Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานผลการประเมินความสำเร็จของผลการดำเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

รายงานผลการประเมินความสำเร็จของผลการดำเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Published by ยาย่า กศน., 2021-04-08 08:38:56

Description: รวมแล่ม2 ผอ

Search

Read the Text Version

รายงานผลการประเมนิ ความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจดั การศึกษานอก ระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน ของศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอขุนหาญ ประจาปีงบประมาณ 2562 นางวาสนา ชารวี นั ตาแหน่ง ผ้อู านวยการสถานศึกษา วทิ ยฐานะ ผู้อานวยการชานาญการพิเศษ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอขุนหาญ สานักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดศรสี ะเกษ สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ก2 ชอ่ื เรอ่ื ง รายงานผลการประเมนิ ความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจดั การศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ผู้ประเมนิ ตามอัธยาศยั อาเภอขุนหาญ ประจาปีงบประมาณ 2562 ตาแหน่ง นางวาสนา ชารีวัน หน่วยงาน ผู้อานวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ ผอู้ านวยการชานาญการพิเศษ ปีท่รี ายงาน ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอขุนหาญ พ.ศ. 2562 บทคดั ยอ่ การประเมินความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนหาญ ประจาปีงบประมาณ 2562 มีวัตถุประสงค์ 1) เพ่ือประเมินความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวช้วี ัด 2) เพื่อประเมนิ ความพึง พอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ Goal–Based Evaluation กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการประเมินคร้ังนี้ไดแ้ ก่ คณะกรรมการประเมินระดับอาเภอ ระดับตาบล และผู้ทรงคุณวุฒิ จานวน 60 คน นักศึกษา การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานท่ีลงทะเบียนเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จานวน 901 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการประเมินประกอบด้วย 1) แบบประเมินความสาเร็จของผลการ ดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐาน และตัวชี้วัด 2) แบบสอบถามความพึงพอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาข้ันพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 การหาคุณภาพเครื่องมือโดยวิเคราะห์ความเท่ียงตรงของ เนอื้ หาโดยผู้เช่ียวชาญ มคี า่ IOC = 1 ทกุ ขอ้ ท้ัง 2 ฉบบั และฉบับที่ 2 คานวณหาค่าสมั ประสิทธิ์แอลฟ่า (Alpha – Coefficient : α-Coefficient) ของครอนบาค ( Cronbach) ค่าความเช่ือม่ัน ของ แบบสอบถามทงั้ ฉบับเทา่ กบั 0.914 การวิเคราะห์ข้อมลู โดยใช้สถิติ ร้อยละ ค่าเฉลยี่ และส่วนเบย่ี งเบน มาตรฐาน

ข3 ผลการประเมินพบว่า 1. ความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด ในภาพรวมมีการดาเนินการได้ตามเกณฑ์อยู่ในระดับ ทอง มผี ลการดาเนินงานแตล่ ะด้าน ดังน้ี 1) ดา้ นหลกั สูตรสถานศกึ ษา ความสาเร็จของผลการดาเนนิ งานอยใู่ นระดับทอง 2) ดา้ นการจดั การศกึ ษา ความสาเรจ็ ของผลการดาเนินงานอย่ใู นระดับทอง 3) ด้านส่ือ นวัตกรรม ภูมิปัญญาแหล่งเรียนรู้ เทคโนโลยีทางการศึกษา ความสาเร็จ ของผลการดาเนนิ งานอย่ใู นระดับทอง 4) ดา้ นประสิทธิภาพครู ความสาเรจ็ ของผลการดาเนนิ งานอยู่ในระดบั ทอง 5) ด้านการเพิ่มผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ความสาเรจ็ ของผลการดาเนินงานอยู่ในระดับ ทอง 2. ผลการประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้นั พน้ื ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ความพึงพอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 ในภาพรวมพบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านสรปุ ได้ ดังนี้ 1) ด้านคุณภาพของการใหบ้ ริการ มีความพงึ พอในในภาพรวมอยู่ในระดับ มาก 2) ด้านกระบวนการการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีความพึงพอในในภาพรวมอยู่ ในระดับ มาก 3) ด้านครู / วทิ ยากร มคี วามพึงพอในในภาพรวมอยใู่ นระดับ มากท่ีสดุ 4) ด้านสอ่ื และส่งิ อานวยความสะดวก มีความพงึ พอในในภาพรวมอยูใ่ นระดับ มาก 5) ดา้ นการวดั ประเมนิ ผล มคี วามพึงพอในในภาพรวมอยู่ในระดบั มาก

4ค กติ ติกรรมประกาศ ร า ย ง า น ผ ล กา ร ป ร ะเ มิน ฉ บั บ นี้ ส า เ ร็ จ ได้ ด้ ว ย คว า มอนุ เ คร า ะห์ ข อง บุ ค คล แ ล ะห น่ ว ย ง า น ที่ เกี่ยวข้องหลายแห่ง กราบขอบพระคุณ ท่าน ผอ.วรินทร์ วิรุณพันธ์ ผอ.สมัย แสงใส ผอ.สุจิน หล้าคา รศ.ดร.อุดมพันธ์ พิชญ์ประเสริฐ และดร.วรนันท์ ขันแข็ง ท่ีได้กรุณาอนุเคราะห์เป็นผู้เช่ียวชาญให้ คาแนะนาเก่ียวกับการปรบั ปรุงเคร่อื งมือในการประเมินและการวิเคราะหข์ ้อมูลในการประเมินคร้ังน้ี นอกจากน้ีผู้ประเมินขอกราบขอบพระคุณ คณะกรรมการประเมิน ผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน บุคลากร และนักศึกษา กศน.อาเภอขุนหาญทุกคน ท่ีกรุณาเสียสละเวลาในการประเมินผลการ ดาเนนิ งานและตอบแบบสอบถามให้ขอ้ มูลที่เป็นประโยชน์ต่อการประเมินครัง้ น้ี วาสนา ชารีวัน

5ง สารบัญ บทคัดย่อ.................................................................................................................................... หน้า กิตติกรรมประกาศ.................................................................................................................... ก สารบญั ..................................................................................................................................... ค สารบัญตาราง........................................................................................................................... ง สารบัญภาพ.............................................................................................................................. ฉ บทท่ี ฌ 1. บทนา............................................................................................................................... 1 ความเปน็ มาของการประเมิน........................................................................................ 1 วตั ถุประสงคข์ องการประเมนิ ........................................................................................ 3 กรอบแนวคดิ ในการประเมิน......................................................................................... 3 ขอบเขตการประเมนิ ..................................................................................................... 4 ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั ...................................................................................................... 7 นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ.......................................................................................................... 7 10 2. เอกสารและงานวิจยั ท่ีเกี่ยวข้อง...................................................................................... 11 การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ........................................................... 49 การประเมินโครงการ.................................................................................................... 55 มาตรฐานและตวั ชี้วัดของงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน.. 70 75 ความพงึ พอใจ............................................................................................................... 82 งานวจิ ยั ท่ีเกยี่ วขอ้ ง....................................................................................................... 82 3. วิธดี าเนินการประเมนิ .................................................................................................... 83 ประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ ง........................................................................................... 84 เครอื่ งมือที่ใช้ในการประเมนิ ........................................................................................ 86 การสร้างและตรวจสอบคุณภาพของเคร่อื งมือ.............................................................. 87 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล................................................................................................... 88 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ....................................................................................................... สถติ ทิ ใ่ี ช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล.....................................................................................

6จ บทที่ หน้า 4. ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล................................................................................................... 90 สญั ลักษณท์ ี่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล........................................................................... 90 ลาดับขน้ั ตอนในการวิเคราะห์ข้อมลู ............................................................................ 90 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล................................................................................................. 91 5. สรปุ ผลการประเมิน อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ.................................................. 106 สรุปผลการประเมิน..................................................................................................... 106 อภปิ รายผล.................................................................................................................. 108 ขอ้ เสนอแนะ............................................................................................................... 113 114 บรรณานุกรม............................................................................................................................ 119 ภาคผนวก................................................................................................................................ 120 128 ภาคผนวก ก เครือ่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมิน......................................................................... 133 ภาคผนวก ข การตรวจสอบคุณภาพของเคร่อื งมือทีใ่ ช้ในการประเมนิ ............................... 149 ภาคผนวก ค ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ................................................................................... 154 ภาคผนวก ง หนังสือราชการท่เี ก่ียวข้อง........................................................................... ประวัตผิ ู้ประเมิน.....................................................................................................................

ฉ7 สารบญั ตาราง หน้า ตารางท่ี 41 58 1. โครงสรา้ งหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551.. 58 2. เกณฑก์ ารพจิ ารณาตัวช้ีวัดที่ 1.1............................................................................. 58 3. เกณฑ์การประเมนิ ตวั ช้วี ดั ท่ี 1.1............................................................................. 59 4. เกณฑ์การพิจารณาตัวช้ีวัดที่ 1.2............................................................................. 59 5. เกณฑก์ ารประเมนิ ตวั ช้วี ัดท่ี 1.2............................................................................. 59 6. เกณฑก์ ารพิจารณาตัวชี้วัดท่ี 1.3............................................................................. 59 7. เกณฑก์ ารประเมินตวั ชี้วัดท่ี 1.3............................................................................. 60 8. เกณฑก์ ารพิจารณาตวั ช้ีวดั ที่ 2.1............................................................................. 60 9. เกณฑก์ ารประเมินตวั ชว้ี ดั ที่ 2.1............................................................................. 60 10. เกณฑ์การพิจารณาตัวชว้ี ัดที่ 2.2............................................................................. 61 11. เกณฑ์การประเมนิ ตัวชี้วัดที่ 2.2............................................................................. 61 12. เกณฑก์ ารพิจารณาตวั ชวี้ ดั ท่ี 2.3............................................................................. 62 13. เกณฑก์ ารประเมินตัวชี้วดั ที่ 2.3............................................................................. 62 14. เกณฑก์ ารประเมินตัวช้ีวดั ท่ี 2.4............................................................................. 62 15. เกณฑ์การประเมินตวั ชี้วัดที่ 2.4............................................................................. 63 16. เกณฑก์ ารพิจารณาตัวชี้วัดที่ 3.1............................................................................. 63 17. เกณฑก์ ารประเมนิ ตัวช้ีวดั ท่ี 3.1............................................................................. 64 18. เกณฑก์ ารพิจารณาตัวช้ีวัดที่ 3.2............................................................................. 64 19. เกณฑ์การประเมนิ ตวั ชี้วัดที่ 3.2............................................................................. 64 20. เกณฑก์ ารพิจารณาตวั ชว้ี ัดที่ 3.3............................................................................. 65 21. เกณฑก์ ารประเมนิ ตัวชี้วัดท่ี 3.3............................................................................. 65 22. เกณฑ์การพจิ ารณาตวั ช้วี ัดท่ี 3.4............................................................................. 66 23. เกณฑก์ ารประเมนิ ตวั ช้ีวดั ที่ 3.4............................................................................. 66 24. เกณฑ์การพจิ ารณาตัวชว้ี ดั ท่ี 4.1............................................................................. 66 25. เกณฑก์ ารประเมนิ ตวั ช้ีวัดที่ 4.1............................................................................. 66 26. เกณฑก์ ารพจิ ารณาตัวชว้ี ัดท่ี 4.2............................................................................. 67 27. เกณฑก์ ารประเมนิ ตัวชี้วดั ท่ี 4.2............................................................................. 67 28. เกณฑ์การพิจารณาตัวชว้ี ดั ที่ 4.3............................................................................. 67 30. เกณฑ์การประเมินตัวชี้วัดที่ 4.3............................................................................. 67 31. เกณฑก์ ารพจิ ารณาตวั ชวี้ ัดท่ี 5.1............................................................................. 32. เกณฑ์การประเมนิ ตัวชี้วดั ท่ี 5.1.............................................................................

8ช ตารางที่ หนา้ 33. เกณฑก์ ารพิจารณาตัวชว้ี ดั ที่ 5.2.................................................................................. 68 34. เกณฑก์ ารพิจารณาตวั ช้วี ัดท่ี 5.2................................................................................... 68 35. เกณฑก์ ารพิจารณาตัวชีว้ ัดท่ี 5.3................................................................................... 68 36. เกณฑก์ ารประเมินตัวชี้วัดที่ 5.3.................................................................................... 68 37. เกณฑ์การประเมินตัวชี้วัดท่ี 5.4.................................................................................... 69 38. เกณฑ์การประเมนิ ตัวชี้วัดท่ี 5.4................................................................................... 69 39. ความถแี่ ละร้อยละข้อมูลพนื้ ฐานของผปู้ ระเมิน............................................................ 91 40. ความคิดเห็นเก่ียวกับการดาเนินงานของคณะกรรมการประเมนิ ................................... 93 41. ความสาเรจ็ ของการดาเนินงานการจดั การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐาน ปงี บประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด ในภาพรวม..................................... 94 42. ความสาเรจ็ ของการดาเนนิ งานการจดั การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ปีงบประมาณ 2562 มาตรฐานที่ 1 ดา้ นหลักสตู รสถานศึกษา...................................... 95 43. ความสาเร็จของการดาเนนิ งานการจดั การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ปงี บประมาณ 2562 มาตรฐานท่ี 2 ดา้ นการจัดการศึกษา............................................ 96 44. ความสาเรจ็ ของการดาเนินงานการจดั การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน ปีงบประมาณ 2562 มาตรฐานที่ 3 ด้านส่อื นวตั กรรม ภมู ปิ ญั ญาแหล่งเรยี นรู้ 97 เทคโนโลยีทางการศึกษา.............................................................................................. 45. ความสาเร็จของการดาเนนิ งานการจัดการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ปงี บประมาณ 2562 มาตรฐานท่ี 4 ดา้ นประสทิ ธภิ าพคร.ู ............................................ 98 46. ความสาเรจ็ ของการดาเนินงานการจัดการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน 99 ปีงบประมาณ 2562 มาตรฐานที่ 5 ดา้ นการเพิม่ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น..................... 47. ความถแ่ี ละร้อยละข้อมูลพืน้ ฐานของผตู้ อบแบบสอบถามความพึงพอใจ....................... 100 48. ความพงึ พอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ในภาพรวม............................................................................... 101 49. ความพงึ พอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ดา้ นคุณภาพของการให้บริการ................................................. 102 50. ความพงึ พอใจในการดาเนนิ งานการจดั การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ปงี บประมาณ 2562 ดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน......................... 102

ตารางที่ ซ9 หน้า 51. ความพงึ พอใจในการดาเนนิ งานการจัดการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้ัน 103 พื้นฐาน ปงี บประมาณ 2562 ดา้ นครู/วทิ ยากร...................................................................... 104 104 52. ความพงึ พอใจในการดาเนินงานการจดั การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 ดา้ นสอื่ และส่งิ อานวยความสะดวก............................................ 53. ความพงึ พอใจในการดาเนนิ งานการจดั การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ด้านการวัดประเมินผล..............................................................

1ฌ0 สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1. กรอบแนวคิดในการประเมินความสาเร็จของผลการดาเนนิ งานการจัดการศกึ ษานอก 3 ระบบระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ปีงบประมาณ 2562................................................... 4 2. กรอบแนวคดิ ในการประเมินความพงึ พอใจในการดาเนินงานการจดั การศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ปงี บประมาณ 2562..................................................

