1
เอกสารประกอบการสอน ธุรกิจเพ่อื สงั คม Social Enterprise รหสั วิชา BUA 4337 อาจารย์ ดร.พรพิมล ขำเพชร คณะบริหารธรุ กจิ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรตั นโกสนิ ทร์ 2564 2
คำนำ เอกสารประกอบการสอนนี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้สำหรับประกอบการเรียนการสอน รายวิชาธุรกิจ เพื่อสังคม Social Enterprise รหัสวิชา BUA 4337 สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรบริหารธรุ กิจ บัณฑติ คณะบรหิ ารธุรกจิ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสนิ ทร์ มุ่งเนน้ ให้ผู้เรยี นมีความร้คู วามเข้าใจ เกย่ี วกับแนวคิดพื้นฐาน รูปแบบ วิธีการดำเนินธรุ กิจของกิจการเพือ่ สงั คม การประยกุ ต์หลกั การบริหารธุรกิจท่ี นำไปใช้ในกิจการเพื่อสังคม การวิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค โดยเน้นการใช้นวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาเพื่อ สรา้ งความยง่ั ยืนของกจิ การเพ่ือสังคม ฝกึ วิเคราะห์และเขียนแผนธุรกจิ ของกิจการเพื่อสงั คม รวมถึงการศึกษา กรณีศกึ ษาจากกิจการเพอื่ สงั คมทงั้ ภายในประเทศและต่างประเทศ เน้นการฝกึ ปฏิบตั ิ และการประยกุ ตใ์ ช้ เนื้อหาในเอกสารแบ่งออกเป็น 8 บท ประกอบด้วย ที่มาและแนวคิดพื้นฐานของกิจการเพื่อสังคม แนวคิดการประกอบการเพือ่ สงั คม ผู้ประกอบการเพือ่ สงั คม นวัตกรรมทางสังคม หลักการบริหารการจัดการ สำหรับกิจการเพื่อสังคม ปัญหา อุปสรรค และการแก้ปัญหาเพื่อสร้างความยั่งยืนของกจิ การเพื่อสังคม แผน ธรุ กิจ และการเขียนแผนธุรกิจของวิสาหกิจเพ่ือสงั คม ตลอดจนกรณีศึกษาของกิจการเพื่อสงั คมทั้งในประเทศ และตา่ งประเทศ ดังน้ัน ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยงิ่ ว่าเอกสารประกอบการสอนวิชาธุรกิจเพื่อสังคมเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ ต่อนักศกึ ษาและอาจารยใ์ ช้ประกอบการเรยี นการสอนวิชาน้ี ตลอดจนผู้ที่สนใจด้านธรุ กิจเพื่อสังคมนำไปใช้เป็น แนวทางการประกอบการธุรกิจเพ่ือสังคมให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธผิ ล นอกจากนี้เอกสารเล่มนี้ได้รบั ความอนุเคราะห์จากผู้ทรงคุณวุฒิที่คอยให้คำปรึกษาในการเรยี บเรยี งและปรับปรุงเนื้อหา จึงขอขอบพระคณุ ทุกทา่ นเป็นอยา่ งย่งิ มา ณ โอกาสน้ี อาจารย์ ดร. พรพิมล ขำเพชร พฤษภาคม 2564 ก
สารบญั หนา้ เรอื่ ง 3 3 บทท่ี 1 แนวคดิ พื้นฐานของกจิ การเพอ่ื สงั คม 5 -ความหมายของกจิ การเพ่ือสงั คม 6 -ความสำคญั ของกจิ การเพื่อสงั คม 11 -ลกั ษณะของกิจการเพอ่ื สงั คม 12 -ความหมายของการประกอบการเพือ่ สังคม 13 -ความสำคญั ของการประกอบการเพ่อื สังคม 15 -เปา้ หมายหลกั ของการประกอบการทางสงั คม 16 -สรปุ 17 -เอกสารอ้างอิง 21 -คำถามทบทวน 21 22 บทที่ 2 แนวคิดผปู้ ระกอบการทางสังคม 23 -ความหมายของผู้ประกอบการทางสังคม 25 -ความแตกต่างของผปู้ ระกอบการธรุ กิจและผู้ประกอบการเพื่อสังคม 27 -ความสำคัญ และบทบาทของผู้ประกอบการทางสังคม 29 -คุณลกั ษณะทด่ี ขี องผู้ประกอบการทางสังคม 30 -บุคคลตัวอยา่ งในการผ้ปู ระกอบการทางสังคม 31 -สรุป 35 -เอกสารอา้ งอิง 35 -คำถามทบทวน 38 39 บทที่ 3 การจดั ตัง้ องคก์ รธรุ กจิ เพือ่ สังคม 42 -องคป์ ระกอบของกิจการเพ่ือสังคม 44 -คุณลักษณะสำคญั ของกจิ การเพ่ือสงั คม 45 -เป้าหมายการพัฒนาทย่ี งั่ ยืนกับกจิ การเพ่ือสังคม 45 -การจัดต้ังองค์การกจิ การเพ่ือสังคม -สรปุ -เอกสารอ้างอิง -คำถามทบทวน ข
สารบญั (ตอ่ ) เรื่อง หนา้ บทท่ี 4 รปู แบบกลไกการบริหารจัดการธุรกิจเพอ่ื สงั คม 49 -การสรา้ งระบบนิเวศสำหรับกจิ การเพอ่ื สังคม 49 -ผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี ต่าง ๆ ทเี่ กยี่ วเนื่องกับกิจการเพ่ือสังคม 50 -การวดั ผลการดำเนินงานของกิจการเพือ่ สงั คม 51 -กฎหมาย และนโยบายทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั กจิ การเพือ่ สงั คม 55 -สรุป 60 -เอกสารอา้ งอิง 61 -คำถามทบทวน 62 65 บทที่ 5 การแก้ปญั หาเชงิ นวตั กรรมเพอ่ื สรา้ งความย่งั ยนื ของกิจการเพือ่ สังคม 65 -นวตั กรรมทางสงั คม 73 -การแก้ปัญหาเชงิ นวตั กรรม 76 -การแกป้ ัญหากระบวนการคิดเชงิ ออกแบบ(Design Thinking) 82 -สรปุ 83 -เอกสารอา้ งอิง 84 -คำถามทบทวน 87 87 บทที่ 6 แผนธรุ กิจ และการเขยี นแผนธรุ กิจ 88 -ความหมายของแผนธุรกจิ 90 -ความสำคญั และประโยชน์ของแผนธรุ กจิ 91 -ลักษณะของแผนธุรกิจท่ดี ี 93 -องคป์ ระกอบของแผนธรุ กจิ 94 -สรปุ 94 -เอกสารอ้างองิ 97 -คำถามทบทวน 97 98 บทท่ี 7 การประยกุ ตใ์ ชผ้ ืนผา้ ใบโมเดลธรุ กจิ Business Model Canvas 99 -ความหมายของโมเดลธุรกิจ และผืนผ้าใบโมเดลธุรกิจ Business Model Canvas 103 -ความสำคญั และประโยชน์ของผนื ผ้าใบโมเดลธุรกจิ Business Model Canvas 104 -องค์ประกอบของผนื ผ้าใบโมเดลธุรกจิ Business Model Canvas 104 -สรุป -เอกสารอ้างองิ -คำถามทบทวน ค
สารบญั (ตอ่ ) หนา้ เรื่อง 107 107 บทที 8 การสร้างแรงบันดาลใจสู่ Social Enterprise 116 - Social Enterprise ในตา่ งประเทศ 118 - Social Enterprise ในประเทศไทย 120 -ปจั จัยท่สี ่งผลตอ่ ความสำเรจ็ ของวิสาหกจิ เพือ่ สงั คม 121 -สรปุ 122 -เอกสารอ้างองิ -คำถามทบทวน ง
สารบญั ภาพ หนา้ 6 ภาพที่ 8 1 รูปแบบ Hybrid Spectrum for organization 9 2 คณุ ลกั ษณะการดำเนินธรุ กิจของกจิ การเพ่ือสงั คม 12 3 องคป์ ระกอบของกจิ การเพ่อื สงั คม 14 4 ความสำคญั ของการประกอบการสังคมกับการพฒั นาที่ยัง่ ยนื 24 5 เป้าหมายของการประกอบการทางสงั คม 26 6 บทบาทของผูป้ ระกอบการสงั คม 27 7 Muhammad Yunus ผู้กอ่ ตงั้ ธนาคารกรามีน (Grameen Bank) 28 8 วิลเล่ียม ปลิ เดรยต์ นั William Bill Drayton ผกู้ ่อตง้ั Ashoka 35 9 แอนนิตา ร็อดดิก Anita Roddick ผกู้ ่อต้ัง Body Shop 37 10 ประเภทกิจการเพ่ือสงั คม 11 รปู แบบของกจิ การธุรกจิ ทมี่ เี ป้าหมายเพอื่ แกไ้ ขสงั คม 38 12 กิจกรรมของธรุ กจิ และโครงการเพ่อื สังคมเป็นการเปน็ ส่ิงเดียวกัน 39 (Embedded Social Enterprise) 39 13 กิจกรรมของธุรกิจและโครงการทางสังคมจะมีส่วนทีท่ บั ซ้อนกนั อยู่ 40 51 (Integrated Social Enterprise) 53 14 กจิ กรรมทางธุรกิจจะอย่นู อกการจัดการองคก์ ร (External Social Enterprise) 67 15 Triple Bottom Line 70 16 มีส่วนไดส้ ว่ นเสยี ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกจิ การ/วสิ าหกิจเพอ่ื สังคม 72 17 ตัวแบบการคำนวณผลตอบแทนทางสงั คมของ REDF 78 18 เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของนวัตกรรมทางสงั คมกบั นวตั กรรมทางธรุ กจิ 80 19 ความสมั พนั ธ์ของนวัตกรรมทางสงั คม ผู้ประกอบการเพ่ือสังคม และวสิ าหกิจเพือ่ สงั คม 81 20 กระบวนการเกิดขึ้นของนวัตกรรมทางสังคม 99 21 กระบวนการคิดเชิงออกแบบ 99 22 Double Diamond Design Process 26 23 ระยะของกระบวนการคดิ เชงิ ออกแบบ 24 ผืนผา้ ใบโมเดลธรุ กจิ Business Model Canvas 25 Business Model Canvas ทจ่ี ำแนกตามกรอบการดำเนินธรุ กจิ 26 องคป์ ระกอบ 9 ช่อง ของผนื ผ้าใบโมเดลธรุ กจิ Business Model Canvas จ
สารบญั ตาราง หนา้ 23 ตารางท่ี 58 1 ข้อแตกตา่ งของผปู้ ระกอบการเพ่ือสงั คมและผู้ประกอบการธุรกจิ 69 2 เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรบั วิสาหกจิ เพือ่ สงั คม 3 การเปรียบเทยี บท่ีมาของนวัตกรรมทางสังคม ฉ
ช
แผนการสอนประจำวิชา รหสั วชิ า BUA 4337 รายวชิ า ธุรกิจเพ่อื สงั คม Social Enterprise 3(2-2-5) คำอธบิ ายรายวิชา แนวคิดพ้ืนฐาน รูปแบบ วิธกี ารดำเนินธุรกจิ ของกิจการเพอื่ สังคม การประยกุ ตห์ ลักการบริหารธุรกิจที่ นำไปใช้ในกิจการเพื่อสังคม การวิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค โดยเน้นการใช้นวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาเพ่ือ สร้างความยงั่ ยนื ของกจิ การเพื่อสงั คม ฝึกวเิ คราะหแ์ ละเขยี นแผนธรุ กิจของกิจการเพ่ือสังคม รวมถึงการศึกษา กรณีศึกษาจากกจิ การเพือ่ สงั คม ท้ังภายในประเทศและต่างประเทศ วัตถุประสงคข์ องรายวิชา 1. เพอื่ ให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั แนวคดิ พ้ืนฐาน รูปแบบ วิธกี ารดำเนินกิจการเพือ่ สงั คม 2. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถนำหลกั การบรหิ ารธุรกจิ ไปประยกุ ต์ใช้ในกจิ การเพ่ือสงั คมได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ 3. เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถวเิ คราะหป์ ญั หา อุปสรรค โดยเนน้ การใชน้ วตั กรรมในการแก้ไขปัญหาเพื่อ สร้างความยง่ั ยืนของกจิ การเพือ่ สังคม 4. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นได้ฝึกวเิ คราะห์ และเขียนแผนธุรกิจของกจิ การเพอื่ สงั คม 5. เพือ่ ให้ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเข้าใจ วิธกี ารดำเนินกิจการเพอื่ สังคมจากกรณศี กึ ษาจากกจิ การเพื่อ สงั คมท้ังภายในประเทศและตา่ งประเทศ เน้อื หา 4 ช่ัวโมง บทที่ 1 แนวคดิ พน้ื ฐานของกจิ การเพอื่ สงั คม -ความหมายของกจิ การเพือ่ สงั คม -ความสำคัญ และประโยชน์ของกิจการเพื่อสงั คม -ความหมายของการประกอบการเพอื่ สังคม -เป้าหมายหลักของการประกอบการทางสงั คม -สรปุ -เอกสารอ้างองิ -คำถามทบทวน ซ
บทที่ 2 แนวคิดผปู้ ระกอบการทางสังคม 4 ช่ัวโมง -ความหมายของผู้ประกอบการทางสงั คม 4 ชัว่ โมง -ความแตกต่างของผู้ประกอบการธุรกิจและผู้ประกอบการเพ่อื สงั คม 4 ชั่วโมง -บทบาทและความสำคญั ของผปู้ ระกอบการทางสังคม 4 ชวั่ โมง -คณุ ลกั ษณะท่ดี ขี องผู้ประกอบการทางสังคม -บคุ คลตัวอย่างในการผู้ประกอบการทางสงั คม -สรปุ -เอกสารอา้ งองิ -คำถามทบทวน บทท่ี 3 การจดั ตั้งองคก์ รธุรกิจเพื่อสงั คม -องค์ประกอบของกิจการเพื่อสังคม -คุณลกั ษณะสำคญั ของกจิ การเพ่ือสงั คม -เป้าหมายการพัฒนาทีย่ ง่ั ยืนกับกจิ การเพ่อื สังคม -รปู แบบของกจิ การเพือ่ สงั คม -การจดั ตัง้ องคก์ ารกจิ การเพ่อื สงั คม -สรุป -เอกสารอ้างองิ -คำถามทบทวน บทที่ 4 รปู แบบกลไกการบรหิ ารจดั การธรุ กิจเพอื่ สงั คม -การสรา้ งระบบนเิ วศสำหรบั กิจการเพือ่ สังคม -ผมู้ สี ว่ นได้ส่วนเสียต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวเนอื่ งกับกจิ การเพื่อสังคม -การวดั ผลการดำเนินงานของกจิ การเพ่ือสังคม -กฎหมาย และนโยบายที่เก่ียวข้องกบั กิจการเพือ่ สังคม -สรปุ -เอกสารอา้ งอิง -คำถามทบทวน บทท่ี 5 การแก้ปญั หาเชิงนวตั กรรมเพอื่ สร้างความยงั่ ยนื ของกิจการเพอ่ื สงั คม -นวตั กรรมทางสงั คม -การแก้ปัญหาเชงิ นวัตกรรม -การแกป้ ญั หากระบวนการคดิ เชิงออกแบบ -สรุป -เอกสารอา้ งองิ -คำถามทบทวน ฌ
บทที่ 6 แผนธุรกจิ และการเขียนแผนธรุ กิจเพอื่ สงั คม 4 ชั่วโมง -ความหมายของแผนธรุ กิจเพ่ือสงั คม -ความสำคญั และประโยชน์ของแผนธุรกจิ เพือ่ สงั คม -ลักษณะของแผนธรุ กจิ เพ่อื สังคมที่ดี -องค์ประกอบของแผนธุรกิจเพื่อสังคม -สรปุ -เอกสารอ้างอิง -คำถามทบทวน บทที่ 7 ผนื ผา้ ใบโมเดลธรุ กิจสำหรับกิจการเพอ่ื สังคม 4 ชั่วโมง -ความหมายของโมเดลธรุ กจิ และผืนผ้าใบโมเดลธรุ กจิ Business Model Canvas -ความสำคัญ และประโยชนข์ องผืนผา้ ใบโมเดลธรุ กิจ Business Model Canvas -องคป์ ระกอบของผืนผ้าใบโมเดลธรุ กิจ Business Model Canvas -การประยกุ ตใ์ ช้ผนื ผ้าใบโมเดลธรุ กิจ Business Model Canvas สำหรบั กจิ การเพอื่ สังคม -สรุป -เอกสารอา้ งองิ -คำถามทบทวน บทที 8 การสร้างแรงบันดาลใจสกู่ จิ การเพื่อสงั คม 4 ช่ัวโมง -กิจการเพอ่ื สังคมในต่างประเทศ -กจิ การเพ่ือสังคมในประเทศไทย -ปัจจยั ความสำเรจ็ ของกจิ การเพอื่ สงั คม -สรุป -เอกสารอ้างองิ -คำถามทบทวน ญ
วิธกี ารสอนและกจิ กรรม 1. ศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน ธรุ กจิ เพื่อสังคม 2. สรปุ เนือ้ หาเพ่ิมเตมิ 3. มอบหมายคำถามในแต่ละบทเรียน 4. แบง่ กลุ่มศึกษาเนื้อหา กรณีศึกษา และการจัดกิจการการเรยี นการสอน สื่อการเรียนการสอน 1. เอกสารการสอนวิชาธุรกิจเพอ่ื สังคม 2. Power point (ทง้ั ภาพน่งิ และ animation) 3. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 4. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ การวดั ผลและประเมินผล เกณฑผ์ า่ นรายวิชา 1. มเี วลาเรยี นไมต่ ่ำกว่ารอ้ ยละ 80 2. คะแนนรวมท้ังหมดไมต่ ่ำกวา่ ร้อยละ 50 การวดั ผล 1. คะแนนระหวา่ งภาคเรยี น 70 คะแนน 1.1 การเขา้ ช้ันเรียน 10 คะแนน 1.2 งานกลมุ่ และการมสี ว่ นรว่ มในการนำเสนอรายงาน 30 คะแนน 1.3 การสอบกลางภาค 30 คะแนน 2. คะแนนปลายภาคเรยี น 30 คะแนน รวม 100 คะแนน การประเมนิ ผล คะแนนมากกวา่ หรือเทา่ กบั ร้อยละ 80 ไดร้ บั คะแนน A คะแนนมากกวา่ หรอื เท่ากบั ร้อยละ 75 ได้รบั คะแนน B+ คะแนนมากกว่าหรือเท่ากบั รอ้ ยละ 70 ได้รบั คะแนน B คะแนนมากกวา่ หรือเท่ากับรอ้ ยละ 65 ไดร้ ับคะแนน C+ คะแนนมากกว่าหรอื เทา่ กบั ร้อยละ 60 ไดร้ บั คะแนน C คะแนนมากกวา่ หรือเท่ากบั รอ้ ยละ 55 ไดร้ บั คะแนน D+ คะแนนมากกว่าหรือเท่ากบั ร้อยละ 50 ได้รบั คะแนน D คะแนนน้อยกวา่ รอ้ ยละ 50 ไดร้ บั คะแนน F ฎ
แผนการสอนประจำบทที่ 1 หัวขอ้ เนือ้ หาประจำบท 1. ความหมายของกจิ การเพ่ือสงั คม 2. ความสำคญั และประโยชน์ของกจิ การเพ่อื สงั คม 3. ความหมายของการประกอบการทางสงั คม 4. เปา้ หมายหลกั ของการประกอบการทางสงั คม วตั ถุประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม เมอ่ื เรียนจบบทนี้ นกั ศกึ ษาสามารถทำส่งิ ต่อไปน้ี 1. สามารถอธิบายความหมายของกจิ การเพ่ือสังคม 2. สามารถอธบิ ายความสำคญั และประโยชน์ของกจิ การเพอ่ื สงั คม 3. สามารถอธบิ ายความหมายของการประกอบการทางสังคม 4. สามารถอธิบายเป้าหมายหลักของการประกอบการทางสังคม วธิ ีการสอนและกิจกรรมการเรยี นการสอนประจำบท 1. ฟงั การบรรยาย สรุปสาระสำคัญโดยอาจารย์ผู้สอน 2. วเิ คราะห์ สังเคราะห์ตามเน้ือหา กรณีศึกษา 3. ศกึ ษาค้นควา้ ขอ้ มูลเพมิ่ เตมิ จากตำรา วารสาร หนังสอื พิมพ์ และ Internet เป็นตน้ 4. อภปิ รายงานกลุม่ และนำเสนอรายงานหน้าชั้น ส่อื การเรยี นการสอน 1. เอกสารการสอนวิชาธุรกิจเพือ่ สังคม บทความ หนังสอื ท่ีเก่ียวข้อง 2. Power point (ทัง้ ภาพนิ่ง และ Animation) 3. ใบงาน กรณีศกึ ษา การวดั ผลและการประเมินผล 1. สังเกตความสนใจของนักศึกษา และการมีส่วนรว่ มในกจิ กรรม 2. การประเมินจากการทนี่ ักศึกษาแสดงความคดิ เห็น 3. การประเมนิ จากการตอบคำถามทบทวน 4. การประเมนิ จากผลงานของนักศกึ ษา 1
2
บทที่ 1 แนวคดิ พนื้ ฐานของกิจการเพอื่ สงั คม ในยคุ แห่งโลกาภิวตั น์การเปลี่ยนแปลงจากความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี นวตั กรรม ทำให้การประกอบ ธรุ กจิ ต้องปรับตัวกับสถานการณ์ปจั จบุ ันทีม่ คี วามซบั ซอ้ นปรับเปลี่ยนอยา่ งรวดเร็ว การดำเนินธรุ กจิ แบบเดมิ ๆ ที่มุ่งเฉพาะประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ถือหุน้ หรือองค์การเท่านั้น แน่นอนผลแห่งทุนนิยมอันเวทนารายล้อมไป ด้วยความวุ่นวายทั้งในระดับโลกและระดบั ชาติท่ีต้องเผชิญปัญหาต่าง ๆ เช่น วิกฤตทางการเงิน ปัญหาสังคม และปญั หาสิ่งแวดลอ้ ม เป็นต้น การสร้างโลกที่ดีขนึ้ กว่าเดิมได้กลายเป็นวิสัยทัศน์ของสถาบันต่าง ๆ สู่เส้นทางการ สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เนื้อหาบทนี้เป็นการอธิบายแนวคิดพื้นฐานของ กิจการเพือ่ สังคมเพอ่ื เป็นจุดเร่มิ ต้นในการสร้างความรู้ ความเขา้ ใจแก่ผ้อู า่ นกอ่ นนำไปสเู่ น้อื หาถัดไป ความหมายของกจิ การเพ่ือสงั คม Social Enterprise เป็นคำที่รวมสองคำไว้ด้วยกัน คือ คำว่า “Social” และ คำว่า “Enterprise” โดยความหมายของคำว่า “Social” มีความหมายในภาษาไทยตามพระราชราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2555 แปลว่า สังคม หมายถงึ คนจำนวนหนงึ่ ท่มี คี วามสัมพนั ธต์ ่อเนอ่ื งกนั ตามระเบยี บ กฎเกณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์ สำคัญร่วมกนั เช่น สังคมชนบท หรือ วงการ สมาคมของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึง่ เชน่ สังคมชาวบ้าน หรือเก่ียวกับ การพบปะสงั สรรคห์ รอื ชมุ นมุ ชน เช่น วงสังคม งานสงั คม ในส่วนคำว่า “Enterprise” มีความหมายในภาษาไทยแปลวา่ กจิ การ อนั หมายถงึ การงานท่ีประกอบ, ธรุ ะ หรอื อกี ความหมาย คอื การงานท่ีประกอบ การประกอบการท่ียาก สลับซบั ซอ้ น หรอื เส่ยี งต่อการขาดทุน ซึ่งเมือ่ นำคำวา่ “Social” และ คำว่า “Enterprise” มารวมเข้าไวด้ ว้ ยกันเป็น Social Enterprise สามารถใช้ ความหมายในภาษาไทยแทนกนั ได้ คือ กจิ การเพ่อื สงั คม หรอื วิสาหกิจเพอ่ื สงั คม คำจำกดั ความของคำวา่ “Social Enterprise” ถกู สะทอ้ นให้เหน็ ถึงความแตกตา่ งในระดบั ภมู ิภาคอย่าง ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกาวาทกรรมของ Social Enterprise เป็นเรื่องของแผนการ ตลาดเพื่อสร้างรายได้ (Market-based Approaches to Income Generation) และการเปลี่ยนแปลงทาง สังคม (Social Change) ในขณะที่ประเทศแถบยุโรปให้คำจำกัดความของ “Social Enterprise” คือ ความร่วมมือ ของการกระทำทางสังคม (Cooperative Tradition of Collective Social Action) ยกตวั อยา่ งเชน่ กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมอังกฤษ UK Department for Trade and Industry (2002, pp. 13) กล่าววา่ “Social Enterprise (SE) คือ ธุรกิจท่มี ีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ สังคมเป็นหลกั ซ่ึงสว่ นเกินส่วนใหญ่ได้รับการ ลงทุนใหม่เพื่อวัตถุประสงค์นั้นในธุรกิจหรือในชุมชนแทนที่จะขับเคลื่อนด้วยความต้องการที่จะเพิ่มผลกำไร สงู สุดให้กบั ผู้ถือห้นุ และเจา้ ของ” OECD (2003, อ้างในสานิตย์ หนูนิล์, 2557, หน้า 198) กล่าวว่า “Social Enterprise คือ องค์การไม่ แสวงหากำไรทผี่ สานกนั ระหว่างองค์การภาครฐั และภาคเอกชนโดยดำเนนิ เพอื่ แกป่ ัญหาสังคม และมีเป้าหมาย ทางการเงินควบคู่ไปด้วยกัน” 3
Alter (2007, pp. 18) กล่าวว่า “Social Enterprise คอื กจิ กรรมทางธุรกิจทีส่ รา้ งขึน้ เพ่อื วตั ถุประสงค์ ทางสังคม ช่วยลดปัญหาสังคมหรือความล้มเหลวของตลาด และสร้างคุณค่าทางสังคม ในขณะที่ดำเนินการ ด้วยวนิ ัยทางการเงนิ นวตั กรรม และความม่งุ มนั่ ในลกั ษณะของภาคธุรกิจเอกชนW ในประเทศไทยนักวิชาการได้มีการให้คำนิยามคำ” Social Enterprise” หลากหลายความหมาย บางคนกล่าวถงึ Social Enterprise ว่า “กิจการเพื่อสงั คม” หรอื “วสิ าหกิจเพื่อสังคม” ท้งั นี้ นักวิชาการบาง ทา่ นจะให้คำนิยาม Social Enterprise วา่ “กจิ การเพ่อื สงั คม” ก่อนมีการออกพระราชบญั ญตั ิสง่ เสรมิ วิสาหกจิ เพื่อสังคม พ.ศ. 2562 ยกตัวอย่างนักวิชาการที่กล่าวถึงคำว่า “Social Enterprise” หมายถึง “กิจการเพ่ือ สงั คม” ยกตัวอยา่ งเชน่ สานิตย์ หนูนิล (2555, หน้า 198) กล่าวว่า “กิจการเพื่อสังคมเป็นการดำเนินธุรกิจที่มีเป้าหมายเพื่อ แก้ปัญหาสังคม และสิ่งแวดล้อม และยังสามารถทำกำไรจากการดำเนินกิจการเพื่อให้เกิดการพัฒนา อย่างย่ังยนื ” ศักดิ์ดา ศิริภัทรโสภณ (2558, หน้า 33) กล่าวว่า “กิจการเพื่อสังคม คือ กิจการที่ตั้งขึ้นโดยมี วัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือสังคม/หรือสิง่ แวดล้อมโดยเป็นกิจการที่ดำเนินการในรปู แบบธรุ กจิ ทีไ่ ม่แสวงหา กำไรสูงสุด แต่เป็นการแสวงกำไรอย่างยุติธรรม ผลประโยชน์ที่วิสาหกิจเพื่อสังคมให้แก่สังคมและ/หรือ สิ่งแวดล้อม อาจเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ที่กิจการเพ่ือสังคมดำเนนิ การ และ/หรือเกดิ จากกิจการเพื่อสังคมนำ เงินกำไรท่ไี ดม้ าชว่ ยเหลอื สังคมและ/หรอื สิง่ แวดล้อมโดยมกี ำไรบางส่วนหรือทงั้ หมดกลับคนื ไปสู่ผถู้ ือหนุ้ ” สมเกียรติ สกุลสุรเอกพงศ์ (2559, หน้า 142) กลา่ วว่า “กจิ การเพอื่ สงั คมเปน็ การดำเนินธุรกิจท่ีมุ่งเน้น คณุ ธรรมนยิ มเปน็ สำคญั มีหลักการทั่วไปคอื การพงึ่ พาตนเอง แสวงหารายได้แต่ไม่แสวงหากำไรเพ่อื ผู้ถอื หนุ้ ใน กิจการ หากแต่นำผลกำไรที่ได้ไปพัฒนาขยายฐานกิจการให้ยั่งยืนด้วยการผสมผสานคุณค่าด้านเศรษฐกิจ สงั คม และสิง่ แวดลอ้ ม” วธู โรจนวงศ์ (2559, หนา้ 13) กล่าววา่ “กิจการเพอ่ื สงั คม หมายถึง องคก์ ร หรือกิจการทแี่ สวงหากำไร หรือไม่แสวงหากำไร ซึ่งดำเนินการทางธุรกิจเพื่อจุดประสงค์หลักในการสร้างหรือคืนประโยชน์สู่สังคม สิง่ แวดล้อม หรือเพอ่ื แกไ้ ขปัญหาในสงั คม โดยไม่ไดม้ ุ่งหวังกำไรเป็นประโยชน์สงู สดุ หากมองกำไรเป็นเคร่อื งมอื ในการสรา้ งความต่อเนื่อง และย่งั ยืนในการดำเนนิ กจิ การ” สำหรบั นกั วิชาการทใี่ ห้คำนิยาม Social Enterprise คอื “วิสาหกจิ เพ่ือสังคม” ยกตวั อยา่ งเช่น รตั พงษ์ สอนสภุ าพ และบุญสม เกษะประดษิ ฐ์ (2561, หนา้ 30) กล่าวว่า “วิสาหกจิ เพอ่ื สงั คม หมายถึง ธรุ กิจที่ประกอบกจิ การหรือดำเนนิ กิจกรรมทางเศรษฐกิจเหมือนธุรกิจทวั่ ไป แต่นำกำไรไปใชจ้ ่ายในเร่ืองท่ีเกิด ประโยชน์ แก้ไขปัญหา หรือพฒั นาสงั คม หรือส่ิงแวดล้อมเพื่อใหเ้ กิดความยัง่ ยืน” ตญิ ทรรศน์ ประทีปพรณรงค์ (2563, หนา้ 24) กลา่ ววา่ วิสาหกิจเพื่อสังคม คอื “การประกอบการเพ่ือ ส่งเสริมการพัฒนาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม หรือเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาศัยการสร้าง รายได้ผ่านกิจกรรมการค้าและหรือการให้บริการเพื่อการดำเนินกิจการต่อไปในอนาคต โดยมิได้มุ่งหวังการ แบง่ ปันผลกำไรหรือผลประกอบการแก่ผูถ้ อื หุน้ และเจ้าของวสิ าหกิจเปน็ เปา้ หมายสงู สดุ ” สำนักงานสง่ เสริมวสิ าหกิจเพื่อสังคม (2564) กำหนดคำว่า “วิสาหกิจเพือ่ สังคม” ตามพระราชบัญญัติ ส่งเสริมวิสาหกิจเพ่ือสงั คม พ.ศ. 2562 หมายความวา่ “บรษิ ทั หา้ งหุ้นส่วนนติ บิ ุคคล หรอื นติ บิ ุคคลอืน่ ท่ีตง้ั ขึ้น 4
ตามกฎหมายไทย ซึ่งดำเนินกิจการเกี่ยวกับการผลิต การจำหน่ายสินค้า หรือการบริการ โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่อื สังคมเปน็ เปา้ หมายหลักของกิจการ” ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมวสิ าหกิจเพื่อสังคม (2564) ได้ระบุถึงความหมายเก่ียวกับกลุม่ กิจการเพื่อสังคม หมายถึง “บคุ คลธรรมดา กลมุ่ บุคคล ชุมชน หรือนติ ิบคุ คลทต่ี ง้ั ขน้ึ ตามกฎหมายไทย ซง่ึ ดำเนินกิจการเกี่ยวกับ การผลติ การจำหนา่ ยสนิ ค้า หรอื การบริการ” โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ สังคมเป็นเป้าหมายหลกั ของกิจการ และ ไดร้ บั การจดแจ้งเป็นกลมุ่ กิจการเพอ่ื สังคมตามพระราชบัญญตั สิ ่งเสรมิ วิสาหกิจเพอ่ื สงั คม พ.ศ. 2562 จากคำนิยามของคำว่า “Social Enterprise” ทน่ี ักวชิ าการในประเทศไทยได้ให้ความหมายทั้งคำนิยาม ว่า “กิจการเพื่อสังคม” หรือ “วิสาหกิจเพื่อสังคม” มีความหมายคล้ายคลึงกันและสามารถเรียกแทนกันได้ สำหรับผู้เขียนมมี ุมมองของคำว่า “Social Enterprise” หมายถึง กิจการต่าง ๆ ทไี่ ดร้ ับการจดทะเบียนใน รูปแบบการประกอบการธุรกิจที่สร้างรายได้จากการผลิตสินค้า การจำหน่ายสินค้า และหรือการบริการ มีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจเพ่ือการแก้ไขปญั หากับสังคมเป็นหลัก หรือพัฒนาชมุ ชน สังคม ตลอดจนสิ่งแวดล้อม อีกทั้งรายได้ของกิจการนั้นสามารถจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นหรือนำไว้สำหรับ เงนิ ทุนในการดำเนนิ กิจการ ความสำคัญของกจิ การเพื่อสังคม กิจการเพื่อสังคมถือเป็นกิจการ องค์การ องค์การธุรกิจ หรือองค์การภาคประชาชน ที่มีการดำเนิน กิจการในแบบธุรกิจและมีเป้าหมายเพื่อสร้างสรรค์มูลค่าทางสังคม (Social Value Creation) โดยไม่ได้ มีการแสวงหากำไรเป็นเปา้ หมายหลัก แต่เป็นเป้าหมายเพอ่ื มงุ่ สร้างความต่อเน่ืองและยง่ั ยืนแก่การดำเนินงาน ของกิจการสังคม กล่าวคือ การแสวงหากำไรของกิจการเพื่อสังคมไม่ได้เป็นเพื่อมุ่งสร้างความมั่งค่ัง ให้แก่ผู้ประกอบการ ผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุน กำไรที่เกิดขึ้นของกิจการเพื่อสังคมจะเป็นการนำจุดเด่นของ องค์การสาธารณกศุ ล (Non-Profit Organization) ที่มุ่งสรา้ งประโยชน์เพื่อสังคมมาผสมผสานกับจุดเด่นทาง ธุรกิจ (Business) ที่มีการบริการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างกำไรจนสามารถพึ่งตนเองได้ ดังที่ ประพิน นุชเปี่ยม ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์ และบงกช เจนจรัสสกุล (2561, หน้า 110) ได้กล่าวว่า “ความสำคัญของกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) เป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ช่วยเกื้อหนุนการ พัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน เพราะกระบวนการดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุล ระหวา่ งการแสวงหากำไรทางธรุ กจิ และการแกป้ ัญหาสังคม” กิจการเพือ่ สังคม (Social Enterprise) จงึ เปน็ กลไกสำคญั ในการชว่ ยแบง่ เบาภาระของรฐั บาลเพื่อแก้ไข ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสงั คม เนื่องจากเปา้ หมายหลักของกจิ การเพื่อสงั คม คอื การนำเอาผล กำไรจากการประกอบกิจการไปสร้างประโยชน์แก่สังคม และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในขณะเดียวกันกิจการ เพื่อสังคมยังช่วยสรา้ งเศษฐกิจวิถีใหมใ่ นการเพิม่ ทางเลือกในการประกอบธุรกิจเพื่อกอ่ ให้เกิดการสร้างคุณคา่ แก่สังคม ผู้เขียนอธิบายสิ่งที่กิจการเพื่อสังคมสร้างประโยชน์ในการพฒั นาของประเทศต่าง ๆ ทั้งสังคม และ สง่ิ แวดล้อม รวมท้ังเปน็ นโยบายกระตุน้ เศรษฐกิจทมี่ ีผลระยะยาว อนั ประกอบด้วย 5
1. การขยายผลเพอ่ื พฒั นาสังคมและส่ิงแวดล้อมท่ยี ั่งยนื กจิ การเพ่อื สังคมสามารถดำเนินกิจการโดย ใช้ธุรกิจเป็นเครื่องมือพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม เน้นการกระจายผลประโยชน์สู่ชุมชนและผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนไมเ่ ป็นการจำกัดด้วยทนุ ให้เปลา่ หรือเปน็ ทนุ แบบทไ่ี ม่มีภาระผกู พนั 2. การสร้างเสริมกลไกตลาดที่มีคุณธรรมและยั่งยนื กิจการเพื่อสังคมถือเปน็ การลงทุนที่เกิดความ รับผิดชอบต่อสังคมขององค์การ สามารถผลิตสินค้าหรือการบริการที่ยั่งยืนทุกกระบวนการผลิต และช่วยให้ เกดิ การปรบั เปล่ียนพฤติกรรมของผบู้ รโิ ภคไปสู่การบรโิ ภคที่ยง่ั ยนื ได้ 3. การพัฒนาคุณภาพบริหารสาธารณะ กิจการเพื่อสังคมสามารถสร้างนวัตกรรมและรูปแบบของ บริการสาธารณะทั้งที่เป็นการบริการโดยตรงต่อสังคม และการประมูลจากรัฐบาล เช่น การจัดการของเสีย การพฒั นาอาชพี การชว่ ยเหลือผดู้ ้วยโอกาสหรอื ผสู้ ูงอายุ เปน็ ต้น 4. การสร้างเศรษฐกิจวิถีใหม่ กิจการเพื่อสังคมถือเป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจได้ควบคู่กบั สังคม และสิ่งแวดล้อม สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Value) ที่มีคุณภาพและคุณค่าเชิงสังคม (Social Value) ตลอดจนเปน็ สิ่งดงึ ดูดคนรุน่ ใหมเ่ พ่ือมาเปน็ ผปู้ ระกอบการเพอื่ สงั คม (Social Entrepreneur) ลกั ษณะของกจิ การเพ่อื สังคม กิจการเพื่อสังคมถือเป็นรูปแบบการดำเนินกิจการที่มุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคมและ สิ่งแวดลอ้ ม ในขณะที่รายได้และผลกำไรเป็นเครือ่ งมือสำหรับความต่อเนือ่ ง ต่อยอดใหก้ ิจการสามารถดำเนนิ ธุรกิจต่อไปอย่างยัง่ ยืน ทั้งนี้อาจเรียกได้ว่า กิจการเพื่อสังคมเป็นกิจการที่ผสมผสานลักษณะและรูปแบบของ องค์กรไม่แสวงกำไรหรอื องค์กรการกุศล (Traditional Charity or Non-Government Organization) และ องค์กรแสวงหากำไร (Traditional Profit Organization) ภาพที่ 1 รปู แบบ Hybrid Spectrum for organization ที่มา : Alter (2007, หนา้ 2) จากภาพท่ี 1-2 เมื่อพจิ ารณารปู แบบของการประกอบการหลัก ๆ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ 1. องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร (Traditional Nonprofit) หมายถึง องค์กรที่จัดตั้งขึ้นถูกต้องตาม กฎหมาย เพื่อทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม การปฏิบัติงานขององค์กรไมใ่ ช่เชิงพาณิชย์และถ้าองค์กร มีส่วนเกนิ จากการประกอบการ (Surplus) สว่ นเกนิ ดังกล่าวไมส่ ามารถแบง่ ปนั ให้บุคคลหรือองคก์ รอื่น แต่ต้อง เก็บไวใ้ ชใ้ นงานขององค์กรเท่านน้ั เช่น มลู นธิ ิ สมาคม สหกรณ์ออมทรัพย์ วดั มหาวิทยาลยั เปน็ ตน้ 6
2. องค์กรไม่แสวงหากำไรแต่มีกิจกรรมหารายได้ (Nonprofit (Income-generation)) องค์กร ลักษณะนี้มีการแปลงสภาพจากองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร (Traditional Nonprofit) เป็นองค์กรมีส่วนหนึ่งใน การดําเนินงานที่แสวงหากําไร ที่ให้ความสำคัญกับพันธกิจทางสังคมมากกว่าผลกําไร และมีเงินทุนในการ ดําเนนิ งานจากการบรจิ าคหรือการสนบั สนนุ เป็นหลัก 3. กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) เป็นองค์กรประเภทลูกผสม (Hybrid) ระหว่างองค์กร แสวงหาผลกําไรและองค์กรไม่แสวงหาผลกาํ ไร ใหส้ ามารถเชอ่ื มโยงและสนบั สนนุ ซ่งึ กันและกันได้โดยท่ีองค์กร แสวงหาผลกาํ ไรจะนํารายได้ไปสนบั สนุนองคก์ รไม่แสวงหาผลกาํ ไรท่มี ีพนั ธกจิ ทางสังคม 4. การประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม (Socially Responsible Business) เป็นองค์กร ธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากําไร และมีการนําเอากําไรกลับคืนสู่ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้ให้ความสำคัญกับพันธกิจทางสังคมควบคู่ไปกับพันธกิจทางธุรกิจด้วย โดยมีการ เช่ือมโยงการแก้ไขปญั หาและพฒั นาสังคมเข้าไปสู่กระบวนการปกติของธุรกิจ 5. ธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสงั คม (Corporate Social Responsibility) หมายถึง ความรับผิดชอบ ตอ่ สงั คมและสงิ่ แวดล้อมขององค์กร หรือองค์กรธุรกจิ ทปี่ ฏบิ ตั ติ ามมาตราฐานของสงั คม คอื การดำเนนิ กิจการ ภายใต้หลักจริยธรรมและการจัดการที่ดี โดยรับผิดชอบสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร อันนำไปสู่การพัฒนาทยี่ ่ังยืน 6. องค์กรแสวงหาผลกำไร (Traditional For-Profit) หมายถึง องค์กรท่ีดำเนินกิจกรรมเพื่อการ แข่งขนั ทางเศรษฐกิจ เชน่ บริษทั ห้างหุน้ ส่วน ห้างสรรพสนิ คา้ รา้ นค้าตา่ ง ๆ มกี ารแสวงหาผลกาํ ไรเข้าองคก์ าร หรือเข้ากลมุ่ สมาชกิ สมาคมธุรกิจเพื่อสงั คม (2564) ได้กล่าวถึงคุณลักษณะของกจิ การพ่ือสังคมไว้ ดังนี้ 1) มีเป้าหมายทาง สงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม 2) มรี ูปแบบการดำเนินการที่มีความยงั่ ยืนทางการเงนิ เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 3) ผลกำไรกลับคืนสสู่ ังคม และเป้าหมายทีก่ ำหนดไว้ และ 4) ดำเนนิ การอยา่ งโปร่งใส มธี รรมาภบิ าล ทั้งนี้อาจมีความซับซ้อนว่าองค์กรการกุศลมีความเหมือนหรือแตกต่างกับกิจการเพื่อสังคมหรือไม่ ซึ่งองค์กรทั้ง 2 รูปแบบนั้น มีความเหมือนกันที่การมีเป้าหมายทางสังคมเป็นวัตถุประสงค์สำคัญ แต่องค์กร การกศุ ลมกั มรี ายได้จากการบริจาคซึ่งมีความไม่แน่นอน แต่สำหรับกิจการเพื่อสังคมมีรายได้จากการจำหน่าย สินค้าและบริการที่มีมูลค่าหรือคุณค่าส่งมอบที่กลุ่มลูกค้ายินดีจ่าย ดังนั้นรายได้ที่กิจการเพื่อสังคมจะโยงกบั คุณภาพ ไม่ใช่เพียงแค่ความเห็นอกเห็นใจ จุดต่างสำคัญจงึ อยู่ทีร่ ปู แบบการดำเนินการและโอกาสความยัง่ ยืน ทางการเงินขององค์กร หรือในบางครั้งมีผู้คนตั้งคำถามว่าการดำเนินกิจการเพื่อสังคมเปรียบเสมือนกับ เป็นคนดี-คนแกลบ? ผู้ประกอบการทางสังคมหรือผู้ที่ร่วมดำเนินกิจการเพื่อสังคมไม่มีรายได้หรือเงินเดือน เป็นเพอ่ื แค่ต้องการทำความดเี พื่อสงั คมเทา่ นั้น แตค่ วามจรงิ แล้วผูป้ ระกอบการสงั คมไม่ได้กินแกลบ เพราะจะมี ค่าตอบแทนท่ีเหมือนกนั กับกิจการเอกชนทวั่ ไป อนั เน่อื งมาจากการดำเนินการที่เกิดจากการพ่ึงพาตนเองทาง การเงินท่ไี ม่ใชก่ ารรบั บริจาค แม้เป้าหมายหลักของกิจการเพื่อสังคม คือ การก้ไขปัญหาให้กับสังคมเป็นหลักและกิจการเพื่อสังคม จะต้องทำงานกับผู้ด้อยโอกาสเท่านั้นหรือไม่? ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้สูงว่ากิจการเพื่อสังคมจะทำงานกับ ผดู้ อ้ ยโอกาส แต่ก็ไม่จำเปน็ เสมอไป เพราะกิจการเพื่อสังคมมหี ลากหลายรูปแบบ จึงสามารถเกี่ยวกับประเด็น ทางสังคมที่หลากหลาย เช่น อาหาร ระบบบริการสาธารณะ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งผลกระทบจะเกิดขึ้นต่อ 7
สังคมในวงกว้าง และหากพิจารณาดูแล้วว่ารูปแบบของความรับผดิ ชอบต่อสงั คมขององค์การ คือ กิจการเพื่อ สงั คมหรือไม่ คนสว่ นใหญ่ยอ่ มมคี วามสบั สนและเข้าใจว่าบริษัทท่มี ีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมไมม่ ีความแตกต่าง จากกิจการเพื่อสังคม เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันคือทำเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่ในความเป็นจริง ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์การไม่ใช่กิจการเพื่อสังคม เนื่องจากความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์การ คอื การนำผลกำไรเพยี งสว่ นเล็กนอ้ ยมาจัดกิจกรรมทางสังคม แต่ในทางกลับกนั กิจการเพ่ือสังคมเน้นการสร้าง ผลกระทบทางสงั คมผ่านตัวกจิ กรรมหลักของกิจการ โดยผลกำไรทีเ่ กดิ ขึ้นจะนำไปลงทุนซำ้ เพ่ือสรา้ งผลกระทบ ทางสังคมมากยิ่งขน้ึ ไป ดงั ท่ี Alter (2007, pp. 15) ได้อธบิ ายคณุ ลกั ษณะสำคัญของกิจการ/วิสาหกจิ เพ่อื สงั คม เป็นนำแนวคิดการทำเพื่อความยั่งยืนทางสังคมอย่างองค์กรการกุศลที่เรียกว่าสร้างคุณค่าร่วมทางสังคม (Social Value Creation) พร้อมกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมแต่ยังมีความสามารถที่ ก่อใหเ้ กิดรายได้แกธ่ รุ กจิ ทีเ่ รียกว่าสร้างคณุ คา่ รว่ มทางเศรษฐกจิ (Economic Value Creation) ภาพที่ 2 คณุ ลกั ษณะการดำเนนิ ธรุ กิจของกิจการเพ่ือสังคม ท่มี า : Alter (2007) ในสว่ นของพมิ พิกา พลู สวัสด์ิ และ สุวติ ศรไี หม (2561, หน้า 17-18) ไดเ้ สนอคณุ ลักษณะการดำเนิน ธุรกิจของกิจการเพ่อื สงั คม ประกอบดว้ ย 4 องค์ประกอบ ดงั นี้ 1) กจิ การเพอ่ื สังคมมีเป้าหมายสูงสุดเพ่ือสังคมไมใ่ ชก่ ำไรสงู สุด เนื่องจากกิจการ เพื่อสัง คมก ล่าวไ ด้ว่าเป็นทางเลือกหนึ ่งของการ ประกอบก ารเพื ่อ ช่ว ย เ หลื อ ในด้านของความเป็นอยู่ของคนในสังคม นั่นคือการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม ศีลธรรม ทำใหก้ ิจการเพือ่ สงั คมสามารถดำเนนิ ธรุ กิจทไ่ี ด้บรรลุ พันธกิจในการเปน็ ธุรกิจเพ่ือสังคม 2) กิจการเพ่อื สังคมมุ่งแกไ้ ขปัญหาและพฒั นาสังคม ปัญหาสังคมในปัจจุบันเกิดขึ้นจากหลากหลายสาเหตุ เช่น สถานการณ์โลกมีการเปลี่ยนแปลง มนุษย์มีความต้องการเพิ่มขึ้น ซึ่งปัญหาสังคมย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลใน สงั คม ผ้เู ขยี นขอยกตวั อย่างปญั หาสงั คมไทยในปจั จุบันทเ่ี กิดข้นึ อย่าง “ปัญหาความเหลอื่ มลำ้ ของคนในสังคม” สังคมไทยเรมิ่ มคี วามแตกต่างระหว่างชนชนั้ ทำให้แนวคดิ ของกิจการเพ่ือสังคมได้พิจารณาถงึ การดำเนินธุรกิจ เพือ่ แก้ไขปญั หาของสังคม โดยผทู้ ีอ่ ยู่ในชุมชนนน้ั ๆ จะตอ้ งใหค้ วามรว่ มมือในการทำหน้าท่ีเพื่อแก้ไขปัญหาท่ี 8
