ๗ ผูก ต้นฉบบั มีอย่ใู นวัดพระแก้ว กรงุ พนมเปญ ประเทศ กมั พชู า แปลเปน็ ภาษาไทยโดยพระยาพจนสนุ ทร คาำ นาำ ของ หนงั สอื เลม่ นี้ เปน็ พระนพิ นธใ์ นสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดาำ รงราชานภุ าพ (ภาพที่ ๒.๑ และภาพที่ ๒.๒) ภาพท ่ี ๒.๑ ค�ำ อธิบ�ยภ�พ : ขอ้ ความส่วนหน่ึงจากหนังสือ พงษาวดาร กรงุ ศรอี ยุธยา ภาษามคธ แล คำาแปล หนา้ ๑

ภาพท ่ี ๒.๒ คำ�อธิบ�ยภ�พ : ข้อความส่วนหนึ่ง จากหนงั สอื พงษาวดารกรงุ ศรอี ยธุ ยา ภาษามคธ แล คาำ แปล หนา้ ๒ ทม่ี า : หนังสือ พงษาวดารกรงุ ศรีอยุธยา ภาษามคธ แล คาำ แปล

• ล�ำ ดบั ก�รสบื ทอดพทุ ธวจน รชั กาลท ่ี ๙ พทุ ธกาล รชั กาลท ่ี ๑ รชั กาลท ่ี ๔ รชั กาลท ่ี ๕ รชั กาลท ่ี ๗ ๓) หลกั ฐานสมยั รชั กาลท ่ี ๔ พทุ ธวจน มปี รากฏในหนงั สอื พระคาถาสรรเสรญิ พระธรรมวนิ ยั พระราชนพิ นธใ์ นรชั กาลท ่ี ๔ (ภาพท่ี ๓.๑) และปรากฏในหนังสือ ประชุมพระราชนิพนธ์ภาษาบาลี ในรชั กาลท ่ี ๔ ภาค ๒ (ภาพท่ี ๓.๒ และภาพท่ี ๓.๓) ภาพท ่ี ๓.๑ ทม่ี า : หนงั สอื พระคาถาสรรเสรญิ พระธรรมวนิ ยั พระราชนพิ นธ์ ในรชั กาลท่ี ๔ ทรงแปลเปน็ ภาษาไทยโดย สมเดจ็ พระสงั ฆราช วดั ราชประดษิ ฐ หนา้ ๒๕

พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี ๔ ภาพท ่ี ๓.๒ ภาพท ่ี ๓.๓ ทม่ี า : หนงั สอื ประชมุ พระราชนพิ นธภ์ าษาบาลี ในรชั กาลท่ี ๔ ภาค ๒ หนา้ ๑๘๐ และหนา้ ๑๘๓

• ล�ำ ดบั ก�รสบื ทอดพทุ ธวจน รชั กาลท ่ี ๙ พทุ ธกาล รชั กาลท ่ี ๑ รชั กาลท ่ี ๔ รชั กาลท ่ี ๕ รชั กาลท ่ี ๗ ๔) หลกั ฐานสมยั รชั กาลท ่ี ๕ พทุ ธวจน มปี รากฏในหนงั สอื พระราชวจิ ารณ ์ เทยี บ ลทั ธพิ ระพทุ ธศาสนาหนิ ยานกบั มหายาน พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระราชนพิ นธ์ (ภาพท่ี ๔.๑), ปรากฏในหนังสือ พระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีไปมากับ สมเด็จ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส (ภาพท่ี ๔.๒ และภาพท่ี ๔.๓) และปรากฏในหนังสือ พระราชดำารัส ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๔๑๗ ถึง พ.ศ. ๒๔๕๓) จัดทำาโดย มูลนิธิสมเด็จ พระเทพรตั นราชสุดา (ภาพที่ ๔.๔) พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ รชั กาลท่ี ๕ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส

ภาพท ่ี ๔.๑ ทม่ี า :   หนงั สอื พระราชวจิ ารณ์ เทยี บลทั ธพิ ระพทุ ธศาสนาหนิ ยานกบั มหายาน พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระราชนพิ นธ์ หนา้ ๑๘

ภาพท ่ี ๔.๒ ภาพท ่ี ๔.๓ ทม่ี า :  หนงั สอื พระราชหตั ถเลขา พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงมไี ปมากบั สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส หนา้ ๑๐๒ และ ๑๐๙

ภาพท ่ี ๔.๔ ทม่ี า :  หนงั สอื พระราชดาำ รสั ในพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๔๑๗ ถงึ พ.ศ. ๒๔๕๓) จดั ทาำ โดย มลู นธิ สิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า พมิ พค์ รง้ั ท่ี ๔ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ หนา้ ๑๐๐

• ล�ำ ดบั ก�รสบื ทอดพทุ ธวจน รชั กาลท ่ี ๙ พทุ ธกาล รชั กาลท ่ี ๑ รชั กาลท ่ี ๔ รชั กาลท ่ี ๕ รชั กาลท ่ี ๗ ๕) หลกั ฐานสมยั รชั กาลท ่ี ๗ พทุ ธวจนะ มปี รากฏในราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ท่ี ๔๔ วนั ที่ ๔ มนี าคม ๒๔๗๐ เรอ่ื ง รายงานการสรา้ งพระไตรปฎิ ก โดย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจนั ทบรุ นี ฤนาถ (ภาพท่ี ๕) ภาพท ่ี ๕ ทม่ี า :  ราชกจิ จานุเบกษา เลม่ ท่ี ๔๔ หนา้ ๓๙๓๙ วันท่ี ๔ มนี าคม ๒๔๗๐ เร่อื ง รายงานการสรา้ งพระไตรปิฎก