11 บทที่ 1 บทนา ความเป็นมาของการประเมิน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 4 ได้บัญญัติความหมายของการศึกษา ตลอดชีวิตไว้ว่า หมายถึง การศึกษาท่ีเกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย เพอ่ื ให้สามารถพฒั นาคุณภาพชีวติ ไดอ้ ยา่ งต่อเน่ืองตลอดชีวิตนอกจาก น้ีในพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 มาตรา 8 การ ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาตามอัธยาศัยก็ได้ให้ความสาคัญต่อผู้เรียนโดยได้ระบุไว้ว่า “ผู้เรียนได้รับ ความรู้และทักษะพื้นฐานในการแสวงหาความรู้ท่ีจะเอ้ือต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต”ในความหมายของ การศึกษาตลอดชีวิตดังกล่าวสอดคล้องกับความหมายของการศึกษาซึ่งมีสถานท่ีและระยะเวลา เช่นเดียวกันคือเป็นการศึกษาที่เกิดในทุกสถานท่ีและตลอดระยะเวลาในชีวิตของบุคคลบุคคลหน่ึง นอกจากนกี้ ารศกึ ษาตลอดชีวติ ยังจะต้องเปน็ การผสมผสานกันระหวา่ งการศึกษาในระบบการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอีกด้วยการจัดการศึกษาของประเทศจึงให้ความสาคัญกับการศึกษา ตลอดชวี ิตเปน็ อยา่ งสงู โดยเห็นได้จากความหมายของการศึกษาและความหมายของการศกึ ษาตลอดชีวิต ดังกล่าว พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติเองก็ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 8 โดยในการจัดการศึกษาให้ยึด หลัก 3 ประการคือ เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสาหรับประชาชนให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และพัฒนาสาระและกระบวนการเรยี นรใู้ หเ้ ปน็ ไปอย่างต่อเนื่อง (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551 : 4) การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยซึ่งนับเป็น 2 ใน 3 รูปแบบการศึกษาตามที่ กาหนดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 เพ่ือสร้างโอกาสในการเข้ารับบริการการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยและการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชนตามแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2562 และนโยบายของรัฐบาลด้านสังคมและคุณภาพชีวิตข้อ 4.1 นโยบาย ด้านการศึกษาข้อ 1 การเร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยการปฏิรูประบบความรู้ของสังคมไทย ประกอบด้วยการยกระดับองคค์ วามรใู้ ห้ได้มาตรฐานสากลจดั ให้มโี ครงการตาราแหง่ ชาติท่บี รรจคุ วามรู้ที่ ก้าวหน้าและได้มาตรฐานทั้งความรู้ท่ีเป็นสากลและภูมิปัญญาท้องถิ่นส่งเสริมการอ่าน พร้อมท้ังส่งเสริม การเรียนการสอนภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่นจัดให้มีระบบการจัดการความรู้ปฏิรูปหลักสูตร การศึกษาทุกระดับใหร้ องรับการเปลย่ี นแปลงของโลกและทัดเทียมมาตรฐานสากลบนความเป็นท้องถิ่น และความเปน็ ไทยเพ่ิมผลสัมฤทธิ์ของการศึกษาทุกระดับช้ันโดยวดั ผลจากการผา่ นการทดสอบมาตรฐาน ในระดับชาติและนานาชาติขจัดความไม่รู้หนังสือให้ส้ินไปจากสังคมไทยจัดให้มีครูดีที่เพียงพอในทุก ห้องเรียนให้มีโรงเรียนและสถาบันอาชีวศึกษาท่ีมีคุณภาพสูงในทุกพ้ืนที่พัฒนามหาวิทยาลัยให้เข้าสู่ ระดับโลกพัฒนาระบบการศึกษาให้ผู้เรียนมีความรู้คู่คุณธรรมมุ่งการสร้างจริยธรรมในระดับปัจเจก

122 รวมท้งั สร้างความตระหนักในสิทธแิ ละหนา้ ที่ความเสมอภาคและดาเนินการให้การศึกษาเปน็ พน้ื ฐานของ สงั คมประชาธิปไตยท่ีแท้จริงปรบั ปรุงโครงสร้างระบบบรหิ ารการศึกษาโดยการกระจายอานาจสู่พื้นที่ให้ เสร็จสมบูรณ์โดยเร่มิ จากพนื้ ทีท่ ่มี คี วามพรอ้ ม (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, 2551 : 5) สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้นานโยบายดังกล่าวของรัฐบาลมากาหนดยุทธศาสตร์และจุดเนน้ การดาเนินงานประจาปีงบประมาณ 2562 ไว้ 6 ยุทธศาสตร์คือยุทธศาสตร์ท่ี 1. พัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนการสอน และการวัดผลประเมินผล ยุทธศาสตร์ท่ี 2 การผลิต พัฒนา ครูคณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ท่ี3 ผลิต และพัฒนากาลังคน รวมท้ังงานวิจัยท่ีสอดคล้องกับ ความต้องการของการพัฒนาประเทศ ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาและ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ยุทธศาสตร์ท่ี 5 ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อ การศึกษา และ ยุทธศาสตร์ท่ี 6 พัฒนาระบบบริหารจัดการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัด การศึกษา (สานักงาน กศน., 2562 : 2) จากนโยบายของรัฐบาลนโยบายกระทรวงศึกษาธกิ ารยุทธศาสตร์และจุดเน้นในการดาเนินงาน ของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั ศรีสะเกษ จึงนามาจัดทาแผนงานและโครงการตามแผนปฏิบตั ิ การปีงบประมาณ 2562 โดยนาแนวคิดและหลักการบริหารจัดการองค์กรที่เรียกว่าการบริหารแบบมุ่ง ผลสมั ฤทธ์ิ (Results Based Management :RBM) มาเปน็ แนวทางและทิศทางการบรหิ ารงาน เพอื่ ใช้ เป็นจุดเน้นและกลยุทธ์การดาเนินงานโดยการวิเคราะห์โครงการกาหนดเป้าประสงค์ตัวชี้วัดและเกณฑ์ ก า ร ป ร ะ เ มิ น โ ค ร ง ก า ร ซึ่ ง ก า ห น ด ใ ห้ มี ก า ร ป ร ะ เ มิ น ผ ล ก า ร ด า เ นิ น ง า น ต า ม แ ผ น ง า น แ ล ะ โ ค ร ง ก า ร ปีงบประมาณ 2562 และความพึงพอใจในการดาเนินงานตามโครงการของผู้รับบริการที่เข้าร่วม โครงการ การประเมินผลการดาเนนิ งานโครงการท่ดี าเนินการอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บตามวิธีการวิจัยใน แต่ละช่วงปีงบประมาณจึงมีความจาเป็นอย่างย่ิงเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลและสารสนเทศที่มีคุณภาพ สามารถนาไปใช้ในการตัดสินใจและการขยายงานเพราะจะเป็นรากฐานสาคัญท่ีจะส่งผลกระทบหรือ นาไปสู่ความสาเร็จหรือความล้มเหลวของการดาเนินโครงการต่อไปอย่างต่อเน่ือง (สานักงาน กศน. จงั หวดั ศรีสะเกษ,2562 : 2) ผู้ประเมินได้ตระหนักและเล็งเห็นความสาคัญดังกล่าวข้างต้นจึงมีความสนใจท่ีจะประเมิน ความสาเร็จของผลการดาเนนิ งานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ปงี บประมาณ 2562 ของ กศน.ตาบลทัง้ 12 แห่ง สังกดั ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอขุน หาญ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด ศรีสะเกษ โดยใช้ รูปแบบการประเมินแบบ Goal–Based Evaluation ซ่ึงเป็นรูปแบบการประเมินโครงการท่ีเหมาะสม กับงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่ือจะไดท้ ราบข้อมูลท่ีสาคัญอันจะเปน็ แนวทาง ในการกากับติดตาม พัฒนาและปรับปรุงการดาเนินงานของโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ท่ีกาหนดไว้

133 อย่างมีคุณภาพและเกิดประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนผู้รับบริการและสนองต่อ เจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 อัน จะเป็นประโยชนต์ ่อการพัฒนาสังคมชุมชนและประเทศชาตติ ่อไป วตั ถปุ ระสงคข์ องการประเมิน 1. เพื่อประเมินความสาเรจ็ ของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษา ขั้นพ้ืนฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวชวี้ ัด 2. เพ่ือประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้น พน้ื ฐาน ปีงบประมาณ 2562 กรอบแนวคิดในการประเมิน กรอบแนวคิดในการประเมินคร้ังนจี้ าแนกเปน็ 2 สว่ น ดังนี้ 1. การประเมินความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตวั ชว้ี ัด ของศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอขุนหาญ ภาพท่ี 1 กรอบแนวคดิ ในการประเมินความสาเรจ็ ของผลการดาเนนิ งาน ตวั แปรตน้ : ขอ้ มลู พืน้ ฐาน ตัวแปรตาม : ผลการ คณะกรรมการประเมนิ ดาเนนิ งานตามมาตรฐานและ ตัวช้วี ัด • เพศ • อายุ • มาตรฐานท่ี 1 ด้านบริหารจดั การ • ระดับการศึกษา • มาตรฐานที่ 2 ด้านการจดั การศึกษา • สถานภาพ • มาตรฐานที่ 3 ด้านสือ่ ภมู ิปัญญา • การดาเนินโครงการ และแหลง่ เรยี นรู้ • มาตรฐานที่ 4 ด้านคุณภาพผ้เู รยี น การจัดการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 2. การประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ปงี บประมาณ 2562

144 ภาพท่ี 2 กรอบแนวคดิ ในการประเมินความพงึ พอใจในการดาเนนิ งานการจดั การศึกษานอก ตัวแปรต้น : ข้อมลู พ้ืนฐาน ตัวแปรตาม นกั ศกึ ษา • ความพงึ พอใจในการดาเนนิ งาน • เพศ การจัดการศกึ ษานอกระบบ • อายุ ระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน • ระดบั ช้ันทีก่ าลงั ศกึ ษา ปีงบประมาณ 2562 ระบบระดับการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ขอบเขตการประเมิน 1. ขอบเขตดา้ นเนอ้ื หา การประเมินความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด ของ กศน.ตาบล 12 แห่ง สังกัดศูนย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนหาญ เป็นการประเมินตามมาตรฐานและ ตัวชี้วัดของงานการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ซ่ึงกาหนดไว้ในเอกสารแนวทางการ ดาเนินงานตามแผนปฏิบัติการสานักงาน กศน.จังหวัดศรีสะเกษ ประจาปีงบประมาณพ.ศ.2562 ตาม ระบบการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Results Based Management : RBM) ดังต่อไปน้ี มาตรฐานท่ี 1 ดา้ นหลักสูตรสถานศกึ ษา มาตรฐานที่ 2 ด้านการจัดการศกึ ษา มาตรฐานที่ 3 ดา้ นสอื่ นวัตกรรม ภมู ปิ ัญญาแหล่งเรียนรู้ เทคโนโลยีทางการศกึ ษา มาตรฐานที่ 4 ดา้ นประสิทธภิ าพครู มาตรฐานที่ 5 ด้านการเพม่ิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน 2. ขอบเขตด้านประชากร การประเมินคร้ังน้ีกาหนดขอบเขตของการประเมินออกเป็น 2 ส่วน คือ การประเมิน ความสาเรจ็ ของผลการดาเนนิ งานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด และการประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ประชากรมี ดังน้ี 2.1 การประเมินความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวช้วี ัด

155 ประชากร คือ ผู้ประเมินที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภอขุนหาญแต่งตั้ง ตาบลละ 5 คน รวมท้ังสิ้น 60 คน (ตามคาสั่งศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนหาญ) ที่ 112/2562 ลงวันที่ 15 กนั ยายน 2562) ประกอบไปดว้ ย 2.1.1 คณะกรรมการระดับอาเภอ จากศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอาเภอขุนหาญ จานวน 2 คน ประกอบด้วย ผู้อานวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนหาญ และเจ้าหน้าท่ีแผนงานและโครงการของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอขนุ หาญ เป็นผรู้ ับผิดชอบประเมินทั้ง 12 ตาบล 2.1.2 คณะกรรมการระดับตาบลจากศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั อาเภอขุนหาญ จานวน 1 คน คอื หัวหน้า กศน.ตาบล ผู้รบั ผิดชอบการจดั การศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยในตาบล เป็นผู้รบั ผดิ ชอบประเมนิ เฉพาะตาบลทต่ี นเองรับผดิ ชอบ 2.1.3 คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับท้องถิ่นของอาเภอขุนหาญ จานวน 2 คน จากผู้ทรงคุณวุฒิในพ้ืนท่ี เช่น ผู้แทนจากส่วนราชการระดับตาบล ผู้บริหารท้องถิ่น คณะกรรมการ สถานศึกษา กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นต้น โดยศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัยอาเภอขุนหาญคดั เลอื กเปน็ ผปู้ ระเมนิ เฉพาะตาบลที่ตนเองรบั ผดิ ชอบเทา่ นน้ั 2.2 การประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ปีงบประมาณ 2562 มีประชากรที่ใช้ในการประเมินคร้ังน้ีคือ นักศึกษาการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย ท่ีลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จานวน 901 คน โดยแยกเป็น กศน.ตาบลขุน หาญ จานวน 66 คน กศน.ตาบลโพธ์ิกระสงั ข์ จานวน 71 คน กศน.ตาบลกระหวนั จานวน 72 คน กศน. ตาบลกันทรอม จานวน 73 คน กศน.ตาบลโนนสูง จานวน 80 คน กศน.ตาบลพราน จานวน 82 คน กศน.ตาบลไพร จานวน 78 คน กศน.ตาบลโพธ์ิวงศ์ จานวน 71 คน กศน.ตาบลห้วยจันทร์ จานวน 76 คน กศน.ตาบลบกั ดอง จานวน 80 คน กศน.ตาบลภูฝา้ ย จานวน 73 คน และ กศน.ตาบลสิ จานวน 79 คน 3. ขอบเขตด้านพื้นที่ การประเมินคร้งั นี้กาหนดพน้ื ทใี่ นการประเมนิ จานวน 12 แห่ง คอื 1. กศน.ตาบลขุนหาญ 2. กศน.ตาบลโพธกิ์ ระสังข์ 3. กศน.ตาบลกระหวนั 4. กศน.ตาบลกนั ทรอม 5. กศน.ตาบลโนนสูง 6. กศน.ตาบลพราน 7. กศน.ตาบลไพร 8. กศน.ตาบลโพธวิ์ งศ์

166 9. กศน.ตาบลห้วยจันทร์ 10.กศน.ตาบลบักดอง 11.กศน.ตาบลภูฝา้ ย 12.กศน.ตาบลสิ 4. ตวั แปรทป่ี ระเมนิ ตัวแปรท่ีประเมนิ ในคร้ังนี้จาแนกเป็น 2 สว่ น ดังนี้ 1. การประเมินความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน ปงี บประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวชวี้ ัด ของศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอขุนหาญ 1.1 ตัวแปรต้นคือ ขอ้ มลู พืน้ ฐานของคณะกรรมการประเมิน 1) เพศ 2) อายุ 3) สถานภาพ 4) ระดบั การศึกษา 5) การดาเนินโครงการ 1.2 ตัวแปรตาม ความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน ปีงบประมาณ 2562 ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ ขุน หาญ ตามมาตรฐานและตัวช้วี ัด 5 มาตรฐาน คอื มาตรฐานท่ี 1 ดา้ นหลกั สูตรสถานศกึ ษา มาตรฐานที่ 2 ดา้ นการจดั การศึกษา มาตรฐานท่ี 3 ดา้ นสื่อ นวัตกรรม ภมู ิปัญญาแหลง่ เรียนรู้ เทคโนโลยที างการศกึ ษา มาตรฐานท่ี 4 ด้านประสทิ ธิภาพครู มาตรฐานท่ี 5 ด้านการเพมิ่ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียน 2. การประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ัน พ้นื ฐาน ปีงบประมาณ 2562 2.1 ตวั แปรตน้ คือ ข้อมูลพ้นื ฐานของนกั ศึกษา 1) เพศ 2) อายุ 3) ระดับการศึกษา

177 2.2 ตัวแปรตาม ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ ใ น ก า ร ด า เ นิ น ง า น ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า น อ ก ร ะ บ บ ร ะ ดั บ ก า ร ศึ กษา ข้ันพ้ืนฐาน ปีงบประมาณ 2562 ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ ขนุ หาญ ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ บั การประเมินคร้ังน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานการพัฒนาระบบการบริหารจัดการและ กระบวนการจดั กจิ กรรมการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานดงั ต่อไปนี้ 1. การประเมินมีส่วนช่วยให้ผู้บริหาร ครู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบถึงคุณภาพของ กระบวนการจัดการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน สามารถตอบสนองต่อความตอ้ งการของ ผู้เรียนหรือสังคมได้มากน้อยเพียงใดและสามารถแก้ไขปัญหาในการดาเนินงานการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐานทเ่ี กดิ ขึ้น 2. ผลท่ีได้รับสามารถใชเ้ ป็นข้อมูลประกอบการตัดสนิ ใจในการจัดการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพ่ิมมากขึ้นและเป็นแนวทางในการพัฒนา ปรบั ปรงุ ระบบการบรหิ ารและกระบวนการจดั การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน 3. เป็นข้อมูลสารสนเทศสาหรับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ ขุนหาญ และสถานศึกษาในสังกัดหรือหน่วยงานอ่ืนซ่ึงมีลักษณะการจัดการศึกษาท่ีคล้ายคลึงกันนาไป ประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและปรบั ปรุงการบริหารจดั การและกระบวนการจัดการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน 4. เปน็ แนวทางในการศึกษาและประเมนิ โครงการอนื่ ๆต่อไป นยิ ามศพั ท์เฉพาะ การบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธ์ิ หมายถึง วิธีการบริหารท่ีมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์หรือผลการ ปฏิบัติงานเป็นหลักโดยมีการวัดผลการปฏิบัติงานด้วยตัวช้ีวัดอย่างเป็นรูปธรรมเพ่ือ ให้บรรลุ วัตถุประสงค์ที่ต้ังไว้ทาให้ผู้บริหารทราบผลความก้าวหน้าของการดาเนินงานเป็นระยะๆและสามารถ แก้ไขปัญหาไดท้ ันทว่ งทเี ปน็ การควบคมุ ทิศทางการดาเนินงานใหม้ ุง่ สวู่ ิสยั ทศั น์ของหน่วยงาน การศึกษานอกระบบ หมายถึง กิจกรรมการศึกษาที่มีกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการและ วัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ท่ีชัดเจนมีรูปแบบหลักสูตรวิธีการจัดและระยะเวลาเรียนหรือฝึกอบร มท่ี ยืดหยุ่นและหลากหลายตามสภาพความต้องการและศักยภาพในการเรียนรขู้ องกลุ่มเป้าหมายน้ันและมี วิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ท่ีมีมาตรฐานเพื่อรับคุณวุฒิทางการศึกษาหรือเพื่อจัดระดับผล การเรยี นรู้

188 การประเมินโครงการ หมายถึง กระบวนการในการพิจารณาวิเคราะห์ถึงคุณลักษณะและ คุณภาพของโครงการโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือการใช้วิธีการวิจัยเพ่ือหาข้อมูลที่เป็นจริง และมีความเชื่อถือได้ของโครงการแล้วพิจารณาตัดสินว่าโครงการน้ันบรรลุถึงวัตถุประสงค์หรือไม่และ ด้วยคณุ ภาพของความสาเร็จนั้นเป็นเชน่ ใด การประเมินความสาเร็จตามมาตรฐานและตัวช้ีวัดของโครงการ หมายถึง การประเมิน ความสาเร็จของผลการดาเนินงานตามมาตรฐานและตัวช้ีวัดของงานการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ซงึ่ กาหนดไวใ้ นเอกสารแนวทางการดาเนินงานตามแผนปฏบิ ัติการสานักงาน กศน. จงั หวดั ศรสี ะเกษ ประจาปีงบประมาณพ.ศ.2562 ตามระบบการบรหิ ารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธ์ิ (Results Based Management : RBM) ดงั ต่อไปนี้ มาตรฐานที่ 1 ดา้ นหลกั สตู รสถานศึกษา มาตรฐานท่ี 2 ด้านการจัดการศกึ ษา มาตรฐานท่ี 3 ดา้ นสือ่ นวัตกรรม ภมู ิปัญญาแหล่งเรียนรู้ เทคโนโลยที างการศึกษา มาตรฐานท่ี 4 ดา้ นประสทิ ธภิ าพครู มาตรฐานท่ี 5 ดา้ นการเพิม่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ตัวชี้วัดความสาเร็จของโครงการ หมายถึง องค์ประกอบของเป้าหมายการดาเนินงานท่ีแสดง ถึงความสาเร็จของการดาเนินโครงการแต่ละด้านตามที่สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยจังหวดั ศรสี ะเกษ กาหนด กระบวนการดาเนนิ งาน หมายถึง วิธกี ารดาเนนิ การตา่ งๆเพื่อให้โครงการสาเร็จลุล่วงตาม เปา้ ประสงค์ ผลผลติ จากโครงการ หมายถึง สิง่ ต่างๆที่เกดิ หรือปรากฏข้ึนจากผลของการดาเนนิ โครงการ ความสาเรจ็ ของผลการดาเนนิ งาน หมายถงึ ผลลัพธส์ ุดท้ายของกจิ กรรมใดกจิ กรรมหน่ึง ทีเ่ ปน็ ไปตามเปา้ ประสงค์ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ที ่ีกาหนด สถานศึกษา หมายถึง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ ขุน หาญ สังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดศรีสะเกษ มี บทบาทหน้าทจ่ี ดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ในอาเภอ

199 ครู กศน. หมายถึง ครอู าสาสมคั รการศกึ ษานอกโรงเรียน ครกู ศน.ตาบล ครศู นู ยก์ ารเรียน ชุมชน (ครู ศรช.) ทีร่ บั ผิดในการจัดการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน กลุ่มเป้าหมาย หมายถึง กลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้อยู่ในระบบโรงเรียน ซ่ึงเป็นไปตามมาตรา 5 แหง่ พระราชบญั ญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั พ.ศ. 2551ระบุวา่ “เพื่อ ประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาให้บุคคลได้รับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยอย่างท่ัวถึง และมีคุณภาพตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติโดยบุคคลซ่ึงได้รับการศึกษา ขั้นพื้นฐานไปแล้วหรือไม่ก็ตาม มีสิทธิได้รับการศึกษาในรปู แบบการศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตาม อธั ยาศัยได้ แล้วแต่กรณี ทัง้ นี้ตามกระบวนการและการดาเนนิ การทีไ่ ดบ้ ัญญัติไวใ้ นพระราชบัญญตั นิ ้ี”

20 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวขอ้ ง การประเมินความสาเร็จของผลการดาเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ัน พ้ืนฐาน ปีงบประมาณ 2562 ตามมาตรฐานและตัวชี้วัด และประเมินความพึงพอใจในการดาเนินงาน การจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ปีงบประมาณ 2562 ของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอขุนหาญ ผู้ประเมินได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง เพ่อื เป็นองค์ความรู้เบอ้ื งตน้ สาหรับการประเมนิ ดังนี้ 1. การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 1.1 แนวคิดและทฤษฎีการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั 1.2 ยุทธศาสตรแ์ ละจุดเน้นการดาเนนิ งานของสานกั งาน กศน. ประจาปงี บประมาณ 2562 1.3 นโยบายและยทุ ธศาสตร์การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด ศรีสะเกษ ปงี บประมาณ 2562 2. หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2555) 2.1 แนวคิดและหลกั การการจดั การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน 2.2 ปรัชญาและจดุ ม่งุ หมายการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน 2.3 โครงสรา้ งหลักสตู รการจดั การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 2.4 การจดั การเรียนรู้ตามหลักสูตรการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พื้นฐาน 3. การประเมนิ โครงการ 3.1 ความหมายของการประเมนิ โครงการ 3.2 ความมุง่ หมายและความสาคัญของการประเมินโครงการ 3.3 ประเภทของการประเมินโครงการ 3.4 รปู แบบการประเมนิ โครงการ 4. รายละเอยี ดของแผนงานโครงการ มาตรฐานและตวั ชีว้ ดั ของแผนงานและโครงการ 5. ความพงึ พอใจ 5.1 ความหมายและแนวคดิ ของความพงึ พอใจ 5.2 ความสาคัญของความพึงพอใจ 5.3 ลักษณะของความพึงพอใจ 5.4 ปจั จยั ทีม่ ีผลต่อความพึงพอใจของผูร้ บั บรกิ าร 6. งานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วข้อง

2111 การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 1. แนวคดิ และทฤษฎีการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 1.1 การศึกษานอกระบบ มผี ูไ้ ดใ้ ห้ความหมายของการศึกษานอกระบบ ดงั นี้ จรวยพร ธรณินทร์ (2550 : 2) การศึกษานอกระบบหรือ Non-formal Education (NFE) ได้เกิดข้ึนคร้ังแรกในปี1967 ในการประชุมของ UNESCO เรื่อง The World Educational Crisis หมายถึง การจัดการกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบแต่นอกกรอบของการจัดการศึกษาในระบบ โรงเรียนปกติ โดยมงุ่ บริการใหค้ นกลุ่มต่างๆของประชากร ท้งั ท่ีเป็นผูใ้ หญ่และเด็ก พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 (2542 : 6) ได้อธิบายความหมายของ การศึกษานอกระบบว่าเป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกาหนดจุดมุ่งหมายรูปแบบวิธีการจัด การศกึ ษาระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผลซ่ึงเปน็ เง่ือนไขสาคัญของการสาเรจ็ การศึกษา โดยเนอื้ หาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกบั สภาพปญั หาและความต้องการของบุคคล แตล่ ะกลุ่ม อาชัญญา รตั นอบุ ล (2542 : 1)ได้ให้ความหมายของการศึกษานอกระบบโรงเรียน (Non – Formal Education) ว่าเป็นแนวทางหน่ึงในการจัดการศึกษาซ่ึงเปิดโอกาสให้กับผู้ที่ไม่ได้เข้ารับ การศกึ ษาในระบบโรงเรยี นตามปกติ ได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ พฒั นาตนเอง ให้สามารถดารงตนอยู่ใน สังคมได้อย่างมีความสุข เป็นการจัดการศึกษาในลักษณะอ่อนตัวให้ผู้เรียนมีความสะดวกเลือกเรียนได้ หลายวิธีจึงก่อให้เกิดประโยชนต์ ่อตัวผู้เรียนและสงั คมเป็นอย่างยงิ่ การศึกษานอกโรงเรียนมีความหมาย ครอบคลุมถึงมวลประสบการณ์การเรียนรู้ทุกชนิดท่ีบุคคลได้รับจากการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ตามธรรมชาติการเรียนรู้จากสังคม และการเรียนรู้ที่ได้รับจากโปรแกรมการศึกษาท่ีจัดขึ้น นอกเหนอื ไปจากการศึกษาในโรงเรยี นตามปกติ เป็นกจิ กรรมท่จี ัดขนึ้ เพื่อเปิดโอกาสให้บคุ คลที่มไิ ด้อยู่ใน ระบบโรงเรียนปกติ ไดม้ ีโอกาสแสวงหาความรู้ ทกั ษะ ทัศนคติ เพื่อมงุ่ แกป้ ัญหาในชีวติ ประจาวัน ฝกึ ฝน อาชพี หรือการพัฒนาความรเู้ ฉพาะเรือ่ งตามที่ตนสนใจ สานักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (2549 : 33) ได้ให้ความหมายของการศึกษา นอกระบบ คือ การศึกษานอกระบบเป็นกิจกรรมการศึกษาซึ่งจัดบริการให้แก่ผู้พลาดโอกาสเข้าศึกษา ในระบบโรงเรียนโดยไมจ่ ากดั วยั เพศ พ้นื ฐานการศึกษา กิจกรรมทางการศกึ ษามคี วามยดื หย่นุ ในเร่ือง ต่าง ๆ เช่น ระเบียบ กฎเกณฑ์ หลักสูตร ระยะเวลาของกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพของ กลุ่มเป้าหมายซ่ึงมีความหลากหลาย การศึกษานอกระบบเกิดขึ้นมาจากความเช่ือพ้ืนฐานหรือปรัชญา การศกึ ษาตลอดชีวิตทวี่ ่า บคุ คลได้รับการศึกษาอย่างเปน็ กระบวนการต่อเนื่องตลอดชวี ิต จรวยพร ธรณินทร์ (2550 : 2) ได้ให้ความหมายของคาว่าการศึกษานอกระบบ คือ กระบวนการจัดการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนทั้งท่ีเป็นทัศนคติ ทักษะ และความรู้ ซึ่งทาได้ยืดหยุ่น กว่าการเรียนในระบบโรงเรียนทั่วไปสมรรถนะท่ีเกิดจากการศึกษานอกระบบมีตั้งแต่ ทักษะในการ

2122 เรียนรู้ด้วยตนเอง การทางานเป็นกลุ่ม การแก้ไขความขัดแย้ง การแลกเปล่ียนวัฒนธรรม การเป็นผู้นา การแกป้ ญั หาร่วมกัน การสรา้ งความเช่ือม่นั ความรบั ผดิ ชอบ และความมวี ินยั พระราชบญั ญัติสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย พ.ศ.2551 (2551 : 1) ให้ความหมายของการศึกษานอกระบบว่า การศึกษานอกระบบหมายความว่ากิจกรรมการศึกษาที่มี กลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการและวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ท่ีชัดเจนมีรูปแบบ หลักสูตรวิธีการจัดและ ระยะเวลาเรียนหรือฝึกอบรมที่ยืดหยุ่นและหลากหลายตามสภาพความต้องการและศักยภาพในการ เรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายนั้นและมีวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ที่มีมาตรฐานเพ่ือรับคุณวุฒิ ทางการศึกษาหรือเพ่อื จดั ระดับผลการเรยี นรู้ สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (2554 : 48) ได้ให้ ความหมายของ การศึกษานอกระบบ หมายถึง การศึกษาที่จัดให้กับประชาชน ทุกเพศทุกวัย ไม่ จากัดพื้นฐานการศึกษา อาชีพ ประสบการณ์หรือความสนใจ โดยมีจุดมุ่งหมายท่ีจะให้ผู้เรียนได้รับ ความรดู้ า้ นพื้นฐาน ทกั ษะในการประกอบอาชีพ และทักษะทจี่ าเป็นสาหรับความรู้ด้านอ่นื ๆ เปน็ ฐาน ในการดารงชวี ติ การจัดการศกึ ษานอกระบบมีความยดื หยุน่ ในการกาหนดจุดมงุ่ หมาย รปู แบบ วิธกี าร จัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดผลและประเมินผล ซ่ึงเป็นเงื่อนไขการสาเรจ็ การศึกษา โดยเน้อื หาและหลักสตู รจะตอ้ งมีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั วถิ ีชวี ิตและความตอ้ งการของผูเ้ รยี น จากความหมายของการศึกษานอกระบบสรุปได้ว่า การศึกษานอกระบบ หมายถึง การ จัดการศึกษาที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่อยู่นอกระบบโรงเรียน มีจุดมุ่งหมายท่ีจะให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ด้านพื้นฐาน ทักษะในการประกอบอาชีพ และทักษะที่จาเป็นสาหรับความรู้ด้านอ่ืน ๆ เป็นฐานในการ ดารงชีวิต การจัดการศึกษานอกระบบมีความยืดหยุ่นในการกาหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการ จัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดผลและประเมินผล โดยเน้ือหาและหลักสูตรจะต้องมี ความเหมาะสมสอดคลอ้ งกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแตล่ ะกลมุ่ 1.2 การศึกษาตามอัธยาศยั มผี ูไ้ ดใ้ หค้ วามหมายของการศกึ ษาตามอัธยาศัย ดงั น้ี พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 (2542 : 6) ได้อธิบายความหมายของ การศึกษาตามอัธยาศัยว่าเป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจศักยภาพ ความ พรอ้ มและโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดลอ้ ม ส่อื หรือแหลง่ ความรู้อืน่ สานักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (2549 : 35) ได้ให้ความหมายของการศึกษาตาม อัธยาศัย ว่า การศึกษาตามอัธยาศัยเป็นการศึกษาท่ีเกิดขึ้นตามวิถีชีวิต ตามสถานการณ์ในชีวิต เป็น การเรียนรู้จากประสบการณ์ การทางาน หรือเรียนรู้จากบุคคล ครอบครัว สภาพแวดล้อม สื่อ แหลง่ ความรตู้ า่ ง ๆ เพื่อเพิ่มพูนความรทู้ กั ษะ ความบันเทิง และการพฒั นาคุณภาพชีวิต โดยมีลักษณะ สาคัญคือ ไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาท่ีแน่นอน ไม่จากัดอายุ ไม่มีการลงทะเบียน และไม่มีการสอน ไม่ มีประกาศนยี บตั ร หรือไม่มีสถานที่แน่นอน เรยี นท่ไี หนก็ได้

1233 พระราชบญั ญตั ิส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย พ.ศ.2551 (2551 : 1) ให้ความหมายของการศกึ ษาตามอธั ยาศัยว่าการศึกษาตามอธั ยาศยั หมายความวา่ กิจกรรมการเรียนรู้ ในวิถีชีวิตประจาวันของบุคคลซึ่งบุคคลสามารถเลือกที่จะเรียนรู้ได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิตตามความ สนใจ ความตอ้ งการ โอกาส ความพร้อม และศักยภาพในการเรยี นร้ขู องแตล่ ะบุคคล สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (2554 : 49) ได้ให้ ความหมายของการศึกษาตามอัธยาศัย หมายถึง การศึกษาท่ีเกิดขึ้นตามวิถีชีวิตที่ผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง ตามความสมัครใจ ศักยภาพ ความพรอ้ ม และโอกาส โดยศึกษาจากประสบการณก์ ารทางาน บคุ คล ครอบครัว สื่อมวลชน ชุมชน แหล่งความรตู้ ่าง ๆ เพ่ือเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความบันเทิง และการ พัฒนาคุณภาพชีวิตโดยมีลกั ษณะสาคัญคือ ไม่มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียนที่แน่นอน ไม่จากัดอายุ ไม่มี การลงทะเบียน ไม่มีการสอบ ไม่มีการรับประกาศนียบัตร มีหรือไม่มีสถานศึกษาที่แน่นอน เรียนที่ ไหนก็ได้ สามารถเรยี นได้ตลอดเวลาและเกดิ ข้นึ ในทุกช่วงวัยตลอดชวี ิต จากความหมายของการศึกษาตามอัธยาศัย สรุปได้ว่า การศึกษาตามอัธยาศัย หมายถึง การศึกษาท่ีให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจศักยภาพ ความพร้อมและโอกาส โดยศึกษา จากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อม สอ่ื หรือแหลง่ ความรู้อื่น ๆ โดยมลี กั ษณะสาคัญคือ ไม่ มีหลักสูตร ไม่มีเวลาเรียนท่ีแน่นอน ไม่จากัดอายุ ไม่มีการลงทะเบียน ไม่มีการสอบ ไม่มีการรับ ประกาศนียบัตร มีหรือไม่มีสถานศึกษาที่แน่นอน เรียนท่ีไหนก็ได้ สามารถเรียนได้ตลอดเวลาและ เกดิ ข้ึนในทกุ ชว่ งวัยตลอดชวี ิต 1.3 กิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและกจิ กรรมการศึกษาตามอธั ยาศยั กิจกรรมการศึกษานอกระบบ มีดังนี้ (สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัย, 2554 : 47) 1. การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน เปน็ การศึกษาเพ่ือส่งเสริมการร้หู นงั สือ การจดั การศึกษานอก ระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศกึ ษาทจี่ ดั ข้นึ เพื่อเทียบเทา่ การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 2. การศึกษาต่อเนื่อง เป็นการศึกษาที่เป็นหลักสูตรเฉพาะหรือหลักสูตรฝึกอบรมตาม ความต้องการของกลมุ่ เป้าหมายมีเน้ือหาเก่ียวกับอาชีพ การพฒั นาทกั ษะชีวิต การพฒั นาคุณภาพชีวิต การพฒั นาสงั คมและชุมชน 3. การประเมินเทียบระดับการศึกษา แบ่งการประเมินเป็น 4 เร่ือง ได้แก่ ความรู้ พ้ืนฐาน ทักษะอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการพัฒนาสังคม โดยผู้ประเมินเทียบระดับ การศึกษา สามารถนาความรู้ ประสบการณ์ และอาชีพ มาเข้ารับการประเมินเทียบระดับการศึกษา ในระดับประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนตน้ และมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 4. การจัดการศึกษาในรปู แบบอ่ืน โดยกาหนดบทบาทให้เปน็ หน้าทข่ี องสถานศึกษา กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย มีดังนี้ (สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศยั , 2554 : 48)

2144 1. การเรยี นรู้ทีเ่ กดิ จากการสร้างสภาพแวดล้อม 2. รปู แบบการเรียนรทู้ ีม่ กี ารสรา้ งบรรยากาศและส่ิงแวดล้อมไวห้ ลายด้าน หลายมิติ 3. รปู แบบการเรยี นร้ตู ามวิถชี วี ิต วิถีธรรมชาติ และวถิ ีชมุ ชน 4. การเรียนรทู้ ีจ่ ัดเพื่อใหค้ นได้เรยี นรตู้ ามความตอ้ งการ 5. การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 6. รูปแบบการเรียนร้ลู กั ษณะอนื่ ๆ แลว้ แต่สภาพและวธิ กี ารของแต่ละคน และผู้จดั การ เรียนรู้ 1.4 วธิ ีการจัดการศกึ ษา การศึกษานอกระบบ มีวิธีการจัดการศึกษา ดังนี้ (สานักบริหารงานการศึกษานอก โรงเรยี น, 2549 : 40) 1. ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางโดยคานึงถึงความต้องการ ความสนใจ และความแตกต่าง ระหวา่ งผ้เู รยี น ใหค้ วามสาคญั แกป่ ระสบการณ์ของผเู้ รยี นหรือกลุม่ เป้าหมาย 2. ใช้วิธีการท่ีหลากหลาย เช่น เรียนเป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มย่อย การสนทนาแลกเปลีย่ น ความคิดเห็น การเรียนรายบุคคล ใหผ้ ูเ้ รยี นเลอื กได้ และให้เหมาะสมกบั สภาพของกลุ่มเป้าหมายและ สภาพของท้องถ่ิน 3. ใช้สื่อชนิดต่าง ๆ ช่วยในการเรียนการสอนอาจใช้สื่อหลายชนิดผสมผสานกัน (Multimedia) ใชร้ ะบบการศกึ ษาทางไกลเขา้ มาช่วย 4. ควรมคี วามยืดหย่นุ ในด้านตา่ ง ๆ เช่น เวลา หลกั สูตร สถานทีเ่ รียน การลงทะเบยี น และลดกฎระเบยี บตา่ ง ๆ 5. ควรศึกษารูปแบบและวิธีการรับความรู้และการถ่ายทอดความรู้เร่ืองท่ีมีมาตั้งแต่ ดั้งเดิมของชุมชนวา่ ในวถิ ีชีวิตของเขามีการถ่ายทอดกันอยา่ งไร มีการรับความรู้ใหม่อย่างไร แล้วนามา ประยุกต์ใชใ้ นการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบ 6. เนน้ การฝกึ ทักษะกระบวนการคดิ การวเิ คราะห์ การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ การแก้ปัญหา และการประยุกต์ใช้ความรู้ ต้องปรับท่ีตัวผู้เรียน ผู้เรียนอาจจะยังเคยชินกับการเรี ยน แบบเดมิ คือ คอยเปน็ ผู้รับเท่านัน้ ต้องปรบั ใหฝ้ กึ คดิ ฝกึ วิเคราะห์ 7. ส่งเสริมการเรียนร้ดู ้วยตนเองและการนาตนเอง 8. จัดการเรียนรู้ให้ผสมกลมกลืนกับชีวิต ไม่ควรให้แปลกแยกออกมาจากการดาเนิน ชวี ติ 9. ควรเน้นการแลกเปล่ียนความคิดเหน็ และประสบการณ์ 10. เนน้ การเรยี นรู้จากสถานการณจ์ ริง การฝกึ ปฏบิ ตั ิจรงิ จนสามารถทาได้ 11. ต้องสร้างแรงจูงใจในการเรยี นรูข้ องการเรียนรู้ สร้างนิสัยใฝ่รู้ ส่งเสริมให้เกิดความ ใฝร่ ู้อยา่ งต่อเน่ือง

2155 12. ควรสอนวธิ ีการในการแสวงหาความรู้ (Learning How to Learn) มากกวา่ เน้น การใหเ้ นื้อหาความรู้ ใหเ้ คร่ืองมอื ในการแสวงหาความรู้ และฝกึ การเรยี นรดู้ ว้ ยการนาตนเอง 13. ครูเป็นผู้สร้างบรรยากาศในการเรยี นรู้ เป็นผู้อานวยความสะดวกในการเรียน เป็น ผแู้ นะนาช่วยแก้ไขปัญหา ผู้เรียนอาจเปน็ ทง้ั ครแู ละผู้เรยี นในเวลาเดียวกนั 14. ควรใชภ้ ูมิปัญญาชาวบา้ นและวิถีชีวิตในการเรยี นรู้ 15. จดั การเรยี นรู้ใหเ้ กิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ การศึกษาตามอัธยาศัย อาจจัดได้หลายลักษณะ ดังนี้ (สานักบริหารงานการศึกษานอก โรงเรียน, 2549 : 41) 1. การจัดแหล่งเรียนรู้ในชุมชนประเภทต่าง ๆ เช่น ที่อ่านหนังสือประจาหมู่บ้าน ศูนย์ ข้อมลู ข่าวสาร หอ้ งสมุด พพิ ิธภณั ฑ์ สวนสมุนไพร ศูนยก์ ฬี า ฯลฯ 2. การเผยแพร่ความรผู้ า่ นส่อื ประเภทต่าง ๆ เชน่ วทิ ยุ โทรทศั น์ หนงั สือ อินเทอรเ์ น็ต 3. การจัดกิจกรรมกลุ่มในชุมชน เช่น เวทีชาวบ้าน กลุ่มสหกรณ์หมู่บ้าน กลุ่มสตรี กลุ่มเยาวชน กล่มุ ผสู้ ูงอายุ ฯลฯ ประชาชนจะได้รับความรจู้ ากกจิ กรรมเหลา่ น้เี ปน็ ผลพลอยได้ 1.5 ปรชั ญาการศึกษาทีเ่ กย่ี วข้องกบั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั มีปรชั ญาการศกึ ษาทเ่ี กย่ี วข้องซ่ึง เปน็ พื้นฐานของความคิดในการจดั กจิ กรรม ไดแ้ ก่ (สถาบนั การศกึ ษาและพฒั นาตอ่ เนื่องสิรนิ ธร, 2554 : 41) 1. ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม (Progressivism) เน้นแนวความคิดในเร่ืองการเรียนรู้ อย่างต่อเนอื่ งตลอดชวี ติ ซงึ่ เป็นการพฒั นาอยตู่ ลอดเวลา ม่งุ การพฒั นาคุณภาพชวี ติ พัฒนาสังคม 2. ปรัชญามนุษย์นิยม (Humanism) ให้ความสาคัญกับความเป็นมนุษย์ ตระหนักถึง ความแตกต่างระหว่างบุคคล ยอมรับในความแตกต่างนั้น การพัฒนาคนจึงมุ่งไปท่ีการพัฒนาเป็น รายบุคคล จึงต้องคานึงถึงความต้องการของบุคคลและยอมรบั ความรแู้ ละประสบการณ์ของบุคคล ซ่ึง เปน็ สว่ นหนึง่ ของกระบวนการเรียนรู้ 3. ปรชั ญาอตั ถิภาวนิยม (Existentialism) เน้นความเคารพในเสรภี าพส่วนบคุ คล การ ยอมรบั ผลของการกระทาและการตัดสินใจ ใหค้ วามสาคญั กับความรบั ผิดชอบของตนเองตอ่ การกระทา ทางสังคม การจัดการศกึ ษาจึงมุง่ เสริมสร้างพลังในการพัฒนาและการตดั สินใจของบุคคล 4. ปรชั ญาการศึกษาในกลมุ่ ปฏริ ูปกา้ วหน้า (Redicalism) กลุ่มปรัชญานีเ้ ปน็ ทีร่ วมของ แนวคิดท่ีวิพากษ์การศึกษาที่จัดอยู่โดยท่ัวไป มุ่งใช้การศึกษาเป็นกลไกของการแก้ปัญหาและแสวงหา ทางออกในสงั คม เช่น กลมุ่ ท่ีปฏเิ สธระบบโรงเรียน (Deschooling) ของอิวาน อิลลิช กลุม่ ของเปา โลแฟร์ ทีว่ ิพากษ์การศกึ ษาซึ่งสะท้อนนัยของการกดข่ี จาเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งสร้างมโนสานึกใหมใ่ นการเรียนรู้ เปน็ ตน้

2166 ซึ่งเม่ือพิจารณาถึงการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่จัดขั้นในประเทศ ไทยแล้ว อาจกล่าวได้ว่าการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของไทยมิได้ยึดมั่นใน หลักปรัชญาใดปรัชญาหน่ึงโดยตรง แต่ได้ผสมผสานแนวคิดจากหลักปรัชญาต่าง ๆ เข้ามาใน แนวความคิดของการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย นอกจากนั้นยังผสมผสาน อารยธรรมตะวันออกเข้ามาเป็นพ้ืนฐานความคิดจัดการศึกษานอกระบบการศึกษาตามอัธยาศัย แนวความคิดเชงิ ปรัชญาทีโ่ ดดเด่นของการศึกษานอกระบบการศึกษาตามอัธยาศัยของประเทศไทย คือ แนวคิดเรอื่ ง คดิ เปน็ (สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 2554 : 41) ปรชั ญาคดิ เป็น ดร. โกวิท วรพิพฒั น์ (สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย, 2554 : 41)ได้ให้คาอธิบายเก่ียวกับ “คิดเป็น” ว่า “บุคคลที่คิดเป็นจะสามารถเผชิญปัญหาใน ชีวิตประจาวันได้อย่างมีระบบ บุคคลผู้น้ีจะสามารถพินิจพิจารณาสาเหตุของปัญหาท่ีเขากาลังเผชิญอยู่ และสามารถรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับทางเลือก เขาจะพิจารณาข้อดีข้อเสียของ แต่ละเร่ือง โดยใช้ความสามารถเฉพาะตัวค่านิยมของตนเอง และสถานการณ์ที่ตนเองกาลังเผชิญอยู่ ประกอบการพิจารณา “คิดเป็น” เป็นเป้าหมายสาคัญในการจัดการศึกษาผู้ใหญ่ เช่นได้ดาเนิน โครงการการศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จ โครงการรณรงค์เพ่ือการรู้หนังสือแห่งชาติ โครงการการศึกษา ประชาชนและการศึกษาต่อเนื่อง เป็นต้น จากนั้นจึงได้มีการประยุกต์มาการเป็นปรัชญาของการจัด การศึกษานอกโรงเรียน การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศยั “คิดเป็น” มีความเชื่อว่า มนุษย์ทุกคนต้องการความสุข แต่ความสุขของแต่ละคน แตกต่างกันเน่ืองจากมนุษย์มีความแตกต่างกันในด้านต่างๆ เช่น เพศ วัย สภาพสังคมส่ิงแวดล้อม วิถี ชีวติ ซึ่งทาใหค้ วามต้องการและความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การ “คิดเป็น” เป็นการคิดเพ่ือแก้ปัญหา คือ มีจุดเริ่มต้นที่ปัญหาแล้วพิจารณาย้อน ไตร่ตรองถึงข้อมูล 3 ประเภท คือ ข้อมูลด้านตนเอง ชุมชน สังคม ส่ิงแวดล้อม และข้อมูลวิชาการ ต่อจากนั้นก็ลงมือกระทา ถ้าหากสามารถทาให้ปัญหาหายไป กระบวนการก็ยุติลง แต่หากบุคคลยังไม่ พอใจแสดงวา่ ยังมีปญั หาอยู่ บคุ คลกจ็ ะเรมิ่ กระบวนการพจิ ารณาทางเลือกใหม่อีกคร้ัง และกระบวนการ น้ยี ุติลงเม่ือบุคคลพอใจและมคี วามสขุ 1. ความเช่ือพื้นฐานของปรัชญา “คดิ เป็น” 1.1 คนมีความแตกตา่ งกนั อยา่ งหลากหลาย ความต้องการของคนก็ไมเ่ หมือนกัน 1.2 แต่ทกุ คนตอ้ งการความสขุ 1.3 ความสุขของแต่ละคนจงึ แตกต่างกนั

2177 1.4 ความสุขของแต่ละคนจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อ มนุษย์ กับสภาวะแวดล้อมที่เป็นวิถี ชีวิตของตนสามารถปรับเข้าหากันอย่างผสมกลมกลืนจนเกิดความพอดี และพอใจ14 หนังสือเรียน รายวชิ าเลือกสาระทกั ษะการเรียนรู้ วิชา แก้ปญั หาด้วยกระบวนการคิดเป็น 1.5 แต่สภาวะแวดล้อมในสังคมเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา ก่อให้เกิดปัญหา กอ่ ใหเ้ กิดความทกุ ขค์ วามไมส่ บายใจ ไม่สบายกายเกิดขึ้นไดเ้ สมอ 1.6 คนคิดเป็นเช่ือว่า ทุกข์ หรือปัญหาเป็นเร่ืองธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นได้ สามารถแก้ไข ได้ถ้ารู้จักแสวงหาข้อมูลหลายๆ ด้าน รู้จักวิเคราะห์ข้อมูล รู้จักใช้ข้อมูลในการตัดสินใจอย่างน้อย 3 ประการคือข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมทางสังคมในวิถีชีวิต วิถีวัฒนธรรม ประเพณแี ละขอ้ มูลท่ีเก่ียวข้องกบั ตนเอง ซง่ึ ครอบคลุมถงึ การพ่ึงพาตนเอง และความพอเพียงด้วย 1.7 เม่ือได้พัฒนาทักษะการตัดสนิ ใจแก้ปัญหาด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล และไตร่ตรอง ข้อมูลอย่างรอบคอบ ทั้ง 3 ด้าน จนมีความพอใจแล้ว ก็พร้อมจะรับผิดชอบการตัดสินใจน้ันอย่าง สมเหตสุ มผลเกดิ ความพอดี ความสมดุลระหวา่ งชวี ติ กบั ธรรมชาติอย่างสนั ติสุข 1.8 อย่างไรก็ตามสังคมในยุคโลกาภิวัฒน์ เป็นสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลง ท่ีรวดเร็ว และรุนแรงปญั หาก็เปลีย่ นแปลงอย่ตู ลอดเวลา ทุกข์ก็เกดิ ข้นึ ดารงอยู่ และดบั ไป เปล่ยี นโฉมหนา้ ไปตาม กาลสมัยกระบวนทัศน์ในการดับทุกข์ก็ต้องพัฒนารูปแบบ ให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงเหล่าน้ัน อยู่ ตลอดเวลาใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ทเี่ ปลี่ยนไปดว้ ย 1.9 กระบวนการตอบทุกข์หรือการแก้ปัญหา จึงหมุนเวียนมาจนกว่าจะพอใจอีกเป็น เชน่ น้ีอยู่อยา่ งต่อเนอื่ งตลอดชวี ิต การสอนแบบคิดเป็นจึงไม่มีการสอนแบบสาเร็จรูป ว่าอะไรถูก อะไรผิด ข้ึนอยู่กับ บริบทและสิ่งแวดล้อมแต่ละคนจะมีบริบทไม่เหมือนกัน แต่เม่ือนามาถกเถียงกัน นามาอภิปราย ถกเถียงกันจะเกดิ ความร้แู ตกฉานยงิ่ ข้ึน 2. กระบวนการแกป้ ัญหาของการคิดเปน็ 2.1 ขนั้ สารวจปัญหา เม่อื เกิดปญั หา ยอ่ มต้องเกิดกระบวนการคดิ แกป้ ัญหา 2.2 ขน้ั หาสาเหตุของปัญหา เป็นการหาข้อมูลมาวเิ คราะห์ วา่ ปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ นน้ั เกดิ ข้ึนไดอ้ ย่างไรมอี ะไรเปน็ องค์ประกอบของปัญหาบา้ ง - สาเหตุจากตนเอง พื้นฐานของชีวิต ครอบครัว อาชีพการปฏิบัติตน คุณธรรม ฯลฯ - สาเหตุจากสังคม บคุ คลทอี่ ย่แู วดลอ้ ม ตลอดจนความเช่ือ ประเพณี ฯลฯ - สาเหตจุ ากการขาดวิชาการความรู้ตา่ ง ๆ ทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับปญั หา 2.3 ข้ันวิเคราะห์ปัญหา หาทางแก้ไขปัญหา เป็นการวิเคราะห์ทางเลือกในการ แก้ปัญหาโดยใชข้ อ้ มูลด้านตนเอง สังคม วิชาการ มาประกอบในการวเิ คราะห์

1288 2.4 ข้ันตัดสินใจ เม่ือได้ทางเลือกแล้วจึงตัดสินใจเลือกแก้ปัญหาในทางท่ีมีข้อมูลต่าง ๆ พร้อมหนังสอื เรยี นรายวชิ าเลือกสาระทักษะการเรยี นรู้ วชิ า แก้ปญั หาด้วยกระบวนการคดิ เป็น 2.5 ขั้นตัดสินใจไปสู่การปฏิบัติ เมื่อตัดสินใจเลือกทางใดแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็น ทางเลอื กทด่ี ที สี่ ุดในข้อมลู เทา่ ท่ีมขี ณะน้นั ในกาละนนั้ และในเทศะนน้ั 2.6 ขนั้ ปฏิบตั ิในการแกป้ ัญหา ในข้ันนี้เปน็ การประเมินผลพร้อมกนั ไปดว้ ย ถ้าผลที่ - พอใจ กถ็ ือว่าพบความสขุ เรยี กวา่ “คดิ เปน็ ” - ไม่พอใจ หรือผลออกมาไม่ได้เป็นไปตามท่ีคิดไว้ หรือข้อมูลเปล่ียนต้องเริ่มต้น กระบวนการคิดแกป้ ญั หาใหม่ 2. ยทุ ธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนนิ งานของสานกั งาน กศน. ประจาปีงบประมาณ 2562 (สานกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย, 2562 : 2) ปรชั ญา “ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ ปรชั ญาคิดเปน็ ” วสิ ัยทัศน์ คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ สามารถดารงชีวิตที่ เหมาะสมกับช่วงวัย สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะท่ีจาเป็นในโลก ศตวรรษท่ี 21 พนั ธกิจ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ เพ่ือยกระดับ การศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรขู้ องประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกชว่ งวัย และพร้อมรับ การเปลีย่ นแปลงบริบททางสังคม และสรา้ งสงั คมแห่งการเรยี นรตู้ ลอดชีวิต 2. ส่งเสริม สนบั สนนุ และประสานภาคีเครือขา่ ย ในการมสี ว่ นรว่ มจดั การศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรุ้ตลอดชีวิต รวมท้ังการดาเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและ แหลง่ เรยี นร้อู ื่นในรปู แบบตา่ งๆ 3. ส่งเสริมและพัฒนาการนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ให้เกิด ประสทิ ธิภาพในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง 4. พฒั นาหลักสตู ร รูปแบบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และนวตั กรรม การวัดผลประเมินผล ในทุกรปู แบบให้สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทในปจั จบุ ัน 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งจัดการศึกษาและการ เรยี นรทู้ ่มี ีคุณภาพโดยยดึ หลกั ธรรมมาภบิ าล

1299 เปา้ ประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมท้ังประชาชนท่ัวไปได้รับโอกาส ทางการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และ การศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีมีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน เป็นไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของ แตล่ ะกลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดบั การศึกษา สรา้ งเสรมิ และปลูกฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม และความ เป็นพลเมือง อันนาไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพ่ือพัฒนาไปสู่ ความมัน่ คงและยง่ั ยืนทางดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม ประวตั ศิ าสตร์ และ ส่งิ แวดล้อม 3. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรยี นรู้และมีเจตคติทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีท่เี หมาะสม สามารถคดิ วิเคราะห์ และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวัน รวมทั้แกป้ ญั หา และพัฒนาคุณภาพชวี ติ ได้อย่าง สรา้ งสรรค์ 4. ประชาชนได้รบั การสรา้ งและส่งเสรมิ ใหม้ ีนสิ ยั รกั การอา่ นเพือ่ การแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง 5. ชุมชนและภาคีเครือขา่ ยทุกภาคสว่ น รว่ มจดั ส่งเสรมิ และสนับสนนุ การดาเนินงานการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษามตามอัธยาศัย รวมท้ังการขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ของ ชมุ ชน 6. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการ ยกระดับคุณภาพในการจัดการเรยี นรูแ้ ละเพมิ่ โอกาสการเรียนรใู้ หก้ ับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาส่ือและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือแก้ปัญหาและ พัฒนาคุณภาพชีวิตท่ีตอบสนองกับการเปล่ียนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และ สิ่งแวดล้อม รวมท้ังตามต้องการของประชาชนและชุมชนในรูปแบบท่ีหลากหลาย 8. หนว่ ยงานและสถานศกึ ษามรี ะบบการบรหิ ารจัดการตามหลักธรรมมาภบิ าล 9. บุคคลของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพ่ือเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ชว้ี ัด ตวั ชวี ดั เชงิ ปรมิ าณ 1. จานวนผู้เรยี นการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐานที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย ตามสิทธทิ กี่ าหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับการบริการ กิจกรรมการศึกษาต่อเนือ่ ง และการศึกษาตามอัธยาศัยท่สี อดคล้องกับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. ร้อยละกาลังแรงงานสาเรจ็ การศึกษาระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ข้ึนไป 4. จานวนภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา (ภาคีเครือขา่ ย : สถานประกอบการณ์ องค์กร หน่วยงานท่ีมารว่ มจดั / พัฒนา / สง่ เสริมการศกึ ษา )

320109 5. จานวนประชาชนเด็ก และเยาวชนในพืน้ ทีส่ ูง และชาวไทยมอแกน ในพ้นื ท่ี 5 จังหวัด 11 อาเภอ ไดร้ ับการบรกิ ารการศกึ ษาตลอดชีวิตจาก ศศช.สงั กดั สานักงาน กศน. 6. จานวนผู้รับบริการในพ้ืนท่ีเป้าหมายได้รับการส่งเสริมด้านการรู้หนังสือ และการพัฒนา ทกั ษะชีวิต 7. จานวนนกั เรยี น/นกั ศึกษาท่ีไดเ้ ขา้ รับการติวเขม้ ความรู้ 8. จานวนประชาชนกลุม่ เป้าหมายที่เข้ารบั การฝึกอาชีพ เหน็ ช่องทางในการประกอบอาชีพ 9. จานวนครู กศน. ต้นแบบการสอนภาษาองั กฤษเพอ่ื การส่ือสารด้านอาชีพ 10. จานวนประชาชนทีไ่ ด้รับการฝึกอบรมภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสารด้านอาชีพ 11. จานวนผ้สู ูงอายุภาวะพงึ พิงในระบบ Long Term Care มผี ดู้ แู ลท่มี คี ุณภาพและมาตรฐาน 12. จานวนกลุ่มเป้าหมายท่ีได้รับการพัฒนาศักยภาพเป็นวิทยากรแกนนา กศน. ในเรื่อง เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั และสามารถขยายผลเชงิ พื้นท่ี “ศนู ย์ดจิ ิทัลชุมชน” ไดจ้ นเกดิ เปน็ รปู ธรรม 13. จานวนประชาชนในพ้ืนทีท่ีสามารถนาความรกู้ ับเศรษฐกิจและการใช้เคร่ืองมือดิจิทัลต่างๆ ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั 14. จานวนเกษตรกรท่ผี า่ นการอบรม Master Trainer ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทุกรายวิชาทุกระดับ 2. รอ้ ยละของผเู้ รยี นที่ไดร้ บั การสนบั สนนุ การจัดการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐานเทียบกบั คา่ เปา้ หมาย 3. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ีลงทะเบียนในทุกหลักสูตร/กจิ กรรมการศกึ ษาต่อเน่ือง เทียบกบั เป้าหมาย 4. รอ้ ยละของผผู้ ่านการฝึกอบรม/พัฒนาอาชีพระยะส้ันสามารถนาความรู้ไปใชใ้ นการประกอบ อาชพี หรอื พัฒนางานได้ 5. ร้อยละของผเู้ รียนในเขตพนื้ ทีจ่ งั หวดั ชายแดนภาคใตท้ ่ีได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรอื ทักษะ ด้านอาชีพ สามารถมีงานทาหรือนาไปประกอบอาชีพได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมที่สามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุกมุ่งหมาย ของหลกั สูตร/กิจกรรม การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง 7. ร้อยละของประชาชนท่ีได้รับการบริการมีความพึงพอใจการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการ เรียนรกู้ ารศึกษาตามอัธยาศัย 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ีได้รับบริการ/เข้าร่วมกิจกรราทีมีความรู้ความเข้าใจ/ เจตคติ/ทกั ษะ ตามจดุ มงุ่ หมายของกจิ กรรมทกี่ าหนด ของการศกึ ษาตามอัธยาศัย 9. รอ้ ยละของผู้เข้ารว่ มกิจกรรมท่สี ามารถอ่านออกเขยี นได้และคิดเลขเป็นตามจุดมุ่งหมายของ กจิ กรรม

2311 10. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในวิชาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็ม ความรเู้ พ่ิมสงู ข้นึ นโยบายเร่งดว่ นเพือ่ ร่วมขบั เคลอื่ นยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ 1.ยทุ ธศาสตร์ด้านความมัน่ คง 1.1 พัฒนาและเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลูกฝังและสร้าง ความตระหนักถึงความสาคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและความภาคภูมิใจ ในความเป็นคนไทยและชาติไทย น้อมและเผยแพร่สาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง รวมถึงแนวทางพระราชดารติ า่ งๆ 1.2 ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการปกครอง ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเปน็ พลเมืองดี ยอมรบั และเคารพ ความแตกต่างในสังคมพหุวัฒนธรรม และความหลากหลายทางความคิดและอดุ มการณ์ 1.3 ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืนโดยบูรณาการขับเคลื่อน การทางานตามแนวทางประชารัฐ ดาเนินโครงการ/กิจกรรมในพื้นท่ีทั้งระดับตาบล หมู่บ้าน โดยทีม ขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนยิ ม ย่ังยืน ระดับตาบลเป็นแกนหลกั และสนับสนุนกล ไกการขบั เคลื่อนในพื้นทท่ี กุ ระดบั ตั้งแต่จงั หวัด อาเภอ ตาบล และหมู่บา้ น 1.4 พัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ และพืน้ ที่ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีความ สอดคล้องบริบทของสงั คม วฒั นธรรม และพนื้ ที่ เพ่อื สนับสนนุ การแก้ไขปญั หาและพฒั นาพนื้ ท่ี 2) เร่งจัดทาแผนเร่งจัดทาแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยท่ีชัดเจนสาหรับ หน่วยงานและสถานศึกษา รวมท้ังบุคลากรที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เขตพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดน ภาคใต้ โดยบูรราการแผนและปฏบิ ตั ิงานร่วมกับหนว่ ยงานความมน่ั คงในพน้ื ที่ 3) ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกระบวนการเรียนในสถาบันศึกษาปอเนาะในรูปแบบ ตา่ งๆ ที่หลากหลายตรงกบั ความตอ้ งการของผ้เู รยี น อาทิ การเพมิ่ พนู ประสบการณ์ การเปิดโลกทัศน์ การยดึ มนั่ ในหลกั คณุ ธรรมและสถาบนั หลกั ของชาติ 4) สนับสนุนให้มีการพัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้น เพื่อใหส้ ามารถปฏิบัติงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

3222 2. ยุทธศาสตร์ด้านการสง่ เสรมิ ความสามารถในการแข่งขนั 2.1 เร่งรัดดาเนินดารจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือยกระดับทักษะอาชีพของประชาชนสู่ฝี มือ แรงงาน 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาที่สอดคล้องกับศักยภาพของชุมชน และความ ต้องการตลาด ให้ประชาชนสมารถนาไปประกอบอาชีพได้จริง โดยเน้นหลักสูตรการศึกษาอาชีพช่าง พื้นฐาน โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียน การสอนด้านอาชีพ เช่น การเรียนผ่าน Youtube การเรียนผ่าน Facebook Live ระบบการเรียนรู้เปิดสาหรับมหาชน (Massive Open Courses : MOOCs) คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI) เป็นตน้ รวมถงึ สนับสนนุ ให้เกิดระบบการผลิตทค่ี รอบวงจร และเปิดพนื้ ที่ส่วนราชการเป็นท่ีแสดงสินคา้ ของชุมชนเพ่ือ เปน็ การสรา้ งรายไดใ้ ห้กบั ชุมชน 2) บูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาฝีมือแรงงานกับสานักงานคณะกรรมการ อาชีวศึกษา ผ่านศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาภาคท่ัวประเทศ เพื่อมุ่ง พัฒนาทักษะของประชาชน โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมิสังคมเฉพาะของพ้ืนท่ี และการ ดาเนินงานเชิงรุกเพ่ือเสริมจุดเด่นในระดับภาค ในการเป็นฐานการผลิตและการบริการเป็นสาคัญ รวมถึงมุ่งเน้นสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานท้ัง ภาคอุตสาหกรรมและการบรกิ าร 3) พัฒนากลุ่มอาชีพพื้นฐานท่ีรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เช่น เขตพัฒนา พเิ ศษภาคตะวนั ออก เขตเศรษฐกจิ ภาคตะวันตก ทีส่ ามารถพฒั นาศักยภาพไปส่รู ะดบั ฝีมือแรงงาน 2.2 พัฒนาทกั ษะให้ประชาชนเพือ่ การสร้างมลู คา่ เพิม่ ให้กบั สินคา้ และบริการ 1) พัฒนาทักษะและส่งเสริมให้ประชาชนประกอบธุรกิจการค้าออนไลน์ (พาณิชย์ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์) มกี ารใช้ความคิดสร้างสรรคเ์ ชิงนวตั กรรมในการประกอบอาชีพ สร้างทกั ษะอาชีพสูงข้ึน ให้กบั ประชาชนเพื่อร่วมขบั เคล่ือนเศรษฐกจิ ดิจิทัล 2) ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เทคโนโลยี ในการทาช่องทางเผยแพร่และจาหน่าย ผลติ ภณั ฑข์ องวิสาหกิจชุมชนให้เปน็ ระบบครบวงจร และสนับสนุนการจดั จาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ผ่านศูนย์จาหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ออนไลน์ กศน. (ONIE Online Commerce Center : OOCC) เพือ่ จาหน่ายสนิ ค้าออนไลนร์ ะดับตาบล รวมทั้งเปดิ ศนู ย์ให้คาปรึกษา OOCC กศน. เพอื่ เปดิ ชอ่ งทางให้ คาปรึกษากับประชาชนเกยี่ วกบั การคา้ ออนไลน์เบ้อื งต้น 3) พัฒนาทักษะภาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่างๆ อย่างเป็น รูปธรรม โดยเน้นทักษะภาเพ่ืออาชีพท้ังภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเท่ียว รวมท้ังพัฒนาสื่อ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพือ่ ส่งเสริมการใช้ภาษาเพอื่ การส่อื สารและการพฒั นาอาชีพ

2333 3. ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรพั ยากรมนุษย์ 3.1 ส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ปลุกฝังคุณธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่างๆ เช่น กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจนสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมเพ่ือการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ใหก้ บั บคุ ลากรในองคก์ ร 3.2 ส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู่ท่ีตอบสนองความต้องการเปล่ียนแปลงในศตวรรษที่ 21 รวมท้ังความต้องการของประชาชนและชุมชน ในรูปแบบที่หลากหลายให้ประชาชนคิดเป็น วิเคราะหไ์ ด้ ตดั สนิ ใจภายใต้ข้อมูลทีถ่ กู ต้อง 3.3 พัฒนาศักยภาพคนด้านทักษะและความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 1) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้สามารถใช้ Social Media และ Application ต่างๆ ในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการ สอน 2) ส่งเสริมการจัดกาเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพ่ือให้ประชาชนมีทักษะความรู้ ความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ที่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประวัน รวมทั้งสร้างรายได้ ให้กับตนเองได้ 3.4 พฒั นาทกั ษะดา้ นภาองั กฤษ และภาษาอ่ืนๆ เพ่ือรองรบั การพฒั นาประเทศ 1) พัฒนารปู แบบการจดั การเรยี นการสอนภาอังกฤษ และภาษาอ่นื ๆ ท่สี อดคล้องกับ บริบทของพ้ืนที่ โดยใชส้ ื่อเทคโนโลยีดิจิทลั Social Media และ Application ต่างๆ 2) จัดและส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นๆที่สอดคล้องกับ บริบทของพ้ืนที่และความตอ้ งการของประชาชน เพ่อื รบั รองการพฒั นาประเทศ 3.5 ส่งเสริมการพัฒนาสุขภาวะของประชาชนทุกช่วงวัย โดยสร้างความรู้ความเข้าใจการ สนับสนุนกิจกรรมสุขภาวะ และสร้างเครือข่ายภาคประชาชน ในการเป้าระวัง ป้องกัน และควบคุม โรคให้กับประชาชนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะพ้ืนท่ีห่างไกล พ้ืนท่ีชายแดน และชายแดนภาคใต้ โดย ประสานงานร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล และเจ้าหน้าท่ี อสม. ในการให้ความรู่เกี่ยวกับ การดูแลสุขภาวะอนามัยให้กับประชาชน รวมท้ังผลิตชุดความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะ สุขอนามัย เพ่ือให้ ประกอบการเรียนรใู้ นหลกั สตู รการศกึ ษา กศน. 3.6 เพ่ิมอัตราการอ่านของประชาชน โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในรูปแบบต่างๆ เช่น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชน บ้านหนังสือชุมชน ห้องสมุดเคลื่อนท่ี ผลักดนั ให้เกิดห้องสมุดสู่การเป็นห้องสมุดเสมือนจริงต้นแบบ เพื่อพัฒนาให้ประชาชนมีความสามารถในระดับ การอ่านคล่อง เข้าใจความ คิดวิเคราะห์พ้ืนฐาน และสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทัน เหตุการณ์ รวมท้ังนาความร้ทู ่ีได้รบั ไปใชป้ ฏบิ ตั ิจริงในชวี ิตประจาวนั

2344 3.7 เตรียมความพร้อมการเข้าสสู่ งั คมผู้สงู อายทุ ี่เหมาะสมและมคี ุณภาพ 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมให้กับประชาชนเพ่ือสร้างความตระหนังถึงการเตรียมความ พร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) มีความเข้าใจพัฒนาการของช่วงวัย รวมท้ังเรียนรู้และมี สว่ นรว่ มในการดแู ลรับผดิ ชอบผสู้ งู อายทุ ่เี หมาะสมและมคี ุณภาพ 2) พัฒนาการจัดบริการการศึกษาและการเรียนรู้สาหรบั ประชาชนในการเตรียมความ พร้อมเข้าส่วู ันสงู อายุท่ีเหมาะสมและมีคุณภาพ 3) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตสาหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด “Active Aging” การศึกษาเพื่อพฒั นาคุณภาพชีวิต และพฒั นาทกั ษะชวี ติ ใหส้ ามารถดแู ลตนเองทั้งสขุ ภาพกาย และสุขภาพจติ และรู้จกั ใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยี 4) สรา้ งความตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สงู อายุ เปดิ โอกาสมกี ารเผยแพร่ภูมิ ปัญญาของผู้สูงอายุ และให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านต่างๆในชุมชน เช่น ด้านอาชีพ กีฬา ศาสนา และวัฒนธรรม 5) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทกุ ระดับ 3.8 พัฒนาหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยใช้กระบวนการ “สะเต็มศกึ ษา” (STEM Education) 3.9 การส่งเสรมิ วทิ ยาศาสตรเ์ พือ่ การศึกษา 1) จัดกจิ กรรมวิทยาสาสตร์เชิงรกุ ทง้ั ในสถานศึกษา และชุมชน 2) ให้ความรู้วิทยาศาสตร์อย่างง่าย วิทยาศาสตร์ในวิถีชีวิต วิทยาสาสตร์ใน ชีวติ ประจาวันกบั ประชาชน 3) ร่วมมือกับหน่วยงานวทิ ยาศาสตร์อื่น ในการพัฒนาสื่อและรูปแบบการจดั กิจกรรม ทางวิทยาศาสตร์ 3.10 ส่งเสริม และพัฒนาระบบการสะสมและเทียบโอนหน่วยการเรียน (Credit Bank System) ของสถานศึกษา ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการงกลุ่ม เป้าหมาย เพอ่ื ประโยชนใ์ นการดาเนนิ งานเทียบโอนความรู่และประสบการณ์ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 3.11 สร้างกระบวนการเรียนรู้แบบ E-learning ท่ีใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการ เรียนรู้ เพือ่ เป็นการสรา้ งและขยายโอกาสในกาเรียนรูใ้ ห้กับกลุ่มเป้าหมายไดส้ ะดวก รวดเร็ว ตรงตาม ความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ เช่น ระบบการเรียนรู้ในระบบเปิดสาหรับมหาชน (Massive Open Online Course : MOOCs) คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI)

3255 3.12 ส่งเสริมการรู้ภาษาไทย เพ่ิมอัตราการรู้หนังสือ และยกระดับการรู้หนังสือของ ประชาชน 1) ส่งเสริมการรู้ภาษาไทย ให้กับประชาชนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะประชาชนใน เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ ให้สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาไทย เพ่ือ ประโยชนใ์ นการใช้ชีวติ ประจาวนั ได้ 2) เร่งจัดการศึกษาเพ่ือเพ่ิมอัตราการรู้หนังสือ และคงสภาพการรู้หนังสือ ให้ ประชาชนสามารถอ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็น โดยเป็นการวัดระดับการรู้หนังสือ การใช้ส่ือ กระบวนการ และกิจกรรมพัฒนาทักษะในรูปแบบต่างๆท่ีเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพพ้ืนท่ีและ กล่มุ เปา้ หมาย 3) ยกระดับการรู้หนังสือของประชาชน โดยจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการรู้หนังสือใน รูปแบบต่างๆ รวมทั้งพัฒนาให้ประชาชนมีทักษะที่จาเป็นในศตวรรษที่ 21 เพ่ือเป็นเคร่ืองมือในการ เรียนร้ตู ลอดชีวิตของประชาชน 4. ยุทธศาสตรด์ า้ นการสรา้ งโอกาสและเสมอภาคทางสังคม 4.1 เพิม่ โอกาสทางการศกึ ษาให้กับประชากรวยั เรยี นทอ่ี ย่นู อกระบบการศกึ ษา 1) เร่งดาเนินการหาตัวของประชากรวัยเรียนท่ีอยู่นอกระบบการศึกษา ให้กลับเข้าสู่ ระบบการศึกษา โดยใช้กลวธิ ี “เคาะประตูบ้าน รกุ ถึงที่ ลุยถึงถิ่น” โดยประสานสานักงานศึกษาธิการ จังหวัด เพื่อดาเนินการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์เทียบกับข้อมูลการลงทะเบียนเรียนของทุก หน่วยงาน ค้นหาผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาเป็นรายบุคคล และรวบรวมจัดทาเป็นฐานข้อมูล และ ลงพ้ืนที่ติดตามหาตัวตนของกลุ่มเป้าหมาย หาสาเหตุของการไม่เข้าเรียน และสอบถามความต้องการ ในการศึกษาต่อ พร้อมทั้งจาแนกข้อมูลตามประเภทของสาเหตุ และประเภทความต้องการของ การศึกษาต่อ และส่งต่อกลุ่มเป้าหมายเพ่ือให้รับการศึกษาต่อตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 2) ตดิ ตามผลของกลุ่มเป้าหมายประชากรวยั เรยี นที่อยนู่ อกระบบการศึกษาท่ีได้รับการ จัดหาทีเ่ รียน และทั้งจัดทาฐานข้อมลู ผสู้ าเร็จการศึกษาของกลุ่มเปา้ หมาย รวมทง้ั พฒั นาระบบเพ่ือการ ติดตามกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการช่วยเหลือให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแบบครบวงจร โดยติดตาม ต้งั แต่การเข้าศกึ ษาตอ่ จนจบการศกึ ษา 4.2 พัฒนารูปแบบการศึกษาทางไกล ให้มีความทันสมัย มีหลักสูตรและสาระการเรียนรู้ ท่ีหลากหลาย และสถานศึกษา กศน. สามารถนาไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่าง เหมาะสม 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการ รวมท้ังกลุ่มเป้าหมาย พิเศษอื่นๆ เช่น ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ให้จบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้น พ้นื ฐานใหก้ ับกลุม่ เปา้ หมายได้อยา่ งเหมาะสม

3266 4.4 ส่งเสรมิ และสนับสนนุ ให้เกิดตน้ แบบเมืองแหง่ การเรยี นรู้ เพอ่ื ส่งเสริมการรู้อย่างต่อเน่ือง ให้กับประชาชนในชุมชน โดยกาหนดพื้นที่นาร่องที่ผ่านมาตรฐานเทียบวัด (Benchmark) ของ สานักงาน กศน. 4.5 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกบั บรบิ ทของพื้นท่ี และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผรู้ ับบริการ 4.6 ขบั เคลอื่ นการดาเนนิ งานภายใต้แผนพฒั นาการศึกษาระดับภาค 1) สรา้ งความรูค้ วามเขา้ ใจใหก้ ับบคุ ลากรของสานักงาน กศน. เกี่ยวกับการดาเนินงาน ภายใตแ้ ผนพัฒนาการศกึ ษาระดบั ภาค เพือ่ ร่วมขับเคลือ่ นยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาภาค 2) เร่งจัดทายุทธศาสตร์และแผนพัฒนาการศึกษาระดับภาค ของสานักงาน กศน. ใหส้ อดคล้องกับแผนพฒั นาการศึกษาระดบั ภาค 5. ยุทธศาสตร์ด้านสร้างการเตบิ โตบนคุณภาพชีวิตทเ่ี ปน็ มติ รกบั สิง่ แวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันผลกระทบและปรับตัว ตอ่ การเปลยี่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศและภยั พบิ ัตธิ รรมชาติ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับ ประชาชนเก่ยี วกบั การคดั แยก การแปรรปู การกาจดั ขยะ รวมทัง้ การจัดการมลพษิ ในชมุ ชน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม รวมท้ังลด การใช้ทรพั ยากรทส่ี ่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เชน่ รณรงคเ์ รอ่ื งการลดการใชถ้ ุงพลาสติก การประหยัด ไฟฟา้ เปน็ ตน้ 6. ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการปรับสมดลุ และพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การภาครฐั 6.1 พัฒนาระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสัมฤทธ์ิมีความโปร่งใส นา นวตั กรรมและเทคโนโลยรี ะบบการทางานท่เี ป็นดิจิทลั มาใชใ้ นการบริหารและการตดั สินใจ 6.2 พัฒนาระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศกึ ษาเพอ่ื การบรหิ ารจดั การอย่างเป็นระบบ และเช่ือมโยงกับฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อการบริหารจัดการและบุรราการข้อมูล ของประชาชนอยา่ งเป็นระบบ 6.3 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างตอ่ เน่ือง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐาน ตาแหนง่ ให้ตรงกับสายงาน ความชานาญ และความตอ้ งการของบคุ ลากร ภารกิจต่อเนอ่ื ง 1.ดา้ นการจัดการศึกษาและเรยี นรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบตั้งแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยการ ดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อหนังสือเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

2377 และคา่ จดั การเรียนการสอน อย่างท่วั ถึงและพอพยี ง เพือ่ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการศึกษา ท่ีมคี ณุ ภาพโดยไม่เสียคา่ ใช้จา่ ย 2 ) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาด และ ขาดโอกาส ทางการศึกษา ทงั้ ระบบการให้บริการ ระบบการเรยี นการสอน ระบบการวดั และประเมินผล การเรียน ผ่านการเรียน แบบเรียนรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรียนแบบช้ันเรียน และการจัด การศกึ ษาทางไกล 3) จดั ใหม้ กี ารประเมินเพ่ือเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ท่ี มีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามท่ีกาหนด และสามารถตอบสนองความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 4) จัดให้มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนท่ีมีคุณภาพท่ีผู้เรียนต้องเรียนรู้และเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรม เพ่ือเป็นส่วนหนึ่งของการจบหลักสูตร อาทิ กิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคี กิจกรรมเกี่ยวกบั การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การบาเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเน่ือง การส่งเสริมการ ปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และ ยุวกาชาด กิจกรรม จิตอาสา และการจัดตั้งชมรม/ชุมนุม พร้อมท้ังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนนากิจกรรมการ บาเพ็ญประโยชน์อื่น ๆ นอกหลกั สตู ร มาใชเ้ พิ่มช่วั โมงกจิ กรรมให้ผู้เรียนจบตามหลักสตู รได้ 1.2 การส่งเสรมิ การรหู้ นังสือ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัยและเป็น ระบบเดยี วกัน ทัง้ ส่วนกลางและส่วนภมู ิภาค 2) พัฒนาหลักสูตร ส่ือ แบบเรียน เครื่องมือวัดผลและเคร่ืองมือการดาเนินงานการ ส่งเสริม การรูห้ นังสือทส่ี อดคล้องกับสภาพแต่ละกลุ่มเปา้ หมาย 3) พัฒนาครู กศน. และภาคีเครือข่ายท่ีร่วมจัดการศึกษา ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับผู้ไม่รู้หนังสืออย่างมีประสิทธิภาพ และอาจจัดให้มี อาสาสมคั รส่งเสรมิ การรู้ หนงั สือในพื้นที่ทม่ี คี วามตอ้ งการจาเปน็ เปน็ พเิ ศษ 4) ส่งเสริม สนับสนนุ ใหส้ ถานศึกษาจัดกิจกรรมส่งเสริมการรู้หนังสือ การคงสภาพการ รู้หนังสือ การพัฒนาทักษะการรู้หนังสือให้กับประชาชนเพ่ือเป็นเครื่องมือในการศึกษาและเรียนรู้อย่าง ตอ่ เนอ่ื งตลอดชวี ิต ของประชาชน 1.3 การศกึ ษาต่อเน่ือง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานท าอย่างยั่งยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัด การศึกษาอาชีพ เพื่อการมีงานทาในกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม คหกรรม และ อาชีพเฉพาะทาง หรือการบริการ รวมถึงการเน้นอาชีพช่างพ้ืนฐาน ที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียน ความต้องการและศักยภาพของแต่ละพ้ืนที่ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งให้กับศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน โดย จัดให้มีหนึ่งอาชีพเด่นต่อหนึ่งศูนย์ฝึกอาชีพ รวมทั้งให้มีการกากับ ติดตาม และรายงานผลการจัด การศกึ ษาอาชีพเพ่อื การมีงานทาอย่าง เป็นระบบและตอ่ เนื่อง

3288 2) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ ที่สอดคล้องกับความต้องการจาเป็นของแต่ละบุคคล และมุ่งเน้นให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีทักษะ การดารงชีวิต ตลอดจนสามารถประกอบอาชีพพ่ึงพาตนเองได้ มีความรู้ความสามารถในการบริหาร จัดการชีวิตของตนเอง ให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข สามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน ชีวิตประจาวันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อมสาหรับการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยี สมัยใหม่ในอนาคต โดยจัดกิจกรรมที่มีเนื้อหาสาคัญต่างๆ เช่น สุขภาพกายและจิต การป้องกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา คุณธรรมและค่านิยมท่ีพึงประสงค์ ความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ผ่านการศึกษารูปแบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดต้ัง ชมรม/ชมุ นมุ การสง่ เสริมความสามารถพิเศษต่าง ๆ 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการ เรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม การประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปล่ียนเรียนรู้ การจัดกิจกรรม จติ อาสา การสร้างชมุ ชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอืน่ ๆ ทเี่ หมาะสมกบั กลุม่ เป้าหมาย และ บริบทของชุมชน แต่ละพ้ืนที่ เคารพความคิดของผู้อ่ืน ยอมรับความแตกต่างและหลากหลายทาง ความคิดและอุดมการณ์ รวมท้ัง สังคมพหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่มเพ่ือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน สร้างกระบวนการจิต สาธารณะ การสร้างจิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิ และรับผิดชอบต่อหน้าที่ความเป็น พลเมืองดี การส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม การ บาเพ็ญประโยชน์ในชุมชน การบริหารจัดการน้า การรับมือกับสา ธารณภัย การอนุรักษ์พลังงาน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ช่วยเหลอื ซึง่ กันและกันในการพฒั นาสังคม และชุมชนอยา่ งย่ังยืน 4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกระบวนการ เรยี นร้ตู ลอดชีวิต ในรูปแบบตา่ งๆ ใหก้ บั ประชาชน เพอื่ เสริมสรา้ งภูมิคุ้มกัน สามารถยนื หยดั อยู่ได้อย่าง ม่ันคง และมีการบริหาร จัดการความเส่ียงอย่างเหมาะสม ตามทิศทางการพัฒนาประเทศสู่ความสมดุล และยงั่ ยนื 1.4 การศกึ ษาตามอัธยาศัย 1) ส่งเสริมให้มีการพัฒนาแหล่งการเรียนรใู้ นระดับตาบล เพ่ือการถ่ายทอดองคค์ วามรู้ และจดั กจิ กรรม เพ่ือเผยแพรอ่ งค์ความรู้ในชุมชนไดอ้ ยา่ งท่วั ถึง 2) จดั กจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้เพ่ือปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน และพัฒนาความสามารถ ในการอ่าน และศักยภาพการเรียนรขู้ องประชาชนทกุ กลุม่ เป้าหมาย 3) ส่งเสริมให้มีการสร้างบรรยากาศ และส่ิงแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการอ่านให้เกิดข้ึนใน สังคมไทย โดยสนับสนุนการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น พัฒนา ห้องสมุดประชาชน ทุกแห่งให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัคร ส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่าย ส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์เพ่ือจัด กิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างทั่วถึง

2399 สม่าเสมอ รวมท้ังเสริมสร้างความพร้อมในด้านส่ืออุปกรณ์ เพ่ือสนับสนุนการอ่าน และการจัดกิจกรรม เพื่อสง่ เสรมิ การอ่านอย่างหลากหลาย 4) จัดสรา้ งและพัฒนาศูนย์วิทยาศาสตร์เพือ่ การศกึ ษา ให้เปน็ แหลง่ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตลอดชีวติ ของประชาชน และเปน็ แหล่งทอ่ งเทยี่ วประจาท้องถ่ิน โดยจดั ทา และพัฒนานิทรรศการ สอ่ื และกิจกรรม การศึกษาท่ีเน้นการเสริมสร้างความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ สอดแทรกวิธีการคิดและ ปลูกฝังเจตคติ ทางวิทยาศาสตร์ ผ่านการฝึกทักษะกระบวนการที่บูรณาการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ควบคู่กับเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ รวมท้ังสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ รวมท้ังการเปล่ียนแปลงระดับภูมิภาคและระดับโลก เพ่ือให้ ประชาชนมีความรู้และความสามารถ ในการคิดเชิงวิเคราะห์ มีทักษะที่จาเป็นในโลกศตวรรษที่ ๒๑ มี ความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนาความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้ในการ ดาเนินชีวิต การพัฒนาอาชีพ การรักษา สงิ่ แวดล้อม การบรรเทาและปอ้ งกันภยั พิบัติทางธรรมชาติ 1.5 พฒั นา กศน. ตาบล สู่ “กศน.ตาบล 4G” 1) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมการศึกษาและการ เรียนรู้ : Good Teacher ให้เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงความรู้กับผู้รับบริการ มีความเป็น “ครูมือ อาชีพ” มีจิตบริการ มีความ รอบรู้และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม เป็นผู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ และบรหิ ารจดั การความรทู้ ่ีดี รวมท้งั เปน็ ผ้ปู ฏิบัตงิ านอยา่ งมีความสขุ 2) พัฒนา กศน.ตาบล ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมเอ้ือต่อการเรียนรู้อย่าง ต่อเนื่อง : Good Place Best Check-In มีความพร้อมในการให้บริการกิจกรรมการศึกษาและการ เรียนรู้ เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะที่ ง่ายต่อการเข้าถึง และสะดวกต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่าง สร้างสรรค์ มีสง่ิ อานวยความสะดวก ดึงดูดความสนใจ และมีความปลอดภัยสาหรบั ผรู้ บั บรกิ าร 3) สง่ เสริมการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ภายใน กศน.ตาบล : Good Activities ใหม้ ีความ หลากหลาย น่าสนใจ ตอบสนองความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของประชาชน รวมท้งั เปิดโอกาส ใหช้ ุมชนเข้ามาจดั กิจกรรมเพอื่ เชื่อมโยงความสมั พันธข์ องคนในชมุ ชน 4) เสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย : Good Partnership ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน รวมท้ังส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสรา้ งความเข้าใจ และให้ เกิดความร่วมมอื ในการส่งเสรมิ สนับสนนุ และจดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ ใหก้ ับประชาชนอยา่ งมีคุณภาพ 1.6 ประสานความร่วมมือหน่วยงาน องค์กร หรือภาคส่วนต่างๆ ท่ีมีแหล่งเรียนรู้อื่นๆ เช่น พพิ ธิ ภัณฑ์ ศูนยเ์ รยี นรู้ แหลง่ โบราณคดี ห้องสมดุ เพือ่ สง่ เสริมการจดั การศึกษาตามอธั ยาศัยให้มีรูปแบบ ทีห่ ลากหลาย และตอบสนองความต้องการของประชาชน

3400 2. ด้านหลักสูตร สื่อ รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล งานบริการทาง วชิ าการ และการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ และกิจกรรมเพ่ือ สง่ เสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยท่ีหลากหลาย ทันสมัย รวมทัง้ หลกั สตู รท้องถิ่น ทส่ี อดคลอ้ งกับ สภาพบรบิ ทของพนื้ ที่ และความตอ้ งการของกลุม่ เป้าหมายและชุมชน 2.2 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน ส่ืออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่นๆ ที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ของ ผ้เู รียน กลมุ่ เปา้ หมายทวั่ ไปและกลุ่มเปา้ หมายพิเศษ 2.3 พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มีความทันสมัยด้วยระบบห้องเรียนและการ ควบคุม การสอบออนไลน์ 2.4 พัฒนาระบบการประเมินเพ่ือเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และ ประสบการณ์ ให้มคี ุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลมุ่ เป้าหมายได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ 2.5 พัฒนาระบบการวดั และประเมนิ ผลการศึกษานอกระบบทุกหลกั สูตร โดยเฉพาะ หลักสูตร ในระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐานให้ได้มาตรฐาน โดยการน าแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) มาใชอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัด และประเมินผล และเผยแพร่รปู แบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนนุ การจัดการศึกษานอกระบบ และการศึกษา ตามอัธยาศัย เพ่ือให้มีการน าไปสู่การปฏิบัติอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาให้ เหมาะสมกับบรบิ ทอย่างต่อเนอื่ ง 2.7 พฒั นาระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาให้ได้มาตรฐาน เพ่อื พร้อมรบั การประเมิน คุณภาพภายนอก โดยพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการ ประกัน คุณภาพ และสามารถดาเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้ การประเมิน ภายในด้วยตนเอง และจัดให้มีระบบสถานศึกษาพ่ีเล้ียงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สาหรับสถานศึกษาทยี่ งั ไม่ได้ เขา้ รับการประเมนิ คุณภาพภายนอก ใหพ้ ฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษาให้ ไดค้ ุณภาพตามมาตรฐานท่กี าหนด 3. ด้านเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาให้เช่ือมโยงและ ตอบสนองต่อ การจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษา เพื่อ กระจายโอกาส ทางการศึกษาสาหรับกลุ่มเป้าหมายตา่ งๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรู้ท่ีหลากหลายและ มีคุณภาพ สามารถพัฒนา ตนเองให้รู้เท่าทันส่ือและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการส่ือสาร เช่น รายการ

3411 พัฒนาอาชีพเพื่อการมีงานทา รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุศึกษา สถานี วทิ ยุโทรทัศนเ์ พือ่ การศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทางอนิ เทอรเ์ น็ต 3.2 พัฒนาการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ผ่านระบบ เทคโนโลยีดิจิทัล และช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น Youtube Facebook หรือ Application อ่ืนๆ เพ่ือ ส่งเสริม ให้ครู กศน. นาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวิทยุศึกษาและสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษา เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต และการออกอากาศให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใช้เป็นช่องทางการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเน่ือง ตลอดชีวิต โดยขยายเครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมพ้ืนที่ท่ัวประเทศ และเพิ่มช่องทาง ให้สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ได้ทั้งระบบ Ku - Band C - Band Digital TV และ ทางอินเทอร์เน็ต พร้อมท่ีจะรองรับ การพัฒนาเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาให้ได้หลายช่องทางท้ังทาง อนิ เทอร์เน็ต และรปู แบบอืน่ ๆ เช่น Application บนโทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี และ Tablet, DVD, CD, VCD และ MP3 เป็นต้น เพ่ือให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกใช้บริการเพ่ือเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการ เรยี นรไู้ ด้ตามความตอ้ งการ 3.5 สารวจ วิจัย ติดตามประเมินผลด้านการใช้สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และนาผลมาใช้ในการพัฒนางานใหม้ ีความถูกต้อง ทันสมยั และสามารถสง่ เสริมการศกึ ษาและการเรียนรู้ ตลอดชวี ติ ของประชาชนได้อย่างแท้จรงิ 4. ด้านโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ หรือโครงการอันเกี่ยวเนอื่ งจากราชวงศ์ 4.1 สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การดาเนินงานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริ หรอื โครงการ อันเกี่ยวเนือ่ งจากราชวงศ์ 4.2 จัดทาฐานข้อมูลโครงการและกิจกรรมของ กศน. ท่ีสนองงานโครงการอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ หรือโครงการอันเก่ียวเนื่องจากราชวงศ์ ท่ีสามารถนาไปใช้ในการวางแผน การติดตาม ประเมนิ ผล และการพฒั นางานไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 4.3 ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายการดาเนินงานเพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดาริ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความเข้มแข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 4.4 พัฒนาศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” ให้มีความพร้อมในการจัด การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ตามบทบาทหน้าที่ท่กี าหนดไวอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 4.5 จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนบนพ้ืนท่ีสูง ถนิ่ ทรุ กันดาร และพ้นื ทีช่ ายขอบ

3422 5. ดา้ นการศกึ ษาในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ พืน้ ท่เี ขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ และพืน้ ทีบ่ รเิ วณชายแดน 5.1 พัฒนาการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในจังหวัดชายแดน ภาคใต้ 1) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ที่ตอบสนอง ปญั หา และความต้องการของกลมุ่ เป้าหมาย รวมท้งั อัตลกั ษณแ์ ละความเปน็ พหุวฒั นธรรมของพน้ื ที่ 2) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเข้มข้นและ ตอ่ เน่ือง เพื่อให้ผเู้ รยี นสามารถนาความร้ทู ไ่ี ด้รับไปใช้ประโยชน์ได้จริง 3) ใหห้ นว่ ยงานและสถานศึกษาจัดให้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภยั แก่บุคลากร และนักศึกษา กศน. ตลอดจนผมู้ าใชบ้ รกิ ารอยา่ งท่วั ถงึ 5.2 พฒั นาการจดั การศกึ ษาแบบบูรณาการในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ 1) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการจัดทาแผนการศึกษาตาม ยุทธศาสตร์ และบริบทของแตล่ ะจงั หวดั ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ 2) จดั ทาหลักสตู รการศกึ ษาตามบริบทของพนื้ ท่ี โดยเน้นสาขาท่ีเปน็ ความต้องการของ ตลาด ใหเ้ กดิ การพัฒนาอาชีพไดต้ รงตามความต้องการของพ้ืนที่ 5.3 จัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง ของศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน (ศฝช.) 1) พัฒนาศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนให้เป็นศูนย์ฝึกและสาธิต การ ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดาริ ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี ง สาหรบั ประชาชนตามแนวชายแดน ด้วยวธิ ีการเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย 2) มุ่งจัดและพัฒนาการศึกษาอาชีพโดยใช้วิธีการหลากหลาย ใช้รูปแบบเชิงรุกเพื่อการเข้าถึง กลุ่มเป้าหมาย เช่น การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความร่วมมือกับเครือข่าย การจัดอบรมแกนนา ด้านอาชีพ ท่ีเน้นเรื่องเกษตรธรรมชาติท่ีสอดคล้องกับบริบทของชุมชนชายแดน ให้แก่ประชาชนตาม แนวชายแดน 6. ด้านบคุ ลากร ระบบการบริหารจดั การ และการมีส่วนร่วมของทกุ ภาคสว่ น 6.1 การพฒั นาบุคลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับ ทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงขึ้นอย่างต่อเน่ือง ท้ังก่อน และระหว่าง การดารงตาแหน่งเพื่อให้มีเจตคติท่ีดีในการปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติงานและบริหาร จัดการการดาเนินงาน ของหน่วยงานและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้ ข้าราชการในสังกัดพัฒนาตนเอง เพื่อเล่ือนตาแหน่งหรอื เลอื่ นวทิ ยฐานะ โดยเน้นการประเมินวทิ ยฐานะ เชิงประจกั ษ์

3433 2) พัฒนาศึกษานิเทศก์ กศน. ให้มีสมรรถนะที่จาเป็นครบถ้วน มีความเป็นมืออาชีพ สามารถ ปฏิบัติการนิเทศได้อย่างมีศักยภาพ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศัยในสถานศกึ ษา 3) พฒั นาหวั หนา้ กศน. ตาบล/แขวง ให้มีสมรรถนะสงู ขึน้ เพ่ือการบริหารจัดการ กศน. ตาบล/แขวง และการปฏบิ ัติงานตามบทบาทภารกจิ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ โดยเนน้ การเป็นนัก จัดการความรูแ้ ละผู้อานวย ความสะดวกในการเรยี นรู้เพ่ือใหผ้ เู้ รียนเกดิ การเรียนรู้ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพอย่าง แท้จรงิ 4) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรทเ่ี กี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาให้สามารถจดั รูปแบบ การเรยี นรู้ ได้อยา่ งมีคณุ ภาพ โดยส่งเสริมให้มคี วามร้คู วามสามารถในการจัดทาแผนการสอน การจัด กระบวนการเรยี นรู้ การวดั และประเมินผล และการวิจยั เบือ้ งต้น 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากร ที่รับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ ให้มี ความรู้ ความสามารถและมีความเป็นมืออาชีพในการจัดบริการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของ ประชาชน 6) ส่งเสริมให้คณะกรรมการ กศน. ทุกระดับ และคณะกรรมการสถานศึกษา มีส่วน ร่วมในการบรหิ าร การดาเนินงานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน. อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 7) พัฒนาอาสาสมัคร กศน. ให้สามารถทาหนา้ ที่สนบั สนนุ การจดั การศึกษานอกระบบ และการศึกษา ตามอัธยาศยั ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 8) พฒั นาสมรรถนะและเสรมิ สร้างความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบคุ ลากร รวมทั้งภาคีเครอื ขา่ ย ทั้งในและต่างประเทศในทุกระดบั โดยจัดให้มีกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพและเพิ่มประสิทธิภาพ ในการ ทางานร่วมกันในรปู แบบทห่ี ลากหลายอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 6.2 การพฒั นาโครงสร้างพ้นื ฐานและอัตรากาลงั 1) จัดทาแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและดาเนินการปรับปรุงสถานท่ี และวัสดุ อปุ กรณ์ ให้มคี วามพรอ้ มในการจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ 2) บริหารอัตรากาลังท่ีมีอยู่ ทั้งในส่วนท่ีเป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ให้เกิด ประสทิ ธิภาพสูงสดุ ในการปฏบิ ัตงิ าน 3) แสวงหาความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการระดมทรัพยากรเพ่ือ นามาใช้ในการ ปรับปรุงโครงสร้างพ้ืนฐานให้มีความพร้อมสาหรับดาเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย และการสง่ เสริมการเรยี นรู้สาหรบั ประชาชน 6.3 การพัฒนาระบบบรหิ ารจัดการ 1) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเช่ือมโยงกันท่ัว ประเทศ อย่างเป็นระบบเพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช้เป็นเคร่ืองมือสาคัญ

4344 ในการบริหาร การวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล รวมท้ังจัดบริการการศึกษานอก ระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศยั อย่างมีประสทิ ธิภาพ 2) เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากับ ควบคมุ และเร่งรดั การเบกิ จา่ ยงบประมาณให้เป็นตามเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานขอ้ มลู รวมของนกั ศกึ ษา กศน. ให้มีความครบถว้ น ถกู ตอ้ ง ทนั สมยั และเช่ือมโยงกันท่ัวประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพื่อประโยชน์ในการจัด การศึกษา ให้กบั ผเู้ รียนและการบริหารจดั การอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 4) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้ง การศึกษาวิจัย เพื่อสามารถนามาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดาเนินงานที่สอดคล้องกับความ ต้องการของประชาชน และชุมชนพร้อมท้ังพัฒนาขีดความสามารถเชิงการแข่งขันของหน่วยงานและ สถานศึกษา 5) สร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนท้ังในประเทศและต่างประเทศ ในการพัฒนา และสง่ เสริม การจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั และการเรยี นรู้ตลอดชีวติ 6) ส่งเสริมการใช้ระบบสานักงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-office) ในการบริหารจัดการ เช่น ระบบการลา ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ ระบบการขอใช้รถราชการ ระบบการขอใช้ห้องประชุม เป็นตน้ 6.4 การกากบั นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดาเนินงาน การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้เชื่อมโยงกับหน่วยงาน สถานศึกษา และภาคี เครือข่ายทั้งระบบ 2) ให้หน่วยงานและสถานศึกษาท่ีเกี่ยวข้องทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกากับ ตดิ ตาม และรายงานผลการนานโยบายสู่การปฏบิ ัติ ให้สามารถตอบสนองการดาเนินงานตามนโยบายใน แตล่ ะเรอ่ื ง ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร และสื่ออื่น ๆ ท่ีเหมาะสม เพื่อ การกากบั นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคารับรองการปฏิบัติ ราชการประจาปี ของหน่วยงาน สถานศึกษา เพ่ือการรายงานผลตามตัวชี้วัดในคารับรองการปฏิบัติ ราชการประจาปี ของสานักงาน กศน. ให้ดาเนินไปอย่างมปี ระสิทธภิ าพ เปน็ ไปตามเกณฑ์ วิธกี าร และ ระยะเวลาทก่ี าหนด 5) ให้มีการเช่ือมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ท้ังหน่วยงานภายในและภายนอก องค์กร ตั้งแต่ ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพ่ือความเป็น เอกภาพในการใช้ข้อมลู และการพัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั

4355 น โ ย บ า ย แ ล ะ ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ก า ร จั ด ก า ร ศึ ก ษ า น อ ก ร ะ บ บ แ ล ะ ก า ร ศึ ก ษ า ต า ม อั ธ ย า ศั ย จั ง ห วั ด ศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2562 ( สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จงั หวดั ศรีสะเกษ ,2562 : 2 ) วสิ ัยทศั น์การบริหาร ปรชั ญาหน่วยงาน เป็นเลศิ ทางวชิ าการ ธรรมมาภิบาลยอดเยีย่ ม ค่านยิ มองค์กร ความรับผิดชอบตอ้ งมากอ่ น (Responsibility is First) วสิ ัยทศั นอ์ งค์กร เป็นองค์กรหลักของจังหวัดศรีสะเกษ ที่จัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต สร้าง คนดี คนเก่ง พร้อมสาหรับสังคมแห่งการเรียนรู้และวิถีชีวิตตามแนวทางปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง ควบคูก๋ ับการดารงชวี ิตในศตวรรษท่ี 21 พนั ธกจิ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่ือสร้างสังคมแห่งการ เรยี นรู้ตลอดชีวติ 2. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายและชุมชน ในการจัดการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 3. ส่งเสรมิ และพฒั นาการนาเทคโนโลยีทางการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาใชใ้ ห้เกดิ ประสิทธิภาพในการจัดการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 4. พัฒนาหลักสตู ร รปู แบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื และนวัตกรรม การวัดและประเมินผล ในทกุ รปู แบบ 5. พฒั นาบคุ ลากรและระบบการบรหิ ารจกั การเพ่ือมุ่งจดั การศึกษาทมี่ ีคณุ ภาพโดยยึดหลักธรรม มาภบิ าลและการมสี ว่ นรว่ ม เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาดและขาดโอกาสทางการศึกษาได้รับโอกาสทางการศึกษาในรูปแบบ การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้นื ฐานที่มีคุณภาพ อยา่ งทัว่ ถงึ และเท่าเทียม 2. ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายพิเศษได้รับโอกาสทางการศึกษาในรปู แบบการการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั ทีเ่ ป็นไปตามสภาพปญั หาและความต้องการของแต่ละกลุ่ม 3. ชุมชนมีส่วนร่วมในการขับเคล่ือนกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงและปรัชญาคิดเป็น อาทิ หมู่บ้านตามรอยพระยุคลบาท หมู่บ้านแห่งการอ่าน บ้านหนังสือ ชมุ ชนแหลง่ เรยี นรู้ชุมชน

4636 4. ประชาชนได้รับการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตและ เสริมสร้างความเข็มแข็งให้กับชุมชน โดยมี กศน.ตาบล ศูนย์การเรียนชุมชนและแหล่งการเรียนรู้ใน ชุมชนเป็นกลไกลในการจัดกรเรยี นรู้ 5. ชุมชนมีการจัดการความรู้ของชุมชน เพือ่ พัฒนาไปสู่ความมัน่ คงและยงั่ ยืนทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ประวตั ศิ าสตร์และสงิ่ แวดลอ้ ม 6. ชุมชนและทุกภาคส่วน ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการจัด ส่งเสริมและสนับสนุนการ ดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 7. บุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฎิบัติงาน การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อยา่ งทวั่ ถึง 8. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจัดการตามหลักธรรมมาภบิ าลและใช้หลักการ บริหารแบบมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ (Resuit Based Management : RBM) ภารกจิ 1. จัดการศึกษานอกระบบ โดยมุ่งจัดการศึกษาให้กับประชาชนและผู้ด้อยโอกาส ผู้พลาด โอกาส และผขู้ าดโอกาสท่ีอยนู่ อกระบบโรงเรยี นให้ได้รบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน อ่านออก เขียนได้ รวมท้ัง การจัดการศึกษาสายสามัญและสายอาชีพในรูปแบบต่างๆ เพื่อยกระดับการศึกษาและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมการเรียนการสอนเสมือนในระบบโรงเรียน และ รูปแบบของการใช้สื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา สื่อรายการวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา สื่อการศึกษาทา ไกลผา่ นดาวเทียม และการจดั นทิ รรศการวทิ ยาศาสตร์เพอื่ การศึกษาเปน็ ตน้ 2. ส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตอย่าง ต่อเน่ืองเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารท่ีจาเป็นและทันสมัย รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม โลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็วในยุคโลกาภิวัตน์ สามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอด ชวี ติ จากแหล่งต่างๆได้แก่ หอ้ งสมดุ ประชาชน บ้านหนังสอื ชุมขน ศูนยก์ ารเรียนชมุ ขน เปน็ ต้น บทบาทหน้าที่ 1. กาหนดนโยบาย วางแผนการศึกษานอกโรงเรียนระดบั จงั หวัด 2. ส่งเสริม ประสานงาน และพัฒนาเครือข่ายการบริการการศึกษานอกโรงเรียนท้ังภาครัฐ และเอกชน 3. ส่งเสริมและสนับสนุนการบริการการศึกษานอกโรงเรียนท้ังในระบบ นอกระบบและการศึ กาตามอธั ยาศัยของศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอ 22 แห่ง 4. สนับสนุนและบรกิ ารสอ่ื ทางการศึกษาแกห่ น่วยงานท่ีจัดกจิ กรรมการศึกษานอกโรงเรียนทั้ง ภาครฐั และเอกชน 5. ดาเนินการเกย่ี วกับคลงั ข้อสอบเพ่ือสนบั สนุนการวัดผล ประเมนิ ผลของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอ 22 แห่ง

4377 6. นิเทศ ติดตามการจัดกิจกรรมของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภอ 22 แหง่ 7. กากบั ดูแลสถานศึกษาในความดแู ลของสานักงาน กศน.จงั หวัดศรีสะเกษ 8. ปฏิบัตงิ านอ่ืนตามทไี่ ด้รับมอบหมาย จดุ เนน้ การดาเนินงานของงาน/โครงการ ในปีงบประมาณ 2562 1. โครงการจดั การศึกษาเพ่ือรกั ษาความมนั่ คงภายในจังหวัด 2. โครงการสง่ เสริมการเรยี นรูต้ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฏีใหม่ 3. โครงการ Smart ONIE เพอื่ สร้าง Smart Farmer ส่กู ารเป็น Master Trainer 4. โครงการภาษาองั กฤษเพือ่ การสือ่ สารด้านอาชีพ 5. โครงการพฒั นาและสร้างเครอื ข่ายและสง่ เสรมิ การจัดการเรียนรเู้ ทคโนโลยดี ิจิทัลชมุ ชน 6. โครงการสง่ เสริมการจัดการศึกษาเพอ่ื พัฒนาสังคมและชุมชน 7. โตรงการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชีวติ 8. โครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชุมชนและตลาดนัดอาชพี 9. โครงการยกระดับมาตรฐานคณุ ภาพการศกึ ษา 10. โครงการสง่ เสริมการรหู้ นงั สอื 11. โครงการส่งเสรมิ การอา่ น 12. โครงการพฒั นาศกั ยภาพองคก์ รครู และบุคลากรทางการศึกษา 13. โครงการพัฒนานวตั กรรมทางการศกึ ษายนอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 14. โครงการพัฒนาประสทิ ธภิ าพการประชาสัมพนั ธ์ กศน. 15. โครงการสง่ เสรมิ สุขภาวะและสขุ อนามยั ในชมุ ชน 16. โครงการจัดการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน 17. โครงการอบรมหลักสูตรผดู้ แู ลผู้สงู อายุ 18. โครงการจัดการศึกษาเพอ่ื เสรมิ สรา้ งคณุ ภาพชวี ิตท่ีเป็นมติ รกบั สิ่งแวดล้อม 19. โครงการเพิ่มประสทิ ธิภาพการปฏบิ ตั งิ านตามแนวทางการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธ์ิ 20. โครงการพฒั นาระบบข้อมูลสารสนเทศเพอ่ื การบริหารและการจัดการศกึ ษา

4838 หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2559) (สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย, 2555 : 2) 1. แนวคิดและหลกั การการจดั การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 49กาหนดว่า บุคคลย่อมมี สิทธิเสมอกันในการรับการศึกษาไม่น้อยกว่าสิบสองปีท่ีรัฐจะต้องจัดให้อย่างท่ัวถึงและมีคุณภาพ และ มาตรา 80 ได้กาหนดเป็นนโยบายด้านการศึกษาว่า ต้องดาเนินการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน การ จัดการศึกษาในทุกระดับและทุกรูปแบบ ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม จัด ให้มแี ผนการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายเพือ่ พัฒนาการศึกษาของชาติ ซ่ึงกฎหมายเพ่อื พัฒนาการศกึ ษาของ ชาติ กาหนดให้มีการส่งเสริมการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย และ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542และแก้ไขเพ่ิมเติม(ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545มาตรา 15 กาหนดนิยามการศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาท่ีมีความยืดหยุ่นในการกาหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลา ของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซ่ึงเป็นเงื่อนสาคัญของการสาเร็จ การศกึ ษา โดยเน้อื หาและหลักสตู รจะต้องมคี วามเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพปญั หาและความต้องการ ของบคุ คลแต่ละกลุ่มเปา้ หมาย ดังนั้นการพัฒนาหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551จึงเป็นการพัฒนาหลักสูตรท่ีมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหา และความ ต้องการของบุคคลท่ีอยู่นอกโรงเรียน ซ่ึงเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์จากการทางานและการ ประกอบอาชีพ โดยกาหนดสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ การวัดและ ประเมินผล ให้ความสาคัญกับการพัฒนากลุ่มเป้าหมายด้านจิตใจ ให้มีคุณธรรม ควบคู่ไปกับการ พัฒนาการเรียนรู้ สร้างภูมิคุ้มกัน สามารถจัดการกับองค์ความรู้ ท้ังภูมิปัญญาท้องถิ่น และเทคโนโลยี เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวอยู่ในสังคมท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา สร้างภูมิคุ้มกันตามแนว ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมท้ังคานึงถึงธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้เรียน ท่ีอยู่นอกระบบโรงเรียน และสอดคล้องกับสภาพ เศรษฐกิจ สงั คม การเมอื ง การปกครอง ความเจรญิ กา้ วหนา้ ของเทคโนโลยีและ การสือ่ สาร หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กาหนด หลักการไวด้ งั น้ี 1. เป็นหลักสูตรที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นด้านสาระการเรียนรู้ เวลาเรียน และการจัดการ เรียนรู้โดยเน้นการบูรณาการเน้ือหาให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ความแตกต่างระหว่างบุคคล และ ชมุ ชน สงั คม 2. ส่งเสริมให้มีการเทียบโอนผลการเรียนจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศยั 3. ส่งเสริมให้ผู้เรียน ได้พัฒนาและเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดชวี ิต โดยตระหนักว่าผู้เรียน

4399 มีความสาคัญ สามารถพัฒนาตนเองได้ตามธรรมชาตแิ ละเต็มศักยภาพ 4. สง่ เสรมิ ให้ภาคเี ครอื ขา่ ยมีสว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษา 2. ปรชั ญาและจดุ มุง่ หมายการจัดการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พืน้ ฐานปรัชญา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551ยึด ปรัชญา “คิดเป็น” มาใช้ในการจัดการศึกษาปรัชญา“คิดเป็น”อยู่บนพื้นฐานความคิดท่ีว่า ความ ต้องการของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนมีจุดรวมของความต้องการท่ีเหมือนกัน คือ ทุกคน ต้องการความสุข คนเราจะมีความสุขเมื่อตัวเรา ความรู้ทางวิชาการ สังคมและสิ่งแวดล้อม ผสม กลมกลืนกันได้ก็จะมีความสุข โดยคิดแบบพอเพียง พอประมาณ ไม่มากไม่น้อยเป็นทางสายกลาง สามารถอธิบายไดด้ ว้ ยเหตผุ ล กระบวนการเรียนรู้ ตามปรัชญา “คิดเป็น” มีผู้เรียนสาคัญที่สุด โดยครูจะเป็นเพียงผู้จัด โอกาส กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นคิด วิเคราะห์ ปัญหาหรอื ความต้องการ มกี ารเรียนรู้จากข้อมูลจริงและตัดสินใจ บนฐานข้อมูลที่เพียงพอและเช่ือถือได้ คือ ข้อมูลตนเอง วิชาการ ชุมชน สังคมและส่ิงแวดล้อม หาก สามารถนามาแก้ปัญหาได้กระบวนการก็ยุติลง ถ้ายังมีปัญหาอยู่ จะมีกระบวนการพิจารณาทางเลือก ใหมอ่ ีกครั้ง กระบวนการนก้ี ็จะยตุ ิลงเม่ือบคุ คลพอใจและมีความสขุ จุดมุ่งหมาย หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ม่งุ พัฒนาให้ ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีสติปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีศักยภาพในการประกอบอาชีพและการ เรียนรู้อย่างต่อเน่ือง ซ่ึงเป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ต้องการ จึงกาหนดจุดหมายดังต่อไปน้ี 1. มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงามและสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข 2 . มี ค ว า ม รู้ พื้ น ฐ า น ส า ห รั บ ก า ร ด า ร ง ชี วิ ต แ ล ะ ก า ร เ รี ย น รู้ ต่ อ เ น่ื อ ง 3. มีความสามารถในการประกอบสัมมาอาชีพใหส้ อดคล้องกับความสนใจความถนดั และ ต า ม ทั น ค ว า ม เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ท า ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ สั ง ค ม แ ล ะ ก า ร เ มื อ ง 4. มีทักษะการดาเนินชีวิตที่ดี และสามารถจัดการกับชีวิต ชุมชน สังคมได้อย่างมี ความสขุ ตามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 5. มีความเข้าใจประวัติศาสตร์ชาติไทย ภูมิใจในความเป็นไทย โดยเฉพาะภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี กีฬา ภูมิปัญญาไทย ความเป็นพลเมืองดี ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา ยึด ม่ันในวิถีชวี ิตและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข 6. มีจิตสานึกในการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7. เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีทักษะในการแสวงหาความรู้ สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ และบูรณาการความรูม้ าใช้ในการพฒั นาตนเอง ครอบครวั ชุมชน สังคมและประเทศชาติ

4500 กลุ่มเปา้ หมาย กล่มุ ผู้ใช้แรงงาน กลมุ่ เกษตรกร กล่มุ สูงอายุ กล่มุ คนพกิ ารกลุ่มเยาวชนนอกระบบกลุ่มชาว ไทยภูเขา กล่มุ ผตู้ ้องขงั ทไี่ มไ่ ด้อยู่ในระบบโรงเรยี น 3. โครงสร้างหลักสูตรการจัดการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน เพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปตามหลักการ จุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้ที่กาหนด ไว้ให้สถานศึกษาและภาคีเครือข่ายมีแนวปฏิบัติในการจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา จึงได้กาหนด โครงสร้างของหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ไว้ดังน้ี 1. ระดบั การศกึ ษา ระดบั การศึกษา แบ่งออกเป็นออกเป็น 3 ระดบั ดังนี้ 1.1 ระดบั ประถมศึกษา 1.2 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ 1.3 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรปู้ ระกอบดว้ ย 5 สาระ ดังนี้ 1. สาระทักษะการเรียนรู้ เปน็ สาระเกี่ยวกับการเรยี นรู้ด้วยตนเอง การใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ การจัดการความรู้ การคิดเปน็ และการวจิ ยั อย่างง่าย 2. สาระความรพู้ น้ื ฐาน เป็นสาระเก่ยี วกบั ภาษาและการสือ่ สาร คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี 3. สาระการประกอบอาชีพ เป็นสาระเก่ียวกับการมองเห็นช่องทางและการตัดสินใจ ประกอบอาชพี ทักษะในอาชพี การจดั การอาชีพอย่างมีคณุ ธรรมและการพฒั นาอาชีพใหม้ ั่นคง 4. สาระทักษะการดาเนนิ ชวี ิต เปน็ สาระเก่ียวกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งสุขภาพอนามัย และความปลอดภัยในการดาเนินชีวิต ศิลปะและสุนทรยี ภาพ 5. สาระการพัฒนาสังคม เป็นสาระที่เก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมืองการปกครอง ศาสนาวัฒนธรรม ประเพณี หน้าที่พลเมือง และการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม 3. กจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวติ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตเป็นกิจกรรมท่ีจัดขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม 4. มาตรฐานการเรยี นรู้ หลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั ฐาน พุทธศักราช 2551กาหนดมาตรฐาน การเรยี นรู้ ตามสาระการเรยี นร้ทู งั้ 5 สาระทเ่ี ป็นข้อกาหนดคุณภาพของผเู้ รียน ดังนี้