เกิดขึ้นกบั สงั คม ธุรกิจต้องมีมุมมองของกิจการเพื่อสังคมท่ีทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงภัยคุกคามหรอื อุปสรรค ที่มาจากปัญหาสังคมมาเป็นการนำมาซึ่งโอกาสที่ใช้ในการดำเนินการทางธุรกิจเพื่อจำหน่ายสินค้าบริการ โดยท่ีคำนึงถึงประโยชนข์ องสังคมเปน็ หลัก รวมทงั้ สามารถสรา้ งมูลคา่ เพ่มิ ทางเศรษฐกจิ และสังคมได้ 3) กจิ การพื่อสงั คมต้องสร้างความยั่งยืนทางการเงิน การดำเนินธุรกิจด้วยการแสวงหากำไรจากการขายสินค้าหรือบริการ ผลกำไรที่เกิดขึ้นจะนำไป ลงทุนซ้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมสูงสุด ในแต่ละกิจการเพื่อสังคมจะมีการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน ตามเป้าหมายอัตลักษณ์ของธรุ กจิ และผลกำไรท่เี กิดขนึ้ นำมาใช้เพือ่ ทำให้ธุรกจิ สามารถดำเนินต่อไปได้โดยการ พึ่งพาตนเอง ทำให้สังคมมีการพฒั นาได้อยา่ งยัง่ ยนื 4) กิจการเพ่ือสงั คมมีคนในสังคมเปน็ เจ้าของธุรกจิ ร่วมกนั กจิ การเพอื่ สังคมมีลักษณะเปน็ กลมุ่ เครอื ขา่ ย ไมส่ ามารถทำไดเ้ พยี งผู้เดยี วซง่ึ ต้องเป็นสมาชิกของ ชุมชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจไม่ใช่เป็นบุคคลเพียงรายเดียวของสังคม คนในสังคมมีส่วนร่วมในการเป็น เจ้าของกิจการ ซ่งึ มีรปู แบบในการดำเนนิ กิจการเพ่อื สังคมหลากหลายรปู แบบ เช่น พนกั งานเป็นเจา้ ของกจิ การ (Employee Social Enterprise) ลูกค้าเป็นเจ้าของกิจการ (Customer Social Enterprise) ชุมชนเป็น เจ้าของกิจการ (Community Social Enterprise) กลุ่มผู้บริหารเป็นเจ้าของกิจการ (Small Group of Director Social Enterprise) เปน็ ต้น ภาพท่ี 3 องคป์ ระกอบของกจิ การเพอ่ื สังคม ที่มา : พมิ พิกา พลู สวัสด์ิ และ สุวิต ศรไี หม (2561, หนา้ 18) ดังที่ สุทธิดา ขัตติยะ และณรงค์ ปูอมหลักทอง (2562, หน้า 148-149) ได้อธิบายลักษณะของกจิ การ เพอื่ สังคมทมี่ ีลักษณะสำคญั ดังนี้ 1. รูปแบบกิจการที่มีความหลากหลาย การดำเนินการเพื่อสังคมมีรูปแบบเป็นการดำเนินการ เชิงพาณิชยห์ รอื ธรุ กจิ เพ่อื มงุ่ หวงั รายไดแ้ ละผลกำไรในการนำมาลงทนุ ตอ่ ไป พร้อมทัง้ คืนประโยชน์สู่สงั คมและ สิ่งแวดล้อมในอนาคต ซึ่งไม่ได้เพียงแต่ดำเนินการลักษณะช่วยสังคมหรือการกุศลเพียงอย่างเดียว และการดำเนินธุรกิจที่มุ่งหวังกำไรสูงสุดเพื่อเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นแบบองค์กรแสวงหากำไร นอกจากน้ี อาจมีรูปแบบจากเพียงแค่สถานะการจดทะเบียนทางกฎหมาย (Legal Status) กล่าวได้ว่า ลักษณะกิจการ 9
เพื่อสังคมจึงมีรูปแบบทั้ง องค์กร หน่วยงาน สมาคม เครือข่ายสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน และกิจการธุรกิจ ทเ่ี ปน็ การรวมลกั ษณะการจดทะเบียนกิจการขององค์กรไมแ่ สวงหากำไร และองค์กรทแี่ สวงหากำไร 2. พันธกิจของกิจการเพื่อสังคม ความชัดเจนในการมุ่งสร้างคุณค่าคืนประโยชน์และแก้ปัญหาทาง สังคมเป็นหลัก โดยไม่ได้มุ่งหวังการสร้างผลกำไรสูงสุด เพียงแต่มองว่าผลกำไรเป็นเครื่องมือในการสร้าง ความต่อเนื่องและอิสระในการดำเนินการ และลดการพึ่งพาจากเงินสนับสนุน หรือเงินบริจาค อย่างไรกต็ าม สัดสว่ นของการพ่งึ พาเงนิ สนับสนุนมอี ตั ราท่แี ตกต่างกนั ไปตามประเภทของกิจการ ในขณะท่อี งคก์ รไม่แสวงหา กำไร (Non-profit Organization) น้ัน ไมไ่ ด้มงุ่ หวงั การสร้างกำไรและเน้นพ่ึงพารายได้จากเงินบริจาคที่มาจาก องค์กรภายนอกเป็นหลัก กิจการเพื่อสังคมยังมีความแตกต่างจากองค์กรธุรกิจที่แสวงหากำไร ตรงที่องค์กร ธุรกิจมีการมุ่งหวังประโยชนส์ ูงสุดในการสร้างรายไดแ้ ละผลกำไรเพียงแก่เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นเพียงอย่างเดยี ว แต่สำหรับกิจการเพื่อสังคมเป็นการสร้างรายได้ และคุณค่าทางเศรษฐกิจที่สามารถสร้างคุณค่าแก่สังคมและ สิง่ แวดล้อมไดด้ ว้ ยเช่นกัน 3. ลกั ษณะการหารายได้ กิจการเพ่อื สังคมมีลักษณะการดำเนนิ กิจการเหมือนกับการดำเนินธุรกิจแบบ ทั่วไป กล่าวคอื มผี ลติ ภัณฑ์ (Product) หรือบริการ (Service) ออกมาวางขายเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้และ ผลกำไร เพียงแต่ระดับการหารายได้เชิงพาณิชย์จะขึ้นอยู่กับประเภทของวิสาหกิจเพื่อสังคม เช่น องค์กรไม่ แสวงหากำไร (Non-profit Organization) ที่มีการหารายได้จะมีสัดส่วนของการหารายได้เชิงพาณิชย์เพียง เลก็ น้อยเมอื่ เทียบกับ ธุรกจิ เพ่อื สงั คม (Social Business) กจิ การเพื่อสงั คม (Social Enterprise) และธุรกิจท่ี รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม (Corporate Social Responsibility) เปน็ ตน้ 4. โครงสร้างต้นทุนและราคา กิจการเพื่อสังคมมีความแตกต่างตามประเภทของกิจการ กล่าวคือ องค์กรไม่แสวงหากำไร (Non-profit Organization) ที่มีการหารายได้ ซึ่งองค์กรประเภทนี้ส่วนใหญ่มี โครงสร้างต้นทุนไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนแต่มาจากการพึ่งพาเงินสนับสนุนจากภายนอก ทำให้การกำหนด ราคาของสินค้าหรือบริการไม่ได้ขึ้นอยกู่ ับราคาในระบบตลาด ในส่วนธรุ กจิ เพ่อื สงั คม (Social Business) และ กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) เป็นองค์กรมุ่งสร้างรายได้และผลกำไรเพื่อเป้าหมายสำหรับการคืน ประโยชน์ส่สู งั คมและนำเงินลงทุนส่วนหนง่ึ ไปต่อยอดต่อไป จึงทำให้ธุรกิจประเภทนี้มโี ครงสร้างต้นทุนมีทั้งใช้ เงินลงทุนขององค์การและเงินสนับสนนุ จากภายนอก เพยี งแค่การกำหนดราคาของสนิ ค้าหรอื บรกิ ารอาจขึน้ อยู่ กับราคาในระบบตลาด และสำหรับธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) เปน็ องค์กรท่ีมงุ่ สรา้ งผลกำไรเพยี งอยา่ งเดียว และรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมไปพรอ้ มกนั มโี ครงสร้างตน้ ทุนมาจากเงิน ลงทุนขององค์การ เพ่อื ใหส้ ามารถลดภาระการพง่ึ พาเงนิ สนับสนุนให้มากที่สุด และการกำหนดราคาของสินค้า หรอื บริการอาจข้นึ อยูก่ ับราคาในระบบตลาด 5. ลักษณะภาระความรับผิดชอบ การดำเนินกิจการเพื่อสังคมมีลักษณะของการรวมเอาองค์กรไม่ แสวงหากำไร (Non-profit Organization) และองค์กรแสวงหากำไร (Profit Organization) มาอยู่ด้วยกัน กล่าวคือ รับผิดชอบต่อกลุ่มลูกค้า หรือสังคมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์และยังมีภาระ ในการตอบสนองหรือคืนผลตอบแทนสุทธิให้แก่กลุ่มชุมชน นักลงทุนด้านสังคม หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ท้งั หมด ซึ่งกลา่ วไดว้ า่ กิจการเพอ่ื สงั คมจะมผี ้มู ีส่วนเกย่ี วขอ้ งมากกว่าการดำเนนิ ธรุ กจิ ทวั่ ไป 6. ผลตอบแทนจากการลงุทน ลักษณะการใช้กำไรสุทธิจากการดำเนินกิจการของกิจการเพื่อสังคม เป็นการนำกำไรสุทธิแบ่งเป็นสองส่วนสำหรบั การคนื ประโยชน์สู่สังคมและการนำเอาลงทุนต่อเพื่อสรา้ งความ 10
ตอ่ เนื่องในการดำเนนิ กิจการ ซ่งึ แตกตา่ งจากองคก์ รไม่แสวงหากำไรทไ่ี ม่มีการนำผลกำไรสุทธิมาลงทุนหรือใช้ ในกิจการต่อ แต่จะคืนประโยชน์สู่สังคมและส่ิงแวดล้อมเพยี งอย่างเดียว ในขณะที่องคก์ รแสวงหากำไรจะคืน ผลกำไรสุทธิทั้งหมดสู่เจา้ ของและผู้ถือหุ้น หรือลงทุนในธุรกิจต่อเพยี งอยา่ งเดียว ทั้งนีก้ ารใช้กำไรสุทธิของแต่ ละประเภทมีความแตกต่างกันไป ดังน้ี 1) องค์ไม่แสวงหากำไรแต่หารายได้ (Non-profit Organization) จะคืนผลตอนแทนสู่สังคม และนำรายได้บางส่วนมาบริหารจดั การภายในองคก์ ร 2) ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Business) โดยองค์กรจะนำรายได้จากการดำเนินการส่วนหน่ึง นำไปลงทุนต่อเพือ่ ความตอ่ เนอ่ื ง อกี ส่วนคืนประโยชน์สสู่ ังคม โดยไม่มกี ารจ่ายเงนิ ปันผลให้แก่ผ้ถู อื ห้นุ 3) กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยองค์กรนำรายได้สว่ นหนึ่งมาลงทุนต่อเพือ่ ความ ยัง่ ยืนโดยสามารถจ่ายเงนิ ปันผลใหแ้ กผ่ ้ถู อื ห้นุ ได้ และอีกสว่ นคืนประโยชนส์ ่สู งั คมและส่งิ แวดลอ้ ม 4) ธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) จะคืนผลตอบแทนใน ลักษณะกำไรและเงนิ ปันผลแกเ่ จ้าของและผถู้ ือหุ้น และอกี สว่ นคืนประโยชน์ต่อสังคม ความหมายของการประกอบการทางสังคม คำว่า “การประกอบการทางสังคม” ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Social Entrepreneurship” ถือเป็น ทางเลือกใหม่สำหรบั ผ้ทู ี่ริเร่มิ สร้างธุรกิจ เนอื่ งจากการประกอบการทางสงั คมมีความเชอ่ื มโยงกับการนำปัญหา สังคมหรือความต้องการบางอย่างของสังคมที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากภาคเอกชนหรือรัฐบาล ทำให้ นักวิชาการหลากหลายที่สนใจแนวคิดการประกอบการทางสังคมร่วมเสนอคำจำกัด โดยผู้เขียนขอเริ่มจาก นักวิชาการของตา่ งประเทศ ยกตวั อยา่ งเชน่ ดีส์ (Dees, 1998) กล่าวว่า “การประกอบการทางสังคม เป็นกระบวนการที่สำคัญที่ผู้ประกอบการ เพอ่ื สงั คมนำมาประยกุ ตใ์ ชก้ ับการทำงานเพอื่ แสดงความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม” มอร์ท, วีอะเวอร์ดดีน่า และ คามีกี (Mort, Weerawardena, and Carnegie, 2003, pp. 76) กลา่ ววา่ “การประกอบการทางสงั คมเป็นการสรา้ งมิติต่าง ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับการสะท้อนพฤติกรรมท่ีมีศีลธรรม ในการประกอบการเพ่ือทำให้ภารกิจด้านสงั คมประสบความสำเรจ็ ” อลั เวลิ ์ด, บราวน์ และ แลซ (Alvord, Brown, and Letts, 2004, pp. 188) กล่าวว่า “การประกอบการ ทางสังคม เป็นการสร้างวิธีการแก้ไขเชิงนวัตกรรมเกี่ยวกับปัญหาสังคม และเป็นการระดมแนวคิด ความสามารถ ทรัพยากร และการเตรียมการทางสังคมที่จะใช้เพื่อการเปลี่ยนแปลงหรือปฏิรูปสังคมอย่าง ยัง่ ยนื ” เดวิด บอรน์ สตนี และซซู าน เดวสิ (เจนสั , แคธลีน เคลลี, 2562, หน้า 24) กลา่ วถงึ “ประกอบการทาง สังคม ไว้ในหนังสือ Social Entrepreneurship เสนอว่า การประกอบการทางสังคม คือ กระบวนการท่ี พลเมืองสร้างหรือแปลงโฉมสถานบันต่าง ๆ เพื่อเสนอหนทางแกไ้ ขปัญหาสังคม เช่น ความยากจน ความป่วยไข้ ความไม่รู้หนังสือ การทำลายสิ่งแวดล้อม การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการทุจริต เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคน จำนวนมาก” ในขณะที่ ออสติน, สตีเว่นสัน และ เวส สกิลเลม Austin, Stevenson, and Wei-Skillern (2012, pp. 371) กลา่ วว่า “การประกอบการทางสงั คม หมายถงึ กิจกรรมเชิงนวัตกรรมซง่ึ มงุ่ เนน้ การสร้างคุณค่าทาง สังคมให้สามารถเกิดขึน้ ท้ังในภาคส่วนขององคก์ รมาแสวงหากำไร ภาคธรุ กิจ และภาครัฐ” 11
ลาไดร่า และ มาชาโด Ladeira and Machado (2013, pp. 190) กล่าวว่า “การประกอบการทาง สังคมสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาสังคมเฉพาะหน้า ระดมความคิด เพิ่มขีดความสามารถทรัพยากร และกลไก ทางสังคมท่จี ำเปน็ สำหรับการพัฒนาท่ยี งั่ ยืนหรือเกิดการเปลย่ี นแปลงทางสังคม (Social Change)” สำหรบั การประกอบทางสงั คมในมุมมองของนักวชิ าการในประเทศท่ใี ห้คำจำกัดความ ยกตวั อย่างเชน่ ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์ (2563, หน้า 42) กล่าวว่า “การประกอบการทางสังคม หมายถึง การประกอบกิจการอันมีภารกิจในการสร้างคุณค่าทางสังคมเป็นเป้าหมายสำคัญ ซึ่งการสร้างคุณค่าทางสังคมนั้น อาศัยแนวทางนวตั กรรม เพ่ือใหส้ ามารถดำเนินการให้บรรลวุ ตั ถุประสงคข์ องกิจการ และสามารถพง่ึ ตนเองได้ รวมทง้ั สรา้ งพืน้ ฐานความย่ังยืนในการพัฒนาสังคมและส่ิงแวดลอ้ ม” จากการให้คำจำกัดความของนักวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศในมุมมองที่สอดคล้องกัน ดังนั้น ผู้เขียนจึงสรุปความหมายของคำว่า “การประกอบการทางสังคม (Social Entrepreneurship)” หมายถงึ รปู แบบ/วธิ ีการ/กจิ กรรมทางธรุ กจิ เชน่ การผลิตสินคา้ และหรือบรกิ าร ที่มีวัตถุประสงคเ์ พอื่ สร้าง คุณค่าทางสังคม จากการใช้ทรัพยากรขององค์การ รวมทั้งนำความสามารถในการสรรค์สร้างนวัตกรรม แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในสงั คม ความสำคญั ของการประกอบการทางสงั คม ทาเนีย เอลลิส (2554, หน้า 234) ได้อธิบายความสำคัญของการประกอบการทางสังคมนั้น เป็นสิ่งที่ อยู่ระหว่างจุดตัดของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคสังคม ด้วยธรรมชาติที่รวมเอาการดำเนินงานของทั้งสาม ภาคส่วนเอาไว้ นั่นคือ การสร้างความอยูด่ ีมีสุขอย่างทีภ่ าครัฐทำ การดำเนินงานในลักษณะของธุรกิจเหมือน ภาคเอกชน และการทำงานบนพ้นื ฐานของคณุ ค่าดว้ ยพนั ธกิจทชี่ ัดเจนเหมือนภาคสังคมให้เกิดการมีส่วนร่วมใน การพัฒนาทยี่ ั่งยืน ภาพที่ 4 ความสำคญั ของการประกอบการสงั คมกับการพฒั นาท่ยี ง่ั ยนื ท่มี า : ทาเนีย เอลลิส (2554, หน้า 234) 12
สำหรับ ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์ (2563, หน้า 42) เสนอความสำคัญของการประกอบการทาง สงั คมประกอบด้วยมติ สิ ำคัญ 4 ดา้ น ดงั น้ี 1) ภารกิจทางสงั คม (Social Mission) ภารกจิ ทางสังคมถอื เปน็ หวั ใจหลกั ของการประกอบการทาง สังคม เน่ืองจากเป็นการสร้างคุณค่าทางสงั คม แกไ้ ขปญั หา และพฒั นาสิง่ แวดลอ้ ม เพอ่ื ใหค้ นในสังคมใช้ชีวิตท่ี มีคุณภาพดี เช่น การศึกษา การสาธารณสุข การส่งเสริมวัฒนธรรม การบริหารจัดการ สิ่งแวดล้อม และการ แกไ้ ขปญั หาความยากจน เปน็ ต้น 2) นวัตกรรมทางสังคม (Social Innovation) การประกอบการทางสังคมจะเกิดประโยชน์สูงสุดหาก การประกอบการดังกลา่ วนำมาซึง่ นวตั กรรมในการแก้ไขปัญหาสงั คม และหรอื แก้ไขปัญหาสง่ิ แวดลอ้ ม นวัตกรรม นั้นไมจ่ ำกัดเพียงแค่วตั ถุ หรือสิ่งประดิษฐ์ แต่ยงั รวมถึงแนวคิด มาตรการ นโยบาย และแนวทางใหม่ ๆ 3) การเปลี่ยนแปลงทางสังคม (Social Change) เนื่องจากการประกอบการทางสังคมให้ ความสำคัญกับการสร้างนวตั กรรมในการแก้ไขปัญหา ดังนั้น การประกอบการทางสังคมจึงดำเนินการภายใต้ ปณิธานการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่สิ่งที่ดีกว่า เช่น การสร้างนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหายากจน เพื่อจะยกระดับ ชีวิตความเปน็ อยู่ทดี่ ี 4) บทบาทของผปู้ ระกอบเพือ่ สังคม (Role of Social Entrepreneurs) ผูป้ ระกอบการทางสังคม มบี ทบาทสำคัญอย่างหลกี เลี่ยงไมไ่ ด้ในการขับเคลื่อนการดำเนินกิจการ/วิสาหกิจเพ่ือสังคมให้ประสบผลสำเร็จ ตามภารกิจทตี่ ัง้ ไว้ ผูป้ ระกอบการเพอ่ื สงั คมจะสร้างนวตั กรรมและนำไปสูก่ ารเปลย่ี นแปลงทางสงั คม ส่งิ เหล่านี้ จะเกิดขึ้นได้เมื่อผู้ประกอบการมีทัศนคติ ทักษะ และจิตวิญญาณในการประกอบการเพือ่ การสร้างคุณค่าทาง สงั คม (Social Value) ดังนั้น ความสำคัญของการประกอบการทางสังคมกล่าวได้ว่าเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลง รปู แบบใหมใ่ ห้กับการทำงานเพื่อสงั คมอยา่ งยง่ั ยืนด้วยการสรา้ งความแตกตา่ งจากการนำความรู้ทางธุรกิจ มาประยกุ ต์จนเกิดคณุ ค่าสำหรับผ้ทู ่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเปน็ ผบู้ ริโภค ผู้ผลิต ชุมชน สรรค์ สร้างสงิ่ ใหม่แกส่ งั คมร่วมกนั เปา้ หมายหลักของการประกอบการทางสงั คม แนวคิดของการประกอบการทางสังคมมีเป้าหมายหลักที่เชื่อมโยงกับแนวคิดต่าง ๆ มากมาย เช่น แนวคิดการพัฒนาสังคม แนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์การ และแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนแนวคิดการพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์ ซึง่ สามารถสรปุ ได้ดงั นี้ (นิตนา ฐานติ ธนกร, 2556) 1. การพัฒนาสังคม การประกอบการทางสังคมสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนสู่สังคม การแก้ไขปัญหา สงั คม แสวงหาและใช้โอกาสในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสงั คมมากกว่าการมงุ่ เนน้ สร้างผลกำไรเพยี งอยา่ งเดียว 2. สร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน การประกอบการทางสังคมนอกเหนือจากการพัฒนาสังคมแล้ว ยังมีเป้าหมายและ/หรือวัตถุประสงค์ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ต่อย อดมาจากความ รับผดิ ชอบตอ่ สังคมขององค์การใหเ้ กดิ ข้นึ อยา่ งต่อเน่ือง ตลอดจนการใชท้ รพั ยากรอยา่ งมีประสิทธิภาพจากการ นำเทคโนโลยสี มยั ใหมห่ รือนวัตกรรมใหม่ ๆ เขา้ มาเปน็ สว่ นประกอบในการลดต้นทนุ การผลิตและใช้ทรัพยากร การผลติ ตา่ ง ๆ ใหเ้ กิดความคุม้ คา่ มากท่ีสุด 13
3. การใหค้ ณุ คา่ ของทรัพยากรมนษุ ย์ เนื่องจากการประกอบธุรกิจเพ่ือสังคมมักมงุ่ เน้นท่ีคุณค่าในตัว มนุษย์แต่ละบุคคลมากกว่าฐานะรายได้ ดังนั้น ศักยภาพของแต่ละบุคคลจะถูกนำมาออกมาใช้งานในฐานะ ผู้เป็นเจ้าของหนว่ ยผลิตของสังคม ซงึ่ สามารถก่อให้เกดิ การพ่ึงพาตนเอง 4. การยกระดับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้เงื่อนไขข้อตกลงความร่วมมือ ของบรรดาประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการใหม้ ีความรว่ มมือในการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกบั การพฒั นาสังคมและ สิ่งแวดล้อม ดังนั้น การดำเนินธุรกิจโดยไม่คำนงึ ถึงผลกระทบดังกล่าวอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด การค้นหา น่านนำ้ แห่งใหม่เพื่อสรา้ งคุณค่าให้กับผบู้ รโิ ภคท่ีมาจากการประกอบการสงั คมอาจเป็นทางเลือกอีกวิธีการหนึ่ง ทีจ่ ะยกระดับใหธ้ รุ กิจประสบความสำเร็จต่อไป ภาพที่ 5 เป้าหมายของการประกอบการทางสังคม ที่มา : ปรบั ปรงุ จาก Brooks (2009) และ นติ นา ฐานิตธนกร (2556) 14
สรุป “กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise)” หมายถึง กิจการต่าง ๆ ที่ได้รับการจดทะเบียน ในรูปแบบการประกอบการธุรกิจที่สร้างรายได้จากการผลิตสินค้า การจำหน่ายสินค้า และหรือการบริการ มเี ปา้ หมายหรือวตั ถปุ ระสงคใ์ นการดำเนนิ ธุรกิจเพื่อการแก้ไขปัญหากบั สังคมเป็นหลกั หรือพัฒนาชมุ ชน สังคม ตลอดจนสิ่งแวดล้อม อีกทั้งรายได้ของกิจการนั้นสามารถจัดสรรให้กบั ผู้ถือหุ้นหรือนำไว้สำหรับเงินทุนในการ ดำเนินกิจการ กิจการเพือ่ สงั คมจึงเป็นกลไกสำคัญในการชว่ ยแบง่ เบาภาระของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความ เหล่ือมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม เน่อื งจากเปา้ หมายหลกั ของกจิ การเพื่อสงั คม คอื การนำเอาผลกำไรจากการ ประกอบกิจการไปสร้างประโยชน์แก่สังคม และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในขณะเดียวกันกิจการเพื่อสังคมยังช่วย สรา้ งเศษฐกิจวิถีใหม่ในการเพิ่มทางเลอื กในการประกอบธุรกิจเพ่ือก่อให้เกิดการสร้างคุณค่าแก่สังคม รูปแบบ ของกิจการเพื่อสังคมมีรูปแบบที่ไม่ตายตัวขึ้นอยูก่ ับวัตถุประสงค์ของการประกอบการกิจการเพื่อสังคม หรือ เป้าหมายในการแกป้ ัญหาของสงั คมเป็นหลกั ด้ ว ย ก าร ประก อ บก ารสั งคมใน การสร ้างพ ลังแห่ งความดี ของธ ุร กิ จและสั งคมคือ ผู้ รั บประโยชน์ เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น คุณค่าของการประกอบการสังคมเกิดจากการค้นหารูปแบบ/วิธีการ/ กิจกรรมทางธุรกิจจากโอกาสและทรัพยากร และใช้นวัตกรรมในการแก้ปัญหาของคนเพียงบางกลุ่มที่เรียก ตัวเองว่า “ผู้ประกอบการสังคม” ต้องการจะมีธุรกิจที่ทำกำไรในขณะเดียวกันก็ต้องการแก้ปัญหาสังคม ซึ่งกระบวนการการประกอบการทางสังคมเริ่มจากการยอมรับโอกาส การพัฒนาแนวคิด การกำหนดและ การไดร้ ับทรพั ยากร การเปิดตวั และความกา้ วหน้าในการลงทุน และการเก็บเกี่ยวผลประโยชนจากการลงทนุ 15
เอกสารอ้างอิง เจนัส, แคธลีน เคลลี. (2562). Social Startup Success: สู่ความสำเร็จสตาร์ทอพั เพอื่ สงั คม. (ลลิตา ผลผลา, ผู้แปล) กรุงเทพฯ: บุ๊กสเคป. (Social Stratup Success: How the Best Nonprofits Launch, Scale Up, and Make a Difference published in English, 2017) ชฎลิ โรจนานนท์. (2558). วิสาหกจิ เพื่อสังคม (Social Enterprise) คืออะไร. นานาสาระประจำเดอื น พฤศจกิ ายน 2558, สำนักงานนโยบายพฒั นาระบบการเงินภาคประชาชน สำนกั เศรษฐกิจการคลัง. ทาเนยี เอลลสิ . (2554). นักบกุ เบกิ รุ่นใหม.่ (นันทิยา เลก็ สมบูรณ์, ผแู้ ปล) กรงุ เทพฯ: โพสต์บุก๊ ส์. (The New Pioneers published in English, 2010) ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์. (2563). การพฒั นาอย่างย่ังยืนกบั วิสาหกจิ เพอื่ สงั คม. นนทบรุ ี: รตั นไตร. นิตนา ฐานติ ธนกร. (2556). การประกอบการสังคม: นวตั กรรมทางสังคมของผู้ประกอบการยุคใหม่. [ออนไลน]์ . จาก http://mybugree.blogspot.com/2013/10/blog-post_17.html ประพนิ นุชเปี่ยม ติญทรรศน์ ประทปี พรณรงค์ และบงกช เจนจรัสสกลุ . (2561). วสิ าหกิจเพ่อื สังคมใน ประเทศไทย: ขอ้ สงั เกตบางประการต่อรา่ งพระราชบญั ญตั สิ ง่ เสริมวิสาหกิจเพ่อื สังคม. สำนักงาน ผู้ตรวจการแผน่ ดนิ , 11(1), 109-141. พระราชราชบัณฑติ ยสถาน. (2555) ระบบค้นหาคำศัพท์. [ออนไลน์]. จาก https://dictionary.orst.go.th/ พิมพิกา พลู สวสั ดิ์ และ สุวิต ศรไี หม. (2561). วิสาหกจิ เพือ่ สงั คมกับการพฒั นาสังคมอยา่ งย่ังยนื : บทเรยี นจาก ตา่ งประเทศและแนวทางการพัฒนาในประเทศไทย. วารสารบรหิ ารธรุ กิจ เศรษฐศาสตรและการ สื่อสาร, 13(3), 15-32. รัตพงษ์ สอนสภุ าพ และบุญสม เกษะประดิษฐ.์ (2561). ความมนั่ คงของวิสาหกิจเพอื่ สังคมเส้นทางสกู่ าร พัฒนาอยา่ งยง่ั ยนื , วารสารสถาบนั วชิ าการปอ้ งกันประเทศ, 9(3), 27-38. วธู โรจนวงศ์. (2559). การพัฒนาโมเดลสนบั สนุนการดำเนินวิสาหกจิ เพอื่ สงั คมในประเทศไทย. วทิ ยานิพนธ,์ วทิ ยาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร,์ กรุงเทพฯ วธู โรจนวงศ์ และอรพรรณ คงมาลยั (2561). การพัฒนาแนวทางสนับสนนุ การดำเนินวิสาหกจิ เพอ่ื สังคมใน ประเทศไทย Supporting Methods for Social Enterprise in Thailand. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสวนดุสติ , 14(1), 1-17. ศกั ด์ดิ า ศริ ภิ ัทรโสภณ. (2558). การศึกษากรอบแนวคดิ เพ่ือการพฒั นาวิสาหกิจเพอื่ สังคมในประเทศไทย. วารสารสมาคมนกั วิจยั , 20(2), 30-47. สมเกยี รติ สกุลสุรเอกพงศ์. (2559) ปัจจัยทมี่ ีอิทธิพลต่อประสทิ ธภิ าพวิสาหกิจเพือ่ สงั คมในประเทศไทย. วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย, 8(1), 139-161. สถณุ ี อาชวานันทกุล เอือ้ มพร พิชัยสนธิ และปกป้อง จนั วทิ ย.์ (2553). Macrotrends: ภูมทิ ศั นเ์ ศรษฐกิจโลก ใหมแ่ ละการปรบั ตวั ของไทย. กรุงเทพฯ: Openbooks. สากล จริยวทิ ยานนท. (2553). การประกอบการทางสังคม (Social Entrepreneurship) : หลกั การและ แนวคดิ เพ่อื การพฒั นาสงั คม. วารสารพัฒนาสงั คม, 12(1), 45-68. สานติ ย์ หนูนิล. (2555). วิสาหกิจเพือ่ สงั คมเพอ่ื การพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื . วารสารวชิ าการมหาวทิ ยาลัยหอการคา้ ไทย , 32(4), 196 – 206. สทุ ธิดา ขตั ตยิ ะ และณรงค์ ปูอมหลกั ทอง. (2562). วิสาหกจิ เพอ่ื สงั คมกบั การพัฒนาประเทศอย่างย่งั ยนื . วารสารวทิ ยาการจัดการปริทัศน,์ 21(1), 148-154. 16
สำนกั งานสง่ เสรมิ วิสาหกิจเพอ่ื สังคม. (2564). พระราชบัญญัตสิ ง่ เสรมิ วสิ าหกิจเพือ่ สังคม พ.ศ. 2562 [Online]. from https://www.osep.or.th/ Alter, K. (2007). Social Enterprise Typology. [Online]. from https://www.globalcube.net/ clients/philippson/content/medias/download/SE_typology.pdf Alvord, S. H., Brown, L. D. and Letts, C. W. (2004). Social entrepreneurship and social transformation: An exploratory study. Journal of Applied Behavioral Science, 40(3), 260-282. Austin, J., Stevenson, H. and Wei-Skillern, J. (2012). Social and commercial entrepreneurship: same, different, or both?. R.Adm., São Paulo, 47(.3), 370-384. Brooks, A. C. (2009). Social entrepreneurship: A modern approach to social venture creation. New Jersey: Pearson Prentice Hall. Dees, G. (2007) Taking social entrepreneurship seriously. Society, 44(3), 24-31. Department for Trade and Industry. (2002). Social Enterprise: A Strategy for Success. London: Department of Trade and Industry. [Online]. from https://www.gov.uk/set-up-a-social- enterprise International Labour Organization. (2011). Introduction to Social Enterprise. South Africa: International Labour Office. Ladeira, F. M. and Machado, H. V. (2013). Social Entrepreneurship a Reflection for Adopting Public Policies that Support the Third Sector in Brazil. Journal of Technology Management & Innovation, 8(Special Issue), 188-196. Mort, G. S., Weerawardena, J., and Carnegie, K. (2003). Social entrepreneurship: Towards conceptualization. International Journal of Nonprofit and Voluntary Sector marketing, 8(1), 76-88. คำถามทบทวน 1. จงอธิบายความหมายของกจิ การเพ่ือสงั คม 2. ความสำคัญ และประโยชนข์ องกิจการเพอ่ื สงั คมมอี ะไรบา้ ง จงยกตัวอยา่ ง 3. จงอธิบายลกั ษณะสำคญั ของกิจการเพอื่ สังคมท่ีเหมาะสมกับสภาพการณป์ ัจจบุ ัน 4. ให้นกั ศึกษาอธิบายความหมายของการประกอบการทางสงั คม 5. จงอธบิ ายความสำคัญของการประกอบการทางสงั คม พรอ้ มยกตัวอย่าง 6. หากนกั ศึกษาเรม่ิ สนใจที่จะสร้างธรุ กิจในรปู แบบของการประกอบการทางสงั คม นักศกึ ษาจะมีกระบวนการประกอบการทางสงั คมอยา่ งไร 7. ส่ิงใดเป็นเป้าหมายหลกั ของการประกอบการทางสงั คม จงอธิบายพร้อมยกตัวอยา่ ง 17
18
แผนการสอนประจำบทที่ 2 หัวข้อเนือ้ หาประจำบท 1. ความหมายของผู้ประกอบการเพือ่ สังคม 2. ความแตกต่างของผู้ประกอบการเพื่อสังคมและผู้ประกอบการธรุ กจิ 3. บทบาทและความสำคัญของผปู้ ระกอบการเพือ่ สงั คม 4. คณุ ลกั ษณะของผปู้ ระกอบการเพอ่ื สงั คม 5. บุคคลตัวอยา่ งในการเป็นผ้ปู ระกอบการเพ่อื สังคม วตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เม่ือเรียนจบบทนี้ นกั ศึกษาสามารถทำสง่ิ ต่อไปนี้ 1. สามารถอธบิ ายความหมายของผู้ประกอบการเพ่อื สังคม 2. สามารถอธบิ ายความแตกต่างของผปู้ ระกอบการธรุ กจิ และผปู้ ระกอบการเพอ่ื สังคม 3. สามารถอธิบายบทบาทและความสำคญั ของผู้ประกอบการเพอื่ สงั คม 4. สามารถบรรยายคุณลักษณะของผู้ประกอบการเพื่อสงั คม 5. สามารถบรรยายบุคคลตัวอยา่ งในการเปน็ ผู้ประกอบการเพอื่ สังคม วธิ ีการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนประจำบท 1. ฟงั การบรรยาย สรปุ สาระสำคญั โดยอาจารย์ผู้สอน 2. วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ตามเน้อื หา กรณีศึกษา 3. ศกึ ษาคน้ คว้าขอ้ มูลเพ่ิมเติมจากตำรา วารสาร หนังสอื พมิ พ์ และ Internet เปน็ ตน้ 4. อภปิ รายงานกลมุ่ และนำเสนอรายงานหน้าชัน้ ส่ือการเรียนการสอน 1. เอกสารการสอนวิชาธุรกจิ เพอ่ื สังคม บทความ หนังสือท่ีเก่ียวขอ้ ง 2. Power point (ท้ังภาพนิ่ง และ Animation) 3. ใบงาน กรณีศกึ ษา การวดั ผลและการประเมนิ ผล 1. สงั เกตความสนใจของนักศึกษา และการมีสว่ นร่วมในกิจกรรม 2. การประเมนิ จากการท่ีนักศกึ ษาแสดงความคิดเห็น 3. การประเมินจากการตอบคำถามทบทวน 4. การประเมินจากผลงานของนักศกึ ษา 19
20
บทที่ 2 ผปู้ ระกอบการเพื่อสังคม (Social Entrepreneur) กระบวนทัศน์ทางธุรกิจใหม่ที่เป็นกระบวนการสร้างคุณค่าด้วยการรวมทรัพยากรขององค์การเข้า ด้วยกันเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือการตอบสนองความต้องการทางสังคมเป็นหลัก ผ่านการเสนอ ผลติ ภณั ฑ์ (สินค้า) และบริการ จึงเป็นความท้าทายของบุคคล หรือกลุ่มคนท่ีจะมาเปน็ ผู้ประกอบการเพอ่ื สังคม เนื่องจากวิธีคิดใหม่ ๆ ในการสร้างองค์การสำหรับการประกอบการทางสังคม ความสำเร็จอาจมาจากความ ม่งุ มนั่ ท่จี ะแก้ไขปญั หาอย่างจรงิ จัง เนือ้ หาในบทนผี้ ูเ้ ขยี นอธบิ าย ความหมาย ความแตกตา่ งของผู้ประกอบการ เพอ่ื สงั คม และผปู้ ระกอบการธรุ กจิ ทม่ี สี ว่ นสำคัญในการทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงทางสงั คม (Social Change) จนกลายเปน็ กิจการเพื่อสงั คมนน่ั เอง ความหมายของผปู้ ระกอบการเพอ่ื สงั คม ภายใต้การประกอบการธรุ กจิ มีการขับเคลอื่ นจากผปู้ ระกอบการน้นั การประกอบการทางสังคม (Social Entrepreneurship) ก็เช่นเดียวกัน ย่อมที่จะต้องมีบุคคลที่จะมาผลักดันให้เป้าหมายในการสร้างการ เปลี่ยนแปลงให้กับสังคม คำว่า “ผู้ประกอบการเพื่อสังคม (Social Entrepreneur)” ไม่ได้มีความหมาย แตกต่างไปจาก คำว่า ผู้ประกอบการธุรกิจ (Business Entrepreneur) มากมายสักเท่าใด เนื่องจากคำว่า “ผ้ปู ระกอบการ” หรอื คำในภาษาองั กฤษวา่ “Entrepreneur” มรี ากศพั ท์มาจากภาษาฝรัง่ เศสคำว่า “Entre” หมายถงึ “อยู่ระหวา่ ง”และคําวา่ “Prendre” หมายถงึ “เอาการเอางาน/ไดม้ า นาํ ใช้” คาํ ทัง้ สองมคี วามหมาย รวมกนั ว่า “Undertake หมายถึง ผซู้ ้อื ผขู้ าย ที่ยอมรับความเส่ียงท่ีจะเกิดข้นึ จาการเร่ิมตน้ ทำธุรกิจใหม่ หรือ เป็นคนที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการระบบ และสามารถคาดการณ์ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจได้ ” (Kuratko and Hodgetts, 2007: 32 อ้างอิงใน ชญานันท์ ใสกระจ่าง, 2558, หน้า 19–20) ผู้เขียนมีความ คิดเห็นว่า ผู้ประกอบการเพื่อสังคม (Social Entrepreneur)” และ “ผู้ประกอบการธุรกิจ (Business Entrepreneur)” มีความแตกต่างตรงที่เป้าหมายและหรือวัตถุประสงค์หลักของการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เท่านั้น ซึ่งในเนื้อหาบทนี้ ผู้เขียนขออธิบายคำจำกัดความของคำว่า “ผู้ประกอบการเพื่อสังคม (Social Entrepreneur)” ของนักวิชาการในต่างประเทศและในประเทศ ยกตัวอยา่ งเชน่ Leadbeater (1997 cited in Roper and Cheney, 2005, pp. 99) กล่าวว่า “ผู้ประกอบการเพ่ือ สังคมเป็นบุคคลที่กล้าได้กล้าเสีย (Enterprising Individuals) สนใจทำงานในระดับชุมชน (Working Especially at the Community Level) เพือ่ เปล่ียนแปลงส่งิ ท่มี อี ยู่” Brouard and Larivet (2010 cited in Bikse, Rivza and Riemere, 2015, pp. 473) ก ล ่ า ว ว่ า “ผู้ประกอบการเพ่ือสังคม คือ บุคคลใด ๆ ที่มีจิตวิญญาณและบุคลิกภาพของผู้ประกอบการ ทำหน้าที่เป็น ตัวแทนการเปลี่ยนแปลงและผูน้ ำในการแก้ไขปญั หาสังคมดว้ ยการตระหนักถงึ โอกาสใหม่ ๆ และค้นหาวิธีการ แกป้ ญั หาทเี่ ป็นนวตั กรรมและให้ความสำคญั กบั การสรา้ งคณุ คา่ ทางสังคมมากกวา่ มลู คา่ ทางการเงนิ ” 21
Bikse, Rivza and Riemere (2015, pp. 473) กล่าวว่า “ผู้ประกอบการเพื่อสังคม คือ บุคคลที่มี ความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการและสังคมที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีในความหมายที่กว้างกว่ามาก เป็นคนที่มีจินตนาการที่หลากหลายและมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเป็นคนที่มุ่งเน้นเป้าหมายและภักดีต่อความคิด ภารกิจของเขา / เธอคือการสร้างค่านิยมทางสังคมการแยกแยะความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ สำหรับการปฏิบัติภารกิจทางสังคม มีความกระตือรือร้นและมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติอย่างจริงจังมั่นใจและมีความ รับผิดชอบเพื่อให้บรรลุผลขั้นสุดท้าย กำไรที่ได้รับทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการบรรลุจุดมุ่งหมายทางสังคม บคุ คลทจี่ ดั ตงั้ องค์กรโดยมจี ดุ ประสงค์เพื่อแก้ปัญหาสงั คมหรือมผี ลตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางสงั คม” สำหรับนกั วิชาการในประเทศไดใ้ ห้คำจำกดั ความของคำว่า “ผ้ปู ระกอบการเพ่อื สงั คม” ยกตัวอยา่ งเช่น สมเกยี รติ สกลุ สรุ เอกพงศ์ (2559, หนา้ 147) กลา่ ววา่ “ผปู้ ระกอบการสงั คม คอื บุคคลท่ีมีวิธีการใหม่ ในการแกป้ ญั หาสงั คมท่ีเรง่ ด่วน มีวิสยั ทศั น์เป็นนกั ปฏิบตั ิ มีความมุ่งม่นั และยนื หยัดในการแกไ้ ขปัญหาที่สำคัญ และเสนอแนวคดิ ใหมเ่ พื่อการเปล่ยี นแปลงสังคมในวงกว้าง” เรวัต ตันตยานนท์ (2560, หน้า 1) กล่าวว่า “ผู้ประกอบการเพื่อสังคม หมายถึง บุคคลที่มีความมุ่งมนั่ และความต้งั ใจท่ีจะลงทุนลงแรงของตนเองเพ่อื ทำกิจกรรมใดๆ ทัง้ ในรูปของธรุ กจิ ทแ่ี สวงหากำไร เพือ่ นำกำไร ที่เกิดขึ้นไปใช้เพื่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม และในรูปของธุรกิจหรือกิจการที่ไม่แสวงหากำไร ทดี่ ำเนินการโดยมเี ป้าหมายหลกั ไปเพ่อื ทำใหส้ งั คมดีขึน้ ” อุทยั ปรญิ ญาสุทธินนั ท์ (2563, หนา้ 36) กล่าววา่ “ผู้ประกอบการเพอ่ื สังคม หมายถึง ผู้ท่ีมุ่งม่ันและมี วิธีการใหม่ในการแก้ไขปญั หาสังคมทีเ่ ร่งด่วน เพื่อให้เกิดการเปลีย่ นแปลงสงั คมไปในทิศทางที่ดีข้ึน แทนที่จะ ปล่อยใหก้ ารแก้ปัญหาเหล่าน้นั เป็นหน้าที่ของรัฐแตเ่ พียงฝา่ ยเดียว” ดังนั้นจากการให้คำจำกัดความของนกั วชิ าการ ผู้เขียนขอให้คำนิยามคำว่า “ผู้ประกอบการเพื่อสังคม (Social Entrepreneur) หมายถึง บุคคลธรรมดา กลมุ่ บุคคล ชุมชน หรอื นติ ิบคุ คล ที่รว่ มกันทำงานเพื่อ แก้ปัญหาทางสงั คม (Social Problem) หรอื ต้องการสร้างคณุ คา่ ทางสงั คม (Social Value)” ความแตกต่างของผู้ประกอบการเพื่อสงั คมและผูป้ ระกอบการธุรกจิ เจอร์ บอสชี และ จิม แมคเคอร์ก (2546, หน้า 4-6) ได้เสนอข้อแตกต่างระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจ และผ้ปู ระกอบการเพ่ือสังคม ทส่ี ำคัญอยู่ 2 ประการ คอื 1. การแก้ปัญหาทางสังคม ผู้ประกอบการธุรกิจจะมีพฤติกรรมที่รับผิดชอบทางสังคมไม่ว่าจะเป็น การบริจาคแก่องค์การการกุศล แต่ความพยายามของผู้ประกอบการธุรกิจยังเป็นแค่การแก้ปัญหาสังคม ทางอ้อมแค่นั้น ในขณะที่ผู้ประกอบการเพื่อสังคมจะมีกลยุทธ์ในการหารายได้ที่ผูกติดอยู่กับพันธกิจของเขา (การแก้ปัญหาสังคม) 2. เป้าหมายการดำเนนิ ธรุ กิจ ผปู้ ระกอบการธุรกจิ จะถกู กำหนดโดยความสามารถในการทำกำไรให้แก่ เจ้าของกิจการ หรือผู้ถือหุ้น หรือวัดความสุดยอดกันที่ผลประกอบการทางการเงิน ความสำเร็จหรือล้มเหลว ของบริษัท ในขณะที่ผู้ประกอบการเพื่อสังคมจะถูกผลักดันโดยเงื่อนไข 2 ประการ คือ 1) ผลตอบแทน ทางการเงนิ และ 2) ผลตอบแทนทางสังคม 22
สำหรับ ทาเนีย เอลลิส (2554, หน้า 267) ได้อธิบายข้อแตกต่างระหว่างผู้ประกอบการเพื่อสังคม และ ผ้ปู ระกอบธรุ กจิ ทวั่ ไป 3 ประเดน็ หลกั ไดแ้ ก่ เป้าหมาย โอกาส และแรงจูงใจ ตารางที่ 1 ขอ้ แตกตา่ งของผู้ประกอบการเพ่อื สังคมและผปู้ ระกอบการธรุ กิจ ประเด็น ผปู้ ระกอบการเพ่อื สงั คม ผู้ประกอบการธุรกิจ เป้าหมาย พันธกิจทางสังคม (การชว่ ยเหลือผอู้ ่นื ) (พนั ธกิจทางเศรษฐกิจ (การสรา้ งผลกำไร) การตอบสนองความตอ้ งการของสงั คม การตอบสนองความตอ้ งการทางการเงนิ / หรือทเ่ี กีย่ วกับสังคม ธรุ กจิ คณุ ค่าถกู วัดดว้ ยผลทเี่ กิดกับสังคมหรอื มลู ค่าถกู วัดจากผลการประกอบการทาง “ผลตอบแทนทางสังคมจากการ การเงนิ “ผลตอบแทนทางการเงินจากการ ลงทุน” (Social Return on ลงทุน” (Financial Return on Investment) Investment) โอกาส สรา้ งคุณค่าทางสังคม สร้างมลู ค่าทางการเงนิ เตบิ โตอย่างยงั่ ยนื เตบิ โต แรงจงู ใจ ขับเคลอ่ื นดว้ ยแรงจงู ใจทางสงั คม มิติ ขับเคล่อื นดว้ ยผลกำไร มิตเิ ชงิ พาณิชย์ ดา้ นความเมตตา ความรู้สึกถึงความ ความรู้สึกดา้ นธุรกจิ เป็นธรรม สว่ นท่เี หลือทง้ั หมด/บางส่วนถกู นำ สว่ นเหลือถูกสง่ ต่อไปยังเจา้ ของ/ผถู้ ือหุน้ กลับไปลงทนุ ในองคก์ ารหรือโครงการ ทางสังคมใหม่ ๆ กำไรคอื หนทางสูงความสำเรจ็ ของ กำไรคือเปา้ หมายในตัวเอง เพื่อ เปา้ หมายทางสงั คม เพ่ือประกบั ความ ประกนั สวัสดิภาพทางการเงินของเจ้าของ เปน็ อสิ ระในการทำงาน ทมี่ า : ทาเนีย เอลลิส (2554, หนา้ 267) อาจกล่าวได้ว่า ผู้ประกอบการธุรกิจรับรู้ถึงช่องว่างในระบบเศรษฐกิจ (โอกาสทางธุรกิจ) การสร้าง ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นต้องการกำไรสว่ นเกนิ มากที่สดุ ในขณะที่ผู้ประกอบการเพื่อสังคมมองเหน็ ช่องว่างใน ระบบสังคมและหรือสิง่ แวดล้อม (โอกาสทางสังคมและหรือส่ิงแวดล้อม) สามารถดำเนนิ กิจการได้อยา่ งต่อเน่ือง และย่ังยืน พร้อมกับการเจริญเตบิ โตมีกำไรเหมอื นองคก์ ารธุรกจิ ทว่ั ไป ความสำคัญ และบทบาทของผปู้ ระกอบการเพ่อื สังคม ในอดตี ทผี่ า่ นมา การพฒั นาสงั คมถกู ขบั เคลอ่ื นจากหนว่ ยงานภาครัฐเปน็ สว่ นใหญ่ ทไ่ี มป่ ระสบผลสำเร็จ เท่าที่ควรและเผชิญปัญหามาอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีหลากหลายบุคคล กลุ่มบุคคลที่ต้องการให้สังคมของตน ไดร้ บั การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขน้ึ จงึ เกิดผู้ประกอบการเพอื่ สงั คมขึ้นมา เน่ืองจากผ้ปู ระกอบการเพ่ือสังคม 23
เป็นบุคคลที่มีแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะดำเนินการเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ด้วยวิธีการ ทำงานอย่างมีกลยุทธ์เพ่ือความอยู่รอดของธรุ กจิ พรอ้ มกับสรา้ งคุณคา่ แก่สังคม ปัจจุบันผู้ประกอบการเพื่อสังคมเป็นบคุ คลที่มีความสำคัญและมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจาก ธุรกิจจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ประกอบการ ทั้งพื้นฐานความรู้ ความชำนาญ ความคิดสรา้ งสรรค์ ความมานะอดทน ความขยนั หมั่นเพยี ร ความรบั ผิดชอบ ความกระตือรือร้น ความกล้าเสี่ยง และความสามารถในการบริหารงาน จากแนวคิดความไม่มีประสิทธิภาพของภาครัฐ และ ภาคเอกชน ในกระบวนการขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนาประเทศหรือเพื่อให้ความเป็นอยู่ของคนใน สังคมดีขึ้น ทำให้บทบาทของผู้ประกอบการเพื่อสังคม (Social Entrepreneur) ถือได้ว่าเป็นผู้ที่ทำงานเพื่อขับเคลื่อน ระหว่างเศรษฐกจิ (Economic) สังคม (Social) และสง่ิ แวดลอ้ ม (Environment) เพ่ือประโยชน์ของสังคมและ ความยั่งยืน ภายใต้แนวคิดตามหลักไตรกัปปิยะ (Three Bottom Lines) ที่พัฒนาโดย John Elkington (1997 อา้ งอิงใน มทั นชยั สุทธิพนั ธุ์, 2556, หนา้ 43-44) เปน็ การดำเนินธรุ กิจท่ีมุ่งเนน้ การดำเนินการท่ีสมดุล ทงั้ 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ 1. ผู้คน (People) หมายถึง ความยุติธรรมของการทำธุรกิจที่มีผลประโยชน์กับแรงงานและชุมชน ตลอดจนการแสดงความรับผดิ ชอบตอ่ ผูค้ นรอบตวั ทร่ี วมผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสียอน่ื 2. สิ่งแวดลอ้ ม/โลก (Planet) หมายถงึ การปฏบิ ตั ติ ่อส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน การอดทนต่อธรรมชาติ อยา่ งมากท่ีสดุ ท่ีจะเป็นไปไดห้ รอื อยา่ งน้อยไมท่ ำอนั ตรายหรือทำนอ้ ยทส่ี ดุ กับธรรมชาติ 3. ผลกำไร (Profit) หมายถึง มูลค่าทางเศรษฐกิจที่สร้างโดยองค์กรหลังจากหักต้นทุน (Cost) ออก (รายได้-กำไร) รวมท้งั การหกั ต้นทนุ ของทุน (Cost of Capital) ออกดว้ ย (ค่าใชจ้ ่ายท้ังหมดท่ีธุรกิจต้องเสียไป เพอื่ ใหไ้ ด้เงนิ ทนุ จำนวนหน่ึงเขา้ มาใชใ้ นการลงทุน) ภาพที่ 6 บทบาทของผูป้ ระกอบการสงั คม ท่ีมา : มัทนชยั สุทธพิ ันธุ์, 2556, หนา้ 44 24
คุณลักษณะการเปน็ ผ้ปู ระกอบการเพือ่ สงั คม ความโดดเด่นของผู้ประกอบการเพื่อสังคมเป็นเรื่องที่มีความท้ายทายเป็นอย่างมากสำหรับ ผู้ประกอบการในยคุ ปจั จุบนั เน่ืองจากสง่ิ ทเ่ี กดิ ขึ้นสำหรบั การประกอบการทางสังคมมคี วามแตกต่างไปจากการ ประกอบธุรกจิ ทั่วไป และความแตกตา่ งระหว่างความตอ่ เนื่องย่งั ยนื และการพงึ่ ตนเองอยา่ งพอเพยี งจากองค์กร ไม่แสวงหากำไร ตลอดจนการสรา้ งกลยุทธใ์ นการหารายได้ทีไ่ ม่ใช่จากการรับบรจิ าคแต่เป็นการหาวิธีการทาง ธุรกิจเพื่อประโยชน์ทางสังคม ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า คุณลักษณะของผู้ประกอบการเพื่อสังคมเป็นการรวม คุณลกั ษณะท่โี ดดเด่นของผปู้ ระกอบการธรุ กิจและผู้ใหบ้ รกิ ารทไี่ มแ่ สวงหากำไรเข้าไวด้ ว้ ยกัน ลีดเบทเทอร์ (Leadbetter) (1997 อ้างอิงใน รัตนพงษ์ สอนสุภาพ และบุญสม เกษะประดิษฐ์, 2561, หนา้ 31) กลา่ วว่า “ผูป้ ระกอบการเพ่ือสังคมมคี วามสามารถในการคน้ หาความคิดใหม่ ๆ มาสรา้ งเป็นกิจการ/ วสิ าหกิจเพอ่ื สงั คมได้” ดีส์ (Dees) (2001 อ้างอิงใน ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์, 2563 หน้า 43) ศาสตราจารย์ด้านการ บรหิ ารธุรกิจ อธบิ ายถึงคณุ ลกั ษณะของผปู้ ระกอบการเพอ่ื สงั คม มดี ังน้ี 1) ใช้พนั ธกจิ เพื่อสร้างและรกั ษาคุณค่า ทางสงั คม (Employing a mission to create and sustain social value.) 2) ตระหนกั และแสวงหาโอกาส ใหม่ ๆ เพื่อใช้ในการสนับสนนุ พนั ธกจิ (Recognizing and pursuing new opportunities to support that mission.) 3) การสร้างสรรคน์ วตั กรรมอยา่ งตอ่ เน่อื ง (Engaging in continuous innovation.) 4) ดำเนนิ การ ด้วยความกลา้ หาญโดยไมถ่ กู ตกี รอบ แม้ทรัพยากรทมี่ ีอยู่อย่างจำกัด (Acting boldly without being limited to existing resources.) 5) ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Exhibiting a heightened sense of accountability to stakeholders.) สำหรับ Martin and Osberg (2007) กล่าวว่า การเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคม ไว้ในบทความชื่อ Social Entrepreneurship: The Case for Definition ดังนี้ 1) ความสามารถในการแยกแยะความอยุติธรรม ซ่อนอยู่ในความเสมอภาค ซึ่งก่อเกิดการแบ่งแยก การลดความสำคัญ หรือความทุกข์ยากในภาคส่วนสังคม มนุษย์ที่ขาดแคลนช่องทางการเงินหรือนโยบายทางการเมืองเพื่อที่จะได้มาซึ่งผลประโยชน์ด้วยตนเอง 2) ความสามารถในการมองเหน็ โอกาสในความอยุติธรรม ซ่งึ จะนำไปสู่การเสนอแนวทางการพัฒนาซึ่งเพิ่มพูน คุณค่าทางสังคม และนำแรงบนั ดาลใจมาก่อให้เกิดสิ่งที่เปน็ ประโยชน์สิง่ ท่ีมีความคิดสร้างสรรค์ตรงไปตรงมา มีความกล้าหาญ และกล้าท้าทายกบั ผูท้ ี่มีอำนาจเหนือกวา่ และ3) ความสามารถในการหลอมรวมความเสมอ ภาคที่มั่นคงแบบใหม่ ซ่ึงเปิดโอกาสหรอื บรรเทาความทกุ ข์ของกลุ่มเป้าหมายด้วยการสรา้ งระบบความสัมพันธ์ ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และความเสมอภาคแบบใหม่ ที่จะช่วยสร้างอนาคตที่ดีกว่าของ กลุ่มเป้าหมายและแมแ้ ตส่ ังคมโดยรวม วิลเลย่ี ม ปิล เดรย์ตัน (William Bill Drayton) อา้ งองิ ใน เจนัส, แคธลีน เคลลี (2562, หนา้ 24) อธิบาย เกี่ยวกบั คุณลกั ษณะของผปู้ ระกอบการเพื่อสังคมว่า “ผู้ประกอบการเพ่อื สงั คมไมพ่ อใจเพยี งแคไ่ ด้แจกจ่ายปลา หรือสอนวธิ กี ารจับปลา พวกเขาจะไมห่ ยุดพกั จนกว่าจะไดป้ ฏิวัตอิ ุตสาหกรรมประมงแล้ว\" สมเกียรติ สกุลสุรเอกพงศ์ (2559, หน้า 147) กล่าวว่า “ผู้ประกอบการเพือ่ สังคมเป็นบุคคลที่มวี ิธีการ ใหม่ในการแก้ปัญหาสังคมที่เร่งด่วน มีวิสัยทัศนเ์ ป็นนักปฏบิ ัติ มีความมุ่งมั่นและยืนหยดั ในการแกไ้ ขปัญหาท่ี สำคญั และเสนอแนวคิดใหมเ่ พ่ือการเปลี่ยนแปลงสังคมในวงกว้าง” 25
สานิตย์ หนูนิล (2555, หนา้ 197) กลา่ ววา่ “ผทู้ ่ีเป็นผู้ประกอบการเพื่อสงั คม (Social Entrepreneur) มคี วามสนใจทจี่ ะสรา้ งผลตอบแทนทางสงั คมและส่งิ แวดลอ้ ม โดยใชร้ ูปแบบการบริหารจัดการของธรุ กิจและใช้ คุณธรรมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเชือ่ มโยงระหว่างการทำธุรกิจและการทำเพื่อสังคมอย่างมคี วามรับผิดชอบ เช่น การทำธุรกจิ ทไ่ี ม่เก่ียวข้องกับอบายมขุ และธรุ กจิ ทีไ่ ม่ทำลายสงิ่ แวดลอ้ ม เป็นตน้ รวมทั้งมีการตงั้ เป้าหมาย หลักของธุรกิจเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อมอย่างมีนวัตกรรม (Innovation) และธุรกิจ น้ัน” บคุ คลตวั อยา่ งในการเปน็ ผู้ประกอบการเพ่ือสังคม 1. มฮู ัมมัด ยนู ูส (Muhammad Yunus) ผ่านมากว่า 30 ปี กจิ การ/วิสาหกิจเพอื่ สงั คมได้ถูกก่อต้งั ขน้ึ โดยผปู้ ระกอบการเพอ่ื สงั คมหลากหลาย ประเภท ยกตัวอยา่ งเชน่ การผลติ การก่อสร้าง การท่องเท่ียว อาหาร ทพ่ี กั อาศยั สาธารณสขุ อสังหารมิ ทรัพย์ การเงนิ เปน็ ต้น ซึ่งผ้ปู ระกอบการเพ่ือสงั คมท่ีเปน็ รุ่นบุกเบิกสร้างนวัตกรรมทางสังคมไม่มีใครเคยได้ยินชื่อของ มฮู ัมมัด ยนู สู (Muhammad Yunus) นกั เศรษฐศาสตร์ชาวบงั คลาเทศ ได้ทำงานดา้ นธรุ กิจเพ่ือสงั คม (Social Business) มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี สรา้ งธรุ กิจเพ่ือสังคมกว่า 40 ธรุ กจิ ในประเทศบงั กลาเทศท่ีเปน็ บ้านเกิด ของยูนูส จนได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ปี ค.ศ. 2006 โดยธุรกิจเพื่อสังคม (Social Business) ที่มี ชื่อเสียง คือ ธนาคารกรามีน (Grameen Bank) หรือธนาคารสำหรับคนจน จากการที่ยูนูสนำแนวคิดเรื่องไม โครเครดิตหรือการแก้ปัญหาความยากจนด้วยการให้กู้ยืมเงินแก่ผู้ยากไร้ ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของกิจการ/ วิสาหกจิ เพอื่ สังคม นวตั กรรมทางสังคม และการประกอบการสังคมในปัจจบุ ัน ซ่งึ ยูนูสเป็นผู้ประกอบการเพ่ือ สงั คมทสี่ ร้างคุณค่าทางสังคมจนเกิดเป็นรปู ธรรม ภาพที่ 7 Muhammad Yunus ผกู้ อ่ ต้งั ธนาคารกรามีน (Grameen Bank) ทีม่ า : ชญานิษฐ์ นกแก้ว, 2564 26
2. วิลเลยี่ ม ปิล เดรยต์ ัน (William Bill Drayton) ผู้ก่อตั้ง Ashoka ขึ้นในมลรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริการ เมื่อปี ค.ศ. 1980 โดย เดรย์ตัน Drayton ตอ้ งการคน้ หาบคุ คลที่มคี วามคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ มวี ิสยั ทัศนท์ ่ีชดั เจน มคี วามคดิ ใหม่ มีความมุง่ ม่นั ใน การแก้ปัญหาสังคม และยืนหยัดในการปฏิบัติจนเกิดผล เพ่ือมาเป็นสมาชิกอโชก้า (Ashoka Fellows) โดยให้ เงินสนับสนุนค่าครองชีพหนึ่งถึงสามปี และให้การสนับสนุนดา้ นความคิด ข่าวสารข้อมูล และสร้างเครือข่าย สมาชิกอโชก้าทั่วโลก ในการประสานงานและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสังคม (ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์, 2563, หนา้ 76) ภาพที่ 8 วิลเลย่ี ม ปลิ เดรยต์ นั William Bill Drayton ผู้กอ่ ตง้ั Ashoka ทีม่ า : Ashoka Thailand https://www.ashoka.org/en/people/william-drayton 3. แอนนิตา รอ็ ดดิก (Anita Roddick) ผู้ก่อตั้ง Body Shop ในปี ค.ศ. 1976 ณ เมือง Brighton ประเทศอังกฤษ ร็อดดิกยึดหลัก Ethical Retailing เป็นปรัชญาของร้าน The Body Shop ที่ไม่เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์และสัตว์เพ่ือปรับวิถีแหง่ ระบบ ทุนนิยมไปสู่ระบบที่มีความเอื้ออาทรในขั้นรากฐาน (Caring Capitalism) ร็อดดิกมุ่งมั่นผลิตเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิว และเครื่องบำรุงผม ที่เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เคารพหลักการ สิทธิมนุษยชน และคำนึงถึงสวัสดิภาพของสัตว์ (Ani-mal Welfare) ตลอดจนต้องการให้ผู้บริโภครับรู้ว่า ผลิตภัณฑ์ของตนมไิ ดใ้ ชส้ ตั วเ์ ป็นเครือ่ งทดลอง 27
ภาพท่ี 9 แอนนิตา รอ็ ดดิก Anita Roddick ผกู้ อ่ ตัง้ Body Shop ท่ีมา : Anant Gupta (2019) 28
สรุป คงต้องยอมรับว่าองค์การธุรกิจทีต่ ้องการแสวงหากำไรเพยี งอย่างเดยี วน้ันไม่เพยี งพออีกต่อไป หากแต่ ต้องการค้นหากลยุทธ์และวิธีการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ที่รวมเอาความสนใจของสังคมมาเป็นส่วนหนึ่ง การทำงานทมี่ ีการเปลยี่ นแปลงทางสงั คมเปน็ เป้าหมายหลกั นำนวตั กรรมเพือ่ เป็นทางออกในการแก้ปัญหาต่าง ๆ และใช้วิธีการทางธุรกิจเป็นหนทางสู่ความสำเร็จถือเป็นหัวใจหลักของผู้ประกอบการสังคม และที่สำคัญ บุคคลเหล่านี้จะเชื่อมโยงการประกอบการทางสังคมกับนวัตกรรมทางสังคมให้เกิดเป็นกิจการ/วิสาหกิจเพ่ือ สงั คม ผปู้ ระกอบการเพื่อสังคมและผู้ประกอบการธรุ กิจมคี วามแตกต่างอย่างเห็นได้ชดั ตรงที่เป้าหมายของการ ดำเนินธุรกิจที่มีมุมมองทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมเข้ามาร่วมอยู่ด้วย จึงกล่าวได้ว่าความสำคัญของ ผู้ประกอบการเพื่อสังคมกลายเป็นนักบุกเบิกรุ่นใหม่แห่งท้องทะเลสีครามที่สร้างคุณค่าทางสังคมพร้อมกับ คุณค่าทางเศรษฐกิจ โดยการลงทนุ ทางธรุ กิจเพื่อประโยชน์ทางสังคม ไม่ใช่เรื่องงา่ ยนักสำหรับผู้ประกอบการ เพ่อื สังคมทจ่ี ะประสบความสำเร็จมันเปน็ ความยากลำบากท่ีจะทำใหธ้ ุรกจิ สามารถอยู่รอดได้ดว้ ยการหารายได้ ไม่ใช่จากการขอทุนสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ๆ พวกเขาต้องมีการออกแบบโมเดลทางธุรกิจใหม่ แสวงหา โอกาสใหม่ ๆ ที่จะหนุนช่วยพนั ธกิจ มีความมุ่งมั่น สามารถเรียนรู้และปรับตัว ดังนั้นเมือ่ ผู้ประกอบการสงั คม คอื บคุ คลที่ลงมอื ทำการใด ๆ ด้วยจิตวิญญาณอันท่มุ เทเพอ่ื เปลยี่ นแปลงไปสู่สงั คมทีด่ ีขึน้ จงึ เปน็ เรอ่ื งท่ีดหี ากจะ สร้างผู้ประกอบการสังคมรุ่นใหม่ ๆ ให้เกดิ ขน้ึ 29
เอกสารอ้างองิ เจนสั , แคธลนี เคลล.ี (2562). Social Startup Success: สู่ความสำเร็จสตารท์ อพั เพอื่ สังคม. (ลลิตา ผลผลา, ผแู้ ปล) กรุงเทพฯ: บุ๊กสเคป. (Social Stratup Success: How the Best Nonprofits Launch, Scale Up, and Make a Difference published in English, 2017) ชญานิษฐ์ นกแกว้ . (2564). มูฮมั หมดั ยูนุส ยกยอ่ ง ศก. พอเพียง ดันไทยก้าวสู่เศรษฐกจิ โลก, กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ วันที่ 2 เมษายน 2564 https://inews.bangkokbiznews.com/read/423193 ชญานันท์ ใสกระจ่าง. (2558). แนวทางการพัฒนาประสทิ ธภิ าพของบริษัทนำเทย่ี วขนาดกลางและขนาดย่อม ดว้ ยการเสรมิ สร้างความเป็นผปู้ ระกอบการ. วิทยานพิ นธ์: ศิลปศาสตรมหาบัณฑติ (การจัดการการ ท่องเท่ียวแบบบูรณาการ, สถาบนั บณั ฑิตพฒั นบรหิ ารศาสตร์, กรุงเทพฯ ตญิ ทรรศน์ ประทปี พรณรงค์. (2563). การพฒั นาอย่างยง่ั ยืนกบั วสิ าหกิจเพ่อื สังคม. นนทบุรี: รัตนไตร. ทาเนยี เอลลสิ . (2554). นักบกุ เบิกรนุ่ ใหม่. (นันทิยา เล็กสมบูรณ์, ผู้แปล) กรุงเทพฯ: โพสต์บุก๊ ส์. (The New Pioneers published in English, 2010) มทั นชยั สุทธิพันธุ.์ (2556). ทางออกของธุรกิจไทยสูห่ นทางแห่งการพฒั นาอยา่ งยัง่ ยนื . วารสารบริหารธรุ กิจ, 36(137), 38-50 รัตนพงษ์ สอนสภุ าพ และบุญสม เกษะประดษิ ฐ.์ (2561). ความม่ันคงของวสิ าหกิจเพอ่ื สงั คมเส้นทางสู่การ พัฒนาอย่างยงั่ ยนื , วารสารสถาบันวิชาการปอ้ งกันประเทศ, 9(3), 27-38 เรวตั ตนั ตยานนท์ (2560) ผปู้ ระกอบการสงั คม และนวตั กรรมเพือ่ สงั คม https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/641032 สมเกียรติ สกุลสรุ เอกพงศ.์ (2559) ปจั จัยทีม่ อี ทิ ธิพลต่อประสทิ ธภิ าพกจิ การเพื่อสังคมในประเทศไทย. วารสาร การเมือง การบริหาร และกฎหมาย, 8(1), 139-161. สานติ ย์ หนูนลิ . (2555). กิจการเพ่ือสงั คมเพือ่ การพัฒนาทย่ี ัง่ ยืน. วารสารวิชาการมหาวทิ ยาลยั หอการคา้ ไทย, 32(4), 196 – 206. อทุ ัย ปรญิ ญาสุทธินนั ท.์ (2563). วสิ าหกจิ เพอื่ สงั คม. กรุงเทพฯ: สำนกั พมิ พจ์ ุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. Anant Gupta. (2019). Remember the Titans: Anita Roddick, the cosmetics mogul with a divine soul. [Online] from https://qrius.com/remember-the-titans-anita-roddick-the- cosmetics-mogul-with-a-divine-soul/ Ashoka Thailand. (2020) William Drayton. [Online] from https://www.ashoka.org/en/people/william-drayton Bikse, V., Rivza, B. and Riemere, I. (2015). The social entrepreneur as a promoter of social advancement. Social and Behavioral Sciences, 185(2015), pp. 469 – 478, 3rd World Conference on Psychology and Sociology, WCPS- 2014 Bob Doherty, George Foster, Chris Mason, John Meehan, Karon Meehan, Neil Rotheroe and Maureen Royce. (2009). Management for social enterprise. London, England: SAGE Publications, Ltd. Martin, L. R. and Osberg, S. (2007). Social entrepreneurship: The case for definition. Stanford Social Innovation Review, Spring 2007, pp. 27-39 30
Roper, J. and Cheney, G. (2005). Leadership, learning and human resource management the meanings of social entrepreneurship today. Corporate Governance International Journal of Business in Society, 5(3), pp. 95-104 คำถามทบทวน 1. ผปู้ ระกอบการเพอื่ สังคมคือบุคคล กลุ่มคน หรอื เปบ็ บุคคลใด จงอธบิ าย 2. ผูป้ ระกอบการเพื่อสังคมและผู้ประกอบการธุรกจิ มีความแตกต่างกนั อยา่ งไร จงอธิบาย 3. จงอธิบายบทบาทและความสำคญั ของผปู้ ระกอบการเพอ่ื สังคมในการแก้ปัญหาทางสงั คม หรือ ปญั หาอนื่ ๆ ไดอ้ ย่างไร 4. คุณลักษณะใดของผู้ประกอบการเพือ่ สังคมที่พึงมคี วรมีคณุ ลกั ษณะอย่างไร 31
32
แผนการสอนประจำบทท่ี 3 หวั ข้อเน้ือหาประจำบท 1. องค์ประกอบของกิจการเพ่ือสงั คม 2. คณุ ลกั ษณะสำคัญของกจิ การเพอ่ื สงั คม 3. เปา้ หมายการพัฒนาทยี่ ั่งยนื กับกิจการเพอื่ สงั คม 4. การจดั ตัง้ องคก์ ารกิจการเพื่อสังคม วัตถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม เมอ่ื เรยี นจบบทน้ี นกั ศกึ ษาสามารถทำสิ่งตอ่ ไปน้ี 1. สามารถอธบิ ายองคป์ ระกอบของกจิ การเพื่อสงั คม 2. สามารถอธิบายคุณลักษณะสำคญั ของกจิ การเพอ่ื สังคม 3. สามารถอธบิ ายเปา้ หมายการพฒั นาท่ีย่งั ยืน 4. สามารถอธบิ ายการจัดตง้ั องค์การกจิ การเพ่ือสงั คม วิธีการสอนและกจิ กรรมการเรียนการสอนประจำบท 1. ฟงั การบรรยาย สรปุ สาระสำคัญโดยอาจารย์ผู้สอน 2. วิเคราะห์ สงั เคราะหต์ ามเนอ้ื หา กรณีศึกษา 3. ศึกษาคน้ คว้าขอ้ มลู เพ่ิมเติมจากตำรา วารสาร หนังสอื พมิ พ์ และ Internet เปน็ ตน้ 4. อภปิ รายงานกลุม่ และนำเสนอรายงานหน้าช้นั ส่ือการเรียนการสอน 1. เอกสารการสอนวชิ าธรุ กจิ เพอ่ื สังคม บทความ หนังสอื ทเี่ กยี่ วขอ้ ง 2. Power point (ทง้ั ภาพน่ิง และ Animation) 3. ใบงาน กรณีศึกษา การวดั ผลและการประเมนิ ผล 1. สงั เกตความสนใจของนักศกึ ษา และการมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรม 2. การประเมนิ จากการที่นกั ศึกษาแสดงความคดิ เห็น 3. การประเมนิ จากการตอบคำถามทบทวน 4. การประเมินจากผลงานของนกั ศึกษา 33
34
บทท่ี 3 การจัดตงั้ องคก์ รของกจิ การเพื่อสงั คม Social Enterprise มีเป้าหมายเพื่อต้องการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาชุมชน สังคม หรือสิ่งแวดล้อมเป็น หลัก และสรา้ งความยง่ั ยนื ให้กบั ธุรกิจ เนอื่ งจากกิจการเพอ่ื สังคมต้องนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค ทำให้ การตัดสินใจของผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างผู้ประกอบการเพือ่ สังคมต้องคำนึงถึง บุคคลในสังคมและผู้บริโภคไปพร้อม ๆ กัน เนื้อหาบทนีไ้ ด้อธิบาย รูปแบบ และการจัดตัง้ องค์การของกิจการ เพื่อสังคม รวมถึงแนวคิดการพัฒนาท่ียัง่ ยืน ที่ทำให้ผู้ประกอบการทางสังคมนำไปใช้เป็นหลักเบ้ืองต้นในการ ดำเนินกิจการเพื่อสังคมต่อไป ทั้งนี้ผู้เขียนขอใช้ความหมายของ Social Enterprise ในภาษาไทยเป็น “กิจการ/วิสาหกิจเพ่ือสังคม” เนื่องจาก การจัดตั้ง กิจการ/วิสาหกิจเพื่อสังคมไดม้ กี ารกำหนดข้อกฎหมายใน การจัดตงั้ อย่างเป็นรปู ธรรม องค์ประกอบของกิจการเพื่อสังคม จากทกี่ ล่าวถงึ คุณลักษณะสำคัญของกิจการเพอื่ สังคมมีความผสมผสานระหว่างองค์กรไม่แสวงหากำไร (Traditional Nonprofit) และองค์กรทแี่ สวงหากำไร (Traditional For- profit) ท่ีจะมารว่ มพฒั นาและแก้ไข ปญั หาสังคม ซ่งึ ผูเ้ ขียนขอกลา่ วถึงววิ ฒั นาการจากข้นั พน้ื ฐานของธรุ กิจเพือ่ สังคม เพือ่ ให้ผอู้ ่านเกิดความเข้าใจ มากยง่ิ ข้นึ Traditional Non-Profit Social Social Corporation Traditional Non-Profit with income Enterprise Responsible Practicing Social For-Profit องค์กรไม่ Generating Responsibility แสวงหากำไร กจิ การเพ่อื Business องคก์ รธรุ กจิ ที่ปฏบิ ตั ิ องคก์ รธุรกิจที่ Activities สงั คม องค์กรธุรกิจท่ี ตามมาตราฐานของ แสวงกำไร องคก์ รไม่ รบั ผดิ ชอบตอ่ แสวงหากำไร สังคม แต่หารายได้ สงั คม ประเภทของกิจการเพอื่ สังคม ภาพท่ี 10 ประเภทกจิ การเพือ่ สังคม ท่ีมา : ปรบั ปรุงจาก Alter, 2007 35
เนื่องจากสังคมที่มีความเจริญก้าวหน้า และซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเท่าไร ย่อมเผชิญปัญหาต่าง ๆ ตามมา ซึ่งเป็นความยากที่หนว่ ยงานใด หนว่ ยงานหนึง่ จะจัดการได้ การรอให้ภาครัฐเข้ามาแก้ไขเพียงอย่างเดยี วยอ่ มไม่ ทันการณ์ ขณะเดียวกันหน่วยงานเอกชนที่มักดำเนินงานเพื่อผลประโยชน์ของหน่วยงานและผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) โดยตรง ไม่สามารถเข้ามามีส่วนช่วยจัดการปัญหาได้ เพราะอาจขัดกับประโยชน์ที่เป็น เปา้ หมายทางธรุ กจิ ดงั น้ัน กระบวนทัศน์การคดิ จงึ เปล่ยี นแปลงไป มองเหน็ และยอมรบั ปัญหาท่ีแทจ้ ริงของการ รว่ มพฒั นา และแกไ้ ขปญั หา จากภาคเอกชน ภาคธุรกิจควรเขา้ มามีส่วนรว่ มแก้ไขปัญหาจรงิ จัง รว่ มกบั ทกุ ภาค ส่วน โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตน หรือเฉพาะองค์กรน้อยลง เพื่อความอยู่รอดของสังคมโลก ที่เรียกว่า “แนวคิดการประกอบการทางสังคม” และเมื่อเกิดความชัดเจนหนทางในการแก้ไขปัญหาทุกมิติ (เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม) แนวคิดถูกปรับใช้สำหรับกิจการที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จนมาสู่ รูปแบบกจิ การท่เี ป็นประโยชน์จากการประกอบธุรกจิ ให้เปน็ ไปเพอื่ วัตถปุ ระสงคใ์ นการไขปญั หาสงั คมเป็นหลัก ด้วยรูปแบบแยกย่อยในชื่อเรียกและคุณลักษณะที่ต่างกัน เช่น ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Business) กิจการ/ วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) และการประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม (Socially Responsible Business) เป็นต้น ทั้งนี้ ในปัจจุบัน หลายประเทศได้มีการพัฒนารูปแบบกิจการเพื่อแก้ไข ปัญหาสังคมในหลายรปู แบบ อาทิ Community Interest Company (CIC) Benefit Corporation (B-Corp) Low-profit Limited Liability Company (L3C) Social purpose Corporation (SPC) Flexible Purpose Corporation (FPC) ซง่ึ จัดอยู่ในกลุม่ กิจการเพ่อื สงั คม (Social Enterprise) การพิจารณาว่าหลักคือสร้างคุณค่าแก่สังคม (Social Value) มูฮัมมัด ยูนูส (Muhammad Yunus) ได้เสนอรูปแบบของการสร้างกิจการธุรกิจมาสู่การสร้างธุรกิจเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม ไว้ในหนังสือ Building Social Business ที่เขยี นไวเ้ ม่อื ปี ค.ศ. 2010 ท้ังน้ี ยนู ูส ใหค้ วามสำคัญกบั ธุรกจิ เพือ่ สังคม (Social Business) เนื่องจาก ธุรกิจเพื่อสงั คมเป็นธุรกิจที่มีความแตกต่างจากธุรกิจที่มุ่งแสวงหากำไรสูงสุด และไม่ใช่องค์กรที่ไม่ แสวงหากำไรทีอ่ ยไู่ ด้ดว้ ยเงินบรจิ าคหรอื เปน็ องคก์ รการกศุ ล อีกทงั้ ยังเหมอื นกบั กจิ การเพือ่ สงั คมท่ีเปิดช่องให้มี การปนั ผลกำไรแก่ผถู้ อื หุ้น (สถาบนั ไทยพฒั น์, ม.ป.พ., หน้า 8-9) ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Business) ตามคำนิยามของมูฮัมมัด ยูนูส (Muhammad Yunus) แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท โดยประเภทแรก Type I Social Business เป็นธุรกิจที่ไม่สูญเงินต้น-ไม่ปันผลกำไร (Non-Loss, Non-Dividend) พร้อมจะมุ่งแก้ปญั หาสังคมเป็นสำคัญ มีการถือหุน้ โดยผู้ลงทุนหรือบุคคลท่วั ไป และนำกำไรท้ังหมดที่ได้กลบั มาพัฒนาและขยายธุรกิจต่อ ท้ังน้ีเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในธุรกิจเพ่ือสังคมประเภท Type I Social Business สามารถได้รับเงินลงทุนคือ เฉพาะเงินต้นเท่านั้น ไม่มีการให้ดอกเบี้ย หรือชดเชย ค่าเงินเฟ้อใด ๆ คือ Non-Loss และจะไม่ได้รับปันผลใด ๆ จากกำไรที่เกิดขึ้นจากธุรกิจ โดยกำไรทั้งหมดจะ คงไวใ้ นกจิ การเพอื่ ใชแ้ ก้ปัญหาสงั คม คือ Non-Dividend และประเภททสี่ อง Type II Social Business เปน็ ธุรกิจท่แี สวงหากำไรและสามารถปนั ผลได้ แต่อยู่บน เง่ือนไขวา่ เจ้าของธุรกิจหรอื ผู้ถือหุ้นของกิจการจะต้องเปน็ ผู้ยากไรห้ รือผดู้ ้อยโอกาส เพราะการปันผลกำไรถือ เปน็ การขจดั ความยากจน เป็นการแกไ้ ขปญั หาสังคม ตามจุดมงุ่ หมายการดำเนนิ ธรุ กิจ 36
ภาพที่ 11 รูปแบบของกิจการธรุ กจิ ท่ีมเี ป้าหมายเพอื่ แก้ไขสงั คม ที่มา : สถาบันไทยพัฒน์ (ม.ป.พ., หน้า 17) จากภาพที่ 3-2 เพื่อให้เกดิ ความเขา้ ใจที่ถกู ต้องของรูปแบบของกจิ การธรุ กิจทมี่ ีเป้าหมายเพอ่ื แกไ้ ขสังคม มีการตรวจสอบสถานะธุรกิจว่าเป็นไปเพื่อสังคมมากน้อยขนาดไหน (How social is your business?) เริ่ม จากคำถามข้อแรก คือ “มีความมุ่งประสงค์ทางสังคมหรือไม่” ถ้าไม่มีแสดงว่ากิจการเป็นกิจการพาณิชย์ (Commercial Enterprise) ถ้ามี คำถามข้อต่อไป คือ “มุ่งกำไรหรือไม่” ถ้าไม่ใช่แสดงว่ากิจการเป็นกิจการ เพื่อสังคมที่ไม่แสวงหากำไร (Non-Profit Social Enterprise) ถ้าใช่ คำถามต่อไป คือ “มีการปันผลกำไร หรอื ไม่” ถ้าไมม่ ี แสดงว่ากจิ การเปน็ ธุรกจิ เพ่ือสังคม ประเภทท่ี 1 (Type I Social Business) ถา้ มี คำถามข้อ ต่อไป คือ “ผ้ถู อื ห้นุ ทีร่ บั ปนั ผลเป็นคนยากจนหรือผ้ดู ้อยโอกาสหรอื ไม่” ถา้ ไมใ่ ช่ แสดงวา่ กจิ การเป็นกจิ การเพื่อ สงั คมทแ่ี สวงหากำไร (For-Profit Social Enterprise) ถา้ ไมใ่ ช่ แสดงว่ากจิ การเปน็ ธุรกิจเพ่ือสังคม ประเภทที่ 2 (Type II Social Business) อย่างไรกต็ าม รูปแบบของธุรกิจเพื่อสังคม (Social Business) และกิจการเพ่ือ สังคม (Social Enterprise) ล้วนต้องมีวัตถุประสงค์ที่จะสนองตอบต่อเป้าหมายทางสังคม (และสิ่งแวดล้อม) เป็นหลกั 37
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136