• ล�ำ ดบั ก�รสบื ทอดพทุ ธวจน รชั กาลท ่ี ๙ พทุ ธกาล รชั กาลท ่ี ๑ รชั กาลท ่ี ๔ รชั กาลท ่ี ๕ รชั กาลท ่ี ๗ ๖) หลกั ฐานสมยั รชั กาลท ่ี ๙ พทุ ธวจน มปี รากฏในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั พเิ ศษ วันท่ี ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๘ เร่ือง ประกาศสังคายนา พระธรรมวนิ ยั ตรวจชาำ ระพระไตรปฎิ ก (ภาพท่ี ๗) ภาพท ่ี ๖ ทม่ี า :  ราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั พเิ ศษ หนา้ ๑๖ เลม่ ท่ี ๑๐๒ ตอนท่ี ๑๖๗ วนั ท่ี ๑๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๒๘ เรอ่ื ง ประกาศสงั คายนาพระธรรมวนิ ยั ตรวจชาำ ระพระไตรปฎิ ก

“ราหุล ! กระจกเงามีไว้สำ� หรบั ท�ำอะไร ? “ขา้ แตพ่ ระองค์ผเู้ จริญ ! กระจกเงามีไว้สำ� หรบั สอ่ งดู พระเจ้าขา้ !”. “ราหุล ! กรรมทัง้ หลาย ก็เปน็ สงิ่ ทีบ่ ุคคลควรสอดสอ่ ง พจิ ารณาดแู ลว้ ดเู ลา่ เสยี ก่อน จึงทำ� ลงไป ทางกาย ทางวาจา หรอื ทางใจ ฉันเดยี วกบั กระจกเงาน้ันเหมอื นกนั ”. -บาลี ม. ม. ๑๓/๑๒๕/๑๒๘

... โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม หมู่สัตว์ ย่อมเป็นไปตามกรรม สัตว์ท้ังหลาย มีกรรมเป็นเคร่ืองรึงรัด เหมือนล่ิมสลักขันยึดรถท่ีก�าลังแล่นไปอยู่. สัตว์ท้งั หลาย เปน็ ผมู้ ีกรรมเป็นของตน เปน็ ทายาทแหง่ กรรม มกี รรมเป็นกา� เนดิ มีกรรมเปน็ เผา่ พันธ์ุ มีกรรมเปน็ ทพ่ี ึง่ อาศยั กระทา� กรรมใดไว้ ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จกั เป็นผ้รู บั ผลกรรมนนั้ . -บาลี สุ. ข.ุ ๒๕/๔๕๗/๓๘๒. , -บาลี ทสก. อํ. ๒๔/๓๐๙/๑๙๓.

กรรม ... ขา้ วเปลือก ทรัพย์ เงินทอง หรอื ข้าวของ ทหี่ วงแหนอย่างใดอย่างหนง่ึ มอี ยู่ ทาส กรรมกร คนใช้ และผู้อาศัยของเขา พงึ พาเอาไปไมไ่ ด้ท้ังหมด จะตอ้ งถึงซง่ึ การละทง้ิ ไวท้ ้ังหมด กบ็ คุ คลทา� กรรมใด ด้วยกาย ดว้ ยวาจา หรือด้วยใจ กรรมนน้ั แหละ เปน็ ของๆ เขา และเขาย่อมพาเอากรรมนัน้ ไป อนงึ่ กรรมน้นั ยอ่ มตดิ ตามเขาไป เหมอื นเงาติดตามตนฉะน้ัน เพราะฉะนน้ั บุคคลควรท�ากรรมดี สง่ั สมไว้ส�าหรับภพหน้า บญุ ทัง้ หลาย ย่อมเปน็ ท่ีพงึ่ ของสัตว์ทัง้ หลาย ในโลกหน้า. -บาลี สคา. ส.ํ ๑๕/๑๓๔/๓๙๒. ข้อมูลธรรมะน้ี จดั ทำ�เพอ่ื ประโยชน์ท�งก�รศกึ ษ�สสู่ �ธ�รณชนเปน็ ธรรมท�น ลขิ สทิ ธใ์ิ นต้นฉบับน้ไี ด้รับก�รสงวนไว้ ในก�รจะจัดท�ำ หรอื เผยแผ่ โปรดใชค้ ว�มละเอยี ดรอบคอบ เพอ่ื รกั ษ�คว�มถกู ตอ้ งของขอ้ มลู ใหข้ ออนญุ �ตเปน็ ล�ยลกั ษณอ์ กั ษรและปรกึ ษ�ด�้ นขอ้ มลู ในการจดั ทาำ เพอ่ื ความสะดวกและประหยดั ตดิ ตอ่ ไดท้ ่ี มลู นธิ พิ ทุ ธโฆษณ์ โทร. ๐๘ ๒๒๒๒ ๕๗๙๐ - ๙๔ คุณศรช� โทร. ๐๘ ๑๕๑๓ ๑๖๑๑ คุณอ�รีวรรณ โทร. ๐๘ ๕๐๕๘ ๖๘๘๘ ตดิ ต�มก�รเผยแผพ่ ระธรรมค�ำ สอนต�มหลกั พทุ ธวจน โดยพระอ�จ�รยค์ กึ ฤทธ์ิ โสตถฺ ผิ โล ไดท้ ่ี www.watnapp.com | media.watnapahpong.org | www.buddhakos.org Facebook : Buddhawajana Real | YouTube : Buddhawajana Real Instagram : Buddhawajana Real | Facebook : coursesappaya คล่ืน ส.ว.พ. FM 91.0 MHz ทกุ วนั พระ ช่วงบ�่ ย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook